กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 ... 10
11
Boy's love story / Re: Love, In Every Lifetime : ตอนที่ 2 (Coming of age, Slice of life, Feel good)
« กระทู้ล่าสุด โดย Milky_Milky_Way เมื่อ 22-04-2025 22:55:26  »
สวัสดีครับ ผู้อ่านทุกท่าน
อย่างแรกเลยคือขอบคุณทุกคนครับที่เข้ามาอ่าน
รู้สึกตกใจมากที่เปิดมาอีกทีและเห็นว่ายอดอ่านเพิ่มมาจากหลักร้อยเป็นพันกว่า

ความตั้งใจแรกคืออยากแต่งนิยาย Coming of age จริงๆ ที่เราจะได้เห็นตัวละครเติบโตทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ความรูู้สึกนึกคิด และมุมมอง-ทัศนคติ ... time line ของนิยายจะยาวพอให้เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไปด้วยกัน

เพื่ออรรถรสในการอ่านเลยขอกระซิบว่าในนิยาย ผมวางเศษขนมปังเอาไว้หลายจุด
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในตอนนี้ อาจจะมาโผล่อีกทีในตอนถัดๆไป
ถ้าใครหาได้ว่าเศษขนมปังมีอะไร มาคุยกันได้นะครับ ผมอยากรู้ว่า... “มีใครมองออกบ้างไหม”

หวังว่าทุกคนจะสนุกกับนิยายเรื่องนี้
และอีกครั้ง ... "ขอบคุณครับ สำหรับพันวิวแรกของชีวิต"


พาน้องมาทักทายทุกคนครับ

มิลค์ : "แวะมายิ้มหวาน ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะครับ ... จากน้องมิลค์คนเดิม เพิ่มเติมคือโดดเรียนเป็นแล้ว"
#รักนะ #ขอบคุณที่ยังอยู่ตรงนี้ด้วยกัน
12
ในบ้านของเรา วาล์วฝักบัว และ ก๊อกน้ำ เป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งในการอาบน้ำ การล้างมือ และการทำความสะอาดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำ
การทำงานของอุปกรณ์เหล่านี้มีความสำคัญในการควบคุมการไหลของน้ำ เพื่อให้เราได้รับความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่ดีที่สุด

หน้าที่หลักของก๊อกฝักบัว
1. การควบคุมน้ำไหล
วาล์วฝักบัวทำหน้าที่ควบคุมการไหลของน้ำผ่านฝักบัว น้ำร้อนไหลและน้ำเย็นสามารถถูกควบคุมได้ตามต้องการ ซึ่งช่วยให้เราสามารถอาบน้ำอย่างสะดวกสบาย
2. ระบบการผสมอุณหภูมิ
วาล์วฝักบัวที่มีคุณภาพจะมีระบบการผสมอุณหภูมิที่ทำให้ผู้ใช้งานได้รับอุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสม โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนบ่อยๆ
3. ความปลอดภัย
การใช้วาล์วฝักบัวที่มีระบบป้องกันน้ำร้อนเกินไปจะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกน้ำร้อนทำให้เกิดบาดแผล



หน้าที่ของก๊อกน้ำ
1. จ่ายน้ำตามต้องการ
ก๊อกน้ำทำหน้าที่ในการจ่ายน้ำได้อย่างรวดเร็วและสะดวก โดยสามารถเปิด-ปิดได้ง่ายตามต้องการ
2. ประหยัดน้ำ
ก๊อกน้ำที่มีคุณภาพมักมีเทคโนโลยีที่ช่วยในการประหยัดน้ำ ไม่ให้มีการใช้น้ำที่สูญเสียไปโดยใช่เหตุ ทำให้คุณสามารถลดค่าใช้จ่ายในบิลน้ำได้
3. การออกแบบที่ใช้งานง่าย
ก๊อกน้ำมีหลากหลายรูปแบบและการออกแบบที่ใช้งานง่าย ทำให้เข้ากับการใช้งานในแต่ละบ้านและสไตล์การตกแต่ง

หน้าที่ของก๊อกฝักบัว
1. ความสะดวกสบายในการอาบน้ำ
ก๊อกฝักบัวจะช่วยให้การอาบน้ำทำได้อย่างสะดวก โดยน้ำสามารถไหลได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
2. ประสิทธิภาพในการทำความสะอาด
ก๊อกฝักบัวมีการกระจายของน้ำที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาด ทำให้คุณสามารถล้างสบู่และแชมพูได้อย่างง่ายดาย
3. การติดตั้งที่ยืดหยุ่น
ก๊อกฝักบัวมักถูกออกแบบให้สามารถติดตั้งได้ง่ายและมีหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการปรับความสูงตามต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับทุกคนในครอบครัว

วาล์วฝักบัว ก๊อกน้ำ และก๊อกฝักบัวมีหน้าที่สำคัญในการทำให้ชีวิตประจำวันของเราสะดวกสบายและปลอดภัย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน
คำแนะนำในการเลือกซื้อ
    ตรวจสอบคุณภาพ - ควรเลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและรีวิวดี
    ดูวัตถุดิบ - วัสดุที่ใช้ต้องมีความทนทานต่อการใช้งาน
    พิจารณาการติดตั้ง - วาล์วฝักบัวและก๊อกน้ำควรติดตั้งง่ายและเหมาะกับสไตล์ของห้องน้ำ
การเข้าใจในหน้าที่และความสำคัญของวาล์วฝักบัว ก๊อกน้ำ และก๊อกฝักบัวจะช่วยให้คุณสามารถเลือกอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างเหมาะสมที่สุด
13
Boy's love story / Re: Love, In Every Lifetime : ตอนที่ 2 (Coming of age, Slice of life, Feel good)
« กระทู้ล่าสุด โดย Milky_Milky_Way เมื่อ 21-04-2025 22:26:13  »
 :katai4: :katai5:
14
เรื่องสั้น / How Recruitment Agencies Transform Modern Hiring
« กระทู้ล่าสุด โดย damonshoppu เมื่อ 21-04-2025 16:48:10  »
Hiring today isn’t what it used to be. With increasing competition, evolving skill demands, and changing workforce expectations, businesses are under pressure to attract top talent—fast. In this dynamic environment, partnering with a recruitment agency has become a smart and strategic move for employers seeking to modernise their hiring approach.



What Does a Recruitment Agency Do?

A recruitment agency connects employers with jobseekers, but their role is far more comprehensive than simply filling roles. From candidate sourcing and screening to interview coordination and salary negotiation, agencies streamline every stage of the recruitment process. They also bring valuable industry knowledge, helping employers hire smarter and faster.

Modern recruitment agencies go beyond CV-matching—they use technology, data insights, and market expertise to identify high-calibre candidates who align with both the job and company culture.

Faster, Smarter Hiring

Speed is one of the biggest advantages of using a recruitment agency. Leaving a role unfilled for too long can stall business operations and cost time and money. Agencies maintain large databases of ready-to-hire talent, allowing them to quickly match candidates with roles.

Their pre-screening processes reduce the burden on internal HR teams, saving time while maintaining high quality. For urgent or hard-to-fill roles, an agency’s ability to move fast can make all the difference.

Access to Better Candidates

A recruitment agency gives employers access to a wider, often higher-quality talent pool—including passive candidates who aren’t actively job-hunting but are open to new opportunities. These candidates are typically unreachable through standard job ads.

Agencies use specialised sourcing techniques, digital platforms, and referrals to tap into hidden talent networks, increasing the chances of finding ideal candidates who may not be visible through traditional means.

Industry-Specific Expertise

One of the key ways recruitment agencies transform hiring is through deep knowledge of specific sectors. Whether it’s manufacturing, tech, logistics, or life sciences, agencies understand the qualifications and experience required for success.

This expertise means they can accurately assess both technical skills and cultural fit, ensuring the candidates they recommend are aligned with the unique needs of the role and industry.

Lower Hiring Risks

A bad hire can be costly—not just in salary and onboarding costs, but in team disruption, morale, and productivity. Recruitment agencies help reduce this risk by following a structured and thorough process, including interviews, reference checks, and sometimes even skills testing.

Many agencies also offer a replacement guarantee, further minimising risk for employers and reinforcing their commitment to quality.

Supporting Employer Branding

A strong employer brand attracts better candidates. Recruitment agencies can support employer branding efforts by refining job descriptions, advising on competitive benefits, and helping position your company as a great place to work.

Some agencies even offer branding services—developing career pages, social media messaging, and value propositions to help your company stand out in a crowded hiring landscape.

Adapting to the Changing World of Work

Today’s workforce is increasingly flexible, remote, and diverse. A modern recruitment agency helps businesses adapt by offering hiring solutions for permanent, temporary, contract, or project-based roles.

They also stay updated on compliance, visa regulations, and employment law, reducing legal risks for their clients.

As hiring becomes more complex, the role of the recruitment agency is more crucial than ever. From speeding up hiring timelines to improving candidate quality and reducing hiring risks, recruitment agencies help employers compete and thrive in a fast-moving job market.

Whether you’re scaling up, replacing a key team member, or hiring in a specialist field, partnering with a recruitment agency can give your business the edge it needs to build stronger, more resilient teams.
15
สนุกดีไม่มีดราม่า 555 o13
16
ในยุคที่ทุกคนใส่ใจเรื่องความงามและสุขภาพผิวหน้ามากขึ้น เทคโนโลยีในการดูแลผิวหน้าอย่าง HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) และ Multipolar RF (Radio Frequency) จึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้า ลดเลือนริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้สวยงามขึ้น โดยในบทความนี้เราจะพูดถึงเทคโนโลยีทั้งสองอย่างนี้เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น



HIFU (High Intensity Focused Ultrasound)
HIFU เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการกระตุ้นผิวชั้นลึก โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน ซึ่ง HIFU จะทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิว ส่งผลให้ผิวดูตึงกระชับและเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยและเส้นริ้วที่เกิดจากวัยที่เพิ่มขึ้น ผู้ที่ทำการรักษาด้วย HIFU มักจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ และผลลัพธ์จะยาวนานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี

Multipolar RF (Radio Frequency)
Multipolar RF เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นวิทยุในการกระตุ้นผิว โดยทำงานโดยการสร้างความร้อนในชั้นผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินภายในผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าดูเนียนเรียบ กระชับขึ้นและลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทำ Multipolar RF จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และใช้เวลาเพียงไม่นาน ข้อดีของเทคโนโลยีนี้คือสามารถทำการรักษาได้ในระยะเวลาสั้น โดยไม่ต้องพักฟื้น

ความแตกต่างระหว่าง HIFU และ Multipolar RF
   1. กระบวนการทำงาน: HIFU ใช้คลื่นเสียงเพื่อสร้างความร้อนที่ชั้นผิวลึก ในขณะที่ Multipolar RF ใช้คลื่นวิทยุในการกระตุ้นผิวในระดับตื้นกว่า
   2. ความลึกในการทำงาน: HIFU สามารถทำงานในชั้นผิวที่ลึกกว่า ทำให้เหมาะสำหรับการยกกระชับส่วนที่ต้องการความชัดเจน ในขณะที่ Multipolar RF จะเน้นช่วยปรับผิวที่ตื้นกว่า
   3. เวลาในการเห็นผล: HIFU สามารถเห็นผลได้ชัดเจนในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์หลังการทำ ในขณะที่ Multipolar RF ผลลัพธ์อาจใช้เวลานานกว่า

การเลือกใช้เทคโนโลยี HIFU หรือ Multipolar RF สำหรับการยกกระชับหน้าและลดเลือนริ้วรอยนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และสามารถดูแลรักษาความงามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงการดูแลผิวพรรณอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อช่วยสนับสนุนผลลัพธ์จากการรักษาด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ได้อย่างยั่งยืน
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทำให้การดูแลผิวหน้าและการลดเลือนริ้วรอยเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกขึ้น ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาวิธีทำให้ผิวหน้ากระชับและดูอ่อนเยาว์
17
Boy's love story / Re: Love, In Every Lifetime : ตอนที่ 2 (Coming of age, Slice of life, Feel good)
« กระทู้ล่าสุด โดย Milky_Milky_Way เมื่อ 20-04-2025 10:14:17  »
สวัสดีครับทุกคน ตอนที่ 2 แล้วนะครับ  :mc4:

กลิ่นอายของตอนนี้ชัดเจนว่าอยู่ในช่วงยุค 2G ... พวกเราเลยได้เห็น item ในตำนานอย่าง floppy disk ที่ตอนนี้น่าจะสูญสลายไปจากโลกใบนี้แล้ว


อยากจะชวนคนอ่านเข้ามาร่วมพูดคุยกัน
หวังว่าทุกคนจะชอบครับ  :bye2:

เอารูปมิลค์-แอมป์ทำภารกิจเสี่ยงตายมาฝากครับ
18
Boy's love story / Love, In Every Lifetime : ตอนที่ 2
« กระทู้ล่าสุด โดย Milky_Milky_Way เมื่อ 20-04-2025 10:01:21  »
ตอนที่ 2 : จังหวะต้องห้าม


“... แล้วพอย้ายข้างสมการ ก็จะได้คำตอบ” พูดจบจีก็ทำเครื่องหมาย '#' กำกับหลังตัวเลขที่เป็นคำตอบ ... โคตรเทพ คนอะไรแก้โจทย์เลขยากๆได้ง่ายเหมือนปลอกกล้วย ไม่นับรวมว่าสามารถอธิบายให้คนโง่เลขอย่างผมเข้าใจได้ ต้องขอบคุณจีที่ทำให้การสอบเก็บคะแนนครั้งสุดท้ายก่อนสอบ final ของผมได้คะแนนดีกว่าที่คาด นับเป็นครั้งแรกของมนุษย์ต่ำกว่า mean แบบผม

“พวกมึงงงงง กูมาแล้ว” ไอ้บอนยิ้มหน้าระรื่นมาแต่ไกล ผมเหลือบมองเข็มบนนาฬิกาข้อมือ ... มาทำไมตอนนี้วะ อีกชั่วโมงนึงก็จะเลิกแล้ว

“มึงยังยิ้มหน้าระรื่นอีก ในห้องก็ไม่เรียน ไอ้จีมาติวให้มึงก็โดดไปแรด” ผมเปิดฉากด่าทันทีที่มันหย่อนตัวลงที่นั่งข้างๆ

“มึงนี่ขี้บ่นจังวะ กูซื้อขนมมาฝาก” มุกเดิม ไม่เพิ่มเติมอะไรซักนิด 

“โอ้ยยยยยยยยยย!!! กูบอกมึงกี่ครั้งแล้วว่าไม่แดกรสสตอเบอร์รี่ ถ้ามึงจะซื้อมาไถ่โทษก็ช่วยซื้ออะไรที่กูแดกได้หน่อย” บ่นแต่ก็ฝืนหยิบขนมในถุงเข้าปาก

“ก็แดกได้นิ บ่นไรนักหนาวะ” มันไหวไหล่เหมือนไม่แคร์อะไรทั้งนั้น

“มาแล้วก็ตั้งใจเรียน อยากน้อยจะได้มีอะไรติดสมองกลับไปบ้าง”

 :z6: ป๊าบ!!!!!!!!!   

“เหี้ยมิลค์ กูเจ็บไหมมึง ฟาดมาได้” ขอเอาสมุดฟาดหัวมันซักที หมันไส้กับสีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวของมัน

“นอกจากขี้เลื่อยแล้ว ก็เอาตัวขี้เกียจออกไปด้วย” ผมกับบอนยังต่อล้อต่อเถียงกันอีกหลายประโยคจนกระทั่งจีเอ่ยปากบอกว่าจะเริ่มติวต่อแล้ว

... เริ่มได้ไม่ถึง 10 นาที โทรศัพท์มือถือของไอ้บอนก็ดังขึ้น

“ฮาโหล มินต์เหรอ คุยได้ ... กับมินต์ เราคุยได้อยู่แล้ว” ไอ้บอนกรอกคำหวานผ่านโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะลุกออกจากโต๊ะ รองจากแมลงสาบแล้วก็เสียงเวลาคุยกับสาวๆของมันนี่แหละที่ผมเกียจเข้าไส้

“มึงทำหน้าตลก” จีแซว เพราะอดไม่ได้ที่จะเบ้ปากมองบนให้กับเสียง 3 ของไอ้บอน คนอะไร เปลี่ยนแฟนเหมือนเปลี่ยนถุงเท้า

“เหม็นความรักวะ!!!” 

“Final ไอ้บอนมันจะรอดไหมเนี่ย” คิ้วของผมขมวดกันเป็นปมเมื่อได้ยินประโยคคำถามของจี

“ไม่รู้จะทำยังไงกับมันแล้ว พูดก็โกรธ” ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เป็นห่วงมันแหละ ในขณะที่สอบครั้งล่าสุดผมทำคะแนนได้ค่อนข้างดี แต่บอนกลับแย่ลงไปกว่าเดิม ความตั้งใจในการเรียนของมันลดลงกว่าเดิมมาก วันๆไม่ทำอะไรนอกจากเล่น แอบหลับในห้องเรียน แล้วก็โดดเรียนไปหาสาวๆ ... เมื่อก่อนมันไม่ใช้คนแบบนี้ แม้จะเรียนไม่เก่ง แต่ยังใส่ใจมากกว่านี้ ผมว่าเป็นเพราะมันสนใจแต่เรื่องจีบหญิง ปฏิเสธไม่ได้ตั้งแต่มันขึ้น ม.2 รูปลักษณ์ภายนอกของมันก็เปลี่ยนไป ตัวสูงขึ้น กล้ามเนื้อเยอะขึ้น ใบหน้าคมขึ้น พูดง่ายๆคือหล่อขึ้น บวกกับความอัธยาศัยดีของมัน บ่อยครั้งผมก็เริ่มแยกไม่ออกแล้วว่ามันแค่เป็นคนเข้าถึงได้ง่าย หรือว่าเจ้าชู้กันแน่ ... เคยเตือนหลายครั้ง มันก็ทำตลกแดกเฉไฉไปเรื่อย พอต้อนจนมุมก็อารมณ์เสียกลบเกลื่อน

“งั้นเรากลับมาติวต่อเนอะ”

ติวจบแล้วก็ไม่มีวี่แววของไอ้บอน มันหายไปเลยตั้งแต่รับสาย เหนื่อยใจกับมัน แม้ผมกับจีสลับกันโทรหาแต่มันไม่รับ

“เอาไงกับกระเป๋ามันดี” จีถาม เพราะเรานั่งรอมันมาครึ่งชั่วโมงแล้ว

“เดียวกูเอากลับเอง ... ไปเถอะ มันอาจจะกลับไปแล้ว นึกได้เดียวก็โทรมา”



"ไอ้บอน อะ!!! ของมึง” ผมวางกระเป๋าลงบนโต๊ะของมัน ดูสีหน้าก็รู้ว่ามันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าลืมกระเป๋า

“เออ ขอบใจวะมึง ... กูลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าลืมกระเป๋าไว้ที่โรงเรียน” คำตอบของมันทำให้ผมอยากจะฟาดกระเป๋าใส่หน้า

“วันนั้นมึงไปไหนมาวะ” ผมถามพร้อมกับหย่อนตัวลงนั่ง จีมาถึงก่อนผม มันกำลังหันไปคุยอะไรซักอย่างกับแอมป์

“ไปหามิ้นต์มาแป๊บนึง กลับมาโรงเรียนอีกทีคิดว่าพวกมึงน่าจะกลับกันแล้วเลยไม่ได้โทรหา ... อะ อันนี้รายงานวิชาสังคม กูเช็คคำผิด จัดหน้า พิมพ์หน้าปกให้เรียบร้อย”

“เออ โอเค” ผมรบมาแล้วเปิดดูความเรียบร้อย หน้าแรกๆทุกอย่างปกติดี แต่พอเข้ากลางเล่มถึงได้เห็นความ ‘ฉห’ อยู่รำไร

“ไอ้บอน!!!”

“อะไร / ไรวะ” ทั้งมันกับจีประสาทเสียขึ้นพร้อมกัน สีหน้าแตกตื่น

“มึงไม่ได้ดูก่อนเย็บเล่มมาเหรอวะ ข้างในมันตัวอักษรอะไรของมึงเนี่ย” ผมแหกรายงานให้มันดูชัดๆ เจ้าตัวหน้าเสียไปทันทีที่เห็น

“กูว่ากูเช็คแล้วนะ เอาไงดีวะ” แล้วรอยยิ้มเจือนๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าเพื่อนสนิท

“ไอ้เหี้ย อีก 10 นาทีจะเข้าแถวแล้วด้วยจะทำอะไรก็ต้องรีบทำแล้วมึง”

“กูคิดออกแล้ว ...” คำพูดของจีเหมือนประตูสวรรค์ของพวกเรา

“... มึงเอา floppy disc ที่ save งานมาปะ”

“เอามาดิ” มันล้วง floppy disc ออกมาจากกระเป๋า

“โดดออกไป print ที่ร้านเจ้ซอยข้างโรงเรียน”

“ไอ้บอนมึงรีบไปเลย” ผมหันไปบอกมัน

“ไม่ได้ๆ เมื่อเช้ากูเจอจารย์นกแล้วถ้ากูหายไปเขาก็รู้ว่ากูโดดซิวะ ... ไอ้จีมึงรู้นิว่ามันอยู่ไหน มึงไปดิ”

“กูก็เจอแล้วเหมือนกัน” แล้วสายตาของทั้ง 2 คนก็จ้องมาที่ผม เพราะวันนี้มาสายกว่าปกติ เลยยังไม่เจอครูประจำชั้น

“กูไม่รู้จักร้าน” คำตอบของผมทำให้ความหวังของทั้งกลุ่มพังทลาย

“กูรู้แล้ว ... แอมป์ วันนี้มึงเจอจารย์นกยัง” จีหันไปหาเพื่อนร่วมห้องเมื่อปีก่อน

“ยังวะ”

“มึงรู้จักร้านเจ้ที่อยู่ถัดไป 2 ซอยปะ ปีก่อนที่โดดไป print งานกันนะ”

“รู้ ทำไมวะ”

“มึงพาไอ้มิลค์ไปหน่อย ...”

“... พวกกูเลี้ยงข้างกลางวันมึงทั้งอาทิตย์เลย” พอเห็นแอมป์ขมวดคิ้ว จีก็รีบยื่นสินบนให้ทันที

“ไอ้มิลค์จะไหวเหรอ มันเรียบร้อยซะขนาดนี้” บอนกระซิบถามจี แต่ผมบังเอิญได้ยิน

“มันไม่มีทางเลือกวะ กูกับมึงเกมแล้วเหลือแต่มัน” จีตอบ สายตาทั้ง 2 คนมองผมด้วยความหวัง

“ก็ได้ ไปดิ ... มึงเคยโดดเรียนไหม ...” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบ แอมป์ก็ตอบรับข้อเสนอ ประโยคแรกมันพูดกับจี ประโยคถัดมาพูดกับผม พอผมส่ายหัว แอปม์ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“...เอากระเป๋าเรียนไปด้วย ...” ผมขมวดคิ้ว จะเอาไปทำไมวะ

“...ขากลับเข้าประตูหน้า จะได้อ้างได้ว่ามาสาย...”  ที่พูดมาก็มีเหตุผล สงสัยมันจะโดดเรียนบ่อยเลยรู้ technique

“...ทำตามที่กูบอก แต่ถ้าถูกจับได้ก็ตัวใครตัวมันนะ” ผมไม่มีทางเลือกนอกจากพยักหน้า แล้วเดินตามแอมป์ออกจากห้อง... คนเหี้ยอะไร ดุฉิบหาย

หลังจากออกมาได้ไม่เท่าไหร่ เพลงประจำโรงเรียนก็ดังขึ้นเป็นสัญญานให้นักเรียนออกมาตั้งแถวหน้าห้อง รอบๆเลยวุ่นวายเล็กน้อยเพราะทุกคนทยอยออกมาจากห้องเรียน ผมรีบก้าวเท้าตามแอมป์ที่อาศัยจังหวะชุลมุนหลบไปหลังโรงเรียนได้อย่างรวดเร็ว เพราะถ้าเพลงจบเมื่อไหร่พวกเราจะเป็นจุดสนใจของครูและพี่ยามทันที ... พวกเราเลี้ยวมาหลบหลักตึกได้ทันก่อนเพลงจะจบพอดี

“โอ้ย... โทษๆ” เพราะมัวแต่ระแวงหันมองซ้ายทีขวาทีเลยชนเข้ากับแอมป์ที่หยุดเดินกะทันหันจนเจ้าตัวเดินเซไปข้างหน้าหลายก้าว

“ระวังซิวะ...” มันหันกลับมามองผมตาเขียว ผมเลยได้แต่ผงกหัวเป็นเชิงขอโทษ เราไม่สนิทกันเท่าไหร่ ตั้งแต่เปิดเทอมน่าจะเคยคุยกันไม่กี่ประโยค

“...มึงเห็นตรงนั้นไหม” ผมไล่สายตาตามนิ้วมือของแอปม์ ผ่านลานจอดรถหลังโรงเรียน มุมกำแพงสุดริมรั้วมีถังขยะใบใหญ่ตั้งอยู่

“เห็น”

“เดียวกูไปดูต้นทางให้ก่อน มึงตามหลังกูมา ก้มหัวไว้อย่าให้ยามที่เดินตรวจจับได้ พอถึงตรงนั้นปีนถังขยะข้ามกำแพงไปฝั่งโน้น ...”

“... อย่าให้โดนจับได้ แล้วที่สำคัญอย่าเสือกโง่ตกลงไปในถังขยะ” สายตามันโคตรจะดูถูกผม ผมไม่เคยโดดเรียน แม้จะไม่ใช้เด็กเนิร์ดแต่ผมก็ไม่เคยทำผิดระเบียบของโรงเรียนแม้แต่น้อย

“เออ!!!” ถึงจะเป็นเรื่องจริง แต่ก็อดไม่ได้เลยกระแทกเสียงใส่มะนไปที

แอมป์ยื่นหน้าออกจากมุมตึก ผมเห็นพี่ยามเดินอยู่ฝั่งตรงข้ามของลานจอดรถ คำนวณจากระยะห่างแล้ว เราน่าจะแอบออกไปได้ไม่ยากอย่างที่คิด

“ไป!!!” พูดจบมันก็ย่อตัวแล้วเดินเลียบกับตัวรถไปเรื่อย ทิ้งระยะห่างครู่หนึ่งผมถึงเดินตามออกมา หัวใจผมเต้นแรง เหงื่อออกเต็มมือ ไม่คิดว่าจะตื่นเต้นขนาดนี้กับการแหกกฎโรงเรียนครั้งแรก

มาได้ครึ่งทาง ผมก้มตัวต่ำ เดินๆหยุดๆตามจังหวะของคนข้างหน้า ทุกอย่างดูง่ายกว่าที่คิดเพราะพี่ยามอยู่ไกลเลยไม่มีอะไรน่ากังวล หรือจริงๆแล้วผมก็มีพรสวรรค์กับการแหกกฎโรงเรียนอยู่บ้าง

   ... 'Bon'

อวยตัวเองได้ไม่ถึงนาที แล้วความ ‘ฉห’ ก็มาเยื่อน ไอ้เหี้ยบอนจะโทรมาทำไมตอนนี้วะ เสียง ringtone ดังลั่นลานจอดรถ ผมรีบล้วงมือเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเปากางเกง แต่ด้วยความตกใจกว่าจะตั้งสติแล้วกดปิดเสียงได้ก็ใช้เวลาไปพอสมควร 

“เฮ้ย!!! ไปดูซิว่ามีนักเรียนแบบอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า” เสียงยามตะโกนคุยกันข้ามลาน ผมรีบก้มตัวลงมองผ่านใต้ท้องรถ เห็นฝีเท้าพี่ยามกำลังเดินใกล้เข้ามา หัวใจเต้นแรงจนสั่น หันซ้ายขวาไม่เห็นแม้แต่เงาของแอมป์ มันชิ่งผมไปแล้ว ... กลัวจนขาก้าวไม่ออก ตายแน่ไอ้มิลค์ ถ้าโดนจับได้ต้องเข้าห้องปกครอง โดนตัดคะแนน ตายๆๆๆๆๆๆๆ

“มานี่”

“แอมป์”

“หุบปากแล้วตามกูมาเงียบๆ” มันกดเสียงต่ำ ก้มมองผ่านใต้ล้อรถเหมือนที่ผมทำ พอมันขยับ มือของผมก็คว้าต้นแขนมันไว้แน่น แอมป์หันกลับมา คิ้วหนายกสูงเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว

“กูก้าวขาไม่ออก” ผมสารภาพแบบไร้ซึ่งความอาย

“ภาระสัส ๆ” น้ำเสียงของมันไม่สบอารมณ์อย่างมาก ก่อนที่มือหนาจะคว้าเข้าที่ข้อมือของผม ผมก้าวขาตามคนข้างหน้าราวกับคนไร้สติ มันเดินแล้วหยุดก้มตัวมองผ่านใต้ท้องรถเป็นระยะๆ เราเดินเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาจนผมหลงทิศ ก่อนจะหยุดอยู่หลังรถตู้คันใหญ่ มือหนายังกำรอบข้อมือของผมไว้ ผมหายใจหอบ ขาสั่นจนต้องทรุดตัวลงนั่งกับพื้น เชี่ยแม่ง ไม่ไหวจริงๆ เรี่ยวแรงหายไปไหนหมดวะ

“แดกซะ” บางอย่างถูกยื่นมาตรงหน้า ยังไม่ทันได้ตอบสิ่งนั้นก็ถูกยัดเข้ามาในปาก

ลูกอมค่อยละลายในปาก ทันทีที่รับรสได้ว่ามันคือลูกอมรสสตอร์เบอร์รี่ ความคิดแรกคือคายทิ้ง แต่ถ้าผมคายออกมามีหวังโดนแอปม์บีบคอตายอยู่หลังโรงเรียน เลยได้แต่ฝืนอมไว้ ... น่าแปลกใจที่ความหวานและกลิ่นหอมของสตอเบอร์รี่ช่วยเรียกสติของผมให้กลับคืนมา

“ไปได้แล้ว...” แรงกระตุกที่ข้อมือทำให้ผมค่อยๆยันตัวขึ้นจากพื้น แล้วก้าวขาตามแอมป์ทุกฝีก้าว 

“...ตอนจะข้ามกำแพงต้องรีบหน่อย เดียวยามเห็น กูไปก่อนจะได้ดูต้นทางฝั่งโน้นให้ ...”

“...กูนับ 1 2 3 แล้วตามกูมา...” ผมพยักหน้า

“1 ... 2 ... 3 ... ไป!!!” มือหนากึ่งดึงกึ่งลากให้ผมเดินตาม ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ขาของผมก้าวเหยียบลงบนถังขยะตามคนตรงหน้า รู้ตัวอีกทีผมก็โดดลงมาจากกำแพงเรียบร้อย

“เหี้ย!!!” จังหวะที่ลงพื้น ผมเบรกตัวเองไม่ได้เลยไถลไปอีกหลายก้าว ถ้าไม่ได้แอมป์คว้าเอวไว้รับลองว่าได้จับกบอยู่หลังโรงเรียน

“มึงนี่ทำเหี้ยอะไรเป็นบ้างวะ ...” ผมหันกลับไปมองคนที่ประกบซ้อนอยู่ข้างหลัง ยังไม่ทันได้เถียง แอมป์ก็พูดเสียงแข็งใส่

“... เขยิบไป ...เหยียบตีนกู” อิเหี้ย!!! ดุอย่างกับหมา

“ขอโทษ” ผมพูดในจังหวะที่ต้องก้มตัวเอามือยังหัวเข่าเอาไว้ เหนื่อยราวกับหมาหอบแดด

“มึงไหวไหม” น้ำเสียงที่ลดโทนเข้มๆลงดังขึ้นจากด้านหลัง

“ไหว แต่ขอพัก ... แป็นนึง ... ขอบใจ ... ไม่ได้มึง กู ... แย่แน่เลย” ประโยคที่พูดออกมาขาดๆหายๆ ทำให้ตอกย้ำว่าที่ผ่านมาตัวเองออกกำลังกายน้อยไป ใช้แรงแค่นี้ถึงกับเหนื่อยจนหายใจแทบไม่ทัน

“เหนื่อยก็เก็บแรงไว้หายใจ พูดมากจนเป็นลมไป ลำบากกูต้องหิ้วมึงไปส่งห้องพยาบาลอีก” ความรู้สึกดีประมาณสิบแต่ความรู้สึกเกียจเกินล้าน คนอะไรมนุษยสัมพันธ์ติดลบ



“ไอ้มิลค์ กูคิดว่ามึงจะไม่รอดซะแล้ว” ไอ้บอนหันมากระซิบทันทีที่เห็นผมเดินเข้ามานั่ง ผมกลับเข้ามากลางคาบที่ 2

“จะไม่รอดก็เพราะมึงเนี่ยแหละ โทรมาทำเหี้ยอะไรกูเกือบถูกจับได้” ผมพูดออกมาตามไรฟัน มองหน้ามันตาเขียวปัด มันยิ้มแห้ง แต่มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าไม่ความสลดอยู่ในนั้นเลย

“ไอ้แอมป์ละ” จีกระซิบถามมาจากด้านหลัง ยังไม่ทันได้หันไปตอบแอมป์ก็เดินเข้ามาในห้อง

ร้านเจ้ไม่ได้อยู่ห่างจากโรงเรียนเท่าไหร่ เดินไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง ขากลับ เพื่อความแนบเนียน แอมป์ให้ผมเดินเข้าโรงเรียนมาก่อน มันบอกจะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อก่อนแล้วค่อยเข้าโรงเรียน

“เป็นไงบ้างวะ โดดเรียนครั้งแรก” จีถามทันทีที่หมดคาบเรียน ผมเลยหันหลังกลับไปคุย

“ตื่นเต้นโคตร เกือบไม่รอด ...”

“...ถ้าไม่ได้แอมป์ช่วยกูโดดจับได้ชัวร์” ภาพจำย้อนกลับไปยังเหตการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า ในจังหวะที่เขาถามผมว่าไหวไหม ทำให้ผมรู้ว่าภายใต้ภาพลักษณ์ที่ดูเป็นคนแข็งกระด้างลึกๆแล้วกลับมีความอ่อนโยนซ่อนอยู่

 สายตามองข้ามไหล่ของจีไปยังคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของห้อง ในจังหวะเดียวกันนั้นแอมป์หันมาสบสายตาของผมพอดี ผมส่งยิ้มให้ แต่เจ้าตัวกลับทำหน้าตึงใส่แล้วก็หันกลับไป

ชั่ววินาทีที่สบตาผมรู้สึกเหมือนมือของแอมป์ยังคงกำรอบข้อมือของผม สัมผัสเพียงชั่วครู่แต่กลับฝังรากลึกลงในจิตใต้สำนึก ไอร้อนจากฝ่ามือหนา แรงบีบไม่ได้มากจนผมรู้สึกเจ็บแต่ก็ไม่ได้เบาจนรู้สึกสบายตัว น้ำเสียงที่ออกคำสั่งแกมกึ่งบังคับ  ทันใดนั้นจังหวะการหายใจก็เหมือนจะขาดหายไปดื้อๆ หัวใจกระตุกเหมือนถูกไฟช๊อต เลือดลมสูบฉีด เป็นความรู้สึกที่ผมไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนแต่ที่แน่ๆมันใช้ความกลัว ... แต่เป็นอะไรบางอย่างที่ผมไม่กล้ายอมรับออกมา

20
Boy's love story / Re: Love, In Every Lifetime : ตอนที่ 1 (Coming of age, Slice of life, Feel good)
« กระทู้ล่าสุด โดย Milky_Milky_Way เมื่อ 18-04-2025 17:46:21  »
สวัสดีครับผู้อ่านทุกคน
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของผม ตั้งใจจะให้เป็นแนว Coming of age ที่มีครบทุกความรู้สึกทั้งยิ้ม หัวเราะ และร้องไห้ มีดราม่าบ้างพอให้มีรสชาด และมี NC นิดหน่อยให้พอหวือหวา

อยากจะชวนคนอ่านเข้ามาพูดคุยและเป็นกำลังใจให้นักเขียน แล้วมาลุ้นไปด้วยกันครับว่าเราจะพามิลค์เดินไปได้ไกลแค่ไหน
หวังว่าทุกคนจะชอบนิยายเรื่องนี้ ถ้ามีอะไรจุดไหนที่อยากให้แก้ไขปรับปรุง บอกได้เลยนะครับ

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เจอกันอีกทีวันอาทิตย์นะครับ

เอารูปเพื่อนสนิท มิลค์และบอน มาฝากทุกคนครับ  :katai2-1:
หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 ... 10
สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด