-
ขอบคุณ คุณ Sorrow ที่อนุญาตให้นำเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกัน
ขอความกรุณาเพื่อนๆ อย่านำเอาเรื่องราวในเรื่องนี้ไปเผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตจากคุณ Sorrowก่อนนะครับ
ขอบคุณครับ
หมูพูห์ :teach:
**********************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขอนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
**********************************************************
"ผมไม่ใช่เด็กขายน้ำโว้ย!!!"
*หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ สมาคม สถาบันหรือเหตุการณ์จริงแต่ประการใดทั้งสิ้น
-----------------------------------------------------------
ตอนที่ 1 จับพลัดจับผลู
ผมนั่งดูดน้ำโค้กอยู่ริมหน้าต่างร้านแมคฯ ในห้างใหญ่ มองดูภาพยามหัวค่ำวันเสาร์ของกรุงเทพมหานคร
บอกไม่ถูกว่าผมชอบบรรยากาศเหงาๆนี้หรือเปล่า ผู้คนมากมายที่รีบเดินรีบวิ่งไปมา ผมไม่ชอบความเหงาแต่มันก็ติดตัวผมมาแต่ไหนแต่ไรละ
ใกล้หนึ่งทุ่มแล้วทำให้ผมยิ่งร้อนใจ มันค่อนข้างดึกแล้วสำหรับเด็กม.สี่จะมาเตร็ดเตร่บนถนนสีลมตอนนี้ ผมมองรอบข้างไปรอบๆ คงไม่มีสารวัตรนักเรียนแถวนี้นะ
ผมไม่เคยเจอสารวัตรนักเรียนจริงๆ หรอกแต่เป็นคำที่ได้ยินแล้วเสียววาบเลยโดยเฉพาะเมื่อนึกถึงภารกิจที่ผมตั้งใจมาทำ
สายตาผมสะดุดที่ชายหนุ่มคนนึงอีกด้านของร้าน ท่าทางเขาอายุมากกว่าผมนิดหน่อยมีกองหนังสือบนโต๊ะคงเป็นเด็กมหาลัย
เขารีบหลบตาทันทีที่ผมหันไป ชักไม่ดีแล้ววุ้ยผมสะพายเป้คว้าแก้วเดินออกไปนอกร้านให้พ้นจากชายคนนั้นจะดีกว่า
ตอนนี้คงทุ่มกว่าๆ ได้เวลาที่สีลมจะเปลี่ยนจากถนนธุรกิจเป็นถนนโลกีย์ ร้านแผงลอยต่างทยอยเปลี่ยนของกิ๊ฟช็อปมาเป็นซีดีเถื่อน
บรรดาหนุ่มสาวแต่งตัวจี๊ดจ๊าดบ่งบอกอาชีพเลี้ยงปากท้อง 'อย่างว่า' เริ่มมุ่งหน้าเข้าร้าน.... ร้านอะไรคงรู้นะ
เป็นภาพที่ตลกดีกับชีวิตสองแบบของถนนสีลมแต่ผมตลกไม่ออกเพราะอีกไม่นานตำรวจคงจะเริ่มเดินตรวจ
ผมหลุบเข้าหลังแผงลอยที่รู้จักกันในขณะที่อาแปะเจ้าของแผงง่วนจัดวางแผ่นเพลงให้เต็มแผง ไอ้พวกขายหนังโป๊มันยังไม่มาอีกเหรอวะ
ครับนี่แหละอาชีพเสริมของผม ซื้อซีดีหนังโป๊ที่นี่ไปขายเด็กที่โรงเรียนอื่น (ไม่ควรทำตามอย่างยิ่ง อาจโดนไล่ออกได้)
"อาต้น ลื้อช่วยเรียงหน่อยสิ อังไหนฮิกๆน่ะช่วยวางหน้าๆให้อั๊วที" อาแปะยื่นถุงซีดีใบใหญ่มาให้เพราะอาแปะเกินวัยจะรู้ว่าแผ่นไหนฮิตบ้าง
"แปะครับ ผมว่าอาแปะขายของปกติไม่ดีกว่าเหรอ" ปากก็พูดไปแต่มือช่วยเลือกซีดีที่กำลังดังออกจากถุง
'ไอ้เด็กส่งของ' มันชอบหลอกขายแผ่นห่วยๆให้อาแปะเสมอคิดแล้วก็น่าสงสาร อาแปะน่าจะขายพวกของประดับจีนจะเหมาะกว่า (ถึงจะเป็นของจีนเก๊ๆก็เถอะ)
พอเรียงเสร็จผมก็หลบเข้าหลังแผงต่อ
"อาต้น อั๊วว่าวังนี้ไอ้พวกขายหนังคงไม่มาหรอก วันนี้ตำหรวกเขาตรวกเข้ม"
"อ้าวอาแปะเพิ่งบอกอะไรตอนนี้อ่าคร้าบ"
"บอกลื้อเร็วแล้วใครจะช่วยอั๊วจัดแผงล่ะ" แกหัวเราะอารมณ์ดีพลางลูบหัวผมยังกะผมเป็นหลานตัวเล็กๆ แกยื่นเงิน 20 บาทให้ผม
"อะไรครับ?" "ค่าเหนื่อยไงรักไปเถอะ" ผมยกมือไหว้ "ขอบคุณครับอาแปะ"
"รีบตึงไหลล่ะ จะเหลาะโหวเหลี่ยว" ผมแหงนดูฟ้ามืดๆเหมือนจะไม่เชื่อแต่อาแปะมักพูดถูกทุกที
"งั้นผมไปละครับอาแปะ สวัสดีครับ"
เดินยังไม่ถึงสี่แยกฝนก็เริ่มพรมลงมาเหมือนที่อาแปะบอกจริงๆ
ว้อยยยยย! หนังก็ซื้อไม่ได้แล้วฝนยังตกอีก เอาไงดีวะจะขึ้นแท๊กซี่หรือรถไฟฟ้าก็แพงเกิน ผมนั่งรอตรงบันไดมืดๆ หน้าตึก
รอให้ฝนซาก่อนค่อยคิดวิธีกลับบ้านแต่ฝนดูจะไม่เบาลงเลยแถมหนักกว่าเดิมอีก .....ฤดูฝนฤดูคนอกหัก......
สายฝนทำให้ผมคิดถึงความหลังต่างๆ เรื่องหลงรักเขาข้างเดียวข้าวเหนียวนึ่งที่เคยผ่านๆมา...
"เอ่อ...มา...คนเดียวเหรอครับ"
ใครบางคนทรุดลงมานั่งใกล้ๆ ทำเอาผมสะดุ้งโหยงนึกว่าตำรวจ พอมองดีๆ ผมก็จำได้ เป็นชายหนุ่มที่มองผมในร้านแมคนั่นเอง
มันจะมาไม้ไหนวะเนี่ย โจร! หรือสารวัตรนักเรียน?!
ตอบยังไงดีวะ! ใจดีสู้เสือไปก่อนละกัน
"อืม" พูดให้น้อยที่สุดก็จะผิดน้อยที่สุด ดูท่าเขาจะไม่ใช่ทั้งสองอย่างที่ผมคิดไว้เพราะเขาท่าทางเขินและก้มหน้าก้มตาหลุกหลิกพิกล
"มาคนเดียวงั้น...ผมนั่ง..คุยด้วยได้มั้ยครับ"
นี่กรูกำลังโดนจีบเหรอวะ ไอ้วิธีพูดแบบนี้กับประโยคแบบนี้นี่ใช่เลย อยากจะลุกหนีแต่ฝนดันตกแรงกว่าเดิมแถมลมสาดอย่างแรงจนเข้าทางเดินเลยไปไหนไม่ได้
เอาไงดีแต่ดูเขาสุภาพดีนะ เสื้อยืดสีเทายี่ห้อแพงกับกางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบที่ดูแพงไม่แพ้กัน น่าอิจฉาจังว่ะ
แล้วความคิดสุดพิเรนก็ผุดขึ้นในหัว
"อืม แล้วนายล่ะ มาคนเดียวเหรอ?"
"ครับ"
..
..
..
เขาไม่พูดอะไรต่อ เหมือนจะขยับปากแต่มีคนเดินผ่านมาเขาก็เงียบ นานทีเดียวกว่าเขาจะพูดออกมา...
"อยู่ร้านไหนครับ? แล้วไม่ต้องไปร้านเหรอ?"
O_o!!!
ร้าน? ร้านอะไรวะ? หรือไอ้หมอนี่คิดว่าผมเป็นเด็กขายน้ำ?!!!!
ผมก้มดูเสื้อผ้าตัวเอง นี่กรูเหมือนแบบนั้นเลยเหรอ? แต่แบบนี้อาจสนุกก็ได้ เอาวะ! ปั่นหัวไอ้นี่ซะหน่อย!
"ร้านทไวไลท์" มันเป็นร้านเดียวที่ผมเคยเห็นชื่อตรงปากซอย
"เหรอ" เขาก้มหน้านิ่งเหมือนตัดสินใจอะไรอยู่ ผมจึงได้มองเขาเต็มๆซะที หน้าตาเรียบๆแต่ผิวขาวคิ้วเข้มดูขรึมเหมือนเด็กเรียน
ผมเปียกปรกหน้าผากดูๆก็หล่อดีเหมือนกัน ตัวผอมสูง น่าจะสูงกว่าผมนิดหน่อย อายุคงมากกว่าผมสองสามปี เด็กมหาลัยแน่ๆ
"งั้นจะออกไปกับผมได้ไหม?"
เอาล่ะสิครับ! นึกว่าแค่คุยกันเล่นๆนี่จะ 'หิ้ว' เลยเหรอ?
"ออก...ไปไหนเหรอครับ" ตอนนี้ผมเริ่มสั่นๆแล้วนะเนี่ย แต่สั่นก็สู้โว้ย ผมเกิดอยากรู้ว่าเวลา 'หิ้ว' เนี่ยเขาทำยังไงบ้าง
"ก็ไปหาอะไรดื่มเที่ยวแล้วก็..." แววตาขรึมๆนั่นดูเปลี่ยนเป็นแววหื่นนิดๆ ซะละ
"เราเพิ่ง 16 คงยังเข้าไม่ได้หรอก"
"ผมมีร้านรู้จักเดี๋ยวพาเข้าได้ไม่ต้องกลัว" ดูเหมือนคำว่า 'อายุ16' มันกระตุ้นต่อมหื่นของไอ้หมอนี่เข้าเต็มเปา ตามันฉายแวววูบวาบน่ากลัวขึ้นมาทันที
เอาไงดีวะแต่ก็อยากไปกินเหล้านะเพราะเด็กม.4 อย่างผมคงเข้าร้านเหล้าเองไม่ได้แน่ ให้เขาพาเข้าไปกินให้หนำใจแล้วค่อยหนีก็ยังทันน่ะ
"งั้นก็ได้ครับ" เขายิ้มรื่นกับคำตอบของผมแต่ผมเครียดหนักเลยตอนนี้
......นี่ตรูกำลังเดินเข้าปากเสือใช่มั๊ยเนี่ย?
-----------------------------------------------------------------------------------------------
-
..........ตามมาตอบคนแรก.......... :pandalaugh: :pandalaugh:
-
ตามเป็นที่ฉองก็ล่าย :yeb:
-
ที่ฉามก็พอลุ้นน่า :pandalaugh:
-
ที่ฉี่
เอ้ะ ที่สี่ ดีก่า
ที่สี่นี่ยังลุ้นได้มั้ยครับ อิอิ :interest: :kikkik:
-
:laugh3:
สนุกดีครับ
ไม่รู้ว่า ตอนล่าสุด รวมถึงหลังจากนี้ มันถึงไหนแล้วอ่ะ
เหอๆ ที่หายไป
พี่พูห์มาต่อด้วยนะค๊าบบบ
อิอิ
-
ตามมาเกาะขอบรออีกคนด้วย...
ที่หกอ่ะ...
-
จะเปงที่เท่าไหร่มะสำคัญ ขอแค่ได้เปงที่1ในใจพูห์ก้อพอ :give2: แอบหยอด อิอิ :5555:
มะอาวดีก่าเด่วจาโดนพี่...ตามฆ่าอาวววว
:kikkik:
-
ที่เท่าไหร่ละนี่ :laugh3:
เอ้า ตามอ่านต่อจ้า :yeb:
-
เพิ่งจะได้อ่านเรื่องนี้จบมะวาน พูห์ก็เอามาลงที่นี่แล้ว น่าร๊ากกกกจริงๆ
อารายเนี่ย มีแต่คนแย่งกัน อยากเป็นคนที่ 1 ไม่เอาอ่ะ อยากเป็นคนสุดท้ายของพูห์ก็พอ :-[
5 5 5 เห็นแน๋วหยอด เลยเอามั่ง :kikkik:
อย่าคิดมากนะ พี่....
เรื่องนี้หนุกดีคับ ยืนยัน นั่งยันเลย :โหลๆ:เด๋วจะอ่านที่นี่อีกรอบ ชอบๆๆๆๆๆๆ
ว่าแต่อย่าหายไปนานดิ พูห์ มาต่อเร็วๆ
-
ตอนที่ 2 มอมกับเมา
"งั้นไปกันเถอะ" เขาจับมือผมลุกเดินตามเขาไปทันที มรึงแต๊ะอั๋งกรูเลยนะ แต่มือเขาอุ่นและแข็งแรงมากจนผมเคลิ้มนิดๆ แต่เสียวมากๆ
หวังว่ากรูจะชิ่งหนีสำเร็จนะ เขากวักมือเรียกแท๊กซี่ "ไปสะพานควายครับ"
รถแล่นออกตัว ความเงียบทำให้ผมยิ่งคิดมาก นี่ตรูกำลังเล่นบทเด็กขายน้ำเชียวนะ ตอนแรกเขาท่าทางขรึมๆ แต่ตอนนี้เริ่มออกแววไอ้เสือ
ถ้าพลาดพลั้งมีหวังเสร็จไอ้หมอนี่แน่ พ่อแก้วแม่แก้วนี่ผมกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย เขาโอบไหล่ผมเบาๆ "หนาวเหรอตัวสั่นเชียว" (กรูสั่น กลัวมรึงฟันกรูนั่นแหละ)
ผมอายคนขับเลยยกมือเขาออกแต่รู้สึกมันจะหื่นเกินห้ามละครับเขายังจับกุมมือผมเอาไว้ มันก็อบอุ่นดีนะ
"ชื่ออะไรครับผมยังไม่ได้ถามเลย"
"ต้น"
"ผมชื่อกริชนะ"
....ปั๊ดโธ่เว้ย! ตรูน่าจะคิดชื่ออื่นนะ แต่ตอนนั้นใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยเผลอบอกชื่อจริงไป คงไม่มีอะไรน่าผมปลอบตัวเอง มีคนชื่อนี้เป็นโหล
"แล้วต้นคิดเท่าไหร่ครับ" ......คิดเท่าไหร่คืออะไรวะ?
"1,500 ได้มั๊ย" อะไรคือพันห้า? ผมยิ้มแห้งๆไม่เข้าใจเขาพูดอะไร
"ค้างนะ" ผมยังยิ้มๆงงๆต่อไป อะไรก็ได้กรูกินเหล้าจบก็จะหนีล่ะ
ดูเขาจะไม่ถามอะไรต่อนอกจากกุมมือผมไว้แน่นและอมยิ้มตลอดทางจนถึงที่หมาย
กริช....ชื่อนี้คุ้นๆแฮะ
ในที่สุดเราก็มาถึงร้าน เป็นร้านใหญ่ตกแต่งดีทีเดียว กริชเดินนำเข้าร้านผมรีบเดินตามกลัวไม่ได้เข้า
เขาเลือกโต๊ะมุมร้านที่มืดๆ ไกลจากเวทีส่วนผมยังตื่นสถานที่ "ไม่ต้องกลัวตำรวจนะนี่ร้านคนรู้จักของพี่เอง"
กริชเริ่มจับมือผมอีกรอบพอเห็นผมไม่ขัดขืนเขาก็โอบไหล่เลย มันอบอุ่นดีแฮะ เขาตัวสั่นๆ ไม่รู้หนาวแอร์หรือสั่นอะไร
พอเหล้ามาผมก็เริ่มชงให้เขา ตอนแรกเอาบางๆก่อนครับเดี๋ยวเครื่องติดปุ๊บตรูจะมอมให้คอพับเลย ส่วนผมเองคอทองแดงเพราะแอบกินเหล้าที่หอเพื่อนบ่อยๆ
ตรูไม่มีทางเสร็จมรึงแน่ (แต่อีกใจนึงก็สงสารเขานิดๆนะถ้ารู้ว่าคืนนี้จะไม่จบอย่างที่เขาฝัน)
"ต้นเชื่อมั๊ยพี่ไม่เคยอ๊อฟเด็กเลย" (แล้วมรึงเชื่อมั๊ยตรูไม่ใช่เด็กอ๊อฟ)
"เอ่อ..แล้วเราอายุแค่ 16 เองนี่จะผิดกฎหมายไหมเนี่ย" (ผิดสิท่าน พรากผู้เยาว์นี่คุกเชียวนะ)
"แล้วนี่ทำมานานหรือยัง"
".....แก้วพี่จะหมดแล้วเดี๋ยวผมชงให้" คราวนี้เริ่มเข้มครับใส่เกือบสองเซ็น มรึงรีบๆเมาไปเลยจะได้ไม่ซักตรูอีก
ผ่านไปเกือบชม.ตอนนี้ไอ้กริชเริ่มอ้อแอ้ แต่ผมกำลังเครื่องติดเลยครับ
"...รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง รู้ว่าเหนื่อยถ้าอยากได้ของที่อยู่สูง ยังไงจะขอลองดูสักที"
โอ้เพลงโปรดผมมาพอดีคนทั้งร้านเต้นโดดกันสะใจผมก็ไปเต้นกับเขาด้วย จากนั้นก็เต้นกระจายอีกหลายเพลง พอหันกลับมากริชคอพับหลับปุ๋ยไปแล้ว
เอาไงดีจะชิ่งหนีเลยไหม!?......แต่หน้าเขาตอนหลับนี่น่ารักมากไม่เหลือทั้งแววขรึมแววหื่นเลย
ถ้าทิ้งเขาไว้แบบนี้เกิดอะไรขึ้นกับเขาผมคงรู้สึกผิดมากแน่ๆ จะฝากเจ้าของร้านก็กลัวเขาจำหน้าผมได้
"กริช ตื่นๆ"
"ต้น...ผม...ไม่ไหว....ง่วง" เวรล่ะเอาไงดีตรู
กริชล้วงกระเป๋าเงินออกมา "ใบขับ...พี่.....ขึ้นแท๊กซี่...ที" แต่เขาเมามากดึงบัตรอะไรๆหล่นมาเยอะเลยผมรีบเก็บให้
ใบขับขี่....จะให้ผมพาเขากลับบ้านเหรอ (มรึงไม่กลัวโดนยกเค้าหรือไง)
ไอ้ผมก็ตึงๆคิดอะไรไม่ออกเลยคว้าหนังสือและพยุงเขาขึ้นแท๊กซี่หน้าร้านแล้วบอกที่อยู่ตามใบขับขี่ให้คนขับ โชคดีที่แท๊กซี่รู้จักจึงออกรถทันที
แต่คงไม่ใช่โชคดีสำหรับผมแน่ๆเพราะ......ไอ้ที่อยู่นั้นมัน....แถวๆโรงเรียนผมเลยน่ะสิ!!!!! เวรล่ะตรู!!!
ความเมาหายหมดละครับ...ยังๆๆใจดีสู้เสือท่องไว้ๆ
ไม่มีใครรู้ว่ามรึงเป็นใครแล้วนี่ก็ตีสามของวันอาทิตย์ ไม่มีคนรู้จักจะมาเห็นมรึงหรอก เอามันเข้าบ้านปุ๊บก็ชิ่งหนีทันที
แต่ถ้าคนในบ้านมาเจอล่ะ? หรือไอ้หล่อนี่เป็นนกต่อหลอกผมไปให้พวกมันชำแหละ!?
ซวยๆๆๆแล้วไม่น่ารนหาที่เลย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-
หุหุ งานนี้ลุ้น จะรอดหรือไม่รอดหว่า :kikkik:
-
มันส์ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :laugh3:
ต่อเลยนะ ด่วนนนนนนนนนน :dont2:
อิอิ :yeb:
-
มาลุ้นด้วยคน :kikkik:
-
น่าหนุกแฮะๆ
น่าจะเอามาลงเยอะๆ 555+
-
:o พาเข้าบ้าน :laugh5: :laugh5:
น่าจะรอดน่า :haun5:
:kikkik: :kikkik:
-
หึ ๆ ๆ คิ ๆ ๆ วะฮะฮะฮ่า
เคยอ่านตอนต้น ๆ นิดนึงหละ แต่อ่านอีกรอบดีกว่าเนาะ :haun5:
-
ต้นโดนกริชกินตับแน่ เหอ เหอ :kikkik:
แล้วเมื่อไหร่เราจะมีคนมาล้วงตับมั่งน๊า อยากรู้เจง เจง :laugh3:
-
:-[ จะฮาไปถึงไหน
-
:laugh3:
หวังว่าคงได้แค่หยอดกริชลงที่นอน
แล้วชิ่งกลับได้นะ
อิอิ
-
ตอนที่ 3 เมื่อความปรารถนานำหัวใจ
ในที่สุดเราก็มาถึงหน้าบ้านตามที่อยู่ ผมยังลังเลจะเอาไงดี คนขับแท๊กซี่เริ่มมองผมแปลกๆละ ชิบหายสิตรู
"พี่ๆถึงบ้านแล้ว ตื่นๆ" มรึงรีบตื่นสิโว้ย
ได้ผลครับกริชงัวเงียจ่ายค่ารถและลากสังขารตัวเองไปไขประตูบ้าน....แล้วก็ฟุบลงไปนั่งอีก โว้ยๆลากมันเข้าบ้านก็ได้วะ
คงไม่มีหมานะ ถ้าคนในบ้านมาเจออธิบายไม่จบง่ายๆ แน่แต่บ้านเงียบมากยังกะไม่มีคน น่าปล้นเนอะ...เอ๊ย!ต้องรีบหนีแล้วตะหาก
"ต้นใจดีจังนะ ถ้าเป็นคนอื่นมีหวังผมโดนปล้นไปแล้ว" กริชกอดผมจากด้านหลัง
"อ้าว ไม่ได้เมาเหรอ"
"ก็มึนนิดหน่อย เห็นนายพยายามมอมพี่ พี่เลยแกล้งเล่นด้วยไง" เขาพูดพลางซุกไซ้ซอกคอผม ผมกลัวจนขาสั่น
ถ้าเกิดมันเป็นพวกซาดิสจับตรูขังแล้วฆ่าทิ้งก็แย่สิ แต่เขาไซ้จนผมตัวงอแล้วครับ
"พี่อย่าทำอะไรผมเลยผมขอร้องล่ะ" สมองกับใจมันไปคนละทางแล้วครับตอนนี้ "ผมไม่ได้เป็นเด็....."
กริชพลิกผมไปประจันหน้ากับเขาและกอดผมไว้แน่น แววตาเขาตอนนี้ดูมุ่งมั่นและอ่อนโยนบอกไม่ถูก ที่แน่ๆแววหื่นเห็นชัด
เขาก้มหน้าเข้ามาผมเม้มปากแน่นนึกว่าโดนจูบแน่ๆ ถ้าต่อยมันคว่ำตอนนี้คงหนีทัน...แต่ทำไมร่างกายผมถึงยอมยืนให้เขากอดละวะ
เขาเอาหน้าผากเขาแตะหน้าผากผมเบาๆ ปลายจมูกเราก็แตะกัน
"ผมจะทะนุถนอมต้นนะครับไม่ต้องกลัว" ริมฝีปากเราแตะกันเบาๆ กริชโน้มตัวผมลงบนโซฟาแล้วจูบพรมเบาๆทั่วหน้า ซอกคอ ใบหู
ทั้งเสียวและอบอุ่นจนผมไม่อยากขัดขืน มือเขาล้วงไปใต่เสื้อยืดลามมาถึงหัวนมและบี้เล่นจนมันแข็ง
"กริช...อย่า" ผมพยายามจะอธิบายแต่ไม่ทันละครับ เขาประกบปากกับผม ลิ้นสากๆ ล้วงควานไปมา
ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยถูกทำแบบนี้สติสตังหายหมดรู้แต่กริชฟัดผมนัวเนียอย่างนุ่มนวลแต่เร่าร้อน ไม่รู้เสื้อของเขากับผมถูกถอดไปตอนไหน
ตัวเขาอุ่นมากๆ มีกล้ามแน่นปั๋งยังกับนักกีฬา ไม่เหมือนที่ผมคิดตอนเห็นเขาครั้งแรกเลย
"กริชอย่าครับ เดี๋ยวใครเห็น" สมองส่วนบนกับส่วนล่างตีกันวุ่นวาย ปากบอกอย่าๆแต่แขนกอดเขาไว้
"ไม่มีใครอยู่บ้านหรอก" เขายังดูดหัวนมผมไม่เงยหน้ามา เสียงหื่นเต็มที่ กางเกงยีนส์ของผมกำลังถูกดึงออกไป
"ไม่ได้นะ ขอร้องล่ะ"
......กริชชะงัก แสงไฟจากรั้วทำให้เห็นกล้ามอก,กล้ามท้อง,กล้ามหัวไหล่ของเขาชัดๆ โคตรแมนเลย
"จริงด้วย...งั้นไปห้องนอนผมนะ"
เขาพาผมขึ้นชั้นสองเข้าห้องนอน เป็นห้องไม่ใหญ่มากมีรูปนักบาสแปะอยู่หลายที่ คงเล่นบาสสินะถึงหุ่นดีขนาดนี้
กริชดึงมือผมขึ้นเตียงแล้วก็นัวเนียกันอีกครั้ง ความอบอุ่นน่ารักแบบพี่ชายเข้มๆของเขาทำให้ผมหายกลัวไปเลย
ตอนนี้ไอ้ความคิดที่จะอธิบายมันหายไปไหนไม่รู้ละครับ กางเกงเราสองคนถูกถอดโยนไปไหนแล้วไม่รู้ กริชขึ้นคร่อมผมและกอดจูบอย่างหนัก
ท่อนเนื้อเราแข็งปั๋งถูไถกันโคตรเสียวเลย
"มิน่าเขาถึงเรียกว่าฟันดาบ" กริชยิ้มเขินๆ เขาเลื้อยปากมาถึงหัวนมแล้วไล่ลงไปอีกจนถึงท่อนเนื้อของผม
ใจผมเต้นระทึกก็ผมไม่เคยมาก่อนนี่ครับ มันจะสนุกสุดเสียวแบบในหนังโป๊ไหมวะ แต่พอเจอลิ้นสากๆเลียปาดเข้าเท่านั้นแหละเจ็บจนสะดุ้งเลย
"ขอโทษนะ! เจ็บเหรอ"
ผมแกล้งทำเป็นไม่เจ็บแต่กริชดูดอีกมันก็ยังเจ็บ เขาเปลี่ยนมาเลียพวงไข่แทนแต่คราวนี้จุกเลยครับ
เขาหน้าเจื่อน "พี่ขอโทษนะ พี่ไม่เคยมาก่อน" ....ก็ไม่เคยทั้งคู่แหละครับ..... ผมนึกขำในใจ
ผมผลักเขานอนหงายแทน หนุ่มหุ่นนักกีฬากับกล้ามท้องที่เรียงกันลงมาจนถึงหว่างขานี่ทำให้ผมคลั่งละ
ผมก้มลงดูดท่อนเนื้อของกริชตามที่เคยดูในหนังโป๊แต่มันยาวมากขนาดเอามือนึงกำรอบโคนไว้ยังยาวคับปากแต่ไม่ค่อยอวบครับ
ผมเลื่อนปากมาเล่นส่วนหัวแทน ทั้งเลียเส้นสองสลึงกับคอหยักไปมา น้ำรสเค็มๆเฝื่อนๆปริ่มออกมาเรื่อยๆผมดูดกินจนหมด กริชดิ้นพล่านครางลั่น กล้ามเกร็งแน่นไปทั้งตัว
ผมใช้อีกมือลูบกล้ามอกกล้ามท้องเขาเล่นแล้วมาคลึงพวงไข่ ผมดีใจที่ทำให้เขามีความสุขได้
กริชเสียวจนก้นลอยตามแรงดูด เขากดหัวผมและเริ่มกระเด้งเข้าปากด้วยความมันส์ "อ๊า....ผม...จะออกแล้ว"
น้ำรักรสเค็มทะลักเข้าปากผมดูดกินจนหมด ผมดูดแรงๆอีกสองทีเล่นเอากริชเสียวตัวงอเลย ฮ่าฮ่าสะใจเล็กๆที่แกล้งสุดหล่อของผมได้
"อย่าดิ๊มันเสียว" เขาหัวเราะเบาๆแล้วพลิกเกมมาขึ้นคร่อมผมจูบอีกครั้ง ลมหายใจอุ่นๆหอบกระเส่าเร้าอารมณ์มากเลย เขาหยุดจ้องหน้าผมอยู่นาน
"ขอนะ"
"ขออะรายย" แกล้งโง่ไปงั้นแหละ ดูหน้าเขาก็รู้ว่าคิดอะไร
กริชเอื้อมมือไปหลังกองหนังสือตรงหัวเตียงหยิบเจลหลอดออกมา ผมใจเต้นตูมตามเลยทีนี้
"ฮั่นแน่ ที่แท้ก็ซนไม่เบา" กริชหน้าแดงแจ๋ เหงื่อชุ่มเส้นผมปรกหน้าผากแบบนี้ทำให้เขาดูหล่อสุดๆไปเลย
เขายิ้มอายๆ "อย่าแซวดิ" เจลเย็นๆชะโลมที่ประตูหลังจนผมสะดุ้งแต่กริชกอดรัดผมไว้แน่นแล้วเริ่มสอดนิ้วเข้าไป
ผมกอดเขาแน่นด้วยความกลัว (หรือความเงี่ยน) พยายามผ่อนคลายที่สุด...มันจะสนุกแบบในหนังไหมวะ...
ดูเหมือนเขาจะสอดอีกนิ้วนึงเข้าไปแล้วมันเจ็บๆหน่วงๆ แล้วเขาก็ถอนนิ้วออกผมค่อยโล่งอกหน่อย แต่สัมผัสที่ตามมาบอกว่าคราวนี้ไม่ใช่นิ้วแน่ๆ แต่เป็นดุ้นเลย
"โอ๊ย!!!" มันเจ็บยังกะตัวจะฉีกเป็นสองส่วน ไอ้หนังโป๊ห่าหลอกลวงทั้งเพ ไหนว่าเอาข้างหลังสนุกวะ? โคตรเจ็บชิบหายเลย
"เอาออกเถอะเราเจ็บ"
กริชกอดรัดจูบไซ้ผมไม่ให้ดิ้นหนี "อย่าเกร็งนะ" ตอนนี้ส่วนหัวเข้าไปแล้ว กริชค่อยๆซอยและเสียบลึกเข้ามาทีละนิดแต่ผมจะตายซะให้ได้
"กริชหยุดก่อน เราเจ็บจริงๆ" โคตรเจ็บครับแต่ตอนนี้คงต้องเอาช้างมาฉุดถึงจะดึงเขาออกไปได้ละมั้งก็มันหื่นเต็มที่แล้ว
เขาพรมจูบกอดรัดนัวเนียปากก็พร่ำคำหวาน "ผมรักนะ ผมรักต้น"
ถึงจะรู้ว่าเป็นแค่คำปลอบของคนเงี่ยนแต่เขาทำใจผมเต้นแทบระเบิด "ผมรักต้นตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเลยนะ"
ร่างหนุ่มนักกีฬาเริ่มเดินหน้าตะลุยต่อจนท่อนเนื้อเข้าไปสุด เหงื่อแตกพลั่กทั้งคู่เลย "กริช...ทำผมเบาๆนะครับ"
เขาไม่พูดอะไรแต่ให้จูบที่เร่าร้อนที่สุดแทนคำตอบแล้วเขาก็เริ่มซอยช้าๆ เร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ
"ครั้งแรกหรือเปล่าครับต้น" ผมตอบอะไรไม่ถูกแล้ว
แต่ดูเขาจะเข้าใจ
กริชก้มหน้าก้มตากระเด้าต่อ เสียงหอบแฮ่กๆกับไอร้อนของเขาทำเอาผมจะละลายอยู่แล้ว
"ผมก็.....ครั้งแรกเหมือนกัน" หน้าเขาเครียดแวบนึงแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มอายๆ ตอนหอมแก้ม
กริชจับผมเปลี่ยนมาเป็นท่าโก้งโค้ง ตอนนี้กริชซอยเต็มที่พลางจูบไซ้แผ่นหลังผม มือก็เอื้อมมาชักของผมไปด้วย "โอ้ว....อ๊า...ผมจะเสร็จแล้ว! นายใกล้ยัง?"
เขาถอนท่อนเนื้อออกและรูดถุงยางทิ้งคงตั้งใจจะสาวว่าว หน้าหล่อๆเต็มไปด้วยเหงื่อของเขามันกระชากใจสุดๆแล้ว
ผมพลิกตัวขึ้นคร่อมเขาแล้วกำรวบท่อนเนื้อทั้งสองรูดพร้อมกัน กริชเสียวหลับตาคิ้วขมวดกัดฟันกรอดๆ เขาเอามือขยำหมอนไว้แน่นปล่อยให้ผมจัดการขั้นสุดท้าย กริชน้ำแตกกระฉูดจนผมแตกตามไปด้วย น้ำรักสีขาวพุ่งไปถึงปลายคางเขาและนองเต็มแผ่นอกกับกล้ามท้องฟิดเปรี๊ยะนั่น
ผมหมดแรงฟุบหอบแฮ่กๆ คาน้ำเลย มันทั้งอุ่นทั้งเย็นบอกไม่ถูก ได้ยินเสียงหัวใจของกริชเต้นแรงมาก ผมเงยหน้าดูสุดหล่อของผมแต่เขาทำหน้าแบบ...แปลกๆ
"ต้นรีบไปล้างตัวกันดีกว่า ผมกลัว..." อ๋อเข้าใจล่ะแต่ผมไม่อยากลุกจากตัวเขานี่หว่า อยากนอนแบบนี้ให้นานที่สุดเลย
"กริชไม่ต้องห่วงหรอก เราไม่เคยยุ่งกับใคร นี่ครั้งแรกของเราจริงๆ"
"จริงเหรอ....สักนิดก็ไม่เคยเหรอ" ผมพยักหน้าทำให้เขายิ้มแก้มปริเหมือนเด็กๆ ความกังวลคลายไปจากใบหน้าเขา
"ว่าแต่นายเหอะ ครั้งแรกแน่เร้อ? มีของเตรียมพร้อมขนาดนี้" กริชหน้านิ่วอีกแล้ว เขาโยนถุงยางกับเจลไปหลังกองหนังสือ
"ผมไม่เคยจริงๆ รับรองได้ สาบานเลยเอ้า!" เขาชูสามนิ้ว
ผมพลิกตัวมานอนตะแคงข้างเขา กริชกอดกระชับผมไว้เหมือนกลัวผมจะหายไป เราสองคนนอนกอดกันแบบนั้นนานมาก
"ไม่อยากเชื่อเลยว่าต้นไม่เคยมาก่อนทั้งที่ทำงานอย่างนั้น" .....กรรมสิกรูลืมเรื่องนั้นสนิทเลย ผมนิ่งคิดจะแก้ตัวยังไงดีวะ
แต่กริชคงเข้าใจไปอีกทาง เขาจับหัวผมเบาๆ "ขอโทษนะผมจะไม่พูดเรื่องนั้นอีก" หน้าตาจริงจังแกมขอโทษนั้นทำให้ผมรู้สึกผิด
เขาคิดว่าเขากำลังกอดเด็กขายบริการ ไม่ใช่กอดผม รู้สึกผิดที่หลอกเขา ผมเขยิบตัวถอยห่าง
"ขออาบน้ำได้ไหมครับ"
"ได้สิ ผ้าเช็ดตัวอยู่ในตู้นะ" ตู้เสื้อผ้าอยู่ปลายเตียง ประตูข้างๆคงเป็นห้องน้ำ
ผมสวมกางเกงยีนส์ลวกๆแล้วเดินไปเปิดตู้ ตอนนี้คงตีห้าแล้วฟ้าเริ่มสลัวๆ ตาผมมองหาผ้าเช็ดตัว.....แต่สิ่งอื่นทำให้ผมสะอึกเกือบหยุดหายใจ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-
ในที่สุดก็ ...................................................... จนได้ :yeb:
คาดว่างานนี้คงมีติดใจ อิอิ ไม่งั้นจะเกิดเรื่องได้ไง ใช่ป่ะ :kikkik:
-
:laugh5: :laugh5: :laugh5:
ไม่รอดซะงั้นน่ะ ต้นเอ้ยยยย :kikkik: :kikkik: :kikkik:
ว่าแต่... อะไรที่ทำให้สะอึกอ่า :haun5: :haun5:
ลุ้นคับลุ้น :haun5: :haun5:
-
:เชิป2: :110011: :110011: :เชิป2: รอรอต่อไป
-
:haun4: มาลุ้นต่อ :haun4:
-
อืมเรื่องนี้เคยอ่านมานิดหน่อยอะสนุกดีเหมือนกันเเล้วเอามาลงต่อนะครับหมูพูห์จะรอ :loveu:
-
เรื่องนี้ผมเคยอ่านแล้วล่ะครับ สนุกมากๆเลย :laugh3: :laugh3: :laugh3:
:จ้อบจัง1: :จ้อบจัง1: :จ้อบจัง1: :จ้อบจัง1:
ต้นทำตัวได้แปลก+ติดตลกดีครับ ชอบเรื่องนี้มากที่สุดอีกเรื่องนึงเลยก็ว่าได้ครับ :myeye:
-
ในที่สุดก็... ไม่รอด :kikkik: :kikkik:
แอบเห็นด้วยกับต้นนะ
ครั้งแรกของกริชแน่เหรอ มีของเตรียมพร้อมซะขนาดนั้น :laugh5: :laugh5:
-
:o ไรอ่ะ
อยากรู้ :serius2:
มาต่อไวๆนะค่ะ
-
ครั้งแรกของกริชแน่เหรอ มีของเตรียมพร้อมซะขนาดนั้น :laugh5: :laugh5:
น่านจิ เห็นด้วยๆ แบบประมาณว่าทุกอย่างแค่เอื้อมเท่านั้น
:interest: :interest:
อะไรจะพร้อมขนาดน้านนนนน :kikkik: :kikkik:
-
ครั้งแรก???? :laugh5: ดูเหมือนจาม่ายช่ายยยยน๊า...อารายมาจาเตรียมพร้อมซะขนาดน๊านนนน :kikkik:
-
แล้วอาราย อยู่ในตู้เสื้อผ้านะ :o
ติดตามตอนต่อไป :yeb:
-
ตอนที่ 4 ใกล้กว่าที่คิด
เสื้อสีขาวที่แขวนหันข้างอยู่นั่น มองยังไงก็ชุดโรงเรียน....
"หาเจอไหมต้น?" กริชเดินล่อนจ้อนมากอดข้างหลังผม
"เจอ...เจอละครับ" คว้าได้ผ้าเช็ดตัวก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที หัวใจเต้นแรงมากแต่ไม่ใช่เพราะความเสียว
ชุดนักเรียน....ชื่อย่อโรงเรียนนั่น....
ตัวอักษรคุ้นเคยที่เห็นอยู่ทุกวัน.....ตราโรงเรียนเดียวกับผม....
เสื้อแขวนอยู่กลางตู้เหมือนถูกใช้ทุกวัน.....ตายแล้วกรู ตายๆๆๆ ม.ไหน? คงไม่ใช่ม.4 แน่เพราะผมจำได้แทบทุกคน ม.5หรือม.6 .....รุ่นพี่......
ฝ่ายปกครอง! ไล่ออก! คำนี้แวบเข้าหัวทันที
เสียงเคาะประตูทำผมสะดุ้ง "ต้น ผมเข้าไปได้ไหม"
"มะ...ไม่ได้ครับ ผมอาบน้ำอยู่"
"ผมมีเรื่องอยากคุยกับนายจริงๆนะ"
"รอผม...อาบเสร็จก่อนนะครับ" พยายามถ่วงเวลาที่สุดทั้งที่ไม่มีทางหนี
"รู้แล้วใช่ไหมว่าผมอยู่ม.ปลาย"
..
..
เขายังยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ
..
..
"ผมขอโทษนะต้น"
ขอโทษอะไรวะ ที่แน่ๆเขาคงไม่ได้กังวลแบบเดียวกับที่ผมกลัวตอนนี้ เสียงตีบตันเหมือนเขาจะร้องไห้ทำให้ผมทำตัวไม่ถูก
"เราจะไม่บอกใครหรอก ไม่ต้องห่วง" คำนี้น่าจะช่วยเขาได้มากที่สุด กริชยังเงียบอยู่
"ขอเราอาบน้ำก่อนนะ แปบเดียว"
ผมเริ่มอาบน้ำและสำรวจประตูหลังตัวเอง เลือดไม่ออก เออ...โชคดีอย่างน้อยก็หนึ่งเรื่องล่ะ
สายน้ำอุ่นๆจากเครื่องทำน้ำร้อนช่วยชะล้างความรู้สึกว้าวุ่นที่อธิบายไม่ได้ออกไปบ้างแต่ความรู้สึกผิดยังอัดแน่นเต็มอก ผมไม่รู้ว่ารู้สึกผิดอะไรแต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ และก็ไม่รู้ว่ากริชจะขอโทษผมทำไม
พอเปิดประตูออกมากริชยังยืนรอหน้าห้องน้ำ ....เขายืนรอตรงนี้มาตลอดเลยเหรอ....
เขาจับบ่าผมและจูบหน้าผากเบาๆ แต่ผมไม่มีอารมณ์แล้วตอนนี้ กริชเห็นผมยืนนิ่งไม่มีการตอบสนอง เขาคงเซ็งมั้งเลยเดินเข้าไปอาบน้ำ
ผมแต่งตัวรอเขา รอยจูบที่หน้าผากมันแผ่วเบาแต่ลึกเข้าไปในใจ
ทุกอย่างผิดจากที่คิดไว้ ผมเพิ่งมีความสันพันธ์กับคนที่คิดว่าผมไม่ใช่ผม
กริชเปิดประตูออกมาและแต่งตัวต่อหน้าผม หุ่นนักกีฬาสูงโปร่งกับใบหน้าหล่อเหลา (ตอนที่เจอกันมันยังไม่ค่อยหล่อหรอกครับแต่ทำไมตอนนี้เห็นหน้ามันแล้วชื่นใจจริง)
พอเขาแต่งตัวเสร็จก็มานั่งบนเตียงข้างผม มีแต่ความเงียบ ผมอยากกลับบ้านแต่ไม่กล้าเอ่ยปาก
"ยังโกรธผมอยู่เหรอ....หรือว่าเสียใจ"
"เราไม่ใช่ผู้หญิงนะพี่ ไม่ได้อ่อนไหวแบบนั้นหรอก อย่าห่วง" ผมยิ้มขำๆไม่รู้จะพูดอะไรต่อ กริชหยิบเงินให้ผม แบ๊งค์พันสองใบ
"อะ...อะไรครับ"
"ก็ค่าตัวไง"
คำนี้เสียบเข้าอกผมแปล๊บเลย ทำไมผมต้องโมโหด้วยก็ในเมื่อผมตัดสินใจเล่นบทนี้เอง
กริชหน้าเสียที่ผมนั่งนิ่ง เขาเกาหัวแกรกๆ "ขอโทษนะพี่ไม่น่าพูดแบบนั้น ต้นดูน่ารักมาก" "พี่...พี่ขอโทษนะ"
ผมไม่อยากให้เรื่องมันวุ่นวายไปมากกว่านี้เลยรับเงินนั้นไว้ ไม่ใช่อยากได้เงินแต่อยากให้เขาสบายใจและหยิบใบห้าร้อยยื่นให้
ไอ้1,500ที่เขาพูดเมื่อคืนคงหมายถึงเรื่องนี้ละมั้ง แต่กริชกำแบ๊งค์ห้าร้อยไว้ในมือผม
"นายไม่ต้องทอนหรอก พี่เต็มใจ"
ถ้าผมเป็นเด็กขายน้ำจริงผมคงดีใจ แต่....ความใจดีนี้ทำให้ผมยิ่งกระอักกระอ่วน ผมไม่ใช่คนที่เขาคิดว่าเป็น
"งั้นเรากลับบ้านละนะ" ผมลุกเดินไปหยิบเป้
"ต้นกลับถูกเหรอ ซอยนี้ลึกนะครับเดี๋ยวผมไปส่ง"
"ไม่ต้องครับเรารู้ทาง" ....(ก็แถวนี้มันย่านโรงเรียนผมเอง).... เขาทำหน้าแปลกใจ ผมเลยรีบพูดต่อ "เดี๋ยวขึ้นแท๊กซี่ก็กลับถูก นายนอนพักไปเถอะครับ"
กริชยิ้มและดูเหมือนจะไม่ลุกมาส่งผมจริงๆ อะไรวะมรึงไม่อยากให้เขาไปส่งแล้วทำไมต้องอารมณ์เสีย
"ต้นมีเบอร์ไหม"
คำขอของกริชแสดงว่าเขายังไม่จบเยื่อใยลงแค่นี้ มันทำให้ผมดีใจแต่......ผมไม่เสี่ยงให้เบอร์ไปแน่
ขืนเขาเอาเบอร์ตรูไปเทียบกับคนที่โรงเรียนก็จบเห่ "ผมไม่มีมือถือครับ"
หน้าเขาเศร้าลงทันที กริชหยิบปากกาเมจิกขึ้นมาแล้วคว้ามือผมไป
"นี่เบอร์พี่นะ" มืออุ่นๆที่แข็งแรงกับสัมผัสจั๊กจี้ของปากกา...ผมอยากให้เขากุมมือผมไว้แบบนั้นนานๆเลย
"เย็นนี้ว่างช่วยโทรหาพี่ด้วยนะ สัญญานะ"
"ครับ"
"ห้าโมงนะ"
"ครับๆ" ความรู้สึกผิดมันเพิ่มขึ้นอีกแล้ว นี่ตรูยังจะหลอกเขาอีกเหรอแต่ผมหลอกใจตัวเองไม่ได้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-
ว้าวมาลงต่อละต้นจะทำไงต่อละ
-
:impress: :impress:
ไม่อยากจะคิดเลย ถ้าเค้ารู้ความจริงขึ้นมา ต้นจะทำไงอ่า :monkeycry4: :monkeycry4:
-
มารอต่อครับ :110011:
-
คงไม่เจอกันที่โรงเรียนนะ :laugh3:
-
:serius2:
อยากอ่านต่อๆๆๆ
แงๆ
-
:serius2: อยากอ่าน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ติดตามตอนต่อไป :yeb:
-
................จาทำยังไงต่อไปเนี่ย......... :เฮ้อ:
-
เหอ เหอ อยู่โรงเรียนเดียวกันด้วย ท่าทางต้นจะตกที่นั่งลำบากละครับ :dont2:
-
เรื่องท่าทางจามันส์นะเนี่ย
รออ่านต่อจ้า :yeb:
-
รอคับรอ :110011: :เชิป2: :110011: :เชิป2:
-
:interest:อ่านแล้ว
-
ตอนที่ 5 ล้าง
ผมนั่งรถเมล์มาถึงบ้านก็เกือบ 7 โมงเช้าแล้ว พี่ชายเปิดประตูบ้านด้วยหน้าตาบึ้งๆ "ไปไหนมา"
"ไปค้างบ้านเพื่อนน่ะครับ"
"คราวหน้าโทรมาบอกก่อนล่ะ นั่งรอถึงตีสองแน่ะรู้ไหม? มือถือก็ไม่เปิด"
บ้านหลังนี้พ่อแม่ซื้อมาลูกๆเวลาเรียนที่กรุงเทพฯ ส่วนพ่อแม่ผมอยู่ต่างจังหวัด ผมจึงอยู่กับพี่ชาย 2 คนและลูกพี่ลูกน้องอีก 3 คน เป็นบ้านที่ไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย ยังดีที่พ่อต่อห้องเพิ่มทำให้ผมมีห้องนอนของตัวเอง
ผมรีบเข้าห้องนอน อาบน้ำสระผมฟอกสบู่สามรอบ ทั้งขัดทั้งถูอยากให้ความรู้สึกแย่ๆมันหมดไปกับสายน้ำให้มากที่สุด หิวข้าวแต่ไม่ไหวแล้ว ผมตรงขึ้นเตียงทันที
.....กริช.....
ภาพหน้าของเขาจะหลับตาก็ยังเห็น สัมผัสกับลมหายใจหนักๆตอนที่เขา.... ใจมันเต้นด้วยความสุข แต่พอคิดว่าเขาเรียนที่เดียวกับผมก็หนาววาบ ถ้าเจอกันจะทำยังไงดี โรงเรียนไม่ได้ใหญ่แต่ก็ไม่เล็กๆนี่หว่า
ผมจะหลบหน้าเขาได้นานแค่ไหน ท่าทางเขาอายุมากกว่าผมยังไงก็ต้องม.5หรือม.6 อีกไม่นานก็คงเอ็นท์ฯติด อย่าคิดมากเลย
แต่ถ้าเจอล่ะ...ถึงตอนนั้นผมบอกว่าผมไม่ใช่อย่างที่เขาคิดกริชจะเชื่อไหม ถ้าเขาฟ้องห้องปกครองล่ะ....
ไม่หรอกๆ ท่าทางเขาก็อยากเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ผมไม่อยากเจอเขาอีกแต่ก็คิดถึง โอ๊ย!ใจตรูจะเอาไงแน่วะ?
เอาเถอะยังมีเวลาถึงห้าโมงเย็น ค่อยๆคิดไปก็....
"เฮ้ยยยยย!"
พี่มาเคาะประตูห้องทันที "ไอ้ต้นเอ็งเป็นไรวะ"
"เปล่าๆครับพี่"
ผมนั่งจ้องฝ่ามือที่ว่างเปล่า......เบอร์โทรเขาหายไปกับฟองสบู่แล้ว
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-
:serius2:
ง่า...ไม่น่าเล้ยต้น
แต่ยังบอกหนิ ยังไงรร.เดียวกันอาจจะเจอ
เบอร์หายไม่เป็นไรหรอก เอิ๊กก
ป.ล. พี่พูห์สั้นมากกกกก...ง่ะ
-
มารออ่านต่อ ตอนนี้สั้นจริงๆแหละ :เฮ้อ: :seng2ped:
-
เหอ เหอ เบอร์หาย สงสัยต้องไปหาที่โรงเรียนแล้วหล่ะ :yeb:
-
หุหุ ขอให้หากันจนเจอ :interest:
ทำเบอร์หายนิ รู้ว่าอยู่โรงเรียนเดียวกัน ก็ดีกว่าไม่เจอกันอีกเลยแหละน่า เอาวะ สู้สู้
เป็นกำลังใจให้หมูพูห์น้า สู้สู้เหมือนกัน :loveu: :loveu:
-
:o งะอาบนําเพลินเบอร์ละลายหายไปกับสายนําว่าเเต่ทำไมมาลงสั้นจังครับครั้งหน้าลงยาวๆหน่อยนะครับ :impress:
-
:laugh5:เบอร์หาย ถ้าไม่เจอที่โรงเรียนก็ไปที่บ้านเค้าดิ หุหุ ไงก็เคยไปมาแล้ว
-
ต้องได้เจอกันที่ รร แน่ๆ อิอิ
:o
-
เรื่องนี้เมื่อไหร่จะมาลงต่ออะคับ รออยู่นะ :impress:
-
.........เบอร์หาย...แต่ใจยังไม่หายนะจ้ะ.... :110011: :เชิป2:
-
เจอกันอีกที คงอึ้งทั้งสองฝ่าย :o
-
มันๆๆๆๆๆ :yeb:
-
:serius2:เมื่อไหร่จะมาต่อคร้าบ
-
มาแว้ววววว ขอโทษที่ให้รอนานครับ
มัวไปเล่นสงกรานต์อยู่ คริคริ :kikkik:
----------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 6 รอ
ผมนั่งกระสับกระส่ายจนบ่ายสาม
ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอจบๆกันไปแค่ความสัมพันธ์คืนเดียว ถ้าเจอเขาอีกแล้วเรื่องไปถึงฝ่ายปกครองผมตายแน่
แต่ทำไมใจมันโหวงเหวงพิกล ผมคิดถึงไออุ่นจากสัมผัสของเขาพยายามหาเหตุผลดีๆ ที่จะไม่พบเขาอีกแต่มันทำไม่ได้
....ผมอยากเจอกริชอีกไหม....ผมจะเอาอนาคตตัวเองไปเสี่ยงอีกเหรอ....
ถ้าตัดสินใจไม่ได้ก็ให้เขาเป็นคนตัดสินละกัน ผมอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้าน
"ไอ้ต้นมรึงจะไปไหนอีกวะ การบ้านทำเสร็จแล้วเหรอ"
"เสร็จแล้วพี่" ผมก้มหน้างุดๆรีบจ้ำออกจากบ้าน
พี่ยังตะโกนไล่หลังมา "เฮ้ย! แล้วนาฬิกาอยู่ไหนวะ? ซื้อแล้วไม่เห็นจะใส่เลย?"
ผมแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเดินไปขึ้นรถสองแถวทันที
นาฬิกา....นึกว่าพี่ลืมเรื่องนี้ไปแล้วซะอีก
คือครั้งแรกที่ผมลองสั่งซื้อหนังโป๊ทางอินเตอร์เน็ตครับ ผมเลือกแบบเก็บเงินปลายทางที่น่าจะปลอดภัยกว่าไปเดินตะลอนๆที่สีลม
แต่หารู้ไม่ว่าไปรษณีย์จะส่งไปรษณียบัตรมาบ้านผมให้ไปรับของ และพี่ชายก็เป็นคนรับไปรษณียบัตรนั่น
"เอ็งสั่งซื้ออะไรวะไอ้ต้น"
พี่ผมชอบตามคุมพฤติกรรมทุกฝีก้าว รู้ว่าเขาเป็นห่วงแต่ผมรำคาญ
"อ่า...สั่งซื้อ...สั่งเพื่อนที่หาดใหญ่ซื้อนาฬิกาน่ะพี่"
"ไม่กลัวเขาหลอกหรือไง แล้วนาฬิกาอะไรวะต้องลำบากขนาดนี้"
"Diesel อะพี่ หาดใหญ่ขายถูก"
ผ่านมาสองเดือนแล้วนึกว่าพี่จะลืมซะอีก ตายห่าละกรูจะไปหานาฬิกาดีเซลมาตบตาพี่ได้ยังไงเรือนนึงเกือบสี่พัน
ใจแวบถึงเงินสองพันที่กริชให้ผม ใจมันเจ็บแปลบอีกแล้ว .....มรึงขายตัวเต็มๆแล้ว.....
ไม่ใช่ว้อยกรูไม่ได้ขายตัว ผมยัดเงินสองพันเข้าซอกกระเป๋าและจะไม่ยอมใช้มันเด็ดขาด ถ้ามีโอกาสผมจะคืนเขา
ผมขึ้นรถไฟฟ้าไปสถานีศาลาแดง ผมตั้งใจจะไปรอกริชที่นั่น ถ้าเขาไม่มาก็เป็นอันจบ
......แล้วทำไมไม่ไปบ้านเขาเลยวะ..... ผมตอบตัวเองไม่ได้
ผมนั่งรอที่บันไดจุดเดิมที่กริชเจอผม รอตั้งแต่บ่ายสี่จนตอนนี้ห้าโมงแล้วยังไม่มีวี่แวว
บางทีเขาอาจไม่คิดว่าจะมาเจอผมที่นี่อีก เขาอาจรอให้ผมโทรไป
ถ้าผมไม่เผลออาบน้ำจนชะเบอร์ที่ฝ่ามือไปหมดเรื่องอาจจะง่ายกว่านี้
หรือฟ้าลิขิตให้เราเจอกันแค่นี้วะ
เกือบหกโมงเย็นยังไม่มีวี่แวว ผมลองเดินไปร้านแมคก็ไม่เจอเลยย้อนกลับมานั่งที่เดิม
..
..
..
ทุ่มครึ่งแล้ว ผมชะเง้อหาเขาอย่างไม่มีความหวัง
..
..
..
....จะสามทุ่มแล้ว การรอคอยเปลี่ยนเป็นความผิดหวัง กลายเป็นโมโหและเสียใจ
ผมไม่รู้ทำไมถึงเสียใจแต่ตัวเองกำลังจะร้องไห้..... ถ้าโมโหก็น่าจะโมโหตัวเองที่สะเพร่า
นี่ผมอยากเจอเขาเหรอ ปล่อยมันจบไปแบบนี้ไม่ดีกว่ารึ
อยากเจอก็ไปบ้านเขาสิ..... ผมไม่กล้าไป ผมกลัวจะเจอคนอื่นในบ้าน กลัวเจอเขาแล้วจะไปจบบนเตียงอีก
หรือกลัวเขาจะเปลี่ยนไปหรือแม้แต่จำผมไม่ได้...ไอ้ผมมันแค่คนเล่นสนุกคืนเดียว
ที่เขารับรู้คือผมเป็นเด็กขายบริการสำหรับความใคร่เท่านั้นไม่มีหัวจิตหัวใจ ไม่ได้มีตัวตนในโลก
ผมพอเข้าใจแล้วว่าทำไมตัวเองถึงไม่อยากไปหาเขาที่บ้าน
น้ำตามันเริ่มจะไหลแล้ว ผมก้มหน้าร้องไห้คนเดียวท่ามกลางคนมากมายเดินขวักไขว่บนถนนสีลม
----------------------------------------------------------------------------------
-
:เฮ้อ: น่าสงสารจังเรย :เฮ้อ:
-
รออ่านต่อไป อิอิ
-
เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ ของเรื่องนี้ สนุกดีอ่า ชอบ ๆ :รักจัง11:
-
:dont2:
ง่ะ
น่าสงสารชะมัด
ป.ล.พูดถึงนาฬิกาถูกกว่าจริงๆ นะ
"ของหนีฯ" เนี่ย ฮ่าๆๆ
-
:yeb: ได้เวลาเริ่มอ่านอีกรอบแล้ว..เคยอ่านแล้วสมัยอยู่แถวสยามบอย...มีช่วงหนึ่งหยุดอ่านไป :impress3:
-
แล้วกริชก็มาตบไหล่ งี้ปะ 555 (มั่วแระๆๆ)
มารออ่านต่อจ้าหมูพูห์ ขอให้หากันจนเจอ :yeb:
-
หง่ะ พูดถึงสีลม เครียดๆๆไม่ได้ไป
ได้ข่าวมีแต่มปลายขาสั้น
:serius2: :serius2: :serius2:
-
รีบนหื่นมากกกกกกกกกกกกกกกก
ปีนี้เป็นโรคหนักขึ้นนะ เรย์จัง
โรคฮีสทีเรียยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
55555555
:laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3:
-
ปีนี้อากาศมันร้อน
:laugh5: :laugh5: :laugh5:
-
ใช่ๆ
พี่เรย์ไม่ค่อยเลย
ไม่ได้ไปแล้วเสียดายใหญ่
กร๊าก
หื่นหญ้าอ่อนซะไม่มี ง่ะ
:laugh3:
-
ตอนนี้ดูเศร้า ๆ เหงา ๆ ไงไม่รู้ :monkeysad:
รอลุ้นให้เจอกัน :myeye:
-
ตอนที่ 7 ฝันไปหรือเปล่า
เงาหนึ่งหยุดยืนข้างหน้าผม รองเท้าคู่นั้น....ผมฝันไปใช่มั๊ย
รองเท้านี้ผมจำได้ชัดเจนแต่ไม่กล้าเงยหน้า
"ต้น...."
กริชยืนอยู่ตรงหน้าผมจริงๆ อยากลุกขึ้นกอดเขาแต่ทำไม่ได้
ความเงียบของเด็กหนุ่มสองคน คนนึงยืนทื่อ อีกคนนั่งก้มหน้า ระยะห่างแค่เอื้อมแต่มีคำพูดอันเงียบเชียบมากมายกั้นอยู่
เขาคงโกรธที่ผมไม่โทรหา เขาโกรธผมแน่ๆในวินาทีที่ใจผมเริ่มชอบเขา ผมเงยหน้าขึ้นช้าๆ รอรับคำด่าแต่กริชมองผมด้วยแววตาที่อบอุ่น
"ทำไมมานั่งที่นี่ล่ะ"
"เราเผลออาบน้ำ...แล้วเบอร์มัน..ก็..." ชิบหายทำไมบ่อน้ำตาตรูจะแตก คอตีบตันจนเจ็บไปหมด
ผมก้มหน้านิ่งปรับอารมณ์ให้สงบอยู่นาน กริชไม่พูดอะไรแต่ทรุดลงนั่งข้างผม ไม่แตะต้องผมสักนิดเหมือนเข้าใจว่าผมกำลังกดน้ำตาไว้
"พี่ไม่โกรธหรอก"
"จริงๆ นะ"
"จริงดิ จะหลอกทำไม" เขาขยี้หัวผมเบาๆ เหมือนพี่ชายกับน้องชาย
"แล้วทานอะไรรึยังเนี่ย" ผมส่ายหัวเบาๆ แทนคำตอบ ตลอดวันนี้ผมคิดถึงแต่เรื่องเมื่อคืน
"ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่เมื่อคืนนอกจากเหล้ากับ...."
"กับอะไร?"
"กับน้ำอะไรสักอย่างอะเดะ" กริชหน้าแดงทันที แดงไปถึงหูเลยครับ ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่แบบนี้ต้องแกล้งอีก
"อยากรู้มะน้ำอะรายยย"
"บ้า ไม่อยากรู้ ฮ่าฮ่าฮ่า"
"เราขอโทษจริงๆนะ อย่าโกรธเรานะกริช"
"ไม่เคยโกรธเลย ผมเป็นห่วงว่านายเป็นอะไรไปตะหาก" เขาอมยิ้มอายๆ "ไปหาอะไรกินกันดีกว่า"
ตลอดทางผมกุมมือเขาไว้ กลัวเขาจะหายไป ผมไม่อยากสูญเสียอีกแล้ว
กริชพาผมขึ้นรถไฟฟ้าไปมาบุญครอง นึกว่าจะกินฟาสฟูดตามประสาเด็กม.ปลายแต่กริชพาผมเข้าซีสเล่อร์แทน
ผมเคยเข้าครั้งเดียวสมัยวันเกิดเพื่อน จำได้ว่าแพงมากเลยให้เขาสั่ง ...กริชรวยจังวุ้ย...
วันนี้เขาไม่ค่อยมือซนเหมือนเมื่อคืนคงกลัวจะเจอคนรู้จักที่นี่ซึ่งผมก็คิดแบบเดียวกันเลยรีบทานให้เสร็จจะได้ไปที่อื่น
พอเดินออกจากร้านจะลงมาชั้นล่างผมเห็นนาฬิกาดีเซลวางขายในตู้โชว์ ถ้าได้ไอ้นี่พี่ชายจะได้ไม่ถามผมอีก ทรงมันเท่จริงๆเลยน้า
ผมจ้องจนหน้าแทบแนบตู้
"ชอบเหรอ"
"เปล่า ทรงมันตลกดี"
ก่อนจะออกประตูห้างกริชบอกขอไปเข้าห้องน้ำแปปนึง ผมเย้าเขา"หนักหรือเบาอะจะได้กะเวลารอถูก"
"หนัก รอนานหน่อยนะอย่าหายไปไหนล่ะ" กริชทำหน้าทะเล้นแล้ววิ่งพรวดไปเลย
..
..
..
ผมนั่งรอเขาหน้าห้าง ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคืนนี้เขากับผมจะไปไหนรู้แต่ว่าผมอยากอยู่กับเขาให้นานที่สุด
แล้วเขารักผมหรือเปล่าหรือแค่ควง 'เด็กขายน้ำตัวปลอม' คนนี้เล่นๆ
"รอนานมั๊ยต้น"
"ไม่นานหรอก ล้างมือยังล่ะ"
"เออยังเลย" กริชตอบพลางเอามือป้ายริมฝีปากผม
"เฮ้ย! เล่นบ้าๆ" เขาขำใหญ่ที่แกล้งผมคืนสำเร็จ
"แล้วคืนนี้...เราไปไหนกันดี"
ผมกระทุ้งเบาๆไปที "กริชตานายแววเยิ้มแล้ว คิดเรื่องลามกอะเดะ" ใจจริงผมพร้อมจะ 'ยอม' เขาทุกอย่างแต่พรุ่งนี้วันจันทร์น่ะสิ
"อืมก็คิดลามกจริงๆอะ"
"ไม่ได้หรอกพรุ่งนี้เราเรียน....ไม่ใช่ๆ! หมายถึงนายต้องเรียนไม่ใช่เหรอ"
"ไหวน่า" กริชกอดผมหน้าห้างเลย "นะๆๆ"
ข้อดีอย่างนึงของผู้ชายคือเล่นถึงเนื้อถึงตัวได้โดยไม่มีใครสงสัยแต่มันเริ่มประเจิดประเจ้อแบบนี้ผมกลัวคนมาเห็นเลยรีบๆตกลง
แล้วเราก็ขึ้นแท๊กซี่....ไปบ้านของเขา
"วันนี้ก็อยู่คนเดียวอีกเหรอ"
สีหน้าของกริชเปลี่ยนไปเล็กน้อย "อืม" เขาตอบสั้นๆ ....ผมไม่ควรถามเขาเรื่องนี้อีก
พอขึ้นรถแท๊กซี่กริชก็ยังนิ่งๆ ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า
"กริช เราถามอะไรสักอย่างสิ"
"อะไรเหรอ"
"ทำไมนายถึงมาเจอเราที่นั่นได้อีกล่ะ"
"ผมก็ไล่หาตั้งแต่ร้านเหล้าเมื่อคืนมาถึงร้านแมคที่โรบินสันจนมาเจอต้นตรงนั้นแหละ"
.....ผมอึ้งไปเลย กริชตามหาผมขนาดนั้นจริงเหรอเนี่ย?
"ทำไมล่ะครับ เราสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ"
เขากุมมือผมแทนคำตอบแต่กลับมองไปนอกกระจกรถ ....ดูเหมือนคำว่า 'สำคัญ' จะเป็นคำต้องห้ามสำหรับเขา
เมื่อคืนตอนที่เขาปล้ำผมบนโซฟาผมพูดอะไรสักอย่างเขาก็มีสีหน้าแบบนี้เหมือนกัน ......"ไม่ได้นะ ขอร้องล่ะ" ประโยคนี้สินะ
......ผมไม่คิดจะถามเหตุผล แค่หลีกเลี่ยงคำพวกนี้คงพอแล้ว ผมดึงมือเขามาโอบไหล่ไว้กริชสีหน้ายิ้มแย้มขึ้นทันที
เหตุผลไม่สำคัญ ขอแค่ทำให้เขามีความสุขได้ก็พอ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-
:laugh3:
น่ารักดี
อิอิ
ทำไม คำต้องห้าม ของกริชมันเยอะแบบนี้ฟระ
เอิ๊กกก
รอตอนต่อไป
:myeye:
-
.............น่ารักเชียว......... :110011: :เชิป2:
.....................ว่าแต่กริชมีไรในใจรึปล่าเนี่ย......... :impress3:
-
เหอ เหอ กริชท่าทางลับลมคมนัยเยอะจิงวุ้ย : 222222: : 222222:
-
สักวันกริชคงบอกเองแหละ ตอนนี้มีความสุขไว้ก่อน :5555:
-
ตอนที่ 8 EXP x 2
"คราวนี้ขอผมอาบด้วยนะ นะๆๆๆ" พอถึงถิ่นลูกแมวหล่อซ่อนลายก็กลายเป็นเสือสมิง
"ไม่ไหวอะ นายอาบด้วยเราคงไม่ต้องออกจากห้องน้ำพอดี"
"นะๆๆๆ" กริชพูดพลางถอดเสื้อผ้าผมกับเขาออก แล้วผมก็ได้สัมผัสร่างเปลือยเปล่าของเขาที่นาบแนบกับแผ่นหลัง
ผมผลักเขาเข้าไปใต้ฝักบัวกริชก็ทำตามอย่างว่าง่ายปล่อยให้ผมฟอกสบู่เหลวให้ทั่วตัว (สบู่เหลวจริงๆนะไม่ใช่อย่างอื่น)
ในร่างผอมเพรียวกลับมีกล้ามเป็นมัดๆ โดยเฉพาะต้นขาและน่อง โอยยิ่งลูบไปทั่วตัวเขาอารมณ์มันก็ยิ่งขึ้น
"เล่นบาสเหรอกริช?"
"เปล่า" (งั้นแปะรูปนักบาสทำไมทั่วห้องแต่ไม่ถามดีกว่า คืนนี้เขาดูอ่อนไหวเหลือเกิน)
"งั้นก็ฟุตบอล?"
"อืม วิ่งแข่งด้วย"
"คงเป็นนักกีฬาสินะ?"
"เปล่า" ........ฟุตบอล....วิ่งแข่ง....กริช....
"คิดอะไรอยู่อะ? ฟอกสบู่จนเห็บหมัดกระโดดหนีหมดแล้วนะเนี่ย ฮะฮะ"
ผมเปิดฝักบัวจะล้างตัวให้กริชแต่เขาดึงตัวผมไปกอด "ทำแบบนี้จะได้ฟอกทีเดียวสองคนเลย"
เขากอดจูบลูบไล้ผมนัวเนีย นิ้วที่ชุ่มด้วยสบู่เหลวชำแรกเข้าข้างหลังผม กริชยิ้มละลายใจตาเป็นประกายบ่งบอกความต้องการ
"ขอนะ"
"โอ๊ยไม่ต้องขอแล้ว เรายอมนายหมดแหละ" ผมฟอกสบู่ให้เขาจนมันขยายตัวพร้อมรบ กริชหมุนตัวผมเอามือยันผนัง เขาย่อตัวแล้วสอดเข้าด้านหลังผมช้าๆ เนื้อตัวเปลือยเปล่าที่ชุ่มสบู่ให้สัมผัสเย็นๆลื่นๆที่ร้อนระอุ
พอเข้าสุดด้ามกริชก็เริ่มซอยจนผมมันส์ไปด้วย มันไม่เจ็บเท่าเมื่อคืนแล้วแฮะ กริชซอยรัวขึ้นปากก็ร้องคราง
เขาจูบไซ้ซอกคอแหย่ลิ้นเข้าใบหูโคตรเสียวเลยโว้ย มือเขาก็ล้วงควักจับรูดท่อนเนื้อผมจนแข็งปั๋ง อีกมือลูบกล้ามอกกับกล้ามท้องบางๆของผม
"ต้นใกล้ยัง?" ผมผงกหัวหงึกๆ กริชซอยอยู่นานจนตัวเขากระตุกหลายทีส่งน้ำรักเข้าผมแล้วรูดของผมอย่างแรงจนน้ำทะลักเปรอะเต็มผนังห้องน้ำ หอบแฮ่กทั้งสองคนเลย
กริชพลิกตัวผมกลับมากอดจูบอีกครั้งและเปิดฝักบัวให้อาบรดเราสองคน ผมเคลิ้มในอ้อมกอดเขา หนาวน้ำแต่ไม่เท่าความร้อนผ่าวจากตัวเขา
"ผมรักต้นนะ"
"อืม เราก็รักนาย" มันเป็นความรู้สึกจากใจจริงๆ ไม่สนว่าเขาเห็นผมเป็นเด็กขายน้ำหรือความจริงอะไรทั้งนั้น
"กริช เราหนาวอะ"
"ได้....แต่ขอ..." เขารุนผมชิดผนังห้องน้ำ
"ผมขออีกทีนะ"
"เฮ้ย!!"
เขาไม่ได้พูดเล่น กริชยกขาผมขึ้นกระเตงเอวแล้วสอดท่อนเนื้อเข้าไปรอบสอง โด๊ปอะไรเข้าไปมันถึงได้คึกขนาดนี้วะ แต่ก็ชอบ ผมเกาะคอเขาไว้แน่นรู้สึกได้ถึงการซอยเข้าออกแบบเต็มๆ กริชเล่นท่านี้อยู่นานจนตัวเราสองคนเกือบแห้ง เหลือแค่หยดน้ำเล็กๆเกาะพราวทั่วแผ่นอกและกล้ามท้องของเขา
กริชแข็งแรงโคตรๆ เลยเขากระเตงไปกระเด้าไปจนพาผมมาถึงเตียง เขาบีบเจลเพิ่มให้ไม่เจ็บมากแล้วจัดการซอยเบาๆ มือนึงรูดท่อนเนื้อผมจนแข็งปั๋ง ปากก็พรมจูบไปทั่วอกของผม มันเสียวจนผมหลับตาปี๋กำหมอนไว้แน่น
เขาจับข้อมือผมขึ้นแล้วเหมือนจะรัดมันด้วยอะไรบางอย่าง ใจผมวาบทันที! ตายห่าจะเล่น SM เหรอวะ!?
ผมสะดุ้งลืมตา ที่ข้อมือซ้ายของผมมันไม่ใช่เชือกหรือกุญแจมือแบบในหนังแต่เป็น...นาฬิกา Diesel สีฟ้าน้ำทะเล!
กริชยิ้มกว้างหน้าตาสดใสที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา "ชอบมั๊ย"
"กริ...กริช นี่มันแพงนะ"
"ผมให้ต้นนะ เห็นต้นจ้องจนตู้โชว์จะทะลุเลยนี่"
"เราไม่เอานะกริช" ทั้งที่ดีใจแต่อะไรๆมันกำลังก้าวล้ำเส้นไปแล้ว กริชไม่ฟังคำของผมเขากุมข้อมือนั้นไว้แน่นและประกบปากจูบนานมาก
"ผมรักต้นมาก มากจนพูดออกมาไม่ได้ ผมอยากให้ต้นรู้ว่าผมรักมากแค่ไหน ผมรักจนอยากกินนายให้หมดเลยนะ"
กริชไซ้ซอกคอและวงแขนสลับกับหัวนมและขยับเอวซอยเบาๆ เขาเล็มเลียใบหูแล้วจูบผมยังกะจะกินให้หมดตัวสมคำพูดจริงๆ
ผมน้ำตาไหลเลยคราวนี้ ดีใจที่สุดในชีวิตที่คนข้างหน้าผมคนนี้รักผมแต่ก็เสียใจที่ผมหลอกลวงเขา
กริชเดินหน้าฟัดผมทั้งจูบทั้งชักท่อนเนื้อผมและซอยประตูหลังอย่างบ้าคลั่ง ผมยอมเขาทุกอย่างจริงๆ ให้หมดทั้งหัวใจเลย เขาชักออกจนเกือบสุดแล้วกระแทกเข้าเต็มแรงหลายครั้งจนเสร็จ
ผมแผ่หราหมดแรงเลยครับแต่กริชยังไม่หยุด เขากระเถิบลงไปดูดท่อนเนื้อของผม คราวนี้ไม่เจ็บเท่าครั้งก่อน เขาทำดุเดือดมากแต่ยิ่งแรงผมยิ่งเสียวจนน้ำแตกคาปาก
"ขอโทษนะกริชเราหยุดไม่ทัน" กริชอมยิ้มไม่พูดอะไร เขาคงกลืนลงไปหมดซะแล้ว กริชจูบปากผมอีกทีและนอนกอดกัน เขากอดผมแน่นโดยไม่พูดอะไรสักคำ มีแต่หัวใจสองดวงที่ยังเต้นแรงที่สื่อสารความในใจถึงกัน
..
..
"ชอบไหม?" กริชกุมข้อมือและนาฬิกาเรือนนั้น
"ชอบครับ"
..
..
"แล้วชอบผมมั๊ย?"
"ไม่ชอบอะ แต่รักเลยแหละ" กริชยิ้มร่าแล้วขึ้นคร่อมผม
"โอ๊ยไม่ไหวแล้ว" สุดหล่อยังทำหน้าง้อไม่เลิก ผมเหลือบดูนาฬิกา "จะตีหนึ่งแล้วกริช เราต้องกลับบ้านจริงๆล่ะ"
กริชทำหน้าเสียดายแต่จำใจพาผมอาบน้ำอีกครั้ง คราวนี้อาบน้ำจริงๆไม่มีอย่างอื่นนะ (ถ้าอีกรอบตรูคงตายพอดี)
เขาอบอุ่นเหมือนพี่ชาย เหมือนเพื่อน เป็นคนรักของผมแต่ผมต้องท่องไว้เขาเป็นเด็กโรงเรียนเดียวกับผมด้วย
พอแต่งตัวเสร็จกริชควักเงินสองพันยื่นให้ผมตามเคยแต่ครั้งนี้ผมรับไว้ไม่ได้จริงๆ
"พี่ไม่ได้ดูถูกต้นนะ พี่เต็มใจ ต้นต้องใช้จ่ายนี่นา"
....ผมอยากบอกตรงนี้เลยว่าผมหลอกเขามาตลอด แต่มันพูดไม่ออก....
"เรารู้ว่ากริชไม่ได้ดูถูกเรา แต่นาฬิกานี่ก็พอแล้วล่ะครับ" กริชกอดผมแน่น
"ต้นเป็น...แฟนพี่ได้มั๊ย....เป็นแฟนพี่นะ"
..........."ครับ"
ผมได้เป็นแฟนเขาแล้วเหรอเนี่ย แต่เขาคิดว่าเขาเป็นแฟน 'เด็กขายน้ำ' หรือผู้ชายคนหนึ่งกันล่ะ
มันจะต่างกันไหม....ถ้าเขารู้ความจริงแล้วมันจะเปลี่ยนไปไหม ผมผลักเขาออกเบาๆด้วยความรู้สึกผิด
"เราดีใจครับ แต่ดึกแล้วนะเราขอโทษจริงๆ เราต้องกลับแล้ว"
ผมขอให้กริชส่งผมแค่หน้าบ้านก็พอ ตอนนี้ผมอยากอยู่คนเดียว ความรู้สึกต่างๆมันตีกันในใจผม
นาฬิกาที่ข้อมือเป็นพยานคำพูดของเขา ผมกุมมันไว้แน่น
.....นาฬิกานี้จะบอกเวลาความรักได้ไหม.....บอกผมทีว่าเมื่อไหร่ควรเปิดเผยความจริง.......
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
-
ติดตาม ๆ :yeb:
-
มารออ่านต่อ เรื่องนี้ดูเศร้านิดๆ :เฮ้อ:
-
โอ้วเป็นเเฟนกันละคนเขียนมาลงซะทีขอบคุณมากคับ มาลงต่อเรื่อยๆนะครับ :impress:
-
นาฬิกานี้จะบอกความรักได้มั้ย :myeye:
น่านสิ ขึ้นอยู่กับใจคนสองคน ว่าจะซื่อตรงต่อกันรึเปล่า :myeye:
-
ตอนที่ 9 หลอกลวง
"เป็นแฟนพี่นะ"
"แต่เราไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะครับกริช" ผมผลักเขาออกเบาๆ กริชจ้องผมในชุดนักเรียนม.4
"เฮ้ย!!!!!"
"เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!"
..
..
ผมสะดุ้งตื่น ฝันร้ายชัดๆ ใจยังเต้นระส่ำอยู่เลย
ตอนนี้ตีห้ากว่าๆแล้ว ผมรีบอาบน้ำแต่งชุดนักเรียนจนพี่ชายงงว่าไก่บินได้เหรอวะไอ้น้องชายจอมขี้เซามันตื่นเช้าขนาดนี้ พี่คงสังเกตเห็นนาฬิกาที่ข้อมือผมแล้วแต่ผมรีบพรวดพราดออกจากบ้านก่อนพี่จะทันพูดอะไร
ผมกลัวเจอกริชที่โรงเรียนแต่ทนไม่ไหวแล้ว ผมอยากอยู่ใกล้เขา ต้องรีบทำตามแผนให้เสร็จก่อนเข้าโรงเรียน เป้าหมายคือตลาดสดใกล้บ้าน เรื่องแรกคือตัดผมให้สั้นลงอีกนิดเผื่อกริชเจอผมจริงๆจะได้จำไม่ได้ จากนั้นก็แวะร้านแว่นตาแผงลอยริมฟุตบาทเลือกอันที่ใส่แล้วหน้าเปลี่ยนที่สุดเท่าที่จะหาได้ แว่นแผงลอยแบบนี้ไม่ดีต่อสายตาครับ ใส่แล้วสายตาอาจเบี้ยวยิ่งกว่าเดิมแต่ตอนนี้ขอแก้ขัดไปก่อน
จะเจ็ดโมงแล้วต้องรีบไปโรงเรียนแต่แว่นเจ้ากรรมมันทำสายตาผมหลอนๆ เหมือนพื้นอยู่ลึกกว่าความเป็นจริง นึกขำตัวเองทำเหมือนซุปเปอร์แมนต้องใส่แว่นปลอมตัว
"เฮ้ย! อันตราย!!!!"
ใครไม่รู้กระชากแขนผมก่อนรถเก๋งจะแล่นเฉียดผมไปนิดเดียว
"ขะ..ขอบคุณครับ"
คนที่ช่วยชีวิตผมไว้เป็นเด็กโรงเรียนเดียวกับผม รู้สึกจะอยู่ชั้นม.สี่เหมือนกันแต่ไม่รู้จักชื่อไม่คุ้นหน้าด้วย
"เป็นไรน่ะจะเดินให้รถชน?"
"ขอบใจนายมากนะ พอดีเพิ่งใส่แว่นน่ะ"
เขาโบกมือเรียกแท๊กซี่ "ไปโรงเรียน...xxxxxx...นะ"
"เอ้าขึ้นมาดิ" เขาฉุดผมขึ้นรถ ใจดีจังวุ้ย
"นายจ่ายนะ" มันพูดหน้าตายเลยครับ
"อ้าวเฮ้ย!"
"เราช่วยนาย นายก็ช่วยเราหน่อยดินะๆ ไปสายอีกทีเราโดนตัดคะแนนความประพฤติแน่"
พอถึงหน้าโรงเรียนไอ้หมอนั่นก็วิ่งแจ้นเข้าโรงเรียนทันที
"รีบวิ่งเร็ว! เขาเข้าแถวแล้ววววว"
ผมจ่ายตังแล้ววิ่งตามไปทันที ไอ้แว่นบ้านี่ทำให้ยิ่งวิ่งช้าไปอีกแต่ก็ทันเข้าแถวพอดีครับ พอเคารพธงชาติเสร็จก็ต้องนั่งกับพื้นสนามร้อนๆ ฟังอาจารย์เทศนาประจำวัน ผมหลุบหน้าพลางเหลือบมองไปรอบๆ จะเจอกริชไหมวะ? อยากเห็นเขาแต่ไม่อยากให้เขาเห็นผม
"มรึงทำอะไรวะ? หลุกหลิกยังกะหนีใครมา อ้าวแล้วใส่แว่นทำไม?"
ไอ้เม้งถามด้วยความสงสัยท่าทางหลุกหลิกของผม เม้งเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของผมเพราะอยู่ห้องเดียวกันมาตั้งแต่ม.สอง
เวลาเข้าแถวหน้าเสาธงเราจะนั่งติดกันเสมอ อย่างวันนี้มันเห็นผมมาสายแน่ๆมันก็มานั่งรอท้ายแถว
"เปล่า กรูเกือบมาสาย กลัวอาจารย์ปกครองเรียก"
"แล้วแว่นนั่นล่ะ มรึงสายตาปกตินี่หว่าจะใส่ให้ตาเขทำไมวะ?"
"กรูอยากเปลี่ยนลุค หล่อขึ้นมั๊ย?"
"มรึงก็หล่อเหมือนเดิมแหละ.......หล่อน้อยยังไงก็ยังงั้น"
"อ้าวอ้ายเวง" ผมจี้เอวมันแก้แค้นมันบ้าจี้ครับร้องลั่น อาจารย์หันมาดุเราเลยก้มหน้าต่อ
..
..
"ไอ้ต้น"
"อะไรวะ?"
"รอยตรงคอมรึงอะ"
รอย!? ผมสะดุ้งเอามือปิดคอ
เม้งยื่นหน้ามากระซิบ "เมื่อคืนมรึงมี xxx กับใครมาเหรอวะ?"
"อ้ายเจี้ย นี่มันยุงกัด"
"ไม่เห็นเป็นตุ่ม"
..
..
"ไอ้ต้น ถ้ามรึงมีแฟนต้องบอกกรูคนแรกนะเว้ย"
"เออ กรูจะบอกถ้ากรูมั่นใจ"
"ตกลงจริงดิ?"
"อืม....แต่ตอนนี้ขอยังไม่บอกอะไรนะ"
เม้งเป็นเพื่อนที่รู้ใจผมที่สุด มันเดาออกว่าผมไม่อยากพูดเรื่องนี้อีกจึงเงียบไป
ช่วงพักเที่ยงผมต้องรีบทานข้าวให้เสร็จแล้วกลับเข้าห้องประจำทันที แต่ห้องผมมันอยู่คนละฟากโรงเรียนจากโรงอาหารเลยเดินไปก็หวาดๆ กริชอาจอยู่ตรงไหนของโรงเรียนก็ได้ผมต้องหาเขาให้เจอก่อนจะได้คิดหาทางหลบ แล้วจะหายังไงละวะ?
หนังสือรุ่นไง! ในห้องสมุดมีทุกเล่มนี่หว่า
ผมเปลี่ยนแผนตรงเข้าห้องสมุด หนังสือรุ่นเก็บอยู่ในห้องหนังสืออ้างอิงจึงยืมกลับบ้านไม่ได้แต่ก็ดีตรงที่ไม่ค่อยมีคนเข้ามา ผมไม่ต้องระแวงจะเจอกริชที่นี่
เริ่มจากเล่มล่าสุดของปีที่แล้ว (เพราะของปีนี้ยังไม่ทำ) เล่มนี้ผมอยู่ม.3 กริชก็น่าจะอยู่ม.4 หรือม.5 แต่หนังสือรุ่นทุกเล่มเขาเน้นถ่ายแค่เด็กม.6 ที่กำลังจะเรียนจบ ชั้นม.อื่นจึงลงแค่รูปหมู่ขาวดำเล็กๆ เห็นหน้าไม่ชัด กริชจะชื่อจริงว่ายังไงหว่า คมกริช, กฤษณะ หรือสันสกฤต แต่ชื่อเล่นเขาอาจไม่ได้มาจากชื่อจริงก็ได้ รู้งี้วันนั้นดูชื่อเขาในใบขับขี่ก็ดีน่ะสิ ตอนนี้ต้องเดาทั้งหน้าทั้งชื่อ
"อ่านหนังสือรุ่นสนุกตรงไหนเหรอ?" เสียงคุ้นๆโผล่มาข้างโต๊ะ ไอ้คนเมื่อเช้านี้เอง
"อ้าวนายเองเหรอ"
"จำเราได้ด้วยเหรอ นั่งด้วยดิ" มันนั่งข้างผมแบบไม่รอคำตอบ
"มีอะไรอ่ะ?"
"เปล่า แวะมาถามว่าคิดไงถึงเดินให้รถชน"
"ไม่ได้ตั้งใจว้อย บอกแล้วเพิ่งใส่แว่นแล้วมันหลอนๆ"
"แต่ก่อนไม่ใส่นิ?"
"สายตาสั้นฉุกเฉินอะ ข้องใจมะ?"
...ว่าแต่มันรู้ได้ไงว่าแต่ก่อนผมไม่ใส่แว่น แล้วทำไมใครๆยุ่งกับแว่นนี่จัง มันดูไม่เป็นธรรมชาติขนาดนั้นเลยรึ
"รอรถแถวนั้นประจำเหรอ? ไม่เคยเห็น"
"เมื่อเช้าเรามีธุระแถวนั้นแต่ปกติเราไปอีกทางน่ะ"
ผมสังเกตเห็นเขาหน้าจ๋อยลงไปนิดนึง "เหรอ...งั้น...เราไปละใกล้หมดพักเที่ยงแล้ว นายก็รีบกลับล่ะ"
"อืม ขอบใจนะ" คนอะไรวะคุยกับคนที่ไม่เคยรู้จักได้เป็นวรรคเป็นเวร
"อ้อ นายถอดนาฬิกาเถอะ ของแพงๆแบบนั้นมันเตะตา'จารย์ปกครอง"
เขายิ้มกว้างแล้วเดินออกจากห้องสมุดไป เออวุ้ย! นี่ผมยังใส่นาฬิกาที่กริชให้อยู่เลยนี่นา! ผมรีบถอดเก็บใส่กระเป๋ากางเกง เขาคงไม่สังเกตเห็นมันนะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-
หุหุ มีปลอมตัวด้วย หลบกันไปหลบกันมา ทำยังกะเล่นซ่อนหาเนอะ :kikkik:
-
:laugh3:
แหม...ยังกับกริชจะจำไม่ได้ยังงั้นแหละ
อิอิ
รอตอนต่อไปฮะ
:yeb:
-
มารออ่านต่อไปนะคับ :yeb:
-
รีบมาต่อเร็วๆนะคร้าบ รอลุ้นอยู่ว่าจะเจอกริชเมื่อไหร่ :yeb:
รีบๆบอกความจริงเค้าไปเค้าน่าจะดีใจกว่าไม่ใช่เรอะ ที่รู้ว่าไม่ได้เป็นเด็กขายน้ำจริงๆอะ บอกไปเล้ย บอกไปเลย :angry2:
-
ลึกซึ้งกันซะขนาดนั้น
จะจำกันไม่ได้เลยเร้อ :kikkik:
รออ่านต่อค๊าบบบบ :yeb:
-
รอวันที่จะมาเจอกัน :laugh3:
-
ตอนที่ 10 เจอ
ตกเย็นผมเข้าห้องสมุดอีกครั้ง หาในกลุ่มม.4 จนครบยังไม่เห็นใครคล้ายสักคน มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ไหมวะแต่ต้องเป็นวิธีที่ปลอดภัยว่าผมจะไม่เป็นฝ่ายถูกกริชเจอซะเอง ...บอลกับวิ่งแข่ง... กีฬาสองอย่างที่เขาเล่นจะพอเป็นเบาะแสได้มั๊ย แล้วทำไมเขาถึงไม่เป็นนักกีฬาล่ะ? โรงเรียนนี้นักกีฬาน้อย ใครเล่นกีฬาไหนเป็นต้องโดนจับลงเป็นนักกีฬาตัวจริงทุกรายนี่หว่า กริชออกจะบึ้กขนาดนั้น ที่แน่ๆการไปเดินโทงๆที่สนามไม่ใช่ความคิดที่ดี ผมจะถูกกริชเห็นซะก่อนถึงจะมีแว่นช่วยก็ยังไม่ไว้ใจ
ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด เย็นป่านนี้นักเรียนคงหายไปเยอะแล้วไปเล่นบาสตอนนี้น่าจะปลอดภัย ผมหยิบรองเท้าออกจากช่องและก้มลงยัดเท้าให้เข้าที่ (ห้องสมุดห้ามใส่รองเท้าเข้าครับ จะมีล็อกเกอร์ให้เก็บรองเท้าหน้าห้อง)
หรือเขาไม่ได้เรียนที่นี่? เสื้อในตู้อาจเป็นของคนอื่นในบ้าน คิดแบบนี้แล้ว...กริชคงไม่ได้อยู่ที่นี่....ถ้าเป็นแบบนั้น....ใจผมบีบคั้นจนเจ็บ ผมโล่งใจหรือเสียใจกันแน่ ทำไมน้ำตามันเอ่อขึ้นมาวะ...ทำไม...
"เออแล้วไอ้ไก่มันจะทำไหม?"
"ยังไม่แน่เลย กรูว่ามรึงหาคนอื่นเหอะรอไอ้ไก่แบบนี้งานล่มพอดี"
......เสียงนั่น......
"มันเชี่ยวที่สุดนี่หว่า อีกสามเดือนจะเริ่มแล้ว"
เสียงที่อยู่ข้างหลังผม ไม่ได้หูฝาดแน่ๆ เสียงของกริช! ผมจำได้ขึ้นใจ เสียงที่บอกรักผม ไม่มีทางเป็นคนอื่นอีก!
รีบหนีสิโว้ย!!! เขาอยู่ด้านไหนกันล่ะ ซ้ายหรือขวา!?
คนสองคนยืนคุยกันอยู่ข้างหลัง ถ้าหันผิดทางมีหวังเจอะเขาเต็มๆ แน่!
"กรูขี้เกียจหาช่องว่ะ กรูฝากช่องเดียวกับมรึงได้ไหม?"
"ไม่เอาโว้ยรองเท้ากรูเปื้อนหมด"
....หนีสิวะ! แต่ขาขยับไม่ออก....
"ขอโทษครับน้อง พี่ขอเก็บรองเท้าหน่อยนะ?"
คงไม่ได้พูดกับกรูนะ แต่คนที่นั่งยองๆบังช่องก็มีแต่ผมคนเดียว
"น้องครับ"
ช่องอื่นเยอะแยะมรึงจะมาแจ๊กพ็อตแตกอะไรตรงนี้ว้า!!!! ถ้าซื้อหวยกรูคงได้รางวัลที่หนึ่งแน่ๆ เฮ้ย! ไม่ใช่เวลาปล่อยมุขตลก หาทางหนีเข้าสิ!!!
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-
:serius2:
สั้นนนนนน
เง้อ
:dont2:
รอตอนต่อไป
-
ตายเเหงๆเลยเหอๆ :haun5:
-
สั้น หมูพูห์สั้นเจงๆๆ ด้วย :laugh5:
บอกๆ มันไปซะทีเห้อ จาได้ไม่ต้องมาลุ้นกันทุกวัน อย่างกับเป็นสายลับแนะ
ในใจแอบเชียร์ให้เจอซะที เจอรูปแบบไหนก็ได้ สะจายยย :laugh3:
รอหมูพูห์ต่อจ้า :yeb:
-
หันหน้าไปเจ๊อะกันเล้ย จะได้รู้ดีรู้ชั่วกันไป :laugh3: :laugh3:
-
อ๊ากกกกกซ์ ทำไมชอบตัดตอนเหมือนละครทีวีอะคร้าบบบบ อยากอ่านต่อออออออออ มต่อไวๆเน้อออออ :เศร้า1:
-
สั้น หมูพูห์สั้นเจงๆๆ ด้วย :laugh5:
พิมรู้ได้อ่ะว่าพูห์สั้น ตกลงว่าสั้นจริงป่าวจ๊ะพูห์ :kikkik:
แอบมาปั่นทู้พูห์เล่น อิอิ นิยายเยอะมั่กๆ อ่านไม่ทันซักเรื่อง :เฮ้อ:
-
สั้นอ่ะ :seng2ped:
อยากให้เจอกันจังแล้วมันจะยังงัยต่อไป :laugh3:
-
ชิชิ :o
ของเขามีแค่นี้แหละครับ
ส่วนของผม...
ไม่อาววววม่ายพูด เดี๋ยวจะหาว่าขี้โม้
:laugh3: :laugh3:
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 11 รอด? ไม่รอด?
"กริช!!" เสียงใครสักคนตะโกนทักเขา
"เอ้อ! ไอ้ไก่ พวกกรูกำลังหามรึงพอดีเลย"
ได้โอกาสละวุ้ย! ผมรีบเดินก้มหน้าลงบันไดไปชั้นล่างและจ้ำอ้าวให้ไกลที่สุด ไอ้แว่นตาเขนี่เกือบทำผมหัวคะมำแต่ถอดตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด
กริชอยู่ที่นี่จริงๆ! ใจมันเต้นตูมๆ เกือบหัวใจวายคาบันไดแล้ว
อยู่ไม่ได้แล้ว! คว้ากระเป๋าได้ก็รีบวิ่งออกประตูหลังโรงเรียนทันที หัวใจมันเต้นสองจังหวะทั้งร้อนวาบและหนาววูบ ดีใจที่รู้ว่าเขาอยู่ที่นี่แต่ก็กลัวเขาเห็นผม
กรูต้องอยู่แบบนี้อีกนานแค่ไหนกันวะ!? แค่หันหลังกลับไปทางโรงเรียนตอนนี้ยังไม่กล้าเลย อยากเจอโว้ยยย!!!
กว่าจะรู้สึกตัวขาก็พาผมมาเกือบถึงบ้านแล้ว (ขึ้นรถเมล์มาตอนไหนจำไม่ได้เลย)
ผมเข้าตู้โทรศัพท์แล้วโทรหาเขา อยากเจอกริช แค่ได้ยินเสียงก็ยังดี
"สวัสดีครับ"
..
..
"นั่นใครน่ะครับ?"
"ต้นครับ"
"เฮ้ย! ต้นเหรอ" เสียงเขาดีใจมาก แค่นี้ผมก็ยิ้มแล้ว
"ต้นๆ ตรงนี้เสียงดังน่ะ เดี๋ยวผมหาที่เงียบๆแป๊บนะ อย่าวางหูนะ"
เสียงจอแจเหมือนคนหลายคนคุยกันอยู่ ผมพยายามนึกภาพว่าเขาคุยอยู่ตรงไหนคุยกับใคร เสียงคนเล่นบอลพลาสติกตะโกนโหวกเหวกแสดงว่าใกล้สนามบาส แต่คนคุยเหมือนปรึกษางานกันก็น่าจะเป็นบนโรงอาหารติดสนามบาสที่ตอนเย็นจะกลายเป็นลานบอล
ผมหลับตานึกภาพ...ผมกับเขานั่งอยู่ด้วยกันตรงนั้น โรงเรียนที่มีแค่เราสองคน
"อย่าวางหูนะต้น" เขาพูดย้ำเป็นระยะๆ เหมือนกลัวผมจะหลุดหายไปในอากาศ
"อ่า ตรงนี้เงียบละ"
"ครับ"..........แล้วจะพูดอะไรล่ะ
"ต้นสบายดีมั๊ย"
"....ไม่สบายครับ"
"ต้นเป็นอะไรน่ะ ป่วยเหรอ?" เสียงกริชจริงจังทันที ดีใจจังเขาเป็นห่วงผม
"โดนใครไม่รู้เสียบตั้งสองคืนอะ ฟ้าเหลืองเลย"
กริชหัวเราะชอบใจใหญ่ "อยากโดนอีกไหมล่ะ?"
"ไหวเร้อ? ถ้าสามคืนนายคงคลานไปโรงเรียนแน่ งานยุ่งด้วยไม่ใช่เหรอ?" .....ตายห่า ดันหลุดปากคำว่า 'งานยุ่ง'
"หมายถึงเรียนหนักอะ ท่าทางนายเป็นเด็กเรียนนิ"
"อืม เรียนหนัก งานก็ยุ่งด้วย"
เขาเน้นคำว่างานจนผมใจแป้ว กริชเอะใจหรือเปล่า
ไม่น่ะในความเข้าใจของเขาผมเป็นแค่เด็กขายบริการเท่านั้นไม่มีตัวตนในโลกนักเรียนม.ปลายของเขา....ไม่มีตัวตน...
"ต้นเงียบไปเลยอะ เป็นไรรึเปล่า"
"เปล่าครับ....เพลียนิดหน่อย เดี๋ยวเราต้องไปทำงานแล้ว"
"เพิ่งห้าโมงเองนะ?"
"ขะ...เข้าเร็วจะได้โอทีน่ะ" ...อาชีพนี้มีโอทีมั๊ยวะ?
"อืม ขอโทษนะที่ทำให้นายเพลีย" คงไม่ใช่มุข เสียงเขาเศร้าๆ
"ผมอยากเจอต้นจริงๆ นะคืนนี้ไปหาที่ร้านได้มั๊ย? ไม่ต้องทำ...อย่างว่า...ก็ได้"
..
..
"รู้สึกปวดหัวแล้วล่ะ เดี๋ยวเราเข้าร้านไปลางานดีกว่า กริชอย่ามาเลยกลัวนายติดหวัดครับ"
"เหรอ?"
แล้วเราทั้งคู่ก็เงียบไปอีก
"ต้น"
"ครับ?"
"งั้นนอนพักเถอะ แล้วพรุ่งนี้ล่ะทำงานไหม?"
เวง!! จะมาหาให้ได้ใช่มั๊ยเนี่ย? ผมจะทำไงดีไม่น่าโทรหาเขาเลย
"กริชอายุยังไม่ถึงเข้าร้านไม่ได้หรอก"
"ขี้โกง นายก็ไม่ถึง 18 ยังทำงานนี้ได้เลย"
"น่าๆ อย่างอนนะครับ"
"พูดห้วนๆ แบบนี้ไม่หายงอนหรอก"
ผมมองซ้ายขวาก่อน ไม่มีคน "อย่างอนนะคร้าบพี่ชายสุดที่รักของผม"
กริชคงอมยิ้มแต่ผมสิหน้าแดงถึงหูแล้วมั้ง เกิดมาไม่เคยพูดแบบนี้เลยว้อยยยยย!
"แล้วผมจะติดต่อน้องชายสุดที่ร้ากกกได้ยังไงล่ะ?" (เท้าผมกระตุกเลย อยากเห็นหน้าแกตอนพูดประโยคนี้จริงๆ)
"เดี๋ยวก็จะซื้อมือถือละครับไม่ต้องห่วง"
"ดีๆ ต้นมีมือถือแล้วโทรหาผมนะ"
"ครับๆ แค่นี้นะครับ" ผมรีบวางหูทั้งๆที่เสียดาย สามวันนี้ผมมุสาวาทาไปกี่ครั้งแล้วเนี่ย ผมต้องหลอกลวงหลบหน้าเขาอีกนานแค่ไหน
...น้องชายสุดที่ร้ากกก....หน้าผมร้อนผ่าวใจเต้นแรง
.
.
.
-
:เชิป2: :110011: หนุกหนุก รออย่างใจจดใจจ่อ ครับผม หุหุ :รักจัง11: :รักจัง11:
-
.............พี่น้อง.....หน้าท้องติดกัน.... :laugh5:
-
รอดไม่รอด ต้องดูกันต่อไป :laugh5: :laugh5:
-
หนุกๆๆๆ ขอให้ต้นเจอกริชที่โรงเรียนไวๆ อยากสะจายย ปิดดีนัก :laugh5: :laugh5:
รออ่านต่อจ้า :impress:
-
:เฮ้อ: อ่านทันชาวบ้านเขาแล้ววุ้ย เรื่องนี้หนุกจัง :kikkik:
มาต่อไวไวนะงับ จะรออ่านน๊า :yeb:
-
ม่ายอยากคิดเยยอะว่า ถ้ากริชรู้ความจริงแว้วจะเปนยังไงอะ
หวังว่าคงม่ายมีไรร้ายแรงนะ :monkeysad:
-
เรื่องยิ่งยุ่งเข้าไปทุกที ตอนนั้นไม่น่าบอกชื่อร้านไปเลย แล้วผมจะห้ามกริชไม่ให้ไปร้านนั้นได้นานแค่ไหน
ก็บอกความจริงซะจะได้คบกันเปิดเผย(ไม่ถึงกับเดินควงกันนะ) อย่างน้อยก็ไม่ต้องแกล้งเป็นเด็กขายน้ำอีก
ไม่สิ ตอนนี้ตรูไม่ได้ 'แกล้งทำ' แล้วนะ รับทั้งเงินทั้งนาฬิกามาแล้ว ตอนนี้ตรูขายบริการจริงๆเลยล่ะ ต่อให้คืนให้ไปกริชก็คงไม่เชื่อ ถ้าเขาไปบอกคนอื่นชีวิตผมคงพังหมดแน่
ที่สำคัญกริชจะคิดกับผมยังไง
ท่าทางขรึมๆภายนอกกับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านภายในมันสวนทางอย่างกับเป็นคนละคน ถ้าวันนึงเขารู้ว่าผมเป็นคนใกล้ตัวเขาจะยังรักผมหรือเปล่า......เอาตัวรอดไปวันๆก่อนเถอะ ผมแวะซื้อซิมอันใหม่มาใส่เครื่องแล้วกดโทรหาเขา
ตรู๊ด.......
ผมวางหู....ไม่รู้เพราะอะไร วันนี้ผมเหนื่อยมากแล้ว เหนื่อยกับการเป็นคนสองคน มันไม่สนุกเลย
คนนึงเหมือนอยู่ในโลกมืด ไม่มีตัวตน แต่ได้พบกริช ได้รับความรักจากเขา
อีกคนอยู่ในโลกปกติ ใกล้เขาแค่เอื้อมแต่ต้องหลบๆซ่อนๆ
กริชไม่โทรกลับมาแต่ยังไงเขาก็ได้เบอร์ผมแล้ว เขาคงเดาออกนะว่าเป็นเบอร์ผม ผมเริ่มจะปวดหัวจริงๆละตอนนี้ คงเพราะความเครียดกับการใส่แว่นปวดตานี่ทั้งวัน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-
ตอนที่ 12 เพื่อนคนนี้ที่เข้าใจ
เช้าวันอังคาร...
การเดินเข้าโรงเรียนเหมือนทุกๆ วันกลายเป็นเรื่องเสี่ยงอันตรายยังกะลุยดงระเบิด ผมเกาะกลุ่มนักเรียนที่ลงรถเมล์มาพร้อมๆ กันเดินเข้าโรงเรียน
แค่นี้ความเครียดก็กินกบาลโทรมแย่แล้ว อีกนิดเดียวก็จะถึงบันไดตึก อยากกระโจนพรวดเข้าห้องเลยนะเนี่ย อาคารเรียนนี้มีแค่ชั้นม.2 ถึงม.4 ค่อนข้างปลอดภัยว่าจะไม่เจอกริชแน่ๆ
"ต้น!!!!!" จ๊ากกกกก!!! อ้าวไอ้เม้งนี่หว่า
"เป็นไรวะหน้าซีดเหมือนเห็นกรูเป็นผี?"
"มรึงเรียกชื่อกรูดังลั่นตึกแบบนั้นอีกทีได้เป็นผีสมใจแน่"
"อะไรของมรึง? แล้วจะให้เรียกสุดที่ร้ากกกกกกเหรอครับท่าน?" อุ๊ก! ยังกะโดนอัพเปอร์คัท!
"เอาเป็นว่าเดินถึงตัวกรูค่อยเรียกชื่อเบาๆละกัน"
"เออๆ มรึงแปลกไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ กรูเป็นห่วงนะเว้ย ถามจริงเหอะเป็นอะไร?"
"กรู....." เมื่อคืนผมคิดแผนตบตาไว้เยอะแยะ แต่ผมเหนื่อยกับการโกหก
ผมกอดคอมันมากระซิบ เม้งเป็นเพื่อนที่ผมสนิทที่สุดผมไม่อยากมุสากับมันอีกแล้ว
"กรูทำอะไรไม่ดีกับใครบางคนในโรงเรียนนี้ ตอนนี้กรูพยายามหลบหน้าเขาอยู่"
"เฮ้ย!"
"เบาๆดิวะ"
เม้งยังงงๆ "แล้ว...เขารู้จักมรึงไหม"
"คงไม่รู้จักหรอก อาจจำหน้าไม่ได้ด้วย"
มันทำหน้าเหมือนจะเล่นรายการยี่สิบคำถามต่อ
"เม้ง มรึงเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของกรู กรูไม่อยากพูดโกหกกับมรึงเพราะฉะนั้นมรึงอย่าซักกรูอีกเลยนะขอร้องล่ะ"
มันยังทำหน้าเม้งๆ ต่อ
"เออ ฟังแล้วงงๆ แต่กรูไม่ซักมรึงละท่าทางมรึงเครียดมากๆ เลย แต่ขออีกคำถามเดียวนะ"
"มรึงได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้"
"เริ่มอารมณ์ดีแล้วนี่หว่า"
"มีมรึงเข้าใจกรูก็ดีขึ้นมากละ จริงๆ"
"อืม มรึงไม่ได้ไปชกต่อย ปล้น จี้ ฆ่า ขายยาบ้า ใช้ยาเสพติดใช่มั๊ย?"ผมส่ายหัวเบาๆ "ไม่"
"เอองั้นกรูก็พอใจละ"
หลังคุยกับเม้งแล้วผมสบายใจจนแวบนึงคิดว่าจะเจอกริชตอนนี้ก็ไม่กลัวละ อย่างน้อยผมก็มีเพื่อนคนนึงที่ใส่ใจและเข้าใจผม....จะเข้าใจหรือเปล่าหว่า?
ช่วงพักเที่ยงผ่านไปอย่างราบรื่นราวกับกริชไม่อยู่ในโรงเรียน แต่ก็วางใจไม่ได้
"ต้น คืนนี้ไปกินเหล้าหอกรูมั๊ย" เม้งกระซิบถาม
"ก็ดีว่ะกรูเครียดมากๆเลยช่วงนี้"
"แล้วไม่ขายซีดีแล้วเหรอ"
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมยุ่งกับเรื่องกริชจนลืมไปเลย วันพรุ่งนี้เป็นวันพุธซะด้วย 'วันเทศกิจ' แผงลอยที่สีลมจะเหลือนิดเดียวและไม่มีคนขายหนังโป๊ ถ้าจะไปซื้อก็ต้องคืนนี้แหละ "งั้นไปกินที่หอมรึงถึงสามทุ่มนะ จากนั้นกรูจะไปหาซื้อหนัง"
ผมนึกขึ้นมาได้ "เม้งมีหนังสือรุ่นปีที่แล้วไหม? กรูไม่ได้ซื้อไว้"
เมื่อวานหาแค่รายชื่อม.4 แต่ตอนนี้ผมผ่านไปแถวห้องสมุดไม่ได้ละไม่งั้นอาจแจ๊กพ็อตแตกอีก
"มีๆ"
เลิกเรียนปุ๊บเราสองเกลอเผ่นแน่บไปหอเจ้าเม้งทันที (เวลามีน้อยต้องรีบกินรีบเมา) หอมันอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน ห้องเล็กๆ ไม่มีแอร์ บ้านเม้งอยู่ถึงฝั่งธนเลยมาเช่าหอ หอที่นี่ราคาถูกเลยมีแต่คนใช้แรงงานมาอยู่ ไม่มีใครมาสนใจนักเรียนม.ปลายขี้เมาอย่างเรา ผมถอดเสื้อแขวนไว้จะได้เย็นๆ ดื่มไปเปิดหนังสือรุ่นไป
..
..
..
..
"กรูมีเซ็กส์กับใครบางคนที่โรงเรียน"
"เหรอ"
"กรูเห็นมรึงอึดอัดก็เลยบอก แต่บอกได้แค่นี้แหละ"
เป็นเพราะเหล้าเข้าปากหรือผมไว้ใจเพื่อนคนนี้มากก็ไม่รู้จึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากซะเอง
"แว่นมรึงนี่โคตรหลอนเลย เดินได้ไงวะกรูใส่ยังเวียนหัว"
"จำเป็นว่ะ"
"เอางี้ มรึงไปใส่เลนส์เปล่าสิ มันไม่มีผลกับสายตาจะได้ไม่มึน"
"ขอบใจนะ ลืมคิดไปเลย"
เปิดดูจนครบทั้งม.5 ก็ยังไม่เจอใครหน้าคล้ายเลย เป็นไปได้ไงวะหรือเขาเพิ่งเข้าปีนี้?
"เออแล้วเรื่องบาสล่ะมรึงเอาไง?"
ใกล้กีฬาสีแล้วครับ บรรดาสีต่างๆเริ่มดึงตัวคนเก่งๆไปเข้าสีตัวเอง (โรงเรียนนี้ใครจะลงกีฬาให้ทีมสีไหนก็ได้แต่ถ้าขึ้นเวทีเชียร์ต้องขึ้นสีตัวเองเท่านั้น) รายชื่อผมอยู่สีแดงแต่ไอ้เม้งอยู่สีเขียว ตอนม.3 ผมไปลงทีมสีเขียวกับไอ้เม้งทำให้รุ่นพี่สีแดงงอนนิดหน่อย แต่ปีนี้พวกเราต้องลงทีมม.ปลายซึ่งศักดิ์ศรีและชื่อเสียงมันใหญ่กว่ากันเยอะ รุ่นพี่ยังมาตื๊อผมบ่อยๆให้ลงช่วยสีแดง
"ไม่รู้ว่ะ แล้วทำไมมรึงไม่มาลงสีเแดงกับกรูล่ะ"
"ก็เหตุผลเดียวกับที่มรึงไม่มาสีเขียวนั่นแหละ"
"ก็.....คิดว่าคงลงสีเขียวกับมรึงนั่นแหละ กรูชอบเล่นคู่กับมรึง" เม้งยิ้มแฉ่ง
"มรึงเล่นแรง กรูอยู่ข้างเดียวกับมรึงกรูจะได้ปลอดภัย"
"โหปากไปลับที่ไหนวะกรูจะเอามีดที่บ้านไปลับบ้าง....เออจะสามทุ่มแล้วนะ"
"งั้นกรูไปล่ะ" ผมหยิบเสื้อยืดกางเกงยีนส์ในตู้มาเปลี่ยน เป็นเสื้อผ้าสำรองที่ผมทิ้งไว้ในหอเม้งเผื่อมานอนค้าง ส่วนชุดนร.ก็พับยัดกระเป๋าฝากมันไว้ที่นี่
"เม้งถามหน่อยสิ อีกสามเดือนโรงเรียนเราจะมีงานอะไรเหรอ?"
เม้งใช้รองเท้าแตะบินได้แทนคำตอบ
"เฮ้ย!อะไรว้า!"
"มรึงอะดิ คุยเรื่องกีฬาสีหยกๆ ยังจะถามอีกว่าอีกสามเดือนจะมีอะไร?"
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-
มาลุ้นต่อ ตื่นเต้น :yeb:
-
มาลุ้นด้วยคน ชอบมากมาย เรื่องนี้
:110011: :เชิป2: :110011:
-
เหอ เหอ อาชีพเสริมแบบแปลก ๆ :laugh3:
-
.............หนีอะไรก็หนีได้..........แต่หนีหัวใจตัวเอง.........จะหนีพ้นหรอ......... : 222222:
-
แล้วทำไมต้องปิดบังกันด้วยว๊า :serius2:
บอกไปซะก็สิ้นเรื่อง :เฮ้อ:
-
รออ่านนะงับ :yeb:
-
:เฮ้อ: เมื่อไหร่จะเจอกันน่า......... :เฮ้อ:
-
:monkeysad2:
เฮ้อ ไม่เจอกันสักที
ลุ้นครับลุ้น
:เฮ้อ:
-
ตอนที่ 13 ร้าน
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
"เออแล้วไอ้ไก่มันจะทำไหม?"
"ยังไม่แน่เลย กรูว่ามรึงหาคนอื่นเหอะรอไอ้ไก่แบบนี้งานล่มพอดี"
"มันเชี่ยวที่สุดนี่หว่า อีกสามเดือนจะเริ่มแล้ว"
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ผมคิดเรื่องที่กริชกับเพื่อนคุยกันเทียบกับที่เม้งพูด
"อีกสามเดือนก็กีฬาสีไง นี่มรึงตั้งใจจะลงแข่งไหมเนี่ย ศุกร์หน้าหมดเขตรับสมัครแล้วนะโว้ย!"
หรือกริชจะเป็นสต๊าฟกีฬาสี สีไหนล่ะ? จะสต๊าฟสีไหนมันก็มีโอกาสเจอนักกีฬาบ่อยทั้งนั้นแหละ ถ้ากริชเป็นสต๊าฟจริงผมก็ไม่ควรลงแข่ง แต่มันเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิตม.ปลายของผมแล้ว.....ถ้าสอบเทียบแล้วเอ็นท์ติดน่ะนะ.......ทำไมชีวิตผมถึงวุ่นวายได้ขนาดนี้วะ รถไฟฟ้าใกล้จะถึงสถานีศาลาแดงแล้ว เออ! วันนี้ยังไม่ได้ใช้ซิมอันใหม่เลย เกือบสี่ทุ่มละกริชจะโทรหาบ้างไหม พอเปลี่ยนซิมแล้วเปิดเครื่องขึ้นอีกครั้งแหละ....
กริช โทรหาคุณเป็นจำนวน 76 ครั้ง
ตายห่าแล้วๆๆๆๆ ยังไม่ทันคิดว่าจะโทรกลับหาเขาดีมั๊ยมือถือผมก็ดังขึ้นอีก
"กริช ขอโทษนะเรา..เราปิดมือถือน่ะ"
"โต้น....โต้นใช่ม๊ายยย?" เอ๋อ!? ทำไมเสียงเขายานคางแบบนี้ เมาเหรอเนี่ย?
"กริช นายอยู่ไหนอะ เมาด้วยเหรอ?"
"โผม...อยู่ที่ร้าน" ......ร้าน....อย่าบอกนะว่า....
"โผมอยู่...ทไวไลท์ไง...ร้านของต้นอ่า.....ทามไมไม่มีใครรู้จักต้นเลย" ผมเซวูบ ตอนแรกนึกว่ารถไฟฟ้าตกรางแต่ดูเหมือนขาผมเองที่อ่อนแรงกระทันหัน
"กริชออกมาเดี๋ยวนี้เลย เกิดตำรวจจับจะทำไง"
"ผมม่ายไปไหนทั้งนั้น ผมอยากเจอนายนะ"
"เราอยู่ข้างนอกนี่แล้ว กริชรีบออกมา"
..
..
..
"โผมไม่ไปไหนทั้งน้าน ผมอยากเจอต้น ถ้านายไม่มาผมจะพังร้านละนะ!!" มันเริ่มโวยวาย
ตายห่าละทีนี้ ร้านเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยโว้ย! ถ้าเรื่องถึงตำรวจละจบเห่
"อย่าๆๆๆ จะไปหาเดี๋ยวนี้แหละครับ นั่งนิ่งๆ 15 นาทีห้ามทำอะไรทั้งนั้นนะ"
"หายใจก้อ...ไม่ด้ายเหรอ?" ว้อย! มุขแป้กๆ แบบนี้ขุดมาจากไหน -*-
"ต้น.."
"กำลังไปนี่แหละ ตอนนี้วิ่งลงสถานีมาละ" วิ่งหน้าตั้งละครับ คนมองกันใหญ่แล้ว
"....ต้นทำงานที่...นี่จริงๆ เหรอ?"
"จริงๆ แต่...แฮ่ก แฮ่ก...แต่วันนี้เราเข้าสาย" ผ่านหัวโค้งโรบินสัน สู้ตายโว้ยยย!!!
"ต้นนุ่งกางเกงในแบบนี้ทู้กวันเลยเหรอ..." อุ้ก!!! เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ?
"เด็กที่นี้นุ่งแต่กางเกงในทุกคนเลยยย ต้นอายโผมใช่มั๊ยถึงม่ายอยากให้ผมมา"
"โต้น"
"หืม?" ผมเปลี่ยนเป็นเดินจ้ำๆ แทนเพราะไอ้คำว่านุ่งแต่กกน.นี่แหละ
"เมื่อวานโผมเจอ...."
"เจออะไรเหรอ...." พ่อแก้วแม่แก้วจ๋าอย่าให้เป็นอย่างที่ผมคิดเล้ย
"เจอคนที่โรงเรียน....ท่าเดิน...คล้ายๆ ต้นเลย" ตูม!!!!!! ฟ้าถล่มเสียงแบบนี้หรือเปล่า ผมคิดว่าต้องใช่แน่ๆ ใครมียาดมท่านเจ้าคุณ ขอด่วน!
"เหรอ...ดี...ดีใจจังกริชคิดถึงเราขนาดเห็นภาพหลอนแบบนั้น"
"ต้นทำงานที่นี่จริงๆใช่มั๊ย?"
"จริงดิ เนี่ยมาถึงหัวโค้งเข้าสุรวงศ์แล้ว" เห็นป้ายร้านเจ้ากรรมอยู่ตรงหน้าแล้วครับ
"ถ้าโต้นไม่ใส่กางเกงในแบบคนอื่นโผ้มคงไม่เชื่อแน่ๆ" ...ไม่เอายาดมละครับ ขอเครื่องปั๊มหัวใจแทน...
"โผมรักต้น รักสิ่งที่ต้นเปนนน ออกมาหาโผมน้า..."
ไอ้สิ่งที่มรึงรีเควสต์นั่นไม่ใช่สิ่งที่กรูเป็นเลยว้อย อ้าว! สายตัดไปละ เขาวางหูหรือแบตหมด? ทำไมมันไม่เมาพับหลับไปเลยจะจัดการง่ายกว่านี้ ผมหันรีหันขวางอยู่หน้าปากซอย เด็กเชียร์แขกหน้าร้านสองคนเหลือบมาเห็น
"น้องเป็นเพื่อนเด็กหนุ่มข้างบนนั่นรึเปล่า"
"ครับ"
"เขาเมาโวยวายมากเลย น้องรีบเอากลับบ้านไปเลยไป" เสียงเข้มเลยครับ สงสัยชงทีครึ่งกลม
"ไม่ได้อะครับ"
"อ้าวเฮ้ย! ไหงงั้นล่ะ?" โอ๊ย! จะมีใครในโลกเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้มั๊ยเนี่ย
ชายวัยกลางคนในชุดสูทเดินออกมาจากร้าน ท่าทางเป็นผู้ใหญ่ "ป๋าปวดหัวจะแย่ อายุยังไม่ยี่สิบแน่ๆ ขืนตำรวจมาล่ะตะแลงแกงแหง"
ผมรีบตรงดิ่งเข้าไปหา 'ป๋า' ท่าทางคนๆนี้พอจะช่วยผมได้
"อ้าวแล้วนี่ใครอีกล่ะ? มีอะไรจ๊ะหนุ่มหน้ามน แค่คนข้างบนป๋าก็เข็ดฟันจะแย่" ผมรีบอธิบายแบบรวบรัดตัดตอนก่อนสถานการณ์จะบานปลาย
"ว๊าย!!!! อกอิแป้นจะแตกตาย ทำไมหนุ่มม.ปลายถึงอยากเป็นเด็กขายน้ำล่ะจ๊าาา"
ป๋าน่าเปลี่ยนเป็นอาม่ามากกว่า อาชีพก่อนคงเล่นลิเกพูดแต่ละประโยคมีคำคล้องจองตลอด
"เรื่องมันพามันอะครับ อาม่า เอ๊ย! ป๋าช่วยผมทีนะ"
"จะให้ช่วยยังไงล่ะ?"
ผมโน้มไปกระซิบ....
"ต๊ายยยยย!!!! อุ๊ยตายว้ายกรี๊ดดดด!!!!!" (เสียงกรี๊ดของอาม่า เอ๊ย! ป๋าดังไปถึงสวนลุมเลยมั้งเนี่ย)
.
.
.
-
................ง่ะ............แล้วไงต่ออ่ะ..............อย่าค้างดิ............... :13223: :13223:
-
"ต๊ายยยยย!!!! อุ๊ยตายว้ายกรี๊ดดดด!!!!!" :laugh5: :laugh5: งานนี้จะทำยังไงละ :laugh5: :laugh5:
-
:laugh3: งานนี้ป๋าต้องช่วย :laugh3:
-
มันจะวุ้ยวายอะไรแบบนี้ มาต่อเร็วๆนะงับ อยากอ่านอย่างแรง :kikkik:
-
จะแปลงร่างไปใส่กางเกงในอ่ะจิ :kikkik:
-
เรื่องมันชักจายุ่งเหมือนยุงนัวเนียกัน
เอ้ยๆๆๆ ยุงตีกันตะหาก :try2:
รอต่อไปปปป :44443:
-
:kikkik: :kikkik: ตาย แน่นายต้น ยิ่งเก็บความลับไว้ยิ่งไปกันใหญ่หุหุ ตายแน่ๆโฮะๆ :kikkik:
-
..
..
..
"หนูแน่ใจนะว่าอยากทำแบบนี้?"
"จำเป็นครับ"
"แหม ป๋าล่ะเสียด๊ายเสียดายยังไม่ได้ชิมพ่อหนุ่มล่ำกล้ามทองต้องปล่อยให้แขกไปลิ้มลองซะละ"
"ป๋าอย่าล้อผมดิ๊"
"เออๆ รีบไปจัดการเพื่อนหนูให้อยู่หมัดดีกว่า จำที่สัญญาได้นะ?"
"ครับ ห้ามให้เขาอาละวาดเด็ดขาดแล้วรีบพาออกจากร้านทันที"
"แล้วอะไรอีก?"
"ห้ามเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเด็ดขาดโดยเฉพาะมาต๋า....ผมไม่เล่าอยู่แล้วล่ะอายจะตายแล้วเนี่ย"
"อะไรอีก?"
"ห้ามแสดงท่าทางกระด้างกระเดื่องเด็ดขาด" แกคงกลัวเสียภาพลักษณ์เด็กร้าน
"ดีๆ แล้วข้อสุดท้ายล่ะ"
"ไม่มีแล้วนี่ครับ"
"ถ้าอายุ 20 เมื่อไหร่จะมาทำงานร้านป๋าไง"
"ป๋า!!!"
"ล้อเล่นๆ เดินดีๆ ล่ะ กางเกงในร้านป๋ามันจะรั้งของหนูไม่อยู่แล้ว"
"อย่าล้อดิ๊ ป๋ายิ่งล้อมันยิ่งคึก"
"ดีสิ ป๋าอยากรู้หนูจะหญ่ายได้ขนาดไหน ว้าย! ดันขอบกางเกงในเผยอเลยเหรอเนี่ย!" ผมรีบกุมเป้าจ้องป๋าตาเขียว
"ไม่เล่นละ ท่องไว้ล่ะว่าหนูเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ"
"ครับๆ นักกีฬาว่ายน้ำๆๆๆๆๆ"
แล้วประตูหลังบาร์ก็เปิดออก ป๋าดึงแขนผมให้เดินตามออกไปในร้าน วินาทีนั้นผมก็หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง โลกมืดๆ กลิ่นอับๆ กับผู้ชายหน้าตาหื่นๆนั่งเรียงรอบร้าน แสงสีวิ่งวูบวาบ เวทีกลางร้านก็....ก็....มีผู้ชายเยอะแยะในชุดเดียวกับผม นุ่งแต่กางเกงในมีป้ายเบอร์กลัดไว้!
นักกีฬาว่ายน้ำๆๆๆๆๆๆ
ยิ่งกลัวเจ้าท่อนเนื้อผมกลับยิ่งทรยศจะออกมาดูมิติมืดนี้ซะให้ได้ มันตุงค้ำกางเกงในจนเดินลำบาก ป๋าดูจะเป็นงาน รีบพยุงผมไปมุมร้านก่อนอะไรๆ มันจะชูชันทะลุทะลวงดุจงวงช้าง กางเกงในไม่อาจกั้น (ติดโรคลิเกของป๋าเข้าแล้ว) แล้วผมก็เห็นกริชนั่งอยู่ตรงนั้น คนที่ผมรักที่สุดแต่ตอนนี้อยากเตะตูดมันที่สุดเลยว้อย!
"ไหว้พี่เขาสิลูก" ป๋ากำกับบท "ขอโทษนะคร้าบเด็กป๋ามาสาย"
กริชนั่งนิ่งจ้องดูผม อยากโดนธรณีสูบไปตอนนี้เลยตรู
"นั่งกับพี่เขาสิลูก" แล้วอาม่า เอ๊ย! ป๋าก็ทิ้งผมไว้กับกริช
..
..
..
-
:kikkik: :-[ :kikkik:
:haun5: เด็กป๋ามาสาย :haun5:
-
อ่านกี่ทีก็ชอบเหมือนเดิมครับเรื่องนี้ :loveu:
แอบกลั้นหายใจด้วยล่ะครับ เวลาที่ต้นทำอะไรเปิ่นๆเนี่ยครับ ตื่นเต้นๆ
ชอบครับ บวกให้ 1 แต้มงับ :give2:
-
..............กลายเป็นเด็กขายไปซะงั้น......... :110011: :เชิป2:
......................ใส่กุงเกงในตัวเดียวด้วย..........อยากเห็นจัง......... :pighaun: :haun4: :pighaun: :haun4:
-
:serius2:
ค้างงงงงง อย่างแรง
-
พูห์ ต่อด่วน :call: :call: ค้างมากกกกกกกกก :call:
-
ป๋า ตลกจัง :laugh3: :laugh3:
รออ่านนะงับ :yeb:
-
หมูพูห์เอามาต่อได้แย้วววว 55555
สั้นๆ ค้างๆ มะดีๆ อยากอ่านต่อแล้วคร๊าบบบบบบ จุ๊บๆๆๆ :give2:
-
เหอเหอ
แกล้งคนดีกว่า
คริคริ
-
ใจร้ายยยยย ชิส์ๆๆๆๆ :dont2: :dont2: :dont2:
ปล เค้าเอามาต่อแล้วนะตัวเอง อิอิ :give2:
-
ขอบคุณคร้าบบบบบ
แต่ของผมยังไม่ต่อนะครับ
คริคริ
:kikkik:
-
พูห์ใจร้าย แกล้งคนอ่านนนนนนนนนน :dont2:
-
น้อยใจนะเนี๊ยทำไมคุณพูห์ถึงแกล้งกันอย่างงี้ :dont2:
-
:call: :call: โอมจงลงจงลงจงลง จงเอามาลงจัดทีเจอครับ หุหุ อยากอ่านต่ออะ :call: :call:
-
:dont2: รออ่านอยู่นะครับผม :impress:
-
"ไหว้พี่เขาสิลูก" ป๋ากำกับบท "ขอโทษนะคร้าบเด็กป๋ามาสาย"
กริชนั่งนิ่งจ้องดูผม อยากโดนธรณีสูบไปตอนนี้เลยตรู
"นั่งกับพี่เขาสิลูก" แล้วอาม่า เอ๊ย! ป๋าก็ทิ้งผมไว้กับกริช
..
..
..
"ต้น" "กริช" อ้าวดันพูดพร้อมกันอีก
"กริชพูดก่อนเถอะ"
"นั่งด้วยกันแปบนึงนะ"
"ครับ" (ตรูหนาวจะแย่แล้วเนี่ย ทั้งตัวใส่แค่กกน.ตัวเดียว)
นั่งเงียบกันต่อไป คนบนเวทีทยอยเดินลงเวทีหายไปหมด ดีแล้วผมไม่อยากให้กริชเห็นภาพแบบนั้น นี่ผมหึงเหรอ?
วันนี้กริชไม่ซุกซน มือเขาจับแก้วกระดกดื่มอย่างเดียว อยากจะห้ามแต่สัญญากับป๋าแล้วว่าห้ามกระด้างกระเดื่องกับแขกเด็ดขาด
นี่เราทำอะไรอยู่วะ ผมอยากออกไปจากตรงนี้ ไม่อยากให้กริชอยู่ที่นี่ ท่าทีนิ่งเฉยเย็นชา
"กริช ออกไปกันเถอะ" ผมกระซิบแต่เขาก็ยังนิ่งเพียงแค่โอบไหล่ผมไปแนบต้นแขนเขา
สายตามาคุจ้องมาจากหลังบาร์
...(รีบชวนเขาออกไปสิ)...
...(ชวนแล้วเขาไม่ยอมลุกนี่ป๋า)...
...(งั้นก็มอมให้เมาสิเดี๋ยวป๋าหิ้วปีกให้)...
...(มันก็กระดกแก้วไม่หยุดอยู่นี่ไง แต่ไม่เห็นเมาหลับซะที)... คุยกันทางกระแสจิตได้ด้วยวุ้ย -*-
...(เล่นไม้ตายเลย)...
...(ผมไม่ใช่จูเรนเจอร์จะได้มีไม้ตายนะป๋า)...
...(เอ็งก็เป็นจู๋เรนเจอร์สิ จับมือเขาตะปบเป้าตุงๆ นั่นเดี๋ยวก็เงี่ยนรีบอ๊อฟเอ็งไปเองแหละ)...
...(ผมไม่ทำแบบนั้นโว้ยป๋า)...
จู่ๆไฟก็ดับมืด การติดต่อกระแสจิตขาดช่วง! คงไม่ใช่ตำรวจมานะ!!!
ดนตรีกระหึ่มขึ้นมา Welcome ladies and gentlemen....blah blah blah......
ชายสามคนบนเวทีแต่งชุดอลังการเหมือนนักรำอินเดียผสมโปงลางกับลานนาไทย ชุดอะไรเนี่ย? คงจะเป็นโชว์นั่นเอง
เรานั่งดูโชว์แรกจนจบกริชก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลุก
"สนุกดีเนอะ" เสียงกริชพูดขึ้นจมูกเหมือนจงใจแกล้งผม
แกล้ง....หรือเขารู้แล้วว่าผมคือคนที่เขาเห็นที่โรงเรียน เออก็ดี! พูดกันให้รู้เรื่องไปเลยมั๊ยวะ! ผมผละจากไหล่เขามาจ้องหน้า สนุกมากใช่มั๊ย!
อยากหาเรื่องก็เอาเดะ แต่...สายตานั่น...ผมบอกไม่ถูก มันฉายแววอ่อนไหวและปวดร้าว เล่นเอาผมพูดไม่ออก
"กริช นายเป็นอะไร?"
เขาซบลงที่อกผม เสียงดนตรีของโชว์ดังมากแต่ผมรู้ว่าเขาร้องไห้ น้ำตาอุ่นๆหยดลงที่อกผม ผมรอให้เสียงดนตรีเบาลงจะได้คุยรู้เรื่อง
อีกอย่างเขาคงไม่พร้อมจะพูดอะไรตอนนี้ "เป็นอะไรไปครับบอกเราได้มั๊ยกริช?"
"ต้น วันนี้วันเกิดผม"
...เหรอ เออแฮปปี้เบิรท์เดย์นะแต่ทำไมวันนี้เขาทำตัวไม่เข้ากับวันเกิดเลยล่ะ...กริชซบผมนานจนโชว์ผ่านไปกี่ชุดแล้วนะผมไม่ได้รับรู้เข้าสมองเลย
ไฟดับแล้วก็ติดสลับกันไปมา ตอนนี้ก็ดับลงอีกแล้ว
"กริชเรารีบออกไปกั....น....เถอ...ะ.....เหวอ!!!!"
เอ่อ....โชว์ตรงหน้าตอนนี้มัน...
$%&^(%&#~(O_O)~$$@XXXXXX$%*O*U)^&^$%#%#^%%*^*XXXX(&(_)XXXXXXX$%%$^*^T(&%&^
#%@$*^*&)(U(%&#^% XXXXXXXX #^&*^)(*^*95&*$^&$^&%*^*&%XXXXX@$%^*(%$&^\<>_<>/$%^#$%^^
(*^*&%^#%^#%%*^&*%&^$&^(>*o*)> Q(*0*Q) %#%&$#%^&%& XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX
XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX!!!!!!!!!!!
(คงเข้าใจนะว่าโชว์อะไร -_-")
กริชเงยหน้าขึ้นมาดูแล้วก็อึ้งเช่นกัน คงสร่างเมาเลยแหละ
"กริช....เราไป....กันเถอะ..."
"ตก..ตกลง ไปกันตอนนี้เลยนะ"
ป๋ารีบเดินมาเก็บเงินทันที วินาทีต่อมาผมก็เผ่นเข้าหลังร้านแต่งตัวเสร็จในพริบตา
"ขอบคุณนะครับป๋า"
"จ๊า รีบพาพ่อขมองอิ่มไปลิ้มรสให้มันส์หยดไกลๆจากที่นี้ ยิ่งไกลยิ่งดีจ้า ไปเถิดทั้งคู่ไปสู่ประตูสวรรค์"
ข้างนอกร้านมีลมพัดเย็นๆ ตอนนี้ห้าทุ่มนิดๆแล้ว
กริชยืนรอผมหน้าร้าน หน้าตายังเหวอๆจากโชว์สุดพิสดาร
"เขินเหรอไอ้เสือหนุ่ม" เขาหันมายิ้มอายๆ หน้าแดงไม่รู้เพราะเหล้าหรือ....
"เขินดิ เห็นจังๆ แบบนี้"
"นายเองยังทำท่าลิงอุ้มแตงได้เลย" ผมแหย่เขาเข้าไปอีก กริชเขินก้มหน้าม้วนต้วน
"เฉพาะกับต้นคนเดียวเท่านั้น..โว้ย!! เลิกล้อ! ผมอายจะตายอยู่แล้ว" กริชคว้ามือผมเดินไป ไม่รู้เดินไปไหน ผมคิดว่าเขาก็คงไม่รู้เหมือนกันแต่จุดหมายอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าช่วงเวลาที่เราเดินคู่กัน
"สุขสันต์วันเกิดนะครับ"
"อืม"
..
..
..
-
:-[ ซึ้งจัง :-[
-
:laugh5: ท่าลิงอุ้มแตงเปงงายอ่ะ พูห์ทำให้ดูหน่อยจิ
-
:laugh5: ท่าลิงอุ้มแตงเปงงายอ่ะ พูห์ทำให้ดูหน่อยจิ
ต้องไปหาลูกแตงก่อนนะงับ
ช่วงนี้ลูกแตงดีๆ หายากจังส์
:เฮ้อ:
-
กริชมาชอบอะไรต้นได้นะ ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ
ชอบเรื่องนี้ สนุกดี ดูเหมือนตัวละครแต่ละคนจะมีอะไรอยู่ในใจ
ว่าแต่ เด๋วไปต่อกันที่ไหนละเนี่ย
รอจิ้น จิ้นหมูพูห์อุ้มแตง หุหุ ค่อยๆ หาเด๋วก็เจอแตงลูกดีๆ 555 :haun4:
-
:110011:
งืมๆ
โชว์อะไรค๊าบ
ภาษาต่างด้าว อ่านไม่ออก
อิอิ
แล้วลุง เอ้ย ลิงอุ้มแตงนี่เป็นไงหว่า?
มะรู้จั๊กกกกก
:yeb:
รอตอนต่อไปครับ
-
ปูเสื่อรอพี่พูห์อุ้มแตงครับ :yeb:
-
หุหุ กลายเป็นว่าอยากดู "พูห์อุ้มแตง" เป็นแถว :laugh3: :laugh3:
-
...........ฉลองวันเกิด..ด้วยการเป็นลิงอุ้มแตง............. :pighaun: :haun4: :pighaun: :haun4:
-
.
.
.กริชชวนผมไปร้านเดิมที่สะพานควาย คืนวันอังคารบรรยากาศค่อนข้างเงียบกว่าคราวก่อน นักดนตรีเปลี่ยนมาเล่นเพลงเบาๆ แทน กริชดื่มที่ร้านมาเยอะแล้วผมจึงชงบางๆ แต่เขายืนยันขอเข้มๆ ...ก็ตามใจวะ...บางทีเมาหนักๆ เขาอาจพูดมากขึ้น ผมว่าวันนี้เขาไม่ปกติ ถ้าได้ระบายให้หมดอาจดีขึ้นก็ได้ (แต่จะไปเรียนวันพุธไหวหรือเปล่านี่สิ)
"เราขอเพลงแฮปปี้เบิร์ทเดย์ให้นายนะ?"
"อย่าเลย"
"อ้าวไม่ชอบเรอะ เดี๋ยวคนทั้งร้านจะช่วยร้องด้วยนะ"
กริชดื่มเฮือกๆ จนหมดแก้ว "ผมอยากเก็บวันนี้พิเศษให้ต้นคนเดียว"
ผมว่าต่อมความลับใกล้จะปะทุ จะจี้ให้รู้เรื่องตอนนี้ดีไหม แต่เกิดเขาปล่อยโฮหรืออาละวาดพังร้านอีก...อย่าดีกว่า
"เราอยากทำอะไรพิเศษให้นายโดยเฉพาะเลยจะได้มั๊ย?"
"อะไรเหรอ?"
"เดี๋ยวรู้เอง แต่ห้ามโกรธละกัน"
ผมเดินไปหานักดนตรี "เพลงนี้เล่นได้มะ? จะร้องอะ"
....รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง
รู้ว่าเหนื่อย ถ้าอยากได้ของที่อยู่สูง
ยังไงจะขอลองดูสักที.....
กริชยิ้มแก้มปริเลย ผมยิ่งคึกสิครับ
...รู้ว่าเราแตกต่างกันเท่าไร รู้ว่าเธออยู่ไกลอยู่สูงขนาดไหน
ใครๆ ก็รู้เป็นไปไม่ได้หรอก แต่คำว่ารักมันสั่งให้ฉันต้องปีนขึ้นไป
ได้เกิดมาเจอเธอทั้งที ไม่ว่ายังไงจะลองดีสักวัน
อยากรักก็ต้องเสี่ยง ไม่อยากให้เธอเป็นเพียงภาพในความฝัน
ลำบากลำบนไม่สนใจ ตะเกียกตะกายสักเพียงใด
ก็ดีกว่าปล่อยเธอไปจากฉัน ตกหลุมรักจริงๆ เพราะรักจริงๆ เธอคงไม่ว่ากัน
แม้ต้อยต่ำ แต่ยังมีหัวใจ แม้ต้องเจ็บ แต่มันก็คุ้มก็สุขใจ
ไม่ผิดใช่ไหมที่ฉันไม่เจียมตัว เมื่อคำว่ารักมันสั่งให้ฉันทำตามหัวใจ
ได้เกิดมาเจอเธอทั้งที ไม่ว่ายังไงจะลองดีสักวัน
อยากรักก็ต้องเสี่ยง ไม่อยากให้เธอเป็นเพียงภาพในความฝัน
ลำบากลำบนไม่สนใจ ตะเกียกตะกายสักเพียงใด
ก็ดีกว่าปล่อยเธอไปจากฉัน ตกหลุมรักจริงๆ
เพราะรักจริงๆ เธอคงไม่ว่ากัน...
"ชอบมั๊ยครับ?"
"ขอบคุณนะ"
"โหยเล่นคำสูง" กริชลูบหัวผมอย่างเอ็นดู "ผมหมายความอย่างนั้นจริงๆ"
....
....
"ต้น"
"หืม?"
"จำบ้านผมได้ใช่มั๊ย?"
".....ก็...คงได้มั้ง ทำไมเหรอ" กริชจะลองเชิงผมหรือไง?
เขาหยิบแบ๊งค์พันให้ผมสี่ใบ "อะไรน่ะกริช?"
"เงินของต้นไงครับ...เอ่อ ผมว่าเราคงไม่เถียงกันเรื่องนี้แล้วนะ ต้นอย่าเกรงใจผมอีกเลย"
"เรื่องนั้นเราพอเข้าใจ แต่นี่มันสี่พันนะ เมาป่าว?"
"ค่าเหล้ากับค่าแท๊กซี่"
"ทำไมนายไม่จ่ายเองล่ะ?"
กริชหันไปชงเหล้า รอบนี้ชงหนักจนผมตกใจ "ต้น ผมขอเมาให้สะใจ จะขอเป็นครั้งสุดท้ายละอย่าถามเหตุผลเลยนะ"
"...อย่างงั้นก็ได้" ผมควรจะห้ามแต่...แววตาเขาเหมือนต้องการปลดปล่อยบางอย่าง ถ้าเขาคิดว่าดีผมก็จะให้เขาทำ
"เราไม่รู้ว่านายกลุ้มใจเรื่องอะไร แต่เราจะอยู่กับนาย"
"จะอยู่กับผมตลอดไปไหมต้น?"
"....ใครจะรู้อนาคตล่ะครับ"
"ต้น 'อยาก' อยู่กับผมตลอดไปไหม?"
"แน่นอนครับ เราอยากอยู่กับนายตลอดไป เรารักกริช"
เขาสะอื้นเหมือนจะร้องไห้แต่ใช้เหล้ากรอกปากกลบน้ำตาให้หายไป ไม่มีคำพูดอะไรระหว่างเราสองคนอีก
กริชคงไม่อยากคุยเรื่องส่วนตัว ส่วนผม...ในความคิดของเขาผมเป็นเด็กขายบริการที่เขาคงไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรๆของคนที่คิดว่าเป็นผม
(ดีแล้วที่ไม่ชวนคุยเรื่องพวกนั้นเพราะผมตอบไม่ได้)
เครียดว้อย!
รัก! เครียด! กินเหล้า!
ยิ่งรัก!! ยิ่งเครียด!! ยิ่งกินเหล้า!!
หมดไปสามกลมแล้ว ตอนนี้เมาเหมือนหมาทั้งคู่เลยครับ ชิพหายล่ะสิ! กรูจะเอามันกลับบ้านได้ไหมเนี่ย? ตัวเองยังเดินแทบไม่เป็นเส้นตรงเลย...
ดูนาฬิกา ตีสองแล้วกลับดีกว่า ผมไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าเผื่อจะสดชื่นขึ้นไม่งั้นหลับทั้งคู่บนแท๊กซี่คงไม่ดีแน่
ทำไมร้านนี้ทางเข้าห้องน้ำมานคดเคี้ยวจางว้าาาาา ผมเริ่มเซเสียฟอร์มและเสียศูนย์ โชคดีมีคนมาพยุงทัน
"ขอบคุณครั...ครับ"
"ไหวไหมนาย?"
"ไหวๆ ม่ายยยมาววว"
ขับแอลกอฮอล์ลงโถฉี่เสร็จก็ล้างหน้า ค่อยดีขึ้นละ ผมจ่ายค่าเหล้าเสร็จก็หิ้วปีกกริชไปเรียกแท๊กซี่
..
..
ตอนหลับสนิทนี่น่ารักจริงๆ....คงไม่อ๊วกนะ....โง่จังตรู เมื่อกี้น่าจะขอใบขับขี่เขาไว้จะได้รู้ชื่อจริงซะที หรือจะหยิบมาดูตอนนี้?
แต่ถ้าเขาตื่นคงคิดว่าผมจะขโมยเงิน แก้ตัวไม่ขึ้นแน่ ช่างเถอะผมคิดแผนล้วงความลับเอาชื่อจริงเขาไว้แล้ว
.....เอาชีวิตครึ่งนึงแลกดวงตายมทูต.....ไม่ใช่ๆ คนละเรื่องแล้ว!
กว่าจะแบกกริชถึงห้องนอนได้ กล้ามผมขึ้นเป็นมัดๆ สร่างเมาเลย ตีสามแล้วตายห่าไม่ต้องกลับบ้านสิเนี่ย แต่ไม่กลับบ้านแล้วจะเอาเสื้อนักเรียนที่ไหนใส่? เออ! ไปนอนหอไอ้เม้งดีกว่า ชุดนร.ก็ยังอยู่ที่นั่น เตารีดมันก็มี แต่ตรูคงโดนพี่ด่าล้างป่าช้าเจ็ดวัดแหงๆ ว่าแต่บ้านนี้มีกริชคนเดียวจริงๆ แฮะแปลกจัง
กริชนอนนิ่งบนเตียง ผมถอดเสื้อยืดเขาออกตามด้วยถุงเท้ากับกางเกงยีนส์เผยร่างเปลือยเต็มไปด้วยมัดกล้าม เหลือแค่ปราการด่านสุดท้ายของท่านชาย...ฮั่นแน่! ใครรูดซิบกางเกงลง!?
คิดว่าผมจะลักหลับล่ะสิ ผมจะเช็ดตัวให้เขาต่างหาก แต่กริชมันก็น่ากินจริงๆ นะ ไม่ไหวอะเมาๆ เวียนหัว ถ้าเผลอฟุบหลับที่นี่ผมตายแน่
"หลับฝันดีนะครับ" ผมประกบปากเขาเบาๆ ก่อนปิดประตูบ้านแล้วเดินไปถนนใหญ่ กว่าจะไปถึงหอไอ้เม้งคงตีสี่พอดี.........
..
..
..
..
..
กริชตื่นขึ้นมามองเด็กหนุ่มเดินจากไปจนพ้นสายตา
เขาค่อยๆ ปลดรูปโปสเตอร์นักบาสลงทีละใบอย่างทะนุถนอมจนหมดห้องแล้วม้วนห่อด้วยกระดาษ ถึงจะเมาอย่างหนักแต่มือยังบรรจงไม่ให้มันยับแม้แต่น้อย ก่อนจะเก็บมันไว้บนชั้นวางของ.....
"...ลาก่อน...ขอบใจสำหรับทุกอย่างนะ..."
----------------------------------------------------------------------
[wma=300,50]http://www.siamcode.com/spicy2527/bigkang.mp3[/wma]
ขอบคุณหนูบลูสำหรับเพลงนะครับ
-
ทำไมมันดูเศร้าๆ :เศร้า1:
-
"...ลาก่อน...ขอบใจสำหรับทุกอย่างนะ..."
สงสัยจริง ๆ กริชลาใคร ต้องมีอะไรแน่ ๆ :impress:
-
:11111: เฮ้อออ เศร้าจังวุ้ย
ว่าแต่ว่า กริช ลาใครหว่า อยากรู้อะครับ
มาต่อไว ๆ นะครับ :11111: :11111:
-
:เศร้า1: :เศร้า1: กริซ จะไปไหนอะ จะทิ้งต้นไปไหนอะ มาต่อไวไวนะครับ :เศร้า1:
-
ลาก่อนกับอดีตที่ฝังใจ (รึป่าว) :impress3:
-
หลังโปสเตอร์รูปนักบาสพวกนั้นมีอะไรรึเปล่า?
ชักสงสัย
:serius2:
รอตอนต่อไปครับ
-
.............เปลี่ยนโหมด...........
.............รัก......เลิก........เครียด........แดกเหล้า......... :laugh5: :laugh5:
-
กริชมีความหลังอะไรกับรูปบาสพวกนั้นอะ พูดคำว่าสำคัญก็ไม่ได้
คนสำคัญที่เกี่ยวกับบาสนั่น มีความลับอะไรซ่อนอยู่ป่าวเนี่ย
ว่าแล้วก็ .............รัก......เลิก........เครียด........แดกเหล้า......... (ตามถุง :laugh5: :laugh5:)
รอต่อคร๊าบบ :yeb:
-
:laugh5: :laugh5: :laugh5: :laugh5:
รออ่านอยู่นะงับ :yeb:
-
ตอนที่ 14 คนขี้เมา
"ปวดหัวโว้ยยย!!! มรึงเข้าใจมั๊ย? กรู-ปวด-หัววววว!!!"
"แล้วใครใช้ให้มรึงแดกเยอะเป็นหมาแบบนี้"
"ใจมันสั่งอ่า...แหวะ เลี่ยนชิพหาย พูดเองอยากอ้วกเอง" ผมโผเข้าโถส้วมทันที
"เออ ขอบใจว่ะที่เข้าซองทันเวลา ไม่งั้นกรูต้องเช็ดอ๊วกมรึงอีก"
เม้งพูดไปเรื่อยๆ ไม่เข้าหัวกรูหรอก ตอนนี้ในสมองมีแต่เหล้ากับรัก อุแหวะ!!! ผมโก่งคอ Let it go เลิกคิดมุขเลี่ยนๆดีกว่าว่ะไม่งั้นตายคาห้องน้ำ
"เอ้า รีดเสื้อกับกางเกงเสร็จแล้ว"
"ขอบใจมากเพื่อนร้ากกกก" ผมนอนแหมบต่อ หมดพลังงานจริงๆครับ
"มรึงไปโรงเรียนไหวจริงๆ เหรอวะ?"
"ไม่อยากขาดนี่หว่า เดี๋ยวตอนบ่ายก็หายละ"
"แล้วครึ่งเช้าล่ะมรึงจะอยู่รอดยังไง หรือคิดจะเป็นทอมแฮ้งค์หัวโตให้อาจารย์ดู"
"กรูว่าจะไปนอนห้องพยาบาล ครูดวงแก้วขาววววใจดี"
"เขาใจดี หรือขาวใจดี คนละความหมายนะโว้ย?"
"ทั้งสองอย่างแหละ"
"ปากดี มรึงลากสังขารไปให้ถึงห้องพยาบาลละกัน"
********************************
ครูดวงแก้วมองผมแปลกๆ ตอนเขียนใบลาให้ ครูอายุ 27ยังสาวและสวย ถ้าผมไม่เป็นแบบนี้คงจีบไปแล้ว
"ทำไมวันนี้...."
"อะไรเหรอครับครู?"
"เปล่าร้อกหนุ่มขี้เมา" อุ๊ก!
"ไป๊ๆ นอนเตียงโน้นละกัน เลื่อนกระโถนไปอยู่หัวเตียงด้วยล่ะ"
"ครูรู้หมดทุกอย่างเลย ครูอย่าฟ้องงงงฝ่ายปกครองนะคร้าบบ" ผมไม่ได้ลามปามครูเขานะแต่แอลกอฮอล์ในเลือดมันส่งอิทธิพลที่ลิ้นไก่อย่างช่วยไม่ได้
"ครูพยาบาลมีหน้าที่รักษาค่ะ เรื่องฟ้องน่ะครูไม่ทำหรอกคราวหน้าก็เพลาๆหน่อย เลิกดื่มได้ยิ่งดี"
ครูดวงแก้วทิ้งช่วงเล็กน้อยและยิ้มเจ้าเล่ห์ "แต่กลิ่นเหล้าที่ฟุ้งออกมาตอนพูดนั่นระวังให้ดีละกัน"
ผมยิ้มจ๋อยๆ รีบขึ้นนอนอย่างว่าง่าย เตียงทุกหลังมีผ้าม่านบางๆกั้นเป็นส่วนตัว ห้องเงียบๆ ชวนให้นึกถึงกริชอีก ...เกือบลืมไป...เขาเริ่มสงสัยแล้ว
ผมต้องระวังตัวให้มากขึ้น ไอ้ท่าเดินแต่ละคนนี่มันต่างกันเหรอวะ กลับบ้านวันนี้ต้องลองเปลี่ยน 'ท่าเดิน'.....เดินท่าเป็ดจะเวิร์คไหม?
เอาเป็นว่าต่อไปต้องหลีกเลี่ยงทุกที่ที่คิดว่าเขาจะอยู่....ทุกที่ที่คิดว่าเขาจะอยู่....ทำไมคิ้วมันกระตุกพิกล?
พัดลมกลางห้องหมุนวนเหมือนบอกใบ้รหัสลับอะไรสักอย่าง.....คิดย้อนกลับสิ......นางฟ้าแห่งความเมามากระซิบข้างหู
ผมมาอยู่ห้องพยาบาลเพราะแฮ้งค์ไม่หาย....แล้วก่อนหน้านั้นล่ะ?
แฮ้งค์เพราะดื่มเยอะ....แล้วก่อนหน้านั้น.....
ดื่มเยอะกับกริช.....ดีมาก ทีนี้คิดหมุนกลับมาปัจจุบันแต่เปลี่ยนชื่อคนสิจ๊ะ
O_o" ไม่มั้ง...ไม่ใช่นิยายจะได้บังเอิญอะไรแบบนั้น
ผ่านไปเกือบชั่วโมง ผมได้ยินเสียงกริ่งหมดคาบแรก นอนสบายๆดันทำสะดุ้งซะนี่
แกร๊ก! แอ๊ดดด!
"สวัสดีครับคุณ...ครูดวงแก้ว"
"สวัสดีจ๊ะ อืม...เมื่อคืนมีเทศกาลเบียร์ฟรีที่ไหนจ๊ะ?"
"เปล่าครับ ทำไม...เหรอครับ?"
...เสียงแว่วๆ จากโต๊ะครูหน้าห้องพยาบาลนั่น...
"ไม่มีอะไรค่ะ แล้วนี่เป็นอะไรเหรอคะ?"
"ปวดหัวครับ"
..
..
"คุณครูอย่าฟ้องฝ่ายปกครองนะคร้าบ"
"อู๊ย! วันนี้ฟังประโยคนี้จนเบื่อละ นอนเตียงนั้นละกัน"
"มีใครแฮ้งค์ เอ๊ย! ปวดหัวอีกเหรอครับ?"
"มีสิ ไปด้วยกันรึเปล่าเนี่ย?" เสียงครูหัวเราะขำๆ แต่ผมขำไม่ออก ก็ไปด้วยกันจริงๆน่ะสิ! เสียงนั่นมันกริชชัดๆ!!! ตายห่าแล้วๆๆ
(กลายเป็นคำอุทานสามัญประจำนิยายเรื่องนี้ไปละครับ)
"นอนเตียงนี้นะ อย่าลืมกระโถนนะคะ"
"ขอบคุณครับคุณครูดวงแก้ว"
"เดี๋ยวครูมีสอนคาบสองจนถึงเที่ยง ดูแลน้องเขาดีๆล่ะ"
...ปึง.... ครูสุดสวยปิดประตูแล้ว ทั้งห้องเงียบกริบ
..
..
ฝันไปรึเปล่า นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม
ใช่เธอรึเปล่า นี่เธอจริงรึเปล่า
นรกมาเยือนถึงที่เลย
ทำไงดี เตียงที่กริชนอนก็อยู่หน้าสุดของห้อง จะออกจากห้องพยาบาลต้องผ่านเตียงเขาแน่ๆ ไม่แน่เขาอาจจะหลับยาวก็ได้
แค่รอเท่านั้นยังไงกริชคงไม่บ้าเดินมาแหวกม่านเตียงอื่นหรอก แต่ในห้องก็มีแค่เราสองคนเท่านั้น!
โอ๊ยๆๆ ยิ่งปวดหัวกว่าเดิมอีกทีนี้ ผมตะปบแว่นไว้ก่อนเผื่อฉุกเฉินระยะประชิดยังช่วยได้ ถ้าคับขันคงต้องต่อยมันคว่ำแล้ววิ่งหนีก่อนกริชจะเห็นหน้าผม
ห้องพยาบาลยังเงียบกริบจนเสียงกริ่งจบคาบสอง เด็กม.ปลายจะเรียนช่วงเช้าสี่คาบถึงจะพักเที่ยง
ส่วนม.ต้นจะเรียนสามคาบ-พักเที่ยง-แล้วเรียนช่วงบ่ายรวดห้าคาบ อีกสองชม.ครูดวงแก้วจะกลับมาแล้วคงปลุกเราทั้งสองคนให้ตื่นไปทานข้าวเที่ยง
นั่นคือผมกับกริชจะเจอะกันเต็มๆ ตายห่าแล้ว เส้นตายคืออีกสองชม.ข้างหน้า
อึดอัด อยากเจอๆๆๆ อยากเห็นเขาชัดๆ แต่ทำไม่ได้ ผมพยายามนอนนิ่งๆ แต่จิตใจมันปั่นป่วนไปหมด อาการเมาค้างก็ยังไม่หาย
อัพ Ruwach ---> Teleport แล้ววาร์ปหนีเลย .....กรูเป็นบ้าไปแว้วววววว (เมาไม่เลิก)
หันมาสู้ความจริงดีกว่า ลองแอบดูซิว่ากริชหลับไหม....
"นายๆ" เสียงกริชพูดเบาๆ แต่ก็ดังพอจะได้ยินทั้งห้อง ผมสะดุ้งรีบนอนต่อแต่ดูเหมือนจะสายไปแล้ว
"นายอะ ตื่นแล้วไม่ใช่เหรอ?"
ดัดเสียงตอบไปดีมั๊ยวะ? มีแต่ละครเท่านั้นแหละที่ทำแบบนั้นได้ เขาจะจำเสียงผมได้มั๊ย? น่าจะจำได้ ทีผมยังจำเสียงเขาแม่นเลยนี่?
"แฮ้งค์เหมือนกันสินะ กินร้านไหนมาล่ะ?" ร้านเดียวกับเอ็งนั่นแหละ! 100 pipers สามกลมนั่นไง!
"คุยกันหน่อยดิ เราเบื่อ" เบื่อก็กลับไปห้องเรียนสิว้อย แต่น้ำเสียงเอ็งสดใสมากเลยนะยังกะไม่ได้แฮ้งค์ ป่วยการเมืองอะป่าววะ?
"คงปวดหัวจนขี้เกียจพูดสินะ บางทีเราก็เป็น งั้นฟังเราอย่างเดียวละกัน"
เออพูดคนเดียวก็เอาวุ้ยแฟนตรู
"เมื่อคืนเราไปกินเหล้ากับแฟนมา" ผมหูผึ่ง...กริช...
"เราเมาเหมือนหมาเลยนะ แต่ก็ดี ได้ลืมเรื่องเก่าๆให้จบไปซะ"
เรื่องเก่าๆ!? เมื่อคืนกริชไม่ได้เล่าเรื่องอะไรให้ผมฟังเลย เขาดื่มลูกเดียวแล้วลืมอะไรยังไงตอนไหน?
"เรารักเขามากเลย ชีวิตเราจะเริ่มใหม่ละ"
...กริช...ผมทำให้กริชได้ถึงขนาดนั้นเลยเหรอ
"โทษนะนายเลี่ยนไหมเนี่ย แต่เราครึ้มอกครึ้มใจมากเลย มันสุขใจจนอยากพูดให้ใครสักคนฟังน่ะคงเข้าใจนะ"
"หรือมันแพ้แอลกอฮอล์จนสลบไปวะ!?" เสียงกริชพึมพำเครียดๆ ตามด้วยเสียงเอี๊ยดอ๊าดของเตียง เขาลงจากเตียง กำลังเดินมาทางนี้แล้ว!!!
..
..
..
-
...........ถ้าตัดอดีตได้ก็คงเริ่มใหม่ได้อย่างมีความสุข.......... o7 o7
-
รออ่านต่อจ้า : 222222:
-
เอาละวุ้ย ลุ้นระทึก o7 ต้นจะถูกกริชจับได้มั๊ย :interest:
-
:110011:
งิงิ
เดินมาเลยกริช
คริคริ
:yeb:
-
:pandalaugh: :pandalaugh: :pandalaugh:
-
อืม สนุกดีครับ
ขอให้ได้หันหน้าคุยกันซักทีนะครับ อยากให้รักลงเอยกันสักที
รออ่านต่อครับผม :110011: :เชิป2:
-
จะรอดไหมเนี้ยย รอลุ้นอย่างแรง o7
ขอบคุณที่มาต่อนะงับ o1
เป็นกำลังใจให้คนโพสนะงับ :yeb:
-
:laugh3: เมาจนเพี๊ยนป่าวหว่า
-
เม้งคือเพื่อนที่แสนดีมากครับ อยากมีเพื่อนแบบนี้จังเลยครับ :impress:
ส่วนนายต้นยังทำให้ผมขำได้อยู่เสมอๆเลย แม้ในบางเวลาผมอาจจะอ้างว้างอยู่ :o11:
-
..
..
..
เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาแล้ว!! ผมหลับตาปี๋
...เขาบอกแล้วไงว่ารักมรึงมาก จะเริ่มชีวิตใหม่กับมรึงเชียวนะ ออกไปเจอเขาสิจะได้แฮปปี้เอนดิ้งไง...
...ที่เขารักคือเด็กขายน้ำชื่อต้น ไม่ใช่นักเรียนม.4 ชื่อต้นคนนี้ ถ้าเขารับไม่ได้จะทำไง...
เขาใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว!!!
"เฮ้ยป่วยหนักก็บอกนะจะรีบตามครูมาช่วย" ตายห่าแล้วๆๆ อย่าเข้ามาๆๆ
"ทั้งๆที่แฟนนายเป็นผู้ชายอะนะ?" ......เสียงใครน่ะ!! ก็ในห้องนี้มีแค่กริชกับผม
หัวที่กำลังจะหายปวดกลับแทบระเบิด ห้องพยาบาลโรงเรียนตรูมีผีเหรอ!?
แล้วกริชจะตอบว่ายังไง!?
ตรูจะกลัวเรื่องอะไรก่อนดีวะ?
ผีดิ น่ากลัวโคตร!
ตรูว่าคำตอบของกริชน่ากลัวกว่า!!
.........ทั้งห้องมีแต่ความเงียบที่หนักอึ้ง..........
"ใช่ แฟนเราเป็นผู้ชาย"
"สังคมไม่ยอมรับนะ"
"แล้วไง เราไม่แคร์"
กริชเอ็งคุยกะผีนี่ไม่กลัวเลยเหรอ! ตรูขนลุกซู่แล้วเนี่ย! เดี๋ยวก่อน...ผมคิดถึงประโยคที่ครูดวงแก้วพูด
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
"ทำไมวันนี้...."
"อะไรเหรอครับครู?"
"เปล่าร้อกหนุ่มขี้เมา"
"สวัสดีครับคุณครูดวงแก้ว"
"สวัสดีจ๊ะ อืม...เมื่อคืนมีเทศกาลเบียร์ฟรีที่ไหนจ๊ะ?"
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ในห้องนี้มีสามคน! ไม่ใช่แค่ผมกับกริช ไอ้คนๆนั้นก็เมาเมื่อคืนเหมือนผม คนที่กริชพล่ามด้วยมาตลอดไม่ใช่ผม
แต่ผีหรือคนวะ? ทำไมตอนผมเข้ามาถึงไม่รู้สึกว่ามีคนอยู่ก่อน ผีแหงๆ นั่นผีนะโว้ยกริช!
"ถามหน่อยเถอะควงเล่นๆ หรือรักจริงๆ?"
"มรึงพูดแบบนี้อีกทีกรูต่อยแน่!" กริชฟึดฟัดเดินมาใกล้เตียงผมแต่คนละฟาก
"ถามจริงๆ แบบลูกผู้ชาย"
..
..
"เรารักจริง จะไม่ให้เขาหายไปไหนอีกแล้ว จะอยู่ด้วยกันตลอดไป"
"........"
"ข้องใจอีกไหม?"
"แล้วทำไมตอนกลางวันไม่เจอกันล่ะ?"
"มรึงว่าไรนะ!?"
..
..
"ไม่มีอะไร ขอให้รักกันนานๆนะเรายินดีด้วย"
"ขอบใจ....แล้วนายไม่สบายมากมั้ย? จะเรียกครูให้"
"ไม่ต้องหรอก ขอบใจนายเหมือนกัน ไปเถอะเรานอนอีกแปบนึงก็จะไปแล้ว"
..
..
เสียงเปิดประตู กริชกำลังจะออกไปแล้วเหรอ?
"ไม่ต้องห่วง เราไม่บอกใครหรอก" เสียงผีพูดอีก
"ขอบใจมากนะ"
เอี๊ยด....ปึง.....
กริชรักผมจริงๆ รักที่เขาพร้อมมอบให้ผมได้ในโลกปกติ ไม่ใช่แค่เฉพาะในโลกมืดยามค่ำคืน
น้ำตาผมไหลไม่หยุด กริช ผม...ผม.......
แค่เอื้อมมือเท่านั้น แค่ความกล้าอีกนิดเดียวผมจะทำความรักของเขาให้เต็มได้ ทำไมผมทำไม่ได้
ไอ้ผีบ้าทำไมมรึงไม่ถามวะว่าถ้าเด็กขายน้ำกับนักเรียนคนนี้เป็นคนเดียวกันเขาจะทำยังไง ถ้ากริชตอบผมจะได้ไม่ต้องปวดหัวแบบนี้
เอี๊ยด! เสียงเตียงลั่น ผีลุกขึ้นมาแล้ว!!! กรูจะซึ้งหรือจะกลัวก่อนดีวะ!? ทำอารมณ์ไม่ถูกโว้ยย!!!
ผมหลิ่วตาซ้ายดู ม่านมันกันแสงเห็นแค่ภาพลางๆ แต่คงไม่ใช่ผี ดูเหมือนนักเรียนนี่แหละ ผีนักเรียนไง!! แว๊ก!!!
ตายห่าละมันจะเดินมาบีบคอตรูที่เตียงไหมเนี่ย!!?
..
..
"ปั๊ดโธ่เว้ย!!!" เงาลางๆ สบถดังลั่นแล้วเดินเปิดประตูออกไปเหมือนไม่รู้ว่าผมอยู่ในห้องด้วยซ้ำ
เออ....อย่างน้อยมันคงไม่ใช่ผี ผีคงไม่เปิดประตู
งั้นก็เป็นคน ค่อยยังชั่ว....เฮ้ย!ไม่สิ คนๆนั้นรู้แล้วว่ากริชชอบผู้ชาย
แต่มันสัญญากับกริชว่าจะไม่บอกใคร...เชื่อได้ไหมวะ....
คำพูดของกริชวนกลับมาในหัวอีก กริชรักผมจริงๆ ผมก็รักเขาจริงๆ แล้วทำไมมันไม่มาบรรจบกัน ผมต้องหาทางให้ได้
....ผมนอนก่ายหน้าผากอยู่นาน หยิบนาฬิกาออกมาดู 11:54 จะพักเที่ยงแล้วไปดีกว่า ผมเดินไปที่ประตู
บนโต๊ะนั่น ใบลงชื่อ...จริงด้วย! ใบลงชื่ออยู่ไหน? แค่ดูก็รู้ชื่อจริงของกริชแล้วยังรู้ชื่อของไอ้อีกคนนั่นด้วย
"หายปวดหัวแล้วเหรอคะ?"
"ครับ ครับๆๆ หายแล้วครับ" ครูดวงแก้วกลับมาได้จังหวะจ๊าง!
"ทานมื้อเที่ยงด้วยล่ะ ท้องอิ่มจะได้ไม่แฮ้งค์อีก"
อดดูเลย เซ็ง!
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
:o10:
-
ไม่ได้เข้ามาอ่านนานเลย ถึงตอนนี้เเล้วหรอเนี่ย
คุณพูห์สู้ต่อไป.............
***************************************
อีกนิดเดียวก็จะรู้ล่ะ แต่ลุ้นน่าดูเลย ใครกันหว่าอยู่ในห้องเนี่ยยยยยยยยยย :confuse:
-
อืม ลุ้นจริง ๆ o7 แล้วเมื่อไหร่จะรู้ชื่อกริชละนี่ :serius2:
-
มารอลุ้นด้วยคน :teach:
-
............ใครอ่ะ....ที่รู้เรื่องต้นกะกริช........ :confuse:
.............ต่อด่วนเลย......... o11
-
ผี....ที่ว่านี่มันใครกันน๊า อยากรู้จังเลยยย :confuse:
ขอบคุงนะงับที่มาต่อ o15
-
ครูดวงแก้วใจดีเกินไปรึป่าวเนี่ย
ให้เด็กเมาค้างมานอนพักที่ห้องพยาบาลเฉยเลย :kikkik:
-
คันอย่างแรง
อยากรู้จังครับ ว่าอีกคนที่อยู่ในห้องเป็นใครหว่า
:confuse: :confuse: :confuse: :confuse:
-
:o หนุ่มอีกคนจะใช้นายที่ ขึ้นรถแท็กซี่ แย้วเจอกันอีกทีที่ห้องสมุดอะเปล่าหว่า o3
-
ตอนที่ 15 แผนจารชน คนปล้นชื่อ
กริช....
เขารักเรา....เราก็รักเขา....รีบกินข้าวดีกว่า กริชจะเห็นตรูไหมเนี่ย....เขาอาจยอมรับได้...ไม่มั้ง
...แต่มันเป็นแค่เรื่องตกกระไดพลอยโจนนี่หว่า ตังกับนาฬิกาก็ยังอยู่ครบ แค่คืนเขาไป...เขาจะเข้าใจไหมนะ.....
ข้าวไม่มีรสชาติเลยวุ้ย....แล้วไอ้คนในห้องพยาบาลนั่น....ทำไมมันต้องตะโกน"ปั๊ดโธ่เว๊ย"ด้วยวะ.....หมายความว่าไง?
....แล้วเรากับกริชจะมาบรรจบกันตรงไหน.....
"ต้น...แรกๆ กรูก็เป็นห่วงมรึงนะ แต่ตอนนี้กรูเริ่มขำแล้วล่ะ"
"ทำไมวะเม้ง? กรูเครียดอยู่นะเนี่ย"
"ก็มรึงแดกข้าวช้าๆ เร็วๆ เหม่อๆ สลับกันยังกะซีดีเป็นรอยกระตุก"
"เหรอ ขอบใจ ถ้าแดก AJ เข้าไปแล้วแก้ปัญหาชีวิตได้กรูจะเหมาหมดแมคโครเลย"
"ถ้าช่วยมรึงได้กรูจะช่วยทุกอย่างเลยต้น ที่มรึงเป็นอยู่ตอนนี้กรูดูก็เหนื่อยละ"
"ใจนะ เออเรื่องบาสอะกรูคิดว่า...."
"จะลงสีเขียวกับกรูใช่มะ?"
"ยังไม่แน่ใจเลย"
"เฮ้ย! ไอ้ต้นทำไมวะ!!!!!" คนครึ่งโรงอาหารมองมาทันที
ผมรีบอุดปากมัน "มรึงเป็นเหินฟ้ารึไงตะโกนซะดังเชียว"
"เหินฟ้า...โหย มุขเก่าขนาดนี้ใครจะเก๊ทกับมรึ๊ง"
"กรูอนุรักษ์ของเก่า"
"ครูดวงแก้วลืมเขย่ายาก่อนป้อนมรึงเหรอถึงไม่ลงบาส"
"ไม่ได้บอกจะไม่ลงซะหน่อย"
"หน้ามรึงบอกแบบนั้น"
"จริงว่ะ กรูคิดจะไม่ลง แต่กรูก็อยากเล่นกับมรึงนะ มรึงนะเพื่อนรักที่สุดของกรูเลย เรื่องเมื่อเช้าก็ขอบใจนะเม้ง"
"เออๆ...แล้วที่ไม่ลงเนี่ย..." มันเว้นช่วงพลางทำหน้าเครียด "เป็นเพราะคนที่มรึงหนีหน้าอยู่ใช่ไหมวะ?"
"...บอกเลขท้ายสามตัวกรูทีดิ งวดนี้ต้องถูกแน่ๆ" ผมเฉไฉแต่ตอบคำถามมันไปในที
"จะหนีตลอดไปได้เหรอวะ โรงเรียนเล็กๆ แค่เนี้ย"
"พยายามอยู่ว่ะ แค่ครึ่งปีก็พอละ"
..
..
"ม.6สินะ"
"อาจจะใช่ หรืออาจเป็นม.5 แต่อีกครึ่งปีกรูก็สอบเทียบผ่าน จากนั้นก็เอ็นท์ให้ติด ทีนี้ก็หมดปัญหา"
สต๊าฟกีฬาสีส่วนใหญ่จะเป็นเด็กม.6 (ไม่เข้าใจโรงเรียนนี้ทำไมให้เด็กม.6 ทำกีฬาสีทั้งที่ต้องเตรียมเอ็นท์ แต่บางทีก็มีม.5 ด้วย) ที่แน่ๆ คือถ้าผมเอ็นท์ติดก็ได้เป็นเด็กมหาลัย ถึงตอนนั้นผมก็เปิดเผยกับกริชง่ายขึ้นเรื่องวุ่นๆนี้จะได้จบซะที
"พูดง่ายเชียว คนที่รู้จักแค่เลขฐานสามอย่างมรึ๊งเนี่ยนะ"
"อะไรวะเลขฐานสาม?"
"ก็เกรดมรึงได้แค่ 0,1,2 ไง ไม่เคยสูงกว่านี้ซะที"
ไอ้เม้งช่วยเพิ่มความรู้ทางคณิตศาสตร์ให้ผมแต่มันไม่อยู่รอรับคำขอบคุณจากนันยาง ผมจึงวิ่งไล่ไปให้มันถึงที่
"มาให้กรูเตะ เดี๋ยวนี้ไ.....!!"
นั่น! กริชนี่หว่า!!!!
ผมเบรคตัวโก่ง ดีนะเขาไม่เห็นผมเพราะเขากำลังเดินไปทางห้องปกครอง คนละฟากสนามบาสเลย มีคนเตะบอลเยอะแยะช่วยกำบังสายตาได้ดี
....หายปวดหัวแล้วเหรอกริช....
ทั้งที่ยังเป็นห่วงและรู้สึกผิดแต่จังหวะเหมาะนี้หายาก แผนจารชนคนปล้นชื่อบันลือโลกที่ผมคิดเอาไว้จะได้เอามาใช้ตอนนี้แหละ!
ผมจัดแว่นให้เข้าที่แล้วเดินเร็วๆ อ้อมด้านทิศเหนือของอาคารวกผ่านหน้าห้องพยาบาลเจ้ากรรม เส้นทางนี้มีตึกบังกริชไม่เห็นผมแน่ๆ
ถ้าเร่งฝีเท้าเร็วพอก็ทันพอดี....ผมดึงสิ่งที่เตรียมไว้ออกมาจากกระเป๋าตังค์...
อย่าโกรธเลยนะกริช คิดซะว่าตรูแก้แค้นที่มรึงทำให้ตรูต้องแก้ผ้านุ่งกกน.ตัวเดียวเมื่อคืนละกัน ผมแสยะยิ้มอย่างสะใจ!!!
ถึงที่หมายแล้ว มันคือตู้โทรศัพท์เขียวแบบใช้บัตรที่แขวนถัดจากห้องพยาบาลเมื่อตอนเช้านั่นเอง ตำแหน่งนี้ผมสามารถมองทะลุกระจกมัวๆ ของอาคารเห็นห้องปกครองได้ด้วย แผนนี้ปลอดภัยที่สุดและผมไม่ต้องเสนอหน้าให้ใครสงสัยด้วย...พร้อมแล้วนะ!!
ผมเสียบบัตรเข้าไปแล้วกดเบอร์.....ทีละตัว...ช้าๆ
กริชเดินมาแล้ว....ผมจิ้มเบอร์เรื่อยๆ พยายามกะเวลาให้เหมาะเจาะ...เขามาถึงหน้าห้องปกครองแล้ว....
อาจารย์สุรวิทย์ฉายา 'จอมโหดสมองกล' ยืนถือไม้เรียวหน้าห้องปกครองเหมือนเดิม กี่ปีๆ แกก็ทำแบบนี้ทุกเที่ยง
คอยจับผิดเด็กทุกคนที่เดินผ่านห้องปกครองจะตรงนี้กลายเป็นเขตอันตรายถาวร
ตัวละครครบ!
ช่วงเวลาพอดีเป๊ะ! "..โอยใจเต้นแรงจนปวดหัวอีกรอบละเนี่ย
แล้วก็ถึงเลขตัวสุดท้าย! กริชที่ร้าก อย่าโกรธกรูเล๊ย!!
....รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง รู้ว่าเหนื่อยถ้าอยากได้ของที่อยู่สูง !!!!
กริชสะดุ้ง! ไม่นึกว่ามือถือเขาจะมีคนโทรมาตอนนี้!
อาจารย์ก็สะดุ้ง! ไม่คิดว่าเด็กคนไหนจะกล้ามาใช้มือถือต่อหน้าแกแบบนั้น!
ส่วนผมเผ่นพรวดไปข้างเสานู้น!
ลงตัว!
ที่ผิดจากวางแผนไว้ก็มีแค่ริงโทนนั่นเท่านั้น...เพลงที่ผมร้องให้เขา...ผมรู้สึกผิดจริงๆ
เจ้ากริชยืนถือโทรศัพท์ยิ้มแหยๆ อยู่ต่อหน้าอาจารย์จอมโหดสมองกล.....เป้าหมายไม่ผิดตัว!
ผมใจเต้นตูมตาม อาจารย์สุรวิทย์ได้ฉายาจอมโหดสมองกลเพราะแกชอบลงโทษเด็ก และแกจำชื่อจริงเด็กทุกคนในโรงเรียนได้อย่างไม่น่าเชื่อ แกจะหวดไม้เรียวแหวกอากาศดังวูบน่าหวาดเสียวแล้วตะโกนชื่อนร.คนนั้นดังลั่นตึกตามด้วยการหวดไม้เรียวที่ก้นสองทีแรงๆ เป็น step Inw ที่ไม่เคยเปลี่ยน
แคว๊บบบบบบ!!!!
อูย...แค่ได้ยินผมก็เผลอเอามือคลำก้นซะละ
แกเดินตรงเข้าไปหากริช....
ปากอาจารย์อ้าออก....ยังกะภาพสโลว์โมชั่น...อีกนิดเดียวจะรู้ชื่อเขาแล้ว!!!!!
"นายคมเดช!!!" เสียงอาจารย์ตวาดลั่น กริชยื่นมือถือให้อาจารย์อย่างว่าง่าย เขาก้มหน้ายืนตรงพร้อมให้หวดก้นแต่โดยดี
คมเดช.....ชื่อของกริช ในที่สุดผมก็ได้รู้ แต่ผมไม่อยากให้เขาโดนตีน่ะสิ จะโดดไปขวางดีไหมวะ?
พระเอกตายห่าละ แบบนั้นกริชเขาจะได้รู้หมดน่ะสิแล้วจะวางแผนทำไม ปล่อยไปตามบุญตามกรรมคิดซะว่าตรูล้างแค้น
"ทีหลังอย่าประเจิดประเจ้อ ใช้ระบบสั่นหรือปิดเครื่องเวลาเรียน เข้าใจไหม?" อ้าวเฮ้ย!? ไหนมรึงมีอภิสิทธิ์แบบนี้วะไอ้กริช
ทีตรูล่ะโดนริบเครื่องแถมเต๊กเกี๋ยฮื้อสองทีอีก
อ๋อ! ลืมไปมันเป็นสต๊าฟกีฬาสีนี่หว่า แต่ก็ยังนับว่าอาจารย์ให้สิทธิ์มันมากทีเดียว ...ผมสงสัยละสิว่าตำแหน่งอะไร
อาจารย์จอมโหดสมองกลถึงดีกับเขาขนาดนี้?
เหตุการณ์สลายโต๋แล้ว กริชก็เดินไปขึ้นตึกแล้ว ผมมองตามเขาไปอย่างอาลัยอาวรณ์แต่นี่ไม่ใช่เวลาทำอย่างนั้น ผมมองนาฬิกาเหนือห้องปกครอง
11:58
ยังมีเวลาเหลือ ผมรีบวิ่งไปที่หน้าโรงยิม ถ้าจำไม่ผิดตรงบอร์ดโรงยิมจะมีรายชื่อกรรมการและสต๊าฟกีฬาสีทั้งหมดซึ่งปกติผมไม่เคยสนใจ
จะมาดูหลังเลิกเรียนก็ได้แต่ผมร้อนใจอยากรู้สุดๆ...ผมปาดนิ้วไล่ทีละชื่ออย่างรวดเร็ว.....
ไม่รู้ว่าผมภาวนาให้มีชื่อเขาหรือไม่มีกันแน่.......แต่แล้ว......
กระดาษแผ่นนั้นดูจะสว่างเรืองรองยังกับใช้โอโม่ มันเด่นชัดกว่าใบอื่นๆบนบอร์ด และชื่อจริงของเขาก็เด่นจนไม่อยากเชื่อว่าเป็นความจริง
ไม่จริง กรูฝันร้าย!!
คณะผู้ดำเนินงานกีฬาสี
สีแดง
รองประธานฝ่ายนักกีฬา นายคมเดช ...........
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-
...........รู้แล้วก็รีบสมัครซะนะ....
...........คนรักรออยู่........... :give2: :give2:
-
แหม ตื่นเต้นดีครับ
รอลุ้นต่อครับผม
:impress:
-
o9
ลุ้นๆ
ยังกะหนังสอบสวนสืบสวน
คริคริ
รอตอนต่อไปฮะ
-
กริชที่ร้าก อย่าโกรธกรูเล๊ย!!
ประโยคนี้ ได้อารมณ์มาก o18
ชื่อคมเดช เท่ห์จัง :o9: ลุ้นต่อไปครับ :teach:
-
เมื่อไหร่จาเจอกัน ลุ้น ลุ้น o9
-
รออ่านนะงับ
ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
-
คมเดชชื่อยังกะพระเอกหนังไทยแน่ะ :laugh3:
-
o14 o14 ขอบคุณครับมารออ่านต่อไป o14 o14
-
..
ลุ้นคับ...ตื่นเต้นๆ o9
มาต่อไวๆนะค้าบ.. o14
-
กว่าจะได้รู้ชื่อ :เฮ้อ:
รู้แล้วทำไงต่ออ่ะ จะหนีได้อีกซักกี่น้ำเชียว o8
-
เหมือนฟ้าตั้งใจ
หนีกานม่ายพ้นหรอก
วะ 555+ :haun5:
-
ตอนที่ 16 รู้สึกแปลก
"กรูไม่ลงกีฬาสีละ ไม่ลงเด็ดขาด สีไหนก็ไม่ลง"
เม้งไม่ตอบแต่กดน้ำก๊อกมาดีดใส่ผมแทน
"ทำเจรี้ยรายยย"
"ไล่ผีให้มรึง ผีเข้าผีออกชิพหาย"
ผมก้มลงไปกินน้ำก๊อกบ้าง "กรูรู้ว่ากรูเคยบอกจะลงสีมรึง แต่...." แต่กริชเป็นรองประธานฝ่ายนักกีฬา ถึงจะคนละสีก็เถอะ...
งานอย่างหนึ่งของตำแหน่งนี้คือสอดส่องลาดเลาของทีมสีอื่นในกีฬาทุกประเภทอย่างละเอียดยิบ ถ้าลงนักบาสไม่ว่าสีไหนก็ตามผมต้องถูกกริชเจอแน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง ที่ร้ายสุดคือพวกนักกีฬาย้ายสีจะโดนสต๊าฟสีเดิมรุมด่า ผมไม่อยากให้กริชเกลียดผม และก็ไม่อยากถูกเขาเจอ
เม้งพอจะเข้าใจแต่หน้ามันผิดหวังปานกลางถึงรุนแรง เรือเล็กไม่ควรไปอยู่บนหน้ามันตอนนี้
"ก็ดี มรึงจะได้อ่านหนังสือ อยากเอ็นท์ฯติดปีนี้เลยไม่ใช่รึ"
ผมก้มหน้าล้างแว่น เม้งมันเสียใจแต่ยังพยายามปลอบใจผมแทนซะงั้น มีเพื่อนดีแบบนี้รักตายเลย แต่ถ้าเอ็นท์ฯ ติดจริงผมก็ไม่มีโอกาสได้ลงกีฬาสีที่โรงเรียนนี้อีกแล้วสิ ที่ๆผมฝึกบาสมาตั้งแต่ม.1จากตัวกระจ้อยที่เลี้ยงบอลยังไม่เป็น วงบาสทุกเที่ยงและเย็น เพื่อนกลุ่มที่เล่นมาด้วยกันจนถึงม.4 ช่วงปิดเทอมที่ขลุกอยู่บนลานซีเมนต์นี้ ความภูมิใจที่ได้เหรียญทองแดงบาส ม.ต้นและหวังจะสานต่อชิงเหรียญทองตอนม.ปลาย ทุกความทรงจำเกี่ยวกับบอลสีส้มนี้มีไอ้เม้งอยู่ข้างๆเสมอ
"กรูไม่รู้จะทำไงดีแล้ว" ผมสะอื้นจริงๆ "ทำไมวะชีวิตมันดิ่งเหวแบบนี้" แค่ความคิดพิเรนทร์วูบเดียวมันเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง.....
เม้งกดน้ำใส่มือมาโปะตาผม "ไม่เอาน่า ลูกผู้ชายไม่ร้องไห้....แต่จะร้องก็เอาเลยนะ หน้ามรึงเปียกอยู่แล้วไม่มีใครสังเกตหรอก" มันโปะตาทั้งสองข้างด้วยฝ่ามือคาหน้าผมไว้อย่างนั้น
"ขอบใจว่ะ แต่มรึงวักน้ำมาเยอะไปมั้ง กรูเปียกทั้งตัวเลยเนี่ย น้ำเย็นด้วยนะโว้ย" เราสองคนยืนขำในท่าพิลึกๆอย่างนั้น
"ฮะฮะฮะ กรูไปห้องน้ำแปบละกันเม้ง" มันอือออ เหลือเวลาพักอีก 10 นาทีก่อนคาบเจ็ดจะเริ่ม
ถ้าเม้งไม่ช่วยผมเมื่อกี้ผมคง.....ผมใกล้จะคุมตัวเองไม่ได้แล้ว มันอัดอั้น ทั้งๆที่ผมได้มีกริชเป็นคนรักแต่ทำไม...น่าจะมีความสุขไม่ใช่เหรอ นอกจากนั้นผมยังรู้สึกกลัวลึกๆ โหวงๆ ในใจอย่างประหลาด ยิ่งเจอกริชบ่อยเท่าไหร่ความกลัวนั้นก็ชัดขึ้นแต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าใจผมรู้สึกอะไรอยู่......
คิดมากน่า แค่เครียดที่ต้องหลบๆซ่อนๆ เท่านั้นแหละ เขารักผม ผมรักเขา ความรักต้องการอะไรมากกว่านี้อีก
ผมเข้าห้องน้ำหลังตึก ถอดเสื้อออกสะบัดไปมาเผื่อมันจะแห้งบ้าง
..
..
..
ผมหยิบป้าย 'กำลังทำความสะอาด' ที่วางใต้อ่างล้างหน้าไปแขวนประตูใหญ่แล้วปิดงับประตู
"ทีหลังแขวนป้ายแบบนี้นะจะได้ไม่มีใครมาเจอ"
"ขะ...ขอบใจนะ" เสียงตอบจากห้องส้วมที่ปิดประตูอยู่ "นั่นคงไม่ใช่อาจารย์นะ?"
"เปล่า นักเรียนเหมือนนายนั่นแหละ"
ประตูค่อยๆ แง้มออก เป็นคนที่เคยช่วยผมจากรถเฉี่ยวนั่นเอง (ไอ้คนที่ปล่อยผมจ่ายค่าแท๊กซี่คนเดียวน่ะแหละ)
เขาเปลือยท่อนบน เสื้อนร.แขวนไว้บนกำแพงจะได้ไม่ติดกลิ่นบุหรี่
"โลกกลมจังเนอะ"
"อืม"
"คิดไงถึงดูดบุหรี่ ไม่ดีต่อสุขภาพนะ ไม่ได้เข้ากับนายเลย" ปากเขาแดงระเรื่อ หน้าก็เกลี้ยงเนียนดูแล้วไม่ใช่สูบบุหรี่จนเป็นนิสัย
"เราสูบเวลาเครียดมากๆ เท่านั้น"
"ขอสักปื้ดดิ เครียดเหมือนกัน" ผมเดินเข้าไปหาเขา ตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไรแค่จะรับมาดูดบ้าง
แต่ในห้องแคบๆนั้นเรายืนแทบชิดกัน เปลือยท่อนบนทั้งคู่ เจ้าหนูผมดันแข็งตัวขึ้นมาซะงั้น ผมหันหลบช้าๆ ไม่ให้ผิดสังเกต
....มรึงจะลุกขึ้นมาทำไมวะเจ้าหมูยอดื้อ.... ผมรู้สึกหน้าร้อนผ่าว
"ของนายลุกไหม? เราลุกว่ะ ฮะฮะ"
"ขอบใจเรื่องคราวนั้นนะ" ผมเปลี่ยนเรื่องพูด
"เรื่องไหน?"
"ที่ช่วยเราไม่ให้รถชน...เรื่องนาฬิกาก็ด้วย"
"คงไม่โดนยึดนะ ไม่เห็นนายใส่อีกเลย"
"ถอดเก็บในกระเป๋าตลอด ใส่เวลาอยู่บ้านกับ...ไปเที่ยวน่ะ" ทำไมผมถึงรู้สึกผิดถ้าจะต้องโกหกคนๆ นี้ ชื่อยังไม่รู้จักเลย
..
..
"เราชื่อต้น" "เราชื่อวิง" (-*- พูดพร้อมกันอีกละ)
ยังไม่ทันคุยต่อเสียงกริ่งก็ดังขึ้น "ไปเหอะ"
"วิง บ้วนปากก่อนดิ"
"เออๆ ใจนะต้น นายช่วยเราอีกแล้ว"
"อย่านับเลย นับแล้วสังหรณ์ใจจะต้องมีเรื่องให้นายช่วยเราคืนอีก"
คาบเจ็ดแปดผ่านไปอย่างราบรื่น จิตใจผมกลับเป็นปกติแล้ว....ว่าแต่เมื่อกี้เรียนวิชาอะไรไป? คนในห้องเริ่มเก็บกระเป๋า ตอนเลิกเรียนนี่มีความสุขที่ซู๊ดดด (แน่ใจว่าแกมาเรียนหนังสือนะ?) เมื่อรู้ว่ากริชเป็นกรรมการสีแดงผมก็หลบหน้าเขาได้ง่ายขึ้นเพราะจำแหล่งทำงานได้ขึ้นใจ กรรมการหลักจะประชุมรวมที่ห้องฝ่ายปกครอง อยู่ห้องในสุดติดกระจกรอบด้าน (เป็นห้องที่อาจารย์ใช้ประชุมด้วยจึงกันเสียงอย่างดีและมักปิดม่านเสมอ)
นอกเวลาประชุม กรรมการสีแดงจะอยู่ตึก 4 ชั้น 3 ถึงจะใกล้ตึกผมแต่ช่วงนี้จนถึงกีฬาสีทุกคนต้องงานยุ่งมากคงไม่ป้วนเปี้ยนไกล
ทีมเชียร์จะอยู่ที่อัฒจันทน์ ปีนี้ยังไม่มีการจับสลากเลือก สีต่างๆจึงยึดอัฒจันทน์เดิมตามปีที่แล้วไปก่อน
ทีมบาสกีฬาสีจะยึดสนามบาสในโรงยิมกับอีกสองสนามที่ติดกับโรงยิม ถ้าผมไปเล่นสนามที่ไกลที่สุดก็น่าจะปลอดภัยแล้ว
"เล่นบาสป่าว?"
"เล่นดิ"
"กรูดีใจว่ะที่มรึงดีขึ้น ถึงจะไม่ได้แข่งจริงด้วยกันก็เถอะ"
เราเล่นบาสจนเริ่มมืด "เม้ง กรูขอไปหอมรึงอีกทีนะ"
"ได้ แต่อย่าค้างล่ะมรึงไม่ได้กลับบ้านเมื่อคืนนะอย่าลืม"
มีเรื่องที่ผมสงสัยในคำพูดของกริช ....ลืมเรื่องเก่าๆ....เริ่มต้นชีวิตใหม่....คืออะไรกัน?
ผมคงถามเขาตรงๆ ไม่ได้ อีกอย่างเขาอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ผมก็ไม่ควรฟื้นฝอยหาตะเข็บอีก เบาะแสเดียวที่พอหาได้ตอนนี้คือจากหนังสือรุ่นเท่านั้น
เอาเสื้อแขวนข้างฝาเสร็จก็นั่งดูหนังสือรุ่นไปเรื่อยๆ คราวนี้อ่านเฉพาะม.5 เลย
....แต่ทำไมไม่มีชื่อคมเดช...หรือผมอ่านข้ามไป......ผมอยากเห็นหน้ากริช แค่เห็นรูปยังก็ยังดี
ลมเบาๆ ปะทะหน้าอกชวนให้นึกถึงสัมผัสของเขาแต่ความเครียดและความเหนื่อยทำให้อารมณ์ไม่ขึ้นเลยวุ้ย
ไม่ได้คิดจะชักว่าวต่อหน้าไอ้เม้งนะ แค่อยากคิดถึงความรู้สึกดีๆของกริชอ่า บิ้วท์อารมณ์ไม่ขึ้นซะที
แผ่นอกของ...อุ๊ก!
ผมเปลี่ยนเป็นนอนอ่านหนังสือแทน เม้งชะเลืองแวบนึงแล้วอ่านการ์ตูนดื่มเบียร์ต่อไป
อะไรวะ!....สมองกรูเล่นพิเรนทร์อะไรเนี่ย? ทำไมผมนึกถึงช่วงที่อยู่กับ...ในห้องน้ำ.....
ไอ้หมูยออย่าเล่นแบบนี้ดิ๊... มันไม่ได้ล้อเล่นว่ะ...มันลุกจริงๆ....ภาพยิ่งชัด...หน้าเนียนขาวกับปากแดงระเรื่อนั่น
ไม่ได้! ต้องเพ่งสมาธิไปที่กริชสุดที่รักของผม!
เห็นแล้วๆ กล้ามอกบางๆ หัวนมสีส้ม...เออชัดแล้วปรับอีกหน่อย...!!..?
เม้งเริ่มสงสัยว่าเพื่อนมันออกกำลังกายหรือฝึกเป็นแมวน้ำทะเล นอนคว่ำกับพื้นแล้วขยับเอวไปมา
"ต้น..."
ดีๆ ภาพชัดอีกครั้ง เห็นกล้ามท้องแล้ว ต่ำลงไปอีก อูย...ตรงนี้ต้องจินตนาการเยอะหน่อย
ผมคว้าแก้วเบียร์มาดื่มทั้งที่นอนคว่ำ ทุลักทุเลมากแต่ลุกจากพื้นไม่ได้ เอาละ ตึงนิดๆ ละ ต่ำลงไปเลย กางเกงสีดำ...
"ต้นเป็นไรวะ?"
หนังสือรุ่นกระเด็นไป ผมเอาหัวโขกพื้นโป๊กๆๆ
"ไอ้โต๊นนนนนน!!!"
"กรูสบายดี ขอยืมหนังสือรุ่นกลับบ้านได้ไหม? ขอบใจมากเม้ง" ผมลุกพรวดพราดคว้ากระเป๋าออกจากห้องมัน
"แล้วไม่ใส่เสื้อเรอะ!!"
"กรู...แกล้งลืม ใจนะ ไปล่ะ"
ไวเหมือนพริบตาผมกลับมาถึงบ้านตัวเองแล้ว
"ต้นเมื่อคืนไปไหนมา"
"ผมค้างติวหนังสือบ้านเพื่อนน่ะครับ" ไม่รอฟังคำเทศน์ผมรีบเข้าห้องนอนทันที
ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ! ผมนึกถึงวิงตอนถอดเสื้อได้ยังไง!?
-----------------------------------------------------------------------------------
-
นอกใจเหรอครับ นายต้น
ว่าแต่ว่า นายวิงท่าทางจะน่ารักนะครับ
:teach: :teach: :teach:
-
..........ต้นนอกใจกริช............... :o12: :o12: :o12:
-
...
ต้นอย่าทำอย่างงี้อีกนะ.. :impress:
มีกริชอยู่แล้วทั้งคน..
-
ต้นคิดไรอะ นอกใจกริชเหรอ o9
-
ต้นห้ามนอกใจกริชนะ
แต่ถ้านิดๆหน่อยๆก็โอเค ถือซะว่าสีสันของชีวิต :kikkik:
-
ต้นแอบมีชู้ทางใจซะแล้วว หึหึ o8
-
:o
ต้นแอบนอกใจกริชฟร่ะ
ไม่ไหวๆ
o8
-
ต้นแอบมีชู้ทางใจซะแล้วว หึหึ o8
ใช่เลย ชู้ทางใจ :give2: :give2:
-
ตอนที่ 17 ตกผลึก
"ความต้องการทางเพศ เป็นหนึ่งในความปรารถนาที่ไม่หายไปหากไม่ได้ตอบสนองให้สมกิจ และจะตกค้างในจิตใจกลายเป็นผลึกทางอารมณ์
เมื่อมีสิ่งกระตุ้นเร้าครั้งต่อไปก็จะแสดงอารมณ์ปรารถนานั้นขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็วกว่าเดิม"
(แปลมั่วๆ จากบทความของนักจิตวิทยาสักคนคิดว่าเป็นซิกมันส์ ฟรอยด์: อย่าอ้างอิงนะครับ)
ผมพยายามหาคำตอบ มันก็ง่ายๆแค่นี้แหละ วันนี้กริชบอกว่ารักผมมาก ผมก็เลยมีอารมณ์แต่ไม่ได้ปลดปล่อย
พอเจอวิงแก้ผ้า (ท่อนบน) มันก็แสดงออกเท่านั้น....จริงๆนะ
กริชจะโทรมาไหมนะ? ลองใช้ซิมนั้นดูซะหน่อย
กริช โทรหาคุณเป็นจำนวน 4 ครั้ง
ผมรีบโทรกลับทันที
"สวัสดีต้น"
"สวัสดีครับกริช"
"ผมคิดถึงต้นนะ ทำไมโทรไม่ได้เลยล่ะ?"
"เรา...แชร์หออยู่กับเพื่อนครับ เลยปิดเครื่องไม่งั้นดังรบกวนเขา"
"อิจฉาเพื่อนต้นจัง ได้อยู่กับต้นตลอดเวลาเลย"
...ผมนึกถึงทุกคำพูดของกริชในห้องพยาบาล อยากบอกให้เขารู้เหลือเกินว่าผมได้รับความรู้สึกทั้งหมดของเขาแล้วแต่พูดไม่ได้...
"ต้นผมอยากคุยด้วยนะแต่งานค้างเยอะเลย แล้ววันนี้นายไม่ทำงานเหรอ?" จะสามทุ่มแล้วยังทำงานกีฬาสีอีก ทุ่มเทจัง
"วันนี้หยุดครับ" แหลไปเรื่อยๆ ชาติหน้าตรูจะเกิดเป็นตัวอะไรฟระเนี่ย?
"งั้นผมไปก่อนนะ คิดถึงนะครับ"
"กริชๆ"
"หืม?"
"ถ้ากริชอยากเจอเราก็โทรหานะเราจะออกมาหากริชเอง อย่าไปที่ร้านอีกเลย"
"ทำไมล่ะ?" เอ่อ..หาเหตุผลดีๆ เข้าสิ
"คราวที่แล้วเจ้าของร้านโมโหเราน่ะ อีกอย่างกริชอายุไม่ถึงถ้าเจอตำรวจจะซวยกันหมด"
"ได้ๆ"
"โทรบอกเราล่วงหน้าสักครึ่งวันเลยนะ เอ๊ย! บอกล่วงหน้าสามชั่วโมงละกัน สัญญานะครับ?"
ขืนโทรก่อนครึ่งวันก็ไม่เจอใครอยู่ดีเพราะผมไม่ได้ใส่ซิมนี้ตอนกลางวัน
หรือจะใช้มือถือสองเครื่อง? สะดุดตาอาจารย์ใหญ่เลย อย่างน้อยมีเวลาสามชั่วโมงคงเตรียมรับมือทัน
"โหว! แบบนั้นผมก็ลงแดงตายอะดิ ต้องคิดถึงต้นตั้งสามชั่วโมง"
"นะๆ"
"ก็ได้ ต้องพูดยังไงก่อน?"
ผมมองรอบห้อง พี่คงไม่ได้ยินนะ "....นะคร้าบพี่ชายสุดที่รัก"
"คร้บพ้ม น้องชายสุดที่รัก!!"
เฮ้อ....คุยโทรศัพท์ในบทเด็กขายน้ำนี่ใช้พลังงานเยอะเหลือเกิน แต่อย่างน้อยก็สร้างเกราะป้องกันได้ชั้นนึงล่ะ ตรูคงไม่ต้องแก้ผ้านุ่งกกน.อีกแล้วนะ
กริชงานยุ่งก็ดีเหมือนกันจะได้เจอกันน้อยลง ดีตรงไหนวะเขาอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเรานะ? ....เหงาใช่มั๊ยเนี่ยความรู้สึกนี้
อ่านหนังสือรุ่นต่อดีกว่า ดูกี่ทีก็ไม่มีนักเรียนม.5 ชื่อคมเดช เซ็งแล้วนะ นี่ผมตั้งใจจะหาอะไรกันแน่? เห็นชื่อเขาแล้วจะยังไงล่ะ? มันก็มีแค่เบอร์บ้านกับที่อยู่ ผมรู้ที่อยู่ของเขาอยู่แล้วนี่หว่า
...ใกล้กีฬาสีแล้วนะ กีฬาสีที่ผมจะไม่ลงแข่ง นี่ก็กลุ้มอีกเรื่อง
ผมพลิกเล่นดูภาพงานกีฬาสีปีก่อนไปเรื่อยๆ จนถึงหน้า ม.6....จะดูทำไมก็ปีที่แล้วเขาต้องอยู่ ม.5
....มั่นใจเหรอ?
ลองเปิดดูเล่นๆ ก็ได้ นี่ไงไม่คุ้นหน้าซักคน....
..
..
..
อะไรแปลกๆ
..
..
..
จู่ๆ ก็ขนลุกซู่ ผมว่าบางอย่างมันผิดปกติ
ทำไมรูปหมู่ห้องนี้...จำนวนคนในรูปดูน้อย....
แล้วผมก็เจอสิ่งที่หามาหลายวัน...ในหนังสือรุ่นปีที่แล้ว...ในหน้าของนักเรียนชั้นม. 6
นายคมเดช.... มีชื่อ...แต่ไม่มีรูป...
......ถ้าผมยอมเงี่ยหูฟังเสียงของหัวใจสักนิด ผมคงรู้ว่าไม่ควรยุ่งเรื่องนี้ต่อไป.....
......เรื่องที่เจ็บปวดมาเนิ่นนานจนตกผลึกจมลงก้นบึ้งของหัวใจไปแล้ว.....กำลังจะฟุ้งขึ้นมาอีกเพราะผมคนเดียว.......
--------------------------------------------------------------------------------------------
-
...หง่ะ o22
o21 ...ชื่อเหมือนกันซะด้วย..
แต่ไม่มีรูป...
รอคับ..รอตอนต่อไป...(ตื่นเต้นง่ะ..) o14
-
เรื่องจาไปยังไงอีกเนี่ยยย
อยาดรู้จัง อยากรู้ๆๆๆๆๆๆๆ o9
-
เกิดไรขึ้นกับกริชหว่า
อยากรู้แล้วสิ มาต่อเร็ว ๆ นะครับ
o15 o15 o15
-
:freeze: :freeze: เรื่องอะไรอยากรู้จัง :freeze: :freeze:
-
รออ่านต่อจ้า :teach:
-
:o รึกิชจะเป็นวิญญาณหว่า o22
-
อืม เรื่องนี้มีเรื่องให้ลุ้นระทึกทุกตอนเลยวุ้ย o8 o8
-
ตอนที่ 18 วันพฤหัสบดีใส่สีแสด
ปีที่แล้วอยู่ม.6 ปีนี้ก็อยู่ม.6...หมายความว่าไง?
มีชื่อแต่ไม่มีรูปแบบนี้...หรือว่า....ตรูเป็นแฟนกับผี!!!!
บ้าน่า...ถ้าไม่ใช่ผีก็มีอย่างเดียวคือซ้ำชั้น
การเรียนซ้ำชั้นเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดในระดับมัธยมปลาย หายากและน่าอับอายโคตรๆเลยล่ะ กริชท่าทางเหมือนเด็กเรียนพอสมควรคงไม่ใช่ว่าปีที่แล้วโง่จนสอบตก แล้วที่ไม่มีรูปนี่ล่ะ...คงหยุดเรียนวันที่เขาถ่ายรูปพอดีมั้ง
ไม่หรอก ผมเคยเห็นพี่ม.6 รุ่นอื่นๆ เขาจริงจังมาก ต้องมาให้ครบทุกคนถึงจะถ่าย
ลองโทรถามคนอื่นในรายชื่อนี้ไหม อย่าดีกว่าเสี่ยงเกินไป
กริชระแคะระคายอยู่แล้วว่าเห็นคนท่าเดินคล้ายๆ ผม ถ้าโทรหาเพื่อนเขาแล้วเพื่อนเขามาบอกกริช....
ถ้าเรื่องบานปลายผมจะโดนไล่ออกหรือเปล่า? หรือให้คนอื่นโทรแทน แล้วจะวานใครดีล่ะ พึ่งพาใครไม่ได้เลย ไม่เอาละ! ปวดหัว นอนดีกว่า
พรุ่งนี้เป็นวันพฤหัสบดีที่ผมชอบที่สุดเพราะมีวิชาพละ ได้ใส่ชุดพละไปโรงเรียน ผมวางนาฬิกาดีเซลสีฟ้าน้ำทะเลไปบนหัวเตียง ขอให้ฝันถึงกริชทีเถ๊อะ...
**************************************************************************
เช้าวันพฤหัสบดีที่แจ่มใสแต่ผมยังขุ่นมัว ไม่ได้ฝันถึงกริชเล้ยหรือเพราะเครียดเรื่องหนังสือรุ่นนั่น คนที่อยากเห็นในฝันก็ไม่เจอ ขนาดใช้จินตนาการก็ดันเห็นภาพคนอื่นแทนซะงั้น....
"ต้น!!!" ผมสะดุ้งเฮือกเลย แต่เสียงนั่นไม่ใช่กริช ค่อยยังชั่วหน่อย....เฮ้ย! นั่น...
วิงในพละสีน้ำเงินเข้มเหมือนผมวิ่งกระหืดกระหอบมาแต่ไกล ตกผลึกๆๆๆ
"โอยเหนื่อยเลย"
"วิ....วิง นายมาได้ไง? นายขึ้นรถทางตลาดนู้นไม่ใช่เหรอ?"
เขายังหอบแฮ่กๆ คงรีบวิ่งมาไกล หน้าขาวๆ ตอนนี้แดงระเรื่อ แต่รอยยิ้มนั่นไม่ได้หล่นหายไปกลางทางเลย
.....เจ้าหมูยออย่าแกล้งพ่อนะลูก.... เป็นแค่การตกผลึกๆๆๆ
"เช้านี้เรามีธุระแถวนี้น่ะ" ...ประโยคคุ้นๆ เขาแกล้งล้อที่ผมเคยตอบเขาคราวนั้นหรือเขามีธุระแถวนี้จริงๆ?
"ตรงนี้มีรถเมล์สายไหนไปโรงเรียนบ้างอะต้น?"
"มีสาย......กับ.......น่ะ มีสาย.......แต่ต้องไปต่อรถกะป๊อที่สี่แยก" (รถกะป๊อคือรถตุ๊กๆคันเล็ก)
"เออเยอะดีวุ้ย ทางที่เราไปประจำมีแค่สายเดียว ใกล้บ้านก็จริงแต่รอนาน"
...วิงจะมาขึ้นเส้นนี้กับเราไหมนะ?.....ทำไมผมคาดหวังให้เขาเปลี่ยนมาขึ้นเส้นนี้กับผมด้วยล่ะ?
"แต่กลัวขึ้นไม่ถูกอะแถวนี้ไม่เคยมา อ๊ะ!นั่นไงใช่มั๊ย?"
รถเมล์คันใหญ่วิ่งมาแล้ว "อืมคันนี้แหละ ไปกันเถอะ"
บนรถแน่นเหมือนปลากระป๋อง วิงยืนโหนอยู่ใกล้ๆ ผม ตอนแรกเขาก็เหมือนขืนตัวให้ห่างๆ แต่ถึงป้ายมหาลัยเอกชนระหว่างทางคนก็ขึ้นมาอีก
คราวนี้เลยชิดกันเป็นปาท่องโก๋เลย เบียดชิบเป๋งแต่เขาก็ยังยิ้มบางๆ ส่วนผมเขินเลยหันหน้าไปอีกทางหนึ่ง...หรือปากมันเป็นรูปนี้อยู่แล้ววะ
คนอะไรยิ้มได้ตลอดเวลา....เพื่อความมั่นใจผมเอากระเป๋ามาบังเป้าไว้ก่อน
ตุบตุบ ตุบตุบ ตุบตุบ
สงสัยเที่ยงนี้ตรูต้องเข้าห้องน้ำเอาไอ้ตกผลึกนี่ออกไปซะที
"เจอนายเนี่ยเราหวั่นๆ ว่ะ"
"หวั่นใจจะไขว้เขวเหรอต้น"
"มุขอะไรของนายเนี่ย!?"
มันแกล้งผมเหรอ ถ้ายิ้มแสดงว่าแกล้งแต่เมื่อกี้มันดันหันไปนอกหน้าต่างเลยดูไม่ออก
พูดเป็นคำคล้องจองชวนให้นึกถึงป๋าที่ร้านทไวไลท์เลยวุ้ย บรึ๋ย!
"มีลางสังหรณ์ว่าจะมีเรื่องเดือดร้อนน่ะสิ"
"อ้าว ว่าเราเป็นตัวซวย"
"เปล่า เราไม่เคยคิดว่าเพื่อนคนไหนเป็นตัวซวยทั้งนั้น"
..
..
"ชื่อวิงแปลกดีเนอะ เราไม่เคยเจอใครชื่อนี้เลย มาจากวิงแมนเหรอ"
"วิงแมนคือใคร?"
..
..
"โทษทีมุขเราเก่าไปหน่อย ถึงโรงเรียนละ ลงกันเถอะ!!!" ผมยังคงเกาะกลุ่มคนไปถึงประตูโรงเรียนเหมือนทุกวัน จะต้องทำแบบนี้อีกนานมั๊ยเนี่ย?
ถึงเวลาเข้าแถวซะที วันนี้คงปลอดภัยตลอดวันละนะ ยิ่งใกล้กีฬาสีเท่าไหร่พวกกริชก็งานยุ่งและเก็บตัวในห้องกันมากขึ้น
แต่อีกไม่นานจะเดินกันพล่านเลยน่ะสิ
เม้งมองผมแปลกๆ สงสัยมันกลัวผมทำท่าแมวน้ำทะเลตรงนี้ ตั้งแต่มีเรื่องนี่คนรอบข้างแปลกไปหมดหรือตรูเองที่แปลกหว่า?
เจ้าพระคู้ณ! ขออย่ามีอะไรประหลาดใจไปกว่านี้อีกเลย
"อีกนิดนึงกรูโทรเรียกศรีธัญญาแน่ไอ้ต้น ด้วยความเป็นห่วงจากกรูเอง"
"ทำไมวะเม้ง?" ผมถามมันขณะที่มือยังประนมจรดหน้าผาก
"ต่อไปขอประกาศเรื่องสำคัญ เนื่องจากคณะกรรมการกีฬาสีประจำสีแดง....."
ประกาศอะไรวะ......เจ้าพระคู้ณ!! ขอเรื่องดีๆ สักเรื่องในวันนี้ด้วยเถิ้ดดดด! ถวายหัวหมูเลยเอ๊า!!!
ผมพับแบ็งค์ยี่สิบให้เป็นหัวหมูเตรียมถวาย เม้งกด 1113 ถามเบอร์โรงพยาบาลศรีธัญญา
"จำเป็นต้องเร่งสรุปรายชื่อนักกีฬาประจำสีแดง"
"นักเรียนคนใดสนใจสมัครเป็นนักกีฬาประจำสีแดง ขอเชิญรีบลงชื่อที่ห้องปกครองก่อน 5 โมงเย็นวันศุกร์ครับ ขอบคุณครับ"
...ขอบคุณเจ้าพระคู๊ณสุดที่เลิฟฟฟฟ ไม่ให้ฟ้าผ่าตรูตายไปเลยล่ะ!...ตรูรู้ละ เพราะวันนี้ใส่ชุดพละสีน้ำเงินตรงข้ามกับสีแสดนี่เองเลยซวยขนาดนี้ พรุ่งนี้วันศุกร์เอาเสื้อนักเรียนไปย้อมสีฟ้าประชดชีวิตเลยดีมั๊ยเผื่อจะเฮงๆขึ้นบ้าง
..
..
..
-
รอลุ้นต่อไป o8
-
...........ท่าทางจะไม่จบแค่นี้........ :o9: :o9:
-
มาต่อไว ๆ นะครับ
:impress: :impress:
-
รอด้วยคนคับ.. o14
-
หุหุ มีลุ้นอีกแล้ว o15 o15
-
เหนื่อยนักก็เลิกหนีเหอะ คนอ่านเหนื่อยแทน :try2:
-
เห็นด้วยกะคนข้างบน ไม่รู้จะหนีทำใม เหอๆ เครียดแทน :serius2:
-
เรื่องมันจะเป็นยังไงต่อนะ เดาไม่ออกเลย :confuse:
รออ่านนะงับ ขอบคุงที่มาต่อนะ o15
-
ตอนแรกกะจะรอเวลาไปตัดสินใจในวันศุกร์หน้าแต่สถานการณ์มันบีบบังคับซะแล้ว
"มรึงจะเครียดทำไม? ก็ตั้งใจจะไม่ลงให้สีไหนทั้งนั้นนี่"
"........."
"....เอ่อต้น กรูขอโทษ กรูไม่น่าพูดแบบนั้น"
"ขอบใจนะ"
"มรึงค่อยๆ คิดไปละกัน มีเวลาถึงพรุ่งนี้ตอนเย็น"
"สิ่งที่กรูต้องการไม่ใช่เวลาว่ะเม้ง"
ชั่วโมงพละที่ผมชอบที่สุดกลับหดหู่อย่างน่าใจหาย โลกจะพังพรุ่งนี้กรูก็ไม่แปลกใจละ จิตใจมันบอบช้ำเหลือเกิน
"เอ้า! สองคนนั้นน่ะทำไมไม่ซ้อมตะกร้อ ไปนั่งทำไมใต้แป้นบาส" วิชาพละเทอมนี้เรียนตะกร้อ อยากเล่นบาสมากกว่า
"กรูรู้แล้วล่ะว่ากรูต้องการอะไร" ผมปีนแป้นบาสขึ้นไป ส่วนเม้งนั่งยิ้มเหมือนมันรู้สิ่งที่ผมกำลังจะทำ
"อย่าบอกน้าว่ามรึงจะโดดแป้นบาสประชดชีวิต"
"บ้า! รับนะโว้ย!" ผมเขี่ยลูกบาสที่พวกนักบาสชอบเหน็บไว้ด้านบนสุดของแป้น เม้งมันรอรับอยู่แล้ว
"แดงหรือเขียว?" มันตะโกน
"ที่กรูจะเลือกนี่ไม่ถูกใจมรึงหรอก ขอโทษนะเม้ง" ในที่สุดก็คงถึงเวลาที่เราต้องอยู่คนละทีม
"ไม่ต้องขอโทษ กรูโมโหมาก ขอโทษไม่พอหรอก"
ผมมองมันจากบนแป้นบาส
"มรึงเลือกสีไหนกรูก็จะอยู่สีนั้น"
"มรึงติดโรคเพี้ยนจากกรูแน่ๆ"
"ไม่เพี้ยน กรูโมโหขนาดนี้ขืนเจอมรึงอยู่อีกทีมคงเผลออัดมรึงแหงๆ"
"....มีอะไรที่กรูทำเพื่อมรึงได้บ้างไหมเม้ง?"
"ข้อแรกมรึงรีบลงมา กรูกลัวมรึงเพี้ยนเหินฟ้าอะไรนั่นอีก" ผมปีนลงมาอย่างว่าง่าย
"ข้อต่อไป....ต้องติวให้กรูเอ็นท์ฯติดปีนี้"
"โห เอาตัวกรูเองยังไม่รอดเลยมั้ง"
"บุญคุณครั้งนี้ยิ่งใหญ่นี่หว่า ของตอบแทนก็ต้องใหญ่ด้วย"
**********************************************
"พวกเรามาลงชื่อเป็นนักกีฬาบาสม.ปลายสีแดงครับ"
รุ่นพี่คนนี้คงม.6 แกเขียนขวับๆ แปบเดียวก็เสร็จ ผมไม่ค่อยอยากอยู่ห้องปกครองนานๆ หรอกครับ ปกติก็เสนียดอยู่แล้วยิ่งระแวงว่ากริชจะโผล่มาอีก
"เจอโค้ชรึยังคะน้อง?"
"ยังเลยครับ"
"นั่นเดินมาพอดี ชื่อพี่โจ้นะ"
เม้งกับผมรู้จักพี่โจ้อยู่แล้ว เล่นบาสหลังเลิกเรียนด้วยกันมานานตั้งแต่สมัยผมอยู่ม.2 พี่โจ้อยู่ม.4 แต่พอมีเรื่องกริชเข้ามาผมแทบไม่ลงสนามบาสอีกเลย
เล่นแต่วงเล็กๆ ที่สนามไกลสุดเท่านั้น ผมไม่เคยเห็นพี่โจ้เดินกับกริช อย่างน้อยกริชคงไม่มาที่ทีมบาส....ในตอนนี้ล่ะมั้ง
พี่โจ้จะรู้จักกริชไหม?...แต่กริชเรียนซ้ำชั้นมาเขาคงไม่สนิทกันมั้ง ไม่ถามเรื่องกริชดีกว่าเดี๋ยวจะเข้าตัว
"ไงเม้ง ต้น"
"หวัดดีครับพี่โจ้" เราพูดพร้อมกัน
"ต้น พี่นึกว่าเราจะไม่มาซะแล้ว เนี่ยว่าพรุ่งนี้จะเอาสต๊าฟไปรุมไซโคอยู่เลย" เหอเหอ....ดีจังที่กรูมาสมัครเอง
"เม้งล่ะ ไอ้เกมได้หักคอพี่แน่ที่เอาคู่หูนี้มาได้"
"พี่โจ้เลี้ยงไดโดม่อนผมละกันครับ ไม่มีตังค์ก็เอากับไอ้นี่ก็ได้" เม้งหันมาตาเขียวใส่ผมที่ยิ้มเหมือนคนใกล้ตาย
***************************************************************
-
o13 o8 :o9: o13 ตกลงก็ลงบาสสักที อิอิ นายต้น
-
อะ...
แถมให้อีกนิด เดี๋ยวจะหาว่าใจร้ายยยยยย
o3
-------------------------------------------------------------------
ลงชื่อไปแล้ว เส้นตายกำลังใกล้เข้ามา
อีกไม่นานกริชต้องเจอกับผมแน่ก็เล่นอยู่สีเดียวกันแถมเขาเป็นรองประธานฯฝ่ายกีฬา ยังไงก็โยงเข้าด้วยกันเต็มๆ
ถ้าเขาเป็นฝ่ายเจอผมแล้วเอาไปบอกคนอื่นๆ ชีวิตม.ปลายที่นี่ของผมคงจบเห่
ผมต้องเข้าหาเขาก่อนแล้วอธิบายให้ได้ เอาเงินกับนาฬิกาคืนให้ก็จบเรื่องแล้ว แล้วทีนี้เราก็จะเป็นแฟนกัน จบบริบูรณ์....หรือเปล่าหว่า?
จะง่ายขนาดนั้นเชียว?...แต่ถ้า...มีโอกาสความแตกอย่างเดียวคือการประจันหน้า
ผมเคยลงทีมบาสม.ต้น รู้ดีว่าสต๊าฟไม่ได้ไปตรวจดูรูปถ่ายจากเอกสารโรงเรียน ไม่ใช่เรื่องที่ทำเป็นทางการขนาดนั้น จะมีก็แค่ใบเช็คชื่อเท่านั้น
"ต้น ถามอย่างดิคิดไงถึงลงบาส?"
"..........."
"ก็มรึงกลัวเจอคนที่มรึง something wrong จะตายไม่ใช่เหรอ?"
"ใช่"
"แล้วยังจะ....."
คิ้วผมตอนนี้คงขมวดกันเป็นเงื่อนเขบ็ดสิบชั้นจนเม้งสังเกตได้
"ไม่ถามละ มรึงหน้าดำคร่ำเครียดยิ่งกว่าขวานฟ้าอีก กรูเชื่อการตัดสินใจของมรึงละกัน"
ถ้าต้องหลบหน้ากริชแล้วไม่ได้ทำอะไรเพื่อเขาเลย แล้วความรักของผมจะมีประโยชน์อะไร?
ผมคิดว่ากริชทุ่มเทกับงานนี้มาก ผมก็จะขอช่วยให้เขาสมหวัง แม้เป็นแค่เสี้ยวเล็กๆของสีแดงผมก็อยากทำเพื่อเขา แต่ที่ดึงเม้งมาด้วยนี่ผมนึกเสียใจเหมือนกัน มีตังค์พอค่าไดโดม่อนไหมเนี่ย?
ปมทุกอย่างกำลังขมวดใกล้เข้ามา อีกไม่นานจะรัดคอผมตายแหงๆ ถ้าไม่แกะอย่างระมัดระวัง
จะบอกให้รู้กันไปเลยดีมั๊ย? ยังไงเข้าช่วงกีฬาสีก็ต้องเจอกันแน่ แต่ถ้าผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่คิด....หรือผมควรทำยังไงดี?
เครียดโว้ยยย!!! พรุ่งนี้ตรูจะใส่สีฟ้า!
..
..
..
-
หน้าดำคร่ำเครียดยิ่งกว่าขวานฟ้าอีก 5555+ คิดได้เนอะ :o10: :o10:
มาต่อไว ๆ นะคับ
-
..........ตัดสินใจเท่านี้ก็ยังดี......... o13
..........ดีกว่าหนีไปตลอด......... o8 o8
-
อะไรมันจาเครียดขนาดน้าน o12
-
เอาเถอะ ได้ลงบาสแล้ว เดี๋ยวคงได้พบกันแล้วล่ะ o16 o16
-
o8 o3 :interest: เดียวก็เจอ
-
คู่กันแล้ว..ก็ไม่แคล้วกันหรอกคับ.. :haun5:
(เครียดมากมาย :sad5:)
รอต่อค้าบ o14
-
เดี๋ยวก็คงเจอกัน :try2:
รออ่านต่อครับ :yeb:
-
กว่าจะได้เจอกัน มันจะอีกนานมั้ยอ่ะ ลุ้นยิ่งกว่า คะแนน สอบอีกนะเนี้ย ( ตรูเวอร์เกินไปป่าวฟ่ะ o17)
ขอบคุณที่มาต่อนะงับ o15
-
..
..
..
หมดคาบพละ พวกผมเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนกางเกงวอร์มกลับมาเป็นกางเกงขาสั้นสีดำ ในห้องมีพวกที่จะเรียนพละคาบถัดไปกำลังเปลี่ยนใส่กางเกงวอร์มอยู่ เวงละ! เจอเจ้าวิงในนี้ซะอีก เขาเรียนคาบต่อจากผมเหรอไม่เคยสังเกตเลย อุ๊ก! เจอตอนวิงกำลังปลดเข็มขัดพอดี
"ต้น"
"หวัดดีวิง เจอกันอีกละ"
"เรียนพละเสร็จแล้วเหรอ?"
"อืมๆ" ผมหันเข้าผนังเพราะกลัวบางอย่างมันจะออกมาทักเจ้าวิงด้วย
หายใจออก...ยุบหนอ
หายใจออก...ยุบหนอ
หายใจออก...ยุบหนอ
หายใจออก...ยุบหนอ
เม้งมองตัวประหลาดพันธุ์ใหม่ที่สามารถมีชีวิตได้ด้วยการหายใจออกอย่างเดียว ไม่หายใจเข้า
"นี่เม้งเพื่อนเรา เม้งนี่วิง"
"หวัดดีๆ" "หวัดดี" เออคุยกันไปก่อนที่กรูจะหน้าม่วงไปมากกว่านี้ ผมรีบถอดกางเกงวอร์มจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสร็จเร็วที่สุด
"ต้นนายแข็งแรงเนอะ กล้ามขาเป็นมัดเลย" มาชมอะไรตอนกรูกำลังเปลือยท่อนล่างว้า!! (ยังใส่กุงเกงลิงอยู่นะ)
หายใจออก...ยุบหนอ
หายใจออก...ยุบหนอ
ผมรีบเปลี่ยนมาสวมกางเกงนักเรียนขาสั้นแทน อย่างน้อยผ้ามันก็แข็งกว่าจะได้ช่วยกดเจ้าหมูยอได้บ้าง แต่หางตาจอมทรยศยังแอบเหลือบเจ้าตกผลึกอีก (ไม่ได้ตั้งใจจะเกิดมาเป็นเพลย์บ๊อย!)
"งั้นเราไปก่อนนะต้น" วิงดึงกางเกงวอร์มขึ้นเอว แต่หางตาผมดันเห็นภาพเสี้ยววินาทีก่อนหน้านั้นไปแล้ว ไม่ไหวแล้ว!!!!!!!! ผมรีบโกยอ้าวจากห้องเปลี่ยนเสื้อไปถึงห้องเรียนในพริบตา ฟ้าววว!!
ไม่ไหวแล้ว..ทั้งความเครียดและความใคร่กำลังรุมเล่นงาน...
อยากโทรหากริช อยากเจอเขา ก่อนที่ผมจะหน้ามืดหื่นกามปล้ำผู้บริสุทธิ์ ว่าแต่วิงมันยังบริสุทธิ์ไหมนะ...โอ๊ย เข้าขั้นโคม่าแล้วตรู!
"ไอ้ต้นมรึงน่าจะลงวิ่งแข่งว่ะ ทำลายสถิติโลกเลยมั้งเนี่ย?" เม้งกระซิบกระซาบระหว่างคาบสี่
พักเที่ยงแล้ว ผมย่องหาที่เงียบๆ กะเวลาว่ากริชน่าจะทานข้าวเสร็จแล้ว ผมเปลี่ยนซิมโทรหาเขา มองรอบๆ ตัวเงียบดีคงไม่แจ๊คพ็อตแตกนะ.....
"หวัดดีครับต้น"
"โทษนะกริชที่โทรมาเวลาเรียน"
"พักเที่ยงพอดีน่ะไม่เป็นไรหรอก"
"คุยได้มั๊ยเนี่ย? ถ้าไม่สะดวกเราวางหูละนะครับ"
"คุยได้ นี่แอบมานั่งตรงคูน้ำพอดี"
'คูน้ำ' เป็นท่าไม้เล็กๆ หลังดงต้นไม้ทึบติดกำแพงหลังโรงเรียน มีคูระบายน้ำเล็กๆ ไหลผ่านแต่แถวนั้นรกทึบเฉอะแฉะจนไม่ค่อยมีใครผ่านเข้าไป
เสียดายใช้โดดเรียนไม่ได้เพราะสองข้างของคูมีลูกกรงกั้น เป็นที่ๆ ไม่น่านั่งเล่นเท่าไหร่น้ำในคูก็เหม็นนิดๆ แต่ผมก็ยังหลับตานึกภาพผมนั่งคู่กับเขาตรงนั้น
"คูน้ำ?" แกล้งโง่ถามให้สมบทบาท
"เป็นคูหลังโรงเรียนน่ะ วันหลังจะเล่าให้ฟังละกัน"
"ครับ"
"แต่เมื่อวานดิซวย"
"ทำไมเหรอ?"
"ใครไม่รู้โทรมา ดันมีอาจารย์ตรงนั้นพอดี เกือบโดนหวดก้นแล้ว"
"....เหรอ แย่เลยสิ" เหอเหอ คนที่คุยกับนายอยู่นี่ไง
"ถ้ารู้เป็นใครนะ จะเตะก้นตกคูน้ำตรงนี้เลย" .....อูย เห็นภาพเลยวุ้ย
"แล้วต้นมีอะไรเหรอ?"
"เราอยากเจอกริชน่ะ.....เอ่อ ขอโทษนะเราน่าจะถามก่อนว่ากริชว่างมั๊ย"
"อย่าคิดมากดิต้น เราคบกันแล้วนะ"
".....ครับ" ผมคงสับสนในสถานะตัวเอง กับชีวิตนี่ด้วย
"ผมก็อยากเจอต้นมากเลยนะ กะว่าเลิกเรียนจะโทรหาเลยเนี่ย คืนนี้เจอกันนะ"
"อืม"
กริชนัดเจอกันที่ห้างแถวฝั่งธนฯ คนละฟากกรุงเทพฯ จากโรงเรียนนี่เลย ก็ดีเหมือนกัน
ผมเหลือบดูนาฬิกาอีกราวสี่นาทีจะได้เวลาคาบห้า ต้องรีบวางหูก่อนเสียงกริ่งจะดังเข้าโทรศัพท์
"ต้น"
"ครับ?"
"โด๊ปมาเยอะๆนะ คืนนี้ผม...จะรักต้นมากๆ เลย"
เวงล่ะ! หลับตาเห็นหน้าเจ้าเสือสมิงสุดหล่อยิ้มแสยะเลย เหอเหอ เดี๋ยวก็รู้! จะสู้เจ้าจิตอกุศลตกผลึกของผมได้มั๊ย?
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
-
:confuse: :give2: :haun5: คืนนี้จะมีไรเกินขึ้น น้า............ o3
-
.......... "โด๊ปมาเยอะๆนะ คืนนี้ผม...จะรักต้นมากๆ เลย"
.......... กริชนี่ก็หื่นเหมือนกันเนอะ.......... :haun4: :haun4:
-
มารอลุ้นด้วยคน :o8:
-
มารอด้วยคนค้าบ.... o14
-
หุหุ ถ้ากริชรู้ว่าต้นเป็นคนโทร คงโดนเตะแน่ ๆ :laugh3: :laugh3:
-
รอลุ้นคืนนี้ ดีก่า :laugh:
ขอบคุณที่มาต่อนะงับ o15
-
ในที่สุดก็ได้เข้ามาอ่านแล้ว
หลังจากแว๊บไปแว๊บมาอยู่หลายที :impress:
กริชนี่แอบหื่นเหมือนกันนะเนี่ย
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[
แต่ปฏิกิริยาของต้นที่มีต่อวิงนี่แปลกๆ ซะแล้วดิ่
:o10: :o10:
-
ตอนที่ 19 คืนที่ยาวนาน
กว่าจะมาถึงห้างกริชก็ยืนรออยู่ก่อนแล้ว สองวันแล้วที่ไม่ได้เจอหน้ากันแบบนี้ (แต่เจอแบบหลบๆ หลอนๆที่โรงเรียน คิดแล้วเหนื่อย)
รู้สึกแปลกๆ ที่ต้องผวาหลบเขามาตลอดแต่ตอนนี้สามารถพูดคุยใกล้ชิดได้ปกติ....หวังว่าจะไม่เผลอหลุดบทนะ....เดินเข้าไปหาขายังเกร็งๆ อยู่เลย
"สวัดดีครับกริช"
"เหนื่อยเหรอต้น? ไม่เจอกันสองวันทำไมหน้าโทรมๆ" ....ใช่เดะ...ต้องหลบนายมาตลอดสองวันเลยนี่หว่า
"นั่งรถมาไกลน่ะครับ แต่เห็นกริชเราก็หนายเหนื่อยละ" เขายิ้มกรุ่มกริ่มเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง
"แล้วจะเที่ยวอะไรกันดีล่ะกริช?"
"ดูหนังละกัน ผมซื้อตั๋วไว้แล้ว"
"โห บริการพร้อมขนาดนี้เลย"
"แต่อีกนานกว่าจะฉาย เราไปหาอะไรทานก่อนดีมั๊ย?"
กริชพาเข้าร้านหรูแบบภัตตาคาร เหยย! เด็กม.4 อย่างผมกินเป็นที่ไหนล่ะ
"กริช เราไม่คุ้นร้านแบบนี้อะ"
"สำหรับต้นต้องพิเศษสุดสิ คืนนี้จะได้มีแรงไง"
ผมหัวเราะขำๆ แต่บรรยากาศดีจริงๆ อะ ไม่ต้องกลัวจะเจอเพื่อนนักเรียนที่นี่แน่ๆ มีตะเกียงไฟเล็กๆ บนโต๊ะด้วยวุ้ย ทั้งที่ไฟในร้านก็ไม่มืด จุดทำไมวะ?
"...น่าจะแพงเนอะ"
"ไม่ต้องห่วง ตังค์เก็บตอนจะซื้อมอไซค์มีเยอะ"
"....?"
"แต่ไม่ได้ซื้อละ ย้ายมาอยู่ใกล้โรงเรียน รถเมล์ต่อเดียวก็ถึง"
"เหรอ เสียดายจังอยากซ้อนท้ายกริช....ฝันแบบนี้มาตั้งนานแล้วครับสักวันจะมีคนที่รักเราจริงๆ ให้เราซ้อนท้ายแล้ว...."
..
..
"กริชทำไมเงียบไปล่ะ?" เขาก้มหน้าแวบนึง ทำไมเศร้าๆ
"ขอโทษนะ เราลืมคิดไป...ยังไงกริชก็คงอยากได้มอไซค์สินะ ผู้ชายก็ต้องคู่กับมอเตอร์ไซค์อยู่แล้ว"
"อืม เดี๋ยวเก็บตังค์ใหม่ไม่นานก็คงได้ ตอนนี้รีบทานเถอะ"
..
..
..
กริชเดินนำเข้าโรงหนัง โชคนี้เรื่องนี้ผมอยากดูพอดี ไฟดับลง โฆษณาเริ่มฉายกริชก็โอบผมไว้
ในโลกที่มืดมิดเท่านั้นที่เขาสามารถแสดงความรักได้เต็มที่ ถึงจะเจ็บปวดแต่ผมก็พอใจแล้ว
กริชยกเอวขยับขอบกางเกงยีนส์นิดหน่อยเหมือนเป็นสัญญาณ ผมก้มหน้าลงไปช้าๆ อย่างรู้หน้าที่...
....
....
....เพื่อปิดมือถือ (รู้นะคิดอะไรอยู่)
..
..
..
:laugh3:
-
ลงน้อยจัง -*-
-
ก้มลงไปอย่างรู้หน้าที่ อิอิอิ.......... (รู้ได้ไงหว่า ว่าเราคิดไร)
รอมาต่อครับ :impress:
-
ผมก้มหน้าลงไปช้าๆ อย่างรู้หน้าที่...
....
....
....เพื่อปิดมือถือ (รู้นะคิดอะไรอยู่)
..
..
ชิส์มารู้ทันซะได้ o12
-
มาต่อไวๆนะค้าบ...
รอค้าบรอ.. o14
-
.......... :laugh: :laugh: :laugh:..........
..........ก้มลงอย่างรู้หน้าที่........ :o9:
-
ทำไมมันสั้นอย่างนี้ละพูห์ :impress: ลงเยอะ ๆ หน่อยจิ นะ นะ :impress:
-
ผมก้มหน้าลงไปช้าๆ อย่างรู้หน้าที่...
....
....
....เพื่อปิดมือถือ (รู้นะคิดอะไรอยู่)
..
..
..
:laugh3:
กำ
:seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:
ดันรู้ทันซะได้
:o8: :o8: :o8: :o8:
-
555+ โดนเลยคับ รู้ได้ไงว่าคิดอะไรอยู่ อิอิ
เป็นกำลังใจในการโพสคับ
-
:laugh3: หุหุ คิดไรไปเนีย เรา :-[
-
ไม่น่าพลาดเลยเรา o22
ต่อเร็วๆนะรออ่านอย่างแรง o7
ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
-
..
..
..
ผมดูหนังไปเรื่อยๆ บางช่วงก็ตั้งใจดูแต่บางครั้งเรื่องยุ่งๆ ก็วนเวียนให้คิดไปเรื่อย
กริชจะชอบที่เป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน....เราคิดบ้าอะไร....ตอนนี้ก็อยู่ด้วยกันแล้วนี่ แค่รักเขาก็พอ
กริชชำเลืองมาจ้องตาผมและโอบให้แน่นกระชับขึ้น แต่ผมกลัว...มันมีอะไรสักอย่าง ทุกครั้งที่ผมก้าวล้ำไปใกล้กริชจะ...
...สีหน้าท่าทางนั่นคือโมโหหรือว่าเศร้ากันแน่.... ทุกครั้งที่เขาทำท่าแปลกๆ อย่างนั้นทำให้ผมเจ็บ.... นับวันผมยิ่งรู้สึกอึดอัด
ทุกครั้งที่พูดหรือทำอะไรต้องคอยดูสีหน้าเขาตลอดเวลา... ที่เจ็บปวดยิ่งกว่าคือกริชเหมือนจะไม่อยากให้ผมยุ่งกับอะไรก็ตามนั่น...
คิดมากน่า....ผมวางมือที่ตักกริชและดูหนังต่อไป
***********************************************************************************
รถแท๊กซี่จอดช้าๆ สถานที่เดิม บ้านของกริชมืดสนิทเหมือนทุกครั้ง เสียงไขกุญแจเป็นสัญญาณว่า 'คืนนี้' กำลังจะเริ่มแต่ไม่รู้จะจบที่ใดในโลกความรักที่หลบซ่อนนี้ จะเป็นที่ไหนยังไงก็ได้ถ้ามีเขาอยู่
"ไม่มีคนหรอกไม่ต้องกลัว" กริชจูงมือผมเบาๆ ผ่านประตูบ้านเข้ามา ตอนนี้ใจผมไปถึงเตียงและห้องน้ำแต่ใจกริชท่าจะไวกว่า
เขาประคองกอดผมตามด้วยริมฝีปากที่แผ่วเบา กริชถอดเสื้อผม ลิ้มเลียหน้าท้องเลื้อยขึ้นมาที่อกและซุกไซ้มอบไออุ่นที่ซอกคอถึงใบหูจนวนกลับมาที่ริมฝีปากผมอีกครั้ง
"ใช้ปากทำได้ทุกอย่างเลยนะ ยกเว้นพูด ฮะฮะ"
หน้าผากและปลายจมูกเราแตะกันค้างอยู่อย่างนั้นระหว่างที่กริชถอดเสื้อออก
"....ก็เพราะการพูดมันยากที่สุดไง"
ผมโอบรัดเขาเข้าแนบเนื้อ ร่างที่แข็งแรงเหมือนจะเป็นบ้านให้หัวใจผมอยู่ได้ตลอดกาลอย่างปลอดภัย
"ยากก็ลองดิ๊" ตาเราจ้องกัน...
"ผม....รั...." ผมชะโงกหน้าขโมยจูบเขา
"อ้าว บอกให้ลองแล้วไหงงี้ล่ะ"
"พูดตรงนี้ก็อายแย่เดะ"
"มีแค่เราสองคน" แววตาซุกซนเหมือนจะท้าทาย "อายโซฟา อายทีวี อายตู้เย็นโว้ย!"
"งั้นต้นจะให้พูดที่หนาย"
"ต้องบอกด้วยเรอะ?"
กริชหันหลังให้ผมแล้วก้มตัวนิดหน่อย
"ทำไร? หรือวันนี้อยากลองรับ"
"ก็บอกว่าอยากซ้อนมอไซค์คนที่รักจริงไม่ใช่เหรอ"
"อ๋อจะให้ขี่หลังก็ไม่บอก ตะกี้เกือบรุกจริงๆ นะเนี่ย 555"
ผมกระโดดขี่หลังกริชให้เขาพาขึ้นชั้นสองไปห้องนอน แข็งแรงจังแฮะกระเตงหลังผมขึ้นบันไดได้ด้วย
"ไง! เหมือนที่ฝันมั๊ยต้น?"
"ไม่เหมือนน่ะ ต้องเร็วสัก 80 กม./ชม."
"ไม่ใช่แฟลชแมนนะคร้าบ"
ผมซบหน้าที่หลังคอกับผมนุ่มๆของกริช "........ไม่เหมือนเลย ดีกว่าเยอะ"
กริชหย่อนผมลงที่ขอบเตียงแล้วนั่งยองๆ ทำตาทะเล้นส่ายหัวด๊อกแด็กเหมือนตุ๊กตามาดามยี่หุบ
"กินตรงไหนก่อนดีน้า?"
"ยังไงก็กะจะกินหมดตัวอยู่แล้วนี่" ผมตอบพลางขยับเอวให้กริชถอดกางเกงผมง่ายขึ้น พอผมล่อนจ้อนกริชก็ลุกขึ้นถอดออกหมดบ้าง
ถึงห้องจะมืดแต่แสงไฟลางๆ จากหน้าต่างมันมากพอให้เห็นทุกส่วนสัดของเขา ทนไม่ไหวแล้วว้อย!
ผมกระชากเขาลงบนเตียงแล้วพลิกขึ้นคร่อมจูบเขาไปทั่วหน้า ซอกคอ หอมแก้มให้สะใจ มือก็รุนรานอาวุธเขา
"ไม่เจอกันแปบเดียวดุเดือดขึ้นเยอะเลยนะน้องชายสุดที่รักของผม"
"ใช่ ฟิตมาเต็มที่เลยล่ะ"
"ผมคิดถึงต้นนะ รู้มั๊ย?" ผมหยุด ตาประสานกัน ปากผมมันยิ้มด้วยความรู้สึกที่คุมไม่อยู่ ทั้งรักทั้งขำ
"ขำอะไร คิดถึงจริงๆ" ที่ผ่านมาตรูทุลักทุเลเพราะเจอนายแทบทุกวัน เจ้าบ้า! ไม่ขำได้ไง
"คงมีถุงนะกริช?"
"ถุงไร ไม่มี เอาไปใส่กับข้าวหมดแล้ว" ปากก็พูดแต่มือควานไปหลังกองหนังสือ ทำยักคิ้วส่ายหน้าช้าๆ ผมเลยฟัดจูบเล่นซะเลย
สวบๆๆ เสียงมือเขาควานในถุงก๊อบแก๊บ สวบๆๆ
เวลาหงี่มากๆ มักทำอะไรไม่ได้ดั่งใจกริชเลยหยิบมาทั้งถุง
"โหย กะจะใช้หมดนี่เลยเรอะ! กลับบ้านล่ะ!" ผมแกล้งลุกจากเตียงล้อเขา กริชขำชอบใจใหญ่คว้าตัวผมไว้
"ก็มันอายคนขายนี่นาตอนซื้อนี่ถ่อไปร้านขายยาไกลบ้านเลยนะ คว้าได้สองกล่องก็รีบจ่ายตังค์" พอเห็นภาพครับ
เอ๋...สองกล่อง กะจะเล่นอย่างน้อยๆ 4 ยกรึไง (พอนึกออกนะ 1กล่องมี 3ถุง)
"แล้วไหงมาเกือบครึ่งโหลแบบเนี้ย?"
"ก็คนขายดันพลิกดูแล้วจ้องหน้าผม...ถามว่า...น้องๆ นี่คนละขนาดกันนะ ของน้อง 49 หรือ 52?" ผมฮาเกือบตกเตียง
"อายแทรกแผ่นดินหนีเลย ไม่เคยรู้ว่าของนี่มีหลายขนาดด้วยแฮะ คว้ามั่วๆให้รีบคิดเงินแล้วเดินหนีออกมาเลย" แน่ะมาทำหน้างอนผมซะงั้น
"มา เลือกให้เอง" อันที่จริงเจ้าหมูยอสองดุ้นนี่คงใช้ถุงขนาดเดียวกันแหละจากการคาดคะเน แต่ขนาดไหนไม่บอกหรอก
เรียบ-ไม่เรียบ ลอนคลื่น สตอเบอรี่ ช็อกโกแลต รสกล้วยยังมี คนเราน้อพิเรนทร์จริงๆ เลือกไปอารมณ์ยิ่งกระเจิงครับ จินตนาการไปถึงไหนต่อไหน
เลือกได้แล้วก็สวมให้กริชแล้วลงปากจนกริชสะดุ้งทั้งตัว ก้นลอยกล้ามงี้เกร็งเป็นมัดๆ ยิ่งชวนให้ฟัดมันหนักขึ้นอีก
"อ๊า.....อ๊า......ต้น!" ทำผมหัวหมุนมาหลายวันจะให้รักน้อยกว่านี้ได้ไง
"ว้อย!...โอ๊ย! ต้น! ....อุ...อาาา เดี๋ยวก่อน! อ๋อย!" กริชดิ้นพล่านครางน่ารักเชียว เผลอฟัดแรงไปหน่อยรึเปล่าเนี่ย
เขาดิ้นพลิกตัวหนีแต่อ้อยเข้าปากช้างมีหรือจะยอมปล่อย (ของกริชไม่ได้ยาวเท่าลำอ้อยนะครับ เป็นสุภาษิตเฉยๆ) เลยกลายเป็นผมอยู่ด้านล่างแทน
กริชค่อยๆขยับขึ้นลงแล้วเร่งเร็วขึ้นทีละนิด ผมต้องเอามือกำโคนไว้ก่อนไม่งั้นมีหวัง....
ใครคิดว่าท่านี้เสียวกระสันมันกว่าแห้ว ขอบอกว่าสงสารคนข้างล่างหน่อยนะถ้าคนข้างบนคึกลืมตัวนี่อ่วมแน่
กริชพลิกตัวมาสวมนวมให้ผมบ้างแล้วนอนตะแคงใช้ปากให้กันและกันจนเสร็จ เขานอนหงายผมเลยจัดการขึ้นคร่อมจูบฟัดทั่วตัวให้หนำใจ
ได้ยินเสียงฉีกถุงกับนิ้วชุ่มๆสอดเข้าด้านหลังผมแล้วเพลงรักก็ดำเนินนัวเนียจนจบในท่าหมอบ
เสียงหอบหนักๆ กับร่างที่เปลือยเปล่าชุ่มเหงื่อถูไถบนแผ่นหลัง กริชลูบไล้ทั่วทั้งตัวและท่อนเนื้อผมจนน้ำทะลักหลายระลอกตามแรงกระแทกลงกลางเตียง
"ขะ..ขอโทษนะกริช"
"ช่างมัน" เสียงหื่นเต็มที่เลยครับ
"กริชใกล้ยัง?" เขาครางอือๆ อารมณ์นี้คงพูดไม่เป็นภาษาละครับ
"เราช่วยนะ?"
กริชพยักหน้า ผมจับเขาเปลี่ยนมาหมอบแทน ผมใช้มือนึงเอื้อมไปชักให้กริชอืกมือยันที่นอนแล้วนาบท่อนเนื้อลงบนเอวเขา โยกเป็นจังหวะเดียวกับมือที่ชักให้กริช เสียวโคตรๆ กริชครางลั่นตอนระเบิดน้ำลงบนเตียงส่วนผมก็ถึงจุดสุดยอดอีกครั้งบนแผ่นหลังที่บึกบึนของเขา
หน้าด้านข้างที่ชุ่มเหงื่อของกริชตอนนี้หล่อน่ารักที่สุดในโลกเลย ผมหอมแก้มเขาเบาๆ
"ม่าย...หวาย...แล้ว...โต้นนน" เราสองคนหัวเราะให้กันในความมืดมิดแต่ใบหน้าเขาช่างเด่นชัด
"เพิ่งหมดไปกล่องเดียวเองน้า" ...หึหึ เจ้าตกผลึกของผมมันยังคึกไม่เลิก
"อาบ...น้ำ...กาน...น้า"
รอบนี้อาบน้ำจริงๆครับเหนื่อยหอบกันทั้งคู่ 555 กริชสระผมให้ผม รู้สึกดีจังนิ้วแข็งแรงแต่สระนิ๊มนิ่ม
กริชลูบฟองแชมพูลงมาตามแผ่นหลังถึงร่องก้นของผม
"เจ็บมั๊ยต้น?"
"....ไม่ครับ"
"ปากแข็ง ตอบช้าแสดงว่าโกหก"
"ไม่เจ็บจริงๆ ครับ"
"......ไม่ชอบอะไรก็บอกผมได้นะต้น เราเป็นแฟนกันไม่ใช่ต้องปิดบังกัน"
ผมกอดเขาไว้หลวมๆ อยากให้คำของกริชสะท้อนกลับหาใจเขาบ้าง....เป็นแฟนกันไม่ใช่ต้องปิดบังกัน.....
แล้วกริชล่ะปิดบังผมทำไม? ที่ทำหน้าเศร้าบางครั้งน่ะทำไมไม่ระบายให้ผมฟังบ้าง...
"ไม่ชอบกินผัก"
"โหย มุขจ๊าบสุดๆ กอดผมแบบนี้เดี๋ยวคึกอีกจะไม่ได้ออกจากห้องน้ำกันพอดี"
"เหอเหอ เดี๋ยวเจอเราแล้วจะหนาว"
กริชขยี้หัวผมเบาๆ ด้วยความเอ็นดู "เอ้า! เสร็จแล้วเจ้าหัวเม่น"
โหย! คำนี้!!!!
ผมขืนตัวออกทันที เด็กม.4 เนี่ยห้ามล้อเรื่องทรงผมนะ เพิ่งเปลี่ยนจากทรงหัวเกรียนตอนม.3 มาเป็นรองทรง ผมข้าใครอย่าหยาม!
"เป็นอะไรเหรอต้น?" อุ๊บ! ตายห่าแล้วๆๆ
..
..
ผมจับกริชหันหลังแล้วนาบตัวชิด "กริชบอกว่าอย่าปิดบังกันใช่มั๊ยครับ?"
"อืม"
"เรามีความลับอยากจะบอกกริช" ผมกอดกระชับร่างที่เปลือยเปล่าให้แน่นขึ้น
"เรา...." ใจเต้นตุบๆๆๆ
"เรา...เป็น........"
..
..
..
-
..........มีหลายขนาด......หลายรส.....หลายกลิ่น......
..........และหลายยกด้วย......... :haun4: :haun4: :haun4:
-
"เรา..เป็น..........." :o
เป็นอะไรอ่ะ....มาต่อไวๆนะค้าบ.. o14
(ว่าแต่คราวนี้จะหมดไปกี่กล่องล่ะคับเนี่ย.?? :confuse:)...
o3 ........... :haun5:
-
เราเป็น ... เป็นอะไร o9 o9 o9 o9
อยากรู้ o9 o9
-
ม่เข้าใจว่าทำใมต้องโกหกเรื่อง รร ถ้ากริดรู้จะทำใมหรอ -*-
-
เราเป็น . . . รุกครับ :laugh3: :laugh3: :laugh3:
-
เราเป็น.......
บอกเลย บอกเลย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆๆ จะได้รู้ว่าจะเป็นไงต่อไป
-
:interest: เราเป็ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เป็นไรหว่า
มาต่อเร็ว ๆ เด้อ
:o12:
-
o9 "เราเปง ..... อะไรอีกล่ะเนี้ยยยยยยยยย :onion_asleep:
ขอบคุงที่มาต่อนะ o15
-
:give2:อยากรู้จัง เราเป็ง..............
มาต่อไว ๆ นะ
-
มาต่อให้แล้วครับ
--------------------------------------------------------------------------------
..
..
..
"เราเป็น 'คิง' ล่ะกริช" เขาสะดุ้งเล็กน้อย
"อะ...เหรอ...แล้ว..." กริชยิ้มๆ จะหันตัวมาหาผมแต่ช้าไปละครับผมกอดเขาไว้แน่น เข้าตำแหน่งแบบนี้มีหรือจะปล่อยให้รอด หึหึหึ
"ขอนะ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะครับ" เขานิ่งไปพักนึงแต่ก็ผงกหัว
"ต้น"
"หืม?"
"ขอโทษนะที่ผมลืมถาม"
"ไม่เป็นไรครับ เราอยากให้นายสบายใจเวลาอยู่กับเรา"
ผมสวมถุง ชะโลมเจลให้ทั้งกริชและผมแล้วค่อยๆ ทำอย่างอ่อนโยนที่สุด ดูเขาจะพยายามไม่ร้องเจ็บแต่ยังไงก็คงเจ็บอยู่ดี ผมถามเขาเป็นระยะว่าไหวไหมแต่กริชเต็มใจให้ผมได้สำเร็จความต้องการจริงๆ ซะที กริชเสร็จในมือผมก่อนที่ผมจะเสร็จบ้าง เราสองคนยังกอดกันอยู่แบบนั้น
พอความใคร่หลั่งออกไป ความรู้สึกผิดก็เข้าแทนที่ เมื่อครู่เราเกือบจะบอกความลับไปแล้ว ใจมันเตลิดคิดจะยอมทุกอย่างแต่ตอนนี้กำแพงแห่งความลับกลับก่อตัวขึ้นอีก ผมเห็นแก่ตัวหรือไง หรือเหตุผลกับความเสี่ยงมันมากจนไม่อาจเปิดปาก บ้าชะมัด!!
...
...
"กริช"
"ครับ?"
"....เรา....เรามีหลายๆ....เรื่อง....ที่อยากจะบอก" เขานิ่งเงียบฟังผม
"เรารักกริช รักจริงๆ ไม่ใช่คำสวยหรู ไม่ใช่แค่ความใคร่ ไม่ใช่เรื่องเงินทอง"
"......."
"เราไม่ต้องการอะไรจากกริชทั้งนั้น...เงินทั้งหมดที่กริชเคยให้เราก็ยังเก็บไว้ไม่ได้ใช้เลย เก็บไว้ตลอด"
"อ้าว! แล้วต้นมีอะไรใช้จ่ายล่ะ?"
ผมส่ายหัว ไม่อยากโกหกอีกแล้ว แต่ยิ่งผมพูดเท่าไหร่มันก็ฟังดูเหมือนเด็กขายน้ำที่พยายามทำให้กริชสงสารหวังจะได้เงินมากขึ้น ใจมันเต้นแรงมาก ผมยิ่งพูดเท่าไหร่ใจกริชก็คงคิดเตลิดไปอีกทาง
"ยัง....มีอีกหลายเรื่อง....ที่เราอยากบอก...แต่...." น้ำตาผมเริ่มไหล ความลับมันจะระเบิดอยู่แล้ว ผมอยากให้กริชรู้ ไม่อยากโกหกคนที่ผมรักอีกแล้ว
แต่ผมกลัวว่าถ้าบอกไปแล้วเขาจะเลิกรักผมคนโกหกหลอกลวง กลัวเขาคิดว่าผมจะแบล็กเมล์เขา กลัวเขารับไม่ได้แล้วจะลาออกจากโรงเรียน กลัวชีวิตเขาจะพังทลาย
กริชกอดผมไว้แน่น น้ำตามันทะลักออกมาอย่างสิ้นท่า
"ขอโทษนะกริช! เราขอโทษ!" ผมพูดได้แค่คำเดียวเท่านั้น ชีวิตสองด้าน ความเข้าใจที่ไปคนละทาง คงมีแต่คำนี้เท่านั้นที่ผมพูดได้
กริชแต่งชุดนอนให้ผมเป็นเสื้อยืดกางเกงวอร์มขายาว
"เอ่อ...กริชเราค้างไม่ได้นะ"
"ใส่ไว้ก่อนจะได้อุ่น พอต้นจะไปค่อยคืนผมก็ได้" กริชพูดพลางเอาผ้าห่มคลุมโปงให้ผมที่นั่งคุดคู้บนเตียง ตอนนี้ตีหนึ่งกว่าๆแล้ว
เขาลูบตัวผมอย่างกล้าๆ กลัวๆ ราวกับสัมผัสลูกหมาน้อยที่ถูกรถเหยียบใกล้ตาย
"ต้น ถ้าต้นไม่สบายใจขนาดนี้ยังไม่ต้องบอกอะไรผมก็ได้นะ ผมเร่งรัดอะไรต้นหรือเปล่า? อย่าคิดมากนะ"
กริชห่วงใยผมรู้ แต่เรื่องที่ผมเก็บงำมาตลอดมันยากเกินกว่าจะพูด
รอบตัวมีแต่ความเงียบ ผมรู้ว่าความเงียบกระซิบบอกเรื่องต่างๆ ให้กริชแต่มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย เราสองคนจะไปบรรจบกันตรงไหน.....
"เอ่อ ต้นบอกว่าชอบมอเตอร์ไซค์ใช่มั๊ย? ชอบรุ่นไหนล่ะ?"
"ไม่รู้สิครับ แต่ถ้าจะให้ระบุคงเป็นดูกาตี้999S" เปลี่ยนเรื่องคุยก็ดีเหมือนกัน
"ใหม่แบบนั้นผมไม่มีหนังสือนะ งั้นต้นอ่านเล่มนี้ไปพลางๆ ก่อนละกัน"
กริชเขย่งตัวเอื้อมหยิบหนังสือจากชั้นวางของ ...นั่น...ม้วนกระดาษนั่น.....
"อ่านนี่ไปก่อนนะ ผมจะชงโอวัลตินให้ละกัน ตัวต้นเย็นจัง"
"ขอบคุณครับ"
กริชเดินออกจากห้องลงชั้นล่าง ตามด้วยเสียงแก้วเคร้งๆ แว่วมา แต่ตอนนี้ผมเพ่งความสนใจไปที่ชั้นวางของ
ตอนที่กริชจะเดินออกจากห้องเขาชำเลืองมองมันแวบนึงแน่ๆ ...เหมือนกลัวผมจะไปยุ่มย่ามตรงนั้น
จริงๆ ผมเห็นตั้งแต่เข้าห้องแล้วว่าโปสเตอร์นักบาสมันหายไปหมดแต่ไม่อยากถาม กลัวไปสะกิดใจอะไรเข้า ม้วนกระดาษนั่น....คงเป็นโปสเตอร์ที่ห่อไว้...แต่ทำไมกริชไม่พูดอะไรเลย ....จัดห้องใหม่สวยมั๊ย หรือพูดอะไรก็ได้.....ผมคิดมากไปเองหรือเปล่า?
เขากลับมาพร้อมโอวัลตินอุ่นๆ ผมดื่มอย่างไม่รู้รส ตาจ้องมองแก้วแต่รู้ว่ากริชดูผมอยู่ จะถามเรื่องเก่าๆอะไรนั่นดีไหม? ผมมองเขาอย่างชั่งใจ
"ขอบคุณครับ รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย"
"ต้น ถ้าต้นอยากบอกอะไรผม ผมจะรอให้ต้นพร้อมเองนะ"
"ครับ"
"สบายใจแล้วนะ?"
"ครับ....พี่ชายสุดที่รักของผม" กริชโอบผมเบาๆ แต่ใจผมคิดว่าลูกหมาตัวนี้มันหายใจรวยรินจะไปมิไปแหล่แล้วล่ะ
"เดี๋ยวเรากลับหอล่ะครับดึกมากแล้ว" ผมลุกขึ้นแต่งตัวแล้วยื่นเสื้อผ้าคืนให้เขา
"เราเก็บหนังสือให้ละกันนะ" กริชคว้าข้อมือผมไว้ทันที ....อะไรวะ?
"ผ...ผม...เก็บเองได้ อย่าลำบากเลย"
"........"
"ดึกแล้ว ต้นต้องกลับหอใช่มั๊ยครับ?"
"ครับ ต้องกลับแล้ว" ....เมื่อกี้มันอะไรวะ....ท่าทางร้อนตัว....แววตานั่น....
กริชเปิดประตูบ้านให้ ผมเดินออกไปช้าๆ ในความมืด
ไม่หันกลับไปดูเขาหน่อยรึ? ไม่! ทำไม?
...ความงุนงงกำลังเปลี่ยนเป็นอารมณ์อื่น...ความสงสัย?...หรือว่า....
เออ! จะพูดอ้อมค้อมทำไม กรูกำลังโกรธ! บอกคนอื่นว่าอย่าปิดบังแต่กริชเองก็มีความลับสักอย่างใช่ไหมล่ะ?
เรื่องเก่าๆ ที่บอกว่าลืมแล้วจะเริ่มชีวิตใหม่ ไม่เห็นจะเป็นแบบนั้นเลย!
---------------------------------------------------------------------------------------------------
-
..........ต่างคนต่างมีความลับซึ่งกันและกัน........
..........แล้วจะไว้ใจกันได้ยังไง............. :undecided: :undecided:
-
:serius2:
โอ๊ย สับสน เดาเรื่องไม่ถูกเรย
จะเป็นยังไงต่อไปน๊า.............
มาโพสเร็ว ๆ เน้อ เข้าคิวรอแล้ว :like6:
-
.... :o....
เกิดอาการอย่างแรง...."เราเป็นคิง"...(เฮ้อ) :haun5:
รอลุ้นต่อไปคับ....ว่าจะเป็นอย่างไงต่อไป... o14
-
:freeze: :freeze: เฮ้อเรื่องยุ่งๆ จะตามมาหรือเปล่าเนีย o21 o21
-
:impress:
นั่นดิ จะเกิดเรื่องต่อไปอีกหรือเปล่าเนี่ย
กลัวเพื่อนมาบอกรักนายต้นอีก
มาต่อเร้ว ๆ นะ
-
สักวันความลับของคนทั้งคู่จะต้องเปิดเผยแน่ๆ
ว่าแต่ว่า ความลับใครจะเปิดเผยก่อนกันหว่า
:o10: :o10: :o10:
-
ต่างคนต่างมีความลับ :try2: แต่ความลับใครจะร้ายแรงกว่ากันนี่สิ น่าลุ้น :interest:
-
เรื่องนี้นี่ความลับเยอะเจรงๆ
:onion_asleep: :onion_asleep: :onion_asleep: :onion_asleep:
-
ตอนที่ 20 วันศุกร์ใส่สีฟ้า
วันศุกร์แต่ผมไม่มีความสุขเลยแฮะ ใจมันคิดวนเวียนแต่เรื่องของบนชั้นในห้องของกริช ความลับความหลังของเขาอยู่ตรงนั้นแน่ๆ แล้วทำไมต้องทะนุถนอมขนาดนั้น....ไม่ยอมให้ผมแตะด้วยซ้ำ
ผมโกรธอะไรวะ?...ไม่ได้โกรธ
หรือคิดว่าเป็นเรื่องแฟนเก่า?...หึงอะเดะ...ไม่ได้หึงโว้ย!
งั้นก็กลัว?... ใช่ คำว่า 'กลัว' ใกล้เคียงความรู้สึกผมที่สุด
ผมกลัว...กลัวกริชที่มีความลับเรื่องเก่าๆ อะไรนั่น...กลัวทุกครั้งที่สัมผัสตัวเขาแล้วอาจไปสะกิดมันเข้า...ผมกลัวสีหน้านั่น...แววตาตอนที่เขาคว้ามือผมไว้ แววตาที่เขามักชะงักเวลาผมพูดอะไรบางอย่างออกไป....อย่าทำหน้าแบบนั้นใส่ผมอีกได้ไหม ผมเจ็บ! ใช่นี่แหละความรู้สึกจากเบื้องลึกในใจผม
"ต้น หมดคาบแล้วมรึงไม่ไปกินข้าวเหรอ?"
"มรึงไปเหอะเม้ง กรูไม่มีอารมณ์"
"เออๆ อย่างน้อยวันนี้มรึงก็ดูปกติที่สุดตั้งแต่มรึงเริ่มเพี้ยนว่ะ"
ผมอยากอยู่คนเดียว หาที่เงียบๆ สะสางความคิดที่วุ่นวายนี้ ขยับแว่นเข้าที่เดินก้มๆ หน่อยคงไม่เจอ....
อยากรู้ว้อย! ต้องรู้ให้ได้ บางทีผมอาจช่วยเขาให้ลืมเรื่องเก่าๆ อะไรนั่นได้สำเร็จ ต้องช่วยเขา...ในฐานะคนรักต้องทำอะไรสักอย่างว้อย! แต่ผมต้องรู้ซะก่อนว่ามันคือเรื่องอะไร! ทางเดียวที่จะรู้ได้คือชั้นวางของนั่น คำตอบทุกอย่างต้องอยู่ที่นั่นแน่!
แต่จะเข้าถึงมันได้ยังไงวะ? เวลาอยู่กับกริชก็ทำเรื่องซุกซนกันตลอด หรือจะรอเขาหลับ เสี่ยงเกินไปเกิดเขาตื่นมาเห็นเขาคงคิดว่าผมกำลังขโมยของในบ้านเขา ติดคุกสิกรู!
...ถ้าได้กุญแจบ้านเขามาล่ะก็...กุญแจ...
วันนี้ใส่กางเกงในสีฟ้าจะโชคดีไหมเนี่ย? (หาที่ใส่ตรงอื่นไม่ได้อะ มันเด่นเข้าตาอาจารย์ปกครอง)
เสียงลูกบาสดังมาก่อนผมจะเลี้ยวตรงมุมโรงอาหาร เวรล่ะใครมาเล่นใกล้ๆนี่ เดินทางอื่นดีกว่า
"กริช เฮ้ย! กริช ทางนี้ๆ!!!"
จ๊ากกก!! ใส่กุงเกงลิงสีฟ้านี่ท่านโมโหเหรอท่านเจ้าพระคู๊ณ!! ไม่ใช่เวลาบ่นว้อย ตั้งสติเข้า! กริชอยู่ทางไหน!?
"เออ เรียกทำไมวะ?"
"เล่นบาสกัน"
"กรูจะไปกินข้าว แดดเปรี้ยงๆร้อนตายชัก"
เสียงสนทนาดังอยู่อีกด้านของมุมโรงอาหาร เขาอยู่ใกล้แค่นี้เอง ต้องหนีแล้ว! อย่ารีบเร่งเดี๋ยวผิดสังเกต หันปกติ แล้วก้าวเท้าซะ...
"เล่นกันก่อนดิ๊กริช"
"กรูกลัวไข่ลูกเขยหมดว่ะ"
"อะไรจะเสี้ยนอยากกินขนาดนั้น? หรือเมื่อคืนเสียโปรตีนไปเยอะวะ ฮ่าฮ่า" อุ๊ก! ใครพูดเข้ากลางใจเลย
"กริชมันคงเตรียมตัวจะเป็นลูกเขยบ้านไหนล่ะมั้ง" เหอเหอ....ใครกันแน่จะได้เป็นลูกเขย
"เวลานี้แหละดีสนามว่าง เที่ยงสี่สิบค่อยไปกินข้าว โรงอาหารก็โล่งดีด้วย"
"เออ เล่นก็เล่น" เสียงกริชหัวเราะกลบเกลื่อนตามด้วยเสียงของหนักๆ ลงปุ๊ใกล้ๆ ตัวผมนี่เอง เสียงเหมือนหนังสือหล่นบนขอบปูนข้างโรงอาหาร เป็นกิริยาที่นึกภาพได้เพราะผมก็เด็กบาสคนนึง ร่าเริงจริงนะกริช ผ่านเรื่องเมื่อคืนเขาจะอยู่ในอารมณ์ไหนเนี่ย จะไปรู้รึ? ผมยังบอกความรู้สึกตัวเองไม่ถูกเลย
แคร้ก!! เสียงพวงกุญแจหล่นบนหนังสือ หูดีไหมล่ะไม่ต้องดูก็รู้หมด
..
..
กุญแจ!!!!
..
..
คนที่เปิดฝาโออิชิเจอ 1 ล้านคงรู้สึกแบบนี้แหงๆ ชีวิตพิสดารดั่งนิยายอะไรจะโชคดีมหาศาลขนาดนี้!!
อยากชะโงกหน้าไปดูให้แน่ใจว่าเป็นพวงกุญแจของกริชจริงมั๊ยแต่เสียงคนเล่นบาสอยู่ใกล้มาก ถ้าเป็นปกติผมน่าจะรีบหนีจากตรงนี้แต่เจ้าพระคุณอุตส่าห์ส่งโอกาสดีขนาดนี้มา จะทำยังไงดี!!!
ด้วยดวงตาแห่งธันดาร่า! ข้าขอเห็นภาพ!!! โว้ย...ตรูบ้าไปแล้วแน่ๆ <--- (มุขธันเดอร์แคท แก่ไปใหญ่เลย)
ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่มันคือแสนไกล..... เพลงเอนโดรฟินบรรเลงประกอบในสมอง
กลางโรงเรียนตอนพักกลางวัน
นักเรียนครึ่งโรงเรียนกำลังทานข้าวในโรงอาหารข้างๆ ตรูนี่เอง
ต่อหน้าคนห้าหกคนที่กำลังชุลมุนเล่นบาสอยู่ตรงหน้านี้
หนึ่งในนั้นคือกริชซะอีก!
โอกาสสำเร็จมีสักแค่ไหน? คิดเข้าๆๆ ....เป็นไปไม่ได้เลย.....
โดนจับได้นี่ความแตกคาหนังคาเขาเชียวนะ แถมเป็นอาชญากรรมอีก แต่โอกาสแบบนี้คงไม่มีอีกแล้ว เอาไงดี! หาจังหวะอื่นดีกว่ามั้ง...คิดเข้าสิอย่ายอมแพ้! แผนอะไรที่มีในหัวเอาออกมาให้หมด จะมัวยืนตรงนี้นานๆ ก็ไม่ได้เขาอาจเดินเลี้ยวมาตรงนี้ตอนไหนก็ได้ เราห่างกันแค่ระยะห้าก้าวเองมั้ง!
เสียงพวงกุญแจดังชัด มันน่าจะวางบนหนังสือข้างโรงอาหารไม่ไกลจากตำแหน่งผมนัก แต่จะทำให้คนทั้งวงบาสตอนนี้หันไปอีกทางพร้อมกันได้ยังไง?
ปาฎิหาริย์ไม่เกิดซ้ำสอง เราต้องสร้างมันเอง!!!
นักเรียนอีกกลุ่มกำลังเดินมาข้างหลังผม โอกาสเดียวเท่านั้นต้องคว้าไว้ให้ได้! ผมหยิบสิ่งหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงกับอีกสิ่งจากกระเป๋าตังค์ หันหน้าเข้าข้างฝาแล้วประกอบมันให้พร้อมลงมือ....
...กริช ขอให้นายรู้ไว้ว่าทุกอย่างที่ผมทำนี่ทำเพื่อนายนะ...
กดปุ่ม!!!
..
..
..
-
..........ต้นจะทำไรหว่า.........ลุ้นๆ........ :interest: :interest:
-
ไรหว่า... :confuse:
ลุ้นด้วยคนคับ... o14
-
มาลุ้นด้วยคน o15
-
ตามมาลุ้นด้วยอีกคนน๊า
ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
-
กดปุ่ม ปุ่มไรหว่าโทรศัพท์ อะเปล่าหรือ ต้นจะว่างระเบิด :haun5: :laugh3: :laugh: o3
-
ปุ่มไรหว่า ต้นคิดจะทำไรอีกแล้วววว
-
เหอเหอ อย่าบอกนะว่า วางระเบิดสนามบาสไว้ :laugh: :laugh:
-
ปุมไรอะ o2
-
แค่เป็นเกย์ก็ลำบากพอแล้ว
ยังจะมาทำให้เรื่องมันยุ่งยากเข้าไปอีก ตามลุ้นทุกช็อทจริงๆ
ขอบคุณครับ :yeb:
-
o15
โทรศัพท์หรือเปล่า
สงสัย มาต่อเร็ว ๆ เน้อ
:impress:
-
โอ้ว...เรื่องเยี่ยมอีกเรื่องหนึ่งครับ
ยิ่งตอนท้าย ๆ เรื่องนับถือคนแต่งเลย o13
-
..
..
..
สำเร็จมั๊ย? ต้องสำเร็จ!!! ผมยืนลุ้นเหตุการณ์ที่ไม่มีโอกาสเห็น
ใจเต้มตูมตาม หูก็ตั้งสมาธิฟังเสียง ขอให้เป็นไปตามที่ผมคาดไว้ด้วยเถิ้ด!!
"กริชเป็นไรวะ?"
"กรูขอตัวก่อนนะ" เสียงเขาวิ่งแล้ว เสียงฝีเท้าที่ออกวิ่งเพื่อผม เสียงวิ่งนั้นเคลื่อนห่างออกไปทางหลังโรงเรียน คนละทางกับผมที่อยู่ตอนนี้เลย
"อ้าวเฮ้ย! กริชแกจะไปหน๊าย?!"
จังหวะนี้แหละ!! ผมเลี้ยวปราดผ่านมุมโรงอาหาร ตาไวเท่าใจคิด กุญแจอยู่ตรงนั้น ที่หางตาเห็นกริชวิ่งห่างออกไป คนทั้งวงมองตาม
"อะไรวะ? จู่ๆกริชมันก็วิ่งหน้าตั้งไปเลย?"
ไม่เอาอีกแล้ว เรื่องเสี่ยงชวนหัวใจวายแบบนี้!!! หัวใจมันเต้นเจียนระเบิด ผมรีบกดวางหูโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง ส่วนกระเป๋าอีกข้างมี.....พวงกุญแจ....
อย่างที่คิดไว้ถ้าผมใช้ซิมอันนี้โทรหาเขา...ซิมของเด็กขายน้ำชื่อต้น...กริชต้องวิ่งไปหาที่ๆ ปลอดคนที่สุดเพื่อคุยกับผม แล้วคนในวงบาสคงมองตามกริชไป เป็นแผนที่ห่วยที่สุดจนไม่คิดว่าจะต้องใช้จริงๆ แต่ก็สำเร็จ มือถือสั่น! กริชกำลังโทรกลับมาแต่ปล่อยไว้แบบนี้ก่อน
ใจเต้นจนผมทรุด อย่าเพิ่งนะ! ผมรู้สึกหน้ามืดจะสลบจริงๆ สงสัยเมื่อคืนเสียโปรตีนไปเยอะ แต่มันยังไม่จบ!!! มีเรื่องต้องทำอีก!!!
"เม้ง!"
"อะไรวะ?" มันเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ บนโรงอาหาร แต่พอหันมามันก็ตกใจสุดชีวิต
"เฮ้ย! ต้น ไมมรึงหน้าซีดปากสั่นขนาดนี้!"
"กรู...ขอกุญแจ..หอ....มรึงหน่อย"
"ไปหาหมอดีกว่า มรึงแย่แล้วนะ"
"กรูขอร้อง แฮ่กๆ ขอกุญแจหอ...มรึง"
"จะทำไรวะ?" เม้งยังงง ผมคงหน้าเหมือนคนใกล้ตายจริงๆ ตัวผมเย็นไปหมดแล้ว เวลาเหลือน้อยและผมกลายเป็นอาชญากรเต็มขั้น
"จะ...แฮ่กๆ...จะโดด! อย่าถามอะไรอีกเลย กรู...ไหว้ล่ะ"
"เอาๆ แน่ใจว่ามรึงไหว? กรูโดดเป็นเพื่อนมั๊ย ห่วงว่ะ" ....ขอโทษนะเม้ง....
ผมออกวิ่งอีกครั้ง มือถือยังสั่นเป็นช่วงๆ กริชยังกระหน่ำโทรกลับมาช่วยให้ผมวางใจได้ว่าเขาต้องอยู่ที่ๆ ลับตาสักแห่งไกลจากตรงนี้ ผมเหลือบดูหน้าจอให้แน่ใจว่าเหลือเวลากี่นาที ถ้ากลับเข้าโรงเรียนทันในช่วงพักเที่ยงก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าขึ้นคาบห้ายามจะพาผมไปรายงานตัวที่ห้องปกครองซึ่งอันตรายสุดๆ
เข้าหลังห้องน้ำ...ปีน! ทิ้งตัว!....ออกวิ่งต่อไปหอเม้ง ได้กุญแจมาแล้วแต่ยังเหลือสองขั้นตอนสุดท้าย
ถึงหอมันแล้ว ไอ้กุญแจบ้าอย่าดื้อสิฟระ!
เข้าห้องไอ้เม้ง รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ขืนวิ่งไปในชุดนร.เกิดมีอาจารย์จับได้กลางทางแผนจบเห่แน่
วินมอไซค์วินเดียวในละแวกนี้ก็มาทำงานเฉพาะเวลาโรงเรียนเริ่มกับเลิกเท่านั้น ตอนกลางวันมันเงียบเป็นเป่าสาก
ยัดชุดนร.ลงถุงแล้วหอบวิ่งต่อไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตตรงสี่แยก ไกลที่สุดในชีวิตเลยโว้ยยยยยย!!!!
มือถือสั่นอีกแล้ว! วินาทีนี้ผมอยากได้ยินเสียงเขาที่สุดแต่ทำไม่ได้ รู้ไว้นะเราทำเพื่อนาย!!! ซุปเปอร์มาร์เก็ตอยู่ห่างไปราว 1 กิโลเมตร เป้าหมายของผมอยู่ที่นั่น ขาซ้ายเริ่มทรุดแต่ใจเกินร้อยเฟร้ย!
ออกวิ่งต่อ...จะถึงซุปเปอร์ฯแล้ว ชะลอฝีเท้าลง ปาดเหงื่อหายใจลึกๆ....ต้องสำเร็จ...ลองพยายามพูดซิ...ใช้ได้ไม่หอบแล้ว....เดินเข้าไปเลย....
มือถือไม่สั่นมาช่วงนึงแล้ว กริชคงเลิกโทรและกำลังเดินกลับมาที่แป้นบาส ป่านนี้คงรู้แล้วว่าพวงกุญแจหายไป ช่างเถอะวิธีเอาไปคืนนั้นง่ายมาก
ถึงแล้ว ร้านเล็กๆ กับเครื่องมือแปลกตาที่มุมซุปเปอร์มาร์เก็ต
"ปั๊มสองดอกนี้ครับ"
*********************************************************
12:51 ต้องรีบแล้ว ผมเปลี่ยนกลับมาเป็นชุดนร.ในห้องน้ำของซุปเปอร์ฯ สั่นยังกะเจ้าเข้าแล้วตรู
รีบเดินออกจากอาคาร เรียกรถกะป๊อหน้าห้างไปโรงเรียน
"ด่วนเลยครับ" แค่สามนาทีต่อมาก็ถึงประตูโรงเรียน การมาด้วยรถกะป๊อดูสมบทบาทเด็กป่วยดีไม่น่ามีอะไรผิดพลาด เดินเข้าประตูยามก็จะทัก...
"ทำไมเพิ่งมาล่ะหนู" ....นั่นไง....
"ไม่สบายครับ" หน้ากรูตอนนี้คงไม่สบายคล้ายจะสิ้นชีวิตโดยไม่ต้องสวมบทบาท
"อือๆ ไหวนะ? รีบไปล่ะ ถ้าอาจารย์มาจะแย่"
ผมเดินลากสังขารไร้วิญญาณพลังงานเข้าใกล้ศูนย์ขึ้นบันไดกลับมาถึงห้องจนได้ ไม่อยากเชื่อว่าผมทำทั้งหมดนี่ได้ภายในพักกลางวันจริงๆ
ฟุบลงกับโต๊ะหมดสภาพแล้วตรู ...ขอนอนล่ะนะเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว
"มรึงเป็นคนที่โดดเรียนได้สั้นที่สุดที่กรูเคยเห็นมา โดน'จารย์จับได้เหรอวะ?"
เม้งนั่งมองผมเหมือนพยายามคิดว่าผมโดดไปทำไมวะกลับมาทันคาบห้าด้วย
"......" ผมหันหน้าไปหามันแต่ยกหัวให้พ้นโต๊ะไม่ไหวจริงๆ ท่าส่ายหัวเหมือนคนกำลังเอาหัวถูโต๊ะหาเลขเด็ด
"ดีใจว่ะที่มรึงยังไม่ตาย กรูโคตรเป็นห่วงเลย"
"นาย...เป็นเพื่อนรักของเราจริงๆ เม้ง....ขอบใจนะ อะกุญ..แจหอ"
นั่นเป็นประโยคสุดท้ายของชายที่ชื่อบัวลอย...เอ๊ย!...ต้น ก่อนจะหลับยาวตลอดคาบพร้อมกุญแจของกริชและกุญแจใหม่เอี่ยมสองดอกนอนนิ่งในกระเป๋า
******************************************************
จบคาบหก หลังจากเรียนตลอดสองคาบ (นอน) ผมก็เริ่มดีขึ้น
ช่วงพัก 10 นาทีก่อนเริ่มคาบเจ็ดเป็นเวลาสะดวกที่จะเอากุญแจไปคืนแต่ไม่ได้คืนกริชเขาหรอก ไม่จำเป็นต้องเหนื่อยแบบนั้น
ช่วงเวลานี้ทุกวันสหกรณ์หน้าหน้าห้องปกครองจะเปิดขายนมขวดซึ่งไม่รู้ใส่ยาเสน่ห์อะไรเด็กทั้งโรงเรียนถึงรุมแย่งกันซื้อราวกับเทศกาลเทกระจาด
เป็นภาพที่ชินตาน่ายกเป็นสินค้า OTOP ผมชำเลืองให้แน่ใจว่าไม่มีกริชในห้องปกครอง เอาละ! อาศัยความชุลมุนเดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์หน้าห้องปกครอง
"เก็บกุญแจได้ครับ" อาจารย์รับกุญแจไปใส่ช่อง 'ของหาย'
"เดี๋ยวเขียนชื่อเธอตรงนี้นะจ๊ะ เผื่อเจ้าของเขาจะขอบคุณ...อ้าว...ไปไหนแล้ว?"
เจ้าพระคุณครับ ขอบคุณมากๆ ต่อไปจะซื้อกุงเกงลิงให้ครบทุกสีเลย ใส่เจ็ดสี-ดีเจ็ดวัน
ขายหนังโป๊...นั่นก็หนึ่งกระทง
เข้าร้านเหล้าทั้งที่อายุไม่ถึง...นี่ก็ด้วย
ขายบริการก็ทำแล้วแม้จะเป็นเรื่องตกกระไดพลอยโจน รับเงินมาอีกตะหาก
ขโมยกุญแจก็ทำแล้วแถมเจตนาปั๊มไว้อีก
ต่อไปคือลอบเข้าบ้านคนอื่น! เหอเหอ สถานพินิจเยาวชนจะน่าอยู่ไหมเนี่ย?
แล้วจะแอบเข้าบ้านกริชตอนไหนดี?
วันนี้วันศุกร์ตามปกติกรรมการกีฬาสีจะประชุมยาวเพราะพรุ่งนี้วันเสาร์ไม่ต้องเรียน งั้นก็เย็นนี้เลยมั๊ย?
ขาผมยังสั่นนิดๆ ล้าจากการวิ่งมาราธอน...เอ่อ เรียกว่าฉกชิงวิ่งราวจะเหมาะกว่านะ เหนื่อยก็สู้เพื่อรักว้อย!
ตรื้ดๆๆๆ มือถือในกางเกงสั่นแฮะใครโทรมาเนี่ย? จะเอื้อมมือดึงมือถือออกมาแต่...เดี๋ยว...
ตั้งแต่ตอนขโมยกุญแจแล้วผมได้เปลี่ยนซิมหรือเปล่า?...ซิมในเครื่องตอนนี้น่าจะ...เหยย! ซวยแล้วสิ....
ผมปล่อยมือถือไว้ในกางเกงอย่างนั้น ก้มหน้าเดินงุดๆ เข้าห้องเรียน เดินให้ปกติอย่าสบตาใครทั้งนั้น...
ผมรอให้คาบเจ็ดเริ่มไปได้เกือบ 20 นาทีค่อยดึงมือถือออกมาช้าๆ
กริชโทรหาคุณเป็นจำนวน 15 ครั้ง
SMS จากกริช จะอ่านหรือไม่?
ทั้งที่คิดวางแผนทุกอย่างแต่กลับสะเพร่าเสียบซิมนี่คาไว้แถมไม่ปิดเครื่องอีก สงสัยผมคงหลับสนิทไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่ามือถือสั่น นึกย้อนกลับไปช่วงสองคาบที่ผ่านมาผมสะเพร่าปล่อยตัวเองหมิ่นเหม่น่าหวาดเสียวได้ขนาดนี้เชียว บรึ๋ย....
---เป็นไรรึป่าวไม่รับสาย เป็นห่วง ทำงานถึงสี่ทุ่ม จะรีบโทรหา---
ความรู้สึกผิดเต็มอกอีกแล้ว แต่สักวันกริชจะเข้าใจว่าทั้งหมดนี้ผมทำเพื่อเขา ผมรีบพิมพ์ SMS ตอบกลับเพราะไม่อยากให้เขาเป็นห่วงมากกว่านี้
---ใส่มือถือในเป้ คงโดนปุ่ม ขอโทษนะจะรอโทรจากนาย---
ส่ง SMS เสร็จก็รอสักพัก กริชไม่ตอบกลับมาอีก เขาคงสบายใจแล้วหรือไม่ก็ไม่สะดวกที่จะตอบอีก ผมกดปิดเครื่องพลางคิดในใจ...เย็นนี้ทำงานถึงสี่ทุ่ม....
อะไรจะสะดวกโยธินขนาดนี้ หุหุ สงบราบเรียบยังกะทะเลไม่มีคลื่น ท่าทางปฎิบัติการนี้จะไปได้ตลอดรอดฝั่ง ผมนั่งคิดแผนไปเรื่อยๆ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-
:try2:...อ่านแล้วเหนื่อยแทน
รอฟังผลคับ... o14
-
"สะดวกโยธิน" ----พึ่งเคยได้ยินสำนวนนี้นะเนี่ย o8
ว่าแต่ทางจะสะดวกจริงเร้อ ไม่อยากไว้ใจคนแต่งเลย
เอาเป็นว่ารออ่านต่อแล้วกัน
ขอบคุณมากนะครับ :yeb:
-
..........ทำไปได้...... :laugh: :laugh: :laugh:
..........เหมือนวางแผนโจรกรรมข้ามชาติไงก็ไม่รู้......... :o9: :o9:
-
อย่างที่คิดไว้ถ้าผมใช้ซิมอันนี้โทรหาเขา...ซิมของเด็กขายน้ำชื่อต้น...กริชต้องวิ่งไปหาที่ๆ ปลอดคนที่สุดเพื่อคุยกับผม แล้วคนในวงบาสคงมองตามกริชไป เป็นแผนที่ห่วยที่สุดจนไม่คิดว่าจะต้องใช้จริงๆ แต่ก็สำเร็จ
เหอ เหอ แผนอย่างนี้ก็คิดมาด้ายยยยยยยยยยย o22
-
เหอ เหอ อ่านแล้วเหนื่อยแทน อะไรมันจะขนาดน้านนนนนนน o7
แต่คิดอีกทางก็นะ ต้นคงแคร์กริชมากจริงๆ แหละ มากจนเป็นไปได้ขนาดนี้ 55
รออ่านต่อน้าหมูพูห์ เป็นกำลังใจให้จ้า o15
-
อ่านตอนฉากวิ่งเอากุญแจไปปั๊มแล้วเหนื่อยตามเลยอ่ะ
แบบว่าอินสุดๆ :laugh3: :laugh3: :laugh3:
-
ตอนที่ 20 บ้านหลังนั้น........
"ต้น เย็นนี้กรูจะไปเดินเดอะมอลล์หาซื้อรองเท้าบาส ไปด้วยกันมั๊ย?"
"กรูไม่ว่างอะเม้ง คู่เก่าก็ยังใช้ได้ มรึงไปเหอะ"
จะว่างได้ยังไงเมื่อผมเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจใหญ่เย็นนี้แล้ว
เสียงกริ่งจบคาบแปดคือการเริ่มปฎิบัติการ ผมเกาะกลุ่มนักเรียนที่แห่กันออกประตูหน้าอย่างบ้าคลั่ง ถ้าใครได้เห็นโรงเรียนนี้จะรู้ว่าบ้าคลั่งจริงๆ ขนาดที่ยามสองคนต้องมายืนกันประตูไว้ ไม่รู้นักเรียนพวกนี้จะทรมานอะไรนักหนาต้องรีบออกตั้งแต่วินาทีแรก ดีนะเขาไม่เอารถน้ำมาไล่ฉีด ผมว่าหลังเลิกเรียนมันเหมาะกับการเล่นบาสเนียนๆ จนห้าโมงเย็นเป็นที่สุด
ดูภาพความชุลมุนตะเกียกตะกายนี่แล้ว...เหมือนหนังเรื่อง Night Of The Livi.....ไม่ๆๆ เรื่องดีๆ มีตั้งเยอะทำไมจู่ๆ จะไปคิดถึงหนังแบบนั้น
จะซ่อนใบไม้ต้องซ่อนในป่า ยังไงเกาะกลุ่มนักเรียนโรงเรียนเดียวกันไว้น่าจะปลอดภัยที่สุด
จากปากซอยโรงเรียนก็ต่อรถเมล์อีกห้าป้าย จากนั้นก็เดินเข้าซอยลึก ใกล้แล้วๆ
ผมกำกุญแจในกระเป๋า อีกมือถือถุงใส่ชุดไปรเวทที่ใช้เมื่อตอนเที่ยง มันอาจมีประโยชน์ยามฉุกเฉิน...จากนี้จะถอยกลับไม่ได้แล้ว!
เดินมาใกล้ถึงบ้านหน้ากริชแล้ว เดินจังหวะเดิมให้เหมือนบ้านเราเอง ตาก็สอดส่องดูวี่แววคนในบ้าน
อ๊ะ!นั่น! เหมือนมีหญิงชราในชุดนอนนั่งเก้าอี้โยกริมหน้าต่าง ......ไม่! ความกลัวทำให้ตาฝาด แต่มันเหมือนภาพในเรื่อง Psycho.... ทำไมใจมันถึงถึงแต่หนังพวกนี้.....คิดมากไปเองมั้ง....
กุญแจใหม่เอี่ยมยังฝืดๆขัดๆ เหมือนจะแกล้งให้ผมเหงื่อตกแต่ก็สามารถไขประตูรั้ว ตามด้วยประตูบ้าน ล็อกสองชั้นแบบนี้ไม่มีคนในบ้านจริงๆ ละมั้ง แล้วประตูก็ค่อยๆ แง้มออก
...กลัวง่า....ไอ้บ้า! จะกลับหลังหันหรือสำนึกผิดก็สายไปแล้วโว้ย!...
ผมลงกุญแจประตูบ้านแบบเดียวกับประตูรั้ว บ้านที่เคยทำซุกซนกับกริชหลายครั้งแต่วันนี้ดูวังเวงน่ากลัว เพิ่งรู้วันนี้แหละว่าความเงียบมันก็มีเสียง
เป็นเสียงที่น่ากลัวมากๆ ด้วย เพิ่งสังเกตว่ากริชมีตะกร้าหวายวางอยู่ในมุมมืดของบ้าน...อืม...อยากรู้จังน้า......อะไรอยู่ในตะกร้า....
ไอ้คนเขียน! เดี๋ยวเถอะ! สามครั้งแล้วนะ t(-_-*)
ผมเปิดมือถืออีกครั้งเผื่อกริชโทรมา เอ่อ...เผื่อเจอผีจะได้โทรให้เขามาช่วยทัน ยังไงก็ผีบ้านมันเองคงคุยกันรู้เรื่อง
ค่อยๆย่องไปที่บันได บันไดไม้ เงยหน้าขึ้นไป.....จูออน.....ภาพที่ผีคายาโกะคลานลงบันไดมา.....
พล่อกกก!!! ต้นต่อยผู้เขียนสลบเหมือด..........
XXX กันที่บ้านนี้ตั้งสามหนแล้วน่าจะยืนยันได้ว่าไม่มีคนอื่นแน่ๆ คิดแล้วเขินแต่ก็ช่วยให้อุ่นใจขึ้น ผมมาถึงประตูห้องของกริชแล้ว เข้าไปเลย.....
ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ผ้าปูเตียงผืนใหม่ขึงตึง มีแต่ผมกับกริชเท่านั้นที่รู้ว่าเมื่อคืนเรานัวเนียกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันขนาดไหน....เขินว้อย....
แล้วเวลาปกติที่กริชนอนคนเดียวจะน่ารักขนาดไหนนะ ค่ำๆ ย่องมาลักหลับดีมั๊ย..........(ต้องเข้าใจนะครับ ย่องเข้าบ้านคนอื่นเลยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว)
รีบๆ จัดการให้เสร็จดีกว่า ผมหันไปที่ชั้นวางของด้านบนสุดนั่น จากตรงนี้ยังเห็นม้วนโปสเตอร์และสันหนังสือมอเตอร์ไซค์ที่กริชหยิบมาให้ดูเมื่อคืน
ผมหยิบเก้าอี้มาเป็นฐานยืนให้ถึงชั้นนั่นเต็มๆตา นอกจากของสองอย่างนั้นก็มีแค่สมุดกองใหญ่หลายกองกับลังกระดาษและของจิปาถะนิดหน่อย
ยังไงเอามือถือถ่ายรูปไว้ก่อนจะได้เรียงคืนไม่พลาด ลองชะโงกในลังมีของกระจุกกระจิกเยอะแยะ มีกล่องดินสอเหล็กสีดำที่สนิมเขรอะเหมือนครั้งหนึ่งเคยผ่านการใช้งานอย่างโชกโชนแต่วันหนึ่งก็ถูกทอดทิ้ง
.....ลืมเรื่องเก่าๆ ให้ขาดไปซะ.....
.....ชีวิตเราจะเริ่มใหม่แล้ว.......
อย่าเพิ่งสนเจ้าลังนี่เลยรื้อแล้วคงเรียงกลับไม่ถูกแน่ ผมหันไปหากองสมุด สมุดแบบนักเรียนทั่วไปใช้กันมีทั้งเล่มหนาเล่มบางแต่ล้วนเยินที่สันมุมบอกให้รู้ว่าผ่านการใช้งานมาแล้วทั้งสิ้น ผมหยิบเล่มบนสุดที่ค่อนข้างใหม่มาดู ......ไม่ใช่ตราโรงเรียนผม
...ชื่อบนหน้าปกนั่น...ก็ไม่ใช่ชื่อนายคมเดช.....ผมจ้องดูชื่อที่แปลกตานั้นอย่างสับสน
นายสิงหราช ................
ใคร? แล้วทำไมอยู่ในห้องกริช? ถ้ากริชอยู่บ้านนี้คนเดียวแล้วทำไมถึง...ความคิดแรกแว่บขึ้นมาให้หนาววูบ....บ้านนี้มีคนอื่นด้วย!!!
ผมยืนนิ่งตัวแข็งขนลุกซู่ ......มีแต่ความเงียบ.....อย่าคิดอะไรให้ตัวเองกลัวดีกว่า
'นายสิงหราช' ชื่อที่ทำให้รู้สึกแปลกแยก เหมือนอักษรที่เรียงกันเป็นชื่อนี้กำลังผลักผมออก......อย่ามายุ่ง.....ไปซะ....
เล่มนี้เป็นวิชาคณิตศาสตร์ เขียนไว้ว่า ชั้นม. 6/8
ลองเปิดดูมันถูกใช้ไปได้ราวครึ่งเล่มเท่านั้น หน้าที่เหลือยังว่างเปล่า แล้วเล่มอื่นๆ ล่ะ?
มีสมุดไล่เรียงลงไปตั้งแต่ชั้นม.5....ม.4 .....3.....2....จนถึงม.1 ที่เยินและเป็นขุยที่สุด
นี่ผมกำลังมองดูใครอยู่? เจ้าของสมุดพวกนี้? ...นายสิงหราช... เขาอยู่กับกริชในบ้านนี้ตลอดเวลาที่กริชพาผมมาพลอดรักกันหลายครั้ง ....กริชปิดบังผมมาตลอดว่าเขาอยู่ใกล้แค่นี้!?
ไม่ใช่! ไม่สอดคล้องกันเลย! สมุดจดที่น่าจะถูกใช้ทุกวันกลับมาอยู่ซะสูงจนต้องเขย่ง
โต๊ะเก้าอี้ในห้องก็มีแค่ชุดเดียว ถ้าคนๆ นี้ทำการบ้านที่อื่นก็น่าจะเอาสมุดเก็บไว้ที่นั่นด้วยไม่ใช่ในห้องกริช
ผมไล่ดูรายชื่อวิชาทั้งหมดบนปกสมุด ....มีอะไรบางอย่างมันผิดปกติ..... คณิตศาสตร์, สังคม, ภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ และอีกหลายวิชาของสมุดชั้นม.6
นี่มันแทบครบทุกวิชา ถ้าคนๆนี้อาศัยอยู่นี่จริงแล้ว...วันนี้...วันศุกร์เขาไม่เอาสมุดไปโรงเรียนเลยเหรอ?
วิชาสังคม! เล่มที่ผมเห็นเมื่อครู่ไง ... ผมเปิดอย่างแผ่วมือกลัวจะทำมันขาดให้กริชสงสัยทีหลัง
ย้อนจากช่วงกลางเล่มตรงหน้าสุดท้ายที่มีการใช้งานแล้วไล่ย้อนมาเรื่อยๆ
ตอนนี้ข้างนอกเริ่มมืดลงแล้วจะเปิดไฟก็ไม่ได้เดี๋ยวใครเห็นเข้า......น่าจะมีนะ....เนื้อหาอะไรสักอย่างที่...เจอล่ะ....
การบ้าน: สรุปข่าวสังคมภายในประเทศ แบบนี้แหละที่ผมหา!!
แต่......ข่าวนี่มัน....ผมจำได้ชัดเจน.....ข่าวปีที่แล้ว.....
..
..
..
-
ตึกๆ ตึกๆ
ลุ้นอยู่คร๊าบ
ข่าวอารัยหว่า :confuse:
ต่อด่วนคร๊าฟฟฟฟ
o9 o9
-
ตามลุ้นแบบระทึก
อ้าว .. ต้นต่อยคนแต่งสลบแบบนั้น แล้วใครจะแต่งต่อหว่า :o
จะอ่าน จะอ่าน o9 o9
-
อ่านแล้วลุ้นแทบบ้า... :sad5:
...
แต่ที่ลุ้นมากที่สุดก็ไอ้ตรงที่มันหลอนเป็นเรื่องเป็นราวเนี่ยแหละ o22 o22
อ่านไปแล้วก็กลัวมันจะพลิกล็อคจากนิยายรักกลายเป็นนิยายสยองขวัญ
-
เริ่มน่ากลัวอ่ะ o21 แอบลุ้นอย่างแรง o17
ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
-
เค้าคือใครน๊อ เค้ามาจากไหน . . .
ชื่อชวนฝันดีจัง "สิงหราช" :give2:
-
ลุ้น ลุ้น ตื่นเต้นจิง จิง ตอนนี้ o21
-
ตื่นเต้นดีแท้เน้ออออ
-
...........ความหลังครั้งเก่า........
...........ที่จะพยายามลบออกไปจากใจกริชรึเปล่า........ o7 o7
-
:impress:
มาต่อไว ๆ นะครับ รออยู่
ไม่ได้อ่านมาหลายวันแล้ว จะลงแดงตายแล้วเด้อ
เร็ว ๆ นะ
:teach:
-
พรุ่งนี้มาต่อให้นะครับ
งานยุ่งมากมายยยยยย
เครียดว้อยยยยย
:o
-
มาต่อให้แล้วครับ
----------------------------------------
ขนลุกซู่ไปทั่วทั้งตัวยังกับบ้านเย็นยะเยือกกระทันหัน ผมกำลังถือสมุดของคนที่....คนที่มีตัวตนเมื่อหนึ่งปีก่อน....แล้วตอนนี้ล่ะ?
ไม่เอาแล้ว!! อะไรบางอย่างเริ่มหลอนๆ ผมต้องรีบออกจากที่นี่ดีกว่าก่อนที่แสงอาทิตย์ยามเย็นจะหมด
สมุดและลังถูกจัดเข้าที่เดิมอย่างร้อนรน ลำดับยังไงเล่มหลังอยู่ก่อนอยู่หลัง ....ไม่น่ามาเลยวุ้ยเรา..... ตรวจดูกับรูปในกล้องมือถืออีกทีคงเหมือนแล้วล่ะ
รีบไปจากที่นี่ซะ! ผมรีบปัดฝุ่นเก้าอี้ไม่ให้เหลือรอยถุงเท้าแล้วจัดเข้าโต๊ะ หยิบถุงเสื้อผ้ากับกระเป๋าขึ้น ผมกำลูกบิดพลางมองรอบตัวอีกทีให้แน่ใจว่าไม่เหลือร่องรอยแล้ว
...เอโกะเอโกะ...อาซารากุ.....เอโกะเอโกะ...ซาเมรากุ.... เสียงหลอนแว่วมาจากที่ไหนสักแห่ง....สนุกมากใช่ไหมเจ้าคนเขียน!!
ใส่แว่นแล้วไขกุญแจประตูบ้านออกไป มือที่สั่นเทาทำให้ทุกอย่างยิ่งยากเข้าไปอีก หันกลับมาลงกุญแจจากนั้นก็ทำแบบเดียวกันกับประตูรั้ว แสงโพล้เพล้เต็มทีเอื้อความมืดให้ซ่อนตัว ผมหันกลับแล้วออกเดิน ท่องไว้ๆ อย่าทำตัวหลุกหลิก ไม่มีใครทักใช่มั๊ย?...ไม่มีใครทัก...ไม่มีใคร....
รถเก๋งคันนึงกำลังแล่นมาข้างหน้าผม...อย่าไปสนใจ...แต่ทำไมชะลอความเร็วลง?
แถมยังขับเบี่ยงมาทางนี้นิดๆ ...อย่าสน.... ก้มหน้าเดินต่อไป....
ไม่ได้ๆ ดูวิถีแล้วเหมือนคนขับกำลัง 'มุ่งเป้า' มาที่ผมแน่ๆ ใจเต้นโครมคราม .....คุกๆๆ.....
สถานการณ์แบบนี้คนปกติควรทำตัวยังไงวะ? เงยหน้าดูแล้วชะลอฝีเท้าลงหน่อย แบบนี้เป็นธรรมชาติกว่า ในใจก็ภาวนาให้เขาแล่นผ่านไปแต่ดูจะไม่ใช่
รถชะลอความเร็วและหยุดข้างผม คนขับเป็นคุณลุงวัยกลางคน มีหญิงวัยคุณป้านั่งข้าง
"หนูๆ" ทำไมเสียงดุจังวุ้ย?
"เมื่อกี้หนูเดินมาจากหน้าบ้านฉันหรือเปล่า?" ชายวัยกลางคนจ้องผมตาเขม็ง ตอบไงดีล่ะ....คุณลุงครับ สถานพินิจเยาวชนน่าอยู่ไหมครับ?
"ไม่ได้ยินเหรอหนู?" เสียงเขียวแล้ว ตั้งสติไว้! เมื่อกี้เขาพูดว่าเดินมาจากหน้าบ้านหรือเปล่า ถ้าเขาเห็นตอนผมกำลังลงกุญแจก็น่าจะถามอะไรดุเดือดกว่านี้
"ครับ"
"แล้วกริชอยู่ไหน?" สถานการณ์แบบนี้ผมควรตอบยังไง ในชุดนักเรียนกับคู่ชาย-หญิงวัยกลางคนที่ไม่รู้จัก ตอบไงดีล่ะ!
"อย่าดุกับเด็กสิพ่อ ลุงกับป้าเป็นพ่อแม่ของกริชน่ะจ้ะ คมเดชที่อยู่ม.6 น่ะรู้จักใช่มั๊ยจ้ะ?"
"ค...ครับ"
.....สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกชายอีกคนด้วยนะครับ......เหยย! ไม่ได้ๆ
"กริชมันยังไม่กลับบ้านเหรอไง? ปิดไฟมืดเชียว ลองโทรเข้ามือถือลูกซิแม่" .....มือถือ!?
คงไม่เหมาะแน่ถ้าผมยืนอยู่ตรงนี้ด้วย ถ้าคุณลุงคุณป้าถามอะไรผมอีกแล้วเสียงผมเข้าโทรศัพท์ไปด้วย ตายสิครับ! จะตัดบทสนทนาตอนนี้ก็จะดูมีพิรุธด้วย
"กริช เอ๊ย! พี่กริชเขาอยู่ที่โรงเรียนครับ"
"อ๋อเหรอ! .....แล้วนี่หนูมาทำอะไรล่ะ"
"ผม....ผม...."
จะมีคำตอบอะไรที่ไม่พัวพันตัวผมไปมากกว่านี้ จะโกหกยังไงดี? คุณลุงคุณป้ารู้เรื่องของกริชมากแค่ไหนล่ะ? ต้องตอบความจริงที่ไม่ผูกมัดตัวเราดีที่สุด
"ผมว่าจะ...มาคุยเรื่องกีฬาสีน่ะครับ"
"กีฬาสี?"
"ครับ พอโทรหาถึงได้รู้ว่าพี่กริชยังอยู่ที่โรงเรียน"
.....ได้ผลไหมเนี่ย?....แต่คุณพ่อคุณแม่ เอ๊ย! คุณลุงคุณป้านิ่งเงียบไปเลยแฮะ
"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับ" ผมไม่ลืมยกมือไหว้ฝากตัวไว้ในอ้อมใจแล้วรีบเดินต่อ
ได้ผลไหม? ตึกตึกๆๆๆๆ ใจเต้นรัวเลยวุ้ย! รถยนต์แล่นออกตัวไปอีกครั้งโดยไม่มีคำถามใดๆ อีก อยากก้าวขาให้ไวขึ้น อยากวิ่งหนีไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดแต่ผมต้องรักษาจังหวะเดินให้ปกติต่อไป หวังว่าจะทิ้งทุกอย่างไว้กับความมืดที่เริ่มครอบคลุมท้องฟ้า ไม่คิดแม้แต่จะหันกลับไปมอง
กว่าจะกลับถึงบ้านได้ก็รีบตรงเข้าห้องนอนทันที รู้สึกเหมือนตัวเองไปฆ่าใครมา กลัวชิบเป๋งเลยว้อยยย!!
อย่าคิดมากน่าตอนที่เดินจากพ่อแม่กริชมาเขายังไม่สงสัยอะไรเลย ผมขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอยากจะหายไปจากโลกซะตอนนี้
สี่ทุ่มแแล้วผมนอนฟังเสียงนาฬิกาอย่างทรมาน ...ไอ้บ้า....ลูกผู้ชายกล้าทำต้องกล้ารับ จะโดนจับเข้าสถานพินิจก็ให้รู้ไป.....ที่นั่นจะมีแป้นบาสไหมเนี่ย....กลัวว่ะนอนคลุมโปงต่อดีกว่า ผมกำนาฬิกาดีเซลที่กริชให้ไว้แน่น ของยึดเหนี่ยวเพียงอย่างเดียวของผม เขาไม่โทรมาเลย เป็นเพราะอยู่กับพ่อแม่หรือเปล่า
ตัวเลขบนนาฬิกาเดินไปเรื่อยๆ ...ทั้งกลัวทั้งเหงา... จะโทรหาเขาก็ดีมั๊ย...
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อแม่เป็นยังไงผมก็ไม่รู้ การที่ผมโทรไปอาจสร้างปัญหาให้กริชมากขึ้น แล้ววันเสาร์ล่ะ? วันอาทิตย์ล่ะ?
สุดสัปดาห์ที่ผมเฝ้ารอจะได้อยู่กับเขามันจะเป็นยังไง? รอดึกๆ ก่อนค่อยโทรดีกว่า...แต่เกิดคุณลุงคุณป้าเป็นคนรับแล้วจำเสียงผมได้?
สิงหราช...ใครกันนะ ผมไล่เรียงเรื่องราวที่ไม่ปะติดปะต่อ
สมุดของปีที่แล้ว...ชั้นม.6....ถูกใช้อย่างครึ่งๆ กลางๆ ......จะหมายความว่าเรียนไม่จบ? เหมือนกริช?
ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เขาทำอะไรอยู่? เรียนซ้ำชั้นม.6 เหมือนกันรึ? โรงเรียนไหน? ที่นี่หรือโรงเรียนเดิมบนหน้าปกสมุดนั่น?
ไม่เข้าใจเลยสักอย่าง...แล้วทำไมกริชถึงหวงสมุดพวกนี้นัก?
ลงทุนลงแรงขนาดนี้แต่กลับไม่ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นเลย ปวดหัวกว่าเดิมแถมเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางอีก ในหัวมีแต่คำถามที่ตอบไม่ได้สักอย่าง ผมมันบ้าจริงๆ!!
นอนกระสับกระส่ายรอโทรศัพท์จน 5 ทุ่มกว่าก็ยังไม่มีวี่แวว ในที่สุดความเหนื่อยล้าตลอดวันก็ช่วยปิดหนังตาให้เด็กหนุ่ม
แดดเวลาบ่ายสอง
ตัวผมยืนใต้ร่มไม้สีฟ้าน้ำทะเล ทุ่งหญ้าสีน้ำตาลรอบด้าน แผ่ไกลสุดลูกหูลูกตา
ผมเดินลุยหญ้าไปเบาๆ เดินฝ่าทุ่งมานานมากจนเริ่มรู้สึกตัวว่าเหงา
เดินมาจนเห็นถนนใหญ่ที่เงียบเชียบ ปลายถนนสองข้างไม่รู้ทอดยาวไปถึงไหน
ผมยังยืนอยู่กลางทุ่งหญ้าสีน้ำตาล มองถนนข้างหน้าอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานเป็นปี ปีแล้วปีเล่า
เสียงหนึ่งแว่วมา....เสียงมอเตอร์ไซค์....จากไกลลิบในที่สุดก็แล่นมาจอดตรงหน้า
"อยู่ตรงนี้แล้วไม่มีความสุขก็ไปกับผมสิ" ผมขึ้นซ้อนท้ายแล้วเขาก็ขี่ไป....
"เกาะเอวไว้ไม่งั้นตกน้า" ผมทำตามน้ำเสียงกลั้วหัวเราะที่อบอุ่นและเข้มแข็ง
..
..
"ผมรักต้นนะ" เขาพูดแข่งกับเสียงลม ถึงเขาจะไม่ได้หันมาคุยกับผมแต่ผมรู้ว่าเขาพูดจริง
"เราก็รักนาย"
ยังมีทุ่งหญ้าสีน้ำตาลที่กว้างใหญ่อยู่ตลอดถนนสายนี้ แต่ผมรู้ว่ามันทำร้ายผมไม่ได้อีกแล้ว.....
------------------------------------------------------------------------
-
ตอนที่ 22 ฟ้าสงบก่อนพายุใหญ่จะมา
ผมลืมตาตื่น.....กี่โมงแล้วนะ....10โมงเช้า.....คงไม่ใช่ลืมตาขึ้นมาแล้วอยู่ในคุกนะ
เพิ่งผ่านเหตุการณ์แสนเครียดขนาดนั้นมาผมน่าจะนอนฝันร้ายและตื่นมาอย่างหวาดกลัว แต่ความฝันที่เพิ่งตื่นจากมานั้น....
ความฝันที่ผมเห็นเป็นครั้งคราว มันทำให้ผมซึมกระทือไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะหวาดกลัว
กริชจะเป็นคนๆ นั้นมั๊ย...คนที่พาผมไปจากชีวิตบ้าๆ นี่....
...คงมีสักที่ในโลกที่เราสองคนจะเป็นอย่างที่อยากเป็น พูดสิ่งที่อยากพูดและท่องโลกไปด้วยกัน....
ความฝันเด็กๆ ....ผมคงหนีความจริงบ่อยเกินไป ผมแปรงฟันและจ้องหน้าตัวเองในกระจก
หนึ่งสัปดาห์นี่ตรูโทรมได้ขนาดนี้ แล้วจะหวังหลบกริชที่โรงเรียนได้อีกครึ่งปีเชียวรึ?
โทรศัพท์ยังคงนอนนิ่งเหมือนมันกลายเป็นที่ทับกระดาษไปแล้ว กริชไม่โทรมาเลย.....
เรื่องของนายสิงหราชนั่นก็ยังวนเวียนแต่สมองผมตอนนี้คิดอะไรไม่ออกแล้ว
ทำการบ้านอ่านหนังสือดีกว่า (ตกลงเรื่องการเรียนเป็นสิ่งสุดท้ายที่คิดจะทำใช่มั๊ยเนี่ย)
...
...
...
"ไม่ไหวแล้ว!!!!!!"
"ไอ้ต้น เอ็งทำการบ้านได้ 20 นาทีเองนะว้อย"
อยู่บ้านกับพี่ๆ แบบนี้น่าเบื่อที่สุด ตัดสินใจโทรหากริชดีกว่า
......หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้.........
อะไรกันเนี่ย? ปกติโทรเวลากริชก็รีบรับตลอดนี่นา.....ผมสังหรณ์ใจไม่ดีเลย ตอนนี้ผมเริ่มร้อนใจคิดไปต่างๆ นานา ......จะไปหาที่บ้านดีมั๊ย?
<วัตสัน> ปัวโร คุณเอาแต่นั่งคุดคู้ไม่คิดจะสืบคดีนี้เลยหรือ?
<ปัวโรนั่งคุดคู้ เรียงก้อนน้ำตาลด้วยสองนิ้วอย่างหมิ่นเหม่> ไม่ต้องห่วง อาชญากรมักจะวนกลับมาดูสถานที่ที่ตนก่ออาชญากรรมไว้ เรารอจับเขาที่นี่ก็พอ
นั่นสินะ การกลับไปบ้านกริชตอนนี้ไม่ดีแน่ (ว่าแต่ปัวโรเวอร์ชั่นนี้?) แล้วผมจะทำยังไงดีเนี่ย? หรือเราจะไปรอเขาที่สีลมดี?
<วัตสัน> ปัวโร คุณเอาแต่นั่งคุดคู้ไม่คิดจะสืบคดีนี้เลยหรือ?
<ปัวโรนั่งคุดคู้ คีบโทรศัพท์ด้วยสองนิ้วอย่างหมิ่นเหม่> ไม่ต้องห่วง ผมวางกำลังตามจุดต่างๆ ที่อาชญากรน่าจะไปไว้เรียบร้อยแล้ว
<วัตสัน> เซลสีเทาเล็กๆ ในสมองคุณช่างปราดเปรื่องจริงๆ
อยู่บ้านอย่างเดียวก็ได้ฟระ.....
**************************************************************************
"ต้น"
"ครับพี่?"
"มรึงจะรอข้าวงอกเป็นต้นรึไงวะ? คาช้อนอยู่แบบนั้นนานแล้วนะ"
ผมก้มหน้าทานข้าวเย็นต่อ ตรูใจลอยซังกะตายขนาดนี้เชียวเหรอ ไม่อยากให้พี่สงสัยเลย
"ไม่สบายรึเปล่า?" ผมส่ายหัวเบาๆ
"มีไรก็บอก เห็นมรึงอยู่ติดบ้านแบบนี้คงมีปัญหาอะไรล่ะสิ?"
"อ้าว! ผมจะเป็นเด็กดีนี่แซวกันอีก"
การรอคอยที่ไร้ความหวังยังดำเนินต่อไป โทรหากริชกี่ทีก็เหมือนเดิม ปิดเครื่องหรือโทรศัพท์หาย? แต่เขาน่าจะโทรหาผมบ้างสิ
หรือเราไม่สำคัญแล้ว? หรือเขาจะไม่สบาย? โว้ย! ยิ่งคิดมากเข้าไปทุกที! ว่าแต่วันนี้ยังไม่ได้ใส่ซิมปกติของผมเลยนี่หว่า
เม้ง โทรหาคุณเป็นจำนวน 4 ครั้ง
เหอ!? ผมรีบโทรกลับหาเม้งทันที
ผมรู้นิสัยมันดี มันไม่ชอบโทรจิกใครบ่อยๆ เม้งบอกว่ามันไม่ใช่นกกระจอกจะได้ชอบจิก <--- มุขเม้งแป๊กกว่าผมอีก
ถ้ามันโทรกระหน่ำโทรหาผมแบบนี้ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่...
"หวัดดีต้น ปิดเครื่องรึไงวะโทรหามรึงไม่ได้เลย"
"เออ มีไรวะ?"
"วันนี้พี่โจ้โทรหากรู" หา!! เรื่องอะไรวะเนี่ย? หวังว่าคงไม่เกี่ยวกับผมนะ ร้อนตัวละตรู!
"กรูเองยังไม่ค่อยแน่ใจเลยว่ะ พี่เขาถามว่า...."
"ถ...ถามไรวะ?"
"ถามว่ากรูกับมรึงจะลงบาสสีแดงแน่ๆ ใช่มั๊ย?"
"อ้าว...แล้วทำไมต้องถามวะ? พี่เขาน่าจะรู้นิสัยพวกเราดีนี่หว่า?" ......อย่างน้อยก็โล่งใจว่าความลับไม่แตก
"กรูก็ตอบแบบนี้แหละ พี่เขาบอกว่า เออๆ พี่ก็รู้แต่มันจำเป็นต้องถาม"
อะไรฟระเนี่ย? ตอนม.ต้นแค่ลงชื่อก็จบแล้ว ไม่เห็นโทรถามกันแบบนี้อีก ผมงงไปหมดแล้ว?
"พี่โจ้ไม่ได้พูดอะไรอีกอะ เขาว่าต้องรีบโทรไปยืนยันนักกีฬาคนอื่นๆ อีก"
"เหรอๆ....เฮ้ย! แล้ว..."
"แล้วอะไร ต้น?" โทรหานักกีฬาคนอื่นๆ ก็ต้อง.........
"มรึงสบายใจได้ กรูช่วยยืนยันให้มรึงไปแล้วว่าลงแน่ๆ และกรูก็ไม่ได้ให้เบอร์มรึงด้วย"
"เหรอ! เออใจว่ะเม้ง" ...จริงสิไม่งั้นน่าจะมีพี่โจ้โทรมาแล้ว....
"กรูอยู่ข้างมรึงตลอดนะต้น คิดเหรอว่าจะไม่ติดโรคเพี้ยนจากมรึ๊ง"
"เม้ง.....ขอบใจนะ"
พูดไม่ออกจริงๆ ดีใจที่เพื่อนรักช่วยชีวิตผมไว้แต่ความกังวลไม่ได้ลดลงเลย
"สักวันมรึงค่อยบอกกรูละกันว่ามันเรื่องอะไรยังไงกัน แต่ที่แน่ๆ กรูว่าสต๊าฟสีแดงต้องมีเรื่องอะไรสักอย่าง"
ผมกลับมานั่งคลุมโปงในห้องนอนต่อ ทั้งงงทั้งกลัว ความรู้สึกเหมือนคลื่นขนาดใหญ่กำลังม้วนตัวเตรียมจะเกิดน้ำวนยักษ์สูบผมลงนรกยังไงยังงั้น ....กริช....ตอนนี้ผมคิดถึงเขาที่สุด เรื่องบ้าๆ มันเริ่มเกิดตั้งแต่ผมแอบเข้าไปในบ้านเขา.....เกี่ยวกันไหมนะ.....เพราะผม....
-----------------------------------------------------------------------
-
ลุ้นดีครับ กำลังรอมาต่อนะครับ
-
..........สรุปก็ยังไม่รู้อยู่ดี........ :o9: :o9:
..........สืบต่อดิ........ :interest: :interest:
-
พายุใหญ่ o9 อะไรล่ะ o15
-
เรื่องยังไม่คืบหน้าเลยนะเนี้ย :onion_asleep:
ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
-
ลุ้นอ่า
ลุ้นอย่างแรงงงงง
:serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
-
:interest: :interest: โฮ้มีหลายอารมณ์ มึนงง หมองมัว น่ากลัว o18 :sad3: :sad3: จนต้อง หม่นหมอง ประคองอารมณ์ :sad3:
:amen: นะโม นะโม :amen:
-
:impress:
มาต่อไว ๆ นะครับ
รออยู่
สู้ ๆ นะครับ
o15
-
ตอนที่ 23 คืนปีกหัก
.........กริช...........
วันอาทิตย์กำลังจะผ่านไปแล้ว กริชนายเป็นอะไร...ทำไมไม่โทรมาซะที...ผมเป็นห่วงนะโทรไปก็ไม่เปิดเครื่อง.....เป็นเพราะผมรึเปล่า?
โธ่เว้ย! ตรูยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปทำอะไรให้นายตอนไหน! ผมนั่งดูนาฬิกาสีฟ้าน้ำทะเลอย่างร้อนรน "ทนไม่ได้แล้วว้อยยยย!"
"พี่ผมไปข้างนอกนะครับ"
"....กรูว่าแล้วมันอยู่ติดบ้านได้แค่วันเดียว อย่างน้อยก็ดีกว่าเห็นมันนั่งปลูกข้าวบนจาน" พี่ชายที่แสนดีมองตามหลังน้องอย่างเห็นอกเห็นใจ
จะไปหาที่บ้านกริชก็กลัว ผมจึงมารอที่บันไดตึกย่านสีลม ....บางทีถ้ากริชหาเราเจอที่นี่ เราก็อาจจะเจอเขาที่นี่เหมือนกัน จะห้าโมงแล้ว.....เขาจะมาใช่มั๊ย....
ผมเดินกลับไปร้านแมคฯแต่ไม่พบใบหน้าที่คุ้นเคย ใบหน้าของคนที่ผมรักที่สุด
ถ้ารอด้วยความหวัง เราคงสมหวัง.....บอกตัวเองไว้สิ ผมเดินไปกลับอยู่อย่างนี้ไม่รู้กี่หน โทรหาเขากี่สิบครั้ง
แต่คำตอบมีแค่ความว่างเปล่า หลายครั้งที่คิดว่าเขามาแต่กลับเป็นแค่คนแปลกหน้าเดินผ่านไป
ทำไมการรอคอยมันเจ็บปวดแบบนี้.... ถ้ายังรอไปเรื่อยๆ เราคงสมหวังใช่มั๊ย......
ท้องฟ้ายามค่ำปลอดโปร่งแต่หยดน้ำเล็กๆ เริ่มหยดลงสายบนนาฬิกาที่ยกขึ้นแนบแก้ม
มีคนหนึ่งรู้และอีกคนที่ไม่มีวันรู้ว่าการรอคอยอย่างไร้ความหวังมันทรมานขนาดไหน.....
ผมมาถึงหน้าร้านเหล้าร้านเดิม....ร้านที่เราสองคนเคยนั่งด้วยกันแต่วันนี้ไม่มีเขา ได้แต่ยืนมองหน้าร้านอยู่อย่างนั้น
ใกล้จะตีหนึ่งแล้ว.....นี่ผมทำอะไรอยู่.....น่าจะบอกตัวเองได้แล้วว่าไม่มีความหวัง....
จะตีหนึ่งแล้ว ร้านใกล้จะปิดเต็มที ผู้คนเริ่มทยอยออก ไฟในร้านเปิดโร่เป็นสัญญาณว่าค่ำคืนแห่งราตรีจบแล้ว
คนที่เหลืออยู่ในร้านพากันเดินออกมาเรื่อยๆ ผมหวังว่าจะเจอกริชเดินออกมาจากร้าน.....แต่ไม่มีสักคนที่จะใช่
จบแล้วใช่มั๊ยความหวังของผม? ไม่มีกริช ไม่มีใบหน้าที่คุ้นเคย.....
.... ยกเว้น....ไอ้คนที่ถูกหิ้วปีกออกมานั่น.....
"เฮ้ย วิง!" ผมเดินเข้าไปหาทันที เขามาทำอะไรที่นี่แถมเมาหมดสภาพเลยวุ้ย
"เพื่อนน้องเหรอ? ดีเลย กำลังจะหามไปหลังร้านแล้วเนี่ย" บ๋อยสองคนที่หิ้วปีกเจ้าวิงรีบส่งต่อให้ผมทันที
"อายุก็ไม่ถึง ไม่น่าปล่อยเข้ามาเลย เกือบซวยละ" แล้วสองบ๋อยก็เผ่นเข้าร้านจ้อย เวรละ! โยนขี้ให้ตรูเฉยเลย
ท่านเจ้าพระคู้ณ! ตรูจะหากริชแล้วไหงส่งเจ้าวิงปีกหักเมาหัวทิ่มมาละเนี่ย?
"....อือ...." เออดีวุ้ยมันยังไม่หลับ
"วิง ตื่นๆ" หน้าเขาเริ่มมีปฎิกิริยาตอบสนอง แบบนี้ค่อยยังชั่ว...เฮ้ย!! ไม่ๆๆ...ทำหน้าแบบนี้มัน...
และแล้วเจ้าวิงก็ช่วยลบล้างความเศร้าของพระเอกหนุ่มมิวสิควิดีโอรันทดไปอย่างสมบูรณ์แบบด้วยการ......ยิงอาวุธชีวภาพสาดใส่ผมเต็มๆ
"ไอ่สาดดดดดดวิงงงงงงงง!!!!!!"
ผู้คนมากมายหน้าร้านอึ้งมองผมอย่าง....
ดูเหมือนเจ้าวิงกลัวผมไม่หายเศร้าพอจึงอ๊วกตามมาอีกสองระลอกจากริมฝีปากแดงระเรื่อให้รู้ว่าผมม่ายยยย...ด้ายยย...ฝัน....ปายยยย
มันเป็นวินาทีที่คนๆ นึงปลดปล่อยความทุกข์และอีกคนรับไปเต็มๆ ท่ามกลางสายตาของคนเป็นสิบๆ ที่ยังอยู่หน้าร้าน ผมยิ้มแหยๆ แล้วรีบพาสังขารเจ้าวิงไปให้ไกลร้านที่สุด
อ้ายแสรด! อ๊วกเต็มๆ ใส่ตรูเลยน้า!!! มาหมดทั้งข้าวเที่ยงข้าวเย็นเลยมั้งเนี่ย!!?
แต่ดูหน้ามันหลับฝันดีไปซะแล้วปล่อยให้ผมรันทดกับสภาพน่าสังเวชอยู่คนเดียว
ผมเบิร์ดกระโหลกมันหนึ่งทีเบาๆ ก่อนจะคิดทำไงกับชีวิตดีวะ อายสุดๆ แล้วเนี่ย...
"แท๊กซี่ๆ" รถแท๊กซี่ชะลอเล็กน้อยแต่พอเห็นสภาพผมก็......ออกตัวไปอย่างรวดเร็วไม่รั้งรอ อีกห้าคันต่อมาก็ทำเช่นเดียวกัน
แบกมันต่อไปเรื่อยๆ ให้ไกลร้านที่สุดละกัน ...แบบว่าอายน่ะ อย่างน้อยขออยู่ให้ไกลที่เกิดเหตุไว้ก่อน....
ผมหย่อนเจ้าวิงนั่งพิงเสาไฟแล้วนั่งยองๆ มองหน้ามัน ทั้งโมโหทั้งอายทั้งขำ
.....เออดีวุ้ย ความรู้สึกแย่ๆ ตั้งแต่วันศุกร์มันหายไปหมด.....ทั้งที่โดนอ๊วกใส่เต็มๆ แต่ผมไม่รู้สึกโกรธมันจริงๆ เลย
ว่าแต่เอายังไงดีล่ะเนี่ย? แท๊กซี่ก็ไม่รับ บ้านผมก็อยู่ไกลโยชน์ อย่างน้อยขอที่ล้างตัวก่อนได้ไหมเนี่ย? มันจะมีได้ยังไงล่ะไม่ใช่อยู่ในป่าจะได้มีคลองมีแม่น้ำ
มองไปรอบๆ ตัวก็มีแต่ตึก.....แล้วสายตาก็สะดุดป้ายไฟที่อยู่ไม่ไกล....M O T E L
ขอบคุณคร้าบท่านเจ้าพระคู๊ณ!!! ทำไมถึงประชดชีวิตลูกช้างได้สุดยอดขนาดนี้!!
..
..
..
-
...........พาวิงเข้า Motel ..........
..............แล้วกริชจะมาเจอไหมเนี่ย........ :interest: :interest:
-
:impress:
นั่นสิ!!!!! กริชจะมาเห็นไหมหนอ :confuse:
ลุ้น ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ o4
รอต่อไปคับ
o15
-
กริชคงไม่มาเจอหรอกม้าง . . .
กลัวแต่จะได้กันเองนี่ซิ :try2:
-
Motel อิอิ หวังว่ากริชคงไม่มาเจอะเข้านา :laugh:
-
o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22
-
ต้นจะเข้าไปจริงหง่ะ :serius2:
ภาวนาอย่าให้เจอกับกริชละกัน o1
-
บริกรเปิดประตูห้องให้ผมแบกเจ้าวิงเข้าไปนอนบนเตียง ดีนะโรงแรมจิ้งหรีดเขาคุ้นเคยกับแขกที่เมาอ๊วกเละอยู่แล้วไม่งั้นผมคงหมดที่พึ่ง
"ขอบคุณครับพี่"บริกรตอบรับพลางหันมาดูเจ้าวิงแล้วกลับมามองผมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
"น้องเขาน่ารักดีนะครับ" ตรูว่าแล้วต้องโดนเข้าใจผิด แต่ไม่มีอารมณ์จะแก้ตัวละ ผมปิดประตูแล้วทรุดลงนั่งเลย แบกเจ้านี่มากี่ร้อยเมตรฟระเนี่ย?
แล้วความเงียบก็ครอบงำ เจ้าวิงก็โดนอาวุธชีวภาพของมันเองซะเต็มตัวทั้งเสื้อทั้งกางเกง มันแดรกไปกี่ถังฟระ?
ผมถอดเสื้อกางเกงตัวเองที่สุดอนาถโยนลงอ่างล้างหน้าในห้องน้ำแล้วถอดเสื้อเจ้าวิงไปแช่น้ำบ้าง
โหย! อ๊วกซึมลึกถึงเนื้อในเลยวุ้ย สงสัยต้องเช็ดตัวให้มันด้วยมั้งเนี่ย......ชะ....เช็ด...ตัว....
ผมมัวแต่เหนื่อยและดีใจที่หาที่ล้างตัวได้ ลืมนึกเลยว่าตอนนี้ผมกับวิงอยู่ในสถานการณ์ที่....ล่อแหลมเหลือเกิน
คิดมากน่า! ผมถอดกางเกงมันออกแต่พยายามมองไปทางอื่น เอาผ้าห่มคลุมตัวเขาไว้ก่อนแล้วเดินไปอาบน้ำล้างคราบอาวุธชีวภาพออก
ตึกตึกตึกตึก ......ไม่! ผมพยายามไม่คิดอะไร มันเพิ่งอ๊วกแตกรดตัวตรูนะเฟร้ย! พยายามคิดเรื่องอื่นต่างๆ นานา
แต่ดูเหมือนสมองส่วนล่างจะไม่ทำตาม ตอนนี้สมองส่วนบนก็เริ่มทรยศ .....หวั่นใจจะไขว้เขวเหรอต้น......
ตึกตึกตึกตึกตึกตึก ..... มันช่างเป็นศึกที่น่ากลัว ตอนนี้สมองทั้งบนและล่างมันร่วมมือกันแล้ว ส่วนบนรำลึกเหตุการณ์ - ส่วนล่างสร้างจุดมุ่งหมาย
เหลือแค่ศีลธรรมอันน้อยนิดที่ใกล้เพลี่ยงพล้ำ ผมพยายามหาอย่างอื่นทำ ซักเสื้อกางเกงแล้วตากราวในห้อง หยิบกางเกงในมาสวมก่อนตามด้วยนุ่งผ้าเช็ดตัวเป็นปราการด่านที่สองที่ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
เอาอีกผืนชุบน้ำไปเช็ดตัวให้เจ้าวิงมัน เริ่มจากหน้า...หน้าขาวๆ เกลี้ยงๆ ...ซอกคอ...กล้ามอกบางๆ มาถึงหน้าท้องแบนราบ..เอ่อ...ข้ามช่วงกลางไปก่อน...ต้นขา.... "ไม่ไหวแล้วเว้ยยยยย!!!"
เพื่อนนะโว้ยเพื่อน!!...ท่องไว้...เพื่อน....จริงสินะ ผมเจอเขาไม่กี่ครั้งแต่ทำไมรู้สึกสนิทสนมเหลือเกิน เหมือนถูกชะตาเป็นเพื่อนกันมาแต่ปางไหน
"วิงๆ ตื่น มรึงรีบตื่นเร็วๆ ก่อนที่กรูจะแย่"
ไร้การตอบสนองแต่หน้ามันตอบหลับน่ารักไร้เดียงสาดีครับ เหมือนเป็นทั้งเพื่อนทั้งน้องชายยังไงยังงั้น ผมขยี้หัวมันเบาๆ อย่างเอ็นดู
"เด็กน้อยเอ๊ยกินเหล้าไม่เป็นเลย ใครเขาให้กินคืนวันอาทิตย์ซะเละขนาดนี้ วันจันทร์ก็แฮงค์ไปโรงเรียนสิคร้าบท่านวิง"
.......เอ๋?......ผมมองหน้ายามหลับของวิงพลางนึกซ้ำประโยคเดิม ....บ้าน่า....คิดมากไปแล้ว.....
ผมจัดวิงเขยิบแล้วล้มตัวลงนอนบ้างก่อนจะใช้ผ้าห่มคลุมเราทั้งสองคนเพราะอากาศเริ่มหนาว ตั้งปลุกสักตีห้าแล้วค่อยตื่นมาคิดเรื่องไปโรงเรียนยังไงดี......
..
..
..
-
ท่องไว้ เพื่อนกัน ท่องไว้ :amen: :amen: :amen:
-
..........อย่านอกใจกริชไปเล่นเพื่อนตัวเองน้า........ :impress: :impress:
-
:laugh: :laugh: :laugh:
ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
-
กริชไปไหนอ่า
o9 o9 o9 o9 o9
-
จะพลาดไม๊เนี่ยะ
นึกถึงกริชไว้น้า......
-
:impress:
กริชมาเร็ว ๆ นะ
แต่วิงก็น่ารัก จะอดใจไหวไหมเนี่ยยยยยย........
มาต่อไว ๆ นะครับ
o15
-
บี๊บ!บี๊บ!บี๊บ!บี๊บ!
ผมงัวเงียตื่นขึ้นมา ห้องยังมืดอยู่....เออ...ดีนะไม่หลับยาว มองเจ้าวิงมันยังหลับท่าตะแคงข้างหันมาทางนี้
ผมเลยนอนตะแคงดูมันบ้าง ชาติที่แล้วไปพังรังปลวกร่วมกันตอนไหนถึงได้ผ่านคืนทุลักทุเลด้วยกันจนรู้สึกถูกชะตากับมันแบบนี้ฟระ?
ผมดึงผ้าห่มคลุมตัววิงต่อไปพลางคิดวิธีไปโรงเรียนยังไงดี.......
ลืมอะไรไปรึเปล่า? ดูเหมือนผมมีอีกปัญหาที่เร่งด่วนกว่าแฮะ?
สถานที่ --- โรงแรมจิ้งหรีด
สภาพผม --- แทบจะแก้ผ้า มีกางเกงในตัวเดียว
สภาพเจ้าวิง --- อ่านบรรทัดข้างบน
ตำแหน่งปัจจุบัน --- นอนข้างกันบนเตียงใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน
ช่วงเวลา --- ผ่านมา 1 คืน
เหอเหอ... ถ้ามันตื่นมาผมจะอธิบายยังไงดีล่ะเนี่ย?
ต่อให้เป็นเพื่อนผู้ชายก็ไม่มีใครทำหน้าซื่อตาแป๋วไม่รับรู้เรื่องราวได้ละมั้ง อย่างที่....เจ้าวิงกำลังทำอยู่ตอนนี้ไง...
"อือ...นั่นต้นเหรอ?" ผมเขยิบหนีแต่ยังไม่พ้นเตียง ถ้าตัวผมพ้นจากผ้าห่มเจ้าร่างเกือบล่อนจ้อนคงทำให้ผมอธิบายยากกว่านี้
"แล้ว....ที่นี่ที่ไหนเนี่ย? จำได้ว่ากินเหล้าอยู่แล้วก็....."
"วิง ฟังนะ" ผมตะปบไหล่มัน วิงทำหน้าแบบงงๆ ง่วงๆ
"เดี๋ยวนายจะพบสภาพที่อธิบายยาก แต่ขอให้เชื่อใจนะว่าเราไม่ได้ทำอะไรนายทั้งนั้น"
วิงพยักหน้างงๆ แต่พอมองลอดไปใต้ผ้าห่มมันก็สะดุ้ง ผมจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง
"ขอบใจมากนะต้น ขอโทษนะทำให้นายลำบาก" มันตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความ
"นายไม่แปลกใจเลยเรอะ?"
"แปลกใจดิตื่นมาแก้ผ้าแบบนี้ แต่เราเชื่อต้น"
"เชื่อง่ายจัง?" เออกรูวิตกจริตไปเอง
"ก็นายช่วยเรา เราเชื่อนายอะ ต้นลองเชื่อใจคนอื่นบ้างดิ"
ลองเชื่อใจคนอื่นบ้าง....คำของวิงช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
คงไม่ถึงกับจะวิ่งไปบอกความจริงให้กริชรู้หรอก แต่รู้สึกอุ่นใจขึ้นว่าถ้าวันนึงความลับเปิดเผย เหตุการณ์อาจไม่เลวร้ายอย่างที่ผมคิดก็ได้
ประโยคนี้สะท้อนลึกลงไปในปัญหาชีวิตของผมเลยแฮะ
"เป็นไรไปล่ะต้น? อยู่ๆ ก็นิ่งไป"
"ขอบใจนะวิง" มันทำหน้างงๆ ว่าขอบใจทำไม
ตีห้ากว่าแล้วต้องรีบล่ะ ผมให้วิงไปอาบน้ำก่อนระหว่างนั้นก็คุยกันผ่านประตูห้องน้ำ
"วิง เราคงเข้าบ้านไปเปลี่ยนชุดไม่ได้แน่ ไม่กลับบ้านยังพอว่าแต่กลับเช้านี่เราอธิบายพี่ไม่ถูกแหง"
"งั้นไปบ้านเราละกัน"
"จะมีชุดนร.ให้เรายืมเหรอ"
"อือ มีๆ..........เฮ้ย! ต้น"
"อะไรเหรอ?"
"ทำไมหน้าท้องเราเป็นคราบๆ ว้า"
"ขำแล้วๆ คราบอาวุธชีวภาพนายนั่นแหละ"
"........ต้น"
"ไรเหรอ?"
"......เปล่า ไม่มีอะไร"
ตาผมอาบบ้าง จากนั้นมาดูเสื้อผ้าแต่มันยังชื้นอยู่ ผมเอามากดกับผ้าห่มก็แห้งขึ้นบ้าง วิงบอกว่าบ้านอยู่ไม่ไกลจากตลาดที่ผมเจอวิงครั้งแรก เช้าๆแบบนี้นั่งแท๊กซี่ไม่เกินชั่วโมงคงถึง
"คุณน้าครับ" คนขับหันมามองเล็กน้อยหลังจากรถเริ่มออกตัว
"เสื้อพวกผมยังเปียกอยู่เลย ขอถอดหน่อยนะครับ" คนขับผงกหัว คงเคยเจอแบบแปลกกว่านี้มาเยอะ
"พวกคุณไปทำอะไรมาเหรอครับ?" ผมกับวิงมองหน้ากันแล้วก็หัวเราะ
---------------------------------------------------------------------
-
ไป....... มาครับผม
555555
-
ไปไหนอ่ะ... :confuse:
ไปไหนดีน้า... :confuse: :confuse:
o3 o3 o3 o3 o3 o3 o3
-
ไปทำอะไรดีน๊าในโรงแรมอ่ะ :haun5:
ขอบคุณครับ :yeb:
-
o15
เข้าใจง่ายจิงนะเจ้าวิง
จะมีผู้ชายแบบนี้ในโลกไหมเนี่ย อยากเจอจัง :impress:
ตอนนี้ผมจะบวชแร้วครับ ยังท่องบทสวดไม่ได้เรย :dont2:
เพราะมัวแต่ติดเจ้าต้นนี่แหละ :laugh3:
มาต่อไว ๆ นะ จะได้รับไปท่องบทสวดอิอิ :teach:
-
ไปนอนอยู่เฉย ๆ ใต้ผ้าห่มเดียวกัน o3 o3 ..... ใครเขาจะเชื่อ o8
-
พยายามเชื่อต้นสักครั้ง ว่าไม่มีอาไร o3
-
ตอนที่ 24 เพื่อน....ใช่มั๊ย?
บ้านวิงเป็นบ้านสองชั้นเล็กๆ อยู่ลึกในซอยตลาดสด
"ไม่เคยรู้เลยนะเนี่ยว่านายอยู่ใกล้ๆ บ้านเรา ดีจัง" ผมเปรย
"ดียังไงเหรอ?"
"ก็เผื่อจะได้มาค้างบ้างไง ไม่ต้องไปหอเม้งบ่อยๆ"
"มาดิๆ อยู่คนเดียวเหงาๆ" วิงอมยิ้มพลางหาเสื้อนักเรียนในตู้ให้ผม
"อืม แล้วคนในบ้านไปไหนหมดอะทำไมเงียบจัง?"
"พ่อเราออกต่างจังหวัดน่ะ"
"แล้วแม่ของวิงล่ะ?"
"ต้นลองตัวนี้ดิ๊" วิงยื่นเสื้อนักเรียนสีขาวสะอาดให้ผมแล้วหันไปหยิบกางเกงต่อ เสื้อนร.โรงเรียนผมจะปักแค่ชื่อย่อโรงเรียน ไม่มีปักชื่อบนเสื้อจึงไม่มีปัญหา
ส่วนชั้นม.ปลายขึ้นไปจะติดเข็มกลัดซึ่งวิงมีให้ยืมเช่นกัน ผมลองเสื้อพลางคิดในใจ เมื่อกี้เขาไม่ได้ยินหรือจงใจเลี่ยงคำถาม...
"นี่กางเกงนะ ต้นลองในห้องน้ำแล้วอาบน้ำไปเลยละกัน เราจะไปหารองเท้าคู่เก่าก่อน"
"นายเป็นโรคผิวหนังมั๊ยเนี่ย? กลัวติดว่ะ หยะแหยง" ผมล้อมัน วิงกระตุกคิ้วแล้วยื่นมาเข้ามา
"แล้วตอนเช็ดตัวให้เราน่ะเห็นหรือเปล่าล่ะ?" พูดจบมันก็วิ่งลงชั้นล่างไปเลย ทิ้งผมยืนหน้าแดงอยู่คนเดียว
หน้าซื่อๆ แต่โคตรแสบเลยนะไอ้วิง จำไว้ๆ
ผมอาบน้ำอีกทีเพราะไม่เชื่อใจความสะอาดของโรงแรมจิ้งหรีด ห้องน้ำบ้านเขาโทรมนิดหน่อยตามประสาบ้านเก่าแต่ผมไม่มีปัญหา หอไอ้เม้งลำบากกว่านี้อีก มีท่ออะไรๆ เยอะแยะเลยวุ้ย เปิดฝักบัวแต่น้ำไม่ไหล ลองหมุนๆ บิดๆ ประตูน้ำสองสามอัน เออไหลละ
เช็ดตัวเรียบร้อยก็ใส่ชุดนร.ของเจ้าวิง ....รู้สึกแปลกๆ นะเวลาใส่เสื้อผ้าคนอื่นเหมือนมันอุ่นๆ ขัดๆ ต่างจากเสื้อผ้าตัวเอง
"เป็นไงใส่ได้ไหม?"
"ได้ กางเกงรัดไปหน่อยแต่ใส่ได้" ผมแกล้งมันคืน
"เออๆ แต่ใส่รัดๆ เดี๋ยวก็เป็นหมันไปเอง" มันตอกกลับด้วยมุขที่เหนือกว่า สงสัยจะเจอคู่แข่งแล้วเนี่ย
ระหว่างนั่งรอวิงอาบน้ำผมแอบหยิบมือถือมาดู ยังไม่มีการติดต่อจากกริช.... ผมสลับซิมแล้วก็เหม่อลอย กริชเป็นอะไรกันแน่?
คนเป็นห่วงทำไมไม่โทรหากันสักนิด....หรือว่าอุบัติเห....ไม่ๆๆ ......เดี๋ยวไปถึงโรงเรียนก็คงรู้
วิงอาบน้ำแต่งตัวไม่นานก็พร้อมไปโรงเรียน ผมใส่รองเท้าเก่าของเขาแบบเหยียบส้นเพราะยัดเท้าไม่เข้า เวรล่ะสิขืนเจออาจารย์อาจต้องเข้าห้องปกครอง
ถ้ากริชอยู่ที่นั่น....ไม่มั้งเช้าๆ คณะกรรมการกีฬาสีคงไม่ประชุมที่ห้องนั้นหรอก
"พร้อมยัง?"
"อือ พร้อมละ" ผมขยับรองเท้าให้เข้าที่
"ตกลงไม่ใส่แว่นแล้วเหรอ หรือสายตาเป็นปกติกระทันหันล่ะ?" ....แว่น.....เออใช่....แว่นตรูล่ะ?
ตายห่าแล้วๆๆๆ ก็ตอนออกจากบ้านตั้งใจว่าจะไปรอกริช คิดแต่เรื่องของเขาเลยไม่ได้หยิบแว่นมาด้วย
"เป็นอะไรเหรอต้น?"
"เปล่า ถอดๆใส่ๆน่ะยังไม่คุ้นแว่น"
เอาไงดีล่ะเนี่ย? เรายืนรอรถตรงตลาดสดก็จริง ร้านแว่นแผงลอยอยู่ใกล้แค่นี้แต่ถ้าผมเดินไปซื้อวิงคงสงสัย
"หรือต้นกังวลที่ไม่มีกระเป๋าไม่มีหนังสือเรียน"
"ไม่หรอก เรื่องนั้นเราไม่ห่วงอยู่แล้วยืมหนังสือเม้งได้" (แต่ละวันนี่ตั้งใจไปเรียนหรือเปล่า?)
***********************************************************
การเกาะกลุ่มนร.เข้าประตูหน้าคราวนี้ยากกว่าเดิมหลายเท่า แว่นก็ไม่มีแถมวิงเดินด้วย จะก้มหน้าหลุกหลิกผิดปกติมากก็ไม่ได้
ตอนนี้คิดหาแผนจะหลบหน้ากริชยังไงให้ผ่านวันนี้ไป พอขึ้นบันไดตึกได้ค่อยโล่งใจหน่อย
"ต้น เราไปละนะ ห้องเราอยู่ชั้น 4"
"อืม ขอบใจนะวิง....แล้วชุดนี่จะคืนยังไงล่ะ?"
"แล้วค่อยคุยกันตอนเลิกเรียนละกัน ไปล่ะต้น" แล้ววิงก็ขึ้นบันไดต่อ ส่วนผมแยกเข้าห้องประจำชั้น
โอย....ถ้าต้องเครียดแบบนี้ทุกวันตรูต้องตายก่อนเรียนจบแหงๆ กินถั่วหมั่นหลีหม่งสักถังจะช่วยได้ไหมเนี่ย...(มุขแป๊กตามเคย) มันจะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กันนะ....
ใจคิดถึงคำพูดของวิง.....ต้นลองเชื่อใจคนอื่นบ้างดิ๊.....
ถ้าความจริงเปิดเผยแล้วกริชจะเชื่อใจผมแค่ไหนว่าผมไม่ได้ทำเพื่อหลอกลวงเขา
"เมื่อเช้ากินบัวลอยมาเหรอวะ? นั่งใจลอยเชียว" เม้งมาเกือบสายตามเคย ไม่เข้าใจคนอยู่ใกล้โรงเรียนมักมาสายประจำ แต่คนอยู่ไกลๆ ดันมาแต่ไก่โห่
"พูดแล้วก็หิวนิดๆ ว่ะแต่รอกินข้าวเที่ยงเลยละกัน" จะบอกมันว่ายังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยแต่ขี้เกียจเล่าวีกรรมของเจ้าวิงเลยนั่งเงียบต่อไป
หาเหตุผลดีๆไม่ได้ด้วยล่ะว่าผมไปทำอะไรหน้าร้านเหล้าเมื่อคืน แล้ววิงจะไปทานข้าวเช้าที่โรงอาหารทันไหมเนี่ย.....โว้ย! กรูจะคิดห่วงเขาทำไมเล่า
นี่ผมใส่ชุดนร.ของวิงอยู่นะ....พอคิดว่าตามปกติร่างที่อยู่ใต้เสื้อผ้านี้เป็นเจ้าวิง มันก็เหมือนเนื้อแนบเนื้อยังไงพิกล
"โว๊ยยยย!!!!!" ผมเอาหัวโขกโต๊ะไล่จิตอกุศลออกไปให้หมด ตรูไม่ใช่คนหลายใจว้อยยย!!!
"กรูว่าแล้วมรึงปกติได้ไม่นาน"
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
คาบสองผ่านไปอย่างสงบตามด้วยคาบสามวิชาเลข ผมนั่งเหม่อคิดถึงกริชพลางคลำหน้าผากป้อยๆ
ใจก็นึกเป็นห่วง.....อยากได้ยินเสียงก็ยังดีอย่างน้อยขอรู้ว่าเขาสบายดีก็พอใจแล้ว.....
"ต่อไปห้อง 4/4"
ใช่....เสียงนี้แหละที่ผมอยากได้ยิน เสียงที่เข้มแข็งและอ่อนโยนของ.......?
หูฝาดหรือเปล่า.....เสียงมาจากระเบียงข้างห้อง....อย่าบอกนะว่า....
ผมหันมองผ่านกระจกห้องออกไปตามเสียง.....ตายห่าแล้วๆๆๆๆๆๆ
..
..
..
-
มาแล้วววว กริชมาแล้วแน่ ๆ ๆ
-
:impress:
WoW!!!!!!!!!!!
กริชมาแย้ววววววว.................
ตายแน่ไอ้ต้น
รออ่านต่ออยู่นะคับ
o15
-
เหอ เหอ อย่าบอกนะว่ากริชมา o18 เสร็จแน่ต้นเอ้ย :haun5:
-
:haun5: :haun5: อิอิ
-
...........กริชมาแว้ว..... :o9: :o9:
...........ระวังตัวเถอะต้น....จะลื่นไปได้อีกซักเท่าไหร่........ :teach:
-
หลบให้ได้นะ ต้น :laugh3:
ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
-
ตอนที่ 25 ความจริง
กริชจริงๆ!!! กริชกับพี่โจ้กำลังยืนตรงระเบียงห้องผม!!
ผมรีบหันหน้าหลบ.....ตายล่ะมาถึงห้องเลยเหรอวะ?! แล้วที่พูด 4/4 นั่นก็เลขห้องผม!
อย่าบอกนะว่าจะว่ายืนยันตัวนักกีฬากันอีกรอบ! แว่นก็ไม่มี จะลุกหนีไปห้องน้ำตอนนี้ต้องโดนอาจารย์เรียกชื่อเท่ากับลุกยืนให้กริชเห็นผมเต็มๆ! หรือจะแกล้งฟุบหน้านอนดีวะ!? ไม่ได้ๆ!!! เม้งไม่ใช่คนโง่ ฟังที่มันเล่าเรื่องคุยโทรศัพท์กับพี่โจ้ก็รู้แล้วว่าไอ้เม้งหัวไว
โทรศัพท์.....เออโทรเข้ามือถือเขาตอนนี้จะทำให้เขาวิ่งออกไปเหมือนคราวก่อนมั๊ย....โทรหาเช้าขนาดนี้จะมีพิรุธรึเปล่า?
ผมค่อยๆ เอื้อมมือไปล้วงมือถือออกจากระเป๋ากางเกง เดี๋ยว....ซิมในเครื่องตอนนี้มัน....
เมื่อเช้าตอนวิงอาบน้ำ ผมตรวจดูว่ากริชโทรมาไหม....จากนั้น....ได้สลับซิมรึเปล่า....
ใช่! ซิมในเครื่องตอนนี้เป็นของผมในสภาพนักเรียน ถ้าเปลี่ยนตอนนี้ต้องมีพิรุธแน่ เม้งก็นั่งข้างๆ นี่เอง
อย่าว่าแต่ลุกหนีหรือแกล้งนอนเลย แค่หลุกหลิกก็ฟ้องให้เม้งรู้ทันทีว่าคนที่ผมหลบหน้ามาตลอดคือพี่กริช!!!
ภาพสมัยม.ต้น.....ประถม....ภาพตอนเด็กๆ ที่เล่นโคลนกับพี่....ของเล่นที่พ่อซื้อให้....ภาพตอนแม่หัดเดิน....ภาพตอนเป็นเอ็มบริโอ...(จำได้ด้วยเหรอ)
ทำไมภาพมันย้อนกลับในหัว หรือนี่คืออาการของคนกำลังจะตาย...อนิจจา จุดจบจอมวางแผน...ความลับกำลังจะแตกกลางห้องต่อหน้าเพื่อนๆ ทุกคนและอาจารย์!!
"พี่กริช ห้องนี้ผมโทรถามแล้ว น้องนักบาสสองคนเขายืนยันแล้วล่ะ ไม่เบี้ยวแน่"
เสียงพี่โจ้ดังแว่วมา จะได้ผลไหมนั่น เจ้าพระคู๊ณ!! ขอให้กริชอย่าเดินเข้ามาเล๊ยยย!!!!
"อืม ขอบใจนะ โจ้เรียกชื่อเราเฉยๆ ก็ได้" .....สำเร็จไหม?
"ขอโทษนะโจ้ที่เราทำให้ลำบาก" ....มีเรื่องอะไรกันแน่?
"....เอ่อ โจ้" ทำไมกริชพูดอยู่ฝ่ายเดียว ลางสังหรณ์บอกว่าอะไรบางอย่างกำลังตึงเครียด.....
"ทำไมพี่กริชต้องทำแบบนี้!"
เวรล่ะ! พี่โจ้ตะโกนซะลั่นโลกเลยพวกมรึงจะวางมวยกันเหรอ? ตายห่าแล้วแทนที่จะเดินจากไปเงียบๆ กริชกับพี่โจ้ดันมาทะเลาะกันตรงนี้!!
ตอนนี้คนทั้งห้องหันไปดูละครับ! ถ้าผมไม่หันไปดูด้วยก็ต้องผิดสังเกตน่ะสิ! ผมค่อยๆหันหัวไปที่ระเบียงแต่พยายามให้ใบหน้าอยู่ที่เดิม (ทำได้ด้วยเหรอ?)
กริชยืนก้มหน้านิ่ง ส่วนพี่โจ้กำหมัดรุ่นๆ นี่มันเรื่องอะไร?
"โจ้......เราขอโทษ"
พี่กริชทำมาตั้งนาน บอกเองไม่ใช่เหรอว่าทุ่มเทเพื่อสีน่ะ!!" หน้าพี่โจ้แดงก่ำเลยครับ กริชยังยืนนิ่ง แล้วผมจะทำยังไงดีเนี่ย!?
"แล้วจู่ๆ มาทำแบบนี้......ถามพี่จริงๆ เถอะ จะลาออกจากตำแหน่งทำไม?! คนอื่นเขาวุ่นวายกันหมดแล้วรู้มั๊ย!!"
อาจารย์รีบเดินไปตะเพิด กริชกับพี่โจ้ที่หน้าแดงก่ำจึงเดินลงบันไดตึกไป ทิ้งผมไว้กับความงุนงง....ลาออกจากตำแหน่ง....
*******************************************************
ระหว่างมื้อเที่ยงเม้งยังชวนคุยด้วยความสงสัยเรื่องการลาออกจากตำแหน่งรองประธานฯฝ่ายนักกีฬาของกริช
"แต่พี่กริชนี่กรูไม่คุ้นหน้าเลยนะ เพิ่งได้ยินชื่อวันนี้แหละ" กรูน่ะคุ้นมากเลย หน้าแนบหน้ามากี่ครั้งละนั่น
"เหมือนพี่เขาไม่สุงสิงกับใครนะ? สงสัยมุ่งทำสีแดงอย่างเดียว แล้วลาออกทำไมวะ?" คนเคยซ้ำชั้นมาก็คงอายไม่อยากเจอะเจอใครมั้ง
".....เป็นไรวะต้น มรึงนั่งเงียบอย่างเดียว?"
"เปล่า...กลัวทีมบาสล่มน่ะ"
ลาออกจากตำแหน่ง.....แล้วจะลาออกจากโรงเรียนด้วยหรือเปล่า....ผมกังวลมากแต่จู่ๆ จะโทรหากริชตอนนี้คงผิดสังเกต
ใจมันร้อนรุ่มไปหมดแล้ว....เพราะผมเหรอ....เพราะผม....
ก่อนหมดพักเที่ยงผมหลบไปหาที่เงียบๆ เปลี่ยนซิมหวังว่าจะโทรหาเขา กริชยังไม่โทรมาอยู่ดี.....
ถ้าผมโทรไปแบบคนรักกันตามปกติคงไม่มีพิรุธมั้ง....แต่กริชตอนนี้.....
ผมเปลี่ยนใจเดินกลับห้องเรียนแต่ยังเสียบซิมคาไว้แบบนั้นเผื่อกริชจะติดต่อมา....
********************************************************
"เป็นอะไรเหรอต้น? หน้าหมองๆ" ผมมารอวิงหน้าห้องหลังเลิกเรียน
"ไม่มีอะไรหรอก แล้วเรื่องชุดนี่จะคืนวิงยังไงดี?"
"ต้นเอามาคืนวันมะรืนก็ได้ เราเองจะได้กลับไปซักชุดของต้นมาคืนเหมือนกัน"
".....วิงซักเองเหรอ?"
"ก็......"
ตอนที่ผมพูดก็เพราะเข้าใจว่าเขาซักผ้าเอง แค่พูดเปรยๆ แต่กลับทำให้สีหน้าเขาเศร้าลง
วิงไม่ตอบคำถามแต่เดินลงบันไดตึกไปร้านขายน้ำอัดลมในโรงเรียน ผมเดินตามไปด้วยความรู้สึกผิด ตรูพูดอะไรไม่ถูกเนี่ย?
ใจหนึ่งก็กังวลเรื่องกริช อยากโทรหาเขาเร็วๆ แต่เรายืมชุดวิงมาคงต้องคุยกับเขาให้จบก่อน เราซื้อน้ำคนละขวดแล้วไปหาที่นั่งข้างสระน้ำหลังโรงเรียน เป็นที่ๆ เงียบและเย็นสบายดี
"เราซักเองแหละ แต่มีเครื่องนะไม่ลำบากหรอก เราดิทำนายเดือดร้อนมาทั้งคืน"
"แล้วไม่มีแม่บ้านทำให้เหรอ?"
วิงส่ายหน้า "มีแค่เรากับพ่อน่ะ"
"แล้ว....เอ่อ..."
"แม่เราหย่าไปอยู่ที่อื่นน่ะ"
"ขอโทษนะวิง" ผมไม่น่าเริ่มพูดเรื่องนี้เลย
"ไม่เป็นไรหรอกต้น ขอบใจนะ เรื่องนานมาแล้วเราไม่เศร้าแล้วล่ะ"
..
..
"อย่าทำหน้าแบบนั้นดิต้น ใครๆ ครอบครัวไหนก็มีเรื่องทั้งนั้นแหละ" วิงหัวเราะเบาๆ เหมือนจะยืนยันให้ผมสบายใจ
ดูเขาเป็นผู้ใหญ่ผิดจากภาพภายนอก .....เป็นผู้ใหญ่.... ตั้งแต่เมื่อเช้าที่โรงแรมจนมาถึงที่บ้านเขาและแม้แต่ตอนนี้...วิงยังไม่ถามผมเลยว่าผมไปเจอเขาได้ยังไง? แล้วยังเรื่องที่.......
"เย็นแล้วกลับบ้านกันดีกว่า" วิงลุกเอาขวดไปคืนร้านผมจึงเดินตามบ้าง ผมกำลังคิดว่าจะกลับทางเดียวกับเขาอย่างน้อยก็แสดงน้ำใจ แล้วค่อยต่อรถสองแถวเข้าหมู่บ้านได้ไม่ลำบากแต่อีกใจยังสงสัย ...ดื่มมากจะแฮงค์มาโรงเรียน....หรือคนที่...เป็นไปได้เหรอ?
ตรื้ด! ตรื้ด! มือถือของผมสั่น....กริชโทรมาแล้ว!
เอาไงดีล่ะวิงก็เดินอยู่ข้างๆ แต่ผมอยากรับสายเขาให้เร็วที่สุด คนที่ผมเป็นห่วงที่สุด
"เพื่อนโทรมาเหรอ? งั้นเราไปก่อนล่ะ โชคดีนะต้น" วิงเดินไปไกลแล้ว ผมจึงแว่บเข้าหลังตึกใกล้ๆ ที่น่าจะเงียบที่สุด
ดีนะที่กริชยังโทรเข้าอยู่อย่างนั้น ....รู้สึกผิดกับวิงเหมือนกันนะเนี่ย....
"สวัสดีกริช" ผมแกล้งทำเสียงปกติทั้งที่กำลังเป็นห่วงเขามากเหลือเกิน
"......ขอโทษนะต้น ผมปิดเครื่องไว้"
"ไม่เป็นไรครับ กำลังเป็นห่วงอยู่เลยเนี่ย"
"......ต้น"
"ครับ?" ทำไมน้ำเสียงเขายิ่งเครียดกว่าเมื่อเช้าอีกละเนี่ย?
..
..
"คืนนี้ต้นว่างมั๊ย?" น้ำเสียงที่เครียดและเศร้าจนสังเกตได้บอกให้รู้ว่า 'คืนนี้' จะไม่เหมือนคืนก่อนๆ ที่ผ่านมา
..
..
..
-
..........ต่อด่วน.......... o9 o9 o9
..........ค้างคามากๆ...... :serius2: :serius2:
-
o15
เรื่องไรอีกเนี่ย พ่อแม่กริชหรือเปล่าน้า หรือ แฟนเก่า
มาต่อไว ๆ เรยครับ ค้างคามากมาย
วันอาทิตย์นี้จะบวชแร้ว จะไม่ได้อ่านกระทู้อีกนานเรย
มาต่อไว ๆ นะครับ
:impress:
-
ทำไมคืนนี้จะไม่เหมือนคืนก่อนละ o9 o9 o9 อยากรู้ง่ะ ลุ้นมาก ๆ :dont2: :dont2:
-
สวนสาธารณะใหญ่แห่งหนึ่งบนถนนสุขุมวิทคือสถานที่นัดของกริช ก็ดีใจหรอกนะที่ผมกับกริชจะไปที่อื่นๆ กันบ้างนอกจากเดินห้างทานข้าวดูหนังแล้วจบลงที่บ้านเขา แต่วันนี้ทุกอย่างแปลกไปหมดจนผมทำตัวไม่ถูก กริชคิดอะไรกันแน่......ผมมาก่อนเวลาสองทุ่มเล็กน้อยตามที่นัดและเจอกริชนั่งอยู่ก่อนแล้ว
"....สวัสดีครับกริช"
"สวัสดีต้น"
สีหน้าเขาไม่สู้ดีเลย ผมนั่งลงข้างๆ เขาริมสระน้ำ กระชับเสื้อแจ๊กเก็ตขึ้นเพราะอากาศเริ่มหนาวแล้ว
"ขอโทษนะพามาที่ลำบาก"
"ไม่เป็นไรครับ ที่ไหนก็ได้"
อันที่จริงตรงนี้ก็ดี พระจันทร์ลอยอยู่เหนือหัวสะท้อนภาพให้เห็นในสระน้ำด้วย แต่คงไม่ชนะความทุกข์ในใจเขาและผมตอนนี้ได้
"กริชมีปัญหาอะไรหรือเปล่าทำไมทำหน้าแบบนั้น?"
"เมื่อวันศุกร์ พ่อแม่ของผมมาหาที่บ้าน" ....เอ่อ เวรละตรู......
"พ่อแม่ผมอยู่ต่างจังหวัดน่ะ ปกติจะมาเยี่ยมนานๆ ครั้ง แต่คราวนี้...มีปัญหากันนิดหน่อย ผมเลยต้องตามท่านกลับไปช่วงเสาร์อาทิตย์"
ตายห่าละๆๆๆ เพราะผมใช่มั๊ยเนี่ย? ผมรู้สึกผิดมากๆ เลย
"ต้น.....ผมรักต้นนะ" ประโยคเดิมที่ได้ยินกี่ครั้งก็ชื่นใจแต่ครั้งนี้มันมีความเศร้าปนในน้ำเสียงจนน่ากลัว
"เราก็รักนายนะ กริชไม่สบายใจอะไรเล่าให้เราฟังได้มั๊ย?"
"ผมมีเรื่องอยากจะบอกต้น แต่ถ้าบอกไปแล้ว....ต้นอาจจะ...เกลียดผม"
เหมือนหัวใจหยุดเต้นไปเฮือกหนึ่ง
"เพราะอย่างนั้นผมเลยนัดเจอที่นี่ ไม่อยากคุยที่บ้าน ...มันเหมือนผมบีบบังคับใจต้นเกินไป"
ผมกอดเขาไว้ กริชตรงหน้าผมเหมือนคนที่กำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ และผมไม่รู้จะช่วยเขาได้ยังไง
"พูดมาเถอะครับ ไม่ว่าเรื่องอะไร...เรารอฟังจากกริชได้"
ปากบอกอย่างนั้นแต่ใจผมเองก็กลัว.......ลืมเรื่องเก่าให้ขาดไปซะ.....เริ่มต้นชีวิตใหม่.....
....สมุดที่เจอในห้อง.....ทะเลาะกับพ่อแม่......เรื่องที่บอกแล้วผมจะเกลียดเขา.....เรื่องอะไรกัน
กริชโอบกอดผมไว้เช่นกัน ใต้แสงจากพระจันทร์กับความหนาวเย็นที่โอบล้อม
เขาเริ่มพูดคำแรก คำแรกของเรื่องราวทั้งหมดที่ผมไม่เคยรู้ เรื่องที่เขาเก็บงำมานาน
----------------------------จบบทที่ 1--------------------------
-
..........เฮ้ย..........ไม่ยอม...... :serius2: o9 :serius2: o9
..........ค้างคามากๆ.........ลงต่อเถอะคราบ........นะนะ.... o1 o1
-
:impress:
โอ๊ย....... ไม่เอาแบบนี้อ่า มาต่อไว ๆ เถอะได้โปรด
ค้างคามากมาย ก่ายกอง
มาต่อเถอะคับ ไม่ไหวแร้วววววว...........
:laugh:
-
คุณพูห์ มันค้างงงงง o9
คุณพูห์จงมา :amen: จงมา :amen: จงมา :amen:
-
o18 o18 ดูดูดู จบซะโอ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆเครียด o18 o18
-
โกธรอย่างแรง
ถ้าอยากให้อภัย มาต่อโดยด่วนนนน
ใจจะขาดดดด
-
จบบทที่ 1 o22 o22 จบได้ค้างคามากกกกกกกกกกกก o9 o9 o9
จาอ่าน จาอ่าน o9 o9 o9 o9
เดี๋ยวช่วยจุดธูปเรียกพูห์ดีกว่า :call: :call: :call:
-
+ 1 สำหรับแฟนๆ คุณ Sorrow ทุกคนนะคร้าบบบบ
เดี๋ยวบ่ายๆ มาต่อบทที่ 2 ให้นะครับ
ขอบพระคุณคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
o1
-
คุณพูห์ไหนว่าบ่ายจามาต่อ มันจาเย็นแล้วนะ o9
คุณพูห์จงมา :amen: จงมา :amen: จงมา :amen:
-
เห็นด้วยกะรีบนนี่ก้อบ่ายแก่มั่ก ๆแล้ว ยังไม่มาอีกเหยอ o11 o11
-
o13
เห็นด้วยกับสองรีข้างบนคับ
เมื่อไหร่จะมาเนี่ย โอม..........เพี้ยง จงมา...จงมา... จงมา.....
มาต่อไว ๆ นะครับ รออยู่
เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ
:impress:
-
======================= บทที่ 2 ความหลัง =======================
ตอนที่ 1 ลูกผู้ชายบ้านสวน
เครื่องเกมกดถูกวางใว้ด้านบนสุดของเป้ เผื่อหยิบมาเล่นบนรถแต่จริงๆ คงไม่มีอารมณ์เล่นหรอก
ผมมองไปรอบๆ บ้านสวน บ้านที่ผมอยู่มาตั้งแต่เกิดแต่วันนี้จะเป็นวันที่ต้องลากันแล้ว วันนี้ที่เด็กตัวกระเปี๊ยกคนนี้จะลาพวกแกไปล่ะนะ
"กริช เสร็จรึยังลูก? สิงห์รออยู่แล้วนะ!"
เสียงแม่ตะโกนเร่งเพราะถนนไม่ดีต้องใช้เวลานานกว่าจะขับรถถึงกรุงเทพฯ ผมรีบยกกระเป๋าทั้งหมดลงมาชั้นล่าง
เพราะหากแม่เร่งเป็นครั้งที่สองแม่จะแถมให้หนึ่งเผียะ แม่ตีด้วยฝ่ามือเบาๆ ไม่เจ็บแต่อาย
"อ้าวจัดตั้งหลายใบเชียว ทำไมไม่บอกแม่ล่ะจะได้ช่วยยก"
"ผมยกเองได้ครับ ผมขึ้นม.1 แล้วนะ"
"จ้าๆ" แม่นั่งยองๆ ลูบหัวผมทำให้รู้ว่าตัวผมยังไม่ได้สูงอย่างที่พยายามคุยเขื่อง
"กริชอยากให้แม่ไม่เป็นห่วงใช่ไหม?"
พ่อเดินมายกกระเป๋าทั้งหมดไปใส่ท้ายรถ พ่อไม่ชอบ 'ฉากหวานๆ' จึงมาเงียบไปเงียบตามเคย
ผมจะบอกพ่อว่าเป้สีฟ้านั้นผมตั้งใจจะถือไว้เองเพราะข้างในมีเกมกดไว้เล่นบนรถแต่เงียบไว้ดีกว่า อะไรที่พ่อทำแล้วใครก็ห้ามยาก
พ่อเก็บกระเป๋าใส่ท้ายรถเสร็จก็เดินไปคุยกับลุงแดงพ่อของเจ้าสิงห์ ส่วนเจ้าสิงห์เพื่อนผมมันนั่งนิ่งในรถเรียบร้อยแล้ว
ผมเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถข้างสิงห์ ปกติมันชอบซนไปเรื่อยแต่สถานการณ์วันนี้มันยากสำหรับเด็กคนหนึ่งจะทนได้
เมื่อผมกับสิงห์กำลังจะจากบ้านเกิดไปเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร
"เป็นไงวะ?" หน้ามันตื่นๆ
"เออ" ผมตอบสั้นๆ แต่เข้าใจกันสองคน
สิงห์กับผมเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ ก่อนจะจำความได้อีกมั้ง ครอบครัวเราสองบ้านสนิทกันมากเป็นเพื่อนชาวสวนบ้านใกล้กัน
ต่อมาพ่อผมขายที่สวนเอาเงินไปเปิดร้านของชำ
พอจบป.6 พ่ออยากให้ผมได้เรียนในเมืองกรุงเทพฯ ลุงแดงก็คิดเช่นเดียวกันจึงพาเราสองคนไปสอบเข้าโรงเรียนในเมืองกรุง
ผมได้เข้าโรงเรียนมีชื่อสมใจพ่อ ส่วนสิงห์ได้อีกโรงเรียนที่ลุงแดงมีเพื่อนเป็นครูอยู่ และวันนี้คือวันที่พ่อจะพาผมกับสิงห์เข้าไปอยู่หอประจำที่เมืองกรุงเทพฯ
"ไหวแน่นะมรึง?"
"มรึงล่ะ?" สิงห์ผงกหัวเช่นเดียวกับผม ตาแดงพอๆ กัน
"ลืมอะไรอีกไหม?" พ่อเข้านั่งในรถ
เมื่อตอบว่าไม่ลืมครับ พ่อก็ออกรถโดยไม่มีสุ้มเสียง ไม่มีแม้แต่การร่ำลาแม่เพราะพ่อไม่ชอบฉากหวานๆ หรือไม่ก็กลัวผมหรือสิงห์ร้องไห้เปลี่ยนใจ
และแล้วก็มาถึงหอเกือบหนึ่งทุ่ม พ่อพาเราสองคนไปหาเจ้าของหอ พ่อบอกต้องเรียกเขาว่า 'มัสเซอร์'
หอนี้เป็นหอนร.ชายเอกชนแต่เจ้าของหอเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนของสิงห์นั่นเองจึงเน้นรับนร.จากโรงเรียนนั้นโดยเฉพาะ
(โรงเรียนของสิงห์เป็นสหะ แต่หอนี้รับเฉพาะนร.ชาย) พ่อบอกว่ากว่าจะขอให้เขารับผมซึ่งเป็นเด็กต่างโรงเรียนได้ก็ลำบากแทบแย่
เห็นพ่อก้มหัวประหลกๆ ให้คนอื่นเช่นนี้ทำให้ผมโมโหเกลียดขี้หน้ามัสเซอร์มาก
"โรงเรียนไม่ใช่คริสต์ซะหน่อย" ผมกระซิบกับสิงห์หลังออกจากห้อง 'มัดเซ่อ'
"เออ เสรือกเรียกตัวเองว่ามัสเซอร์"
"เรียกแมร่งไอ้เซ่อดีกว่า" ใครว่าเด็กประถมบ้านนอกไม่รู้เรื่อง
พอเดินออกมาข้างนอกพ่อก็นั่งยองๆ กอดเราสองคน พ่อทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
พ่อที่เข้มแข็งเป็นคนดุเสมอไม่เคยให้ใครเห็นน้ำตา ตอนนี้กำลังร้องไห้กอดเราสองคนไว้แน่น ไม่นานสิงห์กับผมก็ร้องตาม
"พ่อ ผมไม่อยากอยู่นี่" ผมพูดไปร้องไป
"ไหนว่าอยากเรียนเมืองกรุงไงลูก"
"อยากเรียนแต่ผมไม่ชอบไอ้มัดเซ่อ ทำไมพ่อต้องก้มหัวให้เขา ผมเกลียดมัน!" พ่อรีบเอามือป้องปาก
"เรื่องบางเรื่องก็ต้องทนนะกริช ลูกผู้ชายบ้านสวนอย่าให้เสียชื่อ"
"น้าภพ ผมก็ไม่อยากอยู่ ผมจะพากริชไปอยู่ข้างนอก จะดูแลเขาเอง" น้าภพคือชื่อพ่อผม
"ผมจะดูแลไอ้สิงห์ให้ พ่อขอร้องลุงแดงทีนะพ่อ"
พ่อลูบหัวเราทั้งสองคน ความฝันแบบเด็กๆ มันคงยากเกินไปสินะ
"กล้าแสดงความรับผิดชอบต่อคนอื่นแล้วเหรอ? เจ้าหัวเม่นสองคนนี่ท่าจะเป็นหนุ่มแล้วจริงๆ เอางี้ ถ้าเรียนได้คะแนนดีทำตัวดีจนจบม.2 พ่อจะหาบ้านให้อยู่"
พ่อไม่เคยโกหกผมจึงไม่จำเป็นต้องถามย้ำ น้อยครั้งเหลือเกินที่พ่อจะให้อะไรสักอย่าง และชิ้นนี้ก็ใหญ่จริงๆ
"กริช ลูกต้องดูแลสิงห์นะ"
"สิงห์ ต้องเข้มงวดกับกริชล่ะ" อ้าวไหงเงี้ย?
"ถ้าดื้อนิดเดียว ลุงแดงจะแจ้นมาแน่ หึหึหึ"
บรึ๋ย!! คำขู่นี้น่ากลัวกว่าพ่อดุด่าเสียอีก พ่อที่น่ากลัวแล้วแต่ลุงแดงน่ากลัวกว่าเพราะลุงแกหวดเจ้าสิงห์ทีขาลาย
และทุกครั้งที่ลุงทำแบบนั้นผมจะกอดขาลุงแดงร้องไห้เจ็บปวดยังกับโดนตีซะเอง พ่อบอกยิงกระสุนนัดเดียวได้เม่นสองตัว
สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย เด็กเยอะแยะที่เหรี้ยๆ ตั้งแต่เข้ามาก้าวแรกก็มี
ที่เจ็บใจสุดคือเกมกดผมโดนริบ และเงินที่พ่อให้ติดตัวมาก็โดนมัสเซอร์ริบไปเช่นกัน เขาบอกจะทยอยให้ทุกสัปดาห์
ทุกอย่างเป็นระเบียบหมดตั้งแต่การกิน การอาบน้ำ ช่วงเวลาอ่านหนังสือทำการบ้าน เวลาดูโทรทัศน์ และการเข้านอน เนื่องจากโรงเรียนยังไม่เปิดจึงต้องทนอยู่กันในนี้ไปก่อนแต่มัสเซอร์ก็มีสอนพิเศษให้ในหอ
มัสเซอร์บอกว่าพรุ่งนี้วันอาทิตย์จะพาผมนั่งรถเมล์ไปโรงเรียนของผมซึ่งอยู่ไกลทีเดียวต้องจำให้ได้
วันจันทร์จะรับ-ส่งอีกทีแล้วต้องไปด้วยตัวเองให้ได้ สิงห์เสนอขอไปด้วยมัสเซอร์ก็ไม่ห้ามเพราะมาด้วยกัน
เช้าวันอาทิตย์จึงเป็นการนั่งรถเมล์ไปกลับโรงเรียนผมหลายเที่ยวให้แน่ใจว่าไม่ลืม ถึงจะนั่งวนไปมาแต่ทุกอย่างตื่นตาตื่นใจไปหมด สิงห์ก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน
"โรงเรียนมรึ-- นายนี่ดีจังได้นั่งรถไกลๆ ด้วย"
มัสเซอร์ถือโอกาสสอนสิ่งต่างๆ ให้พวกผมระหว่างนั่งรถ ทำให้รู้ว่าแท้จริงแล้วท่านก็ใจดีแต่จำเป็นต้องเคร่งขรึมเพื่อคุมเด็กๆ
"เรื่องหนึ่งที่ต้องจำไว้คือห้ามทะเลาะวิวาทชกต่อย เข้าใจไหม?" มัสเซอร์คงรู้ว่าเด็กบ้านนอกอย่างพวกเราใจร้อนหมัดถึง
คืนวันอาทิตย์ผมเหนื่อยจากการนั่งรถไปมาจึงหลับเร็ว ดึกๆ ใครมาสะกิดก็ไม่รู้
"กริช..."
"ไรวะสิงห์"
"กรูนอนไม่หลับ กรูกลัวผี ขอนอนด้วยนะ"
ไอ้สิงห์เป็นคนกลัวผีครับ ไม่สมเป็นเด็กบ้านสวนเลย ผมเขยิบให้มันนอนด้วยถึงจะเบียดแต่ก็รู้สึกดี
เช้าวันจันทร์มัสเซอร์พาผมขึ้นรถเมล์ไปโรงเรียนและพาเข้ารายงานตัวก่อนส่งที่ประตูห้องประจำชั้นม.1
ผมตื่นเต้นกับทุกสิ่งทุกอย่าง โรงเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ ห้องเรียนแบบมีร่องบนโต๊ะไว้เก็บปากกา
ยิ่งเจออะไรแปลกๆใหม่ๆ ก็อยากให้เจ้าสิงห์ได้มาเห็นด้วย น่าเสียดายที่เราอยู่กันคนละโรงเรียนไม่งั้นคงสนุกกว่านี้
พอเลิกเรียนผมรีบเบียดแย่งจะออกประตูเป็นคนแรก อยากกลับไปเจอมันให้เร็วที่สุด เรื่องที่อยากเล่ามีเต็มหัวไปหมดโรงเรียนมันคงไม่มีอะไรแบบนี้แน่
"เป็นยังไงบ้างโรงเรียนใหม่ มีชื่อนะเนี่ย"
"ก็ดีครับ มัสเซอร์"
"เล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฟังบ้างสิ"
"ไม่ได้ครับ....ผมจะเล่าให้สิงห์ฟังคนแรก" มัสเซอร์หัวเราะเบาๆ ก่อนพาผมขึ้นรถเมล์ที่แสนแน่นกลับหอ
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
-
แล้วก็มารอลุ้นต่อปายยยยย :o9:
-
ความหลังของกริชเหรอนี่ แล้วสิงห์คงเป็นนายสิงหราชใช่ปะ :interest:
รอต่อปายยยยยยยยย :amen: :amen:
-
o15
จะติดตามต่อไปนะครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ
:impress:
-
:undecided:
ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
-
ความหลังของกริชเหรอนี่ แล้วสิงห์คงเป็นนายสิงหราชใช่ปะ :interest:
รอต่อปายยยยยยยยย :amen: :amen:
คิดเหมือนกันอ่ะ :teach:
-
:impress: :impress: ความหลังที่หอมหวานแต่ อาจจะจบด้วยความขม เฮอะ :sad2:
-
นอกจากการได้อยู่ใกล้เพื่อนรักจากบ้านสวนและมัสเซอร์ที่ใจดีแล้วการอยู่หอก็ไม่น่าสนุกเอาเสียเลย ยิ่งไอ้ชีวิตประหลาดที่นอนหอนึงแต่ไปโรงเรียนอีกที่ เวลาอยู่ในหอก็คุยกับใครไม่รู้เรื่องเพราะคนอื่นๆ มันอยู่โรงเรียนเดียวกับไอ้สิงห์ทั้งนั้น ไอ้เรื่องสนุกๆ ที่โรงเรียนผมก็เอามาคุยกับพวกมันไม่ได้ นี่ทำให้ผมเบื่อเซ็งเป็นสามเท่า มิน่ามัสเซอร์ถึงไม่อยากรับผมมาแต่ทำไงได้ก็โรงเรียนผมไม่มีหอแบบนี้ สิงห์สังเกตได้ว่าผมเบื่อ มันจึงมาคุยเล่นกับผมบ่อยๆ
"เบื่อพวกกระเทยว่ะ ทำไมไม่ไปอยู่หอหญิงวะ?" ไอ้เชียชั้นม.3 เป็นคนที่ชอบหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว มันถือว่ามันใหญ่สุดในหอ
(หอรับถึงแค่ม.3 จากนั้นต้องไปหาหอที่อื่นอยู่เอง)
ผมกับสิงห์เหม็นหน้ามันเต็มทีแต่ไม่อยากมีเรื่อง เด็กหอคนอื่นเล่าประวัติมันว่าจริงๆ มันชื่อเดียร์ แต่เป็นนักเลงประจำหอ
ใครอยู่ใกล้ได้ชิบหายทุกคนเลยลงมติเปลี่ยนชื่อเล่นมันเป็น เชีย (แบบเต็มๆ คือไอ้เชี่ย)
"มรึงว่าใคร?" ไอ้สิงห์มันใจสิงห์สมชื่อ รุ่นพี่โรงเรียนมันก็ไม่กลัว
"ก็เกาะกันแจแบบเนี้ยไม่ใช่กระเทยเหรอวะ?"
ผมดึงไอ้สิงห์ไว้ "อย่าโว้ย เพื่อบ้าน เข้าใจมั๊ย?"
เด็กปัญญาอ่อนทำตัวเป็นเจ้าถิ่นในหอนี่แมร่งมีได้ทุกที่ เห็นแล้วโคตรสงสารพ่อแม่มันจริงๆ ถ้าไม่ติดเรื่องสัญญากับพ่อนะไม่ต้องถึงมือไอ้สิงห์หรอก
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
บ่ายวันเสาร์เป็นเวลาอิสระให้ไปเที่ยวไหนก็ได้ ผมกับสิงห์พอรู้ที่รู้ทางบ้างแต่ก็ไม่มากจึงเดินแค่ตลาดสดใกล้ๆ หอกับโรงเรียน
"กรูหมั่นไส้ไอ้เชียชิบหาย เหรี้ยเดี๋ยวจะหาทางเอาคืน" สิงห์กัดลูกชิ้นไปพูดไป
"บอกแล้วไงเพื่อบ้าน"
"เออๆ กรูรู้กริช"
การใจร้อนของมันทำให้ผมหวั่นใจ สมัยประถมเราอยู่ใกล้กันมากจนผมเดาใจมันออกทุกอย่าง แต่ตอนนี้เหมือนสิงห์มันรั้นขึ้นทุกที
....เหมือนที่ผมกลัว เมืองกรุงจะเอามันไป......
"แต่ซัดแมร่งแบบไม่ให้ใครรู้ก็ได้นี่หว่า เดี๋ยวเย็นนี้ก่อนกลับหอกรูจะ---"
"สิงห์!"
"....กริช...."
มันคงไม่คิดว่าผมจะตะโกนใส่ พอๆกับที่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะทำแบบนั้น ....ทำไมผมถึงโมโหได้ขนาดนี้
แทบไม่มีครั้งไหนที่ผมตะคอกใส่หน้าสิงห์ไม่ว่าเราจะเล่นซนยังไงตอนสมัยประถม
".....กรูขอโทษกริช....." แล้วมันก็เดินไป
อะไรบางอย่างทำให้ใจผมเจ็บปวด ไอ้ความกลัวจะไม่ได้บ้านนั้นก็ใช่แต่ใจมันรู้สึกเจ็บยิ่งกว่านั้น
ผมเริ่มไม่สนุกกับกรุงเทพฯ ซะแล้ว ตอนอยู่บ้านสวนเราเคยเป็นคู่ซี้กันตลอด อยากทำอะไรก็ทำได้ ตอนโดนพ่อดุหรือลุงแดงตีเราก็ยังอยู่ข้างกัน แต่ตอนนี้สิงห์มันไกลออกไปทุกที ....ถ้าได้บ้าน อะไรๆ คงดีกว่านี้....
"กริช มานั่งอะไรนอกตึกล่ะ"
"กรูก็นั่งของกรูตามประสาเด็กโรงเรียนอื่นล่ะวะ" สิงห์ยังหน้าจ๋อย
...
...
"กรูขอโทษ" "กรูขอโทษ" ...เวร พูดพร้อมกันอีก
เราสองคนเริ่มหัวเราะ สิงห์จึงยอมนั่งข้างๆ ผมเหมือนทุกครั้งที่เป็นมา สองคู่หูตัวแสบที่พ่อตั้งชื่อให้
"กริช วันเสาร์ตอนบ่ายโรงเรียนมรึงเปิดมั๊ย?"
"เปิด ทำไมล่ะ"
"เสาร์หน้าตอนว่างช่วยพากรูไปดูโรงเรียนมรึงบ้างนะ"
"เฮ้ยไม่ให้ไปโว้ย เดี๋ยวมรึงไปจีบเด็กรร.กรู"
"อ้าวไอ้แสด แบบนี้สิยิ่งต้องไป"
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
เสียงกริ่งจบการสอบวิชาสุดท้ายดังขึ้น ในที่สุดการสอบปลายภาคม.1 ก็จบลง
ผมมั่นใจเต็มที่ว่าทำได้แน่เพราะติวหนังสือกับสิงห์และมัสเซอร์มาตลอดปี
ม.1 ผ่านไปอย่างยอดเยี่ยม ต่อไปก็แค่ม.2 แล้วเราจะได้บ้านโว้ย!!! นักเรียนเฮกันทั้งห้องส่วนผมจะรีบกลับไปหอ
ดีใจเป็นบ้าเลยที่สิงห์กับผมสอบเสร็จวันเดียวกัน แล้วพรุ่งนี้พ่อจะมารับพวกเรากลับเพชรบุรี
ผมมาถึงหอตอนเกือบบ่ายสามก็รีบเห่อจัดกระเป๋า เด็กม.2 ในหอสอบเสร็จและกลับบ้านกันไปก่อนตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
ส่วนพวกม.1 และม.3 ยังคงสอบอยู่ในโรงเรียนกว่าจะเสร็จก็คงสี่โมงเย็น ตอนนี้หอจึงเงียบมาก
โรงนอนที่เคยเต็มไปด้วยเด็กหอกลายเป็นห้องโล่งที่เงียบจนน่ากลัว ....ทำไมถึงหนาวๆ วะ.....ช่างมันเถอะรีบเก็บของดีกว่า
"เฮ้ย! ไอ้กริช....ตายห่าแล้ว มรึงอยู่นี่เหรอวะ?"
พี่โก้เด็กม.3 ประจำหอยืนหน้าตื่นตรงประตู เด็กม.2 ม.3คนอื่นๆ ในหอผมเรียกพี่หมดแหละ ยกเว้นก็แต่...
"ไอ้เชียมันจะเล่นมรึงกับไอ้สิงห์! มรึงรีบหลบเหอะ!"
มันเรื่องอะไรวะ แต่ได้ยินชื่อนี้ผมก็ควรหลบแหละ......แต่ดูเหมือนจะไม่ทันซะแล้ว....
"อ้ายโก้! เสือกคาบข่ามาบอกเหรอว้า!!"
แล้วไอ้เชียก็โผล่มาด้วยมาดเท่แบบจิ๊กโก๋เจ้าถิ่น...ตามความคิดของมันนะ แต่ผมว่าเหมือนเด็กดมกาวมากกว่า
....เออ....ไม่ใช่แค่เหมือนว่ะ ถุงพลาสติกใสว่างเปล่าที่มือมันกำหลวมๆ บอกว่าในนั้นไม่ได้ว่างอย่างที่เห็น
"ไม่เสียแรงที่กรูอุตส่าห์ทำสอบเร็วๆ จะได้มาเช็คบัญชีพวกมรึงสั่งลาโรงเรียนนี่เลย"
จะตัวต่อตัวหรือสองรุมหนึ่งผมก็ไม่กลัวหรอก แต่เรื่องสัญญากับพ่อนี่สิ....บ้านของผมกับสิงห์....
"ไอ้โก้ ถ้ามรึงไปบอกใครอีกมรึงก็จะได้คลานกลับบ้านเหมือนกัน" ท่านพี่โก้เชื่อฟังมากวิ่งแจ้นหนีไปเลย
โห แม้แต่รุ่นเดียวกันมันยังทำได้ ไอ้เชียปิดประตูโรงนอน ตอนนี้ผมหมดทางรอดซะแล้ว เวรเอ๊ย! หน้าต่างก็ติดเหล็กดัด
"กรูเหม็นขี้หน้ามรึงกับไอ้สิงห์มานานแล้ว วันนี้จะซัดให้หนำใจแล้วกรูก็ขึ้นรถทัวร์กลับบ้าน จบม.3 อย่างไว้ลายเสือ ตอนแรกกะจะมาจัดกระเป๋าให้พร้อมก่อน ดั๊นเจอมรึงมารอถึงที่".....ไว้ลายป๊ะมรึงดิ......
ตอนนี้ผมชักสงสัยโรงเรียนไอ้สิงห์มันสอนเด็กยังไงวะ ใจหนึ่งดีใจที่ไอ้สิงห์ยังไม่มาไม่งั้นมันคงเจ็บตัว แต่อีกใจอยากให้มันมาช่วยตรูชิบหาย
ผมออกวิ่งก่อนล่ะแต่ไอ้เชียตะครุบผมได้ก่อนพ้นโรงนอน หมัดแรกเข้าที่หน้าถากๆ แต่ตีนคอมโบสองเข้าที่ท้องเต็มๆ ยันผมกลับเข้าด้านในโรงนอนอีก
"ไม่พูดอะไรสักคำเหรอไอ้หนู" ผมจุกจนแทบลุกไม่ขึ้น
....ไม่ทะเลาะ....ไม่ด่าตอบ....ไม่ตอบโต้.....สัญญาของพ่อ....บ้านของผมกับสิงห์....หมัดสองหมัดก็พอแล้วโว้ย! ไอ้สัดมรึงเมากาวแล้ว!!!
.....สัญญา.....บ้านของผมกับสิงห์......ผมจะพาสิงห์ไปจากที่เหรี้ยๆ แบบนี้....
"คิดว่าเงียบแล้วกรูไม่ทำมรึงรึไง!!!"
จากนั้นก็ตามมาอีกหลายชุด ผมพยายามวิ่งหนีแต่มันทั้งเจ็บทั้งจุก
....สัญญา.....ลูกผู้ชายบ้านสวนต้องทนได้......
"เฮ้ย! ไอ้สัดเชี่ย มรึงทำไรเพื่อนกรู!!!"
เสียงของสิงห์ "ไอ้บ้า! อย่าเข้ามา!!!" ตาผมลืมไม่ขึ้นแล้วแต่สัมผัสได้ว่าเขากอดผมไว้ "กริช ทำใจดีๆ ไว้"
ภาพรางๆ ผมเห็นสิงห์ตรงเข้าใส่ไอ้เชีย ผมต้องตะครุบมันไว้
"อย่า...สิงห์ มรึงอย่าลื---" ไอ้สัดเชียชกผมเข้าอีกหมัด คราวนี้มึนตึ๊บ เกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้แต่เห็นไอ้สิงห์คว่ำลงข้างๆ ผม
ผมพยายามคร่อมตัวไอ้สิงห์ไว้ แล้วก็เจ็บตามตัวตามหัวไปหมดทุกที่
"มัสเซอร์!!! มีเด็กตีกัน!!!"...........ไอ้สาดไหนตะโกนวะ พวกกรูไม่ได้ตีมันสักแอะ แล้วกรูทนเพื่ออะไร....... เป็นคำสุดท้ายที่ผมคิดในหัว
ภาพไอ้เชียขึ้นคร่อมเงื้อหมัดแล้วก็.......
-
:serius2:
เพื่อบ้าน อดทนไว้
ขออย่าให้มัสเซอร์ เข้าใจผิดเรย
เป็นกำลังใจให้นะครับ
:teach:
-
..........ความหลังมันฝังรากลึกขนาดนี้นี่เอง....
..........ถึงได้ตัดใจได้ลำบากขนาดนี้......... o7 o7
-
อดทนไว้ แต่...ความอดทนก็มีขีดจำกัดเหมือนกันเนอะ :try2:
-
..
..
.....
.....อ.....
......อือ.....
"พ...พ่อ....แม่...."
"กริชลูกแม่!!!" อ้อมกอดที่อบอุ่น....อะไร...... กลิ่นแม่.........
.........สิงห์!!!
"สิงห์ล่ะแม่?" แม่น้ำตาคลอเบ้าจนพูดอะไรไม่ได้
"สิงห์ล่ะ!!!! สิงห์อยู่ไห-"
"กรูอยู่ข้างมรึงนี่แหละ หันมาดูเตียงนี้สิวะ"
ตาผมลืมไม่ค่อยขึ้น แต่พอเห็นภาพ เด็กตัวกระเปี๊ยกคนเดิมแต่หน้าบวมช้ำ มือใส่เฝือกข้างนึง
"อย่าเว่อร์หลายไอ้กริช แค่โดนชกหน่อยๆ ทำเป็น..อู๊ยยยยย!!!!"
ผมยังมึนหัวเกินจะพูดอะไรได้ รู้แต่แม่ให้ผมลงนอน รู้ว่าสิงห์ปลอดภัยผมก็ดีใจแล้ว
"ทำไมเด็กคนนั้นร้ายกาจยังงี้" แม่ปล่อยโฮสวมกอดพ่อ
"แม่จะไปฆ่ามัน!!!" คราวนี้พ่อล็อกตัวแม่ไว้แน่น ภาพที่แม่ล้มวัวด้วยตัวคนเดียวเป็นเกียรติบัตรยืนยันได้ว่าแม่ทำจริงไม่ทิ้งชื่อสาวบ้านสวน
"แม่ใจเย็นๆ ตำรวจจับไอ้เด็กนั่นไปแล้ว"
เออสมน้ำหน้ามัน....ผมเริ่มจะหลับแล้ว.....ง่วงจัง......แต่ผมต้องพูด
"พ่อ...." พ่อชะโงกหน้าเข้ามาหา น้ำตาคลอเลย ตั้งแต่ผมมาอยุ่กรุงเทพฯนี่ได้เห็นพ่อร้องไห้สองครั้งแล้ว
"เหอ...เหอ.....พ่อขี้แย....จัง" พ่อสวมกอดผมเบาๆ ไม่มีคำพูดอะไรอีก
"เห็นมั๊ย...ผ...ผมทนได้.....ลูกผู้ชายบ้านสวนไงพ่อ" ปากตรูคงบวมเจ่อละมั้ง เสียงยังกะคนใกล้ตาย
"คะแนน.....ก็คงได้ A ด้วยล่ะพ่อ"
"สิงห์กรูรู้....มรึงไม่ได้ชกมันกลับใช่มะ?"
"ชกห่าไรล่ะ กรู....เป็นกระสอบทรายเลย"
"พ่อรู้แล้ว ลูกสองคนนอนเถอะนะ"
จากนั้นก็อะไรอีกไม่รู้ผมเคลิ้มๆ หลับๆ ตื่นอีกทีก็มืดแล้วไม่รู้พ่อแม่ไปไหนหมด
"ยังเจ็บอยู่มั๊ยไอ้กริช?"
"...ไม่...เจ็บว่ะแต่ง่วงจัง...."
"คงงั้น กรูก็ง่วง ....เดี๋ยวจะนอนต่อละ"
"เสียชื่อคู่หูตัวแสบจริงๆ เลย โดนเด็กเมากาวซัดซะขนาดนี้"
"อือๆ....อย่าเล่าให้ใครฟังล่ะ โดยเฉพาะตอนที่มรึงเอาตัวบังให้กรู กรูอาย" เสียงมันง่วงมากๆ
...
...
...
"แต่ก็....ขอบใจนะ"
"เออ...กรูรักมรึงว่ะ"
"กรูก็เหมือนกัน"
*****************************************************
เช้าวันรุ่งขึ้นเราก็ตื่นลุกเดินได้สบาย สิงห์ชวนมานั่งระเบียงที่อากาศดีกว่านอนในห้องรวม
"เป็นไงกริช?"
"สบายแล้ว เอ่อแต่หน้ากรูหมดหล่อเลยว่ะ"
"มรึงก็ไม่หล่อมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่หว่า"
"แต่มรึงโดนชกแล้วดูดีขึ้นนะ" ผมแกล้งแตะแผลที่หน้ามัน แต่สภาพนิ้วที่เข้าเฝือกก็ไม่ได้ดีกว่ามันเท่าไหร่
"ถ้ามรึงไม่คร่อมตัวกรูไว้ตอนนั้น ป่านนี้กรูเป็นศรรามไปแล้ว"
"ไอ้เชียโดนไล่ออกจากโรงเรียนแล้วนะ โง่ชิบหาย! อดจบม.3 เลย"
"สมน้ำหน้ามัน"
"เห็นว่าเข้าสถานพินิจเยาวชนด้วยล่ะ"
"ดีเดะ! น้อยไปด้วย น่าจับไปต่อถ้ำกระบอก! ดูสภาพมรึงกับกรูซิ สงสัยแมร่งเมากาวมันเขี้ยวลืมตัวยั้งไม่อยู่"
"ก็กระสอบทรายสองใบเสือกหน้าไปให้มันชกสลับกันก็สมควรมันเขี้ยวอยู่หรอก"
พ่อกับแม่ผมเดินมาแล้ว ลุงแดงกับป้าดาวก็มาด้วย ผมสะกิดไอ้สิงห์ให้รีบลุกไปหาทันที
"พ่อ!!"
"ยังเจ็บอยู่มั๊ยลูก? น่าจะนอนก่อนนะ"
"ไม่เจ็บแล้ว ลูกผู้ชายบ้านสวนซะอย่าง"
"คะแนนสอบก็ดีด้วยนะพ่อ นะลุงภพ" สิงห์รีบตามน้ำทันที ทั้งที่เพิ่งสอบเสร็จเกรดยังไม่ทันจะออกเลย
"เหรอ?"
"ดูแลตัวเองได้แล้วนะ...อู๊ย!!!" ออกท่ามากเกิน
"อดทนมากๆ เลยนะดูดิ"
"แล้วไง?" พ่อหันมองลุงแดงแวบนึงแล้วแกล้งทำหน้าตาย
"ก็อยากได้รางวัลน่ะพ่อ"
"คนโดนซ้อมมีรางวัลด้วยเร้อ? พ่อนะไม่ใช่แอนตาซิล"
ก่อนที่ผมกับสิงห์จะหว่านล้อมด้วยสังขารที่บอบช้ำเกินจะเชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับเด็กม.1 มากไปกว่านี้ พ่อก็ขยี้หัวเราและหัวเราะเบาๆ แต่เคล้าน้ำตา
"ว่าไงพี่แดง พี่ว่าเจ้าหัวเม่นสองคนนี่น่าได้รางวัลอะไรดี?"
ลุงแดงหัวเราะทั้งน้ำตาเช่นกัน "เอาของใหญ่ๆ ดีมั๊ยล่ะภพ?"
………………………………..
-
ภาพที่แม่ล้มวัวด้วยตัวคนเดียวเป็นเกียรติบัตรยืนยันได้ว่าแม่ทำจริงไม่ทิ้งชื่อสาวบ้านสวน
หุหุ จริงง่ะ :laugh: :laugh:
แต่ก็นับถือกริชกับสิงห์นะ อดกลั้นได้เยี่ยมมาก o13
-
:-[
ดีจัง อดทนจิง ๆ เด็กบ้านสวน
สู้ ๆ ต่อ ไปนะ กริช กับ สิงห์
คุณ หมูพูห์ ด้วย
มาต่อไว ๆ นะครับ
:impress:
-
รออ่านต่อจ้า :teach:
-
เด็กบ้านสวนเสียอย่าง
อดทนอยู่แล้ว...
o13 o13 o13 o13 o13
แต่นู๋ไม่ใช่อ่ะ
ก็เลยไม่อยากอดทน(รอ)
รีบมาต่อเร็วๆ น้า
:impress: :impress: :impress: :impress: :impress:
-
เพิ่งเข้ามาอ่านรวดเด๋วจบ.......สนุกอ่า *-*
จะรออ่านตอนต่อไปน้อ :impress2:
-
..........มีวัยเด็กที่รักและผูกพักกันขนาดนี้นี่เอง......... o13 o13
-
o9 o9 อดทนต่อไป แต่ แต่ แต่เราอยากอ่านต่อแย้วอะ :serius2:
-
รักกันจริงนะครับ
รอมาต่อครับ
-
ตอนที่ 2 คนที่เปลี่ยนไป
"ไอ้สิงห์ๆๆ"
สิงห์เดินมาเปิดประตูหน้าตายังงัวเงีย "อะรายวะกริช?"
"ดูนี่ๆ เท่ป่าว?" ผมชี้ให้มันดูบนอกเสื้อของผม เหนือชื่อย่อโรงเรียนมีเข็มกลัดสีทองเป็นประกาย
"เออ โรงเรียนกรูไม่มีเข็มบ้างยืดเชียวนะมรึง"
เข็มสัญลักษณ์สีทอง บ่งบอกว่าตั้งแต่วันนี้ผมขึ้นม.4 เป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว ตราแสนเท่ที่ใฝ่ฝันมาตลอดสามปี
"ไหนๆ ขอกรูดูอีกทีละกันไอ้ขี้เห่อ" สิงห์กอดผมไว้ เอาหน้ายื่นเข้ามาซะชิดอกผม การจู่โจมเกินคาดของมันทำให้ใจผมเต้นแรง
"เอ่อ....มรึงรีบอาบน้ำแต่งตัวดีกว่า เดี๋ยวกรูไปซักผ้าก่อน"
ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้นแม่ผมบอกว่าหอโรงเรียนก็ยังไม่ใช่ที่ๆปลอดภัย พ่อกับลุงแดงจึงลงขันกันซื้อบ้านหลังนี้ให้ผมกับสิงห์อยู่
คราวนี้เข้ามาใกล้โรงเรียนผมมากขึ้นแต่เจ้าสิงห์ต้องนั่งรถเมล์ไปโรงเรียนบ้าง
ถึงจะน่าตกใจแต่พวกผมแสดงให้เห็นว่าเราอยู่ได้และไม่เสียการเรียนโดยไม่ต้องมีแม่บ้าน ผมกับสิงห์แบ่งงานบ้านกันทำและช่วยกันติวหนังสือมาตลอด
พ่อแม่จึงเบาใจ จากที่มาเยี่ยมทุกสุดสัปดาห์ก็ค่อยๆ ทิ้งช่วงนานขึ้นตามวัยของพวกเราจนไว้ใจมากสองเดือนมาทีนึง (ได้เวลาหมาป่าออกจากหนังแกะ)
จากวันนั้นจนถึงวันนี้พวกเราขึ้นม.4 แล้ว สองปีที่ผมกับสิงห์เป็นคู่หูอยู่ในบ้านกันแค่สองคน
"เข็มก็เท่คนก็เท่นะเนี่ย"
"เดี๋ยวนี้ยอมรับแล้วเหรอว่ากรูเท่" ผมเสยผมรองทรงที่แสนภูมิใจ
"ห่านี่ ชมนิดเดียวเหลิงเชียว เสยไปมันก็อยู่ที่เก่าล่ะว้า"
"อยากได้เข็มเท่ๆ ก็ย้ายมาอยู่โรงเรียนกรูสิ"
"ไม่ล่ะไม่เสียศักดิ์ศรีโว้ย ฮะฮะ! อีกอย่างนะกรูจะขอเปิ้ลเป็นแฟนตั้งแต่วันเปิดเทอมเลย ท่าจะมงคลดีนะมรึงว่ามั๊ย?"
"..........."
"เป็นไรวะไอ้กริช?"
"เปล่า"
"อิจฉาล่ะสิ ก็รีบๆ หาแฟนสิวะ เออ! รถเมล์กรูมาละ ไปล่ะนะเจอกันตอนเย็น" มันกระโดดผลุงเกาะราวโคตรหวาดเสียวแต่ยังหันหน้ามาหัวเราะชอบใจ
ไม่ได้สงสารใจผมเลย ผมได้แต่มองตามหลังเพื่อนรักที่รถเมล์พาลิ่วไป
.......ความรู้สึกที่เจ็บแปลบในอกนี่มันอะไรกัน.......
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
"เป็นอะไรกริชนั่งซึมเชียว?" เจ้าเอ็มเข้ามาทัก
เอ็มเป็นเพื่อนไม่กี่คนที่ผมรู้จักตั้งแต่ม.ต้น นอกนั้นดูแปลกหน้า อาจเป็นเพราะผมเอาแต่เรียนเพื่อเรียกความมั่นใจจากพ่อแม่ให้มากที่สุด
อาจารย์ประจำชั้นเข้ามาแจกแจงเรื่องตารางเรียน เมื่อขึ้นม.ปลาย อะไรๆ ก็แตกต่างจากสมัยม.ต้น มีวิชาเรียนบางวิชาที่ยาวถึงสองคาบแต่เห็นเครื่องไม้เครื่องมือในห้องวิทยาศาสตร์ก็คิดว่าคงไม่น่าเบื่อแน่ ถ้าเล่าให้สิงห์ฟังมันคงตื่นเต้นน่าดู แล้วโรงเรียนมันจะเป็นยังไงนะ
........ก็มีเปิ้ลไง......
แน่นหน้าอกอีกแล้ว กริชไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาจะได้ไม่เข้าใจว่าความรู้สึกนี้คืออะไร แต่มันอาจเป็นความหวงเพื่อน
เพื่อนตัวกระเปี๊ยกที่ไม่ว่าเมื่อไหร่นานแค่ไหนกริชก็ยังเห็นสิงห์ตัวเท่าเดิม
ในทุกความทรงจำของมันมีสิงห์เคียงข้างเสมอ ความรู้สึกเล็กๆ ที่อบอุ่นนี้ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่
มันเพิ่มขึ้นทีละน้อยไม่เคยเปลี่ยนแต่ยิ่งผสมปนเปกับเรื่องราวมากมายที่เข้ามาในชีวิตให้พอกพูนขึ้นแต่ยังพูดความหมายเดิม
.....กรูแค่หวงเพื่อนเท่านั้น...อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปีก็ต้องรู้สึกแบบนี้แหละ.....
ตอนเย็นกลับถึงบ้านก็ได้ยินเสียงไอ้สิงห์ทำกับข้าวแล้ว ผมจึงกวาดบ้านแทน ส่วนการถูบ้านเก็บไว้ทำครั้งเดียวตอนวันเสาร์
ผ้าแห้งอยู่ในตะกร้าแล้วตามที่ตกลงกันคือใครกลับมาก่อนก็เก็บผ้าแล้วตกลงกันอีกทีว่าใครจะรีด เป็นชีวิตที่ไม่สบายไม่เหมือนเด็กนร.คนอื่นๆ ที่มีทุกอย่างพร้อมสรรพ แต่เราสองคนไม่เคยบ่น ออกจะภูมิใจว่าเรามีบ้านของตัวเองถึงจะเป็นเงินพ่อกับลุงแดงก็เถอะ
"กรูได้ใช้ห้องวิทยาศาสตร์แล้วนะ ของเยอะแยะเลย"
"เหรอ เคยเห็นของในตู้ที่โรงเรียนมรึงแล้ว น่าลองดีเนอะ"
สิงห์ตอบพลางหันไปผัดถั่วฝักยาว มันชอบทำอาหารถ้วยเล็กๆ พอกินสองคนแล้วแช่ส่วนที่เหลือในตู้เย็นไว้กินวันต่อไป
......ไม่พูดเรื่องเปิ้ลล่ะ......หรือจะเก็บไว้คนเดียว......
"แล้วตกลงเรื่องความรักวันเปิดเทอมของมรึงล่ะ?" ผมจงใจเลี่ยงชื่อ
"กรูล้อเล่น วันเปิดเทอมมีเรื่องเยอะแยะ ขืนกรูไปสารภาพรักเขาอาจเมินง่ายๆ" ใจผมเต้นด้วยความดีใจ
"แต่พรุ่งนี้จะลองเข้าไปคุย"
"......อืม แล้วกับข้าวเสร็จยัง? กรูหิว"
มื้อเย็นที่เย็นชาสมชื่อจบอย่างรวดเร็ว สิงห์ล้างจานกับเครื่องครัว
ส่วนผมกวาดบ้านต่อให้เสร็จแล้วขึ้นห้องนอนไปผลัดผ้านุ่งผ้าเช็ดตัวเตรียมอาบน้ำ.....ไม่อยากเห็นหน้ามัน....
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ผมเดินไปเปิดประตู สิงห์ยืนทำหน้าเศร้า เศร้าทำไม
"กรูมาขอโทษ....เรื่องเข็ม"
"ขอบใจ เรื่องนิดเดียว" ....ที่กรูหงุดหงิดน่ะเรื่องอื่น...
ผมเดินผ่านมัน อยากรีบอาบน้ำ อยากล้างใจสกปรกนี้แล้วค่อยคุยกับมัน กลัวความขุ่นมัวจะทำให้พูดสิ่งไม่ดี แต่สิงห์กอดหลังผมไว้
"กรูอยากบอกว่ามรึงเท่จริงๆ ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากเลย แต่กรูอิจฉาเลยพูดไม่ดี"
".....ขอบใจนะ"
"เมื่อเช้า มรึงอยากให้กรูเห็นเป็นคนแรกใช่มั้ย?"
"............."
"เหมือนวันที่มรึงไปโรงเรียนวันแรกก็เหมือนกัน มัสเซอร์บอกกรู"
"ใช่......" อะไรๆ สิงห์ก็เป็นคนแรกเสมอสำหรับผม
"แต่ตอนนี้เลิกเห่อละ ตอนเตะบอลกรูยังเสียวเข็มจะตำอก กรูไม่ได้รักโรงเรียนมากขนาดรักปักใจว่ะ ฮะฮะ"
"เน่าๆ! หัวใจมรึงอยู่ข้างซ้าย เข็มน่ะอยู่ข้างขวา หรือใจมรึงอยู่ข้างขวาเหมือนนันทนา บุญหลง?"
มันคงกลัวมุขแป๊กเลยเล่นท่าประกอบเอาฝ่ามือนาบที่อกซ้ายของผม
"เว้ยยย! มรึงเล่นไร!!" สิงห์ขำที่แกล้งผมสำเร็จ ผมรีบเข้าห้องน้ำตักน้ำราดตัว......ทำไมมรึงชอบเล่นถึงเนื้อถึงตัวอยู่เรื่อย
.....ไม่ได้สงสารใจกรูบ้างเลย......
.....สิงห์อย่าทำแบบนี้.....มรึงกำลังทำให้ความรู้สึกของกรูเปลี่ยนไป......
มันไม่ได้เปลี่ยนแต่เพิ่มขึ้นต่างหาก นานแค่ไหนความหมายมันก็ยังเหมือนเดิม.....ไม่ๆ กรูหวงเพื่อน สักวันกรูจะรู้สึกแบบนั้น
อาบน้ำเสร็จเสื้อของผมก็ห้อยอยู่หน้าห้องเรียบร้อย ผ้าเรียบกริบ ผมเก็บเข้าตู้แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าหยิบตำราเรียนเดินไปห้องมัน
"ขอบใจนะ"
"อืม......เออ! เลขมรึงเรียนเรื่องนี้แล้วใช่มั๊ย?" สิงห์หันตำราเรียนให้ผมดู ก็ต้องเรียนดิทั้งประเทศใช้หลักสูตรเดียวกัน
"รู้เรื่องมะ?.....ครูกรูเอาแต่โม้ สอนกรูหน่อยสิ"
บรรยากาศกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ผมไม่รู้จะเป็นได้อีกนานเท่าไหร่แต่ไม่ใช่เรื่องสำคัญในเมื่อมีคนๆ นี้อยู่ข้างๆ
……………………….
-
.........คนคงไม่เปลี่ยนหรอก....
.........แต่ความรู้สึกคนวิที่กำลังจะเปลี่ยน.... :impress: :impress:
-
ชอบครับ นำ้ตาไหลเลย ขอบคุณคุณPoohที่เอาให้อ่านกันครับ
CMX
-
เพื่อนรัก : รักเพื่อน :teach:
-
ความรู้สึกเปลี่ยน .... :impress:
-
:impress: เย้มาต่อแล้ว...
:interest: เพื่อนสนิท........
-
รออ่านต่อนะจ๊ะ :teach:
-
ตอนที่ 3 มอเตอร์ไซค์
"ไอ้กริชๆๆๆ!!!"
"ห่า กรูกำลังหั่นผักมรึงเรียกซะตกใจ มีอะไรวะ?"
เย็นนี้เป็นเวรผมทำกับข้าว ตั้งใจว่าจะทำยำวุ้นเส้นแต่เกือบได้กินยำเลือดนิ้วตัวเองซะละ
"2,500 เองว่ะ!! 2,500 เอง!" ไอ้สิงห์หน้าตาตื่นวิ่งเข้าประตูบ้าน เหงื่อโทรมชุดนร.มาเลย
"อะไร 2,500?"
ผมยังไม่เข้าใจสิงห์จะพูดอะไรแต่ท่าทางต้องเรื่องดีแน่ๆ เพราะหน้ามันซ่อนอารมณ์ดีใจไม่เป็น และรอยยิ้มนั้นก็ทำให้ผมเผลอยิ้มตามได้ทุกครั้ง
"มอ...แฮ่กๆ มอ...เตอร์...มอเตอร์ไซค์! วันนี้กรูเจอมอไซค์ ขาย 2,500 เองนะมรึง!!"
"บ้าเดะ มอไซค์อะไรถูกขนาดนั้น? ของมือสองมือสามเจ้าของตายคาสนามรึเปล่าวะ?"
"มือหนึ่งเลย! จอดในร้าน มันแปลบสะท้อนหน้ากรูเลยล่ะ"
ผมนั่งยองๆ ฟังมันพูด ไอ้สิงห์คงวิ่งมาเร็วจริงๆ มันนั่งหน้าประตูบ้านเหงื่อแตกพลั่กๆ
"เงินดาวน์รึเปล่า ใครจะขายถูกขนาดนั้น?"
"ไม่เลย นี่ราคาเขียนตัวเบ้งๆวางไว้บนเบาะ เขาวาดรูปดาวประกบไว้สองข้างด้วย เด่นโคตรๆ"
".........นั่นแหละเงินดาวน์"
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
สิงห์มันยังเฮิร์ตไม่เลิก ตอนแรกก็ขำมันแต่ตอนนี้ไม่ขำละ
แม้แต่ยำวุ้นเส้นของโปรดมันที่กรูอุตส่าห์ทำมันก็ไม่แตะ เอาแต่นั่งดูดาวบนระเบียงชั้นสอง
"อยากได้มากเหรอสิงห์?"
ผมยื่นเบียร์ขวดนึงให้มัน อีกขวดของผมแล้วนั่งบริจาคเลือดให้ยุงเป็นเพื่อนมัน จริงๆก็ไม่เห็นดาวหรอกเพราะแสงสีในกรุงเทพกลบจนหมด
ไม่เหมือนที่บ้านสวนของเรา ที่พอเหมือนบ้างก็ร้านของชำใกล้บ้านที่ยอมขายเหล้าขายเบียร์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18
สิงห์ยังนิ่งเงียบแต่ผมรู้ว่ามันเศร้า
"....มากเลยว่ะกริช กรูนึกว่าจะซื้อได้...." หนังสือมอเตอร์ไซค์เล่มนึงวางอยู่ข้างตัวมัน ปกใหม่เอี่ยม
"ถ้าได้มา กรูจะขับพามรึงเที่ยวให้รอบกรุงเทพฯ เลย"
"นั่งรถเมล์ก็เที่ยวได้รอบเหมือนกัน"
"ความรู้สึกมันไม่เหมือนกันหรอก"
ผมเข้าใจความหมายที่มันพูดและดีใจที่สิงห์คิดถึงผมเป็นคนแรก
"เอ๊.......กรูจะหุ้นด้วยดีมั๊ยน้อ?"
"กริช มรึงเอาจริงอะ?"
"แล้วเงินมรึงคนเดียวจะไหวเรอะ? คันนึง 2-3หมื่น กรูก็อยากพามรึงเที่ยวเหมือนกันนะ"
"เดือนนึงมรึงเก็บเงินได้เท่าไหร่วะ? กรูเก็บได้ 200 เอง"
".......พอๆ กัน"
.....มอเตอร์ไซค์ในฝันถูกเข็นกลับร้านในอากาศไปแล้ว.....
"ถ้าช่วยกันเก็บตัง ซักวันต้องได้แน่!"
"เออ! ถึงวันนั้นใครได้มากกว่าก็ได้ขี่คนแรกนะว้อย"
ความเงียบยังดำเนินต่อไปในขณะที่ใจของเด็กหนุ่มม.4 ทั้งสองโลดลิ่วไปกับมอเตอร์ไซค์ในฝัน
ความฝันแบบเด็กๆ ที่รู้ว่าความเป็นจริงมันยากเย็นกว่านั้นมาก
....บางสิ่งที่เหมือนจะอยู่ใกล้ให้เห็นตรงหน้าทุกวัน แต่ไม่มีวันจะคว้าไว้ได้.....
…………………………
-
รอมาต่อนะครับ
-
....บางสิ่งที่เหมือนจะอยู่ใกล้ให้เห็นตรงหน้าทุกวัน แต่ไม่มีวันจะคว้าไว้ได้.....
............ o13 o13 o13...........
-
ความฝันแบบเด็กๆ ที่รู้ว่าความเป็นจริงมันยากเย็นกว่านั้นมาก
แต่ถ้าลงมือทำ สิ่งที่คิดว่ายากเย็น อาจจะไม่สาหัสอย่างที่คิด :impress:
-
o13 สู้ๆๆๆๆ ความฝันต้องเป็นจริงสักวัน o13
-
ตอนที่ 4 วันแรกของปีสุดท้าย
แสงตะวันรำไรส่องผ่านเมฆ ผมยืนมองตัวเองใส่ชุดนักเรียนอยู่หน้ากระจกตู้ ตอนนี้ผมสูงแทบจะถึงขอบกระจกแล้ว
เข็มกลัดสีทองเหนือตราโรงเรียนยังเป็นประกายสดใสแม้ผ่านการใช้งานมาสองปี ....บัดนี้ขึ้นปีที่สามแล้ว
วันนี้เมื่อสองปีก่อนผมแต่งตัวอย่างร้อนรนเพื่อหวังจะอวดเข็มนี้ให้สิงห์ได้เห็นเป็นคนแรก แต่วันนี้ความรู้สึกช่างต่างไปอย่างสิ้นเชิง
ผมกดปิดนาฬิกาปลุกก่อนมันจะได้ทำงาน "ยังพอมีเวลาเหลือ" ......ไม่สิ..เวลาเราใกล้จะหมดแล้ว
สมุดบัญชีธนาคารถูกเปิดออก.....5,382.80 บาท......เก็บมาตลอดสองปีได้แค่นี้ พ่อแม่เองก็ต้องกระเบียดกระเสียนส่งเสียพวกเราให้ได้เรียนที่นี่
ถึงไม่อยากนึกก็ยังจำได้ดี หน้าที่แสดงความผิดหวังของสิงห์ เมื่อรู้ว่าต้องมีคนค้ำประกันอายุ 20 ขึ้นไปจึงจะดาวน์มอเตอร์ไซค์ได้
เด็กหนุ่มทั้งสองสูญเสียความฝันไปในพริบตา ในตอนนั้นเองที่พวกเขาได้ตระหนักว่าในเมืองฟ้าอมรที่กว้างใหญ่....เขามีกันแค่สองคนเท่านั้น
โลกของเขามีแค่นั้นจริงๆ
สิงห์ยืดอกพูดสั้นๆ "งั้นเก็บเงินรอไปเรื่อยๆ อายุยี่สิบค่อยมาใหม่"
....อายุ 20 มันหมายความว่ายังไงมรึงน่าจะรู้นะสิงห์.....มหาลัย...ถึงตอนนั้นเราสองคนจะ.....
ถ้าเป็นไปได้ผมจะอยู่ข้างมันตลอดไป..... ไม่....สิงห์ก็มีชีวิตของมัน
"สิงห์! ตื่นยัง?!!"
สักพักมันก็งัวเงียมาเปิดประตูห้อง "เพิ่งตีห้า มรึงจะเรียกหาน้าภพเหรอ?"
"แสรด! ล้อชื่อพ่อเลยเรอะ!"
มันเห็นผมชูกำปั้นก็รีบวิ่งกระโดดกลับขึ้นเตียง "น้ำลงโว้ย! มรึงห้ามเข้ามานะ!"
"เวรล่ะมรึง! ขึ้นม.6 วันนี้แล้วยังเล่นจระเข้น้ำขึ้นน้ำลง เดี๋ยวกรูบอกลุงแดงซะนี่"
"ไม่กลัวว้อยยยยย กรูโดนตีแต่มรึงอะร้องไห้เป็นเผาเต่า" มันพูดออกมาจากใต้ผ้าห่ม
"......น้ำขึ้น" ผมนั่งลงบนเตียง ก้อนผ้าห่มขยับที่ให้อีกนิดหน่อย
"สิงห์"
".........."
".....ม.6 แล้วนะ"
"มีเวลาอีกตั้ง 1 ปี"
ผมไม่รู้ว่าประโยคที่มันพูดทำให้ผมดีใจหรือเศร้าใจ สิงห์รู้หมดว่าผมคิดอะไรแค่เอ่ยปากคำแรก
"ลุงแดงอยากให้มรึงเอ็นท์ติดที่......." ใช่ ที่ที่ไกลจากความฝันของพ่อแม่ผม
"แสรด! ก็ไม่แน่ว่ามรึงจะเอ็นท์ติดจุฬาที่ลุงภพตั้งใจหรอกว้า.....กรูเองก็อาจไม่ติดที่นู้นเหมือนกัน บางทีเราสองคนอาจได้เรียนในกรุงเทพฯ ทั้งคู่ก็ได้"
ผมไม่มีคำตอบ พวกเรามีแค่การถูกคาดหวังขีดเส้นอนาคต
ที่พ่อแม่ส่งเสียให้เข้าเมืองกรุงก็เพื่อตั้งหน้าตั้งตาเรียนมาตลอดจนถึงบัดนี้ ....เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังที่พ่อแม่ใฝ่ฝัน....เพื่ออนาคตของลูกเอง
มันคงง่ายกว่านี้.....หากแต่สถานที่แห่งความหวังทั้งสองนั้นอยู่ไกลกันลิบโลก
เด็กหนุ่มทั้งสองต่างรู้ความสามารถจากการบากบั่นศึกษาของอีกฝ่ายดี และรู้ว่านั่นจะเป็นวันจากลา
ถึงไม่ติดที่ๆ ตั้งใจก็ยังยากจะได้แหล่งศึกษาภูมิลำเนาเดียวกัน
"เราอาจเอ็นท์ติดจังหวัดเดียวกันก็ได้" เสียงมันสะอื้น มันจะร้องไห้หรือเปล่าผมไม่รู้ รู้แต่น้ำตามันมาอยู่ที่ผมอีกแล้ว
"ทำไม...มรึงชอบคิดว่าเราจะแยกกันไปไกลๆวะ!!" คนในผ้าห่มก็ไม่อยากจากเพื่อนมัน
"17 ปีแล้วนะสิงห์......มรึงรีบๆ เบื่อหน้ากรูได้แล้ว"
"......มรึงอยากโดนต่อยรึไง พูดแบบนั้นอีกทีกรูต่อยมรึงแน่" มันสะกิดผมแรงๆ คาดว่าด้วยตีนมัน
ความสนิทที่มีให้กันมาตลอด 17 ปี ....ตั้งแต่เด็กๆ ที่เริ่มจำความได้ ...ช่วงเวลา 5 ปีที่อยู่ด้วยกันมาตลอดในกรุงเทพฯ....ตายแทนกันก็เคยมาแล้ว....
ตลอดชีวิตแทบไม่มีเวลาไหนที่ใครจะไกลห่าง....มันเหนียวแน่นยิ่งกว่าเพื่อน ยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น....แต่เมื่อหมดปีนี้ผมกับสิงห์...เราจะแยกจากกัน
อาจแยกแค่ 4-5 ปีแต่ทั้งคู่รู้สึกเหมือนจะขาดใจ
"ไอ้กริช....."
"อะไร น้ำยังไม่ลงโว้ย"
"มรึงรีบหาแฟนเถอะ เอาเจ้าหนูมรึงไปใช้งานซะบ้าง"
"โห พูดยังกะมรึงเชี่ยวนักล่ะ บอกเปิ้ลๆ ไม่เห็นจีบติดเลย" ก้อนผ้าห่มงอกตีนมาถีบ แต่แกว่งเท้าไปเหอะผมรู้ทันลุกหนีเรียบร้อยแล้ว
"ไอ้กริช....."
"อะไรอีก? จะสายแล้วมรึงรีบอาบน้ำแต่งตัวซะ"
"กรูโคตรรักมรึงเลยว่ะ"
ประโยคเดียวกันที่สิงห์เคยพูดกับผมในโรงพยาบาลตอนม.1 ตอนนั้นผมสามารถพูดตอบมันได้ทันที แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
"กริช มรึงรีบหาแฟนซะ ตอนกรูไกลจะได้ไม่ต้องห่วงว่าใครจะดูแลมรึง...พอถึงตอนนั้นสัญญาที่กรูให้กับน้าภพกรูคงทำต่อไม่ได้แล้ว"
ผมทิ้งความเงียบไว้แทนคำตอบ ได้แต่หวังว่าสิงห์จะเข้าใจ
แค่คิดว่าอาจต้องแยกกันในไม่ช้า อกผมก็บีบรัดจนแทบทนไม่ไหว
แล้วนี่ผมยังรักมันมากกว่าเพื่อน ....รักไอ้สิงห์มากกว่าคำว่ารักจะอธิบายได้หมด....
อยู่ใกล้กันแค่นี้....ทำไมมรึงไม่เข้าใจวะ...
ผมเองก็ไม่อยากให้มันเข้าใจ ไม่อยากทำลายมิตรภาพตลอด 17 ปี
ผมขอเป็นเพื่อนที่มันรักที่สุดไปจนถึงวันที่เราจะแยกจากกัน ....ผมขอเจ็บคนเดียว
………………………………..
-
เพื่อนรัก ฉันเป็นแค่เพื่อนรัก :sad4: :sad4:
-
เศร้า o7
-
...........เพื่อนเท่านั้น....แค่เพื่อนเท่านั้น.........
...........เท่านี้แหละ....ที่เราทำได้.........แม้จะต้องเจ็บฝ่ายเดียวก็ตาม.... :o12: :o12:
-
:sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:
เดี๋ยวนี้อ่านเรื่องไหนก็เศร้า
นี่เนื้อเรื่องมันเศร้าหรือคนอ่านเศร้าเองกันแน่เนี่ย
:o11: :o11:
-
:sad4: :dont2: :o7: :sad5: :sad2:
"เพื่อน" รัก / รัก "เพื่อน"
:impress:
-
ซึ้งง่ะ
รอมาต่อครับ
-
ตอนที่ 5 ประตู
นับวันเปิดเทอมมาได้เกือบเดือนแล้ว เราก็ซึมกระทือทั้งคู่ ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร ทุกเรื่องมันโยงไปสู่จุดเดียว....การเอนท์ฯ
โลกของผมกับสิงห์คงมีแค่นี้จริงๆ.....แล้วก็วันที่ต้องแยกทาง
"เฮ้ย! อาบน้ำนานจริงวะ! ชักว่าวอยู่รึไงไอ้กริช!?"
"เออ อยากเร็วก็เข้ามาช่วยกรูดิ"
พักหลังเราคุยกันผ่านประตูห้องน้ำบ่อยขึ้นเพราะไม่ต้องเห็นหน้าซึมเศร้าของอีกฝ่าย และผมก็ไม่สามารถเดินหนีมันไปส่วนอื่นของบ้านได้
"กริช กรูว่าเราเลิกซึมซะทีเถอะ เหลือเวลาอีก 1 ปีนะมองโลกในแง่ดีไว้"
"คิดว่ากรูเป็นส้วมซึมเพราะอยากเท่รึไง"
ผมก็อยากให้มันเลิกเศร้า แต่ผมไม่รู้จะทำยังไง....ลำพังความรู้สึกในใจผมก็.....
"กริช"
"อะไรเหรอสิงห์?" พอมันเบาเสียงลงผมก็เบาบ้าง ความรู้สึกดีๆ กลับมาอีกครั้ง
".........."
"เป็นอะไรรึเปล่าสิงห์?"
"กรู...อยากพูดอะไรสักอย่าง พูดแล้วมรึงจะโกรธกรูก็ได้นะ" เสียงมันราบเรียบแต่วิธีการพูดแปลกพิกล ผมรีบเช็ดตัวอยากออกไปดูมัน
"เป็นอะไรวะ? เรื่องที่มรึงไม่อยากพูดก็อย่าพูดเลย"
"กรู...สารภาพรักกับ....พลอยแล้ว"
.....ความเย็นวาบอาบตั้งแต่หัวไปถึงเท้าผม.....
.....ใจผมบีบอัดอย่างแรง....ฝันไปแน่ๆ....ผมคงฝันไป....สิงห์ช่วยทำเสียงขำๆให้กรูรู้ทีว่าล้อเล่น กรูขอร้อง.....
"ขอโทษนะที่กรูไม่ได้บอกมรึง"
.........อย่าทำเสียงจริงจังแบบนั้นสิงห์..........
แบบนี้ใช่มั๊ยทางออกของความเป็นเพื่อนของเรา ผู้ชายสองคนเกาะกันแจมาเป็นสิบปี ที่เคยพูดกันวันนั้นมรึงทำจริงแล้ว เป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว
มีความรักที่ถูกต้องแล้ว กรูต้องไม่รั้งมรึงไว้ หนึ่งปีสุดท้ายนี้มรึงจะมีความสุขและอาจจะสุขอย่างนั้นไปตลอดชีวิต ...ไม่ใช่....คำที่ผมอยากพูดไม่ใช่คำนี้...
"สิงห์ กูดีใจด้วยนะ"
"กริช...กรู..."
"กรูขออาบน้ำอีกแปบ มรึงหยิบตำราเรียนกรูไปห้องมรึงที"
เสียงเขาเดินห่างประตูห้องน้ำไปแล้ว .....เดินจากไปแล้ว.....ผมไม่รู้ว่ายืนทื่อในห้องน้ำนานแค่ไหน....กว่าจะเอ่ยคำที่อยู่ในใจให้ดังแค่ในลำคอ
"...กริช...รัก...สิงห์...ได้ยินมั๊ย....." การพูดเป็นเรื่องยากที่สุด....สิงห์เดินจากไปแล้ว....
ผมแต่งตัวในห้องนอนอย่างเชื่องช้า คิดว่ากลั้นน้ำตาไว้ได้หมดหรือยัง ร่างหยุดสั่นเทาหรือยัง
ผมอยากอยู่คนเดียวที่สุดในวินาทีนี้ กลัวน้ำตาจะคลอเบ้าให้สิงห์รู้ แต่เมื่อเพื่อนรักเล่าสิ่งสำคัญในชีวิตให้ผมฟัง ผมก็ควรไปดีใจกับสิงห์ด้วย....อย่าร้องไห้....
เมื่อก่อนมันชอบมาคุยเรื่องจีบสาวที่โรงเรียนอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ก็แค่คุย ไม่เคยมีแฟนสักคนจนผมคิดว่าสิงห์จะอยู่กับผมแบบนี้ได้ตลอดไป
...แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
ที่ผมเลือกติวห้องมันเพราะอยากเตือนตัวผมเองว่าสิงห์ยอมสละสิ่งหนึ่งไปแล้ว ตามผนังห้องมันมีรูปนักบาสติดทั่ว
เพราะเป็นกีฬาที่มันชอบเล่นที่สุด แต่มันไม่ยอมลงทีมบาสโรงเรียนเพราะอยากทุ่มเทเรียนให้สมใจพ่อแม่...ทั้งที่อยากแข่งใจจะขาด
ทุกครั้งที่มันเห็นแป้นบาสที่โรงเรียนผม สิงห์ยังต้องขอชู๊ตสักลูกสองลูก
แล้วยังมอเตอร์ไซค์ที่มันไม่มีวันได้ในตอนนี้......ตอนที่อยู่กับผม.....สิงห์ไม่เคยได้สิ่งที่มันฝัน
มันช้ำใจพอแล้ว ตอนนี้มันเดินออกไปเลือกสิ่งที่ดีให้ชีวิต ได้แฟนสาวที่ดี มีชีวิตปกติสุขนับจากนี้และตลอดไป
หัวใจผมเต้นแรงบอกว่าผมหลอกตัวเองแต่ทำไงได้ ผมหมดทางแล้ว โลกของผมหายไปด้วยคำไม่กี่คำ
ผมบิดลูกบิดประตู.....ต้องไม่หวั่นไหว ออกไปแสดงความยินดีกับมันสิ สิงห์กำลังจะได้ดี มันกำลังจะมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
นอกประตูนั่น...ภาพสิงห์วิ่งหนีเข้าห้องน้ำตอนเล่นไล่จับ ตอนช่วยกันทำอาหารครั้งแรก นั่งดูดาวด้วยกันที่ระเบียง ทุกๆ แห่งมีแต่ภาพของมัน
ผมทรุดลงร้องไห้ พยายามกลั้นเสียงเอาไว้แต่น้ำตามันไหลออกมาไม่หยุด
ไหลไปเถอะขอแค่อย่าสะอื้นให้สิงห์ได้ยินก็พอแล้ว อย่าทำลายชีวิตมันมากไปกว่านี้เลย
**************************************************************************
"กริช เป็นอะไรเหรอ? เมื่อคืนไม่เห็นมาติว"
"โทษที ไม่สบายนิดหน่อยน่ะ แต่ตอนนี้หายดีแล้ว"
เราสองคนนั่งสวมรองเท้าเตรียมตัวออกจากบ้าน เสื้อนักเรียนสีขาวที่แผ่ไปตามไหล่ของมัน...ก่อนหน้านี้ผมสามารถวางแขนโอบคอมันได้อย่างสบายใจ
แล้วสิงห์จะหัวเราะพูดมุขอะไรสักอย่าง อะไรผมก็ขำได้ทั้งนั้น แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
แล้วตอนนี้ผมเป็นอะไรล่ะ?....เพื่อนสนิท...แล้วต้องทำตัวยังไง? ตลอดมาความรู้สึกสองอย่างมันผสมปนเปแต่ไม่เคยต้องนั่งแยกแยะอย่างนี้
ผมผุดลุกจะเดินออกประตูบ้านแต่สิงห์คว้าข้อมือผมไว้ สัมผัสนั้นเกือบลบความขุ่นมัวทั้งหมดไปได้
"ฝนตกพรำๆ แล้วไม่เห็นเหรอ? ใจลอยไปไหนวะ?" มันพูดพลางหยิบร่มพับคันนึงให้ผม อีกคันของมัน
"ก็คงลอยไปที่เดียวกับใจมรึงมั้ง?" ผมยื่นร่มในมือให้สิงห์ มันรับด้วยหน้างงๆ
"ไหนว่าเชี่ยวไง เทคแคร์ผู้หญิงไม่เป็นเลยนะมรึง ฮะฮะ"
ผมเอากระเป๋าแทนร่มวิ่งนำมันออกไปก่อน ใช่...ฤดูฝนแล้ว ฤดูคนอกหัก
ถ้าตัดความคิดวุ่นวายในเรื่องของคนรักเจ้าสิงห์ออกไป สิงห์มันก็ยังเป็นคนเดิม มรึงบอกตัวเองแล้วไงว่าจะเป็นเพื่อนรักที่สุดของมันจนถึงวันที่แยกจากกัน
.....ขอเก็บความเจ็บไว้เอง....ตอนนี้มรึงได้สมใจแล้วไง สิงห์ก็ได้แฟนสมใจเหมือนกัน ทุกอย่างลงตัว....ยกเว้นฝนเม็ดใหญ่บนแก้มที่ไหลไม่หยุด
เป็นเวลานับเดือนนับจากวันนั้นที่การสนทนาของเราสองคนกระท่อนกระแท่นขึ้นทุกที ไม่รู้เป็นเพราะผมที่สับสนทำใจไม่ได้หรือสิงห์ที่เปลี่ยนไป
บางครั้งมันก็เคร่งเครียดไม่ร่าเริงเหมือนเก่า แต่กิจวัตรประจำวันยังคงดำเนินไป อย่างน้อยผมก็ดีใจที่มันกลับบ้านทุกวันแม้จะเย็นค่ำบ้าง
"เออ สิงห์" ผมเริ่มพูดหลังติววิชาเลขล่วงหน้าได้สองเรื่อง
"หืม"
"คือ...พรุ่งนี้วันศุกร์...มรึงจะกลับมากี่โมง?"
"ไม่รู้สิ ....อาจ....มีธุระ"
"ธุระอะไรเหรอ?"
"..............."
ผมทนไม่ไหวแล้ว แม้แต่คุยมันยังไม่อยากคุยกับเพื่อนคนนี้ ผมเก็บตำราเดินกลับห้องมันยังไม่พูดด้วยซักคำ
ลุงแดงครับ.... เมื่อใจมันมีคนอื่นดูแลอย่างดีหน้าที่ของผมก็คงจบลงแล้ว
....โลกของผมจบลงง่ายๆ แค่นี้เอง.....
แค่มีคนอื่นจับจองหัวใจของมันไว้ ทุกสิ่งทุกอย่างของผมก็พังทลายหมด เพราะใจของสิงห์คือโลกของผม
………………………..
-
......... :เฮ้อ:.......รักเพื่อนอีกแล้ว... :o12: :o12:
-
เศร้า o7
-
ทุกสิ่งทุกอย่างของผมก็พังทลายหมด เพราะใจของสิงห์คือโลกของผม
:sad4: :sad4: :sad4:
-
:o11: :o11: :o11: :o11: :o11:
-
ตอนที่ 6
สายฝนยังสาดกระหน่ำมาตั้งแต่ช่วงเย็น จนสามทุ่มก็ยังไม่หยุด ....สามทุ่มแล้วไปอยู่ไหนวะไอ้บ้า ไม่รู้รึไงว่ากรูเป็นห่วง........
นี่เป็นครั้งแรกที่มันกลับดึกขนาดนี้ ผมนั่งมองยำวุ้นเส้นที่เย็นอืดไปแล้ว....สิงห์ลืมวันนี้แล้ว....ทั้งที่เมื่อเช้าย้ำอีกไปทีนึงแต่สิงห์คงจำไม่ได้เลยมั้ง....
เขามีสิ่งสำคัญกว่าผมแล้ว เมื่อเขามีพลอยผมก็เป็นส่วนเกินที่น่ารำคาญสินะ
จบลงอย่างง่ายดายจริงๆ เรื่องราวในชีวิตตลอด 17 ปีของผม จบลงก่อนที่จะทันขึ้นปีที่ 18
ไม่รู้ผมผลอยหลับไปตอนไหน ตื่นมาเกือบเที่ยงคืน....ก็ยังไม่มีวี่แววของคนที่ผมเฝ้ารอ
"กริช" เสียงเรียกเบาๆ ดังที่หน้าประตู เมื่อหันไปเห็น...สิงห์ยืนอยู่ตรงนั้น
มันยืนอยู่หน้าประตูเปียกมะล่อกมะแล่ก ว่าแต่ทำไมมันใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์วะ? แล้วชุดนร.ที่แต่งไปตอนเช้าล่ะ...
ผมเปิดประตูแต่มันยังยืนนิ่งไม่ยอมเข้าจนผมต้องดึงมันเข้ามา
"เป็นไรวะสิงห์? เปียกฝนแล้วดันมายืนหน้าบ้าน กรูนึกว่าผี"
ไร้คำตอบใดๆ ทั้งสิ้น สิงห์ยืนตัวเปียกไม่ยอมเดินไปไหน เดือดร้อนผมต้องถอดเสื้อเปียกๆให้มัน
เจ้าสิงห์ก้มหัวเล็กน้อยยอมให้ผมเอาผ้าเช็ดหัวมันจนแห้งแต่โดยดี
"....กรูทำกุญแจหาย" เสียงมันเนือยๆ เป็นไข้แล้วรึเปล่าวะ?
"ก็เรียกกรูสิวะ เห็นอยู่ว่ากรูหลับตรงโต๊ะกินข้าว"
"กรูเรียกมรึงแล้ว แต่มรึงไม่ได้ยิน"
"ก็เรียกดังๆ เด๊ เกรงใจอะไรเล่า"
.....
.....
"กรูเรียกมรึงมาตลอด 5 ปี"
....สิงห์ มรึงว่าอะไรนะ.....
สิงห์......อย่าพูดเชียวนะ......
"กรูเรียกมรึงมาตลอด 5 ปีแต่มรึงแกล้งไม่ได้ยิน .......แบบเดียวกับที่มรึงเรียกกรูแล้วกรูแกล้งเฉย"
"มรึงเพ้อพิษไข้แล้ว อาบน้ำแล้วไปนอนเถอะ"
....สิงห์ อย่าพูดอีกเลยผมขอร้อง สิงห์กำลังพูดสิ่งที่ผมกลัวมาตลอด.....สิ่งที่ผมไม่อยากได้ยินจากปากมัน......สิ่งที่ผมฝันมาตลอด....
"สุขสันต์วันเกิดนะกริช"
เสียงนาฬิกาลูกตุ้มดังเหง่งหง่างเบาๆ หลังจากสิงห์ยื่นกล่องกระดาษใบเล็กที่เปียกโชกไม่แพ้ตัวมันให้ผม
"แต่เค้กข้างในคงเละหมดแล้ว เหมือนที่กรูทำให้มรึงไม่มีความสุขจริงๆ ซักครั้ง"
.......
.......
"ทำไมเราสองคนต้องทรมานกันแบบนี้...."
"พอแล้ว มรึงอย่าพูดอีก" ผมเอามือป้องปากมันแต่สิงห์กุมข้อมือไว้ ผมจ้องตาคู่ใสของมัน
ตาของสิงห์ตอนนี้มีแต่ความเศร้าที่มากมายเกินคนๆ หนึ่งจะทนเก็บไว้ได้ แต่สิงห์ก็เก็บมานานหลายปี.....อย่าพูดอีกเลยกรูขอร้อง.....
"กรูมันโง่....คิดว่าจะช่วยกริชได้.....อยากช่วยมรึงในเวลาที่กรูยังอยู่กับมรึง.....ก่อนที่กรูต้องจากไปไกล"
"ทำให้มรึงเจ็บ....ทำร้ายตัวกรูเอง..." สิงห์บีบไหล่ผมแน่นจนเจ็บ แต่ผมรู้มันบีบเพราะทนความอัดอั้นในอกไม่ไหวแล้ว
"....ทำถึงขนาดนี้มรึงก็ยังไม่เปลี่ยนไป ความรู้สึกทุกอย่างที่มี"
"ทำลาย 5 ปีที่มรึงน่าจะมีความสุขได้....ทำลายมิตรภาพตลอด 17 ปีของเรา"
คำพูดของสิงห์ทำให้น้ำตาของผมไหลไม่หยุด ถ้าผมร้องไห้แปลว่าสิงห์มันคงกำลังเจ็บและตอนนี้มันก็เจ็บจริงๆ
"สิ....สิบแปดปีแล้วสิงห์" สิ้นคำผมก็กอดมันไว้ สิงห์ยอมอยู่ในอ้อมกอดผมแต่โดยดี ตัวมันสั่นเสียงสะอื้น
"18 ปีแล้วที่เรามีนายในทุกเสี้ยววินาที"
ผมมันโง่ ....เคยคิดว่าใจส่วนนึงของผมที่ให้สิงห์คือเพื่อนสนิท...อีกส่วนคือความรัก คิดแบบนั้นมาแต่ไหนแต่ไร
ความจริงมันเป็นเนื้อเดียวกันที่แยกไม่ได้ ผมมันโง่มาตลอด ไม่เคยรู้เลยว่าทำไมเราสองคนถึงรู้ใจกันมากขนาดนี้
เพราะใจของสิงห์ก็เป็นแบบเดียวกับใจผม มันเต้นเสียงเดียวกันมาตลอด
"เราไม่อยากให้กริชเป็นแบบเรา....มันทรมาน.....ชีวิตที่หลบๆซ่อนๆ ไม่อยากให้กริชเจ็บปวดแบบเรา....เราถึงแกล้งเฉยกับกริช"
"คิดโง่ๆ ว่าวิธีนี้จะช่วยกริชได้" สิงห์ซบหน้าลง หยดน้ำตาอุ่นๆ ตกลงบนบ่าของผม
"คิดว่าถ้ามีแฟนแล้วเราจะกลับเป็นอย่างคนทั่วไป...."
"แต่ใจมันโดนพรากจากคนที่มันอยากอยู่ด้วย ทำให้กริชยิ่งเจ็บปวดเข้าไปอีก"
"พยายามบีบคั้นผลักไสกริช แต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ เราอยากสัมผัส อยากอยู่ใกล้กริช อยากอยู่กับกริชตลอดไป"
ผมไล่นิ้วไปบนหน้าของสิงห์เบาๆ เช็ดน้ำตาให้เขา สิงห์หลับตาเหมือนอยากให้ผมรับรู้ความรู้สึกและทุกสิ่งทุกอย่างของเขา
คนอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่ผมไม่เคยคิดว่าสิงห์จะคิดแบบเดียวกับผม ผมมันโง่จริงๆ โง่มานานเหลือเกิน
"เรารักกริชนะ"
"เราก็รักสิงห์เหมือนกัน"
"ถ้าเราพูดเร็วกว่านี้ กริชคงไม่ต้องเจ็บมาตลอด 5 ปี"
"พอได้แล้วสิงห์ เลิกเก็บความทุกข์ไว้คนเดียวได้แล้ว" ผมกอดเขาแน่นหากจะแบ่งความเศร้าโศกมาได้
"สิงห์...นายไม่ต้องพูดอีกแล้ว นายเอาวันเวลาทั้งหมดกลับมาแล้วให้เราแล้วรู้มั๊ย"
ผมเห็นแล้ว รอยยิ้มของสิงห์ เห็นชัดทั้งที่น้ำตาคลอเบ้า ภาพที่เคยหยอกล้อกัน เคยเจ็บด้วยกัน เคยดูดาวด้วยกัน ฝันร่วมกัน
ทุกวินาทีผมมีสิงห์อยู่เคียงข้างทั้งยามสุขยามทุกข์ ความทรงจำทั้งหมดบัดนี้สมบูรณ์แล้ว
นานเท่าไหร่แล้วที่ใจสองดวงส่งเสียงเดียวกัน ได้สนิทชิดใกล้แต่ต่างเก็บงำความเจ็บปวด หวังแค่ว่าการทรมานตนจะช่วยให้อีกฝ่ายได้เป็นปกติสุข
ใจที่รักจนยอมทำลายตัวเอง ในคืนนี้เด็กหนุ่มสองคนได้รู้ว่าความหมายที่เฝ้ารออยู่ใกล้แค่เอื้อมมานานหลายปี
ทั้งสองมอบไออุ่นกันแนบสนิทชิดใกล้กว่าการสัมผัสครั้งไหนๆ อยากเข้าไปอยู่ในกายของกันและกัน
มิใช่เรื่องความใคร่เพศเสน่หา แต่ปรารถนาจะมอบหัวใจให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่า.....
.....จากนี้ไปเขาจะเป็นโลกทั้งใบให้อีกฝ่ายไปตลอดกาล......
...........
...........
..........
..........
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาในความมืด ในอ้อมกอดของสิงห์ ร่างกายทั้งสองแนบสนิทราวกับมิต้องการจะแยกจากกันอีกแล้ว
ใบหน้าของสิงห์ แม้ในความมืดมิดแค่ไหนผมก็ยังมองเห็น ผมสีดำที่อ่อนนุ่ม คิ้วและเปลือกตาที่คุ้นเคย แก้มและริมฝีปากทั้งหมดที่ผมได้สัมผัส
ทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม
"โกรธเรามั๊ย..."
"จะโกรธถ้ายังแกล้งหลับต่อ" ดวงตาคู่ใสยังปิดอยู่ แต่รอยยิ้มที่คุ้นเคยเผยมาทักทาย
"นานมากเลยนะ"
ใช่...นานมากที่หัวใจสองดวงเต้นเป็นเสียงเดียวกัน แต่เจ้านายมันพยายามหลอกตัวเองมาตลอด
สิงห์จ้องผม สายตาคู่นั้นบ่งบอกความหมายว่ารู้สึกผิด
"เราไม่เคยโกรธสิงห์ ไม่ว่าครั้งไหนๆ"
"ไม่โกรธเลย.....ทุกวันตั้งแต่จำความได้.....ผ่านเรื่องราวต่างๆ มาด้วยกัน...ไม่มีวันไหนเลย...ที่สิงห์จะให้ความสุขกับเราน้อยลงไป"
"ทุกวัน ทุกวินาทีที่อยู่ด้วยกันมาเรามีความสุขที่สุดแล้ว"
สิงห์พลิกตัวขึ้นทาบทับ เขาเริ่มสะอื้นจนตัวโยน ร้องไห้มากมายปริ่มใจจะขาด
"กริช......เรา....." หยดน้ำตาของสิงห์ร่วงบนหน้าอกผม
"สิงห์เป็นอะไร?!"
ผมรับรู้ได้ เขากำลังทรมานกับบางสิ่งที่เก็บไว้
เรื่องที่ใหญ่โตร้ายแรงเกินกว่าคนๆ หนึ่งจะเอ่ยปากเล่าออกมาได้
"เรามันโง่...เรามันบ้าที่สุด!!"
"ส...สิงห์ เล่าให้เราฟังเถอะ สิงห์เป็นอะไร!"
แขนผมโอบกอดเขาไว้แน่น อย่างน้อยแบ่งปันให้ผมเถอะไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรทั้งนั้น
สิงห์พยายามเอาฝ่ามือปิดตาแต่น้ำตาเขายังไหลมาไม่ขาดสาย
"เ...ร..า....ฮือๆ.....เรา..มัน..บ้าที่สุด..... "
"ก...กริช....กริ...กริช....เรา..เ....เรา......"
".....พลอยท้องกับเรา......"
แล้วสิงห์ก็ร้องไห้อย่างบ้าคลั่งที่สุดในชีวิต
…………………………..
-
กว่าจะยอมบอก ก็สายเสียแล้ววววววววว :o12: :o12:
-
:sad5: :sad5: :sad5: :sad5: :sad5: :sad5:
สายเสียแล้ว(เหรอ?)
-
กำ o6 ทำไมเป็นแบบนี้ อ่ะ :sad4:
-
ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ :o12:
ถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้น กริชกันต้นก็คงไม่ได้เจอกัน :o9:
-
ตอนที่ 7 หัวใจสองดวง
กระเป๋าใบหนึ่งจุของแน่นวางอยู่ใต้แสงอาทิตย์ยามสิบโมงเช้า น้ำยังเนิงนองหน้าบ้านสะท้อนแดดเป็นประกาย
ผมรู้สึกว่าแสงแดดตอนนี้ช่างนิ่งราวกับเวลาจะหยุดเดิน ถ้าเป็นจริงได้ก็คงดี
"จะเอาไปแค่นี้เหรอสิงห์?"
"แค่นี้ก็แบกตายห่าแล้ว"
ใช่...สิงห์มันกำลังแบกสิ่งต่างๆ ไว้มากมาย มันตัดสินใจแล้ว
เด็กหนุ่มตรงหน้าในเช้าวันนี้ช่างดูแตกต่าง สีหน้าสงบนิ่งดูแกร่งกล้าเกินวัย 17 อีกสามเดือนเขาจะอายุ 18
.....อีกแปดเดือน....เขาจะเป็นพ่อคน....
"ผลตรวจยืนยันเมื่อวานตอนเย็น"
สิงห์ยืนแกว่งกี่งไม้เล่นในสนามหญ้าแปลงเล็กหน้าบ้านราวกับจะหาว่าอะไรทำให้ชีวิตเขามาถึงจุดนี้
"ถ้า...ถ้ากรูบอกรักสิงห์เร็วกว่านี้.....เรื่องคงไม่เป็นแบบนี้"
"ไม่ใช่ความผิดของกริช"
"จะไปวันนี้เลยเหรอสิงห์"
"ใช่ พลอยอายคนละแวกนั้น"
.......ไม่มีประโยชน์ที่จะเหนี่ยวรั้ง.........
"ลุงแดงจะมาไหม"
"ไม่ พ่อยังไม่รู้ กรูจะไปรับพลอยที่บ้านแล้วจ้างแท๊กซี่ไปเพชรบุรี แพงกว่ารถทัวร์แต่พลอยนั่งสบาย"
"มรึงต้องโดนไม้ตะพดปางตายแน่ๆ เพราะฉะนั้นกรูใส่นี่ให้ด้วย... ผ้าพันแผล สำลี พลาสเตอร์ แอลกอฮอล์ ยาแดง ยาเหลือง ยาแก้ปวด อยู่ช่องกระเป๋าหน้านะ"
"แล้วตอนนั้นมรึงจะร้องไห้เพื่อกรูมั๊ยกริช?"
"กรู..ร้องให้เพื่อมรึง....ตอนนี้เลยก็ได้" ผมกอดเขาไว้แน่น น้ำตาผมมันมีไว้เพื่อสิงห์ เวลาที่มันเจ็บ
"กรูเป็นห่วง....มรึงต้องเจ็บแน่ๆ สิงห์"
ทั้งที่บ้านพ่อตามัน ไม้เรียวหวายของลุงแดง และอนาคตของมันด้วย ชะตาชีวิตไอ้สิงห์ช่างโหดร้ายและเจ็บปวด
ถ้าน้ำตาผมจะช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดของมันได้ผมยินดีทุกอย่าง
ภาพในอดีตที่ลุงแดงเฆี่ยนตีไอ้สิงห์จนขาลายเวลาที่มันซน มันไม่ร้องสักแอะ ไอ้กริชเสียอีกที่น้ำตาไหลอาบหน้า กอดขาลุงแดงร้องจนเสียงแหบเสียงแห้ง
...อย่าตีเขาอีกเลย สิงห์จะตายแล้วลุง... ไอ้สิงห์ที่ยืนนิ่งเพื่อให้พ่อตีเสร็จให้เร็วที่สุด เพื่อนรักมันจะได้ไม่ต้องร้องไห้อีก
ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วที่หัวใจทั้งสองรู้ว่ามันเป็นของอีกฝ่าย
"มรึงสัญญากับกรูได้มั๊ย?" สิงห์กระซิบยามใบหน้าแนบกับอีกฝ่าย
"สัญญาอะไร"
"มรึงต้องตั้งใจเรียนต่อไป ต้องร่าเริงและเข้มแข็ง อย่าให้กรูทำชีวิตมรึงพัง"
"................"
"กรู้รู้ว่ามันยาก แต่ต้องพยายาม"
"เออ กรูจะพยายาม"
"แล้วก็อีกข้อ...."
"โลภๆ ข้อแรกก็ยากแล้วไอ้ห่า"
"ข้อแรกมันจำเป็นต้องพูดก่อน ส่วนข้อสองจำเป็นสำหรับชีวิตมรึงยิ่งกว่า"
สิงห์ยิ้มให้ผม ยิ้มบางๆ ที่จริงใจ
"มรึงต้องไม่ปิดใจตัวเอง เข้าใจมั๊ย?"
"กริช มรึงเป็นคนดี สักวันรักแท้จะมาหามรึงอีก ถึงตอนนั้นฟังเสียงหัวใจมรึงไว้ มันไม่โกหก"
".....อย่าหลอก...ใจ..ตัวเองอีก เข้าใจมั๊ย ....อย่าทำพลาด...เหมือนกรู"
เป็นเช้าวันร่ำลาที่ลูกผู้ชายสองคนเสียน้ำตามากมายเหลือเกิน
"กรูดีใจที่สุดที่ได้อยู่กับมรึงมา 18 ปี เป็นทั้งเพื่อนสนิท เพื่อนแท้ เพื่อนตาย ทั้งคนรัก มากกว่าอะไรทั้งหมด"
"ใจกรูอยู่ตรงนี้ มรึงจำไว้นะกริช" สิงห์จิ้มนิ้วเบาๆ ที่อกซ้ายของผม
"ทุกครั้งที่มรึงเจ็บปวด รู้ไว้ว่ากรูก็พร้อมจะแบ่งเบา"
"จะเป็นโลกให้มรึง ไม่ว่ากรูอยู่ไหนก็ตาม"
สิงห์แบกกระเป๋าขึ้นแล้ว เป็นสัญญาณของการจากกัน
"อะไรยากแค่ไหนกรูก็ไม่กลัวเพราะตอนนี้กรูรู้แล้วว่ากรูมีใจของกริช....เป็นโลกทั้งใบ....ไม่ว่าเราจะอยู่ไกลกันแค่ไหนก็ตาม"
"เออ กรูไม่ห่วงมรึงแล้ว"
"อย่าลืมสัญญาล่ะ.....ตั้งใจเรียน.....และเชื่อเสียงของหัวใจให้ดี อย่าปิดใจ สักวันมรึงจะเจอรักแท้ครั้งใหม่"
"โว้ย!!! มรึงรีบไปเลย กรูเพิ่งหยุดร้องไห้ได้ตะกี้แท้ๆ .....ฮือๆ....ไอ้บ้า....."
"สิงห์ ไป...ถึงบ้านเมื่อไหร่...โทรหากรูด้วยนะ....ดูแลพลอยดีๆ นะมรึง แล้วก็อย่าตีลูกมรึงแรงเกิน"
เด็กหนุ่มวัย 17 ให้รอยยิ้มแทนคำตอบ
สิงห์แบกกระเป๋าออกประตูรั้วไปอย่างเข้มแข็ง กระเป๋าหนักปลิวไปดังนุ่นเพราะสิงห์ต้องมีเรื่องให้แบกอีกมากนัก มันจำเป็นต้องเข้มแข็งทั้งกายและใจ
สิงห์แข็งแกร่งจริงๆ วันที่มันตัดสินใจพาชีวิตออกเดิน เมฆฝนทั้งฟ้ายังหลีกทางให้
…………………………………
-
............ทางเลือกของชีวิตกับทางเลือกของหัวใจ.........
............บางทีมันก็ไม่ใช่ทางเดียวกัน........ :o12: :o12:
-
ทางมีไว้เดิน ถึงแม้จะมีขวากน้ำ ก็ต้องเดินหน้าต่อไป
เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ง่ะ
-
............ทางเลือกของชีวิตกับทางเลือกของหัวใจ.........
............บางทีมันก็ไม่ใช่ทางเดียวกัน........ :o12: :o12:
ชอบอ่ะ ประโยคนี้ โดนจาย o13
-
เพื่อนรัก ... เพื่อนแท้ :sad4:
-
o13 เยี่ยม มากมาย :m2:
-
ตอนที่ 8 การพบเจอที่รอคอย
รถบัสประจำทางออกตัวทิ้งฝุ่นตลบไว้เบื้องหลัง ผมยืนมองไร่สวนรอบๆ ก่อนออกเดินตามเส้นทางที่ได้สอบถามไว้
ปราจีนบุรี...ไม่ใช่เพชรบุรีบ้านสวนของผม .....
"...นั่นกริชเหรอ...." ลุงแดงที่ดูผ่ายผอมไป เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลแค่เฉพาะผม สิงห์และพลอยเท่านั้น
ใครจะทำใจได้เมื่อลูกชายที่ส่งเสียไปเรียนถึงเมืองกรุงกลับเรียนไม่จบแถมได้ลูกสะใภ้พร้อมหลานในท้อง
"เข้ามาในบ้านก่อนสิ"
หลังจากสิงห์กลับบ้านได้หนึ่งสัปดาห์ ลุงแดงตัดสินใจขายบ้านและสวนย้ายมาเป็นทำสวนที่ปราจีนแทน
อย่างน้อยก็ช่วยให้ลูกชายและลูกสะใภ้กับหลานในท้องไม่ต้องตกเป็นขี้ปากครหานินทามากไปกว่านี้
.....นี่เป็นการเดินทางที่อึดอัดใจที่สุดของผม แต่ยังไงผมก็ต้องมา........
ผมยกมือไหว้ลุงแดง การปรากฎตัวในวันกลางสัปดาห์ช่วยอธิบายหลายๆ อย่างที่ผมเองก็ลำบากใจจะพูด
แม้จะโทรติดต่อกันหลายทีแล้วก็ตาม ลุงลูบหัวผมเบาๆ เป็นเวลานานแทนการสนทนาทั้งหมด
"ผมขอโทษครับคุณลุง" ผมกราบลงที่พื้นหน้าลุงแดง
"เอ็งเองก็คงลำบากใช่มั๊ย"
".........ครับ"
....
....
"แล้วพลอยเป็นยังไงบ้างครับ?"
"7 เดือนแล้ว....ก็แข็งแรง หมอบอกเป็นลูกสาว ช่วงนี้ไม่ให้เขายกของหนัก พยายามให้ไม่คิดอะไรมาก"
"ผมขอโทษนะครับที่ดูแลสิงห์ไม่ได้ ขอโทษคุณลุงจริงๆ"
"ลูกลุงมันทำตัวเอง เอ็งก็หน้าอมทุกข์ไม่น้อย ลุงขอโทษเอ็งด้วยนะ"
เสียงเปิดประตู เขามาแล้ว
เป็นการเดินทางที่อึดอัดใจที่สุด
เราสองคนนั่งเตะน้ำอยู่ริมท่า ไอ้สิงห์คล้ำแดดขึ้น ตัวก็บึกขึ้นบ่งบอกว่าตรากตรำทำงานหนัก
ผมนั่งมองมันอยู่นาน สิงห์คงเข้าใจ มันนั่งยิ้มจางๆ ปล่อยผมดูมันให้หายห่วงหายคิดถึง มันเองก็คงกำลังทำแบบเดียวกัน
.....สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปแล้ว เราต้องเข้าใจและอดทน
นี่เป็นการเจอหน้ากันครั้งแรกหลังจากผ่านวันนั้นมาได้กว่าครึ่งปี ผมอยากจะมากราบขอโทษลุงแดงตั้งแต่ก่อนหน้านี้ อยากเจอสิงห์ เป็นห่วงมัน
ห่วงว่ามันโดนพ่อตากับพ่อมันฟาดขนาดไหน เป็นห่วงพลอยและลูกในท้อง แต่สิงห์ขอไว้ มันคงอยากให้อะไรๆ ดีขึ้นกว่านี้ก่อน
"เกิดเรื่องเยอะแยะเหลือเกิน....เพราะกรูคนเดียว"
...
...
"ลำบากมากเลยสินะ..."
"...พอไหว..."
"ดูแลพลอยได้ดีหรือเปล่า?"
"ก็พยายามที่สุด โชคดีที่เขาสุขภาพแข็งแรงแต่ก็ร้องไห้บ่อยๆ"
"อีก 2 เดือนจะได้ลูกสาวแล้วนะมรึง"
สิงห์ไม่พูดอะไร หน้านิ่งๆ ของมันเหมือนวันที่มันตัดสินใจวาดเส้นทางชีวิตของตัวเอง
จากเด็กนร.อายุ 18 จะกลายเป็นพ่อคนในอีก 2 เดือนข้างหน้า คงเป็นความรู้สึกที่ยากมาก
"แล้วสวนมรึงล่ะเป็นไง?"
"เพิ่งลงกล้าเสร็จเมื่อสามเดือนก่อน ยังโดนพ่อด่าเรื่อยๆ นะ....ต้องเรียนจากพ่ออีกเยอะ"
ตามันเศร้าตอนมองดูชุดเสื้อยืดของผม
"กรูขอโทษนะกริช"
"ส่วนของกรูน่ะกรูทำตัวเอง กรูรักษาสัญญาไม่ได้ มรึงอย่ามาแย่งรับผิด"
การจากลาไม่ได้มีคนเจ็บแค่คนเดียว แค่คืนนั้นผมก็แทบบ้าจนทนอยู่ตามลำพังในบ้านหลังนั้นไม่ได้ ภาพที่เคยอยู่ด้วยกันมา 18 ปี กลับกลายเป็นความทรงจำที่เจ็บปวดจนทนไม่ได้ต้องย้ายไปอยู่หอ มีแค่สิ่งของๆ สิงห์บางชิ้นที่พอเอาติดตัวไปได้ ส่วนที่เหลือส่งพัสดุให้ลุงแดง
ผมพยายามเรียนตามปกติต่อไปแต่มันยากมากที่จะทำใจ คะแนนสอบกลางภาคตกต่ำจนอาจารย์แนะให้พักการเรียนไปเรียนใหม่ปีหน้า
ครั้งนี้พ่อแม่ห้ามผมทำกิจกรรมใดๆ ที่โรงเรียน เวลาทั้งหมดต้องทุ่มเทเพื่อการเรียนและเอ็นท์ให้ติดหมอจุฬา ทดแทน 1 ปีที่เสียไปให้ได้
"แล้วครั้งนี้....มรึงจะทำยังไงต่อ?....."
"มีบ้านเช่าเล็กๆ ในหมู่บ้านใกล้โรงเรียน รถเมล์ต่อเดียวก็ถึง แถบนั้นหมู่บ้านเยอะแต่ไม่มีหอพักดีๆ ...ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องนั่งรถไกล มีเวลาอ่านหนังสือมากๆ ซื้อกับข้าวกิน---"
"ก...กริช...."
ผมพอเข้าใจมันห่วงเรื่องอะไร
"กรูมั่นใจว่าคราวนี้ต้องทำได้น่ะสิงห์ กรูจะไม่หนี อาจไม่เข้มแข็งเท่ามรึงแต่กรูจะต้องผ่านเรื่องนี้ให้ได้ ถ้าไม่ทำแบบนี้กรูคงก้าวต่อไปไม่ได้"
....
....
"กรูเป็นห่วงมรึง.....กริชมรึงไหวแน่นะ?"
"เออ....มรึงอย่าท้อไปก่อนละกันไอ้สิงห์"
....
....
"สิงห์ ขอโทษนะ กรูคงไม่ได้มาตอนลูกมรึงคลอด"
"กรูเข้าใจ มันใกล้ช่วงเปิดเทอมของมรึง....ตั้งใจให้เต็มที่นะ ว่างๆ ก็แวะมาดูหลานได้เสมอ"
"อืม...กรูคงต้องไปแล้วเดี๋ยวไม่ทันรถทัวร์รอบเย็น"
"ขอบใจนะกริช"
หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตเราสองคนไป แต่ความรู้สึกดีและปรารถนาดีต่อกันไม่เปลี่ยนแปลง
ต่อจากนี้เราจะเป็นเพื่อนที่ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด และตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าเราสองคนจะเป็นเช่นนั้นได้ตลอดไป
………………………………..
-
เพื่อนรัก......ตลอดกาล :sad4:
-
เข้าใจกันแบบนี้ดีจังเลย เพื่อนรัก o7
ขอบคุณที่มาต่อน๊า o15
-
แม้ไม่ได้เป็นคนรัก...
แต่อย่างน้อยก็ได้เป็นเพื่อนรัก...
:undecided: :undecided: :undecided:
-
รอลุ้นต่อไป :m15:
-
:เฮ้อ:
จวนจะได้เวลา มาเจอ กะต้นแล้วสิ
-
:m15: อืมเข้มแข็งไว้ นะ..................... :m9:
-
..
..
..
ผมนั่งฟังกริชเล่าเรื่องจนถึงคำสุดท้าย ไม่อยากเชื่อเลยว่ากริชจะต้องพบเจอเรื่องหนักถึงขนาดนี้
"ต้นร้องไห้เหรอ?"
"บ้า..." ผมโผกอดเขาไว้ อยากกอดเขาจริงๆ
"จะ...ไม่ให้...ผมร้องได้ไง"
"ต้นโกรธผมมั๊ย? เกลียดผมรึเปล่า?"
"จะโกรธเรื่องอะไรล่ะ"
"ก็ผม......"
ผมแตะริมฝีปากเขาไว้ กริชเงียบและมองผมด้วยสายตาที่อบอุ่น นิ้วที่แข็งแกร่งเช็ดคราบน้ำตาให้ผม
"ผมดีใจที่กริชเล่าให้ฟัง" กริชกอดผมไว้แน่น แน่นมากแต่ผมไม่เจ็บหรอก ผมได้ยินเสียงหัวใจกริชเต้นเบาๆ
"กริชเจ็บมากเลยสินะ....."
"............"
"ถ้าเราเป็นกริช เราคงเหงามากๆ ......โปสเตอร์นักบาสในห้อง....เป็นของพี่สิงห์ใช่มั๊ยครับ?"
"............"
"ผมไม่ได้โกรธว่าเป็นของพี่เขาหรอกนะครับ แค่ห่วงว่ากริชจะเจ็บอีก"
.......เรื่องของความรัก บางครั้งก็ไม่มีคำตอบ......
"แต่ผมปลดลงแล้วล่ะ"
"ทำไมล่ะครับ?"
"ก็....ผมคิดว่า...เจอรักแท้ครั้งใหม่แล้วน่ะสิ"
.......
.......
"ไหนขอดูหน้าคนดีของผมหน่อยซิ"
"ไม่เอา!"
ผมซุกหน้ากับบ่าเขา จะให้ดูตอนนี้ได้ไง ผมยังร้องไห้สะอื้นแล้วดันพูดหวานให้หน้าแดงแบบนี้
"ทำไม....กริชถึงคิดว่าเราจะเป็นแบบนั้นให้กริชได้ล่ะครับ"
"ผมก็ไม่รู้ แต่ผมรู้สึก.... ผมคิดว่าหัวใจมันบอกแบบนั้น ยิ่งได้ใกล้ชิดต้นผมก็เริ่มมั่นใจ"
"แล้วที่ว่ามีเรื่องกับที่บ้าน เรื่องอะไรเหรอ?" ผมรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนกริชจะชิงใจผมไปทั้งใจ
ผมก็อยากเป็นรักแท้ของเขาแต่รู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อม ตราบใดที่ผมยังโกหกปิดบังเขาอยู่
กริชเจ็บมาแล้วครั้งหนึ่งผมไม่อยากซ้ำเติมเขาอีก แต่สักวันความลับก็ต้องเปิดเผย...แต่ก่อนจะถึงวันนั้น......
"คือ...ผมอยากทำเพื่อสิงห์บ้าง เขาเจ็บกว่าผมมาก"
ผมพอเดาออกแล้วว่ากริชคิดอะไร....และก็เริ่มเห็นอะไรลางๆ.....
"สิงห์เขาจำเป็นต้องทิ้งความฝันไปมากมาย อย่างน้อย...ผมอยากให้ความฝันเรื่องบาสของเขาสำเร็จ แต่ผมไม่เก่งบาสเลยแอบสมัครเป็นกรรมการกีฬาสีแทน ได้ดูแลนักกีฬาทั้งหมด คงมีทางนี้แหละที่ผมพอจะทำได้"
....เริ่มเห็นอะไรชัดขึ้นๆ แล้วแฮะ.....
พ่อแม่ไม่ให้ทำกิจกรรมโรงเรียนอีก.....กริชแอบเป็นรองประธานฯฝ่ายนักกีฬา....แล้วก็....ดูเหมือนผมจะเป็น.....
"ตอนแรกก็ไปได้ดีทั้งเรื่องเรียนเรื่องงานกีฬานะ....แต่จู่ๆ พ่อแม่ก็รู้ซะงั้น เลยโดนเรียกกลับเพชรบุรีไปอบรมยกใหญ่"
....โป๊ะเชะ....
"ผมคงไม่เข้มแข็งพอ......ต้นเกลียดผมไหมที่พี่ยังทำเพื่อ......"
ผมรู้สึกผิดต่อกริชมาก ไม่เคยคิดว่าการทำบ้าๆ ครั้งนั้นจะทำให้กริชลำบาก ผมเองเป็นคนทำลายความฝันของเขา
ผมอยากสารภาพความผิดทุกอย่างแม้เขาจะโกรธผมแค่ไหนก็ไม่เป็นไร
....แต่การสอบกลางภาคในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า....การสอบกลางภาคที่กริชเคยพลาดจนอาจารย์แนะให้พักการเรียน....
ผมไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่าผมโกหกเขามาตลอด...ผมคนนี้ที่ทำลายความฝันที่เขาทำเพื่อพี่สิงห์....ถ้าผมทำลายชีวิตเขาซ้ำสองอีก....
"กริชครับ"
...
...
"เรารักกริช"
"เราไม่รู้ว่าจะเป็นรักแท้ได้ไหม.....อาจจะไม่มากมายเท่าที่กริชเคยได้รับ"
"ต้น....ผมไม่ได้...."
".....แต่เรามั่นใจว่ารักกริชจริงๆ ....ในตอนนี้เราไม่มีอะไรสักอย่าง....แต่....ถ้ากริชรอได้...."
มองผมสิครับ ผมคนนี้ที่โกหกกริชมากมาย แต่ผมมั่นใจที่จะพูด
"เราจะเป็นโลกของกริชให้ได้ครับ"
--------------------------------- จบบทที่ 2 ---------------------------------
-
"เราจะเป็นโลกของกริชให้ได้ครับ"
.............ถ้าคนรักกัน....ทำเพื่อกันและกันได้แบบนี้....
.............แม้วันนึงต้องร้างรา....เราก็จะไม่เสียใจกับมัน..... :o12: :o12:
-
:o7: อ่านบทที่สองกี่รอบก็ยังซึ้งเหมือนเดิมครับ
ของพี่ซอโร่เนี่ย เจ๋งไม่เคยเปลี่ยนเลย
เรื่องนี้เป็นหนึ่งในใจเลยครับ สนุกมาก ๆ ๆ
-
เอาละซิ ทั้งเรื่องเก่า เรื่องใหม่ ที่ไปโกหกกริชเอาไว้ ต้นจะแก้ได้ไงเนี่ย o18 o18
-
o13 สู้ๆ เดียวก็คงจะดีขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้นไปเลย :m2:
-
แล้วต้นจะทำงัยต่อละทีนี้ o12
-
ซึ่งแฮะ
:m15: :m15:
-
:-[
กลับมาให้กำลังใจเหมือนเดิมแล้วครับ
หายไปนานแรย
o15
-
=================== บทที่ 3 เสียงหัวใจที่ไหวหวั่น ====================
ตอนที่ 1
เสียงแท๊กซี่แล่นไกลออกไปจนทุกอย่างเงียบกริบ มีแค่เสียงลมหายใจของกริชกับผมในความมืดมิด
กริชสวมกอดผมอย่างแผ่วเบา "ต้น...."
ใจเขาเต้นรัวแต่แผ่วเบา ใจที่อ่อนล้าและเจ็บปวดกับความหลัง ผมรู้ว่ามีความรู้สึกมากมายอยู่ภายในนั้นจนผมพูดไม่ออก ได้แต่กอดเขาไว้แน่น
"ต้นอย่าทำหน้าเศร้าสิ" กริชจูบที่หน้าผากแล้วค่อยๆ เคลื่อนมาที่เปลือกตา
"ผมรู้ว่าบางครั้งผมเองก็ยังคิดถึงเรื่องนั้น ท่าทางของผมคงทำให้ต้นรู้สึกไม่ดีใช่มั๊ย?"
ผมพยักหน้าหงึกๆ แทนคำตอบ
"ต้นยังคิด......"
"จู่ๆ จะให้เราทำใจคงยากครับ แต่เรารักกริชจริงๆ ครับ"
"ผมเองก็ไม่อยากให้ต้นอึดอัดเลยตัดสินใจเล่าให้ฟัง....ทีนี้เราสองคนเข้าใจกันแล้วนะต้น?"
.....ผมดีใจที่กริชเล่าเรื่องนั้น แต่ผมสิที่ยังมีเรื่องปิดบังกริช.....
กริชประคองหัวผมแล้วประกบปาก เป็นจูบที่เนิ่นนานมาก
"ดีใจจังต้นเข้าใจผมแล้ว"
"อะไรครับ!...ยังไม่ได้พูดสักคำเลย" ขโมยจูบแบบเนี่ยเขินนะโว้ย
"ก็ต้นไม่ยอมพูดไง ผมเลยต้องถามจากปากต้นแบบเนี้ย เอาอีกมะ?"
กริชยิ้มกวนๆ พลางโน้มตัวผมลงโซฟาแล้วขโมยจูบผมอีกครั้ง "ไง ตกลงเนี่ยเข้าใจผมรึยัง?"
"เข้าใจแล้วๆ" ผมต้องเอามือยันหน้าเขาไว้ก่อนปากจะช้ำไปกว่านี้
"ผมสัญญาจะไม่ทำให้ต้นเศร้าอีกแล้ว ....ต้นก็อย่าทำหน้าแบบนั้นอีกนะ"
ผมให้จูบเขาแทนคำตอบ กริชซุกไซ้ซอกคอพลางถอดเสื้อแจ๊กเก็ตผมออกตามด้วยเสื้อยืดของเขาและผม
เขาไล่ปากมาตามแผงอกและหัวไหล่ กริชขบเบาๆ เล่นเอาผมเสียวเลย
"เกือบเที่ยงคืนแล้ว ต้นต้องรีบกลับไหม?" กริชถามระหว่างซุกไซ้มาถึงหน้าท้องผม
"ไม่ครับ...คืนนี้เราจะอยู่กับกริช"
"จริงๆ เหรอ! ผมดีใจจัง"
คืนที่กริชเล่าความหลังให้ผมฟังแบบนี้ทำให้ผมอยากอยู่เป็นเพื่อนเขาทั้งคืน ไม่อยากจากเขาไปไหนอีกแม้แค่ช่วงข้ามคืนก็ตาม อยากดูแลเขาตลอดไป
ตัวกริชทับตรงเป้ากางเกงยีนส์ของผม เจ้าหมูยอก็ขยายตัวขึ้นมาสู้ซะอีก กริชลงลิ้นที่สะดือผมพลางแกะกระดุมกางเกงเล่นเอาผมสะดุ้งโหยง
"กริช..อย่า!...อย่าทำตรงนี้เดะ...เราเขินว้อยยย!"
"บอกแล้วไงว่าผมอยู่คนเดียว"
ดูเขายิ้มทำหน้าวิงวอน บ้านโล่งๆ ใครจะกล้าแก้ผ้าเล่นหนังสดเล่า แต่กริชก็ยอมให้ผมขี่หลังขึ้นห้องนอนอยู่ดี (แต่คราวหน้าคงทนลูกอ้อนนี้ไม่ไหวแหงๆ)
เราสองคนกอดซุกไซ้กันบนเตียง ตอนนี้เสื้อผ้าหายไปไหนหมดแล้ว กริชนอนทับตัวผมมือกุมมืออีกฝ่ายไว้แน่น
ขาเหยียดแนบกันไว้ราวกับจะสัมผัสร่างของอีกฝ่ายให้ได้ทุกส่วนสัด
ผนังห้องที่ว่างเปล่าบ่งบอกว่ากริชเข้มแข็งและเติบโตขึ้นจากความเจ็บปวดในอดีตแล้ว
หากจะยังเหลือเศษเสี้ยวของความเศร้าอยู่ที่ใดผมจะช่วยแบ่งเบาให้คนที่ผมรักที่สุด
"เป็นอะไรเหรอต้น?" กริชกระซิบถามข้างใบหูผม
"เปล่าครับ"
"ถ้างั้น .......มาคุยปัญหาเล็กๆ ของเราสองคนดีไหม?" หน้าของเขาแนบชิดกับหน้าผม
"ปัญหาอะไรเหรอครับ?"
"ก็......." เขาทำหน้าเครียดเชียว ผมโอบไหล่กริชไว้ "บอกเรามาเหอะกริชมีปัญหาอะไร"
"ก็ใครจะเริ่มก่อนล่ะ?" โหย! มุขนี้เล่นเอาผมขำเกือบกลิ้งตกเตียง
"ฮะฮะ ผมคิดจริงๆ นะต้น" กริชรั้งตัวผมนั่งนั่งบนตักหันหน้าเข้าหาเขา ท่อนเนื้อเขากับผมแตะถูกันบนหน้าท้องเขา
กริชเงยหน้าเล็กน้อยมองผมซึ่งตอนนี้อยู่สูงกว่าหน้าเขานิดหน่อย
"ผมไม่อยากเอาเปรียบต้นนะ"
ผมก้มลงจูบหน้าผากเขาแล้วเอนตัวลงข้างหลังพร้อมดึงกริชขึ้นทาบทับเป็นสัญญาณให้เขารู้
กริชเล้าโลมพร้อมกับตระเตรียมตัว เจลเย็นๆ ป้ายเข้าไปทำเอาผมสะดุ้งเฮือกทั้งที่เตรียมใจไว้แล้วก่อนเขาจะเข้ามาในตัวของผม
กริชทำอย่างนุ่มนวลไม่อยากให้ผมเจ็บมาก
"เจ็บมั๊ยต้น?"
เสียงหอบหนักๆ กับลมหายใจอุ่นๆ ทำให้ผมหายเจ็บได้เลย จนกริชกระตุกตัวโถมกอดผมค้างอยู่อย่างนั้น ผมกอดศีรษะเขาไว้แนบแก้ม
"ถึงคราวเราล่ะน้า"
"......อืม" เสียงกลืนน้ำลายเอี๊อกเลย
"เอ่อ.....กริช ถ้าไม่ชอบก็บอกเถอะนะ"
"ต้นยังให้ผมได้" กริชพยักหน้าแต่หน้าตาเกร็งๆ เส้นผมที่ชุ่มเหงื่อปรกหน้าผากแบบนี้ผมรักตายเลย
ผมจัดการขึ้นคร่อมจูบไซ้ไปทั่วพลางกดเจ้าหมูยอเข้าถูไถที่ต้นขาเขา
"จ...จะทำแบบนี้เหรอต้น?"
"แบบนี้ก็สนุกดี" ใช้จินตนาการช่วยหน่อยก็ได้เหมือนกัน
"แต่ผม...ผมรู้สึกเอาเปรีย---"
"อย่าคิดมากนะครับ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบฝืนใจไม่ได้หรอก คราวที่แล้วกริชก็เจ็บมากนี่ครับ" กริชยังคงอึกอัก
"เรามีความสุขจริงๆ นะกริช ระหว่างเราสองคนอย่าคิดมากเลยนะครับ อีกอย่าง......"
"อีกอย่างอะไรเหรอต้น?"
"ทำแบบเนี่ยเรากระแทกได้แรงๆ เลยไงครับ" ว่าแล้วก็ควบเลยครับ
"โอ๊ย!....ข..ขาหักแน่ๆ!"
พอเริ่มรู้ใจกันอะไรก็มีความสุขได้ กริชกอดจูบให้ผมเต็มที่ เมื่อไม่ต้องห่วงว่ากริชจะเจ็บก็คล่องตัวขึ้น กว่าจะเสร็จก็เหงื่อโชก
กริชพลิกกอดให้ผมนอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน ใบหน้าเราแตะกันอยู่เงียบๆ อย่างนั้นเป็นเวลานาน
"มีความสุขมั๊ยต้น?" เขาลูบตัวผมไปทั่วอย่างช้าๆ
"ครับ แล้วกริชล่ะ?" เขาตอบอืมสั้นๆ นอนหลับตาให้ผมลูบใบหน้าเขา
"อาบน้ำกันนะ"
ผมฟอกสบู่ให้ทั่วตัวกริชแล้วเขาก็กอดผม เนื้อตัวทุกส่วนสัมผัสถูไถกันไปมา
"แล้วผมจะเจอต้นได้อีกวันไหน?"
".....กริช.....ใกล้จะสอบแล้วใช่มั๊ย?"
ตาเรามองกัน ความปรารถนาและความคิดถึงในแววตาไม่ต้องมีคำพูดก็รู้ความหมายของอีกฝ่าย
"เราอยากเจอกริช อยากอยู่ใกล้ๆ ทุกวันนะครับ แต่กริชใกล้สอบแล้ว" ผมก็ใกล้สอบกลางภาคในอีกสองสัปดาห์เหมือนกัน ไหนจะเริ่มซ้อมบาสอีก
"ต้นรู้ด้วยเหรอ?"
"ผมเคยเรียนม.ต้นมานี่ครับ" อย่างน้อยก็ไม่ได้พูดโกหก
"ก็........"
"กริชลำบากใจที่จะพูดงั้นเราพูดเองนะ.....อยากให้กริชตั้งใจเรียน...ว่างๆ ค่อยโทรหาเราก็ได้นะครับ"
"ต้นไม่น้อยใจผมนะ?"
"ฮะฮะ.....เรารอเพื่อกริชได้"
เราสองคนนอนกอดกันบนเตียง ผมเฝ้ามองเขาจนกริชหลับสนิท
กริชหลับให้สบายเถอะนะครับ ไม่ว่าคืนนี้หรือคืนไหน จะวันนี้หรือวันข้างหน้าผมจะดูแลหัวใจของกริชเอง
ผมไม่รู้ว่าความลับของผมจะปิดบังได้อีกนานแค่ไหน ในวันนั้นกริชจะยอมรับผมได้ไหม แต่ใจผมรักชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า
และจะรักตลอดไปเหมือนที่ผมสัญญากับเขา....ผมเต็มใจและอยากจะอยู่กับเขาตลอดไป....
ผมทำลายความฝันเรื่องงานกีฬาสีของเขาไปแล้ว ขอโทษนะกริช
แต่ผมจะเอาเหรียญทองบาสมาให้ได้ นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ผมพอจะทำให้เขาได้ แม้จะเป็นแค่เศษเสี้ยวของสิ่งที่กริชฝันก็ตาม
..
..
..
-
เมื่อไหร่จาบอกความจิงนะ :เฮ้อ:
-
:เฮ้อ: หลอกเขาไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ ถ้ากริชรู้เข้าจะเสียใจแค่ไหนเนี่ย :เฮ้อ:
-
บอกความจริงสักทีเหอะน้า :m5: :m5:
-
:m14: หลอกต่อไปเรื่องจะยิ่งยุ้งไหมเนีย :เฮ้อ:
-
...........ยิ่งหลอกกันนานเท่าไหร่........
...........ก็ยิ่งทำร้ายความรู้สึกกันนานเท่านั้น........ :o12: :o12:
-
ตามมาอ่านรวดเดียว ชอบบบบบบบอ่า มาต่อไวๆน้า :m3: :m3:
-
จริงๆแล้ว เรื่องมันก็ไม่ได้ร้ายแรงไรมั้ง บอกๆความจริงกริชไปเถอะ :m1: จะได้สบายใจทั้ง 2ฝ่าย
-
......................
....................
..................
..............
...........
สัมผัสอุ่นๆ ที่แก้ม......อืม......ที่อก.....ไล่ลงไปเรื่อยๆ.........
"ตีห้าแล้วต้น ถ้าไม่ยอมตื่นจะลักหลับละน้า"
"เหยย!!!!"
สะดุ้งเลยครับเกือบหลับเตลิด ดีนะที่บอกกริชให้ปลุกผมไว้ก่อน กริชนั่งขำใหญ่เลย
"นึกว่าไม่ตื่น กะจะปล่อยให้นอนกินบ้านกินเมืองให้อิ่มเลยนะเนี่ย" ทำแบบนั้นผมก็ตายน่ะสิ
ต้องรีบกล้บบ้านไปเปลี่ยนชุดนร. ถึงจะเสี่ยงโดนพี่ด่าก็เถอะแต่แว่นผมอยู่บ้านแล้วเมื่อคืนก่อนก็ไม่ได้กลับบ้านด้วย วนไปกลับสองรอบแบบนี้ต้องรีบทำเวลา
"ขออาบน้ำก่อนนะกริช เราต้องรีบไป" ต้องรีบจริงๆ ครับงานนี้ กริชคงเข้าใจจึงไม่ง้อขออาบน้ำด้วยไม่งั้นอาจมียกที่สาม
"ต้น ผมมีเรื่องอยากจะขอต้นสักอย่าง ไม่รู้ต้นจะลำบากไหม?" เขาชวนคุยจากนอกห้องน้ำ
"อะไรเหรอครับ?"
"เดี๋ยวออกมาก็รู้เอง" อะไรหว่า....สังหรณ์ใจไม่ดีเลย
พออาบเสร็จเปิดประตูออกมาเห็นกริชง่วนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า แล้วหยิบ....เอ่อ...นั่นมัน....
"ต้นลองใส่ตัวนี้หน่อยสิ" เขายื่นเสื้อนร.มาให้ ใช่....เสื้อแบบเดียวกับชุดนร.ของผม
".......หมายความว่ายังไงครับ?" ....ความแตกแล้วเหรอ...
กริชหน้าถอดสีทันทีที่เห็นปฎิกิริยาบนหน้าผม "ผม...ผมไม่ได้ดูถูกต้นนะครับ ผม....."
...
...
"ผมไม่ได้คิดจะดูถูกต้นเลยนะ....ขอโทษทีที่ผมลืมคิดถึงความรู้สึกของต้น" หน้าเขาสำนึกผิดจริงๆ ส่วนผมยังยืนงง ทั้งงงทั้งเครียด
"เอ่อ....เราไม่ได้คิดว่ากริชดูถูกเราหรอก แต่....คือจู่ๆ จะให้เราใส่ชุดนักเรียนของกริชทำไม? มันรู้สึกแสลงๆ น่ะ"
"คือผมอยากพาต้นไปเที่ยวโรงเรียนผมบ้าง ต้องใส่ชุดนร.ถึงจะเข้าได้น่ะ....ขอโทษนะที่ลืมคิดถึงใจนาย"
"กริชอย่าคิดมากกับเราอีกเลยนะครับ เราไม่ได้อ่อนไหวแบบนั้นหรอก นะครับพี่ชายสุดที่รักของผม"
ผมรับเสื้อมา เป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกจริงๆ แต่กริชยังนิ่งสำนึกผิด
"เราไม่คิดมากจริงๆ กริชเลิกเศร้าเถอะนะ....จริงๆ แล้วเราดีใจนะที่กริชชวนเรา"
ผมก็ฝันว่าสักวัน...สักวันผมกับกริชจะเดินคู่กันในโรงเรียนได้...อยากให้เขาได้รู้ความจริงเสียที....แต่ขอแค่...เหรียญทอง....
ขอให้ผมได้เหรียญทองมาชดใช้ความผิดทั้งหมดก่อนเถอะ หรืออย่างน้อยให้ผ่านการสอบกลางภาคของกริชไปก่อนก็ได้.....
ผมไม่อยากให้เขาเสียใจจึงสวมเสื้อนร.ของเขา รู้สึกหน้ามืดยังไงพิกล ไม่อยากใส่ให้กริชดูเลยโว้ยแต่ทำไงได้!!!
"ไม่รู้จะหลวมไปนิดสำหรับต้นมั๊ย?" ....รู้สึกหัวใจผมเริ่มหลวมๆ จะหล่นออกจากร่างเหมือนกัน.....
"ลองกางเกงด้วยนะ" ....เออใช่ๆ จะไปนรกทั้งทีต้องแต่งให้ครบ.....
"แล้วก็เข็มขัด" .....ลมหายใจผมก็ขัดๆ ปานจะสิ้นชีพ.......
"ต้นตัดผมเหมือนลองทรงเลยนะ งั้นกลัดเข็มนี่ด้วย" .....ขอดอกไม้จันทน์กลัดอกแทนได้ไหม....
"อือ......" กริชนิ่วหน้าแล้วจับผมส่องกระจก
เป็นความรู้สึกแปลกที่สุดในชีวิตที่เห็นตัวผมในเครื่องแบบนักเรียน ในวินาทีนี้หน้าผมตอนนี้ซีดยิ่งกว่าเสื้อสีขาวนี่ซะอีก
"เหมือนเด็กม.ปลายมากเลย แบบนี้เดินเข้าโรงเรียนได้สบาย"
"ร...เรารู้สึกแปลกๆ ล่ะ ขอถอดดีกว่าครับ"
"เอางั้นเหรอต้น?"
ผมรู้สึกผิดจริงๆ .......สักวันผมจะปรากฎตัวในชุดนี้ต่อหน้ากริช ถึงวันนั้นกริชจะยังรักผมหรือเปล่า จะโกรธไหมที่โดนหลอกมานาน....
"กริชครับ เราขอยืมชุดนี้ได้ไหมครับ? จะไม่ยืมนานหรอกครับ"
"ได้สิผมมีสามชุดน่ะ"
อย่างน้อยยังพอเป็นเกราะกำลังอีกชั้นหนึ่งได้ถ้าบังเอิญประจันหน้ากับเขาจริงๆ ก็พอมีข้ออ้างว่าผมใส่ชุดเขาเข้ามาในโรงเรียน
"กริชครับ....แล้วสักวันเราจะได้เดินกับกริชในชุดนี้ที่โรงเรียนนะครับ"
กริชยิ้มร่าโดยไม่ได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงเลย ผมชักไม่แน่ใจว่าตัดสินใจถูกหรือเปล่า
แต่สอบกลางเทอมเสร็จแล้วก็กีฬาสี เมื่อผมได้เหรียญทองมาเมื่อไหร่ ตอนนั้นแหละจะเป็นวันที่ผมเปิดเผยความจริง
อย่างน้อยกริชจะได้รู้ว่าผมทำเพื่อเขาจริงๆ
.....................................
-
หุหุ ตกลงเย็นนี้ไปร่วมงานฌาปนกิจศพต้นได้เลยใช่ปะ :m14: :m14:
-
เป็นกำลังใจให้นะนายต้น
-
..........."สักวันผมจะปรากฎตัวในชุดนี้ต่อหน้ากริช ".............
...........ขอหั้ยเป็นอย่างนั้นทีเถอะ........ o8 o8
-
:m2: ผมกลัวมันจะสายไปละสิเนีย เฮอ...................... :เฮ้อ:
-
:teach:
สู้ ๆ นะนายต้น
เป็นกำลังใจให้คุณหมูพูห์ด้วยคับ
มาต่อไว ๆ เด้อ
o15
-
สู้ต่อไปนะ ต้น :m2:
ขอบคุณที่มาต่อน๊า o15
-
บอกความจริงไปเหอะน้า
กลัวว่าถ้าปล่อยไปนานกว่านี้ต้นจะไม่ได้เป็นฝ่ายบอก
แต่กริชจะรู้เอง
แล้วเรื่องมันจะยุ่งอ่ะดิ่
:sad2: :sad2:
-
ยังไม่บอกความจิงอีกเหรอ :เฮ้อ:
-
ตอนที่ 2
เกือบตีห้าสี่สิบแล้ว ต้องรีบทำเวลาล่ะ ผมหอบถุงชุดนร.ของกริชรีบขึ้นรถแท๊กซี่ตรงแหน่วกลับบ้านทันที
กว่าจะถึงบ้านก็หกโมงกว่า ประตูหน้าบ้านเปิดอยู่แสดงว่าพี่ๆ ตื่นกันแล้วสิเนี่ย รีบๆ ย่องขึ้นห้องนอนดีกว่า.....
"ไอ้ต้น! กลับบ้านเช้าเลยนะมรึง"
เสียงต้อนรับจากพี่ต้อมพี่ชายของผมเอง อายุเราห่างกันแค่สามปีเลยสนิทกันพอสมควรพี่ต้อมเลยพูดกรูมรึงกับผมตลอด
โชคดีหน่อยที่เจอคนคุยกันง่าย ขืนเจอพี่ต่อพี่ชายคนโตจะซวยกว่านี้ สงสัยพี่คนอื่นๆ ไปมหาลัยกันหมดแล้ว
"ขอโทษครับพี่"
"เป็นไรของมรึงวะ? เดี๋ยวก็เหม่อ ไม่กลับบ้านบ่อยๆ คนเขาเป็นห่วงมรึงรู้มั๊ย?!"
ผมก้มหน้านิ่ง "ขอโทษครับพี่...ช่วงนี้ผม.....เอ่อ...."
พี่ต้อมจ้องหน้าผมอยู่นาน กับพี่ชายผมไม่ค่อยอยากจะโกหกเว้นแต่เรื่องที่จำเป็นจริงๆ
"แล้วนี่จะไปโรงเรียนมั๊ย? รีบไปอาบน้ำแต่งตัวซะ" รอดตัวละวุ้ย! ผมรีบจ้ำอ้าวขึ้นห้องนอน
"เดี๋ยว! ไอ้ต้น!" พี่คว้าแขนผมไว้
"อ....อะไรครับพี่?"
"ต้น....ทำไมตัวมรึงมีกลิ่นสบู่?" .....ตายห่าแล้ว!!!!!
บรรยากาศมาคุเข้าปกคลุมทันที ทั้งพี่ทั้งผมเงียบกันไปหลายวินาที จะให้ตอบว่าไงก็คงโกหกพี่ต้อมคราวนี้ไม่ได้แน่
"หน้าก็ไม่มัน นี่มรึงไปอาบน้ำที่ไหนก่อนเข้าบ้าน?"
.....
....
....
พี่ต้อมจับไหล่ผมไว้ทั้งสองข้าง ถึงจะจับแค่เบาๆ แต่มันยิ่งกว่าโซ่ตรวนซะอีก
"ต้นมีอะไรจะบอกพี่หรือเปล่า?"
"ผม....."
"ไม่มีคนอื่นอยู่บ้านหรอก บอกพี่ได้ไหม?" ปกติคุยกันกระโชกโฮกฮาก แต่ถ้าพี่ต้อมพูดสุภาพเสียงเนิบๆ แบบนี้มันเป็นสัญญาณว่าพี่น้องต้องเปิดอกคุยกัน
"มรึงไปเที่ยวอ่างหรือว่ามีแฟน?"
"แฟนครับพี่! บ้าสิใครจะไปอ่าง"
.....อุ๊บ! หลงกลพี่เข้าเต็มเปา....โดนพี่หลอกถามเข้าซะแล้ว ผมไม่กล้าสู้ตาพี่ต้อมเลยทีนี้ แต่ผมไม่อยากโกหกพี่อีกแล้ว ตายเป็นตายวะ!
บรรยากาศมาคุยิ่งกว่าเดิมยังกะเอาภาคเกียบันกับชาลีบันมารวมกัน เพราะพ่อแม่ห้ามเรื่องแฟนในช่วงมัธยมเด็ดขาด
แต่ผมอยากให้ใครสักคนเข้าใจผมบ้าง แบกความลับอยู่คนเดียวจนใกล้จะเป็นบ้าแล้ว ถ้าเป็นพี่ชายของผมคง....
พี่ต้อมนิ่งไปพักนึง สายตาดุๆ ดูจะอ่อนโยนขึ้น
"แล้วป้องกันดีหรือเปล่า?.....มรึงคงรู้จักใช้ถุงนะ?" คำถามเจาะลึกกว่าเดิมอีก เล่นเอาสะอึกเลย
"มรึงจะหน้าแดงทำห่าอะไร กรูเป็นพี่ชายมรึงนะ ของมรึงทั้งตัวก็เคยเห็นมาแล้วจะอายทำไมวะ?"
"พี่จะพูดเรื่องนั้นอีกทำไมเล่า! อายว้อย!"
คือตอนม.3 ผมกำลังนอนเล่นว่าวในห้องนอนกำลังมันเชียว แล้วพี่ต้อมก็เปิดประตูเข้ามาเห็นแบบจะๆ (แบบว่าลืมล็อกกลอน ตอนนั้นไม่ได้ใส่อะไรเลย)
ก็หน้าแดงหน้าชาไม่พูดกันไปสามวัน แต่พี่น่ะเขินยิ่งกว่าผมซะอีก ตั้งแต่ครั้งนั้นมาเราสองพี่น้องเลยคุยกันสนิทยิ่งกว่าเดิม
"แล้วตกลงว่าไง?"
"ใช้ครับพี่"
พี่ต้อมดึงผมเข้าไปกอดแต่ผมยังขืนตัวเพราะไม่รู้มันจะกอดแบบพี่ชายหรือกอดคอแล้วตีเข่า
"พี่ต้อมไม่โกรธผมเหรอ?"
"โกรธสิ โกรธที่มรึงไม่บอกพี่.....ยังไงมรึงก็จำไว้นะไอ้ต้นว่าพี่ห่วงมรึง" พี่ขยี้หัวผมเบาๆ
"แฟนน่ะมีได้แต่อย่าเพิ่งไปถึงเรื่องอย่าว่าอีกล่ะ ถุงมันไม่ได้ป้องกันได้ตลอดหรอก พลาดมามรึงจะเดือดร้อน แล้วก็อย่าให้เสียการเรียนเข้าใจไหม?"
พี่เทศน์อีกยกใหญ่แต่ผมรู้สึกสบายใจขึ้นแล้ว อย่างน้อยผมก็มีพี่ชายที่เข้าใจ.....แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมดก็ตาม
"รีบไปเหอะเดี๋ยวสาย กลับมาค่อยคุยกัน"
"พี่ต้อมครับ...ผมยัง...ผมขอโทษครับแต่ผมไม่พร้อมจะพูด อีกไม่นานผมจะบอกพี่เองนะครับผมขอร้อง"
พี่จ้องตาผมอยู่นาน "เอางั้นก็ได้ แต่สัญญากับพี่นะว่ามรึงต้องดูแลตัวเองได้"
"ครับ"
*************************************************************
-
:m2: :m2: พี่ชายที่แสนดี หุหุ นายต้นตายแน่.......................... :m7:
-
:impress:
พี่ชายที่แสนดีจิง ๆ
สบายใจไปอีกเปราะนะ
รอต่อไปคับ สู้ ๆ ............
o1
-
ถ้าบอกว่าแฟนผมเป็นผู้ชาย พี่ต้อมคงช๊อคไปหลายวิแน่ๆ :m14:
-
หุหุ พี่คงยังไม่รู้ว่าแฟนเป็นผู้ชาย ไม่งั้นคงจะไม่แนะนำขนาดนี้ :m14: :m14:
-
คราวต่อไปก็บอกกริชใช้ถุงด้วยนะต้น :m12: :m12:
-
พี่เข้าใจน้องดีจังเลย แต่.......น้องมีแฟนเป็น ช นะ กร๊ากกกกกกกก
สู้สู้ :m4: :m4:
ขอบคุณที่มาต่อน๊า o15
-
น่าจาบอกว่า ซ้อมกีฬาสี แล้วนอน หอเพื่อน มากก่านะ
เพราะ ซ้อมบาส แล้ว นอนหอ กะต้องอาบน้ำ ล้างเหงื่อ มานก้อสมเหต สมผล ก่านิ
แระแร้ว ก้อลุ้นต่อปายย :interest:
ขอบคุณที่มาโพส ต่อ มะห้ายลงแดง ค๊าบบบบ :impress:
-
คุณ Red_Chocobo พูดเหมือนมีประสบการณ์ :m12: :m12: หุหุ
-
ตลอดวันผมยังเหม่อๆ ใจไม่อยู่กับตำราเลย .....ถ้าสักวันพี่ต้อมรู้ว่าผมเป็นแบบไหน ตอนนั้นพี่จะยังเข้าใจผมไหมนะ....
คิดถึงกริชจังว้อย โชคร้ายวันนี้ไม่เจอเขาเลย....หรือจะเรียกว่าโชคดี? ตอนนี้กริชคงตั้งใจเรียนเต็มที่เพื่อชดเชยหนึ่งปีที่เสียไป
ไม่ได้ๆ ผมเองก็ต้องตั้งใจเรียนเหมือนกัน เจ้าเม้งก็ขยันขึ้นผิดหูผิดตา พอเลิกคาบแปดเราสองคนยังนั่งทำการบ้านอยู่ในห้อง
"วันนี้มรึงปกติจังนะต้น"
"อ้าว ไอ้แสรด มรึงจะให้กรูเพี้ยนทุกวันเลยรึไง"
"ปกติให้ได้ทุกวันละกัน กรูล่ะเหนื่อยแทน" พูดเป็นลางเหมือนจะแช่งให้เกิดเรื่องอะไรงั้นแหละ
"เออแล้วทีมบาสจะเริ่มซ้อมตอนไหนล่ะเม้ง"
"เริ่มวันพรุ่งนี้ ทีมสีมรึงเองแท้ๆ ดันไม่รู้เรื่องเลยนะไอ้นี่ คิดผิดป่าววะที่ย้ายสีตามมรึงมาเนี่ย"
แล้ววงเด็กขยันก็กลายเป็นมวยสด ผมจัดการล็อกแขนไอ้เม้งแล้วจี้เอวมันเป็นไม้ตายที่สยบเม้งได้อยู่หมัด
"เฮ้ยๆๆ ยอมแล้วๆ ไอ้ต้นมรึงอย่าโกงดิวะรู้อยู่ว่ากรูบ้าจี้!" กว่าจะหยุดศึกได้ก็ลงไปกลิ้งกับพื้นทั้งคู่ ต้องเสียเวลาจัดโต๊ะเก้าอี้รอบๆ ให้เข้าที่อีก
"ได้รองเท้าใหม่ยังวะเม้ง?"
"ได้แล้ว เดี๋ยวจะเอามาวันพรุ่งนี้เลย"
"เออดีว่ะ กรูต้องไปค้นก่อนว่ารองเท้ากรูอยู่ไหน"
"มรึงเอาลูกบาสหนังของมรึงมาด้วยนะต้น กรูไม่ชอบลูกหนังเทียมของโรงเรียน"
ลูกบาสของผมนี่เก็บตังค์ซื้อแบบหนังแท้รุ่นที่ใช้แข่ง NBA เจ้าลูกนี้แหละที่ผมมักหอบมาเล่นกับไอ้เม้งที่โรงเรียนเสมอตอนม.3
"กรูก็อยากเอามาว่ะ แต่....."
"มรึงไม่อยากเด่นล่ะสิ" เม้งมันรู้ใจผมจริงๆ ขืนกระเตงลูกบาสมารร.ด้วยต้องเด่นเป็นเป้าสายตาแน่ๆ
"งั้นวันนี้กรูแวะไปเอาที่บ้านมรึงละกัน แล้วเก็บไว้ที่หอกรูดีมะ?"
"ขอบใจนะเม้ง อ่านหนังสือถึงห้าโมงแล้วไปเล่นบาสกันเหอะ" เวลานี้นักเรียนเริ่มบางตา ป่านนี้กริชคงกลับบ้านไปแล้ว
ห้าโมงเย็นฟ้าสว่างกำลังดีลมเย็นสบาย เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการเล่นกีฬาหลังเลิกเรียน ผมมองแป้นบาสที่สนามใหญ่
ถ้าพี่สิงห์เคยมาชู๊ตบาสที่โรงเรียนนี้ก็คงต้องเป็นแป้นนี้ในสนามนี้ที่สมบูรณ์ที่สุดในโรงเรียน
ผมชู๊ตลูกแรกในเขตหัวกระโหลกลงแป้นสบายๆ ....พี่สิงห์คงไม่ชู๊ตใกล้แค่นี้สินะครับ....
เขยิบห่างมาเขตสามแต้ม ตาจ้องเขม็งไปที่แป้นตรงหน้า
พี่สิงห์เคยยืนตรงนี้หรือเปล่า? ตรงนี้เมื่อหนึ่งปีก่อน ความรู้สึกที่พี่มี.....แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้หรอก.....
ลูกแรกจากเขตสามแต้มแค่กระทบแป้นแล้วเด้งกลับมา
......ความรู้สึกของผมก็ไม่ได้น้อยกว่าใครทั้งนั้น.....แม้บอลมันจะไม่ลงห่วง....
"เป็นไรวะต้นท่าทางแปลกๆ?"
"เปล่า ไม่ได้เล่นจริงจังมานานเลยเครียดมั้ง"
คิดแล้วมันก็เครียดจริงๆ ความหวังเหรียญทองบาสม.ปลายต้องเจอแต่ทีมแข็งๆ ทั้งนั้น พวกพี่ม.6 ตัวสูงๆ ถึกๆ ก็เยอะแยะ
"กีฬานะโว้ย แข่งกับตัวเองก็พอแล้วอย่าบ้าเหรียญเกินเหตุ"
คำพูดของเม้งน่ะถูกต้องแล้ว แต่คราวนี้ผมดันเอาความรักกับความลับมารวมด้วย.....ผมคิดถูกหรือเปล่าเนี่ย?
หรือแค่สารภาพออกไปก็พอ.....ไม่....ตัวผมในตอนนี้ยังไม่มีอะไรสักอย่าง...นอกจากความผิด....
"ทำใจให้ว่าง มุ่งมั่นกับของตรงหน้า คิดว่าแป้นบาสมันกว้างมาก แล้วก็ชู๊ต!" สามแต้มของเม้งลงอย่างง่ายดาย
"ขอบใจนะเม้ง"
เรื่องของหัวใจบางครั้งก็มีหลายทางแยกกับเส้นกั้นบางๆ แต่ใจเราสิไม่รู้ว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ทางไหน
ลองปล่อยใจให้ว่างแล้วส่งลูกบาสออกไปตามจังหวะที่เคยฝึกมาเป็นปีๆ มันกระแทกขอบห่วงแล้วไหลลู่ลงตามตาข่าย
... ถ้าทุกอย่างง่ายอย่างนี้จริงก็คงดี....
เม้งไม่ได้เดินตามไปเก็บลูก มันคงรู้ว่าคนอีกคนในสนามตอนนี้น่าเป็นห่วงกว่าลูกบาส
"จะเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไหร่วะต้น"
"อะไร?"
"กรูไม่เคยเห็นมรึงชู๊ตลงแล้วเสรือกทำหน้าเศร้าแบบนี้สักครั้ง"
"....จนกว่าจะได้เหรียญทอง"
"เผื่อใจอีกด้านไว้ด้วยดีกว่านะไอ้ต้น อะไรๆ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก"
"อืม.....อะไรๆ มันคงไม่ง่ายอย่างที่คิด"
ใครบางคนเก็บลูกบาสแล้วเดินตรงมาที่พวกผม "หวัดดีต้น หวัดดีเม้ง"
"หวัดดีวิง" หน้าใสๆ ของมันไม่เคยลืมรอยยิ้มบางๆ นั่น
"ขอบใจนะ" เม้งพูดพลางรับลูกบาสจากวิง
"แล้วยังไม่กลับบ้านเหรอวิง?"
"อ่านหนังสืออยู่น่ะวันนี้พ่อกลับดึก บ้านเงียบเกินไปขี้เกียจกลับ"
"วิง มาเล่นบาสด้วยกันไหมล่ะ" ผมเบี่ยงการสนทนาเพราะไม่อยากกระทบเรื่องครอบครัวของมัน
"เราเล่นไม่เก่งน่ะ ตอนม.3 สอบบาสได้เกรด 2 เอง"
"เล่นชู๊ตขั้นบันไดก็ได้ เอามั๊ยต้น?"
เม้งเลือกเกมที่ง่ายที่สุดให้เล่นสามคนได้ วิงมันก็มีฝีมือพอใช้นะชู๊ตลงบ่อยๆ
ผมแแอบมองเจ้าวิงเป็นบางครั้ง ....ทำไมนะ เวลาอยู่ใกล้เจ้าวิงผมถึงรู้สึกดีใจ
แต่เวลามองหน้ามัน.....ความรู้สึกเวลามองเจ้าวิงมันไม่เหมือนตอนที่มองกริช....รู้สึกปลอดโปร่งแต่ใจไม่เต้นรัว....ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกัน....
"ไอ้ต้น! มรึงชู๊ตสามแต้มลงแล้วจะยืนหัวโด่อยู่ทำไมวะ?"
"อ...เออ งั้นกรูไปห้องน้ำก่อนนะ"
ปล่อยเม้งกับวิงแย่งอันดับสองกันไปละกัน ผมเดินไปห้องน้ำพลางเปลี่ยนซิม
กริชโทรเข้ามาหลายครั้งด้วยแฮะ แต่ตอนนี้โทรกลับไม่ได้แน่เลยส่ง SMS บอกเขาว่าจะโทรกลับตอนค่ำ แล้วเดินกลับมาที่สนามบาส
....ไอ้ความหวั่นไหวเล็กๆ ในใจผมเองจนไม่ได้กล้าสารภาพกับกริชคือสิ่งนี้เองใช่มั๊ย....อีกสิ่งที่นอกเหนือจากเรื่องบาส....
....สิ่งที่ผมหวั่นไม่ใช่ความรู้สึกของกริชอย่างเดียว...แต่หวั่นใจของตัวเองด้วย....กับคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้.....
"ต้น มืดแล้วไปบ้านมึงเลยมั๊ย" เม้งหันมาหาผมที่ยืนเหม่ออยู่นอกสนาม
"ก็ดีเหมือนกัน"
"เอ่อ...แล้ววิงกลับบ้านยังไงเนี่ย?" เม้งยังรักษามารยาทถามเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน เล่นบาสด้วยกันเกือบชั่วโมงจู่ๆ จะทิ้งเขากลับบ้านก็กระไรอยู่
"วิงไปเที่ยวบ้านเราไหมล่ะ เม้งก็จะไปเหมือนกัน"
ผมชวนเจ้าวิงพลางขยิบตาส่งซิกว่าอย่าพูดเรื่องชุดนร.ที่ผมยืมมันมา ไม่งั้นได้อธิบายเจ้าเม้งยาวแน่ วิงพอจะเข้าใจเลยพยักหน้าเฉยๆ
"อืม ดีเหมือนกัน งั้นเราขอไปเที่ยวบ้านนายด้วยนะ เดี๋ยวขอโทรไปบอกพ่อก่อนว่าจะกลับดึก"
พวกเราเก็บกระเป๋าเดินออกมาที่ขึ้นรถเมล์ที่ปากซอยโรงเรียน ระหว่างทางเม้งกับวิงก็คุยกันไปเรื่อยๆ ส่วนผมกำลังคิดเรื่องอื่น
....ผมจะไม่หนีความรู้สึกที่คลุมเครือนี่อีกแล้ว....ผมไม่ได้ชอบไอ้วิงแบบนั้น....ถ้าผมไม่เข้าใจเสียงหัวใจตัวเองคงไม่มีหน้าบอกกริชว่ารักได้....
ขอโทษนะวิงที่ต้องชวนนายมาแบบนี้ แต่ผมจำเป็นต้องทำ
ตรู๊ดๆๆๆ
"ครับอาม๊า" เจ้าเม้งรับโทรศัพท์ทันทีด้วยเสียงริงโทนที่มันตั้งเฉพาะคนในบ้านเตือนว่ามันต้องรีบรับไม่งั้นโดนด่าเปิง
"วันนี้เหรอครับม๊า ได้ครับๆ เดี๋ยวผมรีบไป ครับๆ" พูดจบมันก็วางสาย
"เฮ้ยต้น กรูไปบ้านมรึงไม่ได้แล้วล่ะ อาม่าเรามาจากนครปฐม"
"อ้าว! ทำไมวะ?"
"อาม่าอยากเจอหลานๆ น่ะสิ สงสัยสัปดาห์นี้กรูคงไม่ได้อยู่หอด้วยล่ะต้องกลับบ้านที่ฝั่งธนทุกวัน แต่อาป๊าจะออกค่าแท๊กซี่ให้"
"นี่จะไปเลยเหรอเม้ง?"
"เออคืนนี้จะกินเลี้ยงรวมญาติไม่ได้บอกกันล่วงหน้าเลยต้องรีบกลับไปช่วยอาม๊าจัดบ้านด้วย อาโซ่ยหม่วยโกวกับหลานๆ ก็มา อาแชอึ้มกับตั่วเตี๋ย ตั่วโกวก็มาด้วย เดี๋ยวต้องไปรับอาเหล่าโจ๋วซิ้มอีก"
"เออมรึงรีบไปเลย" ครอบครัวมันใหญ่จริงๆ รีบปล่อยไอ้เม้งไปเถอะผมจะลำดับญาติมันไม่ถูกแล้ว
"โทษทีนะต้น โชคดีนะวิงไปละ!" แล้วเม้งก็ลงรถเมล์ไปเรียกแท๊กซี่ทันที ทิ้งผมไว้กับเจ้าวิงซะงั้น
....เวรกรรมล่ะตรูแบบนี้.....ถุงลมนิรภัยของตรูดันไปรับวงศาคณาญาติของมันซะแล้ว.....
"เม้งไม่ได้ไปด้วยแล้ว งั้นเรากลับบ้านละกันนะต้น" วิงทำท่าจะลงรถไปอีกคน เออดีๆ เอ๊ย! ไม่ได้โว้ย! ผมรั้งเจ้าวิงไว้ก่อนมันจะทันก้าวลง
"มีอะไรเหรอต้น?"
"วิงก็ไปบ้านเราดิ เราชวนนายแล้วนี่นา ถึงไม่มีเม้งแต่วิงก็ยังเป็นเพื่อนเรานะ"
".....อืม งั้นก็ได้"
ตรูก็ลูกผู้ชายเหมือนกัน ต้องกล้าเผชิญหน้าปัญหาชีวิตตามลำพังสิฟระ!
................................
-
:เฮ้อ: บอกความจิงก็หมดเรื่อง
-
หุหุ ทางสะดวก :m4: :m4:
-
:teach:
ความลับไม่มีในโลกนะต้น
รีบบอกเถอะ
:impress:
-
ให้กริชรู้จากปากต้นดีกว่าให้กริชรู้ด้วยตัวเอง นะต้นนะ
บอกไปเลย :undecided:
-
:m5: เฮ้อ :เฮ้อ: เรื่องต้องไม่จบง่ายๆ
-
ให้กริชรู้จากปากต้นดีกว่าให้กริชรู้ด้วยตัวเอง นะต้นนะ
บอกไปเลย :undecided:
.............เห็นด้วยเลยคับ..... :m5: :m5:
-
ตอนที่ 3
รถเมล์แล่นต่อไป....
ผมมุทะลุเกินไปรึเปล่า....ถ้าเกิดเจ้าหัวใจจอมทรยศนี่มัน.....แค่คำว่า 'ชอบ' กับ 'เพื่อน' มันแยกแยะยากนักหรือไง?
อย่างน้อยวิงก็เป็นเพื่อนนะ จะไล่มันกลับบ้านทั้งๆ แบบนี้ได้ยังไง....คิดซะว่าพาเพื่อนไปเที่ยวบ้านจะผิดตรงไหน....
"แล้วบ้านต้นมีใครอยู่บ้างล่ะเราจะได้ทำตัวถูก"
"ก็มีพี่ชายเราสองคน ชื่อพี่ต้อมกับพี่ต่อ กับลูกพี่ลูกน้องอีกสามคน"
"มีแต่เด็กๆ ทั้งบ้านเลยเหรอ แล้วพ่อแม่ต้นล่ะ?"
ผมมองไปนอกหน้าต่าง ไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดเรื่องของพ่อแม่กับวิงหรือเปล่า
"คิดมากแล้วต้น บอกแล้วไงเราไม่เศร้าเรื่องนั้นแล้ว"
"จริงๆ เหรอ?"
"ต้นนายเป็นคนคิดมากว่ะ ....แต่ก็ดีนะแสดงว่าห่วงคนอื่นมาก"
เจ้าวิงเวลาพูดว่ะโว้ยนี่ไม่ได้เข้ากับบุคลิคซื่อๆ ของมันเลย ออกจะดูขำๆ แต่ก็เป็นธรรมชาติในแบบของมันนะ
"......ห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเองซะอีก"
"หืม? เมื่อกี้ว่าอะไรนะวิง"
"เปล่า"
"พี่ต่อครับ พี่ต้อมครับ นี่วิงเพื่อนผม" มาจังหวะดีเลยที่ไม่ต้องเจอลูกพี่ลูกน้องของผมไม่งั้นต้องแนะนำกันอีกยาว
ผมเอาแว่นที่ถอดตั้งแต่ก่อนเข้าบ้านซ่อนเข้ากระเป๋าอย่างแนบเนียน
"สวัสดีครับพี่ต่อพี่ต้อม"
"มาๆ กำลังทานข้าวเย็นกันพอดีเลย ต้นพาเพื่อนนั่งสิ"
"พาเพื่อนมาซะมืดเชียวแล้วเขาจะกลับบ้านยังไงวะต้น"
"บ้านวิงอยู่ตลาดสดตรงนี้เองครับ เดี๋ยวสามทุ่มนั่งสองแถวไปส่งก็ได้ครับ"
ผมกับวิงเข้าร่วมโต๊ะอาหารทั้งชุดนร.ก่อนที่กับข้าวจะเย็น พี่ๆ ดูจะดีใจที่ได้ต้อนรับเจ้าวิงมากเพราะปกติผมไม่ค่อยพาเพื่อนมาบ้าน
คือกลัวพี่ๆ ถามเรื่องของผมที่โรงเรียนน่ะสิแต่ครั้งนี้ผมไม่กลัวหรอกผมถือไพ่เหนือกว่าเจ้าวิงเยอะ
"ชื่อวิงเหรอ เวลาต้นอยู่ที่โรงเรียนดื้อไหมเนี่ย?" ....แบบนี้แหละประโยคแรกของการสอบสวนพยาน....
ผมหันไปมองเจ้าวิง อย่าฟ้องตรูนะไม่งั้นเจ๋ง เจ้าวิงยิ้มยักคิ้วกลับ "ต้นนิสัยดีครับพี่"
พี่ต้อมชำเลืองมองผมแวบหนึ่งแล้วชวนเจ้าวิงคุยโน่นนี่ไปเรื่อย มันยังหันมาทำหน้าทะเล้นใส่ผมอีก...เดี๋ยวพี่ตรูอุตริคิดว่าเจ้าหมอนี่คือแฟนผมล่ะซวยตายเลย
เพิ่งคุยกันเรื่องนั้นเมื่อตอนเช้าแล้วตอนค่ำดันชวนเจ้าวิงมาเที่ยวบ้านอย่างนี้ก็ชวนให้เข้าใจผิดแบบนั้นได้อยู่หรอก....เพื่อนคร้าบเพื่อน ตรูบริสุทธิ์ใจซะอย่าง
หลังทานมื้อเย็นผมก็พาวิงไปนั่งเล่นในห้องนอนผม เป็นห้องที่พ่อต่อเติมจากชานพักบันไดออกไปเป็นห้องกว้าง
ยกพื้นครึ่งหนึ่งสูงถึงหัวเข่า เป็นห้องทรงประหลาดที่ผมชอบที่สุดเลยยึดเป็นห้องนอนซะเลย
"ดีจังนะต้นมีพี่ชายตั้งหลายคน เวลาอยู่ในบ้านคงสนุกดี"
"ถ้าสนุก เราไม่ออกนอกบ้านบ่อยๆหรอก ลองมาอยู่วันเสาร์อาทิตย์ดิ"
"ทำไมเหรอ?"
"ก็พี่เราชอบซ้อมกีตาร์กันน่ะ เล่นอยู่ท่อนเดียวตลอดเสาร์อาทิตย์ ฟังเสียงเดิมๆ ซ้ำๆ เกือบบ้าเลย"
"กีตาร์โปร่งเหรอ?"
"ไม่เลยๆ พี่ต่อเล่นกีตาร์ไฟฟ้า ส่วนพี่ต้อมเล่นเบสต่อออกลำโพงด้วย โคตรหนวกหูเลย"
"ฮะฮะ ถ้าเป็นกีตาร์โปร่งคงไม่ดังขนาดนั้น เราเล่นเป็นนะ ต้นอยากฟังไหมล่ะ"
"โหไม่ได้เข้ากับหน้านายเลยนะนั่น เล่นเป็นจริงป่าวเดี๋ยวเราเอากีตาร์มาให้"
ผมเดินออกจากห้องไปยืมกีตาร์ของพี่ต่อมา เจ้าวิงจับอย่างช้าๆ แต่ทะมัดทะแมง
และเริ่มเล่นเพลงฝรั่งที่ผมไม่รู้จักแต่เห็นนิ้วมันพรมไล่ตามสายกีตาร์ไวมากคงเก่งจริงๆ ทั้งๆที่เป็นเพลงค่อนข้างเร็วแต่กลับให้ความรู้สึกเศร้าๆ
If I could save time in a bottle,
the first thing that I'd like to do
is to save every day till eternity passes away
just to spend them with you.
If I could make days last forever,
which words could make wishes come true?
I'd save every day like a treasure and then,
again, I would spend them with you.
But there never seems to be enough time
to do the things you want to do once you find them.
I've looked around enough to know that you're the one I wanna ---
"หยุดทำไมล่ะ" ผมมัวแต่ฟังเพลินงจนลืมสังเกตว่าตอนนี้รอยยิ้มของวิงหายไปแล้ว
เป็นสีหน้าที่ผมไม่เคยเห็น สีหน้าที่นิ่งจนเดาความรู้สึกไม่ออก
"เพลงเก่าๆ แบบนี้ต้นคงไม่ชอบมั้ง เริ่มจะดึกแล้วด้วยเดี๋ยวเรากลับบ้านดีกว่า"
"เราฟังได้ทุกแนวแหละนายอย่าคิดมาก วิงเล่นเก่งออก แค่เราฟังไม่ออกภาษาอังกฤษไม่ออกเท่านั้นเอง"
"อืม ขอบใจนะ"
ผมเก็บชุดนร.ของวิงที่ยืมมาเมื่อวันจันทร์ใส่ลงถุงให้เรียบร้อยแล้วเดินไปขึ้นรถสองแถวเป็นเพื่อน
"ต้นส่งแค่นี้ก็พอเรานั่งรถสองแถวกลับเองได้"
"ไม่ดีมั้ง เจ้าบ้านต้องไปส่งดิวะเกรงใจทำไม"
"เรากลับเองได้น่า ดึกแล้วนายไปอ่านหนังสือต่อเถอะ ขอบใจนะที่ชวนมาเที่ยวบ้าน"
"อืม! วันหลังก็มาเที่ยวอีกนะ"
เจ้าวิงพยักหน้าตอบรับ ผมเห็นท่าทีเหมือนไม่อยากให้ผมไปส่งไกลกว่านี้จริงๆ เลยยอมปล่อยมันนั่งรถสองแถวกลับคนเดียว
******************************************************
วิงเดินเข้าบ้านช้าๆ เมื่อเห็นรถพ่อจอดอยู่หน้าบ้านแล้ว
"วิง โทรนัดพ่อไปรับหน้าโรงเรียนแล้วลูกหายไปไหน? มือถือก็ไม่เปิด"
"......................"
"แล้วทำไมแม่ถึงไปอยู่ที่นั่น!?"
"......ผมขอโทษครับ"
"ลูกก็รู้ว่า...พ่อกับแม่...."
"ผมขอโทษ...."
******************************************************
-
วิงคงมีปัญหาในใจอีกคนแระ :เฮ้อ: เศร้า
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ:
นี่ก็เก็บความเศร้า...ความลับไว้ในใจอีกคน
ไม่ระบายออกมาซะบ้าง อึดอัดแย่เลยนะ
ทั้งวิงทั้งต้นอ่ะแหละ :m8:
-
ความลับของวิง คืออะไร .... :impress:
-
o15
อ้าว วิงมีไรอีกเนี่ย........
งง สงสัย มาต่อไว ๆ นะคับ
:teach:
-
เคยอ่านจนจบแล้ว เป็นอีกเรื่องที่ดีมากๆ
ปล.แต่อยากบอกพี่Sorrowว่า ช่วยมาต่อเรื่อง ว.กับ ป. ให้ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูง o1
-
เรื่องนี้ มีแต่ความลับ :เฮ้อ:
ขอบคุณที่มาต่อน๊า o15
-
:m7: :m7: ความลับ ความลับ เยอะแยะไปหมด :m7: :m7:
-
"แล้วกริชอ่านหนังสือได้เยอะรึยังครับ?"
"ของม.6 อ่านจบแล้วล่ะ ตอนนี้กำลังทบทวนที่จะสอบอยู่น่ะต้น"
"ดีจังนะครับ"
"อืม ถ้าผมอ่านจบเร็วผมอยากเจอต้นเสาร์นี้ได้มั๊ย"
"ก็....ได้ครับ"
"จริงๆ นะ?"
"จริงดิ จะหลอกพี่ชายสุดที่รักทำไมล่ะคร้าบ"
"งั้นเสาร์นี้นะต้น แล้วนี่ไม่ต้องทำงานเหรอ?"
"ก็....หยุดน่ะวันนี้หยุดหนึ่งวัน"
"ไม่สบายเหรอ"
"เปล่าครับ"
"ถ้าไม่สบายก็นอนพักเถอะนะต้น"
"ครับ กริชก็เข้านอนเถอะนะดึกแล้ว"
"คร้าบ ฝันดีนะต้น"
.....เฮ้อ....ได้แค่โทรคุยกันแบบนี้น่าเบื่อจังเลย เอาเถอะเสาร์นี้ก็จะได้เจอกันแล้วรีบอ่านหนังสือตุนไว้เที่ยววันเสาร์ดีกว่า
พรุ่งนี้ต้องเริ่มซ้อมทีมบาสอีก แต่เรื่องในหัวมันหนักอึ้งจนลุกไม่ไหวได้แต่นอนก่ายหน้าผาก....
มือเอื้อมไปหยิบกีตาร์ตัวเดิมมาถือท่าเดียวกับที่เจ้าวิงเล่นเมื่อกี้ ใจก็พยายามค้นหาความรู้สึกของตัวเอง
ต้องคำไหนถึงจะตรงกับอารมณ์นี้นะ บางทีควรให้เวลาเป็นคำตอบมากกว่านั่งคาดคั้นหัวใจตัวเอง
เฮ้อ...เมื่อครู่ยังมีเจ้าวิงนั่งข้างๆ แต่ตอนนี้ผมอยู่คนเดียวซะแล้ว
ความเงียบเหงาแบบนี้.....กริชในวันนี้เมื่อหนึ่งปีก่อนคงรู้สึกแบบเดียวกันแต่คงรุนแรงกว่านี้หลายเท่า
...ผมจะรักกริชได้ขนาดนั้นหรือเปล่า...
"โว๊ย!!! ตัวตรูก็เป็นแบบเนี้ย! ทำดีที่สุดแล้วจะไปคิดมากทำไมว้าาาา!!!!"
.....................
-
ตอนที่ 4
วันนี้ต้องมาโรงเรียนตั้งแต่ไก่โห่เพราะแบกทั้งรองเท้าบาสกับลูกบาสมาด้วย เด่นขนาดนี้ต้องรีบเข้าโรงเรียนให้เร็วที่สุดล่ะครับ เอาสัมภาระยัดเข้าใต้โต๊ะเสร็จก็.....ว่างอ่า ไม่มีอะไรทำ เพิ่ง 6 โมงเอง เช้าขนาดนี้ไม่เหมาะกับการอ่านหนังสือเลย นอนต่อดีไหมเนี่ย?
เสียงกีตาร์แว่วมาจากชั้นบน เพลงเดียวกับที่ได้ยินเมื่อคืนนี้ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครเล่น ผมเดินขึ้นอีกสองชั้นก็เจอเจ้าวิงนั่งดีดกีตาร์อยู่คนเดียวในห้องประจำชั้น มันนั่งหันหน้าออกหน้าต่างอีกฟากของห้อง
"อารมณ์ไรน่ะวิงนั่งเป็นพระเอกมิวสิคแบบนี้?" ผมรอจนมันเล่นจบค่อยทัก
"อ้าวต้น?" วิงทักผมแต่มันดันหันหนีไปทางอื่น "ข...เข้ามาสิ"
ผมนั่งเก้าอี้ข้างๆ เจ้าวิง แต่พอเห็นมันตาแดงๆ เลยชะงัก
"ฝ..ฝุ่นเข้าตาน่ะ"
"มุขนั้นมีแต่ละครเก่าๆ ใช้กันนะวิง"
"................" วิงยัดกีตาร์ใส่ถุงหนังวางพิงกับโต๊ะ
"มีเรื่องอะไรเหรอ เล่าให้ฟังหน่อยสิ"
"......ไม่มีอะไรหรอก.....เออแล้วกินข้าวเช้ามารึยัง"
ผมส่ายหัว "ยังไม่ได้กินเลยเมื่อเช้ารีบออกจากบ้าน ไปโรงอาหารกันมั๊ย?"
"ไปดิ เราก็ยังไม่กินข้าวเหมือนกัน"
เมื่อคืนมันก็ซึมๆ มาเช้านี้ก็ตาแดงๆ เป็นอะไรของมัน? แต่วิงไม่อยากพูดผมก็ไม่คาดคั้น
วิงลุกนำผมออกจากห้องแต่ยังไม่ทันพ้นประตูเขาก็ดึงมือผมกลับไปที่โต๊ะ
"ลืมไปเลย เราเอาเสื้อนายมาให้แล้ว" ผมหันกลับตามมันไป ตอนนั้นเองที่หางตาผมเห็นนักเรียนชายหญิงสองคนเดินผ่านหน้าห้องไป...กริช!....
ตัวจริงเสียงจริง! ตายห่าแล้วๆๆๆ ผมทำตัวลีบเหมือนจิ้งจกโดนทับเข้ากับหลังประตูทันที จะมาเดินอะไรแถวนี้เนี่ย? เกือบแจ๊กพอตแตกแล้วตรู! แล้วนั่น...ผู้หญิงที่เดินมาด้วยกันคือใครฟระ? เพื่อนร่วมห้อง?.....หรือว่า....ไม่น่า ต้องไม่ใช่แบบนั้น....
เจ้าวิงมองหน้าผมแปลกๆ ก่อนจะยื่นถุงเสื้อมาให้ "นี่เสื้อผ้าของต้น เราซักให้แล้วนะ"
"ข...ขอบใจนะ ดีเลยจะได้มีเสื้อเปลี่ยนตอนซ้อม" หวังว่ามันคงไม่สังเกตท่าทางแปลกๆ ของผมนะ
"ซ้อมบาสเหรอ?"
"อืม ทีมสีแดงน่ะจะเริ่มซ้อมวันนี้ละ"
"มิน่าต้นชู๊ตแม่นเชียว เสียดายเราอยู่สีฟ้า"
ตอนนี้หูผมไม่ได้ยินเสียงเจ้าวิงเลย ใจผมมันเพ่งไปที่รุ่นพี่ผู้หญิงคนที่เดินมากับกริชเท่านั้น เช้าที่แสนสงบเปลี่ยนไปซะแล้ว กริชเดินผ่านหน้าห้องนี้บ่อยๆ หรือเปล่าเนี่ย? ที่สำคัญกว่าคือรุ่นพี่ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร!
"อ้าว ต้นไหงมากับวิงได้วะ?" เจ้าเม้งมาแล้วครับ
"อืม เมื่อกี้กรูขึ้นไปหาวิงที่ห้องน่ะ มันเอากีตาร์มาด้วยนะ" ผมเอาถุงเสื้อยัดเข้าลิ้นชักโต๊ะผม เม้งคงไม่รู้สึกผิดปกติคงคิดว่าผมเอาชุดมาไว้เปลี่ยนตอนซ้อมบาส
"เล่นกีตาร์ด้วยเหรอวิง"
"อืม แล้วงานที่บ้านเม้งเป็นไงบ้าง"
"ไปกินข้าวคุยกันดีกว่า เดี๋ยวเข้าแถวไม่ทัน" ผมรีบออกตัวเพราะไม่อยากอยู่แถวๆ นี้ อารมณ์มันตีกันวุ่นวายไปหมดแล้ว มาถึงโรงอาหารพวกเราก็เริ่มเดินผ่านทีละร้านว่าอะไรน่ากินบ้าง
"เช้าๆ แบบนี้กินโจ๊กมั๊ย ป้าแกแถมปาท่องโก๋ด้วยนะ" ....ไม่เอาโว้ย ไม่อยากเห็นอะไรเป็นคู่....
"ข้าวแกงไหม มีผัดดอกแคด้วยว่ะ" ....กริชไปแคร์คนอื่นมากกว่ากรูแล้วมั้ง.....
"หรือเย็นตาโฟ" .....สีชมพูเต็มชามกรูไม่กินโว้ย แสลงใจ.....
"ร้านนี้มีไข่ลูกเขยด้วยนะ" ....ของชอบของกริชอะเดะ กินไม่ลงว้อย....
"เดินมาถึงร้านขนมแล้วนะโว้ยต้น ตกลงมรึงจะกินอะไรมั๊ย?"
"กรูจะกินกัมมี่แบร์"
ว่าแล้วก็ซื้อมาสองถุง นั่งกัดมันหัวขาดทีละตัว กินแขนกินขากินกลางตลอดตัว แค้นโว้ยแค้น!!!!
เมื่อคืนยังคุยโทรศัพท์กันดีๆ อยู่เลย หรือเราคิดมากไปเองวะ....ก็คนมันมีความรักก็ต้องคิดมากแบบนี้แหละว้อย!
เอาตัวสีแดงตั้งตรงนี้ ตัวสีชมพูเดินคู่กระหนุงกระหนิง แล้วเอาอีกตัวกระโดดถีบซะเลย!!
"กรูว่าแล้ว มรึงปกติได้ไม่นาน" เม้งส่ายหัวแล้วกินข้าวกะเพราไก่ไข่ดาวต่อไป
"เม้ง ต้นเขาเป็นแบบนี้บ่อยๆ เหรอ"
"ไอ้ต้นมันมีอาการเพี้ยนใหม่ๆ ได้แทบทุกวันเลยล่ะ"
....................................
-
คุณ Red_Chocobo พูดเหมือนมีประสบการณ์ :m12: :m12: หุหุ
เย้ยยย
ประเภทเล่นกีฬา หรือทำ กิจกรรม แล้วนอนหอเพื่อน กลับบ้านเช้า ๆ สมัยเรียน ทำประจำค๊าบบบ แหะ ๆ
-
:เฮ้อ: แล้วจาหลบได้อีกนานแค่ไหนเนี๊ย
-
o15
อ่านเรื่องนี้แล้วเหนื่อยจัง
มีเรื่องมาให้คิดตลอด
ยังไงก็เป็นกะลางใจให้ต่อไปนะ
:impress:
-
คิดมากน่านายต้น
คงเป็นเพื่อนนะแหละ
-
อย่างที่เม้งว่านั่นแหละ จะมีวันไหนมั๊ยที่ต้นไม่ผิดปกติ :m14: :m14:
-
.........ความลับมันเยอะ....ก็เลยผิดปกติ........ :try2: :try2:
-
"กรูจะกินกัมมี่แบร์"
ว่าแล้วก็ซื้อมาสองถุง นั่งกัดมันหัวขาดทีละตัว กินแขนกินขากินกลางตลอดตัว แค้นโว้ยแค้น!!!!
o17 o17 o17 o17
-
:m12: ความลับเยอะแยะไปหมด
-
..
..
..
ห้าโมงเย็นผมกับเม้งเปลี่ยนมาใส่เสื้อยืดลงซ้อมบาส ช่วงก่อนสอบนี้พี่โจ้ให้ฝึกบริหารร่างกายกับพื้นฐานบาสไปก่อน การฝึกไม่หนักหนาอะไรเลยไม่จำเป็นต้องถอดแว่นช่วยให้มั่นใจได้นิดหน่อย แต่จิตใจผมยังว้าวุ่นเรื่องคนที่เดินคู่กับกริชจนไม่ค่อยมีสมาธิ หลังจากวิ่งรอบสนามบาสสามสิบรอบเสร็จก็หกโมงครึ่งแล้วเป็นอันจบการซ้อมวันแรก
"ต้น กรูไปก่อนนะ ต้องเลี้ยงหลานเป็นโขยงเลย เดี๋ยวกรูเอาลูกบาสไปเก็บที่หอให้"
"เออๆ ขอบใจนะเม้ง แล้วเจอกันพรุ่งนี้"
ผมถอดเสื้อผึ่งลมที่หน้าต่างแล้วนั่งพักให้หายเหนื่อยอยู่คนเดียวในห้องเรียน ตัวน่ะหายเหนื่อยแล้วแต่ใจนี่สิ....คิดมากน่า กริชคงไม่ทำแบบนั้น โรงเรียนสหะก็ต้องเดินกับเพื่อนผู้หญิงบ้างล่ะ....อยากให้กริชเชื่อใจเรา เราก็ต้องเชื่อใจเขาก่อนสิ
แต่ว่า....แค่เห็นเขาเดินคู่กับคนอื่นผมก็คิดมากขนาดนี้.....แล้วกริชล่ะ....ถ้ากริชรู้ความจริงจะเชื่อใจผมไหม....
แค่จะโทรหาเขาในตอนนี้ผมยังทำใจไม่ได้เลย ถ้ากริชพูดถึงคนนั้นผมจะทำยังไง....
โว๊ย! นั่งคิดแบบนี้มีแต่จะเป็นบ้า จะถามใครก็กลัวจะถูกสงสัยว่าเด็กม.4 ทำไมอยากรู้เรื่องของรุ่นพี่ม.6
"ปวดหัวว้อย!"
แวะไปดูว่าวิงกลับบ้านรึยังดีกว่า เสื้อยังชุ่มเหงื่อเลยใส่เสื้อนักเรียนปล่อยชายนอกกางเกงแทน เกือบหนึ่งทุ่มแล้วตอนนี้ทั้งตกเงียบมาก เดินยังไม่ทันขึ้นชั้นสามก็ได้ยินเสียงกีตาร์แว่วมาไม่ต่างกับเมื่อตอนเช้า วันนี้มันอารมณ์เปลี่ยวได้ทั้งเช้าค่ำเลยแฮะ ท่วงทำนองที่ยิ่งเศร้ากว่าเดิมจนทำให้ผมไม่กล้าเดินผ่านประตูเข้าไป...ทำไมคนที่ยิ้มได้ตลอดเวลาอย่างวิงถึงเล่นแต่เพลงเศร้าๆ ....อยากรู้ก็ถามสิวะเราก็เพื่อนมันนะ ผมเดินเข้าห้องและไม่ลืมงับประตูกันอุบัติเหตุแบบเมื่อเช้าไม่ให้เกิดขึ้นอีก
"ไงวิง"
"ต้นซ้อมบาสเสร็จแล้วเหรอ?"
"อืม นั่งด้วยนะ"
วิงขยับเก้าอี้หันมาทางผมตอนที่ผมหยิบเก้าอี้ที่วางคว่ำบนโต๊ะมาตั้งข้างๆ วิง มันพยายามปั้นหน้ายิ้ม...ผมรู้สึกได้ คงเท่าๆกับที่วิงรู้ว่าผมจงใจเลี่ยงคำถามว่ายังไม่กลับบ้านเหรอ
"จะกลับบ้านรึยังต้น?"
"ยังๆ อยากฟังนายเล่นสักเพลงก่อนดีกว่า"
"ได้เลย อยากฟังเพลงไหนเลือกมาเลยนะเราเล่นได้หมด" เจ้าของกีตาร์ยื่นหนังสือเพลงเล่มใหม่เอี่ยมมาให้
"เพลงไหนก็ได้เหรอ นึกว่าต้องค่อยๆ ฝึกทีละเพลงซะอีก"
"ถ้าเป็นเพลงที่เคยฟังและมีคอร์ดเขียนไว้ก็เล่นได้หมดล่ะต้น"
"เหรอดีจังว่ะ แล้วทำไมพี่เราเล่นแค่ท่อนเดียววนไปวนมาวะ? ฟังแล้วประสาทจะกิน"
วิงหัวเราะใหญ่ "พี่ต้นคงแกะท่อนลีดยากๆ น่ะ"
"อือ พี่ก็พูดประมาณเนี้ยแต่เราไม่เคยเล่นกีตาร์เลยไม่เข้าใจ" ผมเปิดเลือกเพลงไปเรื่อย ร้องเพลงให้หายเครียดก็ดีเหมือนกัน (เพื่อนนะไม่ใช่ตู้คาราโอเกะ) จริงๆ มีหลายเพลงที่อยากฟังแต่.....เพลงมันเศร้า......
"เอาเพลงนี้ไหมต้น?" วิงมันคงเห็นผมเปิดสมุดเพลงคร่ำเคร่งยังกะจะออกสอบเลยช่วยเลือกให้
"ใจเย็นของแพนเค้กอะนะ?"
เอ...เนื้อเพลงมัน....ผมเหลือบมองเจ้าวิงที่ก้มหน้าก้มตาดูคอร์ดในหนังสืออยู่ วิงเงยหน้ามาสบตาจนผมต้องเฉไฉหันไปทางอื่น ...เอาน่าคงไม่มีอะไรมั้งอย่าคิดมาก เพลงเกือบทั้งโลกมันก็เกี่ยวกับความรักทั้งนั้นแหละ หรือจะให้ร้องเพลง 'มหาลัยมหาหลอก' ล่ะฟระ.....
"แล้วท่อนแรพเนี่ยวิงเล่นกีตาร์ได้เหรอ?"
"ก็ดีดไปเรื่อยๆ ได้นะ"
"เอองั้นเพลงนี้แหละ แนวป๊อปร็อคนี่เราถนัด" ผมคว้ากล่องดินสอบนโต๊ะมาแทนไมค์
วิงนิ่งไปครู่หนึ่งทำหน้าเหมือนลังเลอะไรสักอย่างแล้วคว้าหนังสือเพลงไป "เปลี่ยนเพลงอื่นดีกว่า"
"อ้าว! เลือกเองดันจะเปลี่ยนซะงั้น แบบเนี้ยดูถูกนักร้องนะเฟร้ย"
ผมเนี่ยเคยเกือบได้ขึ้นเวทีประกวดร้องเพลงระดับม.3 มาแล้ว....เพียงแต่โดนเพื่อนในห้องคัดออกวินาทีสุดท้าย พวกมันบอกผมร้องเสียงหลงเดี๋ยวจะอับอายทั้งห้อง...ร้องเสียงหลงก็คนนะโว้ย
ผมเงื้อนันยางเบอร์ 43 ยืนยันจะเอาเพลงเนี้ย มันหัวเราะพลางกระเถิบหนี "เรากลัวเล่นไม่ได้ว้อย"
"อยู่กันแค่สองคนเราไม่ล้อนายหรอก ถ้าเราร้องเพี้ยนก็ห้ามล้อนะ"
วิงก็เริ่มดีดกีตาร์.....
แอบมองเธอยิ้มใจมันก็สั่นไหว อุณหภูมิหัวใจเย็นลงเหมือนติดลบ
ยังกับยืนกลางฝนตก หิมะโปรยลงที่ใจของฉัน
อยากบอกว่ารักเธอ ใจมันหมดเรี่ยวแรง ปากมันก็แข็ง ยังไงก็ไม่ยอม ไม่พูดไป
ใจเย็นจนเริ่มจะชา ดา ดา ดี๊ด่าด้า.....ใจเย็นก็กลัวว่าหมา อา อา จะคาบไป
ใจเย็นจนเริ่มจะชัก แด่ว แด่ว ก็หวั่นไหว.....ไม่รู้จะพูดยังไง ว่าคนๆ นี้นั้นมันแอบรักเธอ
อากาศเริ่มหนาวเวลาได้ใกล้เธอ ป่วยจนเป็นไข้ใจตอนเราได้เจอะเจอ
ยังกับโดนน้ำแข็งสาด ไปยืนอยู่กลางขั้วโลกเหนือ
อยากบอกว่ารักเธอ ใจมันหมดเรี่ยวแรง ปากมันก็แข็ง ยังไงก็ไม่ยอม ไม่พูดไป
ใจเย็นจนเริ่มจะชา ดา ดา ดี๊ด่าด้า.....ใจเย็นก็กลัวว่าหมา อา อา จะคาบไป
ใจเย็นจนเริ่มจะชัก แด่ว แด่ว ก็หวั่นไหว.....ไม่รู้จะพูดยังไง ว่าคนๆ นี้นั้นมันแอบรักเธอ
(เออ...ตรูมัวใจเย็นแล้วจะเสียกริชไปไหมเนี่ย?)
เจ้าวิงมองผมแบบหวาดๆ ปนขำๆ กะว่าตรูจะร้องแรพไม่ได้ล่ะสิ เอ้า! ดูให้เต็มตา...
หน้าชา ปากชา ขาชา ไอ้นั่นก็ชา (<--- ตรงคำสุดท้ายนี่พยายามพูดเบาๆ ใครแต่งเพลงทะลึ่งจริงๆ)
แม้แต่ปรอทก็วัดไม่ได้ ตั้งแต่มีเธอนั้นเดินเข้ามา
อยู่ๆ หัวใจหยุดเต้น มัน Thinaken จนเกินเยียวยา
ก็เธอนั้นน่ารักที่สุด น่ารักเป็นหนึ่งในพสุธา
แค่เธอขวาซ้ายขวา แค่เธอเดินมาแทบลืมหายใจ
แค่อยากจะทักแต่ก็ต้องทุกข์ ก็เพราะไม่รู้ต้องเริ่มไง
น้ำแข็งเกาะทีละนิด ความเย็นออกฤทธิ์ภายในหัวใจ
ชามันไปทุกส่วน ทุกอวัยวะในร่างกาย
"โห ฮะฮะฮะ สุดยอดเลยต้น" ....กรูด้าน กรูทำได้....
"นายก็เล่นเก่ง แบบนี้น่าจะมาเล่นกับพี่เราได้นะ บางทีเราก็ร้องกับพี่ๆ ที่บ้าน"
"......เหรอ ดีจังนะได้เล่นเป็นวงกับพี่"
"โดนพี่ต้อมบังคับให้เป็นคนร้องบ่อยๆน่ะ พี่ต่อเขาเอาลังไข่มากรุผนังห้องนอนด้วยนะบ้าดีมั๊ย? แหกปากได้สบายเลย มาดิวิงดีกว่าอยู่บ้านคนเดีย--" เวรละตรู! ปากพล่อยชิพหาย! อุตส่าห์เลี่ยงมาตั้งนาน
"....ขอโทษนะวิง"
"ต้น.....ยังคิดมากเรื่องครอบครัวเราเหรอ"
"ขอโทษที เราลืมไปน่ะ"
"ทั้งที่เราบอกหลายครั้ง....ว่าเราไม่เศร้าแล้ว แต่ต้นก็ยังคิดเรื่องนั้นเหรอ"
เอ่อ...บรรยากาศชักไม่ค่อยดีแล้ววุ้ย...
"แต่พ่อเราสิ....."
-
รักแรกพบ
-
...........แล้วเมื่อไหร่จะได้บอกเนี่ย........ o18 o18
-
รอลุ้น :m13:
-
รักสามเศร้า เกิดขึ้นซะแล้ว :m15:
-
:laugh:
ผู้ใหญ่ทำไมไม่เข้าใจเด็ก ๆ บ้างหนา
ไม่เคยเป็นเด็กกันหรือไงก็ไม่รู้
เอาใจช่วยวิงน๊า.........
มาต่อไว ๆ นะครับ
:teach:
-
:เฮ้อ: ทุกคนย่อมมีปัญหาของตัวเอง :เฮ้อ:
-
หนุกจังๆคับ ชอบๆ :impress2:
-
ณ นาทีนี้ ไม่รู้จะเชียร์วิงหรือกริชดี
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
:m8: :m8: ยอมเยย ไม่รู้จะเลือกใครอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคนหุหุ :m15:
-
ต้นพยามเข้านะเพื่อกริช
-
"เมื่อวานนายวางแผนให้พ่อกับแม่มาเจอกันหน้าโรงเรียนเลยเหรอเนี่ย?"
วิงพยักหน้าแทนคำตอบ เราเดินคุยกันมาเรื่อยๆ จนถึงปากซอยโรงเรียน ตอนนี้ฟ้ามืดสนิทแล้ว
"เราโทรบอกแม่ที่ประชาชื่นให้มารับเราที่โรงเรียนแล้วก็โทรหาพ่อ.....คิดว่าถ้ามาเจอกันตรงนี้แล้วพ่อกับแม่อาจจะนึกถึงเราบ้าง....อาจจะกลับมาคืนดีกัน"
"แล้วสำเร็จมั๊ย?"
"..........."
โง่จรีงวุ้ยตรู! ถ้าสำเร็จเจ้าวิงมันจะทำหน้าเหมือนแบกทุกข์ไว้ทั้งโลกอย่างนี้รึ? ว่าแล้วก็เขกหัวตัวเองไปหนึ่งที วิงเองก็คงรู้ว่าไม่มีหวัง....เมื่อคืนตอนอยู่ที่บ้านผมมันถึงเล่นเพลงเศร้าๆ
"เราโง่ใช่มั๊ยต้น?"
"เรื่องของความรักน่ะไม่มีใครโง่หรอกมั้ง"
ถ้าจะมีคนโง่สักคนก็คงเป็นผมเองซะมากกว่าเจ้าหมอนี่ที่พยายามจะให้พ่อแม่คืนดีกันทั้งที่หย่ากันไปหลายปีแล้ว
"คนที่รักกันแล้วทำไมถึงต้องแยกกัน"
....ไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องนั้นหรอก...ผมแย่งกีตาร์มาถือไว้ก่อนไอ้วิงมันจะทำอะไรบ้าๆ ประชดชีวิต
เห็นมันทำหน้าอมทุกข์แบบนี้ผมก็เศร้าตามไปด้วย นั่นสินะ...คนรักกันแล้วทำไมต้องแยกกัน ปัญหาของผู้ใหญ่นี่มันซับซ้อนจังนะ ความคิดมากมายผุดขึ้นในหัวแต่ไม่พูดออกไป สิ่งที่ช่วยวิงได้มากที่สุดในเวลานี้คือเดินเคียงข้างและรับฟังทุกอย่าง
"....เราไม่อยากเห็นใครต้องแยกจากคนรักอีกแล้ว...."
มันพูดแปลกๆ แล้วหันมามองผม "ขอโทษนะต้นต้องฟังเราระบายอะไรแบบนี้"
"ก็นายเป็นเพื่อนเรานี่หว่า มีอะไรก็บอกเราได้นะ" ผมกอดคอมันไว้ ถ้าทำให้รอยยิ้มนั่นกลับมาได้ผมยินดีทำ
"ขอบใจนะ รู้สึกโล่งใจขึ้นเยอะเลย" รอยยิ้มบางๆ กลับมาอยู่บนหน้าวิงอีกครั้งแต่ผมรู้ว่ามันฝืนยิ้ม ปัญหาครอบครัวขนาดนี้คงไม่สามารถทำใจได้ทันทีหรอก
"ต้น....เรารู้สึกดีขึ้นจริงๆ ต่อไปนายไม่ต้องกังวลว่าจะพูดอะไรแทงใจดำเราหรอกนะ"
"แน่ใจนะวิง?"
"ก็......." วิงก้มหน้าเดินต่อพลางรับกีตาร์ไปถือไว้เอง "แค่รู้ว่าต้นห่วงเราก็ดีใจแล้วล่ะ"
"อะ...เออ ก็ดี นายดีใจก็ดีแล้ว"
"มืดแล้ว เดี๋ยวเรากลับบ้านละนะต้น"
"เราไปส่งนายที่บ้านไหมวิง?"
"อย่าเลย ตอนนี้พ่อกำลังดุสุดๆ ฮะฮะฮะ"
"อืม งั้นเจอกันคาบพละพรุ่งนี้นะ" ผมยืนมองวิงขึ้นรถเมล์จนลับสายตาไป
ใครๆ ก็มีปัญหาชีวิตทั้งนั้น....แม้แต่เจ้าวิงที่ภายนอกดูยิ้มแย้มตลอดเวลาก็ตาม แล้วปัญหาชีวิตของผมนี่จะทำยังไงดีนะ คำพูดของวิงยังก้องอยู่ในหัว......ต้นลองเชื่อใจคนอื่นบ้างสิ......
....เราไม่อยากเห็นใครต้องแยกจากคนรักอีกแล้ว....
-----------------------------------------------------------------------------
-
:teach:
ครับ ทุกคนต้องเจอปัญหากันทั้งนั้น
มันแก้ไขได้เสมอแหละครับ แต่จะแก้มันได้เร็วหรือช้าเท่านั้นเอง
เป็นกำลังใจให้ทั้งเจ้าวิง และเจ้ากริชเลยเลยนะ
เป็นกำลังใจให้คุณหมูพูห์ด้วยครับ มาต่อไว ๆ นะ
o15
-
ทุกคนก็มีปัญหาแตกต่างกัน :เฮ้อ:
-
ในโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่มีปัญหาหรอก
อยู่ที่ว่าเราจะสามารถผ่านพ้นมันไปได้หรือเปล่าก็เท่านั้นเอง
:undecided:
-
ปัญหาของคน ๆ หนึ่ง คนที่เข้าใจปัญหานั้นได้ดีที่สุด คือคน ๆ นั้นเอง :เฮ้อ:
-
ปัญหามีไว้แก้ครับ
รออ่านต่อครับ
-
:m2: ปัญหา :m2:
-
....เราไม่อยากเห็นใครต้องแยกจากคนรักอีกแล้ว....
-----------------------------------------------------------------------------
.............ถ้าโลกเราเป็นอย่างนี้ได้ก็คงดี........... :m8: :m8: :m8:
-
ตอนที่ 5
ผมเปิดตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ควานไปด้านในสุดของราวแขวนเป็นถุงเสื้อสูทแต่ภายในนั้นมีชุดนักเรียนสีขาวถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
เสื้อที่ใหญ่เกินตัวผมเล็กน้อย...เสื้อของกริช นิ้วของผมไล้เบาๆ ไปตามเนื้อผ้าจนถึงกับเข็มสีทองที่กลัดเหนือชื่อโรงเรียน
"...แล้วสักวันเราจะได้เดินกับกริชในชุดนี้ที่โรงเรียนนะครับ..."
ประโยคที่ผมพูดยังวนเวียนอยู่ในหัว คำสัญญาออกจากปากไปแล้วแม้เขาจะไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงก็ตาม
ภาพกริชที่ยิ้มรับคำของผมและแกะเข็มที่อกเสื้อของผมไปถือไว้
"เฉพาะเข็มนี้เท่านั้น....ของสำคัญที่สุด....ของที่ต้องส่งจากมือผมให้ต้นคนเดียวเท่านั้น"
กริชวางเข็มสีทองลงบนมือซ้ายของผมอย่างแผ่วเบาและบีบมือผมให้กำไว้
"เป็นความเชื่อที่โรงเรียนผมนะ....เข็มนี้คือหัวใจของเจ้าของ....ผมให้ต้นนะครับ"
ผมถอดสิ่งนั้นมากุมไว้แนบอก....เข็มนี้คือหัวใจของเจ้าของ...ผมเองก็รู้เรื่องความเชื่อประจำโรงเรียนนั้นดีเช่นกัน
กริชมอบสิ่งนี้ให้ผมกับมือเขาเองแล้วทำไมผมจะไม่เชื่อใจเขา แม้จะเป็นโลหะเย็นๆ แต่ก็สามารถส่งผ่านความรัก
และความอบอุ่นจากเจ้าของมาให้รู้สึกได้ ความรักของกริชไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแน่....ผมต้องเชื่อใจเขา
ดูซิมในมือถือให้แน่ใจแล้วโทรหากริชดีกว่า
"สวัสดีต้น"
"สวั...สวัสดีกริช" รับเร็วจังยังไม่ทันเตรียมใจเลย
"คิดถึงนะเนี่ย โทรหาต้นตั้งหลายทีไม่ติดเลย หายป่วยรึยัง?"
"สบายดีแล้วครับ แล้วกริชล่ะ?"
การสนทนายังคงเป็นการถามไถ่ทุกข์สุขกับเรื่องพื้นๆ เพราะตัวผมในบทบาทนี้ไม่สามารถพูดเรื่องอื่นๆ ได้เลย คิดแล้วอึดอัดใจจัง
"แล้ววันนี้ต้นไม่ทำงานเหรอ?"
"เปล่าครับ.....เอ่อ....เรา..."
"มีอะไรเหรอต้น?"
"เราไม่ทำงานนั้นแล้วนะกริช ตอนนี้เราทำงานอื่นแทนแล้วล่ะ"
"เหรอ .......แล้วต้นจะลำบากรึเปล่า?"
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดแต่ก็จำเป็นต้องโกหก
อย่างน้อยให้กริชสบายใจขึ้นว่าผม 'สะอาด' พอที่จะรักเขาได้ พอที่จะเป็นโลกทั้งใบให้เขาได้
"ดีแล้วล่ะที่หางานอื่นทำได้ ผมเป็นห่วงที่ต้นทำงานแบบนั้น แล้วตอนนี้ต้นทำอะไรล่ะ?"
เออ! ยังไม่ทันคิดเลยว่าตรูจะทำอะไรดี งานที่เด็กอายุ 16 ทำได้จะมีอะไรบ้างล่ะ?
ถ้าตอบมั่วซั่วเกิดโดนซักก็ตายสิ เอาอะไรที่คุ้นเคยดีกว่า....ร้านปืนลมในงานวัดหรือหนูลงรู?
ไม่ๆๆ เดี๋ยวกริชไปหาผมอีกมีหวังต้องเจอวิบากกรรมวิ่งจับหนู
เอางานที่กริชไม่มีวันเจอหน้าผมแน่ๆ....ใส่ชุดเสือโบกธงหน้าปั๊มเอสโซ่หรือไปขายแรงงานที่ซาอุ (ชักจะไปกันใหญ่)
"ท...ทำ...ทำงานพาร์ทไทม์ในโรงหนังน่ะ" เอางานนี้แหละ เคยมีญาติทำโรงหนังเล็กๆ ที่ต่างจังหวัดเลยพอรู้เรื่องบ้างนิดหน่อย
"ดีเนอะแบบนี้คงได้ดูหนังฟรีทุกวันแน่เลย แล้วโรงที่ไหนเหรอต้น?"
...จะซักอีกนานไหมเนี่ย ถ้าตรูเป็นเสื้อคงสะอาดเอี่ยมแน่ แต่ตอนนี้อ่วมครับอ่วม
"เขาให้ย้ายไปเรื่อยๆ น่ะกริช เป็นโรงในเครือ EGV แต่นายอย่ามาเลยนะเจ้านายเขาไม่ค่อยชอบถ้าเราคุยกับคนอื่น"
"ว้าเสียดายจัง แต่ก็ดีแล้วล่ะงานเดิมของต้นมันอันตราย ผมเป็นห่วงต้นจริงๆ นะ"
".....ขอบคุณครับกริช" อย่าทำให้ตรูรู้สึกผิดไปกว่านี้เลย
"ถ้ากริชอยากดูหนัง...ก็..."
"ก็?"
"เราไปเล่นหนังสดกันที่บ้านนายละกัน" คนที่ปลายสายหัวเราะร่วน "ทะลึ่งๆ แล้วต้น"
"...ต้นจะมาเล่นหนังสดกับผมจริงๆ เหรอ?"
น้ำเสียงอ้อนๆ และอบอุ่นเหมือนกริชกำลังกอดผมอยู่จริงๆ แทบรู้สึกได้ถึงใบหน้าและลมหายใจอุ่นๆ ซุกไซ้ที่ต้นคอเลย
"วันเสาร์นี้นะ.....ต้นค้างกับผมได้ไหม?"
"เรายอมกริชทุกอย่างล่ะครับ" .....อ๊าก! เขินโว้ย!!!!! ตรูพูดออกไปได้ไงเนี่ย!!! เขินจนนอนตัวงอเป็นกุ้งเผาแล้ว!
"งั้น...ต้นกับผม...เราสองคน..."
"โอ๊ย! พอแล้ว เขิน!"
"คิดไปถึงไหนน่ะต้น? ผมจะนัดเจอกันตอนเช้าที่ท้องฟ้าจำลองต่างหาก น้องชายคนนี้ทะลึ่งจังน้า"
"ฮะฮะ ก็ทำเสียงอ้อนๆ แบบนั้นทำไมล่ะ"
"แล้วงานของต้นล่ะ?"
"เราลาได้ครับ" ....ก็งานนั้นมันไม่มีจริงอยู่แล้วนี่หว่า....
"ตกลงเสาร์นี้เจอกันที่ท้องฟ้าจำลองสิบโมงเช้านะต้น"
"ครับกริช"
....ท้องฟ้าจำลอง....
ก็ดีเหมือนกันได้เที่ยวกับเขาตอนกลางวันบ้าง ถ้าเป็นที่นั่นก็ไม่ต้องกลัวจะเจอคนรู้จักด้วย
ผมเอาเข็มกลัดของกริชวางใต้หมอน ขอฝันถึงเขาในคืนนี้ด้วยเถอะ
....................................
-
รอวันความจิงจะเปิดเผยจากปากของต้น :m13:
-
อยากได้เข็มกลัด
:m11: :m11: :m11: :m11: :m11:
-
จาไปเดทกันแย้ว :m11: :m11: :m11:
-
............เก็บเกี่ยววันที่มีความสุขเอาไว้มากๆนะ........ :m1: :m1:
-
ณ ตอนนี้ แค่ขอให้กริชได้รู้ความจริงจากปากของต้นก็พอแล้ว
อย่าให้ได้รู้จากคนอื่นเลย :amen:
-
:teach:
จะมีอุปสรรคอะไรอีกไหมเนี่ย
เสียงจังวุ้ย.......
มาต่อเร็ว ๆ นะครับ รออ่านอยู่น๊า......
o15
-
:undecided: :undecided:ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ เจ็บปวดขื่นขม ระทมชั่วนิรันดร์ :undecided: :undecided:
-
จะมีคนที่รักเรามากๆแบบนี้มะเนี่ย :undecided:
-
:m1: :m1: ความสุขผ่านมาแย้วก็ผ่านไป :เฮ้อ:
-
ตอนที่ 6
ท่ามกลางฝูงนักเรียนใต้แดดร้อนเปรี้ยงๆ ในเวลาเคารพธงชาติ แต่ผมไม่รู้สึกร้อนเลย ใจมันลอยไปถึงวันเสาร์เรียบร้อยแล้ว
"ต้น" เม้งหันมาคุยกับผมเบาๆ
"อะไรเหรอเม้ง?"
"เมื่อคืนมีอะไรดีๆ เหรอวะ?"
"ทำไมเหรอ?"
"ก็มรึงหน้าบานยังกับอันปังแมนแถมยิ้มกระเรี่ยกระราดอีก หรือนี่คืออาการเพี้ยนแบบใหม่ประจำวันนี้ของมรึง?"
"อ้าว! เจ็กเม้ง ระวังจะไม่มีชีวิตรอดกลับไปเลี้ยงหลานนะมรึง"
"มรึงหน้าระรื่นแบบนี้มันตรงข้ามกับพวกม.5 ม.6 แล้วนะเนี่ย"
"ยังไงวะ?"
"มรึงลองหันไปดูสิ แต่ละคนพกตำรามาอ่านหน้าเสาธง หน้าโคตรเครียดเลย"
"อ๋อ....อืมๆ" ผมเออออตามแต่ไม่หันไปดูหรอกครับ แถวของม.5 กับม.6 อยู่สุดด้านหลังสนาม
ขืนหันไปแล้วเจอกริชมองมาพอดีก็ตายห่าสิ กริชอยู่ห่างไปแค่สองสนามบาสนี่เองแต่ช่างไกลเหลือเกิน
ในความคิดของเขา...ผมกำลังวิ่งหอบม้วนฟิล์มไปมาในโรงหนังที่ไหนสักแห่ง แต่เรื่องโกหกนี่จะเป็นไปอีกไม่นานหรอก
วันนี้มีสอบท่าพื้นฐานตะกร้อ ท่าโหม่งท่าเตะกับศอกหลังนี่ไม่ยากแต่ท่าเตะหลังทำไม่ค่อยได้ แต่ช่างเถอะ
.....วันเสาร์...ท้องฟ้าจำลอง....แล้วก็....อ๊าก! ไม่กล้าจินตนาการต่อ
"ยิ้มอะไรเหรอต้น?" วิงในชุดพละเต็มตัวเดินมาทัก
"อ้าว! หมดคาบเราแล้วเหรอ?" มัวแต่ฝันกลางวันจนเพื่อนในห้องไปเปลี่ยนกางเกงกันหมดแล้ว
วิงมานั่งในร่มเงาข้างผม แล้วไอ้เม้งไปไหนละเนี่ยไม่ได้เรียกผมเลย แต่ก็ดีได้คุยกับวิงตามลำพัง
"นายสบายใจขึ้นรึยังวิง?"
"ก็..."
รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฎขึ้นแต่ไม่มีคำอะไรมากกว่านั้น วิงเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่กลับเงียบนั่งมองเหม่อออกไป
ผมจะพูดอะไรปลอบใจมันได้บ้างนะ เฮ้อ!....ชีวิตนายนี่น่าสงสารจัง ผมยกแขนโอบไหล่ให้กำลังใจมันไว้
"ขอบใจนะต้น"
"อืม.....ห้องวิงเริ่มซ้อมตะกร้อกันแล้วแน่ะ วันนี้มีสอบด้วยนะ"
"ขอนั่งกับนายแบบนี้อีกแปบนึงละกัน สบายใจดี"
ผมเองก็ไม่อยากจะปล่อยแขนจากไหล่เขาเลย อยากอยู่แบบนี้นานๆ นานเท่าที่จะทำให้เขายิ้มได้
"จะรีบกลับห้องไหมต้น?"
"ไม่หรอก"
"หรือว่าจะโดด? ไม่ดีนะต้น"
"เปล่า"
คนที่ผมโอบไหล่ตอนนี้คือเพื่อนที่พิเศษที่สุด รู้สึกเหมือนเป็นทั้งเพื่อน......เป็นทั้งน้องชายตัวโตๆ
ตอนวิงอ๊วกรดผมก็ไม่โกรธ แต่เวลาเห็นเขาทุกข์ผมก็ทุกข์ตามไปด้วย เห็นเขาเศร้าผมก็อยากกอดคออยากโอบไหล่อย่างนี้นานๆ ให้เขาหายเศร้า
ใช่...คงความรู้สึกนี้นี่เอง
"เรารู้สึกเหมือนวิงเป็นน้องชายเราเลยใช่มะ?"
วิงคิ้วขมวด "หลอกด่าว่าเราเป็นเด็กเหรอเนี่ย?"
"เปล่า ...เราหมายความแบบนั้นจริงๆ .....แต่คงพิลึกสินะ?"
"ฮะฮะฮะ ก็พิลึกจริงๆ น่ะ จู่ๆ มีพี่เพี้ยนๆ แบบนี้ได้"
วิงมองหน้าผมแล้วก็ยิ้มๆ แต่ผมรู้สึกเหมือนเขาเป็นน้องชายที่น่าเอ็นดู น่าทนุถนอมจริงๆ นี่นา
"ต้นเกิดเดือนไหนล่ะ"
"พฤศจิกายน"
"เออ งั้นยอมนับเป็นพี่ก็ได้....เป็นพี่เราสามเดือน"
เราสองคนคงนั่งแบบนี้อยู่อีกนานถ้าอาจารย์พละไม่เดินมาซะก่อน
"เหวอ! จารย์จอมโหดมาแล้ว เผ่นเหอะ!" ผมรีบวิ่งเข้าโรงยิมเปลี่ยนกางเกงแล้วเผ่นแน่บเข้าห้องเรียน
....น้องชาย....ความรู้สึกนี้นี่เองที่คิดมาตั้งนาน มันพิลึกๆ แต่ก็อบอุ่นหัวใจดีแฮะ
-
.............ได้วิงเป็นน้องชายเพิ่มอีก 1 คน.... :m4: :m4:
-
:impress:
จะเป็นน้องชายได้อีกนานแค่ไหนน๊า.........
รออ่านต่อไป แต่โสงสัย เปลี่ยนคนโพสหรือ
:teach:
-
รออ่านต่อ :m3:
-
:o11: :o11:วิงน่าสงสาร แล้วเมื่อไหร่ต้นจะบอกความจริงกับกริชซะทีเนี่ย เอาใจช่วยต้น
เรียบพูดเร็วๆนะก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป :undecided: :undecided:
-
วิงได้เป็นแค่น้องชาย :m15: :m15:
-
:m12: แค่น้องชายจริง อ่ะ หุหุ :m12:
-
แล้ววิงจะยอมเป็นแค่น้องเหรออออ
รออ่านต่อครับ
-
หึหึหึ ได้น้องชายเพิ่มมาอีก 1 คน ..... คิดยังงั้นจริงๆเหรอ :o9:
-
:m4: :m4: :m4: :m4:
มารอตอนต่อไปว่าวิงยังจะเป็นน้องอยู่เหมือนเดิมป่าว
-
..
..
เที่ยงวันศุกร์วันนี้คนในโรงอาหารดูจะเยอะเป็นพิเศษ ผมกับเม้งและวิงเดินเลือกร้านที่น่ากินไปเรื่อยๆ
"เม้ง วันนี้วันศุกร์แล้วนะ ญาติๆ กลับกันรึยัง?"
"ยังเลย เดี๋ยวต้องกินเลี้ยงใหญ่วันอาทิตย์อีก"
"สัปดาห์หน้ามรึงมาค้างบ้านกรูนะเม้งจะได้ติวกัน วิงก็มาติวด้วยกันดิ"
"ขอบใจนะต้น แต่เราชอบอ่านคนเดียวน่ะไม่งั้นไม่เข้าหัว"
"วันนี้มันมีงานอะไรวะเนี่ย? ทำไมโรงอาหารดูวุ่นวายจัง?"
"อ๋อ! ม.5 เขาจัดอบรมเรื่องอะไรสักอย่างนี่แหละ เมื่อเช้าเขาประกาศมรึงไม่ได้ฟังรึไงไอ้ต้น?"เมื่อเช้ามัวแต่ใจลอยมีประกาศอะไรด้วยเหรอ?
"แดดร้อนๆ ใครจะมีอารมณ์ฟัง ใช่มั๊ยวิง?"
"เอ่อ...เราก็ได้ยินประกาศเหมือนกันนะต้น เขากันที่ไปครึ่งโรงอาหารแน่ะ"
"อ้าว! วิงไม่ช่วยเราเลยนี่หว่า"
"วิงมาเดินข้างเราดีกว่า ไอ้ต้นมันจะเพี้ยนตอนไหนก็ไม่รู้" วิงก็ว่าง่ายย้ายจากที่เดินข้างผมไปอยู่ข้างเจ้าเม้งแทน
"แบบนี้หาที่นั่งยากแน่เลยต้น"
ก็จริงแฮะโรงอาหารเหลือครึ่งเดียว ไอ้คนนั่งกันอยู่แล้วก็โคตรเบียดเลยจะนั่งที่ประจำก็เต็มหมดแล้ว หาที่สำหรับสามคนติดกันคงยาก
"ตรงนั้นว่างแน่ะ วิงไปนั่งละกัน"
"งั้นกรูไปหาที่นั่งด้านโน้นนะต้น แล้วเจอกันที่ห้อง"
ผมถือจานข้าวแกงเดินไปอีกฟาก โรงอาหารเหลือที่นั่งครึ่งเดียวแบบนี้อาจเจอกริชได้ง่ายๆ
ไม่มั้ง! วันศุกร์ก็ต้องมีความสุขสิฟระ...แต่ทำไมคิ้วซ้ายกระตุกๆ พิกล
คนกลุ่มหนึ่งลุกออกไปผมรีบเข้านั่งทันที บอกแล้ววันศุกร์ก็ต้องมีความสุข แต่ยังไงก็ก็รีบกินข้าวรีบกลับห้องดีกว่า ก้มหน้าก้มตากินหมูทอดไม่สนใครละ
พรุ่งนี้แล้วสินะ....วันเสาร์....ท้องฟ้าจำลอง....แล้วไปบ้านกริช....จากนั้นเขาคงพูดว่า.....
"น้องครับ พี่นั่งด้วยนะ" ...ไม่สิต้องพูดอะไรหวานๆ กว่านี้....ว่าแต่เสียงนั่น....
ผมเหลือบตาไปมองแวบนึง....แว๊ก!!!!! ตัวจริงเสียงจริงเลย! กริช!!!!
ตายห่าแล้วๆๆๆ!!! ผมรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทาง! หมูทอดก็ยังอยู่เต็มปากถ้าเอาหน้ามุดจานข้าวได้คงทำแน่ๆ
นี่มันรายการ 'ฝันที่เป็นจริง' หรือ 'ท้าพิสูจน์' วะเนี่ย? จู่ๆ จะลุกไปตอนนี้ต้องผิดสังเกตแน่ๆ รีบก้มหน้าก้มตาจ้วงเข้าปากให้หมดดีกว่า
ถึงไม่หันไปดูก็รู้สึกได้ว่ากริชกำลังมองมาที่ผม แขนขวารับรู้ได้ถึงไออุ่นจากแขนซ้ายของเขาที่ห่างไม่ถึงคืบ
"น้องอยู่ม.ไหนเหรอครับ?"
"อ่า....ออห้าอั๊บ" ข้าวยังเต็มปากอยู่เลย ตอนนี้กลืนอะไรก็กลืนไม่ลงล่ะ (สุดที่รักของผมมีมนุษยสัมพันธ์ดีเลิศเหลือเกิน)
"แล้วน้องไม่ต้องประชุมตรงโน้นเหรอครับ?" (จะชวนคุยทำดอยอะไรฟระ?)
"ไม่ไปอั๊บ" (หุบปากแล้วรีบๆ กินไปเด๊!)
ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปยิ่งกว่านี้ก็มีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาดั่งระฆังช่วยชีวิต
"กริชมานั่งตรงนี้เองเหรอ? ฝนนั่งด้วยนะ หาที่ยากมากเลยเนี่ย"
"ฝนนั่งข้างผมเดี๋ยวโดนเข้าใจผิดว่าเป็นแฟนกันนะ"
ไม่มีอารมณ์จะหึงล่ะ สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเหลือเกิน ลองมองเงาสะท้อนบนช้อนให้แน่ใจก่อน
กริชกำลังหันไปคุยกับคนชื่อฝนที่น่าจะเป็นเพื่อนกัน จังหวะนี้แหละจับแว่นให้เข้าที่แล้วค่อยๆ ลุก พยายามก้าวเท้าให้เป็นธรรมชาติที่สุดแต่เหมือนหุ่นยนต์มากกว่า แข้งมามันขัดกันไปหมดแล้ว รุ่นพี่คนนี้หน้าคุ้นๆ ใช่คนที่เดินคู่กับกริชหรือเปล่า?
"แหม! ระวังตัวขนาดนี้กริชคงมีแฟนแล้วแน่ๆ เลยใช่มะ?"
"อืม ผมมีแฟนแล้วครับ"
"จริงอะ? เรารู้จักรึเปล่า? สวยมั๊ย? ใบ้นิดนึงก็ยังดีนะเราอยากรู้ สูงหรือเตี้ยกว่าเราล่ะ?"
"อธิบายยังไงดีนะ ก็....."
ก็อะไร? (หูดีมาก เดินห่างมาเกือบสิบเมตรยังได้ยินเขาคุยกันอีก) "ก็ประมาณน้องคนที่ลุกไปตะกี้น่ะ"
......เฮ้ย!!?.....
"ฮะฮะ แรงนะกริช เล่นมุขแบบนี้สาวๆ คนไหนได้ยินต้องอกหักดังเป๊าะแหงๆ"
ผมรีบเดินไปวางจานข้าวในถังเก็บข้างโรงอาหารแล้วตรงดิ่งกลับห้องทันที ใจเต้นไม่เป็นส่ำไม่รู้ตอนนี้หน้าซีดหรือหน้าแดง
กริชเห็นผมแล้วเหรอ? ไม่มั้ง! ถ้าเขารู้ก็น่าจะเรียกผมหรือไม่ก็เดินตามมาแล้ว
กริชคงแค่เห็นรูปร่างของผมคล้ายๆ 'ต้น' ที่เขารู้จัก....จะไม่คล้ายได้ไงก็คนๆ เดียวกัน
แล้วเขากล้าบอกเพื่อนแบบนั้นเลยเหรอเนี่ย? อ๊าก!!!! ดีใจว้อย!!!!
ดีใจแพะอะไรเล่า! กริชเห็นผมแล้วนะ....ถึงจะเป็นแค่เห็น 'คนรูปร่างคล้ายๆ ต้น' ก็เถอะ!!!!
....................................
-
เหมือนกับว่ากริชจะรู้เลยอ่ะ
-
:impress:
แหมน่าจะเห็นให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยนะเนี่ย
หลบกันอยู่ด้วย :seng2ped:
ขอบคุงที่มาต่อคับ
:teach:
-
สนุกมากๆรออ่านตอนต่อไป :m1: :m1:
-
รึว่ากริซรู้แล้ว :confuse: แต่รอให้ต้นบอกเอง :m12:
-
หุหุ นั่งขำต้น ใช้ชีวิตแบบลุ้นระทึกดีวุ้ย :m14: :m14:
-
ช่าย กริชรู้แล้วแน่เลย อิอิ ขำต้นอ่ะ
-
.........."ผมมีแฟนแล้วคับ".........
...........มีแฟนอย่างนี้รักตายเลย........ :m3: :m3:
-
ตอนที่ 7
เช้าวันเสาร์มาถึงแล้ว เมื่อคืนคิดมากจนนอนแทบไม่หลับเช้านี้ก็ยังหวาดๆ ไม่หาย มือหนึ่งขยับหมวกแก๊ปที่ร้อยวันพันปีไม่เคยใส่
นาฬิกาสีฟ้าน้ำทะเลบอกเวลา 9:58 ผมจึงชะเง้อหากริชจากหลังต้นไม้ เช้าขนาดนี้มีคนมาดูดาวไม่มากนักคิดแล้วเสียดายเงินของประเทศจัง
แต่ก็ดีไม่ต้องกังวลมากว่าจะเจอคนรู้จัก นั่นไงคนที่ผมรอเดินมาไกลๆ โน่นแล้ว
"รอนานมั๊ยต้น?"
"เพิ่งมาถึงเหมือนกันครับ" ....ท่าทางเขาเฉยๆ คงไม่มีอะไรมั้ง....
"เป็นอะไรเหรอต้น? หน้าซีดๆ"
"เปล่าครับ ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับน่ะ"
"ขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วคิดถึงผมบ้างหรือเปล่า?"
"คิดถึงครับ" ....ไม่คิดถึงหรอกเฟร้ย เมื่อวานทำตรูเกือบหัวใจวายคาโรงอาหาร แถมยังนั่งกินข้าวกับสาวอีก
จากนั้นไม่นานประตูก็เปิดให้เข้าไปเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบเพราะคนไม่เยอะ
แสงไฟเริ่มมืดลงแล้วการแสดงดวงดาวจำลองก็เริ่มไปเรื่อยๆ
"ต้นถอดหมวกสิ"
"ทำไมเหรอครับ?" ถามยังไม่ทันจบกริชก็ชะเง้อหน้ามาจูบเบาๆ ที่หน้าผาก
"โหเล่นไรเนี่ย? เขินนะครับ ไม่กลัวคนเห็นเหรอ?"
"ก็ต้นน่ารักแบบนี้ผมอดใจไม่อยู่" สงสัยไปถึงบ้านมีหวังน่วมแน่ รีบเปลี่ยนเรื่องดีกว่า "นั่นกลุ่มดาวกรกฏครับ ราศีของกริชไง"
"รอบรู้นะนั่น" แหงเดะอุตส่าห์ซื้อแผนที่ดูดาวมาซ้อมล่วงหน้า
กริชเห็นผมเริ่มหนาวเลยโอบไหล่ผมไว้ ผมขยับตัวเข้าใกล้เขาให้ได้สัมผัสอ้อมแขนที่อบอุ่นมากขึ้น
เมื่อวานทำแสบนักวันนี้ขอไออุ่นมาปลอบใจเยอะๆ หน่อยเถอะ
"แล้วต้นเกิดเดือนไหนล่ะ?"
"พฤศจิกายนครับ"
"กลุ่มดาวพิจิกสินะ?"
"ครับ อีกเดี๋ยวก็จะขึ้นทางขอบฟ้าด้านโน้น ดาวตรงหัวใจแมงป่องเป็นดาวฤกษ์ที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเลยครับ"
"นั่นสินะ หัวใจของต้นคงเป็นแบบเดียวกันแแน่ๆ"
เดือนพฤศจิกายนคือวันเกิดของผม....อีกหนึ่งเดือนหลังกีฬาสี...หลังจากที่ผมเปิดเผยความจริงกับเขาแล้ว....
ตอนนั้นผมจะยังอยู่ในอ้อมแขนของกริชแบบนี้ไหม? ตอนนั้นหัวใจของผมคนนี้จะใหญ่พอเป็นโลกทั้งใบให้กริชได้ไหม?
"ต้นไม่ค่อยคุยเลย ยังง่วงอยู่เหรอ?"
กริชขยับแขนมาโอบคอให้ผมหนุนแขนเขาแทนหมอน ได้หมอนดีแบบนี้มีหวังหลับจริงๆ แน่.....และก็หลับจริงๆ ดูได้แค่ครึ่งเดียวเองจนกริชปลุกตอนเลิกนั่นแหละ
"คราวหน้าบอกคนขายว่าซื้อตั๋วนอนนะ น้องพี่คนนี้เล่นหลับปุ๋ยเชียว"
"ก็ใครล่ะไม่ยอมปลุก"
"ปลุกแล้วแต่ไม่ตื่นตะหาก นอนน้ำลายยืดด้วย"
"เกินไปๆ ....เดินเล่นตึกโน้นกันมั๊ยกริช?" ตึกด้านหน้าของท้องฟ้าจำลองมีของแปลกๆ เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เยอะแยะ
ที่ชั้นบนสุดไม่มีคนเลย มีห้องจำลองสภาพป่ามีแม่น้ำจำลองด้วย หลับตาฟังเสียงน้ำไหลเหมือนตัวเองอยู่ในป่าได้เหมือนกัน
"ชอบเหรอต้น?"
"ครับ ที่เพชรบุรีมีป่าแบบนี้มั๊ยครับ?"
"ก็มีนะ" กริชกอดหลังผมและกระซิบที่ใบหู "ต้นอยากไปบ้านผมเหรอ?"
"เราอยากไปทุกที่ที่กริชอยู่ล่ะครับ" กริชกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น "ผมรักต้นนะครับ"
"เราก็รักกริชครับ" .....อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้นานๆ จัง.....
"เกือบบ่ายแล้วทานอะไรกันดีครับ?"
"ไปกินที่เมเจอร์มั๊ยต้น?" เมเจอร์เอกมัยอยู่ตรงกันข้ามกับท้องฟ้าจำลองแต่ถ้าเจอคนรู้จักล่ะตายแน่
"ขนมจีนน้ำยาตรงนี้ดีกว่า"
กริชพยักหน้าผมก็ดึงเขาไปทานขนมจีนน้ำยาจานละ 10 บาทใส่ผักตามใจชอบ ใส่ถั่วงอก ถั่วฝักยาวหั่น กระหล่ำปลีฝอยของโปรดผมเต็มจานเลย
"กินแบบนี้แม่ค้าเอาเข่งผักปาหัวแน่เลยต้น"
"ก็เป็นแฟนผู้ลูกชายบ้านสวนนี่ครับต้องกินผักเยอะๆ"
กริชหัวเราะร่วน "ให้จริงเหอะ สักวันจะพาไปเที่ยวบ้านผม จะจับไปสอยชมพู่หลังบ้านให้มดแดงกัดซะให้เข็ด"
ไปบ้านกริช....พาผมไปเปิดตัวเรอะ! ผมยังจำภาพพ่อสุดดุของกริชได้แม่นเลย เหอๆๆ
..
..
..
-
หุหุ พาไปเปิดตัวเลยกริช :m11: :m11: :m11:
-
ไปเปิดตัว :m3: :m3: :m3:
-
ช่ายคร้าบ
พาไปเปิดตัวเลย
:confuse:แต่เอ แล้วพ่อกับแม่กริชจะรับได้มั้ยเนี่ย :confuse:
-
..........หวีทอีกแล้ว....ว่าแต่เมื่อไหร่จะบอกซักทีเนี่ย..... :m14:
-
ไปเดทแบบนี้น่ารักจริงๆเลย :m1:
-
:m4: :m4: :m4: :m4: :m4:
ไปเดทกานนนนน
แล้วก็พาไปเปิดตัว
-
:m12: สนุกดีคับ
-
..
"ต้น เย็นนี้อยากทานอะไรบอกมาเลย"
"กริชจะทำเองเหรอ? งั้นไข่ดาวละกัน"
"อ้าว ดูถูกกันนี่นา"
"งั้นเอาพระกระโดดกำแพง"
"เดี๋ยวเหอะ กวนนักนะ"
กริชหัวเราะพลางทำกับข้าวอย่างง่ายๆ มาทานกับข้าวสวยร้อนๆ ได้กินอาหารฝีมือกริชเป็นครั้งแรกอร่อยเป็นบ้า (เว่อร์)
พอล้างจานเสร็จกริชเปิดเบียร์สองขวดแล้วชวนผมไปนั่งระเบียงหลังบ้าน กริชโน้มหัวผมซบไหล่ของเขา
เราสองคนนั่งดูท้องฟ้ายามเย็นค่อยๆ เปลี่ยนจากสีส้มเป็นสีชมพูแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกย้อมเป็นสีน้ำเงิน
"เบื่อมั๊ยเนี่ย?"
"ไม่เบื่อครับ ได้อยู่กับกริชเรามีความสุขที่สุดแล้ว" เขาเอนตัวลงนอนหนุนตักผม "ฟ้าสวยดีเนอะ"
เราสองคนจิบเบียร์ดูท้องฟ้าไปเรื่อยๆ ไม่มีคำพูดอื่นใดอีก มีเพียงไออุ่นและสัมผัสที่ส่งถึงกันจนกระทั่งฟ้ามืดสนิท
ผมก้มลงจูบเขาเบาๆ "อาบน้ำกันนะ"
กริชประคองกอดผมพลางลูบไล้สบู่เหลวไปทั่วร่างของเราสองคน ริมฝีปากถ่ายทอดความรักไม่หยุด
ผมเช็ดตัวให้เขาแล้วกริชก็อุ้มผมขึ้นวางบนเตียง ลมหายใจอุ่นๆ กับใบหน้าที่เคล้าคลอไปทั่วตัวทำให้แทบผมละลายใต้ร่างของเขาที่ทาบทับ
เราสองคนต่างกอดก่ายมอบความสุขให้กันและกันผ่านค่ำคืนที่เงียบสงัด
.....
.....
.....
.....
แสงแดดของวันใหม่เริ่มที่ขอบฟ้า ผมหลับซุกอยู่บนอกของกริชมานานเท่าไหร่แล้วเนี่ยเขาคงอึดอัดแย่
พอจะขยับตัวลุกออกกริชก็กอดผมไว้แน่น "เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าต้นนอนดิ้นน่าดู"
"ขอโทษนะที่นอนทับกริชทั้งคืน"
เขายิ้มทักทายทั้งที่หน้ายังงัวเงีย "นอนทับน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไอ้ที่ตำขาผมนี่สิร้อนมากเลยนะเนี่ย ต้นอยากเล่นกับผมอีกเหรอ?"
มือเขาล้วงไปใต้ผ้าห่ม "หวา! ไม่....ไม่ได้อยาก มันลุกเอง.....อ๋อย!!! อย่าจับดิกริช!"
"เคารพธงชาติตั้งแต่เช้าเลย"
ตาของกริชเป็นประกาย คนอะไรฟระเพิ่งตื่นนอนก็ยังหล่อ เขาประกบปากผมไว้ส่วนมือก็รูดเจ้าหมูยอของผมช้าๆ
โดนแกล้งทั้งบนทั้งล่างแบบนี้ใครจะทนไหวล่ะครับ แล้วมวยปล้ำก็เริ่มขึ้นอีกครั้งจนไปจบในห้องน้ำ
กริชเปิดฝักบัวอาบน้ำให้ผมกับเขาแล้วแต่งตัวมาทำอาหารเช้ากัน....เรียกว่าอาหารสายดีกว่าเพราะเกือบสิบโมงแล้ว
"กริชครับ เราคืนเงินให้นะ" ธนบัตรใบพันทั้งหมดที่ผมเคยได้รับยังคงอยู่ในสภาพเดิมเหมือนครั้งแรกที่กริชหยิบยื่นให้มา
"ทำไมล่ะต้น? ผมเต็มใจให้ต้นนะครับ ต้นเอาไว้ใช้เถอะ"
"เรารักกริช เราไม่ได้ทำเพราะต้องการเงินของกริชนะครับ อีกอย่างเราอยากให้กริชได้มอเตอร์ไซค์เร็วๆ"
กริชน้ำตาคลอตอนดึงผมไปกอดแน่นอก ผมกอดเขาไว้เช่นกัน
"ปีหน้า....กริชจะอายุ 20 ใช่มั๊ยครับ?...ได้เป็นเด็กมหาลัย....มีมอเตอร์ไซค์....ถึงตอนนั้นกริชอย่าลืมเรานะครับ"
"ทำไมต้นทำเหมือนนายจะหายไปไหนแบบนั้นล่ะ? ต้นอย่าทิ้งผมไปนะ"
ไม่ได้ทิ้งหรอก ผมคนนี้จะยังอยู่กับกริช มีแค่สถานะที่เปลี่ยนไปเท่านั้น สถานะที่ผมไม่แน่ใจว่ากริชจะยังอยากอยู่กับผมอีกหรือเปล่า
อีกไม่นานผมจะเป็นผมตัวจริงที่โกหกเขามามากมาย ตัวผมที่อาจไม่มีเหรียญทองมาลบล้างความผิดได้
ความรักมันพูดยาก รักมากอาจกลายเป็นเกลียดมากก็ได้ แค่ผมเห็นเขาเดินกับผู้หญิงก็ยังคิดมากขนาดนี้
แล้วกริชล่ะ...ผมรู้ว่ากริชรักผมแต่ถึงเวลานั้น....ใครจะรู้อนาคต.........ผมไม่กล้าเสี่ยงที่จะเสียกริชไป
"กริชคิดมากจังเราไม่ทิ้งนายไปไหนหรอก เราสัญญาจะอยู่กับกริชตลอดไป"
ตัวเขายังสั่นเทากอดผมไว้แน่น กริชไม่อยากเสียผมไป ความรู้สึกนั้นคงมากพอๆ กับที่ผมไม่อยากเสียเขาไปเช่นกัน
ทุกอย่างเป็นความผิดของผมเอง แต่มาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุดจนกว่าจะถึงเวลานั้น
กลับมาบ้านก็เที่ยงกว่าๆ ดีนะที่บอกพี่ไว้ก่อนว่าจะไปค้างบ้านเพื่อน
ผมเข้าห้องนอน ความรู้สึกที่กริชกอดรัดยังแนบแน่นอยู่ในเนื้อ ความรู้สึกผิดฝังลึกที่กลางใจ.... ผมขอโทษนะกริช....ผมมันบ้า
ไม่รู้ว่าผมหลับไปตอนไหน ตื่นมาอีกทีเห็นฟ้าลางๆ หัวมันมึนตึ๊บท้องก็ร้องโครกคราก นี่มันตอนเย็นหรือตอนเช้าวันถัดไปแล้ววะเนี่ย...
ไปล้างหน้าซะหน่อย ส่องกระจกดูหน้าตัวเองยังกะผี คราบน้ำตายังเต็มหน้า
.....ร้องไห้แล้วช่วยอะไรได้วะ.....คิดจะย้อนเวลากลับมาได้หรือไง......เลิกฝันละเมอแล้วสู้ความจริงไม่ดีกว่าเรอะ....
..
..
-
:เฮ้อ:
อ่านแล้วอึดอัดขึ้นเรื่อยๆ
อยากให้ต้นบอกความจริงเร็วๆ :o11: :o11:
-
ลุ้นอยากให้ต้นบอกความจริงกับกริช
-
:m15: อย่าหายไปไหนนะ :m15:
-
:เฮ้อ: รอความจิงเปิดเผย
-
:impress:
ไม่ตายจริง ๆ เลยนะไอ้ความตายเนี่ย
สักวันคงจะได้รู้กัน
เอาใจช่วยนะนายต้น
รออ่านต่อไปคร๊าบ.............
o1
-
ทำไมไม่สารภาพแล้วบอกว่าถ้าได้เหรียญทองมายกโทษให้เรานะ :m15: :dont2: อะไรแบบเนี้ย? เพราะถึงไงตอนลงแข่งนะเชื่อได้เลยว่ากริชเค้าต้องมาดูแน่ๆ :interest: แล้วถ้าความแตกตอนแข่งนะ หึหึหึ :angry2: จะเล่นออกมั๊ย? :o
-
:sad2: :sad2: ความแตกมาจะเป็นไง o9
-
มีอะไรก็บอกกัน คุยกันตอนอารมณ์ดีๆ
ปล่อยมารู้เองจะเสียความรู้สึกกว่านี้
:m2: :m2: :m2:
-
เมื่อไหร่จะบอกความจริงซักทีก็ไม่รู้ :onion_asleep:
-
พรุ่งนี้แล้วที่เม้งจะมาค้างที่บ้าน ผมต้องรีบอ่านแซงหน้าไว้ติวมันให้ได้ตามสัญญา
แต่อ่านได้สองบทก็เริ่มปวดหัวอีกละ....เหงา....โทรหาเม้งดีกว่า
"ฮัลโหล ต้นเหรอ โทรมามีอะไรวะ?"
"เปล่าหรอก......"
"เป็นไรวะ? เสียงเนือยๆ ยังกะชายน้อย" (<--- มุขบ้านทรายทอง เก่าโคตรๆ แต่ผมไม่มีอารมณ์จะฮากับมัน)
"ไม่มีอะไรหรอก อ่านหนังสือคนเดียวเหงาๆ เลยโทรมา แล้วมรึงยุ่งมั๊ยเนี่ย?"
"ก็ยุ่งนิดหน่อย เลี้ยงหลานรอหนึ่งทุ่มจะไปกินที่เชอราตันละ"
"เออ! ไอ้ต้นกรูมีเรื่องจะบอก"
"อะไรเหรอ?"
"ไอ้พี่ปัดกับไอ้พี่โย่งที่อยู่ม.5 มันลงบาสด้วยนะ ทีมสีเหลืองน่ะ"
"กรูว่าแล้ว รุ่นพี่สองคนนี้ชอบเล่นแรง มรึงระวังตัวด้วยนะเม้ง" (เสียดายโรงเรียนเราไม่มีรักบี้ ไม่งั้นทั้งทีมมีพี่สองคนก็พอแล้ว)
"หวังว่าคงไม่เจอสีเหลืองตั้งแต่รอบแรกหรอกนะ ไม่งั้นอ่วมแน่ๆ กรูไปเล่นกับหลานต่อล่ะ"
พอแจ้งข่าวร้ายมาซ้ำเติมความทุกข์ให้ผม เม้งก็วางสายไปเลย ผมเอามือยันคิ้วซ้ายไว้ก่อน มันชอบกระตุกเป็นลางร้ายทุกที คำพูดของเม้งแว่วขึ้นมาอีก
.....เผื่อใจอีกด้านไว้ด้วยดีกว่านะไอ้ต้น อะไรๆ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก.....ก็เพราะมันไม่ง่ายน่ะสิถึงต้องพยายามอยู่นี่ไงเล่า!
......................................
-
ตอนที่ 8
เช้าวันจันทร์วันนี้ห้วงบรรยากาศมาคุเข้าปกคลุม มองไปทางไหนก็มีแต่คนอ่านหนังสือ สัปดาห์ก่อนสอบก็ยังงี้แหละครับพวกขยันตีนปลายแบบนี้อาจารย์เห็นแล้วจะชื่นใจไหมเนี่ย? ส่วนผมกับเม้งก็ไม่น้อยหน้าเพราะนอกจากการสอบกลางเทอมในสัปดาห์หน้าแล้วเราสองคนยังเตรียมพร้อมสำหรับการเอ็นท์ฯ ด้วย โชคดีที่พี่โจ้งดการซ้อมตลอดสัปดาห์ไม่งั้นโทรมตายเลย วันนี้ไม่เจอวิงและคงไม่ได้เจอกันตลอดสัปดาห์แน่เพราะเขาบอกไว้แล้วว่าชอบอ่านหนังสือคนเดียว
พอเลิกซ้อมบาสเราสองคนช่วยกันเข็นรถเก็บอุปกรณ์เข้าโรงยิมแล้วแวะไปเก็บลูกบาสที่หอเม้ง พร้อมกับเอากระเป๋าเสื้อผ้ามันมาค้างที่บ้านผม
"สวัสดีครับพี่ต่อ พี่ต้อม"
"สวัสดีน้องเม้ง ดีเลยมาคุมประพฤติไอ้ต้นให้พี่หน่อย"
"คุมไม่ไหวหรอกครับพี่ต่อ ต้นเขาเพี้ย--" กล้าฟ้องตรูเรอะ! แค่เอานิ้วไปจ่อเอวไอ้เม้งมันก็เริ่มบ้าจี้ละครับ
"ต้น...เขาเพียร...พยายาม....อ่าน....หนังสืออยู่แล้วครับ" .....ดีมาก.....
"ต้นแกล้งเพื่อนอีกแล้วนะ อย่าไปจี้เอวเขาตอนกินข้าวสิเดี๋ยวสำลักติดคอ"
ไอ้เม้งหันมายักคิ้วเยาะเย้ยแล้วกระเถิบเก้าอี้ไปชิดพี่ต้อม เดี๋ยวเข้าห้องก่อนเถอะไอ้เม้ง!
พอกอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเรียบร้อยก็ได้เวลาติวนรกตลอดสองชั่วโมง
"ปวดตาแล้วว่ะ นอนแปบนะ" พูดแล้วเม้งก็นอนลงบนฟูกของผม ห้องนอนผมไม่มีเตียงแต่จะปูฟูกม้วนผืนใหญ่บนพื้นที่ยกสูงขึ้นมาแทนเตียง
"เกือบสามทุ่มแล้ว ไปซื้อขนมกันก่อนเถอะ" ผมพาเม้งซ้อนท้ายปั่นจักรยานไปร้านขนมในหมู่บ้าน ได้ไอติมกับของขบเคี้ยวแก้ง่วงถุงใหญ่ใส่ตะกร้าหน้ารถ
ขากลับเม้งอาสาเป็นคนปั่นบ้าง
"ต้น แล้วปัญหาชีวิตมรึงนี่ไปถึงไหนแล้ววะ?"
"ไม่ถึงไหนหรอก ก็อย่างที่บอกแหละได้เหรียญทองเมื่อไหร่ก็คงจบ....คิดว่ายังงั้นนะ"
"กรูล่ะงงจริงๆ ตั้งแต่มรึงเริ่มเพี้ยนมาแต่ละวันเนี่ย แล้วเหรียญทองจะช่วยได้ยังไงวะ?"
"เม้ง....กรูก็ไม่รู้หรอก ไม่แน่ใจด้วย ไม่แน่ใจสักอย่าง" ผมจับเบาะหลังพยายามทรงตัวโดยไม่เกาะเอวไอ้เม้ง
"แล้วคนๆ นั้นเขาชอบมรึงไหมล่ะ? คนที่มรึงมีอะไรกับเขาน่ะ"
"............."
"ขอโทษนะถามไรแปลกๆ นิสัยดีอย่างมรึงใครจะไม่ชอบล่ะเนอะ"
"ประชดกรูรึเปล่าวะเม้ง? มรึงเน้นคำว่า 'นิสัยดี' เสียงดังฟังชัดเหลือเกินนะ"
"ฮะฮะฮะ....ว่าแต่กรูขอบอกมรึงอย่างนึงนะต้น"
"อะไรเหรอ?"
"มรึงนั่งแบบนั้นกรูปั่นจักรยานยากโว้ย! กอดเอวกรูไว้ดิวะ"
"ก็มรึงเสรือกบ้าจี้ทำไมล่ะ ขืนกรูจับเอวมรึงเดี๋ยวก็ได้ตายหมู่น่ะสิ"
"ถ้ากอดแน่นๆ ก็ไม่จั๊กจี้หรอก"
"ไม่เอาโว้ย!"
กลับมาอ่านหนังสือต่อถึงห้าทุ่มเป็นอันจบเนื้อหาวิชาฟิสิกส์จะได้เข้านอนซะที โคตรเกลียดเลยวิชานี้ มีอย่างเดียวที่ผมชอบในฟิสิกส์คือแรงเฉื่อย
นึกว่าตรูคนเดียวซะอีกที่เฉื่อยชา ที่แท้ทุกอย่างในโลกมันก็นิสัยไม่ดีเหมือนกัน
ผมหยิบหมอนกับผ้าห่มอีกชุดจากตู้เสื้อผ้าส่งให้เม้งช่วยจัดที่นอนสำหรับสองคน ....เอ....รู้สึกเหมือนลืมอะไรไปสักอย่าง....
"เม้งมรึงไปแปรงฟันก่อนเถอะ เดี๋ยวกรูจัดที่นอนเอง"
มันทำตามอย่างว่าง่าย ผมควานมือไปใต้หมอน...เกือบไปแล้ว....ลืมเข็มของกริชไปเสียสนิทเลย
*************************************************************
-
มาต่อไวไวนะคับ :m13:
-
:impress:
ฮืม สู้เขานะนายต้น
มาต่อไว ๆ เช่นกันครับ
:teach:
-
เรื่องนี้มีเข็มอีกแว้ว
:-[ :-[ :-[ :-[
-
เรื่องนี้มีเข็มอีกแว้ว
:-[ :-[ :-[ :-[
.............เข็มอารายหยอ.......... :m12: :m12:
-
หุหุ เรย์ท่าทางจะมีความหลังกับเข็มนะ :m14: :m14: :m14:
-
:m11: :m11: นอนได้แย้ว :m11: :m11:
-
"นอนสบายมั๊ยเม้ง?"
"อืม! มรึงเล่นนอนดิ้นตกฟูกแบบนั้นกรูนอนแผ่สบายเลย"
"ดีใจเข้าไป คืนนี้กรูจะนอนดิ้นถีบมรึงบ้างล่ะ! รถเมล์มาแล้วรีบขึ้นเหอะ"
รถเมล์ที่แน่นเป็นปลากระป๋องเคลื่อนออกไป สายฝนเริ่มพรำลงมาหลังจากทิ้งช่วงไปนานและตกเกือบทุกวันบีบกรอบให้ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้นอกจากเรียน
ทำการบ้านและอ่านหนังสือเตรียมสอบ ช่วงนี้ไม่มีโอกาสได้โทรคุยกับกริชบ่อยนักเพราะมีเม้งอยู่ข้างๆ ทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน แต่ก็เป็นเรื่องดีทำให้ไม่ต้องคิดมาก
ฝนหยุดตกบ้างเป็นบางวันแต่ที่แน่ๆ มักจะตกช่วงสี่โมงเย็นเหมือนพระพิรุณจงใจแกล้งนักเรียนเหลือเกิน
และแล้วก็เข้าสู่ช่วงสัปดาห์แห่งการสอบกลางภาคซึ่งไม่ยากนักเพราะอ่านหนังสือทบทวนมาแล้ว
แต่พอถึงวันพุธก็คิดถึงกริชจนทนไม่ไหวแล้ว ทำไงจะปลีกตัวจากเจ้าเม้งได้ล่ะเนี่ย?
"ต้น! กรูรำคาญ อย่านั่งเขย่าขาดิวะ"
"ใครเขย่าขา? ใครๆ?" รีบเอามือจับขาตัวเองไว้ก่อน ใจมันร้อนรุ่มจนแสดงออก คิดถึงใกล้จะลงแดงแล้วตรู
"เขาว่าคนที่ชอบเขย่าขาเนี่ยเป็นพวกเซ็กส์จัดนะ"
เออ...ขอบใจที่ช่วยบอกกรูรู้ตัวว่านอกจากสมองส่วนบนจะคิดถึงกริชแล้วสมองส่วนล่างก็คิดแบบเดียวกัน
ใกล้สามทุ่มแล้ว...ใจไปไวกว่าแสงคิดแผนแยบยลได้ทันที "กรูหิวขนมว่ะ ไปร้านแปบนะ"
"กรูไปด้วยสิ"
"ใกล้สามทุ่มแล้วร้านจะปิดแล้วล่ะ กรูปั่นไปคนเดียวไวกว่า มรึงจะกินอะไรมั๊ย?"
"งั้นฝากซื้อคาปูลิโกะสตอเบอรี่มาด้วยนะ" .....ไม่ได้เข้ากับมรึงเลยเม้ง.....
ผมรีบปั่นจักรยานไปซื้อขนมและไม่ลืมคาปูลิโกะตามสัญญาแล้วเลาะเลี้ยวเข้าซอยลึก กะว่าต่อให้เม้งอุตริเดินตามมาก็ไม่มีทางเจอผมแน่
ได้อารมณ์เหมือนเอาหมาน้อยไปปล่อยวัดมากเลย ยกโทษให้กรูด้วยนะเม้ง รีบโทรหากริชดีกว่า....
"สวัสดีต้น"
"สวัสดีครับกริช สบายดีเปล่า? ว่างคุยไหมเนี่ย?" ....รับสายไวขนาดนี้คงอยู่บ้านแหงๆ
"สบายดี กำลังนอนเล่นพักสายตาอยู่"
"สอบยากมั๊ยครับ?" ....ชักหิวแฮะ แกะขนมฮานามิกินไปด้วย
"ไม่ยากหรอก" .....อิจฉาจริง ตรูล่ะนั่งทำหัวแตก
"แล้วสอบเสร็จวันไหนครับ? คิดถึงกริชมากเลย"
"เสร็จวันศุกร์นี้แหละ วิชาสุดท้ายเสร็จตอนเที่ยงพอดี"
"เหรอ ดีจัง......เราจะได้เจอกริชไหมครับ?" .....ตอบสิว่ามาเจอกันคืนวันศุกร์เลยยิ่งดี
"อ่า...เสาร์อาทิตย์นี้ผมต้องกลับเพชรบุรีน่ะต้น ที่บ้านเขามีงานบุญ .......ต้น...อยากไปกับผมมั๊ยครับ?"
ถามแบบนี้จะให้ตอบยังไงล่ะ....กริชกล้าพาผมไปเปิดตัวเชียวรึ? ไม่หรอกๆ คงไปในฐานะเพื่อนมากกว่า น้ำเสียงเขาก็บ่งบอกว่าลำบากใจเหมือนกัน
ถึงจะรักกันดูดดื่มแค่ไหน (ดูดดื่มและดูดอย่างอื่นด้วย) แต่เราสองคนเพิ่งคบกันมาไม่ถึงเดือน ที่แน่ๆ เกิดพ่อแม่กริชจำหน้าผมได้ ผมคงตายก่อนได้เป็นลูกเขย
"เอ่อ...ขอโทษนะครับกริช เราจำได้นะครับว่าเคยสัญญากับนายไว้....แต่ตอนนี้ไม่ค่อยสะดวกน่ะครับ"
"ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจ ไปถึงเพชรบุรีแล้วผมจะโทรหาต้นนะ"
"ครับ ไว้คราวหน้านะครับ"
"แล้วงานของต้นล่ะเป็--- แปบนึงนะต้น ฝนมา"
ฝน?!!
เสียงดังแคร๊กเหมือนกริชวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะหรืออะไรสักอย่างแต่ผมยังได้ยินเสียงคนเดินตึงตัง
ผมแนบหูฟังเสียงอย่างใจจดใจจ่อ ใจก็คิดไปถึงเรื่องที่โรงอาหารเมื่อวันนั้น
............กริชมานั่งตรงนี้เองเหรอ? ฝนนั่งด้วยนะ หาที่ยากมากเลยเนี่ย.............
............ฝนนั่งข้างผมเดี๋ยวโดนเข้าใจผิดว่าเป็นแฟนกันนะ...............
....'ฝน'.....รุ่นพี่คนนั้นมาหากริชถึงบ้านตอนสามทุ่มเลยเรอะ!
ใจเย็นๆ ก่อนสิ ตัวมรึงในสถานะนี้ไม่เคยรู้จักคนชื่อฝน แล้วทำไมกริชต้องเอ่ยชื่อให้ฟังด้วยล่ะ? ใจเย็นเข้าไว้ ตั้งสติๆๆๆๆ
'ฮานามิ' ในมือตอนนี้คงไม่ฮาตามชื่อซะแล้วเพราะมันโดนบีบจนบี้คามือทั้งถุง
"ฝนสาดเข้าห้องน่ะต้น นึกว่าจะไม่ตกเลยเปิดหน้าต่างอ้าซ่าเลย ดีนะปิดทัน"
"...ครับ กริชรักษาสุขภาพนะครับ"
"ต้นก็เหมือนกันนะ"
"ดึกแล้วเราไม่กวนกริชล่ะครับ หลับฝันดีนะครับ"
ฝนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แล้วทำไมบ้านตรูไม่ตกละฟระ เขตประเวศกับสวนหลวงอยู่ติดกันแท้ๆ? เดี๋ยวก็รู้ว่าฝนแบบไหน? เปลี่ยนซิมแล้วโทรหาเจ้าต้าเพื่อนผมทันที ต้าเป็นเพื่อนสมัยม.3 มันอยู่หมู่บ้านเดียวกับที่กริชเช่าบ้านอยู่ แต่บ้านเจ้าต้าอยู่ลึกสุดหมู่บ้านเลย
"หวัดดีต้น มีไรวะโทรมาดึกๆ"
"หวัดดีต้า บ้านมรึงฝนตกรึเปล่า?"
"อืม เพิ่งเริ่มตกตะกี้แหละ มรึงรู้ได้ไงวะ?"
"....เปล่าๆ....กรูขอโทษนะที่โทรมากวนมรึง รักษาสุขภาพนะ ราตรีสวัสดิ์"
......เออ! ตรูมันขี้ระแวงไปเอง......ตรูมันตัวคิดมาก!! ไอ้บ้าต้น!! ไอ้โง่ต้น!!.......
ผมทำผิดอีกแล้ว....ผมไม่เชื่อใจกริชเลย...ปากผมบอกว่ารักแต่ไม่เคยเชื่อใจเขาซักนิด....ใจคิดด่าตัวเองมาตลอดทางกลับบ้าน
เข้าถึงห้องก็ยื่นคาปูลิโกะให้เม้งแล้วฟุบหน้าลงกับหมอนด้วยความสำนึกผิด
ไม่ไหวแล้วหัวใจตรู หรือนี่คือผลกรรมของการแอบกินฮานามิไม่ยอมแบ่งเพื่อนตามสโลแกน 'ข้าวเกรียบรวยเพื่อน'
..
..
-
:impress:
บังเอิญที่ฝนตกหรือเปล่าเนี่ย
อย่าให้ฝนตัวจริงมาเลยน๊า...
รออ่านต่อไปครับ
:teach:
-
เป็นเรื่องธรรมดาต้นที่บางครั้งเราก้อต้องระแวงไว้บ้างนะ
-
รออ่านตอนต่อไปครับป๋ม :onion_asleep: :onion_asleep:
-
งือออออออออออออออ
จะเป็นยังต่อไปเนี่ย
เดาไม่ออกเลยจริงๆ :undecided:
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกอึดอัด
บีบหัวใจมาก :serius2:
-
ใกล้จะได้เวลาบอกแล้วดิ :sad3:
โอ้ว เดามานานว่าอยู่แถวไหน อยู่แถบสวนหลวง-ประเวศนี่เอง หึหึหึ บ้านเราก็อยู่แถวนี้ เอ... มีโรงเรียนอะไรเข้าแก๊บกะเรื่องนี้บ้างนะนี่ :o9:
ตอนแรกเดาว่าอยู่แถบไกลๆบางรัก ปากคลอง สาธร อะไรประมาณนั้นซะอีก :confuse:
-
รอลุ้นต่อไป :m4:
-
..
..
..
"เป็นไรวะต้น? กลับมาหน้าตาเหมือนคนใกล้ตาย"
"ไม่มีอะไรหรอก"
"รถล้มเหรอวะ? เจ็บตรงไหนรึเปล่า?"
".....เม้งกรูมีเรื่องจะสารภาพ.....กรูแอบกินขนมไม่ได้แบ่งมรึง ยกโทษให้กรูด้วยนะ"
"ห่า เรื่องแค่นี้ต้องสารภาพเหรอวะ? มรึงอยากกินอะไรก็กินไปดิวะกรูไม่คิดมากหรอก"
"..................."
เม้งเดินไปปิดไฟแล้วลงนอนข้างๆ ผม "เกิดอะไรขึ้นวะต้น? บอกกรูได้มั๊ย?"
"กรูมันเลว กรูมันไม่ได้เรื่อง กรูมันไม่มีค่าสักนิด กรูมันแย่ที่สุด"
"เฮ้ย! มรึงอย่าเพิ่งด่าตัวเองดิวะ! มีอะไรบอกกรูได้นะ"
"แค่เรื่องนิดเดียว....แต่กรูไม่เชื่อใจเขาเลย.....กรูมันไม่ดีพอ"
เสียงฝนเปาะแปะที่หน้าต่างตามมาด้วยฝนห่าใหญ่ตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา ถ้าฝนตกเร็วกว่านี้ผมคงไม่ระแวงกริช
....อย่าโทษฟ้าโทษฝนเลย....ใจผมเองนั่นแหละที่ไม่มั่นคง....แบบนี้เหรอที่จะรักกริชได้
เม้งไม่ได้เอ่ยซักอะไรต่อ ถ้าเพื่อนไม่อยากพูดก็คือไม่อยากพูด
"ต้น....กรูไม่รู้ว่ามรึงเจออะไรมา แต่กรูเป็นเพื่อนมรึงนะ"
"....................."
"มรึงจะไม่เล่าก็ไม่เป็นไร แต่ขออย่างนึงนะ อย่าด่าตัวเองแบบนั้น"
"ก็....กรูมันไม่ดีจริงๆ"
"ใครว่ามรึงไม่ดี มรึงแกล้งนอนตกฟูกทุกคืนแบบเนี้ยเหรอไม่ดี"
"กรูนอนดิ้น"
"นอนดิ้นแล้วหมอนมันตกฟูกตามหัวมรึงไปด้วยเนี่ยนะ?"
"......................"
"ตอนปั่นจักรยานมรึงก็ไม่ยอมเกาะเอวกรู"
"ก็กรูกลัวมรึงบ้าจี้เดี๋ยวรถล้ม เลิกพูดเหอะพรุ่งนี้มีสอบแต่เช้า"
ผมดึงผ้าห่มนอนตะแคงหันหนีไอ้เม้ง นอนมันทั้งที่ยังไม่แปรงฟันนี่ละวะ ดีกว่าปล่อยให้เม้งพูดมากไปกว่านี้
แต่รู้สึกได้ว่ามันยังมองมา
"ต้น เลิกทำตัวเองลำบากแบบนี้ได้แล้ว"
"พะ....พูดอะไร?"
"กรูรู้ว่ามรึงเป็นยังไง"
"ต้น...ถึงมรึงจะเป็น....เอ่อ...แบบนั้น แต่มรึงก็นิสัยดีนะ มรึงไม่ยอมนอนใกล้กรู ไม่ยอมกอดเอวกรูเพราะกลัวว่าสักวันกรูจะรังเกียจมรึงใช่มั๊ย?"
คำพูดของเม้งทำผมสะดุ้งเฮือก "ละเมอไรวะ? กรูไม่รู้เรื่อง นอนๆๆๆ"
"กรูไม่รังเกียจมรึงเลยนะต้น ไม่เคยคิดแบบนั้นเลย มรึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกรูมาตลอด"
"เลิกพูดเถอะเม้ง กรูง่วงแล้ว"
ปากผมมันไม่ตรงกับใจเลยสักนิดทั้งที่จริงอยากมีคนที่เข้าใจผม...แต่...ต้องไม่ใช่เม้ง...ถ้าหยุดพูดไว้แค่นี้ผมคงยังไม่เสียเพื่อนไป
"......ตามใจนะ แต่รู้ไว้ว่ากรูไม่รังเกียจมรึงเลยสักนิด"
.........
.........
.........
.........
ทั้งสองนอนเงียบไปนาน มีแต่เสียงฝนที่ยังตกไม่หยุด
"เม้ง....หลับยัง?"
"ยัง"
คนอีกฟากของฟูกนอนลืมตารอให้เพื่อนเอ่ยปากมานานแล้ว
เขาไม่ยอมหลับตาเพราะรู้ว่าคืนนี้เขาจะแบ่งเบาความทุกข์ให้เพื่อนได้บ้าง
"ตกลงนี่......มรึงรู้จริงๆ เหรอวะ?"
"กรูเป็นเพื่อนมรึงมานานแล้วนะ จะหันมาคุยกันไม่ได้รึไง?" ผมพลิกไปหามันแต่ก็ยังไม่กล้ามองตาทั้งที่ห้องมืดสนิท
"กรูก็พอรู้มานานแล้ว....พอเห็นเข็มใต้หมอนมรึงคืนนั้นถึงได้แน่ใจ"
".....เห็นแล้วเหรอ?"
"ของที่เอาไว้ใต้หมอนน่ะ ถ้าไม่ใช่ซองแต๊ะเอียก็มีอย่างเดียว.....ของๆ คนที่ชอบใช่มั๊ยล่ะ?"
นร.ชายม.ปลายใช้เข็มสีทอง ส่วนนร.หญิงใช้เข็มสีเงิน แค่เห็นสิ่งนั้นใต้หมอนในคืนแรกก็เข้าใจทุกอย่าง
เข้าใจไปถึงความลำบากของเพื่อนสนิทที่ต้องทนเก็บงำความรู้สึกของตนมานานเท่าไหร่แล้ว
"เรื่องส่วนตัวแบบนี้มรึงไม่อยากพูดกรูก็ไม่พูดหรอก....แต่...."
"......................"
"กรูเห็นมรึงอึดอัดมานาน เห็นมรึงด่าตัวเองแบบนี้กรูทนเงียบไม่ได้"
"เม้ง....ไม่รังเกียจกรูจริงๆ นะ?"
เม้งใช้นิ้วจิ้มหน้าผากผมที่ไม่ยอมสบตา "ไอ้ห่าต้นเอ๊ย! ถ้ามรึงจะมีข้อเสียสักอย่างก็คือการคิดมากนี่แหละ"
"มาๆ กรูจะแสดงให้ดูว่ากรูไม่เกลียดมรึง" แล้วเม้งก็ดึงผมไปกอดไว้
"ด....เดี๋ยวๆๆๆ! มรึงไม่กลัวกรูทำเหรี้ยๆ กับมรึงเรอะ!!"
"ถ้ามรึงคิดจะทำแบบนั้นก็คงทำไปนานแล้วล่ะ คบกันมาสองปีกว่าแล้วนะว้อย"
วงกอดของเพื่อนทั้งเย็นและอบอุ่น เย็นจนดับความทุกข์ร้อนในใจได้
อุ่นพอคลายความเดียวดายที่หนาวเหน็บที่ผมเผชิญตามลำพังมานาน
........
........
........
"ขอบใจนะเม้ง.....แล้ว...พรุ่งนี้มรึงจะยังเป็นเพื่อนกรูมั๊ย?"
"ก็เป็นดิวะ! เคยเป็นยังไงก็ยังงั้นแหละ แล้วมรึงก็เลิกดูถูกตัวเองได้แล้วนะ เข้าใจมั๊ย?"
"เข้าใจคร้าบท่านเม้ง"
"แล้วไอ้เรื่องเชื่อใจ ไม่เชื่อใจอะไรนั่นน่ะมันยังไงวะ?"
"เม้ง....เรื่องนั้น....กรูยังบอกไม่ได้หรอกนะ"
"เออ กรูเข้าใจ มันเกี่ยวไปถึงคนที่มรึงชอบด้วยใช่มั๊ยล่ะ? ไม่อยากพูดก็ไม่บังคับมรึงหรอก"
"ขอบใจนะเม้ง มรึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลย"
"เฮ้อ....เป็นมรึงนี่คงอึดอัดมากเลยสินะ?" ผมพยักหน้า พูดไม่ออก คอมันตีบตันไปหมด
"กรูไม่รู้หรอกนะว่าระหว่างมรึงกับคนๆ นั้นมีเรื่องอะไรกัน แต่ที่มรึงทนลำบากมาได้นานขนาดนี้คงไม่ใช่รักแค่ผิวเผินหรอกต้น เชื่อมั่นในตัวเองหน่อยดิวะ"
"แต่กรูไม่เชื่อใจเขาจริงๆ นี่หว่า"
".......ต้นเอ๊ย" เม้งขยี้หัวผมเบาๆ
"มรึงเพิ่งอายุ 16 จะให้ใจคอหนักแน่นลึกซึ้งถึงสัจธรรมได้แค่ไหนกัน คนที่แก่กว่ามรึงบางคนนะแมร่งทะเลาะกันปางตายเพราะเรื่องจิ๊บจ๊อยก็มี"
"จริงของมรึงแต่กรูยังไม่แน่ใจตัวเองเท่าไหร่หรอกนะ.....ว่าแต่....มรึงเลิกกอดกรูได้แล้วเดี๋ยวฟ้าผ่า"
"กรูกอดเพื่อนกรูผิดตรงไหนวะ? มันจะผ่าก็ให้ผ่ามาเหอะ"
ครืนๆๆๆๆ!!!! เปรี้ยง!!!!
"เจ๊ดเข้! ฟ้าผ่าจริงๆ ด้วยว่ะ! งั้นมรึงตกฟูกไปเลยปะ!"
"กรูนอนนอกฟูกมาหลายคืนแล้ว ตามรึงบ้างดิ!" เม้งเอาตีนยันมาผมก็ยันกลับ แล้วคืนนี้จะได้นอนไหมเนี่ย?
นับตั้งแต่วันนั้นเม้งกับผมก็....จะว่ายังไงดีนะ.... เกร็งๆ ประหม่ากันนิดหน่อยแต่ก็สนิทพูดจากันอยู่เหมือนที่ผ่านมา
ผมไม่โกรธมันหรอกเพราะผมเองก็เข้าหน้ามันไม่ค่อยติดเหมือนกัน แต่ก็รู้สึกแปลกๆ แค่วันเดียวแล้วเราก็ไล่จี้เอวกันเหมือนเดิม
เม้งดูจะเป็นผู้ใหญ่กว่าผมเยอะ มันบอกว่าเรื่อง 'อย่างนั้น' เป็นส่วนหนึ่งของคนแต่ไม่ใช่ทั้งหมดของคน
และก็ไม่ใช่สิ่งตัดสินว่าใครดีหรือเลวเพียงเพราะ 'ชอบ' ต่างจากคนอื่นๆ.....ปรัชญามันล้ำลึกมาก ดีใจจริงๆ ที่เม้งเป็นเพื่อนผม
.................
-
:teach:
ปรัชญาเขาดีจิง ๆ
อย่าคิดมากนะนายต้น
:impress:
-
.............ดีใจด้วยที่มีเพื่อนอย่างเม้ง......... o13 o13
-
ขอให้ผ่านมันไปได้
:m11: :m11: :m11:
-
ประทับใจเม้งมากมาย
เป็นเพื่อนแท้จริงๆ เลย o13
-
อย่างน้อยก้อยังมีเพื่อนคอยอยู่เคียงข้างเสมอแหล่ะนะต้น
-
เพื่อนที่แสนดี :m1: :m1:
-
ตอนที่ 9
ทันทีที่เสียงกริ่งหมดเวลาการสอบวิชาเคมีที่เป็นวิชาสุดท้ายดังขึ้นก็เป็นสัญญาณจบการสอบกลางเทอมซะที
"ทำได้มั๊ยต้น?"
"ได้ๆ คงถึง 80 คะแนนล่ะมั้ง"
"ไปดูหนังฉลองสอบเสร็จกันมั๊ยเม้ง? กรูว่าจะชวนวิงไปด้วยน่ะ"
"ก็อยากไปนะแต่ฝนทำท่าจะตกอีกแล้ว ต้องรีบกลับบ้านที่ฝั่งธนไม่งั้นรถติดยาวแน่"
"เออๆ งั้นไปเถอะ เดี๋ยววันจันทร์กรูเอากระเป๋าเสื้อมรึงมาให้นะ"
นักเรียนส่วนใหญ่รีบกลับบ้านกันหมดเหมือนโดนทรมานมาตลอดสัปดาห์แต่ผมยังไม่มีอารมณ์จะกลับบ้านตอนนี้....ตอนนั้นลืมถามกริชว่าจะไปเพชรบุรียังไง
แต่ป่านนี้ขาคงขึ้นรถทัวร์ไปแล้วมั้ง วิ่งไม่กี่ชม. ป่านนี้อาจถึงเพชรบุรีแล้วก็ได้ เมื่อไม่มีกริชในสุดสัปดาห์นี้ผมก็ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว
สี่โมงเย็นฝนเริ่มตกตรงเวลาตามเคย ผมไม่ชอบหน้าฝนเมื่อไหร่จะหมดฝนนี้เสียที....แต่หมดหน้าฝนเมื่อไหร่ก็คืองานกีฬาสี
เหลือเวลาอีกเดือนกว่าๆ เท่านั้น วันตัดสินชะตาใกล้เข้ามาแล้ว วันที่ผมรอจะได้เปิดเผยความจริงแต่ยิ่งใกล้เท่าไหร่ผมก็ยิ่งกลัว
"ต้นยังไม่กลับบ้านเหรอ?" วิงสะพายกีตาร์ถือกระเป๋านร.ยืนหน้าประตูห้อง
"อ้าว! วิง..." ผมเอ่ยทักแต่สะดุดตรงกีตาร์ที่สะพายหลังมันนั่นแหละ "มีเรื่องอะไรเหรอถึงได้...."
เจ้าหน้าใสยืนงงแปบนึงก่อนฉีกยิ้มแฉ่ง "เปล่า วันนี้อยากเป็นคิไคเดอร์"
"เหอเหอ แต่เราไม่มีทรัมเป็ตนะ ไม่ต้องมาหาคนต๊องร่วมขบวนการเลย" ผมจัดเก้าอี้ให้วิงนั่งข้างๆ ตรงทางเดินระหว่างโต๊ะ
"ขอบใจนะต้นที่ห่วงเรา วันนี้เราเอากีตาร์มาเล่นฉลองสอบเสร็จน่ะ"
"บ้า! ใครห่วงนาย เอาหนังสือเพลงมาเลย" วันนี้ก็เล่มใหม่อีกละ ช่วงนี้ไม่ได้ฟังวิทยุเลยไม่ค่อยรู้จักแฮะ
"ไม่มีเพลงรู้จักเลยวิง"
"เออ เราก็เหมือนกัน"
"แล้วซื้อมาทำไมล่ะ? หรือจะส่งคูปองไปแลกรูปดารา"
"บ้าดิ! ซื้อเล่มใหม่เผื่อเพื่อนๆ เขาจะร้อง แต่พวกมันดันไปดูหนังกันหมดซะนี่ เราขี้เกียจแบกกีตาร์เข้าโรงหนัง"
วิงทำหน้าไม่ยี่หระพลางดึงกีตาร์มานั่งเกาติ๊งต่องๆ ไปเรื่อยๆ
.....คนเล่นกีตาร์ประจำห้องนี่มีกรรมจริงๆนะ แบกกีตาร์มาจากบ้าน หนังสือเพลงก็ซื้อเอง เล่นเองเจ็บนิ้วด้วย
"งั้นทำไมไม่กลับบ้านล่ะ?"
"กลัวไอ้นี่โดนฝนน่ะต้น กีตาร์โปร่งมันไม่ถูกกับความชื้น" ตามด้วยศัพท์เทคนิคอีกยุบยั่บที่ผมไม่เข้าใจ สรุปคือกลับบ้านไม่ได้ละกัน
"ลำบากนะเนี่ย แล้วถ้าฝนตกไม่หยุดนายจะทำไงล่ะ?" มันทำหน้าเบ้แทนคำตอบ
"ฝนมันตกตลอดไปไม่ได้หรอก เหมือนกลางคืนจะนานแค่ไหนแต่ในที่สุดพระอาทิตย์ก็ต้องขึ้น"
.....ฟิ้ว......นิ่งเงียบไว้อาลัย 10 วินาที.............ตรูว่ามุขตรูเน่าแล้วไอ้นี่เน่ากว่าตรูอีก.............
"เงียบทำไม ไม่ขำก็บอกเด๊ะ!"
มรึงอายบ้างมั๊ยเวลาปล่อยมุขแป๊กเนี่ย? มันอายครับ หน้าแดงไปถึงหู
"งั้นเราอยู่เป็นเพื่อนวิงละกัน"
"จริงอะ? ดีเลยเราเบื่อๆ อยู่เนี่ย"
"แล้วจะทำอะไรล่ะ? หนังสือเพลงก็ไม่มี?"
"งั้นฟังเพลงนี้ละกันเราเล่นจนจำได้ละ เพลงของชีพชนก ศรียามาตย์ " ....ใครหว่าชีพชนก....
"คนเนี้ยเขาเล่นได้พริ้วมากเลยล่ะ เก่งมากๆ เลย"
......เจ้าเรือใบลำน้อย ลอยอยู่กลางท้องทะเลกว้างใหญ่
ในความอ้างว้างและเดียวดาย ฝากชีวิตไว้กับสายลมแรงคลื่น...พัดพาเจ้าไป
บางครั้งอยากฝ่าลมแรง สวนแทรงเกลียวคลื่นใหญ่
ตามจุดยืน....ลึกในหัวใจ เฝ้าแต่รอใครสักคนเข้าใจ....นำพาเจ้าไป
แค่เรือใบเล็กๆ ลำนึง คิดฝันไกลเกินขอบฟ้า
หากมีแขนขาเหมือนใครๆ หากมีปีกบินเหมือนนกบนฟ้าไกล
โลกในฟ้าครามจะสวยงามเพียงใด....หากเจ้าได้ไปตามใจปรารถนา.......
ตอนวิงร้องเพลงไปเล่นกีตาร์ไป เพลงที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนแต่เหมือนได้กลิ่นไอทะเลและแสงแดดเลย ตามันใสเป็นประกายเลยทีเดียว
"มองอะไร?"
"เปล่า ถ้าวิงขึ้นเวทีงานโรงเรียนคงมีสาวๆ มองไม่วางตาแหงๆ"
"แล้วต้นล่ะ?"
"ไม่ไหวอะ เราเล่นกีตาร์ไม่เป็นหรอก"
เจ้าวิงนิ่งเงียบไปแวบหนึ่ง ".......งั้นเราสอนต้นเล่นกีตาร์ละกัน"
วิงยื่นมาให้แต่ผมสะดุ้งหนี "ไม่เอาโว้ย! แค่พี่ต้อมสอนเราก็เข็ดแล้ว ยาก! ไม่เอา!"
"พี่นายเคยสอนแล้วก็ยิ่งง่ายใหญ่ เดี๋ยวเราสอนให้อีกรับรองฉลุย เดี๋ยวสอนคอร์ดง่ายๆ ให้ละกัน"
"จะดีเหรอ? เรากลัวทำกีตาร์นายเสีย"
"เล่นเถอะ เราดีใจนะถ้าช่วยให้ต้นเล่นกีตาร์เป็นน่ะ"
เอาวะ! ทนการคะยั้นคะยอไม่ไหวรับกีตาร์มาถือวางบนตักทำท่าแบบที่เคยเห็น......มือขวาจับคอกีตาร์ มือซ้ายเกาสาย ....เจ้าวิงจ้องผมตาไม่กะพริบเชียว มีอะไรฟระ?
"อ๋อๆ ผิดด้าน ลืมไป"
"เดี๋ยวสิต้น!" ไอ้วิงเอามือจับมือซ้ายผมไว้ "ทำไมใช้มือนี้ล่ะ?"
"รู้แล้วว่าผิดด้าน กำลังจะเปลี่ยนนี่ไง" เคยโดนพี่ต้อมดุเรื่องนี้แล้วยังมาโดนเจ้าวิงอบรมเรื่องเดียวกันอีกเหรอเนี่ย?
"เราไม่ได้หมายความแบบนั้น....ต้นถนัดซ้ายเหรอ?"
"ก็....ประมาณนั้น ทำไมล่ะ?"
"งั้นต้นจับแบบเมื่อกี้แหละดีแล้ว ฝืนตัวเองน่ะเล่นได้ไม่ดีหรอก มิน่าต้นถึงไม่อยากฝึกกีตาร์ใช่มะ?"
..
..
-
...........วิงใกล้ชิดกับต้นมากๆ.........
...........ต้นจะหวั่นไหวไหมเนี่ย.............. o8 o8
-
ชอบวิงอะคับ น่าสงสารด้วย :m2: :m2:
-
ชอบเม้งอ่ะ :m1: :m1:
-
:impress:
ต่อไปอาจจะมีวิงเวียนศีรษะได้นะเนี่ย
รออ่านต่อไปน๊า.....
:teach:
-
ใกล้ชิด.....ชิดใกล้
แล้วต้นก็จะเกิดอาการ
หวั่นไหว....ไหวหวั่น
:haun5: :haun5: :haun5: :haun5:
-
..
..
"เดี๋ยวนะ...สำหรับคนถนัดซ้ายก็ต้องสลับนิ้วบน-ล่าง แบบนี้ก็...แล้วนิ้วนี้ตรงนี้....." วิงมันพึมพำพลางขยับนิ้วมือขวาผมให้กดสายต่างๆ
ผมไม่รู้เรื่องหรอกแต่รู้สึกเพลินดีที่สองมือมันกุมมือผมจัดแจงให้จับคอร์ดอะไรสักอย่าง แต่สักพักเจ้าวิงเริ่มหน้านิ่วแบบเดียวกับที่พี่ต้อมเคยพยายามสอนผมมาก่อน
"เอ่อ...ถ้าลำบากก็ไม่เป็นไรหรอกวิง"
"ไม่ได้เว้ย เสียชื่ออาจารย์" ผมเพิ่งเคยเห็นหน้าเคร่งเครียดของวิงเป็นครั้งแรก ดูมันตั้งใจมากเลย
"สอนแบบนี้ไม่ได้เรื่องแหง เปลี่ยนวิธีละกัน ต้นนั่งเฉยๆ นะ" วิงลุกเดินอ้อมมาข้างหลัง ผมก็มองตามว่ามันจะทำอะไร
วิงเข้าประชิดด้านหลัง มือซ้ายมันทาบลงมือซ้ายผม มือขวามันทาบบนมือขวาผมที่กำคอกีตาร์อยู่นิ้วแนบนิ้ว ตัวก็นาบกับแผ่นหลังผม
"แบบนี้แหละค่อยดูรู้เรื่องหน่อย คอร์ดซีถ้าสลับด้านต้องนิ้วนี้อยู่ตรงนี้ๆๆๆ"
หน้าเจ้าวิงตอนนี้มาอยู่ตรงซอกคอผมพอดี พยายามเบี่ยงหลบแต่ด้วยท่านี้มันหลบไม่ได้ หลบไม่ได้ก็ไม่ต้องหลบ มันเพลินๆ อุ่นๆ ดี
เหมือนเวลาช่างตัดผมใช้ปัตตาเลี่ยนไถต้นคอ เวลาเจ้าวิงทำหน้าจริงจังนี่ดูดีกว่าปกติซะอีกเห็นแล้วอดแกล้งไม่ได้
"เอ้า! กดไว้แรงๆ นะ แล้วลองดีดดู"
"ให้ดีดสายไหนอะ สาย 11 ได้มะ?"
"กวนนะๆ" วิงมันเอาหัวโขกหลังหัวผม "ดีดทุกสายแหละ จะฟังว่าบอดหรือเปล่า?"
ติ๊งๆๆๆๆ
"อืม ใช้ได้ อาจารย์เก่ง" .....ดูมันหลงตัวเอง....ยอมมันวันนึงก็ได้ ดีกว่าให้พี่ต้อมสอนเยอะเลย ขานั้นน่ะสอนไปด่าไป
"ต่อไปก็คอร์ด..."
"เฮ้ย! ไม่เอาเดี๋ยวลืม! ขอวันละนิดก็พอ"
"งั้นก็ได้ ฝนหยุดตกแล้วล่ะต้น กลับบ้านกันเถอะ"
ผมมองตามไปนอกหน้าต่าง วิงพูดถูก....ฝนมันตกตลอดไปไม่ได้หรอก ฟ้าหลังฝนตอนนี้อากาศเย็นชื่นใจ
แดดยามเย็นสีเหลืองส้มส่องมาจากหลังอาคารเรียนตัดกับเมฆฝนสีเทาที่ยังลอยค้างเติ่งบนฟ้า ห้องเรียนบางห้องบนตึกยังเปิดประตูหน้าต่างไว้ให้แสงที่สะท้อนแอ่งน้ำบนพื้นปูนลอดมาเป็นกระกายระยิบระยับ
ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ยืนต้นใหญ่รอบโรงเรียนยังเขียวครึ้ม กว่าจะออกดอกเต็มต้นคงต้องหน้าหนาวโน่น .....หน้าหนาวหลังกีฬาสี .....เวลานั้นผมกับกริชจะ......
"วิงไปรอเราตรงศาลาหน้าโรงเรียนก่อนนะ เราขอเก็บของแปบนึง"
พอวิงเดินลงบันไดไปผมก็ปีนม้านั่งหินตรงทางเดินไปนั่งที่ขอบระเบียงนอกตึกชั้นสอง เวลาปกติถ้าทำแบบนี้มีหวังโดนอาจารย์ด่าแน่ๆ
แต่หลบมุมซะหน่อยคงไม่มีใครมาเจอมั้ง ตรงนี้เห็นภาพพระอาทิตย์ยามเย็นชัดที่สุด ถึงกริชจะไม่ได้เห็นผมก็จะดูแทนให้
ตรื้ดๆๆๆๆๆ
"สวัสดีครับต้น"
"สวัสดีกริช....ถึงไหนแล้วครับ?"
"เกือบถึงบ้านแล้วครับ ต้นมีอะไรเหรอครับ? คิดถึงผมล่ะสิ?"
"......................."
"เป็นอะไรรึเปล่าต้นทำไมเงียบไป?" ขอเวลาเขินแปบนึงดิ จู่ๆดันโพล่งถามว่าคิดถึงมั๊ยแบบเนี้ย
"จะโทรมาบอกว่า......ว่า.....เอ่อ.....ท้องฟ้าสวยดีน่ะครับ ขอโทษนะที่โทรมากวน"
"ไม่กวนหรอก.............ขอบใจนะต้นที่คิดถึงผม" อ๊า! อย่าพูดหวานมากนะเดี๋ยวตรูเขินม้วนตกตึกล่ะฮาไม่ออก
"แล้วต้นมองไปทิศไหนล่ะผมจะได้หันไปดูทางเดียวกัน"
"เราดูพระอาทิตย์ตกดินอยู่น่ะ แต่ไม่เห็นตอนตกดินจริงๆ หรอกนะ หลังคาตึก 1 มันบังอยู่น่ะ ฮะฮะ"
".....เมื่อกี้ต้นว่าอะไรนะครับ? สัญญาณไม่ค่อยดี"
"ร....เราว่ามีหลังคาตึกอยู่ตึกนึงมันบังพระอาทิตย์อยู่น่ะครับ" เกือบไปแล้วตรู .....ดันเรียกชื่อตึก 1 ซะเต็มปากด้วยความเคยชิน
"อือ ผมเห็นชัดเลยนะ.....ต้นชอบดูพระอาทิตย์ตกดินสินะ"
"ครับ" ....แต่ตอนนี้เหมือนตรูจะตกตึกแทนละ มองลงไปเห็นอาจารย์เดินอยู่ข้างล่างแวบๆ รีบเผ่นดีกว่า
"กริช โทษนะเราต้องไปละครับ"
"อือ โชคดีนะต้น"
ไม่น่าสะเพร่าเลยแต่อยากให้กริชได้เห็นวิวสวยๆ ของโรงเรียนแบบนี้นี่นา ผมเอาโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
...ถ้าผ่านกีฬาสีไปแล้วผมกับกริชจะได้นั่งดูภาพนี้ในโรงเรียนด้วยกันไหมนะ...
ผมรีบเก็บกระเป๋าวิ่งลงตึกไปหาวิงที่ศาลาไม้หน้าประตูโรงเรียน "ขอโทษนะ นานไปหน่อย"
"งอนแล้วว้อย รอนาน" ปากบอกงอนแต่หน้ามันยิ้มแล้วสะพายกระเป๋ากีตาร์ขึ้นบ่าเดินออกประตูโรงเรียนมาพร้อมกับผม
"เราเลี้ยงข้าวเย็นละกันนะ ถือว่าตอบแทนที่วิงสอนกีตาร์เราด้วยน่ะ"
"ไม่ต้องหรอกเกรงใจ เรื่องนิดหน่อยเอง เปลี่ยนเป็นเลี้ยงหนังละกันนะ"
"หึหึ แบบเนี้ยนะบอกว่าเกรงใจ" เพิ่งสอบเสร็จยังไม่มีอารมณ์จะอ่านหนังสือหรอก กริชก็ไม่อยู่ ไปดูหนังก็ดีเหมือนกัน
"เมื่อกี้พูดเล่นนะต้น"
"อ้าว! เราว่าจะเลี้ยงหนังนายจริงๆ นะ งั้นอด!"
วิงมันทำหน้าเหวอเชียว "ต้นจะไปดูหนังกับเราจริงเหรอ!! จริงๆนะ?!"
"ก็จริงน่ะสิ ไปสยามดีไหมจะได้โทรชวนเม้งด้วย บ้านมันอยู่ฝั่งธน"
"ที่ไหนก็ได้ตามใจต้น" ดูมันดีใจมากเลย เว่อร์ไปเปล่าวะ? แต่เห็นวิงยิ้มแย้มแจ่มใสผมก็ดีใจแล้วล่ะ
โดยเฉพาะเวลามันเล่นกีตาร์นี่เท่จริงๆ
.......
.......
"วิง นายมีแฟนรึยังเนี่ย?"
"ยัง"
"ตอบว่า 'ยัง' แต่หน้าระรื่นแบบนี้จะเชื่อได้มั๊ยเนี่ย?"
"ก็......กับบางคนที่เราชอบเนี่ยไม่ต้องคบแบบแฟนแต่เป็นเพื่อนกันมันสบายใจกว่านี่นา"
"งงกับนายวุ้ย มีด้วยเหรอที่ไม่อยากคบแบบแฟนน่ะ"
"คือจริงๆ แล้ว....คนที่เราชอบน่ะ...ไม่รู้เขาจะชอบเรามั๊ยน่ะสิ?" โถ...ที่แท้ก็รอแห้วแล้วดันทำพูดดี หน้ามันเริ่มแดงละต้องแกล้งอีก
"แล้วไม่บอกไปล่ะ? เราว่าเขาคงไม่ปฎิเสธนายหรอก" ความแดงแล่นไปทั่วแก้มจนถึงหูแล้ว หน้าใสๆ ของมันมีปฎิกิริยาง่ายจัง ตรูนี่เลว ฮ่าฮ่าฮ่า
"อืม สักวันเราจะบอก" มันยิ้มก้มหน้าเดินงุดๆ ไม่แกล้งต่อละเดี๋ยวหนักกว่านี้มันจะหน้าคะมำ
.....
.....
.....เดินไปเรื่อยๆ เกือบถึงปากซอยโรงเรียนละ....
.....
.....
เงียบ
.....
.....
....ทำไมมันไม่ถามกลับ? ปกติเพื่อนผู้ชายพอถามคำถามนี้แล้วมันต้องถามกลับนี่หว่าว่าผมมีแฟนรึยัง.....
แต่ไม่ถามก็ดีเหมือนกัน ตอนนี้บัญชีหนังหมาของผมคงมีข้อหามุสาวาทายาวเป็นหางว่าวแล้ว
"ต้น รถเมล์นายมาแล้วไม่ขึ้นเหรอ?"
"เราจะกลับทางเดียวกับนายไง ไม่งั้นจะบอกวิงรอเราเหรอ?"
"ม...ไม่ต้องลำบากแบบนั้นก็ได้ เย็นแล้วนายรีบกลับบ้านเถอะ"
"แวะไปส่งน้องชายคนนี้จะลำบากอะไรล่ะ เดี๋ยวถึงตลาดสดเราก็นั่งสองแถวเข้าหมู่บ้านได้"
"อย่าเรียกน้องชายดิ อายคนอื่นเขา" แล้วมันก็นั่งยิ้มต่อไปไม่ยอมเถียงอะไรอีก
ผมอยากไปส่งวิงให้ถึงบ้านให้แน่ใจว่าฝนจะไม่ตกมาโดนกีตาร์ที่เจ้าวิงหวงนักหนา ทั้งที่ไม่รู้จะช่วยยังไงถ้าฝนตกจริงๆ
พอส่งวิงถึงหน้าบ้านผมก็เดินข้ามถนนมานั่งรถสองแถวเข้าหมู่บ้าน รถแล่นช้าๆ ไปเรื่อยๆ ผมเปิดดูรูปในมือถืออีกครั้ง
.....สักวันผมจะนั่งข้างกริชดูพระอาทิตย์ตกดินที่โรงเรียน......
.....................................
-
มีเพื่อนดีๆแบบนี้น่าชื่นใจจัง น่าจะมีความสุขนะ o17
ตอนนี้ก็เหลืออยู่เรื่องเดียวให้คิดแหละ จะบอกยังไงเมื่อไหร่ :serius2:
-
:impress:
เพื่อน ไม่ทิ้งกันอยู่แร้ว......
รออ่านต่อไปนะครับ
:onion_asleep:
-
ต้นรักกริช...แต่แอบหวั่นไหวกะวิง
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[
แต่เจ้าวิงมันก็น่าให้ไหวหวั่นจริงๆ อ่ะแหละ :give2:
-
หุหุ แอบลุ้นให้วิงเป็นกิ๊กอ่ะ :m4: :m4: :m4:
-
:m1: :m3: วิง วิง วิง
-
..........กริชก็ดี........วิงก็น่ารัก........
..........อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน.......... :impress: :impress:
-
ยังมะมาต่อเย๋อ รออยู่นะ :m1:
-
ตอนที่ 10
"พี่ต้อม ยืมกีตาร์หน่อยสิคร้าบ"
กลับมาบ้านก็รีบทบทวนการบ้านก่อนจะลืม จับสายนี้ๆๆๆ แล้วก็ดีด ติ๊งๆๆๆๆ .....ทำได้แล้วว้อย!!! แล้วจะเล่นให้เป็นเพลงยังไงล่ะเนี่ย?
............. ติง ติ่ง ติ้ง ติ๊ง ติ๋ง ติ่ง ติง ติ๋ง ติ้ง ติ๊ง ..........ไม่ได้
.......ติ่ง ติ่ง ติ้ง ติ้ง ติ๊ง ติ๊ง ติง ติ๋งงงงงงงงงง .............เพลงไรฟระเนี่ย (ก็จับได้คอร์ดเดียวจะเล่นให้เป็นเพลงได้ไง)
อย่ามั่วต่อเลยเสียดายหูตัวเอง ลองเอาหนังสือเพลงมาดูดีกว่า
"พี่ต้อมยืมหนังสือเพลงหน่อยคร้าบ"
20 นาทีผ่านไป .....ดูไม่รู้เรื่อง ช่างมันไว้ให้เจ้าวิงสอนวันหลังดีกว่า
"จะไปเล่นให้แฟนฟังเหรอต้น?" เสียงพี่มาจากหน้าประตูห้อง
"เปล่านะคร้าบ! ไหงพี่คิดงั้นล่ะ?" พี่ต้อมนั่งลงข้างๆ
"ผู้ชายจะอยากฝึกกีตาร์มันก็มีจุดประสงค์นี้นั่นแหละ แล้วนี่ไปเรียนจับคอร์ดซีมือขวามาจากใครล่ะเนี่ย? ทีกรูจะสอนมรึงดันไม่ยอมให้สอน"
"วิงเพื่อนผมที่มาบ้านเราคราวก่อนน่ะครับ"
"อ๋อ! ถึงว่าได้ยินเสียงจากห้องมรึงวันนั้น เก่งนะ จับมรึงฝึกได้คอร์ดนึงแล้วเนี่ย"
ใช่...ผมว่าเวลามันเล่นกีตาร์นี่ดูเก่งดูเท่ดีนะ ที่เคยมองมันเหมือนน้องชายนี่คงต้องเปลี่ยนความคิดแล้วล่ะ
"แล้วเรื่องแฟนเราล่ะไปถึงไหนแล้ว?"
"ช่วงนี้อ่านหนังสือสอบอย่างเดียวครับไม่ได้เจอกั------- ว้อย!! พี่อะ!!"
"ฮะๆๆ น้องชายกรูนี่หลอกถามง่ายจริงๆ วุ้ย" .....รู้ละผมติดนิสัยจอมวางแผนมาจากใคร.....
"ยังไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงอย่าลืมตั้งใจเรียนล่ะ จะสอบเอ็นท์ปีนี้เลยไม่ใช่รึ?"
"ครับผม ไม่ลืมหรอกครับ แล้วพี่จะเอากีตาร์คืนเลยไหมครับ?"
พี่ต้อมไม่ตอบแต่ขยี้หัวผมแทน "เอาไว้กับมรึงก่อนละกัน อยากฝึกตอนไหนก็ตามสบายนะ" .....พี่ชายที่แสนดี.....
"อย่างมรึงอะ เล่นแปบๆ เดี๋ยวก็เลิก กรูรู้ ฮ่าฮ่าฮ่า" ....พี่ชายที่แสนดีจริงๆ รู้ใจตรูจ๊างงง.....
นั่งดีดติ๊งๆต่องๆ ได้แปบเดียวก็เบื่อจริงๆ เหมือนที่พี่ต้อมพูดเลยแฮะ กว่าจะฝึกให้เก่งอย่างเจ้าวิงคงยากน่าดู แล้วเจ้าวิงมันหัดเล่นเพื่ออะไรนะ?
.....จะไปเล่นให้แฟนฟังเหรอ......
......ผู้ชายจะอยากฝึกกีตาร์มันก็มีจุดประสงค์นี้นั่นแหละ......
สาวคนไหนน้อที่ไอ้วิงมันตั้งใจซะขนาดนั้น? พรุ่งนี้แกล้งถามมันดีกว่า นึกถึงเวลามันหน้าแดงนี่สนุกดีแฮะ
พออาบน้ำเรียบร้อยก็เริ่มอ่านหนังสือต่อ ป่านนี้กริชจะเป็นยังไงบ้างนะ? พอเปลี่ยนซิมเท่านั้นแหละเห็นเขาโทรเข้ามาตั้งหลายครั้งแล้ว
มีเรื่องอะไรหรือเปล่า? เมื่อตอนเย็นก็เพิ่งคุยกัน ผมกดโทรกลับทันที
"สวัสดีต้น โอย...ไม่รู้จะไม่ทันมั๊ยเนี่ย?" เสียงกระหืดกระหอบเหมือนวิ่งมาจากไหนแต่ไกล
"สวัสดีครับกริช.....อะไรเหรอที่ว่าจะไม่ทันน่ะ?"
"ฟังคลื่น 93 ละกัน โทษทีนะผมต้องไปช่วยในครัวต่อแล้วล่ะ ต้องฟังให้ได้นะต้น!" พูดจบก็วางหูไปเลย ยุ่งขนาดนั้นเชียว
..
..
..
-
:impress:
เอ กริชจะทำอะไรให้ต้นน๊า
ให้ฟัง 93 ด้วย
รออ่านต่อไปน๊า....
เป็นกะลังใจให้ด้วย
o1
-
ท่าทางจะจะขอเพลงรักให้ต้นนะใช่ป่าวกริช
-
หุหุ สงสัยขอเพลงให้ต้นมั๊ง :m11: :m11: :m11:
-
หุหุ Cool Cool :m12:
-
กริซจะทำอะไรเนี่ย ลุ้น ลุ้น ครับ
ดีใจจังได้อ่านเป็นคนแรกของวันนี้ :m11: :m11:
อ้าว ไม่ทันซะแระ เป็นคนที่สองก็ได้ฟระ :m2: :m2:
-
...........จบอย่างนี้มิดี.........มาต่อซะดีๆ........ o18 o18
-
..
..
ผมเปิดวิทยุเบาๆ คลื่น 93 ที่ดีเจแสนเชยที่พูดเนิบๆ เป็นเอกลักษณ์ ถ้าใครเคยฟังจะรู้เลยว่าเป็นรายการเดียวแล้วมั้งที่ยังมีคนส่งข้อความว่าใครฝากเพลงถึงใคร แต่ก็จัดมาได้เป็นสิบปีแล้วนะเนี่ย ส่วนใหญ่เปิดแต่เพลงของ RS ผมหรี่เสียงวิทยุลงให้พออ่านหนังสือรู้เรื่อง....กริชอยากให้ผมฟังอะไรนะ?
คงไม่ใช่ว่าขอเพลงให้ผมนะ เหอเหอ.... ฟังไปอ่านหนังสือไปจนเริ่มง่วงนั่นแหละ.....
"สำหรับเพลงต่อไป หนุ่มเพชรบุรีขอมอบให้แก่เด็ก EGV"
.......?........
เสียงผู้จัดรายการยังอ่านข้อความแบบเนิบๆ ต่อไป "....ทำงานเหนื่อยไหมครับ? ลูกผู้ชายบ้านสวนคนนี้ก็ตั้งใจเรียนเต็มที่นะครับ
ขอโทษนะที่ไม่ได้ดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกันแต่จะเก็บตะวันเมืองเพชรไปฝากนะครับ .....จากหนุ่มเพชรบุรี.....ขอเชิญรับฟังเพลง....."
.....เก็บตะวันที่เคยส่องฟ้า เก็บเอามาใส่ไว้ในใจ
เก็บพลังเก็บแรงแห่งแสงยิ่งใหญ่
รวมกันไว้ให้เป็นหนึ่งเดียว
เก็บเอากาลเวลาผ่านเลย สิ่งที่เคยผิดหวังช่างมัน
หนึ่งตัวตนหนึ่งคนชีวิตแสนสั้น เจ็บแค่นั้นก็คงไม่ตาย
ธรรมดาเวลาฟ้าครึ้มเมฆหม่น พายุฝนอยู่บนฟากฟ้า
คงไม่นานตะวันสาดแสงแรงกล้า ส่งให้ฟ้างดงาม.....
ผมไม่ได้ยินเพลงส่วนที่เหลือแล้ว หูมันอื้อคอก็ตีบตัน น้ำตามันเอ่อขึ้นมา ไม่รู้ว่ากำลังยิ้มหรือว่าร้องไห้
ฮะๆๆ ไอ้บ้ากริช.....นายอยู่ตั้งไกลยังอุตส่าห์.....
ผมหยิบโทรศัพท์อยากโทรหากริช.....แต่เขินว้อย! กด....วาง กด....วาง....ไม่รู้จะพูดอะไรได้ก็คนมันเขินนี่หว่า....กลั้นใจกดโทรเลยละกัน
"สวัสดีคร้าบต้น" เสียงสดใสเชียวนะ ตรูบ่อน้ำตาแตกอยู่เนี่ย
".......ส สวัสดีครับกริช....ขอโทษนะที่โทรมาดึกๆ" โอยกว่าจะพูดออกแต่ละคำได้
"......ต้น.....ด...ได้ฟังแล้วใช่มั๊ย?" ฝ่ายโน้นก็คงเขินเหมือนกัน พอนึกหน้ากริชที่อยู่ห่างออกไปในตอนนี้ก็อดอมยิ้มไม่ได้
"ครับ"
แล้วก็นิ่งอึ้งไปทั้งคู่
".....กริชครับ"
"ครับ"
"เรารักกริชครับ!" พูดจบรีบวางสายเลย ทั้งๆที่เคยพูดประโยคนี้หลายครั้งแล้วแต่ครั้งนี้เขินที่สุดในโลกเลยว้อย!
ไม่ไหวแล้ว! นอนดีกว่า......แต่มือยังถือโทรศัพท์ไว้ โทรมาสิๆๆๆ .....กริชไม่โทรมาแต่ส่งข้อความมาแทน
เมื่อกี้ว่าอะไรนะไม่ได้ยิน เจอกันจันทร์นี้ขอช้าๆ ชัดๆ นะครับ ^_^
...............................
-
:impress:
น่ารักจังนะนายกริชของเรานี่
อยากมีแบบนี้บ้างจัง.....
เฮ้อ
:teach:
-
หุหุ เช้ยเชย แต่ก็น่ารักดีเนอะ :m1: :m1: :m1:
-
:serius2: อิจฉาว้อยยยยย
ต้นเอากริชไปแล้ว งั้นขอวินเรานะ อิอิ :interest:
-
:o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
ไม่มีคำบรรยายใดๆทั้งสิ้น
-
..........บอกรักไปแล้ว.........น่ารักมากมาย.......... :give2: :give2: :give2:
-
ตอนที่ 11
SMS ถาดเข้า....กด.....
เมื่อกี้ว่าอะไรนะไม่ได้ยิน เจอกันจันทร์นี้ขอช้าๆ ชัดๆ นะครับ ^_^
ดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ โตจนควายเลียก้นไม่ถึงแล้วยังใช้รูปหน้ายิ้มแบบนี้อีก กดดูอีกเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ตลอดทางที่นั่งรถสองแถวออกจากหมู่บ้านจนมาถึงตลาดสด กริชบอกคืนวันจันทร์นี้เจอกัน....สงสัยต้องขอพี่ต้อมไปค้างบ้านเพื่อนอีกละ
ใจหนึ่งก็มีความสุข แต่อีกใจก็แวบหนึ่งก็คิดนึกเนื้อเพลงนั้น .....เก็บเอากาลเวลาผ่านเลย สิ่งที่เคยผิดหวังช่างมัน......
....เป็นแค่เนื้อเพลงหรือกริชตั้งใจจะบอกอะไร....ผมไม่เคยคิดจะเบียดที่ในใจของกริชจากพี่สิงห์ ผมนับถือพี่เขา ผมรักกริชที่เป็นกริช
แล้วผมจะรักกริชได้เท่ากับความรู้สึกของพี่สิงห์ไหมนะ? ยิ่งได้ความรักจากกริชมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งกลัวการสูญเสียมากเท่านั้น หวังว่าเรื่องโกหกของผมคงไม่ทำร้ายใจของกริชมากไปกว่านี้นะ
โรคคิดมากของผมคงรักษาไม่หายจริงๆ....แต่อีกไม่นานผมจะได้โอกาสพิสูจน์ให้กริชเห็นว่ารักของผมไม่น้อยไปกว่าใคร
ถ้ากริชจะยอมให้ผมได้มีโอกาสนั้น ...ตัวผมที่เป็นผมจริงๆ.... ผมจะช่วยกริชแบกรับความทุกข์ทุกอย่าง.....อะ ว่าแล้วก็กดดูอีกซักที
มาถึงหน้าบ้านเจ้าวิงยังไม่ทันกดออดมันก็เปิดประตูออกมา
เจ้าวิงในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีขาวแบบมีฮู้ดกับกางเกงยีนส์ดูแตกต่างไปจากวันปกติ คงเพราะเจอในชุดนร.จนชินตาล่ะมั้ง
"สวัสดีต้น"
"สวัสดีวิง UHT"
"โหย พูดแบบนี้หมดความมั่นใจเลย ไปเปลี่ยนก็ได้ว้า" มันหันกลับเข้าบ้านจริงๆ จนผมต้องดึงแขนไว้
"ล้อเล่นว้อยล้อเล่น แต่ชุดนี้ดูดีกว่าตอนเจอนายที่ร้านเหล้าคืนโน้นนะ" ก็นั่นเป็นครั้งแรกที่เห็นเจ้าวิงในชุดเที่ยว (เหตุการณ์ชวนจดจำมากเลย เหอเหอ)
เจ้าวิงหน้าเสียทันที เจ้านี่แกล้งง่ายครับพูดอะไรก็มีปฏิกิริยาไปหมด แต่จริงๆ ที่พูดขึ้นมาก็เพราะเป็นห่วงมันด้วยแหละ
"ถามหน่อยสิทำไมคืนนั้นถึงกินจนเมาแบบนั้นล่ะ? ไปคนเดียวไม่น่ากินเยอะขนาดนั้นนะรู้มั๊ยมันอันตราย ถ้าคืนนั้นเราไม่อยู่ที่นั่นก็ไม่รู้พนักงานจะหิ้วนายไปไหนต่อไหน เป็นห่วงนะว้อย"
"......................" วิงทำหน้าเหมือนจะพูดแต่กลับไม่พูด เอาแต่เดินไปสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุชจนผมต้องเร่งฝีเท้าตาม
"ถ้าคืนนั้นเราไม่เจอนายจะเป็นไงก็ไม่รู้"
"ขอโทษด้วยนะที่ทำให้นายลำบากคราวนั้น" ....สำนึกตัวก็ดีแล้ว....แล้วตรูจะไปห่วงมันทำไมมากมาย....
"เรารู้ละว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ กินเหล้ากินเบียร์เยอะๆ จะตับแข็ง" ....อุ๊ก! กระทบตรูเข้าเล็กน้อย.....
"เสียการเรียนด้วย" .....อ้าว แสรด หลอกด่าใช่ไหมเนี่ย?.....
"เปลืองเงินอีก" ....อันนี้ก็โดน.....
มันเดินนำหน้าผมไปหลายก้าวแล้วหันกลับมาเดินถอยหลังพลางมองที่ผม
"เราสัญญากับนายว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว เพราะต้นห่วงเรา"
เคยไหมครับเวลาที่จะดุใครสักคนแต่เขาดันแย่งพูดรับผิดทุกกระทงจนไม่เหลืออะไรให้ดุ ผมเองกลายเป็นฝ่ายพูดอะไรไม่ออก
"ใครห่วง?"
"ก็นายเพิ่งบอกตะกี้น่ะ"
"ห่วงเพราะเห็นเป็นน้องสามเดือนหรอก แล้วตกลงเนี่ยไปเพราะอะไรล่ะ?" เบี่ยงประเด็นซะเลย
"อืม.....ก็เรื่องความรัก เรื่องที่บ้าน" ปากพูดยิ้มๆ เหมือนให้ฟังเป็นเรื่องขำๆ มากกว่า เจ้าวิงคงไม่อยากให้ผมคิดมาก
ผมจับมันหันกลับไปเดินอย่างมนุษย์มนา ไม่อยากให้มันหงายหลังกลางตลาด
"แล้วต้นไปที่ร้านนั้นทำไมเหรอ?" พอขึ้นรถไฟฟ้าวิงก็ถามผมกลับบ้าง
".......เอ่อ....ก็......" ว่าแล้วไม่น่าเปิดประเด็นนี้เลยวกเข้าตัวจนได้ แต่พูดเพราะห่วงเจ้าหน้าใสคนนี้จริงๆ นี่นา
"ก็?" ได้ทีขี่แพะไล่เลยนะ ผมเขยิบหนีเข้ามุมรถ เจ้าวิงก็เขยิบตาม
"ก็อะไร? ทีเรายังบอกนายเลยนะ อย่าเอาเปรียบดิ"
"ไม่บอกโว้ย! เดาเอาเอง" อย่าไล่บี้ตรูนะยิ่งไม่ค่อยอยากโกหกอยู่ สุวรรณกับสุวานถือดินสอรอจดบาปตรูอยู่เลยเนี่ย
เจ้าวิงเขยิบเข้ามาอีก มันยักคิ้วหนึ่งที "แฟน?"
"............" ไม่ต้องใช้ตัวช่วยเลยวุ้ย เกลียดจริงๆ คนรู้ทัน
"แล้วเจอเค้ามั๊ย?"
"จะถามทำไมเล่า?"
"ก็เรานั่งในร้านนั้นตลอด เผื่อจะรู้ว่าคนไหนไง" ......รู้แล้วนายจะพูดไม่ออก....
"ไม่เจอหรอก ก็นายเล่นอ้วกรดเราจนต้องพานายเข้าโรงแรมน่ะสิ"
เสียงใครอุทานเบาๆ อยู่ด้านหลัง
พอหันไปดู ผู้หญิง 4-5 คนยืนฟังผมกับวิงคุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่! สายตางี้จ้องมาแบบ....แบบ....
ประตูรถไฟฟ้าเปิดพอดี จะสถานีไหนไม่รู้ละรีบวิ่งออกเลย! เจ้าวิงก็วิ่งตามออกมาเหมือนกัน มันยังมีหน้าหัวเราะอีก
*************************************************************
-
:impress:
เฮ้ย จะโกหกไปได้อีกนานแค่ไหนเนี่ย
แล้วกริชจะโกรธไหมหนอ
แล้วเจ้าวิงจะเจ็บหรือเปล่า????
น่าเป็นห่วง
o1
รออ่านต่อไปคัพ
-
o1 o1รออ่านต่อไปเช่นกัน o1 o1
-
..........รอต่อไป........ว่าเมื่อไหร่จะบอก........ :m19: :m19:
-
..
..
กว่าจะมาถึงโรงหนังชั้น 7 ก็เจอเม้งยืนกินโยเก้นฟรุตของโปรดมันอยู่หน้าที่ขายตั๋วแล้ว (รวยจริงๆ ไอติมถ้วยละ 70 กว่าบาทกินเข้าไปได้)
"ดีวิง ดีต้น"
"ดีเม้ง แล้วจะดูเรื่องอะไรกันดีล่ะ?" ผมถามเม้งเพราะมันมายืนดูก่อนแล้วคงเลือกได้สักเรื่องแล้วล่ะ
"เรื่องนี้มั๊ย?"
"สนุกป่าว? เดี๋ยวหลับคาโรงเหมือนอินวิซิเบิ้ลเวฟหรอก ไม่จำๆ"
"อย่างน้อยกรูก็หลับหลังมรึงละกันไอ้ต้น นี่ๆ เราถ่ายหน้ามันตอนมันหลับน้ำลายยืดด้วยวิงอยากดูปะ?"
"เฮ้ย! ไหนว่ามรึงลบแล้วไง" ผมรีบไล่ตะครุบมือถือจากไอ้เม้งมาทันที
ช่างเป็นความทรงจำที่น่าอับอาย หนังอะไรไม่รู้น่าเอามาใช้เป็นนิทานกล่อมเด็ก แต่ที่แน่ๆ ผมกับเม้งแข่งกันหลับตั้งแต่กลางเรื่อง (หรือต้นเรื่อง?)
จนพนักงานมาปลุกตอนหนังเลิก อายมากเสียดายเงินจริงๆ
กว่าจะเลือกหนังได้ก็ใกล้เที่ยง กินเชสเตอร์กริลล์เสร็จยังพอเหลือเวลาให้เดินเล่นไปเรื่อยๆ ได้อีกเกือบชั่วโมงก่อนหนังฉาย
"ต้นกับเม้งสนิทกันจังเลยนะ"
"อยู่ห้องเดียวกันมาตั้งแต่ม.2 น่ะ แต่เพิ่งจะ 'สนิท' กับไอ้ต้นจริงๆ ก็ม.4 นี่แหละ" เม้งเน้นคำได้ซึ้งกินใจจริงๆ มันโอบไหล่ผมไว้แน่น
กรูรู้ว่ามรึงไม่รังเกียจ....แต่มรึงแสดงมิตรภาพได้ไม่เลือกเวลาเลย.... ความลับไม่แตกวันนี้จะรออีกกี่ปีแสง
"ต้น! เม้ง!" เสียงใครเรียกดังมาจากด้านหลัง หันไปเจอพี่ปัดม.5 นักบาสทีมสีเหลืองเดินตรงเข้ามาทัก
ซวยจริงๆ เจอใครไม่เจอดันเจอนักบาสกีฬาสีเหมือนกัน อันที่จริงพี่เขาก็นิสัยดีครับ เอื้อเฟื้อรุ่นน้องดี บางวันก็เล่นด้วยกันเหนื่อยมากๆ มีซื้อเป๊ปซี่ใส่เกลือแจกรุ่นน้องด้วย(เกลือเป็นส่วนผสมยอดฮิตในน้ำอัดลมของโรงเรียนนี้ซึ่งไม่รู้จะใส่กันทำไมให้ฟองมันฟอด ใส่มากๆ กินไม่ลง มันเค็มเกิน)
แต่ส่วนที่ไม่ดีคือพี่เขาชอบกระแทกคนอื่นแรงๆ แล้วก็ตะโกน "ไม่ฟาล์วโว้ยๆ!" ประมาณภูมิใจมาก
"สวัสดีครับพี่ปัด"
"มาเป็นคู่เหมือนเดิมนะ มาดูหนังเหรอ? แล้วนี่...."
"วิงเพื่อนผมครับ อยู่คนละห้อง" พี่ปัดมองเจ้าวิงที่ยืนเฉยๆ คงเพราะรู้ตัวว่าไม่สามารถเข้าวงสนทนาได้ ผมเลยต้องเขยิบเข้าไปใกล้วิงอีกนิด
ไม่อยากให้รู้สึกโดดเดี่ยว แต่พี่ปัดก็ยังชวนคุยไปเรื่อยๆ แล้วก็.....
"ตกลงคู่หูคู่นี้ลงบาสสีแดงสินะ?" .....นั่นไง เปิดประเด็นมาแล้ว....
"ได้ยินว่าสต๊าฟสีแดงมีปัญหากันนี่หว่า" .....ฉึก!....แทงใจดำ
"ครับ รองประธานฯ ลาออก คนที่ทะเลาะกับพี่โจ้หน้าห้องเราใช่มั๊ยต้น?" .....ฉึก! ฉึก! สองแผลนี้มาจากไอ้เพื่อนรักของผมเอง
"พี่คมเดชคนนั้นใช่มั๊ย? พี่ม.6 เขาเรียกกริชน่ะ เห็นว่าตอนแรกขยันมากนะ" ....ฉึก! ฉึก! ฉึก!
"ลาออกกระทันหันจนงานป่วนไปหมด ตอนนี้เลยไม่กินเส้นกันซะงั้น ได้ยินว่าพี่เขาไม่ยอมเดินเฉียดใกล้สนามกีฬาเลยล่ะ" ....ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก!
คุยกันแปบเดียวโดนเข้ากี่แผลแล้วเนี่ย?
"เออ เม้งหนังใกล้จะฉายรึยัง?".....เปลี่ยนเรื่องคุยทีเถอะกรูขอร้อง
ภาพถังโจรสลัดของแถมจากรองเท้านันยางผุดขึ้นมาในหัว เล่นรุมแทงใจดำกันไม่ยั้ง อีกเดี๋ยวโจรมันต้องเด้งลงนรกแหงๆ
"อีกตั้งครึ่งชั่วโมงแน่ะต้น จะรีบไปไหนวะ?"
"....ก็...." สงสัยจะเลือดตกในเยอะ หัวมันเริ่มตื้อคิดข้ออ้างไม่ออกละ ร้านแมงป่องก็ดันเปิดเพลงดังขึ้นมา
.....อย่าร้อนตัวถ้าไม่ได้ทำ ถ้าเธอไม่ได้มีใคร
เสียงดังโวยวายทำไม
งงที่เธออารมณ์ร้ายใส่ฉัน
หรือทำอะไรออกไปแทงใจของเธอ.....
นั่นๆ ภาพคนในมิวสิควิดีโอกำลังเดินถือมีดจะมาช่วยแทงอีกแผลแล้ว ทุกทีร้านนี้เปิดแต่ลอร์ดออฟเดอะริงก์กับต้มยำกุ้งวนไปวนมาทั้งวัน
แล้วไหงวันนี้เปิดมิวสิคฯได้โดนใจเยี่ยงนี้ (ตรูจะไม่ซื้อเทปร้านนี้อีกเลยตลอดชีวิต) จะเอาตัวรอดจากตรงนี้ได้ยังไงล่ะเนี่ย?
"ต้น เม้ง เราอยากไปเดินดูของแปบนึงน่ะ" เจ้าหน้าใสพูดขึ้นมาเป็นระฆังหมดยก
"อืม ก็ดีเหมือนกัน งั้นพวกผมไปก่อนนะครับพี่ปัด"
วิงผู้ช่วยชีวิตกระตุกแขนผมเบาๆ ผมก็ตามน้ำออกเดินช้าๆ กึ่งบังคับให้เม้งต้องจบเกมแทงโจรสลัดแล้วเดินตามมาแต่โดยดี หนีจากพี่ปัดมาได้แต่ความเครียดไม่ได้ลดลงเลย....นี่ผมจะหนีได้ตลอดรอดฝั่งจนถึงวันแข่งจริงๆ หรือเปล่าเนี่ย? นึกว่าไม่เจอกริชแล้วจะปลอดภัยตลอดรอดฝั่งซะอีก เมื่อไหร่เรื่องโกหกงี่เง่านี่มันจะจบซะที!
"ต้น"
"หืม? ดูของเสร็จแล้วเหรอวิง?" ผมไม่รู้เดินมาชั้นไหนตรงไหน ขามันเดินตามเจ้าวิงมาเรื่อยๆ เท่านั้นเอง
"เสร็จแล้ว เม้งไปเข้าห้องน้ำอยู่ .....แล้วก็นี่...เราให้นาย" วิงยื่นซองกระดาษให้ผม ข้างในมีปิ๊กกีตาร์กับท่อเหล็กสีเงินมันปลาบ
"ต้นเพิ่งเริ่มเล่นคงเจ็บนิ้ว ใช้ปิ๊กดีดกีตาร์ละกัน"
"แล้วท่อนี่ไว้ทำอะไรเหรอวิง?" ผมนึกไม่ออกจริงๆ มันจะยัดเข้าส่วนไหนของกีตาร์
วิงจับมือขวาผมแผ่ออกเบาๆ แล้วสวมไอ้ท่อแปลกๆ นั่นเข้าที่นิ้ว
"อันนี้เรียกสไลด์น่ะ มันใช้ได้หลายอย่าง สำหรับต้นตอนนี้ใช้ฝึกกดสายเวลาจับคอร์ดที่ต้องกดครบทุกเส้น เสียงจะไม่บอด นิ้วก็ไม่เจ็บ"
ผมมองท่อเหล็กที่สวมนิ้ว มีของแปลกๆ แบบนี้ด้วยแฮะ มองดูเพลินจนเพิ่งรู้ตัวว่าวิงยังไม่ปล่อยมือผมเลย
....
....
"ต้น เราสัญญา...จะไม่ทำให้นายต้องเจ็บ"
ฮึก! ผมเงยหน้าจากมือมามองมันแบบงงๆ วิงยังคงมองตรงมาที่ผม หน้าตามันนิ่งมาก
....
....
มือมันเย็นเฉียบหรือไม่ก็มือผมเองที่เย็นกระทันหัน ที่แน่ๆ มือมันกุมมือผมไว้แบบนั้นไม่ยอมปล่อย
.....
.....
"เฮ้ย! ต้นใกล้เวลาหนังฉายแล้วนะ" เม้งตะโกนมาแต่ไกล ผมผละไปขึ้นบันไดเลื่อนทันที เม้งกับวิงเดินตามมาติดๆ
....ประโยคเมื้อกี้.....อย่านะไอ้ต้นมรึงอย่าเริ่ม....ทำให้ใจมรึงหยุดคิดเดี๋ยวนี้นะ....
"วิง....ขอบใจนะ" ผมพูดข้ามไหล่เม้งที่คั่นระหว่างกลางพลางโบกมือขวาที่ยังสวมท่อเหล็กไว้ที่นิ้วชี้
เจ้าวิงหันมายิ้มตอบ "ตั้งใจฝึกล่ะต้น"
"อะไรวะต้น? ได้ของแปลกๆ จากไหนน่ะ?" เจ้าเม้งก็มองของที่สวมนิ้วผมอยู่เหมือนกัน
"อาจารย์วิงเขาให้กรูมาฝึกกีตาร์น่ะ"
"เป็นศิษย์อาจารย์กันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?"
ผมตอบเออออไปเรื่อยๆ จนเข้าโรงหนัง ผมนั่งในสุด ถัดไปเป็นเม้งแล้วก็วิง รู้สึกโล่งใจหน่อย.....โล่งใจ.....
.....รู้สึกแบบนั้นจริงๆ เหรอ...ทำไมความรู้สึกนั้น........
........................................
-
หุหุ ตามมาเก็บศพต้น เห็นโดนไปหลายฉึก :m14: :m14:
-
ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย เลือกที่จะหาโอกาสและเวลาที่เหมาะสมในการพูด
มันดีกว่าจะให้คนอื่นคิดไปเอง
:m27: :m27: :m27:
-
:impress:
ให้มันได้อย่างนี้สิเจ้าวิง
กลัวเจ้าวิงเจ็บจิง ๆ เลย
แต่ก็เชียร์กริชนะ
:a3:
รออ่านต่อไปนะครับ
-
วิงท่าทางจะรักต้นนะเนี่ยะ แต่เราเชีร์กริชมากกว่าแล้วก้ออยากให้ต้นบอกความจริงกับกริชด้วย
-
:a11: หุหุ ต้น เลือดหมดตัว :a3: ไปแล้ว :a10:
-
.........โดนไปหลายฉึกเชียว......... :m17: :m17:
.........แต่สงสารวิงจัง........ o7 o7
-
ตอนที่ 12
หลังจากยืนส่งเม้งขึ้นรถเมล์กลับบ้านแล้วผมกับวิงก็ตรงไปขึ้นรถไฟฟ้า คนบนรถเที่ยวนี้ไม่ค่อยแน่นมากยืนคุยกันได้สบาย
"หนังสนุกดีเนอะ"
"อืม แต่อ่านซับฯไม่ค่อยทันแฮะ" เวลาไปดูหนังฝรั่งต้องเลือกที่เป็น soundtrack ไว้ก่อน ขืนดูพากษ์ไทยมีหวังโดนเพื่อนโห่แย่ เรื่องไหนสนุกค่อยไปเช่าพากษ์ไทยมาดูอีกรอบ เพราะแบบนี้แหละผมถึงไม่ไปดูโรง Imax เพราะซับไตเติ้ลมันเล็กจิ๋วเดียว (ใครช่วยไปบอกเจ้าของโรงหนังให้ปรับปรุงทีสิ)
"วิง นายหัดเล่นกีตาร์เพราะอะไรเหรอ?"
"ก็มันเท่ดีน่ะ" แน่ะ! ตอบแต่หันหน้าไปทางอื่นแบบนี้มีพิรุธ ผมเดินอ้อมไปมองหน้ามัน
"ตอบจริงๆ เด๊ะ?" ผมมองเจ้าวิง เส้นเลือดฝอยใต้ใบหน้ามันตอบคำถามแทนทุกอย่าง เจ้านี่ดูออกง่ายจริงๆ
"....ถ้าเราบอกต้นแล้วต้นอย่าบอกใครนะ"
"เออ ไม่บอกหรอก"
วิงก้มหน้าเขยิบเข้ามาอีกนิด ตามันมองพื้นรถอย่างเดียวเลย "เราชอบคนอยู่คนนึง เลยอยากทำอะไรให้เขาประทับใจบ้างน่ะ"
"ฝึกนานไหมเนี่ยกว่าจะเล่นได้เก่งขนาดนี้?"
"เฮ้ย! เราไม่เก่งหรอก ฝึกมาปีเดียวเอง"
"แสดงว่านายเริ่มชอบคนๆ นั้นตั้งแต่ปีที่แล้วเหรอ?" เจ้าวิงพยักหน้า
สถานีต่อไป.....
"ความพยายามสูงนะวิง เราว่าถ้าคนๆ นั้นรู้เข้าต้องชอบนายแน่ๆ"
"เรายังไม่แน่ใจเลย"
"ไม่เชื่อเราเหรอ?"
"ก็.....โหย! เราไม่กล้าบอกเขาน่ะ มันยากนะต้น"
สถานีต่อไป.....
"เอางี้ ตอนที่นายสารภาพรักเราจะคอยให้กำลังใจอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ถ้าเขาไม่รับ เราจะได้ปลอบใจนายได้ไง"
"จะมาแอบดูเหรอ? อ้ายโรคจิต"
"ไม่ได้โรคจิตโว้ย! เป็นหน่วยปฐมพยาบาลต่างหาก"
สถานีปลายทาง......
"ต้น..."
"หืม?"
"ถ้าเรา...จะสารภาพรักกับคนๆ นั้นจริงๆ นายว่าเขาจะรับรักเรามั๊ย?"
"จะรู้ได้ไง? แต่เราคิดว่าเขาคงชอบนายแหละ" ผมมั่นใจและเชื่อที่สุดว่าอย่างเจ้าวิงต้องพิชิตใจสาวได้แน่
พูดแค่นี้แหละเจ้าวิงหน้าแดงแจ๋เลย เห็นแล้วมันน่าแกล้งที่สุด
"มัวแต่เขินอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวใครคาบไปก่อนหรอก!" ผมเอื้อมมือไปดึงฮู้ดมาครอบหัวมันมิด
"ว้อย! เล่นไร? ผมยุ่งหมด!" ท่าทางเวลามันเขินนี่น่ารักน่าเตะจริงๆ คิดแล้วก็ใจโหวงๆ .....เจ้าเพื่อนคนนี้กำลังจะมีแฟนไปแล้ว
"ต้นจะรีบกลับบ้านไหม? แวะกินอะไรที่ตลาดก่อนรึเปล่า?"
"ขอบใจนะแต่เราจะรีบกลับบ้านน่ะ" พอแยกกันผมกระโดดขึ้นรถสองแถวเข้าหมู่บ้านทันที
.....ต้น เราสัญญาจะไม่ทำให้นายต้องเจ็บ.....
ประโยคที่เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน....ไม่หรอก....
ตอนนายพูดประโยคนั้นนายคิดอะไรอยู่? จะบอกว่าของพวกนี้ใช้ป้องกันไม่ให้เราเจ็บนิ้วเหรอ...ท่อเหล็กสีเงินถูกพลิกไปมาอย่างเลื่อนลอย
เจ้าวิงเอ๊ย...ถ้านายพูดประโยคนั้นกับคนที่นายแอบชอบ...ผมว่ามันต้องสมหวังแน่ๆ
ความรู้สึกบางอย่างมันเกิดขึ้นในใจโดยที่ผมก็บอกไม่ถูก ....ดีใจกับเขา....เป็นห่วงกลัวเจ้าวิงจะผิดหวัง....บ้าน่าอย่างเจ้านี่คงไม่ผิดหวังแน่
....หรือว่าเหงา....แค่มีแฟนมันไม่ได้จากไปไหนซะหน่อย ....อิจฉา.... ผมท่องคำต่างๆ ในหัวพยายามเทียบว่าตัวเองรู้สึกยังไงกันแน่.....
"โว้ย!!! แค่เพื่อนจะมีแฟนทำไมตรูต้องคิดมากด้วยฟระ!!!" ว่าแล้วก็โทรหากริชดีกว่า นี่เปลี่ยนซิมแล้วโทรหาเลย.....
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก
ให้ได้ยังงี้สิ เฮ้อ! เขาอยู่ต่างจังหวัดนี่นาสัญญาณคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ....ผมล้มตัวลงบนฟูกจ้องดูเพดานไปเรื่อยๆ
.....ตอนนี้กริชอยู่ไหนครับ เป็นอะไรหรือเปล่า ผมอยากได้ยินเสียงกริชนะครับ.....
..
..
..
..
..
..
..
ตัวผมดิ่งวูบลง ตามด้วยสัมผัสที่เย็นเฉียบจากรอบด้านแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมห่วง คนบนนั้นต่างหาก
"ข...ขอโทษนะครับ! ผมขอโทษ! .....เป็นอะไรรึเปล่า....ผมขอโทษ ...ฮึกๆ ....ผมขอโทษ ....ผมขอโทษ....."
"นายอย่ายื่นตัวออกมา!"
"ผมขอโทษ...ตรื้ดๆๆ ....ครับ....ผ...ผมขอโทษ...ตรื้ดๆๆ..."
ผมไม่ได้ห่วงตัวเอง ห่วงแต่คนๆนั้น ใบหน้าตื่นตระหนกที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา
"นายอย่าร้องไห้ดิ พี่ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย ฮะๆๆ" ผมก้าวขึ้นมาสวมกอดเขาไว้ คนบนนั้นเสียอีกกลับร้องไห้ไม่หยุด
"...ผมสัญญา.....จะไม่.....ตรื๊ดๆๆ....อีก...." ตรื๊ดๆๆ .....เสียงอะไรวะน่ารำคาญจัง.....เสียง...... ตรื้ดๆๆ
..
..
..
..
..
..
..
เสียงมือถือตรูนี่หว่า!! ผมสะดุ้งขึ้นจากฟูกควานหาต้นเสียงในความมืดจ้าละหวั่น กริชโทรมาแล้ว!
"กริชๆ ได้ยินมั๊ยครับ?"
"ครับ ต้นเป็นอะไรเหรอทำไมเสียงรีบร้อนจัง?"
"ผ.....เผลอหลับน่ะครับ....." ผมเริ่มมองรอบตัวว่าที่นี่ที่ไหน งงมึนตึ้บไปหมด.....ห้องนอนผมเอง....เมื่อกี้ฝันเหรอเนี่ย....
"ต้นนอนในที่ทำงานเหรอ? ฮะฮะ"
"ก็....ประมาณนั้นมังครับ" แก้ตัวตามน้ำไปก่อน
ขอคิดก่อนนี่กี่โมงแล้ว ฟ้ารำไรนิดๆ หรือว่ารุ่งสางแล้วหว่า นี่ผมหลับข้ามคืนเลยเหรอ? จำได้ว่าโทรหากริชราวๆ สี่โมงเย็นแล้วก็นอนเล่น
กริชพูดว่า 'ที่ทำงาน' แสดงว่าตอนนี้กำลังจะค่ำต่างหาก ไม่น่าผลอยหลับเวลาผีตากผ้าอ้อมเลย คุยโทรศัพท์อยู่นี่ก็ยังมึนๆ ไม่หาย แต่ยังไงก็ต้องตั้งสติไว้ก่อน
"ต้น ผมขอโทษนะพอดีออกมาไกลมากมือถือไม่มีสัญญาณ กลัวต้นจะเป็นห่วงน่ะครับ"
......ผมขอโทษนะครับ.....ผมขอโทษ.......เสียงในความฝันยังดังก้องในหัว
"ต้นเป็นอะไรหรือเปล่าครับ? ทำไมเงียบไป?"
"ตื่นมาแล้วมึนๆ น่ะครับ แต่สบายมากครับกริชไม่ต้องห่วง กริชไปธุระที่ไหนเหรอครับ?"
"มาเก็บตะวันไปฝากต้นไงครับ"
"หืม?"
"เดี๋ยวเจอกันก็รู้เองครับต้น เย็นวันจันทร์นี้ต้นสะดวกมั๊ยครับ?"
"ส...สะดวกครับแต่ต้องดึกนิดนึงนะครับ....เอ่อ คงค้างไม่ได้นะครับ"
"ได้คร้าบ เดี๋ยวผมโทรนัดอีกทีคืนวันอาทิตย์นะครับ สัญญาณไม่ค่อยดีแล้ว รักษาสุขภาพนะต้น"
กริชวางหูไว้แล้ว ตามปกติผมจะรู้สึกเสียดายอยากคุยนานๆ แต่ตอนนี้หัวผมมึนตึ๊บขอนอนเรียกสติสตังก่อน....
นาฬิกาสีฟ้าน้ำทะเลบอกเวลา 17:45
....ภาพในฝันนั่น....เพราะคำพูดแปลกๆ ของเจ้าวิงแท้ๆ เรื่องที่เคยลืมไปแล้วกลับผุดขึ้นมาอีก....
....ภาพรุ่นน้องที่ร้องไห้ไม่หยุดและผมพยายามยิ้มปลอบใจ.....ทำไมผมถึงคิดเรื่องนั้นอีกนะ.....
น่าอายจังโว้ย!! ทั้งที่ผมมีกริชแล้วแท้ๆ....
..
..
..
-
............หวังแค่ว่าคนของวิงจะไม่ใช่ต้น......... :m5: :m5:
-
เริ่มซับซ้อนขึ้นทุกทีแล้วสิ
หวังว่าคงไม่มีเรื่องร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ
:amen: :amen: :amen:
-
หุหุ ตามลุ้นต่อจ้า อยากให้วิงเป็นกิ๊กของต้นจัง :a5: :a5:
-
ขอสมัครเป็นแฟนคลับของนิยายเรื่องนี้อีกคนง๊าบบบบ
เป็นนิยายที่ไม่มีทางเดาล่วงหน้าได้เลยงิ :m4:
ทำให้รู้สึกอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ ไม่อยากหยุดเลยอ่ะ กรี๊ส :m3:
งิ้วๆๆ รักนิยายเรื่องนี้ก๊าบบบ :m1:
ปล. เชียร์กริชเสมองิ รอลุ้นอยุว่านายวิงจะปิ๊งต้นเรามั้ย อิอิ
-
:impress:
เจ้าวิงต้องชอบต้นเข้าแล้ว
แล้วต้นมีอะไรแอบแฝงเนี่ย ฝันร้ายซะด้วย
รออ่านต่อไปคร๊าบ........
o15
-
อยากให้กริชกลับมาเร็วๆจังเลยย งิงิ :m25:
อิอิ
-
ฝันอารายแปลกๆนะต้น o18 o18
อยากให้ฝันถึงกริชมากกว่า :a12: :a12:
มาลงเร็วๆนะคับคอยติดตามอยู่ :m3:
-
..
..
ตลอดวันอาทิตย์กริชไม่ได้โทรมาอีกเลยคงยังงานยุ่งที่บ้านหรือไม่ก็ไปขึ้นรถทัวร์มั้ง แค่รู้ว่าเขาสบายดีก็สบายใจแล้ววันนี้เลยอารมณ์ดี
ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือเตรียมเอ็นท์ฯ เต็มที่ ผมเปลี่ยนซิมเป็นระยะๆ เวลาเมื่อยตาเผื่อเม้งจะโทรมาแต่ทุกอย่างเงียบสงบ ว่าแล้วก็ใส่ซิมรอกริชโทรมา
.....ทำอะไรอยู่นะ? รถทัวร์จากเพชรฯ เข้ากรุงเทพก็แค่ไม่กี่ชั่วโมงเองนี่นา
ตรื้ดๆ
"สวัสดีครับกริช ถึงกรุงเทพฯ แล้วเหรอครับ?"
"ยังอยู่เพชรฯ อยู่เลย"
"นี่จะสองทุ่มแล้วนะ มีอะไรหรือเปล่าครับ? เราเป็นห่วงนะครับ"
"ก็....ตระเวณไปรอบเมืองหาของฝากต้นนิดหน่อยน่ะ แต่เดี๋ยวจะขึ้นรถทัวร์แล้วล่ะ"
"กริชไม่น่าลำบากเพื่อเราเลยครับ มืดแล้วเราเป็นห่วงกริชนะ"
ห่วงไปหมดแหละทั้งที่ในชีวิตนี้ไม่เคยไปเพชรบุรีมาก่อนเลย เพชรบุรีนี่อยู่ติดกับเพชรบูรณ์ใช่ไหมเนี่ย?
"ไม่ต้องห่วงหรอกนะต้น ผมสบายมาก คืนวันจันทร์นี้เจอกันที่สวนดีมั๊ยต้น?"
"ก็ได้ครับ" ตอนนี้เริ่มได้ยินเสียงคนจอแจกับเสียงเครื่องยนต์ดังหึ่มๆ
"รถออกแล้วต้น ผมต้องวางหูแล้วครับ ถึงกรุงเทพฯ แล้วจะโทรหานะ"
"เดี๋ยวๆ กริช!"
"หืม?"
ขอเอาคืนหน่อยเถอะทำตัวให้คนอื่นเป็นห่วงทั้งวันแบบเนี้ย! มองซ้ายขวาไม่มีใครอยู่หน้าห้องผมแน่ๆ สูดหายใจเข้าลึกๆๆๆ
"ต้น รัก กริช ครับ"
ครั้งที่แล้วพลาดไปหน่อยแต่คราวนี้เนื้อๆ เน้นๆ และดูเหมือนกริชจะเขินอย่างแรงไม่ยอมพูดต่อเลย นึกภาพกริชที่หน้าแดงบนรถทัวร์แล้วสะใจพิลึก
ได้ยินแต่เสียงขำๆ เขินๆ แล้วสัญญาณก็ขาดหายไป ผมเองก็เขินเหมือนกันวุ้ย! ไม่กล้าไปแปรงฟันแล้วเดี๋ยวพี่เห็นผมหน้าแดง นอนเลยดีกว่า
*************************************************************************************************
*************************************************************************************************
เช้าวันจันทร์วันนี้ผมตื่นเร็วเป็นพิเศษเพราะใจมันเตลิดไปถึงตอนค่ำเรียบร้อยแล้ว อยากเจอกริชมากๆ พอใส่รองเท้าเรียบร้อยแล้วก็รีบวิ่งไปขึ้นรถสองแถวทันที วันนี้ผมใช้เข็มสีทองของกริชแทนของตัวเอง รู้สึกอบอุ่นใจเหมือนเขามาอยู่ข้างๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว (แต่ตัวจริงน่ะอย่าเพิ่งมาอยู่ข้างๆ ตอนนี้นะอาจหัวใจล้มเหลวได้)
ตลอดวันนี้ผมเรียนสนุกขึ้น คงเพราะอ่านมาล่วงหน้าเตลิดไปจนถึงม.5 เทอมหนึ่งแล้ว กริชครับ...ผมใกล้กริชเข้าไปทุกทีแล้วนะครับ
ภาพผมและกริชในชุดนิสิตสีขาวขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนท้ายกันนั้นไม่ไกลเกินฝันแล้ว....เอ่อ อาจจะไกลก็ได้ คะแนนจุฬานี่สูงปรี๊ดเลยนี่หว่าไม่ได้เจียมตัวเลย
ใจเแป้วลงเล็กน้อยแต่ยังไงผมต้องเอ็นท์ฯให้ติดสักที่แล้วกลายเป็นเด็กมหาลัยให้ได้แม้จะอยู่ต่างสถาบันก็ตาม แต่ตอนนี้เอาเรื่องตรงหน้าให้รอดก่อนเถอะ
"ต้นๆ กินข้าวเที่ยงเสร็จยัง?" เสียงพี่โจ้มาทักแต่ไกลทำเอาหัวใจผมหล่นไปตาตุ่ม
"เสร็จแล้วครับพี่"
"ดีเลย นี่พี่นพนะ เขาคุมเรื่องอุปกรณ์เชียร์ของสีเราน่ะ" พี่นพตัวสูงกว่าผมนิดหน่อย ใส่แว่นกลมหน้าตาเด็กเรียนมาก จะเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่กริชก็พอ
"สวัสดีครับพี่นพ" "สวัสดีครับน้องต้น"
"พอดีพี่เขาจะไปย้ายของนิดหน่อยน่ะแต่พี่ไม่ว่างเลยอยากให้ต้นไปช่วยพี่นพเขาหน่อยนะ"
"ด...ได้ครับ"
"ลำบากหน่อยนะน้องต้น"
.....ไม่หน่อยล่ะครับ ผมเริ่มสังหรณ์ใจแปลกๆ ตอนนี้คิ้วซ้ายเริ่มกระตุกแล้ว
แล้วพี่โจ้ก็วิ่งเข้าไปในโรงอาหาร ผมเดินตามพี่นพเงียบๆ พี่เขาชวนคุยอะไรมาผมก็พยายามตอบสั้นๆ แต่ทางที่เราสองคนกำลังเดินไปนี่มัน.....
"ไกลหน่อยนะ ของอยู่ตึกโน้นน่ะ" มองตามนิ้วพี่ท่านไปแล้วขาผมพาลจะหมดแรงเอาดื้อๆ ก็แถวนั้นมัน....!!!
"พี่นพครับ ผมรู้สึกไม่สบายน่ะครับ"
"ช่วยพี่แปบนึงนะ ไม่ค่อยมีใครยอมมาช่วยซะด้วย ถือว่าช่วยสีแดงของเราละกันนะน้อง"
"ก็....ก็ได้ครับ" .....ตรูล่ะเกลียดคำนี้จริงๆ
แผนปลีกตัว A ไม่สำเร็จทำไงดีฟระ? เครียดแล้วนะเนี่ย ยิ่งเดินก็ยิ่งใกล้เขตอันตรายที่ผมพยายามเลี่ยงมาตลอด ขึ้นมาชั้น2 แล้ว ขึ้นชั้น 3
.....ตายห่าแล้วๆๆๆๆ.....คงไม่ใช่ห้องนั้นนะ....
"ห้องสุดระเบียงด้านโน้นน่ะครับน้อง อีกนิดเดียวคงยังไม่เหนื่อยนะ"
ห้องสุดระเบียง....ห้อง 6/1....ห้องคิง.....ห้องประจำชั้นของกริช
.....................................
-
:o
ความลับแตกง่าย ๆ เลยเหรอ
ต้องมีอะไรอีกแน่ ๆ :m5:
-
:m22: เง้อออ สวรรค์ดปรด ขอให้ต้นรอดกลับมาด้วยเถอะ :o12:
-
:impress:
โอ้ พระเจ้า ได้โปรด
อย่าเพิ่งให้ได้เจอกันเลย
o15
เป็นกำลังใจให้ และ รออ่านต่อไปครับ
-
เพชรบุรีนี่อยู่ติดกับเพชรบูรณ์ใช่ไหมเนี่ย?
หุหุ ไม่ใช่ ติดกำแพงเพชรต่างหาก :a5: :a5:
-
:m22: :m22: ค้าง.................................
เหอๆๆๆ ลุ้นน่อลุ้นๆๆ :a1:
รออ่านตอนต่อไปอยู่น้อ :a2:
-
หวังว่าความลับคังยังไม่แตกนะครับ
เอาใจช่วยครับ
:impress: :impress: :impress:
[attachment deleted by admin]
-
..........หลบต่อไป.........คงสนุกดี......... :laugh: :laugh: :laugh:
-
ตอนที่ 13
มิน่าไอ้พี่โจ้ถึงพยายามโยนขี้ให้ผมเหลือเกิน ที่แท้ก็ไม่อยากเจอหน้ากริชนั่นเอง หารู้ไม่ว่าผมนี่สิที่ไม่อยากเจอเขามากกว่าอีก เวรล่ะตรูจะทำไงดีเนี่ย?
แผน B แกล้งตกบันได.....เอ่อ สูงว่ะ....ถ้าแกล้งก็กลัวจะตกจริงๆน่ะสิ เจ็บตัวแหงๆ ดีไม่ดีพี่ม.6 แห่กันมาดูอีก
แผน C ....ไม่ทันแล้ว ขึ้นมาถึงระเบียงชั้นม.6 แล้ว
ใครเคยเดินผ่านห้องประจำชั้นของรุ่นพี่ในโรงเรียนคงรับรู้ได้ถึงความกดดันบางอย่างเหมือนพลังของความเป็นรุ่นพี่อะไรแบบนั้น
ตอนนี้ผมรู้สึกได้เต็มๆ แถมรุนแรงกว่าหลายเท่า เห็นพี่ม.6 เดินออกมาจากห้องทีนึงผมก็สะดุ้งแล้ว ขวัญเอ๊ยขวัญมา ตอนนี้จะขวัญหรือเรียมใครก็ได้มาช่วยตรูที
"ห้องนั้นเป็นห้องคิงน่ะ มีคนเอ็นท์ฯ ติดตอน ม.4 ม.5 เกือบ 20 คนแน่ะเลยกลายเป็นห้องที่โล่งที่สุด อุปกรณ์ทั้งหมดของสีแดงเลยเก็บที่ห้องนี้"
คำพูดของพี่นพทำให้หัวใจผมเจ็บยังกะถูกบีบรัด
....ต้องเรียนซ้ำชั้นคนเดียวในโรงเรียน อยู่ในห้องโหรงเหรงที่มีคนสอบเทียบเอ็นท์ฯ ติดไปก่อนจบม.6 เกือบยี่สิบคน.....
....นั่งเรียนกับรุ่นน้องทุกวัน กับอุปกรณ์กีฬาสีกองเต็มห้อง กีฬาสีที่ตนเองไม่มีโอกาสได้ร่วมอีกแล้ว...
....ความฝันของพี่สิงห์...ความฝันของกริช....ความฝันที่ผมทำลายเองกับมือ...ผมที่บอกว่าจะเป็นโลกให้เขา แต่กลับไม่เคยรู้เลยว่ากริชต้องเจ็บปวดทุกวันขนาดนี้.....
"น้องเป็นอะไรเหรอครับทำไมตาแดงๆ?"
"....ฝุ่นเข้าตาครับพี่"
"งั้นหลับตาสักพักนึงนะ รอตรงบันไดนี่แหละพี่จะเอาของออกมาให้ แล้วต้นช่วยยกลงไปข้างล่างละกัน"
"ขอบคุณครับ"
.....กริชทนอยู่ในห้องนั้นได้ยังไง ทนกับความบีบคั้นจิตใจแบบนี้ทุกวัน แค่คิดน้ำตาผมก็เอ่อขึ้นมาแล้ว....
ไม่ใช่! นี่ไม่ใช่เวลาสำออย น้ำตามันแก้ไขความผิดพลาดไม่ได้หรอก ความพยายามจะสร้างอนาคตของผมกับกริชต่างหากที่ผมต้องการในตอนนี้
แล้วสักวันผมจะได้เรียกชื่อเขาในโรงเรียนได้เต็มเสียง
"กริช!" ...เอ่อ...ตรูไม่ได้เรียกนะ....แล้วใครเรียกล่ะ?
"กริชไปไหนมา? ออกไปนอกโรงเรียนมาเหรอ?"
"อืม ไปเอาของนิดหน่อยครับ"
แว๊ก! นั่นๆๆ กริชกำลังเดินขึ้นบันไดมา ตายห่าแล้วๆๆๆๆ ผมรีบเดินเลี้ยวไปอีกทาง เวรล่ะ! ระเบียงด้านนี้โล่งยาวเลยขืนเดินต่อไปกริชเห็นด้านหลังผมแน่
โชคดีมีห้องนึงโล่งๆ รีบหลบเข้าไปเลย หยิบๆ จับๆ ไม้กวาดมุมห้องตบตาไปก่อน
"ไม่รอไปตอนเย็นล่ะ?"
"อยากดูเร็วๆ น่ะว่าจะออกมาดีหรือเปล่า"
"อะไรเนี่ย? ฝนขอดูได้มั๊ย?"
"ไม่ได้หรอกครับ ผมมีคนแรกที่จะให้ดูของนี่แล้วครับ"
"อิจฉาคนมีแฟนจริงๆ ไม่ต้องย้ำบ่อยก็ได้ย่ะ เดี๋ยวคนอื่นนึกว่าฝนจีบกริชอยู่ละแย่เลย"
คนแรก...หมายถึงผมหรือเปล่า (ไม่ได้เข้าข้างตัวเองเล๊ยตรู) อยากจะชะเง้อไปดูแต่ก็กลัว ไม่เป็นไรคืนนี้ก็ได้ดูแน่ แต่ที่อยากดูจริงๆ คือกริชในชุดนร.ต่างหาก
ผมมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินไปไกลแล้วแต่กริชไม่ได้เดินกลับห้อง เขาเดินเลี้ยวไปอีกทาง.....เหมือนกริชไม่อยากอยู่ในห้องนั้นสักเท่าไหร่
คิดแค่นั้นแหละเหมือนหัวใจมันฟีบตัวลงจนเจ็บเลย
หันไปทางห้อง 6/1 พี่นพกำลังถือถุงเต็มสองมือเดินออกมาจากห้องพอดี ตายห่าละเกิดพี่แกตะโกนเรียกชื่อผมคงจบเห่!
ผมรีบเดินกลับมาตรงโถงบันได อย่างน้อยพี่นพคงไม่แหกปากเรียกผมทั้งที่ยังไม่เห็นตัวแน่
"นี่ครับน้อง ช่วยถือลงไปที่ห้องพักอาจารย์หมวดศิลปะหน่อยนะ พวกพี่กำลังจะย้ายของกีฬาสีไปห้องนั้นแทนน่ะ คุยกับอาจารย์ไว้แล้ว"
"ได้ครับ!"
ย้ายของออกแบบนี้กริชก็ไม่ต้องเห็นของแสลงใจพวกนี้ในห้องเรียนของเขาอีกแล้วสิ แบบนี้ผมสู้ขาดใจเลย
จะให้วิ่งขึ้นลงชั้นหนึ่งชั้นสามกี่รอบ ของหนักแค่ไหนก็ไม่ยั่น ถึงจะเสียวนิดๆ ก็เถอะแต่เพื่อเขาผมสู้สุดตัวอยู่แล้ว
"ยังมีอีกมั๊ยครับพี่?"
"อืม ของที่จะใช้ด่วนก็เอามาหมดแล้ว ส่วนที่เหลือต้องรอถามทีมงานเขาก่อนว่าอันไหนจะย้ายได้อีก"
"รีบย้ายมารวมกันที่ห้องศิลป์เลยดีกว่านะครับจะได้ไม่สับสนว่าอันไหนเก็บห้องไหน"
"ความคิดดีนะ พี่เพิ่งรับแบ่งงานมายังงงๆ อยู่เลย ขอบใจนะน้องต้น เหงื่อซ่กเต็มตัวเลย"
"ไม่เป็นไรครับ"
ชักรู้สึกออกหน้าออกตาไปแล้วตรู อยู่เงียบๆ ไว้ดีกว่า พอออดคาบห้าดังบวกกับพี่นพไล่นั่นแหละถึงจะยอมกลับห้อง
ถึงจะย้ายออกมาไม่หมดแต่คงทำให้กริชรู้สึกดีขึ้นไม่เหมือนที่ผ่านมาได้บ้างละน่า ขอโทษนะครับตอนนี้ผมทำได้แค่นี้เท่านั้น
"ไปไหนมาวะต้น?"
"ช่วยพี่สีแดงย้ายของนิดหน่อยน่ะ"
"ไม่หน่อยแล้วมั้งเหงื่อเต็มตัวเลย น่าจะเรียกกรูไปช่วยนะ"
เม้งเป็นห่วงผมอีกละ เพื่อกริชแค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำแต่เริ่มง่วงแล้วล่ะ คาบห้ายังพอฝืนลืมตาได้แต่คาบหกก็จบเห่
หัวพาดโต๊ะแล้วก็ค่อยๆ เคลิ้มไปเข้าเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อย
"ขอโทษนะครับ ผมขอโทษ .....พี่เป็นอะไรรึเปล่า....ผมขอโทษ ...ฮึกๆ ....ผมขอโทษ ...."
"นายอย่ายื่นตัวออกมา!"
"ผมขอโทษครับ....ผ...ผมขอโทษ...."
"นายอย่าร้องไห้ดิ พี่ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย ฮะฮะฮะ"
ตรูแค่ตกน้ำทำไมต้องร้องไห้ขนาดนี้ฟระ? อย่าร้องดิตรูแพ้น้ำตา!
ผมดึงตัวเขามากอดไว้ทั้งที่ตัวผมเองยังเปียกโชก ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรแค่อยากปลอบให้หยุดร้องแต่สัมผัสอุ่นๆ จากตัวเขาทำให้ใจผมเต้นแรง
"ผมขอโทษนะครับ ...ฮึกๆ ผมสัญญาจะไม่..." ใบหน้ามอมแมมเปื้อนน้ำตาที่อยู่ระดับบ่าของผมนั่นน่ารักจริงๆ เส้นผมนุ่มไม่เหมือนเด็กม.2 เลยแฮะ
.....ตึกๆๆๆๆๆ ....น้องนะโว้ยน้อง....ศีลธรรมอันน้อยนิดบอกอย่างนั้นแต่แขนดันกอดน้องเขาแน่นขึ้นอีก
"พี่ไม่เป็นอะไรจริงๆ นะครับ อย่าร้องไห้นะ"
ผมหลับตาซุกหน้าลงที่หัวเขาเพื่อปลอบใจ เขาเงยหน้าขึ้นมาจังหวะเดียวกัน ปากของผมแตะลงที่หน้าผาก.....
"ไอ้ต้นๆ หมดคาบแล้ว ตื่นได้แล้ว"
"เอ๋อ....ก...กรูหลับไปเหรอเม้ง?"
"เออดิ มรึงคงเพลียมั้งนอนละเมออะไรงึมงำๆ ไม่สบายป่าววะหน้าแดงๆ"
"เปล่าๆ งั้นกรูไปล้างหน้าก่อนนะ"
ผมรีบลุกออกจากห้องเพราะไม่อยากให้เม้งสังเกต ที่หน้าแดงน่ะเพราะความฝันนั่นตะหาก แต่คงเล่าให้เม้งฟังไม่ได้หรอกเดี๋ยวมันแซวว่าผมหื่น
อะไรกันว้า....ตอนเที่ยงยังเห็นกริชอยู่เลยแล้วทำไมดันฝันกลางวันถึงเรื่องนั้นซะได้ หรือตรูมันคนหลายใจจริงๆ ฝันติดกันสองครั้งแล้วนะ
"ต้น เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งไป"
"มีอะไรเหรอ?"
เม้งไม่ตอบแต่ชี้มือแทน "มรึงตื่นน่ะดีแล้ว แต่ทำให้ไอ้นั่นของมรึงหลับก่อนดีกว่ามั้ง"
เจ้ดเข้! มิน่าเดินลำบาก! ค้ำออกมาเป็นลำเชียว! ผมรีบนั่งกลับเข้าที่เอามือกดเป้าไว้ก่อน ความฝันนั่นไม่ใช่แค่ทำให้จิตใจไหวหวั่นแต่สมองส่วนล่างก็บี้ป่วน
"หึหึ ต้นมรึงนี่กามจริงๆ ฝันเปียกในห้องเรียนก็ได้วุ้ย ฝันถึงใครวะ?"
"ไม่รู้ว้อย!"
ผมก็ไม่รู้ว่าน้องคนนั้นคือใคร ที่แน่ๆ นั่นคือจูบแรกของผมเมื่อนานมาแล้ว อุ๊ก! พอเริ่มคิดเรื่องนั้นบางสิ่งที่ใกล้จะสงบกลับมีปฏิกิริยารุนแรงขึ้นไปอีก
ผมขยับตัวเข้าชิดโต๊ะเอามือกดมันไว้แน่น ล้างน่งล้างหน้าอะไรไม่ต้องแล้วตอนนี้
ไอ้เม้งทำหน้าขำ ขำเจรี้ยไรมึงน่ะ "ไอ้หื่น ไอ้บ้ากาม!"
"มรึงอย่าเป็นบ้างก็แล้วกัน" ยิ่งกดเจ้าหมูยอก็ยิ่งคึกใหญ่
"ถามจริงเหอะ กี่นิ้ววะต้น? ตุงค้ำกางเกงซะขนาดนั้น"
"แสรด! อย่าดิวะ!!! เดี๋ยวกรูต้องลุกไปส่งการบ้านหน้าห้องคาบเจ็ดนะมรึง"
"ก็ดีดิ มรึงจะได้เกิด"
.........................
-
:impress:
แหม มันจะตื่นตัวขนาดนั้นเลยหรือเนี่ยนายต้น
แต่เอ๊... นายต้นฝันถึงใครอยู่
แค่เรื่องโกหกยังไม่พอ ยังจะมีเรื่องน้อง ๆ อีก
:a11:
-
...........เจ้าชายแสนดี...กับองค์หญิงจอมหื่น...... :m20: :m20: :m20:
-
ต้นฝันถึงครายหว่า เป็นจูบแรกซะด้วย :m7: :m7:
-
คงไม่ได้คิดจะนอกใจกริชหรอกนะต้น งิงิ :m10:
-
:m11: :m4: 555555 ฝันจะเปียกแย้ว :m26:
-
ต้นใจเย็นๆ ฝันอะไรแปลกๆคงไม่ใช่ลางบอกเหตุนะ แต่ต้นนี่โชคดีนะ แคล้วคลาดตลอด
-
:m5:มาลงให้ทีเถอะครับอยากอ่านต่อแล้ว :m5: :m17: :m15: :m8:นะคราบบบ o1
-
ช่ายคับ มาลงต่อเถอะคับ อยากรู้ใจจะขาดแล้วคับว่าใครคือจูบแรกของนายต้น o14
-
เมื่อไรจะมาต่อครับ อยากอ่านมาก ๆ เลย :give2:
ดำเนินเรื่องสนุกสุด ๆ มาต่อเร็ว ๆ น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา :m5: :m5: :m5: :m5: :m5:
จงมาด่วน เพี้ยง :amen:
-
:call: :call: :call: :call:
จงมา จงมา
-
ตอนที่ 14
กำลังจะผ่านไปอีกวันแล้ว
ผมดูปฏิทินใบจิ๋วในมือใต้แสงไฟในสวนข้างห้างเอ็มโพเรี่ยม วันนี้วันเดียวก็เหนื่อยขนาดนี้แล้วจะรอดตัวไปจนถึงกีฬาสีเหรอ?
ตอนนี้มีพี่ม.6 รู้จักผมเพิ่มขึ้นอีกคนแล้วความเสี่ยงก็ยิ่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ผมมองนาฬิกาสีฟ้าน้ำทะเลที่กริชซื้อให้ .....ผมจะโกหกคนที่ผมรักไปอีกนานแค่ไหน...
แต่แค่คิดว่ากริชอาจจะโกรธ ใจผมก็เจ็บยิ่งกว่าอะไรดี.....ถ้าผลลัพธ์เป็นอย่างที่ผมกลัว....
"ต้น มานานยัง?" กริชวิ่งกระหืดกระหอบเข้าประตูรั้วมาแล้ว
แวบหนึ่งผมเห็นภาพกริชในชุดนักเรียนเพราะถือถุงแบบเดียวกับเมื่อตอนกลางวันเล่นเอาหวิวๆ นึกว่าแผ่นดินกรุงเทพฯ ทรุดอีก
"เราเพิ่งมาได้แปบเดียวน่ะครับ"
"ผมมีของฝากต้นด้วยนะ แต่เดินเล่นกันก่อนละกันนะ"
เราสองคนเดินไปตามทางในสวนผ่านรูปปั้นสีทองกับหินแกะสลัก ตรงลานทรายมีชิงช้าด้วย เห็นแล้วอดไกวเล่นไม่ได้แต่ผมต้องหยุดมือเพราะกริชยืนขำ ขำอะไรเล่า?
บรรยากาศเย็นๆสบายดี ตอนนี้สองทุ่มฟ้ามืดแล้วแทบไม่มีคนอื่นในสวนเลย กริชเดินช้าๆ ไปเรื่อยเหมือนจะหาที่นั่งเหมาะๆ จนถึงลานโค้งข้างสระน้ำ
"ทานขนมมั๊ยต้น? อันนี้ของขึ้นชื่อเมืองเพชรเลยนะ"
เขาแกะขนมพลางนั่งลงริมน้ำ ผมนั่งลงข้างๆ ชิดกับกริช เขาหันมาอมยิ้ม "ต้นเป็นอะไรหรือเปล่า?"
"ทำไมเหรอครับ?"
"วันนี้ดูอ้อนเป็นพิเศษนะ"
"ฮะฮะ ก็เราคิดถึงกริชนี่ครับ" ผมอยากจะแบ่งเบาความทุกข์ของเขาแต่ตัวผมกลับทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
"ผมก็คิดถึงต้น อยากอยู่กับต้นทุกวัน ครั้งที่เรานั่งดูท้องฟ้าด้วยกันคราวนั้นผมมีความสุขมากนะ"
กริชหยิบซองกระดาษใบใหญ่ออกมา "ต้นหลับตาแปบนึงนะ.....แล้วเราสองคนจะไปบ้านเกิดของผมด้วยกัน"
ผมหลับตา ปล่อยให้อ้อมแขนเขาโอบไหล่ผมไว้ "ลืมตาได้ละ"
ภาพถ่ายใบใหญ่ชูอยู่ตรงหน้า เป็นภาพพระอาทิตย์ลับทิวเขาเหนือแอ่งน้ำใหญ่
"สวยมั๊ยต้น? พระอาทิตย์ตกดินที่แก่งกระจาน ผมถ่ายเองกับมือเลยนะของจริงสวยกว่านี้อีก"
ผมเงยหน้ามองกริชสลับกับรูปตรงหน้า ตาเขาใสเป็นประกายเวลาบรรยายถึงบ้านเกิด
....ภูเขา ผืนน้ำ ป่าทึบ....กริชไม่ลืมสิ่งที่ผมเคยพูดตอนอยู่ที่ท้องฟ้าจำลอง
"เอาล่ะ ย้ายไปหาดเจ้าสำราญกันบ้าง ที่นี่ขึ้นชื่อนะต้นเคยไปมั๊ย?" ผมส่ายหน้า ไม่เคยไปเลยทั้งสองที่ เพิ่งรู้วันนี้นี่แหละว่าอยู่เพชรบุรี
"กริชถ่ายเองเหรอครับ?"
"อืม ยืมกล้องของพ่อมาน่ะ ผมอยากถ่ายเองจะได้เหมือนนั่งอยู่ที่นั่นพร้อมๆ กับต้นไง"
"แล้วสองที่นี่อยู่ใกล้กันเหรอครับ?"
"ไกลพอสมควรเลยล่ะ"
"งั้นที่กริชขึ้นรถทัวร์ช้า...."
"แหะๆ โดนจับได้ซะแล้ว ผมมัวแต่รอถ่ายพระอาทิตย์ตกดินที่หาดเลยขึ้นรถทัวร์ซะค่ำเลย"
"ข...ขอโทษนะครับเพราะเรา ทำให้กริชต้องลำบาก" ผมจับมือเขาที่กุมไหล่ผมไว้ อยากขอโทษกริชที่ต้องลำบากเพื่อผมขนาดนี้
"ไม่ลำบากหรอก ถ้าต้นชอบนะผมทำให้ได้เสมอ บอกแล้วไงว่าจะเก็บตะวันเมืองเพชรมาฝาก"
กริชเก็บยื่นรูปถ่ายทั้งสองใบลงซองให้ผมรับมาถือไว้ ภายในนี้นี่คือส่วนหนึ่งจากบ้านเกิดของเขาที่ต้องการมอบให้ผม
"ขอบคุณครับ" เสียงที่แผ่วเบาที่สุดของผมแต่กริชคงได้ยิน เขาบีบมือผมแน่นขึ้น
"ลมเริ่มแรงแล้วล่ะหนาวด้วย ต้นอยากไปเที่ยวที่ไหน หรืออยากดูหนัง?"
"ไม่เอาหรอกครับ เราไม่ค่อยมีตังค์"
"ผมเลี้ยงเอง เจ้าหัวเม่นตัวกระเปี๊ยกเดียวแค่เนี้ยเลี้ยงไหวอยู่แล้ว" แน่ะ! ขยี้หัวอีกละ
"สูงตั้ง 170 แล้วนะ ไม่ได้ตัวกระเปี๊ยกนะครับ" กริชนั่งขำที่เห็นผมพยายามปัดผมให้เข้าที่
"ต้น....ต้นไม่ต้องสุภาพกับผมขนาดนั้นก็ได้นะ"
"หมายความว่ายังไงครับ?"
"ก็คำว่า ครับ นั่นไง"
"ฮะฮะ ก็กริชอายุมากกว่าผมนี่ครับ" ผมพยายามขำแต่เขาไม่ขำด้วยแฮะ
"ตอนนี้ต้นไม่ได้ทำงาน....อย่างนั้นแล้วนะ ต้นไม่จำเป็นต้องสุภาพกับผมก็ได้"
"เราไม่ได้ลำบากใจนะกริช เราชอบกริชจริงๆ อยากอยู่ใกล้ๆ กริชตลอดเวลาเลยนะครับ"
"จริงๆ นะ!?" กริชยิ้มกว้าง ผมชอบหน้าเขาเวลานี้ที่สุด
"ผมดีใจนะที่คืนนี้เราได้คุยกันได้เข้าใจมากขึ้น จริงๆ แล้วผมก็ชอบนะเวลาต้นพูดแบบนั้น รู้สึกเหมือนเราเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันเลย"
....ประโยคสุดท้ายทำเอาผมใจเต้นแรง....อาจจะแรงจนกริชรู้สึกได้
..
..
..
-
:laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
ดีใจจังมาเป็นคนแรก
-
:impress:
ความจริงค่อย ๆ เปิดเผย
รออ่านต่อไปครับ
o15
-
สวีทหวาน ...... อิจฉาอ่ะ
-
.............ซักวันเราจะรักกัน....อย่างเปิดเผย.......... :undecided: :undecided:
-
เอาละซี จะสารภาพมั๊ย :m17: :m17: :m17:
-
บอกๆไปเถอะ :m26:
-
อยากให้ต้นบอกความจริงกริชอ่ะไม่อยากให้กริชเจ็บปวดทีหลัง
-
ถ้าบอกความจริงออกไป อาจดีกว่าที่เขามารู้เอง
:m17: :m17: :m17:
-
โอ๊ย!! ตื่นเต้นๆ เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป อยากรู้งิ
รออ่านต่ออยุนะจ๊า!! :m3:
-
:impress: :impress: จะเป็นไงต่อไปละเนีย
-
จงมา จงมา :call: :call: :call:
-
:เฮ้อ:
มะไหร่ จาบอกซักทีนะ นัยต้น :m16:
-
:impress:
หายไปไหนหนอ
รออ่านอยู่นะครับ
o15
-
อ่านะ....บทจะหวาน....ก้อหวานซ้า
ม่ะรุว่าจะมีเรื่องขมขื่นตามมาอ่ะป่าว..... :เฮ้อ:
-
อะไรบางอย่างกำลังกระตุ้นให้ผมเอ่ยปาก ...เพราะสิ่งต่างๆ ที่เขาทำเพื่อผม ....เพราะลมหนาวที่พัดมาให้รู้สึกว่าอ้อมแขนเขาอุ่นขึ้น...
หรือเพราะความเจ็บปวดที่กริชได้รับทุกวัน ความเศร้าที่ผมได้สัมผัสยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิด ผมปล่อยให้เขารอมาตลอด
ก่อนที่ผมจะหลอกเขามากไปกว่านี้เขาควรจะรู้จากปากผมเอง....
"กริชครับ"
"หืม?"
".....ถ้าเรา...." ผมบีบมือเขาแน่น ขอความกล้าให้ผมสักนิดเถอะนะกริช ให้ผมกล้าเอ่ยปากพูดสิ่งนี้
ผมมันโง่คิดแต่เรื่องจะขอโทษด้วยเหรียญทอง...สิ่งที่กริชต้องการอาจไม่ใช่คำขอโทษแต่เขาควรได้รับรู้ว่าผมคนนี้พร้อมแล้วที่จะร่วมแบ่งปันความทุกข์ของเขา
....จะไม่ปล่อยให้เขาว้าเหว่อีกแล้ว แม้ว่าเขาจะโกรธหลังจากได้รู้ความจริงในวินาทีต่อจากนี้ก็ตาม
"ต้นมือเย็นจัง เป็นอะไรรึเปล่า?"
กริชจะโกรธผมก็ได้ จะเกลียดผมก็ได้ จะต่อว่าผมก็ยอม....ขอแค่อย่าให้ความคิดโง่ๆ ของผมต้องทำร้ายกริชอีกเลย...
ไม่ไหวแล้วคอมันตีบตันไปหมด ....พูดออกไปสิโว้ย! บอกให้เขารู้ไปเลย! ขอความกล้าอีกนิดเดียวให้ผม....
"เรา...เป็นรุ่นน้อง....."
รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง รู้ว่าเหนื่อยถ้าอยากได้ของที่อยู่สูง
เสียงเรียกเข้าของกริชทำเราสองคนผงะ กริชมองหน้าจอเก้ๆ กังๆ ไม่รู้จะรับสายก่อนหรือจะฟังผมพูดก่อน
"ก...กริชรับโทรศัพท์ก่อนก็ได้ครับ" ผมพยายามปั้นหน้ายิ้มให้เป็นปกติทั้งที่ในใจเครียดจะแย่แล้ว ไม่รู้ว่าโมโหหรือโล่งใจที่โทรศัพท์นั้นดังขึ้น
แต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ กริชยังใช้เพลงที่ผมร้องให้เขา
....คงเป็นธุระส่วนตัว....ผมลุกออกให้กริชคุยได้สะดวกแต่เขายิ้มและดึงมือผมไว้
"ไม่ต้องลุกไปไหนหรอก ต้นเป็นคนพิเศษของผมนะ"
"ฮัลโหล กริชได้ยินรึเปล่า?"
"เออๆ ฟังอยู่ มีอะไรเหรอ?"
"นายไม่อยู่บ้านเหรอ? ปิดไฟมืดเชียว"
"เราออกมาเที่ยวกับแฟน" พูดแล้วหันมายักคิ้วให้ผมอีก พูดซะเต็มปากเต็มคำแบบนี้อายนะว้อย!
"เฮ้ย! วันๆ เห็นแต่นายอ่านหนังสือ ไปมีแฟนตอนไหนว้า?"
"บุพเพสันนิวาสเฟร้ย! ว่าแต่อยู่หน้าบ้านเราเหรอ? มีเรื่องอะไรล่ะ?"
"หาอาจารย์ติวได้แล้ว นายรีบกลับมาได้มั๊ยจะได้ตกลงกันคืนนี้เลยเดี๋ยวใครแย่งตัวไป"
"เหรอ? เออๆ เดี๋ยวเรารีบไป อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกัน" กริชวางสายแล้วถอนหายใจ อาจารย์ติวอะไร?
"ขอโทษนะต้น กะว่าจะบอกต้นแล้วแต่เพื่อนผมดันโทรมาก่อน นี่ต้องรีบกลับบ้านอีก"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่มีเรื่องอะไรเหรอฟังดูเร่งรีบจัง?"
"ผมกับเพื่อนรวมกันจ้างอาจารย์ติวน่ะ เตรียมสอบโควต้าจุฬาปลายเดือนหน้า อาจารย์ดีๆที่รับติวตามบ้านหายากมาก
ผมต้องรีบกลับไปคุยกับเพื่อนแล้วนัดวันคืนนี้เลยไม่งั้นโดนคนอื่นแย่งแน่"
"ก็ดีน่ะสิครับ ถ้าได้โควต้าก็ไม่ต้องเครียดเรื่องสอบเอ็นท์ฯ" แต่หน้าตาเขากลับดูกลุ้มใจ
"ดีน่ะมันก็ดีอยู่หรอกแต่....."
กริชเอนหลังลงบนพื้นปูน "กลุ่มผมสี่คนตกลงกันว่าจะค้างติวที่บ้านผมตลอดจนกว่าจะสอบเลยน่ะสิ"
"โห! ตั้งใจขนาดนั้นเลย"
"อืม สำหรับม.6 การเอ็นท์ฯมันเครียดมากนะ เหมือนฟางเส้นสุดท้าย ผมไม่รู้จะทำยังไงตอนเอ็นท์ฯ ครั้งนี้ ....ยิ่งผ่านเรื่องนั้นมา...."
ผมกุมมือเขาไว้ ในแววตาเขายังมีความเจ็บปวดจากหนึ่งปีก่อนซ่อนอยู่ ความเจ็บกับเวลาหนึ่งปีที่เสียไปมันไม่มีวันลบลืมได้
"ผมเอ็นท์ฯไม่ได้จุฬามาสองครั้งแล้ว ผมทำให้พ่อแม่ผิดหวัง ถ้าโควต้าครั้งนี้ไม่ติดผมไม่รู้ว่าจะ---"
"เราเข้าใจครับ การสอบครั้งนี้คงสำคัญมาก"
"ตลอดช่วงนี้ผมคงไม่ได้เจอต้นแบบนี้อีก ต้นจะเหงามั๊ย?"
"ฮะฮะ แค่เดือนกว่าๆ เองเราไม่เหงาหรอก ว่าแต่กริชเหอะ..."
.........
.........
"ต้น..."
.........
.........
เขาลุกขึ้นมานั่งซบหน้ากับหัวเข่า "....ผมเหงา ไม่มีใครที่ผมจะคุยด้วยได้เลย"
ก่อนจะทันตั้งตัวกริชก็กอดผมไว้แน่น "ไม่มีใคร....ไม่มีใครเข้าใจผมสักคน! ผมเป็นเด็กซ้ำชั้นคนเดียวในโรงเรียน มีแต่คนถามว่าทำไมๆ......"
กริชยิ่งกอดแน่นขึ้น "กับพ่อแม่ผมยังพูดเรื่องนี้ไม่ได้เลย...ไม่มีใครที่เข้าใจผมจริงๆ ผมบอกใครไม่ได้เลย....นอกจากต้น...กับ...."
".....กับพี่สิงห์ใช่มั๊ยครับ?"
ในโลกนี้มีแค่ผมกับพี่สิงห์ที่เข้าใจความรู้สึกของกริช แต่กริชไม่สามารถพบเขาได้อย่างที่เคยเป็นอีกแล้ว....ช่างเป็นโลกที่ว้าเหว่เหลือเกิน
"ข...ขอโทษนะต้นที่ผมพูดถึง..."
"ผมไม่หึงหรอกครับที่กริชคิดถึงพี่สิงห์ เราเองยังอยากเจอพี่เขาเลย"
ผมยิ้มให้กริช ถ้าสิ่งที่เขามอบให้พี่สิงห์คือน้ำตา สิ่งที่ผมจะให้กริชคือรอยยิ้มแม้มันจะสมานแผลใจนั้นไม่ได้
ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากเจอพี่สิงห์ อยากเล่นบาสด้วยสักครั้ง ผมไม่รู้หากเจอพี่เขาจริงๆ ผมจะรู้สึกยังไงแต่ผมก็นับถือจิตใจของพี่เขาและไม่หวงกริชเลย
"ไม่หึงเหรอ? หึงผมหน่อยสิ?" ....เวลาจะอ้อนใครน่ะเช็ดน้ำตาออกก่อนดิ มองหน้าแล้วปรับอารมณ์ตามไม่ทัน....
"ไม่หึงหรอกครับ จริงๆ นะ"
"เพื่อนผมที่จะติวด้วยกันนี่ก็ผู้ชายหมดเลยน้า ต้นไม่หวงไม่ห่วงผมเลยเหรอ?"
"หวงกริชครับ แต่ห่วงเพื่อนกริช"
"หมายความว่าไงเจ้าเด็กทะเล้น! มาให้เตะก้นซะดีๆ!"
ผมก็วิ่งหนีสิครับ จนกริชไล่กอดหลังผมได้ตรงเกือบถึงประตูทางออกนั่นแหละ ตัวอุ่นๆ ของเขาที่กอดรัด เสียงหัวเราะเสียงหอบและเสียงหัวใจที่เต้นแรง
"ผมต้องคิดถึงต้นมากแน่ๆ ต้น....อย่าทิ้งผมไปไหนนะ"
"พูดยังกับจะไปต่างประเทศ ยังไงเราก็ยังใกล้ๆ กริชนี่แหละครับ" ....ใกล้กว่าที่คิดซะอีก ใกล้มากๆ เลยด้วย
"เพื่อนผมอยู่เต็มบ้านตลอด เสาร์อาทิตย์ก็ค้างที่บ้านด้วย จ้างอาจารย์ตั้งสามคนแน่ะ เราคงไม่ได้เจอกันแบบนี้อีกจนกว่าจะสอบเสร็จ"
"โทรคุยกันก็ได้ครับ ตอนนี้เป็นเวลาสำคัญของกริช เราเป็นกำลังใจให้กริชนะครับ"
"อืม ขอบใจนะต้น"
"กริชรีบกลับบ้านเถอะครับเดี๋ยวเพื่อนจะรอ"
ลมหนาวเริ่มพัดแรงเหมือนจะพรากใครสักคนไปจากมือของอีกฝ่ายที่เกาะกุมไว้....แต่ผมจะอยู่กับกริชเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น....อะไรก็ตาม...
เราสองคนเดินออกจากสวน สถานการณ์ไม่เป็นใจให้ผมสารภาพซะแล้ว ผมไม่แน่ใจว่ากริชจะมีปฎิกิริยายังไง ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากสำหรับกริชซะด้วย
ถ้าได้โควต้ากริชจะได้ลืมความทุกข์เสียที อีกเดือนกว่าๆ เท่านั้นผมรอได้ ตอนนี้ถึงคราวที่ผมจะต้องอดทนบ้าง
"กริช แล้วสอบวันไหนรู้หรือยังครับ?"
"ผมสอบวันเสาร์ที่ 28 เดือนหน้าน่ะ"
ฟิ้วๆๆ...วันเสาร์ที่ 28....เหอๆ....ล้อเล่นใช่มั๊ย....วันนั้นมัน.....
"ต้น....เมื่อกี้ที่คุยค้างอยู่น่ะ ต้นบอกว่าเป็นรุ่นน้องอะไรนะผมฟังไม่ถนัด?" กริชมองมาที่ผมกลางสายลมหนาวที่พัดกระหน่ำ ตายๆๆ ดันจำได้อีก....เมื่อกี้ไม่น่าพูดไปเลย
"เราหมายความว่า...เรา..."
ตอนนี้ผมอยากมีร่มสักคันจะได้ลอยไปตามลมเหมือนแมรี่ ป๊อปปิ้นส์
"....เรา...อยากเป็นรุ่นน้องกริชสักวันน่ะครับ" ....กลิ้งๆๆ กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้....
"ต้นหมายความว่า....จริงๆ เหรอ?!! ต้นตกลงแล้วใช่มั๊ย?!! จะไปเที่ยวโรงเรียนผมจริงๆ ใช่มั๊ย?!!" ไม่ต้องดีใจขนาดนั้นก็ได้
"ครับ....แต่กริชต้องสัญญาว่ากริชจะต้องตั้งใจสอบนะ แล้วเย็นวันเสาร์นั้นเราจะไปโรงเรียนกริชนะครับ"
"ดีเลย วันนั้นกีฬาสีวันแรกด้วยนะต้น ผมสอบเสร็จราวๆ บ่ายสามยังทันดูกีฬานะ คนนอกเยอะแยะต้นเดินในงานได้สบายเลย รับรองต้นต้องชอบโรงเรียนผมแน่ๆ!"
....ชอบเดะ เรียนมาถึงม.4 แล้วนี่ แต่ตอนบ่ายๆ น่ะผมคงกำลังแข่งบาสอยู่นะ.....
"ขอเป็นช่วงหัวค่ำละกันนะครับ ช่วงบ่ายผมไม่ว่าง" ผมยิ้มเจื่อนๆ พยายามต่อรองหาทางออกสุดท้ายให้ชีวิต
"ได้ๆ ตกลงแล้วนะ! ต้นอย่าเบี้ยวนะ! แบบนี้ผมสู้ขาดใจเลย!"
...........................................
-
เหอๆๆๆ.....ความลับจะแตกไหมเนี่ยะ.... :a3:
ทำไมมันลุ้นอย่างงี้ :m3: :m3:
-
เข้ามารอตามหน้าที่คับ
-
เห้อ :เฮ้อ: เกือบได้บอกแล้วเชียว
-
ต้นเอ้ยเกือบไปแล้ว แต่ถ้าจริงๆหากได้บอกความจริงไปแล้วผลก้อคงออกมาอีกอย่างนึงอ่ะนะ
-
ลุ้นแทบจะขาดใจตายใหได้
-
:impress:
:เฮ้อ: จะรอดไหมเนี่ยนายต้นของเรา
รออ่านต่อไปครับ
มาต่อไว ๆ นะ
o15
-
เมื่อไหร่จะบอกควจริงนะต้น
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
รอลุ้นต่อ จะรอจนเมื่อไหร่นะถึงจะบอก :เฮ้อ:
-
ลุ้นสุด ๆ :m5: :m5: :m5:
-
............กริชทุ่มไปทั้งตัวและใจแล้วนะ..........
............หวังว่าจะรับกับเรื่องที่เกิดได้......... :m5: :m5: :m5:
-
ตอนที่ 15
............เฮ้อ......
.....คิดแล้วก็.....เฮ้อ......
....ดูปฎิทิน............เฮ้อ......
.....เห็นเชียร์ลีดเดอร์แล้วก็.....เฮ้อ......
....มองแป้นบาสแล้วยิ่ง......
"เฮ้อ....."
"เฮ้ย! ไอ้เม้งมรึงมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?" เจือกมานั่งเฮ้อๆ รดต้นคอตรูอีก
"ก็ตั้งแต่มรึงถอนหายใจครั้งที่สามนั่นแหละ เป็นอะไรอีกล่ะวันนี้?"
"กรูกลุ้มใจก็ถอนหายใจดิวะ หรือจะให้กรูถอนสายบัวเลย"
"โหย! มุข N - O แล้วก็ O - K.....เก่าแสรดดดด อย่าไปเล่นมุขนี้กับใครนะเดี๋ยวเขานึกว่ามรึงอายุ 30"
จะไม่กลุ้มได้ไงตอนนี้ผมสับสนไปหมดแล้ว จากทีแรกตั้งใจจะเอาเหรียญทองเพื่อกริชแต่กลายเป็นว่าผมนัดเจอเขาในเย็นวันแรกของกีฬาสี
แน่นอนว่าตอนนั้นบาสชายม.ปลายยังแข่งไม่จบแหงๆ ....ยังไงก็เถอะผมตั้งใจแล้วว่าวันนั้นผมจะบอกความจริง.....แต่ไม่มีเหรียญนี่สิ......
"เฮ้อ..."
"ขอบใจเม้ง ช่วยกรูประหยัดแรงถอนหายใจได้เยอะเลย"
ผ่านมาได้เกือบสามสัปดาห์แล้ว มีแค่บางคืนที่ได้โทรคุยกับกริชแต่ก็แค่สั้นๆ อย่างน้อยผมก็ดีใจที่เขามีเพื่อนอยู่รอบตัวตลอดเวลา
ผมนึกถึงคำที่กริชเคยพูด "....อิจฉาเพื่อนต้นจัง ได้อยู่กับต้นตลอดเวลาเลย....." ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าเขารู้สึกยังไง อีกไม่นานความรู้สึกนี้ก็จะจบลง
แต่จบแบบไหนผมก็ไม่รู้ จะคิดมากไปก็เท่านั้น
บางทีชีวิตคนเรามันเหมือนเจ้าลูกบาสในมือนี้....ทำใจให้ว่าง มุ่งมั่นกับของตรงหน้า คิดว่าแป้นบาสมันกว้างมาก แล้วก็ชู๊ต.....
เมื่อทำให้สุดความสามารถ มองโลกในแง่ดีนิดหน่อยแล้วที่เหลือก็ปล่อยให้โชคชะตาทำงานของมันไป คนเราคาดหวังให้ทุกอย่างเป็นอย่างที่หวังไม่ได้หรอก
"อะแฮ่ม! เป็นสามคะแนนที่เจ๋งมาก ....แต่นี่วิชาตะกร้อนะ!"
".....แหะๆ ขอโทษคร้าบอาจารย์"
ดูเหมือนเรื่องที่ต้องทำสุดความสามารถในตอนนี้คือซ้อมเดาะตะกร้อสามสิบทีก่อนไม่งั้นตกวิชาพละแน่
พอจบคาบพละก็ต้องรวบรวมลูกตะกร้อมาใส่รถเข็นไว้สำหรับคาบถัดไป ก็ห้องของเจ้าวิงนั่นแหละ
"ต้น เห็นอาจารย์เดินมาแล้วนะจะไปยัง?"
"......เออๆ ไปละ" ผมกวาดตามองรอบสนามอีกทีแต่ก็ไม่เจอ...
"เออต้น! ยังไม่เห็นผลการแบ่งสายกีฬาเลย ไหนพี่โจ้บอกว่าจะติดกระดานวันนี้วะ?"
"อ๋อ.....เออ....คงบ่ายๆ มั้ง ฝากดูด้วยละกันนะเม้ง" อยากไปดูเองแต่คนคงมุงกันเยอะแยะมันเสี่ยงเกินไป เม้งก็พยักหน้าเงียบๆ
.......
.......
"......เม้ง"
"หืม?"
"ขอโทษนะ"
"ขอโทษเรื่องอะไรวะ?"
"กรูทำให้มรึงต้องย้ายสีตามกรูมาแต่...."
ปีที่แล้วผมกับเม้งยืนดูบอร์ดและคุยกันได้เป็นวันๆ ว่าเจอสีไหนจะวางแผนยังไง คุยกันได้เป็นวันๆ เลยแต่ตอนนี้ผมได้แต่หลบอยู่ในห้อง
"ถ้ามรึงยังอยู่สีเขียว มรึงคงสนุกมีเพื่อนคุย----โอ๊ย!!!" ตบหัวตรูทำไมวะ! แต่มันหัวเราะชอบใจใหญ่
"กรูตบให้นิสัยห่วงแต่คนอื่นกระเด็นออกจากหัวมรึงไง ต้นมรึงคิดว่ากรูอยู่กับมรึงเพื่อความสนุกเหรอวะ?"
"แล้วเพื่ออะไรล่ะ?" ผมมองตามัน
"เออ...ฮะฮะ! ไม่รู้ว่ะ"
*********************************
ทานข้าวเที่ยงเสร็จเม้งก็ไปดูบอร์ดที่โรงยิมซึ่งคนมุงเยอะเหมือนทุกปี ผมซื้อขนมโมจิถุงนึงกลับมากินแก้เครียดที่ห้องระหว่างรอฟังผล
และสาหร่ายซองที่เม้งชอบกินอีกสองซองเป็นของง้อมัน พอเดินขึ้นบันไดมาก็เจอเจ้าวิงกระเป๋านักเรียนกำลังเดินขึ้นตึกพอดี
"วิง เมื่อเช้าไปไหนมา? เพิ่งมาเหรอเนี่ย?"
"หวัดดีต้น เราเป็นหวัดนิดหน่อยเลยไปหาหมอน่ะ แล้ววันนี้พละสอนอะไรบ้างเหรอ?"
"วันนี้ซ้อมเดาะตะกร้ออย่างเดียว นายเป็นอะไรมากมั๊ย?" เอามืออังหน้าผากมันก็ไม่ร้อนนี่นา
"เฮ้ย! ต้นอย่าใกล้เรามากเดี๋ยวนายไม่สบายไปด้วย"
"ฮะฮะ คนบ้าน่ะไม่เป็นหวัดหรอก อย่าห่วงเลย"
"มาทำอะไรประเจิดประเจ้อตรงบันไดวะ?" เม้งพาหมาในปากมาเดินเล่น
"วิงมันไม่สบายว้อย เอาสาหร่ายไปกินแก้เหงาปากซะมรึง"
"นายไม่สบายเหรอวิง?"
"อืม แต่ดีขึ้นแล้วล่ะ เม้งจะไปเล่นบอลเหรอ?"
ในมือเม้งมีลูกบอลพลาสติกใหม่เอี่ยมสินค้า OTOP อีกอย่างประจำโรงเรียนนี้ ลูกบอลพลาสติกที่ไม่ชอบพุ่งเข้าโกล์แต่พุ่งขึ้นไปค้างบนหลังคาตึก
"ซื้อมาเล่นกับไอ้ต้นน่ะ" .....เม้ง...เพื่อนที่แสนดี....
"วันๆ มันเก็บตัวอยู่แต่ในห้องจนน้องชายหมกมุ่น" ....ขอถอนคำพูดได้ไหม....
"ต้นเป็นน้องคนสุดท้องไม่ใช่เหรอ?" หัวเราะกลบเกลื่อนไปก่อน อย่าให้บอลเข้าเท้าตรูเชียว
"งั้นเราไปเล่นบอลละนะใกล้จะหมดพักเที่ยงแล้ว เออ..ว่าแต่จะทำไงกับโมจิดีล่ะเนี่ย?"
"เก็บไว้กินในห้องดิ กรูจะได้กินด้วย"
"ไม่เอาเดี๋ยวมดขึ้น กินมดหนึ่งตัวโง่ไปเจ็ดวันนะมรึง"
"วิงเอาไปกินต่อทีดิ เราเพิ่งกินชิ้นเดียวเอง" ผมไม่รอมันตัดสินใจ จับยัดใส่มือเลยจะได้ไม่ต้องถามเรื่องน้องชายอีก
"ขอบใจนะต้น แล้วเย็นนี้เราไปหาที่สนามบาสนะ"
"ได้ๆ แล้วตอนนี้นายหายดีแน่นะ?"
"อืม" เจ้าวิงตอบสั้นๆ แล้วเดินขึ้นบันไดไป ผมก็ยังอดห่วงนิดๆ ไม่ได้เพราะเห็นมันคลำหน้าผากป้อยๆ สงสัยจะปวดหัวมั้ง
"ตกลงทีมเราได้บายมั๊ยเม้ง?"
"ตรงกันข้ามเลยว่ะ ต้องแข่งตั้งสามรอบแน่ะ"
เม้งเขี่ยบอลไปมา เล่นหลังตึกเรียนแบบนี้เสียงดังมากไม่ได้ไม่งั้นเจออาจารย์ด่าแน่ ดีที่ยังอยู่ในช่วงพักเที่ยง
"แล้วนัดแรกเจอสีอะไรเหรอ?"
"สีม่วง แข่งวันพฤหัสหน้านี่แหละ"
"แล้วครั้งต่อไป?"
"ต่อไปเจอสีเหลืองว่ะแข่งวันที่สองของกีฬาสี ส่วนรอบชิงแข่งวันที่สาม" ....เหอะ สงสัยกรูจะตายตั้งแต่รอบสอง....
ก็ยังดีที่ครั้งแรกไม่ได้เจอสีเขียวของเม้งหรือสีฟ้าของเจ้าวิง ผมล่ะไม่อยากเห็นใครทำหน้าเศร้าเลย
"ทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว เดี๋ยวเจอเบิร์ดกระโหลกอีกหรอก" เผียะ!
"ไอ่แสรดดด คำว่าเดี๋ยวของมรึงมันแปลว่าเดี๋ยวนี้เรอะ!" บงบอลไม่ต้องเล่นแล้ว เล่นจี้เอวไอ้เม้งแทนละกัน
"เหงื่อเต็มเลยเข้าห้องไม่ได้แน่ ไปนั่งพักก่อนเหอะต้น"
"ก็ดีเหมือนกัน"
ผมเอนตัวลงนอนบนหญ้าใต้ร่มเงาต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ ปกติคงโดนอาจารย์มาไล่แน่แต่ใกล้ช่วงกีฬาสีมีคนทำกิจกรรมกันเยอะแยะ ตรงไหนพอจับจองที่ได้
ก็จะมีคนอยู่ไปหมด ด้วยประสบการณ์ในโรงเรียนสามปีทำให้รู้จักมุมลับตาสุดๆ นอนเอกเขนกได้สบาย อย่าว่าแต่กริชเลย อาจารย์ก็ยังหาไม่เจอ
"ไม่ได้ทำแบบนี้นานแล้วว่ะต้น"
"อืม....จำได้มั๊ยตอนม.2 เจอรองผอ.เรียกไปสวดยับเลย"
"มรึงน่ะเจือกชวนกรูโดด แถมเสล่อไปนั่งให้'จารย์เห็นอีก"
"วันแรกมีแต่จดจุดประสงค์การเรียนรู้ จดไปก็ไม่ได้อ่านอยู่ดีแหละ"
เม้งนอนเอามือหนุนหัวอยู่ข้างๆ จ้องมองไปต้นไม้ข้างบน "บางกิ่งมันเริ่มออกดอกแล้วล่ะ"
อีกไม่กี่เดือนต้นนี้จะออกดอกสีชมพูเต็มต้นสมชื่อ เป็นสัญญาณของฤดูหนาวและเป็นช่วงเวลาที่โรงเรียนจะสวยที่สุด
ผมฝันจะเดินกับกริชผ่านต้นไม้ประจำโรงเรียนนี้คงบรรยากาศดีสุดๆ
"คงจะได้เห็นพร้อมกับมรึงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วว่ะต้น"
ผมเด้งตัวขึ้นทันที "แสรด พูดอะไรไม่มงคลเลยมรึง"
"กรูหมายถึงปีหน้าไม่มรึงก็กรูคงได้เข้ามหาลัยตะหาก มรึงคิดมากเกินไปรึเปล่า? นอนลงมาดิเดี๋ยวอาจารย์เห็น" ...เออวุ้ย! ลืมตัว....
"ไม่รู้ล่ะ ห้ามพูดแบบนั้นอีก"
แต่ไอ้เม้งก็ยังขำได้ "เพราะแบบนี้แหละกรูถึงได้เป็นเพื่อนมรึงไง"
เสียงออดดังแล้ว นักเรียนส่วนใหญ่ทยอยเข้าห้องแต่พวกสต๊าฟกีฬาสียังทำกิจกรรมซ้อมเชียร์ต่อไป
".....ขึ้นคาบห้าแล้วนะเม้ง มรึงจะโดดเหรอไอ้เลว?"
"ว่าแต่กรู มรึงยังไม่ยอมลุกเลย"
.......
.......
"ต้น โดดกันเหอะ"
"ไม่ต้องบอกกรูก็โดดอยู่แล้วนี่ไง โดดครั้งสุดท้ายแล้วต่อไปต้องตั้งใจเรียนนะไอ้เม้ง"
"ลอกคำพูดพ่อเรามาเลยนะเนี่ย"
ไหนๆ ก็ว่างตั้งคาบนึงเราเลยคุยเรื่องสมัยม.ต้นไปเรื่อยๆ จากนั้นก็นอนดูแสงที่ส่องลอดร่มไม้เงียบๆ
เม้งคงคิดเหมือนผม เมื่อตารางแบ่งสายออกมาแล้วการฝึกต้องหนักขึ้นแน่ทั้งตอนเย็นและเสาร์อาทิตย์ ไหนจะเรื่องเตรียมตัวเอ็นท์ฯ
ถ้าใครสักคนหรือเราทั้งสองคนเอ็นท์ฯได้ก็คงไม่ได้โดดมานอนใต้ต้นไม้ประจำโรงเรียนแบบนี้อีกแล้ว
......
......
"ต้น กรูขออะไรอย่างนึงได้มั๊ย?"
"อย่าขอหมอนของกรูละกัน กรูหวง นอนมาตั้งแต่เด็กๆ"
"มุขโบราณอีกแล้วมรึง ....ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน....อยากรู้จริงๆ นอกจากกรูแล้วใครจะรับมุขมรึงได้"
"แล้วตกลงจะขออะไรล่ะเม้ง?"
"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมรึงต้องแข่งบาสกับกรูครั้งนี้นะ"
เม้งพูดทั้งที่หน้ายังแหงนมองขึ้นไปบนยอดไม้ เหมือนมันพยายามมองว่าจะเกิดอะไรที่ทำให้เราสองคนไม่ได้แข่งกีฬาสีด้วยกันได้บ้าง
"ขออะไรประหลาดๆ"
"เห็นมรึงพยายามหลบหน้าใครคนนั้นมานาน ไม่รู้สิ....อาจจะมีเรื่อง....กรูกลัวจะไม่ได้เล่นบาสกับมรึงนะต้น"
"...ขอบใจนะ..."
จริงๆ ผมก็กลัวจะไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจ แต่พอเม้งพูดแบบนี้ทำให้ความกลัวลดลงไปได้อย่างประหลาด
"คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก ชมพูพันธุ์ทิพย์ออกดอกเร็วแบบนี้น่าจะเป็นลางดีว่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ซื้อช้างไม้มาถวายศาลพระภูมิด้วยดีกว่า"
ทั้งที่เตรียมใจไว้แล้วว่าตั้งแต่วันนี้ไปพี่โจ้คงให้ซ้อมหนักขึ้นแต่นี่ล่อไปสองทุ่ม ขาแทบจะก้าวไม่ออก
"ต่อไปเตรียมยานวดกับยาทากันยุงมาด้วยนะทุกคน" ไอ้พี่โจ้จะให้ซ้อมบาสหรือไปเข้าค่ายนรก
"ต้นเม้ง เลิกแล้วเหรอ?"
"วิงนายยังอยู่อีกเหรอเนี่ย ดึกแล้วนะ"
"เราอ่านหนังสือไปด้วยน่ะ ยังไงตอนนี้ที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่"
"ไปกินแมคกันก่อนมั๊ยแล้วค่อยกลับบ้านกัน?" เม้งเสนอสิ่งที่ไม่สนองกระเป๋าสตางค์ตรูซักเท่าไหร่ แต่ก็ไปอยู่ดี
ต้องรีบกินรีบกลับเพราะร้านแมคก็เป็นร้านยอดนิยมร้านหนึ่งในละแวกโรงเรียน กริชอาจโผล่มาก็ได้
"ไปละนะต้นวิง พรุ่งนี้เจอกัน" คนอยู่หอใกล้โรงเรียนนี่สบายจริงๆ แต่ไม่รู้ทำไมมันมาสายบ่อยๆ
"เรากลับบ้านกับวิงนะ" เจ้าวิงทำหน้าเอ๋อๆ เล็กน้อยที่เห็นผมเดินตามมา
"ต้นกลับอีกทางไม่เร็วกว่าเหรอ?"
"ดึกขนาดนี้กลับคนเดียวเหงาๆ .....เออแล้วไม่ได้เอากีตาร์มาแล้วเหรอ?"
รถสองแถวแล่นออกตัวด้วยความเร็วกว่าเต่าเล็กน้อย ผมกับวิงขยับหาราวจับเหมาะๆ
"พรุ่งนี้วันศุกร์เดี๋ยวเราเอามา แล้วต้นฝึกได้บ้างยัง?"
"ยังเลยไม่ค่อยมีเวลา โทษนะนายอุตส่าห์ซื้อท่ออะไรนั่นให้"
"ไม่เป็นไร ต้นต้องซ้อมบาสดึกทุกวันนี่นา"
"แล้วนี่นายหายดียัง?"
"อืม หายแล้ว"
"พี่คะ หนูช่วยถือกระเป๋าให้นะคะ" น้องโรงเรียนเอื้อมมือมาที่กระเป๋าเจ้าวิง ท่าทางน้องเขาจะอยู่ม.3
น้องจะรับกระเป๋าผมไปช่วยถือด้วยแต่ผมแกล้งไม่ได้ยิน เจ้าวิงเลยต้องยื่นกระเป๋าให้น้องน่ารักคนนั้นไปเต็มๆ
"ขอบคุณครับน้อง" ท่าทางมันเก้ๆ กังๆ ตลกดี เจ้าวิงคงรู้ตัวหันมาสบตาผม
(การคุยกันทางสายตา)
.....ต้น นายจงใจใช่มั๊ย?....
.....ปล๊าววววววว.....
....เปล่าแล้วยิ้มทำไม....
....ยิ้มอิจฉาคนเสน่ห์แรงน่ะ....
มันเถียงด้วยสายตาไม่ได้เลยหันหลบไป ผมก็จ้องๆๆ รอเจ้าวิงก็หันมา สักพักมันก็หันมาจนได้
.....ไอ้วิงหื่น น้องม.ต้นก็ไม่เว้น.....
.....ไม่ได้คิดอะไรว้อย....
.....แล้วหน้าแดงทำมายย....
รถวิ่งมาเรื่อยๆ จนถึงตลาดสดเราสองคนถึงได้ลงรถ
"ร้ายนะต้น"
"พูดเรื่องอารายยยย"
"ฝากไว้ก่อนเถอะ" อาฆาตแต่ยังยิ้มไม่หุบ หน้าก็ยังแดงนิดๆ .....เจ้าวิงยังคงแกล้งง่ายเหมือนเดิม ตรูนี่เลว
.....แกร๊บ....แกร๊บ....แกร๊บ.....เสียงเบาๆ เหมือนเสียงถุงพลาสติกยับ
"วิง ใส่อะไรไว้ในกระเป๋าน่ะ? ได้ยินเสียงแกร๊บๆ ในนั้น"
"ม...ไม่มีอะไรหรอก จะสามทุ่มแล้วต้นรีบกลับบ้านเถอะเดี๋ยวรถสองแถวหมด"
"เออจริงด้วย งั้นเราไปก่อนนะวิง พรุ่งนี้เจอกัน"
ความสนใจเรื่องเสียงประหลาดนั่นถูกกลบหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อต้องแวะร้านสังฆภัณฑ์ซื้อช้างไม้ 7 ตัวเตรียมไปไหว้ศาลพระภูมิที่โรงเรียน
"จะเอาช้างพลายกี่เชือก ช้างพังกี่เชือกจ๊ะ?"
"ช้างพังแล้วจะเอาไปไหว้ได้เหรอครับคุณป้า?"
"ช้างพังคือช้างตัวเมียน่ะหนู ราคาถูกกว่า 1 บาท" ....ความรู้ใหม่....
"แล้วต่างกันยังไงเหรอครับ?"
"ช้างตัวเมียก็ไม่มีงาไง" ว่าแล้วป้าก็หยิบตุ๊กตาช้างพลายมาดึงงาออกกลายเป็นช้างพัง ....ความรู้ใหม่อีกแล้ว วิธีแปลงเพศช้างต้องตัดงาออก....
"เอาแบบไหนก็ได้ครับ เอาเจ็ดตัวครับ"
"จะเอาตัวผู้ตัวเมียกี่ตัวล่ะ มันไม่ครบคู่นะ" ....ความรู้ใหม่อย่างที่สาม ซื้อตุ๊กตาช้างต้องวางแผนครอบครัวให้ดี
............................................
-
555 ชื่อช้างเอาไปแก้บนเรอะ :m14: :m14: :m14:
-
....ความรู้ใหม่อีกแล้ว วิธีแปลงเพศช้างต้องตัดงาออก....
คิดได้ไง..... :m4:
รออ่านต่อน่อ :m3:
-
:impress:
ได้ความรู้ใหม่อีกแระ
รออ่านต่อไปนะครับ
o15
-
...........แค่หักงาช้างก็แปลงเพศได้แล้วหยอ........... :laugh: :laugh: :laugh:
-
เสียงประหลาดนั่นต้องเป็นถุงโมจิแน่ ๆ :m12:
ว่าแต่ ... มีโทรจิตกันด้วยเหรอ :a11:
-
แต่ละมุก. . . เอาซะหงายหลังเลย o13
-
ต้องวางแผนครอบครัวช้างด้วยเหรอฮะ :impress: :impress:
-
o13 ได้ความรู้ใหม่เรื่องช้างด้วย 55555555
-
:m5:เมื่อไหร่จะมาลงต่อละครับ อยากอ่านใจจะขาดแล้ว ลุ้นจนตัวโก่งแล้วนะเนี่ย ทำไมช่วงหลังเจ้าวิงไม่ค่อยออกเลยนะ
-
มารอด้วยคน รีบๆมาอัพนะงิ เด็กแบ๊วจะลงแดงตายแย้ววว :m5: :m5:
-
อย่า :m22:บ่อยสิครับ รออ่านต่อไม่ไหวแล้วน้าาาาาาาา :m17:
-
มายังน้า :m22: :m22: :m22: ยังไม่มากอีกเหรอ :m29: :m16: :m16: :m16:
-
ตอนที่ 16
ผมมองนาฬิกา สามทุ่มครึ่งแล้ว...กริชคงกำลังอ่านหนังสืออยู่มั้ง
สี่ทุ่มแล้ว...คงนั่งคุยกับเพื่อนๆ อยู่มั้ง
สี่ทุ่มครึ่ง...หรือจะอาบน้ำอยู่
ทำไมถึงรู้สึกลำบากใจขนาดนี้ที่จะโทรหาเขา กลัวโน่นกลัวนี่ไปหมด กลัวจะทำให้เขาลำบากใจทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยคิดมากแบบนี้ แต่อยากได้ยินเสียงเขานี่หว่า ขืนรอถึงห้าทุ่มมีหวังเขาเข้านอนแล้วแน่เลย งั้นโทรเลยละกัน
"สวัสดีครับต้น"
"สวัสดีครับกริช สะดวกคุยมั๊ยครับ?"
"อืม ผมเดินออกมาซื้อของที่ปากซอยอยู่น่ะ"
"ครับ" .....ตกลงสะดวกจะคุยไหมเนี่ย?
"ต้น ผมว่าจะโทรหาหลายครั้งแล้วแต่ไม่รู้นายงานยุ่งหรือเปล่า ตอนเย็นไม่ได้เปิดเครื่องไว้สินะ?"
"อ่า....ครับ ทำงานอยู่น่ะครับ เราก็อยากโทรหานายนะแต่ไม่รู้กริชจะว่างคุยตอนไหน....เลยไม่ได้โทรหาน่ะครับ"
"ฮะฮะ เราสองคนใจตรงกันเลยนะ"...ใจตรงกัน....คำนี้ทำให้ใจผมเต้นแรง
"ต้น....ยังเก็บหัวใจผมไว้ดีหรือเปล่า? เก็บให้ดีนะต่อไปเราจะได้ใจตรงกันมากขึ้น"
"เก็บอย่างดีเลยครับ" ผมลูบคลำเข็มสีทองในมือ เก็บรักษาอย่างดีไว้ใต้หมอนแถมยังเอาไปใช้ทุกวันอีกตะหาก
ตึก...ตึก...ตึก...เสียงพี่เดินขึ้นบันไดมา ท่าจะไม่ดีซะแล้ว
"ดึกแล้วกริชรีบเข้านอนเถอะครับ"
"อืม....ต้นๆ ต่อไปผมโทรหาตอนสี่ทุ่มได้มั๊ย? จะได้ไม่ต้องกระวนกระวายใจแบบนี้อีก"
"ได้ครับ" พอวางสายแล้วก็หยิบรูปถ่ายของกริชมาดู อีกไม่นานผมจะไปนั่งที่นั่นกับกริชให้ได้ เพ่งๆๆ แก่งกระจานๆๆ พยายามจำให้ติดตาจะได้เก็บไปฝันต่อ....เพชรบุรี....แก่งกระจาน...ป่า...
....ภูเขา...ทะเลสาบ....ผืนน้ำ.....
....พระอาทิตย์ตกดิน....
.......
....
..
.
***********************************************************************
.....ที่นี่ที่ไหน....ทุกอย่างมืดไปหมด....โต๊ะ เก้าอี้...ห้องเรียนเหรอ? ทำไมในมือผมมีโทรศัพท์มือถือยกแนบหู?
"ต้น มีอะไรเหรอ?" ...เสียงกริชนี่นา...
"กริชอยู่ไหนครับ?"
"ผมอยู่ที่บ้านแล้ว" เอ่อ.....ทำไมน้ำเสียงเย็นชาจัง
"เรา...เราไปหากริชได้ไหม? เรามีเรื่องอยากจะพูดด้วยน่ะครับ?"
"แล้วไม่ต้องไปทำงานด่วนแล้วเหรอ?" .....อะไรหว่า งานด่วน? แต่ปากผมยังพะงาบพูดต่อไป
"ไม่มีแล้วครับ กริช...เราไม่มีงานอะไรนั่นแล้ว....เรา..."
"แบบนี้ใช่มั๊ยงานด่วนของนายน่ะ!!!"
เสียงตวาดของเขาเสียดลึกเข้ากลางอกจนผมสะดุ้งลืมตา....ฝันเหรอ....
มองไปรอบตัวไม่มีโต๊ะเก้าอี้นั่นแล้ว มีแต่ความมืดเท่านั้นที่คล้ายกับฝันนั่น ฝันบ้าอะไรเนี่ย?
เริ่มตั้งสติได้แต่ตัวยังไม่หยุดสั่น มันเป็นแค่ฝันเท่านั้น กริชไม่มีทางจะตวาดผมแบบนั้น...ไม่มีทาง
ผมควานหาเข็มสีทองใต้หมอนมากำไว้ มันต้องเป็นแค่ฝันร้ายเท่านั้น ...ฝันร้ายจะกลายเป็นดี...ใช่มั๊ยครับกริช?
สงสัยการสะกดจิตตัวเองให้นึกถึงเพชรบุรีคงมีอะไรผิดพลาดแหงๆ ถึงฝันร้ายแบบนี้ คืนพรุ่งนี้ซื้อขนมหม้อแกงมากินก่อนนอนอาจดีขึ้น ไปกรวดน้ำก่อนดีกว่า เทน้ำลงที่โคนต้นไม้แล้วสวดไป
"ฝันร้ายจะกลายเป็นดีๆๆ" ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย......
******************************************************************
ตื่นเช้ามาส่องกระจกดูหน้าตาตัวเอง ดูไม่ได้เลยว่ะ ตัวอยู่ม.4 หน้าอยู่มหาลัยปี 6 เลยมั้งเนี่ย?
แค่ฝันร้ายคืนเดียวผมยังเป็นขนาดนี้ แล้วถ้ามันเป็นจริง....โว้ย! อย่าคิดๆๆ วันศุกร์ทั้งทีต้องมีความสุขสิเฟร้ย!
ดูเวลาตอนนี้ 6:25 ยังเช้าอยู่เลย เมื่อวานวิงบอกว่าจะเอากีตาร์มาโรงเรียน งั้นไปรอขึ้นรถเมล์ที่ตลาดสดเผื่อจะช่วยมันแบกกีตาร์ด้วย ไหนๆ วิงก็สอนผมเล่นนี่นา
ผมนึกหน้าใสๆ ของเจ้าวิงมันจะแปลกใจไหมที่เห็นผมมาขึ้นรถเมล์ป้ายเดียวกับมัน แต่ถ้าไม่เจอล่ะ? เบอร์มือถือมันก็ไม่มี เจ้าช้างไม้เจ็ดตัวในถุงก็เริ่มหนักขึ้นผมเปลี่ยนใจเดินไปหาเจ้าวิงที่บ้านเลยดีกว่า บ้านมันก็อยู่ไม่ไกลนักเดินเข้าซอยแปบเดียวก็มาถึงหน้าบ้านแต่วันนี้มีรถเก๋งสีขาวจอดอยู่ในรั้ว
กดกริ่งประตูสักพักก็มีชายวัยกลางคนในชุดข้าราชการเดินออกมา เหอๆ พ่อเจ้าวิงแหงๆ หน้าดุอย่างที่คิดไว้เลย ผมยกมือไหว้ขอชีวิตทันที
"มาหาใครเหรอหนุ่ม?"
"ผมชื่อต้นครับ เป็นเพื่อนวิงน่ะครับคุณลุง เขาไปโรงเรียนหรือยังครับ?"
"อ้าวต้นเหรอ! วันนี้ลูกลุงไม่สบาย นอนอยู่ข้างบน" พูดแล้วคุณลุงก็ตะโกนเข้าไปในบ้าน
"วิง ต้นมาหาน่ะลูก!" ได้ยินเสียงเจ้าวิงขานรับเบาๆ ตามด้วยเสียงตึงตังจากชั้นสอง
"ไม่ต้องลำบากก็ได้ครับ"
"สำหรับต้น วิงเขาไม่ลำบากแน่ ก็เขาพูดถึงต้นบ่อยๆ เข้ามาในบ้านก่อนสิ"
...พูดถึงบ่อยๆ...วิงมันเล่าเรื่องเพี้ยนๆ อะไรของตรูให้พ่อฟังล่ะเนี่ย?
ผมเดินตามคุณพ่อของวิงเข้าบ้าน...ทำไมข้าวของในบ้านน้อยลงกว่าคราวก่อนแต่มีลังกระดาษหลายใบมัดเชือกแน่น
"แล้วนี่เคยมาบ้านนี้แล้วเหรอถึงได้มาถูกเนี่ย?"
"เอ่อ...ครับ เคยมาครั้งนึงแล้วครับ"
ผมได้แต่พยักหน้า เจ้าวิงคงไม่ได้เล่าให้พ่อฟัง งั้นผมไม่ขอเล่าวีกรรมของเจ้าวิงดีกว่าว่ามาได้ยังไง
"ตอนม.ต้นวิงมันตัวเล็กสุดในห้องเลยไม่ค่อยมีเพื่อนกับเขาหรอก เห็นต้นมาหาที่บ้านแบบนี้ลุงก็ดีใจ"
ที่ไม่มีเพื่อนน่ะคงไม่เกี่ยวกับเรื่องตัวเล็กหรอกครับคุณลุง แต่จะให้ผมพูดตำหนิปัญหาครอบครัวต่อหน้าคุณลุงได้ยังไง
ผมเบือนหน้าไปทางอื่นเพราะไม่แน่ใจว่าจะซ่อมสีหน้าจากคุณพ่อของวิงที่เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรกได้หรือไม่
ข้าวของในบ้านหายไปเยอะ ยิ่งเห็นเอกสารที่มีตราครุฑบนโต๊ะกลางบ้านมันยิ่งตอกย้ำชัดเจน.....
'...การโยกย้ายประจำปี...' การโยกย้าย...หมายความว่า....
"คุณลุงครับ คุณลุงจะ---"
"ต้น มาได้ไง!?" เจ้าวิงในชุดเสื้อยืดกางเกงนอนโผล่ลงมาที่บันได หน้าเซียวตาปรือต่างจากเมื่อคืน
"วิง ไหนว่าหายแล้วไง?"
"เมื่อคืนอาบน้ำดึกไปหน่อย สงสัยไข้กลับ" มันยิ้มแหยๆ ให้พ่อที่ทำตาถมึงทึงดุกว่าเก่าอีก คุณลุงทำท่าจะบ่นแต่คงเห็นว่าไม่ควรดุลูกต่อหน้าเพื่อนจึงแค่เอ่ยปาก
"รีบคุยกันกันล่ะ แล้วลุงจะไปส่งต้นที่โรงเรียนให้"
"ไม่เป็นไรครับ ผมไปเองทันแน่ครับคุณลุง"
"เอางั้นนะ?"
"ครับ" ผมพยักหน้ายืนยัน แค่เจอกันยังมาคุขนาดนี้ ขืนนั่งรถคุณลุงผมคงขาดใจตายพอดี
"วิงก็รีบกินโจ๊กล่ะพ่อซื้อให้แล้ว กินยาแล้วรีบนอนพัก ต้นก็รีบไปโรงเรียนล่ะเดี๋ยวจะสาย" แล้วคุณพ่อของวิงก็ขับรถออกไป
"ฟู่...." เราสองคนถอนหายใจพร้อมกันแล้วก็มองกันขำๆ
"เป็นไง? พ่อเราดุมั๊ย?" ผมยิ้มแห้งๆ แทนคำตอบ ....โคตรดุเลย....
"เราคงไปเรียนไม่ไหวนะต้น นายรีบไปโรงเรียนเถอะเดี๋ยวจะสาย"
"ใครว่าเราจะไปล่ะ?"
"อ้าว ก็นาย....." มันยังทำหน้าเหรอหราตาปรือๆ
"รีบไปนอนซะ ห้องครัวอยู่ทางนี้ใช่มั๊ยเดี๋ยวเอาโจ๊กไปให้เอง"
ผมค้นหาชามหาช้อนในห้องครัวมาใส่โจ๊กยกขึ้นไปห้องนอนมัน เอาใจเจ้าวิงซะหน่อยยังไงก็มันก็ป่วยเพราะรอกลับบ้านพร้อมผม....การโยกย้ายข้าราชการประจำปี....ก็ต้องต้นเดือนหน้าน่ะสิ...ผมภาวนาขอให้ยังอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วยเถิ๊ดท่านเจ้าพระคุณ! ผมยกถุงช้างไม้ที่ตั้งใจไปไหว้ศาลพระภูมิที่โรงเรียนมาถวายเจ้าพระคุณแทน ยกขึ้นหัวประหลกๆ เป็นอันรู้กัน ว่าแล้วก็ขอแง้มดูเอกสารนั่นซะหน่อยเถอะ....
"ต้น หาชามเจอมั๊ย?" เสียงวิงตะโกนลงมาจากชั้นสองด้วยเสียงเปื่อยๆ
"จ...เจอแล้ว กำลังจะยกขึ้นไปละ"
ผมก้าวขึ้นบันไดแต่ละขั้นอย่างหนักอึ้ง ชื่อจังหวัดนั้นวนเวียนอยู่ในหัว 'ลำพูน'
"โจ๊กยังร้อนอยู่เลย ตั้งไว้อีกแปบนึงละกัน" ผมวางชามไว้บนโต๊ะ
"ขอบใจนะต้น ตกลงจะโดดจริงๆ เหรอ?"
"ไม่ได้โดด ลากิจต่างหาก" ผมรีบโทรหาเม้งก่อนที่จะถึงเวลาเข้าแถวที่สนาม
"มีอะไรวะต้นโทรมาเช้าๆ? อย่าบอกนะว่าเมาแมคโดนัลด์จนมาเรียนไม่ได้"
"โหยมรึงพูดจา....เม้งช่วยลากิจให้ครึ่งวันสิ แล้วลาป่วยให้วิงด้วยนะมันไม่สบาย"
"เฮ้ย! วิงเป็นอะไรเหรอ?"
"หนองใน"
"เฮ้ย! ต้นอย่าเล่นบ้าๆ ดิ!" เจ้าวิงกระเด้งขึ้นมาจากหมอนเลย...อยากปิดบังตรูทำไมล่ะ ต้องแกล้งให้เข็ด...
"เออหนองในนะ ได้ๆ ขอคุยกับวิงหน่อยสิ"
"มันคุยไม่ไหว นอนระบมมากเลยสงสัยจะสืบพันธุ์ไม่ได้แล้วล่ะ" ผมเอามือกดหัววิงไว้ มันโวยวายไปหัวเราะไป
"ฮะๆ ตกลงเป็นหวัดละกัน มรึงก็อย่าไปเพิ่มเชื้อบ้าให้วิงมันล่ะ แล้วขอเบอร์วิงด้วยดิเผื่ออาจารย์ประจำชั้นเขาจะถาม"
ผมส่งโทรศัพท์ให้วิงคุยกับเม้งและถือโอกาสแลกเบอร์กันซะเลยจะได้ไม่ต้องยืนรอแบบเมื่อเช้าอีก
"ขอบใจนะ ลำบากนายอีกต้องมาลาแบบนี้" วิงรับโจ๊กไปทานบนเตียง
"นายกลับบ้านดึกเพราะรอพวกเรานี่หว่า เราต้องรับผิดชอบบ้างล่ะ" วิงยิ้มรับด้วยหน้าเซียวๆ แล้วกินโจ๊กต่อไปเงียบๆ ทานยาแล้วนอนต่อ
"แล้วครึ่งวันต้นจะทำอะไรล่ะ?" ....เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ผมอยากรู้ว่าทำไมมันต้องปิดบังเรื่องย้ายนี้ด้วย....
"ตรงตู้มีการ์ตูนนะ หรือจะเล่นแฟมิค่อมก็ได้อยู่ใต้ทีวี" ...นี่จะไม่บอกจริงๆ ใช่มั๊ย?...
"ไม่เป็นไรหรอกนายนอนไปเหอะ" ...งั้นกรูเคืองละนะ...
ผมหยิบตำรามาอ่านแต่ใจไม่อยู่กับหนังสือตรงหน้าเอาซะเลย
ลำพูน...ย้ายไปซะไกลขนาดนั้น ....ต้องย้ายบ้านย้ายโรงเรียนในต้นเดือนหน้านี้แล้วสิ
ถ้าเราไม่มาหานายที่บ้านก็คงไม่รู้เรื่อง...ใจคอจะไม่ยอมบอกเราเลยหรือไง? เราไม่ใช่เพื่อนนายเหรอ?
เห็นเราโง่หรือไง? ข้าวของในบ้านก็เก็บลงกล่องอยู่ทนโท่ หรือจะเก็บความทุกข์ทั้งหมดไว้คนเดียว
หันไปดูอีกทีเจ้าวิงหลับสนิทไปแล้ว คงเป็นหนักจริงๆ แต่เห็นมันนอนยิ้มบางๆ แบบนี้ทั้งหงุดหงิดทั้งน้อยใจแกมหมั่นไส้ ผมเห็นหนังสือเพลงเก่าๆ สามเล่มบนโต๊ะ เล่มบนสุดยังมีปากกาเหน็บอยู่เลย ขอถือวิสาสะเปิดดูเลยละกันว่าเจ้าวิงมันเขียนอะไรไว้ พอเปิดดูในนั้นมีรูปวาดด้วยลายเส้นเบี้ยวๆ เป็นรูปการจับคอร์ดกีตาร์....
คอร์ดกีตาร์แบบสลับด้านสำหรับคนจับมือขวา....ทั้งเล่ม....ทั้งสามเล่มเลย ความรู้สึกบางอย่างมันจุกแน่นในอก...
....ตกลงนายจะไปแบบนี้ใช่มั๊ย? จะไปแบบเงียบๆ เท่ๆ เป็นพระเอกหนังเศร้าอย่างนี้เพื่อห่าอะไรวะวิง?....
....ไม่ไปไม่ได้เหรอ อยู่บ้านแม่นายก็ได้นี่....หรืออยู่หออย่างไอ้เม้งก็ได้นี่หว่า....
....อย่าไปนะว้อย....
"หือ...." ตรูพึมพำดังไปหน่อยรึเปล่าเนี่ยมันตื่นเลย
"ต้น เมื่อกี้ว่าอะไรเหรอ?"
"เปล่า"
"เห็นหนังสือเพลงนั่นแล้วเหรอ? ยกให้ต้นเลยนะเราเขียนคอร์ดให้แล้วต่อไปนายคงฝึกเองได้" ประโยคสุดท้ายมันเสียดแทงเข้ากลางใจเลย
"วิง พ่อนายจะย้ายต้นเดือนหน้าใช่มั๊ย?" ....บอกสิว่าตรูเข้าใจผิดไปเอง....
"อืม" ....ไอ้หน้าใสมันตอบซื่อๆ ...วิงมันจะไปแล้วจริงๆ......
"อย่าไปเลยนะ ย้ายกลางเทอมมันลำบากนะโว้ย! นายอยู่บ้านแม่นายก็ได้นี่หว่า หรืออยู่หอแบบไอ้เม้งก็ได้นี่"
"ต้น...."
"อย่าไปเลย เราช่วยนายหาหอก็ได้"
วิงจ้องหน้าผม "ต้นเข้าใจอะไรผิดป่าว? พ่อเราย้ายไปลำพูนแต่เรายังเรียนที่เดิมนะ แค่ย้ายไปอยู่บ้านแม่ที่ประชาชื่น"
.................ฟิ้ว................
.............เพล้ง................. เสียงใครบางคนหน้าแตก
"แล้ว-ทำ-ไม-ไม่-บอก?"
"ต้นยังไม่ทันถามอะไรเราเลย"
ว้อย!!!! ปล่อยตรูพร่ำบ้าอยู่คนเดียวมากี่สิบบรรทัด ไอ้วิง! กระโดดขึ้นจี้เอวมันบนเตียงซะเลย!
"เฮ้ย! ฮะฮะ!...ต้น เดี๋ยว!..ฮะฮะ!! อย่าดิ๊เราป่วยอยู่นะว้อย!...ฮะๆๆ! อย่าเด๊ะ!!" วิงคว้าข้อมือสองข้างของผมไว้แน่นไม่ให้จี้เอวมันต่อ
"ขอโทษนะต้นที่เราไม่ได้บอกนายก่อน"
"เออ...ก็... ทีหลังบอกกันหน่อย"
ผมพูดแก้เขินแล้วเขยิบกลับไปนั่งที่ขอบเตียง ขืนคร่อมเจ้าวิงอยู่แบบนี้ใครเปิดเข้ามาเจอล่ะมีหวัง....
บ้าน่าผู้ชายกับผู้ชายใครจะคิดอะไรแบบนั้น แต่ใจผมก็ยังเต้นหวิวๆ อีกใจก็รู้สึกผิด
"ขอโทษนะวิงเราเองก็คิดมากไปหน่อย"
..........
..........
"เอ่อ...วิง แล้วเรื่องสาวคนนั้นน่ะ"
"คนไหนเหรอ?"
"ก็คนที่นายชอบมาตั้งแต่ปีที่แล้วน่ะ ตกลงว่าไงได้บอกเขารึยัง?" ....หน้ามันมีเลือดฝาดเพิ่มขึ้นแบบว่าอาย
"ยัง .....ยังไม่รู้จะบอกดีมั๊ย" ....แล้วหน้ามันก็ซีดลง
"ทำไมล่ะ?"
"เราคิดว่าเขาคงไม่ชอบเรา" ....ยิ่งซีดเผือดเหมือนคนหมดกำลังใจ
"เฮ้ยไม่มั้ง! ขนาดเราเจอนายไม่นานเรายังชอบนายเลย เม้งก็เหมือนกัน มันบอกว่านายคุยสนุกนะวิง"
.........
.........
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากบุคคลที่ท่านพยายามให้กำลังใจ
.........
.........
"ต้น นายจำเรื่องที่..."
Everytime I see you falling
I get down on my knees and pray
I'm waiting for that final moment
To say the words that I can't say....
เสียงเพลงมือถือดังลั่นขึ้นมา เจ้าวิงคว้ามือถือบนหัวเตียงมากดรับ
"สวัสดีครับแม่"
"พ่อบอกแม่แล้วเหรอ? ครับ...เป็นไข้นิดหน่อยครับ"
"ครับ ได้ครับแม่"
"แม่นายจะมาเยี่ยมเหรอวิง?" ไม่ต้องถามก็น่าจะรู้คำตอบจากหน้ายิ้มแฉ่งนั่น
"อืม ตอนเที่ยงนี่เลย ต้นอยู่เจอแม่เราก่อนมั๊ย? รับรองไม่ดุแบบพ่อแน่"
"เหรอ...ดีใจด้วยนะแม่มาเยี่ยม แต่ใกล้ 11 โมงแล้วเราต้องรีบไปให้ทันคาบห้า ฝากสวัสดีคุณแม่นายด้วยละกัน"
"ขอบใจมากนะต้นอุตส่าห์มาอยู่เป็นเพื่อน"
"อืม
-
:impress:
กระต่ายตื่นตูมจิง ๆ เจ้าต้นเนี่ย
รออ่านต่อไปนะครับ
o15
-
คิดเองเออเองได้เป็นฉาก ๆ เลยนะต้น :a1: :a1: :a1:
-
มาแอบบอกว่า วิงใช้เสียงเรียกเข้าเพลงเดียวกันเลย...
แอบรักเขาก็เงี้ยนะวิง...
-
:o......คิดไปได้................
ว่าแต่...ขอให้ฝันร้ายกลายเป็นดีก็แล้วกัลน้อ :a2:
รออ่านต่อจ้า :a1:
-
:m18: :m18: 555555 ขำคิดไปได้
-
เพิงมีโอกาสอ่านทันเพื่อนๆอ่าคับ
อ่านปัยหัวเราะปัย :m18:
ขำขำดี ต้องหลบรุ่นพี่ที่โรงเรียน :m7:
คล้ายชีวิตเราเลย o17 แป่ว ซะงั้น
ยังไงก้อเปนกำลังจัยหั้ย กริช ต่อปัยคร้าบ
อย่าลืมมาค่อด้วยนะคับ :m12:
-
.............พ่อนักจินตนาการ.......... :m20: :m20: :m20:
-
อ่านะ :m21:
-
ง่า ต้นเนี่ยท่าจะชอบคิดเองเออเองตลอดเลย
หน้าแตกดังเพล้งเลยงิ อิอิ :m14: :m14:
-
:impress:
หายไปไหนน๊า....
รออ่านอยู่นะครับ
:a11:
-
ยังไม่มา :a12: :a12: :a12:
-
ตอนที่ 17
กลางแสงแดดร้อนเปรี้ยงของเที่ยงวันพุธ เสียงกลองที่ดังกระหึ่ม เชียร์ลีดเดอร์ในชุดจริงที่เต้นลืมตาย
ถึงจะยังไม่ใช่วันกีฬาสีจริงๆ แต่ภาพตรงหน้าก็ทำให้ผมเครียดขึ้นมาทันที เนื่องจากมีแข่งกีฬาหลายชนิดจึงแบ่งรอบแรกมาแข่งในช่วงสองสัปดาห์ก่อนวันกีฬาสีทำให้วันนี้โรงเรียนดูคึกคักไม่ต่างจากวันจริงทั้งที่ยังมีการเรียนการสอนตามปกติ....กีฬาสีเริ่มขึ้นแล้ว....และพรุ่งนี้จะเป็นวันแข่งรอบแรกของผม
"โหย! ต้นดูลีดสีฟ้าดิ ชุดแนบเนื้อเลย!" .....และนานๆ ครั้งที่เห็นไอ้เม้งหื่น ผมเหลือบไปดูที่สนามวอลเล่ย์บอลบ้าง
ก็เจ๋งอย่างที่มันว่าแหละ ชุดแนบเนื้อ (บางส่วน) สีดำสลับน้ำเงินเห็นรูปร่างเลยแต่ก็ไม่ถึงกับโป๊ แต่หันกลับมาเจอไอ้เม้งทำหน้าเจื่อนๆ
"....โทษทีว่ะต้น กรูลืมไปว่ามรึง...."
"อย่าคิดมากดิเม้ง คนสวยๆ กรูก็มองได้แต่ไม่ได้มองแบบที่มรึงมองเท่านั้นเอง"
บางครั้งผมก็อิจฉานะ ถ้าผมเป็นอย่างเด็กผู้ชายทั่วไปก็คงดี แต่ช่างมันเถอะอย่างน้อยผมมีกริชแล้วและมีเม้งเพื่อนที่ดีที่สุดคนนี้
"มาช่วยกันเอาเหรียญทองนะต้น มรึงจะได้สมหวังซะที"
"ขอบใจนะเม้ง" ....ผมยังไม่ได้บอกเม้งเรื่องเส้นตายที่เลื่อนใกล้เข้ามา ไม่อยากให้มันกลุ้มใจไปด้วย
"ต้น....ถึงวันนั้นมรึงจะแนะนำให้กรูรู้จักเขามั๊ย? กรูสัญญาจะไม่บอกใคร"
ผมยิ้มแห้งๆ แทนคำตอบ ยังไงมรึงก็รู้จักอยู่แล้วล่ะเม้ง เคยเห็นหน้าครั้งนึงแล้วด้วย แต่กริชจะอยากเปิดเผยไหมนั้นผมไม่รู้จริงๆ แต่ยังไงสักวันเม้งก็คงรู้อยู่ดี ผมนึกหน้าเม้งตอนรู้ความจริง....เอ่อ...เรื่องของอนาคตอย่าเพิ่งคิดดีกว่า
"ขอโทษนะเม้งกรูทำให้มรึงอึดอัดไปด้วย"
"เพื่อนกันโว้ยอย่าคิดมาก....มาคุยเรื่องอื่นกันบ้างดีกว่า"
"อย่างเช่นอะไรวะ?" แบบว่าคิดไม่ออกจริงๆ อีกสองสัปดาห์ก็จะถึงวันที่นัดกริชแล้วหัวมันตื้อไปหมด
"อย่างเช่น....มรึงรุกหรือรับวะ?"
พรวด!!! เป๊ปซี่พุ่งกระจายเห็นสายรุ้ง "อยากรู้เหรอ! ไปเจอกันที่ห้องน้ำเลยมั๊ย!"
ไอ้เม้งรีบวิ่งทันที แต่ไม่ได้วิ่งไปห้องน้ำนะ มันวิ่งหนีนันยางเบอร์ 43 ไปที่สนามบาสต่างหาก (นึกว่าจะแน่จริง)
ตอนนี้ทีมบาสม.ต้นสีแดงกำลังแข่งกับสีเหลือง เริ่มแข่งมาตั้งแต่ตอนพักเที่ยงของม.ต้น ดีนะที่มาทันครึ่งหลังพอดี
คะแนนสีเรานำอยู่ตั้ง 23 แต้มแบบนี้ชนะใสๆ ผมรีบซุกตัวเข้าหลังทีมตัวสำรองสีแดงก่อนที่ใครจะทันเห็นผม
"สวัสดีครับพี่ต้น เพิ่งมาเหรอครับ?" เจ้าโอตัวสำรองม.3 หันมาทักพลางยื่นน้ำเย็นให้
"อืม พี่เพิ่งพักเที่ยง คะแนนนำโด่งเลยนี่หว่า" พูดไปตาก็สอดส่ายดูรอบๆ ....กริชคงไม่มานะ...
"โอ คนตัวสูงๆ ทีมโน้นนั่นเพื่อนนายเหรอ? ไม่คุ้นหน้าเลยแฮะ"
"นั่นไอ้บิ๊กอยู่ม.2 ครับพี่ต้น"
"โห โคตรสูงเลย พี่นึกว่าม.3 แล้วลำบากไหมเนี่ยฝ่ายโน้นตัวสูงขนาดนี้?"
"เหอๆ ไม่เลยพี่ ได้ยินว่ามันแทบไม่เคยมาซ้อมด้วยซ้ำแต่ตัวมันสูงเกือบ 180 ทีมโน้นเลยต้องเอาไว้"
....ยังไงก็อิจฉาความสูงมันอยู่ดี เด็กสมัยนี้เลี้ยงด้วยอะไรฟระเนี่ย?
"พี่ต้นครับ อีกเดี๋ยวผมต้องลงสนามแล้วล่ะ พี่จะนั่งนี่จนจบไหมครับ?"
"อืม"
"งั้นผมฝากของหน่อยนะครับ เพื่อนผมมันวิ่งขึ้นห้องไปหมดแล้วฝากมันไม่ทัน"
น้องโอยื่นสมุดหนังสือมาให้ กระเป๋าตังค์ นาฬิกา มือถือ และ......แว่นตา.....
"เยอะเกินไปรึเปล่าครับพี่? สะดวกไหมครับ?"
"ไม่หรอก พี่ดูให้นายได้"
"ก็...เห็นพี่มองผมแปลกๆ"
"แปลกไงวะ? รีบวอร์มอัพไปดิ๊!" ....ไอ้บ้าต้นเอ๊ย...ไม่เนียนขนาดน้องยังจับได้....
"โอ เพื่อนนายมีใครใส่แว่นกรอบเงินแบบนี้อีกมั๊ย?"
"ไม่ค่อยมีหรอกพี่ เดี๋ยวนี้เขาฮิตกรอบทองกัน ทำไมเหรอครับ?"
"เปล่าหรอก" ผมสอดแว่นของโอเข้ากระเป๋าเสื้อที่ปลอดภัยกว่าถือในมือ
"พี่ต้นน่าจะเปลี่ยนกรอบนะครับ พูดจริงๆ นะแว่นพี่ไม่เข้ากับหน้าเลยครับ เห็นครั้งแรกเกือบจำไม่ได้ สาวๆ ชอบคนใส่แว่นกรอบทองนะพี่"
"แล้วทำไมนายไม่ใส่ล่ะ?"
"โห ต้องขาวๆ ถึงจะใส่ขึ้นครับ ผมเล่นบาสจนตัวดำใส่แล้วดูพิลึกๆ"
"เออ นายน่ะดำถาวรไปแล้ว"
เจ้าโอก็ยืดเส้นยืดสายไปเรื่อยๆ "จริงๆ ผิวผมขาวนะ พี่ต้นดูดิ" ว่าแล้วเจ้าโอก็ถลกชายเสื้อยืดขึ้น พรืด!!!!
"เห็นมั๊ยพี่ เดี๋ยวจบกีฬาสีแล้วผมก็คงขาวขึ้นบ้างล่ะ" มันพูดอะไรต่อผมไม่รู้ละนึกด่ามันในใจอย่างเดียว ไอ้.....ไอ้.....! (-////-) โชคดีมันไม่ทันเห็นสีหน้าของผมก็โดนพี่โจ้เรียกไปเปลี่ยนตัวกับคนในสนาม
.....อย่านะมรึง.....ไอ้ห่าต้น....
"เม้ง ฝากถือของให้น้องโอทีดิ!"
"เฮ้ย! ต้นไปไหนๆ"
"ไปเมโทร!"
กว่าเม้งจะเก็ทมุขผมก็เดินมาไกลแล้ว .....ไอ้บ้าต้น....ไอ้ห่าต้น....ไหนสัญญากับตัวเองแล้วไงจะไม่คิดอะไรกับรุ่นน้องอีก.....ไอ้บ้า.....
ผมไม่รู้ว่าการที่ผู้ชายสักคนจะกลายเป็นแบบผมนั้นมีสาเหตุจากอะไรบ้าง แต่บางคนก็เป็นเพราะประสบการณ์ครั้งแรกและนั่นคือสิ่งที่ผมพยายามไม่ทำผิดต่อรุ่นน้องคนไหนอีก ขอให้ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายเถอะ
ผมเดินไปทางสนามบอล อยากจะคิดอะไรเงียบๆ คนเดียวและที่นี่ก็เหมาะที่สุด ใกล้อัฒจันทร์กีฬาสีแบบนี้กริชไม่มาแน่นอน
"พี่ครับ!!! ช่วยเก็บบอลให้หน่อยครับ!! จะหล่นลงสระแล้ว!!!"
ผมวิ่งไปคว้าบอลที่กำลังเด้งไปทางสระน้ำท้ายสนามฟุตบอลแล้วส่งกลับไปที่สนาม ถ้าบอลหล่นลงน้ำก็ต้องหาไม้ยาวๆ มาเขี่ยบอลกันวุ่นวาย ใครนะช่างคิดมาขุดสระเบ้อเริ่มใกล้ๆ สนามให้ลูกฟุตบอลหล่นลงไปอยู่เรื่อย
จริงๆ แล้วมันไม่ใช่สระน้ำแต่เป็นบ่อปลาต่างหาก....บ่อปลาที่นักเรียนตั้งฉายาว่า 'สระมรกต' มันไม่สวยเหมือนสระมรกตที่จ.กระบี่แต่ได้ชื่อนี้เพราะมีตะไคร่และพืชน้ำเขียวอี๋ทั่วสระต่างหาก
....ที่ๆ ผมเคยให้สัญญากับตัวเอง....ที่ๆ ผมทำผิดครั้งหนึ่งในชีวิตและยังลืมไม่ได้....
....ที่ๆ รักแรกของผมเกิดขึ้นปีที่แล้วในเย็นวันหนึ่งที่เงียบเชียบ ต่างจากเสียงโหวกเหวกของนักบอลในสนามตอนนี้เหลือเกิน
-
อ้าว ... มาเกริ่นให้อยากรู้ซะงั้น
มาต่อไว ๆ นะ (มาม่า ยำยำ ก็ได้) :m23:
-
ต้นมีอดีตกับเขาด้วย :m12: :m12: จะเป็นแบบไหนหว่า :m21: :m21:
-
:m7: :m7: :m7:
:m24: :m24:
:m12: :m12:
-
:impress:
the x file ลึกลับซับซ้อนจิง ๆ เรื่องนี้
รออ่านต่อไปนะครับ
ไงก็มาต่อไว ๆ นะครับ
o14
-
:a5:โอ๊ววว!! รักแรกของต้นหรือ
อยากรู้จริงๆว่าเป็นยังไง
รีบๆมาอัพต่อนะงิ o15
-
อ๊ากกกกกกกก โครตจะชอบเรื่องนี้เลย 2 วัน ตามทันแร้วค๊าบ :m11:
ฟิคอะไร มีให้ตื่นเต้นได้ตลอดเวลา :m3: ต้องมาต่อไวไว มาม่า ยำยำ น่ะค๊าบ [มุขไม่สร้างสรรเลยเว้ย ]
-
เอาอีกแล้ว มีปมมาให้แกะอีกแล้ว o22
อย่ามาช้านะครับ รออยู่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :amen:
-
..............ต่างตนต่างมีอดีต...... :m13: :m13:
-
ตอนที่ 18 (ต้น)
ผมหาร่มเงาเหมาะๆ แล้วเอนตัวลงบนขอบปูนเหนือบ่อปลา....ทำไมอกเสื้อมันหนักๆ ถ่วงๆ พิกล?
ชิบเป๋ง! แว่นของน้องโอนี่หว่า..... แต่ผมขี้เกียจเอาไปคืนตอนนี้ เดี๋ยวค่อยวิ่งไปให้น้องเขาก่อนขึ้นห้องก็แล้วกัน
ผมถือแว่นกรอบเงินลอยอยู่เหนือหน้า มองท้องฟ้าผ่านเลนส์ใสๆ นึกถึงเย็นวันนั้น วันก่อนปิดเทอมเมื่อหนึ่งปีก่อน
****************************************************************************
"ต้น ปิดเทอมนี้มรึงจะไปเที่ยวไหน?"
"ไม่รู้ดิเม้ง ไม่ค่อยมีตังค์ด้วยคงอยู่บ้านอย่างเดียว แล้วมรึงล่ะ"
"บ้านกรูจะไปเที่ยวหัวหิน" .......ทิ้ง .....ทิ้งกรูไปกรูคงจะหลงลืมมรึงสักวัน.......
"ทำหน้าหมาเหงาทำไม? กรูบอกมรึงแล้วอย่าเพิ่งซื้อลูกบาส"
"แล้วใครวะเชียร์กรูยิกๆ ไมเคิล จอร์แดนๆ น่ะ?"
ช่วงปิดเทอม 1 นี้ใครๆ เขาก็มีรายการเที่ยวกันทั้งนั้น ไอ้ผมก็ดันซื้อลูกบาสหนังราคาพันกว่าบาทจนหมดเงินแล้ว
ปิดเทอมเกือบเดือนแบบนี้จะทำอะไรดีว้า....ดีนะแม่ไม่เรียกกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เบื่อที่ต้องเจอญาติๆ กับคำถามเดิมๆ ชอบถามเรื่อยว่ามีแฟนรึยัง ถ้าตอบว่า 'ยังไม่มี' เขาก็จะบอกว่ารีบๆ หาสิ
แต่ถ้าบอกว่า 'กำลังดูๆ อยู่' ก็จะโดนดุว่ายังเรียนอยู่อย่าเพิ่งริมีแฟน.....ญาติๆ ตรูนี่ดับเบิ้ลแสตนดาร์ดจริงๆ เบื่อชิพ! ผมนั่งอ่านหนังสือของเทอม 2 สักพักแล้วไปเล่นบาสต่อทั้งสนามเหลือผมคนเดียว เกือบหนึ่งทุ่มละฟ้าเริ่มมืดแล้ว โรงเรียนก็แทบจะเงียบกริบ คงต้องกลับบ้านเสียที
จ๋อม.......จ๋อม.......
เสียงแว่วมาไกลๆ จากทางสนามฟุตบอลพอเดาได้ว่าเป็นเสียงไม้กระทบผิวน้ำ คงมีใครทำลูกบอลหล่นลงสระ
จะทุ่มนึงแล้วนา ....ใจนึงอยากรีบกลับบ้านก่อนโดนพี่ด่าแต่อาจมีคนกำลังลำบากก็ได้....เดินไปดูหน่อยละกัน
บนขอบปูนริมสระ เด็กนักเรียนตัวเล็กกว่าผม คาดว่าคงอยู่ม.2 กำลังใช้กิ่งไม้ลำยาวพยายามเขี่ยบอลที่ลอยไปไกล
"ให้พี่ช่วยมั๊ย?"
"ต้...." น้องชะงัก หรือเรียกว่าสะดุ้งเหมือนเห็นผีดีหว่า ถึงจะมืดแต่ก็พอเห็นรอยเปื้อนโคลนมอมแมมใต้แว่นกรอบเงิน น้องเขาคงทุลักทุเลอยู่คนเดียวมานานพอสมควร
"พี่ช่วยละกัน" ผมคว้ากิ่งไม้มา
".....ขอบคุณครับ"
"เรียกพี่ต้นก็ได้นะ"
"....ครับ" น้องเขาตอบซื่อๆ น่ารักดีแฮะ ผมพยายามเขี่ยบอลแต่ไม้ยาวไม่พอ ถ้ายืดไปอีกนิดคงถึงละ
"นายช่วยพี่หน่อยนะ" ผมยื่นมือข้างขวาให้น้องช่วยจับไว้แล้วยืดตัวไปเขี่ยบอลที่อยู่ห่างอีกศอกเดียว
"เอากิ่งไม้มาต่ออีกหน่อยไม่ดีกว่าเหรอครับ?"
"อีกนิดเดียวไม่เป็นไร"
เหยียบขอบปูนยื่นตัวไปอีกนิดก็ถึงแล้ว อีกนิดเดียว....อีกนิดนึง....อีกนิดนึง.....อีกนิ----- พรืด!!!! ตูม!!!!
เสียงน้ำแตกกระจาย สัมผัสต่อมาคือขาผมจมลงโคลนตมชนิดของเก่าถอดทิ้งใส่มิ้งค์ดีกว่า เอ๊ย! ไปหาซื้อคู่ใหม่ได้เลยไม่ต้องงม โหย! น้ำเหม็นอิ๊บอ๋าย! ดีนะอย่างน้อยตรูก็ยืนถึง ไม่ต้องจมบ่อปลาตายอนาถเป็นผีเฝ้าสระมรกต
"พี่ต้นเป็นอะไรรึเปล่าครับ!!! ผ...ผมขอโทษนะ! ผมขอโทษ!"
เจ้าน้องบนขอบปูนกำลังพยายามจะฉุดผมขึ้น มันคงขึ้นได้หรอกนะ
"นายอย่ายื่นตัวออกมา!"
"ผมขอโทษครับ....ขอโทษ....."
"นายอย่าร้องไห้สิ พี่ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย ฮะๆๆ"
ตรูยังไม่ตาย แค่อับอายจนอยากมุดดินไปหาพระร่วงเท่านั้นแหละ
ไหนๆ ก็ตกน้ำละ ผมลุยโคลนเลนไปอีกนิดก็เขี่ยลูกบอลได้แล้วโยนขึ้นจากสระ ทีนี้ก็เอาสังขารตัวเองขึ้นมาด้วย
สภาพตรูตอนนี้คงเหมือนมฤตยูเขียวเลยวุ้ย ดีนะไม่มีคนอื่นอยู่แถวนี้ไม่งั้นกรูคงโดนล้อไปอีกสิบชาติ
ผมถอดเสื้อมาล้างน้ำก๊อกที่อยู่ใกล้ๆ เอาคราบเขียวอี๋ออกก่อน ส่วนถุงเท้ากับรองเท้าจมโคลนหายไปแล้ว
"เจ็บมากไหมครับ?...ฮึกๆ....ผมผิดเอง....."
"อย่าคิดมากน่า พี่ไม่เป็นอะไรจริงๆ อย่าร้องไห้นะ"
"ผมขอโทษ....ผม....ผมสัญญา....ผมสัญญาจะไม่ทำให้พี่เจ็บอีก"
เวรล่ะน้องร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร ขืนอาจารย์มาเห็นตอนนี้....ไอ้ผมก็ถอดเสื้ออยู่ซะด้วย ใครมาเจอคงนึกว่าตรูทำอนาจารน้องแหงๆ ไม่รู้จะทำยังไงให้น้องหยุดร้องได้เลยกอดเขาปลอบใจแบบเดียวกับที่พี่ต้อมเคยทำสมัยเด็กๆ
....ได้ผล น้องหยุดร้องแล้ว แต่ผมสิแย่....ตัวอุ่นๆ ในอ้อมแขนทำเอาใจหวิว... เส้นผมที่แนบกับอกนี่ก็นุ่มดีชะมัด
"อย่าร้องไห้นะน้อง" ผมหลับตาซุกหน้าลงที่หัวเขาเพื่อปลอบใจเหมือนที่พี่ผมชอบทำ น้องเขาคงเงยหน้าขึ้นมาจังหวะเดียวกัน....ปากของผมเลยแตะลง....ที่หน้าผาก.....
"ต...ต้น" เสียงของน้องเรียกสติผมกลับมา.....เฮ้ย!! ตายห่าแล้ว! นี่ตรู.....!!!
"น...น....น้องได้ลูกบอลแล้วใช่มั๊ย! งั้นพี่ไปละนะ! อย่ากลับบ้านดึกล่ะ!!"
ผมรีบคว้ากระเป๋าคว้าเสื้อมาสวมทั้งที่ยังเปียกๆ รีบจ้ำอ้าวเท้าเปล่าออกนอกโรงเรียนเลย ยังดีมีรถสามล้อเครื่องให้นั่งกลับบ้านได้ ใจยังหวิวๆ ไม่หาย....นี่ผมจูบหน้าผากน้องเขาเต็มๆ สัมผัสอุ่นๆ ที่ริมฝีปากทำไมถึงรู้สึกดีขนาดนี้
....แต่.....อ๊าก!!! ตรูเป็นรุ่นพี่ประสาอะไรถึงได้ทำลงไปแบบน้านนนนน!!!
รู้สึกผิด แต่ก็รู้สึกดี....รู้สึกดีมากๆ เลยด้วยล่ะ แต่ก็รู้สึกผิด สับสนกับความคิดตัวเองอยู่อย่างนั้นตลอดสามสัปดาห์ที่ปิดเทอม หวังว่าน้องเขาคงไม่คิดอะไรมาก แต่ลึกๆใจมันหวังไปคนละทางเลย.....จะบ้าเรอะ! มรึงจะพาน้องเขาเข้าวงการเบี่ยงเบนรึไงไอ้บ้าต้น!!
พอเปิดเทอมสอง ผมก็ด้อมๆ มองๆ น้องม.2 แต่ก็ไม่เจอใครที่คล้ายสักคน ผ่านช่วงปิดเทอมสามสัปดาห์มาผมแทบจำหน้าน้องคนนั้นไม่ได้แล้ว ก็ตอนนั้นมันมืดจนมองไม่ถนัด จำได้ก็แค่ตัวอุ่นๆ ที่สูงระดับอกและแว่นตากรอบเงินนั่น
.....น้องเขาจะคิดมากมั๊ยวะ?....หรืออายจนลาออก....ไม่มั้ง ถามพวกน้องโอก็ไม่มีใครได้ยินว่ามีเด็กม.2 คนไหนลาออกนี่นา แล้วน้องเขาหายไปไหน? ถึงจะโล่งใจบ้างแต่ผมก็ยังรู้สึกผิด ....ความรู้สึกโหวงเหวงนี้....บางทีน้องเขาอาจลืมเรื่องนั้นไปแล้ว.....น้องเขาคงลืมไปแล้ว
...............
...............
นึกแล้วก็ขำตัวเอง แค่เรื่องเปิ่นๆ ในเย็นวันหนึ่งทำให้ผมหลงรักรุ่นน้องที่ผมจำหน้าไม่ได้ ทุกวันนี้ก็ยังนึกถึงเรื่องนั้นอยู่ น้องเขาอาจลืมไปแล้วแต่ผมยังจำได้ดี ......รุ่นน้องที่ร้องไห้ในอ้อมแขนของผม คนที่ได้จูบแรกของผมไปถึงจะเป็นแค่จูบที่หน้าผากก็เถอะ
รักแรกของผมเกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็วในเย็นวันนั้นของปีที่แล้ว ......ปีเดียวกับที่กริชเจอความรักที่เจ็บปวด
.....ผมไม่อยากเสียกริชไปเหมือนเรื่องเมื่อครั้งนั้น ได้แต่ผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ แต่อีกไม่นานคงต้องบอกความจริงกับเขาซะที.....
เสียงกริ่งหมดเวลาพักดังขึ้น รีบเอาแว่นไปให้เจ้าโอที่ห้องมันก่อนดีกว่า
"อ้าว! วิงยังไม่เข้าห้องเหรอ?" ทำไมป่านนี้มันยังเดินเอ้อระเหยที่สนามบาส หน้าก็หมองๆ พิกล
"เรา....มัวแต่นั่งคุยกับเพื่อนเพลินไปหน่อยน่ะ"
"วิง นายเป็นอะไรรึเปล่า? ทำไมหน้าเศร้าๆ?" ถามตรงๆ เลย หน้ามันชวนให้คาใจข้างในลึกๆ
"........ไม่มีอะไรหรอก แล้วต้นไปไหนมาเหรอ?"
"เราไปนั่งเล่นที่สระน้ำน่ะ พอดีแดดมันร้อน" ตอบเลี่ยงๆ ไป ใครจะกล้าบอกล่ะว่านึกถึงความหลังเปิ่นๆ แต่เจ้าวิงมองหน้าผมแบบแปลกๆ
"ถามจริงวิงนายเป็นอะไรรึเปล่า? ยังป่วยอยู่เหรอ?"
"เปล่า....เอ่อ...เราไปก่อนนะต้นเดี๋ยวเข้าคาบห้าไม่ทัน แล้วพรุ่งนี้ตอนเย็นเราไปเชียร์ต้นได้มั๊ย?"
"ได้สิ มาเลยมีคนเชียร์เยอะๆ สนุกดีออก"
เจ้าวิงพยักหน้าแล้วเดินขึ้นบันไดไป .......เป็นอะไรของมันฟระ? ถามก็ไม่ยอมตอบ......
************************
-
:impress:
มาต่อแระ
เรื่องมันก็เป็นแบบนี้นี่เองเจ้าต้น
รออ่านต่อไปนะครับ
o15
-
รอลุ้นต่อ :m11:
-
หุหุ รักแรกของต้น :a1: :a1: :a1:
-
กริ๊บ กริ้ว~~~~ :a3: มาต่อแว้วววววว
หนุกมักๆ อยากรู้จริงๆเด็กผู้โชคดีคนนั้นเป็นไค :m21:
อยากอ่านต่อมากกกกกกกกกกกกกกกกก โปรดมาต่อไวๆน่ะครับ :m5:
-
เด็กใส่แว่น กรอบเงิน ที่เปน จูบแรกของนายต้น จาต้องเปนเจ้าวิง แน่ ๆ เรยยยย :m3:
-
:m21: รักแรกของต้นเป็นวิงหรือเปล่าเนีย
-
เด็กใส่แว่น กรอบเงิน ที่เปน จูบแรกของนายต้น จาต้องเปนเจ้าวิง แน่ ๆ เรยยยย :m3:
เห็นด้วย
:m21: รักแรกของต้นเป็นวิงหรือเปล่าเนีย
ก็ว่างั้นเหมือนกันน้า
-----------------
วิงทำท่าทางแปลกๆงี้ สงสัยต้องย้ายโรงเรียนหรืออะไรงี้แน่เลย :เฮ้อ:
-
ขอโทษที่มาข้าไป
:o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
-
:impress:
งืม ๆ เห็นด้วย ว่าต้องเป็นเจ้าวิง
o15
-
ตอนที่ 18 (วิง)
Everytime I see you falling
I get down on my knees and pray
I'm waiting for that final moment
To say the words that I can't say....
ผมกดฟังเพลงนั้นซ้ำๆ .....จิตใจมันปั่นป่วนไปหมด นี่ผมกำลังทำอะไร.....อยากทำแบบนี้จริงๆ หรือ?
"ไงไอ้จ่อย มานั่งทำอะไรแถวนี้วะ?"
"หวัดดีป้อม"
"ขอดูมือถือมรึงหน่อยดิ๊! เอามาให้เร็วอย่าให้ต้องใช้กำลังนะโว้ย!"
ผมยื่นมือถือให้ป้อม เพื่อนห้องเดียวกันสมัยม.3 มันรับไปนั่งพลิกไปพลิกมา....ผมได้แต่มองมันเงียบๆ
ชายเสื้อมันหลุดรุ่ย กางเกงผ้าแข็งๆ สั้นเต่อ กับรองเท้าเหยียบส้นครบสูตรตามเคย
"วิง มรึงกินข้าวเที่ยงยังน่ะมานั่งเล่นมือถืออยู่ได้?"
"กินเสร็จแล้ว นายล่ะป้อม?"
"เรื่องของกรูน่ะ....เออ แล้วมือถือมรึงใช้ไงวะ?"
"ถ้าจะถ่ายรูปก็กดปุ่มข้างซ้ายน่ะ"
"อ้าวไอ้นี่เสรือกบอกกรูอีก ถูกใจว่ะ กรูยึดเลยละกันนะวิง"
"เติมเงินให้ด้วยนะ"
ป้อมมองหน้าแล้วส่ายหัว "แสรดเอ๊ย! มรึงนี่ไม่กลัวกรูยึดไปจริงๆ เหรอไง? กรูเด็กเลวนะมรึงเห็นมั๊ย?"
"เรารู้ว่านายไม่เอาไปหรอก"
"ในโรงเรียนนี้คงมีแต่มรึงว่ะวิงที่คิดว่ากรูไม่เหรี้ย" ป้อมกดปุ่มไปเรื่อยๆ แล้วยื่นมือถือคืนมา
"ไม่ใช่'คิดว่า' แต่ 'รู้ว่า' ตะหาก"
"อยู่สายวิทย์แล้วสำบัดสำนวนขึ้นเยอะนะมรึง"
"ถ้าพวกอาจารย์คิดแบบมรึง...กรูจะเลิกเป็นเด็กเลวทันทีเลย....แมร่ง! ตอนนั้นกรูแค่นั่งในกลุ่ม ใครไม่รู้เสรือกพกยามา ชื่อกรูเลยขึ้นบัญชีดำไปด้วย พ่อแม่กรูรีบแจ้นมาช่วย....มรึงรู้มั๊ย? ไม่ได้มาช่วยกรูนะ...มาช่วยด่ากรูซ้ำสอง กรูเลยเหรี้ยทดแทนบุญคุณซะเลย" ป้อมพูดตาปริบๆ
"เสียใจด้วยนะ ยังไงต้องมีคนเข้าใจนายว่ะป้อม"
"เด็กเรียนแบบมรึงไม่รู้หรอกว่ามันเป็นไง...แต่ก็ขอบใจนะ....เออ นั่นเบอร์กรูนะ กรูเมมไม่เป็น มรึงจัดการเองละกัน มีปัญหาเรื่องจีบหญิงโทรถามกรูได้ทุกเมื่อนะว้อย!"
"ฮะๆ เอาอะไรมาพูด"
"อย่าเลยๆ คิดเหรอกรูดูไม่ออก ตอนม.3 จู่ๆ มรึงโหมฝึกกีตาร์แถมตัวสูงพรวดๆ คงดื่มนมทุกวันล่ะสิ? แล้วยัง....." ป้อมเอานิ้ววนๆ รอบหน้า
"มรึงดูหล่อขึ้นว่ะกรูพูดจริงๆ ทำขนาดนี้ไม่ใช่เพราะเล็งสาวแล้วจะมีสาเหตุไหนอีกว้าไอ้จ่อย?"
"ก็ฝึกเพ่งนิ้วชี้แล้วขยับนิ้วเข้าออกแบบเนี้ย ทำทุกวันเดี๋ยวก็---"
"กรูไม่ได้สนใจเรื่องนั้นโว้ย!! มรึงอย่าแถไปเรื่องอื่น" ....รู้ทันอีก....
"บอกมาดิ๊คนไหนเดี๋ยวกรูไปจับมานั่งตรงนี้ให้มรึงสารภาพรักกันเลย จืดอย่างมรึงน่ะชาติหน้ากว่าจะกล้าเอ่ยปาก"
"ไม่ต้องว้อย! เราจัดการเองได้น่า" ....ได้ซะที่ไหนเล่า ไม่งั้นจะนั่งกลุ้มแบบนี้รึ....
"เฮ้อ! ไอ้จ่อยๆๆ....ต่อไปคงเรียกแบบนี้ไม่ได้แล้วสิ เล่นเปลี่ยนตัวเองขนาดนี้กรูยังจำแทบไม่ได้" ...ไม่ได้จ่อยโว้ย แค่เกิดหลังพวกนายตะหาก...
ยังไม่ทันคุยอะไรต่อป้อมก็ลุกพรวด "อาจารย์เดินมาว่ะกรูไปละ! เดี๋ยวมรึงเดือดร้อน"
"เออ....วิง ที่กรูเคยแกล้งมรึงตอนม.3 กรูขอโทษนะ แต่ตอนนั้นมรึงตัวโคตรเล็กน่าแกล้งจริงๆ ว่ะ"
"นั่นนายหยอกเล่นกับเราตะหาก ดีซะอีกเราได้มีเพื่อน"
"เฮ้อ!.....คนดีๆ อย่างมรึงนี่น้า ใครได้เป็นแฟนคงโชคดีชิบหาย" ป้อมหันหลังโบกมือด้วยท่าแบบจิ๊กโก๋ที่มันพยายามเก๊กประชดชีวิต
ผมลุกเดินไปที่สนามบาส ตอนนี้บาสสีแดงม.ต้นกำลังแข่งอยู่ เขาน่าจะอยู่ที่นั่น
....คนดีๆ เหรอ....คงไม่ใช่หรอกป้อม....
ผมเดินตรงไปที่สนามบาส เห็นต้นนั่งคุยอยู่ในกลุ่มนักบาสสีแดง อยากจะทักแต่ไม่รู้เขาจะรำคาญมั๊ย วันศุกร์ที่แล้วก็ทำให้เขาต้องลาเรียนครึ่งวัน แล้วยังประโยคที่ผมพูดกับเขานั่นอีก เขาจะคิดมากไหมนะ?
"หวัดดีวิง หายดีแล้วเหรอ?"
"หายแล้วล่ะเม้ง ขอบใจนะวันนั้นลำบากนายต้องไปลาเรียนให้เรา แต่เราไม่ได้ป่วยแบบที่ต้นบอกนะเม้ง"
"เรารู้น่าวิง ไอ้ต้นมันแบบนี้แหละชอบแกล้งเพื่อนไปเรื่อย"
....แค่ได้ยินใครเอ่ยชื่อเขาหัวใจผมก็ร้อนวูบวาบซะละ เม้งจะสังเกตไหมนะ....
"เม้ง ฝากถือของให้น้องโอทีดิ!"
"เฮ้ย! ต้นไปไหนๆ?"
"ไปเมโทร" จู่ๆ ต้นก็รีบเดินเข้ามาแล้วเดินก้มหน้าหายไปเลย...ต้นเป็นอะไรอีกแล้ว....หรือว่า...
"อะไรของมันวะรีบไปไหนยังแข่งไม่จบเลย? วิงนั่งอยู่ตรงนี้ก็ไม่ทัก"
"ต้นเขาคงไม่ทันเห็นเรามั้ง ไม่เป็นไรหรอก เขาคงมีธุระด่วน"
"นับวันมันยิ่งเพี้ยนขึ้นทุกที แล้วมุขเมโทรอะไรเนี่ยเราจะรู้จักไหมมั๊ยวะ? นับวันมุขมันยิ่งย้อนยุค.....โทรถามอาป๊าดีกว่า"
ผมชินซะแล้วล่ะกับการที่ใครๆ มองผ่านผมไป ตอนม.ต้นก็เป็นแบบนี้เสมอ แต่อาการร้อนรนอย่างนี้ของต้นจะเป็นเพราะ....นั่นไง....ใช่จริงๆ....รุ่นพี่ม.6 ตัวสูงที่เดินมาไกลๆ จากอีกฟากของสนาม
"จะหลบหน้าแบบนี้อีกนานแค่ไหน?"
"หืม? วิงนายว่าอะไรนะ?"
"ป...เปล่า เราถามว่าอีกนานไหมกว่าบาสจะแข่งเสร็จน่ะ?"
"คงอีกห้านาทีมั้งนี่ก็ใกล้จบแล้ว ยังไงสีแดงก็ชนะแหงๆ"
"งั้นเราไปก่อนนะ โทษทีเม้งเราไม่ได้ดูจนแข่งเสร็จ"
"อืม ไม่เป็นไรหรอก พรุ่งนี้ตอนเย็นวิงจะมาเชียร์เรากับต้นมั๊ย?"
"มาสิ มาแน่ๆ"
ผมเดินตรงเข้าไปหาเขา...คงถึงเวลาต้องพูดซักที....ผมไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำบ้าอะไรแต่ผมทนเห็นต้นต้องวิ่งหลบแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
พี่เขาคงสั่งให้ต้นทำแบบนี้ล่ะสิ! พอเข้าใจนะว่าความสัมพันธ์อย่างนี้มันต้องปกปิดแต่ถึงขั้นต้องสั่งให้หลบหน้าก็เกินไป ทุกครั้งที่เห็นต้นลำบากผมก็เจ็บด้วย!
ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ใจก็เต้นแรงเป็นบ้า....นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่? คิดว่าทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วงั้นเหรอ?
พี่โจ้กำลังคุยกับเขาอยู่แบบนี้คงเข้าไปไม่ได้แน่ ผมยืนรอสักพักจนพี่เขาเดินกลับไปที่อาคารเรียนคนเดียว ผมเร่งฝีเท้าตามไป....ตายเป็นตายวะ!
"สวัสดีครับพี่คมเดช"
"สวัสดีครับ น้องมีอะไรเหรอครับ?"
"เอ่อ....ผมชื่อวิงครับพี่....คือ..." โว้ย!! พอยืนตรงหน้าแบบนี้มันเกร็งจนพูดไม่ออกเลย
"พี่คมเดชครับ ....ผมมีเรื่องอยากคุยกับพี่ครับ สะดวกไหมครับ?"
"ได้สิ แต่ถ้าเรื่องกีฬาสีนี่พี่ไม่ได้ทำแล้วนะ ต้องถามพวกพี่โจ้หรือพี่นพนะครับ น้องวิงรู้จักไหมครับ?"
ไม่ได้อยากพูดเรื่องนั้นซะหน่อย รีบพูดให้รู้เรื่องไปเลยดีกว่า
"เปล่าครับ....คือผมอยากจะปรึกษาพี่เรื่องอื่น...."
......
......
"คือจริงๆ ผมเคยคุยกับพี่แล้วครับแต่พี่คงจำผมไม่ได้" ....ขอดูสีหน้าหน่อยเถอะ คนที่บังคับให้ต้นต้องวิ่งหลบหน้าขนาดนั้น.....
"ผมเคยคุยกับพี่คมเดชแล้ว....ที่ห้องพยาบาล"
..
..
..
-
สงสารวิงจังเลย ทุ่มเทมาหลายปี
o7 o7 o7
-
ง่า~~~~ ทำให้อยากแล้วจากไป ~~~
เราชอบวิงน่ะ วิงเป็นคนดีมากเลย แต่เราเชียร์ กริชก่ะต้น
วิงอย่าน้อยใจน่ะ เรายังว่าง 5555+ :a9:
-
:impress:
มานยางงายกานหว่า
รออ่านต่อไปครับ
o15
-
:a5: วิงคือบุคคลที่สามในห้องพยาบาล :a5: :a5:
-
เชียร์กฤษแต่ชอบวิงอะค๊าฟทำไงดี :m1:
ต้นเหมาสองเลยได้ป่ะค๊าฟ :m17:
อยากเห็นเรื่องที่มันเป็นแบบนี้มั่งจังคงจะสนุกมิใช่น้อย :a9: :bye2:
-
อ่ะ.....แย่แล้วๆๆๆ......แอบปันใจให้วิงอ่ะ....... :o8: :o8:
จะว่าไป....เหมา 2 ก็เป็นความคิดที่ดีนะ 5555+ :m3: :m3:
-
วิง วิง วิง
:m17: :m17: :m17:
-
อ่ะงึ่มๆๆ
ที่แท้รักแรกชั่ววูบของต้นก็เปงวิงอิงอิงอิง.. :m1:
โอ๊วววว!! ตื่นเต้นๆ อยากรู้ว่าวิงจะพูดอะไรกะกริชชช :serius2:
-
อ้ากซซซซซซซ!! จะยุ่งยากซับซ้อนกันปายถึงหนายยยยยยยยยย :serius2:
เห็นด้วยกับหลายๆคนครับ กริชก็แสนดี วิงก็สุดน่ารัก ... เลือกไม่ถูกเหมือนกันนะเนี่ย .... ขอควบสองเลยนะ อิอิ o17
-
:impress: :impress:รอ..ร้อ....รอ :impress: :impress:
-
:m5: :m5: ยุ่งแน่ๆ ต้นเอย :m5: :m5:
-
..
..
สีหน้าเขายังนิ่ง แต่ข้างในใจจะคิดอะไรผมเดาไม่ออกจริงๆ แต่ผมจะหลบตาไม่ได้ ยังไงผมก็ลูกผู้ชายเหมือนกัน
"น้องเองเหรอครับ? ขอบใจนะที่ช่วยพี่"
"ผมไม่ได้มาข่มขู่อะไรพี่นะครับ....คือ...ผม....."
"พี่รู้ครับ น้องวิงไม่ทำแบบนั้นหรอก พี่ขอบใจนายนะ"
"ผมอยากคุยอะไรกับพี่คมเดช....ได้มั๊ยครับ?"
"........ได้สิ ไปหลังตึกกันมั๊ยเงียบดี?"
ผมเดินตามพี่เขาไปช้าๆ ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่....ถ้าลับสายตาคนอื่นแล้วเขาจะทำอะไรผมบ้าง....
"เรียกพี่กริชก็ได้นะครับ เรียกชื่อเต็มแล้วพี่สะดุ้งนึกว่าอาจารย์มา"
พี่กริชเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อนหลังจากนั่งลงที่ม้าหิน ท่าทางเขาก็ดูเกร็งๆ ไม่แพ้กันแต่ยังรักษาบรรยากาศได้สมกับเป็นพี่ใหญ่ของโรงเรียน ....เรียกพี่กริชก็ได้นะ..... ขนาดวิธีพูดก็ยังเหมือนกัน คิดแบบนั้นแล้วมันเจ็บที่ใจจริงๆ .....ก็เขาเป็นคู่กันนี่นา.....
"น้องวิงมีอะไรเหรอครับ?"
"................."
"มีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็บอกพี่ได้นะ"
"ผมมีเรื่องอยากจะปรึกษาพี่กริชครับ ........คือว่าผมชอบเพื่อนคนนึง......เหมือนที่พี่ชอบ"
ผมต้องกลั้นใจพูดคำสุดท้าย มันไม่ต่างกับการประกาศสงคราม ใจจริงอยากพูดให้ตรงๆ ไปเลย แต่ท่าทางใจดีของพี่เขาทำให้ผมรู้สึกผิด ถ้าพี่เขาทำตัวน่ารังเกียจสักนิดผมคงตัดสินใจง่ายกว่านี้....
"อืม....น้องคงลำบากใจสินะ"
"ครับ....แต่คนที่ผมชอบเขามีแฟนแล้วครับ.....แต่ก็เหมือนไม่ค่อยรักกันเท่าไหร่....ผม......"
คอมันตีบตันจนพูดต่อไม่ออก ผมเกลียดตัวเองที่อ่อนแอแบบนี้! ทำไมถึงไม่กล้าพูดไปตรงๆ! พี่กริชต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายละอายใจ!!!
.....แล้วผมล่ะดีแค่ไหน? นี่ผมกำลังจะทำให้พี่กริชกับต้นต้องเลิกกันเหรอ?
....อยากเห็นคนที่รักกันต้องแยกกันแบบพ่อแม่ผมเหรอ....
"พี่พอเข้าใจความรู้สึกของน้องนะ.....วิงสับสนว่าจะบอกรักเขา หรือจะให้เขากับแฟนรักกันต่อไปใช่มั๊ยครับ?"
ผมจ้องหน้าพี่กริช ทำไมพี่เขาพูดเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว หรือพี่กริชไม่รู้จริงๆ ว่าผมกำลังหมายถึงเขากับต้น?
หรือเขาเข้าใจแต่จงใจพูดแบบนี้?
"พี่พร้อมจะรับฟังน้องเสมอนะครับ แต่พี่คงช่วยตัดสินอะไรไม่ได้นะว่าน้องควรทำยังไง"
"เพราะอะไรครับ?" ตอนนี้ผมเริ่มเลือดขึ้นหน้าแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงรู้สึกแบบนั้น
"เรื่องของหัวใจไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเจ้าตัวน่ะสิครับ เพราะแบบนี้พี่ถึงแนะนำอะไรไม่ได้"
.......เรื่องของหัวใจไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเจ้าตัว.......
ใช่....ผมมันคิดไปเองว่าต้นลำบากที่ต้องหลบหน้าพี่กริชในโรงเรียนตลอดเวลา....
จริงๆ แล้วต้นอาจเต็มใจก็ได้ ไม่งั้นเขาจะทนทำแบบนี้มาตลอดได้ยังไงถ้าไม่ใช่เพราะต้นชอบพี่กริชจริงๆ
.....มันเป็นเรื่องของคนสองคน ส่วนผมมันแค่คนนอก.....
ผมรู้เหรอว่าเขาสองคนมีความจำเป็นขนาดไหนที่ต้องปิดบังความรักที่สังคมไม่ยอมรับแบบนี้
ผมมีสิทธิ์อะไรจะกำหนดว่าเขาควรปกปิดหรือเปิดเผยแค่ไหน
ผมมันเป็นแค่คนนอก ทั้งที่ผมพยายามแสดงความรู้สึกให้เขารู้ตั้งหลายครั้ง...ถ้าต้นไม่รักพี่กริช....ป่านนี้ก็คงจะ.....
"ผมพอเข้าใจที่พี่พูดครับ ......แต่....สมมุติว่าเป็นพี่ พี่จะเลือกทางไหนครับ?"
พี่กริชนิ่งไปนานทีเดียว แววตาเขาดูเศร้ามาก "พี่คง...."
"พี่เลือกให้คนที่เรารักได้มีความสุขที่สุด แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องหรอกนะ น้องคงเข้าใจนะครับ"
"ขอบคุณครับพี่....ผมเข้าใจแล้วครับ"
"น้องวิงสบายใจขึ้นรึยัง?"
"ครับ ขอบคุณพี่มากนะครับ"
"ถ้ามีปัญหาอะไรมาคุยกับพี่ได้ตลอดนะครับ พี่เข้าใจน้องคงอยากระบายให้ใครสักคนฟัง พี่สัญญาจะไม่บอกใครเหมือนกัน"
"ขอบคุณครับพี่กริช" รอยยิ้มที่อ่อนโยนของพี่กริชทำให้ผมตัดสินใจได้ซะที
ใช่....เลือกทางที่ต้นจะมีความสุขมากที่สุด.....คำตอบที่ผมพยายามปฎิเสธมาตลอดทั้งที่รู้ดีอยู่แล้วว่ายังไงผมก็ต้องทำแบบนั้น....อย่าให้คนที่รักกันต้องแยกทางกันแบบพ่อแม่ผมอีกเลย.......ส่วนตัวผมจะเป็นยังไงก็ช่าง.....
ผมเดินผ่านสนามบาส ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังเดินไปไหน ไม่รู้พอๆ กับคำตอบในใจนี้
ทั้งที่ตัดสินใจได้แล้วแต่ใจมันกลับยิ่งเจ็บ ผมควรจะโล่งใจไม่ใช่เหรอ ....อะไรคือทางที่ผมควรเลือกกันแน่.....
"อ้าว! วิงยังไม่เข้าห้องเหรอ?" เสียงของต้นทำเอาผมสะดุ้ง ทำไมถึงโผล่มาตอนนี้นะ....
"เรา....มัวแต่นั่งคุยกับเพื่อนเพลินไปหน่อยน่ะ"
.............
.............
"วิง นายเป็นอะไรรึเปล่า? ทำไมหน้าเศร้าๆ?"
เหมือนทุกครั้ง ปกติต้นอาจมองผ่านผมไป แต่เวลาที่ผมเศร้าเขาจะเห็นและเข้ามาถามไถ่เสมอ...แล้วแบบนี้จะให้ผมตัดใจได้ยังไง....
"........ไม่มีอะไรหรอก แล้วต้นไปไหนมาเหรอ?"
"เราไปนั่งเล่นที่สระน้ำน่ะ พอดีแดดมันร้อน" ......สระน้ำ....หรือว่า......
"ถามจริงวิงนายเป็นอะไรรึเปล่า? ยังป่วยอยู่เหรอ?"
"เปล่า....เอ่อ...เราไปก่อนนะต้นเดี๋ยวเข้าคาบห้าไม่ทัน แล้วพรุ่งนี้ตอนเย็นเราไปเชียร์ต้นได้มั๊ย?"
"ได้สิ มาเลยมีคนเชียร์เยอะๆ สนุกดีออก"
......สระน้ำ......
แค่บังเอิญหรือต้นตั้งใจจะบอกผม.....ผมยังมีความหวังอยู่ใช่มั๊ย?....ผมยังมีความหวังถึงมันจะน้อยนิดก็ตาม....
*******************************************
-
เย้ๆมาลงต่อแล้ว :a2:
แต่ยังไม่ได้อ่านเลยค๊าฟเดี๋ยวขอรีพลายเสร็จแล้วจะอ่าน :laugh:
เดี๋ยวมีคนมาตัดหน้า :a1: :laugh:
เรื่องราวจะเปงงัยน้อ.......อ่านต่อเลยดีกว่า :a4:
-
:laugh: :laugh:
อ่านจบแล้วสุดท้ายวิงก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
สงสารวิงจังเลยคับ
ให้ต้นเหมาสองนั่นแหละดีที่สุดเลยค๊าฟ :m19:
ถ้าคนเขียนบทสามารถจะกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยทีเดียว o1
แต่ถ้าไม่ได้..... :angry......2: o12....... :laugh:
-
กำ จะเหมาสองเลยหรือนายปริ๊นซ์ แต่ก็ว่าไปสงสารวิงจัง
เป็นความรักที่ใครๆก็ใฝ่หา
รักที่เติบโตอยู่ในหัวใจมาเนิ่นนาน
:m11: :m11: :m11: :m11:
-
อย่าให้คนที่รักกันต้องแยกทางกันแบบพ่อแม่ผมอีกเลย.......ส่วนตัวผมจะเป็นยังไงก็ช่าง.....
:m8: :m8:
-
เยส!!!!! มาต่อแล้วววววววว แอบรักวิง อยู่ในใจ~~~~~~~*
แต่กริชเป็นพระเอกของต้น.....อ๊ากกก ทามงายดี วิงจ๋า เรายังว่างน่ะ มาหาเราก็ได้ >w<
-
:impress:
ความรัก มันมีได้คนเดียวเท่านั้น
o15
-
:o
นั่นไง
สุดท้าย ... คนที่ต้นคิดถึงก็คือวิง
แล้วจะเป็นไงต่อไปหนอ .....
:m28:
-
ทางออกก็ ....
ต้นไปขอมีน้อยกะพี่กริช o17 เนื่องจากพี่กริชรักต้นมากเลยยอม :o8: ก็เลยอยู่กัน 3 คนตั้งแต่นั้นมา Happy Ending ..... :m11:
:laugh: :laugh: :laugh:
-
พี่พีพูดถูกสนับสนุนเต็มที่เลยค๊าฟ o17
อยู่ด้วยกันทั้งสามคนเลยดีที่สุดแล้ว :oo1:
:laugh:
-
วิง....วิง....วิง....วิง..... :a9: ((ยังคงแอบปันใจให้อยู่))
แนะนำให้ต้น เหมา 2 :a2:
อยู่กัลหลายๆ คน ครอบครัวสุขสันต์ออกน๊า 5555+ :m3: :m3:
-
ตอนที่ 19
"กริชติวเข้มทุกวันแบบนี้เหนื่อยมั๊ยครับ?"
"อืม ก็เพลียนิดหน่อยนะ ดีที่ติวกันหลายคนเลยไม่เบื่อ"
การคุยโทรศัพท์คืนนี้ทำผมใจเต้นเหมือนกินลิโพเกินสองขวด ก็พรุ่งนี้ผมต้องแข่งบาสรอบแรกแล้วนี่นา ต้องอยู่กลางสนามแถมใส่แว่นไม่ได้ด้วย
"เวลากริชเลิกเรียนนี่กลับบ้านทันทีเลยเหรอครับ?"
"อืม อาจารย์เขาจะมาตอนห้าโมงครึ่งน่ะ"
"โห! ขยันจัง แล้ว...พรุ่งนี้ล่ะครับ?"
"......ก็เหมือนๆ ทุกวันนะ เลิกแล้วก็กลับบ้านมาติวเลย"
"ครับ"
.....ก็เหมือนๆ ทุกวัน..... แต่พรุ่งนี้มันวันพิเศษ กริชก็รู้ ......ที่เขานิ่งไปพักนึงนั่นก็คงชัดอยู่แล้ว......
วันแข่งบาส ม.ปลายรอบแรกของสีแดง ....ความทรงจำของพี่สิงห์..... ที่กริชขัดคำสั่งพ่อแม่มาทำกีฬาสีก็เพราะเรื่องนี้แล้วกริชจะไม่มาดูเหรอ?.....เพราะยังเขม่นกับพี่โจ้อยู่ หรืออยากจะลืมเรื่องพี่สิงห์ ผมไม่ได้อยากให้เรื่องเป็นแบบนี้เลย ไม่อยากให้กริชต้องเจ็บปวดแบบนี้เลย....ไม่ได้ๆ....สิ่งที่ผมจะให้กริชคือรอยยิ้ม ไม่ใช่น้ำตาแบบนี้
"ต้น"
"ครับ?"
"ทำงานเหนื่อยเหรอ?"
"ไม่เหนื่อยหรอกครับ"
"จริงเหรอ? เมื่อกี้ผมถามไปต้นก็เงียบ ง่วงรึเปล่านี่เกือบห้าทุ่มแล้วนะ?"
"ยังไม่ง่วงหรอกครับ แล้วกริชล่ะ?" .....คืนนี้จะนอนหลับมั๊ยยังไม่รู้เลย ใจมันปั่นป่วนไปหมด....
"ผมเริ่มง่วงแล้วล่ะ นี่ผมนอนคุยบนเตียงนะ เพื่อนๆ ผมเขาไปนอนอีกห้อง"
"ครับ"
"แต่นอนไม่ค่อยหลับเล้ย กลัวเพื่อนผมมาลักหลับ" .....ติงต๊อง.....ตรูอุตส่าห์เครียด.....
"แล้วต้นนอนยัง?"
"กำลังนอนคุยอยู่เหมือนกันครับ"
"....แล้วนอนคนเดียวเหรอ?" .....ทำไมทำเสียงกระเส่า....
"ครับ"
"ปิดไฟยัง?" .....แน่ะ....ทำเสียงกระซิบกระซาบ......
"ป....ปิดแล้วครับ" .....อย่าบอกนะว่ากริชจะ.....
"นอนใส่เสื้ออุ่นดีรึเปล่า?"
"ส...ส....ใส่ครับ" ......แหงๆ แล้วแบบนี้.....
"แล้ว......"
"โอ๊ย! ไม่เอานะ กริชลามก!"
"ใครลามก? ผมจะบอกว่าอากาศเริ่มหนาวแล้วต้องนอนห่มผ้าตะหาก" .....แป่ว.....ดึงเสื้อยืดกลับเข้าที่เดิม.....
"ต้นนี่หื่นจริงๆ เข้านอนได้แล้วนะ"
"คร้าบ หลับฝันดีนะครับพี่ชายสุดที่รัก" .....ตรูก็อุตส่าห์หวัง.....
"เช่นกันคร้าบน้องชายสุดที่รักของผม"
"กริชครับ .....พรุ่งนี้เราจะตั้งใจเต็มที่ครับ"
"อืม แต่อย่าทำงานหักโหมเกินไปนะต้น รักษาสุขภาพด้วย"
คุยกันคนละเรื่องเดียวกัน ก็ผมเองนี่หว่าตัวสร้างปัญหาทั้งหมด ช่างเถอะ....พรุ่งนี้ผมจะผ่านรอบแรกให้ได้!!
กริชก็ท่าทางร่าเริงดี บางทีเขาคงทำใจได้แล้ว.....กริชโตขึ้นแล้ว.....แต่ตอนนี้จะทำไงกับเจ้าหมูยอที่ไม่ยอมนอนนี่ดีหว่า? ไม่ได้ๆ เดี๋ยวเสียพลังงาน เออว่าแล้วก็ใส่ซิมปกติซะหน่อยเผื่อเม้งจะมีข่าวอะไรเกี่ยวกับการแข่งพรุ่งนี้
วิง โทรหาคุณเป็นจำนวน 2 ครั้ง
วิงมีอะไรหว่า? ตั้งแต่แลกเบอร์กันสัปดาห์ก่อนก็เพิ่งวันนี้แหละที่วิงโทรมาเป็นครั้งแรก หรือมันมีเรื่องอะไร?
คงไม่ได้ไปเมาเละอีกนะ?
"ส...ส...สวัสดีต้น!!"
"สวัสดีวิง โทรมามีอะไรเหรอ?"
"ไม่มี ไม่มีอะไรหรอก......จะ...จะบอกว่าให้ต้นโชคดีแข่งชนะเท่านั้นแหละ ขอโทษนะต้นเข้านอนรึยังเนี่ย?"
"กำลังจะนอนแล้วล่ะแต่คุยได้ไม่เป็นไรหรอก"
"ห...เหรอ แล้วต้นทานข้าวยัง?"
.....มันมีปัญหาในการลำดับพฤติกรรมเบื้องต้นของมนุษย์รึเปล่าเนี่ย? ก็บอกแหมบๆ ว่าจะนอนแล้ว....แล้วทำไมมันพูดติดอ่างพิกล.....
"ทานแล้วล่ะ แล้วนายล่ะวิง?"
"เราก็ทานแล้ว ต้น...อ....อย่าลืมอาบน้ำแต่หัวค่ำนะ คืนนี้อากาศหนาว" ....นี่ห้าทุ่มแล้วนะ....แต่ก็ขอบใจในความหวังดี....
"วิง นายไม่สบายรึเปล่า? ตอนกลางวันก็แปลกๆ"
"เราไม่เป็นอะไรหรอก พอดีคิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยน่ะ"
"มีอะไรก็บอกเราได้นะ เห็นนายซึมๆ แบบนี้เราเป็นห่วง"
"......อืม ขอบใจนะต้น.......รีบนอนเถอะพรุ่งนี้ต้องแข่ง แล้วเราจะไปเชียร์นายนะ" พูดจบแล้วก็วางหูไปเลย
อะไรของมันหว่า? หรือมีปัญหาที่บ้านอีก? ตอนที่เจ้าวิงพูดคำว่าขอโทษ....ทำไมรู้สึกคุ้นๆ.....
โอ๊ย! ไม่ไหวแล้วขืนคิดมากคงนอนไม่หลับพอดี ไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกับวิงละกัน......
ผมพลิกหมอนดูอีกที....เข็มสีทองวางเป็นคู่อยู่ใต้หมอน......หัวใจกริชกับผม.....พรุ่งนี้แล้วที่ความเจ็บจะต้องหมดไป
*********
-
:impress:
แข่งให้ชนะนะเจ้าวิง เป็นกำลังใจให้
แล้วกริชจะมาดุไหมเนี่ย
ลุ้น ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
รออ่านต่อไปนะครับ
o15
-
เย้ ในที่สุดก็มาต่อออออออ
กริชสุดที่เลิฟโพล่มาแร้ว ขอให้พรุ่งนี้ต้นก่ะกริชร๊ากกกกกกัน มากกว่าเดิม
ส่วนวิง เรายังว่างน่ะ มาหาเราเถอะ เบบี๋ :m3:
-
ถ้าน้องซอฯ (คนเขียน) มาอ่าน อยากทวงภาคใหม่คับ ม่ะไหร่จะเขียนซะที............
อยากน้อยก็ขอให้มีฉากอย่างว่าแบบจะจะของตัวเอกทั้งสอง(หรือสาม) มั่งได้ม๊ายยยยย :m26:
-
สวัสดีครับทุกท่าน ขอบคุณมิตรรักแฟนเพลงทุกท่านที่ติดตามนิยายเรื่องแรกในชีวิตของผมมาตลอดครับ
ขอบคุณคุณพูห์ที่โพสนิยายให้ผมมาตลอดด้วยนะครับ
ขอบคุณพี่ Staying Power ด้วยครับ อุตส่าห์แวะมาเยี่ยมเยียนทั้งที่งานเยอะ แต่ฉากอย่างว่านี่ผมเขียนม่ายเป็นคร้าบผมใสซื่อ (ยืมประโยคพี่มาแหละ เอิ๊กๆ)
อยากทักทายพูดคุยกับทุกท่านนะครับแต่งานยังไม่เสร็จเลย คืนนี้คงโต้รุ่งแหงๆ พรุ่งนี้ก็ไปต่างจังหวัดหลายวัน ไว้กลับมาแล้วจะมาคุยเยอะๆ นะครับ
-
มา+ให้คนนอนสว่าง :m4:
ว่าจะอยู่เป็นเพื่อนยันสว่างแต่ง่วงแระมะไหวแย้ว :m23:
รออ่านต่อนะ :m18:
-
พรุ่งนี้แล้วสินะ
:serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
ว่าแต่เอาภาคสองมาเยย คนที่บอกเขียนไม่เป็นนั่นแหละตัวดี
:m26: :m26: :m26:
-
วุ้ย มีทวงนิยายข้ามเรื่องกันด้วย
ขอบคุณ Sorrow ที่แวะมาทักทายนะครับ
เตอิ้ง อย่าลืมนิยายนะครับ ดองมานานจนมีกลิ่นแระ
:a14:
-
พรุ่งนี้แล้วที่ความเจ็บจะต้องหมดไป :impress: :impress: :impress:
-
เราเชียร์นายนะ ต้น สู้ๆ!! :m3:
ชนะเร็วๆจะได้มีฉาก จึ๋ยๆดึ๋ยๆซะที อิอิ :m17:
-
ตอนที่ 20
และแล้วนาฬิกาเรือนใหญ่ด้านนอกตึกหอประชุมก็ชี้เวลาบ่ายสี่ครึ่ง เสียงกองเชียร์ที่มานั่งรอข้างสนามเรียบร้อยแล้ว
นักกีฬาทั้งสองฝ่ายเริ่มทยอยมา เสียงกลองที่ดังจนเขย่าหัวใจให้ยิ่งฮึกเหิมและตื่นกลัว .....ถึงเวลาแล้วสินะ.....
ตอนนี้ได้แต่หวังว่ากริชจะไม่มาแน่ๆ .....ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้เขามาอยู่----
"โห พี่โจ้! ขนมเพียบเลย! ผมกินได้เปล่าครับ?"
"แค่รองท้องก่อนนะน้องเม้ง อย่ากินเยอะเดี๋ยวจุก" แล้วไอ้เม้งก็คุ้ยถุงขนมเสบียงใบใหญ่ตรงที่พักนักกีฬา
ดันมาขัดจังหวะซึ้งของตรูซะได้ เดี๋ยวแช่งให้ยูโร่คัสตาร์ดเค้กติดคอมรึงตามตำนานสยองขวัญของโรงเรียนซะเลย ว่าแล้วก็ขนมโมจิดีกว่า
"โจ้ อัดฉีดแบบนี้เลยเรอะ?" พี่นพเข้ามาสมทบพร้อมกระติกน้ำเย็นถังใหญ่ กับมะนาวฝานโรยเกลือ
"อืม พี่กริชเขาออกเงินน่ะ" .....อุ๊ก!!! โมจิติดคอ! ไหน? กริชอยู่ไหน!!?
"โจ้เจอพี่กริชเขาแล้วเหรอ?"
"อืม เมื่อวานพี่เขามาดูบาสน่ะนพ แต่วันนี้มาไม่ได้เห็นบอกว่าติดธุระแต่ก็ช่วยออกเงินค่าขนมให้"
....อูย เสียววาบ.....มาตอนไหน โชคดีจริงที่ไม่เจอตรู.....
"แล้วคุยกันรู้เรื่องรึยัง? ยังไงเขาก็รุ่นพี่พวกเราปีนึงนะโจ้"
"เราขอโทษพี่เขาแล้วล่ะ พี่กริชเขาไม่คิดอะไร เขาฝากขอโทษทุกคนด้วยที่ทำให้ลำบาก"
"ทุกคน! ถ้าวันนี้ชนะอีกพี่จะเลี้ยงไดโดม่อนนะคร้าบ! สู้ให้เต็มที่เลยนะ!!" เสียงพี่นพประกาศลั่นสนาม ไอ้เม้งดีใจหน้าบานเชียวของโปรดมันล่ะ ตอนนี้พวกพี่ม.6 ก็ไม่เขม่นกับกริชแล้วสินะ....ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นแล้ว....เหลือแค่เวลาที่ผมจะบอกความจริง.....อีกไม่นานแล้ว.....
"ต้น"
"อ้าว! วิงมาแล้วเหรอ?"
"มายืนข้างๆ นายตั้งนานแล้ว เป็นอะไรท่าทางเหม่อๆ?"
"เครียดนิดหน่อยน่ะแข่งรอบแรก....ช่วยกินโมจินี่หน่อยสิวิง พี่เขาเรียกเราลงสนามแล้ว"
ผมถอดแว่นเก็บในกระเป๋านักเรียน ในช่องข้างหน้ามีนาฬิกาสีฟ้าน้ำทะเลและเข็มสีทองของกริชกับผม....กริช......
ถึงกริชไม่ได้เห็น แต่หัวใจนายอยู่กับผมที่นี่แล้ว....ดูผมนะครับ....ความฝันของกริชกับพี่สิงห์.....ความฝันที่ขาดไปนี้ผมจะต่อมันให้เสร็จเอง.....
พี่โจ้เรียกไปรวมกันซักซ้อมแผนครั้งสุดท้ายก่อนให้เข้าสนามบาส เวลาไม่มีแว่นบนหน้านี่มันโล่งๆ ทำใจแป้วจริงๆ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลย
กรรมการเป่านกหวีดเริ่มการแข่ง ....การแข่งรอบแรกเริ่มแล้ว!!.... ลูกบาสถูกโยนขึ้นกลางสนาม พี่ม.6 ฝ่ายสีม่วงปัดลูกส่งให้ทีมตัวเองเลี้ยงเข้ามา
"ไอ้ต้น!! เข้าไปแย่งซิวะ!!!!!" เสียงพี่โจ้ตะโกนอยู่ข้างสนาม เสียงไม่ดังมากแต่แทบทำให้ใจหยุดเต้นได้ .....ไหว้ล่ะพี่อย่าเรียกชื่อตรูได้มั๊ย......
ไอ้บ้า....ฮือๆ ทำไมต้องเลี้ยงบอลมาทางตรูบ่อยๆ ด้วย ยิ่งไม่อยากเด่นอยู่! ไม่ได้เล่นตี่จับนะว้อย!
การแข่งขันดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ฝ่ายผมกำลังตามอยู่แต่ก็แค่ไม่กี่แต้ม ถึงจะเป็นไปตามแผนของพี่โจ้ให้ฝ่ายโน้นโหมบุกก่อนแต่มันก็ยังใจแป้วอยู่ดี เสียงเชียร์รอบสนามอื้ออึงไปหมด ผมกวาดตามองไปรอบๆ หวังว่ากริชคงไม่มา โธ่เว้ย! ไม่ใช่เวลาคิดแบบนั้นนะ!!!
"ต้น!!!!" เสียงเม้งดังพร้อมกับลูกบาสลอยมาทางขอบสนาม ใต้แป้นกำลังว่าง! ผมโดดคว้าบอลได้ก่อนออกนอกเส้นแล้วโยนกลับให้เม้งที่รอใต้แป้นแต่ตัวเองกลิ้งโค่โร่กับพื้นปูนออกไปนอกสนาม ผมรีบกลับเข้าประจำที่ ยังไงก็ต้องรักษาเกมบุกไว้ก่อน รู้สึกละว่าข้อศอกแสบๆ แต่จังหวะนี้มันไม่เจ็บอะไรทั้งนั้น
อยากได้สนามพื้นไม้จัง....สงสัยผอ.ต้องเรียกประชุมผู้ปกครองอีกหลายสิบครั้งเหมือนตอนจะสร้างสระว่ายน้ำ
ช่วงสิบนาทีสุดท้ายฝ่ายผมโหมบุกกลับจนขึ้นมานำอยู่ 2 แต้ม แล้วเสียงนกหวีดก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณจบครึ่งแรก
"ทุกอย่างตามแผน ตัวจริงฝ่ายโน้นเหนื่อยหมดแล้ว เดี๋ยวเปลี่ยนตัวสามคนแล้วบุกเต็มที่นะ ใครเหนื่อยอีกก็บอก"
พี่โจ้บอกแผนรอบสุดท้ายตามด้วยการดุผมเสียยกใหญ่ที่ใจลอย เสร็จแล้วก็ต้องนั่งล้างเศษกรวดออกจากแผล อูย.....ทั้งศอกทั้งแขนเลยวุ้ย
"ไหวมั๊ยวะต้น?"
"อืม นิดเดียวเอง เม้งมรึงพักเหอะเดี๋ยวกรูทำแผลเอง" แต่มันก็ช่วยล้างแผลให้แล้วเดินไปหากล่องพยาบาล
ยังดีที่เจ็บแขนขวาเพราะผมถนัดซ้ายแต่ก็ขยับแขนยากอยู่ดี.....ไม่เป็นไรโว้ย! จะเจ็บจะแสบยังไงค่อยไปรู้สึกหลังแข่งเสร็จละกัน ผมเปิดกระเป๋าอีกครั้ง .....กริชครับ ทีมเราคะแนนนำแล้วนะครับ.....ขอแรงให้ผมอีกหน่อยนะ....
"เจ็บมั๊ยต้น? ท่าทางจะหนักนะ?" ผมสะดุ้งรีบปิดกระเป๋าเอาวางลงข้างตัว
เจ้าวิงเข้ามาดูแผลที่ข้อศอก หน้าตามันเจ็บยิ่งกว่าผมอีก......ตะกี๊วิงมันได้ยินที่ผมพึมพำไหมเนี่ย?.....คงไม่มั้ง.....
"ไม่เจ็บหรอก เสียดายดันเป็นที่ศอกเลยเลียแผลเองไม่ได้" ผมทำท่าพยายามเลียศอกให้ดูจนเจ้าวิงยิ้มออก
"ว่าแต่นายเถอะ แปลกๆ ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ ถามจริงมีเรื่องอะไรรึเปล่า?"
"ต้น! พร้อมยัง!? อีกสามนาทีจะแข่งต่อแล้ว"
ยังไม่ทันคุยรู้เรื่อง เสียงพี่โจ้ก็เร่งอีกผมเลยต้องรีบพันแผลแล้ววิ่งลงสนาม
"วิง มรึงอยู่สีฟ้าแล้วมานั่งเชียร์สีแดงได้ไงวะ?"
"อ้าว! ป้อม ทำไมมาเงียบๆ?"
"ก็กรูโดดเชียร์ แล้วนี่มาดูใครวะ?"
"เพื่อนน่ะ แล้วป้อมจำได้ด้วยเหรอว่าเราอยู่สีฟ้า?"
"ก็สีมันเข้ากับชื่อเล่นของนายนี่หว่า"
"อืม......ขอบใจนะป้อม"
"พี่สีม่วงมองกรูแล้วว่ะ สงสัยจำกรูได้แหงๆ ไปละวิงกรูไม่ชอบนั่งเชียร์" พูดจบป้อมก็รีบลุกไปพร้อมกับเสียงนกหวีดดังขึ้น
ครึ่งหลังไม่น่าเป็นห่วงแล้ว พอฝ่ายโน้นเริ่มเหนื่อยพี่โจ้ก็เปลี่ยนตัวลงไปเสริมเกมบุก คะแนนยิ่งนำโด่งถึงฝ่ายสีม่วงจะพยายามบุกหนักก็ตาม พี่โจ้เปลี่ยนตัวผมออกมาพักก่อนกลับลงสนามใน 15 นาทีสุดท้าย สู้ตายโว้ย!
"หมดเวลา! ทีมสีแดงเป็นฝ่ายชนะ!"
โอ้!....เสียงสวรรค์!! ความเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้งแต่ตัวสิแทบจะคลานออกจากสนาม รีบเปิดกระเป๋าคว้าแว่นมาใส่ก่อนเลย พอนักกีฬาสองฝ่ายทักทายกันหลังเลิกก็ได้เวลาเก็บกวาดสนามและอุปกรณ์ กว่าจะเสร็จก็หกโมงกว่าๆ ฟ้ามืดแล้ว
.....กริชครับ! ผมทำได้แล้ว!! ทีมสีแดงของเราผ่านรอบแรกแล้วนะครับ!!.....
ความดีใจที่ชนะมันอัดแน่นคับอก แต่ผมไม่สามารถบอกให้กริชรู้ ในตอนนี้ผมได้แค่พึมพำกับตัวเองเท่านั้น
....ต้องอดทนเพื่อเขา....อีกสัปดาห์เดียวเท่านั้น!....วันเสาร์หน้ากริชก็จะสอบโควต้าเสร็จแล้ว
"ต้นไปกินไดโดม่อนด้วยกันสิพี่โจ้อุตส่าห์เลี้ยง"
"ไม่เอาหรอก รู้สึกเหนื่อยๆ มรึงไปเหอะเม้ง.....เออ แล้วเห็นไอ้วิงมั๊ยเนี่ย?"
"ตอนแข่งเสร็จยังเห็นอยู่เลยนี่นา" ....ไปไหนของมันอีกนะ?
"เพื่อนพี่คนนั้นเหรอครับ? เห็นเดินไปทางสนามบอลน่ะพี่" น้องโอว่าแล้วก็วิ่งตามคนอื่นๆ ไปไดโดม่อนทันที
สนามก็ไม่ใช่เล็กๆ แต่ผมพอเดาออกว่าเจ้าวิงคงไปที่เก่าที่เคยนั่งคุยกันคราวก่อนตอนที่มันเล่าเรื่องครอบครัวให้ฟังเป็นครั้งแรก
เจ้าวิงนั่งอยู่คนเดียวที่สระน้ำ เฮ้อ.....ตรูยิ่งมีความหลังตรงนี้อยู่ ถึงตอนนี้จะไม่มืดเท่าแต่ครั้งนั้น.....แต่ทำไมภาพมันนั่งคนเดียวแบบนี้ดูคุ้นๆ เหลือเกิน
"มาทำอะไรตรงนี้เหรอวิง?" ผมนั่งลงบนขอบสระน้ำ
"อ้าว! ต้นไม่ไปกับเพื่อนๆ เหรอ?"
"อ๋อ....ไม่ล่ะ ไม่ชอบคนเยอะๆ"
"แล้วยังเจ็บแขนมั๊ย?"
"แสบๆ ตึงๆ นิดหน่อยแต่ไม่เจ็บแล้วล่ะ ว่าแต่นายเถอะหน้าตาหมองๆ มีปัญหาอะไรรึเปล่า?"
"หืม? ไม่มีนี่" ไอ้หน้าแกล้งยิ้มแบบนั้นชวนหงุดหงิดจริงๆ
"วิง.....เราเป็นเพื่อนนายนะ เรารู้ว่านายไม่อยากเล่าแต่บางทีพูดมาอาจสบายใจขึ้นนะ"
"................." มันก้มหน้านิ่งไม่พูดไม่จา
"เรื่องที่บ้านเหรอ?"
"งั้นก็เรื่องความรัก?" ....ถ้านี่ยังไม่ถูกอีกตรูจะตะโกน "มาตามนัด" ข้ามไปข้อต่อไปละนะ.....เจ้าวิงผงกหัวนิดๆ
"บอกเค้าไปแล้วเหรอวิง?"
"ยังไม่ได้บอกหรอกต้น......คงจะไม่บอกแล้วล่ะ"
"อ้าว! ทำไมล่ะ?"
"เรา.......ฮะๆ เรากลัวหน้าแตกน่ะต้น เลยตัดใจไม่บอกละ" .....เฮ้ย! ทำไมเลิกล้มง่ายแบบนี้ฟระ?
"โหย! อย่ากลัวดิ๊ บางทีคนนั้นเขาอาจรอฟังนายอยู่ก็ได้นะ หน้าแตกมันเป็นเรื่องธรรมดา เราเองก็ยังเคยเลยนะอายสุดๆ เลยด้วย"
ผมน่ะออกจะอิจฉาพวกเพื่อนในห้อง พวกมันไปบอกรักสาวง่ายเป็นว่าเล่น พอโดนปฎิเสธกลับมายังคุยเฮฮากับเพื่อนๆ ยังกับเป็นวีรกรรม
"....ยังไงเหรอต้น?"
"เราเล่าให้นายฟังละกันเผื่อนายจะมีกำลังใจไปบอกรักเขาซะที แต่ห้ามเล่าให้คนอื่นฟังนะ ขนาดเม้งมันยังไม่รู้เลย"
ผมหยิบหินก้อนเล็กๆ ปาลงสระตรงตำแหน่งที่คิดว่ารองเท้านันยางของผมจมอยู่ใต้เลนเผื่อมันจะลอยขึ้นมา แต่ก็มีแค่วงน้ำกระเพื่อมเท่านั้น
"ตรงนั้นน่ะวิง....เราเคยตกลงไปในสระด้วยล่ะ"
"ตอนไหนเหรอ?"
"วันก่อนปิดเทอมปีที่แล้ว เราช่วยรุ่นน้องคนนึงเก็บบอลที่หล่นน้ำแต่ดันลื่นตกลงไปซะเอง ฮะๆ ดีนะไม่มีใครอยู่แถวนี้ไม่งั้นดังทั้งโรงเรียนแน่"
"........ต้น......"
"หืม?"
"นั่นไม่ใช่เรื่องน่าอายซะหน่อย....ตอนนั้นนายเท่มากๆ เลยนะ"
คำพูดประโยคนั้นทำผมรู้สึกวูบ เหมือนเสียงคนในสนามฟุตบอลจะเงียบหายไปเหลือแค่แค่ผมกับเจ้าวิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าเท่านั้น ปากพูดไม่ออกแต่ในหัวผมมันกำลังเรียงภาพบางอย่างให้ชัดขึ้นๆ.....
"น้องคนนั้นเล่าให้นายฟังเหรอวิง?" .....ไม่ใช่สิ....ไม่ใช่เล่าให้ฟัง.....
เจ้าวิงยิ้มจางๆ พลางเอื้อมมือมาถอดแว่นออกจากหน้าของผมไปสวม
..
..
-
อ๊ากกกกก มาต่อไวไวนะคับ
สาวกใหม่คับ อ่านรวดเดียวถึงหน้านี้เลย ยังไม่ได้หลับได้นอนตั้งแต่วันศุกร์ :impress:
:m26:จะเป็นผีเฝ้าบอร์ดแล้ว :give2:
-
อย่ามาทิ้งปมไว้อย่างนี้นะ มาต่อด้ววววววยยยยยยยยยย :m16: :m16: :m16:
จงมา จงมา :amen: :amen: :amen: :amen: :amen:
-
:serius2: :serius2: :serius2: ลุ้น ๆ :serius2: :serius2: :serius2:
-
:impress:
ลุ้น ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
จะจำกานได้ไหมเนี่ย
จะเกิดไรต่อไป
มาต่อไว ๆ นะครับ
o15
-
......................มาลงต่อเร็วๆนะค๊าบ...........
....................ลุ้นมักมากเลย.....................
:amen: :amen: :amen: :amen: :amen: :amen:
-
มาต่อไวไวนะคับ :m15: :m15: :m15:
คนนอนเช้ารออยู่ :a5: :a5: :a5:
-
งะแง :o12:คิดถึงต้นนนนนน :give2:
:m15: :m15: :m15: :m15:
-
อย่างที่คิดเรย เจ้าวิง กะ น้องที่เปน ... แรกของนายต้น เปนคนเดียวกัน :m12:
-
o22
ต้นจะช๊อคมั๊ยเนี่ย
-
..
..
"........ต้น......"
"หืม?"
"นั่นไม่ใช่เรื่องน่าอายซะหน่อย....ตอนนั้นนายเท่มากๆ เลยนะ"
คำพูดประโยคนั้นทำผมรู้สึกวูบ เหมือนเสียงคนในสนามฟุตบอลจะเงียบหายไปเหลือแค่แค่ผมกับเจ้าวิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าเท่านั้น ปากพูดไม่ออกแต่ในหัวผมมันกำลังเรียงภาพบางอย่างให้ชัดขึ้นๆ.....
"น้องคนนั้นเล่าให้นายฟังเหรอวิง?" .....ไม่ใช่สิ....ไม่ใช่เล่าให้ฟัง.....
เจ้าวิงยิ้มจางๆ พลางเอื้อมมือมาถอดแว่นออกจากหน้าของผมไปสวม
ภาพตรงหน้ามันก็ค่อยๆ ชัดขึ้น.....ความคล้ายที่ไม่เคยสังเกต....
ที่รู้สึกคุ้นเคยกับวิงตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่เจอ.....อาการใจเต้นประหลาดเวลาอยู่ใกล้.....ความรู้สึกอบอุ่นตอนที่สอนกีตาร์....ความรู้สึกต่างๆ ที่ผมด่าตัวเองมาตลอดว่าอย่าหวั่นไหวเหมือนคนหลายใจ.....ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม.....ถ้าไม่ใช่ผมลองทรง.....ถ้าตัวไม่สูงขนาดนี้.....ถ้า....ใส่แว่น.....
"ฮะๆ ไม่ว่าตอนไหน ต้นก็เห็นเราเป็นน้องเสมอเลยนะ"
"วิง ....น...น...น้องคนนั้นคือนายเหรอเนี่ย?"
"ตอนนั้นต้นนึกว่าเราเป็นรุ่นน้องจริงๆ เหรอ? ฮะๆ แต่ตอนนี้เราก็สูงเกือบเท่านายแล้วนะ" มันหัวเราะเบาๆ แต่ผมสิขำไม่ออก
"แล้วทำไมตอนนั้นถึงเรียกเราว่าพี่ล่ะ?"
"ก็.....บอกไปแล้วนายอย่าล้อเรานะ....." วิงถอดแว่นส่งคืนให้ผมแล้วก็นิ่งเงียบไปนานเลย
..
..
"เราเห็นต้นมาตั้งแต่ม.2 แล้วล่ะ เราว่านายเท่มากเลย เป็นนักกีฬาบาสแล้วก็มีเพื่อนเยอะด้วย เราอยากเก่งแบบนายบ้างแต่ไม่กล้าเข้าไปคุย..... จู่ๆ วันนั้นต้นเดินเข้ามาบอกให้เราเรียกนายว่าพี่....เราก็เลย...."
"ก็เลยเรียกเราว่าพี่อะนะ?"
"อืม ก็ไม่รู้จะเรียกนายยังไงน่ะ คนไม่เคยคุยกันมาก่อน กลัวนายไม่ช่วยเก็บบอลด้วย"
.....เวรกรรม! ทำไมเอ็งซื่อแบบนี้ให้เรียกอะไรก็เรียก หน้าตรูเหมือนนักเลงรึไง!
"แล้วแว่นล่ะ? นายไม่ได้ใส่แว่นแล้วนี่"
"หมอบอกให้เราบริหารสายตามาตั้งแต่ม.2 แล้วล่ะ ฝึกจ้องนิ้วตรงหน้าแล้วขยับนิ้วเข้าออกแบบนี้ก็ช่วยได้ ตอนปิดเทอมหมอบอกว่าไม่ต้องใส่แล้ว แต่เวลามองกระดานดำก็ยังต้องใช้อยู่"
"ทำไมนายไม่เคยบอกเราเรื่องนี้เลยล่ะ?"
"ก็ไม่รู้ว่าต้นยังโกรธเรารึเปล่าน่ะสิ"
"เราจะไปโกรธอะไรนาย?"
"ก็เราทำต้นตกน้ำ......แล้วยัง....เรายังเอาหัวโขกโดนปากนายอีก กลัวต้นจะเอาคืนเราเลยไม่บอก"
อยากจะบ้าตาย..... ที่ผมหามันไม่เจอเพราะมัวแต่มองน้องม.2 จนต้องตัดใจคิดว่ารักแรกของผมมันจบไปแล้ว
ส่วนเจ้าวิงก็เลิกใส่แว่นตอนขึ้นเทอมสองแถมจงใจปิดผมเพราะนึกว่าผมโกรธมัน....แล้วจูบแรกของผมเป็นแค่ 'หัวโขกปาก' .....ฮือๆๆ เรื่องตลกที่ขำไม่ออก.....
"วิง เราไม่ได้โกรธนายเลยนะ"
"ไม่โกรธเราแน่นะ?"
"ไม่โกรธหรอก ตอนนั้นเราซุ่มซ่ามเองนี่หว่า"
"เฮ้อ! โล่งอก! กลัวมาตั้งนานว่าต้นยังโมโหเราอยู่" วิงลุกขึ้นหยิบกระเป๋า
"มืดแล้วล่ะ กลับบ้านกันเถอะ"
ผมได้แต่เดินตามวิงเดินนำหน้าไปทางประตูโรงเรียน....ความรู้สึกต่างๆ มันเต็มหัวไปหมด
น้องตัวจ้อยที่เคยคิดว่าจะไม่มีวันเจอกันอีกแล้ว.....จู่ๆ กลายเป็นเพื่อนที่เดินตรงหน้าได้เห็นกันทุกวัน
เพราะแบบนี้นี่เองถึงรู้สึกคุ้นเคย รู้สึกดีเหมือนวิงเป็นน้องชายที่น่าเอ็นดู.....ถ้าผมรู้เร็วกว่านี้.....ถ้ารู้ก่อนที่จะเจอกริช....ผมคง....
"ตอนแรกนึกว่าต้นลืมไปแล้วก็เลยไม่บอก แต่พอรู้ว่านายยังจำได้ก็พูดไปเลยดีกว่าจะได้สบายใจซะที"
"เรอะ! แล้วถ้าเรายังโกรธนายอยู่ล่ะ?"
"ก็วิ่งหนีดิ! ต้นเพิ่งแข่งบาสมาเหนื่อยๆ แถมแขนเจ็บทำอะไรเราไม่ได้หรอก"
โห! ที่มันกล้าพูดเอาตอนนี้เพราะแบบเนี้ยเองเรอะ! ......ตรูขอถอนคำพูดที่ว่ามันน่าเอ็นดู......
"อือใช่ เราเหนื่อย แขนก็เจ็บ...." ผมใช้แขนซ้ายโอบไหล่มันไว้
"แต่ขายังดีอยู่นะว้อย!"
"อ๊ะๆๆ! อย่านะ! ไม่งั้นเราจะบอกเม้ง!!!" แล้วมันก็วิ่งแจ้นหนีไปไกลโยชน์แล้วหันกลับมาทำหน้าล้อเลียน
"ลองบอกสิ เดี๋ยวจะเตะตกสระคืนบ้างล่ะ!!!"
ลมหนาวเริ่มพัดแรง......และคงจะหอบรักแรกที่แสนเปิ่นของผมไปแล้ว.....ตอนนี้คนตรงหน้าคือเพื่อนที่ผมรู้สึกดีทุกครั้งที่อยู่ใกล้......หัวโขกปาก...ผมยิ้มเศร้าๆ พลางทวนคำนั้นเบาๆ......วิงมันไม่ได้คิดอะไรเลย......
ดีนะที่ตอนนั้นเขาเรียกชื่อผมให้ได้สติ ไม่งั้นผมอาจหน้ามืดจนทำอะไรยิ่งกว่านั้น.....และคงไม่ได้มาเป็นเพื่อนกันอย่างนี้แน่.....
"ต้น เดี๋ยวเราต้องไปทำธุระให้พ่อก่อนนะ นายกลับบ้านเลยละกัน ดึกแล้วด้วย"
"อืม งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะวิง"
ผมขึ้นรถเมล์ตามลำพัง ใจมันโหวงๆ พิกล จากที่เคยกลับพร้อมวิงบ่อยๆ แต่คืนนี้ผมกลับอยากอยู่คนเดียว
พอมาถึงบ้าน ผมหยิบหนังสือรุ่นที่ยืมเม้งมาเปิดช้าๆ .....หน้าเกือบสุดท้ายของชั้นม.3
.....เด็กตัวจ้อยหัวเกรียนที่ดูกลืนหายไปในกลุ่มเพื่อนร่วมห้อง.....คนที่ผมเคยตามหา.....แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นมันจบไปแล้ว ผมเปลี่ยนซิมแต่ก็ได้แค่ถือโทรศัพท์ในมือ ไม่อยากโทรหาเขาตอนนี้เลย ทำไมผมถึงรู้สึกผิดต่อกริช.....
ตรื้ดๆๆๆๆ
เพิ่งพูดอยู่แหมบๆ ก็โทรมาทันที ไม่อยากคุยเลยแต่ถ้าไม่รับสายเขาคงคิดมาก
"สวัสดีครับกริช"
"สวัสดีครับต้น....เป็นอะไรเหรอเสียงเนือยๆ?"
"ม....ไม่เป็นอะไรหรอกครับ วันนี้หนังใหม่เข้าเยอะเลยเหนื่อยนิดหน่อยน่ะครับ"
ชักจะโกหกเก่งจนเป็นนิสัยแล้ว ผมไม่อยากจะเป็นแบบนี้ ไม่อยากโกหกอีกแล้ว
อยากบอกเขาว่าผมผ่านรอบแรกแล้ว อยากเห็นเขาดีใจ อยากให้พี่สิงห์ดีใจ.....แต่ตอนนี้ผมต้องอดทน....
"ผมเป็นห่วงนายนะ อยากเจอต้นมากๆ เลย ผมไปหาได้มั๊ยจะไม่กวนเวลางานหรอก" .....เหยย! จะมาทำไม....
"กริชเตรียมตัวสอบเถอะครับ อีกสัปดาห์เดียว"
"อืม......ขอโทษนะช่วงนี้ผมไม่มีเวลาให้ต้นเลย"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ เราอยากให้กริชสอบได้ ตั้งใจติวนะครับ" พอวางสายเสร็จก็ล้มตัวลงนอนทันที
.....นานแค่ไหนผมก็รอได้ ในเมื่อผมหลอกเขามาตั้งสามเดือน จะให้ผมทำเพื่อเขามากกว่านี้ก็ได้ แต่คงไม่ใช่คืนนี้
..
..
-
อุตส่าห์จำได้ทั้งที ไม่มีอะไรเลยเหรอ อดลุ้นเลยว้า :m21: :m21:
-
:impress:
ทามมายมันวุ่นวายกันขนาดนี้เนี่ย
รออ่านต่อไปนครับ
o15
-
...........ยังไม่มีไรคืบหน้าอีกและ...... :m12: :m12:
-
o22 ไงเปงแบบี้อ่า นึกว่าจะได้เห็นคู่ชุ้ชื้น :a6:
-
:a6: โธ่!! นึกว่าจะได้เห็นฉากสวีทแล้วสิ
รอมานานแล้วน๊า :m25:
จะเฉาตายอยู่แล้ว :เฮ้อ:
-
ยากจิง ๆ น้อ
กะเหตุการณ์ที่จะต้องเลือก
แล้ว ไม่ว่าเลือกฝ่ายไหน อีกฝ่าย ก้อ ต้อง ..... :เฮ้อ:
-
:a6: :a6: โอ้ย................
-
.........................ไรกันฟระเนี่ย..........อุตส่าห์ลุ้น...................................... :m21:
-
รออยู่นะง้าบ :a11:
-
ตอนที่ 20 (วิง)
"ต้น เดี๋ยวเราต้องไปทำธุระให้พ่อก่อนนะ นายกลับบ้านเลยละกัน ดึกแล้วด้วย"
"อืม งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะวิง"
ผมข้ามมาขึ้นรถเมล์อีกฟากของถนน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารถกำลังแล่นไปไหน.....แค่อยากอยู่ให้ไกล......
ต้นคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องหน้าแตกเท่านั้น .....ใช่....ให้มันเป็นแค่เรื่องตลกเถอะ เรื่องตลกที่ผมสามารถหัวเราะกับเขาไปได้อีกนาน เมื่อเขาเห็นผมเป็นแค่น้อง ทั้งตอนนั้นหรือแม้แต่ตอนนี้.....
ถึงจะสายไปแล้วแต่อย่างน้อยผมก็ได้บอกเขาซะทีว่าผมไม่เคยลืมเรื่องนั้น......
ความทรงจำที่มีค่าที่สุดของผม......เป็นแค่เรื่องหน้าแตกของต้นเท่านั้นเอง.......
แขนที่วางบนบ่าเมื่อครู่ยังรู้สึกอุ่น อบอุ่นพอๆ กับสัมผัสที่หน้าผากในครั้งนั้น.....มันแค่เรื่องบังเอิญ อย่าฝันไปมากกว่านี้เลย ที่ต้นเรียกชื่อพี่กริชตอนพักครึ่งนั่นต่างหากคือความจริง
ในเวลาที่เขาเจ็บ ในเวลาที่เขาเหนื่อย....ต้นเรียกชื่อพี่กริช.....
เสียงเพลงที่แตกพร่าดังแว่วมาจากลำโพงบนรถเมล์.......
เก็บไว้มานาน เก็บไว้คนเดียว และก็รู้ว่ามันไม่ควรถ้าพูดไป
ก็รู้ตัวดีเป็นได้แค่นี้ก็ดีตั้งเท่าไร อย่าคิดอะไรไปเกินกว่านี้เลย
แต่วันนี้มันดูช่างยากเย็น ความรักมันเต็มข้างในใจ ห้ามมันยังไงก็ไม่ไหว
ไม่รู้ต้องทำอย่างไรเก็บไว้ไม่ได้อีกแล้ว วันนี้หัวใจไม่เหลือที่พอให้ซ่อนมัน
ความรักมันเกินจะเก็บไว้ มันต้องทำอะไรสักอย่าง
ได้ไหมถ้าฉันจะบอกว่ารักเธอ......
.....ผมจะไม่ร้องไห้ครับพ่อ ผมเข้มแข็งได้เหมือนที่พ่อสอนใช่ไหมครับ......
.....วิงแปลว่าปีกนก มันอาจดูบอบบางแต่ก็แข็งแรง......
ผมเข้มแข็งใช่ไหมครับ .....ผมไม่ทำให้คนที่รักกันต้องแยกกันแบบพ่อกับแม่......
.....แบบนี้เรียกว่าเข้มแข็งใช่ไหมครับ......
-
.....ถ้าผมรู้เร็วกว่านี้.....ถ้ารู้ก่อนที่จะเจอกริช....ผมคง....
ปาฎิหารย์ไม่มีจริง
:serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
-
งะงะงะ มีคนแซง อะส่าเปนผีเฝ้าบอร์ดมาตั้งนาน ชิชิ o12
o22 อะส่ารู้ตัวทั้งที เปงงี้ไปซะได้หนอ ต้น.วิง ต้น.วิง
o9 o9 o9 o9 o9
-
โธ่!! วิงน่าสงสารจังเลย
อยากปลอบใจวิงจังเลย อิอิ :m13:
-
:เฮ้อ:
ต่างคนก็ต่างคิดกันไป
:เฮ้อ:
-
เข้มแข็งจริง ๆ :m17: :m17: :m17:
-
:o12: วิงน่ารักที่สู้ดดดด ยอมเจ็บเพื่อคนที่รัก
-
:impress:
สงสารเจ้าวิงจังเลย
เมื่อไหร่จะเป็นทีของวิงซักที
o15
-
ตอนที่ 21
"ต้น เที่ยงแล้วไปกินข้าวมั๊ย?"
"ไม่ล่ะ ฝากซื้อแซนด์วิชให้ทีนะ" เม้งรับเงินไปด้วยสีหน้าไม่ดีเลย
"ต้น มรึงกินแต่แซนด์วิชบนห้องมาหลายวันแล้วนะ"
จะให้ทำไงล่ะฟระ ตอนนี้กริชคืนดีกับพวกสต๊าฟแล้ว ตอนกลางวันเขาอาจเดินไปไหนมาไหนก็ได้
แค่ซ้อมบาสทุกเย็นก็คิดมากแย่แล้วเนี่ย ดีนะที่กริชรีบกลับบ้านไปติวทุกเย็น วันนี้ก็วันพุธแล้ว อีกสามวันเท่านั้น ผมอดทนรอมาตั้งนานจะพลาดตอนนี้ไม่ได้หรอก
"เรื่องคนนั้นเหรอต้น?" ผมได้แต่พยักหน้า
"แล้วมันจะจบยังไงวะเนี่ย?"
"......เสาร์นี้แหละ...." แต่จบยังไงตรูก็ไม่รู้หรอกนะ
"เออ ดีใจด้วยละกัน" ว่าแล้วเม้งก็เดินลงไปโรงอาหาร เหลือผมนั่งในห้องคนเดียว
.....เพื่อกริชจริงๆ เหรอ....ไม่รู้ว้อย! ตอนนี้ก็แค่รอให้เขาสอบโควต้าเสร็จเท่านั้น.......ผมรอเรื่องนั้นจริงๆ เหรอ?
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆ แล้วผมรออะไร .....หรือผมแค่กลัว.....ใจนึงก็อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ แต่ยิ่งหลอกเขามานานก็ยิ่งกลัวเขาจะโกรธมากเท่านั้น....
"ได้แล้วต้น รีบกินตอนร้อนๆ ล่ะ"
"ขอบใจนะเม้ง ซื้อมาสองอันนี่เงินมรึงพอเหรอเม้ง?"
"อันนี้ของกรู จะซื้อมานั่งกินกับมรึงว้อย! ของมรึงเนี่ยใส่ไข่ดาวทูน่ากับผักเยอะพิเศษเลยจะได้ไม่ขาดสารอาหาร"
"ขอบใจมากนะเม้ง" ......ซึ้งใจสุดๆ เลยเพื่อนรัก.....
"ตอนกรูไม่มีตังมรึงยังเลี้ยงข้าวกรูเลยนี่นา มีอะไรให้ช่วยได้ก็บอกนะไอ้ต้น"
.....คงไม่มีอะไรที่นายจะช่วยได้หรอก ปัญหาทุกอย่างผมสร้างขึ้นเองก็ต้องแก้เอง.....
เลิกเรียนก็รีบปั่นการบ้าน เก็บกระเป๋าแล้วรีบลงไปซ้อมบาส.....แป่ว! ไหงสนามโล่งไม่มีใครซักคนเลยฟระ?
.....พี่โจ้ครับ ผมมาแล้วแต่ไม่เจอใคร งั้นผมกลับบ้านละนะครับ..... (ความขี้เกียจเริ่มออก)
"ต้น! เม้ง!"
"พ...พี่โจ้ วันนี้ไม่มีคนเลย ไม่ซ้อมเหรอครับ?"
"อืม พอดีสต๊าฟเขาจะประชุมใหญ่ต้องเรียกตัวพวกพี่ทุกคนเลย พี่เพิ่งบอกคนอื่นให้กลับบ้านไปหมดแล้วล่ะ" ....ยะฮู้! ไม่มีซ้อมนรก!
"ต้นกับเม้งช่วยไปห้องดนตรีทีสิ พี่เขียนรายชื่อของที่จะยืมจากอาจารย์ไว้นี่แล้ว"
ว่าแล้วท่านพี่โจ้ก็วิ่งหายไปเลย นึกว่าจะไม่มีงานแล้วซะอีก
"เม้ง เดี๋ยวกรูไปธุระให้พี่เขาเองละกัน"
"ขอบใจนะต้น จะได้ไปซักผ้าซะที กรูไม่ได้ซักมาสองวันละ"
คิดว่าแค่เอาใบนี้ไปให้อาจารย์ก็คงพอมั้ง ถ้าต้องขนอุปกรณ์ไปห้องกริชผมก็วิ่งหนีล่ะครับ เม้งช่วยผมมาตั้งเยอะ เรื่องที่ผมพอจะตอบแทนได้นอกจากการติวหนังสือก็มีแค่นี้เอง
จากที่ต้องซ้อมทุกเย็น จู่ๆ มีเวลาว่างช่วงแบบนี้รู้สึกเหงาๆ แฮะ.....สองวันที่ผ่านมาก็ไม่เห็นเจ้าวิงมารอกลับบ้านพร้อมกันเหมือนทุกที เจ้าน้องที่น่ารักดันกลายเป็นเจ้าหน้าใสตัวแสบไปซะนี่ เฮ้อ! คงต้องใช้เวลาทำใจอีกสักพัก จูบแรกของตรูดันกลายเป็น 'หัวโขกปาก' ฮือๆๆ
ห้องดนตรีอยู่ชั้น 3 ของตึก 11 หลังเลิกเรียนแบบนี้ทั้งตึกเงียบวังเวง พอขึ้นบันไดมาก็ได้ยินเสียงกีตาร์กับเสียงร้องคุ้นๆ.....เสียงที่ทำให้ผมชะงัก
......สายตาเธอบ่งบอก เห็นใจกันอย่าหลอก
จะรักใคร ไม่ต้องห่วง อย่าลวงฉันเลย
ถึงต้องช้ำใจตาย ฉันก็พร้อมยอมตาย
รักเพียงเธอ อย่างไรทนได้เสมอ......
มันร้องเพลงเศร้าอีกแล้ว.....แต่เนื้อเพลงนี้มัน.....บ้าน่าอย่าคิดมาก
"มานั่งทำอะไรคนเดียวน่ะวิง?"
"เฮ้ย!! ต...ต้น มาได้ไง? วันนี้ไม่ซ้อมเหรอ?"
"ไม่อะ พี่โจ้ไม่ว่าง แล้วทำไมนายต้องทำหน้ายังกะเห็นผี?"
"....ก็เรานั่งอยู่คนเดียวนี่หว่า ห้องฟากโน้นก็ห้องดนตรีไทย เงียบๆ น่ากลัวจะตาย"
ผมหยิบเก้าอี้อีกตัวมานั่งลงข้างๆ "มีเรื่องอะไรรึเปล่า? ทำไมนายเล่นเพลงเศร้าๆ ล่ะ อย่าบอกนะจะเอาไปจีบสาว"
"บ้าดิ ขืนเล่นเพลงนี้ก็มีหวังอกหักพอดี ฮะๆๆ" วิงพูดพลางยื่นหนังสือเพลงให้ผม
"พอดีเจอหนังสือนี่ในห้องเลยเอามาเล่นส่งท้ายเจ้ากีตาร์ตัวนี้ซะหน่อย"
"ส่งท้าย?"
"เราเอากีตาร์มาฝากอาจารย์น่ะ อาทิตย์หน้าเราจะย้ายไปบ้านแม่แล้ว อยู่ถึงประชาชื่นคงหอบไปกลับไม่ไหวแน่"
"อ้าวแล้วทำไมวิงไม่เอาไว้เล่นที่บ้านล่ะ?"
"ไว้ที่นี่ดีกว่า มีเพื่อนๆ ช่วยเล่นช่วยร้อง เล่นคนเดียวที่บ้านคงไม่สนุกขนาดนี้"
"แต่เล่นเพลงเก่าเก๋ากึ๊กยังกะวิญญาณน้าแจ้เข้าสิงแบบนี้คงไม่มีใครช่วยร้องให้นายแน่"
"ฮะๆๆ แจ้ยังไม่ตายว้อย!"
ผมเอากระดาษรายชื่อของไปไว้ในห้องพักอาจารย์เสร็จก็มานั่งเลือกเพลงที่เคยฟังตอนเด็กๆ มาเล่นเพลินจนลืมเวลาไปเลย
"วิง นายคงลำบากแย่เลยนะต้องอยู่บ้านไกลโรงเรียนขนาดนั้น"
"......อืม" แล้ววิงก็เงียบไปนานเลย
"ต้น .....เราดีใจนะที่ได้เป็นเพื่อนนาย"
"อืม เราก็เหมือนกัน"
ก่อนจะหมดแสงอาทิตย์ผมมองผ่านหน้าต่างห้องดนตรีออกไปที่สนามบอล มุมนี้มองเห็นบ่อปลาที่อยู่ไกลๆ ด้วย
ใครบางคนบอกว่าเรื่องเศร้าในวันนี้จะเป็นเรื่องตลกในวันรุ่งขึ้น.....แค่เพียงอดทนรอให้ข้ามไปอีกวัน
บางที 'วันรุ่งขึ้น' คงมาถึงแล้ว กับเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ นี้
.....Everytime I see you falling.....
เสียงมือถือดังขึ้น เจ้าวิงรีบกดรับทันที "สวัสดีครับแม่"
"ครับๆ จะรีบไปครับ"
"ต้น วันนี้เรากลับบ้านพร้อมนายไม่ได้แล้วล่ะ แม่จะให้เรารีบไปช่วยจัดของที่บ้านน่ะ"
"อืม งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะ .....เออวิง! เพลงตะกี๊เพราะดีนะเราขอโหลดได้มั๊ย?"
"เราส่งเพลงไม่เป็นน่ะต้น ไม่รู้ทำไงเหมือนกัน"
..
..
-
เรื่องมันจะจบยังไงเนี่ย :serius2: :serius2: :serius2:
-
:impress:
น่านดิ แล้วมันจะจบยางไงหว่า
รออ่านต่อไปน๊า......
o15
-
ค้างแล้วเพ้ ค้างไว้งี้เลยเหรอ :a5:
-
เหนื่อยจัย จิงน้อ รักแรก ที่ตัดใจแร้ว กลับมาเจอกันอีก ตอนที่ตัดสินใจ จะอยู่กะคนอื่นไปแร้ว :เฮ้อ:
-
ต้องเห็นอะไรดีๆในมือถือแน่ๆเลยยยยย :a10:
-
o22 o22 o22 o22
-
:m29: เรื่องจะเป็นไงต่อไป
-
..
..
ผมฮัมเพลงที่ได้ยินจากมือถือเจ้าวิงระหว่างทางกลับบ้านพยายามจำให้ขึ้นใจ ท่าทางมันตะกี๊มีพิรุธมาก มือถือตัวเองมีรึจะส่งเพลงไม่เป็น หวงขนาดนี้......แหงแซะ! คงเป็นเพลงที่มันจะใช้จีบสาวแหงๆ!
เอาไปถามพี่ต้อมเดี๋ยวก็รู้ว่าเพลงอะไร ถ้าเป็นเพลงหวานๆ เลี่ยนๆ ล่ะตรูจะล้อให้มันหน้าแดงแปร๊ดเลย เหอๆๆๆ เลวไหมล่ะตรู
"พี่ต้อมครับ พี่รู้จักเพลงที่ร้องว่า everytime I see you falling อะไรประมาณนี้มั๊ยครับ?"
พี่ต้อมนั่งคิดสักพักก็ร้องอ๋อ "นึกออกละ เพลงเก่าของวงนิวออเดอร์ส ชื่อเพลงก็ท่อนเดียวกับที่มรึงร้องนั่นแหละ จะถามไปทำไมเหรอ?"
"จะเอาไปล้อเพื่อนน่ะพี่ จำเจ้าวิงที่เคยมาบ้านเราได้มั๊ยพี่? สงสัยมันจะเอาเพลงนี้ไปจีบสาว"
"ฮะๆๆ คงไม่ได้หรอกมั้ง"
"อ้าว ทำไมล่ะครับ?" พี่ต้อมเหมือนจะพูดแต่ยิ้มเจ้าเล่ห์
"เพลงนี้มันมีอีกชื่อนึงว่า Bizarre Love Triangle อยากรู้ความหมายก็ไปเปิดดิคฯ เอาเองนะ ฮ่าๆๆๆ"
โหย! พี่นะพี่ ก็รู้อยู่ว่าตรูไม่เก่งอังกฤษ Love....รัก Triangle.....สามเหลี่ยม
แล้ว Bizarre นี่คือไอติมแดรี่ควีนรึเปล่า? .......ไอติมรักสามเหลี่ยมเหรอ?.....ช่างเถอะ แค่เรื่องกริชเรื่องเดียวก็ปวดหัวพอแล้ว.....โง่ๆ แบบตรูจะเอ็นท์ฯ ติดปีนี้จริงๆ เหรอว้า? กริชจะกังวลแบบผมมั๊ย? เขาคงเครียดยิ่งกว่าผมหลายเท่า ในเวลาสำคัญแบบนี้ผมน่าจะได้อยู่ใกล้เขา เป็นกำลังใจให้เขา แต่ที่ผมทำอยู่นี่มันอะไรกัน....
ตัวเลขบนนาฬิกาเดินไปอย่างเชื่องช้า ....รอเวลาสี่ทุ่ม เวลาที่ผมจะได้อยู่ข้างกริชแม้ตัวจะอยู่ไกลกัน
"สวัสดีครับต้น โทรมาตรงเวลาตามเคยนะ"
"ก็คิดถึงนี่ครับ กริชก็รับไวตามเคยนะ"
กริชเล่าเรื่องเพื่อนที่ติวด้วยกัน เรื่องเนื้อหาแปลกๆ ของวิชาชีวะ ถึงจะไม่ค่อยรู้เรื่องผมก็ยังอยากฟัง อยากได้ยินเสียงที่สดใสของกริช
"เพื่อนผมรู้จักงานพาร์ทไทม์เงินดีหลายที่นะ เดี๋ยวผมหารายละเอียดไปให้ต้นวันเสาร์นี้นะ เผื่อต้นได้งานสบายขึ้น"
"ก....กริช...."
"หืม?"
"เรา.....เราเริ่มง่วงๆ แล้วล่ะครับ" ....ไม่อยากให้เขาเข้าใจผิดมากไปกว่านี้เลย....
"จะรีบนอนแล้วเหรอต้น?"
"ยังหรอกครับ นอนคุยก็ได้ครับ"
"นี่ผมก็นอนอยู่บนเตียงเหมือนกันนะ ผมเอาหมอนข้างมาวางแทนตัวต้นด้วยนะ"
"แทนยังไงครับ?"
"ไม่ได้คิดลามกแบบนายก็แล้วกัน เจ้าน้องจอมหื่น" .....ยังไม่ทันได้คิดอะไรใต้สะดือเลย แต่ก็หยิบหมอนมาวางข้างหัวแทนกริชเหมือนกัน
"อากาศเริ่มหนาวแล้วนะต้น"
"ครับ"
"อยากให้ต้นมาอยู่ตรงนี้จัง คงนุ่มคงอุ่นน่ากอดกว่าหมอนข้างแน่เลย" ......ชักไม่แน่ใจแล้วว่าใครหื่นกันแน่?
"ผมจำเส้นผมแข็งๆ ของต้นได้นะ เวลาที่นายนอนดิ้นน่ะชอบกอดผมด้วย"
ในความคิดของกริช ผมเป็นเด็กที่เคยขายบริการ......เด็กที่อาจจะหลอกลวงเขา....คนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า.....อาจมีโรคอะไรร้ายๆ เยอะแยะแต่เขาก็ไม่เคยรังเกียจผม มีแต่ความห่วงใยให้ตลอด คิดแล้วมันเจ็บแปลบในอกจริงๆ ทั้งๆ ที่เขาทำเพื่อผมถึงขนาดนี้แต่ผมกลับ......
"เป็นอะไรไปเหรอต้น ทำไมเงียบไป?"
"ไม่มีอะไรหรอกครับ" .....ถึงจะโกหกแต่น้ำเสียงของผมคงหลอกเขาไม่ได้
"ผมอยากให้ต้นมาอยู่ตรงนี้จริงๆ นะ อยากเห็นว่าต้นยังสบายดี บางทีผมก็กลัวนะ กลัวต้นจะ...."
"เราแข็งแรงดีครับ ก็สัญญากับกริชแล้วนี่นาว่าจะอยู่กับนายตลอดไป อย่าคิดมากเลยนะใกล้สอบแล้ว"
"อืม......ต้น งั้นผมขออะไรอีกอย่างได้มั๊ย?"
....................................................
-
ปูเสื่อนั่งหน้าจ้า งิงิ ยังไม่ได้อ่าน แอบมาเม้นก่อน อิอิ :m19:
-
ยางมะคืบหน้า
ขอความกล้าจงสถิตอยู่กับท่าน :m21:
-
อยากเห็น+ได้ยินเพลงนี้จัง ใครมีเนื้อ+link บ้างครับ ช่วยเอาโพสแบ่งปันกันหน่อยจิ อิอิ :m5:
ขอบคุณคร้าบ ...
--------
ว่าแต่ ... กริชจะขออะไรน้า ....?
-
กริชจะขออะไรหว่า :m9: :m9:
-
:m28:
กลัวไร
:m28:
ขอไร
:m28:
ติดตาม ๆ ....
-
สำหรับเพลง Bizarre Love Triangle
เวอร์ชัน New Order : http://www.new-order.net/no/audio/lv/050702_Torino/10_Bizarre_love_triangle.mp3link_name (http://link)
เวอร์ชัน Frente : http://www.esnips.com/doc/5d92453b-ab3a-49aa-b469-4f125b3e92c9/Bizarre-Love-Trianglelink_name (http://link)
เมื่อไหร่จะพูดความจริงกันสักทีอ่ะคับ
แล้วจะเลือก วิง หรือ กริช :serius2: :serius2:
ลุ้นๆๆๆ
มาต่อด่วนนะคับ
-
สำหรับเพลง Bizarre Love Triangle
เวอร์ชัน New Order : http://www.new-order.net/no/audio/lv/050702_Torino/10_Bizarre_love_triangle.mp3link_name (http://link)
เวอร์ชัน Frente : http://www.esnips.com/doc/5d92453b-ab3a-49aa-b469-4f125b3e92c9/Bizarre-Love-Trianglelink_name (http://link)
เมื่อไหร่จะพูดความจริงกันสักทีอ่ะคับ
แล้วจะเลือก วิง หรือ กริช :serius2: :serius2:
ลุ้นๆๆๆ
มาต่อด่วนนะคับ
เย้ๆๆ ขอบคุณครับผมคุณ anTon :m4:
แหมๆๆ แบบนี้คงต้องใส่เพลง "อยากเก็บเธอไว้ทั้ง 2 คน" กับ "ไม่รู้จะเลือกใคร" ไว้บ้างและ อิอิ :m1:
-
o9
ตามอ่านมาทั้งวัน ไม่จบ แงๆๆๆๆ อยากตายยยย โอ้ยยย อย่าผิดคู่เลยนะ วิงไม่น่าห่วงหรอกมีอีกคนที่วนเวียน
อยู่ใกล้ๆ นั่นไง และต้นกะกริชอ่ะ อย่าโกรธกันเลยยยย please.......รีบมาต่อนะครับ รออยู่ใจจะขาดรอน ๆ
ถ้าทำให้เราผิดหวังไปจากนี้นะ จะแช่งคนเขียนนนนนนน o13
-
:m29:...เรื่องนี้สุดยากที่จะจิ้นและคาดเดา..
รอต่อค้าบ..รอ..ร๊อ..รอ... o14
-
o9 o9 o9 o9 o9
โคตรชอบเรื่องนี้เลยง่ะ สุดยอดมาก แต่งได้เนียนถูกใจยิ่งกว่าแฮรี่พอตเตอร์ซะอีกครับ เอาไปเลยเต็ม 10 คะแนน
ขอบคุณคุณ sorrow มากๆ มีเรื่องไหนอีกกรุณาช่วยบอกด้วยนะครับ
-
เท่าที่อ่านๆ ขออนุญาติเดาแล้วกันครับว่า โรงเรียนที่ต้นอยู่นี่คงจะเป็น ตอพ แหงๆ ซึ่งน่าจะเป็นรร.เก่าของผู้เขียนสมัยก่อน อุอุ
-
เท่าที่อ่านๆ ขออนุญาติเดาแล้วกันครับว่า โรงเรียนที่ต้นอยู่นี่คงจะเป็น ตอพ แหงๆ ซึ่งน่าจะเป็นรร.เก่าของผู้เขียนสมัยก่อน อุอุ
อิอิ เหรอคับ ดีจังมีการฟันธงจากผู้รู้ เพราะผมก็นั่งเดาอยู่เนี่ยว่าใช่รึเปล่า เพราะแถวๆบ้านผม โรงเรียนที่คิดว่าน่าจะใช่ก็ที่นั่นแหละ เพราะมีพระเกี้ยวด้วย .... ผมก็เคยอยู่อีกหนึ่งโรงเรียนแถวนั้นที่มีพระเกี้ยวเหมือนกันครับ หุหุ
.... แง่มๆๆ อยากปลอบใจวิงจังเลยยย ... มามะๆๆ :m13: หุหุ
-
กริชจะขออะไรต้นน้ออ :m3:
เฮ้ออ!! อยากให้ต้นบอกความจริงเร็วๆจัง
ตื่นเต้นแทนแล้วว
-
:impress:
น่านดิ กริชจะขอไรอ่ะ
รออ่านต่อไปคร๊าบ............
o15
-
:m8: :m8: เรื่องราวเยอะแยะจะเป็นไงต่อไป เฮ้อ
-
ตอนที่ 22
เช้าวันเสาร์ ผมนั่งรอในร้านแมคฯ สีลม รู้สึกเก้ๆ กังๆ เพราะไม่คุ้นกับย่านนี้ในตอนเช้าแบบนี้เลย
หวังว่าคงจะไม่เจอคนรู้จักหรอกนะ อุตส่าห์เลือกที่ไกลจากจุฬาขนาดนี้แล้ว คืนนั้นไม่น่ารับปากกริชเล้ย
*****************************************************************
"......ต้น งั้นผมขออะไรอีกอย่างได้มั๊ย?"
"อะไรเหรอครับ"
"ผมอยากเจอต้นก่อนเข้าห้องสอบน่ะ แต่ถ้าต้นลำบากก็ไม่เป็นไรนะ"
"ก็....ก็ได้ครับ กริชสอบที่จุฬาใช่มั๊ยครับ?"
"อืม ผมสอบตอน 9 โมงครึ่งน่ะ"
"แล้ว.....เพื่อนๆ กริชล่ะครับ? คือเรา...."
"นัดเจอกันที่อื่นใกล้ๆ นั้นก็ได้นะ นะต้นนะ ผมอยากเห็นหน้านายก่อนสอบจริงๆ ผมคิดถึงต้นมากเลยนะ"
"งั้นเจอกันที่ร้านแมคตอน 8 โมงละกันนะครับ"
******************************************************************
ถึงจะเสี่ยงแต่ผมก็ดีใจที่กริชอยากให้ผมอยู่ข้างๆ เขาในเวลาที่สำคัญขนาดนี้ อยากให้กำลังใจเขา ถ้าเป็นไปได้ผมอยากอยู่ข้างกริชตลอดไป
ผมเลือกนั่งโต๊ะตัวเดิมริมหน้าต่างกับน้ำโค้กหนึ่งแก้วเหมือนคืนนั้น คืนที่ผมเจอกริชเป็นครั้งแรก....
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะไม่โกหกเขา.....ไม่หรอก....เราแก้ไขอดีตไม่ได้แล้ว
ที่ทำได้ตอนนี้คือทำให้กริชสบายใจจนเขาเข้าห้องสอบ .....แล้วเย็นนี้ก็จะถึงเวลาที่ผมจะบอกเขาทุกอย่าง อีกไม่กี่ชม.ข้างหน้านี่แหละ นาฬิกาสีฟ้าน้ำทะเลบนข้อมือบอกเวลา 8:04 ป่านนี้พวกพี่โจ้คงกำลังยุ่งกับงานกีฬาสีวันแรก เอาไว้สายๆ ค่อยเข้าไปช่วยงานละกัน
กริชเปิดประตูร้านเข้ามาในชุดนักเรียนพร้อมสมุดหนังสือ เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นเขาเต็มๆ ในชุดนี้ รู้สึกหวาดๆ ยังไงไม่รู้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลย
"รอนานมั๊ยต้น?"
"ไม่หรอกครับ เราเพิ่งมาเหมือนกัน" เขานั่งลงตรงหน้า ไม่มีคำพูดอะไรอีกนอกจากสองมือที่เกาะกุมกันไว้
"ต้น ผมขอโทษนะที่ช่วงนี้ไม่มีเวลาให้ต้นเลย นี่ยังต้องให้ต้นมารอผมตั้งแต่เช้าอีก"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ มาเป็นผู้ปกครองส่งเด็กชายกริชเข้าห้องสอบไง ฮะๆๆ"
"โหย! อย่าล้อผมสิ เขินเหมือนกันนะ"
"เราเตรียมปากกาดินสอยางลบมาให้กริชด้วยนะ" ผมยื่นซองเครื่องเขียนที่เตรียมมาแต่เขาจ้องแขนอีกข้างของผม
"แขนต้นไปโดนอะไรมาน่ะ?"
"ห....หกล้มน่ะครับ" อุตส่าห์ปิดๆ แล้วกริชก็ยังเห็นจนได้ เมื่อเช้ากะจะใส่เสื้อแขนยาวแต่มันขูดโดนสะเก็ดแผล
"เจ็บมากมั๊ยเนี่ย? คงล้มแรงเลยสินะ?" กริชขอดูแผลผม หน้าเขาเศร้ายังกับเจ็บเอง
"เจ็บมากเลยล่ะ รอคุณหมอกริชมารักษาให้นะเนี่ย" พยายามพูดขำๆ แต่อีกฝ่ายท่าจะไม่ขำ
"ต้น....ถ้าผมสอบติด อีก 6-7 ปีผมจะเรียนจบ จะได้เป็นหมอแล้วผมจะหาเลี้ยงต้นเองนะ จะเปิดคลีนิคด้วย จะไม่ให้นายลำบากอีกแล้ว"
"โหย! คิดไปไกลขนาดนั้นเลยนะ เราไม่ปล่อยให้กริชเลี้ยงอยู่คนเดียวหรอกน่า รีบกินเถอะครับจะสายแล้ว"
"นั่นสินะ ต้นทำงานหาเงินเองได้แล้ว แต่ผมสิยังขอเงินพ่อแม่อยู่เลย" .....ผมก็ขอ ปลายเดือนมีขอตังค์รอบสองด้วย....
กริชคิดถึงอนาคตไปไกลขนาดนั้นแต่ผมมัวกลัวอยู่แค่เรื่องตรงหน้า.....แต่มันก็น่ากลัวจริงๆ นี่นา
ตรูจะเอาชีวิตรอดผ่านเย็นนี้ไปได้รึเปล่ายังไม่รู้เลย หรือจะโดนกริชกระทืบคาตีนโทษฐานที่หลอกเขามานาน
เราสองคนรีบกินอาหารที่สั่งมาเพราะใกล้จะแปดโมงครึ่งแล้ว สักพักมือถือของกริชก็สั่น
"อยู่ไหนแล้วกริช?"
"แมคฯ ที่สีลม กินข้าวอยู่กับแฟน" .....พูดได้เสียงดังฟังชัดมาก โต๊ะข้างๆ ชำเลืองมาทันที ดีนะที่อยู่สีลมย่านโลกีย์เลยดูเป็นเรื่องปกติมั้ง
"โห!คนเรา ทิ้งเพื่อนไว้โรงอาหารแล้วหนีไปหวานกับแฟนเนี่ยนะ!"
"แล้วพวกนายกินข้าวเสร็จยัง?"
"ไม่บอกโว้ย งอนคนทิ้งเพื่อน!"
"ถามจริงๆ จะได้ไปเข้าห้องพร้อมกัน เราไม่อยากเข้าไปคนเดียว"
"อยากรู้เหรอ? ถามต้นคืนนี้สิ"
.....เฮือก!!! ถึงจะได้ยินเสียงฝ่ายโน้นจากมือถือกริชแค่เบาๆ แต่ก็ได้ยินชื่อผมชัดเจน เขาหันมาทางผมแบบงงๆ
"เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ?" กริชพูดโทรศัพท์เสียงเครียดเชียว
"เราเล่นมุขน่ะ ตอนเด็กๆ ไม่เคยดูโฆษณานี้รึไง มุขนี้ออกจะดัง"
"อ...อ....อ๋อ โฆษณานมเปรี้ยวนั่นน่ะเหรอ? เล่นมุขเก่าสิบกว่าปีแบบนี้ใครจะรับมุขทันเนี่ย"
"ฮะๆ กริชรีบมาละกัน อีก 15 นาทีพวกเราจะเข้าห้องสอบแล้วนะ"
"ต้นไปส่งผมหน้าห้องสอบมั๊ย? นั่งรถไปใกล้แค่นี้เอง"
"เรา....เราขอส่งกริชแค่นี้ละกันนะต้องรีบไปทำธุระ" .....ขอเวลาหาหัวใจก่อน เจอมุขย้อนยุคตะกี้เข้าไปใจมันหล่นทะลุตาตุ่มไปไหนแล้วก็ไม่รู้
"กริชจะสอบเสร็จกี่โมงครับ?"
"ห้าโมงเย็นน่ะ"
"งั้นเจอกันหน้าโรงเรียนตอนหนึ่งทุ่มนะครับ"
พอแยกกับกริชก็นั่งรถไฟฟ้ากลับบ้าน ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะไปช่วยงานกีฬาสีที่โรงเรียนแต่เหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้ผมใจไม่ดีเลย เสียงเครียดๆ ของกริชทำให้นึกถึงฝันคืนนั้น .....ไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอกน่า ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่นา เก็บตัวอยู่ในบ้านซะ อีกไม่กี่ชั่วโมงปัญหาทุกอย่างก็จะจบแล้ว
......ทุกอย่างมันมาไกลเกินจะทำอะไรได้แล้ว ตอนนี้ผมได้หวังว่าเขาจะยกโทษให้.....
"เม้งฝากบอกพี่โจ้ทีนะว่ากรูไม่ว่างไปช่วยงานไม่ได้"
"เออ เดี๋ยวบอกให้ กรูก็โดดงานไปดูเชียร์ลีดเดอร์เหมือนกัน ลีดสีเขียวไม่ค่อยสวยว่ะแต่เต้นเอ็กซ์มากๆ เลย" ....บอกตรูทำไม....
"เออ เชิญมรึงบ้ากามตามสบายเถอะ แล้วพรุ่งนี้เจอกันที่สนามตอน 10 โมงนะเม้ง"
หลังจากสั่งเสียเสร็จก็ได้แต่นอนดูนาฬิกา ตัวเลขบนหน้าปัดเดินไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกิน....ทรมานชิบเป๋งเลย....แต่กริชคงรู้สึกยิ่งกว่าผม....เขาคงรู้สึกแบบนี้มานานแล้ว
16:55
16:56
16:57
16:58
16:59
17:00 .....หมดเวลาสอบแล้ว
17:01 .....ความทุกข์ของกริชคงจบลงแล้ว คราวนี้ก็คงถึงเวลาของผมซะที
ผมหยิบถุงเสื้อสูทที่เก็บชุดนักเรียนของกริชออกมาแต่งตัวอย่างช้าๆ ตามด้วยเข็มกลัดสีทองที่เก็บไว้ใต้หมอน .....ได้เวลาแล้ว......
"ต้น มรึงแต่งชุดนึกเรียนทำไมวะ เย็นป่านนี้แล้ว?"
"ไปงานกีฬาสีน่ะพี่" ....ถ้าพรุ่งนี้ไม่เจอตรูก็ช่วยไปเก็บศพที่โรงเรียนด้วยนะท่านพี่ที่รัก
มาถึงหน้าโรงเรียนเกือบหนึ่งทุ่ม ตอนนี้งานกีฬาสีวันแรกจบไปแล้วเหลือแต่สต๊าฟที่เดินไปมากับพวกนักเรียนไม่กี่คน ผมหลบเข้าหลังตึกแถวของร้านค้าหน้าโรงเรียนเพื่อดูลาดเลา...มีแต่พี่ม.5 ม.6 แบบนี้คงจะปลอดภัยล่ะน่า....
โทรหากริชแปบเดียวก็เห็นเขาเดินออกมา ถึงตอนนี้จะมืดแล้วเพราะเป็นหน้าหนาวแต่ผมก็จำได้แม่นยำ
ร่างสูงโปร่งในชุดนักเรียนที่ผมต้องวิ่งหนีทุกครั้งที่เจอ....แต่วันนี้ผมจะไม่หนีอีกแล้ว
"นึกว่าต้นจะมาไม่ถูกซะแล้วนะเนี่ย" ....มาไม่ถูกก็บ้าล่ะ
"กริชอุตส่าห์เขียนแผนทีให้นี่ครับ"
"งั้นเข้าโรงเรียนเลยนะ"
เขาเริ่มชี้ศาลพระภูมิประจำโรงเรียนผมก็ยกมือไหว้ประหลกๆ .....ช่วยลูกช้างให้พ้นเงื้อมตีนกริชด้วยเถิ้ด.....
จากนั้นก็เดินดูสนามเทนนิส ตึกคอม สระว่ายน้ำที่เพิ่งสร้างเสร็จ ผมได้แต่ยิ้มแหยๆ เดินตามไปเรื่อยๆ
ทั้งที่กำลังเดินผ่านใต้ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ที่ฝันมานานแต่บรรยากาศตอนนี้มันไม่เป็นใจซะเลยสำหรับผม
....รีบๆ บอกเขาไปสิวะ! ยิ่งหลอกเขานานเขาจะยิ่งโกรธนะว้อย!....ก็มันหาจังหวะไม่ได้นี่หว่า!....
"ต้นไม่ต้องกลัวนะ วันนี้มีกีฬาสี มืดขนาดนี้แล้วด้วยไม่มีใครสังเกตเห็นต้นหรอก"
"ครับ....แต่ยังไงก็อย่าเดินไปตรงคนเยอะๆ เลยนะครับ" คำอ้อนวอนขอชีวิตคงได้ผล กริชเลยเดินนำไปทางหลังโรงอาหารแทน
"รู้มั๊ย...ผมฝันถึงวันนี้มานาน วันที่ต้นจะได้มาเดินกับผมที่นี่"
"....ครับ"
"ผมอยากให้ต้นได้เห็นทุกที่ที่ผมอยู่ ....อยากพาต้นไปทุกที่ที่ผมไป...." เขาพูดพลางกุมมือผมไว้
".....ผมอยากมีต้นอยู่ข้างๆ ผมตลอดไป....." เสียงกริชเหมือนจะร้องไห้ ผมบีบมือเขาแน่นขึ้น
"เราอยู่ข้างๆ กริชเสมอนะครับ"....จะไม่ให้ความหลังมาทำร้ายเขาได้อีกแล้ว.....พูดดีไป ที่ผมกำลังหลอกเขานี่มันร้ายแรงกว่าหลายเท่า.....
"ขอโทษทีนะที่ผมพูดเห็นแก่ตัวไปหน่อย ต้นก็ต้องทำงานนี่นาจะมามัวอยู่กับผมได้ยังไง"
"เอ่อ....กริช....."
"บางครั้งผมก็เห็นคนคล้ายๆ ต้นในโรงเรียนก็เลยอดคิดแบบนี้ไม่ได้ ถ้าต้นได้มาตรงนี้ก็คงดี และวันนี้นายก็อยู่ที่นี่จริงๆ"
"เอ่อ....กริช เราอยากไปดูคูน้ำที่กริชเคยเล่าให้ฟังน่ะครับ อยากดูที่โดดเรียนของเด็กขยัน ฮะๆ"
ตรงนั้นเงียบดี อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดละนะ อยากเตะผมตกคูน้ำก็เชิญ
"ได้สิ ต้นจำได้ด้วยเหรอ? เดินไปทางโน้นอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว" กริชกุมมือผมไปตลอดทางยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิด
"กริชปล่อยมือเถอะครับ เดี๋ยวใครเห็นเข้า"
"ใครจะเห็นก็เห็นไปเถอะ ผมเคยทำผิดที่หลอกตัวเองมาครั้งนึง ผมจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว"
ระยะทางสู่ลานประหารก็ไม่ไกลแต่อึดอัดเหลือเกินที่ได้แต่เดินเงียบๆ กริชกล้าเปิดเผยถึงขนาดนี้....แล้วผมล่ะ....
"เบื่อเหรอต้น?"
"เปล่านี่ครับ สนุกดีออก"
"ไม่เห็นนายพูดอะไรเลยน่ะ แถมทำหน้าเครียดๆ อีก"
"ไม่มีอะไรหรอกครับ เอ่อ....กริชรู้จักเพลง Bizarre Love Triangle ไหมครับ?" พยายามหาเรื่องคุย กริชอายุพอๆ กับพี่ต้อมก็น่าจะรู้นะ
"รู้จักสิ ตอนผมเด็กๆ ก็เคยฟังนะ"
"แล้วชื่อเพลงนี่แปลว่าอะไรเหรอครับ?"
"Bizarre Love Triangle แปลว่ารักสามเส้าพิลึกพิลั่นไง"
......รักสามเส้า.....หมายความว่ายังไง? ทำไมเจ้าวิงถึงใส่เพลงนี้ในมือถือ?......แล้วที่มันไม่ยอมให้ผมโหลดเพลงนั่น....บ้าน่า! แล้วยังอีกหลายๆ อย่างที่มันทำ ทุกเพลงที่มันร้อง....เพลงของน้าแจ้นั่น.....นี่ตรูคิดอะไรอยู่เนี่ย?
"ต้นอยากเรียนภาษาอังกฤษไหมล่ะ? ผมสอนให้ได้นะ"
"จะ...จะสอนยังไงเหรอครับ?"
"ก็....เริ่มจากสอนคำว่า Love ดีมั๊ย?" นั่นไงตรูว่าละ แล้วหาว่าตรูหื่น ตรูลามก ......กริชไม่พูดเฉยๆ แต่โอบไหล่ผมไว้แน่น
"กริช! เดี๋ยวใครมาเห็นเข้านะ!"
"ผมไม่สนหรอก ผมรักต้นนี่นา"
"กริช.....เรา....." กริชเปิดเผยถึงขนาดนี้ผมทนหลอกเขาไม่ได้อีกแล้ว
ยังไม่ทันเอ่ยปากก็มีเสียงคนเดินมาจากมุมโรงอาหาร แต่กริชก็ยังไม่ยอมปล่อยแขน.....เจ้าพระคู๊ณ! ขออย่าให้เป็นคนรู้จักเล๊ย!!!!
..
..
-
ตามลุ้นแบบกระชั้นชิด :serius2: :serius2: :serius2:
-
:m2:
พอ่แก้วแม่แก้ว งานนี้ตายแน่น้องต้นเอ๋ยยยยย แต่อย่ากระนั้นเลยยย สารภาพไปเถอะกริชรักต้นขนาดนั้น
ไม่โกรธหรอกมั้งงงงงง :try2:
รีบมาต่อนะครับบบบ ลุ้นจนหิวข้าวแล้ววววว ไปกินข้าวก่อนนะ อิอิอิ :oo1:
:bye2:
-
อ๊ากกก :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
ลุ้นๆๆๆๆอีกแล้ว
ต่อด่วนคร้าบ
เด๋วอารมณ์ขาดตอน
-
โอ๊ยยยยยย!! อกจะแตกตาย
ตื่นเต้นๆๆ ใครเดินมาล่ะนั่น มาขัดตอนต้นจะสารภาพอีก ฮึ่มม!! :m16:
-
สวัสดีครับมิตรรักแฟนเพลงทุกท่าน เป้าขอฝากตัวไว้ในอ้อมใจทุกท่านด้วยนะครับ.....อ้าวลืมตัวนึกว่าเป็นสายัณห์ สัญญา.....
นั่งอ่านทุกรีพลายตั้งแต่หน้าแรกเพื่อมาตอบทุกคนแต่.....พออ่านถึงหน้า 11 ก็เริ่มเบลอ (ดินพอกหางหมูมานาน :m23:)
ขอบคุณแฟนๆ ทุกท่านที่ติดตามมาโดยตลอดนะครับ
Junrai_Hyper: ขอบคุณคุณพูห์สละเวลามาลงนิยายให้ผมตลอดเลย
Stayingpower: ผู้ชักนำเข้าวงการ รับผิดชอบผมซ้าดีๆ (วงการนิยายนะครับอย่าคิดมาก)
][GobGab][: มาเจิมเป็นรีพลายแรกสุดเลย ไวจริงๆ ครับ
THIP: รีพลายไวเสมอเลย ขอบคุณมากๆ ครับสำหรับกำลังใจที่ให้มาจนถึงวันนี้
zandwizz: บวชเรียบร้อยแล้วเหรอครับ? อนุโมทนาสาธุๆ ด้วยครับ
Poes: แฟนประจำจริงๆ รีพลายมาตั้งแต่วันแรกเลย ขอบคุณมากๆ ครับ
BlueWizard: คนนี้ก็แฟนประจำสุดๆ ขอบคุณมากครับ มาลุ้นตอนจบด้วยกันนะครับ
๐๐หมาน้อยกลัวฝน: แฟนประจำเหนียวแน่นมากเลย ซึ้งใจจังเลยครับ
pueng1111:ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายแต่คนบอกอาจโดนเตะตายในไม่กี่อึดใจนี่ละครับ o21
~ScAreD:SAcreD: รู้ตอนจบแล้วอย่าเพิ่งบอกใครนะคร้าบ :a11:
prince00: จะให้ต้นเหมาสองเลยเหรอครับ ได้ครับ :a5: ล้อเล่นครับ ผมรักเดียวใจเดียวน้า
creamBboy: อ่านรวดเดียวข้ามวันข้ามคืนเลยเหรอครับ อย่าหักโหมนะครับเสียสุขภาพ ควรดื่มน้ำบ่อยๆ นะครับเพราะบางคนบอกว่าอ่านเรื่องนี้แล้วเสียน้ำเยอะ.... :m28:
anTon: โห รอบรู้เรื่องเพลงจังเลยครับ ขอบคุณมากครับที่โพสเพลงให้ด้วย วันหลังจะเอาอีกเวอร์ชั่นมาฝากนะครับ (ทำไม anTonต้องหลบรุ่นพี่ที่โรงเรียนครับ?)
nartch: ใครเหรอครับอีกคนที่วนเวียนรอบวิง :m28: แอ๊บแบ๊วๆๆ อย่าแช่งคนเขียนเลยครับแค่นี้ก็ไม่หล่อแล้ว :sad2:
Red_Chocobo: ใช่ครับ รักแรกลืมยากจริงๆ นะครับ :o12:
kei_kakura: ชอบวิงเหรอครับ ขอบคุณมากครับ ชอบคนแต่งกับคนโพสด้วยยิ่งดีครับ
b|ueBoYhUb: ขอบคุณที่ติดตามตลอดคร้าบ ตั้งแต่บอร์ดที่แล้วจนถึงบอร์ดนี้เลย
Yakuza: มีแฟนคลับวิงเพิ่มอีกคนแล้ว :m1:
Gabrial: ขอบคุณที่ติดตามครับ เดาเรื่องแม่นบ่อยจริงๆ :m26: ขอเลขเด็ดสักหกเจ็ดตัวนะครับ
HydrA: มารอลุ้นตอนจบด้วยกันนะครับ
Inu: ชอบยิ่งกว่าแฮรี่อีกเหรอ ขอบคุณมากครับ เดาชื่อโรงเรียนด้วย เดี๋ยวลองดูหน่อยซิ......... :a5:
liv: ลุ้นจะขาดใจเลยเหรอครับ? รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
Keisuke/ เรื่องโพสช้าต้องบอกคุณพูห์ครับ พูห์เป็นผู้กำชะตา ผมเป็นลูกไก่ในกำมือ เอิ๊กๆๆ
º★*.๑۩۞۩๑..*ღ•: โอ้ มอดมาเจิมให้ผมด้วย ขอบคุณมากครับ
TAEBIN7: ขอบคุณเช่นกันครับที่ติดตามมาตลอด พักนี้ไม่ค่อยเห็นเลย งานเยอะหรือเปล่าครับ?
Shumi: เคยอ่านตอนต้นๆ แล้วเหรอเนี่ย? มาอ่านพร้อมกันจนถึงตอนจบเลยนะครับ
Abracadabra: ต้นทำตัวแปลกเหรอครับ? ผมนึกว่าผมเป็นคนปกติซะอีก :a5: ขอบคุณที่ชอบเม้งนะครับ
ไอ้ปลาทอง: ขอบคุณที่ติดตามคร้าบ นิยายของคุณปลาทองเรื่องไหนครับผมจะตามไปอ่านบ้าง
athens: พักนี้ไม่เจอกันเลย สบายดีหรือเปล่าครับ?
Mu_Off: ขอบคุณที่ติดตามครับ :m1: แฟนเหนียวแน่นจริงๆ
มูมู่น้อย: แฟนประจำอีกราย ทำไงดีสับรางไม่ทันแล้นนน
jomjai: โพสสั้นตลอดเลย แบบนี้ต้องรีพลายสั้นๆ กลับ.....รักนะ จุ๊บๆ
^^--PIGGY--^^: พักนี้ไม่ได้แวะมาเลย ไม่สบายหรือเรียนหนักครับ? เป็นห่วงนะครับ
pupper: พักนี้ไม่เห็นเลยหรือลุ้นจนขาดใจไปแล้ว อย่านะครับ TAT
ตามมาดู: ใช้เสียงเรียกเข้าเดียวกับวิงเหรอเนี่ย? แอบรักใครอยู่รึเปล่าครับ? ดีจังมีคนชอบฟังเพลงเก่าเหมือนผมแล้ว
athens: หายไปเลย หรือนิยายผมไม่สนุกซะแล้ว TAT คิดถึงนะครับ
aumzaa: คนนี้พูดน้อย สงสัยจะต่อยหนัก.....ล้อเล่นครับ พักนี้ไม่ค่อยเจอกันเลยนะครับ คิดถึงนะ ชอบรูปไลท์คุงกับแอลจังเลย
anisongchanon: มีตอนใหม่มาลงให้เยอะเลยนะครับ กลับมาอ่านเถอะคร้าบ TAT
krappom: ขอบคุณครับที่ชอบเม้งและวิง มาเม้นท์ให้คนแต่งบ่อยๆ นะครับ ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจมาตลอด
@PeaZa@: ขอบคุณครับที่ติดตามมาตั้งแต่บอร์ดโน้น แต่อีกนานล่ะครับกว่าจะได้เขียนต่อ TAT งานท่วมหัวแล้ว
prince_halation: เจอกันทุกงานเลย หุหุ สบายดีหรือเปล่าครับไม่เห็นออนเอ็มอีกเลยอะ
กรีนที: ตำรวจคร้าบ แฟนนิยายผมหายครับ TAT กลับมาเยี่ยมกันบ้างนะครับ คิดถึงอ่าเดี๋ยวตามไปที่กระทู้คุณเอกเลย หุหุ
meeza31: ลงนิยายเยอะแล้วนะครับ กลับมาเถิด TAT
astral: อ่านรวดเดียวเลย ขอบคุณมากครับทำได้ไงเนี่ย มีน้องแฟนนิยายพิมพ์ออกมาเป็นเล่มหนานิ้วกว่าๆ แน่ะครับ
CMX: คิดถึงนะครับ ไม่เจอกันตั้งแต่ตอนจบบที่สองเลยนะเนี่ย
supermansk: ไม่เจอกันนานมากเลยอ่า ใกล้จะจบแล้วนะครับ มาลุ้นด้วยกันนะครับ
السلام عليكم: ชื่อแปลว่าอะไรเหรอครับ ช่วงนี้ไม่ได้เจอกันเลยหรือเบื่อผมแล้ว โฮโฮโฮ
KooLz: สบายดีหรือเปล่าครับ หายไปนานเลย ลืมคนนี้แล้วหรือยังน้อ TAT
luvdisc: ขอบคุณครับ มาเม้นท์อีกก็ได้นะครับ
tamjai_sengped: นิยายกำลังเข้มข้นเลยครับ กลับมาเติ๊ดดด TAT
jammy: พักนี้ไม่ได้เจอกันเลยครับ งานยุ่งหรือเปล่าครับ?
Lucifer: ไม่เจอกันนานเลย สบายดีไหมครับ? มาลุ้นตอนจบด้วยกันนะครับ
eye_can_tell: กลับมาเถิดวันวาน....วาน....หวาน....หวาน วันวานยังหวานอยู่ ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะครับ กลับมาลุ้นตอนจบด้วยกันนะครับ
LonelyBoiZ: ใกล้จบแล้ว กลับมาลุ้นด้วยกันนะครับ
ไอ้แสบ..我不放手: ชอบนิยายของพี่แสบเช่นกันครับ ลุ้นระทึกมากๆ *0*
โอยตอบไม่หวาดไม่ไหวแล้ว ยังมีแฟนๆ อีกตั้งหลายคนที่ไม่ได้รีพลายตอบแต่ผมได้อ่านทุกคำของทุกท่านนะครับ เซฟไว้ทุกหน้าด้วย(แบบว่าหลายใจ ยังไงก็ไม่ปล่อยให้หนีเด็ดขาด)
BAKA/ Ze€_ trOuGh ™/ tsuyu/ piyatida/ Tantalum/ อาร์มคุงคับ/ artday/ ฟัu เฟื๐J น้๐ย/ BlackySheep/ NeN~/ kryo_lover ถ้าตกหล่นใครไปต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ
........เดี๋ยวมีส่วนที่สองอีกครับ ขอไปพักก่อน น้องตะวันเขาพิมพ์นิยายผมมาเป็นเล่มเห็นแล้วปลื้มมากๆ TAT เดี๋ยวเอารูปมาลงให้ดูกันนะครับ
-
อีกไม่กี่ตอนก็จะถึงตอนจบแล้วนะครับ
วันนี้เลยขอเอารูปหนังสือนิยายเล่มแรกของผม จัดทำโดยน้องตะวัน :impress:
อันนี้หน้าปกครับ น้องเขาบอกว่า.....
(http://www.uploadtoday.com/thumb.php?5f2e8a262afd2fc7c19c91ff0cc0d166)
"ชื่อเรื่องพี่ส่อมากเลยอะ ไม่กล้าเอาลงปก"
ปกหลังครับ
(http://www.uploadtoday.com/thumb.php?5f2ed710cd9eebe67140a4053b10b135)
ความหนานิ้วกว่าๆ 321 หน้า อ่านกันตาแฉะ......นี่ผมขยันขนาดนี้เชียวรึ? :o
(http://www.uploadtoday.com/thumb.php?5f2f0de27d7163868cba63340314b111)
ดูเนื้อในกัน
(http://www.uploadtoday.com/thumb.php?5f2f539140cbc943f4da537da04971f2)
น้องเขาถ่ายมาให้เยอะกว่านี้อีกครับ ตั้งใจทำมากๆ เดี๋ยวจะโพสให้หลังจากที่คุณพูห์ลงตอนจบนะครับ :m15:
-
อยากได้เล่มนี้อะ
อยากได้ อยากได้
o11 o11 o11 o11 o11 o11 o11
-
:impress:
อ้าว ไงกันล่ะเนี่ย
ทำไมไม่บอกไปซะทีล่ะ
รออ่านต่อไปน๊า....
o15
ปล. อยากได้หนังสือด้วย รบกวนลงรายละเอียดไว้ด้วยนะครับ
-
คุณ sorrow ครับ ผมไม่ได้หายไปไหนนะครับ ยังนั่งหลบมุมอ่านเรื่องของนายต้นอยู่ตลอดเลยครับ อยากจะบอกคุณ sorrow มาตั้งนานแล้วว่า เรื่องนี้สนุกมากเลยครับ ทำผมติดจนต้องเข้ามา check ว่ามี update แล้วรึยังตั้งวันละสี่ห้าครั้งแหน่ะ (เป็นเอามาก)
ขอบคุณนะครับที่คิดถึงกัน :m23:
-
............"สอนคำว่า...Love".......... :give2: :give2:
ป.ล.อยากได้หนังสืออ่า........ :m19: :m19:
-
กลับมาอ่านต่อตามคำขอแล้วนะคับพี่ sorrow เรื่องของพี่สนุกมากๆเลยคับ อยากอ่านตอนจบไวๆจัง
ปล.ไม่ทราบว่าหนังสือของพี่นี่จะลงแผงวันไหนคับ....จะได้ไปประเดิม..(คนแรก..555+)
-
ยังไม่ทันเอ่ยปากก็มีเสียงคนเดินมาจากมุมโรงอาหาร แต่กริชก็ยังไม่ยอมปล่อยแขน.....เจ้าพระคู๊ณ! ขออย่าให้เป็นคนรู้จักเล๊ย!!!!
แต่ดูเหมือนคำอ้อนวอนจะไม่เป็นผลเมื่อคนที่เดินเลี้ยวมา....วิง!!
ผมหลับตาปี๋ อีกเสี้ยววินาทีวิงมันต้องทักผมแน่ๆ ความลับต้องแตกแล้วกริชก็ต้องกระทืบตรูตายหลังโรงอาหารนี่
......มันต้องเกิด อะไรที่มันต้องเกิด เช่นใจฉันหยุดเธอไม่อยู่ ห้ามไว้ฉันห้ามไม่ได้...... (จะตายอยู่แล้วยังร้องเพลงโคตรโบราณของน้าแจ้อีก) แต่ทุกอย่างยังเงียบ พอลืมตาเห็นวิงเดินผ่านไปแล้ว.....แต่สีหน้ามันเศร้า....เศร้ามาก
"ไม่ต้องกลัวนะต้น รุ่นน้องคนนั้นเขารู้จักผม เขาไม่บอกใครหรอก"
"ร...รู้....รู้จักกันเหรอครับ?!!"
"อืม เคยคุยกันน่ะ เขาคงเคยเห็นผมกับต้นด้วยมั้ง"
"หา?!!! ก.....กริชแน่ใจเหรอ?"
"น้องเขาไม่เคยบอกหรอกนะ แต่ตอนที่ผมบอกว่าผมมีแฟน เขาก็รู้เลยว่าแฟนผมเป็นผู้ชายน่ะ"
นั่นมัน....นั่นมันตอนที่อยู่ในห้องพยาบาลไม่ใช่เหรอ? ถ้ายังงั้นคนที่ผมนึกว่าเป็นผีก็....!!! แล้วที่พูดว่า 'ปั๊ดโธ่เว้ย' นั่น......กริชเดินจูงมือผมต่อแต่ผมหน้ามืดเหมือนจะล้มซะให้ได้....วิงรู้.....แล้วทำไมไม่เคยบอกผม.....
"น้องเขาน่าสงสารนะ ตอนนั้นเขามาปรึกษาผมด้วย"
"เรื่องอะไรเหรอครับ?" .....วิงพูดเรื่องอะไรกับกริช? เรื่องของผมเหรอ? คุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วทำไมกริชยังเฉยๆ ทุกครั้งที่เจอกัน?
"น้องเขาก็เป็นเหมือนผม......เขาชอบเพื่อนผู้ชายคนนึงแต่คนนั้นมีแฟนอยู่แล้ว เขามาถามผมว่าควรจะบอกความรู้สึกออกไปหรือจะเงียบไว้คนเดียวน่ะ"
"แล้วกริช....ตอบว่ายังไงเหรอครับ?"
"ผมตอบไม่ได้หรอก....มันคล้ายเรื่องของผมกับ...." กริชบีบมือแรงขึ้น
"ขอโทษนะต้น ผมพยายามจะไม่พูดเรื่องสิงห์แล้วแท้ๆ"
"เราไม่ว่าอะไรหรอกครับ เรื่องนั้นไม่มีใครผิด กริชพูดเถอะอย่าลำบากใจเวลาอยู่กับเราเลยนะครับ" อยากจะปลอบกริชแต่ตอนนี้หัวมันคิดอีกเรื่องวุ่นวายไปหมด.....วิงถามแบบนั้นกับกริชทำไม....วิงชอบเพื่อนคนไหน?
มรึงจะโง่อีกนานมั๊ยไอ้ต้น!.....คำตอบมันชัดอยู่แล้ว.....คำตอบที่ผมไม่เคยกล้าคิด......
ทั้งหมดที่วิงทำ....ทุกคำที่พูด.....ทุกเพลงที่ร้อง.....ทุกอย่างมันชัดอยู่แล้ว....แต่ทำไมวิงถึงไม่เคยบอกผมตรงๆ?
คำพูดประโยคหนึ่งของเจ้าวิงผุดขึ้นมาในหัว คำพูดที่ครั้งนั้นผมไม่เข้าใจความหมาย
"....เราไม่อยากเห็นใครต้องแยกจากคนรักอีกแล้ว...."
.....นี่ไงล่ะคำตอบ....ที่วิงไม่เคยพูดก็เพราะแบบนี้นี่เอง.....เพราะไม่อยากเห็นใครต้องแยกกันแบบพ่อแม่เขา.....ทำไมผมโง่แบบนี้!!!!ป่านนี้มันเดินไปไหนแล้วก็ไม่รู้ หน้าเศร้าๆ นั่น.....ตอนวิงเล่าเรื่องพ่อแม่ หน้ามันยังไม่เศร้าขนาดนี้....
"กริช...เรา...." ตอนนี้ผมเป็นห่วงวิงจริงๆ แต่กริชล่ะ? ผมควรรีบบอกความจริงกับเขาตอนนี้ซะ!
เรื่องต่างๆ ตีกันในหัววุ่นวายไปหมด เพลงสุดท้ายที่เจ้าวิงร้องเมื่อวานก่อนก็ดันแว่วขึ้นมาซะอีก
......ถึงต้องช้ำใจตาย ฉันก็พร้อมยอมตาย......
นี่ตรูคิดอะไรเนี่ย? แค่ช้ำใจวิงมันคงไม่.....เรื่องแบบนั้นมีแค่ในนิยายเท่านั้นแหละ
แต่หัวผมก็ไม่ยอมหยุดคิด มิวสิควิดีโอเก่าเก๋ากึ๋กอมตะนิรันดร์กาลฝันสีทองของน้าแจ้โผล่ขึ้นมาอีก
.....นั่นคือวันสุดท้าย พรุ่งนี้ไปใครจะเห็นหน้า หากเจ้าฆ่าตัวตายไปเมื่อคืน......
ตรูคิดมากเกินไปแล้ว แค่อกหักนะโว้ย! แค่อกหัก!
ช่องมิวสิควิดีโอในหัวยังทำงานไม่หยุดด้วยการปล่อยเพลงของน้าแจ้มาหลอนอีกระลอก
......ต่างคาดไม่ถึง ตามข่าว เธอฆ่าตัวตาย ลาจากคนรัก
มือจับจดหมาย กอดจดหมาย เอาไว้กับอก
บอกให้เขารู้ ลาก่อน ชาตินี้จำอำลา อย่าห่วง ห่วงคนมีกรรม
พี่จงลืมน้องได้ อยู่กับเธอคนดีคนใหม่ อย่าห่วงเลย......
โว้ย!!!!!!! ทำไมน้าแจ้มีเพลงฆ่าตัวตายเยอะแยะแบบนี้ฟระ!!!!
ถึงจะรู้ตัวว่าเป็นคนคิดมากแต่คิ้วซ้ายมันกระตุกไม่หยุด.....เรื่องเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้นแน่ๆ....ถ้าช้าไปวินาทีเดียว....
ถ้าสารภาพความจริงกับกริชตอนนี้คงต้องใช้เวลานานโข ถึงจะรู้สึกผิดแต่วินาทีนี้ผมมีอีกคนที่น่าเป็นห่วงมากกว่า ผมขอโทษจริงๆ นะกริช!
"กริช ขอโทษนะเราเพิ่งนึกได้ว่ามีงานด่วน! ขอตัวก่อนนะครับ!"
"อ้าว! เหรอ....ต้องรีบไปตอนนี้เลยเหรอ?"
"ครับ เราขอโทษจริงๆ นะ"
"อืม ไม่เป็นไรหรอก ต้นจำทางออกได้มั๊ย? ประตูอยู่ทางโน้นนะ"
"กริช....." ผมบีบมือเขาแน่น สิ่งที่ผมกำลังจะทำนี้มันโง่มากๆ แต่ผมเป็นห่วงเพื่อน ถ้าวิงเป็นอะไรไปผมจะไม่ยกโทษให้ตัวเองเด็ดขาด!
"กริชรอเราที่บ้านนะครับ แล้วเราจะรีบตามไป ไม่นานหรอกครับ"
"อืม ผมจะรอต้นนะ"
ว่าแล้วก็วิ่งเลี้ยวผ่านโรงอาหารตรงไปที่ประตูโรงเรียนทันที จะช้าไม่ได้แล้ว! สังหรณ์ใจไม่ดีเลย....วิงอย่าทำอะไรบ้าๆ นะโว้ย!
"น้ายามครับ น้าจำเพื่อนผมคนที่สะพายกีตาร์มาบ่อยๆ มั๊ยครับ? น้าเห็นเขาผ่านมาแถวนี้มั๊ยครับ?"
"ก็พอจำได้นะหนู แต่น้าว่าน้ายังไม่เห็นเขาเลยนะ"
"ขอบคุณครับคุณน้า"
ถ้ายังไม่ออกจากโรงเรียนแล้วมันจะไปที่ไหน? บ่อปลาเหรอ? แต่ตอนที่วิงเดินเลี้ยวไปมันคนละทางนี่นา
แล้วมันจะไปที่ไหนล่ะในเวลาแบบนี้......ห้องประจำของมัน.....ที่ชั้น 4.....ที่ความสูงระดับนั้น.....
.....นั่นคือวันสุดท้าย พรุ่งนี้ไปใครจะเห็นหน้า หากเจ้าฆ่าตัวตายไปเมื่อคืน.....
เสียงเพลงของน้าแจ้ยังมาหลอกหลอนไม่หยุดเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง .....โว้ย! หยุดคิดซะทีสิฟระ!!!!....ยังไงก็รีบขึ้นไปดูก่อนเถอะ!
.....เดี๋ยวก่อน....เมื่อกี้ผมบอกกริชว่าอะไรนะ? ผมพูดคำว่า 'งานด่วน' เหรอ?
แล้วไอ้ห้องเรียนที่ชั้น 4 ในยามค่ำมันก็คล้ายกับภาพที่ผมเห็นในความฝันเลย .....จะขึ้นไปเหรอ? ถ้ามันจะเหมือนกับในฝันนั่นล่ะ?
กลัวอะไรแค่ความฝัน! ชีวิตเพื่อนทั้งคนนะโว้ย!
ผมวิ่งตรงไปขึ้นบันไดตึก ในหัวเห็นแต่หน้ามัน เจ้าวิงที่เคยยิ้มเสมอ คนที่ผมเคยกอดตอนมันร้องไห้ คนที่สอนกีตาร์ให้ผม นายต้องไม่เป็นอะไรนะโว้ย!
ถึงชั้น 4 แล้ว ประตูห้องมันเปิดแง้มอยู่จริงๆ ด้วย ผมผลักเข้าไปเต็มแรง! เจ้าวิงกำลังยืนอยู่ข้างหน้าต่าง!
"วิง! อย่าทำอะไรบ้าๆ นะว้อย!"
"อ้าว! ต้น....."
"วิง...ทำไมนายไม่บอกเรา?!"
"บอกเรื่องอะไรเหรอต้น?" มันยังแกล้งยิ้มได้อีกนะ ตรูวิ่งขึ้นมาเหนื่อยจนลิ้นห้อย
เรื่องอะไรงั้นเหรอ จะให้ผมเป็นฝ่ายพูดได้ยังไง นั่นสินะ.....เจ้าวิงเองก็คงไม่กล้าพูด....แบบเดียวกับที่ผมรู้สึกตอนนี้เหมือนกัน ไม่สิ วิงมันคงลำบากกว่าผมหลายเท่า ทั้งห้องมีแต่ความเงียบกับเสียงซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ที่แว่วมาไกลๆ .....ความเงียบที่อึดอัดเหลือเกิน.....
"กริชบอกเราหมดแล้ว"
".............."
"ทำไมนายถึงไม่บอกเราล่ะวิง? รู้มั๊ยเมื่อกี้เราเป็นห่วงนายมาก กลัวว่านายจะ....จะทำอะไรบ้าๆ"
"......อยากให้เราบอกจริงๆ เหรอต้น?.....อยากให้บอกว่าเราชอบนายงั้นเหรอ!....อยากให้เราบอกแบบนั้นตอนที่รู้ว่านายมีพี่กริชแล้วงั้นเหรอ?!!"
ใช่จริงๆ...........
ผมมันโง่เหลือเกิน โง่ที่เข้าใจตอนนั้นว่าวิงเป็นน้องม.2 โง่ที่จำวิงไม่ได้เพียงเพราะเขาตัวสูงขึ้นและไม่ได้ใส่แว่น
โง่ที่ไม่เข้าใจคำที่เขาพูดและทุกอย่างที่เขาทำ วิงบอกผมมาตลอดแต่ผมกลับไม่เข้าใจ
"ไม่น่าเลย.....เราไม่น่าพูดออกไปเลย......ขอโทษนะต้น ทั้งๆ ที่สัญญาว่าจะไม่ทำให้นายเจ็บ....แต่เรา....."
เสียงที่สั่นเครือ ภาพเจ้าน้องตัวจ้อยยืนกลั้นน้ำตาอยู่ตรงหน้าเหมือนเย็นวันนั้น สิ่งที่ต่างไปนอกจากความสูง ทรงผมและแว่นตา คือผมไม่สามารถหยุดน้ำตาเขาไว้ได้อีกแล้ว
"วิง.....เป็นเพื่อนกันเถอะนะ"
ผมเคยเห็นคำนี้ในนิยายมาหลายครั้ง แต่เพิ่งรู้วันนี้แหละว่ามันเป็นประโยคที่พูดยากเหลือเกิน
ประโยคที่ทำร้ายจิตใจทั้งสองฝ่ายแต่ก็จำเป็นต้องพูดก่อนที่วิงจะเจ็บมากไปกว่านี้
"ต้นยังให้เราเป็นเพื่อนนายได้เหรอ?"
"อืม ทำไมล่ะ แค่ความรู้สึกเปลี่ยนไปครั้งนึงนี่เรายังเป็นเพื่อนกันได้ไม่ใช่เหรอ?"
"ขอบใจนะต้น.....ขอโทษนะที่เราทำให้นายรำคาญมาตลอด ตอนที่เห็นต้นกับพี่กริชเที่ยวด้วยกันเราก็รู้แล้วว่าต้องทำใจ....แต่....แต่เราเห็นนายวิ่งหนีพี่เขาในโรงเรียนเราเลยนึกว่าพี่กริชสั่งให้ต้นต้องคอยหลบหน้า เรานึกว่าพี่เขาไม่ได้ชอบนายจริง เราก็เลย---"
"วิง กริชไม่ได้สั่งเราให้ทำแบบนั้นนะ!"
"เราเข้าใจ ต้นไม่อยากให้คนในโรงเรียนรู้ว่าต้นคบกับพี่เขา ต้นไม่อยากให้พี่เขาเดือดร้อนสินะ?"
ตรูอยากจะบ้าตาย! นี่เจ้าวิงมันเข้าใจผิดแบบนี้มาตลอดเลยเหรอเนี่ย?
จะเข้าใจตัวผมผิดก็ไม่เป็นไรหรอกแต่กริชเขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ผมไม่อยากให้วิงเข้าใจเขาไปอย่างนั้น
"วิง.... กริชไม่ได้สั่งเราแบบนั้นหรอก จริงๆ แล้วน่ะ....คือ....กริชเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราอยู่ในโรงเรียนนี้"
"หมายความว่ายังไงนะต้น?"
"กริชไม่รู้หรอกว่าเราเรียนที่นี่"
"แต่เมื่อกี้ต้นก็เดินกับพี่เขานี่นา"
จะบอกความจริงดีมั๊ย? แต่มันคงทำร้ายใจของวิงถ้ารู้ว่าผมกับกริชมีอะไรเลยเถิดตกร่องปล่องชิ้นไปถึงขั้นไหน....
"ต้น....เรื่องเป็นยังไงกันแน่?"
"เราบอกไม่ได้หรอกวิง"
"เราก็ทนเห็นนายลำบากแบบนี้ไม่ได้เหมือนกันนะ บอกมาเหอะ ตะกี๊นายบอกเองนะว่าเราเป็นเพื่อนนายน่ะ"
ไหนๆ วิงก็รู้เกือบทั้งหมดแล้วผมก็ควรจะเล่าดีกว่าปล่อยให้เขาเข้าใจผิดนานกว่านี้ .....เรื่องทั้งหมดนี่ก็เพราะความเข้าใจผิดที่ผมสร้างขึ้นทั้งนั้น
"วิง ตอนแรกเรากับกริชไม่รู้จักกันหรอกนะ พี่เขาเจอเราที่สีลมเมื่อสามเดือนก่อน ตอนนั้นกริชเขานึกว่าเราเป็น.....เอ่อ....เป็นเด็กขายบริการ"
"หา?! ต้นทำงานแบบนั้นด้วยเหรอ?!!"
"ไม่ได้ทำ!! กริชเขาเข้าใจผิด ตอนแรกเราก็จะบอกเขาแหละแต่เราอยากกินเหล้าฟรีก็เลยแกล้งเออออให้กริชเลี้ยงเหล้า กะว่าพอเขาเมาปุ๊บเราก็จะหนีแค่นั้นแหละ"
"แล้วไงต่อล่ะต้น?"
.....มาถึงส่วนที่ไม่กล้าเล่าที่สุดแล้ว.....
"แต่.....เอ่อ....คืนนั้น....อะไรๆ มันก็เลยเถิดไป.....ไปจนถึง....ถึงบ้านของกริช....แล้วข้าวสาร....ก็....ก็กลายเป็นข้าวสุก เป็นข้าวนึ่ง ข้าวแปรรูป"
เอามือม้วนชายเสื้อแก้เขิน ท่าทางติงต๊องมากเลยตรู วิงมันใสซื่อแบบนี้จะเข้าใจมั๊ยเนี่ย? เลือกคำที่ถนอมจิตใจมันมากที่สุดเลยนะ
"พอตอนเช้าเราถึงได้รู้ว่ากริชเป็นรุ่นพี่ม.6 ตอนนั้นเรากลัวเขาจะไปฟ้องห้องปกครอง เรากลัวถูกไล่ออกเลยไม่ได้บอกความจริงไปน่ะ"
"แล้วตอนนี้ล่ะ?"
"ตอนนี้.....กริชก็ยังไม่รู้"
"หา!!! หมายความว่าที่ต้นหลบหน้าพี่เขาอยู่ทุกวันนี่ .....พี่กริชก็ยังนึกว่าต้นเป็นคนทำงานอย่างว่านั่นอยู่เหรอ?"
ผมพยักหน้า รู้สึกตัวหดลงด้วยความผิด
"แต่เมื่อกี้ต้นแต่งชุดนักเรียนเดินกับพี่กริชนั่นล่ะ?"
"เรื่องมันอธิบายยากน่ะ คือกริชเขาขอให้เราใส่ชุดนี้มาเดินในโรงเรียนเป็นเพื่อนเขา"
วิงยังทำหน้างง ใครเจอเรื่องนี้เข้าก็คงงงทั้งนั้นแหละ บางทีผมยังทำตัวไม่ค่อยถูกเลย
"ต้นรีบบอกให้พี่เขารู้ดีกว่านะ ปล่อยไว้นานแบบนี้มีหวังเป็นเรื่องแน่"
"ก็ตั้งใจจะบอกนานแล้วล่ะ แต่เราดันทำผิดบางอย่างจนพี่เขาต้องลาออกจากตำแหน่งรองประธานกีฬาสีน่ะ เราก็เลยคิดว่าจะแข่งบาสเอาเหรียญทองมาขอโทษกริชซะก่อนแล้วจะบอกความจริงกับเขา" ผมข้ามเรื่องของพี่สิงห์ไปเพราะกริชคงไม่อยากให้ใครรู้
"ต้น เราว่าพี่เขาไม่ต้องการของอะไรมาขอโทษหรอกนะ ต้นน่าจะรีบบอกความจริงไปเถอะ"
"เมื่อกี้ก็ตั้งใจจะบอก แต่พอรู้เรื่องของนายจากปากกริชแล้วนายก็ทำหน้าเศร้าแบบนั้นด้วย เราเลยเป็นห่วงรีบมาดูนายก่อน"
"ต้นกลัวเราจะทำอะไรเหรอ? เห็นตะโกนว่าอย่าทำอะไรบ้าๆ"
"เออสิ! วันนั้นนายเล่นเพลงแบบนั้นเราก็คิดมากน่ะสิฟระ!!"
"ฮะๆ ต้นนี่ไม่เปลี่ยนไปเลย ห่วงแต่คนอื่น....." มันทำหน้าเศร้าอีกแล้ว ผมรู้ว่ายากที่จะเปลี่ยนความรู้สึกในทันที
"วิง บางทีนายอาจจะอยากได้พี่ชายนะ ลองคิดให้ดีว่านายรู้สึกยังไง"
ผมค่อยๆ กอดวิงช้าๆ ไม่รู้จะช่วยให้คิดได้หรือจะทำให้แย่ลงแต่ถ้าปล่อยแบบนี้วิงคงทุกข์ใจไปอีกนาน
".....ขอบใจนะต้น เรารู้สึกยังไงตัวเรารู้ดี .....ที่แน่ๆ น่ะเรารู้ว่าต้นน่ะไม่คิดกับเราแบบนั้น"
คนในอ้อมแขนตอนนี้เหมือนเป็นทั้งเพื่อนทั้งน้องชาย รู้สึกดีเวลาที่อยู่ใกล้แต่ไม่รู้สึกหวงครอบครองไว้คนเดียว
ผมอยากเห็นเขามีความสุขด้วยตัวเองได้ อยากให้มีรอยยิ้มแบบนี้ไปนานๆ
"ต่อไปเราเป็นเพื่อนกันนะต้น"
"อืม แล้วเราจะสอนบาสนาย นายก็สอนกีตาร์เราละกัน"
"โหย! เราเขียนคอร์ดในหนังสือเพลงให้ตั้งเยอะแล้วน่ะฝึกเองบ้างดิ"
เราหัวเราะพร้อมกันเหมือนวันแรกๆ ที่ได้เจอกัน แต่ครั้งนี้เป็นเสียงหัวเราะจริงๆ ไม่มีความหมายอื่นเจือปน เสียงหัวเราะที่เพื่อนจะมีให้เพื่อน
"แล้วคืนนี้ต้นจะบอกพี่กริชมั๊ย?"
"อืม ถึงเวลาต้องบอกทุกอย่างซะที ตอนนี้กริชคงรออยู่ที่บ้านเขาแล้ว"
"เราฝากขอโทษพี่กริชด้วยนะ วันนั้นเรารู้สึกแย่มากๆ เลยที่ไปพูดกับพี่เขาแบบนั้น"
"ไม่เป็นไรหรอก เราจัดการเอง นี่ดึกแล้วล่ะวิงกลับบ้านเถอะ"
วิงเดินออกจากห้องไปแล้ว
ขอโทษนะวิง.....ความโง่กับความกลัวของผมมันทำร้ายทั้งนายและกริชมานาน
ผมมันขี้ขลาดปล่อยให้เรื่องคลุมเครือจนกลายเป็นแบบนี้ แต่คืนนี้แหละเรื่องทุกอย่างจะต้องจบ ถึงเวลาที่ผมต้องเผชิญหน้าความจริงซะที โทรหากริชก่อนดีกว่าว่าเขาถึงบ้านรึยัง.....
"........."
"สวัสดีครับ กริช....กริชได้ยินรึเปล่าครับ?"
"ได้ยิน"
"นึกว่าสัญญาณไม่ดี เห็นนายเงียบๆ กริชอยู่ที่บ้านรึเปล่าครับ?"
"อืม ผมอยู่ที่บ้านแล้ว" ....น้ำเสียงเย็นชานั่น.....ตอนแยกกันก็ยังดีๆ อยู่นี่นา....อย่าคิดมากน่ามันคงไม่เหมือนในฝันหรอก.....
"เดี๋ยวเราเข้าไปหากริชตอนนี้ได้ไหมครับ? เรามีเรื่องอยากจะพูดด้วยน่ะครับ"
"แล้วไม่ต้องไปทำงานด่วนแล้วเหรอ?"
"ไม่มีแล้วครับ กริช...เราไม่มีงานอะไรนั่นแล้ว....ขอโทษนะ เรามีเรื่องที่ต้องคุยกับกริชตอนนี้จริงๆ นะครับ"
ผมหลับตาปี๋ กลัวกริชจะตวาดแบบในฝันคืนนั้น แต่เขากลับเงียบ.....มีแค่เสียงเบาๆ แว่วเข้ามาในมือถือ .....เสียงนี่....บ้าน่า! เป็นไปไม่ได้!
"กริชครับ กริชอยู่ไหนครับ?"
"ไม่มีงานแล้วงั้นเหรอ....ก็สับรางรถไฟเสร็จแล้วนี่" พูดจบเขาก็วางสายไปเลย อะไรหว่าสับรางรถไฟ....ว่าแต่ไอ้เสียงที่แว่วตะกี๊.....ผมหันมองรอบๆ ไม่ผิดแน่! เสียงที่ได้ยินเบาๆ ในมือถือเมื่อกี้......เสียงซ้อมเชียร์ลีดเดอร์!!!
"แบบนี้ใช่มั๊ยงานด่วนของนายน่ะ"
ร่างสูงโปร่งยืนอยู่หน้าประตู ถึงจะมืดแต่ก็จำได้แม่นยำว่าเป็นใคร
"กริช!!"
"งานด่วนเหรอ? ทำงานในโรงหนังเหรอ? แล้วยังร้านทไวไลท์อีก สนุกมากมั๊ยต้น?"
"กริช เราขอโทษที่หลอกนาย แต่ทั้งหมดมันเรื่องเข้าใจผิดนะครับ!"
"นานแค่ไหนแล้วเนี่ย? สามเดือน.....สนุกมากมั๊ยที่หลอกผมมาตั้งนาน? ทุกวันที่มาโรงเรียนคงหัวเราะเยาะผมลับหลังสิท่า?"
"เราขอโทษจริงๆ กริชแต่เราไม่ได้คิดแบบนั้นนะ"
"ขำมากมั๊ย?!!! พวกนายสองคนรวมหัวกันหลอกผมเนี่ย? เด็กโข่งซ้ำชั้นแบบผมนี่มันตลกมากใช่มั๊ย?!!!"
.....สองคน.....หมายถึงผมกับวิงน่ะเหรอ.....
"กริชเข้าใจผิดนะครับ วิงเขาไม่ได้เกี่ย---"
"คนนึงแกล้งเป็นเด็กขายบริการ อีกคนหลอกปรึกษาปัญหาความรัก ....พี่ครับ ผมแอบชอบเพื่อนคนนึงแต่เขามีแฟนแล้วแต่ท่าทางไม่ค่อยรักกันเท่าไหร่ พี่ครับผมควรจะเลือกทางไหนดี.... แนบเนียนมากนะ!!!! ถ้าคิดดูดีๆ ก็น่าจะเข้าใจแล้วว่าเพื่อนนายเอาเรื่องของผมกับสิงห์ย้อนมาล้อเลียนผม .....แต่ผมมันโง่เองแหละ! น่าจะรู้ตั้งแต่สังเกตเห็นต้นไว้ผมลองทรงตลอดแล้ว ใช่สิผมมันโคตรโง่! ตอนนี้ก็รู้แล้วสิว่าทำไมผมถึงซ้ำชั้น!! เอาไปล้อลับหลังกันขำมากเลยสิท่า!!!"
"กริช......ฟังเราก่อน...เราอธิบายได้....ตอนนั้นเราแค่อยากกินเหล้าฟรีเราเลยหลอกนายไปแบบนั้น"
"หึ! ลงทุนมากเลยนะ! ตอนนี้ก็สนุกสมใจแล้วนี่! ไปกินเหล้าฟรี ได้เที่ยวฟรี! ได้นอนกับคนโง่อย่างผม! พวกนายสองคนคงเห็นเป็นแค่เรื่องสนุกล่ะสิ?!"
"มันไม่ใช่แบบนั้นนะ! กริชจะทำอะไรเราก็ได้ จะเตะจะต่อยยอมเรายอมหมดแต่ช่วยฟังให้---"
"ผมไม่ทำอะไรนายหรอกเดี๋ยววิงแฟนนายจะเสียใจ"
"วิงกับผมไม่ได้เป็นอะไรกันนะ! เราเป็นแค่เพื่อนกัน!"
"กอดกันกลมแบบนั้นน่ะเหรอเพื่อน!!"
"กริชฟังเราก่อน เราขอโทษจริงๆ! เราขอโทษ!!"
"ไม่ฟังแล้วโว้ย! ....ฮึกๆ....ต่อไปเราไม่รู้จักกัน! นาฬิกานั่น...ฮึกๆ...ผมยกให้เป็นค่าตัวของต้นก็แล้วกัน!!!"
มือถือของกริชถูกขว้างลงพื้นห้องแตกกระจายไปทั่วแล้วเดินจากไป.....กริชไปแล้ว.....
......................................
อึ้งกันละเซ่
หุหุหุหุ
:laugh: :laugh: :laugh:
-
:impress:
อึ้งคับ อึ้งมากด้วย
อ่าไรกันหว่า จะเป็นไงต่อไปเนี่ย
รออ่านต่อไปครับ
o15
-
=[]= อ๊ากกกกกกกกกกกกกก
ทำยังไงดีๆๆๆๆๆ กริชรู้แล้ว ดันเข้สใจผิดไปอีก =[]= อ๊ากกกกก
มาทำให้อยากแล้วจากไปแบบนี้ไม่ดีน่ะคร๊าบ ขอต่อไวๆ ไวๆเลย TT^TT
ปล. หนังสือสวยมากเลยครับ *0*
-
แง๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!! :m15:
ทำไมเรื่องมันถึงได้เลวร้ายขนาดนี้เนี่ย
ทำไมกริชถึงไม่ยอมฟังต้นอธิบายเลย
อ๊ากกกกก!! เกลียดกริชแล้ววว :angry2:
ต้นที่น่าสงสาร แงๆๆ :sad2:
-
แป่ว มัยกริชเปนแบบนี้แระ
จะคุยหั้ยรุ้เรื่อง
สงสัยต้องปัยคุยบนเตียง :m1: :m1:
-
:undecided:
ใครก็ได้ เรียกรถพยาบาลให้หน่อยยยยย ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะตายยยยย :a6:
ทำไมต้องเป็นแบบนี้อ่ะ อุตส่าห์ปรับความเข้าใจกับวิงได้แล้ว
ตอนหน้านะ ขอร้องละ....please คืนดีกันนะ o7
สงสารทั้งกริชและต้นเลยยยย ทำไงดี ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
:m2:
-
เอ๋อกินเลยคับ
อ่านรอบเดียวจบ มาถึงตอนที่บอกความจิงพอดี อึ้งสุดๆ
ตอนแรกผมเคยอ่าน ตอนแรกที่เอามาลง แค่ถึงตอนที่ เมาแล้วนั่งแท็กซี่
วันนี้เปนไรมะรู้นึกถึงเรื่องนี้ เลยมาอ่านค้าบ
แต่มาถึงตอนนี้แล้ว อ๊ากกก ไมเปนแบบนี้ง่ะ -*-
แล้วจะไปยังไงต่อไปเนี้ยยยย
เศร้าวะ -*- o7 o7
-
o22 o22 o22 o22 o22
-
:serius2: อ๊ากซซซซซซซซซซ :serius2:
ถึงแม้ว่าจะคาดไว้บ้างว่าจะต้องโกรธ แต่ไม่คิดว่ามันจะออกมาเป็นในรูปแบบนี้อ่ะ :sad2:
แง้ๆๆ เอาเป็นว่า ...... คืนดีกันเร็วๆนะค้าบบบ เดี๋ยวแฟนๆเฉาตายยยย :m17:
-
มือถือของกริชถูกขว้างลงพื้นห้องแตกกระจายไปทั่วแล้วเดินจากไป.....กริชไปแล้ว.....
.
.
.
.
.
.
แล้วผมก็ตื่นขึ้นมา เหงื่อแตกพลั่กๆ หันไปมองข้างๆ กริชยังคงนอนเหยียดยาวอยู่ข้างตัวผม
โธ่ ฝันไปอีกแล้วซิเรา !
.
.
.
ต้องเป็นอีหรอบนี้แน่ๆ จบแบบปาหมอน สุดๆๆๆ 55 ใช่ม่ะ พี่ซอโร่
//เผ่นไปปั่นงานต่อ
-
:a5: :a5:ชอก มาต่อด่วนค่า อยากรู้ว่าต้นจะทำอย่างไรตอ :a10: :a6:
-
สถานการณ์เลวร้ายสุด ๆ :serius2: :serius2: :serius2:
-
:o12: กริชไปแล้ว ทำยังไงดีละ ทามไมเรื่องมันถึงเลวร้ายอย่างนี้ ทำไมกริชถึงไม่คิดว่าต้นลำบากขนาดไหน เพื่อกริช แท้ๆ
-
ตามอ่านทันแล้วครับ ใช้เวลาเนิ่นนานเลยทีเดียว :m13:
อู้งานนิดหน่อยอย่าว่ากันนะครับเจ้านาย :m5:
จะเป็นกำลังใจต่อไปจนกว่า.....................................เจ้านายจะไล่ผมออก อิอิ :m17: :เฮ้อ:
-
o7 o7 o7 ทำไมเป็นแบบนี้กริชเข้าใจต้นหน่อยสิ ลำบากแทบตาย เหมือนเราเลย กว่าจะอ่านมาถึงนี่ ตาลายหลายตลบ คืนดีกันไวๆเลยน่ะ
-
o9 o9 o9 o9 o9
ในที่สุดก็รู้จนได้....
เอาจบแบบดีๆนะค้าบ.. :m5:
-
.............................ฝัน....ฝันแน่ๆ............................
........................มันต้องเป็นแค่ความฝัน................... :laugh:
-
o22 o22 o22 :seng2ped: โอ้วแม่จ้าว นายกริชวีนแตกแระจ้า :seng2ped: o22 o22 o22
-
:sad2:
กลับมาจากโรงบาลละ หลังจาก Shock เมื่ออ่านจบตอนนนน เข้ามาเช็คดู ยังไม่เห็นมีต่อเลยยยยย :m16:
ชักงอน ๆๆๆ เห็นใจแฟนคลับหน่อยนนน ให้ไวเลยยย ทิ้งไว้แบบนี้ได้ไงงงง รมณ์เสียยยย
รีบ ๆ คืนดีกันเร็ว ๆ อกจะระเบิดอยู่แล้ววววววววอ่ะ
o9
-
:o11: เมื่อไหร่จะมาต่ออะ รอไม่ไหวแล้วแล้วนะ เครียดมาก ห่วงทั้งกริชห่วงทั้งต้นเลย
-
ตอนที่ 23
เช้าวันที่สองของกีฬาสี วันนี้พี่โจ้ดูหงุดหงิดมากๆ เดินง่วนเป็นเสือติดจั่นเลยทีเดียว
"เม้ง! มาพอดีเลย แล้วต้นล่ะมารึยัง?"
"อ้าว! ไอ้ต้นมันยังไม่มาอีกเหรอครับ? เมื่อวานมันยังย้ำเวลากับผมเลยนะว่า 10 โมงเช้า"
"นั่นแหละถึงได้ถามน้องไง นี่ 8 โมงครึ่งแล้วทำไมยังไม่เห็นอีก น่าจะมาเตรียมตัวได้แล้วนะ เม้งช่วยโทรตามทีซิพี่ไม่มีเบอร์"
.....ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก......
"อะไรวะเนี่ย? ปิดมือถือเหรอ? คงไม่ใช่นอนจนลืมตื่นหรอกนะ" เม้งเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อเพื่อนรักไม่เคยสายในวันสำคัญแบบนี้ ถึงจะแข่งสิบโมงแต่นักกีฬาก็ควรจะมารายงานตัว เปลี่ยนชุดและบริหารร่างกายตั้งแต่เช้า
"วิงๆ เห็นต้นรึเปล่า?"
"เอ๋? ต้นยังไม่มาเหรอ?"
"นี่พี่โจ้เริ่มปวดหัวแล้ว จะแข่งตอน 10 โมงนี่ละ"
"แต่เมื่อวาน....."
"เมื่อวานทำไมเหรอวิง? เมื่อวานนายเจอไอ้ต้นเหรอ?"
"อ...อ......อืม เจอตอนหัวค่ำน่ะ"
"ที่โรงเรียนเนี่ยเหรอ?"
".....อืม....."
"ยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ ไหนมันบอกว่าเมื่อวานติดธุระมาไม่ได้ไง?"
"แล้วเบอร์บ้านล่ะลองโทรรึยัง?"
"เออจริงด้วย มัวแต่ห่วงมันจนลืมนึกไปเลย"
...
...
...
"วิง เราโทรไปเจอพี่ต้อมรับสายละ พี่เขาบอกว่ามันไม่สบายนอนอยู่ในห้องน่ะ"
"หา!? แล้วเป็นไงบ้างน่ะ?"
"ไม่รู้สิ แต่วันที่ต้องแข่งบาสน่ะต้นมันไม่น่าปล่อยตัวเองป่วยได้นะ มันชอบเล่นบาสจะตาย" เม้งก็เริ่มกลุ้มหนัก
"เราว่าเราไปหามันที่บ้านเลยดีกว่า ยังมีเวลาเหลือ ท่าทางมันแปลกๆ พิกล นายจะไปด้วยมั๊ยวิง?"
"ไม่ล่ะเราอยู่รอที่นี่ละกัน"
"พี่โจ้ครับ ตอนนี้พี่คมเดชอยู่ไหนครับ?"
"พี่กริชน่ะเหรอ? น้องวิงมีอะไรเหรอครับ?"
"....คือ...อาจารย์พละจะขอเอกสารอะไรหน่อยน่ะครับ เดี๋ยวผมไปหาพี่เขาเองก็ได้ครับแค่บอกว่าพี่เขาอยู่แถวไหนก็พอ"
"นพ! เมื่อคืนพี่กริชไปนอนบ้านนายใช่มั๊ย? แล้วตอนนี้พี่เขาอยู่ไหนน่ะ? อาจารย์จะถามหาเอกสารอะไรก็ไม่รู้"
"เหรอ! แต่พี่กริชเขากลับบ้านต่างจังหวัดไปแล้วนะ ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ"
"อ้าว! แบบนี้ก็แย่น่ะสิ แล้วอาจารย์เขาอยากได้เอกสารอะไรเหรอเดี๋ยวพี่จะลองไปค้นในห้องให้"
"ม.....ไม่เป็นไรหรอกครับ อาจารย์บอกว่าไม่ค่อยสำคัญ ไว้ทีหลังก็ได้ครับ"
..
..
......9:04.......
นาฬิกายังคงทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อสัตย์....แม้คนที่มอบสิ่งนี้ให้ผมจะไม่อยากเจอผมอีกแล้วก็ตาม.....
ก็เพราะผมไม่ซื่อสัตย์เรื่องมันถึงได้เป็นแบบนี้ กริชสมควรจะโกรธผมแล้ว ผมที่หลอกเขามานาน ถึงจะทำใจไว้แล้วว่าเขาต้องโกรธแต่......
ผมเช็ดน้ำตาก่อนมันจะหยดลงบนรูปถ่ายตรงหน้า....แก่งกระจาน.....หาดเจ้าสำราญ.....บ้านของกริช.....
น้ำตาที่เอ่อคลอทำให้ผืนน้ำในรูปเหมือนจะสั่นไหว ที่ๆ กริชเคยอยากพาผมไป ทุกอย่างเป็นความผิดของผมเองผมสมควรโดนแบบนี้
"กริชครับ...ฮึกๆ....เราขอโทษ....เราขอโทษ......"
ภาพวันเก่าๆ ...แค่สามเดือนที่เราอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้เหมือนทั้งชีวิตมันพังลงตรงหน้า....ตั้งสามเดือนตะหาก.....ตั้งสามเดือนที่ผมหลอกเขาได้หน้าตาย.....สามเดือนที่ทำให้เขาเดือดร้อน ทำให้ความฝันของเขาพัง
ความอุ่นของแขนกริชที่โอบไหล่ผม....มือที่เคยกุมมือไว้.....ความรู้สึกยังอยู่ชัดเจนแต่วันนี้ไปจะไม่มีอีกแล้ว.....
ในหัวมีแต่คำว่าขอโทษ....คำๆ เดียวที่ผมอยากจะบอกเขาทุกวันแต่ไม่เคยได้พูด มันอัดอั้นในใจ แต่ตอนนี้ไม่มีเขาให้ผมขอโทษได้อีกแล้ว ต่อไปถ้าเจอหน้าเขาผมจะทำยังไง....แค่คิดว่ากริชจะมองผ่านผมไปเหมือนไม่มีตัวตน คิดแค่นั้นใจมันก็บีบจนเจ็บ
ผมหยิบมือถือขึ้นเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
ยอมรับความจริงเถอะ.....กริชจะไม่โทรมาอีกแล้ว.....จะไม่ได้ยินเสียงเขาอีกแล้ว ก็เขาขว้างมือถือแตกกระจายไปต่อหน้าผมแล้วนี่นา....ไม่รู้จะโทรหาเขาได้ยังไง เมื่อคืนตามไปหาที่บ้านก็ไม่เจอ เบอร์อื่นๆ ก็ไม่รู้
ผมยกมือถือแกว่งไปมาใกล้หน้าต่าง.....มันแค่ไม่มีสัญญาณเท่านั้นแหละ
.....กริชคงโทรหาผมสักครั้ง....เขาจะโทรมา....
จะหลอกตัวเองอีกนานมั๊ยไอ้โง่.....เขาเกลียดผมถึงขนาดนี้แล้ว......
"ขอโอกาสเถอะครับกริช.....ให้เราได้อธิบายอีกครั้ง กริชจะทำอะไรเราก็ยอม....."
ต่อให้พูดแบบนี้อีกนานแค่ไหนเขาก็ไม่มีทางได้ยิน ต่อให้เขาอยู่ตรงหน้าก็คงไม่ฟังผมอีกแล้ว.....เขาบอกแล้วไงว่าต่อไปนี้เขาไม่รู้จักผม
ก๊อกๆๆๆ
"ต้น นอนอยู่รึเปล่า?"
"............."
"กรูรู้ว่ามรึงแกล้งป่วย มีอะไรบอกมาซะดีๆ"
".......กรู....ไม่สบายจริงๆ เม้งมรึงรีบไปโรงเรียนเถอะใกล้จะแข่งแล้ว"
"จะแข่งทำเจี้ยไรถ้าไม่มีมรึง กรูย้ายสีตามมรึงมานะเรื่องอะไรจะลงแข่งคนเดียว"
เพื่อนคนนี้ถึงเอ่ยปากไล่เขาก็ไม่ยอมไปแน่ถ้ารู้ว่าผมไม่สบายใจ
แต่ทำไมกริชถึงไม่ยอมอยู่ฟังเวลาที่ผมอยากให้เขาอยู่ แค่ฟังสักวินาที แค่นั้นก็พอ....จะคร่ำครวญทำไม ดูตัวเองก่อนเถอะว่าทำอะไรกับเขาบ้าง แล้วตอนนี้ผมควรทำยังไงดี
"เปิดประตูให้กรูเข้าไปหน่อยเถอะต้น" ....ยังไงมันคงไม่ยอมไปไหนแน่ๆ
"เฮ้ย!!! มรึงร้องไห้ขนาดนี้เลยเหรอ?!!!" .....เจรี้ยเอ๊ย! รู้งี้ไม่น่าเปิดประตูให้เลย
"เกิดอะไรขึ้นวะต้น?.......เรื่องคนนั้นเหรอ? ทะเลาะกันรึไง?"
"อย่าถามเลย มันจบไปแล้ว อย่าถามกรูอีกเลยเม้ง มรึงไปแข่งบาสเผื่อกรูด้วยละกัน"
"ไม่ไปเว้ย! สีกรูรึก็ไม่ใช่ ถ้ามรึงไม่ไปกรูก็ไม่ไปเหมือนกันนะต้น" ว่าแล้วมันก็ถือวิสาสะเปิดวิทยุหยิบการ์ตูนมาอ่านยืนยันว่าไม่ยอมไปไหนแน่ๆ
จะบังคับตรูไปถึงไหนไอ้เม้ง ถ้าไปโรงเรียนแล้วเจอกริชตรูจะทำยังไงล่ะ?
.....แล้วจะหมกตัวในห้องนอนไปนานแค่ไหน....อีกสองวันก็จบกีฬาสีแล้ว จากนั้นก็ต้องไปโรงเรียนตามปกติ....ถึงตอนนั้นจะทำยังไง.....ไม่รู้โว้ย!!
เสียงเพลงหนึ่งที่คุ้นเคยดังจากวิทยุ เพลงนี้.....เพลงที่ผมเคยร้องให้กริช เพลงที่เขาใช้ในมือถือ....มือถือที่แตกกระจุยไปแล้ว......
"เม้ง ปิดเหอะกรูไม่อยากฟัง"
ฟังแล้วนึกถึงทุกอย่างที่ผมทำเพื่อเขา....ทุกอย่างที่เขาไม่ต้องการอีกแล้ว....
ผมทำเพื่อเขาเหรอ....ผมทำอะไรเพื่อกริชบ้าง?.....ที่อิดออดอ้างโน่นนี่เพื่อผลัดวันไปเรื่อยๆ แบบเนี้ยเหรอเรียกว่าทำเพื่อเขา?
"เม้ง ช่วยออกไปนอกห้องที"
"กรูไม่ไปไหนทั้งนั้นโว้ย!"
"เม้ง กรูจะเปลี่ยนเสื้อผ้า! มรึงอยากอยู่ท้าพิสูจน์ก็ได้นะ แต่บอกไว้ก่อนว่ากรูเป็นรุกนะว้อย
..
..
..
..
มาถึงที่สนามก็ 10 โมงนิดๆ แล้ว พี่โจ้ยืนทำหน้าเป็นยักษ์วัดแจ้งเลย ตอนนี้ในสนามเริ่มแข่งไปได้ราว 20 นาทีแล้ว ฝ่ายเรายังตามอยู่ 11 แต้ม ผมกวาดตาดูรอบๆ.....กริชไม่อยู่ที่นี่.....เขาไม่อยู่แล้วจริงๆ.....
"ขอโทษครับพี่โจ้"
"เอาเถอะ รีบเปลี่ยนเสื้อทีมแล้วเตรียมตัวรอก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะเปลี่ยนตัวให้ลง"
"ไหวแน่นะต้น? หน้ามรึงเซียวมากเลย เมื่อคืนได้นอนมั๊ยเนี่ย?"
".....เราไหว ไม่ต้องห่วงหรอก"
ผมหยิบเสื้อทีมสีแดงขึ้นมาสวม ถึงหัวมันจะลอยๆ หวิวๆ แต่ตอนนี้ผมพร้อมแล้วที่จะทำเพื่อกริช สิ่งแรกที่ผมจะเพื่อเขาจริงๆ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เห็น.....กริชครับ จะโกรธผมยังไงก็ได้ จะไม่ยกโทษให้ผมก็ได้ จะทำเป็นไม่รู้จักกันผมก็ไม่ว่าเพราะสิ่งที่ผมทำมาตลอดมันเกินจะให้อภัย แต่ยังไงผมก็จะทำความฝันของกริชให้เป็นจริง
"ต้น เกิดอะไรขึ้นน่ะ?"
"ไม่มีอะไรหรอกวิง"
".......ทะเลาะกับพี่กริชเหรอ?"
".............."
"พี่กริชไม่มา......พี่เขากลับต่างจังหวัดไปแล้วล่ะต้น.....เป็นเพราะเรารึเปล่า? เราขอโทษนะต้น"
"ไม่ใช่เพราะนายหรอกอย่าคิดมากเลยวิง เราสิต้องขอโทษนาย"
ความโง่ของผมทำร้ายเพื่อนคนนี้มานานแล้ว แถมยังทำให้กริชเข้าใจผิดจนโกรธวิงไปด้วย
"เราขอโทษจริงๆ นะ....เราจะไปคุยกับพี่กริชให้ พี่เขาต้องเข้าใจนายแน่ๆ"
เจ้าหน้าใสตรงหน้าก็ยังเข้มแข็งกว่าผมมากนัก วิงกล้าเข้าไปคุยกับกริชด้วยความรู้สึกนั้น พยายามสู้ทั้งที่รู้ว่าไม่มีหวัง ....แต่ผมสิ.....
"ไม่ใช่ความผิดของนายหรอกวิง ทั้งหมดเป็นเพราะเราต่างหาก จริงๆ แล้วเราต้องขอบใจนายนะ"
"ขอบใจเรื่องอะไรล่ะ? เราทำให้นายเดือดร้อนมาตลอด"
"ก็ถ้าไม่มีนาย เราคงรู้สึกผิดไปอีกนานต่อให้กริชไม่โมโหเราก็เถอะ"
บางทีมันอาจจะดีที่เป็นแบบนี้ ถ้าผมบอกกริชตรงๆ เขาคงโกรธแต่ไม่แสดงออกมา ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่รู้เมื่อไหร่ถึงจะสนิทใจกันได้เหมือนเดิมอีก
"ต้น! ลงสนามได้แล้ว!"
"เราไปล่ะวิง! ช่วยเชียร์เราด้วยนะ" นาฬิกากับเข็มสีทองถูกหย่อนลงเป้.....รอดูผมตรงนี้นะครับนะกริช
เสียงเพลงนั้นยังก้องอยู่ในหัว เพลงที่ผมร้องเพื่อเขา เพลงของเราสองคน ......ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าการสู้ที่แท้จริงคืออะไร
.....ได้เกิดมาเจอเธอทั้งที ไม่ว่ายังไงจะลองดีสักวัน
อยากรักก็ต้องเสี่ยง ไม่อยากมีเธอเป็นเพียงภาพในความฝัน
ลำบากลำบนไม่สนใจ ตะเกียกตะกายสักเพียงใดก็ดีกว่าปล่อยเธอไปจากฉัน
ตกหลุมรักจริงๆ เพราะรักจริงๆเธอคงไม่ว่ากัน........
สู้เพื่อสิ่งที่ฝันไม่ใช่นั่งหวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะเป็นจริง
สู้ทั้งที่รู้ว่าไม่มีหวัง.....สู้ในเวลาที่กำลังใจหมดไปแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมท้อ
เมื่อวานเป็นวันสุดท้ายที่กริชอยู่กับผม แต่วันนี้แหละ.......
"ไปกันเถอะเม้ง"
"สีแดงขอเปลี่ยนตัว 2 คน!!!" .....วันนี้แหละจะเป็นวันแรกที่ผมสู้เพื่อเขา!
"ไงน้องต้น! นึกว่าไม่มาซะแล้ว"
"ยังไงก็ต้องมาล่ะครับพี่ปัด"
ถึงจะตามอยู่สิบกว่าแต้มแต่ผมก็ไม่กลัวหรอก ยิ่งเป็นทีมของพี่ปัดที่ชอบเล่นแรงๆ ก็ยิ่งทำคะแนนง่าย หลอกล่อซะหน่อยก็ได้ฟาล์วแล้ว
ตอนนี้คะแนนเริ่มตีตื้นขึ้นมาทีละนิดแต่ก็ยังห่างเกินไป ใกล้จะหมดครึ่งแรกแล้วถ้าเป็นแบบนี้คงตามไม่ทันแน่ๆ
หัวก็เริ่มมึนๆ ซะแล้ว โธ่เว้ย! ต้องทำได้สิน่า!!! เรื่องเดียวในตอนนี้ที่ผมจะทำเพื่อกริชได้ จะพลาดไม่ได้อีกแล้ว!!
****************************************************************
นาฬิกาเหนือสถานีขนส่งสายใต้ใหม่บอกเวลา 9:04
"กริช ทำไมจู่ๆ จะกลับมาบ้านล่ะลูก? ไหนว่าสอบเสร็จแล้วจะอยู่ดูกีฬาสีก่อนไง"
".......เบื่อๆ น่ะครับ วันจันทร์ก็ไม่มีเรียนเลยอยากกลับบ้าน"
"แล้วนี่รถเที่ยวไหนบริษัทไหนล่ะ? แม่จะได้บอกพ่อไปรับที่ท่ารถ"
"เพชรบุรีทัวร์ครับแม่ รถออก 9:45 ครับ"
"แล้วเงินติดตัวมั๊ย? จ่ายค่าติวไปเท่าไหร่น่ะ ยังมีเงินพอใช้มั๊ยลูก?"
"มีเยอะครับ แม่ไม่ต้องห่วงครับ"
เด็กหนุ่มเหน็บหูโทรศัพท์สาธารณะไว้ที่คอพลางเปิดกระเป๋าเงิน ธนบัตรใบพันหลายฉบับยัดอยู่ในนั้น
.....เรารักกริช เราไม่ได้ทำเพราะต้องการเงินของกริชนะครับ อีกอย่างเราอยากให้กริชได้มอเตอร์ไซค์เร็วๆ.....
.....ปีหน้ากริชจะอายุ 20 ใช่มั๊ยครับ?...ได้เป็นเด็กมหาลัย....มีมอเตอร์ไซค์....ถึงตอนนั้นกริชอย่าลืมเรานะครับ.....
.....ทำไมต้นทำเหมือนจะหายไปไหนแบบนั้นล่ะ? ต้นอย่าทิ้งผมไปนะ......
....กริชคิดมากจังเราไม่ทิ้งนายไปไหนหรอก เราสัญญาจะอยู่กับกริชตลอดไป......
........เราสัญญาจะอยู่กับกริชตลอดไป........
"แล้วสอบยากมั๊ยเนี่ย ทำได้มั๊ยลูก?"
"ก...ก็ไม่ค่อยยากหรอกครับ ติวกับเพื่อนหลายคน แค่นี้ก่อนนะครับเสียงเพลงมันดังคุยไม่ค่อยได้ยิน"
"จ้า กลับมาค่อยคุยกันนะลูก"
-------------------------------------------------------
สวัสดีครับ แฟนๆ เด็กขายน้ำ และคุณ Sorrow
นิยายเรื่อง ผมไม่ใช่เด็กขายน้ำมีอายุครบหนึ่งปีแล้วนะครับ ไม่อยากบอกว่าอายุเท่าเล้าเป็ดของเราเลย
เรื่องนี้ใกล้จะถึงบทอวสานแล้วนะครับ อีกไม่กี่ตอนแล้ว ความรักของต้น กริช วิง จะเป็นอย่างไร ต้องรอติดตามนะครับ
ขอบคุณเพื่อนๆ สำหรับการติดตาม ทวงถาม นิยายเรื่องนี้นะครับ
ความดีความชอบทั้งหมดขอยกให้กับเจ้าของเรื่อง คุณ Sorrow นะครับ
ส่วนความชั่วทั้งหมดผมขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว
ขอบคุณครับ
-
:impress:
:เฮ้อ: มันจะเป็นไงต่อไปหว่า
ไอ้ต้น สู้ ๆ นะ เอาเหรียญทองมาให้ได้นะโว้ย
ไอ้กริช คิดดี ๆ อย่าหนีปัญหาแบบนี้สิ
ไอ้วิง เป็นกำลังใจให้น๊า...
รออ่านต่อไปครับ
o15
ปล. รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ช่วงนี้หนาวแล้วน๊า....
-
:m5:
ใช้หัวใจนำทาง ฟังเสียงหัวใจตัวเองไง หวังว่ากริชจะหายโกรธเน้ออออ สงสารต้นจังเลยยยย :m15:
ไงก็เอาใจช่วยให้ต้นแข่งชนะเอาเหรียญทองมาให้ได้ เพื่อกริชเนาะ ใครใช้ให้รักเค้าล่ะ
สำหรับวิงก็ไม่ต้องเสียใจ คนน่ารักอย่างวิงเดี๋ยวก็มีคนสนใจจจจจ ( เราไงคนนึงละ อิอิอิ ) :m22:
รอต่อไปพี่น้อง อีกนิดเดียวจะถึงเส้นชัยแล้วววววว :a2:
เอาใจช่วยทุกคนครับบบบ
:bye2:
-
ความรู้สึกที่มีให้กัน สิ่งที่ทำร่วมกัน .... สิ่งนั้นไม่ใช่ของปลอมหรือเรื่องโกหกแน่ๆ เราว่ากริชรู้ดีแหละ o7 .... ให้เวลากับตัวเองได้คิดอีกซักนิด .... พอม่านความโกรธหายไป ก็คงเห็นอะไรชัดขึ้นเนอะ :impress:
ส่วนวิงอ่ะ .... มา .... มาซบที่ไหล่เรานี่ อิอิ :m11:
-
ส่วนวิงอ่ะ .... มา .... มาซบที่ไหล่เรานี่ อิอิ :m11:
อ้าวววว มาแย่งกันเห็น ๆ เดี๋ยวเหอะ :m16:
อุตส่าห์ไม่เอาพี่กริชแล้วเชียววววว
:a5:
-
อ้าวววว มาแย่งกันเห็น ๆ เดี๋ยวเหอะ :m16:
อุตส่าห์ไม่เอาพี่กริชแล้วเชียววววว
:a5:
ก็แหมม .... นะ ..... พี่กริชเค้ามีคู่แล้ว เหรอแต่วิงที่น่ารักน่าสงสารยังไร้ซึ่งคนปลอบใจ :m13:
-
:m22:
มาบอกว่ายังติดตามอยู่นะ
แต่มะค่อยว่างพิมพ์
ขอบคุณนะครับที่เม้นท์ถึงเมื่อหลายตอนก่อน :a1:
ไปก่อนนะครับ
:m7: :m7: :m7:
ปล. มะอยากเดาตอนจบ เดี๋ยวเดาถูกอีก :m23:
-
ได้เกิดมาเจอเธอทั้งที :m5: :m5: :m5:
-
:m3:มาต่อ มาต่อ มาต่อ :m3:
ถ้ามาช้าจะแก้ผ้าประท้วง :a14:
-
:o12: :o12: :o12:
เส้าเหลือเกิน
สงสารต้น กริช จังเลย อ๊ากกกก
มาต่อเร็วๆ นะค้าบ
:m15: :m15: :m15:
-
เรื่องราวจะเปนอย่างไร
ต้นกับกริชจะคืนดีกันหรือมั่ย? :m17:
แล้ววิงจะเปนยังไง?
....โปรดติดตามตอนต่อปัย :a1:
จะHBD :a13:ย้อนหลังทันมั้ยนิ
-
............สู้ๆเค้านะนายต้น........ o7
-
:m3:มาต่อ มาต่อ มาต่อ :m3:
ถ้ามาช้าจะแก้ผ้าประท้วง :a14:
งั้นก็แกเลยละกันครับ
จะรอดู ของแปลก
:m24: :m24: :m24: :m24: :m24:
-
...........ความรักคงยังไม่หายไปไหน......... :m5: :m5:
-
:a13:
ยังไงก็รีบมาลงต่อน๊า~~ :m5:
อยากให้กริชกะต้นเข้าใจกันเร็วๆ สงสารอ่า
-
หนึ่ง .....
ฉอง.....
ฉาม....
.....ถ้าไม่มาจะถอดแร้วน้า...... :m29:
-
หนึ่ง .....
ฉอง.....
ฉาม....
.....ถ้าไม่มาจะถอดแร้วน้า...... :m29:
:m24: :m24: :m24:
-
ตามมาดู Sorrow ถ่ายคลิปโป๊ creambBoy :m26: กร๊ากกกกกกกก
-
:o12: :o12: ขอให้มาทันกริช ด้วยหุหุ ขอบคุณคุณ Sorrow
-
ตอนจบ
"นพ เอาไงดีวะ?"
พี่โจ้หน้าเครียดพลางจ้องดูกระดานคะแนนสลับกับสนามบาสที่แข่งขันชุลมุนแย่งบอลล้มลุกคลุกคลานจนกลายเป็นลูกยึดซะหลายครั้ง ครึ่งหลังนี่แผนเริ่มจะไม่เป็นแผนแล้ว ถึงคะแนนจะตามอยู่แค่ 8 แต้มแต่ตอนนี้เปลี่ยนตัวกันจนเหนื่อยทั้งตัวจริงตัวสำรองทั้งสองฝ่ายเลย
"สงสัยต้องเล่นไม้ตายแล้วโจ้" พี่โจ้พยักหน้าให้สัญญาณนำอาวุธสุดท้ายมาใช้
"วันนี้ชนะเลี้ยงเอ็มเคแล้วตบด้วยสเวนเซ่นส์นะน้องๆ!!!" ....ไม่ได้ช่วยอะไรเล้ย! แต่ก็เข้าใจ พี่เขาอยู่ฝ่ายอุปกรณ์กับเหรัญญิกพ่วงอีกตำแหน่งนี่หว่า
พี่ม.5 กับเจ้าเม้งที่เปลี่ยนตัวออกไปเพิ่งกลับเข้ามาเล่นต่อ ฝ่ายโน้นก็เริ่มเหนื่อยจนชู๊ตไม่ลงซะหลายครั้ง แดดร้อนขึ้นทุกทีแล้ว ดีนะที่ได้ลูก 3 คะแนนจากเม้งกับพี่ม.5 ติดกันสองลูกให้พอใจชื้นบ้าง แต่อีกแปบเดียวฝ่ายโน้นก็ชู๊ตลงให้คะแนนทิ้งห่างไปอีก ชักจะไม่ไหวแล้ว จะเปลี่ยนตัวก็.....คนที่นั่งอยู่ริมสนามยังหน้าซีดโบกมือหยอยๆ บอกน้อยจะไปชายแดนอยู่เลย..... ตอนนี้ก็ได้แต่ส่งบอลให้พี่ๆ ไปจัดการต่อ
"เฮ้ย! หมดแรงแล้วเหรอต้น?"
"คร้าบพี่โย่ง จาม่ายหวายแล้ว"
มารยาไปงั้นแหละ พอเผลอไม่มีคนประกบผมก็เข้าเลย์อัพใต้แป้นเอา 2 แต้มบ้าง พี่โย่งชี้หน้าแล้วหัวเราะใหญ่ แต่เล่นมุขนี้อีกทีพี่ท่านเริ่มไม่ขำแล้ว พอบอลเข้ามือผมอีกคราวนี้พี่โย่งยืนดักเลย ง่ายไปมั้งพี่! คิดว่าผมชู๊ตสามแต้มไม่ได้แน่ๆ เลยจะรอบล็อคเลย์อัพรึไง?! ก้าวซ้าย- ขวาแล้วกระโดดขึ้นด้วยบอลในมือขวา พี่โย่งกับสีเหลืองอีกคนก็โดดขึ้นบังทันที ผมรีบเปลี่ยนบอลมามือซ้ายแล้วส่งลูกลอยขึ้นข้างห่วง
มันเหมือนภาพสโลว์โมชั่น.....พี่สองคนเสียหลักกลางอากาศ ลูกบอลกลิ้งลงห่วงไปอย่างช้าๆ คะแนนเท่ากันแล้ว!
พอผมลงแตะพื้นก็รีบขยับออกแต่พี่สองคนที่ล้มตามลงมา.....หัวเข่าใครสักคนกระแทกลงที่........
กร๊อบ!!!!
"อ๊ากกกกกก!!!!!!!"
"เฮ้ย! ต้น!!"
พี่สองคนรีบลุกขึ้นจากขาผม.....ขา.....ขาผม........
บนพื้นปูนที่ร้อนจนแสบผิว แต่ความเจ็บมันมากกว่า .....ความเจ็บที่แล่นตั้งแต่ข้อเท้าขวามาถึงต้นขา....
ได้ยินเสียงพี่โจ้วิ่งเข้ามาดู มันเจ็บจนหมดแรงซะดื้อๆ ได้แต่นอนตัวงอดูคนมากมายที่มุงเข้ามา เห็นเม้ง วิง แล้วก็ใครอีกเยอะแยะแต่เจ็บจนลืมตาแทบไม่ขึ้น
"ต้น เป็นอะไรมากมั๊ย!!?"
"ไม่....ไม่เป็นไร"
"เจ็บตรงไหนต้น? ขยับขาได้มั๊ย?!"
....พูดไม่ออก....พยายามลุกขึ้นยืนแต่มันเสียวแปลบไปทั้งขา....บ้าน่า! ต้องไม่ใช่แบบนี้!
"ผมยังไหวครับพี่ ขอนั่งพักแปบเดียว"
"ไม่ได้หรอก! ขอพี่ดูขาก่อน" พี่โจ้กดนิ้วเบาๆ ไล่จากน่อง พอถึงเหนือข้อเท้ามันก็เจ็บจนสะดุ้ง
"อาการเป็นไงครับพี่โจ้? ไอ้ต้นมันเป็นยังไงแน่?"
"ส....สงสัยกระดูกร้าวว่ะ เห็นแวบๆ ว่าฝ่ายโน้นเอาเข่าลงแถวนี้"
"พี่โจ้ ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ น้องต้นลองถอดรองเท้าออกดูซิ"
ฝ่ายโน้นหน้าสลดไม่แพ้กันพยายามเข้ามาช่วยแกะเชือกรองเท้าแต่ยิ่งกระเทือนมันยิ่งเจ็บ.....มรึงจะช่วยหรือมรึงจะฆ่าตรู!? ตาพร่าจนมองหน้าไม่ชัดเลยไม่งั้นตรูจะเอาคืนแน่ไอ้คนหวังดีที่โลกไม่ได้รอ
อะไรๆ มันชุลมุนไปหมด แล้วใครก็ไม่รู้มาหามผมไปข้างสนาม.....ผมถูกเปลี่ยนตัวออกแล้วเหรอเนี่ย?....ไม่จริง....
"ต้น! ขาหักเหรอ?"
"ไม่หักโว้ย! ช้ำนิดหน่อยแค่นั้นแหละวิง"
"พี่โจ้ ผมว่าเรียกรถพยาบาลเถอะครับ"
"เอางั้นเหรอเม้ง! เออ! ก็คงดีมั้ง? พี่ทำอะไรไม่ถูกแล้วเนี่ย!"
"ไม่ได้นะครับพี่โจ้! ผมแข่งไหวจริงๆ ผมยังแข่งได้นะครับ ขอผ้ายืดมารัดขาก็พอครับ"
"อ....เอางั้นเหรอต้น? แน่ใจนะ?"
ผมนอนแหมบกลั้นใจตอนที่พี่โจ้ถอดรองเท้าถุงเท้าออกแล้วรัดผ้ายืดตั้งแต่เหนือข้อเท้าไล่ลงไป แค่ช้ำเท่านั้นแหละ ไม่ได้เป็นอะไรหรอก ผมต้องแข่งต่อได้สิ.....วันนี้คือวันแรกที่ผมจะสู้เพื่อเขา! จะจบแบบนี้ไม่ได้!
"ต้น! ท่าจะไม่ไหวนะ! เจ็บแบบนี้คงกระดูกร้าวแหงๆ ดีไม่ดีหนักกว่านั้นอีก"
"ต้องไหว....ต้องไหวสิ เขารออยู่....เขารอเหรียญทองอยู่.....เจ็บนิดเดียวเอง"
"ต้น.....อย่าฝืนเลยนะ ทำแบบนี้พี่เขาไม่ดีใจหรอก"
"เรายังไหวน่าวิง....แค่ไล่เตะนายไม่ได้แค่นั้นแหละ ฮะๆ"
"ต้น พี่ว่าไปโรงพยาบาลเถอะ พี่รับผิดชอบไม่ไหวนะถ้าน้องอะไรไป ยังไงเจ็บแบบนี้พี่ก็ให้ลงต่อไม่ได้แล้ว"
"ข...ขอผมนั่งเป็นตัวสำรองก็ได้ครับพี่.....ขอผมอยู่เถอะนะ.....แข่งจบแล้วค่อยไปหาหมอ"
อุตส่าห์ตีเสมอได้แล้ว อีกไม่นานก็จะจบแล้ว อย่างน้อยอยู่เป็นตัวสำรองถ้าใครเหนื่อยผมยังลงแทนได้.....ต้องชนะสิ....ต้องชนะ......ผมขยับผ้าให้ยิ่งรัดแน่นขึ้น รัดแน่นๆ ให้ลืมเจ็บไปเลย แต่พอลองลงน้ำหนักที่เท้ามันก็ยังเสียวแปลบนิดๆ ถึงโคนขา
.....แค่อย่างเดียวที่ผมจะทำเพื่อเขาได้ แต่ผมก็ยังทำมันพัง.....
.....ทุกอย่างพังหมดแล้ว....ไม่เหลืออะไรแล้ว.....
"โจ้! นายทำอะไรน่ะ?" เสียงใครเดินเข้ามา....ทำไม.....ไม่นะ! ต้องไม่ใช่เวลานี้!!!
"น้องเขาโดนล้มกระแทกแถวข้อเท้าน่ะพี่กริช"
"แล้วทำไมเอาผ้ารัดแบบนั้นล่ะ?"
"ก็....ก็น้องเขาอยากให้ทำแบบนี้น่ะ"
เขาก้มลงข้างๆ มือแข็งแรงที่คุ้นเคยแตะลงที่ข้อเท้าแล้วค่อยๆ แก้ผ้าที่รัดออกก่อนจะกดเบาๆ ไปทั่ว
"เจ็บตรงไหนบ้าง?"
.....เขาอยู่ตรงนี้จริงๆ.....เขากลับมาแล้ว.....แต่ทำไมต้องเป็นตอนนี้.....นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากมอบให้เขา เขาควรได้เห็นเหรียญทองที่ฝันมานานต่างหาก ความฝันที่ผมทำพังถึงสองครั้ง......
"นอนลงซะ โจ้หาอะไรมาหนุนขาน้องต้นไว้ ขอถุงน้ำแข็งมาประคบแล้วโทรเรียกรถพยาบาลด้วยนะ"
ถึงจะอยู่ข้างสนามที่กำลังแข่ง แต่รอบข้างในตอนนี้กลับเงียบเหมือนมีแค่ผมกับกริช เงียบจนได้ยินแค่เสียงสะอื้นของตัวเองกับเสียงลมหายใจของเขา
"ทำแบบนี้ทำไม?"
"......เรา......" ผมจะคุยกับเขาไม่ได้ เรื่องของผมกับกริชจบไปแล้ว ต้องทำเหมือนไม่รู้จักเขา จะไม่ทำให้เขาเดือดร้อนอีกแล้ว
"ถามว่าทำแบบนี้ทำไม? อยากพิการรึไง?" เขายังโกรธอยู่จริงๆ ด้วย......เขายังโกรธผมอยู่.....
อยากจะห้ามน้ำตาแต่มันไหลมาไม่หยุดได้แค่เบือนหน้าหนี ไม่ใช่เพราะเจ็บขา แต่มันเจ็บที่ใจ
เรื่องเดียวที่ผมพอจะทำให้เขาได้ แต่ตอนนี้มันพังหมดแล้ว.....ตอนนี้ผมเป็นแค่คนโกหกที่ไม่มีอะไรจะให้เขายกโทษได้
เสียงรถพยาบาลแว่วมา แล้วผมก็ถูกอุ้มขึ้นรถ.....ดีเหมือนกัน พาผมไปจากตรงนี้ทีผมสู้หน้ากริชไม่ได้.....ไม่อยากให้เขาเห็นผมในสภาพนี้อีกแล้ว
"ไปด้วยครับ" กริชก้าวตามขึ้นมาแล้วประตูรถก็ปิด ....โว้ย!! พูดอยู่หยกๆ ว่าไม่อยากให้เห็นก็ยังจะตามมาอีก
"กริช.....เราขอโทษ" กริชนั่งจ้องหน้าผมไม่พูดอะไรเลย
"ไม่ต้องพูดแล้ว"
"เราขอโทษ.....ขอโทษนะกริช......ขอโทษจริงๆ"
"................"
"วิงเขาไม่เกี่ยวอะไรด้วยนะครับกริช วิงเขาไม่รู้เรื่อง เราไม่ได้เล่าเรื่องของพี่--"
"ไม่ต้องพูดแล้ว นอนไปเถอะจะถึงโรงพยาบาลแล้ว"
รถหยุดนิ่ง บุรุษพยาบาลเข้ามาเข็นผมเข้าห้องฉุกเฉิน ภาพสุดท้ายที่เห็นคือกริชยืนนิ่งไม่เดินตามมา นั่นสินะเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนี่นา ทั้งที่รู้ดีแต่ทำไมมันหัวใจมันเจ็บเหลือเกิน.....เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว....คำขอโทษของผมเขาก็ไม่อยากฟัง.....เขาไม่รู้จักผมอีกแล้ว......
...
...
...
...
พยาบาลจับผมตรวจโน่นนี่ แล้วเข็นไปห้องเอ็กซเรย์ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำอะไรบ้าง ในหัวเห็นแต่ภาพกริช.....
ภาพที่เคยอยู่ด้วยกัน....ทุกคำพูด......ทุกสิ่งทุกอย่าง.....รวมทั้งภาพสุดท้ายที่เขายืนมองผมไกลๆ.....สิ่งที่พอเรียกสติกลับมาได้ก็คือความเจ็บเมื่อคุณหมอขยับเท้าผมให้เข้าที่ก่อนจะเริ่มพันผ้าปูนพลาสเตอร์เปียกๆ เข้ารูปเฝือก
"กระดูกร้าวนะ ไม่ถึงกับหักแต่ก็พยายามอย่าใช้ขาช่วงนี้ล่ะ"
"ครับ"
"ใส่เฝือกเดือนนึงแล้วมาเอ็กซเรย์ดูอีกทีแต่คิดว่าเดือนเดียวคงหายดีแล้วล่ะ"
ไม่รู้ว่าดีใจหรือเสียใจ....แวบนึงคิดว่าน่าจะเจ็บแรงกว่านี้เผื่อบางทีเขาอาจจะอยู่กับผมนานขึ้น.....คิดอะไรบ้าๆ.....กริชเกลียดผมขนาดนั้น....
นาฬิกาบนผนังบอกเวลาบ่ายโมงกว่าๆ ....ตอนนี้การแข่งจบไปแล้ว.....ถึงไม่รู้ผลแต่......ถ้าชนะป่านนี้คงมีใครสักคนมาหาแล้วล่ะ.....ทุกอย่างพังหมดแล้ว สิ่งสุดท้ายที่จะทำเพื่อเขาแต่ผมก็ยังพลาด แล้วไอ้เป๋อย่างผมจะทำอะไรได้อีก ก็ได้แต่ยอมรับความจริงเท่านั้น ผมยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอและพี่บุรุษพยาบาลที่เข็นรถให้ผมนั่ง ประตูห้องตรวจค่อยๆ เปิดออก ทั้งที่รู้.....แต่ลึกๆ ก็ยังหวังว่าคนที่ยืนรออยู่หน้าห้องจะเป็น......มีแค่ความว่างเปล่าเท่านั้น......
จะมัวสำออยไปถึงไหนฟระไอ้โง่! ชีวิตเราต้องจัดการเองได้สิ! บอกตัวเองไว้ว่าไม่มีกริชอีกแล้ว!
"เอ่อ....พี่พยาบาลครับ ผมไม่ได้เอากระเป๋าเงินมา ขอโทรไปหาคนที่บ้านหน่อยได้มั๊ยครับ?"
"พี่ชายของน้องจ่ายให้หมดแล้วล่ะครับ" ....พี่ชาย? ใครโทรบอกพี่ต่อพี่ต้อมรึไง?
"นั่นไงครับ"
ไม่ใช่พี่ต่อหรือพี่ต้อม.....คนที่ยืนสะพายเป้ถือไม้ค้ำกับถุงยาอยู่ข้างหน้า......
"คุณหมอนัดอีกหนึ่งเดือนให้มาเอ็กซเรย์อีกครั้ง ระวังอย่าโดนน้ำด้วยนะครับ อันนี้บัตรคนไข้ครับ"
"ขอบคุณครับ"
แล้วเขาก็เปลี่ยนมาเข็นรถให้ผมช้าๆ ออกมานอกโรงพยาบาล ไม่มีคำพูดอะไรทั้งนั้น....มีแต่ความเงียบ
..
..
..
TBC.
-
:m17: แอ๊กก ไม่เห็นจาจบเรยยยยยย ฮือๆๆ
-
o9
อ่าไร จบแบบนี้ได้ไงอ่า
ไม่เห็นรู้เรื่องเลย :serius2:
มาต่อด่วนเลย
o15
-
o13 จบดีนะครับ แต่เสียดายต้องคิดเอาเอง หน้าจะมีกอีกสักตอนนะครับ เพื่อบอกบทสรุปของแต่ละคน
-
เหอะๆ ตอนจบแต่คนโพสไม่ได้บอกว่าจบนี่ครับ
:m27: :m27: :m27:
คนเราก็ผิดพลาดกันได้ เพียงแต่จะรู้จักแก้ไขและปรับปรุงตัวหรือปล่าว
ถ้าเขาทำแล้วเรายังทิฐิก็ ช่วยอะไรไม่ได้แล้วนะ
:a4: :a4: :a4: :a4:
-
ตอนจบแต่ยังไม่จบ :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
-
แง๊ๆๆ o7 o7
อยากได้ตอนจบของจริงง่า
ลุ้นอยุเง้ออ
-
o9
ตกลงจบป่าวววว ถึงจะจบ happy แต่เล่นจบดื้อ ๆ แบบนี้ไม่ดีเลย อุตส่าห์เขียนมาตั้งยาววววว :a6:
กลายเป็นไร้อารมณ์ไปเลยยยย o16
ถ้าจบจริงก็ขอบคุณนะครับบบที่สละเวลามา post ให้อ่านเห็นว่าตั้ง 1 ปีเลยยยย ขอบคุณมากครับบบ
เรื่องของคุณสนุกมากกกก ถึงเพิ่งจะเข้ามาติดตาม แต่ก็ตามติดมาตลอดดดด ตั้งแต่ได้อ่านน :m7:
เอาเป็นว่าจะคอยติดตามผลงานต่อ ๆ ไปนะครับบบบ โชคดีคับ รักษาสุขภาพด้วยยยย
:bye2:
-
:a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
แบบนี้ไม่แฟร์เลยน่ะครับ มาทำให้อยากแล้วจากไปแบบนี้ บาปน่ะคร๊าบบบบบ =[]=!!!!!!
ค้างงงงงง ค้างงงง มาก มาก มาก มาก รักกริชรักต้นครับ อะ ฮิฮิฮิ :a2:
-
จบแบบ happy ending นะงับ
ไม่งั้นทำใจม่ายด้ายอ่า ฮือฮือ
:m15:
-
แอ่ะ ยังมะจบสุดๆเรยอะ รออ่านต่อนะหมูพูห์ :m18: :m18:
-
ว้ากกกกกก ทามมายมานไม่จบละคับพี่น้อง :m16: :m16:
ผมรออ่านนะคับ รีบมาอัพต่อเร็วๆนะคับ :serius2: :serius2: o9 o9
จะขาดใจตายแล้วค้าบบบบ มานบีบหัวใจเหลือเกิน :angry2:
-
จบจิงเรอะ :m16:
รู้สึกมันด้วนๆยังไงมะรู้แฮะ - -''
แอบกิ๊กแอบกั๊กป่าวหว่า :angry2:
เอามาต่ออีกกกกกกก มะง้านจะเอาคลิปโป้คุณมู๋พูห์มาแฉ :laugh:
-
ผมว่าเค้าหมายถึงนี่เป็นตอนจบไงครับ Episode สุดท้าย แต่ตอนนี้มันมันขึ้น "อ่านต่อฉบับหน้า" เท่านั้นเองไง :impress: แบบว่า เดี๋ยวจะมาต่ออีกทีอ่ะ (เหมือนเรื่องย่อหนังในหนังสือพิมพ์ไงอ่ะ อิอิ)
ดีจังๆๆๆ กริชก็รู้สึกใช่มะหล่ะ ว่าที่ต้นทำมา ความรู้สึกที่มีให้มันไม่ใช่เรื่องโกหก .... เหลือก็แค่เคลียร์แหละ ว่าโกหกทำไม .... สู้ๆนะ .... :m1:
โอ๋ๆๆ วิงมานี่มะ ครงนี้มีคนคอยเป็นห่วงอยู่นะ อิอิ :m1:
-
ขอโทษแฟนนิยายทุกท่านด้วยนะครับ คือตอนจบยาวมากเลยบอกคุณพูห์ให้แบ่งลง
น้อมรับผิดทุกประการคร้าบ เร็วๆ นี้คุณพูห์จะลงให้จนจบแน่นอนครับ
-
แอบเห็น ตอนท้ายเขียนว่า TBC นี่มานคงหมายถึง To Be Continue แห๋งเรย
แอบสปอย เดาว่า กริช คงเคลีย์ค่ารักษาให้หมดแล้วแหละ แระก้อแอบเดาอีกว่า วิง คงไปคุยกะกริช แล้ว (มั๊ง)
-
หวังว่า คุณ Sorrow คงจะมาเขียนภาคต่อนะครับ น่ารักดี
อ่านกี่ทีก็ชอบครับ :m1:
-
ไม่ได้เข้ามาซะนาน พอมาถึงก็อ่านรวดเดียวหลายตอนเลย o2 o2 o2
ครบ 1 ปีแล้วเหรอครับ นานมากเลย ขอบคุณคนเขียนมากนะครับ อุตส่าห์เพียรพยายามให้เราได้อ่านเรื่องดี ๆ อย่างนี้ o1 o1
แต่อย่าเพิ่งหนีไปไหนนา อยากอ่านจนจบมากมาย รักต้น กริช วิงและเจ้าเมร้งมั่กมาก :m3: :m1: :o8: :give2:
วันเกิดผมเพิ่งผ่านไปเลยอยากให้ทุกคนมีความสุขรวมทั้งผู้เขียนด้วยนะคร้าบบบบบบบ :a1:
-
รอตอนจบๆ :a10:
-
....
....
....
....
"พี่กริชไม่กลับเพชรบุรีแล้วเหรอครับ?"
"เรียกกริชเฉยๆ ก็ได้"
....
....
....
....
"ต้น ทำแบบนี้ทำไม?"
".....เราขอโทษนะกริช"
"เลิกพูดขอโทษได้แล้ว บอกผมทีว่าทำแบบนี้ทำไม ไม่รู้ตัวรึไงว่าเจ็บหนักแค่ไหน ถ้าฝืนต่อจะเป็นมากกว่านี้นะ"
".....แต่ยังแข่งไม่จบ......"
"จะฝืนไปทำไม?" กริชเบาเสียงแล้วนั่งลงตรงหน้า ".....แค่เดินยังไม่ไหวเลย"
"เรา...อยากเอาเหรียญทองมาให้กริช.....เหรียญทองบาส.....ขอโทษนะเราทำให้กริชผิดหวัง"
"เรื่องนั้นช่างมันเถอะ นั่นมันความฝันของสิงห์ ต้นก็รู้"
.....เรื่องนั้นช่างมันเถอะ.....พูดแบบนี้แสดงว่าสีเราแพ้แล้วจริงๆ.......
"อะไรที่กริชอยากได้...ฮึกๆ....เราจะทำให้ทั้งนั้น แต่ตอนนี้ทีมสีเรา...ฮึกๆ ...."
"กีฬาต้องมีแพ้มีชนะ มันเรื่องปกติน่ะ"
"เราไม่ได้ตั้งใจจะให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้เลยนะ...ฮึกๆ...คืนนั้นเรา....เราแค่อยากกินเหล้าฟรี.....ตอนแรกตั้งใจจะ..."
"จะมอมเหล้าผมแล้วทิ้งไว้ที่ร้านงั้นเหรอ?"
ภาพวันเก่าๆ คืนแรกที่ได้เจอกัน จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด จุดเริ่มต้นที่ให้เรื่องเลยเถิดมาถึงขั้นนี้
"ตอนเห็นชุดนักเรียนในตู้ ทำไมต้นไม่บอกผมล่ะ?"
"เรา...เรากลัว....ฮึกๆ....เรากลัวกริชบอกโรงเรียน ....ฮึกๆ.....กลัวถูกไล่ออก...."
"แล้วหลังจากนั้นล่ะ? มีเวลาตั้งนานทำไมต้นถึงไม่บอก?"
"เราผิดเองแหละ เรากลัว....ฮึกๆ....กลัวไปทุกอย่าง"
...
...
"ต้นกลัวจะกระทบการเรียนของผมใช่มั๊ย? ต้นรอให้ผมสอบกลางภาค สอบโควต้าเสร็จก่อนใช่มั๊ย? คืนนั้นที่สวน......ต้นพูดว่านายเป็นรุ่นน้องแต่พอผมเล่าเรื่องสอบโควต้านายก็เปลี่ยนใจไม่ยอมพูด"
...
...
"ต้น.....เป็นความผิดของผมเอง เพราะผมอ่อนแอ ต้นถึงต้องรอมาตลอดใช่มั๊ย? ต้นรอผมสอบเสร็จก่อนแล้วถึงจะพูดใช่มั๊ย?"
"เรากลัวบอกไปแล้วกริชจะโกรธจนไม่มีสมาธิทำข้อสอบ.......ม...ไม่ใช่หรอก เรามันโง่เอง เรามันขี้ขลาด....กลัวว่าบอกความจริงแล้วจะเสียนายไป....เรากลัวกริชจะเกลียดเรา แต่ยิ่งหลอกนายนานเข้าเราก็.....เราไม่รู้จะทำยังไงดี"
"ขอโทษนะต้น....เป็นความผิดผมเอง ผมมันอ่อนแอ...ทำให้นายต้องคอยหลบมาตลอดสามเดือน"
"ดูต้นตอนนี้สิ....เจ็บขนาดนี้....." กริชลูบมือลูบแขนที่แผลเพิ่งตกสะเก็ดและเฝือกที่ยังไม่แห้งดี เสียงเขาสั่นเครือ
"ขอโทษนะที่เมื่อคืนผมพูดแรงแบบนั้นกับต้น ผมเสียใจจริงๆ ต้นไม่เคยเรียกร้องอะไรจากผมสักอย่างแต่ผมกลับคิดกับนายแบบนั้น"
"ไม่เป็นไรหรอก เราควรโดนยังงั้นแล้วล่ะ ขอโทษนะกริช"
เขากอดผมไว้ เป็นท่าที่ทุลักทุเลแถมยังต้องเบี่ยงตัวไม่ให้โดนเฝือกอีก
"ผมว่าเราเลิกพูดคำว่าขอโทษกันดีกว่านะ ไม่งั้นพูดกันอีกสามวันก็ไม่จบซะที"
"แล้วกริชยังโกรธเราอยู่มั๊ย?"
"ไม่แล้วล่ะ ผมเองก็ผิดเหมือนกัน"
"ไม่โกรธแน่นะ?" กริชพยักหน้าทั้งน้ำตา
"งั้นเราก็มีอีกเรื่องจะบอก.....คือ...." มาถึงขั้นนี้แล้วสารภาพให้หมดไปเลย จะตายก็ตายทีเดียวนี่ล่ะ
"เราเป็นคนโทรเข้ามือถือนายตอนที่อยู่หน้าห้องปกครอง คือตอนนั้นเราอยากรู้ชื่อจริงของกริชจะได้หลบถูกน่ะ" (ความผิดพิเศษกระทงที่ 1)
"งั้นเหรอ.....ก็ไม่เป็นไรร้อก! ไม่ได้โดนตีซะหน่อย" (ศาลยกฟ้อง)
"แล้วเรา...เอ่อ....ก็เป็นคนบอกพ่อแม่กริชเองแหละว่านายทำกีฬาสี" (ความผิดพิเศษกระทงที่ 2)
"ไปบอกกันตอนไหน? ต้นเจอพ่อแม่ผมได้ยังไง?" (ท่าตรูจะไม่รอด ไหนๆ จะตายแน่ขอบอกให้หมดจะได้ตายตาหลับ)
"เจอที่หน้าบ้านของกริช .....เรา.....วันนั้นเราขโมยกุญแจของกริชไปปั๊ม" (ความผิดพิเศษกระทงที่ 3)
"แล้วก็แอบเข้าบ้านของกริช......" (และความผิดพิเศษกระทงที่ 4)
"ไปค้นของของพี่สิงห์ด้วย" (ความผิดพิเศษกระทงที่ 5 ตามมาติดๆ .....หมดรึยังเนี่ย?)
กริชจ้องหน้าเขม็งเลย..... อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดล่ะ จะปิดบังไม่ได้อีกแล้ว
"ผมไม่โกรธหรอก จริงๆ แล้วก็ไม่คิดว่าจะปิดพ่อแม่เรื่องกีฬาสีได้นานนักหรอกนะ"
"แล้วที่เราขโมยกุญแจของกริชล่ะ? ที่ค้นของของพี่สิงห์อีก กริชโกรธก็เราบอกมาตรงๆ เถอะนะ"
"บอกแล้วไงว่าไม่โกรธก็ไม่เชื่อ อยากให้โกรธก็ได้นะ เอ้านี่!" โป๊ก! ว่าแล้วก็โดนมะเหงกหนึ่งที
"มะเหงกนี้สำหรับการปากหนัก คิดมาก ไม่เชื่อใจผม"
"แล้วก็มะเหงกที่สอง.....โทษฐานที่ไปกอดคนอื่นต่อหน้าผม บอกมาซิน้องวิงเป็นใครเป็นอะไรกับนาย?"
"ก...กริช วิงเป็นเพื่อนเรา"
"กอดกันแบบนั้นน่ะนะ! อยากให้ผมเชื่อแบบนั้นน่ะเหรอ?"
"วิง....เป็นเพื่อนสนิทของเราจริงๆ นะครับ"
"จะบอกดีๆ หรือเอามะเหงกอีก?"
ผมได้แต่ก้มหน้านิ่งเงียบ จะพูดอะไรให้วิงเสียหายไม่ได้หรอกเขาเจ็บช้ำขนาดนั้นเพราะผม ถ้ากริชไม่เชื่อใจผมก็ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
"มะเหงกที่สามนี่ โทษฐานที่ไม่บอกผมว่าจูบแรกของต้นน่ะให้คนอื่นไปแล้ว"
"กริชรู้ได้ยังไง?"
"น้องวิงบอกผมหมดแล้ว เขามาที่โรงพยาบาลตอนที่ต้นยังอยู่ในห้องตรวจ แต่ตอนนี้กลับไปแล้วล่ะ"
...
...
".......ขอโทษนะกริช"
"ไม่เป็นไรหรอก เรื่องนี้ต้นคงลำบากใจ ......น้องวิงเขาก็น่าสงสารนะ"
"....ครับ...."
"เป็นเด็กซื่อๆ แต่ใจกล้าน่าดู น่าเสียดายโดนต้นปล้ำซะได้"
"โว้ย! ไม่ได้ปล้ำนะ!"
"เล่นถอดเสื้อกอดเขาแล้วจูบที่หน้าผากแบบเนี่ยไม่เรียกปล้ำเหรอ?" ....วิงมันกล้าเล่าลงลึกทุกรายละเอียดเลยเหรอเนี่ย? เป็นคนเปิดเผยจริงๆ
กริชหัวเราะเบาๆ แล้วนั่งยองๆ หันหลังให้ผม
"ทำอะไรน่ะ? อย่าบอกว่าจะให้เรารุกที่นี่นะ"
"เดี๋ยวเถอะไอ้น้องจอมหื่น! อยากโดนมะเหงกอีกรึไง? จะพาไปส่งขึ้นแท๊กซี่ต่างหาก"
แผ่นหลังของเขาอบอุ่นเหลือเกิน ดีกว่ามอเตอร์ไซค์ในฝันหลายเท่า.....ดีที่สุดเลย......ผมกอดคอกริช ซบหน้าลง.....ไม่ได้ฝันไป.....
"กระเทือนแผลเหรอต้น? ทำไมร้องไห้?"
"เปล่า.....เรา....เรานึกว่ากริชจะโกรธเราไปตลอดชีวิตแล้วซะอีก"
"เราสองคนสัญญากันแล้วนี่นาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป"
"กริชครับ.....อย่าโกรธวิงนะครับ....วิงเป็นเพื่อนเรา"
"ไม่โกรธหรอกน่า เขาเป็นเพื่อนนายแล้วก็เป็นรุ่นน้องผมด้วยนี่นา"
"เขาน่าสงสารนะครับ"
"อืม แต่สักวันนะ.....สักวันเขาคงเจอรักแท้ครั้งใหม่..........เหมือนที่ผมได้เจอ"
คำสุดท้ายของกริชแผ่วเบาจนเด็กหนุ่มที่ขี่หลังอยู่คงไม่ได้ยิน....และไม่ได้เห็นน้ำตาของคนที่แบกเขาไว้
.....เป็นไรวะสิงห์ เปียกฝนแล้วดันมายืนหน้าบ้าน กรูนึกว่าผี.....
....กรูทำกุญแจหาย.....
......เราขโมยกุญแจของกริชไปปั๊ม......
เขาเจอแล้ว.....กุญแจที่หายไป.....กุญแจที่เคยคิดว่าชีวิตนี้คงไม่มีใครดีเท่าความรักครั้งแรกที่แสนเจ็บปวดนั้น ....แต่วันนี้....เขาหันไปดูเด็กหนุ่มที่อยู่บนหลัง.....สิ่งต่างๆ ที่ต้นทุ่มเททำเพื่อเขามาตลอด......
"ผมจะอยู่กับต้นตลอดไปนะ"
"กริชว่าอะไรนะครับ?"
"ป....เปล่า...."
"กริชครับ.....เรายังไม่อยากกลับบ้าน"
"งั้นจะ...จะไปไหนล่ะ....หรืออยากไปจู๋จี๋กันที่บ้านผม"
"โหย! ขาเพิ่งเข้าเฝือกอยู่นะ"
"งั้นจะไปไหนล่ะคร้าบท่านน้องชายสุดที่ร้าก?"
"ไปอีกที่นึงนะครับ"
"ไม่เอา! ไกลอะ! ตัวนายก็หนักยังกะควาย"
"ฮะๆ นะครับ นะๆๆ พี่ชายสุดที่รัก นะๆๆ น้าาาาาาา"
กริชไม่ตอบแต่ก็แบกผมไปตามฟุตบาทเรื่อยๆ .....ไม่ต้องบอกว่าไปที่ไหนแต่หัวใจสองดวงต่างรู้คำตอบของอีกฝ่าย เป็นภาพที่แปลกตา กลางแดดร้อนเปรี้ยง เด็กหนุ่มสองคนขี่หลังกันเดินไปตามถนน คนบนหลังแต่งชุดนักบาสสีแดงสะพายเป้แบกไม้ค้ำพะรุงพะรัง ขาก็เข้าเฝือกสีเดียวกันเหมือนจงใจ
......บาสแพ้ไปแล้ว.....ขาก็ใส่เฝือก.....การสอบก็ยังต้องรอฟังผล.......ไม่มีเหรียญทอง.......ไม่มีมอเตอร์ไซค์.......
หนทางของชีวิตไม่ได้สวยงามเป็นไปตามที่คาดหวังเสียทุกครั้ง แต่หากยังไม่ปล่อยมืออีกมือที่เกาะกุม
หากยังไม่หมดหวัง หากยังเชื่อใจ ยังสู้เพื่อตัวเองและคนอีกคนที่อยู่เคียงข้าง ชีวิตก็ยังมีพลังให้ก้าวต่อไป
.......ตอนนี้เหมือนโลกมีแค่เขาสองคน.....คนสองคนที่พร้อมจะเป็นโลกทั้งใบให้กันและกัน......
================= THE END =================
-
สืบเนื่องจากความผิดพลาดของผม ที่ลงนิยายแบบค้างๆคาๆ
ทำให้คุณ Sorrow ต้ออกโรงมาแก้ตัวแทน
ผมต้องขอโทษคุณ Sorrow ด้วยนะครับ
และเพื่อเป็นการทำตามสัญญา ผมยินดีจะลงรูปโป๊ ให้เป็นการขอโทษ คุณ Sorrow ครับ
(http://i136.photobucket.com/albums/q162/moopooh/violet/index.jpg)
ขอโทษทุกๆ คนด้วยนะครับ
พูห์คร้าบบบบ
-
อ๊าก นี่โป๊แล้วเหรอค๊าบ พูห์ :m13:
อันนี้แค่เปลือยตะหากกก
-
จบแย้ว เหอๆ :impress:
มีซึ้งด้วย ชอบนะงับ
รออ่านเรื่องต่อไปนะ
:m3:
-
:impress:
จบแล้ว ประทับใจครับ
ขอบคุณผู้แต่งและคนโพสมากนะครับ
จะรออ่านเรื่องต่อ ๆ ไป ของทั้งผู้แต่ง และคนโพสนะครับ
o15
เอาไปหนึ่งบวก ส่งท้าย
-
ขอบคุณคนเขียนและคนโพสที่ขยันและอดทนขนาดนี้
อ่านกันจนจุใจเลยแหะ เรื่องนี้
:m3: :m3: :m3:
-
ในที่สุดก็จบอย่างสวยงาม ขอบคุณคนแต่ง คนโพสที่นำเรื่องราวดีดีมาให้อ่านจ้า :m3: :m3:
จะติดตามผลงานต่อไปนะคุณ Sorrow :m1:
-
จบแล้ว เข้าป้ายเป็นเรื่องในดวงใจของเราอีกเรื่องหนึ่งแล้ว
ยอดเยี่ยมทั้งโครงเรื่อง สำนวน มุขตลก สุดยอดมาก ๆ :a2: :a2: :a2:
ขอบคุณคนแต่ง
ขอบคุณคนโพสต์
มีความสุขที่ได้อ่านเรื่องนี้
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
o15 o15 o15
-
:m3: :m3: :m3:เย้ เย้ เย้
จบดั้ยประทับจัยมากมายคับ :m1:
-
o13 :a10: ว้าว ว้าว ว้าว ว้าว ว้าว
:m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1:
:m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
-
o7จบได้แฮบปี้ดีจังอ่า
ขอบคุณจริงๆคับ เรื่องจบแบบน่ารักมากๆ o1
อยากเจอในแบบนี้ในชีวิตจริงมั่งจังอ่า :undecided:
-
:m3: :m3: :m3:
จบแย้ววว
ดีใจจัง
เข้าใจกันดี
:m1: :m1: :m1:
ปล. อยากบอกว่าเดาตอนจบไว้แล้ว และก็ตามที่เดาไว้จริง ๆ ด้วย :m12:
-
ดีจังๆ ที่ใรที่สุดก็จบลงแบบ Happy Ending :m1:
ขอบคุณ sorrow ที่แต่งเรื่องสนุกๆดีๆแบบนี้มาให้อ่านนะครับ o14
ขอบคุณ พูห์ ที่เสียสละเวลาและแรงกายมาโพสให้เพื่อนๆทกุคนได้อ่านกันนะครับ o15
......
รอคอยเรื่องต่อไปนะครับ :m4:
-
:impress:
คนหนึ่งทำกุญแจหาย อีกคนขโมยไปปั๊มมาคืน ช่างคิดเนอะข้อความธรรมดา ๆ แต่ความหมายโดนนน
หยุดไว้แค่นี้ละคับดีแล้วววว ภาพน้องชายที่รักขี่หลังพี่ชายสุดที่รัก :เฮ้อ:
ไม่อยากใช้บรรทัดฐานของชีวิตจริงมาวาดภาพต่อไป ว่าทั้งสองจะลงเอยแบบไน๋....
รู้ ๆ กันอยู่ชีวิตรักชาวเกย์ มียั่งยืนยงจนถึงสุดท้ายปลายทางได้กี่คู่กันเชียววววว o16
ยังไงซะก็เป็นกำลังใจให้ทุกคน ก้าวเดินต่อไป รักกันต่อไป
ซักวันภาพที่ประทับใจในนิยายเรื่องใดเรื่องหนึ่งอาจจะเกิดกับคุณก็ได้... o8
ระยะเวลา 1 ปีคงเหนื่อยกันไม่ใช่เล่นนนน ขอบคุณอีกครั้งสำหรับผลงานดี ๆ
รอผลงานชิ้นต่อไปนะครับบบบบบ Take care... :yeb:
:bye2:
-
สวยงามจริงๆ
-
ตามมาอ่านตอนจบค้าบ... ^^
:m1: .. Happy ending ด้วยนิคับ..ดีจัง :m4:..
ตอนที่อ่านตอนจบ..กำลังฟัง "หยุด" ของ Groove Rider พอดีเยยคับ..
ก็เข้าดีนะคับ..ที่จริงก็หลายคู่นิคับ ที่ตรงกับเพลงนี้...เนอะ.. ^^
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่านอย่างงี้นะคับ... o14
และก็เป็นกำลังใจให้เสมอนะคับ... :m19:
-
ขอบคุณคนแต่ง Sorrow มากๆครับ ที่เขียนเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่าน
ขอบคุณตาหมูพูห์ที่ขยันโพส :a14: ล้อเล่น ที่นำเรื่องนี้มาลงนะครับ
ขอบคุณ เล้าเป็ด สนามวิ่งเล่นที่น่ารัก o1
จะรอติดตามผลงานทั้งคู่เลยนะครับ
-
o7 โอ้ จบแล้ว ดีจังที่กริชไม่โกรธต้น หวังว่าจะรักกันไปตลอดน้อ :a1:
-
:m1: :m3: :m18: จบแย้วขอบคุณมากครับ โอ้บจบแบบนี้โอเคมากมายครับ สุดยอดครับ
-
อ้าจบอย่างมีควมสุขขขข :m2:
-
......................ในที่สุดก็จบจนได้.........................
................เรื่องนี้สนุกมากมายเลยคับ..................
...........ขนาดตอนนี้ผมป่วยอยู่ยังถ่อสังขานจากเตียงลุกขึ้นมาอ่านเลยนะคับเนี่ย..... o21
...............ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆแบบนี้นะคับ.........................
ปอลอ...........ถึงแม้ต้นจะไม่ได้เหมาสองอย่างที่ผมตั้งใจก็ตามที :m2:
-
:m2: :m2: :m2: :m2: :m2: :m2: :m2: :m2:
ซึ้ง !!!!! o7
-
:impress: จบแว้ว จบแว้ว ประทับใจจิงๆ :impress:
ขอบคุณ คุณsorrow ที่แต่งเรื่องดีดีมาให้อ่าน
ขอบคุณ คุณมู๋พูห์ ที่สละเวลามาโพส และยังมีรูปชุดนอนมาแถมให้
จบแบบมีความสุขซะด้วย :give2:
ประทับใจจังเลย จะติดตามผลงานของคุณsorrowและคุณมู๋พูห์ต่อนะคับ
(จบจิงๆซะแล้ว เลยไม่ได้เอาคลิปโป้คุณมู๋พูห์มาแฉเลย ) o17
:m2: :m2: :m2: :m2: :m2: :m2: :m2: :m2: :m2: :m2: :m2: :m2:
-
ขอบคุณมากนะคร้าบบบ มีความสุขมากมายเลย ไม่รู้จะหาอ่านเรื่องดี ๆ อย่างนี้ได้อีกเปล่า ขอบคุณจริง ๆ เย้ว :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: o15 o15 o15 o15 o15 o14 o14 o14 o14 o14 o14 o14 :give2: :give2: :give2: :give2: :give2: :m9: :m9: :m9: :m9: :m9: :m27: :m27: :m27: :m27: :m27: :m18: :m18: :m18: :m18: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :a9: :a9: :a9: :a9: :a9: :a9: :a9: :a9: :a11: :a11: :a11: :a11: :a11: :a11: :a10: :a10: :a10: :a10: :a10: :a10:
-
(จบจิงๆซะแล้ว เลยไม่ได้เอาคลิปโป้คุณมู๋พูห์มาแฉเลย )
คลิปไรหรือดูมั่งดิ
:m28: :m28: :m28:
-
(จบจิงๆซะแล้ว เลยไม่ได้เอาคลิปโป้คุณมู๋พูห์มาแฉเลย )
คลิปไรหรือดูมั่งดิ
:m28: :m28: :m28:
ชิส์ไอ้ตี๋หื่น
:m16:
-
ที่จริงยังไม่จบนะครับ มีอีกตอนอ่ะ เป็นตอนพิเศษ
ไว้รอพี่พูห์มาลงละกันนะครับ
ชอบมากครับพี่ Sorrow จะสร้างภาค 2 เปล่าครับ
ชอบมากมายครับ ต้นคู่กะกริชไปแว้วส่วนวิงของผมนะ หุหุ
วิงค้าบบบบบ อย่าเหงาเลยนะ อยู่กะเราก็ได้ เหอๆ
ปล.แฟนคลับวิงเยอะมากมาย เหอๆ
-
ที่จริงยังไม่จบนะครับ มีอีกตอนอ่ะ เป็นตอนพิเศษ
ไว้รอพี่พูห์มาลงละกันนะครับ
ชอบมากครับพี่ Sorrow จะสร้างภาค 2 เปล่าครับ
ชอบมากมายครับ ต้นคู่กะกริชไปแว้วส่วนวิงของผมนะ หุหุ
วิงค้าบบบบบ อย่าเหงาเลยนะ อยู่กะเราก็ได้ เหอๆ
ปล.แฟนคลับวิงเยอะมากมาย เหอๆ
มีคนมาสปอยซะงั้น
เหอเหอ
ไว้พรุ่งนี้มาเจอกับตอนพิเศษนะครับ
:m7: :m7: :m7: :m7: :m7:
-
โทษทีครับพี่พูห์ โดนตั้งแต่ตอนแรกๆ นู่นไปแล้วแหละครับ
o20 o20 o20ขออภัยอีกซักคราวเน่อพี่ ก็นะ ชอบเรื่องนี้อ่ะพี่
:m3: :m3: :m3: :m3: :m3: ร๊ากกกกกวิง
-
ง๋า จบแล้วอ่ะ ไม่อยากให้จบเลย
ชอบเรื่องนี้ มาก มาก มาก มาก ~~~~~~~~~*
รักพี่กริช ก่ะ ต้น มากกกกกกกกกกกกกกเลย
จามีตอนพิเศษไหมอ่ะ อยากอ่านตอนพิเศษ ~~~~>w< :a10:
-
ตอนพิเศษ จะอ่านตอนพิเศษ o9 o9 o9
-
รวดเดียวจบ.....
ห้าทุ่มถึงตี 2 กว่าๆ :a2:
ถ้าขยันอ่านหนังสือสอบแบบเน้คงจะดี...
:เฮ้อ:
ปอ.ลอ.รอตอนพิเศษค๊าบบบบบบ :a3:
-
บทส่งท้าย
ที่โรงเรียนในเวลาไล่เลี่ยกัน
"วิง ต้นเป็นยังไงบ้างน่ะ?"
"กระดูกร้าวนิดหน่อยแต่ไม่มาก ตอนนี้หมอคงกำลังเข้าเฝือกให้อยู่น่ะ"
"เฮ้อ....โชคดีไป" เม้งถอนหายใจ "แล้วไม่ได้กลับมาพร้อมกันเหรอวิง?"
".....เรามีธุระเลยกลับมาก่อนน่ะ เดี๋ยวต้นก็คงนั่งแท๊กซี่กลับบ้านได้มั้ง"
เมื่อครู่ยังถือกระเป๋าเป้ของต้นอยู่.....แต่ตอนนี้มือของผมว่างเปล่า......กระเป๋าถูกส่งให้คนที่ควรถือไปแล้ว.....
ผมมองดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ที่โปรยปรายลงมาตามสายลม ......สิ่งสุดท้ายที่ผมจะทำให้ต้นได้ผมก็ทำไปแล้ว......
ไม่ใช่สิ.....ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกัน.....คนเป็นเพื่อนไม่มีคำว่า 'สิ่งสุดท้ายที่จะทำให้' หรอกนะ....เพื่อนก็คือเพื่อนตลอดไป.....ทั้งที่ยังเศร้าแต่ทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเองกำลังยิ้ม...... รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก.....เอาล่ะ! ได้เวลาลบเพลงนั้นทิ้งซะที.......
"วิง ทำไมนายไม่ให้เรากับพี่โจ้ไปดูต้นที่โรงพยาบาลด้วยล่ะ?"
"เอ่อ....ก็....."
"แต่ก็ดีแล้วล่ะ ถ้าเราไปก็ไม่รู้จะบอกต้นยังไงว่าสีแดงแพ้....เฮ้อ....แต่ยังไงก็ยังได้ลุ้นเหรียญทองแดงพรุ่งนี้น่ะนะ"
เม้งถือลูกบาสนั่งเหม่อมองสนามบาสที่ตอนนี้โล่งโจ้ง ป้ายคะแนนยังค้างอยู่บนกระดานให้ช้ำใจเล่น
"ดีนะพี่กริชเขามาช่วยปฐมพยาบาลให้"
"....เดี๋ยวก่อน......ตอนนั้น....วิง ตอนนั้นพี่กริชเรียกชื่อต้นใช่มั๊ย?"
"ม....ไม่รู้สิ.....ไม่ได้เรียกมั้ง?"
"เรียกสิ เราได้ยินแน่ๆ พี่เขาบอกพี่โจ้ว่าหาอะไรมาหนุนขาน้องต้น.....พี่เขารู้จักไอ้......"
...
...
".....หรือ....หรือว่า......." เม้งชี้มือไปข้างสนามตรงที่เพื่อนรักเคยนอนพะงาบๆ สลับกับทิศที่โรงพยาบาลตั้งอยู่
"หรือว่า.....หรือว่า.....วิง.....นายรู้........"
......Everytime I see you falling
I get down on my knees and pray.......
"เอ่อ....เม้ง เราขอไปโทรศัพท์ก่อนนะ"
พูดก็เท่านั้น ตอนนี้เม้งนั่งเอ๋อสมองโอเวอร์โหลดไปแล้วด้วยข้อมูลที่เพิ่งคิดได้นั้นมันเกินจะรับ
"สวัสดีป้อม โทรมามีอะไรเหรอ?"
"........................"
"ป้อม ได้ยินรึเปล่า?"
"......เมื่อไหร่มรึงจะเลิกใช้เพลงเหมือนคนอกหักซะที ถ้าไม่มีเพลงอื่นเดี๋ยวกรูหาให้"
================= จบจริงๆ ละครับ =================
-
:o8:
เห็นมะ บอกแล้ว วิง มีคนวนเวียนอยู่ข้าง ๆ 555555 ชมรมคนรักวิงสลายตัวด่วนนนน :m4:
เอาจ้ะ สั้น ๆ ได้ใจความ ยังน่ารักได้ใจอยู่เช่นเดิม Happy แบบนี้หลาย ๆ เรื่องนะ...
เหนื่อยจะร้องไห้แล้วววววว
:bye2:
-
ง่า จบจริงๆแล้วหรอเนี่ย o7
ไม่อยากให้จบเลยยย
แต่ยังไงก็ขอขอบคุณ คุณ sorrow ที่ได้แต่งนิยายดีๆ เรื่องนี้ไว้
และก็ขอขอบคุณ คุณ Junrai_Hyper ด้วย ที่ได้นำนิยายเรื่องนี้มาโพสให้พวกเราได้อ่านกัน
แต่อยากให้มีตอนต่อไปจังเลยงิ :m13:
-
จบแบบแฮ็ปปี้ทุกคนเลยยฮี่ๆๆๆ :a9:
-
:o ลงแล้วเหรอครับ :try2: มาจิ้มขอบคุณพี่พูห์ก่อนดีก่า :m1:
เมื่อครู่ยังถือกระเป๋าเป้ของต้นอยู่.....แต่ตอนนี้มือของผมว่างเปล่า......กระเป๋าถูกส่งให้คนที่ควรถือไปแล้ว.....
ผมมองดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ที่โปรยปรายลงมาตามสายลม ......สิ่งสุดท้ายที่ผมจะทำให้ต้นได้ผมก็ทำไปแล้ว......
โอ้วววว ประโยคนี้ซึ้งหลายๆคับ :m3:
ไม่ใช่สิ.....ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกัน.....คนเป็นเพื่อนไม่มีคำว่า 'สิ่งสุดท้ายที่จะทำให้' หรอกนะ....เพื่อนก็คือเพื่อนตลอดไป.....ทั้งที่ยังเศร้าแต่ทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเองกำลังยิ้ม......
อ่ะแน่นอน วิงยังมีเราอยู่ท้างคนนี่นา :m3: อิอิ
รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก.....เอาล่ะ! ได้เวลาลบเพลงนั้นทิ้งซะที.......
ไม่ต้องลบก็ได้ ให้เราโทรไปหา เปิดเพลงนั้นไว้แหละ :m19:
"เอ่อ....เม้ง เราขอไปโทรศัพท์ก่อนนะ"
พูดก็เท่านั้น ตอนนี้เม้งนั่งเอ๋อสมองโอเวอร์โหลดไปแล้วด้วยข้อมูลที่เพิ่งคิดได้นั้นมันเกินจะรับ
ที่จริงผมโทรไปหาวิงเองแหละ ไม่ใช่ใครหรอกน้า คุณ Sorrow เค้าพิมพ์ตกไปหน่ะ (ว่าไปนั่น) :m11:
บทส่งท้าย
================= จบจริงๆ ละครับ =================
? ? ? ? ? เจงอ่ะ
ปล.พี่พูห์ผมป่าวมาป่วนกระทู้พี่นะ แค่มาบอกร๊ากกกกวิงเฉยๆแหละ :m3: :m3: :m3:
ขอบคุณนะครับที่เอาเรื่องราวดีๆแบบนี้มาให้ผมอ่านอีกครั้ง
-
วิงเป็นคนดี ย่อมได้เจอความรักที่สวยงาม
:m1: :m1: :m1: :m1:
-
อ่า....เออ จบแล้วหรองับ รู้สึกว่าที่เคยอ่านจะมีต่ออีกหน่อยนิงับ เอามาลงให้ครบๆหน่อยน้า :m17: :m17: o14
-
อยากอ่านเรื่องของวิงต่ออ่ะ :m13: :m13: :m13:
นะ นะ นะ :impress: :impress: :impress:
-
ซึ้งจริง ๆ ซึ้งจริง ๆ ยิ่งกว่าซึ้ง ซึ้งทุกสิ่ง (พอเถอะ หยุดเสี่ยวทีเถอะ--> ไม่ต้องรุมประณามผมแล้วนะครับ)
ขอบคุณคุณ Sorrow และคุณ Junrai_Hyper ด้วยนะครับ
ว่าแต่ยังไม่จบใช่มั้ยครับ เห็นมีคนบอกว่ามีต่ออีกหน่อยอ่ะ เอามาลงต่อเถอะครับ นะ นะ :impress:
แล้วก้อขอถามหน่อยครับ ตกลงนี่ป้อมก้อแอบชอบวิงใช่มั้ยครับ (แบบว่าโง่อ่ะ ไม่ค่อย get ซักเท่าไหร่)
-
ว้าว แฮปปี้กานหมดเยย
เหลือแต่เรากับวิง :give2:
ยังมะได้กุ๊กกิ๊กกันเลย :m4:
-
เพี้ยงๆๆ ขอให้มีต่อเหอะ ... อยากรู้เรื่องวิงจะจบยังงายยยยย :m1:
-
ตอนพิเศษ
"ต้น อยากกินอะไร?"
"อะไรก็ได้ครับ"
"ไก่ทอดดีมั๊ย?"
"ก็ได้ครับ"
ผมเดินด้วยไม้ค้ำโขยกเขยกตามกริชที่เลือกซื้อกับข้าวเยอะแยะจากร้านค้าหน้าปากซอยก่อนเข้าบ้าน สงสัยจะหิวมาก เพิ่งช่วยเก็บกวาดงานกีฬาสีเสร็จไปเมื่อตอนห้าโมงเย็น บรรยากาศยามเย็นแบบนี้.....ร้านค้าตึกแถวที่ผมเคยมาเล่นเกมคนเดียวหลังเลิกเรียนเพราะอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนนัก ร้านข้าวแกง ร้านการ์ตูนที่แวะเป็นบางครั้ง แต่วันนี้ทุกอย่างต่างไปเพราะคนตรงหน้า
.....เอ่อ.....ไม่ใช่แค่นั้น....เพราะเฝือกสีแดงแป๊ดชวนควายขวิดนี่ด้วย รู้งี้ตอนที่คุณหมอให้เลือกสีตรูน่าจะบอกสีขาวเหมือนมนุษย์มนาทั่วไปดีกว่า แค่วันเดียวก็เจอใครๆ มาเขียนที่ระลึกซะพร้อยเชียวใครผ่านก็มองเหมือนเจอคนบ้า แล้วยังของที่คล้องคอนี่อีก.....อายชิบเป๋ง! ไม่ไหวละ ถอดใส่กระเป๋ากางเกงดีกว่า......
"ไม่ได้นะต้น"
"เราอายน่ะกริช! แค่ขาเป๋นี่ก็เด่นแย่แล้ว เดี๋ยวใครๆ คิดว่าเราบ้าเห่อ"
"ทีเมื่อกี้ตอนขึ้นไปรับเหรียญน่ะหวงไม่ยอมให้ผมดูด้วยซ้ำ"
"ฮะๆ งั้นกริชเอาไปคล้องเองเลยปะ"
"ให้แน่นะ?"
"อืม"
กริชหยิบไปคล้องคอตัวเองบ้าง แถบผ้าลายธงชาติที่คล้องรอบคอกับเหรียญที่ห้อยตรงกลาง .....เหรียญทองแดงบาส ม.ปลายชาย
"......ขอบคุณมากนะต้น"
"ครับ ก็ตั้งใจจะให้กริชกับพี่สิงห์นี่ครับ ...เสียดายจังรอบสุดท้ายได้แค่นั่งเชียร์"
...
...
"ต้นเหนื่อยมั๊ย? จะนั่งพักก่อนมั๊ยกลัวนายเจ็บขา"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ สบายมาก"
เราสองคนเดินไปเรื่อยๆ ยามเย็นแสงโพล้เพล้ ท้องฟ้าเป็นสีส้มอมชมพู ถนนเส้นนี้....ร้านค้าสองข้างทางนี้.....ครั้งหนึ่งที่ผมเคยมานั่งเล่นเกมคนเดียวเป็นประจำเวลาเหงา ถนนเส้นเดียวกันนี้ที่กริชเดินเข้าบ้านเช่าในหมู่บ้านตามลำพังทุกวัน เหมือนเราสองคนต่างมีโลกคนละใบที่ไม่เคยข้องเกี่ยว....จนวันนึง.....วันนี้....
"แล้วต้นไม่อยู่ฉลองกับเพื่อนๆ เหรอ?"
"วิงเขาต้องรีบกลับบ้านไปจัดของน่ะครับ เพิ่งย้ายบ้านเสร็จ"
"อืม.......น้องเขาลำบากแย่เลยนะ"
".....ครับ ถามวิงว่ามีอะไรให้ช่วยมั๊ยเขาก็ตอบยิ้มๆ ว่าไม่เป็นไร"
"แล้วเม้งล่ะ? เพื่อนต้นก็เล่นบาสเก่งนะ"
"อืม แต่เม้งบอกว่าไม่วันนี้อยากเป็น.....กขค.น่ะ"
"เหรอ? แสดงว่าวันนี้ต้นกับผมก็......."
"เห็นเฝือกปะ? เห็นเฝือกมั๊ยเนี่ย?"
"คร้าบ เห็นคร้าบ! ให้ผมช่วยมั๊ยล่ะรับรองไม่เจ็บขาแน่" ......อุ๊ก!
"เป็นอะไรหน้าแดงเชียว? คิดอะไรแผลงๆ อีกแล้วล่ะสิ ผมหมายความว่าผมจะแบกต้นไปถึงบ้านต่างหาก"
"ก็กริชพูดอะไรให้คิดแบบนั้นเล่า!!"
"ผมก็พูดธรรมดา นายนั่นแหละหื่นไม่เลิก นี่ขนาดขาเดี้ยงอยู่นะ" โดนดุแต่ก็ได้ขี่หลังฟรี
พอทานมื้อเย็นเสร็จก็นั่งเล่นในห้องนอนกริช จริงๆ อยากออกไปนั่งดูดาวแต่เขาบอกว่าหนาวแล้วเดี๋ยวไม่สบาย
นั่งฟังกริชเล่าเรื่องที่เพชรบุรีพลางอ่านอะไรต่อมิอะไรที่เขียนบนเฝือกเจ้ากรรม ส่วนใหญ่ก็รุ่นพี่ในทีมบาสกับเพื่อนในห้องมะลุมมะตุ้มยังกะไม่กลัวตรูจะเจ็บขาสักนิด
ว่าแต่ไอ้ประโยคนี้ 'หายไวๆ นะเว้ย เด็กกรูเป็นห่วง'......ใครเขียนหว่า?
"ต้น คืนนี้ค้างที่นี่เถอะ" ......เห่อเกินไปรึเปล่า......
"ค้างแล้วพรุ่งนี้วันอังคารจะไปโรงเรียนยังไงล่ะครับ?" .....ปฎิเสธแล้วนะ แต่ปฎิเสธแบบอ้อมๆ......
"ก็ใส่ชุดของผมไปไง หนังสือเรียนม.4 ผมก็มี"
"เหรอ....."
"ตอนเช้าผมอาบน้ำให้ต้นนะ นายใส่เฝือกคงลำบากให้ผมช่วยจะได้อาบเสร็จเร็วๆ อากาศหนาวน้า" .....เห็นแววตาแล้ว....ต้องไปสายแหงๆ.....
"แล้วจะให้ต้นขี่หลังขึ้นไปห้องเรียนด้วยนะ ห้องนายอยู่ชั้นสองไม่ใช่เหรอ?" ......ดี ให้รู้กันทั้งห้องไปเลย......
"ตอนเที่ยงก็อุ้มนายมากินข้าวที่โรงอาหาร" ......อือ จะได้รู้กันทั้งม.ปลาย.....
"แล้วตอนเย็นก็---"
"พอ พอเลย"
"โธ่ ต้นน่ะ! รู้มั๊ยผมดีใจแค่ไหนที่รู้ว่าต้น......" กริชกระเถิบเข้ามาใกล้ หน้าแทบจะติดกันเลย
"ตอนที่รู้ว่าต้นอยู่ใกล้แค่เนี้ย เรียนโรงเรียนเดียวกันเนี่ยผมแทบคลั่งตายเลยนะ"
"นายน่ะแค่แทบคลั่งตาย แต่โทรศัพท์นายน่ะตายเดี้ยงกระจายกระจุยไปเลย เหอๆๆ"
"ก็เพราะใครล่ะ ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก" แล้วก็โดนมะเหงกทีนึง
"อ๋อย!.....ขอโทษนะกริช"
"มะเหงกเมื่อกี้ไม่ใช่เรื่องโทรศัพท์หรอกนะ"
"แล้วเรื่องอะไรล่ะ?" ......ก็สารภาพไปหมดทุกกระทงแล้วนี่นา......
"เรื่องที่ต้นไม่ยอมบอกผมว่าต้นเป็นนักกีฬาน่ะสิ"
"อ้าว! ไม่บอกนี่มีความผิดด้วยเหรอ?"
"ผิดดิ ถ้าผมรู้ผมจะได้ไม่ต้อง'ยั้งมือ'ไง" .....หูย! ตาเป็นประกายเชียว.......
"เอ่อ....กลับบ้านตอนนี้เลยดีกว่า อยู่นานท่าจะไม่ปลอดภัย"
"ผมไม่ทำอะไรหรอกน่า อย่าเพิ่งรีบกลับเลยนะ"
"ก็ได้ครับ แต่สองทุ่มต้องกลับจริงๆ นะไม่งั้นพี่เราเป็นห่วง"
...
...
"ต้น"
"ครับ?"
"มีคนๆ นึงอยากเจอต้นน่ะ"
"ใครเหรอครับ?"
"สิงห์น่ะ....เขาอยากเจอต้นมากเลยนะ"
"พ.....พี่สิงห์จะมาเหรอครับ?"
"ไม่ได้มาหรอกแต่จะโทรไปหาน่ะ พรุ่งนี้วันเกิดเขาแล้ว.....อยากคุยกับเขามั๊ยต้น?"
"ค...ครับ ก็อยากคุยนะ....." จู่ๆ จะให้คุยกับพี่เขาไม่ทันตั้งตัวเลย แล้วพี่สิงห์จะคิดกับผมยังไงก็ไม่รู้
"ถ้าต้นไม่อยากก็ไม่เป็นไรนะ"
"เราอยากเจอพี่เขาเหมือนกันครับ"
"งั้นยืมมือถือหน่อยนะ ต้นบอกแล้วนะว่านายไม่หึงน่ะ" กริชกดเบอร์เปิดสปีคเกอร์วางบนโต๊ะ ผมได้แต่นั่งมองหน้าเขา ใจเต้นพิกล
"เดี๋ยวดิกริช เรายังไม่ได้เตรียมใจเลย"
"ไม่ต้องห่วงหรอกน่า" เขายิ้มพลางโอบไหล่ผม แล้วเสียงตอบรับก็ดังขึ้นมา
"สวัสดีครับ นั่นใครครับ?"
"เราเอง"
"เฮ้ย! กริชเหรอ? เปลี่ยนเบอร์รึไง?"
"นี่มือถือเด็กเราเอง"
"โอ้โห! กล้าพามาเปิดตัวแล้วเหรอ? ไม่โดนคดีพรากผู้เยาว์รึไงวะนายน่ะ?"
"อ้าว! ไอ้แสรดพูดจา สุขสันต์วันเกิดนะสิงห์ นี่น้องเขานั่งอยู่ตรงนี้ด้วยแหละ ต้นพูดสิ" .....จู่ๆ โบ้ยมาจะให้พูดอะไรล่ะ.....
".......เอ่อ.....สวัสดีครับพี่สิงห์ สุขสันต์วันเกิดนะครับ"
"ขอบคุณครับน้องต้น ยินดีที่ได้รู้จักครับ แล้วทำงานโรงหนังเหนื่อยมั๊ยเนี่ย? คงได้ดูหนังฟรีทุกวันเลยสินะ?"
กริชหันหน้าหนีไปหัวเราะร่วนเชียว นี่แสดงว่าเคยเล่าเรื่องผมให้พี่สิงห์ฟังแล้วสิ
"สิงห์ จริงๆ เรื่องมันยิ่งกว่านั้นอีกนะเว้ย น้องเราคนนี้แสบสุดๆ เลยล่ะ!" แล้วกริชก็เล่าเรื่องทั้งหมดเลย อายจริงๆ โดนเผาระยะประชิดแบบนี้
"ฮะๆๆ น้องต้นร้ายนะเนี่ยหลอกไอ้กริชอยู่หมัดได้ตั้งสามเดือน แล้วขาเป็นไงบ้างครับ?"
"ก็ใส่เฝือกเดือนนึงน่ะครับแต่ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ"
"แต่อยู่ใกล้ๆ ไอ้กริชท่าทางคงหายยากนะ ฮะๆ"
"เฮ้ย! พูดงี้ได้ไง เราสิไม่ปลอดภัย นายรู้มั๊ยต้นมันหื่นขนาดไหน พูดจานิดหน่อยนะน้องเขาคิดเป็นเรื่องอย่างว่าตลอดเลย"
"โหย! พูดซะเสีย ไม่ถึงขนาดนั้นซะหน่อย" .....ใครล่ะพูดให้ชวนคิด เอ๊ะ! หรือเราจะหื่นจริงๆ?
"สิงห์ น้องต้นมีของขวัญให้นายนะ" ว่าแล้วกริชก็เอาเหรียญเคาะกับโต๊ะเบาๆ ก่อนวางคล้องกับโทรศัพท์
"เหรียญทองแดงบาสม.ปลายเชียวนะเนี่ย น้องต้นเขาตั้งใจแข่งเพื่อนายกับเราเลยนะ"
พี่สิงห์เงียบไปครู่นึงเลย "ข....ขอบคุณมากนะครับน้องต้น"
"ไม่เป็นไรครับพี่ เสียดายไม่ใช่เหรียญทอง"
"ต้นพยายามขนาดนี้พี่ก็ดีใจมากแล้วล่ะครับ ขอบคุณจริงๆ นะน้องต้น พี่ดีใจมากเลยนะเนี่ยไม่นึกว่าจะชอบเล่นกีฬาเดียวกัน"
"วันนี้เอาแค่เสียงน้องกับเสียงเหรียญไปก่อนละกันนะสิงห์ แล้วสักวันจะพาน้องต้นไปหานายให้ถึงที่เลย"
"เออ มาเมื่อไหร่จะเลี้ยงให้เต็มที่เลย อ้อ! เราก็มีเสียงเป็นของขวัญให้พวกนายเหมือนกันนะ"
เสียงที่แว่วมาทำให้กริชยิ้มแป้นกอดผมไว้แน่นเลย....เสียงเด็กร้องอ้อแอ้.....
"น่ารักนะเว้ย! พวกน้าๆ สองคนน่ะมาเยี่ยมบ้างนะจะได้เห็นหลานตัวจริง เดี๋ยวจะหาว่าเราชมลูกตัวเอง ฮะๆๆ"
"เออ เดี๋ยวปิดเทอมนี้อาจจะไปนะ"
"ได้ๆ จะรอนะ ......เออกริช.....ขอคุยกับต้นหน่อยสิ"
"อืม อะต้นคุยกับเขาหน่อยเดี๋ยวผมไปชงโอวัลตินมาให้" .....จ...จะให้คุยอะไรล่ะ....
กริชเดินออกจากห้องไป เหลือผมนั่งอยู่คนเดียวกับคนปลายสายที่อยากคุยด้วยมานานแต่พอถึงเวลาจริงก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
".....น้องต้นครับ....."
"......ครับพี่สิงห์........"
...
...
...
กริชเดินยิ้มแป้นกลับเข้ามาพร้อมโอวัลตินร้อนสองแก้ว
"อ้าว! วางสายไปแล้วเหรอต้น?"
"ครับ"
"ทำไมทำหน้าแปลกๆ ....สิงห์มันว่าอะไรต้นรึ!?"
"เปล่าครับ พี่เขาไม่ได้ว่าอะไรหรอก"
"แล้วคุยอะไรกัน" ง่า.....บอกไม่ได้หรอก.....
"มีความลับอะไรกันรึ? เดี๋ยวโทรถามสิงห์อีกทีก็ได้"
"เหวอ! ไม่ได้นะ! พี่สิงห์กำชับว่าห้ามบอก"
"ทำไมล่ะ?" กริชถือโทรศัพท์ทำหน้าเจ้าเล่ห์
"ก็..........เรา....เขินอ่ะ" พูดเสียงเบาๆ
"ว่าอะไรนะ? ฟังไม่ได้ยิน ไม่ยอมบอกเจอทำโทษนะ" กริชยื่นหน้าเข้ามาซะชิด สงสัยไม่ต้องกินมันแล้วโอวัลตง โอวัลติน
"กริช......คืนนี้สอนเลขม.6 ให้เราได้มั๊ย?" ......เปลี่ยนเรื่องเลยดีกว่า.....
"ยอมค้างแล้วเหรอ? น้องชายสุดที่รักของผม"
"อืม แค่ติวเลขนะ ห้ามทำอย่างอื่น"
"อยากติวเลขอย่างเดียวจริงเหร้อ? ทำไมถึงหน้าแดงล่ะ ฮะๆๆ"
"ติวเลขอย่างเดียวจริงๆ ถ้าไม่สอนจะกลับบ้านล่ะนะ"
พอโทรขออนุญาตพี่เสร็จก็ติวเลขรวดเดียวถึงสี่ทุ่ม ล้างหน้าแปรงฟันแล้วเข้านอนเลย ส่วนเรื่องอาบน้ำขอข้ามไปก่อนเพราะหนาวจริงๆ ถ้าต้องอาบไปยกขาหลบน้ำไปกว่าจะเสร็จมีหวังเป็นหวัดแน่ ถ้าให้กริชช่วยคงยิ่งไปกันใหญ่ แต่พรุ่งนี้เช้าไม่รู้จะรอดไหม....พรุ่งนี้.....วิง....เม้ง....โรงเรียน....
ผมนอนดูกริชที่หลับสนิทไปแล้ว ใบหน้าที่คิดถึงมาตลอด ......ใจก็นึกถึงเรื่องที่คุยกับพี่สิงห์....
พี่เขาทั้งสองคนเติบโตขึ้นจากอดีตที่เจ็บปวดแล้ว.....พรุ่งนี้กำลังจะเริ่ม.....พรุ่งนี้ที่เราไม่รู้จะเป็นยังไง.....
....'พรุ่งนี้' ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลแต่เป็นสิ่งท้าทายให้เรามุ่งมั่นจะได้เจอต่างหาก.....
"หลับฝันดีนะครับกริช" ผมชะโงกหน้าไปหอมหน้าผากเขาเบาๆ
.....ไม่ว่าพรุ่งนี้หรือวันไหนๆ ผมก็จะอยู่กับกริชตลอดไป.....
"ฮั่นแน่! ลักหลับผมจริงๆ ด้วย แบบนี้ต้องทำโทษ!!!"
"แว๊ก! อย่าาาาาาา!!!!"
================= จบบริบูรณ์ =================
-----------------------------------------------------------------
จบจริงๆ แล้วนะครับ
ไม่มีเหลือแล้ว
ส่วนใครจะอ่านภาควิงก็ต้องไปบอกเจ้าตัวเอาเองนะครับ
ขอบคุณ Sorrow ที่อนุญาตให้เอานิยายดีๆ มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน
ขอบคุณ หนูบลู สำหรับพื้นที่วิ่งเล่น (แบนด์วิชเต็มอีกแว้ววว คิกคิก)
ขอบคุณ เซ็งเป็ด ที่ทำให้เรารู้จักกัน
ขอบคุณ เพื่อน สำหรับการติดตาม และมิตรภาพดีๆ
ขอบคุณครับ
o1
-
พึ่งมาอ่านทีหลัง ตามอ่านตั้งแต่หน้า1ยันหน้า30 ปวดตา...มึนหิว..
สนุกมากๆเลยค่ะ ชอบทุกตอนเลยจริงๆ เราหวิดๆน้ำตาไหลไปหลายตอนเหมือนกันแฮะ
ขอบคุณท่เอาเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่านนะคะ :m1:
-
..........จบได้น่ารักมากมาย....... :o8: :o8:
..........ขอบคุณ คุณ Sorrow และพี่พูห์.... o13 o13
-
อ๊ากสสสสสสสสสสสสสสสสส พาไปเปิดตัวแล้ว
คิดถึงสิงห์จังเลย
อ่านแล้วอยากจะลอยเข้าไปในนิยาย
อยากเห็นหน้าสิงห์จังเยย
ตรูบ้าไปแว้ว
:m29: :m29: :m29:
-
:m28:
เอ้อ ....
เค้าก็ว่าเค้าอ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบอ่ะนะ
ติดตามตาหลอด แต่ .........
ป้อมเนี่ย คือใครมาจากไหน โผล่มาได้ไงอ่ะ
หรือว่าผ่านหน้ากล้องตั้งแต่ตอนแรก ๆ :m28: :m28:
งงจริง ๆ นะ
-
ง๋า จบแล้วเหรอ ทำไมช่วงนี้มีคนมาจบนิยายกันเยอะจังเลย อ่ะ TT^TT
อาราย อาราย มีเรื่องของวิงด้วยเหรออ่ะ ท่านพี่ที่เลิฟจะเอามาต่อให้ไหมคร๊าบบบบบ
:m13: :m13: :m13: :m13: :m13: :m13: :m13: :m13: ท่านพี่จะเอามาใช่ไหม ช่ายหม้าย~~~~~*
-
:impress:
มาตอกย้ำความประทับใจให้อีก
ขอบอกว่าเรื่องนี้ประทับใจมากมาย
แล้วก็จะรออ่านเรื่องต่อ ๆ ไปด้วยครับ
o15
-
จะน่ารักกันไปถึงหน้ายยยย อิๆ :a6: :a6: :a6:
-
:m3: :m3: :m3:
จบแบบมีความสุข น่าร๊ากกกจังเลย อิอิ ชอบๆๆ
ขอบคุนนะค้าบบ สำหรับเรื่องดีๆๆ
ชอบจังๆๆ
:m18: :m18: :m18:
-
:m10:
จบแล้วมาหลายรอบ แต่ไม่เป็นไร น่ารักอย่างเนี้ยยย ให้อภัยยยย จบได้ใจมากกกก
มีตัวตนกันจริง ๆ ก็คงดี จะได้ประกาศให้โลกรู้ว่ารักแท้ยังมีในหมู่เกย์.... :a2:
-
:o8: ชอบจังเลย ขอบคุณมากนะ :o8:
-
อ่านเรื่องนี้มาเป็นรอบที่ 4 แล้วคับตั้งแต่โพสครั้งแรกที่บอร์ดอื่น
อ่านแล้วรุสึกดีอย่างบอกไม่ถูก
ขอบคุณพี่ Sorrow อีกทีคับ
เมื่อไรจะหางี้ได้มั่งฟะตรู
-
:m28:
เอ้อ ....
เค้าก็ว่าเค้าอ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบอ่ะนะ
ติดตามตาหลอด แต่ .........
ป้อมเนี่ย คือใครมาจากไหน โผล่มาได้ไงอ่ะ
หรือว่าผ่านหน้ากล้องตั้งแต่ตอนแรก ๆ :m28: :m28:
งงจริง ๆ นะ
อ่านเรื่องนี้มาเป็นรอบที่ 4 แล้วคับตั้งแต่โพสครั้งแรกที่บอร์ดอื่น
อ่านแล้วรุสึกดีอย่างบอกไม่ถูก
ขอบคุณพี่ Sorrow อีกทีคับ
เมื่อไรจะหางี้ได้มั่งฟะตรู
เออ.... ถ้างั้นคุณ piercepearce ช่วยให้ความกระจ่างเรื่องป้อมหน่อยได้มั๊ยครับ 555+ o17 ตอนนี้งงๆเหมือนกัน ยังไม่อยากต้องกลับไปอ่านใหม่ตั้งกะต้นอ่ะ :try2:
-
ป้อมคือเพื่อนของวิงอ่ะคับ
นึกถึงฉากที่ วิงนั่งดูมือถือของตัวเองที่ริมสระน้ำอยู่คนเดียว
แล้วมีเพื่อนเข้ามาทำท่าจะแย่งมือถือไป แล้วบ่นว่าทำไมวิงชอบใช้เพลงอกหัก
ขยายอีก คนที่ทำตัวเป็นเด็กเกเพราะจะได้ประชดพ่อแม่ที่เข้าใจตัวเองผิดอ่ะ
นึกออกกันยังป่าวเอ่ย :m13:
-
:o
อ๋อออออออออออออออออออ
ป้อมเคยผ่านหน้ากล้องจริง ๆ ด้วย
:m1:
จริง ๆ แล้วก็นึกถึงฉากนี้เหมือนกัน แต่ก็นึกชื่อไม่ออก นึกว่าไม่ได้บอกชื่อซะอีก :try2:
-
:m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
วิงของป๋ม
-
ขออ่านตอนของ วิง ทีเถอะพี่ซอ รอมานานแล้วจะ :m5: :m5: :m5:
-
ขอบคุณมากค่ะ :a11: :a11: :a11: :a11:
อยากอ่านตอนวิงต่ออ่ะ :impress: :impress: :impress:
-
ขอตอนวิงด้วยคับ
-
แอบมาดู o17
-
ป้อมคือเพื่อนของวิงอ่ะคับ
นึกถึงฉากที่ วิงนั่งดูมือถือของตัวเองที่ริมสระน้ำอยู่คนเดียว
แล้วมีเพื่อนเข้ามาทำท่าจะแย่งมือถือไป แล้วบ่นว่าทำไมวิงชอบใช้เพลงอกหัก
ขยายอีก คนที่ทำตัวเป็นเด็กเกเพราะจะได้ประชดพ่อแม่ที่เข้าใจตัวเองผิดอ่ะ
นึกออกกันยังป่าวเอ่ย :m13:
:o อ๋อ ด้วยอีกคนครับ :m23: แหะๆ คนนั้นชื่อป้อมใช่มะ ลืม ..... แบบนึกว่าจะเป็นตัวประกอบเดินผ่านกล้องเฉยๆเลยไม่ได้เมมไว้
ว่าแต่.... ไหนๆก็เหมือนจะให้ความสำคัญแล้ว ท่าทางจะเตรียมการไว้เรื่องต่อไปด้วย ก็เอามาลงเร็วๆเลยละกันนะครับ ป้อมกะวิง อ่ะ คึคึ
-
o13 รอตอนของวิงครับ
-
:m23:
เพิ่งมาอ่านตอนพิเศษอ่ะคับ..
:m3: ต้นกะกริช..ก็น่ารักดีคับ.. รักกันนานๆนะ..เหอๆ.. :m11:
ว่าแต่จะมีตอนของวิงด้วยเรอะคับ.. :m28:
:m4: ไงก็มาต่อละกันนะคับ ^^
รออยู่เสมอ... :m18:
-
o1
สวัสดีครับทุกท่าน ขอโทษครับไม่ได้มาตอบ พอดีไปต่างจังหวัดหลายวันเลยครับ ขอบคุณแฟนๆ นิยายทุกๆ ท่านเลยครับที่ติดตามและให้กำลังใจมาโดยตลอด
นิยายเรื่องนี้ออกจะย้อนยุคแปลกๆ สักหน่อยนะครับเพราะระบบสอบเทียบนี่เลิกใช้ไปเกือบสิบปีแล้ว.....ไม่มีีใครเอะใจเลยเหรอ?
สงสัยแฟนนิยายที่นี่คงอายุพอๆ กับผม o17
จริงๆ คือไม่เข้าใจระบบ O-net A-net เลยเอาระบบสมัยเรียนมัธยมมาใช้ครับ :m23: (เขารู้อายุเราแล้วสิ!) เขียนไปก็นึกถึงสมัยมัธยม.....โมจิที่เขายัดใส่มือตอนพักกลางวัน.....ช่วงเวลาที่ซ้อมบาสเก็ตบอลด้วยกันตอนเย็น
....วันที่ขาเจ็บแต่ไม่เจียมดันจะลงแข่งต่อ :laugh:
มุขในเรื่องก็มาจากช่วงเวลานั้นเกือบทั้งหมดครับ กังวลนิดๆ ว่าจะมีใครเข้าใจมุขไหมหนอ? เรื่องจะแรงเกินไปหรือเปล่าหว่า? จะทำเด็กใจแตกไหมเนี่ย? แล้วตำรวจจะจับผมเข้าคุกไหมนะ? แต่พอเห็นรีพลายจากผู้อ่านก็มีกำลังใจเขียนมาเรื่อยๆ จนจบ เป็นเวลาร่วมสามเดือนที่ลงในเว็บบอร์ดแห่งแรก (แต่ตอนนี้เว็บเขาปิดไปละครับ) นับถึงวันนี้ก็ครบรอบ 1 ปีละครับ ขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจจากใจจริงของผมครับ .....ตั้งใจจะคุยกับทุกท่านเยอะๆ นะครับแต่ผมเขียนไม่เก่งเลย เชื่อมั๊ยเนี่ยว่ารีพลายนี้เขียนอยู่สามชม. :m23:
จากนี้ไปผมคงไม่มีเวลาเขียนนิยายแล้วล่ะครับเนื่องจากมีภารกิจยุ่งๆ หลายอย่างในชีวิต (แต่หัวจายยางว่างนะครับ :o8:) ท้ายสุดแต่ไม่สุดท้ายผมเอาเพลงประกอบนิยายมาให้ทุกท่านครับ
OST: ผมไม่ใช่เด็กขายน้ำโว้ย!
1. เล่นของสูง: Big Ass (http://images.nednatee.multiply.com/song/1/2/full/U2FsdGVkX18qgFAcL9BPR2UzcUjqbyHQ8pNDwnDDkCjJIKghyNbStg==/เล่นของสูง.MP3)
2. ใจเย็น: Pancake (http://images.nednatee.multiply.com/song/1/3/full/U2FsdGVkX18qgFAcL9BPR2UzcUjqbyHQO09vtw0XndP0W7yWKGSRFA==/ใจเย็น.MP3)
3. Time In A Bottle: Jim Croce (http://images.nednatee.multiply.com/song/1/4/full/U2FsdGVkX18qgFAcL9BPR2UzcUjqbyHQzMwGXw.2Mcc,JD5IR,8QLg==/Time%20In%20A%20Bottle.MP3)
4. เจ้าเรือใบ: ชีพชนก ศรียามาตย์ (http://images.nednatee.multiply.com/song/1/5/full/U2FsdGVkX18qgFAcL9BPR2UzcUjqbyHQeH8YVnpqS,eIquSNaGMNiQ==/เจ้าเรือใบ.MP3)
5. เก็บตะวัน: อิทธิ พลางกูร (http://images.nednatee.multiply.com/song/1/6/full/U2FsdGVkX18qgFAcL9BPR2UzcUjqbyHQ1abqgBsWHLgjKT9YRHs8vQ==/เก็บตะวัน.mp3)
6. Bizarre Love Triangle: remixed โดยสมเกียรติ อริยชัยพาณิชย์) (http://images.nednatee.multiply.com/song/1/7/full/U2FsdGVkX18qgFAcL9BPR2UzcUjqbyHQ,T3WLRvLmOil4DJ82qafdA==/Bizarre%20Love%20Triangle.MP3)
7. ได้ไหมถ้าฉันจะบอกว่ารักเธอ: ลิเดีย (http://images.nednatee.multiply.com/song/1/8/full/U2FsdGVkX18qgFAcL9BPR2UzcUjqbyHQ2nplJiDXAOEhUfEcRrQRfw==/ได้ไหมถ้าฉันจะบอกว่ารักเธอ.mp3)
8. แสนรัก: ดนุพล แก้วกาญจน์ (http://images.nednatee.multiply.com/song/1/9/full/U2FsdGVkX18qgFAcL9BPR2UzcUjqbyHQ.AAcbxIuDU.EP1o6Uja5fQ==/แสนรัก.mp3)
-
แต่หัวจายยางว่างนะครับ - - เจงดิ คริ คริ :a10:
-
เข้ามาเป็นกำลังใจให้คุณsorrow มีผลงานดีๆออกมาให้เราชื่นชมกันอีก เรื่องสอบเทียบไม่อยากจะบอกว่าทันยุคนั้นเหมือนกัน o17
ขอบคุณสำหรับเพลงเพราะๆจ้า o1
-
เข้ามาอ่าน ม้วนเดียวจบเลยคร้า
ซึ้ง เศร้า ฮา ได้ทุกอารมณ์จริงๆเลยคะ
ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกเลยยยยยยยยยยยย
ปล.มีตอนพิเศษของ วิงอะป่าวเอ่ย
:m1: :m3: :m4: o14 :o8: o13 :m18: :give2: o17
-
ขอบพระคุณมากๆนะครับเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกครับที่มาอ่านในเล้าเป็ดแห่งน้อ่านแล้วลุ้นสุดใจขาดดิ้นเลยครับบางทีก็สงสารนายเอกของเรานะครับไงก็เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ :o12:
-
เข้ามาขอบคุณ sorrow อีกครั้ง o15 o15
นิยายเรื่องนี้ชอบมาก ๆ เลย ไม่อยากจะบอกว่าเก็ทเกือบทุกมุข สงสัยจะอยู่ในยุคเดียวกัน
สมัยนั้นก็บ้าเห่อสอบเทียบเหมือนกัน (แต่โง่อ่ะ สอบไม่ผ่าน)
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทุกเรื่องนะคะ o14 o14
-
ขอบคุณ Sorrow อีกครั้งนะครับ
ตีลังกายันว่า จะรอเรื่องใหม่ของ Sorrow นะครับ
เอาให้แก่ตายไปข้างหนึ่ง
:m23:
-
ผมไม่ได้เกิดยุคนั้นแต่ก็พอรุ้อ่ะครับ ว่าสมัยก่อนเขามีสอบเทียบแบบนี้ เลยไม่ได้เอะใจ
แต่มุขอ่ะ บางมุขก็ไม่เก็ทเหมือนกาน สงสัยผมจาโง่แฮะ :m23:
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้พี่ซอและพี่พูห์นะครับ ไว้สร้างสรรค์ผลงานดีๆแบบนี้มาให้อ่านอีกนะครับ :m1:
-
เรื่องสนุกมากเลยนะ o13
เออ...คือว่าเห็นเรื่องนี้ในเว็บเด็กดีด้วยล่ะ
ไม่ทราบว่ารู้รึเปล่า ถ้าคุณเอาไปลงเองก็ขอโทษด้วย แต่ถ้าไม่ได้เอาไปลง ก็แสดงว่ามีคนก๊อปไปลงแล้วล่ะ
มาบอกให้ทราบ
http://my.dek-d.com/Writer/story/view.php?id=340164 ตามลิ้งค์นี้นะ
-
..........เข้ามาขอบคุณ คุณ Sorrow คับ......
..........แล้วจะรอเรื่องใหม่นะคับ......... o15 o14
-
เข้ามาบอกว่าอ่านจบแล้ว
จะรอเรื่องใหม่ด้วยคนนะคะ
เราก็เป็นช่วงเดียวกับสอบเทียบและสอบโควต้าเหมือนกันค่ะ
-
ขอบคุน คุณ Sorrow นะค้าบบ
ผมชอบเรื่องนี้มาก เป็นเรื่องในดวงใจอีกหนึ่งเรื่อง อิอิ
-
ขอถามหน่อยค่ะ..คุณSorrow มันข้องใจอ่ะค่ะ
1.ตอนที่วิงรู้ว่าต้นกับกริชคบกันนั้น วิงเห็น 2 คนนี้ไปเที่ยวด้วยกันที่ไหนหรอค่ะ??
2.แล้วตอบจบ ที่พี่สิงห์ขอคุยกับต้น....พี่สิงห์คุยอะไรกับต้นหรอค่ะ ไม่เห็นเฉลยให้รู้เลยค่ะ???
(ก็ห้ามบอกกริช ..แต่ไม่ได้ห้ามบอกนักอ่านนะค่ะ)
เดาไว้ว่า พี่สิงห์บอกให้ต้นดูแลกริชใช่ไหมค่ะ
เพราะสิงห์เคยสัญญาว่าจะดูแลกริช ตอนที่เริ่มมาเรียนด้วยกัน เลยมอบหมายให้ต้นคนเป็นดูแลต่อใช่ไหมค่ะ?
3.ตอนที่สิงห์บอกกับกริชว่า ทำแฟนท้องอ่ะ...เห็นบรรยายว่าสิงห์กับกริชนอนกอดกัน
แล้วเขาได้กันหรือเปล่าค่ะ ...สงสัยมากเลยค่ะ
แค่ 3 ข้อที่อยากทราบค่ะ ...มันคาใจมากเลย..ช่วยเฉลยคำตอบหน่อยนะค่ะ..จะมารอคำตอบทุกวันเลยค่ะ :m5:
ที่สำคัญขอบคุณมากนะค่ะ ..ที่เขียนเรื่องดีๆ อ่านแล้วประทับใจมากเลยค่ะ..คิดจะทำเป็นหนังสือไหมบ้างไหมค่ะ...อยากบอกว่าสนใจอยากจะซื้อค่ะ :m13:
-
โย่ว มีเวลาว่าง
ก็ถือว่ามาพักผ่อน แต่งนิยายให้อ่านอีกนะครับ
คิกคิก
:m18: :m18: :m18:
-
อ่านตามมาทันจนจบตั้งนานแล้วคับ แต่ยังไม่ได้ post ขอบคุงเลย
งั้นก้อขอโพสขอบคุงคุณ sorrow อย่างเป็นทางการ (ส่วนตัวของผม) เลยแล้วกันนะคับ
อยากบอกว่า ชอบเรื่องนี้มาก ๆ ถึงม้ากมาก และมากที่ซู้ดดดดดคับ
-
มาบอกว่า
เอ่อ.... คนเขียนอายุมากกว่าเราอีก
5555
-
สวัสดีคับ รายงานตัวหน่อยนะ อิอิ :m23:
ผม TaWaN_kUnG นะครับ :m17:
ก็อ่านนิยายเรื่องนี้มา นานมากหละ ชอบมาก พอดีได้ไปอ่านในเว็ป จีมูป ที่โดนปิดไปนานหละอะครับ :m26:
ก็มีโปรเจค ทำหนังสือ นิยายเรื่องนี้ เหมือนตัวอย่างที่พี่ Sorrow เอามาลงให้ดู ผมเลยเอารูปมาลงให้เพื่อนๆดู อีกหน่อยอะ
อิอิ :m3:
(http://www.googeb.com/images/klz1191857805y.jpg)
หน้าปกครับ อย่างที่บอก ขอไม่ใส่ชื่ออะครับกลัว หลุด อิอิ
(http://www.googeb.com/images/klz1191860113q.jpg)
เอาไปห่อ ปกใส ครับ ที่จริงสีสดก่านี้ อิอิ
(http://www.googeb.com/images/bwy1191857859r.jpg)
รูปตัวหละครในอิมเมจของผมอะครับ อาจจะไม่เหมือนคนอื่นน้า แต่เอาไว้ให้เพื่อนมีอิมเมจใกล้ๆกัน
(http://www.googeb.com/images/bwy1191857887d.jpg)
หุหุ เลื่อกเอารูปหวานๆ ใส่ตอนที่ซึ้งๆ
(http://www.googeb.com/images/rgh1191857922o.jpg)
นี้ก็ด้วย
(http://www.googeb.com/images/viu1191857949f.jpg)
มีการ์ตูนด้วย น่ารักมะครับ อิอิ
(http://www.googeb.com/images/jdv1191857975m.jpg)
นี้ไง ป้อม ในอิมเมจ ขอยืม อาร์ตี้ มาเป็นแบบ
(http://www.googeb.com/images/jdv1191858055s.jpg)
ปกหลัง ขอมีส่วร่วม ใส่ชื่อผมลงไปด้วย ทำนานมากกกกกก สองสามอาทิตย์ได้
(http://www.googeb.com/images/viu1191858124f.jpg)
หนาปะครับ อิอิ เห็นแล้วมีความสุข ที่ทำสำเร็จ ตอนนี้ เพื่อนยืมอ่าน เวียนกัน รอบห้องอะครับ
เหมือนตอนที่ผมอ่านเลย หัวเราะคนเดียว จนเพื่อนที่มันไม่ได้อ่านหาว่าบ้า แต่พอมันมาอ่าน
ก็อาการเดียวกันหละหว๊า..... :m14:
อิอิ
:m3:
(http://www.googeb.com/images/klz1191859495c.jpg)
อันนี้เป็นรูปเมื่อปีที่แล้วครับ กำลังติดนิยายเรื่องนี้เลยคับ พอดีแม่จะไปเที่ยวทะเล
กัวไม่ได้อ่าน เลยปริ้นไปอ่านครับ ปึกหนาขนาดนั้นอะ
พออ่านจบ น้องสาวบอกว่า มันสนุกมากเหรอ เห็นนั้งหัวเราะคนเดียว ผมก็เลย เอาให้มันอ่านด้วย
สรุปว่าติด เหมือนกาน เค้าไปเล่นน้ำ มันนั้งอ่านอยูคนเดียว ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
อิอิ
เห้นมีคนรักคนชอบ ผมก็รู้สึกดีใจครับ แม้ว่าผมจะไม่ได้แต่ง สเหล่อกะเค้าด้วย
ทุกวันนี้เสียงเรียกเค้าโทรศัพท์ผม ก็ยังเป็นเพลงเก่าที่วิงค์เคยใช้อะครับ อิอิ อินจัด
:m18:
ยังไงถ้ามีภาคต่อก็จะมาอ่านนะครับอิอิ ไปหละ
(http://www.googeb.com/images/rgh1191859854o.jpg)
-
เห็นรูปเล่มแล้ว..น่าอ่านมากเลย....อยากยืมอ่านบ้างอ่ะ..... :m5:
คุณSorrow ไม่ทำรูปเล่มหรอค่ะ... :m15:
อยากอ่านอ่ะ....... :m3:
-
o1 o1เย้...จบอีกเรื่องละครับ o1 o1 o1
o7 o7 o7
-
มีคำถาม..ถามไว้ที่หน้า 31 ค่ะคุณSorrow..อย่าลืมเข้ามาตอบให้หายข้องใจนะค่ะ
หรือใครทราบก็ตอบแทนได้นะค่ะ...ขอบคุณล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
:m5: o1 o15
-
tawan_kung ทำสวยจังคับ รูปการ์ตูนนี่วาดเองป่าว? เก่งมากเลยน้าค้าบบ o13 .... ผมว่ไอเดียดีนะ ที่หน้าปกไม่ส่ออะไรมาก ... ผมเห็นหนังสือในท้องตลาดตอนนี้นะ ถ้าไม่ใช่ว่ามีรูปผู้ชาย 2 คน(หรือมากกว่า)มากอดมาจูบกันนะ ก็ต้องมี text ตัวใหญ่ๆประมาณ GAY Story, GAY Diary ..... แบบว่า ....นะ ..... กรูจะกล้าหยิบกล้าซื้อกล้าเดินถืออ่านไปมามั๊ยอ่ะ o7 แล้วแถมถ้ากล้าซื้อแล้วเอามาอ่านในบ้านนะ วางๆไว้เผลอๆเดี๋ยวที่บ้านเห็นก็ ... นะ .... จะพูดอะไรยังไงอ่ะ :m29:
คุณ sorrow จะทำรวมเล่มมั๊ยหล่ะ? :m12: เดี๋ยวช่วยตรวจ อิอิ :a10:
-
น้องตะวันครับ
พี่อยากได้อะ
ขอขอขอขอ
o11 o11 o11 o11 o11 o11
ขอบคุณ แทน คุณ Sorrow นะครับ
มีคนรักมากมาย
อิจฉาวุ้ย
:m14: :m14: :m14:
-
สวยมากๆครับ ดีจังเลยที่ครอบครัวและเพื่อนๆรู้หมดเลย แถมยอมรับกับเรื่องแบบนี้อีก
เป็นแฟนพันธุ์แท้พี่ซอเลยนี่นา :m17:
ชอบมากครับ อยากอ่านตอนของวิงอ่ะครับ พี่ซอว่าไงครับ :m13:
-
สวยมากๆครับ
ดีจังเลยที่ครอบครัวและเพื่อนๆรู้หมดเลย แถมยอมรับกับเรื่องแบบนี้อีก
เป็นแฟนพันธุ์แท้พี่ซอเลยนี่นา :m17:
ชอบมากครับ อยากอ่านตอนของวิงอ่ะครับ พี่ซอว่าไงครับ :m13:
ดีใจกะตะวันนะ ที่มีคนรอบตัวดีและเข้าใจแบบเนี้ย ... :m4: .... อยากอ่านตอนต่อของวิงเช่นกันนะคร้าบบบ วิงของผม :m1:
-
แหงะ อยากได้มั่งอ่ะคับ จะมีขายไหมอ่ะ :m17: :m17:
ถ้ามีก็ดีดิคับ ไว้จะแวะมาดูบ่อยๆนะคับ
-
:o8: สวัสดีค๊าฟ :m4:
ผมเองก็ดีจัยเหมือนกันครับ ที่ทุกคนรอบๆตัวผม เค้ารับในสิ่งที่ผมเป็นได้ แต่ก็ต้องใช้เวลาคับ
(วันที่บอกแม่ว่าเป็น... แม่ร้องไห้เลย กอดกันร้องไห้ o7 :m13:ผมหละโคตรรักแม่เลย )
วันนี้เอารูปหน้าปกมาให้ดู พร้อมคอนเซ็ป :m23:
(http://www.googeb.com/images/bfi1191930688m.jpg)
ดูหน้าปกก็รู้ว่าผม เชียร์ใคร
ปีกกางเต็มหน้าเลยครับ อุทิตให้กับความเสียสละของวิง :m1:
อิอิ :m3:(พอเพื่อนอ่านจบ มาเเย่งกันเป็นวิงอะ มันจะเป็ววิง ผมก็จะเป็น สรุปว่า เป่ายิ้งฉุบ :o12:ผมแพ้อะเหอะๆ)
พื้นหลังนะครับ อิมเมจได้มาจาก ครั้งแต่ที่ เจอกันของสองคนอะครับ วันผนตก ข้างถนน หลบฝน
ก็เลย เอา เป็นรูปข้างถนนจิงๆเลยอะครับ แต่ผมไม่ได้ถ่ายเองนะ แฮพ คนอื่นมา
หละก็ลูกบาศ ต้นกะเม้งเล่นบาศ ก็เลยเอาใส่ (พี่Sorrowเค้าแนะนำอะครับ)
เพื่อนบอก :m26:
ดูหน้าปกเหมือนหนังสือ ฆาตกรรม หรือไม่ก็ สหยองขวัญ :m29:
พี่ Sorrow ยังบอกเลย
อิอิ
ปล. รูปนิยาย อยู่ หน้า 31 นะครับ เพื่อใครยังไม่เห็น อิอิ
-
ทำซะสวยเลย
เอิ๊กๆ ของเราทำเองยังไม่สวยขนาดนี้เลย
-
แวะมาเยี่ยมครับ
จะอ่านให้จบเลย :a9:แปะไว้ก่อนนะ
-
คุณ BlueWizard ค้าบ วิงอ่ะ ของผมนะครับ ไม่ใช่ของพี่ อิอิ (เราเถียงกันไม่ได้หรอกคับ แฟนคลับวิงเยอะ เหอๆ)
ผมก็คิดอยู่นะครับว่าหน้าปกมันเหมือนนิยายสยองขวัญ แต่ผมก็ชอบเพราะว่าผมชอบนิยายแนวๆนี้อยู่แล้วครับ
โทนที่ให้ ไม่ค่อยเข้ากะ LOve Story เลย แต่อยากบอกว่า อาร์ทมากครับ สวยมากๆ
คงจะดีไม่น้อยเลยครับ ถ้าที่บ้านจะยอมรับและเข้าใจ แต่ก็นะ ผมเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจตัวเองอยู่เหมือนกัน เหอๆ
คุณ tawan_kung ในเล่มนั้นมีภาคพิเศษของวิงด้วยป่าวครับ ถ้ามีรบกวนเอามาลงให้อ่านกันมั่งจิครับ นะคร๊าบบบ
:m1: :m1: :m1:
-
:m22:เพิ่งเข้าเล้าเปิดมาคับ
ก้อเร่งตะลุยอ่าน ไปหลายเรื่องแล้ว
จนมาเรื่องนี้คับ หนุกหนานๆคับ
ขอบคุณ Sorrow ที่เอาเรื่องดีๆมาให้อ่านคับ
แล้วก้อคุณ tawan_kung ที่เอารูปแบบเล่มมาทำ
ดูแล้ว คล้ายๆ เรื่อง "โอ้ อลิส "(Go Ask Alice) เลยคับ สวยแปลกดี
เคยอ่านเรื่องนี้อีกเวบนึง(จำมะด้ายแว้ว) ....แต่อ่านไม่จบ
จนได้มาอ่านในเล้าเป็ดนี้ ขอบคุณมากๆ......
คุณ Sorrow ว่างจิงป่าว :m12:...... งั้นเจอกันหน่อยเป็นงัย...คริคริ :laugh:
ปายล่ะ อ่านจบแระ....จะได้ตลุยเรื่องต่อคร้าบบบบบบบบบบบ :m7:
-
ครบหนึ่งปีจิงเหรอคับ
ผมก็แก่ไปอีกปีแล้วดิ 555 ผมจำไม่ได้ว่าผมเริ่มอ่านเรื่องของพี่ sorrow ตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่ผมก็ติดใจตั้งแต่เมื่อนั้น ผมจำได้ว่า ผมไม่ได้เริ่มอ่านจากเว็บนี้อะคับ สงสัยไปอ่านเว็บที่ปิดตัวไปแล้ว
ตอนนั้นผมเซฟเก็บไว้ใน word เอาไว้อ่านตอนว่างๆ เซฟจนแอบลืมไปบ้าง
แต่ตอนนี้ก็อ่านจบเป็นที่เรียบร้อยแล้วคับ
ดูเหมือนว่า เรื่องนี้มันยังไม่จบใช่ไหมคับ เพราะว่า วิง ยังไม่สมบูรณ์ในเนื้อเรื่องเท่าไหร่
ดูเหมือนว่า วิงจะไปคู่กับคนที่ชอบหาเรื่องวิงใช่ไหมคับ ผมคิดว่านะ
ถ้า พี่ sorrow จะทำรูปเล่มขายก็ดีนะคับ รวมๆกับนักเขียนท่านอื่นด้วยไงคับ
จัดเป็นบริษัททำหนังสือ ก็ดีเหมือนกันนะคับ
เพราะว่ามีหลายเรื่องเลย
แล้วคุณตะวันคุง ก็ทำปกได้เยี่ยมเลยคับ เพราะปกไม่ส่อแววลามกเลย ใครเห็นก็ไม่รู้ว่าข้างในเป็นเรื่องของเกย์ น่าสนใจดีคับ
ขอบคุณคับที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่านคับ แล้วผมจะติดตามผมงานของพี่ต่อไปคับ
-
ว๊าวววว 1ปีและเหรอ จำได้ว่าครั้งแรกที่อ่านรู้สึกจะอ่านที่ กูซ่า นะ หุหุ
มาแฮบปี้เบิดเดย์ เรื่องนี้ย้อยหลังหน่อยงับ อิอิ
:m3: :m3: :m3: :m3:
-
ว้าว สวยน่าอ่านจัง มีรูปให้จิ้นด้วย
:m11: :m11:
-
1 ปีแล้วหรอเนี่ย กับเรื่องนี้
จำได้ว่าตอนเข้าไปใน เว็บ จี-มูฟ ครั้งแรกก็อ่านเรื่องนี้แหละเรื่องแรก
แต่ตอนนั้นพี่ ซอ ก็เขียนจบแล้วแหละ แต่ก็ยังเข้ามาทักทายคนอ่านอยู่
ใช่เวลาอ่านอยู่ 3 วันกว่าจะอ่านจบ เรื่องแรกในชีวิตเลย
อ่านเสร็จซึมอยู่ 3-4 วัน ไม่รู้ทำไม แล้วก็โพส ให้เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก
ฝากเพลง หวั่นไหว ของ Bodyslam ไว้ให้ป้อม(เพื่อพี่จะเขียนเรื่อง วิงกับป้อมต่อ)
แล้วก็อีก2-3 เพลงแล้วพี่ก็ได้ส่งขอความมาขอบคุณด้วย ไม่รู้พี่จำได้หรือเปล่า
แต่ผมจำได้นะ :m23:
1ปีแล้วอะไรเปลี่ยนไปมากมายจริงๆ เว็บนั้นปิดไปแล้ว แอบใจหายอยู่เหมือนกัน
แต่ก็ดีใจที่ยังเจอเรื่องนี้ที่นี้ เรื่องนี้จะอยู่ในความทรงจำของผมครับ
:bye2: :bye2: :bye2:
-
เงี่ยบเหงาชอบกล อาโหลลลลลลลล :a4:
วันนี้เอารูป ตะหละคร ที่เอาลงในเล่มมาให้ดู ไม่รู้ว่าจะเหมือนที่เพื่อนๆคิดไว้ป่าวนะ ลองดู
แต่รอแปปนะครับ กำลังแต่รูป เอารูปรถ ที่ต้นอยากได้ไปดูก่อน อิอิ
(http://www.googeb.com/images/arx1192220112d.jpg)
ได้หละครับ
(http://www.googeb.com/images/viu1192219628d.jpg)
คิดว่าไงครับ
อย่าปล่อยให้กระทูร้าง จิ สงสาร วิง 555
-
:o8:
กริชยังไม่ล่ำโดนใจเหมือนในเรื่องเท่าไร แต่หน้าตาอ่ะได้อยู่....ต้นน่ารักมากกก...ชอบบบบ
วิงดูกวน ๆ ไปหน่อย ไม่ค่อยเศร้า...ป้อม....จากหน้าก่อนนี้น่ารักกกกกกก และเม้ง...พอได้ :m4:
เห็นภาพแล้วจินตนาการบรรเจิดดดดด....คิดถึงในเรื่องแล้ววววววว..... :m10:
น่ารักมากมายยย ถูกใจทีเดียวววว และขอแสดงความยินดีกับครบรอบ 1 ปีด้วยครับบบบบบ :a1:
-
หวาดดเด ค้าบ ผมพึ่งจาเข้ามาในบอร์ดนี้มะนานอ่ะนะ
หลังจากที่อ่านเรื่องของเพ่ เตอิ้ง (บ้านพักอลเวงอ่ะ) ก็มาอ่านเรื่องนี้ต่อเรย
อยากจะบอกว่าชอบมั่กค้าบ ตอนแรกๆที่อ่านจบก็กะจะผ่านๆไปแต่คิดอีกที พี่เขาอุตส่าห์ ลงเรื่องดีๆ(55+)ให้ เรยอยากขอบคุณซักหน่อย อิอิ
แต่งได้ดีมากเรยคับ ความจิงเคยอ่านมาก่อนแล้วล่ะ จากบอร์ดอื่น แต่คนลงเขาค้างๆคาๆไว้แล้วก็หาย(หัว)ไปเรย เซงงงงมั่กตอนนั้น พอมาอ่านอีกทีเรยติดตามงอมแงม เนี่ยไล่อ่านมาทั้งวันตั้งกะเช้า (หุหุ)
มีคำถามด้วยคับ คือ วิงอ่ะ เป็นไงต่อ อยากรุมั่กๆๆ แต่งตอนพิเศษให้ด้วยน้าค้าบบบ
เป็งกำลังใจให้อีกคนค้าบบ ^^
-
รูปที่ตะวันคุงมาลงให้ดูชอบมากๆเลยยยยย :m3: กริชก็ชอบ ต้นก็ชอบ คนอื่นก็กวนๆดีทั้งวิงทั้งเม้งทั้งป้อมเลย .... สรุป ได้ใครเป็นแฟนก็เอา :m11: คิคิคิ
รอเรื่องวิงมาต่อเหมือนกันนะค้าบบบบ o13
-
สนุกดีอ่า .. ชอบๆ :m1:
อยากให้มีภาคของวิงต่อด้วยอ่า ยังลุ้นๆอยู่ ว่าจะลงเอยแบบไหน
มาต่อหน่อยนะค้าบบบ ... :m5:
-
:a2:
รู้ไหมคับเรื่องนี้เปนเรื่องเเรกที่ผมอ่านเลยนะขอรับ หุหุ อยากฝากบอกว่าเเต่งเก่งมากเลยครับโดยเฉพาะตอนที่บรรยายความฝันที่นั่งรดไปด้วยกาน ว้อย!!อ่านเเล้วนึกว่าความคิดตัวเองไปอยู่ในนี้ได้ไงหว่า.....สักวันผมก้อคงได้ไปสุ่ดินเเดนอันเเสนไกลนะขอรับ
เเล้วก้อฝากอุทิศเพลงนี้ไห้ต้นกริชเลยครับ
There's nothing I could say to you
Nothing I could ever do to make you see
What you mean to me
All the pain, the tears I cried
Still you never said goodbye and now I know
How far you'd go
http://www.uploadtoday.com/download/?4a2798c5be957acb6035311e4f062b34
เพลง i will be ของ avril ขอรับเนื้อหาเหมาะกับเรื่องนี้มากมาย ไปโหลดฟังกานนะค้าบ
เเล้วก้อเปนกามลางใจให้นะค้าบ ยอดมากเลยที่กล้าพูดในสิ่งที่เป็นขอรับ
caribbean_yeti_qeeอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com >>> มาขอเพลงสากลหรือเเอดมาคุยเอ็มได้นะขอรับ
o13
-
อยากให้ต้นรักวิงอะT-T
-
เอารูปลงยังงัยอะ
http://www.dekbaba.com/upload/images/28092Untitled-2.jpg
-
สวัสดีครับ o1เพิ่งมาเป้นครั้งแรกครับ
ได้อ่านเรื่องของคุณ sorrowเปนเรื่องแรกรู้สึกสนุกมากครับ
จนผมตัดสินใจอะไรหลายๆอย่างได้ครับ o7 ขอบคุณมากครับ o1
-
Pocket Book งามมักๆครับรูปก็สวยอิๆชอบครับ :m24: :m24: :m24:
-
อ๊ากกก อ่านโต้รุ่งมากเลยอ่ะพี่เรื่องนี้...
อ่านตอนทุ่มนึงยันตี 2.... :a4:
หนุกมากๆ ชอบวิงสุดๆ เสียสละจังเลย....เเต่มีคนมาดามใจให้เเล้วนี้เน้อ ชอบๆ :a11:
อยากอ่านภาคต่อของวิงจังเลยอ่า รักวิงจังเลย...งี๊ดๆ :a3:
ชอบมากๆเลยค๊าบ :m4:
-
ไปค้นเพลงเก่าๆ มาฟัง พอดีไปเจอเพลง เดอะ วิงค์ ชื่อเดียวกับวิงเลยครับ
เป็นดนตรี บรรเลง ฟังแล้วได้อารมแบบว่า ตรงตามชื่อเลย
วิง แปลว่า ปีก อ่อนโอน แต่เข็มแข็ง ฟังกันๆๆๆ
The Wings
http://www.uploadtoday.com/download/?414f753a671a8233b0ac5ed3d17d6bd6
แล้วก็อีกเพลง ผมนั้งฟังเพลง อยากรู้แต่ไม่อยากถาม ไป แล้วนึกถึงนิยายเรื่องนี้มากๆ
ผมอยากให้เพื่อนๆเปิดเพลงนี้ไป แล้ว กลับไปอ่าน บทที่ 2 ตอนที่ 6 อีกครัง ตอน สิงห์ กับ กริช อะครับ เอาตอนที่ สิงห์กำลังบอกว่า กูเรียกมึงมาตลอด 5 ปี ........นะ ก็ เปิดเพลงเลย โคตรซึ้ง.....
(เพลงต้องเป็นเวอร์ชั้น ของหนังเรื่อง เพื่อนกูรักมึงหวะ นะครับ )
ใครที่ไม่มี โหลดได้เลยครับ แล้วจะอิน ถึงอารมเลย โคตรซึ้งงงง น้ำตาผมซึมเลยอhttp://www.uploadtoday.com/download/?3eebf45c5a5c6467a69ecad7d9c46f77
อยากรู้แต่ไม่อยากถาม
-
แวะมาเยี่ยมพี่ Sorrow ฮะ :a3:
ดูท่าแล้ว แฟน ๆ นิยายที่นี่ จะยังอินกันอยู่เลยนะเนี่ย หุหุ :m2:
-
กรี๊ดดดดดด!!!!!! ติดตามอ่านจนจบจนได้ o7
555+ สงสารวิงนิดๆ
อยากให้แต่งป้อมวิงต่อ o1
เพื่อนฝากบอกมาว่า ต้นเนี่ยเก่งจริงๆ o13
หลบได้ตลอดเลย 555+
-
สนุกมากเลยคับ มีทั้งเศร้าทั้งตลก ปนๆกันไป แต่งนิยายดีๆ อย่างนี้เยอะๆนะครับ :m4:
-
ดีใจจังเลยครับ
ถึงเรื่องจะจบไปแล้ว แต่เพื่อนๆ ยังแวะเวียนเข้ามาอยู่
ขอบคุณทุกๆ คนสำหรับการติดตามนะครับ
ขอบคุณคร้าบบบบบ
:a1:
-
ชอบเรื่องนี้จิงๆครับ อ่านกี่ครั้งก็ไม่เบื่อครับ
-
ประทับใจจริงๆครับ o13
-
:give2: :give2: :give2:
ประทับใจมิรู้ลืมจริง ๆๆๆๆๆ
-
ชอบเรื่องนี้มาก ๆ ๆ ๆ อ่านแล้วอ่านอีก แถมบ้าไล่ตามหาเพลงในเรื่องซะด้วย (เป็นเอามาก) ยังหาเพลง เจ้าเรือใบ ของชีพชนก ม่ายได้ แต่ สู้โว้ย!!! (ว่าแต่ใครเก็บไว้มั่งขอแบ่งหน่อยจิคับ link ที่มีก้อเน่าหมดแย้วอ่ะ)
-
:m1: :m1: :m1:
ผมอ่านเรื่องนี้มาจากบอร์ดเก่าอ่าคับ ประทับใจมั่ก ๆ
ชอบบบบบบบ อิอิ เราก็ทำเป้นเล่มนะ ยังสวยมะเท่าของนายเลย :mc1:
-
อ่านรวดเดียวจนจบ....
ชอบพี่กริชมากๆ :m1:(วิงมาทีหลังยังไม่เชียร์ :m21:)
ต้นเองก็หื่นได้ใจ... :a2:
ว่าแต่คำถามสามข้อที่มีคนเคยถามไว้เนี่ย...ไม่มีใครมาตอบหน่อยเหรอ...
สงสัยอยู่เหมือนกันครับ :m13:
-
อ่านจบแล้ว
ตอนจบ(รอบแรก - - เห็นจบหลายรอบ อิอิ) น้ำตาไหลเลยอ่ะ (เรามะได้ร้องไห้นะ มานไหลมาเอง)
สงสัยข้อความบนเฝือกต้นอ่ะ "หายเร็วๆนะ เด็กกรูเป็นห่วง(เอ๊ะ หรือว่า รออยู่ จำมะได้อ่ะ) "
ใครเขียนอ่ะ ป้อม อ่ะป่ะ อิอิ
-
เข้าบอร์ดนาน แล้ว ตอนนั้น ตามอ่านเรื่อง พี่รอยกะพี่สาม ...(แต่ไปอ่านจบจากพันทิพ) :m23:
หลังจากนั้นเข้ามาบ่อยๆ แต่ เห็นเรื่องต่อยาวๆ แล้วอ่านไม่ไหว กลัวติด.
วันนี้ตื่นมา ตีสอง ..
อ่านรวดเดียว ถึง เจ็ดโมงเช้า..
ชอบบบบบบบบบบบบบบบ :oni2:
ัตัวละครในเรื่องชอบหมดเลย .. :m1:
ต้นรั่วได้ใจมาก เวลาอยู่กะเพื่อน
ส่วนเม้งก็เป็นเพื่อนที่แสนดีจริง
กริชก็ โคตรน่ารักเลย ...
วิงก็น่ารัก ... :m1:
ชอบมากค่ะ ...
สนุกมากกกก...
ขอบคุณที่ให้ได้อ่านเรื่องดีดี สนุกๆ ค่ะ :pig4:
-
สวัสดีครับมิตรรักแฟนนิยายทุกท่าน วันนี้เอาเพลงตามคำขอมาให้นะครับ
เจ้าเรือใบ: ชีพชนก ศรียามาตย์
http://www.uploadtoday.com/download/?b09e938356cc4f2683465db900ede282 :d1:
-
เย้... :m4: ขอบคุณคับคุณ Sorrow :pig4: o13
ในที่สุดก็ได้เพลงครบซะที เพลงเจ้าเรือใบนี่หายากมากมายเลย :d1:
-
สวัสดีครับมิตรรักแฟนนิยายทุกท่าน วันนี้เอาเพลงตามคำขอมาให้นะครับ
คิดถึงSorrowค้าบบบบ
จุ๊ฟๆๆ
:จุ๊บๆ:
-
:mc2:
ขอบคุณกับเรื่องดีๆ น่ารักๆ นะครับ เคยอ่านมนปาล์ม แต่ก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าอ่านจบรึเปล่า และก็ข้ามตอนไปบ้าง เลยเหมือนกับกลับมาอ่านใหม่อีกรอบ
คาดว่าน่าจะถูกใจวัย 70's นะครับ อิอิ เพราะแต่ละมุข แต่ละเพลง อุอุ ทั้งนั้น
อยากอ่านตอนของวิงกะป้อมเหมือนกัน ถ้ามีแล้วก็ช่วยทำลิงก์ให้ด้วยนะครับ
ว่าแต่ 3 คำถามนั้น จริงๆ มันก็พอมีคำตอบนะครับ (แต่รอเจ้าของเรื่องตอบเองดีกว่านะ .... แต่ไม่ตอบอาจจะดีกว่าเพราะว่าเป็นส่วนที่ไว้ให้คิดเองเป็นพื้นที่จินตนาการของนักอ่าน)
-
มาอ่านรวดเดียวจบ ขอบอกว่าประทับใจสุดๆเลยครับ กรี๊ด ขอบคุณมากครับที่พี่อุตส่าห์แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่าน ขอบคุณจริงนะครับ o7
-
เข้ามาแว้บดูแฟนของคุณซอ.. คับคั่งๆ :mc4:
เป็นกำลังใจให้คุณซอแต่งเรื่องมาให้อ่านเรื่อยๆนะคับผม :m4:
...
หนังสือของคุงตะวันก็น่ารักกกกก :m1:
-
สมาชิกใหม่ ... เพิ่งจะเข้ามาอ่านครับ...
ตอนนี้ก็ กำลังอ่านอยู่ ตอน กลางๆ เรื่องแล้วล่ะครับ...
ชอบการวางโครงเรื่อง มากๆ เลย ...
ขอบคุณ คุณ Sorrow มากๆ เลยครับ ที่แต่งเรื่องนี้ให้ได้ อ่าน ซึ้งๆ แก้เหงา ไปพลางๆ และก็ ขอบคุณ คุณJunrai_Hyper ด้วย ที่นำเรื่องนี้ มาให้อ่านกันครับ...หลังจากที่ เว็บ จีมุฟ ปิดไป...
และก็ ขอ แสดงความยินดีด้วยนะครับ ที่ เรื่องนี้ ครบรอบ 1 ปี ไปแล้ว... ดันกันต่อไปครับ...เรื่องนี้ สุดยอดดดดดด
-
:m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:สมบูรณ์แบบจริงๆ
-
อ่านจบแล้วเย้เย้2วันเต็มๆเรยสนุกมากเรย
ครบ1ปีแล้วดีใจด้วยนะครับอ่านเรื่องนี้แล้วชอบมากๆเลยหละครับจะรอติดตามเรื่องต่อๆไปนะครับ
:mc4: :mc4:
-
อ่านรวดเดียวจบ หนุกคับๆ :m4:
-
สนุกดีครับ ได้ทุกอารมณ์เรยยย :m1: :m20: :sad2: :o8: :m15: :m4:
-
แหะ แหะ
สวัสดี สวีดัส ส ส
จะบอกว่า
ใช้เวลาอ่านตั้งแต่เมื่อวานแร้วคับ บ บ
อ่าน พรวด ด ด ด
ยาวมากมา ย ยย
คุน sorrow แต่งเรื่องหนุกมากงับ บ
เร้ย ชักอยากรู้จัก รร ชายล้วนแห่งนี้ ๆๆ
เหมือนเดา ๆๆ ได้
5 5 5 5
หนังสือ อยากได้ ไว้ครอบครองมากมาย ยย
ให้ แต๊ง เปง ต้นหรือคับ บ บ
น่ารักดีน่ะ
ส่วน เม้ง เนี่ย ยย
ในเรื่องไม่เหงบอกเร้ย ย
ว่า หล่อ ขนาดนี้
5 5 5
วิง ต้องหน้า เส้าก่านี้น่ะคับ บ
ออกแนว กวน . . .
คิคิ
ส่วนพี่กริช โอเร้ย ย คับ บ
รวม ๆ แร้ว ว
รัก คนเขียน คนทำหนังสสือมากมาย ย
สุดย๊อดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!
มีภาค มหาลัย ??
จะดีมากคับ บ
5 5 5
หนัง จบ อารมไม่จบ บ บ
:m4:
-
รวดเดียวจบจุใจมากครับ
สนุกมากมายครับครบทุกอารมณ์
(ถึงแม้ช่วงเวลาจะไม่ค่อยจะตรงกันทั้งเรื่องเพลงกับอย่างที่คนเขียนเค้าบอก
เรื่องสอบเทียบแหละแต่ก็รวมๆทุกอย่างแล้ว....ชอบมากครับ :o8:)
ขอบคุณทั้งคนเขียนและคนโพสนะครับที่ทำให้ผมได้มีโอกาสได้อ่านนิยายนี้ :pig4:
หนังสือรูปเล่มน่าอ่านมากเลยครับ ^^
ปล.รูปจิ้นของ กฤช นี่ ตัวจริงเราเดินสวนที่มหาลัย(บ่อยมาก) ที่จำได้เพราะ เค้าหล่อ(มาก) :o8:
ถึงแม้บางทีเค้าจะเดินกับแฟนก็ตาม :m15:
-
:o8: แวะมาดูความเป็นไป เอิ๊กกกกกกกก
คิดถึงทุกคนครับ
-
สวัสดีค่ะ เพิ่งเข้ามาอ่านคะ :o8: เคยอ่านที่เด็กดีมาก่อนแต่ไม่จบ เล่นซะเสียน้ำตา :m15: ขอบคุณนะคะที่เอามาให้อ่านจนจบ :m13: ในที่สุดก็จบก็จบอย่างมีความสุข o7 หลังจากลุ้นซะตัวโก่ง :m1: 55 นายแน่มาก o13 o13
-
:m1: เนื้อเรื่องนี้น่ารักดีครับ ผมชอบมากเลย
ส่วนรูปตัวละครอะ ok. เลยครับ (ต้นน่ารักมากกก)
ขอโทดนะครับที่ คอมเม้นท์ ช้าอะครับ เพิ่งอ่านจบ
-
เรื่องนี้สุดๆคับมีแต่ความลับอ่านมาจน 20 กว่าหน้ายังเดาเรื่องไม่ออกเลย
แต่รูป กริช เนี่ยในเข้ากันมากเลยในจินตนการเราก็คิดว่าน่าจะแบบนี้เป็นอะไรที่ลงตัว
แต่จบแฮปปี้เยี่ยมคร๊าบบบ o13
-
เคยมาอ่านครั้งนึงแล้วเหมือนไม่ชอบ วันนี้อะไรดลใจให้มาอ่านอีกน๊อ~
แต่ก็ดีใจที่ได้อ่าน ประทับใจในความเป็นคนดีของต้น ชอบความน่ารักของวิง :o8: แล้วก็อยากมีเพื่อนที่เข้าใจเราอย่างเม้ง
สนุกๆมากๆเลยค่ะ ปล่อยมุกได้อย่างสม่ำเสมอดีจัง อ่านแล้วนั่งยิ้มไม่หุบตั้งแต่ต้นเรื่องจนท้ายเรื่อง
นั่งอ่านตั้งแต่สี่ทุ่ม ปวดตาไปหมดแล้ว นั่งเกร็งเลยนึกว่าจะต้องตามกันอีกยาว ดีจริงๆที่กริชเข้าใจอะไรง่าย
-
:m4:
อ่านจบซักที สวัสดีเพื่อนๆทุกคน รวมทั้งคุณ sorrow นะคับ
จริงๆ เข้ามาบอร์ดนี้ได้ซักพัก ตอนแรกเห็นชื่อเรื่อง ก้อสะดุดเลยว่าจะอ่าน
แต่กว่าจะได้เริ่มอ่านก้อผ่านไปอาทิตย์นึง แถมเป็นช่วงงานยุ่งด้วย
เลยต้องแอบๆอ่านนิดนึง :m23:
พออ่านแล้วติดเลยคับ ลุ้นตลอดเลย
จะบอกว่าอ่านเรื่องนี้แล้วซึมที่บรรยากาศด้วยคับ
สถานที่ที่คุณ sorrow ใช้มันเหมือนโรงเรียนผมเป๊ะ
เวลาอ่านถึงตอนอยู่ที่โรงเรียนทีไร เลยเห็นภาพชัดเจนซะ
ไม่ว่าจะเป็น ศาลาหน้าโรงเรียน ตึก1 ห้องดนตรีชั้น3 ตึก11
"สระมรกต" สนามบาส โรงอาหาร คูน้ำ ห้องพยาบาล
และที่เห็นจะทำให้ผมเชื่อที่สุดคือ
"ผู้ชายติดเข็มสีทอง ผู้หญิงติดเข็มสีเงิน"
"ต้นไม้ประจำโรงเรียนคือต้นชมพูพันธุ์ทิพย์"
แต่อาจไม่ใช่อย่างที่คิดก้อได้นะคับ ผมอาจเพ้อไปก้อได้ :o8:
ยังไงก้อขอขอบคุณอีกครั้งที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมาคับ ทำให้คิดถึงสมัยที่เรีนม.ปลายเลย
และรักครั้งแรกผมก้ออยู่ที่ ม.ปลายนี่แหละ :c5:
ถ้ามีผลงานใหม่ๆ มา จะคอยติดตามนะค้าบบบบบ
-
ตามอ่านมาก็หลายเรื่องแระครับ แต่นี่เป็นเรื่องแรกเลยที่ผมขอคอมเมนต์หั้ย น่ารักครับ อยากบอกว่าเนื้อเรื่องน่ารักมาก ๆๆ ๆ (แบบอ่านมาหลายเรื่องมีแต่เศร้าเคล้าน้ำตา :o12:) พอเจอเรื่องนี้ออกแนวน่ารักๆ กวนๆ มีซึ้งๆบ้างชอบใจครับ อิอิ ว่าแต่เมื่อไรจะถึงเรื่องของ วิงมั่งอ่ะครับ รอตามอยุ่นะเนี่ย (ที่รักผมเลยวิงเนี่ย :L1:) แล้วก็ขอบคุณคนโพส คนแต่งด้วยนะครับ ที่นำเรื่องดีๆอย่างนี้มาให้อ่าน ขอบคุณค้าบบบ
-
เคยอ่านที่ไหนซักที่ (แต่ไม่จบอะคับ) :o12:
จนได้ลิงค์จากที่ไหนอีกสักที่เหมือนกัน
รวดเดียวจบ (สองวัน) :L1:
สุดยอดคร๊าบ
ดีใจมาก ที่ได้อ่านจนจบ
-
ชอบมากเลยคับผม
อ่าน3รอบแล้วก็ยังไม่เบื่อ
ขอบคุณคนเขียนที่เขียนเรื่องดีๆแบบนี้มาห้อ่านนะคับ
แล้วก็ขอบคุณคนโพสด้วยนะคับ แหะๆ
ต้นกับพี่กริชน่ารักมากๆเลยคับ
วิงก็น่ารัก ขอสมัครเป็นแฟนคลับวิงด้วยคนได้ป่าวคับ :o8:
รักเรื่องนี้ที่สุดเลยคับ ชอบมากๆเลยคับผมไม่เคยอ่านนิยายไหนที่ดีขนาดนี้เลยคับ
ขอบคุณมากๆเลยคับ เป็นกำลังใจให้คับผม
-
:m4: :m4:
ชอบตัวละครทุกตัวค่ะ ส่วนรูปได้ใจสุด ๆ กริซหล่อมั่ก มาก
ต้น น่ารักสุด ๆ ชอบวิงผู้เสียสละ เม้งเพื่อนผู้แสนดี
ขอบคุณคุณโซโลนะคะที่แต่งเรื่องดี ๆ มาให้อ่านกัน
อ่านจบไป 2 รอบแล้วอ่ะ
อยากรู้เหมือนกันว่าข้อความบนเฝือกอ่ะ ของใคร
แล้ววิงจะเป็นไงต่อ เม้งอีกคน แต่งต่อก็ดีนะ คริคริ
o13 o13
-
ผมอ่านเรื่องนี้มาจากเว็บอื่น แต่เว็บนั้นก็มีลิงค์มาที่เว็บนี้ เรื่องเป็นที่ผมชอบมากๆ อ่านแล้วสนุกดี ได้ข้อคิดอะไรบ้าง แล้วยังให้กำลังใจผมอีก อยากให้พี่sorrowเขียนเรื่องดีๆแบบนี้อีก (ภาคต่อของเรื่องนี้ได้ยิ่งดีเลย) ขอบคุณมากๆเลยที่เขียนเรื่องรักดีๆให้อ่าน
หนังสือที่พี่ตะวันทำ น่าอ่านมากๆเลย ถ้าว่างๆผมก็อยากทำบ้าง
อ่านเรื่องนี้แล้วอิจฉาต้นมากๆเลย (ก่อนหน้านี้อิจฉา เมฆ จาก เรื่อง เพื่อน... แต่ตอนนี้ก็ยังอิจฉาอยู่) มีทั้งเพื่อนที่ดี (ทั้งเม้งและก็วิง) และแฟนที่ดีอีก (อยากมีแฟนแบบกริชมากๆ)
สุดท้ายก็ขอบคุณพี่sorrowมากๆนะครับ และจะติดตามผลงานของพี่ต่อไป :bye2:
-
อ่านจบแล้ว เย้ o7 มีความสุขจิงๆที่ได้อ่านเรื่องนี้
คุณ sorrow เขียนเก่งมากเลยค่ะ ทั้ง สนุก เหงา เศร้า หื่น ลุ้นระทึก หลากอารมณ์มากมาย :laugh:
จะรอติดตามผลงานอีกนะคะ เห็นด้วยอย่างยิ่งถ้าจะทำภาคต่อ หรือทำภาควิงป้อมกะได้น้า
:m13:
-
เคยอ่านเมื่อนานมาแล้ว แต่..ไม่จบ ครั้งนี้เลยอ่านจนจบเลย 555+
อยากอ่าน ตอน ป้อม กับ วิง จัง ไปตกลงเป็นอะไรกันตอนไหนเนี๊ยะ ไม่มีบอกคนอื่นเลย :serius2:
-
เคยอ่านจบไปรอบนึงในบอร์ดปาล์ม
แต่มาอ่านจบอีกรอบนึงฮะ อิอิ
อ่านเรื่องนี้ยังไงๆก็อิ๊นอินอะ
ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกเลยฮะ
ขอบคุณคุณซอโร่นะฮะ สำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้
แต่ว่า...อยากอ่านเรื่องของนายวิงกับนายป้อมจริงๆนะฮะ
แต่งเถอะนะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม วิงป้อม
อยากอ่านมากจนเพี้ยนๆเลย ดูสิฮะ อิอิ
-
สนุกดีอะ
ชอบๆ
ชอบวิงมากๆๆเลยไม่รู้ทำไม
น่ารัก
อยากให้มีวิงกับป้อมค่ะ
เพลง bizarre love triangle เพราะมากๆเลย
หาโหลดไม่ได้เลย
อยากได้ TT
เป็นกำลังใจให้นะคะ
นิยายคุณสนุกมาก ^^
-
อ่านรวดเดียวจบเลยค่า
สนุกคอดๆ
ชอบๆๆๆๆๆ :o8:
แต่อยากรู้อ่ะว่า พี่สิงห์คุยอะไรกับต้นหรอ :m13:
:oni2: :oni2:
-
เพิ่งอ่านจบ สนุกๆๆมากๆๆเลย ชอบมาก อยากมีความรักบ้างจัง อิอิอิ
-
เพิ่งตามอ่านจนจบครับ
สนุกดีมากๆๆๆๆๆ มีเรื่องให้เดาเยอะ แต่ เดาไม่ถูก 5555
ชอบสำนวนและ ข้อคิดที่แฝงไว้ในเรื่องจัง
ชอบบรรยกาศความเป็นเพื่อนของเม้งกับต้นดีครับ
ชอบที่เม้งไม่ได้มีใจให้ต้นอีกคน..555
แถม มุขต่างๆนี่บอกอายุชัดเจน คงรุ่นๆกับผมแน่ๆ
เป็นกำลังใจให้เขียนอีกครับ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
เพิ่งอ่านรวดเดียวจบเก้าชั่วโมงพอดี
เลขสวยเลยอ่ะ
อ่านแล้วสนุกดี ช๊อบ ชอบ
:o8: :o8: :o8:กริชกับต้นน่ารักดีอ่ะ
ตอนที่หาของฝากมาให้ต้นนี้
อืม เข้าใจคิดนะ
ไปถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆมาให้
เก๋ดีอ่ะ :m13: :m13: :m13:
-
อ่านจบแล้วค่า ใช้เวลาอ่านนานมาก :m23:
สนุกมากเลยค่า มีทุกข์รสเลยนะเรื่องนี้ ตอนรู้ความหลังของกฤชเศร้ามากเลยค่า :sad2:
สงสารสุดๆ ตอนแรกเดาว่าสิงห์ตายด้วยอ่ะค่า :m13:
ต้นกับเม้งน่าร้ากกกกกกกกก :o8: ชอบมากมาย :oni2:
ขอบคุณคุณsorrow ที่แต่งเรื่องดีดีมาให้อ่าน สนุกมากๆๆๆ o1
-
เหมือนเปนโรงเรียนที่ผมเคยอยู่เลย
อ่านไปก้คิดถึงโรงเรียนจังเลย
ชีวิต ม.ปลาย มีความทรงจำที่ดีหลายอย่าเลย
ดีใจจังที่ได้อ่าน
-
น่ารักมากๆอ่ะคับเรื่องนี้ หุหุ
ชอบทุกตัวละครเลยอ่ะ น่ารักสุดๆ แต่อยากอ่านคู่ของวิงกับป้อมจังเลย :o8:
พี่กริชโรแมนติกมากอ่ะ ชอบๆๆๆๆ :o8: :o8:
ขอบคุณที่แต่งเรื่องนี้มาให้อ่านนะคับ o13
-
น่ารักมากคับ :m13: :m13: :m1: :m1:
ชอบจังเลย อ่านไปคิดไป o13 o13 o13 o13
-
ตามมาเม้นจร้า
ชอบมากมาย เขียนดีอะ o13
มีความสุขทุ้กวันนะคะ
:pig4:
-
ใครพอจะทราบไหมครับว่าเรื่องนี้มีภาคต่อหรอภาคพิเศษอะไรอีกหรือเปล่า
ไม่มีใครติดต่อคุณSorrowเอาไปทำภาพยนตร์หรือการ์ตูนบ้างหรอครับ
ผมขอเชียร์เรื่องนี้สุดๆเลยคับ อยากให้เรื่องนี้อยู่ในใจคนอ่านไปนานๆ
-
:o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
สนุกมากมายเลยงับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อ่านแบบรวดเดียวจบเลยง่า
มันมากมายๆๆๆๆๆๆ
:o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
-
ได้อ่านเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกๆ จากบอร์ดอื่น :m4: ยอมรับประทับใจมากๆ อ่านอีกครั้งก็ยังประทับใจ :m15:
เฮ้อ....อยากอ่านอีกจัง :m1: :oni2:
-
สนุกดีครับ o13
ขอบคุณครับ :seng2ped:
เป็นกำลังใจให้ครับ :L2:
-
:m1: เพิ่งมีโอกาสได้อ่านอ่าค้าบ ปลื้มๆ :m1:
ขอบคุณมากๆค๊าบ หวังว่าจามีผลงานให้ติดตามกันต่อไป :m4:
-
ขอบคุณครับ อ่านจบ สอง รอบแล้ว
ยิ่งอ่านยิ่งชอบ อ่านแล้วติด ชอบมาก ๆ เลย
อยากให้มีต่ออีกอยากอ่านต่อครับ
-
:a2:
เย้ๆๆๆๆๆๆ
อ่านอีกแล้วก็คิดถึงเหมือนเดิมครับ
o13
ขอบคุณนะคร้าบบบบบ
:กอด1:
-
:m1: :m1: :m1:
ผมอ่านเรื่องนี้มาจากบอร์ดเก่าอ่าคับ ประทับใจมั่ก ๆ
ชอบบบบบบบ อิอิ เราก็ทำเป้นเล่มนะ ยังสวยมะเท่าของนายเลย :mc1:
G-Move ป่ะ อิอิ
เราก็อ่านนะ
อ่านตอนพี่เค้าลงเรื่อยๆเลยอะ
ยังชอบอยู่เลย ชอบมากๆ เลยอะ
อยากมีรักแบบกริซกับต้นอะ รักกันดีจัง
อิจฉาเนอะ^^
-
ตามอ่านจนจบแล้วค้า :a2:
แอบบลุ้นจนตัวโก่ง ว่าเมือ่ไรจะบอก เมื่อไรจะพูด จะความแตกก่อนมั๊ย :a6:
ลุ้นทั้งเรื่องเลย555 แต่ก็สนุกมากๆเลยค่ะ อ่านรวดเดียวทั้งวัน :oni2:
อยากอ่านตอนของวิงแฮะ ดูท่าจะน่ารักไม่แพ้กัน :กอด1:
อิอิ สู้ค้า....... :m1:
-
อ่านแล้วน่ารักดีคับบ
แต่จบค้างไปหน่อยหน่ะ คนอ่านเลยอารมค้างไม่อยากไห้จบ
แต่ก้ขอบคุนที่เอานิยายดีๆแบบนี้มาลงไนเล้านะคับ
ไปนอนแระคับ ดึกมากมาย :a12:
-
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเหมือนกันคับ
เรยแบบว่า รวดเดียวจบเรย
วิง จะเจอรักครั้งใหม่มั้ยเอ๋ย???
-
ชอบมากๆเลยฮะ
สนุกสุดยอดไปเลย !
อยากรู้ว่า .. พี่สิงห์พูดอะไรกับต้นอ่า ?
อยากรู้ว่า .. วินเป็นยังไงต่อ ?
ว้าวๆ
ชอบมากเลยฮะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะฮะ ^^
-
ในที่สุดก็อ่านจบค่ะ เป็นเรื่องแรกที่อ่านจบไวอย่างนี้ o13สนุกสุดๆไปเลยค่ะ
อ่านจบแล้วก็ไม่อยากให้จบ ยังอยากรู้ว่าชีวิตหลังจากนี้ของกริชกับต้นจะเป็นยังไงต่อ น่าคิดเลยทีเดียว
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆอย่างนี้นะคะ
-
เคยอ่านจบไปแล้วครับที่บอร์ดปาล์ม :m23: :m23:
แต่เพิ่งได้อ่านตอนพิเศษครับ :a5: o13
อยากรู้เหมือนกันว่า 'พี่สิงห์' บอกอะไรกับ 'น้องต้น' :z1: :z1:
ขอบคุณ Sorrow มากนะครับ และจะติดตามผลงานต่อปายยยย :pig4:
-
ยกเป็นเรื่องโปรดในดวงใจเลบครับ
ขอบคุณครับ
-
:pig4:
ตอนที่กำลังโพสนี้ ดูจากเวลาแสดงว่าครบรอบ 2 ปีแล้วใช่มะเนี่ย
อ่านเรื่องนี้ด้วยความสุขมากมาย (อีกแล้วครับท่าน) จริงจริ๊ง..
ขอบคุณ คุณsorrow ที่แต่งเรื่องดีดีมาให้อ่าน :pig4:
ขอบคุณ คุณมู๋พูห์ ที่สละเวลามาโพส และยังมีรูปชุดนอนมาแถมให้ตอนจบ..ชอบอ่ะ :pig4:
น้องต้น...น่ารักเกินบรรยาย..อย่างี้นี่เล่า พี่กริชถึงโกรธไม่ลง.. :-[
กริช...มั่นคงในมิตรภาพของเพื่อน..แฟน..คนรัก...น้อง มาก ๆ น่ารักซะ :o8:
วิง...น่ารัก น่าเห็นใจสุด ๆ ดังนั้น..วิง+ป้อม..น่าจะได้มีโอกาสมาแสดงโชว์..บ้างนะ :n1:
เม้ง..พี่สิงห์...ทำให้เห็นบทบาทของคู่ พระ+นาย ชัดเจนขึ้น o13
ชอบนะครับ...สื่ออารมณ์ ของตัวละครได้อย่างกลมกลืน แนบเนียน และชัดเจน :z2:
มีฉาก..อิ อิ..ให้อ่าน ประปราย...แต่ก็เรียกเลือดลมให้เพลุ่งพล่านได้ไม่น้อย :oo1:อะจึ๊ยยย :haun4:
มีเรื่องอืนอีกมะเนี่ยจะได้ตามไปชื่นชมอีก 555... :m20:
ขอบคุณอีกครั้งครับสำหรับการนำเสนอเรื่องที่ดีแบบนี้ :pig4:
. :pig4: . :L1: . :pig4:
-
เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ
น่ารักมากมาย แอบอ่านแบบรวดเดียวจบเลย
ลุ้นว่าจะมี คู่วิง + ป้อม หรือเปล่าน๊า~
แล้วภาคมหา'ลัยของกริชกับต้นล่ะ อิ อิ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักๆ ที่นำมาให้อ่านค่ะ :L2:
http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V24BEEEP0&Autoplay=0
-
จบได้น่ารัก จิงๆๆ
ว๊ายๆๆๆ
เกือบแล้วไหมล่ะต้น
เกือบจะต้องร้องไห้ตลอดชีวิตแล้วไม๊ล่ะ
แต่สุดท้าย คู่กันก้อต้องคู่กัน o13
รักกันๆๆ :n1:
-
:กอด1: :กอด1:
เปนเรื่องในดวงใจเรยยย
อ่านตั้งแต่ในกูซ่า(ชื่อนี้ป่ะ ไม่มั้นใจ)
พอมาเจอที่นี่ก้อ่านอีก
อ่านกี่รอบก้ไม่เบื่อ^^
:impress2:
-
ขอบคุณมากๆเลยครับที่ทำให้ผมยิ้มได้อีกรอบ
อ่านจบรวดเดียวตั้งแต่เมื่อเย็น ตอนนี้ตีสองครึ่งพอดี เหอๆๆๆ
ยิ่งเห้นตัวละครในอิมเมจแล้วยิ่งชอบครับ จินตนาการตามได้สนุกมากๆ อิอิ
:pig4: :pig4:
-
เพิ่งได้มาอ่าน(เสียที)เพราะมีคนแนะนำมา ซูฮกค่ะ มุขต่างๆเราเก็ตหมดเลยอะ แสดงว่าเราก็รุ่นเดียวกับคนเขียน เอิ๊กๆ แต่เราเป็น ม.6 รุ่นแรกที่ใช้วิธีสอบสองครั้งละ จำได้ว่าตอนม.4 - 5 เพื่อนๆหลายคนไม่อยากโดนเอ็นท์ระบบใหม่เลยพากันหนีไปสอบเทียบตรึมเลย :undecided:
อ่านไปก็ลุ้นตามมากๆว่าต้นจะความแตกเมื่อไหร่ ตอนที่แข่งบาสแล้วต้นฝืนอยากแข่งต่อนี่แทบน้ำตาไหลตามเลย(แต่ทำมะได้ เพราะอ่านที่ออฟฟิศ) ชอบคาแรคเตอร์ต้นมากๆ ประทับใจสุดๆตอนที่กริชพาต้นมาคุยโทรศัพท์กับสิงห์ มันคงเป็นบรรยากาศที่เราเองยังบรรยายไม่ถูกเลยน่ะ
เสียดายนิดๆที่ไม่มีภาคต่อของวิงกับป้อม แต่นะ ป้อมถึงกับเรียกวิงว่า "เด็กของกู" ไปแล้ว แค่นี้ก็รู้แล้วละว่าหัวใจของวิงมีผู้รับช่วงดูแลแล้ว แถมท่าทางจะเซี้ยวน่าดู อิๆ
ขอบคุณคุณ Sorrow สำหรับเรื่องที่อบอุ่นหัวใจ และคุณพูห์ที่มาโพสต์นะคะ หลงรักเรื่องนี้เข้าแล้วละ :pig4: :pig4:
-
เคยได้อ่านจากบอร์ดเก่าเหมือนกันค่ะ
อ่านแล้ว ยิ้ม ชอบจัง
ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีดี
ให้กันนะคะ.. :L2:
+1 ตอบแทนจ้า
-
อ่านจบอีกรอบ ก็ยังสนุกเหมือนเดิมครับ
-
o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 :bye2:
-
ขอบคุณนะ นุกดีคิดถึงตอนเข้ากรุงเทพใหม่ ๆ แตกสาวใหม่ ๆ ติดเด็กขายใหม่ ๆ แต่ก็มีความสุขดี
ที่จริงเราก็มีเรื่องที่เคยเขียนแต่ไม่เข่าท่าเท่าไร
:pig4:
-
อ่านกี่ทีๆ ก็ปลื้ม :o8:
มีทั้งมุกฮา :laugh: ซึ้งน้ำตาเล็ด :sad4: พออ่านจบแล้วอยากกรี้ดดดด :m31:
ขอบอกว่าเรื่องนี้ติดตามมานาน ตั้งแต่บอร์ดเก่าเหมือนกัน
เป็นเรื่องแรกที่เปิดซิงเราจนติดนิยาย Y งอมแงม o18
อ่านกี่ทีๆ เป็นปลื้มอีก :-[
ขอบคุณ :call: สำหรับนิยายดีๆ o13
เราให้กำลังใจ สู้ต่อไป :mc4:
:bye2:
-
สนุกกกกกมากกกกกก
น่าเสียดายที่อ่านไปอ่านมา
สงสัยอ่านข้าม งง ว่าทำไมพี่วิงห์อยากได้เหรียญนะ ลืมอะ
เราอ่านข้ามไปรึป่าว 55555555 :impress2:
ยังไงก็ดีนะที่เข้าใจกันได้
า่วนข้อความในเฝือกนี่ น่าจะเป็นป้อมเขียน เด็กของป้อมก็คือ วิง เก่งช่ายมะหละ o18
ไปและ ไปและ แล้วเขียนเรื่องงสนกๆมาให้กันอีกนะ :bye2:
-
:z2: ในที่สุดก็อ่านจบ ภายใน 1 วัน
สนุกดีค่าาาาาาา :impress2:
อยากอ่านเรื่องต่อต่อไปจังเลย :z3:
-
อ่านจบแล้ว สนุกจัง
-
อยากอ่านตอนของวิงบ้างเหมือนกัน (รวมเม้งด้วยก็ได้ :laugh:)
ต้นน่ารักดี แสบมาก :กอด1:
-
เพิ่งเข้ามาอ่าน แต่ขอบอกว่าเยี่ยมจริงๆ o13
เรื่องนี้ทำเอาเมื่อคืนนอนซะตีสี่เลย
กริชน่ารักมากๆค่ะ
ยังดีที่เข้าใจ มีเหตุผล ไม่งี่เง่า
-
kawaii de su ne. น่ารักจังเลย :-[
มีแอบหื่นด้วย :m25:
อยากให้มีตอนต่อง่ะ อยากอ่านจิงงงงงงงงงงงงงงง :z3:
:man1: มากกกกกกกกกกกกกกก
-
:jul1: :o12: :sad4: o18 :laugh:
คิด ถึง เรื่องนี้จังเลยคร๊าฟฟ
มากๆๆ
-
:impress2:
รูปของผมไม่ขึ้นแล้วอะ
(http://www.uppicth.com/show.php?filex=a625c7c9e6567ba2d0f65282cbba6b0e.jpg)
(http://www.uppicth.com/show.php?filex=040b06ab25e579ac9a8ba70cd7b0cbd4.JPG)
(http://www.uppicth.com/show.php?filex=e6c66dcef8fb2c63ee7306a2ccb321df.JPG)
(http://www.uppicth.com/show.php?filex=53613c60a6cb3d14c21fc4ac9964316b.JPG)
(http://www.uppicth.com/show.php?filex=f2298298b0d9dba244ae7cc1511dca3b.JPG)
(http://www.uppicth.com/show.php?filex=cae95f6c4656baf3216f8ff52611dd88.JPG)
(http://www.uppicth.com/show.php?filex=424b1c668343b02750e4d6468b355273.JPG)
(http://www.uppicth.com/show.php?filex=8797286c517eb08e37f123a90fb56e1a.JPG)
(http://www.uppicth.com/show.php?filex=9515805a32aff30a7e319ce1d3a1e5ff.JPG)
-
ขอบคุงมากครับ สำหรับเรื่องนี้
สนุกมากครับ ตัวละคร น่ารักดีครับ :pig4: :pig4: :pig4:
-
ขอบอกว่าเรื่องนี้เคยอ่านเเล้วหนา
ม่วนมากๆๆ เลยอ่ะ
มีความสุขจริงๆเลย เเต่เเอบเศร้าตรงวิงอ่ะ โหะๆ
ปล. มาเป็นกำลังใจ ให้ คนเขียน คนเเต่ง คนโพสต์ เเละอิกมากมายยยย
:bye2: :bye2: :bye2: :bye2:
o13
-
o13
สนุกมากมายค่ะ ติดตามอ่านรวดเดียวจบ
แอบลุ้นเหมือนกันว่าพี่กริชจะจับได้ คอยลุ้นกะต้นตลอด
หัวใจอาจจะวายได้
แต่จบแบบแฮปปี้ ก้อดีค่ะ :กอด1:
แต่ก้ออยากรู้คำตอบ 3 ข้อ ที่มีคนโพส ไว้เหมือนกันอ่ะค่ะ
คุณsorrow จะมาตอบมั๊ยอ่ะ จิ้นเองไปแล้ว แต่อยากรู้ว่าตรงกะที่จิ้นไว้รึป่าว
อยากรู้ว่าพี่สิงห์ บอกไรกะต้นอ่ะ ไหนบอกจะไม่ค้างไง ทำให้ต้นเปลี่ยนใจได้
มันคืออะไรน๊า อยากรู้จัง มาต่อตอนพิเศษนะค่ะ อยากอ่านอีก
ไม่ก้อต่อภาค2 ภาคมหาลัย
-
ขอบคุณคร๊าบบบบบบบบบบ
แล้วสิงห์คุยไรกะต้นหว่า
5555555555
:z2:
-
จะบอกว่า เพิ่งเคยอ่าน ... เชยมากป่ะเนี่ย :z3:
อิอิ น่ารักดีน๊า ... ตอนที่แอบย่องเข้าไปค้นสมบัติกริช สุดยอดแห่งความน่าตื่นเต้นเลย
ครบรส เชียว เรื่องนี้ ... o13
-
เกือบ 6 ชม. มานั่งอ่าน (แอบหนีเล่นเกมส์ กะเอ็มด้วย)
สนุกมากเลย
นั่งอ่านจน ตี 2 แหะๆ ไรเนี่ยย ดึกแล้ว
สนุกจริงๆชอบมากๆเลย
แล้วเพลง Bizzare love triangle
อยากจะบอกว่า เพลงนี้เคยฟังชอบมาก (ตอนลุลามาร้อง)
แบบตอนเนื้อเพลงตอนแรกก็นึกไม่ออกหรอก แต่เห็นก็ลองร้องมั่วๆดู
ก็ไม่ได้สนอะไร พออ่านไปซักพัก บอกชื่อนี้ปุ๊ป :a5: รู้จักเลย
เวลานี้ฟังบ่อยมากเวลาว่าง ของที่ลุลาเอามาร้องด้วย สุดๆเลย ฟังแล้วไปจริงๆ
๕๕๕ งี้แหละ
-
TT
จะติดตามผลงาน ต่อไปนะครับ
ตอนนี้ยังไมได้อ่าน แต่เพื่อนแนะนำมาอ่าน
-
ขอบคุณค่ะ :call:
จะติดตามเรื่องต่อไปค่ะ :bye2:
-
ทั้งสนุก ทั้งเศร้า คละเคล้ากันไป ขอบคุณมากนะครับ
-
ชอบเรื่องนี้คับ อ่านแล้วมีความสุข :กอด1:
:bye2:
-
เพิ่งมีโอกาสได้ตามอ่านจนจบไปสดๆตะกี้นี้เลย อิๆ
สนุกสนานมากมาย
ที่สำคัญเวลาต้นอยู่กะกริชทีไรทำเอาลุ้นให้สารภาพความจริงทู๊กกกกกกที 555
ดีใจที่ตอนจบลงท้ายด้วยความสุขนะคะ
แอบอยากอ่านเวอร์ชั่นป้อม-วิงมั่งจัง อุอุ
-
เรื่องนี้หลายปีแล้วหรอเนี่ย
อยากรู้จักคนเขียนจังเลยคับ (อย่าคิดลึกนะ ฮาๆ)
รู้สึกชื่นชม แนวการเขียนมากๆ การใช้ภาษา
รู้สึกโดนมากมาย
มาบอกตอนนี้คุณ sorrow จะยังได้รับรู้อยู่ไหมนี่ ฮาๆ
-
:pig4: :pig4:ชอบเรื่องนี้ที่สุดชอบมาก :z3:
-
สนุกครับ Thanksssssssss
-
o13 o13 o13 o13 o13
สนุกมากจริงๆ ค่ะ ทุกตัวมีเอกลักษณ์ดี
ต้น ก็ชอบคิดเอง แต่ก็แคร์คนอื่นมากกกกก :L1:
กริช ก็ให้ความรู้สึกเป็นพี่ชาย อบอุ่น :L1:
เม้ง เป็นเพื่อนที่เข้าใจ :L1:
วิง น่ารัก แอบรัก และจริงใจ :L1:
:L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
ชอบพี่ต้อมอ่ะ อยากรู้ว่าต้นได้แนวความคิดเจ้าเล่ห์มาจากพี่คนนี้อ่ะป่าว
-
หวัดดีครับ
เข้ามาอ่านรอบที่ 3 แล้วเนี่ย ก็ยังชอบเหมือนเดิม อ่านจบ ภายใน2 วันเรยครับเนี่ย
มีครบทุกรสชาติจริงจริง
เคยอ่านเมื่อนานมาแล้วแต่ไม่คิดว่ากลับมาอ่านอีก กี่ทีก็ยังสนุกเหมือนเดิมเรยนะครับเนี่ย
ถั่ว
-
โคตรน่ารักเลยอะอิอิ :impress2: :impress2:
แต่ก็ลุ้นแทนต้นด้วยนะ :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ชอบจังอ่านแล้วเห็นภาพเลย
อ่านไปก็นึกไปพาลถึงที่ๆเคยเรียน คุ้นๆจังเลย
เวลาก็ใกล้ๆกันนะแต่ไม่รู้ว่าที่เดียวกันรึเปล่า
ชมพูพรรณทิพย์สัญลักษณ์ของโรงเรียน
สระมรกตด้วย
หลายๆอย่างมันคุ้นมากๆทำให้อ่านแล้วเห็นภาพชัดเจนเลยครับ
พูดแล้วนึกถึงความหลังจัง :z3: :z3:
แต่ยังไงก็น่ารักมากๆเลยนะคู่เนี้ย
หวังว่า.....
ต้นคงไม่ใช่กับกริชคงไม่ใช่คนที่ผมคิดหรอกนะครับ
เพราะถ้าใช่คงน่าสงสารแย่แน่ๆเลย :bye2:
-
o13 สนุกมากๆเลยค่ัะ อ่านแล้วลุ้นๆแทนต้นดี สนุกๆ
-
ไม่รู้อะไรดลใจให้นึกถึงเรื่องนี้
เลยกลับมาอ่านอีกรอบ ยังให้ความรู้สึกเหมือนอ่านครั้งแรกเลยอ่ะ
เห้อ เศร้า :(
-
อ่านจบแล้ว น่ารักมากครับ :impress2:
-
ชอบมากครับ
ชอบการดำเนินเรื่อง พระเอกทั้งสามคน
ชอบความอดทน เสียสละ
คอยอ่านผลงานเรื่องต่อไปครับ
-
น่าอ่าน
ติดตามเรื่อย.. :z2:
-
happy new year 2010
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ
-
อ่านจบแล้ว ใจหายจังค่ะ อยากอ่านต่อ
สนุกมากมาย
เพลงริงโทนของน้องวิงก็ชอบ ทำไมถึงหาเพลงได้เหมาะเจาะแบบนี้
เต็มสิบไปเลยค่ะ
:3123:
-
จบแล้ววววววววววววว
หลังจากนั่งลุ้นมานาน กว่าต้นจะเปิดปากบอกกริชไปได้
รออ่านผลงานเรื่องต่อไปค่ะ จะมีโอกาศไหมค่ะ
-
อ่านกี่ทีก้ต่อมน้ำตาแตก
ซึ้งจริงๆ
:o12: :o12: :o12:
-
จ้วงไว้ก่อน
:z13:
-
มาอ่านอีกรอบค่า พอดีเคยอ่านในเด็กดีมาแล้ว
อ่านกี่ทีๆ ก็ชอบจริงๆเลยนี้
เขียนได้เก่งมากๆเลยค่ะ โดยเฉพาะมุขฮาที่แทรกมาตลอดนี่สุดยอด 55+
แต่อ่านกี่รอบๆก็เชียร์ วิงต้น แฮะเรา 55555555555
-
ชอบ เรื่องนี้มากๆเลยน่ะครับ เนี่ย :3123:
อ่านมา2รอบแล้ว เป็นเรื่องที่ประทับใจจริงๆเลยน่ะครับ
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆแบบนี้น่ะครับ :bye2:
อ่านทีไรก็แอบน้ำตาซึม
-
กลับมาอ่านเรื่องนี้รอบที่สอง
เคยอ่านเมื่อนานมาแล้ว มาอ่านอีกทีก็สนุกมากๆ เหมือนเดิม
เป็นเรื่องที่ตลกแฝงความเศร้าเล็ก ๆ
ตามลุ้นน้องต้นตลอดเวลาเลย มาจะรอดหรือไม่รอด
แต่ชอบคนอย่างกฤช ที่สุดเลยอ่ะ แบบว่าดูอบอุ่นสุด ๆ เลย :-[
-
:o8: :o8: :o8:
มันจาเกิดขึ้นจริงไหมน่าเรื่องแบบนี้
ขอบคุณมากๆคับผม :bye2: :bye2:
-
ช๊อบบบบบ ชอบ....นั่งอ่านรวดเดียวจบ
ซึ่ง...กับ ฮ่าแตก ปนกันไป ฮ่า
:jul3:
ขอบคุณมากกกครับ สนุกจริงๆ :-[
-
อ่า ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ ภาษาสวยมาก อ่านเเล้วมีอารมณ์ร่วมตามไปเลย มีหลากอารมณ์จริงๆ
ขอบคุณผู้เขียน ผู้ลง ที่เอามาให้อ่านกันนะคะ
ครบรอบ1ปีเเล้ว ดีจัง
อยากให้มีภาคต่อจังเลยค่ะ :3123:
-
:sad4: อ่านจบแ้ล้วครับ เขียนได้ซึ่งจริงๆๆๆ ครับ
เป็นกำลังใจหัยสำหรับเรื่องอื่นด้วยน่ะครับ :z2:
จะติดตามไปทุกหนทุกแห่ง :z2:
ถ้าชีวิตเป็นเหมือนนิยายก็คงจะดีน่ะครับ :sad11:
ผมอ่านแล้วได้ข้อคิดเยอะน่ะ เช่น เราควรยินดีกับคนที่เรารัก แบบว่าเห็นคนที่เรารักมีความสุข
หรือว่า การเป็นเพื่อนนั้นมิตรภาพแล้วความสัมพันธ์นั้น ยาวนาน กว่าแบบแฟน
หรือว่า เป็นเพือนดีกว่าการเป็นแฟน :กอด1:
และตัวละคนในเรือ่งนั้น ตั้มน่ารัก เพราะ เป็นกำลังใจและคอยเติมเต็มส่วนที่ขาดให้กับกริซ
ส่วนเพื่อนตั้มก็น่ารักมากๆๆคอยเป็นกำลังใจหัยตั้ม ดูและซึ่งกันและกัน ไม่รังเกียจที่ตั้มเป็นแบบนี้
ส่วนตั้มเ้จ้าชู้ไปหน่อยแต่เป็น เรื่องปกติ ซึ่งผมก็เป็นเหมือนกัน เห็นใครน่ารักๆๆไ่ม่ได้หรอกขอบมอง :impress2:
55555 พูดไปเรื่อย มาคอมเม้ันแค่นี้แหละครับ บ๊ายๆๆๆๆ
-
ชอบค่ะ สนุกดี
-
อ่านกี่ทีๆ ก็ชอบจริงๆเลยนี้
เขียนได้เก่งมากๆเลย o13
-
ชอบเรื่องนี้มากอยากอ่านเรื่องวิงกับป้อมจังดูเหมาะสมกันดี
555
-
เย้...ในที่สุดก็อ่านจบ ผมใช้เวลาในก่อนอ่าน สองวัน เหอ ๆ เพราะว่าอ่านเฉพาะเวลาว่างอ่ะ(ส่วนมากว่างทั้งวัน)
ชอบนิยายเรื่องนี้มากเลยคับ เหอๆ ขอบคุณมากน่ะคับที่เอามาให้อ่าน แล้วจะมีนิยายมาให้อ่านอีกหรือเปล่าคับ
-
ชอบบบบบบบบบบบ อิอิ น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ
ตอนน้องต้นหนีพี่กริช ให้ความรู้สึกเหมือนหนังอินเดียเลย
ไม่น่าเชื่อว่าจะหนีพ้นได้ตั้งหลายเดือน เหอะ ๆ
แอบฮาตอนสารภาพผิดของน้องต้น น่ารักได้อีกอะ
ขอบคุณนะคะที่เอามาให้อ่านอีก
อยากอ่านภาคน้องวิงอะ อยากรู้น้องจะเจอรักแท้ของน้องแบบไหนกัน
-
ขอบคุณมากครับ
ครบทุกรสชาติ
o13
นี่แหละคับความรัก
ต้นน่ารักสุดเลย อยากทำอะไรๆเพื่อความรัก
สนุกมากครับ
คาระวะอีกที
o1
-
ชอบคู่สิงห์กริชสุดระ ความรักไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว คู่นี้แสดงให้เห็นได้จริงๆ
รองมาชอบป้อมวิง จะมีซักกี่คนที่ได้เจอคนที่มองเห็นตัวตนของเราจริงๆ
ชอบจ้ะ มีภาคต่อป้อมวิงมั้ยอ่า อยากอ่าน :m15:
-
ครั้งไหนๆๆ ก็เรียกน้ำตาตลอด
คนแต่งเก่งจังๆๆ
อิอิ
ท้อปในดวงใจเลยเรื่องนี้
เห้อๆๆๆ
คิดถึง
ไม่อยากให้จบเล้ยยย
ภาคต่อคงไม่มีแล้วเห้อ
:monkeysad:
เศร้าจัง
*-*
-
คู่หลักเค้า happy ไปแล้ว
แต่พี่คะ หาคู่ให้น้องวิงด้วยจิคะ เนอะ เนอะ :-[
-
Finished the whole story within 8.5 hours
Cannot stop reading ka..
Sanook & Narak dee
Thank you na ka
-
o13
ประทับใจในเรื่องราวครับ
มีให้ลุ้นตลอดเศร้ากะเยอะ จะร้องไห้
:sad4:
-
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนี้นะคะ :o8:
สนุกมากๆเลยค่ะ...ตามมาอ่านแบบรวดเดียวจบ
รู้สึกว่า ยังไม่อยากให้จบเลยค่ะ o13
:bye2:
-
อ่านจบใน 4.30 ชม. (แต่ชั้นไม่เคยอ่านเรื่องนี้มาก่อนเลยได้ไงนี่ ตั้ง 2-3ปี)
ได้เห็นพัฒนาการการเขียนของผู้แต่งอย่างมากเลยค่ะ ช่วงแรกสำนวนอาจดูแข็ง
แต่ช่วงหลัง คุณทำให้คนอื่นเชื่อ คล้อยตามตัวละครได้หมดเลย เนียนมาก o13
-
น่ารักมากมาย////รัก รัก รัก :-[ :-[
......เล่นของสูง....... :z1: :z1: :z1:
:n1:
-
จบภายในวันเดียวค่ะ
ดูเป็นเรื่องที่หวานๆขมๆ เหมือนจะแฮปปี้แอนดิ้ง แต่ก็ไม่ใช่
กล่มกล่อมมากเลยค่ะ
สงสารวิง แต่สงสารพี่สิงห์มากกว่า เห็นใจพี่กริช ส่วนน้องต้น ขอให้มีความสุขตลอดไปนะคะ น้องเม้งเองก็เป็นเพื่อนที่ดีจังเลย
-
คิดถึงเรื่องนี้...เข้ามาอ่านอีกครั้งก็ยังน่ารัก :L2:
-
ชอบเรื่องนี้จังเลยค่าาาาาา :m1:
รู้สึกว่าอ่านไปแล้วได้หลายอารมณ์ดีจังเลย
ฮาๆปนเขินๆ มีแอบวืดๆใจโหวงๆ แล้วก็แอบเศร้าบ้างอะไรบ้าง
อ่านเรื่องรักของเด็กๆแล้วหัวใจกระชุ่มกระชวยยังไงชอบกล อิอิ :-[
ขอบคุณมากนะคะ
ปล. ไม่มีภาคของ วิงกะป้อม เหรอคะ? อยากอ่านต่อจัง แหะๆ ><!
-
เพิ่งได้อ่านจนจบ เลยขอรีพลายซะหน่อย
ชอบน้องวิงมากมาย แต่ที่ปลื้มสุดคือ เม้ง
ช่างเป็นเพื่อนที่ดี เข้าอกเข้าใจ ห่วงใย ดูแล คอยช่วยเหลือน้องต้นได้ตลอด
แค่มีเพื่อนอย่างนี้ซักคน ก็รู้สึกเป็นบุญกะชีวิตนี้แล้วอ่ะนะ 55+
ขอบคุณที่นำนิยายดีๆอีกหนึ่งเรื่องมาแบ่งปันแก่ชาวเล้านะคะ
-
ขอบคุณมากมายครับ ตอนอ่านช่วงแรกๆกลัวแทบแย่ แบบไซโคไงก็ไม่รู้ คิดว่าต้นไปแอบรักกะผีซะแล้ว เฮ้อ คิดไปได้ h
แล้วอ่านๆไปก็กลัวว่าจะจบแบบเศร้าอีก เฮ้อ โชคดีนะที่จบแบบ happy ไม่งั้นคนอ่านอย่างผมเครียดตายเลย
ขอบคุณมากมายเลยครับ :L1:
-
เคยอ่านเรื่องนี้มาแล้วรอบนึงไม่กี่ปีก่อนล่ะคับ จำได้มาถึงตอนนี้เลย (อาจจะเพราะชื่อเรื่องเด่นด้วยล่ะคับ :teach:)
วันนี้นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ search หาเจอแล้วก็อ่านรวดเดียวจบเป็นรอบที่สอง
ชอบมากคับเรื่องนี้ highly recommend :give2:
-
เรื่องนี้เคยอ่านในเด็กดีเเล้ว
เพราะเรื่องนี้เเหละ (อีกเรื่อง Love sick ที่นี่ก็มี ของเค้าดีจริงจ้า)
กลายเป็นว่า เสพย์ติด กู่ไม่กลับเเล้ว 55+
-
:mc3: :mc2: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m1: :m1: :m1: :m1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อ่านรอบเดียวจบเลย
แต่อยากอ่าน วิง+ป้อมน่ะ ถ้ามีโอกาสจัดไปสักนิดนะค่ะ :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:
-
:monkeysad: อ่านเรื่องนี้มาหลายรอบแล้วเจ้าค่ะ
ชอบมากๆเลย ไดหลากหลายอารมมากๆ
เพราะต้องคอยลุ้นจนตัวโก่ง ว่าจะจับได้ตอนไหน
เคยแอบคิดว่าพี่กริชจะเป็นผีด้วยง่าาา
แต่สุดท้ายก็แฮปปี้แหละเน๊อะ
+1 ให้เลยเจ้าค่ะ :กอด1:
-
เพิ่งได้มาตามอ่านเรื่องนี้
สนุกมากๆเลยค่ะ อ่านยาวรวดจนมือเริ่มหงิกเพราะปล่อยเมาส์ไม่ได้ :laugh:
-
ชอบเรื่องนี้จัง o13
อ่านได้เรื่อยๆ
แถมสนุกอีก
เสียดายที่จบซะแล้ว
ขอบคุณสำหรับงานเขียนดีๆที่นำมาให้อ่านนะคับ
:pig4:
-
เขียนดีเลย o13 อยากอ่านต่อ
-
อ่านแล้วรู้สึกดีอ่ะ o13 o13 o13
-
โอย เคยอ่านแล้วแต่ก็ เพิ่งจะได้มาอ่านยันจบ :z3:
เขียนดีมาก น่าติดตาม .. แล้วก็ระทึก(เวลาที่ไอ้ต้นจะหนีเอาตัวรอดจากกริชน่ะ-*-)
โครงเรื่องก็ดี ความลื่นไหลของตัวละคร แล้วก็นิสัย ชอบมาก
ขอเป็นแฟนคลับเน้ :impress2:
-
สนุกมากๆเลยค่าาา ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ :m1:
เนื้อเรื่องน่าติดตามสุดๆ ความลับเยอะมากๆ เป็นเรื่องที่อ่านแล้วหยุดไม่ได้จริงๆ :-[
ชอบมากๆเลยค่าา ตัวละครน่ารัก :m3:
มีความลับจนถึงตอนจบเลยนะคะ o6
เรื่องที่ต้นคุยกับพี่สิงห์สุดท้ายก็ไม่มีทางรู้ :o11:
แต่ก็รักเรื่องนี้สุดๆไปเลยค่าาา อิอิ :yeb:
-
เรื่องนี้ทำใจหายใจคว่ำไปหลายรอบเรยนะเนี่ยะ
ลุ้นมากๆอ่า ต้นกะกริชเนี่ยะ :monkeysad: :monkeysad:
ดีจังที่ Happy ending ขอบคุณนะค๊าาา
-
เรื่องนี้ความลับเยอะมากๆเลย อ่านไปลุ้นไป 555
สุดท้ายยังมีความลับที่ต้นคุยกะสิงห์อีก :laugh:
ทั้งกริชและวิง น่าเชียร์ทั้งคู่เลยอะ ไม่อยากเลือกจริงๆ :-[
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุกๆนะคะ ชอบค่ะชอบ :pig4: :pig4:
-
อ่านแล้วชอบจังเลยค่ะ
อ่านแล้วหยุดไม่ได้ รวดเดียวจบเลย 55 :-[
ชอบเรื่องแนวนี้จังเลยค่ะ
แต่แบบนะ.. ลุ้นตัวโก่ง นึกว่าจะจบแบบไม่แฮปปี้ซะแล้ว
เราเสียวมากๆเลยอ่ะตอนที่กริชโกรธ :m15: ใจหายวูบ
แต่ในที่สุดก็คืนดีกันได้ ดีจังเลยน้า :o8:
สนุกมากๆเลยค่ะ ชอบมากๆเลย
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ :L2:
-
อ่านแล้วชอบบมากกก กริชน่ารักไปไหน เนี่ยยยย :impress2:
อ่านไปกดดันไป ฮ่าๆๆ สับสนวุ่ยวายแต่สุดท้ายก็แฮปปี้จนได้
ย้ำอีกครั้งว่ากริช น่ารักมว๊ากกกกกกกกกกกกก o18
-
:mc3: :mc3: Merry Christmas :mc3: :mc3:
กริช ต้น และไรเตอร์ คิดถึงเรื่องนี้จังเลยยยย :myeye:
-
:sad11: :sad11: :sad11:
อ่านอยู่หลายวัน กว่าจะจบ
บีบหัวใจน่าดูเลยครับ
เรื่องก็น่ารักดีครับ
คนแต่งก็ท่าทางจะน่ารักนะครับ
อิอิ
-
อ่านจบแล้ว.....
หนุกมากเลยค่ะ
ตื่นเต้นดี.......
อิอิ o18 o18
-
ยอดเยี่ยมงับเรื่องนี้ ขอบคุณที่นำเรื่องมาให้อ่าน :z2:
-
ขอบคุณมากๆครับผม ชอบมากครับ
-
ที่จริงเรื่องนี้เคยอ่านจากในเด็กดีไปแล้ว
แต่พอมาเจอที่นี่อีกก็อดไม่ได้ที่จะอ่านอีกรอบ 55+
ขอบคุณมากค่ะ
-
อยากให้เรื่องนี้ทำเป็นหนังสือด้วยจัง
เป็นเรื่องที่สนุกมากๆ
อ่านไม่สะดุดแม้แต่ตอนเดียวเลย o13
จะมีภาค2 หรือ ตอนพิเศษ ไหมคับ
-
คิดถึงสมัยตัวเองเอนทรานซ์เลยอ่า
เฮ้ย ตายล่ะ
เผลอตัวบอกอายุตัวเองไแล้ว
อิอิ
น่ารักดีครับ
ชอบน้องต้นนะ
ทุ่มเทเพื่อคนที่รักจนหมดได้ขนาดนี้
เรื่องราวของสองคนนี้ที่ผมชอบก็คือ
รักกันหลังจาก...แล้ว
+55
ไม่อยากบอกเลยว่าเหมือนตัวเองจัง
วุ้ยยย อยากจะอาย
แต่ทำไมไม่ได้
ขอบคุณนะครับ
ทั้งผู้แต่ง และก็คนโพสต์
ขอบคุณจริงๆๆๆๆ
ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ
แล้วจะรอเจอน้องวิงนะครับ
-
ชอบๆๆๆๆ...มากมาย...สุดท้ายก็เข้าใจกัน...และให้อภัย.....ถ้าบนโลกนี้มีคนรักแล้วเข้าใจกันเหมือนคู่นี้....โลกนี้คงสดสัยขึ้นเยอะเลยครับ
เสียด้ายที่ผมพึงมาอ่านตอนเรื่องจบแล้ว....ถ้าไม่งั้นก็คงมีเม้นของผมอยู่กับทุกตอนแน่ๆ.................
น่าเสียด้าย....อยากอ่านเรื่องวิงกะป้อม...โคตรๆครับ...พอจะเอามาให้อ่านได้อะ...แอบหวังนิดๆ...ว่าไรเตอร์จะใจดี......
o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :bye2:
คงคิดถึงแย่เลยอะ.... :monkeysad: :monkeysad:
-
เป็นการลวงหลอกที่ หวานหอม และขื่นขมที่สุด
การหลอกลวงแม้กระทั่งตัวเองเป็นเรื่องร้ายแรงของมนุษย์
แม้สุดท้ายความจริง จะกลับมาทำร้ายตัวเราก็ต้องยอมรับมันค่ะ
.
.
o13 เรื่องนี้เยี่ยมมากๆ เล่าเรื่องเนิบๆ กับเรื่องราวของความรักที่เกิดจากการลวงหลอก
ให้เราได้ตามอย่าง หงุดหงิดแล้ว ขัดใจว่าเมื่อไหร่จะกล้าบอกเสียที
ทั้งที่รู้ว่าการพูดความจริงเพียงน้อยนิดนั้นยากยิ่งกว่าเอ่ยคำเสแสร้ง
-
ไม่ว่าอ่านกี่รอบ ก็ประทับใจทุกรอบเลย ชอบทุกคนเลย น่าจะมีวิงป้อมเนอะ
-
สนุกสุโค่ยยยยยย o13
ส่วนตัวชอบความรักในโรงเรียน
แอบอยากรู้เหมือนกันว่า พอสองคนรู้ว่าอยู่โรงเรียนเดียว จะหวานกันขนาดไหนๆ ฮิๆ :L2:
ยังไงก็!! ติดตามต่อค่า~ :mc4:
-
โว้ยยยย ทนไม่ไหวแล้วโว้ยคืนเดียวอ่าน 20 หน้ารวด :really2:เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอ่านต่อนะคับ :bye2:
-
สนุกมากเลย
เราอ่านทั้งวันทั้งคืน
อ่านตั้งแต่สองทุ่ม
มาจบอีกที่เกือบเที่ยงวัน
เป็นเรื่องที่สนุกมาก
หยุดอ่านไม่ได้เลย
ประทับใจสุดเลย
-
อ่านจบแล้วคับผม อ่านจบนานแล้วคับแต่ก็อ่านความเห็นที่โพสไว้นานเป็นปี เฮ้อ เสียใจที่ผมมาอ่านเรื่องนี้ช้า เห็นมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วแต่ไม่เคยสนใจอ่าน :o12: ตอนนี้อ่านจบแล้วคับ จะบอกว่าอ่านจบแล้วผมไม่ร้องไห้เลย ไม่มีน้ำตาคลอเหมือนนิยายเรื่องอื่นๆที่เคยอ่าน แต่บอกได้คำเดียวคับ ผมชอบเรื่องนี้ที่สุดเลยคับ ของคุณไร้เต้อ คนโพส แล้วก็ทุกๆความเห็นนะคับ :bye2:
ปล. คห.บนเริ่มอ่านพร้อมๆผมเลย จบพร้อมกันด้วย :mc4:
-
อ่านมา3วันละ ตอนแรกว่าจะไม่อ่านเพราะชื่อเรื่องมันแรงเกิน
แต่พอได้มาอ่าน น่ารักง่า หลุดขำตั้งหลายรอบ แต่ก็ไม่เก็ตบางมุกนะ (คุณซอน่าจะอายุมากกว่าพี่เรา เพราะรุ่นพี่เรานี่สอบเทียบก็ต้องม.5 พวกม.4สอบไม่ได้
ชอบมุกแมวน้ำมากเลยอ่ะ หลุดหัวเราะหึหึตอนตี1 ดีนะน้องนอนหมดแล้ว ไม่งั้น หลอนแน่
เรื่องนี้ก็คงเป็นอีกเรื่องนึงที่เราจัดอันดับขึ้นแท่นให้เลย
ขอบคุณที่แต่งให้อ่าน
ขอบคุณที่โพสให้อ่านนะคะ
-
อ่านจบแล้ว :pig4:
สนุกปนเศร้า อ่านแล้วมีความสุข
อ่านแล้วไม่อยากหยุดเลย วันเดียวจบ o13
-
:o8: แฮ่ ยังอ่านไม่จบ
ง่วงนอนไม่ไหวแล้ววววววว
เดี๋ยวอ่านต่อนะคะ เริ่มต้นมาก็เข้าใจผิดกันซะแล้ว
โว้ววว พี่กริชกับน้องต้นจะเป็นไงต่อไป แฮ่~ อ่านต่อ
-
เพิ่งได้มีโอกาสมาอ่านเรื่องนี้ สนุมากค่ะ น่าติดตามในทุกๆตอนเลย
มุขขำๆที่ใช้เนี่ย อืม ก็นึกตามว่าเคยได้ยินที่ไหน หรือแม้แต่เพลงพี่แจ้ ...อืม ก็เคยฟัง
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆค่ะ o13
-
เรื่องนี้มาเติมเต็มความรู้สึกของการเปลี่ยนผ่านไปเป็นผู้ใหญ่ได้ดีจริงๆ
พวกเขาแต่ละคนทำเพื่อความฝันของตัวเอง เริ่มให้ความสำคัญกับหน้าที่และความรับผิดชอบ
รับเอาความรู้สึกของคนรักมาเป็นสิ่งสำคัญ บางครั้งเจอปัญหาให้เจ็บปวดบ้างแต่ก็หาทางออกที่ดีที่สุด
ผมหาคนที่มีนิสัยเจ้าชู้จากเรื่องๆ นี้ไม่ได้สักคนแต่ก็ยังเต็มไปด้วยความเจ็บปวดแบบถึงอารมณ์จริงๆ
การหลบหนีจากความรู้สึกของตัวเอง การปิดกั้นความรู้สึก ความสับสน แต่ละอย่างมันไม่ใช่สิ่งเลว
แต่ว่าบางครั้งมันทำให้เกิดความผิดพลาด นำมาซึ่งความเสียหายที่ละเลยไม่ได้ แต่มันมีทางออกของมัน
ซึ่งอาจไม่ใช่ทางที่อยากทำ แต่ก็ต้องทำ
หากว่ารักแท้คือสิ่งที่ผู้คนถวิลหาและทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เวลาและทรัพย์สมบัติเพื่อให้ได้มาแล้ว
ก็อย่ามองข้ามสิ่งสำคัญพื้นฐานอย่างเช่นความใส่ใจ และเชื่อใจกัน คำสัญญาจะมีความหมายก็ด้วย
คนพูดตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะทำ และคนรับฟังก็เชื่อใจกันไปอย่างนั้น
เวลาสามเดือนที่พวกเขาได้เจอกันมันดูสั้นจนผมคิดว่าผมคงเอาเวลาไปทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน
แต่พวกเขากลับสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ พร้อมพิสูจน์ความเป็นของแท้เสร็จสรรพได้อย่างไร้ข้อเคลือบแคลง
พวกเขาช่างมานะต่อสิ่งรอบตัวของเขาจริงๆ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายจากความพยายามให้คนข้างกายมีความสุข
เป็นความพยายามที่น่านับถือจริงๆ คนเราจะวัดว่าดีกว่ากันก็คงด้วยสิ่งนี้ ใครอ่านแล้วก็คงเติมเต็มความรัก
อารมณ์ จิตใจบริสุทธิ์ ความเข้มแข็งหนักแน่น และความรับผิดชอบได้ดีจริงๆ เป็นพลังให้หลายๆ คน
ได้ใช้ชีิวิตต่อไปอย่างมีความหวัง
-
o13 ... :bye2:
-
อ่านเรื่องนี้กี่รอบๆก็ไม่เบื่อเลย
-
คิดถึงจัง อ่านกี่รอบก็ไม่เบื่อ
:กอด1:ต้น
:กอด1:กริชด้วยเดี๋ยวจะน้อยใจ
-
สุดยอดมาก เป็นเรื่องที่มีอะไรให้ลุ้นตลอดดดด
แต่จบน่ารักอ่ะ ><
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ ^^
-
มาเม้นก่อนค่ะ แหะๆ
กลัวเม้นไม่ทัน
ประเดิมเรื่องแรก เม้นแรก :mc4: :mc4:
-
ตามอ่านจนจบแล้ว น่ารักจริงๆเลย ต้นกะพี่กริชหื่นพอกัน :z1:
เอร้ยยย อยากอ่านคู่วิงป้อมจังเลยงะ :serius2:
ขอบคุณพี่sorrowคะ :pig4: :3123: :3123:
-
อ่านจบแล้วววววว
ขอบคุณมากค่าที่เขียนเรื่องสนุกๆอย่างนี้ให้อ่าน^^
อ่านแล้วหยุดไม่ได้เลยค่ะ สนุกทู้กตอน^^
บางเรื่องแรกๆสนุก แต่พออ่านไปๆก็แอบเบื่อ ซะงั้น!
แต่เรื่องนี้ไม่มีช่วงให้เบื่อเลย สนุกมั่กๆจริงๆ ขอบคุณอีกครั้งก๊าบบบบบบ
-
ึิดถึงคนแต่งเรื่องนี้จังเลยฮ้าฟฟฟฟฟ
-
ขอบคุณเรื่องนี้มาก
สนุกมากครับ
-
อ่านจบแล้ว สนุกจังค้า :impress2:
-
ชอบคับ,,,,, ชอบเรื่องนี้คับๆ
'มากๆ'
ขอบคุณ 'ไรเตอร์ & คนโพสต์' ที่เขียนและนำนิยายดีๆมาให้ผมอ่าน อ่านไปแล้วยังจะร้องไห้ตามเล้ยๆ~
บะบายคับๆ 'ไรเตอร์ & คนโพสต์'
-
อ่านจนจบแล้ว สนุกมากๆ บางทีก้อลุ้นตอนที่จะรุ้ความจริง เหมือนกัน
-
คิดถึงจังฮู้ว
-
อ่านตั้งเเต่เช้า รวดเดียวจบ...ตาเเฉะ :เฮ้อ:
สนุกมากๆเลยค่ะ เนื้อเรื่องน่าติดตามอย่างรุนเเรง
เวลาอ่านเเล้ว รู้สึกเหมือนตัวเองมีส่วนร่วมอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ :monkeysad:
เป็นกำลังใจให้คุณ Sorrow ต่อไปนะคะ o13
ปอลอ จะติดตามผลงานต่อไปเรื่อยๆคะ :pig4:
-
รักเรื่องนี้มากกกก
ขอบคุณคุณsorrowที่แต่งนิยาบยดีๆให้อ่านค่ะ :impress2:
-
สนุกจังไม่อยากให้จบเลย ><
-
:กอด1:
2 คืนติดๆ
คืนแรกอ่ะถ้าไม่ติดเรียนยันเช้า
คืนสอง ยังไม่ไปดื่มกะเพื่อน
เพราะ กฤษ กะ ต้น
หนุนหนานมายมาก
:L2:
:3123:
:L1:
:mc4:
o13
-
กริช ต้นนนนนนนนนนนนนน่ารักกกเง้ออออออออออออออออออออออ
:o8: :o8: :o8:
ไม่ผิดหวังที่ได้อ่านนะแอร้ยยยยยยยย~
:pig4: :pig4: :pig4:
-
อ่านรอบที่เท่าไหร่แล้วก็จำไม่ได้ แต่ก็ยังไม่เบื่อทุกครั้งที่อ่าน
น่ารักไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ :กอด1:
-
กว่าจะอ่านจบ....ลุ้นให้พี่กริชจับได้ตั้งแต่ต้นเรื่อง..... :เฮ้อ:
เรื่องนี้สนุกมากๆคะ ขั้นเทพจริงๆ o13 o13
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณคนเขียนนะคะที่เอาผลงานดีๆมาให้อ่าน :pig4: :pig4:
-
ดีใจที่เรื่องนี้จบแบบไม่เศร้าอ่ะ
-
:-[ ชอบมากๆเลยค่ะ พี่กริช น้องต้น
เนื้อเรื่องดีมากเลยค่ะ พออ่านแล้วไม่อยากหยุดเลย ก็เลยอ่านตั้งแต่ต้นยังตอนพิเศษอิอิ
แล้วสรุปว่า สิงห์กับกริชมีอะไรกันไหมอะคะ :o8:
ชอบมากๆเลยค่ะ ขอบคุณที่แต่เรื่องสนุกๆมาให้อ่่านนะคะ :L1: :L1: :pig4:
-
สนุกมากเลยฮ๊าฟฟฟ o13
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ นะฮ๊าฟฟฟ
-
น้องวิงน่ารักคับ น่าจะมีเวอร์ชั่น 3P
-
ชอบสิงห์จัง
-
หนุกหนานมากค่าาาา ว่าแต่อะไรทำให้สะอึกล่ะหว่า
-
เฮ้อ เศร้าเลย
-
ลุ้นๆ เจอไม่เจอ
-
ลาก่อน อ้าวเห้ย ไปไหน
-
ลุ้นระทึกมากกก
-
เรื่องมันชักลึกลับ
-
คิดไปไกลเลยตู ฮ่าๆๆ
-
เกิดเรื่องอะไรอีกหว่า
-
อ่านรวดเดียวจบ
กว่าจะจบเล่นเอาลุ้นเเทบเเย่
นั่งอ่านสองชั่วโมงจบ รู้สึกตลกตัวเอง
เดี๋ยวร้องให้ :m15: เดี๋ยวหัวเราะ :m20:
อ่านเเล้วเหมือนหยุดไม่ได้
รักพี่กริช รักน้องต้น
สุดท้าย รักคนเขียนนน
:กอด1: :กอด1:
ปล.อยากรู้ตอนสุดท้ายพี่สิงค์คุยไรกับต้น??
-
โว้วๆๆ นั่นไงไม่ป้องกัน ท้องเลย
-
เก็บปัญหาไว้มากๆระจะบ้าตายเน้อ
-
ต้นแกหึงอ่ะดิ แต่แกห้ามหวั่นไหวกับวิงนะเว้ย
-
คึคึ เปิดตัวไปเลย
-
ขี้ระแวงและขี้หึงนะเนี่ย
-
ตูล่ะหวั่นใจกะต้น
แล้วนั่นความลับจะแตกไหม
-
ต้นนี่ชอบทำให้ระทึกใจ
-
โว้วๆๆ จะรู้แล้ว จะจำวิงได้แล้ว ไม่นะ
-
อ่อ วิงนี่เองที่อยู่ในห้องพยาบาลอีกคน
-
สนุกมากๆๆๆเลยค่ะ
ชอบฉากที่ต้นกับกริชสวีทกันมากๆเลยค่ะ อ่านแล้วเขินนนน :-[
กริชน่ารักมากๆๆๆๆเลยอ่า :กอด1:
ตอนที่กริชโกรธต้นนั้นสะเทือนใจมากๆเลย ดีนะที่เข้าใจกัน
อยากให้มีตอนพิเศษอีกจังเลยยย
อยากรู้ด้วยว่าวิงกับป้อมจะลงเอยกันรึเปล่า แอบเชียร์ อิอิ
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่านนะคะ สู้ๆค่า
-
o13 o13 o13 o13สนุกมากกกกกกกกกกก
ชอบพี่กริช อิอิ อ่านไปลุ้นไป โอ้ยยย 55555 แต่สนุกมากๆ
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีดี สนุกๆๆงี้ให้อ่านครับบ :L2: :L2: :L2: :L2:
-
ขอบคุณคนเขียน ที่ทำให้คนอ่านอย่างผมมีความสุข
ขอบคุณเนื้อเรื่อง ตัวละคร ที่ทำให้ผมลุ้นจนตัวโก่ง และก็คาดไม่ถึง
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่ผมชอบมากๆ ขอบคุณนะครับ o13
-
ให้เดาว่าเป็น รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เดาจากเข็มเงินเข็มทอง กางเกงสีดำ แล้วก็อยุแถวๆสวนหลวงพอดี เดาถูกป้ะ?? คนเขียนมาเฉลยที ><
-
เพื่อนแนะนำให้อ่านเรื่องนี้ค่ะ เลยเข้ามาลองอ่าน
ปรากฎว่าชอบมากเลยค่ะ
-
อ่านรวดเดียวเลยค่ะ :laugh:
สนุกมากเลย o13
ขอบคุณมากค่ะ :pig4:
-
o13สนุกมากๆเลยค่ะ o13
อ่านแล้วได้ทุกอารมณ์เลยอะ :m15: :m20: :m16: :เฮ้อ: :oo1:
ไม่อยากให้จบเลยอะ :o12:
ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆนะค่ะ :pig4:
-
:n1:...........ประทับใจ............. :n1:
-
:กอด1: อ่านแล้วสนุกดี
ตอนเห็นชื่อเรื่องไม่คิดจะเข้ามาอ่านนะ
แต่ก็อยากรู้ว่า เป็นเรื่องแบบไหนกัน
พอได้อ่าน ก็ติดจนอยากอ่านจนจบ
เขียนได้น่าติดตาม น่าลุ้น และมีความหวัง
ขอบคุณที่เขียนเรื่องน่าอ่าน และสนุกๆ
:impress3:
-
ผมชอบเรื่องนี้มากเลยอะ ตอนจบก้อสมบูนณ์แบบ อยากขี่หลังกริชบ้างจัง จิ้นเพลินเลย หุหุ
-
ไม่รู้เปนอะไร ต้องกลับมาอ่านอีกรอบนึง (ตอนนี้จบแล้ว) อยากบอกว่าเปนเรื่องแรกที่ทำให้ผมติดมาก
อยากให้มีภาค 2 ต่อจัง อยากรู้ อนาคต ต้นกับกริช จะสานฝันอะไรต่อไป โดยไม่มีมือที่ 3 มันคงจะน่ารักน่าดูเลย อิอิ
-
สนุกครับ นิยายเรื่องสนุกมากครับ
-
เพิ่งเข้าเม้นทีหลังค่ะ เป็นนิยายเรื่องแรกที่เราได้อ่านจากเล้าเป็ด ชอบมากๆเลย ขอบคุณนะค่ะ
:L2: :L2: :L2:
-
:L2:
เพิ่งเข้ามาอ่าน
-
:o8: :o8: :L1: เป็นเรื่องที่น่าัรักมากเลย :impress2: :impress2: :impress2: :L1: :L2:
-
ขอบคุณมากครับผม สหนุกมากๆๆ
-
ประทับใจค่ะ ได้ทุกอารมณ์ในเรื่องเดียวเลย
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆเรื่องนี้ค่ะ
ปล.แอบอยากอ่านน้องวิงค์เบาๆ
ขอบคุณผู้แต่ง คุณพูห์ และเล้าเป็ด :pig4: :pig4:
-
สนุกมากเลยค่ะ บางอย่างในเรื่องก็สอนข้อคิดได้ดีทีเดียว
ตอนแรกๆที่อ่านคิดว่าพี่สิงห์จากกับพี่กริชเพราะตายซะอีก
ทำเอาบ่อน้ำตาแตกอ่ะค่ะ ไม่รู้สิคะ
บางครั้งเราก็ไม่อยากให้ใครต้องจากกันด้วยความตายน่ะ
จากกันเพราะไม่รักหรือว่ามีเหตุอย่างอื่นเราจะยอมรับได้มากกว่าถ้าเป็นชีวิตจริงน่ะค่ะ
-
สนุกมากคร่าาาาาาาาาาา
ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่านนะคะ :impress2: :impress2:
:กอด1: :L1: คนแต่ง
:กอด1: :L1: คนโพส
-
อ่านเรื่องนี้ โคตรๆๆจะลุ้น
ระทึกทุกตอน แต่โคตรหักมุม
ยิ่งตอนที่คิดว่าพระเอกเราเป็นผีอ่ะ สุดๆๆ
-
เสียดายคู่วิงป้อมจัง เรานี่ จิ้นกระจาย สนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณนะ
-
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะครับ ชอบมากๆเลยคับผม ^^
-
สนุกมาก ๆ จ้า
o13
น้าอุ๊
-
เข้ามาอ่านเพราะชื่อเรื่อง ก่อนอ่านคิดว่าต้องหวือหวาแน่เลย แต่พอได้อ่านแล้วมันได้อะไรมากกว่าความหวือหวา ได้มุมมอง แง่คิดหลายอย่างจากเรื่องนี้ มันครบทุกอารมณ์จริง ๆ คนแต่งบอกว่าเพิ่งแต่งเป็นเรื่องแรก รู้สึกแปลกใจ ว่าแต่งได้ดี สำนวน คำพูด ไหลลื่น เนื้อเรื่องน่าติดตาม ลุ้นได้ตลอด ถ้าจะทำเป็นงานเสริมน่าจะไปได้ดีนะครับเพราะมีหลายคนสนใจอยากได้หนังสือ ถ้าทำจริงจะซื้อแน่นอน อ้อ ! แล้วไอ้มุขแต่ละมุข สำนวน เพลง หรือเหตุการณ์หลายอย่าง เก็ทหมดเลย 5555 (ไม่ต้องเดาคนอ่านรุ่นเดียวกับคนแต่ง) เสียดายน่าจะมีเวลาแต่งเรื่องต่อไปอีก
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดี ๆ ให้อ่าน ขอบคุณคนโพสต์ที่สละเวลามาลงให้
-
:m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
นายกริช และ นายต้น เราคิดถึงจังเลย
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :sad11: :sad11:
-
สนุกมากกจ๊ะ ไม่รวมเล่มหนังสือขายเหรออยากอ่านแล้วสะสมเก็บไว้ด้วย
-
สนุก ><
-
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ .. ขึ้นแท่นเป็นนิยายอีกเรื่องที่เราชอบ
พล็อตเรื่องก็ดีมาก ๆ ด้วยค่ะ ... ชอบตัวละครทุกตัว
ตอนแรกที่อ่านแอบหลอนนิด ๆ ... คิดว่าจะมีใครเป็นผีรึเปล่า อิอิ (คิดไปได้เนาะ)
ลุ้นตลอดเลยด้วย ว่าต้นจะแอบกริชไปได้อีกนานแค่ไหน แล้วจะบอกความจริงยังไงกับกริช
อ่านแล้วมีความสุข ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ^^
-
อ่านจบไปอีกรอบ รอบที่เท่าไหร่แล้วจำไม่ได้
เฮ้อ คิดถึงนะ
-
:เฮ้อ: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
คิดถึงครับ........นาย กริช & นายต้น
:call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
-
T T ยังไม่อยากให้จบเลย อยากอ่านต่อพิเศษคะ วิงกะป้อม? ป่ะ??? นั้นแหล่ะ
พีเอส อ่านรวดเดียวจบ สนุกมากกกกกกกกกกก :กอด1:
-
เรื่องนี้สนุกมากจริงๆ ชอบมากๆ
-
อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้รู้สึกว่าอึดอัดมาก
ลุ้นอยู่ตลอดว่าจะบอกตอนไหน
พออ่านตอนจบแล้วเลยรู้สึกว่าโล่งมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
จบน่ารักดีค่ะ ชอบๆ^^
-
o13 o13 o13o13
ชอบมากๆๆๆ
-
อ่านจบตอนเดียว ขอแปะไว้ก่อน
เดี๋ยวมาอ่านต่อ
-
ชอบบบบ อ่านเพลน สนุกมาก
ชอบน้องต้น ดีนะที่พี่กริชไม่คิดไม่โกรธ ไม่ง้นแย่แน่ๆ
-
ไม่มีภาคสอง ตอนพิเศษก็ยังดีค่าาาาาาาาาาาาาา :z3: :z3:
หนุกๆๆๆๆ o13 o13
-
แว๊ก แอบอยากรู้ต่อจากนั้นเบาๆ
แต่จำได้ว่าเคยอ่านแล้ว ตอบแล้วนะแต่หายไปไหนหว่า ?
หรือเราเมาอ่านในฝันแล้วเม้นในฝัน !!! :really2:
ก็ขอขอบคุณผู้แต่งอีก 1 รอบ สำหรับนิยายวัยเด็กมัธยม
ที่เรานั้นชอบมว๊าก !!! หวังจะให้เกิดขึ้นกับตัวเอง :z1:
ขอบคุณอีกรอบละกันเวิ่นไปหน่อย :L2:
ปล. เดี่ยวนี้ไปนั่งสิง Mc สีลม เอาสิ๊ มาดูกัน !!!
-
เรื่องมันเศร้า เล่าไปก้ออ๊ายอาย โธ่ก้อคนมันคันนี่จ๊ะ ใช้ซะรามาโซนครีม เห้ยๆๆๆ มั่ยชั่ยละๆ :serius2:
ต้นกับกิชน่ารักมากกกกก ถ้าเจอแฟนแบบนี้่รักตายเลย :impress2:(เออ ตายจริงๆ คาที่เรยดั้ว = =) :z1:
-
ชอบอะ ดีใจที่ทั้งคู่ผ่านเรื่องราวต่างๆมาได้นะ
-
สนุกและซึ้งมากๆเลยคับ..เล่นเอาผมน้ำตารวงหลายๆตอนเลย..ขอบคุณที่เขียนงานดีๆแบบนี้ให้อ่านนะคับ.. :sad11:
-
เป็นเรื่องที่ผูกปมได้ดีมากๆ แล้วก็คลี่คลายปมได้แบบหมดจดดีจริงๆเลยค่ะ บอกตรงๆ ช่วงที่ต้นสืบเรื่องตัวตนของกริช อ่านไปขนลุกไปเลย แอบคิดว่ามีซักคนตายไปแล้วแน่ๆ บรึ๋ยยยย พูดแล้วยังขนลุก ตอนที่ดูรูปในหนังสือรุ่นอ่ะ โอววว หยองเลยอารมนั้น
แล้วมาผมนายวิงอีก กว่าจะเดาได้ก็ต้องตอนที่มาคุยกันอีกที ที่วิงพูดว่า "ต้นจำไม่ได้เหรอ.." แต่ก็ยังติดปมเรื่องห้องพยาบาล
ลึกลับน่าค้นหา แล้วก็สนุกไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ตอนเล่าเรื่องสิงมันก็หนึบๆที่ใจมากๆ แต่ชอบนะคะ เป็นปมที่แน่นมากๆ แล้วแบบคลี่คลายได้สวยงามอ่ะ โอ๊ย สามคำค่ะ "ชอบ มาก มาก"
ปล.เราเป็นแฟนนิยายสืบสวนค่ะ(โดยเฉพาะของโคเบน) พออ่านเรื่องนี้มันเลยรู้สึกตื่นเต้นแล้วก็ชอบมากเป็นพิเศษ
o13 o13 o13
-
สนุกมากๆครับ ขอบคุณครับ...
-
เพิ่งอ่านจบค่ะ สนุกมากจริงๆ
อ่านไปลุ้นไปตั้งแต่ต้นจนจบ วางเนื้อเรื่องได้ดีมากๆ
ตอนแรกนึกว่ากริซจะไม่หายโกรธต้นซะอีก TT
-
วู้วู้ อ่านจบ
ดีใจที่มันจบดี
ลุ้นตั้งนาน
ขอบคุณเรื่องราวนะค่ะ
-
ขอบคุณมากเลยค่ะ :pig4: (แอบเสียดายจบซะแระ)
-
สนุกมากๆครับ ขอบคุณครับ... o13
-
อ่านจบแล้วว วววววว สนุกมากเลย
ขอตอนพิเศษเพิ่มได้ไหมคะ :impress2: :impress2:
-
เรื่องนี้น่ารักมากๆครับ ชอบมากๆครับ
อ่านแล้วรักพี่กริชมาก ถ้าเจอแบบนี้รักตายเลย
แล้วมุขต้นนี่เก่าจริง หลายๆอันผมก็ยังไม่เข้าใจ :laugh:
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆนี้ครับ :pig4:
-
ขอบคุณ ที่ เอาเรื่องดีๆ มาลงให้อ่านกันนะคะ
ถึงจะมาอ่านช้าไปมากกกก
ไม่รู้พลาดเรื่องนี้ไปได้ไง ฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณจริงๆค่ะ :กอด1:
-
กว่าต้นจะบอกความจริง
เล่นซะลุ้นแทบแย่อ่ะ
อยากอ่านคู่วิง-ป้อมจัง
ถ้าแต่งต่อคู่นี้จะรออ่านน้า
-
เรื่องนี้นิยายY เรื่องแรกในชีวิตเลยขอรับ
อ่าจบแล้ว บอกได้คำเดียวว่า รักต้น รักกริชนะขอรับ
ขอให้ทั้ง2มีความสุขมากๆนะ อินๆ
:pig4:
-
อ่านรวดเดียวจบเลย ชอบเรื่องนี้จังงงงงง :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
อ่านแล้วลุ้นไปกับต้นทุกตอนเลย ทั้งอยากให้บอกความจริง ทั้งกลัวความลับจะแตก
แล้วดันมาความลับแตกในสภาพนั้น สงสารทั้งต้นและกริชเลย
แต่สรุปแล้วน่ารักมากๆ กริชน่ารักมากมาย
-
สนุกมาก ลุ้นไปกับน้องต้นว่าจะไปป่ะกับพี่กริช คนอ่านเหนื่อยมาก
แล้วน้องต้นจะหลบทำม้ายย :o8:
แต่ละตอนยิ่งอ่านยิ่งสนุก แต่ละคนก็มีความหลังหน่วงๆ ลุ้นทุกตอน
พี่สิงห์ก็มีความสุขกับครอบครัว เพื่อนเม้งที่แสนดี น้องวิงก็น่ารัก
ขอบคุณนักเขียน และผู้โพสด้วยจ้า :L2:
-
:pig4:
-
เป็นเรื่องที่เหนื่อยมากจริงๆ อึดอัดมากด้วย รู้สึกหงุดหงิดมากด้วย
แต่อ่านแล้วก็ติดหงอมแหงมเลยทีเดียว
ชอบอะ เป็นนิยายไม่กี่เรื่องที่ทำให้รู้สึกอย่างนี้ ~
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆค่ะ ^^ o13
:bye2:
-
จบแล้ว!!!
-
ดป็นเรื่องที่ประทันใจมาก ๆ
สนุกมาก ๆเลย
ขอบคุณ สำหรับเรื่องดีดีแบบนี้จ้า
:L2: :L2:
-
ชอบมาก บรรยายให้เห็นภาพเลยว่า คนแต่งต้องเป็นรุ่นพี่ รร. เราแน่นอน 555
บ่งบอกจาก ศาลาไม้และต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ ^^
สนุกมากๆคะ
-
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่นำนิยายดีๆมาแบ่งปันนะคะ
:กอด1:
-
อ่านจบแล้วครับผูกเนื้อเรื่องได้เนียนมาก ขอบคุณครับ
ตอนนี้ชักอยากรู้เรื่องของคู่วิงกับป้อมแทนแล้วครับ
-
สงสารต้นนน
ps. เพิ่งอ่านถึงหน้า 2 เดี๋ยวมาอ่านต่อค่ะ
T___________T
-
เป็นเรื่องที่ดี อ่านสนุก การลำดับและผูกเรื่องโดดเด่น ขอบคุณๆ Sorrow และโมฯผู้โพสท์ :pig4: (ตามมาจากกระทู้นิยายแนะนำ ขอบคุณคนแนะนำด้วยจ้า)
อ่านแล้วนึกถึงสมัยเรียน ตอนล่าหาชื่อรุ่นพี่ที่แอบชอบ (ดันไม่ได้ชอบตัวท็อป เลยยากเป็นพิเศษ ปลื้มหมู่มวลรอบๆพระเอกไรงี้) / บางช่วงบางตอน พาให้นึกถึงเรื่องผี ประมาณสิงห์ม่องไปแล้วรึเปล่า์? เป็นวิญญาณมาหลอนกริช หรือวิงนี่ตกลงมีตัวตนมั๊ย? 555
ที่สำคัญ ย้อนอดีตได้โล่ห์ ทางนี้ทันทุกอันขอบอก ไม่ว่าจะเป็น...วิงแมน, เหิรฟ้า, ไดโดมอน(แต่ก่อนโคตรดังโคตรแพง), ตุ๊กตามาดามยี่หุบ, หนังเรื่อง Night of a Living Dead กับ Psycho (ยุคแรกๆอ่ะนะ), นันทนา บุญหลง - หัวใจข้างขวา, เกียบัน, ชาลีบัน, ถังโจรสลัด ของแถมรองเท้านันยาง, คูปองในหนังสือเพลง แลกรูปดารานักร้อง, ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน, สอบเทียบ, เพลง Bizarre Love Triangle (ยุคเราต้องเวอร์ชั่น Frente! ล่ะ อิอิ) --- และอีกมากมาย :o8:
พออ่านจบแล้ว รู้สึกดี . . . จริงๆ o13
-
:a5:
กำลังตามอ่านค่ะ แต่ว่าเพิ่งอ่านแค่บทแรก..... o22
จะตามอ่านต่อนะค่ะ :bye2:
-
สนุกมากจ้า เรื่องนี้นานแล้วแต่เพิ่งได้อ่าน
เดาเรื่องตอนแรกๆ นึกว่าพี่สิงห์ตายแล้วซะอีก แอบหลอนตอนต้นแอบเข้าบ้านพี่กริชเบาๆ
-
โอ๊ยยย ลุ้นแทบตายว่าเมื่อไหร่ต้นจะบอก
สุดท้ายความลับแตกก่อนจนได้
จบน่ารักดีค่ะ อบอุ่นๆ
-
อ่านรวดเดียวจบเลย :o8:
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่เอามาให้อ่านนะคะ :pig4:
-
เรื่องนี้สนุกมาก ๆ เลยครับ
ขอบคุณครับ
-
:pig4:
-
พึ่งมาอ่าน ฮ่าๆ ย้อนไปดู ค.ศที่ลงแล้วตอนนั้นป๋มอายุแปดขวบเองแหะ555555
นึกถึงสมัยก่อนที่ไม่มีเฟสมีไลน์ มีแต่ส่งเมจเสจหากัน เป็นความพยายามผ่านคัวอักษร
ที่พิม สมัยต้องอดทนมากเลย คิดถึงงง
ปล.1 อยากอ่านคู่วิงจัง
ปล.2 ไปละครับ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆลุ้นจนตัวโก่งเล :heavenยทีเดียว55555
-
เรื่องนี้สนุกสุดๆ
-
ความลับแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งๆทีเตรียมตัวว่าจะบอกแล้วนะ
อ่านไปอ่านมา ชักไม่แน่ใจกริชรุกหรือต้นรุกกันแน่
อยากอ่านป้อมวิง
-
อ่านรอบที่สอง :mew3:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ชอบมากๆครับ สนุกมากๆเลย
อ่านแล้วเก็ททุกมุกเลยอะ 555 สงสัยผมกับผู้แต่งจะเกิดมาในยุคใกล้กันมาก
มีครบทุกอารมณ์ สนุกมากๆๆๆ ย้ำอีกรอบ
ขอบคุณผู้แต่งมากครับสำหรับเรื่องดีๆ
-
:m16: o22 สนุกจัง
-
เคยอ่านตอนเริ่มแรกๆๆอ่ะคับ แล้วไม่ได้ติดตามต่อ เพิ่งมาอ่านจบวันนี้เองอ่ะ ชอบๆๆน่ารักมากๆๆเลยอ่ะคับ
แต่อยากรู้ว่าสิงห์บอกไรต้นอ่ะคับ ^^
-
ขอบคุณนะคะ เรื่องน่ารักดีค่ะ มีภาคต่อมั้ยคะอยากอ่านค่ะ
:pig4:
-
o13
-
ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ คับ สนุกมาก
ผมอ่านเรื่องนี้เป็นรอบที่สองแล้ว ...
เเต่เนื้อเรื่องทุกอย่างยังตราตึงอยู่ในหัวใจอยู่เลย
รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อ่านเรื่องนี้
ตอนนี้ ... กริชกับต้น ก็คงจะมีความสุขอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ :)
-
สนุกมากเลย..ลุ้นตลอด
แอบเชียร์..วิง หล่ะ... :katai2-1:
-
ลุ้นๆๆๆๆๆ
หายใจไม่ทั่วท้องเลยค่าาา
-
เรื่องนี้เคยอ่านนานมากแล้ว โคตรฮาเลย อ่านไปหลายรอบแล้วด้วย :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
-
เคยอ่านเรื่องนี้เมื่อนานนนนนนนนนมาแล้วจนจำไม่ได้
จำได้แค่ว่าสนุกมากกกกกก
ต้องกลับมาอ่านทบทวนความจำหน่อย :katai2-1:
-
พึ่งได้อ่านเรื่องนี้ พลาดมากกกกก สนุกมากๆ คะ
-
:pig4: :pig4:
-
เป็นนิยายที่อ่านแล้ววางไม่ลงจริงๆค่ะ พอถึงตอนเศร้สๆก็เกือบจะคว่ำจอไม่อ่านต่อแล้ว :hao5: แต่การผูกปมเนื้อเรื่องก็ทำให้ต้องหยิบขึ้นมาอ่านอีกครั้ง เป็นนิยายที่ครบเครื่องจริงๆ บางตอนกำลังจะซึ้งก็สามารถดึงมาฮาได้ ถึงแม้มุกจะเก่า จนเราไม่เข้าใจ แต่เราก็สามารถฮาได้ เพราะความไม่เข้าใจของตัวเองนี่แหละ ขอบคุณคนแต่งที่ตั้งใจแต่วนิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายที่ดีมากเลยค่ะ ให้ข้อติดเยอะด้วย ส่วนทีาชอบที่สุดคือตอนที่บรรยายความรักระหว่างเม้งกับต้นเราอินมากๆเลย แบบความรู้สึกมัยปังมากอะ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ :pig4:
-
:mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
น่ารักดีคะ
-
อ่านแล้วสนุกมาเลยค่ะ ดีใจจังจบแบบแฮปปี้ น่าจะมีภาคต่อมหาลัยนะค่ะ
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
:mew1:ุ :mew1: :mew1:
คิดถึงต้นกับกริช แมคสีลม คุณพูห์ และคุณsorrow
เคยอ่านในบอร์ดปาล์ม แต่ไม่จบ
ตอนนั้นทำงานชั่วคราวในสำนักงานแห่งหนึ่งซึ่งเปิดเน็ตให้ใช้หลังหกโมงเย็น ใช้ได้แค่ชั่วโมงเดียว ก็แอบๆเปิด แล้วก็ไล่หาว่าอัพไหม พอเจอก็ก๊อบปี้ลงnotepadเซฟไว้ในเครื่อง กะว่า ขนาดอักษร6 เอากั้นหน้ากั้นหลังน้อยๆ ฟุตเพจน้อยๆ พิมพ์ทั้งสองหน้า เอากลับไปอ่านบ้านเพื่ออรรถรส :hao6:
แต่ไม่จบ ค้างอยู่ตอนวัตสันกับปัวโร :hao5:
มาได้อ่านอีกครั้งนี้ครั้งที่สองทีเดียวจบ
สนุกมาก ชอบมาก อยากได้กฤษเป็นของเราอีกสักคน :o8:
-
อร้ายยยรวดเดียวจบบบบ
เปิดมาก็นึกว่าจะเป็นนิยายตลกฮาๆ ใสยๆ ที่ใหนได้ซ่อนปม ซ่อนเงื่อน มีดราม่าทำเอาเราลุ้นจนตัวโก่งไปเลยว่าจะเป็นยังไงต่อไป ต้นจะทำอะไรต่อ โอ้ยอินและชอบทุกตอน อ่านสนุกเพลินมาก รักพี่กริซ พี่ต้น ตัวละครทุกตัว ขอบคุณ นิยาย คนแต่ง คนโพส
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
หลอกจนโดนเอง5555
-
:m31: :pig4:
-
เริ่มต้นด้วย :haun4: จบด้วยความหวาน :-[
อ่านไปลุ้นไปตลอดว่าเมื่อไหร่กริชจะจับได้ 5555+
อ่านไปแล้วก็เฮ้ย!!!!! มันใช่โรงเรียน... ที่ชั้นเคยเรียนแน่ แน่ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ไหนจะสระมรกต ไหนจะศาลาหน้าโรงเรียน วิวที่มองจากห้องดนตรีแล้วเห็นสนามบอล
อ่านแล้วคิดถึงบรรยากาศเก่าที่โรงเรียนจริงๆ และทำให้รู้ว่าเราเป็นคนยุคเดียวกัน 5555+ :katai2-1:
-
จำได้ว่าเคยอ่านนิยายเรื่องนี้ในเว็บไซต์หนึ่ง ตอนนั้นถือว่าเป็นการเปิดโลกทัศน์ ทำให้ผมเข้าสู่โลกของชายรักชายอย่างเต็มตัวจนมิอาจถอนตัวได้อีกแล้ว ก่อนหน้านั้นเพียงแต่สงสัยตัวเอง อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่เคยมีแฟนมาก่อนทั้งหญิงและชาย เลยทำให้อารมณ์ค่อนข้างจะแปรปรวน ได้อ่านนิยายเรื่องนี้ครั้งแรกก็ประมาณปี พศ 51 ตามรหัสนักศึกษาของผม ถือว่าเป็นนิยายในดวงใจเรื่องหนึ่ง ครบอรรถรส หื่น เศร้า รัก หลง ความจริงใจ ตลกเกินบรรยาย ช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤตโควิด19 พอดี ผมเลยถือโอกาสมาย้อนอ่านนิยายเก่าๆในความทรงจำในเวลาว่างงานเช่นนี้ นอกจากเรื่องนี้ก็ยังมีเรื่องคือ เพื่อนรักรักเพื่อน อีกเรื่องจำชื่อไม่ได้ จำได้แต่ว่ามีพระเอกชื่อท็อปที่หลงรักน้องรหัสตัวเองชื่อไม้ สองเรื่องหลังนี้ยังตามหาอ่านไม่ได้ ถ้าเพลงเราของวงค็อกเทลกับเพลงความเงียบที่ดังที่สุดมีขึ้นในสมัยนั้น ผมว่าสองเพลงนั้นคงจะต้องมีอยู่ในนิยายเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย เพื่อที่จะสื่ออารมณ์ในบางสถานการณ์ที่ยากจะอธิบาย
-
อ่านเรื่องนี้ตอนยุมอสามนะเนี่ย อิอิ คิดถึง
:mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
-
เรื่องนี้อ่านครั้งแรกประมาณ 10 ปีที่แล้ว ตอนนั้นยังอยู่มัธยมอยู่เลยครับ แล้วก็ยังจำได้จนถึงวันนี้ เป็นเรื่องที่อ่านแล้วตราตรึงใจมากครับ
ขอบคุณคุณ Sorrow มาก ๆ ที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาให้ได้อ่านและเก็บไว้ในความทรงจำ ขอบคุณคุณพูห์ด้วยครับที่นำมาโพสท์ลงในบอร์ดให้ หวังว่าช่วงนี้ทุกคนจะสบายดีกันนะครับ :-)
-
กลับมาอ่านอีกรอบครับ 13ปีมาแล้วหรอนิยายเรื่องนี้ รักนิยายเรื่องนี้มากๆเลยน่ะ
อ่านรอบน่าจะรอบที่4หรือ5แล้วมั้ง อ่านเรื่องนี้ครั้งแรกก็ตอนปี1เลย ตอนนั้นรหัส51 ถ้าเอาตัวเองไปเทียบกับตัวละคร
กริชน่าจะเป็นรุ่นพี่ผมหนึ่งปี ส่วนต้นก็รุ่นน้องผม2ปี ถ้าตอนนี้ทั้งสองคนก็ทำงาน เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว
ขอบคุณนิยายดีๆเรื่องนี้น่ะครับ เรื่องนี้ถ้าเอาไปทำซีรีย์นี้ผมว่าได้เลย สนุกแน่ๆ
-
:impress2:
-
เป็นอีกเรื่องที่อ่านแล้ว..รู้สึกประทับใจ
ความรักคือการให้... สุข เศร้า ดราม่า มาครบรส
ขอขอบคุณนักเขียน ที่ ให้ต้นและกริชได้รักกัน แบบ Happy ending..
โดยส่วนตัว ชอบเม้ง.เพื่อนผู้แสนดีและเข้าใจต้นทุกอย่าง..
โดยร่วม.. คือความรู้สึกละมุนละมัย.. ที่มีให้กันทุกตัวละคร
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ผู้เขียนเองนะครับ ไม่ได้เข้ามานานจนลืมล็อกอินเลยสมัครใหม่ ขอขอบคุณแฟน ๆ ที่ยังติดตามนะครับ ขอฝากนิยายเรื่องใหม่ King Class Away ทำยังไงไม่ให้ติดห้องคิง (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72377.0#gsc.tab=0) ด้วยนะครับ
-
อ่านอาทิตย์นึงจบ น่ารักดีๆ
-
ชอบมากๆๆๆ....ชอบการแต่งอะภาษาและอารมณ์มันโดนใจ
ขอบคุณมากนะครับ
ปล.ใครมีลิงค์ภาคต่อฝากPMมาให้หน่อยครับ
-
อยากได้ตอนพิเศษวันที่ต้นเจอกับสิงห์...มันจะต้องละมุนต่อใจมากๆแน่เลย....กราบแนบอกมาเพิ่มให้หน่อยนะ
จุ๊บๆ