[Novel] สายใยรัก & Love You Only และตอนตัวอย่างของ Love U Andy
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Novel] สายใยรัก & Love You Only และตอนตัวอย่างของ Love U Andy  (อ่าน 169119 ครั้ง)

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #210 เมื่อ01-02-2010 15:44:51 »

อ่านเรื่องนี้เป็นรอบที่สองแล้ว

ก็ยังน้ำไหลเหมือนเดิม  :เฮ้อ:

1582

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #211 เมื่อ01-02-2010 16:28:27 »

ตอบคำถามเจ๊หมวยค่ะ

น้ำตาซึมตอนที่ทอมไปเจอแม็กกี้ที่โรงพยาบาลค่ะ  อาการหวาดผวาต่างๆ + ตอนที่รับกลับมาอยู่บ้าน แล้วคอยกอดปลอบแม็กกี้ อ่านแล้วสะเทือนใจค่ะ
แล้วก็ตอนที่ทอมพูดจาทำร้ายจิตใจจิมแรง ไม่ถึงกับน้ำตาซึม  มันตื้อๆ อ่ะค่ะ  สงสารจิม

(คำตอบเหมือน ของน้องผึ้งเลย 55)

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #212 เมื่อ01-02-2010 18:00:38 »

ถ้า ถาม ว่าน้ำตาคลอไม๊

เราคลอตั้ง แต่ ทอม ไล่จิม ออกจากบ้านแล้ว   :o12:

ส่วน ตอนนี้ มี มีคลอนิดหน่อย ตรงช่วยที่  ทอม ปลอม แม๊คกี้ อ่ะ


แล้ว ก็ พออ่าน จนจบตอน ยิ้ม ออกเรย

รอตอนต่อไป นะค่ะ      :L2:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #213 เมื่อ01-02-2010 18:35:23 »

อ่านเรื่องนี้เป็นรอบที่สองแล้ว

ก็ยังน้ำไหลเหมือนเดิม  :เฮ้อ:


น้ำอะไรคะ ? :confuse:   น้ำลาย หรือ น้ำตา

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #214 เมื่อ01-02-2010 20:54:39 »

โธ่เจ้ยังจะมาถามอีกว่าอ่านแล้วน้ำตาคลอมั้ย???
เล่นเอาน้ำตานองตั้งแต่ตอนแรกเลยอ่ะ
และมาบีบหัวใจสุดๆก็ตอนที่น้องแม็กกี้อยู่โรงพยาบาลอ่ะ
จนถึงตอนนี้ก็ยังมีโศกอยู่อีกหน่อยๆ

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #215 เมื่อ01-02-2010 21:58:50 »

เจ้หมวยขา น้ำตาอ่ะมันไม่แค่คลอซิค่ะ
ไหลพรากๆเลย ยิ่งตอนที่แม๊กกี้ถูกคนเลวทำร้าย
กับตอนที่ทอมดูแลแม๊กกี้อ่ะ  :o12:
อ่านแล้วคิดถึงพ่อตัวเองเลยอ่ะ
จำได้ว่าอ่านตอนนั้นจบรีบโทรไปบอกรักพ่อเลย
ทอมสื่อความรักของพ่อออกมาได้ดีมาก  ซึ้งมากกกกก
แล้วก็ตอนที่ทอมใจร้ายกับจิม พูดจาทำร้ายจิตใจจิมมากมาย
ปวดใจตามจิมเลยอ่ะ  :m15:
รู้สึกว่าอินมากมาย เรื่องนี้สนุกมากเลย  :กอด1:

nithiwz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #216 เมื่อ01-02-2010 23:25:28 »

 :o8: เริ่มมีความสุขแล้ว  ดีใจจังเลย
ชอบแม็กกี้อ่ะ  เป็นหนูน้อยที่น่ารักจริงๆๆๆๆ
แอบสงสารแม็กกี้  ไม่น่ามีแผลในใจอย่างนี้เลย

รอติดตามต่อไป  ดีครับ ชอบๆๆๆๆ

ป.ล. เรื่อง fatherhood ยังอ่านไม่จบเลย
แต่เศร้าเกิน  สงสารไมค์มากมาย

sky-cafe

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #217 เมื่อ02-02-2010 03:42:01 »

ไม่ใช่แค่คลอค่ะ

แต่ไหลพรากๆ โดยเฉพาะตอนที่คุณทอมเมาแล้วเผลอตัวไล่แม็กกี้ออกจากบ้าน แล้วก็ตอนที่จิมไปเยี่ยมที่บ้านคุ้มครองเด็กแล้วได้รับรู้สภาพแม็กกี้


ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #218 เมื่อ02-02-2010 09:23:36 »

สายใยรัก บทที่  16..
 “ .. Happy :laugh3:  or Sad o7   .. ”

----------------------

             ทอมต้องการรับแม็กกี้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย   แต่ถูกจิมค้านโดยให้เหตุผลว่านอกจากจะไม่สอดรับกับเรื่องราวที่แถลงออกไปแล้ว   ยังกลายเป็นเรื่องใหม่ที่จะสร้างความฮือฮาและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก  จิมเสนอให้ทอมรับเด็กชายเป็นบุตรบุญธรรมตามข่าวที่ออกไปก่อน

            “ตอนนี้ผมยังไม่ได้เป็นลูกเหรอครับ...ต้องจดทะเบียนก่อนถึงจะเป็นลูกได้เหรอ..”     แม็กกี้นั่งฟังอยู่เอ่ยถามขึ้นด้วยความข้องใจ

             ทอมหยุดโต้เถียงและยอมทำตามที่จิมแนะ  คำถามของเด็กชายทำให้ทอมตระหนักได้ว่า  ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแม็กกี้ไม่จำเป็นต้องมีทะเบียนมารองรับ  ไม่ว่ายังไง เจ้าหนูก็เป็นแก้วตาดวงใจของเขาอยู่ดี 

             หากแต่การรับแม็กกี้เป็นบุตรบุญธรรมกลับไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่เพราะขั้นตอนและกระบวนการที่วุ่นวาย แต่เพราะคุณสมบัติของผู้ที่จะรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมต้องมีอายุมากกว่าบุตรบุญธรรมอย่างน้อย 15 ปี แต่ทอมมีอายุมากกว่าเด็กชายแค่  14 ปี กับอีก  9 เดือน   กรณีนี้ต้องร้องขอต่อศาลซึ่งอาจทำให้เรื่องรู้ไปถึงพ่อเลี้ยงของแม็กกี้  จิมแน่ใจว่าชายผู้นั้นไม่ได้รับแม็กกี้เป็นบุตรบุญธรรม  และไม่ได้อยู่ในฐานะผู้ปกครองของเด็กด้วย  แต่ไม่อยากให้ใครฉวยโอกาสใช้ชื่อเสียงของทอมมาต่อรองหรือสร้างปัญหาวุ่นวายขึ้นมา

   “ชะลอเรื่องรับแม็กกี้เป็นลูกไปก่อนได้มั้ย ทอม..”
   “ทำไมอ่ะ.. มีปัญหาอะไรอีก..”
             “ไว้ปีหน้า  รอให้นายลงจากตำแหน่งสมัยที่ 3 ก่อนดีมั้ย”
   “ทำไมต้องรอ ไม่เอานะจิม..  แม็กกี้ต้องมีพ่อ  เขาต้องเรียนหนังสือ  ใครจะเป็นผู้ปกครองให้ ถ้าติดปัญหาเรื่องอายุอย่างที่นายบอก ฉันจะรับแม็กกี้เป็นลูกจริงๆ  ฉันไม่สนใจชื่อเสียงอะไรทั้งนั้น  ฉันไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแย่งลูกไปจากฉันด้วย”
   จิมรู้ว่าทอมต้องการรับแม็กกี้เป็นลูกอย่างถูกต้องตามกฎหมายเร็วๆ เพราะกลัวว่าเด็กชายจะถูกพรากจากไปอีก  เมื่อคืนเขาเอ่ยถึงพ่อเลี้ยงของแม็กกี้ แค่เปรยเล่นๆ ว่า  ถ้าหมอนั่นรู้ว่าเด็กอยู่กับเราคงมาขอรับกลับไปแน่  ทอมโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ  บอกให้เขารีบยื่นเรื่องขอรับแม็กกี้เป็นลูกโดยเร็วที่สุด 
   จิมคิดทบทวนไปมาจนในที่สุดก็เห็นด้วยที่ทอมจะขอจดทะเบียนรับแม็กกี้ เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ชื่อเสียงจะสำคัญกว่าความสุขที่จะได้รับจากการเป็นพ่อของลูกได้อย่างไร ทอมอยากเป็นพ่อจริงๆ ของแม็กกี้  แม็กกี้เองก็คงไม่อยากเป็นแค่ลูกบุญธรรมของพ่อตัวเอง
   อย่างไรก็ตามจิมอยากให้ทอมผ่านพ้นตำแหน่งท็อปโมเดลสมัยที่ 3 ไปก่อน นอกจากจะเป็นการรักษาอิมเมจของตำแหน่งที่ได้รับไว้แล้ว  เมื่อชื่อเสียงของสุดยอดนายแบบคนใหม่กำลังฮอทเป็นที่นิยมชมชอบ ในขณะที่ทอมเองก็หายเงียบจากวงการไป ความสนใจจากแฟนๆ และกระจอกข่าวก็จะลดน้อยลง  ถึงเวลานั้นอดีตสุดยอดนายแบบ 3 สมัย ทอม แม็คกิลล์ วัยเพียง 27 ปีจะได้เป็นพ่อของหนุ่มน้อยวัย 12 ปีเศษอย่างสบายใจ โดยไม่จำเป็นต้องแคร์สายตา
หรือความรู้สึกของใครอีกต่อไปแล้ว
   “ถ้าฉันไม่ใช่สุดยอดนายแบบ 3 สมัย เรื่องก็คงไม่ยุ่งยากแบบนี้ใช่มั้ย”
   “อย่าไปคิดว่ามันยุ่งซีทอม.. เวลาแค่ 5 เดือน ไม่นานเกินรอหรอก.. ระหว่างนี้ขอให้แม็กกี้อยู่กับนายอย่างเงียบที่สุด  ถ้ามีข่าวไปเข้าหูพ่อเลี้ยงว่าสุดยอดนายแบบคนดังรับอุปการะอยู่ล่ะก็.. อาจมีปัญหาวุ่นวายตามมาได้  ฉันไม่ได้ห่วงว่าหมอนั่นจะมาแย่งลูกไปจากนายหรอกนะ เขาไม่มีสิทธิทำอย่างนั้น ฉันแน่ใจว่าหมอนั่นไม่ได้รับแม็กกี้เป็นบุตรบุญธรรม และไม่ได้อยู่ในฐานะเป็นผู้ปกครองเด็กด้วย ฉันแค่ป้องกันไว้ ไม่อยากให้ใครฉวยโอกาสใช้ชื่อเสียงของนายมาต่อรองหรือสร้างปัญหาวุ่นวายขึ้นมาก่อนเวลาอันควรเท่านั้น  รอให้ถึงเวลาที่อาจจะต้องตกเป็นข่าวจริงๆ ในอีก 5 เดือนข้างหน้า  เราจะเคลียร์ทุกปัญหาให้จบลงในวันนั้นเลย”
   “หมายความว่าแม็กกี้ต้องอยู่แต่ในบ้าน  ออกไปไหนกับฉันไม่ได้ใช่มั้ย..”
   “ก็ทำนองนั้น แม็กกี้ออกไปกับใครก็ได้ ยกเว้นกับนาย.. ถึงจะรับรู้กันทั่วไปแล้วว่านายรับอุปการะเด็กอยู่แต่ไม่มีใครเคยเห็นหน้าเด็ก  นายจะเป็นข่าวขึ้นปกหรือขึ้นหน้าหนึ่งยังไงก็ได้แต่แม็กกี้เป็นข่าวไม่ได้ จำไว้นะ ทอม..”
   ทอมนั่งกอดอกรับฟังด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ แค่จะมีลูกกับเขาคนหนึ่งอุปสรรคมากมายเหลือเกิน คนมีชื่อเสียงในวงการอื่นๆ ลำบากอย่างนี้เหมือนกันหมดทุกคนหรือเปล่านะ..

 o12

ทอมตัดสินใจเลิกอาชีพนายแบบ เขาไม่ได้แค่หยุดรับงานชั่วคราวแต่จะไม่รับงานประเภทนี้อีกต่อไป  ทอมต้องการมีเวลาอยู่ใกล้ชิดและดูแลเด็กชายด้วยตัวเอง  หากยังมีงานเดินแบบเป็นอาชีพหลักเหมือนเดิม   บางวันเขาอาจไม่มีเวลาแม้แต่จะได้พูดคุยกับลูก 
   ทอมมีเหตุผลแอบแฝงในการตัดสินใจเลิกอาชีพนายแบบ เขาไม่ต้องการ ให้ชื่อเสียงของตัวเองตกเป็นรองใคร   ทอมเห็นด้วยกับคำพูดของจิม..  สุดยอดนายแบบ 3 สมัย ทอม แม็คกิลล์ ต้องลงจากเวทีอย่างสง่างาม  การเดินลงจากเวทีในขณะที่ยังติดอันดับสุดยอดอยู่ อาจถูกมองว่าเขาไม่สนใจความมีชื่อเสียง แต่เปล่าเลย.. ทอมยึดติดกับความเป็นสุดยอด  แม้จะยังไม่มีใครที่ดูดีกว่าขึ้นมาแทนที่ แต่ทอมเชื่อว่าเขาคงไม่มีโอกาสได้ตำแหน่งใดๆ เป็นสมัยที่ 4 อย่างแน่นอน   ณ วันนี้เขาเกือบจะเป็นนายแบบที่มีอายุมากที่สุดในกลุ่มนายแบบวัยหนุ่มด้วยกัน  แม้จะมีคนทักอยู่เสมอว่าเขาดูอ่อนเยาว์กว่านายแบบวัยรุ่นบางคน  แต่ในความเป็นจริงเขากำลังจะหลุดจากกลุ่มนายแบบวัยหนุ่มไปเป็นนายแบบรุ่นใหญ่ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าแล้ว
   จิมไม่แย้งการตัดสินใจของทอม เมื่อทอมให้เหตุผลว่าต้องการลงจากเวทีอย่างสง่างาม จิมก็เข้าใจความหมายในทันทีและเห็นดีด้วยจนทอมอดแปลกใจไม่ได้
   จิมแอบยินดีอยู่ในส่วนลึกด้วยซ้ำที่ทอมยุติอาชีพนี้  จะว่าเป็นความเห็นแก่ตัวก็ได้ที่เขาเริ่มรู้สึกไม่อยากให้ทอมเป็นคนของสาธารณชน  ไม่อยากให้เทพบุตรของเขาขึ้นไปเดินโชว์เรือนร่างและหน้าตาที่แสนจะงดงามมีเสน่ห์บนเวทีแคทวอล์คอีก ที่ผ่านมาสายตานับร้อยๆ คู่จากทุกเพศทุกวัยไม่เว้นแม้แต่กลุ่มรักร่วมเพศ ต่างเฝ้าจับจ้องเทพบุตรทอมด้วยความรู้สึกเสน่หาอยากจับจองเป็นเจ้าของทั้งสิ้น ทุกครั้งที่ภารกิจบนเวทีเสร็จสิ้น ทอมจะได้รับโทรศัพท์เสนอเงินทองมากมายโดยขอเป็นคู่ควงด้วย  ทอมมักจะหัวเราะและตอบอย่างสนุกว่า “ขอโทษครับ ตอนนี้เงินที่เก็บไว้ยังใช้ไม่หมดเลย ถ้าขัดสนเมื่อไรจะติดต่อกลับไปโดยด่วนครับ”
             จิมออกปากเห็นด้วยทันที เมื่อทอมบอกว่าจะเปลี่ยนงานมาอยู่เบื้องหลัง งานเดินแบบบ้าง  งานที่ทอมมีความสามารถทำได้เพราะได้ศึกษาคอร์สพิเศษมาแต่ไม่เคยคิดจะยึดเป็นอาชีพคือ งานดีไซเนอร์..
   ทุกครั้งที่เดินแบบทอมจะมีไอเดียในการสวมใส่เสื้อผ้าในแบบของตัวเอง และไม่มีเจ้าของเสื้อคนใดกล้าตำหนิ  เพราะการันตีได้เลยว่าทุกชุดที่สุดยอดนายแบบทอม แม็คกิลล์ สวมเป็นแบบ  จะมียอดขายอยู่ในอันดับต้นๆ เสมอ
    ทอมไม่นึกเสียใจเลยที่ละทิ้งตำแหน่งสูงสุดบนเวทีแคทวอล์คระดับโลก ซึ่งเป็นความฝันสูงสุดที่ใกล้จะเป็นความจริงของเขาไป   เพราะความสุขที่ได้รับจากการมีเจ้าหนูแม็กกี้อยู่เคียงข้างในวันนี้  ไม่มีความสุขครั้งไหนๆ เทียบเท่าได้ เป็นความรู้สึกที่แสนจะวิเศษที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ไม่ว่าจะหงุดหงิดหรือเหนื่อยจากเรื่องใดมา แค่ได้เห็นหน้าและรอยยิ้มของเด็กชายก็หายเหนื่อย เป็นปลิดทิ้งเลย..

 :oni1:

“ผมจะปรึกษาทอมอีกที  ขอบคุณที่ช่วยแนะนำครับหมอ”
   จิมวางสายหมอมาริสาด้วยสีหน้ากังวลและครุ่นคิด  เขาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจับตัวคนร้ายค้ายาและปล้นชิงทรัพย์ได้ 2 คน อีก 1 คนกำลังตามล่าตัว และได้หลักฐานบางอย่างที่เชื่อว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกับที่ทำร้ายเด็กชายในตึกร้าง 1 ใน 2 ให้การสารภาพ  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องการให้ผู้ปกครองพาเด็กไปชี้ตัวคนร้ายที่จับได้
   จิมปรึกษาเรื่องนี้กับหมอมาริสาเพื่อขอความเห็นในฐานะที่เธอเป็นจิตแพทย์ ได้รับการแนะนำว่าแม้เด็กชายจะฟื้นความจำและมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นมากแล้ว  แต่ในส่วนลึกยังคงต้องหวาดผวากับเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้น  เธอให้ความเห็นเพียงเท่านี้และให้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทอม
   ทอมกังวลและคิดหนัก เขาอยากให้ไอ้เดนมนุษย์พวกนั้นตกนรกหมกไหม้  แต่หากต้องแลกกับความรู้สึกของเด็กชายที่จะต้องเกิดอาการหวาดกลัวและผวา เมื่อเห็นหน้าคนร้ายล่ะก็..
   “ฉัน.. ไม่อยากให้แม็กกี้ไปเห็นหน้าพวกมันอีกเลย.. แต่ถ้าเราไม่พาเด็กไปชี้ตัวแปลว่าพวกมันจะพ้นผิดงั้นเหรอ  ทำไงดีอ่ะ จิม.. ฉันสงสารลูก..”
   จิมพยักหน้าหงึก
   “สงสารก็ไม่ต้องพาไป ฉันเห็นด้วยที่ไม่เอาแม็กกี้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีก  สำหรับความผิดที่พวกมันก่อไว้ยังไงก็หนีไม่พ้น แค่คดีที่ติดตัวมันอยู่ตอนนี้  โทษต่ำสุดที่จะได้รับก็ไม่พ้นประหารชีวิตแล้ว”
   ทอมใจหายอย่างแรงเมื่อรู้ว่าเดนมนุษย์กลุ่มนี้มีคดีปล้นชิงทรัพย์และข่มขืนติดตัวหลายคดี  โดยเฉพาะคดีข่มขืนเจ้าทุกข์ไม่เคยรอดชีวิตสักราย
   ..โอ!.. พระเจ้า เขาควรจะสาปส่งหรือขอบใจพวกมันดี  ที่อุตส่าห์ปรานีไว้ชีวิตเจ้าหนูของเขา..

 :serius2:


ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #219 เมื่อ02-02-2010 09:35:49 »

“แด๊ดดี้ฮะ”
“หืมม์..”   
ทอมครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่บนเตียง แม็กกี้นอนกระแซะอยู่ข้างๆ ทำตาปรือเหมือนง่วงแต่ไม่ยอมหลับซะที
“แด๊ดจะเลิกอาชีพนายแบบจริงๆ เหรอ..”
ทอมพยักหน้าให้เด็กชายก็ถอนหายใจเฮือกและบ่นเสียดาย
“เสียดายอะไร..”
“เสียดายแทนแฟนๆ ที่เขาจะไม่ได้เห็นความหล่อของเทพบุตรทอมแล้วซีฮะ”
ทอมบีบแก้มเจ้าหนูเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้
“ใครสอนให้เรียกเทพบุตร หือ..”
“ผมได้ยินคุณจิมเรียก  คุณจิมว่าแด๊ดดี้ไม่เหมือนมนุษย์”
“บ้าซี.. ไม่เหมือนมมุษย์แล้วเหมือนอะไร”
“คุณจิมว่าแด๊ดเหมือนเทพบนสวรรค์   ผมก็เห็นจริงด้วยฮะ”
“เหลวไหล  คุณจิมพูดอะไรไม่ต้องเชื่อไปหมดทุกเรื่องหรอกนะ แม็กกี้..”
“ผมไม่ได้เชื่อคุณจิมนะฮะ  ตอนที่แม่เอารูปแด๊ดดี้ให้ผมดูครั้งแรก ผมยังจำได้  ผมบอกแม่ว่าแด๊ดสวยเหมือนเทวดาบนสวรรค์เลย..”
“สวยเหรอ..”  ทอมถอนใจเฮือก  ดูเอาเถอะ.. แม้แต่แม็กกี้ยังเห็นเขาสวยมากกว่าหล่อ 
“คำว่าสวยเขาใช้กับผู้หญิง  แด๊ดเป็นผู้ชายนะ แม็กกี้..  ”
“ก็ใช่ฮะ  แต่..”   แม็กกี้มองหน้าทอมก่อนตอบ
“แต่มันสวยมากกว่าหล่อจริงๆ นะฮะ แด๊ด..”
“พอแล้วๆ   ปิดตานอนซะ ดึกมากแล้ว”

ทอมขยับตัวลงนอนสวมกอดเด็กชายที่เริ่มมีเนื้อหนังขึ้นมาบ้างแล้ว ไม่ใช่แค่อาหารดีๆ ที่ได้รับ แต่เพราะจิตใจเปี่ยมล้นด้วยความสุขที่ได้สมหวังในสิ่งที่ตัวเองฝันไว้มาตั้งแต่เด็ก

ทอมต้องเข้ามาดูแลให้แม็กกี้นอนหลับทุกคืน แม้เด็กชายจะบอกว่านอนเองได้แต่เขาก็ยังยืนยันความต้องการของตัวเองโดยให้เหตุผลว่า .... “ อีก 2 -3 ปี ลูกก็จะโตเป็นหนุ่มแล้วนะ แม็กกี้..  ขอให้แด๊ดทำหน้าที่ของพ่อได้กล่อมลูกนอนบ้าง  แต่ถ้าลูกไม่ชอบก็ไม่เป็นไร”   แม็กกี้รีบสวมกอดเขาไว้และตอบตกลงทันที....
   
“แด๊ดฮะ”
“หืมม์.. อะไรอีก  ทำไมวันนี้จุ๊กจิ๊กจัง”
“ก็ผมยังไม่ง่วงนี่..   วันนี้ผมนอนกลางวันด้วย”
“อือ.. แล้วไง..  ลุกขึ้นมานั่งคุยกันต่อดีมั้ย”
“ดีฮะ”   ร่างเล็กรีบลุกขึ้นมานั่งยิ้ม  ทอมส่ายหน้าระอาใจนอนมองตาปริบๆ   
“แด๊ด.. ผมมีเรื่องอยากถามได้มั้ยฮะ..”
ทอมเลิกคิ้ว   
“เรื่องอะไรเหรอ..”
“เรื่อง..เอ่อ..”  แม็กกี้นิ่งคิดชั่วครู่ก่อนเอ่ยคำถามด้วยน้ำเสียงกระซิบ
“แด๊ดดี้รักคุณจิมใช่มั้ยฮะ ”
ทอมใจหายกับคำถาม   แต่ยิ้มตอบกลับไปด้วยท่าทีปกติ
“รักซิ.. คุณจิมเป็นทั้งพี่ชายและเพื่อนสนิทของแด๊ด ที่จริงลูกควรเรียกคุณจิมว่า  ‘ลุง ’ ด้วย”
“รักแบบพี่หรือเพื่อนเขากอดจูบกันด้วยเหรอฮะ หรือว่าเป็นธรรมเนียมฝรั่ง”
ทอมลุกพรวดขึ้นนั่ง  เอ็ดเด็กชายเสียงเขียว
“ใครบอก  หา!!..”
“เอ่อ..  ป.. เปล่าฮะ.. ไม่มีใครบอก ผมเห็นเอง”
“ลูกเห็นเหรอ..  ที่ไหน.. เมื่อไร..”    ทอมจับไหล่ร่างเล็กเขย่าด้วยความลืมตัว   แม็กกี้ตกใจทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้   ทอมรู้สึกตัวรีบสวมกอดเจ้าหนูไว้แนบอก
“ช่างเถอะ.. ลูกจะเห็นที่ไหน.. เมื่อไร.. ก็ไม่มีความหมายอะไร  จะว่าเป็นธรรมเนียมฝรั่งก็ได้  ทุกวันนี้คุณจิมเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวที่แด๊ดมีอยู่  สิ่งที่ลูกเห็นก็แค่.. การแสดงความรักและความสนิทสนมที่เรามีให้กัน ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น..  หรือว่าลูกคิดอะไรอยู่ หือ..  พูดได้นะ แม็กกี้..”
“ผม.. เอ่อ.. ผมนึกว่าแด๊ดดี้กับคุณจิมรักกันแบบ เอ่อ.. แบบคนรักฮะ..”
ประโยคสุดท้ายเด็กชายก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาทอม จึงไม่ได้เห็นสีหน้า กังวลและหนักใจของผู้เป็นพ่อ
“เหลวไหล.. คิดอย่างนั้นได้ยังไง  ลูกคงไม่รู้ว่าทั้งคุณจิมและแด๊ดเปลี่ยนสาวควงไม่ซ้ำหน้ากันเลย เพิ่งจะหยุดตอนมีลูกเข้ามาในชีวิตนี่แหล่ะ  ถ้าไม่เชื่อ แด๊ดจะควงมาอวดดีมั้ย..”
“ไม่เอา”   แม็กกี้รีบปฏิเสธและสวมกอดทอมไว้ ไม่อยากให้ใครมาแย่งความรักของพ่อไปจากตัวเอง  โดยเฉพาะในเวลานี้..
“ผมไม่ได้ไม่เชื่อซะหน่อย แค่ถามดูเฉยๆ  ผมรู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้หรอก  ผู้ชายด้วยกันจะรักกันได้ยังไง  ไม่ใช่พวกวิปริตซะหน่อย ฮึก..”
ทอมสะอึกกับคำพูดของเจ้าหนู  หากแต่อาการสะอื้นของเด็กชายทำให้เขาตกใจและเป็นห่วงลูกมากกว่าความรู้สึกตัวเอง
“เป็นอะไร แม็กกี้..”  ทอมเงยหน้าเด็กชายขึ้น  ใจหายเมื่อเห็นเจ้าหนูน้ำตาคลอ 
“เป็นอะไรลูก หือ..”
แม็กกี้ส่ายหน้าและซบลงกับอกทอม
“เปล่าฮะ.. ผมแค่นึกถึงตอนที่ถูกทำร้าย พวกมันเป็นพวกวิปริตใช่มั้ยฮะ แด๊ด..”

..โอ!.. พระเจ้า...  ทอมเจ็บในอก  แค่นึกสงสัยความรักระหว่างเขากับจิมเท่านั้น  ทำไมถึงโยงให้หนุ่มน้อยคิดถึงเหตุการณ์เลวร้ายนั้นได้…
..ไม่ใช่พวกจิตวิปริตซะหน่อย..
..หรือว่า.. ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจิมถึงเวลาต้องปิดฉากลงแล้ว..

 o7

          “หลับแล้วเหรอ.. ทำไมวันนี้ดึกจัง”
   จิมคว้ารีโมทหรี่เสียงทีวีก่อนขยับเข้าสวมกอดทอมที่เดินเข้ามาทรุดตัวลงนั่งด้วยท่าทีเซ็งๆ   ทอมเบี่ยงตัวหนีและลุกขึ้นยืน  จิมมองตามตาปริบๆ แต่สีหน้ายังยิ้มแย้ม
   “เป็นอะไรทอม..  หงุดหงิดอะไร  หรือว่าแม็กกี้ยังไม่หลับ”
   “หลับแล้ว”  ทอมกระแทกเสียงอย่างไม่พอใจ ..อยากจะบอกว่าหงุดหงิดที่เห็นนายยังนั่งคอยอยู่นี่แหล่ะ..

ระยะหลังจิมเข้ามาขอนอนกับทอมเกือบทุกคืน แต่จะลุกกลับไปนอนที่ห้องตัวเองในเวลาเช้ามืด ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายหนุ่มทั้งสองไม่มีใครในบ้านล่วงรู้นอกจากนายเอ๊ดคนขับรถคู่ใจ  ถึงจะกะล่อนและรอบจัดแต่ไว้ใจได้เรื่องความซื่อสัตย์และรู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี  ต่อหน้าทุกคนในบ้านจิมจะแสดงกิริยาและปฏิบัติกับทอมเหมือนปกติ  ยกเว้นเวลาอยู่สองต่อสองในห้องนอนคนใดคนหนึ่ง ทอมไม่เข้าใจว่าแม็กกี้แอบเห็นเขาและจิมกอดจูบกันได้ยังไง.. เห็นเมื่อไรและที่ไหน..

   ทอมเดินงุ่นง่านไปมาคิ้วเรียวขมวดมุ่น  จิมนั่งนิ่งไม่ซักอะไรเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายอารมณ์ไม่จอย   ทอมหยุดเดินและหันมามองหน้าจิม  จิมยิ้มหวานให้แต่ไม่ได้รับรอยยิ้มตอบกลับมา
   “คืนนี้ฉันต้องการนอนคนเดียว” ทอมพูดชัดถ้อยชัดคำเพราะไม่ต้องการพูดทวนซ้ำอีกครั้ง
   จิมเลิกคิ้วเหมือนแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ซักอะไร ลุกขึ้นยืนและรั้งทอมเข้ามาสวมกอด
   “ทำไมต้องขมวดคิ้วนิ่วหน้าด้วยเดี๋ยวแก่เร็วนะ  รีบนอนพักผ่อนซะ ตื่นขึ้นมาจะได้อารมณ์ดีขึ้น”
   ทอมเบี่ยงตัวออก
   “ถ้าเป็นไปได้  อย่ากอดและจูบฉันพร่ำเพรื่อเหมือนที่ผ่านๆ มาอีก”
   จิมขมวดคิ้วแต่เพียงแว่บเดียวก็คลายสีหน้าเป็นปกติ
   “โอเค.. งั้นคืนนี้ฉันจะกลับไปนอนที่ห้อง  กู๊ดไนท์ ทอม.. หลับฝันดีนะ”
   กำลังจะก้าวออกจากห้อง จิมก็ต้องชะงักกับคำประกาศิตของเทพบุตรสุดรัก
   “ไม่ใช่แค่คืนนี้นะ  คืนพรุ่งนี้และคืนต่อๆ ไปด้วย  คืนไหนอยากให้นอนเป็นเพื่อนฉันจะบอกเอง..”
   “รับทราบจ้ะ ที่รัก.. จะปฏิบัติตามสั่งครับ ”   จิมตอบรับด้วยสีหน้ายิ้มระรื่นก่อนก้าวออกจากห้องด้วยท่าทีสงบ หากแต่เมื่อบานประตูปิดลง ร่างสูงก็ถอนใจเฮือกใหญ่

   เขายอมรับว่าตามอารมณ์ของทอมไม่ทัน  ตั้งแต่ตกที่นั่งพ่อของลูก นิสัยเจ้าอารมณ์ของทอมลดลงไปมาก ไม่ฉุนเฉียวและโมโหง่ายเหมือนก่อน  คืนนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  จู่ๆ ทอมก็ไม่สบอารมณ์เขาขึ้นมาเฉยๆ ทั้งที่วันนี้ทอมมีความสุขมากอารมณ์ดีทั้งวันเพราะได้ข่าวที่น่ายินดีจากหมอมาริสาว่าผลตรวจเลือดของเด็กชายไม่พบเชื้อ HIV ตามที่เป็นกังวล  เมื่อตอนหัวค่ำก็ยังหัวเราะเล่นสนุกกับเขาและแม็กกี้อยู่เลย  และคนที่บอกให้เขาเข้ามานั่งดูทีวีคอยก็คือตัวเองแท้ๆ

 :เฮ้อ:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
« ตอบ #219 เมื่อ: 02-02-2010 09:35:49 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #220 เมื่อ02-02-2010 09:47:26 »

           ((แม่ครับ..  เราพูดเรื่องนี้กันหลายหนแล้วนะครับ))
   ทอมชะงักเท้าเมื่อได้ยินน้ำเสียงหงุดหงิดของจิมขณะพูดคุยโทรศัพท์ทางไกลกับมารดา  ถึงจะฟังภาษาไม่ออกแต่รู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่สบอารมณ์
   ((เอาเป็นว่าผมรับปากว่าจะกลับไปเยี่ยม แต่เรื่องมาเรียผมเสียใจที่ไม่สามารถตกลงได้  ไว้ผมจะบอกเหตุผลทีหลังล่ะกัน บายครับแม่))
   จิมวางโทรศัพท์ลงพร้อมกับถอนหายใจ  คุยกับมารดาทีไรรู้สึกเหนื่อยใจทุกครั้ง เขาหลับตาพิงพนัก สมองคิดหาวิธีที่จะให้มารดาเลิกยุ่งเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขาโดยเฉพาะเรื่องคู่ครอง
   “จิม..”
   จิมสะดุ้งลืมตาขึ้นก็เจอะใบหน้างามอยู่ห่างไม่ถึงคืบ อาการเหนื่อยใจหายเป็นปลิดทิ้ง  กลิ่นอาฟเตอร์เชฟโชยกรุ่นจนอดใจไม่ไหว  ขยับตัวขึ้นจูบแก้มเทพบุตรแสนรักด้วยความรวดเร็ว
   ทอมผละออกตีหน้ายักษ์และคว้าหมอนอิงฟาดใส่ จิมยอมให้ตีแต่โดยดี  ก็มันลืมตัวนี่นา ทั้งรูปทั้งกลิ่นเชิญชวนขนาดนี้ใครจะอดใจไหว
   ทอมทรุดตัวลงนั่ง    จิมขยับเข้ามาขอโทษเสียงอ่อนเสียงหวาน
   “ขอโทษจ้ะ   ลืมตัวไปหน่อย  ก็นายอยากหอมทำไม”
   ทอมตาเขียวใส่หน้าบึ้งจนจิมไม่กล้ากระเซ้าต่อ รีบรายงานเรื่องของเจ้าหนูเพื่อคลายอารมณ์โกรธของทอมลง
   “หาครูสอนพิเศษให้แม็กกี้ได้แล้วนะ ทอม.. จะให้ไปเรียนที่บ้านครูหรือให้ครูมาสอนที่นี่”     จิมถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
   “ให้ครูมาสอนที่บ้าน”

ทอมตอบโดยไม่เสียเวลาคิด ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะปล่อยแม็กกี้ออกไปพบปะคนแปลกหน้านอกบ้าน   นับจากวันที่แม็กกี้จำเหตุการณ์ต่างๆ ได้ทั้งหมดจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้ว  แม้เด็กชายจะมีอารมณ์เบิกบานแจ่มใสขึ้น  ยิ้มและหัวเราะสนุกเหมือนเด็กทั่วๆ ไป  แต่เหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นก็ยังอยู่ภายในจิตใต้สำนึก  แม็กกี้ยังมีอาการตกใจและหวาดกลัวเมื่อเห็นเหตุการณ์หรือภาพคนถูกทำร้าย จนทอมต้องสั่งห้ามไม่ให้คนในบ้านดูหนังที่มีการชกต่อยหรือทำร้ายกันหากแม็กกี้นั่งดูอยู่ด้วย หมอมาริสาบอกว่าเด็กชายยังมีอาการทางจิต  ซึ่งต้องใช้เวลาและพยายามเลี่ยงไม่ให้พบปะกับเรื่องร้ายหรือเหตุการณ์รุนแรง   

สองวันก่อนแม็กกี้บอกเขาว่าตัวเองหายป่วยและแข็งแรงดีแล้ว อยากกลับไปเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นๆ แต่ด้วยเหตุผลที่เขายังไม่ได้จดทะเบียนรับแม็กกี้เป็นบุตรตามกฎหมาย และการที่เขาต้องใช้ชีวิตอยู่กับเด็กชายอย่างเงียบที่สุด ไหนจะอาการทางจิตที่พร้อมจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้  เขาจึงให้เหตุผลว่าเข้าเรียนกลางปีแบบนี้จะเรียนไม่ทันเพื่อน  ถ้าอยากเรียนจริงๆ จะหาครูมาสอนพิเศษให้ที่บ้าน   แม็กกี้หน้าจ๋อยแต่ก็ยินยอมโดยดี

   “มีปัญหาเหรอ”    ทอมถามด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย
   จิมส่ายหน้า
   “ไม่มี.. แล้วแต่เราอยู่แล้ว  ครูผู้หญิงเพิ่งจบได้ไม่กี่เดือน อัธยาศัยน่ารัก น่าจะเข้ากับแม็กกี้ได้   ไม่มีปัญหาหรอก”
   “ฉันหมายถึงปัญหากับแม่นาย ไม่ได้หมายถึงครู แม่เรียกนายกลับไปเยี่ยมบ้านใช่มั้ย..”
   จิมพยักหน้า  คิ้วเข้มขมวดทันทีที่พูดถึงปัญหานี้
   “แล้วทำไมต้องทำหน้ายุ่งยากใจขนาดนั้น ฉันไม่มีปัญหาหรอกนะ ถ้านายจะกลับไปเยี่ยมแม่ จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่นายกลับไป  มันสองปีผ่านมาแล้ว”
   จิมถอนใจเฮือก  ...แค่กลับไปเยี่ยมแม่ไม่ใช่ปัญหาหรอก...
   “นายอยู่กับแม็กกี้สองคนได้เหรอ”
   “ทำไมจะไม่ได้ ตอนนี้แม็กกี้ก็หายดีแล้ว อย่าบอกนะว่านายยุ่งยากใจเพราะเป็นห่วงฉัน”
   “ถึงไม่มีอะไรน่าห่วงแต่ฉันก็ไม่สบายใจนักหรอกที่จะต้องจากนายไป มันไม่ใช่แค่วันสองวันนะ  อย่างน้อยสองอาทิตย์  จากกันนานขนาดนั้น ฉันทนคิดถึงนายไม่ไหวหรอก ทอม..”
   จิมพูดจากความรู้สึกของตัวเอง  แต่ทอมกลับหงุดหงิดและไม่สบอารมณ์กับเหตุผลของจิม
   “เหลวไหลสิ้นดี  คิดถึงบ้าบออะไรกัน   คนที่นายควรคิดถึงคือพ่อแม่.. ไม่ใช่ฉัน.. นายเป็นลูกประสาอะไรจิม.. นึกถึงหัวอกท่านบ้างซิ  ไม่ได้เห็นหน้าลูกเกือบ 2 ปีแล้ว   ขอให้กลับไปเยี่ยมบ้าน  นายกลับยึกยักอ้างเหตุผลไร้สาระ
เห็นคนอื่นสำคัญกว่าพ่อแม่ตัวเอง  มันเข้าข่ายลูกอกตัญญูแล้วรู้มั้ย”
   จิมนั่งตะลึง ไม่เข้าใจว่าทำไมทอมจึงหัวเสียถึงขนาดต่อว่าเขาด้วยคำพูดรุนแรงแบบนี้  ประโยคสุดท้ายถ้าเป็นคนอื่นพูดคงเจอเขาสวนด้วยหมัดไปแล้ว
   “ฉันยังไม่ได้บอกสักคำว่าจะไม่ไป แค่บอกว่าไปนานหลายวันฉันคงคิดถึงนายมาก ทำไมต้องหัวเสียด้วยล่ะ ฉันไม่เคยเห็นคนอื่นสำคัญกว่าพ่อแม่ และนายก็ไม่ใช่คนอื่นสำหรับฉัน.. นายเป็นคนสำคัญในชีวิตของฉันรองจากพ่อและแม่นะทอม.. ฉันรักนายมาก นายก็รู้..”
   สีหน้าจิมจริงจังและลึกซึ้งจนทอมรู้สึกผิดที่พูดจารุนแรงไป  พร้อมกับรู้สึกเขิน เขาไม่ชินกับการถูกจิมบอกรักซะที ทั้งที่ได้ฟังมาจนนับครั้งไม่ถ้วน  ได้ยินจิมสารภาพความในใจทีไร เขารู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้าแบบนี้ทุกครั้ง
   “เอ่อ.. จะยังไงก็เหอะ  ฉันอยากให้นายกลับไปเยี่ยมครอบครัวโดยไม่ต้องพะวงถึงฉัน  ฉันอยู่กับแม็กกี้สองคนได้ จะไปนานเป็นอาทิตย์  เป็นเดือนหรือนานแค่ไหนก็ได้ฉันไม่มีปัญหา   เพราะช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้นายไม่มีเวลาได้พักผ่อนเป็นส่วนตัวเลย  ถือซะว่าไปพักร้อนเลยล่ะกัน”

ทอมพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแต่คนฟังกลับยิ้มไม่ออก  นั่งอึ้งเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง เป็นครั้งแรกที่จิมได้รับอนุญาตให้ลาพักด้วยความเต็มใจ ที่ผ่านมาแค่ขอลาไปทำธุระ 2-3 วัน ก็ถูกย้ำนักย้ำหนาให้รีบกลับ แต่วันนี้ทอม อนุญาตให้เขาลาพักได้โดยไม่มีกำหนด  แบบนี้แล้วเขาควรจะดีใจไม่ใช่เหรอ..  ทำไมกลับรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก

             “ล้อเล่นใช่มั้ย ทอม..  ที่ว่าให้ไปนานแค่ไหนก็ได้น่ะ”
             “ไม่ได้ล้อเล่น จิม.. ฉันยินดีให้นายพักตามสบายเลย กี่วันก็ได้ไม่ต้องห่วง  ฉันมีแม็กกี้อยู่เป็นเพื่อนแล้ว ไม่เหงาหรอก”    น้ำเสียงและสีหน้าของทอมส่อแววยินดีจริงๆ  จนจิมพูดไม่ออก
   “ทำไมต้องทำหน้าลำบากใจด้วย  ฉันแค่อยากให้นายไปเยี่ยมแม่และถือโอกาสพักผ่อนไปด้วย หรือว่านายมีปัญหาเรื่องอื่น จริงซี!.. มาเรียคือใครเหรอ”
   จิมสะดุ้งเมื่อทอมเอ่ยชื่อหญิงสาวที่เป็นตัวปัญหาของเขา
   “เอ่อ.. เป็นญาติห่างๆ น่ะ   ไม่มีปัญหาเรื่องอื่นหรอก    ถ้านายออกปาก
แบบนี้  ฉันก็จะได้กลับไปเยี่ยมบ้านอย่างสบายใจ”   
   จิมตัดบทไม่อยากให้ทอมซักมากความกว่านี้  ทอมมีสีหน้าสบายใจจนเขารู้สึกขัดตาและหงุดหงิดใจ
   “จะไปเมื่อไร  เร็วๆ นี้เลยหรือเปล่า”
   ทอมซักอย่างใคร่รู้  แต่ในความรู้สึกของจิมเหมือนอยากให้ไปเร็วๆ  เขาเริ่มฉุนจึงตอบตัดบทประชดไป
   “ก็คง 2-3 วันนี้แหล่ะ”
   “จริงเหรอ.. งั้นเดี๋ยวฉันเขียนเช็คให้นะ”
   “ค่าอะไร”     น้ำเสียงห้วนเพราะรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น
   “ค่าใช้จ่ายเดินทางและระหว่างพักร้อนที่บ้านไง   ฉันให้เป็นโบนัสพิเศษกับนายน่ะ จิม..”
   “ฉันไม่ต้องการ!!..”     
             ทอมสะดุ้งหน้าเสียกับเสียงตวาด    จิมรู้สึกตัวกล่าวขอโทษเสียงอ่อน
   “ขอโทษ ทอม.. เราคุยกันเข้าใจแล้วไม่ใช่หรือว่าฉันไม่ต้องการเงินจากนายอีก  ฉันมีเงินเก็บมากพอที่จะกลับไปอยู่เป็นปีๆ ได้เลย   ตอนนี้นายไม่ใช่หนุ่มโสดตัวคนเดียวแล้ว  อาชีพใหม่ของนายรายได้ก็ยังไม่แน่นอน  เก็บเงินไว้ใช้ในเรื่องที่จำเป็น  ไว้ให้แม็กกี้เรียนหนังสือด้วย โอเค..”
   ทอมพยักหน้ารับและยิ้มให้
   “ก็ได้.. แล้วแต่นาย ว่าแต่.. แน่ใจนะว่านายไม่ได้มีปัญหากับแม่ ดูท่าทางนายหงุดหงิดและไม่สบอารมณ์เลย มีปัญหาอะไรก็ขอให้บอก  บางทีฉันอาจจะช่วยได้นะ”
   จิมถอนใจเฮือก
    ...ให้ตายเถอะ!!.. วันนี้เทพบุตรของเขาเป็นอะไร นอกจากจะพูดจาไม่เข้าหูแล้ว  ยังเซ้าซี้ถามเรื่องที่เขาพยายามเลี่ยงไม่อยากพูดอีก..
   “ช่วยไม่ได้หรอก  เป็นเรื่องส่วนตัวน่ะ”
   “ส่วนตัว?..  แม้แต่กับฉันเหรอ..”
   “ก็.. เอ่อ.. เป็นปัญหาทางบ้านน่ะ  นายไม่จำเป็นต้องรู้..”
   “แต่ฉันอยากรู้นี่นา เผื่อจะช่วยแก้ปัญหาได้บ้าง หรือว่านายไม่เชื่อใจฉัน”
   จิมส่ายหน้าเมื่อเทพบุตรสุดรักครวญเสียงอ่อย
   ..ทอมนะทอม..  เป็นแบบนี้ทุกที ต้องได้ดั่งใจทุกเรื่อง รู้ก็ทั้งรู้ว่าฉันทนเห็นสีหน้าออดอ้อนของนายไม่ได้..
   จิมตัดสินใจเล่าปัญหาให้ฟัง  ในเมื่อเซ้าซี้อยากรู้ให้ได้เขาก็จะบอก จะได้หยั่งรู้ความในใจของทอมด้วย

 :เฮ้อ:

           ทอมนั่งนิ่งฟังด้วยสีหน้าครุ่นคิด   จิมรู้สึกผิดหวังที่เทพบุตรของเขาอยู่ในอาการสงบแทนที่จะโวยวายซักถามด้วยอารมณ์
   “ไม่น่าปฏิเสธไปเลย”    ทอมรำพึงเบาๆ 
   คิ้วเข้มขมวด
   “ทำไม..  นายเห็นว่าฉันควรรับข้อเสนอของแม่งั้นเหรอ”
   “เปล่า..  แค่คิดว่าน่าจะลองทำความรู้จักกับเธอก่อนตัดสินใจ”
   “ทำความรู้จัก”     จิมทวนคำ เริ่มรู้สึกแปลกๆ กับคำพูดของทอม 
             “รู้จักทำไม  เพื่ออะไร..”
             “ก็.. เธออาจสวยขึ้นกว่าเดิม  มีอัธยาศัยน่ารัก นายเห็นแล้วอาจจะถูกใจเธอก็ได้..”
   จิมสะอึกกับความเห็นของทอม รอยยิ้มบนใบหน้างามสอดรับกับคำพูดจนเขารู้สึกเจ็บแปลบในอก  ...นี่มันเกิดอะไรขึ้น  เป็นเขาหรือทอมกันแน่ที่สติไม่อยู่กับตัว...
   จิมรวบรวมจิตใจให้เข้มแข็งย้ำความรู้สึกในใจให้ทอมได้รับรู้อีกครั้ง
   “จะสวยหรือน่ารักขนาดไหนฉันก็ไม่มีวันถูกใจหรอก ฉันปฏิเสธข้อเสนอของแม่ไปเพราะอะไรนายก็น่าจะเข้าใจดี ไม่เอาน่ะทอม.. อย่าล้อเล่นแบบนี้.. อย่าทำเหมือนนายไม่รับรู้และไม่เข้าใจความรู้สึกที่ฉันมีให้  ตอนนี้เราคบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ.. ฉันรักนายและนายก็รักฉัน  เพียงแต่นายยังไม่พร้อมและฉันก็ยินดีที่จะรอ..  เพราะฉะนั้นฉันไม่สามารถทำตามข้อเสนอของแม่ได้  ปฏิเสธไปก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่เหรอ..”
   “ผิด”    ทอมสวนกลับด้วยสีหน้าเครียด 
   “มันเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว นายต้องนึกถึงหัวอกของพ่อแม่ ท่านไม่ได้อยากให้นายมีครอบครัวอย่างเดียวแต่อยากได้หลานด้วย นายเป็นลูกชาย คนเดียวของตระกูลการ์เซีย ต้องมีทายาทและผู้สืบสกุลให้ตระกูล ความ สัมพันธ์ระหว่างเรามันแค่เรื่องฉาบฉวย  เรื่องเล่นๆ เท่านั้น  ไม่มีทางเป็นจริงไปได้ บางทีอาจเป็นเพราะที่ผ่านมาเราอยู่ใกล้ชิดกันมากเกินไป  ความรู้สึกที่มีให้กันจึงสับสน  ความรักระหว่างเราอาจไม่ใช่อย่างคนรักก็ได้ ลองอยู่ห่างกันสักพัก   บางทีทั้งฉันและนายอาจเข้าใจความรู้สึกของตัวเองดีขึ้น...”
   จิมนั่งตะลึง ทุกคำพูดของทอมเหมือนลูกธนูอาบยาพิษปักตรงกลางใจเขา  ตัวยากำลังแทรกซึมและทำลายเนื้อเยื่อหัวใจของเขาให้แหลกสลายลง
   ...โอ!!.. พระเจ้า.. เจ็บ.. เขาเจ็บมากเหลือเกิน เข้าใจถ่องแท้ในนาทีนี้แล้วถึงอาการและคำพูดแปลกๆ ของทอมในวันนี้...
           จิมฝืนยิ้มกล่าวน้ำเสียงแหบพร่า
   “ข้อสมมติฐานของนายน่าฟังและอาจเป็นไปได้สำหรับนาย ทอม.. แต่ไม่ใช่สำหรับฉัน  ความรู้สึกที่ฉันมีให้นายเป็นเรื่องจริงไม่ใช่เรื่องเล่น  และฉันไม่เคยสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง..”
จิมแย้มยิ้มในสีหน้าทั้งที่ในใจกำลังเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส  เขาต้องใช้ความพยายามอย่างสูงซ่อนความขมขื่นไว้ภายใน
   “ขอบใจที่นายเป็นห่วงตระกูลการ์เซียของฉัน  ขอบใจที่เตือนสติไม่ให้ฉันกลายเป็นลูกอกตัญญู  ฉันจะเดินทางในอีก 2 วัน จะลองไปทำความรู้จักกับเธอดูตามคำแนะนำของนาย  บางทีฉันอาจจะยอมรับข้อเสนอของแม่..” 
   ทอมกลับเป็นฝ่ายหน้าจ๋อยลง  นั่งฟังตาปริบๆ โดยไม่พูดอะไรอีก
   “ลองอยู่ห่างกันสักพักก็ดี นายจะได้เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาฉันอาจเป็นฝ่ายเซ้าซี้และฝืนความรู้สึกของนายโดยไม่รู้ตัว”
   จิมลุกขึ้นยืน
   “แต่รู้อะไรไว้อย่างนะ ทอม..  ถึงฉันจะยอมแต่งงานกับมาเรีย มีทายาทวิ่งเล่นเป็นโขลง  ฉันก็ไม่มีวันตัดใจเลิกรักนาย”
             ทอมมองตามร่างสูงเดินขึ้นบันไดหายลับไป  สับสนกับความรู้สึกของตัวเองในนาทีนี้  อุตส่าห์ได้โอกาสบอกตัดสัมพันธ์ที่เป็นไปไม่ได้ให้จบลงแล้ว  ทำไมถึงไม่รู้สึกโล่งอกเลย กลับเจ็บข้างในอย่างบอกไม่ถูก เป็นเพราะจิมยินยอมโดยดีอย่างน่าใจหาย ไม่โวยวาย ไม่อ้อนวอนขอร้องสักคำอย่างนั้นเหรอ..
           ...ไม่นะ เขาต้องเข้มแข็ง ยอมรับความเจ็บปวดเสียเอง  เพื่อแม็กกี้และเพื่อตระกูลการ์เซียของจิม...
   ทอมกำลังคิดหาวิธีที่จะยุติความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจิมอยู่พอดี  ปัญหาของจิมในวันนี้เป็นเหตุการณ์เหมาะเจาะและสอดรับกับเหตุผลในการตัดสินใจของเขา  แต่เมื่อตัดใจพูดไปแล้วเขาก็แทบอยากจะกลับคำในทันที ถ้าเพียงแต่จิมจะถามย้ำอีกครั้งว่า  ...ที่พูดมาทั้งหมดจริงหรือเปล่า ทอม..
           “ขอบใจที่นายไม่ถามฉัน จิมมี่..”    ทอมรู้สึกเจ็บและแน่นในอกจนต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ

 o7


ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #221 เมื่อ02-02-2010 10:06:10 »

“นายต่างหากที่สับสน ทอม.. ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่มีวันตัดใจ จะรักและคิดถึงนายจนลมหายใจสุดท้ายเลย”

   จิมวางกรอบรูปลงในกระเป๋าเดินทาง มันเป็นรูปถ่ายคู่กับทอมเพียงรูปเดียวที่เขามีอยู่  ถึงจะมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดทอมทั้งในและนอกเวลางาน แต่ไม่เคยได้ถ่ายรูปคู่กันอย่างจริงจังสักครั้ง นี่เป็นรูปแรกและคงเป็นรูปสุดท้ายที่เขาจะได้มีโอกาสยืนอยู่เคียงข้างเทพบุตรทอม แม็คกิลล์

   จิมเลือกหนังสือแฟชั่นที่มีทอมเป็นแบบ 2-3 เล่มติดตัวไปด้วย เขาจัดเสื้อผ้าลงกระเป๋าแค่ 4-5 ชุด ที่เหลือเก็บใส่ลังไว้  ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงห้องที่เขาพักอาศัยอยู่มานานกว่า 3 ปีก็กลายสภาพเป็นห้องว่าง ไม่มีสมบัติที่เป็นของเขาหลงไว้เลยสักชิ้น เขาไม่ได้ขนของทั้งหมดไปกับการเดินทาง มีเพียงกระเป๋าเสื้อผ้าใบเดียวที่จะนำไป  ที่เหลือตั้งใจจะนำไปเก็บไว้ที่คอนโดเพราะอาจต้องเดินทางกลับมาทำธุระ ถึงเวลานั้นเขาคงไม่มีหน้าหวนกลับมาซุกหัวนอนที่บ้านแม็คกิลล์อีก

   ร่างสูงหงายหลังลงบนที่นอน  แค่เก็บของลงกระเป๋าทำไมรู้สึกเหนื่อยแทบขาดใจทั้งที่ไม่ได้ออกแรงอะไรเลย  หรือว่าที่กำลังรู้สึกไม่ใช่อาการเหนื่อยแต่เป็นความอ่อนล้าเพราะหัวใจได้รับความเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ทอมพูดจาตัดรอนเขาหลายครั้งแต่ไม่มีครั้งใดทำร้ายจิตใจเขาจนรู้สึกสิ้นหวังเท่าครั้งนี้  เป็นเพราะเขาหลงเชื่อใจคิดว่าจับมือทอมไว้ได้แล้ว แต่จู่ๆ ทอมก็สะบัดมือวิ่งหนีจากไปดื้อๆ  เขาตั้งรับไม่ทัน ไม่รู้จริงๆว่าเกิดอะไรขึ้น  ปัญหาของมาเรียต้องไม่ใช่สาเหตุแต่คงเป็นโอกาสที่ทำให้ทอมตัดใจจากเขา ทอมคงรู้จิตใจตัวเองแล้วว่าที่ผ่านมาหลงผิดและสับสนกับความรู้สึกที่มีให้เขา

