>> กอด~ ตอนพิเศษ แมวเมา กับความลับ P.26 25/12/13
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >> กอด~ ตอนพิเศษ แมวเมา กับความลับ P.26 25/12/13  (อ่าน 160818 ครั้ง)

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
ใกล้จะจบแล้วคะ่   เตรียมมาม่่ากันได้เลย  เหอๆๆๆๆ 

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ต้น-ไม้ไม่ค่อยเลยนะ :z1:

เตรียมต้มน้ำรอ :katai5:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
รอรอรอ :z2:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
ขอโทษนะคะ คนเขียนแอบเกเร หนีเที่ยวบ่อยๆ เลยยังไม่มีเวลาแต่ง  ...

แต่เดี๋ยวเค้ารีบแต่งด่วนค่ะ

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [1] P.22 16/7/13
«ตอบ #634 เมื่อ16-07-2013 01:19:55 »

~เวลาของเรา  1




"กลับมาสักทีนะ". ผมยื่นมือไปดึงอีกฝ่ายมากอดแน่นๆ รับขวัญอยู่ชั่วครู่  น้องเองก็กอดตอบเวลาหนึ่งปีมันช่างยาวนาน

ในที่สุดก็ผละตัวออกเพราะเห็นว่าสนามบินไม่ใช่สถานที่ที่จะแสดงความรักแบบเปิดเผยได้มากนักอย่างน้อยก็ตอนนี้

แล้วจะหันไปดึงกระเป๋าอีกฝ่ายมาถือเสียเอง เรายิ้มให้แก่กัน ในใจมันเต็มตื้นไปด้วยความสุข และความกังวลพอๆ กัน

ช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นมันล่วงเลยไปกับความวุ่นวายที่ถาโถม. จ้องมองลึกเช้าไปในตาของอีกฝ่าย

ต่างก็ฉายชัดถึงคำว่า “กลัว”  ที่ซ่อนอยู่

มากมายเสียจนยากที่จะปกปิด ก็ได้แต่ทำใจยอมรับความจริงที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า



"อือ กลับมาแล้ว" ไอ้ตัวเล็กตอบ ผมกระชับกระเป๋าในมือ แล้วจูงมือน้องมุ่งหน้าตรงไปยังลานจอดรถ

ไม่มีคำพูดใด ทำได้แค่กุมมือกันแน่นๆ แล้วเดินไปตามทางที่ทอดยาว  ทั้งที่ในใจมีคำพูดมากมาย

ผมเชื่อว่าแพนเองก็เป็นเช่นนั้น แต่มันตีรวนเสียจนไม่สามารถกลั่นเป็นประโยคออกมาได้...

ถึงต้องตกอยู่ในภวังที่เงียบงันแบบนั้น  จนสอดตัวเข้าไปนั่งด้านในรถ เราค่อยๆ เคลื่อนตัวออก

ผมได้แต่จ้องมองดูท้องถนน ขณะที่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ลอบถอนหายใจอยู่หลายครั้งก่อนจะเอ่ยคำถาม

ที่หวังจะทำลายความเงียบ และสานต่อความหวังอันเลือนลางครั้งสุดท้ายของตัวเอง

“บอกคุณลุงกับคณป้าหรือยัง?”  เอ่ยถามเสียงเบาไม่ได้มองคนข้างๆ

“ยัง”  น้องตอบกลับมาเสียงแผ่วเบา  ต่างฝ่ายต่างเพ่งความสนใจให้กับสิ่งตรงหน้า

“จะบอกเมื่อไหร่ครับ”   หันไปมองอีกฝ่ายเล็กน้อย  ก่อนจะมองท้องถนนที่มีรถราเป็นระยะ

“ภาคก็รู้ดีนี่  ว่าทำไมแพนถึงยังไม่บอก  .... ขอแค่ช่วงนี้นะภาค  ให้เวลาหนึ่งเดือนมันเป็นเวลาของเรา

ก่อนที่.....”  อีกฝ่ายเงียบไป  เหมือนกับผมที่เงียบจนบอกไม่ถูก ....  แต่ก็ยังพยายามสนใจกับท้องถนนตรงหน้า





“ก่อนที่.....  เราจะกลับไปเป็นลูกที่ดีของพ่อกับแม่”   เสียงแหบพร่าของแพนทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายใกล้จะร้องไห้เต็มที

และผมก็เบนสายตาไปทางอื่นอย่างช่วยไม่ได้    เจ็บจนหัวใจมันร้าวไปหมด ....  แต่ก็ต้องยอมรับกับการตัดสินใจ

ที่เราเลือกจะให้มันเป็นไป 



“ครับ”  ผมตอบรับอีกฝ่ายเรื่อยๆ น้ำเสียงแหบพร่าไม่ต่างกัน  ได้แต่กลืนน้ำลายลงคออีกใหญ่ ราวกับมีก้อนสะอื้น

ก้อนใหญ่ๆ มาจุกอยู่ที่คอหอย 

ผมจอดรถที่ลานจอดรถในคอนโด ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าด้านหลังน้องรถมาตามติดๆ กดรีโมทล็อครถ

แล้วเราก็เดินไปด้วยกัน  กอบกุมมือกันแน่นตลอดเวลาที่เดินมาถึงห้อง ผมไขกุญแจเข้าไป

เปิดทางให้น้องเดินเข้าไปก่อน  ส่วนตัวเองลากกระเป๋าเดินตามไปติด  ไอ้ตัวเล็กตรงดิ่งเข้าไปในห้องนอน

ได้ยินเสียงกระโดดขึ้นเตียงโครมใหญ่คาดว่าน้องคงจะเหนื่อยจากการเดินทาง ผมวางกระเป๋าน้องไว้ที่ห้องนั่งเล่น 

เดินไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นแล้วเดินตามอีกฝ่ายเข้าห้องนอนไป  ทิ้งตัวนั่งลงใกล้ๆ ลูบที่หัวกลมทุย

ที่กำลังซุกหน้าเข้าหาหมอนนุ่ม  แพนยังคงหลับตาพริ้มไม่ได้ลืมตามามองที่ผมแต่อย่างใด

“ไม่หิวเหรอครับหืม”  เอ่ยถามไปพลางลูบหัวไปพลาง น้องลืมตาขึ้นมามองเล็กน้อยส่ายหน้าเบาๆ

“.......”



“งั้นนอนนะครับคนดี”  ผมบอกเสร็จก็จูบลงที่หน้าผากเนียนของอีกฝ่าย ยันตัวขึ้น เพื่อจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

ในชุดสบายๆ เพื่อนอนกอดไอ้ตัวเล็ก  มือของแพนก็รั้งชายเสื้อผมไว้แน่น  น้องเรียกเสียงแผ่ว

“ภาค.”   นัยตากลมจับจ้องที่ผม  ผมหันไปมองตอบแล้วเลิกคิ้วเป็นคำถาม

“ครับ?”

“กอด” ไอ้ตัวเล็กยืนยันมือยังจับแน่นที่ชายเสื้อไม่ยอมปล่อย  ...  น่ารักจนผมต้องหลุดยิ้ม

“ครับ..หึ” ตอบรับแล้วก็ทิ้งตัวนั่งลงข้างเตียง ไล่ถอดเสื้อและกางเกงตัวเองทิ้งไป สายตาผมไม่ได้ละไปไหน 

น้องเองก็มองทุกอากัปกิริยาที่ผมทำตาไม่กระพริบ  แต่ที่น่าขำก็คืออีกฝ่ายมองผมด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ

หากแต่ไม่ยอมหลบตาไปไหน  ริมฝีปากบางเม้มแน่น...จนเห็นฟันขาวและเขี้ยวเล็กๆ โผล่ออกมา

ผมทิ้งตัวลงนอนรั้งอีกฝ่ายมาอยู่ในอ้อมกอด  ไอ้ตัวเล็กโผลเข้าหา ราวกับรอคอยอ้อมกอดอุ่นๆ ของผม

ผมกอดน้องไว้แน่น.มาก    มากเสียจนผมว่าอีกฝ่ายก็คงจะรู้สึกอึดอัด หากแต่ก็ไม่อยากปล่อย....

เหมือนแพนเองก็เข้าใจ น้องไม่ได้ว่าอะไรแต่กลับกอดผมตอบแน่นๆ เช่นกัน  ยิ่งเป็นอย่างนี้ยิ่งรู้สึกสะท้อนใจ

ถ้าถึงเวลาต้องปล่อยมือ.....   ผมกับแพน....   จะทำเช่นไร





เรากอดกันเช่นนั้น.....  จูบที่หน้าผากแผ่วเบา  ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น  ...นอกจากกระชับกอดให้แน่นขึ้น



แน่นขึ้น... 



แน่นจน









อยากจะหลอมเราทั้งคู่ให้เป็นคนเดียวกัน......หากมันจะเป็นไปได้






ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [1] P.22 16/7/13
«ตอบ #635 เมื่อ16-07-2013 03:08:58 »

ปาดหน้าหรือนะ อ่านแล้วสงสารทั้งสองคนจังเลย

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [1] P.22 16/7/13
«ตอบ #636 เมื่อ16-07-2013 10:46:18 »

เอาใจช่วยให้ผ่านไปได้นะแพนภาค :L1:

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [1] P.22 16/7/13
«ตอบ #637 เมื่อ16-07-2013 14:40:19 »

 :mew6: :mew6: สงสารร

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [1] P.22 16/7/13
«ตอบ #638 เมื่อ17-07-2013 03:52:39 »

 :katai5: :katai5:

ก่อนเริ่มมาม่า  ขอเติมน้ำตาลในเลือดก่อนเนอะ

เด๋วอะมิโนวายในร่างกายจะถึงจุดวิกฤต

เป็นกำลังใจให้พี่ภาค x น้องแพน ด้วยจร้า

 :katai4: :katai4:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [2] P.22 18/7/13
«ตอบ #639 เมื่อ18-07-2013 00:42:37 »

ขอหวานๆ ก็จัดไป   ดื่มด่ำรสหวานให้ชุ่มฉ่ำ...  ก่อนจะไปดราม่าน้ำตาไหล
 
กันนะคะ

*********************************************************

~เวลาของเรา 2






ผมตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดอันอบอุ่น  ....   เรากอดกันแน่น   แน่นมาก....  แน่นเสียจนไม่มีพื้นว่างให้อากาศ

เข้ามาแทรกระหว่างตัว   ทั้งๆ ที่หลับ หากแต่อ้อมกอดของเรากลับไม่ได้คลายแรงกอดลงเลย 

เสมือนหนึ่งกลัว....ว่าถ้าหากปล่อย  อาจจะไม่มีโอกาสได้กอดอีกผมจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาคิ้วเข้มของอีกฝ่าย

ยังจำได้ดีว่ามีสาวๆ จ้องมองภาคมากมายแค่ไหน  แต่อีกฝ่ายกลับไม่เคยสนใจ  ซุกตัวลงในอ้อมกอดเดิม 

แล้วซุกหน้าเข้าหาอกแกร่ง....  ได้ยินเสียงหัวใจอีกฝ่ายเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ

ดีใจ....จนหัวใจพองโต   ดีใจ... ที่ยังได้อยู่ในอ้อมกอด.... อ้อมกอดนี้

กระชับกอดแน่นขึ้นอีก  ....  อยากอยู่อย่างนี้ตลอดไป    แต่ก็ไม่รู้ว่า.....จะทำได้นานแค่ไหน   

ทั้งๆ ที่หวงแหนแต่ก็รู้ว่าไม่มีโอกาส........ที่จะรักษามันเอาไว้....... 

เหลือบมองรอบๆ ตัว ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม  ...  เหมือนๆ ครั้งสุดท้ายที่ผมเคยอยู่ 

รู้สึกอบอุ่น.....ไม่ว่าจะมองทางไหนก็รู้สึกได้ว่า....  นี่เป็นที่ของเรา   เป็นที่ของผมกับภาค.... 

โดยที่ไม่มีใครสามารถจะก้าวล่วง    อย่างน้อยก็ในเวลานี้.......แสงสว่างค่อยๆ จางลง 

พร้อมกับช่วงเวลาที่เดินผ่านไปอย่างเชื่องช้า  ผมขยับตัวเล็กๆ เพื่อคลายความเมื่อยล้า

จากการอยู่ในท่าเดิมๆ ยาวนานหลายชั่วโมง   ภาคขยับตัวนิดๆ ก่อนจะค่อยๆ เปิดเปลือกตา 

ริมฝากปากหนายกยิ้มมุมปากนิดๆเมื่อมองมาเห็นผมที่อยู่ตรงหน้า  ผมค่อยๆ โน้มหน้าลงไป   

แตะจูบแผ่วเบาเป็นการทักทาย ภาคยิ้มกว้างขึ้นอีกดึงผมลงไปกอด  แล้วจูบตอบ.....  บางเบา.....

 ค่อยเป็นค่อยไป  และลิ้นร้อนๆ ที่สอดแทรกเข้ามา  เรียกร้องความรู้สึกบางอย่างให้ค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา

 หลังจากปิดซ่อนมานานเป็นปี  ......  ความรู้สึกโหยหา...กันและกัน  ความรู้ที่หลอมรวมกันจนเป็นหนึ่งเดียว

..ปฏิเสธไม่ได้ว่า...ความต้องการทางร่างกาย  มันสัมพันธ์กับความรู้สึกทางด้านจิตใจอย่างแยกไม่ออก

จะมากไปไหม   หากจะพูดว่าเป็นเพราะ “รัก” เราถึงต้องการ  “กันและกัน”  ขนาดนี้   ..... 

ฉะนั้น ผมถึงไม่ได้ปฏิเสธความสัมพันธ์ที่เราหยิบยื่นให้กัน  เพราะนั่นคือการที่เรากำลังถ่ายทอดคำว่า

 “รัก” สื่อสารให้อีกฝ่ายได้เข้าใจ  ว่ามันลึกซึ้งเกินกว่า....จะหาคำๆ ไหนมาบรรยาย...

อ้อมกอดอบอุ่นของภาคกำลังทำให้ผมตาพร่ามัว ด้วยแขนแข็งแรงที่โอบกอด  และลูบไล้ไปตามเนื้อตัว

ริมฝีปากอุ่นร้อน....ที่บรรจงจุมพิศทุกที่ที่ลากผ่าน  ดูดเม้มแรงๆ อย่างจงใจที่จะแสดงความเป็นเจ้าของ

 รอยสีแดงระเรื่อโชว์หราได้แต่แอ่นกายรับทุกแรงปรารถนาที่กำลังแล่นพร่าน 

เหมือนควบคุมตัวเองไม่อยู่ หลุดลอยไปในม่านหรรษาที่อีกฝ่ายชี้นำ มือจิกเข้าที่ไหล่หนา

 เพื่อคลายความเสียวซ่าน กดหัวอีกฝ่ายให้จมจ่อมอยู่กับที่ เมื่อมีริมฝีปากร้อนๆ ไล่ขบที่ยอดอก

สัมผัสเปียกชื้น ดูดดุนอย่างหิวกระหาย  ได้แต่กรีดเสียงคราง...ในยามที่สุดจะกลั้นไหว 

เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้หยุดลงเพียงแค่นั้น  ริมฝีปากร้อนลากไล่ลงต่ำ  ฟันคมครูดเบาๆ ให้เสียวกระสัน 

เผลอแอ่นสะโพกโค้งนูนให้อีกฝ่ายสอดมือแกร่งเข้าด้านใน ดันรั้งกางเกงที่สวมใส่ให้คลายตัวออก 

สองขาถูกพาดสูงบนไหล่ลาด แอ่นดันให้สะโพกลอยโด่ง  หัวเข่างองุ้มมาด้านหน้า  มือแข็งแรงรูดดึง

กางเกงส่วนที่เหลือโยนทิ้งผ่านหัวตัวเองไป  แล้วครอบริมฝีปากร้อนคลุมท่อนเอ็นที่แข็งชูชัน

“อ๊ะ....  อือออออ” หลุดเสียงครางหวิวหวาน เสียวซ่านปานจะขาดใจ  ริมฝีปากบางถูกเม้มแน่น

ลำตัวบิดเร่าปานเกลียวคลื่นที่ถูกถาโถม   มือเรียวสอดประสานเข้าสู่เรือนผมของอีกฝ่าย

มือแกร่งตรึงสะโพกหวานไว้แน่น ขณะที่ปากขยับรูดรั้งขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง ชุ่มฉ่ำถึงหัวใจ

ลิ้นร้อนซอกซอนทุกศา  ทำเอาอีกฝ่ายได้แต่บิดกายเร่าๆ ราวกับจะขาดใจอยู่ทุกเมื่อ

กรีดเสียงครางหวานจนแหบพร่า  ผละมือออกจากเรือนผมนุ่มสลวย คว้าหมอนใบโตมากลั้นเสียง

ริมฝีปากก็กรีดครางอย่างที่ใจปรารถนา มือสองข้างจิก ขยุ้มหมอนจนแทบขาดวิ่น

“อ๊ะ..    อ๊าาาาาา...  ฮึก ...... อืมมม”

.

.

.

“อ๊ะ  อ๊ะ  อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา”   ร่างหวานแอ่นหวาน เกร็งสะท้าน ไปแทบทุกสัดส่วน  ส่วนอ่อนไหว

กระตุกหงึกๆๆ ลิ้นร้อนเลียปาดซอกแคมหัวแตกยอดบนสุดปิดท้าย  ก่อนจะอ้าปากรอรับหยาดน้ารัก

ที่ไหลทะลักทลาย   น้ำเมือกสีขาวขุ่นกรุ่นกลิ่นคาวกำจาย ริมฝีปากหนาอ้าครอบ ดูดรัดตั้งแต่โคนยันปลาย

ดื่มด่ำจนหยดสุดท้าย  ไล้ลิ้นเลียยอดหัวลูกศร  อยากหยอกเอินท่อนรูน้ำรัก  ริมฝีปากยกยิ้มมอง

มองอีกฝ่ายที่หายใจกระเส่า ใบหน้าหวานแดงซ่าน  ส่งสายตาเชื่อมหวาน นอนอ่อนระทวยอยู่ตรงหน้า

ดันตัวเข้าไปหา แตะจูบแผ่วเบา ที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย ตวัดลิ้นดูดดุนลิ้นหวานอยู่เพียงครู่ ก็กระซิบคำปรารถนา

“ตาภาคบ้างนะครับ” แผ่วเบา หากแต่กระเส่าเชิญชวน ได้แต่มองด้วยตาปรือปรอย ...  รอยยิ้มหวานหยักยิ้ม

อีกฝ่ายยิ้มตอบมือเอื้อมหาหลอดเจลบนหัวเตียง บีบใส่นิ้วจนชุ่มโชก ค่อยๆ สอดเข้าไปในช่องทางรักของอีกฝ่าย

“อึก อือออออ”  หมอนถูกสอดเข้าใต้สะโพกหวาน ริมฝีปากดูดกลืนกันและกัน นิ้วแข็งแร็งขยับเข้าออกช้าๆ

แม้ด้านล่างจะแข็งจะปวดหนึบ  แต่ก็ไม่อยากจะทนเห็นสุดที่รักได้รับความเจ็บปวด อดทนรอจน

เมื่อเห็นอีกฝ่ายตอบรับ  จำนวนนิ้วก็เพิ่มรวดเร็ว พอๆ กับใจที่โหยหา  เมื่ออีกฝ่ายกรีดเสียงครางหวาน

ถุงยางก็ถูกดึงสวมครอบเอ็นร้อน บีบเจลชะโลมจนเต็มรัก  แล้วกระเดียดไปจ่อที่จุดหมาย

บดเบียดหยอกเย้าที่ปากทาง  ก่อนจะกดหัวโตๆ มุดเข้าโพรงหฤหรรษ์ ชักเข้าชักออกทีละนิด

จนสุดท้ายก็มิดลำ ส่งเสียงครางต่ำๆ อย่างพึ่งใจ

“อ่าาาาาาาา  แพนครับ”    แล้วก็ขยับโยกจนเต็มรัก  อย่างไม่จักเหน็ดเหนื่อย  โถมกายเข้าใส่

สอดประสาน เข้าออก  เชื่อมต่อกันและกัน  ความสุขล้นทะลัก  กรีดเสียงผสานความหวานหวาม

แลดูเจ็บปวด  หากแต่สุขสมจนล้นใจ  .....  ในการเพรียกหาความรัก “จากกันและกัน”     

.

.

.

สะโพกสอบขยับเสียงดัง  พึบพับ  เนื้อกระแทกเนื้อ ขาเรียวยกขึ้นโอบรอบเอวแกร่ง 

เร่งรัดให้ทุกสัมผัสชัดเจน  และแนบแน่นขึ้นไปอีก

“อ๊าาาาา~”

“โอววววววววว~”

“อ๊ะ  อื๊อออออ”

“อืมมมมมมม”

“อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาาาาาาาาา” /  “อืมมมมมมมมมม”



สะโพกสอบหนั่นกระแทกกระทั้น  แล้วเกร็งกระตุก  มัดกล้ามสวยที่ท้องขึ้นเป็นลูกลอน บดเบียดท่อนเอ็นสอดใส่

ดุนดันให้เข้าไปลึกที่สุด  ขณะที่สะโพกหวานกระดกลอยจากสองขาเรียวที่โอบรอบเอวอีกฝ่ายแน่น เพื่อรับสัมผัส

ให้เต็มรัก  รู้สึกถึงความอุ่นซ่านที่พวยพุ่งอยู่ภายใน  ทิ้งตัวลงกอดกันกลม ริมฝีปากแตะกันเบาๆ

ไม่ได้ถอดส่วนที่เชื่อมต่อ  เหลือเพียงเสียงหอบหายใจ ....  กับอุ่นไอ สายใยเจือจางที่พันธนาการกันจนแนบแน่น

.

.

.

.

.

.

ก็เท่านั้นเอง



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: >> กอด~ เวลาของเรา [2] P.22 18/7/13
« ตอบ #639 เมื่อ: 18-07-2013 00:42:37 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [2] P.22 18/7/13
«ตอบ #640 เมื่อ18-07-2013 02:31:04 »

จะมาม่ามากเลยหรอ อย่ามาม่ามากเลยนะ สงสารอ่ะ รักกันขนาดนี้

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [2] P.22 18/7/13
«ตอบ #641 เมื่อ18-07-2013 11:19:30 »

คิดว่าจะหนักที่สุดในบรรดาเรื่องที่แต่งมาค่ะ 

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [2] P.22 18/7/13
«ตอบ #642 เมื่อ18-07-2013 15:08:50 »

จะมาม่าขนาดไหน แต่ขอจบแบบมีความสุขนะครับ

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [2] P.22 18/7/13
«ตอบ #643 เมื่อ18-07-2013 15:30:07 »

confirm 100% ค่ะ

ว่ายังไงก็จบแบบ  Happy Ending แน่นอน.

ออฟไลน์ evilheart

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-3
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [2] P.22 18/7/13
«ตอบ #644 เมื่อ18-07-2013 15:40:29 »

อย่าให้กินมาม่าเยอะนะ สงสารน้องแพน :mew6:

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [2] P.22 18/7/13
«ตอบ #645 เมื่อ18-07-2013 18:33:08 »

 :katai4: :katai4:

โอเค.....จัดมาเต็มที่!!!!!

 :heaven :heaven

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [2] P.22 18/7/13
«ตอบ #646 เมื่อ18-07-2013 18:37:25 »

กินอีโนรอล่วงหน้า
กลัวท้องอืด :z2:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [3] P.22 20/7/13
«ตอบ #647 เมื่อ20-07-2013 01:04:24 »


~เวลาของเรา  3


 
 

“ตื่นแล้วเหรอครับ หิวรึยังตั้งแต่กลับมายังไม่ทานอะไรเลยนะ?”  ผมหันไปถามไอ้ตัวเล็กหลังจากลงไปซื้อกลับข้าวมาเรียบร้อย
แล้ว

นี่ก็จะทุ่มอีกไม่กี่นาที แต่ดูท่าน้องพึ่งจะตื่นมาเดี๋ยวนี้เอง   ใบหน้างัวเงียหันมามองผมยิ้มๆ ลุกขึ้นเหมือนจะไปล้างหน้า

แต่ได้แค่ยืนแค่นั้นอีกฝ่ายก็ทรุดลงกับพื้น  ผมรีบไปประครองอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ทัน เพราะน้องก้มจ้ำเบ้าลงกับพื้นเป็นที่
เรียบร้อยแล้ว

ไอ้ตัวเล็กทำสีหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด ผมเองก็นึกสงสารทำกันไปสองสามรอบนี่ แบบว่าครั้งสุดท้ายนี่ตั้งแต่ปีที่แล้ว

อีกฝ่ายคงจะเจ็บไม่ใช่น้อย  ผมรวบตัวอีกฝ่ายขึ้นอุ้มแพนไม่ได้ตัวโตขึ้น สูงขึ้นเล็กน้อย แต่ความผอมยังคงเดิม กดจูบที่แก้มเบาๆ

“เจ็บมั้ยครับ?”  หันไปถามอีกฝ่ายที่กำลังหน้ามุ่ยน้ำตาคลอเบ้าอยู่ ก็นึกขำเพราะน้องส่ายหน้ายิ๊กๆ บอกว่าไม่เจ็บ

“เหรอครับ  หน้าตูมเชียวไม่เป็นไรนะ เดี๋ยววันนี้ภาคบริการเต็มที่เลย  เริ่มจากอาบน้ำให้ก่อนดีมั้ย?”  ผมหันไปแซวอีกฝ่ายยิ้มๆ

ไอ้ตัวเล็กบู่หน้า  เสร็จแล้วซุกหน้าเข้ากับอกผม  หูแดงหน้าแดงตามปกติ

“อืม..”  เสียงเล็กๆ ตอบกลับมา ผมได้แต่หัวเราะในลำคอเบาๆ อีกฝ่ายเลยทุบอกเข้าให้   ผมเลยรีบพาน้องไปอาบน้ำเป็นการ
ด่วน

.

.

.

“อันนี้ อันนี้ อันนี้ ทานเยอะๆ นะ ของโปรดแพนทั้งนั้นเลยนะครับ  ภาคไปเดินมาทั่วตลาดเลย”  ผมรีบบอกอีกฝ่ายอย่างเอาใจ

“...........”  น้องไม่ได้ตอบอะไร  มองอาหารทุกอย่างยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก แต่มันติดจะเศร้าไปสักหน่อย  มือเล็กเอื้อมมาตักแกง

ตรงหน้าผมทีละอย่าง แล้วใส่ลงบนจานตัวเอง  ก้มหน้างุดๆ มองมัน  ค่อยๆ ตักเข้าปาก เคี้ยวช้าๆ  ตอนนี้เองที่ผมเริ่มเห็น

อีกฝ่ายมีน้ำตาคลอหน่วย  หยดใสๆ ไหลช้าๆ จากนัยตาสวยล่วงหล่นลงบนจานข้าว  ทั้งที่ริมฝีปากบางยังยกยิ้ม

นั่นทำให้ผมนิ่งงัน   จ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่ละสายตา ใจเริ่มสั่นนิดๆ

“ข....ขอบคุณ...นะ ”  ได้ยินเสียงอีกฝ่ายกลืนน้ำลายลงคอหนัก   ดวงตาคู่โตยังคงมองไปที่กับข้าวตรงหน้า  ขณะที่มือก็ยังคงทำ
หน้าที่

ตักกับข้าวใส่จาน  แล้วตักมันเข้าปาก  เคี้ยวอาหารช้าๆ ราวกับมันเป็นอาหารที่ทำให้ลำคอแห้งเป็นผุยผง

.

.

มีแต่ความเงียบงันระหว่างเรา...   ร่างกายน้องเองก็สั่นระริก ทั้งที่อยากให้เวลานี่เป็นเวลาที่น่าจดจำสักเพียงใด

แต่ความทรมานใจมันก็มีมากมายพอๆ กัน   เมื่อกำลังคิดว่า.....เรากำลังสร้างความทรงจำครั้งสุดท้ายร่วมกัน

 

“ถ้าได้อยู่แบบนี้ตลอดไปคงดีสินะ  ฮึก....”  เสียงสะอื้นหลุดมาเบาๆ ผมเดินไปนั่งข้าง รวบตัวน้องมาโอบกอดไว้แน่น

“ไม่เป็นไรนะครับคนดี  อย่าร้องนะแพน ”   ผมบดจูบที่หัวทุย .....  ทั้งที่อยากจะให้ความรู้สึกเจ็บนี่มันจางหาย

แต่ผมก็ทำได้แค่นั้น  น้ำตา.....ที่มันค่อยๆ ไหลออกมา  ยังคงเจ็บปวดและทรมานเช่นเดิม

 

“เราไปบอกเรื่องของเรากับพ่อแม่แพนดีไหม?”  ผมเสนอทางเลือกสุดท้ายอีกทางหนึ่ง  น้องส่ายหน้าหวือ

แล้วดันตัวผมออกอย่างรวดเร็ว  ใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตากำลังฉีกยิ้มแสนเศร้า  ทำเอาผมเจ็บปวดตามไปด้วย

“อย่าบอกนะ...แพนไม่เป็นไรแล้วภาค  แพนไม่เป็นไร  เราตกลงกันแล้วนะ.......ว่า      ว่าจะหยุดเรื่องนี้ แพนไม่อยากให้

ถ้าน้าณีเข้าโรงพยาบาลอีกภาคจะทำไง  ภาคก็รู้...... เราไม่มีทางเลือกแล้ว”  น้องว่าน้ำเสียงสั่นเครือ

 

 

มื้อนั้น......  เป็นการทานอาหารที่ไร้รสที่สุดเท่าที่ผมเคยทานมา  ความสุขมันจางหายไปไหนกัน  เราหยุดคุยเรื่องนั้น


แยกกันไปคนละมุมของตัวเองเพื่อทำใจ  และตกลงกันว่า 1 เดือนที่เหลือจะไม่กังวลใจ และพูดถึงเรื่องนี้อีก

.

.

ผมนั่งอยู่ริมระเบียงมองนาฬิกาที่บอกเวลาตี 3 นิด ๆ  อีกฝ่ายยังคงหลับไหล  อาจจะเหนื่อยทั้งจากการเดินทาง ร้องไห้

หรือแม้แต่ร่วมรัก   แต่ผมกลับนอนไม่หลับ  ....  ทุกครั้งที่หลับตา ภาพวันนั้นก็วันมาอีก  ...

 

 

 

 

เรากลับบ้านครั้งสุดท้ายในการปิดภาคเรียนของปีที่แล้ว  เราดื่มเพื่อฉลองกัน .... ผมกับแพนจบกันที่ห้องของผมเอง

ความสุขที่มันทะลักล้นก็ยังเต็มเปี่ยมอยู่ในหัวใจ   ผมเป็นเจ้าของแพนครั้งแล้วครั้งเล่า.......จนเช้า

เรานอนกอดก่ายกันภายใต้ร่างกายที่เปลือยเปล่า  อกช่วงบนโผล่พ้นผ้าห่มผืนหนาที่เราสอดลำตัวไว้ใต้นั้น

ส่วนกลางลำตัวยังเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกัน    ภายในพื้นของผม...  พื้นที่ที่ผมไม่คิดว่าใครจะก้าวล่วงเข้ามา

แต่..... ก็มีคนเข้ามา   แม่ไขกุญแจเข้าด้วยความเป็นห่วง  ....  เพราะเห็นว่าเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น   กังวลว่าพวกผมจะหิว

จนเป็นโรคกระเพาะกันไปซะก่อน ถึงได้จะตามให้ไปกินข้าว   แล้วค่อยกลับมานอนต่อ   แต่ภาพที่แม่เห็นตรงหน้า

“ภาค!!” แม่เรียกผมเสียงดังลั่นด้วยน้ำเสียงตกใจ ดีที่ประตูห้องผมมันปิดเลยทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงอีก

ผมกับแพนสะดุ้งตื่นขึ้นมาชันตัวลุกขึ้นนั่งทันที   ส่วนนั้นหลุดออกจากกันโดยอัตโนมัติ ผ้าห่มผืนหนาล่วงกองมาถึงเอว

ไม่ต้องพูดอะไร  เพราะหลักฐานต่างๆ มันปรากฎชัดอยู่บนตัวน้องแล้ว  รอยแดงเป็นจำๆ จากการถูกดูดกลืน

“แม่!! // น้าณี!!”  เราอุทานขึ้นด้วยความตกใจ ใบหน้าซีดเผือด  แม่ขาอ่อนยวบทรุดตัวนั่งลงกับพื้น  มือจิกกันแน่น

จ้องมองที่พื้น พยายามเค้นเสียงคำถามออกมา  อย่างยากลำบาก  เหมือนมีก้อนสะอื้นมาจุกตันที่ลำคอ

“ม...ไม่ได้เป็นอย่างที่แม่คิด....ใช่ไหม?”

“..............................”   ความเงียบเข้าครอบงำทุกอย่างนิ่งงัน 





“ผมขอโทษครับแม่ ผมรักแพน”  เพียงจบคำพูดผม  แม่ก็เงยหน้ามาด้วยแววตาที่ตัดพ้อ  ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่พึ่งได้ยินเมื่อครู่

น้ำตาไหลเป็นสาย  เสียงสะอื้นไห้ของแม่ยังดังก้องในหัวผมจนถึงตอนนี้

“ฮือออออ ... ท...ทำไม......เป็นแบบนี้”   นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่แม่พูดถึงเรื่องของผมกับแพน  ก่อนที่แม่จะเป็นลม

ตัวพับอ่อนลงกับพื้น   ทำเอาผมกับแพนตกใจแทบสิ้นสติ กระโจนลุกหยิบเสื้อผ้ามาใส่ลวกๆ ก่อนจะพาแม่ไปโรงพยาบาล

โดยยังไม่ทันบอกพ่อด้วยซ้ำ    ผมกับแพนจับมือกันแน่นอยู่หน้าห้องตรวจหัวใจเต้นรัวแทบกระดอนออกมานอกอก

ใบหน้าซีดของอีกฝ่าย ทำให้ผมต้องเรียกสติให้ตัวเองกลับมาเร็วที่สุด   

“ไม่เป็นไรนะ  ทุกอย่างจะดีเอง”   น้องเม้มริมฝีปากแน่น   ซุกหน้าลงกับไหล่ แล้วสะอื้นสุดตัว  น้ำตาไหลจนเปียกชื้น   

“ฮืออออ  ภาคคค”   มีแต่เพียงคำนี้ที่หลุดออกมาจากปากน้อง  ผมได้แต่ลูบหัวอีกฝ่ายอย่างปลอบโยน  กับจูบที่หัวแผ่วเบา

ทั้งๆ ที่ใจตัวเองก็กลัว....   กลัวว่าจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นเหมือนกัน  เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นแม่ตกใจจนสิ้นสติอย่างนี้


“ฮัลโหลครับพ่อ  ครับใช่..  ห้อง XXX  ครับ  ผมอยู่กับแพน กำลังรอหมอครับ  ครับได้ครับ ”  ผมกดวางสายพ่อลง

หันไปลูบหัวปลอบน้องอีกเล็กน้อย  แต่อีกฝ่ายกลับนั่งตัวตรง เช็คคราบน้ำตา จนเหือดแห้ง  เสียงแห้งปร่าขยับเรียกผม

“ภาค”  น้องขยับห่างจากผมไปเว้นที่ว่างระหว่างเราด้วยเก้าอี้เปล่าหนึ่งตัว  ใบหน้าหวานแดงจัด  รามไปถึงจมูก และหู

ถอนหายใจเข้าออกยาวๆ  อยู่หลายเฮือก  ผมได้แต่มองอย่างไม่เข้าใจ  มือเรียวจิกเข้าหากันแรงเสียจนผมคิดว่าบนผิวเนื้อ

คงมีเลือดซึมออกมา กำลังจะขยับตัวเข้าไปหา

“อย่า....อยู่ตรงนั้นดีแล้ว”   น้องเงยหน้ามายิ้มให้ผม  ก่อนจะก้มหน้าลงต่ำ  รอยยิ้มฝืนนั้นเหือดหายไปด้วย   

“แพน?”   เค้าลางบางอย่างของน้อง ทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น....  ในทางที่ไม่ดีสักเท่าไหร่

 “ภาค”  น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดทำผมร้อนรนจนแทบฉุดไม่อยู่  อยากจะลุกไปรวบตัวอีกฝ่ายเข้ามากอด

แต่ก็ทำไม่ได้  ความรู้ของแพนที่แสดงออกมา.....มันชัดเจนเกินไป  ตอนนี้อีกฝ่ายกำลังต้องการให้ผมรับฟัง

“ครับ?”   น้ำเสียงแห้งปร่า ละโหยโรยแรงที่ผมตอบกลับไป  ผมเห็นแววไหววูบในดวงตาอีกฝ่ายสั่นระริก

“ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง”


“แพนทำไม?” ผมกลืนน้ำลายลงคอหนัก ๆ เมื่อค่อนข้างชัดเจนว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรต่อไป  น้องหันมาสบตาผมจริงจัง

ไม่มีความหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย  มีแต่เพียงความเจ็บปวดที่ฉายชัดอยู่ในทุกห้วงนาทีที่เราสบตากัน

“แพนรู้อยู่แล้วคงต้องเดินมาถึงวันนี้  แพนไม่อยากให้เราทำร้ายคนที่เรารัก  ตอนนี้เป็นน้าณี แล้วต่อไปหล่ะภาค?

คนที่ต้องเสียใจเจ็บปวดเพราะความเห็นแก่ตัวของเรา  จะเป็นใคร ลุงนพเหรอ?  หรือพ่อกับแม่แพน?   เรา..... ฮึก”

หยาดน้ำตาใสๆ ไหลอาบเต็มใบหน้า   ในขณะที่ร่างเล็กนั้นสั่นระริก  ผมเอง....ที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง สมองมันขาวโพลน

ว่างเปล่า....  เหมือนคนหาจุดหมายไม่เจอ  ได้แต่จ้องมอง   .... อยู่กับความเงียบงัน


“................”   

“ฮึกๆๆ...  ถึงเวลาแล้วภาค  ฮึก...ท....ที่เรา”  น้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

“....แพน?....”   ผมเรียกน้องด้วยน้ำเสียงแหบพร่า  เหมือนใจจะขาด มือที่ยื่นไปหาสั่น..  ควบคุมไม่อยู่

“เลิกกันเถอะ”  มือผมล่วงลงกระแทกพื้นเก้าอี้ตัวที่ว่างเปล่า  มองดูร่างของแพนที่ลุกขึ้นวิ่ง

ค่อยๆ ห่างออกไป เรื่อยๆ  ทั้งที่อยากเรียก  อยากวิ่งตาม  ยังอยากจะมอง ไอ้น้ำหยดใสๆ นี่ กลับกลบ

วิสัยการมองเห็นของผมจนหมด  ผมพยายามชันตัวขึ้น  .......  แต่พอมองเห็นห้องผู้ป่วยตรงหน้า

ห้อง....ที่ผมก็รู้ว่าใครอยู่ในนั้น   ความเจ็บปวดแทรกซึมไปถึงขั้วหัวใจ  ..... นอกจากจะทำแพนเสียใจแล้ว

.........  นี่เป็นครั้งแรก.........  ที่ผมทำให้แม่ตัวเองร้องไห้  และเสียใจจนหมดสติไป .....



ผมนั่งนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น  ก้าวขาไม่ออกแม้แต่ก้าวเดียว......   สายตาเหม่อมองไปในทิศทางที่หัวใจผมวิ่งหายไป

หยาดน้ำตาที่น่าลำคาญ......   ยังคงไหลเอื่อยเหมือนคุมสติไม่อยู่  หลับตาลงแล้วเช็ดคราบน้ำตา

.

.

พร้อมกับประตูห้องผู้ป่วยที่เปิดออก   คุณหมอในชุดกราวสีขาวราวกับรุกขเทวมาโปรดสำหรับผมในตอนนี้

เสียงประกาศก้องดังกังวาล  ...  ร่างผมหยัดยืนขึ้นช้า  ๆ  ราวกับมันถึงเวลาที่ต้องยืน

“น้องเป็นญาติผู้ป่วยเหรอครับ?”  คุณหมอถามขึ้นเพราะคงไม่เห็นใครนอกจากผมที่อยู่ตรงนี้  ผมตอบรับช้าๆ

เพราะสมองเริ่มไม่สั่งการอะไร

“ครับ  แม่ผม?”  ถามได้แค่นั้น....  ลำคอก็ตีบตัน   โกรธตัวเองอย่างหาที่สุดไม่ได้... เพราะผม   เป็นเพราะผม

“ครับแม่เร่าปลอดภัยดีครับ ไม่ต้องเป็นกังวล อาจจะพักผ่อนน้อยไปหน่อย ความดันต่ำนอนให้น้ำเกลือ

สักคืนสองคืนก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วครับ แต่ว่าที่หมอห่วงน่ะ คือตรงเข่ามีรอยถูกกระแทกกับของแข็ง

เห็นคนไข้บอกว่ามันเคยมีรอยร้าวเก่าแถวนั้น อันนี้ต้องเอ็กซเรย์พรุ่งนี้ ถึงจะทราบว่าจะต้องผ่าตัดหรือเปล่านะครับ ” 

“ขอบคุณครับหมอ” ผมยกมือไหว้หมออีกครั้ง  หมอยิ้มตอบ

“ไม่เป็นไรครับมันเป็นหน้าที่ของหมอ” จากนั้นก็เดินจากไปเพื่อดูคนไข้รายอื่น  ผมทรุดตัวลงที่เก้าอี้อย่างหมดแรง

ล่วงใจไปอีกหนึ่งอย่างที่แม่ไม่ได้เป็นอะไรมากอย่างที่กังวล   แต่ก็ยังใจไม่กล้าพอที่จะสู้หน้าแม่ได้

ผมนั่งอยู่สักพัก...พ่อก็วิ่งกระหืดกระหอบตามมา  พร้อมด้วยป้าอรกับลุงจี  พ่อเดินเข้ามาหาผม

“แม่เค้าเป็นไงบ้างลูก?” 

“ปลอดภัยแล้วครับ  เดี๋ยวรอเอ็กซเรย์พรุ่งนี้อีกที ว่ากระดูกตรงเข่าที่เคยร้าวมีผลกระทบไหม?”

“เห้อ  ...  ค่อยยังชั่วป่ะเข้าไปข้างในกัน”  ทุกคนมีสีหน้าโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด  มีเพียงผมที่ทั้งดีใจ และเสียใจ

ในคราวเดียวกัน   คืนนั้นเป็นผมกับพ่อที่เฝ้าแม่ทั้งคืน  ไม่ได้ปริปากพูดอะไร  ...ไม่พูดกับใครให้เหตุผลว่า

ง่วงจากฤทธิ์ยาที่หมอให้  ไม่มีใครสงสัยอะไร ทุกคนยังอยู่ในอาการปกติ  ยกเว้นเสียแต่.....

ตอนที่แม่หันมาสบตากับผม  ผมเห็นแววตาที่ไหวระริกนั่น ........  ผู้สึกผิดจนไม่กล้าสบตา 

คืนนั้น.....แพนไม่ได้กลับมาอีก 






“พ่อไปทำงานเถอะครับ...  ผมอยู่เป็นเพื่อนแม่เอง”   ผมหันไปบอกพ่ออีกครั้ง  พ่อถอนหายใจเบาๆ

สีหน้าเป็นกังวลไม่อยากไปทำงานด้วยซ้ำ  เสียตรงที่วันนี้นัดเจอลูกค้าเจ้าใหญ่แม่ลาไปคนแล้ว

เห็นทีพ่อจะลายากอยู่  พ่อหันมามองหน้าแม่อีกครั้ง

“ไปเถอะตาแก่   ..ฉันอยู่กับลูกก็ได้” สิ้นเสียงแม่พ่อถึงกับหลุดยิ้ม

“ปากเก่งอย่างนี้ก็คงไม่เป็นไรแล้วสิเนี่ย  งั้นผมไปทำงานก่อนหล่ะ”    พ่อแซวเสร็จก็เดินออกไปอย่างอารมณ์ดี


ทิ้งให้ผมกับแม่อยู่กันอย่างเงียบๆ  ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา....  ผมหันไปมองแม่บ่อยมาก  แต่แม่ไม่มองผมเลย

ผมเดินเข้าไปหา ตัดสินใจแล้ว ....อย่างน้อยก็ขอโทษ  ผมเดินมาถึงริมเตียง...  แต่สายตาแม่กลับจ้องทีวีนิ่ง

แม่ริมฝีปากจะเม้มจนแน่นก็ตามที  ผมกราบลงที่เท้าแม่ น้ำตามันไหล...จนห้ามไม่อยู่แม่ไม่เคยโกรธผมขนาดนี้เลย

เมื่อหยาดน้ำไหลกระทบปลายเท้าแม่  ผมได้ยินเสียงแม่อุทานอย่างตกใจ

“ภาค!!”

“ผมขอโทษครับแม่  ...ให้อภัยผมเถอะนะครับ”  ผมยังคงก้มกราบอยู่อย่างนั้น  ได้ยินเสียงถอนหายใจ

พร้อมกับมือของแม่ที่ลูบมาที่หัวผม  ผมซบหน้าลงกับปลายเท้าเล็กๆนั่น มือสอดประครองกอดให้มันแนบหน้า

“ร...เรารักกันครับแม่”  ผมกระซิบเสียงแผ่ว

“ผมรักน้อง  รักมานานแล้ว”

“ภ...ภาค”  ผมได้ยินน้ำเสียงของแม่สั่นเครือ  แม่คงผิดหวังมาก ตกใจมาก  เพราะแม่รักแพนเหมือนลูกคนหนึ่งเช่นกัน

“ผม”

“มันผิดนะลูก....  ผิด...  ผิดทุกอย่าง”   แม่ว่าดึงผมไปกอดแน่นๆ  ผมกอดแม่ตอบ  น้ำตายังไหลไม่หยุด 

ตัวแม่สั่นน้อยๆ 

“ครับ  ...  ภาครู้”

“หยุดเถอะนะลูก....  ”

“..............”


“อย่าให้มันผิดมากไปกว่านี้” 



ผมกับแม่หันไปมองที่ประตู ...  ไม่รู้ว่ามันเปิดตั้งแต่เมื่อไหร่  ไม่รู้ว่าใครคนนั้นมายืนตรงนี้ตอนไหน 

ใบหน้าหวานซีดเจื่อน    ริมฝีปากถูกเม้นแน่นครั้งหนึ่งก่อนจะคลายออก น้องถือตระกล้าผลไม้มาวางข้างๆ แม่

“ของเยี่ยมครับน้าณี   พ่อกับแม่แพนให้เอามาให้ครับ”  น้องว่าสายตายังคงจับจ้องตระกร้าผลไม้เงียบๆ

ก่อนจะหันมามองแม่ผม แล้วยิ้ม  ....  รอยยิ้มที่ทำให้ผมใจสลาย  และผมรู้ว่าน้องเอง ก็คงเจ็บแทบตายเช่นกัน

แม่เองก็เงียบงันไป คงเพราะคาดไม่ถึงว่าน้องจะได้ยินประโยคเมื่อกี้

“ไม่ต้องกังวลนะฮะ  ผมกับภาค.... เรา”








“เราจะเป็นแค่.....พี่น้องกันครับ”  น้องว่าเสียงแผ่ว  เบาเสียจนแทบไม่ยินเสียง  เหมือนน้ำเสียงถูกกลืนหายไปในลำคอ

น้ำตาไหลอาบแก้มนวล  เหมือนไม่รู้ตัวน้องไล้มือเช็ดช้า .....  เดินมาที่ปลายเท้าแม่อีกฝั่ง ก้มกราบลงแทบเท้าแม่

แม่ผมหลุดสะอื้นไห้  ......ออกมาทันที  น้ำตาไหล...ด้วยความเจ็บปวด


“แพน...ลูก”   แม่ว่า...... แล้วเสียงนั่นก็กลืนหาย  ...  เหลือเพียงหยาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

“ผม....กราบขอโทษน้าณีด้วยนะครับ.... แพนเสียใจ....เสียใจ  ฮึก....  จริงๆ  ”  สิ้นเสียงน้องก็วิ่งออกไป

ผมพยายามจะวิ่งตาม.....  แต่แม่รั้งแขนผมไว้แน่น  ผมหันไปมองแม่ที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอืน 

ก็รวบตัวแม่มากอด.....   กอดไว้แน่นๆ  ที่สุด  เท่าที่ผมจะทำได้



ยืนอยู่ตรงนี้ทั้งที่.......  หัวใจผมแตกสลายไม่มีชิ้นดี......  ไม่เหลือดีจริงๆ






ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [3] P.22 20/7/13
«ตอบ #648 เมื่อ20-07-2013 03:47:15 »

 :hao5: :hao5:

อ๊าาาาาาาา......สงสารพี่ภาคกับน้องแพน

น้องแพนน่ารักขนาดนี้

น้าณีไม่อยากได้เป็นสะใภ้เหรอ

ทำไม....ทำไม.....ทำไม.......

.......

ทำไมน้าณีไม่เป็นสาววายยยยย......

//กรีดร้องโหยหวน//

 :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [3] P.22 20/7/13
«ตอบ #649 เมื่อ20-07-2013 10:50:12 »

 :mew4: :mew4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: >> กอด~ เวลาของเรา [3] P.22 20/7/13
« ตอบ #649 เมื่อ: 20-07-2013 10:50:12 »





ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [3] P.22 20/7/13
«ตอบ #650 เมื่อ20-07-2013 11:50:56 »

มาม่ามากอ่ะ สงสารทั้งสองคนเลย อยากให้ทั้งสองครอบครัวเข้าใจจังเลย

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [3] P.22 20/7/13
«ตอบ #651 เมื่อ20-07-2013 21:14:26 »

มีมากกว่านี้อีกค่ะ.

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [4] P.22 25/7/13
«ตอบ #652 เมื่อ25-07-2013 01:11:30 »

หลังจากหยุด 4 วันติด  ก็ชิ่งไป ตจว. มาค่ะ น้องสาวใกล้คลอดแล้ว เย้ๆๆๆๆๆๆ
เลยทำให้ต้องไปบ่อยๆ  อิอิ  เลยไม่ว่างแต่งค่ะ




เวลาของเรา 4




แม่กลับจากโรงพยาบาลหลังจากนั้นเกือบๆ อาทิตย์  เพราะหมอไม่ต้องการให้ใช้เข่ามากอยากให้แม่นอนนิ่งๆ

และพ่อก็เห็นดีเห็นงามไปด้วยเพราะแม่เองไม่ค่อยจะมีเวลาหยุดพักสักเท่าไหร่

"ดีเลยคุณ ได้โอกาสอู้แล้ว" พ่อว่าขำ ๆ พร้อมกับหัวเราะร่วน แม่เลยพลอยหัวเราะตามไปด้วย

บรรยากาศดีขึ้นมาก แต่ผมกลับหงอยเหงา เป็นการยากขึ้นไปอีกที่จะได้เจอแพน

วันนี้เป็นวันที่ผมต้องเดินทางกลับกรุงเทพ. พร้อมกับแพน เพราะพรุ่งนี้น้องต้องเดินทางกลับต่างประเทศ

แต่นั่นเป็นสิ่งที่ผมคาดหวัง...มันจะมีทางเป็นจริงอยู่รึเปล่า ผมนั่งเหม่ออยู่นานในหัวครุ่นคิด

เรื่องต่างๆ ที่วนเวียนสับสนอยู่ตอนนี้ ....  ยังไม่เห็นทางที่ผมกับแพนจะมาบรรจบกันได้

โดยที่ไม่มีใครเสียใจเลยสักนิด  ...     จู่ๆ ก็สัมผัสกับความอบอุ่นจากมือนุ่มของแม่ที่บีบลงมาเบาๆ

“เป็นอะไรลูก คิดอะไรเพลินเชียว?”  แม่ลูบเบาๆ ที่หัว  ผมเผลอหลุบตาลงต่ำหลบตาแม่

ความจริงที่ยังคงอยู่คือไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็ยัง “รักแพน”    ค่อยๆ ช้อนตาขึ้นมาสบตากับแม่

ผมซบหน้าลงกับเอวแม่ สองมือโอบกอดแม่ไว้แน่น  แต่เพราะคนๆนี้ก็ “สำคัญ” 

เพราะอย่างนั้น......ถึงไม่รู้  จะเดินต่อไปทางไหนดี ทั้งๆ ที่เจ็บปวด...แต่ก็ทนกล้ำกลืนฝืนยิ้มบางๆ

ประดับใบหน้า ซ่อนความ “ขมขื่น”  ที่มัน “ดื่นดาษ”  อยู่เต็มหัวใจ   ไม่อาจรู้ได้เลย...ว่าสายตาผม

มันจะ “ซ่อน”  ความรู้สึกเหล่านั้นได้มากเพียงไหน  ถึงได้หลบสายตา...เพราะแม่รู้จักผมดี

“คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะครับ  แม่”  ผมเอ่ยเรียกแม่เสียงแผ่ว

"แม่ครับ"

“หืม  ว่า?”   แม่ตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี

“ผมรักแม่นะครับ”  ได้แต่เอ่ยด้วยน้ำเสียงติดจะสั่น  พยายามกลั้นแล้ว จะให้เลือกระหว่าง

“คนที่เลี้ยง” ดูเรามา กับคนที่ “เรารัก”  มันทำไม่ได้จริงๆ

“อ...อืม”  แม่ตอบกลับมาเสียงเบา  แต่แรงกอดที่ตอบกลับมาแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ไม่มีคำพูดระหว่างเรามาเนิ่นนาน.....  แม่ลูบหัวผมแผ่วเบา   ก่อนจะดันหน้าให้ผมเงยขึ้น

“ไป..ไปจัดของได้แล้ว”   แม่ว่าแค่นั้น...ก่อนจะหันไปสนใจจัดเตรียมมื้อกลางวัน

.



.

ผมเดินลงมาหลังจากจัดเก็บข้าวของส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อย ผมเห็นแม่มองตามผมน้อยๆ

แล้วถอนหายใจหนักหน่วง  เหมือนครุ่นคิดอะไรสักอย่างอยู่เนิ่นนาน ขณะที่มื้อกลางวันของผมยังไม่เสร็จ

ดูเหมือนแม่พึ่งจะเริ่มทำมากกว่า ผมนั่งลงหน้าทีวีเปิดเลือกช่องขึ้นมาช่องหนึ่งไม่ได้ใส่ใจมากนัก

เพราะสุดท้ายก็ได้แต่นั่งเหม่ออีกจนได้   ....  เสียงดังรอบข้างไม่มีผลต่อโสตประสาทการรับรู้

ทุกอย่างเงียบหายไป เหลือเพียงผมที่จมจ่อมอยู่กับเรื่องราวเดิมๆ อีกครั้งหนึ่ง  ดำดิ่ง....จนไม่อยากโผล่พ้น

เรื่องราวของแพนยังแจ่มชัด....อยู่ในหัวใจ  เวลายิ้ม....หัวเราะ  ร้องไห้......เขินอาย.....โกรธ 

ทุกๆ อย่างวนซ้ำไปซ้ำมา...  เราจูบกัน .....  เรารักกัน.....  เราสัมผัสกัน.....และกอดกันอยู่อย่างนั้น

ความอุ่นซ่านยามเนื้อแนบแน่น  ยามที่ร่างกายหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เสียงกรีดครางหวานฉ่ำ

ทุกท่วงท่า ทุกสัมผัสยังตรึงอยู่ในหัวใจ...





“ภาค จะดูหนังหรือว่าให้หนังดูเรากันแน่ลูก?”  เสียงที่แว่วเข้ามาทำผมหันไปดูด้วยความสงสัย

“ห๊ะ.....ค..ครับแม่?”  ทวนคำถามอีกครั้ง  เพราะเมื่อกี้ได้ฟังแทบไม่เป็นประโยค 

“แม่ถามว่าเราน่ะจะดูหนัง หรือให้หนังมันดูเรากันแน่หึลูก?”   แม่ตอบกลับเสียงเข้มขึ้น

“อ่อ ว่าจะปิดพอดีครับแม่”  ผมหันไปยิ้มเจื่อนๆ ชันตัวลุกขึ้นกะว่าจะออกไปสูดอากาศข้างนอกเสียหน่อย

ได้ยินแม่ถอนหายใจเสียงดัง....  ก้มหน้าลงมองพื้น...ในใจก็พลอยนึกโทษตัวเองที่เป็นสาเหตุ

.

.

"ไปดูน้องซิลูกว่าเก็บของรึยัง" แม่ว่าเสียงเบา แล้วหันหลังกลับ  แกล้งสนใจกับมื้อกลางวันที่ตัวเองกำลังตระเตรียม

อยู่ตรงหน้ามากเกินปกติ หัวใจผมที่พองโตจนบอกไม่ถูก...  รอยยิ้มที่ปิดไม่มิด ผมหันหลังเร่งฝีเท้า

เดินไปตามทางที่คุ้นเคยจนแทบจะกลายเป็นวิ่งก็ว่าได้  มันเหมือนหัวใจของผมมันอยู่ใกล้แค่เอื้อม

แต่ก็ห่าง......แค่เพียงเอื้อมมือ  เกินที่มือผมจะยื้อถึง ....  ได้แต่เฝ้ามอง  เฝ้าปรารถนา....ให้เราได้เจอะเจอกัน

สองขาปั่นซอยอย่างถึงที่สุด วิ่งไปยังจุดหมาย  แต่ถึงกระนั้น....มันก็ไม่ทันกับหัวใจที่โหยหา และคณึงถึง

หอบหายใจน้อยๆ เมื่อมาถึงยังรั้วประตูกั้นระหว่างสองบ้าน  หากแต่ก็ไม่เคยจะปิดสองท้าวหยุดนิ่งสนิท

จ้องมองหาใครคนนั้นที่คิดถึง สูดลมหายใจเข้าปอดหนักๆ  เรียกกำลังใจตัวเองสักหน่อย

ก่อนจะก้าวเข้าไป เจอแผ่นหลังที่คุ้นเคย....  หัวใจกระตุกสั่นน้อยๆ กลัวความเป็นจริงจะทำให้อีกฝ่าย

“รังเกียจ”  มันก็ช่วยไม่ได้  เพราะเรื่องของหัวใจ แม้แต่ตัวเองก็ยัง...ไม่เข้าใจ ว่าทำไมลงเองเช่นนี้

เอ่ยเสียงทักดังที่เคย....  เมื่อสาวเท้าจนเข้าใกล้บันไดทางขึ้นไปยังชั้นบน 

"ป้าอรครับแพนเก็บของเสร็จรึยังครับ" ลอบสังเกตุปฏิกิริยาของป้าอร ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่.

แต่ก็เปล่า......ทุกอย่างยังคงปกติดังเดิม

"ยังเลยภาคไปดูให้ป้าซิว่าน้องทำถึงไหนแล้ว" ว่าจบ ป้าอรก็ก้มหน้าก้มตาทำกับข้าวต่อ

ผมรีบวิ่งอย่างดีใจขึ้นไปบนห้องที่คุ้นเคย ยืนอยู่หน้าประตูหอบหายใจหอบใหญ่ จ้องมองบานประตูตรงหน้า

ด้วยหัวใจที่เต้นรัว ตื่นเต้นจนแทบอดทนรอไม่ไหว  แทรกตัวเข้าไปช้าๆ. อีกฝ่ายเหมือนจะรู้ตัว

แต่กลับไม่ได้หันมามอง ยังคงนั่งหันหลังจัดเก็บข้าวของบนเตียงนอน  ผมมองแผ่นหลังบางที่คุ้นเคย

เส้นผมนุ่มสลวยที่ผมโหยหา  เสียงหวานที่ยังก้องกังวานในหัวใจเสมอ ..ทุกๆ อย่าง..กลั่นออกมา

จาก “ความรัก”   และ “ความคิดถึง”   จนแทบคลั่ง  อยากจะขาดใจเหลือเกิน....หากต้องปล่อยมือ 

ค่อยๆ สาวท้าวก้าวเข้าไปเรื่อยๆ ใกล้......แค่เอื้อม   ยื่นมือออกไป.....ใกล้ขึ้นๆ

"แม่ทำอะไรให้แพนกินอ่ะ แพนหิวจะแย่แล้ว" ไอ้ตัวเล็กว่าจบก็เอียงหน้าหันมาหา

พร้อมๆ กับมือผมที่คว้าไปถึงตัว 






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-07-2013 01:17:07 โดย Tassanee »

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [4] P.22 25/7/13
«ตอบ #653 เมื่อ25-07-2013 02:03:24 »

 :mew6:

ท่าจะมาม่าอีกยาวเลย เพราะบ้านแพนยังไม่มีใครรู้เลย

สงสารทั้งสองคนจังเลย


ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [4] P.22 25/7/13
«ตอบ #654 เมื่อ25-07-2013 15:52:58 »

สงสารภาคอ่ะะะะ  :mew4:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [4] P.22 25/7/13
«ตอบ #655 เมื่อ25-07-2013 19:42:56 »

ทนกันต่อไป :katai1:

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [4] P.22 25/7/13
«ตอบ #656 เมื่อ26-07-2013 01:22:07 »

 :z3: :z3:

โอเค....จะมาม่าหรือยำยำก็จัดชุดใหญ่มาเร้ยยยย

แก้ไข 

คณึงหา  >>>>  คะนึงหา
สองท้าว >>>>  สองเท้า

  :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [4] P.22 25/7/13
«ตอบ #657 เมื่อ30-07-2013 14:26:47 »

ย่องมา+1 :m7:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [5] P.23 31/7/13
«ตอบ #658 เมื่อ31-07-2013 01:29:07 »

เวลาของเรา 5




ผมรวบตัวน้องมาโอบกอดจากด้านหลัง.... มืออีกข้าง  ยึดแนวสันกรามไว้มั่น บดริมฝีปากที่โหยหาเข้ากับ

ริมฝีปากสีแดงสดของอีกฝ่าย  สอดลิ้นดุนดันหาความหวานหวามที่คุ้นชิน ในหัวใจสั่นระริก

“อือออออออ”   เสียงครางประท้วงจากอีกฝ่ายไม่ทำให้ผมหยุดการกระทำนั้นได้ สัมผัสเปียกชื้นค่อยๆ ไหล

ไปตามร่องแก้ม ผมรู้ดี.....ว่ากำลังเผยความอ่อนแออันน่าชิงชังของตัวเอง  อ่อนแอยิ่งกว่าคนตัวเล็กตรงหน้า

ค่อยๆ ละริมฝีปากออก รู้สึกจุกหน่วงในอก ....  ในหัวมันตะโกนก้อง   “ครั้งสุดท้าย”

“ภาค!!”   มือเล็กๆ โอบกอดผมไว้แน่น  ซุกหน้าเข้าหาอกผม รอยด่างชื้นค่อยๆ ปรากฎเป็นวงกว้าง 

“ฮึก!!  อย่าร้อง”  ทั้งที่อีกฝ่ายพูดแบบนั้น  แต่ก็เป็นน้องเองที่กำลังร้องไห้อยู่เช่นกัน เรากอดกันแน่น

เฝ้าปลอบโยนกันและกัน ไม่ได้เนิ่นนาน...เพราะเวลา สถานที่ ไม่ได้เอื้ออำนวยขนาดนั้น 

ผมก็แค่....  อยากให้เรื่องก่อนหน้ามันเป็น “แค่ความฝัน”   อยากให้เรายังคบกันได้อย่างเดิม

.

.

เราเปลี่ยนมาช่วยกันเก็บข้าวของกันแบบเงียบๆ  เก็บไปเรื่อยๆ แค่อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกัน

มันเหมือนนี่เป็นสิ่งเดียว......ที่สามารถเชื่อมเราไว้ด้วยกัน  ถ้าหากหมดภาระหน้าที่เหล่านี้แล้ว

ทุกๆ อย่างก็เหมือนจะต้องสลายหายไปด้วย  .. 

ของชิ้นสุดท้ายถูกน้องหยิบมันวางลงในกระเป๋า มือค่อยๆ รูดซิปปิดอย่างเชื่องข้า เราทั้งต่างนั่งมอง

ซิปที่เคลื่อนไปเรื่อยๆ จนเสร็จ  แพนเม้มปากแน่นนัยตาคลอหน่วยไปด้วยน้ำตา ก่อนจะหลังกลับ

นั่งหย่อนเท้าลงบนเตียง เสียงกลืนน้ำลายก้อนแล้วก้อนเล่าลงคออย่างหนักหน่วง ผมนั่งมองการกระทำนั้น

จนสุดท้ายก็ทำอย่างเดียวกัน  นั่งหันหลังให้กันอยู่คนละฟากเตียง ...... มันเหมือนถึงเวลาแล้ว

 ถึงเวลา .......ที่ต้องบอกลา “ความสัมพันธ์” กันอย่างเป็นทางการ  ได้แต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่

นั่งกำมือตัวเองแน่น  .... 
“ภาค...”  เสียงเรียกแผ่วเบา  แต่ทำไมผมจุกไปทั่วหัวใจ ค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง ในหัวกำลังสับสน

ว่าเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นมานี่มันเป็นเรื่องจริง หรือเป็นแค่ฝันกันแน่ ...  ใครกันนะช่างเล่นตลกกับหัวใจ

ของเราอย่างเหลือร้าย.....  ยิ่งกว่า ฆ่า  ให้ ตาย  หากแต่....ค่อย ๆ แล่เนื้อเอาเกลือทา 

มันถึงได้แสบเข้าไปถึงในทรวง  เจ็บปวด ทรมาน ราวกับทำให้ตายไปแล้ว รอบแล้วรอบเล่า...เจ็บเจียนจะขาดใจ

“เรื่องของเรา....”  น้ำเสียงสั่นเครือ...  เหมือนหัวใจน้องโดนฟาดด้วยแส้  ทำไมผมจะไม่รู้.... คนที่ต้องพูดมันเจ็บ

เจ็บ....เสียยิ่งกว่า  คนนั่งฟังเฉย  การที่ต้องเอ่ยคำลา... แม้จะรู้ว่ารักกัน  ทำไมไม่ทำให้ผมตายไปเสียยังดีกว่า

“ขอร้องอย่าพูด อย่างน้อยก็คำๆ นั้น อย่าพูดมันจากปากของแพน”   ทั้งๆ ที่รู้ว่าเรื่องที่อีกฝ่ายจะพูด 

มันคือความจริง...  แต่ผมก็ไม่อยากจะฟังคำๆ นั้นจากปากของน้องเลย

“อืออ ..... ฮึก..... กลับ....ช่วยกลับ.....กลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมนะ จะลืม.”

“ไม่....  ต่อให้ตายภาคก็จะไม่ลืม”  ผมเค้นเสียงหนักๆ ตอบกลับอีกฝ่าย ไม่ได้...จะลืมยังไง  ลืมหัวใจตัวเอง

ถ้าทำได้อย่างนั้น....   ผมเองก็ไม่ต่างจากคนตาย   ไอ้ตัวเล็กทิ้งตัวลงซุกหน้าลงกับหมอน

ร่างเล็กๆ นั่นสั่นสะท้าน สะอื้นไห้กับหมอนจนตัวโยน  ราวใจจะขาด มือบางจิกหมอนแน่นจนน่าสงสาร   

เอื้อมมือไปคว้า  อยากจะกอดปลอบให้น้องหายเจ็บปวด  อยากจะแบกรับความรู้สึกเหล่านี้ไว้เพียงคนเดียว

แต่ก็ทำไม่ได้...  ในเมื่อความรักมันเกิดขึ้นจากคนสองคน  เป็นความรู้สึกที่เชื่อมเราทั้งสองไว้ด้วยกัน

เวลาคนหนึ่งเจ็บ  อีกคนถึงได้เจ็บไปด้วย เพราะหัวใจของเรา.....มันเป็นดวงเดียวกัน

“เป็นพี่น้องกัน” อีกฝ่ายเค้นเสียงลอดไรฟันให้ออกมาเป็นคำ  มันแหบพร่าเสียจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์

แต่ก็พอทำให้มือที่ยื่นไปปลอบชะงักงันไว้แค่นั้น  เรี่ยวแรงไม่รู้หายไปไหนหมดผมถึงได้เผลอปล่อยมือ

ให้ทิ้งลงบนเตียง ทั้งที่เพียงแค่ไม่กี่เซ็นต์มือผมก็จะเอื้อมถึงอีกฝ่าย  ....  แต่ก็ไปไม่ถึง ค่อยๆ หันหลังกลับ

“เป็นพี่น้องกัน” ผมพูดตามอีกฝ่ายเสียงแผ่ว คำธรรมดาๆ แต่ระบุหน้าที่และความรับผิดชอบชัดเจน
ดูเหมือนง่าย แต่กลับหนักอึ้งจนส่งบ่าที่แบกมันไว้แทบหัก  ค่อย ๆชันตัวลุกขึ้นช้า ๆ พยุงตัวเองให้เดิน

ไปตามทางที่จากมา  ภาพใบหน้าของแม่ลอยขึ้นมาช้าๆ  เหลือบสายตาไปมองอีกฝ่าย

ที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากหมอนแม้แต่น้อย ร่างบางยังสั่นสะท้านเช่นเดิม  ใครเห็นซากหัวใจของพวกเรามั้ย

ผมกับแพนผิดหรือไงที่รักกัน?  คำถามที่ผุดอยู่ในใจ  แต่เกินปัญญาจะตอบ  ได้แต่ฝืนร่างกายเดินกลับไป





ไม่รู้ใช้เวลานานเท่าไหร่ ถึงได้พาตัวเองกลับมาถึงบ้านของตัวเอง  ทั้งที่ห่างกันไม่กี่เมตรเท่านั้น
เสียงทีวีละครตอนกลางวันกำลังฉาย  แม่หัวเราะน้อยๆ ไปตามบทละครที่ตัวแสดงกำลังเล่น

ทำไมถึงได้รู้สึกว่าแม่ใจร้ายนักก็ไม่รู้..  ความสุขของผม...มันเกินที่แม่จะยอมรับได้อย่างนั้นเหรอ

ไม่ได้เอ่ยอะไร แค่หันหลังเดินกลับขึ้นห้อง ... สภาพผมในตอนนี้ไม่พร้อมที่จะพบใคร  ขาไร้เรี่ยวแรง

แต่ยังทำหน้าที่ของมัน ค่อยๆ ก้าวช้าๆ  เดินตามขั้นบันไดที่เคยก้าวขึ้นอย่างคล่องแคล่ว

เพียงแต่ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นเชื่องช้า ช้าเสียจนทรมานเหลือเกิน

“ภาคมาพอดี มาทานข้าวกันแม่ทำกับข้าวเสร็จพอดี”  ผมชะงักเท้าฟัง แต่ไม่ได้หันกลับไปมอง
“แม่ทานเถอะครับ  ภาคยังไม่หิว เหนื่อยๆ อยากพักผ่อน”  พูดจบก็ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ

“..............”   



ล็อคห้องทิ้งตัวลงกับเตียงซุกหน้าลงกับหมอน ขดตัวจนลีบเล็ก กอดตัวเองไว้แน่นๆ  แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้

ปล่อยน้ำตาไหลเอื่อยเฉื่อย  ไม่ได้สะอื้นไห้อย่างแพน.... เพียงแค่หาวิธีหยุดมันไม่ได้เท่านั้นเอง



ตกเย็นเราทั้งคู่พร้อมกระเป๋าสัมภาระถูกขนมาวางตรงหน้ารถยนต์ของป้าอรกับลุงจี  ผมหันไปร่ำลาพ่อกับแม่

แม่กอดผมแน่นอยู่นาน  เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ทำเอาใจผมไม่เป็นสุขตลอดการเดินทาง

“อย่าลืมนะภาค...  หยุดทุกอย่างซะ”  แม่ถอนตัวออกจากอ้อมกอด มองมาที่ผมด้วยสายตาแน่วแน่
หากแต่มีความกังวลฉายชัดอยู่ในนั้น มือข้างขวายังบีบแน่นที่แขนซ้ายผมไม่ยอมปล่อย ได้แต่ยิ้มเจื่อน

“ครับแม่”   ผมยกมือไหว้ลา เสร็จเดินไปยกสัมภาระเข้าท้ายรถ ก่อนจะสอดตัวเข้านั่งด้านหลังกับแพน

ด้านหน้ามีลุงจีกำลังสตาร์ทรถ ผมหันกลับไปมองพ่อกับแม่อีกครั้ง   พ่อยืนเท้าสะเอวส่งยิ้มกวนๆ มาให้

ส่วนแม่ยกมือโบกลา  ด้วยใบหน้าที่ติดจะกังวล  พ่อดึงแม่เข้าไปโอบมีรอยยิ้มขำปรากฎอยู่บนใบหน้า

ลูบหัวแม่ปลอบเป็นการใหญ่  ถ้าให้เดาพ่อคงคิดว่าแม่คงรู้สึกใจหาย พร้อมๆกับเหงาที่ผมต้องกลับ   

ถ้าพ่อรู้ความจริง....  ผมเองก็ไม่รู้ว่าพ่อจะทำยังไง  ผมเหม่อมองตลอดสองข้างทางลำตัวอิงเบียดประตูฝั่งซ้าย

ขณะที่น้องเองก็พิงตัวกับประตูฝั่งขวาสายตาเหม่อลอยออกไปนอกตัวรถ  แอบเหลือบมองคนข้างกาย

มันเป็นเรื่องที่บ้า และแย่ที่สุด ในเมื่อคนที่ผมรักอยู่ใกล้แค่เอื้อม.....ผมกลับไม่มีสิทธิ์แม้จะแตะต้อง

รู้สึกหัวใจมันเหน็บหนาวจนแทบทนไม่ไหว แกล้งหยิบผ้าห่มผืนบางที่มักจะพกติดรถเพราะน้องขี้หนาว
ห่มคลุมตัวอีกฝ่าย สอดมือเข้าใต้ผืนผ้ากอบกุมมือน้องไว้แน่น  แค่ตอนนี้....ขอแค่ตอนนี้ก็ยังดี





วันรุ่งขึ้นผม พ่อแม่แพน ไอ้ไม้และไอ้ต้น  ไปส่งแพนที่สนามบิน  น้องเดินเข้ามากอดพ่อแม่ตัวเองแน่น

ลุงจีกับป้าอรจูบที่กระหม่อมน้องเบาๆ ทั้งสามคนกอดกันกลม ได้ยินเสียงลุงจีแซวขำๆ ว่าน้องเป็นไอ้ลูกแหง่

ไปนานแค่ไหน ก็ยังไม่ชินเสียที  เสียงหัวเราะขบขันดังขึ้นทันทีจากทุกคน  ทุกคนยกเว้นผมกับแพน

เราลอบสบตากัน แววตาที่เศร้าเกินจะตีความหมายได้อีก  อยากจะฝืนยิ้มให้อีกฝ่ายเหมือนกัน...

แต่....ก็ ทนฝืนตัวเองไม่ไหวเช่นกัน  น้องเดินไปร่ำลาไอ้ต้นกับไอ้ไม้  ทั้งคู่ก็ยังคงพูดคุยชวนหัวอย่างสนุกสนาน

แววตาที่แสนเศร้าของผมกับแพน  ผมว่าพวกมันเห็นเพียงแต่ว่า....มันคงคิดแค่ว่าเราเศร้าเพราะต้องห่างกัน

ไอ้ต้นคลายกอด แพนถอยห่างออกมาเดินมาหยุดยืนตรงหน้าผม  ใบหน้าหวานก้มมองลงที่พื้น

ยื่นมือมาจับมือผมแน่น  ....    น่าแปลกใจที่ไม่ใช่กอด  น้องเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม
แววตาที่สั่นระริกนั่น   แทบบั่นหัวใจผมให้ขาดจากกัน  ...  ไอ้ตัวเล็กกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

แล้วสูดหายใจตามลึกๆ  นั่นทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาตีบตันที่ลำคอ ลมหายใจติดขัด

“แพนไม่อยู่แล้ว...ก็    ดูแลตัวเองดีๆ นะภาค” ริมฝีปากสีสด ที่ผมหลงไหล ขยับช้าๆ ผมไม่ได้ตอบ

เพราะพูดไม่ออก มันเหมือนถ้าผมพยักหน้ารับ.... จะเป็นการยอมรับ การจบความสัมพันธ์ของเราลงเพียงเท่านี้

น้องปล่อยมือลง  พยายามฉีกยิ้มให้ผม ก้าวถอยหลังช้าๆ ทำไม.....ถึงไม่กอดผมสักนิด

ทั้งที่แววตาอีกฝ่ายก็เว้าวอนขนาดนั้นแท้ๆ  สุดท้ายน้องก็เงยหน้าขึ้นหันมายิ้มให้ทุกคน ก่อนจะพลิกตัวหันกลับไป

ผมลืมอะไรไปรึเปล่า  ...  ใช่สินะ  .. ขามันค่อยขยับ

“แพน”   ผมรวบตัวน้องกอดจากข้างหลัง น้องชะงัก แล้วหันกลับมากอดตอบผมไว้แน่น 

ใช่แล้ว...  เพราะน้องไม่กล้า  คำพูดที่สัญญาไว้กับแม่ ทำให้แพนไม่กล้า .... ที่จะแสดงความรู้สึกจริงๆ ออกมา


“ภาครักแพนนะ”  ผมกระซิบเบาๆ ที่หู  อีกฝ่ายส่งเสียงตอบรับ เครือคราง

“อืม”  น้องค่อยๆ ผละออก  ถอยห่างไป มือหยิบกระเป๋าเดินทาง หากแต่ยังยืนนิ่งไม่ขยับ เหมือนลังเลอะไรสักอย่าง

 แล้วก็หันกลับมา ลากกระเป๋ามาใกล้ๆ เขย่งตัวมากระซิบเบาๆ ที่หู 











“เหมือนกันนะ”   ผมยิ้มกว้าง...  และแพนเองก็ยิ้มกว้าง   ก่อนจะเดินเข้าในส่วนผู้โดยสารขาออก

พอเสร็จสิ้นลุงจีกับป้าอรก็ขอตัวกลับทันทีทุกอย่างดูเหมือนปกติ ผมแยกตัวกลับคนเดียว...

เรื่องของผมยังไม่มีใครในกลุ่มรู้ เพราะตอนนี้ทุกคนมีเรื่องวุ่นวายใจมากพอแล้ว  ไม่อยากให้ใครมากังวลเรื่องผมอีก

อย่างน้อย...ผมก็ยังไม่อยากจบมันไว้เพียงเท่านี้






ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
Re: >> กอด~ เวลาของเรา [5] P.23 31/7/13
«ตอบ #659 เมื่อ31-07-2013 01:35:24 »

 :m15:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด