ตอนที่ 32 ข้อความ
...เมื่อความฝันสิ้นสุดลง ความเศร้าเสียใจมันเออล้นเหนือคำบรรยายใดๆ กลายเป็นน้ำใสๆที่ไหลรินออกจากในตา เมื่อตอนเป็นเด็กน้อย เมื่อผิดหวัง โศกเศร้าเสียใจ ผู้ที่เป็นบุพการีจะคอยปลอบโยน แต่เมื่อเด็กน้อยโตขึ้นและเริ่มจะยืนด้วยลำแข้งตัว น้ำตาที่คนที่รักเคยเห็นมันเริ่มจะซ้อนอยู่ภายใน ภายในจิตใจลึกๆ กักขังตนเองอยู่ในกำแพงน้ำแข็งที่หนาวเย็น ซ้อนตัวเองจากโลกภายนอก ทำทุกวิธีทางที่จะปิดกลั้นตอนเองเพื่ออยู่กับความผิดพลาดเหล่านั้น แต่เมื่อเริ่มแสงสว่างเริ่มส่องเข้ามา ความอบอุ่นจากแสงนั้นส่องเข้าไปทำลายความหนาวเย็นภายในจิตใจ กำแพงนั้นพลันละลายหายไปเหลือแต่ความชุมชื่นภายในจิตใจ
...ตอนนี้เด็กน้อยคนหนึ่งได้ออกจากกำแพงนั้นแล้ว ผมยืนมองแซนกับความรู้สึกหลายๆอย่างที่มันเอ่อล้นภายในใจ ทั้งดีใจ ทั้งสงสาร และเศร้าใจ น้ำตาผมค่อยๆไหลแซนเองก็เช่นกัน แซนเดินมาหาแล้วสวมกอดผม
“ผมขอโทษ ผมขอโทษ ผมขอโทษ...” ไอ้เด็กแสบพูดเป็นร้อยๆครั้ง
“ไม่เป็นไรแล้ว ใจเย็นๆ” ผมไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่ลูบหัวกับพูดปลอบใจ “ใจเย็นๆนะ ไปทานข้าวเถอะ ไม่ได้ทานข้าวมาหลายวันแล้ว” ผมบอกแซนพยักหน้าทั้งๆทียังกอดผม ผมกับแซนเดินเข้าห้อง แซนทำกิจของตนก่อนแต่งตัวออกไปทานข้าว ผมอยากให้แซนออกไปข้างนอกเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ส่วนข้าวกล่องผมค่อยรับผิดชอบที่หลัง
...ภายในห้องเต็มไปด้วยฝุ่น ผมจัดการเก็บกวาดตอนที่แซนทำกิจส่วนตัว พอเสร็จเราออกไปทานข้าวกัน แน่นอนที่ผมกับแซนไปกินก็เป็นร้านข้าวมันไก่หน้า ม.(กินบ่อยมากไม่อ้วนหรือไงฟ่ะ) แซนเป็นคนขอให้ผมพาไป ไอ้เรานึกว่าไม่ได้กินข้าวหลายวันจะกินอะไรที่แปลกใหม่... เมื่อทานข้าวกันเสร็จแล้ว ผมพาแซนขับรถเล่นใน ม. บรรยากาศใน ม. ตอนกลางคืนดูน่ากลัวแปลกๆ ชวนหลอนได้ใจดี โดยเฉพาะตึกแพทย์ผมจำได้ผมบิดมิดเลยเมื่อผ่านตึกนี้(แซนบอกที่หลังว่ามันหลับตาก่อนหน้าเป็นกิโล พอมั่นใจว่าผ่านค่อยลืมตา มึงแมนมาก) จะมีบางมุมที่สวยจนน่ามีแฟนไปสวีทกันเหลือเกิน(ถ้าไม่อายฟ้าดิน) พอถึงหอผมแวะเข้าห้องบีมเพื่อไปเอาของ
“กลับมาแล้วเหรอพี่”
“อืม...ครับ”
“อ่าว” บีมพูดขึ้น ผมหันไปมองแซนยืนอยู่ข้างผมผมหันกับมาเห็นบีมยิ้มให้แซน แซนเองก็ยิ้มให้บีม มันสมานฉันท์กันตั้งแต่เมื่อไรฟ่ะ “ของพี่อยู่ที่เดิมนะครับ เก็บให้หมดแล้ว”
“ครับ ขอบใจรบกวนแย่เลย” ผมเข้าไปเก็บของแซนเองก็ช่วยผมถือ ผมล่ำลาบีมก่อนออกจากห้อง
...ผมเดินมาถึงบันได แซนก็เดินลงข้างล่าง
“เห้ย...ไปไหน”
“วันนี้วันพฤหัส พี่กลับบ้านนิ”
“เออว่ะ”
“ลืมเหรอ”
“อืม แต่วันนี้ไม่กลับแล้ว”
“จริงเหรอ”
“อืม”
“ครับ” ว่าแซนก็รีบวิ่งขึ้นมาฉีกยิ้มให้ ยิ้มที่รู้สึกไม่ได้เห็นมานาน เราเดินขึ้นห้องกัน อิอิ
...เมื่อถึงห้องผมจัดการโทรหาแม่ก่อนเลย ผมบอกผมอยู่ต่ออีกวัน แล้วจะกลับไปเอาของนิดหน่อย แม่ผมไม่ว่าอะไรครับ เพราะช่วงนี้ช่วงสอบ แต่สอบรบนี้ไม่มีติวครับ เพราะส่วนมากสอบเขียนเน้นการวิเคราะห์ด้วยตัวเอง เครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์ก็ของกลางภาคนั้นแหละ ส่วนวิชายิบย่อยก็อ่านกันเอง พอคุยธุระเสร็จผมกำลังจะไปอาบน้ำ
“พี่โอ๊ตครับ” แซนเรียกผมด้วยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ “ทำให้ผมก่อนได้ไหม?” แล้วถือแท่งยาวๆออกมาให้ดู
“...”
.
..
...
....
.....
......
.......
“อ้า...ผมเสียวจังเลย อ้า”
“...”
“อีกนิดครับพี่ อีกนิดนึ่ง”
“...”
“โอ๊ยพี่ ผมเสียวจัง”
“...”
“พี่ตรงนั้นอย่าครับ อ๊ะ อ้า....”
“...”
“พี่ครับ พี่โอ๊ต...”
“เป็นบ้าอะไรของแก” ผมเริ่มทนไม่ไหว
“ก็ผมเสียวนิ”
“เสียวก็อยู่เฉยะ ปากนะหุบหน่อยได้ไหม เสียเวลาคนจะอาบน้ำ”
“อ่ะนะ ก็ทำคนเดียวไม่ถนัดอ่ะ”
“โตเป็นควายทำไม่เป็นเหรอ”
“อืมครับ เลยต้องให้พี่ช่วย”
“แคะหูเองไม่เป็นเนี้ยนะ โตเป็นควายแล้วแท้ๆ”
“ก็ส่วนมาก ม้า ทำให้”
“เออดี”
...ไอ้แซนขอให้แคะหูให้มันหน่อย ผมเอ๋อไปพักใหญ่ แต่ก็ทำ ตอนแรกก็นอนนิ่งอยู่หรอก แต่หลังๆเริ่มครางแล้วแปลกขึ้นเรื่อยๆ พอแคะหูมันเสร็จผมขอตัวไปอาบน้ำครับ จะได้อ่านหนังสือนอนสักที
...ผมตื่นมาในตอนเช้ารู้สึกทุกวันนี้ผมนอนวันละไม่กี่ชั่วโมงจริงๆ ผมล้างหน้าแปลงฟันก่อนปลุกไอ้แสบ ไม่รู้เหมือนกันว่าปลุกทำไม แต่ก็ปลุกไว้ก่อน พอมันตื่นแล้วทำธุระเสร็จผมกับแซนก็ออกไปหาอะไรกินตามเรื่องตามราวครับ
“ไอ้แซน” มีคนทักขึ้นที่ร้านอาหาร
“อ่าวไอ้เชษฐ์ ตื่นเช้าจังว่ะ”
“หวัดดีครับพี่โอ๊ต” เชษฐ์ทักผม
“ดีครับ”
“ไอ้แซนวันนี้อาจารย์นัดพรีเซนไง “
“เออใช่” ผมแทรกขึ้น
“ไอ้ปาร์คมันบอกมันฝากพี่โอ๊ตบอกเมื่อวาน กูกลัวเมิงหายไม่ทัน ใบรับรองแพทย์มึงก็ไม่มี” เชษฐ์อธิบาย
“เห้ย แล้วพรีเซนกี่โมง” แซนถาม
“10 โมง”
“เออเจอกัน” ว่าผมผมกับแซนก็นั่งทานข้าวกัน ตอนนี้เพิ่ง 8 โมงเองครับ เลยไม่รีบร้อน
...พอถึงหอแซนจัดการอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวไปเรียน ส่วนผมนอนดูการ์ตูน นานๆได้ทำตัวเป็นเด็ก พอดูการ์ตูนจนสาแก่ใจก็เริ่มเก็บห้องครับทำความสะอาดตามประสา อยู่บ้านท่านอย่างนิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นความให้ลูกท่านเล่น 555 ผมจัดการเอาผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ไปซัก จัดของ ทำความสะอาดห้องปูที่นอนผืนใหม่ กว่าจะเสร็จก็ใกล้ได้เวลากินข้าวแล้ว ผมล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้า สิ่งที่สะดุดตาผมคือลิ้นชัก
...หัวเตียงฝั่งแซนมีลิ้นชักด้วย ผมอยากยุ่งนะ แต่อยากรู้มีอะไรบ้าง เลยถือวิสาสะเปิดดูสะเลย พอเปิดมา โอ๊ะ โอ๊ะ โอ๊ะ มันคือลังหนูครับ หูฝัง สมอทอร์ค ที่ชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ แล้วเศษกระดาษ มันไม่เชิงเศษกระดาษครับ มันกระดาษรายงานฉีกครึ่งพับอย่างดี ถูกซ้อนอย่างมิดชิดที่สุด ผมจัดการเอาของในลิ้นชักออกมาแล้วเก็บมันเป็นที่อย่างละชิ้น เอาสายม้วนๆ มัดเป็นอย่างๆ จนสุดท้ายเหลือขยะบางส่วน ซองขนม พลาสติกห่อของ และเศษกระดาษ ไอ้เศษกระดาษนี้แหละที่ผมไม่มั่นใจว่าทิ้งไม่ทิ้งดี ขอดูก่อนแล้วกัน พอเปิดมาก็เจอรายมือหัวโตๆเหมือนรายมือสมัยนี้อ่ะครับ เขียนเลียงตัวสวย สะอาด เรียบร้อยมาก เนื้อความในกระดาษมีความว่า
...ผมเสียใจด้วยกับเหตุการณ์ที่เกิด ไม่มีใครอยากให้มันเกิดจริงไหม
คุณอาจเกลียดผม ในฐานะคู่แข่งคุณผมยอมรับ เพราะผมก็ชอบพี่โอ๊ตเหมือนกัน
แต่ผมตามหาพี่เขาไม่เจอ ถึงตอนนี้ผมจะเจอเขาแล้ว แต่ใจของพี่เขาตอนนี้
อยู่กับคุณแล้วผมไม่รู้ว่าคุณรักพี่โอ๊ตมากแค่ไหน คุณรู้หรือเปล่าพี่โอ๊ตเฝ้า
อยู่หน้าห้องถึงตี 2 ทุกวัน คุณรู้หรือเปล่าว่าพี่เขาซื้อข้าวทิ้งไว้หน้าห้องคุณ
ทุกมื้อ และทานข้าวเก่าที่คุณไม่ทาน คุณรู้หรือเปล่าว่ามีคนเขาเป็นห่วงคุณ
มากแค่ไหน คุณบอกว่ารักเขา แต่สิ่งที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้ กลับทำให้พี่เขาทรมาน
พี่โอ๊ตก็ไม่ได้เจ็บน้อยไปกว่าคุณเลย ดังนั้นหยุดการกระทำนี้สะเถอะ เห็นแก่
พี่โอ๊ต
...อีกเรื่องคุณอาจเกลียดผมที่ผมเข้าไปแทรกตอนที่จะทำร้ายผู้หญิงคนนั้น
แล้วพูดแก้ตัวให้ ผมพูดได้ว่าผมตรวจเธอก่อนเข้าห้องน้ำไม่มีของอะไรซ้อน
จริงๆ แล้วถ้าผมไม่ห้ามมันอาจเป็นอันตรายต่อเด็กและแม่ของเด็กได้ ผมเรียน
อาชีพต้องช่วยเหลือคน ไม่ว่าผิดหรือถูกก็ต้องช่วยผมคงให้คุณทำรายหนึ่งชีวิต
ไม่ได้เข้าใจผมด้วย ส่วนเรื่องพี่โอ๊ตผมถอยให้คุณแล้วกัน แต่เมื่อไรที่คุณทิ้งขวาง
ไม่ดูแลหรือทำให้พี่โอ๊ตร้องไห้ เวลานั้นผมจะเอาตัวและใจพี่เของพี่โอ๊ตคืนมา
ให้ได้
บีม
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบตอนที่ 32
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องเล่าหลังคอมพ์
...สวัสดีครับ ไม่ได้เจอนานเลย วันนี้มาอัพให้เร็วเพื่อชดเชยเวลาที่หายไป เพราะที่ผมหายไปหลายวันส่วนหนึ่งก็เกิดจากรายงานที่ทราบกันดี และสองผมเพิ่งกลับมาจากค่อย ซึ่งเป็นอะไรที่เหนื่อยมาก แต่ก็มีอาหารตามากเช่นกัน (ดูแต่ตาแต่ไม่อาจอิ่มได้ เริ่มอยากมีอาหารใจ) ผมว่าหลายท่านคงยังจะรออ่านอยู่ ซึ่งผมจะพยายามอัพให้เร็วที่สุดแล้วกัน รู้สึกคอมเม้นท์เริ่มบางตา เลยต้องเอาใจกันหน่อย 555+
...ก็หวังว่าทุกท่านจะสบายดีนะครับ ใครที่เรียนช่วงนี้หนักเหมื่อนผมรึเปล่าบอกด้วยแล้วกัน ปีสุดท้ายนี้เหนื่อยจริงๆ สุโคย
เหนื่อยแต่ก็รัก
โฟล์คเต่า
ผู้แต่ง