เอจะเป็นโยหรือวุธดีล่ะเหอๆๆๆๆ นั่นดิเนอะ
แล้วคนที่โทรเนี่ยมานใช่โยป่าวหว่า
ไปอ่านกันเลยดีกว่าครับ
6 WAS HE TRYING TO BE NICE OR WHAT ELSE?
ไม่อยากทำก็ต้องทำ ผมเอาสติ๊กเกอร์ที่เคยเตรียมไว้มาแปะที่หน้าอก ทำเป็นเครื่องหมายของเด็กรอบบ่าย พอถึงโรงเรียนก็แกล้งเดินทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ยามก็มอง ๆ เหมือนกัน แต่พอเห็นเครื่องหมายของเด็กรอบบ่ายก็คิดว่าคงเป็นเด็กรอบบ่ายมามาเรียนรีเกรดตอนเช้ามั่ง แต่ผมก็กลัวอยู่ว่ายามจะจำผมได้แล้วจับผมไปห้องปกครอง พอพ้นป้อมยามผมก็ค่อย ๆ เร่งสปีดจนกลายเป็นวิ่งเข้าห้องเรียน ดีนะว่าเป็นวิชาการจัดตู้แสดงสินค้า ไม่ต้องนั่งอยู่กับที่ ผมเดินเข้าไปเนียน ๆ อาจารย์ก็ไม่รู้ว่าผมมาสาย
"อีเอ้ ไปแรดไหนมา อีดอก" เป็นคำทักทายที่เพราะที่สุดของอีนัท
"ไปหาครูXXXX แม่มึงมาไง อีเหี้ย" ผมล้อชื่อแม่มัน
"อีเวร เล่นหิ้งนะมึง เดี๋ยวกูเรียกแม่กูมาตีตูดลายเลยนี่" อีนัทขำ
"อย่านะมึง เครื่องมือทำมาหากินของกู ห้ามแตะ" ผมลากอีนัทไปหาเพื่อน ๆ ที่นั่งตัดกระดาษเตรียมทำงานจัดตู้อยู่
"อะไรเนี่ย…มาผิดห้อง ผิดรอบป่าวเธออ่ะ" อีแจนหันมาเห็นผมก่อน
"อะไรวะ" ผมมองตามสายตาอีแจนก็เห็นว่าสติ๊กเกอร์รอบบ่ายยังอยู่ ผมรีบแกะมันออก
"ทำไมมาสายวะ" อีตาลเงยหน้ามาถาม
"ตื่นสายวะ ลืมตั้งนาฬิกาปลุก…คุยโทรศัพท์ดึกไปหน่อยด้วย" ผมวางระเบิด ได้ผลทุกคนหันมามองผมเป็นตาเดียว
"คุยกะใคร" ถามพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ตอนนี้อาจารย์ไม่อยู่ในห้องแล้วครับ
"คุยกับผู้ชาย" ผมพูดยิ้ม ๆ ทำหน้าเหมือนมีความสุขมาก "ก็พวกมึงอะไปไหนกันมา ไม่มีใครอยู่บ้านซักตัว กลับกันกี่โมงล่ะเมื่อวานน่ะ อีช้างลาก..สามทุ่มแล้วยังไม่มีใครถึงบ้าน…ดีนะว่ามีผู้ชายโทรมาคุยแก้เหงา" ผมทำท่าเขิน ๆ
"เมื่อวานพวกกูไปเดินเล่นที่XXXXX (ห้างใกล้ ๆ ที่พวกผมไปกันประจำนั่นแหละ) แล้วก็ไปบ้านไอ้ตั้มมันต่อ ออกจากบ้านมันก็สองทุ่มครึ่งได้ กูโทรไปหามึงแล้วนะ แต่สายแม่งไม่ว่างเลย" อีอ๋าบอก "คุยกับใครวะมึง….โยใช่ปะ" ต่อมเสือกอีอ๋าทำงาน ผมพยักหน้าเบา ๆ ทำท่าเขินกว่าเดิม บิดไปบิดมา ( OVER ACT ) นิดนึง ทุกคนกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ก็เพื่อน ๆ ผมมันเชียร์ให้ผมมีแฟนมาตั้งนานแล้ว
"ตกลงเป็นแฟนกันแล้วเหรอ" อีแจนถาม
"ยังแค่ดู ๆ กันอยู่…แหมมึง…เพิ่งจะคุยกันแค่วันเดียว" ผมตอบ
"เสียดายว่ะอีเหี้ย….ผู้ชายหล่อ ๆ ทำไมต้องเป็นเกย์เป็นตุ๊ดกันหมดวะ" อีนัทพล่าม
"ก็ผู้หญิงเป็นอย่างมึงไง ผู้ชายเค้าถึงไปชอบผู้ชายด้วยกัน" อีตาลคู่หูกัด
"อ้าว…อีห่า…กัดกันเองอีกไง" อีนัทค้อน "ดีนะที่วุธสุดหล่อของกูไม่เป็นเกย์ไปอีกคน" อีนัทเพ้อต่อ ผมมองหน้ามันแล้วกัดมันว่า
"เต็มปากเต็มคำเชียวนะมึง วุธของกู วุธมันชอบอีแจนไม่ใช่เหรอ"
"ว้าย อีเอ้ อีเสร่อ ตกข่าว" อีนัทมันทำท่าเหมือนผมพูดอะไรผิดอย่างแรง "วุธน่ะมันไม่ได้ชอบอีแจนซักหน่อย มันแค่เป็นพ่อสื่อให้ไอ้นพมัน ตัวมันยังโสดยังซิง ไอ้ห่าแม่งเลือกมาก นี่ดีนะว่าหล่อก็เลยเลือกได้ ไอ้ตั้มมันเล่าให้ฟังว่ามีคนชอบมันตั้งเยอะ แต่มันไม่เอาซักคน นี่ก็มีกะเทยแถวบ้านมาชอบอีก อีนี่แรงมากขอบอก บุกถึงบ้าน ก็บ้านไอ้วุธมันขายของไง อีเหี้ยมันไม่ยอมซื้อกับใครเลยนะมึง รอไอ้วุธมาขายคนเดียว" อีนัทเม้าธ์ยาว
"จริงดิ" ผมถามได้แค่นั้น อีแจนก็พูดต่อ
"เออ…ไอ้ห่า ตอนแรกกูก็นึกว่าไอ้วุธมันชอบกู กูก็ไม่ได้สนใจไอ้นพเลย เนี่ยเพิ่งรู้เมื่อวานนี้เองเหมือนกัน ที่จริงไอ้นพมันก็ใช้ได้ ตามใจกูดี เดี๋ยวเสาร์นี้กูจะพามันไปสวน (สวนจตุจักร) พาแม่งไปเปลี่ยนลุคซักหน่อย แต่ยังไงกูก็ว่าไอ้วุธเนี่ยโอเคที่สุด เสื้อผ้าหน้าผม ไม่ต้องโมดิฟายใหม่เลย เสียดายเหมือนกัน…แต่ไม่เป็นไร เป็นเพื่อนกันดีกว่าท่าจะคบกันได้ยาว…เฮ้ย…แต่ถ้าไอ้วุธมันเสร็จอีกะเทยแถวบ้านนี่กูไม่ยอมนะโว้ย" อีแจนเม้าธ์บ้าง "ถ้าเสร็จอีเอ้ยังว่าไปอย่าง…มึงไม่ลองรับไอ้วุธไว้พิจารณามั่งเหรอ" อีแจนถามผมขำ ๆ
"มึงจะบ้าเหรอ…มันไม่ได้มีทีท่าอะไรว่าจะเป็นเกย์เลยนะมึง อีกอย่างถ้ามันเป็นมันก็ไม่เอากูหรอก ไอ้โยอีกคน เมื่อวานก็พูดแปลก ๆ ทีเมื่อก่อนเรียนด้วยกันทุกวันก็ไม่เห็นเข้ามาพูดกับกูเลย ขนาดในวงไพ่นะมึงนับคำได้ นี่กูยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่ามันจะเอายังไงกับกู" ผมพูดเสียงเรียบ ๆ
"ไม่เอาก็ควายแล้ว กูว่ามึงก็หน้าตาดีออก โสด ซิง หาได้ที่ไหนกะเทยอย่างมึงอ่ะ" อีตูนแทรกบ้าง "ไอ้พวกนักกีฬาเทคนิคXXXXที่มันเคยเห็นมึงไปซ้อมกับกูยังจ้องจะเอามึงตั้งหลายคน"
"แต่ตอนนี้กูว่าขอไอ้โยก่อนดีกว่า" ผมแกล้งทำท่าเขินอีกครั้ง ผมเอาไอ้โยมาเป็นไม้กันหมา ทั้ง ๆ ที่คุยกันเมื่อคืนถึงจะรู้สึกแปลก ๆ กับคำพูดบางคำของโยก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไอ้โยมันชอบผมนี่นา
"หมั่นไส้คนมีความรักโว้ย" อีอ๋าสอด
"อีเอ๋อ ไม่ต้องเลยมึง แหม..เมื่อวานเห็นระริกระรี้กับไอ้แม็กอยู่ตั้งนาน" อีนัทด่า
"ก็แหม…นะ…มันครบคู่พอดีเลยนี่หว่า" อีอ๋าพูดอาย ๆ
สรุปเช้านั้นผมได้รู้อะไรอีกหลายอย่าง ถ้าผมไปกับพวกมันเมื่อวานก็คงไม่ตกข่าวคนเดียวอย่างนี้ ขนาดอีตูนไม่ได้ไปด้วยยังรู้ตั้งแต่เมื่อคืนเพราะอีแจนโทรไปเล่าให้ฟัง ส่วนกะเทยที่มาชอบวุธผมก็ฟังเรื่องนั้นผ่าน ๆ จับใจความว่าเป็นนักเรียนพาณิชย์เอกชนที่ได้ชื่อว่าแรดที่สุดในกรุงเทพฯ (จากการให้ข้อมูลของเด็กช่าง) มีประโยคที่ว่า "งมเข็มในมหาสมุทร ยังง่ายกว่าหาหญิง(รวมทั้งกะเทย)บริสุทธิ์ที่โรงเรียนนี้" เป็นเครื่องการันตีความแรด โรงเรียนของอีมิ้นท์ (ชื่อในวงการครับ ชื่อจริง ๆ ว่าแมน) อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนผมนัก มันเรียนปีสองเท่ากัน แต่อายุมากกว่าเพราะโดนรีไทร์จากที่อื่นมาก่อน ได้ข่าวว่าหน้าตาดีเหมือนกัน แถมแอ๊บแมนได้เนียนมาก เนียนขนาดทางบ้านไอ้วุธยังไม่รู้เลยว่าเป็นสาว อีมิ้นท์เพิ่งย้ายมาเช่าบ้านอยู่กับพี่สาวในซอยบ้านวุธและเป็นลูกค้าประจำของวุธขนาดที่ว่าพ่อกับแม่ต้องเรียกวุธให้ลงมาขายของให้อีนี่
*
*
*
"เฮ้ย…ไปไหนดีวะวันนี้" ผมร้องถามเพื่อน ๆ ขณะจะเดินออกจากโรงเรียน จะว่าแปลกก็แปลกนะ เพราะปกติพวกผมจะต้องแพลนเรื่องเที่ยวหลังเลิกเรียนตั้งแต่เช้า วันนี้ไม่มีใครพูดถึงเลยแฮะ
"เดี๋ยวถามนพก่อน" อีแจนหันมาตอบ
"อะไรนะ…พวกมันไปด้วยเหรอ" ถึงจะรู้ว่าวุธไม่ได้ชอบแจนแต่ก็อดรู้สึกประหม่าไม่ได้ที่ต้องเจอวุธวันนี้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
"ช่าย…ไปกันหมดเลย ไปกันเป็นคู่ ๆ ส่วนมึง….ไปตามโยมาดิ" อีอ๋าลอยหน้าลอยตาพูด
"ไม่ตามหรอก เดี่ยวคืนนี้ก็คุยกันอีก" ผมกลบเกลื่อนความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินด้วยการพูดเชิด ๆ แต่จริง ๆ แล้วเบอร์โทรไอ้โยผมยังไม่มีเลย
"จ้า…ขอให้รักกันตลอดรอดฝั่งนะคะ…กะเทย" อีอ๋ากัด
"ขอบคุณที่อวยพรนะคะ…กะหรี่" ผมกัดมันเสียงดังกว่า เพื่อน ๆ ผมขำกันใหญ่
"อีดอก…เบา ๆ สิอีนี่กูอายนะโว้ย" อีอ๋าทำหน้างอ เราล้อเล่นกันอย่างนี้ทุกวันไม่มีใครโกรธใครอยู่แล้วครับ
"เฮ้ย ๆ ไอ้พวกนั้นรออยู่ตรงโน้นแล้วโว้ย" อีนัทโบกมือให้พวกผู้ชาย อีพวกเพื่อนผมกระดี้กระด้าสุดฤทธิ์ ส่วนผมได้แต่เดินช้า ๆ ตามหลังไป
"รถใครอ่ะ" อีตาลถามตั้มที่ตอนนี้ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว
"รถไอ้วุธมัน" ตั้มตอบ
"รถหลวงพี่กู เดี๋ยวพอสึกกูก็ไม่มีใช้แล้ว" วุธชี้แจงใหม่
"โห…รถแต่งด้วย สวยว่ะ" อีอ๋าเดินวนรอบรถกระบะมีแคปสีบล็อนด์เงาวับคันนั้น
"ไปไหนกันดีครับ" ไอ้นพพูดเพราะเชียว
"ถามคนขับดีกว่า" แจนตอบแต่หันไปถามวุธแทน
"ไม่รู้ดิ…ไปไหนดีล่ะ" เงียบ…ไม่มีใครตอบ
"อีเอ้…เป็นเหี้ยอะไรมึงยืนเหม่ออยู่ได้ วุธมันถามไมได้ยินเหรอ ไปไหนดีอีดอก" อีนัทมันตบไหล่ผม ผมสะดุ้งตกใจ ก็หลังจากที่ทักทายกันแล้วผมก็ยืนมองไปทางอื่นไม่ได้สนใจเพื่อนอีก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อกี้วุธพูดกับผม
"อ้าว…ถามกูเหรอ…ไปไหนก็ได้เอาใกล้ ๆ แล้วกัน" ผมตอบแต่ไม่ได้มองหน้าวุธ
"ทำไม…รีบกลับเหรอ…นัดใครไว้ล่ะ" ผมหันขวับ
"ที่อยากให้ไปใกล้ ๆ ก็เพราะว่านายจะขับรถไปไง มีใบขับขี่ยัง ขับแข็งหรือเปล่าก็ไม่รู้" มันจะมีใบขับขี่ได้ยังไง ก็อายุมันเท่ากับผม
"ใบขับขี่ไม่มี ขับแข็งไม่แข็งไม่รู้ แต่ขับมาตั้งแต่อยู่ม. 1 อะ ไม่กล้านั่งไปด้วยกันเหรอ" ผมกำลังจะอ้าปากเถียง อีอ๋าดันปล่อยมุขแป๊ก ๆ ออกมาซะก่อน
"พูดอะไรกัน ใครขี่ อะไรแข็งเหรอ เยาวชนอย่างหนูไม่เข้าใจ"
"ขับไม่แข็งไม่เป็นไร ค่อย ๆ ไปก็ได้ แต่อย่างอื่นอย่าแข็งละกันเดี๋ยวอึดอัดแย่เลย" อีตาลแซว ไอ้วุธอายหน้าแดงรีบต้อนพวกผมขึ้นรถ
มีปัญหาซะแล้ว ก็อีพวกข้าวใหม่ปลามันไม่อยากจะห่างกัน นี่แค่ไม่ถึงสิบห้านาทีจากโรงเรียนผมถึงห้างประจำที่จะไปกัน พวกมันยอมนั่งกระบะหลังกันหมดแปดคน ที่เต็มครับ ให้แบ่งมานั่งแคปกันก็ไม่เอา สุดท้ายผมต้องไปนั่งหน้าคู่กับคนขับ ก็ไอ้วุธนั่นแหละ พอนั่งปุ๊บก็คว้าเข็มขัดมาใส่ มองออกไปด้านข้างอย่างเดียวไม่หันมาทางมันเลย ในใจก็โมโหเพื่อนที่ทิ้งกัน ผมนั่งหน้างออยู่ไอ้วุธมันก็เอาแอร์มาจ่อหน้าผมแถมเร่งให้แรงที่สุดด้วย ได้ผล…ผมต้องหันไปมองหน้ามัน มันเลยหรี่แอร์ให้
"เป็นอะไร…หน้าหงิกเชียว" มันถามยิ้ม ๆ
"เปล่า"
"ไม่ต้องเกร็งก็ได้ เราขับไม่เร็วหรอก" ผมเงียบ "ฟังเพลงมั๊ย" ผมเงียบอีก
"ไม่อยากไปเหรอ" มันถามลอย ๆ แต่น้ำเสียงของมันเศร้า ๆ ยังไงไม่รู้
"อยากไปดิ แต่โมโหอีพวกนั้น เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน" ผมหันหลังไปมองค้อนอีอ๋าที่อยู่ใกล้ที่สุด อีอ๋าดันแลบลิ้นให้ผมอีก วุธที่มองกระจกหลังอยู่ขำ
"วุธ เราว่าไปทางซอย XXXX ดีกว่า"
"ทำไมล่ะ…มันอ้อมนะ พอออกถนนใหญ่รถติดด้วย" วุธสงสัย
"เออน่า" วุธตามใจผมเลี้ยวเข้าซอยข้างหน้า เสียงพวกข้างหลังโวยวายดังเข้ามา จะไม่ให้มันโวยวายได้ไง ก็ซอยที่ผมพาเข้าไปมันเป็นทางลัดในหมู่บ้าน หลังเต่าลูกระนาดก็เยอะ ไอ้พวกข้างหลังก็กระเด้งกันตลอดทาง ยิ่งตอนเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาบ่อย ๆ ก็แทบจะเทไปทางเดียวกัน ตอนนี้วุธคงเข้าใจผมแล้วว่าทำไม ผมเห็นมันอมยิ้ม แถมยังแกล้งขับตามอย่างที่ผมคิดไว้เลย พอถึงถนนใหญ่เสียงพวกข้างหลังก็ยังด่าผมกับวุธอยู่ เราหันมามองหน้ากันแล้วยิ้มให้กันเป็นครั้งแรก
"ทำไมเธอไม่ยิ้มบ่อย ๆ ล่ะ เราว่าเธอยิ้มแล้ว…เอ่อ…ดูดีนะ" อยู่ ๆ วุธก็พูดกับผม
"ไม่ใช่คนบ้านี่…จะได้นั่งยิ้มทั้งวัน" ผมกวน
"ไม่ได้หมายความอย่างนั้น หมายถึงทำไมต้องเก๊กเวลาเจอเราด้วยอ่ะ"
"เก๊กอะไร…เราก็เป็นของเราอย่างนี้แหละ" ผมแก้ตัว
"ไม่จริงอ่ะ…พวกเพื่อนเธอก็บอกว่าเธอดูแปลกไป…ทำไมกลัวว่าจะชอบเราเหรอ" ผมอึ้ง…หน้าชาเลย
"โห….คิดได้ไงอ่ะ หลงตัวเองว่ะ ไม่มีทางซะหรอก อีกอย่างเราก็มีแฟนแล้ว นายไม่ได้ครึ่งของเค้าด้วย" เคยเป็นกันมั๊ยครับอารมณ์แบบนี้ เอาคนอีกคนมาเกทับทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ขอหน่อยละกัน แก้อาย
"ใคร…ไอ้เด็กมอปลายคนนั้นน่ะเหรอ…มีดีตรงไหนวะ" มันพูดขำ ๆ
"มีดีก็แล้วกัน" ผมตอบได้แค่นี้ ก็ไม่รู้จริง ๆ นี่หว่าว่ามันมีดีอะไรบ้าง เสียงเคาะกระจกดังมาจากข้างหลัง ทำให้ผมและวุธต้องหันไปมอง ตายแล้วมัวแต่เถียงกับไอ้นี่อยู่ลืมเพื่อนไปเลย ตอนนี้พวกมันต้องเอาสมุดหนังสือมาบังแดดกันใหญ่ ผมเห็นหน้าอีแจนที่ทำปากขมุบขมิบว่าร้อนชิบหายแล้วผมอดหัวเราะออกมาดัง ๆ ไม่ได้ ก็มันห่วงสวยซะขนาดนั้นโดนแดดตอนเกือบ ๆ สี่โมงเย็นเข้าไปหน้าแดงโดยไม่ต้องใช้บลัชออนเลย
"นิสัยไม่ดี แกล้งเพื่อน" วุธว่าผมแต่มันก็หัวเราะเหมือนกัน
"นายนั่นแหละแกล้งเพื่อน เลนขวาว่าง ๆ ก็ไม่ไป รถยิ่งติด ๆ อยู่เนี่ย" ผมเถียงมัน
"แล้วใครเป็นคนบอกให้มาทางนี้ล่ะ…อ้าว ๆ เพื่อนเรียกอีกแล้ว" อีอ๋าเคาะกระจกอีก
"อะไรของมันวะ" ผมหันไปมันทำท่าพัดแล้วชี้ให้ไปเร็ว ๆ อีนี่อีกไม่ถึงร้อยเมตรก็เข้าห้างแล้ว ผมก็เลยแกล้งมันต่อ ล้วงกระเป๋าเอาลูกอม (ฮาร์ทบีทรสลิ้นจี่ผมจำได้) ผมแกะออกจากห่อแล้วทำท่าป้อนให้วุธซึ่งมันก็รับมุขผมดีมาก ดีเกินไปด้วยซ้ำเพราะปากมันโดนปลายนิ้วของผมด้วย ดีนะว่าผมล้างมือก่อนออกจากโรงเรียน ยังไม่พอ ผมทำท่าเหมือนจะจับแก้มวุธซึ่งถ้ามองจากข้างหลังต้องคิดว่าผมจับจริงแน่ ๆ ส่วนวุธก็ละมือจากเกียร์กระปุกมาโอบเบาะที่ผมนั่งแล้วหันไปยักคิ้วให้เพื่อน ผมได้ยินเสียงโห่เสียงกรี๊ดจากข้างหลัง ดังจนรถข้าง ๆ หันมามอง วุธต้องรีบลดมือลงทันที
*
*
*
ถึงห้างโดยสวัสดิภาพ ไอ้พวกผู้ชายกระโดดลงทันทีที่วุธถอยเข้าซองเรียบร้อย ไอ้นพอ้าแขนแทบจะอุ้มอีแจนลงมาจากรถ พอผมลงยังไม่ทันได้ปิดประตู หูก็แทบอื้อ ก็อีพวกเพื่อนผมด่ากระหน่ำซะ ไอ้พวกผู้ชายก็ขำกันใหญ่ ผมพูดขอโทษแต่หน้าผมไม่ใช่อย่างนั้น พวกมันก็ไม่ว่าอะไร แต่ผมว่าต้องมีอะไรตามมาแน่ ๆ
เราเดินเล่นดูโน่นดูนี่ พวกนั้นก็เดินกันเป็นคู่ ๆ เหลือผมกับวุธอีกแล้วที่ต้องเดินด้วยกัน ผมก็กลัววุธมันจะอายที่ต้องเดินกับผู้ชายด้วยกัน แถมเป็นเด็กพาณิชย์ด้วย ผมก็เลยสะพายกระเป๋าแล้วเอาสายกระเป๋ามาปิดหน้าอกตรงที่ปักชื่อโรงเรียน แค่นี้ผมก็ดูเหมือนเด็กช่างคนนึงแล้ว ไอ้พวกที่เดินเป็นคู่ ๆ ก็ไม่มีใครสนใจใคร วุธมันแวะเข้าร้านแมงป่อง (สมัยนั้นดังนะครับ ของแพงด้วย) ผมก็ยืนรออยู่หน้าร้าน วุธมันหันมาเห็นผมยืนรอมันก็พยักหน้าเรียกผมเข้าไปด้วย ผมก็ต้องจำใจเดินเข้าไป ในใจก็ไม่รู้จะซื้ออะไรไอ้วุธก็เลือกเทปแบบไม่สนใจผมเลย ผมก็แอบแวบออกมาหาไอ้พวกนั้น เห็นมันยืนหน้าเหรอหรา มองหาผมอยู่เหมือนกัน ผมเดินไปบอกว่าอยู่ร้านเทป ไอ้วุธจะซื้อของ พวกมันก็ไม่ว่าอะไร แต่บอกว่าเดี๋ยวจะไปกินพิซซ่ากัน ซื้อเสร็จให้ไปเจอกันที่ร้านได้เลย ผมตกลงแล้วเดินไปหาวุธต่อ ตอนนี้มันเลือกได้แล้วว่าจะซื้ออะไร ในมือมันมีเทปโลโซที่เพิ่งออกมาใหม่เป็นอัลบั้มแรก อีกอันไม่รู้ว่าวงอะไร
"เอาอะไรมั๊ย…" วุธถาม ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ
"เอาเหอะ…ซื้อให้" มันคะยั้นคะยอ
"ไม่เอา…เปลือง…ซื้อให้ทำไม….เนื่องในโอกาสอะไร" ผมถามกวน ๆ
"ก็อยากซื้อให้อ่ะ…เวลาคุยโทรศัพท์กับผู้ชายจะได้มีเพลงฟังด้วยไง โรแมนติกจะตาย" มันพูดเหมือนกัดผม แต่เอ๊ะ…มันรู้ได้ไงว่าผมคุยโทรศัพท์กับผู้ชาย
"คุยกับใคร…อะไร…"
"ก็คุยกับไอ้เด็กมอปลายนั่นไง"
"นี่…เลิกเรียกเค้าว่าเด็กมอปลายได้ปะ เค้ามีชื่อนะโว้ย"
"เออ ๆ นั่นแหละ เอาอันไหน…เร็ว…หิวแล้วนะ" มันเร่งผม
"ก็บอกแล้วไง…ไม่เอา" ผมหันหลังจะเดินหนี
"เอาอันนี้ล่ะกัน…ฃื่ออะไรก็ไม่รู้…อ่านไม่ออก" ผมหันขวับ ในมือมันมีเทปอยู่อันนึง ก็อันที่ผมเพิ่งหยิบดูเมื่อกี้…ตอนนั้นผมก็ไม่รู้หรอกว่าชีดังแค่ไหน ผมรู้แค่ว่าสถานีวิทยุ RADIO VOTE หรือ E F.M. ในสมัยนี้ เปิดเพลงของนักร้องคนนี้ (สมัยโน้นเพลงฝรั่งที่ได้เปิดในคลื่นเพลงไทยต้องดังมาก ๆ และ มาลีวัลย์ก็เอาเพลงนี้มาคัฟเวอร์ด้วย) ผมหยิบมาดูเฉย ๆ เพราะปกสวยดี เป็นขาวดำ อีกอย่างอัลบั้มนี้ก็ถูกแนะนำในหนังสือนิตยสารเธอกับฉันที่ผมติดมากในสมัยนั้น
"ไม่เอา…จริง ๆ " ผมเห็นมันถือรวมกับไปเทปของมันแล้วต้องเดินตามไป แต่ไม่ทันแล้วครับ มันรีบจ่ายเงินแถมยังเอาตัวมันกันตัวผมเอาไว้ พนักงานก็ไวชิบเป๋ง ใส่ถุงเรียบร้อยเลย ผมเดินหนีมันออกมาเดินลิ่วไปร้านพิซซ่าทันที
"รอด้วยดิ…จะรีบไปไหนวะ" มันวิ่งกระหืดกระหอบตามมา
"กิน…หิวไม่ใช่เหรอ" ผมตอบห้วน ๆ
"เป็นไร…โกรธเหรอ" มันพูดเสียงอ่อน
"โกรธเรื่องอะไร…ซื้อมาแล้วนี่…เอาไปคืนได้ปะล่ะ" ผมหันไปพูดกับมัน
"โห….ก็อยากให้อ่ะ"
"เออ…เอาก็ได้…แต่เดี๋ยวเราเลี้ยงพิซซ่าก็แล้วกัน…ถือว่าตอบแทน…จะได้ไม่ต้องติดค้างกัน" ผมหงุดหงิด อยู่ดี ๆ ต้องเสียเงิน เทปเพลงฝรั่งสมัยนั้นก็ตั้งร้อยกว่าบาทแน่ะ
"ขนาดนั้นเชียว" เสียงมันสลดลงกว่าเดิมอีก ผมเกือบใจอ่อน แต่ผมไม่ชอบติดหนี้ใคร ถ้าเป็นเพื่อนสนิทให้กันก็ว่าไปอย่าง
"อืม…แล้วไม่ต้องบอกใครล่ะ" ผมพูด ที่จริงประโยคนี้มันต้องเป็นฝ่ายพูดนี่หว่า แต่ผมพูดออกไปแล้วนี่ วุธก็หน้าเหวอ ๆ เหมือนกัน
ผมไปรวมตัวกับเพื่อน ๆ ที่นั่งกางเมนูกันอยู่ในร้านพิซซ่า สั่งพิซซ่ามาสองถาด ใหญ่กับเล็ก กลัวไม่อิ่ม สั่งสลัดมาด้วย ถ้วยสลัดก็มาก่อนเลย (ต้องใช้คำว่าถ้วย เพราะมันเล็กกว่าชาม) ทุกคนรู้กันว่าเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องไปตัก เพราะผมมีความสามาถในการตักสลัดใใส่ชามใบจิ๋วห้ได้เยอะที่สุด ตอนแรก ๆ ก็อายเหมือนกัน แต่…ต้องเอาให้คุ้ม ผมเดินไปตักคนเดียว อย่างที่บอกแหละครับ…พวกมันเป็นข้าวใหม่ปลามัน แทบไม่อยากจะแยกกัน
"มา…ช่วยถือ" อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงมาข้างหลัง ผมตกใจถ้วยแทบหลุดมือ ก็กำลังใช้สมาธิในการเรียงสลัดอยู่อ่ะ
"ไม่ต้อง…เราถือเองดีกว่า…" ผมหมายความอย่างนั้นจริง ๆ แต่พอเห็นคิ้ววุธขมวดแล้วรู้สึกผิด
"นายจะกินอะไรล่ะ เดี๋ยวตักให้…ถ้านายถือแล้วเรากะน้ำหนักไม่ได้…เดี๋ยวหอคอยล้ม" ผมพูดขำ ๆ สีหน้าวุธค่อยดีขึ้นมาหน่อย มันชี้นู่นชี้นั่นเหมือนแกล้งผม แต่ผมก็ยังอุตส่าห์ตักได้อีก จนไม่ไหวแล้วนั่นแหละ ผมถึงค่อย ๆ ประคองถ้วยเดินกลับโต๊ะ ทุกคนมองผมแบบลุ้น ๆ ว่าจะถึงโต๊ะหรือไม่
"อ่ะ…เป็นไงมึง ฝีมือยังไม่ตกเนอะ…นี่ขนาดไม่ได้เข้าร้านพิซซ่ามานานแล้วนะเนี่ย" ผมโม้
"จ้า…ทั้งสวยทั้งเก่ง"
"อืม…สวยอย่างมีคุณค่า…แต่ราคาบาทเดียว" อีนัทกับอีตาลกัดผม จริง ๆ ผมไม่ชอบให้ใครมาชมผมสวยเลยจริง ๆ ก็ผมอยู่ในลุคผู้ชายอ่ะ
"ยังมึง..ยัง…อีเอ้มันสวยอีกอย่าง ใครเจอมันต้องบอกว่า สวยหัวเคียว" อีอ๋าปล่อยมุขอีก ทุกคนขำ แต่ไอ้พวกผู้ชายนั่งงง
"อะไรวะ…สวยหัวเคียว" ไอ้ตั้มถามอีตาลแฟนมัน
"โห…สวยหัวเคียวก็เสียวหัวค-ยไง" อีตาลตอบ ไอ้พวกผู้ชายนั่งอมยิ้มกันใหญ่ ส่วนผมที่ปกติไม่ค่อยอาย แต่พอเห็นหน้าวุธมองผมยิ้ม ๆ เแล้วอายชิบหาย พอดีที่พนักงานเอาพิซซ่ามาเซิร์ฟ ทุกคนสนใจแต่ของกิน ผมก็เลยไม่โดนกัดต่อ
*
*
*
"คิดเงินครับ" ไอ้นพเรียกพนักงาน สักพักพนักงานก็มาพร้อมใบเสร็จราคาที่ต้องจ่าย
"เอาของกูไปก่อน" วุธยื่นเงินให้พนักงาน ระหว่างรอเงินทอน พวกผมก็ควักเงินมาหารกัน แต่บรรดาแฟนเพื่อนผมบอกไม่ต้อง อีพวกนั้นก็ยิ้มกันใหญ่ ผมยื่นเงินให้วุธรวมทั้งส่วนของมันด้วย แต่มันกลับบอกว่า
"ไม่ต้อง…เอามาให้ทำไม ก็ค่าเทปที่เราขอยืมเมื่อกี้ไง" ผมงง กำลังจะอ้าปากถาม แต่วุธมันทำท่าบุ้ยใบ้ไปที่เพื่อนผม ผมกลัวเพื่อนรู้ ก็เลยเก็บเงินใส่กระเป๋าเหมือนเดิม มันยิ้มแฉ่งเลยครับ ผมมองหน้ามันแบบฝากไว้ก่อนเถอะ
"โอ๊ย…อิ่มว่ะ" อีอ๋าขณะเดินออกมาจากร้าน
"ชอบสิมึง…อิ่มจังตังค์อยู่ครบเนี่ย" อีแจนกัด
"แหม…ยังกะมึงไม่ชอบ"
"เอาเป็นว่าวันหลังให้พวกเราเลี้ยงมั่งละกันนะ" อีแจนบอกกับทุกคน
*
*
*
"กลับบ้านกันยัง" ผมถามเพื่อน ๆ ขณะเดินเล่นหลังอาหารสักพัก
"อีนี่เป็นไรวะ…แต่ก่อนไม่เคยชวนกลับ" อีตาลหันมาถามผมแต่อีอ๋าดันตอบแทนซะก่อน
"ก็มันรอรับโทรศัพท์อยู่ไง…เห็นใจคนกำลังมีความรักมั่งเว้ย"
"แต่กูยังไม่อยากกลับอ่ะ ขอเดินย่อยก่อนได้ปะ" อีแจนพูด เพื่อน ๆ มองผมเป็นตาเดียว
"เออ…พวกมึงเดินเล่นต่อเหอะ เดี๋ยวกูกลับก่อนละกัน…ยังไงก็ไม่ได้กลับทางเดียวกันอยู่แล้วนี่" ผมมองไปที่พวกผู้ชาย "ฝากดูแลเพื่อนเราด้วยนะ…อย่าให้มันไปกัดใครล่ะ"
"อีเหี้ย…กูไม่ใช่หมา…มึงกลับดี ๆ ล่ะ ระวังโดนฉุดนะโว้ย"
"ไม่ต้องฉุดกูหรอก…นำทางอย่างเดียว…เดี๋ยวกูเดินตามไป" ผมพูดขำ ๆ แล้โบกมือให้ทุกคน
"ไอ้นพ…เดี๋ยวกูกลับเลยดีกว่า…ลืมไปว่าพ่อกูให้กูปิดร้านวันนี้" ผมหันกลับมามอง
"อะไรวะ…ไอ้ห่า…นี่มันเพิ่งจะหกโมงครึ่งเองนะโว้ย" ไอ้นพโวย
"รีบไปขายของให้พี่มิ้นท์ขาหรือเปล่าไอ้วุธ…ไม่ต้องกลัวพี่เค้าหิวหรอก…ยังไงเค้าก็รอมึงได้" ไอ้ตั้มแซว วุธหันมามองผมแวบนึง
"ไอ้สัตว์…กูรีบไปปิดร้านจริง ๆ ตอนนี้รถติดด้วย กว่าจะถึงบ้านก็ทุ่มกว่า ต้องรีบปิดเดี๋ยวอีพี่มิ้นท์มาเจอกู" วุธแก้ตัว
"เออ ๆ ไปเหอะมึง ขับรถดี ๆ ล่ะ" ไอ้นพบอก วุธรับคำเพื่อน ส่วนผมเดินลิ่ว ๆ ไปแล้ว
"อีเอ้" เสียงอีแจนตะโกนเรียกผม
"อะไรของมึงวะ" ผมเดินกลับมา
"กลับด้วยกันมั๊ย" วุธถาม
"ไม่อ่ะ…ขอบใจ" ผมปฎิเสธ
"ทำไมวะ…นัดใครไว้แถวนี้หรือเปล่า" อีนัทสงสัย
"ไม่มีโว้ย…กูจะแวะซื้อของอีกนิดนึง" ผมได้ยินเสียงวุธหัวเราะหึ ๆ ผมหันไปมองหน้ามัน เห็นมันหรี่ตามองผมเหมือนรู้ว่าผมโกหก
"เออ…ไม่เป็นไรหรอก วันนี้เราไม่ได้กลับทางนั้นเหมือนกัน" วุธพูด
"อ้าวเมื่อกี้บอกว่าต้องผ่านบ้านเอ้มันนี่นา" อีนัทถามงง ๆ
"ที่จริงไปทางนั้นก็ได้ แต่มันอ้อมไง…ก็นึกว่าเค้าจะกลับด้วยจะได้แวะไปส่ง…เรากลับเลยล่ะกัน ไว้เจอกันใหม่นะ" มันพูดจบก็เดินไปทางลานจอดรถ ส่วนผมบ๊ายบายเพื่อนอีกทีแล้วเดินไปทางหน้าห้างรอรถเมล์ตามเดิม
----------------------------tbc---------------------------------
แล้วเจอกันครับป๋มไปละ ฟิ้วววววววววววววววววว