>> กอด~ ตอนพิเศษ แมวเมา กับความลับ P.26 25/12/13
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >> กอด~ ตอนพิเศษ แมวเมา กับความลับ P.26 25/12/13  (อ่าน 161729 ครั้ง)

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
Re: >> กอด~ ลักลอบ#3 P.18 29/5/13
«ตอบ #540 เมื่อ29-05-2013 10:23:49 »

ภาคต้องอดทนน่ะ เพราะแพนยังอยู่ในช่วงเติบโตอยู่น่ะ ต้องเรียนรู้ผ่านร้อนผ่านหนาวกันอีกแยะน่ะจ้ะ ความรักจะได้มั่นคงมากขึ้น ๆ เป็นกำลังใจให้สองหนุ่มน้อย  :katai2-1:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: >> กอด~ ลักลอบ#3 P.18 29/5/13
«ตอบ #541 เมื่อ29-05-2013 10:41:29 »

ไม่อยากจะคิดเลยเมื่อทุกคนรู้เรื่อง
แพนกับภาคจะยังเป็นครอบครัว
ที่อบอุ่นแบบนี้อยู่หรือเปล่า :mew5:
+1และเป็ด

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: >> กอด~ ลักลอบ#3 P.18 29/5/13
«ตอบ #542 เมื่อ29-05-2013 22:46:32 »

 :mew3: :mew3:
พี่ภาควางแผนอะไรมากมาฮร๊าฟฟฟฟ
ไหนมาเล่าสู่กันฟังด้วยดิ
 :mew1: :mew1:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ ลักลอบ#4 P.19 30/5/13
«ตอบ #543 เมื่อ30-05-2013 01:38:24 »


เมื่อคืนนอนหนาวทั้งคืน  ....  ถึงแม้ผมไม่เคยจำได้ว่าตัวเองเคยเป็นคนขี้หนาวมาก่อน  จริงๆ ติดจะขี้ร้อนด้วยซ้ำ

แต่ผมไม่ได้บอกนี่ว่าผมหนาวตัว  ที่จริง....ผมหนาวหัวใจตะหาก  (อ้วกกกกกกกกก) แน๊ะ! ใครมาแพ้ท้องแถวนี้

หนาวจนสะบั้น หนาวจนนอนไม่หลับเพราะไม่ได้กอด ทั้งที่อยู่ใกล้ขนาดนี้ นึกเคืองป้าอรนิด ๆ ที่ไม่เห็นใจคนรักกันบ้าง

แต่ป้าเค้าไม่รู้นี่นา ...เห้อๆๆๆๆๆๆๆ  ผมตื่นแต่เช้าตรู่มุ่งจะไปหาสุดที่รัก   เร่งรีบอาบน้ำอาบท่าแปรงฟันจนเสร็จ

ผมก็ปรี่เข้าไปหาอีกฝ่าย  เดินดุ่มๆ ไม่ได้สนใจใคร ก้าวขึ้นบันไดอย่างเชี่ยวชาญและอาจหาญขึ้นชั้นสองด้วยความรวดเร็ว

ไม่นานนักสองเท้าผมก็พาผมมาหยุดอยู่หน้าห้องเจ้าของหัวใจ (โอ๊ะ...เสี่ยวได้อีก)   กำลังจะเปิดประตูห้องด้วยความคุ้นขิน

แต่สองมือก็ชะงักกึก เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนน้องไม่ได้นอนคนเดียวนี่นา   ผมก็ยืนนิ่ง...กำลังชั่งใจตัวเอง

จริงๆ ก็ค่อยมั่นใจแหล่ะว่าไม่ควรเคาะ แต่อีกใจหนึ่งก็คิดถึงคนที่อยู่ตรงหน้าแทบใจจะขาด ไม่ได้ฟัด ได้กอด

ได้หอมก็ยังดี  ขณะที่ตัดสินใจจะถอยหลังกลับ ขาสองข้างก็หยุดชะงักอีกรอบ   เพราะเสียงสวรรค์ดังขึ้นพอดี

“อ้าวภาคมาหาน้องแต่เช้าเชียว  แพนยังไม่ตื่นเลย ไปดูให้ป้าหน่อยไปลูก” ป้าอรพูดจบก็เดินเข้าครัวทันที  มีใครเคยบอกมั้ย

ว่าคุณป้าเหมือนนางฟ้ามาโปรดผมเลยตอนนี้  ผมไม่รอช้าบิดลูกประตูให้เปิดออกรีบแทรกตัวเข้าไป ก่อนจะกดล็อดเบาๆ


มองเห็นไอ้ตัวเล็กนอนขดได้อย่างน่ารักน่าชังอยู่บนเตียง   เพราะแอร์ที่เย็นจัด  ในขณะที่เจ้าตัวนอนดิ้นจนผ้าห่มเลื่อนหลุดไป

น้องอาจจะเคยชินที่มีผมนอนข้างๆ เป็นเดือน  มือที่กำลังคลำหาใครสักคน ยังคลำไปเรื่อยๆ เมื่อไม่พบจุดหมายที่ต้องการ
“อืออ ภาค  งึมๆๆๆ” เสียงครางงึมงำแผ่วเบาเรียกร้องหาผม  ขณะที่ผมยืนมองภาพนั้นอย่างชั่งใจว่าควรจะขัดฝันดีๆ

ของน้องดีมั้ย  สุดท้ายก็ค่อยๆ ทรุดตัวลงแผ่วเบาเพราะกลัวอีกฝ่ายจะตื่นจากฝันดี ไล้มือบนใบหน้าหวานก่อนจะจุมพิศ

ลงบนหน้าผากเนียนนุ่ม ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงที่ทรุดยวบลงตามน้ำหนักตัว แต่ก็ไม่ได้รบกวนอีกฝ่ายแต่ประการใด

ผมนอนจ้องมอง ไล้มือบนใบหน้าที่ผมหลงไหล  ริมฝีปากสีสดแห้งผากลิ้นเล็กก็ไล้เลียเพิ่มความชุ่มชื้น ..น่ามองเป็นอย่างยิ่ง

ผมลูบหัวอีกฝ่ายแผ่วเบา และเหมือนเป็นปฏิกิริยาตอบสนองแบบอัตโนมัติ ไอ้ตัวเล็กกลิ้งเข้ามาหาอ้อมกอดอบอุ่นของผม

ผมกอดน้องไว้แน่น เคยกลัวมั้ย?   เมื่อวานนี้....ผมพึ่งรู้สึกว่าการสูญเสียอีกฝ่ายไป มันช่างเป็นเรื่องง่ายเหลือเกิน

มันเจ็บปวด...เมื่อผมเองที่ยืนอยู่ตรงนั้นแท้ๆ กลับทำอะไรไม่ได้เลย  ถ้าน้องตัดสินใจไป.... ผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

การรักใครสักคนเป็นเรื่องยาก   ...  ยากที่จะทนุถนอมให้มันเป็นแบบนั้นตลอดไป  เพราะมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง

แต่มันต้องพร้อมเพียงทั้งสองคน ต้องร่วมใจ  ต้องมั่นคง  ต้องเข้าใจ และพร้อมจะเดินไปข้างหน้าด้วยกัน

ตอนนี้...ผมจึงกอดน้องไว้ซะแน่น   เพียงเพราะผมกลัว......กลัววันข้างหน้าที่ผมคาดการไม่ได้  มีเพียงสิ่งหนึ่งที่แน่นอน

ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร  .....  ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนเลือก   และมันดีสำหรับน้อง........  ผมพร้อมจะทำตาม

ความต้องการมันมลายหายไปทันที   .....  ผมอาจจะอยากแค่ใช้มันแสดงความรัก แสดงความเป็นเจ้าของอีกฝ่าย

แต่จะมีประโยชน์อะไร ....  เพราะถ้าถึงผมจะได้ครอบครอง  เป็นเจ้าของน้องตอนนี้ ....แล้วเราต้องจากกัน

สู้ให้ผมไม่ได้สัมผัส  ไม่ได้แตะต้อง  แต่ขออยู่ใกล้ๆ ได้ใช้ชีวิต  ได้ใช้ลมหายใจร่วมกัน  คอยดูแล  และแลดูอีกฝ่าย
มันคงจะดีเสียกว่า  ผมคลายอ้อมกอดเมื่อรู้สึกว่า...น้องดิ้นเล็กๆ ในอกผม  ผมกดจูบบางเบา ลูบหัวทุยแผ่วๆ

เปลือกตาอีกฝ่ายก็ค่อยๆ ขยับ  น้องกระพริบตาสองสามขยัก ก่อนจะเงยหน้ามายิ้มหวานให้ผม  ผมยิ้มตอบ


“ภาค”   เสียงหวานที่ทำให้ผมชื่นใจ  น้องซุกตัวเข้ามากอดผมแน่น  แล้วเงยหน้าจุ๊บปากผมเบาๆ
“มอนิ่งคิสครับ”  ตัวเล็กว่า ผมก้มหน้าไปจุ๊บปากตอบ

“ครับ มอนิ่งคิสครับ  ป่ะตื่นได้แล้วป้าอรให้ภาคมาตามเรานานแล้ว”   ผมชันตัวลุกขึ้นนั่ง มืออีกข้างกอบกุมมือน้องไว้

พยายามดึงเบาให้อีกฝ่ายลุกขึ้นตามมา  น้องดึงมือออก ก่อนจะอ้าแขนกว้างยื่นมาตรงหน้า พร้อมกับคำน่ารักๆ

“อุ้ม”  ผมถึงกลับเผลอหลุดขำ  จ้องมองอีกฝ่ายที่กำลังพยายามทำหน้าเจ้าเล่ห์  ทั้งที่ทำได้แค่ทำหน้าให้ดูซนๆ เท่านั้นเอง

“ครับผม  ด้วยความยินดียิ่ง”  ผมโค้งตัวเล็กน้อย ก่อนจะช้อนตัวสุดที่รักไว้ในอ้อมกอด แล้วอุ้มเข้าห้องน้ำไป

.

.

.

“นพกับนีไปไหนหล่ะลูก ทำไมไม่มาทานข้าวด้วยกัน?”  ป้าอรถามอีกตามเคย แต่ผมไม่ทันได้ตอบลุงจีก็ตอบแทนเสียก่อน

“อ้อ  เห็นว่าจะไปเคลียร์งานที่บริษัทช่วงเช้าน่ะ  พึ่งกลับจากต่างจังหวัดก็มีงานด่วนเข้าอีก”  ป้าอรพยักหน้ารับรู้

“แพนวันนี้หนูไปเป็นเพื่อนแม่ซื้อของหน่อยนะลูก  พ่อเค้าไม่ว่าง”  ไอ้ตัวเล็กยิ้มร่าพยักหน้าตอบรัวๆ  เห็นแล้วขำ
“ได้ฮะ  ภาคไปด้วยนะไปช่วยกันถือของ”  ตอบแม่เสร็จ ก็หันมาสั่งผมทันทีผมอมยิ้มอย่างรู้ทันก็คงมีแค่ผมเท่านั้นแหล่ะที่เป็น

คนถือ  ไปด้วยกันทีไร น้องเดินตัวปลิวทุกที

“จะให้ภาคไปเป็นรับใช้ก็บอกมาเถอะ”  ผมว่าแซวๆ  น้องก็ทำแกล้งป่องทันที  จนลุงจีกับป้าอรอดขำไม่ได้
“รู้ตัวก็ดีแล้ว หึหึหึ”  ไอ้ตัวเล็กว่ายักคิ้วยิ๊กๆ  กวนผมซะงั้น

“เห้อ...จะไปดีมั้ยน๊า   อยากอยู่บ้านนอนเฉยด้วยสิวันนี้”  ผมยกยิ้มมุมปากอย่างเป็นต่อ เหลือบมองไอ้ตัวเล็ก

“โหยยยยย  ไม่เอาอ่ะ  ไม่ได้ๆๆ  ต้องไปช่วยแพนก่อนเดี๋ยวค่อยกลับมานอน นะนะนะ  เค้าไม่กวนด้วยเลยสัญญา”

ไอ้เล็กดิ้นผึงนึกว่าผมพูดจริง เดินเข้ามากอดแขนส่วนหัวก็ซุกไซร้ไหล่ผมเป็นการใหญ่  อ้อนๆๆ  น่ารักจริงๆ

“คร๊าบบบบบบ ทราบแล้วครับแล้วจะบริการอย่างดีเลยครับคุณหนู” ผมตอบกลับ ลูบหัวน้องเบาๆ อย่างเอ็นดูน้องหมา

เล่นเอาฮากันทั้งโต๊ะ  ส่วนคนถูกลูบก็หน้ามุ่ยใส่โดยปริยาย  ก่อนจะยิ้มเขินๆ กับพ่อแม่ตัวเอง

.

.

.
สรุปหลังทานเข้าเสร็จ พักผ่อนเล็กน้อย บ่ายๆ ก็ได้เวลาช็อปปิ้งซื้อของของสองแม่ลูก  เราขับรถไปที่ห้างที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด

ไม่น่าเชื่อว่าคนท้องจะแข็งแรงขนาดนี้ เดินได้หลายๆ ชั่วโมง ถึงจะหยุดพักเป็นระยะก็เถอะ  ผมได้แต่เดินตามไปเรื่อยๆ

ไม่กล้าไปแทรกความสุขระหว่างสองแม่ลูก ที่จูงมือจูงไม้ ชี้นกชมไม้ ปรึกษาหารือ เรื่องข้าวของกันตลอดทาง

จากที่จะไปซื้อแค่อาหารกับของใช้ในบ้านเล็กๆ น้อยๆ กลับการเป็นว่ามาสำรวจข้าวของสำหรับไอ้ตัวเล็กที่อยู่ในท้องกันด้วยซะนี่

แพนก็ดูจะเห่อน้องมาก  เห็นอะไรที่เกี่ยวกับเด็กไม่ได้เลย ส่วนผมก็มีหน้าที่หอบหิ้วข้าวของที่สองแม่ลูกเค้าออเดอร์

“อ๊ะ...  ขอโทษครับ”  เสียงใครสักคนดังขึ้น ผมที่เผลอมองร้านเสื้อผ้าผู้ชายอยู่ถึงกลับต้องหันมามอง เพราะได้ยินเสียง

ไอ้ตัวเล็กอุทานออกมาเสียงเบา  น่าจะถูกชนเข้าให้  พอผมหันมาก็เห็นน้องก้มจ้ำเบ้ากับพื้น ผู้ชายอีกคนที่ตอนนี้ยืน

หันหลังให้ผมอยู่ก็ยื่นมือไปดึงมือน้องขึ้นมา  แต่ปฏิกิริยาตาโตยิ้มกว้างของแพนทำให้ผมคิ้วกระตุกนิดๆ

“มองค์  คิดถึงจังเลยยยยยยยยย”    ไม่ว่าเปล่า...แต่กระโดดกอดคนตัวโตอีกคนไปแล้ว  ผมไม่เห็นว่ามันทำสีหน้ายังไง

“อ้าวแพน  ...คิดถึงเหมือนกันครับ  น่ารักขึ้นอีกเปล่าเนี่ย มากับใครเนี่ย  แล้วกลับมาไทยเมื่อไหร่ไม่บอกกันมั่ง

รู้ไหมมองค์คิดถึงแพนมากๆเลย  ไม่ได้ติดต่อกันเลย เป็นไงยังสบายดีนะ”

อีกฝ่ายทำเสียงน้อยใจจนหน้าหมั่นไส้  แล้วมือขาวๆ ที่ยังโอบกอดได้โคถึกนี่มันอะไรกัน  ทำไมยังไม่ปล่อย หวงนะหวงงง

ผมเดินไปจิ้มแขนแพนเบาๆ ให้รู้สึกตัวเสียที เพราะทั้งสองมือเต็มไปด้วยข้าวของพะลุงพะลัง  ก็รู้ว่าแพนดีใจ แต่นะ..หวงอ่ะ

“แห่ะ ๆ ”  น้องหัวเราะเจื่อนๆ ตอบผม ลดมือลง ก่อนจะหันไปคุยกับมองค์อย่างออกรสออกชาด อ่าน่ะ...ก็ได้แค่มอง








ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
Re: >> กอด~ ลักลอบ#4 P.19 30/5/13
«ตอบ #544 เมื่อ30-05-2013 01:41:43 »

 :ling1:

แพนกับภาคนี่ เนื้อหอมพอกันเลยนะ

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: >> กอด~ ลักลอบ#4 P.19 30/5/13
«ตอบ #545 เมื่อ30-05-2013 05:09:36 »

 :katai5: :katai5:
มองค์ยังชอบแพนอยู่ปะเนี่ย

 :katai4: :katai4:
ปล. พะลุงพะลัง  ต้องใช้ 'ร-เรือ'  เป็น  พะรุงพะรัง จร้าา

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ ลักลอบ#4 P.19 30/5/13
«ตอบ #546 เมื่อ30-05-2013 10:21:06 »

ขอบคุณค่ะ   ต่อไปจะระวังให้มาก

ขอประทานอภัย เมื่อคืนง่วง และรีบพิมพ์

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
Re: >> กอด~ ลักลอบ#4 P.19 30/5/13
«ตอบ #547 เมื่อ30-05-2013 15:31:15 »

 :hao6: ตอนนี้ได้เจอศัตรูหัวใจซะแล้วภาค จะทำไงดีล่ะเนี่ย  :mew1:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
Re: >> กอด~ ลักลอบ#4 P.19 30/5/13
«ตอบ #548 เมื่อ30-05-2013 17:56:14 »

โอ๊ะ โผล่มาแล้ว แต่ไม่ต้องห่วง แพนไม่เปลี่ยนใจจากภาคแน่นอนเนอะ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: >> กอด~ ลักลอบ#4 P.19 30/5/13
«ตอบ #549 เมื่อ31-05-2013 11:25:52 »

งานจะเข้าแพนมั๊ยนะ :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: >> กอด~ ลักลอบ#4 P.19 30/5/13
« ตอบ #549 เมื่อ: 31-05-2013 11:25:52 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ ลักลอบ#5 P.19 1/6/13
«ตอบ #550 เมื่อ01-06-2013 02:33:41 »


“ฮ่าๆๆ  ถามเยอะขนาดนี้แล้วแพนจะตอบคำถามไหนก่อนดีเนี่ย  สรุปนะ แพนมากับแม่แล้วก็ภาค มาไทยเกือบ ๆ สองเดือน

แล้วหล่ะ  แต่ว่าพึ่งมาที่บ้านได้สองสามวัน  อยู่ที่นู่นก็สบายดี  ส่วนเรื่องน่ารักอันนั้นมันแน่อยู่แล้วหล่ะ ฮ่าๆๆ”  น้องหัวเราะ

เสียงใส ส่วนมองค์หัวเราะขำกับความเกรียนของแพน ก่อนจะหันมาไหว้ผมกับแม่ของแพน

“สวัสดีครับแม่  หวัดดีครับพี่” ผมพยักหน้ารับเพราะสองมือยังถือของพะรุงพะรังอยู่  รู้สึกว่าความเป็นปฏิปักษ์ของเรา

มันจางหายลงไปเยอะ อาจจะเพราะเราต่างโตขึ้นมีความคิดมากขึ้น  และที่สำคัญคือน้องเป็นของผม และผมเชื่อใจแพน

เราตัดสินใจไปหาร้านอาหารสักร้านเพื่อให้แม่แพนพักผ่อน  พร้อมๆ กันกับให้เพื่อนเก่าได้สอบถามถึงสารทุกข์สุขดิบกัน

เสียให้หนำใจ เดินมาสักพักก็ได้ร้านอาหารที่สามารถสั่งอาหารได้เรื่อย นั่งคุยกันชิว ๆ และมีมุมที่แบ่งเป็นสัดส่วน

ขณะที่ทุกคนกำลังก้าวเข้าร้าน  ผมเลยขอตัวเอาข้าวของไปเก็บที่รถแม่แพนหันมาพยักหน้ารับทราบ ขณะที่ไอ้ตัวเล็กยังคุย
เพลิน

“ให้ป้าสั่งอะไรให้มั้ยลูก?”  ป้าอรหันมาถาม  ผมส่ายหน้าน้อยๆ ยิ้มตอบ ความจริงยังอิ่มอยู่มาก

“ไม่เป็นไรครับป้าอร ผมยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่เดี๋ยวยังไงผมเอาของไปเก็บแล้วไปเดินเล่นรอนะครับ ถ้าจะซื้อของยังไงป้าอรโทร

บอกผมอีกทีนะครับเดี๋ยวภาคมา”  ป้าอรทำหน้าคิดนิดนึงก่อนจะยิ้มออกมาคงคิดว่าผมเบื่อ แล้วยื่นกุญแจรถให้

“จ้า เอาอย่างนั้นก็ได้ เดี๋ยวป้าบอกแพนให้”  ป้าอรพยักเพยิดเสร็จ  ผมก็เดินออกมาเลยมุ่งตรงไปที่เก็บข้าวของใส่หลังรถเสร็จ

ก็เดินเข้ามาในห้างมองดูเสื้อผ้าของใช้หลายร้านที่ผมสนใจ  แต่ได้แต่เดินผ่านไป เพราะไม่รู้ว่าถ้าซื้อจะเอามือไหนถือ

ผมเดินไปเรื่อยๆ ยังไม่ได้ของเป็นชิ้นเป็นอัน จะว่าน้อยใจก็ไม่เชิง จะตำหนิอีกฝ่ายก็ไม่ใช่ เพราะผมเองก็มีเพื่อน


อย่างน้อยตอนที่ผมจบแล้วเรียนต่อ  มองค์ก็เป็นคนอยู่ข้างๆ แพนเสมอมา  ความสนิทสนมคงมีอยู่ไม่น้อย ..ผมไม่อยากอยู่

ตรงนั้น ..ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นส่วนเกินหรอกนะครับ  แต่ผมคิดว่าแพนคงต้องการพื้นที่ส่วนตัว  ต้องการพื้นที่ที่ไม่อยากให้ผม

เข้าไปยุ่งหรือแตะต้อง  ถ้าผมอยู่เดี๋ยวน้องอาจจะเกร็งๆ คุยได้ไม่เต็มที่ ขนาดตอนเดินมาที่ร้านอาหารอีกฝ่ายยังหันมามองผม

เป็นระยะ   ผมเลยคิดว่าแยกตัวออกมาน่าจะดีกว่า ผมเดินเล่นอยู่นานก็เห็นที่นั่งสำหรับพักผ่อนมันว่างอยู่ ผมเดินไปหย่อนตัว

ลงนั่งพักผ่อน เลยหยิบหนังสือที่ติดอยู่ในกระเป๋าสะพายข้างของตัวเองมานั่งอ่านเรื่อยๆ รอให้ป้าอรโทรมาตาม

อ่านได้สักพักก็รู้ว่าพื่นที่ว่างข้างๆ มีใครบางคนนั่งลงใกล้ ๆ โดยไม่ได้เอ่ยปากขออนุญาตแต่อย่างใด  ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจ

ยังคงนั่งอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ เหมือนเขาจะขยับตัวยุ๊กยิ๊กไปมาอยู่อย่างนั้น  ซึ่งผมก็ไม่ได้หันไปมองให้เสียมารยาท

จนเสียงหนึ่งดังขึ้นเบาๆ ถึงได้เงยหน้าขึ้นไปมอง

“โกรธขนาดไม่อยากมองหน้ากันเลย?”  น้องมองมาด้วยสีหน้าติดจะเศร้าดูท่าพยายามจะง้อผมอยู่  ผมอมยิ้มแล้ว

ยื่นมือไปลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ

“ป่าวนี่ครับ  ไม่ได้โกรธเลย”   น้องซุกหัวเข้าหามือผมอ้อนๆ แน๊ะ ๆ ยิ่งดูยิ่งน่ารักแฟนใครหว่า ถ้านี่ไม่ใช่ที่ห้าง
ผมคงก้มลงไปหอมแก้มยุ้ยๆ ของอีกฝ่ายไปแล้วหล่ะ

“ไม่โกรธแต่หนีกันมา  แถมยังไม่มองหน้ากัน”  น้องทำหน้างอ ปากเม้มแน่นเหมือนคนน้อยใจจัดๆ จนผมอยากดึงน้องมากอด

แต่ก็ทำได้แค่อมยิ้มอยู่อย่างนั้น  เพราะถึงอีกฝ่ายทำยังไงคนตรงหน้าก็ยังน่ามองที่สุดสำหรับผมอยู่ดี

“มองค์กลับไปแล้วเหรอครับ แล้วป้าอรหล่ะ”   ผมถามขึ้นเมื่อมองไปรอบๆ แล้วไม่เห็นทั้งสองคนอยู่ใกล้ๆ แถวนี้เลย

“มองค์กลับกับเพื่อนแล้ว แม่ก็เดินไปดูของอีกนิดหน่อย นี่...อย่าเบี่ยงประเด็นได้ม้ายยยยย”  น้องลากเสียงยาว

หน้ามุ่ยขึ้นอีก สองเปอร์เซ็นต์ผมได้แต่หัวเราะหึหึ  ก็มันขำยิ่งงอนเท่าไหร่แก้มก็ยิ่งป่องมากขึ้นเท่านั้น หน้าแดงจัดๆ

อาจจะเพราะโกรธจัดก็ได้  พอผมนิ่งๆ  น้องก็ทุบมาที่ไหล่ผมเป็นการใหญ่

“นี่ๆๆๆ  จะบอกมั้ย?  ฮึ”  ทุบเสร็จก็หันหลังให้กันเสียเฉยๆ  นี่เป็นปฏิกิริยาตอบสนองรึไง ง้อไม่หาย งอนตอบซะเลย

“นี่ๆๆ  หันมาคุยกันก่อน”  ผมเอานิ้วจิ้มที่แขนอีกฝ่ายเบา  น้องมองผมด้วยหางตาเล็ก ก่อนจะสะบัดขนตากลับงอนๆ
น่ารักเป็นบ้า  .....  แล้วตามด้วยพ่นลมหายใจดังให้ผมได้ยินด้วย  เป็นการเตือนขั้นต้นว่าโกรธแล้วนะ ผมก็ยิ้มกว้าง

“ภาคไม่ได้โกรธนะครับ  แค่เห็นว่าเราดูอึดอัดตอนที่ภาคอยู่ด้วย  เลยคิดว่าออกมารอข้างนอกดีกว่า  ไม่ได้เจอกันนาน

คงมีเรื่องอยากจะคุยกันเยอะแยะไปหมดนั่นแหล่ะ  ภาคไม่อยากกวนใจเรา”  น้องหันมามองผมเศร้าๆ เหมือนรู้สึกผิดมากๆ

ผมเลยลูบหัวปลอบใจ ตอนนี้จะให้กอดให้หอมก็คงไม่ได้ 

“ไม่ได้อึดอัดสักหน่อย แล้วภาคก็ไม่ได้กวนแพนด้วย ที่หันมาบ่อยๆ ก็เพราะกลัวภาคเหงาต่างหาก  พอแม่บอกว่าภาค

เอาของไปเก็บแล้วจะไปเดินเล่นต่ออ่ะ แพนอยากร้องไห้เลยนะ กลัวภาคโกรธน้อยใจที่เห็นแพนให้ความสำคัญมองค์เยอะกว่า

แต่มันไม่จริงหรอกนะ ....เพราะว่ายังไงแล้ว.....”    น้องหยุดกลืนน้ำลายลงคออีกใหญ่ เหมือนคนจะร้องไห้ประมาณนั้น

เหลือบตาขึ้นมาสบตาผมแล้วหลุบลงต่ำ  ไม่ได้พูดอะไร แต่ไอ้ปฏิกิริยาหูแดงหน้าแดงนี่มันงงๆ นะ 

“.......”   ผมก็นั่งมองอีกฝ่ายเงียบๆ รอว่าน้องจะพูดอะไรต่อรึเปล่า  น้องช้อนตามาสบตาผมอีกครั้งเห็นเลยว่าเขินมาก
หูแดง หน้าแดง ไม่พอ  มือจิกขากางเกงตัวเองแน่นเหมือนคนไม่รู้ตัว  ผมเลยช้อนตามองอีกฝ่ายบ้าง คราวนี้แหล่ะ 

ผมส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้เต็มที่  แถมยังยกยิ้มมุมปากนิดแค่พอเท่ห์  จริงๆแค่รู้สึกทุกทีที่ยิ้มแบบนี้แพนจะเขินมากๆ

ตอนนี้เลยเขินจนตัวบิดทั้งตัว มืออีกข้างที่ว่างจิกเก้าอีกซะแน่น ผมเลยเร่งปฏิกิริยาอีกนิด น่าแกล้งจริงๆ

“แล้ว?”   ผมเลิกคิ้วเป็นคำถาม สนุกที่แกล้งคนตรงหน้าได้ แต่ก็ทรมานเหมือนหมา ที่เห็นเนื้อแขวนอยู่ตรงหน้า น้ำลายยืด

อยากจะกิน  แต่ก็ได้แค่มอง ยังไงยังงั้น     อยากฟัด อยากกอดน้องใจแทบขาด

“ก็ ..ก็ ..ก็”  อีกฝ่ายอึกอัก  แล้วก้มมองพื้น

“ก็อะไรครับ หืม?”  ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกนิด กระซิบพอให้ได้ยินกันสองคน   แล้วรีบผละออก กลัวน้องจะดูไม่ดี

“ก็ภาคสำคัญที่สุดน่ะแหล่ะ  เง้ออายอ่า~”  ไอ้ตัวเล็กว่า เอาหัวชนไหล่ผมเบาๆ อยู่หลายที  ผมเลยหัวเราะออกมา

มันดีใจจนล้นอกเลยทีเดียว

“แพนก็เหมือนกันนะ....  สำคัญกับภาคที่สุด”  ไอ้ตัวเล็กเงยหน้ามามอง หน้าแดงเถือกกกก ฮ่าๆ  ทุบไหล่ผมแก้เขินไปสองที

“บ้า”   ฮ่าๆ  ....  ผมยิ้มอย่างมีความสุข  ผมยกแขนโอบรอบไหล่อีกฝ่าย เดินไปยังร้านที่ป้าอรรอยู่เพราะอีกฝ่ายพึ่งโทรตาม

ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็รู้สึกดีเหลือเกินที่ได้มีคนๆ นี้อยู่เคียงข้าง





ผมหิ้วของอีกสองสามอย่างเดินตรงไปที่รถ โดยมีคุณแม่กับคุณลูกเดินควงแขน คุยกันงุ้งงิ้งอย่างมีความสุขตามหลังมาด้วย

เย็นนั้นกลับถึงบ้านเกือบ ห้าโมงเย็น  แต่เราไม่ต้องกังวลเรื่องมื้อค่ำเพราะพ่อกับแม่ผมได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อย

และทุกอย่างก็เป็นเหมือนเดิม  ขวัญใจอันดับหนึ่งของเราทั้งสองบ้านก็ยังคงเป็นสุดที่รักของผมอยู่ดี

“แพน  ต๊ายยยมาให้น้ากอดหน่อยเร็ววววววว”  แม่ผมตะโกนเรียกอีกฝ่ายเสียงดัง น้องก็วิ่งถลาเข้าไปซุกอกแม่ผมอย่างเอาใจ

นี่แค่ไปเคลียร์งานแล้วไม่ได้เจอกันหนึ่งวันแค่นั้นเองนะ  ผมมองยิ้มๆ ขณะที่ป้าอรถึงกับส่ายหน้าเบาๆ แล้วหลุดขำออกมา

ป้าอรหันมาหาผมพยักเพยิดให้ดูคู่หน้าหลานที่บ้าเห่อกันไม่หาย ก่อนยกมือมาลูบหัวผมเบาๆ ด้วยความเอ็นดู

“คิดถึงน้านีที่สุดเลย”  เสียงไอ้ตัวเล็กออดอ้อน  แม่ผมก็ดึงอีกฝ่ายไปกอด หอมแก้มซ้ายทีขวาทีเป็นการใหญ่

“โอ๊ยยยย ปากหวานลูกใครกันหล่ะเนี่ย?” แม่ว่าจบก็หันมามองป้าอรยิ้มๆป้าอรก็ยิ้มขำแล้วก็ร่วมเล่นสงครามชิงลูกชายกับแม่ผม

“ลูกชั้นหย่ะยายนี  มาๆ น้องแพนมาให้แม่กอดดีกว่า”   ป้าอรเดินเข้าไปกอดแพนอีกข้าง ไอ้ตัวเล็กยิ้มหน้าระรื่น

ส่วนผมก็หอบเข้าของไปเก็บในบ้านแทน  ไม่รู้สงครามนั่นจบตอนไหน แต่ตอนนี้ผมชิ่งไปอาบน้ำอาบท่าก่อนดีกว่า




ตกเย็นเราทำปาร์ตี้เล็กๆ ที่สวนหน้าบ้านผม  เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดของทั้งบ้านผม และบ้านแพนวันนี้เลยมีการฉลอง

เลี้ยงตอนรับไอ้ตัวเล็กไปด้วยไปเลยทีเดียว  ท่ามกลางแสงไฟจากตะเกียงเจ้าพายุที่จุดตั้งอยู่กลางวง และรอบๆ

บรรกาศที่รอบล้อมไปด้วยแมกไม้ เสื่อจากต้นกกสองผืนปูต่อกัน  ด้านบนมีโต๊ะญี่ปุ่นสองตัว วางอาหารอยู่หลายจาน

เบียร์กับเหล้าสำหรับคุณพ่อทั้งสอง ส่วนแม่ผมจิบเบียร์นิด ๆ พอดื่มด่ำบรรยากาศ  ค่ำคืนของชาวต่างจังหวัด

ท้องฟ้ามืดดำสนิทเท่าไหร่ ดวงดาวก็ยิ่งพราวแสงมากขึ้นเท่านั้น   เสียงพูดคุยอย่างสนุกสนาน ทั้งจากบรรดาผู้ใหญ่

และการหยอกเย้ามายังเด็กๆ เป็นระยะจากทั้งสองบ้าน ทำให้ทุกคนอิ่มเอมเต็มไปด้วยรอยยิ้ม อาหารอร่อยฝีมือพ่อ

ไม่เคยตก  อดีตเชฟโรงแรมดัง ....  หลังจากวางมือมาเนิ่นนาน แล้วผันตัวเองมาทำทัวร์ในประเทศจากการหลอกล่อของแม่ 


แต่รสชาดต้องยกนิ้วให้ หลายๆ ครั้งที่บรรดาแม่ๆ ของสองบ้านเป็นลูกศิษย์ให้พ่อสอน อาหารของทั้งคู่จึงอร่อย

ถึงจะสู้ครูอย่างพ่อไม่ได้ก็เถอะนะ   บรรยากาศแสนโรแมนติคซะจน  ผมอดที่จะแอบกุมมืออีกฝ่ายไว้ไม่ได้ ความอบอุ่น

ที่ส่งผ่านถึงกัน  เราลอบสบตากันเป็นระยะ  นัยตาฉ่ำหวานตามประสาคนรัก  ถูกส่งถึงกันโดยไม่ให้ผู้ใหญ่รู้ตัว

เรากุมมือกันแน่น.....  อยากจะจูบคนตรงหน้าเหลือเกิน แต่ก็ทำได้แค่มอง 

ปาร์ตี้จบลงด้วยการแยกย้ายกันไปนอน  ป้าอรกับลุงนพแยกตัวไปตั้งแต่ สี่ทุ่ม เพราะป้าอรที่ท้องอยู่ รู้สึกเพลียจนทนไม่ไหว

กับการชอปปิ้งอันยาวนานในวันนี้ ส่วนพ่อกับแม่ผม ก็เมากันทั้งคู่  แม่ไม่ได้ดื่มมาก แต่คออ่อน  ส่วนพ่อดื่มมากก็เลยเมา

แต่ก็นะนานๆ ที  พ่อหอบหิ้วแม่ไปนอน ผมกับแพนขันอาสาเก็บกวดข้างของต่อตอนเที่ยงคืน   คืนนี้น้องนอนห้องผม

หลังจากสองสามวันมานี่ ป้าอรเอาน้องไปนอนกอดตลอดสามวัน  วันนี้เลยเป็นวันดีที่ผมจะได้นอนกอดไอ้ตัวเล็กบ้าง





Mclvblue

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ ลักลอบ#5 P.19 1/6/13
«ตอบ #551 เมื่อ01-06-2013 04:40:12 »

อะๆมาตามบ้างไรบ้าง ก็ยังคงเชียร์
ให้รับๆบอกคนในบ้านซะที แลดูคงไม่มีพิธมีภัยเท่าไหร่
( มันก็แล้วแต่คนแต่งแหละเว้ย !!! )
รออ่านตอนต่อไปจ้า    :L2:

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: >> กอด~ ลักลอบ#5 P.19 1/6/13
«ตอบ #552 เมื่อ01-06-2013 06:03:17 »

 :katai5: :katai5:

แล้ววิญญาณงูหลามจะเข้าสิงภาคหรือป่าวคืนนี้ ชะเอิงเอย

 :katai2-1: :katai2-1:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ ลักลอบ#5 P.19 1/6/13
«ตอบ #553 เมื่อ01-06-2013 11:04:56 »

คืนนี้.....หุหุหุ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: >> กอด~ ลักลอบ#5 P.19 1/6/13
«ตอบ #554 เมื่อ01-06-2013 11:07:22 »

แค่กอดอย่างเดียวเหรอคุณพี่ภาค :z1:

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
Re: >> กอด~ ลักลอบ#5 P.19 1/6/13
«ตอบ #555 เมื่อ01-06-2013 11:32:44 »

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
Re: >> กอด~ ลักลอบ#5 P.19 1/6/13
«ตอบ #556 เมื่อ01-06-2013 20:10:46 »

คืนนี้พี่ภาคจะได้จัดหนักไหม

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
Re: >> กอด~ ลักลอบ#5 P.19 1/6/13
«ตอบ #557 เมื่อ04-06-2013 09:15:32 »

อ่านทีไรต้องอมยิ้มด้วยความน่ารักของแพนจริง ๆ  :mew1:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ ลักลอบ#5 P.19 1/6/13
«ตอบ #558 เมื่อ05-06-2013 12:02:12 »

แต่งมาหลายวันแล้วยังไม่เสร็จสักที 


รอหน่อยนะคะ ......   พยายามอยู่  อย่าพึ่งทิ้งเค้าน๊าาาาาาาาาาา

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ ลักลอบ#6 Final P.19 6/6/13
«ตอบ #559 เมื่อ06-06-2013 02:48:59 »

กว่าที่ผมกับแพนจะเก็บกวาดข้าวของทำความสะอาดเสร็จสิ้นก็ปาไปเกือบ ๆ ตีหนึ่ง  ผมเห็นน้องหาวไปหลายครั้งท่าจะเหนื่อย

“ง่วงเหรอครับ?”  ผมลูบหัวน้องเบา ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโอบรอบไหล่  ไอ้ตัวเล็กซบหัวพิงมาที่อกผมหลับตาลง แล้วก็เดิน

ไปทั้งอย่างนั้น ขึ้นชั้นสองของบ้านโดยมีผมประครองให้เดินตามเส้นทาง จนมาถึงห้องนอนไอ้ตัวเล็กก็กระโจนเข้าหาเตียง

แต่ยังไม่ทันจะถึง เพราะผมรู้ทันเลยคว้าเอวอีกฝ่ายไว้แน่น เล่นเอาเซเหมือนกัน อีกฝ่ายหันมามองผมหน้ามุ่ย

“ไรอ่ะ ง่วง”   เสียงงุ๊งงิ๊งบ่นออกมาเบาๆ ทั้งที่เปลือกตาปิดสนิท จะว่าไปก็น่าสงสารอยู่หรอก แต่คงนอนไม่สบายตัวเท่าไหร่

ก็เราสองคนเหงื่อออกจนเปียกทั่วตัวอย่างนี้  ยังจะมีอารมณ์ข่มตาหลับไปได้อย่างไรกัน ผมจุ๊บแก้มน้องเบาๆ


“อาบน้ำก่อนนะตัวเหนียว”  ผมว่าแล้วหอมแก้มอีกฟอดใหญ่  ทำไงได้มันไม่ค่อยมีโอกาส ตอนนี้ได้ทีก็หอมได้หอมเอา
“อื๊ออออออ  แต่แพนง่วงอ่า”  น้องส่งเสียงออกมาอย่างรำคาญ เริ่มจะงอแงหน่อยๆ แล้วด้วย  ผมก็ได้แต่อมยิ้ม

ไม่เข้าใจว่าตัวเองบ้าไปรึเปล่า ถึงได้มองยังไงก็ยังดูน่ารักไม่เปลี่ยนสักนิด  อยากจะกดหอมอีกรอบแต่กลัวน้องรำคาญ

“เดี๋ยวภาคอาบให้นะ  นะครับแป๊บเดียว”  ว่าจบก็มองหน้าอีกฝ่ายที่ยังหลับตาพริ้มเพราราวกับมีความสุขเสียเต็มประดา

ที่จะได้นอนหลับพักผ่อน  ผมก็เข้าใจน่ะนะ ว่าวันนี้คงเหนื่อยมากๆ ไหนจะเดินซื้อของทั้งวัน ไหนจะต้องปาร์ตี้ แล้วยังมาช่วย

ผมเก็บล้างจานชามอีก  จริงๆ ก็บอกให้อีกฝ่ายขึ้นมาก่อนเดี๋ยวผมจะจัดการที่เหลือเอง แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมท่าเดียว

ยืนยันจะอยู่ช่วยจนเสร็จ  และก็เสร็จจริงๆ น่ะแหล่ะ แต่ตอนนี้ก็กลับมางอแงไม่ยอมอาบน้ำอาบท่านี่สิ  จะนอนเข้าไปได้ยังไง

“แพนครับ?”  ผมเรียกอีกครั้ง  เมื่อเห็นว่าน้องเงียบไปนาน ได้ยินเสียงพ่นลมหายใจดังๆ อย่างขัดใจ ก่อนจะตอบกลับในที่สุด

“อือ”  สั้นๆ แต่ได้ใจความครับ  ผมอุ้มไอ้ตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนเข้าไปในห้องน้ำ ที่นี่ไม่ได้มีอ่างอาบน้ำอย่างที่คอนโด

มีเพียงฝักบัวกับเครื่องทำน้ำอุ่นเท่านั้น  พ่อกับแม่ไม่ชอบเป็นการส่วนตัว ท่านว่านอกจากจะเปลืองน้ำมากแล้วยังเสียเวลา

โดยใช่เหตุ กว่าน้ำจะเต็มกว่าจะอาบ กว่าจะล้างอ่างเช็ดอ่างเสียเวลาอีกเป็นนาน  เลยเลือกให้มีแค่ฝักบัวกับเครื่องทำน้ำอุ่น

ผมใช้เท้าเขี่ยเก้าอีกพลาสติกสำหรับนั่งซักผ้าให้ชิดมุมห้องก่อนจะวางน้องนั่งบนนั้น ให้ตัวและหัวพิงผนัง

ถอดเสื้อผ้าตัวเองเสร็จก็ถอดเสื้อผ้าอีกฝ่าย  ยากนิดหน่อยแต่ไม่เกินความสามารถ เปิดฝักบัวรดตัวน้องเบาๆ ปากก็พร่ำ

บอกก่อนตลอดกลัวอีกฝ่ายตกใจ ค่อยๆ สบู่ถูจนทั่วตัว  อื้มมมมมม....  ขาวจริงๆ  และความสามารถผมก็พร้อมอยู่เสมอ

หลังเปิดฝักบัวมาล้างฟองออกจากตัวน้อง  น้ำล้างตรงไหนเสร็จจมูกผมก็ตามจูบไปตามพื้นที่ว่างตรงนั้น ผมไล่จูบไปเรื่อยๆ

ได้ยินเสียงครางอืออา  ตามมาเป็นระยะซึ่งตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าน้องรำคาญ หรือเสียวซ่านกันแน่  จนมาถึงตรงกลางอก

ตรงนี้ไม่ไหวจริงๆ ที่จะแค่แตะจมูกผ่านอย่างที่ทำก่อนหน้า แค่เห็นก็อยากจะลงลิ้น แล้วความต้องการที่ซุกซ่อนมันก็โผล่

ผมไล้ลิ้นเลียเป็นวงรอบ ก่อนจะดูดอย่างหื่นกระหาย ความต้องการร้อนผ่าวตื่นตัวขึ้นมาจากส่วนนั้น ผมซุกหน้านัวเนียอยู่สักพัก

มือของอีกฝ่ายก็จิ๊กแน่นที่ผม  เลยต้องเงยหน้าสบตาอีกฝ่าย  น้องจ้องมองมาไม่ได้ว่าอะไร สายตาดูง่วงงุนอย่างเคย

ผมคงหื่นเกินไป  ......  ตอนนี้น้องต้องการพักผ่อนผมก็ควรจะเข้าใจ ไม่เป็นไร.....แค่สองมือก็คงพอ  ผมยิ้มบางๆ ให้น้อง

รีบล้างเนื้อตัวที่เปื้อนสบู่ของอีกฝ่ายจนเสร็จ ทั้งๆ ที่ของตัวเองแข็งโด่อยู่อย่างนั้นแหล่ะ  ผมก็ไม่ได้อยากอดทนนะ...

แต่ว่าผมไม่อยากทรมานคนที่ผมรัก  ไม่ใช่ว่าเราต้องการแล้ว.....จะหมายถึงอีกฝ่ายต้องการด้วยเสียเมื่อไหร่

ผมหยิบผ้าเช็ดตัวเช็ดไปทั่วตัวอีกฝ่าย  ก่อนจะเอาห่อน้องแล้วอุ้มมาที่ห้องนอน หยิบเสื้อยืดของตัวเองกับบอกเซอร์ใส่ให้อีกฝ่าย

น้องก็มองผมนิ่งๆ  ยิ้มนิดๆ  หึหึ...  ผมน่ารักล่ะสิ ที่อดทนไม่ทำอะไร....  หรือจะขำไอ้ที่มันโด่อยู่นี่กัน  ก็นะอยู่กับน้อง

มันก็แบบนี้แหล่ะเอาไม่อยู่ ตื่นตลอด  .....  ผมปะแป้งเด็กให้อีกฝ่าย จุ๊บที่หน้าผากแล้วดันอีกฝ่ายให้นอนราบกับเตียง

ลากผ้าห่มคลุมให้อีกฝ่ายมองผมด้วยความสงสัย  คิ้วเลิกเป็นคำถาม ... อ้อ...สงสัยจะงงว่าผมทำไมไม่นอนด้วยสิเนี่ย

ผมอมยิ้มมุม มองอีกฝ่ายที่มองมาที่ผมไม่หยุด  ......เลยลูบหัวน้องเบาๆ

“หลับฝันดีราตรีสวัสดิ์นะครับ  เดี๋ยวภาคอาบน้ำเสร็จจะรีบมานอนด้วย”   น้องยิ้มหวาน พยักหน้าน้อยๆ

“เร็วๆ นะ เดี๋ยวแพนหลับก่อน”  แน๊ะ.....อยากรอนอนพร้อมกันน่ารักจริงๆ แฟนผม แต่ผมจะนานรึเปล่ากว่าไอ้ลูกชายมันจะหลับ

“ครับ”  ผมปรี่เข้าใต้ฝักบัว ขัดๆ ถูๆ ไม่นานก็เสร็จ มือรวบไอ้ตัวดีที่ยังโด่ไม่รู้ล้ม เริ่มสาวมือรวดเร็วเพราะกลัวอีกฝ่ายรอนาน

.

.

“ภาค”   เหมือนได้ยินเสียงแว่ว  อาจจะเพราะผมจินตนาการถึงน้องอยู่ก็เป็นได้ สองมือรัวความเร็ว 

“อึก.....  อืมม..... ”  ริมฝีปากกัดแน่นเม้มเสียง เพื่อไม่ให้รบกวนใครทั้งสิ้น

“แกร๊ก......ภาค!”   ผมหันไปมองเห็นน้องยืนมองมาที่ผมด้วยสายตาดุดัน  ริมฝีปากบางแดงเม้มแน่น ใบหน้าบูดบึ้ง

รีบเดินชิ่งเข้าห้องนอนไปเลย   อาจจะเป็นเพราะนอนรอให้ผมไปนอนพร้อมกันอยู่นาน พอมาตามกลับเห็นผมช่วยตัวเองอยู่

น้องคงจะโกรธแน่ๆ เลย   ผมเลยพลอยหยุดทำเอาดื้อๆ ถ้าไม่ตามไปตอนนี้คงโกรธมากๆ ปวดก็ช่างแม่ง

ผมรีบคว้าผ้าเช็ดตัวเช็ดลวกๆ  กลับเข้าห้องหยิบกางเกงขาสั้นได้ตัวก็ใส่แล้วถลาไปกอดสุดที่รักที่นอนหันหลังให้อยู่

โดยเอาผ้าห่อมกลั้นตรงเป้าที่ยังโด่ไม่จบสิ้นให้ไประคายเคืองจิตใจน้องเข้าไปอีกเดี๋ยวจะพาลงอนผมเปล่าๆ

“แพนครับ  ขอโทษนะที่รอนาน”  อีกฝ่ายสะบัดแขนผมทิ้งอย่างไร้เยื่อใย กระเถิบหนีไปจนสุดเตียงซึ่งผมก็กระเถิบตามอย่างถึงที่สุด

โอบกอดรอบเอวบางไว้แนบลำตัว  ตอนนี้ผ้าห่มมันล่นหนีตอนที่น้องกระเถิบตัวหนี  อะไรๆ ก็ทิ่มหลังอีกฝ่ายไปแล้วหล่ะ

น้องยอมนอนนิ่งๆ ให้ผมกอด

“มาๆ มานอนกอดกันเน๊าะ ขอโทษนะที่ช้า”   ผมรีบจูบหัว จูบไหล่ จูบหลังอีกฝ่ายอย่างเอาใจ  รู้สึกน้องตัวสั่น ผมก็งง

“ทำไม ...  แพนไม่ดีเหรอ?  หรือว่ารังเกียจ?”  น้องว่าน้ำเสียงเจือสะอื้น เอ้างานเข้ามั้ยหล่ะทีนี้ แต่ผมว่าประโยคมันแปลกๆ

แค่ผมมานอนด้วยช้า....  ถึงกับตั้งข้อหาว่ารังเกียจนี่ก็เกินไปนะ  แต่ไอ้ที่ใจเสียอยู่นี่คือน้องเริ่มร้องไห้ไง

“เปล่านะครับ  ... ไม่เคยเลย ไม่ได้รังเกียจเลยนะครับ หันมาคุยกันดีๆ ก่อนนะคนดี”  ว่าจบก็จับอีกฝ่ายพลิกตัวเข้ามาหา

ดึงน้องมากอด กดจูบที่หัว และใบหน้าอีกฝ่ายเป็นการใหญ่ อะไรทำให้น้องคิดอย่างนั้นนะ

“แล้วทำไม ..ฮึก...ทำไมทำอย่างนี้หล่ะ” อีกฝ่ายเบ้ปาก ... ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้ว ผมถึงกลับตาโต  ....  ไม่คิดว่าจะถึงขั้นร้องไห้

“โอ๊ะๆๆ  ...ไม่ร้องนะครับไม่ร้อง   ว่าแต่....บอกภาคมาซิ แค่มานอนช้าทำไมถึงต้องร้องไห้ขนาดนั้น”  ผมไล้มือเช็ดน้ำตาอีกฝ่าย

“ไม่...ฮึก...  ไม่ใช่ ฮึกๆๆ”  ลูบหลังอีกฝ่ายไปมา  น้องสะอื้นๆ ฮึกๆ อยู่หลายตลบ ก่อนจะค่อยผ่อนลมหายใจ จ้องหน้าผมเขม็ง

“ภาค...ปรืดดดดดดดดด”  เรียกชื่อผมเสร็จก็หยิบทิชชู่มาสั่งปรืดดดดดใหญ่ แล้วก็เดินโงนเงนเอาไปทิ้งมุมห้อง

เอ่อ....  ยังมีใจรักสะอาดอีกนะ ทีตอนให้อาบน้ำหล่ะยากเสียจริง ก็เลยชันตัวลุกขึ้นนั่งมองตามอีกฝ่ายแบบมึนๆ 

แค่นั้นแหล่ะถึงบางอ้อ... 

อ่ะนะ.....  ไอ้กระป๋องเบียร์ที่กลิ้งโค่โล่สองกระป๋องที่พื้นนั่นปะไร  มันจะขึ้นมาได้ตอนไหนถ้าไม่ใช่ตอนที่ผมอาบน้ำอยู่

วันนี้ทั้งวันผมยังไม่ทันได้จิ๊กเบียร์พ่อมาซักกระป๋อง ตอนอยู่ข้างล่างก็ไม่ได้กิน น้องก็เหมือนกันแล้วไหง๋ไปแอบหยิบที่แช่

อยู่ในตู้มาซดโฮกซะได้  รู้แล้วว่าเมา.... ปกติก็ไม่เคยโวยวาย  แต่คราวนี้ทำไมร้องไห้หล่ะไม่เข้าใจ 
กำลังครุ่นคิดอะไรเพลิน ไอ้ตัวเล็กก็กระโดดมานั่งคล่อมผลักผมให้นอนหงายในท่าที่โคตรจะล่อแหลม ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อก

(ชิบหายล่ะ..ไอ้ที่ตื่นก็ยังไม่ยอมหลับ) ยิ่งมีสะโพกมนมาเสียดสี โอ้โห้.... ใครก็ได้เอามีดมาแทงผมที เสียวเสียจน


อยากกดคนตรงหน้าลง  แล้วสอดใส่ความแข็งขืน ให้ร่างกายขาวเนียนได้กลืนกิน  ก็ได้แต่ห้ามใจ...เพราะมันติดตรงที่ว่า

คนตรงหน้าไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับผมสักนิด  ขนาดผมเผลอหลับตาพริ้มด้วยความเสียวสุดๆ แทบจะครางยามสะโพกมน
ลากผ่าน  แต่ดวงตาที่กระเง้ากระงอดมีน้ำตาคลอเบ้านี่ทำให้ผมไม่อยากไปต่อ  ถึงอยากจะรัก.....แทบขาดใจ  ก็อย่าให้ใกล้

กับคำว่า “ข่มขืน”  เพราะคงได้ไม่คุ้มเสีย  สุขแค่ชั่วคราว .... มันแลกกับความไว้ใจทั้งชีวิตที่ผมทำมา

แล้วถ้าน้องเกลียดขึ้นมา ไม่มองหน้ากัน....  แล้วถึงตอนนั้นผมจะอยู่ได้อย่างไร   ผมยอมนอนนิ่งๆ มองดูอีกฝ่าย ...

มือก็ยื่นไปลูบหลังปลอบประโลมน้องน้อย เมื่ออีกฝ่ายโน้มตัวลงมา  มือเรียวขาววางกักไว้ข้างๆ ใบหน้า

ดวงตาฉายชัดความน้อยใจ  ค่อยๆ หย่อนแขนลงมาแทบทับกับพื้นเตียง  ...  จนใบหน้าหวานห่างกันแค่คืบ 

ปลายจมูกสัมผัสกันแผ่วเบา ๆ ริมฝีปากแทบจรดเข้าหากัน แต่ก็หาเป็นไปตามที่ใจปรารถนาไม่.  เพราะไม่กล้าพอ 
กลัวมันจะผิดมากกว่าที่เป็นอยู่ แม้จะไม่รู้สาเหตุ..หัวใจยังเต้นเหมือนกลองรัว  ร่างกายร้อนระอุไปตามกัน  เรียกหาสัมผัส

วาบหวานที่ซาบซ่านยิ่งกว่าเก่า  ต่างคนต่างจ้องตา  เหมือนกำลังท้าทายบางสิ่ง  ...  ราวกับเวลาหยุดนิ่งลงชั่วครู่ ...

 แล้วจู่ๆ สายตาตัดพ้อ   กับแรงอารมณ์ขุ่นเคืองก็ดูจะคุกรุ่นยิ่งกว่าก่อน  ผมถึงกับเลิกคิ้วทำหน้าเหวอ

“ว่ายังไง...รังเกียจแพนงั้นเหรอ?  ไม่อยากจะสัมผัสกันแล้วใช่ไหม? ภาค... ฮึก.......... ชอบแบบผู้หญิงคนนั้นสินะ ”

น้ำเสียงเกรี้ยวกราดว่าจบ ก็ทิ้งตัวลงซบอกผม มือเล็กๆ ทุบแบบไม่ปราณี  หยาดน้ำตาพร่างพราว 

ส่งเสียงสะอื้นเล็กๆ ออกมาอย่างน่าสงสาร ผมกอดน้องไว้แน่น  ไม่ให้ทุบผมจนช้ำมากกว่าที่เป็นอยู่ มุ่นคิ้วคิดคำนึง

ซึ่งไม่เห็นผู้หญิงสักคนที่ว่าจะมาให้ผมสนใจ

“เดี๋ยว...ผู้หญิงไหน  แพน......มาคุยกันดีๆ ก่อนครับนะนะ นะครับ  โอ๊ย!” ผมร้องเสียงหลงพอจับแขนห้ามไม่ให้ทุบ

อีกฝ่ายก็งับเข้าที่ไหล่ผมเต็มๆ  แรงหึงนี่.....ดูท่าจะน่ากลัวกว่าที่คิดซะแล้ว  เผลอยกยิ้มที่มุมปาก จะว่าเจ็บก็เจ็บ
จะว่าขำก็ขำ  ไม่เคยเห็นน้องออกอาการขนาดนี้   (ก็ทั้งเมาทั้งหึงนี่นะ  หึหึ)  จะว่าไปก็แอบดีใจนิดๆ นะ ฮ่าๆๆ

“ทำไมจะไม่มี... ผู้หญิงคนนั้นไง  แพนเห็นนะ...  มานั่งคุยด้วยกันเป็นนานสองนานที่ห้างอ่ะ ทั้งสวย ทั้งหุ่นดี อกก็โต๊โต 

ก้นก็ใหญ๊ใหญ่ ชอบแบบนั้นใช่ไหม  ชอบผู้หญิงคนนั้นใช่หล่ะ  อยู่ในห้องน้ำก็คิดถึงเค้าหล่ะสิ ที่ทำอยู่น่ะอยากมีอะไร
กับเค้าใช่มั้ย ถึงไม่ยอมมีอะไรกับแพน   นี่แนะๆๆๆๆ  ภาคบ้าๆๆๆ เกลียดๆๆๆ เกลียดที่สุดเลย  ฮือๆๆๆๆ   

อ๊ะ .....อื๊ออออออออออออ” ไม่ไหวแล้วครับ ผมรวบแขนเรียวทั้งสองข้างไว้มั่นพลิกตัวครั้งเดียวอีกฝ่ายก็ลงไปนอนบน

เตียงนุ่นใต้ตัวผม  แล้วกดมันลงไว้เหนือหัว ปากก็ประกบจูบอย่างเร่าร้อน  จะน่ารักเกินไปแล้ว  หึงใช่ไหม?  ที่อีกฝ่ายเป็นอยู่

อยากรัก....  ให้สมกับความน่ารักของน้องตอนนี้   และเพราะอีกฝ่ายไม่ยอมฟังเลยต้องทำให้อีกฝ่ายสงบก่อน

น้องเม้มริมฝีปากแน่นไม่ให้ผมสอดแทรกลิ้นเข้าไปได้ มือข้างที่ว่างเลยสอดเข้าไปใต้เสื้อนอนตัวบาง ตะกิดเกี่ยวยอดอกสวย

“อ๊ะ..  อึก”  ริมฝีปากบางเผยอร้อง  เป็นจังหวะให้ผมสอดลิ้นเข้าไปเกาะเกี่ยว กวาดต้อนความหวานทั้งมวลที่หลงเหลือ

หลอกล่อด้วยลูกล่อลูกชน  ทั้งเคล้าคลึง หยอกเย้า และดูดดื่ม  จนอีกฝ่ายสิ้นแรงหันมาตอบรับสัมผัสหวาม

ด้วยการไล่ต้อนลิ้นผมต่อ  ผมปล่อยมือเรียวทั้งสองข้าง ไอ้ตัวเล็กก็โอบกอดรอบลำคอผมไว้แน่น  เราจูบกันอยู่เนิ่นนาน

จนผมเริ่มไม่อยากจูบเฉยๆ แหล่ะ  แต่ก็ต้องห้ามใจ.....  เราควรเคลียร์เรื่องราวที่มันค้างคา...ก่อนที่จะพาน้องขึ้นสวรรค์ หึหึหึ

ผมผละจูบออกเล็กน้อย  ก่อนจะตามไปเล็มริมฝีปากหวานเชื่อมอย่างอดใจไม่ไหวอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็หยุดอยู่

ไอ้ตัวเล็กส่งเสียงครางอย่างขัดใจเล็กน้อย  ก่อนจะลืมตามาจ้องมองผมเต็มๆ ตา

“คุยกันก่อนครับ....  เรื่องเมื่อกี้”  ผมผ่อนลมหายใจยาวๆ  เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเบ้ปาก  เลยต้องแตะจูบเบาๆ อีกหลายรอบกว่า
จะได้คุยต่อ    น้องหลุบตาลงต่ำแม้จะไม่เบ้ปาก  แต่ริมฝีปากบางสวยก็เม้มแน่น ตัวสั่นนิดๆ  เริ่มสูดลมหายใจยาวๆ

ราวกับกำลังทำใจที่จะรับศึกหนักตรงหน้า  ....  ขอบอกว่า.....มันน่ารักมาก...  ร่างขาวเปลือยเปล่า  ก็นะ...ตอนที่นัวเนีย


กันไปมา มือผมมันไปเองนี่นา....  เห็นรอยแดงเป็นหย่อมๆ จากการถูไถลูบไล้ก่อนหน้า  มือเรียวจิกแน่นที่ผ้าห่ม แค่นั้น...

ผมก็แทบอยากขย้ำไอ้ตัวเล็กตรงหน้า อยากบดจูบ  ซุกไซร้ให้ทั่วตัว  พาอีกฝ่ายดื่มด่ำไปถึงสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่า

เผลอแอบอมยิ้มนิดๆ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายหึงหวงผมแค่ไหน  ผมไม่ได้โรคจิตนะ แต่แบบว่า....นานๆ ครั้งหึงบ้างก็ดี ให้พอรู้ว่าผม

ก็ยังพอสำคัญสำหรับคนตรงหน้า  ผมเกลี่ยปอยผมที่ละอยู่แถวหน้าผากอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะกดจูบลงที่เดิมแล้วละออก

น้องช้อนตาขึ้นมามองเล็กน้อยก่อนจะหลุบตาลงต่ำดังเดิม  ผมก้มลงกระซิบเสียงแผ่วเบา

“มองภาคสิครับ”  อีกฝ่ายหันมาสบตาอย่างว่าง่าย  ผมว่าตอนนี้น้องคงอารมณ์เย็นขึ้นมากแล้ว และคงพร้อมที่จะรับฟัง
ภาพเมื่อกลางวันตอนอยู่ในห้างฉายวนกลับมาอีกครั้ง  จริงๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็สวยอย่างที่น้องว่าจริงๆ นั่นแหล่ะ

สวย ขาว หุ่นดี  ทั้งๆ ที่ไม่ได้แต่งชุดหวาบหวามแต่ประการใด  อายุมากกว่าผมหน่อย สูงพอประมาณ แต่งหน้าบางๆ

ดูดีชนิดที่เรียกว่าไม่ต้องแต่งก็ยังได้  ผมว่าผู้ชายต้องมองเหลียวหลังอยู่หลายคน  แต่ก็นะ.....มันไม่ใช่กับผมนี่

“พี่คนนั้นชื่อเจน  เดี๋ยวฟังภาคก่อนครับ”  แค่บอกชื่อไอ้ตัวเล็กเบี่ยงหน้าหลบไปมองด้านข้าง   เพราะไม่อยากสบตากับผม

ผมไล้นิ้วโป้งที่แก้มน้องเบาๆ  เป็นเชิงบอกให้อีกฝ่ายหันมา  และก็ตามนั้นน้องหันมาสบตากับผมอีกครั้ง

“ตอนที่ภาคออกไปนั่งรอแพนคนเดียว  อยู่ๆ พี่เค้าก็มานั่งข้างๆ”

“แล้วภาคก็ชอบใช่มั้ยหล่ะ?” ดวงตาหวานหลี่ลงอย่างคาดคั้น ทำผมหลุดหัวเราะทันที ช่างมีปฏิกิริยาตอบสนองได้ว่องไว

มากจริงๆ  เด็กงอแงยื่นมือเรียวมาบิดแขนผม จนผมสะดุ้งโหยงน้องถึงได้พอใจ

“ไม่ใช่สักหน่อย ...ถ้าไม่ใช่แพนก็ไม่ชอบหรอก”  พูดจบเท่านั้นแหล่ะ  ผมแอบเห็นน้องยิ้มเขินๆ ที่มุมปากเล็กน้อย

แม้จะพยายามกลั้นแล้วก็ตามที  ผมเลยยิ้มกว้างใจชื้นขึ้นมาอีกนิดหล่ะ

“เล่าต่อดิ?”   เมื่อน้องเห็นว่าผมจับผิดตัวเองได้ เลยแก้เขินด้วยการทุบๆ พร้อมไล่ให้ผมเล่าต่อ

“ก็นั่งอยู่เกือบๆ สิบนาทีมั้งเท่าที่รู้สึกอ่ะนะ  แล้วเค้าก็ทักขึ้นมาเบาๆ ว่าน้องคะพี่ขอคุยด้วยได้ไหม  ภาคเลยเงยหน้าจากหนังสือ

ที่อ่านอยู่  ตอนแรกก็นึกว่าจะโดนจีบซะอีก แต่สีหน้าพี่เค้าดูเศร้ามากๆ ภาคเลยคิดว่าคงไม่ใช่แล้วหล่ะ แต่ถึงจะจีบก็คง

ปฏิเสธอยู่แล้วอ่ะนะ”  ผมเล่าไป พลางคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แล้วมือเล็กก็ดึงผมให้ลงไปนอนข้างๆ พร้อมตะแคงมาหา

“ค่อมอยู่ได้ไม่เมื่อยรึไง ..  ลงมานอนเล่านี่แหล่ะดีแล้ว”  อีกฝ่ายแก้ตัวโดยที่ผมยังไม่ทันออกปากถามด้วยซ้ำ ผมยิ้มแล้วเล่าต่อ

“ครับ ภาคเลยหันไปตอบพี่เค้าว่า ครับพี่? มีอะไรเหรอครับ? เค้าก็แนะนำตัวก่อนเลยว่าชื่อเจน แล้วถามคำถามที่ไม่คิดว่า

คนแปลกหน้าจะกล้าถามกัน”

“พี่เค้าถามว่าอะไรอ่ะ”   น้องซักต่อด้วยความสนใจ  คงเพราะผมบอกว่าเธอมาด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยล่ะมั้งนะ น้องเลยสงสาร

“เค้าถามว่า .....

“น้องมีแฟนเป็นผู้ชายรึเปล่าคะ คือพี่เห็นตอนเราอยู่กับน้องที่น่ารักๆ อีกคน  ขอโทษนะคะที่ละลาบละล้วง แต่ช่วยพี่หน่อยเถอะ
คะ พี่...พี่จนหนทางจริงๆ”    พี่เค้าพูดเหมือนจะร้องไห้เลย ภาคก็เลยพยักหน้าตอบว่า  “ใช่”  พี่เค้าก้มหน้าลงถอนหายใจแรงๆ

แล้วเงยหน้ามาคุยกับภาคอีกที

“บอกพี่หน่อยได้ไหมทำไมถึงชอบผู้ชายด้วยกัน  ขอโทษนะคะ พอดีน้องชายคนเดียวของพี่เค้าก็มีแฟนเป็นผู้ชายน่ะ

พี่พึ่งรู้เมื่อกี้นี้เอง.....  คนที่เค้าแนะนำว่าเป็นเพื่อนมาตลอด จริงๆ แล้วเค้าเป็นแฟนน้องชายพี่ พี่ไม่เข้าใจจริงๆ

 ท...ทำไมถึงต้องชอบผู้ชายด้วยกัน  น้องช่วยบอกพี่ทีเถอะ.....พี่ก็อยากจะเข้าใจน้องชายตัวเอง แต่.....ไม่เข้าใจจริงๆ”   น้ำ
เสียงพี่เค้าดูผิดหวังมากเลยกับเรื่องที่เกิดขึ้น  พูดซ้ำๆ ว่าไม่เข้าใจ ภาคเองก็ไม่รู้จะช่วยยังไง ก็ทำได้แค่อธิบายให้พี่เค้าฟัง 

“ผมอาจช่วยให้พี่เข้าใจน้องชายพี่ไม่ได้หรอกนะครับ มันมีปัจจัยหลายอย่าง....ผมบอกไม่ได้ว่าเค้าเกิดจากสิ่งไหน

ผมอยากให้พี่รู้ว่าไม่มีใครอยากทำในสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับหรอกนะครับ ทุกคนเองก็อยากให้คนรอบตัวยอมรับและรักที่เราเป็น
เรา

การที่เราจะรักใครสักคนหนึ่งมันไม่ได้มีเหตุผล ไม่จำเป็นว่าเค้าคนนั้นจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย ผมไม่รู้จะบอกยังไง แต่แค่

การได้อยู่กับเค้าคนนั้นแล้วมันทำให้ผมมีความสุข เป็นตัวของตัวเอง อยู่แล้วสบายใจ จนอยากจะอยู่ด้วยตลอดเวลา

ทุกครั้งที่ผมเจ็บ หรือเสียใจ  เค้าจะเป็นคนที่ยืนข้างๆ ปลอบใจ เสียใจ ทุกข์ใจไปด้วยกัน

และถ้าต้องแยกจากกัน....  ผมก็ไม่รู้ว่าจะทนกับมันได้มากแค่ไหน  พี่มีคนรักรึเปล่าครับ? ”

“อืม”  เสียงแผ่วเบาที่ออกมาจากปาก

“ทำไมพี่ถึงรักเค้าหล่ะครับ?”  หันไปจ้องมอง พี่เค้าที่มองตอบกลับมา

“ไม่รู้สิ.... ก็รักมั้ง?”  เสียงแผ่วเบาที่ตอบกลับมา

“พวกผมก็เหมือนกัน  ไม่รู้ว่าเพราะอะไร   รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว”  หันกลับไปยิ้มให้กำลังใจอีกฝ่าย พี่เค้าเงยหน้ามายิ้มตอบ

“อืม.....นั่นสินะ  แม้แต่ตัวเองก็ยัง ”รัก”  โดยที่ไม่ต้องมีเหตุผลเลย  ขอบใจนะ”  สีหน้าที่ดูผ่อนคลายลงของพี่คนนั้น

ก่อนจะหันมายิ้มเพื่อเป็นการขอบคุณ  แล้วก็ลุกจากไป

.

.

“เรื่องก็มีแค่นี้แหล่ะ  จากนั้นภาคก็อ่านหนังสือต่อ.... จนแพนมา  ตอนนั้นไม่เห็นแพนมีปฏิกิริยาอะไรเลย” ผมหันไปถามน้อง


“ก็....  ก็แพน แพน... ฮึ  คนมันหึงนี่นา”  ว่าจบก็พลิกตัวหนีแบบงอนๆ  ผมขยับตามไปใกล้ก่อนจะรวบตัวอีกฝ่ายมากอด
ทั้งอย่างนั้น  แผ่นหลังบางที่แนบสนิทกับหน้าอกผม กลิ่นอ่อนๆ ของแพน ยังเย้ายวนใจให้หลงไหลได้เสมอ 

“หึหึหึ ...  หึงน่ะไม่ว่าครับ แต่สัญญาด้วยนะว่าต้องถาม และต้องฟังภาคอธิบายด้วย”  ผมกระซิบที่ใบหู  น้องย่นคอเล็กน้อย

ก่อนจะส่งเสียงเบาๆ ตอบรับ

“อือ ครับสัญญา”  ว่าจบก็พลิกตัวกลับมาหาแล้วซุกอกผม ได้ยินเสียงงุ้งงิ้ง ที่ดังมาเบาๆ


“ขอโทษนะ”  ผมกดจูบที่หัวทุย 

“อืม ครับ  บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร”
“ถามอีกเรื่องได้เปล่า?”  ไอ้ตัวเล็ยเงยหน้าหันมาสบตาผมตาแป๋ว

“อืม  ถามมาสิ?”  ผมพยักหน้ารับ

“ทำไมต้องไป ช่วยตัวเองในห้องน้ำด้วยอ่ะ”   ผมว่าผมเห็นหูแดงๆ ของอีกฝ่าย  ตอนนี้รามไปทั่วหน้าแล้วด้วย

“ก็อยาก”  ผมตอบไปตรงๆ น้องกระพริบตาปริบๆ จ้องมาที่ผมงงๆ

“แล้ว?...  แล้ว?”   อีกฝ่ายพูดตะกุกตะกัก

“ก็เห็นแพนไม่อยาก  ภาคเลยไม่อยากกวนไงครับ”  ผมรีบต่อให้ เพราะถ้ารอให้จบประโยคคงไม่ได้ฟัง

“ใครบอก?” น้องพึมพำ 

“หืม?”  แต่ผมนี่หูผึ่งไปแล้ว 

“ป...เปล่า”  น้องส่ายหน้าปฏิเสธรัวๆ  แต่มันไม่ทันแล้วมั้ยที่รัก?  ก็ไอ้ลูกชายมันตื่นๆ หลับๆ มาหลายรอบแล้ว

“ไม่ทันแล้วครับแพน”  ผมกระซิบบอกอีกฝ่ายด้วยเสียงกระเส่า  เผยความต้องการแบบไม่ปิดบัง แล้วบดจูบริมฝีปากหวานทันที

“อืมมมมมมมมม” เสียงครางประท้วงในลำคอ  อาจเป็นเพราะยังไม่ทันตั้งตัว  ผมแทรกลิ้นเข้าไปในริมฝีปากของอีกฝ่าย

ดูดกลืนความหวาน  ไล่ต้อน เร่งเร้า.......  ให้อีกฝ่าย มาก่อกองเพลิงร่วมกัน  ไม่ใช่เพลิงธรรมดา แต่เป็นเพลิงปรารถนา


ที่กลืนกินเวลายาวนานร่วมๆ สัปดาห์  ที่ผมได้เฝ้ามอง  อดทน  อดกลั้น  ไม่ได้สัมผัส และล่วงล้ำอีกฝ่าย

มือลากไล้ บดขยี้ยอดอกสีสวย ระดมจุมพิศทั่วใบหน้า  กกหู  ก่อนจะมาซุกไซร้ลำคอขาว กลิ่นหอมหวนยวนใจไม่ว่าครั้งไหน

ลากลิ้นสากมาสัมผัสยอดอก ดูดดุน จนยอดแข็งเป็นไตชูชันต่อล้อกับอารมณ์หวาบหวาม  บดขยี้จนพอใจ  น้องแอ่นอกหรา

เสียงกรีดครางดังมาเป็นระยะ  ค่อยจุมพิศ ดูดชิมเนื้อขาวๆ ไล่ต่ำจนถึงแอ่งสะดือสวย แทรกลิ้นหยอกเย้า เจ้าของร่างถึงกับ

บิดม้วน  ก่อนจะซุกไซร้จมูกกับท้องน้อย กัดเบาๆ ได้ยินเสียงครางซี๊ดเร้าอารมณ์ หน้าท้องเกร็งแน่น ก่อนจะดูดแรงๆ

แกล้งอีกฝ่าย ลิ้นไล้เลียรอบโคน แต่กลับไม่สัมผัสแพนน้อยที่ตื่นขึ้นมาแล้วเต็มที่ น้องบิดร่างเร่า ๆ ทรมาน แต่สวยงามเหลือเกิน

อีกฝ่ายจ้องมองด้วยสายตาอ้อนวอน  ดวงตาโตฉ่ำหวาน ปานน้ำตาลอ้อย  คลอหน่วยไปด้วยน้าตา สวยจนบรรยายไม่ถูก

จดจ้องอีกฝ่ายอย่างที่ไม่อาจละสายตาได้อีก  ริมฝีปากครอบแพนน้อย....ที่ปลายหัวฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำรัก

กลิ่นหวานรัญจวนยั่วยวนให้ชวนชิม ปลายลิ้นตวัดเลียรอยหยักของหัวศร  แล้วดุนลิ้นร่องรูน้ำรัก ดูดกลืนหนักๆ

สะโพกเบาลอยหวือ ขยับเข้าออกอย่างดุดัน มือเรียวสอดแทรกเข้าเรือนผม ก่อนจะขยุ้มแน่นด้วยความเสียวซ่าน

เสียงครางหวาน ปานจะขาดใจ .....  จงใจบั่นอารมณ์ผมที่สะกดกลั้น ขาดสะบั้นลงทันที มือหนึ่งกดสะโพกหวาน
ตรึงกับพื้นเตียง ขยับริมฝีปากควบคุมการเคลื่อนไหวขึ้นลงเอง  แล้วสอดนิ้วเข้ากลีบเนื้อด้านหลัง น้องสะดุ้งเล็กน้อย


ก่อนจะหันมาสันสนใจกิจกรรมด้านหน้าต่อ  ค่อยๆ สอดนิ้วเพิ่มอีกจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม

หมุนควงขยายช่องสัญญาณรัก  กระแทกจุดกระสัน ....จนอีกฝ่ายส่งเสียงครางให้ย่ามใจ  คลายริมฝีปากออก

จ่อท่อนเอ็นที่ร้อนระอุสู่ประตูแห่งหรรษา ชำแรกแคมนวลเนื้อสีสวยสด ดุนดันจนสุดแรงปรารถนา ขาเรียวจิกเตียงแน่น
..... จนค่อย ๆ ผ่อนคลาย  รวบสองขายกพาดเอว แล้วขยับจังหวะรักที่ซ่านเสียว จากแผ่วเบา จนหนักหน่วง

ปรารถนาในเพลิงราคะ .....   ที่ยากเกินกว่าจะห้ามไหว  หลงไหล....เพลิดเพลินเกินกว่าจะหยุดได้

.

.

.

“อึก....  อ่า~….  อืมมมม   ภ..ภาค”   ขาเรียวเกี่ยวสะโพกสอบไว้แน่น  ราวกับกลัวจะหลุดหาย  ...

แรงโถมสะโพกรัก  หนักหน่วง และหวาบหวาน 

“อ่า~   แพนครับ  ซี๊ดด  แน่น...  ”  ปลายนิ้วเรียวจิกลงบนไหล่ลาด เพื่อบรรเทาความเสียวซ่านเจียนขาดใจ

ท่อนเอ็นร้อนแรง  กระแทกย่ำซ้ำเติม ให้ช่องรักอิ่มเอมซ่านเสียว  เสียงเนื้อกระทบกันดังหยาบโลน  แต่ล่อลวงให้หลงไหล

ผลุบเข้าออกอีกฝ่ายเป็นระวิง   รวมหลอมแทบจะเป็นเนื้อเดียว

“ภ..  ภาค อื๊ออออออออ   แรง....  อ๊า...... แรงอีก”   บั้นเอวแกร่งกระโจนจ้วงปานมิเคยดื่มด่ำกำซ่าในรสคาว

สะโพกหวานแอ่นหรา รอรับสัมผัสจ้วงจาบ ให้แทรกลึกไปถึงเนื้อใน  ขาเรียวกอดรัดแน่น ให้สัมผัสรัก แนบแน่นยิ่งกว่า

ช่วงหวานตอดรัด จนเอ็นร้อนสั่นระริกด้วยโหยหา

“อ่า~   แพนครับ  อืมมมม  จะเสร็จแล้ว”  เสียงคำรามต่ำแสดงความพึงใจในไฟปรารถนา ก่อนจะกระแทกเอ็นราวกลองรัว

“ปับ  .. ปับ..”

“อืมมมมมมมมมม/อ่าาาาาาาาาาาาาาาา”  ร่างกายเกร็งกระตุกฉีดพล่านน้ำรัก เปื้อนเปรอะหน้าท้อง และช่องรัก
ทิ้งตัวหอบกระเส่า กอดก่ายกันและกัน   ริมฝีปากดูดกลืน  ราวปรารถนายังไม่สิ้นสุด ก่อนจะผละออก

.

.


.

“รักแพนนะครับ”

“ครับ.....  รักภาคเหมือนกันนะ”

 

   

  เมื่อเพลิงปรารถนาไม่ดับมอด  ....  ถ่านไฟย่อมเป็นเชื้อแห่งเปลวเพลิง






“อ๊ะ...ภาค  ด...เดี๋ยว ”

“เดี๋ยวไม่ได้แล้วครับแพน...ครั้งเดียวคงไม่พอ ”

“แล้ว อ่า~  อย่าพึ่งขยับ  ... เดี๋ยว  อืออออ   แฮกๆ  ...  เท่าไหร่ถึงพอ อุ๊บ  ...”

.



.

ผมโน้มตัวเป็นกระซิบเสียงพร่า  สัญญาด้วยปรารถนาในตัวทั้งหมดทั้งมวล







“ทั้งคืน....ถึงจะพอ”





“อ๊าาาาาา....  อย่า  ”







“อ๊ะ......  ย....หยุดก่อน    โอวววววววววว”



.

.

.

“ภ...  ภาค  ”











“ร....แรงอีก”










“อ๊ะ อ๊ะ  อ๊ะ”











“อึก ....อืมมมมมมมมมมมมมม”




โชคดีที่้ห้องผมเป็นห้องเก็บเสียง  .....   ขอบคุณที่ชอบเล่นดนตรี จนพ่อกับแม่รำคาญ
รู้แล้วใช่ไหมหล่ะครับ  ว่าเสียง (คราง)ดัง (ของแพน) ....    เท่าไหร่ ก็ไม่เคยพอ

หึหึ  ราตรีสวัสดิ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-06-2013 10:27:22 โดย Tassanee »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: >> กอด~ ลักลอบ#6 Final P.19 6/6/13
« ตอบ #559 เมื่อ: 06-06-2013 02:48:59 »





ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: >> กอด~ ลักลอบ#6 Final P.19 6/6/13
«ตอบ #560 เมื่อ06-06-2013 06:23:43 »

 :katai5: :katai5:

น้องแพนเด็กไม่ดีแอบกินเบียร์เหรอจ๊ะ
อย่างนี้ต้องถูกทำโทษ.....ทั้งคืน

 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
Re: >> กอด~ ลักลอบ#6 Final P.19 6/6/13
«ตอบ #561 เมื่อ06-06-2013 09:55:35 »

คู่นี้เอ็นซีทุกตอนเลยนะ น่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: >> กอด~ ลักลอบ#6 Final P.19 6/6/13
«ตอบ #562 เมื่อ06-06-2013 11:16:44 »

นู๋แพนหึงบ่อยๆๆนะชอบ :z1:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ ทะเลไร้คลื่น P.19 13/6/13
«ตอบ #563 เมื่อ13-06-2013 00:21:20 »

ทะเลไร้คลื่น




ทุกอย่างดูเงียบจนผิดปกติ ดูสงบนิ่งเสียจนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนผมอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ เพราะไอ้โรคจิตมันเดินหมาก

มาขนาดนี้แล้วก็ไม่น่าจะหยุดไปเฉยๆ   แต่ทุกอย่างกลับเงียบเชียบราวกับทะเลที่สงบนิ่ง  เพื่อจะรอพายุลูกใหญ่ซัดกระหน่ำ

แค่ผมคนเดียว.....  คงไม่ถือว่าเป็นปัจจัยให้มันกลัวจนหัวหด  ผมเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นใคร และมันก็ยังมีอีกหลายวิธี

ที่จะทำให้อ๋อมทั้งกลัวและเสียประสาท โดยที่ผมไม่อาจต่อกรได้เลย  นี่ก็ผ่านมาได้เกือบๆ สองสัปดาห์แล้ว 

ไอ้คู่นั้นหลังจากคืนดีกันแล้ว  ก็กลับบ้านนอกไป เห็นว่าแพนน่าจะกลับต่างประเทศไปแล้ววันนี้ ผมไม่ได้ไปส่ง

เพราะจริงๆ ก็ไม่ได้สำคัญอะไรอยู่แล้ว  ที่รู้ก็เพราะต้นกับไม้พึ่งกลับมาจากสนามบิน  ถ้ามีเวลาว่างก็จะมาสิงสถิตย์ที่หออ๋อม

ยกเว้นไอ้หล่อ  ที่ขอไว้เป็นกรณีพิเศษว่าอย่าได้เข้ามายุ่งจนกว่าอ๋อมจะทำใจได้ รายนั้นไม่ได้มีปัญหา เพราะส่วนมากก็ชอบ

หมกตัวอยู่คนเดียว ฉอเลาะกับเมีย อ้อนเมียอยู่ที่ห้อง หรือไม่ก็ทำงานพิเศษอะไรเทือกนั้น  ถามว่าผมสนใจไหมก็คงไม่

แต่เสือกรู้ทุกเรื่องดีไปหมดและจำได้หมด เพราะคนเล่าเรื่องนี้เป็นต้น มันเข้าสมองไปเองโดยที่ไม่ได้พยายามจะจดจำด้วยซ้ำ

ส่วนเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นถูกถ่ายทอดจากปากอ๋อมสู่เพื่อนสนิททั้งสอง เฉพาะใจความสำคัญหลักๆ ไม่ได้ละเอียด

อย่างที่ผมได้ฟัง  ไม่มีคำตำหนิ ต่อว่า หรือแม้แต่ให้กำลังใจ  มีก็แต่เพียงคำปลอบใจ

“ไม่เป็นไรนะอ๋อม”  ก็เท่านั้นแหล่ะ  แต่แค่เท่านั้นก็คงเพียงพอแล้ว ทั้งสามคนกอดกันกลม ได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆ

ออกมาจากปากอ๋อม  ผมได้แต่ยืนมอง  อมยิ้มกับภาพที่เห็น ผมไม่ได้ห้ามหรือสนับสนุนในการเปิดเผยเรื่องราวที่เจ็บปวด

หรือน่าอับอาย  แต่บางครั้งคนที่อยู่ข้างๆ เราก็ควรจะรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น อย่างน้อยจะได้ระวังเหตุการณ์

ที่กระทบกระเทือนจิตใจ  หรืออาจพลั้งเผลอให้ทั้งอ๋อมและภาคทำเรื่องที่ฝืนใจกันโดยที่ไม่รู้

แน่นอน.....ว่าผมก็ไม่ได้ทำอะไร มากไปกว่าคำยืนยันเดิมๆ ว่าจะ  “ยืนอยู่ข้างๆ”  น้องต่อไป 

ต้นกับไม้กลับไปแล้วหลังจากทานข้าวด้วยกันเสร็จ แต่ผมก็ยังอยู่ที่นี่ นอนที่โซฟาเหมือนสองอาทิตย์ที่ผ่านมา....

เรานั่งดูทีวีด้วยกัน พูดคุยกันอย่างเคย ถึงน้องจะบอกว่าไม่เป็นไรแล้ว

แต่มันก็อดห่วงไม่ได้  เพราะเหตุการณ์วันนั้นยังทำให้อ๋อมสะดุ้งตื่นกลางดึกอยู่ทุกคืน  ผมเองก็ไม่ได้มีธุรปะปังที่ไหน

แค่ดูแลน้องสาวเพิ่มอีกคนจะเป็นไรไป  ดีเสียอีกที่นี่กลายเป็นจุดนัดพบกลายๆ ของผมกับต้น  ไม่ใช่ว่าจะทำใจได้

ไม่ใช่ไม่รู้สึกเสียใจ  ที่เห็นต้นกับไม้ยืนอยู่ข้างๆ กัน  แค่ผมกำลังยอมรับความจริงที่ว่า ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว

กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน กับละครหลังข่าวที่ผมไม่ได้ดูมานาน พอมาดูอีกทีก็สนุกดีใช่ย่อย เสียงหัวเราะขบขัน

ป้ายสีใส่ใข่ตัวละครอย่างเมามัน  ก็เป็นอันต้องชะงักงัน  เพราะเสียงดังที่ประตูห้อง

 

 

“ก็อกๆ ก็อกๆ”  อ๋อมที่สะดุ้งสุดตัวกระโดดข้ามโซฟาตัวเล็กที่เจ้าตัวนั่งอยู่มากอดแขนผมที่โซฟาตัวยาวที่ตั้งอยู่ถัดมา

น้องกอดแขนผมแน่น  นัยตากลมสวยเบิกโพรงขึ้น มือด้านหนึ่งจิกเล็บลงบนเนื้อแขนผมอย่างลืมตัว

ผมถึงกับซี๊ดปากเบาๆ ด้วยความเจ็บแต่ก็ไม่ได้โกรธ  ค่อยเอื้อมมือไปกอบกุมมืออีกฝ่าย ไล้นิ้วโป้งที่หลังมือน้องเบาๆ

เพื่อให้อีกฝ่ายผ่อนคลาย น้องหันมาสบตากับผมด้วยความหวาดหวั่น ผมส่ายหน้าน้อยๆ เพื่อบอกว่าไม่เป็นไร

น้องพยักหน้ารับคำ ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมายาวเหยียด แล้วตะโกนถามออกไป โดยที่เจ้าตัวยังนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟาเช่นเดิม

“ค..ใครคะ?  ใครอ่ะ?”

“.........”  ไม่มีเสียงตอบกลับมา   ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้ยินที่ถาม  หรือตอบกลับมาแล้วเป็นฝ่ายเราเองที่ไม่ได้ยินกันแน่

“แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก”  เสียงไขประตูกับรูกุญแจดังขึ้น อ๋อมกระโดดขึ้นมานั่งตักผมซุกตัวเข้าใบหน้าซบแนบอกผม สองแขน

กอดคอผมแน่นหนา ร้องเรียกผมเสียงสั่น

“พ...พี่รัก  ฮึก...”    เรากอดกันกลม จะว่าไปผมก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เราทั้งคู่อยู่นิ่งๆ แทบกลั้นหายใจ

ราวกับกลัวว่ามันจะรู้ว่ามีคนอยู่ภายในห้อง ผมกระชับกอดให้แน่นขึ้นอีกจ้องมองไปที่ประตูอย่างใจจดใจจ่อ

“ปังๆๆ   อ๋อม  อ๋อม  ดาเอง ปังๆๆ  เปิดประตูให้หน่อย เป็นอะไรรึเปล่า”  เสียงทุบประตูดังรัว หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง

พร้อมกับน้ำเสียงที่เจือความห่วงใยดังขึ้น  ทำเอาทั้งน้องท้งผมถอนหายใจพร้อมกันอย่างโล่งอก ค่อยคลายแรงกอดออก
 
อ๋อมเงยหน้าขึ้นมาขณะที่ผมก้มหน้าลงไป ชิ่ง!  เหมือนมีเสียงดังขึ้นในหัว เมื่อจมูกแตะผ่านกันแผ่วเบา

ใบหน้าหวานที่ห่างจากผมเพียงผ่ามือกั้น นัยตาดำขลับสวยหวานจ้องมองมา  ผมที่ไม่อาจละสายตา ....

ประหนึ่งจมดิ่งอยู่ในภวังที่ไม่อาจทอดถอน ความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นในใจ ซึ่งไม่อาจบอกได้ว่าคืออะไร

หัวใจเต้นรัวแบบไม่มีเหตุผลอาจจะเป็นเพราะความกดดันก่อนหน้ากับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ เลยยังผลให้ผมหัวใจเต้นแรง 

เผลอกลืนน้ำลายลงคอทั้งที่สายตาจดจ้องที่ริมฝีปากอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น ราวกับมีแรงดึงดูด ใบหน้าค่อยๆ เคลื่อนเข้าหา

น้องหลับตาลงตามสัญชาตญาณ ขณะที่ผมกำลังดำดึงสู่แรงปรารถนาจากก้นบึ้ง

.


.



“ปังๆๆๆๆ อ๋อม ....  เป็นไรรึเปล่า?  นี่ดาเองนะเปิดหน่อย”  เสียงเคาะประตูเรียกสติของเราทั้งคู่ ผมกับอ๋อมผละออก

จากกันโดยอัตโนมัติ ได้ยินเสียงอ๋อมอุทานเบาๆ ราวกับตกใจ 

“อ๊ะ!” พร้อมกับใบหน้าที่แดงระเรื่อไม่มีใครพูดอะไรอีก น้องเดินไปเปิดประตู  แต่ที่ผมแปลกใจคือทำไมรู้สึกว่า

ตัวเองพอใจจน อดอมยิ้มแก้มตุ่ยกับภาพเขินอายพร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อของอีกผ่ายไม่ได้ 

แม้แต่ตอนนี้ก็พยายามกลั้นยิ้มจนแทบไม่ไหวทำได้แค่ยกยิ้มที่มุมปากเล็กๆ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ทันสังเกตุ 

แม้ใจจริงอยากจะยิ้มจนปากฉีกแล้วก็ตาม

“ดา ฮืออออออออ”  อ๋อมกระโจนเข้าหาอีกฝ่ายแบบไม่ทันได้ตั้งตัว น้องคนชื่อดาเหรอหราทำหน้าตกใจ

หันมามองผมเล็กน้อย ก่อนจะเขย่าตัวเพื่อนรักของตัวเอง ทั้งกอด ทั้งลูบหัวเป็นการใหญ่  ก่อนจะดันตัวอ๋อมออก

ค่อยๆ จูงมืออีกฝ่ายมานั่งที่โซฟาอย่างว่าง่าย อ๋อมยังกอดแขนเพื่อนไว้แน่น  หัวซุกที่ไหล่เพื่อน ผมได้แต่มองอยู่เงียบ ๆ

“ใจเย็น ๆ อ๋อม เกิดอะไรขึ้นเล่าให้ดาฟังก่อนนะ ”  ทำไมผมถึงรู้สึกว่าหน้าเธอคนนี้ช่างคุ้นเคยเหลือเกินเหมือนเคยเจอที่ไหน

“อ๋อม.... อ๋อม ฮึกๆๆ .....อ๋อมกลัว” อีกฝ่ายว่าเสียงหลง  แล้วซุกเข้าหาอกอีกฝ่ายราวกับต้องการการปลอบโยน

แต่ดากลับมองมาที่ผมยิ้มๆ เหมือนจะเยาะ มือก็ลูบหัวอีกฝ่ายปลอบใจเด็กน้อยที่กำลังหวาดผวา ก่อนจะเอ่ยถามน้ำเสียง

ติดจะเป็นสุข

“ใจเย็นๆ นะอ๋อม  ดาอยู่ตรงนี้จะไม่มีใครทำอะไรอ๋อมได้ทั้งนั้น บอกดาก่อนซิว่านั่นใคร หืม”  ว่าจบก็พยักเพยิดมาที่ผม

“จริงสิ ยังไม่ได้แนะนำพี่รักเลย  พี่เค้ามาช่วยอยู่เป็นเพื่อนอ๋อม”  น้องยืดตัวนั่งตรงเช็ดคราบน้ำตา สูดหายใจยาวๆ

เพื่อผ่อนคลาย ก่อนจะหันมาแนะนำอีกฝ่ายให้ผมได้รู้จักบ้าง

“พี่รักค่ะ นี่ดาเป็นเพื่อนสนิทของอ๋อมเองค่ะ  ดานี่พี่รักนะเค้าคอยช่วยตอนเราลำบากน่ะ ตอนนี้ก็มาอยู่เป็นเพื่อนเรา”

“สวัสดีค่ะ” 

“สวัสดีครับ” น้ำเสียงที่เอ่ยทักทายและรอยยิ้มที่เป็นกันเองปรากฎฉาบอยู่บนใบหน้าสวยเก๋ของอีกฝ่าย แต่ผมกลับไม่รู้สึกว่า

มันจริงใจสักนิด ดวงตาคู่สวยดูนิ่งเฉยเสียจน....ราวกับน้ำแข็งก็ไม่ปาน  พลันมโนสำนึกของผมก็นึกขึ้นได้ว่า

น้องดาเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับคนที่ผมเจอเมื่อใต้หอคราวที่แล้ว  เธอมากับแฟนหนุ่มน่าจะเป็นนักศึกษามหาลัยเดียว

กับผม  ภาพลักษณ์ของเธอดูเป็นผู้หญิงที่มั่นใจโฉบเฉี่ยว ดวงตาเป็นประกาย รูปร่างสมส่วนตามแบบสมัยนิยม

อกอูม สะโพกผาย ในขณะที่เอวคอดกิ่ว แต่งหน้าได้สวยเฉียบ เสื้อผ้าอาภรณ์น้อยชิ้น  ตามวิถีหญิงสมัยใหม่

ขณะที่อ๋อมดูมั่นใจ  แต่กลับไม่ค่อยแต่งแต้มเมคอัพบนใบหน้า เพราะใบหน้าที่สวยหวานได้รูป ผิวพรรณขาวเนียนละเอียด

ปากสีชมพูระเรื่อที่มีลิปสติคสีอ่อนฉาบทาอยู่เท่านั้น รูปร่างได้สัดส่วน ในเสื้อผ้าเข้ารูปออกแนวทะมัดทะแมง

เสียเป็นส่วนใหญ่  ได้สั้นแหวกเว้าสูงจนน่าเกลียด เรียบร้อย จนเป็นที่ต้องตาของหนุ่มๆ น้อยใหญ่ในมหาลัย 

เสียแต่ว่าอ๋อมไม่เคยมองใคร  และไม่เคยเลือกใครสักคนด้วยซ้ำ ผมรู้ก็เท่าที่ต้นเคยเปรยให้ฟัง อ๋อมสวยแบบไร้ที่ติ

ไม่ว่าจะหน้าตา หรือนิสัย  ถ้าไม่ติดที่ไปหลงรักไอ้หล่อที่มีเจ้าของเข้า  ผมว่าอ๋อมเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบมากๆเลยทีเดียว

ยิ่งเป็นเฟรชชี่ปีหนึ่งด้วยแล้ว ถ้าไม่มีไอ้สามหนุ่มคอยกันท่าให้ ...  ผมว่าคงมีคนมาต่อแถวอีกเป็นพรวน

“ใจดีจังนะคะพี่รัก   ดาไม่เห็นจะเคยรู้จักมาก่อนเลย?”  เธอพูดยิ้มๆ ส่วนประโยคสุดท้ายหันไปถามน้องแทน 

“ก็คนที่อ๋อมเล่าให้ฟังไง  รู้จักกันตอนไปเที่ยวทะเลน่ะ เป็นพี่มหาลัยเดียวกับเราเลย”  น้องหันไปยิ้มตอบ อีกฝ่ายพยักหน้าน้อยๆ

“อ่อ  ..  ดาไม่คิดว่า  “แค่” เคยไปเที่ยวด้วยกันครั้งเดียวจะสนิทกันได้ขนาดนี้” ดาว่า หันมาจ้องผมริมฝีปากเหยียดยิ้มเล็กๆ

รู้สึกอาการหวงเพื่อนของเธอ มันจะเด่นชัดไปรึเปล่า  แต่ก็นะ  ... คงจะเป็นห่วงเพื่อน และรักเพื่อนมากถึงได้แสดง

ออกมาอย่างนั้น  เล่นเอาผมเซ็งเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้แสดงอะไรออกไป ไม่อยากให้น้องไม่สบายใจไปมากกว่านี้

“แต่ไม่เป็นไรคะ ถึงรู้จักกันตอนนี้ก็คงไม่สาย”  เธอปรายตามามองผมอีกครั้งตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า  เลยออกอาการฉุนขาด

คนพึ่งรู้จักกัน  ไม่ทราบว่า...ผมไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจนักหนา  ถึงทำท่าทีรังเกียจ ..... อย่างไม่เก็บอาการขนาดนี้

ผมหันไปมองอ๋อม ที่ตอนนี้นั่งหันหน้ามาทางผม โดยไม่ทราบเลยว่าเพื่อนตัวเองกระทำสีหน้าอย่างไร ผมผ่อนลมหายใจหนักๆ

ส่งยิ้มให้น้อง แล้วลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ  ใบหน้าหวานยกยิ้มสวย เห็นแล้วยิ่งชื่นใจ เลยเผลอหลุดยิ้มกว้างไปด้วย

แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อหันไปเจอสีหน้าเฉยเมยติดจะบึ้งตึงของคนข้างหลังน้อง  ผมหุบยิ้มแทบไม่ทัน แต่คิ้วขมวดเป็นปม

อย่างคนสงสัย ปนเคืองนิดๆ เข้าให้  อ๋อมมองผมแล้วทำหน้าสงสัย ว่าผมเป็นอะไรกันแน่

“เป็นอะไรเหรอคะพี่รัก?”  คิ้วเรียวเลิกสูง  นัยตากลมดำขลับกระพริบปริบๆ ได้น่ารักน่าชังยิ่งนัก ถ้าไม่ติดว่ามีวิญญาณ


อาฆาตอยู่ด้านหลังผมคงจะมีความสุขมากกว่านี้เป็นแน่ ผมคลายปมบนใบหน้าลงเพราะคิดว่ายิ่งพูดคงจะเรื่องยาวเปล่าๆ

“พี่ว่าจะกลับแล้วหล่ะ  ไหนๆ อ๋อมก็มีเพื่อนอยู่ด้วยแล้ว”  ผมหันไปยิ้มเอ็นดูให้เด็กที่ทำหน้าเศร้าสลด  เฉตามองรอบๆ

โดยไม่ยอมสบตาผม เหมือนๆ จะน้อยใจ  นั่นทำให้กำลังใจผมมันฟูฟ่องขึ้นอีกนิด  เอาน่า...ยังไงก็มีความสำคัญอยู่บ้าง

นิ่งอยู่พักอีกฝ่ายก็ช้อนตาขึ้นมาสบตากันได้

“แต่ว่าเดี๋ยวดาก็กลับไปหากับแฟนแล้ว”  พูดขึ้นลอยๆ ไม่เชิงจะเหนี่ยวรั้งผมไว้ แต่ก็นะ .....  เหมือนๆ จะรั้งไว้ชอบกล

ผมลูบหัวน้องเบาๆ ทีนี้ยิ้มกว้างเลยไม่สนใจดา ที่ทอดถอนใจอยู่ข้างหลังอีกฝ่าย  กำลังจะตอบว่าถ้าอยากให้อยู่ก็จะอยู่

แต่อีกฝ่ายกลับพูดแทรกขึ้นมาเสียเฉยๆ 

“ไม่กลับหรอก คิดถึงอ๋อมจะแย่ อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์จะนอนกอดอ๋อมทุกวันเลยจ้า”  ดากอดคอน้องจากด้านหลัง

วางคางไว้บนไหล่อีกฝ่าย โยกตัวเบาๆ คล้ายๆ จะปลอบใจ น้ำเสียงหวานใสนุ่มหู  จนผมนึกสงสัยว่านี่รังเกียจผมจริงๆ สินะ
เวลาพูดกับผมถึงได้มีทีท่าจะกัดตลอดเวลา

“ขอบใจนะ”  อ๋อมหันไปตอบ  ยกยิ้มจนตาปิด แต่ยังไม่วายส่งสายตาอ้อนๆ เหมือนลูกแมวขี้เหงามาที่ผม

“แต่อ๋อมกลัวว่า  ....พี่พอร์ชจะมาตามดาอีกนะสิ ”     อ๋อมยู่หน้าหันไปอ้อนเพื่อนต่อโดยการซุกหน้าลงกับไหล่อีกฝ่าย

ช้อนตาขึ้นมองเพื่อนตัวเองอีกที   เห็นดายิ้มเอ็นดูลูบหัวอ๋อมเบาๆ 

“ไม่ไปแน่อย่างน้อยก็คืนนี้  ดายังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับอ๋อม เพื่อนดาไม่สบายใจขนาดนี้จะให้ดาทิ้งไปได้ยังไง”

ดาทั้งพูดปลอบ มือก็จับแขนจับตัวอ๋อม เพื่อสำรวจร่างกายว่าได้รับอันตรายตรงไหนบ้าง  น้ำเสียงที่เจือความห่วงใย

อย่างถึงที่สุด แม้แต่ผมเองก็ยังอดรู้สึกทึ่งไม่ได้ในความรักที่เพื่อนทั้งสองมีให้กัน  น้องน้ำตาคลอนิดๆ

“ขอบใจนะดา  ขอบใจจริงๆ  ดีจังเลยที่เรามีดาอยู่ข้างๆ”  ว่าจบก็กอดกันแน่น  ผมก็อมยิ้มกับภาพที่เห็นมิตรภาพที่สวยงาม

“งั้นพี่กลับก่อนนะครับ เอาไว้วันหลังพี่มาหาเราใหม่”  ผมลุกขึ้นหยิบข้าวของกระเป๋าสัมภาระ อ๋อมตามมาช่วยหยิบของให้

“ขอบคุณนะคะ  ...  ยังไงก็ขับรถดีๆ นะคะ”  อีกฝ่ายเดินตามมาส่งถึงหน้าประตู  นัยตากลมโตยังคงมองมาแบบเหงาๆ

ก่อนจะหลุบเปลือกตาลงต่ำเหมือนคนทำตัวไม่ถูก  ทำไม่รู้ผมถึงได้รู้สึกเอ็นดูกับท่าทีคนตรงหน้า มองแล้วก็เผลอยิ้ม

“อ๋อมครับ”   เรียกชื่ออีกฝ่ายเบาๆ ขณะที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่าย น้องเงยหน้าขึ้นมาใบหน้าเราห่างกันแค่คืบ

ราวกับถูกตรึงด้วยเวลา  ยามที่สองสายตาประสานตรงกัน ผมเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ น้องเผลอหลับตา

ผมวาดมือสัมผัสแก้มนุ่ม นิ้วหัวแม่มือสอดดันปลายคางอีกฝ่ายให้เชิดขึ้น ก่อนจะจุมพิศแผ่วเบาลงที่หน้าผาก

“ฝันดีครับ”  ค่อยๆ ละสัมผัสออก น้องก้มพยักหน้ารับ พร้อมๆ กับก้มหน้าหลบไปด้วยทันที  ใบหน้าอิ่มหวานขึ้นสีเรื่อ

“.......”

“หึ”  ผมยิ้มอย่างอารมณ์ดี แล้วจึงเดินจากมา 



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2013 12:37:13 โดย Tassanee »

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: >> กอด~ ทะเลไร้คลื่น P.19 13/6/13
«ตอบ #564 เมื่อ13-06-2013 00:37:22 »

โอ๊ะๆๆ สองคนนี่ แอบเริ่มชอบกันแล้วสิน่ะ  :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
Re: >> กอด~ ทะเลไร้คลื่น P.19 13/6/13
«ตอบ #565 เมื่อ13-06-2013 01:05:11 »

 :mew1:

โอ๊ะ สรุปแล้วสองคนนี้เค้ามี

ซัมติงรองกันใช่มั๊ยน่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: >> กอด~ ทะเลไร้คลื่น P.19 13/6/13
«ตอบ #566 เมื่อ13-06-2013 10:42:45 »

เป็นพี่รักก็ดีนะอ๋อมจะได้
มีความสุขสักที :กอด1:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: >> กอด~ หลับฝันดีนะ P.19 13/6/13
«ตอบ #567 เมื่อ13-06-2013 14:00:57 »

หลับฝันดีนะ



ขับรถตรงดิ่งมาที่ห้องพัก .....  คิดถึงเหมือนกัน  แทบไม่ได้เข้ามานอนเลย  ถึงจะกลับมาทุกวันอาบน้ำแล้วก็ไป  วางกระเป๋าทิ้งไว้

แล้วเข้าไปอาบน้ำในห้องนอน  อาบแบบลวกๆ ตามความเคยชิน  เพราะตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา แทบจะไม่กล้าปล่อยให้น้องอยู่
คนเดียว

อาบแบบรีบๆ อยู่อย่างนี้ทุกวัน  ทั้งที่วันนี้มีเวลาเหลืออีกปานตะไท แต่กลับเร่งอาบอย่างทุกทีอยู่ดี  ไม่ได้ขัดถูอะไรมากมาย 

อาบเสร็จก็พันผ้าเช็ดตัวไว้แค่เอว แล้วเดินออกมาที่ห้องนอนหยิบบอกเซอร์ได้ตัวก็ใส่ ก่อนจะเอาผ้าเช็คตัวไปตากที่ราว  หยิบผ้าผืน
เล็ก

อีกผืนเช็ดหัวที่กำลังเปียกชื้นจากการสระผม  มือที่เช็ดอยู่เป็นระวิง แต่สายตากลับจับจ้องที่มือถือที่ยังนอนนิ่งสนิทราวกับไม่เคยเห็น
มาก่อน

น่าแปลกเหมือนตัวเองรออะไรบางอย่างจากใครบางคน ซึ่งค่อนข้างระบุตัวตนได้อย่างชัดเจน  แต่ที่ไม่เข้าใจคือรอเพื่ออะไร ?

รู้แต่ว่าในใจมันวูบโหวงแปลกๆ  แบบเหมือนชีวิตมันขาดอะไรไปสักอย่าง  ทั้งที่เช็ดผมอยู่อย่างนั้น ก็ยังจดจ้องที่มือถือไม่เปลี่ยน   

นึกเคืองอยู่ในใจที่มันยังนอนแน่นิ่งไม่ปฏิบัติหน้าที่ที่ควรจะทำ   เผลอไปนึกถึงคนบางคน...ไม่รู้ว่าป่านนี้จะมีอาการเหมือนกันบ้างรึ
เปล่า

ส่ายหัวเบาๆ เมื่อคิดได้ว่ากำลังคิดอะไรแปลกๆ  ก็คงแค่.....เป็นน้องที่น่าห่วงใย และอยู่ในอันตรายคนหนึ่ง ถึงยังนึกห่วงอยู่อย่างนี้

 เช็ดผมอยู่นานจนเสร็จ โทรศัพท์ ก็ยังแน่นิ่งเช่นเดิม  เดินเอาผ้าเช็ดผมไปตาก อีกสองก้าวกำลังจะถึงอยู่แล้วเชียว หน้าจอมือถือ

ดันส่งเสียงเตือนว่ามีข้อความเข้า  ผมชะงักตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเดินไปตากผ้าต่อ หรือไปกดดูข้อความก่อนดี แต่แล้วความอยากรู้ก็
ชนะ

ผมตรงดิ่งไปคว้ามือถือที่หัวเตียง  ชื่อคนส่งข้อความโชว์หรา “อ๋อม”  ทำเอาผมยิ้มแก้มแตก อารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก ฟาดผ้าเช็ด
ผม

กับที่นอนเบาๆ เหมือนๆ จะเขิน  แต่ว่าจะเขินทำไมหล่ะ?   มือกดยิ๊กๆ ดูข้อความ

“หลับฝันดีนะคะ ”     กระโดดทิ้งตัวลงบนเตียงให้มันยวบลง แล้วซุกหน้าลงกับผ้าห่มผืนนุ่ม ส่ายหน้าไปมาราวกับหมั่นเขี้ยว

ส่งเสียงครางเบาๆ ในลำคอ  “เยส!”   เพราะรู้สึกสมหวังอย่างไรบอกไม่ถูก ก่อนจะหัวเราะ หึหึ  ในลำคอ   เห้อ~ สุดท้ายก็ถอน
หายใจ

นอนหงาย แล้วหยิบมือถือขึ้นมาดู  ปล่อยผ้าเช็ดผมที่เปียกชื้นวางจุ้มปุกอยู่บนอกตัวเองต่อไป ไม่คิดจะเดินไปตาก 

อ่านข้อความซ้ำไปซ้ำมา  ...  อยู่ดีๆ ก็รู้สึกเหมือนว่ายังไม่เพียงพอกับสิ่งที่แอบหวังอยู่ลึกๆ  จ้องมองไปมา กดออกมาโหมดข้อความ

แล้วโทรไปหาคนที่คาดว่าควรจะเป็นคนรับผิดชอบความรู้สึกผมตอนนี้  ที่ดูจะแปลกขึ้นทุกที

“สวัสดีค่ะ ถึงนานรึยังคะ?”   ผมยิ้มที่มุมปาก  เหมือนๆ อีกฝ่ายก็รอโทรศัพท์ผมอยู่

“ครับ สักพักพี่พึ่งอาบน้ำเสร็จ  เพื่อนเราไปไหนแล้วหล่ะ?”   ไม่รู้สินะ ผมคิดว่าถ้าดายังอยู่ใกล้ๆ ผมคงไม่ได้พูดกับอีกฝ่ายง่ายๆ ก็
แค่นั้น

“ไปอาบน้ำที่ห้องค่ะ เดี๋ยวคงมา  พี่รักโทรมามีอะไรรึเปล่าคะ?”   เสียงหวานใสชื่นใจจริงๆ

“เปล่า...   ก็แค่คิดว่าเราคงรออยู่น่ะ”  ผมโต้ตอบกลับไป

“บ้า...ทำไมอ๋อมต้องรอสายพี่ด้วยหล่ะ?”  น้องตอบกลับมากวนๆ นี่เป็นการแก้เขินรึเปล่านะ?

“ก็...คิดว่าจะใจตรงกันกับพี่ซะอีก ว้า! แย่จัง”  ผมแหย่กับเบาๆ เอาประมาณเหมือนน้อยใจ

“ทำไมคะ?  คิดอะไร ...ช่วยบอกอ๋อมที?”  อีกฝ่ายว่าขำๆ  มันก็เข้าทางผมนะสิ ฮ่าๆๆ

“ก็คิด...”  ทิ้งคำพูดไว้ให้อีกฝ่ายสงสัย

“คะ?”   ใบหน้าหวานคงจะเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความสงสัย  นัยตาดำขลำคงกำลังยิ้มเป็นแน่กับความเจ้าเล่ห์ของผม

“คิดถึงน่ะ...อ๋อมหล่ะคิดเหมือนพี่รึเปล่า?”  ผมถามกลับเสียงเบา  ทนนอนต่อไปไม่ไหว ต้องเดินออกมาที่ระเบียง  จ้องมองท้องฟ้า

ที่มืดดำสนิท  ไม่เห้นแม้แสงดาว แต่ก็ยังเห็นพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง เคียงคู่ดาวอีกสองดวง  ถ้าทำได้อยากจะมองเห็นคนที่อยู่ในสายด้วย

“อืมมม ไม่รู้สิคะ”  ผมเห็น (จินตนาการ)อ๋อมกลับมายิ้มๆ ใบหน้าเขินอาย ก่อนจะเสตามองต่ำ ไม่กล้ามองสบตาผม

“เหรอครับ?    แย่จังเพ้ออยู่คนเดียว..”  ผมตอบกลับเสียงเศร้า  ที่อีกฝ่ายก็รู้ว่าผมแกล้ง อ๋อมหัวเราะเสียงดัง

“พอแล้วค่ะ  พี่รักชอบแกล้งอ๋อมอ่ะ  อันไหนจริงอันไหนเล่นก็ไม่รู้  ไม่คุยด้วยแล้วไปนอนดีกว่า”

“เดี๋ยวครับ?  พี่ยังไม่ได้ฟังเลย”  ผมรีบรั้งอีกฝ่ายก่อนที่จะวางสายหนี

“เอ๋?  ฟังอะไรเหรอคะ?”    น้ำเสียงดูงุนงงกับคำพูดของผมมากทีเดียว

“ก็ส่งข้อความมายังไงหล่ะ?  พี่ไม่ยอมนะแค่ข้อความน่ะ  ยังไงฟังจากปากได้มั้ยครับ?  นะนะนะ”  ใส่ลูกอ้อนเต็มที่ อีกฝ่ายก็ขำ
ตอบกลับ

“ค่ะ   นอนหลับฝันดีนะคะพี่รัก”

“งั้นอ๋อมต้องเหนื่อยหน่อยนะครับ”

“คะ?   แล้วทำไมอ๋อมต้องเหนื่อยด้วยอ่ะ?”

“ก็..........คืนนี้ต้องมาอยู่ในฝันพี่ทั้งคืนไงครับ ฮ่าๆๆๆ”   ผมตอบกลับไปกวนๆ

“บ้า...พี่รักอ่ะ” 



.

.

ค่อยกันไปคุยกันมาอยู่เนิ่นนาน สุดท้ายผมก็ปล่อยให้น้องวางสายไปในที่สุด พร้อมกับเสียงดาที่เรียกน้องดังแทรกเข้ามาในสาย

ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วน๊า?   ผมยังยืนจ้องมองความมืด ถนนด้านล่างคราคร่ำไปด้วยรถยนต์ที่ขับสวนกันไปมา

ภาพมันไม่ได้น่าดู  แต่รู้สึกว่าวันนี้มันไม่ขัดลูกตาผมเท่าไหร่   ในใจไพล่นึกทบทวนความรู้สึกแปลกๆ ที่กำลังเกิดอยู่   และค่อนข้าง
แน่ใจ

ยิ่งดูก็ยิ่งชอบ  ยิ่งคุยก็ยิ่งใช่  คนที่ทำให้ผมรู้สึกว่าสนใจ  อยากเข้าใกล้ ..... ซึ่งก็อยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง  มองท้องฟ้าที่มีดวงจันทร์เปล่ง
ประกายอยู่

“ขอให้เป็นคนนี้ได้ไหมครับ”  รำพึงรำพันแผ่วเบา  .... ไม่ได้หมายถึงดวงจันทร์   แต่กำลังคุยกับแม่ของผมที่ท่านอยู่ไกลออกไป

บนฟากฟ้าผืนนั้น.....    จนเนิ่นนานมาแล้ว   

บางครั้งก็อยากมีใครอยู่ข้างๆ กัน  บนเส้นทางที่อยู่ตัวคนเดียวมานาน  พ่อแต่งงานใหม่หลังจากที่แม่เสียได้สองปี  ตอนนั้นผมอายุ
10 ขวบ

ไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่กับแม่เลี้ยง  พอขึ้น ม.ปลาย ก็เฟดตัวเองออกมาเรียนที่ต่างจังหวัดในตัวเมืองจนต้องออกมาอยู่หอ  ตั้งแต่
ตอนนั้น

ก็ไม่คิดจะกลับเข้าไปอยู่ที่นั่นอีก  นานๆ กลับทีจะสบายใจกว่า ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาตลอดตั้งแต่ 16-21ปี  จริงๆ ก็ไม่ได้มีปัญหา
มากมาย

แค่ทำใจยอมรับ “แม่” คนใหม่ไม่ได้ เลยพลอยมีปัญหากันตลอด  ตอนนี้มีพ่อมีน้องให้ผมอีก 2 คน   ชื่อ ใยบัว ตอนนี้เรียน ป.5

ที่โรงเรียนหญิงล้วน ใกล้บ้าน  ส่วนอีกคนชื่น ต้าน เรียน ป.3 น่ารักมากๆ ทั้งคู่ ผมก็รักน้องมาก ช่วงหลังๆ เลยกลับบ้านบ่อยๆ เพื่อไป
หาน้อง

กลับไปทีไรก็ดีขึ้นแหล่ะ เพราะผมโตขึ้นด้วยมั้งอารมณ์หวงพ่อ รังเกียจแม่ใหม่เลยไม่ค่อยกำเริบเท่าไหร่ ที่สำคัญชอบไอ้ตัวเล็กสอง
คน

ที่ชอบมาอ้อนให้ซื้อขนม หรือพาไปเที่ยวบ่อยๆ น่ารักจนหลงไปแล้ว ... อบอุ่นดี  จนตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าถ้าผมมีใครสักคนยืนข้าง ๆ ก็
คงดี

อยากจะมีครอบครัวที่มีความสุขแบบพ่อบ้าง  อยากมีคนยืนข้างๆ คอยกุมมือกัน  สร้างครอบครัวเล็กด้วยกัน  มีลูกสัก 2 คนเป็นไง


หึหึ.... ก็เพ้อฝันไปเรื่อย  นั่งมองท้องฟ้าอยู่อย่างนั้น

“แม่ว่าผมจะมีความสุขมั้ย?”   




ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: >> กอด~ หลับฝันดีนะ P.20 13/6/13
«ตอบ #568 เมื่อ13-06-2013 14:56:52 »

มีสิจ๊ะลูกแม่ 55555  :heaven

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: >> กอด~ หลับฝันดีนะ P.20 13/6/13
«ตอบ #569 เมื่อ13-06-2013 16:12:53 »

 :m12: :m12: :m28: :m28:

อ้าว อ้าว .... นิยายเรื่องนี้มีฉากสวีทชาย-หญิงอ่าาาาา
แหวกม่านประเพณีแล้วไง


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด