[Novel] สายใยรัก & Love You Only และตอนตัวอย่างของ Love U Andy
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Novel] สายใยรัก & Love You Only และตอนตัวอย่างของ Love U Andy  (อ่าน 155657 ครั้ง)

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #150 เมื่อ28-01-2010 19:10:02 »

 :o12: :o12: :o12:

ทิชชู่ไม่พอ ขอผ้านวมแทนได้ไหมอ่ะ :m15: :m15: :m15:

เจ๊หมวยอ่ะ :o12: :o12:

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #151 เมื่อ28-01-2010 21:39:51 »

 :z3: โอ้ยยยย...เครียดดดดดดดดด...

สงสารแม็กกี้จัง




ออฟไลน์ kunkai

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #152 เมื่อ28-01-2010 21:47:39 »

ชีวิตแม๊กกี้
เจอแต่ความเลวร้าย
  :impress3:

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #153 เมื่อ28-01-2010 21:58:54 »

 :o12: :o12: :o12: :o12:
ทำไมมันถึงได้รันทดเยี่ยงนี้หนออออออออ
สงสารแม็กกี้สุดๆๆ :m15: :m15: :m15:

aekporamai2

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #154 เมื่อ28-01-2010 22:35:32 »

 :L2: :3123: :L1: o13

ออฟไลน์ nbee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 849
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #155 เมื่อ28-01-2010 23:09:42 »

 

:o12:  ชีวิตแม็กกี้ช่างโหดร้ายซะจริงๆ


ThyRist

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #156 เมื่อ29-01-2010 00:06:56 »

จิ้มก่อนอ่านเรื่องเจ๊หมวยงับ ^^


สัญญาว่าจะอ่านให้จบแน่นอน อิอิ

..

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #157 เมื่อ29-01-2010 10:41:42 »

เจ้หมวย.....
จบเรื่องนี้แล้วเอา fatherhood มาลงต่อเลยนะอยากอ่าน
 :pig4:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #158 เมื่อ29-01-2010 13:11:28 »

“เดี๋ยวตามไปคุยกับฉันที่ห้องก่อนนะ จิม..”
ทอมก้าวลงจากรถเดินขึ้นตึก จิมมองตามด้วยความรู้สึกกังวล ทอมนั่งเงียบมาตลอดทางสีหน้าเฉยจนเดาอารมณ์ไม่ถูก คำสั่งเมื่อครู่เป็นคำพูดแรกที่ออกจากปากทอม
ทอมอยู่ในชุดนอนนั่งเอกเขนกอยู่บนเตียง จิมเดินมาหยุดยืนข้างๆ เขาเข้าใจว่าทอมช็อกกับสภาพของแม็กกี้ แต่ครั้งนี้ทอมช็อกด้วยอาการนิ่งเงียบ
“เรื่องด่วนหรือทอม.. นอนพักก่อนเถอะ  นายไม่ได้นอนทั้งคืนเลยนะ”
“นั่งซีจิม.. ฉันอยากคุยกับนายก่อน”
จิมทรุดตัวลงนั่งไม่ได้นึกเอะใจเลยว่าทอมกำลังตัดสินใจเรื่องใหญ่ในชีวิต
“มีอะไรหรือทอม.. โอเคหรือเปล่า.. เงียบแบบนี้ฉันไม่สบายใจเลยรู้มั้ย..”
“นายชินกับการเห็นฉันโวยวายหรือร้องไห้เสียใจใช่มั้ย   ต่อไปนี้นายจะไม่ได้เห็นฉันในสภาพนั้นอีก   ฉันจะไม่ทำตัวเหมือนเด็กที่ต้องคอยรับการปลอบโยนจาก พี่ชาย อีกต่อไป ”
จิมยิ้มเฝื่อนกับคำว่า ‘พี่ชาย’ แต่ก็นิ่งฟังต่อโดยไม่ขัดหรือทักท้วงใดๆ
“เพราะตั้งแต่วันนี้ฉันไม่ใช่หนุ่มโสดที่ไม่มีภาระให้รับผิดชอบ  ฉันไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้ว  ฉันมีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องดูแล~”
“ฉันเข้าใจความรู้สึกของนายนะ ทอม.. ไม่ต้องเป็นห่วงและกังวลอะไรทั้งนั้น  แม็กกี้ไม่ใช่ภาระที่จะทำให้นายต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง  ฉันเห็นด้วยที่นายจะรับเด็กกลับมาดูแลเองเมื่อเขาแข็งแรงดี  แม็กกี้ได้อยู่ใกล้ๆ นายก็อาจทำให้ความจำฟื้นกลับคืนมาเร็วขึ้น ฉันจะรับงานน้อยลง… นายจะได้มีเวลาอยู่กับแม็กกี้ที่บ้าน และจ้างพยาบาลไว้สักคนคอยดูแลตอนที่เราไม่อยู่”
“ไม่.. ฉันจะดูแลแม็กกี้เอง ฉันไม่รับงานอีกจนกว่าเขาจะหาย..”
“ว่าไงนะ!!.. ล้อเล่นน่ะทอม.. มันต้องใช้เวลากว่าแม็กกี้จะฟื้นความจำ  อาจจะแค่ไม่กี่สัปดาห์ แต่ก็อาจเป็นเดือน.. หรือเป็นปี..”
“นานแค่ไหนฉันก็ไม่สน ที่ฉันอยากคุยกับนายคือเรื่องนี้”
ทอมเอื้อมมือหยิบสมุดเช็คที่โต๊ะข้างเตียง  เซ็นชื่อและดึงออกจากสมุดส่งให้  จิมรับเช็คมาถืออย่างงงๆ ไม่มีตัวเลขบนเช็คมีแต่ลายเซ็น
“อะไร? ”

“ค่าเสียหายที่โรเจอร์จะขอเรียกคืนที่ฉันผิดสัญญาไม่เดินทางไปประกวดสุดยอดนายแบบที่ญี่ปุ่น  และเงินชดเชยสำหรับนาย 10 เดือน เพราะเมื่อฉันไม่รับงานก็ไม่มีงานให้นายทำและไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน อาจไม่กี่เดือนหรืออาจเป็นปีอย่างที่นายว่า ฉันยินดีให้นายไปหางานใหม่  ฉันรู้ว่ามีโมเดลลิ่งหลายแห่งอยากให้นายไปร่วมงานด้วย  นายไม่ใช่ผู้จัดคิวงานธรรมดาแต่เป็นนักต่อรองที่วิเศษสุด เหมาะที่จะนั่งโต๊ะสั่งงานหรือต่อรองเรื่องธุรกิจมากกว่างานที่ทำอยู่กับฉันทุกวันนี้ ใส่ตัวเลขเองนะจิม.. เผื่อนายต้องการมากกว่า 10 เดือน สำหรับนายเท่าไรฉันก็ยินดี…”

จิมนั่งตะลึงอยากจะคิดว่าเขาง่วงจนผล็อยหลับไปและกำลังฝันร้าย แต่ก็ไม่ใช่.. นี่คือความจริง เขาไม่ได้หลับ ในมือเขามีเช็คหนึ่งใบไม่ใส่ตัวเงิน ลายเซ็นทอม แม็คกิลล์ จริงๆ ไม่อยากเชื่อเลย นี่มันยิ่งกว่าฝันร้ายซะอีก..

เขาไม่ได้ตกใจที่ทอมตัดสินใจยกเลิกการเดินทางไปประกวดสุดยอดนายแบบ  เพราะเป็นเรื่องที่เขาคิดกังวลไว้ล่วงหน้าแล้ว และตกใจเล็กน้อยที่ทอมจะหยุดรับงานทั้งหมดเพียงเพื่อต้องการดูแลแม็กกี้เองจนกว่าจะหาย…  หากแต่ เรื่องที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน และทำให้เขารู้สึกเหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่ลำคอจนพูดไม่ออกคือการถูกทอมบอกเลิกจ้าง…

“นายกำลังบอกเลิกจ้างฉันด้วยเงินชดเชย 10 เดือน ยังงั้นหรือทอม..”
“ฉันให้นายใส่ตัวเลขเองไง จิม.. ฉันไม่รู้ว่าควรจะให้เท่าไร รู้แต่ว่าไม่ควรต่ำกว่า 10 เดือน”
“หึ!!.. เท่าไรก็ได้ยังงั้นเหรอ..”
“ใช่!!.. สำหรับนายฉันยินดี..”
“เท่าไรก็ยินดีงั้นเหรอ.. 10 เดือนสำหรับฉันไม่พอหรอกนะทอม.. ถ้าฉันจะขอ 5 ล้าน นายยังยินดีอยู่หรือเปล่า”

ทอมนิ่งไปชั่วครู่ก่อนให้คำตอบที่ทำให้จิมตะลึงอึ้งไปอีก
“ลองเช็คเงินในบัญชีดูก่อนนะจิมว่ามีเท่าไร.. ถ้าจำไม่ผิดมีแค่ 15 ล้านเศษเอง จ่ายค่าผิดสัญญาให้โรเจอร์แล้วเหลือเท่าไรแบ่งกันคนละครึ่งนะ ฉันยินดีเพราะนายเองก็มีส่วนในเงินพวกนี้ ฉันจะเอาเงินส่วนที่เหลือไว้รักษาแม็กกี้  ฉันอยากเลี้ยงดูเขาด้วยเงินที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของฉันเอง ไม่อยากแตะต้องเงินมรดกของตระกูล”

จิมสูดลมหายใจเข้าและระบายออกช้าๆ ทอมพูดเรื่องเงินด้วยน้ำเสียงวิตกเหมือนกลัวว่าเขาจะไม่ยอมรับเงินน้อยกว่า 5 ล้าน
...ให้ตายเถอะ!.. นี่มันอะไรกัน จนถึงนาทีนี้ทอมยังไม่เข้าใจความรู้สึกที่เขามีให้ คิดว่าเขาอยู่ด้วยทุกวันนี้เพราะค่าจ้างและงานในหน้าที่ยังงั้นเหรอ...

จิมลุกขึ้นยืน
“ฉันต้องการ 5 ล้าน  ถ้าอยากให้ฉันไปจากชีวิตนาย ” 
ทอมเงยหน้าขึ้นมองสีหน้าและแววตาตื่นตระหนก จิมระบายยิ้มด้วยความสะใจที่สามารถย้อนความเจ็บปวดกลับคืนไปให้เทพบุตรสุดรักของเขาได้
“ไปจากชีวิต หมายความว่าอะไร ” ความตระหนกของทอมไม่ได้อยู่ที่เงิน 5 ล้าน
“หึ!.. ก็หมายความว่าฉันน้อมรับคำสั่งเลิกจ้างของนาย และยินดีที่จะไปหางานใหม่ทำโดยไม่หวนกลับมาให้นายเห็นหน้าอีก”
จิมเบือนหน้าหนีเมื่อพูดจบจึงไม่เห็นอาการตกใจของอีกฝ่าย
“ต้องจากไป.. ไม่กลับมาอีก..” ทอมทวนคำพูดเบาๆ
“งานใหม่ของนายอยู่ไกลมากเหรอ..”
จิมชักเหลืออด หันกลับมาจับต้นแขนสองข้างของทอมบีบอย่างแรง
“ใช่!!.. ฉันยินดีจากไป จะไม่หวนกลับมาอีก จะไม่รับงานในวงการนี้ จะไปให้ไกลจากนายสุดหล้าฟ้าเขียวเลย พอใจหรือยัง”
จิมผลักทอมหงายลงบนที่นอน
“ฉันไม่ต้องการเงินชดเชยจากนายไม่ว่าจะ 5 ล้าน หรือ 10 ล้าน ต่อให้มากกว่านี้อีกกี่ร้อยเท่าก็ชดเชยความรู้สึกของฉันไม่ได้ ฉันจะคุยกับโรเจอร์ยกเลิกการเดินทางให้ ฉันเข้าใจที่นายต้องเลือกแม็กกี้มากกว่าความฝันสูงสุดของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเสียหายให้โรเจอร์หรอก ฉันจะคุยกับเขาเอง เก็บเงินของนายไว้รักษาลูกเถอะ”
จิมจ้ำอ้าวผละจากไป กำลังจะก้าวออกจากห้องก็ต้องชะงักกับเสียงเรียก

“หยุดนะ!!.. เมเนนเดส การ์เซีย.. ฉันไม่ให้นายไป..”

จิมยืนนิ่งไม่เข้าใจตัวเองว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาจนถึงนาทีนี้ เขาทนอารมณ์และความเอาแต่ใจตัวเองของทอมได้อย่างไร จู่ๆ ก็ไล่ให้ไปหางานใหม่ทำ พอจะไปก็สั่งให้หยุด..
“ต้องการอะไรอีก โทมัส แม็คกิลล์ นับจากนาทีนี้ไปคุณจะออกคำสั่งกับผม ไม่.. ได้.. แล้ว.. ”
คำพูดสุดท้ายงึมงำอยู่ในลำคอเพราะหันกลับมาเห็นเทพบุตรสุดรักนั่งกอดเข่าน้ำตานองหน้า
“ทำไมต้องไปด้วย.. นายไปแล้วฉันจะอยู่กับใคร..” ทอมสะอื้นไห้ เพิ่งบอกว่าจะไม่ทำตัวเป็นเด็กต่อหน้าจิมอีก เอาเข้าจริงๆ ก็ทำไม่ได้
จิมแทบจะถลาเข้าไปคุกเข่าตรงหน้า แต่ฝืนยืนนิ่งรอดูสถานการณ์
“ฉันจ้างนายเหมือนเดิมก็ได้ ถ้านายไม่เบื่อที่อยู่กับฉันแล้วไม่มีงานทำ ดีกว่าให้นายไปหางานใหม่ที่ไกลสุดหล้าฟ้าเขียว แล้วต้องจากฉันไป..”
จิมถอนใจเฮือกใหญ่ เดินกลับไปหยุดยืนตรงหน้าทอม
“มันเป็นความต้องการของใครกันล่ะ หา!!.. นายเป็นคนอยากให้ฉันไปฉันก็จะไป จะเอาอะไรอีก...”
“ฉันไม่ได้อยากให้นายจากไปซะหน่อย ฉันแค่อยากให้นายไปหางานใหม่ทำเท่านั้น”
“หางานใหม่..” จิมกล่าวย้ำด้วยความไม่แน่ใจ หรือว่า…เขาฟังไม่เข้าใจและตีโพยตีพายไปก่อน
“ใช่!!.. หางานใหม่ทำดีกว่าอยู่ว่างไปวันๆ แต่ถ้างานใหม่ของนายอยู่ไกลจนต้องจากไปฉันก็ไม่เอา ฉันจ้างนายเหมือนเดิมก็ได้ ถ้านายไม่เบื่อที่ไม่มีงานทำ”
จิมทรุดตัวลงคุกเข่าตรงหน้าและจับมือเทพบุตรสุดรักไว้แน่น หัวใจเต้นแรงด้วยความยินดี
“หมายความว่านายต้องการให้ฉันไปหางานใหม่ทำ แต่ยังอยู่ที่นี่กับนายเหมือนเดิมยังงั้นเหรอ..”
ทอมพยักหน้า
“ฉันไม่ได้อยู่คนเดียวมานานแล้ว ถ้านายไปแล้วฉันจะอยู่กับใคร.. แล้วแม็กกี้ล่ะ.. นายจะปล่อยให้ฉันดูแลแม็กกี้ในสภาพแบบนี้คนเดียวงั้นเหรอ ไหนบอกว่าจะช่วยฉันดูแลอนาคตของเขาไง ฉันเลี้ยงลูกคนเดียวไม่ได้นะ จิมมี่.. ฉันไม่รู้ว่าคนเป็นพ่อต้องทำยังไงบ้าง~ ”   ทอมสะอื้นน้ำตาร่วงผล็อยลงอีก

…โอ!.. พระเจ้า เขาเข้าใจทอมผิดไปเองหรือนี่…

จิมจูบมือทอมเบาๆ และเช็ดน้ำตาให้
“อย่าร้องไห้ ทอม.. ฉันจะไม่ไปไหน ฉันขอโทษที่เข้าใจนายผิด”
จิมลุกขึ้นนั่งบนเตียง สวมกอดทอมไว้และบอกความในใจของตัวเองบ้าง
“ฟังนะ ทอม.. นายจะงดรับงานสักระยะเพื่อดูแลแม็กกี้ก็แล้วแต่ใจนะ แต่เมื่อนายไม่มีงานให้ฉันทำ ความสัมพันธ์ฉันท์ลูกจ้างกับนายจ้างของเราก็จบลงเท่านี้ นับจากนี้ไปฉันจะอยู่เคียงข้างช่วยนายดูแลแม็กกี้ ในฐานะอะไรก็ได้แล้วแต่นายอยากให้เป็น ยกเว้นในฐานะลูกจ้าง เพราะฉะนั้นอย่าพูดเรื่องเงินค่าจ้างกับฉันอีก เก็บเงินที่มีอยู่ไว้ใช้จ่ายและรักษาลูกเถอะนะ”
“แล้วนายจะเอาเงินที่ไหนใช้ล่ะ ฉันจ่ายให้นายเหมือนเดิมดีกว่าแต่น้อยลงกว่าเดิมหน่อย”
“ไม่นะทอม.. อย่าทำอย่างนั้น นายต้องใช้เงินอย่างประหยัด เมื่อไม่รับงานก็ไม่มีรายได้เข้ามา ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันจะหางานพิเศษทำ”
“งานพิเศษเหรอ.. อยู่ไกลหรือเปล่า ต้องไปจากที่นี่มั้ย”
“หัวใจฉันอยู่ที่นี่ ถ้าไปก็หมายความว่าฉันต้องไปแต่ตัว แล้วฉันจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงถ้าไม่ได้เอาหัวใจไปด้วย”
ทอมหน้าแดง เบี่ยงตัวออกต่อว่าแก้เขิน
“กะล่อนน่ะ.. เมื่อกี้ถ้าฉันไม่เรียกไว้นายก็ไปแล้ว”
“ใช่.. ฉันไปแน่ถ้าเป็นความต้องการของนาย ฉันยอมจากไปทั้งที่ไม่มีหัวใจ รู้ใช่มั้ยว่าหัวใจฉันอยู่กับใครในบ้านหลังนี้..”
จิมสบตาทอมอย่างมีความหมาย ทอมเบือนหน้าหนีรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เมื่อนึกถึงคำพูดที่ตัวเองเคยออกปากไว้
….อยากมีเซ็กซ์กับฉันมากใช่มั้ย จิม.. ถ้าช่วยฉันตามหาแม็กกี้กลับมาได้ ฉันจะยอม แต่ถ้าไม่ได้อย่ามาแตะต้องตัวฉันอีก…
ทอมขบริมฝีปากแน่น ภาวนาขออย่าให้จิมจำคำพูดนี้ได้เลย..
“รู้ใช่มั้ย ทอม.. ว่าทุกห้องหัวใจของฉันมีแต่นาย แล้วหัวใจของนายล่ะ.. นอกจากแม็กกี้แล้วยังพอมีว่างสักห้องให้ฉันอยู่มั้ย”
“จะบ้าใหญ่แล้วนะ เพ้อเจ้ออยู่ได้ นี่ไม่ใช่เวลาพูดเรื่องหัวใจนะ”
จิมซ่อนยิ้มในหน้า
“โอเค.. ไม่พูดเรื่องหัวใจก็ได้ งั้นจำได้มั้ย นายสัญญาอะไรกับฉันไว้ถ้าฉันหาแม็กกี้พบ หือ..”
ทอมสะดุ้งโหยง รีบสั่นศีรษะปฏิเสธ
จิมขมวดคิ้ว “จำไม่ได้หรือ ทอม.. เป็นลูกผู้ชายต้องรักษาคำพูดนะ”
จิมดันร่างทอมนอนลงและตามลงไปคร่อมทับ
“ไม่รู้ล่ะ ฉันจะขอทวงสัญญาของนายวันนี้และตอนนี้เลย..”
ริมฝีปากร้อนประทับจูบบนเรียวปากนุ่มอย่างรวดเร็ว
“อึ๊.. อือ~~ ”

ทอมอ่อนระโหยลงทันทีที่ลิ้นอุ่นของจิมแทรกเข้ามาสัมผัสกับลิ้นของเขา ระยะหลังที่ถูกจิมจูบ เขาไม่มีเรี่ยวแรงจะผลักไสหรือแม้แต่จะเบือนหน้าหนี ยอมนอนนิ่งแต่โดยดี ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเพราะอะไร

จิมถอนริมฝีปากเมื่อรู้สึกว่าทอมเริ่มหายใจติดขัด เขาตั้งใจแค่จะกระเซ้าเล่นเท่านั้น หากแต่ใบหน้าแดงเรื่อที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้าขณะนี้เย้ายวนให้อารมณ์ปรารถนาภายในกระเจิงเกินรั้งไว้ได้ ลิ้นร้อนไล่สัมผัสไปทั่วใบหน้างาม ซุกซนซอกซอนใบหูละเรื่อยลงสู่ลำคอ ริมฝีปากไล้ลงบนกระดุมเสื้อและใช้ฟันปลดออกทีละเม็ดอย่างรวดเร็ว มือไม้เริ่มซอกซอนเข้าไปสัมผัสผิวกายและเลื่อนไล้ไปทั่วเรือนร่าง ลิ้นอุ่นดูดเม้มติ่งเนื้อที่ยอดอกสลับไปมา

“อ๊ะ.. อา~~ ” เสียงครางแผ่วหวานของทอมเหมือนเป็นสัญญาณบอกให้จิมเดินหน้าต่อไปได้

หลายวันที่ผ่านมาทอมคิดถึงแต่เรื่องแม็กกี้จนมีแต่ความเครียด คงไม่ ได้ระบายความต้องการให้ตัวเองนานแล้ว จิมลากลิ้นสัมผัสแผ่นท้องแบนราบ มือรูดกางเกงนอนของทอมลงไปกองที่ปลายเท้าและปลดออก

ทอมสะดุ้งเฮือกเมื่อส่วนสำคัญของร่างกายถูกครอบครองด้วยความร้อน จากอุ้งมือและลิ้นอุ่นของจิม
“อา~~ ” ทอมร้องครางดวงตาคู่สวยหลับพริ้ม สัมผัสที่ได้รับทำให้อารมณ์ปรารถนารุมเร้าเกินเหนี่ยวรั้งไว้ได้แล้ว
“อึ๊ก.. ฮะ… ฮา~~ ”
ทอมระบายลมหายใจออก ใบหน้าแดงซ่านด้วยความเขินอายสุดชีวิตเมื่ออารมณ์ที่ปลดปล่อยออกมาถูกอีกฝ่ายกลืนกินลงไป เป็นครั้งที่สองแล้วที่จิมส่งเขาขึ้นสวรรค์ด้วยวิธีนี้ แต่ครั้งนี้เขายินยอมด้วยดีไม่เหมือนครั้งแรก
“ฉันรักนาย ทอม.. รักมาก.. รักสุดหัวใจเลย รู้มั้ย หือ…”
ทอมเบือนหน้าหนีด้วยความอาย
“ได้โปรด.. เป็นของฉันเถอะนะ ทอม..” เสียงทุ้มกระซิบเสียงแผ่วและสั่นพร่า
ทอมใจหายวาบเมื่อเห็นร่างสูงอยู่ในสภาพพร้อมที่จะเผด็จศึกเขา จิมถอดกางเกงออกตอนไหนทำไมเขาไม่เห็นเลย
“มะ.. ไม่.. จิมมี่.. อย่า~~ ”
จิมไม่เปิดโอกาสให้ทอมปฏิเสธ เขาปิดปากทอมด้วยจูบที่ร้อนแรงขึ้นกว่าเดิม น้องชายที่กำลังตื่นตัวของเขากำลังรอรับการปลดปล่อย จิมใช้สองมือแยกต้นขาทอมออก
ทอมสะดุ้งเฮือก สองมือดันอกกว้างไว้ด้วยกำลังที่มีอยู่ทั้งหมด
“มะ.. ไม่นะ.. จิมมี่.. อย่าทำ ฉันยังไม่พร้อมอ่ะ อย่า~~ อือ..” ทอมหลับตาสะอื้นตัวสั่น
จิมใจหายวาบรีบผละออกด้วยความตกใจ
“อย่าร้อง ทอม.. ฉันขอโทษ.. ไม่ทำแล้วนะ”
ทอมเอาแต่หลับตาและส่ายหน้า จิมลอบถอนใจด้วยความผิดหวัง รีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างเพื่อให้ทอมรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจว่าเขาไม่ทำอะไรแล้วจริงๆ
“พักผ่อนนะ ทอม.. นายไม่ได้นอนทั้งคืนเลย ฉันจะจัดการเรื่องโรเจอร์ให้เรียบร้อย ไม่ต้องห่วงนะ..”

จิมกระซิบปลอบน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนคว้ากางเกงของตัวเองขึ้นมาสวม และหยิบกางเกงนอนของทอมที่กองอยู่กับพื้นขึ้นมาวางบนเตียง ร่างสูงยืนนิ่งมองเทพบุตรแสนรัก แม้จะนึกเสียดายที่ไม่ประสบความสำเร็จถึงขั้นสุดท้ายในการมีเซ็กซ์ร่วมกับทอม แต่อย่างน้อย..วันนี้ทอมยินยอมให้เขามอบความสุขให้ ถือว่าความหวังของเขาใกล้จะเป็นจริงแล้ว เขาผิดเองที่จู่โจมเร็วเกินไป..

ทอมลืมตาขึ้นเมื่อเสียงประตูปิดลง ถอนหายใจเฮือกด้วยความโล่งอก ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ อดถามตัวเองไม่ได้ว่าเขายินยอมให้จิมทำเรื่องน่าอายแบบนี้เพราะจำต้องรักษาสัญญาพล่อยๆ ที่ให้ไว้ หรือเพราะทำตามความปรารถนาของหัวใจตัวเองกันแน่...

 :กอด1:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #159 เมื่อ29-01-2010 13:25:20 »

สายใยรัก บทที่ 12 ..
 “ อ้อมกอดพ่อ     เป็นยาวิเศษ ”

-----------------------


“มองอะไรอยู่เหรอ แม็กกี้..”

ทอมมองตามสายตาเด็กชายไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้า อยากรู้ว่าในใจของเจ้าหนูคิดอะไรอยู่ ตั้งแต่เขามาถึงจนเวลานี้ชั่วโมงกว่าแล้ว แม็กกี้เอาแต่นั่งเกาะหน้าต่างมองดูท้องฟ้า ไม่สนใจว่ามีใครนั่งพูดคุยอยู่ข้างๆ
 
…เด็กไม่รับรู้ในเรื่องที่ผ่านมา  ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองเป็นใคร  ความทรงจำส่วนใหญ่หายไป ที่พอจะหลงอยู่บ้างกลับเป็นความเจ็บปวดที่ได้รับขณะถูกทำร้าย แต่ยังโชคดีค่ะที่เด็กจำพ่อได้  ค่อยๆ พูดคุยกับแกทุกวันนะคะ  ถ้าเป็นคุณแล้วดิฉันเชื่อว่าจะสามารถเข้าถึงจิตใจของเด็ก และช่วยฟื้นความทรงจำของแกกลับคืนมาได้…

...ที่แม็กกี้ยังจำได้คือแด๊ดดี้ของตัวเอง ไม่ใช่เขา.. ทอม แม็คกิลล์ ผู้โหดร้ายใจดำที่คอยคิดแต่จะกำจัดเด็กชายไปให้พ้นจากชีวิต   ตอนนี้แม็กกี้ลืมเขาได้แล้ว... เขาน่าจะดีใจ แต่ทำไมถึงเสียใจและเจ็บปวดมากมายเช่นนี้ ขณะนั่งพูดคุยอยู่ข้างๆ สายตาเด็กชายไม่เคยหยุดนิ่งที่เขา เหมือนเขาไม่มีตัวตนอยู่ในที่นี้..

        ..บางครั้งเด็กอาจเข้าใจที่คุณพูด แต่บางครั้งก็ไม่ต่างจากเด็กเล็กไร้เดียงสา ต้องพร่ำบอกพร่ำสอนให้เข้าใจ    คอยสังเกตว่าแกให้ความสนใจและจ้องมองอะไรอยู่นานๆ  แสดงว่าอาจมีความทรงจำในสิ่งนั้นหลงเหลืออยู่บ้าง…

        “คิดอะไรอยู่เหรอ แม็กกี้..  บนท้องฟ้ามีอะไรครับ..”
        ทอมกระซิบถามน้ำเสียงขื่น ไม่ได้หวังให้เจ้าหนูตอบแค่ต้องการให้เสียงของเขาผ่านเข้าโสตประสาทของเด็กชายบ้าง
        “มีใครอยู่บนโน้นใช่มั้ย  แม่แอนนาหรือเปล่า  หรือว่าแด๊ดดี้.. หือ..”

        ดวงตาเด็กชายเป็นประกายเมื่อได้ยินคำว่า "แด๊ดดี้" แต่เพียงแว่บเดียวก็เลือนหายไป  ทอมจูบแก้มเนียนใสเบาๆ  อยากกอดใจจะขาดแต่ไม่กล้า  วันแรกที่ถูกเขาสวมกอดขณะมีสติเจ้าหนูแผดร้องด้วยความตกใจ มีอาการหวาดกลัวจนตัวสั่น  เขาต้องรีบผละและล่าถอยออกมาด้วยความตกใจเช่นกัน

..เฉพาะผู้ชายเท่านั้นค่ะที่แกไม่ยอมให้จับต้อง  สำหรับคุณทอมคงใช้เวลาไม่นานเด็กอาจยอมรับ ถ้าอยากกอดจริงๆ หมอแนะนำให้กอดตอนแกหลับสนิทแล้วค่ะ..

        หนึ่งสัปดาห์เต็มแล้วที่ทอมแวะเวียนมาเยี่ยมแม็กกี้ตั้งแต่สายและอยู่จน ถึงบ่ายเย็น บางวันอยู่ถึงค่ำรอจนเด็กชายนอนหลับสนิทก่อนเพื่อจะได้มีโอกาสกอดเจ้าหนูอย่างที่หมอมาริสาแนะนำ

        สองวันแรกเด็กชายไม่ยอมให้ทอมเข้าใกล้ต้องมีพยาบาลอยู่ข้างๆ ด้วย แต่แค่วันที่สามทอมก็สามารถนั่งอยู่ข้างแม็กกี้ตามลำพัง ในขณะที่จิมได้แค่ยืนอยู่ห่างๆ ไม่สามารถเข้าใกล้ได้ในระยะประชิด  เพราะเจ้าหนูจะขยับหนีและส่งเสียงร้องครางทันที ปลอบยังไงก็ไม่หายจากอาการตื่นกลัวจนทอมต้องไล่จิมออกไปให้พ้นหน้าเด็กชาย

 :m15: 

วันนี้จิมปล่อยให้ทอมอยู่ตามลำพังกับแม็กกี้ ส่วนเขาเลี่ยงออกมานั่งพูดคุยกับหมอมาริสาที่สนาม

“เชื่อแล้วค่ะว่าคุณทอมเป็นพ่อของเด็กจริงๆ ถ้าไม่ใช่…. คุณทอมคงไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้แกแน่  เป็นเพราะเด็กยังมีความทรงจำในเรื่องพ่อ  ถ้าเป็นอย่างนี้ดิฉันเชื่อว่าคงใช้เวลาไม่นาน เด็กจะค่อยๆ ฟื้นความจำส่วนอื่นๆ ขึ้นมาได้”

       จิมเล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทอมกับแม็กกี้ให้หมอมาริสาฟังว่า แม็กกี้รู้ว่าทอมเป็นพ่อมาตั้งแต่เด็กโดยที่ทอมไม่เคยรู้มาก่อน เด็กมาหาทอมที่บ้านเมื่อ 2 เดือนที่แล้วบอกว่าตัวเองเป็นลูกของทอม ต้องการมาพิสูจน์ความจริงว่าทอมเป็นพ่อจริงหรือเปล่า ทอมช็อกกับเรื่องที่เด็กบอกเล่า แม้ความ สัมพันธ์ระหว่างทอมกับแม่ของเด็กจะเป็นเรื่องจริง แต่ทอมก็ไม่เชื่อว่าเด็กเป็นลูกของเขา ทอมขอเวลาทำใจ 2 เดือน ก่อนที่จะยอมพิสูจน์ความจริงโดยให้เด็กพักอาศัยอยู่ด้วย

        “ระหว่างนั้นผมได้แอบพิสูจน์ความสัมพันธ์ระหว่างทอมกับเด็กแล้ว พบ ว่าทอมเป็นพ่อของเด็กจริงๆ แต่ผมไม่ได้บอกทอม กะว่าจะรอให้ครบกำหนด 2 เดือนที่ตกลงกันไว้ แต่เมื่อเกิดเรื่องเด็กหนีออกจากบ้าน ผมรู้สึกเสียใจมากที่ไม่ได้บอกความจริงให้ทอมรู้ เพราะถึงจะอยู่ในสภาพที่เมามากแค่ไหน หากรู้ว่าเป็นลูกจริงๆ ทอมก็คงไม่ออกปากไล่เด็กออกจากบ้าน  เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเด็กผมจึงมีส่วนต้องรับผิดชอบด้วยครับหมอ”

ถ้าไม่ใช่เพราะหมอมาริสาดักคอไว้ก่อนว่า ต้องการรู้ความจริงเกี่ยวกับตัวเด็กเพื่อประโยชน์ในการรักษาแล้วล่ะก็  จิมไม่มีทางบอกเรื่องจริงทั้งหมดให้เธอฟังแบบนี้แต่ถึงยังไงเขาก็บอกเฉพาะเรื่องที่สมควรจะบอกเท่านั้น  เรื่องที่ทอมคิดจะกำจัดเด็กไปให้พ้นจากชีวิต  แม้แผนการเลวร้ายส่วนใหญ่มาจากความคิดของเขาก็ตาม  เขาไม่บอกเรื่องนี้ให้เธอรับรู้แน่  ภาพพจน์ของทอม แม็คกิลล์ สุดยอดนายแบบคนดังจะโหดร้ายใจดำได้อย่างไร  แค่ทอมต้องตกที่นั่งเป็นพ่อของเด็กชายวัย 12 ปี ในขณะที่ตัวเองอายุแค่ 27 ปี  ใครได้ฟังก็อึ้งพอแล้ว

        “ผมก็หวังให้เป็นอย่างที่หมอพูด อยากให้แม็กกี้เห็นว่าทอมคือทอม  กลัวแกจำไม่ได้ แต่คิดว่าทอมเป็นผู้หญิงเพราะหน้าตาทอมสวยงามกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก”
        “คงไม่หรอกค่ะ ดิฉันคิดว่าเด็กจำเสียงคุณทอมได้   ไม่เช่นนั้นคงกล่อมให้แกฉี่เองไม่ได้หรอกค่ะ แต่ก็จริงอย่างที่คุณว่านะคะ คุณทอมหล่อและสง่างามเหมือนเจ้าชายในเทพนิยายจริงๆ”
        จิมหัวเราะคำเปรียบเปรยของหมอ  อดภูมิใจแทนเทพบุตรของเขาไม่ได้
        ...เห็นมั้ยล่ะ ไม่ใช่แต่ฉันคนเดียวที่ยกย่องนายเป็นเทพบุตร  ความงามของนายเหมือนเจ้าชายในเทพนิยายอย่างที่หมอมาริสาว่าจริงๆ...
       ...เจ้าชายแม็คกิลล์... ตอนนี้พระองค์กำลังทำอะไรอยู่กับพระโอรสน่ะ...

       จิมมองไปที่หน้าต่างห้องพักของเด็กชาย สักครู่ก็หันมาทางหมอมาริสาเหมือนนึกขึ้นได้
        “เอ่อ.. หมอครับ  ถ้ายังไงอย่าลืมที่ผมขอไว้  เรื่องทอมกับแม็กกี้…”
        “อ๋อ.. ค่ะ  นอกจากดิฉันแล้วมีพยาบาลหน้าห้องอีก 1 คนเท่านั้นที่รู้  ด้วยเกียรติของวิชาชีพพยาบาลและจรรยาบรรณของหมอค่ะ”
        หมอมาริสายกมือขวาขึ้นส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม
        “หรือจะให้สาบานก็ได้นะคะ  ว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับ..”
        “โอ๊ะ!.. ม.. ไม่ครับหมอ..”   จิมจับมือแพทย์สาวไว้ด้วยความตกใจ
        “ได้โปรดอย่าทำขนาดนี้เลย  แค่หมอรับปากผมก็วางใจแล้ว”  จิมกล่าวด้วยความเกรงใจ 
        “แค่นี้ผมกับทอมก็เป็นหนี้บุญคุณหมอมากแล้วที่ช่วยดูแลแม็กกี้อย่างดี  มีอะไรที่เราสองคนพอจะช่วยเหลือมูลนิธิได้  โปรดอย่าเกรงใจนะครับ”
        “ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจค่ะ ส่วนเรื่องแม็กกี้ได้โปรดอย่าเกรงใจเลย เป็นหน้าที่ของดิฉันอยู่แล้ว”  หมอมาริสายิ้มให้ชายหนุ่มอย่างอ่อนโยนก่อนจะเอ่ยอย่างสุภาพ
        “ขอโทษนะคะ  ขอมือคืนค่ะ”
        จิมสะดุ้ง  นึกขึ้นได้ว่ายังกุมมือหมอไว้   รีบปล่อยมือและกล่าวขอโทษ
        “อ๊ะ!.. เอ่อ.. ขอโทษครับ หมอ..  ขอโทษครับ”  จิมหัวเราะแก้เขิน
        “ไม่อยากเชื่อเลยนะคะ ว่าคุณเป็นผู้จัดการส่วนตัวของคุณทอม”
        “ทำไมล่ะครับ   ผมดูไม่น่าเชื่อถือเหรอ..”
        “ค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าจะทำหน้าที่แค่จัดคิวงานให้คุณทอม ถ้าไม่บอกดิฉันคงเข้าใจว่าคุณเป็นเพื่อนนายแบบด้วยกัน  ก็คุณจิมน่ะ..หล่อน้อยกว่าคุณทอมแค่หน้าตาเท่านั้น แต่รูปร่างสมส่วนอย่างนักกีฬาแบบนี้ นายแบบบางคนยังสู้ไม่ได้เลยนะคะ  สาวๆ คงหลงเสน่ห์น่าดู  นี่ถ้าดิฉันยังโสดอยู่ก็ไม่แน่นะคะ”
        หมอมาริสากล่าวจบก็หัวเราะเหมือนเป็นแค่เรื่องคุยสนุก แต่จิมหัวเราะไม่ออกได้แต่ยิ้มแห้งๆ   เพราะไม่แน่ใจว่าเธอชมหรือแขวะเขากันแน่   แต่ที่รู้ๆ คือ หมอกำลังบอกให้เขารู้ว่าเธอมีเจ้าของแล้ว…

        …โธ่! หมอครับ.. ผมก็อยากจะบอกหมอว่า หัวใจของผมก็มีเจ้าของแล้วเหมือนกัน….

 :กอด1:

       “เป็นอะไร แม็กกี้.. ปวดฉี่ใช่มั้ย..”
        ทอมเอามือจับที่ท้องน้อยเด็กชายเมื่อเจ้าหนูมีอาการขนลุก  แต่สายตาก็ยังไม่ละความสนใจจากท้องฟ้า
        ทอมก้มลงหยิบกระบอกฉี่ขึ้นมาเตรียมพร้อม ก่อนจับต้องอวัยวะเพศเด็กชายเขาต้องกระซิบบอกให้รู้ตัวก่อน  ไม่เช่นนั้นจะเกิดอาการผวาและร้องครางด้วยความตกใจ
        “ฉี่นะแม็กกี้.. ฉี่เองได้แล้ว  ฉี่เองนะครับ”
         ทอมกระซิบบอกและยังออกเสียงประกอบให้เหมือนเด็กทารก  เขาจับต้องอย่างเบามือที่สุด  รู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งเมื่อนึกถึงความทารุณโหดร้ายที่เด็กชายได้รับทำให้อวัยวะเพศระบมด้วยบาดแผล ไม่สามารถฉี่ได้ด้วยตัวเองต้องใช้วิธีสวน  โดยพยาบาลจะเข้ามาจับท้องน้อยเด็กชายทุกๆ 4 ชั่วโมง 

        ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองเขาคงไม่รู้ว่ากว่าเด็กชายจะฉี่ออกมาได้แต่ละครั้งต้องได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัสขนาดไหน สภาพจิตใจของเด็กจะดีขึ้นได้ยังไง แค่เวลาฉี่ยังถูกจับมัดกับเตียงเพื่อไม่ให้ดิ้นหนี ครั้งแรกที่เห็นเขาถึงกับยืนตะลึง แม็กกี้ส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนขณะที่พยาบาลสอดสายยางเข้าท่อปัสสาวะ น้ำสีเหลืองขุ่นไหลออกตามสายยางพร้อมกับน้ำตาและเสียงร้องครางของเด็กชาย  ทอมไม่สามารถทนดูได้ ขอร้องหมอว่าอย่าใช้วิธีสวนอีก  เขาจะพยายามกล่อมให้เด็กฉี่ด้วยตัวเอง   
        เมื่อวานทอมใช้ความพยายามอยู่ทั้งวันคอยจับท้องน้อยและกระซิบบอกเด็กชายให้ฉี่  ผ่านไปครึ่งค่อนวันทำยังไงเจ้าหนูก็ไม่ยอมปล่อยน้ำเสียออกจากร่างกายซะที จนหมอเข้ามาตรวจและขอให้ใช้วิธีสวนเหมือนเดิมก่อนเพราะไม่เป็นผลดีกับกระเพาะปัสสาวะของเด็ก  ระหว่างรอพยาบาลนำอุปกรณ์มาสวน ทอมพยายามปลอบและกล่อมให้หนุ่มน้อยของเขาฉี่ด้วยตัวเองอีกครั้ง
        ทอมจับต้องอวัยวะเพศเด็กชายที่ยังมีร่องรอยบาดแผลอยู่อย่างเบามือ สมองคิดหาวิธีที่จะให้แม็กกี้ฉี่เอง  ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ ที่ไม่รู้ประสา  พ่อแม่เขาทำยังไงกันนะ..
       ทอมกระซิบข้างหูเด็กชายขณะกำลังจะเคลิ้มหลับ
        "ฉี่ออกมาซี แม็กกี้..  ฉี่เองนะจะได้ไม่ต้องเจ็บไง… ฉี่ซีครับ เด็กดี.. ฉี่นะ…ซูว์….ซูว์……”  ทอมส่งเสียงประกอบโดยไม่รู้ตัว
        “โอ๊ะ!... โอว!..”
        ทอมสะดุ้งรู้สึกร้อนวูบที่มือ ตะลึงมองด้วยความดีใจเมื่อเห็นน้ำสีเหลืองขุ่นพุ่งใส่มือ  เขาไม่สนใจคว้าภาชนะมารองกลับหัวเราะด้วยความยินดี
        …รู้อย่างนี้..  ส่งเสียงให้ฉี่ตั้งแต่แรกแล้ว…
        “เก่งจัง แม็กกี้.. ฉี่เองได้แล้ว…”
        ทอมจูบแก้มเด็กชายเบาๆ ในขณะที่เจ้าหนูตาสว่างขยับตัวไปมาเพราะรู้สึกเปียกชื้น…
   


 
       

        “อาหารว่างมาแล้วครับ.. มาทานกันดีกว่า..”  ทอมกระซิบข้างหูเด็กชายที่กำลังนั่งดูทีวีอย่างตั้งใจ
        “การ์ตูนภาพสีสวยๆ อาจช่วยดึงความสนใจให้แม็กกี้ยอมผละจากหน้าต่างก็ได้นะ ทอม..”
        จิมเปรยกับทอมเมื่อตอนเที่ยงและเมื่อทอมเอ่ยเห็นดีด้วย ไม่ถึงชั่วโมงทีวีและเครื่องเล่นดีวีดีก็ถูกนำมาตั้งไว้ในห้องเหมือนเนรมิต 
        ทอมทรุดตัวลงนั่งข้างเด็กชายและป้อนอาหารว่างให้ แม็กกี้อ้าปากรับอาหารโดยดีทำเอาพยาบาลยืนงง
        “เป็นไปได้ยังไงคะนี่  ดีวันดีคืนอย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนคุณมาแกไม่ยอมทานเลยนะคะ ต้องให้น้ำเกลืออยู่หลายวัน   ถ้าดีขึ้นอย่างนี้อีกไม่กี่วันคุณหมอคงอนุญาตให้กลับบ้านได้ค่ะ”
        ทอมส่งยิ้มหวานให้เพราะเธอพูดถูกใจเขา พยาบาลหน้าแดงเดินตัวลอยออกจากห้องไป  …คนอะไรก็ไม่รู้ หล่ออย่างกับเทพบุตร…
        “หายเร็วๆ นะ แม็กกี้.. เราจะได้กลับบ้านกันซะที..”
        ทอมเริ่มชินกับการพูดคนเดียว แม้จะไม่มีคำตอบกลับมา ขอเพียงให้แม็กกี้ได้ยินและจำเสียงเขาได้ก็พอ…
        ทอมลุกขึ้นยกถาดอาหารไปเก็บ เดินผ่านหน้าต่างก็อดมองขึ้นไปบนท้องฟ้าไม่ได้  .…อยากรู้จังว่าแม็กกี้นึกถึงอะไร  มีความทรงจำอะไรหลงอยู่ข้างบนงั้นเหรอ…
        ทอมถอนใจ  ละสายตาจากท้องฟ้าก็เหลือบไปเห็นภาพที่ทำให้เขาต้องเดินรี่ไปเกาะหน้าต่างมองอย่างไม่รู้ตัว

        จิมกำลังนั่งคุยกับหมอมาริสาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม อารมณ์เบิกบานอย่างที่เขาไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก  มีเด็กๆ วิ่งเล่นอยู่รอบคนทั้งสอง แต่จุดสนใจที่สายตาเขาเอาแต่จับจ้องคือร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่ม คบหาอยู่ด้วยกันมาตั้งนาน  ทำไมเขาเพิ่งรู้สึกว่าหมอนี่ดูดีและมีเสน่ห์มากในนาทีนี้เอง   
        ...เอ๊ะ!.. หรือว่า..  จริงซี.. ก็เวลาอยู่กับเขาจิมไม่เคยมีบุคลิกแบบนี้เลย  มีแต่เรื่องงานกับเรื่องเซ็กซ์อยู่ในหัวเท่านั้น เวลาคุยเรื่องงานก็สีหน้าเคร่ง เครียดจริงจัง  พักจากงานก็เอาแต่ส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ยกับเขา  ทำไมไม่เหมือนกับที่นั่งคุยกับหมอตอนนี้เลย...
        ทอมตาลุกวาวเมื่อเห็นจิมจับมือหมอมาริสากุมไว้   ปากพูดพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนขอร้อง  ดูแล้วเหมือนชายหนุ่มกำลังขอความรักหญิงสาวยังงั้นล่ะ!..
        ทอมกัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรงด้วยความลืมตัว แค่คิดก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกแล้ว   …นั่นนายคิดจะทำอะไรอ่ะ จิมมี่..  งี่เง่า!!.. บ้าฉิบ!!..
        ทอมหันหลังกลับยืนพิงหน้าต่าง เขาไม่ใช่แค่ไม่สบอารมณ์แต่เขากำลังโกรธ ..ใช่!.. เขาโกรธจิมที่ทำเรื่องงี่เง่าให้เขาเห็น  และโกรธตัวเองที่ทำไมต้องไม่พอใจและโกรธหมอนั่นด้วย จะจีบสาว จะจับมือหรือมีเซ็กซ์กับใครที่ไหนมันเกี่ยวอะไรกับเขา ในเมื่อเขาให้ในสิ่งที่จิมต้องการไม่ได้ จิมก็ต้องกลับไปคบหามีความสัมพันธ์กับหญิงสาวเป็นเรื่องปกติ       ทำไมเขาต้องรู้สึกฉุนและไม่พอใจที่เห็นจิมจับมือหมอมาริสาด้วย

        “บ้าจริง.. นี่เราเป็นอะไร ทำไมต้องโกรธด้วย..”  ทอมพึมพำกับตัวเอง

        …ฉันไม่ได้ต้องการแค่ร่างกายแต่ต้องการหัวใจของนายด้วย…
        …ฉันรักนาย ทอม.. รักมากที่สุด  ไม่เคยรักใครมากเท่านี้มาก่อน ฉันไม่สนว่านายจะเป็นหญิงหรือชาย  นายเป็นคนเดียวที่ฉันรัก …
        อารมณ์โกรธที่กำลังคลายลงฉุนกลับขึ้นมาอีกเมื่อนึกถึงถ้อยคำหวานที่จิมชอบพร่ำบอกเขา ทอมบอกตัวเองว่าเขาไม่ได้โกรธที่เห็นจิมจับมือหมอ แต่โกรธที่ถูกจิมมี่เจ้าเล่ห์หลอก ที่แท้เขาเองก็ไม่ต่างจากผู้หญิงทั่วไป ใครถูกใจก็จีบดะไปทั่ว
        “ชั่วร้ายนักนะจิมมี่.. เห็นฉันเป็นอะไร  ขนาดเป็นผู้ชายด้วยกันนายยังบอกรักได้หน้าตาเฉย  กับผู้หญิงก็คงบอกมาแล้วนับไม่ถ้วน  ไอ้คนกะล่อน!!.. ไอ้บ้า!!.. ไอ้..”

        ทอมชะงักคำสบถไว้แค่นั้น อารมณ์โกรธมลายสิ้นเมื่อหันไปเห็นร่างเล็กนั่งคอพับอยู่ที่โซฟา  รีบถลาเข้าไปดูพบว่านอนหลับธรรมดาก็โล่งอก
        “ง่วงแล้วเหรอ แม็กกี้... ไปนอนที่เตียงนะครับ..”
        ทอมก้มลงกระซิบก่อนช้อนร่างเด็กชายไว้ในวงแขนพาไปนอนที่เตียง  เขาขยับผ้าห่มคลุมร่างเล็กบอบบางและก้มลงจูบที่แก้มเนียนใสเบาๆ สองวันนี้แม็กกี้นอนหลับดีขึ้น ไม่ค่อยส่งเสียงครางเหมือนสองสามวันแรก  ยังมีอยู่บ้างก็แค่ส่งเสียงพึมพำเรียกหาใครคนนั้น  ซึ่งทุกครั้งที่เขาได้ยินรู้สึกปวดร้าวถึงขั้วหัวใจเลย
        ...แด๊ดดี้.. แด๊ดดี้.. อือ...
        แต่ในเวลาที่ตื่นแม็กกี้กลับไม่พูดหรือเอ่ยเรียกชื่อนี้เลยสักครั้ง  ไม่อยากเชื่อว่าแม็กกี้จำเขาไม่ได้ ทั้งที่ยังมีความทรงจำในเรื่องพ่ออยู่ หรือว่าจริงๆ แล้วแม็กกี้ไม่เชื่อว่าเขาคือพ่อ  จึงต้องการพิสูจน์ความจริง..
        ทอมสั่นหัวไล่ความคิดวกวนและวุ่นวายสารพัดเรื่องออกจากสมอง   เขาควรถือโอกาสตอนแม็กกี้หลับนอนกอดให้ชื่นใจดีกว่า…

 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
« ตอบ #159 เมื่อ: 29-01-2010 13:25:20 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #160 เมื่อ29-01-2010 14:07:34 »

        จิมผลักประตูห้องเข้ามาก็ต้องชะงัก ส่ายหน้ากับภาพที่เห็น ร่างสง่างามของชายหนุ่มนอนตะแคงสวมกอดร่างเล็กบางของเด็กชายอยู่บนเตียงนอนขนาดแค่ 3 ฟุต 

        เขาตั้งใจจะเข้ามาชวนทอมกลับบ้านเร็วหน่อยเพราะอยากให้ทอมได้พักผ่อนบ้าง   ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาทอมอยู่เฝ้าเด็กชายทั้งวันตั้งแต่สายจนถึงค่ำโดยไม่เอ่ยปากบ่นเหมือนเวลาที่เหนื่อยจากงาน แต่เขารู้ว่าทอมเหนื่อยทั้งใจและกายยิ่งกว่าทำงานซะอีก กลับถึงบ้านหัวถึงหมอนไม่กี่นาทีก็น็อกแล้ว

        จิมพิศใบหน้าของเด็กชายสลับกับทอม  เปรียบเทียบกันใกล้ขนาดนี้จึงพบว่าไม่ใช่แค่ปากเท่านั้นที่เหมือน  เค้าโครงหน้าของสองพ่อลูกก็เหมือนกันด้วย  จิมระบายยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าของแม็กกี้วันนี้มีน้ำมีนวลขึ้น ไม่ขาวซีดและซูบตอบเหมือนวันแรกที่พบ  เขาก้มลงจูบแก้มเด็กชายเบาๆ ด้วยความรู้สึกรักและสงสาร  ผละจากแก้มลูกก็ขยับมาที่แก้มพ่อโดยอัตโนมัติ

        ทอมสะดุ้งตื่นเพราะไม่ได้หลับสนิทแค่เคลิ้มๆ เท่านั้น  อ้าปากจะโวยเมื่อเห็นใบหน้าของจิมอยู่ห่างไม่ถึงคืบ  แต่ถูกมือใหญ่ปิดปากไว้และส่งเสียงให้เงียบพร้อมกับพยักหน้าไปที่เด็กชายซึ่งกำลังหลับสนิทอยู่ข้างๆ  ทอมค่อยๆ ขยับตัวลงจากเตียงพร้อมกับเสียงครางเบาๆ

        “โอย~~  เหน็บกินแขนฉัน..”
        “เตียงเล็กแค่นี้นอนเข้าไปได้ยังไง หือ..”   จิมประคองเทพบุตรสุดรักมานั่งที่โซฟา
        “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลับ  แค่จะนอนกอดเฉยๆ”
        “นายเหนื่อยมากรู้ตัวหรือเปล่า ทอม..  วันนี้กลับบ้านเร็วหน่อยนะ  ไปนอนพักผ่อนให้เต็มที่สักวัน”     จิมกล่าวขณะบีบนวดแขนข้างที่ชาให้
        ทอมพยักหน้าแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าจิมทำเรื่องอะไรไว้เมื่อครู่ ก็รีบเบี่ยงตัวออกชักสีหน้าไม่พอใจทันที
        “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน  นายมันกะล่อน งี่เง่า!!…”
        จิมหน้าเหลอ
        “หา!!..  อะ.. อะไรนะ  ฉันงี่เง่า..  เรื่องอะไร ?..”
        “เอ่อ..”
        ทอมอึกอัก จะบอกได้ยังไงว่าเขาโกรธที่เห็นจิมจับมือหมอมาริสา
        “ช่างเหอะ ”   ทอมตัดบทนึกละอายกับความรู้สึกของตัวเอง
        “ฉันยังไม่กลับตอนนี้  รอแม็กกี้ตื่นก่อน  จะพาเขากลับบ้านด้วย”
        “ว่าไงนะ  จะพาแม็กกี้กลับบ้านด้วย  ล้อเล่นหรือเปล่า ทอม.. แม็กกี้ยังไม่อยู่ในสภาพช่วยตัวเองได้เลยสักอย่าง  อยู่ใกล้หมอกับพยาบาลดีที่สุด”
        “ดีสำหรับใคร.. สำหรับฉันหรือสำหรับตัวนายเอง..”
       จิมผงะเมื่อถูกทอมตะคอกใส่อย่างไม่สบอารมณ์ ..นี่เขาพูดอะไรผิดตรงไหน  จึงทำให้ทอมหัวเสียขนาดนี้..

       ทอมกล่าวน้ำเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าของจิมพิศวงกับอารมณ์ของเขา
        “ฉันไม่สนใจว่าแม็กกี้ยังช่วยตัวเองไม่ได้ แค่อาการบาดเจ็บดีขึ้นก็พอแล้ว นายคงไม่รู้ว่าหลายวันมานี้ฉันทำอะไรให้แม็กกี้บ้าง  ทุกอย่างที่พยาบาลทำให้เด็กฉันทำหมดแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าฉันจะดูแลเขาไม่ได้  เรื่องดูแลแม็กกี้เป็นหน้าที่ของฉัน หน้าที่ของนายคือไปเดินเรื่องขอพาเด็กกลับบ้านให้ได้ในเย็นนี้  คงไม่มีปัญหาใช่มั้ย จิม..  ถ้าเป็นนายพูด  คุณหมอคนสวยของนาย คงไม่ขัดข้องหรอก”

        ทอมอดแขวะจิมไม่ได้แต่กล่าวด้วยน้ำเสียงปกติไม่ได้แสดงอารมณ์  แต่ถึงกระนั้นก็ทำให้จิมสะอึกกับคำว่า "คุณหมอคนสวยของนาย" และชักเหลืออดกับคำพูดกระแนะกระแหนของทอม  มือใหญ่จับไหล่เทพบุตรเจ้าอารมณ์ของเขากระซิบถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มไม่พอใจบ้าง
        “เป็นอะไรทอม.. เดี๋ยวก็ด่า เดี๋ยวก็แขวะ  ฉันทำอะไรให้ไม่พอใจ บอกซิ”
        “ไม่มี.. ไม่ได้ทำ ปล่อย..”  ทอมเบี่ยงตัวหนีจึงถูกจิมบีบไหล่แรงขึ้น
        “โอ๊ย!.. เจ็บนะ ปล่อยเซ่…”  ทอมเริ่มส่งเสียงดัง รู้สึกโกรธมากขึ้นที่กำลังของเขาสู้จิมไม่ได้..
       “ไม่ปล่อย.. จนกว่านายจะบอกว่าโมโหฉันเรื่องอะไร”   จิมดันร่างทอม นอนลงบนโซฟา
        “ฉันไม่ได้โมโห  ปล่อยนะ จิมมี่..  นายมันบ้า.. อือ~~ อึ๊!!..”
        ทอมขนลุกซู่เมื่อร่างสูงขยับตามลงมาซุกไซ้ที่ใบหูและซอกคอเขา  จึงตะโกนเสียงดังด้วยความลืมตัวนึกว่าอยู่ที่บ้าน
        “ปล่อยนะ!!… จิมมี่!! ..”

        “อื้อ~ อือ~ อือ~”
        เสียงเด็กชายร้องคราง  ทอมหยุดส่งเสียงหันขวับไปมองในขณะที่จิมก็หยุดไซ้แต่ยังไม่คิดจะผละออก
        “ลูกร้องอ่ะ ทอม..”
        ทอมรู้สึกเขินกับคำว่า ‘ลูก’ กัดฟันกระซิบตอบด้วยอารมณ์โกรธที่ยังค้างอยู่
        “เออซีวะ..  ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะ”
        “ฮือ... อือ~~ ”  เสียงครางของเด็กชายดังขึ้น  แต่จิมกลับอ้อยสร้อยขยับตัวขึ้นช้าๆ

        “อุ๊ก!!..”
        ทอมลุกจากโซฟาถลาไปที่เตียงในขณะที่จิมนั่งตัวงอนิ่วหน้าอยู่  เข่าของทอมกระแทกเฉียดน้องชายเขาไปนิดเดียว

        “ไม่มีอะไรแม็กกี้.. ไม่มีอะไรนะ ไม่ต้องกลัว..”
        ทอมกระซิบปลอบและสวมกอดเด็กชายเบาๆ  แต่เจ้าหนูก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกจากภวังค์ร้าย
        “อือ.. อือ..”
        “แม็กกี้.. ไม่ต้องกลัว.. ฉันอยู่นี่..”
        “เรียกตัวเองว่าแด๊ดซี ทอม..  แม็กกี้จำคุณทอมไม่ได้  จำได้แต่พ่อ”
        ทอมเงยหน้าขึ้นมองจิมซึ่งเดินตามเข้ามาแนะนำอย่างรู้ดี  อ้าปากจะเถียงเด็กชายก็ร้องครางดังขึ้นกว่าเดิม  คราวนี้ดิ้นเร่าๆ ไปด้วย
        “อือ~~ เจ็บ.. อือ~~ แด๊ดดี้.. เจ็บ.. อือ~~”
        ทอมช้อนศีรษะเด็กชายขึ้นมาซบอก  ละล่ำละลักปลอบด้วยความตกใจ
        “แด๊ดอยู่นี่แม็กกี้.. แด๊ดกอดลูกอยู่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัวนะ  ลูกหายแล้วแม็กกี้.. ไม่เจ็บแล้วนะครับ..”

        “เกิดอะไรขึ้นคะ ให้ตามคุณหมอมั้ยคะ”  พยาบาลชะโงกหน้าเข้ามาถาม
        “ไม่ต้องครับ  ไม่มีอะไร  เด็กแค่ฝันร้าย”
        “งั้นหรือคะ  กลางวันยังไม่ค่อยเท่าไรค่ะ  กลางคืนยิ่งกว่านี้อีก”

        ทอมใจหายวาบเมื่อได้ยินพยาบาลพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ  ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่มาเฝ้าเด็กชาย  นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นอาการฝันร้ายของแม็กกี้ ไม่ใช่แค่เสียงครางและเรียกหาพ่ออย่างที่เคยได้ยิน  หากแต่เป็นเสียงร้องให้ช่วยเหมือนกำลังถูกทำร้าย 
        เขาไม่เคยนอนเฝ้าเด็กชายตอนกลางคืน  แค่คำว่า..เจ็บ.. ที่ได้ยินเมื่อครู่หัวใจเขาก็แทบจะสลายแล้ว  ยังมีร้ายกว่านี้อีกยังงั้นเหรอ…
        แม็กกี้สงบลงแล้ว ทอมค่อยๆ ปล่อยเด็กชายนอนลงและหันไปกล่าวกับพยาบาล
        “ช่วยเรียนคุณหมอด้วยครับ ว่าผมจะพาเด็กกลับบ้านเย็นนี้”
        “เอ๊ะ!..  เย็นนี้เลยหรือคะ  เกรงว่าคุณหมอจะยังไม่อนุญาต”
        ทอมส่งยิ้มหวานให้
        “รบกวนคุณพยาบาลช่วยไปเรียนให้คุณหมอทราบก่อน เดี๋ยวคุณจิมจะตามไปคุยกับคุณหมอเองครับ..”
        “ได้ค่ะ”
        พยาบาลสาวรีบดำเนินการตามความประสงค์  นายแบบหนุ่มรูปหล่ออย่างกับเทพบุตรเอ่ยขอร้องทั้งที  ไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว
        “ฉันจะพาแม็กกี้กลับบ้าน  ช่วยไปคุยกับหมอให้หน่อย จิม..”
        ทอมกล่าวกับจิมน้ำเสียงขื่น  ลืมความขุ่นเคืองที่เกิดขึ้นเมื่อครู่สนิท   จิมเข้าใจความรู้สึกของทอม เขาเองก็รู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดที่ได้ยินจากปากเด็กชายเช่นกัน
        “โอเค.. ทอม.. พาลูกกลับบ้านก็ดีเหมือนกัน นายจะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาให้เหนื่อยแบบนี้”
        “ถ้าฉันรู้ว่าแม็กกี้ฝันร้ายแบบนี้ทุกคืน  ฉันคงขอตัวเขากลับบ้านนานแล้วไม่รอถึงวันนี้หรอก” 
        จิมโอบไหล่ทอมและกระซิบแหย่ให้คลายความขมขื่นลง
        “พากลับไปอยู่บ้านก็ดี อยู่ที่นี่คุยเรื่องของเราไม่ค่อยถนัดเลย คืนนี้ฉันจะถามใหม่อีกครั้งว่าเมื่อกี้นายด่าฉันทำไม  เตรียมคำตอบไว้ด้วยนะ..”

        จิมจูบแก้มทอมเบาๆ และรีบผละออกเดินยิ้มกริ่มออกจากห้องไป

        ทอมยืนอึ้งเมื่อนึกขึ้นได้เขาเคืองจิมอยู่และเหตุผลที่เขาต้องการพาแม็กกี้กลับบ้านเมื่อครู่ก็เพราะเห็นภาพบาดตาทางหน้าต่าง  พาแม็กกี้กลับบ้านเขาจะได้ไม่ต้องมาที่นี่อีกและเมื่อเขาไม่มา จิมก็….   
       ...ให้ตายเถอะ!..  ถึงเขาไม่มาจิมก็มาเองได้ถ้าต้องการจะมา...
       ...เชอะ!.. ช่างปะไร ทำไมเขาต้องสนใจหรือหงุดหงิดด้วย เขาควรโล่งอกต่างหากถ้าจิมชอบหมอมาริสาจริงๆ...
 

 o12


ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #161 เมื่อ29-01-2010 14:20:37 »

"หลับแล้วเหรอ.."
"อือ.." ทอมทรุดตัวลงนั่งด้วยสีหน้าอ่อนระโหย

ในที่สุดแม็กกี้ก็ได้กลับมาที่บ้านแม็คกิลล์อีกครั้ง แม้จะอยู่ในสภาพที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง  แต่ต่างก็รู้สึกเอ็นดูพร้อมกับสงสารและเวทนาเด็กชายที่อยู่ในอาการตื่นตระหนก เพราะนอกจากจะจำใครไม่ได้แล้ว…ยังกลัวทุกคนที่เข้าไปยืนใกล้ รีบหันไปสวมกอดและซุกกับอกทอม โดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตาใครเลย

จิมทรุดตัวลงนั่งข้างๆ และบีบนวดที่ขมับให้
"จะให้แม็กกี้นอนนี่เหรอ จัดห้องข้างๆ ไว้ให้แล้วนะ"
ทอมส่ายหน้า
"ห้องไหนก็เหมือนกัน ฉันต้องนอนด้วยอยู่ดี"
จิมพยักหน้าหงึก พึมพำเบาๆ
"อือ.. อิจฉาแม็กกี้จัง…"
"หือ.. ว่าไงนะ" ทอมสะลืมสะลือใกล้จะเคลิ้มหลับ
"เปล่า.. จะนอนทั้งอย่างนี้เหรอ อาบน้ำก่อนดีกว่านะ ทอม.. ฉันเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้แล้ว"
"ดีเหมือนกัน" ทอมขยับจะลุกขึ้นก็ถูกจิมรั้งไว้
"อะไรอีกเล่า.. จะให้อาบน้ำไม่ใช่เหรอ"
"บอกก่อนได้มั้ย เมื่อตอนบ่ายอารมณ์เสียใส่ฉันเรื่องอะไร" คำถามของจิมทำเอาทอมตาสว่าง
"เรื่องอะไร.. เปล่าซะหน่อย"
"เปล่าอะไรกัน นายว่าฉันกะล่อนแล้วก็งี่เง่าด้วย ถ้าเป็นคนอื่นว่าฉันอย่างนี้มีหวังปากแตกไปแล้ว.."

ทอมชักฉุน อุตส่าห์พยายามลืมแล้วจิมยังขุดขึ้นมาพูดอีก
"ใช่.. ฉันด่านายงี่เง่า.. มีอะไรมั้ย อยากจะกระแทกปากฉันก็เชิญเลย และหยุดเซ้าซี้ถามซะที ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น " ทอมกัดฟันต่อว่าจิมด้วยน้ำเสียงกระซิบ ไม่ลืมว่าเด็กชายนอนหลับอยู่บนเตียง

ริมฝีปากบางสวยสีชมพูเรื่อที่ขยับหมุบหมิบต่อว่าเขาอยู่ตรงหน้า ให้ความรู้สึกยั่วยวนจนจิมอดใจไว้ไม่ไหว เมื่อทอมพูดจบก็ถูกจิมรั้งตัวเข้ามาประทับจูบและไล้เลียที่ริมฝีปากเบาๆ

"อ๊ะ !… อื้อ…" ทอมดันหน้าอกจิมไว้ แต่นอกจากจะไม่ทำให้อีกฝ่ายยอมคลายอ้อมแขนและริมฝีปากออกแล้ว ยังเป็นการเร่งเร้าให้ริมฝีปากร้อนผ่าวของจิมบดขยี้เรียวปากนุ่มของทอมรุนแรงขึ้น ลิ้นอุ่นๆ แทรกผ่านเข้าไปสัมผัสความหอมหวานภายในอย่างดูดดื่ม

…อือ.. อีกแล้วเหรอ เจ้าจิมบ้า.. ทอมร้องครวญอยู่ในใจ นึกโกรธตัวเองที่รู้สึกเคลิ้มกับรสจูบที่จิมมอบให้ทุกครั้ง

จิมถอนริมฝีปากออก ลิ้นอุ่นของเขาอ้อยอิ่งอยู่ที่ริมฝีปากบางสวยและอ่อนนุ่มของทอมอีกครั้งก่อนจะไล้เรื่อยมาที่ใบหูและซอกคอ สองมือที่สวมกอดทอมไว้แยกกันทำหน้าที่โดยอัตโนมัติ มือซ้ายซอกซอนเข้าไปลูบไล้แผ่นหลังอย่างเบามือ ในขณะที่มือขวาเลื่อนลงไปสัมผัสที่หน้าท้องเรียบ

สัมผัสจากปลายนิ้วและลิ้นอุ่นของจิมทำให้อารมณ์ของทอมปั่นป่วน เขาต้องรีบหยุดมันก่อนที่จะเตลิดไปไกลจนกู่ไม่กลับ ที่สำคัญนี่ไม่ใช่เวลาและสถานที่ที่เขาจะยอมให้จิมทำเรื่องแบบนี้
"ยะ..หยุดเดี๋ยวนี้นะ จิมมี่.. ถ้าไม่..อยาก..ให้ฉัน.. ก..โกรธนาย..มะ..มากกว่านี้" ทอมพยายามบังคับเสียงตัวเองให้ออกมาเป็นคำพูด
จิมชะงักมือ ริมฝีปากร้อนผ่าวที่กำลังซุกไซ้อยู่ที่ซอกคอเลื่อนขึ้นมากระซิบที่ริมหู
"แปลว่ายอมรับแล้วใช่มั้ยว่าโกรธฉัน โกรธเรื่องอะไร.. หือ…"
"เอามือนายออกไป..แล้วปล่อยฉัน..ก่อน "

จิมยอมทำตามโดยไม่อิดเอื้อนเพราะอยากรู้ว่าทอมโมโหเขาเรื่องอะไร    ทอมยังนึกกระดากที่จะบอกจึงเลี่ยงด้วยการขอตัวไปอาบน้ำก่อน    จิมเดินตามไปส่งที่หน้าห้องน้ำและกล่าวดักคอ
"ยังไงซะ คืนนี้ฉันต้องรู้เหตุผลของนาย ฉันทำอะไรให้ไม่พอใจต่อไปฉันจะได้ไม่ทำ…"
"ไม่จำเป็นหรอก เรื่องของหัวใจฉันไม่มีสิทธิที่จะห้าม แค่นายอย่ามายุ่งกับฉันอีกก็พอ"
ทอมโพล่งออกมาด้วยความน้อยใจ ถอดเสื้อยืดเขวี้ยงลงตะกร้าอย่างไม่สบอารมณ์ ในขณะที่จิมหน้าเหรอไม่เข้าใจหนักขึ้น
"ถอยออกไป ฉันจะอาบน้ำ" ทอมพยายามจะปิดประตูแต่จิมยืนขวางไว้
"ไม่ถอย ไหนๆ ก็พูดออกมาแล้ว บอกมาให้หมดเลยว่าเรื่องอะไรกันแน่ พูดแขวะฉันที 2 ทีอย่างนี้ ฉันไม่เข้าใจ"
ทอมไม่ฟังที่จิมพูดพยายามจะปิดประตูท่าเดียว ทำให้จิมเริ่มฉุนจึงออกแรงดันประตูและผลุบเข้ามาในห้องน้ำก่อนจะช่วยปิดให้
"ออกไปนะ!!  ฉันจะอาบน้ำ" ทอมหน้างอด้วยความไม่สบอารมณ์
จิมส่ายหน้าและยิ้มเจ้าเล่ห์
"ไม่ออก   ฉันจะช่วยนายฟอกสบู่"
"อ๊ะ.. ไอ้บ้า ออกไปให้พ้น นายมันกะล่อน"
"ชูว์…." จิมจุ๊ย์ปากให้ทอมอย่าส่งเสียงดัง "เดี๋ยวลูกตื่นนะ.. บอกมาก่อนซีว่าทำไมต้องห้ามฉันยุ่งกับนายด้วย หัวใจของใครมีปัญหาไม่ทราบ.."
จิมเดินย่างเข้าหาในขณะที่ทอมเดินถอย แต่เพียงแค่สามก้าวก็ต้องหยุด เพราะถ้าถอยอีกคือต้องก้าวลงอ่างน้ำที่รองน้ำอุ่นไว้จนล้นแล้วล้นอีก
"ถ้าไม่บอกฉันจะช่วยนายอาบน้ำเดี๋ยวนี้แหล่ะ และฉันก็ไม่รับประกันด้วยว่าครั้งนี้จะระงับอารมณ์ตัวเองได้หรือเปล่า..."
จิมไม่พูดเปล่า มือจับสะโพกของทอมดันเข้าหาตัวเขาและคลึงเบาๆ
"ก.. ก็ได้.. ปล่อยมือก่อน.." ทอมขนลุกสะท้านกับสัมผัสภายใต้ผิวผ้า
จิมยอมปล่อยมือแต่โดยดีเพราะอยากรู้เรื่องเต็มแก่แล้ว เขาดันฝาชักโครกปิดลงและทรุดตัวลงนั่ง ในขณะที่ทอมนั่งลงที่ขอบอ่าง นิ่งทำใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดใจเผยความรู้สึกในใจอย่างกระชับที่สุด
"ฉันเห็นนายนั่งคุยกับหมอมาริสาเมื่อตอนบ่าย เพิ่งรู้ว่านายและหมอสนิทสนมกันมาก ถ้าคิดจะจีบและจริงจังกับเธอฉันก็เห็นดีด้วย เพราะฉะนั้นตั้งแต่นาทีนี้ไปเลิกล้อเล่นและวุ่นวายกับฉันซะที"
สีหน้าของทอมเรียบเฉย แต่ประโยคสุดท้ายน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย
"นายเห็นเหรอ"
คำถามสั้นๆ ของจิมแต่เหมือนเป็นคำตอบให้อีกฝ่าย ดวงตาคู่งามฉายแววขึ้งเคียดและโกรธเคือง แต่เพียงแว่บเดียวก็คลายลงและกล่าวด้วยน้ำเสียงปกติ
"ฉันอยู่ที่หน้าต่าง"
"เอ่อ.. นาย.. เห็นอะไรบ้าง" จิมกล่าวเสียงอ่อย
"ฉันเห็นนายจับมือเธอ"
"แค่จับมือ.. ไม่ได้เห็นอะไรมากกว่านี้ใช่มั้ย" จิมแสร้งทำตาละห้อย

ทอมใจหาย เขาแค่เห็นจิมจับมือหมอมาริสาเท่านั้น มากกว่านั้นเขาไม่เห็น เพราะหันกลับมาเห็นแม็กกี้นั่งหลับคอพับอยู่จึงลืมเรื่องจิมไปชั่วขณะ ถามแบบนี้แปลว่ามีอะไรมากกว่าการจับมืองั้นเหรอ ทอมหมดความอดกลั้นแสร้งทำใจเย็นอยู่ต่อไปได้ ตะคอกใส่จิมด้วยอารมณ์โกรธ

“ฉันไม่มีเวลามานั่งจับตาดูนายหรอก จิมมี่.. และฉันก็ไม่สนด้วย อยากจะรักใครชอบใครก็เรื่องของนาย ไม่เกี่ยวกับฉัน ตั้งแต่นี้ไปอย่ามาแสดงกิริยาและพูดจากะล่อนกับฉันอีก   ถ้าคิดจะรักเผื่อเลือกล่ะก็.. ไปหาตัวเลือกที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน อย่ามาทำงี่เง่ากับฉัน ฉันไม่ใช่ตัวตลกของนาย!!.. ”

ทอมผุดลุกขึ้นยืนด้วยอาการหอบเล็กน้อยเพราะเล่นตะคอกใส่โดยไม่หยุดหายใจเลย    จิมตกใจกับอารมณ์โกรธของทอม รีบลุกขึ้นยืนขวางเขาไว้
“หลีกไป ฉันไม่อาบแล้ว”
“ฟังฉันก่อนทอม.. ฉันขอสารภาพความจริง ฉันกับหมอ…”
“ไม่สน!!.. ฉันไม่สนใจ ไม่อยากฟัง ออกไป!!..  ไปให้พ้นหน้า..”

ทอมเอามือปิดหูหลับตาส่ายหน้า ไม่อยากฟังคำสารภาพ สุดยอดนายแบบอย่างเขาเคยแต่ทำผู้หญิงเสียใจ ไม่เคยถูกผู้หญิงหักอกด้วย จึงไม่รู้ว่าความรู้สึกของคนผิดหวังในรัก คล้ายความรู้สึกของเขาในนาทีนี้หรือเปล่า..

จิมตะลึงเมื่อเห็นทอมอยู่ในอาการเสียใจ ถึงปากจะบอกว่าไม่สนและปิดหูปิดตาไม่ยอมรับฟัง แต่ขนตางอนยาวเปียกชื้นเป็นแพ จิมรวบทอมเข้ามากอดและหยุดอารมณ์โกรธด้วยจูบที่ดูดดื่มจนทอมไม่มีแรงผลักไสและปฏิเสธ แถมยังตอบโต้กลับไปอย่างไม่สามารถหักห้ามอารมณ์ได้

จิมถอนริมฝีปากออก จูบซับน้ำตาที่ดวงตาก่อนจะกระซิบปลอบ
“ฉันไม่ได้ชอบหมอมาริสาซะหน่อย ไม่ได้จีบเธอด้วย” ปากกระซิบในขณะที่มือขวาไล้เบาๆ ที่แผ่นหลัง มือซ้ายเลื่อนลงไปปลดกระดุมกางเกงให้

“ฮึก.. โก..หก.. ฮา..”   ทอมครางเบาๆ เมื่อริมฝีปากและลิ้นอุ่นของจิมซุกไซ้ซอกซอนต่ำลงไปเรื่อยๆ
“อ๊ะ.. นะ.. นายหลอก..ฉัน บอก..ร.. รักฉัน.. ค..คนเดียว.. ฮะ..ฮา..”

ไม่ใช่เวลาแก้ตัว เสียงครางแผ่วหวานของทอมทำให้จิมต้องเร่งปฏิบัติการ เขาช่วยปลดปล่อยอารมณ์ให้ทอมด้วยมือขวาและลิ้นอุ่นๆ ของเขา ในขณะที่อารมณ์ของตัวเองถูกปลดปล่อยด้วยมือซ้ายไปพร้อมๆ กัน


 :กอด1:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #162 เมื่อ29-01-2010 14:34:17 »

ทอมนอนหลับตาในอ่างน้ำใบหน้าแดงระเรื่อ    จิมเข้าใจว่าน้ำคงร้อนเกินไปจึงพยายามปรับให้อุ่นลงด้วยการปล่อยน้ำในอ่างออกและเปิดน้ำเข้าใหม่   แม้จะรู้สึกว่าจิมกำลังวุ่นวายแต่ทอมก็นอนนิ่งไม่ยอมเอ่ยปากบอกว่าน้ำอุ่นพอดีแล้ว ที่หน้าแดงเพราะละอายกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ต่างหาก

จิมนั่งอยู่ข้างอ่างเล่าเรื่องที่พูดคุยกับหมอมาริสาให้ทอมฟัง   แม้เจ้าตัวยังปากแข็งยืนกรานว่าไม่สนใจแต่ก็นอนหลับตานิ่งฟังแต่โดยดี ถ้าไม่อยากฟังจริงๆ คงออกปากไล่แล้ว

“ฉันจะไปรักชอบใครที่ไหนได้อีก หัวใจทุกห้องของฉันมีนายจับจองอยู่หมดแล้ว ไม่มีที่ว่างเหลือให้ใครหรอก อ้อ! มีห้องเล็กเหลืออยู่ห้องหนึ่งฉันว่าจะแบ่งให้คนคนหนึ่งอยู่ อยากรู้มั้ยว่าใคร..”
ทอมไม่ตอบแกล้งตีน้ำในอ่างแรงๆ ให้ฟองเพิ่มขึ้น น้ำกระเด็นใส่ร่างสูงเต็มๆ
“โอ๊ย!.. เบาๆ หน่อยซี อยากให้ฉันลงไปอาบน้ำด้วยใช่มั้ย”
จิมลุกขึ้นยืนถอดเสื้อออกเช็ดศีรษะและบ่นพึมพำเบาๆ
“ขี้หึงใช่ย่อยนะนายเนี่ย..”

โป๊ก!!!!!… สบู่ก้อนขนาดเท่าฝ่ามือร่วงลงพื้น

จิมยืนงงอยู่ 2 วินาทีก่อนทรุดตัวลงร้องโอดครวญเสียงกระเส่า มือกุมตาขวาไว้

“โอ๊ย!!... โอย~~ ปวดจัง ตาฉันบอดแล้ว.. โอยยย~~~”
ทอมหน้าเสียลุกพรวดขึ้นจากอ่างน้ำประคองร่างสูงไว้ด้วยความตกใจ
“ขอโทษ.. จิม.. ฉันไม่ได้ตั้งใจ ขอดูหน่อยซี เป็นยังไงบ้าง”
“โอย~~ ปวด.. ตาฉันคงบอดแน่.. มืดไปหมดเลย”
จิมยอมปล่อยมือแต่ไม่ยอมลืมตา      ครั้งนี้เขาเจ็บจริงเบ้าตาขวาบวมแดงทันตาเห็น  น้ำตาไหลพราก ทอมเห็นแล้วใจเสียหนักขึ้น
“บ้าน่า แค่นี้จะตาบอดได้ไง ลืมตาซี ไม่ลืมแล้วจะเห็นเหรอ..”
จิมส่ายหน้า “ถ้าฉันตาบอด นายจะรับได้มั้ย ถ้ารับไม่ได้ก็อย่าดูดีกว่า”
“บ้าจริง!!.. ทำไมฉันต้องรับไม่ได้ด้วยเล่า ลืมตาขึ้นซี”
“ไม่.. บอกมาก่อนว่าถ้าฉันตาบอด นายจะยังเหมือนเดิมกับฉันมั้ย”
“เหมือนซี.. ต่อให้ตาบอดทั้งสองข้าง ฉันก็ไม่รังเกียจนายหรอก ลืมตาให้ฉันดูหน่อย จิมมี่..” ทอมจับไหล่จิมเขย่าด้วยความร้อนใจ
“ไม่รังเกียจแปลว่าอะไร เหมือนเดิมของนายแค่ไม่รังเกียจเท่านั้นเหรอ ไม่ได้รักใช่มั้ย โอย~~ เจ็บอ่ะ ทอม..”

... ไหนๆ ก็เจ็บตัวแล้ว ต้องหาทางรับรู้ความในใจของทอมให้ได้ จะหาว่าเจ้าเล่ห์ก็ยอม จิมซบหน้ากับไหล่ทอม สองมือสวมกอดร่างเปลือยไว้ ผิวเนื้อเนียนลื่นและเปียกชื้นให้ความรู้สึกที่วิเศษ

“ก็บอกว่าขอดูหน่อยไงเล่า พูดมากอยู่ได้”
“บอกก่อนว่านายรักฉันหรือเปล่า ได้โปรดเถอะนะ ทอม.. หากฉันต้องตาบอด ขอให้ฉันได้มีโอกาสรับรู้ความในใจของนายก่อน..”
“เอ่อ..” ทอมถอนใจเฮือก ห่วงก็ห่วง ฉุนก็ฉุน เวลาอย่างนี้ยังจะมาให้บอกความในใจ
“โอเค.. บอกก็ได้ ฟังให้ดีนะ ฉันจะบอกแค่ครั้งเดียวและจะไม่พูดอีก”
ทอมลดเสียงลงเป็นเสียงกระซิบเหมือนกลัวใครจะได้ยิน
“ฉันไม่พอใจและรู้สึกหงุดหงิดที่เห็นนายสนิทสนมกับหมอมาริสา ยิ่งตอนที่นายจับมือเธอฉันรู้สึกโมโหและโกรธมาก ถ้าความรู้สึกที่ว่าคืออาการหึง จะเรียกว่ารักหรือเปล่า คิดเอาเองล่ะกัน….”
“ฉันไม่อยากคิดเอง อยากได้ยินจากปากนายมากกว่า”    จิมไม่พูดเปล่า ผิวเนื้อเนียนลื่นที่เขาสวมกอดอยู่และกลิ่นสบู่หอมอ่อนๆ ช่างเย้ายวนอารมณ์จนอดสูดดมและซุกไซ้ที่ซอกคอไม่ได้

ทอมฉุนกึกเมื่อได้รับสัมผัสที่แสดงถึงความเจ้าเล่ห์ไม่มีที่สิ้นสุด จึงผลักร่างสูงออกด้วยความโมโห

โป๊ก!!!!…. เสียงศีรษะกระแทกผนังห้องน้ำอย่างแรง

จิมเบิกตาโพลง ครั้งนี้ไม่ส่งเสียงร้องสักแอะ นั่งอึ้งมือคลำศีรษะป้อย   ทอมอ้าปากหวอใจหายวาบเมื่อเห็นสภาพดวงตาขวาของจิม แค่เปลือกตาบวมและเบ้าตามีรอยช้ำก็รู้สึกแย่พอแล้ว  ไม่อยากเชื่อเลยว่าแรงกระแทกจากก้อนสบู่จะทำให้ดวงตาของจิมแดงก่ำ ทอมจับศีรษะจิมละล่ำละลั่กถามด้วยความตกใจ

“อ๊ะ!.. ขอโทษ จิม.. เจ็บมั้ย เจ็บหรือเปล่า..”
“ตรงไหนล่ะ  ตาหรือหัว”
น้ำเสียงเย็นชาของจิมทำเอาทอมใจเสีย สำนึกได้ว่าตัวเองทำรุนแรงกับอีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ที่น่าเป็นห่วงตอนนี้คืออาการบาดเจ็บที่ดวงตาขวามากกว่า
“ฉันขอโทษ.. ตาเป็นยังไงบ้าง มองเห็นหรือเปล่า..” ทอมเอามือปิดตาข้างซ้ายของจิมไว้
“เห็นฉันมั้ย จิม..”
จิมนั่งอึ้ง เรื่องที่ตาอาจมองไม่เห็นเขาแค่หลอกทอมให้ตกใจเล่นเท่านั้น ไม่คิดว่าภาพตรงหน้าเขาขณะนี้จะลางเลือนเป็นฝ้า เหมือนมองผ่านม่านขาวยังไงยังงั้น
“เอ่อ.. ห.. เห็น..” จิมปัดมือทอมออกและยันตัวลุกขึ้นยืน
“ฉันจะกลับห้องแล้ว นายอาบน้ำต่อเถอะ”
“เดี๋ยวซี.. ตานายแดงอ่ะ ไปหาหมอมั้ย…” น้ำเสียงทอมสั่นเครือ จิมคงโกรธแน่ จู่ๆ ก็เปลี่ยนท่าทีเป็นเย็นชาแบบนี้…
“ไม่ต้อง ฉันไม่เป็นไร เอาน้ำเย็นประคบหน่อยพรุ่งนี้เช้าก็หาย นายรีบอาบน้ำและเข้านอนซะ.. กู้ดไนท์ ทอม..”
จิมพูดโดยไม่หันไปมองหน้าอีกฝ่าย  เขาเปิดประตูห้องน้ำขยับจะก้าวออกก็ต้องชะงักเพราะถูกอ้อมกอดที่เปียกชื้นรั้งไว้

“ฉันขอโทษ ฉันไม่ดีเอง ชอบทำร้ายนาย อย่าโกรธนะ จิม ฉันขอโทษ..”

ทอมกระซิบขอโทษน้ำเสียงสั่นเครือ จิมร้อนวูบไปทั่วกาย อารมณ์ปรารถนาคุกรุ่นขึ้นในเสี้ยววินาที เขาเปลือยแค่ท่อนบน แต่ทอมคงลืมไปว่าตัวเองไม่ได้สวมอะไรเลย เล่นมาสวมกอดเนื้อแนบเนื้อกับเขาแบบนี้ ถึงจะด้านหลังก็เถอะ ทอมนะ ทอม.. แค่บอกรักฉันนายยังพูดไม่ได้ ยังมาแกล้งให้อารมณ์ฉันปั่นป่วนเล่นอีก..

จิมหันกลับมาเผชิญหน้าด้วย ทอมทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้เมื่อเห็นดวงตาของเขา
“ฉันไม่ได้โกรธนาย ทอม.. อย่าห่วงเลย เจ็บนิดเดียวเดี๋ยวก็หาย”
จิมใช้สองมือเสยผมเปียกชื้นของทอม
“รีบอาบน้ำแล้วเช็ดตัวให้แห้งซะ เดี๋ยวเป็นหวัดหรอก..”
จิมสะดุ้งเมื่อถูกทอมโผเข้ากอด ครั้งนี้ทำเอาเขาขนลุกเลย
“ห่วงทำไม ฉันทำนายเจ็บ ยังมาห่วงฉันอีก”
“ไม่ให้ห่วงได้ยังไง นายรักฉันหรือไม่ก็ไม่สำคัญ ขอให้รู้ว่าฉันรักนายสุดหัวใจฉันเลย เรื่องความรัก จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องพูดหรือพร่ำบอกก็ได้ แค่การแสดงออกหรือการกระทำก็รู้แล้ว…”
ทอมผละออกสีหน้าตื่น
“จริงเหรอ..งั้นที่ฉันทำนายเจ็บบ่อยๆ นายก็คงเข้าใจว่าฉันไม่ได้รักนายใช่มั้ย”
จิมซ่อนยิ้มแสร้งตีหน้าเศร้า
“บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร ขอแค่นายไม่รังเกียจ ให้ฉันเป็นฝ่ายรักนายคนเดียวก็พอ..”

ทอมนิ่วหน้ากัดริมฝีปากตัวเองอย่างครุ่นคิด จิมอ้าปากจะเอ่ยห้ามว่าอย่ากัดริมฝีปาก แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ริมฝีปากบางสวยตรงหน้าโน้มเข้ามาประทับแนบสนิทกับริมฝีปากของเขา ลิ้นอ่อนนุ่มของทอมแทรกผ่านเข้ามาสัมผัสกับลิ้นของเขาอย่างอ่อนโยน

จิมยืนนิ่งคิดว่าทอมแค่หยอกเล่น หากแต่สัมผัสที่ได้รับกลับเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนเขาไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้ สัมผัสและโต้ตอบกลับไปอย่างดูดดื่ม และในเมื่อเขาไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มจึงไม่ยอมเป็นฝ่ายผละออก เนิ่นนานทีเดียวกว่าทอมจะถอนริมฝีปาก ลิ้นอุ่นของเขาตามออกมาส่งและสัมผัสเบาๆ   ที่ริมฝีปากบางสวยอย่างอ้อยอิ่งด้วยความเสียดาย

ทอมผละออกใบหน้าร้อนผ่าวรู้สึกเขินอายกับการกระทำของตัวเอง ก้มหน้างุดและเอ่ยถามน้ำเสียงอ้อมแอ้ม
“เข้าใจความรู้สึกของฉันหรือยัง”
จิมเลิกคิ้ว
“เข้าใจว่าอะไรเหรอ..”
“ก็.. นายบอกว่าความรักแสดงออกที่การกระทำไม่ใช่เหรอ…”
“เอ๋?.. แสดงว่านายกำลังบอกว่า นายรักฉันใช่มั้ย..”
จิมอมยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าเทพบุตรของเขาแดงซ่าน
“ม..ไม่รู้… คิดเอาเองซี..”
จิมรั้งทอมเข้ามาสวมกอดเนื้อแนบเนื้ออีกครั้ง
“แค่จูบ.. บอกอะไรไม่ได้มากหรอก คนไม่รักกันก็จูบกันได้”
ครั้งนี้ทอมเป็นฝ่ายขนลุกกับสัมผัสผิวกายที่ร้อนผ่าวของจิม เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่ได้สวมอะไรเลย สองมือยันอกกว้างไว้
“ป.. ปล่อยนะ ใครจะเป็นยังไงฉันไม่รู้ แต่สำหรับฉัน ฉันไม่จูบปากใครที่ฉันไม่รักหรือไม่ชอบ..”
จิมลอบยิ้มในใจ ...อีกนิดเดียวเท่านั้น ถ้าได้ยินทอมบอกรักจากปาก เจ็บตัวอีกสักครั้งก็คุ้มเกินคุ้ม...
“งั้นที่นายจูบฉันเมื่อกี้ แปลว่านายรักฉันหรือแค่ชอบ หือ..”
“โธ่เว้ย!.. ทำไมต้องเซ้าซี้ด้วย รักหรือชอบก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ”
ทอมเริ่มหงุดหงิด
“ปล่อยซะที ฉันจะอาบน้ำแล้ว”
“ไม่เหมือนนะทอม..” จิมไม่พูดเปล่าสองมือลูบไล้ผิวกายของทอมไปมา
“คนรักกันก็ต้องให้ความสุขซึ่งกันและกัน อย่างที่ฉันทำกับนายตอนนี้”
จิมเริ่มแสดงบทรักตามที่พูด ปากและจมูกซุกไซ้ไปทั่ว
“ม.. ไม่เอาแล้วนะ จิมมี่ ปล่อย~~~” 

ทอมเสียงสั่น ยอมรับว่าทุกครั้งที่ถูกจิมสัมผัส ถ้าไม่ฝืนใจตัวเองไว้อารมณ์ก็จะเตลิดไปจนกู่ไม่กลับ ครั้งนี้ก็เช่นกันถ้าไม่รีบหยุดยั้งการกระทำของจิมใน 2 –3 วินาทีนี้ ก็อย่าหวังว่าจะมีแรงผลักไสอีกเลย   ทอมรวบรวมกำลังซึ่งเหลืออยู่เพียงน้อยนิดผลักร่างสูงออก

...ให้ตายเถอะ!!.. แขนเขาไม่มีแรงเลย จิมทรุดตัวลงที่หว่างขาเขาแล้วทำยังไงดี.. เหลือวิธีเดียวที่จะหยุดได้ จะหาว่าโหดร้ายก็ยอม เขาไม่ยอมให้

จิมมี่เจ้าเล่ห์กลืนกินเขาถึง 2 ครั้งในคืนเดียวกันหรอก...

“อุ๊ก!.. โอ๊ะ!..”

ร่างสูงทรุดฮวบลงกับพื้น ทอมไม่รอช้า.. หิ้วปีกจิมลากออกจากห้องน้ำและกลับเข้าไปอาบน้ำต่อโดยกดล็อกประตูไว้
จิมนอนนิ่วหน้าขดตัวอยู่กับพื้น ชักไม่แน่ใจแล้วว่าเทพบุตรของเขาเป็นซาดิสต์หรือเปล่า ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหนก็ทำเขาเจ็บได้ โมโห.. โกรธ..หรืออายก็ยังพอว่า... แต่เข่าที่กระแทกใส่ยอดอกเขาเมื่อครู่นี้ มันมาจากอารมณ์ไหนกัน...

..หึ!.. จะอารมณ์ไหนก็ช่างเถอะ อย่างน้อยคืนนี้ฉันก็ได้รับรู้ความในใจของนายแล้ว ทอม..

 o4
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2010 15:45:30 โดย j-muay »

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #163 เมื่อ29-01-2010 15:22:59 »

ในที่สุดแม๊กกี้ก้อกลับมาอยู่ในอ้อมกอดของแด๊ดดี๊แล้ว

ดีใจอ่ะ หายไวๆนะหนูแม๊กกี๊

คู่จิมทอมก็กำลังหวานได้ที่เลย น่ารักอ่ะ

อยากจะบอกว่าเรื่อง fatherhood อ่ะเจ้หมวยเคยเอามาลงที่บอร์ดแล้วน๊า

รู้สึกว่าจะอยู่ที่ นิยายที่จบแล้ว

เนื้อเรื่องทรมาน อ่านไปปวดใจไป ร้องไห้เสียน้ำตาเป็นปี๊ปๆ

แต่ก็สนุกมาก เอ๋หรือว่าเราจะมาโซล่ะเนี่ย


 

ออฟไลน์ PeeYaR

  • >///<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #164 เมื่อ29-01-2010 17:27:14 »

สนุกมากๆเลยค่ะ
ทั้งเศร้า ทั้งซึ้ง ทั้งหื่น
ครบรสมากเลยเรื่องนี้
แล้วก็รู้สึกว่าดีใจอ่ะ ที่อ่านมาถึงตอนที่เริ่มจะมีความสุขแล้ว
ถ้าเป็นตอนที่ยังเศร้าอยู่นะ คงค้างจนทำอะไรไม่ได้
เพราะรอคอยเจ๊หมวยมาอัพ
555
เอาใจช่วยแม๊กกี้ ให้ดีวันดีคืนนะ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #165 เมื่อ29-01-2010 17:59:12 »

แอรยส

แม็กกกกกกี้

เจ้หมวยใจร้าย

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #166 เมื่อ29-01-2010 18:07:14 »

Fatherhood ตามลิงก์ไปเลยครับ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=5759.0

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #167 เมื่อ29-01-2010 19:43:27 »

อาการลูกกับอาการพ่อ

ป่วยกับคนละแบบนะเนี่ยะ

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #168 เมื่อ29-01-2010 20:56:29 »

ขอให้น้องแม็กกี้หายไวๆๆนะ :monkeysad:

nithiwz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #169 เมื่อ29-01-2010 22:31:59 »

สงสารแม็กกี้  ทำไมให้กัน  ใจร้ายยังงี้  จะฆ่าข่มขืนเด็กเลยประมาณนั้น
สงสารแม็กกี้  :m15: เมื่อไหร่ถึงจะมีความสุขเสียทีชีวิตนี้

เริ่มสวีทกันหนักนะ ตาจิมกับตาทอม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
« ตอบ #169 เมื่อ: 29-01-2010 22:31:59 »





1582

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #170 เมื่อ30-01-2010 12:05:36 »

เอาใจช่วยจิม พิชิต ทอม ให้ได้ในเร็ววันนะคะ

ขอให้แม็กกี้หายป่วยเร็วๆ ด้วย  :กอด1:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #171 เมื่อ30-01-2010 12:44:16 »

.. 13 ..
“ คุณพ่อ..   มือใหม่ ”


        “อือ...”   
        ทอมส่ายหน้าไปมา   ...ยังง่วงอยู่เลย จิม.. อย่าเพิ่งปลุกได้มั้ย...
        “อื้อออ...”    ทอมส่งเสียงรำคาญเมื่อแขนเสื้อถูกกระตุกไปมา 
        “อย่ากวนได้มั้ย ฉันยังง่วงอยู่”     
        ทอมส่งเสียงงัวเงียตวาดออกไปแต่ก็ยังถูกกวนอยู่ ครั้งนี้ใบหน้าเขาถูกลูบเบาๆ  ทอมเริ่มฉุนแม้จะยังง่วงมากจนเปิดตาแทบจะไม่ไหว  แต่ถ้ายังนอนนิ่งเฉยอยู่มีหวังถูกถอนพิษแต่เช้าแน่...
        “โธ่เว้ย!..”  ทอมปัดมือไม้ที่น่ารำคาญออก   
        “ถ้าพูดไม่รู้เรื่องฉันโกรธนายจริงๆ นะ”   ทอมตวาดใส่เสียงดังโดยไม่ลืมตาและขยับตัวนอนตะแคงเอาหมอนปิดหน้า
        ...ได้ผลแฮะ... จิมเลิกกวนเขาแล้ว เหมือนเด็กว่าง่ายแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย เด็ก..ว่าง่าย... เด็ก.. เด็ก..!!!!...
        ทอมลืมตาโพลงหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง  ดึงหมอนออกลุกพรวดขึ้นนั่ง

        โอ!..พระเจ้า.. เด็กชายนั่งหน้าตื่นร่างเล็กบางสั่นสะท้านและเริ่มส่งเสียงครางในลำคอ  ทอมรีบรั้งตัวเข้ามาสวมกอดก่อนที่จะควบคุมอารมณ์ตกใจกลัวของเจ้าหนูไว้ไม่ได้

        “โอ๊ะ!.. โอ๋!.. แม็กกี้.. แด๊ดขอโทษ ลืมสนิทเลยว่าลูกนอนด้วย ขอโทษนะครับ ไม่กลัวนะลูก ไม่กลัวน้าา..”
        ทอมเงยหน้าเด็กชายขึ้น สีหน้าคลายความตกใจลงแล้วแต่สายตาที่จ้องมองเขาเหมือนยังไม่ไว้วางใจ  ทอมยิ้มหวานให้และจูบปลอบขวัญที่หน้าผาก  หวนนึกถึงคำพูดของหมอมาริสา

         …เด็กยังมีความทรงจำในตัวพ่อนะคะ  แกมีโอกาสจะฟื้นความจำเร็วขึ้นถ้าได้อยู่ใกล้และได้รับความอบอุ่นจากคุณ ถึงความรู้สึกของเด็กจะแบ่งแยกคุณทอมเป็นคนละคนกับพ่อของแก  แต่อย่างน้อยรูปลักษณ์พ่อที่อยู่ในความทรงจำของเด็กก็คือตัวคุณเอง  เพราะฉะนั้นช่วงเวลานี้คุณคือแด๊ดดี้ของแกนะคะ  ทำให้แกไว้ใจและเชื่อว่าคุณเป็นพ่อจริงๆ ก่อน  ความรักและความอบอุ่นที่คุณมอบให้จะทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัย และกล้าสู้กับความทรงจำโหดร้ายที่คอยหลอกหลอนแกอยู่...

        ทอมสวมกอดเด็กชายแน่นขึ้น  แม็กกี้คงเชื่อว่าเขาคือแด็ดดี้จริงๆ แล้ว จึงยอมนั่งนิ่งให้กอดแต่โดยดี  ไม่ดิ้นหนีเหมือนวันแรก ๆ

        …ให้ตายเถอะ!.. เขาอธิบายความรู้สึกของตัวเองในนาทีนี้ไม่ถูกเลย รู้แต่ว่าเป็นครั้งแรกที่ได้สวมกอดเด็กชายแล้วรู้สึกสุขใจอย่างประหลาด  เหมือนได้กอดคนรักเลย… ใช่!.. คนรัก… เขาตกหลุมรักเจ้าหนูแม็กกี้ตั้งแต่ตอนปวดไส้ติ่งแล้ว แต่ถึงจะรักก็ยังไม่แน่ใจว่าจะยอมรับเด็กชายเป็นลูกได้   ไม่คิดเลยว่าการเป็น พ่อ แค่ได้สวมกอดลูกก็มีความสุขมากแล้ว นี่ขนาดแค่สวมรอยยังมีความสุขขนาดนี้  ถ้าได้สวมกอดขณะที่แม็กกี้เป็นปกติและรู้ความจริงว่าเขาคือพ่อจริงๆ    ถึงเวลานั้นความสุขจะล้นทะลักหัวอกเขาหรือเปล่านะ…

         ทอมสะดุ้งจากภวังค์เมื่อร่างเล็กสะท้านขึ้นมา เขาคลายอ้อมแขนออกก็เห็นเด็กชายนิ่วหน้าเอามือกุมเป้ากางเกงไว้
        “เอ๋?... ปวดฉี่เหรอ แม็กกี้.. ร..รอเดี๋ยวนะ..”   
        ทอมผละจากเด็กชายกระโดดลงจากเตียงหันรีหันขวาง เขาพาแม็กกี้กลับจากโรงพยาบาลกระทันหันจึงยังไม่มีเวลาเตรียมอุปกรณ์ของใช้สำหรับคนป่วย  ตัดสินใจหันกลับมาช้อนร่างเล็กขึ้นจากเตียงเพื่อพาไปห้องน้ำ
        “โอ๊ะ!.. โอว!… แม็ก..กี้..”
        ทอมครางแผ่วเบาเพราะผละจากเตียงแค่สองก้าวแม็กกี้ก็ปล่อยฉี่ออก   จะร้องห้ามก็นึกขึ้นได้ว่าอาจทำให้เด็กตกใจจนฉี่ไม่ออกอีก  จึงหยุดยืนรอให้ปล่อยออกจนหมดก่อน

          …บางครั้งเด็กอาจเข้าใจที่คุณพูด  แต่บางครั้งก็ไม่ต่างจากเด็กเล็กๆ ต้องพร่ำบอกพร่ำสอนนะคะ…

 o13
 
        จิมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองกับภาพที่เห็นตรงหน้า.. เด็กชายนั่งเปลือยอยู่ที่โซฟามีผ้าเช็ดตัวคลุมไหล่ไว้ ทอมคุกเข่าอยู่ตรงหน้ากำลังผัดแป้งให้ ที่ตกใจไม่ใช่เพราะเห็นทอมกำลังปรนนิบัติเจ้าหนู แต่ตกใจที่เห็นทอมตื่นขึ้นมาในเวลาที่ไม่เคยตื่น 
        เวลาปกติที่ทอมสามารถตื่นเองได้โดยไม่ต้องปลุกคือหลังเที่ยง แต่ตอนนี้แค่โมงเศษๆ เอง ทอมก็ลุกขึ้นมาทำภารกิจให้กับเด็กชายแล้ว เขาตั้งใจเข้ามาดูเพราะเป็นห่วงว่าแม็กกี้จะตื่นก่อนทอม  แต่กลับเข้ามาเห็นภาพที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น
        “โอ๊ะ!.. โอ!.. ตาฝาดไปหรือเปล่าเนี่ย..  เกิดอะไรขึ้นครับคุณพ่อคุณลูก ลุกขึ้นอาบน้ำกันแต่เช้า”
        “ไม่ได้ตั้งใจจะอาบหรอก  แม็กกี้ฉี่รด” 
        ทอมตอบขณะกำลังง่วนอยู่กับเด็กชาย  แขนขวาที่เข้าเฝือกไว้ทำให้การสวมเสื้อลำบากพอสมควร เขาเลือกเสื้อนอนของตัวเองให้สวมไปพลางๆ ก่อนเพราะยังไม่ได้จัดหาเสื้อผ้าเตรียมไว้ให้     
        จิมเดินเข้ามาใกล้จึงพบว่าไม่ใช่แม็กกี้คนเดียวที่อยู่ในสภาพเปลือย ทอม เองก็สวมเสื้อคลุมเพียงตัวเดียวเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
        “แม็กกี้ฉี่รด  แล้วนายก็ฉี่รดด้วยเหรอ..”
        “จะบ้าเหรอ.. แม็กกี้ฉี่รดฉันต่างหาก ไม่ต้องพูดมากเลยวันนี้นายจะออกไปไหนหรือเปล่า ช่วยแวะซื้อ…”  ทอมชะงักเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นตาขวาของจิมปิดผ้าไว้  รีบลุกพรวดขึ้นด้วยความตกใจ
        “ตายังไม่หายเหรอ  เป็นอะไรมากรึเปล่า..”
        จิมไม่ตอบรั้งทอมเข้ามากอดและจูบที่แก้ม
        “มอร์นิ่ง  เบบี๋..”
        ใบหน้างามแดงเรื่อดันร่างสูงออก
        “ปล่อยนะ.. ถามว่าตาเป็นอะไร ไม่ได้ให้นายมาจูบฉัน”
        “จูบอรุณสวัสดิ์ไง คนรักกันก็ต้อง มอร์นิ่งคิส กันซี..  หรือนายอยากให้ฉันไป มอร์นิ่งคิส กับคนอื่น..”
        ทอมหน้าแดงจัดแต่ครั้งนี้เพราะโกรธที่จิมเริ่มล้ำเส้นมากขึ้น กล้าแสดงความรักกับเขาโดยไม่สนใจว่ามีเด็กชายนั่งอยู่ แถมยังพูดจากวนโมโหอีก
        “ใครเป็นคนรักของนายไม่ทราบ  อยากจะไปมอร์นิ่งคิสกับใครก็เรื่องของนาย  นึกว่าฉันแคร์เหรอ… งี่เง่า.. ออกไปให้พ้นเลย..”
        ทอมผลักจิมออกอย่างแรงโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว  ร่างสูงใหญ่จึงล้มลงก้นกระแทกพื้น
        “โอ๊ย!!.. หยอกเล่นนิดหน่อย ทำไมต้องโกรธด้วย”  จิมร้องครวญยกมือขึ้นกุมตาขวาทั้งที่ไม่น่าจะเกี่ยวกัน
        “ทำร้ายกันแต่เช้าเลยนะ  เมื่อคืนก็เจ็บไปหมดทั้งตัวแล้ว..”
        “ก็.. นายอยากทำทุเรศแต่เช้าทำไม…” ทอมเสียงอ่อนลง
        “ทุเรศตรงไหน..  จูบคนที่ตัวเองรักมันผิดเหรอ ถ้าไม่ชอบต่อไปฉันจะไม่ทำอีก   ตั้งใจจะเข้ามาปลุกเผื่อว่าแม็กกี้ตื่นก่อนแล้วนายยังไม่ตื่น” 
        จิมชำเลืองไปทางเด็กชายที่นั่งตาแป๋วมองดูอยู่  ดูแล้วเหมือนเด็กเล็ก ไร้เดียงสาจริงๆ
        “ถ้าตื่นแล้วก็โอเค.. ขอโทษที่เข้ามากวน  เมื่อคืนฉันคงเข้าใจอะไรผิดไป  ถ้าพูดไม่ถูกหูก็ขอโทษด้วย”     
       จิมเลิกล้อเล่นเพราะเริ่มเหนื่อยใจกับการไม่ยอมรับความจริงของทอม  เขาทรุดตัวลงตรงหน้าแม็กกี้แต่ไม่ได้เข้าไปใกล้มากนัก  เพราะไม่แน่ใจว่าเจ้าหนูจะจำเขาได้หรือเปล่า ดวงตาสีฟ้าวันนี้สดใสขึ้น ไม่หม่นหมองเหมือนเมื่อ 2-3 วันแรก แถมยังกล้าสบตาเขานิ่งเฉยโดยไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัว   จิมส่งยิ้มให้ค่อยๆ จับมือเด็กชายขึ้นมากุมไว้และจูบเบาๆ
        “กลับบ้านเราแล้วนะ แม็กกี้..  หายเร็วๆ นะ เด็กดี..”
        จิมรีบปล่อยมือเมื่อคิ้วเจ้าหนูเริ่มขมวด  นึกขำในใจ… อารมณ์เด็กชายแปรปรวนเพราะจิตใจไม่ปกติถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่อารมณ์ของเทพบุตรทอมผู้เป็นพ่อนี่ซิ  เขาตามไม่ทันจริงๆ…
        จิมลุกขึ้นยืนผละจากทอมโดยไม่พูดอะไรเพราะกลัวจะผิดใจอีก
        “เอ่อ.. ด…เดี๋ยวก่อน จิม..”
        ร่างสูงชะงักมือจับลูกบิดประตูค้างไว้
        ทอมหันรีหันขวางก่อนเดินไปหยิบรถไฟฟ้าจำลองมาให้เด็กชายถือไว้  และเดินเลี่ยงมาหาจิมที่ประตู
        “ฉัน.. เอ่อ.. ข.. ขอโทษ..”   ทอมอึกอักสีหน้าสำนึกผิด
        “ขอโทษเรื่องอะไร ถ้าเรื่องที่ทำฉันเจ็บล่ะก็  นายต้องขอโทษฉันทุกวัน..วันละหลายๆ ครั้งเลยนะ อย่ากังวลเลยทอม  เป็นเรื่องชาชินสำหรับฉันแล้ว  วันไหนไม่ได้กระเซ้านาย  ฉันกินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับอ่ะ”
        จิมยิ้มให้  ทอมจึงมีสีหน้าดีขึ้น
        “แต่นายกระเซ้าไม่เลือกเวลานี่นา ต่อหน้าแม็กกี้นายก็ไม่เว้น แถมยังพูดจากวนโมโหอีก”
        จิมถอนใจ  จริงๆ แล้วเขาไม่อยากต่อความยาวแต่เมื่อทอมเป็นฝ่ายเริ่มก่อนพูดให้รู้เรื่องเลยก็ดี  จะได้ไม่ทำอะไรให้ผิดหูผิดใจอีก
        “แม็กกี้ไม่ใช่คนอื่นนะทอม..  สภาพตอนนี้ก็เป็นแค่เด็กไร้เดียงสา  นายไม่พอใจและยังไม่ยอมรับว่านายรักฉัน เลยหงุดหงิดที่ฉันแสดงความรักกับนายอย่างถือวิสาสะ ฉันเข้าใจผิดนึกว่าเมื่อคืนเราคุยกันรู้เรื่องแล้ว ฉันต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ..  ฉันยอมก้าวกลับไปจุดเดิม  ยอมเป็นฝ่ายรักนายข้างเดียวเหมือนเดิม  ขอแค่นายไม่เกลียดฉัน  ยินยอมให้ฉันอยู่ข้างๆ ก็พอ..”
        ทอมยืนอึ้งกับบทสรุปของจิม
        “เดี๋ยวเจอกันที่โต๊ะอาหารนะ  แม็กกี้จะทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า จะสั่งป้าทิพย์เตรียมไว้ให้”
        “ฉันสั่งแล้ว”
        “โอเค.. อ้อ!.. เดี๋ยวสายๆ ฉันจะออกไปข้างนอกทำธุระนิดหน่อย จดรายการเสื้อผ้าและของใช้ของแม็กกี้ให้ด้วย  ขากลับจะแวะซื้อให้..”
        “เอ่อ..เดี๋ยว..”  ทอมเรียกให้หยุดแต่ยืนนิ่งไม่ยอมพูดจา
        จิมเลิกคิ้วเห็นสีหน้าไม่สบายใจของเทพบุตรแสนรักก็สงสาร ดึงตัวหลบเข้ามาที่ซอกประตูให้พ้นจากสายตาเด็กชายและรั้งตัวเข้ามาสวมกอด เรื่องของแม็กกี้ทำให้ทอมกังวลมากพอแล้ว ไม่อยากให้เรื่องของเขาทำให้ทอมต้องลำบากใจอีก
        “ถ้ายังไม่สบายใจเพราะเรื่องของฉัน ฉันขอยืนยันนะทอม.. แค่นายเข้าใจและยอมรับความรู้สึกที่ฉันมีให้ก็เพียงพอแล้ว  ฉันไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้…”
        “จริงเหรอ..  งั้นที่ฉันอยากจะบอกนายก็ไม่จำเป็นแล้วซี..”
        “อะไรเหรอ..”
        “ฉันอยากบอกนายว่า.. ฉันไม่ได้โกรธที่ถูกนายจูบ…” ดวงตาคู่สวยผลุบต่ำลงพร้อมกับเบือนหน้าหนี   
        “ไม่ได้โกรธที่นายโมเมว่าฉันเป็น คนรัก ด้วย..”
        “ไม่ได้โกรธ..”  จิมทวนคำพูดอย่างไม่ค่อยแน่ใจ  หันหน้าเทพบุตรสุดรักมาสบตาด้วย 
        “แปลว่า.. ยอมรับว่าฉันเป็นคนรักของนายแล้วใช่มั้ย..”
        ทอมพยักหน้าหงึกหัวใจของจิมก็พองโตขึ้น  แต่ไม่ทันรู้สึกยินดีก็ต้องชะงักกับน้ำเสียงขึงขังพร้อมสีหน้างอเง้าของอีกฝ่าย
        “แต่ฉันก็พร้อมจะเกลียดนายทันที ถ้านายพูดจางี่เง่ากับฉันแบบนั้นอีก”
        “เอ๋?… งี่เง่า…แบบนั้น? แบบไหนเหรอ  ฉันพูดอะไรผิดหรือทอม”
        “ก็เรื่องจูบ.. ถ้าฉันไม่ให้ นายก็จะไปมอร์นิ่งคิสกับคนอื่น ถ้านายท้าทายฉันแบบนั้นอีก  ก็ไปให้พ้นจากชีวิตฉันเลย  ฉันจะเกลียดนายชั่ว..”
        จิมปิดปากทอมไม่ให้พูดต่อด้วยริมฝีปากของเขา แทบสำลักความสุขที่เปี่ยมล้นในอกอยู่ในนาทีนี้  เขาได้รับการยอมรับจากทอมแล้ว  หัวใจของทอมเปิดประตูต้อนรับเขาแล้ว..
        จิมถอนริมฝีปากออกเมื่อเทพบุตรของเขาเริ่มหายใจติดขัด  นิ้วเรียวไล้ริมฝีปากบางสวยตรงหน้าเบาๆ   
        “ฉันสัญญาว่าจะไม่สัมผัสหรือแตะต้องริมฝีปากใคร  นอกจากริมฝีปากนี้เท่านั้น  จะไม่จูบใครนอกจากนายคนเดียว  ถ้าผิดคำพูดขอให้สวรรค์…”
        จิมพูดไม่จบก็เป็นฝ่ายถูกทอมปิดปากบ้าง  ครั้งนี้ทั้งเขาและทอมผลัดกันสัมผัสและโต้ตอบกันอย่างดูดดื่มเนิ่นนาน จนเมื่อผละออกริมฝีปากบางสวยของเทพบุตรสุดรักเห่อแดงจนจิมต้องประคบด้วยลิ้นอุ่นของเขาเบาๆ
        “รักนะทอม.. รักนายคนเดียว.. ฉันให้สัญญา.. นับจากวันนี้ชีวิตฉันจะมีนายเพียงคนเดียว  เป็นของนายคนเดียว..”
        ทอมสะดุ้ง เขายังไม่แน่ใจกับความรู้สึกของตัวเองมากนัก  เห็นจิมดีใจและเอาจริงก็เริ่มใจแป้ว
        “อ...เอาจริงเหรอ…  ไม่ต้องจริงจังถึงขนาดให้สัญญาแบบนี้ก็ได้  เรื่องของอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน ไม่ใช่เหรอ.."
        จิมขมวดคิ้ว เจอคำพูดประโยคนี้หัวใจที่พองโตอยู่ก็เริ่มหดลงทีละน้อย
        “อะไรคือไม่แน่นอน.. สำหรับเรื่องอื่นๆ อาจจะใช่ แต่ความรู้สึกที่ฉันมีต่อนายจะไม่มีวันเปลี่ยนไป  มันจะจบลงและหายไปพร้อมกับตัวตนของฉันเมื่อความตายมาเยือนเท่านั้น…”
        ทอมใจหายวาบเมื่อเห็นสีหน้าสลดของจิมขณะพูด  ทั้งกายและใจของจิมต้องเจ็บเพราะการกระทำและคำพูดของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่แม้จะเจ็บมากขนาดไหนจิมก็ยังยืนยันว่าจะขอรักเขาจนวันตาย
        ทอมโอบคอร่างสูงและซบลงกับไหล่กว้าง
        “ขอบใจสำหรับความรู้สึกที่นายมีให้ฉัน ฉันยอมรับว่าฉันกลัวที่จะคบกับนายในสภาพนี้จึงปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองมาตลอด ตอนนี้ฉันตัดสินใจแล้ว  วันข้างหน้าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่าฉันไม่รู้..  รู้แต่ว่าวันนี้ขอโอกาสให้ฉันได้ลองคบกับนายแบบ.. คนรัก.. ได้มั้ย.. จิมมี่...”
        เสียงกระซิบของทอมผ่านเข้าโสตประสาทของจิม แม้จะเป็นเรื่องที่น่า ยินดีแต่ก็แฝงความเจ็บปวดไว้ในส่วนลึก ทอมแค่ขอลองคบกับเขาเท่านั้นเอง เป็นเพราะทอมยังลังเลและไม่มั่นใจความรู้สึกที่มีต่อเขา กลัวคำครหาในสังคมเพราะเป็นความรักระหว่างผู้ชายด้วยกัน ทอมจึงเผื่อความไม่แน่นอนในอนาคตไว้ ความรู้สึกที่ทอมมีให้เขายังแค่เริ่มต้น มันเทียบกับความรู้สึกที่เขามีให้ทอมไม่ได้เลย..
        “ได้มั้ย จิม.. จิม..”
        จิมใช้สองมือเสยเรือนผมเทพบุตรแสนรัก ใบหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์ชวนฝันอยู่ห่างไม่ถึงคืบ  ความงามขนาดนี้ใครจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ง่ายๆ
        “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ… ต่อให้นายบอกว่าจะขอคบฉันอย่างเพื่อน  ฉันก็ไม่มีวันตัดใจเลิกรักนาย ถ้าเทียบกับการต้องเป็นฝ่ายรักนายข้างเดียวตลอดไป สู้ยอมให้นายคบฉันอย่างคนรักแค่เพียงวันเดียว  ฉันก็ยินดีสุดซึ้งแล้ว…”
        ทอมขมวดคิ้ว คำพูดของจิมบางครั้งก็ฟังง่ายตรงไปตรงมา บางครั้งก็เปรียบเปรยลึกซึ้งจนตามไม่ค่อยทัน
        “แปลว่าต้องการให้คบแค่วันเดียวเหรอ..”   ทอมถามด้วยน้ำเสียงจริงจังทำเอาจิมสะดุ้ง       
        “NO.. แค่สมมติน่ะ ทอม.. สมมติ..”   จิมรั้งทอมเข้าสวมกอดอีกครั้ง
        “นับจากนาทีนี้ไปนายเป็นคนรักของฉันแล้วนะ ขอทำสัญญาผูกมัดไว้ก่อนได้มั้ย”     
        จิมไม่พูดเปล่า มือปลดเชือกเสื้อคลุมของทอมไปด้วย
        “ม.. ไม่เอานะ.. ทำสัญญาบ้าบออะไรเวลานี้เล่า  แม็กกี้นั่งอยู่นั่น..”
        “งั้นคืนนี้ได้มั้ย..  นะ ทอม นะ..”  จมูกโด่งซุกไซ้ซอกคอหอม   
        “ให้แม็กกี้นอนหลับก่อนก็ได้..”
        “อ๊ะ.. อือ~~  ก.. ก็ได้.. ปล่อยก่อน  ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย” 
        ทอมเสียงสั่นรีบผลักจิมออกก่อนที่อารมณ์จะเตลิดไปไกลจนกู่ไม่กลับ  ที่จริงก็เกือบจะระงับไม่อยู่แล้ว  ถ้าไม่ติดเด็กชายล่ะก็…
        ทอมรีบกล่าวตัดบท  มือผูกเชือกเสื้อคลุมไปด้วย
        “ออกไปได้แล้ว จิมมี่.. ไปดูป้าทิพย์ด้วยว่าทำข้าวต้มกุ้งเสร็จรึยัง  อ้อ!.. ที่ว่าจะไปธุระ   ไปไหนเหรอ..”
        “ไปหาหมอดูตาหน่อย ปวดตึบๆ ทั้งคืนเลย.. จะซื้ออะไรให้แม็กกี้บ้างจดรายการไว้ด้วย  เดี๋ยวเจอกันที่โต๊ะอาหารนะ..”
        ทอมยืนอึ้ง  จิมบอกปวดตาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่โอดโอยต่อว่าเขาสักคำทั้งที่เขาเป็นคนทำให้เจ็บแท้ๆ 
        ...บ้าที่สุดเลย จิมมี่.. ทำไมต้องทำใจดีกับฉันขนาดนี้ด้วย...

   :o8:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #172 เมื่อ30-01-2010 13:00:46 »

จิมเดินผิวปากออกจากห้องอย่างสบายอารมณ์  กำลังจะก้าวลงบันไดก็ชะงักกับเสียงของทอมที่ดังแว่วออกมา  รีบวิ่งกลับเข้าไปก็พบทอมยืนหน้าตื่นเรียกหาแม็กกี้อยู่กลางห้อง
        “เกิดอะไรขึ้น ทอม.. แม็กกี้เป็นอะไร”
        “แม็กกี้หายไป ฉันให้นั่งอยู่ตรงนี้ก่อนเดินไปคุยกับนาย” ทอมชี้มือไปที่โซฟา   
        “ไม่หายไปไหนหรอก  ห้องน้ำหาหรือยัง”   
        “หาแล้ว ไม่อยู่”
จิมเหลียวซ้ายแลขวามองหาเด็กชายแต่ไม่พบ  เดินเข้าไปในห้องน้ำหาดูด้วยตัวเองอีกครั้ง  ออกจากห้องน้ำเห็นทอมก้มลงมองใต้เตียงปากก็ร้องเรียกเด็กชาย  ทำเหมือนกำลังหาลูกแมวยังงั้นแหล่ะ  จิมนึกขำแต่ไม่อยู่ในสถานการณ์ที่จะหัวเราะได้ เขาไม่ตกใจเท่าไรเพราะคิดว่าแม็กกี้อาจจะนั่งซุกตัวอยู่ตรงไหนสักแห่งในห้องเหมือนที่ทำบ่อยๆ ตอนอยู่ที่บ้านคุ้มครอง  แต่เมื่อมองหาจนทั่วแล้วก็พบว่าเด็กชายไม่ได้อยู่ในห้องจริงๆ
        “จิม.. แม็กกี้หายไปไหน หายไปได้ยังไง ช่วยฉันหาลูกหน่อย..”  น้ำเสียงทอมสั่นเครือ
        “ใจเย็นๆ ทอม.. จะไปไหน.. หือ..”   
        จิมฉุดทอมไว้เมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะเดินออกจากห้อง
        “ไปหาข้างนอก  ก็ในห้องไม่มี..”
        “เรายืนกันอยู่ที่ประตู แม็กกี้ไม่ได้ออกจากห้องทางนั้นแน่ ยกเว้นเจ้าหนูหายตัวได้..”     จิมพูดกับทอมแต่สายตาจับจ้องที่ระเบียงด้านนอก
        “เมื่อเช้าออกไปที่ระเบียงหรือเปล่า ทอม.. ”
        “เปล่านี่… อ๊ะ!.. หรือว่า..”
        เร็วเท่าใจคิด!!.. ทอมวิ่งไปที่ประตูทางออกระเบียงซึ่งเปิดค้างไว้  ไม่พบเด็กชายบนระเบียง เหลียวซ้ายก็ไม่พบแต่เมื่อหันไปทางขวาก็ต้องสะดุ้งเฮือก อ้าปากจะร้องเรียกก็ถูกจิมเอามือปิดปากไว้
        “ชูว์… อย่าตะโกน  เดี๋ยวลูกตกใจ..”
แม็กกี้ปีนออกจากระเบียงไปนั่งอยู่บนหลังคา มือซ้ายยึดราวระเบียงไว้เพราะมือขวาเจ็บ ภาพที่เห็นคือเด็กชายกำลังพยายามจะเก็บอะไรสักอย่างด้วยเท้า  ไม่อยากเชื่อเลย.. แม็กกี้ในสภาพที่เห็นอยู่ตอนนี้ก็แค่เด็กผู้ชายซนๆ คนหนึ่ง  ไม่เหมือนเด็กที่มีอาการป่วยทางจิตเลย
        “ย่องเข้าไปจับไว้  พยายามอย่าให้เห็นก่อนจะถึงตัว”
        จิมกระซิบบอกเมื่อเห็นทอมยืนตะลึงอยู่
        “ฉ.. ฉันเหรอ..”
        “ใช่ซี.. แม็กกี้เห็นนายก็ยังไม่ตกใจเท่าเห็นฉัน  ไปเร็วเข้า ทอม..”
        “โอเค..” 
ทอมผูกเชือกเสื้อคลุมให้กระชับขึ้นก่อนเดินย่องเข้าไปหาเด็กชาย จิมเดินตามมาห่างๆ เข้าไปใกล้จึงเห็นว่าสิ่งที่แม็กกี้กำลังพยายามเก็บคืออะไร  ทอมใจเต้นแรงกลัวเด็กชายหันมาเห็นและตกใจปล่อยมือพลัดตก  จะให้จับตัวโดยที่เด็กไม่ทันได้เห็นไม่มีทางเป็นไปได้เลย  นอกเสียจาก...

         ทอมทรุดตัวลงด้านหลังเด็กชาย   ค่อยๆ ยื่นมือลอดราวระเบียงออกไปเพื่อรั้งตัวเจ้าหนูเข้ามา แต่เพียงแค่สัมผัสถูกร่างเล็กก็สะดุ้งเฮือก ส่งเสียงกรีดร้องและปล่อยมือซ้ายที่จับราวระเบียงไว้ทันที ทอมใจหายวาบคว้าร่างเจ้าหนูไว้แทบไม่ทัน
        “อย่าดิ้นซี แม็กกี้.. นี่แด๊ดนะ.. เฮ้!.. จิมช่วยหน่อย เร็ว…”
        เด็กชายพยายามดิ้นหนีเท้าสองข้างเตะถีบกระเบื้องไปมา ส่งเสียงครางสลับกับกรีดร้อง จิมปีนคร่อมราวระเบียงคว้าตัวเจ้าหนูไว้และบอกให้ทอมปล่อยมือ
        ทอมลุกขึ้นรับร่างเล็กที่ดิ้นเร่าๆ อยู่ในอ้อมแขนแกร่งของจิม เหตุการณ์ วุ่นวายบนระเบียงห้องนอนของเจ้านายทอม ทำเอานายแก้วและนายเอ๊ดแหงนหน้ามองตาค้างอยู่ที่สนาม นี่แค่วันแรกหนุ่มน้อยแม็กกี้ซึ่งวันนี้กลับมาอยู่ในฐานะคุณหนูของบ้านแม็คกิลล์  ก็ประเดิมเรื่องที่น่าหวาดเสียวแต่เช้าแล้ว

  :เฮ้อ:

         จิมยืนกอดอกมองดูเด็กชายที่ยังอยู่ในอาการสะอื้นเล็กๆ หลังคลายความ ตกใจลงแล้ว ร่างเล็กนั่งซบอยู่กับอกทอม เสียงพร่ำปลอบอย่างอ่อนโยนฟังระรื่นหูอย่างไม่น่าเชื่อ
        “ไม่กลัวแล้วนะแม็กกี้..  จะเก็บของทำไมไม่เรียกแด๊ดล่ะครับ ลูกปีนลงไปอย่างนั้นไม่ได้นะ มันอันตราย.. อยากออกมาเดินเล่นข้างนอกทำไมไม่บอกล่ะครับ ลูกพูดได้นี่นาแม็กกี้..  พูดอย่างที่เคยพูดซี  เรียกแด๊ดสักคำ...  คุณทอมก็ได้..  หือ…”
        ทอมลูบศีรษะเด็กชาย  เช็ดน้ำตาและจูบปลอบที่แก้มเบาๆ  จิมเห็นแล้วอิจฉาเจ้าหนูนิดๆ  ในมือเขาถือรถไฟฟ้าจำลองซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องน่าหวาดเสียวแต่เช้า เขาเดินเข้ามายื่นรถที่อยู่ในมือให้  แม็กกี้จ้องมองรถไฟตาเขม็งแต่ไม่ยอมรับจนทอมต้องกระซิบบอก
        “รถไฟของลูกไง รับซีครับ  คุณจิมเก็บรถให้ลูกแล้ว แม็กกี้..”
        เด็กชายเหลือบสายตาขึ้นมองจิมแว่บหนึ่งก็เบือนหน้าหนีซบกับไหล่ทอม
        “จำไม่ได้จริงๆ หรือ แม็กกี้..  ฉันคงรังแกเธอไว้เยอะซีนะ  แกล้งจำไม่ได้หรือเปล่าน่ะ  มองหน้ากันหน่อยซี ไอ้หนู  เฮ้!..” 
        จิมทรุดตัวลงข้างทอมพยายามจะสบตากับเด็กชาย    แม็กกี้เริ่มส่งเสียงครางจนทอมต้องรีบห้ามจิมให้หยุดกระเซ้า
        “พอเถอะจิม  แม็กกี้ยังจำฉันในฐานะ ทอม แม็คกิลล์ ไม่ได้เลย จะไปจำนายได้ยังไง.. ช่วยลงไปสั่งให้แววยกอาหารเช้าขึ้นมาที  ฉันจะทานกับแม็กกี้บนนี้  นายจะทานด้วยมั้ย”
        จิมเลิกแหย่เพราะเห็นว่าได้เวลาที่เด็กชายควรจะทานอาหารเช้าแล้ว เขาหยุดกระเซ้าลูกแต่หันมากระเซ้า คุณพ่อมือใหม่.. สุดที่รักของเขาแทน
        “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ชวนกระหม่อมทานอาหารเช้าด้วย  แต่ตราบใดที่องค์ชายน้อยยังไม่ชอบหน้ากระหม่อม  คนรักฐานะต่ำต้อยอย่างกระหม่อมเข้าใจดี เพื่อไม่ให้ฝ่าบาทลำบากพระทัย กระหม่อมขอจัดการอาหารเช้าของตัวเองแต่เพียงลำพังที่โต๊ะอาหาร..”
        จิมยกมือทอมขึ้นจูบเบาๆ  ก่อนตีหน้าเศร้าลุกขึ้นเดินจากไป  ทอมนั่งอมยิ้มมองตามตาปริบๆ

        ...ดูละครเวทีมากเกินไปหรือเปล่า จิมมี่..  นายนี่มันทะเล้นจริงๆ...

 :L2:

จิมในชุดหล่อเนี้ยบกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันไดมา เสียงทีวีในห้องพักผ่อนเปิดดังลั่นโดยไม่เกรงใจใคร เทพบุตรสุดรักของเขาคงกำลังนั่งดูการ์ตูนกับลูกชายอย่างสบายอารมณ์ล่ะซี จิมระบายยิ้มก่อนออกไปข้างนอกต้องแวะกระเซ้า คุณพ่อมือใหม่ ซะหน่อย

จิมแปลกใจเมื่อพบทอมในสภาพที่ไม่ค่อยสดชื่น สีหน้าไม่สบายอารมณ์อย่างที่คิด เด็กชายนั่งนัวเนียอยู่ข้างกาย เขาเดินอ้อมไปด้านหลังโซฟาและก้มลงจูบแก้มทอมเบาๆ
“เป็นอะไรทอม.. ทำหน้าเหมือนถ่ายไม่ออก..” เขาอดกระเซ้าไม่ได้ทั้งที่รู้ว่าอาจทำให้อีกฝ่ายหัวเสีย แต่ทอมกลับตอบรับด้วยน้ำเสียงเนือยๆ
“อือ.. รู้ได้ไง..”
“หา!!.. ถ่ายไม่ออกจริงเหรอ.. ท้องผูกล่ะซี.. เครียดเกินไปหรือเปล่า..”
กลิ่นน้ำหอมโชยกรุ่นทำให้ทอมละสายตาจากทีวีเงยขึ้นมอง ไม่สบอารมณ์ทันทีเมื่อเห็นอีกฝ่ายอยู่ในสภาพหล่อเนี้ยบ เพราะแสดงว่ากำลังจะออกไปข้างนอก
“จะไปไหน..” ทอมถามกลับไปโดยไม่สนใจตอบคำถามของอีกฝ่าย
“เอ่อ..” จิมอึกอักเล็กน้อย “ไปสัมภาษณ์งานน่ะ”
ทอมชักสีหน้าไม่พอใจ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน อารมณ์ไม่ค่อยจอย อยู่ก่อนหน้าทำให้รู้สึกฉุนกับคำตอบที่ได้รับ
“สัมภาษณ์งานอะไร.. ใครอนุญาต คิดจะทำงานพิเศษโดยไม่บอกฉันสักคำยังงั้นเหรอ ฉันไม่ให้นายไปทำงานที่ไหนทั้งนั้น ถึงจะเป็นแค่งานพิเศษเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ไม่ให้!!..”
จิมอ้าปากหวอ นึกไม่ถึงว่าอาการถ่ายไม่ออกจะทำให้คนอารมณ์เสียง่ายๆ อย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้
“เฮ้!.. ทำไมต้องโมโหด้วย แค่ออกไปสัมภาษณ์เท่านั้น ยังไม่ได้งานทำสักหน่อย”
“ก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ ฉันไม่ให้นายไปสัมภาษณ์งานที่ไหนทั้งนั้น เรื่องอะไรจะต้องไปหางานทำทั้งที่นายยังทำงานกับฉันอยู่”
ทอมเสียงดังจนแม็กกี้หันมามองสีหน้าเลิ่กลัก จิมได้ทีรีบอ้างเด็กชายเพื่อให้ทอมคลายอารมณ์โกรธลง
“อย่าเสียงดังซี ลูกตกใจเห็นมั้ย…”
ทอมหันไปจูบปลอบและกระซิบเบาๆ 2-3 คำ เจ้าหนูก็หันกลับไปดูทีวีต่ออย่างว่าง่าย ทอมลุกขึ้นไปนั่งที่โซฟาอีกตัว ไม่อยากให้เด็กชายได้ยินการสนทนา จิมตามมาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ
“ลืมหรือเปล่า ทอม.. นายเป็นคนอยากให้ฉันหางานใหม่ทำเองนะ”
ทอมกล่าวกระซิบเสียงขุ่น
“ฉันไม่ลืม แต่ข้อตกลงนั้นยกเลิกไปแล้ว นายไม่ยอมรับเงินเลิกจ้างจากฉันก็แปลว่านายยังเป็นลูกจ้างฉันอยู่ เพราะงั้นนายไม่มีสิทธิไปรับงานซ้ำซ้อนเวลางานของฉัน”
“ไม่เอาน่ะ ทอม.. นายงดรับงานก็แปลว่าไม่มีรายได้เข้ากระเป๋าแล้วนะ”
“แล้วไง.. กลัวฉันไม่มีเงินจ่ายให้นายเหรอ..”
“เหลวไหลน่ะทอม.. คิดว่าฉันอยู่กับนายทุกวันนี้เพราะเงินค่าจ้างยังงั้นเหรอ.. เมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่วันนี้ฉันไม่คิดจะเป็นลูกจ้างนายอีกต่อไปแล้วนะ”
“จิมมี่!!..” ทอมถลึงตาใส่กัดฟันเรียกเสียงสั่น
จิมเห็นท่าไม่ดีรีบสวมกอดเทพบุตรของเขาไว้ก่อนที่อารมณ์โกรธจะระเบิดออกมาเพราะเข้าใจผิด
“อย่าให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแมลงปีกทองเลยนะทอม ฉันจะเหลือศักดิ์ศรีในตัวเองได้ยังไงถ้าต้องให้นายจ่ายเงินให้ทุกเดือน อยู่ในฐานะลูกจ้างก็ว่าไปอย่าง แต่ตอนนี้ฉันเป็นคนรักของนายแล้วนะ ลืมแล้วเหรอ…”
จิมกระซิบปลอบน้ำเสียงอ่อนโยน จมูกโด่งซุกไซ้และสูดดมความหอมที่แก้มไปด้วย
ทอมหน้าแดงอารมณ์โกรธมลายสิ้น แม้จะเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย เขาก็ยังยืนยันความต้องการของตัวเอง
“ไม่รู้ล่ะ ฉันไม่ให้นายไปทำงานที่อื่น ถ้าไปข้อตกลงระหว่างเราก็ยกเลิก”
“ยกเลิก… ข้อตกลง ?.. เรื่องอะไรอ่ะ”
“เลิกคบกันอย่างคนรัก”
จิมสะดุ้งโหยง
“ไม่นะทอม.. เพิ่งตกลงคบกันได้แค่ 2 วันเอง   ฉันไม่ยอมนะ   ฉันไม่ไปทำงานที่อื่นแล้วก็ได้   จะอยู่กับนายคนเดียว โอเค..”   จิมอ้อนด้วยคำพูดไม่พอ ปากจมูกและมือไม้ยังซุกซนอยู่ที่ร่างกายของทอมด้วย

เด็กชายละสายตาจากทีวีหันไปเห็นทอมอยู่ในอ้อมกอดของจิม  คิ้วขมวดมุ่นดวงตากลมจ้องมองอย่างไม่พอใจ ในขณะที่เจ้าตัวยังไม่รู้ว่าสร้างความขุ่นเคืองให้กับเจ้าหนูที่นั่งอยู่ข้างๆ

ทอมนั่งนิ่งยอมให้จิมสัมผัสแต่โดยดี จิมยอมโอนอ่อนให้เขาทุกเรื่องจึงอยากตอบแทนความรู้สึกดีๆ กลับไปบ้าง
“นายไม่ต้องกลัวว่าอยู่กับฉันแล้วจะไม่มีงานทำ ช่วยฉันดูแลแม็กกี้แค่นี้ก็งานหนักพอแล้ว ถ้านายทำให้ความจำของแม็กกี้กลับคืนมาได้ ฉันจะมีโบนัสพิเศษให้ด้วย อยากได้อะไร ถ้าให้ได้ฉันจะให้ทุกอย่าง..”
“จริงเหรอ.. ขอให้หัวใจและร่างกายของนายเป็นของฉันคนเดียวตลอดไป ได้มั้ย..”

ทอมหน้าร้อนผ่าว คิดไม่ถึงว่าจิมจะขอเรื่องใหญ่แบบนี้ ถึงวันนี้เขาจะมีความรู้สึกที่ดีกับจิมฉันท์คนรักก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจว่าความรู้สึกที่ผิดธรรมชาติเช่นนี้จะคงอยู่ยืนยาวตลอดไปหรือไม่ ที่ยอมคบกับจิมวันนี้อาจเกิดขึ้นเพราะถูกตื้อและเซ้าซี้อยู่ทุกวันจนใจอ่อนก็ได้ เรื่องที่จิมขอจึงเป็นเรื่องใหญ่ที่เขาไม่อาจรับปากได้ในเวลานี้

“ได้มั้ย ทอม..”
“เอ่อ…” ทอมอึกอักสีหน้าและสายตาอ้อนวอนของจิมทำให้เขาไม่รู้จะพูดปฏิเสธยังไง
“คือ.. ฉันยังไม่….. ”
ทอมตัดสินใจขอเวลาพิสูจน์ความรู้สึกของตัวเองก่อน แต่ยังไม่ทันจะพูดจิมก็ร้องอุทาน
“โอ้ย!!.. ไม่โอเคก็ไม่เป็นไร.. อย่าโมโหซี ทอม..” จิมกัดฟันกระซิบ
“โอย~~ เจ็บ..”
“เป็นอะไร จิม.. เจ็บตรงไหน..” ทอมตกใจจับไหล่จิมเขย่า
“โอย~~ พอแล้วทอม.. ปล่อยมือ..” จิมกัดฟันตอบ
ทอมปล่อยมือจากไหล่กว้างสีหน้าตื่น
จิมรู้สึกเจ็บมากขึ้น คิ้วเข้มขมวดเมื่อเห็นทอมยกสองมือไว้ข้างลำตัว
..เป็นไปได้ยังไง เขายังเจ็บอยู่เลย.. ไม่ใช่ฝีมือทอมหรอกหรือ.. ถ้างั้นก็..

จิมสะดุ้งเฮือกส่งเสียงร้องดังลั่นเมื่อรู้ว่าเป็นฝีมือใคร..
“โอ๊ย!!.. เจ็บ~~ ช่วยด้วย ทอม.. แม็กกี้กัดฉัน.. โอย~~ ”
ร่างสูงไม่ยอมขยับตัวเอาแต่ร้องโอดโอยและซบอยู่กับไหล่ ทอมจึงเบี่ยงตัวออกใจหายวาบเมื่อเจอตัวต้นเหตุที่ทำให้จิมเจ็บแล้ว

เจ้าหนูแม็กกี้นั่งชันเข่ากับพื้น ร่างสูงใหญ่ของจิมบังไว้จนมองไม่เห็น เด็กชายกำลังจัดการกับมือใหญ่ที่ซุกซนอยู่บนหน้าขาของทอมด้วยการหยิกที่ท่อนแขนและใช้ปากกัดที่สันมือไปพร้อมๆ กัน..

“อย่านะ แม็กกี้.. ปล่อยมือคุณจิม”
ทอมพยายามแกะมือเด็กชายออกจนได้ เจ้าหนูถูกขัดใจจึงออกแรงกัดที่สันมือหนักขึ้นจนแขนของ จิมกระตุก จิมส่งเสียงร้องเบาลงแต่โหยหวนจนทอมใจเสีย มือบีบปากเด็กชาย ให้ปล่อย
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ แม็กกี้.. ลูกทำคุณจิมเจ็บ รู้มั้ย..”
“ปล่อยซี… แม็กกี้..”

จิมไม่หันไปมองเพราะกลัวระงับอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ อาจดึงหรือกระชาก แขนออกทำให้เด็กชายบาดเจ็บฟันที่ขบกัดอยู่อาจจะโยกได้ เขาพยายามอดทนรอให้ทอมกล่อมแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล แม็กกี้กำลังอยู่ในภวังค์ร้าย แขนและมือของเขาตอนนี้คือแขนของเดนมนุษย์พวกนั้น

“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ แม็กกี้.. แด๊ดบอกให้ปล่อย นี่คุณจิมนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้!!..
ทอมเสียงดังใส่จนเด็กชายสะดุ้ง น้ำใสเอ่อรื้นคลอดวงตาแต่แววตากลับแข็งกร้าวขึ้นอย่างน่ากลัวว่าจะ…จะ..

กึก!!! “โอ๊ะ!!..”
“อ๊ะ!!…”

เสียงอุทานของทอมและจิมดังขึ้นพร้อมกันแต่คนละอารมณ์ ทอมตกใจแต่จิมเจ็บปวดมากจนรู้สึกชาไปทั้งแขน
...โอ!.. พระเจ้า.. ทอมใจหายวาบเมื่อแม็กกี้ออกแรงกัดจิมจนได้เลือด เขาลืมตัวบีบปากเด็กชายอย่างแรงจนเจ้าหนูร้องและยอมอ้าปาก ทอมดึงแขนจิมออก เลือดไหลเป็นทางจากสันมือลงมาตามแขน นึกโมโหจิมที่นั่งนิ่งให้เด็กกัดโดยไม่ยอมดึงแขนหนี แต่เขาไม่กล้าบ่นว่าในเวลานี้ รีบหันไปดึงกระดาษทิชชูมาซับเลือดที่ไหลเป็นทาง

“ยกแขนไว้ จิม.. ฉันจะทำแผลให้” ทอมตะโกนเรียกสาวใช้ให้เอากระเป๋ายามาให้
จิมปัดมือทอมออก
“ฉันไม่เป็นไร ทอม.. ไปดูลูก..”
“ดูทำไม คนบาดเจ็บคือนายนะ” ทอมเป็นห่วงบาดแผลของจิมจึงไม่สนใจหันไปมองว่าเด็กชายกำลังอยู่ในสภาพตื่นกลัวเพียงใด
“ฉันไม่เป็นไร... ไปดูลูก ทอม.. เร็วเข้า แม็กกี้วิ่งออกไปแล้ว”
ทอมรู้สึกตัว หันไปเห็นหลังไวๆ ของเด็กชายวิ่งออกจากห้อง รีบลุกขึ้นวิ่งตามไปและสวนกับนายเอ๊ดที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“แววออกไปตลาดครับเจ้านาย ผมเห็นคุณหนูวิ่งออกไปจะให้ตามมั้ยครับ”
“ไม่ต้อง ไปช่วยทำแผลให้จิม”

ทอมวิ่งไล่หลังเด็กชายออกมาที่สนาม ยิ่งเรียกเจ้าหนูก็ยิ่งวิ่งเร็วขึ้น ขนาดหกล้มลงไปแล้วยังลุกขึ้นมาวิ่งหนีต่อ ทอมหยุดวิ่งตามเมื่อเห็นว่าไม่มีที่ให้เด็กชายหนีต่อแล้วยกเว้นปีนกำแพงออกไป ซึ่งเจ้าหนูของเขาคงไม่คิดจะทำ

ทอมวางใจเมื่อเห็นร่างเล็กยืนหอบอยู่ คิดว่ารอให้หายตกใจก่อนแล้วค่อยเข้าไปปลอบ จึงเดินเลี่ยงไปนั่งพักที่เก้าอี้สนามซึ่งอยู่ห่างจากที่เด็กชายยืนอยู่ไม่ไกลนัก แต่แล้วก็ต้องผุดลุกขึ้นยืนในทันทีที่ทรุดตัวลงนั่ง เพราะแค่ไม่กี่วินาทีที่เขาละสายตาแม็กกี้ก็หายตัวไปแล้ว

“โธ่เว้ย!!..”
ทอมไม่สามารถใจเย็นอยู่ต่อไปได้ ตะโกนเรียกคนในบ้านให้ออกมาช่วยกันหา
“แม็กกี้.. ลูกอยู่ไหน แม็กกี้..”
ทอมชะงักเมื่อพบร่องรอยของเด็กชาย จึงย่องเข้าไปใกล้ๆ

..โอ!..พระเจ้า.. หัวใจเขาแทบสลายเมื่อเห็นร่างเล็กนั่งซุกตัวอยู่ในพุ่มไม้ ตัวสั่นงกด้วยความกลัว บาดแผลรอยเกี่ยวจากกิ่งไม้ตามแขนขาและใบหน้า คงไม่ได้ทำให้เจ้าหนูรู้สึกระคายเคืองเลย เพราะความเจ็บปวดจากเหตุการณ์ร้ายที่ฝังลึกอยู่ในใจมากมายกว่าหลายร้อยหลายพันเท่านัก..

“แม็กกี้.. นี่แด๊ดนะ ออกมาเถอะลูก.. ออกมานะ เด็กดี…”

ทอมทรุดตัวลงยื่นมือเข้าไปหา เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นจนเขาสะดุ้งเฮือก แม็กกี้พยายามถดร่างหนีเข้าไปเรื่อยๆ ทอมใจหายเมื่อเห็นกิ่งไม้เกี่ยวแขนขาและใบหน้าเด็กชายจนเลือดไหลซิบๆ เจ้าหนูไม่ร้องเจ็บสักคำแต่เขากลับเจ็บปวดจนทนไม่ไหว หันไปเรียกนายแก้วซึ่งยืนรีรอเตรียมพร้อมอยู่ด้านหลังให้ตัดพุ่มไม้ออก

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #173 เมื่อ30-01-2010 13:03:28 »

อ่านแล้ว 

เจ็บตามเรย  ย ย

แง้   :sad4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-01-2010 13:23:34 โดย sakiko »

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #174 เมื่อ30-01-2010 13:41:46 »

แอรยสสส

จะใจร้ายกันไปถึงไหน

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #175 เมื่อ30-01-2010 13:49:17 »

จิมยืนมองภาพตรงหน้าอย่างรู้สึกทึ่ง ไม่อยากเชื่อเลยว่าเทพบุตรทอมจะรู้จักวิธีปรนนิบัติใครได้อย่างนุ่มนวลและอ่อนโยนแบบนี้ ที่ผ่านมาเคยแต่ได้รับการปรนนิบัติจากคนรอบข้าง แต่วันนี้ทอมกลับทำในสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นและไม่เคยคิดว่าจะทำได้

ทอมอุ้มเด็กชายกลับเขัาบ้านในสภาพที่เขาเห็นแล้วไม่กล้าเอ่ยถามว่าเป็นยังไงบ้าง เนื้อตัวเจ้าหนูมอมแมมด้วยขี้ดิน ทั้งใบหน้าและแขนขามีริ้วรอยถูกหนามเกี่ยวเลือดไหลซิบๆ เห็นแล้วอยากเข้าไปกอดปลอบคนอุ้มเหลือเกิน เข้าใจความรู้สึกของทอมในนาทีนั้นดีว่าเจ็บปวดขนาดไหน

ทอมเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แม็กกี้ต่อหน้าจิมที่ยืนเฝ้าดูอยู่โดยไม่รู้สึกขัดเขิน แม็กกี้หมดสติไปหลังจากกรีดร้องสุดเสียงด้วยความกลัวตอนเขาดึงตัวออกมาจากพุ่มไม้   เขาต้องเอามือปิดปากเจ้าหนูไว้เพราะไม่อยากให้เพื่อนบ้านตกใจ
ทอมเปรยเบาๆ ขณะทายาที่แขนขาและใบหน้าให้เด็กชายอย่างเบามือ

“แด๊ดคิดผิดหรือเปล่า ที่พาลูกกลับมา..”
ทอมวางหลอดยาที่หัวเตียง ห่มผ้าให้เด็กชายและก้มลงจูบที่หน้าผากเบาๆ   ก่อนเดินเลี่ยงมาทรุดตัวลงที่โซฟาด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อน จิมเดินเข้าไปทรุดตัวลงนั่งข้างๆ และกล่าวปลอบ
“ไม่ผิดหรอกทอม แม็กกี้ต้องการนาย”
“แต่เวลานี้เขาอาจต้องการหมอมากกว่า ฉันคงใจร้อนเกินไปที่รีบพาเขากลับมา คิดว่าแม็กกี้ได้อยู่ใกล้ฉันแล้วจะดีขึ้น แต่เปล่าเลย.. อาการเมื่อครู่นี้แย่ยิ่งกว่าตอนอยู่ที่บ้านหลังนั้นซะอีก แม้แต่ฉันเขาก็จำไม่ได้..”

“ใครว่าล่ะ.. นายเป็นยาวิเศษที่จะรักษาแม็กกี้ได้ เป็นทั้งหมอและพ่อในเวลาเดียวกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เพราะฉันไม่ดีเอง แม็กกี้จำฉันไม่ได้จึงเกิดภาพหลอนขึ้นมาอีก.. ฉันขอโทษนะ ทอม.. ฉันไม่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระให้นายเลย สามวันที่แม็กกี้กลับมาอยู่บ้าน ฉันไม่เคยคิดหาทางที่จะทำให้เด็กจำฉันได้ คอยแต่จะเลี่ยงหนี ทำให้นายต้องเหนื่อยอยู่คนเดียว ฉันสัญญานะ ทอม.. ตั้งแต่วันนี้ไปฉันจะช่วยดูแลแม็กกี้ จะพยายามทำให้แม็กกี้จำฉันให้ได้”

จิมยกมือให้สัญญาด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน แทนที่ทอมจะรู้สึกยินดีกลับใจหายรีบคว้ามืออีกฝ่ายสำรวจอาการบาดเจ็บ ที่สันมือปิดผ้าก็อซไว้ ถัดลงมาที่แขนมีร่องรอยเล็บจิกถึงช้ำและห้อเลือด
“เจ็บมั้ย จิม.. นายมันบ้า.. ทำไมไม่ดึงมือออก ปล่อยให้กัดอยู่ได้”
“ดึงออกไม่ได้หรอก เด็กจะเจ็บและกลัวมากขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีการต่อสู้ ที่สำคัญฉันกลัวแม็กกี้ฟันโยกอ่ะ”
“บ้าที่สุดเลย นายมันบ้ามาก รู้มั้ย จิม..”
“รักที่สุดเลย ฉันรักนายมาก รู้มั้ย ทอม..”
จิมส่งสายตาหวานซึ้งให้ ทอมหน้าแดง เบือนหนีมองไปที่เด็กชายและเปลี่ยนเรื่องพูด
“แม็กกี้ตื่นขึ้นมาจะจำฉันได้หรือเปล่าก็ไม่รู้   ถ้าจำไม่ได้แม้แต่แด๊ดดี้ล่ะก็โอกาสที่จะฟื้นความจำทั้งหมดคงยากขึ้นใช่มั้ย จิม..”
จิมถอนใจเบาๆ รั้งศีรษะทอมซบลงกับไหล่
“อย่าเพิ่งคิดหรือเดาเหตุการณ์อะไรล่วงหน้าเลยทอม.. ค่อยๆ แก้ไปตามสถานการณ์ มันคงไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้อีกแล้ว.. เครียดมากๆ จะทำให้สุขภาพแย่นะ จริงซิ!!.. ถ่ายไม่ออกกี่วันแล้ว.. หือ..”
“ห๊ะ!.. รู้ได้ยังไง..”
“อ้าว!.. ก็นายเป็นคนบอกเอง”
จิมซ่อนยิ้มกับสีหน้าสงสัยของทอม รู้สึกยินดีอยู่ในส่วนลึก แม้จะตกที่นั่งเป็นพ่อคนแล้ว ทอมก็ยังเป็นทอมคนเดิมของเขาเสมอ ปวดหัว ปวดท้อง เป็นไข้ ไม่สบาย เขาคือคนแรกที่ทอมจะกระซิบบอก แต่อาการถ่ายไม่ออกเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก
“วันนี้วันที่สามแล้ว.. ตั้งแต่พากลับมาบ้านยังไม่ได้ถ่ายเลย..”
จิมพยักหน้ารับรู้ ทอมพูดด้วยสีหน้ากังวลไม่ได้เขินอายกับเรื่องที่บอก ทำให้เขาต้องตีสีหน้าจริงจังด้วย
“เพราะเครียดมากเกินไปรู้มั้ย ถ้าถึงคืนนี้ยังไม่ถ่ายต้องใช้ยาระบายช่วยแล้วนะ กินก่อนนอน เช้าตื่นขึ้นมาจะได้ถ่ายสบาย”
“ใช้ยากินจะดีเหรอ..” ทอมทำหน้ายุ่ง
“ยาจะออกฤทธิ์ตอนไหนก็ไม่รู้ ฉันต้องกังวลจนนอนไม่หลับแน่เลย ดีไม่ดีถ่ายเลอะที่นอน วุ่นวายหนักขึ้นไปอีก ใช้วิธีอื่นไม่ได้เหรอ จิม..”
“เอ่อ.. คือ..” จิมอึ้งกับเหตุผลวิตกจริตของทอม ยังไม่ทันนึกหาวิธีใหม่ทอมก็เป็นฝ่ายเสนอวิธีที่คิดว่าดีกว่า..
“ใช้ยาสวนได้มั้ย ไม่ต้องใช้เวลานานด้วย”
“เอ่อ.. ส.. สวนเหรอ”
จิมทวนวิธีใช้ยาถ่ายที่ทอมเสนออีกครั้ง ทอมพยักหน้าให้หน้าตาเฉย
“นายทำได้มั้ย ฉันจะให้นายเป็นคนสวน”
“อ.. อะไรนะ ให้ฉันเป็นคนสวนยาให้ แน่ใจเหรอ..” จิมกลืนน้ำลายลงคอ
ทอมเริ่มหงุดหงิดเมื่อจิมถามย้ำไปมาเหมือนไม่ค่อยเต็มใจอยากช่วย
“ไม่ได้เหรอ ไหนบอกจะช่วยฉันแบ่งเบาทุกเรื่องไง ถ้าลำบากก็ไม่ต้องฉันทำเองได้ จะไปไหนก็ไปเลย”
ทอมขยับจะลุกหนีด้วยความโมโห ก็ถูกจิมรั้งไว้ในอ้อมกอด
“โอเค.. ทอม ฉันทำได้.. ฉันทำให้นะ อย่าโกรธซี ทุกอย่างที่บ๊อสต้องการ มีอะไรที่ผมทำให้ไม่ได้ครับ..”
ทอมยิ้มออก

..อา!.. ให้ตายเถอะ สีหน้ายินดีของทอมนาทีนี้ ช่างบาดความรู้สึกของจิมจนอยากจะสัมผัสแก้มและริมฝีปากบางตรงหน้าอีกแล้ว แต่เหมือนทอมจะรู้ทันรีบเบี่ยงตัวหนีออกจากอ้อมแขนเขา..

“งั้นนายออกไปหาซื้อยาเตรียมไว้เลย จิม.. ถ้าแม็กกี้ตื่นขึ้นมาแล้วไม่มีอาการหนักขึ้นและยังจำฉันได้ ฉันจะพยายามให้นั่งถ่ายอีกครั้ง ถ้ายังไม่ยอมถ่ายอีก คืนนี้เราค่อยใช้ยากันนะ”

จิมนั่งอึ้งไปชั่วครู่ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“หัวเราะอะไรจิม.. ประสาทหรือเปล่า”
“เปล่า.. ขอย้ำคำสั่งอีกครั้งได้มั้ย นายจะให้ฉันช่วยสวนยาถ่ายให้แม็กกี้ใช่มั้ย”
น้ำเสียงกลั้วหัวเราะของจิมทำให้ทอมเริ่มหงุดหงิดอีก
“เป็นบ้าอะไร.. ถามซ้ำถามซาก ไม่ใช่แม็กกี้แล้วเป็นใคร ห๊ะ!.. คิดว่าฉันจะให้นายสวนยาให้ใคร หรือว่า..”
จิมอมยิ้มไม่ตอบและไม่ถามอะไรอีก ทอมหน้าแดงจ้องหน้าจิมราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ คว้าหมอนอิงฟาดใส่ร่างสูงอย่างแรง
“งี่เง่านัก ในหัวนายคิดแต่จะทำเรื่องลามกสัปดนกับฉัน”
“โอ๊ย!.. เจ็บนะ ฉันไม่ได้คิดลามกซะหน่อย เรื่องสวนยานายเป็นคนคิดเองนะ ฉันแนะให้นายกินยาต่างหาก..”
จิมไม่ลุกหนีแค่ยกมือปัดป้อง เขายอมให้ตีแต่โดยดีเพราะรู้ว่าทอมกำลังโกรธและอายสุดๆ กับความเข้าใจผิดของเขา
“ฉันหมายถึงตัวเองที่ไหนเล่า หมายถึงแม็กกี้ต่างหาก แค่ถ่ายไม่ออกฉันต้องให้นายช่วยด้วยเหรอ อย่ามาแกล้งโง่เลย จิมมี่.. คิดจะสวนยาให้ฉันเหรอ.. ไอ้บ้า!!.. ไอ้ทุเรศ!!.. ลามก!!..”
จิมร้องโอดโอยปฏิเสธพัลวัน
“ฉันไม่ได้อยากสวนยาให้นายนะ ทอม.. ไม่คิดอยากเลยจริงๆ สาบานได้..”

...ฉันอยากทำอย่างอื่นที่คล้ายๆ กันโดยไม่ต้องใช้ยาสวนต่างหาก...
...ให้ตายเถอะ!.. จิมมี่เอ๋ย.. ถ้าพูดออกไปอย่างที่คิดล่ะก็ มีหวังนอนหยอดน้ำข้าวต้มแน่..

 :m16:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #176 เมื่อ30-01-2010 14:13:08 »

แม็กกี้นอนหนุนตักทอมอยู่บนเตียง สายตาจับจ้องตัวการ์ตูนไดโนเสาร์ที่กำลังวิ่งฝุ่นตลบอยู่ในจอ เด็กชายหมดสติไปตั้งแต่เมื่อบ่ายวานเพิ่งมาตื่นตอนรุ่งเช้าด้วยอารมณ์ที่เบิกบานผิดความคาดหมาย ทำเอาทอมซึ่งนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะความเป็นห่วงหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพราะนอกจากเจ้าหนูจะจำเขาได้แล้ว ยังเป็นครั้งแรกที่ส่งยิ้มหวานให้ทันทีที่ลืมตาขึ้นมาเห็นหน้าเขา

ทอมใช้มือเกาศีรษะเด็กชายเบาๆ และลูบไล้แขนขาไปมาเพื่อให้รู้สึกสบายตัว ผมที่ถูกโกนจนสั้นเกรียนเริ่มยาวเล็กน้อย รอยแผลขีดข่วนจนเลือดไหลซิบเมื่อวานหายดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ต้องยกความดีให้จิมที่หายาดีมาให้ทา เป็นยาเทวดาอย่างที่คุยไว้จริงๆ แค่ชั่วข้ามคืนแผลก็แห้งสนิท จำได้ว่าเป็นยาที่จิมเคยใช้ทาใบหน้าให้เขาเวลาที่เกิดบาดแผล จิมให้เหตุผลว่าใบหน้าของเขาเป็นสินค้าที่มีราคาแพงมากต้องบำรุงรักษาและดูแลให้ดีที่สุด โดย เฉพาะเวลาที่มีงานถ่ายปก ก่อนนอนจิมจะเข้ามาสำรวจใบหน้าของเขาว่าได้ทาครีมที่จัดหาไว้ให้หรือเปล่า ส่วนใหญ่จิมจะเป็นคนตามเข้ามาทาให้ตอนเขาหลับสนิทแล้ว แต่หลายสัปดาห์มานี้เขาละเลยและไม่สนใจเรื่องการดูแลผิวหน้าเพราะมัวแต่ยุ่งและวุ่นวายกับเรื่องของเด็กชาย ซึ่งจิมก็ปล่อยเพราะเป็นช่วงที่เขางดรับงาน

มีรอยหนามเกี่ยวที่แก้มหนึ่งแผลทำให้เจ้าหนูรู้สึกคันและทำท่าจะเกา ทอมดึงมือเด็กชายออกและใช้หลังมือไล้ให้เบาๆ
ร่างสูงนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟา ในมือถือกระดาษหนึ่งแผ่นอ่านทวนไปมา สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเทพบุตรสุดรักเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์

“จะศึกษาอีกนานมั้ย”
จิมลุกขึ้นนั่ง “พร้อมหรือยังล่ะ”
“นายนั่นแหล่ะพร้อมหรือยัง จะอ่านอีกกี่รอบ รีบมาจัดการซะที..”
จิมหัวเราะลุกขึ้นเดินเข้าไปหา
“ฉันพร้อมนานแล้ว เห็นกำลังอารมณ์ดีไม่อยากให้ร้องไห้”
ทอมขยับร่างเล็กนอนลงบนหมอนและลุกขึ้นยืน
“ไหน… ขอดูยาหน่อย”
จิมล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบยาออกมาไว้ในมือ
“จะใช้แบบไหน เหน็บหรือสวน”
ทอมมองยาในมือจิมแล้วทำหน้ายุ่ง ก่อนจะชี้ไปที่กระเปาะยาที่ใช้สำหรับสวนเพราะเคยเห็นพยาบาลใช้แบบนี้
“เอ้า!.. ถือไว้..”
จิมส่งกระเปาะยาให้ทอม เขาอยากให้ใช้แบบเหน็บเพราะง่ายกว่าและไม่เลอะเทอะ แต่ทอมคงเห็นหมอหรือพยาบาลใช้แบบสวนมาจึงอยากใช้ตาม
“ตกลงให้ฉันเป็นคนสอดใช่มั้ย”
ทอมสะดุ้งกับคำพูดสองแง่สองง่าม สายตาและรอยยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยที่จ้องมองมาทำให้ทอมรู้สึกโกรธ อยากจะชกหน้าจิมมี่จอมกะล่อนให้หงายลงไปในนาทีนี้
“เฮ้!.. อย่าบีบยาอย่างนั้นซี เดี๋ยวแตกหรอก ดูทำหน้าเข้า.. ถ่ายไม่ออกด้วยอีกคนเหรอ.. ถ้ายังไงจัดการให้ลูกก่อนของพ่อไว้ทีหลังนะ..”
จิมกระเซ้าด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ พูดพลางถอยพลางในขณะที่ทอมเดินย่างสามขุมเข้ามาด้วยสีหน้างอหงิก
จิมหยุดเดิน ยกมือขึ้นยอมแพ้
“ล้อเล่นน่ะ ทอม.. อย่าโกรธซี ยอมให้อัดหนึ่งที โอเค..”
ทอมหยุดยืนตรงหน้าร่างสูงและยื่นยาให้
“จะเริ่มได้หรือยัง เรื่องลามกของนายไว้คิดบัญชีทีหลัง”
จิมเลิกกระเซ้าโอบไหล่ทอมเดินมาหยุดยืนข้างเด็กชายที่กำลังเพลินกับตัวการ์ตูนในจอทีวีจนไม่สนใจมองตามหาทอมที่ลุกผละออกไป
“นายสอดนะ ฉันจะจับให้เอง”
“เอ๊ะ!..นายนี่ยังไงนะ จะให้พูดกี่ครั้งว่านายต้องเป็นคนสวนยา ฉันจับเอง”
ทอมเสียงดังเพราะความเหลืออด เด็กชายสะดุ้งลุกขึ้นนั่งหน้าตื่น
“แค่นี้ก็ต้องเสียงดังด้วย ลูกตกใจเห็นมั้ย”
“ก็เพราะนายนั่นแหล่ะ พูดไม่รู้เรื่อง” ทอมทรุดตัวลงนั่ง แค่สวมกอดและจูบที่แก้มเบาๆ เด็กชายก็ล้มตัวลงนอนต่ออย่างว่าง่าย
“ไม่ใช่ไม่รู้เรื่อง ฟังนะทอม.. แม็กกี้ไม่อยู่นิ่งให้เราสวนยาง่ายๆ หรอก นายต้องจับให้แน่นจนดิ้นไม่ออกเลยนะ ไหวหรือเปล่า.. ให้ฉันจับแล้วนายสอดไม่ดีกว่าเหรอ”
ทอมนิ่งไปเพราะเห็นจริงด้วย ถ้าเทียบกำลังเขาสู้จิมไม่ได้อยู่แล้ว หากแม็กกี้ตกใจและออกแรงดิ้นมากเขาคงเอาไม่อยู่ แต่ถ้าจะให้เป็นคนสอดยาบอกตรงๆ เลยว่าเขาไม่กล้า..
“แต่แม็กกี้ไม่เอานายนี่... นายสวนแล้วฉันเป็นคนจับดีกว่า..”
“โอเค!!.. งั้นก็เริ่มเลย.. ถอดกางเกงออกและจับนอนตะแคง..”

จิมเดินเข้าห้องน้ำและกลับออกมาพร้อมผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ กระดาษทิชชู และน้ำอุ่น 1 ขัน ทอมถอดกางเกงแม็กกี้และจับนอนตะแคงเตรียมพร้อมไว้แล้ว จิมปูผ้าเช็ดตัวลงบนที่นอนและให้ทอมช้อนร่างเด็กชายขึ้นมานอนบนผ้าที่ปูไว้ เขาเดินอ้อมไปนั่งที่ปลายเท้าไม่ให้แม็กกี้เห็น ในขณะที่ทอมทรุดตัวลงกับพื้นจับร่างเล็กให้อยู่ในท่าชันเข่าโดยช้อนขา 2 ข้างไว้ในวงแขน แต่เพียงแค่จัดท่าเจ้าหนูก็ดิ้นขลุกขลักไปมาแล้ว

“คุยกับลูก ทอม.. ถ้าไม่ไหว ฉันจะช่วยนายจับ”

จิมกล่าวจริงจังเป็นการเป็นงาน ภารกิจที่ได้รับมอบหมายนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นสำหรับเขา ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยสวนยาถ่ายให้ใครมาก่อน และไม่เคยเห็นใครทำด้วย ทอมเสียอีกที่เคยเห็นพยาบาลทำให้แม็กกี้มาแล้ว แต่เขารู้ว่าทอมไม่กล้าทำจึงผลักหน้าที่นี้ให้เขา..

ขณะที่ทอมกำลังล่อหลอกเด็กชายด้วยคำพูด จิมก็เริ่มปฏิบัติการโดยใช้น้ำอุ่นลูบที่ปากทวารหนักเพื่อลดการเสียดสี มือขวาถือยาเตรียมพร้อมส่วนมือซ้ายกดสะโพกเด็กชายไว้ เขาพยักหน้าให้ทอมและค่อยๆ สวนยาเข้าช่อง ทวารหนักอย่างเบามือที่สุด

“ฮึก!.. อือ~~ ”
แม็กกี้ร้องครางกับสัมผัสแปลกปลอมที่ได้รับแต่ยังนอนนิ่งอยู่ ชั่วอึดใจก็ผวาเฮือกดวงตาสีฟ้าเบิกโพลงขึ้น ใบหน้าเหยเกเหมือนได้รับความเจ็บปวดมาก ร่างเล็กเริ่มขยับและดิ้นหนี ทอมกดร่างเด็กชายไว้และกระซิบปลอบ
“ไม่เป็นไรแม็กกี้.. ไม่ต้องกลัวนะ.. คุณจิมสวนยาให้…ลูกจะได้ถ่ายออกไม่อึดอัดท้องนะครับ..”
จิมออกแรงกดสะโพกเด็กชายไว้จนขยับไม่ได้ ยิ่งสร้างความตกใจกลัวจนเกิดภาพหลอนของเหตุการณ์ร้ายขึ้นอีก ทอมใจหายวาบเมื่อแม็กกี้ส่งเสียงครางสลับกับเสียงกรีดร้อง น้ำตาไหลพราก ส่ายหน้าหนีไปมาโดยไม่ฟังคำพูดของเขาแล้ว
“เสร็จหรือยัง จิม.. นายทำแรงหรือเปล่า.. ค่อยๆ หน่อยซี..”
“ฉันทำเบามือที่สุดแล้ว ทอม.. อีกนิดเดียว..” จิมบีบยาเข้าไปจนหมดกระเปาะและนิ่งไว้ชั่วครู่เพื่อไม่ให้ยาไหลย้อนออกมา
เสียงกรีดร้องของเด็กชายดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไม่สามารถดิ้นหนีออกจากอ้อมแขนของทอมได้ ร่างกายก็เริ่มกระตุกและสั่นสะท้าน ทอมใจหายวาบ
“พอแล้ว จิม.. นายทำแม็กกี้เจ็บ เอาออกเดี๋ยวนี้เลย..”
จิมดึงกระเปาะยาออกช้าๆ เขารู้ว่าแม็กกี้ไม่ได้เจ็บเพราะถูกสวนยา แต่เจ็บเพราะภาพหลอนของเหตุการณ์ร้าย
“จับนอนไว้ก่อนทอม.. อย่าเพิ่งลุก เดี๋ยวยาไหลออก.."
จิมถอนใจโล่งอก รู้สึกภูมิใจที่สามารถสวนยาให้เด็กชายได้สำเร็จ

“ไม่ต้องกลัวนะแม็กกี้.. นี่บ้านเรา.. แด๊ดกอดลูกอยู่ไงครับ”
อ้อมแขนของทอมยังกอดรัดเด็กชายไว้แน่น เขากระซิบและจูบปลอบขวัญซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนหนุ่มน้อยเริ่มคลายความตื่นกลัวและหยุดดิ้น แต่ถึงกระนั้นร่างเล็กบางก็ยังสะอื้นไม่หยุด

เด็กชายขยับตัวและเกร็งที่ช่องทวารเพราะฤทธิ์ยา จิมคว้าทิชชูซับยาที่ไหลย้อนออก ยาระบายประเภทนี้แม้จะออกฤทธิ์ค่อนข้างเร็ว แต่ถ้าจะให้ได้ผลต้องอยู่นิ่งๆ เพื่อให้ยาได้ออกฤทธิ์เต็มที่ แม้จะรู้สึกปวดอยากถ่ายแล้วก็ต้องพยายามกลั้นไว้จนกว่าจะทนไม่ไหว แต่สภาพของแม็กกี้ในยามนี้ไม่ต่างจากเด็กเล็กไร้เดียงสา เมื่อรู้สึกปวดก็คงอยากถ่ายทันที

“พาแม็กกี้ไปนั่งส้วมรอได้แล้วทอม.. ช้ากว่านี้นายอาจต้องเปลี่ยนที่นอนใหม่” จิมห่มตัวเด็กชายด้วยผ้าเช็ดตัวป้องกันไว้เผื่อไปไม่ทันนั่งส้วม

ทอมไม่รอช้า รีบช้อนร่างเล็กขึ้นจากเตียงพาไปที่ห้องน้ำ

จิมหัวเราะ ไม่มีใครเชื่อแน่ว่าสุดยอดนายแบบ ทอม แม็คกิลล์ ในวันนี้ได้กลายเป็นคุณพ่อมือใหม่ไปแล้ว แฟน ๆ รู้เข้าคงช็อก ยิ่งถ้ารู้ว่าไม่ใช่พ่อลูกอ่อนแต่เป็นพ่อของหนุ่มน้อยวัย 12 ปีด้วยแล้ว คงล้มทั้งยืนแน่

“เป็นไงบ้างทอม.. ถ่ายออก.. แล้วเหรอ..” จิมเปลี่ยนคำถามทันทีเพราะกลิ่นที่โชยเข้าจมูกเป็นคำตอบให้เขา
จิมมองตาปริบๆ เหลือเชื่อกับภาพที่เห็นตรงหน้า ทอมคุกเข่าอยู่ข้างแม็กกี้ที่กำลังนั่งถ่ายอยู่และเฝ้าปลอบโยนโดยสวมกอดเด็กชายไว้ ทำเหมือนเจ้าหนูนั่งอยู่บนเก้าอี้หรือโซฟายังงั้นล่ะ
“ยาได้ผลเร็วเกินคาดเลยใช่มั้ย ทอม..”
“ใช่.. แต่นายแน่ใจเหรอว่านี่ยาถ่าย ทำไมต้องออกแรงเบ่งขนาดนี้ ดูเหมือนจะปวดท้องด้วย” ทอมลูบหลังเด็กชายปลอบเมื่อเจ้าหนูออกแรงเบ่งจนหน้าแดง และร้องไห้อย่างขัดใจเพราะถูกบังคับให้นั่งถ่าย
“เอ่อ.. ที่จริงต้องกลั้นไว้รอให้ยาออกฤทธิ์มากกว่านี้ก่อนน่ะ แต่ไหนๆ ก็ออกมาแล้ว คงจะออกตามมาจนหมด.. เสียแต่ต้องออกแรงเบ่งนิดหน่อย”
“แย่จัง..” ทอมใช้สองมือเสยผมเด็กชายขณะกล่าวปลอบ
“เก่งมาก แม็กกี้.. ถ่ายออกมาอีกนะจะได้ไม่อึดอัดท้อง เนี่ย.. ถ้าลูกยอมถ่ายเอง ก็ไม่ต้องถูกคุณจิมทำเจ็บแบบนี้อีก..”
“อ้าว!.. พูดแบบนี้ได้ยังไงทอม.. แม็กกี้ยิ่งไม่ค่อยชอบหน้าฉันอยู่ แล้วฉันก็ไม่ได้ทำเขาเจ็บซะหน่อย”
จิมก้มลงจ้องหน้าเด็กชาย ใบหน้าและดวงตาสีฟ้าคู่งามฉ่ำนองไปด้วยน้ำตา
“ไง.. สบายท้องขึ้นหรือยัง แม็กกี้.. หือ..”

เด็กชายนิ่วหน้าใส่เขาทันที จิมหัวเราะเข้าใจว่าแม็กกี้ไม่ชอบหน้าเขาเอามากๆ แค่เห็นก็ทำสีหน้าไม่พอใจใส่ แต่เปล่าหรอก…

ปู๊ดดดดด!!!!!!….


เสียงของเหลวไหลออกเป็นชุดพร้อมกับเสียงครางและสีหน้าที่ดูเหมือนทรมานกับฤทธิ์ของยาถ่าย ทำให้จิมรู้สึกสงสารจนลืมเรื่องกลิ่นไปชั่วขณะ
“โอ๊ะ!.. โอ๋.. ปวดท้องเหรอ แม็กกี้.. ต่อไปต้องพยายามถ่ายเองนะ จะได้ไม่ต้องใช้ยาแบบนี้อีก..”
จิมขยับตัวขึ้นเมื่อรู้สึกว่ากำลังทนกลิ่นไม่ไหว รีบเอามือกดชักโครกให้
“เอ่อ.. จะนั่งกอดลูกอยู่อย่างนี้หรือทอม.. ไม่เหม็นเหรอ..”
จิมถามตรงๆ และคำตอบที่ได้รับก็ตรงคำถามอย่างจังเช่นกัน
“เหม็นซี.. อึใครหอมบ้าง ของนายหอมเหรอ..”

จิมหัวเราะ ไม่ทันได้ตอบกลับแม็กกี้ก็ถ่ายของเสียออกจากร่างกายด้วยเสียงที่ดังและรัวเป็นชุดยาวขึ้นกว่าเดิม  ครั้งนี้เด็กชายร้องไห้และกอดทอมไว้แน่นด้วยความตกใจกลัว
“ฮึก!!.. ฮือๆ ”
“ไม่เป็นไรลูก.. ไม่เป็นไรนะ.. ใกล้จะเสร็จแล้ว..”

จิมยิ้มแห้งๆ ช่วยกดชักโครกให้ เมื่อเห็นทอมเอาแต่ปลอบโยนโดยไม่สนใจกับกลิ่นที่อบอวลไปทั่วห้อง เขารู้ดีว่าคนที่อยู่ในฐานะพ่อแม่ ทุกข์สุขของลูกสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด แต่ไม่คิดว่าเทพบุตรทอมซึ่งตกที่นั่ง พ่อ ได้เพียงไม่กี่วัน อีกทั้งยังไม่เคยเป็นฝ่ายปรนนิบัติหรือดูแลใครมาก่อน จะสามารถทำหน้าที่ของพ่อได้อย่างน่าทึ่งเช่นนี้

“ออกไปคอยข้างนอกซี.. บอกว่าเหม็นยังยืนอยู่ได้..”
ทอมเอ่ยปากไล่เมื่อเห็นจิมยืนทำหน้าพิลึกพิลั่น
“เอ่อ!.. ไม่เป็นไร ฉันจะอยู่เป็นเพื่อน เผื่อมีอะไรให้ช่วย แม็กกี้คงถ่ายเกือบหมดท้องแล้วล่ะ แต่ให้นั่งต่ออีกหน่อยดีกว่า..”
“ออกไปเถอะ จิม.. นายช่วยฉันเยอะแล้ว ฉันจัดการต่อเองได้ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาอดทน ไม่ใช่ฉันไม่เหม็นนะ แต่ฉันปล่อยเค้านั่งอยู่คนเดียวไม่ได้..”
จิมพยักหน้ารับ ที่จริงแม็กกี้ต่างหากที่ไม่ยอมให้ทอมออกห่าง มือซ้ายเด็กชายขยุ้มแขนเสื้อทอมไว้แน่น
“โอเค!!.. ฉันจะลงไปข้างล่างสั่งป้าทิพย์เตรียมอาหารกลางวันเร็วหน่อย ถ่ายหมดท้องอย่างนี้ ไอ้หนูคงหิวเร็วแน่ๆ ..”

ทอมเอ่ยขอบใจ จิมรู้ใจเขาทุกเรื่องจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขามานานแล้ว และจากนี้ไปเด็กชายที่อยู่ในอ้อมกอดเขาขณะนี้ก็จะเข้ามาเป็นหุ้นส่วนชีวิตของเขาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน คงเพราะความโหดร้ายใจดำของเขา สวรรค์จึงลงโทษให้เขาต้องรับผิดชอบดูแลเด็กชายวัย 12 ปีที่ตกอยู่ในสภาพไม่รู้ความ ไม่ต่างจากเด็กเล็กไร้เดียงสาเช่นนี้  ถ้อยความตัดพ้อในจดหมายแว่บเข้ามาในความนึกคิด

:m15:…จริงอย่างที่คุณพูดครับ มีลูกทั้งทีก็ต้องเลี้ยงดูกันมาตั้งแต่แรกเกิด เด็กโตแล้วอย่างผมถึงเป็นลูกจริงๆ ก็ไม่มีสิทธิเรียกร้องความรักจากคุณได้หรอก…

…ให้ตายเถอะ!.. ไม่อยากเชื่อเลยว่านั่นคือคำพูดของเขาในคืนนั้น สมควรแล้วที่สวรรค์จะลงโทษ คงอยากให้เขาสำนึกถึงภาระหน้าที่และความรักที่พ่อต้องให้กับลูก จึงลงโทษให้เขาต้องดูแลเด็กชายวัย 12 ปีคนนี้อย่างเด็กแรกเกิดจริงๆ…

ทอมรู้สึกตัวเมื่อแขนเสื้อถูกกระตุก
“เสร็จแล้วเหรอ.. สบายท้องแล้ว เดี๋ยวเราลงไปหาของอร่อยๆ กินกันนะครับ..”
ทอมจูบแก้มเปียกชื้นของหนุ่มน้อย และฉุดร่างเล็กขึ้นยืนเพื่อชำระล้างทำความสะอาดร่างกายให้

วันนี้... ทอมเข้าใจภาระหน้าที่และความรู้สึกของคนเป็น พ่อ แล้ว อธิบายให้คนที่ไม่ได้อยู่ในฐานะเดียวกันเข้าใจไม่ได้ แม้แต่จิมซึ่งเข้าใจเขาทุกเรื่องเสมอมาก็คงไม่เข้าใจความรู้สึกในฐานะพ่อ ไม่เช่นนั้นคงไม่ถามเขาด้วยคำถามง่ายๆ ว่า ‘ ไม่เหม็นหรือทอม ’..

...ถ้านายเป็นฉันตอนนี้ ประสาทสัมผัสของนายจะลืมเรื่องกลิ่นไปเลย สิ่งเดียวที่สัมผัสได้คือความทุกข์ทรมานบนสีหน้าของ ลูก จนทำให้นายไม่สามารถละห่างออกมาได้แม้เพียงวินาทีเดียว...




ปู๊ดดดดด!!!!!!….




 :try2:   มาต่อให้จบตอนไปเลย
พ่อยกแม่ยกเจ้าหนูแม็กกี้ รู้สึกโล่งอก รึยังจ๊ะ


ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #177 เมื่อ30-01-2010 14:27:32 »

สงสารแม็กกี้อะ

1582

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #178 เมื่อ30-01-2010 14:44:53 »

แม็กกี้สบายท้องแล้ว  :really2:

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #179 เมื่อ30-01-2010 17:50:48 »

 o13 ทอมเยี่ยมมากเลย
ต้องดูแลทั้งลูกและคนรักแบบนี้ทอมเหนื่อยแย่เลย
ดูท่าลูกชายจะไม่คอยชอบคนรักของคุณพ่อซะด้วย
แม๊กกี้ปลอดภัยแล้ว ดีจัง :z2: :z2: :z2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด