แล้วผมกับพี่เขมก็รีบวิ่งลงไปที่ห้อง พี่เขมรีบอาบน้ำแต่งตัวไปบินครับ ผมจัดกระเป๋าให้พี่เขมแล้วก็ไม่ลืมที่จะหยิบหมวกนักบินพี่เขมมาเตรียมไว้ให้ด้วยครับ ผมแอบเห็นรูปในหมวกของพี่เขมครับ ในหมวกนั้นโดยปกติที่ผมเห็นจะเป็นรูปที่พี่เขมฝึกบินเดี่ยวครั้งแรกครับ เป็นรูปน่าจะเกือบ 10 ปีก่อนแล้ว แต่ตอนนี้รูปได้ถูกเปลี่ยนไปแล้ว มันเป็นรูปที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ในรูปประกอบไปด้วยป๊า แม่ พี่เขม แล้วก็ผม ใส่ชุดยูกาตะแล้วถ่ายรูปด้วยกัน ผมแอบดึงรูปนั้นออกมาแล้วเขียนกะว่าจะเขียนข้อความไว้ด้านหลังรูปซะหน่อย แต่ผมก็เห็นข้อความที่เขียนว่า “Family trip with my Boo” แค่ผมเห็นข้อความนี้ผมก็แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวแล้วครับ... ผมรีบจับรูปยัดใส่ที่เดิม แล้วเร่งพี่เขม
บี : พี่เขม อีก 15 นาทีแล้วนะพี่ ออกจากห้องน้ำได้แล้ว
พี่เขม : อย่าเร่งดิ...นี่ก็รีบที่สุดแล้วเนี่ย
พี่เขมวิ่งออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพลูกหมาตกน้ำมากครับ...น้ำเต็มตัวไปหมด ผมเลยเอาผ้าขนหนูมาเช็ดหัวให้พี่เขมก็เช็ดตัวไปเรื่อย ๆ พอเช็ดตัวเสร็จผมจับพี่เขมนั่งลงแล้วเป่าผมให้ พี่เขมก็บ่นออกมา
พี่เขม : บีครับ...จะไม่ทันก็ตอนนี้แหละ
บี : ก็ผมไม่แห้งเด๋วไม่สบายอ่ะ อ่า ๆ เสร็จแล้วขอทาครีมหน่อย
พี่เขม : ยังจะทาอีกกกกกกก
บี : ซื้อมาให้เนี่ยเคยใช้เองบ้างไม๊ ถ้าผมไม่ทาให้มันก็คงจะหมดอายุคากระเป๋าเลยใช่มะเนี่ย....โดนแดดก็แรงกว่าชาวบ้านแล้ว ทาหน่อยนะ คนซื้อจะได้ดีใจ
พี่เขม : ค๊าบบบบ...เสร็จยังเนี่ย
บี : อ่าแต่งตัวได้
พี่เขมรีบแต่งตัวอย่างเร็ว ดีนะครับที่นักบินไม่ต้องทำผม แค่ใส่ทุกอย่างให้ครบก็พอ หลังจากแต่งตัวเสร็จพี่แกก็ติดเกียร์หมาวิ่งลงไปทันทีเลยครับ เรื่องเวลาสำหรับอาชีพทำงานบนฟ้าอย่างผมกับพี่เขมเนี่ยถือเป็นสิ่งสำคัญมากเลยครับ การตรงต่อเวลาของพวกเราเนี่ยแทบจะนับกันเป็นนาทีเลยนะครับ บ่อยครั้งที่ลูกเรือและนักบินจะนัดกันเวลารถออก จะใช้คำว่า ล้อหมุนครับ คือถ้านัดกันจะนัดกันอย่างเช่นว่า เด๋วล้อหมุน 07:35 นะ นาที 35 ล้อหมุนใครไม่มา ไม่รอ เป็นต้นครับ มันเลยทำให้อาชีพของพวกเราเคร่งครัดเรื่องเวลาเป็นที่สุดครับ
พอพี่เขมออกจากห้องไปผมก็เก็บข้าวของทุกอย่างแล้วก็ไปหาป๊ากับแม่ที่ห้องครับ ป๊ายิ่งคำถามแรกเลยครับเมื่อเห็นหน้าผม
ป๊า : เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนเหรอลูก เล่าให้ป๊าฟังได้ไม๊
แม่ : นั่นสิลูก...ทะเลาะกันเหรอลูก
บี : ป่าวหรอกคับแม่ ป๊า พี่เขมงอแงนิดหน่อยอ่ะครับ ไม่อยากให้ผมไปเรียนต่อ
ป๊า : ไอ้เขมเนี่ยนะ...มันมานั่งร้องไห้เพราะบีไปเรียนต่อ
แม่ : ดูไม่ใช่เขมเลยนะป๊า
ป๊า : มันทำอย่างกับจะต้องเลิกกันงั้นแหละ
ผมไม่ได้ตอบอะไรป๊ากับแม่ไปครับ...ผมกลัวว่าเรื่องจะไปกันใหญ่ พี่เขมก็น่าจะยังไม่ได้บอกป๊ากับแม่ว่าผมจะเลิกกับพี่เขม ถ้าผมไปเรียนต่อ ป๊ากับแม่คงจะต้องเกลียดผมเป็นแน่ถ้ารู้ว่าผมไปหักอกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเค้า
ในช่วงเช้าผมพาป๊าและแม่ไปจิบกาแฟแล้วก็กินติ่มซำเป็นอาหารเช้าครับ แล้วเราก็พากันกลับกทม. ในตอนสาย ๆ พอถึงสนามบินป๊ากับแม่ก็ขับรถมาส่งผมที่คอนโดครับ แล้วป๊ากับแม่ก็กลับบ้านไป ผมกลับเข้ามาในคอนโดแล้วก็พบกับความว่างเปล่า ผมรู้สึกใจหายทุกครั้งที่กลับมาที่ห้องผมแล้วห้องโล่งจนผิดหูผิดตา ผมนั่งลงบนโซฟาแล้วก็มองสำรวจห้องผมไปรอบ ๆ ในหัวผมคิดแค่สองเรื่องครับตอนนี้ คือเรื่องพี่เขมและเรื่องของคอนโด ส่วนเรื่องอนาคตของการที่จะไปออสเตเรียในอีกไม่กี่สัปดาห์นั้น ผมปล่อยให้มันเป็นไปตามยถากรรมครับ ผมนึกขึ้นได้ว่าอีกไม่กี่วันก็จะวาเลนไทน์แล้ว ผมยังไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรให้กับพี่เขมเลยครับ ผมจึงจะออกไปห้างเพื่อหาซื้ออะไรให้กับพี่เขมในวันสำคัญนี้ซักหน่อย แต่ก่อนที่ผมจะออกห้องไปนั้นโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นครับ พี่เก่งโทรหาผม
พี่เก่ง : ไอ้หนูน้อย พี่เก่งนะ ทำไรอยู่เมิง
บี : สวัสดีครับพี่เก่ง ผมเพิ่งกลับมาจากภูเก็ตครับพี่
พี่เก่ง : วันที่ 14 นี้ไปเดทกับไอ้เขมที่ไหนป่าว ร้านที่พี่เล่นอยู่เค้ามีปาตี้ มาป่าว ๆ
บี : แหนะ...ขาดมือกลองสินะเลยอยากให้ผมพาพี่เขมไปด้วยอ่ะ
พี่เก่ง : ทำมาเป็นรู้ทัน....เออกรูยอมรับก็ได้
บี : แล้วทำไมรับงานวันวาเลนไทน์อ่ะพี่
พี่เก่ง : ก็กรูโสดนี่หว่า...
บี : แล้วเพื่อน ๆ พี่ไม่ว่ากันเหรอ ไอ้พี่เขมโวยวายแน่ถ้าต้องไปเล่นดนตรีวันนี้อ่ะ
พี่เก่ง : ก็นี่ไงกรูเลยต้องใช้แผนนี้
บี : แล้วคนอื่นหละพี่ยอมไปเหรอ
พี่เก่ง : กรูก็ให้มันพาแฟนมากินข้าวที่ร้านไง แล้วก็ให้มันเล่นเพลงให้แฟนมันฟัง โรแมนติกจะตายเห็นมะ...กรูช่วยคิดเซอร์ไพรส์แฟนให้พวกมัน
บี : เฮ้ยพี่...พี่ช่วยผมเซอร์ไพรส์พี่เขมหน่อยดิ
พี่เก่ง : อยากได้ยังไงไอ้หนูน้อย เด๋วพี่จัดให้
บี : ผมร้องเพลงคงจะพังมาก อ่ะพี่ ทำไรดีหละ
พี่เก่ง : แล้วเมิงทำไรได้บ้างหละ ฟ้อนชาวเหนือไม๊
บี : ไอ้พี่เก่งบ้า...จะฟ้อนได้ไงฟระ
พี่เก่ง : อ่าวก็เห็นอยู่เชียงใหม่ ก็ต้องฟ้อนได้ดิ
บี : เอาดี ๆ ดิพี่ ช่วยผมคิดหน่อย
พี่เก่ง : งั้นไปคุยกะไอ้มิ่ง ให้มันช่วยสอนร้องเพลงหรือคุมเสียงให้ไม๊หละ จะทันไม๊เนี่ย
บี : พี่เก่ง มันจะล่มป่าวฟระ...ให้ผมไปร้องเพลงเนี่ย
พี่เก่ง : แล้วคิดอะไรมากกว่านี้ออกไม๊หละ
บี : หึ...คิดไม่ออกเลยพี่
พี่เก่ง : มีเบอร์ไอ้มิ่งไม๊
บี : ไม่มีครับพี่ขอหน่อย ๆ
พี่เก่ง : เด๋วส่งให้ทางไลน์ละกัน แล้วก็รีบไปฝึกซะหละ แล้วรู้รึยังอยากได้เพลงอะไร
บี : ผมมีในใจอยู่แล้วครับพี่
พี่เก่ง : ไอ้หนูน้อย...เมิงนี่มันร้ายเหมือนกันนะเนี่ย
บี : แหม่...พี่เก่ง ทำให้พี่เขมทั้งที ผมก็อยากให้พี่เขมเซอร์ไพรส์หนิคับ
พี่เก่ง : เมิง 2 คนเนี่ย รักกันขนาดนี้ แล้วเมิงยังจะไปเรียนต่อไกล ๆ อีกเหรอฟระ
บี : ผมต้องทำครับพี่เก่ง
พี่เก่ง : เมิงนี่มัน...มีความคิดไม่เหมือนชาวบ้านเลยจริง ๆ นะ ไม่เคยจะมีใครเดาถูกเลย...ถึงว่าไอ้เขมมันถึงได้หลงเมิงนัก
บี : แหม่พี่...ไม่ใช่แค่พี่เขมนะ...พี่ก็หลงผมแล้วด้วยใช่ป่ะ....(ผมกวนตีนไอ้พี่เก่งบ้าง)
พี่เก่ง : ให้มันน้อย ๆ หน่อย กรูชอบผู้หญิงมีนมเว้ย...
บี : เออผมรู้หน่า....พี่เก่ง...ยังไงผมก็รักพี่เหมือนพี่จริง ๆของผมเลยนะ ถ้าพี่มีอะไรไม่สบายใจ คุยกับผมได้ทุกเรื่องเลยนะพี่
พี่เก่ง : อย่ามาอ่อยกรูซะให้ยาก...
บี : เฮ้ย..ผมพูดจริงจังเว้ย
พี่เก่ง : เออ....กรูรู้แล้วหน่า จะให้กรูคุยกะเมิงได้ไงอีกหละ เมิงจะไปเรียนต่อแล้ว
บี : ที่ออสเตเรียมีโทรศัพท์เหมือนที่ไทยนะพี่ รู้ยัง
พี่เก่ง : ไอ้สัสนี่....กรูรู้แล้ว กวนตีนนักนะเมิง เด๋วไม่ช่วยเลยหนิ
บี : ขอโทษค๊าบบบบบบบบบ
พอวางสายจากพี่เก่ง ผมก็รีบเปิดไลน์เพื่อเอาเบอร์โทรศัพท์โทรหาพี่มิ่งทันที ผมเนี่ยไม่ได้สนิทอะไรมากมายกับพี่มิ่งเลยครับ แค่เคยไปกินเหล้าเม้ามอยด้วยกัน 2-3 ครั้งแค่นั้นเอง ผมก็แอบเกรงใจอยู่หน่อย ๆ แต่ตอนนี้ ไม่ได้ละครับ ต้องทำให้ได้แล้วครับ ผมโทรไปคุยกับพี่มิ่งเรื่องเพลงที่ผมอยากจะร้องให้พี่เขมในวาเลนไทน์ ซึ่งพี่มิ่งก็เห็นด้วยครับกับเรื่องเพลงนี้ พี่ ๆ ปรับโน๊ตต่าง ๆ ให้ผมได้ร้องเพลงง่ายขึ้น พูดง่าย ๆ ว่าน่าจะปรับลงอย่างน้อย ๆ 1 อ็อกเทฟครับ ผมไปฝึกที่ร้านที่พี่ ๆ เค้าชอบไปฝึกดนตรีกันครับ มีพี่มิ่งกับพี่เก่งมาช่วย เราไปฝึกกันตอนหลังจากที่พี่ ๆ เค้าเลิกงานครับ ผมกับพี่ ๆ เค้าฝึกจนค่ำแล้วผมก็ขอตัวกลับเพื่อไปอ้อนพี่เขมต่อ เด๋วจะว่าผมหายไป
พอฝึกเสร็จผมก็รีบโทรหาพี่เขมทันทีเลยครับ แล้วพี่แกก็ไม่รับโทรศัพท์ ผมเปิดดูในไลน์ก็ไม่มีการติดต่อใด ๆ จากพี่เขมครับ...มันเลยทำให้ผมเริ่มจะกังวลใจแล้วครับ พี่แกไปบินตั้งแต่เช้า น่าจะแลนมาบ่าย ๆ แล้วแต่ตอนนี้มัน 2 ทุ่มกว่า ๆ แล้วทำไมไม่มีการติดต่อจากพี่เขมเลย แล้วทันใดนั้นแม่พี่เขมก็โทรมาครับ
แม่พี่เขม : บีก๋าลูก...
บี : ครับแม่...สวัสดีครับ
แม่พี่เขม : อันนนนน.....อ้ายเขมบะสบายอ่ะลูก แม่ว่าจะปาอ้ายเขมไปโรงพยาบาลเหี่ยน้อย แม่เลยโทรมาบอกลูกบีก่อน(เออออ...พี่เขมไม่สบายอ่ะลูก...แม่ว่าจะพาพี่เขมไปโรงพยาบาลหน่อย...แม่เลยโทรมาบอกลูกบีก่อน)
บี : แล้วมะเด่วนี้อยู่ไหนกั๋นคับ(แล้วตอนนี้แม่อยู่ไหนกันครับ)
แม่พี่เขม : มีบ้านกั๋นเนี่ยกะ ป๊าออกไปตางนอกยังบ่ปิ๊กมาเลยลูก (อยู่บ้านเนี่ยแหละ ป๊าออกไปข้างนอกยังไม่กลับมาเลยลูก)
บี : อั้นฮื้อผมไปส่งอ้ายเขมบ๋อคับ ผมอยู่บะไกล๋จากบ้านแม่นักคับ (งั้นให้ผมไปส่งพี่เขมไม๊ครับ ผมอยู่ไม่ไกลจากบ้านแม่ครับ)
แม่พี่เขม : อั้นซั่มดีกะลูก...ค่ำละแม่ต๋าบะก่อยดีหันบะก่อยถี่ (ยิ่งดีสิลูก..ค่ำแล้วแม่ตาไม่ค่อยจะดี มองไม่ค่อยจะเห็นทาง)
บี : ได้คับแม่ เด่วผมฟั่งไปนะคับ (ได้ครับแม่ เดี๋ยวผมรีบไปครับ)
ผมรีบขับรถไปที่บ้านพี่เขมทันที...คงจะเพราะเมื่อคืนพี่แกดราม่าหนักไปหน่อยแล้วก็ไม่ค่อยได้นอนแล้วไปบินอีก เจออากาศร้อน ๆ เย็น ๆ แล้วเมื่อคืนก็ไปนอนดูดาวตากน้ำค้างอีก สงสัยพี่เขมคงจะเหนื่อยทั้งกายและเหนื่อยทั้งใจแหละครับ...ผมนี่สงสารแฟนผมจับใจ พอผมขับรถไปถึงบ้าน ผมก็พาพี่เขมขึ้นรถไปในทันที ตัวพี่เขมร้อนหน่อย ๆ ครับ น่าจะมีไข้ ผมถามแม่ว่าพี่เขมกินยาไปบ้างรึยัง แม่บอกว่ากินพาราไปแล้วแต่ก็นอนอย่างเดียวตั้งแต่กลับมาจากไปบิน
พอมาถึงโรงพยาบาล ก็พบหมอตามปกติครับ แต่วันนี้โชคดีไม่เจอหมอคิตแล้ว น่าจะออกเวรไปแล้วครับ หมอสอบถามอาการจากพี่เขมแล้วก็กำลังจะจ่ายยาครับ แต่พี่เขมขัดเอาไว้ก่อน
พี่เขม : หมอครับ ผมไม่อยากกินยาอ่ะครับ
หมอ : อ่าวไม่กินแล้วจะหายได้ไงหละคุณคนไข้
พี่เขม : ฉีดยาได้ไม๊ครับหมอผมอยากหายเร็ว ๆ
บี : เฮ้ย...พี่เขม เอาจริงดิ ไหนบอกกลัวเข็มไง
หมอ : ฉีดก็ได้นะครับ ถ้าฉีดวันพรุ่งนี้ก็วิ่งได้เลย
พี่เขม : งั้นผมขอฉีดยานะครับหมอ ผมกลัวไปฉลองวาเลนไทน์กับแฟนไม่ได้ (แล้วพี่เขมก็ยื่นมือมากุมมือผมไว้)
ผมนี่อายม้วนหน้าหนีหมอทันทีเลยครับ ไอ้คนป่วยที่จับมือผมเนี่ยทำหน้าตายใส่หมอมาก หมอทำหน้าตกใจนิดหน่อยแล้วก็ขำออกมา
หมอ : เออ...อีก 2 วันก็วาเลนไทน์แล้วหนิเนอะ
พี่เขม : นะครับหมอ...ผมขอฉีดเถอะ
หมอ : งั้นก็ตามใจครับ แต่ถ้าอีก 2 วันไม่ดีขึ้นต้องกลับมาให้หมอตรวจใหม่นะครับ
พี่เขม : ไม่มีปัญหาครับหมอ
แล้วหมอก็จัดแจงเรียกพยาบาลมาฉีดยาให้พี่เขมครับ
พยาบาล : เออ...ญาติคนไข้รอข้างนอกก็ได้นะคะ เด๋วจะฉีดยาให้กับคนไข้แล้วค่ะ
พี่เขม : แฟนผมครับคุณพยาบาล...ขอให้แฟนผมอยู่ด้วยได้ไม๊
พยาบาล : เด๋วฉีดที่ก้นนะคะ
พี่เขม : ไม่เป็นไรครับ...ผมขอแค่แฟนผมอยู่ใกล้ ๆ ก็พอ ผมกลัวเข็มอะครับ
บี : นะคับคุณพยาบาล...
พยาบาล : ค่ะ ๆ ก็ได้ค่ะ
พี่เขมนอนคว่ำลงแล้วก็ปลดกางเกงลงไปเพื่อจะให้พยาบาลฉีดได้ พี่เขมดึงมือผมไว้แล้วก็ส่งสายตาเหมือนจะขึ้นแท่นโดนเชือด
พี่เขม : พี่ขอกัดหน่อยนะ...
ผมพยักหน้าเป็นการตอบรับ พี่เขมกัดมือผมเบา ๆ เหมือนกับครั้งที่แล้วที่โดนฉีดยาตอนพี่เขมเจ็บหลัง แล้วพยาบาลก็ให้นอนพักในห้องนั้นก่อน 15 นาทีเพื่อดูอาการว่ามีอาการแพ้หรือผลข้างเคียงใด ๆ รึเปล่า ระหว่างที่เรารอนั้นพี่เขมก็ถามผมขึ้นมา
พี่เขม : บีครับไปไหนมา พี่แลนตั้งนานแล้วไม่เห็นโทรหาพี่เลย
บี : ไปทำธุระเรื่องคอนโดนิดหน่อยอ่ะพี่ แล้วก็กินข้าว
พี่เขม : หนิดูดิ...ถ้าไปเรียนต่อแล้วใครจะดูแลพี่ได้ดีอย่างนี้อีกเนี่ย
บี : แหม่ๆ ๆ อ้อนจังนะเรา
พี่เขม : ใครจะยอมให้พี่กัดตอนพี่ฉีดยาเนี่ย
บี : แล้วทำไมวันนี้ถึงยอมฉีดยาได้หละ
พี่เขม : ก็ถ้าฉีดยาแล้วจะได้หายเร็ว ๆ หาเรื่องซิกวันพรุ่งนี้ด้วยไง
บี : เหย....ทุ่มทุนขนาดนั้นเลย
พี่เขม : บีครับ วันวาเลนไทน์ อยากไปไหนรึป่าว
บี : ไปกินข้าวร้านที่พี่เล่นดนตรีประจำกันไม๊พี่ พี่เก่งชวนมา
พี่เขม : ไม่อยากอยู่ด้วยกัน 2 คนเหรอ
บี : แหม่ ๆ ๆพี่เขม เราก็อยู่ด้วยกันทุกวันไง มะวานผมก็ไปหาพี่ที่ภูเก็ตละนะ
พี่เขม : น่ารักอ่ะ...พี่ดีใจสุด ๆ ไปเลยนะรู้ไม๊ ป๊ากับแม่ถึงจะเหนื่อยแต่ป๊าก็บอกว่าสนุกดีนะ แม่ก็บอกว่าชอบ
บี : เออ...พาป๊ากับแม่ไปยากลำบากกลัวโดนด่าจริง ๆ เลยพี่
พี่เขม : ไม่หรอก...ป๊ากับแม่ชอบเที่ยวจะตาย
บี : งั้นไปร้านนั้นกันนะพี่
พี่เขม : ก็ได้ครับที่รัก...ว่าแต่...ไอ้เก่งต้องใช้พี่ไปเล่นดนตรีแน่เลย
บี : จะรอดเหรอ
พี่เขม : แต่พี่ป่วยอยู่นะ...เล่นดนตรีไม่ได้
บี : ไปเคลียกันเอง...เรื่องนี้ บี จะ ไม่ ยุ่ง
แล้วผมก็พาพี่เขมกลับบ้านครับ แม่กับป๊าดูโล่งใจมากเพราะพี่เขมกลับมาบ้านแล้ว กระปี้กระเป่ามาก...มีความดีดอยู่สูง เหมือนพี่แกจะได้นอนตอนบ่าย ๆ มาเยอะ กว่าเราจะกลับมาถึงบ้านก็ 4 ทุ่มกว่า ๆ แล้วครับ พี่เขมก็บ่นว่าหิวข้าว วันนี้ผมไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามานอนกับพี่เขมซะด้วยสิครับ ป๊ากับแม่ก็กำลังจะขึ้นไปนอนแล้ว พี่เขมก็เลยชวนผมให้ไปนอนที่คอนโดพี่เขมแทน ป๊ากับแม่ก็ไม่ว่าอะไรครับ ระหว่างทางผมก็ถาม
บี : พี่อยากกินอะไร
พี่เขม : อะไรก็ได้ที่บีทำ
บี : โหย มันดึกแล้วนะเนี่ย หาอะไรกินง่าย ๆ แถวคอนโดเอาไม๊พี่
พี่เขม : ไม่เอา...พี่อยากกินที่บีทำ
บี : ที่ห้องก็ไม่น่าจะมีอะไร แล้วไปซื้อตอนนี้ตลาดไหนจะมีของสดขายเนี่ย
พี่เขม : พี่ป่วยอยู่นะ แฟนก็ต้องตามใจดิ
บี : อ่าๆ ๆ ๆ แล้วไปหาของสดได้ที่ไหนเนี่ย
พี่เขม : ก่อนถึงทองหล่อมี foodland อ่ะ ที่นั่นได้มะ
บี : ก็ได้แต่ของแม่งแพงง่ะ
พี่เขม : นะนะนะนะ ตามใจพี่หน่อย
บี : อ่าๆ ๆ แล้วอยากกินไรหละคับ ผมจะได้ลงไปซื้อของถูก
พี่เขม : เห็นตอนเช้าพาป๊ากะแม่ไปกินติ่มซำเหรอ
บี : อย่าบอกนะว่าอยากกินบ้างอ่ะ
พี่เขม : บีทำเป็นไม๊อ่า...พี่อยากกิน
บี : ไปกินโชคดีติ่มซำแทนไม๊
พี่เขม : ไม่เอาาาาาาา...บีทำเป็นไม๊
บี : เอาหน้าเดียวละกันนะจะได้ซื้อของไม่เยอะ...เอาไรปู หรือกุ้ง
พี่เขม : ขอกินขนมจีบกุ้งแน่น ๆ เลยนะ ขอบคุณคับที่รัก
บี : อ่าๆๆ รอหน่อยละกันมันไม่ได้ทำแป๊ปเดียวเสร็จนะ
พี่เขม : นานเท่าไหรพี่ก็จะรอ....ต่อให้หิวตายก็ยอม
บี : งั้นพี่รอในรถนี่แหละเด๋วผมลงไปซื้อของแป๊ปนึงเด๋วมา...อยากกินไรไม๊ตอนเช้าจะได้ซื้อทีเดียวเลย
พี่เขม : อะไรก็ได้แล้ว กินขนมจีบตอนเช้าอีกก็ได้นะ พี่ชอบกิน
บี : เออดี...จะได้ทำทีเดียวเด๋วตอนเช้าต้มโจ๊กให้กินอีกอย่างก็พอละเนอะ
พี่เขม : เย้ ๆ แฟนน่ารักที่สุดเลย
บี : อ้อนเป็นเด็กเลยนะ...ไอ้เด็กโข่ง
ผมลงไปซื้อข้าวของเตรียมให้พี่เขมครับ โหย ๆ ๆ ของแพงกว่าตลาดเยอะเลยครับ ผมนี่ลมแทบจับคือถ้าไปกินขนมจีบน่าจะเข่งละไม่เกิน 30 บาท แต่นี่แม่งมันต้องซื้อทุกอย่างทำใหม่หมดเลยเพราะผมก็ไม่รู้ว่าห้องพี่เขมมีไอ้ที่ผมต้องการด้วยรึป่าวผมเลยต้องซื้อทุกอย่างให้ครบ มันเลยยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วครับ ผมเลยซื้อมาชุดใหญ่เลย เด๋วพรุ่งนี้ทำให้ไปเผื่อคนอื่น ๆ ด้วยเลย เผื่อป๊าเผื่อแม่ เผื่อเพื่อน ๆ พี่เขม เด๋วใช้พี่เขมนั่งปั้นขนมจีบตอนเช้า ทำเป็นโรงงานนรกแม่งเลย
กว่าจะกลับมาถึงห้องปาเข้าไปก็เกือบ 5 ทุ่มแล้วครับ ผมก็ต้องมาทำไส้ขนมจีบทำน้ำจิ้มสูตรเด็ดของผมอีก ผมรีบทำที่สุดเท่าที่จะทำได้กว่าจะเสร็จก็ปาไปจะเที่ยงคืนกว่า ๆ แล้วครับ ส่วนพี่เขมทำอะไรรู้ไม๊ครับ....นางนั่งเล่นเกมมือถือ ตี ROV รอผมครับ ไม่หลับไม่นอน...เล่นเกมสบายใจเฉิบ ปล่อยให้ผมที่ตื่นเช้าพอ ๆ กับมันแล้วก็พาป๊ากับแม่กลับมากทม. ไปซ้อมร้องเพลงแล้วก็ต้องมาทำอาหารตามบัญชาของพี่แกไปอีก ตาผมก็จะปิดแล้วครับ พอทำเสร็จ ผมมีความภาคภูมิใจมาก เพราะผมเริ่มทำทุกอย่างจากวัตถุดิบเลยครับ ไม่มีอะไรซื้อมาแบบสำเร็จซักกะอย่างเดียว นอกซะจากแผ่นเกี๊ยวห่อขนมจีบ ที่เหลือผมทำเองหมดแม้แต่น้ำจิ้ม พอทำเสร็จผมยกไปให้พี่เขมกินด้วยสภาพผมที่พังมาก ๆ แต่หน้าตาของขนมจีบออกมาดีมาก ๆ ครับ ผมหั่นขนมจีบออกแบ่งครึ่งแล้วเป่าให้หายร้อน บรรจงป้อนไอ้เด็กโข่งที่กำลังตี ROV อย่างไม่สนใจแฟนมันเลย แต่พอมันเข้าปากไปเท่านั้นแหละครับ...ไอ้เด็กโข่งวางมือถือทันทีแล้วก็ส่งสายตาเป็นประกาย โอมายคอมบุ(การ์ตูนบอกอายุอีกแล้วครับ) ให้กับผมทันที พี่เขมกินไม่หยุด ชมไม่หยุดปาก ทั้งน้ำจิ้มที่มีพริกและขิงดองลอยอยู่ให้รสชาติที่แปลกไปกว่าน้ำจิ้มขนมจีบอื่น ๆ ครับ
พี่เขม : บี...พี่พูดจริง ๆ นะ ไม่ต้องไปเรียนละเหอะ airline business อ่ะ ทำอาหารขายเหอะ หรือไม่ก็ไปเรียนทำอาหารให้มันจริงจังไปเลย
บี : ไม่ได้หรอกพี่....มันไม่ใช่ความฝันผม
พี่เขม : แต่แม่งอร่อยมากอ่ะ...นี่ทำได้ไงเนี่ย
บี : ความฝันผมคือผมอยากทำให้แฟนกินเท่านั้นครับ ไม่เอาไปขายให้คนอื่นกิน
พี่เขม : หวานก็เป็นนะเนี่ยเรา....ช่วงนี้ดูรักพี่จังเนอะ
บี : ผมก็รักพี่ตลอดแหละ...แต่ช่วงนี้มีคนงอแงหนักไปหน่อยเลยต้องเอาใจมาก ๆ
พี่เขม : เบื่อพี่ไม๊...พี่งี่เง่าไปหน่อย พี่ขอโทษนะ
บี : ผมเต็มใจทำให้พี่ทุกอย่างนะพี่เขม....ไม่มีวันไหนที่ผมอยู่กับพี่แล้วผมไม่มีความสุข....
พี่เขม : อย่าพูดอย่างงี้ดิ...พี่จะร้องไห้อีกแล้วนะ
บี : โอ๋ๆ ๆ ๆ ๆ ก็ผมอยากจะทำเวลาที่เรามีอยู่ให้มีค่าที่สุดไงครับพี่
พี่เขม : พี่ไม่ได้ทำอะไรให้บีเลยอ่ะ...
บี : แค่พี่อยู่กับผมตอนนี้ก็พอแล้วครับพี่
พี่เขม : จริงง่ะ....อยากให้พี่ตอบแทนเป็นอย่างอื่นแทนรึเปล่า..(พี่เขมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมแล้วก็เริ่มเอื้อมมือมาปลดกระดูมเสื้อผมเม็ดบนสุดออก)
บี : พี่เขมนี่หมอให้ยาผิดป่ะหนิ...ทำไมดีดจัง...(แล้วผมก็ปัดมือพี่เขมออก)
พี่เขม : ไม่รู้ดิ...แต่แบบว่า...เครื่องกำลังจะติดละนะ
บี : พอเลย ๆ ไม่สบาย เด๋วผมติดไปด้วย วันนี้นอนเอาหมอข้างมากั้นไว้เลย ผมเหนื่อยแล้วง่วงแล้วด้วย จะไปอาบน้ำนอนละ
พี่เขม : โหยยยยย...แค่นอนกอดก็ไม่ได้เหรอ
บี : ไม่ได้ ห้ามแตะตัวกัน...เด๋วเชื้อโรคซึมผ่านผิวหนังมาได้
พี่เขม : ทำไมเชื้อโรคสมัยนี้มันเก่งจังฟระ...ซึมผ่านผิวได้ด้วย
แล้วผมก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวนอนครับ...ถึงผมจะเอาหมอนข้างมากั้นไว้แต่คิดเหรอครับว่าพี่เขมจะยอมที่นอนแล้วตัวผมจะไม่ไปอยู่ในอ้อมแขนของพี่เขม ถ้าใครคิดว่าพี่เขมจะยอม แปลว่าคุณรู้จักไอ้พี่เขมน้อยไปครับ คืนนั้นผมก็ต้องยอมให้ไอ้พี่เขมนอนกอดผมไว้แล้วผมก็หลับไปทันทีที่หัวผมอยู่บนแขนพี่เขมครับ พี่เขมลูบหัวผมเบา ๆ แล้วผมรู้สึกตัวอีกทีก็คือเช้าวันต่อมาเลย
To be continued…
ป.ล. ลงตอนผิดครับ ผมผิดเอง ลืมเปลี่ยนตอนที่หัวเรื่อง เลยมาลงตาม ขออภัยทุกท่านจริง ๆครับ
ป.ล. 2 ขอบพระคุณ คุณ Billie ท่ีเตือนนะครับ ผมทำผิดแล้ว 2 รอบ ด้วยความเร่งรีบและเบลอ ๆ งง ๆ ของผมเองครับ