91
Boy's love story / Re: Today,I have you วันนี้ฉันมีเธอ Ep 18 หวาน หวาน หัวใจชื่นบาน
« กระทู้ล่าสุด โดย Namm12141 เมื่อ 09-04-2024 11:42:57 » Episode 18 หวาน หวาน หัวใจชื่นบาน
ฤดูกาล
เมฆฝนที่คอยซัดเข้ามา
ค่ำคืนเดือนมิถุนา คิดถึงวันคืนผ่านมา
ดวงดาว
ส่องแสงลงมาตั้งไกล
ใจฉันยังคงหวั่นไหว คิดถึงวันคืนผ่านมา
“ถึงซักที ตะคริวแดกตูดกูหมดแล้ว”
“ไอ้เหน่ง มึงอ่ะแค่ตะคริวแดกตูด ส่วนรถกูอ่ะไอ้อาร์ทกับไอ้เทมส์แดกเบียร์หมดจะสองลังแล้ว ไอ้พวกชั่ว” เสียงบ่นโวยวายของไอ้ไม้ลอยลงตามมันมาจากรถ
เธอคือภาพฝันในจักรวาลของฉัน
ดวงดาวส่องวับวาวเมื่อพบเธอ
“พี่น่านๆ”
“ไร”
“พี่มึงมาช่วยพี่แทนยกของก่อน กูจะไปดูที่จอดรถให้พวกเพื่อน” พูดจบก็กุลีกุจอออกไปที่ลานจอดรถของงาน
“แม่งขนกันมาทั้งคณะเลยหรอวะไอ้น่าน” แทนหันมาถามเชิงสงสัย
“ทั้งคณะไหมกูไม่รู้” หันมาทำหน้ายียวนตอบ “กูรู้แค่ว่าคนที่มันเทียวไปไล่ขายขนมจีบเช้าถึงเย็นถึง ตามเอาใจอย่างนู้นอย่างนี้อ่ะมาด้วยว่ะ”
“ฮ่าๆ เอาจริงดิ” น่านไม่ได้ตอบอะไรแค่ส่ายหัวแล้วยิ้มน้อยๆ “เสือร้ายอย่างไอ้นนท์อ่ะนะ ขนาดมึงที่เป็นพี่มันกับน้ำที่เป็นน้องมันที่มันบอกรักพวกมึงนักรักพวกมึงหนา กูยังไม่เห็นว่ามันจะใส่ใจเลยว่าพวกมึงจะมีที่จอดรถไหม จะกางเต็นท์กันตรงไหน แม่งเหลือจะเชื่อ-”
“เชื่อเถอะพี่แทน คนนี้อ่ะเอาพี่นนท์มันอยู่หมัด” น้ำเดินมาร่วมผสมโรงอีกคน
เธอคือภาพฝันในจักรวาลของฉัน
ดวงดาวส่องวับวาวเมื่อพบเธอ
งดงามไปหมด
“ไอ้แทน ไอ้ห่าราก” ด่าพร้อมกับถีบไปกลางหลังแทนเบาๆ
“ไอ้แคมป์มีงมาช่วยกูกางเต็นท์ซิไอ้หอกหัก ยืนแอคอาร์ทอยู่นั่นแหละ” นั่นไอ้อาร์ทมันแหกปากขอความช่วยเหลืออยู่
“ไอ้บิวมึงถ่ายกูหล่อๆนะเว้ย กูจะ-”
“กูจะตายแล้วไอ้โชค ไอ้บิว แม่งมาช่วยกูตอกเสาเต็นท์ซักทีโว้ยยยย” นี่ไอ้ไม้ที่โวยวายตั้งแต่ขึ้น ลงรถ กางเต็นท์ และคิดว่าน่าจะยันกลับด้วย
“ไอ้เทมส์โว้ย ไปซื้อน้ำแข็งกับกูหน่อยใครแม่งแดกหมด มันกำลังคิดว่าตัวเองเป็นเอลซ่ารึไง” และก็นี่ไอ้โต่งกำลังทำตัวเป็นคนขี้โวยวาย
“ไอ้อาร์ท ไอ้ควายมึงกางเต็นท์ยังไงของมึงเนี่ย”
“มึงสิควายไอ้แคมป์ กูก็กางตามยูทูปเนี่ย”
“ไอ้ไม้ๆ มึงจะตอกมือกูรึไง”
“มึงก็อย่าโง่ให้กูตอกสิไอ้โชค”
“ไอ้หอกหัก--”
“วุ่นวายกันทุกตัว” ไอ้เหน่งที่เดินหน้าละเหี่ยมาตบไหล่ผมเบาๆ
“เออ วุ่นวายกันได้ทุกที่จริงๆพวกมัน” ผมบ่นไปหัวเราะไปกับความวายป่วงตรงหน้า “แต็งค์ เต็นท์แล้วเสร็จแล้วหรอ”
“เรียบร้อย”
“ไม่ต้องไปช่วยพวกมันนะ ปล่อยให้วุ่นวายกันให้ตาย คิคิ”
“ไม่ช่วยพวกมันก็หันมาช่วยกูนี่ไอ้แต็งค์” ไอ้เหน่งบ่นอุบอิบ “กูกางเสร็จจะนอนแม่งคนเดียวไอ้เวรตัวไหนอย่าได้เสือกเชียว” มันพูดไปส่ายหน้าไป
เห้ออออออ
ผมหันไปมองภาพความวุ่นวายตรงหน้า นี่นับเป็นครั้งแรกที่พวกเรามาเที่ยวด้วยกันไกลขนาดนี้ ระหว่างทางก็มีเรื่องราวมากมาย ทั้งเรื่องขำขัน เรื่องน่าหงุดหงิด มีน่าเบื่อบ้างเล็กน้อย แต่พวกเราก็ไม่ละทิ้งความตั้งใจที่จะมางานเทศกาลดนตรีด้วยกัน ถึงเพื่อนบางคนจะพึ่งเข้ามาในชีวิตผม แต่ความจริงใจ ความเป็นกันเองของพวกมันทำให้ผมรู้สึกว่า ผมและพวกมันจะสามารถเป็นเพื่อนกันแบบนี้ไปได้อีกนานเลยครับ
“คิดไรอยู่” ผมส่งยิ้มเบาบางไปให้แต็งค์
“คิดว่าถ้าได้ใช้เวลาด้วยกันแบบนี้บ่อยๆก็ดีนะ” แต็งค์มันอมยิ้มน้อยๆแล้วเอาแขนขึ้นมารั้งคอผมให้พิงไปบนบ่าของมัน
“คงจะวุ่นวายน่าดู”
“แต่มันก็มีความสุขไง” ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนที่ทำให้รักมากขึ้นทุกวันตั้งแต่รู้ใจตัวเองว่ารู้สึกยังไง “ได้ใช้เวลาสบายๆฟังเพลงเพราะๆในบรรยากาศที่ชอบ ได้อยู่กับเพื่อน อยู่กับแฟน แล้วก็พี่ๆของตัวเอง” หันไปมองทางพี่น่านและพี่แทนที่ล็อคคอพี่นนท์น่าจะคาดคั้นเรื่องคนสำคัญของพี่มันอยู่ “มันมีความสุขมากๆเลยนะ” ฟอดดดดดด
“ครับ มีความสุขมากๆ”
ฮิ้ววววววววววว
“ให้มันเบาๆกันหน่อย” เสียงหมั่นไส้จากพี่นนท์มัน แล้วพี่มันก็โดนพี่น่านกับพี่แทนบีบปากล็อคคอพี่มันต่อ
“สงสารหัวใจหนุ่มโสดแบบกูบ้าง” แล้วก็ตามด้วยเสียงคร่ำครวญของไอ้โชค ถามว่าสนใจพวกมันไหม ก็ไม่ คิคิ
เสียงเพลงฟังสบายๆ กับบรรยากาศยามค่ำ บวกด้วยเบียร์เย็นๆ ก็ทำเอาสุขใจเหมือนกัน ผมหันไปมองแก๊งค์เพื่อนที่พากันซัดเบียร์อย่างเอาเป็นเอาตายไม่พอ ยังพากันแหกปากประสานเสียงร้องเพลงตามนักร้องที่เค้ากำลังทำการแสดงอยู่บนเวทีไกลๆนู้น ผมได้แต่ส่ายหน้าระอากับพวกมัน
“เห้ยๆ เพลงนี้กูชอบ!!”
“ไอ้ไม้มึงอย่าแหกปาก!” ไอ้เหน่งพูดไปก็จัดการเอาเบียร์หยัดปากมันไปพร้อม
“อึก มึงแม่ง”
“ไอ้แคมป์ๆ ถ่ายกูแบบเหม่อๆนะ”
“ไอ้แต็งค์ มึงมาชนๆ” นับว่าเป็นครั้งแรกที่แต็งค์มันทำตามใจไอ้บิวมัน ชนกันเสร็จก็เอนตัวให้ผมพิงเหมือนเดิม ส่วนตัวผมก็อดไม่ได้ที่จะเอาหัวเน่าๆของตัวเองถูไถกับอกมันไปเรื่อยเปื่อย
“อ้อน”
“ก็อ้อนไง” ฟอดดดด แล้วก็หอมหัวผมไปหนึ่งที ไม่วายพึมพำออกมาเป็นเพลงตามนักร้องที่กำลังร้องอยู่
คือความประทับใจเมื่อสบตากัน
อบอุ่นเหลือเกิน ข้างในรอยยิ้ม
มีการก้มลงมาสบตาอีกนะคนเรา
จะบอกให้รู้รักมากๆเลย
จะบอกไม่รักได้ไงโธ่เอ๋ย
รอยยิ้มแบบนี้... ทำให้ผมตายได้จริงๆนะ
โอ้ Baby น่ารักมากๆเลย
แบบชุบแป้งทอดไปเลย
ผมที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเขิน เลยเอื้อมมือไปบีบจมูกมันด้วยความหมั่นไส้แทน
มอบเพลงนี้เป็นสื่อแทนใจ ยกให้เธอ
“อ่ะ ให้รางวัล”
“มากกว่านี้ไม่ได้หรอ”
“แล้วจะเอาอะไรดีน๊า”
“เอาตีนกูนี่” อ่ะ ไอ้พี่นนท์ชาติที่แล้วมันทำงานโรงไฟฟ้ารึไง ขยันช็อตฟิลจริง
“เสือกอะไรอีกเนี่ยพี่นนท์”
“อ้าว นี่กูพี่มึงนะ”
“พี่ก็แค่พี่ชายที่มันเก็บมาเลี้ยง ฟู่วว” ไอ้เทมส์ที่โผล่มาเป่าหูพร้อมทำปากขมุบขมิบใส่พี่มัน เห้อออ
“มาลู่ลี่แต่กับน้องเนี่ย ปัณณ์นี่ให้คนอื่นดูแลไปแล้วรึไง” พอผมพูดขึ้นพี่มันก็หรี่ตาชี้นิ้วใส่ผมทันที
“ปัณณ์ไหนวะพี่” ไอ้เหน่งมันเลยวิ่งสี่คูณร้อยมาเสือกทันที
“คือใคร คือปัณณ์วะ” แล้วก็ไอ้แคมป์ที่มาร่วมวงเสือกด้วย
“นั่นสิๆ ปัณณ์คื-” ไอ้ไม้ที่ยังไม่ทันได้เสือกก็โดนพี่มันลูกชิ้นอุดปากซะก่อน
“ไม่เสือกนะเด็กๆ” พร้อมยกมือโบกไปมา แต่ลูกกะตาพี่มันนี่เลิกลักมาก จนผมอดหัวเราะไม่ได้ คึคึ
“ไอ้นนท์ ปัณณ์เมาอ้วกไปแล้วว่ะ ทำไ-” พี่น่านมันยังพูดไม่จบพี่นนท์มันก็ใส่ตีนหมารีบไปทันที ผมได้แต่ส่ายหัวเนือยๆ
“เสือร้าย ได้เป็นหมาแน่ๆเลยว่ะไอ้เหน่ง ฮึๆ”
“อะระ เสือร้ายอะระ” ไม่วายความขี้เสือกของมันยังคงเซ้าซี้ผมต่อเรื่อยๆ “แล้วปัณณ์คือใครวะ”
“เออนั่นสิ”
“คนไหนปัณณ์วะ”
“หาววว ง่วงจังเลยแต็งค์” ผมที่ตัดบทพวกมันเหมือนไม่มีตัวตนแล้วหันมาสนใจคนที่ทำตัวเป็นเสาหลักให้พิงอยู่เนิ่นนาน “กินเยอะไปรึป่าว” ผมเหลือบตาลงมองกองขวดเบียร์ที่ไม่ใช่น้อยๆ “กินเยอะแบบนี้ต้องเจอหยิก”
“หยิกตรงไหนดีล่ะ” มันก้มหน้าลงมาพูด แล้วคลอเคลียร์อยู่แถวๆหูแถวๆคอผม จนผ-
“โห้ย มึงแม่งไม่ให้ความร่วมมือกูเลย” ไอ้ไม้ที่นั่งรอคำตอบจากผมอยู่นานเลยโวยวายขึ้น “กูไปเสือกเองก็ได้”
“กูไปด้วยๆ”
“เห่ หลังจากที่พี่มันเสือกเรื่องคนอื่นมานาน” ไอ้เหน่งพูดขึ้นและทำตาเจ้าเล่ห์ “ได้เวลาเสือกเรื่องพี่มันคืนแล้วว่ะ หึหึ”
“ก๊ากกก หึหึ”
“กู หึหึด้วย” แล้วพวกมันก็พากันยกโขยงไปเสือกเรื่องของพี่นนท์กัน
“ไม่ไปกับพวกมัน”
“ไม่อ่ะ อยากอยู่กับแฟน” ฟอดดดด
“อ้อน” ฟอดดดด
“คิคิ”
แล้วเราก็นั่งหยอกล้อกันท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ กับเพลงที่เพราะขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน
เธอคือนางฟ้า อยู่บนนภา
เพียงก้าวลงมา มาให้ถูกรักใช่ไหม
เธอมาเพื่อสอนให้ดวงตา ได้เห็นว่าอะไร
รู้ความใน ปิดไว้ไม่กล้าจะบอกสักที
ว่าแก่จนป่านนี้ มันคงไม่มีอะไร
จะสู้หนุ่มขาว ก็คงจะมีแต่ใจ
จะสุข จะหวาน ก็คงต้องคานออกไป
บอกใจว่าสังขารไม่ดี
เราเองจะเอาอย่างไร
ไอ้ความเก๋านั้นแต่ตัวแต่ใจ
จะเด็ดดอกฟ้าก็คงไม่ผ่านกระได
ดันสูงและขาก็ไม่ดี
มีใจต้องทำอย่างไร
คนอย่างเขาก็คงไม่ทันอะไร
แก่จนป่านนี้คงเป็นไอ้ต้าวต่อไป
วอนขอเพียงเธอแค่หางตา มอง
“หาววววว โหยยยยย กูคิดว่ากูจะหนาวตายไปแล้ว”
“หนาวตายห่าอะไรไอ้บิว กูเห็นเมื่อคืนมึงถอดเสื้อ บ่นว่ามึงร้อนๆ” เสียงไอ้โชคมันแย้งขึ้น
“เออ ไอ้เวรบิวเมาแล้วชอบถอดเสื้อ โชว์ขี้โพ้รึไงมึง” ไอ้เทมส์เดินเข้ามาผสมโรงด้วยอีกคน
“ทำไม กูโชว์ความฟิตปั๋งไม่ได้รึไง”
“ถุย/ถุย/ถุย”
“แหวะ ไอ้บิว มือมึงไปจับอะไรมาเนี่ย” แล้วก็เป็นไอ้ไม้ที่ซวยเพราะโดนมือไอ้บิวยัดปากไป
“เห้ย พวกมึงเก็บของกันเสร็จยัง” พี่นนท์มันตะโกนถามขึ้น
“เรียบร้อยแล้วลวกเพ่” แล้วก็เป็นไอ้แคมป์ที่ตอบกลับไปอย่ากวนตีน
“ไอ้ไม้ มันสกปรก”
“ก็มึงแกล้งกูก่อน”
“ไอ้พวกชิบหาย โดนกู”
“โทดๆ”
“มึงตายยยยย”
“โอ้ยๆ พี่น่านช่วยผมด้วย”
“ไอ้แทนนนนน”
“ไอ้พวกเวร!!”
“ไอ้โต้ง ไอ้อาร์ทมึงจับมันไว้”
“เดี๋ยวมึ-”
เห้ออออออออ ผมบอกแล้วว่าวุ่นวายกันยันกลับ แล้วคอยดูนะ มันต้องไปวุ่นวายกันต่อที่มอแน่นอน ไหวไหนที่สงบสุขคงเป็นวันที่ผมอยู่บ้านแหละ ไม่ใช่พวกมันสงบสุขนะ แต่น่าจะเป็นผมที่สงบสุขมากกว่า ถอนหายใจยาวๆอีกรอบ
“ลืมอะไรไหม”
“ไม่อ่ะ” ผมหันไปมองคุณแฟนที่สุดแสนจะประเสริฐหอบของพะรุงรังอยู่ ตั้งแต่มาจนกลับแต็งค์มันไม่เคยปล่อยให้ผมได้ลำบากเลย จะทำอะไรมันก็คอยทำให้ เดี๋ยวทำนั่นทำนี่ให้โดยไม่ต้องร้องขอ วาสนาจริงๆ “รักแฟนจัง”
“หึหึ” ผมเอามือไปคล้องแขนมันไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ช่วยถือของไปด้วย “อาทิตย์หน้าไปบ้านกัน พ่อกับแม่ถามหาแล้ว”
“กลายเป็นลูกรักไปแล้วหรอเนี่ย” จุ้บ แต็งค์มันก้มหน้ามาจุ้บเบาตรงๆหน้าผากของผม
“เป็นที่รักของคนทั้งบ้านไปแล้ว”
“คิคิ” ผมสบตากับแต็งค์ มองเข้าไปในดวงตาคู่นั้นก็รับรู้ได้ทันทีว่าแต็งค์มันมีความสุขมากแค่ที่ไหน สำหรับเราผมรู้ว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะมาถึงจุดนี้ได้ แต่ก็เพราะเราต่างคนต่างพยายามที่จะเข้ามาในโลกของกันและกัน ซึ่งในโลกของเราก็ไม่ได้มีแค่ผมกับแต็งค์ แต่มีเพื่อน มีพี่ๆ มีครอบครัว ถึงแต็งค์จะไม่ใช่คนชอบพูดชอบอธิบายอะไร แต่ผมรู้ว่ามันก็พยายามอย่างมาเหมือนกันเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ได้รับกการยอมรับจากทั้งโลกของผม และโลกของมัน ไม่ใช่แค่เพื่อรักกัน แต่เพื่อปกป้องความรู้สึกของกันและกัน และก็เพื่อเติมเต็มซึ่งกันและกัน แรกๆมันอาจจะยากและดูน่าถอดใจไปหมด แต่เพราะว่าอยากมีกันอยู่ในชีวิตจริงๆ เราเลยผ่านมาได้ และผมก็เชื่อว่าเราสองคนจะผ่านมันไปอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ ไปซัก 10 ปี 50 ปี หรือซัก 100 ป-
“ไอ้น้ำโว้ยยยย แวะไหนอีกป่าววะ” เหอะ พี่น่านขัดมูดกูมากเลย
“จะแวะไหนก็แวะ!!” ผมตะโกนกลับไปอย่างเหลืออด
“หึหึ” ไอ้แต็งค์ที่คงรู้ว่าผมหงุดหงิดเอามือมาลูบหัวลูบหลังปลอบใจ “พี่แกไม่ได้ตั้งใจ”
“พี่มันตั้งใจ...” ผมหรี่ตาไปทางพี่น่านอย่างจับผิด ส่วนพี่มันก็ตีหน้ามึงไม่รู้ไม่ชี้
“น้ำ ถ่ายรูปรวมกันดีไหมวะ”
“ดีๆ” พี่นนท์ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้มาเสนอหน้าตอบมา มาพร้อมกับ
“หวัดดีครับพี่ปัณณ์/หวัดดีครับ/พี่ปัณณณณณณ” ผม แต็งค์และไอ้เหน่ง เอ่ยทักคนที่เดินมาพร้อมกับพี่นนท์ด้วยรอยยิ้มเชิงแซว
“หวัดดีครับ” ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มและเสียงนุ่มอ่อนโยน
“เมื่อวานเห็นแวปๆแต่ก็ไม่ได้เข้าไปทัก มัวแต่วุ่นวายกับไอ้พวกนี้” ผมบุ้ยปากไปทางพวกเพื่อนที่กำลังแกล้งกันอย่างสนุกสนาน
“ไม่เป็นไรๆ” พี่แกโบกมือไปมา พร้อมหัวเราะน้อยๆ “เมื่อวานพี่ก็เละมาก ดีแล้วจะไม่เห็นพี่สภาพนั้น”
“เละอะระ ออกจะน่ารั-” พี่นนท์
“พี่ปัณณณณณณณ” มาแล้วไอ้พวกตัวเสือก เตรียมวุ่นวายเลยมึงไอ้พี่นนท์
“พี่ปัณณ์ กินอะไรยังครับ”
“พี่ปัณณ์หิวน้ำไหม”
“พี่จะกลับรถใครอะ” ผมเสมองพี่นนท์ที่มันเดาะลิ้นอย่างหงุดหงิดใจ ก็อดขำไม่ได้ ไงมัน แกล้งคนไว้เยอะ โดนซะบ้าง
“กลับกับผมได้น-”
“เค้ากลับกะกู ไอ้พวกเวร!!!” พูดจบพี่มันก็ดึงแขนพี่ปัณณ์มาอยู่ใกล้ๆพร้อมชี้หน้าคาดโทษไอ้พวกเพื่อนตัวดีของผมทุกตัว
“โห้ย ขี้หวง” เสียงไอ้ไม้บ่นอุบ
“เดี๋ยวมึงจะโดนอีกตัวไอ้ไม้” แล้วพี่มันก็ผลักหัวไอ้ไม้ไปอย่างไม่จริงจังทีนึง ทำเอาเรียกเสียงหัวเราะจากพี่ปัณณ์ และจากทุกคน โดยเฉพาะพี่น่านกับพี่แทนที่ดูจะสะใจสุดๆ
“ดูท่าแล้ว น้องมึงได้เป็นหมาอย่างสมบูรณ์แล้วว่ะไอ้น่าน”
“เออ” พี่น่านมันตอบแค่นั้น แล้วก็ส่ายหัวพร้อมอมยิ้ม ก็แหงแหละเห็นพี่นนท์มันแดรดแด๋แบบนั้น มันเคยคบใครที่ไหน คุยกับใครแปบๆ มันก็เขี่ยเค้าทิ้งแล้ว ส่วนคนนี้ผมบอกเลยว่าของจริง ได้เป็นหมาสมใจพี่แทนกับพี่น่านแล้วแหละมึงไอ้พี่นนท์
“มาๆ มาถ่ายรูปรวมกันไว้เป็นที่ระทึกหน่อย” เสียงไอ้เหน่งตบมือเปาะเรียกทุกคน
“ที่ระทึกก็มาว่ะ”
โพล๊ะ
“มึงอ่ะรีบมาเลยไอ้ห่าอาร์ท” ประเคนฝ่ามือจบมันก็ดึงไอ้อาร์ทมันจัดแจงเตรียมตัวยืนถ่ายรูป
การถ่ายรูปรวมครั้งนี้ค่อนข้างจะวุ่นวายเหมือนเดิม เหมือนเดิมจริงๆ จนอดหัวเราะเบาๆไม่ได้ ผมหันมองภาพความวุ่นวายตรงหน้า ที่ไอ้ไม้พยายามจะไปยืนข้างๆพี่ปัณณ์ส่วนพี่นนท์มันก็ทั้งผลักทั้งเอาตีนเขี่ยไอ้ไม้ให้ออกไปไกลๆพี่ปัณณ์จนไอ้เหน่งต้องเป็นคนรับจบดึงไอ้ไม้มาล็อคคอไว้อยู่ข้างตัว แล้วก็ไอ้แคมป์ ไอ้เทมส์ ไอ้บิว ที่ยืนยิ้มแฉ่งอุ้มไอ้โชคในท่านอนหงาย หันมาทางไอ้อาร์ทกับไอ้โต้งที่โพสท่ากวนๆแบบยอดมนุษย์เตรียมออกบิน แล้วมองเลยไปที่พี่นานกับพี่แทนที่ทำท่าแอคอาร์ทกอดอีกอย่างหนุ่มวัยรุ่นปลดเกษียณ ส่วนผมกับแต็งค์อ่ะหรอ
“ไอ้แต็งค์!! มึงกอดเอวน้องกูทำไม” นั่นไงทำตัวเป็นคนขี้โวยวายแล้วหนึ่ง
“แฟนผม”
“แต่น้องกูไง!”
“พี่นนท์ พี่ก็เลิกลู่ลี่มันซักที” ไอ้ไม้ที่พูดไปขำไป ส่ายหน้าไปด้วยอีก
“วุ่นวายกว่าใครพวกเลยมึง” พี่น่านบ่นแบบไม่จริงจัง อมยิ้มนิดๆ
“คิดผิดจริงๆที่เอามันมา” ผมก็ร่วมผสมโรงด้วยอีกคน จนพี่นนท์มันโวยวายอีกยกใหญ่
“พี่น่าน นี่กูน้องมึงนะ” แล้วก็หันมาทางผม “น้ำนี่กูพี่มึงมึงนะ”
ฮ่าๆๆ
ก๊ากกกกกก
แล้วพวกเราก็พากันหัวเราะเฮโลครั้งใหญ่ที่พากันรวมหัวแกล้งพี่นนท์มันได้
“เอาละนะ 1 2 3” เสียงรุ่นพี่ที่เราขอแรงให้มาช่วยถ่ายรูปให้ตะโกนบอก
แชะ
แชะ
แชะ
แล้วก็อีกหลาย แชะ
ก่อนลา ก่อนจะผ่านคืนนี้
แค่ได้มีความสุข แค่นี้ก็มีแรงใจ
เอ่ยแค่เพียงคำลา สักวันจะกลับมา
ไม่ว่ายังไง เรายังจะกลับมาพบกัน
ก่อนลา เราเป็นเพื่อนกันแล้ว
ไม่ว่านานเท่าไร ยังไงก็เป็นเพื่อนกัน
เอ่ยแค่เพียงคำลา พ้นข้ามคืนนิทรา
ไม่ว่ายังไง เรายังจะกลับมาพบกัน
ฤดูกาล
เมฆฝนที่คอยซัดเข้ามา
ค่ำคืนเดือนมิถุนา คิดถึงวันคืนผ่านมา
ดวงดาว
ส่องแสงลงมาตั้งไกล
ใจฉันยังคงหวั่นไหว คิดถึงวันคืนผ่านมา
“ถึงซักที ตะคริวแดกตูดกูหมดแล้ว”
“ไอ้เหน่ง มึงอ่ะแค่ตะคริวแดกตูด ส่วนรถกูอ่ะไอ้อาร์ทกับไอ้เทมส์แดกเบียร์หมดจะสองลังแล้ว ไอ้พวกชั่ว” เสียงบ่นโวยวายของไอ้ไม้ลอยลงตามมันมาจากรถ
เธอคือภาพฝันในจักรวาลของฉัน
ดวงดาวส่องวับวาวเมื่อพบเธอ
“พี่น่านๆ”
“ไร”
“พี่มึงมาช่วยพี่แทนยกของก่อน กูจะไปดูที่จอดรถให้พวกเพื่อน” พูดจบก็กุลีกุจอออกไปที่ลานจอดรถของงาน
“แม่งขนกันมาทั้งคณะเลยหรอวะไอ้น่าน” แทนหันมาถามเชิงสงสัย
“ทั้งคณะไหมกูไม่รู้” หันมาทำหน้ายียวนตอบ “กูรู้แค่ว่าคนที่มันเทียวไปไล่ขายขนมจีบเช้าถึงเย็นถึง ตามเอาใจอย่างนู้นอย่างนี้อ่ะมาด้วยว่ะ”
“ฮ่าๆ เอาจริงดิ” น่านไม่ได้ตอบอะไรแค่ส่ายหัวแล้วยิ้มน้อยๆ “เสือร้ายอย่างไอ้นนท์อ่ะนะ ขนาดมึงที่เป็นพี่มันกับน้ำที่เป็นน้องมันที่มันบอกรักพวกมึงนักรักพวกมึงหนา กูยังไม่เห็นว่ามันจะใส่ใจเลยว่าพวกมึงจะมีที่จอดรถไหม จะกางเต็นท์กันตรงไหน แม่งเหลือจะเชื่อ-”
“เชื่อเถอะพี่แทน คนนี้อ่ะเอาพี่นนท์มันอยู่หมัด” น้ำเดินมาร่วมผสมโรงอีกคน
เธอคือภาพฝันในจักรวาลของฉัน
ดวงดาวส่องวับวาวเมื่อพบเธอ
งดงามไปหมด
(เพลง ภาพฝันในจักรวาล โดยเขียนไขและวานิช)
“เอาว่ะ เสือร้ายอย่างไอ้นนท์กับหมาป่าเดียวดายอย่างไอ้น่าน” แทนพูดไปหัวเราะไปอย่างชอบใจ “เห็นทีจะมีแต่มึงแล้วไอ้น่าน ที่ยังบูชาเวอร์จิ้นไม่เลิก ฮ่าๆๆ”“ไอ้แทน ไอ้ห่าราก” ด่าพร้อมกับถีบไปกลางหลังแทนเบาๆ
“ไอ้แคมป์มีงมาช่วยกูกางเต็นท์ซิไอ้หอกหัก ยืนแอคอาร์ทอยู่นั่นแหละ” นั่นไอ้อาร์ทมันแหกปากขอความช่วยเหลืออยู่
“ไอ้บิวมึงถ่ายกูหล่อๆนะเว้ย กูจะ-”
“กูจะตายแล้วไอ้โชค ไอ้บิว แม่งมาช่วยกูตอกเสาเต็นท์ซักทีโว้ยยยย” นี่ไอ้ไม้ที่โวยวายตั้งแต่ขึ้น ลงรถ กางเต็นท์ และคิดว่าน่าจะยันกลับด้วย
“ไอ้เทมส์โว้ย ไปซื้อน้ำแข็งกับกูหน่อยใครแม่งแดกหมด มันกำลังคิดว่าตัวเองเป็นเอลซ่ารึไง” และก็นี่ไอ้โต่งกำลังทำตัวเป็นคนขี้โวยวาย
“ไอ้อาร์ท ไอ้ควายมึงกางเต็นท์ยังไงของมึงเนี่ย”
“มึงสิควายไอ้แคมป์ กูก็กางตามยูทูปเนี่ย”
“ไอ้ไม้ๆ มึงจะตอกมือกูรึไง”
“มึงก็อย่าโง่ให้กูตอกสิไอ้โชค”
“ไอ้หอกหัก--”
“วุ่นวายกันทุกตัว” ไอ้เหน่งที่เดินหน้าละเหี่ยมาตบไหล่ผมเบาๆ
“เออ วุ่นวายกันได้ทุกที่จริงๆพวกมัน” ผมบ่นไปหัวเราะไปกับความวายป่วงตรงหน้า “แต็งค์ เต็นท์แล้วเสร็จแล้วหรอ”
“เรียบร้อย”
“ไม่ต้องไปช่วยพวกมันนะ ปล่อยให้วุ่นวายกันให้ตาย คิคิ”
“ไม่ช่วยพวกมันก็หันมาช่วยกูนี่ไอ้แต็งค์” ไอ้เหน่งบ่นอุบอิบ “กูกางเสร็จจะนอนแม่งคนเดียวไอ้เวรตัวไหนอย่าได้เสือกเชียว” มันพูดไปส่ายหน้าไป
เห้ออออออ
ผมหันไปมองภาพความวุ่นวายตรงหน้า นี่นับเป็นครั้งแรกที่พวกเรามาเที่ยวด้วยกันไกลขนาดนี้ ระหว่างทางก็มีเรื่องราวมากมาย ทั้งเรื่องขำขัน เรื่องน่าหงุดหงิด มีน่าเบื่อบ้างเล็กน้อย แต่พวกเราก็ไม่ละทิ้งความตั้งใจที่จะมางานเทศกาลดนตรีด้วยกัน ถึงเพื่อนบางคนจะพึ่งเข้ามาในชีวิตผม แต่ความจริงใจ ความเป็นกันเองของพวกมันทำให้ผมรู้สึกว่า ผมและพวกมันจะสามารถเป็นเพื่อนกันแบบนี้ไปได้อีกนานเลยครับ
“คิดไรอยู่” ผมส่งยิ้มเบาบางไปให้แต็งค์
“คิดว่าถ้าได้ใช้เวลาด้วยกันแบบนี้บ่อยๆก็ดีนะ” แต็งค์มันอมยิ้มน้อยๆแล้วเอาแขนขึ้นมารั้งคอผมให้พิงไปบนบ่าของมัน
“คงจะวุ่นวายน่าดู”
“แต่มันก็มีความสุขไง” ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนที่ทำให้รักมากขึ้นทุกวันตั้งแต่รู้ใจตัวเองว่ารู้สึกยังไง “ได้ใช้เวลาสบายๆฟังเพลงเพราะๆในบรรยากาศที่ชอบ ได้อยู่กับเพื่อน อยู่กับแฟน แล้วก็พี่ๆของตัวเอง” หันไปมองทางพี่น่านและพี่แทนที่ล็อคคอพี่นนท์น่าจะคาดคั้นเรื่องคนสำคัญของพี่มันอยู่ “มันมีความสุขมากๆเลยนะ” ฟอดดดดดด
“ครับ มีความสุขมากๆ”
ฮิ้ววววววววววว
“ให้มันเบาๆกันหน่อย” เสียงหมั่นไส้จากพี่นนท์มัน แล้วพี่มันก็โดนพี่น่านกับพี่แทนบีบปากล็อคคอพี่มันต่อ
“สงสารหัวใจหนุ่มโสดแบบกูบ้าง” แล้วก็ตามด้วยเสียงคร่ำครวญของไอ้โชค ถามว่าสนใจพวกมันไหม ก็ไม่ คิคิ
เสียงเพลงฟังสบายๆ กับบรรยากาศยามค่ำ บวกด้วยเบียร์เย็นๆ ก็ทำเอาสุขใจเหมือนกัน ผมหันไปมองแก๊งค์เพื่อนที่พากันซัดเบียร์อย่างเอาเป็นเอาตายไม่พอ ยังพากันแหกปากประสานเสียงร้องเพลงตามนักร้องที่เค้ากำลังทำการแสดงอยู่บนเวทีไกลๆนู้น ผมได้แต่ส่ายหน้าระอากับพวกมัน
“เห้ยๆ เพลงนี้กูชอบ!!”
“ไอ้ไม้มึงอย่าแหกปาก!” ไอ้เหน่งพูดไปก็จัดการเอาเบียร์หยัดปากมันไปพร้อม
“อึก มึงแม่ง”
“ไอ้แคมป์ๆ ถ่ายกูแบบเหม่อๆนะ”
“ไอ้แต็งค์ มึงมาชนๆ” นับว่าเป็นครั้งแรกที่แต็งค์มันทำตามใจไอ้บิวมัน ชนกันเสร็จก็เอนตัวให้ผมพิงเหมือนเดิม ส่วนตัวผมก็อดไม่ได้ที่จะเอาหัวเน่าๆของตัวเองถูไถกับอกมันไปเรื่อยเปื่อย
“อ้อน”
“ก็อ้อนไง” ฟอดดดด แล้วก็หอมหัวผมไปหนึ่งที ไม่วายพึมพำออกมาเป็นเพลงตามนักร้องที่กำลังร้องอยู่
คือความประทับใจเมื่อสบตากัน
อบอุ่นเหลือเกิน ข้างในรอยยิ้ม
มีการก้มลงมาสบตาอีกนะคนเรา
จะบอกให้รู้รักมากๆเลย
จะบอกไม่รักได้ไงโธ่เอ๋ย
รอยยิ้มแบบนี้... ทำให้ผมตายได้จริงๆนะ
โอ้ Baby น่ารักมากๆเลย
แบบชุบแป้งทอดไปเลย
ผมที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเขิน เลยเอื้อมมือไปบีบจมูกมันด้วยความหมั่นไส้แทน
มอบเพลงนี้เป็นสื่อแทนใจ ยกให้เธอ
(เพลง น่ารักชุบแป้งทอด โดย ชีวิน ขวัญใจคนเดิม)
“เขิน” ใช่เขินมาก จุ้บบบ“อ่ะ ให้รางวัล”
“มากกว่านี้ไม่ได้หรอ”
“แล้วจะเอาอะไรดีน๊า”
“เอาตีนกูนี่” อ่ะ ไอ้พี่นนท์ชาติที่แล้วมันทำงานโรงไฟฟ้ารึไง ขยันช็อตฟิลจริง
“เสือกอะไรอีกเนี่ยพี่นนท์”
“อ้าว นี่กูพี่มึงนะ”
“พี่ก็แค่พี่ชายที่มันเก็บมาเลี้ยง ฟู่วว” ไอ้เทมส์ที่โผล่มาเป่าหูพร้อมทำปากขมุบขมิบใส่พี่มัน เห้อออ
“มาลู่ลี่แต่กับน้องเนี่ย ปัณณ์นี่ให้คนอื่นดูแลไปแล้วรึไง” พอผมพูดขึ้นพี่มันก็หรี่ตาชี้นิ้วใส่ผมทันที
“ปัณณ์ไหนวะพี่” ไอ้เหน่งมันเลยวิ่งสี่คูณร้อยมาเสือกทันที
“คือใคร คือปัณณ์วะ” แล้วก็ไอ้แคมป์ที่มาร่วมวงเสือกด้วย
“นั่นสิๆ ปัณณ์คื-” ไอ้ไม้ที่ยังไม่ทันได้เสือกก็โดนพี่มันลูกชิ้นอุดปากซะก่อน
“ไม่เสือกนะเด็กๆ” พร้อมยกมือโบกไปมา แต่ลูกกะตาพี่มันนี่เลิกลักมาก จนผมอดหัวเราะไม่ได้ คึคึ
“ไอ้นนท์ ปัณณ์เมาอ้วกไปแล้วว่ะ ทำไ-” พี่น่านมันยังพูดไม่จบพี่นนท์มันก็ใส่ตีนหมารีบไปทันที ผมได้แต่ส่ายหัวเนือยๆ
“เสือร้าย ได้เป็นหมาแน่ๆเลยว่ะไอ้เหน่ง ฮึๆ”
“อะระ เสือร้ายอะระ” ไม่วายความขี้เสือกของมันยังคงเซ้าซี้ผมต่อเรื่อยๆ “แล้วปัณณ์คือใครวะ”
“เออนั่นสิ”
“คนไหนปัณณ์วะ”
“หาววว ง่วงจังเลยแต็งค์” ผมที่ตัดบทพวกมันเหมือนไม่มีตัวตนแล้วหันมาสนใจคนที่ทำตัวเป็นเสาหลักให้พิงอยู่เนิ่นนาน “กินเยอะไปรึป่าว” ผมเหลือบตาลงมองกองขวดเบียร์ที่ไม่ใช่น้อยๆ “กินเยอะแบบนี้ต้องเจอหยิก”
“หยิกตรงไหนดีล่ะ” มันก้มหน้าลงมาพูด แล้วคลอเคลียร์อยู่แถวๆหูแถวๆคอผม จนผ-
“โห้ย มึงแม่งไม่ให้ความร่วมมือกูเลย” ไอ้ไม้ที่นั่งรอคำตอบจากผมอยู่นานเลยโวยวายขึ้น “กูไปเสือกเองก็ได้”
“กูไปด้วยๆ”
“เห่ หลังจากที่พี่มันเสือกเรื่องคนอื่นมานาน” ไอ้เหน่งพูดขึ้นและทำตาเจ้าเล่ห์ “ได้เวลาเสือกเรื่องพี่มันคืนแล้วว่ะ หึหึ”
“ก๊ากกก หึหึ”
“กู หึหึด้วย” แล้วพวกมันก็พากันยกโขยงไปเสือกเรื่องของพี่นนท์กัน
“ไม่ไปกับพวกมัน”
“ไม่อ่ะ อยากอยู่กับแฟน” ฟอดดดด
“อ้อน” ฟอดดดด
“คิคิ”
แล้วเราก็นั่งหยอกล้อกันท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ กับเพลงที่เพราะขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน
เธอคือนางฟ้า อยู่บนนภา
เพียงก้าวลงมา มาให้ถูกรักใช่ไหม
เธอมาเพื่อสอนให้ดวงตา ได้เห็นว่าอะไร
รู้ความใน ปิดไว้ไม่กล้าจะบอกสักที
ว่าแก่จนป่านนี้ มันคงไม่มีอะไร
จะสู้หนุ่มขาว ก็คงจะมีแต่ใจ
จะสุข จะหวาน ก็คงต้องคานออกไป
บอกใจว่าสังขารไม่ดี
เราเองจะเอาอย่างไร
ไอ้ความเก๋านั้นแต่ตัวแต่ใจ
จะเด็ดดอกฟ้าก็คงไม่ผ่านกระได
ดันสูงและขาก็ไม่ดี
มีใจต้องทำอย่างไร
คนอย่างเขาก็คงไม่ทันอะไร
แก่จนป่านนี้คงเป็นไอ้ต้าวต่อไป
วอนขอเพียงเธอแค่หางตา มอง
(เพลง แก่จนป่านนี้คงเป็นไอ้ต้าวต่อไปวอนขอเพียงเธอแค่หางตา โดย ดวงดาว เดียวดาย)
“หาววววว โหยยยยย กูคิดว่ากูจะหนาวตายไปแล้ว”
“หนาวตายห่าอะไรไอ้บิว กูเห็นเมื่อคืนมึงถอดเสื้อ บ่นว่ามึงร้อนๆ” เสียงไอ้โชคมันแย้งขึ้น
“เออ ไอ้เวรบิวเมาแล้วชอบถอดเสื้อ โชว์ขี้โพ้รึไงมึง” ไอ้เทมส์เดินเข้ามาผสมโรงด้วยอีกคน
“ทำไม กูโชว์ความฟิตปั๋งไม่ได้รึไง”
“ถุย/ถุย/ถุย”
“แหวะ ไอ้บิว มือมึงไปจับอะไรมาเนี่ย” แล้วก็เป็นไอ้ไม้ที่ซวยเพราะโดนมือไอ้บิวยัดปากไป
“เห้ย พวกมึงเก็บของกันเสร็จยัง” พี่นนท์มันตะโกนถามขึ้น
“เรียบร้อยแล้วลวกเพ่” แล้วก็เป็นไอ้แคมป์ที่ตอบกลับไปอย่ากวนตีน
“ไอ้ไม้ มันสกปรก”
“ก็มึงแกล้งกูก่อน”
“ไอ้พวกชิบหาย โดนกู”
“โทดๆ”
“มึงตายยยยย”
“โอ้ยๆ พี่น่านช่วยผมด้วย”
“ไอ้แทนนนนน”
“ไอ้พวกเวร!!”
“ไอ้โต้ง ไอ้อาร์ทมึงจับมันไว้”
“เดี๋ยวมึ-”
เห้ออออออออ ผมบอกแล้วว่าวุ่นวายกันยันกลับ แล้วคอยดูนะ มันต้องไปวุ่นวายกันต่อที่มอแน่นอน ไหวไหนที่สงบสุขคงเป็นวันที่ผมอยู่บ้านแหละ ไม่ใช่พวกมันสงบสุขนะ แต่น่าจะเป็นผมที่สงบสุขมากกว่า ถอนหายใจยาวๆอีกรอบ
“ลืมอะไรไหม”
“ไม่อ่ะ” ผมหันไปมองคุณแฟนที่สุดแสนจะประเสริฐหอบของพะรุงรังอยู่ ตั้งแต่มาจนกลับแต็งค์มันไม่เคยปล่อยให้ผมได้ลำบากเลย จะทำอะไรมันก็คอยทำให้ เดี๋ยวทำนั่นทำนี่ให้โดยไม่ต้องร้องขอ วาสนาจริงๆ “รักแฟนจัง”
“หึหึ” ผมเอามือไปคล้องแขนมันไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ช่วยถือของไปด้วย “อาทิตย์หน้าไปบ้านกัน พ่อกับแม่ถามหาแล้ว”
“กลายเป็นลูกรักไปแล้วหรอเนี่ย” จุ้บ แต็งค์มันก้มหน้ามาจุ้บเบาตรงๆหน้าผากของผม
“เป็นที่รักของคนทั้งบ้านไปแล้ว”
“คิคิ” ผมสบตากับแต็งค์ มองเข้าไปในดวงตาคู่นั้นก็รับรู้ได้ทันทีว่าแต็งค์มันมีความสุขมากแค่ที่ไหน สำหรับเราผมรู้ว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะมาถึงจุดนี้ได้ แต่ก็เพราะเราต่างคนต่างพยายามที่จะเข้ามาในโลกของกันและกัน ซึ่งในโลกของเราก็ไม่ได้มีแค่ผมกับแต็งค์ แต่มีเพื่อน มีพี่ๆ มีครอบครัว ถึงแต็งค์จะไม่ใช่คนชอบพูดชอบอธิบายอะไร แต่ผมรู้ว่ามันก็พยายามอย่างมาเหมือนกันเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ได้รับกการยอมรับจากทั้งโลกของผม และโลกของมัน ไม่ใช่แค่เพื่อรักกัน แต่เพื่อปกป้องความรู้สึกของกันและกัน และก็เพื่อเติมเต็มซึ่งกันและกัน แรกๆมันอาจจะยากและดูน่าถอดใจไปหมด แต่เพราะว่าอยากมีกันอยู่ในชีวิตจริงๆ เราเลยผ่านมาได้ และผมก็เชื่อว่าเราสองคนจะผ่านมันไปอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ ไปซัก 10 ปี 50 ปี หรือซัก 100 ป-
“ไอ้น้ำโว้ยยยย แวะไหนอีกป่าววะ” เหอะ พี่น่านขัดมูดกูมากเลย
“จะแวะไหนก็แวะ!!” ผมตะโกนกลับไปอย่างเหลืออด
“หึหึ” ไอ้แต็งค์ที่คงรู้ว่าผมหงุดหงิดเอามือมาลูบหัวลูบหลังปลอบใจ “พี่แกไม่ได้ตั้งใจ”
“พี่มันตั้งใจ...” ผมหรี่ตาไปทางพี่น่านอย่างจับผิด ส่วนพี่มันก็ตีหน้ามึงไม่รู้ไม่ชี้
“น้ำ ถ่ายรูปรวมกันดีไหมวะ”
“ดีๆ” พี่นนท์ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้มาเสนอหน้าตอบมา มาพร้อมกับ
“หวัดดีครับพี่ปัณณ์/หวัดดีครับ/พี่ปัณณณณณณ” ผม แต็งค์และไอ้เหน่ง เอ่ยทักคนที่เดินมาพร้อมกับพี่นนท์ด้วยรอยยิ้มเชิงแซว
“หวัดดีครับ” ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มและเสียงนุ่มอ่อนโยน
“เมื่อวานเห็นแวปๆแต่ก็ไม่ได้เข้าไปทัก มัวแต่วุ่นวายกับไอ้พวกนี้” ผมบุ้ยปากไปทางพวกเพื่อนที่กำลังแกล้งกันอย่างสนุกสนาน
“ไม่เป็นไรๆ” พี่แกโบกมือไปมา พร้อมหัวเราะน้อยๆ “เมื่อวานพี่ก็เละมาก ดีแล้วจะไม่เห็นพี่สภาพนั้น”
“เละอะระ ออกจะน่ารั-” พี่นนท์
“พี่ปัณณณณณณณ” มาแล้วไอ้พวกตัวเสือก เตรียมวุ่นวายเลยมึงไอ้พี่นนท์
“พี่ปัณณ์ กินอะไรยังครับ”
“พี่ปัณณ์หิวน้ำไหม”
“พี่จะกลับรถใครอะ” ผมเสมองพี่นนท์ที่มันเดาะลิ้นอย่างหงุดหงิดใจ ก็อดขำไม่ได้ ไงมัน แกล้งคนไว้เยอะ โดนซะบ้าง
“กลับกับผมได้น-”
“เค้ากลับกะกู ไอ้พวกเวร!!!” พูดจบพี่มันก็ดึงแขนพี่ปัณณ์มาอยู่ใกล้ๆพร้อมชี้หน้าคาดโทษไอ้พวกเพื่อนตัวดีของผมทุกตัว
“โห้ย ขี้หวง” เสียงไอ้ไม้บ่นอุบ
“เดี๋ยวมึงจะโดนอีกตัวไอ้ไม้” แล้วพี่มันก็ผลักหัวไอ้ไม้ไปอย่างไม่จริงจังทีนึง ทำเอาเรียกเสียงหัวเราะจากพี่ปัณณ์ และจากทุกคน โดยเฉพาะพี่น่านกับพี่แทนที่ดูจะสะใจสุดๆ
“ดูท่าแล้ว น้องมึงได้เป็นหมาอย่างสมบูรณ์แล้วว่ะไอ้น่าน”
“เออ” พี่น่านมันตอบแค่นั้น แล้วก็ส่ายหัวพร้อมอมยิ้ม ก็แหงแหละเห็นพี่นนท์มันแดรดแด๋แบบนั้น มันเคยคบใครที่ไหน คุยกับใครแปบๆ มันก็เขี่ยเค้าทิ้งแล้ว ส่วนคนนี้ผมบอกเลยว่าของจริง ได้เป็นหมาสมใจพี่แทนกับพี่น่านแล้วแหละมึงไอ้พี่นนท์
“มาๆ มาถ่ายรูปรวมกันไว้เป็นที่ระทึกหน่อย” เสียงไอ้เหน่งตบมือเปาะเรียกทุกคน
“ที่ระทึกก็มาว่ะ”
โพล๊ะ
“มึงอ่ะรีบมาเลยไอ้ห่าอาร์ท” ประเคนฝ่ามือจบมันก็ดึงไอ้อาร์ทมันจัดแจงเตรียมตัวยืนถ่ายรูป
การถ่ายรูปรวมครั้งนี้ค่อนข้างจะวุ่นวายเหมือนเดิม เหมือนเดิมจริงๆ จนอดหัวเราะเบาๆไม่ได้ ผมหันมองภาพความวุ่นวายตรงหน้า ที่ไอ้ไม้พยายามจะไปยืนข้างๆพี่ปัณณ์ส่วนพี่นนท์มันก็ทั้งผลักทั้งเอาตีนเขี่ยไอ้ไม้ให้ออกไปไกลๆพี่ปัณณ์จนไอ้เหน่งต้องเป็นคนรับจบดึงไอ้ไม้มาล็อคคอไว้อยู่ข้างตัว แล้วก็ไอ้แคมป์ ไอ้เทมส์ ไอ้บิว ที่ยืนยิ้มแฉ่งอุ้มไอ้โชคในท่านอนหงาย หันมาทางไอ้อาร์ทกับไอ้โต้งที่โพสท่ากวนๆแบบยอดมนุษย์เตรียมออกบิน แล้วมองเลยไปที่พี่นานกับพี่แทนที่ทำท่าแอคอาร์ทกอดอีกอย่างหนุ่มวัยรุ่นปลดเกษียณ ส่วนผมกับแต็งค์อ่ะหรอ
“ไอ้แต็งค์!! มึงกอดเอวน้องกูทำไม” นั่นไงทำตัวเป็นคนขี้โวยวายแล้วหนึ่ง
“แฟนผม”
“แต่น้องกูไง!”
“พี่นนท์ พี่ก็เลิกลู่ลี่มันซักที” ไอ้ไม้ที่พูดไปขำไป ส่ายหน้าไปด้วยอีก
“วุ่นวายกว่าใครพวกเลยมึง” พี่น่านบ่นแบบไม่จริงจัง อมยิ้มนิดๆ
“คิดผิดจริงๆที่เอามันมา” ผมก็ร่วมผสมโรงด้วยอีกคน จนพี่นนท์มันโวยวายอีกยกใหญ่
“พี่น่าน นี่กูน้องมึงนะ” แล้วก็หันมาทางผม “น้ำนี่กูพี่มึงมึงนะ”
ฮ่าๆๆ
ก๊ากกกกกก
แล้วพวกเราก็พากันหัวเราะเฮโลครั้งใหญ่ที่พากันรวมหัวแกล้งพี่นนท์มันได้
“เอาละนะ 1 2 3” เสียงรุ่นพี่ที่เราขอแรงให้มาช่วยถ่ายรูปให้ตะโกนบอก
แชะ
แชะ
แชะ
แล้วก็อีกหลาย แชะ
ก่อนลา ก่อนจะผ่านคืนนี้
แค่ได้มีความสุข แค่นี้ก็มีแรงใจ
เอ่ยแค่เพียงคำลา สักวันจะกลับมา
ไม่ว่ายังไง เรายังจะกลับมาพบกัน
ก่อนลา เราเป็นเพื่อนกันแล้ว
ไม่ว่านานเท่าไร ยังไงก็เป็นเพื่อนกัน
เอ่ยแค่เพียงคำลา พ้นข้ามคืนนิทรา
ไม่ว่ายังไง เรายังจะกลับมาพบกัน
(เพลง ก่อนลา โดย วสันต์17)