[จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951  (อ่าน 183044 ครั้ง)

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5

Chapter 42: งานเลี้ยงวันเกิด




แน่นอน ธีรเชษฐ์ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ



หลังจากยกที่สี่ที่มีนาเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอพักหายใจในที่สุด เขาก็ยอมให้เด็กหนุ่มที่โดนสูบเรี่ยวแรงจนตัวอ่อนปวกเปียกได้นอนหลับพักผ่อน เขาเป็นสุภาพบุรุษถึงขนาดยอมขยับถอนกายออกจากช่องทางที่ตอดรัดจนเขาไม่อยากผละออกไป แต่คนตัวเล็กกลับขอให้เขากอดตัวเองไว้อย่างนั้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อนที่นับวันเจ้าตัวชักจะมีทักษะเก่งกล้าสามารถขึ้นมาทุกที
เพราะฉะนั้น จึงไม่แปลกที่ธีเชษฐ์จะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาโดยที่ความอ่อนนุ่มของช่องทางอุ่นยังคงโอบรัดเขาไว้อยู่อย่างนั้น




“อือ...” เพียงเท่านั้นยังไม่พอ เจ้าเด็กตัวแสบในอ้อมกอดของเขายังขยับเข้ามาแนบชิด บดเบียดสะโพกมนกับตัวตนของชายหนุ่มทั้งที่ยังหลับสนิท




“...”โดนลูบคมขนาดนี้ ไม่ให้เอาคืนก็อย่าเรียกเขาว่าธีรเชษฐ์เลย




“งืม…อะ…คะ…คุณเชษฐ์…”




มีนางัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกเสียววาบในท้องน้อยจากอะไรบางอย่างที่ขยับเสียดสีจุดอ่อนไหวภายในที่โดนทรมานมาทั้งคืนจนไวสัมผัสไปเสียหมด ของเหลวที่ยังคงคั่งค้างอยู่ภายในทำให้เกิดเสียงหยาบโลนที่ทำให้ร่างเล็กแดงก่ำไปหมดทั้งตัว



“อรุณสวัสดิ์ครับที่รัก”




ไรหนวดสากคลอเคลียหลังใบหูทำให้มีนาต้องย่นคอหนีความรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆนั้นตามสัญชาตญาณ แต่เมื่อถูกตามมาคลอเคลียที่ผิวบางบริเวณซอกคอขาวไม่หยุดหย่อน คนตัวเล็กก็ทำได้เพียงขยุ้มผ้าปูเตียงระบายความรู้สึก ครางเสียงหวานเป็นรางวัลให้กับชายหนุ่ม



Rrrrrr




ธีรเชษฐ์คำรามในลำคออย่างหงุดหงิดใจที่ถูกขัดจังหวะ แต่จากเสียงเรียกเข้า เขารู้ดีว่าหากไม่รับสาย คนที่อยู่ปลายสายคงจะหาวิธีถีบประตูห้องเขาเข้ามาได้แม้ว่าธีรเชษฐ์จะแอบซ่อนรังลับของตัวเองไว้อย่างดีก็ตาม




ถึงกระนั้น กระต่ายน้อยของเขาที่กำลังโอนอ่อนตามสัมผัสทำให้ธีรเชษฐ์ตัดใจหยุดการกระทำไม่ลง ชายหนุ่มปิดริมฝีปากรูปกระจับนั้นไว้ ผ่อนจังหวะการขยับลงแล้วกดรับสาย



“ว่าไง?”



ธีรเชษฐ์พยายามปรับเสียงให้ดูไม่ผิดปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้การตอดรัดของร่างข้างใต้จะทำให้เขาแทบเห็นดาว ชายหนุ่มไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ แต่จังหวะที่เขากะผ่อนปรนลงกลับถูกเร่งเร้าขึ้นมาเสียอย่างนั้น แม้ว่าคนที่ถูกเขาปิดปากจะไม่ได้สงเสียงสักแอะก็ตาม




เร่งไม่เร่ง หากฟังเสียงขาเตียงคุณภาพดีที่ลั่นเอี๊ยดอ๊าดจนเขารู้ว่าไม่มีทางหลุดจากหูผีของเลขาที่เคารพของเขาก็คงจะบอกได้ไม่ยาก




“งานจะเริ่มแล้วนะครับ” เสียงเย็นเอ่ยขึ้นจากปลายสาย ธีรเชษฐ์เกือบหลุดสบถออกไปดังๆ เลือดที่ไหลไปเลี้ยงส่วนอื่นของร่างกายจนหมดทำให้ในตอนนี้สมองของเขาไม่ได้ฉุกคิดเลยว่าวันนี้เป็นวันอะไร




“สิบนาที...” เสียงทุ้มเอ่ยลอดไรฟัน แม้จะอยากขอเวลาอีกสักหนึ่งชั่วโมง แต่ข้าวใหม่ปลามันแบบนี้เขายังไม่อยากให้กระต่ายน้อยของเขาเป็นหม้ายหรอกนะ




“เสียงผมเหมือนคุณมีสิทธิ์ต่อรองเหรอครับ?” มธุวันตวัดเสียงห้วนสั้น ก่อนจะกดตัดสายโดยไม่รอให้ธีรเชษฐ์ได้ตอบอะไร
คราวนี้ธีรเชษฐ์ได้สบถออกมาสมใจอยาก หากเขาไม่เร่งรีบ อีกไม่ถึงสิบนาทีประตูห้องของเขาจะต้องถูกถีบหลุดจากบานเป็นแน่



“ขอโทษนะมีน...”




“อะไรครั...อ๊ะ!!!”



ร่างที่ถูกช้อนให้นั่งบนตักแกร่งร้องออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ องศาที่ลึกเกินกว่าครั้งไหนและแรงกระแทกกระทั้นที่จงใจจะให้ทุกสัมผัสตราตรึงไปถึงส่วนลึกของจิตใจทำให้ร่างเล็กแทบละลายลงไปกองกับเตียงนุ่ม  ลิ้นร้อนเลียวนตามใบหูขาวแล้วสอดเข้ามาในหูอย่างหยอกเย้า เด็กหนุ่มสั่นสะท้านกับการปลดปล่อยครั้งที่เท่าไหร่ของตนก็ไม่รู้ ทิ้งตัวลงซบแผ่นอกกว้างอย่างหมดแรง



เร็ว...เร็วมาก....




“วันหลังฉันจะใช้คืน....เอาให้เธอร้องไห้ขอให้ฉันทำเร็วๆเลยล่ะ” ชายหนุ่มหอมแก้มชื้นเหงื่อฟอดใหญ่  และนั่นทำให้ร่างเล็กรู้ว่าตัวเองเผลอพึมพำความคิดนั้นออกมา มีนาอยากจะทักท้วงเหลือเกินว่าตนไม่ได้ขอ แต่ก็รู้ว่าป่วยการจะพูดกับคน
เอาแต่ใจ




ธีรเชษฐ์ช้อนตัวอีกฝ่ายขึ้นอุ้ม สังเกตว่าร่างเล็กแม้จะยังคงผอมบางจนน่าตกใจ แต่เริ่มมีน้ำมีนวลให้เขาได้หยิบจับติดไม้ติดมือมาบ้างแล้ว แม้จะยังไม่ใกล้เคียงกับความพึงพอใจของธีรเชษฐ์สักนิด
ดูท่าคงต้องขุนกันอีกยาว







คำว่าเส้นยาแดงผ่าแปดคืออะไรธีรเชษฐ์รู้ซึ้งแก่ใจก็วันนี้




สิ่งแรกที่ชายหนุ่มทำคือโบกมือให้มธุวันที่อยู่อ่ำฟากของสนามบ้านเป็นหลักฐานยืนยันที่อยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเลขาของเขาไม่ได้ประทับใจความสามารถในการมาตรงเวลาของเจ้านายเลยสักนิด




ชายหนุ่มที่ถือว่าตัวเองมาปรากฏตัวในงานแล้วไม่สนใจจะทักทายแขกเหรื่อที่เริ่มทยอยกันเข้ามาในสนามหน้าบ้านที่ถูกเนรมิตเป็นงานเลี้ยงกลางแจ้ง เปิดประตูให้กับคนรักที่ยังคงหมดเรี่ยวหมดแรงแม้จะมีสีหน้าดูดีขึ้นมาก แล้วประคองมีนาเข้าไปในในตัวบ้าน




เด็กหนุ่มที่อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงตั้งแต่เห็นสนามหญ้ายันตัวคฤหาสน์แหงนหน้ามองเพดานสูงแขวนโคมระย้าของบ้านจนคอแทบหัก ช่องว่างทางสังคมของเขากับธีรเชษฐ์ดูกว้างขึ้นทุกฝีก้าว แค่โซฟาของคฤหาสน์ทรัพย์ดำรงก็ใหญ่พอจะจุบ้านสังกะสีผุพังของมีนาได้ทั้งหลังแล้ว



“เปิดตัวซะเอิกเกริก กลัวคนอื่นเขาจะไม่รู้เหรอว่ามึงกินเด็ก”




มีนาสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจากภายในตัวบ้าน คเชนทร์ที่อยู่ในชุดทำงานเต็มยศก้าวออกมาจากห้องห้องหนึ่งพร้อมกับแก้วกาแฟแก้วใหญ่ ดวงตาคมภายใต้กรอบแว่นปรือปรอย ทว่าน้ำเสียงจิกกัดของอาจารย์ที่ปรึกษาของเขายังคงแจ่มชัดเหมือนคนตื่นเต็มตา



“ก็ดีกว่าคนไม่มีใครให้เปิดตัวป่ะวะ?” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว คเชนทร์ไหวไหล่อย่างไม่ได้สะทกสะท้าน เหลือบมองมีนาที่พยายาม
ทำตัวลีบเล็กให้เป็นที่สังเกตน้อยที่สุดแต่ดูจะไม่เป็นผล




“สบายดีมั้ยมีน?”



“คะ…ครับ” มีนาพยักหน้า สีหน้าของคเชนทร์ดูผ่อนคลายลงเมื่อได้ยินดังนั้น



“ดีแล้วล่ะ ครูขอยืมตัวไอ้เชษฐ์หน่อยนะ มีเรื่องคุยกับมันนิดหน่อย”



มีนาพยักหน้าอย่างว่าง่าย นั่งปุลงบนโซฟาตัวยาวมองคเชนทร์ที่แทบจะขยุ้มคอเสื้อของธีรเชษฐ์ลากขึ้นไปชั้นบน มองสำรวจทางนั้นทีทางนี้ทีอย่างตื่นตาตื่นใจ



แม้การตกแต่งจะยิ้งใหญ่หรูหราตระการตา แต่ในความรู้สึกของมีนา ที่นี่เหมือนพิพิธภัณฑ์มากกว่าบ้านเสียอีก



เด็กหนุ่มก้มมองชุดสูทสีขาวพอดีตัวที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นฝีมือของมธุวันที่ทำให้ดูพอดิบพอดีราวกับได้เข้าไปลองชุดเองจริงๆแบบนี้



 ส่วนของธีรเชษฐ์นั้น ด้วยความปรารถนาดีต่อเด็กหนุ่มที่ทำให้ร่างสูงไม่ยอมให้เลขาวัดตัวให้ทำให้มธุวันต้องเสียเวลาเอาชุดกลับไปแก้อีกครั้ง ปัจจุบันธีรเชษฐ์อยู่ในเสื้อคอเต่าสีเลือดหมูที่ทำให้คนมองแทบเลือดพุ่งออกจากรูจมูก แต่ชุดสูทของร่างสูงนั้นมีนาก็ยังไม่เคยเห็นเหมือนกัน



“มีน!”




ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียก ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นธัชนนท์ที่มากับวีรภัทรกำลังยิ้มกว้างให้เขา รู้สึกโล่งใจที่เจอหน้าคนคุ้นเคย



“สวัสดีครับคุณวี พี่เทสต์”



“ไอ้เชษฐ์มันหายหัวไปไหนแล้วล่ะ”วีรภัทรเลิกคิ้ว ประหลาดใจที่ธีรเชษฐ์ทิ้งเด็กของตัวเองไว้คนเดียว



“คุยกับคุณหมอคเชนทร์อยู่ในห้องทำงานน่ะครับ”เด็กหนุ่มตอบ นึกสงสัยแล้วเหมือนกันว่าทั้งสองคนคุยอะไรกันอยู่ตั้งนานสองนาน



ธัชนนท์นั่งลงข้างมีนา ชายหนุ่มที่อายุมากกว่าเขาสองปีให้ความรู้สึกเหมือนพี่ชายที่มีนาไม่เคยมีมาก่อน



“ดูดีขึ้นเยอะนะเรา คุยกันแล้วเหรอ?”



“ก็…”เด็กหนุ่มก้มหน้าเอียงอาย “จริงๆ... เมื่อวานวันเกิดผม เลยได้คุยกันนิดหน่อย...”



แม้จะรู้สึกว่าคำว่า ‘คุยกันนิดหน่อย’ไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานได้ แต่เขาไม่คิดว่าการบรรยายฉากอัศจรรย์ให้ธัชนนนท์ฟังในที่โล่งกว้างที่เพื่อนสนิทของธีรเชษฐ์ยืนอยู่ไม่ไกลนั้นจะเป็นความคิดที่ดีนัก



“สิบแปดแล้วสินะ” ร่างโปร่งลูบศีรษะของมีนาอย่างเอ็นดู ร่างเล็กก้มหน้าอย่างเขินอาย ที่หางตา เขาเห็นวีรภัทรหลุดยิ้มออกมาเช่นกัน



“อ้าว มาเร็วเหมือนกันนะเนี่ย”


เสียงของธีรเชษฐ์ทำให้คนทั้งสามหันไปมอง ร่างสูงเดินลงมาจากบันไดโดยมีคเชนทร์ที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยจนมีนาอ่านไม่ออกเดินตามลงมา เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าคนทั้งสองคุยอะไรกัน แต่คงยากที่จะไม่มีเรื่องของเขาอยู่ในหัวข้อสนทนา


“พี่คราม สวัสดีครับ”



วีรภัทรกล่าวทักทายคนที่ยืนข้างเจ้าของวันเกิด หมอคเชนทร์พึมพำสวัสดีตอบกลับมา เหลือบมองธัชนนท์อย่างสงสัยแต่ไม่ได้พูดอะไร



“เด็กไอ้วีมัน มึงยังไม่เคยเจอเหรอ?”ธีรเชษฐ์หันไปถามเพื่อนที่อายุเท่ากัน คเชนทร์ส่ายหน้า



“เด็กเชี่ยไรล่ะ พูดอะไรให้เกียรติน้องนิดนึงครับไอ้ผู้ใหญ่เวร”วีรภัทรกอดอกอย่างไม่พอใจ



“โอ้โห น้องเหรอ นี่หลานแล้วมั้งไอ้กระบือแก่”เจ้าของวันเกิดหัวเราะ



“มึงนี่ก็กล้าล้อคนอื่นนะ” คเชนทร์เหลือบมองมีนาที่สะดุ้งเฮือกอยู่บนโซฟา เด็กหนุุ่มนึกอยากให้ตัวเองตัวเล็กพอที่จะมุดไป
ด้านหลังของธัชนนท์แล้วขดตัวเป็นก้อนกลมไม่ให้คนอื่นเห็น “พรุ่งนี้มีนัดพบอาจารย์ที่ปรึกษาช่วงเช้า แต่ถ้ามาไม่ไหว...”ดวงตาเรียวคมตวัดมองธีรเชษฐ์ที่มีสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “เดี๋ยวครูมาคุยที่นี่ก็ได้”



แม้จะรู้ว่าสายตาของคเชนทร์ไม่มีทางพลาดร่องรอยของสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่มีนายังคงรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนเห่อขึ้นมาอย่างอับอายอยู่ดี




“ไม่..ไม่เป็นไรครับอาจารย์ ผมไปได้” เด็กหนุ่มรีบบอกอาจารย์ที่ปรึกษาของตนอย่างเกรงใจ แค่นี้เขาก็อายมากพออยู่แล้ว




“อ่า…ถ้างั้นของขวัญกูมึงค่อยเปิดวันหลังนะ”วีรภัทรยิ้มแห้ง ส่งกล่องของขวัญให้เพื่อนสนิทอายุมากกว่าที่รับมาด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนมีนานั้นได้แต่เหลือบมองธัชนนท์ที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างขอคำตอบ แต่ชายหนุ่มรุ่นพี่ปฏิเสธที่จะหันมาสบตาเขา




“ไปนะ เดี๋ยวมีเคสผ่าตัดต่อ” คเชนทร์เอ่ยขอตัว ธัชนนท์มองตามคนที่เขาไม่เคยเห็นก่อนจะหันมาหาคนรัก




“คุณหมอนี่ อายุมากกว่าคุณเชษฐ์เหรอครับ?”



“ไม่นะ พี่ครามเกิดหลังไอ้เชษฐ์สองสามเดือน ทำไมเหรอ?” วีรภัทรเลิกคิ้ว





“แล้วทำไมถึงเรียกคุณหมอว่าพี่...แล้วคุณเชษฐ์....”



ธัชนนท์เอ่ยถามสิ่งที่มีนาก็นึกสงสัยอยู่เช่นกัน ร่างสูงหลุดขำออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าที่บึ้งตึงลงของธีรเชษฐ์ ลูบศีรษะของคนช่างสงสัยอย่างเอ็นดู



“คนเราจะแก่ แก่ที่วุฒิภาวะ ไม่ใช่อายุ จำไว้นะเทสต์”



“สาธุ ขอให้มึงโดนเด็กถอนหงอก”ร่างสูงแช่งเพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์ วีรภัทรยิ้มเยาะ



“มึงแช่งกูมากี่รอบละ ระวังจะเข้าตัวเหอะ”



ธัชนนท์ส่ายหัวกับพฤติกรรมเด็กๆของคนทั้งคู่ ส่วนมีนาเพียงแค่นั่งฟังชายหนุ่มอายุสี่สิบกว่าสองคนทะเลาะกันด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เขาไม่เคยเห็นธีรเชษฐ์ดูผ่อนคลายและเป็นตัวของตัวเองแบบนี้บ่อยนัก




ดูไปดูมา...ก็น่ารักดีเหมือนกัน



“เทสต์ เป็นอะไรรึเปล่า?” จนกระทั่งวีรภัทรหันกลับมาทักคนรักด้วยแววตาเป็นกังวลนั่นแหละที่มีนาละสายตาไปมองธัชนนท์ ใบหน้าของร่างโปร่งดูซีดขาวลงเล็กน้อย คิ้วเรียวขมวดมุ่น



“เอ่อ...ปวดหัวนิดหน่อย คงนอนน้อยน่ะครับ”ธัชนนท์ตอบ



“เหรอ? ถ้าอย่างนั้นเรากลับกันดีกว่า”



ทั้งสองคนจากไปไวพอๆกับขามา มีนาแอบรู้สึกใจหายเบาๆที่กำลังจะต้องอยู่ท่ามกลางคนมากมายที่เขาไม่รู้จักอีกครั้ง ธีร
เชษฐ์นั่งลงข้างเด็กหนุ่ม มือให้วางลงบนศีรษะของมีนาเบาๆ



“พร้อมมั้ย?”



 คำถามของธีรเชษฐ์ไม่เพียงสื่อถึงงานเลี้ยงในวันนี้ แต่ยังสื่อถึงการป่าวประกาศความสัมพันธ์ของพวกเขาให้คนภายนอกได้รับรู้



ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือทินกร



แม้ธีรเชษฐ์จะไม่ได้รับรู้ความกังวลที่แท้จริงของมีนา แต่ชายหนุ่มยังคงพอจะรู้ว่างานในวันนี้เด็กหนุ่มจะต้องพบเจอกับลูกชายคนโตและคนเล็กของเขาอย่างเป็นทางการ ระดับความเครียดของมีนาในตอนนี้ย่อมไม่ธรรมดา
มีนาพยักหน้าอย่างไม่มั่นใจนัก



“ฉันต้องเปลี่ยนชุดก่อน จะขึ้นไปด้วยกันมั้ย?” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วถาม




มีนาพยักหน้า หัวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อยเมื่อตระหนักได้ว่าตนกำลังจะก้าวลึกเข้าไปในโลกอีกใบของร่างสูงที่เขาไม่เคยได้เห็นมาก่อน




เด็กหนุ่มก้าวตามอีกฝ่ายขึ้นบันไดไปเงียบๆ มือเรียวเล็กเอื้อมไปจับชายเสื้อของร่างสูงเป็นที่ยึดเกาะอย่างลืมตัว เป็นพฤติกรรมใหม่ที่มีนาเริ่มจะทำเป็นนิสัยติดตัว และเป็นสิ่งที่ธีรเชษฐ์ไม่นึกอยากให้อีกฝ่ายปรับเปลี่ยน



”นั่นห้องเมฆ นั่นห้องซัน นั่นห้องธาร…”



ธีรเชษฐ์แนะนำอย่างขอไปที เปิดประตูห้องที่อยู่สุดริมทางเดินที่มีนาคิดว่าเป็นห้องนอนของร่างสูง แต่เมื่อมองเข้าไปในห้อง เด็กหนุ่มพบเพียงห้องทำงานเรียบๆห้องหนึ่งที่มีแต่กองเอกสารวางกองระเกะระกะเต็มไปหมด ชุดสูทสั่งตัดสีดำสนิทถูก
แขวนไว้หน้าตู้เอกสารติดผนัง แค่เห็นก็รู้แล้วว่าหากธีรเชษฐ์ใส่แล้วคงจะดูราวกับหลุดออกมาจากเซ็ทถ่ายแบบ




“ทำไมชุดถึงมาอยู่ห้องนี้ล่ะครับ” มีนาอดถามไม่ได้ เขาไม่เชื่อหรอกนะว่าคนที่ได้รับสิทธิ์ในทุกพื้นที่ของชีวิตธีรเชษฐ์อย่างมธุวันจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องนอนของร่างสูง



‘จะนอนห้องฉัน? จริงๆก็ได้อยู่นะ แต่มันนอนไม่ค่อยสบายนะ หืม? เอางั้นเหรอ? ก็ได้ อยากนอนที่ไหนในบ้านนั้นก็นอนเถอะ ถ้าเป็นเธอฉันไม่ว่าอะไรหรอก’




คำพูดของธีรเชษฐ์ในวันนั้นเขายังจำได้ดี




“หมอกเอามาไว้ให้น่ะ เมื่อเช้าพี่แต้วเผลอเอาไปแขวนไว้ในห้องนอน ทำไม อยากเข้าห้องนอนฉันเหรอ?” ร่างสูงยักคิ้วยียวน มีนารีบส่ายหน้าอย่างร้อนตัว เรียกเสียงหัวเราะจากอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี “จะให้พาไปดูก็ได้นะ แต่บอกไว้ก่อนว่าตั้งแต่เกศเสียไป ฉันก็ไม่เคยเข้าไปในห้องนั้นอีก”




ชื่อภรรยาเก่าของชายหนุ่มทำให้มีนาเงียบไปอย่างรู้สึกผิด ธีรเชษฐ์ลูบศีรษะเขาเบาๆ แล้วหันไปสนใจชุดออกงานของตน ร่างสูงถอดเสื้อออกโดยไม่ให้สัญญานเตือนล่วงหน้า แม้มีนาจะเห็นจนไม่มีอะไรให้เห็นแล้ว แต่ใบหน้าของเขากลับยิ่งจะบาง
ลงทุกวันที่ได้เห็น



ถึงอย่างนั้น ดวงตากลมโตก็ยังคงไม่ละไปจากภาพตรงหน้า



เด็กหนุ่มอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าร่างสูงยังคงใช้เข็มขัดที่เขาซื้อให้ไม่ว่าจะใส่ไปทำงานหรือออกงานแบบนี้ มีนาช่วยจัดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายให้เข้าที่ ปัดเศษผงเล็กๆที่เกาะอยู่บนไหล่เสื้อของอีกฝ่ายเบาๆแล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มให้คนรักของตน




“เรียบร้อยครับ”



“อารมณ์ดีกว่าที่คิดนะ” ธีรเชษฐ์บีบจมูกเล็กเบาๆอย่างมันเขี้ยว แม้ว่าแววตาจะยังคงเก็บซ่อนความเป็นห่วงไว้ไม่มิด “ใครจะคิดอะไร…ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องเก็บมาใส่ใจ จำไว้นะมีนา”




“ครับ”





เด็กหนุ่มพยักหน้ารับ แม้การปฏิบัติจริงจะเป็นเรื่องยาก แต่ในเมื่อเขาเลือกที่จะยืนเคยข้างคนคนนี้ อย่างน้อยที่สุด เขาต้อง

พยายาม



“ไปกันเถอะ” มือใหญ่ดึงมือของมีนาเข้าไปในการเกาะกุม



เด็กหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะก้าวออกไปจากห้อง มือเรียวเล็กบีบมือของอีกฝ่ายอย่างหนักแน่น






อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด…



--------------------

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เป็นกำลังใจให้น้องมีนนน

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
ตื่นเต้นแทนน้องมีนน

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
สู้ๆนะคะน้องมีน

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ตื่นเต้นแทน คนอื่นรู้อยู่แล้ว แต่ทินกรยังไม่รู้ แต่คิดว่าเพื่อนคงจะรับได้นะ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 o18 ทะนุถนอมเด็กบ้างคุณเชษฐ์

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เรื่องดี ๆ มักมาก่อนเรื่องไม่ดี สู้ ๆ นะหนูมีน  :a2:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
หนูมีนสู้ๆ รอลุ้นตอนซันรู้เรื่อง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เป็นกำลังใจให้น้องมีน สู้ สู้ นะ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ขอให้ผ่านไปด้วยดีคับ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ทินกรจะโกรธมีนไหมเนี่ย  :katai1:

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เป็นกำลังใจใจให้น้องมีนนน สู้ๆนะลูกกก

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เอ็นดูมีนมาก อยากให้มีความสุขจริงๆ สักทีนะ
ขอให้ซันเข้าใจ และไม่ทิ้งมีนไว้

แหมม คุณเชษฐ์คะ พอจะหวานก็อาการออกมาก
พอได้สารภาพรักกัน ได้เปิดตัวแล้ว ยิ่งหลงหนักเลยจ้า


ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 43: คืนถิ่น



แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น แม้แต่ตัวพวกเขาเองยังบอกไม่ถูกว่าภาพตรงหน้าคืออะไร



สิ่งแรกที่ทำให้มีนารู้สึกผิดปกติคือร่างสูงข้างกายที่จู่ๆก็หยุดเดินไปเสียดื้อๆ ธีรเชษฐ์ยืนนิ่งอยู่กลางสนามหญ้า ดวงตาสีควันบุหรี่จดจ้องอยู่กับภาพตรงหน้าของตัวเอง



สิ่งต่อมาที่มีนารู้สึกผิดปกติคือภาพของทินกรกับเมฆาในชุดสูทสีดำคล้ายคลึงกับของธีรเชษฐ์ ข้างกันนั้นมีภรัณยูที่กำลังถูกเมฆามองด้วยสายตาประหลาดใจอย่างไม่ปิดบัง



แต่สิ่งสุดท้ายที่ทำให้มีนานิ่งค้างไปเช่นเดียวกับคนรัก คือภาพของธารธาราในชุดสูทสีอ่อนโดดเด่นท่ามกลางกลุ่มพี่น้องของตน ดวงหน้างดงามฉายแววอบอุ่นอ่อนโยนอย่างที่มีนาไม่เคยเห็นมาก่อน ข้างกันนั้นมีแทนไทยที่แม้จะตัวโตเป็นยักษ์แต่กลับแทบจะมุดหลบหลังคนรักทั้งตัว ภาพแปลกตานั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองหลุดไปอยู่ในห้วงมิติลี้ลับสักแห่ง



"อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเชียวนะ"



มีนารีบก้าวตามธีรเชษฐ์เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหลุดจากภวังค์ก่อนหน้านี้แล้ว เด็กหนุ่มอาศัยรูปร่างของอีกฝ่ายช่วยพรางตัวเองจากสายตาของคนรอบข้าง แม้จะรู้ว่าไม่ช้าก็เร็ว ทั้งทินกรและแทนไทยก็ต้องเห็นเขา



แน่นอน แทนไทยไม่ใช่ปัญหา เพราะถึงอย่างไร อีกฝ่ายก็คงพอจะรู้เรื่องของเขากับธีรเชษฐ์จากการแอบฟังที่เขากับธารธาราคุยกันก่อนหน้านี้อยู่แล้ว



เจ้าของบ้านเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นคนที่เขาไม่คิดว่าจะได้พบ ถึงแม้มีนาจะหวาดกลัวลูกชายคนรองของธีรเชษฐ์แค่ไหน แต่เด็กหนุ่มก็ยังคงดีใจที่ธารธารายอมมางานวันเกิดของบิดา



"ธาร มากับเขาด้วยเหรอ?"



"ก็ไม่ได้อยากมาหรอกครับ ถ้าเด็กของคุณไม่ตามรังควาญชีวิตผมจนไม่เป็นอันทำอะไรแบบนี้”


คุณชายรองของบ้านกอดอกมองมีนา เด็กหนุ่มร่างเล็กตัวสั่นอย่างหวาดกลัว ไม่ใช่เพราะแววตาเย็นชาของธารธารา



…แต่เป็นเพราะในตอนนี้ ทินกรกำลังหันมาทางเขาด้วยแววตาสับสนไม่เข้าใจ



"มีน? ทำไม..."



"รู้จักกันด้วยเหรอ?" ธีรเชษฐ์ถามทินกร ขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจกับความคิดนั้น


เขารู้ว่ามีนารู้จักกับทินกร ซึ่งในหัวของธีรเชษฐ์ ชายหนุ่มคิดเสมอว่าทั้งคู่คงรู้จักกันอย่างผิวเผินเช่นเพื่อนร่วมสถาบันคนอื่นๆ แต่สีหน้าของลูกชายคนเล็กทำให้เขาคิดว่าคงมีอะไรมากกว่านั้น



"ครับ เพื่อนที่มหาลัย แต่ทำไม.." ทินกรยังคงไม่ละสายตาไปจากมีนา ทุกคนในที่นั้นสามารถเป็นเห็นฟันเฟืองในหัวของเด็กหนุ่มร่างสูงที่กำลังทำงานอย่างหนัดหน่วงเพื่อหาข้อสรุปให้กับชิ้นส่วนของปริศนาตรงหน้า



"ซัน ไปคุยกับเราหน่อยได้มั้ย เราจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง"




ร่างเล็กขอร้องขัดคำพูดของอีกฝ่ายก่อนที่สมองของเพื่อนจะเข้าสู่บทสรุปที่ทุกคนกำลังคิด สายตาของมีนาเว้าวอนอย่างน่าสงสารจนทินกรรีบพยักหน้าโดยไม่ต้องคิด ถึงอย่างไร มีนาก็คือเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเขา เด็กหนุ่มไม่คิดอยากด่วนสรุปอะไรไปไกลจนกว่าจะได้ยินคำอธิบายจากปากของร่างเล็ก



"จะดีเหรอ? ได้ข่าวว่าเพื่อนยังน้อยๆอยู่นี่" ธารธาราเลิกคิ้ว ความเย็นชาในน้ำเสียงบ่งบอกว่ารอยยิ้มที่ประดับอยู่บนริมฝีปากเรียวไม่ได้บ่งบอกถึงความรู้สึกจริงๆสักนิด



"ครับ แต่ผมเหนื่อยที่จะต้องถูกใช้เรื่องนี้ขู่ทุกครั้งที่พูดอะไรแล้ว"




น้ำเสียงของมีนาไม่มีแววประชดประชัน มีเพียงความเหนื่อยล้าเจือปนตามที่เจ้าตัวบอก คนถามมีสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มพึงพอใจ ราวกับเริ่มยอมรับอะไรบางอย่างในตัวเด็กหนุ่มตรงหน้า



ทินกรถูกเพื่อนตัวเล็กลากตัวไปยังอีกมุมหนึ่งของสวน เด็กหนุ่มร่างสูงรู้สึกถึงถึงสายตาของบิดาที่แทบจะเผาไหม้กระโหลกของเขาจนเป็นรู แต่ทินกรเลือกที่จะเก็บความกังวลนั้นไว้ก่อน



“มีน นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?”



ทินกรถามอย่างสับสนเมื่อพวกเขามาถึงศาลานั่งพักซึ่งห่างไกลจากรัศมีการได้ยินของผู้คน ทำไมเพื่อนของเขาถึงได้มางานวันเกิดของบิดาของเขา แถมยังมาพร้อมกับเจ้าของวันเกิดเสียด้วย



“ซัน…เรา…” มีนากัดริมฝีปากของของตัวเองอย่างประหม่า ตัดสินใจว่าพูดออกไปให้มันจบๆน่าจะดีกว่าค่อยๆพูดค่อยๆจาให้คนอ่อนภาษาอย่างทินกรสับสน “เราคบกับคุณเชษฐ์อยู่”



“คบ…” ทินกรเอ่ยทวนอย่างไม่เข้าใจ ราวกับว่านั่นเป็นหนึ่งในคำศัพท์ที่ตนไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิต



มีนาเม้มปาก พยักหน้ารับช้าๆ ดวงตากลมโตประเมินท่าทีของร่างสูงตรงหน้าอย่างใจเย็น



ไม่ว่าทินกรมีคำถามอะไร เขาจะตอบอีกฝ่ายตามความจริงทุกคำถาม



“ตั้งแต่เมื่อไหร่”




หากจะบอกว่าเมื่อวานก็คงจะดูแปลกประหลาดไปสักหน่อย มีนาจึงเลือกวันแรกที่เขาพบกับชายหนุ่มเป็นจุดเริ่มต้น




“ตั้งแต่เปิดเทอม”



“แต่ว่า…ถ้าอย่างนั้น…” ทินกรขมวดคิ้ว ดวงตาสีเดียวกับธีรเชษฐ์แลดูกังวลขึ้นมากับคำตอบของเขา “แฟนที่พายุเคยเจอ…คือพ่อเหรอ?”



มีนาพยักหน้า รู้สึกว่าลำคอของตัวเองตีบตันจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้



“ไอ้ผู้ชายเฮงซวยที่พายุด่าสาปส่งทุกวันเช้าเย็นก่อนอาหาร คนที่ทำนายเป็นแผล คนที่ทำนายร้องไห้ คนสารเลวที่ทำให้
นายไข้ขึ้นจนเป็นลม ไม่เคยโผล่หน้ามาที่มหาลัย ขังนายไว้ในห้อง ไม่เคยยอมให้นายไปไหนมาไหนกับพวกเรา…” มือของทินกรค่อยๆกำแน่นขึ้นในแต่ละความทรงจำที่ผุดขึ้นมาในหัว เขาไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น เขาไม่ใช่คนที่เวลาเกลียดใครก็สามารถป่าวประกาศออกมาได้อย่างเปิดเผยเหมือนพายุ แต่เด็กหนุ่มยอมรับว่ามีอยู่หลายครั้งที่เขานึกอยากจะสั่งสอนคนรักของเพื่อนตัวเล็กให้รู้จักคุณค่าของคนดีๆอย่างมีนาบ้าง



เขาน่าจะเดาได้ตั้งแต่ต้น ว่าคนเลวๆแบบนี้ไม่น่ามีอยู่สองคนบนโลก




“มะ…ไม่ใช่นะ!” มีนารีบปฏิเสธอย่างตกใจ เขาเตรียมตัวเตรียมใจที่จะถูกทินกรโกรธเกลียด ให้อีกฝ่ายมองเขาด้วยสายตาเหมือนที่ธารธาราใช้มอง แต่เขาไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้ที่ทินกรจะหันหัวเรือมุ่งเป้าไปทางบิดา “คุณเชษฐ์ไม่ได้…คือ…”



“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพ่อเป่าหูอะไรให้นายยอมคบกับเขา แต่จะให้ฉันอยู่เฉยๆแล้วปล่อยให้เขาทำกับนายเหมือนที่ทำกับของเล่นชิ้นอื่น ฉันทำไม่ได้”



ทินกรหยิบโทรศัพท์ออกมา มีนารีบคว้าข้อมือของเพื่อนสนิทไว้ด้วยสีหน้าแตกตื่น



“ซัน ทำอะไร?”



“โทรหาพายุ ให้เขามาพานายไปจากที่นี่” ทินกรว่า สีหน้าของเด็กหนุ่มไร้วี่แววของการล้อเล่น



“ซัน! จะบ้ารึไง?!  หยุดนะ!” มีนาไม่เคยขึ้นเสียงกับเพื่อน และครั้งนี้ก็ยังคงห่างไกลจากคำว่าขึ้นเสียงอยู่มากถึงแม้ว่าเสียงร้องของร่างเล็กจะดังที่สุดที่ทินกรเคยได้ยินก็ตาม



แต่ร่างสูงเพียงแค่ยกแขนของตัวเองให้พ้นจากการเกาะกุมของเพื่อน เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น



“มีน นายไม่รู้หรอกว่าผู้ชายคนนั้นทำอะไรได้บ้างเพื่อตัวเอง ฉันรู้ว่าตอนนี้นายยังไม่เห็นความจริง แต่ซักวัน…”



“เราเป็นคนหลอกเขา!” มีนาขัดบทอีกฝ่ายในที่สุด



“อะ…อะไรนะ?” ทินกรเบิกตากว้างมองเพื่อนตัวเล็กของตน



“เราอยากได้เงินไปรักษาแม่ เราเลยไปขายตัว คุณเชษฐ์ซื้อเราไว้ แต่หลังจากที่เขารู้ว่าเรายังไม่สิบแปด คุณเชษฐ์ก็ให้เราช่วยทำงานบ้าน อยู่เฝ้าห้องให้เขา จ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง” มีนาอธิบายอย่างร้อนรน “เขาไม่เคยหลอก
อะไรเรา เรารู้ดีว่าเขาต้องการอะไร“



“ทำไม…ทำไมนายถึงไม่มาขอให้พวกเราช่วย” ร่างสูงถามด้วยสีหน้าเจ็บปวด มีนาถอนหายใจ



“ตอนนั้นเราเพิ่งรู้จักกันแค่วันเดียว เราเจอคุณเชษฐ์หลังจากนั้นไม่นาน”



“มีน…”



“ขอร้องล่ะซัน” มีนาบีบมือของเพื่อนตัวสูงแน่น ดวงตากลมโตเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา “เชื่อใจเราซักครั้งได้มั้ย”



“นาย…รักพ่อมากเลยสินะ” ทินกรถอนหายใจออกมาเฮือกใจ มีนากัดริมฝีปาก หลับตาข่มความอายแล้วพยักหน้าให้กับอีกฝ่าย “แล้วเขาล่ะ รักนายรึเปล่า?”



“เราไม่รู้...” มีนาตอบอ้อมแอ้มเสียงเบา “หลังจากที่เขาขอคบกับเรา เรื่องอนาคตก็มีคุยกันบ้างแต่ไม่ได้...”



“เดี๋ยวๆๆๆ” คนฟังตาลีตาเหลือกอย่างตกใจ “ย้อนกลับไปซิ นายว่าอะไรนะ? ขอคบ?”



“….” มีนาพยักหน้า



“พ่อ...พูดออกมาว่าชอบนาย ขอคบกับนาย แล้วยังคุยเรื่องอนาคตกันด้วยงั้นเหรอ?”



“…”ร่างเล็กยังคงพยักหน้าแดงก่ำไปจนถึงใบหู



“ที่มาวันนี้...คือพ่อตั้งใจจะเปิดตัวนายให้ทุกคนรู้จักตั้งแต่แรกอยู่แล้ว?”



“…อื้อ…”



ทินกรนิ่งไปซักพักกับคำตอบของเพื่อนตัวเล็ก ก่อนจะยกมือขึ้นด้วยสีหน้าจนใจ




“เอาล่ะ ถ้านายมั่นใจว่าพ่อจะไม่ทำให้นายเสียใจ ฉันก็จะไม่ห้าม แต่ขออะไรอย่างนึงได้มั้ย?” ทินกรถามด้วยสีหน้าจริงจัง มี
นารีบพยักหน้าแม้จะไม่รู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการคืออะไร



“ได้สิ อะไรเหรอ?”



“อย่าเพิ่งบอกพายุ”



“เอ๊ะ?” มีนากระพริบตาปริบๆ เมื่อกี้อีกฝ่ายยังยืนกรานจะโทรหาเพื่อนมาเอาตัวมีนาไปอยู่เลย



“ฉันอยากเห็นหน้ามันตอนที่รู้...ไม่สิ ฉันอยากอัดวีดีโอหน้ามันตอนที่รู้ความจริง” เด็กหนุ่มลูกเสี้ยวรัสเซียขยับยิ้มมุมปาก หัวเราะหึๆออกมาด้วยสีหน้านึกสนุกที่ทำให้มีนาเริ่มเห็นภาพอีกฝ่ายซ้อนทับกับคนเป็นพ่อ



“…” แม้จะอยากตักเตือนแต่มีนาคิดว่าตนไม่อยู่ในสถานะที่จะทำอย่างนั้นนัก เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างจำยอม ได้แต่ภาวนาไม่ให้พายุโกรธเขามากนักเมื่อความจริงปรากฏ











ทางฝั่งของธีรเชษฐ์นั้น หลังจากที่มีนาลากบุตรชายคนเล็กของตนไปจนลับสายตา ความสนใจของร่างสูงจึงกลับมาอยู่ที่คน
ที่เหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกชายคนรองที่จ้องมองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรนัก



“พี่อุ่น..”



เจ้าเด็กผมบลอนด์ตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างธารธาราเอ่ยเป็นเชิงเตือน ธีรเชษฐ์ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นใคร แต่ภาษากายของคนทั้งคู่และสีหน้าไม่สบอารมณ์ของเมฆาทำให้ธีรเชษฐ์รู้ว่ามีบางอย่างที่เขาไม่ชอบใจนักเกิดขึ้นระหว่างสองคนนี้
เจ้าของชื่อขบกรามเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจ



"ผมมีเรื่องจะคุยด้วย"



ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ แค่ธารธารายอมมางานในครั้งนี้ก็ผิดวิสัยมากพออยู่แล้ว ทิฐิของลูกชายเขาสูงแค่ไหนคนที่ถ่ายทอดวิชาให้อย่างคนเป็นพ่อหรือจะไม่รู้ นี่ถึงขั้นเป็นฝ่ายกลับมาแถมยังขอพูดด้วยแบบนี้ คงไม่ได้คิดด้วยตัวเองแน่
ว่าแล้วก็เหลือบมองเจ้าเด็กแปลกหน้านั่นอีกสักที



“ไปคุยในบ้าน"



 ธีรเชษฐ์ตอบเสียงราบเรียบไม่แพ้กัน หมุนตัวหันหลังเดินกลับไปยังตัวบ้านโดยไม่คิดจะรอลูกชายคนรองที่เดินตามไปเงียบๆ ชายหนุ่มพาธารธาราเข้าไปในห้องทำงาน อดนึกไพล่ไปถึงสมัยก่อนที่ตนเคยนั่งทำงานโดยมีลูกชายคนรองในชุด
กระโปรงสีหวานปีนขึ้นมานั่งบนตักพร้อมรอยยิ้มเผล่อย่างมีความสุขไม่ได้



“ลมอะไรหอบมาล่ะ” แม้จะอยากถามสารทุกข์สุกดิบ อยากรู้ความเป็นไปในชีวิตของอีกฝ่าย แต่ธีรเชษฐ์ยังคงไม่รู้ว่าจะพูดกับลูกชายคนรองอย่างไร



เขาเคารพการตัดสินใจของธารธารา เมื่ออีกฝ่ายไม่ต้องการมีเขาเป็นพ่อ คำเรียกแทนตัวของพวกเขาทั้งสองจึงไม่ต่างอะไรกับคนรู้จัก แม้ว่าเขาจะไม่ได้ติดต่อกับอีกฝ่ายเลยก็ตาม



“ก็แค่อยากมาเห็นว่าคุณจะโดนปอกลอกไปแค่ไหน” ธารธาราไหวไหล่ “แต่ตัวติดกันแบบนี้ คงยอมหมดทุกอย่างแล้วสินะ”



“อย่าเอาคนนอกมายุ่งกับเรื่องของเราเลย” ธีรเชษฐ์เอนพิงโต๊ะทำงานของตน กอดอกมองลูกชายนิ่ง รู้ดีว่าอีกฝ่ายเพียงแค่
อยากยั่วโมโหตนเท่านั้น “ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้สนใจว่าเงินในบัญชีฉันจะติดลบไปแค่ไหนหรอก จริงมั้ย?”




“ใครจะรู้ บางทีวันที่คุณไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว ผมอาจจะกลับมาแล้วกวาดเอาทุกอย่างของคุณไปจากเด็กนั่นก็ได้” ธารธาราไหวไหล่ “ต่อให้ผมไม่อยากได้ แต่ถ้าได้เห็นของที่คุณเหลือไว้ให้เด็กนั่นวางอยู่ในตู้โชว์ คงสนุกพิลึก”



“อยากได้ก็เอาไปสิ” ธีรเชษฐ์ตอบเสียงนิ่ง ดวงตาสีควันบุหรี่สบกับดวงตาสีอัลมอนด์ที่ถอดแบบมาจากมารดาไม่ผิดเพี้ยน


“เพราะของที่ไม่ใช่ชื่อของเมฆกับซันในตอนนี้ ยังไงก็เป็นชื่อเธอทั้งหมดอยู่แล้ว”



“….” ธารธารานิ่งไปกับคำตอบของร่างสูง



“ถ้าธุระมีแค่นี้ ฉันขอตัว” ธีรเชษฐ์ผละจากโต๊ะทำงานด้วยสีหน้าเรียบเฉย แม้ในใจจะอยากให้ช่วงเวลาที่เขาได้เห็นหน้าลูกชายคนรองอยู่นานขึ้นอีกสักนิดก็ตาม



“คุณจะไม่แก้ตัวจริงๆเหรอ?”



เสียงหวานดังขึ้นหยุดมือที่กำลังจับลูกบิดประตูไว้กับที่ ธารธาราหันมาเผชิญหหน้ากับเขา หน้ากากที่ถูกสวมไว้อย่าง
ระมัดระวังมาตลอดหลายปีถูกกระชากทิ้งอย่างไม่ใยดี แววตาของร่างโปร่งในตอนนี้หากสามารถฆ่าคนได้ธีรเชษฐ์คงจะตาย
ไปนานแล้ว



“…”



“สามปี....ผมรอคุณมาสามปี ผมรอให้คุณมีคำอธิบาย รอคำแก้ตัวบ้าๆบอๆที่ฟังไม่ขึ้นแต่ผมก็ยังรู้ว่าคุณกำลังพยายาม รออะไรก็ได้ที่ทำให้ผมเห็นว่าคุณยังใส่ใจผมบ้างซักนิด!!” เสียงที่ไม่เคยตะโกนใส่ใครอย่างเกรี้ยวกราดนอกจากบิดาแท้ๆดังก้องไปทั่วทางเดิน “ต่อให้ผมรู้ว่าคุณจะไม่รักษาสัญญา แต่ผมก็รอให้คุณกลับมา รอคำสัญญาว่าคุณจะเป็นคนที่ดีกว่านี้ ว่าคุณจะพยายามมากกว่านี้เพื่อผม เพื่อซัน เพื่อพี่เมฆ แล้วนี่อะไร? แล้วนี่มันอะไร?! คุณเปลี่ยนตัวเองเพื่อเด็กขายตัวคนเดียว คุณทำทุกอย่างเพื่อเด็กนั่น แล้วผมเป็นตัวอะไร? แล้วลูกของคุณเป็นตัวอะไร!!!!”



ธารธารากระชากคอเสื้อของอีกฝ่าย ร้องตะโกนอย่างเดือดดาลจนเสียงหวานแตกพร่า ธีรเชษฐ์ยืนยิ่ง เตรียมตัวรับหมัด ฝ่ามือ หรืออะไรก็ตามที่ธารธาราเห็นว่าเหมาะสมที่จะใช้ลงโทษพ่อเลวๆอย่างเขา



แต่สิ่งที่อีกฝ่ายใช้ มีเพียงหยาดน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวยและสีหน้ายอมแพ้ ริมฝีปากเรียวสั่นระริกตามแรงสะอื้นที่กลั้นไว้ไม่อยู่




“แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังรักคุณ...” น้ำเสียงของธารธาราเจ็บใจ แต่ธีรเชษฐ์รู้ว่าคนที่อีกฝ่ายกำลังแค้นอยู่นั้นคือตัวของธารธาราเอง “ทำไมคนเลวๆอย่างคุณถึงยังมีอิทธิพลกับชีวิตผม ทำไมผมถึงเกลียดคุณไม่ได้ ทำไมผมถึงไม่ยอมตัดคุณออกไปซักที...”




“ขอโทษ...” นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ธีรเชษฐ์สามารถพูดออกไปได้ในตอนนี้ ชายหนุ่มไม่กล้าแม้แต่จะยกมือขึ้นโอบกอดร่างที่สั่นสะท้านจากแรงสะอื้น




“ผมเหนื่อยแล้ว...” เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นในที่สุด ดวงของธารธาราแดงก่ำจากการร้องไห้ สีหน้าของร่างโปร่งดูเหมือนจะล้มลงไปกับพื้นได้ทุกเมื่อ “ผมพอแล้ว...”



“ขอโทษ...” ธีรเชษฐ์รู้ว่าคำขอโทษของตัวเองไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงอยากจะขอโทษคนตรงหน้าต่อไป




“ผมแค่อยากมีความสุข...” น้ำเสียงยอมแพ้ต่อทุกสิ่งทุกอย่างนั้นราวกับหมักลุ่นๆกระแทกเข้าที่อกของคนฟัง “ผมแค่อยากเป็นคนที่สมบูรณ์ให้คู่ควรกับที่แทนรัก ทำไมผมถึงทำไม่ได้”



“ทุกอย่างเป็นความผิดของฉัน” ธีรเชษฐ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จับไหล่ทั้งสองข้างของธารธาราไว้มั่นแล้วจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่ยังคงแดงก่ำจากการร้องไห้ราวกับจะตอกย้ำทุกคำพูดเข้าไปในโสตประสาทของอีกฝ่าย “เธอเป็นคนที่สมบูรณ์ ธาร เธอคู่ควรกับความรักของไอ้เด็กนั่นไม่ว่าใครจะพูดยังไง เธอจะเป็นคนที่มีความสุข เธอไม่ใช่คนเลวในเรื่องนี้ เข้าใจมั้ย”




“ใช่…ทุกอย่างเป็นความผิดของคุณ” ธารธาราพยักหน้าอย่างว่าง่าย พึมพำซ้ำไปซ้ำมาอย่างอ่อนแรง“ของคุณทั้งหมด”



“เก่งมาก...” ธีรเชษฐ์ยิ้มออกในที่สุด อยากจะยกมือขึ้นลูบศีรษะของเด็กตรงหน้าแต่ไม่กล้าพอ



“เพราะมันเป็นความผิดของคุณ คุณถึงต้องรับผิดชอบ” ธารธาราผละออกจากอีกฝ่าย หลบสายตาเป็นกังวลจากบิดาของตน


“ผมจะต้องมีความสุข แล้วถ้าความนั้นหมายถึงยอมให้อภัยคุณ ผมจะทำเพื่อแทน”



“จะเอาอย่างนั้นเหรอ” ธีรเชษฐ์ถามอย่างประหลาดใจ จากบทสนทนาเมื่อครู่ เขาไม่คิดว่ามันจะมีผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบนี้



“ใช่ ผมจะทำ ต่อให้ผมเกลียดที่จะต้องทำมันแค่ไหน แต่ถ้ามันจะทำให้แทนมีความสุข ผมจะให้อภัยคุณ” ธารธาราสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบสติอารมณ์ “อย่าเข้าใจผิด ผมไม่คิดจะกลับไปเรียกคุณว่าพ่อ ผมไม่มีวันจะเรียกคุณว่าพ่อ”
ธีรเชษฐ์พยักหน้า แม้จะตระหนักถึงความจริงข้อนี้ดี แต่การได้ยินด้วยตัวเองอีกครั้งก็ยังคงทิ้งรอยแผลไว้ไม่ต่างจากครั้งไหน




“แต่ผมจะกลับมา ทุกวันเกิดซัน วันเกิดพี่เมฆ วันครบรอบวันที่แม่เสีย ผมจะกลับมา แล้วคุณจะต้องอยู่ตรงนั้น เพราะนั่นคือความรับผิดชอบของคุณที่มีกับครอบครัวที่แทบจะไม่เหลืออยู่นี่” ธารธาราเอ่ยเสียงแน่วแน่ ราวกับจะกล่อมตัวเองให้ฟัง “ซักวัน ผมจะมองคุณได้เต็มตา โดยที่ไม่นึกถึงผู้ชายที่ฆ่าแม่ของผม ผู้ชายที่เกือบจะทำให้พี่ชายของผมตาย แล้วผมจะกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง”



“ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องการ” ธีรเชษฐ์พยักหน้า แม้จะรู้ว่าการกระทำจริงนั้นไม่ได้ง่ายดายเหมือนคำพูดก็ตาม



แต่หากนั่นเป็นสิ่งที่ธารธาราเรียกร้อง เขาก็ไม่คิดจะปฏิเสธ




เพราะคำขอแสนบิดเบี้ยวของธารธารา เป็นคำขอแรกของอีกฝ่ายหลังจากคำว่า ‘ไปให้พ้นหน้าผม’ ในวันที่เมฆาประสบอุบัติเหตุ




แล้วแบบนี้...คนเป็นพ่ออย่างเขาจะปฏิเสธได้อย่างไรกัน



ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ลุงเชษฐ์เกือบจะได้ลูกชายคนรองกลับมาแล้ว ถึงจะแบบไม่ธรรมดาก็เถอะ ซึ่งมันคงยากที่จะทำใจให้อภัยกันได้ง่ายๆ ยกความดีให้แทนไทที่ทำให้ธารคิดได้ .

ส่วนน้องซันรู้จักพ่อตัวเองดีจนอยากปกป้องเพื่อนจากจอมมาร น่ารักอ่ะ
จากนี้น้องมีนน่าจะมีความสุขจริงๆ ซักทีนะ.

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
เหมือนจะเคลียร์แต่ยังรู้สึกค้างคา :mew6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เหมือนจะดีขึ้นนะะะ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
เป็นการเคลียร์ปัญหาระหว่างธารกับธีรเชษฐ์ไปได้นิดหนึ่ง นิดหนึ่งจริงๆ

สรุปปัญหาของมีนเรื่องซัน สรุปซันเข้าข้างมีน ไม่โทษมีนเท่าไรเลย ดีแล้วสงสารน้องมากเลย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตอนนี้ซันได้ใจเราไปเต็ม ๆ เลยอ่ะ  o13

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
สองพ่อลูกติดตรงที่ไม่คุยกันอย่างเดียวเลยจริงๆ
ลูกก็อยากให้พ่อไปหาให้พ่ออธิบายแต่พ่อก็ดันปักใจกับคำพูดของลูกไปแล้ว
หวังว่าจากนี้ความสัมพันธ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านซันกับมีน คือโล่งใจ ซันคือพระอาทิตย์จริงๆ :katai2-1:
พออ่านมาถึงพ่อกับลูกคนรองเท่านั้นแหละ ชั้นสงสารธารรรรร :sad4:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รอเวลาให้ทุกอย่างมันดีขึ้น

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
รอดูเมฆตกใจ แต่ขอโทษนะที่แฟนลูกชายควไม่ตกใจ

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
ได้เป็นแม่ซันจริงๆแล้วน้องมีนน

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ธารยังต้องใช้เวลาอีกเยอะ
แค่ยอมรับเท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว
สกิลของซันตอนบรรยายพ่อว่าผู้ชายเฮงซวยนู่นนี่นั่นคือแบบน้องจะสกิลดีกับเรื่องแบบนี้และละครสินะ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด