LengZab 9
#พี่เล้งแซ่บมาก
โตแล้วคิดเอง 50%
“กูหวงมึง”
เล้งพูดจบก็หลับตาลงทันทีแต่มันก็ทันเห็นอีตัวดีแก้มแดงแปร๊ดลามไปยั้นลำคอและใบหู มันได้ยินเสียงอีตัวดีบ่นหงุงหงิงนั่งบิดไปบิดมาซักพักเล้งก็เคลิ้มหลับไปจริงๆ เล้งตื่นขึ้นมาอีกทีตอนเกือบสี่ทุ่มอีตัวดีก็ยังนั่งให้เขาหนุนตักอยู่ที่เดิมไม่ได้หนีไปไหน มือมันกดโทรศัพย์ยิกๆน่าจะคุยไลน์กับอันอัน พอเห็นว่าเล้งลืมตาตื่นก็หันหน้าหนีหลบตาซ่อนความเขินอาย
เวลาปกติล่ะขยันไปอ่อยไปอ้อนเขาที่อู่นัก พอเขาพูดหยอดคำสองคำอีตัวดีก็สิ้นท่าเขินบิดเป็นกุ้งจนน่ารังแก เล้งลุกขึ้นนั่งในขณะที่ย้งยี้ก็ขยับขาขาวๆของมันไปมา สีหน้าบิดเบี้ยวเพราะเหน็บกิน เล้งจับท่อนขาเล็กของมันมาดู เรียวขาขาวของมันขึ้นสีแดงปื้นใหญ่ตรงจุดที่เขานอนหนุนขาของมันเล้งเอาขาของย้งยี้พาดบนตักแล้วนวดๆคลึงๆให้มันอย่างเบามือ
“เหน็บกินทำไมไม่บอก ทนนั่งทำไม?”เขาดุมันไม่จริงจังนัก
“ก็เห็นพี่เล้งหลับสบายย้งไม่อยากปลุก”
“ย้ง...”เล้งจับขาของอีย้งนิ่งมันจ้องหน้าคนเด็กกว่าด้วยสายตาจริงจัง
“จ๋า...”อีตัวดีพอถูกพี่เล้งเรียกด้วยน้ำเสียงนิ่งๆก็ขานรับเสียงหวาน อย่างน้อยถ้าจะโดนพี่เล้งด่าพูดหวานๆลดโทษกึ่งหนึ่ง
“เห็นแก่ตัวซะบ้าง นึกถึงตัวเองเยอะๆอย่าเอาแต่นึกถึงกูอย่างเดียวสิ”เล้งเริ่มนวดขาให้ย้งอีกครั้ง
“บางทีกูก็รู้สึกว่ากูเห็นแก่ตัว ในขณะที่มึงทำดีกับกูทุกอย่างแต่กูไม่เคยทำอะไรดีๆให้มึงเลย”
“ไม่จริงซักหน่อย”ย้งยี้เถียงกลับทันทีทันใด
“ใครบอกว่าพี่เล้งไม่ทำอะไรให้ย้ง เท่าที่มีมาถึงทุกวันนี้สิ่งดีๆที่พี่เล้งทำให้ย้งน่ะมีเยอะจนนับไม่ถ้วนเลยนะ”ย้งยี้กุมมือเล้งที่บีบต้นขาของตัวเองไว้
“แค่มีพี่เล้งอยู่ในชีวิตอ่ะ ย้งก็มีความสุขที่สุดแล้ว นี่ไงพี่เล้งให้ความสุขกับย้งในขณะที่คนอื่นทำได้ดีไม่เท่าเลยซักกะนิด”
“มึงมันพูดเก่ง เข้าใจพูด”เล้งว่ามัน แต่มุมปากกลับแต้มรอยยิ้มของความพึงพอใจ
“พี่เล้ง...ย้งถามอะไรหน่อยสิ”คราวนี้ดวงตากลมที่เคยทอแสงราวลูกแก้วที่เล่นแสงไฟสงบลง
ไม่มีวี่แววของความขี้เล่นมีเพียงดวงตาที่ส่งผ่านความจริงจังมาให้จนเล้งอดที่จะกลืนน้ำลายด้วยความคอแห้งไม่ได้
“อะไร?”
“ตอนนี้...พี่เล้งคิดยังไงกับย้งอ่ะ?”ย้งยี้ก้มหน้างุดเมื่อเอ่ยคำถามคาใจออกไป
เพราะการกระทำที่ผ่านมาทั้งสองวันทำให้ย้งยี้มีความหวัง
และแน่นอนเฉกเช่นมนุษย์ปุถุชนคนทั่วไป
เมื่อมีความหวังแล้วย่อมไม่ปรารถนาที่จะผิดหวัง หากแต่เล้งกลับถอนหายใจเฮือกใหญ่ น้ำเสียงนุ่มเรียบไม่ได้ต่างจากเมื่อครู่เลยซักนิด
“โตแล้วคิดเอง”แล้วพี่เล้งก็ลุกไปทำรายงานเอาเสียดื้อๆปล่อยให้ย้งนั่งคิดเองตั้งนานสองนาน
แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าตกลงแล้วความรู้สึกที่พี่เล้งมีให้กับย้งน่ะเพราะรักหรือแค่กันท่าย้งออกจากคนอื่น
ย้งยี้นอนไม่หลับ มันพยายามข่มตาหลับแล้วแต่ก็ทำไม่ได้ซักที
อยากจะตีพี่เล้งนัก มาพูดอะไรแบบนั้นแล้วลุกไปทำรายงานหน้าตาเฉยได้ยังไง
เป็นอะไรกันถึงมาพูดว่าหวงทั้งที่เมื่อวานซืนเพิ่งบอกให้มันลองเปิดใจกับใครใหม่ๆอยู่แหมบๆ พี่เล้งย้อนแย้งจังเลยแบบนี้ย้งควรทำยังไงดีล่ะ
ตัวเองล่ะนอนหลับหน้าตาเฉยปล่อยมันตาค้างมาครึ่งค่อนคืน
พอถามว่าคิดยังไงกับย้งก็ดันบอกให้ไปคิดเอาเอง
ถึงย้งจะโตแล้วก็ใช่ว่าย้งจะฉลาดซักหน่อย
บางเรื่องย้งก็คิดเองไม่เป็น
พี่เล้งนิสัยไม่ดี!!
ตอนเช้าย้งยี้กับเล้งก็ยังดำเนินชีวิตตามปกติ เล้งไปตลาดซื้อกาแฟปาท่องโก๋และไข่ลวกไปให้ป๊า มีข้าวต้มปลาที่ย้งยี้ทำไปฝากด้วยถุงใหญ่ พอเสร็จเรียบร้อยก็พาอีตัวดีไปส่งที่โรงเรียน วันนี้เขาเจอกับไอ้เด็กหน้าเหมือนสันติสุขอีกแล้ว เล้งไม่รู้ตัวเลยซักนิดว่าตัวเองแสยะยิ้มเย้ยใส่โจ้ไปแต่อันดามันเห็นเต็มตา หน้าตาของเล้งน่ะ...
กวนส้นตีน...หน้าตาของเล้งนั้นกวนส้นตีนสุดๆ
มันมีความเยาะเย้ยและท้าทาย อันดามันรีบเดินมาหาย้งยี้โดยมีโจ้เดินตามมาด้วย
“ย้งยี้เรามีเรื่องต้องคุยกัน”อันดามันลากย้งยี้มานั่งที่โต๊ะประจำ
“เมื่อวานมันยังไงทำไมพี่เล้งพูดแบบนั้น ตกลงคบกันแล้วเหรอ?”
“ไม่รู้อ่ะ”ย้งยี้ตอบตามจริง มันเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวของมันกับพี่เล้งตอนนี้อยู่ในฐานะไหน สำหรับย้งแล้วมันแน่นอนอยู่แล้วที่พี่เล้งคือยอดชายในดวงใจ ไม่ว่าพี่เล้งจะปากหมา ด่าเก่งแค่ไหนพี่เล้งก้ยังเป็นที่หนึ่งในใจย้งเสมอ
แต่สำหรับพี่เล้งแล้ว ย้งอยู่ในฐานะไหนย้งก็ไม่รู้
“อะไร๊ เค้าพูดขนาดนั้นยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ”
“ก็เขาไม่ได้พูดออกมาตรงๆนี่นา”
“แล้วทำไมไม่ถาม”อันดามันลากเสียงถามอย่างหงุดหงิด อยากจะหยิกเพื่อนรักให้เนื้อเขียวนัก ยอมให้เขาทำอะไรๆไปตั้งเยอะแต่ดันไม่รู้ว่าตกลงเป็นอะไรกับเขา เสียทั้งขึ้นทั้งล่อง
“ถามแล้ว”ย้งยี้ตอบด้วยเสียงเนือยๆ
“อ๊าว แล้วเขาตอบว่ายังไง”อันดามันยืดตัวตรงอย่างอยากรู้พลอยทำให้โจ้ที่นั่งฟังเงียบๆต้องยืดตัวตามไปด้วย
“พี่เล้งบอกว่า โตแล้วคิดเอง”
“พี่เล้งจะมากั๊กแบบนี้ไม่ได้นะ แบบนี้ถ้าคิดว่าพี่เล้งชอบแต่วันหนึ่งเขาบอกว่าย้งคิดไปเองเราไม่หน้าแตกเหรอ ทำไมย้งไม่ถามจิกไปล่ะ”
“กลัวพี่เล้งรำคาญอ่ะ อีกอย่างพี่เล้งไม่ชอบคนเซ้าซี้ถามมากๆโดนดุทำไงล่ะ”
“อีพี่เล้งนี่ก็แปลก จะเอาไงก็ไม่พูดตรงๆ จะรักหรือๆไม่รัก กั๊กอยู่ได้ พอมีใครเข้ามาก็หวงก้าง”
“อันอันไม่ว่าพี่เล้งสิ”ย้งยี้ทำเสียงออดใส่เพื่อน
ก็เป็นอย่างนี้ทุกที ว่าไม่ได้เลยพี่เล้งเนี่ย
“ย้งยี้ชอบพี่คนนั้นเหรอ”คราวนี้โจ้ที่นั่งฟังมานานถึงกับออกปากถาม ใจไอ้หนุ่มรู้สึกปวดจึ๊กๆขึ้นมาทันทีทันใด ย้งยี้แก้มแดงพยักหน้าหงึกๆอย่างยอมรับ
“เราไม่ได้ชอบพี่เล้งนะ แต่เรารักพี่เล้ง รักมากๆเลย”
“เสียใจจัง”โจ้ไม่คิดจะปิดบังความรู้สึกของตัวเองเลยซักนิดเด็กหนุ่มยกมือลูบอกอย่างใจหาย ตัดพ้อโชคชะตาในใจ ทำไมเขาเจอคนน่ารักช้าไป
“ถ้าเราเจอย้งเร็วกว่านี้ก็คงดี”
“ต่อให้แกเจอย้งเร็วกว่านี้ก็ไม่มีหวังหรอก”อันดามันที่นั่งใกล้โจ้หันไปท้วง
“อ้าว ทำไมล่ะ?”
“ก็ย้งยี้น่ะรักพี่เล้งตั้งแต่ยังไม่สิบขวบ”
“แต่ถ้าเขายังไม่ได้ตกลงจะคบกับย้ง เราพอมีโอกาสมั้ยอ่ะ?”โจ้ที่คิดว่าตัวเองไม่ควรทิ้งโอกาสนานเอ่ยถามออกไปตรงๆเล่นเอาย้งยี้กับอันดามันตาเหลือกกับความตรงไปตรงมานี้ของโจ้
“คือ...โจ้ไม่ได้เข้ามาหาเราเพราะอยากเป็นเพื่อนกับเราหรอกเหรอ?”ย้งยี้เอ่ยถามตามประสาซื่อ
คือย้งยี้ตกใจอยู่ ย้งยี้ไม่คิดว่าคนที่เข้ามาทักทายตนเมื่อสองวันก่อนจะเข้ามาจีบ ย้งยี้คิดว่าโจ้ก็เหมือนเพื่อนคนอื่นๆเข้ามาเพราะอยากเป็นเพื่อนกับย้ง เกิดมาย้งไม่เคยโดนใครจีบเลยซักครั้ง มีแต่ย้งนี่แหละที่หมั่นไปเต๊าะพี่เล้ง พอมาเจอของจริงก็อดใจเต้นไม่ได้
“เราอยากจีบย้ง แต่คิดว่าถ้าเข้ามาจีบตรงๆย้งจะกลัว”
“แต่ตอนนี้เราก็กลัวแล้วนะ คือเราทำตัวไม่ถูก”ย้งยี้เอ่ยขัดขึ้นมาทันใด ตั้งแต่เกิดมา 17 ปี ก็มีแต่มันที่ไปจีบพี่เล้ง ย้งรู้สึกว่าการโตเป็นผู้ใหญ่ชักจะยุ่งยากเกินไป ย้งไม่ได้เตรียมใจมาเพื่อนการณ์นี้ อันดามันเห็นท่าทางอึดอัดที่ย้งยี้มีให้โจ้ก็ให้นึกสงสาร ถ้าดูจากความใส่ใจที่โจ้มีให้ย้งยี้ ตัวอันเองก็ไม่เห็นว่าจะขี้ริ้วขี้เหร่อะไร
ดีด้วยซ้ำ โจ้จะเป็นตัวเร่งปฏิกริยาของเล้งที่เฉยเมินใส่เพื่อนของตัวเองมาตลอด
ดูได้อย่างเมื่อวานแค่โจ้แนะนำตัวก็ออกปากกันท่าซะขนาดนั้น
“นี่ ก็เป็นเพื่อนกันไปก่อนสิ ย้งเองก็อย่าตัดโอกาสตัวเอง ถ้าพี่เล้งเขาไม่ได้รักไม่ได้ชอบย้ง อย่างน้อยก็มีโจ้อยู่อีกคนนะ”
“ทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะ โจ้เป็นโจ้จะให้มาแทนพี่เล้งได้ยังไง ไม่มีใครแทนใครได้ซักหน่อย โจ้ก็มีคุณค่ามีดีในแบบของโจ้เองนะ”ย้งยี้พูดให้กำลังใจโจ้ เด็กหนุ่มยิ้มให้กับคำพูดซื่อๆนั้น
“ตอนเรามองย้งจากในสนามเราว่าย้งน่ารักแล้วนะ แต่พอได้มาคุยด้วยย้งน่ารักกว่าที่ตาเห็นอีก น่ารักตรงความคิดอ่ะ ยังไงก็รับเราเป็นเพื่อนซักคนนะ อย่าเพิ่งกลัวเรา อย่าหนีเราซะล่ะ”
“ฮื่อ เป็นเพื่อนกันเนอะ”ย้งยี้ยิ้มกว้างให้กับโจ้ โจ้แทบจะตาพร่ากับความสดใสนี้ ย้งยี้ไม่ต่างอะไรกับพระอาทิตย์ดวงน้อยๆที่ทอแสงจ้าจนแสบตาเลยซักนิด
“ปกติเราไม่ค่อยชอบสถานะเฟรนด์โซน แต่เราก็ไม่อยากเสียคนน่ารักๆแบบย้งไป เป็นเพื่อนกันก็ได้”โจ้ยื่นมือไปข้างหน้าย้งยี้กับอันดามัน ย้งยี้หัวเราะเบาๆก่อนจะวางมือตัวเองลงบนหลังมือของโจ้ ตามด้วยอันดามันที่วางมือทับลงมา
“เพื่อนกันตลอดไป เย้”ทั้งอันดามันและย้งยี้ตะโกนออกมาดังๆพลางหัวเราะกันคิกคัก มีเพียงโจ้เท่านั้นที่ยิ้มแห้งหัวเราะแหะๆอยู่คนเดียว
ไม่ได้เต็มใจจะเป็นเพื่อนเล้ย คอยดูถ้าไอ้พี่เล้งนั่นทำย้งยี้เสียใจเขาจะเสียบแทนเอง
“ไอ้เล้ง เย็นนี้ไปอู่ป่าว?”เจงเอ่ยถามเล้งหลังจากชั่วโมงเรียนแสนน่าเบื่อจบลง ปกติเขาจะเข้าอู่กันทุกเย็นแต่พอย้งยี้ต้องอยู่คนเดียวเล้งเลยปิดอู่ในตอนเย็นนอกจากวันไหนแปะหลิวเกินขยันเปิดจนมืดลูกค้าถึงเอารถมาทำได้
“เออไป ว่าจะทำรถของอาจารย์บุ๋มให้เสร็จๆไป”
“กูว่าจะถามมึงหลายหนแล้วไม่มีโอกาสซักที กูถามมึงตรงๆเลยนะไอ้เล้งว่ามึงกับอาจารย์บุ๋มถึงไหนกันแล้ว?”เจงเอ่ยถามคำถามคาใจ
“ไม่ถึงไหน กูแค่ไปหลบฝน”เล้งยักไหล่ตอบ
“ถ้าแค่หลบฝนทำไมเขาดูวอแวมึงแท้วะ สาบานมั้ยว่าระหว่างหลบฝนมึงไม่ได้ทำอะไรกับเขา”คราวนี้เป็นอินที่คาดคั้นเล้ง
ใช่ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ชายใสสะอาด
โตจนอายุ 20 แล้วมันก็ต้องมีกันบ้าง เขาเองก็รู้ว่าผู้ชายวัยรุ่นอยู่กับผู้หญิงที่ตั้งใจจะทอดสะพานให้ยังไงก็คงต้องมีการพลั้งเผลอกันบ้าง
“ไม่มีอะไรหรอก แค่จูบ”เล้งไม่ได้อยากจะสาวไส้ให้กากิน เรื่องวันนั้นถ้าจะถามหาคนผิดก็คงเป็นตัวเขาเองที่ไม่ระงับอารมณืตัวเองปล่อยให้มันเลยเถิด
“ชิบหาย...”
“ย้งยี้รู้หรือเปล่า?”
ไม่รู้ กูไม่ได้บอก พอฟ้าผ่ากูตกใจกูนึกได้ว่าย้งมันกลัวฟ้าร้องฟ้าผ่ากูก็กลับเลย”เล้งหมุนปากกาในมือเล่น
ให้รู้ไม่ได้หรอก ถ้ารู้มีหวังได้งอนเขาอีกรอบ
ถ้ารู้ว่าเขาอารมณ์ค้างจากแก้มบุ๋มไม่รู้อีตัวดีมันจะเสียใจขนาดไหน
“เล้ง กูถามมึงจริงๆนะ กับอีย้งน่ะมึงรู้สึกยังไงกับมัน”ปากกาในมือของเล้งหยุดลงทันทีที่ได้รับคำถามจากเจง เล้งถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
ทำไมมีแต่คนถามกูแบบนี้วะ”
“ก็สิ่งที่มึงเป็นอยู่ทุกวันนี้มันไม่ชัดเจนไง บางทีมึงก็เหมือนไม่คิดอะไรกับมัน แต่สิ่งที่มึงแสดงออกคือห่วงมัน ดูแลมัน กูงงว่ะ กูไม่เข้าใจตกลงมึงรู้สึกยังไงกับมันกันแน่วะ”
“มันจำเป็นต้องพูดด้วยเหรอวะ ทำไมจะต้องบอกว่ารู้สึกยังไงกัน แค่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ”
“กูถามมึงจริงๆเถอะเล้ง มึงกลัวอะไร? ที่มึงแสดงออกแม่งมันชัดก็จริง แต่ถ้ามึงไม่พูดอีย้งมันก็ไม่รู้”เจงกับอินพยายามพูดเพื่อให้เล้งคิดว่าสิ่งที่เล้งเป็นอยู่ตอนนี้มันดีกับทั้งเล้งและย้งยี้มั้ย
“มึงคิดดู คนเรามีคนที่รักที่ชอบ แล้วรักมาตั้งแต่ตัวเท่าเมี่ยงจนตอนนี้มันโตเต็มตัวแล้วคนที่มันรักก็ยังเป็นมึง มันชัดเจนจนมึงไม่เห็นค่าของมันแล้ว”
“ใครบอกว่ากูไม่เห็นค่า”เล้งสวนกลับประโยคขัดหูทันที
“มึงไม่ชัดเจนเล้ง มึงไม่เคยชัดเจนให้อีย้งมันมั่นใจเลยว่าทุกวันนี้มันเป็นอะไรสำหรับมึง”เจงพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“มึงไม่ชัดเจนแถมมึงยังหวงก้างอีก มึงมีความมั่นใจว่าย้งยี้มันรักมึงแต่มึงกลับไม่ให้ความมั่นใจย้งมันซักครั้ง มึงมันเห็นแก่ตัวว่ะ”อินพูดพลางเมินหน้าไปอีกทางก่อนจะนึกอะไรได้หันมาแหวใส่เล้งจนคอแทบหัก
“อ่อแล้วไม่ต้องมาฟาดหัวฟาดหางว่าเพราะกูชอบย้งกูเลยเดืดร้อนนะ กูสงสารน้องมัน ตามมึงต้อยๆโดยไม่รู้ว่าแม่งตัวเองไม่ต่างจากหมาเชื่องๆเลย ถ้ารักมันก็บอกให้มันชื่นใจบ้างเถอะวะ มึงไม่สงสารน้องมันเหรอเวลาทำตาเศร้าๆน่ะ”
“มึงแม่งใจหมามากเล้ง มึงรู้ตัวหรือเปล่า”เจงด่าซ้ำจนเล้งรู้สึกว่าด่าขนาดนี้เอาตีนไปเหยียบขี้หมาแล้วกลับมายีหน้าเขายังจะดีกว่า
“พวกมึงนี่แม่งน่ารำคาญว่ะ”เล้งรวบชีทเรียนม้วนๆแล้วเดินหนีออกมา
น่ารำคาญทุกคนเลย
โตกันจนป่านนี้ทำไมต้องให้พูดเยอะวะ
ก็ให้ไปคิดกันเอาเองว่าสำหรับเขาอีย้งมันอยู่ในฐานะอะไร
มันยากตรงไหนวะ
.................................
แล้วบอกไปตรงๆมันยากตรงไหนอ่ะพี่เล้ง
ตอนนี้น้องย้งมีสังกัดแล้วนะคะ รอตีพิมพ์กับสำพักพิมพ์พีชชี่พายนะคะ
ฝากเอ็นดูน้องย้งกับพี่เล้งเยอะๆนะคะ
เราอ่านทุกคอมเม้นท์นะคะ แท็กในทวิตเราก็อ่าน ชอบมากก็รีวิวให้น้องย้งได้ไปอยู่ในอ้อมอกอุ่นๆของแม่ๆคนอื่นบ้างนะคะ