   ก๊อก!!.. ก๊อก!!.. 
   เสียงเคาะประตูและเปิดออกโดยที่จิมยังไม่ได้เอ่ยอนุญาต  ถ้าเป็นเวลาอื่นเขาต้องโวยใส่แล้ว  แต่ขณะนี้จิมไม่มีอารมณ์ที่จะหงุดหงิดกับเรื่องไร้สาระ
   “สามลังที่พื้นเอาขึ้นรถให้หมด  เหลือกระเป๋าเดินทางไว้ก่อน”
   จิมออกคำสั่งทั้งที่ยังนอนหลับตา 
   ...เงียบ!!..  ไม่มีเสียงขานรับ แต่กลับมีเสียงเหมือนของในรังถูกรื้อ  จิมถอนใจว่าจะไม่อยากมีอารมณ์ก็อดไม่ได้
   “ฉันให้แกขึ้นมาขนของนะเอ๊ดดี้.. ไม่ใช่ให้มา…”   จิมชะงักคำพูดไว้แค่นั้นเมื่อหันมาเห็นร่างที่นั่งยองๆ รื้อของอยู่ไม่ใช่นายเอ๊ด
            “เก็บของไปหมดห้องเลย  แปลว่าจะไม่กลับมาอีกแล้วเหรอ..”
   จิมลุกพรวดขึ้นนั่ง   
            “เอ่อ.. ของในลังจะเอาไปเก็บไว้ที่คอนโดน่ะ  ฉันอาจจะไม่กลับมาอีก  ถึงมาก็คงไม่กลับมาพักที่นี่  นายเก็บห้องไว้รับรองแขกเถอะ”
   “ทำไมอ่ะ”   ทอมก้มหน้ารื้อของในลัง
   จิมลอบถอนใจกับคำถามซื่อๆ
   “เพราะฉันอาจไม่ได้กลับมาคนเดียว บางทีอาจจะพามาเรียมาด้วย จะให้ฉันพาเธอมาพักที่นี่งั้นเหรอ..”
   “ไม่เห็นเป็นไรเลย ที่นี่ก็เหมือนบ้านของนาย และห้องนี้ฉันก็ยกให้นายแล้ว  เป็นสิทธิของนายที่จะพาใครมาพักด้วยก็ได้..”
            จิมฝืนหัวเราะทั้งที่ในใจขมขื่น  ลุกขึ้นเดินเข้าไปทรุดตัวลงข้างเทพบุตรสุดรัก
   “ใครก็ได้ที่นายว่า.. คือผู้หญิงที่ฉันอาจจะแต่งงานด้วย ฉันอาจจะพาเธอมาฮันนีมูนที่เมืองไทย นายเต็มใจจะให้ฉันใช้ห้องนี้เป็นเรือนหองั้นเหรอ..  อยากให้ฉันพาเธอมาพักที่นี่จริงๆ หรือ ทอม..”
   ทอมพยักหน้าตอบรับโดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตาด้วย  จิมขยับเข้าไปกระซิบเบาๆ
   “นายเต็มใจจริงหรือเปล่าฉันไม่รู้..  แต่ขอให้รู้ว่าฉันไม่มีวันพาเธอมาพบกับนายจนกว่าเธอจะพร้อม.. พร้อมเรื่องอะไร รู้มั้ย..”
   มือใหญ่เงยใบหน้างามขึ้น   น้ำใสเอ่อรื้นดวงตาคู่สวย
   “จนกว่าเธอจะเอ่ยปากอยากเห็นตัวจริงของคนที่ฉันรักมากที่สุดในชีวิต ถึงวันนั้นนายอาจจะได้เจอเธอ..”
   ทอมหมดความอดกลั้น  แค่กระพริบตาน้ำใสก็ร่วงผล็อยลงต่อหน้าคนที่ตัวเองต้องการให้ไปจากชีวิต 
   “อย่าร้องไห้ซี.. ฉันยอมทำทุกอย่างที่นายต้องการ แต่อย่างเดียวที่ทำไม่ได้คือให้ฉันเลิกรักและตัดใจจากนาย” นิ้วเรียวปาดน้ำตาบนแก้มเทพบุตรแสนรักอย่างแผ่วเบา
   “แต่นายไม่ควรทำอย่างนี้..  เก็บของไปหมดแบบนี้หมายความว่าจะเลิกคบกันเลยใช่มั้ย..  เราจะไม่เป็นอะไรกันอีกแม้แต่เพื่อน.. งั้นเหรอ.. ฮึก..”
   ทอมสะอื้นโฮ น้ำตาไหลพรากจนจิมต้องรั้งตัวเข้ามาสวมกอด
   “ใครบอกล่ะ.. สำหรับนายฉันอาจเป็นได้แค่เพื่อน.. แต่สำหรับฉันไม่ว่าวันนี้หรือวันข้างหน้า นายจะเป็นคนพิเศษที่สุดในชีวิตของฉันเพียงคนเดียว  นายไม่ได้ต้องการเลิกคบกับฉันไม่ใช่เหรอ.. แค่อยากให้ฉันกลับไปรับข้อเสนอของแม่เพื่อมีทายาทให้ตระกูล ฉันก็จะไป..”
   จิมพยายามเลี่ยงคำพูดที่แสลงใจเขา
   “แต่นายจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว”
   “ฉันหมายถึงถ้าไม่ได้กลับมาคนเดียวต่างหาก  แต่ถ้ามาคนเดียวฉันก็ต้องแวะมาเยี่ยมนายอยู่แล้ว”
   “แค่แวะมาเยี่ยม  แปลว่าจะไม่พักที่นี่ใช่มั้ย”
   “แล้วแต่นายซี ทอม..  ฉันทำทุกอย่างตามคำสั่งอยู่แล้ว จะให้พักที่นี่หรือจะให้ฉันกลับไปนอนที่คอนโดก็แล้วแต่ใจ..”
   “ไม่เอา!!..”    ทอมตะคอกใส่และผลักร่างสูงออก

   “พอซะที จิมมี่.. หยุดพูดว่านายจะทำทุกอย่างตามคำสั่งของฉันซะที ถ้าไม่มีใจอยากทำก็ไม่ต้องทำ มันทำให้ฉันรู้สึกผิด ฉันรู้ว่าฉันทำร้ายความรู้สึกของนาย ฉันทำนายเจ็บ..    แต่นึกว่านายเจ็บคนเดียวแล้วฉันมีความสุขยังงั้นเหรอ...
..ทั้งฉันและนายไม่ได้มีชีวิตอยู่กันตามลำพัง เรามีครอบครัวที่ต้องนึกถึง ถึงฉันจะไม่ได้เจอปัญหาอย่างนาย ไม่มีพ่อแม่ให้ต้องนึกถึงแล้ว  แต่ปัญหาของฉันขณะนี้ก็คือความรู้สึกของลูก แม็กกี้รับความสัมพันธ์ระหว่างเราไม่ได้หรอกนะจิม.. เหตุการณ์เลวร้ายมันจะกลับมาหลอนเขาอีก  ลูกจะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่าฉันคบกับนายแบบคนรัก นายเคยคิดถึงปัญหานี้บ้างหรือเปล่า… การจบความ สัมพันธ์ระหว่างเราเป็นเรื่องที่เราสองคนต้องร่วมมือและให้กำลังใจซึ่งกันและกันนะจิม..”

   ทอมก้มหน้าสะอื้นไห้  ความในใจที่พรั่งพรูออกมาอย่างหมดความอดกลั้นทำเอาจิมตะลึง  สองวันที่ผ่านมาเขามัวแต่นึกถึงความรู้สึกของตัวเอง  เฝ้าแต่ปลอบใจและให้กำลังใจตัวเอง  คิดไม่ถึงเลยว่าทอมก็เจ็บไม่น้อยกว่าและต้องการการปลอบใจด้วยเช่นกัน  ความในใจของทอมวันนี้ทำให้เขารู้ว่าไม่ใช่เพราะปัญหาของเขาแต่เพียงฝ่ายเดียว ที่ทำให้ทอมตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ระหว่างเรา หากแต่ทอมเองก็พบปัญหาด้วยเช่นกัน ความรู้สึกของลูกเป็นเรื่องที่ทอมแคร์มากที่สุด  แม็กกี้สำคัญกับทอมมากแค่ไหนเขารู้ซึ้งดี  ชื่อเสียงและความฝันสูงสุดที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมทอมยังเสียสละได้ นับประสาอะไรกับความสุขส่วนตัว..

   ...ให้ตายเถอะ!!.. ถ้ารู้ตั้งแต่แรกเขาคงไม่หลงทุกข์และปวดใจเพราะคิดว่าทอมสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง...
   จิมสวมกอดเทพบุตรแสนรักไว้แนบอก
   “ขอโทษนะ ทอม..  ฉันขอโทษที่นึกถึงแต่จิตใจตัวเอง ทำไมไม่บอกเหตุผลของนายให้ฉันรู้   ว่านายมีปัญหาเรื่องแม็กกี้.. หือ..”
   “ถ้าฉันอ้างปัญหาเรื่องแม็กกี้ นายจะยอมเหรอ..  ปัญหาของนายสำคัญกว่าปัญหาของฉันนะ”
   “แต่การที่นายไม่พูด มันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บมากรู้มั้ย   ฉันคิดว่า..  เอ่อ..ช่างเถอะ!.. เอาเป็นว่า.. ฉันสัญญาว่าจะโทรมาหาและถ้ากลับมาคนเดียวจะมาพักอยู่กับนายที่นี่ถ้านายไม่รังเกียจ โอเค..”
   “โอเค..”     ทอมตอบน้ำเสียงแผ่วเบา  ในใจรู้สึกเบาโหวง
   “งั้นไม่ต้องเก็บของไปหมดไม่ได้เหรอ เหลือไว้บ้างซี  เล่นขนไปหมดแบบนี้ฉันใจหายนะ”   
   จิมส่ายหน้า อยู่กับเขาสองต่อสองทอมไม่เคยปิดบังความรู้สึกของตัวเองไว้ได้เลย  แม้ในเวลาที่ควรต้องทนฝืนความเจ็บปวดไว้อย่างเช่นในเวลานี้..
   “ถ้าของใช้ส่วนตัวของฉันสำคัญกับความรู้สึกของนายขนาดนั้น แสดงว่าจริงๆ แล้วนายไม่ได้สับสนกับความรู้สึกของตัวเองใช่มั้ย..”  จิมเงยหน้าทอมขึ้นมาสบตาด้วย
   “ตอบฉันหน่อยซิ ทอม..  ขอให้ฉันได้รับรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของนายก่อนที่เราต้องจากกันไป”
   “สับสนหรือเปล่าฉันไม่รู้  รู้แต่ว่าฉันรักนายไม่ได้..  แต่การที่ฉันรักนายไม่ได้  ไม่ได้หมายความว่า.. ฉันไม่ได้รักนะ..”
   จิมระบายยิ้มบนสีหน้า คำพูดประโยคหลังเหมือนมนต์วิเศษปัดเป่าให้เขาหายจากความเจ็บปวดเป็นปลิดทิ้ง 
   “แปลว่าความรู้สึกของนายไม่ได้สับสน ทอม.. นายรักฉันเหมือนที่ฉันรักนาย   ถ้าเช่นนั้นขอคำยืนยันอีกสักครั้งได้มั้ยว่านายอยากให้ฉันไปจริงๆ”
   “ฉันไม่ได้อยากให้นายไป  แต่นายต้องไป..”
   จิมถอนใจเฮือกคลายอ้อมแขนและผละออก ความรู้สึกเจ็บปวดคลายลงเหลือเพียงความวิตกกังวลและเป็นทุกข์ที่ต้องจากคนที่รัก
   “ตกลงทอม.. เมื่อนายยืนยันจะให้ฉันไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฉันจะออกเดินทางตอนสายของพรุ่งนี้ นายอยากไปส่งหรือเปล่า”
   ทอมส่ายหน้าปฏิเสธทันที
   “โอเค.. ฉันก็ไม่อยากให้นายไป ตกลงของในลังทิ้งไว้ที่นี่ ไม่ต้องจัดเก็บเข้าที่หรอกนะ  เผื่อนายต้องการใช้ห้องรับแขก”
   “ฉันไม่ใช้ห้องของนายต้อนรับใครหรอก จะให้แววเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย  รอนายกลับมา.. เยี่ยม..”    ทอมฝืนยิ้มให้ทั้งที่ในใจกำลังขมขื่นและเจ็บปวดกับการหักหาญหัวใจตัวเอง 
             จิมกล่าวน้ำเสียงอ่อนโยน 
   “ฉันจะบอกพ่อกับแม่และทุกคนในครอบครัวรวมถึงมาเรียว่า.. ฉันมีคนรักที่นี่แล้ว และฉันจะไม่มีวันลืมหรือเลิกรักคนคนนี้เด็ดขาด หากฉันจำเป็น ต้องแต่งงานกับเธอจริงๆ ก็เพื่อมีทายาทให้ตระกูลเท่านั้น  ฉันจะทำทุกอย่างที่ต้องทำด้วยหน้าที่ไม่ใช่ด้วยหัวใจ ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ดูแลสุขภาพนะทอม..  อย่าห่วงและดูแลแต่ลูกจนลืมตัวเองล่ะ..  ฉันจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด ไม่รู้ว่าเมื่อไรแต่จะต้องกลับมาแน่นอน  ฉันรักนายมากนะ ทอม..  รู้ใช่มั้ย หัวใจฉันอยู่กับนาย  ฝากดูแลด้วยนะ..”
   คำพูดสั่งเสียของจิมทำเอาเทพบุตรทอมถึงกับปล่อยโฮ น้ำตาร่วงผล็อยอย่างเด็กๆ
   “นายจะกลับมาเมื่อไร.. จะรอให้มีลูกเป็นโขลงอย่างที่พูดจริงๆ เหรอ~”
   จิมหัวเราะ  รั้งศีรษะทอมซบกับไหล่เพื่อให้อีกฝ่ายเช็ดน้ำตา
   “บ้าซี!.. เห็นฉันเป็นช้างหรือไง  ขืนรอให้มีลูกเป็นโขลงแล้วค่อยกลับมา ฉันคงขาดใจตายตั้งแต่ลูกคนแรกยังไม่เกิด  บอกแล้วไงว่าหัวใจฉันอยู่กับนาย ยังไงซะก็ต้องกลับมาให้นายช่วยต่อลมหายใจให้  ด้วยวิธีไหนรู้มั้ย..”
   ทอมสั่นศีรษะและเงยหน้าจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าฉงน  ดวงตาคู่สวยเริ่มร่องรอยบวมช้ำ  จิมยิ้มอ่อนโยน ใบหน้างามของเทพบุตรแสนรักอยู่ห่างแค่ลมหายใจเป่ารดเท่านั้น
   “ฉันต้องได้สัมผัสและสวมกอดนายแบบนี้  ได้รับลมหายใจจากนายเพื่อต่อชีวิตให้ฉันด้วยวิธีนี้..”
             จิมจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากบางสวยตรงหน้าเพื่อหยั่งอารมณ์ก่อนว่าจะถูกโกรธหรือเปล่า เพราะหลายวันก่อนถูกทอมสั่งห้ามไม่ให้กอดหรือจูบโดยไม่ได้รับอนุญาต

   ทอมนั่งนิ่งดวงตาคู่งามจ้องมองเขาเหมือนกับจะบอกว่าพร้อมที่จะฝึกวิธีต่อลมหายใจแล้ว  จิมสัมผัสริมฝีปากบางสวยอย่างแผ่วเบา นุ่มนวลและหยอกเย้า  ลิ้นอุ่นซอกซอนเข้าไปลิ้มรสความหอมหวานภายใน  เขาและทอมผลัดกันสอนและฝึกวิธีต่อลมหายใจให้กันอย่างดูดดื่ม   สุขจนลืมปัญหาและความทุกข์ใจไปชั่วขณะ   

   ในที่สุดเจมส์ การ์เซีย ก็จำต้องจากเทพบุตรแสนรักไปปฏิบัติหน้าที่ให้ทายาทสืบสกุลในฐานะที่เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล เขาจากไปเพราะความต้องการของทอม หากจะหวนกลับคืนมาก็ควรเป็นความต้องการของทอมด้วยเช่นกัน 

   ...จำไว้นะ แม็คกิลล์.. แม้ความสัมพันธ์ของเราจำเป็นต้องยุติลง ฉันก็ไม่มีวันตัดใจจากนาย  จะขอรักนายเพียงคนเดียว สักวันเมื่อฉันพ้นพันธะจากเธอ  ถ้าวันนั้นนายยังไม่มีใคร  และแม็กกี้โตพอที่จะเข้าใจและรู้จักความรักแล้ว ฉันจะขอกลับมาอยู่เคียงข้างนายอีกครั้ง ได้มั้ย...

   ทอมจำไม่ได้ว่าตัวเองตอบรับหรือปฏิเสธไป รู้แต่ว่าหัวใจเขาพองโตด้วยความรู้สึกยินดี เหมือนแสงสว่างจากตะเกียงคู่ใจที่กำลังริบหรี่ลง ลุกโชนขึ้นพร้อมที่จะนำทางเขาก้าวเดินไปสู่จุดหมายอีกครั้ง...


THE END  PART 1
TBC >>> LOVE YOU ONLY

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #222 เมื่อ02-02-2010 11:00:49 »

จบภาค 1 แล้วค่า~ 
 o15
ขอบคุณเพื่อนๆ น้องๆ ที่ช่วยกันตามอ่านจนจบ 
ขอบคุณที่ไม่เป็นลมเป็นแล้งไปซะก่อน
ใครที่เป็น  แล้วลุกขึ้นมาอ่านต่อก็ขอบคุณมากๆ
เห็นมะ เจ๊หมวยบอกแล้วให้อดทน ไม่มีใครต้องร้องไห้ตลอดไป สักวันก็ต้องมีวันที่เราได้หัวเราะ

ขอบคุณสำหรับทุกๆ คอมเม้นท์
ขอบคุณน้องๆ ที่ช่วยกันบอกเล่าความรู้สึกที่มีต่อตัวละครในสายใยรัก
สรุปว่า ในบทแรกนี้ เจ้าหนูแม็กกี้เป็นพระเอกเลยนะเนี่ย ได้ใจพี่ๆ น้าๆ ทุกคนไป 
เป็นนิยายเรื่องเดียวที่พระเอกนายเอก โผล่มาก็พากันเป็นตัวร้ายเลย 

นิยายเรื่องนี้ บอกให้รู้ว่า  เพื่อนๆ น้องๆ ทุกคนมีจิตใจเมตตา ปราณี  ไม่ชอบคนรังแกเด็ก
ไม่สนว่าเป็นพระเอก นายเอก  รุมด่ากันเละ

เนื่องจากนิยายเรื่องนี้เจ๊หมวยรวมเล่มขายค่ะ   จึงขอโพสแค่ 2 ภาคนะคะ   ภาค 2  คือ LOVE YOU ONLY   เป็นเรื่องราว ความรักของพ่อ    ส่วนภาค 3  คือ  love U andy เป็นเรื่องราวของรุ่นลูก  เจ๊หมวยอาจจะโพสให้แค่ตอนแรกค่ะ 

ไม่ว่ากันนะ  ความจริง อ่านจบแค่ 2 ภาค ก็ถือว่าสมบูรณ์สำหรับความรักของพระเอกนายเอกแล้ว

ตอนนี้หนังสือหมดแล้ว  เจ๊หมวยกำลังจะพิมพ์เพิ่ม  ใครชอบนิยายแนวนี้  อยากได้หนังสือเก็บไว้  Messages มาสอบถามกันได้ค่ะ

 o14
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2010 11:04:05 โดย j-muay »

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #223 เมื่อ02-02-2010 11:32:48 »

เจ๊หมวย....จบภาคแรกแล้วแต่ไม่อยากให้จิมจากไปเลยอ่ะ....
(ถึงแม้เค้าอาจจะกลับมาอยู่ด้วยกันก็ตาม) แอบเศร้า :o12:
จริงๆถ้าค่อยๆบอกแม็กกี้เด็กน้อยน่าจะเข้าใจเพราะเค้าก็เห็นจิมมาตั้งนานแล้ว  :sad4:

รออ่านภาคใหม่แล้วกันค่ะ  :L2: เป็นกำลังใจให้เจ๊หมวยต่อไป

ออฟไลน์ booboos

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #224 เมื่อ02-02-2010 13:08:46 »

ภาค 1 เศร้าตั้งแต่ต้นจนจบเลยอ่ะนะ
ภาคต่อไปขอแบบ happy บ้างนะคะ
 :L2:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #225 เมื่อ02-02-2010 13:12:33 »



ทอม แม็คกิลล์  ในimagine ของเจ๊หมวย
ขอสงวนสิทธิ์ในการโต้แย้งและไม่เห็นด้วย :teach:
ในฐานะผู้เขียนและผู้กำกับการแสดง
ต้องเป็นคนนี้เท่านั้น :haun5:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #226 เมื่อ02-02-2010 13:13:27 »

ใจร้ายตลอดเลยเจ้หมวย

กราซิก กราซิก

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #227 เมื่อ02-02-2010 13:48:46 »

ใจร้ายเรื่องอาไรอีกอ่ะ  หมูพูห์ 
แม็กกี้ก็มีความสุข ได้รับความรักจากแด๊ดทอมแล้ว

หมูพูห์ไม่ชอบให้เจ๊หมวยแกล้งเด็กไม่ใช่เหรอ
ก็ไม่แกล้งแล้วไงจ๊ะ
 
 :oni1:

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #228 เมื่อ02-02-2010 15:05:54 »



ทอม แม็คกิลล์  ในimagine ของเจ๊หมวย
ขอสงวนสิทธิ์ในการโต้แย้งและไม่เห็นด้วย :teach:
ในฐานะผู้เขียนและผู้กำกับการแสดง
ต้องเป็นคนนี้เท่านั้น :haun5:

เจ๊หมวยขา.....แบบนี้ไปหาซื้อได้ที่ไหนอ่ะ :z1: :z1:    แล้วจิมอ่ะคะ ไม่เอามาให้ชมบ้างเหรอ :o8:

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #229 เมื่อ02-02-2010 19:18:47 »

จิม ของช้า น นน น น นน น น น  นน


รับม่าด้าย ย      :z6:

ไปเฉย เรย   

แง้ๆ  ๆๆ  ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ       :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
« ตอบ #229 เมื่อ: 02-02-2010 19:18:47 »





ออฟไลน์ PeeYaR

  • >///<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #230 เมื่อ02-02-2010 19:39:37 »

เง้ออออออออ
ขอให้ภาค 2 กลับมาอย่างมีความสุขนะคะ
จบภาค 1 เหมือนจะเศร้า แต่ก็ไม่เศร้าแฮะ
อาจเป็นเพราะว่าเข้าใจเหตุผลของทั้งจิม และ ทอม ก็ได้
ฟ้าหลังฝนคงจะดีกว่านี้นะคะ
สักวันหนึ่ง จิมและทอมต้องได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #231 เมื่อ02-02-2010 19:55:40 »

 :o12:เศร้าจนหยดสุดท้ายเลยเจ้

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #232 เมื่อ02-02-2010 20:13:08 »

เศร้าได้อีกอ่ะ

จิมน่าสงสารเกิ๊น

น้ำตาไหลตั้งแต่วันแรกที่แม็กกี้อยู่บนต้นไม้ไม่กล้าลงมาแล้ว :m15:

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #233 เมื่อ02-02-2010 20:43:51 »

เจ้หมวยขา เศร้าตั้งแต่ต้นจนจบเลยอ่ะ
ช่วงท้ายๆไม่รังแกเด็กแล้ว
แต่ไปรังแกผู้ใหญ่แทน จิมมี่โดนไปเต็มๆเลย
ภาค 2 แล้วจะมีความสุขกันใช่ไหมคู่นี้
กลับมาอยู่ด้วยกันเร็วๆนะ
ชอบเรื่องนี้มากเลย +1 สำหรับความประทับใจที่มีต่อเรื่องนี้
ขอบคุณเจ้หมวย รออ่านภาคต่อไปน๊า

1582

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #234 เมื่อ02-02-2010 21:14:37 »

คุณทอมหน้าหวานเชียว  อยากเห็นคุณจิมด้วยค่ะ เจ๊หมวย

ปล.ก็ยังสงสารจิมอยู่ดี   :เฮ้อ:   

nithiwz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #235 เมื่อ03-02-2010 03:43:49 »

เศร้าจริงอะไรจริง  สงสารจิม  แต่ก็เห็นใจแม็กกี้กับทอม
เค้าคงมีบาดแผลในใจพอสมควร  ที่ถูกผู้ชายวิปริตพรรค์นั้นข่มขืน เหอะๆๆๆ
ตกลงมี 3 ภาคเหรอครับ ภาค 2 ภาค 3
อยากอ่านอ่ะ เหอะๆๆๆ รอติดตามต่อไปแล้วกัน เหอะๆๆๆ คิดว่าภาค 3 น่าจะพีคพอควร

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #236 เมื่อ03-02-2010 11:32:16 »

Love You ONly 1..
 :L1:

เด็กชายผุดลุกผุดนั่งและเดินไปมาอยู่ที่ระเบียงหน้าตึก นายเอ๊ดยืนเช็ดรถอยู่เห็นแล้วนึกขำกึ่งเอ็นดูเจ้านายตัวน้อยที่เริ่มอาการหงุดหงิดเพราะพ่อไม่ยอมลงมาซะที

วันนี้ทอม แม็คกิลล์ จะพาหนุ่มน้อยแก้วตาดวงใจของเขาไปเที่ยวสวนสนุกตามที่เจ้าหนูอ้อนขอเมื่อคืน เนื่องจากหลายวันที่ผ่านมานี้แม็กกี้เห็นคุณพ่อสุดหล่อมีอาการเหม่อลอย นั่งดูทีวีอยู่ด้วยกันแต่ถามอะไรก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง เด็กชายรู้ว่าพ่อกำลังคิดถึงใครคนหนึ่งที่เคยอยู่เคียงข้าง แต่ตอนนี้เขาคนนั้นไม่อยู่แล้ว อาการเหงาหงอยของทอมทำให้เจ้าหนูไม่สบายใจไปด้วย จึงคอยหาจังหวะเข้าไปกระแซะใกล้ๆ ชวนพูดคุยให้คลายเหงา

วันนี้หนุ่มน้อยอยู่ในชุดสุดโจ๋เลย กางเกงยีนส์สี่ส่วนตัวหลวมโครกกับ เสื้อยืดสีขาวตัวเล็กเข้ารูป เข้ากับรองเท้าผ้าใบคู่งามที่ทอมเพิ่งซื้อให้เมื่อ 2 วันที่แล้ว แม็กกี้ในวันนี้เป็นเด็กชายลูกครึ่งที่ใครได้พบเห็นต้องพากันมองจนเหลียวหลัง ใบหน้าขาวเนียนเอิบอิ่มด้วยเลือดฝาดของเด็กวัยเยาว์ และดวงตากลมโตสีน้ำทะเล แสนสวย แสดงให้เห็นถึงสุขภาพกายและใจที่ดี หากแต่เจ้าหนูก็ไม่มีโอกาสได้ออกไปให้ใครพบเห็นบ่อยนัก เพราะทอมไม่อนุญาตให้ออกไปไหนกับใคร ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน สาวใช้หรือแม้กระทั่งนายเอ็ดดี้ ยกเว้นเขาเป็นคนพาไป แต่กว่าจะไปไหนได้แต่ละครั้งก็ต้องรอกันนานสองนาน เหมือนวันนี้แหล่ะ

“เฮ้อ! ทำไมนานจัง”   แม็กกี้ถอนใจเฮือก ทรุดตัวลงนั่งที่ขั้นบันไดอีกเป็นครั้งที่เท่าไรจำไม่ได้  คิ้วเล็กขมวดมุ่นจนนายเอ๊ดรู้สึกขำ
“ใจเย็นๆ ครับคุณหนู จะได้ไปเที่ยวสนุกก็ต้องรอนานหน่อยซีครับ”
“นี่มันครึ่งชั่วโมงแล้วนะฮะ ปกติแด๊ดแต่งตัวไม่ถึง 10 นาที ก็เสร็จแล้ว”
เด็กชายนั่งนิ่งอยู่ชั่วครู่ก็ลุกพรวดขึ้นอีก
“ไม่รอแล้ว ขึ้นไปตามดีกว่า”
เจ้าหนูรีบร้อนวิ่งกลับเข้าไปในบ้านก็ชนกับร่างสูงของชายหนุ่มที่กำลังก้าวออกมา  ผลก็คือร่างเล็กกระเด็นออกแต่ไม่ทันล้มลงเพราะถูกคว้าตัวไว้ทัน
“โอว!!.. ระวังหน่อยซีครับ จะรีบไปไหน หือ..”
แม็กกี้เงยหน้าขึ้นมองด้วยอาการดีใจ แต่แล้วก็สะดุ้งรีบผละออก
“มาหาใครครับ”
สองแขนของเจ้าหนูยันอกชายหนุ่มไว้เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยและยังพยายามจะสวมกอดแน่นขึ้น
“มาหาใคร ปล่อยซีฮะ ปล่อย..” แม็กกี้ถามย้ำเสียงสั่น
“ไม่ปล่อย อยากจะกอดอ่ะ..” น้ำเสียงกระเซ้าอย่างอ่อนโยนแต่เด็กชายไม่รับรู้ถึงความคุ้นหูในน้ำเสียงนั้น ความรู้สึกของเจ้าหนูขณะนี้คือกลัว.. อ้อมกอดของชายแปลกหน้าทุกคน
“ไม่เอา~ ปล่อยนะ ปล่อย.. ฮึก~”
“จะปล่อยไปไหนล่ะครับ ไม่ไปสวนสนุกแล้วหรือไง หือ..”

น้ำเสียงสะอื้นของเด็กชายไม่ได้ทำให้อ้อมกอดที่รัดแน่นอยู่คลายลง หากแต่คำพูดที่ปลอบกลับมาทำให้ร่างเล็กหยุดดิ้น และเงยหน้ากลับขึ้นมามองใหม่อีกครั้ง ดวงตากลมโตจ้องเขม็งอย่างไม่แน่ใจ

แม็กกี้อ้าปากหวอจ้องหน้าชายหนุ่มที่สวมกอดตัวเองอยู่ เมื่อหยุดดิ้นและยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ก็รู้สึกคุ้นเคยกับสัมผัสที่ได้รับ ทั้งอ้อมกอดที่อบอุ่นและกลิ่นกายหอมกรุ่นที่แม็กชอบสูดดมทุกครั้งที่ถูกกอด ถ้าหลับตาลงผู้ชายคนนี้จะเป็นใครได้ล่ะถ้าไม่ใช่...

"แด๊ดดี้..”   เสียงเรียกแผ่วอย่างไม่แน่ใจ จะให้แน่ใจได้ไงล่ะ.. หนวดเคราเต็มหน้าแบบนี้ แถมดวงตายังสีฟ้าอีก
“ใช่เปล่าฮะ”
“ใช่หรือเปล่าล่ะ” น้ำเสียงที่ย้อนกลับมาพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ทำให้เด็กชายตาโต อ้าปากค้างอีกรอบ
“แม้แต่ลูกก็จำไม่ได้หรือ แม็กกี้.. แสดงว่าฝีมือแปลงโฉมของแด๊ดวันนี้สุดยอดล่ะซี.. รับรองว่าไม่มีใครจำได้หรือสงสัยเหมือนวันก่อนแน่..”
ทอมพาเด็กชายไปช้อบปิ้งเมื่อสัปดาห์ก่อนแค่ติดหนวดและใส่แว่นเท่านั้น จึงมีแต่คนมองด้วยความสงสัย บางคนสงสัยมากถึงขนาดเดินเข้ามาถามเลย
“แด๊ดจริงๆ เหรอฮะ” เด็กชายสวมกอดทอมและเขย่งตัวขึ้นพิสูจน์กลิ่นที่ซอกคอหนึ่งฟอดเพื่อความแน่ใจ ก่อนจะหัวเราะออกมาและตามด้วยคำถามเป็นชุด
“ต้องปลอมขนาดนี้เลยหรือฮะ แด๊ด.. หนวดนี่ทำด้วยอะไรฮะ เหมือนของจริงจังเลย.. แด๊ดไม่จั๊กจี๋เหรอ.. ทำไมตาเป็นสีฟ้าล่ะฮะ.. ทำยังไงเหรอ.. เจ็บเปล่าฮะ..”
ทอมล็อคคอเด็กชายตรงไปที่รถ นอกจากจะไม่ตอบที่เจ้าหนูถามแล้ว ยังย้อนถามกลับไปอีก
“จะเล่นตอบคำถามหรือจะไปสวนสนุก เร็วๆ เข้า สายแล้ว”
“เอ๋?.. ก็ใครสายล่ะ ผมคอยแด๊ดเกือบชั่วโมงเลยนะฮะ... หนวดนี่ติดยากเหรอ.. ของปลอมแน่เหรอฮะ ทำไมเหมือนจริงจัง” เสียงใสย้อนกลับมาตามด้วยคำถามที่ยังค้างคาใจอีกเป็นชุด..
นายเอ๊ดยืนอมยิ้มเปิดประตูรถรอรับ เจ้านายหนุ่มรูปงามของเขาเป็นหนุ่มใหญ่ขึ้นทันตาเห็น สวมเชิร์ตแขนยาวเข้ารูปซึ่งไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยนัก อย่างนี้ซี..ถึงเหมาะที่จะควงเด็กชายวัยคุณหนูไปเที่ยวแบบพ่อๆ ลูกๆ
ขณะยืนคอยเด็กชายเข้าไปในรถ นายเอ๊ดขยับเข้ามาประชิดเจ้านายหนุ่ม และก้มลงสูดดมที่แขนเสื้อ
“ทำอะไรวะ? ”
“เอ่อ.. พิสูจน์..ว่าใช่ตัวจริงรึเปล่าครับ” โชเฟอร์จอมกะล่อนยิ้มฟันขาวตัดกับสีผิว
“แล้วไง!!” ทอมถามเสียงขุ่น
“อ่า.. ครับ เชิญครับเจ้านาย..” นายเอ๊ดโค้งคำนับอย่างงามและขยับประตูให้เปิดกว้างออก

ทอมส่ายหัวอย่างเอือมระอาก่อนจะก้าวขึ้นรถ ...วอนซะแล้วไอ้นี่ ยังดีนะที่พิสูจน์ตรงแขนเสื้อ ถ้าบังอาจมาพิสูจน์ตรงซอกคอเหมือนที่แม็กกี้ทำล่ะก็ แก..ตาย!!!.. กลิ่นกายของเขานอกจากเจ้าหนูแล้วมีเพียงคนเดียวเท่านั้น... ที่เขายินยอมให้สัมผัสและสูดดมทั่วทุกตารางนิ้วบนร่างกาย..

ทอมเจ็บแปล็บที่อก อีกแล้ว!! นึกถึงคนคนนั้นทีไรต้องมีอาการแบบนี้ทุกที ...ทำไมถึงอ่อนแอนักนะ แม็คกิลล์..
ทอมหันไปสนใจเด็กชายทันทีก่อนที่ความคิดคำนึงจะเตลิดไปไกลอีก พักนี้แม็กกี้ชอบค่อนขอดเขาบ่อยๆ ว่าคิดถึงแต่คนอื่น ไม่ค่อยสนใจลูกเลย..

แม็กกี้ยื่นโบรชัวร์สวนสนุกให้เขาดู สีหน้ายิ้มแย้มมีความสุขสุดๆ
“ดูซิฮะ.. มีเครื่องเล่นตั้งเยอะ เดี๋ยวเราเล่นทุกอย่างเลยนะฮะ แด๊ด..”
ทอมพยักหน้าให้สีหน้ายิ้มแย้มมีความสุขไปด้วย แต่ประโยคหลังทำให้รอยยิ้มค่อยๆ จางลง พลิกดูโบรชัวร์ในมือก่อนจะตอบรับคำชวนด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม
“ไม่มีปัญหาลูก.. เล่นได้ทุกอย่างยกเว้น.... อืมม์...รถไฟเหาะกับไวกิงส์”
“เอ๋?.. ทำไมล่ะฮะ เขาให้เฉพาะผู้ใหญ่เล่นเหรอ.. แต่ผมเล่นกับแด๊ดนี่ แล้วผมก็ไม่ใช่เด็กเล็กๆ ด้วย..”

ทอมหัวเราะแห้งๆ แทนคำตอบ จะให้บอกยังไงดีล่ะ.. ไม่ใช่เขาไม่อนุญาตหรอก.. แต่ไอ้เครื่องเล่นสองตัวนี้ เล่นเสร็จทีไร.. แด๊ดต้องวิ่งเข้าห้องน้ำคายของเก่าออกทุกครั้ง..

 :L1:

เด็กชายเดินหัวร่อและคุยฟุ้งตลอดทางหลังเสร็จสิ้นการผจญภัยในอวกาศโดยรถไฟตะลุยจักรวาล ในขณะที่ผู้เป็นพ่อรู้สึกมวนๆ ในท้องเล็กน้อย ..เขาไม่ถูกกับรถไฟที่มีความเร็วสูงเกือบทุกประเภทจริงๆ ให้ตายเถอะ !..
 :m4:  “สนุกจังเลยนะฮะ แด๊ด.. เหมือนได้ออกไปในอวกาศจริงๆ เลย.. เดี๋ยวเราไปต่อรถไฟเหินเวหากันนะฮะ เขาจะให้ผมขึ้นหรือเปล่า.. ผมไม่ใช่เด็กเล็กนะ ผมโตแล้ว”

แม็กกี้กล่าวด้วยสีหน้าวิตกเพราะกลัวว่าจะไม่ได้เล่น  ในขณะที่ทอมก็มีสีหน้าวิตกไม่แพ้กัน ถ้าให้ไปต่อรถไฟเหาะตอนนี้เลยล่ะก็.. มีหวังได้คายมือเช้าออกมาเต็มๆ แน่..
“แด๊ดว่าเราไปหาอะไรเบาๆ เล่นก่อนดีกว่า.. มั้ยลูก..”
“เบาๆ ?..”   :m28:  แม็กกี้ทวนคำสีหน้างงๆ
“เอ่อ.. หมายถึงอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่รถไฟอ่ะ แม็กกี้..”
ทอมถอนใจโล่งอกเมื่อเด็กชายพยักหน้ารับด้วยดี
“งั้นเปลี่ยนไปนั่งเรือมั้ยฮะ แด๊ดดี้.. เอาเรือไวกิงส์ หรือซุปเปอร์สแปลชดีฮะ”

(ซุปเปอร์สแปลช คือเรือลำใหญ่ ที่พาผู้เล่นขึ้นไปบนความสูงขนาดตึก 6 ชั้น ก่อนจะทิ้งดิ่งทะยานลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ ก่อให้เกิดคลื่นขนาบ 2 ข้าง สร้างความตื่นเต้น เย็น..สะใจ..)

คำชวนที่ออกจากปากเจ้าหนูอีกครั้งเล่นเอาทอมถึงกับแข้งขาอ่อน    :try2:  รีบจูงเด็กชายหลบเข้าข้างทางนั่งพัก
“อ่าาา.. แม็กกี้.. ลูกหิวรึยัง”
แม็กกี้หน้าเหรอ จู่ๆ ก็ถูกเปลี่ยนเรื่อง เพิ่งเล่นเครื่องเล่นไปแค่ 2 อย่างเอง จะหิวได้ไง.. ถึงหิวก็ยังไม่อยากกินหรอก ตอนนี้อยากเล่นมากกว่า..
“ผมยังไม่หิว อยากจะเล่นเรือฮะ แด๊ด..”   ครั้งนี้เด็กชายอ้อนขอด้วยคำพูดและสีหน้า เพราะเริ่มรู้สึกว่าพ่อไม่อยากเล่นเครื่องเล่นที่หวาดเสียว และถ้าทอมไม่เล่น..เจ้าหนูก็ไม่กล้าเล่นคนเดียว
“โอเค.. เรือก็เรือ.. งั้นเราไปผจญภัยที่แกรนด์แคนยอนกันก่อน เสร็จแล้วมาต่อเรือบั๊มส์ ให้มันสะใจไปเลย ดีมั้ย..”
เด็กชายทำตาปริบๆ แต่ก็พยักหน้ารับด้วยดี ไม่ใช่เครื่องเล่นที่ออกปากชวนสักอย่าง แต่ก็เอาเถอะ.. ดีกว่าไม่ได้เล่น.. เล่นกับพ่อ อะไรก็สนุกทั้งนั้นแหล่ะ...

 :L1:

ในที่สุดทอมก็หนีไม่พ้น...ต้องยอมนั่งรถไฟเหาะกับเด็กชาย ก็เจ้าหนูเล่นเล่าความหลังเมื่อครั้งยังเด็กว่า ฝันอยากมาเที่ยวสวนสนุกและได้นั่งรถไฟเหาะกับพ่อ ไม่คิดว่าความฝันจะได้เป็นจริงในวันนี้ ถึงจะไม่ได้นั่งรถไฟก็ไม่เป็นไร..

นายเอ๊ดประคองเจ้านายหนุ่มและคุณหนูออกจากสถานีรถไฟเหินเวหา เขาถูกโทรเรียกตัวให้มานั่งเป็นเพื่อนอยู่ด้านหลัง อดขำไม่ได้กับอาการตื่นกลัวของเจ้านายสุดหล่อและคุณหนูจอมซ่าส์ ซ่าส์อยากจะเล่นรถไฟเหาะ พอขึ้นไปนั่งจริงๆ ก็เริ่มหน้าเสีย และส่งเสียงร้องกรี๊ดตลอดการเดินทาง ในขณะที่เจ้านายไม่ส่งเสียงร้องสักแอะ แต่นั่งเกร็งมาตลอดทางเช่นกัน

ทอมมีสีหน้าไม่สู้ดีและดูแย่กว่าแม็กกี้ เจ้าหนูแค่รู้สึกตื่นเต้นหวาดเสียวขณะกำลังเล่นเท่านั้น เล่นจบก็หายและยังพูดคุยหัวเราะได้เหมือนเดิม
“เข้าห้องน้ำมั้ยครับ เจ้านาย”   นายเอ๊ดรู้ว่านี่คือเหตุผลที่เจ้านายเรียกมาเล่นเป็นเพื่อน จึงเอ่ยถามอย่างรู้หน้าที่ซึ่งทอมก็พยักหน้ารับทันที
“อยู่กับเอ๊ดดี้แถวนี้ก่อนนะแม็กกี้   แด๊ดขอเข้าห้องน้ำเดี๋ยว”
สีหน้าผะอืดผะอมของทอมทำให้แม็กกี้ใจไม่ดี รู้เหตุผลแล้วว่าทำไมพ่อถึงพยายามเลี่ยงไม่อยากนั่งเครื่องเล่นประเภทนี้
“ผมไปด้วยฮะ” แม็กกี้รีบเข้ามาช่วยประคองทอมจะพาไปห้องน้ำ
“ลูกปวดจะเข้าห้องน้ำรึเปล่า ถ้าไม่ปวดก็ไม่ต้องเข้าไป รออยู่ตรงนี้แหล่ะ อยู่กับแม็กกี้นะ เอ๊ดดี้..”

ทอมกำชับนายเอ๊ดอีกครั้งก่อนจะเดินเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำอีกฟากถนน โดยไม่ยอมให้เด็กชายตามไปด้วย ห้องน้ำสาธารณะที่มีคนพลุกพล่านมากหน้าหลายตาแบบนี้ ไม่ใช่ที่ที่เด็กชายจะเข้าไปโดยไม่มีกิจธุระ ที่สำคัญใครจะอยากให้ลูกมายืนดูตัวเองแหวะของเก่าออกล่ะ และความรู้สึกของเขาตอนนี้ก็ไม่ใช่แค่อยากจะอาเจียนด้วย อยากจะปล่อยออกทั้งข้างบนและข้างล่างเลย..

 :L1:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #237 เมื่อ03-02-2010 11:54:10 »

“ทำไมแด๊ดเข้าห้องน้ำนานจัง”
แม็กกี้ผุดลุกผุดนั่งเมื่อเวลาผ่านไป 15 นาทีแล้ว ยังไม่เห็นวี่แววว่าคุณพ่อแสนรักจะออกมา นึกเสียใจที่ตัวเองทำให้พ่อรู้สึกไม่สบายท้อง
“น้าเอ๊ดดี้.. เข้าไปดูแด๊ดกันว่าเสร็จรึยัง” เด็กชายลุกขึ้นยืนแต่ถูกนายเอ๊ดฉุดให้นั่งลง
“รออยู่นี่แหล่ะครับคุณหนู.. เดี๋ยวผมไปตามเอง”

 o13

ทอม แม็คกิลล์ เดินจ้ำอ้าวออกจากห้องน้ำด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ หัวเสียนายเอ๊ดที่เข้ามายืนคอยด้านในโดยปล่อยเด็กชายให้คอยอยู่ด้านนอกตามลำพัง
“ก็.. คุณหนูให้ผมเข้ามาตามเจ้านายครับ”   นายเอ๊ดครวญเสียงอ่อย ไม่กล้าบอกความจริงว่าคุณหนูจะเข้ามาด้วยแต่เขาเป็นคนบอกให้คอยอยู่ข้างนอก ขืนบอกความจริงทั้งหมดก็แย่น่ะซี..
ทอมไม่สนใจฟังคำแก้ตัว เดินดุ่มไปที่ที่เด็กชายควรจะนั่งรออยู่แต่ไม่พบ
“แม็กกี้ล่ะ”
“เอ่อ.. ผมให้คุณหนูนั่งรออยู่ตรงนี้นี่ครับ สงสัยจะเดินเล่นอยู่แถวๆนี้” นายเอ๊ดกวาดสายตาไปรอบๆ นึกโกรธความชุ่ยของตัวเอง
ทอมหันรีหันขวางทำอะไรไม่ถูก ผู้คนมากหน้าเดินสวนกันไปมา หัวเราะสนุกสนาน เขาหมุนตัวไปรอบๆ ไม่พบเด็กชายอยู่ในกลุ่มผู้คนก็เริ่มใจเสีย
“แม็กกี้.. อยู่ไหน~ ”
น้ำเสียงสั่นเครือของทอมทำเอานายเอ๊ดใจเสียไปด้วย เขาคิดว่าเด็กชายคงวิ่งเล่นอยู่แถวๆ นี้ แต่เจ้านายคงไม่คิดแบบเขาแน่
“ไปตามหาซีโว้ย!!.. ยืนเซ่ออยู่ทำไม”

นายเอ๊ดสะดุ้งโหยงกับเสียงตะวาด เผ่นแน่บไปตามหาเด็กชายในขณะที่ทอมเดินแยกไปอีกด้าน หัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นกลัว ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร แม็กกี้ไม่ใช่เด็กเล็กๆ โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้วด้วยซ้ำ   นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เขาพาแม็กกี้ออกมาพบปะผู้คนภายนอกหลังจากที่เจ้าหนูมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นมากแล้ว ทุกย่างก้าวนอกคฤหาสน์แม็คกิลล์ เด็กชายไม่ได้แค่อยู่ในสายตาเขาเท่านั้น แต่ถูกเขาจูงมือไว้ตลอดไม่เคยปล่อย เพิ่งจะปล่อยให้อยู่ตามลำพังกับเจ้าเอ๊ดดี้ตอนเข้าห้องน้ำเมื่อครู่นี้เอง ให้ตายเถอะ !.. ถ้าหาไม่เจอจะทำยังไง…

ทอมเดินออกมาไกลพอสมควร เมื่อไม่พบก็วิ่งย้อนกลับไปที่เดิมเผื่อว่าเจ้าหนูจะกลับมาแล้ว แข้งขาอ่อนแรงลงทันทีเมื่อไม่เห็นเด็กชายนั่งคอยอยู่ มีแต่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิงนั่งหยอกล้อหัวเราะกันสนุกสนาน ยืนงงอยู่นายเอ๊ดก็วิ่งหน้าตื่นกลับมาบอกว่ายังหาคุณหนูไม่พบ แต่จะลองย้อนกลับไปหาที่เครื่องเล่นไวกิงส์ดูอีกที อาจจะไปยืนดูเขาเล่นกันจนเพลิน

นายเอ๊ดวิ่งจากไปทอมก็ทรุดตัวลงนั่งก้มหน้ากุมขมับ หมดแรงเดินตามหา รู้สึกกลัวจับใจจนความนึกคิดสับสนและฟุ้งซ่าน ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับแม็กกี้อีกครั้ง เขาจะทำยังไง.. แว่บถึงชายหนุ่มที่เคยอยู่เคียงข้างเป็นเงาตามตัวกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ถ้าเขาคนนั้นอยู่เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้น จิมไม่มีวันปล่อยมือแม็กกี้เพราะรู้ดีว่าเด็กชายเป็นของรักที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเขา   เสียงประกาศชมการแสดงพาเหรดที่จะเริ่มในอีก 10 นาที ทำให้ทอมรู้สึกตัวและนึกขึ้นได้ว่าจะต้องประกาศตามหาเด็กชายก่อน ไม่ใช่มานั่งท้อแท้สิ้นหวังแบบนี้

ทอมเงยหน้าขึ้นดวงตาสีฟ้าสวยเบิกกว้าง หัวใจพองโตในเสี้ยววินาทีจนรู้สึกวูบในอก เมื่อเห็นเด็กชายยืนยิ้มเผล่อยู่ตรงหน้า มือถือไอศครีมไว้ข้างละ 2 โคน สองแขนคว้าร่างเล็กเขย่าและละล่ำละลักต่อว่าด้วยอาการตื่นตระหนก

"ไปไหนมา แม็กกี้.. ไปไหนทำไมไม่บอก ทำไมไม่รอแด๊ดออกมาก่อน ตามหาจนทั่วก็ไม่เจอ อย่าทำแบบนี้อีกนะ.. ลูกทำให้แด๊ดตกใจรู้หรือเปล่า"

แม็กกี้หน้าเสียรอยยิ้มจางหาย  ถูกพ่อดุเป็นครั้งแรกในชีวิต รู้สึกเสียใจจนน้ำตาคลอระริก  :monkeysad:  ในขณะที่ทอมรู้สึกตัวแทบจะในทันทีที่พูดจบ รีบสวมกอดเจ้าหนูไว้ก่อนที่น้ำตาจะร่วงผล็อยลง
"แด๊ดไม่ได้ว่านะ แม็กกี้.. แด๊ดตกใจกลัวลูกหายไปไหนอีก.."
"ผมไม่ได้ไปไหน ผมแค่ไปซื้อไอศครีมที่ร้านโน้นฮะ" เด็กชายตอบน้ำเสียงสั่นเครือ จะไม่ให้เสียใจได้ยังไง ไอศครีมที่ซื้อมาตอนนี้เหลือแต่โคนเปล่าๆ ก็คุณพ่อเล่นเขย่าซะหัวสั่นหัวคลอน
แม็กกี้เห็นสายตาของพ่อจับจ้องโคนเปล่าที่อยู่ในมือ ก็รีบออกตัวด้วยน้ำเสียงสะอื้น
"แต่ตอนนี้ไอศครีมหล่นไปอยู่ที่พื้นหมดแล้วฮะ แด๊ด.."

เด็กชายก้มลงมองไอศครีมหลากสี 3 - 4 ก้อน ที่หล่นแปะอยู่กับพื้นน้ำตาก็ร่วงผล็อยลง เสียใจที่พ่อดุไม่เท่าไรหรอกแต่เสียดายไอศครีมที่หกหมดมากกว่า วันนี้ทางร้านจัดโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 เฉพาะเด็กแถวก็เลยยาวไปถึงหลังร้าน อุตส่าห์ไปต่อแถวซื้อตั้งนาน..

"โอว! แม็กกี้.." ทอมรั้งเด็กชายนั่งลงบนตักสวมกอดและกระซิบปลอบเบาๆ
"อยากกินไอศครีมทำไมไม่บอกล่ะครับ เดี๋ยวไปซื้อใหม่ ไม่ต้องร้องลูก.. "
"ผมขอโทษฮะที่ทำให้แด๊ดตกใจ ร้านไอศครีมคนเยอะ ผมต่อแถวตั้งยาวเลยกลับมาช้าฮะ ผมซื้อมาฝากแด๊ดกับน้าเอ๊ดดี้ด้วย.."
แม็กกี้โชว์โคนเปล่าที่อยู่ในมือให้ทอมดูว่าซื้อมาฝากจริงๆ
"แด๊ดขอโทษ ลูก.. เดี๋ยวเราไปซื้อกันใหม่นะ โอเค.."
ทอมดึงโคนไอศครีมเปล่าออกจากมือเด็กชายวางบนม้านั่ง โน้มศีรษะเล็กเข้ามาจูบซับน้ำตาที่แก้ม แม็กกี้สะดุ้งเบือนหน้าหนีและยกแขนขึ้นป้องไว้

ทอมเลิกคิ้วเมื่อลูกชายผละหนีจูบของเขา เสียงหัวเราะจากกลุ่มวัยรุ่นที่นั่งอยู่ห่างไปไม่ไกลนัก ทำให้เขานึกขึ้นได้ว่าไม่ได้อยู่ในที่ทางส่วนตัว ทอมหันไปมองก็พบสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เขากับลูก หลายคนอมยิ้มและหัวเราะ

ทอมซ่อนยิ้มในหน้า แกล้งกระซิบถามเบาๆ
"ทำไมไม่ให้จูบล่ะครับ ยังโกรธเรื่องไอศครีมเหรอ.."
"เปล่าโกรธฮะ"
"แล้วทำไมไม่ให้จูบล่ะ อายคนมอง? "
แม็กกี้ชำเลืองมองไปที่กลุ่มเด็กวัยรุ่นก่อนกระซิบตอบพ่อ
"เปล่าอายซะหน่อย   ผมจั๊กจี๋หนวดแด๊ดต่างหาก  ไม่รู้จะใส่หนวดเยอะแยะทำไม ปลอมยังไงคนก็ยังจำได้อยู่ดี"
"เอ๋?.. จริงอ่ะ" ทอมนึกขึ้นได้

…จริงซีนะ! เขาปลอมตัวออกมา... ไม่ต้องการให้คนจำได้เพราะต้องการมีเวลาเป็นส่วนตัวกับลูก และไม่ต้องการตกเป็นข่าวในช่วงนี้ด้วย เด็กพวกนี้มองเขาเพราะจำได้จริงเหรอ.. ปลอมขนาดนี้ยังจำได้.. ต่อไปก็ไม่ต้องปลอมกันแล้ว..

"ถ้างั้นลูกต้องยอมให้แด๊ดจูบดีๆ แล้ว"
"เอ๋?.." คิ้วเรียวเล็กขมวดมุ่น เพราะไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันตรงไหน
"ถ้าลูกไม่ยอมให้จูบ อาจมีคนสงสัยว่านี่เป็นหนวดปลอมนะ"
"หนวดจริงไม่จั๊กจี๋เหรอฮะ"
ทอมพยักหน้าให้ ...เป็นคำถามที่ไร้เดียงสาจริงๆ.. เย้าลูกชายเล่นมีความสุขอย่าบอกใครเลย..

…………………….
เสียงซุบซิบของเด็กสาวสองคนที่นั่งอยู่ใกล้สุดดังแว่วเข้าหูสองพ่อลูก
"เธอว่าใช่มั้ย ฉันว่าใช่นะ"
"นั่นน่ะซี เด็กน่ารักนะเธอ เข้าไปถามกันมั้ยว่า ใช่หรือเปล่า"
……………………..


ดวงตาสีน้ำทะเลกลมโตเบิกโพลงรีบกระซิบบอกพ่อ
"รีบไปจากที่นี่เถอะฮะแด๊ด.. ก่อนที่เขาจะเข้ามาถาม"
"จูบแด๊ดก่อนซี แล้วค่อยไปกัน" ทอมต่อรองหน้าตาย

แม็กกี้ไม่อยากให้คนมาห้อมล้อม  จึงยอมทำตามโดยไม่เสียเวลาคิด  แต่เลือกจูบที่สันจมูกของพ่อ  ทอมจูบแก้มเด็กชายกลับ เสียงหัวเราะและกระซิบกระซาบก็ดังหึ่งขึ้นอีก  แม็กกี้หน้าแดง..อายจนต้องซุกหน้าลงกับไหล่พ่อและกระซิบบอกให้ไปจากที่นี่เร็วๆ

ทอมหัวเราะอย่างสุขใจ ชั่วขณะที่หาเด็กชายไม่เจอเมื่อครู่ หัวใจเขาแทบจะหลุดลอยหายไปด้วย ถึงนาทีนี้เขาไม่แคร์แล้วว่าใครจะจำได้หรือไม่ อยากจะประกาศให้โลกรู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าหนูแม็กกี้คนนี้ เป็นลูกชายของทอม แม็คกิลล์ จริงๆ

ทอมแบกร่างเล็กขึ้นไหล่  เจ้าหนูดิ้นขลุกขลักจะลง ทอมแกล้งเดินเข้าไปใกล้กลุ่มเด็กวัยรุ่นและกระเซ้าเสียงดังจงใจให้หูที่ผึ่งอยู่หลายคู่ในที่นั้นได้ยินด้วย

"จะลงเดินเองก็ได้ แต่ต้องจูบแด๊ดอีกหนึ่งที โอเค.."
เด็กชายตกใจที่ทอมพูดเสียงดังจนคนอื่นๆได้ยิน รู้สึกอายจนเผลอทุบหลังพ่อ
“ไปเถอะฮะ แด๊ด.. น่าอายจะตาย..”

ทอมหัวเราะกับอาการเขินอายของลูกชาย หันไปส่งยิ้มและขยิบตาให้กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาว ก่อนแบกร่างเล็กเดินจากไป ในขณะที่หน่วยสอดแนมชายหญิงหงายหลังตึงกันไปหลายคน เพราะท้าพนันกันอยู่ว่าหนุ่มฝรั่งสุดหล่อแสนเท่ผู้นี้เป็นพ่อของเด็กชายลูกครึ่งหน้าตาน่ารักหน้าชังคนนี้จริงรึเปล่า เพราะสารพัดเสียงอึกทึกทั้งเสียงกรีดร้องและเสียงเครื่องเล่นในสวนสนุก ทำให้ไม่มีใครได้ยินสองพ่อลูกคุยกันถนัดนัก ได้เห็นแต่สีหน้าท่าทีและกริยาที่ชายหนุ่มปฏิบัติต่อเด็กแล้ว ทั้งอบอุ่นและอ่อนโยนจนไม่สามารถหาคำบรรยายและละสายตาจากภาพที่เห็นได้ ต่างพากันจ้องเขม็งดูฉากรักหวานแหววระหว่าง 2 หนุ่ม 2 วัย  โดยไม่มีใครสงสัยว่าชายหนุ่มเป็นใคร  ความแคลงใจของวัยรุ่นกลุ่มนี้คือ  หนุ่มฝรั่งผู้นี้เป็นพ่อเด็กหรือเปล่าเท่านั้น..

"เด็กเป็นลูกจริงๆ ด้วยอ่ะ มิน่าล่ะ!.. โอ๋กันน่าดู"
"คนอะไรวะ หล่อโคดด..เลย มีหนวดเครารุ่มร่ามยังหล่อขนาดนี้ ถ้าโกนออกสงสัยอัญเชิญขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ได้เลย"
"อะไรของแกวะ หมูพูห์.."
"ทำไมต้องให้แปลด้วยฟระ!! แค่นี้ก็ไม่เก๊ท บนสวรรค์เป็นที่อยู่ของใครกันล่ะ  ถ้าหมอนั่นไม่มีหนวดเคราล่ะก็ เทวดายังต้องหลบเลย เหอะ ๆ แต่.. เอ!!!.. มองไปมองมาคล้ายๆใครหว่า นึกไม่ออก…"

พูห์น้อย งึมงำประโยคสุดท้ายก่อนลุกขึ้นชวนเพื่อนๆ ไปเล่นเครื่องเล่นต่อ หลังจากหยุดพักเหนื่อยและได้ดูฉากรักหวานหวิวของพ่อลูกที่สุดแสนจะน่ารักคู่นั้นแล้วช่างเป็นบุญตาจริงๆ…

 :L1:


TBC >>>>

เห็นแม็กกี้มีความสุขแบบนี้  แม่ยก พ่อยก ยิ้มกว้าง ๆ กันได้แล้วซีนะ 
บอกแล้วไม่มีใครต้องร้องไห้ตลอดไป
ชะเอิงเอย
 :z2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-02-2010 13:41:47 โดย j-muay »

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #238 เมื่อ03-02-2010 17:29:17 »

คิด ถึง จิม อ่ะ เมื่อไหร่ จิม จะกลับ มาซะที

กลับ มาก็ กลับมาคนเดียว นะ

อย่า พ่วง ใครกลับมาด้วย 

ทอม ก็นะ  ยัง ไม่รู้ความรู้สึกของตัวเอง อีกรึ ไง

รัก แต่ ไล่ ให้ไป     :z6:

เฮ้อ อ อ  อ อ อ ออ

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #239 เมื่อ03-02-2010 17:49:21 »

 :mc4: :mc4: :mc4:

ภาคสองมาแล้ว




เมื่อไหร่หนอจิมมี่จะกลับมา :m15:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด