กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 ... 6 7 8 9 [10]
91
เยี่ยมแวะวิมาน | ตอนที่ 50 — เหนื่อยแค่ไหน ก็ยังอยากนั่งหันหน้ากับมึง

วันพุธ – สองสัปดาห์หลังกลับจากยุโรป

21:48 น. | คอนโดห้องเดิม — แต่เวลาคนละแบบ

ดินสอนั่งที่โต๊ะทำงาน
แบบร้านคาเฟ่ญี่ปุ่นที่ต้องส่งให้ลูกค้าคืนนี้
สายตาเริ่มพร่า
มือจับสไตลัสแน่น
คาเฟอีนหมดฤทธิ์ไปตั้งแต่หนึ่งทุ่ม



อีกฝั่งของห้อง — ภัทรนั่งโทร Zoom อยู่หน้าโน้ตบุ๊ก
ประชุมกับทีมฝั่ง Berlin ที่เพิ่งเปิดดีลใหม่
สีหน้าเริ่มเครียด เสียงเริ่มแข็ง
“แต่ถ้า delay เราก็ต้อง rescope ฟีเจอร์ทั้งหมดนะครับ ไม่งั้นทีม dev ฝั่งไทยจะรับไม่ทันแล้ว!”



ห้องทั้งห้องเงียบ
มีแต่เสียงพิมพ์ เสียงประชุม
และเสียงถอนหายใจสลับกันเบา ๆ

23:05 น. | ดินสอลุกจากโต๊ะ… มาหยุดตรงหน้าภัทร

“กูทำอาหารไว้นะ ไม่ต้องอุ่น กินได้เลย”

ภัทรหันมา:
“มึงยังไม่ได้นอนเลยเหรอ”

“ยัง… แต่กูรู้ว่ามึงก็ยังไม่ได้กินข้าวเหมือนกัน”

ภัทรถอนหายใจเบา ๆ
ก่อนจะดึงดินสอเข้ามากอดช้า ๆ
ทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังไม่ปิดคอม

“ขอบใจนะ… ถึงมึงจะไม่พูดอะไรก็เถอะ
แต่กูรู้ว่ามึงเหนื่อย… แล้วก็ยังไม่ล้มเลิกความพยายามอยู่ดี”



01:17 น. | ไฟในห้องดับ — เตียงเงียบ แต่หัวใจยังเต็ม

คืนนี้ไม่มีจูบ
ไม่มีแม้แต่บทสนทนายาว ๆ
แค่สองร่างนอนข้างกัน
ในท่าที่อาจจะเมื่อยหน่อย แต่รู้สึกปลอดภัย



เช้า — ตี 5:58 น. | เสียงนาฬิกาปลุกดัง

ดินสอสะลึมสะลือ ลุกไปก่อน

เดินไปปิดไฟห้องครัวที่ลืมไว้
หันมาเห็นภัทรยังนอนคว่ำหน้าอยู่
กล้ามแน่น ๆ พาดขวางหมอน
เสื้อหลุดไปครึ่งตัว

ดินสอยิ้มเบา ๆ แล้วพูดกับตัวเองในใจ

“ยังไม่ต้องเป็นวิมานใหญ่ก็ได้… แค่เป็นบ้านที่มีคนนี้อยู่ก็พอแล้วตอนนี้”



แม้ภารกิจจะเริ่มหนัก
แม้เวลาจะไม่เหมือนเดิม
แต่การหันหน้าเข้าหากันในทุกคืนก่อนนอน
มันกำลัง “เปลี่ยนชีวิต” ของคนสองคนทีละนิด

และใช่…
มันเหนื่อย
แต่มันยัง “ทนไหว”
เพราะเขารู้ว่า พรุ่งนี้จะยังตื่นมาแล้วเจออีกคนอยู่ตรงนี้เสมอ
92
เยี่ยมแวะวิมาน | ตอนที่ 49 — คืนนั้นในคอนโดของเรา…ที่เคยไม่เหมือนเดิม

เวลา 20:15 น. | คอนโดห้อง 2602 ย่านสุขุมวิท

เสียงเปิดประตูดัง ติ๊ด เบา ๆ
ก่อนที่ประตูจะเปิดออก และคนสองคนจะยืนมองเข้าไปในห้องพัก
ห้องที่เคยนอนด้วยกันบ่อยมากในช่วงปีแรก ๆ ของความรัก
แต่ในช่วงปีหลัง ๆ… กลับห่างเหินกันโดยไม่มีคำพูด

ภัทรวางกระเป๋าลงช้า ๆ
เปิดไฟห้องนั่งเล่น
ไฟสีอุ่นส่องลงบนโซฟาสีเทาที่เคยเป็นที่โปรดของดินสอ

ดินสอเดินตามเข้ามา ไม่พูดอะไร
แค่ยืนเงียบ ๆ มองรอบห้อง
ที่เคยมีเสียงหัวเราะ… และเสียงทะเลาะ
บางมุมยังมีกล่องของขวัญที่ไม่ได้เปิด
และในครัว…มีช้อนที่ไม่เคยใช้



ภารกิจที่ 1 — ทำอาหารเย็นด้วยกัน

“วันนี้ไม่สั่งข้าวนะ” ภัทรพูด
“ลองทำด้วยกันดู กูก็อยากใช้ครัวซะที”

ดินสอพยักหน้า แต่ไม่ได้ปฏิเสธ
ทั้งคู่เริ่มหยิบของจากตู้เย็น
พบว่า…ของหมดอายุครึ่งตู้
ดินสอหัวเราะ: “คือพอมึงไม่อยู่ กูก็ไม่ได้มาบ่อย… แล้วตอนอยู่ก็ไม่เปิดตู้เย็นเลยไง”

ภัทรยิ้มแหย
“กูก็เหมือนกันว่ะ…”



สองคนเริ่มล้างผัก
แยกวัตถุดิบ
ต้มซุปง่าย ๆ
ผัดไข่กับข้าว
และระหว่างนั้น…

เสียงช้อนกระทบกระทะ
เสียงน้ำเดือด
เสียงหัวใจที่ค่อย ๆ เต้นสอดกันอีกครั้ง



ภารกิจที่ 2 — พับผ้าด้วยกัน

หลังจากอาบน้ำเสร็จ
ตะกร้าผ้าเก่า ๆ ในห้องน้ำเต็มไปด้วยเสื้อผ้าที่ไม่ได้พับตั้งแต่ก่อนทริป

“เดี๋ยวช่วยพับหน่อยนะ กองนี้มันหลอนกูมาหลายเดือนแล้ว”
ภัทรว่า

ดินสอพับเสื้อเสร็จก็วางเรียงบนเตียง
“เสื้อมึงนี่ต้องพับยากกว่าชาวบ้านอีก แขนแม่งใหญ่เป็นตึก”

ภัทรหัวเราะ: “กูก็ต้องฟิตไว้เผื่อมีคนใช้แขนกูเป็นหมอนข้างอะดิ”



ภารกิจที่ 3 — นอนด้วยกันในห้องเดิม…ที่เคยไม่เหมือนเดิม

ทั้งคู่ขึ้นเตียง
ไฟหัวเตียงดับ
ในความมืด…ได้ยินแต่เสียงหายใจ และเสียงแอร์เบา ๆ

ดินสอ:
“ตอนนั้นที่เราทะเลาะกันบ่อย ๆ กูกลัวมานอนที่นี่นะ”
“กลัวเงียบ… กลัวมองหน้าแล้วไม่รู้จะคุยอะไร”

ภัทรตอบเบา ๆ:
“กูก็กลัวเหมือนกัน…
แต่ตอนนี้กูไม่กลัวแล้วว่ะ เพราะต่อให้ไม่รู้จะคุยอะไร กูก็อยากอยู่ข้างมึงมากกว่าอยู่คนเดียว”



มือข้างหนึ่งของดินสอค่อย ๆ เอื้อมมาจับมือภัทรใต้ผ้าห่ม

“คืนนี้เราไม่ต้องมีอะไรนะ…” ดินสอพูด
“แค่ได้นอนด้วยกัน…ก็พอ”

ภัทรบีบมือนั้นแน่นขึ้น

“พรุ่งนี้กูอาจยังเป็นคนที่พูดแรงบ้าง… ลืมฟังบ้าง…
แต่มึงจะเห็นว่ากูพยายามจริง ๆ”



ในความเงียบของห้องคอนโด
เตียงเดิม ผ้าห่มเดิม
แต่เสียงหัวใจ…ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

คืนนี้ไม่ใช่คืนโรแมนติกแบบยุโรป
แต่เป็นคืนที่ คนสองคนพยายามหันเก้าอี้เข้าหากันในบ้านของตัวเอง

และนั่น…มันยากกว่าแค่จูบกันเสียอีก
93
เยี่ยมแวะวิมาน | ตอนที่ 48 — แค่หันเก้าอี้เข้าหากัน เราก็เห็นหน้ากันชัดขึ้น

วันจันทร์ – หนึ่งสัปดาห์หลังกลับจากยุโรป

เช้าอันเงียบเหงา
เสียงนาฬิกาปลุกจากคนละมุมของกรุงเทพฯ
เตือนให้รู้ว่า วิมาน 20 วันจบลงแล้ว… แต่ชีวิตยังต้องไปต่อ



สำนักงานของภัทร – สตาร์ทอัปเทคฯ ชั้น 34 ย่านอโศก

ภัทรยืนหน้าโต๊ะประชุม
สไลด์เบื้องหลังคือโลโก้บริษัทใหม่ที่เพิ่งปิดดีลจากยุโรป
แต่ในใจกลับคิดถึงอย่างเดียว…

“เมื่อคืนดินสอนอนถึงกี่โมงวะ”



เสียงเลขาดังขึ้นขัดจังหวะ:
“คุณภัทรคะ ลูกค้าญี่ปุ่นขอเลื่อนประชุมเป็นบ่ายโมงนะคะ”

ภัทรพยักหน้า แล้วพึมพำกับตัวเองเบา ๆ:
“กูต้องโทรหามึงตอนเที่ยงให้ได้เลยนะ ดินสอ…”



อีกฝั่งของเมือง – สตูดิโอเล็ก ๆ ใกล้พระราม 9

ดินสอ นั่งหน้าจอ Mac Studio
เปิดไฟสีวอร์มในห้องที่มีแต่เสียงเพลงคลาสสิก
โปรเจกต์ออกแบบร้านกาแฟในลิสบอนอยู่ตรงหน้า
แต่มือขวากำลังวาดเส้นเดียววน ๆ ซ้ำ

ใจลอยไปที่คนตัวใหญ่ที่เคยนอนข้าง ๆ ทุกคืน

เสียงแจ้งเตือน LINE เด้งขึ้น:

ภัทร:
“กินข้าวยังมึง”

ดินสอยิ้มมุมปากเล็ก ๆ

ดินสอ:
“ข้าวสั่งแล้ว ยังไม่ได้เคี้ยว”
“มึงล่ะ”



กลางวันวันเดียวกัน – โทรศัพท์ดังขึ้น

ภัทร: “กูแค่โทรมาฟังเสียงว่ามึงยังอยู่ดี”
ดินสอ: “เมื่อคืนก็อยู่ดี… แค่นอนไม่มีคนกอดเท่านั้นเอง”

เสียงภัทรเงียบไปนิด
ก่อนจะพูดแบบคนที่เริ่มหัดฟัง

ภัทร:
“กูไม่ใช่คนพูดเก่งเรื่องพวกนี้ แต่… กูพยายามอยู่นะเว้ย
กูไม่อยากให้มึงเป็นคนหันเก้าอี้เข้ามาคนเดียวแล้วเหนื่อยอยู่ฝ่ายเดียว”



ค่ำวันนั้น – ทั้งสองต่างอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
ในห้องที่เคยเงียบ… แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไป

ดินสอเปิดโน้ตในไอแพด
เขียนหัวข้อไว้ว่า
“Project: บ้านหลังใหม่ของเรา (เผื่ออนาคต)”



ภัทรนั่งพิงเก้าอี้
มือถือสมุดวาดเล่น แล้ววาดภาพดินสอในเสื้อคลุมโรงแรม
เขียนไว้ใต้ภาพว่า
“สิ่งที่กูอยากตื่นมาเห็นทุกเช้า”



คืนนั้น ทั้งคู่ไม่ได้วิดีโอคอล
แค่ทิ้งข้อความไว้ก่อนนอน

ภัทร:
“วันนี้กูอาจยังไม่เก่งเรื่องความรัก แต่กูจะค่อย ๆ หัดไปพร้อมมึงนะ”

ดินสอ:
“แค่เก้าอี้หันเข้าหากัน… ถึงจะเหนื่อยบ้าง แต่กูก็ไม่อยากหันไปทางอื่นแล้วล่ะ”



ในความเงียบของห้องนอนทั้งสองฝั่ง
พระเอกกับนายเอกที่รักกันมานาน
ไม่ได้ต้องการอะไรหวือหวาอีก

แค่มี “ความพยายาม”
ในทุกวันธรรมดา
เพื่อให้วิมานของพวกเขา… ไม่ใช่แค่ที่พักใจ
แต่เป็นที่อยู่ที่มั่นคงตลอดไป
94
เยี่ยมแวะวิมาน | ตอนที่ 47 — ยืนรอกระเป๋า… แล้วหัวใจแม่งเหมือนยังอยู่ฝรั่งเศส

06:00 น. | สุวรรณภูมิ – วันแรกหลังกลับไทย

เสียงประกาศจากกัปตันแว่วในหู
“ขอเชิญผู้โดยสารทุกท่านปรับพนักพิงตั้งตรง ปิดโต๊ะหน้าที่นั่ง และรัดเข็มขัดนิรภัย…”

แสงแดดไทยยามเช้า สาดเข้าทางหน้าต่างขวาของเครื่อง
ภัทรลืมตาช้า ๆ
แล้วก้มลงมองคนที่หลับพิงแขนตัวเองอยู่

ดินสอยังหลับตาอยู่…แต่จับมือแฟนแน่นไม่ปล่อย
เหมือนกลัวว่าเมื่อลืมตาแล้ว ทุกอย่างจะเป็นแค่ฝัน



06:25 น. | เท้าสัมผัสพื้นไทยอีกครั้ง

กลิ่นอากาศในท่อเทียบเครื่อง
เสียงเจ้าหน้าที่พูดไทย
เสียงคนดึงกระเป๋าเดิน

ทุกอย่างดูคุ้น… แต่ในใจยังไม่ชิน

เจน (หันมา):
“กลับไทยแล้วเว้ย”

พี่แป๋ว:
“แต่ใจฉันยังอยู่ Lucerne”

พี่ดา:
“ของฉันยังติดอยู่ที่อ่างน้ำห้อง Shangri-La…”

ทุกคนหันไปมองภัทรพร้อมกันทันที

ภัทร (ยิ้มเหนื่อย ๆ):
“กูก็อยากกลับไปเอาขาของกูคืนเหมือนกัน…”



06:40 น. | ตม. สุวรรณภูมิ – ไม่มีคิวอีกต่อไป

คนไทยที่ถือ Passport รุ่นใหม่ ไม่ต้องกรอกใบ ตม.
ไม่ต้องต่อคิว
แค่เดินเข้าเลน “Thailand Passport – Autogate”
สแกนหน้า… ประตูเปิด… เสร็จ

ภัทรยืนข้างดินสอ
มองอีกฝ่ายสแกนหน้าแล้วไฟเขียวขึ้น
“กูว่ามึงยิ้มแบบนี้ มึงเหมาะกับไฟสีเขียวว่ะ”

ดินสอหันมาหัวเราะเบา ๆ:
“มึงก็รีบผ่านไปสิ… จะได้ไปยืนรอกูหน้าสายพานแบบพระเอก”

ภัทรเดินผ่าน Autogate ด้วยรอยยิ้มเบี้ยว ๆ แต่ตาหวานฉ่ำ
เหมือนแค่ผ่านจุดนี้ไป ก็เป็นอีกก้าวของชีวิตที่ “อยากอยู่กับมึงตลอดไป”



06:50 น. | สายพานรับกระเป๋า – Baggage Claim

สมาชิกคณะทัวร์ยืนเรียงกันข้างสายพาน
บางคนหาว บางคนหยิบมือถือ
แต่ดินสอยืนพิงไหล่ภัทร
แล้วพูดเบา ๆ แบบที่ไม่มีใครได้ยิน

“มึงจะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมเลยไหมวะ?”

ภัทรไม่ตอบทันที
แต่จับมือนั้นแน่นขึ้นอีกนิด

“…กูไม่รู้ว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิมไหม
แต่กูรู้ว่าหลังจากทริปนี้ กูไม่อยากอยู่โดยไม่มีมึงอีกแล้วว่ะ ดินสอ”



07:10 น. | กระเป๋าใบสุดท้ายมาถึง — และการเดินออกจาก Arrival Hall

ภาพจาก 20 วันค่อย ๆ ลอยย้อนเข้ามา
เสียงหัวเราะ เสียงเพลง เสียงทะเล
เสื้อผ้าในกระเป๋าที่เปื้อนทราย
ของฝากที่ยังไม่รู้จะให้ใคร
และกลิ่นตัวของใครบางคน…ที่ยังอยู่ในหัวใจ



“กูกลับมาถึงไทยแล้วนะ…”
ภัทรพูดเบา ๆ ข้างหูดินสอ

“อือ กูก็ด้วย”
ดินสอตอบ
ก่อนจะพูดต่อแบบไม่มองหน้าอีกฝ่าย

“แต่กูว่าหัวใจกู… ยังอยู่ที่ฝรั่งเศสกับมึงนั่นแหละ”

ภัทรหันมายิ้ม ก้มลงจูบหน้าผาก

“เดี๋ยวพากลับไปเอา…”

95
เยี่ยมแวะวิมาน | ตอนพิเศษ — ความทรงจำแต่ละคน

เสียงเครื่องยนต์ยังคงกึกก้องอ้อยอิ่งอยู่ในความคิด
ในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งในที่นั่งของตัวเอง
บนเที่ยวบินกลับประเทศไทย

ทริป 20 วันผ่านไปเหมือนภาพสไลด์
แต่ในใจของแต่ละคน… ยังไม่พร้อมจะกดปิด



ป้าอุ๊ – “ลูกฉันโตหมดแล้ว… แต่หัวใจแม่ยังหายใจได้ดีเสมอเมื่อได้ออกเดินทาง”

เธอหลับตาลงเบา ๆ
นึกถึงกลิ่นลาเวนเดอร์ที่ Provence
และเสียงหัวเราะของภัทรดินสอตอนทะเลาะกัน
“เด็กสองคนนั้น… เหมือนฉันย้อนกลับไปตอนเป็นสาว”



ลุงก้อง – “บางที… สิ่งที่ดีที่สุดของการเที่ยว ก็คือการได้ฟังคนอื่นแซวเราโดยไม่ต้องโกรธ”

เขายิ้ม
นึกถึงตอนถูกแซวว่า “มองผู้หญิงร้านน้ำหอม”
ตอนกินไวน์แดงแล้วหน้าแดง
ตอนเผลอหลับแล้วกรนใส่พี่ดาบนรถไฟ

…และตอนที่ภัทรขาสั่นแต่ยังยิ้มได้



พี่แป๋ว – “ฉันซื้อกระเป๋ามา 3 ใบ แต่สิ่งที่หนักที่สุดไม่ใช่ของในกระเป๋า… แต่เป็นความคิดถึงที่ยังไม่ทันเริ่ม”

เธอกอดกล่องน้ำหอมไว้แน่น
นึกถึงตอนดินสอเลือกกลิ่นให้ภัทร
นึกถึงสายตาทั้งคู่ที่ไม่พูด…แต่เข้าใจ
เธออดไม่ได้จะอมยิ้ม

“ฉันอยากให้แฟนเก่าฉันพามาแบบนี้บ้างว่ะ…”



พี่พลอย – “ไม่คิดว่าอิตาลีกับฝรั่งเศสจะเป็นฉากรักของใครบางคนที่เรารักเหมือนน้อง”

เธอเลื่อนดูรูปที่ถ่ายให้ดินสอในตอนพระอาทิตย์ตกที่เวนิส
แล้วก็ยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงประโยคที่ดินสอพูดว่า

“ถ้าเราอยากให้เก้าอี้สองตัวหันหน้าเข้าหากัน… เราต้องเริ่มหันของเราก่อน”



พี่ดา – “วัยเรามันไม่ต้องเจอความรักใหม่… แต่ได้เห็นความรักของคนอื่น มันก็เติมเต็มดีเหมือนกัน”

เธอหยิบโน้ตในมือถือ
พิมพ์ชื่อร้านอาหารที่ชอบในทริป
กับบรรทัดหนึ่งด้านล่าง

“‘รัก’ ไม่จำเป็นต้องเริ่มใหม่… แค่ได้เห็นใครสักคนไม่ยอมแพ้ ก็คุ้มแล้ว”



พี่แม็กซ์ – “รักของเขา ทำให้เราอยากกลับไปมีรักของเราอีกครั้ง”

เขานึกถึงสายตาของภัทรเวลามองดินสอ
กับจังหวะที่เขาแซวแล้วดินสอหน้าแดง
มันเป็นความสุขที่แท้จริง

“วันหนึ่งฉันจะมีแฟนที่กล้าบอกว่า ‘คืนนี้กูจะคุมเกม’ เหมือนภัทรให้ได้”



เจน – “ความรักที่มีพยานเป็นคนทั้งทริป มันชัดกว่ารักในหนัง”

เธอมองรูปที่ถ่ายตอนดินสอกอดภัทรแน่นที่ริมทะเลสาบ Lucerne
แล้วพิมพ์แคปชั่นใน IG ไว้รอ

“ไม่ต้องอ้อน… แค่มึงอยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว”



คุณเอิร์ธ & คุณต่าย – “เราคือล่ามิชลิน… แต่ทริปนี้คือการล่าความรักของคนอื่น”

ทั้งคู่เปิดแอปจดชื่อร้านอาหาร
แล้วเขียนเชิงอรรถไว้ด้วย

– Le Jules Verne: “ตอนที่ดินสอเริ่มหึง”
– La Roue d’Or: “วันที่ภัทรเล่นดนตรีข้างถนนให้ดินสอฟัง”
– Tickets: “ค่ำคืนก่อนพัง!”



โอ๊ต & พีท – “กูไม่เคยคิดว่าผู้ชายสองคนที่เถียงกันทั้งวัน จะรักกันได้มากขนาดนี้”

โอ๊ต: “เอาจริงนะ กูก็แอบอยากได้คนแบบดินสอวะ”
พีท: “แต่กูอยากได้แบบภัทร…”
แล้วทั้งคู่ก็เงียบ… ก่อนจะพูดพร้อมกันว่า

“หรือมึงจะลองเป็นของกูก่อนดี?”



โจ – “ผมเคยคิดว่าผมอาจชอบดินสอ… แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว ว่าผมรักเวลาที่เขารักกัน”

เขาเขียนข้อความลงใน Notes:
“ครั้งหน้า… ถ้าผมมีแฟน ผมอยากให้เธอเดินเข้ามาในฝรั่งเศสในหัวใจผม แบบที่ดินสอเดินเข้าหาหัวใจของภัทร”



ภัทร – “กูไม่รู้ว่าวิมานจะอยู่ได้ตลอดไปไหม… แต่กูรู้ว่ากูจะทำให้มันอยู่ได้นานที่สุด”

เขานอนพิงเบาะ
มือจับมือดินสอแน่น

“กูยังจำตอน ป.1 ได้เลย… แล้วตอนที่กูจะตาย กูก็อยากจำมึงเป็นภาพสุดท้ายเหมือนกัน”



ดินสอ – “กูเคยกลัวว่ารักครั้งนี้จะจบลง… แต่ตอนนี้ กูไม่กลัวแล้ว”

เขามองหน้าแฟนที่หลับพิงไหล่อยู่
ก่อนจะพูดเบา ๆ

“มึงไม่ต้องเป็น Superman หรอก… แค่มึงเป็นมึงอยู่ตรงนี้ กูก็ไม่ต้องการใครอีกแล้ว”



และที่นั่งริมหน้าต่างของเครื่องบินที่กำลังบินผ่านเมฆเหนืออินเดีย

คือที่ที่หัวใจทั้ง 14 คนของทริปนี้
รู้ว่า…

“วิมาน…ไม่ได้เป็นแค่จุดหมาย
แต่มันอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป”
96
เยี่ยมแวะวิมาน | ตอนที่ 46 — สลบเหมือด บนไฟลท์แห่งความรัก

06:00 น. | ห้องพัก Shangri-La Paris — เช้าวันที่ 20

เสียงนาฬิกาปลุกของโรงแรมดังขึ้นพร้อมกับแสงแดดเช้าลอดม่านเข้ามา
บนเตียง… ภัทรนอนหมดแรง แขนกาง ขาชา หน้าท้องเต็มไปด้วยรอยเล็ก ๆ จากเล็บของดินสอเมื่อคืน

ผ้าห่มคลุมอยู่ครึ่งตัว
เหงื่อยังซึมซับอยู่ตามร่องอก และรักแร้
กล้ามแน่น ๆ ตอนนี้ดูน่วมเล็กน้อย เหมือนคนเพิ่งผ่านศึกเผด็จศึกมาราธอน 12 ชั่วโมง

ดินสอเดินออกจากห้องน้ำ
ใส่เสื้อเชิ้ตตัวหลวมของภัทร
ในมือถือแปรงสีฟันของอีกฝ่าย แล้วพูดเบา ๆ

“ตื่นได้แล้วไอ้ Superman… ต้องไปสนามบินแล้วนะ”

ภัทรครางเบา ๆ ในลำคอ
“กูยังไม่รู้สึกว่าขากูเป็นของกูเลยมึง…”

ดินสอเดินมาโยนยางอนามัยกล่องเปล่าลงถังขยะ
ก่อนจะหันมายิ้ม
“เมื่อคืนกูให้มึงคุมเกมเองแล้วนะ… พอใจยัง?”

ภัทรพยักหน้าอ่อนแรง:
“พอ… กูพอแล้ว… กูขอข้าวต้มกับเตียงไทย กูไม่ต้องการอย่างอื่นแล้ว”



07:00 น. | เช็คเอาต์ – เดินทางสู่สนามบิน Charles de Gaulle

รถโค้ชของคณะทัวร์เคลื่อนออกจากโรงแรม Shangri-La อย่างสงบงาม
วิวหอไอเฟลยามเช้าสะท้อนบนกระจกหน้าต่างราวกับภาพฝัน

พี่แม็กซ์มองภัทรที่เดินขึ้นรถช้า ๆ
“โอ๊ย มึงนี่มันไม่ใช่แค่ยอดมนุษย์แล้ว มึงคือวิมานเคลื่อนที่!”

โอ๊ต: “อาการคนขาดโปรตีน… หรือคนหมดน้ำในตัววะ”

ภัทร (นั่งปุ๊บ หลับพิงดินสอทันที):
“กูจะหลับ กูจะฝันถึงอ่างน้ำ… แต่ไม่มีมึงอยู่ในฝันนะ กูขอพักบ้าง”

ดินสอหัวเราะเบา ๆ แล้วลูบผมอีกคนเบา ๆ
“ได้… คืนนี้กูจะให้มึงพัก… สองวัน”



10:30 น. | บินกลับไทย โดยสายการบินเดิม – Business Class

เครื่องบิน Airbus A350 ลำเดิมที่เคยพาทุกคนมาสู่ฝรั่งเศส
ตอนนี้กำลังจะพาทุกคนกลับประเทศไทย พร้อมหัวใจที่แน่นด้วยความรู้สึก

ห้องโดยสาร Business Class หรูหราตามเคย
เบาะปรับนอนได้เต็มที่
เซ็ต amenity สีเทาเงิน
ผ้าห่มอุ่น กาแฟหอม และการต้อนรับอย่างมืออาชีพ

เมนูบนเครื่อง:

– Starter: กุ้งลายเสือย่างซอสซีฟู้ดฝรั่งเศส
– Main: ข้าวอบเนยกับอกเป็ดตุ๋นไวน์แดง
– Dessert: มูสช็อกโกแลตฝรั่งเศสและผลไม้สด
– Wine: Bordeaux & Champagne

ดินสอป้อนข้าวให้ภัทรที่ยังไม่ยอมตื่นเต็มตา

คุณเอิร์ธแอบถ่ายรูป แล้วบอกคุณต่ายเบา ๆ:
“นี่แหละ… คนที่ชนะใจได้ทั้งทริป ทั้งเตียง และทั้งหัวใจ”



06:00 น. (วันรุ่งขึ้น) | สนามบินสุวรรณภูมิ – กลับถึงไทย

แสงไฟในอาคารผู้โดยสารสะท้อนสายตาที่ล้าแต่เปี่ยมด้วยพลัง
ทุกคนทยอยลากกระเป๋า
บ้างแยกย้าย
บ้างกอดลา
แต่ทุกคน… ยิ้ม

ลุงก้องตะโกนแซวท้ายรถกอล์ฟ:
“ใครได้กันแล้ว ชูมือหน่อย!”

ป้าอุ๊: “อย่าชูแรง เดี๋ยวขาสั่นตกเก้าอี้!”

ภัทรกับดินสอแค่สบตากัน… แล้วจับมือกันแน่น

เพราะพวกเขาไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว
ไม่ต้องประกาศอะไรให้โลกรู้

…เพราะพวกเขารู้กันสองคนว่า

วิมานที่เคยเยี่ยมแวะมา 20 วัน
…ตอนนี้มันได้ ตั้งหลักอยู่ในใจ แล้วตลอดไป
97
เยี่ยมแวะวิมาน | ตอนพิเศษ — ฟินก่อนกลับ (คืนนี้มึงจะจำชื่อกูได้ทั้งชาติ)

21:50 น. | ห้องพัก Shangri-La Paris – คืนก่อนบินกลับไทย

ภายในห้องอันแสนหรูที่กลายเป็นสนามรบยามค่ำคืนอีกครั้ง
กลิ่นหอมของเทียนกลิ่นวนิลา
แสงไฟส้มอ่อนจากโคมทรงคริสตัล
ดินสอกำลังเปิดกระเป๋าเช็กของ… ก่อนจะหันไปเห็นบางคนยืนพิงผนัง
นุ่งผ้าเช็ดตัวไว้แค่สะโพก กล้ามขึ้นเป็นมัด ๆ
ตาแดงนิด ๆ แต่แวววิบวับเหมือนคนจะก่อการ

ภัทร (เสียงต่ำ):
“เมื่อคืนกูไม่ได้แพ้… แค่ผ่อนแรงให้มึงได้พักบ้าง”
“แต่คืนนี้… กูจะใช้ถุงยางให้หมดทั้งแผง — 3 กล่อง รวม 36 ชิ้น”
“วันนี้ กูจะเป็นคนคุมเกมเอง”

ดินสอเงยหน้าช้า ๆ
“…มึงแน่ใจ?”

ภัทรไม่พูด
แต่เดินเข้ามายกตัวดินสอขึ้นแนบอกเลยทันที



เวลาไม่ถูกจดไว้ เพราะทุกวินาทีมีแต่เสียงหอบหายใจ

จากเตียง
ไปโซฟา
จากโซฟา
ไปพรม
จากพรม
…กลับขึ้นโต๊ะกระจก

ยางกล่องแรกหมดตอน 23:15 น.
กล่องที่สองหมดตอนตีหนึ่งสิบนาที
กล่องสุดท้าย… ขาดตอนตีสองห้าสิบเจ็ด

เหงื่อเปียกทั้งตัว อกขึ้นเป็นเงา
รักแร้เปียก กล้ามแน่นสะท้อนแสงไฟ
เสียงดินสอกระซิบเบา ๆ:
“พอก่อน พอก่อน พอก่อน…”

แต่ภัทรกอดแน่น แล้วกระซิบเสียงแหบ
“มึงขอกูแบบนี้… กูหยุดไม่ได้แล้ว”



ตีสามครึ่ง — บนเตียงผ้านุ่มของห้องพักหรู
ภัทรนอนหายใจแรง
หน้าอกกระเพื่อมจนเห็นชัด
กล้ามแขนที่เคยแน่นตอนนี้ไม่มีแรงแม้แต่จะยกขึ้นปาดเหงื่อ

ดินสอนั่งคร่อมอยู่ข้าง ๆ ลูบหัวแฟนตัวโตเบา ๆ

“…พ่อ Superman ของกู”

ภัทรหันมามอง
ยังหอบ ยังเหงื่อซึม
ยังหมดแรงเหมือนคนเพิ่งโดนดูดวิญญาณ

แต่ก็ยังยิ้ม

ดินสอก้มลงกระซิบข้างหู

“แต่ถ้ามึงกล้าไปทำแบบนี้กับใครนะ กูตัดของมึงแน่”



ภัทรไม่ได้ตอบอะไร
เพราะพูดไม่ไหว
ได้แค่นอนอ้าปากหายใจ
เหมือนปลาที่เพิ่งโดนลากขึ้นบก

จบด้วยภาพของคนตัวโตนอนหมดสภาพ อกชุ่มเหงื่อ
ข้างกายคือคนตัวเล็กที่ยิ้มกวน ๆ พร้อมพูดเบา ๆ

“พักให้พอนะพ่อ Superman… พรุ่งนี้เราจะกลับบ้านของเราแล้ว”
98
เยี่ยมแวะวิมาน | ตอนที่ 45 — เช้านี้กูยังไม่ฟื้นเลยมึง

07:45 น. | ห้องพัก Shangri-La Paris – หลังคืน “ฟินก่อนบิน”

แสงแดดสีเหลืองทองลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องพักหรู
เตียงผ้านวมยับยู่เหมือนผ่านสงครามกลางคืน
บนเตียง — ภัทรนอนหายใจช้า ๆ เหงื่อยังซึมตามไรผม หน้าอกกระเพื่อมหนัก ๆ

ขาขวาเกร็ง… ขาซ้ายพับแปลก ๆ
แขนวางแนบอกเหมือนคนเพิ่งรอดจากการโดนเวฟระลอกใหญ่ซัดเข้าฝั่ง

เสียงของดินสอดังขึ้นเบา ๆ
“ตื่นได้แล้วป่ะ… จะได้ลงไปกินข้าว”

ภัทร: “กูยังไม่รู้สึกถึงขาตัวเองเลย…”
“เมื่อคืนมันเกินขอบเขตมนุษย์แล้วมึง กูไม่คิดว่าคำว่า ‘ตลอดคืน’ จะจริงขนาดนี้”

ดินสอเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำในเสื้อคลุม
“มึงขอเอง… กูแค่ตามคำขอ”
แล้วส่งยิ้มมุมปากแบบคนที่รู้ว่าตัวเอง “เด็ด”



09:30 น. | มื้อเช้า Shangri-La Paris – แบบสบายกาย (แต่มึนหัวใจ)

ห้องอาหารเปิดโล่ง มองเห็นหอไอเฟลผ่านกระจก
กลิ่นกาแฟ Illy ลอยมาเบา ๆ เคล้ากับเสียงเพลงคลาสสิกในแบ็กกราวด์

ไลน์อาหารเช้า:
– ครัวซองต์อบสด
– ไข่ลวก 2 ฟอง (ภัทรเห็นแล้วสะดุ้ง)
– โยเกิร์ตผลไม้
– ซุปหัวหอมเบา ๆ
– ชา TWG / กาแฟดำเข้ม ๆ

แก๊ง 500 ชาติ เริ่มทยอยมานั่งรวมโต๊ะ

พี่แม็กซ์: “ภัทร มึงดูโทรมกว่าตอนวิ่งมาราธอนอีกนะ”

โอ๊ต: “เมื่อคืนกี่รอบวะ… กูถามจริง”

ภัทร: (พูดทั้งที่ตายังปรือ) “กูนับไม่ทัน… รู้ตัวอีกทีคือฟ้าเหลือง”

โจ: “ไอ้ดินสอ กูยกให้มึงเป็น MVP แล้วนะเว้ย”

พี่โต: “มึงอย่าลืมบินกลับไทยนะเว้ย… ไม่ใช่ลอยกลับเพราะหมดแรง!”



11:00 น. | เดินเล่นชิลล์ – สวน Jardin du Luxembourg

ภัทรใส่แว่นดำ เดินช้า ๆ แบบคนที่ยังเจ็บก้นเบา ๆ
ดินสอถือกล้อง เดินอยู่ข้าง ๆ ด้วยสีหน้าเหมือนคน “เก็บแต้มเมื่อคืนสำเร็จ”

สวนเงียบ ลมเย็นพัดพาเสียงใบไม้กรอบแกรบ
สองคนหยุดที่บ่อน้ำกลางสวน
ถ่ายภาพ Portrait ที่สะท้อนรอยยิ้มในดวงตาโดยไม่ต้องแต่งเพิ่ม



12:30 น. | มื้อกลางวัน – L’As du Fallafel @ Le Marais

ร้านสตรีทฟู้ดดังในย่านเก่าแก่
Fallafel ลูกชิ้นถั่วบดทอดกรอบ เสิร์ฟในพิต้าอบใหม่
ใส่ผักดอง ซอสกระเทียม ซอสพริก และทาฮินี

ภัทรกัดคำแรก แล้วน้ำตาไหล
เจน: “ไอ้ภัทรร้องเพราะซึ้งหรือเพราะเผ็ด”

ภัทร: “ไม่รู้ว่าหัวใจกูหรือสะโพกกูพังก่อนกันแน่ตอนนี้…”



14:45 น. | ร้านขายยาใน Le Marais – เชี่ย (อีกแล้ว)

ภัทรแยกตัวออกจากกลุ่มเล็กน้อย
เดินเข้าร้านขายยาเงียบ ๆ
เดินตรงไปที่ชั้นเดิม…

หยิบ “ถุงยาง 3 กล่อง” ขึ้นมาตรงเคาน์เตอร์อย่างมั่นใจ

พี่แม็กซ์ โอ๊ต พีท โจ เดินตามมาเห็นพอดี

ทุกคนเงียบ… แล้ว อุทานพร้อมกันเสียงดังว่า
“เชี่ย!!!!!!!”

พีท: “นี่เราจะบินแล้วเว้ย!! มึงจะเอาไปแจกคนบนเครื่องเหรอ!”

ภัทร (ยิ้มมุมปาก): “ของเดิมก็หมด… ของใหม่ไว้เผื่อไฟลท์ดีเลย์อะ”

โอ๊ต: “ถ้ามึงยังมีแรงเหลือ กูจะพามึงไปเข้า Guinness World Record แทนแล้วนะเว้ย”

โจ: “ไอ้นี่แม่งไม่ใช่คน… มันเป็นอสูรกล้ามแน่น!”



18:00 น. | กลับโรงแรม – จัดกระเป๋าเตรียมกลับไทย

ดินสอแพ็คของเงียบ ๆ
ภัทรนอนเหยียดยาวบนเตียง
กล้ามยังเด้ง… แต่ตาทั้งสองข้างเริ่มปิด

“คืนนี้นอนนะ กูขอ…”
“กูไม่เอาแล้วนะ…”
“เอาไว้กลับไทยก่อนก็ได้… กูขอสองวันพักฟื้น…”

ดินสอ (ยิ้ม):
“ไว้กูจะซื้อถุงยางให้กล่องใหญ่เลยนะ”

ภัทร (เสียงแผ่ว):
“ซื้อให้กู… หรือซื้อกันตัวเอง?”

ดินสอไม่ตอบ
แต่เดินมากระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู

“มึงก็เดาเอาเองสิ… ไอ้ยอดมนุษย์”
99
เยี่ยมแวะวิมาน | ตอนพิเศษ — ฟินก่อนบิน (คืนนี้มึงคือไฟลท์สุดท้ายของกู)

00:05 น. | ห้องพัก Shangri-La Paris — คืนสุดท้ายของทริป

เตียงขนาดคิงไซส์หรูหรา
ผ้าปูเรียบแน่นจนอากาศแทบไหล
เสียงฝนบางเบาข้างนอกหน้าต่างที่มองเห็น หอไอเฟล
ค่อย ๆ จางลงเมื่อภัทรกดตัวดินสอลงบนเตียงเบา ๆ

“คืนนี้กูจะไม่ให้มึงได้นอน… แต่มึงจะได้ ‘พัก’ ในอ้อมแขนกูทั้งคืน”



ซีนละมุนเริ่มด้วยจูบ… แต่ไม่จบแค่นั้น
จากจูบ กลายเป็นลูบ
จากลูบ กลายเป็นจับ
จากจับ… กลายเป็นกอดแน่น ๆ แล้วกลิ่นกายอุ่น ๆ ของภัทรก็ห่อหุ้มดินสอจนไม่เหลือช่องว่างระหว่างกันอีกเลย

ยาง — หนึ่งกล่องแรก หมดใน 2 ชั่วโมง

เสียงหอบหายใจดังสลับกับเสียงเรียกชื่อ
“ภัทร…”
“ครับมึง”
“ยังไม่พอ…”
“กูก็ยังไม่หยุด”



ตีสาม — อ่างน้ำวนเปิดน้ำใหม่

ภัทรอุ้มดินสอลงอ่าง เหมือนจะให้พัก
แต่มือนั้นกลับลูบจากบ่าไปถึงสะโพก
ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับมาร้อนอีกครั้งในอ่าง
เสียงน้ำกระเพื่อมสลับกับเสียงคนที่ไม่ได้พูดอะไรเลย นอกจากเรียกชื่ออีกคนเบา ๆ

ยาง — กล่องที่สอง เริ่มเปิดตอนตีสี่สิบห้า



ตีห้า — พื้นห้องหน้ากระจก

“ไอ้ตัวเล็ก มึงแม่ง…”
“อะไร”
“ร้ายกว่าที่กูคิด”
“ก็กูไม่ได้ตั้งใจให้มึงรอดนี่หว่า”

เสียงจูบซ้ำ ๆ
เสียงแผ่นหลังเสียดกับกระจก
เสียงหายใจขาดห้วงของภัทร
พร้อมมือที่เริ่มสั่นเพราะใช้แรงมาเกือบทั้งคืน



เช้า — ฟ้าเหลือง ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น

ม่านบางเริ่มเปลี่ยนจากสีเงินเป็นสีทองจาง ๆ
ดินสอทิ้งตัวลงบนอกภัทร
ในขณะที่ภัทรนอนหายใจแรง ขาทั้งสองข้างแทบไม่ขยับ

“ไหวมั้ย”

“กูว่าขากูไม่ตอบสนองแล้ว”

“แต่ใจมึงยังอยู่ใช่มั้ย”

ภัทรหัวเราะหอบ
“อยู่สิ มึงยังอยู่บนตัวกูอยู่เลยเนี่ย”



เสียงข้อความไลน์ของแก๊ง 500 ชาติดังขึ้น

ลุงก้อง: “ใครยังรอดตื่นอยู่บ้างวะ?”

พี่แม็กซ์: “เห็นแสงทองแล้ว แต่ยังไม่ได้ออกจากเตียงเลย”

พีท: “ห้อง 608 ไม่ได้ยินเสียงตั้งแต่ตีหนึ่ง สงสัยกำลัง ‘บำเพ็ญภาวะ’ อยู่”

คุณต่าย: “แน่ใจนะว่าไม่ได้เบิร์นแคล 2,000 ไปแล้ว?”

เจน: “เดี๋ยว… แล้วใครจะอุ้มไอ้ภัทรขึ้นเครื่องตอนสาย?”



ดินสอ (นอนทับภัทร):
“ถ้าไม่ไหว กูก็จะลากมึงขึ้นเครื่องเอง”

ภัทร (หัวเราะหอบ):
“มึงมันตัวเล็ก… แต่แรงแม่งเยอะฉิบหาย”

จบด้วยเสียงจูบเบา ๆ บนหน้าผาก
ก่อนที่ทั้งคู่จะผล็อยหลับไปในเช้าอันอบอุ่น
พร้อมความรู้สึกว่า…

คืนนี้คือ “ฟินก่อนบิน”
แต่ความรักของเราจะยัง “ฟิน” ไปได้ไกลกว่าทุกไฟลท์ในโลกใบนี้
100
เยี่ยมแวะวิมาน | ตอนที่ 44 — คืนสุดท้าย ที่ใจไม่อยากให้เป็นคำว่า “สุดท้าย”

19:30 น. | ดินเนอร์ส่งท้ายทริป – ร้าน L’Avenue

L’Avenue คือร้านอาหารฝรั่งเศสสไตล์หรูร่วมสมัยใจกลาง Avenue Montaigne
สถานที่ที่ทั้งคนท้องถิ่น เซเลบ และนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์มักมา “ส่งใจ” กับค่ำคืนในปารีส

โต๊ะของคณะทัวร์ตั้งอยู่ด้านใน ใกล้หน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่มองเห็นแสงสะท้อนจากถนนด้านนอก

เมนูของค่ำคืนนี้:

– Canard à l’Orange (เป็ดย่างซอสส้ม): หนังกรอบ เนื้อนุ่ม ฉ่ำซอส
– Huîtres fraîches (หอยนางรมสด): เสิร์ฟพร้อมเลมอนและน้ำจิ้มไวน์ขาว
– ไวน์ Bordeaux: ตัวท็อปประจำปี กลิ่นโอ๊คและผลไม้เข้มข้น

เสียงพูดคุยในโต๊ะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
พี่ดายกแก้วบอก “คืนนี้ใครอยากพูดอะไรก็พูดเลยนะ… เพราะพรุ่งนี้มันจะเหลือแค่ความทรงจำแล้ว”

ภัทรมองดินสอ
ดินสอไม่ได้พูด
แต่หันมาพิงแขนแฟนตัวโตเงียบ ๆ



21:30 น. | ล่องเรือแม่น้ำแซนน์ – ค่ำคืนสุดท้ายกับแชมเปญ และความรู้สึกที่ไม่มีใครพูดออกมา

แสงไฟจากสะพาน Pont Alexandre III พาดตัวลงบนน้ำ
Bateaux-Mouches ลำหรูค่อย ๆ เคลื่อนผ่าน Notre-Dame, Pont Neuf, Musée d’Orsay
สองฝั่งเต็มไปด้วยอาคารหินที่เปิดไฟสว่างนวล

ในมือคือ แชมเปญเย็นจัด
แต่ในอกกลับอุ่นเกินบรรยาย

บนดาดฟ้าเรือ… ภัทรกับดินสอยืนอยู่ข้างกัน
ไม่มีใครพูดอะไร
นอกจากแลกสายตากันเนิ่นนาน

บางที… คำพูดก็ไม่จำเป็น
เพราะในแววตาคู่นั้น
มันคือคำว่า “รัก” ที่ไม่มีคำใดแทนได้อีกแล้ว



23:00 น. | กลับถึงโรงแรม Shangri-La Paris

ภายในห้อง
ไฟส้มสลัว
ม่านบางลู่ลมเบา ๆ
เตียงปูเรียบร้อย
อ่างอาบน้ำยังมีเศษกลีบกุหลาบจากตอนเย็นที่แม่บ้านโรยไว้

ภัทรเดินเข้ามานั่งข้างเตียง
เงียบ
แต่แววตานั้น… จริงจังกว่าทุกวัน

“คืนนี้… คืนสุดท้ายของทริปแล้วนะมึง”

ดินสอหันมามอง

“กูอยากขอบใจที่มาด้วย ขอบใจที่อยู่กับกูตลอดแม้ทะเลาะบ้าง งอนกันบ้าง
แต่ทริปนี้… มันทำให้กูเข้าใจอะไรหลายอย่างมากขึ้น กูฝันมาตลอดว่าซักวันหนึ่งกูจะได้มีอะไรกับมึงทั้งคืน
…ได้ไหม”

เสียงภัทรนิ่ง
จริงจัง
น้ำเสียงไม่ใช่แค่ตัณหา
แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นเกินจะซ่อนไว้อีก

ดินสอหลบตานิดหนึ่ง
ก่อนจะพูดเบา ๆ

“…เอาจริงเหรอ”

“ที่ผ่านมา หลัง ๆ มานี่ ทุกคืนเลยนะเว้ย”

ภัทรยิ้ม หัวเราะเบา ๆ

“ก็กูเสพติดมึงไปแล้ว”



ดินสอมองหน้าแฟนตัวโตที่ทั้งรัก ทั้งลามก และทั้งอ่อนโยนกับเขาเสมอ
ก่อนจะกระซิบกลับเบา ๆ

“ก็โอเค… แต่กูขอเลือกเพลงเปิดก่อน”



เสียงเพลงฝรั่งเศสเบา ๆ ดังจากมือถือ
ม่านปิดลงช้า ๆ
เสื้อผ้าค่อย ๆ หลุดจากไหล่
และเสียงหายใจ… ก็เริ่มสอดประสานกันอีกครั้ง

คืนนี้ ไม่ใช่คืนธรรมดา
แต่มันคือ คืนที่คำว่า “แฟน” กลายเป็นคำว่า “บ้าน” ได้อย่างเต็มใจ
หน้า: 1 ... 6 7 8 9 [10]
สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด