19
“อยู่เขตตะวันเหรอ”
(อือ มาทำงานน่ะ ว่าแต่ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม)
มีสิ...มีเยอะด้วย เมฆาไม่พูดออกไปเพราะกลัวว่าคณินจะเป็นห่วงจนงานการไม่เป็นอันทำ เขาถูกพักงานทุกอย่างในไร่ ไม่ให้แตะต้องอะไรที่เกี่ยวกับสมรชัยเลย วันๆ ก็อยู่ในบ้าน ส่วนเจตผู้ช่วยที่พ่อเลี้ยงอาทิตย์หาให้ เขาก็จ่ายค่าตอบแทนไปตามสัญญา ซึ่งเจตก็กลับไปทำงานกับพ่อเลี้ยงอาทิตย์แล้ว
“ก็โดนกักบริเวณ การ์ดเฝ้าเพิ่มขึ้น เมื่อเช้าคุณศรันย์ก็มาทานข้าว จริงสิ! ก่อนที่คุณศรันย์จะกลับ ฉันแอบได้ยินคุณศรันย์กับพ่อคุยกันว่าคืนนี้จะมีการย้ายของไปเก็บที่อื่น ก่อนหน้าที่ฉันจะไปหานายวันนั้นก็พูดทำนองว่ามีสายในตำรวจด้วย น่าจะมียศสูงอยู่หลายคน แล้วก็...ชื่ออะไรนะ ที่ได้ยินเมื่อเช้า” เมฆาทำท่านึกเพราะดันลืมเนื่องจากรีบเดินออกมาก่อน กลัวว่าพ่อกับศรันย์จะจับได้
(ลองคิดซิ...ฉันจะได้บอกเบาะแสอาวัฒน์)
“ใจเย็นสิ คิดอยู่เนี่ย”
(คิดได้ยัง...น้องเขต พี่เอาเอกสารมาให้...ขอบคุณครับพี่ฝน...แหม คุยกับแฟนเหรอคะ นั่งยิ้มเชียว...เอ่อ ครับ) เมฆาหลุดหัวเราะออกมาทันที อยากเห็นสีหน้าของคณินตอนนี้จริงๆ ว่าเป็นแบบไหนหลังจากโดนแซว
“ฮะๆ”
(หัวเราะอะไร คิดได้หรือยังเนี่ย) ปลายสายน้ำเสียงหงุดหงิด
“ตอนนี้คงทำหน้ายักษ์อยู่ใช่ไหม ฮะๆ เอ๊ะ...ยักษ์เหรอ” เมฆาหยุดหัวเราะเมื่อสะดุดใจกับคำๆ หนึ่ง
(มีอะไร คิดออกแล้วเหรอ)
“ไม่แน่ใจ...แต่ว่าคับคล้ายคับคลาว่าชื่อยักษ์ หมวดยักษ์รึเปล่า ไม่รู้มีไหม”
(หมวดยักษ์...โอเค ขอบคุณมาก ว่าแต่ พ่อไม่อยู่ใช่ไหม)
“ไปกับคุณศรันย์แล้ว”
(ดูแลตัวเองดีๆ แค่นี้ก่อนนะ แล้วเดี๋ยวจะโทรไปใหม่)
“ครับ”
ได้แต่หวังว่าข้อมูลอันน้อยนิดที่เขามีจะสามารถช่วยให้ตำรวจทำงานได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าจะจับได้แล้วและอาจสาวมาถึงตัวพ่อของเขาก็ตาม
ในแต่ละวันเมฆาจะมีอะไรทำอยู่ไม่กี่อย่าง นั่นคือตื่นช่วงสายๆ เพราะงานไม่ต้องทำจะตื่นเช้าก็ไม่มีอะไรจะทำเหมือนกัน แล้วก็กิน กินเสร็จก็เดินเล่น อ่านหนังสือ ดูหนัง คุยโทรศัพท์กับคณิน ที่นึกแปลกใจอยู่ว่าทำไมพ่อถึงคืนโทรศัพท์ให้ แม้จะสงสัยแต่ก็หาคำตอบไม่ได้อยู่ดี เลยเลิกสนใจมัน
และสิ่งที่น่ารำคาญทุกๆ วันคือศรันย์ ผู้ชายคนนี้มาได้ทุกวันราวกับว่าไม่เบื่อที่จะมาเลยสักนิด ปฏิเสธที่จะไปไหนมาไหนด้วยก็แล้ว แต่มันก็ต้องมีบ้างที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่นวันนี้
“ขอบคุณที่มาส่งครับ”
เมฆาเปิดประตูรถคันหรูทันทีที่จอดเทียบอยู่หน้าประตูบ้าน กว่าศรันย์จะพามาส่งก็กินเวลาถึงสามทุ่ม ตั้งแต่เที่ยงยันตอนนี้เลย เขาถูกพ่อเลี้ยงมนัสบังคับให้ไปจัดการเรื่องงานหมั้น แล้วก็ดินเนอร์ต่ออีก
หากถามว่าตกลงที่จะหมั้นเหรอ เมฆาบอกเลยว่าไม่ ก็แค่ทำไปส่งๆ แล้วค่อยหาทางหนีงานหมั้นเอา ให้ทั้งสองคนตายใจก่อน คิดว่าเมฆายอมหมั้น ยอมทำตามอย่างว่าง่าย พ่อก็คงไว้ใจ คืนอิสระให้
“มาแล้วเหรอ”
ร่างโปร่งขมวดคิ้วที่เห็นพ่อเดินออกมารับด้วยสีหน้าที่มีแต่ความปิติยินดีราวกับว่ามีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ผ่านมาคนเป็นพ่อไม่เคยที่จะออกมารับเขาด้วยซ้ำ ถ้าไม่นอนกับบรรดาเมียๆ อยู่บนห้องก็ยังไม่กลับ
“ครับ ขอโทษด้วยที่พามาส่งซะดึกเลย” เป็นศรันย์ที่พูด
“ไม่เป็นไรๆ ไปกับคุณศรันย์ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก นี่ก็มืดค่ำแล้ว คุณศรันย์รีบกลับไปพักผ่อนเถอะนะ พรุ่งนี้เรามีประชุมสำคัญกัน” พ่อเลี้ยงมนัสพูดบอก
“งั้นขอตัวเลยนะครับ ผมไปก่อนนะครับคุณเมฆ แล้วเจอกันใหม่ครับ”
“ครับ” เขาตอบรับอย่างไม่เต็มใจนัก
พอศรันย์กลับไปแล้ว เมฆาก็เดินตามพ่อที่ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีเข้าไปในบ้าน แต่ด้วยความสงสัยก็อดที่จะถามออกไปไม่ได้
“พ่อดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะครับ”
“หึหึ ก็มีเรื่องดีๆ น่ะสิ”
“เรื่องดีๆ”
“ใช่…” คนเป็นพ่อหันกลับมามองหน้าลูกชาย เมฆามองสีหน้ามีความสุขของพ่ออย่างสงสัยว่าอะไรจะสามารถทำให้พ่อมีความสุขได้ขนาดนี้
“บอกได้ไหมครับ”
“แน่นอน...วันนี้หมูมาที่นี่”
“หมู...อย่าบอกนะครับว่า…”
“ใช่! เด็กไอ้อาทิตย์นั่นแหละ หึหึ เป็นไงล่ะ ฉันบอกแกแล้วว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง เด็กนั่นยอมเป็นสายให้กับฉัน แล้วก็จะมาเป็นแม่เลี้ยงแกในอนาคตด้วย”
“ไม่จริง...หมูเนี่ยนะครับ”
“เรื่องจริง เชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของแก อ้อ! ฉันยกเลิกการกักบริเวณแกแล้ว ตั้งแต่พรุ่งนี้แกได้อิสระคืน อยากไปไหนก็ไป แต่ไม่มีสิทธิ์ทำงานในไร่อีก เข้าใจนะ”
“ครับ”
“ฉันจะไปนอนแล้ว วันนี้มีแต่เรื่องดี ฮ่าๆ กูจะได้เมียเด็กและสวย ที่สำคัญได้ทำลายหัวใจของไอ้อาทิตย์มัน ถ้ารู้ว่าโดนเมียสวมเขามันจะรู้สึกยังไงวะ แค่คิดก็สะใจแล้ว ฮ่าๆ”
ร่างโปร่งมองพ่อที่เดินหัวเราะขึ้นไปบนบ้านอย่างครุ่นคิดว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง ทำไมศตคุณถึงมาที่นี่ได้ สายตาก็กวาดมองไปรอบๆ เห็นหัวหน้าแม่บ้านกำลังเดินตรวจบ้านก่อนจะไปนอน
“พี่อ้อย”
“คะ คุณเมฆ”
“วันนี้มีแขกมาหาพ่อเหรอ”
“ค่ะ เป็นผู้ชายสวยๆ ผมยาว เห็นพ่อเลี้ยงเรียกชื่อว่าหมูนี่แหละค่ะ คุณเมฆถามทำไมเหรอคะ” เมฆาเห็นแววตาเจ็บปวดยามที่หญิงสาวพูดถึงศตคุณก็เห็นใจ
“เปล่าหรอก ขอบคุณครับ”
“งั้นอ้อยขอตัวนะคะ”
“ครับ”
เมฆาต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมศตคุณถึงได้เข้ามาที่นี่ แล้วทำไมถึงหักหลังพ่อเลี้ยงอาทิตย์ หรือว่าศตคุณจะไม่ใช่คนดีอย่างที่เขาคิด
Rrrrrr
เมฆาสะดุ้งเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขัดขวางการใช้ความคิดของเขา พอเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามาก็รีบวิ่งขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองทันที
“เขต…”
(ทำไมเพิ่งกลับ?)
“ห๊ะ! เห็นด้วยเหรอ”
(เดาเอา ตอนนี้อยู่เขตตะวันจะไปเห็นได้ยังไง)
“แล้วรู้ได้ยังไง อ๋อ ลุงจงสินะ”
(ทำไมไอ้ศรันย์มันมาส่งช้า มันทำอะไรหรือเปล่า) เสียงของคณินเริ่มแข็งกร้าวยามที่พูดถึงศรันย์
“ไม่ได้ทำอะไร พาไปจัดการเรื่องหมั้น แล้วก็ดินเนอร์ เฮ้อ...น่าเบื่อจัง เอ้อ! พ่อยกเลิกการกักบริเวณแล้วนะ ฉันจะไปไหนก็ได้แล้วล่ะ” เมฆาพูดบอกคนรักไป ทิ้งตัวนอนกลิ้งไปมาบนเตียงนุ่ม
อยากนอนกอดจัง
(งั้นตีห้าออกมาได้ไหม จะไปรับ)
“จะกลับไร่เหรอ ทำไมกลับเช้าจัง ไม่รอให้สายๆ หน่อยค่อยขับรถล่ะ แล้วทำไมต้องตีห้าด้วย”
(ตอนนั้นเป็นเวลาที่สะดวกที่สุดแล้วถ้านายจะมากับฉันน่ะ พ่อเลี้ยงมนัสจะได้คิดว่านายยังนอนอยู่ วันพรุ่งนี้จากที่สายรายงานมา พ่อเลี้ยงจะไปประชุมลับกับเอเย่น ค้ายา) แม้ว่าจะรู้ว่าพ่อตัวเองทำอะไร แต่ก็ทำใจไม่ได้สักทีเวลาที่ได้ยิน
“จะจับได้ไหม”
(ตอนนี้หลักฐานการค้าและส่งยา ที่ชุดสืบสวนของอาวัฒน์ก็มีบ้างแล้ว แต่คดีของพ่อหรือคดีการตายอื่นๆ ยังไม่มีเลย จับมือใครดมไม่ได้) เมฆาฟังอย่างตั้งใจ จนรู้สึกได้ว่าน้ำเสียงของปลายสายดูเศร้าๆ ยามพูดถึงผู้เป็นพ่อ
“เล่าให้ฉันฟังหมดแบบนี้ไม่กลัวว่าฉันจะเอาไปบอกพ่อเหรอ”
(ไม่กลัว...เชื่อใจว่าจะไม่ทำ)
“ฮะๆ ฉันไม่ทำหรอก เฮ้อ...ดูเป็นลูกอกตัญญูเนอะ” ร่างโปร่งถอนหายใจแล้วพูดออกมาอย่างท้อแท้ใจ เอาเข้าจริงเขาก็กลัวที่พ่อจะต้องติดคุกหรือไม่ก็อาจจะเจอโทษหนักกว่านั้น ถ้าช่วยได้ เมฆาก็อยากช่วย แต่ถ้าช่วย พ่อจะยิ่งแค้นเข้าไปอีก หากหลุดคดีคราวนี้ พ่อของเขาจะต้องทำร้ายผู้คนไม่หยุดแน่ๆ
(เสียใจเหรอ)
“เสียใจสิ พ่อทั้งคนนะ”
(ขอโทษนะ)
“ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก นายทำเพื่อความถูกต้อง ส่วนฉันแม้ว่าจะต้องเห็นพ่อลำบาก พ่อทุกข์ แต่เพื่อหยุดไม่ให้พ่อทำผิดฉันก็พร้อมจะเป็นลูกอกตัญญูในสายตาท่าน”
(นอนเถอะ พรุ่งนี้จะไปรับตีห้า เข้าไปในไร่ได้ใช่ไหม)
“อื้อ ตอนตีห้าไม่มีใครมาตรวจหรอก ใกล้ถึงก็โทรมานะ จะลงไปรอ”
(ครับ ฝันดีนะพี่เมฆ)
“ฝันดีเช่นกันครับ”
เมฆายิ้มให้กับโทรศัพท์นิดๆ ก่อนจะไปจัดการอาบน้ำเข้านอน
ช่วงตีห้ากว่าๆ เมฆาก็เดินมารอคณินที่หน้าประตูบ้าน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีคนงานหรือคนรับใช้ในบ้านตื่นมาทำงานกันเท่าไหร่ ก็จะมีแค่ไม่กี่คน ซึ่งก็ไม่ได้สนใจอะไรเขานักหรอก เพราะช่วงนี้ก็มีรถขับเข้ามาในไร่เพื่อส่งของ รับของ แล้วรถที่คณินใช้ก็กลมกลืน
“ไม่ง่วงเหรอ” เมฆาถาม ขณะที่สนใจกับการคาดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองอยู่ แต่พอเงยหน้าหันไปมองคณินที่ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ก็ถูกคนอายุน้อยกว่าโน้มหน้ามาประกบจูบอย่างอ่อนโยน เมฆาหลับตาพริ้มรับสัมผัสด้วยความเต็มใจ ก่อนที่คณินจะผละออกมาแล้วหอมแก้มเนียนเบาๆ
ฟอด!
“คิดถึงว่ะ”
“ออกไปจากที่นี่ก่อนไหม เดี๋ยวก็มีคนมาเห็น”
“ใครจะมาเห็น ฟิล์มก็ทึบขนาดนี้”
“ไปเถอะ แล้วนี่จะกลับไร่เลยรึเปล่า”
คณินไม่ตอบแต่เคลื่อนรถออกจากหน้าบ้านของเมฆาแล้วพาออกจากไร่สมรชัยไป เส้นทางที่พาไปไม่ใช่ทางไปไร่ศักดินนท์ หากเมฆาก็ไม่คิดจะถามเพราะเชื่อว่าคนรักคงไม่พาไปทิ้งหรือฆ่าแน่นอน
ไม่กี่นาทีต่อมาเมฆาก็ได้คำตอบ สถานที่ที่คณินเคยพามา สถานที่ที่เปลี่ยนความสัมพันธ์ของเรา ‘ที่ดูดาว’
“มาดูพระอาทิตย์ขึ้น จริงๆ อยากจะพาไปดูที่เขตตะวันเพราะที่นั่นสวยกว่า แต่เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน”
“จะไม่มีใครมาพลอดรักใช่ไหม” เมฆาถามหวั่นๆ เรียกเสียงหัวเราะเบาๆ จากคนอายุน้อยกว่าทันที
“ฮ่าๆ ถ้ามีก็มีแค่เรานั่นแหละ”
“บ้า! ใครจะไปยอม ประเจิดประเจ้อจะตาย” ร่างโปร่งบ่น
ทั้งสองคนไปนั่งที่ท้ายกระบะ เพื่อรอดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน ระหว่างที่รอก็คุยกันบ้าง หยอกล้อกันบ้างเพราะความขี้แกล้งของคณิน เมฆาไม่ได้รู้สึกรำคาญเลย ก็เข้าใจว่าคนรักยังเด็ก ฉะนั้นการแกล้งเล่น การหยอกของคณินก็เป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่ง
มีแฟนเด็ก มันก็ดีนะ...คลายเครียดได้ดีเลย ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงเขาอาจจะรำคาญ ส่วนผู้ชายเขาจะมีความเป็นผู้ใหญ่อยู่บ้าง ไม่ได้งอแง เอาแต่ใจตลอดเวลา
สำหรับเมฆาแล้ว คณินเป็นคนที่พึ่งพาได้
หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้น คณินก็พาเมฆาไปหาพ่อเลี้ยงอาทิตย์ที่โทรศัพท์มาตามให้ไปคุยกันอย่างเร่งด่วน ตอนแรกเมฆาก็กะว่าจะรออยู่ข้างล่าง แต่พ่อเลี้ยงอาทิตย์ก็บอกว่าไม่เป็นไร เข้าไปด้วยก็ได้ เมฆาเลยได้เข้ามาในห้องหนังสือร่วมประชุมลับเฉพาะ พอได้ฟังที่พ่อเลี้ยงอาทิตย์เล่า เมฆาก็มองไปยังร่างบางของศตคุณที่นั่งหน้าหดอยู่ข้างๆ
เมฆาเข้าใจแล้วว่าศตคุณเข้าไปหาพ่อของตนได้ยังไง ตอนแรกก็ถูกพ่อเขาเชิญตัวเข้าไปพูดคุยด้วย ถ้าไม่ไปดีๆ ก็ต้องถูกบังคับพาเข้าไป ศตคุณเลยตามน้ำเล่นบทคนรักหักหลังพ่อเลี้ยงอาทิตย์กับพ่อของเขา จนพ่อของเขาหลงเชื่อได้ง่ายๆ
จริงๆ แล้วพ่อของเมฆาฉลาดทุกเรื่องยกเว้นเรื่องผู้หญิง ตัณหา ราคะพ่อเลี้ยงมนัสไม่เคยเอาชนะได้ สาเหตุที่แม่ทิ้งเขาไปก็เพราะความไม่รู้จักพอของพ่อ
“ทำแบบนี้มันอันตรายมากเลยนะหมู มึงโง่หรือเปล่าวะ” คณินว่าเพื่อนเสียงเครียด
“ใช่...น้องหมูอย่าประมาทพ่อพี่เลยดีกว่านะ”
“ขอโทษครับ”
แล้วอาโปก็เสนอว่าแผนที่ศตคุณคิดเป็นแผนที่ดี ถ้าจะเข้าหาพ่อเลี้ยงมนัสก็ต้องใช้ผู้หญิงหรืออะไรที่ยั่วตัณหาของคนบ้ากาม ที่ผ่านมาก็เคยคิดจะใช้แผนการนี้อยู่เหมือนกัน แต่พ่อเลี้ยงอาทิตย์กลัวพลาดกลับกลายเป็นว่าส่งผู้หญิงไปเป็นเหยื่อ เลยไม่คิดที่จะใช้วิธีนี้ แต่คราวนี้ดันเป็นคนรักของตัวเอง พ่อเลี้ยงอาทิตย์ย่อมไม่ยอมเช่นกัน
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับ เดี๋ยวผมจะคอยช่วยและดูแลน้องหมูเอง”
เมฆาพูดขึ้น ซึ่งก็ทำให้ทุกคนมองเขาเป็นตาเดียว เมฆายิ้มให้ทุกคนอย่างจริงใจ ไหนๆ ก็ช่วยให้ข้อมูลจนตำรวจรวบรวมหลักฐานเพิ่มมากขึ้นได้ เรื่องคดีของพ่อเลี้ยงตะวัน เมฆาก็อยากที่จะช่วย ถ้าเป็นศตคุณ จะต้องหาทางเอารหัสห้องลับของพ่อเลี้ยงมนัสมาได้แน่ๆ
แม้ว่าเมฆาจะยิ้มให้กับคนรักว่าตัวเองไม่เป็นไร แต่ในใจมันกลับกำลังร้องไห้…
ในที่สุดวันที่เริ่มทำตามแผนการก็มาถึง เมฆาทำเป็นขออนุญาตพ่อ ออกจากบ้าน ซึ่งพ่อเลี้ยงมนัสก็อนุญาตเนื่องจากศตคุณโทรมานัดก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมา เมฆาทำเป็นนั่งรถออกไป แต่ก็กลับเข้ามาคืนแล้วแอบขึ้นไปซ่อนตัวบนห้องนอน จนศตคุณเข้ามาในบ้านแล้วเริ่มทำตามแผนการที่วางไว้
วันนี้ไม่มีคนรับใช้อยู่เท่าไหร่เพราะพ่อเลี้ยงมนัสสั่งเอาไว้ว่าให้มีคนอยู่ให้เรียกแค่คนเดียว นอกนั้นก็กลับบ้านพักคนงานไป เนื่องจากต้องการความส่วนตัว
พ่อเลี้ยงมนัสนั่งมอง นั่งคุยกับคนสวยที่วันนี้ดูจะสวยมากเป็นพิเศษเพราะแต่งหน้าแต่งตา จากที่เคยเกลียดพวกเลือดพิเศษก็ต้องมากลืนน้ำลายตัวเองเพราะเสน่ห์ของศตคุณมันยั่วยวนใจและดึงดูดต่อมรับกลิ่นด้านเพศที่รุนแรงของพ่อเลี้ยงวัยสี่สิบปี บวกกับร่างบางคนนี้เป็นคนรักของศัตรู ความคลั่งไคล้ ความหลงใหลเลยมีมากขึ้นเข้าไปอีก ที่สำคัญตัวเขาเจอแต่คนที่สามารถแลกมาได้ด้วยเงิน ไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธก็เลยเชื่อศตคุณอย่างสนิทใจว่าตัวเองสามารถให้ศตคุณได้มากกว่า ศตคุณเลยเลือกเขา
“เป็นยังไงบ้างนะ” เมฆาพึมพำเบาๆ ด้วยความกังวล ตอบข้อความของคณิน ตลอดเวลา ซึ่งตัวเขาไม่ได้มีเครื่องดักฟังเหมือนกับศตคุณ และไม่สามารถฟังได้ว่าทั้งสองคนสนทนาอะไรกันอยู่เลยต้องอาศัยการคุยผ่านโทรศัพท์กับคนรัก
เวลาล่วงเลยมาจนถึงช่วงค่ำ เมฆาเดินออกจากห้องนอนลงมาที่ด้านล่าง พบว่าไม่มีคนอยู่เลยก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เมฆายืนรอศตคุณอยู่แบบนั้นจนกระทั่งร่างบางเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้ารีบร้อน
“ไม่เป็นไรนะหมู พ่อพี่ทำอะไรหรือเปล่า”
“ไม่ครับ...ผมได้รหัสแล้วนะครับ”
“จริงเหรอ งั้นไปเปิดกันเถอะ”
“ครับ...”
สุดท้ายเมฆาก็ไม่สามารถที่จะหลอกตัวเองได้ว่าตัวเองไม่เป็นไร เมื่อเห็นบันทึกการฆ่าของพ่อที่ตัวเขาเองได้เห็น เมฆาพยายามฝืน ฝืนหลอกตัวเองว่ารับได้ ก็รับได้มาตลอดทั้งชีวิต
ความเป็นจริงไม่ใช่เลย อีกใจหนึ่งเขาก็เชื่อว่าพ่อคงไม่ได้ฆ่าแกงใครเยอะเกินกว่าสองหรือสาม เมฆาอดทนพาศตคุณไปส่ง แต่พอเห็นคณิน ความพยายามเข้มแข็งทั้งหลายก็พังทลาย เขากอดแล้วร้องไห้กับคนรักอย่างเสียใจที่สุด เอ่ยถามถึงโทษที่พ่อจะได้รับแม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าคนเป็นพ่อจะถูกข้อหาอะไรบ้าง
ร่างโปร่งกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง เห็นพ่อกำลังนอนหลับสนิทด้วยสีหน้าที่มีความสุขก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ เขาจัดแจงให้พ่อนอนบนโซฟาดีๆ ก่อนจะกราบที่เท้าของผู้เป็นพ่อ แล้วขยับมาจับมือของพ่อที่ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยได้จับมือคู่นี้เลย
“ขอโทษครับ...ผมขอโทษ ฮึก แต่พ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะอยู่กับพ่อ ผมจะไปกับพ่อเอง”
เมฆามองผ่านม่านน้ำตาไปยังใบหน้าของผู้เป็นพ่อ เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของพ่อเลี้ยงมนัสดังขึ้นแล้วก็ดับไปหลายสิบสาย บ่งบอกถึงความร้อนใจของผู้ที่โทรมาเป็นอย่างดี
วันนี้ปริวัฒน์บอกว่าจะมีการเข้าจับกุมมือปืนที่เป็นผู้ต้องสงสัยในการลอบยิงพ่อเลี้ยงตะวัน หลังจากที่ก่อนหน้านั้นจับกุมเพื่อนของผู้ต้องหาได้ในข้อหาค้ายาที่ชายแดน สืบไปสืบมาก็ตรวจสอบได้ว่ามีเพื่อนที่เดินทางมาจากเชียงใหม่เมื่อสิบห้าปีก่อนมากบดานอยู่ที่นี่และก็ขายร่วมกัน ตำรวจเลยสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นมือปืนที่ลอบฆ่าพ่อเลี้ยงตะวันเลยจะจับกุมตัวเอาไว้ก่อน ยังไม่มีการสอบสวนอย่างจริงจัง
อีกอย่างหนึ่งคือ ในวันนี้มีการบุกจับการส่งยาล็อตสำคัญที่ทางศรันย์เองก็เป็นคนคุมการจัดส่งในครั้งนี้ โดยไม่รู้เลยว่าพ่อเลี้ยงมนัสกับหุ้นส่วนคนอื่นต้องการส่งให้ชายหนุ่มไปเป็นแพะรับบาป ซึ่งข่าวนี้ เมฆาเพิ่งจะได้รับรู้ก่อนจะกลับเข้ามาในบ้านเมื่อกี้นี้เอง
ถึงไม่มีเมฆาคอยช่วย ยังไงแล้วทางตำรวจก็สามารถที่จะหาหลักฐานจับกุมคนผิดได้อยู่ดี ตำรวจเก่งกาจอย่างปริวัฒน์และพลเมืองดีที่มีอิทธิพลมากมายอย่างพ่อเลี้ยงอาทิตย์ หากร่วมมือกันแล้ว ก็สามารถที่จะเอาความดีความถูกต้องมาชนะพวกสิ่งผิดกฎหมายได้ แม้ว่าจะไม่หมดไปแต่อย่างน้อยก็ทำให้ประเทศสะอาดขึ้นมานิดหนึ่งก็ยังดี
“มันจะเลวร้าย...แต่เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
ใช่ไหมครับแม่...มันจะผ่านไปใช่ไหมครับ
100%
อ่านแล้วคอมเม้นท์ให้กำลังใจ ยูกิด้วยนะคะ ^^
ติดตามข่าวสาร พูดคุย ทวงนิยาย ได้ทางแฟนเพจนะคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki/