กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10
41
Boy's love story / Re: กระทู้นิยายแนะนำ...เรื่องนี้ต้องอ่าน!
« กระทู้ล่าสุด โดย Mukdakorn imyoo เมื่อ 11-10-2025 00:29:00  »
ยังมีคนอัพนิยายอยู่ไหมคะ  :mew6: :mew6:
42
Boy's love story / Re: Love, In Every Lifetime : ตอนที่ 26 : The Devil Wears Cartier
« กระทู้ล่าสุด โดย Milky_Milky_Way เมื่อ 10-10-2025 10:14:36  »
“... ถามจริงๆ ที่แต่งมาวันนี้เนี่ยกี่ล้านวะ ...” ผมแต่งตัวเพราะได้ยินมาว่าแฟนของจีเธอแต่ง brand name ทั้งตัว

“... กูถามจริง นี่มึงกำลังสู้กับเฟิร์ส หรือมึงกำลังสู้กับความรู้สึกของตัวเองกันแน่วะ?”

“ไม่ใช้เรื่องของมึง” ผมตอบอย่างกระฟัดกระเฟียดเพราะคำพูดของไอซ์ไม่ต่างอะไรจากการเอาเหล็กร้อนๆ มาขยี้ลงบนแผลสด

“เก่งให้ได้ตลอดนะไอ้มิลค์” ไอซ์พูดออกไปด้วยความหมั่นไส้ เขาไม่เข้าใจเพื่อนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเลยซักนิด มันไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยอวด ไม่เคยเปรียบเทียบตัวเองกับใคร ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมาแข่งอะไรไร้สาระแบบนั้น คงเพราะความโกรธและความเสียใจที่ทำให้เจ้าตัวลืมไปมั้งว่าตัวเองคือมิลค์ ติฒสิงห์ แค่นี้ก็แพงจนไม่มีแก้วแหวนเงินทองที่ไหนจะเทียบเท่า


----------


#แพงข้างนอก #พังข้างใน #The Devil Wears Cartier
#LoveInEveryLifetime #รักนะ #ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกัน
43
Boy's love story / Re: SHORT: ZombieUrbania: สีลมซอมบีเนีย - 9/10/2568
« กระทู้ล่าสุด โดย KADUMPA เมื่อ 09-10-2025 15:35:01  »


“ทำไมไม่รับโทรศัพท์” เสียงทักที่แสดงความไม่พอใจดังขึ้นอยู่ใกล้ ๆ ทำให้เจ้าตัว ที่เพิ่งถูกทักถามมาแบบนั้น สะดุ้งตกใจ รีบหันไปทางต้นเสียงในทันที “ว่าไง หมวย” ชายหนุ่มถามย้ำออกมา ด้วยความขุ่นเคืองที่คุกรุ่นอยู่ในใจมาตลอดหนึ่งสัปดาห์เต็ม “ไม่จำเป็นต้องรับ” คนถูกเรียกชื่อว่าหมวยตอบแบบมะนาวไม่มีน้ำกลับไปเช่นกัน


“ก็เลิกกันไปแล้ว” หมวยตอบกลับไป มองหน้าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า ด้วยท่าทางแบบคนไม่ได้รู้สึกแคร์อะไรกันแล้ว “แต่ของที่ห้อง พี่ยังเอาไปไม่หมด” ชายหนุ่มบอกถึงจุดประสงค์ ว่าทำไม หมวยถึงยังจำเป็นต้องรับโทรศัพท์ เวลาที่เขาโทรมาหาอยู่ ไม่ใช่ทำเงียบ อิกนอร์ ทำไม่สนใจกันแบบนี้


“ดูหมดทุกห้อง ทุกซอกทุกมุมแล้ว ไม่มีของของพี่หมวดเหลืออยู่แล้ว ไม่มีสักชิ้นเดียว” หมวยเองขมวดคิ้ว ทำหน้างง เพราะตัวเองก็จัดห้อง ทำความสะอาดจนดูถี่ถ้วนแล้วว่า ของใช้ของพี่หมวด ขนเก็บเอาไปหมดแล้ว “มันยังเหลืออยู่อีก บางอย่าง เอาเป็นว่า พี่ต้องไปดูเองที่ห้องหมวย จะได้เห็นเองกับตาด้วย” ผู้หมวดหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิม


“เนี่ยนะ อีเบาหวิว กูขอทายเอาไว้ล่วงหน้าเลย ว่าอีพี่หมวดตี๋ ที่ยังเพียรโทรมาหาอีหมวยทุกวี่ทุกวัน อีหมวดรูปหล่อ ยังรักอีหมวยอยู่แน่นอน” พิม หญิงสาวที่เดินถอยหลัง ช่วยยกกล่องขนาดใหญ่มากับเบาหวิว กะเทยร่างใหญ่อ้วนพี เม้าท์มอยกับเพื่อนสาวอย่างเมามัน ถึงพฤติกรรมผู้หมวดตี๋ นายตำรวจหนุ่ม ที่เพิ่งจะเลิกรากับหมวย เพื่อนอีกคนในกลุ่มไป


“อีพิมหยุด” เบาหวิวไม่พูดเปล่า ทำหน้ายู่ บุ้ยบ้ายปาก เป็นการส่งซิกแนลให้เพื่อนหยุดพูดก่อน เนื่องจากผู้หมวดตี๋ ยืนเอียงคอมองทั้งสองคน ที่เดินมาพร้อมลังขนาดใหญ่นั่น “ทำไมกูจะต้องหยุด กูจะพูด เลิกกันไปแล้ว ยังตามเพื่อนกูซะขนาดนั้น ใครก็ดูออกป่ะวะ ว่ากำลังหวงก้างคนอื่นอยู่ หมาที่ไหนไม่หวง แต่อีพี่หมวดตี๋ หวงค่า” พิมเพิ่มโวลุ่มเสียงให้ดังขึ้นอีก เพราะใจอยากจะให้เพื่อนหมวยนั้น ได้ยินด้วย
 

“อีหมวย มึงฟังกูนะ ต่อจากนี้ไป ถ้ามีใครเข้ามาจีบมึงอีก มึงต้องเลิกหนีบปิ๊มึงได้แล้ว หนีบจัง หนีบเอาไว้เพื่อ อีหมวย เลิกรอค่ะ เลิกรอหมวดตี๋ได้แล้ว ประตูหลังมึงต้องเปิดรับบริวารทั้งหลายเหล่านั้น เอาทุกดุ้นมาเก็บเป็นคอลเล็คชึ่น เข้าใจมั้ยอีสวย” พิม คนที่เพื่อนในกลุ่มรู้กันดีว่า นิสัยคือพูดไปเรื่อย พูดไปก่อน พอวางลังใหญ่นั้นบนพื้นฟุตปาธเสร็จ ก็หันมาเจอหน้าผู้หมวดตี๋ ยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่พอดี พิมเองนั้น เม้มปากจนแน่น หันไปทำท่าบ่นกับเบาหวิว ว่าทำไมไม่เตือนกันก่อน


“พิมมันไม่ได้พูดอะไรผิด” หมวยพูดออกตัวแทนเพื่อนในทันที “โสดแล้ว หมวยจะทำอะไรก็ได้” สายตาของผู้หมวดตี๋นั้น ถ้าทำได้ คงอยากจะสั่งขังยัยพิมนี่สักวันสองวัน เอาให้เข็ด “ขนอะไรกันมา” ผู้หมวดตี๋ชี้นิ้วไปที่ลังขนาดใหญ่นั่น “อะไรอยู่ในลัง ไหนเปิดดูซิ” ผู้หมวดตี๋ออกคำสั่ง พิมนั้นไม่เท่าไหร่ พอจะเก็บอาการไหว แต่เบาหวิวนี่สิ ที่เลิ่กลั่กไม่หยุด
 

“ไม่มีอะไรเลยพี่หมวด ลังเปล่า” เบาหวิวรีบตอบ คำแก้ตัวนั้น ทำให้ผู้หมวดหนุ่มต้องถอนหายใจออกมาดัง ๆ “ลังเปล่า แต่ช่วยกันยกสองคน” เสียงถามของผู้หมวดตี๋ พลางส่ายหน้านั้น ตั้งใจทำให้รู้กันเลยว่า อย่าคิดว่าจะมาโกหกกันได้ ด้วยมุกตื้น ๆ แบบนี้ ยิ่งท่าทางของเบาหวิวที่มันบ่งบอกทุกอย่างออกมาด้วยแล้ว


“อีเบาหวิว มึงนี่นะ ทุกทีเลยสิน่า” พิมหันไปโวยวายกับเพื่อน ที่ตอนนี้เบาหวิวทำหน้าตาเฉลยทุกสิ่งอย่าง “พี่หมวดจะมาขอดูอะไรแบบนี้ไม่ได้นะ พี่หมวดได้อยู่ท้องที่นี้ อยู่คนละสน.” หมวดรีบห้ามผู้หมวดคนหล่อ เพราะรู้ว่า แฟนเก่าอย่างพี่หมวดตี๋นั้น สังกัดอยู่คนละท้องที่สืบสวนกัน

 
“พี่เพิ่งย้ายมาประจำอยู่ท้องที่นี้” ผู้หมวดตี๋หันไปพูดกับหมวย ทั้งสองสบตากัน หมวยขมวดคิ้วเมื่อได้ยินหมวดตี๋สุดหล่อบอกมาแบบนั้น “เพิ่งย้ายมาวันนี้เลย” ผู้หมวดตี๋สุดหล่อไม่พูดเปล่า ยักคิ้วให้กับคนที่เขาคิดว่า ยังคงเป็นแค่ว่าที่แฟนเก่าเท่านั้น หมวดตี๋นั่งลงที่ข้างลังใบใหญ่นั่น โดยมีพิมที่ทำหน้าเบ้ ส่วนเบาหวิวนั้นแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว
 

“โอ้โห มีทุกไซซ์ ทุกขนาด ทุกสี ทุกสัญชาติเลยมั้นเนี่ย” ผู้หมวดตี๋พูดออกมาดังลั่น เมื่อเห็นว่าของในลังนั่น คือบรรดาดุ้นปลอมสีชมพู สีดำมะเมื่อม ขนาดเล็กบ้าง เขื่องเท่าแขนบ้าง อัดแน่นอยู่เต็ม “แต่พี่หมวด วันนี้แต่งตัวมาแค่ครึ่งท่อนเท่านั้น ไม่มีอำนาจจะมาค้น หรือจับกุมอะไรทั้งสิ้น” หมวยยังไม่ยอม เถียงคอเป็นเอ็น ในฐานะที่เป็นเกือบจะอดีตแฟนเก่าของเจ้าของเอ็นตำรวจสุดหล่อคนนี้


“แต่นี่มันถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า ยังไงพี่ก็ต้องทำตามหน้าที่ พี่บอกหมวยแล้วไง ว่าอย่าขายของอะไรแบบนี้” ผู้หมวดตี๋พูดด้วยความเป็นห่วงอีกฝ่าย “แหม อีพี่หมวด แต่คนโสด เช่นคนโสดอย่างหนูเนี่ย ของพวกนี้มันมีประโยชน์ แก้ขัดได้นะคะ” พิมประท้วงออกมา เพราะรู้สึกไม่เห็นด้วย ถ้าจะกล่าวหาว่า ของช่วยของเล่นทางเพศพวกนี้มันจะเป็นผู้ร้ายไปเสียทั้งหมด


“แต่หมวยเขามีพี่อยู่แล้วทั้งคนไง หมวยไม่มีความจำเป็นต้องใช้ดุ้นปลอมพวกนี้” ผู้หมวดตี๋หันมาเถียงพิมด้วยอาการลืมตัว พิมถึงกับหลุดหัวเราะออกมา เมื่อทฤษฎีแฟนเก่าของเธอนั้นชัดเจนเสียยิ่งกว่าอะไร เมื่อพี่หมวดตี๋นั้น ยังมีใจให้กับเพื่อนหมวยคนสวยอย่างแน่นอน “อ้าวอีหมวย ไหนมึงบอกกับกูว่า มึงกับพี่หมวด แค่นอนจับมือกันใส ๆ เท่านั้นไง” เบาหวิวพาซื่อถามคำถามนั้นออกมา จนพิมต้องหันไปพูดข้างหู ว่าคืน ๆ หนึ่ง นังหมวยรับคนงามนั้น ทั้งจับ ทั้งกำ ทั้งรูด อะไรของพี่หมวดตี๋รูปหล่อคนนี้บ้าง
 

“จะไปไหน” พี่หมวดตี๋รีบถามหมวย เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าว่าจะหนี “พิม เบาหวิว วางลังนั้นลง” ก่อนจะต้องหันไปออกคำสั่ง เมื่อสองคนนั่น ก็ไวเท่าความคิด กำลังจะยกลังหลักฐานนั้นหายไป “รีบยกของไปสิพวกมึง” หมวยตะโกนบอกเพื่อน “ถ้าสองคนนั้นจะหนีละก็” ผู้หมวดตี๋บอก ก่อนจะคว้าแขนของหมวยมาสับกำไลข้อมือลงไป


“เฮ้ย พี่หมวด ทำอะไรเนี่ย” หมดร้องถามด้วยความตกใจ ก่อนจะเห็นพี่หมวดตี๋ สับอีกด้านหนึ่งของกำไลลงที่ข้อมือของตัวเอง “จะทิ้งเพื่อนได้ลงคอมั้ย พิม เบาหวิว” สองคนนั้น ได้ยินที่ผู้หมวดคนหล่อถาม ก็เกิดอาการลังเล จะไปไม่ไป จะอยู่ไม่อยู่ โดยที่ไม่ไกลจากตรงนั้น มีเสียงคนคล้ายกับกำลังกรีดร้อง หรือตะโกนโหวกเหวกเพราะอะไรบางอย่าง


“ตอนนี้มันพวกที่แอบขายยาอะไรบางอย่าง แบบใหม่ ที่ออกฤทธิ์กับระบบประสาทในท้องที่นี้ด้วย หมวย พี่เป็นห่วง” ถึงจะรู้ดีว่า แฟนของตัวเองไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเลยก็ตาม หมวยเองก็รู้ดีว่า พี่หมวดตี๋อดเป็นห่วงเขาไม่ได้หรอก หากว่าหมวยยังคงต้องออกมาหารายได้ ด้วยการเป็นคนกลางคืนแบบนี้


“ไขกุญแจออก” หมวยยกแขนของตัวเองขึ้น “ไม่” พี่หมวดตี๋ยกแขนตาม แต่ก็ส่ายหน้าตอบปฏิเสธ “พี่หมวด” หมวยทำเสียงดังใส่ อย่างที่เคยทำ แล้วพี่หมวดตี๋ของหมวยก็เคยยอมทำตามเสียทุกครั้ง “ไม่ คราวนี้พี่ไม่ยอมปล่อยหมวยไปง่าย ๆ” สองคนยื้อดึงแขนของตัวเองไปกันคนละทาง และโดยไม่คาดคิด อยู่ ๆ ก็มีใครคนหนึ่ง วิ่งมาถึงตรงที่หมวดตี๋และหมวยยืนอยู่ แล้วอ้าปากงับ พยายามกัดเข้าตรงโซ่เหล็กระหว่างกำไลข้อมือตำรวจทั้งสองข้าง


“เฮ้ย อะไรวะเนี่ย” ผู้หมวดตี๋ร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ มองไปที่คนที่กำลังเคี้ยวโซ่กำไลข้อมือที่ใช้จับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างดุดัน “พี่หมวด” หมวยร้องเรียกแฟนเก่า เมื่อจำได้ว่าคนที่กำลังใช้ฟันบดเคี้ยวกำไลอยู่นั้นคือ “ท่านผู้กำกับครับ” ผู้หมวดตี๋ร้องออกมาอย่างตะลึงงัน เมื่อเห็นผู้บังคับบัญชา ที่เพิ่งไปรายงานตัวเข้ารับหน้าที่มาเมื่อเช้า มีสภาพกลายเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ ทั้งคราบเลือด ทั้งเสียงร้องที่ฟังดู ไม่ใช่ของคนปกติ


คนที่ดูแล้ว น่าจะเป็นอดีตท่านผู้กำกับนายตำรวจใหญ่ไปแล้วจริง ๆ หยุดนิ่ง ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองไปที่ผู้หมวดตี๋ที และมองไปที่หมวยที คายโซ่กำไลนั้นออกจากปาก ทำท่าจะหันไปขย้ำกัดหมวย แต่ไม่ทันได้ทำแบบนั้น ผู้หมวดตี๋ก็ใช้มือขวาที่เหลือว่างและเป็นอิสระอยู่ ซัดหมัดเปรี้ยงเข้าที่หน้าของท่านผู้กำกับจนเต็มแรง ร่างของท่านผู้กำกับล้มลงไปกองกับพื้นถนนในทันที


“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย” พิมร้องถามออกมาด้วยความตกใจ ก่อนจะเห็นใครอีกคนวิ่งออกมาจากตรอกมืดข้าง ๆ แหกปากแยกเขี้ยววิ่งเข้ามาทางที่เธอกับเบาหวิวยืนอยู่ คนคนนั้นคือป้าร้านข้าวแกง ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับพิมมาหลายปี แกอ้าปากแบบตั้งใจจะกัดพิมให้จมเขี้ยว แต่สิ่งที่ป้าแกกัดลงไปอย่างแรง คือดุ้นดำมะเมื่อม อวัยวะเพศชายเทียมขนาดเขื่องเท่าแขน ที่เบาหวิวคว้าเอามาขวางหน้าได้ทัน


“อีเหี้ย อีป้าขายข้าวแกง” พิมร้องเสียงหลง เมื่อเห็นแววตาอาฆาตของป้าแก ที่เธอเองไม่แน่ใจว่า นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฝ่ายป้าร้านขายข้าวแกงเอง ที่งับลำกระจวยดำดีนั้นเข้าไปจนเต็มปาก ฟันแกฝังเข้าไปในเนื้อของท่อนลำเทียมแงะไม่ออก แกก็ได้แต่ส่ายหน้าส่ายหัวไปมา พยายามจะสลัดท่อนนั้นให้หลุดให้ได้
 

“เราต้องไปจากที่นี่ก่อน” ผู้หมวดตี๋ที่ยังไม่แน่ใจนัก ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไรกันแน่ ร้องบอกทุกคน ด้วยสัญชาตญาณก็มองไปทั่ว ๆ เพื่อประเมินสถานการณ์ และมองหาทางหนีทีไล่ เมื่อมีเสียงกรีดร้องมาจากไกล ๆ และเห็นคนกลุ่มใหญ่กำลังวิ่งมาทางนี้ “เราต้องไปทางไหน” ยังไม่ทันที่หมวยจะได้รับคำตอบของตัวเอง ก็เห็นพิมและเบาหวิว พากันยกลังนั้น วิ่งไปที่รถตู้ขนของที่จอดเปิดประตูข้างอยู่ไม่ไกล


เบาหวิวโยนลังนั้นเข้าไปด้านในรถตู้ มองเข้าไปเห็นพี่คนขับรถตู้มองออกมาด้วยสายตาตื่นตระหนก เบาหวิวผลัดตัวเองเข้าไปด้านใน ล้มลงนั่งที่ข้างกล่อง โดยที่พิมนั้นวิ่งไปเปิดประตูข้างคนขับ แล้วกระโดดขึ้นไปนั่งแล้วปิดประตูตามหลังในทันที ทางด้านหมวดตี๋และหมวย วิ่งตามมาจนเกือบถึงรถตู้ แต่กลับต้องหยุดชะงัก เมื่อมีร่างหนึ่ง ที่ทุกคนตรงนั้นจำได้ ว่าเป็นหนึ่งในเอเย่นต์ขายยาที่นักเที่ยวกลางคืนชอบใช้กัน ส่งเสียงร้องขู่คำรามดังลั่น พยายามจะเข้าไปในรถตู้ด้วย


“อย่าเข้ามา อย่านะ” เบาหวิวคว้าดุ้นเทียมไหนได้ ก็ปาใส่หน้าเอเย่นค้ายาคนนั้นรัว ๆ แถมแม่นเสียด้วย เมื่อส่วนหัวส่วนไข่ของดุ้นเหล่านั้น ฟาดเข้ากลางแสกหน้าทุกดอก “พี่ออกรถเดี๋ยวนี้” พิมร้องตะโกนบอกกับคนขับรถ ที่กำลังลนลานทำอะไรไม่ถูก “อีหมวย พี่หมวด ขึ้นมา” เบาหวิวพยายามเรียกอีกสองคนที่ยังยืนอยู่ข้างนอก ยังหาจังหวะขึ้นมาบนรถตู้ไม่ได้ เพราะเอเย่นต์ขายยาที่กำลังคลุ้มคลั่งยืนขวางอยู่


“พี่คนขับ เดี๋ยวก่อน” เบาหวิวที่ตัดสินใจคว้าดุ้นสีดำมะเมื่อมอันใหญ่สุดที่เหลืออยู่ ทิ่มเข้าปากเอเย่นต์ที่อ้ากว้างโชว์ฟัน หมายจะกัดลงที่ตัวเบาหวิว ทิ่มมันใส่ปากเอเย่นต์ไปจนสุดแรง มันลึกเลยเข้าไปในคอของเอเย่นต์นั่น ทำให้ร่างนั้นสำลักตาเหลือก ล้มลงไปกับพื้น แต่ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่พี่คนขับรถตู้ กระทืบเท้าลงบนคันเร่ง กระชากรถเพื่อขับออกไปจากตรงนั้น โดยที่หมวดตี๋และหมวยยังไม่ได้ขึ้นไปบนรถ
 

ขณะที่รถตู้นั้นออกตัวไป ประตูด้านข้างรถตู้ยังไม่ทันปิด ก็มีร่างคลุ้มคลั่งร่างหนึ่งพุ่งตัวเข้าไปด้านในตัวรถด้วย แรงเหวี่ยงของรถ ทำให้หมวยและพี่หมวดตี๋ มองเห็นเบาหวิวกรีดร้องออกมาด้วยอาการกลัวอย่างสุดขีด ก่อนที่ประตูข้างรถตู้จะเลื่อนปิดเอง เงาสะท้อนราง ๆ จากกระจกสีชา ทำให้เห็นว่า เบาหวิวกำลังสู้เพื่อเอาชีวิตรอดอยู่ เมื่อรถตู้คันนั้นแล่นจากไป


“เราอยู่ตรงนี้ไม่ได้” พี่หมวดตี๋ร้องบอกหมวย “เชื่อใจพี่นะ” พี่หมวดถาม หมวยพยักหน้าให้ “จับมือพี่ไว้ จับไว้ให้แน่น อย่าปล่อยมือพี่เป็นอันขาด” พี่หมวดตี๋ร้องบอกหมวย ที่บีบมือพี่ตี๋จนแน่น ผู้หมวดหนุ่มกำลังประมวลผลในสมอง ถึงตรอกซอกซอยแถวนี้ที่ตัวเองจำได้ ว่าทางตรงไหนต่อกับเส้นไหน ทะลุไปทางใด แล้วอาคารไหนบ้างที่จะสามารถใช้เป็นที่หลบภัยได้ “หมวย วิ่ง” พี่หมวดกระชับมือแฟนของเขาเอาไว้จนแน่น ก่อนจะพาหมวยออกวิ่ง ในนาทีนี้ ความปลอดภัยของหมวย คือความสำคัญที่สุดของพี่หมวดตี๋

**************************************************************************

คำแปลเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ โดย KADUMPA

ตาคลี - TAKHLI GANG
https://www.youtube.com/watch?v=Jf5cBb5xNeE


พวกเราชาวตาคลี

We are local Urbania

สุดจะแฟนตาซี

Definition is fantasy

มานั่งดูซิ มีให้ดูทั้งคืน

Come here and see, we'll serve thee all night


Boys and girls, please welcome

TAKHLI, TAKHLI, TAKHLI!

You can say! Pitta P, Copter, and Laila!


(สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าเข้ามาเด้!)

Hands down in pants pockets, two feet pacing to be here

(ลูกอีไก่ หลานอีจอย ทยอยทยอยเข้ามาเลยเพ่!)

The son of Sister Hen, the niece of Mama Joy

Come inside to witness this in an orderly fashion


ว้าย! รวบตึงขมวดจึ้งปึ้ง! ขมวดจึ้งปึ้ง!

Whoa, wrap it up – you do tie loose ends up entirely

ใครไม่เริดก็เชิดใส่ ตึ้ง! อย่ามาทำบึ้ง

Do not care if someone ain't cool enough, bam! no time for being grumpy

มองนานนานแล้วจะอึ้ง ใครไม่ไหวหนีไปผึ้ง

This is the way to amaze y'all, can't handle this – yo run away, Honeybee

หวดข้าวเหนียวมีไว้นึ่ง ยั่วไว้ ยั่วไว้ ยั่วไว้

Sticky rice cooked in a bamboo steamer, silhouette shows seduction surely


สวย! แบบนี้เรียกว่าสวย ถ้าใครไม่สวย แต่นี่สวย

Beauty, this is called beauty, who's not but I am

แบบเนี้ยเรียกว่าเสียว ถ้าใครไม่เสียว แต่นี่เสียว

This is called feeling wild, who doesn't but I do

เต้นนานนานก็ตัวเหนียว ถ้าใครไม่เหนียว แต่นี่เหนียว

Dancing all night on the dance floor, sweat sticky – who's not, here I am

ไว้นานนานก็จะเปรี้ยว หรือเธอที่มองก็เปรี้ยว!

If let it stay that way too long, bad odor comes, or you're just scented like lemons?


เปิดเพลงให้เสียง ส่องไฟขึ้นฟ้า

Let the music begin, shine the light into the sky

พวกเราดารา

We're the cast of all stars


เด้งโพก เด้งโพก เด้งโพก

Bouncing juicy booty

ตาคลี ตาคลี เด้งโพก

Rear end jiggly dancing

เด้งโพก เด้งโพก เด้งโพก

Bouncing juicy booty

ตาคลี ตาคลี เด้งโพก

Rear end jiggly twerking


เด้งโพก เด้งโพก เด้งโพก

Bouncing juicy booty

ตาคลี ตาคลี เด้งโพก

Rear end jiggly dancing

เด้งโพก เด้งโพก เด้งโพก

Bouncing juicy booty

ตาคลี ตาคลี เด้งโพก

Rear end jiggly twerking


รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก

Fine rice in the making, from the husks ready to open

เห็นมองตาเหลือก ไม่เสือกค่ะพี่!

That may shock you good, but calm the f down right now


โอย กิ้งก่ากิ้งกือ กิ้งก่ากิ้งกือ

Wow, mumbo jumbo - gobbledygook

กิ้งก่ากิ้งกือ กิ้งก่ากิ้งกือ

Mumbo jumbo – gibberish jibber jabber


โอ๊ย! แบบนี้เรียกว่าสวย ถ้าใครไม่สวยก็เลี้ยวไป

Whoa, this is what they say beautiful, who's not, please take the next turn

แบบนี้เรียกว่าเสียว ถ้าใครไม่เสียวก็เลี้ยวมา

This is what they call being turned on, if not, here you're making the right turn

แบบนี้เรียกว่ายั่ว ไม่ใช่ก็จ๊ะทิงจา

This is how seduction's going on, not the nonsense baloney

มามาพี่เข้ามา

Come, come brother, just come in to feel and see


เอ มาเต้นเท่เท่ ให้ดูหน่อยจ้ะพี่จ๋า

Hey, bust your best move – show me what you've got

เอ โคตรจะเซ็กซี่ มาเด้งหน่อยจ้ะพี่จ๋า

Hey, that's so damn sexy, ya'd better shake muscles my darling


เปิดเพลงให้เสียง ส่องไฟขึ้นฟ้า

Let the music begin, shine the light into the sky

พวกเราดารา

We're the cast of all stars


เด้งโพก เด้งโพก เด้งโพก

Bouncing juicy booty

ตาคลี ตาคลี เด้งโพก

Rear end jiggly dancing

เด้งโพก เด้งโพก เด้งโพก

Bouncing juicy booty

ตาคลี ตาคลี เด้งโพก

Rear end jiggly twerking


เด้งโพก เด้งโพก เด้งโพก

Bouncing juicy booty

ตาคลี ตาคลี เด้งโพก

Rear end jiggly dancing

เด้งโพก เด้งโพก เด้งโพก

Bouncing juicy booty

ตาคลี ตาคลี เด้งโพก

Rear end jiggly twerking
44
ในยุคที่ค่ารักษาพยาบาลพุ่งสูง โดยเฉพาะโรคร้ายแรงอย่าง มะเร็ง การวางแผนทางการเงินเพื่อรับมือจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การซื้อ ประกัน มะเร็ง ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณอุ่นใจเมื่อต้องเผชิญกับค่ารักษาที่สูงลิ่ว แต่เบี้ยประกันที่คุณจ่ายไปยังสามารถนำไปใช้เป็น ค่าลดหย่อนภาษี ได้อีกด้วย

ประกันมะเร็งลดหย่อนภาษี: เข้ากลุ่ม "ประกันสุขภาพ"
ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร ประกันมะเร็ง และ ประกันโรคร้ายแรง จัดอยู่ในกลุ่มของ "ประกันสุขภาพ" ซึ่งเบี้ยประกันที่คุณจ่ายไปสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ โดยมีวงเงินและเงื่อนไขที่ชัดเจนดังนี้

1. วงเงินลดหย่อนภาษีสำหรับ "ประกันสุขภาพตนเอง"
เบี้ยประกันมะเร็งที่คุณทำไว้เพื่อคุ้มครองตัวเอง สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี

ข้อควรรู้เพิ่มเติม:
รวมกับประกันชีวิต: เมื่อรวมกับค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไป (เช่น ประกันสะสมทรัพย์ที่มีความคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป) แล้ว ยอดรวมต้องไม่เกิน 100,000 บาท
เป็นความคุ้มครองเฉพาะตัว: ประกันมะเร็งที่นำมาลดหย่อนได้ต้องให้ความคุ้มครองเฉพาะตัวผู้เอาประกันเท่านั้น

2. วงเงินลดหย่อนภาษีสำหรับ "ประกันสุขภาพบิดา-มารดา"
หากคุณซื้อประกันสุขภาพ (ซึ่งรวมถึงประกันมะเร็งด้วย) ให้กับบิดาหรือมารดาของคุณ ก็สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน
ลดหย่อนได้สูงสุด 15,000 บาทต่อปี (สามารถแบ่งจ่ายกับพี่น้องได้ โดยเฉลี่ยตามส่วนที่จ่ายจริง)

เงื่อนไขสำคัญ:
บิดาหรือมารดาต้องมีเงินได้พึงประเมินรวมกันทั้งปี ไม่เกิน 30,000 บาท
คุณต้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย
ไม่ต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป



ประกันมะเร็งแบบไหนที่ลดหย่อนภาษีได้
โดยทั่วไป กรมธรรม์ ประกันโรคร้ายแรง หรือ ประกันมะเร็ง ที่บริษัทประกันระบุว่าเป็นสัญญาเพิ่มเติม (Rider) ที่แนบท้ายกับกรมธรรม์หลัก (เช่น ประกันชีวิต) หรือเป็นกรมธรรม์เดี่ยวแบบที่เน้นความคุ้มครองสุขภาพ/โรคร้าย (เช่น แบบ "เจอ จ่าย จบ" หรือแบบที่จ่ายค่ารักษาตามจริง) มักจะเข้าเกณฑ์การลดหย่อนในส่วนของ "เบี้ยประกันสุขภาพ" ทั้งสิ้น

เคล็ดลับ: เพื่อให้มั่นใจ 100% ควรมองหาข้อความในโฆษณา หรือเอกสารประกอบการขายของผลิตภัณฑ์ประกันนั้น ๆ ที่ระบุชัดเจนว่า "สามารถนำเบี้ยประกันภัยไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่กรมสรรพากรกำหนด"
ก่อนตัดสินใจทำประกันมะเร็ง: สิ่งที่คุณต้องรู้
นอกเหนือจากสิทธิลดหย่อนภาษีแล้ว การซื้อประกันมะเร็งยังมีข้อพิจารณาสำคัญที่คุณควรตรวจสอบก่อนตัดสินใจ:
ระยะเวลารอคอย (Waiting Period): ประกันมะเร็งเกือบทุกฉบับจะมีระยะเวลารอคอย (ส่วนใหญ่ 90 วัน) หมายความว่า หากตรวจพบมะเร็งภายในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทประกันจะไม่จ่ายผลประโยชน์
ประวัติสุขภาพเดิม (Pre-existing Condition): กรมธรรม์ส่วนใหญ่ จะไม่คุ้มครอง โรคมะเร็งที่ตรวจพบก่อนวันเริ่มมีผลคุ้มครอง ประกันลดหย่อนภาษีหรือมีสาเหตุสืบเนื่องมาจากการเจ็บป่วย/ความผิดปกติที่มีอยู่ก่อนทำประกัน

45
Boy's love story / Re: ------------ แสงฟ้า วาโย ------------ บทที่ 3 -----------
« กระทู้ล่าสุด โดย พงศ์ภาณุ เมื่อ 07-10-2025 16:50:02  »
บทที่ 3
ไฟริษยาในใจ


เมื่อก้าวเข้าสู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โลกของแสงฟ้าและวาโยก็เริ่มขยายกว้างขึ้น แสงฟ้ายังคงเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมชื่อดังกลางเมือง มีเพื่อนฝูงมากมายและกิจกรรมหลากหลาย ในขณะที่วาโยยังคงอยู่ที่โรงเรียนวัดใกล้บ้าน ใช้ชีวิตเรียบง่าย หลังเลิกเรียน วาโยมักจะกลับมาที่บ้านสายฟ้า คอยดูแลความเป็นอยู่ของแสงฟ้าตามหน้าที่ที่คุ้นเคย

วันเสาร์บ่าย แสงฟ้าโทรศัพท์มาหาวาโยด้วยน้ำเสียงค่อนข้างหงุดหงิด "วาโย เอาเสื้อตัวใหม่ที่ฉันสั่งไว้ไปให้หน่อย อยู่ในห้องแต่งตัว ชั้นสอง ห้าง XXX ตรงบูติกกีฬา" วาโยรับคำอย่างรวดเร็ว แม้จะไม่ค่อยคุ้นเคยกับห้างสรรพสินค้าหรูหราใจกลางเมืองเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเป็นคำสั่งของแสงฟ้า เขาก็พร้อมจะไปเสมอ วาโยขึ้นรถไปกับลุงชัย

เมื่อวาโยมาถึงห้างสรรพสินค้าตามที่บอก บรรยากาศที่เย็นฉ่ำและผู้คนพลุกพล่านทำให้เขารู้สึกเกร็งเล็กน้อย เขาเดินวนหาบูติกกีฬาตามป้ายบอกทาง จนกระทั่งเห็นกลุ่มเด็กหนุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ยืนล้อมวงกันอยู่ด้านหน้า หนึ่งในนั้นคือแสงฟ้า ที่กำลังหัวเราะเสียงดังกับเพื่อน ๆ วาโยสังเกตเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ใบหน้าทะเล้น มีเสน่ห์ กำลังยืนคุยกับแสงฟ้าอย่างสนิทสนม เด็กหนุ่มคนนั้นคือ ชิดชล เพื่อนร่วมกลุ่มของแสงฟ้าที่วาโยเคยได้ยินชื่อมาบ้าง

วาโยเดินเข้าไปใกล้ ๆ ตั้งใจจะส่งเสื้อให้แสงฟ้าเงียบ ๆ แต่ชิดชลสังเกตเห็นเขาก่อน "อ้าว แสงฟ้า ใครมาน่ะ?" ชิดชลหันมามองวาโยด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร ดวงตาคมเป็นประกายเล็กน้อย วาโยรู้สึกประหม่าเล็กน้อยภายใต้สายตาคู่นั้น

"อ๋อ...วาโย ลูกน้องที่บ้านน่ะ" แสงฟ้าตอบด้วยน้ำเสียงที่วาโยรู้สึกได้ถึงความไม่ใส่ใจเล็กน้อย แต่วาโยก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงแค่ส่งยิ้มสุภาพให้ชิดชล

"สวัสดีครับ" วาโยเอ่ยทักทายตามมารยาท

"สวัสดีครับ วาโย...ชื่อเพราะดีนะ" ชิดชลตอบกลับด้วยรอยยิ้มกว้างขึ้น ทำเอาแก้มของวาโยร้อนผ่าวเล็กน้อย ไม่บ่อยนักที่จะมีคนนอกให้ความสนใจเขาแบบนี้

แต่แล้วรอยยิ้มของวาโยก็ต้องหุบลง เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาคมกริบที่จ้องมองมาอย่างไม่พอใจ แสงฟ้ามองวาโยกับชิดชลสลับกัน ดวงตาคู่สวยฉายแววหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ความรู้สึกหวงแหนวาโยอย่างรุนแรงปะทุขึ้นในใจของแสงฟ้า เขาไม่ชอบใจที่เห็นวาโยสนิทสนมกับคนอื่น โดยเฉพาะกับคนที่ดูเหมือนจะ "จีบ" วาโยอย่างออกนอกหน้า

"เอาเสื้อมานี่" แสงฟ้าเอ่ยเสียงเข้ม พลางยื่นมือมารับถุงจากวาโยอย่างแรงจนวาโยเกือบทำตก "ไปรอที่รถ ฉันมีธุระต่อกับเพื่อน" น้ำเสียงแข็งกระด้างนั้นทำให้บรรยากาศรอบข้างเงียบลง เพื่อนคนอื่น ๆ ของแสงฟ้ามองหน้ากันอย่างงง ๆ

วาโยรู้สึกชาไปทั้งตัวกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของแสงฟ้า เขาก้มหน้า "ครับคุณแสงฟ้า" แล้วรีบเดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้น หัวใจเต้นแรงด้วยความรู้สึกสับสนและเสียใจ

เมื่อวาโยเดินพ้นกลุ่มเพื่อนไป แสงฟ้าก็หันกลับไปหาชิดชลด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน "โทษทีว่ะ พอดีมีเรื่องต้องจัดการ" เขาพูดเสียงห้วน ๆ แล้วเดินตามวาโยออกไป ทิ้งให้เพื่อน ๆ มองตามด้วยความสงสัย

เมื่อแสงฟ้าตามวาโยมาถึงรถ เขากระชากแขนวาโยอย่างแรงจนวาโยเซไปชนกับประตูรถ "เมื่อกี้คุยอะไรกับชิดชล?" น้ำเสียงของแสงฟ้าต่ำและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

"ผะ...ผมแค่ทักทายตามมารยาทครับคุณแสงฟ้า ไม่มีอะไรจริง ๆ" วาโยตอบเสียงสั่น เขากลัวสายตาที่แข็งกร้าวของแสงฟ้าในตอนนี้

"ไม่ต้องไปยุ่งกับมันอีก เข้าใจไหม? นายเป็นของฉัน คนเดียว!" แสงฟ้าพูดเสียงลอดไรฟัน ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์ด้วยความหึงหวง คำพูดที่แสดงความเป็นเจ้าของอย่างโจ่งแจ้งนั้น ทำให้วาโยทั้งตกใจและรู้สึกแปลกประหลาด ความกลัวยังคงมีอยู่ แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนลึกอยู่ในใจก็เริ่มสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้

ในค่ำคืนนั้นเอง ในห้องนอนที่มืดมิดของแสงฟ้า หลังจากที่คนในบ้านหลับกันหมดแล้ว วาโยถูกเรียกเข้าไป แสงไฟสลัวจากโคมไฟข้างเตียงเผยให้เห็นใบหน้าคมคายของแสงฟ้าที่ยังคงฉายแววไม่พอใจ

"นายรู้ใช่ไหมว่านายเป็นของใคร?" แสงฟ้าเอ่ยเสียงกระซิบแผ่วเบา แต่แฝงไว้ด้วยอำนาจที่วาโยไม่อาจขัดขืน

วาโยก้มหน้าต่ำ ไม่กล้าสบตา "ครับ..."

แสงฟ้าเอื้อมมือมาเชยคางวาโยเบา ๆ บังคับให้เงยหน้าขึ้น ดวงตาของทั้งสองสบกันอย่างลึกซึ้ง เป็นครั้งแรกที่วาโยได้เห็นความรู้สึกที่ซับซ้อนในแววตาของแสงฟ้า ไม่ใช่แค่ความหึงหวง แต่ยังมีความปรารถนาที่ร้อนแรงจนวาโยรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว

"อย่ามองคนอื่น...มองแค่ฉัน เข้าใจไหม?" แสงฟ้ากระซิบชิดริมฝีปากวาโย ก่อนที่ริมฝีปากของทั้งสองจะประกบกันอย่างแนบแน่น เป็นจูบแรกภายใต้เงามืดแห่งความลับ จูบที่แสดงออกถึงความหวงแหน ความต้องการ และความรู้สึกที่เกินเลยกว่าคำว่าเพื่อน หรือเจ้านายกับคนรับใช้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองได้ก้าวข้ามเส้นบาง ๆ ไปแล้วอย่างเงียบเชียบ ภายใต้ความลับที่ต้องปกปิดไปอีกนานแสนนาน




------------------------
นิยายจบแล้วนะครับ
สั่งจอง หรือสั่งซื้อได้ที่

ลิงก์นี้
แสงฟ้า วาโย
https://www.mebmarket.com/?store=publisher&action=home_page&publisher_id=13514532&publisher_name=%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%B8
46
Boy's love story / Re: ------------ แสงฟ้า วาโย ------------ ตอนที่ 2 ------------
« กระทู้ล่าสุด โดย พงศ์ภาณุ เมื่อ 07-10-2025 16:39:48  »
บทที่ 2
ความรู้สึกที่เริ่มเบ่งบาน

แสงแดดอ่อนในยามเช้าสาดส่องผ่านผ้าม่านโปร่งเข้ามาในห้องนอน แสงฟ้าขยับตัวเล็กน้อยบนเตียงกว้าง ส่วนวาโยที่นั่งรออยู่ข้างเตียงตั้งแต่เช้าตรู่ก็รีบดึงผ้าห่มผืนหนาออก "คุณแสงฟ้าครับ ได้เวลาแล้วครับ" เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้น เขารินน้ำใส่แก้ววางไว้ข้างหัวเตียง พร้อมหยิบเสื้อนักเรียนของแสงฟ้าที่รีดเรียบกริบเตรียมไว้ให้ทุกวัน

ช่วงเวลาที่ทั้งสองเติบโตจากเด็กชายตัวเล็ก ๆ สู่ช่วงประถมปลายจนถึงมัธยมต้น คือช่วงเวลาที่ความผูกพันของพวกเขาแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อย ๆ แสงฟ้าและวาโยไปโรงเรียนด้วยกันทุกวัน แม้โรงเรียนของวาโยจะเป็นโรงเรียนวัดเล็ก ๆ ห่างจากโรงเรียนของแสงฟ้าไม่กี่กิโลเมตร แต่รถยนต์คันเดียวกันก็ยังคงเป็นพาหนะพาพวกเขาไปส่งในแต่ละวัน ภาพเด็กหนุ่มสองคนใน
ชุดนักเรียนต่างสถาบันแต่เดินเคียงข้างกันในบริเวณบ้านสายฟ้าเป็นสิ่งที่คนในบ้านคุ้นชิน

กิจกรรมหลังเลิกเรียนของทั้งสองก็ยังคงวนเวียนอยู่ด้วยกันเสมอ แสงฟ้ามักจะให้วาโยช่วยติวการบ้าน หรือเล่นเกมในคอมพิวเตอร์ด้วยกันในห้องส่วนตัวของแสงฟ้า ความใกล้ชิดที่มากขึ้น ทำให้แสงฟ้าเริ่มแสดงความเป็นเจ้าของวาโยออกมาในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ วันหนึ่งที่โรงเรียนวัดของวาโยจัดงานกีฬา มีเพื่อนร่วมชั้นพยายามจะเข้ามาพูดคุยและชวนวาโยไปซ้อมวิ่งผลัด แสงฟ้าที่บังเอิญไปรอรับวาโยที่หน้าโรงเรียน กลับส่งสายตาเย็นชามาให้เพื่อนคนนั้น จนอีกฝ่ายต้องรีบผละออกไป วาโยรับรู้ได้ถึงรัศมีอำนาจที่แผ่ออกมาจากแสงฟ้า ทำให้เขาต้องรีบเดินเข้าไปหาทันที

"ไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น? ช้าจริง" แสงฟ้าเอ่ยเสียงเรียบ แต่แฝงแววไม่พอใจเล็กน้อย วาโยก้มหน้านิด ๆ "เปล่าครับคุณแสงฟ้า เพื่อนชวนไปซ้อมวิ่งครับ" แสงฟ้าเลิกคิ้ว "ไม่เห็นต้องไปเลย ไม่ใช่เรื่องของนาย" เขาพูดแค่นั้นแล้วก็เดินนำไปที่รถ วาโยทำได้แค่เดินตามไปเงียบ ๆ ความรู้สึกหงุดหงิดจากการถูกคุกคามของแสงฟ้าค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจ แต่มันก็ถูกกลบด้วยความรู้สึกดี ๆ ที่ได้รับจากความเป็นห่วงในแบบของแสงฟ้าเอง

ความผูกพันของพวกเขาเริ่มลึกซึ้งเกินกว่าคำว่าเพื่อนหรือเจ้านายกับคนรับใช้ ในคืนที่พายุเข้าอย่างหนัก แสงฟ้าไม่สบาย มีไข้สูง วาโยเป็นคนแรกที่รับรู้ถึงอาการผิดปกติ เขาเฝ้าเช็ดตัวและดูแลแสงฟ้าตลอดทั้งคืน ไม่ได้หลับเลยแม้แต่นาทีเดียว แสงฟ้าในยามป่วยดูอ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาซบหน้ากับอกวาโยอย่างแผ่วเบา และเอ่ยพึมพำด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า "วาโย...อย่าไปไหนนะ" คำพูดนั้นตรึงอยู่ในใจวาโยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความรู้สึกพิเศษที่แตกต่างจากความผูกพันแบบพี่น้องหรือเพื่อนเริ่มเบ่งบานในใจของวาโย มันเป็นความรู้สึกที่เขาเองก็ไม่เข้าใจทั้งหมด แต่รู้เพียงว่ามันอบอุ่น ห่วงใย และเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะอยู่ใกล้แสงฟ้าตลอดไป

วาโยเริ่มเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นไว้ในส่วนลึกของหัวใจ เขาตระหนักดีถึงฐานะของตนเอง กับฐานะของคุณหนูผู้สูงศักดิ์อย่างแสงฟ้า ช่องว่างทางสังคมนั้นกว้างใหญ่เกินกว่าจะก้าวข้าม แต่ทุกครั้งที่แสงฟ้าเอ่ยคำสั่ง หรือแสดงความเป็นเจ้าของ วาโยก็อดใจไม่ได้ที่จะรู้สึกดี แม้จะรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่อาจเป็นจริงได้เลยก็ตาม


------------------------
นิยายจบแล้วนะครับ
สั่งจอง หรือสั่งซื้อได้ที่

ลิงก์นี้
แสงฟ้า วาโย
https://www.mebmarket.com/?store=publisher&action=home_page&publisher_id=13514532&publisher_name=%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%B8

47
Boy's love story / Re: ------------ แสงฟ้า วาโย ------------ ตอนที่ 1 ------------
« กระทู้ล่าสุด โดย พงศ์ภาณุ เมื่อ 07-10-2025 16:38:23  »
บทที่ 1
จุดเริ่มต้นของความผูกพัน


แสงแดดยามเช้าสาดผ่านบานหน้าต่างไม้ของเรือนคนใช้ กลิ่นอ่อน ๆ ของใบเตยในน้ำต้มที่ป้าบุญล้อมเคยชงให้ทุกเช้า กลายเป็นความทรงจำจางๆ ที่ยังตกค้างอยู่ในใจของเด็กชายวาโย วาโยนั่งนิ่งอยู่ตรงริมเตียงไม้เก่า เงียบงัน ดวงตาคู่นั้นเหม่อมองกรอบรูปสีซีดที่ตั้งอยู่ข้างหัวเตียง รูปใบเล็กที่มีหญิงสาวในชุดผ้าถุง ยิ้มแผ่วให้กล้อง

"แม่..." เขากระซิบเสียงเบา ราวกับกลัวว่าหากพูดดังไป ภาพนั้นจะหายไปอีกครั้ง

แม้จะจำใบหน้าของแม่ได้เพียงลางเลือน แต่ความรู้สึกว่างเปล่าจากการไม่มีเธออยู่ข้างกาย กลับฝังแน่นอยู่ในใจลึกกว่าอะไรทั้งหมด ไม่มีใครเคยบอกเขาว่าแม่จากไปเพราะเหตุใด และพ่อคือใคร บางครั้งเขาฝันถึงเสียงกล่อมเบา ๆ ที่ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือเพียงภาพที่สมองของเด็กน้อยผู้โหยหาความรักสร้างขึ้นมา

โชคดี…เขายังมีบ้านหลังนี้

บ้านหลังใหญ่กลางสวนสวยของตระกูล “สายฟ้า” คือสถานที่ที่วาโยเติบโตมา คุณวิรุฒและคุณรัศมี—เจ้าของบ้าน ผู้ทรงอิทธิพลทั้งในวงการเมืองและธุรกิจ กลับมีเมตตาอย่างเหลือเชื่อ พวกเขาไม่ได้มองวาโยเป็นเพียง “ลูกของคนใช้” แต่เลี้ยงดูเขาเสมือนเด็กในบ้านคนหนึ่ง แม้ไม่ใช่ในนามลูกบุญธรรม แต่ก็ไม่เคยขาดสิ่งใด

วาโยช่วยงานในบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ เสมอ ตั้งแต่ยังเด็ก ป้าบุญล้อมเคยบอกไว้ว่า “การทำงานคือหน้าที่ของคนรับใช้ แต่การอยู่ร่วมกันด้วยความรัก คือหน้าที่ของคนในบ้าน” วาโยเชื่อฟังเสมอ

เช้าวันนี้ก็เช่นกัน เด็กชายตัวผอมในเสื้อยืดตัวเก่าเดินถือกระเป๋านักเรียนมาวางไว้ที่หน้าห้องของ “คุณแสงฟ้า” ลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล ผู้อยู่ในวัยเดียวกันกับเขา แต่ต่างกันราวฟ้ากับดิน แสงฟ้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมประจำเมืองอันดับหนึ่ง มีครูพิเศษและรถรับส่งส่วนตัว ขณะที่วาโยไปโรงเรียนวัดใกล้บ้านด้วยจักรยานคันเก่า

“วาโย! มานี่สิ!” เสียงเรียกคุ้นเคยจากสนามหญ้าหลังบ้านดังขึ้นมา

เด็กชายวาโยรีบวิ่งไปตามเสียงนั้น พลันเห็นแสงฟ้าในชุดนักเรียนเนี้ยบ วิ่งไปวิ่งมาอยู่กลางสนามกว้าง รายล้อมด้วยต้นลีลาวดีและร่มเงาของไม้ใหญ่

“วันนี้เราเล่นปล้นบ้านกัน นายต้องเป็นโจรที่ซ่อนตัวนะ!” แสงฟ้าสั่งด้วยท่าทางจริงจัง

“ได้สิ!” วาโยตอบรับทันที ดวงตาเป็นประกาย เขาวิ่งไปหลบหลังพุ่มไม้ ก่อนจะโผล่หน้ามายิ้มกว้างให้แสงฟ้า

แสงฟ้า หัวเราะเสียงใส “อย่าทำให้ฉันจับได้นะเจ้าโจร!”

เกมปล้นบ้านกลายเป็นกิจกรรมประจำยามเย็นของทั้งคู่ บางครั้งเป็นเกมสืบสวน บางครั้งเป็นเกมสร้างเมือง พวกเขาวิ่งเล่นทั่วสนาม ย่ำพื้นหญ้าเขียวที่ราวกับมีไว้ให้เด็กสองคนได้ทิ้งวัยเยาว์ไว้บนนั้น

แม้จะอยู่คนละโลก แต่หัวใจกลับเติบโตเคียงกันอย่างกลมกลืน

วาโยรู้ดีว่าแสงฟ้าเป็นคนสำคัญของบ้าน เป็นคนที่ต้องเงยหน้ามอง เป็นเจ้าของชีวิตที่หรูหรา… แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกว่าแสงฟ้าดูถูกเขา ไม่เคยเลยสักครั้ง

ในสายตาแสงฟ้า วาโยคือเพื่อน…หรืออาจจะมากกว่านั้น แต่ในวัยเด็ก พวกเขายังไม่มีถ้อยคำที่จะเรียกความรู้สึกเหล่านั้นได้ชัดเจน

มีเพียงคำเรียกสั้น ๆ “วาโย!” กับรอยยิ้มยามวิ่งเล่น
และคำตอบที่เปี่ยมด้วยความเชื่อฟัง “ได้สิ”
ที่ค่อย ๆ หล่อเลี้ยงความผูกพันลึกซึ้งให้เติบโตในใจโดยไม่มีใครรู้ตัว

ยามเย็นวันหนึ่ง แสงฟ้านั่งวาดภาพที่ม้านั่งในสวน วาโยนั่งข้าง ๆ คอยส่งสีไม้ให้ มือเล็กสัมผัสกันอย่างไม่ตั้งใจ วาโยชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะแผ่ว ๆ

“นายวาดเก่งจัง…” เขาเอ่ย

“แน่นอนสิ ฉันวาดนายอยู่นี่ไง” แสงฟ้ายิ้ม เขาไม่ได้หันมามองวาโย แต่ดวงตาในรูปภาพนั้น กลับมีแววเศร้าแปลก ๆ อย่างที่วาโยเองก็ไม่เข้าใจ

วันเวลาผ่านไป ความรู้สึกบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นในความเงียบ
ไม่ใช่เพียงแค่ความอบอุ่นในฐานะเพื่อน
ไม่ใช่แค่ความคุ้นเคยในฐานะคนร่วมบ้าน
แต่เป็นบางสิ่งที่…ลึกซึ้ง ยากจะอธิบาย

และนั่นคือจุดเริ่มต้น—ของความผูกพันที่ไม่มีชื่อเรียก
จุดเริ่มต้นของ “แสงฟ้า” และ “วาโย”

------------------------
นิยายจบแล้วนะครับ
สั่งจอง หรือสั่งซื้อได้ที่

ลิงก์นี้
แสงฟ้า วาโย
https://www.mebmarket.com/?store=publisher&action=home_page&publisher_id=13514532&publisher_name=%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%B8

48
Boy's love story / ------------ แสงฟ้า วาโย ------------
« กระทู้ล่าสุด โดย พงศ์ภาณุ เมื่อ 07-10-2025 15:41:33  »
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

แนะนำเรื่อง

เสียงคลื่นกระทบโขดหินดังโครมคราม สลับกับเสียงลมหวีดหวิวราวกับบทเพลงคร่ำครวญกลางความมืดมิดของราตรี
แสงจันทร์เลือนรางสาดกระทบผิวน้ำที่กระเพื่อมไหว ลมพัดไปมาบอบบางราวกับร่างเล็กของชายคนหนึ่ง
ที่กำลังหล่นลงสู่ผืนน้ำเบื้องล่างอย่างเชื่องช้า

มันคือการตัดสินใจที่ไร้ซึ่งความลังเล — ในเมื่อชีวิตนี้เขามาเพียงลำพัง ก็ขอไปเพียงลำพังเช่นกัน

ชีวิตของมนุษย์คนหนึ่ง...ทำไมจึงต้องเป็นเช่นนี้?
อะไรคือสาเหตุที่ผลักไสให้ชีวิตหนึ่งเลือกจบสิ้นลงในความอ้างว้างของท้องทะเล?

คำถามที่ไร้คำตอบนั้นถูกกลืนหายไปพร้อมกับร่างที่จมดิ่งลงสู่ความมืดมิด
ไร้ซึ่งร่องรอย เหลือไว้เพียงความว่างเปล่าที่หนักอึ้ง คล้ายเงามืดของบ้านหลังใหญ่
ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเกาะส่วนตัวอันห่างไกล

แสงไฟเพียงน้อยนิดจากหน้าต่างบานหนึ่ง
ดูราวกับดวงตาที่กำลังจับจ้องและตัดสินชะตาชีวิตซึ่งกำลังจะเลือนหายไป...
49
การเลือก อ่างล้างหน้า ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการใช้สอยและการจัดการพื้นที่ในห้องน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างสองรูปแบบยอดนิยมอย่าง อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง และ อ่างล้างหน้าแบบฝังบนเคาน์เตอร์

1. อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง (Wall-Hung Basin)
เป็นอ่างล้างหน้าที่ยึดติดกับผนังโดยตรง ไม่ต้องมีขาตั้งหรือเคาน์เตอร์ด้านล่าง เหมาะกับห้องน้ำสไตล์มินิมอล หรือห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัด

ข้อดี:
ประหยัดพื้นที่: ไม่ต้องมีเคาน์เตอร์ ทำให้ห้องน้ำ ดูกว้างขวาง และโปร่งโล่งขึ้นทันที เหมาะสำหรับ ห้องน้ำขนาดเล็ก หรือห้องน้ำแขก
ทำความสะอาดง่าย: พื้นที่ใต้ท้องอ่างโล่ง ทำให้ทำความสะอาดพื้นห้องน้ำได้ง่ายและทั่วถึง ไม่มีการสะสมของฝุ่นและความชื้นใต้ตู้
ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว: มีขั้นตอนการติดตั้งที่ซับซ้อนน้อยกว่าการทำเคาน์เตอร์
ปรับระดับความสูงได้: สามารถกำหนดความสูงของอ่างให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานได้ง่าย

ข้อเสีย:
ขาดพื้นที่จัดเก็บ: ไม่มีพื้นที่สำหรับวางของใช้ส่วนตัว เช่น สบู่ แปรงสีฟัน หรือเครื่องสำอางอย่างเพียงพอ
งานระบบท่อโชว์: ท่อน้ำทิ้งและงานระบบใต้อ่างอาจจะดูไม่เรียบร้อย หากต้องการปกปิดต้องเลือกใช้รุ่นที่มีขาอ่างครึ่ง/เต็ม หรือติดตั้งร่วมกับตู้เก็บของแบบแขวน
ผนังต้องแข็งแรง: ต้องมั่นใจว่าผนังมีความแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักตัวอ่างและแรงกดจากการใช้งานได้



2. อ่างล้างหน้าแบบฝังบนเคาน์เตอร์ (Drop-in / Self-Rimming Basin)
อ่างล้างหน้าแบบฝัง เป็นอ่างที่ถูกฝังลงในเคาน์เตอร์หรือท็อปอ่าง โดยมีขอบอ่างยื่นพ้นเคาน์เตอร์ขึ้นมาเล็กน้อย เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงเพราะตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและความสวยงาม

ข้อดี:
เพิ่มพื้นที่ใช้สอยและการจัดเก็บ: มี เคาน์เตอร์ ขนาดใหญ่สำหรับวางของใช้ ทำให้ห้องน้ำเป็นระเบียบเรียบร้อย
ความสวยงามหรูหรา: ดีไซน์ดูกลมกลืนและเป็นส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์ ทำให้ห้องน้ำดู หรูหรา ทันสมัย
ปกปิดงานระบบ: โครงสร้างเคาน์เตอร์ช่วย ปกปิดท่อน้ำทิ้ง และงานระบบทั้งหมดได้อย่างมิดชิด
แข็งแรงทนทาน: มีฐานรองรับน้ำหนักที่ดีเยี่ยม

ข้อเสีย:
เปลืองพื้นที่: ต้องใช้พื้นที่มากในการติดตั้งเคาน์เตอร์ จึงไม่เหมาะกับห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัด
ทำความสะอาดยากกว่า: รอยต่อระหว่างขอบอ่างกับเคาน์เตอร์มีโอกาสเกิดคราบสกปรก หรือเชื้อราสะสมได้ง่าย ต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
ราคาสูงกว่า: มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับเคาน์เตอร์และท็อปอ่าง

50
Boy's love story / Re: Love, In Every Lifetime : ตอนที่ 26 : The Devil Wears Cartier
« กระทู้ล่าสุด โดย Milky_Milky_Way เมื่อ 07-10-2025 11:18:00  »
เป็น 3 สัปดาห์ที่ยาวนานและทรมานที่สุดในชีวิต แต่ละวันผ่านไปอย่างเชื่องช้า ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนอนแค่หายใจให้ทั่วท้องยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เข็มของนาฬิกาบนผนังยังคงเดินไปข้างหน้าตามจังหวะเดิม แม้ว่าผมจะภาวนาขอให้มันเร็วกว่านี้อีกซักหน่อย

หน้าจอ smart phone ในมือเปิดค้างอยู่ที่ inbox ของ FB นิ้วโป้ง slide หน้าจอขึ้นไปบนสุดเพื่อไล่ดูข้อความเก่าๆ ที่เราส่งหากัน และเผลอยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัวจนกระทั้งถึงข้อความที่จีส่งมาล่าสุดในวันที่เราทะเลาะกัน

ห้องที่อยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้มันกว้างและเงียบเหงาเกินไปเมื่อไม่มีจีนั่งอยู่ข้างๆ


----------

#เหงาจับใจ ##The Devil Wears Cartier
#LoveInEveryLifetime #รักนะ #ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกัน
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10
สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด