เมื่อคืนนอนหนาวทั้งคืน .... ถึงแม้ผมไม่เคยจำได้ว่าตัวเองเคยเป็นคนขี้หนาวมาก่อน จริงๆ ติดจะขี้ร้อนด้วยซ้ำ
แต่ผมไม่ได้บอกนี่ว่าผมหนาวตัว ที่จริง....ผมหนาวหัวใจตะหาก (อ้วกกกกกกกกก) แน๊ะ! ใครมาแพ้ท้องแถวนี้
หนาวจนสะบั้น หนาวจนนอนไม่หลับเพราะไม่ได้กอด ทั้งที่อยู่ใกล้ขนาดนี้ นึกเคืองป้าอรนิด ๆ ที่ไม่เห็นใจคนรักกันบ้าง
แต่ป้าเค้าไม่รู้นี่นา ...เห้อๆๆๆๆๆๆๆ ผมตื่นแต่เช้าตรู่มุ่งจะไปหาสุดที่รัก เร่งรีบอาบน้ำอาบท่าแปรงฟันจนเสร็จ
ผมก็ปรี่เข้าไปหาอีกฝ่าย เดินดุ่มๆ ไม่ได้สนใจใคร ก้าวขึ้นบันไดอย่างเชี่ยวชาญและอาจหาญขึ้นชั้นสองด้วยความรวดเร็ว
ไม่นานนักสองเท้าผมก็พาผมมาหยุดอยู่หน้าห้องเจ้าของหัวใจ (โอ๊ะ...เสี่ยวได้อีก) กำลังจะเปิดประตูห้องด้วยความคุ้นขิน
แต่สองมือก็ชะงักกึก เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนน้องไม่ได้นอนคนเดียวนี่นา ผมก็ยืนนิ่ง...กำลังชั่งใจตัวเอง
จริงๆ ก็ค่อยมั่นใจแหล่ะว่าไม่ควรเคาะ แต่อีกใจหนึ่งก็คิดถึงคนที่อยู่ตรงหน้าแทบใจจะขาด ไม่ได้ฟัด ได้กอด
ได้หอมก็ยังดี ขณะที่ตัดสินใจจะถอยหลังกลับ ขาสองข้างก็หยุดชะงักอีกรอบ เพราะเสียงสวรรค์ดังขึ้นพอดี
“อ้าวภาคมาหาน้องแต่เช้าเชียว แพนยังไม่ตื่นเลย ไปดูให้ป้าหน่อยไปลูก” ป้าอรพูดจบก็เดินเข้าครัวทันที มีใครเคยบอกมั้ย
ว่าคุณป้าเหมือนนางฟ้ามาโปรดผมเลยตอนนี้ ผมไม่รอช้าบิดลูกประตูให้เปิดออกรีบแทรกตัวเข้าไป ก่อนจะกดล็อดเบาๆ
มองเห็นไอ้ตัวเล็กนอนขดได้อย่างน่ารักน่าชังอยู่บนเตียง เพราะแอร์ที่เย็นจัด ในขณะที่เจ้าตัวนอนดิ้นจนผ้าห่มเลื่อนหลุดไป
น้องอาจจะเคยชินที่มีผมนอนข้างๆ เป็นเดือน มือที่กำลังคลำหาใครสักคน ยังคลำไปเรื่อยๆ เมื่อไม่พบจุดหมายที่ต้องการ
“อืออ ภาค งึมๆๆๆ” เสียงครางงึมงำแผ่วเบาเรียกร้องหาผม ขณะที่ผมยืนมองภาพนั้นอย่างชั่งใจว่าควรจะขัดฝันดีๆ
ของน้องดีมั้ย สุดท้ายก็ค่อยๆ ทรุดตัวลงแผ่วเบาเพราะกลัวอีกฝ่ายจะตื่นจากฝันดี ไล้มือบนใบหน้าหวานก่อนจะจุมพิศ
ลงบนหน้าผากเนียนนุ่ม ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงที่ทรุดยวบลงตามน้ำหนักตัว แต่ก็ไม่ได้รบกวนอีกฝ่ายแต่ประการใด
ผมนอนจ้องมอง ไล้มือบนใบหน้าที่ผมหลงไหล ริมฝีปากสีสดแห้งผากลิ้นเล็กก็ไล้เลียเพิ่มความชุ่มชื้น ..น่ามองเป็นอย่างยิ่ง
ผมลูบหัวอีกฝ่ายแผ่วเบา และเหมือนเป็นปฏิกิริยาตอบสนองแบบอัตโนมัติ ไอ้ตัวเล็กกลิ้งเข้ามาหาอ้อมกอดอบอุ่นของผม
ผมกอดน้องไว้แน่น เคยกลัวมั้ย? เมื่อวานนี้....ผมพึ่งรู้สึกว่าการสูญเสียอีกฝ่ายไป มันช่างเป็นเรื่องง่ายเหลือเกิน
มันเจ็บปวด...เมื่อผมเองที่ยืนอยู่ตรงนั้นแท้ๆ กลับทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าน้องตัดสินใจไป.... ผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
การรักใครสักคนเป็นเรื่องยาก ... ยากที่จะทนุถนอมให้มันเป็นแบบนั้นตลอดไป เพราะมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง
แต่มันต้องพร้อมเพียงทั้งสองคน ต้องร่วมใจ ต้องมั่นคง ต้องเข้าใจ และพร้อมจะเดินไปข้างหน้าด้วยกัน
ตอนนี้...ผมจึงกอดน้องไว้ซะแน่น เพียงเพราะผมกลัว......กลัววันข้างหน้าที่ผมคาดการไม่ได้ มีเพียงสิ่งหนึ่งที่แน่นอน
ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ..... ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนเลือก และมันดีสำหรับน้อง........ ผมพร้อมจะทำตาม
ความต้องการมันมลายหายไปทันที ..... ผมอาจจะอยากแค่ใช้มันแสดงความรัก แสดงความเป็นเจ้าของอีกฝ่าย
แต่จะมีประโยชน์อะไร .... เพราะถ้าถึงผมจะได้ครอบครอง เป็นเจ้าของน้องตอนนี้ ....แล้วเราต้องจากกัน
สู้ให้ผมไม่ได้สัมผัส ไม่ได้แตะต้อง แต่ขออยู่ใกล้ๆ ได้ใช้ชีวิต ได้ใช้ลมหายใจร่วมกัน คอยดูแล และแลดูอีกฝ่าย
มันคงจะดีเสียกว่า ผมคลายอ้อมกอดเมื่อรู้สึกว่า...น้องดิ้นเล็กๆ ในอกผม ผมกดจูบบางเบา ลูบหัวทุยแผ่วๆ
เปลือกตาอีกฝ่ายก็ค่อยๆ ขยับ น้องกระพริบตาสองสามขยัก ก่อนจะเงยหน้ามายิ้มหวานให้ผม ผมยิ้มตอบ
“ภาค” เสียงหวานที่ทำให้ผมชื่นใจ น้องซุกตัวเข้ามากอดผมแน่น แล้วเงยหน้าจุ๊บปากผมเบาๆ
“มอนิ่งคิสครับ” ตัวเล็กว่า ผมก้มหน้าไปจุ๊บปากตอบ
“ครับ มอนิ่งคิสครับ ป่ะตื่นได้แล้วป้าอรให้ภาคมาตามเรานานแล้ว” ผมชันตัวลุกขึ้นนั่ง มืออีกข้างกอบกุมมือน้องไว้
พยายามดึงเบาให้อีกฝ่ายลุกขึ้นตามมา น้องดึงมือออก ก่อนจะอ้าแขนกว้างยื่นมาตรงหน้า พร้อมกับคำน่ารักๆ
“อุ้ม” ผมถึงกลับเผลอหลุดขำ จ้องมองอีกฝ่ายที่กำลังพยายามทำหน้าเจ้าเล่ห์ ทั้งที่ทำได้แค่ทำหน้าให้ดูซนๆ เท่านั้นเอง
“ครับผม ด้วยความยินดียิ่ง” ผมโค้งตัวเล็กน้อย ก่อนจะช้อนตัวสุดที่รักไว้ในอ้อมกอด แล้วอุ้มเข้าห้องน้ำไป
.
.
.
“นพกับนีไปไหนหล่ะลูก ทำไมไม่มาทานข้าวด้วยกัน?” ป้าอรถามอีกตามเคย แต่ผมไม่ทันได้ตอบลุงจีก็ตอบแทนเสียก่อน
“อ้อ เห็นว่าจะไปเคลียร์งานที่บริษัทช่วงเช้าน่ะ พึ่งกลับจากต่างจังหวัดก็มีงานด่วนเข้าอีก” ป้าอรพยักหน้ารับรู้
“แพนวันนี้หนูไปเป็นเพื่อนแม่ซื้อของหน่อยนะลูก พ่อเค้าไม่ว่าง” ไอ้ตัวเล็กยิ้มร่าพยักหน้าตอบรัวๆ เห็นแล้วขำ
“ได้ฮะ ภาคไปด้วยนะไปช่วยกันถือของ” ตอบแม่เสร็จ ก็หันมาสั่งผมทันทีผมอมยิ้มอย่างรู้ทันก็คงมีแค่ผมเท่านั้นแหล่ะที่เป็น
คนถือ ไปด้วยกันทีไร น้องเดินตัวปลิวทุกที
“จะให้ภาคไปเป็นรับใช้ก็บอกมาเถอะ” ผมว่าแซวๆ น้องก็ทำแกล้งป่องทันที จนลุงจีกับป้าอรอดขำไม่ได้
“รู้ตัวก็ดีแล้ว หึหึหึ” ไอ้ตัวเล็กว่ายักคิ้วยิ๊กๆ กวนผมซะงั้น
“เห้อ...จะไปดีมั้ยน๊า อยากอยู่บ้านนอนเฉยด้วยสิวันนี้” ผมยกยิ้มมุมปากอย่างเป็นต่อ เหลือบมองไอ้ตัวเล็ก
“โหยยยยย ไม่เอาอ่ะ ไม่ได้ๆๆ ต้องไปช่วยแพนก่อนเดี๋ยวค่อยกลับมานอน นะนะนะ เค้าไม่กวนด้วยเลยสัญญา”
ไอ้เล็กดิ้นผึงนึกว่าผมพูดจริง เดินเข้ามากอดแขนส่วนหัวก็ซุกไซร้ไหล่ผมเป็นการใหญ่ อ้อนๆๆ น่ารักจริงๆ
“คร๊าบบบบบบ ทราบแล้วครับแล้วจะบริการอย่างดีเลยครับคุณหนู” ผมตอบกลับ ลูบหัวน้องเบาๆ อย่างเอ็นดูน้องหมา
เล่นเอาฮากันทั้งโต๊ะ ส่วนคนถูกลูบก็หน้ามุ่ยใส่โดยปริยาย ก่อนจะยิ้มเขินๆ กับพ่อแม่ตัวเอง
.
.
.
สรุปหลังทานเข้าเสร็จ พักผ่อนเล็กน้อย บ่ายๆ ก็ได้เวลาช็อปปิ้งซื้อของของสองแม่ลูก เราขับรถไปที่ห้างที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด
ไม่น่าเชื่อว่าคนท้องจะแข็งแรงขนาดนี้ เดินได้หลายๆ ชั่วโมง ถึงจะหยุดพักเป็นระยะก็เถอะ ผมได้แต่เดินตามไปเรื่อยๆ
ไม่กล้าไปแทรกความสุขระหว่างสองแม่ลูก ที่จูงมือจูงไม้ ชี้นกชมไม้ ปรึกษาหารือ เรื่องข้าวของกันตลอดทาง
จากที่จะไปซื้อแค่อาหารกับของใช้ในบ้านเล็กๆ น้อยๆ กลับการเป็นว่ามาสำรวจข้าวของสำหรับไอ้ตัวเล็กที่อยู่ในท้องกันด้วยซะนี่
แพนก็ดูจะเห่อน้องมาก เห็นอะไรที่เกี่ยวกับเด็กไม่ได้เลย ส่วนผมก็มีหน้าที่หอบหิ้วข้าวของที่สองแม่ลูกเค้าออเดอร์
“อ๊ะ... ขอโทษครับ” เสียงใครสักคนดังขึ้น ผมที่เผลอมองร้านเสื้อผ้าผู้ชายอยู่ถึงกลับต้องหันมามอง เพราะได้ยินเสียง
ไอ้ตัวเล็กอุทานออกมาเสียงเบา น่าจะถูกชนเข้าให้ พอผมหันมาก็เห็นน้องก้มจ้ำเบ้ากับพื้น ผู้ชายอีกคนที่ตอนนี้ยืน
หันหลังให้ผมอยู่ก็ยื่นมือไปดึงมือน้องขึ้นมา แต่ปฏิกิริยาตาโตยิ้มกว้างของแพนทำให้ผมคิ้วกระตุกนิดๆ
“มองค์ คิดถึงจังเลยยยยยยยยย” ไม่ว่าเปล่า...แต่กระโดดกอดคนตัวโตอีกคนไปแล้ว ผมไม่เห็นว่ามันทำสีหน้ายังไง
“อ้าวแพน ...คิดถึงเหมือนกันครับ น่ารักขึ้นอีกเปล่าเนี่ย มากับใครเนี่ย แล้วกลับมาไทยเมื่อไหร่ไม่บอกกันมั่ง
รู้ไหมมองค์คิดถึงแพนมากๆเลย ไม่ได้ติดต่อกันเลย เป็นไงยังสบายดีนะ”
อีกฝ่ายทำเสียงน้อยใจจนหน้าหมั่นไส้ แล้วมือขาวๆ ที่ยังโอบกอดได้โคถึกนี่มันอะไรกัน ทำไมยังไม่ปล่อย หวงนะหวงงง
ผมเดินไปจิ้มแขนแพนเบาๆ ให้รู้สึกตัวเสียที เพราะทั้งสองมือเต็มไปด้วยข้าวของพะลุงพะลัง ก็รู้ว่าแพนดีใจ แต่นะ..หวงอ่ะ
“แห่ะ ๆ ” น้องหัวเราะเจื่อนๆ ตอบผม ลดมือลง ก่อนจะหันไปคุยกับมองค์อย่างออกรสออกชาด อ่าน่ะ...ก็ได้แค่มอง