พิมพ์หน้านี้ - KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: cybershot ที่ 12-09-2017 18:05:09

หัวข้อ: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 12-09-2017 18:05:09
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: KISS AND FLY
« ตอบ #9 เมื่อ: 13-09-2017 23:28:35 »
อ้างถึง
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0

 บทนำ

เรื่องนี้เกิดขึ้นจาก สนามบินที่ผมเคยไปที่มีโซนที่เรียกว่า kiss and fly ครับ ถ้าเป็นที่ไทยก็จะเรียกว่า จุดรับส่งผู้โดยสาร หรือ pick up and drop off แต่ในประเทศนั้นเค้าใช้คำนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า ส่งแบบรวดเร็วแต่ใช้คำที่น่ารักกว่าเยอะเลยครับ...จึงเป็นที่มาของเรื่องนี้ครับ

หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 1 เปิดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 12-09-2017 18:09:20
ตอนที่ 1 เปิดตัว

เป็นครั้งแรกที่ผมมองเขาอย่างเต็มตา

เขาเป็นคนรูปร่างไม่สูงมากแต่มีความล่ำซ่อนอยู่ ผมไม่เคยรู้เลยว่าตัวเขาใหญ่กว่าผม แต่ที่แน่ ๆ ผมสูงกว่าเขาอยู่ประมาณนึง ผิวสีแทนของเขาเตะตาผมทุกครั้งที่เค้าเดินผ่าน ถึงเขาจะไม่เคยรู้เลยก็ตามว่าผมเอาแต่จ้องมองเขา เวลาเผลอ และที่สำคัญที่สุด คือ “รอยยิ้ม” ของเขาครับ ทุกครั้งที่เขาฉีกยิ้ม ตาเขาจะหยี่ ๆและโชว์ฟันขาวออกมาหมดครบทุกซี่เลยครับ

ใช่ครับ เขาคนนี้เป็นคนที่ผมแอบชอบตั้งแต่แรกพบ “แต่......เขาเป็นผู้ชาย และ ที่สำคัญ เขาเป็นนักบิน”
.
.
.
.
.
2 ปีก่อนที่ผมจะเจอเขา
.
.
.
.
ผมเพิ่งจะกลับมาจากเมืองนอกและกำลังหางานครับ
ผมชื่อ บี นาย ธน วิจิตร อายุ 25 ปีบริบูรณ์ เพิ่งจะผ่านช่วงเบญจเพส มาหมาด ๆเลยครับ
ผมเป็นคนตัวสูง 178 ซม. ผิวขาวเนียน (ผิวนี่ได้แม่มาล้วน ๆเลยครับ) ตัวผอมบาง และคิ้วเข้ม
ผมเป็นคนเชียงใหม่ เกิด โต และ เรียนที่ เชียงใหม่ เลยครับ
ตามสูตรสำเร็จของเด็กเชียงใหม่เลยครับ
เรียนมัธยม กางเกงสีน้ำเงิน จบมา แล้วก็ ไปเป็นลูกช้างสีม่วง ต่อในรั้ว มหาวิทยาลัย

ในปีเบญจเพส ตามความเชื่อของคนไทยนั้นจะถือว่า เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต แต่สำหรับผมแล้ว มันเป็นปีที่ดีมาก ๆ ปีหนึ่ง เลยก็ว่าได้ครับ

ผมไปทำงานเก็บเงินกลับมาจากต่างประเทศ(ที่บอกว่าไปต่างประเทศไม่ได้ไปเรียนครับ...ไปทำงาน) ได้เงินมาก้อนนึง และอยากจะทำงานประจำที่มีอนาคตและสามารถเป็นหลักเป็นฐานให้แก่ครอบครัวผมได้ครับ

เพราะจากที่ไปตามล่าหาฝันที่เมืองนอกมานั้น การไปอยู่เมืองนอกคนเดียวนั้นไม่ได้สวยหรูอย่างที่ทุกคนวาดฝันเอาไว้เลยครับ

โชคดีที่ภาษาอังกฤษ ของผม พอจะแข็งแรง เลยสามารถเริ่มงานได้ไม่ยาก แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ การโดนดูถูกจากคนต่างชาติก็เป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องเจอเป็นประจำอยู่แล้ว
แต่นั้นไม่ได้ทำให้ผมย่อท้อในการไปทำงานเมืองนอกเลย

แต่กลับเป็น คำว่า “อนาคต” ต่างหาก ที่ผมมองหามันไม่เจอเลย
ถึงจะสามารถทำงานหาเงินได้มากมาย (ตีเป็นเงินไทยโดยประมาณ 20,000 บาท ต่อ สัปดาห์) แต่ค่าครองชีพแพงแสนแพง และการจะทำอะไรซักอย่างให้เป็นหลักเป็นฐาน เช่น ซื้อบ้านซื้อรถ นั้นเกิดขึ้นได้ยากเสียเหลือเกิน

จึงทำให้ผมยอมกลับมาตั้งหลักใหม่ที่ไทยและสมัครงานเป็น พนักงานต้อนรับสายการบินได้ในที่สุด

ผมบอกเลยครับว่า เบญจเพสของผมนั้นดวง เฮง สุด ๆ กลับมาพร้อมกับเงินก้อนโต และผ่านไปไม่เท่าไหรก็สมัครงานได้ ผ่านฉลุย
แต่อย่างที่คำฝรั่งเค้าว่า “Lucky in game but Unlucky in love”
ดวงงานผมน่าจะพุ่งสุด ๆ แต่ส่วนดวงของความรักสิครับ ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แปรผกผันกันไปอีกกกกก

ผมโสดสนิทมาเกือบจะ 3 ปีแล้วครับ แต่อย่างน้อย ๆผม ก็มีงานทำา....ชิ ช่างหัวความรักมัน
ใช่ซี่ซซซซ....ใครใช้ให้ทิ้งรักลงแม่น้ำแล้วบินไปทำงานต่างประเทศโดยไม่บอกไม่กล่าวคนรักหละ
บทจะติสแตก...แล้วหละก็ คนอย่างไอ้บี มันก็ติส ไม่เกรงใจใครเหมือนกัน


ผ่านการบินมาได้ 2 ปีกว่า ๆ ผมก็ได้สิทธิ์ ไปเรียนเครื่องบินอีกชนิดนึง โดยที่แตกกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
แต่ที่ยังเหมือนเดิม...ดีงามไม่เปลี่ยนนั่นก็คือ “ความรัก” ของผมคับ
แม่เจ้า.....โสดสนิท ศิษย์ส่ายหน้า 5 ปีไม่มีเบรค

หรืออาจจะเป็นเพราะ “กรรม” ที่ ไปเทเค้าไว้ก่อนไปเมืองนอก

เอ...หรือว่าเป็นที่หน้าตาเรากันแน่ ฟระ! ไม่ใช่โชคชะตาละ

ต้องถือคติ “ทำบุญสวย ชาตหน้า, แต่ทำหน้าสวยชาตินี้” ละครับ


ว่าแล้วผมก็รีบจิ้มโทรศัพท์ หาเพื่อนผมอย่างทันที...

I’ll be your dream, i’ll be your wish, i’ll be your fantasy….
i’ll be your hope, i'll be your love
Be everything that you need


เสียงรอสายของโทรศัพท์ เพื่อนผม กินใจ ไม่ไหวจะเคลียจริง ๆ

เปรี้ยว : “โหล...ว่าไงเมิง วันนี้ไม่บินไปไหนหราาาาาา....ถึงโทรหากรูได้เนี่ย” อีเปรี้ยวรับสายตัดความเคลิ้มและกำลังร้องเพลงตามเสียงรอสายของนาง

บี : “เอออ....ไม่มีบินหวะ ช่วงนี้เครียด ๆ ป่ะ ๆ พากรูไปวัดหน่อยดิ อยากทำบุญ” แล้วต่อด้วยไปนวดหน้ากัน

เปรี้ยว : “เอาดิ....ไปตอนไหน ขอบ่าย ๆหน่อยละกันนะ กรูเพิ่งตื่น”

บี : “ได้ ๆ กรูนอนเน่ามาตั้งแต่เช้าละยังไม่ได้ทำไรเลย เดี๋ยว ขอไป ซักผ้าหน่อยเสร็จแล้ว โทรหา”

เปรี้ยว : “เออได้....แต่เมิงอย่าเพิ่งแดกข้าวหละ รอไปกินพร้อมกะกรู”

บี : “ได้ครับเพื่อน.... แม่เพื่อน บังเกิดเกล้า”

เปรี้ยว : “เค ๆงั้นเด๋วอีก 2 ชม. แจกัน”


ว่าแล้วผมก็ขุดตัวเองออกมาจากเตียงลงไปซักผ้า ตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ ด้านล่าง

อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ได้เวลา อิเปรี้ยวมารับพอดี

เปรี้ยว : “ไงเมิง ผีอะไรสิงทำให้เมิงอยากไปไหว้พระทำบุญ”

บี : “กรูไม่อ้อมค้อมเลยละกันนะเมิง.....กรูอยากมีคู่หวะ”

เปรี้ยว : “อีสัส...เช้ดโด้....กรูนึกว่าเมิงเป็นหมันไม่มีความรู้สึก ด้านนี้มานานแล้ว”
   “นี่ก็กีปีแล้วเนี่ยที่เมิงโสด....เอางี้ กรูรู้ละว่าจะต้องพาเมิงไปที่ไหน”

อิเปรี้ยว ก็ขับรถ พาผมมาที่ Central world

เปรี้ยว : ที่นี่เด็ด กรูไปอ่านมาจากเว็ป “ศาลพระตรีมูรติ” ขอพรเรื่องความรัก

บี : นึกอธิฐานในใจ ว่า อยากจะเจอคนที่ใช่ ที่ผมรอและตามหามานาน เจอด้วยเทอญ สาธุ


หลังจากนั้นเราก็ไปกินข้าว เดินเล่นกัน นวดหน้า กันตามประสา
ด้วยตัวที่ผม เป็นเด็กต่างจังหวัด ผมเลยไม่รู้จักที่ทางที่ไหนเลย ในกรุงเทพ แม้จะอยู่มานานแล้วก็ตาม จะไปไหนมาไหน ก็จะคอยเกาะอีเปรี้ยว ตลอดให้นางไปส่งหรือพาไปเที่ยว ในที่ ต่าง ๆ




และวันรุ่งขึ้น คำขอ ก็เป็นจริง

ผมไปบินตามปกติ และผมก็ได้เจอ คนที่ผม ตามหามานาน และคน คนนั้น ก็เป็น นักบิน ในไฟล์ แรกของผม


 To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 2 คำขอที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 12-09-2017 18:10:22
ตอนที่ 2 คำขอที่เป็นจริง

ผมตาของผมหยุดอยู่ที่เขา เหมือนโดนต้องมนต์
โดยปกติแล้ว พนักงานต้อนรับต้องทำการเคารพนักบินเป็นธรรมเนียมอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ผม สะตั้น อยู่นั้น ผมจึงไม่ได้ยกมือไหว้ พี่นักบินคนที่กำลังเดินผ่านผมไป

เขาทำหน้างง ๆ แปลก ๆ แต่ก็เดินผ่านผมไปอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมนี่สิ

ผมจะควบคุมมันยังไง.....หัวใจผมเต้นผิดจังหวะ รู้สึกวูบ ๆ วาบ ๆ ยังไงพิกล

หลังจากที่ทำการเช็ค เอกสารทางการบินต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว
ก็ถึงเวลาที่นักบินจะเข้ามาให้ข้อมูลต่าง ๆกับ ลูกเรือ
และแล้ว....คำภาวนา ก็เป็นจิง

พี่นักบินที่เพิ่งเดินผ่านผมเมื่อกี้ เดินเข้ามาในห้อง แล้วทำการ บรีฟเกี่ยวกับข้อมูลสภาพอากาศให้ลูกเรือฟัง

ส่วนตัวผมนั้น นั่งเคลิ้ม ฟังเขาพูดอย่างที่ไม่ได้จับใจความใด ๆ

พี่นักบินน่าจะจำผมได้ ว่าผมเดินผ่านเมื่อตอนเช้าแล้วไม่ได้ไหว้เขา

เขาเลยเอ่ย ปาก ถาม ผมขึ้นมา

พี่นักบิน : “น้อง คนนั้นเป็นเด็กใหม่เหรอ ทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลย”

ผมตกใจ สะดุ้งขึ้นมา รีบยก มือไหว้พี่เข้า แล้วอย่างรวดเร็ว

บี : “สวัสดีครับ ผม ชื่อ บี ครับ ลูกเรือเพิ่งมาบินวันนี้เป็นวันแรกของเครื่องบินแบบนี้ครับ....ผมบินอยู่อีกเครื่องนึงมาก่อนครับ”


พี่นักบิน : “รู้ใช่ไม๊ ธรรมเนียมเป็นยังไงอะ อย่าไปลืมไหว้ใครเข้าอีกหละ
      แต่วันนี้ไม่เป็นไรหรอก พี่ไม่ถือ”

ผมนี่อึ้งไปเลยครับ แอบยิ้มในใจ เขาจำผมได้ และเขา....น่ารักมากกกกก
ไม่ถือตัวเลยแม้แต่นิดเดียว ให้ความเป็นกันเองกับทุกคน

ทุกครั้งที่จะขึ้นรถเพื่อไปที่เครื่องบิน เค้าจะยืนรอให้ทุกคนขึ้นเสร็จก่อนแล้วเขาถึงขึ้น ทุกครั้งที่ต้องผ่านประตู เค้าจะเป็นคนเปิดประตูให้และยืนรอปิดให้กับลูกเรือทุกคน

เค้าช่างเป็นสุภาพบุรุษเหลือเกิน แล้วอย่างงี้.....คน คน นี้จะยังไม่มีเจ้าของได้อย่างไร?
และผมจะทำให้คน คน นี้มาชอบผมได้อย่างไร???
แต่ที่ยากไปกว่าสิ่งอื่นใด...คือ ผมก็เป็นผู้ชายและพี่เค้าก็เป็นผู้ชาย


พี่นักบินเค้าชื่อ เขม ครับ นาย กาญธนัท
อย่างที่บอกไป พี่เค้าผิวสีแทน ออกจะล่ำ ๆซักหน่อย ตัวไม่สูงมาก แต่ที่แน่ ๆตัวเตี้ยกว่าผมครับ
รอยยิ้ม กว้างเห็นฟันครบทุกซี่ เสียงทุ้มต่ำ มีเสน่ห์ และที่สำคัญ
ก้นแน่นมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ผมนี้เป็นคนบ้าชอบมองก้นผู้ชาย.....555555

ครั้งแรกที่เราบินด้วยกันนั้น.....
ผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยครับ
เนื่องจากเป็นไฟล์แรกที่ผมทำการบินในเครื่องชนิดนี้
ผมหัวหมุนไปหมด หาข้าวของอะไรก็ไม่เจอ ทำอะไรก็ช้า
ไหนจะเป็นช่วงที่ พายุเข้าอีก

โอยยยยยย.....อะไรจะเป็นใจขนาดนี้

และเมื่อบินเสร็จกลับมาที่บริษัท....ผมถึงกับนั่งซุดขับรถไม่ไหวเลยครับ
ผมไปนั่งโง่ ๆ ให้หายเหนื่อย อยู่มุมข้าง ๆตึก ซึกเป็นที่คนเดินไม่ค่อยเดินผ่านครับ

แต่.....พี่ เขม เดินมาตรงจุดนี้พอดี
โอ้ แม่เจ้า....จะดีใจก็ดีใจไม่สุดเพราะผมเพิ่งผ่านวันเยิน ๆมา ไปบินตั้งแต่เช้ายันเย็น หน้ามัน หัวฟู ตัวเหม็น จะมีอะไรแย่ไม่กว่านี้อีกไม๊

แต่ผมก็ขยับไปไหนไม่ได้เพราะเหนื่อยเกินจะวิ่งไปแอบพี่แก

พี่เขม : “ว่าไงเรา....หมดสภาพเลยนะวันนี้”

บี : “ครับพี่...ไม่ไหวจริง ๆ ผมขอนั่งโง่ ๆ ตรงนี้ซักพักเด๋วค่อยกลับบ้านครับ”

ผมยอมรับกับพี่เขมไปอย่างตรง ๆเพราะจะให้ทำหน้าตาสดชื่น คงจะต้องไปเรียน การแสดงขั้นเทพก่อน

พี่เขม : “งั้นพี่นั่งเป็นเพื่อนนะ”

บี : “ครับ”     ผมมองพี่แกอย่าง งง ๆ และหัวใจก็เริ่มจะเต้นรัว ๆ

พี่เขม : “สูบบุหรี่ป่าว”   พี่เขาถามพร้อมกับจุดบุหรี่สูบไปด้วย

บี : “ไม่ครับพี่ ผม แพ้ บุ....แค๊ก ๆ ๆ ๆ”

ไม่ทันสิ้นคำผมก็ไอ ขึ้นมาทันที

พี่เขม ตกใจใหญ่ รีบดับบุหรี่ลงอย่างเร็ว แล้วก็ขอโทษขอโพยผมใหญ่

บี : “ไม่เป็นไรครับพี่ พี่จะสูบก็ได้ครับ เด๋วผมไปอยู่ตรงเหนือลมครับ”

พี่เขม : “เหยยย...ไม่เอาดิ เด๋วพี่ก็ไม่มีเพื่อนคุยดิ..... แต่ ก็ดีนะ งั้นเด๋วพี่ไปนั่งตรงโน้น”

ผ่านไปซักพัก พวกเราคุยเรื่องทั่ว ๆ ไปไม่ได้เจาะจงอะไรเป็นพิเศษ

ซึ่งผมก็ยังคงคิดว่าพี่เค้าเป็นสุภาพบุรุษมากกกกกกกกก
แล้วก็คงจะเป็นผู้ชายแมนเกิน 100 แน่ ๆ

มันจึงทำให้ผมได้แค่แอบ มองเค้าอย่างเดียว

แต่จะว่าไปคำอธิฐานแม่งก็เป็นจริงนะเนี่ย

“เจอคนที่ใช่...แต่ไม่ได้ขอว่าจะได้เป็นแฟนนี้หว่า”

ผมบ่นเบา กับตัวเอง แต่ความพีคอยู่ที่ พี่เขมได้ยิน

พี่เขม : “จะขอใครเป็นแฟน?”

ผมสะดุ้งโหย่ง แล้วรีบบอกปัดพี่แกไปอย่างเร็ว โชคดีที่ตอนนั้นฟ้าเริ่มเป็นสีออกวนิลาแล้ว พี่เขมเลยไม่ได้เห็นว่าผมหน้าแดง ไปถึงหู


หลังจากนั้นซักพัก ยุงก็เริ่ม จะหามพวกเราครับ เราจึงแยกย้าย พากันกลับบ้าน
แต่ผมก็ไม่ลดละเลิกความพยายาม

ผมได้ทำการขอ Facebook กับ IG ของพี่แกไว้

พี่เขาก็ให้มาอย่างง่ายดาย (มโนไปเอง...นึกว่าจีบพี่เค้าอยู่ แล้วพี่เค้าเล่นด้วย)

พอกลับมาถึงที่รถ ผมรีบควักมือถือขึ้นมาดูอย่างด่วน
แอบไปส่องเค้าก่อนที่แรกคือ IG  ครับ เพราะผมเชื่อว่า รูปถ่ายของคนมันจะสะท้อนความเป็นตัวตนออกมาได้ชัดเจนมาก

เช่นถ้าคนที่ชอบ โพสรูปตัวเอง ในมุม ต่าง ๆก็จะเป็นคนหลงตัวเองประมานนึง
คนที่โพสรูป วิว ท้องฟ้า ทะเล...ก็จะเป็นคนติส ๆ หรือไม่ก็หน้าตาไม่ดี 55555

แต่ที่ผมอยากจะรู้มากกว่าตัวตนของพี่เค้าหนะ คือ พี่เค้าโสดรึป่าวต่างหาก
5555555555

แผนนี้ช่างแยบยลยิ่งนัก ไอ้บี

พอสไลด์ลงไปเรื่อย ๆ ผมเจอแต่รูปวิว และก็รูปเพื่อน ๆของพี่เค้าเท่านั้นครับ

ทำให้ผมเดาไม่ออกไปอีกว่าอะไรยังไงกันแน่เนี่ย





และแล้วผมก็เข้าไปเช็คใน Facebook และมีการเด้งเตือน events ที่กำลังจะจัดและคนที่จะไปด้วย

นั่นก็คือ งานแต่งงานของพี่ในบริษัทครับ
ซึ่ง ความตื่นเต้นนั่นก็คือ พี่เขม is going to ด้วยครับ
ผมรีบกดไปอย่างไม่รีรอ และไม่รู้ด้วยว่าเพื่อนลูกเรือคนอื่น ๆไปด้วยหรือไม่

และผมก็ไปเกณฑ์ ขู่ เข็ญ บังคับ เพื่อน ๆที่สนิท ไปงานแต่งงานพี่ลูกเรือครับ

เพื่อที่ผมจะได้ไปเจอกับพี่เขม
555555
เลวมากไอ้บีเอ้ย


และวันนั้น ผม ได้รู้ความจิงบางอย่างที่ว่า....พี่เค้าไม่ได้ชอบผู้หญิง



To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 3 อกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 12-09-2017 18:11:12
ตอนที่ 3 อกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

วันงานแต่งงาน
จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ผ่านไปราว ๆ 2 อาทิตย์ได้ครับ
ผมไม่ได้เจอพี่เขมอีกเลย....
ผมก็ได้แต่แอบไปส่อง ไอจีพี่เค้าไปเรื่อย ๆ ทุกวัน...(เพ้อเจ้อ...เป็นเอามาก)

พอถึงวันงานแต่งงานพี่ในบริษัท

ธีมงานนี้เป็นธีมสีแดงครับ
ซึ่งเป็นสีที่ผมชอบ ผมจึงหาเสื้อผ้าไปงานได้ไม่ยาก และบวกกับการจัดงานแต่งงาน เล็ก ๆน่ารัก ๆ ที่ร้านอาหาร บรรยากาศเลยดูอบอุ่น เป็นกันเองมาก ๆเลยครับ

ผมเข้าไปงานตั้งแต่ 1 ทุ่ม ที่ผมต้องไปเร็ว ขนาดนี้ก็เพราะ ผมต้องติดรถเพื่อนคนอื่นไปงานครับ
แต่มันก็เป็นสิ่งที่ดี ที่ทำให้ผม จะได้ไม่คลาดกับพี่เขมของผม...คริ ๆ ๆ

ผ่านไปได้ประมาณ 1 ชม. คนก็เริ่มเยอะขึ้น กินไม่หยุดทั้งอาหาร ทั้งเบียร์
และแถมมีซุ้ม cocktail ไปอีกกกก ผมนี้ยืนเฝ้าซุ้มนี้เลยก็ว่าได้ครับ

ซักพักผมก็เห็น พี่เขม เดินเข้ามาในงานกับกลุ่มเพื่อน ๆพี่แกครับ
ว่าแต่....ทำไปกลุ่มเพื่อนพี่แกดูเหมือนจะเป็นนักดนตรีจังเลยฟระ...แบกข้าวของมาเพียบเลย

และก็เป็นดังคาดครับ...กลุ่มเพื่อน ๆ พี่แก เป็นกลุ่มนักดนตรีที่จะมาเล่นเพลงในงานนี้
และที่สำคัญ พี่ เขม เป็นมือกลองครับ

ผมนี้ อึ้ง เข้าไปอีกกกกกก
แม่ง เป็นทั้งนักบิน เวลาว่างก็เล่นกลอง....เหยยยยย
คนห่าอะไรจะเท่ห์ขนาดนี้ฟระ


ผ่านไปจนเกือบ ๆ 5 ทุ่ม วงดนตรีก็หยุดเล่น เป็นเป็นเปิดแผ่นแทน
ผมเห็นพี่แกเดินดุ่ม ๆ ตรงมาที่ผมเลยครับ

ผมนี่จะหลบไปทางไหนก็ไปไม่ถูก...แต่สุดท้าย ผมก็รีบยกมือไหวพี่เขมอย่างรวดเร็ว

พี่เขม : เหย....ยืนเฝ้าซุ้ม cocktail เลยนะ
บี : อารายยยพี่.....ผมยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อน ๆ นี่ต่างหาก
พี่เขม : หราาาาาาา....แล้วอะไรอร่อยหละ พี่ขอซัก 2 แก้วได้มะ
บี : นี่เรยพี่ Midori sour หรือ Japanese slipper คับ
พี่เขม : เอาอะไร slipper ๆ มาก็เดะ ไม่รู้จักโวยยยย

ผมก็สั่งไปแล้วก็ยื่นให้พี่เค้าแล้วพี่เค้าก็ยักคิ้วให้แล้วบอกผมว่าเด๋วมาหาใหม่

เพื่อน ๆผมทุกคนตกใจมากว่าไปรู้จักกันตอนไหน...โดย ปกติ นักบินfleet นี้ ลูกเรือรุ่นผมจะยังไม่ค่อยรู้จักกันเพราะเพิ่งทำการบินเครื่อง fleet นี้ได้ไม่นาน

เพื่อนผมคนนึงชื่อ ปืน ก็พูดขึ้นมาว่า พี่เค้าเป็นนักบิน fleet ที่เราเพิ่งได้บิน ปืนเคยบินไปค้างกับพี่เค้ามาแล้ว
พี่เค้าชิวมากกกกก....แล้วก็เลี้ยงดูปูเสื่อดีมากกกกกกกก

แล้วพวกเพื่อนนางฟ้าทั้งหลายก็ยังคงเม้ามอยถึงพี่เค้าต่อไปเพราะพี่แก...เอาเข้าจิง ๆ ก็ดูหล่อเหลาไม่ธรรมดาเหมือนกันนะครับ
จะติดก็ที่เตี้ยไปหน่อยเท่านั้นแหละ

หลังจากงานเลิกพวกเราก็วางแผนไปต่อกันที่ร้านตรงข้ามอีกฝั่งถนน
ทุกคนเริ่มเมากันได้ที่ละครับ....เครื่องติด พร้อมที่จะ DANCE!!!!!

และปืนก็พูดขึ้นมาว่า...เฮ้ยพวกเมิง เด๋ว กรูชวนพี่เขมไปด้วยนะ
นางฟ้าชะนีน้อย ๆของผมทุกคนต่างดีใจ กรี๊ดกร๊าดออกมาเป็นการใหญ่
ผมเองยังแอบหัวใจเต้นแรงเลยครับ
วันนี้เป็นไงเป็นกัน....ขอได้ชนแก้กะพี่เค้าซักแก้ก็ยังดี

ทีแรกผมก็นึกว่า....พี่เขมจะมากับพวกเพื่อน ๆของพี่เขา
แต่เอาเข้าจริง พี่แกมาคนเดียวหวะ....แล้วก็มาดื่มเหล้ากับเหล่าเดอะแก้งของผม

ซึ่ง...มันก็น่าจะดูผิด ปกติอยู่นิดนึง

......หรือพี่เขา จะชอบใครซักคนในกลุ่มพวกเรา.....
เทอว่าไม๊บี 1
ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ บี 2
ความคิดในหัวผมเริ่มทำงาน

….ณ….ร้านเหล้าฝั่งตรงข้าม

ทุกคนเต้นกันยับ.....พวกนางฟ้าก็ไม่คิดจะห่วงสวยกันเลย

แล้วตอนนี้พอร้านใกล้

จะปิด...ผมก็เห็นพี่เขมอีกครั้ง...ไปอยู่ไหนมาตั้งนาน(คิดในใจ)

แล้วพี่เขมก็เดินมาบอกผมว่ากลับละนะ

อ่าวเห้ย ยังไม่ได้ชนแก้วกะพี่แกเลย...ผมทำงานเศร้า ๆนิด ๆแล้วก็บอกให้พี่เขมอยู่ต่ออีกหน่อย

พี่เขมบอกเด๋วออกไปสูบบหรี่ก่อน...ถ้ากลับมาก็คงเจอแหละ

ผมก็เลยเดินตามออกไปกับพี่แก...ออกแนว ๆ เว้าวอนไม่ยังไม่อยากให้กลับ

ผมไปยืนอยู่ห่าง ๆจากจุดดูดบุหรี่ เพราะผมแพ้ควันบุหรี่เอามาก

แล้วผมก็เริ่มรู้สึกปวดฉี่...ผมเลยเดินไปเข้าห้องน้ำ

ซักพักพอกลับมาหาพี่เขม....ก็มีคนยืนดูดบุหรี่เป็นเพื่อนพี่เขมอยู่อีกคนแล้ว...ก็จะใครซะอีกหละครับ

ไอ้ปืน นี่เอง...ผมเลยไม่เข้าไปคุยด้วยดีกว่าแต่ก่อนผมจะไป ทำไม 2 คนนั้นยืนดูดบุหรี่ใกล้กันจังฟระ....หรือ ผม ตาฝาด

พอผมเริ่มมองเค้าอย่างตั้งใจอีกครั้ง....ภาพที่เห็นนั้นก็คือ


ภาพที่พี่เขม กำลังยื่นหน้าไปเพื่อหอมแก้ม ไอ้ปืนเพื่อนผมครับ

ผมนี่ตกใจ อ้า ปาก ค้างเลยครับ...ทำอะไรไม่ถูกรีบเดินกลับมาที่โต๊ะเพื่อนเลยครับ

มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับคนอกหักแต่เราก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน

และนั่นก็เพื่อนผมที่เค้ายืนหอมแก้มกันอยู่

ผมได้แต่ยืน งง  ๆ กับเหล่านางฟ้าผู้เต้นอย่างไม่มีสติ

ซักพัก

ผมก็เดินออกจากร้านไปอย่างเงียบ ๆ คนเดียว
.
.
.
.
.
.
ผมไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร พูดอย่างไร มันจุกไปหมด

คนนึงก็คือเพื่อนที่เป็นลูกเรือรุ่นเดียวกัน
ส่วนพี่เขม เอาจริง ๆ ผมก็เพิ่งรู้จักเค้าได้ไม่นาน...แต่ในใจผมมันชอบเค้าไปแล้ว...ชอบมากกกกกซะด้วย

สิ่งที่ทำได้อย่างเดียวนั่นก็คือ...ตัดใจครับไอ้บี....มันจะทำให้ทุกอย่าง เป็นเหมือนเดิม โดยการจัดการกับความรู้สึกตัวเองซะ

ผมโบกแท๊กซี่กลับบ้านโดยไม่ได้รำ่ลาใคร

แค่เปิดประตูรถแท๊กซี่ ก็ได้ยินเสียงเพลง คลอมาเลยครับ

“ไม่รู้ไม๊ ว่าไกลไม๊ ต้องเดินทางอีกนานไม๊ ถึง จะลืมเรื่องราวของเทอ...
แค่หนีก็ยิ่งต้องเจอ...ภาพเทอเป็นเหมือนดั่งเงา.....
ติดตามเรื่อยไป...ไม่รู้ว่าจะนานไม๊ ถึงจะลืม ลืม เทอ ซักที”

เหยยยย...นี่ไม่ได้เล่นเอ็มวีอยู่ใช่มะ

เป็นเอามากนะกรู.....

ผมก็นั่ง ฟัง เพลงในรถไปเรื่อย ๆ จนถึงบ้าน
ระหว่างทาง ผมก็ไลน์ บอกเพื่อน ๆ ไปว่ากลับบ้านเองแล้วนะไม่ต้องห่วง

ถึงห้องก็เปิดโหมด auto pilot ทำทุกอย่าง อาบน้ำล้างหน้า แปรงฟัน
สวดมนต์นอนเหมือนคนไม่ได้เมา

แต่สิ่งที่ติดตาและในความฝันของ ผม คืนนี้ก็คือ
 
พี่เค้าน่าจะชอบไอ้ปืนเพื่อนผมเอามาก ๆ ซะด้วย


To be continued…

หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 4 เราสนิทกันไม๊?
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 12-09-2017 18:11:52
ตอนที่ 4 เราสนิทกันไม๊

นี่ก็ผ่านมาเกือบจะครึ่งเดือนละครับจากวันนั้น....

ผมก็เริ่มทำตัวติสแตก...ออกห่างเพื่อน ๆในกลุ่ม ไม่อ่านไลน์กลุ่ม

ทำชีวิตให้มันมีแค่ ตื่น ไปบิน กินข้าว กลับมา นอน

วันหยุด ผมก็หา กิจกรรมทำไม่ให้เว้นว่างแต่ละวัน

ต่อยมวย เรียนกีต้า เรียนถ่ายรูป(เพิ่งถอยกล้องออกมาใหม่)

ยิงปืน ทำแม่งมันทุกอย่างที่จะไปทำคนเดียวแล้วไม่เขินได้

จะว่าไป...ผมจะบอกว่าอกหักก็ไม่เชิง เพราะทั้งหมดทั้งมวลเนี่ยเกิดขึ้นจากความมโนในหัวของผมเองเท่านั้น

จะไปโทษใครก็ไม่ได้....สิ่งที่ทำได้ก็คือ หายให้ไวที่สุด

โชคดีครับที่ผมไม่ได้บินเจอกับไอ้ปืนเลย หรือ แม้กระทั่งพี่เขมก็ตาม

ผมเลยทำใจได้ในเวลาไม่นาน (จริง ๆ ก็ไม่ควรจะนานมะ? ความมโนเกิดมาเองก็ต้องหายไปเองมะ?)

จนวันมาถึงวันที่ตารางบินเดือนต่อไปออกครับ...

โดยปกติ ตารางบินของลูกเรือจะออกเป็นเดือนต่อเดือนครับ

วันไหนตารางออก...เหมือนวันหวยออกเลยครับ

ทุกคนจะจับจ้องกับหน้าจอโทรศัพท์ แลก ตารางบินให้ได้ตามต้องการของตัวเอง

บ้างก็แลกไปหา ผู้ชาย บ้างก็แลกไปเลี้ยงลูก
บ้างก็แลกไม่อยากไปบิน กะคนนี้
บ้างก็แลกเพราะติดธุระ

ส่วนผมแล้วไม่มีธุระ ไม่มี คนให้ตาม ก็รับบินเก็บตังไปเรื่อย ๆครับ

แต่ความพีคคคคค....มันคือ ผมเข้าไปดูใน inbox ของ facebook

มันมีข้อความ 1 ข้อความจากพี่เขม

ซึ่งผมไม่ได้อ่านและมันก็ไม่ได้เด้งเตือน....ผมก็ประหลาดใจ ก็เลยกดเข้าไปดู

มันเป็นวันที่เราไปกินเหล้าต่อหลังจากไปงานแต่งวันนั้นครับ

ข้อความคือ

“บี อยู่ไหน ไหนบอกให้พี่ตามเข้ามา แล้วหนีกลับไปก่อน คือไร?”

ผมถึงกับหูร้อนขึ้นมาเลยครับ

บ่นพรึมพรำ กับตัวเอง....ว่าตัดใจได้แล้ว ยังจะตามมารังควานอีก

“ไปเถอะทั้งคู่ ไปสู่ประตูสวรรค์”

ฮัมเพลงนี้ให้แทนข้อความในใจ

ผมก็เลยถือโอกาส เผือกซะหน่อยดีกว่าไหน ๆ ตะบะที่อดกลั้นมานาน ก็แตกไม่มีชิ้นดีละ

ลองเข้าไปดู FB ของทั้งคู่ซิ ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงรึป่าว

แต่สิ่งที่เจอคือไม่มีเลยครับ....ยิ่งทำให้ผมอยากรู้มากขึ้น

ผมก็เลยเข้าไปอ่านไลน์ใน กรุ๊ปซึ่งมีกว่า 2000 ข้อความจะอ่านยังไงหมดหละเนี่ย.....

ผมก็เลย...กลั้นใจส่งข้อความกลับไปบอกพี่เขมว่า

“ขอโทษครับพี่...ผมเมา”

และเดชะบุญ...ข้อความพี่เขมก็เด้งคืนมาทันที....

คุณพระ คนบ้าอะไรนั่งเฝ้าchat ของ Facebook

พี่เขม : “นานไปไหนพ่อคุ๊ณณณณณณ”
บี : “555555” ผมหัวเราะกลบเกลื่อน




ผมก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแล้ว พยายามทำสมาธิจิตอยู่ แต่หน้าจอของผมก็ยังเปิด chat ของ facebook ทิ้งไว้

พี่เขม : “ตอนนี้พี่อยู่ เมกานะ ฝากซื้อไรไม๊ ยู”

บี : “ไม่เอาอะไรคร๊าบบบ ขอบคุณมากครับ”  ผมรีบบอกปัด

พี่เขม : “กล้องที่นี่ถูกนะ ไม่สนหรา ยู, เพิ่งเห็นซื้อกล้องใหม่”

ผมตกใจอย่างแรงหนิ.....เหยพี่เขมรู้ได้ไงฟระ
 หรือว่าไอ้ปืนเอาเรื่องผมไปคุย เป็น topic กะพี่เขม
  แหม่...แฟนใหม่ก็เม้าเพื่อนเลยนะเมิง

บี : “พี่รู้ได้ไงอ่ะ...ไอ้ปืนเม้าให้ฟังเหรอ”

พี่เขม : “พี่รู้ละกันหน่า....แล้วทำไมพี่ต้องรู้จากปืนหละ?”

ผมนี่กรอกตาเบ้ปาก ใส่มือถือ 1 ที อยากจะตะโกนใส่มือถือ ว่า กรูเห็นพวกเมิง 2 คนทำอะไรกันนะ...กรูเห็นหมดทุกอย่าง กรูรู้หมดทุกอย่างแหละไม่ต้องมาทำแอ๊บ......

บี : “ป่าวคับก็เห็นสนิทกัน”

พี่เขม : “แล้วนี่เราสนิทกันไม๊”
ผมนี่ไปต่อไม่เป็นเลยครับ....พี่เขมนี่มันจอมหว่านเสน่ห์ตัวจริงเลยนะ
คบอยู่กะเพื่อนกรู...ยังจะมาหยอดกรูอีก....แค่นี้กรูก็จะมองหน้าเพื่อนไม่ติดอยู่ละ...อย่าทำร้ายกันอีกเลย...T.T

บี : “ขอแบต 2 ก้อนครับ” ....นี่ผมแถไปไกลมากเลยนะเนี่ย....ถลอกหมดละไอ้บีเอ้ย

พี่เขม : “ยี่ห้อไรหละ แล้ว สรุป เราสนิทกันมะ?”

ยัง....ยังไม่จบอีก....สกิดต่อมไปอีก....ถ้าอยู่ใกล้ ๆ นะ  จะ ตบ จูบ ตบ จูบ ไม่ยั้งปากเลย

บี : “OMD คับ” ... “ถ้าสนิทพี่ต้องซื้อให้ฟรี แต่ถ้าไม่สนิทต้องเก็บตัง”

ในที่สุดผมก็หาทางออกได้....555555 เป็นไงหละพี่เขม .... มีแต่เสียกับเสีย ตอบมาซะดี ๆ ว่าไม่สนิท ละ

พี่เขม : “งั้นก็ได้ กลับไปเด่วเอาไปให้”

ผมนี่อึ้งไป 2 วิเลยครับ...พี่เขมแม่งเป็นคนยังไงกันแน่ฟระ

หรือว่าจะเป็น สายเปย์......เหยยยยยยยไม่เอานะ กรูไม่อยากเป็นเด็กเสี่ย

บี : “เฮ้ยไม่ได้ดิพี่...ต้องคิดตังดิ”

พี่เขม : “อ่าวก็แปลว่าไม่สนิท...ซินะ”

สัส....กรูขุดหลุมฝั่งตัวเอง...ห่านจิกทำไงดีฟระ...พี่เขมแม่งพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส

บี : “งั้นเด่วกลับมาผมเลี้ยงข้าวแทนละกัน เด๋วชวนปืนและเพื่อน ๆไปด้วย”

พี่เขม : “ทำไมต้องชวนปืนและเพื่อน ๆ อ่ะ”

ผมยิ่ง งง แดก เข้าไปใหญ่....หรือว่าไอ้พี่เขมจะคบกรูเป็นชู้....ตาย ๆ ๆ ๆๆ ตกนรกนะตัว....ไม่เอา ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

บี : “ก็เพื่อนผมไง...ก็เห็นพี่ก็สนิทด้วย”

พี่เขม : “งั้นไม่ไปละ...เอาเงินมาให้ก็พอ” (สรุปว่ากรูสนิทกะพี่เค้าไม๊เนี่ย)

ทำไมผมถึงรู้สึกผิด งง ๆ
และกรูว่ากรูพลาดอะไรไปแน่ ๆ ตรงจุดนี้ 2000 ข้อความจากไลน์กรุ๊ปน่าจะตอบอะไรผมได้ละครับ แต่ต้องแหกตานั่งอ่านเพื่อไขความลับบางอย่าง

บี : “กลับมาค่อยนัดกันแล้วกันนะพี่”

พี่เขม : “เออออ”

บี : “ขอบคุณครับพี่”



หลังจากนั้นผมก็ทำการนั่งอ่านไลน์กรุ๊ปอย่างจิงจัง ใช้เวลาเกือบ 1 ชม. เต็ม ๆ โชคดีที่ส่วนใหญ่ข้อความ ที่ส่งกันมีแต่ สติกเกอร์ แล้วก็ 555 เต็มไปหมด ลดระยะเวลาได้ประมานนึง

และในที่สุดผมก็เจอ
ประโยคไขความลับ.....


To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 5 ข้อความในไลน์
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 12-09-2017 18:12:36
ตอนที่ 5 ข้อความในไลน์

ข้อความในไลน์

ปืน : พวกเมิงพี่เค้าเหมือนจะจีบกรูหวะ

นางฟ้า 1 : ว๊ายยยยย คนนี้เจ๊ของไม่ได้เหรอ
นางฟ้า 2 : อีดอกกกกกกกก กรูสวยขนาดนี้ เมิงไปแดกกันเอง????
นางฟ้า 3 : อีปืน เมิงสวยเลือกได้
นางฟ้า 4 : กรูว่าแล้วพี่เค้าต้องมีซัมติงกะคนของเรา...ไม่งั้นเค้าไม่ตามเรามาเที่ยวหรอก
นางฟ้า 5 : อีปืน เมิงเอามือกลองไป .... นักร้องนำ มือกีต้า เจ๊ของเลยได้ไม๊

ปืน : เจ๊....ปืนไม่ได้ชอบเค้า

นางฟ้า 1 : อิห่านสวยเลือกได้ไปอีกกกกกกกกกกกก
นางฟ้า 2 : แล้วเมิงบอกเค้าไปแล้วเหรอ
นางฟ้า 5 : อิสัส....นี่เมิงทำบุญด้วยอะไร
นางฟ้า 4 : หอยหลอด.....พี่เขม มาซบอกเจ๊มา
นางฟ้า 3 : อกแบน ๆของเมิงอ่ะนะ?

ปืน : ทำอย่างงี้ถูกแล้วใช่ไม๊อะเจ๊


ถ้าผมได้อ่านข้อความพวกนี้ก่อน....ผมคงไม่ต้องนั่งเศร้ามา 2 อาทิตย์

ไอ้ควายบีเอ้ย...เสียเวลาทำคะแนนหมดเลย...เค้าอกหักก็ต้องไปดามอกให้เค้าสิวะ

“อกไกต้องมีคนหมัก...อกหักต้องมีคนใหม่” ....ฮิ้ววววววว

จะมานั่งเว้าวอนอยู่อย่างงี้จะได้อะไรไม๊

ผมรีบพิมพ์บอกพี่เขมอย่างฉับไวหลังจากผ่านไปร่วม 2 ชม.

บี : “ฝันดีครับพี่”

พี่เขม : “ตอนนี้ที่เมกา 11 โมงเช้าอ่ะ...คงจะนอนไม่ได้”

บี : “เออออออออ...ผมจะนอนละเลยมาบอกเฉย ๆ”

พี่เขม : “แปลว่าเราสนิทกันใช่ป่ะ”

บี : “ยัง....ยังไม่จบอีก  (อุ้ยแมวพิมพ์)”

พี่เขม : “ถถถถถถถถถ”




อยากจะให้เติม "ค" หน้า "ถ" ของพี่จังเลย....พี่จะได้รู้ว่าผมอ่ะ

“คถ คถ คถ คถ คถ คถ”
“คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง” พี่.....ฮิ้ว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  ๆ ๆ

นี่เมิงเป็นไบโพล่าเหรอฟระไอ้บี.....ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง เมิงจากเศร้า ๆ  playlist มีแต่เพลงอกหัก ตอนนี้โลกกลายเป็นสีชมพูภายใน 2 ชม.


และผมก็รอพี่เขมกลับมา.....

ระหว่างนั้น...ไม่รู้เป็นอะไรผมก็คุย facebook กับพี่เขมทุกวันเลยครับ
คุยไปเรื่อย ๆ ไม่ได้มีสาระอะไร พี่เขม ไป เมกา นานประมาณ  2 อาทิตย์ครับ

พอกลับมาเค้าก็เอาแบตมาใส่ไว้ใน box 

ผมยังไม่ได้เห็นหน้าเค้าเลย และที่สำคัญไปกว่านั้น เราก็ยังไม่ได้คุยกันเรื่องไปกินข้าวกันเลย

พี่แกดูยุ่ง ๆ หลังจากกลับมา สงสัยจะต้องทำงานชดใช้กรรมแหละครับ
ซึ่งก็เป็นปกติ แต่หลังจากที่พี่เขมกลับมาที่ไทย พี่เค้าไม่ตอบ chat ผมเลย

หรือผมก็คงเป็นแค่คนคุยแก้เหงา เวลาที่เค้าไปเที่ยวต่างประเทศ อะไรประมาณนี้แหละครับ
แต่อย่างน้อย ๆ ผมก็ยังได้รู้จักเค้ามากขึ้น

จิง ๆแล้วแค่นี้หัวใจผม มันก็โพงโตมากละนะครับ

.
.
ผ่านไปอีก 1 อาทิตย์
.
.
.
แล้วก็มีเบอร์โทรแปลกขึ้นมา

ผมไม่รับสาย กลัวว่าจะเป็นประกัน.....

แล้วเบอร์โทรเดิมก็โทรเข้ามาอีก

ผมเลยรับ

บี : สวัสดีครับ
ปลายสาย : ไง หายไปเลยนะเรา
บี : ครับ จากไหนครับ
ปลายสาย : นี่พี่เองจำไม่ได้เหรอ
บี : พี่อะไรครับ ขอโทดที ผมไม่ได้เมมเบอร์ไว้
ปลายสาย : พี่เขมไง

บี : เฮ้ยพี่ ไปได้เบอร์ ผมมาได้ไงเนี่ย
พี่เขม : มันจากไปยากอะไร
บี : เออเนอะ ดูในระบบก็ได้นี่หวา
พี่เขม : อ่าวก็ฉลาดเหมือนกันหนิเรา
บี : แน่นอน....ว่าแต่พี่มีไรคับ
พี่เขม : จะมาทวงสัญญา ไหนหละเลี้ยงข้าวพี่
บี : ได้เลยวันไหนว่ามาเลย
พี่เขม : วันนี้ได้มะ? เด๋วบินเส็ดแล้วเนี่ย
บี : ได้เลยพี่อยากกินไร
พี่เขม : อะไรแถวบ้านยูอร่อยหละ แต่จะให้ดี พี่ขอเบียร์เย็น ๆ ซักแก้วจะดีมาก
บี : โอเคเลยคับพี่ กี่โมงดี พี่แลนกี่โมง
พี่เขม : ประมาน 3 เกือบ ๆ 4 โมงถ้าไม่ดีเลย์นะ
บี : เฮ้ยพี่ผมแลน 4 เกือบ 5 เลยอ่ะคับ
พี่เขม : ไม่เป็นไรพี่รอได้
บี : จิงดิพี่...เกรงใจ
พี่เขม : เกรงใจอะไร นี่ยูต้องมาเลี้ยงข้าว เป็นสิทธิ์ของพี่
บี : ครับผม


พอถึงเวลา 5 โมง
ผมก็เจอพี่เค้าที่ตึกพอดี.....
เป็นครั้งแรกที่ผมเจอพี่เค้าหลังจากกงานแต่งงานนั้น
พี่เค้ายังคงใส่ชุดบิน นั่งเล่นโทรศัพท์รอผมอยู่

“มาช้าจัง”....พี่เขม บ่น เบา ๆ
“ขอโทษครับพี่”....ผมตอบไปพร้อมยกมือไหว้อย่างสวยงาม

“เวอร์ไปละ ๆ”....พี่เขมทำหน้ากวน ๆ ใส่ผม
“อ่าวก็ให้รอนาน...ไง ยกมือไหว้แล้วยกไม่รับอีก”.....ผมตอบ

“กวนนะเรา....ป่ะไปเร็ว หิวจะแย่ละ”.....พี่เขมพูดพร้อมลูบพุงโชว์

“แต่ก่อนอื่นไปเปลี่ยนเสื้อก่อนป่ะ”.....พี่เขมรีบเร่งผม

“ผมไม่ได้เอาเสื้อมาด้วยอ่ะดิพี่”....ผมรีบตอบไป

“พี่มีอยู่ในรถ 2 ตัว เด๋วไปเปลี่ยนก่อนแล้วค่อยไปกัน”......พี่เขมตอบ
 

นี่พี่เขมคิดอะไรกะผมป่ะเนี่ย....ทำทุกอย่างเหมือนวางแผนมาแล้ว เลือกวันก็เหมาะเจาะ มีเสื้อเตรียมไว้อยู่แล้วอีก 2 ตัวด้วย
นี่คือสิ่งที่อยู่ในหัวผมระหว่างทางเดินไปที่รถพี่เค้า


พอมาถึงรถ พี่เขมก็จัดการถอดเสื้อตัวเอง ทันที ผมนี่มองตาไม่กระพริบเลยครับ
ภายใต้ร่มผ้าของเขา เผยให้เห็นผิวสีแทน...ออกไปทำน้ำผึ้งไหม้หน่อย ๆ แตะตาผมยิ่งนัก

กล้ามอก เป็นมัดๆ ถึงภายนอกจะดูไม่ออกเลยว่าพี่เขาเป็นคนหุ่นดีขนาดนี้
แต่พอได้เห็นเท่านั้นแหละครับ....อื้อหือ....ผมจ้องตาแทบไม่กระพิบ
ยิ่งเวลาที่พี่แกสูดลมหายใจเข้านะครับ กล้ามออกมันขยายออกมาแน่นเลย
เห็นแล้วอยากจะเข้าไปดีดหัวนม.....55555

พี่แกเป็นคนแขนใหญ่อยู่แล้ว โดยปกติผมแอบมองอยู่บ่อยๆแต่ไม่คิดเลยว่า หน้าท้องพี่แกจะเรียบขนาดนี้ ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยครับ
นี่พี่เป็นนายแบบรึป่าว พอมองเลื่อนลงไปที่ขอบกางเกงเห็นขนรำไร เป็นแนวยาวเลยครับ
ผมเห็นแล้วอยากเอามือไปลูบเลย....เป็นคนหื่นนะเรา...ไอ้บี

พี่แกจะถอดเสื้อยั่วผมรึไงเนี่ย

คนอะไร perfect ไปหมด
เป็นนักบิน
เป็นมือกลอง
หุ่นนายแบบ
ขาดอยู่อย่างเดียว.....ขาดผมอยู่ข้างกาย

ฮิ้วววววววว.....


ผมนี่รีบเปลี่ยนเสื้อทันทีเลยครับ....ใจจริงอยากจะเดินไปเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำเลยครับ เห็นหุ่นพี่แกละอายเลย

ผมไม่ได้เป็นคนตัวล่ำครับ ออกจะผอมไปซะด้วยซ้ำแต่ก็ไม่ได้ผอมแห้งเลย

ผมก็รีบถอดรีบเปลี่ยนเลยครับ

ตกใจมัวแต่ดูพี่แกเปลี่ยนเสื้อจนพี่เขม แซวออกมา

"ไงเรา...ไม่เปลี่ยนเสื้อเหรอ....ยืนมองพี่อยุ่ได้"


ผมหน้าแดงขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าโดนจับได้

บี : “ป่าวซะหน่อย...ไหนหละเสื้อ....ใส่แล้วรึป่าวเนี่ย”
ผมรีบแถไปเป็นชุด

พี่เขมยื่นเสื้อให้ผม
แล้วผมก็ถอดเสื้อตัวเองบ้าง.....เหมือนกันเลยครับพี่เขมก็มองผมไม่หยุดเหมือนกัน ผมนี่เขินเลยครับ

พี่เขม : “ไมขาวงี้ฟระ....ผิวเนียนยิ่งว่าผู้หญิงอีก ขนก็ไม่มี”

บี : “ชอบอ่ะเด่”.....ผมตอบกวน ๆไปแบบไม่ทันได้คิดอะไร

พี่เขมทำหน้าตกใจยิ่งกว่าผมอีก
แล้วผมก็ฉุกคิดขึ้นได้.....ไอ้สัสบีเอ้ย....เมิงไปถามเค้าอย่างนั้นได้ไง

พี่เขม : ร้านอยู่ไกลมะ เอารถไปคันเดียว ดีมะเผื่อไม่มีที่จอด

บี : ไม่ไกลครับพี่ แต่ถ้าเอารถไปคันเดียว เด๋วอีกคนก็ต้องมาส่งที่บริษัทอะดิพี่ เอาไปคนละคันเลยง่ายกว่าไม๊ กินเสร็จก็จะได้ กลับบ้านได้เลย

พี่เขม : เอารถพี่ไปเด๋วพี่กลับมาส่ง พี่เขมพูดแบบตัดบท

“หัวใจเต้นแรง หน้าแดงทุกที
ใช่เทอ รึนี่ ที่คอย ตลอดมาก
ควบคุมไม่อยู่ รู้เลยว่าตัวสั่น
แค่เจอไม่นาน ถูกใจฉันเหลือเกิน”

เพลงนี้ดังขึ้นมาในหัวทันทีที่ขึ้นไปนั่งรถของพี่เขม

พี่เขม ขับรถ BMW X7 ครับ เป็นบุญตูดผมมากกกกก
ไม่เคยจะได้นั่งเลยรถยุโรปเนี่ย ด้านในดูแพงมากกกกก
ปุ่มเยอะไปหมด ผมนี่เห็นละก็อยากจะกดแม่งมันซักทุกปุ่มเเลย


ในขณะที่กำลังจะออกรถนั้น....พี่นักบินคนนึงก็เดินมาเคาะกระจกฝั่งคนขับ

พี่นักบิน : “ไปไหนไอ้เขม.....ว่างมะมาช่วยกรูทำงานแป๊ปดิ”

ผมรีบยกมือไหว้พี่นักบินคนนั้น...พี่เค้าดูตกใจเหมือนกันที่เห็นผมนั้นอยู่ด้านข้างพี่เขม

พี่เขม : กำลังจะออกไปกินข้าวคับพี่...

พี่นักบิน : “เฮ้ย ไม่เป็นไรเมิงไปกินข้าวเลย เด๋วกรูหาคน แถวนี้ก็ได้”

พี่เขม หันมามองหน้าผมแล้วบอกว่า “บี เป็นวันหลังได้มะ เด๋วพี่ขอไปช่วยงานพี่แกหน่อย”

บี : “ได้เลยคับพี่”

แต่ในใจนั้น.......น้ำตาแทบร่วง...

ผมกับพี่เขม เดินลงจากรถมาแต่โดยดี...แล้วผมก็ขอตัวกลับก่อนโดยที่ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อคืน


บุญมีเนอะ...แต่กรรมมาบัง....ไอ้บีเอ้ยยยยยยย


To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 5.5 ไอ้ตัวแสบ
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 12-09-2017 18:13:17
ตอนพิเศษ 5.5 ไอ้ตัวแสบ
Part ของพี่เขม

ตั้งแต่วันแรก ๆที่ผมได้เจอกับบี
.
.
.
.
เด็กคนนี้มันเป็นใครเนี่ย เดินผ่านกรูแม่งเสือกไม่ไหว้เลย....แต่ก็เอาเถอะ ช่างแม่ง อย่าให้เจอตัวนะ
จะไหว้มันก่อนเลย...สัส

และแล้วผมก็ได้เจอกะเด็กคนนี้อีกครั้งในไฟล์ที่ผมเป็นคนบินเอง

ไอ้เด็กนี้ดูตลกมากเลยครับ
เป็นคนแม่ง สีหน้าท่าทางหน้าตา ออกหมดไม่ว่าจะเหนื่อย เครียด ตกใจ ยิ้ม ดีใจ เสียใจ
หน้ามันออกมาชัดเจนมากกก ๆ
และวันนี้ก็เป็นวันแรกของมัน...แหมะๆ ถ้าได้ไปค้างด้วยกันนะ
จะรับน้องใหม่ซะหน่อย
เอาให้เมาหัวราน้ำเลย


แต่วันนี้ก็หนักเอาการอยู่นะคับ...ไปบิน 4 แลน ผมเห็นมันนะเดินไปเดินมา หัวหมุนทั้งวันเลย
คงจะเป็นวันแรกของมันสินะ
ถึงได้หมุนเป็นลูกข่าง ขนาดนี้
ผมนี่แอบกดกล้องดูมันอยู่บ่อยๆ
และที่แย่ไปกว่านั้น อากาศไม่ค่อยจะดีระหว่างทางด้วยหละสิ
คงจะมึนหัวน่าดู
แต่พอถึงสนามบินปุ๊ป แดดนี่ เปรี้ยงมากเลยครับ
ผมเดินลงไปตรวจเครื่องนี่แทบจะสุก เป็นเป็ดปักกิ่งเลยครับ...หนังกรอบ ๆ

พอบินเสร็จ ผมก็แอบเห็นไอ้เด็กนี่ เดินหนีไปข้างๆตึก
ปกติผมอ่ะ ปกติจะสูบบุหรี่ซักตัวก่อนกลับบ้าน
ถ้ามีคนสูบด้วยก็คงจะดี จะได้ไม่เหงา
ผมเลยลองเดินตามไปเผื่อมันจะสูบ


สรุปแม่งไปนั่งเฉยๆ คงจะเหนื่อยสิท่า

พอผมจะสูบ มันแม่งดันเสือกแพ้บุหรี่ไปอีก
แต่อย่างน้อยมันก็ให้ผมสูบได้ตรงที่ควันไม่โดนมัน...ก็ดีเนอะ

เราคุยกันไปเรื่อยๆ ผมก็เปิดเพลงฟังไปด้วย ไอ้เด็กนี้ก็ขี้เผือก บอกให้เปิดดังๆมันจะได้ฟังด้วย
คือที่ผมเปิดฟังเนี่ยผมไม่ได้มีอารมณ์ สุนทรีย์ อะไรหรอกนะคับ
ผมต้องไปเล่นงานแต่งงานให้เพื่อนผมครับ

แต่เด็กนี่แม่งก็เก่งร้องตามได้เกือบทุกเพลง
ถึงแม้เพลงงานแต่ง ต่างๆ มันจะมาคล้ายๆกันหมดก็ตาม แต่เพลงส่วนใหญ่ที่เพื่อนผม request มาเนี่ยเป็นเพลงฝรั่งทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็น
 just the way you are...bruno mars
I'm yours....Jason maraz


ผมมาตกใจตรง 2 เพลงนี้ครับ
Fix you....cold play
Marry you...bruno mars

ไอ้นี้ร้องได้ทุกคำเลยคับ
มันทำให้ผมสนุกไปกับการนั่งฝึกเพลงที่ต้องเล่นในอีกไม่กี่วัน
ผมเล่นกลองครับ ผมก็ฝึกตีตามจังหวะไปด้วย...ไอ้เด็กนี้ก็ร้องไปด้วย โยกตามไปด้วย
มันไปเอาพลังมาจากไหนเนี่ย....เห็นตอนเสร็จไฟล์อย่างกะจะตาย
แต่พอมาตอนนี้ มันดูร่าเริง สดใส ซะไม่มี แถมยัง บอกให้ผมตีกลองเร็ว ๆ เปลี่ยนจังหวะโน่น นั่นนี่ อีกด้วย...มันคงจะเป็นคนฟังเพลงเยอะแล้วคงชอบดูพวก cover ต่าง ๆอ่ะครับ เลยทำให้มันมีไอเดีย ในแต่ละเพลง หลาย ๆ เวอร์ชั่น

ทำให้ผมได้รู้จักเพลง นี้ในแบบ cover ของคนอื่น ๆบ้าง

ผมนี้สนุกไปกะมันมากเลยครับ

นั่งฟังเพลงคุยกันไปจนท้องฟ้าเป็นสีออกส้ม ๆ  ที่ ฝรั่งเค้าเรียกกว่า Vanilla sky อ่ะครับ

ท้องฟ้าวันนี้ทำไมมันดูสวยงามกว่าวันอื่น ๆ ผมก็ไม่เข้าใจครับ...มันอาจจะเพราะผมได้มีคนนั่งดูด้วยมั้งครับ....ก่อนกลับผมก็อยากจะขอเบอร์ไอ้เด็กนี่ไว้ซักหน่อย ใจจริงอยากเอามันไปซ้อมเพลงด้วยเลยครับ ไปให้เพื่อน ๆ ดูว่า มุมมอง ที่ได้เด็กนี่เห็นมันต่างกันแล้วเพลงมันเพราะขึ้นยังไง

แต่ผมก็ไม่กล้า กลัวว่าไอ้เด็กนี้จะคิดมาก นึกว่าผมจะจีบมันงี้

ยิ่งช่วงหลัง ๆ มานี้ ข่าวเรื่อง นักบิน กะ สจ๊วต ยิ่งแรง ๆ กันอยู่ ผมเลยไม่อยากจะยุ่งด้วยครับ

แต่...ไอ้เด็กเจ้ากรรม มันก็ดันมาขอ facebook กะ IG ผมไป

แต่แหม่...ก็เด็กสมัยนี้อ่ะเนอะ....มันก็คงติด social มากกว่าสมัยผมที่ยังเน้นโทรมากกว่า

แล้วเราต่างคนก็ต่างแยกย้าย....

ด้วยตัวผมเอง facebook & IG ไม่ค่อยจะเล่นอยู่แล้วครับ...จะเข้าไปส่องก็คงจะไม่เจออะไร

ผมก็แยกจากเด็กนี้ไปแล้วก็ได้ไปบินกะเพื่อนของไอ้น้องบีเนี่ยแหละครับ

ชื่อน้องปืน.....เด็กคนนี้หน้าตาดีมากกกกกกกกกก

ผมเห็นละผมชอบเลยครับบอกตรง ๆ...

ยิ่งได้ไปค้างกับน้องเค้า...ได้ออกไปดื่มกินช่วงเย็น ๆผมนี่ยิ่งฟินเข้าไปใหญ่

แต่พอมันเมาเนี่ยแหละครับ...จบเลย.....แม่งเถื่อนชิบหาย
ตาขวาง เสียดัง ตะโกนโหวกแหวก โวยวาย
ผมนี่ต้องลากมันกลับห้องอย่างด่วนเลยครับ...

ผมดูแลส่งน้องเค้าถึงห้อง น้องปีนแม่งไม่ได้สติเลย...แต่ผมก็ไม่ฉวยโอกาสนะครับ
ส่งน้องเข้านอนแล้วก็ตั้งปลุกมือถือให้น้องเค้าด้วย

แต่ความซวยมันอยู่ที่.....ผมไปเปิดมือถือน้องเค้าเนี่ยแหละครับ

ข้อความที่เด้งมา...คงจะมาจากแฟนเค้า

ผมนี่จุก เบรา ๆเลยครับ...ก็นึกว่าโสด...แล้วมือถือเจ้ากรรมก็สั่นขึ้นมา...ตอนผมกำลังจะตั้งปลุกนาฬิกาให้น้องปืน

และนิ้วผมก็ไปโดนปุ่มรับพอดี.....สลัด....กรูทำอะไรลงไป

จะกดวาง...ก็กลัวว่าน้องจะมีปัญหา จะตอบแทน...ก็กลัวว่า...น้องจะมีปัญหา

เอาไงดี ผมเลยทำเสียงเป็นน้องตอนง่วง ๆพูด อู้อี้ ๆ ๆเอาให้แม่งไม่รู้เรื่องเลย

แต่สิ่งที่ผมได้ยินกลับมานั้น....มันน่ากลัวกว่าสิ่งที่ผมคาดเดาไว้ซะอีก

ปลายสาย....พูดมาสั้น ๆว่า “ถ้ายังเป็นอย่างนี้อีก...ก็เลิกกันเถอะ”

ผมตกใจอย่างแรง...ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปดี แล้วสายก็ตัด

ผมพูดกะตัวเองออกมาเลยครับว่า “ซวยละกรู”

พรุ่งนี้จะบอกน้องปืนยังไง...แล้วกรูเสือกไปรับสายอีก...เอาห่านอะไรคิดฟระ

ผมทำได้แค่เดินออกจากห้องน้องเค้า...แล้วก็นอนไม่หลับทั้งคืน

เช้ามา ผมก็เจอน้องเค้า ผมเลยไปสารภาพ กับน้องเค้าไปว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่สิ่งที่แปลกคือ น้องปืนดูไม่ตกใจกับสิ่งที่ผมพูดเลยครับ

ผมก็ปลอบใจน้องด้วยการพาไปเลี้ยงข้าวเย็นหลังจากกลับมาจากบิน....พาไปกินในสิ่งที่เค้าอยากกิน พาไปทำ ในสิ่งที่เค้าอยากทำ....แต่ที่แน่ ๆ ผมรู้ว่าน้องเค้าคงจะเจ็บมากและคงไม่อยากอยู่คนเดียว

จะว่าไปผมก็โชคดีเหมือนกันนะครับ...ผมคิดว่า ผมอาจจะเจอคนที่ใช่ ในเวลาที่ใช่แล้วก็ได้

สิ่งที่ผมทำให้น้องเค้าทุกอย่างใน 2 วันที่ผ่านมานี้...ก็อาจจะเรียกได้ว่าผมจีบน้องเค้าแล้วก็ได้ครับแต่สถานะก็ยังคงไม่ชัดเจนอะไร....แต่ผมก็ปล่อยเลยตามเลย

แล้วผมก็ได้คุยกะน้องเค้าทุกวันหลังจากวันที่ไปบินด้วยกันจนกระทั่ง ถึงงานวันแต่งงานของเพื่อนผม

ผมก็มีภาระกิจที่ต้องไปเล่นดนตรี...พอเล่นเสร็จผมก็หิวน้ำมากกก....เดินไปที่ซุ้ม cocktail ก่อนเลยเป็นสิ่งแรก ก็ได้ไปเจอไอ้บี เด็กตัวแสบนี่ยืนเฝ้าซุ้มอยู่

ผมเดินไปทักมันแต่ไม่เห็นน้องปืน...เพราะผมรู้ว่าเด็ก 2 คนนี้เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันครับ
ผมเลยไปขอ cocktail มา 2 แก้วเพื่อที่อีกแก้วจะเอาไปให้ปืน

ผมเดินหาจนทั่วงานกว่าจะเจอก็เจอปืนตรงที่ยืนสูบบุหรี่

ผมยื่น cocktail ให้แก้วนึง น้องรับไปแล้วก็ตอบมาว่า “พี่นี่กินเหมือนไอ้บีเลยเนอะ”

ผมยิ้มตอบ...เฉย ๆไม่พูดอะไรต่อ

แล้วผมก็ถามน้องปืนว่าไปไหนต่อกันรึป่าว...ผมอยากไปด้วย

น้องปืนบอกว่าไปร้านฝั่งตรงข้าม...แล้วก็เปรย ๆเหมือนจะชวนให้ผมไปด้วย

พองานเลิกผมก็ไปต่อกับพวกน้อง ๆรุ่นไอ้บีกะน้องปืน

พอเริ่มเมา...ใจผมมันก็กล้าขึ้นมาทันทีเลยครับ.....ผมอยากจะจีบน้องปืนอย่างจริงจังและจริงใจ

แต่ก่อนที่ผมจะไปบอกน้องปืนตรง ๆผมต้องไปอัดบุหรี่อีกซัก 2 ตัว ใจจะได้กล้าๆ หน้าจะได้ด้าน ๆหน่อย

แล้วผมก็ตัดสินใจยอมรับกับน้องเค้าตรง ๆเลยครับว่า...ผมชอบน้องเค้าและผมจะขอจีบน้องได้มั้ย

สิ่งที่น้องปืนตอบกลับมาคือ....น้องปืนยังไม่พร้อมจะมีใครครับ....แล้วเห็นผมเป็นแค่พี่ชาย

ผมนี่ยิ่งอึ้งเข้าไปอีกครับ...ทีนี้หละครับ ผมก็เข้าไปในร้านดื่มไม่ยั้งเลยครับ...แล้วแม่งกรูก็เสือกตามพวกน้องปืนมาคนเดียว
คนจะคอยปลอบก็ไม่มี...แล้วผมก็เจอกับไอ้บี...ไอ้ตัวแสบ ผมเดินไปบอกมันว่าจะกลับละนะ

มันก็ยังจะมาทำหน้างอน ๆใส่....คิดในใจ... “เพื่อนเมิงไม่เอากรูแล้วกรูจะอยู่ทำไม”

มันก็พยายามเว้าวอนให้อยู่ต่ออีกหน่อย...ผมเลยบอกมันว่าจะไปสูบบุหรี่...ถ้ากลับมาก็เห็นเองแหละ

ซักพักคนที่เพิ่ง หักอกผม...ก็เดินมา
เข้ามาคุยกับผมว่า... “พี่เขม ผมชอบพี่เป็นแบบพี่ชายจริง ๆนะ ผมเพิ่งจะเลิกกับแฟน จะให้ผมไปคบกับใครตอนนี้มันก็คงจะไม่ดี ..... เราเป็นพี่น้องกันเถอะนะพี่”
แล้วผมก็กอดน้องปีนด้วยความเมาและแอบหอมแก้มน้องเค้าไป 1 ที......

ผมรู้สึกดีขึ้นจิง ๆครับ น้องเค้ามีเหตุผล ว่าเพิ่งเลิกกับแฟน คนห่าอะไรจะคบกะอีกคนได้เลยทันที

ผมก็เลยเดินเข้าไปในร้านพร้อมกับน้องปืน แล้วผมก็นึกถึงไอ้บีได้....ผมหามันรอบ ๆแต่ก็ไม่เจอ

ผมเลยถามเหล่านี้ฟ้าที่เต้นไม่ได้สติกันอยู่

“น้องครับเห็นไอ้บีไม๊...มันหายไปไหนแล้วอ่ะ”...ผมตะโกนถามเหล่าน้อง ๆนางฟ้าซึ่งตอนนี้ใกล้กลายร่างเป็นซาตานกันหมดแล้ว
เหล่านางฟ้าตะโกนโหวกแหวกโวยวาย
บ้างก็บอกว่าไปห้องน้ำ
บ้างก็บอกว่าไม่ได้มาด้วย
บ้างก็บอกว่ากลับแล้ว

ผมนี้ปวดหัวกะไอ้เด็กพวกนี้จริง ๆ แล้วน้องปีนก็ตอบว่า ไอ้บีกลับไปแล้ว

ไอ้ห่านเอ้ย....ไหนบอกให้กรูเข้ามาหา

ทัก chat facebook ไปด่าหน่อยดีกว่า......แล้วแบตผมก็หมด ......กรรมเวร.....


To be continued…





หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 6 ประกาศศึก
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 13-09-2017 21:21:10
ตอนที่ 6 ประกาศศึก

ผมรีบขับรถกลับคอนโด...โดยด่วนที่สุดครับ....เรื่องนี้ต้องเม้าให้อีเปรี้ยวฟัง....ไม่ไหวแล้ววววววว

เอาจริง ๆ ผมก็แอบเซ็งนิด ๆนะครับ แม่งจะได้ไปกินข้าวด้วยกันอยู่แล้วอ่ะ....แต่ก็ไม่เป็นไรครับ
ถ้าพี่เค้ามีงาน...เราก็ต้องทำตัวเป็นเด็กดี...โตแล้วจะมางอนอะไรโง่ ๆ อย่างงี้ไม่ได้ เด๋วพี่เค้าไม่ชอบเรา

พอถึงคอนโด ผมก็กระโดดขึ้นไปที่ห้องอีเปรี๊ยวทันที่เลยครับ

ไปเล่าทุกอย่างให้อีเปรี้ยวฟัง....นางตกใจถึงกับบอกว่า

เปรี๊ยว : เมิงนี้เป็นเอามากนะ...กรูไม่เคยเห็นเมิงเป็นอย่างงี้มาก่อนเลย...บทมันจะรัก มันก็บ้าบอ ทำเป็นเด็กเห่อ ห ม อ ย ไปได้

บี : อ่าวก็กรูไม่มีนานแล้วไง...พอจะมีซักที่กรูก็ต้องเล่นใหญ่ป่าวฟระ

เปรี้ยว : แล้วอีกอย่าง เมิงไปขอ แม่งแค่ให้ได้เจอ ได้รู้จัก....เป็นไงหละเมิง

บี : เออหวะ....วันหลังกรูคงต้องขอให้ได้กัน หรือได้เป็นแฟน แล้วแหละ แม่งขอแค่นี้ก็ได้แค่นี้ก็ดีละ...ดีกว่าไม่ได้เลย

เปรี้ยว : แล้วเมิงใส่เสื้อพี่เค้ากลับมาเนี่ยนะ....

บี : เออหวะลืมคืนไปเลย...กรุจะนอนดมทั้งคืนเลย....555555

เปรี้ยว : เมิงนี้เป็นเอามากนะ...แล้วพี่เค้าดูชอบเมิงบ้างไม๊เนี่ย...หรือเมิงมโนอย่างเดียว

บี : เอาจริง ๆ กรูก็ไม่รู้เลยหวะ....เมิงว่าไง

เปรี้ยว : ถ้าเค้าชอบเมิงจิง เค้าก็ต้องทิ้งงานไปกินข้าวกะเมิงได้ป่าววะ?....นี่กรูตรงไปป่ะ

บี : เออ...ก็นั่นดิ.....กรูก็ไม่รู้อ่ะ....แต่กรูชอบพี่เค้าาาาาา

เปรี้ยว : เออ....อิสัส...อันนั้นกรูรู้นานละ


แต่ผมก็ยังมีเรื่องติดอยู่ในใจอีกเรื่องนึงเกี่ยวกับพี่เค้าครับ...พี่เค้าไม่ตอบ chat facebook ผมอีกเลยตั้งแต่กลับมาจากเมกา ไม่ใช่แค่ไม่ตอบนะครับ.....ไม่อ่านเลยด้วย

ผมก็เลยโทรไปหาพี่เค้าว่า สรุปจะนัดวันไหนอีกดี.....คือจิงๆ อยากเจอเร็ว ๆอ่ะครับ

ปลายสาย : “สวัสดีครับ”
บี : ….เสียงไม่คุ้นเลย.... “สวัสดีครับพี่เขมใช่ป่าวครับ”
ปลายสาย : “ไม่ใช่ครับ ผมเป็นเพื่อน ไอ้เขมครับ มีอะไรรึป่าวครับ”
บี : อ่าวไม่ใช่เบอร์พี่เขมเหรอครับ พอดีพี่เขมใช้เบอร์นี้โทรมาตอนบ่าย ๆอ่ะครับ
ปลายสาย : “น้องบีใช่ไม๊...นี่พี่เคเอง ไอ้เขม โทรสับมันเสียอ่ะ ตั้งแต่กลับมาจากเมกา...มันเอาไปซ่อมอยู่ ตอนนี้มันใช้ซัมซุง hero ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้”
บี : “อ่อ...ครับ”
พี่เค : “เอาเบอร์มันไม๊เดี่ยวพี่หาให้แป๊ปนึง”
บี : “ไม่เป็นไรครับพี่ไม่รบกวนพี่แล้วครับ”....สวัสดีครับ

หายคาใจไปอีก 1 อย่าง...พี่เขมแม่งไปทำอิท่าไหนฟระ โทรศัพท์ ถึงได้พังได้
แล้วคนห่านอะไร จะใช้ samsung hero อยู่ได้เป็นอาทิตย์.....
แต่ก็ช่างเหอะ...เด๋วถ้าพี่แกพร้อมก็คงจะนัดมาเองแหละ

ตอนนี้ไปหาไรกินกะอีเปรี้ยวดีกว่า.....หิวโครตตตตตต
.
.
.
.
.
.
.
ผ่านไปอีก เกือบอาทิตย์

ผมก็บินหนักมากกกกกกกก....เป็นช่วงปั้มตังก่อนไปเที่ยวครับ....แลกมาบินติด ๆ ๆ กันเพื่อจะได้หยุดไปเที่ยวปลายเดือน

chat facebook ผมก็เด้งขึ้นมา

พี่เขม : ไหนหละข้าวพี่

บี : ผมไม่ได้เป็นร้านอาหารตามสั่งนะครับพี่...หิวก็ไปกินดิครับ

พี่เขม : กวนนะเรา

บี : ใครเป็นคนเทใครกันแน่?

พี่เขม : พี่ขอโทด...งานเข้าพอดีหนะ

บี : แล้วก็หายไปซะนานนึกว่าไม่อยากกินข้าวละ

พี่เขม : วันไหนดีหละ วันนี้มะ?

บี : เอาอีกละพี่...นัดกันก่อนไม๊...วันนี้ผมบินดึกครับ

พี่เขม : ว่างวันไหนหละครับ

บี : วันพุธหน้าไม๊ครับ พี่ว่างป่าว

พี่เขม :บินหวะ ค้างด้วย.... งั้นเอาตารางพี่ไป ถ้าตรงกันวันไหนก้เลือกมาละกัน

บี : ครับ เด่วผมบอกไปครับ

เหยยยยยยย....พี่แกให้ตารางทั้งเดือนเรามาเลยหวะ.....แม่ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ อ่อยป่าวฟระเนี่ย
B1 : ถ้าเราแลกวันหยุดให้ตรงกับพี่เค้าทุกวัน...ก้จะได้เจอกับพี่เค้าทุกวัน......กรี๊ดดดดด ดีงามอ่าาาาาาา

B2 : แต่เด๋ว....หยุดมโน...เค้าให้เมิงเลือกวันไปกินข้าววันเดียว...อย่าเผือกโง่วดิ

แล้วผมก็ตื่นจากมโนทั้งหมด...นัดได้อีกทีก็วันที่ 24 เลย ตอนนี้มันวันที่ 5 แม่งอีกตั้ง 19 วัน รอไหวมะไอ้บี

ไม่ไหวก้ต้องไหวละครับจุดนี้....ผมก็รีบพิมพ์บอกพี่เค้าไปว่าวันที่ 24 ครับพี่จองนะ

พี่เขม : เหยยย...ไกลจังฟระ

บี : ก็ไม่มีหยุดตรงกันเลยอ่ะคับ

พี่เขม : เออ ๆ ๆตามนั้น

บี : โทรศัพท์ซัมซุง hero มันเล่นเฟสได้แล้วเหรอพี่...hero รุ่นไหนเนี่ยดีจัง

พี่เขม : รู้ด้วยเหรอว่า hero มันเล่นได้แล้ว.....ถุยยยย

บี : 5555555
 
พี่เขม : แซวโทรศัพท์พี่เหรอ....รู้ได้ไงเนี่ย นี่ไม่ได้บอกใครเลยนะ

บี : ผมรู้ละกัน

พี่เขม : แสนรู้นะเรา



แล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว.....เวลาไปบินช่วงนี้ผมได้ยินคนพูดถึงพี่เขมบ่อยมากกกกกก
ในเรื่องที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร...เกี่ยวกับ การที่พี่เค้ามีคนมาจีบ แล้วก็ไปจีบคนอื่น
ทำให้ไอ้ปืนเลิกกะแฟน...แล้วก็กะจะเคลมไอ้ปืนต่อเลย...ซึ่งไม่มีความจิงอยู่เลย
แล้วก็มีเรื่องน้องเจ...ที่แสนจะฮอต....เป็น rare item net idol มากเลยครับที่มีคนแย่งจีบอยู่มากมายซึ่ง 1 ในนั้นก็มีพี่เขมอยู่ด้วย

มันก้เลยมีเพลงดังในหัวของผมในช่วงที่บินที่ได้ข่าวของพี่เขมมาตลอด

“ทุกๆ ครั้งที่เธอนั้นคอยส่งเสียง และทุกข้อความ
ทุกๆ ครั้งที่เธอนั้นคอยเฝ้าถาม และเป็นห่วงฉัน
ทำให้ฉันนั้นแทบจะดิ้น ดิ้นตายอยู่ตรงนั้น

แต่ติดที่ฉันนั้นไม่ใช่เพียงคนเดียว
(เพียงคนเดียว เพียงคนเดียว)
ที่ได้รับท่าทีที่แสนดีเหล่านั้น

มันจึงเป็นความรัก ที่ไม่ถึงกับสุข
เป็นความทุกข์ ที่ไม่ถึงกับเศร้า
เป็นความรัก ที่ทั้งซึ้งทั้งเหงาอยู่ด้วยกัน”

มันเป็นช่วงที่จะสุข....ก็สุขไม่สุดจริง ๆนะครับ....ผมนั่งนับวัน ตั้งหน้าตั้งตาคอยยยยย
ว่าเมื่อไหรจะได้เจอพี่เค้า......

ผมก็รับฟังมาครับ....แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะข่าวพวกนี้...มันสนุกปากที่จะเม้า...แต่หาความจิงไม่ค่อยจะได้อยู่แล้วครับ...

ถ้าอยากรู้ต้องสืบจากเจ้าตัวครับ...แล้ววันที่ 24 นี้แหละ....ผมจะประกาศศึกกับพี่เขมเลยครับ


ผมจะจีบพี่เขมให้ได้.....ให้มันรู้ไปสิว่าใครเป็นใคร


To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 7 black and white photo challenge
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 13-09-2017 21:21:50
ตอนที่ 7
black and white photo challenge

ในช่วงนี้ที่บริษัทผม....ก็มีแคมเปญช์ ที่เราเล่นกันเองในหมู่ลูกเรือและนักบินครับ......นั่นก็คือ  Black and white photo challenge ครับ....กติกาก็ง่าย ๆ เลยครับ
เหมือนพวกจดหมายลูกโซ่สมัยก่อน...ที่ใครได้รับต้องท้าคนต่อไปอีก อย่างน้อย 1 คนให้โพสรูปขาวดำที่คิดว่าเจ๋งที่สุด เป็นเวลา 5 วัน วันละ 1 รูป....ก็จะทำให้ในเวลาที่เราเล่นเราก็จะท้าคนให้โพสรูปขาวดำของตัวเองได้อย่างน้อย 5 คน ครับ

แล้วผมก็ได้รับเชิญ จะเป็นจากใครได้ได้หละครับ....ก็พี่เขมสุดหล่อของผมไงครับ

เป็นช่วงที่ผมเอาจริงเอาจังกับการถ่ายรูปขาวดำมากครับ...(เวลาเรียนหนูตั้งใจอย่างนี้ไม๊ลูก)....ผมอยากได้รูปที่สวยและดูมีอารมณ์ โดยปกติ ภาพขาวดำ คนจะคิดถึงสิ่งที่เศร้าหมอง..แต่ผมอยากได้รูปที่ร่าเริงสดใส...แต่ขาวดำครับ

การท้านี้ทำให้ผมติดมือถือหนักเข้าไปอีกครับ....แต่ละรูปผมทั้งเอียงมุม หาองศา องค์ประกอบ ของรูป เพื่อจะทำให้รูปออกมาดูดีแล้วได้ยอดไลค์ เยอะ ๆ  ๆ

แต่ที่จริง ๆ เลยคือเพราะพี่เขมชวนแหละครับ...เลยอยากให้พี่แก มาดูทุกวัน....55555

ความ jackpot ของผมก็คือ...ผมได้ไป passive ไฟล์ที่พี่เค้าบิน....อีกแล้วครับ
โดยปกติ ลูกเรือก็ต้องทำงานบนฟ้าใช่ไม๊ครับ...แต่การเป็น passive duty เนี่ยคือการ นั่งเฉย ๆ เป็นผู้โดยสารครับ....โดยไม่ต้องทำงาน
อย่างเช่น ผมที่ต้อง passive ไปค้าง เพื่อทำกลับไฟล์เช้าตรู่ในวันต่อไป

ผมเลยขอกัปตันไฟล์นั้น...เพื่อนั่ง passive ในห้องนักบินครับ(cockpit) เพื่อจะได้ถ่ายรูปวิวต่าง ๆ จากห้องนักบินครับ....ฟินมากกกกกไฟล์นี้.....

ผมได้เห็นพี่เขมทำงานอย่างใกล้ชิด...แทบจะสิงกันเลยทีเดียว ถ้าไม่ติดกัปตันนะคับ.....แล้วในห้องนักบินนั้นแดดแรงมากกครับ....ผมเห็นพี่แกเหงื่อแตกเป็นเม็ดเลยครับ....อยากจะเอื้อมมือเช็ดให้เลยครับ...ทำหน้าที่

แล้วผมก็แอบเก็บภาพของห้องนั้นบินมาได้ครับแล้วแอบทำเป็น ขาวดำ....ซึ่งภาพนี้ผมชอบมากเลยครับ....เพราะมันทำให้เห็นว่าการทำงานในห้องนักบินนั้น...มีความเครียดอยู่มากครับ

และก็เป็นอีก 1 ครั้งที่ผมได้นั่งแล้วพี่เค้าขับเครื่องบิน.....ผมคอยมองท่าทาง...คอยฟังเสียงทุ้ม...ของพี่เค้าเวลาทำงาน....มันทำให้ผมยิ่งหลงรักในตัวพี่เค้ามากขึ้นครับ.....


จะมีซักกี่คนที่จะเห็นวิว 180 องศา ถ้าไม่ได้ทำงานนี้ครับ....แต่ทุกองศาของผมเนี้ย...มีพี่เขมอยู่ในนั้นเสมอเลยครับ.....ฮิ้ว ๆ ๆ ๆ ๆคิดเองก็เขิลเองครับ...นั่งยิ้มบ้าบออยู่ด้านหลังพี่เค้า

พี่กัปตันก็ใจดีมากเลยความ...ชวนให้ผมดูภูเขา...ก้อนเมฆ...และช่วงใกล้ถึงสนามบิน...การติดต่อจะมากเป็นพิเศษ.....ผมนี่นั่งเกรงตื่นเต้นมากเลยครับ....ทุกคนดูพูดเร็วมากกกกกกก

ผมก็ได้แต่นั่งฟังแล้วถ่ายรูปไปพราง ๆ .....ตัวผมลุ้นมากเลยครับว่าจะกางล้อเมื่อไหร
จะลืมกันรึป่าวเนอะ...เอ๊ะหรือเราจะเตือนดี.....55555แสดงความเผือก
ก่อนจะถึงสนามบิน พี่เขมจะชี้ให้เห็นว่านั้นไงรันเวย์ที่เราจะไปลง...มองเห็นไม๊....ผมนี่งงไปไก่ตาแตกเลยครับ....พี่กัปตันหัวเราะใหญ่

และแล้ว....วันนี้ผมก็ได้รูป black and white photo challenge จากห้องนักบินนี้....และภายในรูปก็มีพี่เขม อยู่ด้วย....ฟินจริง ๆเลยครับ

ก่อนลงจากเครื่องผมก็ร่ำลาพี่ กัปตันแสนใจดี...และก็หันไปไหว้ให้กับพี่เขมสุดหล่อของผม....

บี : พี่เขมใส่แว่นดำนี่ก็หล่อดีนะ

พี่เขม : ขอมันแน่อยู่แล้ว....พร้อมยักคิ้วภายใต้แว่นทำ

บี : แต่อย่าถอดเลยนะพี่ผมขอร้อง...หมดเลย 55555555

พี่เขมไล่ตะเพิดผมออกมาจาก cockpit

บี : แหม่...แซวนิดเดียวเอง....ทำเป็นงอน

พี่เขม แลบลิ้นใส่ผมแล้วทำท่าจะเขกกะบาลผมครับ ผมรีบวิ่งหลบออกมาจาก cockpit

แล้วก็ทำการร่ำลากับทุกคนที่จะมีบินต่อไปอีกไฟล์นึง

หลังจากลงจากเครื่องบินผมก็ทำการรออยู่สนามบินเพื่อไปที่โรงแรมครับ...ต้องทำไฟล์บินกลับในวันพรุ่นนี้เช้าตรู่เนื่องจากมีลูกเรือ 1 คนป่วยกระทันหัน...ผมเลยโดยเรียกมาบินแทนครับ

ระหว่างรอผมก็ทำการแต่รูปพอเกือบจะเสร็จ....ก็เป็นเวลาที่เครื่องบินของพี่เขมกำลังถอยออกไปพอดีครับ...ผมเลยลงรูปขาวดำประจำวันของวันนี้ในระหว่างที่พี่แกไปบินเนี่ยแหละครับ

แล้วก็ทำการ tag ชื่อพี่แกเสร็จสรรพ...รูปนี้ได้ยอดไลค์ไม่เยอะหรอกครับ...แต่เป็นรูปที่ผมชอบและฟินที่สุด...และคนแรกที่กดไลค์ก็คือ ....พี่ เขม ครับ....พี่แกต้องแอบเล่นแน่เลยผมคิดในใจ

 To be continued…








หัวข้อ: Re: KISS AND FLY
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 13-09-2017 23:28:35
ตามมมม
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 14-09-2017 11:09:03
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงง  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 8 รักพี่เท่าไหรกินไปคูณสอง
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 14-09-2017 18:05:55
ตอนที่ 8 รักพี่เท่าไหรกินไปคูณสอง

หลังจากประกาศศึกกับพี่เขมไปไม่กี่วัน ...ผมก็ได้ passive ไปในไฟล์ที่พี่เขมบิน....และพรหมลิขิตก็ยังไม่หยุดเท่านั้นครับ....อีก 2 วันผมเป็นสแตนบาย......ผมโดนเรียกสแตนบายมาค้างเชียงใหม่กับพี่เขมสุดหล่อของผมอีกแล้วครับ....ผมนี่ฟินสุดๆไปเลยครับเมื่อรู้ว่านักบินเป็นพี่เขม


พอเจอหน้าพี่เค้าผมรีบไหว้และยิ้มกว้างให้พี่เค้าทันที....พี่เขมทักทายด้วยท่าทางกวนๆของพี่แก...พร้อมกับยักคิ้วใส่

พี่เขม : ไงเรา...แตนบายเหรอ...วันนี้จะพาพี่ออกไปไหน?

บี : “ไปเลี้ยงข้าวคืนนี้เลยคับ?”

พี่เขม : “เห้ย ไม่ได้ดิ นัดแล้วต้องเป็นนัด วันนี้ไม่เกี่ยว”...พี่เขมรีบเถียงกลับทำท่าทางไม่พอใจเบราๆ

บี: “งั้นวันนี้พี่เลี้ยงแทนละกันนะ.”

พี่เขม: “ได้เลยไม่มีปัญหา”

บี : “เด่วเจอกันคับพี่...ผมไปบรีฟก่อนคับ”

ผมเดินแยกจากพี่เขมออกมา...เพื่อไปห้องบรีฟ....ในใจผมนั้นพองโตมากคับ ผมแอบหยอดไปว่าจะให้เลี้ยงวันนี้แทนก็ได้ แต่พี่แก ก็ไม่ยอม บอกว่านัดแล้วต้องเป็นนัดดิ
ผมเดินอมยิ้มมาที่ห้องบรีฟ

และผมก็เดินผ่านน้องเจ....(ยังจำน้องเจ กันได้ไหมครับ...คนที่สูงขาวตี๋ หล่อ เป็น rare item net idol ที่ใคร ๆก็หมายปองครับ)

แล้วพอผมหันไปดูอีกครั้ง ผมก็เห็นพี่เขมยืนคุยกะน้องเจ ด้วยอาการยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่...ผมแอบมองอยู่พักนึง ดูจากอาการ ของของทั้งคู่แล้ว พี่เขมน่าจะชอบน้องเจอยู่ไม่น้อยเลยครับ....คนชอบกันเวลาคุยกันตามันจะเป็นประกายอ่ะครับ ผมเคยสังเกต หลายคู่ละคับที่กะลังจีบกันใหม่ๆ

ซึ่งผมกะลังเห็นตาพี่เขมเป็นประกายอยู่ตอนนี้
มันเจ็บจี๊ดไปที่ขั้วหัวใจเลยครับ
ถ้าเทียบกันในเรื่องหน้าตาของผมกับน้องเจแล้ว รูปถ่ายที่ผมหล่อที่สุด ยังได้ like น้อยกว่า รูปถ่ายของตีนน้องเค้าเลยคับ

ผมก็แอบเซ็ง....แต่ก็นะเราก็ทำอะไรไม่ได้มากหรอกคับ...แต่วันนี้ โอกาสเป็นของผมแล้ว....จะมานั่งเศร้าอยู่ไม่ได้ เราต้องสู้...ต้องสู้ถึงจะชนะ


ว่าแล้วก่อนเข้าห้องบรีฟผมก็ทำการกด search อากู๋ คำว่า how to อ้อย ผช.
แล้วก็ วิธีการ อ้อย ผช. ไม่ให้ ผช. รู้ตัว

หรือแอบคิดในใจ...หรือว่ารวบหัวรวบหางแม่งเลยดี...ตกดึกไปเคาะห้อง เปิดประตูมาปุ๊บก็ตุ๊ยท้อง...แล้วก็เอาแจกันฟาดที่หัว....ทีนี้หละ เสร็จกรู....5555555
ความมโนเพ้อภพ...เริ่มไปใหญ่ละคับ

ดึงสติกก่อน เด่วตอบคำถาม EM ไม่ได้

หลังจากบรีฟเสร็จ...ทุกอย่างก็เป็นเหมือนทุกวันครับ....ขึ้นเครื่องไปตรวจเช็คของ นับอาหาร ทำงานครัวอยู่หลังบ้านโน่น...พี่เขมก็อยู่ที่หัวเครื่องโน่น จากหัวเครื่องไปท้ายเครื่องก็ไกลอยู่นะครับ

ปกติ สจ๊วตเนี่ยไม่ค่อยได้ไปอยู่ด้านหน้าหรอกครับ หน้าของนักบิน วันที่ไปบินบางวัน เจอกันก่อนบิน เจอกันอีกทีตอนแลนเลยก็บ่อยครับ

แต่ความแปลกมันอยู่ตรงที่ ตอนผมกะลังทำครัวง่วนเชียงอยู่หลังบ้านนั้น
พี่เขมก็เดินมาหาครับ....มาขอกินน้ำแก้วนึงแล้วก็ยืนเม้ามอยด้วยซักแป๊ป

คนนี่งงกันทั้งลำครับ....ผมยังงงเลยครับ
แสดงว่าพี่แกก็น่าจะมีใจ....(คิดไปเองล้วนๆ)

พอก่อนจะ boarding ผดส. พี่แอร์ที่อยู่ครัวเดียวกัน....ก็เดินมาสะกิดถาม

พี่แอร์นางฟ้า : นี่น้องบี สนิทกะพี่นักบินคนนี้ด้วยเหรอ....พี่แอร์ยืนถามผมพร้อมทั้งจัดหนังเสือพิมไปด้วย

บี: “ก็เคยบินด้วยครับผม....”
พี่แอร์นางฟ้า : “หรือพี่เขมเค้ามาจีบน้อง...?”.....พี่แอร์เลิกจัดหนังสือพิมพ์แล้วทำหน้าตาอยากรู้อยากเห็นสุดๆ
บี : “ไม่ใช่มั้งคับพี่ ผมเป็นผช. นะคับ”....ผมตอบไปด้วยเสียงเรียบๆพร้อมทำหน้านิ่ง
พี่แอร์นางฟ้า : “อ่าวเหรอ พี่นึกว่าเป็นซะอีก”....หน้าพี่แอร์นางฟ้า เหวอ....อ้าปากค้าง...
บี : “ผมเป็นผู้ชาย...ที่ชอบผู้ชายครับ”
พี่แอร์นางฟ้า : ขำก๊ากออกมา...พร้อมทั้งตีผมใหญ่เลยคับ...."แกอย่ามาหลอกเจ๊ซะให้ยาก...เรด้าเจ๊เนี่ยดียิ่งกว่า เก้งกวางเป็นไหนๆ"

บี : “จริงเหรอเจ๊....แล้วเจ๊รู้นานแล้วเหรอว่าพีเขมก็เป็นเนี่ย?” ผมรีบถามกลับพร้อมกับหยุดทำงานทุกอย่าง

พี่แอร์นางฟ้า : “โอยยยยย....ใครไม่รู้ก็เรด้าพังทะลายไม่มีชิ้นดีละค่าาาาาาา”
“พี่เขมอ่ะ มีข่าวกะลูกเรือเยอะมากๆๆๆๆๆ
นี่ล่าสุดก็น้องปืนแฟนเจ๊เองไง รู้จักรึป่าว”

บี : “อ่อ....ไอ้ปืน เพื่อนรุ่นผมเองคับเจ๊...”

พี่แอร์นางฟ้า : “ว้ายยยยตั่ยล้าวววว”....(พร้อมทำท่ามาดามมด)...เด่วพี่จะดูแลเพื่อนผัวพี่เป็นอย่างดีเลย....มาๆๆๆๆให้พี่ช่วยทำอะไรอีกกกกบ้าง

บี : “มะกี้เป็นแฟนปืน ตอนนี้ไอ้ปืนเป็นผัวแล้วเหรอคับเจ๊”....พร้อมทั้งยิ้มมุมปากกก

พี่แอร์นางฟ้า: “ก็เพิ่งได้กันมะกี้เอง.....ในความมะโนของเจ๊เองนะอย่าไปบอกใครหละ”....พร้อมทั้งทำท่า...พริ้มฝันกลางวันของนางไปเอง.....

บี: “แล้วพี่เขมนี่มีข่าวอะไรไม๊ครับเจ๊”

พี่แอร์นางฟ้า : “แหม่ๆๆๆๆๆ....ชอบเค้ารึป่าวเราอ่ะ....แต่จะว่าไปเจ๊ไปไม่ค่อยจะอยากเม้าให้ฟังเลยนะ....รู้แล้วเหยียบไว้เลยนะจ๊ะพ่อเด็กหน้ามน”....พร้อมทั้งหยิกแก้มผม1ที

บี: “ผมเอียงหัวไปใกล้เจ๊มากขึ้น”...ทำท่าทางอยากเผือกสุดๆ

พี่แอร์นางฟ้า : “อ้าวผู้โดยสารมาพอดีเลย”...พร้อมกับรีบวิ่งไปต้อนรับผู้โดยสาร

บี : “โอ้ย...อิเจ๊...หลอกให้อยากแล้วก็จากไป.....”

พี่แอร์นางฟ้า: ..... “เด่วเม้าให้ฟัง...เรื่องนี้แซ่บบบบบมากกกกกกกก”

ผมเม้ามอยกับเจ๊อย่างสนุกสนาน ถึงเรื่องพี่เขมที่กำลังบินอยู่หน้าเครื่อง.....จะว่าไปแล้วเจ๊นางฟ้าคนนี้เม้ามอยสนุกสนานมากจริง ๆเลยนะครับ...นี่ผมกับเจ๊นางฟ้าเจอกันครั้งแรกนะครับ ผมสาบานได้เลย.....แต่ทำไมเหมือนสนิทกันตั้งแต่ชาติปางก่อน
เรื่องเล่าของพี่เขมกับน้องเจ เนี่ยแหละครับพี่ผมสนใจเป็นที่สุด.....ข่าวว่า น้องเจอ่ะมีแฟนอยู่แล้ว แต่ก็ยังไปยุ่งกับพี่เขม....แล้วพี่เขมก็เหมือนจะเล่นด้วย...แต่เมื่อน้องเจอ่ะยังไม่เลิกกะแฟน...พี่เขมก็อยู่ในสถานะที่เรียกว่า “ชู้” ใช่ไม๊หละครับ.....แต่เรื่องมันซับซ้อนซ่อนเงื่อนไปกว่านั้นอีกคือ
น้องเจ อ่ะ...ไปบอกพี่เขมว่าน้องเค้าเลิกแล้ว......พี่เจก็เลยอยากจะเคลมแต่จริง ๆแล้วอ่ะแค่ทะเลาะกับแฟน...พอคืนดีกันปุ๊ปก็อยู่ในสถานะ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก....สองรักฉันก็รับไหว ซะอย่างนั้น....พอพี่เขมพยายามจะเฟดตัวออก น้องเจก็รั้งไว้ไม่อยากให้ไป

“แซ่บไม๊หละครับท่านผู้ชม”

ผมนี้งง...อ้าปากค้างเลยครับ....แล้วพี่แอร์นางฟ้า...ก็ถามผมว่าคืนนี้เราจะไปปาตี้กันที่ไหนดีครับ...ได้มาค้างเชียงใหม่ทั้งที

ผมก็แนะนำไปเลยครับ....ชุดใหญ่ไฟกระพริบ....วอมอัพ ตะวันแดงครับ

พอถึงที่ เชียงใหม่เราก็ทำการเช็คอินที่โรงแรมครับ....ทุกคนแต่งตัวจัดเต็มมาก....นี่ขนาดผมว่าผมจัดเอาชุดที่ดีที่สุด ใส่มาเพื่อจะให้พี่เขมเห็นแล้วนะครับ....แต่พอลูกเรือใส่ชุดนอกกันเท่านั้นแหละ
ผมกลายเป็นเด็กยกกระเป๋าให้พวกเหล่านางฟ้าเลยครับ

ผมกะพี่เขมลงมาเป็นคนแรก

พี่เขม : เห้ย...พาพี่ไปซื้อบุหรี่หน่อย...

บี : อ่าวพี่ไม่รอคนอื่นเหรอครับ

พี่เขม : เฮ้ยไม่เป็นไรหรอก พี่ส่งไลน์ไปบอกคนอื่นแล้ว ว่าจะไปจองโต๊ะก่อน

บี : ได้ครับพี่ ไปซื้อไหนหละครับ

พี่เขม : สตาบัคมั้ง...ไปซื้อบุหรี่อ่ะ

บี : ถามดี ๆ นะเนี่ย....ตอบกวน ๆ ....ไม่ไปด้วยละ

พี่เขมเดินมาล็อคคอผมแล้วเอากำปั้นขยี้หัวผม... “จะไปไม่ไป” ....ทำเสียงขู่

บี : ยอมแล้วคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบ

พี่เขม : ยอมพี่แล้วนะ......แล้วก็ยิ้มกรุ่มกริม

บี : ผมหน้าแดงรีบดีดตัวออกจากพี่เขมแล้ววิ่งไหนออกไป

พี่เขม : เห้ย....รอด้วยดิ.....ไอ้นี้แรงเยอะชิบหาย

แหม่...จะไม่ให้แรงเยอะได้ไงหละครับ...หัวใจเต้น ตุบ ๆ อะดีนาลีนหลั่งขนาดนี้...มีอย่างที่ไหนมาบอกให้ผมยอมพี่แกง่าย ๆ ๆ

ถึงผมจะไม่ง่าย.....แต่ก็ได้ไม่ยากนะเว้ยยยยยยยยยย

พอไปถึง 7-11 พี่เขมก็ออกมาพร้อมกับเบียร์ 2 กระป๋อง แต่ไม่มีบุหรี่.....

บี : อ่าว ไหน บุหรี่ กลายเป็นเบียร์ไปซะได้หละคับพี่

พี่เขม : ก็ยูอ่ะ...แพ้บุหรี่ไม่ใช่เหรอ

บี : ใช่คับ....แต่พี่ก็สูบไปดิ เด๋วผมไปยืนไกล ๆ

พี่เขม : ไม่เอา...เหงา มายืนใกล้ ๆพี่หน่อย....พี่เขมเดินมาใกล้ผมพร้อมทั้งยื่นเบียร์ให้ กระป๋องนึง

บี : อ่าวไม่รีบไปจองโต๊ะแล้วเหรอพี่...เด๋วก็เต็มหรอก

พี่เขม : กัปตันพาเดอะแกงค์ ไปจองละ บอกว่าเต็ม ให้รอข้างนอน

บี : อ่าวแล้วงี้เอาไงหละพี่

พี่เขม : ไปร้านเพื่อนพี่ดีกว่า....ร้านอยู่แถวนิมมานนี่แหละ เป็นร้านนั่งกินชิว ๆ หรืออยากไปเต้น?

บี : โอยยยยยย....จะเอาแรงที่ไหนไปเต้นหละพี่....นี่ไปบินมานะ ของนั่งกินชิว ๆดีกว่า

พี่เขม : เออ...คิดเหมือนกันเลย เด๋วบอกกัปตันแป๊ป

บี : ครับ....แล้วร้านไหนหละ

พี่เขม : ตามมาอย่าพูดมาก....


ผมเดินไปซักพักก็เจอร้านอยู่ร้านนึง...ที่มีเบียร์วุ้นขายด้วยครับ....ผมนี่พุ่งไปไม่ยั้งเลยครับ

แล้วไปยืนกระโดด...บอกพี่เขมว่าจะเอาร้านนี้ ๆ ๆ ๆ ๆ

พี่เขมก็ตามใจครับ...แล้วบอกกัปตันว่าเปลี่ยนแผนนิดหน่อย.....กัปตันบ่นพี่เขมยับเลยครับว่าเรื่องมาก....นัดอะไร ทำไมเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา....แต่พอผมบอกกัปตันว่า...”กัปตันครับ...ร้านนี้มีเบียร์วุ้น”....สิ้นคำพูดผมเท่านั้นแหละครับกัปตัน...ตัดสายทิ้งทันทีเลยครับ

ผมตกใจมากครับ.....ว่าทำอะไรเกินไปรึป่าว....เพราะพี่เขมตอนโทหากัปตัน เปิด speaker ครับ

ผมหน้าเสียทันที...จากยิ้ม ๆ ดิ้น ๆ อยู่อยากกินเบียร์วุ้น...หน้าจ๋อยเหลือ 2 นิ้วเลยครับ
ทำตัวไม่ถูกเลยครับ....พี่เขมก็ทำหน้านิ่ง ๆ......ผมเริ่มคิดมากแล้วครับ...กลัวว่ากัปตันจะโกรธ บอกว่าผมเสียมารยาท

ซักพักพี่กัปตันก็เดินมาถึง...ผมแทบจะก้มกราบกัปตันต่อหน้าเลยครับ....
พี่กัปตัน : “เรามีเรื่องต้องคุยกัน”.....ด้วยเสียงนิ่งและเฉียบ

ผมหน้าเสียทันทีเลยครับ....แถบจะร้องไห้ออกมาเลยครับ

พอไปนั่งที่โต๊ะ....ผมนั่งก้มหน้าพี่เขมหายไปไหนก็ไม่รู้...ทีอย่างงี้นะไม่มาช่วยกันเลยเว้ย....พี่แอร์นางฟ้าทุนคนทำหน้านิ่งหมด....

ผมรู้สึกใจไม่ดีอย่างมากระครับ....นี่คงเป็นวันที่ผมถึงฆาตแล้วจริง ๆ ผมคงใช้แต้มบุญไปหมดกับขอให้ได้มาเจอพี่เขมละครับ

ซักพัก.....ก็มีแก้วเบียร์แก้วใหญ่....ตั้งที่หน้ากัปตัน....ผมนั่งนิ่งไม่กล้าขยับ...ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

พอหันไปอีกที ทุกคนมีแก้วเบียร์ตั้งอยู่หน้าตัวเองยกเว้นผม....ผมเริ่มตัวสั่นหน่อย ๆแล้วครับ จากที่นั่งยิ้มร่าเริง....แกล้งคนโน้นคนนี้ในไฟล์ ตอนนี้ตัวผมหดเหลือตัวเท่ากำปั้นเดียว

กัปตันเปรยขึ้นมา....”เงยหน้าขึ้น แล้วมองพี่”

ผมทำตามอย่างเคร่งครัด.....ตอนนี้ผมแทบไม่ได้หายใจเลยครับ

แล้วข้างตัวผมก็มีแก้วเบียร์อยู่ 1 แก้ว แล้วก็พี่เขมยืนถืออีก 1 แก้ว ข้าง ๆ สายตาดูแปลก ๆ

พี่กัปตัน : “รักพี่เท่าไหรชนเท่านั้น....” .....หลังจากนั้นก็ตามด้วยเสียงหวีดร้องของพี่แอร์นางฟ้าทั้งหลาย... “ฮิ้ว ๆ ๆ ๆ  กรี๊ด ๆ ๆ”

ทุกคนรวมหัวกันแกล้งผมครับ....เรียกว่ารับน้องก็ไม่ผิด

ผมนี่แทบซุดลงไปนั่งกับพื้น....

บี : “พวกพี่แกล้งผม”.......ผมตะโกนออกมาอย่างดัง ทุกคนหัวเราะชอบใจ ไม่เว้นแม้แต่พี่เขม

นี่แหละครับ...เป็นวิธีการรับน้องของพี่เขมตัวต้นคิดเลยครับ...นัดแนะกับทุกคน..ว่าจะรับน้องผม
แล้วความซวยก็ตกที่ผมสิครับ...ผมต้องเดินชนแก้วรอบโต๊ะเลยครับ....พี่ทุกคนพูดเหมือนกันหมดเลยครับว่า “รักพี่เท่าไหรชนให้พี่เท่านั้น”

แล้วผมก็ได้ชนกับคนสุดท้าย....จะใครซะอีกหละครับ...ก็พี่เขมตัววางแผนนี่แหละครับ

ตอนนี้ผมเริ่มจะเมาแล้วครับทั้ง ๆที่ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที แต่แก้วผมเนี่ยเติมไปกว่า 10 ครั้งแล้ว

พี่เขม : “ไงหละเรา...ไหวไม๊”

บี :  “สบายมากครับพี่”....เอิ้ก...ผมเผลอ เรอ ออกมา....ทุกคนขำกันหมดเลยครับ

พี่เขม :  “รักพี่เท่าไหร....กินให้เท่าพี่ คูณ สอง”

เสียงเชียร์ของพี่แอร์ หวีดร้องขึ้นอีกครั้ง.....ไอ้พี่เขมนี่มันกะจะให้ผมตาย ภายใน 15 นาทีเลยใช่ไม๊ครับ...แต่ตอนนี้ มองหน้าพี่แกก็เริ่มจะมีพี่เขา 2 คนละครับ....

พี่เขมกันไป 1 แก้วเต็ม ๆ ไม่หยุดเลยครับ นั่นหมายความว่า ผมต้องกิน 2 แก้ว เต็ม ๆ

ผมแทบจะก้มลงไปอ้วกแล้วครับตอนนี้

แต่ด้วยพลังแห่งความรัก....ฮิ้ว ๆ ๆ  มะโนเองอีกละ.....ผมก็กิน 2 แก้ว จนหมดในเวลา 2 นาที

ทุกคนกรีดร้องออกมาอีกครั้งและบอกว่าคืนนี้ใครจะหามไอ้บีไปส่งที่ห้องหละเนี่ย

ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง.....ผมแทบจะนั่งไม่ตรงละครับ กินไปคนเดียวเกือบ 10 ขวดภายใน ไม่ถึง 20 นาที.....

แล้วทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะปกติ....ทุกคนเม้ามอยคุยกิน...อาจจะด้วยฤทธิ์ของเบียร์ที่กินไปทำให้ทุกคนเริ่มคุยกันในเรื่องที่ถึงพริกถึงขินกันมากขึ้น

เราเริ่มคุยกันเรื่องใต้สะดือครับ....เรียกเสียงกรี๊ดจากสาว ๆนางฟ้าได้มากทีเดียว

พอมาถึงการเม้าเรื่องพี่เขม.....ซึ่งเป็นพี่แอร์นางฟ้าเป็นคนตั้งคำถาม

ก็เป็นคำถามที่เด็ดดวงเสียเหลือเกิน.......

พี่แอร์นางฟ้า : “พี่เขม....พี่เขมชอบน้องเจเหรอ....แล้วน้องเจมันมีแฟนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

พี่เขม : “...........”

To be continued


จากใจนักเขียน
นิยายนี้เป็นเรื่องแรกนะครับ....ให้กำลังใจติ ชม ได้นะครับผม ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ

ป.ล. ถ้าผมจะโพสเพลงจากยูทูปทำยังไงอ่ะครับ...ใครรู้ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ หรือถ้าทำไม่ได้ รบกวนบอกหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 14-09-2017 22:13:04
สนุกจ้า  ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 9 เพราะว่าเขาดีกว่า เพราะเขาสำคัญกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 15-09-2017 20:56:21
ตอนที่ 9 เพราะเขาดีกว่าเพราะเขาสำคัญกว่า

พี่เขมไม่ได้ตอบในทันที....แล้วก็โดนเสียงของเหล่าพี่แอร์นางฟ้า เรียกร้องให้ตอบ....

ผมเมามากแต่ก็พยายามตั้งใจฟังให้มากที่สุด....เพราะนี่อาจจะเป็นตัวตัดสินใจของผมเลยก็ได้ว่า...ผมควรจะเดินหน้าจีบพี่เขมต่อไปดีหรือไม่

ซักพัก...โทรศัพท์พี่เขมก็ดังขึ้น....และหน้าจอที่แสดงออกมานั้น....คือน้องเจ ที่โทรหาพี่เขม

หัวใจผมเต้นผิดจังหวะเลยทันทีครับ....แล้วพี่เขมก็ยืนขึ้นพร้อมกับกดรับแล้วเดินออกไปจากวง

ผมงงไปหมดไม่รู้ว่าจะคิดว่าอะไร....เมาก็เมา...อยากรู้ก็อยากรู้...เจ็บก็เจ็บ
มันเป็นความรู้สึกที่รวม ๆกันไปหมดทุกอย่างครับ
ผมก็ยืนขึ้นแล้วเดินออกไปจากวงเช่นเดียวกัน....ในตอนนี้ ในหัวของผมคิดอะไรไม่ออกเลยครับ
มันตื้อไปหมด....รู้อย่างเดียวแค่อยากจะหลุดจากความรู้สึกนี้ไปได้ให้เร็วที่สุด
“ทำไม...คนที่ผมชอบ...มันถึงได้ยากเย็นขนาดนี้นะ” ....ผมบ่นเบา ๆกับตัวเอง ผมเดินไปเรื่อย ๆ ออกจากร้าน แล้วก็ไม่รู้ทิศทางเลยครับ ผมหยุดอีกทีอยู่กลางซอยที่เป็นซอยตันในซอยนิมมาน ผมมองไปรอบ ๆ ไม่เห็นใครนอกจากความมืดมน....แล้วสิ่งที่ผมอยากจะปลดปล่อยมา มันก็ไหลลงอาบแก้มทั้ง 2 ข้างของผมครับ

“น้ำตา”....ของคนที่ไม่เคยมีตัวตน

เพลงที่ร้านข้างถนนแถว ๆนั้นก็ดังขึ้น

“รู้ฉันรู้ยังไงก็คงไม่ต่าง
รู้ฉันรู้ยังไงเธอก็เลือกเขา
รู้ถึงฉันขอร้องยังไง
เธอคงต้องลืมเรื่องของเรา
เพราะว่าเขาดีกว่า
เพราะเขาสำคัญกว่า”

 เพลง Please ของ อะตอม ชนกันต์

ผมนั่งลงข้างรถเก๋งสีดำเก่า ๆคันนึง ร้องเพลงท่อนนี้ตามซ้ำ ๆไปอยู่ในหัว.....นั่งลงปล่อยให้น้ำตาที่มันถูกกลั้นเอาไว้ ไหลออกมาให้หมด

ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรที่จะทำให้พี่เขมหันมาสนใจผมบ้าง....

เรามันเป็นคนนอกสายตา....จะทำอะไรไปมันก็ไม่เคยจะเข้าตา...หรืออยู่ในสายตาของพี่เขมอยู่แล้ว......ผมนึกถามตัวเองว่าทำไม....พี่เค้าถึงไม่มองเราบ้าง....

แล้วคำถามนี้มันก็ไม่มีคำตอบ......

ซักพักผมก็นึกขึ้นได้ว่า...ตอนที่ผมลุกเดินออกมาจากโต๊ะนั้น....ผมมาแต่ตัวครับ...ไม่ได้เอาอะไรมาด้วยเลย....ทั้งกุญแจห้อง กระเป๋าตัง โทรศัพท์มือถือ

ความวัวไม่ทันหาย..ความควายเข้ามาแทรกอีกแล้วไอ้บีเอ้ยยยยย

ผมเดินอย่าง งง ๆ กลับไปที่ร้าน...ทุกคนยังอยู่ที่โต๊ะแล้วก็พูดคุยกันสนุกสนานเหมือนเดิม แต่ความแตกต่างไปนั้นคือ ที่นั่งผมข้าง ๆพี่เขมมันคนนั่งอยู่แล้วครับ
ผมมอง มอง หาข้าวของที่ผมลืมไว้ ผมเห็นอีกทีมันอยู่ที่ข้างตัวพี่เขมครับ
ผมคิดหนักว่าจะไปเอามาอย่างไรดี.....ไม่อยากให้ทุกคนเห็นผมในสภาพนี้เลย

ผมเดินไปล้างหน้าแล้วกลับมาที่โต๊ะอีกที

พี่ ๆ ทุกคนแซวมาว่าหายไปไหนมา...อ้วกมาเหรอ

พี่กัปตัน :  “ไม่ไหวแล้วเหรอไอ้น้อง....แอบไปอ้วกมาใช่ไม๊เนี้ย”

บี :  “แฮ่ ๆ ๆ ๆก็โดนไปขนาดนี้...ให้ผมไม่อ้วกได้ไงหละคับพี่”....ผมตอบเลี่ยง ๆ

พี่แอร์นางฟ้า : “ว๊ายตั่ยล้าวววว...(พร้อมกับท่ามาดามมด) เพื่อนของผัวฉัน...หายไปไหนมา มานี่มานั่งกับเจ๊.....เด๋วเจ๊ดูแลเอง”

ผมพยักหน้า เดินไปข้าง ๆ พี่เขมแล้วหยิบข้าวของของ ผมมา อย่างไม่มองหน้าพี่เขม

พี่เขมทัก :  “เฮ้ย...ไหวไม๊เราอ่ะ”......ผมไม่ตอบแล้วเดินไปนั่งข้าง ๆพี่แอร์นางฟ้า

ระหว่างที่ผมกะลังจะเดินไปข้าง ๆ พี่แอร์นางฟ้า....เสียง แอร์สาวอีกคนก็ดังขึ้น

แอร์สาว : “เฮ้ยพี่เขม...มะกี้ยังไม่ได้ตอบเลยว่า....สรุปชอบน้องเจ รึป่าว”

ผมยืนนิ่ง...แล้วค่อย ๆนั่งลงที่ข้างพี่แอร์นางฟ้า.....

เสียงรบเร้าของพี่แอร์ดังขึ้นเรื่อย ๆ ตามประสาคนเมาครับ
มีทั้งเชียร์มีทั้งแซว มีทั้งกรีดร้อง.....ทุกคนดูอยากจะรู้เอามาก ๆเลยครับ
พากันคาดคั้นพี่เขม....จนในที่สุดพี่เขมก็พูดขึ้นมา

พี่เขม :  “เออ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ กรูชอบ พอใจพวกเมิงรึยัง” ....... “แต่น้องเค้า......”

หลังจากคำว่า....เออ ๆ ๆ ๆ  ๆ ๆกรูชอบ......ผมก็ไม่ได้ยินอะไรอีกแล้วครับ

คำนั้นมันก้องอยู่เต็ม 2 รูหูของผมเลย ผมทำอะไรไม่ถูก และผมก็คงถูกแล้วครับที่ว่า

“แพ้ ตั้ง แต่ ยัง ไม่ ได้ เริ่ม”

ผมลุกขึ้นยืน...แล้วเดินออกจากวงไป.......



Part  ของพี่เขม

หลังจากที่ไอ้เด็กบีตัวแสบ....ฝากผมซื้อของ...ผมก็คุยกับมันมากขึ้นครับ
เด็กคนนี้มันตลกดีครับ....พูดด้วยแล้วสบายใจ....มันชอบกวน ๆ ผมให้ผมยิ้มอยู่ตลอด

หลังจากเอาของไปให้มัน ผมก็ได้ทวงสัญญา ที่ว่าจะต้องพาผมไปเลี้ยงข้าวตอบแทนแหละครับ

ผมวางแผนไว้แล้วว่าน่าจะเป็นวันนี้ที่ พอดี.....ผมเห็นมันไปบินอยู่ลำข้าง ๆครับ เด็กเวรนี้หาตัวเจอง่ายชิบหายเลยครับ...เครื่องจอดอยู่ห่างกันตั้งไกล...แต่ผมดันเห็นคน คน นึงแล้วก็รู้ทันทีว่าเป็นไอ้บีตัวแสบครับ
ก็มันจำได้ง่ายจากระยะไกลเลยครับ...มันตัวสูง ขาว ตาโต คิ้วโคตรเข้ม...ยืนห่างซัก 2 กิโล ก็ยังเห็นคิ้วดกดำที่ตัดกับสีผิวบนใบหน้าของมันอย่างชัดเจนเลยครับ

ไอ้เครื่องบินเครื่องที่มันบินเนี่ย...เพื่อนผมเป็นคนขับอยู่เองครับ...ตัวสัญญาณวิทยุของเครื่องบินมันจะเป็นช่องเดียวกันหมดครับ...ใครพูดอะไรก็จะได้ยินกันหมด พอดีผมจำเสียงเพื่อนผมได้ ผมเลยรีบโทรไปหามัน ถามว่ามันลงกี่โมง
 
เขม : เมิง แลนกี่โมงเนี่ย

ผึ้ง : แลนประมาณ 5 โมงเนี่ย...ทำไมจ๊ะ จะชวนฉันไปดินเนอร์หราาาาา

เขม : ป่าวเลย ๆ ๆ ๆ ..... กรูแค่อยากรู้เฉย ๆ

ผึ้ง : อีอ้วนบ้า...กรูก็นึกว่า”เค” โทมา นี่เป็นเมิงใช่มะอีเขม

เขม : แสนรู้นะเรา

ผึ้ง : ....เมิงโทมาถามเวลาแลนกรูแต่ไม่ชวนกรูไปแดกข้าว หมายความว่าไร

เขม : เออหน่าาาาาาาา แค่อยากรู้...แค่นี้นะ

ผึ้ง : เด๋ว แล้วไมเมิงไม่เอาเบอร์เมิงโทหากรู ไปเอาโทสับไอ้เคมาทำไม

เขม : โทสับกรูพัง ไอ้เคมี  iphone 2 เครื่อง กรูเลยยืมมาใช้ก่อน

ผึ้ง : อ่อ ๆ แล้วเบอร์เมิง...ไม่ใช้แล้วเหรอ..

เขม : อีนี่ถามเยอะ...เซ้าซี้จริง....กรูเอาไปซ่อมอยู่แล้วกรูได้ samsung hero มาใช้แทน กรูเลยเอาซัมซุงฮีโร่ใส่เบอร์กรูไว้ แล้วกรูก็ใช้ iphone ไอ้เคเล่นเน็ต

ผึ้ง : ข่าาาาาาาาา....อีฉลาดดดดดดด หลอกใช้ของเพื่อน....บร๊ายยยยยยย

เขม : สึส

แล้วผมก็รีบโทกวนไอ้บีตัวแสบในทันทีแล้วก็ jackpot ใหญ่เครื่องไอ้เคเนี่ยมีเบอร์โทลูกเรือแทบจะทุกคนที่มันบินด้วยเลยครับ ผมลองหาชื่อ ธน วิตร แป๊ปเดียวเจอเลย.....ทำการนัดแนะให้เรียบร้อยว่าจะไปกินอะไรที่ไหน
แล้วผมก็ไปแวะบ้านเพื่อนยืมเสื้อยืดมา 2 ตัวแล้วก็ไปรอมันที่บริษัท

พอตก 5 โมงกว่า ๆ มันก็มาถึง ผมนี่หิวไส้กิ่ว ผมพามันไปเปลี่ยนเสื้อที่รถผมครับแล้วก็ออกความคิดว่าจะเอารถไปคันเดียว เผื่อที่จอดหายาก....

ตอนเปลี่ยนเสื้อนี่สิครับ....ทำเอาผมใจสั่นไปหมดง........

จริง ๆแล้วผมสาระภาพเลยอย่างนึงครับว่าผมกำลังจับ น้องเจ อยู่......
พูดตรง ๆเลยนะครับ น้องเจเนี่ย ตรงสเป็คผมทุกอย่างเลยครับ
ขาว มีกล้ามหน่อย ๆ หน้าตาดีมากกกกกกกก ตาหวาน ปากนิดจมูกหน่อย ผิวอมชมพูนิด ๆ ผมนี่เห็นครั้งแรก ละลายไปเลยครับ....ผมก็ไปสืบหาเบอร์น้องเจมาได้และผมก็จัดการสืบประวัติทันทีครับ...สรุปได้ว่าน้องเค้ามีแฟนแล้วครับ...ผมก็กินแห้วไปตามระเบียบ...แต่ความพีคอยู่ที่ ผมได้ข่าวมาว่าน้องเค้ากำลัง ระหองระแหง กับแฟนอยู่ มีทีท่าว่าจะเลิกกิน ผมก็เลย เข้าหาทันทีครับ....เผื่อว่าจะเป็นไปได้...จะว่าไป มันก็ไม่ค่อยดีเท่าไหรหรอกครับ...เป็นตัว catalyst  ทำให้คนเลิกกันเนี่ย แต่ใจผมมันก็อดไม่ได้ครับ......

ผมปรึกษาเพื่อนสนิทผม 2-3 คนครับว่าจะทำไงดี....ไม่มีใครเห็นด้วยเลยว่าให้จีบน้องเค้า แต่ผมก็ดื้ออ่ะครับ....ก็คนมันชอบอะเนอะ...ยังไงก็ขอลอง....สรุปว่าน้องเล่นด้วยครับ

น้องมีทีท่าว่าชอบผมอยู่เหมือนกัน....น้องเจบอกว่าเค้าจะเลิกกับแฟน...แล้วขอให้ผมรอหน่อยได้ไม๊

ผมก็ตบปากรับคำครับ....ยินดีมากครับ แต่.....ผ่านไปไม่กี่วัน...เค้าก็กลับไปดีกับแฟนเค้าครับ

ผมก็อยู่ในสภาวะ พัง โดน เท...แต่ก็เทไม่สุด เพราะน้องเค้าก็ยังติดต่อผมมาอยู่เรื่อย ๆ

สถานะของผม ....เข้าใกล้คำว่า “ชู้” เข้าไปทุกทีครับ......กะทะทองแดง ต้นงิ้ว ก็เริ่มเห็นอยู่รำไร

ผมก็เลยพยามยามเฟดตัวออกห่างจากน้องเจครับ....แต่มันก็เป็นไปได้ยาก....เพราะน้องเค้าก็ยังติดต่อผมมาอยู่ทุกวัน




เล่าซะยาวเลย....ไอ้คนที่ทำผมใจสั่นยิ่งกว่าเนี่ย คือไอ้น้องบีตัวแสบเนี่ยแหละครับ

วันที่ผมเห็นมันถอดเสื้อนะครับ....ผมนี้ตาค้างไปเลย

อึ้งมาก......ถึงน้องเจจะขาวอมชมพูขนาดไหน...แต่เทียบกับไอ้บีเลยไม่ได้ซักนิดเดียวครับ

ผิวไอ้บีใต้ร่มผ้าเนี่ย.....เนียนละเอียดมากเลยครับ....ผิวอย่างกะนางงาม...ขนก็ไม่ค่อยมี หุ่นมันก็ผอม ๆสูง ๆหน่อย แต่ไขมันก็ไม่ค่อยมีครับ....ผมเนี่ย เล่นเวตหนักก่อนไปเมกาเพื่อไปอาบแดดมา โชว์หุ่นริมหาดซะหน่อย แต่ไอ้บีเนี่ย มันหุ่นอยากเอาหน้าไปซุกไว้ตามตัวของมันมากเลยครับ จะพูดไปก็จะว่าผมหื่น....แต่มันใครความรู้สึกแบบนั้นจริง ๆครับ

ตอนแรกผมถอดก่อนแล้วเห็นน้องมันตกใจในหุ่นผม....ผมก็แอบยิ้มในใจละครับ

บอกเลยพี่หุ่นไม่แพ้นายแบบนะน้อง...แต่พอมันถอดบ้างเท่านั้นแหละครับ.....ผมนี้ไม่อยากจะให้มันใส่เลย

พอขึ้นรถ ผมก็หัวใจเต้นแปลก ๆ เริ่มรุ้สึกแปลก ๆกับไอ้เด็กคนนี้แล้วครับ ทำไงดีหละทีนี้

พอผมตั้งสติได้ จะออกรถ.....ก็มีเสียงเคาะที่กระจกด้านข้างผมพอดี

เป็นพี่นักบินที่สนิทกับผมเองครับ....ที่มาเคาะกระจกรถผม....ผมเห็นสีหน้าพี่แกไม่ค่อยจะสู้ดี

ผมเลยบอกไอ้น้องบีไปว่า เป็นวันหลังได้ไม๊ ไอ้บีมันก็ดีนะครับ...ยอมแต่โดยดี


ผมลงไปคุยกับพี่นักบิน ชื่อพี่น้าครับ พี่น้าเป็น 1 ในคนที่ผมปรึกษาเรื่องน้องเจ

พี่น้า : เมิงกะลังทำอะไรอยู่วะ...เขม
เขม : ไปกินข้าวกะน้องครับพี่....มีอะไรให้ผมช่วยครับพี่...ดูสีหน้าไม่ดีเลย
พี่น้า : เมิงแน่ใจนะ....ว่าเป็นแค่น้อง
เขม : ใช่คับพี่...พี่คิดว่าไงเหรอคับ
พี่น้า : แล้วเรื่องน้องเจ จบไปแล้วเหรอ
เขม : ........ “ยังคับ” .........
พี่น้า : แล้วจะพาเด็กอีกคนไปกินข้าว....นี่มันอะไร
เขม : “เฮ้ยพี่....มันไม่ใช่อย่างนั้นครับ”
พี่น้า : จากที่กรูเห็น มันเป็นอย่างนั้นหวะ
เขม : มันเป็นยังไงคับพี่
พี่น้า : เมิงนี่มันอ่อนหัดเนอะ.....
เขม : ............
พี่น้า : “รัก คน ที่ เค้า พร้อม จะ รัก เรา”
เขม : .......ยังไงนะพี่......
พี่น้า : เมิงไปคิดดูดี ๆ กรูว่าน้องคนนี้เหมาะกับเมิง
เขม : เหย.....พี่เอาไรมาพูด.....แล้วสรุปพี่จะให้ผมทำอะไร
พี่น้า : ไม่มี....กรูแค่อยากให้เมิง มองรอบ ๆตัวเมิงใหม่ ก็เท่านั้นเอง
เขม : อย่างงี้ก็ได้เหรอวะพี่
พี่น้า : หรือเมิงอยากมีเรื่องกะกรูหละ?
เขม : ยอมแล้วค๊าบบบบบบบบบบ

ผมคุยกะพี่แกไม่ถึง 5 นาที แต่ความคิดผมเปลี่ยนไปมากเหมือน 5 ปีเลยครับ
ผมไม่เคยสังเกตไอ้ตัวแสบคนนี้มาก่อนเลยครับ....จะว่าไปผมก็ชอบมันอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ไม่ใช่แบบนั้น....แต่เอ๊ะ ทำไม พี่น้าถึงต้องมาหยุดเพื่อไม่ให้ไปกะไอ้ตัวแสบ ที่พี่น้าบอกว่าเหมาะกับผมด้วย

ผมว่า มันมีบางอย่างเกี่ยวกับไอ้ตัวแสบนี้แน่ ๆหละครับ เพราะทุกคนที่ได้เห็นมัน ได้เจอมัน ได้คุยกับมัน ต่างสบายใจที่จะคุยกับมัน แม้กระทั่งพี่น้าที่ไม่เคยรู้จักมันมาก่อน พี่น้ายังเป็นห่วงมันเลยครับ

ผมขับรถกลับบ้านพร้อมกับความคิดในหัวเกี่ยวกับเรื่องไอ้ตัวแสบบี......มันมาวิ่ง วน ๆ ในหัวผมร่วม ครึ่งค่อนวันตั้งแต่ผมโทรนัดมัน จัดแจงไปกินข้าว กะมัน มารอมัน ไปหาเสื้อมาเปลี่ยนให้มัน

ผมว่า...ผมเริ่มมี ซัมติง กะไอ้เด็กนี่ขึ้นมาละครับ




แล้วผ่านไปอีกซักพัก....ในหัวผมก็ยังมีแต่เรื่องของไอ้แสบนี่ไม่เว้นแต่ละวัน
ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้เจอมันเลยนะครับ แต่กลับกัน ผมไปเจอน้องเจ เกือบจะทุกวัน คุยกับน้องเจเกือบจะทุกวัน....แต่ความรู้สึกมันยิ่งลดลงครับ

อาจจะเป็นเพราะคำของพี่น้า มันดังอยู่ในหัวของผมทุกครั้ง

“ รัก คน ที่ เค้า พร้อม จะ รัก เรา”

และแล้วผมก็ได้เจอไอ้ตัวแสบอีก วันนี้ผมบินแต่มันเป็น passive ครับ มันมาขอนั่งในห้องนักบิน ซึ่งโดยปกติแล้วลูกเรือต้องขอกัปตันก่อนถึงจะสามารถเข้ามานั่งได้ครับ....วันนี้ผมกับพี่กัปตันชวนมันคุยสนุกสนานมากมายใน cockpit ครับ...มีความรู้สึกเหมือนพาเด็ก 5 ขวบเข้าสวนสัตว์ครับ เห็นมันดูโน่น นั่น นี่ แล้วมันก็ถ่ายรูปต่าง ๆ เยอะมากกกกกกกกก
ดูเหมือนเด็กน้อย จากไอ้แสบที่ผมเห็นมันทุกครั้ง...วันนี้มันเป็นเหมือนเด็กน้อยที่ผมอยากจะดูแลเลยครับ....ทำไมความคิดมันถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้

ยิ่งเห็นมันคุยกับพี่กัปตันแล้ว พี่กัปตันก็เอ็นดูมันเป็นพิเศษ ยิ่งทำให้ผมเห็นอะไรในตัวเด็กคนนี้มากขึ้นเยอะ....มันเป็นคนที่พิเศษจริง ๆครับ....ใครอยู่ใกล้ ๆมัน ทุกคนก็มีความสุข อยากดูและมันไปซะหมด

พอส่งมันถึงที่หมาย ผมก็ต้องทำการบินกลับครับ...ร่ำลากันเล็กน้อย แต่มันก็ยังไม่ทิ้งแววไอ้ตัวแสบกวนตีนผมอยู่ทุกครั้งไป

ก่อนจะกลับกะลังจะปิดมือถือ .... ก็มี notification เตือนขึ้นมา ว่าผมถูกแท็กในรูป รุปนึง

เป็นรูปขาวดำที่ผมชวนมันเล่นเมื่อ 2-3 วันก่อน แล้วคนในรูปนั้นก็เป็นรูปผมครับ
หัวใจของผมเต้นตุบ ๆ อย่าง งง ๆ อยู่ดี ๆ มันก็พองโตขึ้นมา...มีทั้งความภูมิใจ ความใจเต้นเหมือนคนที่แอบชอบ ก็ชอบเราเหมือนกันอ่ะครับ

ผมส่งรูปนี้ให้พี่กัปตันดู พี่กัปตันชมไม่หยุดปากเลยครับว่ารูปนี้สวยมากกกกกกกก
มันแสดงถึงหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของนักบิน.....แล้วพี่แกก็กด  like รูปนี้ด้วยโทรศัพท์ผมทันที


ผมได้แต่ยิ้มอิ่มเอมใจ....ในใจผม...ผมคิดว่า ผมเริ่มชอบเด็กคนนี้เข้าให้แล้วจริง ๆครับ




To be continued…

หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 9.9 ไอ้ตัวแสบหายไป
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 15-09-2017 20:57:17
ตอนพิเศษ 9.9 ไอ้ตัวแสบหายไป

Part ของพี่เขม

หลังจากวันที่ไอ้เด็กตัวแสบ ได้ passive ในไฟล์ผม....ผมก็โชคดีคูณสองไปอีกครับ....ไอ้บีโดนเรียกสแตนบายมาค้างเชียงใหม่กับผมครับ
แล้วไฟล์นี้เป็นไฟล์เด็ดดวงครับ เพราะ ทั้งลูกเรือและนักบิน รู้จักและสนิทกันหมดทั้งไฟล์ครับ

แผนการรับน้อง ไอ้เด็กตัวแสบ จึงเริ่มขึ้นครับ

ผมนัดแนะกับทุกคนว่าเด๋ว จะให้ไอ้บี เมาหัวราน้ำ ให้พี่กัปตันเป็นคนแสดง ความนิ่ง แล้วหลอกมันว่าพี่กัปตันโกรธ แล้วก็ให้ทุกคนชนแก้วกับมันทีหลัง เอาให้ตายไปเลย เด่วเราค่อยช่วยแบกกลับห้องเอง

ทุกสิ่งถูกนัดแนะอย่างคร่าว ๆ แต่การแสดงของทุกคนนั้น....แน่นไปด้วยคุณภาพ

ไอ้บีหน้าเสีย...แทบจะร้องไห้...ก็อย่างที่ว่าแหละครับ...ทุกคนดูรักและเอ็นดูมันมาก ถึงจะเป็นไฟล์แรกที่มันบินกับทุกคนยกเว้นผม....แต่ทุกคนพร้อมที่จะให้ความรักและเอ็นดูไอ้บีมันเลยครับ

แล้วก็มาเจอจุด climax ที่อีแอร์กี่ตัวดี ขยี้ถามผมดีจริง ๆ เรื่องของน้องเจ

ผมก็พยายามเลี่ยงไม่ตอบที่สุด

และความพีคก็อยู่ที่ กำลังโดนขยี้จุดอยู่แล้ว น้องเจ ก็โทรมาพอดี

“Speaking of devil” มากเลยครับ

ผมลุกขึ้นจากโต๊ะเพราะไม่อยากให้ไอ้บีได้ยิน.....

รีบไปเคลียกับน้องเจ อย่างด่วนแต่มันก็เป็นไปได้ด้วยความยากลำบาก

น้องเจยังคงดื้อดึงไม่ยอมปล่อยผมไป....แต่ตอนนี้ในใจผม....มันคิดต่างไปจากเดิมมากแล้ว

น้องเจ : พี่เขมครับ...เจ ยังชอบพี่อยู่นะครับ...เจไม่รู้จะทำยังไงให้พี่รู้ได้ว่า เจ กำลังหมดรักกับแฟนแล้วครับ

เขม : ครับ...เจ ...พี่ว่าเจไปเคลียตัวเองให้เรียบร้อยก่อนดีกว่าไม๊ แล้วเราค่อยคุยกัน

น้องเจ :  พี่เขมรอได้ใช่ไม๊ครับ

เขม : ครับ...พี่รอได้....(ผมบอกปัด)

น้องเจ : แล้วทำไมพี่ดูไม่อยากคุยกับเจเลยอ่ะคับ

เขม : พี่อยู่ข้างนอกนะ...มากินข้าวกับคนในไฟล์
น้องเจ : มีใครบ้างครับพี่
เขม : เจไม่รู้จักหรอก...เครื่องบิน type นี้เจยังบินไม่ได้นี่
น้องเจ : พี่เขมปิดบังอะไรเจอยู่รึป่าวครับ
เขม : พี่ว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วนะเจ
น้องเจ : พี่เขม...ผมรักพี่นะครับ
เขม : เจ...มีแฟน อยู่แล้วนะครับ...เจจะมารักพี่ไม่ได้
น้องเจ : พี่เขมไม่รักผมแล้วใช่ไม๊....ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ

พอได้ยินเสียงน้องเจร้องไห้....ผมก็ใจอ่อน...คุยกับน้องเค้าอธิบายเพิ่มให้น้องเค้ารู้สึกดีขึ้นแล้วผมก็ขอตัววาง

พอผมกลับมาที่โต๊ะ ผมไม่เห็นไอ้บีตัวแสบแล้วครับ...มันหายไป เหลือไว้แต่ข้าวของ ของมัน

ผมเริ่มกระวนกระวายใจ...ว่ามันหายไปไหน...ผมถามใคร ก็ไม่มีใครรู้
ผมเดินออกไปดูที่ห้องน้ำ เดินหาทั่วทั้งร้านก็ไม่เจอ....ผมกำลังคิดว่าจะเดินออกไปหานอกร้าน ผมก็เห็นมันเดินกลับมาเหมือนซอมบี้

ผมเห็นมันก็เลยรีบวิ่งกลับไปนั่งที่โต๊ะ เหมือนผมไม่ได้ลุกไปไหนแล้วผมก็เอาข้าวของมันมาวางไว้ข้างตัวผม

ตอนนี้มีแอร์กี่ นั่งอยู่ข้างผมแทนที่ของไอ้ตัวแสบมัน

มันเดินกลับเข้ามาที่โต๊ะพร้อมทั้งหยิบของจากผมไปโดยไม่มองหน้าผม.....ผมเริ่มรับรู้อะไรบางอย่างได้แล้วครับว่ามัน มีอะไรแปลก ๆไป

แล้วแอร์กี่ก็ขยี้อีก 1 ทีเรื่องของน้องเจ
เซ้าซี่จะรู้ให้ได้...ว่าเกิดอะไรขึ้น

มันช่างเป็นเวลาที่เหมาะเจาะอะไรขนาดนี้....ทีตอนไอ้ตัวแสบไม่อยู่พวกเมิงไม่เสือกถามฟระ

ผมรีบตอบแบบปัด ๆ

เขม : เออออออออ....กรูชอบน้องเจ ....พอใจพวกมึงรึยัง.......แต่น้องเค้ามีแฟนอยู่แล้ว...กรูเลยไม่เอา

ซักพักผมก็รวบรวมความกล้า ที่ไม่ค่อยจะมีหรอกครับ....ตอนนี้ความเมามันเข้าสิงแทนไปแล้ว

บอกกับทุก ๆไปว่า

เขม :  จะว่าไป เรียกว่าเคยชอบถึงจะถูกที่สุดนะ เพราะตอนนี้


เขม : กรูว่ากรูเจอคนที่ใช่แล้ว

เสียงแอร์กี่กรี๊ดขึ้นมาดังยิ่งกว่าพลุแตก...ทุกคนทำท่าแซวผมใหญ่ พี่กัปตันก็เป็นเอามาก ยกแก้วให้ผมดื่มให้หมดพร้อมที่จะคาดคั้นผมว่าคนที่ผมชอบใหม่เป็นใคร......

แต่คนที่ผมเริ่มจะชอบสิครับ....กลับหายตัวไปซะแล้ว.......

To be continued
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 10 อดใจแทบจะไม่ไหว
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 15-09-2017 20:57:56
ตอนที่ 10 อดใจแทบจะไม่ไหว

ผมเดินให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้กลับไปที่ห้องผม....ถ้าช้ากว่านี้...น้ำตาผมมันต้องร่วงลงระหว่างทางแน่ ๆครับ

ซอยนิมมานในช่วงกลางคืนที่เต็มไปด้วยคน แต่ผมกลับรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างบอกไม่ถูก

การที่ได้มาค้างครั้งที่กับพี่เขมมันดีจริงเหรอฟระ......

ผมโทษโชคชะตาของตัวเอง....

ผมเดินได้ไม่เท่าไหรก็มีอะไรมาดึงผมไว้...ผมตกใจมาก ผมเลยสบัดแล้วผมก็ล้มลง....ด้วยความเมาบวกกับ ถนนนิมมานอันเรียบหรู ประดับตกแต่งเต็มไปด้วยฝาท่อต่าง ๆมากมาย

เสียงทุ้มที่คุ้นหูตะโกนอย่างสุดเสียง.....

……………… “บีเป็นอะไรมากไม๊....เจ็บรึป่าว...พี่ขอโทษ”......................

น้ำตาที่เคยกลั้นไว้ .... ไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้  ผมนั่งกอดเข่าแล้วปล่อยให้น้ำตาผมตกใส่แผลที่เข่า  มันเป็นอารมที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แล้ว....ผมไม่มีอะไรจะเสียแล้วจริง ๆ ผมต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ต่อร่างกายและจิตใจของผม

ผมไม่สามารถตอบพี่เขมได้ในตอนนี้ผมเอาแต่นั่งก้มหน้าปล่อยให้น้ำตามันไหล...ไม่อยากให้พี่เขมเห็นผมสภาพแบบนี้

เสียงทุ้มที่คุ้นเคยยังคงพูดไม่หยุด....ผมไม่รู้หรอกครับว่าเค้าพูดว่าอะไร....ผมแค่อยากจะหายไปจากตรงนี้...ไปโผล่อีกทีก็ที่ห้องเลยได้ไม๊....ผมอ้อนวรของพร กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

แล้วก็มีคนอุ้มผมขึ้นยืน.....แผลมันแสบมากเกินกว่าที่ผมจะยืดขาตรงได้
ผมได้แต่ร้องไห้ เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด

พี่เขม : เดินไหวไม๊
บี : ……………………….ผมไม่ตอบ
พี่เขม : บีเป็นอะไรคับ
บี : ………………………..ผมก็ยังคงไม่ตอบ
พี่เขม : บีเป็นแฟนพี่นะ
บี : ………………………..ผมยังคงไม่ตอบอีก

ตรงจุดนี้ผมงงไปหมดแล้วครับ....ไอ้พี่เขมแม่งเอาไงกันแน่ฟระ.....15 นาทีที่แล้วมันยังรับโทรศัพท์ น้องเจหายไปซักพัก.....แล้ว 5 นาทีที่แล้วผมยังได้ยินมันพูดอยู่เลยว่ามันชอบน้องเจ
ไอ้พี่เขมนี่เริ่มวอนตีนละครับ.....ผีนักเลงเริ่มเข้าสิงแทนที่ละครับ

ความเจ็บปวดถูกลืมไปชั่วขณะ ผมสบัดพี่เขมล้มไม่เป็นท่าแล้วผมก็วิ่งกลับห้องโดยทันที

พอถึงห้องผมรีล็อคห้องทันที อาบน้ำ ล้างหน้า ล้างแผล แล้วปิดไฟ สวดมนต์นอนเลยทันทีครับ

ผมได้ยิ่งเสียงเคาะที่ประตูห้อง...น่าจะเป็นเสียงพี่เขมแหละครับ...แต่ผมไม่ยอมเปิด แล้วผมก็สลบไปพร้อมกับคราบน้ำตา.....

เช้ามา...ผมตื่นเพราะลืมปิดม่าน....แสสส ไอ้บีเอ้ย เมิงนอนก็น้อย ยังจะเสือกตื่นมาสังเคราะห์แสงยามเช้าไปอีก

ผมเดินมาล้างหน้าแปรงฟัน

ก่อนเข้าห้องน้ำผมส่องตาแมวเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่หน้าห้อง

พอเส็ดธุระ ผมก็กะจะไปหากาแฟกินซักหน่อย...เพื่อลดความแฮ้งค์ พอผมเปิดประตูเท่านั้นแหละ

พี่เขมที่นั่งพิงประตูอยู่ ก็ไหลเข้ามาเลย

ผมตกใจมาก...แต่สีหน้าพี่แกเนี่ยสิครับ....น่าตกใจยิ่งกว่า

ผมไม่เคยเห็นพี่เขมทำหน้าดุเลยแม้แต่ครั้งเดียว....ครั้งนี้เหมือนกำลังจะกินเลือดกินเนื้อผมแล้วที่สำคัญเพิ่มระดับความโหดไปอีก 150% คือแผลที่หน้าพี่แกครับ....แม่งเหมือนเอาหน้าไปวัดกับถนนมา

ผมตกใจรีบยกมือไหว้พี่เขม....

พี่เขม : ไอ้ตัวแสบ เมิงเป็นเฮี้ยอะไร
บี : “…….ขอโทษค๊าบบบบบบบ..........ผมเมา.....” ผมแก้ตัวหน้าด้าน ๆ
พี่เขม : เมาแล้วเป็นแบบนี้เหรอ....(เสียงพี่เขม....อ่อนลงเยอะพร้อมกับหน้าตาที่เป็นห่วง)
บี : “คับพี่ เมาแล้วชอบร้องไห้อ่ะครับ......” ยังคงแถต่อไป....ถลอกไปหมดทั้งตัวละ

พี่เขม : แล้วมะคืนจำอะไรได้บ้างไม๊
บี : จำได้ว่าล้ม จำได้ว่าอ้วก จำไม่ได้ว่ากลับมาห้องยังไง
พี่เขม : .........ถอนหายใจยาวววววววว......... “ไหนเอาแผลมาดูสิ๊”
บี : แล้วหน้าพี่ไปทำอะไรมาหละ....เด็กช่างท้าตีเหรอ
พี่เขม :  ทำท่าจะตบกะบาลผม.... “เพราะเมิงเนี่ยแหละ เหวี่ยงกรูกระเด็นเลย เอาหน้าไปถูกับถนนยาวเลย”
บี : …………ขอโทษค๊าบบบบบบบ................
พี่เขม : คนห่าอะไรแรงเยอะชิบหาย....เห็นผอม ๆอย่างงี้เหวี่ยงกรูซะลอยเลยค๊าบบบบบบบ

ผมรีบไปหยิบกระเป๋าทำแผลให้กระเป๋าบินผมครับ....ผมเป็นคนพก อุปกรณ์การทำแผลติดกับกระเป๋าเป็นประจำอยู่แล้วครับ ข้าวของค่อนข้างครบครันทีเดียวครับ

ผมเริ่มทำแผลให้พี่แก...เริ่มจากการล้างแผล เช็ดแผล ทายา ติด พลาสเตอร์

ผมเริ่มถามคำถามกับพี่เขม

บี : พี่มานั่งหน้าห้องผมทั้งคืนเลยเหรอ
พี่เขม : ก็เออดิวะ
บี : ยุงกัดไม๊
พี่เขม : ถ้ากรูเป็นไข้เลือดออก .... กรุจะให้เมิงไปเฝ้ากรูทุกวัน ....คอยดู
บี : ยุงที่ทำให้เป็นไข้เลือดออก ส่วนใหญ่จะกัดกลางวันครับ
พี่เขม : สู่รู้
บี : เก่งง่ะ..........พี่เขมผมขอโทษจิง ๆนะครับ
พี่เขม : เอออออออ...เพิ่มจากเลี้ยงข้าว 1 มื้อ เป็นเลี้ยงข้าว 1 เดือน.....ไม่เอา  1  ปีเลยดีกว่า
บี : น้องจนจะตายจะให้เอาอะไรไปเลี้ยงหละ....อาหารลูกเรือได้ไม๊
พี่เขม  ทำท่าจะเข็กกระบาลผมอีกครั้ง..... “ไอ้ตัวแสบ”....แล้วก็ขยี้หัวผมแทน
บี : ผมหลับตาปี๋

ผมแปลกใจมากครับว่า สรุปเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่....ทำไมมันเหมือนหนังคนละม้วน กลับหน้า ABCD กลับตาลปัตร ไปหมด

แต่ตอนนี้....ผมจะกอบโกยเอาความสุข ช่วงสุดท้ายนี้ไว้ให้ได้มากที่สุดก่อน....ก่อนที่ผมจะต้องสู้กับความจริง

“ลืมตาเพื่อจะพบว่าไม่มีเธอ
อยู่บนโลกใบที่เคยเจอ
กับความรักที่มันสวยงาม

อยากทำใจอยากจะรับความเป็นไป
อยากจะไม่มัวมาอาลัย
แต่ก็ไม่วายคิดถึงเธอ

อยากพบอีกครั้งหนึ่ง
อยากซึ้งอีกสักนาที
อยากทำดีๆ กับเธออีกสักครั้ง
.
.
One kiss for goodbye. One touch for the last time.
Just one more chance to be in your life...
So deep, our love lies. Bring tears to my eyes,
To realize we're not meant for each other…”

เพลง เข้ากันไม่ได้ ของ Synkronize ft. Muzu

เพลงนี้มันก็ดังขึ้นมาอยู่ในหัวเลยทันทีครับ....สิ่งที่ตามมา...เป็นอะไรไปไม่ได้...ก็คือน้ำตาของผมนั่นเองครับ....ผมพยายามมองบน หายใจลึก ๆ หันหน้าหนีพี่เขมทันที

ผมรีบบอกให้พี่เขมกลับห้องไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟังคับ....แต่พี่เขมก็ไม่ฟัง บอกว่าไม่ไหวละไม่ได้นอนทั้งคืน จะนอนมันที่นี่แหละ .... ผมห้ามยังไงก็ไม่อยู่.....ผมเลยบอกไปว่าจะนอนก็ได้ แต่ต้องอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันก่อน
พี่เขมยิ้มกว้างแล้วก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปแล้วก็โวยวายเสียงออกมาจากห้องน้ำา

พี่เขม : บีคับ...มาช่วยพี่หน่อย พี่แกะถุงแปรงฟันไม่ได้
เป็นครั้งแรกที่พี่เขมเรียกผมว่า “บีครับ” ผมนี้แอบสะดุ้งเลยครับ...มันเป็นเสียงที่ทุ้มและนุ่มนวล ผมอยากจะให้พี่เค้าเรียกผมอย่างงี้ตลอดไปเลยครับ

บี : คับผม....ผมขานตอบ

พี่เขมท่าทางดูทุลักทุเล กับการแกะซองแปรงฟันมาก เพราะมือข้างนึงของพี่เขม ก็มีแผลไม่น้อยเหมือนกัน

บี : อะ.....แกะให้แล้ว...
พี่เขม : รีบทำท่าไล่ออกจากห้องน้ำแล้วเตะประตูห้องน้ำปิดดัง...ปั้งงงงงง
บี : เฮ้ยพี่ไม่พอใจไรฟระ
พี่เขม : ปวดขี้จะราดอยู่แล้ว

ผ่านไปซัก 10 นาที


พี่เขมก้โวยวายออกมาอีกกกก

พี่เขม : บีคับ...พี่ถอดเสื้อไม่ได้
บี : ผมกะลังเปิดประตูแง้มเข้าไป...
พี่เขม : ตะโกนออกมา... “เฮ้ยเดียวก่อน.....ยังไม่ได้ใส่กางเกง”
บี : ผมแอบเห็นก้นแน่น ๆของพี่เขมดิ้น ๆสะท้อนกระจกในห้องน้ำแล้วก็แอบขำออกมา
พี่เขมเงยหน้าขึ้นมองผ่านกระจกละท้อน... “เฮ้ยอยากแอบดูดิฟระ”

บี : โอเค ๆ ครับพี่....
พี่เขม : เข้ามาได้......พี่แกเอาผ้าเช็ดตัวพันตัวไว้อย่างลวก ๆ
บี : หืม....นี่กินอะไรเข้าไปเนี่ย....เหม็นสัส.....ขี้คนหรือขี้.....สุนัข
พี่เขม : แหม่ ๆ ๆ ๆ ไอ้คนขี้หอมมมมมม
บี : ผมหยิบน้ำหอมพรม ๆ ให้ห้องน้ำ
พี่เขม : เออฉลาดเว้ย...แสนรู้จิง ๆ
บี : อ่า....ให้ช่วยอะไร
พี่เขม : อาบน้ำให้หน่อย
บี : เฮ้ย...ได้ไงฟระ อาบเองดิ
พี่เขม : ก็พี่เป็นแผลเพราะยูทำเลยนะ
บี : อ่า ๆ ๆ ๆ ยังไงหละ
พี่เขม : เด๋วพี่เข้าไปนั่งในอ่างอาบน้ำ ท่อนล่างไม่ต้องถู ถูแค่ครึ่งบนพอ
บี : แล้วเอาผ้าเช็ดตัวพัน ๆไว้แล้วลงไปแช่ในอ่างเนี่ยนะ
พี่เขม : หรือจะให้แก้หมด?
บี : เฮ้ย ๆ ๆ ๆ ๆไม่เอา ๆ ๆ ๆ ......ผมเริ่มหน้าแดง เขินสัส ๆ

แล้วผมก็อาบน้ำสระผมให้พี่เขม.....พี่เขมเป็นผู้ชายคนแรกที่ผมอาบน้ำให้...
ผมบอกให้พี่แกต้องยกแขนไว้ตลอดเพราะเป็นแผล ผมก็ถู ๆขัด ๆไปเรื่อย ๆ
แล้วน้องชายผมมันก็เริ่มทำงาน....ผมหาผ้ามาเช็ดตัวมาคลุมไว้เพื่ออำพราง

แต่ไอ้คนที่นั่งอยู่ในอ่างสิครับอำพรางไม่ได้ พี่เขมรีบบิดหน้า นั่งหันหลังให้ผมทันที
ผมแอบสังเกต ขนาดก็ใหญ่กว่าตัวพี่เขมเยอะเลยครับ....ขนาดมีผ้าเช็ดตัวหนา ๆคลุมไว้นะครับ
ตอนนี้จิตใจผม เตลิดเปิดเปิงไปหมดแล้วครับ

ผมได้มาค้างกับพี่คนที่ผมชอบ ได้กินเหล้ากะพี่เค้า แล้วก็ทะเลาะกะพี่เค้า พี่เค้าก็ตามมาง้อนั่งรออยู่หน้าห้อง แถม climax สุด ๆได้อาบน้ำให้พี่เค้าไปอีก....พูดแค่นี้ผมก็ถือว่าคุ้มเกินคุ้มละครับ.....นอนตายตาหลับละครับ


 พอเสร็จกิจ....เอ้ย อาบน้ำเสร็จ...ผมรีบลุกออกจ้าห้องน้ำทันที...หัวใจเต้นรัว ๆ ทำทุกวิธีทางที่จะทำให้น้องชายมันอ่อนตัวเร็วที่สุดครับ

พี่เขมออกมาจากห้องน้ำสภาพทุเรศกว่าเดิม เหมือนลูกหมาตกน้ำ แล้วผมก็เช็ดตัวด้านบนให้ แล้วก็เป่าผม ทาครีม ประแป้งแล้วก็เตรียมนอน....แต่ ไม่มีชุดนอนครับ

ผมเลยเอาชุดนอนผมให้ใส่...แต่ชุดนอนผมคือ boxer ขาสั้นมากกก 1 ตัว และ เสื้อกล้าม อีก 1 ตัว
พี่เค้าดูเซ็กซี่มากในชุดนอนของผม ผมกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ แล้วพี่เค้าก็คว้าคอผมไปนอนกอด

หัวใจผมเต้นรัวกว่าเดิมไปอีก....ผมทำตัวไม่ถูกได้แต่นอนนิ่ง ๆ แล้วซักพักก็ได้ยินเสียงกรนเบรา ๆจากพี่เขม
เมื่อผมแน่ใจแล้วว่าพี่เขมหลับไปแล้วผมจึงค่อย ๆขยับออกมาจากอ้อมแขนของพี่เค้า

ผมจ้องมองพี่เค้าด้วยแววตาที่อาวร....สูดหายใจเข้าลึก ๆแล้วผมก็....
พูดออกไป....ว่า

.........พี่เขมครับ......เป็นแฟน....ผมได้ไม๊ครับ......


To be continued
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 9-10
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 15-09-2017 21:41:42
เป็นแฟนกันเร็วๆ  นะ
พี่เขมทุ่มเทมากกก  นั่งรอหน้าห้อง  ไม่กลัวยุงกัดด้วย
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 16-09-2017 12:36:44
ตอนที่ 11 โอเคกับสิ่งที่มี ยินดีกับสิ่งที่จากไป

ผมเดินออกมาจากห้องเพื่อจะหยุดความฟุ้งซ่านของตัวเอง....ผมอยู่ใกล้พี่เขม กว่านี้ไม่ได้จริง ๆครับ...ผมกลัวว่าผมจะทำเรื่องที่ผิดต่อเค้า.....ในหัวความ มะโนของผมเนี่ย...เห็นพี่เขมในชุดนอนของผมทีไร มันทำให้ผมอยากจะล่วงเกินพี่เค้าอยู่ตลอดเวลา....

ผมเดินลงมาที่ห้องอาหารเช้า....เจอกับพี่กัปตันของไฟล์ผม.....สภาพภายนอกของผมตอนนี้คือแย่เลยครับ ทั้งหัวฟู มีแผลสดมากมายตามตัว

พี่กัปตัน : ว่าไงไอ้น้อง...ไปโดนหมาที่ไหนฟัดมาอ่ะเมื่อคืน
บี : ผมยกมือไหว้กัปตันแล้วก็ตอบไปตามความจริง.... “ผมเดินตกท่อครับ”
พี่กัปตัน : ปล่อยขำออกมา.....นี่เมาขนาดมองไม่เห็นทางเลยเหรอ
บี : ก็พี่กัปตันเล่นมอมผมซะขนาดนี้...จะให้ผมเดินตรงได้ไงหละครับ
พี่กัปตัน : “ใคร๊มอมน้อง?...(เสียงสูงมากกกก)...ไม่มี๊.....เมื่อคืนพี่เข้าห้องสวดมนต์นอนครับ
บี : แหม่ ๆ ๆ ๆ สวดมนต์ข้ามคืนเหรอครับพี่
พี่กัปตัน : เออ...เอ็งนี่มันยียวนกวนประสาทจริง ๆเลย.....ว่าแต่ จะบินไหวเหรออย่างงี้ เห็นเมื่อคนไอ้เขมก็ออกไปตามหาหนิ เป็นไงบ้าง
บี : รายนั้นหนักกว่าผมอีกครับ....แผลท่ัวตัวเลย ลามไปถึงหน้า
พี่กัปตัน : เอ้ยแล้วมันจะบินไหวเหรอฟระ.....มันอยู่ไหนพาพี่ไปดูมันหน่อย
บี : ……………………………………..
ผมตกใจ....ไม่กล้าตอบ....ว่าพี่เค้าอยู่ห้องผม....ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
พี่กัปตัน : มันอยู่ห้องเอ็งใช่ไม๊...พาพี่ไปดูเร็ว

ผมพยักหน้าแล้วรีบพาพี่กัปตันขึ้นไปดู

พอพี่กัปตันเห็นสภาพ....พี่กัปตันก็ตัดสินใจ โทรหา ผู้บังคับบรรชาทันที

พี่กัปตัน : ขอสาย...... chief pilot.... หน่อยครับ
ผ่านไป 10 วิ.....เฮ้ยมึง....ไอ้เขมไปเดินตกท่อมะคืนหวะ .... สภาพเละเลย เด๋ว กรูขอนักบินมาบินแทนซักคนได้มะ...กรูจะให้มันไปโรงพยาบาลก่อน ...เมื่อคืนกรูไม่ได้เห็นมันตกท่อ มาเจอเมื่อเช้านี้เอง...เด๋วให้มัน passive กลับแล้วไปโรงพยาบาลก่อนได้มะ....กรูรับผิดชอบเอง

พี่กัปตัน บ่นต่ออีกหน่อย....เฮ้ยมึง มีน้องลูกเรืออีกคนตกท่อเหมือนกัน พัง พอ ๆกันเลย...ถ้าเป็นไปได้ติดต่อ แผนกลูกเรือส่งคนมาอีกคนก็ดีนะ...จะได้ให้มันพากันไปโรงพยาบาลเลย

ตอนที่พี่กัปตันคุยโทรศัพท์....แล้วลามมาถึงเรื่องผม...ผมตกใจมากว่า...เฮ้ยน่าจะไม่ได้ไปบินวันนี้แน่ ๆ ละ เพราะดูจากสภาพทั้งผมและพี่เขม ไม่น่าจะรอด

พอพี่กัปตันคุยโทรศัพท์เสร็จ พี่กัปตันก็เดินมาบอกว่า.....

พี่กัปตัน : เอ็งไอ้บี....ในฐานะที่เป็นจูเนียร์สุด...แล้วแผลเอ็งก็เยอะพอดูอยู่....พี่จะให้เอ็ง passive กลับแล้วพอถึง กทม. แล้ว เอ็งมีหน้าที่พี่ไอ้เขมน้องพี่....ไปหาหมอที่โรงพยาบาล....แล้วเอ็งก็ไปหาด้วยหละ...ทำแผลให้เรียบร้อยแล้วโทรมาบอกพี่เมื่อทุกอย่างเสร็จแล้วเข้าใจไม๊

บี : เข้าใจครับ....ผมขอโทษครับพี่

พี่กัปตัน : เฮ้ย ไม่เป็นไร.....พี่มีหน้าที่ต้องดูแล ทุกคนในไฟล์พี่อยู่แล้ว...ไม่ต้องกลัวนะว่าจะมีความผิด...มันเป็นอุบัติเหตุ

บี : ขอบคุณมากครับพี่กัปตัน

พี่กัปตัน : เออ...ไปหาข้าวกินซะแล้วไปซื้ออะไรมาฝากไอ้เขมด้วย....อะ เอาเงินนี่ไป...แล้วเจอกันตอน pick up.


พี่กัปตันแม่ง สปอร์ทมาก....ใจดีสุด ๆ โคตรเท่ห์ อ่ะ

ผมมารู้ทีหลังว่าพี่แกเคยเป็นตำแหน่งใหญ่โตในบริษัท แต่พี่แก เบื่อแล้วก็เลยอยากบินอย่างเดียว....สุดยอดไปเลยครับพี่


ผมก็ไม่กล้าอยู่ในห้องกับพี่เขม 2 ต่อ 2 ผมจึงออกมาหาอะไรกิน จิบกาแฟ แล้วก็ซื้ออาหารเช้าไปให้พี่เขม...ตามคำสั่งของพี่กัปตัน

พอกลับมาถึงห้อง...เจอพี่เขมนั่งอยู่ที่เตียงทำหน้าบูดบึ้งอยู่.....

บี : อ่าวพี่ตื่นแล้วเหรอ

พี่เขม : เออดิ...หายไปไหนมา ทำไมไม่เฝ้าพี่

บี : อ่าว....ผมไม่ใช่หมานะพี่จะได้นั่งเฝ้าพี่เฉย ๆ

พี่เขม : ยียวนกวนประสาท....

ผมยิ้มรับแล้วก็ทำท่า ยกอาหารที่ซื้อมาฝากพี่แก.....

บี : นี่ไงผมไปซื้อข้าวมาให้กินไงครับ...นี่ breakfast in bed เลยนะ

พีเขม : เหอ ๆ ๆ....ไม่กิน....ถ้าพี่ไม่ชอบพี่ไม่กินหรอก

บี : ก็ตามใจ...ผมซื้อมาแต่ของอร่อยที่ผมชอบกิน.....พี่ไม่กินผมก็กินเอง....ไม่เห็นยาก

พี่เขม : เด๋วเหอะ.... “ทำท่าเหมือนจะขว้างอะไรใส่ผมซักอย่าง”

พี่เขม กินแม่งมันครบทุกอย่างเลยครับ ทั้งกาแฟ ขนมปังโอชิน โรตีกรู พายจรัญ และก็ข้าวเหนียวไก่ทอดใบมะกรูด

ที่สำคัญที่สุด ผมไปซื้อต้มโคล้ง กระดูกหมู มาด้วยครับ ซดกันจนหยดสุดท้ายเลยครับ

ทีนี้ส่างเลยครับ....หายเมาค้าง เจอฤทธิ์ ต้มโคล้งไป


แล้วผมก็แจ้งเรื่องที่เราต้อง passive กลับแล้วก็ไปโรงพยาบาลตามคำสั่งของกัปตัน

พี่เขมทำหน้าเครียด...แล้วพี่เขมโทรคุยกับพี่กัปตัน

ผมทำการเก็บกวาดทุกอย่าง แล้วก็มานั่งที่โซฟา ดูทีวี เพลิน ๆ

ซักพักก็คล้อยหลับไป....


ผมฝัน....ถึงเรื่องเหตุการณ์เมื่อคน....ผมจำได้ลาง ๆ แต่จำเสียงทุ้ม ๆ ของพี่เขมได้อย่างแม่นยำ

ในฝันนั้น มันเป็นเหตุการณ์ที่กระโดด ไปมา....ระหว่างคำที่ว่า

พี่เขม : เอออ....กรูชอบน้องเจ....พอใจพวกมึงรึยัง

กับ

พี่เขม : บีเป็นแฟนพี่นะ

ประโยค 2 ประโยคนี้ดังค้างอยู่ในหัวผม

ซักพักนึงผมเริ่มรู้สึกชาที่ขา....เหมือนมีอะไรมาทับผมเริ่มขยับตัวได้ลำบาก.....อาการเหมือนถูกผีอำ...แต่เป็นตอนกลางวันแสก ๆ ๆ

ผมขยับขาไม่ได้เลยครับ...แล้วผมก็เริ่มกลัว.....ผมเริ่มพยายามดิ้นแต่ขาผมเหมือนมีอะไรมากดทับอยู่ ผมรวบรวมความกล้าทั้งหมด ปลุกตัวเองให้ตื่นขึ้นมา ก็พบกับว่า หัวคนครับ

หัวคนนอนอยู่ที่ขาผม....แล้วมันกำลังทำให้ขาผมเป็นตะคริว

ผมร้องออกมาอย่างดัง....

บี : เฮ้ย...พี่เขม มานอนอะไรตรงนี้ฟระ (ผมพูดพร้อมขยับตัวลุกหนี)

พี่เขม : โอ้ย ๆ ๆ ๆ ๆ แผลที่หน้ากรู

บี : เฮ้ยพี่...ผมขอโทษ......ช่วงเวลาที่ผมขยับหนี น่าจะทำให้แผลที่หน้าพี่เขมกระเทือน

พี่เขม : ก็เห็นมันน่านอนดี...ก็เลยมานอนด้วย หลับคนเดียวจะไปสนุกอะไร

ผมคิดในใจ....ไอ้หน้าหม้อเอ้ย....มานอนตักกรู.....แถบมะคืนก็บอกว่าชอบน้องเจ
แล้วเห็นกรูเป็นตัวอะไร....ตัวขั้นเวลารึไง.....คงจะรอให้น้องเจเลิกกะแฟนสินะ...แล้วเด๋วแม่งก็ทิ้งกรู

แล้วพี่เขมก็ลุกขึ้นทำท่าทางจับ ๆแผล

ผมไล่พี่เขมกลับห้องโดยทันที บอกว่าใกล้เวลา pick up time แล้ว ให้ไปแต่งตัว...เตรียมตัวได้แล้ว

พี่เขมก็ยอมแต่โดยดี.....

เราก็ passive กลับพร้อมกันแต่ไฟล์ค่อนข้างแน่น...เลยทำให้เราไม่ได้นั่งด้วยกัน

พอถึงสนามบิน ผมก็จัดการลากกระเป๋าพี่เขมกับกระเป๋าผมมาให้พี่เขมเดินตามมาอย่างช้า ๆ

จริง ๆแล้ว ไอ้พี่เขมเนี่ยครับมันไม่น่าจะเจ็บอะไรมาก เพราะแผลส่วนใหญ่เป็นที่มือ แขน แล้วก็หน้า ไม่รู้ไปล้มอิท่าไหน.....

แต่ผมนี่สิครับ....ทำฟอร์ม ไม่เจ็บ แต่จริง ๆ เข่าทั้ง 2 ข้าง พังหมด...เลือดซิบ ๆตลอดตั้งแต่เช้า...อาจจะเพราะอาบน้ำแล้วโดนน้ำไปอีก

ก็แน่หละสิครับ.....คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง.....ใครจะไปกล้าหน้าด้านขอให้คนอื่นอาบน้ำให้อย่างพี่เขม


ตอนนี้ผมรู้สึกตัวเองเหมือนเป็น bi polar มากเลยครับ....คอยดูแล เทคแคร์พี่เขมประหนึ่งว่าเป็น คู่ผัวตัวเมีย....แต่อีกใจนึงก็ เกลียดพี่เค้า...ที่พี่เค้าไปชอบน้องเจแล้วยังเสือกจะมาอ้อยผม

นี่ ที่ผมอุตสาไป search อากู๋มาว่า how to อ้อย ผช. เนี่ย.....พี่เขมเป็นคนเขียนกระทู้นี้เองป่าวฟระ.....อ้อยกรูจัง


ระหว่างทางขับรถไปโรงพยาบาล....
ผมเป็นคนขับรถให้พี่เขมนั่งครับ....เอารถผมไป....ผมก็เปิดเพลงแล้วฮัมเพลงในรถผมตามปกติ

พี่เขมดูจะมีความสุขมากกกกร้องตามได้ทุกเพลง....

อ่อ ๆ เพราะมันเป็นนักดนตรี...อย่าลืมสิ...มันเลยรู้จักเพลงซะเยอะเลย

แล้วพี่เขมก็เอยปากขึ้นมา

พี่เขม : เห้ย ..... shape of you…พร้อมเปิดกลองชุด เคาะ รถผมเป็นทำนอง
บี : ผมร้องตามได้อย่างเชี่ยวชาญ....ผมฝึกมาดีครับเพลงนี้...พร้อมทั้งยักคิ้วให้พี่แก

บี : “The club isn't the best place to find a lover
So the bar is where I go (mmmm)
Me and my friends at the table doing shots
Drinking fast and then we talk slow (mmmm)
And you come over and start up a conversation with just me
And trust me I'll give it a chance now (mmmm)
Take my hand, stop, put Van The Man on the jukebox
And then we start to dance
And now I'm singing >>>> พร้อมชี้ไปที่พี่เขม

พี่เขม : Girl, ถั่วงาถั่วงาถั่วงา love
ถั่วงาถั่วงาถั่วงา somebody like me
Come on now, follow my lead
I may be crazy, don't mind me
ถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงาถั่วงา, follow my lead (mmmm)

แล้วเราสองคนก็ร้องท่อนต่อไปพร้อมกัน.....
มันเป็นสิ่งที่สนุกมากครับ...จนทำให้ผมลืมไปชั่วขณะว่า...ผมกำลังโกรธคน คนนี้อยู่

ไอ้พี่เขมก็พยายามร้อง แต่ก็ได้แต่ดำน้ำ....5555 แต่ก็ยังจะร้องให้ได้
มันเป็นมือกลองมันเลยไม่ค่อยจะสนใจเนื้อร้องเท่าไหร

พอถึงโรงพยาบาล ไม่ได้พูดพร่ำทำเพลงอะไรกันมาก....หมอจับฉีดยากันบาดทะยักทั้งคู่แล้วก็ส่งตัวไปทำแผลอย่างจริงจังครับ

ผมกลับออกมาจากห้องทำแผลพร้อมทั้งสนับเข่าอันใหญ่ 2 ข้างเลยครับ ผมนึกว่าตัวเองจะไปแข่ง ice hockey

และส่วพี่เขมครับ ฮากว่า....พันหัวอย่างกะมัมมีแปะหน้าแปะตา แทบจะไม่เหลือพื้นที่ว่าง
ถ้าใครเคยอ่านการตูน นารุโตะ จะต้องรู้จัก ดันโซ แน่ ๆ ครับ พี่แกพันออกมาแบบนั้นเลยครับ
พอเราเจอกันเราก็ขำใส่กันใหญ่ บอกว่านี่ผ่านสงครามเวียดนามกันมาเหรอ....ทำไมดูหนักหนาจังฟระ

พี่แกยกกล้องมีถือออกมาพร้อมขอให้บุรุษพยาบาลถ่ายภาพให้

พี่เขมใช้มือข้างที่ไม่ได้ผู้คล้องคอ มาคล้องคอผม แล้วก็บอกให้ผมทำหน้ากวน ๆ โหด ๆ

.
.
.
.
.
และรูปนั้นก็เป็นรูปสุดท้ายของ แคมเปญ black and white photo challenge ของพี่เขมครับ

Caption ว่า โอเครกับสิ่งที่มี.....ยินดีกับสิ่งที่จากไป

.....แล้วก็แท็กชื่อผม


To be continued


https://www.youtube.com/watch?v=_dK2tDK9grQ
เพลง shape of you ครับ

ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับ...ว่าง ๆ ก็ลองฟังเพลงแล้วงับตามพี่เขมไปก่อนนะคับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 11 (16-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 16-09-2017 13:39:37
ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 11 (16-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-09-2017 17:44:55
สนุกดี
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 12 ความไม่แน่นอน
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 17-09-2017 11:10:07
ตอนที่ 12 ความไม่แน่นอน

หลังจากออกจากโรงพยาบาลเราก็หิวโซ...พากินไปกินอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ห้างใกล้ ๆ
พอพนักงานเอาเมนูมาให้เท่านั้นแหละ....ผมกับพี่เขม ก็สั่งกันแหลกเลยครับ
ผมเป็นเด็กบ้านนอกครับกินอาหารญี่ปุ่นเป็นอยู่ไม่กี่อย่าง...ปลาดิบที่กินเป็นก็มีแต่ salmon อย่างเดียว...แล้วก็หอยที่ชอบกินก็คือ hotate ที่เหลือถ้าไม่สุกก็ไม่กินครับ
แต่พี่เขมสิครับ...สั่งมาจัดเต็มมากกกก....ปลาไม่รู้กี่สายพันธุ์ พี่แกเล่นสั่งมาหมด

สุดท้าย...พี่แกก็กินได้แต่ปลากกินข้าวไม่ไหว...เพราะผมช่วยกินไม่ได้เลย

ขนาด foie gras กับ ไข่หอยเม่นผมยังไม่กล้ากินเลยครับ...พี่แกสั่งมาอย่างเวอร์แล้วพี่แก้ก็รับกรรมไปครับ

พนักงานคงเห็นเราสั่งกันเยอะ...จึงเชิญเชฟให้มาคุยด้วย...เชฟก็ทำความรู้จักกับเราแล้วก็แนะนำเมนูพิเศษที่เค้าปรุงเองสำหรับวันนี้ครับ...แล้วก็ถามเราว่าเราอยากจะลองไม๊

เชฟญี่ปุ่นแนะนำเป็นภาษาไทยแบบครับ...บอกว่าเป็นซุปปลาที่เค้าตั้งใจปรุงเลยครับ...ไม่ได้หาทานได้บ่อย ๆ
ผมสนใจจึงถามไปว่าราคาเท่าไหร....
เชฟตอบกลับว่าไม่แพงเลย 250 บาทเอง.
ผมก็คิดว่ามันน่าจะไม่แพงมากสมเหตุสมผล...ได้อยู่ครับจึงสั่งมา 1 ถ้วยเพื่อแบ่งกันชิมกับพี่เขม

แต่พอพนักงานเสริฟ ยกมาวางเท่านั้นแหละครับ...ผมกับพี่เขมปล่อยก๊ากออกมาเลย

เพราะว่าถ้วยซุปที่เอามาเสริฟให้มีขนาดเล็กพอ ๆ กับถ้วยซุปมิโสะที่ทางร้านจัดให้ฟรีครับ....พอเปิดดูก็พบเนื้อปลา 2  ชิ้นแล้วก็ผักนิดหน่อย....

ผมกับพี่เขมแย่งกันกินแทบไม่ทัน

พอเช็คบิล...ราคาออกมา 2,5xx บาท ผมนี้หน้าเหวอไปเลยครับ...
ตอนแรกผมคิดว่าจะเลี้ยงพี่เขมแต่ราคาออกมา 2,5xx บาท ผมก็เลยบอกพี่เขมไปว่าเงินไม่พอง่ะ....ขอไปกดเงินก่อนได้รึป่าว
บี : พี่เขม บี มีอยู่ 350 ขาดตัว
พี่เขม  : พี่หนักกว่าพี่มี 150 บาท
บี  : ซวยหละสิเอาไงดีพี่.....
พี่เขม  : เด๋วบีรอนี่นะพี่ไปกดเงินแป๊ป
บี  : อ่าได้ครับ....นึกว่าต้องล้างจานซะแล้ว
พี่เขม  : มากะพี่จะกลัวอะไร....ป๋าอยู่นี่....ต้องไม่ได้ล้างจานดิ ต้องขัดห้องน้ำด้วย

พี่เขมก็ออกไปกดเงินแล้วก็มาจ่ายให้ ผมยก 350 ให้พี่เขมบอกว่าหมดตัวแล้วพี่....พี่เขมไม่รับเงินครับบอกว่า พี่แกจะเลี้ยง ผมนี่เกรงใจสุด ๆ ผมเลยบอกว่าเด๋วผมเลี้ยงอย่างอื่นละกันอยากทำไรกินไรอีก

พี่เขมบอกกว่าไปดูหนังละกาน...ไหน ๆ ก็ไม่น่าจะได้บินอีกหลายวันแน่ ๆ เพราะดูจากสภาพแล้วไม่น่าจะรอดทั้งคู่

เราจึงไปดูหนังครับ...แต่ห้างที่เราอยู่นั้นไม่มีโรงหนังจึงต้องขับรถไปอีกที่นึง

ระหว่างทางที่จะไป...ผมขอให้พี่เขมเป็นคนขับให้ครับ...เพราะผมเป็นคนบ้านนอกอ่ะครับ ถึงจะมาอยู่ กทม.หลายปีแล้วก็ตาม...ผมก็ยังไม่รู้จักถนนหนทางในเมืองเลย...เพราะผมขับรถแต่ไปทำงานกับ กลับบ้านเท่านั้น...ในเมืองรถติดจึงไม่เคยขับรถเลย

พี่เขมก็ขับรถผมไปที่ห้างย่านเอกมัย พาไปดูหนังครับ  ซักพักโทรศัพท์พี่แกก็ดังขึ้น

พี่เขมยกมาดูแล้วก็กดตัดสาย

ผมก็เลยถามว่าใคร...พี่เขมก็พูดขึ้นมาหน้าตาเฉย ๆว่า น้องเจ

ตอนนี้หน้าผมเริ่มชาครับ...ผมเริ่มไม่อยากไปดูหนังกันพี่เขมขึ้นมาละครับ....

ผมมีความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินขึ้นมาทันทีแล้วพี่เขมก็พูดขึ้นว่า

พี่เขม  : น้องเจเนี่ย....มีแฟนแล้วนะก็โทรมาอยู่ได้...พี่บอกไม่ตั้งหลายครั้งแล้วว่าพี่ไม่อยากเป็นชู้

บี  : ........ผมเงียบไม่ตอบ.....

พี่เขม  : เห็นมะ....โทรมาอีกละ....(พร้อมทั้งทำหน้าเซ็ง ๆ แล้วก็กดตัดสายอีก)

บี  : ...น้องเค้าอาจจะมีเรื่องด่วนก็ได้นะพี่

พี่เขม  : บีอยากรับแทนพี่ไม๊หละ.....ด่วนมาก ก็ไปโทรหาแฟนดิ มาโทรหาพี่ทำไม

บี  : เหย....เรื่องไรพี่ ผมไม่รับหรอก เด๋วน้องเค้าเอาน้ำกรดมาสาดผม

พี่เขม  : นี่ดูละครช่อง 7  เยอะไปป่ะเนี่ย

แล้วโทรศัพท์พี่เขมก็ดังขึ้นอีก....พี่เขมเริ่มทำหน้าเหวี่ยงใส่โทรศัพท์พี่แกแต่สีหน้าก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที

พี่เขม  : อูยยย...อันนี้แม่โทรมา ไม่รับไม่ได้....

พี่เขมกดรับโทรศัพท์พร้อมทั้งเปิด speaker

พี่เขม  : คับคุณแม่

คุณแม่พี่เขม  : ไงลูกชาย...วันนี้ไม่กลับมากินข้าวเย็นบ้านเหรอ

พี่เขม  : ครับคุณแม่ ลูกไม่ได้กลับไปกินข้าวด้วยครับ....ขอโทษค๊าบบบไม่ได้โทรบอก

คุณแม่พี่เขม  : แหนะ...เอาอีกแล้วนะ ปล่อยให้แม่กับป๊ารอ...แล้วไปไหนหละเนี่ย

พี่เขม  : มากินข้าวกับน้องในไฟล์ครับผม

คุณแม่พี่เขม  : น้องคนไหนหละแม่รู้จักไม๊

พี่เขม  : น้องบีครับคุณแม่....น้องบีเป็นคนเชียงใหม่ คุณแม่อู้เมืองกับน้องบีได้นะครับ

แล้วพี่เขมก็หันมาบอกผมว่า “ไหว้แม่พี่รึยัง”
ผมทำท่าตกให้หนัก...ไม่คิดว่าพี่เขมจะบอกคนที่บ้านแล้วก็เปิด speaker คุยให้ผมได้ยิน

บี  : สวัสดีครับคุณแม่พี่เขม .... ผม บีนะครับ

คุณแม่พี่เขม  : บีก๋าลูก....เป๋นคนตางใดฮั่น....แม่เป๋นคนเจียงฮายหนาลูก
(บีเหรอลูก...เป็นคนที่ไหน...แม่เป็นคนเชียงรายนะลูก)

บี  : ผมเป๋นคนเจียงใหม่ครับคุณแม่....บ้านอยู่สันทรายคับผม
(ผมเป็นคนเชียงใหม่ครับคุณแม่...บ้านอยู่สันทรายครับ)

คุณแม่พี่เขม  : สันทรายตางใดอ่ะลูก แม่นแถวกาด 3 แยกก่อ
(สันทรายตรงไหนหละลูก...ใช่แถว ๆ ตลาด 3 แยกไม๊)

บี  : แม่นละคับคุณแม่ บ้านผมอยู่ต๋ามหมู่ฮั่นคับ
(ใช่แล้วครับคุณแม่...บ้านผมอยู่แถว ๆ นั้นแหละครับ)

พี่เขม  : อ่าวคุณแม่โทรหาลูกไม่ใช่เหรอ....

คุณแม่พี่เขม  : เออ...ลืมไปเลยลูก....แล้วทานข้าวกันแล้วใช่ไม๊ลูกอย่าปล่อยให้น้องหิวหละ

พี่เขม : แหม่ ๆ ๆ ๆไม่ได้เป็นห่วงลูกชายเลย....ไปเป็นห่วงลูกบีแทนแล้วเหรอครับ

นี่ลูกไปโรงพยาบาลมาครับ...ไปเดินตกท่อกันทั้ง 2 คนเลยครับที่เชียงใหม่ หมอจับฉีดยาคนละเข็ม ลูกเจ็บจะตายละคุณแม่ ๆ ๆ ๆ คุณแม่ไม่สนใจลูกเลย

คุณแม่พี่เขม : ต๋ายแล่ว....บีเป๋นอะหยั่งนักก่อลูก
(ตายแล้ว...บีเป็นอะไรมากไม๊ลูก)

พี่เขม  : เออออออ.....ตกท่อ 2 คนเลยครับคุณแม่แต่ไม่ถามลูกตัวเองซักคำ

บี  : เจ็บขนาดเลยครับคุณแม่ ผมเข่าถลอก 2 ข้างเลยครับ (ผมอ้อนคุณแม่พี่เขม เพื่อตัดหน้าพี่แก)

พี่เขม  : โอยยยยยย.......นี่ยังไม่เคยเจอกันเลยนะเข้ากันเป็นปีเป็นขลุ่ย

คุณแม่พี่เขม  : เขมลูก....วันหลังพาบีมากินข้าวที่บ้านนะลูก....เด๋วแม่ยะอาหารเมืองฮื้อกิ๋น(เดี่ยวแม่ทำอาหารเมืองให้กิน)

พี่เขม : คุณแม่พูดปะแล็ด(พูดพลาด) ครับ...แค่นี้นะครับผมเริ่มน้อยใจละ...ทีลูกตัวเองไม่เห็นเคยทำให้กินเล

คุณแม่พี่เขม  : เดวเฮาปะกั๋นเน้อลูกบี(เด๋วเราเจอกันนะลูกบี)

บี  : ครับ ได้ครับคุณแม่ สวัสดีครับ

พี่เขม  : ลูกอาจจะกลับดึกนะคุณแม่ เด๋วไปดูหนังต่อครับ...สวัสดีครับ

คุณแม่พี่เขม :จ้า..ลูกรัก

แม่ลูกคู่นี้คุยกันสวีทมากกกกก...เลยครับ ผมได้ยินแล้วก็อดยิ้มไม่ได้..ผมตกใจมากครับที่พี่เขมให้ผมคุยกับคุณแม่....ผมมีความรู้สึกเหมือนคุยกับแม่ยายชอบกล?

แต่เด๋ว....ดึงสติจ๊ะ....เรายังไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เค้า.....

ผมพูดขึ้นหลังจากที่พี่เขมวางโทรศัพท์จากแม่

บี  : คุณแม่พี่นี่น่ารักดีเนอะ.....สำเนียงภาษาเหนือเนี่ย หว๊าน หวาน

พี่เขม  : แม่อ่ะชอบคุณภาษาเหนือ...นี่ไม่มีคนคุยภาษาเหนือกับนางนานแล้ว พอนางได้คุยนางก็ไม่ยอมหยุดเลย...อย่างที่เห็น

บี  : แล้วคนที่คุยภาษาเหนือด้วยหายไปไหนแล้วหละครับ

พี่เขม  : พี่เลิกไปแล้ว.....แฟนเก่าพี่เองแหละ

บี : เหย ๆ ๆ พี่ ที่บ้านพี่ก็รู้แล้วเหรอครับว่าพี่ชอบผู้ชายอ่ะ

พี่เขม : รู้ดิ....ตอนแรกแม่งกลัวชิบหาย....แต่สุดท้ายถ้าเป็นความสุขของลูกเค้าก็เข้าใจแหละ เราไม่ได้ไปทำผิดอะไรหนิ....มันเป็นทางเลือกของเรา

บี : เฮ้ย ครอบครัวพี่แม่งเจ๋งหวะ....ผมดิ ยังไม่กล้าบอกพ่อกับแม่เลย

พี่เขม : วันนึงมันก็ต้องบอกป่าวว้าาาาาา

บี : ผมยังไม่พร้อมครับ....แล้วแฟนเก่าพี่เป็นใครอ่ะ ลูกเรือป่ะ ผมรู้จักมะ(ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง...เริ่มอยากรู้ความสัมพันธ์ของพี่เขม)

พี่เขม : บีเข้ามาไม่น่าจะทันมั้ง...เป็นลูกเรือเนี่ยแหละ

บี : อ่อ ๆ ๆ

พี่เขม : อ่าถึงละจะดูเรื่องไร

บี : ขอ super hero อะไรก็ได้คับ แต่ เด๋วผมเลี้ยงเองนะพี่ พี่เลี้ยงข้าวผมแล้วอ่ะ ผมเกรงใจ

พี่เขม : ใครบอกว่าเลี้ยง... เด๋วเอาเงินมาคืนพี่ด้วย(พี่เขมพูดพร้อมหน้าตาย)

บี : ผ่อน 0% 3เดือนได้ป่ะ

พี่เขม : น้อย ๆหน่อย ผ่อน 3 ปีเลยไม๊หละ....ดอกไม่แพงนะ

บี : โหย ๆ ๆกะน้องก็คิดดอก

พี่เขม : ถ้าไม่ให้คิดดอกต้องเป็นอย่างอื่น สนป่ะหละ

ผมตกใจหน้าแดงเลยครับ...ทุกครั้งที่พี่แกหยอดมาแต่ละทีเนี่ยทำผมใจละลายทุกที...ถึงจะเป็นอะไรที่นิดหน่อย แล้วบวกกับการยื่นหน้ามาใกล้ ๆ ทุกครั้งที่อ้อยผมเนี่ย.....ผมควบคุมตัวเองไม่เคยจะได้ทุกที

บี : รีบไปจองเหอะ....เด๋วก็เข้าไม่ทันพอดี(รีบตัดบทครับ)

แล้วเสียงโทรศัพท์พี่เขมก็ดังขึ้นอีกครั้ง...และก็ตามคาดครับ น้องเจโทมานั่นเอง

จากที่ผมยิ้ม ๆ คุยเล่นอยู่หัวใจผมก็แป้วเลยทันที....ผมรู้ครับว่าผมอ่ะสู้น้องเค้าไม่ได้ซักอย่าง

น้องเค้าทั้งหล่อ...น่ารัก...ขาวอมชมพู...หุ่นดี...เน็ตไอดอลสุดๆ

พี่เขมกดตัดสายอีกครั้ง...พร้อมทั้งหันหน้ามาบอกผม.... “พี่ไม่ได้เป็นอะไรกับน้องเจจริง ๆนะ....พี่เคยชอบน้องเค้าแต่ตอนนี้พี่ไม่ได้ชอบน้องเค้าแล้ว....พี่ชอบ.........”

ผมตกใจ...รีบบอกปัด

บี : อ้า ๆ ๆ ๆ ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย พี่จะชอบใครก็ได้โตแล้ว

พี่เขม : ก็เห็นหน้าบึ้งทุกทีที่ น้องเจโทมา

บี : ป๊าววววววว (เสียงสูงมากกกก) หน้าบึ้งอะไรไม่มี๊....

พี่เขม : หึงหราเราอ่า ๆ ๆ 5555555

บี : ผมอึกอัก...ไม่กล้าตอบ... “จะดูไม๊หนังอ่ะ”
(ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง)

พี่เขม : ค๊าบบบบ ดู ค๊าบบบบ พร้อมยิ้มกว้างทำตาหยีใส่

ผมเนี่ยบอกเลยนะครับว่าแพ้ทุกครั้งกับรอยยิ้มพี่เขมเนี่ย...ยิ่งตาหยี ๆ ตอนยิ้มกว้าง ๆนะ....ตายไปเลยครับ...จะให้ทำอะไรผมก็ยอม


พอมาเลือกที่นั่ง...ผมก็เลยอยากเลือกที่ให้มัน ไฮโซหน่อยสมกับเป็นเดตแรก...(นี่คิดเองล้วนๆ....พอรู้ว่าเค้าไม่ได้ชอบน้องเจแล้ว หน้าบานเป็นจานเชิงเลยครับ)

บี : พี่เอาตรงนี้ไม๊

พี่เขม : นั่งตัวธรรมดาก็ได้นะ กลาง ๆโรงก็ได้ ตรงนี้แพง

บี : ได้ไงหละพี่เสียไปตั้ง 2 พันให้ผมออก 2 ร้อยกว่า ๆเนี่ยนะ

พี่เขม : ก็ตามใจ

ผมเลยเลือก milano chairs ครับ เป็นที่นั่งสำหรับคู่รักครับ
ผมไม่เคยนั่งมาก่อนเลยครับ...อย่าว่าแต่นั่ง milano chair เลยครับ จะให้มีคู่มาดูหนังยังไม่มีเลยครับ

ครั้งแรกมันก็จะเสียว ๆ หน่อย....เพราะเก้าอีกเป็นเก้าอีกที่ไม่มีที่กั้นระหว่างกลางครับ แล้วแอร์แม่งก็เย็นมาก ๆ
โดยส่วนตัวผมเป็นคนขี้หนาวอยู่แล้ว พอเข้าไปในโรง ขนที่ลุกซู่เลยครับ อากาศเย็นสุด ๆ

ผมนั่งทนหนาวไปซักพัก ผมก็รู้สึกถึงไออุ่นจากคนข้าง ๆ ที่ตอนนี้หนังยังไม่เริ่มเลย...พี่แกนั่งสัปหงกไปแล้ว...

คงจะเหนื่อยมากอ่ะครับ เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนทั้งคืนมาเฝ้าอยู่หน้าห้องผม...พออาบน้ำเสร็จก็หลับไปได้แป๊ปเดียวแล้วก็ตื่นมากินข้าว

จะว่าไปพี่แกก็ดีนะครับ....ผมหละไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเลยว่าพี่เค้าจริง ๆแล้วก็อาจจะชอบผมอยู่ก็ได้
แต่เมื่อกี้เค้าก็เพิ่งบอกผมอยู่ครับว่าไม่ได้ชอบน้องเจแล้ว...แต่เมื่อคืนหละ...ยังยอมรับกับทุกคนอยู่เลยว่าชอบน้องเจ

ยังไงหละพี่คนนี้...จะเดินหน้าต่อหรือหยุดดี....
และแล้วผมก็ทนห้ามใจตัวเองไม่ไหวครับ

ผมเอื้อมแขนไปด้านหลังแล้วก็จับพี่เขมมานอนให้อ้อมกอดของผม

พี่เขมเหมือนไม่รู้ตัวเลย...ขยับหน้ามานอนบนไหล่ผม...แบบพอดี

ผมนี่นั่งหน้าแดงเลยครับ...ไม่รู้กล้าทำไปได้ไง จากที่หนาว ๆ กลายเป็นร้อนเลยครับ...ผ่านไปซักครึ่งเรื่องแขนผมเริ่มชา...แต่จะเปลี่ยนท่าก็กลัวจะไม่ได้กอดพี่แกแบบนี้...แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น...น้ำลายพี่แกไหลครับ ไหล่ผมนี่เปียกไปหมดเลย...ผมกลั้นหัวเราะไว้ไม่ให้มีเสียงออกมาแต่ตัวผมสั่น ๆแทน พี่แกเลยสะดุ้งตื่นขึ้นมา...

พี่เขม : เหยไรฟระ...แล้วพี่เขมก็สูดน้ำลายเข้าไป

บี : จะอะไรหละพี่...ไหล่ผมเปียกหมดละ

พี่เขม : .........ไม่ตอบ.......

บี : นอนต่อก็ได้นะพี่ อีกครึ่งเรื่องก็จบละ
พี่เขม : เออไหน ๆก็ไม่ได้ดูละ....นอนแม่ง

บี : ผมยิ้มกว้างให้ พร้อมทั้งตีขาว่าให้นอนตักผม

พี่เขม : ....ไม่ตอบแล้วก็ก้มตัวลงนอน....

พี่เขมนอนตะแครง หันหน้าเข้าหาตัวผมครับ ผมนี่หุบพุงแทบไม่ทัน

แล้วพี่แกก็ดึงเอามือผมไปกอดไว้....

มันเป็นความรู้สึกผมรอมานาน....นานมากครับ.....การดูหนังกับคนที่เรารักเนี่ย...มันโรแมนติกอย่างงี้นี่เอง...ไม่ว่าเราจะดูหนังอะไร...มันก็กลายเป็นหนังรักไปหมดเลยครับ


To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 13 toothbrush แปรงสีฟัน (18-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 18-09-2017 18:07:56
ตอนที่ 13 แปรงสีฟัน toothbrush

หลังจากดูหนังเสร็จเดินออกจากโรง...เสื้อผมก็แห้งพอดีครับ...จากคราบน้ำลายพี่เขม

พี่เขมทำหน้า งง ๆ ตึง ๆ เดินก้มหน้าไม่พูดอะไรกับผมเลย...ผมก็เลยรู้สึกไม่ดีเลยครับ...พี่เค้าจะคิดว่าผมฉวยโอกาสทำอะไรเค้าไปรึป่าว...หรือจริง ๆพี่เค้าไม้ได้ชอบผม แล้วผมไปทำอย่างนั้นกับเค้า

ก็แค่ให้นอนตักเองป่าวว้าาาาาาา....พี่น้องกันก็นอนได้

ผมไม่รู้จะทำไง...ผมเลยเดินไปกอดคอพี่เขม

บี : พี่เขมเป็นไร

พี่เขม :แกะแขนผมออก....แล้วเดินนำหน้าไป

ผมรู้สึกว่าพี่เขมน่าจะไม่ชอบที่ผมทำอย่างงี้กับพี่แก...ผมก็ไม่รู้จะยังไงดี

ผมเลยเดินไปจับแขนพี่เขมไว้แล้วเรียกให้พี่เขมหันหน้ามาคุยกับผมดี ๆ

บี : พี่เขมเป็นไร

พี่เขม : อายหวะ....เสียดายตังด้วย

บี : อายอะไร....

พี่เขม : ก็นอนน้ำลายยืดใส่แขนบีเปียกเลยแล้วเก้าอีกตัวตั้งแพง หนังก็ไม่ได้ดู....เฮ้อ

บี : ต้องเป็นผมมะ? ที่ต้องโวยวาย...เสียเงินพามาดู ดันหลับตลอดเรื่อง แถมไม่พอ นอนน้ำลายหกใส่ผมอีก
พี่เขม : ค๊าบบบบบ  ขอโทษ ค๊าบบบบบ

บี : พาไปกินไอติมเลย ค่าน้ำลายหก

พี่เขม : ได้เลย....สะเวนสัน มะ?

บี : สะเวนเซ่น....มุข 5 บาท 10 บาทก็เล่นเนอะ

พี่เขม : แล้วยิ้มไม๊หละ....ถ้ายิ้มก็คุ้มละ

บี : จ๊ะ ยิ้มจ๊ะ....พร้อมแยกเขี้ยวให้ดูครบ 32 ซี่


ที่ร้านไอติมเราสั่งมาถ้วยเดียวแล้วแบ่งกันกิน...ยิ่งทำให้เหมือนแฟนกันเข้าไปใหญ่ ผมนี่ฟินมากกกกกกกกก

ซักพักผมก็รู้สึกอะไรเย็น ๆ มาจิ้มที่แก้มผม

พี่เขม :แก้มนี้อมไรไว้อ่ะ (พร้อมทั้งเอาช้อนไอติมมาจิ้มแก้มผม)

บี : อมไรหละ...ไม่เห็นพี่กินเลย

พี่เขม : ก็เห็นเราอร่อยมากเลยไม่อยากแย่ง

บี : รีบกินดิ เด๋วละลายหมด

พี่เขม : เด๋วกิน ๆ (พร้อมทั้งเปลี่ยนจากช้อนไอติมเป็นนิ้วพี่แกมาจิ้มแก้มผม)

บี : จิ้มไรโอ้....สกปรก...มือก็ไม่ได้ล้าง เด๋วเป็นสิว

พี่เขม .....ไม่ได้ฟังที่ผมพูดเลย....เปลี่ยนจากจิ้มเป็นหยิกแก้มผมแทน

บี : แหนะพูดไม่ฟังอีกพี่....

พี่เขม : แก้มแม่งโคตรนิ่มเลยอ่ะน่าฟัด

บี : เหย ๆ ๆ นี่แก้มคนนะไม่ให้ตุ๊กตา (พร้อมกับปัดมือพี่เขมออก)

พี่เขมไม่ยอมลดละพยายามจะเอามือมาจับต่อให้ได้....ผมหยุดกินเพื่อมาต่อสู้กับมือพี่เขมเพื่อไม่ให้มือเค้าจับแก้มผมได้

พี่เขมบ่น...งอแงงออกมา “ขอจับหน่อยเดียวเอง”

บี : ไม่ได้ มันแพง...แม่หวง

ตอนนี้ผมอยู่ในท่าที่จับมือพี่เขมไว้ 2 ข้างแล้วก็กดไว้กับเก้าอีก

พี่เขมยื่นหน้ามาใกล้ผมแล้วบอกว่า “งั้นขอกัดทีนึง”

ผมเลือดพุ่งขึ้นหน้าด้วยความเขิน....แล้วก็ได้ยินเสียงกระแทกจาก..

พนักงาน : ขออนุญาตเติมน้ำข่าาาาาาา

ผมกับพี่เขมตกใจ พร้อมกับนั่งที่เรียบร้อย หยุดตีกันแล้วกินไออย่างสงบ เสงียม

แล้วก็แอบยิ้มให้กันเมื่อพนักงานเติมน้ำเดินไป

ตอนนี้ก็เป็นเวลา 3 ทุ่มกว่า ๆแล้วครับ พี่เขมบอกว่าอยากกินเบียร์...แต่ผมคิดว่ามันดึกแล้วไหนจะต้องกลับไปเอารถที่บริษัทอีก เด๋วจะไม่ปลอดภัย แต่ก็แน่สิครับ...พี่แกเล่นนอนหลับตลอดเวลาที่ดูหนังส่วนผมสิครับ...เมื่อคืนก็นอนน้อยวันนี้ก็ยังไม่ได้นอนเลย

ผมก็เริ่มงอแงง อยากกลับบ้านแล้ว....พี่เขมบอกงั้นเด๋วขอไปแวะเอาของที่คอนโดหน่อยเด๋วกลับเลย





พี่เขมขับรถเข้าคอนโดที่อยู่ใจกลางทองหล่อ...ผมนี่อ้าปากค้างเลยครับ....ห่านจิก....คอนโดอยู่ทองหล่อ

ถ้ากรูเป็นแฟนเค้าแล้วกรูจะเอาอะไรไปเลี้ยงเค้าวะเนี่ย

หนักไปกว่านั้นคือเมื่อขึ้นไปห้องพี่แกก็เป็นคอนโด 1 ห้องนอนและอยู่ชั้น 20 กว่า ๆครับ....วิวสวยมากกกกกก

ผมไปยืนอยู่ตรงระเบียงที่สามารถออกมาได้จากห้องรับแขก คือชีวิตพี่เค้าดีมากอ่ะครับ...ที่เทียบกับผมแล้ว

อยู่คอนโดไกลแสนไกล กินข้าวข้างทาง...เข้าช๊อปปิ้งแต่พวก big C, Lotus
ทองหล่อคืออะไร...ผมไม่เคยมาหรอกครับ

พอถึงห้องพี่เขมก็เปิดเบียร์ 2 กระป๋องแล้วก็มายื่นให้ผม 1 กระป๋อง

บี : อ่าวไหนอ่ะของ

พี่เขม : ก็นี่ไง

บี : นี่มันเบียร์ไม๊พี่...ไม่สงสารผมบ้างเหรอ...ให้ผมกลับไปนอนบ้างเถอะ

พี่เขม : ก็นี่ไง....นอนได้เลย

บี : จะบ้าเหรอพี่...ให้ผมนอนนี่ได้ไง...นี่มันคอนโดพี่นะ

พี่เขม : อ่าวก็คอนโดพี่ไงถูกแล้ว...จะให้ไปนอนคอนโดของคนอื่นได้ไงหละ

บี : กวนละ....(ผมตอบพร้อมกับยกเบียร์ซด)

พี่เขม : เสร็จละ....

บี : ยังไงนะ?........

พี่เขม : ก็กินเบียร์แล้วไงห้ามขับรถ...แถวนี้ด่านเยอะ

บี : เห้ยพี่หลอกผมนี่หว่า

พี่เขม : ป่าวเลยพี่ไม่ได้หลอก..ให้ยูกินเลยนะพี่แค่เปิดแล้วยื่นให้เฉย ๆแล้วยูก็ซดเอง

บี : พี่นี่มันร้าย....(ผมก็ยกเบียร์ซดจนหมดกระป๋อง)

พี่เขมเอาแต่ยิ้มไม่พูดอะไร...ซักพักผมก็ลุกขึ้น...แล้วพูดว่า “นั่งแท็กซี่กลับเองก็ได้”

พี่เขม : แล้วรถหละ?

บี : ……..(ลืมไปเลยว่าพี่เขมขับรถผมมา นึกว่านั่งรถพี่เขมมา)...

......“โหยยยยยยยยยยยยยยยยย”

ผมทำท่างอแง....ก่อนจะนั่งลงกะพื้นดิ้น ๆ แล้วก็ยอมรับชะตากรรม

พี่เขม : นอนนี่นะคืนนี้...อยู่เป็นเพื่อนพี่หน่อย

บี : นี่ยังอยู่ด้วยกันไม่พออีกเหรอพี่ จะ 3 วันละนะ

พี่เขม : ไม่เคยพอ....(แล้วพี่แกก็อมยิ้ม)

ไอ้พี่เขมนี้มันจอมหยอดเลยครับ....ผมนี่แพ้มันทุกทาง จะพูดอะไร ทำอะไร มันก็ดักทางผมได้หมดแถมยังขยันหยอดผมเข้าจริง ๆ
รู้บ้างไม๊ว่ากรูเนี่ย....หลงเมิงหัวปักหัวปำไปตั้งนานแล้ว....ทีนี้จะทำยังไงดีหละ

ถ้านอนนี่มีหวัง...ได้เสียเป็นเมียผัวกันแน่ครับ

ผมทำหน้าครุ่นคิด ขมวดคิ้ว...

พี่เขม : เด๋วพี่นอนโซฟา...บีไปนอนบนเตียงเหอะ

บี : ………………………………………….

พี่เขม : แหม่ ขนาดนี้แล้วยังจะกลัวอะไรอีก...พี่ไม่ปล้ำหรอกหน่า

บี : “เออออออ.....” (คิดในใจ...ผมไม่ได้กลัวพี่ปล้ำ...ผมกลัวผมปล้ำพี่ต่างหาก)

พี่เขม : เย้ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

แล้วพี่เขมก็เปิดเพลง

“May be you don’t have to rush….
You could leave a toothbrush.
At my place
At my place….

We don’t need to keep it hush
You could leave a toothbrush.
At my place
At my place”

พี่เขม : มีแปรงฟันยัง?

บี : .....คับ?......(หน้าแดงอีกครั้ง...พี่เขมนี่มันเตรียมเพลงอ้อยไว้....หรือแค่เรื่องบังเอิญฟระ)

พี่เขม : ก็แปรงฟันไงคืนนี้ ถ้าไม่มีจะได้เอาให้

บี : มีในกระเป๋าค้างครับ อยู่ในรถ

พี่เขม : ไม่เป็นไร...ไม่ต้องไปเอาแล้ว...เด๋วใส่เสื้อผ้าพี่นอนเลยก็ได้ขี้เกียจลงไปละ

บี : ไม่ได้ดิพี่....ผมต้องล้างหน้า โฟมล้างหน้าก็ไม่มี

พี่เขม : ก็ใช้เหมือนกันหนิ...smooth E ไม่ใช่เหรอ

บี : พี่รู้ได้ไง

พี่เขม : รู้หมดแหละบีใช้อะไรอ่ะ....กางเกงใน american eagle, น้ำหอม gucci

บี : รู้ได้ไงอ่ะ...แอบดูกางเกงในผมเหรอ (ผมทำกอดตัวเองเหมือนกะลังจะถูกข่มขื่น)

พี่เขม : ก็พี่ใส่ใจไง

บี : (.....เอาอีกละ......มันอ้อยผมอีกแล้วครับท่าน)



ผ่านไปซัก 2 ชม. เราพูดคุยกันเรื่อยเปื่อย สลับกับร้องเพลงบ้าง พี่เขมก็สอนผมเล่นไอ้กล่อง ๆที่เอาไว้ตีเป็นกลองอ่ะครับ

มันชื่อ คาฮอง ผมก็ไม่เคยจะรู้จัก แต่เห็นนักร้องเพลงแนวชิว ๆ ชอบเอามานั่งแล้วตี

มันก็สนุกดีนะครับ...พี่เขมสอนผมเล่นหลายเพลงมากเราสัมผัสตัวกันมากขึ้น...จากที่เคยหยอกล้อกันเล่น ๆมันก็เริ่มโดนตัวกันจนเริ่มชินละครับ....ผมโดนตีมือเมื่อทำผิด โดยหยิกแก้มถ้าทำถูก

ทุกครั้งที่พี่เขมหยิกแก้มผม...พี่เขมจะเอาหน้าเข้ามาใกล้มากกก

ผมก็ต้องยั้งใจขยับหน้าหนีทุกครั้ง...ริมฝีปากของพี่เขมมันดูระเรื่อ ๆหน้าจูบมากครับตอนนี้ แล้วแขนล่ำ ๆของพี่แกที่วางอยู่บนขาของผมตลอดเวลาตอนผม นั่งตีไอ้เจ้า คาฮองนี้ มันทำให้ผมยิ่งฟุ้งซ่านไปอีก

ซักพักพี่แกก็บ่นออกมา

พี่เขม : “หิวหวะ” ออกไปหาไรกินกันมะ
บี : ถ้าออกไปนี่ผมหนีกลับห้องเลยนะ (ผมขู่แต่จริง ๆแล้วตอนนี้ไล่ไปก็กลับหรอกครับ)

พี่เขม : เอองั้นไม่กินก็ได้...เด๋วขอออกไปดูบุหรี่ตัวนึงนะ

บี : นั่นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย จุดปุ๊ปกลับปั๊ปเลย

พี่เขม : มีแต่จุดแล้วมา...ไม่เห็นผีที่ไหนจุดแล้วไปเลย

บี : เด๋วเถอะ...(ล็อคคอพี่เขมคนที่นั่งอิงขาผมอยู่)

พี่เขม : ยอมแล้วค๊าบบบบบบบ

บี : ในตู้เย็นมีไม่มีไรให้กินเหรอ

พี่เขม :ไม่มีอ่ะ...มีแต่มาม่า..กะโจ๊กซอง

บี : ไหนขอไปดูหน่อย

ผมเดินไปค้นของในตู้เย็นพี่เขม...ตู้เย็นพี่แก โล่งจิง ๆครับมีแต่เบียร์กะไข่ ผมเดินไปดูของแห้ง ก็เจออย่างที่พี่เขมบอก มีปลากระป๋อง หอยลายกระป๋อง ทูน่ากระป๋องแล้วก็ ผักกาดกระป๋อง

ผมเลยจัดแจงต้มมาม่าให้พี่แกกิน...มาม่าปลากระป๋องสูตรเด็ดของผมใครได้ชิมเป็นต้องติดใจทุกราย

นี่แหละครับ...เสน่ห์ปลายจวักที่แม่ให้มา...เอาไว้อ้อยผู้ชายอีก 1 ทาง

บี : เด๋วผมต้มมาม่าให้กินนะพี่

พี่เขม : แหวะ...พี่ไม่ชอบกินมาม่าอ่ะ

บี : ก็แล้วจะซื้อมาไว้ในห้องทำไมหละ

พี่เขม :ก็เผื่อใกล้จะอดตายแล้วค่อยกิน

บี : จ๊ะ....เด๋วผมทำให้กิน ถ้าไม่อร่อยก็ทิ้งก็ได้

พี่เขม : ตามใจ...ถ้าไม่อร่อยพี่ขอไม่กินนะ

บี : ถ้าอร่อยหละ

พี่เขม : พี่ก็กินไง...ถามได้

ผ่านไป 10 กว่านาที ผมยกมาม่าของผมออกมา....ผมการันตรีได้เลยครับว่าแซ่บเวอร์์์์ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  ๆ ๆ

มาม่าปลากระป๋องต้มยำไข่มะตูมของผมใครลองแล้วต้องติดใจทุกคน
ผมตักให้พี่เขมถ้วยเล็ก ๆ เหมือนเอาไปไหว้เจ้า...ให้พี่แกชิมดูก่อน

พี่เขม : ก็งั้น ๆ อ่ะ

บี : งั้นไม่ต้องกิน

พี่เขม : อร่อยค๊าบบบบบบบบบบ

บี : ต้องอย่างงี้ดิ จะกินของผมต้องบอกว่า “อร่อย” งั้นไม่ได้กินผม เอ้ย กินมาม่าผม

พี่เขม : อยากกินจะแย่...อยู่ละ

แล้วพี่แกก็กินไปแทบจะเลียหม้อเลยครับ...ผมได้กินแค่กินเดียวเอง...เส็ดแล้วพี่เขมก็ออกตัวว่าเด๋วล้างจานให้เองให้ผมไปอาบน้ำได้เลย

ขณะที่พี่เขมล้างจานอยู่ผมก็เดินไปข้าง ๆพี่แก ด้วยความเมาและหน้าเริ่มด้านแล้ว ก็เลยอยากจะอ้อยพี่แกบ้าง
ผมเดินไปด้านหลังของพี่เค้าแล้วเอาคางไปวางไว้ที่ไหล่ของพี่เขม

บี : เป็นไงอร่อยใช่ไม๊หละ กินซะหมดเลยนะผมนี่แทบไม่ได้กิน

พี่เขมหันมาบอกว่า “อร่อยค๊าบบบบบบบ” เพราะกับหอมแก้มผม 1 ที แล้วพี่แกก็บอกว่าให้รางวัล

บี : ผมตกใจมาก...ร้อง... “เห้” ตัวใหญ่มากออกไป

พี่เขมทำหน้างง...แล้วก็บอกว่า “จะหอมคืนก็ได้นะพี่ไม่โกรธ”

ผมจองหน้าพี่เขมด้วยความอาฆาต....แล้วก็เดินหงุด ๆไปอาบน้ำ

ในห้องน้ำผมยิ้มกรีดร้องแบบไม่มีเสียงเหมือนคนเสียสติ...ผมโคตรมีความสุขเลยครับ...อะไรมันจะดีไปกว่า...ได้อยู่กับคนที่เราชอบ
ได้กินเบียร์ร้องเพลง...กินข้าว ดูหนังเหมือนคนปกติทั่วไปที่ใช้ชีวิตคู่กัน...มันเป็นสิ่งที่ผมขาดมาตลอด...ผมแทบจะจำไม่ได้ละครับว่าการมาดูหนังกับแฟนครั้งล่าสุดคือเรื่องอะไร
หรือการที่มีคนนั่งข้าง ๆ เวลากินข้าวมันทำให้รสชาติอาหารดีขึ้นแค่ไหน...

แต่คืนนี้สิครับ...ผมจะผ่านมันไปได้ยังไง...แบบไม่ออกไปปล้ำพี่เขม


To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 13 toothbrush แปรงสีฟัน (18-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 18-09-2017 18:49:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 14 จีบ
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 19-09-2017 21:27:02
ตอนที่ 14 จีบ

พอผมอาบน้ำเสร็จ...พี่เขมก็นอนอยู่บนเตียงพี่แก...ผมก็เดินออกมา แล้วขอเสื้อผ้าจากพี่เขม

พี่เขม : ปกติใส่อะไรนอนคับ
ผม...ทำหน้างง ๆ ปกติ...ไม่เห็นเคยพูดไพเราะกับผม

บี : อะไรก็ได้คับพี่

พี่เขมก็หยิบเสื้อกล้ามแล้วก็ boxer ให้ผมเหมือนตอนที่ผมเอาให้พี่เค้าใส่ พี่เขมมองผมตาไม่กระพิบเลยครับ...ผมก็ตกใจ...หาที่เปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ได้...เพราะเขินกลัวผ้าจะตั้งใจหลุด...5555

ผมเลยมองพี่เขมกลับ...แล้วบอกพี่แกไปว่า

บี : นี่พี่จะจ้องจนผ้าผมหลุดหมดเลยป่ะคับ

พี่เขมตกใจ...หน้าผิวสีน้ำผึ้งของพี่แก...เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ๆ

ผมเพิ่งเคยเห็นพี่เขมเขินเป็นครั้งแรก...น่ารักดีครับ ผมนี่อยากจะแซว...แต่กลัวพี่แกจะเอาคืน...ปกติ...ถ้าผมอ้อยไปเมื่อไหร...ผมแพ้ทางพี่แกตลอดเลยคับ...โดนตอกกลับมา เงิบไปก็หลายรอบ...สู้ไม่ได้จริง ๆครับ

พอผมเปลี่ยนผ้าเสร็จผมก็เดินไปเปิดเบียร์แล้วมานั่งที่พื้นห้องนอน

พี่เขมบอกให้มานั่งบนเตียงกับพี่แก...แต่ผมบอกพี่ยังไม่ได้อาบน้ำเลยตัวเหม็น..ไม่อยากนั่งใกล้

พี่เขมก็เริ่มถอดเสื้อแล้วคว้าเอาผ้าเช็ดตัวมาพันเอว

ผมก็มองพี่เค้าตลอด...ผิวสีแทนของพี่เค้าเนี่ยเตะตาผมตลอดเวลาเลยครับ...ผมไม่เคยจะสามารถควบคุมสายตาตัวเองได้เลยคับ

ซักพัก...พี่เขมเหมือนจะรู้ตัว...หันมามองผมแล้วพูดว่า

พี่เขม : กะจะจ้องจนผ้าพี่หลุดหมดเลยใช่ป่ะ? แล้วก็ยักคิ้วใส่ผม

บี : ผมทำท่ากินเบียร์แก้เขินอย่างรวดเร็ว แล้วก็สำลักออกมาเลยคับ

พี่เขมขำผมใหญ่...เห็นไม๊ครับพี่แก เอาคืนผมจนได้

พี่แกอาบน้ำค่อนข้างนานครับ...น่าจะเพราะแผลที่เปียกน้ำไม่ได้ เด๋วหมดหล่อ

ผมก็ดูทีวีเพลิน ๆ แล้วก็เผลอหลับไป...อาจจะเพราะเมื่อคืนนอนน้อยผมเลยหลับไปได้ง่าย ๆ

ซักพักผ่านไปผมก็ได้กลิ่นบุหรี่จาง ๆ

ผมไอออกมาทันที...ที่ได้กลิ่น  พี่เขมรีบวิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำอีกรอบ

ผมตะโกนบอกพี่แกไปว่า “แอบไปสูบบุหรี่มาใช่ไม๊”

พี่เขมโผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ.... “ก็เห็นหลับไปแล้ว...นึกว่าจะไม่ได้กลิ่น”

บี : ไม่เป็นไรคับพี่ เด๋วผมไปนอนข้างนอกก็ได้

พี่เขม : เห้ยไม่เอาดิ...นอนนี่แหละเด๋วพี่ไปนอนข้างนอนเอง

บี : ได้หมดครับ...แล้วผมก็หลับต่อทันี

ห้องพี่เขมแอร์เย็นมากครับ ผมนอนขดตัวเป็นกุ้งเลย..แล้วมันก็มืดมาก ห้องตัวเองก็ไม่ใช่ จะปรับแอร์ยังไง หารีโมดไม่เจอ

ผมนอนทนหนาวไปซักพัก...แล้วก็มีอะไรอุ่น ๆมาแตะที่ขาผม ผมรีบคว้ามากอดตามสันชาตญาณ...แล้วผมก็หลับต่อครับ
.
.
.
.
.
.

เช้ามา...ผมรู้สึกตัวอีกที...ผมนอนอยู่ในอ้อมกอดของพี่เขมครับ

ผมตกใจมาก...แต่ก็ไม่อยากขยับ อยากนอนอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ

ผมค่อย ๆลืมตาสำรวจใบหน้าของพี่เขมครับ...นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งครับที่ผมได้แอบมองเค้าในระยะใกล้ขนาดนี้...
ผมมองสำรวจร่างกายของพี่เขมไปเรื่อย ๆจากใบหน้าลงมาที่คาง

มีเครานิดหน่อย ลงมาที่กล้ามอกแน่น ๆ ของพี่เขมแล้วก็เลื่อนลงมาจนเจอ แท่งที่ตั้งตะหง่านอยู่...ผมตกใจมากแต่ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไร

ขนาดมันใหญ่มากครับภายใต้กางเกง boxer แค่ตัวเดียวทำให้ผมเห็นมันค่อนข้างชัด...ซึ่งมันเป็น ปกติของผู้ชายเวลาเช้าครับ

แล้วน้องชายผมจากที่เริ่มหลับมันก็ตื่นเพราะน้องชายพี่เขมมันปลุก

ผมรีบลุกออกจากเตียงเพื่อหยุดความฟุ้งซ่าน...รอดเมื่อคืนมาได้ แต่เช้านี้อาจจะไม่รอดก็ได้นะครับ

พี่เขมดึงแขนผมไว้แล้วก็กระชากผมไปกอดจากด้านหลัง

แอบดูพี่อยู่นานเลยนะเรา....พี่เขมพูดเสียงอู้อี้

เห็นด้วยเหรอ....ผมตอบเสียงในลำคอแล้วก็พยายามเอาตัวออกห่างจากพี่เขม

พี่เขมขยับมาจนผมรู้สึกถึงแท่งอุ่น ๆ ที่อยู่หลังผม....

ผมพูดออกมา... “แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจเลยนะพี่”

พี่เขมร้องออกมาทันที่... “เฮ้ย” แล้วผมก็หลุดออกจากอ้อมกอดของพี่เขม

พี่เขมเอาผ้าห่มมาพันไว้...ทำท่าเหมือนโดนกระทำชำเรา
คงจะอายแล้วไม่รู้ว่าอะไรแทงผมอยู่ด้านหลัง

ผมลุกไปเข้าห้องน้ำแล้วเดินออกไปห้องครัวครับ...ระหว่างที่เดินออกจากห้องน้ำก็เห็นพี่เขมนอนต่อ...ผมก็ไม่ได้ปลุกอะไร

ในใจผมก็แค่อยากทำอาหารเช้าให้พี่เขมทานครับ

ผมเดินเข้าครัวไปมองหาอะไรรอบ ๆที่พอจะทำได้...สรุปก็มีแค่มาม่ากับโจ๊กครับ

ผมเลยเลือกต้มโจ๊ก...แล้วก็ทำไข่ลวก

โชคดีมี scallop แช่แข็งไว้ผมเลยเอามาต้มโจ๊กด้วยครับ

ผ่านไปซักพัก เจ้าตัวก็ลอยออกมาจากห้องนอนพร้อมผ้าห่มห่อตัวมาครับ...ลอยมาพร้อมกลิ่นโจ๊กอันแสนจะยั่วยวนของผม...

ถึงจะเป็นโจ๊กซองถ้าเราต้มให้ดี...โจ๊กซองจะออกมาดี ไม่แพ้โจ๊กฮ่องกงเลยครับแต่ต้องต้มนานกว่าหน่อยแล้วปรุงรสด้วยเกลือแทนไม่ใส่ซีอิ้วหรือซอส...เพราะจะทำให้สีของข้าวมันเหลืองไม่น่าทาน

พี่เขมโผล่มาแต่หน้า จากผ้าห่มที่คลุมเหมือน ผ้าคลุมล่องหน ในแฮรี่....

บี : พี่เขมไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนไป...บีทำโจ๊กไว้ให้กิน...ใช้ scallop ไปนะ

พี่เขม : scallop ไปเอามาจากไหนอ่ะ

บี : ก็ในช่องฟรีซไง

พี่เขม : มีด้วยเหรอ....ไม่เห็นเคยรู้...สงสัยแม่เอามาเก็บไว้ให้

บี : ป่ะ...ล้างหน้าล้างตาก่อน

พี่เขม : ....ส่ายหัวยิก ๆ .... ขอกินก่อนได้ไม๊ โจ๊กมันหอมเหลือเกิน

บี :.....ผมยิ้มแล้วตอบ....ถ้าไม่แปรงฟันไม่คุยด้วยนะ

พี่เขม : ไปแล้วค๊าบบบบ

ผมก็ทำการตักใส่ถ้วยตอกไข่ลวกลงไป...หืม ๆ ๆ ผมก็ทำหน้ากินเหมือนกันแฮะ...แม่งอย่างกะภัตตาคาร เหลาเลยนะเนี่ย

แล้วผมก็ฉีก scallop โรยหน้า...โดยปกติ scallop ถ้าเอามาต้มมันจะให้รสชาติที่ดี...ออกหวานธรรมชาติครับแต่ ถ้าต้มนานจนสุกเกินไป มันจะเหมือนเราเคี้ยวยางเลยครับ

พี่เขมเดินออกมาพอเห็นโจ๊กก็ร้องใหญ่เลยครับ...ผมนี่ยิ้มแก้มแถบปริ...แล้วพี่แกก็เดินมาใกล้ ๆ แล้วก็ทำท่าจะหอมแก้มผมอีก...ครั้งนี้ผมหลบทัน...เพราะตัวผมสูงกว่า ผมเริ่มทำให้เกมมันยากขึ้นครับ...เรื่องอะไรจะให้คนมาหอมแก้มเราฟรี ๆ มันต้องยาก ๆหน่อยจะได้มีค่า....555555

เรานั่งทานโจ๊กที่โต๊ะสูงของครัวครับ...พี่เขมชมไม่หยุดปากว่าอร่อย..ชมจนผมลอยไปหมดละครับ

แล้วผมก็ขอตัวกลับบ้าน...จริง ๆไม่อยากกลับเลยครับ แต่เราก็ต้องมีมาดใช่ไม๊ครับ...อยู่กะพี่เค้าทั้งวันทั้งคืน มา 3 วันละครับ สุขมากไปเด๋วจะเจอทุกหนัก...ผมกลัวจะรับไม่ไหว

พี่เขมก็คงนึกว่าผมพูดเล่น...ผมทำท่ากวน ๆ

บี : ไปละน้าาาาทั้ง ๆที่ยังใส่ เสื้อกล้ามกับ boxer

พี่เขม : ไปเลย ๆ ๆ

บี : ผมเดินไปที่ประตู...ไปจริง ๆละน้าาาาา

พี่เขม : อ่าวนึกว่าไปนานแล้ว

บี : ไม่ห้ามกันไว้หน่อยเหรอครับพี่

พี่เขม : บรัยยยยยยย

บี : ผมก็ออกมาเลยครับ

วิ่งจู๊ไปที่รถเพราะเสื้อผ้าดูแบบนุ่งน้อยห่มน้อยเหลือเกิน

ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที พี่เขมโทรมา

พี่เขม : ไปไหนอ่าาาา...หาไม่เจอ ออกมาได้แล้ว พี่ให้อภัยแล้ว

บี : ขับรถมาจะครึ่งทางละพี่

พี่เขม : เฮ้ย...ออกไปทั้ง ๆที่สภาพแบบนั้นเนี่ยนะ

บี : คับ?...ให้ออกมาสภาพไหน

พี่เขมสวดผมยับเลยครับ...บอกว่าถ้าคนเห็นเข้า ใครเค้าจะว่ายังไงแต่งตัวก็ไม่เรียบร้อย...แล้วไปทำไมไม่บอก พี่จะได้ไปส่ง แล้วทิ้งพี่ไปอย่างงี้ได้ไง...บ่นเป็นหมีกินผึ้งเลยครับ

ผมก็ได้แต่ ขอโทษค๊าบบบบบบบบ ๆ  ๆ ๆ ๆ  ๆๆ  ๆ ๆ วนไป

แล้วคำแปลก ๆก็หลุดออกมาจากปากพี่เขม

พี่เขม : พี่อยากให้บีอยู่ด้วยอย่างงี้ทุกวันเลยอ่ะ

บี : ...ผมไม่ตอบ...หัวใจเต้นตุบ ๆ

พี่เขม : พี่มีความสุขมากนะครับ ที่ชีวิตพี่ มียูมาอยู่ด้วย

บี : ....ผมก็ยังไม่ตอบอีก....เริ่มยิ้มแก้มแทบแตก

พี่เขม : พี่ขอคุยกับบีทุกวันได้ไม๊

บี : ...ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไง....

พี่เขม : เฮ้ย...ไม่ตอบพี่หน่อยเหรอฟระ...นี่พี่ก็ตื่นเต้นเป็นนะเว้ย

บี : ..คะ คะ คับ ผม...ทำไมเปลี่ยนโหมดเร็วจังเลยพี่

พี่เขม : ก็เล่นไม่ตอบอะไรพี่เลยอ่ะ...เวลาพี่ถามเรื่องพวกนี้ทีไร เงียบใส่ตลอด

บี : พี่เขม...ไม่ได้ชอบน้องเจเหรอครับพี่...ผมเสียงเริ่มสั่น

พี่เขม : ...พี่เขมเงียบ... “พี่รู้นะว่าเรารู้ว่าพี่เคยชอบน้องเจ เอาเป็นว่า พี่จะทำให้เห็นละกันครับ”

บี : action speaks louder than words

พี่เขม : จ๊ะพ่อเด็กนอก...นอกเมืองนะ

บี : ขอบคุณครับพี่ แค่นี้ก่อนนะครับ

พี่เขม : ไมอ่า ๆ ๆคุยต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอ

บี : ผมขับรถค๊าบบบบ...ไม่มี bluetooth

พี่เขม : อ่า ๆงั้นขับรถดี ๆ

หลังจากวางไป ผมกรี๊ดตีอกชกหัว...เหมือนคนบ้า ในที่สุด พี่เขมก็มีใจให้เราจริง ๆ แต่..จะดีใจก็ดีใจไม่สุดครับ
ก็เพราะเรื่องน้องเจแหละครับ...คือเรียงลำดับยังไง
ผมก็แพ้น้องเค้าอยู่ดี...น้องเค้าทั้งหน้าตาดีกว่า...ขาวกว่า...เด็กกว่า...ปากนิดจมูกหน่อย...ใครเห็นก็เป็นต้องชอบ

ส่วนผมเป็นคนธรรมดาบ้าน ๆ มากเลยครับ

ยิ่งไปทำอาหารให้พี่เขมกินนี่...ยิ่งเหมือนสมาคมแม่บ้านไปใหญ่ แล้วพี่เขมแม่ง...รวยมากกกก ผมจะเอาอะไรไปเลี้ยงพี่เค้า

ผมคิดไปไกลมากครับ...ผมยอมรับครับ



To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 14 จีบ (19-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 19-09-2017 23:51:43
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 14 จีบ (19-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 20-09-2017 08:41:14
สนุกมากอ่ะ อ่านรวดเดียวถึงตอนที่14 เลยค่า ตลกบี ชอบความตรง ความน่ารักของบี พี่เขมร้าย
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 15 พี่เขมขี้งอน (20-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 20-09-2017 20:39:46
ตอนที่ 15 พี่เขมขี้งอน

นี่ก็เพิ่งจะวันที่ 16 เองครับ ผมมีนัดกับพี่เขมอีกที ก็วันที่ 24 เลยอีกตั้ง 8 วัน ตอนนี้นะครับ ผมคิดถึงพี่เขมมากกกก....อยากเจอหน้า อยากพูดด้วย อยากได้ยินเสียง อยากได้กลิ่นน้ำหอมของพี่เขม

โอยยยย...แทบคลั่ง

แต่เราก็คุยกันทุกวันนะครับ

ตอนก่อนไปบินไม่ว่าจะกี่โมง พี่เขมจะโทหาผมระหว่างที่ขับรถไปบินครับ...ซึ่งผมก็ทำเช่นกัน

ตอนระหว่างวันส่วนใหญ่ใครแลนลงมาก่อนก็จะไลน์บอกครับเผื่อได้คุยกันนิดหน่อย...ตอนเย็น ๆมืด ๆ ตอนขับรถกลับบ้าน...ก็ทำเหมือนเดิมครับ...โทรคุยกัน จนขับรถถึงบ้าน

สุดท้ายก็ก่อนนอนครับ...บอกตาราบินให้อีกฝ่ายทราบว่าไปบินกี่โมงครับ

แล้วเรื่องมันก็เกิดขึ้น 5 วัน ก่อนที่เราจะนัดกันครับ

เราก็คุยกันทุกวันเหมือนปกติ...หยอกล้อ เฟสไทม์บ้าง พิมพ์ไลน์บ้าง
พอมาถึงตอนก่อนนอน...ก็เหมือนปกติครับ พี่เขมบอกตารางบินผม
ผมบินตารางบินพี่เขม
แล้วเสียงพี่เขมก็เปลี่ยนไป...พี่เขมบินไปค้างครับ
ค้างเชียงใหม่อีกแล้ว...ผมหละโครตอิจฉา...คนห่าอะไรจะดวงดีได้ไปค้างเชียงใหม่บ่อย ๆ ของผมนี่ได้มาปีละครั้ง ผมก็น้ำตาจะไหลแล้วครับ

พี่เขม : บีคับ.....

บี : (ผมรู้ทันทีว่าเสียงพี่เขมเปลี่ยนแล้วกำลังเครียดเรื่องอะไรบางอย่าง)
พี่เขม : อืม.....น้องเจไปค้างกะพี่พรุ่งนี้ด้วยครับ

บี : เออ...เหรอครับ...(ผมก็เสียงเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน)

พี่เขม : อยากให้พี่ซิกไม๊พรุ่งนี้

บี : เหย...ซิกทำไมพี่

พี่เขม : พี่กลัวบีไม่สบายใจ

บี : บ้าาาาาาา...ไม่เครียดซักหน่อย

พี่เขม : แหม่ ๆ ๆ ๆ ๆ...น้ำเสียงเปลี่ยนขนาดนี้ หน้าตอนนี้คงเป็นตูดอยู่หละสิท่า

บี : ทำมารู้ดี...ทำไมติดกล้องที่ห้องผมไว้เหรอ

พี่เขม : เออ...ติดไว้หมดละ ห้องน้ำก็มีนะเอาไว้ดูตอนยูอาบน้ำ

บี : ไอ้พี่เขมบ้า

พี่เขม : เอาจริง ๆ ถามดี ๆ โอเคไม๊เนี่ย ถ้าพี่ต้องไปค้างกับน้องเจ

บี : (ให้ผมเลือกอะไรได้เหรอ)...เหย...ก็โอเคแหละ

พี่เขม : เสียงดูไม่ใช่

บี : แหม่ ๆ ถ้าผมไปค้างกับคนที่ผมเคยชอบด้วย พี่จะโอเคป่ะหละ

พี่เขม : ก็ไม่โอเคดิฟระ ถามได้

บี : เออ...ก็เหมือนกันแหละ

พี่เขม : หึงพี่อ่ะดิ...55555

บี : หึง เหิง อะไร...เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย

พี่เขม : ไม่เป็นแน่นะ

บี : เอออออออออออ....

พี่เขม : นี่เราคุยกันทุกวันเลยนะ...หรือจะบอกว่าไม่มีอะไร

บี : ก็เป็นพี่น้องกันไง

พี่เขม : แค่พี่น้อง...?

บี : ใช่ไงครับพี่เขม

พี่เขมกดตัดสายทันที...ผมตกใจมาก...เหยพี่แกโกรธขนาดนั้นเลยเหรอ ฟระ...กรูก็แค่พูดเล่นป่าวฟระ...แต่จะให้กรูยอมรับตรง ๆก่อนเลยเหรอ ไม่ได้ไม๊?
พี่แกก็ต้องรู้ดิฟระว่าพี่ก็ไม่ได้เคลียตัวเองให้แน่ชัด..จะให้กรูออกตัวล้อฟรีว่าจะเอา ๆ ๆ ๆ ก็ไม่ได้ไม๊...มันไม่งาม หญิงแม่สอนมาดี

ผมรอซักแป๊ป...พี่เขมไม่โทรมา...ผมก็โทรกลับ

พี่เขมไม่รับ...ผมก็โทรย้ำไปอีก 3-4 สาย

แล้วผมก็ไลน์ไป

บี : พี่เขม(21:07)
บี : พี่เขม(21:07)
บี : พี่เขม(21:08)
บี : พี่เขม(21:08)
บี : พี่เขม(21:09)
บี : พี่เขม(21:10)
บี : พี่เขม(21:10)
บี : พี่เขม(21:10)
บี : พี่เขม(21:11)
บี : พี่เขม(21:11)
บี : พี่เขม(21:12)
บี : พี่เขม(21:12)
บี : พี่เขม(21:12)

แต่ก็ไม่มีการตอบกลับ...ผมเริ่มจะใจไม่ดีละครับ

ผมไม่แน่ใจว่าผมควรทำยังไงดี...จะขับรถไปหาพี่แกดีไม๊ แต่ก็ดึกแล้ว แล้วผมก็ไม่รู้ว่าพี่แกนอนไหน
บ้านหรือคอนโด

ผมกระวนกระวายใจมาก แล้วพรุ่งนี้ผมก็บินเช้าซะด้วย ถ้าไม่เคลียมีหวังนอนไม่หลับเป็นซอมบี้ไปบินแน่วันพรุ่งนี้

โอยยยย...เอาไงดีฟระ

ผมตัดสินใจ...แต่งตัว คว้ากางเกงยืน กับเสื้อยืดมาใส่ แล้วก็ลากรองเท้าแตะออกมาจากห้อง

พอถึงรถผมก็ตัดสินใจโทรหาพี่เขมอีกที...เป็นไปตามคิดครับ
พี่เขมไม่รับ

ผมควานหากุญแจรถผม...ห่านจิก ลืมเอาลงมาอีก

พอจะเข้าตึก...ห่านจิก...ไม่ได้เอา key card ลงมาด้วย คือหยิบมาแต่มือถือ กับกุญแจห้อง

ผมก็ยิ่งกระวนกระวายใจไปอีก...ต้องรอให้คนจะเข้าตึกมาเปิดให้ ยามก็หาย...โอย เวลามันรีบ ๆ เนี่ย อะไรก็ไม่เป็นใจซักอย่างครับ


ผ่านไปครึ่งชั่วโมง...มีคนลงมาจากตึก ผมดีใจน้ำตาแทบไหล ยุงก็กัด

ผมวิ่งสุดชีวิต...ยังไงถ้าจะนอนก็นอนไม่หลับ...ขับรถไปหาแม่งเลยที่คอนโด...อยู่ไม่อยู่ก็ค่อยว่ากัน

ผมขับรถเป็น fast and furious 8 ปาดซ้ายแซงขวา จนมาถึงคอนโดพี่เขม ขณะนี้ 22:00 ผมก็ยังโทรหาพี่เขมอยู่

ซักพักผมก็เริ่มถอดใจ...คือถ้าจะง้อยากเย็นขนาดนี้ ปล่อยแม่งเลยดีมะ?...คนห่าอะไรฟระขี้น้อยใจชิบหาย...ไม่รู้หรือไง กรูอ่ะ ชอบเมิงก่อนเมิงจะมาชอบกรูอีก

กรูนั่งมองเมิงมาเป็นชาติ...ตั้งแต่มันชอบเพื่อนผม ไอ้ปืน แล้วก็อกหัก ไป แล้วก็มาชอบน้องเจที่มีแฟนแล้ว แล้วตอนนี้ถึงเวลาชอบกรูก็ขี้งอนซะ...โอย ๆ ๆ ๆต้องทำยังไงฟระถึงจะรู้ว่ากรูเนี่ย แทบคลั่งแค่เมิงไม่รับโทรศัพท์กรู

ผมบ่นไม่หยุด ผีนักเลงก็เข้าสิง โกรธพี่เขมก็โกรธ โกรธตัวเองก็โกรธ...เวลามีคนคุยด้วยดี ๆ ยังจะไปสร้างเรื่องให้มันยากไปอีก แค่บอกว่าชอบเค้า มันยากนักเหรอไงฟระไอ้บี กว่าจะจีบมาได้มันไม่ใช่ง่าย ๆ เลยนะเว้ย...แล้วจะมีซักกี่คนที่จะชอบคนธรรมดาบ้าน ๆ อย่างเมิงเนี่ย...แล้วยังจะมาเล่นตัวไปอีก.....โกรธ...โกรธตัวเองมากครับจุดนี้

ซักพักผมก็เห็นคนคล้าย ๆพี่เขม กำลังทำท่าจะเปิดประตูตอนโดครับ

แต่พี่แกทำเหมือนหาของ...รื้อกระเป๋าลากตัวเองตรงหน้าประตู

ผมเลยติดเกียร์หมาวิ่งเข้าชาร์ตทันที

บี : นี่พี่...ไม่คิดจะรับโทรศัพท์เลยเหรอ

พี่เขมทำหน้าเหวอใส่ผม...ขณะที่หาของอยู่ใส่กระเป๋าบินของพี่แก
แล้วก็ไม่ตอบ
บี : มีอะไรก็คุยกันดี ๆ ดิวะพี่ ทำไมต้องทำอย่างงี้ด้วย

พี่เขมก็ยังไม่ตอบอีกเอาแต่ก้มหาของ

บี : “นี่พี่เขมครับ”...ผมนั่งลงแล้วจับแขนพี่แก ให้หยุดหาของทั้ง 2 ข้าง

พี่เขมถึงหยุดแล้วมองหน้าผม
บี : พี่เขมมมมมมมมม...บีขอโทษ....(ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริง ๆครับ ผมยอมพี่แกไปหมดตั้งนานแล้ว)

ผมจ้องตาพี่เขมพร้อมกับสายตาอ้อนวร...

พี่เขม : อ่าาาาาา...หาเจอละโทรศัพท์อยู่นี่ นี่เอง หาตั้งนาน

ผมหน้าแตกยับ...ละเอียดยิบ...ไม่มีชิ้นดี...ฟอร์มทั้งหมดที่ทำมา ไม่เหลือเลยแม้แต่น้อย
ผมแพ้ราบคราบครับ...เพราะความกระวนกระวายใจของผม ผมจึงทำทุกอย่างไปเพราะผมแคร์พี่เค้ามากกกก และพี่เค้าก็คงจะรู้แล้วแหละครับว่าผม...คลั่งพี่เค้าขนาดไหน

พี่เขมเอ่ยขึ้น .... อุ้ย....มีคนโทรมาหาตั้ง 45 missed call

ไลน์อีก 122 ข้อความ ภายในเวลา 1 ชม.ครึ่ง พร้อมกับทำหน้าทะเล้นยักคิ้วใส่ผม...แสดงเหมือนผู้ชนะ

ผมหน้าแดงก่ำ....รู้เลยว่าแพ้...สัส ๆ อายโคตร ๆ

บี : เออดิ...ปล่อยให้คนเค้าเป็นห่วง มีอย่างที่ไหน

พี่เขม : พี่ขอโทษครับบี...แล้วเราจะนั่งจีบกันตรงนี้อีกนานไม๊ พี่ว่าพี่ยามเค้าคงรู้หมดแล้วหละว่า ใครมาจีบนักบินหนุ่มหล่อที่คอนโดนี่อ่ะ

ผมยิ่งหน้าแดงไปอีกกกกกกกกก...แล้วก็รีบช่วยพี่เขมเก็บของพากันขึ้นคอนโดไปครับ
.
.
.
.

พอถึงห้อง...พี่เขมวางของเส็ด...พี่เขมก็เดินเข้ามาสวมกอดผมอย่างจัง

ผมตกใจไปหมด...นี้ผมแพ้ขนาดนี้เลยเหรอ...
ผมก้มลงเอาหน้าผมมุดไปที่ซอกคอพี่เค้า...
แล้วพี่เขมก็พูดน้ำเสียงทุ้มที่ผมคุ้นเคยออกมาเบรา ๆว่า

พี่เขม : คิดถึงจังเลย

บี : คิดถึงเหมือนกันคับ

แล้วผมก็สลัดพี่เค้าออกก่อนที่ผมจะฟุ้งซ่านไปกว่านี้

พี่เขมบ่น : เหย....ยังไม่ทันหายคิดถึงเลยอ่ะ

บี : อะไรเกิดอะไรขึ้นเหรอครับพี่...ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงอ่ะครับ
(ทำท่าทางเล่นใหญ่ รัชดาลัย theatre เหมือนคนจำความอะไรไม่ได้เลย)

พี่เขม : อ่า ๆ ๆ (พร้อมกรอกตาใส่ผม)

...ผมได้แต่ขำ...5555

พี่เขม : แล้วอะไรทำให้หอบมาถึงนี่ได้หละ

บี : (ทำเสียงหงุด ๆ) “ก็มีคนไม่ยอมรับโทรศัพท์ ไม่ตอบไลน์”

พี่เขม : แล้ว....?

บี : แล้วก็อยากเจอ แล้วก็ คิดถึง(ผมสารภาพ ผมยอมทุกอย่างละครับตอนนี้)

พี่เขมยิ้มกว้างแล้วเดินมาหยิกแก้มผม ยืด ๆมันออก เหมือนผมเป็นชินจัง

พี่เขม : ก็มันน่าโกรธไม๊หละ...แต่ก็อย่างที่เห็น ไม่ได้โกรธเลย แต่เอาโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าบิน หาไม่เจอ

บี : ก็พี่ตัดสายผม

พี่เขม : ก็มันน่าโกรธไม๊หละ...สรุปนี่เราเรียกแบบนี้ว่าพี่น้องเหรอ

บี : ก็............จะให้เรียกว่าอะไรหละครับพี่


พี่เขมทำหน้าจริงจังขึ้นมา...เดินจับมือผมลงมานั่งที่โซฟาที่ห้องนั่งเล่น

พี่เขม : พี่จะขอจีบบีได้ไม๊ครับ

บี : ผมจะขอจีบพี่เหมือนกันได้ไม๊ครับ

พี่เขม : พี่ถามก่อนนะ ยูต้องตอบมาก่อนดิ

บี : อ่าวไม่ได้มีกฎหนิว่า ถามก่อนแล้วต้องตอบก่อน

พี่เขม : ก็มันเป็นซะอย่างเงี้ย...จะจริงจังก็เล่นซะหมด

บี : ก็ผมเป็นซะอย่างเงี้ย...ผมถึงได้ขับรถมาทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าพี่จะอยู่คอนโดรึป่าว

พี่เขมยิ้มกว้างไปอีก ตาหยีไปอีก...ผมเห็นแล้วผมก็จะละลายแล้วครับ

พี่เขม : สรุปว่าเราจีบกันโอเคมะ

บี : สรุปว่าเราจีบกันโอเคครับ...พอใจละ




To be continued…

ป.ล. ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับ โดยเฉพาะ คุณ warin, B52, zetnezz and Natsikijang  ครับผม มีอะไรแนะนำติชมได้นะครับ
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 16 i love my job (19-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 21-09-2017 18:28:32
ตอนที่ 16 i love my job

ผมเล่นตีกันกับพี่เขมซักพักแล้วผมก็เริ่มรู้ตัวละครับว่า

พรุ่งนี้ผมบินเช้า...แล้วจะทำยังไง ตอนนี้มันจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว

ต้อไปบินตอน    06:15
ต้องตื่นนอน    04:15 บวกลบ 15 นาที
ออกจากบ้าน    05:15

ผมรีบบอกพี่เขมว่าผมต้องกลับไปนอนละครับพรุ่งนี้บินเช้ากระเป๋ายังไม่ได้จัดเลย

บี : พี่เขมผมต้องกลับละนะ...พรุ่งนี้บินเช้าอ่า 06:15

พี่เขม : โห...นึกว่าจะนอนด้วยกัน

บี : แล้วจะยังไง ไม่มีอะไรซักอย่าง แค่นี้ก็นอนน้อยอยู่ละไม๊

พี่เขม : งั้นเอางี้เด๋วพี่ไปส่ง...บีจะได้นอนในรถกลับไปได้หน่อย

บี : ไม่ต่างหรอกพี่...ลำบากเปล่า ๆ ดึกแล้วรถไม่ติดหรอก

พี่เขม : ก็ยังอยากอยู่ด้วยง่ะ

บี : ไม่งอแงดิคับ

พี่เขม : งั้นเอางี้...พี่ขอไปนอนคอนโดบีได้ไม๊

บี : แล้วพี่บินพรุ่งนี้บ่ายแต่ผมบินเช้า

พี่เขม : ก็เด๋วพี่ไปส่งบีไปบิน...แล้วก็กลับมานอนต่อ บ่าย ๆพี่ก็ออกไปบิน เอารถจอดไว้บริษัท พอบีบินเสร็จ บีก็ขับกลับไป แล้วพอพี่บินเสร็จบีก็มารับ...เหมือนแฟนกันเลยเนอะ

ผมหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง...ไอ้พี่เขมนี่มันยังจะอ้อยผมได้ทุกเวลา ทุกคำพูดของมันนะครับ...ทำให้ใจผมสั่นตลอด
ผมนี่ตกหลุมรักพี่เขมไปแล้วอย่างจังเลยครับ...ไม่สามารถถอดตัวได้ละครับ...ถึงจะมีเรื่องน้องเจให้กังวลอยู่...แต่ตอนนี้ขอตักตวงความสุขให้มากที่สุดก่อนครับ

บี : อ่า ๆ ก็ได้ ๆ ๆ  ๆ

พี่เขม : เย้ ๆ ๆ  ๆ

บี : แต่คอนโดผมเล็กมากเลยนะ พี่จะอยู่ได้เหรอ

พี่เขม : ยิ่งเล็กยิ่งแคป ก็ยิ่งดี พี่จะได้หาเรื่องกอดบ่อย ๆเพราะที่มันแคป

บี : แหนะ ๆ ๆ เอาใหญ่นะเรา

พี่เขม : หรือจะไม่ให้กอดก็ได้...(พี่เขมทำหน้าไม่สนใจ)

บี : ไม่ให้เว้ยยยยยยย...ผิวเสียหมด(ผมทำท่าลูบแขน)

พี่เขม : คิดว่าห้ามได้...ก็ลองดู




ระหว่างทางขับรถกลับไปคอนโดผม...

พี่เขม : ไว้ใจพี่นะบี

บี : อะไรนะคับพี่เขม

พี่เขม : เรื่องน้องเจอ่ะ...พี่ไม่มีอะไรด้วยแล้วจริง ๆ

บี : ครับ

พี่เขม : แล้วพี่จะพิสูจน์ให้เห็น พร้อมยื่นมือมาขอจับมือผม

บี : ครับ...พี่เขม..(ผมก็จับมือพี่เขมไว้ตลอดทางจนถึงคอนโด)

ผมเนี่ยไม่เคยนึกมาก่อนเลยนะครับ...ว่าจะต้องจับมือกับใครเวลาขับรถ...มันดูเป็นละครน้ำเน่ามากกกกกกก...ซึ่งผมเคยปฏิญาณกับตัวเองไว้ ว่าจะไม่จับมือกับแฟนเวลาขับรถ

แต่พอมาตอนนี้ครับ...ขนาดยังไม่ใช่แฟนนะครับ...ฟินลืมมมมมมมม



พอถึงคอนโด...ผมก็รีบเก็บข้าวของผมอย่างรวดเร็ว

โชคดีครับที่ผมเป็นคนไม่ชอบอยู่ห้องรก ๆและข้าวของผมก็ยังไม่เยอะเนื่องจากคอนโดนี้เพิ่งย้ายเข้ามาครับ ห้องเลยดูโล่งมาก

พี่เขม : นี่ใครแต่งคอนโดให้เนี่ย

บี : ผมแต่งเองดิพี่...ผมซื้อห้องเปล่ามาครับ

พี่เขม : แต่งสวยดีนะ...พี่ชอบอ่ะ มันดูใช้พื้นที่ได้คุ้มดีจัง

บี : แน่นอนอยู่แล้ว...เก่งง่ะ

พี่เขม : จ้า...พ่อคนเก่ง ต้องรีบนอนแล้วค๊าบ ไปนอนเร็ว

ผมเปิดตู้เย็นดูว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรให้พี่เขมพอกินได้ไม๊...แต่ตู้เย็นเจ้ากรรม...มีแค่ นม กะ ฝรั่ง 2 ลูก

บี : พี่เขมครับ...ในตู้เย็นไม่มีอะไรให้กินเลยอ่ะ พรุ่งนี้ก็ออกหากินเองละกันนะพี่ 7-11 อยู่หน้าคอนโด

พี่เขม : เด่วพี่จะออกไปคุ้ยเขี่ยหากินตอนเช้าเองครับ...คนนะไม่ใช่ไก่ จะได้ออกหากินตอนเช้า

บี : 5555555 ลืมไป

พี่เขม : อ่า ๆ รีบนอน ๆ พี่ก็ง่วงแล้วเนี่ย

บี : พี่ทาครีมยังก่อนนอน

พี่เขม : หึ...ไม่เคยทาอ่ะ

บี : มาเด๋วทาให้

พี่เขม : ไม่เอา ๆ หน้ามันจะมันอ่ะไม่ชอบ

บี : ก็หน้าถึงได้เหี่ยวขนาดนี้ไง...อย่าดื้อมาเร็ว

พี่เขม : หลอกด่านี้หว่า

บี : คนจะดูแลก็บอกว่าหลอกด่า...(ผมพูดด้วยความลืมตัว)

พี่เขม : อยู่ดูแลพี่ไปนาน ๆ นะครับ

เอาอีกละครับ...เห็นไม๊ครับ...พี่เขมเนี่ยมันเก็บทุกเม็ดจริง ๆ
แล้วผมจะไปไหนรอด

แล้วเราก็เข้านอนกันครับ...ไม่ถึง 3 ชั่วโมงผมก็ต้องตื่นไปบิน


เฮ้อ...i love my job



To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 16.6 รักพี่มากสินะไอ้ตัวแสบ (21-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 21-09-2017 18:30:25
ตอนพิเศษ 16.6 รักพี่มากสินะ ไอ้ตัวแสบ

Part ของพี่เขม

เอาเข้าจริง ๆ ผมไม่เคยรู้สึกประหม่าอย่างนี้กับใครมาก่อนเลยครับ...การมีแฟนเป็นผู้ชายเนี่ย...ตามประสบการณ์ของผมเลยนะครับ

การมี sex กันเนี่ยมีเป็นเรื่องธรรมดาง่ายดายมากเลยครับ
ด้วยความที่เป็นผู้ชายทั้งคู่มันเลย มีความต้องการเหมือนกันครับ
(ในความคิดผมนะครับ ไม่เกี่ยวกับคนอื่น)

มันเลยทำให้มี sex  กันง่ายแล้วก็เลิกรากันก็ง่ายตาม เพราะไม่มีใครปรามใครไงครับ...

แต่สำหรับไอ้ตัวแสบนี้สิครับ...แรก ๆ ผมก็ว่าน่าจะลงเอยด้วยดี...แต่เอาเข้าจริง ๆ ผมหยอดมันไปเท่าไหร...มันเปลี่ยนเรื่องคุยกับผมตลอดเลยครับ

หรือว่าบางที มันอาจจะยังซิงอยู่...แต่ก็ไม่น่าจะน้าาาาาาาา

เพราะอายุมันก็ไม่ใช่ 18-19 ไรงี้ มันก็อีกไม่กี่ปีก็ 30 ละครับ

ถ้ายังซิงเนี่ยผมจะเอาไปกราบไหว้บูชาขึ้นหิ้งไว้เรย

ผมเนี่ยแอบจับขา กอดคอ กอดเอว มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเรื่องอย่างว่าเลยครับ...ผมก็เลยแปลกใจว่า...หรือว่ามันจะไม่ได้ชอบผมขนาดนั้นกันแน่...ผมเลยต้องมีบทพิสูจน์ อีกหลาย ๆบทต่อไปครับ

อย่างแรกเลยครับ ผมสอนมันเล่น กาฮอง ครับ ทั้งจับมือถือแขน โอบไหล่ จับขา ลูบขา...ไม่สำเร็จเลยซักอย่างครับ

มันปล่อยให้ผมทำแล้วก็ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบเลย...

พอร้องเพลงซักพักผมก็หิวขึ้นมา เวลาคนเมาแล้วมักจะหิวครับ
ผมเลยงอแง อยากออกไปหาอะไรกิน

แต่มันดันโชว์สกิวเทพครับ ทำมาม่าโง่ ๆ ให้กลายเป็นอาหารชั้นเลิศได้ครับ

ผมเนี่ยเกลียดมาม่า อาหารซอง อาหารกระป๋องเป็นที่สุดครับ
เพราะผมเนี่ยกินอยู่ประจำตอนเรียนอยู่เมืองนอก...แม่งทำกับข้าวเองก็ไม่เป็น เงินก็ไม่ได้มีเยอะจะสามารถหาซื้อกินได้ทุกมื้อ
แล้วอาหารพวกนี้แหละครับก็เป็นอาหารที่ประทังชีวิตผมในช่วงเรียนอยู่เมืองนอก

พอได้กลับมาไทย...ผมสาบานไว้เลยนะครับว่าถ้าไม่จำเป็นจริง ๆผมจะไม่กินมันเลย

แต่ไอ้ตัวแสบของผมสิครับ...ทำอาหารที่ผมแม่ง เคยกินมาหลายปี แต่ไม่เคยกินอะไรแบบนี้เลย

อร่อยมากเลยครับ...ผมนี้ทึ่งไปเลยครับ

ไม่คิดว่ามันจะทำอาหารได้อร่อยขนาดนั้น...เสน่ห์ปลายจวัก มัดใจผัวคนนี้จริง ๆเลย

พอกินเสร็จผมก็อาสาล้างให้...แฮ่ะ ๆ หน้าที่ถนัดของคนทำกับข้าวไม่เป็น....555

มันก็เอาคางมาวางที่ไหล่ผมครับ...สบโอกาส
ผมเลยหอมไปฟอดนึง...ผมบอกเลยว่า ถ้าต่อติดเนี่ย...ผมจับมันจูบไปแล้วครับ...แต่ก็เด้งหนีผม
แล้วก็เดินหนีไปอาบน้ำซะงั้น

ผมเลยตกใจเบรา ๆว่าไอ้นี้มันเป็นคนยังไงกันแน่ฟระ...ไม่มีความรู้สึกเลยเหรอ

พอทุกอย่างเสร็จผมก็ไปนอนดูทีวีบนเตียงผม...รอมันอาบน้ำเสร็จ

พอมันออกมาจากห้องน้ำเท่านั้นแหละครับ...ผมนี่อยากจะไปดึงผ้าเช็ดตัวแล้วข่มขื่นมันซะเลย...

ผมบอกเลยครับว่าผมแพ้ความขาวมาก ๆ แพ้ชนิดที่ว่าผมจ้องไปกลืนน้ำลายไป แล้วน้องชายผมก็เริ่มทำงานทันทีครับ

ผมนี่ตกใจจัดท่าของน้องชายแทบไม่ทัน...แต่มันดิครับ

เหมือนเดิม...กริบ....

อย่างสุดท้าย...ผมเลยขอพลีกายถวายชีวิต โชว์หุ่นล่ำ ๆของผม

มันก็จ้องนะ...แต่ก็เหมือนเดิม...ผมเลยเงิบไปเลยครับ
ไปต่อไม่เป็นจริง ๆ หรือว่าน้องมันไม่ได้คิดกับเราถึงขึ้นนั้นฟระ

ผมออกจากห้องน้ำก็เห็นมันนอนหลับไปแล้วครับ...สงสัยจะเหนื่อย จะว่าไป มันก็ดูแลผมมาทั้งวันเลยนะครับ...ไม่บ่นซักคำเดียว ออกไปซื้อข้าวตอนเช้า ตกดึกยังทำอาหารเลิศรสให้กินอีก...หาดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้วครับ

ผมก็เครียด ๆเรื่องมันไม่ค่อยสนใจผมเนี่ยแหละครับ ก็เลยอยากบุหรี่ขึ้นมา...จะว่าไปวันนี้ยังไม่ได้สูบซักตัวเลย

ผมเดินออกไประเบียงจุดบุหรี่ซักตัว...แล้วก็เล่นมือถือครับ

ตั้งแต่เช้าผมยังไม่ได้เล่นมือถือเลยครับหลังจาก upload รูปที่ถ่ายคู่กับมันไปครับ
พอเปิดขึ้นมาเท่านั้นแหละครับผมแทบสำลักควันบุหรี่

แม่งคอมเม้นรูปผม ที่ผมถ่ายกับมัน มีเยอะมากครับ....ที่สำคัญ สนุกปากคนแซวมากกก
พวกนักบินมาแซวผมกันเต็มเลยครับ...บ้างก็ว่าเปิดตัว
บ้างก็ว่าแฟนใหม่
บ้างก็ว่าเด็กใหม่
บ้างก็เอาเรื่องของไอ้บีมาพูด

แต่อีตัวที่แสบสุดนี่คือ แก้งแอร์กี่ ที่ไปค้างมาด้วยกันครับ

มาอวยพร เหมือนจะเป็นวันแต่งงานเข้าห้องหอกันเลยทีเดียว

ตอนแรกผมเห็นผมก็กะจะลบรูปทิ้งเลย...เพราะกลัวไอ้ตัวแสบจะโกรธ

แต่อีกใจก็เสียดายมาก..ก็เลย เอา tagged ชื่อของมันออกแล้วก็ hide รูปนี้ไว้ไม่ให้ใครดูแล้วครับ...ผมจะเก็บไว้ให้ผมดูคนเดียว

แฟนผม...ผมก็หวง...(คิดเองเองล้วน ๆ )

ซักพักผมก็เข้ามา...ดูดบุหรี่ได้ครึ่งตัว...เพิ่งจะนึกได้ว่าไอ้ตัวแสบมันแพ้...เลยรีบดับ...พอเดินเข้าให้มา

ไอ้ตัวแสบของผมก็ไอ...ออกมาทันทีเลยครับ

ผมนี่ทำตัวไม่ถูกเลย...สงสารมัน

มันก็บ่น ๆ ออกมาแล้วก็หลับต่อ คงจะเหนื่อยจริง ๆครับ

ผมก็เลยเอาหมอนกะผ้าห่มอีกผืนไปนอนโซฟาด้านนอกครับ

นอนยังไงก็นอนไม่หลับ...ในหัวคิดถึงแต่ไอ้คนที่นอนอยู่บนเตียงผม

ผมเลยคิดแผนชั่วครับ...หลับแล้วใช่ไม๊...

ผมไม่กล้าทำอะไรมากหรอกครับ...แค่อยากจะนอนกอดมันเฉย ๆ

เห็นมันนอนขดเป็นกุ้งเลยครับ น่าจะหนาว เพราะผมเป็นคนชอบนอนห้องแอร์ฉ่ำาๆ ครับ

พอผมเข้าไปใต้ผ้าห่มเท่านั้นแหละครับ มันก็ดึงผมเข้าไปกอดทันทีเลย

ผมแอบยิ้มออกมา...คือผมอ่ะจะมานอนกอดมัน...แต่ดันโดนมันกอดซะแน่นเลย...สงสัยจะรักพี่มากสินะไอ้ตัวแสบ

พอเช้ามา...ผมแอบตื่นก่อนมันนิดนึงครับเพราะว่า แขนผมเนี่ย ชาไปหมด...หัวไอ้ตัวแสบมันนอนทับอยู่...ผมขยับแขนให้เลือดเดินหน่อย
แล้วผมก็เห็นมันตื่น...ผมเลยแกล้งนอนต่ออยากจะรู้ว่ามันจะทำยังไง

มันนอนนิ่ง ๆครับ น่าจะกำลังแอบมองผมอยู่...แต่มันไม่เด้งออกจากแขนผมในทันทีนะครับ...พอมันจะลุกออกผมก็ดึงมันไว้ แล้วก็แซวมันออกมา...ผมหันไปนอนกอดมันบ้าง

ผมไม่รู้ตัวเลยครับว่าน้องชายผมมันแข็งอยู่ เพราะมันเป็นปกติทุกเช้า แต่พอไอ้ตัวแสบมันพูดเท่านั้นแหละครับ...ผมสะดุ้งโหย่ง รีบเอาห่มมาพันตัวเลยครับ

เด่วมันจะว่า ว่าผมหื่น...นี่ เป็นครั้งที่เท่าไหรแล้วเนี่ยที่มันเห็นของผม...โอยยยยยยย...แล้วที่แย่ไปกว่านั้นคือ...มันไม่มีทีท่าว่าจะสนใจอะไรในตัวผมเลยครับ

ยิ่งทำให้ผมงงเข้าไปใหญ่... ผมต้องทำยังไงที่จะให้มันสนใจในตัวผมเนี่ย...ยิ่งคิดก็ยิ่งคิดไม่ออก

หยอดคำหวาน ๆ ก็จะครบหมื่นคำละ
จับเนื้อต้องตัว...ก็เหลือแค่จูบ
ที่สำคัญ...ขนาดมันเห็นของผมแล้ว...มันยังไม่รู้สึกอะไรเลย...ไม่จริง ๆ ๆ ๆ ๆ หรือว่าผมมันไม่น่ายั่วยวนเหมือนสมัยก่อนแล้ว
ผมว่าหุ่นผมก็ไม่แย่นะครับ...ถึงจะไม่ได้มี ซิกแพค แต่ความล่ำผมก็ไม่แพ้นายแบบนะคับ ใครเห็นก็ต้องมีอยากบ้างแหละ

แต่ไอ้ตัวแสบนี่กลับนิ่ง...หรือแม่งเป็นขันทีฟระ

แล้วผมก็เขินอายนอนต่อ...ไอ้ตัวแสบหายไปไหนไม่รู้แล้วครับ

ผมรู้สึกอีกที...ได้กลิ่นหอม ๆ เหมือนจะเป็นโจ๊กครับ...ผมนี่ลอยตามกลิ่นมาเลยครับ

ออกจากห้องนอนมาทั้งผ้าห่มเลย...กลัวมันเห็นน้อยชายของผมอีก

ผมงอแงนิดหน่อยเพราะขี้เกียจล้างหน้าแปรงฟัน

แต่มันก็ไม่ยอมเลยครับ...ผมเลยต้องทำตามบัญชา

พอเห็นโจ๊กที่มันตักให้ผมแล้ว...ผมตกใจเลยครับ...ถึงแม้จะเหมือนโจ๊กเด็กไม่ใส่ผัก...แต่มันดูขาวสะอาดหน้ากินมากกกกกกกก
แถมมีไข่ลวกเย้ม ๆเห็นไข่แดงเด้ง ๆ แล้วก็มีอะไรก็ไม่รู้ฉีก ๆอยู่อีก

ผมยังงงเลยครับว่ามันไปเอามาจากไหน...นี่ซื้อมารึป่าวหรือทำเอง
แล้วพอได้ชิม...ผมไม่อยากจะเชื่อเลยครับว่าเป็นเป็นโจ๊กซองที่อยู่ในห้องผม...มันทั้งหอมกว่า...หวานกว่า
รสดีกว่าเป็นไหน ๆ

ผมก้มหน้าก้มตากินจนหมดกินไปชมมันไป...ก็มันอร่อยจริง ๆหนิครับ เหมือนกะได้กินโจ๊กที่ฮ่องกงเลย

ซักพักมันก็เหมือนจะแกล้ง ๆ ผมว่า “จะกลับแล้ว” ...จริง ๆผมก็คิดอยู่ว่าน้องจะอยากกลับไม๊นะ...เพราะไม่มีข้าวของอะไรมาด้วยเลยแต่ผมก็ยังอยากให้มันอยู่ด้วยครับ...ก็คนมันชอบอ่ะ...อยากหยุดเวลานี้ไว้นาน ๆ

ผมก็คิดว่ามันแกล้งจริง ๆ ผมก็เลยทำเป็นไม่สนใจ

มันเดินออกประตูไป ผมยังทำเป็นแบบเออ ๆ ไปเถอะ บรัยยย

ในหัวผมคิดว่า...เด๋วแม่งจะเดินไปล็อคประตูเอาให้เข้าไม่ได้แม่งเลย

ผมก็รอเวลา...นี่คือเกมส์แข่งความอดทนครับ...ใครเปิดประตูก่อนแพ้

สรุปผมทนได้ไม่ถึง 5 นาที ผมเดินออกไปหารอบ ๆก็ไม่เห็นมัน

ผมเดินกลับมาที่ห้องว่าน้องมันเอาไรไปบ้าง...แต่ลืมไปมะคืนมันขึ้นมามีแค่กุญแจรถมัน

ชิบหายหละครับ...มันหนีผมกลับไปแล้วจริง ๆ

ผมรีบวิ่งหาโทรศัพท์...กดโทรหามันอย่างด่วน...พอปลายสายรับ ผมก็ทำทีเป็นวางฟอร์มก่อน เผื่อมันแม่ง ซ่อนตัว

สรุป...มันหนีกลับบ้านด้วยที่ตัวมันใส่เสื้อกล้ามกะบ๊อกเซอร์จริง ๆครับ

แม่งคนอะไรไม่อายชาวบ้านชาวช่องเลย แต่งตัวอย่างงั้นลงไปได้ไงแล้วคนจะเห็นอีกกี่คน...ยิ่งขาว ๆอยู่เด๋วมีคนฉุดไปจะว่าไง

ผมก็โวยวายตามประสา...คนมันหวงหนิครับจะให้ทำไง

แล้วผมก็เปิดโหมดจริงจังขึ้นมา...ผมว่ามันแม่งต้องการความแน่นอนจากผมมากกว่า...เพราะมันก็รู้ว่าผมเคยชอบ น้องเจ...แต่ตอนนี้กรูเปลี่ยนไปชอบเมิงแล้วไม๊....รู้ตัวบ้างงงง

หลงจนหัวปักหัวปำ...วัน ๆเอาแต่คิดถึงแต่เมิงเนี่ย

แต่น้องแม่งก็เหมือนเดินครับ...ผมจริงจังทีไร...มันแม่งไม่ยอมตอบผมเลย....เงียบใส่ตลอด

.
.
.
.
.
.
หลายวันผ่านไป...ผมก็พัฒนาความสัมพันธ์ของผมกะไอ้ตัวแสบของผม

เราคุยกันทุกวัน บอกกันตลอดว่าไปบินที่ไหน
แล้วเรื่องมันก็มาเกิดขึ้น...คือน้องเจแม่ง แลกเข้ามาบินไฟล์กับผมครับ

ผมไม่ได้ติดต่อน้องเจไปอีกเลยตั้งแต่ผมคิดจะจริงจังกะไอ้ตัวแสบ
ผมก็รู้สึกผิดนะเอาจริง ๆ แต่ชีวิตก็ต้องเลือก...ผมเลยเลือกจะไม่บอกอะไรน้องเจเลย...เพราะยังไงน้องเค้าก็มีแฟนอยู่แล้ว...ผมมันแค่ตัว...อะไรซักอย่างที่เค้าคุยด้วยยามเหงา

ถึงน้องเจจะโทรหาผมทุกวัน...ผมก็ไม่รับครับ
แต่ผมตอบไลน์..แบบว่าบอกปัด ๆว่าไม่ว่างบ้าง อยู่กะที่บ้านบ้าง
ผมหละกลัวจริง ๆ เลยครับ ถ้าวันไหนน้องเจ อยู่ดี ๆมาโผล่ที่คอนโดผมแล้วก็เจอผมกะไอ้บีตัวแสบ...แม่งงานคงงอกไม่น้อย

แต่ตอนนี้...เอาเรื่องนี้ก่อนครับ ผมยังคิดไม่ตกเลยครับว่าจะจัดการยังไงดี...จะsick ดีไม๊ หรือว่าจะไปดี

ผมเลยปรึกษาเจ้าของหัวใจผมดีกว่าครับ...คนจะรักกัน...มันต้องเปิดเผย...ถึงจะรอด

แล้วก็ไม่รอดครับ...55555 ผิดคาด...ไอ้ตัวแสบดูไม่โอเคเลย ฟังจากน้ำเสียงแล้ว ยิ่งคุยไปคุยมา มาบอกว่าผมเป็นแค่พี่น้อง

ผมนี้งอนเลยครับ...แม่ง แค่พี่น้อง...เด๋วเถอะเมิง...อย่าให้กรูเจอนะ จะจับทำเมียแม่งเลย...กะไอ้แค่พี่น้องเนี่ยแหละ

ผมกดตัดสายทันที...ยอมรับเลยครับว่า ฟิวขาด แต่ก็ไม่อยากทะเลาะด้วยเพราะแค่นี้ มันก็แย่ละครับ

ผมเลยเก็บกระเป๋าไปนอนคอนโดดีกว่า...อยู่ที่บ้านเด๋วพ่อแม่รู้ว่าทะเลาะกะว่าที่สะใภ้คนใหม่ แล้วว่าที่สะใภ้คนเก่าก็ยังไม่ได้เคลีย

ผมขับรถออกไปเรื่อย ๆ ไม่ได้เร่งรีบอะไร...ในหัวคิดต่อว่าจะเอาไงดี...ให้มันจบ ๆ ไปเคลียกับน้องเจ...แล้วก็จะได้เริ่มใหม่ได้กะไอ้ตัวแสบของผม

พอขับมาถึงคอนโด...กะลังจะเข้าคอนโด...อ่าวกระเป๋าตังหละ
อ่าวมือถือหะละ...แม่งอย่าบอกนะว่าลืมไว้บ้าน
ขับไปขับมาอีกโอ้ย ๆ ๆ ๆเซ็งตัวเอง

ผมเลยเปิดกระเป๋าบินหาดูก่อนแล้วผมก็เจอไอ้ตัวแสบของผม

ผมนี้ขำไม่ออกเลยครับ...มันทำหน้าเครียดมาก..แต่ผมก็งอนมันอยู่นิดนึงแหละ...ต้องวางมาดซะหน่อย

ว่าแต่มันแม่งรู้ได้ไงว่าผมจะมานอนคอนโด...แหม่ ๆๆ ยังไม่ทันจะได้เสียกัน...รู้ใจพี่ไปหมดซะทุกอย่างแล้วนะ...ไอ้ตัวแสบ

ผมไม่มองหน้ามันครับกลัวหลุด..ขำออกมา..พยายามควานหา กระเป๋าตังกับมือถือ

แม่งยิ่งรีบก็ยิ่งหาไม่เจอ

จนรู้ตัวอีกทีมันมาจับมือผมละครับ...

ผมมองหน้ามัน แต่มือก็หามือถือ...สุดท้ายก็เจอ

อูยยยยยยยยยยยยย...ตายห่า.......

35 missed call, 122 line messages





ผมยิ้มออกมาทันทีครับ...เฮ้ยไอ้ตัวแสบมันแคร์เรามากขนาดนี้เลย เหรอ ฟระ

ผมพามันขึ้นมาที่ห้อง แล้วอย่างแรกที่ผมอยากทำที่สุดเลยก็คือ...

“กอด”ครับ

ผมคิดถึงมันมากกกก แม้จะผ่านไปไม่กี่วัน...แล้วก็แม้จะคุยกันทุกวัน แต่ความรู้สึกที่เนื้อสัมผัสกัน...อะไรก็แทนไม่ได้ครับ

ผมไม่ได้หวังให้มันกอดผมตอบหรอกครับ...ผมแค่อยากแสดงให้เห็นบ้างว่าผมเนี่ย...คิดถึงมันจะตาย...ถึงแม้จะรู้แล้วว่ามันแคร์ผมมาก

แต่สิ่งที่เกินคาดก็เกิดขึ้น...มันกอดผมแถมยังไม่พอ ก้มหน้ามาไซ้คอผมด้วย...(อันนี้คิดไปเองว่า...เด๋วคืนนี้ยาวแน่ ๆ)...สรุปไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันกอดผมได้ 2 วิ เอาหน้าซุกคอผมอีก 2 วิแล้วมันก็สลัดออก....

ผมนี้เซ็งเลยครับ...เราโต้เถียงกันเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สรุปสุดท้ายก็คือ...เราจะจีบกันและกันครับ

ผมหละไม่เคยจะเจอเลยคนห่าอะไรแบบนี้

ผมจะจีบมันก็ไม่ยอม...มันเหมือนเป็นผู้ชาย 2 คน จีบคนที่ชอบด้วยกันทั้งคู่อ่ะครับ...งงมะ?...ผมก็งง

แต่นั่นก็คงเป็นคำบัญญัติ สำหรับความรักของคู่ผมครับ

ผมออกความเห็นว่าจะไปนอนที่คอนโดไอ้ตัวแสบครับ

น่าจะสะดวกที่สุดแล้ว...แล้วผมก็จะไปบินตอนบ่าย แล้วค้างกลับมาดึกอีกวันนั้น แล้วอีกวันก็ให้มันมารับ เพราะมันหยุด


พอผมถึงห้องมันครับ...เหยยยย
ห้องมันน่าอยู่มากกกก รีบร้อยกว่าห้องผมอีก...ห้องผมเนี่ยมีแม่บ้านที่จ้างรายสัปดาห์มาคอยดูแลครับ แต่ห้องมันเนี่ยแต่แบบ minimal มาก ผมชอบมากเลยครับให้บรรยกาศแบบอบอุ่นมากกกกก

ผมเห็นเตียงมันแล้วก็อยากจะกระโดดลงไปนอนทันที

มันก็เริ่มเก็บของโวยวายว่าจะต้องตื่นเช้า...ผมก็นั่งเฝ้ามันแล้วก็ง่วงแล้วครับ...

พอเสร็จ ผมก็นอน...ไม่วาย ผมขยับไปหามัน มันเอาหมอนข้างมากั้น ตรงกลาง ระหว่างผมกับมันครับ...ไอ้นี้ มันวอนมาก
คิดเหรอว่าแค่หมอนข้างจะกั้นไอ้เขมได้

ผมก็เบียดหมอนข้างออกแล้วก็ประชิดตัวมันได้สำเร็จ

ไอ้ตัวแสบ : พี่เขม...บินเช้านะ

เขม : อ่าวก็นี่ไง...มานอนกล่อมอยู่

ไอ้ตัวแสบ : พี่เขมมมมมมมมมมมมมม

เขม : อ่าๆ ๆ สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรแล้วนอกจากกอด

ไอ้ตัวแสบนอนตะแครงข้างให้ผมทำเหมือนรำคาญ

ซักพักมันก็หันมาแล้วก็หอมแก้มผมครับ...ผมงงไปหมด อะไรของมัน ฟระ

ไอ้ตัวแสบ : ขอบคุณครับ

เขม : ขอบคุณอะไร

ไอ้ตัวแสบ : ขอบคุณที่กอดผมไง

เขม : “ฝันดีนะ...ไอ้ตัวแสบ(ของพี่)”

แล้วมันก็หลับไปอย่างรวดเร็ว...ผมหละงงกะมันจริง ๆ บทมันจะหวานนะครับ...มันก็มาซะเต็มเลย

บทมันจะเฉย..ก็นิ่งซะผมเดาทางไม่ถูก

แต่ศึกหนักของผมมันคือวันพรุ่งนี้ครับต้องรีบเก็บแรงไว้ก่อน

เก็บกอดของไอ้ตัวแสบไว้เป็นพลัง ในการต่อสู้วันพรุ่งนี้ครับ

.
.
.
.
.
ตอนเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมนี่เปิด auto pilot ขับรถกลับมาคอนโดผมเลยครับ
ผมอยากจะทำอะไรให้ไอ้ตัวแสบมันหน่อยก่อนไปบิน...ผมเลยไปซื้อผลไม้ ขนม เบียร์ เสบียงอาหารต่าง ๆมาใส่ตู้เย็นให้มันครับ
เรียกแม่บ้านที่ทำความสะอาดห้องผมมาทำให้ห้องมันด้วย

ล้างแอร์ทำทุกอย่างให้เสร็จก่อนผมไปบิน

สิ่งที่ผมภาคภูมิใจที่สุดคือ...ผมล้างห้องน้ำให้มันกับมือผมเองครับ
แต่ห้องน้ำมันแม่งก็สะอาดอยู่ละ...แต่ผมไม่เคยคิดจะทำอะไรอย่างงี้ให้ใครมาก่อนเลยครับ...เห็นมันดูแลผมมาอย่างดีแล้วผมเลยรู้สึกด้อยค่าไปเลย...ถึงแม้ผมจะจ่ายเงินให้คนอื่นทำให้แทนได้แต่มันก็ไม่ได้ความภูมิใจที่เราได้ทำ ให้คนที่เรารัก...ด้วยตัวเองจริง ๆอ่ะครับ

ก่อนออกห้องผมไปเห็นรูปไอ้แสบครับ
จะว่าไปผมถ่ายรูปกับมันแค่รูปเดียวเอง
ผมเลยอยากเก็บรูปมันไว้...ในกระเป๋าตังผม
ผมเลยแอบจิ๊กไปครับแล้ว...ผมก็โทสั่งเพื่อนให้อัดรูปผมที่ถ่ายคู่กับมันส่งมาที่คอนโดผมครับ....เดี่ยวผมกลับมาผมจะเอาไปใส่แทนรูปที่ผมขโมยไป
เสร็จแล้วผมก็ออกไปบินครับ

ปัญหามันอยู่ตรงที่ไปบินกะน้องเจเนี่ยแหละครับ

ผมต้องท่องไว้ตลอดว่า... “เข้มแข็งไว้นะไอ้เขม...มึงจงรักแค่ไอ้ตัวแสบคนเดียว ๆ ๆ ๆ ๆๆ  ๆ”


ตอนบินก็ไม่มีอะไรมากครับ...ความยากมันอยู่ที่ตอนลงค้างเนี่ยแหละครับ

น้องเจก็ชวนทุกคนออกไปกินเบียร์หาไรกินแถว ๆนิมมานตามปกติ
ครั้นผมจะไม่ไปไหนผมก็จะไม่ได้เคลียกับน้องเจซักที

ไอ้ตัวแสบผมก็ห่วง...ผมยังไม่ได้โทรหามันหลังจากผมมาถึงเชียงใหม่เลยครับ

แต่ผมกะจะเคลียกับน้องเจให้เรียบร้อยก่อนจะได้บอกไอ้ตัวแสบไปทีเดียว จะได้สบายใจ

แล้วไอ้ตัวแสบก็โทรมาครับ...ผมยังเลือกที่จะไม่รับ...ผมรู้สึกผิดมากครับแต่เด๋วมันจะไม่จบง่าย ๆ

ผมก็ไปกินเบียร์กับน้องเจแล้วก็คนในไฟล์ พอได้โอกาส ผมก็แยกตัวมาคุยกับน้องเจครับ

ผมคุยกับน้องเค้าตรง ๆเลยครับ เพราะตอนนี้ผมเป็นห่วงคนของผมมากที่สุด

ผมบอกน้องเจไปเลยครับว่าผมกำลังจีบคนอื่นอยู่ แล้วผมก็ชอบเค้ามากด้วย ผมคงจะรอน้องเจไม่ได้อีกแล้ว
เพราะตอนนี้ในใจผม มีแต่คนอีกคนอยู่เต็มไปหมดแล้ว

ตามคาดครับ น้องเจก็ร้องไห้...แต่ผมก็หนักแน่นพอที่จะต้องปล่อยให้น้องเค้าไปจัดการกับความรู้สึกตัวเอง

ผมรีบเดินกลับมาที่โต๊ะบอกกับทุกคนว่าผมต้องกลับแล้ว ฝากน้องเจด้วยนะ

แล้วผมก็หยิบโทรศัพท์เพื่อจะโทรไปแจ้งให้เจ้าของหัวใจผม

แต่ก่อนผมจะกดโทร ผมก็เข้าไปดูในไลน์ก่อน ผมอยากจะรู้ก่อนว่าไอ้ตัวแสบรู้สึกยังไง เพราะปกติไอ้ตัวแสบจะไลน์มาถ้าผมไม่ได้รับโทรศัพท์

มันแปลกมากเลยครับ...ผมเจอแค่ข้อความเดียวของไอ้ตัวแสบ

มันส่งมาเป็นคลิปเสียง...ผมก็งงว่า เอ๊ะ? หรือว่ามันจะทนไม่ได้กับที่ผมหายไปแล้วก็ส่งคลิปเสียงมาบอกเลิกแทน

มันทำให้ผมจิตใจเริ่มสั่นไหวครับ ในขณะที่ผมรอให้คลิปเสียงนี้โหลดอยู่

พอกดฟังได้ปุ๊ป มันเป็นเพลงครับ

“รู้ฉันรู้ยังไงก็คงไม่ต่าง
รู้ฉันรู้ยังไงเธอก็เลือกเขา
รู้ถึงฉันขอร้องยังไง เธอคงต้องลืมเรื่องของเรา
เพราะว่าเขาดีกว่า เพราะเขาสำคัญกว่า

รู้เธอมีเหตุผลอะไรสักอย่าง
ที่ทำให้เธอไม่คิดจะอยู่กับฉัน
อาจเป็นเพราะเธอแค่เหงาใจในวันที่เราพบกัน
เธอแค่มีความสุข แต่ว่าเธอไม่ได้รักกัน

แต่ฉันรัก รักเธอไปแล้วทั้งใจ
รู้ฉันรู้ว่าเธอต้องไป
แต่อยากจะขอร้องเธออีกครั้ง

โปรดรักฉันรักฉันเถอะนะ จะไม่ทำให้เธอเสียใจ
รู้ฉันสู้เขาไม่ไหว เทียบกับใครที่เธอมี
แต่เลือกฉันเลือกฉันได้ไหม ฉันจะดูแลเธอให้ดี
โปรดถามใจเธออีกที เพราะทั้งใจฉันมันยังมีแค่เธอ”

พอผมเริ่มฟังเท่านั้นแหละครับ...น้ำตาของผมก็ไหลออกมาไม่รู้ตัวเลย...ทั้ง ๆ ที่เพลงนี้ผมเล่นไม่รู้กี่ร้อยรอบ...ผมไม่เคยจะรู้สึกขนาดนี้มาก่อน

มันเหมือนเป็นข้อความจากใจ คนที่รอผมอยู่ในตอนนี้...

ผมก็เพิ่งจะเคยรู้สึกแน่ใจ ก็หลังจากที่ได้ฟังเพลงนี้ที่ไอ้ตัวแสบส่งมาเนี่ยแหละครับว่า...จริง ๆแล้วมันอ่ะรักผมมาก
(มั่นหน้าไปอีกกกก)

ผมรีบเช็ดน้ำตาแล้ววิ่งกลับไปให้ถึงห้อง แล้วรีบกด facetime หาเลยทันทีครับ...แต่ปลายสายถูกตัดครับ

ผมเริ่มใจไม่ดีอีกรอบ

ผมกดโทรออกแทน อาจจะสัญญานอินเตอร์เน็ตอาจจะไม่ค่อยดี

แต่คราวนี้ปลายสายรับครับ

ผมโล่งใจ

เขม : บีคับทำไมไม่รับ facetime พี่หละ พี่อยากเห็นหน้านะ

เจ้าของหัวใจผม : ไม่ได้อ่ะพี่เขม...

เขม : เป็นไรรึป่าว...มันจบแล้วนะบี...พี่บอกเลิกกับเค้าไปแล้วครับ

เจ้าของหัวใจผม : พี่เขมครับ...(บีเสียงสั่นมาก)

เขม : ครับบี...บีกำลังทำให้พี่กลัวนะ รู้ไม๊

เจ้าของหัวใจผม : “รักฉันรักฉันเถอะนะ...จะไม่ทำให้เทอเสียใจ
            รู้ฉันสู้เขาไม่ไหว...เทียบกับใครที่เธอมี
            แต่เลือกฉัน เลือกฉันได้ไหม ฉันจะดูแลเธอให้ดี
            โปรดถามใจเทออีกทีเพราะทั้งใจฉันมันยังมีแค่”            “เทอ”

ไอ้เจ้าของหัวใจผมมันร้องเพลงออกมาครับ...เสียงมันสั่นมากกกกกกกกกกก เหมือนจะร้องเพลงไป น้ำตาก็ไหลไป

ไอ้คนฟังมันก็ทั้งฟังไปน้ำตาไหลไป แล้วก็ยิ้มไป....

มันเป็นน้ำตาแห่งความสุขจริง ๆเลยครับ...ผมไม่เคยจะบอกรักใครขนาดนี้มาก่อนในชีวิต...และที่แย่ไปกว่านั้น ผมถูกคนที่ผมชอบมาก รักมาก ในตอนนี้ บอกรักในวิธีที่ ผมเอง เป็นนักดนตรี ยังไม่เคยคิดจะทำให้ใครขนาดนี้มาก่อนเลยครับ

ผมนี่แพ้มันราบคาบ...ไม่ว่าจะกี่คำหวานที่ผมเคยพูด การกระทำทุกอย่างที่ผมได้ทำให้มัน...(รวบไปถึงล้างห้องน้ำให้มันด้วย)   
มันเทียบกันไม่ได้ กับ เพลงที่มันร้องให้ผมฟังเพียงแค่ไม่กี่ท่อน

ผมไปต่อไม่เป็นจริง ๆครับ ผมไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไรให้มันเท่าเทียมกับที่น้องเค้าสื่อมาถึง...

ไอ้เจ้าของหัวใจผม : พี่เขมครับ...ตอบผมหน่อยครับ

เขม : ผมสูดขี้มูกผมแล้วตอบ.... “พี่รักบีครับ...รักมาก ไม่เคยรักใครขนาดนี้มาก่อนในชีวิต แล้วไม่ต้องบอกให้พี่เลือกบีเลย...ในใจของพี่ มันมีบีอยู่ในนั้นนานแล้วครับ,เรา facetime กันได้ไม๊ พี่อยากเห็นหน้า เจ้าของหัวใจของพี่”

เจ้าของหัวใจของผม : “ไอ้พี่เขมบ้า...เสี่ยวหวะ...แหวะ”




แล้วผมก็ facetime หาไอ้ตัวแสบ
ภาพที่เห็นมันเอาทิชชู่ปิดตามันไว้ทั้ง 2 ข้างเลยครับแล้วทิชชู่นั้นก็เปียกด้วย...ผมรู้เลยครับว่ามันร้องไห้มานานละ 555555

ไอ้แสบขี้แยเอ้ยยยยยย.....มันทำไมน่ารักได้ขนาดนั้นวะ

ผมพูดคุยกะมันจนมันยอมเอาทิชชู่ออกจากหน้า...ตามันแดงก่ำเลยครับ...ผมนี่ขำไม่หาย...แต่ผมก็ใช่ย่อยเหอะ...ตาแดงไม่แพงมันเหมือนกัน...แล้วผมก็เอารูปที่ผมขโมยมาอวดมัน

เขม : นี่ให้ดูรูปของแฟนพี่

ไอ้ตัวแสบ : เฮ้ย...ไปเอามาได้ไงอ่ะ ขโยมน่าหว่าาาา

เขม : ก็เอามากราบไหว้บูชา...จะได้มีกำลังใจทำงานไง

ไอ้ตัวแสบ : ผมไม่มีรู้พี่เขมเลยอ่ะ...หมดกำลังใจทำงานละ

เขม : กำลังทำให้อยู่ครับ...แต่ไม่ใช่รูปพี่คนเดียวนะ
      เป็นรูปของเรา

ไอ้ตัวแสบ : มีด้วยเหรอพี่

เขม : มีสิแล้วกลับไปห้องมีอะไรแปลกไปบ้างไม๊

ไอ้ตัวแสบ : ขอบคุณค๊าบบบบบบ.....ห้องสะอาดมากแอร์เย็นเวอร์์์ ๆ ๆ ๆ ข้าวของกินเพียบ...นี่เอาไปแจกให้คนได้ทั้งคอนโด

เขม : ก็บอกแล้วไงว่าพี่อยากจะดูแลบ้าง...

ไอ้ตัวแสบ : รีบกลับมาเร็ว ๆคับ ผมรออยู่นะ เด๋วพรุ่งนี้ผมไปรับ

เขม : แล้วบินอีกทีวันไหนหละ

ไอ้ตัวแสบ : ไม่มีละครับ ตอนแรกแตนบาย ตอนนี้ sick ละ จะไปอยู่จีบคนแถวนี้ทำคะแนนหน่อย โดนนำไปเยอะละ

เขม : จะสู้พี่ได้เหรอน้อง...พี่สายเปย์นะ

ไอ้ตัวแสบ : ผมสายหื่นนะ...ไปละฝันดีครับ

แล้วมันก็วางทันที...ผมนี่...งงไปหมด.. ตอนแรกนึกว่าเป็นขันที
ตอนนี้มันเป็นสายหื่นไปแล้วครับ...ผมหละอยากจะเจอตัวเร็ว ๆจริง เลย...จะฟัดให้แก้มหลุดเลย

แล้วเพลง ที่มันร้องให้ผมฟัง...ก็ดังอยู่ให้ห้องของผมทั้งคืน



         “รักฉันรักฉันเถอะนะ...จะไม่ทำให้เทอเสียใจ
         รู้ฉันสู้เขาไม่ไหว...เทียบกับใครที่เธอมี
         แต่เลือกฉัน เลือกฉันได้ไหม ฉันจะดูแลเธอให้ดี
         โปรดถามใจเทออีกทีเพราะทั้งใจฉันมันยังมีแค่”            “เทอ”


To be continued
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 16 i love my job & 16.6 รักพี่มากสินะไอ้ตัวแสบ (21-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 21-09-2017 19:44:14
น่ารักทั้งคู่เลย :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 17 first kiss จูบแรก
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 22-09-2017 19:41:59
ตอนที่ 17 first kiss จูบแรก

ผมขุดตัวเองออกจากเตียงให้เบาที่สุด...เพื่อที่จะไม่ให้พี่เขมตื่น

ตอนนี้มันตี 4 กว่า ๆแล้วครับ...ผมลุกมาวิ่งผ่านน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็แต่งตัวในความมืด...คือห้องผมไม่ใช่ 1 ห้องนอนเหมือนพี่เขมครับ เป็นห้อง studio คือทำอะไรเปิดไฟตรงไหนก็แสงแยงตาไปหมด

ผมรีบทำทุกอย่างให้เสร็จเร็ว ๆ แล้วผมก็แอบมานอนกอดพี่เขม ก่อนไปบินอีกแป๊ปนึงครับ

เชื่อไม๊ครับพี่เขมไม่ขยับตัวเลย...ผมแอบหอมแก้มไปทีนึงก่อนไปบิน

ผมเลยตัดสินใจเรียกรถแท็กซี่ไปบินดีกว่าครับ...อยากให้พี่เขมนอนนาน ๆ หน่อย...เรื่องการนอนของชีวิตคนบนฟ้าเนี่ยสำคัญสุด ๆ ไปเลยหละครับ ผมเขียนโน้ตบอกพี่เขมไว้ที่ประตูห้องว่า ผมเรียกแท็กซี่ไปบินแล้ว

วันนี้เป็นวันแรกที่ผมตื่นมาแล้วผมไม่อยากไปบินที่สุดเลยครับ...อยากอยู่ห้อง กะพี่เขม....55555

แต่พอสายหน่อย...ผมก็เริ่มรู้สึกถึงความกังวลที่คืนนี้มันจะต้องเกิดแน่นอนครับ...ผมพยายามไม่คิดอะไรมาก เวลาไปบิน...เด๋วทำให้การทำงานไม่ราบรื่น

ผมกลับมาคอนโด ราว ๆ 6 โมงเย็นครับ...ไปบินมาทั้งวันเลย...เหนื่อยมาก พอเปิดรถมาก็เจอข้อความครับ...มีกระดาษโน๊ตเขียนแปะไว้ที่นั่งของคนขับ

“ไปบินมาเหนื่อยไม๊...พี่ซื้อของกินไว้ให้ที่คอนโดละนะ
  บินกลับมาแล้ว...ตรงกลับคอนโดเลยนะ...ห้ามเถลไถล”

ผมเปิดมาอ่านก็ฟินแล้วครับ...ไม่คิดว่าพี่เค้าจะดูแลผมดีขนาดนี้

เฮ้อ...พอเจอโน๊ตก็คิดถึงเรื่องที่จะต้องเกิดคืนนี้เลย

ผมกลับไปที่คอนโด...เปิดประตูมา...ผมสังเกตุ ทำไมมันสะอาดแล้วมันหอม ๆ อย่างนี้ฟระ
เดินสำรวจรอบ ๆ เฮ้ย...พี่เขมมาทำความสะอาดให้เหรอเนี่ย...

ผมนี่ยิ้มแก้มแทบแตก...เดินไปเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำแบบ สะอาดใสมากกกกกกกก...กระจกนี่เช็ดทุกบานเลยครับ

เปิดหาอะไรกินในตู้เย็น...โห ๆ ๆ ๆของกินเพียบเลย
มีแอ๊ปเปิ้ลเขียวปลอกไว้แล้วด้วย...สุดยอดดดดดดดดดด
ที่สุดคือ...มีลีโอกระป๋องอยู่ประมาณ 1 ถาด บางส่วนถูกเอาใส่ตู้เย็น

ฟิน....วันนี้จะจิบเบียร์ฉลองซะหน่อย

ว่าแล้วผมก็เปิดเบียร์เปิดคอม...นั่งฟังเพลง

ผมดูนาฬิกา...พี่เขมคงยังบินอยู่...อยากโทรหาจังน่าจะแลนแบบว่า 4-5 ทุ่มโน่นแหละ

ผมเลยซักผ้าเอาผ้าไปตาก กินขนมดู youtube ไปเรื่อย ๆ แล้วไปเจออยู่เพลงนึงครับ

แค่ผมฟัง...ตอนกึ่ม ๆนี่...ผมถึงกับน้ำตาไหลเลย

ตอนแรกผมก็ว่าผมโอเคนะครับ..ที่คืนนี้พี่เขมต้องไปค้างกับน้องเจ
พอฟังเพลงนี้แล้วก็จิตตกครับ...

มันจะมีเหตุผลซักกี่ข้อที่พี่เค้าจะเลือกผม...มันคงน้อยมากเมื่อเทียบกับน้องเจ

ผมไม่รู้เลยว่า...ที่ผ่านมาไม่กี่วันเนี่ย...มันจะมีความหมายกับพี่เขมมากพอไม๊ ที่พี่เค้าจะหันมามองผม ถึงปากพี่แกจะบอกว่าพี่แกจะจีบผม
แต่ อะไร อะไร ก็เกิดขึ้นได้ครับ...




ผมรู้ดีว่าตัวผมเนี่ยไม่ได้ ดีกว่า..แถบจะแย่กว่าซะด้วยซำ้

และช่วงเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกัน...นั้นมันก็สั้นมากเมื่อเทียบกับเวลาที่เค้าเคยชอบกัน

แต่ตัวผมเนี่ย ผมบอกเลยครับว่า รักพี่เค้าไปแล้ว รักไปหมดทั้งใจ เคยคิดว่าจะเหลือไว้...แต่ก็ทำไม่ได้

เฮ้อ...พอเริ่มเปิดเบียร์กระป๋องที่ 4 น้ำตามันก็เริ่มซึม ๆละครับ

ผมดูใน app flight radar ว่าเครื่องบินที่พี่เขมขับไปอ่ะมันลงรึยัง โปรแกมบอกว่าลงแล้วประมาณครึ่งชั่วโมง

ผมเลยตัดสินใจโทรไปหาพี่เขมครับ...

แต่พี่เขมไม่ได้รับสาย...เท่านั้นแหละครับ...สติที่เคยมี...กลับหายไปหมด คิดในใจแค่ว่า...พี่เค้าคงเลือกแล้ว...และเค้าก็ไม่ได้เลือกผมครับ

ผม นั่งน้ำตาไหลไม่หยุด...ผมไม่รู้ว่าผมจะทำยังไงดี ไม่รู้ว่าผมยังมีโอกาส อยู่อีกไม๊

ผมจึงส่งเพลงที่ผมฟังและร้องไห้กับมันอยู่ตอนนี้ไปให้พี่เค้าครับ

เผื่อเค้าจะเปิดฟัง...และรับรู้ได้ว่าผมนั้นยังรออยู่

         “รักฉันรักฉันเถอะนะ...จะไม่ทำให้เทอเสียใจ
         รู้ฉันสู้เขาไม่ไหว...เทียบกับใครที่เธอมี
         แต่เลือกฉัน เลือกฉันได้ไหม ฉันจะดูแลเธอให้ดี
         โปรดถามใจเทออีกทีเพราะทั้งใจฉันมันยังมีแค่”            “เทอ”

ผมส่งเป็นคลิปเสียงแทนครับ...แล้วก็ไม่มีการ อ่านจาก line



ผมนั่งจ้องหน้าโทรศัพท์หน้าเดิม หน้า line ที่ ผมส่งข้อความเสียงไปให้พี่เขม...
ผ่านไปแล้ว 15 นาที เค้าก็ยังคงไม่อ่าน
ผ่านไปอีก  25 นาที มันก็ยังไม่ขึ้น read

เวลา 25 นาทีเหมือน 25 ปีครับ...นานจนผมคิดว่า ผมคงต้องปล่อยพี่เค้าไปแล้วหละ...ถ้าพี่เค้าเลือกแล้ว...ผมจะทำอะไรได้

ว่าแล้วผมก็เดินไปหยิบเสื้อของพี่เขม..ที่พี่เขมใส่นอนเมื่อคืนเอามา กอดไว้ครับ...มันคงเป็นสิ่งเดียวที่ผมมีตอนนี้แล้วมันมีกลิ่นของพี่เขมอยู่...ผมคิดถึงพี่เค้ามาก...มากซะจน...

แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นเสียง facetime จากพี่เขมครับ

ผมยังไม่พร้อมที่จะรับ...เพราะตอนนี้สภาพพังมากกกกก

ผมยิ้มออกมาในทันที...อารมณ์เหมือนคนบ้าาาา

แล้วพี่แกก็โทรมาครับ...ผมรับโทรศัพท์ด้วยเสียงที่นิ่ง มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

แค่ผมได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคย...หัวใจผมมันก็พองโตออกมาอย่างบอกไม่ถูกแล้วครับ

พี่เขมบอกว่าเค้าได้เลิกกับน้องเจแล้ว...

ผมดีใจมาก...ไม่รู้จะทำยังไงให้พี่เค้ารับรู้ได้ว่า...ผมอยากให้เค้ามาอยู่ข้างผมตอนนี้แค่ไหน

ผมจึงร้องเพลงนั้นออกไป...ผมร้องเพลงนั้นทั้งน้ำตา...ไอ้พี่เขมมันต้องแซวแน่นอนว่า...พูดห่าอะไรก็ไม่รู้เรื่อง

แต่กลับกัน...ผมได้ยินเสียงสั่นไหวของพี่เขม


แล้วพี่เขมก็โทร facetime มาหาผมอีกทีครับ

ผมเอาทิชชู่ปิดตาเอาไว้...อายมันอ่ะครับ...ผมนั่งร้องไห้มาจะ 2 ชม. แล้ว ด้วยความที่ผมคิดไปเองว่าพี่เค้าคงจะทิ้งผมไปจริง ๆ

แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่ผมคิดครับ...มันกลับดีมากกว่ามาก ๆ

แล้วพอผมเอาทิชชู่ปิดตาออก...ผมก็เห็นมันสภาพตาแดง ๆไม่ต่างจากผมมาก

บี : พี่เขมครับ...ขอบคุณครับ

พี่เขม : แค่ขอบคุณยังไม่พอแล้วตอนนี้...มาให้พี่กอดหน่อยเร็ว

บี : ถ้าบินไปได้...บินไปหาแล้ว

พี่เขม : คิดถึงพี่อ่าเด้

บี : คิดถึงครับ...คิดถึงมากกก

พี่เขม : เฮ้ย...ได้ไงอ่ะมาบอกคิดถึงพี่ก่อน

บี : อ่าวก็พี่ถาม

พี่เขม : ไม่ได้...พี่ต้องคิดถึงมากกว่าดิ

แล้วเราก็เถียงกันไปมาจนดึกดื่น...ซักพักพี่เขมก็เริ่มง่วง ผมก็ง่วงไม่ใช่น้อยเหมือนกันครับ
เราบอกลากันแล้วก็แยกย้ายกันนอน
.
.
.
.
วันต่อมา.
.
.
ผมไม่ได้มีภาระกิจใด​ ๆ ที่ต้องทำครับ...ผมก็นั่งเล่นคอมรอไปรับพี่เขม...แต่จริง ๆแล้วผมอ่ะอยากหาอะไรให้พี่เขมซักอย่าง...แต่ก็คิดไม่ออก...จนค่ำมืด...ถึงเวลาที่จะต้องไปรับพี่เขมแล้ว
ผมก็ยังไม่มีอะไรไปให้พี่เขมเลยซักอย่างเดียว...

พอไปรับพี่เขมผมก็ถาม ไปทำงานเป็นยังไงบ้าง กินข้าวมารึยัง เหนื่อยไม๊ หิวไม๊ ตามประสา

ผมเลยขับรถมาร้านแถว ๆ สนามบินที่มีเบียร์วุ้นขาย

บี : พี่เขม...กินเบียร์กัน

พี่เขม : เห้ย...ดีเลย กะลังอยาก มะวานกินได้นิดเดียวก็ต้องรีบไปนอนคุยกับใครแล้วก็ไม่รู้

บี : อ่า ๆ ๆ ชดใช้ให้ ๆ...เด๋วเลี้ยงเลย 2 ขวด

พี่เขม : โหย...ตั้ง 2 ขวดเลยเหรอ จะกินหมดไม๊(พี่เขมประชด)

บี : แหม่ ๆ ก็ผมเงินเหลือน้อยแล้วนี่นา...จะสิ้นเดือนอยู่ละ

พี่เขม : งั้นก็เก็บไว้เถอะ...เด๋วจะไม่มีกินเอา

บี : ถึงผมจะมีน้อย...แต่ผมก็ให้ไปเกิน 100 นะค๊าบบบบ

พี่เขม : เสี่ยวหวะ...เล่นอย่างงี้กะเค้าก็เป็นด้วยเหรอ

บี : ติดคนแถวนี้มา

แล้วเราก็สั่งอาหารมา 2-3 อย่างแล้วก็เบียร์วุ้น...สุดฟิน

เรากินกันนิดหน่อยพอเริ่มเมา ๆ แล้วก็กลับไปนอนที่คอนโดผมครับ...ตอนแรกว่าจะขับไปที่คอนโดพี่เขมแต่ว่า...กลัวด่าน ก็เลยว่าจะนอนที่คอนโดผมอีกคืน


พอบอกพนักงานเก็บเงินเสร็จ...เราก็ได้ลูกอมมา 2 เม็ด มีรส แอปเปิ้ล กับ เชอรี่

พอขึ้นรถ...ผมก็แกะลูกอมรสเชอรี่กิน..พี่เขมบอกอยากกินบ้าง ผมก็เลยจะแกะอีกเม็ดนึงให้พี่แกกินแต่พี่แกจะกินรสเชอรี่

พี่เขม : ขอกินลูกอมบ้างดิ..มีรสไรบ้าง

บี : มีแอปเปิ้ล กับ เชอรี่ ครับพี่จะกินอะไร

พี่เขม : เชอรี่...

บี : เพิ่งแกะกินไปมะกี้เลย

พี่เขม : อ่าวแล้วถามพี่ทำไมหละงั้นหนะ

บี : งั้นหลับตา

พี่เขม : ทำไมจะคายออกมาให้พี่กินเหรอ

บี : โหย...ใครจะไปทำอย่างงั้น

พี่เขม : แล้วให้หลับตาทำไมอ่ะ

บี : หลับเหอะหน่าาาาา...มีของจะให้

พี่เขม : เฮ้ยจริงดิ...

บี : หลับยังคับ???

พี่เขมหลับตาปี๋...ผมยื่นหน้าไปใกล้ ๆ พี่เขมแล้วประกบปากผมลงบนปากของพี่เขม...นี่เป็นครั้งแรกเลยนะครับที่มีความใจกล้าหน้าด้านที่จะทำอะไรกับพี่เค้า...ปกติแค่อยู่ใกล้ ๆ ผมก็จะละลายอยู่ละ...วันนี้ อาจจะด้วยฤทธิ์ของเบียร์วุ้น ทำให้ผม กล้าที่จะทำ

ปากของพี่เขมทั้งอบอุ่นและหอมหวาน...ผมเริ่มที่จะเปิดปากของผมแล้วเอาลิ้นแตะที่ริมฝีปากของพี่เขม...พี่เขมเปิดรับปากรับลิ้นของผม

ผมเอาลูกอมรสเชอรี่ซ้อนไว้ที่แก้มของผม...รสจูบของเราเต็มไปด้วยกลิ่นหอมหวานของเชอรี่...และผมก็จู่โจมจูบของผมอย่างหนักหน่วงมากขึ้น... ผมรับรู้ได้ถึงความเร่าร้อนในการจูบของเรา...แล้วผมก็ดันเอาลูกอมรสเชอรี่เข้าปากพี่เขมไป...พร้อมทั้งกระชากตัวผมออกจากจูบที่แสนหวานของพี่เขม

ผมลงมานั่งที่ของคนขับ...แล้วหายใจถี่รัว...หัวใจผมเต้นแรงมาก...แรงมากจนผมแถบจะได้ยินเสียงหัวใจของผมเองเลย

ผมหันไปมองพี่เขม...พี่เขมทำหน้า...งง...ขั้นสุด

บี : ลูกอมเชอรี่ครับ...อร่อยไม๊

ผมหน้าแดงมากกกก...ร้อนไปถึงหู...พี่เขมดูตกใจแล้วหน้าพี่เขมก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วย

พี่เขม : อย่างงี้ก็ได้เหรอ?

บี : อย่างงี้ไม่ชอบเหรอครับ...(ผมทำหน้ากวน ๆใส่พี่เขม)

พี่เขม : ตัดอารมณ์พี่ขนาดนี้...ก็ได้เหรอ

บี : ตัดอารมณ์อะไรพี่...แค่เอาลูกอมให้ (ผมก็แกะอีกเม็ดกินเอง)

พี่เขม : พี่เริ่มอยากกินแอปเปิ้ลละอ่ะ...ให้พี่กินได้มะ

บี : ทะลึ่ง...โลภมากนะเรา

พี่เขม : อ่าว...ทีพี่ขอดี ๆทำไมไม่ให้อ่ะ หรือให้ชอบใช้กำลัง

บี : ไอ้โหดดดดดด

แล้วพี่เขมพุ่งมาที่ผมจับผมจูบอย่างแรง...ลูกอมทั้ง 2 เม็ดถูกพี่เขมขโมยไปด้วยลิ้นอันเชี่ยวชาญของพี่เขม...ผมแทบจะไม่ได้ตั้งตัวเลย..พี่เขมจูบเก่งมากเลยครับ..ผมยอมรับ มันทำให้ผมตัวอ่อนไปหมดทั้งตัว..ยอมเค้าหมดทุกอย่าง

พี่เขม : กิน 2 รสพร้อมกันไม่อร่อยอ่ะ...อ่า พี่แบ่ง ให้

บี : โหย...ขี้โกง(ผมทำหน้าบึ้ง)

พี่เขม : โอ๋ ๆ จะสู้เรื่องนี้กับพี่มันยังช้าไป 10 ปีนะน้อง

บี : จูบคนมาเยอะสิท่า

พี่เขม : ทำไม...หึงเหรอ?

บี : ผมเป็นคนที่เท่าไหรหละ...นิ้วพอมะผมให้ยืม

พี่เขม : ถึงพี่จะเคยมีแฟนมาหลายคน...แต่มีก็ไม่เคยคบใครซ้อนกันนะครับ...พี่รักได้ทีละคนจริง ๆ

บี : แล้วตอนนี้...คบกับใครครับ? (ผมถามด้วยความกวนตีน)

พี่เขม : โสดครับผม

บี : งั้นมาให้ผมจีบซะดี ๆ

ว่าแล้วผมก็เริ่มจู่โจมกลับครับ...ถึงตอนนี้ความเขินอายหายไปหมดละครับ...มีแต่ความหมั่นไส้...เรา 2 คนแย่งลูกอมกันอยู่พักนึง...แล้วก็มีคนมาเคาะกระจกรถ

ผมตกใจมาก...ว่าใครมาเคาะกระจก...

เป็นพี่ยามครับ...คงจะยืนรอโบกรถให้พวกเรา...แต่โชคดีมากที่รถผมฟิล์มดำมากครับ...หวังว่าพี่ยามจะไม่เห็นว่าเรา 2 คนทำอะไรกันในรถ
ผมรีบขับออกไปจากร้านอาหารอย่างเร็ว...พอผ่านออกมาจากร้านได้เราก็มองหน้ากันแล้วก็หัวเราะกันจนท้องแข็ง...มันเป็นเรื่องที่น่าอายมากเลยครับ ถ้าเค้าจับได้ว่าเราทำอะไรกันในรถที่ร้านอาหาร

พี่เขม : ใครเริ่มก่อนหละ...(พร้อมเอามืดปิดตาตัวเองแล้วชี้มาที่ผม)

บี : เหย...ของอย่างงี้ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังเว้ย

พี่เขม : ลูกอมอร่อยดีเนอะ

บี : ลูกอมหรือจูบผมกันแน่

พี่เขม : เอาใหญ่นะเราเดี๋ยวนี้...

บี : ก็หรือไม่จริงหละ



To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 17 first kiss จูบแรก P.2
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 22-09-2017 20:10:00
สนุกและน่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 17 first kiss จูบแรก P.2
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 22-09-2017 22:20:28
สนุกคับ มีความรู้สึกมันเหมือนชีวิตจริงดี เป็นกำลังให้คนเขียนคับ :mew1:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 18 The Egg benedict
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 23-09-2017 12:25:42
ตอนที่ 18 The egg Benedict

พอถึงที่คอนโดผม...เราก็เปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำแล้วก็เข้านอนครับ..ไม่ได้มีการทำอะไรมากมายอย่างที่ใคร ๆคิดครับ

5555

ผมว่าตัวของพี่เขมเองก็คงจะหงุดหงิดไม่เบรา เพราะผมก็ตีมือที่ซุกซนของพี่เขมตลอดทั้งคืน

ผมยังไม่พร้อมครับจริง ๆ แล้ว...จะบอกว่าผมหัวโบราณก็ได้นะครับ คือผมไม่โอเคกับการที่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว ได้เสียกันครับ

แล้วความน่ากลัวอีกอย่างนึงก็คือ...ทุกคนอาจจะคิดว่าผมอ่ะ

เป็น “รับ” แต่จริง ๆ แล้ว ผมไม่เคยเลยครับ..ผมเป็นรุกมาตลอด

จะเรียกผมว่า “ซิง” ก็ได้ครับ...

ถ้าถามว่าผมจะยอมให้พี่เขมได้ไม๊? ในตอนนี้ผมก็ยังครับ เพราะผมกลัวว่า การที่เราให้เค้าง่ายไป...มันจะทำให้อะไร ๆ มันก็ง่ายตาม   ผมเตรียมใจมาไว้ระดับนึงแล้วครับ..ว่าถ้าสุดท้าย ผมไม่สามารถ ทำให้พี่เขมมีความสุขได้...ผมก็ต้องยอมรับและปล่อยพี่เขมไปครับ

และที่สำคัญไปกว่านั้น...คนที่นอนข้าง ๆ ผมตอนนี้หนะสิครับ
ถ้าเค้ารู้แล้ว...เค้าจะว่ายังไง


ตอนเช้าผมก็ตื่นก่อนพี่เขมครับ...ผมออกไปจ่ายตลาดทำหน้าที่พ่อบ้านทำอาหารเช้า ให้ว่าที่แฟนของผมกินตามปกติ ตามแบบคนไม่มีตัง

ถ้าคนมีตังเค้าคงจะพาไปกินอะไร หรู ๆ อร่อย ๆ ที่คนทำอาหารไม่ต้องหน้ามันตั้งแต่เช้า

ผมทำ secret recipe ของผมเองเลยครับ

นั่นก็คือ Egg Benedict ...เป็นอาหารฝรั่งที่ทำไม่ง่ายเลยครับ
มันใช้ข้าวของหลายอย่างให้การทำให้อาหารจานนี้ออกมาดูแพง
แต่ใช้ตังน้อย 5555 ตรงกับเงินที่ผมมีเหลือตอนสิ้นเดือน

ผมออกไปซื้อขนมปัง sour dough ผักสลัด มะเขือเทศ แล้วก็ข้าวโพด...

อาหารจานนี้ต้องใช้เวลาการทำค่อนข้างนานครับแล้วทำเสร็จแล้วต้องทานทันทีเลย เพราะไม่งั้นตัว Hollandaise sauce มันจะกระด้างครับ

ผมปลุกพี่เขมก่อนที่ผมจะทำ sauce ไม่นาน แล้วพอพี่เขม ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ ก็จะได้ทานพอดี

ผมจัดแต่งจานสุดฝีมือเท่าที่ผมจะคิดได้ครับ
พอพี่เขมเห็นเท่านั้นแหละครับ...พี่แกร้องอย่างดังเลย

ผมนี่ยิ้มแก้มปริ

พี่เขม : โหยยยยย.....นี่ Egg Benedict ใช่ไม๊เนี่ย

บี : ใช่แล้วครับพี่...อร่อยด้วยนะผมทำสุดฝีมือเลย

พี่เขม : เห้ย...นี่มัน breakfast in bed ครั้งที่เท่าไหรแล้วเนี่ย

บี : 3 ครับ...แล้วครั้งนี้ผมตั้งใจทำสุด ๆเลยนะพี่

พี่เขม : นี่จะขอแต่งงานพี่ด้วย Egg Benedict นี่พี่ก็ยอมละครับ

บี : เวอร์...

พี่เขม : ก็ดูดิ...มันน่ากินมากกกกกกกกกกกกก...พี่กินละนะ

บี : Bon appetite

พี่เขม : Merci beaucoup

แล้วพี่เขมก็กินอย่างเอร็ดอร่อย...ผมนี่มีความสุขมากจริง ๆครับ ทุกครั้งที่เห็นคนกินอาหารผมแล้วมีความสุข มีบอกเลยครับว่าคนทำให้ 100 ทั้ง 100 จะมีความสุขกว่าคนกิน 200 เท่า

พี่เขมก็ยังชมไม่หยุดปากหลังจากทานเสร็จ...แล้ววันนี้ก็กลายเป็นวันหยุดของเราอีก 1 วัน

บี : พี่เขม..เบื่อรึป่าว ต้องไปทำอะไรที่ไหนไม๊ อยากกลับคอนโดป่าว

พี่เขม : ไม..เบื่อพี่แล้วเหรอจะไล่กลับห้องเนี่ย

บี : ป่าว...ก็เผื่ออยากทำอะไร

พี่เขม : อยากแต่บีไม่อนุญาต

บี : แหนะ...พาเข้าเรื่องตลอดนะ

พี่เขม : เออ..สรุปนี่เราเป็นอะไรกัน?

บี : พี่ว่าไงหละ

พี่เขม : แหนะ..เห็นมะ ถามไปถามกลับอีกละ

บี : อ่า ๆ ๆ ๆ (ผมเดินไปกอดพี่เขมจากด้านหลัง เพราะตัวผมสูงกว่า แล้วผมก็เอาคางพาดตรงไหล่พี่เขม)

พี่เขม : เออมันต้องอย่างงี้สิ

บี : ผมชอบพี่เขมนะครับ...ชอบมาก และ ก็ชอบมานานแล้วด้วย

ผมยอมรับกับพี่เขมตรง ๆ พร้อมทั้งเล่าว่าผมชอบพี่แกตั้งแต่เมื่อไหร

พี่เขมยืนยิ้มฟังผมอยู่แล้วมองผมผ่านกระจก

บี : ทีนี่..พี่จะยอมรับรักผมได้รึยังครับพี่

พี่เขม : เฮ้ย..จะมาบอกรักอะไรกันตอนนี้ พี่ต้องบอกก่อนดิ อะไร ไม่เอา ไม่ฟังแล้ว...ถือว่าพี่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

พี่เขมสะบัดผมหลุดแล้วก็เดินไปนั่งที่โซฟาหน้าทีวี

บี : มางอนอะไรตอนนี้เนี่ย...ทำลายบรรยกาศหมดเลย

ผมลงไปนั่งข้าง ๆ พี่เขมพร้อมกับกอดเอวพี่เขมไว้

พี่เขม : ไม่ต้องมากอดเลย...พี่ยังไม่รับ เราต้องไปเดทกันก่อน

บี : อ่าว ที่ไปกินข้าวมาตั้งหลายครั้งยังไม่เรียกว่าเดทเหรอพี่

พี่เขม : ไม่ดิ เดท ของเราคือวันที่ 24 นี้ไง จำไม่ได้เหรอ

บี : ยังไงนะ?....

พี่เขมเข็กกระบาลผม 1 ที พร้อมทั้งบอกว่า “วันที่ 24 เรานัดกินข้าวกันไง ที่บีจะเลี้ยงพี่อ่ะจำได้่ป่าว”

บี : อ่อ ๆ จำได้ละครับ...พี่อยากกินอะไรครับ

พี่เขม : เปลี่ยนละ เด๋วพี่เลี้ยงเอง ไปร้านโปรดพี่นะ

บี : ได้เลย...ไม่ขัดข้อง

พี่เขม : แต่เย็นนี้ต้องไปกินข้าวกะพี่ก่อนนะ

บี : ได้เลย...ไม่ขัดข้อง

พี่เขม : ไปกินข้าวกะแม่พี่นะ

บี : เฮ้ย...ยังไงนะพี่?

พี่เขม : ก็วันนี้ป๊าไม่อยู่ ไป ตจว. พี่เลยจะไปรับแม่มากินข้าวด้วย

บี : พี่ก็พาแม่ไปกินข้าวดิครับ...ผมไปก็แปลก ๆรึป่าว

พี่เขม : ไม่แปลกหรอก...หรือว่าไม่อยากเจอแม่พี่

บี : ……..เออ....ยังไงดีหละ

พี่เขม : เอางี้ พี่ไม่บังคับละกัน...แต่พี่อยากให้ไปด้วย โอเคไม๊

บี : ครับ

พี่เขม : งั้นเด่วพี่กลับก่อนดีกว่า แวะไปหาแม่ก่อน ถ้าจะไปก็ไปเจอพี่ที่คอนโดดีมะ หรือให้พี่มารับก็ได้

บี : เด๋วผมไปเจอท่ีคอนโดก็ได้ครับ

พี่เขม : ดีมาก...ไปก่อนละ ก่อนไป ขอจูบทีนะ

ผมเอามือปิดปากตัวเองแล้วพี่เขมก็จูบมือผม...

พี่เขม : โหยยยยย...ไรอ่า ทีมะคืนจูบเอาจูบเอา

บี : ใครจูบ ใครเอาใคร ไม่มี๊(เสียงสูงมาก)

พี่เขม : ไอ้ตัวแสบ มานี่เลย

พี่เขมวิ่งไล่จับผม พอจับได้ ก็โยนผมขึ้นเตียงพร้อมทั้งจับแขนผมตรึงออกราบกับเตียงแล้วก็ขึ้นคร่อมตัวผม จุดที่พี่เขมนั่งมันพอดีกับเป้าของผมเลยครับ...ทำให้ผมมีอารมณ์ขึ้นมาทันที

พี่เขม : เสร็จพี่แน่หละทีนี้
บี : พี่เขม กลางวันแสก ๆทำไรเนี่ย

พี่เขม : ก็เมื่อคืนไม่ให้พี่ พี่ก็ต้องขอตอนนี้ไม๊หละ

พอสิ้นคำ พี่เขมก็ก้มหน้าลงมาจูบผมอย่างจัง....ผมไม่สามารถขัดขืนอะไรได้เลย..แล้วพี่เขมก็ลามไปจูบที่คอผม ที่หูผม แล้วก็ไล่ลงมาเรื่อย ๆ ผมครางออกมาด้วยความเสี่ยว..แล้วขนก็ลุกซู่ไปหมดทั้งตัว

ตอนนี้ตัวผมอ่อนปวกเปียกไม่มีแรงจะสู้หรือขัดขืนใด ๆ แต่สิ่งที่แข็งก็ยังคงเป็นแค่อย่างเดียวในร่างกายที่พร้อมจะทำงาน ซึ่งพี่เขมได้นั่งทับมันไว้อยู่

ผมดิ้นไปดิ้นมาเพราะความเสียวที่พี่เขมบรรจงจูบผมในแต่ละที่

ผมออกปากข้อร้องพี่เขมว่าหยุดเถอะ...แต่ก็เหมือนพี่แกจะได้ยินในสิ่งที่ตรงกันข้าม..

ซักแป๊ป โทรศัพท์พี่เขมก็ดังขึ้น...คุณแม่ของพี่เขมโทรมาครับ

ระฆังช่วยชีวิต...

พี่เขมปล่อยผมแล้วก็กดรับโทรศัพท์ พร้อมทั้งเปิด speaker

พี่เขม : ครับคุณแม่...(เสียงพี่เขมหอบเล็กน้อย)

คุณแม่พี่เขม : เขม อยู่ไหนลูก ทำอะไรอยู่

พี่เขม : อยู่คอนโด น้องบีครับแม่

คุณแม่พี่เขม : แล้วไปอยู่ทำไมคอนโดน้องเค้าหละลูก..บ้านมีทำไมไม่กลับ

พี่เขม : แวะมา กินข้าวกับไอ้ตัวแสบอ่ะครับคุณแม่

คุณแม่พี่เขม : แล้วไปกินอะไรกับหละ เลี้ยงน้องเค้าไม๊ อย่าให้น้องเค้าออกตังนะลูก

พี่เขม : ไม่ได้เลี้ยงอ่ะคุณแม่ ไอ้บีมันทำให้กินที่คอนโดครับ

คุณแม่พี่เขม : บีทำกับข้าวให้ลูกกินเหรอลูก

พี่เขม : ใช่ครับคุณแม่..มันทำ Egg Benedict อร่อยมากเลยครับ

คุณแม่พี่เขม : โอ้โห...ลูกบีเก่งจังเลยนะลูก

พี่เขม : บีคับ แม่ชมอ่ะ บอกขอบคุณแม่หรือยัง?

บี : ขอบคุณครับคุณแม่...ผมทำอะไรง่าย ๆให้พี่เขมทานครับ

คุณแม่พี่เขม : ลูกบีลูก..มายะกับเข้า หื้อแม่กิ๋นพ่องกะ ยะกับเข้าเหนือจ้างก่อลูก (มาทำกับข้าวให้แม่กินบ้างสิ ทำกับข้าวเหนือเป็นไม๊ลูก)

บี : ยะจ้างพ่องคับคุณแม่...ผมยะขนมเส้นน้ำเงี้ยวลำขนาดคุณแม่ วันหลังผมจะยะไปฝากคุณแม่เน้อคับ
(ทำเป็นบ้างครับคุณแม่...ผมทำขนมจีนน้ำเงี้ยวอร่อยมากเลยครับ วันหลังผมจะไปทำให้คุณแม่นะครับ)


คุณแม่พี่เขม : ก๋าลูก...แม่ไข้อยากขนาดเลย เฮายะกิ๋นวันนี้เลยบ๋อลูก
(เหรอลูก...แม่อยากกินมาก ๆเลย เราทำกินวันนี้เลยดีไม๊ลูก)

พี่เขม : ขอ sub title หน่อยค๊าบบบบบ

คุณแม่พี่เขม : ลูกบีบอกว่าทำขนมเส้นน้ำเงี้ยวอร่อยแม่เลยจะชวนให้ลูกบีมาทำกินท่ีบ้านเราดีไม๊ลูก เขมว่าไงลูก ชอบก็กินไม่ใช่เหรอ

พี่เขม : เหย...พูดจริงดิ บีคับ บีทำได้ด้วยเหรอ

บี : ทำได้คับพี่ คับคุณแม่...แต่ผมยังไม่ได้ซื้อของเลยอ่ะครับ

คุณแม่พี่เขม :  เขมลูก...ไปซื้อของให้น้องหน่อยป่ะ แล้วก็มาทำกินกันที่บ้านเราตอนเย็นด้วยก็ได้นะลูก
บี : คุณแม่ครับ...น้ำเงี้ยวมันต้องต้มนาน ๆ ให้มันเปื่อยก่อนนะครับเด๋วไม่ครบสูตร

คุณแม่พี่เขม : แม่น ๆ ลูกเดวกระดูกมันจะบะล่อนเนอะ
(ใช่แล้วลูกเดี๋ยวเนื้อที่ติดกระดูกมันจะไม่หลุดออกมาเนอะ)

พี่เขม : subtitle please

บี : งั้นเดี๋ยว...ผมทำที่คอนโดก็ได้ครับเดี๋ยวตอนเย็นยกไปให้คุณแม่ทานที่บ้านดีไม๊ครับ

คุณแม่พี่เขม : ลำบากก่อ ลูกถ้าลำบากไว้วันหลังก่อได้นาลูก

พี่เขม : ไม่ลำบากครับคุณแม่ เดี๋ยว เขมอยู่ช่วยบีแล้วเดี๋ยวตอนเย็นเขมจะได้พาบีไปเลยทีเดียวดีไม๊ครับคุณแม่

คุณแม่พี่เขม : ดีเลยลูก งั้นให้พี่เขมช่วย ทำก่อนเนอะแล้วตอนเย็นเราเจอกันเน้อลูก

บี : ครับคุณแม่

พี่เขม : บาย ครับคุณแม่

พี่เขม : เสร็จพี่แน่ไอ้แสบ... พี่เขมมากระซิบข้างหูผม

แล้วเราก็ออกไปซื้อของมาเตรียมทำขนมจีนน้ำเงี้ยวครับ

ผมทำสุดฝีมือเลยครับ...เสน่ห์ปลายจวัก เพื่อจะได้ไปมัดใจแม่ของพี่เขม...5555 แล้วก็มัดใจพี่เขมด้วย

ยิ่งปืนนัดเดียวได้ทั้งแม่และลูกเลยครับ

ตอนผมทำขนมจีน พี่เขมก็ก่อกวนผม มากกว่าช่วยครับ...จับโน่นจับนี่
หอมแก้ม ซ้ายที ขวาที ตอนผมเผลอ ๆ
ผมบอกให้หั่นมะเขือเทศก็บ่นว่ามันเละ
บอกให้หั่นมะนาวก็ผ่าครึ่งให้...ผมเลยจับพี่เขมไปนั่งเฝ้าหน้าทีวี แล้วเปิด series ฝรั่งให้พี่แกดูแทน...ทีนี้เงียบเลยครับ

ไม่มากวนผมอีกเลย 55555

พอทำเสร็จผมก็ต้องเอาไปตุ๋นต่ออีก 2-3 ชม. เพื่อให้เนื้อมันนุ่ม

แล้วผมก็เรียกพี่เขมมาชิมว่าอร่อยรึยัง....พี่เขมทำท่าฟินมากกกกกก

บอกว่า ออริจินั่น มาก ๆ ๆ

ตกเย็นผมก็ไปบ้านพี่เขมครับ

สิ่งที่ surprise กว่านั้นคือ...พ่อของพี่เขมกลับบ้านพอดีครับ

To be continued


ป.ล. ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมากนะครับ
ตัวละครทุกตัวผมยืมเอาตัวคนจริง ๆ ที่ผมรู้จักและทำอาชีพนั้น ๆ มาเป็นตัวละครจริง ๆ นะครับ
ขอบคุณสำหรับทุกคอนเม้นเลยนะครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 18 The Egg Benedict P.2 (23-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 23-09-2017 13:35:51
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 18 The Egg Benedict P.2 (23-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 23-09-2017 14:03:13
เพิ่งได้เข้ามาอ่านรวดเดียว 18 ตอน สนุกมากๆ ครับ


ป.ล. ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมากนะครับ
ตัวละครทุกตัวผมยืมเอาตัวคนจริง ๆ ที่ผมรู้จักและทำอาชีพนั้น ๆ มาเป็นตัวละครจริง ๆ นะครับ
ขอบคุณสำหรับทุกคอนเม้นเลยนะครับ

ว่าแล้วทำไมเรื่องและตัวละครมันสมจริงมากๆ ชอบอ่านนิยายที่เป็นชีวิตการทำงานในแวดวงต่างๆ แบบนี้ครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 18 The Egg Benedict P.2 (23-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 23-09-2017 14:53:44
อยากให้พี่เขมเป็นรับแล้วเนี่ย 55555
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 18 The Egg Benedict P.2 (23-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 23-09-2017 16:15:07
เปลี่ยนกันรุกรับก็ได้คงฟินไปอีกแบบ  :hao6:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 19 ป๊ากับแม่พี่เขม
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 24-09-2017 13:18:35
ตอนที่ 19 ป๊ากับแม่พี่เขม


ผมมาถึงบ้านพร้อม ๆ กับรถอีกคนหนึ่งที่เพิ่งขับเข้าบ้านก่อนหน้าไม่นานครับ

แล้วผมก็เห็นผู้ชายมีอายุลงมากจากรถครับ...ผู้ชายคนนั้นลักษณะท้วม มีพุงแล้วก็ผิวสีเข้ม ๆ เข้มกว่าพี่เขมประมาณ 2 เฉดครับ

แล้วผมก็ถามพี่เขมไปว่า..

บี : ใครอ่าพี่เขม

พี่เขม : ป๊าพี่เองแหละ...ไหนว่าจะไม่ได้กลับบ้านไง...ชิบหายละ

บี : แล้วผมมานี่...พ่อแม่พี่โอเคเหรอ

พี่เขม : ก็คงจะโอเคมั้ง?

บี : ก็ไม่รู้ดิพี่...ผมกับพี่ จีบกันอยู่นะ

พี่เขม : ก็...มาเจอที่บ้านก็ไม่เห็นเป็นไรเลย หรือบีอึดอัดรึป่าว

บี : ไม่ทันละไม๊พี่...แล้วพี่แนะนำผมว่าเป็นอะไรหละ

พี่เขม : ก็เป็นพี่น้องกันไง...ยังไม่ได้กัน เป็นแฟนไม่ได้

บี : ดีเลยคับ...ไม่ต้องได้กันหรอกเนอะ

พี่เขมจ้องเขม่ง..แล้วก็ตอบว่า... “คิดว่าจะรอดไปอีกซักกี่วัน”

บี : ก็ผมยังไม่พร้อมหนิครับพี่

พี่เขม : โอ๋ ๆ ๆ พี่ล้อเล่น...นานเท่าไหรพี่ก็จะรอครับ

ผมยิ้มกว้างให้พี่เขม...แล้วก็ลงจากรถช่วยขนของเข้าบ้านพี่เขม

คุณแม่พี่เขม : ไหนลูกบีของแม่...แม่ขอดูหน้าตาหน่อยซิว่าหล่อไม๊

พี่เขม : คุณแม่ครับ...ลูกตัวจริงของแม่อยู่นี่ครับ

คุณแม่พี่เขม : เอาของไปวางที่ห้องอาหารสิ อย่าให้น้องถือเยอะ

บี : สวัสดีครับคุณแม่...ผม บี เองครับ, สวัสดีครับคุณพ่อ

คุณแม่พี่เขม : โอยยย...ลูกบีหล่อขนาด ขาวอองตอง(ขาวมากมาย)

คุณพ่อพี่เขม : ทำอะไรมาให้กินหละลูกวันนี้ ป๊าขอฝากท้องไว้ด้วยคนนะ

พี่เขม : ป่าวคับ...พอดี เขมไปกินข้าวที่บีทำให้เมื่อเช้า แล้วตอนเย็นก็เห็นคุณแม่อยู่คนเดียวก็เลยว่าจะพาไปทานข้าว แต่ คุณแม่หนะสิ คุยกะบีซะก่อน...ก็เลยให้บีทำ ขนมจีน น้ำเงี้ยวมาให้ทาน

คุณพ่อพี่เขม : ลาภปากป๊าหละสิวันนี้...ไหน ๆ ป๊าขอลองหน่อย

คุณแม่พี่เขม : คุณหนะ...กลับมาพอดีเลยนะ...ไหนว่าจะไปค้าง

แล้วสองคน พ่อแม่พี่เขมก็บ่นกัน งุ้งงิ้ง ตามประสา ผมกับพี่เขมพากันจัดแจงข้าวของแล้วก็กำลังจะตั้งโต๊ะทานอาหารเย็น

เออ...ผมลืมบอกไปเลยครับว่าบ้านพี่เขม ใหญ่โต อลังกาล มากก ผมเอาลูกชายเค้าไปอยู่ห้องรูหนูของผมมา..พี่เค้าจะอึดอัดไม๊เนี่ย...พอผมเห็นบ้านพี่เค้าครั้งแรกนะครับ...ผมถึงกับไม่กล้าเดินเข้าบ้านเลย...บ้านผมที่เชียงใหม่ 3 หลังมัดรวมกันยังไม่เท่าบ้านพี่เขมเลยมั้งครับ

ตาย ๆ ๆ  แล้วผมจะเอาอะไรไปเลี้ยงพี่เค้าเนี่ย...

แล้วโทรศัพท์พี่เขมก็ดังขึ้น...

พี่เขม รับโทรศัพท์แล้วก็เดินออกไปคุยข้างนอก...ผมพยายามเงี่ยหูฟังว่าคุยอะไรกัน...แต่พี่แกเดินไปไกลเกินคับ ผมเลยไม่ได้ยิน
ผักส่วนใหญ่ยังไม่ได้ถูกหั่นมาครับ เพราะว่าพี่เขมแกหันผักได้พังมาก  ผมบอกให้ซอยต้นหอมกับผักชี พี่แกก็หั่นมาซะชิ้นใหญ่เหมือนจะเอามาทำผัดผัก บอกให้เด็ดถั่วงอก ก็บ่นว่าเหม็น บอกให้หั่นถั่วฝักยาว ก็ซอยมาละเอียดเละไปหมดครับ 55555
พี่เขมเป็นคนไม่ชอบกินผักที่มีกลิ่นเหม็นเขียวครับ ผมเลยไปแวะซื้อพวกผักกาดแก้ว เอามาให้พี่แกกินกับขนมจีนแทนผักต่าง ๆ เพราะพี่เขมดูน่าจะกินได้มากสุด


ซักแป๊ปพี่เขมก็เดินกลับมา พร้อมกับยิ้มแป้นมาเลย

พี่เขม : บีพรุ่งนี้ทำไร

บี : หยุดไงคับซิกไป 2 วันเลยไฟล์ค้าง

พี่เขม : งั้นดีเลยพรุ่งนี้พี่ซิกดีกว่า

บี : อ่าวไมอ่ะพี่...

พี่เขม : จะได้อยู่กะบีไงคับ

บี : บ้ารึป่าวพี่ ไปหาตังมาให้ผมใช้ป่ะ...เงินเดือนจะหมดแล้วเนี่ย

พี่เขม : โอยยย...แฟนคนเดียวพี่เลี้ยงได้หน่า

บี : เฮ้ยไม่เอา...ผมจะเกาะพี่กินได้ไง

พี่เขม : โน่นก็ไม่เอานี่ก็ไม่เอา ขอเอาก็ไม่ให้...อะไรนักหนาเนี่ย...

บี : ผมพูดแบบกัดฟันทำหน้าดุ... “นี่ อยู่กลางบ้านเลยนะพี่เขม”

พี่เขม : จะให้พี่ sick มะ ถ้าไม่ให้จะประกาศตรงนี้เลยนะ

บี : ถ้าพี่ประกาศผมกลับ

พี่เขม : โอยยย....นะนะนะนะนะ สัญญาจะเกเรอีกแค่วันเดียว

บี : อ่า ๆ ๆ วันเดียวนะพี่เขม

พี่เขม : เย้ ๆ ๆ ๆ งั้นคืนนี้ไปกินเบียร์กัน

บี : อะไรเนี่ย...ข้าวยังไม่ทันกินเลย

พี่เขม : นะนะนะนะ...เด๋วไปนอนคอนโดพี่กัน

บี : ไม่เอาอ่ะ...ไม่ปลอดภัยเลย

พี่เขม : ยกขึ้นมา 3 นิ้ว ข้าของสัญญาว่า...จะไม่ล่วงเกินท่านแม่แต่น้อย ด้วยเกียรของลูกเสือสำรอง

บี : ลูกเสือสำรองใช้ 2 นิ้วมะพี่

พี่เขม : นั่นแหละ ๆ ไปนะ

บี : อ่า ๆ คับ ๆ

พี่เขม : เย้ ๆ  มีเพื่อนพี่ไปด้วยนะ

บี : อ้าวแล้วทำไม...พี่ไม่ไปสนุกกะเพื่อนหละ เอาผมไปด้วยทำไม

พี่เขม : ก็เพื่อน ๆพี่อยากรู้จักไง

บี : นี่พี่เขมบอกเพื่อนแล้วเหรอ

พี่เขม : อืม ๆ ๆเพิ่งคุยมะกี้ไง มันโทรมา

บี : คุยเรื่องผมเนี่ยนะ

พี่เขม : ก็เออสิ...จะให้คุยเรื่องใคร

ผมทำท่ากุมหัว...พี่เขมดูจะพาผมไปเปิดตัวกับคนทุกคนเลยครับ
แค่ผมมาบ้านพี่เขม..ผมก็เกรงจะแย่อยู่ละ นี่ต่อจากบ้านพี่เขม มีไปเจอเพื่อนอีก..นี้มันวันเดินสายพบปะญาติผู้ใหญ่และเพื่อนฝ่ายชาย รึป่าวฟระ?

พอจัดโต๊ะอาหารเสร็จ คุณพ่อกับคุณแม่พี่เขมก็ลงมาทานอาหารเย็นพร้อมกันพอดีครับ ครอบครัวพี่เขมเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากครับ
คุยล้อ หยอกเล่น กันได้สนุกสนาน...ขนาดผมเป็นคนนอก ผมเพิ่งจะรู้จักกับคุณพ่อคุณแม่ของพี่เขม...ท่านก็คุยเล่นกับผมเหมือนผมเป็นลูกหลานท่าน ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาทันทีเลยครับ

ผมไม่ได้กลับไปหาพ่อแม่ที่อยู่เชียงใหม่นานแล้วเหมือนกันครับ พอมาเจอครอบครัวที่อบอุ่นอย่างงี้ทำให้ผมคิดถึงที่บ้านขึ้นมาจับใจเลยครับ

ขนมจีนสูตรเด็ดของผมนั้นถูกทานจนหมดโดย เรา 4 คนครับ
คุณพ่อคุณแม่ชมไม่หยุดปากว่า อร่อยมากก
น้ำขนมจีนถูกพี่เขมซดจนหมดหม้อ...ผมนี่มีความภูมิใจมากเลยครับที่วันนี้ผมทำอาหารให้ทุกคนทาน แล้วทุกคนอิ่มอร่อยกับอาหารของผม

คุณแม่พี่เขม : เขมลูก...พาลูกบีมาบ่อย ๆนะลูก แม่จะได้กินอะไรอร่อย ๆ แบบนี้อีก

คุณพ่อพี่เขม : เขม ไปรู้จักกับน้องเค้าได้ไงหละเนี่ย..

พี่เขมอมยิ้มแล้วเดินมาเกาะไหล่ผม

พี่เขม : เป็นเด็กเก็บตกมาจากในไฟล์อ่ะครับ 5555

ผมเหยียบเท้าพี่เขมนิดนึงแล้วก็ทำหน้ามุ่ยใส่

คุณแม่พี่เขม : ดีละลูก รัก ๆกันไว้นะ

ผมทำหน้าตกใจเบรา ๆ หรือว่าคุณแม่จะดูออก

พี่เขม : เด๋วก็คงได้เจอมันบ่อย ๆแหละครับ

ผมยิ่งทำหน้าเหวอเข้าไปใหญ่...นี่อะไร มาเปิดตัวเหรอ...ไม่ได้เตรียมใจมาเลยนะเว้ย

คุณพ่อพี่เขม : ดีละลูก..อ่า ๆพ่อให้รางวัล ทำอาหารให้พวกเรา

คุณพ่อพี่เขมควักเงินในกระเป๋าตังให้ 2000 ผมตกใจมาก เพราะทุกอย่างนี่ก็เป็นเงินพี่เขมซื้อทั้งหมด ผมแค่ทำ

บี : คุณพ่อครับ ไม่ได้ครับ ผมรับไม่ได้ ข้าวของนี่พี่เขมก็ซื้อมาครับ

คุณแม่พี่เขม : อุตสาเหนื่อยทำมาให้พ่อแม่กิน รับไปเถอะ

บี : ผมรับไม่ได้จริง ๆครับ ถ้ารับไปแล้วครั้งหน้าผมไม่มาทำให้ทานแล้วนะครับ

พี่เขมทำหน้าตกใจ แล้วก็ตอบว่า... “เฮ้ยไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้มั้ง บี”

บี : รับไม่ได้จริง ๆพี่เขม พ่อแม่ผมบอกไว้อ่า ช่วยหน่อยเร็วพี่

คุณพ่อกับคุณแม่พี่เขมพากันหัวเราะทั้งคู่ บอกว่าผมถูกสอนมาดี อย่างนี้ไปอยู่ที่ไหนใคร ๆ ก็รักแน่นอน

พี่เขมได้ทีเลยไปหยิบเงินจากพ่อมาเก็บไว้แทน


แล้วพี่เขมก็บอกว่าเด๋วมี พี่พริ้ง กับ พี่ตาล ไปกินเบียร์ด้วยนะ

ผมก็อ่อขึ้นมาทันทีเลยครับ พี่พริ้งกับพี่ตาล เป็นเพื่อนสนิทพี่เขมครับ
น่าจะเรียนบินมาด้วยกัน อยู่รุ่นเดียวกัน แล้วที่สำคัญ พี่พริ้งกะพี่ตาลสวยมากกกกกกครับ...ผมเห็นผมยังแอบชอบพวกพี่แกเลย
ทั้งสวยทั้งเก่ง



To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 19 ป๊ากับแม่พี่เขม P.2 (24-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 24-09-2017 13:39:11
บ้านพี่เขมไม่มีดราม่าแฮะ
สงสัยดราม่าจะอยู่ที่บ้านบี
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 20 (NC 20+ ผมกำลังจะเสียพี่เขมไป)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 25-09-2017 17:23:55
ตอนที่ 20 (NC20+ ผมกำลังจะเสียพี่เขมไป)

ก่อนออกจากบ้านพี่เขม...พี่เขมของตัวขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าเพื่อจะไปค้างที่คอนโดก่อน..

พี่เขม : พี่ขอไปเก็บเสื้อผ้าแป๊ปนะ...อยากไปดูห้องพี่ป่าว

บี : คับผม...อยาากกกกก.....(ผมพูดยังไม่ทันจะจบคับ)

คุณแม่พี่เขม : ให้น้องขึ้นไปทำไมลูก...รีบไปแล้วก็รีบลงมาสิ อย่าให้น้องรอนานนะลูกเขม

คุณพ่อพี่เขม : เออนั่งคุยกับป๊ากับแม่ หน่อย แม่เค้าอยากได้สูตรทำน้ำเงี้ยว...แม่จะได้ทำให้พ่อกินได้วันหลัง..เผื่อบีไม่อยู่

พี่เขม : โธ่...ป๊า แม่..ไปช่วยเขมเก็บของจะได้เร็ว ๆไง

คุณแม่พี่เขม : ไปเร็ว...อย่าดื้อดึง ชักช้า...ขะใจ๋โวย ๆ(รีบ ๆ ไป)

บี : ครับผม..พี่เขมรีบไปเก็บของเลยพี่ เด๋วผมรอนี่ครับ

พี่เขม : ก็เดะ..(น้ำเสียงงอน ๆ แล้วก็ขยี้หัวผม)

ป๊าและแม่พี่เขมยิ้มให้ทำหน้าตาเหมือนจะถูกใจอะไรซักอย่าง
พี่เขมทำหน้าบูดเดินคอตกขึ้นไปเก็บของ...ผมว่าป๊ากับแม่ของพี่เขมต้องรู้แน่เลยครับ...ว่าเราไม่ได้เป็นแค่พี่น้องกัน

คุณพ่อพี่เขมเริ่มต้นประโยค..หลังจากที่พี่เขมเดินหายไป

คุณพ่อพี่เขม : รู้จักกับเขมได้ไงหละลูก

บี : (อ่าวป๊าคับ..ไหนว่าจะถามสูตรน้ำเงี้ยว...เปลี่ยนโหมดเป็นซักถามอย่างอื่นแทนซะงั้น)... “ผมเพิ่งเริ่มบินเครื่องบินแบบที่พี่เขมขับได้ไม่ถึงเดือนเลยครับผม...แล้วพี่เขมก็ขับให้ผมบินไฟล์แรก คับ”

คุณแม่พี่เขม : ไปถามอะไรอย่างนั้นหละคุณ....

(ผมแอบโล่งใจว่าคุณแม่ช่วยชีวิต)

คุณแม่พี่เขม : คบกับเขมเหรอลูก

ผมหน้าซีดไปเลยทันที...ผมคิดในใจว่าคุณแม่พี่เขมน่าจะถามเล่นๆ แต่ ทั้งคุณพ่อและคุณแม่สีหน้าดูรอฟังคำตอบอย่างจริงจัง

บี : เออ...ผม...เออ..

ผมไม่รู้จะตอบว่ายังไงดี..เพราะตอนนี้สถานะผมกับพี่เขม จะเรียกว่าแฟนกันได้รึป่าวก็ยังไม่รู้เลยครับ จะเรียกว่าคบกัน ผมว่ามันยังดูอีกห่างไกลมากกกก

บี : เอาเป็นว่า...ถามพี่เขมระกันนะครับผม

คุณพ่อพี่เขม : ถามไอ้เขม...จะได้อะไร..รายนั้นคงจะยาก

คุณแม่พี่เขม : บีลูก...ถ้ายังไม่คบกัน หรือ จีบกันอยู่ แม่ขอ         นะ...ว่าค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป

บี : ครับผม...ผมจีบพี่เขมอยู่ครับ..เอ้ยไม่ใช่ ยังไงดีหละครับ (ผมทำหน้าเลิกลั่ก..เริ่มมีอาการร้อนผ่าว ๆ พูดผิดทำไงดี)

คุณพ่อพี่เขม ตีขาแล้วบอกว่า... “เห็นไม๊ป๊าว่าแล้ว ว่ามันต้องไม่ธรรมดาแน่ ไอ้เขมถึงพามาที่บ้านได้เนี่ย”

คุณแม่พี่เขม : อย่าเพิ่งไปยอมเขมมันง่าย ๆ นะลูก เจ้าเขมเนี่ย         ต้องให้รอนาน ๆ มันถึงจะเห็นเรามีค่า

ผมทำหน้างงไปหมด...ทำไมป๊ากับแม่พี่เขมดูเข้าข้างเราจังเนี่ย..พี่เขมนี่ลูกเค้านะ ผมไม่ใช่ลูกเค้า

คุณพ่อพี่เขม : จริงอย่างที่แม่ว่าเลยลูก...แต่ก็อย่าไปใจร้ายกับมันมากนั้นนะ...มันจะลำบากมาถึงป๊ากับแม่เอาได้ ต้องเห็นไอ้เขมกินไม่ได้นอนไม่หลับ...ป๊าก็สงสารมัน

คุณแม่พี่เขม : แต่จะว่าไป ลูกบีก็เป็นคนที่ 2 เองนะที่ ลูกเขมพามาให้ป๊ากับแม่รู้จัก แปลว่าลูกเนี่ยพิเศษไม่เบาเลยหละ

คุณแม่พี่เขมยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่น...คุณพ่อพี่เขมก็เชียร์ผมเต็มที่ ทำให้ผมคิดถึงที่บ้านผมมากกว่าเดิมอีกครับ...ที่ยากไปกว่านั้นอีกก็คือ ผมยังไม่เคย ยอมรับกับที่บ้านของผมเลยครับว่า ผม ชอบผู้ชาย ครับ

มันคงจะเป็นเรื่องใหญ่ มาก ๆ เลยครับสำหรับบ้านผม....ว่าแล้วผมก็กลุ้มใจทันที

บี : ขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่มากนะครับ...

คุณแม่พี่เขม : วันหลังก็มาหาแม่บ่อย ๆ นะลูก แม่ยินดี อยากจะเจอ         ลูกบ่อย ๆ
คุณพ่อพี่เขม : ใช่เลยลูก...แวะมาหาท่ีบ้านบ่อย ๆ นะ ไอ้เขมมัน         จะได้อยู่บ้านซะบ้าง

บี : ได้ครับผม...

แล้วเสียงพี่เขมก็ดังขึ้น... “คุยไรกันหนะ...แอบเม้าเขมกันอยู่ใช่ไม๊”

คุณพ่อกับคุณแม่พี่เขม ทำหน้าตาตกใจ อาจจะเพราะเสียงดังของพี่แก คุณพ่อเลยแก้ต่างไป

คุณพ่อพี่เขม : อ่าวคุณถึงเวลาละครออกแล้วหนิ เราขึ้นไปดูละครกัน         เถอะป่ะ
คุณแม่พี่เขม : ใช่เลยคุณ...โอ้ยเม้าจนลืมเวลา อ่า ๆเด็ก ๆกลับ         บ้านไปได้ละ เด๋วแม่จะปิดบ้านละ

พี่เขม : แหนะ...ทีอย่างงี้หละรีบไล่เลยนะ

บี : งั้นผมลาเลยละกันนะครับ คุณพ่อคุณแม่

คุณแม่พี่เขมเดินมาจับมือผมรับไหว้ แล้วท่าก็ขยิบตาให้ 1 ที

ผมกับพี่เขมเดินออกจากบ้านมาขึ้นรถ

พี่เขม : ป๊ากับแม่ถามไรอ่ะ..โดนซักหนักไม๊

บี : ก็ถามเรื่องทั่ว ๆไปครับ

พี่เขม : ป๊ากะแม่รู้แล้วใช่ป่ะว่าพี่จีบบีอยู่

ผมทำหน้าแดง...ยังไงก็ยังไม่ชินกับคำนี้อยู่ดีเลยครับ

บี : “เออ..ป๊ากับแม่พี่รู้ละ”

พี่เขม : ป๊ากะแม่พี่ ก็ร้ายอย่างงี้แหละ...5555555

แล้วเราก็ขับรถเพื่อไปที่คอนโดผมเพื่อให้ผมเก็บข้าวของเพื่อไปค้างกับพี่เขม

ขับรถไปซักพักเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น...ผมกดรับทันที

เปรี้ยว : อีดอกกกกก...เมิงอยู่ไหน ไม่เห็นหน้าเห็นตาเลย

บี : กรูอยู่ข้างนอกเมิงมีไร

เปรี้ยว : จะกลับกี่โมง หรือไปบิน

บี : ไม่ได้บินกรูหยุด

เปรี้ยว : แล้วเมิงอยู่ไหน?(ผมว่าเปรี้ยวเริ่มรู้ละครับว่าผมผิดปกติ)

บี : อยู่ข้างนอกไงเมิง...มีไร

เปรี้ยว : กับใคร? อีเปรี้ยวตัวดี ทำเสียงเข้มเหมือนกะลังซักทอด

บี : ผมกระซิบ.. “อยู่กับพี่เขม”

เปรี้ยวกรี๊ด....ออกมาหูผมแทบแตก...ผมว่าเสียงกรี๊ดนี่ พี่เขมยังได้ยินครับ

เปรี้ยว : อีดอกกกกกก...เด๋วนี้ไม่อยู่บ้าน ติด ผ. นี่เองถึงว่ากรูไม่เห็นหน้าเห็นตาเลย

บี : เมิงไปบินยุโรปมะ...จะเห็นหน้ากรูได้ไง

เปรี๊ยว : เมิงต้องอัพเดทให้กรูฟังเดี๋ยวนี้ คืนนี้ จะดึกแค่ไหนกรูก็จะรอ เฝ้าหน้าห้องเมิง

บี : สัส เปรี้ยว..เมิงไปนอนก่อนเหอะ เด๋วกรูกลับไปแล้วบอกเมิง

เปรี้ยว : พูดอย่างจะกลับดึก..หรือไม่กลับ?

บี : เออ...กรูไม่ได้กลับคืนนี้

กรี๊ด ๆ  ๆๆๆ  อีเปรี้ยว กรี๊ดอีกครั้งนึง เสียงลั่นสะเทือนขี้หูผมหนักไปกว่าเดิมอีก

พี่เขมพูดแทรกขึ้นมากหลังจากที่อีเปรี๊ยวกรี๊ดเสร็จ

พี่เขม : พี่ขอพาบีไปนอนด้วยก่อนนะครับ

ผมรีบปิดปากพี่เขมแล้วก็ได้ยินเสียงอีเปรี้ยวกรี๊ดอย่างต่อเนื่อง

ผมรีบกดวางสายทันทีแล้วตีพี่เขมรัว ๆ

บี : พี่ไปบอกอย่างนั้นได้ไง...เด๋วเพื่อนผมก็ว่าผมใจง่ายดิ

พี่เขม : ก็กรี๊ดขนาดนี้...พี่นั่งตั้งไกลยังได้ยินหมดเลย

บี : ได้ยินหมดเลยเหรอ

พี่เขม : ใช่ พร้อมยักคิ้วใส่ผม

แล้วอีเปรี้ยวก็ส่ง message มา บอกว่า

“have fun fun fun นะคะ ซิส”

ผมรีบอ่านแล้วพิมพ์กลับไป

“ sis พ่อง”

พอขับรถกลับถึงคอนโดปุ๊ป...ก็รีบเก็บข้าวของแล้วก็ออกมาที่คอนโดพี่เขมเลยครับ...พี่เขมบอกว่าให้นั่งแท็กซี่ไปเพราะจะได้ใช้รถพี่เขมบ้าง ใช้รถผมมาตลอดเลย...พี่เขมอาจจะรู้สึกคับแคบในรถของผม..ก็แน่สิใครจะไปใหญ่สู้ X6 ได้หละ นั่นรถยนต์หรือรถถัง

จากคอนโดพี่เขม เราก็เดินมาท่ีร้านได้เลยครับไม่ไกล
พอถึงร้านอาหารกึ่งบาร์ ก็เจอ พี่พริ้ง กับ พี่ตาลนั่งรออยู่แล้วครับ

พี่ตาลทักพี่เขมก่อนเลยครับ

พี่ตาล : ไอ้อ้วนทำไมมาช้านักฟระ...ไหนว่าอยู่แค่บ้านแม่ไง ใกล้นิดเดียวเอง รถก็ไม่ติดแล้วด้วย..จะเอาอะไรมาอ้างอีก

พี่พริ้ง : ใช่เลย...ไอ้อ้วน ทำไมมาช้า มาช้าเลี้ยงเลย

พี่เขม : ก็ไปส่งคนนี้เก็บข้าวของอยู่ไง..(พี่เขมชี้มาทางผม)

บี : พี่พริ้ง พี่ตาล สวัสดีครับ...ผมบีนะครับพี่

พี่พริ้ง : วี๊ดดดดดด...นี่เมิงพาน้องบีมาด้วยเหรอ

พี่ตาล : หว๋ายยยยย...เปิดตัวเหรอจ๊ะ

พี่ทั้งสองพากันแซวผมกับพี่เขมใหญ่

พี่เขม : เปิดตัวห่าอะไรหละ...น้องเค้ายังไม่ยอมกรูเลยมะ

ผมกระทุ้งท้องพี่เขมอย่างแรง...แล้วทำหน้าดุใส่

พี่เขม : เห็นมะ...พวกเมิงทำกรูเจ็บตัวตลอด

ผมก้มหน้า...หน้าแดง โดนพี่ ๆ ทั้ง 3 คนรุมเล่นงาน

บี : พวกพี่มากันนานรึยังคับ...พอดีผมเอาเครื่องครัวไปเก็บที่คอนโดมาอ่ะครับเลยช้าหน่อย...ขอโทษด้วยค๊าบบบ (ผมยกมือไหว้)

พี่ตาล : เฮ้ยเวอร์ไปแล้ว...พี่แซวเล่นเฉย ๆ ไอ้อ้วนบอกแล้วว่าจะต้องไปเก็บของก่อนนิดหน่อย

พี่พริ้ง : แหม่ ๆ ๆ พาน้องไปบ้านมาเลยเหรอจ๊ะ...แล้วบอกว่าไม่คิดอะไร...นี่พาไปเปิดตัวที่บ้านเลยเหรอฟระ

พี่เขม : เปิดห่าอะไรหละ...แม่ดันอยากกินขนมจีนนำ้เงี้ยว แล้วไอ้ตัวแสบนี่ก็ทำเป็น...ป๊าตอนแรกบอกไม่อยู่บ้าน ก็เลยว่าจะทำให้แม่กิน แม่จะได้ไม่เหงา สรุปป๊ากลับมาจ้าาาาาา
กรูนี่ขนหัวลุกเลย...นึกว่าป๊าจะด่า  แต่กลับไม่ว่าอะไรซะงั้น
ปกติ...เห็นไม่ชอบเลยนะพาคนอื่นเข้าบ้านเนี่ย

พี่ตาล : เหย..จริงดิ กรูนึกว่าบ้านจะแตกซะแล้ว

พี่พริ้ง : เฮ้ย..แปลว่า น้องบีนี่ใช้ได้เลยนะเนี่ย

พี่เขม : เออกรูก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน...พ่อไม่ว่าอะไรไม่พอ ยัง   เอาตังให้มันอีกกกก...แล้วไอ้ตัวแสบก็ไม่เอา กรูเลยได้มา    2000 มาเลี้ยงเบียร์พวกเมิงเลย 555555

พี่พริ้ง : ดีเลยน้องบีกินไรดีจ๊ะ...พร้อมกับหันมาถามผม

บี : เอออ...ผมยกแก้วเบียร์ที่ตั้งอยู่กินแก้เขิน

พี่ตาล : เฮ้ยนั่นแก้วพี่...

บี : ขอโทษค๊าบบบ...ผมนึกว่ายังไม่มีใครกิน

พี่ตาล : เฮ้ย..มันใช้ได้หวะ แดกเบียร์แก้วเดียวกะกรูแล้วซะงั้น

พี่เขมลากคอผมมากอดแล้วก็ถามพี่พร้ิงกับพี่ตาล...คนนี้เป็นไง ผ่านไม๊...กรูพามาให้พวกเมิงแสกน..

ผมทำหน้าตกใจ..เฮ้ย นี่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะ...วันนี้เหมือนโดนแสกน ทั้งวันเลยครับ..แต่ผมก็ยิ้ม ๆ กลัวพี่พริ้งกะพี่ตาลจะไม่ให้ผ่าน..เด๋วผมจะอยู่ยาก

ผมรีบเปลี่ยนเรื่องทันที..หันไปหา พนักงานเสริฟแล้วบอกขอเบียร์เพิ่มในทันที

บี : พี่ ๆครับกินเบียร์อะไรกันอยู่ นี่เบียร์อุ่นหมดแล้ว ให้ผมสั่งใหม่เลยไม๊ครับ

พี่เขม : ปกติกินไรหละ...นอกจากลีโอ

พี่พริ้งกับพี่ตาล ขำออกมาเลยครับ...ผมเป็นคนบ้าน ๆ อ่ะครับกินแต่ลีโอ..เพราะมันถูก 5555

บี : แล้วแต่พี่ ๆเลยครับ ผมกินได้หมด วันนี้มีคนเลี้ยงแล้ว

พี่พริ้งกะพี่ตาล : สั่งเลยน้องบี พี่กินได้หมดเหมือนกัน

พี่เขม : อยากกินอะไรหละเรา...(แล้วเอียงหัวมาติดหัวผม แล้วดูเมนูไปพร้อมกัน)

พี่พริ้ง : นี่ ๆ ให้มันน้อย ๆ หน่อย..จะสวีทกันก็เกรงใจชะนี 2 ตัวนี้บ้าง...อีอ้วน (พร้อมกับเอานิ้วดีด ๆพี่เขม)

พี่เขม : นี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะถ้าทำต้องหอมแก้มแบบนี้ (แล้วพี่เขมก็หอมแก้มผมกลางร้าน)

พี่ตาล : กรี๊ด...อีอ้วน เมิงทำอะไรเกรงใจกรูบ้าง

พี่เขม : อ่าวก็สาธิตไง...พวกเมิงว่ากรูสวีท

ผมหันหน้าหนีเลยครับ...ความอายเข้ามาแทรก หน้านี่แดงไปถึงหูแน่ ๆตอนนี้...ผมทำท่าขยับเสื้อเพื่อคลายร้อนทันที

พี่พร้ิง : ดูน้องบี หน้าแดงไปหมดละ...อีอ้วน กรูจับแยกเลยแม่ง เมิงมานั่งตรงนี้... เด๋วกรูไปนั่งข้างน้องเอง

พี่ตาล : เออดีจับแยกเลย...กรูเห็นละหมั่นไส้

พี่เขมกอดเอวผมแน่น.... “กรูไม่ไป..กรูจะอยู่ตรงนี้”

แล้วผมก็แกะพี่เขมออกแล้วลุกขึ้นไปสลับที่กับพี่พริ้ง

พี่พริ้งกับพี่ตาล ปรบมือรัว ๆ แล้วบอกว่า “ดีค่ะคุณน้อง...พี่จะคุมความประพฤติของไอ้อ้วนมันเองค่ะ”

พี่เขมทำหน้าเหวอ... “ทำไมทิ้งพี่งี้หละ”

บี : วันนี้ผมโดนแกล้งทั้งวันแล่ว...แก้มช้ำหมดแล้วเนี่ย

แล้วผมก็สั่งเบียร์ เยอรมันที่ผมเคยกินมาอีก 1 ทาวเวอร์

ผมทำการรินเบียร์ให้พี่ ๆ ทุกคน พี่ตาลใส่น้ำแข็ง 1 ก้อนกินเหมือนกับผม พี่เขมกับพี่พริ้งใส่น้ำแข็งเยอะ ๆ

พี่ตาลกับพี่พริ้งยกนี้ให้ว่าผ่าน...ผมนี่ยิ้มแก้มปริเลยครับ

หลังจากนั้นเราก็นั่งคุยกันร้องเพลงสัพเพเหระไป...กินจนหมดไป 3 ทาวเวอร์ ตอนนี้ทุกคนเริ่มเมาได้ที่ละครับ

พี่พริ้งก็ยิงคำถามรัว ๆ

พี่พริ้ง : นี่ไอ้อ้วน...เมิงได้น้องเค้ารึยัง

พี่เขม : ก็ยังอ่ะดิ...น้องเค้าไม่ยอม

ผมทำหน้าตกใจ... นี่คุยเรื่องอย่างงี้ก็ได้เหรอ..ฮัลโหล ผมนั่งอยู่ตรงนี้นะจ๊ะ”

พี่ตาล : ทำไมอ่ะ...น้องเค้าไม่อยากได้เมิงเหรอ...หรือเมิงอ้วน จนเค้าไม่มีอารมณ์กับเมิง

พี่เขม : สัส..(พร้อมทั้งเปิดโชว์ กล้ามท้องที่ตอนนี้แทบจะเป็นลูก      เดียวกันอยู่แล้ว...เพราะช่วงนี้พี่เขมกินหนักมากกก) “หุ่นกรูยังแซ่บไม๊ฟระ”

พี่พริ้ง : กรี๊ด...อิอ้วนเมิงจะโชว์ทำไม

ผมนั่งเงียบไม่กล้าพูดอะไร...ทำเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ในวงนี้

พี่ตาล : ทำไมไม่ถามไอ้น้องบีไปเลยวะ...มันก็นั่งอยู่ตรงนี้

พี่พริ้ง : กรี๊ด ๆ ๆ เมิงจะมาถามอะไรกันคะ...นี่มันเรื่องบนเตียงของเค้า

บี : ผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เขมเลยครับพี่

พี่เขม : เออ...กรูยังไม่ได้ขอน้องเค้าเป็นแฟนเลยหวะ กรูลืมไป

พี่ตาล : อีสัสอ้วน...งั้นก็ผิดที่เมิงละ ที่เค้าไม่ให้เมิงก็ถูกแล้ว

แล้วทุกคนก็หัวเราะกันออกมา แล้วก็ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไป จนเวลาเกือบจะตี 1


พี่ตาล : เฮ้ยจะตี 1 ละ เด๋วเกิน เคอร์ฟิวกรู...ผช.ให้ไม่เกินตี 2 เดี่ยววีซ่าหมด กลับบ้านไม่ได้

พี่พร้ิง : ห่านจิก กรูบอกแม่ว่าจะกลับ ตี 1

พี่เขม : อ่า ๆ ๆงั้นกลับ ๆ เด๋วกรูจ่ายเอง พวกเมิงกลับได้เลย..แล้วกลับกันยังไงเนี่ย

พี่พริ้ง : เด๋วกรูเรียก u drink i drive

พี่ตาล : : กรูก็เหมือนกัน

พี่เขม : อ่า ๆ ๆกลับดี ๆ หละ ถึงบ้านแล้วบอกกรูด้วย

จากนั้นเราก็แยกย้ายครับ...ผมกับพี่เขมเดินกลับคอนโด

พี่เขมดูท่าจะเมามากครับ...ซึ่งผมเองก็ใช่ย่อย เดินเซโรงังกันกลับคอนโดเลยครับ

ระหว่างทางเดินกลับเราจับมือกันไว้ตลอดครับ...ไม่ปล่อยให้หลุดเลย..ตอนนี้ เหมือนเราทั้ง 2 ไม่ได้แคร์สายตาคนรอบข้างแล้วครับว่าใครจะมองว่ายังไง...แต่เราแคร์กันเองมากกว่าครับว่า เราจะเดินกลับถึงห้องไม๊

พอขึ้นลิฟท์มา

ผมก็บรรจงจูบพี่เขมด้วยความขาดสติ....ผมแค่อยากบอกพี่เขมว่าวันนี้ผมรู้สึกอบอุ่นและรักพี่เขมเพิ่มขึ้นนมาก ๆเลยครับ อยากจะขอบคุณที่พี่เขม ไว้ใจผม เลือกผม แล้วพามาเจอกับสังคมของพี่เค้า

แต่อารมณ์มันไม่ได้หยุดแค่นั้นสิครับ มือของเราทั้งสอง ต่างกอดกันแล้วก็อยู่ไม่สุก แล้วประตูลิฟท์ก็เปิดออก ผมสลัดพี่เขมออกทันที เพราะเจอหน้ายามที่กำลังเดินเข้ามาในลิฟท์

ตอนนั้นอายมากครับ...พี่เขมยังคงไม่ค่อยรู้สึกตัวเท่าไหร

ผมลากพี่เขมออกจากลิฟท์ทันทีที่ถึงชั้น 20 ครับ

พอเปิดประตูห้องเข้าไป...ผมจับพี่เขมโยนลงไปที่โซฟาแล้วบรรจงจูบผมในทุก ๆ ส่วน
ตัวผมนี้ร้อนดั่งไฟ และ พี่เขมครางออกมาด้วยความเสียว

ด้วยความล่ำและตัวใหญ่ของพี่แก...บวกกับความเมาของผม..ผมจึงไม่สามารถเคลื่อนย้ายพี่แกไปได้ไกลมากกว่านี้...ผมทำการถอดเสื้อ พี่เขมออก..แล้วก็บรรจงจูบที่หน้าอกอันกำยำของพี่เขมแล้วไล่ลงมาเรื่อย  ๆ พี่เขมดิ้นด้วยความเสียวกระสัน...แต่มือผมก็กดตัวพี่เขมไว้กับโซฟา...เสียงครางของพี่เขมอื้ออึงไม่หยุด และไม่เป็นคำ ทำให้ผมยิ่งจูบหนักขึ้นไปอีก

ผมมาหยุดหน้าผมอยู่ส่วนที่แข็งที่สุด ในร่างกายของพี่เขมตอนนี้ มันแทบจะระเบิดออกมาจากกางเกงของพี่เขม..ผมค่อย ๆปลดออกด้วยความทะลุกทุเล..เพราะภาพในตาผมตอนนี้ เป็นภาพซ้อนและหมุน ๆ ไปเรื่อย ๆ ผมพยายามโฟกัสแล้วผมก็ทำจนสำเร็จ..ตอนนี้กางเกงของพี่เขมได้ถูกปลดออกหมดแล้ว ผมพยายามมองพี่เขมอย่างเต็มตา

มันช่างเป็นภาพที่งดงามเหลือเกิน...ชายหนุ่มผิวสีแทนและกล้ามแขนเป็นมัด ๆ และเป็นที่คลั่งไคล้ของ ชายหนุ่มและหญิงสาวอีกหลาย ๆ คน และที่สำคัญเป็นคนที่ผมรัก...รักจนหมดหัวใจของผม ได้นอนเปลือยกายอยู่หน้าผมแล้ว..สติและความยั้งคิดของผมขาดกระเจิง

ที่ผมเคยบอกว่าผมเป็นสายหื่น..สงสัยพี่เขมจะไม่ทันได้ระวังตัวแล้วหละครับ

ผมก้มลงไปจูบที่ท้องที่มีเส้นของกล้ามท้อง..ลากยาวลงไปเรื่อย ๆ มือนึงผมก็กดไว้ที่หน้าอกอันหนักแน่นของพี่เขมแล้วปากของผมก็ลากลงมาเรื่อย ๆ

จนจมูกผมมาหยุดอยู่ที่บริเวณสะดือของพี่เขม...พี่เขมทำการดิ้นด้วยความเสียว ผมใช้มืออีกข้างจับมังกรของพี่เขมที่แผลงฤทธิ์อย่างเกรียวกราด...แล้วบรรจงจูบมันอย่างอ่อนโยน

พี่เขมครางออกมา... “บีครับ...โอย..พี่เสียวครับ”

พอผมได้ยินเท่านั้นแหละ...ความบ้าคลั่งหื่นกระหายของผม ก็เพิ่มเป็นทวีคูณ

ผมครอบปากของผมลงให้ลึกที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้...แต่ก็ดูยังไม่ถึงครึ่งทางของเจ้าน้องชายของพี่เขม...ผมพยายามทำทุกวิถีทางให้เจ้ามังกรยักษ์พ่นพิษออกมา...ทั้งใช้มือและปากของผมต่อสู้กับมัน

พี่เขมเองก็พยายามดิ้น...ด้วยความเสียวและซักพัก มือของพี่เขมก็จับหัวผม...และเป็นผู้ควบคุมการเคลื่อนไหวเองทั้งหมด..ผมสำลักออกมาเมื่อพี่เขม พยายามดันหัวผมเพื่อจะได้ครอบไอ้เจ้ามังกรยักษ์ของพี่เขมลงให้ลึก...แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ ผมหยุดเพื่อหายใจซักแป๊ปแล้วผมก็สู้ต่อ...จนพี่เขมเริ่มครางหนักขึ้น

พี่เขม : โอยยย...อูย..บีคับ..พี่ไม่ไหวแล้วนะครับ

ผมเร่งเครื่องจนสุดเพื่อให้พี่เขมถึงจุดสุดยอด...

พี่เขม : บีคับ..พี่ไม่ไหวแล้ว..อูยยยยย......อ่าาาาาาา

พี่เขมเกรงตัวอย่างแรงแล้วจับหัวผมกดเอาไว้...ผมไม่สามารถออกจากพันธนาการของพี่เขมได้เลย...แล้วพิษของมังกรพี่เขมก็ถูกปล่อยออกมาเต็มปากผม

พิษมันเยอะมาก มากเหลือเกิน เกินผมจะรับไหว ประจวบกับพี่เขมไม่ยอมปล่อยให้ปากผมออกจากมังกงยักษ์ของพี่เขม...พี่เขมกระตุกอีกครั้งพร้อมทั้งพ่นพิษลงคอผมอย่างแรง

ผมจำใจกลืนมันลงไปเพื่อไม่ให้ผมสำลักไปมากกว่านี้...พอมังกรเริ่มสงบลง..พี่เขมก็ปล่อยมือจากผม...ผมวิ่งตรงไปห้องน้ำเพื่อไปล้างปาก
.
.
.
.
ผมมองหน้าตัวเองในกระจก...นี่ผมทำอะไรลงไป...พี่เขมจะโกรธผมไม๊...ถ้าพี่เค้ารู้สึกตัว...นี่ผมทำไปเพราะขาดสติ...ผมล้างหน้าตัวเองหลายครั้ง...เพื่อจะสลัดความหื่นของผมออก...ผมรู้สึกผิดต่อพี่เค้า..เพราะหลายครั้งที่พี่เขม..พยายาม..ผมก็ปฏิเสธ แต่กลับเป็นผมเองที่ล่วงเกินพี่เขมก่อน

ผมพยายามหาทางแก้ตัว..แต่ก็ไม่มีทางไหนที่จะดีพอเลย

แล้วก็มีมืออุ่น ๆมากอดผมจากด้านหลัง...ผมสะดุ้งโหย่ง

บี : เห้ย...(ตัวใหญ่มาก) พี่เขมเดินมากอดผมจากด้านหลัง

พี่เขม : เป็นอะไรรึป่าวบี...เห็นวิ่งเข้ามาในห้องน้ำตั้งนาน

บี : นี่พี่เขมไม่ได้เมาใช่มะ...หลอกบีใช่มะ?

พี่เขม : ป๊าววววว..(เสียงสูงมาก) พี่เมามากโอย เดินจะไม่ไหวอยู่ละนะ

บี : นี่ผมเครียดแทบตาย...ผมนึกว่า ผม ลักหลับพี่ไปแล้ว

พี่เขม : เฮ้ย..พี่ไม่รู้สึกตัวเลยจนมีคนมาจับพี่แก้ผ้า

ผมหน้าแดง...ไม่ตอบอะไร

พี่เขม : เป็นไง...อร่อยไม๊หละ

บี : แหวะ...คาวจะตาย

พี่เขม : ใครใช้ให้เริ่มหละ...(พี่เขมทำการล้างมังกรน้อยของพี่เขมอยู่หน้าผม)

บี : แสดงว่ารู้ตัวมาตลอดใช่มะ?...พี่นี่มันร้าย

พี่เขม : เฮ้ยพี่ไม่รู้ตัวเลยเว้ย...

บี : งั้นตาผมบ้างละนะ...พี่จะเสร็จคนเดียวได้ไง

พี่เขม : เฮ้ย..รอพี่ก่อนดิ มันจะรอบสอง...

แล้วผมก็ไม่ปล่อยให้พี่เขมพูดจบ...ผมบรรจงจูบพี่เขมเข้าที่ปากอย่างจัง...ครั้งนี้ผมมันรุนแรงและเร่าร้อนกว่าครั้งก่อน ๆที่เคยจูบมาก..มันมีทั้งมือไม้ที่พัลวันกัน กอดและบีบกันอย่างเร่าร้อน เนื้อกายเราแนบสนิทกันมากกว่าครั้งก่อน ๆ พี่เขมใช้ความชำนาญของพี่เขมถอดกางเกงผมได้ในพริบตา ตอนนี้ท่องล่างของผมเปลือยเปล่า ผมกระซิบบอกพี่เขม...

บี : พี่เขมครับ...ผมขอเอาพี่เขมได้ไม๊

พี่เขมทำหน้าตกใจสุดขีด... “เฮ้ย...บี”

ผมทำอารมณ์ของพี่เขมขาดสะบั้น

พี่เขม : นี่ บี เป็น รุก เหรอ?

บี : ครับพี่...(เสียงผมเริ่มสั่น ๆ)

พี่เขมทำหน้าเครียด...แล้วไม่ได้ตอบอะไร

ผมรู้ครับว่าพี่เขมคงจะมองว่าผมเนี่ยน่าจะเป็นรับ...เพราะด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง ความที่ดูผอม และคอยดูแลชาวบ้าน ทำกับข้าวเป็นแม่บ้านแม่เรือน...(แต่ผช. ก็ทำกับข้าวได้ป่าวฟระ)
บวกกับความที่พี่เขมก็แสดงความแมนเกินร้อยอยู่ตลอดเวลา..แสดงให้รู้ถึงว่าคนที่จะคบเค้าเนี่ย..ก็ต้องมีหน้าที่อีกอย่างโดยปริยาย

ในห้องน้ำไม่มีเสียงอันใด...อารมณ์ที่เราต่อกันเมื่อ 5 วินาทีก่อนหายไปหมด...ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับพี่เขม
ผมกำลังนึกโทษตัวเองอยู่ว่า..แม่งรู้อย่างงี้แล้วจะไปยุ่งกับพี่เค้าทำไมตั้งแต่แรกฟระ...แต่มันก็ช่วยไม่ได้เลย..ใจที่ผมมีอยู่นั้นได้ให้พี่เขมไปหมดแล้ว
ผมค่อย ๆ นั่งทรุดตัวลงกับพื้นห้องน้ำ...จริง ๆแล้วเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องแรก ๆ ที่คนรักกันอย่างผมควรคุยกันก่อน..ป่าวฟระ ไม่ใช่ว่าจะมาเดาทางไปมาแล้วพอเป็นอย่างงี้ มันก็พังทั้งคู่..ผมโทษตัวเองไม่หยุด

พี่เขม : เฮ้ยบี...อย่าเครียดดิ (พี่เขมนั่งลงข้างผม)

บี : พี่เขมครับ...นี่เป็นเรื่องที่ผมเครียดมานาน...ผมไม่ใช่ว่าผม   ไม่มีอารมณ์กับพี่นะ..แต่ผมไม่รู้ว่าจะบอกพี่ยังไงดี

พี่เขม..นิ่งไป..หน้าตาดูครุ่นคิดและผิดหวังมาก
บี : พี่เขมครับ...ถ้ามันเป็นอย่างงี้..พี่จะทิ้งผมไปไม๊..(ผมถามด้วยความกลัว)

พี่เขมไม่ตอบ..พร้อมถอนหายใจ

ถึงตอนนี้น้ำตา ผมมันกำลังเริ่มจะไหลแล้วครับ...ความเงียบเปลี่ยนมาปกคลุมในบรรยากาศ..มันทำให้ผมหนาวและสั่นเบา ๆ

ผมเอียงหัวผมเพื่อซบพี่เขม...ผมรู้ว่ามันเป็นการขอที่มากไป ผมรู้ว่าพี่เค้ามีความเป็นผู้ชายมากกว่าผมมาก..และผมก็ไม่อยากจะไปทำลายความมั่นใจของเค้า

ผมเอ่ยขึ้น..พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาจากตาผม...ไหลยาวลงไปที่ไหล่ของพี่เขม

บี : พี่เขมครับ...ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเวลาที่สั้นมาก..ผมดีใจนะครับพี่ ที่ผมได้รักพี่..ผมเข้าใจครับว่า..มันเป็นไป....

พี่เขมก้มลงจูบผมอีกครั้ง...ผมหลับตาแล้วน้ำตาของผมก็ไหลลงมาไม่หยุด...พอพี่เขมปล่อยปากออกจากผม พี่เขมก็เข็กหัวผม 1 ที ผมลืมตามาด้วยความ..งง

พี่เขม : อะไรวะ...แค่นี้ก็จะยอมแพ้แล้วเหรอ...(พี่เขมใช้มืออัน   ใหญ่และอบอุ่นจับใบหน้าของผมไว้ แล้วใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาผม)

ผมหายใจเข้าแบบติดๆขัดๆ..ผมไม่รู้ว่าผมจะทำยังไงให้พี่เขมสบายใจได้..ผมไม่รู้ว่าพี่เขมจะรับได้ไม๊

พี่เขมปล่อยมือผม...แล้วเดินหายไปในห้องพี่แก...ผมนั่งลงอย่าง งง ๆ อยู่ตรงนั้น...ผมไม่กล้าลุกไปไหน ไม่กล้าทำอะไร ตอนนี้ความรู้สึกผมเหมือนว่าผมกำลังจะเสียพี่เขมไป
.
.
.
To be continued…


ป.ล. ขอขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นเลยนะครับ ดีใจที่มีคนติดตามอ่านครับ และขอบคุณสำหรับ + เป็ดด้วยนะครับ ผมเพิ่งรู้ว่ากดบวกเป็นให้ผมด้วย ขอบคุณจริง ๆ ครับ

ส่วนเรื่องดราม่าต้องติดตามดูครับ ไม่น้อยเลยทีเดียว ผมเขียนไปน้ำตาร่วงไป จริง ๆ นะไม่อยากจะสปอย์
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 20 (NC 20+ ผมกำลังจะเสียพี่เขมไป) P.2 (25-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 25-09-2017 18:07:26
อยากให้พี่เขมเป็นรับ  :hao7:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 20 (NC 20+ ผมกำลังจะเสียพี่เขมไป) P.2 (25-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: m.starlight ที่ 25-09-2017 19:19:44
อาจมีการสลับกันเกิดขึ้นก็เป็นได้  :hao7:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 20 (NC 20+ ผมกำลังจะเสียพี่เขมไป) P.2 (25-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 25-09-2017 21:29:45
รอติดตามค่ะ ใครจะถูกกินล่ะงานนี้
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 20 (NC 20+ ผมกำลังจะเสียพี่เขมไป) P.2 (25-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 25-09-2017 23:06:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 20.00 (NC20+ คืนที่เขมรอมานาน)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 26-09-2017 18:43:39
ตอนพิเศษ 20.00 (NC20+ คืนที่เขมรอมานาน)

Part ของพี่เขม

พอถึงบ้านผม...ผมก็เจอ...ป๊า ครับ...ผมตกใจมากท่ีป๊ากลับมา
ไหนบอกว่าวันนี้จะมีแค่แม่อยู่ไง...ป๊าไปต่างจังหวัดผมเลยกล้าพาไอ้ตัวแสบมาที่บ้าน..ผมภาวนาให้ป๊าไม่ว่าอะไรผมหรือไอ้ตัวแสบของผม

เพราะผมจำได้เลยครับว่า...ครั้งแรกที่ผมพอแฟนคนแรกที่เป็น ผู้ชายของผมมาที่บ้านเนี่ย..ป๊าไม่คุยกับผมกว่า 3 เดือน ผมรู้ครับว่าป๊ากับแม่คงจะเสียใจมาก..แต่ผมก็ไม่อยากจะให้เค้ารับไม่ได้ในสิ่งที่ผมเป็น...ผมอุตสาไปเรียนเมืองนอกเมืองนามา..กลับมาลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ก็ได้เป็นนักบิน..อะไรมันจะทำให้ป๊ากะแม่ภูมิใจในตัวผมมากไปกว่านี้คงจะไม่มี..และนี่ก็คงเป็นสิ่งที่กลับกัน

เป็นสิ่งที่ป๊าของผม..ไม่ภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้อีกต่อไป..ตอนที่ผมมีแฟนเป็น ผช. แล้วพาเข้าไปรู้จักกับป๊าและกลับแม่ หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแย่ ๆ ที่ป๊ารับไม่ได้..ป๊าก็เหมือนจะดีขึ้น พูดคุยกับผมได้มากขึ้น...แต่ความรักมันไปไม่รอดอ่ะครับ...ช่วงนั้นผมเศร้าหนักมาก..ไปบินไม่ได้เลย..ซูบ..ผอม.. จนป๊ากับแม่เป็นห่วง...

ตรงจุดนั้นมั้งครับ..ที่ทำให้ป๊าเปลี่ยน มุมมองความรักของ ชายกับชาย ไปอย่างสิ้นเชิง...ความรักมันก็คือความรักครับ...มันไม่ได้เลือก เพศ เวลา สถานที่ ได้ว่าจะเกิดกับใครคนไหน..แต่ที่มันเลือกได้คือ มันจะอยู่กับเรานานแค่ไหน...ถ้าเรารักษามันได้ดีพอ ผมก็เชื่อว่าความรักในทุกรูปแบบนั้นจะยั่งยืนได้ครับ...

แต่ผมก็ยังไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองครับ...หลังจากที่ผมกลั้นใจ..ทำใจดีสู้เสือกับป๊า..แล้วก็แนะนำ ไอ้ตัวแสบของผมไป
ผมรู้แน่ ๆครับว่าป๊ากับแม่ต้องรู้ว่าไอ้ตัวแสบของผมเนี่ย...ผมไม่ได้คิดแค่พี่กับน้องแน่นอน..ถึงผมจะแนะนำว่าเป็นแค่พี่กับน้องก็ตาม

พอไอ้ตัวแสบเจอแม่กับป๊า...ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นครับ ป๊าไม่ได้ทำท่ารังเกียจหรือไม่พอใจในตัวบีเลยครับ...แถมยังเข้าไปคุยเล่นกับมันหน้าตาเฉย ..แรก ๆผมก็คิดในใจว่า..เอะ..หรือป๊ากับแม่จะเชื่อจริง ๆว่า ไอ้ตัวแสบของผมเป็นแค่พี่น้องกัน

แถมป๊ายังมาขอกิน ขนมจีนที่มันทำมาให้แม่กินด้วย...ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะครับ...ถ้าแฟนผมมากินข้าวที่บ้านนะครับ...ป๊าจะไม่ยอมลงมากินข้าวด้วยเลย

พอกินเสร็จ..แถมตังให้มันไปตั้ง 2000 แต่ไอ้แสบก็ไม่เอา..มันยิ่งทำให้ป๊าชอบมันเข้าไปใหญ่...ส่วนด้านของแม่...ไม่ต้องถามถึงเลยครับ..แม่ปลื้มมาก(กกกกกกกกกกกก ก.ไก่ ล้านตัว) แม่นี่พูดคุยกับไอ้ตัวแสบเป็นภาษาเหนือไม่หยุด ผมกับป๊ามองหน้ากันแล้วก็ส่ายหัวเบา ๆเพราะฟังไม่ค่อยจะออก

ยิ่งไอ้ตัวแสบมาบ้านผมพร้อมกับขนมจีนน้ำเงี้ยวหม้ออลังการด้วยแล้วหละก็ ทั้งป๊าและแม่ก็ยิ่งรักมันไปโดยปริยายเลยครับ

แปลกแต่จริงนะครับ..เกี่ยวกับเรื่องไอ้ตัวแสบของผมเนี่ย...มันเป็นคนที่ทุกคนรอบ​ๆ ข้างเมื่อได้รู้จักมันแล้วจะรักและเอ็นดูมันเป็นพิเศษ ดูได้จากกัปตันและพี่ ๆ แอร์กี่ ในบริษัท..ดูรักและเอ็นดูมันมาก แล้วไหนจะป๊ากับแม่ผมอีก..ผมนี่งงไปเลยครับที่ป๊าผม..พูดคุยกับมันได้อย่างสนุกสนาน

พอทานข้าวเสร็จเราก็ไปต่อกันที่ร้านเบียร์แถว ๆ คอนโดผมครับ..ผมนัดเพื่อนสนิทไว้อีก 2 นาง

2 นางนี้เป็นเพื่อนที่คอย สแกนกรรม ให้ผมครับว่า คนที่ผมจะคบต่อไปเนี่ย...ผ่านหรือไม่ผ่าน..แล้วก็เป็นไปตามคาดครับ...ขนาดป๊ากับแม่ผมยังยกให้ 3 ผ่าน (นี่ไม่ใช่ Thailand’s got talentใช่มะ) ไอ้เพื่อนผมก็ต้องบอกว่าผ่านครับ...เวลาที่ไอ้ตัวแสบไปเข้าห้องน้ำเนี่ย..ผมก้มหน้าประชุมกับเพื่อนทันที..จะเรียกง่าย ๆว่านินทาก็ได้ครับ..มันชมใหญ่ว่าไอ้ตัวแสบของผมน่ารักดูแลดี เอาใจเก่ง..แล้วก็เข้ากับคนง่าย..แล้วมันก็ยกให้ 3 ผ่านเช่นเดียวกัน

เรื่องต่อไปนี้ทำเอาผมอึ้ง..ทึ่ง..เสียว...ไปต่อไม่ถูกเลยครับ

ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน เพราะในหัวผมเนี่ย คิดมาตลอดเลยว่าไอ้ตัวแสบผมเนี่ยต้องเป็นเมียผมเท่านั้น ดูจากความผอมบาง..ผิวขาวน่าถนุถนอม..สกิวการทำอาหาร..เป็นแม่บ้านแม่เรือนสุด ๆ และที่สำคัญ ดูไว้เนื้อไว้ตัว..มากกกจนทำให้ผมหงุดหงิดทุกที ที่พยายามแล้วโดนปฏิเสธ

แต่แล้วก็มาถึงช่วงหน้ามืด..ความหื่นเข้าครอบงำแหละมั้งครับ

เมื่อถึงห้องมันก็จัดการแก้ผ้าผม...ผมนี่ยอมให้มันแก้เลยครับเพราะด้วยความ “แอ๊บเมา” ทำเหมือนว่าไม่ค่อยจะรู้สึกตัว..ผมเนี่ยอยากรู้จริง ๆเลยว่าไอ้ตัวแสบมันจะทำอะไรผมบ้าง...แล้วก็เป็นไปตามคาดครับ...มันทนความเซ็กซี่ของผมไม่ไหว 555555
แล้วผมก็เสร็จมันครับ...ไม่ได้เสร็จแบบนั้น...มันใช้ปากทำให้ผมเสร็จครับ...ผมก็นึกดีใจขึ้นมาซัก 15% ที่ผมเนี่ยไม่ได้เลือกคบขันที หรือนางใน...ที่จะไม่มีความรู้สึกกับหุ่นอันเท่ห์ ๆ และก็เซ็กซี่ของผม

แต่พอเครื่องติดเท่านั้นแหละครับ...ไอ้ตัวแสบก็เผยความลับ..บางอย่างออกมา

“มัน เป็น รุก”

ผมนี่...งง.. บอกได้เลยคำเดียวว่า... “ชิบหาย” ครับ
นี่คืออะไร ยังไง เกิดอะไรขึ้น แล้วจะทำยังไงต่อไป ผมไปต่อไม่เป็นเลยครับ...คือผมก็สแกนมันมาระดับนึงแล้วนะครับว่าไม่น่าจะผิดโผ...แต่เครื่องสแกนกรรมของผมน่าจะพัง..มันเลยตรวจจับไม่ได้

แล้วไอ้ตัวแสบขี้แยของผมก็น้ำตาไหลออกมา...มันดูเครียดมากเลยครับ เพราะผมกับมันก็รู้ตัวดีว่า เราได้รักกันไปแล้ว..แต่สิ่งเนี่ย..มันเป็นปัญหาใหญ่มากกกกกกก...สำหรับ ชายรักชาย

ในเมื่อ เราเป็นรุกทั้งคู่แล้วเราจะทำยังไงต่อไปหละ..จะกอดคือกินเบียร์กัน..เหมือนเพื่อนกันทั่ว ๆไปงั้นเหรอ..แล้วเรื่องอย่างว่าหละ..จะทำยังไง...เราจะไปกันรอดเหรอ..โอยย..คำถามในหัวผุดขึ้นมากมาย...ผมหันไปเห็นหน้าไอ้ตัวแสบมันกำลังท้อในความสัมพันธ์ของเรา..ผมก็เสียใจครับ...คือมันเริ่มมา..ดี.. ดีมากจริง ๆ ดีจนผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่า...ยังมีคนโสดและดี..ที่รอผมอยู่

ผมนึกอะไรไม่ออกและไม่อยากจะทำให้มันแย่ไปกว่านี้..ผมปลอบไอ้ตัวแสบไปนิดหน่อย...แล้วผมก็ทนไม่ได้ต้องไปคว้าบุหรี่ในห้องผมออกมา

ผมไม่ได้สูบมันมาเลยตั้งแต่..ผมเริ่มคุยและจริงจังกับไอ้ตัวแสบ เพราะว่ามันแพ้..ผมเดินออกไปสูบที่ระเบียง..เพื่อลดความตึงเครียดในใจผม..ตอนนี้เราทั้งคู่น่าจะส่างเมากันแล้วครับ...ผมเลยเดินไปหยิบเบียร์เย็น ๆมาดื่มอีกซักกระป๋องเผื่อว่า มันจะลดความกังวลใจของผมไปได้บ้าง...

แล้วผมก็ต้องยอมรับกับความจริงที่ว่า..ผมเคย เป็น “รับ” มา ก่อน
ด้วยความที่ผมเป็นพวกอยากลองอยากรู้ในสมัยหนุ่ม ๆ ผมก็เคยมาแทบจะทุกแบบของความสัมพันธ์..อาจจะ เพราะไปอยู่เมืองนอกด้วยมั้งครับ...เลยทำให้ผมปล่อยกายปล่อยใจไปได้ง่าย ๆ แต่หลังจากผมกลับมาจากเมืองนอก...ผมก็ละทิ้งความเป็น playboy เจ้าชู้ ออกหมดเพื่อกลับมา สร้างชีวิตใหม่เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไทย

ผมนิ่งอยู่นาน คิดอยู่หลายตะหลบว่า..ถ้าเป็นอย่างงั้นผมก็คงต้องยอมไอ้ตัวแสบมัน...เพราะใจผมตอนนี้ไม่พร้อมเลยว่า ถ้าวันพรุ่งนี้ไม่มัมัน..แล้วผมจะอยู่ยังไง

ผมเดินกลับเข้าไปในห้องแล้วก็ยังเจอไอ้ตัวแสบมันนั่งเหม่อลอยอยู่ที่เดิม ด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า...ผมเดินไปพยุงมันออกมาแล้วนั่งที่ห้องนอน แล้วผมก็ไปหยิบเบียร์มาให้มัน...

ผมถามมันไปตรง ๆเลยครับว่า..มันรู้สึกยังไงกับผมกันแน่

เขม : บีคับ...พี่จะไม่อ้อมค้อมนะครับ (เสียงผมนิ่งมาก)

ไอ้ตัวแสบหันมามองหน้าผมแล้วพยักหน้า..

เขม : บีครับ..บีรักพี่ไม๊

ไอ้ตัวแสบก้มหน้า..แล้วก็พยักหน้าเป็นคำตอบ

เขม : บีครับ..บีเป็นแฟนพี่ได้ไม๊ครับ

ไอ้ตัวแสบเงยหน้าขึ้นมามองผมอย่าง งง ๆ แล้วก็ตอบว่า

ไอ้ตัวแสบ : พี่เขมครับ...ผมขอให้พี่เป็นแฟนผมได้ไม๊

ผมทำพยักหน้าแล้วยกเบียร์ขึ้นชนกับไอ้ตัวแสบของผมแล้วผมก็ดื่มหมดในรวดเดียว

ไอ้ตัวแสบน้ำตาไหลอีกแล้วครับ...ผมเนี่ยไม่กล้าจะสบตามันเอามากๆเลยครับ..แววตาของมันเนี่ย..ผมเพิ่มจะเคยสังเกตดี ๆว่ามันเต็มไปด้วยความอ่อนโยน..และความห่วงใย..ผมเห็นแล้วผมก็อดไม่ได้ที่จะ...ก้มไปจูบมัน

เขม : อ่าวแล้วพี่ถามทำไมยังไม่ตอบเลย

บี : ครับ...ผมอยากเป็นแฟนพี่ครับ พร้อมกับยกเบียร์ขึ้นมาดื่มจนหมดเหมือนกัน

ผมไม่รอช้า...จูบมันอย่างรุนแรง...ผมรู้ว่ามันคงจะงงมากกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น...ผมใช้ความชำนาญในการรบของผมปลุกไอ้เจ้าบีน้อยและไอ้เจ้าเขมน้อยของผม ขึ้นมาได้ไม่ยาก...ผมกำลังนอนทับมันอยู่ด้านบนครับ..ผมจับมันตรึงแล้วไซร้คอลงมาเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ที่บีน้อย ขนาดของมันไม่ใหญ่มาก...ผมเผลอปล่อยยิ้มออกมาแล้วไอ้ตัวแสบก็เห็น...ไอ้ตัวแสบหลบสายตาของผมทันทีที่ผมสบตามัน

จับมันตรึงอีกครั้งเพื่อจะถามคำถามสุดท้ายกับมัน
เขม : บีคับ...ถ้าพี่ให้บีเอาแล้ว...สัญญากับพี่ได้ไม๊ว่าจะไม่ทิ้งพี่

ไอ้ตัวแสบทำหน้าตกในสุดขีด...แล้วมันก็ยิ้มออกมาพร้อมทั้งพยายามลุกขึ้นมากกระซิบข้างหูผม

ไอ้ตัวแสบ : ไม่ทิ้งแน่นอน..ถึงไล่ก็ไม่ไป

จากนั้นผมก็ทำการใส่ถุงยางให้เจ้าบีน้อย... ผมยังทำการคุมเกมอยู่ด้านบน..เนื่องจากผมไม่ได้ทำแบบนี้กับใครนานมากแล้ว..ผมจึงไม่อยากให้ผมเจ็บตัวมาก
ผมค่อย ๆสอดเจ้าบีน้อยเข้าไปในตัวผม มันแน่นมาก ถึงขนาดของมันจะไม่ใหญ่มากก็ตามแต่ผมก็รู้สึกได้ถึงว่า ผมจะรับมันไม่ไหว บีเคลื่อนตัวขึ้นมาเพื่อจูบผมเพื่อคลายความเจ็บ...มันช่วยได้มากครับ...แล้วบีน้อยก็เข้าไปจนสุด...ผมหายใจถี่รัวมาก...ผมบอกให้บีหยุดเคลื่อนไหวก่อนเพื่อให้ผมปรับสภาพ

บี : พี่เขมครับ...ผมเสียวมากเลยครับ

เขม : อูย...อย่าเพิ่งขยับนะ..พี่จุก

บี : พี่เขมครับ..ผมรักพี่เขมมากนะครับ...พี่เป็นของผมนะ

เขม : โอยยย..บีครับ..ค่อย ๆนะครับ

บีเริ่มขยับตัวอย่างช้า ๆ...ผ่านไปไม่นาน..ความเจ็บปวดก็เริ่มหายไป...เป็นความเสียวกระสันเข้ามาแทนที่...ผมยังคงอยู่ด้านบนมอบความสุขให้บีอยู่และผมก็มีความสุขไปพร้อม ๆ กัน

บีลุกขึ้นแล้วเปลี่ยนท่าโดยผมไม่ได้ตั้งตัว...โอยยบีคับ...พี่เสียวครับ
ไอ้ตัวแสบของผมมันเริ่มจะออกลาย..มันค่อย ๆ เริ่มจะเปลี่ยนท่าที่มันถนัดเพื่อจัดการผม..ซึ่งผมในขนาดนี้ ต้องยอมมันอย่างเดียวแล้วแหละครับ ... ความเสียวทำให้ผมแทบจะลืมไปเลยครับว่าตอนนี้ผมอยู่ในท่าไหน ไอ้ตัวแสบของผมเร่ิมเร่งเครื่อง เสียงของเราดังไปทั่วทั้งห้องเป็นเสียงร้องของเราและเสียบกล้ามเนื้อที่กระทบกัน
มันทำให้ผมเสียวขึ้นมาเกือบถึงจุดสุดยอมในทันที..
เขม : โอยบีครับ...พี่ไม่ไหวแล้วนะครับบี...ทำไมบี.เย.เก่งอย่างงี้ครับ...โอยยยย

ผมเผลอพูดออกมาด้วยความลืมตัว

บี : พี่เขมคับ...ผมจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน...โอยยพี่เขมครับ

แล้วเราสองคนก็เสร็จพร้อมกัน...ผมนอนแผ่แล้วไอ้ตัวแสบก็ยังนอนทับผมอยู่...ผมแสบไปหมดในช่วงล่าง

ไม่คิดเลยว่า..ไอ้ตัวแสบจะเป็นคนที่ได้ผมแทน..แต่ที่แน่ ๆ ผมจะต้องเอาคืนครับ

ผ่านไปซักพักเมื่อเราล้างตัวกันเสร็จไอ้ตัวแสบของผมก็เข้ามากอดผมอย่างที่มันชอบทำครับ..มันเข้ามากอดผมจากด้านหลังแล้วเอาคางของมันมาวางที่ไหล่ผม...ผมบ่นมัน

เขม : นี่..เราอ่ะ..สัญญากับพี่แล้วนะ..ได้พี่แล้วอย่าทิ้งพี่

บี : ครับ..ผม ผมจะไม่ทิ้งพี่เขมไปไหนครับ..ถึงไล่ก็ไม่ไป

ผมยิ้มแล้วมองผ่านมันที่กระจกเป็นคำตอบ...แล้วผมก็หันมันจูบกับมาอย่างอ่อนโยน...ไอ้ตัวแสบก็พูดขึ้นมา

บี : พี่รู้ไม๊ทำไมผมถึงชอบกอดพี่ท่านี้...?

เขม : ทำไมอ่า..อย่าบอกว่าเพราะพี่เตี้ยกว่า..เด๋วกัดแก้มหลุด

บี : ไม่ใช่ต่างหาก...เพราะผมกอดพี่ท่านี้แล้วแขนผมกับคางผมมันวางได้พอดีต่างหาก

เขม : งั้นก็อย่าไปกอดใครอีกหละ

บี : ครับแฟน...(มันยิ้มออกมาหน้าชื่นตาบาน)
แน่สิ..ก็ได้กรูไปแล้วหนิ...ฟินเลยสิไอ้ตัวแสบ

เขม : บีครับ..พี่ถามจริง ๆ บีไม่เคยเป็นรับเลยเหรอ

บี : ใช่คับพี่...

เขม : งั้นถ้าพี่ขอบ้าง...บีจะให้พี่ได้ไม๊

ไอ้ตัวแสบเงียบ...แล้วก็มุดหน้าของมันลงไปที่หลังผม
...แล้วพยักหน้า...

เขม : แล้วถ้าตอนนี้เลยหละจะได้ไม๊....

บีทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผี...มันถลึงตาเบิกกว้างแล้วมองลงไปที่เขมน้อยของผม...ซึ่งตอนนี้มันกำลังจะกลายร่างอีกครั้ง

บี : เฮ้ย..พี่เขม ไม่เหนื่อยบ้างเหรอฟระ

เขม : พูดแล้วกลับคำได้ไงหละ...มานี่ซะดี ๆ

ผมจับบีนอนอย่างนุ่มนวล คอยใช้จมูกอันเป็นสันของผมลากยาวไปตามผิวขาวของบี...มันเป็นสิ่งที่ผมปรารถนาเป็นอย่างมาก..ผิวสัมผัสบนเนื้อของบีช่างนิ่มนวลอะไรขนาดนี้..มันทำให้ผมต้องกลืนน้ำลายเลยทีเดียวครับ
ผมเอื้อมมือไปเอาถุงยางและเจล มาทางด้านหลังของบี...มันทำให้บีเสียวสะดุ้ง...ผมบอกบีไปว่า

เขม : อย่าเกร็งสิครับ...มันจะเจ็บ ๆหน่อยนะ

ผมใช้นิ้วของผมนำทางเข้าไปก่อน...บีเริ่มร้องออกมาไม่เป็นคำแล้วบีก็จับมือผมไว้แน่น เชิงบอกว่าให้หยุดก่อน

บี : พี่เขมครับ..ผมไม่เคยเลยนะครับ..พี่เป็นคนแรกของผมนะครับ

มันยิ่งทำให้ผมถนุถนอนในตัวของบีมากขึ้น..ผมถือเป็นคนแรกในการล่วงล้ำมาในที่แห่งนี้ของบี

ผมทำอย่างเบามือที่สุด...เท่าที่ผมจะทำได้...ความเจ็บปวดดูจะยังไม่คลายไปจากทางด้านหลังของบี...ผมจึงจูบเค้าเพื่อเพิ่มความแน่ใจให้กับบี

บีครับ..พี่จะเริ่มแล้วนะครับ...ผมเอามือของบีมาจับที่น้องชายของผม เพื่อให้เค้าคุ้นเคย...บีบอกออกมาด้วยเสียงสั่น ๆ

บี : มันใหญ่ขนาดนี้ผมจะตายไม๊เนี่ย

ผมหลุดหัวเราะออกมาแล้วก็บรรจงจูบเพราะลดความกังวัล

เขม : ไม่ตายหรอกครับ...มีแต่จะฟิน

ผมเริ่มโดยการเอาหัวเข้าไปก่อน...บีดิ้นแล้วร้องออกมาไม่หยุด..ผมเริ่มจงสงสารไอ้แสบของผมแล้วสิครับ...

ผมถามไปว่าบีไหวไม๊...อยากให้ผมหยุดก่อนไม๊...บีเอาแต่ส่ายหัว

ผมเรยทำต่อ...ในที่สุด ไอ้เจ้าน้องชายผมมันก็เข้าไปได้ครึ่งนึงแล้วครับ...มันแน่นมากกก...แน่นแบบที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน..นี่สินะคงจะเป็นครั้งแรกของไอ้ตัวแสบของผมจริงๆ

ผมไม่ดันทุรังพยายามเอาเข้าไปเพิ่ม แต่กลับดึงเข้าออกอย่างช้า ๆเพื่อให้ความเจ็บที่มันได้รับเริ่มลด

แล้วบีก็ครางออกมา...ตัวสั่นด้วยความเสียว

บี : พี่เขมครับ...ผมเสียวเหลือเกิน...โอยยยยย ของพี่เขมอันใหญ่มากเลยครับ...

เขม : พี่จะเริ่มแล้วนะครับ...

บี : โอยย...พี่ครับ...อย่า.....หยุดครับ..โอยยย....ซี๊ดดดดด
พอผมได้ไฟเขียวจากบี...ผมก็เริ่มดันเข้าไปเยอะขึ้นและแรงขึ้น..บีร้องออกมาแต่ชื่อผม..ทำให้ผมไม่สามารถหยุดได้...ผมชอบฟังมากที่สุดเวลาการมีอะไรกันคือการเรียกชื่อซึ่งกันและกันเนี่ยแหละครับ
ผมเริ่มเร่งเครื่องเพื่อให้บีถึงจุดให้ไวขึ้น...แล้วบีก็ร้องออกมา

บี : พี่เขมครับ...ผมเสียวมากเลยครับ...จะไม่ไหวแล้วนะครับ
   โอยยยย..พี่เขม..ทำไมพี่เ_ดได้เสียวขนาดนี้ครับ

พอผมเริ่มเห็นบีใกล้จะเสร็จผมจึงจับน้องชายบีแล้วชักเต็มแรง

แล้วน้ำของบีก็กระฉูดออกมาเลอะไปถึงคอบีซึ่งนอนอยู่
ผมเห็นภาพนั้นแล้วสติผมก็กระเจิง..เป็นภาพที่เรียกความหื่นกระหายในตัวผมได้อยากมาก...ผมก็เร่งเครื่องเต็มที่...แล้วผมก็ชักออกมาจากตัวบี...ถอดถุงยางแล้วชักน้องชายผมอย่างแรง...ผมปล่อยน้ำออกมาท่วมตัวของคนที่นอนอนอยู่...เหงื่อของพวกเราทั้ง 2 คนท่วมตัวไปหมด..ผมเห็นว่าเลือดออกบีออก...ผมจึงรีบไปหยิบทิชชู่มาซับไว้แล้วก็ทำการเช็ดทุกอย่าง...บีเหมือนจะไม่มีเรี่ยวแรงจะเคลื่อนไหวตัวเอง...ผมอุ้มบีไปในห้องน้ำแล้วทำการล้างให้อย่างสะอาด...ผมเช็ดตัวดูแลอย่างดี..ส่วนบีนั้นน่าจะหมดพลังไปแล้วนอนหลับไม่รู้เรื่องเลย

ผมก็แทบจะไม่มีแรงเหลือที่จะทำอะไรอีกแล้ว...แล้วเราก็นอนหลับข้างกันจนถึง...........


…บ่าย 3 โมง...ของวันต่อมา

เนื่องจากม่านไม่ได้ถูกเปิดเลย...ม่านของห้องผมเป็นแบบ black out คือมืดสนิทเลยครับ...ไม่มีแสงใด ๆลอดเข้ามาได้
ผมเห็นบีนอนนิ่งอยู่ข้าง ๆ ผมจับตัวเขา..ตัวเขา ตัวเขาร้อนเหมือนจะมีไข้..ผมตกใจอย่างมากเนื่องจากรอยช้ำตามตัวของบีน้ันเยอะเหลือเกิน...ทำไมใครทำอะไรแฟนกรูขนาดนี้ฟระ...(ก็ฝีมือมึงไง..จะใครเล่า)

ผมโทรไปสั่งอาหารมาแล้วก็เตรียมให้บีกินยาแก้ปวด

บีตื่นมาด้วยความสะโหลสะเหล..ผมถามว่า

เขม : บีคับ..เป็นไงบ้าง เจ็บตรงไหนไม๊

บี : พี่เขมครับ...ถ้าจะบอกว่าเจ็บทุกตรง...จะเวอร์ไปไม๊

ผมทำให้ยอมรับผิด..แล้วก็ได้รับยิ้มจากบีนิดหน่อยแล้วผมก็ป้อนข้าวต้มให้บีกิน

บี : พี่เขม..บีกินเองก็ได้นะ

เขม : ก็พี่อยากดูแลหนิ

บี : ผมก็อยากดูแลพี่เหมือนกัน...เมื่อคืนไม่ใช่ว่าผมไม่ได้ทำพี่

เขม : โอย...อันแค่นั้น..จะไปเจ็บอะไรมาก

บี : แค่นั้นแล้วเสียวไม๊หละ...(พร้อมทำหน้างอนใส่ผม)...

เขม : ก็ดีนะ...แล้วของพี่หละ...เสียวไม๊

บี : “หึ...เจ็บจะตาย”...

เขม : แล้วใครนะบอกพี่อย่าหยุด ๆ ๆ ๆ

ไอ้ตัวแสบหน้าแดงแล้วเอาหน้ามามุดที่อกผม...แม่งน่ารักชิบหายเลย

เขม : ต่อไปนี้เราห้ามทิ้งกันแล้วนะ

บี : ครับพี่...ผมจะรักและซื่อสัตย์ต่อพี่คนเดียวเท่านั้น

เขม : นี่ขอพี่แต่งงานเลยป่ะ

บี : เป็นแฟนให้รอดก่อนไม๊

เขม : ก็เราเป็นของกันและกันแล้วหนิ..ไม่มีใครได้ แล้วก็ไม่มีใครเสีย จริงไม๊...ตะเอง

บี : ไม่จริง...ผมสิเสีย

เขม : ยังไง

บี : ก็พี่เป็นคนแรกของผมนะ...นี่ก็เรียกว่า “เปิดซิง”

เขม : โหยยยย...พิเศษมากกกกกก

ไอ้ตัวแสบทำท่าจะตีผมแต่ก็ขยับตัวไม่ค่อยจะได้...ตอนนี้มันดูเหนื่อยมากครับ...ผมให้มันกินข้าวแล้วก็กินยา และกลับไปนอนต่อ..

To be continued

ป.ล. ไปยังไงกันบ้างครับ ใครทายถูกบ้างว่าใครอยู่ตำแหน่งไหน
พี่เขมมีความร้ายกาจ ยอมก่อนเพื่อให้ได้ทีหลัง
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ...เขียนเรื่องแรกไม่คิดเลยว่าคนอ่านจะเป็นพันแล้ว ปลื้มใจมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ผิดพลาดประการใดติชมได้เลยนะครับ...ขอบคุณจริง ๆ สำหรับทุกคนที่ตอบกระทู้ ทำให้กำลังใจคนเขียนมีเยอะขึ้นเป็นกองเลยครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 20.00 (NC20+ คืนที่เขมรอมานาน) P.2 (26-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 26-09-2017 19:47:48
 :m25:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 20.00 (NC20+ คืนที่เขมรอมานาน) P.2 (26-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 26-09-2017 19:49:38
เขินนน :-[ :-[
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 20.00 (NC20+ คืนที่เขมรอมานาน) P.2 (26-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 26-09-2017 20:29:22
ก็แฟร์ๆ ดี ถ้าไม่คิดถึงขนาดที่มันไม่เท่ากันนะ 55
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 20.00 (NC20+ คืนที่เขมรอมานาน) P.2 (26-09-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 26-09-2017 20:46:24
มีความสุขกันทั้งน้องบี  และพี่เขม
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 21 จุดเดือด Boiling point
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 27-09-2017 20:50:27
ตอนที่ 21 (จุดเดือด Boiling point)

หลังจากที่ผ่านสงครามรักเมื่อคืนมา...(ให้พี่เขมเป็นคนเล่าแหละดีแล้วครับ...ผมนี่เจ็บสุด ๆ)
ชีวิตของเราทั้งสองก็กลับเข้าไปสู่ช่วงแห่งการชดใช้กรรมครับ..บินวนไปข่าาาาาาา

วันนี้เป็นวันที่เรานัดจะไป เดทกันครับ...วันที่ 24 สิงหาคม

ผมจำวันนี้ได้แม่นเลยครับ..พอดีว่าผมเนี่ยบินแล้วลงมาเร็ว ผมจึงอยากจะไป surprise พี่เขมซักหน่อย...ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวันแล่ว...(จริง ๆ ก็ไม่นานมากนะครับ..แต่เหมือนนาน เพราะคนมันคิดถึง)

ผมจึงจะไปดักรอพี่เขมอยู่ที่คอนโด...พี่เขมไปบินน่าจะกลับมาถึงคอนโดไม่เกิน 4 โมงครับ...ผมหาผลไม้เบา ๆ ไปให้พี่เขมกินก่อนไปกินข้าวเย็นวันนี้..ผมก็ขับรถไปถึงตั้งแต่ 3 โมงกว่า ๆ นั่งรอพี่เขมอยู่ในรถครับ...ผมได้ที่จอดดีมากกกก จอดตรงทางขึ้นของคอนโดพอดีเลย

ผ่านไปซักพักผมก็เห็นเหมือนคนรู้จักเดินผ่านไป...อ้าว... เฮ้ย..น้องเจ นี่หว่า...ผมทำอะไรไม่ถูกเลยครับ...รีบหลบทั้ง ๆ ที่ รถผมฟิล์มดำมากกก..ซักพักผมก็เห็นพี่เขมครับลงมาเปิดประตูให้น้องเจ...ผมก็งง เอ๊ะ...พี่เขมไปบินไม่ใช่เหรอฟระ..แล้วยังไงกลับมาตอนไหน แล้วอะไรนัดน้องเจ เหรอ...เลือดผมเริ่มขึ้นหน้า...ความหึงเข้าครอบงำ..แม่งวันนี้เรานัดเดทกันไม่ใช่เหรอฟระ แล้วนี่อะไร..มานัดเจอน้องเค้าก่อนไป..มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ

ผมลงจากรถเดินไปที่หน้าประตู...แต่ก็เข้าไม่ได้..ทำไงดี ผมเลยโทหาพี่เขม...แต่พี่เขมปิดเครื่อง..ผมยืนกระวนกระวายใจอยู่หน้าคอนโดพี่เขม...แล้วนางฟ้าก็มาโปรด..พี่ตาลก็เดินมาทักพอดี

พี่ตาล : ไง..น้องบี มารอไอ้อ้วนเหรอ
บี : ครับพี่...พี่มาหาพี่เขมเหมือนกันเหรอครับ..

พี่ตาล : ใช่ ๆ แต่ทำไมโทรหามันไม่ติดก็ไม่รู้ มันเป็นคนบอกให้พี่มาหาเองเลยนะเนี่ย...

บี : เหรอครับพี่..(ผมลังเลที่จะบอกว่าผมเห็นอะไร)

พี่ตาล : เด๋วมันก็คงลงมาแหละ..มันเรียกพี่มาอยู่เป็นเพื่อนมันหน่อย ไม่รู้เป็นอะไร..ถามอะไรก็ไม่ตอบ

บี : งั้นผมฝากของให้พี่เขมหน่อยได้ไม๊ครับพี่ตาล

พี่ตาล : อ่าวไมหละ...ไม่รอเจอมันก่อนเหรอ อุตสามาแล้ว

บี : สงสัยพี่เค้าคงจะไม่ค่อยอยากเจอผมมั้งครับ...

พี่ตาล : อ่าวเป็นไรหละ..ทะเลาะกันเหรอ

บี : ป่าวครับพี่...(ผมถอนหายใจ..)

พี่ตาล : มีอะไรก็บอกพี่ได้นะ..พี่จะจัดการไอ้อ้วนมันให้

บี : เมื่อกี้ผมเพิ่งเห็นพี่เขมลงมารับน้องเจอ่ะครับ

พี่ตาล : เฮ้ย..จิงดิ..ผิดคนป่าว

บี : อาจจะตาฝาดไปเองก็ได้ครับพี่..ยังไงผมฝากผลไม้นี่ให้พี่เขมหน่อยละกันนะครับ

พี่ตาล : ไม่อยู่เคลียกับไอ้อ้วนก่อนเหรอ

บี : ..ผมว่า..ผมกลับก่อนดีกว่าครับ..

พี่ตาล : งั้นเดี๋ยวพี่ดูให้ละกัน..

ผมรีบเดินออกมาจากหน้าคอนโดพี่เขม..แล้วก็ขับรถกลับคอนโดผมโดยทันที...ผมไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น..ทำไมพี่เขมถึงต้องโกหกผม ทำไมพี่เขมถึงต้อง เจอกับน้องเจอีก..แล้วทำไมต้องมาในวันที่เรานัดกัน..มันเหมือนกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรานั้นมันเป็นเพียง การกระทำชั่วข้ามคืน..ที่ไม่ได้มีการผูกมัดใด ๆ

ถ้าพี่เค้าแค่อยากจะเล่น ๆ ทำไมต้องมาให้ความหวังผมขนาดนี้ด้วย ถ้าพี่เค้าตัดขาดจากน้องเจไม่ได้..ทำไมต้องมาให้ความหวังผม

เดชะบุญ...แล้วอีเปรี้ยวก็โทรมา...คนที่จะให้คำปรึกษาและระบายความเครียดของผม..

บี : เมิง....กรูเครียด...แล้วผมรัวใส่อีเปรี๊ยวเป็นชุด ไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับการที่มันโทรมาหาเลย

เปรี๊ยว : อิสัส..กรูจะโทมาถามว่าเห็นคีย์การ์ดกรูไม๊แต่ดูท่าเมิงจะไม่เห็นสินะ

บี : ทำไงดีเมิง...

เปรี๊ยว : หาคีย์การ์ดให้กรูก่อนดิ

บี : อีสัสเมิงชอบเน็บไว้ในรถนั่นแหละข้างล่างมีไม๊....แถว ๆ ประตูรถเมิงง่ะ

เปรี๊ยว : กรูหาท่ัวรถแล้ว..เนี่ยกรูนั่งอยู่ในรถ

บี : แล้วข้างบนมีไม๊..กรูเห็นเมิงชอบเน็บไว้ที่บังแดด

เปรี๊ยว : กรี๊ด....อีห่าลาก...เมิงเหมือนมีตาทิพย์ อีห่ารู้ได้ไง..กรูหาเจอแล้ว....

บี : อ่า ๆๆๆ มาช่วยคิดเรื่องกรูดิ๊...กรูทำไงดีฟระ

เปรี๊ยว : ถ้าเป็นกรู..กรูจะไปดักเจอแม่งทั้ง 2 คนแล้วถามแม่งตรง ๆเลย...กรูไม่ชอบความหนังอินเดีย..วิ่งตามกันไปมา แม่ง กว่าจะเคลียได้...ลูกบวชแล้ว..เสียเว..

บี : เอางั้นเลยเหรอเมิง...กรูควรไปเจอ เอาให้รู้ไปเลยใช่ป่ะ

เปรี๊ยว : นี่กรูเดานะ..ว่าเป็นเมิงเนี่ย..ก็จะหนี ขับรถกลับคอนโดไปนอนร้องไห้...อีนางเอก...อีแดกน้ำส้มคั้น..อีกสวยผมยาว...เมิงไปวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ไป นี่มันสมัยไหนแล้ว..เมิงก็ต้องบอกให้เค้ารู้ไปว่า จุดยืนเมิงคืออะไร

บี : สัส...ด่าซะกรู ไปไม่เป็นเลย...เออ กรูไม่ไหวละ...

ผมรีบตีโค้งกลับรถ fast and furious 8 กลางซอยทองหล่อแล้วก็พุ่งเข้าไปที่คอนโดพี่เขมอย่างทันที...ยังไงก็ต้องเจอกรูร่างโหดหน่อยหละ...แม่งวันนี้นัดกรูแต่นัดเจอชู้รักเก่างั้นเหรอ เด๋วแม่งแจกตีนให้แดกกันทุกคนคอยดู

พอถึงหน้าคอนโด..ยิ่งตอนบ่าย 3 เกือบ 4 โมงแล้ว อากาศยิ่งร้อนระอุ..ยิ่งทำให้เลือดผมมันเดือดเพราะความหึงหวง

ผมลงจากรถไปรอพี่เขมหน้าคอนโด..ผมพยายามทำสมาธิ นับ 1 ถึง 10,000 แต่จิตใจก็ยังไม่เย็นลงเลยซักนิด

พอเห็นพี่เขมแล้วก็น้องเจออกจากลิฟท์มาแล้วก็ตามมาด้วยพี่ตาล

พี่เขมเห็นหน้าผม...พี่แกทำหน้าตกใจรีบวิ่งมาเปิดประตูคอนโดเลยทันที...แต่หน้าคนที่ตกใจยิ่งกว่านั้นคือน้องเจ..

ผมพยายามทำหน้านิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้...หายใจลึก ๆ แล้วยกมือ “ปางห้ามญาต” ให้กับพี่เขม..พี่แกทำหน้าเหวอไปเลย แล้วผมก็เดินเข้าไปคุยกับน้องเจ

บี : น้องเจครับ...พี่จะไม่พูดอะไรมากนะครับ..

น้องเจ..ตกใจหน้าซีด..ก้มหน้า ไม่มองหน้าผม
พี่ตาลตกใจเดินมาจับไหล่ผมไว้...ผมพยักหน้าให้กับพี่ตาล แล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ อีกที

บี : พี่เขมเป็นแฟนพี่ครับ...ถ้าไม่จำเป็นพี่ขอร้อง อย่ามายุ่งกับแฟนพี่ครับ...

ผมจ้องน้องเจ..ด้วยสายตาที่เย็นชาและอาฆาต พูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบที่สุดเท่าที่จะทำได้
แล้วน้องเจก็เดินจากไป...ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่าน้องเจถือของอะไรซักอย่างอยู่ในมือ...แล้วผมก็หันหน้าทันทีไปหาพี่เขม

พี่เขมกำลังทำหน้าอึ้งมากกก...เพราะสีหน้าของผมตอนนี้..มันโหดมากครับ แทบจะกินพี่เขมได้เลยทั้งตัว

แล้วพี่เขมก็ปล่อยขำออกมา...พี่ตาลคนที่ยืนจับไหล่ผมก็พยายามกลั้นหัวเราะอย่างสุด ๆ เอามือปิดปาก

พี่เขม : นี่เรา...หึงแรงไปไม๊เนี่ย

บี : จะให้บีคิดยังไง..แลนแล้วก็ไม่โทรมา..โทหาก็ปิดเครื่อง..แล้วผมก็มาเจอพี่เดินเข้าคอนโดไปกับน้องเจ

พี่ตาลแทรกขึ้นมา... “ไอ้อ้วนมึงตายแน่..กรูไปก่อนนะ”

ผมยกมือไหว้พี่ตาลแล้วพี่ตาลก็เดินมะกระซิบข้างหูผม...ยำให้เละ อย่าให้เหลือซากเลยนะน้อง

พี่เขมเหมือนจะได้ยิน...ทำหน้ามุ่ยใส่พี่ตาล..เรียกร้องความช่วยเหลือ

บี : พี่เขม..พี่จะอธิบายว่ายังไง

พี่เขม : เราขึ้นห้องไปก่อนไม๊..ยืนเถียงตรงนี้..จะดีเหรอ

บี : เออ..ก็ได้

พอเปิดเข้าถึงห้องพี่เขม...พี่เขมก็สวมกอดผมเลยทันที

บี : นี่พี่เขม...คุยกันให้รู้เรื่องก่อน

พี่เขม : คุยไปด้วยกอดไปด้วยไม่ได้เหรอ

บี : ไม่ได้...(ผมทำเสียงดัง)

พี่เขมกอดแน่นขึ้นแล้วบอกว่า...ทำไมหึงแรงจังฟระ

พี่เขมเล่าว่า พี่เค้าให้น้องเจมาเอาของที่เคยทิ้งไว้ในห้องพี่กลับไป เพราะตอนนี้พี่คบกับบีแล้ว..มันจะไม่ดีถ้าบีมาเห็น แล้วพี่ก็เรียกไอ้ตาลมาอยู่ด้วยเป็นพยาน เพื่อป้องกันการผิดพลาดใด ๆ
ที่พี่กลับมาได้เร็วก็เพราะ..วันนี้เครื่องที่ไปบินเสีย..เลยได้กลับบ้านก่อนเวลา..แล้วโทรศัพท์ก็ช๊าตอยู่ ปิดเครื่องไว้จะได้เต็มเร็ว ๆ

ผมถึงกับอึ้ง..อาย..เสียหน้า..หน้าแตก..แม่งทำอะไรลงไปฟระ

พี่เขม : ทีนี้ให้กอดได้รึยัง?...

บี : ห้องนี้มันร้อนเนอะพี่เขม...เร่งแอร์หน่อยไม๊

พี่เขม : อากาศเด๋วนี้มันเปลี่ยนแปลงบ่อย มันเลยทำให้คนเป็นบ้าาา

ผมเดินไปเปิดตู้เย็น เห็นกล่องผลไม้ที่ผมปลอกมาให้พี่เขมกิน เลยหยิบออกมา...ผมเปิดกล่องออกแล้วก็ยัดผลไม้ใส่ปากพี่เขมไป

พี่เขม : บีคับ...หึงพี่มากเลยเหรอ

บี : ก็เออดิ...เป็นแฟนกันไม่กี่วัน..นัดเจอแฟนเก่าซะละ

พี่เขม : เฮ้ย..นั่นไม่ใช่แฟนนะ

ผมกรอกตาใส่พี่เขมแล้วจับผลไม้ยัดใส่ปากไปอีก 1 อัน

พี่เขม : แหม่ ๆ ๆ ๆ แฟนพี่ดูแลดีขนาดนี้ใครจะไปไหนได้

บี : หึ อย่าให้เห็นอีกละกัน

พี่เขม : ค๊าบบบบบบบบ..นี่ให้เค้าเอาของกลับไปหมดแล้วนะ

บี : แปลว่าเคยมานอนด้วยกัน?

พี่เขม : พี่ไม่ปิดบังเลยละกัน...ใช่คับ

ผมไม่อยากจะถามต่อละครับ...ตอนนี้แค่เชื่อใจพี่เขมให้มากก็พอแล้ว

แล้วพี่เขมก็เดินไปเปิดโทรศัพท์...ซักแป๊ปก็ได้ยินเสียงข้อความไลน์เข้ามารัว ๆ

พี่เขมยืนอ่านแล้วก็มีผมยืนป้อนผลไม้ให้กินอยู่...แล้วก็ขำออกมากแล้วยื่นโทรศัพท์ให้ผมอ่าน

ข้อความจากพี่ตาลครับ

น้ำตาล : อีอ้วน..น้องบีแม่ง..โหดสัสเลยหวะ..เจ๋งสุด ๆ ตอนแรกกรูนึกว่าน้องจะขับรถกลับคอนโดแล้วแม่ง..เมิงก็ต้องไปง้อน้องมันละ...แต่แบบกลับมาแล้วพูดแค่ 2 ประโยค จบเลย กรูเห็นยังขนลุกเลยเมิง

เขม : เป็นไงแฟนกรู...สุดป่ะละ...แม่ง ปางห้ามญาติใส่หน้ากรู กรูพูดไม่ออกเลยค๊าบบบบบบบบบบ

ผมอ่านแล้วก็หน้าแดงขึ้นมาทันที..แล้วก็บอกพี่เขม

บี : อายพี่ตาลหวะ...ไม่น่ามาเห็นผมร่างโหดเลย

ซักพักผมก็เดินไปเปิดตู้เย็นหาอะไรกินอีก...พี่เขมเดินมากอดจากด้านหลัง..แล้วชวนผมไป 7-11 ไปซื้อน้ำหาไรกินเบรา ๆ ก่อน เพราะว่าจะถึงเวลานัดที่ร้านอาหาร..แม่งอีกตั้ง 3 ชม.

ก่อนออกจากห้อง..พี่เขมดึงตัวผมมาจูบเข้าอย่างจัง...แล้วก็กระซิบข้างหู

พี่เขม : บีครับ...พี่รักบีนะ..คนอะไร หึงยังน่ารักเลย

บี : ไอ้พี่เขมบ้า...(แล้วผมก็เอาหน้าผมซุกไปที่คอของพี่เขม)

ผมตอบกลับด้วยจูบอันเร่าร้อน...แล้วเราก็.....ไม่ได้ออกไป 7-11 จับมือกันเดินขึ้นเตียงไปเลยซะงั้น...ต้องออกกำลังกายก่อนไปทานอาหารเย็นครับ..เราเลยพากันไปทำกิจกรรมเข้าจังหวะก่อน

ครั้งนี้..ผมตกเป็นเมียของพี่เขมอย่างจริงจัง..และช่วยไม่ได้..เพราะแรงพี่แกเยอะกว่า แล้วพี่เขมก็บอกว่า นาน ๆทีพี่คงจะยอมบีได้นะครับ...แต่ถ้าแบบปกติ พี่ขอได้ไม๊

ผมก็ตอบตกลงครับ...เพราะ “ผมรักพี่เขม”

สรุปว่า วันนั้นเราได้ลงไปแค่กินก๋วยเตี๋ยวหน้าคอนโดพี่เขมแล้ว..เดินไปกินเบียร์ต่อที่ข้าง ๆ คอนโดครับ

ผมกลับเห็นว่าวันนี้มันเป็นวันที่พิเศษกว่าปกติโดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปที่ร้านอาหาร หรู ๆ ดินเนอร์ แพง ๆ แต่การใช้ชีวิตแบบปกติของเราให้มีความสุขต่างหาก ถึงจะเป็นสิ่งที่ เป็นความสุขที่ยาวนาน

พอกลับมาถึงที่คอนโดพี่เขม..ผมก็นั่งเล่นคอมของพี่เขมไปพราง ๆ ผมเปิดเข้าหน้าเฟสบุ๊กของผมแล้วผมก็ไปอาบน้ำครับ

แล้วหน้าเฟสของผมก็มีข้อความเด้งขึ้น...ซึ่งคนที่อ่าน ไม่ใช่ผม แต่เป็นพี่เขมครับ

น้องเอส : พี่บีครับ..ไม่ได้บินกับพี่บี นานจังเลย คิดถึงครับ

ข้อความนี้แหละครับ..สร้างความ มาคุ โดยที่ผมไม่รู้ตัวมาก่อนเลย


To be continued…


ป.ล. ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต่าง ๆ เริ่มเห็นบีแปลงร่างแล้วนะครับ...มันโหดไม่ใช่เล่น
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 21 จุดเดือด Boiling point P.2 (27-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 27-09-2017 21:22:51
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 21 จุดเดือด Boiling point P.2 (27-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 27-09-2017 22:30:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 21 จุดเดือด Boiling point P.2 (27-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 27-09-2017 22:40:04
หึงโหดแต่ดีแล้วที่กลับมาคุยกัน รอดูพี่เขมหึงบ้างอิอิ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 21 จุดเดือด Boiling point P.2 (27-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 28-09-2017 03:51:48
สองคนนี้ ผลัดกันได้ทุกเรื่อง
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 22 LIE โกหก
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 28-09-2017 17:43:04
ตอนที่ 22 Lie โกหก

ผมออกจากห้องน้ำมาก็ได้ยินเสียงของพี่เขมที่เปลี่ยนไป

พี่เขม : บี..น้องเอสคือใคร?...(พี่เขมถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบแต่เปี่ยมไปด้วยความน่าสยอดสยอง)

บี : เอสไหนอ่ะพี่...(ผมยังยืนมึน ๆ เช็ดผมอยู่)

พี่เขม : น้องเอสที่ทักบีในเฟสบุ๊คไง

บี : ไหนอ่ะขอดูหน่อย...(แล้วผมก็ยื่นหน้ามาที่คอม)

พี่เขมทำหน้านิ่งแล้วลุกไปจากหน้าคอม...ทันที

บี : อ๋อ..น้องเอส ที่เป็นเด็กรุ่นใหม่ไงพี่ เพิ่งเข้าได้ไม่นานเอง

พี่เขม : แล้วทำไมต้องคิดถึงกัน?

บี : อ่าว..ก็เคยไปค้างกับน้องเค้าแล้วก็พาน้องเค้าไปเมามาครับ

พี่เขม : แล้วทำอะไรกันอีก

บี : โอ้ย...พี่เขม ไม่มีครับ..ผมจำได้ ผมยังแบกน้องเค้ากลับห้องอยู่เลย...มันเมาไม่ได้สติเลย

พี่เขม : ไปส่งถึงห้องเลยเหรอ...พี่เขมเริ่มทำหน้าเครียด

บี : เป็นอะไรอ่ะพี่...หึงเหรอ?

พี่เขม : ป่าวเว้ย...แค่ไม่ชอบให้ใครมาคิดถึงแฟนตัวเอง

บี : แหม่ ๆ ๆ ๆ เวลาหึงก็หน้ามืดเหมือนกันนะเรา

พี่เขม : อะไรวะ...ไม่ใช่ซะหน่อย

บี : งั้นผมตอบไปว่าคิดถึงเหมือนกันนะ

พี่เขม : อยากเจ็บตัวเหรอ...พี่เขมเดินเข้ามาเริ่มกอดรัดผม

บี : โอยยย..แค่นี้ยังเจ็บไม่พออีกเหรอ..จะไป 7-11 ก็ไม่ได้ไป จะไปกินข้าวเย็นก็ไม่ได้ไป..โดนกระทำชำเราอยู่เนี่ยะ

พี่เขม : ก็ไม่อยากให้ไปง่ะ...ขออีกรอบได้ป่ะ

บี : เฮ้ย..เอาแรงมาจากไหนนักหนาฟระ..โน่น..ลงไปวิ่ง ฟิตเนสโน่นไป..จะได้หายหมกมุ่นบ้าง

พี่เขม : แต่ก็...ไม่ได้บอกว่าไม่ให้หนิเนอะ..(พี่เขมเริ่มไซร้คอผม..ซึ่งเป็นจุดอ่อนของผม)

บี : พี่เขม...ไม่เอา นี่ผมแถบจะไม่มีแรงยืนอยู่ละนะเนี่ย

พี่เขม : ก็นอนให้พี่เอาสิ ไม่ต้องยืน

บี : เฮ้ย..หยุด!!!! ผมตะโกนออกมาทำท่าห้าม

พี่เขมทำท่าตกใจ..นิ่งไปซักพัก

บี : กลับบ้าน...จะกลับบ้านแล้ว..ไม่ไหวแล้ว พอ ๆ ๆ

พี่เขม : ถ้าวันไหนพี่ไม่ทำการบ้านขึ้นมาก็อย่ามาง้อละกัน

บี : ..ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ... ถ้าพี่ไม่ทำเด๋วผมทำเอง

พี่เขม : เฮ้ย..ไม่เอา..ไม่ได้ดิ...

ทีนี้ผมเริ่มวิ่งไล่จับพี่เขมละครับ...บอกพี่เขมว่าของเอาคืนบ้าง..พี่เขมวิ่งหนีออกเข้าห้องน้ำไปเลย...ปิดประตูไม่ยอมออกมา



แล้วผมก็มานั่งหน้าคอม..แล้วก็กดลบข้อความที่น้องเอสส่งมาทิ้งไป

จริง ๆ แล้ว เวลาที่อีกฝ่ายแสดงความหึงหวงก็รู้สึกดีเหมือนกันนะครับ...แต่อย่าให้มันมากไป เด๋วมันจะทำให้ความสัมพันธ์ของเรานั้นไม่มีคำว่า ไว้ใจกัน

ผมเล่นคอมไปเรื่อย ๆ วันนี้ผมต้ังใจจะมานอนกับพี่เขมอยู่แล้วครับ..กะจะ..ทำเรื่องอย่างว่ากันตอนก่อนนอน...ที่ไหนได้..เจอหน้ากันไม่เท่าไหรก็ไปไหนไม่รอดซะแล้ว...

ผมเห็นตั๋วโปรถูกไปญี่ปุ่น...ผมจึงถามพี่เขมไปว่า..

บี : พี่เขมอยากไปญี่ปุ่นไม๊พี่

พี่เขม : เฉย ๆอ่ะ...ไปมาบ่อยละ

บี : แต่ผมอยากไป..ตั๋วถูกมากเลย

พี่เขม : โอย..ไปตอนที่ฤดูที่มันไม่หนาวดิ...ขี้เกียจแบกเสื้อผ้าไปเยอะ

บี : พี่เขม...ผมอยากไปปปปปปปป

พี่เขม : งั้นเอางี้...เราไปหาวันลาพักร้อนให้ตรงกันก่อนแล้วค่อยกลับมาจองก็ได้
.
.
.
เช้าวันต่อมา...ก็มาถึงวันที่ตารางบินของเราทั้ง 2 ออก...

ผมได้วันหยุด 4 วันติดกัน และพี่เขมก็ได้ วันหยุด 4 วันติดกันเหมือนกันและเป็นวันที่ ตรงกันพอดีเป๊ะ...ผมเริ่มสงสัย..ทำไมมันจะอะไรเหมาะเจาะขนาดนั้นเลยเหรอ...

ผมก็เลยถามพี่เขมไปว่า
บี : พี่เขม..ทำไมวันหยุดเราได้ตรงกันเลยอ่ะ

พี่เขม : อ่าว..ได้ตรงกันแล้วไม่ดีรึไง...

บี : ก็ดีครับพี่...แต่แบบว่า เหยยย...ตรงกันไปป่าว แล้วตั้ง 4 วันเลยนะ...มันดูเวอร์มากกกก

พี่เขม : ก็พี่เป็นใครหละ...แล้วใครหละที่บ่นอยากไปญี่ปุ่น

ผมยิ้มแป้นแล้วเอามือชี้หน้าตัวเอง.....พี่เขมก็เอามือมาขยี้หัวผมแล้วจูบเบา ๆ 1 ที

พี่เขม : อย่าไปบอกใครเค้าหละว่าพี่รู้จักกันกับคนออกตารางบิน..(พี่เขมยื่นหน้ามากระซิบ..ทั้ง ๆ ที่ห้องอยู่กัน 2 คน)

บี : พี่พูดจิงดิ..(ผมทำหน้าตกใจมาก..เอามือทาบ อก)

พี่เขม : อ่า...นี่..ของขวัญ

บี : ซองอะไรอ่ะพี่...ดูมีลับลมคมใน

พี่เขม : เด๋ว ๆ ก่อนเปิด..สัญญากับพี่ก่อนว่า จะเป็นเด็กดี

บี : โหย...จะให้ดีขนาดไหนอีกหละค๊าบบบบ

พี่เขม : ก็ดีขนาดที่ว่า...(แล้วพี่เขมก็ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ใส่)

บี : พี่เขม...จะเอาอีกแล้วเหรอ???

พี่เขม : ป๊าวววว..(เสียงสูงมากกกกก) ก็แค่อยากให้รู้เฉย ๆว่าาาาาาาาาาาา......

บี : ว่าอะไรค๊าบบบบ

พี่เขม : ว่าพี่ รัก บี คนเดียวไงคับ

ผมหน้าแดงขึ้นมาทันที...ไม่ว่าจะพูดกี่ที หยอดกี่ที..ผมก็ไม่เคยที่จะรู้สึกเขินน้อยลงเลยครับ..กับผู้ชายคนนี้... พี่เขมเป็นคนที่ผมอยากอยู่ด้วยตลอดเวลา ถึงแม้บางทีจะหื่นไปหน่อย..แต่เวลาอยู่ด้วยกัน..ต้องมีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเราติดกันตลอดเวลา

บี : ผมก็รักพี่เขมมากครับ..
ผมก้มลงไปหอมแก้มพี่เขมฟอดใหญ่...แล้วก็เอาหน้าซุกเข้าไปที่ซอกคอของพี่เขม..ผมได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ จากตัวพี่เขม

บี : พี่เขมหอมจังคับ..(ผมพูดอู้อี้อยู่ในลำคอ)

พี่เขม : เนี่ย...ก็ยั่วพี่ซะขนาดนี้..จะให้พี่อยู่เฉย ๆได้ไงหละ

บี : เฮ้ย..ไม่ใช่ดิ..มะกี้ยังซึ้ง ๆอยู่เลย

พี่เขม : อ่าวเหรอ..นึกว่ายั่วพี่อยู่

บี : สรุปผมเปิดได้รึยัง...

พี่เขม : ยัง...พี่จะขออะไรบีอีกอย่างนึงก่อน

บี : โหย...นี่ยังไม่รู้เลยนะว่าซองอะไร..ทำไมขอเยอะจัง

พี่เขม : จะเอาไม่เอา?

บี : เอาค๊าบ..ของฟรีใครๆ ก็ชอบ

พี่เขม : พี่ขอกุญแจห้องบีไว้ชุดนึงได้รึป่าวคับ...(พี่เขมทำหน้าตาอ้อนวอนสุด ๆ)

ที่จริงแล้ว..ผมตั้งใจทำกุญแจชุดนึงไว้ให้พี่เขมอยู่แล้วครับ..แต่ผมรอทำตัวพวงกุญแจที่สั่งให้เพื่อนไปหาซื้อให้อยู่..ไอ้ตัวกุญแจเนี่ยพร้อมให้นานแล้วแต่ตัวของ พวงเนี่ยสิครับ..แพงหูฉีก...ด้วยความที่ผมเห็นพี่เขมใช้กระเป๋าตังของ.. Bottega ผมก็เลยอยากจะซื้อให้มันเข้าเซ็ทกัน...แต่ก็อยากได้ของถูกเลยให้เพื่อนเปรี้ยวไปเดินหาจากยุโรปให้... อีเปรี้ยวก็บ่นชิบหาย..หูผมนี่ชาไปหมดเลยครับ..ผมเลยต้องยอมเป็นทาสให้อีเปรี้ยว..อุตะ..เพื่อนเปรี้ยว..จิกใช้ได้ตลอดเวลาครับ...แถมยังให้รูดบัตรออกไปก่อนอีกกกกก 55555

ผมก็เลยลังเลที่จะบอกพี่เขมว่าจะให้ครับ...เพราะใจจริง ผมกะจะให้อยู่แล้ว..แต่พอมาเป็นคำขอ..ผมเลยรู้สึกว่า..ผมไม่ได้อยากจะให้พี่เขมขอมันจากผม แต่ผมอยากจะให้พี่เขม เพราะผมอยากจะให้ครับ...ผมใช้เวลาคิดนานมากจนพี่เขมสีหน้าเริ่มเปลี่ยนไป

พี่เขม : บีคับ..ถ้าลำบากใจ..พี่เข้าใจนะครับ

บี : เออ..พี่เขม..มันไม่ใช่อย่างนั้น

พี่เขม : พี่อาจจะขอมากไป..ในเวลาเราที่เรารู้จักกันไม่มาก

บี : พี่เขม..อย่าเครียดดิ...บีไม่ได้บอกว่าจะไม่ให้ซักหน่อย

พี่เขม : อ่าวแล้ว..มันคืออะไรหละ

บี : พี่เขมยังไม่ให้กุญแจห้องพี่เลย..(ผมรีบกลบเกลื่อน)

พี่เขม : อ่าวก็ไม่เคยเห็นจะอยากได้หนิ...(พี่เขมโวยวายคืนมา)

บี : ..(ตายห่าระครับ...พี่เขมทำท่าเหมือนจะโกรธจริงจังขึ้นมา)

แล้วพี่เขมก็ลุกหนีผมเดินเข้าไปในห้องพี่เขม...ผมทำตัวไม่ถูกเลยครับ..ไม่รู้ว่าจะตอบพี่เขมยังไง..คือไอ้ความปากหมาของผมก็ไม่เคยจะหาย ซักที..ผมรีบเดินออกไปนอกระเบียงซ่อนตัวอยู่..ผมเลยรีบกดโทรศัพท์หา คุณเปรี้ยว เพื่อนรักของผม..

I'll be your dream
I'll be your wish I'll be your fantasy
I'll be your hope I'll be your love
Be everything that you need


เสียง..รอสายของคุณเพื่อนเปรี้ยว..ก็ยังคง หวานซึ้ง
เปรี้ยว : ว่าไง..อีดอก คิดถึงพวงกุญแจของเมิงอยู่ใช่ไม๊

บี : ครับผม..เพื่อนเปรี้ยวอยู่ไหนครับ

เปรี้ยว : มึง..ต้องเรียกกรูว่าคุณหญิงเปรี้ยว ถึงจะถูก

บี : ครับคุณหญิงเปรี้ยว...กรุณาผมด้วยครับ

เปรี้ยว : 55555555 กรูน่าจะบอกให้เมิงเป็นเบ้กรู

บี : คุณหญิงเปรี้ยวครับ...ความอดทนของเพื่อนก็มีจำกัดนะครับ

เปรี้ยว : เมิงกล้าดียังไง...อย่าให้กรูลำเลิกบุญคุณกับเมิงนะ

บี : ยอมแล้วครับคุณหญิง..

เปรี้ยว : แล้วเมิงอยู่ไหนหละ...กรูกลับมาตั้งแต่มะวานละ ไม่เห็นรถเมิงเลย..กรูจะเอาพวงกุญแจไปให้ยอดรักเมิง

บี : คุณหญิงเปรี้ยวครับ..ผมอยู่คอนโดพี่เขมครับ...แล้วผมต้องการใช้มันอย่างด่วนเลยครับ เพราะพี่เขมแม่ง..เพิ่งของกุญแจห้องกรู  แล้วกรูก็ไม่กล้าตอบไปว่าจะให้เพราะกรูไม่อยากให้เค้าเป็นคนขอ..แต่กรูอยากจะให้เค้าเอง..แล้วตอนนี้แม่งเหมือนจะงอนกรูอยู่

เปรี้ยว : โอ้ยยยย..อีดอก...พวกนี้มีความชะนีเยอะกว่ากรูอีกกกก

บี : คุณหญิงเปรี้ยวครับ...รบกวน เอามาให้ผมที่คอนโดพี่เขมได้ไม๊ครับ...ช่วยชีวิต..ลูกหมาตาดำ ๆด้วยเถอะครับ

เปรี้ยว : โอยยยย...นี่กรูไปซื้อให้..กรูรูดบัตรให้ก่อน..แล้วกรูก็ยังต้องไปส่งให้ถึงมืออีกใช่มะ?

บี : คุณหญิงเปรี้ยวครับ...ช่วยเพื่อนด้วยนะครับ..

เปรี้ยว : เอออออออ...เด๋วกรูเอาไปให้..ทองหล่อใช่มะ ดีนะสายแล้วรถไม่ติด..ถ้ารถติดกรูจะเก็บค่าส่งตามระยะทางบวกไปอีก

บี : กราบของพระคุณมากครับ...คุณหญิงเปรี้ยวจะมาถึงในกี่นาทีครับ

เปรี้ยว : โอยยยยยย...เร่งกรูไปอีก ไม่เกิน 20 นาที เมิงลงมารอได้เลย...เพราะกรูจะไม่เสียงตังโทรหาเมิงอีกรอบ

บี : ได้เลยครับผม

ผมรีบหาวิธีจะโกหกพี่เขมเพื่อไปที่รถแล้วไปเอากุญแจห้องผมที่เตรียมไว้ แล้วลงไปเอาพวงกุญแจจากคุณหญิงเปรี้ยว..เพื่อจะได้เอามาง้อพี่เขม...แต่ตอนนี้พี่แกหายเข้าไปในห้องเลยครับ..ไม่มีทีท่าว่าจะออกมาจากห้องเลย...ผมก็กลัว..ว่าพี่เค้าจะโกรธนาน..แต่ก็อยากจะให้พี่เขมหายโกรธ และเข้าใจในความคิดของผม

ผมนั่งคิดอยู่นอกระเบียง..แล้วพี่เขมก็โผล่มา..

พี่เขม : นี่...ไม่คิดจะเข้าไปง้อพี่หน่อยเหรอ

บี : ..(ผมไม่รู้ว่าจะตอบอะไรพี่เขมเลยครับ..ในหัวตอนนี้นับเวลาถอยหลัง 20 นาทีอยู่)..

พี่เขม : แล้วออกมาทำอะไรข้างนอกนี้..

บี : มาคุยโทรศัพท์ครับ

พี่เขม : คุยกับใคร..ทำไมต้องออกมาคุยข้างนอก

บี : แม่ครับ...(ผมโกหกหน้าตาย..ทำไมแค่จะเซอร์ไพร้พี่เขมต้องทำผิดศีลด้วยฟระ)

พี่เขม : แล้วแม่ว่าไงบ้าง...(พี่เขมดูเสียงเย็นลงทันที)

บี : แม่บอกให้กลับบ้านบ้างเดือนหน้า...ผมบอกมีวันหยุด 4 วันพอดี ก็อาจจะกลับ

พี่เขม : แล้วพี่หละ...อุตส่าหยุดพร้อมกัน

บี : พี่เขมไปเที่ยวเชียงใหม่กับผมไม๊ครับ...ผมทำหน้าตาเริ่มจนมุม
(แม่ง..โกหกทั้งเพ...กรูจะต้องตกนรก เพราะแค่ต้องการเซอร์ไพร้..แฟนเนี่ยนะ..ไม่จริ๊งงงงงงง)

พี่เขม : ทำท่าอึกอัก.. “พี่ติดธุระอะ”

บี : อ่าวไปไหนหละครับพี่ ก็นึกว่าหยุดพร้อมกันผมเลยจะชวนไปเที่ยว

พี่เขม : เออ...แล้วต้องไปหาแม่จริง ๆเหรอ...(พี่เขมเริ่มทำเสียงอ่อนลง)

บี : เออ.....ก็ถ้าพี่เขมไม่ว่าง..ผมก็คงจะไปหาแม่ครับ

พี่เขม : เด๋วพี่ขอดูก่อนละกันนะว่ายังไง..(พี่เขมเริ่มกลับมาทำหน้าเครียดอีกครั้ง)

เราเดินเข้าไปในห้องด้วยความเงียบ...ผมพยายามหาวิธีจะปลีกตัว เพื่อจะไปรอเอาพวกุญแจจากคุณหญิงเปรี้ยว..แล้วผมก็ต้องโกหกพี่เขมอีก....โอยยย มัจจุราชจ๋าอย่าทำร้ายผมเลย อย่าให้ผมลงกระทะทองแดงปีนต้นงิ้วเลย...แต่ต้นงิ้วต้องปีนจริงเหรอฟระ??? นี่ผิดศีลข้ออะไรกันแน่ชักไม่แน่ใจ

บี : พี่เขมครับ..ผมของไปซื้อขนมกินแป๊ปนึงนะ

พี่เขม : ของกินในตู้เย็นเยอะแยะนะบี...อยากกินไรคับ เด๋วพี่ไปด้วย

บี : เห้ย..ไม่เป็นไรพี่..เด๋วผมไปอีกแป๊ปเดียว

พี่เขม : ทำไมไม่อยากให้ไปด้วยเหรอ

บี : ผมขอไปคนเดียวดีกว่าครับ...(ผมรีบตัดบทแล้วก็ไม่มองหน้าพี่เขม)

พี่เขม : ทำไมอ่ะ บีคับ..งอนพี่เหรอ

บี : พี่เขม...เด๋วบีมา

ผมรีบเดินออกมาจากห้องโดยทันที...เพราะผมไม่รู้ว่าจะโกหกอะไรพี่เขมแล้ว...จนมุม หมดมุข หน้าตาก็เริ่มเลิกลัก

พี่เขม : บีคับ...เราต้องคุยกันนะ (พี่เขมตะโกนออกมาจากหน้าห้อง)

บี : รอผมเย็นกว่านี้ก่อนนะคับพี่

ผมโกหกจนหมดมุกจะพูดแล้ว แล้วผมก็วิ่งลงมา เอากุญแจห้องผมในรถผมแล้วก็วิ่งไปรอหน้าคอนโด ไม่นานผมก็เห็นราชรถมาเกย..รถของคุณหญิงเปรี้ยวนั่นเองครับ ผมนี้รีบวิ่งไปแทบจะกระโดดจูบมันเลยครับ

เปรี้ยว : อีดอก..เมิงนี่นะ ลำบากกรูจริง ๆ

บี : เมิง..พี่เขม เค้าเหมือนจะงอนกรูจริงจังได้อีก

เปรี้ยว : เมิงก็รีบ ๆ เอาไปให้ละกัน แล้วโทรมารายงานกรูด้วยนะ

บี : ก่อนจะทำได้..กรูต้องง้อพี่เค้าให้สำเร็จก่อนอ่ะดิ

เปรี้ยว : โอย...เบื่อพวกพ่อแง่แม่งอน...รักกันก็บอกไปสิว่ารัก

บี : เอาหน่า..นาน ๆ ที..ที่กรูจะมีความรัก

เปรี๊ยว : ก็รักษาเค้าไว้ให้ดีละกัน

บี : เออ...กรูจะทำทุกอย่าง เพื่อพี่เขม

เปรี้ยว : ข่าาาาาาาาา แม่นางเอก กรูเบื่อความออดอ้อนของมึง

ผมเดินกลับไปที่คอนโด..แล้วผมก็รู้สึกตัวอีกทีว่า..แล้วกรุจะกลับขึ้นไปได้ยังไงฟระ...ผมควานหาโทรศัพท์มือถือ...ห่านจิก ลืมไว้ห้องพี่เขม...เอามาแต่กุญแจรถจะทำยังไงดี

ผมเลยต้องเดินไปที่รถแล้วหาเศษเหรียญเพื่อออกไปหาโทรศัพท์สาธารณะ เพื่อโทรหาพี่เขม...โชคดีครับว่าผมจำเบอร์พี่เขมได้ขึ้นใจ...นี่เป็น 1 สิ่งที่ดี..ที่แฟนควรจะทำได้ครับ 55555
โชคดีที่หน้าคอนโดมีตู้โทรศัพท์สาธารณะพอดี..แต่ กรรม ที่มันมีหูโทรศัพท์แต่แม่งไม่มีสายโทรศัพท์ครับ ห่านจิก เด๋วนี้เค้ามีตู้โทรศัพท์ไร้สายแบบนี้แล้วเหรอฟระ? ...ผมเลยต้องเดินไป 7-11 ข้างๆ  คอนโดพี่เขมครับ ไกลมากเป็นกิโล..แล้วเวลานั้นเป็นเวลา เกือบจะเที่ยงวันแล้ว...ผมนี่แทบจะเป็นลม...เหงื่อท่วมตัวไปหมด...แล้วผมก็กดโทรศัพท์หาพี่เขม

รอบแรกผ่านไป...ไม่รับสาย...พ่อคุ๊ณณณณณ รับสายผมหน่อยเถอะ
ผมเริ่มหงุดหงิด...ด้วยความร้อนระอุจากแดดยามเที่ยงวัน พระอาทิตย์อยู่ตรงหัวพอดีแป๊ะ

โทรไปอีก 2 ครั้ง..ก็ยังไม่มีคนรับสาย...พี่เขมแม่งหายไปไหนฟระ..จะให้กรูร้อนตายไปเลยใช่ไม๊เนี่ย นี่ถ้าโทรอีกรอบผมจะไม่โทรหาพี่เขมละนะ ผมจะโทร 1669 ให้รถพยาบาลมารับผมไปโรงพยาบาลแทนละครับ

ผมไม่รู้จะทำยังไง เลยเดินกลับไปที่ 7-11 หาน้ำกินซักขวดแล้วเดินออกมาโทรใหม่

ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายละครับ ถ้าไม่รับผมจะเดินกลับไปพังคอนโดแม่งเลย เดือดมากตอนนี้ จะทำอะไรเพื่อแฟนนี่มันต้องยากลำบากขนาดนี้เลยเหรอ ก่อนยกหูโทรศัพท์ ผมยกมือมาพนมไว้แล้วก็ร่ายมนต์ ตอนนี้คนที่ผ่านไปมาคงจะมองว่าผมเป็นบ้า...ซึ่งผมก็ใกล้จะบ้าแล้วจริง ๆ ครับ แล้วก็สำเร็จพี่เขมรับโทรศัพท์...น้ำตาแทบไหล

พี่เขม : ฮัลโหลครับ

บี : พี่เขมมมมมมมมมมมม.....

พี่เขม : บีเหรอ

บี : ใช่คับพี่..มาเปิดประตูให้ผมหน่อย...แต่อีกซักพักเลยนะ

พี่เขม : อ่า ๆ แล้วอยู่ไหนเนี่ย...

บี : เด๋วกลับไปเล่าให้ฟังคับ

พี่เขม : อืม ๆ (เสียงดูน่าจะยังไม่หายงอน)

บี : พี่เขมครับ...

พี่เขม : คับ..บี

บี : ผม รักพี่เขมนะคับ...อย่าเพิ่งรำคาญผมนะ

พี่เขม : รีบกลับมาได้แล้ว

ผมเริ่มวิ่งกลับคอนโด ถือว่าเป็นการออกกำลังกายลดน้ำหนักไปในตัว..จริง ๆแล้ว ร้อนโคตร ๆ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้วครับ...จะนั่งแท็กซี่ก็เด๋ว จะโดนด่า...จะเรียกพี่วินมอไซด์ก็เปลือง

ผมวิ่งกลับมาด้วยความหอบ..แล้วก็เจอพี่เขมนั่งทำหน้าบึ้งอยู่ที่ล๊อบบี้

พี่เขม : ไปไหนมาทำไมไม่บอก

บี : ไป 7-11 ไงคับพี่ บอกแล้วหนิ

พี่เขม : โกหก!

บี : ป่ะๆ ขึ้นไปคุยกันบนห้องนะ

พี่เขมเดินนำหน้าไปแล้วก็ไม่มองหน้าผมเลยครับ...เวลาพี่เขมงอนนี้มันน่ารักน่าแกล้งดีจังเลยครับ...แต่ใจนึงผมก็กลัวว่าพี่เค้าจะคิดมาก ถึงผมจะรักพี่เขมมากแต่ผมก็มีความคิดเป็นของตัวเองมากเช่นเดียวกัน เพราะถ้าเป็นคนอื่น ถ้าพี่เค้าขอกุญแจห้องแล้วมันถูกเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว...คนปกติก็คงจะเอาให้เลย วิน วิน ทั้งคู่ไม่เกิดการทะเลาะ ง้องอนกันอย่างนี้..แต่ผมมันเป็นพวกประหลาดครับ...การให้โดยที่ไม่ได้ขอ กับการขอแล้วได้มา ผมว่ามันมีค่าแตกต่างกันเยอะครับ...(ในความคิดผม) ถึงแม้ผลลัพธ์จะออกมาเหมือนกัน แต่ความรู้สึกสำหรับผมมันไม่เหมือนกันเลยครับ

พอเข้าไปถึงห้อง...ผมทิ้งตัวลงกับพื้นหน้าโซฟาอย่างเหน็ดเหนื่อย...และร้อนมาก ตอนนี้เหงื่อท่วมตัวไปหมดครับ

พี่เขมก็ยังคงทำหน้าบึ้งต่อไป...แล้วพี่เขมก็เอาเท้ามาเขี่ยผม

พี่เขม : นี่..ยังไงเรา...จะบอกได้รึยังไปเจอใครมา

บี : อ่าวเห็นด้วยเหรอ...(ผมทำหน้ากวนตีน)

พี่เขม : ไม่ตลกแล้วนะบี...นี่เราคุยเรื่องนึงไม่จบแล้วก็ไปอีกเรื่องนึงแล้วนะ..บีไม่ได้รู้สึกอะไรเลยใช่ไม๊..เห็นใจความรู้สึกพี่บ้างสิ ปากก็บอกว่ารัก..ว่าแคร์ แต่ทำไมทำตัวอย่างนี้หละ แล้วไปเจอใครมา..ทั้ง ๆ ที่อยู่คอนโดพี่เนี่ยนะ..

พี่เขม..รัวใส่ผมเป็นชุด..ผมหันหน้าหนี...กลั้นยิ้มสุดพลัง

ผมกอดขาพี่เขมเอาไว้แล้วงับเข้าที่หัวเข่าอย่างเบรา ๆ

บี : ขอกินหน่อย

พี่เขม : พี่ไม่ตลกด้วยละนะ...มาพูดกันดี ๆ

บี : พี่เขมครับ...ผมลุกขึ้นพร้อมกับทิ้งตัวลงบนตัวพี่เขม

พี่เขม : อี๋..มีแต่เหงื่อท่วมขนาดนี้

บี : พี่ไม่รักผมแล้วเหรอ..

พี่เขม : ก็เริ่มจะไม่ละ..ถ้าไม่เคลียให้จบ

บี : อ่า ๆ ๆ งั้นฟังผมนะ...ห้ามขัด ใด ๆ ฟังอย่างเดียว คำถามที่จะถามเก็บไว้ก่อน...ให้ถามได้หลับจากเล่าจบ โอเคไม๊

พี่เขม : ทำหน้าบึ้งตึงไปกว่าเดิม..แล้วก็พยักหน้าแบบไม่เต็มใจ

บี : เรื่องมันมีอยู่ว่า...กุญแจเนี่ย...ผมทำไว้ให้พี่นานแล้ว..แต่ผมอยากจะหาพวงกุญแจให้มันเข้ากับกระเป๋าตังพี่...แล้วตังผมก็ไม่มี..ตอนนี้ก็สิ้นเดือน ผมเลยให้อีเปรี้ยว ไปซื้อให้จากยุโรป มันกลับมาเมื่อวาน แล้วผมก็เลยต้องให้มันเอามาให้มะกี้ เพื่อจะได้เอาให้พี่เขม...จริง ๆแล้วผมไม่ได้อยากให้พี่เขมเป็นคนเอ่ยปากขอ เพราะผมตั้งใจจะให้กับพี่อยู่แล้ว ผมเลยต้องทำทุกอย่างให้มันเร็วขึ้น เพื่อเอามาให้พี่ ให้มันสมบรูณ์แบบที่สุด ตามที่ผมหวังไว้ ไอ้เรื่องกุญแจของพี่อ่ะ ผมก็จะไม่ขอเพราะผมก็คิดว่าถ้าพี่อยากจะให้ พี่ก็คงให้เองแหละ...ผมไม่อยากจะทำให้มันเป็นเรื่องอึดอัด ระหว่างเรา แล้วความที่ผมต้องรีบลงไปโดยไม่ให้พี่ตามไปก็เพราะต้องไปเอาพวงกุญแจอันนี้แหละ..(ผมยกพวงกุญแจพร้อมกับกุญแจห้องผม เอาใส่เข้าด้วยกัน ให้เจ้าของใหม่ของมันดู จะได้รู้ ๆ ไปเลยครับว่ารีบแค่ไหน )...แล้วที่บอกว่าออกไปโทรศัพท์หาแม่อ่ะ จริง ๆไม่ได้โทรคับ..เพราะว่าโทรหาอีเปรี้ยว...โอยยยยวันนี้ผิดศีลพูดปดไปกี่รอบแล้วเนี่ย...แล้วที่พีคไปกว่านั้นคือ...ผมก็ไม่ได้เอาโทรศัพท์ลงไปไง...ต้องเดินไปหาตู้โทรศัพท์ เพื่อโทรหาพี่แล้วก็โทรตั้งหลายรอบกว่า พ่อคุณจะรับ...จะงอนอะไรนักหนา..เนี่ย เดินไปตู้โทรศัพท์สมัยนี้ก็ไม่ได้หาง่าย ๆ เจอตู้หน้าคอนโดก็พัง นี่ผมเดินเลย 7-11 ไปอีกนะ ไกลเป็นกิโลเลยนะพี่ แล้วก็โคตรร้อนเลย

ตอนนี้พี่เขม..คับ..ผมจะทำพิธีรับมอบกุญแจแห่งห้องของผม ให้กับแฟนผู้เป็นที่รักยิ่งของผมไว้ให้ดูแล...คุณจะรับและดูแลมันเป็นอย่างดีได้ไม๊ครับ

ผมทำท่าทางเหมือนบาทหลวงกล่าวในงานแต่งงานในโบสถ์

พี่เขมพยักหน้า...ไม่ตอบอะไร

บี : เฮ้ย..ตอบมาก่อนดิ..พยักหน้าไม่นับเว้ย..นี่ผมเหนื่อยเหงื่อท่วมขนาดนี้..มาแค่พยักหน้า...เด๋วโดนตบจูบ

พี่เขมกระโจนเข้ามาจูบผมอย่างจัง...

พี่เขม : ขอบคุณครับบี...แล้วพี่ก็มีอะไรจะให้เหมือนกัน

บี : เออ...ลืมเรื่องซองไปเลย...ไหน ๆ อยู่ไหนละนะ เอามาเปิดดูหน่อยซิ๊

พี่เขม : ก่อนจะเปิดซอง...พี่มีอะไรจะขอ

บี : อ่า ๆ ๆ ว่ามา ได้หมดแหละตอนนี้ ไม่มีอะไรจะให้ละ

พี่เขมหยิบพวงกุญแจ bottega สีเดียวกันแต่เป็นแบบสายยาว ๆ แล้วก็มีกุญแจห้องพี่เขมห้อยอยู่...

พี่เขม : ดูแลมันให้ดีด้วยนะ

บี : เฮ้ย..พี่เขม สีกรมเหมือนกันเลยอ่ะ

พี่เขม : นี่ไง..เราถึงได้เป็นแฟนกันได้...

บี : ขอบคุณครับที่รัก...(เป็นครั้งแรกที่ผมเรียกพี่เขมอย่างงี้..เลี่ยนจริง ๆ )

พี่เขม : เรียกพี่ว่าอะไรนะ

บี : ป๊าววววววววว...ไหนเอาซองมาเปิดดูดิ๊

พี่เขม : เรียกบ่อย ๆก็ได้นะ..ชอบหวะ

บี : แกะ ๆ ซองเร็ว...ผมเริ่มหน้าแดงอีกครั้ง

ในซองนั้นมีกระดาษอยู่ 2 แผ่น...เป็นตั๋วไปกลับ กทม.- โตเกียว ชั้นธุรกิจ....วั่ยตั่ยล้าววววววววววววววววววว..พร้อมที่พัก โรงแรม 5 ดาว
ผมยิ้มจนแก้มปริ..กระโดดกอดคอพี่เขมอย่างดีใจสุด ๆ

พี่เขม : วันหยุด 4 วันที่เรามี ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับพี่นะคับ

บี : แต่ทำไมในตั๋วเป็น 5 วันหละพี่

พี่เขม : ก็ต้องแลกออกอีกวันนึงไง..ไปทั้งที 4 วันไม่พอหรอก พี่จะพาไปกินให้พุงกางเลย

บี : เย้ ๆ ๆ ๆ ๆ พี่เขมน่ารักที่สุดในโลกเลยคับ

พี่เขม : ก็รักพี่นาน ๆ ละกันหละ...ไอ้ตัวแสบ

ผมเอาหน้าซุกลงที่ซอกคอพี่เขมเหมือนทุกครั้ง...แล้วเราก็ไปจบกันที่โซฟาห้องรับแขก....555555
.
.
.

ผ่านสงครามรักไป..พี่เขมก็เอ่ยขึ้นมา

พี่เขม : นี่..ตอนที่บีเดินออกจากห้องอ่ะ..พี่นี่หัวร้อนสุด ๆ อยู่ไม่ได้เลย พี่ต้องเดินตามลงไป แล้วก็ไปเจอบีคุยกับใครก็ไม่รู้ ยิ่งเห็นก็ยิ่งอยากจะเดินเข้าไปพังรถเลย

บี : เหย...สายโหดดดด...หึงโหดของจริง

พี่เขม : พี่ก็ลงมาแบบไม่ได้เอาอะไรลงมาเลย..ก็เลยขึ้นห้องไม่ได้ต้องให้นิติไปเปิดลิฟท์ให้...โคตรอายอ่ะ

บี : แหม่ ๆ ถึงว่าโทรหาแล้วไม่รับ...รู้ไม๊ว่าผมเนี่ยเดินไปกลับ 7-11 สองรอบนะ รอบแรกโทรมาแล้วพี่ไม่รับ ผมต้องเดินไปซื้อน้ำก่อนเพราะร้อนไม่ไหวละ

พี่เขม : แล้วจำเบอร์พี่ได้ด้วยเหรอ

บี : จำได้ดิพี่เขม...ก็พี่เป็นแฟนผมนะ

พี่เขม : พี่จำเบอร์ใครไม่ได้เลยอ่ะ นอกจากแม่คนเดียว

บี : ไม่เป็นไรหรอก...เห็นมะแสดงว่าผมรักพี่มากกว่าเห็น ๆ

พี่เขม : เอามาตราฐานนี้มาจากไหนจ๊ะ...

ผมกรอกตามองบนใส่พี่เขม ตอนนี้เรายังนอนเปลือยกอดกันอยู่ที่โซฟา พี่เขมเห็นผมกรอกตาใส่ก็เลยงับหูผมเข้าให้

พี่เขม : บี พี่ขออะไรอีกอย่างดิ

บี : ครับพี่...ถ้าขอเอาอีกรอบนี่ไม่ไหวละนะ...กินข้าวกินปลาบ้างเหอะ

พี่เขม : ก็พี่กำลังกินบีอยู่นี่ไง

บี : แล้วมันอิ่มไม๊หละ?

พี่เขม : ไม่อิ่มอ่ะ ต้องกินอีกเรื่อย ๆ

บี : พอก่อน ๆ ๆ จะขออะไรคับ

พี่เขม : เราจะไม่โกหกกันแล้วนะ...พี่ว่าถ้าเราเล่นโกหกกันแรงกว่านี้ มีหวัง...พังกันหมดแน่

บี : ผมก็ว่างั้นแหละพี่..งั้นผมขอพี่เขมอย่างดิ

พี่เขม : ว่าไป...

บี : เราจะต้องเคลียทุกอย่าง ไม่ปล่อยไว้ให้ข้ามคืนได้ไม๊ครับ

พี่เขม : พี่เห็นด้วย..เพราะแค่ผ่านไปครึ่งชั่วโมงพี่ก็จะเป็นบ้าละ

บี : จริง ๆนะพี่...ผมก็เหมือนกัน

To be continued…


หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 22 LIE โกหก P.2 (28-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 28-09-2017 18:04:56
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 22 LIE โกหก P.2 (28-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 28-09-2017 19:43:42
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 22 LIE โกหก P.2 (28-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 28-09-2017 20:32:31
โกหกกันมุ้งมิ้งเชียว
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 22 LIE โกหก P.2 (28-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 28-09-2017 22:17:12
ใจตรงกันจังเลย
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 22 LIE โกหก P.2 (28-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 29-09-2017 00:16:25
สนุกดีอะ     ชอบความเวิ่นของบี ฮาได้อีก แล้วก็พี่เขมมมม. ไม่คิดว่าจะเคยรับนะคะ

ขอให้รักกันนานๆนะคู่นี้ อย่าดราม่าเยอะเลย
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 23 ( 3 เดือนผ่านไป)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 29-09-2017 20:02:26
ตอนที่ 23 (3เดือนผ่านไป)
ผ่านไป 3 เดือน ตอนนี้ พฤศจิกายนแล้วครับ

วันนี้เรามีปาตี้กันที่คอนโดพี่เขมคับ...ปาตี้เรื่องเหล้า...นี่คือธีมของงานวันนี้...คือหาเรื่องกินเหล้าตั้งแต่หัววันเลยทีเดียวครับ..มีเพื่อนๆ นักบินของพี่เขมมา2 คนนั่นก็คือพี่ตาลกะพี่พริ้งครับ และก็ตามมาด้วย พี่นักดนตรีวงที่พี่เขมเล่นด้วยอีก2คนคับ
คือพี่ต้ากับพี่เก่งคับ
พี่ต้าเป็น ผู้หญิงเปรี๊ยวปรี๊ดครับ ตัดผมสั้นแบบก้อยรัชวินเลย แต่ผิวสีแทนสีอ่อนกว่าพี่เขมหน่อยคับ เป็นแอร์สายการบินต่างชาติครับ ดู ลุคพี่แกแล้วน่าจะเป็นที่ขายดีเมื่ออยู่เมืองนอกครับ  ส่วนพี่เก่งเป็นผู้ชายครับ หล่อเลยแหละครับ หล่อแบบ สูง 180 กว่าๆ ตี๋ขาว ตัวใหญ่ล่ำ วงแขนพี่แกนี่ผมเห็นแล้วยังกลืนน้ำลายเลยคับ 
พี่เก่งกับพี่ต้าเป็นแฟนกันครับ แล้วพี่เก่งเป็นคนเล่นคีบอร์ดในวงและ อาชีพพี่แกในวันธรรมดาคือ ทนายครับ แม่งโคตรเท่ห์อ่ะ
พี่ต้าเป็นคนพูดเก่งครับคุยได้กับทุกคน ยกเว้นผม...ซึ่งโดยปกติ ผมจะคุยได้กับทุกคนครับ แต่กับพี่ต้า พี่แกไม่คุยกับผมเลยคับแม้แต่มองหน้าพี่ต้ายังไม่มองหน้าผมเลยครับ คือเราไม่ได้รู้จักกันมาก่อนแต่ก็อาจจะเป็นไปได้ที่เคมีคนเรา แรกเห็นอาจจะไม่ถูกใจ และไม่ตรงกันก็เป็นได้ ผมเลยรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยแต่ก็ไม่อยากเอาไปทำให้บรรยากาศในปาตี้นี้เสียไปเพราะผม

วันนี้หน้าที่หลักๆ ของผมคือ จัดเตรียมอาหารไว้ให้พี่ๆทุกคนทานครับ เพราะไอ้พี่เขมสิครับ เอาผมไปคุยไว้ทั่วว่าทำอาหารอร่อย ผมก็เลยต้องตกมาเป็นพ่อครัวหัวป่าในวันนี้ ผมก็เห็นพี่ ๆ คุยกันสนุกนาน...ผมก็คุย ๆด้วยบ้าง เดินไปเติมน้ำแข็ง อาหารไม่ให้ขาด โดยเฉพาะ พ่องานอย่างพี่เขม...นั้น เห็นผมเดินไปเดินมาทุกครั้ง พี่แกก็ยิ้มแก้มปริให้ผมตลอด...ผมเดินไปไหนก็เรียกถามตลอดว่าจะไปไหนอย่าไปนาน..คิดถึง  พูดแม่งไม่อายเพื่อนฝูงเลย...แต่ก็ดูเหมือนจะมีคนไม่ค่อยจะสบอารมณ์ซักเท่าไหร ถ้าพี่เขมเรียกชื่อผมขึ้นมา...

ตอนนี้ผมเสริฟยำปลาทูน่ากระป๋องรสจัดครับ...พี่เก่งชมออกมาไม่หยุดปาก...แล้วที่มากไปกว่านั้น..พี่แกอยากจะทำเป็นก็เลยอาสา..มาขอช่วยผมทำอยู่ในครัวครับ...ผมก็ไม่ได้ขัดอะไร..ที่จะขัดก็สายตากับกล้ามแขนพี่เค้าเนี่ยแหละครับ...มันช่างทำเอาใจคอผมไม่ดีเลยจริง ๆ

พี่เก่งเป็นคนตัวใหญ่มากคับ..(อย่างกะยัก) ตอนแรกมีผมทำกับข้าวอยู่ในครัวคนเดียว..พื้นที่มันก็น้อยแค่ตัวผมคนเดียวก็เต็มครัวแล้วนะครับ..พอมีพี่แกมายืนข้าง ๆ ยิ่งแน่นไปใหญ่ครับ..ผมแทบจะขยับไปไหนไม่ได้เลย..เพราะจะชนกับแขน ตัว หรือ หน้าพี่เก่งตลอดเวลาเลยครับ...ทำเอาผมสติกระเจิงไปเลยเหมือนกัน

พี่เก่ง : น้องบี...พี่อยากจะทำไอ้ยำอันนี้เป็นอ่า...สอนพี่หน่อยดิ

บี : พี่เก่ง...ยังกินไม่หมดเลยจะให้ทำอีกอันแล้วเหรอ

พี่เก่ง : ก็มันอร่อยนี่นา..งั้นจานนี้พี่กินคนเดียวเลยนะ...พี่เก่งเดินไปหยิบจานที่ตั้งอยู่กลางวงแล้วก็เอามากินในครัวคนเดียวแล้วยืนอยู่ข้างผม

พี่เขม : เฮ้ย...ให้มันน้อย ๆ หน่อย เด๋วแฟนกรูเหนื่อย

พี่เก่ง : ไอ้อ้วน..เมิงหวงแฟนมึงจังฟระ...แฟนมึงก็เหมือนแฟนกรูแหละ

พี่ต้าวางแก้วกระแทกโต๊ะเสียงดัง...แล้วบรรยากาศก็เงียบลงแป๊ปนึง

พี่ตาล : เฮ้ย..อะไรของพวกเมิงเนี่ย...ปล่อยน้องบีทำกับข้าวไป ไอ้เก่ง เมิงกลับมานั่งนี่เลยนะ...เด๋วกรูจะเข้าไปช่วยน้องบีทำเอง

พี่เก่ง : อะไร...ว้าาาา ก็กรูอยากทำยำอันนี้เป็นหนิ

พี่ต้า : งั้นก็ให้มันทำ ๆไป...อย่าไปขัดใจมันเลย..กรูเบื่อ

พี่พริ้ง : อ่าว ๆ ๆ ผัวเมีย จะมาทะเลาะกันต่อหน้ากรูทำไมเนี่ย...เด๋วกรูเสกเอาวิญญาณพวกเมิงทั้งคู่เก็บไว้ในขวดเหล้าแล้วเอาไปถ่วงน้ำแม่งเลย

พี่ต้า : แหม่ๆ ๆ ๆ อีหมอผี....อย่างเมิงเนี่ยเป็นหมอผีได้เพราะหน้าเมิงเนี่ยห่างจากผีนิดเดียวใช่มะ

พี่พริ้ง : อีห่านนี่...เด๋วกรูตบจมูกเมิงเบี้ยวเลย

พี่ต้ายกมือไหว้พี่พริ้ง...แล้วพูดว่า... “ขอโทษค่ะแม่หมอ...หนูจะไม่ยุ่งแล้วค่ะ”

แล้วสถานการณ์ก็ถูกแก้ไขไปได้ในชั่วพริบตา

แต่ไอ้พี่เก่งเจ้ากรรม...ก็ยังไม่วาย...ไม่ยอมออกห่างจากผม...แล้วมากไปกว่านั้น ยังจะมายืนเหมือนจะสิงผมเข้าไปซะให้ได้...ผมเลยเริ่มรู้สึกอึดอัด

พี่เก่งชวนคุยโน่นนั่นนี่มากมายครับเกี่ยวกับการทำอาหาร แต่ดูเหมือนพี่แกจะสนใจเอามาก ๆจริง ๆ ผมก็เลยต้องไม่คิดอะไรมา...แต่ผ่านไปได้ไม่ถึง 5 นาที มือพี่แกก็มาวางอยู่ที่เอวผม...ตอนนี้หูผมร้อนขึ้นมาทันทีเลยครับ...ผมพยายามขยับตัวออกห่างจากพี่เก่ง แต่พี่เก่งก็ดูเหมือนไม่ได้เดือดร้อนอะไร...ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...พอผมหลุดจากมือใหญ่ ๆของพี่เก่งได้ ผมก็ค่อยโล่งใจหน่อยครับ...ไม่อยากให้พี่เขมเห็นเลย...เพราะถึงพี่แกจะหล่อบาดใจขนาดไหน..แต่ยังไง..ผมก็ไม่ชอบให้พี่แกมาจับเนื้อต้องตัวผม แล้วให้พี่เขมคิดมากอยู่ดีครับ...ตอนนี้พี่เขมนั่งหันหลังให้ผมอยู่ครับ เหมือนกำลังเล่นเกมส์ ชาเย็น ที่ทายคำไบ้กันอยู่...เสียงดังมากมาย แล้วทุกคนก็เล่นกันอย่างสนุกสนาน

พี่เก่งยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมแล้วกระซิบบอกว่า...

พี่เก่ง : พี่ของชิม จานนี้หน่อยได้ไม๊

บี : ได้ครับ...พร้อมทั้งกำลังจะเดินออกห่าง

พี่เก่ง เอามือทั้ง 2 ข้างมาวางที่เค้าเตอร์ครัวแล้วครอบตัวผมไว้...

พี่เก่ง : ป้อนพี่หน่อยดิ

บี : พี่เก่งกินเองเหอะครับ...ผมไม่สะดวก มือผมเลอะอยู่..(ผมพยายามมุดตัวลงเพื่อจะลอดแขนอันหนักแน่นของพี่เก่งออกไป)

พี่เก่ง : แหม่ ๆ แค่นี้เอง..ไอ้เขมไม่ว่าหรอก

บี : พี่เขม (ผมตะโกนออกมา)...จานนี้เสร็จแล้วครับพี่...มายกไปให้หน่อย

พี่เขม : ค๊าบบบ...แฟนนนนนนนน

ผมรีบล้างมือแล้วไปนั่งกินอยู่ข้างพี่เขม...แล้วทุกอย่างก็ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ..พี่เขมก็เอาตัวผมเหมือนเป็นหมอนอิง...พี่แกนั่งอิงผมอยู่แล้วก็คอยบอกให้ผมป้อนโน่น นี่เข้าปากครับ

พี่พริ้ง : โอยยยย อีอ้วน...เมิงเป็นง่อยหรือไง ใช้แต่น้องบีอยู่ได้

พี่ตาล : เออจริง...มีแฟนแล้วเป็นง่อยเหรอฟระ...แล้วน้องบีก็อย่าไปยอมมันดิ

พี่เก่ง : เมิงนี่เลือกแฟนดีเนอะ...น่ารักเชียวทำอาหารก็อร่อย

พี่ต้าลุกออกไปจากห้องแล้วเดินออกไปดูดบุหรี่อยู่นอกระเบียง

พี่เขม : ต้าจะดูดบุหรี่เหรอ...ปิดประตูให้สนิทด้วยนะ แฟนเขมมันแพ้ควันบุหรี่อ่ะ

พี่ต้ากรอกตาแล้วกระแทกประตูบานเลื่อนอย่างแรง...ทุกคนทำหน้า งง ๆ แล้วก็ปล่อยทุกอย่างผ่านไป

พี่เก่ง : แล้วเมิงหละ...ไม่ไปสูบบุหรี่บ้างเหรอไอ้อ้วน

พี่เขม : กรูเลิกแล้วเว้ย....แล้วก็หันหน้ามามองผม

พี่พริ้ง : เออใช่ ๆ กรูจะถามเมิงหลายรอบละว่าสรุปเลิกแล้วจริงเหรอ

พี่ตาล : อย่าบอกนะว่าเลิกเพราะน้องบีอ่ะ....น้องบีแม่งเจ๋งสุดยอด

พี่เขม : ก็แฟนกรูแพ้นี่หว่า...ก็มีแอบสูบบ้างเวลาไปบิน..แต่ไม่ติดระ เนี่ย..ถ้าบีอยู่ด้วยทั้งวันกรูก็ไม่สูบเลยนะ..

บี : ก็ลองสูบดิพี่เขม...ผมกลับบ้านอ่ะ

พี่เขม : เห็นมะ...อย่างงี้กรูก็ต้องเลิกป่าวฟระ

พี่เก่ง : น้องบีนี่แม่งเจ๋งหวะ...พี่พยายามบอกแฟนพี่ให้เลิกยังไงก็ไม่ยอมฟังเลย

บี : ผมก็ไม่ได้ทำอะไรหรอกคับพี่...แค่ถ้าพี่เขมสูบผมก็เข้าใกล้ไม่ได้อ่ะ..ผมแพ้ครับ

พี่เขม : เด๋วเมิงคอยดูนะ ไอ้ต้าเข้ามา เด๋วบีไอไม่หยุด

แล้วพี่ต้าก็เดินเข้ามาครับ...แล้วอาการผมก็กำเริบ...ผมพยายามที่จะไม่ไอนะครับแต่มันแพ้อ่ะครับ...มันก็หยุดไม่ได้...ผมเลยเดินเข้าไปอยู่ในห้องนอนพี่เขมก่อน

พี่ต้า : จ๊ะ...แม่ลูกคุณหนู

บี : …….(ผมไม่ได้ตอบอะไร...ทำเป็นว่าไม่ได้ยิน)
ผมก็ยัง งง  ๆ ว่าผมไปทำอะไรให้พี่ต้าเค้าไม่พอใจรึป่าวแต่ผมก็คงต้องปล่อยผ่านไปเพราะเพื่อนพี่เขม..ผมก็ต้องรับให้ได้อ่ะครับ...

ผมรู้สึกตัวเหม็นจากการทำกับข้าวก็เลยเดินเข้าไปอาบน้ำดีกว่า...ผมนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ เพราะผมไม่คิดว่าใครจะเข้ามาในห้องนอนพี่เขม...แต่ผมลืมไปว่า ห้องน้ำมีแค่ห้องเดียว...ก็อาจจะเป็นไปได้ที่เวลาผมอาบน้ำแล้วมีคนมารอเข้าห้องน้ำ  แล้วก็เป็นแบบนั้นจริง ๆครับ...พี่เก่งนั่งรออยู่หน้าห้องน้ำครับ...ผมก้มตัวเดินผ่านพี่เก่ง

บี : ขอโทษครับพี่...ผมไม่รู้ว่าพี่จะมาเข้าห้องน้ำ

พี่เก่ง : หอมจังเลยเนอะ...

บี : คับ?...ผมทำหน้างง ๆ

พี่เก่ง : ขาวจังเลยเนอะ...แล้วพี่เก่งก็จ้องผมเหมือนจะกินให้ได้

บี : พี่เก่งครับ...ผมเป็นแฟนพี่เขมนะครับพี่...
ผมพูดเพื่อให้พี่เก่งหยุดความคิดใด ๆก็ตามที่พี่เก่งกำลังคิดจะทำอยู่ในหัว

พี่เก่ง : รักไอ้อ้วนมากเหรอ

บี : ครับพี่...ผมรักพี่เขมมากคับ

พี่เก่งค่อย ๆเดินเข้ามาใกล้ผมแล้วทำท่าสูดความหอม...
ผมเริ่มกลัวพี่เก่งละครับ...ถ้ามันจะทำอะไรผมจริงผมแม่งจะสู้มันไหวไม๊เนี่ย...แล้วไอ้พี่เขมแม่งก็เล่นเกมเม้ามอยอยู่ข้างนอกไม่คิดจะมาช่วยแฟนเลย

พี่เก่ง : เมิงสอบผ่าน....

บี : สอบอะไรผ่านคับพี่...(ผมนี่กำหมัดแน่น...ถ้าเข้ามาใกล้ผมอีกนิดนี่ผมจะ จระเข้ฟาดหางแล้วนะครับ)

พี่เก่ง : ก็เป็นแฟนไอ้เขมไง

บี : อ๋อ...นี่พี่เล่นแรงขนาดนี้เลยเหรอ..อีกนิดเดียวมีเห็นเลือดกันแล้วนะพี่ ถึงผมจะเป็นแฟนพี่เขมผมก็เป็นผู้ชายนะพี่

พี่เก่ง : เมิงคิดว่า...มึงจะสู้กรูไหว?

บี : ถึงจะสู้ไม่ไหว.. But i’m not go down without a fight.

พี่เก่ง : ไอ้อ้วนเลือกคนได้ดีจริง ๆ ไป ๆ แต่งตัวแล้วออกไปข้างนอกได้แล้ว..(พี่เก่งส่งยิ้มให้แล้วก็ทำท่าโบกมือไล่ผมไปจากห้อง)

นี่มันขนาดนี้เรยเหรอฟระเนี่ย...ต้องให้เพื่อนมาลองว่าผมดีหรือไม่ดีเหมาะหรือไม่เหมาะกับพี่เขม...นี่มันละครชัด ๆ ช่อง 7 ป่ะเนี่ย....กล้อง 1 กล้อง 2 ซ่อนไว้ตรงไหน ...ออกมาซะดี ๆ นะ

ผมหงุดหงิดกับการกระทำของพี่เก่งนิดหน่อยครับ..แล้วผมก็ทำหน้ามุ่ยเดินออกไปนั่งข้างพี่ตาล...(ไม่อยากนั่งข้างแฟนตัวเองละ...แม่ง กรูต้องผ่านการทดสอบอีกกี่รอบฟระ ถึงจะเป็นแฟนเมิงได้เนี่ย)

พี่เขมทำหน้างง ๆ ...แล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำ..ผมมองไปรอบ ๆ แล้วก็ไม่เห็นพี่ต้าแล้วครับ...ผมก็เลยไม่อยากจะสนใจมาก...แม่งอาจจะเป็นการทดสอบห่าอะไรอีกก็ได้...นี่กรูมาเป็นแฟนเมิงนะ..ต้องผ่านด่านเยอะขนาดนี้เลยเหรอฟระเนี่ย

พี่ตาลพูดขึ้นหลังจากที่พี่เขมเดินเข้าไปรอเข้าห้องน้ำ

พี่ตาล : ไง...ไอ้เก่ง เฉลยแล้วดิ

บี : พี่ ๆนี่ร้ายกันเนอะ...รู้กันหมดเลยเหรอเนี่ย

พี่พริ้ง : ไอ้อ้วนไม่รู้นะ...ไอ้เก่งเนี่ย ในวงดนตรีสนิทกับไอ้อ้วนสุดละแหละ

พี่ตาล : มันก็หวงเพื่อนมันเป็นธรรมดา

บี : แล้วพี่ต้าเนี่ย...เป็นอีกคนรึป่าวครับ

พี่ตาล : เฮ้ยต้าไม่เกี่ยวดิ

พี่พริ้ง : กรูว่าละว่าน้องแม่งก็รู้สึก

พี่ตาล : รู้สึกอะไรฟระ

พี่พริ้ง : ก็แม่งตั้งแต่มา..กรูยังไม่เห็นจะคุยกะน้องบีเลยซักคำ

พี่ตาล : อ่าวเหรอ...กรูไม่ได้สังเกต

พี่เก่งก็เดินเข้ามา....นั่งลงข้างผม

พี่เก่ง : ตัวมันหอมดีเนอะ

พี่พริ้งทำท่าจะตีกะบาลพี่เก่ง... “ไอ้นี่แกล้งน้องกรูเยอะไปละนะ...เด๋วเมียเมิงก็แหกอกไอ้บีเอาหรอก...”

พี่ตาลทำท่ากอดปกป้องผม...จากมือพี่เก่ง

พี่เก่ง : แหม่ ๆ ๆ กลายเป็นพวกน้องเค้าแล้วตั้งแต่เมื่อไหร...กรูได้ยินชื่อแม่งนานละ โน่นก็บี ดีอย่างโน้น...นี่ก็บีดีอย่างนี้...กรูหละหมั่นไส้ เอาเพื่อนกรูไปไม่ปล่อยให้มาเจอเพื่อนฝูงบ้างเลย...เด๋วนี้กรูจะนัดซ้อมอะไรหน่อยก็บอกไม่ว่างตลอด...อยู่แม่งแต่กับแฟน

พี่เก่งร่ายมาเป็นชุด...ผมนี่เงิบไปเลยครับ..แต่ช่วงหลัง ๆ มานี่ตัวผมกับพี่เขมก็ติดกันตลอดจริง ๆเลยครับ...ผมเลยอาจจะถูกเพื่อน ๆ พี่เขมแม่งเกลียดเอาได้

ผมยกมือขอโทษพี่เก่ง.. “พี่เก่งครับ..ผมขอโทษคับพี่...ผมอาจจะติดพี่เขมเยอะไปหน่อย”

พี่เก่ง : แม่งไม่ต้องขอโทษกรูหรอก...ถ้ากรูมีแฟนดีอย่างเมิงนะ...กรูก็อยากอยู่ด้วยแม่งทุกวัน

พี่พริ้ง : แล้วเมิงไปรู้ได้ไงว่าน้องมันดี...ไหนบอกจะแหย่ ๆเล่น ๆ อีนี่มันร้ายค่ะหัวหน้า (พี่พริ้งฟ้องพี่ตาลด้วยสีหน้าตัวร้ายละครภาคค่ำมาก)

พี่ตาล : เมิงไปเคลียกับไอ้อ้วนเอาเองเลย...มันก็เห็น..แต่มันแค่ไม่พูด

พี่เก่ง : เฮ้ยจริงดิ...แสสส ไอ้อ้วนแม่งเอากรูตายแน่...ว่าแต่...ต้าไปไหนอ่า

พี่พริ้ง : เห็นบอกว่าจะซื้อขนม

พี่เก่ง : งานเข้ากรูแล้วชัวร์ ๆ เด๋วกรูไปตามก่อนนะ

พี่ตาล : อะไรแม่งฟระ...ไหนว่าพวกมึง 3 คนเคลียกันหมดแล้วไง

พี่พริ้ง : อย่าบอกนะว่า...มันยังหวงไอ้อ้วนอยู่

พี่เก่ง : ไม่รู้แม่ง...กรูก็เหนื่อยนะเว้ย..แล้วกรูก็ไม่ชอบด้วยที่แม่ง เป็นแบบนี้

บี : เรื่องอะไรกันเหรอครับพี่...ทำไมมี 3  คน

พี่ตาลพี่พริ้งพี่เก่ง พูดพร้อมกัน...... “เด็กไม่เกี่ยว!”

พี่เก่ง : เด๋วกรูไปเคลียกับไอ้อ้วนก่อน แต่เมิงไอ้หนูน้อย...(ชี้มาที่หน้าผม) ถ้าเลิกกับเขมแล้ว...กรูจะจีบเมิงนะ

แล้วพี่เขมก็เดินออกมาได้ยินพอดี... “ไอ้สัส...กรูเข้าไปขี้แป๊ปเดียว..แม่งจะเคลมเมียกรูแล้วเหรอ...ไอ้เพื่อนชั่ว”

พี่เก่ง : ก็ถ้าเมิงไม่ดีจริง...แล้วเลิกกันจริง..กรูก็อยากได้..ทำไมหละ

พี่เขม : ไอ้นี่...(พี่เขมทำหน้าตาจริงจังมาก..แล้วง้างหมัดมาเหมือนจะต่อยกับพี่เก่งจริง ๆ)

แล้วพี่เก่งก็กระโดดล็อคคอไอ้พี่เขมไว้ได้ทันก่อนโดนต่อย... 2 คนนั้นตีกันจริง ๆครับ แต่เหมือนเด็กอนุบาลตีกัน พี่พริ้งกับพี่ตาลก็ส่งเสียงเชียร์อยู่

ผมนี่งงไปหมดครับ..ว่าอะไรยังไง...อันไหนเล่น อันไหนจริง...แต่ก็อาจจะเพราะพี่เค้าสนิทกันมากจริง ๆ ทุกอย่างก็เลยดูไม่มีความตึงเครียดใด ๆ แล้วพี่ต้าก็เปิดประตูเข้ามา...เพื่อมาแยกวงระหว่าง พี่เขม ส. วรพิน กับ พี่เก่ง ศิษย์ครูอ๊อด...พี่ต้าเข้ามาดึงพี่เขมออกจากพี่เก่ง...ผมก็งง ๆ ว่า ทำไมไม่ดึงพี่เก่งออกจากพี่เขม...แล้วพี่ต้าก็หน้าแตก..เพราะว่า พี่เค้าเล่น ๆ กันอยู่ครับ...พี่ต้าก็แก้เขินด้วยการเล่นสู้กับพี่เขมแทน...พี่เขมก็ทำหน้า งง ๆ แล้วทุกอย่างก็กลับเป็นปกติอีกครั้ง...แต่ที่ยังไม่ปกติก็ยังเหมือนเดิมครับ...พี่ต้ายังคงไม่มองหน้าไม่สบตาไม่พูดคุยกับผม...ซึ่งตรงจุดนี้..ผมปล่อยผ่านละครับ

ผ่านไปซักพัก...น้ำแข็งก็หมดครับ...ผมเลยอาสา ออกไปซื้อให้เพื่อลดความอึดอัดของผมลงบ้าง...พี่ตาลอาสาไปด้วยเป็นเพื่อนครับ...ดีเลยครับพี่ตาล..ผมจะได้เผือกเรื่องของ คน สอง สาม คนได้ต่อ

ขณะลงจากลิฟท์.....พี่ตาลก็พรวดออกมาเลยครับว่า....

พี่ตาล : “ไอ้เขมกับไอ้ต้า เคยเป็นแฟนกัน”


To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 23 (3 เดือนผ่านไป) P.3 (29-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 29-09-2017 20:23:10
บีอย่าคิดมากนะ แฟนเก่าก็คือแฟนเก่า
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 23 (3 เดือนผ่านไป) P.3 (29-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 29-09-2017 20:44:36
ผัวเมียคู่นี้น่าหมั่นไส้ทั้งคู่ 55
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 23 (3 เดือนผ่านไป) P.3 (29-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 30-09-2017 08:04:22
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 24 คุณหมอสุดหล่อ
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 30-09-2017 17:01:54
ตอนที่ 24 คุณหมอสุดหล่อ

พี่ตาลเล่าว่า...สมัยก่อนเนี่ย...พี่ต้าเคยเป็นแฟนกับพี่เขมตอนที่พี่เขมเนี่ยมาเป็นนักบินที่บริษัทนี่ใหม่ ๆ ซึ่งก็เป็นเหมือนคู่รักท่ัว ๆ ไปเนี่ยแหละ...แต่ก็เพราะอะไรก็ไม่รู้ พี่เขมก็เปลี่ยนไปชอบผู้ชาย...แล้วบอกว่า พี่ต้าเนี่ยไม่ใช่อีกต่อไป เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมานานเกือบจะ 10  ปีแล้วมั้งเนี่ย... ช่วงแรก ๆ เป็นข่าวดังมาก บีก็รู้ใช่ไม๊ว่า 10 ปีที่แล้วเนี่ย การเป็นเกย์ มันไม่ได้เป็นที่ยอมรับในสังคมเราขนาดนี้...แต่ไอ้อ้วนเนี่ยก็ผ่านมาได้แล้วที่สำคัญไปกว่านั้นอีก...ไอ้อ้วนกับไอ้ต้าเนี่ยก็เคลียกันแล้ว แล้วก็เป็นพี่น้องกันอย่างที่เห็น...ถึงขั้นไปเที่ยวกินเหล้าด้วยกันได้เหมือนเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเลยแหละ... แต่ ! ไอ้ต้ามักจะทำตัวแปลก ๆ เสมอเมื่อเจอกับแฟนใหม่ของไอ้อ้วนมัน...เรื่องนี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้น...ยังไงซะ ก็ปล่อย ๆ มันไปเถอะนะ...จริง ๆ แล้วไอ้ต้าเนี่ยไม่มีอะไรเลย..แต่มันแค่อาจจะรู้สึกว่า ไอ้แฟนใหม่ของไอ้อ้วนเนี่ยจะมาหลอกไอ้อ้วนตลอดก็ไม่รู้...แต่ก็อย่างว่าแหละ..คนมาหลอกไอ้อ้วนก็เยอะ..แล้วที่สำคัญ แม่งมันสายทุ่ม สายเปย์ ไอ้อ้วนไม่เคยรักใครแล้ว กั๊กเลยนะ...เป็นไงหละไปเที่ยว ญี่ปุ่นกับมันมา...ฟินไม๊หละ

บี : ผมออกค่ากินทั้งหมดครับพี่...ผมไม่ให้พี่เขมออกแล้วครับ ผมเกรงใจ

พี่ตาล : แล้วมันยอมเหรอ...พี่ตาลทำหน้าตกใจมาก

บี : ก็ต้องยอมแหละครับ...เพราะผมเอากระเป๋าตังพี่เขมไปซ่อน ​555555

พี่ตาล : เมิงนี่มันก็ร้ายไม่เบานะ

บี : ผมก็ไม่อยากให้พี่เขมออกทุกอย่างหรอกครับ...ผมไม่ชอบดูเหมือนมาเกาะพี่เขมกิน

พี่ตาล : เฮ้ยไม่ดิ...ไม่มีใครคิดหรอก..มันรวยจะตาย มันเต็มใจเลี้ยงอยู่แล้ว

บี : ถึงใคร ๆ จะไม่คิดแต่ผมก็คิดครับพี่ตาล...อย่างน้อย ๆก็ให้ผมได้ช่วยออกบ้างก็ดี

พี่ตาล : เป็นเจ๊หละไม่ได้...แม่งให้มันออกให้หมด

แล้วผมกับพี่ตาลก็หัวเราะกันครับ...พอกลับไปที่ห้องพี่เขม...ผมก็เห็นทุกคนร้องเพลงกันครับ เอาเครื่องดนตรีชิ้นเล็ก ๆออกมานั่งร้องเพลงเล่นกัน...มันเป็นภาพที่อบอุ่นมากเลยครับ...แฟนผมนั่งตีไอ้ กาฮอง พอผมเปิดประตูเข้าไป พี่เขมก็เดินมาลากผมให้ไปนั่งข้าง ๆ พี่แกทันที...ผมนั่งลงกับพื้นข้าง ๆ กาฮองครับ...แล้วพี่เขมก็เอาเท้าสอดไว้ คล้องกับขาผม

พี่เขม : ห้ามไปไหนละนะ...ไอ้เก่งจ้องตาเป็นมันเลย...(พี่เขมกระซิบ...แต่เหมือนทุกคนจะได้ยิน)

พี่เก่งปล่อยขำก๊ากออกมา

พี่ต้าลุกออกไปจากวง...อีกแล้ว...ทำไมต้องเป็นตัวทำให้บรรยากาศเสียด้วยฟระ...กรูก็เริ่มจะอดทนไม่ไหวละนะ....นางชะนีเฒ่า...เด่วเสกหนังควายเข้าท้องแม่งเลย

ผมสะกิดพี่เขมแล้วบอกว่า .. “พี่เขม ก่อนกระซิบ...เคลียหูก่อนไม่พี่* แม่งกระซิบยังไงเนี่ยคนทั้งห้องได้ยินหมด”

ทุกคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน...แล้วก็เป็นพี่เก่งที่ทำท่า หัวใจส่งมาให้ผม
พี่เขมเอาขนมขว้างใส่พี่เก่ง...แล้วก็ทำหน้ายักใส่

พี่เก่ง : เมิง ไอ้อ้วน...ไปดูให้หน่อยดิ๊...ว่าแม่งเป็นอะไร..กรูไม่ไหวจะเคลียละ

พี่เขม : เออ...เด๋วกรูออกไปเคลียให้

พี่เขมลุกออกไปคุยกับพี่ต้าที่ระเบียง...ผมไม่ได้ยินอะไรเลย ถึงแม้ว่าจะพยายามแอบฟังเท่าไหรก็ตาม...แต่ไอ้คนที่กวนผมเนี่ยครับ...มันไม่ยอมจะหยุดเลยครับ...

พี่เก่งไง จะใครเล่า ... “ไอ้หนูน้อย...มา ๆ พี่สอนเล่น อากูเลเล่ เอาไม๊”

บี : พี่เขมสอนผมเล่น กาฮองแล้วครับ...พอคับ...สมองผมน้อย

พี่เก่ง : หว้า...อดแต๊ะอั๋งเลย

พี่พริ้งเอาถั่วขว้างใส่พี่เก่งอีกรอบ....

พี่ตาล : มึงหยุดเลยไอ้จิ๊กกุ่งทอด...เด๋วกรูถีบให้

พี่เก่ง : เออ...กรูเลิกเล่นก็ได้...ไอ้หนูน้อยมันกลัวกรูไปแล้วเนี่ย...

พี่พริ้ง : ก็ควรมะ...

พี่เก่ง : ก็น้องมันน่ารัก...กรูก็เลยอยากแกล้งมันหน่อย...ว่าแต่...เล่นเป็นแล้ว..ร้องเพลงอะไรได้

บี : โหยพี่...ผมฝึกมาดีนะคร๊าบบบ...ได้ทั้งหมด 1 เพลงถ้วน เคาะแทบตาย มือแทบหัก

พี่เก่ง : อ่า ๆๆ ไหน ๆ โชว์มาสิ๊...ไอ้อ้วนคุยนักหนาว่า มีไอเดียเพลงดี


ผมก็เริ่มก่อนเลยครับ...

“The club isn't the best place to find a lover
So the bar is where I go (mmmm)
Me and my friends at the table doing shots
Drinking fast and then we talk slow (mmmm)
And you come over and start up a conversation with just me
And trust me I'll give it a chance now (mmmm)
Take my hand, stop, put Van The Man on the jukebox
And then we start to dance
And now I'm singing like…..

แล้วพี่เขมก็โผล่มาร้องท่อนต่อไปอย่างดัง....มันเป็นท่อนที่เมื่อก่อนพี่เขมดำน้ำแต่ตอนนี้ มาอย่างโปรแล้วครับ...แล้วก็จุงมือมากับพี่ต้า...พี่ต้าเริ่มมีสีหน้าที่ดีขึ้นแล้วทั้ง 3 คน ก็นั่งลงบนโซฟาตัวน้อย ที่นั่งได้แค่ 2 คน มี พี่เก่งที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว พี่เขม กับพี่ต้า เดินลงมานั่งทับพี่เก่ง ทำตัวโซฟาตัวนั้นแทบจะระเบิดออกมาทันที... 3 คนนี่ก็ตีกันไปเรื่อย ๆ ผมเลยหยุดเล่นแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำครับ...เพราะทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องของ 3 คนนี้...ผมยืนฉี่ได้ซักแป๊ปก็ได้ยินเสียงคนร้องออกมาอย่างดังครับ...ผมรีบทำธุระให้เสร็จแล้วรีบออกไปดูครับ

เป็นพี่เขมที่นอนอยู่กับพื้นแล้วเอามือจับที่หลัง...

ผมตกใจมากไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมพุ่งตัวไปยังตัวพี่เขมเพื่อจับตัวพี่เขมก่อน
หน้าพี่เขมหลับตาปี๋แล้วไม่มองอะไรทั้งนั้นแล้วเอาแต่พูดว่า เจ็บ...ทุกคนช๊อคทำอะไรไม่ถูก พี่ต้า พี่ตาล พี่พริ้ง กรีดร้องโวยวาย ...ผมสั่งพี่เก่ง...เหมือนผีเข้าสิงครับ
เพราะผมเป็นคนที่กินเหล้าและเบียร์น้อยที่สุดครับ

บี : พี่เก่งกุญแจรถ...ช่วยผมแบกพี่เขมไปที่รถเร็วเข้า

พี่เก่ง : .....(ยังคงยืนอึ้งไม่ตอบสนอง).....

บี : พี่เขมบอกบี...เจ็บตรงไหนบ้างครับ...หายใจช้า ๆ พอจะลุกขึ้นไหวไม๊

บี : พี่เก่ง (ผมตะโกนสุดเสียง)....กุญแจรถ!!!! แล้วมาช่วยผมแบกเร็ว!

พี่เก่งได้สติกลับมา แล้วรีบจับพี่เขม พยุงลุกขึ้น แต่ด้วยความเมาของพี่เก่งทำให้พี่เขมเริ่มจะเซ...แล้วเหมือนว่ากำลังจะล้ม
ผมล็อคตัวพี่เขมไว้แน่น แล้วเอาตัวผมสอดด้านล่างพี่เขมเพื่อจะแบกพี่เขมขึ้นหลัง
พี่เขมร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด.. “บีคับ...พี่เจ็บไม่ไหว ๆ”
ผมค่อย ๆจับพี่เขมให้ยืนโดยทิ้งน้ำหนักมาที่ผมคนเดียว....ไปท่านี้ไหวไม๊พี่เขม

หรือให้เรียกรถพยาบาล...ท่านี้พอไหว

แล้วผมก็ยกพี่เขมขึ้นหลังผมอย่างช้า ๆ ไม่ใช่ว่าไม่หนักนะครับ...ถึงผมจะตัวสูงกว่าพี่เขมแต่ตัวผมก็บางกว่าพี่เขมมากครับ

อาจจะเพราะด้วยความตกใจผมจึงแบกพี่เขมขึ้นหลังคนเดียวได้เลยแล้วเราก็พากันไปที่รถครับ...ผมให้พี่เขมนอนอยู่เบาะหลังแล้วพี่เก่งนั่งอยู่เบาะหน้า

ผมสั่งใส่พี่ผู้หญิงทุกคน เก็บห้องให้เรียบร้อยแล้วค่อยออกตามมาที่โรงพยาบาล...ผมเลือกที่จะไปโรงพยาบาล ที่ผมเคยไปครับ...พอถึงโรงพยาบาล ผมรีบพาพี่เขมเข้าหาหมอห้องฉุกเฉินก่อนเลยครับ...ตอนนี้พี่เขมได้แค่พูดว่าเจ็บอย่างเดียว..ผมอธิบายให้กับหมอฟังเล็กน้อยแล้วหมอก็จับพี่เขมไปเอ็กเรย์ทันทีครับ

ผมนั่งรอได้ซักพักผมเลยเดินไปหาหมอกายภาพที่ผมมาพบบ่อย ๆ แต่หมอพักทานข้าวอยู่ครับ...ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกปวดหลังของตัวเองตุบ ๆ อาจจะเพราะแบกพี่เขมลงมาจากคอนโดโดยไม่ได้ระวังตัว...ผมเดินกลับไปหาพี่เขมแล้วก็เห็นพี่เขมนอนคว่ำอยู่ครับ...มีหมอท่านนึงกำลังทำการตรวจเช็ค...พี่เขมเรียกร้องหาผม อยากให้ผมเข้าไปด้วยครับ...พยาบาลจึงมาเชิญผมเข้าไปในห้องตรวจด้วย

หมอถอดหน้ากากออกมาครับ...เป็นหมอที่ขาวและหล่อมากกกกกกกกกกกกกกกก คิ้วเข้มมีหนวดเครานิด ๆ นี่ถ้าเค้าไม่ได้ใส่ชุดกราวและมีที่ฟังหัวใจอยู่บนคอนี่ผมไม่เชื่อโดยเด็ดขาดเลยครับว่าเป็นหมอ...ผมจะนึกว่าเป็นนายแบบ เลยทีเดียว
ผมพยายามบอกเหตุการณ์ให้หมอฟังอย่างละเอียด พี่เขมได้แต่นอนหันหน้าออกไปอีกทางนึงแล้วโอดครวญด้วยความเจ็บปวด...ผมได้ยินเหมือนเสียงสูดน้ำมูกของพี่เขม...ตอนนี้พี่เขมอาจจะร้องไห้อยู่ครับ

คุณหมอบอกว่าต้องรอดูผลของเอ็กเรย์ก่อนเดี๋ยวตอนนี้จะให้ยาแก้ปวดไปก่อนเป็นแบบฉีดครับ...พี่เขมกลัวเข็มมากกกก พี่เขมส่ายหัวดิ๊ก ๆว่าไม่เอายาฉีดครับ
คุณหมอก็ใจดีไปหายาพ่น ทำให้อาการปวดน้อยลงไปได้ก่อน แล้วคุณหมอก็สังเกตหน้าของผมแล้วก็ถามผมว่าผมเป็นอะไรรึป่าว..ผมก็ตอบไปว่าปวดหลังครับ อาจจะเพราะแบกพี่เขมมา

หมอก็บอกให้ผมถอดเสื้อออกแล้วเดี๋ยวคุณหมอจะดูให้ เพราะตอนนี้ยังไงก็ต้องรอผลของพี่เขมก่อน แล้วตอนนี้ไม่ได้มีเคสอะไรที่จะต้องไปทำ หมอเลยจะตรวจให้...หมอก็บ่นไปว่า “คนช่วยเนี่ยก็ต้องระวังตัวนะ...จะช่วยคนอื่นก็ต้องดูว่าตัวเราเองอะไหวรึป่าว แล้วถ้าช่วยแล้วตัวเองยิ่งเจ็บและเป็นหนักกว่าเดิมนั้น...ไม่สมควรรึป่าวที่จะช่วย”
ตอนนี้พี่เขมน่าจะเริ่มเจ็บน้อยลงแล้วครับหลังจากยาพ่นไป พี่เขมหันหน้ามาดูผมที่กำลังโดนหมอตรวจอยู่

ผมถอดเสื้อแล้วนั่งอยู่ที่โต๊ะกับหมอแล้ว...พี่เขมมองมาที่ผมด้วยสายตาเศร้า...ผมส่งซิกยกนิ้วให้พี่เขมว่าผมไม่เป็นอะไรหรอก

หมอบอกว่า น่าจะไม่เป็นอะไรมากมาย อาจจะเพราะแบกน้ำหนักที่มากเกินอาจจะทำให้กล้ามเนื้อ ได้รับบาดเจ็บบ้าง เด๋วหมอจะส่งไปให้หมอแผนกกายภาพตรวจดูอีกที...แล้วผลของพี่เขมก็มาถึง...หมอทำท่าพินิจพิจารณาอย่างหนักแล้วก็บอกว่าต้องส่งไปให้หมอกระดูกดูอีกทีจะดีกว่า...หลังจากนั้นพี่เขมจึงถูกส่งตัวไปให้กับหมอกระดูก และผมต้องไปพบกับหมอกายภาพ ซึ่งผมยังคงยืนยันว่าจะไปพร้อมกับพี่เขมอยู่...ผมจับมือพี่เขมเอาไว้แน่น...แล้วผมก็เข้าไปพบแพทย์กับพี่เขมเพื่อฟังผลของแผนเอ็กเรย์

หมอกระดูกบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก น่าจะเป็นอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหลังมากกว่า ผมจึงเบาใจไปได้มากแต่หมอบอกว่าควรรับยาแก้ปวดแล้วร่วมกับการทำกายภาพเพื่อจะได้คลายกล้ามเนื้อที่หลัง

ผมพาพี่เขมออกมาจากแผนกกระดูกแล้วพาไปยังแผนกกายภาพ...แล้วผมก็เจอคุณหมอรูปหล่ออีกครั้ง...คุณหมอหยุดคุยกับผม แล้วบุรุษพยาบาลก็เข็นพี่เขมเพื่อไปแผนกกายภาพก่อน...คุณหมอถามถึงความปวดของผมแล้วบอกให้ผมไปพบคุณหมอได้ถ้าต้องการ....ผมเห็นพี่เขมมองมาด้านหลังแล้วมองหาผม ผมจึงรีบบอกลาแล้วเดินตามพี่เขมไป...แล้วผมก็ขอพบกับคุณหมอที่ผมมารักษาประจำเกี่ยวกับการกายภาพ คุณหมอคนนี้เป็นคุณหมอผู้หญิง ใจดีมากกกกก และใจเย็นมากครับ...และผมก็ยังเจอกับคุณพยาบาลที่เป็นคนฉีดยาให้ผมประจำอีกด้วย...ผมจึงไปหลอกล่อพี่เขมให้ทำการฉีดยาเพื่อลดความเจ็บปวดที่หลังลง

บี : พี่เขม...บีมาที่นี่บ่อย...นี่คุณพยาบาลที่ฉีดยาให้ผมประจำเลย มือเบาที่สุดในโลก เพราะผมก็กลัวเข็มเหมือนกันกับพี่เขมครับ...กลัวแบบขึ้นสมองเลย..ไม่สามารถมองได้เวลามีเข็มเจาะลงไป...เห็นแล้วจะเป็นลม

พี่เขมขำออกมานิดหน่อยแล้วก็ยอมแพ้ต่อความตื้อของผม...

บี : พี่เขม...เอางี้ บีไปอ่านเจอมาว่า...ถ้ากลัวเจ็บให้ไอก่อนจะฉีดมันจะลดความเจ็บได้ บีเคยลองแล้วได้ผลเว้ย...ไม่เชื่อถามคุณพยาบาลดูเลย

คุณพยาบาล : จริงค่ะคุณคนไข้...น้องบีเนี่ย..จะขอไอก่อนทุกครั้งเลย..

บี : อ่า ๆ ผมให้พี่กัดผมด้วย...อยากกัดตรงไหนจะได้ไม่เจ็บ

พี่เขมหันมายิ้มให้ผมแล้วก็ดึงผมเข้าไปใกล้ ๆ  แล้วก็งับที่มือผมเบา ๆ ...พยักหน้าบอกพยาบาลว่าพร้อมแล้ว....

คุณพยาบาล : พี่น้องนี้รักกันดีจังนะคะ...คุณพี่อดทนหน่อยนะคะ

พี่เขมทำหน้าไม่พอใจแล้วก็โดนพยาบาลฉีดยาจนได้

บี : เห็นไม๊พี่เขม...ไม่เจ็บเลย

พี่เขมพยักหน้าแล้วก็ทำหน้างอน ๆ ใส่ผม...ซักพักคุณหมอผู้หญิงก็เข้ามาครับ

คุณหมอหญิง : อ่าวน้องบี...เป็นไงหละวันนี้...ปวดตรงไหนอีก...

บี : ผมปวดหลังนิดหน่อยครับคุณหมอแต่คนนี้สิครับ...(ผมชี้ไปที่พี่เขม)...โดนกระแทกมาไปหาหมอกระดูกมาแล้วครับหมอเลยส่งมาที่นี่ต่อ

คุณหมอหญิง : เด๋วหมอขอดูผลแป๊ปนะ บีไปรอข้างนอกก็ได้

พี่เขม ส่ายหน้าแล้วเกาะแขนเสื้อผมไว้แน่น

บี : คุณหมอครับ...ผมขออยู่ด้วยได้ไม๊ครับ

คุณหมอหญิง : อ่าวเป็นญาติกันเหรอ

พี่เขม : ป่าวครับ...เป็นแฟนผมครับ...(ทีอย่างนี้หละพูดได้เลย)

คุณหมอหญิงกับพยาบาล ขำ ออกมาแล้วก็มองหน้าผม

คุณหมอหญิง : อ่า ๆ ๆยังไงก็ได้

คุณหมอสอบถามอาการพี่เขมอย่างละเอียดอีกทีและทำการให้ทำกายภาพโดยการประคบร้อน, ultra sound และ เลเซอร์ก่อน

ส่วนของผมคุณหมอก็ให้ไปแช่มือในพาราฟินเพราะเจ็บข้อมือ(โรคเก่า)ก่อนแล้วทำ ultra sound ครับ

ก่อนเราจะออกจากห้องตรวจ....คุณพยาบาลเปิดประตูออกมาแล้วก็พบกับคุณหมอรูปหล่อ

คุณหมอหญิง : อ่าว...ว่าไง หมอคิต...มีอะไรเหรอ

หมอคิต : ป่าวครับพี่พร...ผมจะมาถามอาการของคุณ ทน อ่ะครับ

หมอพร : ไปเรียกเค้าว่าคุณ ทน ได้ไง เค้าชื่อ คุณ ธะ นะ หรือน้องบี มะกี้ดูเคสนี้ไว้เหรอ พี่เห็นชื่อแว๊ป ๆ

หมอคิต : เปล่าครับ...พอดีผมตรวจให้พี่ชายเค้าครับ

หมอพร : แฟนเค้าจ๊ะ...ไม่ใช่พี่ชาย

ผมหน้าแดงขึ้นมาทันที...หมอคิตหน้าเจื่อลงไปเลย...

หมอคิต : แล้วคุณบี โอเคแล้วใช่ไม๊ครับ

หมอพร : โอเคแล้วแหละ...พี่ดูแลให้แล้ว...น้องบีมาบ่อย เราสนิทกัน พี่ฝากซื้อน้ำหอมประจำแหละ...น้องเค้าเป็นสจ๊วต

หมอคิต : งั้นผมไม่กวนละครับ...

แล้วหมอคิตเดินหายไปอย่างรวดเร็ว...ทิ้งระเบิดไว้ให้ผม กับไอ้พี่เขมท่ีนั่งทำหน้ามุ่ยอยู่ ไม่รู้ว่าเจ็บหรือว่างอนกันแน่

พอตอนต้องไปกายภาพ...เสียงพี่เขมก็ดังขึ้น เนื่องจากพี่เขมเรียกชื่อผม

พี่เขม : บีคับ....อยู่แถวนี้รึป่าว

บี : คับพี่เขม..

ตอนนี้พี่เขมนอนประคบร้อนอยู่ครับ..แล้วไม่นักเทคนิคการแพทย์อยู่ด้วย
ผมเดินเข้าให้ไปหาพี่เขมเพราะตอนนี้ผมแช่ข้อมือในพาราฟินอยู่....

พี่เขม : นี่เรามาที่นี่บ่อยเหรอ..?

บี : ใช่ครับพี่...ผมปวดหลัง ปวดข้อมือ ปวดคอ ก็มาหาที่นี่ตลอดจนสนิทจะครบทุกคนในแผนกนี้แล้วครับ

พี่เขม : แล้วไอ้หมอหน้าขาวนั่นหละ...รู้จักเหรอ

บี : หมอหน้าขาวอะไรพี่...หมอคิตอะนะ

พี่เขม : เออนั่นแหละ...รู้จักมะ

บี : ไม่รู้จักคับ...เค้าน่าจะอยู่แผนก ER นะ เพิ่งเคยเจอครั้งแรก

พี่เขม : วันหลังไม่ต้องมากายภาพที่นี้อีกนะ

บี : เฮ้ยพี่เขม...ไมอ่ะ

พี่เขม : พี่ไม่อยากให้เจอไอ้หมอหน้าขาวนั่น

บี : หึงเหรอ?

พี่เขม : ก็เออดิ...มีอย่างที่ไหน...พี่เป็นคนไข้มันแท้ ๆ แต่ตาเนี่ยไม่มองพี่เลย มองแต่คนที่มาด้วย...ชิ

บี : ….พี่ก็ประกาศไปแล้วไงว่าเป็นแฟนผมอ่ะ...

พี่เขม : ไม่พอ...

บี : นี่..พี่เขม...จะมากไประนะ...ผมมานั่งปวดหลังอยู่นี่ก็เพราะแบกใครมา ตัวไม่ใช่จะเล็กๆ

พี่เขมทำหน้ามุ่ย.....

บี : แล้วไปเล่นอะไรกันมาถึงได้เจ็บขนาดนี้

พี่เขม : ก็พวกมันอ่ะดิ..แม่งเล่นกระโดดทับพี่...ตัวไม่ใช่เล็ก ๆ

บี : เออ...โต ๆ กันละเนอะ...ไม่ใช่เด็ก ๆ เล่นอะไรกันอ่ะ

พี่เขม : บีคับ....อย่าไปถือสาไอ้ต้ามันเลยนะ...

บี : อ่าวพี่ก็รู้ด้วยเหรอ

พี่เขม : รู้ดิ...พี่รู้จักมันดี

บี : ก็แน่สิคนเคยเป็นแฟนกัน

พี่เขม : อ่าวรู้ด้วยเหรอ...

บี : อืม...

พี่เขม : เออออ....มันก็เป็นอย่างงี้แหละ...เด๋วมันก็หาย มันไม่มีอะไรหรอก พี่จัดการไปละ


แล้วโทรศัพท์พี่เขมก็ดังขึ้น....

พี่เขม : เฮ้ย..แม่โทรมาหวะ...บีรับให้หน่อยดิ

บี : อ่าวทำไมอ่ะพี่...แม่โทรมาอาจจะรู้แล้วเป็นห่วงก็ได้

พี่เขม : ไม่เอาอ่ะ...บอกว่าอยู่โรงพยาบาลทีไร...แห่กันมาหมดบ้านทุกที

บี : แล้วผมจะทำอะไรได้หละพี่

พี่เขม : อ่ากดรับแล้ว..คุยเร็ว....(แล้วพี่เขมก็โยนโทรศัพท์มาให้ผมซะงั้น)



คุณแม่พี่เขม : เขมเป็นไงบ้างลูก...ลูกตาลโทรบอกแม่แล้วนะ เด๋วแม่กำลังจะไปหา

บี : คุณแม่ครับ...นี่บีเองนะครับ....คุณแม่ไม่ต้องตกใจนะครับ พี่เขมไม่เป็นไรแล้วครับผม แค่น่าจะนั่งผิดท่าแล้วโดนเพื่อนทับนิดหน่อยอ่ะครับ...

คุณแม่พี่เขม : ลูกบีก๋าลูก...อ้ายเขมเป๋นจะใดพ่องลูก แม่เป๋นห่วงมันขนาดลูก มันเจ็บตางใดฮั่น(ลูกบีเหรอลูก...พี่เขมเป็นยังไงบ้าง แม่เป็นห่วงมากเลย มันเจ็บตรงไหน)

บี : คุณแม่คับ...พี่เขม บ่เป๋นหยังนักละคับแม่...มอกปวดหลังบะดาย หมอฉีดยาคลายกล้ามเนื้อฮื้อแล้ว หมอยับตรวจเอ็กเรย์แล้ว ไปหาหมอกระดูกมาแล้วครับ และตอนนี้มาหาหมอกายภาพ บีฮู้จักกับหมอกายภาพตี้นี่คับ...บ่ต้องห่วงเน้อครับ(คุณแม่ครับ พี่เขมไม่ได้เป็นอะไรมากครับ แค่ปวดหลังเฉย ๆ หมอฉีดยาคลายกล้ามเนื้อให้แล้ว หมอจับตรวจเอ็กเรย์แล้ว ไปหาหมอกระดูกมาแล้วครับตอนนี้หาหมอกายภาพ ที่บีรู้จักที่นี้ครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ)

คุณพ่อพี่เขม : บีเหรอลูก...ไอ้เขมเป็นยังไงบ้าง

ผมกรอกตา..ต้องอธิบายใหม่ทั้งหมด เปิด speaker ก็ไม่บอกจะได้ไม่ต้องใช้ภาษาเหนือในการสนทนา

คุณแม่พี่เขม : โห๋...คุณตะกี้ลูกบี ก้าหาบอกละลอ

คุณพ่อพี่เขม : ก็ภาษาเหนือผมไม่ค่อยแข็งแรงอ่ะ

ผมบอกอย่างละเอียดอีกครับ พร้อมทั้งเดินออกมาจากห้องที่พี่เขมนอนประคบร้อนอยู่เพราะตอนนี้ คุณนักเทคนิคการแพทย์คงจะมาทำ ultra sound ให้กับพี่เขมแล้ว

ผมเดินออกมาเรื่อย ๆ แล้วก็คุยกับคุณแม่พี่เขมเป็นภาษาเหนือออกมา แล้วผมก็มาหยุดอยู่ตรงทางเดินหน้าแผนก...มีคนยืนยิ้มให้ผมอยู่
คุณหมอคิตนั่นเองครับ...คุณหมอนั่งลงข้าง ๆผมแล้ว เหมือนจะรอคุยอะไรกับผมซักอย่าง

หลังจากผมวางโทรศัพท์เพื่อเกลี้ยกล่อมให้คุณพ่อคุณแม่พี่เขมไม่ต้องมาโรงพยาบาลได้สำเร็จ..

หมอคิต : มาที่นี่บ่อยเหรอครับคุณบี

บี : ครับคุณหมอ...เรียกผม บี เฉย ๆก็ได้ครับ

หมอคิต : ตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้างครับ ปวดอยู่ไม๊

บี : ปวดอยู่ครับตอนนี้แช่พาราฟินอย่างเดียวอยู่เลยครับ...รอทำ ultrasound

หมอคิต : แล้วจะมาที่นี่อีกวันไหนครับ

บี : อ่าวพี่ตาล พี่พริ้ง พี่เก่ง พี่ต้า ทางนี้ครับ

โชคดีมากเลยครับ...พี่ ๆ มาช่วยไว้ทันเวลาพอดีเลย ผมทำไมรู้สึกเหมือนกำลังจะโดนหมอหล่อจีบ

เสียงพี่ต้าพูดขึ้นมา

พี่ต้า : อ่าวหมอคิต...สวัสดีค่ะ

หมอคิต : อ่าวคุณต้า...หวัดดี..ไม่เจอตั้งนาน

ห่านจิก...ทำไมโลกมันแคปอย่างนี้ นี่คนทั้งเรื่องนี้จะรู้จักกันหมดเลยเหรอ มีแต่กรูสินะที่ไม่รู้จักใครเลย...อย่าให้ไปประเทศเชียงใหม่นะเมิง กรูจะแนะนำตั้งแต่ยามหน้าหมู่บ้านจนถึง เจ้าอาวาสวัดเลย...แต่ตอนนี้ทำไมกรูไม่รู้จักใครเลยฟระ

พี่ต้า : หมอคิตได้ดูแล คนไข้ชื่อเขมไม๊

หมอคิต : อ่อ ได้ดูสิก็คุณต้าโทรมาบอกแล้วไง

พี่ต้า : แล้วอาการเป็นไงบ้างคะ

หมอคิต : ดีแล้วแหละ..ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ที่จะเป็นห่วงก็คนที่แบกมาเนี่ยแหละ

พี่ต้า : ขอบคุณน้องบีมากเลยนะ ที่เป็นสติให้พวกเรา

บี : ครับผม ไม่เป็นไรครับ...(ผมทำหน้างง ๆ ทำไมเจ๊แกคุยกับผมแล้ว)

พี่ตาล : แล้วพ่อแม่ไอ้อ้วนมายังงะ

บี : อ่อ...ผมบอกว่าไม่ต้องมาแล้วครับ

พี่ตาล : เฮ้ยแล้วใครคุยด้วย คุณหมอเหรอ

หมอคิต : เปล่าเลยครับ..คุณบีเป็นคนคุยด้วยครับ...ผมมาแอบนั่งฟังอยู่

บี : ผมบอกพ่อแม่พี่เขมไปละครับว่าอาการเป็นยังไง...แล้วเด๋วก็กลับบ้านได้แล้ว

หมอคิต : คุณบีเนี่ย...จดจำทุกอย่างได้เก่งมาเลยนะครับ บอกทุกอย่างครบถ้วนหมดเลย แล้วมีสติ และพูดให้คนไม่ต้องเป็นห่วงได้อีกด้วย เก่งมากเลยครับ

บี : ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ

หมอคิต : ถ้าไม่บอกว่าเป็นสจ๊วจเนี่ย...ผมนึกว่าเป็นหมอเหมือนกันแล้วนะเนี่ย

บี : คุณหมอก็...ก็ผมทำงานบริการคนบนเครื่องนี่ครับ..ผมก็ต้องทำได้เป็นธรรมดา

หมอคิต : เนี่ย...ถ้าผมเจอเคสยาก ๆ ที่ต้องมาอธิบายให้คนไข้ฟัง หรือให้คุณพ่อคุณแม่ของคนไข้ฟัง ผมจะรบกวนให้คุณบีไปช่วยบ้างนะครับ ผมเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่งอ่ะครับ

พี่เก่ง : บี..ไอ้หนูน้อย..มานี่มาแล้วทำไมเอามือใส่ถุงผ้างั้นหละ

ผมเดินไปหาพี่เก่งแล้วพี่เก่งก็เอาแขนคล้องคอผมไว้ แล้วก็ใช้อีกมือจับแขนผมขึ้นมาดู

หมอคิต : ผมไปก่อนดีกว่านะครับ...หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะครับคุณบี

ผมยกมือไหว้คุณหมอคิตพร้อมกับทุกคน...แล้วหมอคิตก็ส่งสายตามองมาทางผมคนเดียว

พี่เก่ง : นี่ขนาดอยู่ในอ้อมแขนกรูนะ..ไอ้หมอหน้าขาวนั่นยังมองไม่หยุดเลย ไอ้อ้วนเมิงมีคู่แข่งที่น่ากลัวแล้วหละ

บี : อะไรพี่เก่ง...แล้วมาคล้องคอผมไว้เนี่ย...

พี่เก่ง : กรูหวงแทนเพื่อนกรูเว้ย

พี่ต้า : บีเป็นไงบ้าง...เจ็บตรงไหนไม๊

บี : ผมโอเคครับพี่ต้า...เด๋วพี่เขมก็คงจะออกมาน่าจะไม่เกิน 30 นาทีครับ...งั้นผมขอไปทำultrasound ก่อนนะครับ

พี่ตาล : อ่าว...นึกว่าทำเสร็จแล้วซะอีก

บี : ก็คุยกับพ่อแม่พี่เขมอยู่อ่ะพี่

พี่ตาล : เออ ๆ รีบไป ๆ





ผ่านไปเกือบ 1  ชม.

ผมเดินออกมาจากห้อง...พี่เขมเดินมารับผมหน้าห้องเลยครับ

บี : อ่าวพี่เขม...หายแล้วเหรอพี่

พี่เขม : อืม...ไม่ค่อยปวดแล้วอ่ะ ตอนแรกปวดไปถึงสมองเลย

บี : ผมบอกแล้วว่าให้ฉีดยาเชื่อหมอตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องทนนานละ

พี่เขมเดินมากอดผมอย่างจัง...แล้วก็กระซิบ

พี่เขม : ขอบคุณนะ...เอาแรงมาจากไหนมากมายแบกพี่มาตั้งไกลได้

บี : ก็พี่เจ็บหนิ...ผมก็ทนเห็นพี่เจ็บไม่ได้หนิ...(ผมเอาหน้าซุกลงที่คอพี่เขมที่ประจำ)

พี่เขม : ขอบคุณครับ

บี : ป่ะพี่ต้องไปหาพ่อแม่ก่อนนะ...เด๋วเค้ารอนาน

พี่เขม : อ่าวต้องไปด้วยเหรอ...

บี : ก็ผมบอกว่าพี่ไม่เป็นอะไรมาก...เด๋วออกจากโรงพยาบาลแล้วจะพาไปให้พ่อแม่ดูก่อนไง...พ่อแม่ถึงไม่มา

พี่เขม : งั้นแยกกันตรงนี้เลยละกันเนอะ..(พี่เขมหันมาบอกเพื่อน ๆ ทุกคน)

ทุกคนพยักหน้าแล้วแยกย้ายกันกลับ

เรานั่งแท็กซี่ไปบ้านพ่อแม่ของพี่เขม...เพราะตอนแรกผมขับรถพี่เก่งมา

พอถึงบ้านพี่เขม...คุณพ่อคุณแม่ออกมาต้อนรับที่หน้าประตูบ้านเลยครับ

คุณแม่พี่เขม : เป๋นจะใดพ่องลูก....บี ลูกเขม(เป็นอย่างไรบ้างลูกบีลูกเขม)

คุณพ่อพี่เขม : เป็นยังไงหละ...ไปซ่าท่ีไหนมา

บี : สวัสดีครับ คุณพ่อคุณแม่ ผมโอเคครับ แต่พี่เขมอาจจะเจ็บ ๆอยู่หน่อย

พี่เขม : นี่เด๋วก่อนนะ...ไม่ห่วงลูกเลยใช่มะ...มาถึงถามบีก่อนเลย

คุณแม่พี่เขม : ก็ลูกตาลบอกว่าลูกบีแบกลูกเขมคนเดียวเลยนะ

คุณพ่อพี่เขม : เอาแรงมาจากไหนมากมายอ่ะลูก...แบกมันได้ไงตัวตั้งใหญ่

บี : ไม่รู้เหมือนกันครับคุณพ่อ...คงจะตกใจเหมือนแบกตู้เย็นได้เลย

คุณพ่อกับคุณแม่ก็หัวเราะออกมา แต่พี่เขมทำหน้าบึ้งใส่ผม

เราคุยกันกับพ่อแม่พี่เขมซักพักแล้วก็ขอให้พ่อพี่เขมไปส่งที่คอนโดครับ...เพราะผมต้องบินเช้าในอีกวันนึง..แต่ผมไปบินแค่ 2 แลน เช้าแล้วก็กลับมาครับ...

แล้วตอนเช้าก่อนไปบินผมก็เปิดโทรศัพท์เช็คเฟสบุ๊กดูว่ามีอะไรบ้าง
ผมก็เห็นมีคนแอดเฟรนมาใส่เฟสบุ๊กผมนั่นก็คือ พี่เก่ง พี่ต้า

และ คุณหมอคิต

To be continued…


ป.ล. ขอขอบคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกคนนะครับ reply ของทุกคนทำให้ผมยิ้มตลอดเลย เมื่อได้อ่าน สาระภาพเลยว่า วัน ๆ เข้ามาอ่านคอมเม้นวันละหลาย ๆ รอบ 55555 โดยเฉพาะคุณ warin fahsai insomniac zetnezz dekzapp นะครับ ขอบคุณมาก ๆ เลยครับที่คอยตามอ่าน

หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 24 คุณหมอสุดหล่อ P.3 (30-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 30-09-2017 17:20:06
พี่เขมลำบากหน่อยนะมีแฟนน่ารักก็มีคนชอบเยอะ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 24 คุณหมอสุดหล่อ P.3 (30-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zliezen ที่ 30-09-2017 18:36:06
ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกก ค่อยๆพัฒนากันไป
ชอบทีเจอกันไม่ได้จีบกันเลยทันที แต่เกิดจากความใกล้ชิด ค่อยๆซึมจนเริ่มชอบ

ตอนที่บีชอบพี่เขมก่อน เก็บไปเพ้อ แต่ทำตัวไม่ง่ายนะจ๊ะนี้ใช่เลย เคยเป็นเหมือน เพ้อทุกวัน แต่พอเค้าชวนคุยก็ต้องนิ่งไว้ เซฟตัวเอง เผื่อเค้าไม่ได้คิดไกลจะได้ไม่เจ็บตัว

รออ่านทุกวันเลยนะ สนุกมากเลยๆ บีน่ารัก
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 24 คุณหมอสุดหล่อ P.3 (30-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 30-09-2017 19:23:50
สนุกมากเช่นเคย  น้องบีเสน่ห์แรงตล๊อดดดด  5555555555
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ประกาศ
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 30-09-2017 22:48:19
ประกาศแจ้ง

กราบเรียนผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน,

เนื่องจากเดือนตุลาคม 2560 มีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กรผมจึงของดการลงนิยายเรื่องนี้ตอนต่อไปเป็นเวลา 1 เดือนครับ เพราะผมและญาติ จะไปร่วมกราบพระบรมศพฯ และร่วมไว้อาลัย หวังว่าผู้อ่านจะเข้าใจและยังคงติดตามตอนต่อไปของนิยายเรื่องนี้

KISS AND FLY จะกลับมาลงใหม่ในวันที่ 1 พฤษศจิกายน 2560 ตอนเวลาประมาณ 18:00 น. และในช่วงระหว่าง 1 เดือนนี้ผมจะทำการแก้คำผิดต่าง ๆ ที่ได้ลงไว้

ป.ล. ผมขอโทษที่ไม่สามารถลงเรื่องนี้ได้อย่างต่อเนื่องจริง ๆ ครับเนื่องจากต้องพาญาติและพ่อแม่ไปกราบพระบรมศพฯ และผมจะการเก็บข้อมูลต่าง ๆ เพื่อทำการแต่งในเรื่องต่อไปในช่วงเวลานี้ด้วยครับ

ป.ล. 2 ผมขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านจริง ๆ ครับ ผมไม่เคยคิดว่ายอดอ่านจะทะลุหลักพันจริง ๆ แค่เห็นยอดอ่านน้ำตาก็จะไหลแล้วครับ

ป.ล. 3 คือมาค้างเอาตอนนี้ด้วย...ผมแทบจะอยากลงทีเดียวให้จบทุกอย่างเลยแต่กลัวว่าคุณภาพจะไม่ดี ขอโทษด้วยจริง ๆ จะครับ

All the best,
cybershot
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 24 คุณหมอสุดหล่อ P.3 (30-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 30-09-2017 23:19:18
รอไปอีก1เดือน

สงสารหมอจัง จะมีคู่ไหมหนออ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 24 คุณหมอสุดหล่อ P.3 (30-9-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Naamtaan22 ที่ 19-10-2017 23:02:41
รออ่านตอนต่อไปค่ะ ชอบค่ะสนุกมากกกกก
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 25 มีแฟนเป็นนักบินก็ไม่ได้แย่นะครับหมอ P.3 (1-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 01-11-2017 18:14:41
ตอนที่ 25 มีแฟนเป็นนักบินก็ไม่ได้แย่นะครับหมอ

ผมไม่ลังเลที่จะกดรับ เฟรนจากพี่เก่งและพี่ต้าเลยครับ...ผมเลยให้หมอคิตค้างเอาไว้ตรงนั้นก่อน...แต่ก็แปลกครับที่...หมอคิตไปได้เฟสบุ๊กของผมมาได้ไง...แต่ก็ไม่น่าจะสืบยากครับ...เพราะผมตั้งชื่อในเฟสบุ๊กตรงกับชื่อและนามสกุลของผมเลยครับ

ผมก็ไปบินจนกลับมาถึงห้องประมาณเที่ยงวันครับ...ผมทำการไลน์บอกพี่เขมว่า ผมบินเสร็จแล้วนะ...เด๋วผมของีบก่อนแป๊ปนึงเด๋วบ่าย ๆ เย็น ๆ ไปหา

การนอนของลูกเรือเป็นสิ่งสำคัญมากครับ หลาย ๆ ครั้งคุณจะเห็นว่าทำไมลูกเรือถึงต้องมีแฟนเป็นลูกเรือด้วยกันเองหรือกับนักบิน ไม่ใช่เพราะว่าเราหยิ่งหรือสังคมของเราแคบนะครับ แต่คนอาชีพใกล้ ๆ กันก็มักจะเข้าใจกันเป็นพิเศษ คนที่ทำงานเป็นข้าราชการ หรือพนักงานออฟฟิต เค้าแทบจะไม่เข้าใจเลยครับที่ผมกลับมาแล้วต้องของีบ อย่างเช่นวันนี้ทั้ง ๆ ที่ไปบินมาแค่ 2 แลนเช้า แต่ผมต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 เพื่อแต่งตัวแล้วก็ไปบิน แล้วคิดดูครับว่าผมจะต้องเข้านอนอย่างน้อยตั้งแต่ 3 ทุ่มเพื่อนอนให้ได้ 6 ชม. แล้วคนห่าอะไรจะนอนได้ตั้งแต่ 3 ทุ่มจริงไม๊ครับ เพราะฉะนั้นผมก็เลยใช้วิธีเก็บชั่วโมงนอนเอาครับ คือถ้านอนไปแล้ว 3 ชม. ก็จะกลับมางีบอีกซักหน่อย 2-3 ชม. เพื่อให้ครบ 6 ชม. อย่างงี้ก็ถือว่านอนพอครับแต่ ทฤษฎีนี้ใช้ได้กับผมคนเดียวเท่านั้นนะครับ คนบางคนแม่งแทบไม่นอนเลยก่อนไปบินเช้าเพราะนอนไม่หลับ แต่สำหรับผมไม่เป็นครับ แต่จะเป็นตอนที่ไปบินข้ามคืนแล้วแลนด์ลงมาตอนเช้า ที่จะทำให้ผมหลับแทบจะไม่ได้เลย แล้วอาชีพอย่างพวกเราวัน จันทร์ อังคาร นี่ก็จะไม่รู้จักเลยครับ พวกเราคุยกันเป็นวันที่ครับ เพราะว่าชีวิตเราขึ้นอยู่กับตารางบิน เราจะจำได้แค่วันหยุดของเราหยุดวันที่เท่าไหรและไปบินวันที่เท่าไหร ส่วนหัวสมองอย่างผมจำได้มากสุดก็ 3 วันครับ ว่า 3 วันข้างหน้าต้องบินหรือหยุด แล้วก็ต้องกลับมาดูใหม่

ผมก็สลบไปครับ....

ตื่นมาอีกทีมีคนมานอนกอดผมอยู่ในห้องของผม...ผมตกใจสุดขีดรีบดีดตัวลุกจากเตียงเลยครับ...ทำการสะบัดแขนที่กอดผมออก...สรุปเป็น.....พี่เขมเองครับ...

พี่เขมตื่นมาด้วยความงัวเงีย...แล้วบอกว่า....

พี่เขม : เกิดอะไรขึ้นเหรอ...ฝันร้ายรึป่าว

บี : โห...ก็พี่เล่นมานอนกอดผมอยู่ในห้อง...ไม่ได้บอกซักคำว่าจะมา ผมก็ตกใจดิ

พี่เขม : อ่าวก็พี่มีกุญแจแล้วหนิ

บี : ก็ลืมไปไงครับ...ผมก็นึกว่าผมโดนผีอำ

พี่เขม : ผีอะไรหล่อขนาดนี้....มา ๆ นอนต่อกันเถอะ

บี : ไม่เอาอ่ะเด๋วกลางคืนนอนไม่หลับ...หิวละด้วย...

พี่เขม : พี่ซื้อก๋วยเตี๋ยวมาฝากอยู่ในครัวอ่ะ ไปแกะกินดิ

บี : แล้วพี่เขมกินแล้วเหรอ....

พี่เขม : กินจากบ้านก่อนมาแล้ว...แม่บอกว่า เย็นนี้ให้ไปกินข้าวที่บ้านด้วย

บี : คือยังไงนะพี่เขม...ให้ผมไปกินข้าวที่บ้านด้วยเหรอ

พี่เขม : ใช่ไง...เค้าจะเลี้ยงอะไรก็ไม่รู้...

บี : อ่า..ครับ ๆ ต้องไปกี่โมงอ่ะพี่

พี่เขม : พร้อมแล้วก็ไป...แต่ตอนนี้พี่ไม่พร้อม...ไปหาหมอมาตอนเช้า...หมอบอกให้หยุด 1  อาทิตย์...ฟินเลยยยยยย

บี : โหย...ขี้โกงหวะ

พี่เขม : โกงไร...เด๋วพี่มาหาทุกวันเลย...ไปรับไปส่งด้วย

บี : ไม่ต้องหรอกคับพี่...ไปซ้อมดนตรีกับเพื่อนบ้างไป...แค่นี้พี่เก่งก็แดกผมจะแย่อยู่ละ...นี่ถ้ายิ่งรู้ว่าซิกตั้ง 1 อาทิตย์แล้วไม่ไปหาเพื่อนบ้างนี่...ผมเละแน่

พี่เขม : อ่าๆ  ๆเด๋วไปซ้อม 1  วันพอ...บีหยุดวันไหนอ่ะ...พี่จะไปซ้อมวันนั้น

บี : อ่าว...ทำไมหละพี่...วันหยุดผมก็ให้ผมซักผ้าบ้างสิ

พี่เขม : จะเอาผ้าที่ไหนไปซักอีกหละ...พี่เอากลับบ้านไม่ให้แม่บ้านซักหมดละ (แล้วพี่เขมก็เอาเท้าชี้ที่ตะกร้าผ้าผม)

บี : เหย...พี่ มีกางเกงในผมด้วยนะนั่นหนะ

พี่เขม : กางเกงในพี่ซักให้แล้วตากอยู่ด้านนอก...เพราะฉะนั้น..วันหยุดก็ไม่มีข้ออ้างแล้ว..ต้องไปซ้อมดนตรีกับพี่ไง...ไอ้ตัวแสบ...มานอนให้กอดเร็ว

บี : โหยยยย...น่ารักขนาดนี้...มาให้รางวัลหน่อย

พี่เขม : ไม่ได้เว้ย...หมอบอกงดกิจกรรม

บี : อะไร ผมจะแค่หอมแก้ม

พี่เขม : อ่าวเหรอ...อ่า ๆ ๆ 555555

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผ่านไปครบ 1 อาทิตย์ ผมก็พาพี่เขมมาทำกายภาพและตรวจเช็คอัพอีกครั้งก่อนที่พี่เขมจะไปบิน...แต่ไอ้พี่เขมสิครับ...มีความสำออยมากกกกกกก เอาง่าย ๆ คือขี้เกียจไปบิน...มีความตอแหลมสุด ๆ อ้อนผมให้ทำโน่นนั่นนี้ให้ทั้งวัน

นี่อีกนิดเดียวจะคิดว่าไอ้พี่เขมเป็น ALS(โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง) มากกว่าแค่ปวดหลังแล้วครับ

พอพามาหาหมอที่โรงพยาบาล...เหมือนพี่แกนึกขึ้นได้ว่าอาจจะต้องเจอหมอคิต ก็เลยเดินไม่ห่างจากผมเลยครับ...จับผมไว้ตลอด..คือชนิดที่ว่าตัวติดกันหนักกว่าเดิมอีก

พอถึงห้องของคุณหมอพร...

หมอพร : อ่า...ว่าไงบ้างคะ คุณเขม...อาการดีขึ้นไม๊

พี่เขม : ดีขึ้นมาแล้วครับ....ไม่มีเจ็บปวดตรงไหนแล้วครับ

หมอพร : แล้ว บี หละ หายปวดหลังบ้างไม๊...ไม่เห็นมาทำกายภาพเลย

บี : ผมติดบินอ่ะครับคุณหมอ...ไม่เหมือนพี่เขม..พี่เค้าได้หยุด 1 อาทิตย์เลยครับ เลยมาได้บ่อย

หมอพร : อืม...ก็คุณเขมจะได้หายไว ๆ ไงหละ หมอเลยให้หยุดยาว...แต่บีนี่สิ ไหนปวดตรงไหนบ้างมาให้หมอดูหน่อยสิ๊

บี : ผมมีปวด ๆ สบักหลังนิดหน่อยครับ...แล้วก็คอ  แล้วก็บ่า ครับ

หมอพร : เห็นมะเป็นเยอะขึ้นเลยเนี่ย...ดูแข็งเป็นก้อนขนาดนี้ จะเอายังไงดี...หมอมีให้เลือก 2 ทาง คือ ขยันมาทำ ultrasound หน่อย หรือฝั่งเข็มหละ

บี : ฝั่งเข็มเลยก็ได้ครับหมอ...ผมเหมือนจะไม่ค่อยว่างแล้วครับ วันหยุดก็ต้องซ้อม...(ผมโดนพี่เขมเหยียบเท้า...แล้วทำหน้าดุใส่)

พี่เขม : ฝั่งมันเลยครับคุณหมอ เด๋วผมออกไปรอด้านนอกนะครับ

หมอพร : อ่าว...ทำไมไม่มาดูแลแฟนหละคะ คุณเขม

บี : พี่เขมเค้ากลัวเข็มอ่ะครับ...

หมอพร : อ่าว บีก็กลัวหนิ...คราวก่อนยังอยู่เป็นเพื่อนกันได้เลย

บี : ไม่เป็นไรครับหมอ...ผมอาจจะชินแล้ว แต่พี่เขมคงต้องอีกซัก 10 ปี 55555

หมอพร : งั้นคุณเขมออกไปรอด้านนอกก่อนก็ได้คะ...อาจจะนานหน่อยนะคะ ไปหาอะไรทานก่อนได้คะ

พี่เขม : ครับคุณหมอ...แล้วพี่เขมก็เดินมาขยี้หัวผมนิดนึงแล้วก็เดินออกไป

หมอพร : นี่บี...หมอคิตเค้าฝากมาถามว่า ทำไมไม่รับแอดเค้าหละ

บี : อ่าว...หมอเป็นคนให้เฟสผมไปเหรอครับ

หมอพร : อืม...ก็เห็นว่าเค้าสนใจ บีนะ

บี : หมอครับ...ผมมีแฟนแล้วครับหมอ...นั่นไงเพิ่งเดินออกไปเอง

หมอพร : มีแฟนเป็นหมอไม่ดีเหรอ?

บี : มีแฟนเป็นนักบินก็ไม่ได้แย่นะครับ

หมอพร : อ่าว คุณเขมเป็นนักบินเหรอ...ว๊ายยยยยย เริ่ดอ่ะ

บี : แต่ยังไงก็ฝากขอบคุณหมอคิตด้วยนะครับที่ดูแลพี่เขมให้

หมอพร : สงสัยจะยากเนอะจีบคนมีแฟนแล้ว

บี : แหม่ ๆ ๆคุณหมอเป็นแม่สื่อตั้งแต่เมื่อไหร

หมอพร : ป่าว ๆ ๆ หมอก็เห็นว่านาน ๆ หมอคิตจะขอเบอร์ใครซักคนนึง

บี : อ่าว...สรุป...ไม่ใช่แค่เฟสเหรอหมอ

หมอพร : ว๊ายยยยตายแล้ว...หมอไม่ได้พูดอะไรนะ มา ๆ ฝั่งเข็มดีกว่า

บี : หมอพร...ร้ายเหมือนกันเนอะ

แล้วเราก็พูดถึงเรื่องอื่นไปครับ...

พอผมฝั่งเข็มเสร็จ...ผมก็ไลน์บอกพี่เขมครับ พี่เขมบอกว่าอยู่ร้านกาแฟสีเขียว ๆ ด้านล่างให้ผมลงมาหา พี่แกจะสั่งกาแฟรอไว้ให้ครับ...มีแฟนเอาใจใส่ดีนี่มันก็ ดีอย่างนี้แหละครับ...ระหว่างทางที่ผมเดินลงบันไดเลื่อนลงมาด้านล่าง..ผมก็เห็นหมอคิตกำลังวิ่งขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อไปชั้นบนครับ...แต่หมอคิตคงจะมองไม่เห็นผม ผมก็แอบดีใจที่หมอคิตไม่เห็นครับ...แต่เพียงคลาดกันไปแค่แป๊ปเดียวผมก็ได้ยินเสียงวิ่งลงบันไดเลื่อนมาครับ ผมนึกว่าคงจะมีคนรีบลงไปไหนซักอย่าง แต่เอ๊ะ เสียงมันมาจากอีกฝั่งนึงหนิ ...ผมหันหน้ากลับไปมอง...เป็นหมอคิตที่วิ่งลงมาจากบันไดทางขึ้นแล้วพอผมเห็นหน้าหมอคิต...หมอคิตก็โบกมือให้ผมครับ....ผมยิ้มให้อย่าง งง ๆ แล้วโบกมือทันทายหมอคิตไป หลังจากนั้นผมก็รีบเดินลงไปหาพี่เขมครับ...โชคดีที่พี่เขมเลือกนั่งอยู่ด้านในสุดของร้านแล้วร้านนี้ก็คนค่อนข้างเยอะครับ...ถ้าหมอคิตตามมาจริง...น่าจะมองไม่เห็น...ผมเลยรีบกินแล้วก็ชวนพี่เขมกลับบ้านครับ....ทำไมโรงพยาบาลกลายเป็นที่ ที่ไม่ปลอดภัยสำหรับผมไปซะแล้ว...5555 ผมมโนไปเองครับ...จริง ๆแล้ว หมออาจจะไม่ได้วิ่งตามมาก็ได้

หลังออกจากโรงพยาบาล...ขับรถมาได้ซักพัก

พี่เขม : เมื่อกี้พี่เจอไอ้หมอหน้าขาวด้วย...

ผมสะดุ้งเสียวสันหลังว๊าบเลยครับ...นึกว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นแล้ว

บี : เจอที่ไหนอ่ะพี่เขม

พี่เขม : หน้าร้านกาแฟ

บี : แล้วหมอเค้าว่าไง

พี่เขม : หมอก็ไม่ว่าไง...ถามถึงอาการปกติทั่วไปแหละ...แล้วก็ถามว่ามากับใคร

บี : แล้วพี่ตอบเค้าไปว่าไง....

พี่เขม : ถามได้...ก็มากะแฟนดิ....แล้วได้เจอหมอคิตมะ?

บี : ผมเห็นตอนลงบันไดเลื่อนอ่ะ...เหมือนเค้ากำลังรีบ ๆ

พี่เขม : แล้วได้ทักกันไม๊

บี : เหมือนเค้าจะไม่เห็นผมนะ....(ผมโกหกเพื่อจะได้จบ ๆ ไปครับ)

พี่เขม : ก็ดีแล้ว...ถ้าเจออีกนะ...พี่จะเอาอะไรไปสู้กับหมอหน้าขาว พี่ก็ยังคิดไม่ออก

บี : สู้อะไรกันหละ....

พี่เขม : แหม่ ๆๆ เห็นไอ้เก่งเล่าว่า ไอ้หมอหน้าขาวก็ออกตัวล้อฟรีเหมือนกันหนิ

บี : แล้วผมมีแฟนเป็นอะไรหละ

พี่เขม : ก็เป็นพี่ไง

บี : ผมมีแฟนเป็นนักบิน เท่ห์จะตาย...แถมแฟนก็รักมากด้วย

พี่เขมยิ้มแก้มปริออกมาเลยครับ...ช่วงนี้แก้มพี่เขมใหญ่เป็นพิเศษเนื่องจากมโนว่าตัวเองป่วยเลยกินยับ...ไม่ออกกำลังกาย ทั้งกลางแจ้งและในร่ม แม้แต่กิจกรรมเข้าจังหวะตอนกลางคืนนี่ยังไม่ให้ผมโดนตัวเลยนะครับ
เราเดินกลับมาที่รถ แล้วพี่เขมก็ขับออกไป

พี่เขม : อยากไปไหนต่อรึป่าว

บี : กลับบ้านก็ได้ครับพี่...หรือพี่อยากไปไหนป่ะคับ

พี่เขม : พี่อยากไปปปปปปป...แล้วก็หันหน้ามาทำท่าทางเจ้าเล่ห์

บี : ไปไหนหละพี่...ดูหนังเหรอ

พี่เขม : ไม่เชิงดูหนัง...แต่อยากจะไปทำหนังสดมากกว่า

บี : ไอ้บ้า...นี่มันกลางวันอยู่เลยนะเว้ย

พี่เขม : ทำอย่างกะไม่เคยเอากันตอนกลางวันงั้นแหละ

บี : เฮ้ยพี่เขม พูดเรื่องนี้ตอนยังไม่ออกจากโรงพยาบาลเนี่ยนะ

พี่เขม : ทำไม มาโรงพยาบาลไม่ได้ไปวัดซักหน่อย ทำไมจะพูดไม่ได้

บี : แต่...จะว่าไป...เราก็ไม่ได้ทำกันนานละเนอะ...ผมเริ่มทำหน้าหื่นกลับใส่พี่เขม

ผมเริ่มเอามือไปจับตรงขาอ่อนพี่เขม...ตอนติดไฟแดงอยู่ครับ...ผมสังเกตได้เลยว่าน้องชายพี่แกเนี่ย...แทบจะระเบิดออกมาจากกางเกงอยู่ละ

บี : นี่ผมแค่เอามือไปจับแค่ขาเองนะ...ขนาดนี้แล้วเหรอ

พี่เขม : ก็...มันหลายวันแล้วไม๊หละ

บี : แล้วถ้าผมไซร้คอพี่หละ...พี่จะเป็นยังไงน้าาาา

ว่าแล้วผมก็ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเริ่มโจมตีพี่เขม...พี่เขมดูจะมีอารมณ์มากครับ...สงสัยจะนานเกินไปที่ปล่อยเขมน้อย...โดดเดี่ยวไม่มีใครเล่นด้วย

พี่เขม : บีครับ....พี่ไม่ไหวแล้วอ่ะ...

บี : เฮ้ย...ไม่ไหวอะไรพี่

พี่เขม : เราไปโรงแรมแถวนี้กันไม๊

บี : เฮ้ย...ขนาดนั้นเลยเหรอ

พี่เขม : มันตั้งกี่วันแล้วหละเนี่ย....

บี : ขอโรงแรมดี ๆ หน่อยละกันนะ...

พี่เขม : พี่ไม่พาเราเข้าม่านรูดหรอกน่า

บี : ก็ดีพี่เปลี่ยนบรรยากาศมั่งเนอะ

พี่เขม : เปิดแอปหาให้หน่อยโรงแรมไรดีแถว ๆนี้

ผ่านไป 15  นาที เราก็ยังตกลงกันไม่ได้ซักทีว่าจะไปโรงแรมไหน...เพราะราคา ถ้าจองวันนี้แม่ง...แพงหูฉีกเลยครับ...สุดท้าย ก็ขับรถไปมา...วนกลับมาที่คอนโดอยู่ดี
5555555

ก็ทำไงได้หละครับ...ผมมันเป็นพวกขี้งกอ่ะ...ถ้าจะให้จ่าย3-4 พันเพื่อจะเปิดห้องเท่านั้นแล้วหละก็...เก็บตังนั้นไว้ไปกินข้าวกินเบียร์ยังจะดีกว่าเลยครับ

แล้วเราก็กลับกันมาที่ห้อง แต่ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ร้อนแรงที่สุดเท่าที่พี่เขม ทำมาเลยครับ



To be continued….

ป.ล. กลับมาต่อให้แล้วนะครับ...หายไป 1 เดือน คิดถึงผู้อ่านทุกคนนะครับบบบ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 25 มีแฟนเป็นนักบินก็ไม่ได้แย่นะครับหมอ P.3 (1-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-11-2017 19:53:33
 :L2: :L1: :pig4:

คิดถึงมากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 25.5 ภาระ P.3 (2-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 02-11-2017 21:49:12
ตอนพิเศษ 25.5 ภาระ
Part ของพี่เขม

หลังจากที่ผ่านการได้เสียกันไป...ในหัวผม...คิดแต่เรื่องอย่างว่าตลอดเวลาเลยก็ว่าได้ครับ...ผมต้องยอมรับก่อนเลยครับว่า ความหื่นในตัวผมเนี่ย มันค่อนข้างสูงอยู่แล้ว
แล้วไอ้สิ่งที่ยั่วยุผมให้มันมีมากขึ้นทุกวันนี้ก็คือ...ไอ้ตัวแสบของผมเนี่ยแหละครับ...ถ้าคุณเคยได้กับใครแล้ว...แล้วคุณได้เป็นคนแรกของเค้า...แล้วเอาจริง ๆ อายุก็ไม่ใช่จะ 15-16 แต่แม่งจะปาไปเกือบ 30 แล้ว ผมแทบจะไม่เชื่อเลยครับว่า...ไอ้ตัวแสบของผมเนี่ย...ไม่เคยเสียตัวให้ใครเลยจริง ๆ

ตอนนี้ในหัวผมมีแต่ เนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล...การที่ลากมืออันหยาบกร้านของผมไปบนผิวขาวละมุนของไอ้ตัวแสบ..ไหนจะความรู้สึก ในการจูบ และรสจูบของมัน ทำให้ผมแทบคลั่งและไม่อยากเอาตัวผมออกห่างไอ้ตัวแสบเลยแม้แต่น้อยครับ...ทุกครั้งที่ผมกลับมาหลังจากบิน...แล้วกลับไปคอนโด..จะกระโดดตัวลงนอนในที่ ๆ ไอ้ตัวแสบของผมนอนอยู่ก่อนหน้านั้นครับ...ไม่ว่าจะหมอน..หมอนข้าง ผ้าห่ม ล้วนแล้วแต่จะมีกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆของไอ้ตัวแสบของผม...ผมจึงไม่ยอมให้แม่บ้านเอาผ้าปูที่นอนไปซักถ้าผมยังไม่รู้ว่าไอ้ตัวแสบของผมจะมีเวลาว่างมานอนกับผมอีกเมื่อไหร

ฟังดูแล้วเหมือนผมเป็นโรคจิตเลยครับ...เสพติดกลิ่นนี้จริง ๆ ยิ่งถ้ามันมานั่งใกล้ ๆผมนะ...ไม่มีครั้งไหนเลยที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของผมจะไม่ไปติดมัน....มันเหมือนมีแม่เหล็กขนาดใหญ่ครับ...ติดอยู่ที่ทุก ๆส่วนในตัวของมัน...พอเข้ามาใกล้ในระยะที่แม่เหล็กสามารถดูดได้แล้ว...ตัวผมก็จะติดหนึบอยู่อย่างนั้นเลยครับ

ผมมีความสุขทุกครั้งที่มันเดินมากอดผม...แล้วเอาหน้าของมันมาซุกที่ต้นคอของผม..มันเป็นเหมือนลูกแมวตัวเท่าควายที่กำลังอ้อนผมอยู่ครับ...แล้วทุกครั้งที่มันแบบนี้..มันเหมือนกดปุ่มสวิชต์ ให้อารมณ์ผมติดไปทุกครั้งเลย

ผมก็กลัวเหมือนกันนะครับ...ที่มันจะเบื่อและไม่อยากให้ผมตัวติดกับมัน...แต่ผมก็ทนไม่ได้จริง ๆ...แต่จากที่สังเกตดู..มันไม่ได้มีความรำคาญใด ๆ แถมยังอาจจะชอบซะด้วยซ้ำไปครับ

   จริง ๆ วันนัดเดทของเราเนี่ยผมได้มี เซอร์ไพร้ให้มันหลายอย่างเลยครับ...แต่พังแทบจะหมด เพราะผมอดใจไม่ไหวจริง ๆ ... ร้านอาหารแสนหรูย่านทองหล่อที่แพงหูฉีก ผมได้จองไว้แล้ว...แต่ก็ต้องยกเลิกไปเพราะเรามัวแต่...เล่นเกมส์รักกันอยู่...พอตกดึกจริง ๆผมจะพามันไปจิบ ที่ roof top แถว  ๆ นั้นเพิ่มบรรยากาศอันสุดแสนจะโรแมนติก แล้วเราจะมาจบกันที่...ผมจองโรงแรมไว้เพื่อจะได้เปลี่ยนบรรยากาศ ในคืนพิเศษของเรา...ผมวาดฝันไว้อย่างสวยหรู..แล้วตอนเช้าผมก็จะ เซอร์ไพร้มันด้วย breakfast in bed ในโรงแรมสุดหรู...นี่ผมทำแบบ อารมณ์พาเมียไปฮันนี่มูลเลยนะครับ...แต่เรากลับทำมันพังทั้งหมด....
   สิ่งที่เกิดขึ้นวันนั้นคือ....หลังจากที่ ไอ้ตัวแสบหน้าแหก เพราะผมนัดน้องเจ..เพื่อจะมาเคลียข้าวของ ของน้องที่มีบางส่วน...ย้ำครับว่า บางส่วน ที่มีอยู่ในห้องผม แล้วผมก็จะให้ไอ้ตัวแสบ เอาข้าวของมาไว้ในห้องผมบ้าง เผื่อวันไหนผมอยากให้ค้างจะได้ไม่มีข้ออ้างหนีกลับคอนโดของมัน...แล้วผมก็เตรียมเรียกไอ้ตาลเพื่อมาเป็นพยาน น้องเจจะได้ไม่กล้าทำอะไรรุ่มรามกับผม...จริง ๆ ผมก็กลัวใจตัวเองอยู่เหมือนกันแหละครับ...แต่ก็กันไว้ดีกว่า มาแก้ทีหลัง..เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นจริง ๆไอ้ตัวแสบคงจะต้องขอเลิกผมเป็นแน่นอน...

   ผมก็เพิ่งจากเคยเห็นมันตอนเปลี่ยนโหมดเนี่ยแหละครับ...จากที่ผมเห็น ทุกครั้งดูใสๆ ไม่ค่อยจะกล้าหาเรื่องใคร...ขี้เกรงใจซะด้วยซำ้ไป แต่ พอเห็นมันยกมือใส่หน้าผม แล้วเดินไปคุยกับน้องเจ...ผมนี่ขนลุกซู่เลยครับ...แม่งไอ้นี่เวลาหน้ามืด..มันก็โหดไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะครับ...

   แล้วผมก็อธิบายให้มันฟังนิดหน่อย...แต่ผมก็ต้องยอมรับและก็บอกมันไปตรง ๆ นะครับว่า สิ่งท่ีเกิดขึ้นทั้งหมดกับน้องเจเนี่ย...มันเกิดขึ้นก่อนที่ผมจะมีความรู้สึกให้กับไอ้ตัวแสบของผม...ผมพร้อมที่จะตอบปัญหา ที่มันอยากจะรู้ทุกคำถามเลยครับ..แต่มันกลับถามนิดหน่อยแล้วก็ปล่อยผ่านไป....มันยิ่งทำให้ผมกลัวครับ...ว่าจริง ๆแล้วไอ้ตัวแสบของผม มันคิดอะไรในหัวกันแน่...หรือมันไม่ได้คิดอะไรมากมายกับผม อย่างที่ผม ทุ่มสุดตัวให้กับมัน...เพราะถ้าเป็นผมแล้วต้องการรู้อะไรซักอย่างจากไอ้ตัวแสบนะ...ผมคงจะให้ไอ้ตัวแสบ วาด ตาราง my mapping มาอธิบายให้ผมเข้าใจทั้งหมดแต่มันกลับ...ถามผมแค่ว่า น้องเจเคยมานอนที่นี่ด้วยเหรอ....จบ....ผมก็เลยไปต่อไม่เป็น...

   จากนั้นก่อนออกไปมันก็ดันมากดปุ่มหื่นของผมติด...ผมเลยจัดไป ไม่แค่ 1  แต่เป็น 2 และ 3 ติด ๆกันเลยครับ...

   สรุปเราได้แค่เดินไปกินชายสี่หมี่เกี้ยวหน้าคอนโดนิดหน่อยแล้วก็เดินไปกินเบียร์ข้าง ๆ คอนโด...แถมร้านที่ไปกินเนี่ย...ข้างถนนสุด ๆ แล้วร้านเบียร์ก็ใช่ว่าจะมีบรรยากาศดีอะไรนะครับ...ลีโอ 3 ขวด 199 ครับ..ร้านแม่งบ้านมากกกกกกก ผมกับมันก็นั่งกินเบียร์เม้ามอยกันอย่างมีความสุข...สรุปผมต้องโทรไปยกเลิกทุกอย่างทิ้งหมด ไม่ว่าจะโรงแรม ร้านอาหาร คือเย็นนั้นเนี่ย...สิริรวมแล้ว 2 คน หมดไปไม่ถึง 500 บาท จากตอนแรก เกือบ 5 หมื่น... แล้วที่มากไปกว่านั้น...ผมเห็นมันดูมีความสุขอย่างมากเลยครับ...ไม่มีงอแง....มันยิ่งทำให้ผมเห็นว่า..ไอ้ตัวแสบของผมเนี่ย...มันน่ารักสุด ๆ อย่างไม่ได้ปรุงแต่งอะไรเลย... คือถ้าวันนี้ผมบอกมันว่า พี่ไม่เป็นนักบินละนะ พี่อยากไปขายข้าวมันไก่ มันก็คงจะตอบผมว่า...เออ...แล้วหุงข้าวเป็นแล้วเหรอ...? อะไรประมาณนี้อ่ะครับ...ตัวเงินหรือความร่ำรวยที่ผมมี มันไม่ได้มีผลกับความรักครั้งนี้ของผมเลย...ผมนี่ยิ่งเป็นปลื้มไปอีกกกกกก

   สุดท้ายผมก่อนนอน...ไอ้ตัวแสบเล่นเน็ตอยู่แล้วก็บ่นออกมาอยากไปญี่ปุ่น ผมก็เลยจัดให้ไปเลยครับ...ชุดใหญ่ไฟกระพริบ...ทั้งตั๋ว business class แล้วโรงแรมห้าดาวไปอีก.... เป็นความฟินส่วนตัวครับ...ไม่ได้เกี่ยวกับไอ้ตัวแสบมันเลย

   ผมเริ่มแผนการหลังจากมันนอนหลับไปได้ไม่นาน...ผมโทหาเพื่อนผมที่เป็นคนจัดตารางบิน...ผมรู้ว่ามันยากมากกกกกกกกเพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงแม่ง ตารางจะออกอยู่ละ แต่โชคดีที่ผมได้ทำการแอบไปขอวันหยุดไว้ก่อน 2 วัน แล้วก็ให้มันไปหามาเพิ่มอีก 2 วัน เป็นอันเสร็จสมบรูณ์ครับ

   แล้วผมก็เตรียมของอีกอย่างไว้ให้มันด้วยครับ...นั่นก็คือ กุญแจคอนโดผมนั่นเอง หลายครั้งที่ไอ้ตัวแสบชอบมาหาผมแล้วก็มารอด้านล่างอ่ะครับ...ผมไม่อยากจะให้มันมารอด้านล่าง...แล้วก็เอาจริง ๆเลยนะครับ...ผมไม่เคยคิดจะให้กุญแจคอนโดผมกับใครเลยครับ...เพราะผมหวงคอนโดมาก..มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวสุด ๆ ของผม...คือผมก็อยู่บ้านกับพ่อแม่สลับกับอยู่คอนโดอยู่แล้ว..แต่ถ้ามีอะไรไม่สบายใจ หรืออยากอยู่คนเดียวผมจะมาอยู่ที่คอนโดครับ แล้วที่ผมตัดสินใจให้กุญแจเนี่ยเพราะผมไม่เคยจริงจังกับใครขนาดนี้มาก่อนเลยครับ...ผมไม่เชิงว่าจะให้มันย้ายมาอยู่ด้วยกันนะครับแต่อยากจะให้ไว้เพราะว่าความไว้ใจของผมมากกว่า เป็นเครื่องแสดงว่า...ผมรักและอยากจะมีมันอยู่ด้วยตลอดเวลาครับ

   แล้วพอเช้ามาผมก็จัดการให้ตั๋วเครื่องบินเป็นอย่างแรกแล้วปากผมก็ไม่ดีครับ...คือผมกะจะให้กุญแจห้องผมกับมัน...แต่ดันก็อยากได้กุญแจห้องมันด้วย...จริง ๆก็กลัวมันจะไม่ให้อยู่เหมือนกันนะครับ...เพราะของอย่างงี้ เราไปขอทั้ง ๆที่เค้าไม่ได้เต็มใจจะให้มา...มันจะทำให้อึดอัดทั้ง 2  ฝ่าย แล้วมันก็เกิดขึ้นจริง ๆครับ

ก่อนเปิดซองที่มีตั๋วกับโรงแรมที่เราจะไปเที่ยวกัน ผมก็ขอ กุญแจห้องจากมันครับ...แล้วงานก็เข้าตามที่ผมคาดเอาไว้เลย...ไอ้ตัวแสบมันนิ่ง แบบ...ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก.....ทำเอาผมเครียดไปเลยทันทีครับ...ไม่รู้ว่าจะไปต่อยังไง...จะเอากุญแจให้มันเลยดีไม๊แล้วคำตอบที่ได้จากมันจะคืออะไร แล้วถ้ามันบอกไม่เอาหละ ผมจะหน้าแหกไม๊ ตอนนั้นมันสับสนไปหมด...

ผมเดินเข้าห้องมาสงบสติอารมณ์ผมซักพัก...ผมคิดอยู่นานว่าจะออกไปด้วยท่าทางแบบไหนดี...แบบ

เขม1 : บีครับ...ไม่เป็นไร เอากุญแจห้องพี่ไปก่อนก็ได้แล้วค่อยเอามาให้พี่ทีหลัง

เขม2 : อะ...กุญแจ พี่เตรียมไว้ให้เรานานละ..แต่เราไม่ต้องให้พี่ก็ได้นะ

เขม3 : (หรือว่าไม่ให้แม่งดีฟระ...ประชด)

เขม4 : ถ้ากล้าขอก็กล้าให้...แล้วเอามาแลกกันดิ

เขม5 : (โออยยยยยย....คิดไม่ออกแล่ว)

   ผมนั่งกำกุญแจอยู่นาน...กุญแจนี่ผมก็อุตสาไปซื้อพวงกุญแจ ยี่ห้อดังที่ผมชอบมาคล้องไว้ให้มันแล้ว...ตอนแรกจะซื้อ Bally ให้ครับเพราะเห็นว่ามีตัว B อยู่ แต่ยี่ห้อนี้ผมชอบมากกว่า...แล้วอีกอย่างแพงกว่าอีก...มันต้องดีใจแน่ ๆ เลย

   แต่ผมก็ยังหาวิธีที่จะออกไปแบบว่า...สบาย ๆ ไม่เครียด ไม่กดดัน แล้วหวานซึ้ง เพื่อจะเอากุญแจให้มันได้ พอผมออกไป...อ่าว มันเสือกหายไป คุยโทรศัพท์นอกระเบียงครับ...ดูมีลับลมคมใน...แล้วก็บอกว่าคุยกับแม่...จะกลับไปหาแม่ตอนหยุด 4 วันที่ตรงกับผม  ทีนี้หละครับ...ผมเลือดขึ้นหน้าเลย แม่งกรูเตรียมแผนมาทั้งหมด ทำอยู่มะคืน...แล้วก็เหมือน มีคนขับรถสิบล้อ มาเหยียบเค้กที่ผมอุตสาตั้งใจทำไว้เพื่อให้มัน แล้วก็เขวี้ยงเค้กใส่หน้าผมอีกที....แล้วมันยังมามีหน้าบอกอีกว่าไปเชียงใหม่กับมันแทนไม๊...แผนนัดเดทก็พังไปแล้วรอบนึง...นี่มาแผนจะไปญี่ปุ่นก็พังอีกรอบนึง...ผมนี่ไม่รู้จะจัดการยังไงละครับ...แล้วดูท่าทางของมันก็เหมือนจะลุกลี้ลุกลนยังไงชอบกล มันบอกผมว่าจะไปหาอะไรกินแต่ของในตู้เย็นก็เพียบ...ผมเริ่มรู้สึกได้ละครับว่ามันมีความแปลกอยู่ในตัวของไอ้ตัวแสบ....หรือว่ามันจะงอนผม เฮ้ย...ถ้าต้องแลกให้ผมยกเลิกทุกอย่าง แล้วกลับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้...ผมก็ยอมแล้วครับ..ผมไม่อยากจะให้มันเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้เรามาทะเลาะกันเพราะเรื่องแค่นี้เลย...ผมจึงตัดสินใจบอกกับไอ้ตัวแสบว่าเราต้องคุยกันก่อนละ...ผมว่าเรื่องทุกอย่างกำลังจะแย่ลง...และเป็นไปในทางที่ผมไม่ได้คาดหวังไว้แล้วครับ

   ภาพที่ผมหวังไว้นั้นคือ....ไอ้ตัวแสบโผเข้ามากอดดีใจยิ้มแก้มปริ...แล้วก็เอาหน้ามามาซุกที่คอผมเหมือนทุกครั้ง....อาจจะพากันขึ้นเตียงไม่ก็ไปกินข้าวซักหน่อยแล้วค่อยมาทำอะไรกัน...มันคงจะรักผมขึ้นมากๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เพราะผมพามันไปเที่ยวญี่ปุ่น เราเดินจุงมือกันไปเที่ยวในญี่ปุ่น...ผมจะพาไปทานปลาดิบหน้าล้น ๆ ไปแช่ออนเซ็นแบบส่วนตัว...ถูหลังให้กันงี้....โอยยย...อะไรจะมีความสุขไปกว่านี้หละครับ...แต่ฝันผมกำลังจะสลายเพราะแผนที่ตั้งไว้ พังทะลายไปหมด

   ไอ้ตัวแสบรีบเดินออกนอกห้องแล้วบอกว่าเคลียทีหลัง...ผมยิ่งเริ่มหงุดหงิด...ผมแอบสะกดรอยตามมันไปอย่างเงียบ ๆ แล้วความซวยกรรมเวรของผมก็คือ ลืม ครับ ลืมเอาคีย์การ์ด ไม่ได้ล็อคห้อง ลงมา แบบ งง ๆ อย่างนั้นเลย กลัวว่าจะไอ้ตัวแสบจะคลาดสายตา ผมแอบดูมัน...มันวิ่งไปที่รถ แล้วก็รีบวิ่งออกมา ซักแป๊ปก็มีคนขับรถเข้ามาจอดแล้วคุยกับมัน...ผมไม่เห็นว่าเป็นใคร แต่ตอนนั้น...ผมแบบ...ปรี๊ดดดดมาก ปรอทแตกเลยทีเดียวครับ...แล้วผมก็เห็นรถนั้นขับออกไปในทันที
ยิ่งทำให้ผมสงสัยไปกว่าเดิมอีกครับ...พอมันทำท่าเดินกลับมา..ผมรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำเพื่อหลบมัน...แต่พอผมกลับมาที่หน้าประตูผมก็ไม่เห็นมันแล้ว....มันหายไปไหนของมันฟระ ผมยืนรออยู่พักใหญ่เพราะถ้ามันไม่มีคีย์การ์ด มันก็เข้าตึกไม่ได้และถ้ามันไม่มีคีย์การ์ดมันก็กดลิฟท์ไม่ได้...ผ่านไปนานมากครับจนผมเริ่มจะกังวล..ผมเลยเดินไปขอร้องให้เมเนเจอร์ตึกมาเปิดประตูและลิฟท์ให้ผม..ผมรีบขึ้นไปที่ห้องเพื่อที่จะไปเอามือถือโทรหามัน...แล้วผมก็เจอมือถือผมและมันวางอยู่คู่กัน....มีเบอร์แปลก ๆ 02xxxxxxx โทรมาหาผม 2 -3 รอบแต่ผมก็ไม่สนใจ...ผมเริ่มจะกระวนกระวายใจละครับที่มันหายไป

   ตอนนี้ความโกรธของผมลดลงจนเกือบหมด...มีแต่ความกังวลใจ ที่ไอ้ตัวแสบหายไปที่เพิ่มขึ้นมาแทนที่...ถึงจุดนี้ผมก็รู้ได้เลยว่า ทั้งหมดที่ผมทำไป...ถ้าขาดไอ้ตัวแสบไปมันก็ไร้ค่าครับ...ผมจะไปโกรธมันทำไมในเมื่อ ทุกอย่างที่ผมทำ ทำเพื่อให้มันมีความสุข รักผมมากขึ้น...แต่ถ้าทำแล้วมันทำให้เราต้องมาโกรธและทะเลาะกัน..ผมยอมที่จะยกเลิกทุกสิ่ง..และยอมทำทุกอย่างตามที่ไอ้ตัวแสบของผมต้องการยังจะดีซะกว่า

   แล้วเบอร์แปลกก็โทรเข้ามาอีกที...ผมเลยรับโทรศัพท์นี้ สรุปก็คือไอ้ตัวแสบโทรมา...มันคงจะต้องใช้ตู้โทรศัพท์สาธารณะโทรมาหาผมสินะ ผมแอบขำอยู่ในใจ...ด้วยความเอ๋อ ๆ ของมัน(ไปว่าแต่ไอ้ตัวแสบ...ผมเองก็ลืมกุญแจลืมทุกอย่างเหมือนกัน) ผมทำน้ำเสียง งอนนิด ๆ เพื่อให้รู้ว่า กลับมาต้องเคลียกันให้จบ...แล้วพอมันกลับมา...ผมเห็นหน้ามัน...เหงื่อเต็มหน้า เสื้อเปียกไปหมดเลยครับ มันไปฟิตเนสที่ไหนมารึป่าว

   ไอ้ตัวแสบเล่าให้ผมฟังทั้งหมดเกี่ยวกับสิ่งที่มันโกหกผม...แต่สิ่งนั้นยิ่งทำให้ผมเนี่ย รักมันมากขึ้นไปอีกครับ...มันเป็นคนที่มีความคิดไม่เหมือนชาวบ้านเลย...ถ้าเป็นคนอื่นนะ มีคนขอ แล้วเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว เป็นผม ผมก็เอาให้มันไปเลย แต่มันกลับคิดในทางกลับกัน ว่าถ้าให้ของที่คนต้องการโดยเค้าไม่ได้ขอ...แสดงถึงความใส่ใจ และรู้ใจที่มากกว่า ซึ่งมันก็จริงครับ...ข้อนี้ผมยอมรับ นับถือในความคิดของมันมาก สิ่งที่ผมแปลกใจที่สุดนั้นก็คือ ไอ้พวงกุญแจเนี่ยแหละครับ

   ไอ้ตัวแสบของผมเนี่ยมันเป็นคนที่ใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียดเลยครับ...ผมยังไม่ได้เสี้ยวของมันเลย...ผมอยากให้อะไรผมก็ให้...ไม่ได้นึกเลยว่า คน คนนั้นจะชอบหรือไม่ ไม่เคยจะสังเกตเลยว่า...คนที่เราจะให้เค้าอยากได้อะไรแบบไหน แต่ไอ้ตัวแสบกลับเป็นคนที่ใส่ใจว่าผมใช้อะไร ซื้อให้มันเข้าเซ็ทกัน...โอยยยยย แค่นี้พี่ก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาถวายแล้วเมียจ๋าาาาาา....จะให้ผัวหลง หัวปักหัวปำไปถึงไหน...สุดท้ายเราทั้ง 2 ก็ได้กุญแจห้องของกันและกัน และความเป็นบุพเพ อาละวาด เป็นยี่ห้อเดียวกัน สีเดียวกันแต่แค่คนละแบบเท่านั้นเอง...ซึ่งมันก็เป็นเหมือนตัวผมกับที่รักของผม เราคิดเหมือนกัน อยากให้คนรักของเรา มีความสุขเหมือนกัน แต่เราแค่ทำคนละแบบเท่านั้นเอง
 

มีต่อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 25.5 ภาระ P.3 (2-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 02-11-2017 21:51:30
ต่อ

หลังจากกลับมาจากญี่ปุ่น.....(ถ้าเป็นเรื่องญี่ปุ่นนี่ต้องร่ายยาวมากเลยครับ...ขอติดไว้ก่อน)

   ผมก็นัดปาตี้กินข้าวกับเพื่อน ๆ ที่ห้องผม...ใจจริงเลยเนี่ย...ไม่ค่อยอยากจะนัดเท่าไหร หรอกครับ...แต่ไอ้เก่งนี่สิ..ตื้อจริง ๆ ไลน์มาด่าผมเช้าเย็นเลยว่า ไม่เจอหน้านานแล้ว แต่ก็จริงสำหรับพวกเพื่อนที่เล่นดนตรีด้วยกันครับ....ผมไม่ได้ไปหาพวกมันเลยตั้งแต่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน...แต่ผมก็คุยไลน์กลุ่มกับพวกมันนะครับ...แต่เรื่องที่คุยเนี่ย...ก็เรื่องแฟนผมล้วน ๆ 55555 ก็คนมันเห่อแฟนใหม่หนิเนอะ....เวลาผมได้กินข้าวฝีมือไอ้ตัวแสบทีไร ผมต้องส่งรูปอาหารไปอวดพวกมันทุกครั้งเลยครับ...เพราะแฟนของพวกมันแม่งไม่เอาไหนกันซักคน...สู้แฟนผมก็ไม่ได้...แฟนพวกมันไม่มีใครทำอาหารเป็นเลยซักกะคนเดียว...พอไอ้พวกนี้เห็นผมได้เห็นอาหารฝีมือเมียผมนะครับ....มันนี่อยากจะเจอตัวไอ้บีเข้าไปใหญ่...แต่ครั้งนี้ผมนัดมาแค่ไอ้เก่งครับ...เพราะว่า มันสนิทกับผมที่สุดแล้วและก็ยังมี ต้า....คนที่เป็นแฟนเก่าผม(เป็นผู้หญิงนะ) (ไว้ผมจะเล่ารายละเอียดของเรื่องของเราสองสามคนให้ฟังทีหลังละกันครับ....)

   ที่อยากจะให้ 2 คนนี้มารู้จักไอ้ตัวแสบของผมก็เพราะ...มันจะได้เลิกรู้สึกผิดกับผมซักที ที่อยู่ดี ๆ มันสองคนก็คบกัน แต่มันก็หลังจากผมเลิกกับต้าไปนานมากแล้วนะครับ แต่ตัวต้าเองก็คงยังรู้สึกไม่สนิทใจอยู่ดีท่ีมาคบกับเพื่อนสนิทผม ส่วนไอ้จิ๊ก กุ่งเนี่ย...(ฉายาไอ้เก่ง) ผมเคลียกับมันนานมากแล้วครับ...แล้วที่สำคัญ..ตอนนี้ผมก็มาชอบผู้ชายแล้วด้วย...ถ้าผมจะมีอารมณ์ด้วยก็คงต้องเป็นผู้ชายอย่างเดียวแล้วหละครับ

   ไอ้เก่งเนี่ยมันขอมาดูหน้าแฟนผม...คนที่ผมอวดนักอวดหนาว่าดีราวกับนางฟ้า เทพบุตร....แต่ไอ้เก่งเนี่ย...เอาจริง ๆ มันตัว สเป็ก เก้งกวาง บ่างชะนี เลยนะครับ สูง ขาว ล่ำ มีเคราหน่อย ๆ หน้าแบบ bad boy เถื่อน ๆ เลว ๆอ่ะครับ...แบบพี่เวย์ไทเทงี้เลยครับ ไม่ว่า สาวน้อย สาวใหญ่ หรือเพื่อนสาว ก็กรี๊ดสลบ..มันเป็นหน้าเป็นตาให้กับวงของผมเลยนะครับ...ถ้ามันไปคุยงาน แล้ว บอกได้คำเดียวว่า ได้งานชัวร์ เพราะ มันเป็นทนายครับ...คารม..ทักษะการพูด โอย....พ่อคูณ จะ เพอร์เฟ็กไปไหน

   มันก็ชอบจะมายั่วแฟนผมคนก่อน ๆ อยู่เหมือนกันครับ...มันบอกสนุกดี...ถ้าคนไหนหลงมันแล้วหละก็...มันไม่ให้ผ่านเลยครับ...แล้วเวลามันไม่ให้ผ่านเนี่ย ไม่ได้แค่ยกป้ายบอกให้กลับบ้านนะครับ...มันยกเหมือนกันคับ...ยกตีนมันใส่หน้าคนที่ผมจีบด้วยเลยครับ...มันบอกกับผมว่า

เก่ง : ...ถ้าแฟนเมิงรักเมิงจริง...ถึงกรูจะหน้าตาดีขนาดไหน แฟนมึงก็ต้องหนักแน่นพอ เพราะถ้าหนักแน่นไม่พอ...มันก็ไม่ควรจะเป็นแฟนเพื่อนกรู

นี่คือประโยคเด็ดของไอ้จิ๊กกุ่งเลยครับ เวลามาสแกนกรรมให้กับแฟนผม
   ปาตี้ก็ดำเนินไปได้ด้วยดีครับ...ไอ้ตัวแสบผมก็ยังคงเป็นไอ้ตัวแสบและแสนดีของผมเสมอ...มันบริการทุกคน...ทำกับข้าวให้กิน เติมเหล้าเบียร์ไม่ให้ขาด ไม่มีบ่นซักกะคำเดียว...ไอ้เก่งมันก็หลอกล่อไป...หว่านเสน่ห์ของมันไป...ผมเห็นจนชินละครับ...แต่บางทีผมก็ไม่ค่อยจะชินเพราะครั้งนี้มันดูถูกเนื้อต้องตัวแฟนผมมากเกินไปครับ มีอยู่ช่วงนึงที่ ผมแอบเห็น มันเหมือนจะยืนจับเอวไอ้ตัวแสบผม...ผมนี่หัวร้อนเลยครับ.. ได้โอกาสตอนมันไปเข้าห้องน้ำแล้วบีออกมาจากห้องน้ำพอดี...ผมเลยได้คุยกับมัน แป๊ป นึง....

เขม : ไอ้จิ๊กกุ่ง...มึงจะมากไปละนะ...ยังไงน้องก็เป็นแฟนกรูนะเว้ย..เห็นจับตัวแฟนกรูอีกทีกรูจะหักแขนมึงคอยดู...อย่าหาวว่ากรูไม่เตือน

เก่ง : ทำไม...ถ้ากรูบอกว่าน้องเค้าเล่นด้วยหละ...มึงจะหยุดไม๊

เขม : ไม่มีทาง...แฟนกรู กรูรู้จักดี

เก่ง : เฮ้ย...เห็นแฟนดีกว่าเพื่อนแล้วเหรอวะ

เขม : ไม่ได้เห็นแฟนดีกว่าเพื่อน...แต่กรูเชื่อใจแฟนกรูมากกว่าเชื่อใจมึงละตอนนี้ ไอ้กะล่อน

ไอ้เก่งเดินมากอดคอผมแล้วกระซิบข้างหูผมว่า

เก่ง : มึงรักษาคนนี้ไว้ให้ดีๆ นะ...เป็นคนแรกของแฟนมึงเลยมั้ง ที่ไม่หวั่นไหวเลย

เขม : ยังไงไหนเล่าดิ๊....กรูรู้นะว่าแฟนกรูรักกรูมาก แต่กรูก็ยังอยากรู้เลย

เก่ง : มึง..กรูบอกไม่ถูกหรอกนะ กรูอธิบายไม่เก่งเรื่องพวกนี้ แต่รู้ไว้แค่ มันแม่งจะต่อยกรูอยู่ละ แค่กรูยื่นหน้าไปดูตัวมันตอนออกมาจากห้องน้ำแค่นี้เอง

เขม : ไอ้สัส...นั่นแฟนกรูนะโว้ย...มึงจะมากไปละนะ

เก่ง : ทีแฟนกรู...ตอนนี้ยังเคยเป็นแฟนมึงเลย

เขม : แล้วยังไง...มึงก็เลยอยากจะได้แฟนกรูทุกคนบ้างว่างั้น

เก่ง : กรูไม่ได้ชอบผู้ชายโว้ย....

เขม : เออดีละ...อย่าให้เห็นว่าจับตัวแฟนกรูอีกนะมึง

เก่ง : แต่กรูชอบไอ้หนูน้อยนี้หวะ...แม่งคนอะไร...ขาวชิบหาย

เขม : ไอ้สัส...เมื่อกี้ไอ้บีออกจากน้ำมามันไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเหรอ

เก่ง : ก็เออดิ...นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินออกมา กรูเห็นแล้วน้ำลายยังหกเลย

เขม : ไอ้สัส มึงปิดตามึงเลยนะ...ห้ามดูเมียกรูอีก แม่งเด๋วเอานิ้วทิ่มตาบอดแม่งเลย

เก่ง : เออ....อย่างที่บอก...รักษาไอ้หนูน้อยนี่ไว้ดี ๆ หละ ถ้ามึงเลิกกัน...กรูจะรอเคลม

เขม : ไอ้นี่...ไหนว่ามึงชอบผู้หญิงไง นี่ผู้ชายนะโว้ย

เก่ง : กรูยกเว้นให้คนนึง...แฟนมึงกี่คนนะกรูไม่เคยจะถูกใจเลยบอกตรง ๆ แต่คนนี้ กรูให้ผ่านเลยค๊าบบบบบบ

เขม : ไม่ใช่มีแค่มึงให้ผ่านคนเดียวนะค๊าบบบบ ไอ้ตาลกะไอ้พริ้งก็ให้ผ่านละคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบ

เก่ง : แหม่ ๆ ไอ้ตาลกะไอ้พริ้ง มาตราฐานต่ำจะตาย

เขม : ที่มากไปกว่านั้น...ป๊ากับแม่กรูก็ให้ผ่านละค๊าบบบบบบบบบบบบบบ

เก่ง : เฮี้ย...จริงดิ...เมิงพาไอ้หนูน้อยไปบ้านมาแล้วเหรอ

เขม : ยิ่งกว่านั้นอีกคร๊าบบบบ...ไปเที่ยวญี่ปุ่น กับป๊ากับแม่ มาด้วยค๊าบบบบบบ

เก่ง : สัส...กรูตกใจขนลุกไปหมดเลย

เขม : ขนลุกก็รีบไปขี้ไป...กรูไปเยี่ยวก่อน

เก่ง : ไอ้หนูน้อยนี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ กรูดูคนไม่ผิดจริง ๆ


   ไม่รู้ว่าใครสังเกตรึเปล่านะครับ แต่ตั้งแต่ ต้ามา...ต้ายังไม่คุยกับไอ้ตัวแสบของผมแม้แต่คำเดียวเลยครับ..ไม่รู้ว่าหวงไอ้เก่ง หรือว่า ยังมีอคติ กับแฟนผมทุกคนอยู่รึป่าว ต้า จะไม่ชอบแฟนผม ทุกคนครับ...แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้มากเพราะมันเป็นอย่างนี้ของต้ามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ..ต้าจะสร้างกระแสจิตที่ทำร้ายคนที่ต้าไม่ชอบให้ออกไปจากวง แล้วพวกเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้ครับ...ต้าให้เหตุผลว่า ถ้าทนไม่ได้ก็ไม่ควรมาเป็นแฟนเขม ถ้าทนได้ ก็ถือว่าผ่าน...ทุกคนก็ไม่สามารถเถียงอะไรได้ครับ...แล้วแต่คนจะคิด

   พอทุกคนเริ่มเล่นดนตรีเสียงก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ ครับ...แต่พอเห็นทุกคนเริ่มแหกปาก..ก็จะเห็นได้ชัดครับว่า ไอ้คนที่ไม่ร่วมอะไรด้วยเลยก็คือ ต้าครับ...ต้าจะไม่ยอมทำอะไรเลยถ้ามีไอ้ตัวแสบของผมทำอยู่ด้วย

ไอ้ต้าลุกออกไปข้างนอกอีกแล้ว...ตอนนี้ไอ้เก่งให้ผมออกไปเคลียงานแทนละครับ...คงจะสุดทนระ...

เขม : ต้า...ทำไมยังเป็นแบบเดิมอยู่วะ

ต้า : ก็น้องดูไม่เหมาะกับเขมเลยนะ...มาหลอกรึป่าวก็ไม่รู้

เขม : ต้า...เขมเลือกน้องเค้าไปแล้วนะ...แล้วเขมก็รักน้องมากด้วย

ต้า : แล้วต้าหละ...ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงเหมือนกับคนอื่นแล้วหรือไง

เขม : ต้าก็ยังคงมีสิทธิ์เหมือนเดิมแหละ...แต่การตัดสินใจก็ยังเป็นเขมอยู่ใช่ไม๊

ต้าเงียบ....ไม่ตอบครับ

เขม : ไอ้เก่งก็ทดสอบให้แล้ว หรือ ต้าหึงเก่งรึป่าว...ไปทำรุ่มรามกับแฟนเขมอ่ะ

ต้า : โอ้ยยย...จะไปหึงมันทำไม..มันชอบชะนีมีนม

เขม : แต่มะกี้มันยังบอกเลยนะว่า มันชอบน้องบี

ต้า : รอให้น้องไปทำนมก่อนเหอะ

เขม : แล้วป๊า กับ แม่ ก็ให้ผ่านแล้วด้วย

ต้า : เห้ย...จริงเหรอ

เขม : จริงดิ...ตัวของแม่อ่ะเขมไม่ค่อยจะห่วงหรอกในตอนแรก แต่ป๊านี่สิ...ต้าก็จำได้ใช่ป่ะ ช่วงแรกที่เราเลิกกันแล้วซักพักเขมก็พาแฟนผู้ชายเข้าบ้าน

ต้า : จำได้ดิ...ป๊าไม่คุยกับเขมหลายเดือนเลยหนิ

เขม : ใช่ต้า...แต่กับไอ้บีเนี่ย...มันไม่เหมือนใครเลยนะ ป๊าเอ็นดูมันมาก เขมยังแปลกใจเลย...นี่ไม่อยากจะอวด มันไปเที่ยวญี่ปุ่นกับป๊ากับแม่ แล้วก็เขมด้วยนะ

ต้า : เฮี้ย...แอดว๊านมากกก...ต้ายังไม่กล้าเลยนะตอนนั้นหนะ

เขม : ก็นี่ไง...เขมถึงรักมันมาก ไอ้ตัวแสบของเขมเนี่ย...มันไม่ได้รักแค่เขมนะ มันรักทุกคน ทุกชีวิต ที่มีอยู่ในชีวิตเขมเลย

ต้า : น้องแม่ง...เทพไป๊

เขม : ไม่หรอกต้า...มันคือความรักเว้ย

ต้า : ซึ้งเนอะ...ดูอินไปอีก

เขม : ก็เขมรักของเขมหนิ

ต้า : อืม...ปล่อยผ่านระกัน...แต่ก็ห้ามไม่ให้ต้า กวนตีนไม่ได้นะ

เขม : เออออ...ทุกคนรู้อยู่แล้วแหละว่าแกเป็นไง

ต้า : หยะ...อีอ้วน ไป เข้าไปได้แล้ว เด๋วผัวฉันหลงเมียแกจะยุ่ง

เขม : ไม่น่าจะทันละ....เฮ้ยเพลงนี้

ผมพุ่งเข้าไปเพื่อร้องเพลงท่อนที่ผมฝึกมานานแรมเดือน เพื่อจะร้องต่อจากไอ้ตัวแสบของผม ไอ้ตัวแสบฝึกเพลงน้ีอยู่เป็นเดือนครับ กว่ามันจะทั้งร้องและตีได้ ส่วนผม ตอนแรกแค่งับคำให้ตรงกับเพลงนี้ยังยากเลยคับ...กว่าผมจะทำได้ ต้องอวดซักหน่อย

แล้วเราก็เข้าไปปาตี้กันอย่างมีความสุขเหมือนเดิม...จนกระทั่ง

   ไอ้เพื่อนเวรและเมียเวรของมัน (ไอ้เก่งและต้า) แม่งบรรจงนั่งทับผมครับ...คิดดูไอ้เก่งน่าจะหนักซัก 80 กว่า ๆ ได้ แล้วต้าอีก 50 กว่า ๆ นั่งทับผมอยู่แล้วก็ขย่ม ๆ จนมันผิดท่าอะไรซักอย่าง....หลังผมเจ็บจี๊ดไปถึงสมอง ขาผมชาเลยครับ...ผมได้แต่นอน ร้องด้วยความเจ็บปวด

   แต่ไอ้ตัวแสบ สวมสัญชาตญาณ ลูกเรือ ออกคำสั่ง ทำการปฐมพยาบาล ผมอยากทันที คือชีวิตลูกเรืออ่ะครับต้องเรียนการปฐมพยาบาลเบื้องต้นซึ่งนักบินอย่างผม ไอ้พริ้ง แล้วก็ไอ้ตาล ไม่ได้เรียน เลยทำให้มันมีสติและช่วยผมไว้ได้อย่างมาก แล้วยังไม่พอ แบกผมไปที่รถด้วยตัวของมันคนเดียว... อาจจะด้วยความเมาของทุก ๆ คน ทำให้ปฏิกิริยาของทุกคนช้า...แต่ไอ้ตัวแสบของผมมันมีหน้าที่ทำกับข้าวบริการเพื่อน ๆ ผม มันเลยไม่ค่อยมีเวลาได้กินครับ...พอไปถึงโรงพยาบาล ผมก็โดนส่งไปเข้าห้อง ER ครับ...แล้วผมก็เจอกับ...ไอ้หมอหน้าขาว...มันทำท่าดูแลและเป็นห่วงเป็นใยไอ้ตัวแสบของผมอย่างออกนอกหน้า...ซึ่งผมเองก็เจ็บจะตายอยู่แล้วครับ..แต่สิ่งที่มันทำคือ มันหันไปถามว่าไอ้ตัวแสบของผมเจ็บตรงไหนรึป่าว ถ้าผมไม่เจ็บจนขยับตัวไม่ได้นี่...ผมลุกไปตั้นหน้ามันเข้าให้แล้วครับ...อวดดี มาเกาะแกะแฟนกรู...ถ้าหายดีเมื่อไหรนะเมิง...กรูจะไม่มาโรงพยาบาลนี้อีกเลย

   ไอ้ตัวแสบเป็นคนจัดการพาผมไปในทุกที่...ผมเริ่มกลัวทุกครั้งที่ผมจะต้องอยู่คนเดียวครับ...เพราะผมกลัวโรงพยาบาล กลัวเข็มฉีดยา....ผมเรียกหาไอ้ตัวแสบตลอดเวลา ถ้าผมต้องอยู่คนเดียว ผมโดนทั้งจับเอ็กเรย์ โดนฉีดยา โดนทำกายภาพ หลายอย่างเลยครับ...แต่ที่ผมอุ่นใจที่สุดก็คือ แทบจะทุกอย่างที่ผมทำนั้นมีได้ตัวแสบอยู่ข้าง ๆผม ไม่ห่างไปไหน...แต่ยิ่งมีไอ้ตัวแสบอยู่ใกล้ ๆ ผมก็ยิ่งเหมือนเด็กขี้กลัว โรคสำออยก็กำเริบครับ...55555


   แล้วแม่ก็โทรมาหาผม...ผมรีบโยนไปให้ไอ้ตัวแสบคุย..เพราะคนที่รู้เรื่องของผมทุกอย่างเนี่ย...น้อยกว่าหมอหน่อยก็ไอ้ตัวแสบของผมเนี่ยแหละครับ...มันคุยทุกอย่างจัดการทุกอย่าง แล้วมันก็ทำให้ป๊ากับแม่ผม อุ่นใจได้มากแล้วไม่แห่กันมาที่โรงพยาบาลได้ในที่สุด....
.
.
.
ผ่านไป 7 วัน...อาการปวดหลังของผมดีขึ้นมากครับ

   เพราะใน 7  วันนี้ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับ...กินนอน แล้วก็รอไปรับไอ้ตัวแสบ เหมือน หมาที่รอเจ้าของว่าเมื่อไหรจะกลับมาหลังจากไปทำงาน...ผมพยายามดูแลไอ้ตัวแสบเต็มที่ครับ...

   ตอนเช้า ผมจะรีบตื่นเพื่อไปกายภาพที่โรงพยาบาล แต่ถ้าไอ้ตัวแสบมีบินเช้าผมก็จะไปนอนด้วยครับเพื่อไปส่งมันตอนเช้า...พอตกบ่าย ๆ มา ผมก็ให้แม่บ้านมาทำความสะอาดห้องมันครับ...แล้วผมก็ขนเสื้อผ้าของมันไปให้แม่บ้านที่บ้านของป๊ากับแม่ซัก แต่ส่วน กกน. ถุงเท้า ต่าง ๆ ผมจะซักให้มันเองครับ...แต่ละวันผมคิดแต่เรื่องที่จะหาอะไรให้มันกินดีหลังจากมันบินกลับมาเสร็จ.

   ตอนดึกผมก็จะไม่กวนมันเลยครับ...คือจริง ๆแล้ว หมอห้ามออกกำลังกายอ่ะครับ..ผมก็เลยเหมารวมไปถึงการมีอะไรกันไปด้วย....555 อันนี้คิดเอง..แล้วผมก็อยากจะรู้ปฏิกิริยาของไอ้ตัวแสบด้วยครับ ว่ามันจะต้องการไม๊...สรุป มันก็ไม่เริ่มก่อนเลยครับ...นอนนิ่ง ๆข้าง ๆ ผม ขนาดผมแค่แกล้งมันไม่ให้จับตัวผมตอนนอน...มันก็ไม่จับจริง ๆครับ...ผมนี่แทบจะเป็นบ้า...แล้วสุดท้ายพอมันหลับสนิท...ผมก็ไปนอนกอดมันแล้วก็หลับไปครับ

   วันหยุดของไอ้ตัวแสบช่วงนี้เป็นของผมโดยปริยาย ผมพามันไปในทุกที่ ที่เจอกับเพื่อนฝูงของผมครับ..แต่ก็เป็นคนหน้าเดิม ๆ ที่มันเคยรู้จักแล้วแหละครับ...แล้วก็พามันไปซ้อมดนตรีด้วยครับ...ช่วงนี้ไอ้เก่งก็จะแซวผมหนักหน่อย....แล้วไอ้เก่งก็ไม่ยอมละโอกาสที่จะแกล้งไอ้ตัวแสบของผมแม้แต่น้อยเลยครับ...มันทั้งใช้ไอ้ตัวแสบผมไปซื้อข้าว...ซื้อน้ำ บริการทุกคนจนผมทนไม่ไหว

ไอ้เก่ง : ไอ้หนูน้อย...ไปซื้อน้ำให้หน่อยดิ...ไอ้เขมหิวน้ำอ่ะ

ไอ้ตัวแสบ : ได้ครับพี่...เอานำ้อะไรดีครับ

ไอ้เก่ง : พี่ขอ...ออร่านะ...ส่วนไอ้เขม กินมองฟลอ...ไอ้ มิ่งกิน มิเนเร่ ไอ้โด่งกิน สิง แล้วก็...

เขม : มึงจะมากไปละนะไอ้จิ๊กกุ่ง..มึงใช้แฟนกรูอยู่ได้ทั้งวัน..เรื่องมากจิง หรือมึงจะแดกน้ำล้างตีนกรูแทนก่อนไม๊

ไอ้เก่ง : แหม่ ๆ ๆ ๆ...หวงจริงนะคนนี้

เขม : บีคับ...ไม่ต้องไปไหนแล้ว..มาอยู่นี่เลย...มานั่งให้กำลังใจข้าง ๆพี่ก็พอแล้ว

บี : พี่เขม..ไม่เป็นไร ผมไปซื้อให้ได้ครับ...แต่เด๋วผมไม่ซื้อให้พี่เก่งคนเดียวพอ

เขม : เออดีเลย...ไม่ต้องให้มันแดก

   ทุกคนหัวเราะที่ไอ้ตัวแสบของผมสู้รบกับไอ้เก่งแล้วชนะ...ไอ้เก่งยืนชี้หน้าไอ้ตัวแสบของผม บอกว่า “ฝากไว้ก่อนนะเมิง”

แล้วตกเย็น...เราก็พากันไปกินข้าวตามประสาครับ...แต่ไอ้ตัวแสบขอตัวกลับก่อนเพราะพรุ่งนี้มันบินเช้า...ผมงอแงมาก...เพราะไม่อยากให้มันห่างตัวผมเลยครับ
แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยมันไป...เพราะเอาเข้าจริง ๆ มันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ต้องกลับไปจัดกระเป๋า...เตรียมของไปบินอีก

   ในวงเหล้าประกอบไปด้วย เพื่อน ๆ ผมที่ซ้อมดนตรีกันมา แล้วก็พริ้ง กับ ตาลก็มาแจม ด้วยทีหลังครับ เรื่องหลัก ๆ วันนี้ที่ทุกคนเม้ากันก็จะเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกซะจาก...คนที่ไม่ได้อยู่ในวงเหล้านี้ครับ...นั่นก็คือ ไอ้ตัวแสบของผมนั่นเอง

โด่ง : แฟนมึงคนนี้น่ารักดีนะ...กรูชอบ

เก่ง : เออ...แม่งโคตรหน้าแกล้งเลย...

มิ่ง : ไอ้เก่ง..มึงไปแกล้งน้องเยอะ...หรือว่ามึงชอบน้องเค้าฟระ

เขม : ให้มันน้อย ๆ หน่อย...ผัวน้องนั่น นั่งอยู่นี่ค๊าบบบบบบ

พริ้ง : เออ...ไอ้น้องบีมันน่ารักจริง...นี่ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นเมียไอ้อ้วนนะ...กรูจีบไปละ

ตาล : กรูด้วย..กรูเป็นแฟนคลับน้องบีตัวจริง... #ทีมบีค่ะ

เก่ง : แต่ว่ากรูถามมึงจริง ๆ เหอะ เขม...มึงเคยทะเลาะกันยังฟระ

เขม : ก็เคยดิฟระ...แต่ก็ไม่รุนแรงอะไรมาก...ง้อกันนิดหน่อยก็หาย..ไมอ่ะ

เก่ง : กรูอยากจะรู้ว่า...คนห่าอะไรจะดีได้ขนาดนี้ฟระ...นี่คนหรือพระ?

พริ้ง : จะว่าไป...ไอ้เก่งก็พูดมีเหตุผลนะเว้ย...มึงรู้ไม๊ว่าน้องมี ด้านมืดรึป่าว

ตาล : กรูว่ามี...กรูเคยเห็น..ตอนน้องแม่งฟิวขาด...เชี่ย...น่ากลัวเหมือนกันนะค๊าบบ

เก่ง : เออ...กรูเคยเกือบถูกต่อย 555555

เขม : เออหวะ...แต่ก็คงไม่แย่มากป่าวฟระ...เพราะป๊ากับแม่กรูก็โอเคด้วยทุกอย่างนะ

โด่ง : สัส...พ่อแม่เมิงก็พาไปเจอมาแล้วเหรอ

มิ่ง : เชี่ย....พีคสัส.ๆ  นี่กรูคบกับแฟนกรูมาจะ 2  ปีแล้วกรูยังไม่กล้าพาแฟนกรูไปหาที่บ้านเลยนะสัส....จริงจังแค่ไหน...แค่ไหนเรียกจริงจัง

โด่ง : แล้วป๊ามึงไม่อาละวาดบ้านแตกเหรอ?

เก่ง : มึงนี่ไม่ได้เจอไอ้อ้วนนานใช่มะ...เค้าไปเที่ยวญี่ปุ่นกันมาเลยค๊าบบบบบ

โด่ง : เชี่ย...แบบครอบครัวอ่ะนะ

เก่ง : ใช่ค๊าบบบบบบ...เป็นไงหละ...เพื่อนกรู เด่วคงจะแจกซองละ

เขม : ซองผ้าป่าหละสิ...ไอ้สัส

พริ้ง : กรูไม่ได้อยากจะว่าน้องบีนะเว้ย...(พริ้งเคาะโต๊ะ)...ไอ้น้องบีมันเล่นของป่าวฟระ

เก่ง : เออหวะ...เล่นขนาดใส่คุณไสย...ใส่ทั้งครอบครัวเลยเหรอฟระ

โด่ง : ไอ้สัส...งั้นวันน้ีกรูโดนไปรึยังเนี่ย

มิ่ง : ไอ้เฮี้ย...กรูว่ากรูโดนแล้วชัวร์....ปกติกรูไม่ชอบผู้ชายนะวันนี้กรูชอบดูน้องจัง

ตาล : สัส..หรือกรูก็โดนด้วยเนี่ย...กรูลบ #ทีมบี ออกก่อน

เขม : ไอ้พวกเฮี้ย...แดกเหล้าแล้วกลายเป็นบ้านะเมิง

ทุกคนหัวเราะกันหมด...แต่ผมกลับทำหน้าเครียด...

เขม : เออ......หรือว่ากรูจะโดนด้วยจริง ๆฟระ

ตาล : อิห่า...พวกกรูล้อเล่น...จะโดนได้ไงฟระ

พริ้ง : ไอ้อ้วนมึงอยากพิสูนจ์ไม๊....

เขม : มึงรู้จริงเหรอ...

พริ้ง : มึงไปเอาน้ำมนต์มาใส่ขันนะ.....แล้วชะโงกดูเงาตัวเอง

เขม : แล้วเป็นยังไง

พริ้ง : มึงจะได้รู้ไงว่าควายเป็นยังไง

เขม : โอ้ย....อิห่า...กรูอุตสาตั้งใจ

ตาล : มึงไอ้อ้วน...ถามจริง...คนโดนของจะมากังวลว่าตัวเองโดนของเหรอฟระ

เขม : เออ...มึงพูดมีเหตุผล

เก่ง : ไอ้อ้วนแม่งควายสัส... ๆ มึงไม่ต้องไปดูที่ไหนเลย...มึงดูหน้ามึงในกระจก

เขม : ทำไมฟระ...หน้ากรูหมองคล้ำไปเหรอ

เก่ง : หน้ามึงบานอย่างกะอะไรดี...กรูไม่อยากจะพูดนะเด๋วมึงจะเหลิง
   หน้ามึงตอนนี้เนี่ย ใสซะไม่มี...นี่ขนาดผิวมึงนะยังนุ่มเลย

เขม : มึงคิดอะไรกะกรูป่ะเนี่ย...นี่กรูเพื่อนมึงนะ

เก่ง : กรูจะหมายความว่า...ไอ้หนูน้อย..มันดูแลมึงดีขนาดนี้ มึงยังจะไปคิดไม่ดีกับมันอีกเหรอ...อย่าให้กรูรู้นะว่ามึงทำน้องเจ็บ...กรูจะไปเคลมจริง ๆด้วย

เขม : เฮ้ย...จริงด้วยหวะ...มือกรูไม่เคยเลยนะที่จะไม่ลอกเนี่ย...แต่ตอนนี้ ไอ้ตัวแสบ กรูเนี่ย...ทาครีมให้กรูทุกวันที่มันอยู่ด้วย

พริ้ง ตาล : โอยยยย....หวานไปอีก...กรูหละเบื่อ

ตาล : กรูจำได้...หน้ามึงเนี่ยนะ...เคยโดนครีมทาหน้าบ้างไม๊...ก็ไม่เคย หน้าแม่งตากแดดตากลม...ไม่สนใจห่าอะไรเลย

เขม : เออ...ก็แฟนกรูทาครีมให้ทุกวันอ่ะ ไมอ่ะหน้ากรูดูดีขึ้นเลยเหรอ

พริ้ง : ไม่แค่เฉพาะหน้ามั้ง...แต่งตัวมึงก็ดีขึ้น.. กรูจำได้คนห่าอะไรใส่เสื้อผ้าหลักหมื่นให้กลายเป็นเสื้อผ้าหลักร้อยได้...แม่งความสามารถพิเศษดีนะเมิงเนี่ย

ตาล : เออจริง...ไอ้อ้วนเนี่ย...ใส่ห่าอะไรก็ดูถูกไปหมด...55555

เขม : ขอโทษนะครับ....นี่เพื่อนเอง...เขมไง....

พริ้ง : ที่กรูจะบอกเนี่ย...อย่างเสื้อเนี่ย...เสื้อมึงใช่มะ

เขม : หึ....ไม่ใช่อ่ะ...เสื้อบี

พริ้ง : แล้วเมิงไปเอาของเค้ามาใส่ทำไม

เขม : ก็มันบอกว่าตัวใหญ่...เขมใส่ได้ก็เลยให้มาใส่

พริ้ง : แล้วกางเกงหละ...

เขม : ก็ของบี...

พริ้ง : รองเท้าหละ...

เขม : นี่ของกรูแต่กรูก็ใส่ของมันได้นะ คือเสื้อผ้าใส่ด้วยกันได้หมดเลย แค่ถ้ากรูใส่ ของบีมันก็จะแน่น ๆ หน่อย...บีใส่ของกรูก็จะใหญ่ ๆ หน่อย

เก่ง : เชี่ย...แม่งโคตรดีอ่ะ โคตรประหยัดเลย กรูเริ่มอยากมีแฟนเป็นผู้ชายบ้างละ

เขม : เออ...แม่งเสื้อผ้าเนี่ย ไอ้บีเลือกให้หมดแหละ

ตาล : แสสสสส...ดูแลดีกว่ากรูอีก...กรูยอมมมม

พริ้ง : แล้วมึงยังจะไปคิดว่าเค้าทำของใส่มึงอีกเนี่ยนะ...ไอ้ควายอ้วน

เขม : เออ...กรูไปหละ...กรูว่ากรูอยากไปนอนกอดแฟนกรูหละหวะ

เก่ง : ไอ้สัส...กรูว่ามึงไม่ได้โดนของแล้วหละ....มึงจะขาดเค้าไม่ได้แล้วมากกว่า ไอ้เขมเอ้ยยยย.....หนักกว่าโดนของอีกนะมึง

เขม : กรูขาดมันไม่ได้มานานละนะ...เออพวกมึงกรูกลับก่อนละ...กรูอยากกอดแฟนกรู

แล้วทุกคนก็โหใส่ผมครับ...ผมรีบออกจากวงแล้วโทหาบีทันที...
.
.
.

เขม : บีครับ...นอนยัง

ไอ้ตัวแสบ : ยังครับ...เพิ่งจัดกระเป๋าเสร็จ

เขม : พี่ขอไปนอนด้วยนะ

ไอ้ตัวแสบ : อ่าว...ไม่กินเหล้ากะเพื่อนเหรอพี่

เขม : ออกมาละ...คิดถึงแฟนอ่ะ

ไอ้ตัวแสบ : ได้ข่าวเพิ่งแยกกันมะกี้

เขม : ก็พี่รักแฟนหนิ

ไอ้ตัวแสบ : เป็นไรป่ะเนี่ย...อยากได้อะไรป่าว...หวานผิดปกติ

เขม : อยากได้แฟนไง...นะนะนะ

ไอ้ตัวแสบ : โอยยยพี่เขม...ผมบินเช้า

เขม : ขอหลักสูตรเร่งรัดก็ได้...

ไอ้ตัวแสบ : แล้วพี่บินไม่ใช่เหรอวันพรุ่งนี้...

เขม : บินสาย ๆ ครับ...เด๋วขอนอนกอดแฟนก่อนแล้วค่อยกลับไปคอนโดไปเอาชุดก็ได้

ไอ้ตัวแสบ : ไม่ต้องกลับก็ได้...ชุดพี่ก็มีอยู่ห้องผม 2 ชุด ผมซักเก็บไว้ให้แล้ว

เขม : เย้...เด๋วพี่รีบไปหานะ

ไอ้ตัวแสบ : อย่าให้รอนานหละคับ....ผมก็คิดถึงพี่เขมครับ

เขม : เฮ้ย...เป็นไรป่ะเนี่ย...หวานแปลก ๆ

ไอ้ตัวแสบ : เป็นแฟนพี่ไงคับ...เร็ว รีบ ขับ มา

เขม :  รับทราบครับ...ที่รัก
.
.
หลังจากวางโทรศัพท์ไม่นาน...พี่หัวหน้านักบินก็โทรมาหาผม

หัวหน้านักบิน : เขม...นอนยัง

เขม : ยังครับพี่...มีอะไรเร่งด่วนเหรอครับ

หัวหน้านักบิน : เมิงสอบพาญิชย์เอกยัง

เขม : สอบแล้วครับ

หัวหน้านักบิน : เมิงภาษาอังกฤษของเมิงเลเวลอะไร

เขม : 6 ครับ

หัวหน้านักบิน : งั้น...เมิงไปรับเครื่องใครกรูหน่อยได้ไม๊

เขม : ไปเมื่อไหรครับพี่

หัวหน้านักบิน : อีกไม่เกิน 2 อาทิตย์

เขม : เฮ้ยพี่..เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ

หัวหน้านักบิน : พอดีคนท่ีวางไว้มีปัญหานิดหน่อยหวะ

เขม : ได้ครับพี่...

หัวหน้านักบิน : เออ.....เด๋วจะมีการสอบกัปตันละนะ...

เขม : อ่าวแล้วพี่ให้ผมไปรับเครื่อง

หัวหน้านักบิน : ก็กรูให้เมิงมีผลงานไง

เขม : โอเคครับ...ขอบคุณครับพี่

ภาระอันหนักอึ้งและความเครียดตกลงมาที่ตัวผมอย่างจัง....นี่มันถึงเวลาที่เราต้องเป็นกัปตันแล้วจริง ๆเหรอฟระ......

To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 25.5 ภาระ P.3 (2-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Fahsaizzz ที่ 02-11-2017 22:21:43
โชคดีของพี่เขมจริงๆ ที่ได้น้องบี
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 25.5 ภาระ P.3 (2-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 02-11-2017 23:45:01
 :L2: :L1: :pig4:


มีคนรักดีดี ชีวิตก็หมดความเครียด นี่เหลือเรื่องงานอย่างเดียว
ปล เพื่อนๆพี่อ้วนน่าไปตั้งคณะตลก 55
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 25.5 ภาระ P.3 (2-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 03-11-2017 00:28:24
ตามต่ออออ

โอ้ยดีไปบ่น้องบี #ทีมบี
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 25.5 ภาระ P.3 (2-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 03-11-2017 17:52:20
ตอนที่ 26 ห่าง

แล้วก็มาถึงช่วงที่พี่เขมต้องไปรับเครื่องที่ยุโรปครับ...ผมไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับการไปรับเครื่องบินครับ...แต่เท่าที่รู้คือพี่เขมมีเวลาเตรียมตัวน้อยมาก... แล้วพี่เขมก็เปิดโหมด อ่านหนังสือทำงาน...จนในช่วงเดือนนี้ผมเจอกับพี่เขมลดลงเยอะมากครับ...หลังจากที่พี่เขมมาค้างกับผมแล้วก็มาบอกผมว่า ต้องไปรับเครื่องบินที่ยุโรป

ไม่นานในบริษัทของเราก็ประกาศสอบกัปตัน...นี่อาจจะเป็นเหตุที่พี่เขมเครียดมากก็ได้ครับ...เพราะพี่แกต้องไปรับเครื่องและพอกลับมาก็จะมีการสอบกัปตัน...ซึ่งพี่เขมน่าจะสอบได้เป็นครั้งแรกครับ...ผมก็เชียร์พี่เขมสุดใจเลยครับ..พอผมรู้ข่าวผมก็รีบโทรไปหาพี่เขมทันที

บี : พี่เขม...ช่วงนี้เครียดจุง...อ่านหนังสือสอบกัปตันเหรอ

พี่เขม : อ่าาา ๆ ๆรู้เรื่องแล้วเหรอ

บี : ทำไมไม่บอกผมบ้างอ่ะ...ผมนึกว่าพี่เขม เบื่อผมแล้วซะอีก

พี่เขม : เฮ้ยไม่ใช่ดิ...อย่างอนพี่น้าาาาา คือพี่ได้ข่าวมาก่อนพี่เลยพูดกับใครไม่ได้

บี : บอกไม่ได้แม้แต่ผมเลยเหรอ....

พี่เขม : พี่ไม่อยากให้บีมาเครียดตามไงครับ

บี : ถึงว่าหละ...ช่วงนี้ไม่สนใจกันเลยนะ

พี่เขม : ทำไมอ่ะ...คิดถึงพี่อ่ะดิ๊

บี : ก็แน่หละสิ...แฟนหายไปทั้งคน

พี่เขม : พี่ขอโทษ...พี่ไม่ได้หายไปไหน

บี : ได้ครับ...งั้นผมไม่กวนละดีกว่า...อย่าลืมกินข้าวบ้างน้าาา

พี่เขม : อ่าวไมอ่ะ...จะวางแล้วเหรอ

บี : ก็พี่เขมอ่านหนังสืออ่ะ

พี่เขม : อ่า ๆ งั้นเด๋วพี่ไปหา

บี : เฮ้ยไม่ต้องคับพี่...

พี่เขม : อ่าวไม่คิดถึงกันแล้วเหรอ

บี : พี่เขมอยู่ไหนอ่ะ บ้านหรือคอนโด

พี่เขม : อยู่บ้านช่วงนี้ไม่ได้ไปคอนโดเลย หนังสืออยู่บ้านหมดเลยไง

บี : ป๊ากับแม่อยู่ป่าว

พี่เขม : ป๊าคับ แม่คับ (พี่เขมตะโกนเรียกป๊ากับแม่) บีถามว่าอยู่บ้านไม๊

บี : อ่าวพี่...จะตะโกนเรียกทำไมเนี่ย

พี่เขม : ก็พี่ไม่รู้หนิว่าพวกนางอยู่ไหน

แม่ : บีเหรอลูกเขม...ชวนน้องมากินข้าวที่บ้านสิ

ป๊า : บีเหรอลูก...มากินข้าวกะป๊าหน่อยเร็ว

พี่เขม : ได้ยินยังบี

บี : ได้ยินแล้วครับ....ฝากบอกป๊ากับแม่ว่าเด๋วไปหาเย็น ๆ ละกันนะครับ

พี่เขม : ไมไม่มาเลยอ่ะ...พี่คิดถึงจะแย่อยู่ละ มาให้กำลังใจหน่อยเร็ว

บี : แหม่ ๆ ๆถ้าไม่โทรหาพี่ก็ไม่คิดถึงหรอก

พี่เขม : อ่า ๆ ๆเย็น ๆ ก็ได้...พี่จะรอนะคับ

บี : คับผม...เด๋วผมเสร็จธุระแล้วรีบไป

ผมไปเดินตลาดหน้าบ้าน คิดอยู่ว่าจะทำกับข้าวอะไรไปฝากพี่เขมดี เพราะช่วงนี้คงจะอ่านหนังสือหนักเลย...เป็นแฟนก็ต้องบำรุงซะหน่อย ผมก็เลยโทรไปถามแม่พี่เขมครับว่าวันนี้อาหารเย็นจะทำอะไรทานกัน

บี : แม่ครับ...วันนี้ทำอะไรทานกันครับ บีว่าจะทำกับข้าวไปฝากครับ

แม่ : บีก๋าลูก...วันนี้แม่ยังกึ๊ดบะออกเลยว่าจะยะอะหยังดี...ลูกบีไข้อยากอะหยังก่อลูก
(บีเหรอลูก....วันนี้แม่ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะทำอะไรดี บีอยากกินอะไรไม๊ลูก)

พ่อ : บี...ป๊าอยากกินสปาเก็ตตี้อ่ะลูก...ทำเป็นไม๊ แม่ทำไม่อร่อยอ่ะ

แม่ : โหะ...จะไปมาว่าฉั๋นนา....อาหารฝรั่งฉั๋นยะบะจ้างล่อ
(อย่ามาว่าฉันนะ...อาหารฝรั่งฉันทำไม่เป็นหนิ)

บี : ป๊าอยากกินซอสอะไรครับ...ครีมหรือเพสโต้ดีครับ

ป๊า : เขมอยากกินซอสอะไรลูก

พี่เขม : ใครโทรมาอ่ะป๊า...สั่งอาหารเหรอ สั่งเผื่อบีด้วยนะ

ป๊า : บีโทรมาลูก...ถามว่าอยากกินอะไรจะทำให้

พี่เขม : อ่าว...เมื่อกี้เพิ่งโทรหาพี่ตอนนี้โทรหาแม่แล้วเหรอ

บี : ก็พี่เขมจะได้อ่านหนังสือไงคับ

พี่เขม : พี่อยากกินซอสครีม

แม่ : แม่บะมักอ่ะลูก...(แม่ไม่ชอบกินอ่ะลูก)

บี : งั้นเด๋วผมทำซอสครีมไปแล้วไปทำซอสน้ำพริกอ่องให้แม่ทานดีไม๊ครับ

ป๊า : ป๊าอยากกินทั้ง 2 ซอสเลย

บี : แล้วพี่เขมอยากกินอะไรอีกรึป่าวครับ

แม่ : เขมไปอ่านหนังสือแล้วลูก

ป๊า : ช่วงนี้มันอ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืนเลยลูก...มันอยู่บ้านกับป๊ากับแม่ ไม่ได้ไปไหนเลยนะลูก...มันไม่ได้ไปเที่ยวไหนนะลูก

บี : ครับผม...ผมเลยอยากทำอาหารไปให้หน่อยอ่ะครับ...ไม่ได้เจอหน้าหลายวันแล้ว

แม่ : บอกคิดถึงก็ได้ลูกแม่ไม่ว่าหรอก...5555

ป๊า : แล้วไม่คิดถึงป๊ากับแม่บ้างเหรอ

บี : คิดถึงสิครับ...ผมถึงจะได้ไปทำอาหารให้ทานกันไงครับ

แม่ : แม่ก็คิดถึงลูกบีเหมือนกันจ๊ะ...งั้นจะมาประมาณกี่โมงอ่ะลูก แม่จะได้ให้คนตั้งโต๊ะรอ

ป๊า : รีบ ๆ มานะลูกป๊าจะล้างท้องรอเลย...

แม่ : ให้แม่ทำอะไรไว้ให้ไม๊ลูก

บี : ไม่เป็นไรครับ..เด๋วผมอาจจะไปช้าหน่อยนะครับ..ผมจัดให้ชุดใหญ่ไฟกระพริบเลย

แม่ : ดีเลยลูก เด๋วแม่รอทานนะ


หลังจากวางหูผมก็ช๊อปปิ้งโดยด่วน...ผมอยากไปเจอหน้าพี่เขมใจจะขาดครับ...ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวันแล้ว..พี่แกเอาแต่อ่านหนังสือ สงสัยจะเครียดอ่ะครับ

ผมทำอาหารไปหลายอย่างมาก ๆ ทั้งพาสต้า ทูน่าไวท์ครีบซอส สปาเกตตี้น้ำพริกอ่อง สลัด ซุปเห็ด แล้วก็ ผมไปซื้อ ปลาแซลมอนมาทำสเต็กอีก

ผมไปถึงบ้านพี่เขมประมาณ 5 โมงกว่า ๆ แม่กับป๊าแล้วก็แม่บ้านมาช่วยขนของผมลงจากรถ...แต่ผมไม่เห็นพี่เขมเลยครับ...ป๊าบอก...มันอ่านหนังสือจนหลับไป ป๊าเลยไม่อยากไปปลุกมัน

พอผมเข้าไปเตรียมข้าวของเสร็จ...ผมขออนุญาตไปปลุกพี่เขม เมื่อผมเดินไปถึงที่ห้องพี่เขม ประตูมันไม่ได้ปิดไว้ครับ...ผมเดินไปดูหน้าเจ้าของหัวใจผม ที่ไม่มาให้ผมเห็นหน้าเลยช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา หน้าแห้งไปมากเลยครับ...ผิวก็แตก ๆ ผมนี่เห็นแล้วทนไม่ได้เลย อยากจะหยิบโลชั่นมาละเลงตัวให้เลยทีเดียว

ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้...ฟอดดดดดดดดดดด  ผมหอมแก้มพี่เขมฟอดใหญ่ กลิ่นที่คุ้นเคย ติดจมูกผมมาทันที...ผมมองไปรอบ ๆ ห้องนอนพี่เขม มีเสื้อผมอยู่ตัวนึงใส่เป็นปลอกหมอนบนที่นอนพี่เขมอยู่ ผมเลยเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ เป็นวงน้ำลายด้วย...แล้วทำไมพี่เขมไม่มีปลอกหมอนใหม่เหรอ ทำไมเอาเสื้อผมมาใส่เป็นปลอกหมอน

ผมเดินกลับมาที่เจ้าของหัวใจผมแล้วนั่งคุกเข่าลงข้าง ๆ แล้วผมก็เอาหน้าผมไปซุกอยู่ที่คอพี่เขมครับ...พี่เขมเริ่มขยับตัว

พี่เขม : บีเหรอคับ

บี : ใช่แล้วครับพี่เขม....เหนื่อยไม๊

พี่เขม : เหนื่อยมากเลยเนี่ย...อ่านมาจะครบอาทิตย์อยู่ละยังไม่จบเลย

บี : อย่าหักโหมสิครับ...ไปเจอหน้าแฟนบ้าง

พี่เขม : โอยยยยยย....ขอพลังหน่อย

ผมลุกขึ้นยืนแล้วทำท่าอ้าแขนเพื่อกอดพี่เขม...พี่เขมลุกขึ้นแล้วสวมกอดผมแล้วเดินอุ้มผมไปที่เตียง...

พี่เขม : ขอนอนกอดให้ชื่นใจซัก 5 นาทีได้ไม๊

บี : ป๊ากับแม่รอทานข้าวอยู่นะพี่

พี่เขม : ให้ป๊ากับแม่ทานก่อนเถอะ พี่ขอดูดพลังชีวิตก่อน

บี : แหม่ ๆ ๆ ทำมาเป็นพูด...ผมก็รออยู่ทุกวันว่าวันไหนพี่จะมา

พี่เขม : ก็พี่อ่านหนังสือหนิครับ...

บี : อ่านแล้วไปหาผมไม่ได้เลยเหรอ

พี่เขม : ก็เวลาที่บีอยู่ด้วยแล้ว...พี่จะเป็นอย่างงี้อ่ะ

บี : เป็นยังไงอ่ะพี่เขม

พี่เขม : พี่ก็จะ ไม่อยากอ่านไง...อยากจะนอนกอดอย่างงี้อ่ะ

บี : อ้อนว่างั้น....

พี่เขม : มากกว่านั้นอีก...อยากจะเข้าไปสิงเลยแหละ

บี : แล้วทำไมใช้เสื้อบีเป็นปลอกหมอนเนี่ย...ไม่มีปลอกหมอนแล้วเหรอ

พี่เขม : เฮ้ยห้ามดู....(พี่เขมเอามือดึงหมอนแล้วเอามากอดแล้วเอาตัวบังไว้)

บี : ทำไมอ่ะ

พี่เขม : นี่มันหมอนเน่าของพี่...

บี : แล้ว...?

พี่เขม : บอกก็เดะ...หมอนเน่าของพี่ จะกอดนอนทุกวัน พี่เอาเสื้อบีมาใส่เพราะมันมีกลิ่นบีอยู่ไง

บี : เอามากอดนอนทุกคืนว่างั้น?

พี่เขม : ใช่...หมอนเน่านอนด้วยตลอดเลย

บี : คนตัวเป็น ๆ นี่ไม่อยากกอดเลยเหรอ

พี่เขม : ก็เป็นตัวแทนไง

บี : มานี่เลย....(ผมแย่งเอาหมอนเน่ามากอดไว้)

พี่เขม : เฮ้ยไม่ได้ดิ...หมอนเน่าพี่นะ อย่าทำร้ายมัน

บี : เริ่มจะอิจฉาหมอนเน่าละนะ...ได้นอนกอดพี่เขมทุกวันเนี่ย

พี่เขม : ไม่ต้องอิจฉาหรอก พี่นอนกอดอย่างเดียว...แต่ถ้าเป็นบีเนี่ย พี่จะนอนเอาทั้งคืนเลย...

บี : ไอ้พี่เขมบ้า...ไปลงไปกินข้าวได้แล้ว

พี่เขมจับมือผมไปจับตรงเขมน้อย...ซึ่งตอนนี้ตัวเต็มวัยแล้วครับ

บี : เฮ้ย...ประตูไม่ได้ปิดนะ

พี่เขม : ก็ไปปิดดิ

บี : นี่บ้านพี่นะ...เด่วแม่ก็มาแหกอกเอาหรอก

พี่เขม : ก็อยากกินของหวานก่อนของคาวไง ไม่ได้เหรอ

บี : ของหวานต้องกินหลังของคาวสิจ๊ะที่รัก

ป๊า กะ แม่ : บีลูก เขมลูก ลงมาทานข้าวได้แล้วลูก

พี่เขมทำหน้าตกใจเอามือปิดเป้าตัวเองไว้แล้วเอาผ้าห่มมาพันตัวมันไว้อีกที ผมก็ตกใจครับรีบลุกจากเตียงแล้วไปนั่งอ่านหนังสือแทนพี่เขม

ป๊าเดินเข้ามาในห้อง แล้วก็สำรวจความเป็นไป

ป๊า : นี่...ไปกินข้าว...อย่ามัวมาเล่นจ้ำจี้

แม่ : ว๊ายยยย แม่มาขัดจังหวะอะไรรึป่าวเนี่ย...(แม่ทำหน้าเล่นใหญ่มากคับ)

แล้วผมกับพี่เขมก็ลงไปทานข้าวกันครับ อาหารถูกจัดวางไว้อย่างเรียบร้อย ผมให้พี่แม่บ้านช่วยเตรียมทุกอย่างให้ดูอลังการที่สุด

พี่เขมลงไปเห็นโต๊ะอาหาร ร้องออกมาทันทีเลยครับว่า... “โอ้โห...ชุดใหญ่เลยนะ”
ป๊ากับแม่นั่งลงข้างกันแล้วก็เป็นผมกับพี่เขมนั่งลงอีกด้านนึง

ผมเสริฟอย่างแรกคือซุปเห็นกับสลัดครับ พี่เขมทำเป็นเริ่มเขี่ย ๆ ผักออกแล้วก็โดนผมบังคับให้กิน ซึ่งพี่เขมก็กินหมดครับ ต่อจากนั้นผมก็ให้เอาสปาเก็ตตี้น้ำพริกอ่อง กับ พาสต้า ทูน่า ไวท์ครีมซอสมาเสริฟ พร้อมกับปลาแซลมอนครับ

ทุกคนทานกันอย่างเอร็ดอร่อย แล้วป๊าก็ไปเอาไวน์ขาวมาเปิดกินคู่กันไปด้วยครับ

ทุกอย่างถูกทานจนหมด ป๊ากับแม่ดูอิ่มเอมมากครับ แต่ที่ดูฟินไปกว่าใครก็คงจะเป็นแฟนผมเนี่ยแหละครับ... ผมก็ยิ้มแก้มปริ..ทุกคนชมว่าอร่อยครับแล้วป๊ากับแม่ก็แยกตัวไปดูทีวี

พี่เขม : เหนื่อยไม๊ครับ...ที่รัก

บี : เหนื่อยก็ยอมครับ...ที่รัก

พี่เขม : งั้นทำมาให้กินบ่อย ๆ นะครับที่รัก

บี : ไม่มากไปหน่อยเหรอครับที่รัก

พี่เขม : ให้ป๊ากับแม่กินด้วยไงครับที่รัก

บี : เด๋วป๊ากับแม่ก็เบื่อพอดิสิครับที่รัก

   เราเถียงกันไปมาซักครู่แล้วผมก็ต้องขอตัวกลับก่อน เพราะผมมีบิน(อีกแล้ว) พี่เขมทำหน้าตาละห้อย ไม่อยากให้ผมไปแต่พี่เขมก็ไม่ได้รั้งอะไรผมไว้นาน มันน่าจะเป็นช่วงที่พี่เขมเครียดมากแน่ ๆ เลยครับ เพราะพี่แก นอกจากไปบินก็จะกลับบ้านมาอ่านหนังสือ คุยกับผมนิดหน่อยแล้วพี่แกก็ไปอ่านหนังสือต่อ ผมอยากจะมาหาพี่เขมซะทุกวันเลยแต่ก็กลัวป๊ากับแม่จะว่าเอาแล้วก็กลัวพี่เขมจะไม่มีเวลากะใจอ่านหนังสือ

แล้วก็มาถึงวันที่พี่เขมต้องไปรับเครื่องบินจากยุโรปครับ...ผมไปส่งพี่เขมที่สนามบินพร้อมกับ คณะนักบินที่เดินทางไปพร้อมกัน

พี่เขม : บีครับ..พี่ขอโทษนะช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ไปหาเลย

บี : ไม่เป็นไรครับ...ผมเข้าใจ

พี่เขม : รอพี่หน่อยนะ...พี่จะทำให้บีภูมิใจ...ว่ามีแฟนเป็นกัปตัน

บี : แค่นี้ผมก็แย่ละครับ

พี่เขม : แย่ยังไง...?

บี : แค่นี้ผมก็หลงจะแย่แล้วครับ

พี่เขมหยิกแก้มผมแล้วดึงไปมาเหมือนชินจัง

พี่เขม : ก็มันน่ารักอย่างงี้ไง.....แล้วพี่จะรีบไปรีบกลับนะครับ

บี : ครับพี่...ผมจะรอพี่นะ

พี่เขม : อ่าวข้อมือเป็นอะไรอ่ะ พันมาด้วย

บี : ก็โรคเดิมแหละพี่เขม....

พี่เขม : อย่าบินเยอะสิ...พักผ่อนบ้างนะ

บี : ครับผม...ช่วงนี้บินเยอะไปหน่อย...ปวดเลย...

พี่เขม : เด๋วถ้าพี่เป็นกัปตันแล้ว...พี่จะไม่ให้บินเยอะแล้วนะ

บี : ได้ไงอ่ะ?

พี่เขม : ก็พี่ไม่อยากให้แฟนเจ็บตัวนี่นา

บี : โอยยยพี่เขม...แล้วผมจะเอาเงินไหนกินข้าวหละ

พี่เขม : ก็พี่จะเลี้ยงเองไง

บี : ไม่เอาดิ...เด๋วก็มีคนว่าเกาะพี่กินหรอก

พี่เขม : พี่เต็มใจให้มากกว่า

บี : ผมยังทำไหวครับ...รอเดี้ยงก่อนนะ จะไปเกาะพี่กิน

พี่เขม : อย่าลืมไปหาหมอหละ...ถ้าพี่กลับมาแล้ว เด๋วพี่พาไปหาอีกรอบนะคับคนดี

บี : ครับ..แฟน

   ผมไม่รู้เลยครับว่าพี่เขมต้องไปกี่วันเพราะกำหนดการมันไม่แน่นอนครับ...ไปรับเครื่องเนี่ยพี่เขมอธิบายให้ฟังว่า มันต้องไป ถึง ไม่ใช่เหมือนรถยนต์นะครับ..ไปถึงก็ต้องลองเครื่องต่าง ๆ แล้วก็ถึงจะสามารถเอาบินกลับมาได้...แต่ถ้าลองแล้วมันยังไม่ดี...นักบินก็ต้องรอไปเรื่อย ๆ ครับจนกว่าเครื่องจะเสร็จ ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่ากี่วัน ถ้าโชคดีไปถึงแล้วเครื่องเสร็จหมดแล้วลองเครื่องแล้วก็กลับได้เลยครับ

   ช่วงนี้ผมก็อยู่อย่างเหงา ๆ ไปก่อนครับ...ผมแวะไปที่คอนโดพี่เขมบ้าง ถึงแม้จะรู้ว่าพี่เขมไม่อยู่ก็ตาม แต่ก็อยากจะไปดูแลนิด ๆ หน่อย ๆ ได้นอนบนเตียงที่มีกลิ่นพี่เขมอ่อน ๆ ก็ยัง
   พี่เขมก็ติดต่อได้ยากครับ...เพราะเวลาเราต่างกันประมาณ 5 ชม.ครับแล้วเวลาผมไปบินผมก็ติดต่อกับพี่เขมไม่ได้ครับ...พี่เขมก็ต้องไปทดสอบเครื่องแล้วก็ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตครับ....มันเป็นช่วงที่ค่อนข้างหว้าเหว่ประมาณนึงเลยครับ

   แล้วผมก็ไปทำกายภาพเมื่อวันที่ผมหยุดครับ...การไปโรงพยาบาลทุกครั้ง..ผมนี่เดินในโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด แล้วก็ไปแค่ทำกายภาพแล้วก็รีบกลับครับ...ผมกลัวเจอคน คนนึง หมอคิตนั่นแหละครับ...เพราะผมยังไม่ได้รับแอดเค้าจากเฟสบุ๊กเลย...มันทำให้ผมรู้สึกผิดพิกล ๆ ที่ไม่ยอมรับเค้าเป็นเพื่อน

   วันนึงผมป่วยพอดีครับตรงกับวันเสาร์...แล้วที่จอดรถที่โรงพยาบาลก็ค่อนข้างเต็มครับ พี่ยามใจดีโบกรถให้ผมจอดได้หน้าแผนก ฉุกเฉินพอดีเลยครับ กำลังจอดรถเสร็จก็มีรถพยาบาลวิ่งเข้ามาจอดเพื่อส่งคนไข้พอดีครับ โชคดีที่คนไข้ไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่ได้มีเลือด หรือบาดแผล เพราะถ้าผมเห็นผมคงจะเป็นลมพอดี แล้วคนที่วิ่งออกมาดูนั่งก็คือ คนที่ผมหลบมาตลอด 2-3 ครั้งที่มาโรงพยาบาลนี้ครับ คุณหมอคิตวิ่งเข้ามาดูอาการ แล้วก็พาคนไข้เข้าไปครับ ผมเห็นหมอคิตทำงานนี้ผมรู้สึกชื่นชมเค้าจับใจเลยครับ...แล้วผมก็เดินค่อย ๆ อ้อมไปเข้าทางด้านหน้าโรงพยาบาลครับ...แต่ความซวยของผมคือ หมอพร...ติดประชุมครับน่าจะอีก 1 ชม. น่าจะเสร็จ ผมจึงทำกายภาพรอไปก่อน หลังจากกายภาพเสร็จ หมอพรก็มาถึงพอดีครับ...

หมอพร : ขอโทษทีนะบี...พี่ติดประชุมด่วนพอดีเลยอ่ะ ว่าจะไลน์ไปบอกแล้วลืม

บี : ไม่เป็นไรเลยครับหมอพร...แล้วหมอทานข้าวรึยังครับเนี่ย

หมอพร : หมอยังไม่ได้ทานอะไรเลยวันนี้...เมื่อเช้าตื่นสายไปส่งลูกก็สาย

บี : คุณหมอไปทานข้าวก่อนไม๊ครับ

หมอพร : บีหละทานไรมายัง?

บี : ยังเหมือนกันครับคุณหมอ...

หมอพร : งั้นเอางี้ เด๋วหมอขอเช็คคิวหน่อย หมอจะขอพักเร็วหน่อยไม่ไหวละ

บี : ได้ครับ...งั้นเด๋วผมไปรอข้างนอกนะครับ

หมอพร : เฮ้ยไม่เป็นไร ๆ เด๋วไปทานข้าวกับพี่เลย พี่เลี้ยงเอง

บี : ไม่เป็นไรครับคุณหมอ...เด๋วผมหาไรง่าย ๆทานแถวนี้ก็ได้ครับ

หมอพร : อาหารโรงบาลไม่อร่อยหรอก...หมอพาไปกินนี่ “ก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้เด็ด”

ผมหูผึ่งขึ้นมาทันทีเลยครับ...อาหารจานโปรดของผม

บี : ก๋วยเตี๋ยวอะไรครับคุณหมอ

หมอพร : ต้มยำปลา เด็ดมากกกก น้ำตกก็อร่อย

บี : ไปครับ...ผมอยากกินแล้วเนี่ย...น้ำลายหกเลยครับ

หมอพร : เคลียงานแป๊ป ๆ

ผมนั่งเล่น ดูแผ่นต่าง ๆ ที่ติดไว้ในห้องคุณหมอ คุณหมอก็โทรศัพท์คุยกับพยาบาล แล้วก็หันมาบอกผม

หมอพร : เสร็จละ...ป่ะ...บีรถจอดไหนอ่ะ...

บี : จอดหน้าแผนกฉุกเฉินครับ...

หมอพร : ไปรถบีได้มะ หมอจอดใต้ตึกเลยอ่ะ น่าจะออกยาก

บี : ได้ครับหมอ...เด๋วผมขับไปให้ บอกทางผมด้วยละกันนะครับ

หมอพร : เด๋วเจ๊เลี้ยงเอง

บี : ได้ครับเจ๊

   พอไปถึงร้านก๋วยเตี๋ยว...โอ้โห...ร้านแม่งหน้ากินมากอ่ะครับ...เครื่องเคียงพี่แกมาเต็มเยอะมากกกกก ผมนี่อยากจะสั่งแม่งทุกอย่างเลย แต่ก็เกรงใจคุณหมอพร แต่ความพีคกว่านั้นคือ เจ๊แกสั่งใส่ทุกอย่างเลยครับ...ผมเลยขอเลียนแบบแกซะเลย 5555

หมอพร : นี่...รับเฟสบุ๊กของหมอคิตเค้ารึยัง

ผมสำลักน้ำทันทีครับ....

หมอพร : ท่าทางจะยัง...สวยเนอะ...เล่นตัวจริง ๆ  หมอคิตเจอหน้าเจ๊นะ ถามทุกวัน

(เอ๊ะ...นี่เราสนิทกันเร็วไปไม๊หมอพร...เรียกตัวเองว่าเจ๊พร แล้วก็พาผมมากินข้าว ก็คือสนิทกันแล้วว่างั้น?)

บี : แหม่ ๆเจ๊ครับ...(ผมก็เนียตามไปเลย)...ก็ผมมีแฟนแล้วหนิ

หมอพร : เป็นเพื่อน add friend ยูโน? (you know?)

บี : ก็แหม่ ๆ ๆ (ผมเถียงไม่ออกเลยทีเดียวครับ)

หมอพร : เค้าเรียกว่าแอดเฟรน ไม่ใช่แอดแฟนจ๊ะ ยูโน?

บี : ค๊าบบบบบ เด๋วผมรับเลยอ่ะ

หมอพร : มันต้องอย่างงี้สิ

บี : หมอมาทานร้านนี้บ่อยเหรอครับ...ผมรีบเปลี่ยนเรื่องเลยทันที

หมอพร : บ่อยนะ...คิตก็ชอบมาร้านนี้...ถ้าเป็นบุพเพ เด๋วคงจะได้เจอ

บี : เวอร์ละหมอ...

   แล้วไม่เกิน 3 นาที หมอคิตก็เดินมาจริง ๆ ครับ...และตอนนี้ร้านเริ่มจะแน่นไปด้วยคนแล้วครับ...ผมนี่หน้าแดงขึ้นมาเลยครับ ทำอะไรไม่ถูกเลย หรือว่าหมอพรแม่งจัดฉากฟระ....อะไรจะขนาดนั้น...

หมอพร : หมอคิต....ว่าไง (หมอพรโบกมือเรียกหมอคิต)

บี : สวัสดีครับหมอคิต...(ผมทำหน้าเจื่อน ๆ ยกมือไหว้)

หมอพร : เป็นไง ไม่ต้องถามพี่แล้วเนอะ...

หมอคิต :  ถามอะไรคับพี่

หมอพร : ดูมือถือตัวเองยังหละ

หมอคิต : อะไรพี่โทรมาเหรอ ผมไม่ได้ยินเลย

หมอพร : เอาออกมาดูสิ

หมอคิตหยิบมือถือออกมาดู...แล้วก็ยิ้มขึ้นมาทันทีเลยครับ

หมอพร : มากับใครหละมีโต๊ะรึยัง...ถ้ามาคนเดียวนั่งด้วยกันก็ได้นะ

หมอคิต : สวัสดีครับคุณบี

หมอพร : เน่ ๆๆ ให้มันน้อย ๆ หน่อย...ฉีกยิ้มข้ามหัวฉันไปเลยนะ

หมอคิต : นั่งด้วยคนนะครับพี่ นะครับคุณบี

หมอพร : อ่า ๆ กินอะไรหละ

หมอคิต : ขอชุดบีครับ...(แล้วก็ยิ้มหันหน้ามามองผม)

หมอพร : นี่ไม่ใช่ KFC  นะจ๊ะ นี่ร้านก๋วยเตี๋ยว

หมอคิต : โอย ลืมไปครับ ๆ...แล้วคุณบีทานอะไรครับ ที่นี่เครื่องแน่น อร่อยนะครับ

หมอพร : กินเหมือนฉัน...อ่า แกจะกินอะไร

หมอคิต : ผมกินเหมือนคุณบีครับ

หมอพร : ให้มันน้อย ๆ หน่อย...เด๋วเค้าก็อันเฟรนแกหรอก

หมอคิต : อุ๊ย...อย่านะครับ...ผมมาดีครับ...ผมไม่ใช่โรคจิตนะครับ

หมอพร : ตอนนี้แกเหมือนโรคจิตมาก...

หมอคิต :  พี่อ่ะ....ผมเสียภาพลักษณ์หมด

   ผมได้แต่นั่งหัวเราะแล้วก็ฟังหมอ 2 คนเถียงกันไปมา แล้วก๋วยเตี๋ยวก็มาเสริฟครับ เจ๊พรจ้วงอย่างไม่สนใจใคร...ผมก็จ้วงตามเจ๊พรไปติด ๆ เลยครับ...ก๋วยเตี๋ยวเค้าดีจริง ๆครับ...ผมนี่อยากจะกิน 2 ชามเลยแต่ก็เกรงใจเจ๊พร... เจ๊พรเงยหน้าขึ้นมา ใครต่อป่ะ พี่เอาด้วยนะไปสั่งให้หน่อย...ผมนี่ยิ้มแป้นออกมาทันทีเลยครับ...ผมเลยอาสาลุกไปสั่งให้ หมอคิตเลยคว้าแขนผมไว้..

หมอคิต : คุณบีนั่งกินเถอะครับเด๋วผมไปสั่งให้เอง

บี : ไม่เป็นไรครับเด๋วผมจะเดินไปดูด้วยว่าอะไรอย่างอื่นกินอีกไม๊

หมอคิต : ผมสั่งให้ดีกว่าครับ...เอาหน้าหล่อ ๆ ของผมไปให้แม่ค้าดูเด๋วจะได้ลูกชิ้นกับหมูเพิ่มครับ

บี : อ่อ ๆ เหรอครับ...(ผมยิ้มแหย่ ๆ )

หมอพร : จ๊ะ...พ่อคนหน้าตาดี....แต่ก็จริงจ๊ะบี ให้หมอคิตไปสั่งทีไร..เครื่องแน่นกว่าเดิมเยอะเลย เด่วลองดูดิ

หมอคิต : ก็ผม ลูกค้าวีไอพี หนิครับ...

แล้วมันก็เป็นจริงครับ...ก๋วยเตี๋ยวตอนแรกเนี่ยก็เหมือนได้ชามพิเศษมาอยู่แล้วนะครับ นี่ต้องเรียกว่า พิเศษซูปเปอร์แล้วหละครับ...แทบจำไม่มีที่ใส่น้ำซุป แล้วก็เหมือนจะส่ังปุ๊ปได้ปั๊ปเลยทีเดียว...แขกวีไอพีตัวจริงสุด ๆ

พวกเราทั้ง 3 คนกินจนเสร็จแล้วก็รีบกลับครับเพราะเวลาพักของหมอมีน้อยมาก หมอพรเล่าให้ฟังว่า ถ้าเข้าเวรเช้าก็พักได้ 1 ชม. แต่ถ้าเข้าทั้งวันก็ได้เวลาพัก 2 ชม. โหดหินยิ่งกว่าไปฝึกรด.อีกครับ

มีต่อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 25.5 ภาระ P.3 (2-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 03-11-2017 17:53:44
หมอพร : หมอคิตกลับไงหละ เอารถมาเหรอ

หมอคิต : เปล่าครับ...ติดรถคนอื่นมาอ่ะครับ

หมอพร : แล้วกลับไงหละ...กลับด้วยกันไม๊...เออลืมไปนึกว่าเอารถมาเอง พี่มากับบีนี่หว่า...บีว่าไง..พาหมอคิตกลับด้วยได้ไม๊

บี : แหม่ ๆ ๆ ขนาดนี้แล้วครับ...ผมจะบอกว่าไม่ได้ก็ดูเลวไปไม๊ครับหมอ

หมอคิต : ผมขอกลับด้วยคนนะครับ...ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ

หมอพร : เน่ ๆ ๆ...เกินไปละ โน่นเลย ๆ ไปนั่งด้านหลังเลย เด๋วมาแอบมอง น้องบี

หมอคิต : ผมไม่กล้าหรอกครับพี่

บี : ป่ะรีบไปดีกว่าครับ

หมอพร : ไม่ต้องรีบ เหลืออีก ครึ่ง ชม.แหนะ พาเจ๊ไปกินกาแฟหน่อย

บี : แถวไหนหละครับเจ๊

หมอคิต : ร้านนั้นไม๊ครับเจ๊ ที่เค้กชาไท อร่อย ๆ อ่ะ

หมอพร : เออดี ๆ ๆร้านนั้นเลย แต่เจ๊จำไม่ได้อ่ะว่าไปยังไง งั้นหมอคิต ไปนั่งบอกทางด้านหน้าไป

หมอคิต : ได้เลยค๊าบบบบ

แล้วหมอคิตก็มานั่งด้านหน้าครับ...แล้วก็เป็นไปตามคาดครับ...หมอคิตแม่งแทบจะไม่มองทางเลยครับ...มองมาแต่ทางผมจนทำให้ผมรู้สึกอึดอัด...

หมอคิต : รถคุณบีนี่หอมจังเลยนะครับ

หมอพร : เออใช่ จะถามละว่าใช้อะไรทำไมหอมจัง

บี : พอดีพี่เขมซื้ออันนี้มาให้ใช้อ่ะครับ...(ผมรีบอ้างชื่อแฟนที่ไม่อยู่ตอนนี้ทันที)

หมอคิต : แล้วคุณเขมไปไหนหละครับ...ไม่มาส่งเหรอ

บี : พี่เขมไปบินอ่ะครับ

หมอคิต : ถ้าเป็นผมนะ ถ้าแฟนผมไม่สบาย ผมจะมาอยู่ดูแลไม่ได้ไหนเลย

หมอพร : เน่ ๆ ๆ ให้มันน้อย ๆ หน่อย แฟนเค้าเป็นนักบินก็ต้องไปบินสิ ถ้าแฟนเป็นหมอก็ต้องดูแลสิ

บี : ผมไม่ได้ป่วยขนาดนั้นครับ...ผมดูแลตัวเองได้สบายมาก

หมอคิต : ผมชอบคนดูแลตัวเองได้จริง ๆ เลย

หมอพร : เน่ ๆ ๆ มันจะมากไปละนะ...เด๋วแม่งถีบลงรถเลย

หมอคิต : นี่พี่ต้องอยู่ข้างผมดิพี่พร...ไมไม่เข้าข้างกันเลย

หมอพร : ก็บอกแล้วว่าอย่าโรคจิต...บีมันอึดอัดหมดแล้วเนี่ย

บี : หมอพรพูดตรงใจมากเลยครับ...5555

หมอคิต : เฮ้ยคุณบี...ปกติ ผมไม่ได้เป็นคนแบบนี้นะจริง ๆ

บี : เป็นมากกว่านี้ใช่ไม๊ครับ 5555

หมอพร : เออใช่บี...มันเป็นเอามากกก เจ๊หละปวดหัวจริง ๆ

พอถึงร้าน หมอคิตก็ถามว่าจะกินอะไรกันครับ...เด๋วหมอคิตไปสั่งให้แล้วเด๋วหมอคิตเลี้ยงเอง

หมอพร : พี่เอา Americano เย็นไม่หวาน

บี : ผมเอา latte เย็นไม่หวานครับ

หมอคิต : คุณบีกินเหมือนผมเลยครับ...แสดงว่าเรา..เป็นเนื้อคู่กัน

หมอพร : เน่ ๆ ๆยังไม่หยุดอีกนะ

บี : หมอพรกินเหมือนแฟนผมเลยครับ...

หมอพร : เป็นไงหละ...เงิบไม๊

หมอคิต : ยิ่งยากผมยิ่งชอบครับพี่

   ผมขับรถกลับไปที่โรงพยาบาล...แล้วก็ได้ที่จอดเดิมพอดีครับ...ไม่น่าเชื่อเลย เราเดินผ่านแผนกฉุกเฉินส่งหมอคิตแล้วก็เดินขึ้นไปที่แผนกายภาพ เพื่อไปทำการรักษาผมต่อ...หมอพรก็ทำการฝั่งเข็มให้ผมแล้วก็จ่ายครอสเลเซอร์เพิ่มให้ครับ...หลังจากทำเสร็จผมก็เดินมาที่รถของผม...ผมเห็นกระดาษใบนึงหนีบไว้หน้ารถ


“ขอบคุณมากนะครับสำหรับวันนี้...มันเป็นวันที่ดีที่สุดของผมวันนึงเลยครับ”

คิต



ผมอ่านแล้วก็เผลอยิ้มออกมาครับ...หมอคิตเนี่ยมันตื้อจริง ๆ เลยนะครับ...คือผมเนี่ยไม่ได้หน้าตาดีอะไรเลยครับ...แล้วทำไมช่วงนี้ถึงฮ๊อตจังฟระ...ตะก่อนไม่เคยจะมีใครสนใจเลย...ตั้งแต่มีพี่เขมเนี่ย...ก็มีแต่คนจ้องจะกินผมเยอะมากขึ้นเรื่อย ๆ ผมนี่ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ทำไมไม่เฉลี่ย ๆ กันฟระ...กรูจะได้คบแม่งให้หมดทุกคนเลย แต่คนละเวลานะครับ

พอถึงกลางคืน...ไลน์ผมก็เด้งขึ้นมา ผมนึกในใจว่าต้องเป็นพี่เขมแน่ ๆ แต่กลับเป็น

Doctor kits : คุณบีครับ..ผมขอโทษนะครับถ้าล่วงเกินอะไรไป...

B : ไม่เป็นไรครับ....ไม่ได้ล่วงเกินอะไรเลยครับ

Doctor kits : ถ้าคุณบีไม่รังเกียจ...ผมขอคุยกับคุณบีได้รึป่าวครับ
Doctor kits : แบบเป็นเพื่อนนะครับ...ผมจะไม่ล้ำเส้นครับ

B : คุณหมอครับ...ผมมีแฟนแล้วนะครับคุณหมอ ไม่ว่าจะยังไง ผมก็รักแฟนของผมครับ ถ้าผมคุยกับคุณหมอแล้วแฟนผมไม่โอเค ผมก็ไม่โอเคครับผม แล้วอีกอย่างนะครับ คุณหมอก็ไม่ได้คิด แค่เพื่อนกับผม เพราะฉะนั้นอย่าเลยครับคุณหมอ

B : คุณหมอเป็นคนดีนะครับ...อาจจะมีใครที่ดีกว่าผมรอคุณหมออยู่ก็ได้ครับ อย่าเสียเวลากับผมเลยครับ

Doctor kits : ทำไมคุณบีเป็นคนดีอย่างนี้เนี่ย

B : ผมไม่ได้เป็นคนดีอะไรหรอกครับ...ผมเป็นแค่คนธรรมดา

Doctor kits : ผมแพ้ทางคนธรรมดาอย่างคุณเนี่ยแหละครับ ไม่เป็นไรนะครับ...ถ้าผมมีโอกาส ได้ดูแลคุณบีจริง ๆ ผมจะไม่ทำให้คุณบีเสียใจครับ

B : คุณหมอก็เป็นคนดีเหมือนกันไงครับ...เพราะฉะนั้น จะมีคนดี ๆเข้ามาหาคุณหมอแน่นอนครับ...ผมว่านะ

Doctor kits : มีคนเข้ามาแล้วครับ...แต่เค้าไม่พร้อมเฉย ๆ

B : ……

Doctor kits : อย่าบล๊อคไลน์ผมนะครับ...แค่ลบข้อความก็พอครับ ผมสัญญาว่าผมจะไม่ยุ่งแล้วจนกว่าคุณบีจะพร้อม

B : ครับผม....ขอบคุณครับ

แล้วทันใดนั้นเองพี่เขมก็โทรทางไกลมาทันที

พี่เขม : บีคุยกับใคร

บี : อะไรพี่เขม...คุยอะไร

พี่เขม : คุยกับหมอคิตเหรอ

บี : เฮ้ยพี่เขม...รู้ได้ไง

พี่เขม : พี่เอาคอมพี่login line ของบีไว้

บี : งั้นก็ได้อ่านหมดแล้วสินะ ว่าคุยกับใครบ้าง

พี่เขม : พี่อ่านแค่ของหมอคิต

บี : แล้วเป็นไง...ผมรักพี่แค่ไหน พี่ก็เห็นป่ะ

พี่เขม : อืม...แต่ก็ยังเคือง ๆ อยู่ดี

บี : ไมอ่ะ...

พี่เขม : ไปเจอมันมาเหรอ

บี : ไปโรงพยาบาลมาครับ แล้วไปกินข้าวกับหมอพร แล้วหมอคิตก็มากินด้วย

พี่เขม : เนี่ยแหละที่พี่เคือง...เพราะพี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นไง

บี : พี่เขมฟังบีนะ...บีรักพี่คนเดียว...หมอเค้าก็ชอบแต่ผมก็ปฏิเสธไปแล้วทุกทาง ผมไปกินข้าวไม่ได้ไปกับเค้า 2 คนหรือจะไปกับเค้าตั้งแต่แรก ไปเจอกันที่ร้านครับ...แล้วหมอพรก็เลยชวนนั่งกินด้วย แล้วผมก็กลับไปส่งที่โรงพยาบาลเท่านั้นเอง

พี่เขม : อืม ๆ บีครับ...พี่เสียใจหวะ ที่พี่ไม่ได้ไปส่งบีไปโรงพยาบาลเลย ไม่ได้ดูแลบีเลยช่วงนี้...พี่ขอโทษนะ...

บี : พี่เขม...ผมไม่ได้โกรธพี่ซักนะนิดเดียวเลย...พี่อยู่ตั้งไกลจะมาได้ไง

พี่เขม : ยิ่งบีเข้าใจ...พี่ก็ยิ่งรู้สึกผิดอ่ะ....ทำไมพี่เหมือนรู้สึกเหมือนเห็นแก่ตัวยังไงก็ไม่รู้...ไม่ได้ดูแลบีเลย แต่บีกลับดูแลพี่ รักพี่ และเข้าใจพี่ตลอดเลยอ่ะ พี่มันเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องเลย...ฮือ ๆ ๆ ๆ

บี : พี่เขม...ร้องไห้เหรอ....ไอ้พี่เขมบ้า...จะร้องไห้ทำไม...นี่ผมไม่ได้โกรธพี่ทะเลาะกับพี่เลยแม้แต่นิดเดียวนะ...แล้วผมก็ยังรักพี่ รักมากด้วย แล้วจะร้องไห้ทำไมเนี่ย

พี่เขม : ก็พี่คิดถึงง่ะ...มันทำอะไรไม่ได้...ยิ่งมาอ่านข้อความที่บีคุยกับหมอคิตอีก พี่เลยรู้สึกกลัวว่า...พี่จะเสียบีไป...เพราะพี่ไม่ได้อยู่ข้าง ๆ

บี : อ่า ๆๆ เด๋วผมจะบล็อคไลน์ของหมอคิตละนะครับ พี่จะได้สบายใจ

พี่เขม : ไม่ต้องทำหรอกครับ...แค่นี้พี่ก็รู้แล้วว่า บีรักพี่แค่ไหน พี่ไว้ใจบีครับ

บี : อ่า ๆ ยังไงก็ได้..ไม่ร้องนะพี่เขม...ทำผมจะร้องไห้ตามเลย

พี่เขม : ตอนแรก ๆ ก็ไม่เป็นอะไรหรอก แต่พอไม่ได้คุยหลายวัน ไม่ได้เห็นหน้าหลาย ๆวันเข้า มันก็คิดถึง แล้วพอมาเจอแบบนี้อีก พี่เลยพังไปหมดเลย

บี : ก็เล่นเครียดอ่านแต่หนังสือ จนไม่สนใจแฟนไงหละ แล้วก็ไปรับเครื่องตั้งไกล

พี่เขม : บีครับ...พี่สารภาพตรง ๆ เลยนะ...พี่อยากจะเป็นกัปตันให้ได้เพราะพี่อยากจะเอาเป็นของขวัญให้กับบีคับ

บี : พี่เขม...เอาไปให้ป๊ากับแม่ไม๊...แค่ผมมีพี่อยู่ มันก็มากพอแล้วครับ

พี่เขม : พี่บอกป๊ากับแม่แล้ว...

บี : บอกอะไร..?

พี่เขม : พี่บอกป๊ากับแม่แล้วว่า ที่เป็นนักบินเนี่ย ก็เพราะเป็นให้ป๊า กับ แม่ และลุงแต่ตอนนี้ ที่อยากจะเป็นกัปตันเนี่ย...พี่อยากจะสร้างครอบครัวกับบีครับ

บี : พี่เขม...ยังไงนะพี่...ผมงงไปหมดละ

พี่เขม : ถ้าพี่ได้เป็นกัปตัน...เราไปซื้อบ้านอยู่ด้วยกันไม๊บี

บี : พี่เขม....

ผมอึ้งไปเลยครับ...ผมดีใจอย่างบอกไม่ถูก..และก็งงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเรายังคบกันแบบว่า ไม่ถึงปีเลยครับ...แต่แบบว่าจะย้ายไปอยู่ด้วยกัน...มันเป็นเหมือนก้าวกระโดดมากเลยนะครับสำหรับผม...ผมยังไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตนี้จะอยู่กับแฟนแบบจริงจังขนาดนั้น...คือผมก็เข้าใจมาตลอดครับว่าการชอบผู้ชายกับผู้ชายเนื่ย มันมีน้อยครับ...ที่มันจะจีรังยั่งยืน...เพราะฉะนั้นผมจึงอยากที่จะค่อย ๆเดินไปด้วยกันกับแฟนผมมากกว่าจะก้าวกระโดด...แล้วผมจะบอกยังไงกับพี่เขมดีหละ...ว่าสิ่งนี้มัน เร็วไปสำหรับเรา ในความคิดของผม



To be continued…

ป.ล. หลัง ๆ มานี่แต่ละตอนยาวมากเลยครับ ตอนเขียนเพลินไปหน่อย ขอบคุณสำหรับการต้อนรับการกลับมานะครับ ทุกคอมเม้นอ่านแล้วมีกำลังใจมาก ๆ เลยครับ ขอบคุณมากจริง ๆ ครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 26 ห่าง P.3 (3-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 03-11-2017 21:36:36
 :L2: :L1: :pig4:

ทิ้งท้ายด้วยความเครียด :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 26 ห่าง P.3 (3-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 04-11-2017 02:50:53
มาต่อได้ยาวจุใจมากครับ ชอบโทนการเขียนแบบนี้ เหมือนเป็นเรื่องจริงที่เพื่อนมาเล่าให้ฟัง
อ่านแล้วอิจฉาพี่เขมเลย น้องบีดีมากๆ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 26 ห่าง P.3 (3-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 04-11-2017 12:21:58
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 27 แบบทดสอบ P.3 (4-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 04-11-2017 22:35:16
ตอนที่ 27 แบบทดสอบ

บี : พี่เขมครับ...มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอพี่

พี่เขม : กว่าพี่จะได้เป็นกัปตันก็อีกตั้งนานนะ...พี่แค่อยากจะบอกว่าพี่จริงจังกับบีแค่ไหน พี่กลัวว่าวันนึง...ถ้าพี่ทำอะไรพลาดไป...บีจะทิ้งพี่ไปอ่ะ

บี : พี่เขมครับ...ผมเนี่ยรักพี่จะตาย...แต่ถ้าพี่นอกใจผม...ผมก็คงจะไม่อยู่รอให้พี่ไล่หรอกครับ

พี่เขม : นี่เห็นมะ...จะทิ้งพี่ไปแล้ว

บี : เด๋ว ๆ ผมบอกถ้าพี่เขมนอกใจ

พี่เขม : ไม่รู้แหละ...ห้ามทิ้งพี่

บี : พี่เขม...ผมว่าตอนนี้เรายังคบกันได้ไม่ถึงปีเลยนะพี่...มันยังดูเร็วไปไม๊ที่จะไปอยู่ด้วยกันอ่ะ

พี่เขม : ก็พี่บอกว่า...รอพี่เป็นกัปตันไงครับ...ที่รัก

บี : พี่เขม...อ่า...

พี่เขม : ทำไมเหรอ...หรือบีไม่เชื่อใจพี่

บี : ผมไม่ได้ไม่เชื่อใจพี่ครับ...ที่ผมไม่เชื่อคือเวลาต่างหาก

พี่เขม : ยังไงนะ?

บี : ก็เวลาเปลี่ยน...คนก็เปลี่ยนไงคับพี่...จะบอกว่าเราจะไม่เปลี่ยนมันเป็นไปไม่ได้ครับ...

พี่เขม : งั้น...พี่หมั้นบีไวก่อนละกันโอเคไม๊

บี : พี่เขม!!! นี่เราเป็นผู้ชาย กับ ผู้ชายนะ

พี่เขม : อ่าว...ก็หมั้นได้ไง...หรือยากให้แต่งเลย? จะได้ให้แม่ไปขอ

บี : โอยยย...เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้ว...แค่พี่ดีกับผม ผมก็ไม่ไปไหนแล้วครับพี่เขม

พี่เขม : ก็พี่กลัวหนิ...นี่ขนาดมีไอ้หมอหน้าขาวนั่นมาจีบเลยนะ

บี : แล้วก็ได้อ่านแล้วไม๊ว่าผมตอบไปว่าไง

พี่เขม : ก็ได้อ่านคับ...

บี : พี่เขม....ความรักมันไม่มีอะไรยั่งยืนหรอกนะพี่ วันนี้พี่อาจจะรักผมมาก แต่ผ่านไปซัก 10 ปี พี่อาจจะเบื่อผมแล้วก็ได้

พี่เขม : แล้วบีหละจะเบื่อพี่เมื่อไหร

บี : แต่ความรักมันต้องเติมให้กันทุกวันต่างหากครับพี่...มันถึงจะอยู่ได้นาน...ถึงคนนึงจะลด อีกคนก็ต้องเพิ่ม ทำให้มันพอดีกัน จะมากไป หรือ น้อยไปก็ไม่ดีท้ังนั้นแหละ

พี่เขม : มาแนววิชาการเลยเว้ย...

บี : ตอนนี้พี่รักผม...แล้วผมก็รักพี่...แต่ต่อไป มันจะเป็นยังไงก็ไม่มีใครรู้

พี่เขม : พี่รู้ครับ...ว่าตั้งแต่เราคบกันมาเนี่ย...ไม่มีวันไหนเลยที่พี่รักบีน้อยลง

บี : ผมก็เหมือนกันครับ...จะมีก็วันนี้แหละ...

พี่เขม : อ่าวไมอ่ะ

บี : แหม่ ๆ ๆ เช็คไลน์ผมจากเมืองนอกเลยนะ...กลัวหราว่าจะมีคนอื่น

พี่เขม : ป่าวซักหน่อย...ก็คนมันหึงง่ะ

บี : แล้วผมไม่เคยจะเช็คอะไรของพี่เลยนะ

พี่เขม : ก็พี่เป็นเด็กดีไง...ป๊ากับแม่ก็บอก

บี : จ๊ะ...พ่อเด็กดี

พี่เขม : หรือบีอยากจะเช็คอะไรของพี่บ้างรึป่าว บีก็มีล็อคอินของทุกอันแล้วหนิ

บี : ผมไม่เช็คหรอกครับ....เพราะผมเชื่อใจพี่เขม

พี่เขม : เป็นหมาเลยกรู...พี่สินะที่ไม่เชื่อใจบี

บี : ป๊าวววววว....บีไม่ได้พูดนะ...พี่พูดเอง

พี่เขม : ขอโทษนะ...พี่จะไม่งี่เง่าแล้ว

บี : ดีแล้วครับที่รัก...รีบ ๆ กลับมา คิดถึงจะแย่แล้ว

พี่เขม : นี่ตอนนี้เครื่องเสร็จแล้วครับ...วันพรุ่งนี้ก็น่าจะบินกลับได้แล่ว

บี : เย้ ๆ จริงง่ะ...พาไปกินข้าวหน่อยกลับมาแล่วอ่ะ

พี่เขม : ได้สิ...พี่จะแบ่งเวลาให้แฟนละครับ...ไม่อ่านแต่หนังสือแล้ว

บี : อ่านไปเถอะคับพี่...แต่ก็ สนใจผมซักนิด ผมก็พอใจแล้ว

พี่เขม : อุตะ...คุยกันนานโคตร เปลืองค่าโทรศัพท์...แค่นี้ก่อนนะคับที่รัก

บี : คับผม...พี่เขมครับ...ผมรักพี่นะ...รีบมามาให้กอดเร็ว ๆ

พี่เขม : ชื่นใจจังเลย....พี่ก็รักบีครับ...จะรีบไปหานะ


แล้วพี่เขมก็ไม่ได้พูดเรื่องย้ายไปอยู่ด้วยกันอีกครับ...เหมือนพี่แกจะลืม...สงสัยจะกลัวว่า หมอคิตจะมาตามตื้อแล้วผมจะใจอ่อน...แต่ก็ไม่แน่หรอกครับ...หมอคิตจริง ๆ ก็ดีนะครับ...แต่ตอนนี้ผมเนี่ย...ไม่มีที่ว่างให้ใครเลยนอกจาก พี่เขม คนเดียวของผม แต่จะให้ไปอยู่ด้วยกัน..แล้วคบกันมายังไม่ถึงปี...ผมว่า ชีวิตเราน่าจะไปไม่รอดอ่ะครับ


ผ่านไป 3 วัน พี่เขมก็กลับมาถึงครับ...ผมว่าจะไปรอรับพี่เขมที่สนามบินแต่ผมติดบินครับ...และเป็นพี่เขมแทนที่มารอรับผมที่สนามบินครับ

พี่เขม : เป็นไงไปบินมาเหนื่อยไม๊

บี : โคตรจะเหนื่อยเลยพี่....ผู้โดยกินยับ...เครื่องก็ดีเลย์ กินหัวลูกเรือเป็น ของหวานเลย...ผมนี่ยืนไหว้ ไม่รู้จะกี่ร้อยคนละวันนี้

พี่เขม : มา ๆ พี่กอดให้พลัง...

บี : เด๋ว ๆ พี่...ไปที่รถก่อนเถอะ...อยู่ในชุดลูกเรืออยู่เลย...ไม่พร้อม ๆ

พี่เขม : อ่อ ๆ ๆ ลืมไปเลย

เราเดินกันมาที่รถครับ พอขึ้นรถเท่านั้นแหละ...พี่เขมบรรจงจูบผมอย่างไม่ยั้ง...ผมนี่แทบหายใจไม่ทันแล้วเสื้อผ้าผมก็หลุดลุ่ยไปตามแรงของพี่เขม

บี : พี่เขม...พอก่อน ๆ นี่ลาดจอดรถสนามบินนะ

พี่เขม :  ก็มันทนไม่ไหวหนิ

บี : เด๋วโดนจับได้ละเป็นเรื่องแน่

พี่เขม : ป่ะ ๆ กินข้าวก่อนก็ได้...แล้วเด๋วพี่ค่อยกินบี

บี : ไม่ไหวอ่าาา...ไม่มีแรงแล้ว...(ผมทำหน้างอแง แต่จริง ๆ แล้วแกล้งพี่เขมเล่นครับ)

พี่เขม : จริงง่ะ...พี่ไม่ได้เจอบีมาหลายวันละนะ...แล้วพี่ก็ไม่ได้ปลดปล่อยเลยนะ

บี : อุตะ...มีหวังน้ำท่วมแน่ ๆ ๆ

พี่เขม : คงจะรอบเดียวไม่ได้แล้วหละ

บี : เหนื่อยอ่าๆ ๆ (ผมยังทำท่างอแง...แกล้งพี่เขมไม่หยุด)

พี่เขม :  อ่า ๆ แค่ขอนอนกอดก็ได้

บี : จริงง่ะ...

พี่เขม : เออ...(เริ่มทำท่าอารมณ์เสีย)

บี : ไหน ๆ มาให้ผมกอดหน่อยเร็ว

พี่เขม : ไม่ต้องมาจับเลย...ยิ่งเงี่ยน ๆ อยู่

บี : อ่า ๆ พาไปเติมพลังหน่อย...เด๋วเผื่อมีแรงขึ้น

พี่เขม : จริงง่ะ...อยากกินอะไรบอกเลยพี่ให้กินทุกอย่างเลย...(พี่เขมทำหน้าตาตื่นเต้นกลับมาสดใสอีกครั้ง)

บี : กินพี่เขมไง

พี่เขม : เน่ๆ ๆ ...จะกินอะไรเร็ว ๆ อย่ามาลีลา

บี : ก๋วยเตี๋ยวหน้าคอนโดก็ได้คับ...
พี่เขม : ไม่เบื่อบ้างเหรอ

บี : อ่าวก็จะได้กินเสร็จเร็ว ๆ ไง...อยากกอดพี่จะแย่

พี่เขม : ไปหาไรกินเยาวราชไม๊...

บี : เหยจริงง่ะ...อยากกินโคตร ๆ ๆ

พี่เขม : เด๋วดูก่อนรถติดป่าว...(พี่เขมเปิด mapครับ)

พี่เขม : อื้อหือ...แดงเถือกเลย...แม่งเกือบ 2 ชม.

บี : ไม่ไปละ หิวตายกระเพาะทะลุพอดี

พี่เขม : งั้นเอาไว้พรุ่งนี้พี่สั่งไลน์แมนไปซื้อดีไม๊

บี : มันจะร้อนอยู่ไม๊อ่ะพี่...เด๋วไม่อร่อยนะ

พี่เขม : ก็พอถูไถมั้ง...อยากจะเลี้ยงแฟนดี ๆมั่งอ่ะ

บี : จัดไปเลย...ขอปูตัวใหญ่ ๆ ก๋วยจั๊บหมูกรอบ ขนมปัง น้ำส้ม ผลไม้ อาหารทะเล กระเพาะปลา

พี่เขม : นี่...จะเลี้ยงงานบวชใคร...อยากกินเยอะขนาดนี้

บี : ก็หิวอ่า...(ผมเอาหน้าไปซุกที่คอพี่เขม)

พี่เขม : ป่ะ ๆ รีบกิน ๆ จะได้รีบกลับไปนอนเอากัน

บี : อะไรนะพี่?

พี่เขม : ป่าว ๆ ๆ

แต่ดูเหมือนว่าไอ้เขมน้อยเนี่ย...จะระเบิดออกมาจากกางเกงพี่เขมละครับ...
เราก็กินข้าวกลับบ้านไปปลดปล่อยกันให้เต็มที่ครับ...หลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานแล้วพี่เขมช่วงก่อนก็ละเลยผมไป...ตอนนี้พี่เขมกลับมาเริ่มมีเวลาให้แล้ว...ผมก็ต้องรีบตักตวงครับ...เพราะไม่รู้พี่แกจะเปิดโหมดขยันอีกเมื่อไหร...เปิดโหมดขยันที ผมนี่เฉาเลยครับ...ไม่มีใครมาให้นอนกอด นอนแกล้งข้าง ๆ ตัวเลย....

ผมนอนฟัดเล่นอยู่กับพี่เขมจนดึกดื่นครับ...แล้วโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น

พี่เขม :  เหย...นี่ 5 ทุ่มก่า ๆ แล้วนะยังมีคนโทรมาหาอยู่อีกเหรอ ใครอ่ะ

บี : พี่เพอร์ที่รู้จักกันอ่ะพี่...สงสัยมีเรื่องอะไรให้ช่วยมั้ง

ผมก็กดรับโทรศัพท์อย่าง งง ๆ เพราะว่ามันดึกมาแล้ว แล้วผมก็ไม่ได้มีบินกับเค้าเลย

พี่เพอร์ : บีหรอ..หลับยัง...

บี : ครับผม พี่เพอร์ ยังไม่นอนครับ

พี่เพอร์ : พี่จะกวนแป๊ปเดียวเท่านั้นแหละ...คือว่า เรื่องนี้อย่าเพิ่งไปบอกใครนะ

บี : อะไรเหรอครับพี่...ดูลึกลับจังเลย

พี่เพอร์ : เค้ากำลังจะเปิดรับสมัครเพอร์เซอร์รุ่นต่อไปเร็ว ๆ นี้แล้ว และ พี่ว่าบีน่าจะสมัครได้แล้วแหละ

บี : เหยจริงดิพี่...ต้องทำไงบ้างอ่ะ

พี่เพอร์ : ก็เริ่มทำเรซูเม่ได้เลย...ใส่ไปเยอะ ๆ ว่าเคยทำอะไรให้บริษัทบ้าง

บี : งั้นผมก็ต้องอ่านหนังสือแล้วดิ

พี่เพอร์ : พี่ก็จะมาบอกเรื่องนี้แหละ...ให้เริ่มอ่านหนังสือได้แล้ว..ตั้งใจนะบี พี่เป็นกำลังใจให้

บี : ขอบคุณพี่มากครับ...


ผมตกอยู่ในภวัง...คือตอนนี้ต้องเปิดโหมด..เด็กรักเรียนแข่งกับพี่เขมแล้วเหรอเนี่ย...โดย ยังอยากจะอยู่แบบนี้ต่อไปอีกซักหน่อยอ่ะ...ยังไม่ค่อยอยากเป็นเพอร์เลย

พี่เขม : ไง...ไอ้ตัวแสบ...ใครโทรมา

บี : พี่เพอร์ครับ...โทรมาบอกว่า น่าจะเปิดรับสมัครเพอร์เซอร์เร็ว ๆ นี้ให้ผมทำเรซูเม่รอได้เลย...แล้วก็เริ่มอ่านหนังสือได้แล้ว

พี่เขม : ก็ดีเลยดิ...จะได้มาอ่านหนังสือกับพี่ไง

บี : ไม่ได้ครับพี่เขม...ผมชอบอ่านหนังสือคนเดียว

พี่เขม : อ่าว...งั้นก็แสดงว่าพี่กำลังจะถูกเทใช่มะ?

บี : ก็ไม่เชิงครับพี่...ผมต้องเป็นให้ได้

พี่เขม : มา ๆ เราจะสู้ไปด้วยกัน

บี : พี่เขมบีขอดูเรซูเม่พี่เขมหน่อยดิ...ต้องเขียนใหม่ทั้งหมดเลยอ่ะ

พี่เขม : ได้ดิ เปิดเมล์พี่ดิ พี่เพิ่งส่งสมัคร กัปตันเอง น่าจะยังมีอยู่ในอีเมลล์

ผมเปิดเรซูเม่พี่เขม...ผมนั่งอ่านเรซูเม่พี่เขมนานมากครับแล้วก็เกิดความเครียดขึ้นมาทันที...เฮ้ย...พี่เขมแม่ง คือเรียนดีมากครับ...เรียน มัธยมก็เรียนโรงเรียนดังที่กทม. แล้วก็จบ มหาลัยสีชมพู...แล้วก็ไปเรียนต่อนอก แล้วก็เรียนนักบินอเมริกา เฮ้ย แล้วผมหละ...เป็นเด็กบ้านนอก เรียนต่างประเทศก็ไม่เคย จบมหาลัย แค่นั้น ไม่ได้คู่ควรกับพี่เขมเลยแม้แต่น้อยครับ...ในใจผมเริ่มรู้สึกด้อยค่าแล้วครับ...ผมรู้สึกว่าพี่เขมน่าจะมีแฟนที่ดีกว่านี้...คือผมต้องทำตัวเองให้ดีกว่านี้ครับ...มันถึงจะเหมาะสมกับพี่เขมหน่อย ผมนั่งทำเรซูเม่ทันทีเลยครับแล้วพี่เขมก็ช่วยผมทำ...พอทำเสร็จก็เกือบจะตีสองแล้วครับ...ผมนี่รีบนอนเลย...เพราะตอนเช้าผมกะว่าจะตื่นไปทำข้าวต้มให้พี่เขมกินซะหน่อย..ต้อนรับการกลับมาของแฟนหน่อย..แฟนคงจะคิดถึงฝีมือไม่ใช่น้อย(คิดเองล้วน ๆ )

พอเริ่มสาย ๆ หน่อยผมก็ตื่นไปทำกับข้าวให้พี่เขมกินครับ...ต้มข้าวต้มง่าย ๆ แต่อร่อย นี่สูตรเด็ดจากคุณหญิงแม่ของผมเลย...พอทานกันเสร็จทั้งคู่ ผมก็เริ่มจะอ่านหนังสือแล้วครับ...พี่เขมก็กวน ๆนิดหน่อยแล้วผมก็ต้องแพ้ทางพี่เขม...เพราะเราไม่ได้เจอกันนานแล้วครับ...ไอ้เขมน้อยเนี่ย...งอแง...อยากจะทำอย่างว่าตลอดเลย..เมื่อคืนก็กว่าจะทำเรซูเม่เสร็จปาเข้าไปตีสอง...ไม่มีแรงกันทั้งคู่แล้วครับ แต่พอกินอิ่มนอนหลับแล้วเนี่ย...พี่เขมและเขมน้อยก็ดูคึกคักเชียว...ถ้าผมปล่อยให้กลับบ้านไปคงจะตะกายฝาผนังทั้งวันทั้งคืน...พี่เขมก็เริ่มจู่โจม หนักขึ้นเรื่อย ๆ จนผมต้องยอมแพ้

ผ่านไป 2 ยก ยกที่ 3 เริ่ม...นี่ไม่ใช่มวยนะครับ...แต่ผมเนี่ยไม่ไหวแล้ว ไม่ได้เจอกันนาน ทำเยอะ ๆ ก็ไม่ไหว มันจะระบมไปหมด...พี่เขมถึงได้หยุด แล้วเราก็นอนพักเอาแรงกันอีกนิดหน่อย...พอตื่นมา ผมก็ไล่พี่เขมกลับบ้านให้ไปอ่านหนังสือได้แล้วครับ เพราะผมก็ต้องเริ่มอ่านหนังสือจริงจังแล้วเหมือนกัน

ผ่านไปอีก ไม่เกิน  1 อาทิตย์ ก็มีประกาศว่าจะรับสมัครเพอร์เซอร์ใหม่ขึ้นมาครั้ง...ผมกับเพื่อนในรุ่นตื่นเต้นกันใหญ่ เพราะว่ารุ่นเราเป็นครั้งแรกที่สมัครกันได้ครับ...มีการเกิดการติวอย่างจริงจังเกิดขึ้น...สำหรับคนที่ไม่เข้าใจว่าการเป็นลูกเรือทำไมต้องสอบอะไรมากมาย...ผมขอเกริ่นคร่าว ๆ แล้วกันนะครับ...การสอบของลูกเรือเนี่ยมีประจำในทุก ๆ ปีอยู่แล้วครับ...เป็นการสอบวัดความรู้ว่าทุกคนที่เป็นผู้ปฏิบัติการทางอากาศจะตั้งทำอยู่แล้วตามกฎหมายกำหนดเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นนักบิน หรือ ลูกเรือ ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องสอบครับ...แล้วการสอบเลื่อนตำแหน่งก็เป็นอีกขั้นหนึ่ง....ที่จะต้องวัดความรู้ในทุก ๆ ด้านที่ควรจะรู้แล้วเกณฑ์ เนี่ยไม่ใช่ขี้ ๆ เลยนะครับ ผ่านคือ  90% นะครับ ในเรื่องของ safety และในเรื่องของ service นี่ก็ 70-80% ครับ ก็ยังเยอะอยู่ดีสำหรับคนสมอง ง่อย ๆ อย่างผม​​...ผมจึงต้องเริ่มอ่านหนังสือใหม่หมด เรียกง่าย ๆ ว่า ต้องต้ม หนังสือคู่มือของการเป็นลูกเรือที่มีอยู่เกือบ 1500 หน้า ในส่วนของ safety กินเป็นอาหารเลยทีเดียวครับ..และส่วนของ service ก็เป็นคำถามครอบจักรวาล ออกแม่งทุกอย่างตั้งแต่ประวัติของบริษัท ยังไปถึง น้ำหอมในห้องน้ำที่ใช้ยี่ห้ออะไร....เพราะฉะนั้นทำให้ทุกคนเครียดมากและเราก็มีเวลาอ่านกันเพียง 1 เดือนก่อนการสอบ แต่ผมโชคดีหน่อยที่มีพี่เพอร์แสนใจดีมาบอกผมก่อน 1 อาทิตย์ก่อนการประกาศ...ผมทำการตั้งกรุ๊ปติวในรุ่นครับเพื่อช่วยกันแบ่งปันข้อมูลทั้งหมดที่เราหาได้ แต่ความยากอยู่ที่ ยิ่งเยอะ คนก็ยิ่งลึกไปอีกครับ...เราอ่านกันจนนึกว่าสอบเอ็นทรานซ์อีกครั้งครับ....มันทำให้ผมคิดถึงบรรยกาศการโต้งรุ่งกับเพื่อน ๆ และการนอนน้อย ใต้ตาดำ แถมเราก็ยังต้องไปบินอีก...มันช่างเป็นช่วงเดือนที่หฤโหดจริง ๆ สำหรับผมครับแล้วก็ลามไปถึงการเจอกันที่น้อยลงมาก ของผมกับพี่เขมด้วย...ช่วงนี้พี่เขมก็ไม่งอแงเลยครับ...มีบ้างนิดหน่อยแต่ที่น่าแปลกใจที่สุดคือ ตอนแรกเป็นผม ที่อยากจะไปหาพี่เขม...อยากจะดูแล เอาข้าวเอานำ้ไปส่ง...แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นพี่เขมท่ี เอาข้าวเอาน้ำมาส่งให้ผมและเพื่อน ๆ เวลาผมติวเป็นกลุ่มครับ...พอติวเสร็จบางทีก็จะมารับผมกลับแล้วก็ไปเลี้ยงข้าวครับ...แล้วกลายเป็นผมที่สนใจพี่เขมน้อยลงไปเลยทีเดียว...

พี่เขม : บีคับ...ช่วงนี้เครียดไปรึป่าวเนี่ย...อ่านหนังสือหนังไปรึป่าว

บี : ก็ผมจำไม่ได้ซักทีอ่ะพี่เขม....ปวดหัวไปหมดแล้วเนี่ย

พี่เขม : ก็ต้องค่อย ๆ อ่านไปสิครับ...พักผ่อนบ้าง...ไหน มีอะไรต้องจำบ้างเนี่ย

บี : นี่ผมกำลังท่อง ประวัติของบริษัทอยู่ครับ...แล้วที่ยากคือ ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กันเลย...แล้วไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอ่านไปแล้วจะออกรึป่าว

พี่เขม : บ้า...ต้องอ่านขนาดนั้นเลยเหรอ

บี : ก็เผื่อเค้าออกอะพี่...มันแบบ ครอบจักรวาลเลยนะพี่ มีพี่เพอร์เคยบอกว่า ข้อสอบถามว่า ไอ้ช่องเก็บของเหนือหัวผู้โดยสารเนี่ย...ใส่กระเป๋าได้หนักกี่กิโล

พี่เขม : เหย....นี่ก็เวอร์ไปป่าว

บี : ก็นั่นดิพี่...จะต้องรู้ไปทำไมฟระ

พี่เขม : เอาหน่า...ก็คงเป็นข้อสอบตัดคะแนนแหละ

บี : อืมๆๆ ผมก็ไม่เครียดมากแล้วครับ...แล้วพี่หละอ่านไปถึงไหนแล้ว

พี่เขม : พี่เริ่มโอเคแล้วครับ...เด๋วมีพี่กัปตันติวให้อีกที

บี : โหย...เก่งง่ะ...มาแบ่งของบีไปอ่านหน่อยเร็ว

พี่เขม : พี่ก็ช่วยได้แค่เรื่องของ เครื่องบินเท่านั้นแหละ

บี : งั้นพี่เขมอธิบายให้หน่อยดิ...ขี้เกียจอ่านแล้วอ่ะ

พี่เขม : ไหน ๆ เรื่องอะไร เอาในเรื่องห้องนักบินก่อนเนอะ...เอาจากใกล้ตัวพี่สุด

บี : เย้ ๆ มีแฟนเป็นว่าที่กัปตันเนี่ย...มันดีอย่างนี้นี่เอง

พี่เขม : แฟนพี่ก็จะเป็นว่าที่เพอร์เหมือนกันไง

ผมมานอนบนตักพี่เขมแล้วก็ฟังพี่เขมพูดให้ฟังเรื่องข้องห้องนักบิน พี่เขมอธิบายละเอียดมากครับ...ยังไม่พอ พี่แกมีรูปในห้องนักบินมาให้ดูด้วย ยิ่งทำให้ผมสนใจเข้าไปใหญ่ แต่ไอ้ที่น่าสนใจกว่ารูปในห้องนักบินเนี่ยก็น่าจะเป็นคอพี่เขมเนี่ยแหละครับ...ผมนั่งฟังไปซักพัก ผมก็เกิดอาการ อยากจะไซร้คอพี่เขมขึ้นมาซะอย่างนั้น แล้วผมก็ไปกดปุ่มหื่นของพี่เขมติด...แล้วเราก็ไม่ได้อ่านหนังสือกันต่อเลยครับเย็นนั้น

ตอนเย็น ๆ ผมโวยวายว่าไม่ได้อ่านหนังสือเลย...พี่เขมมาอยู่เป็นเพื่อนเนี่ย...ผมก็ว่าจะไปส่งพี่เขมกลับบ้านครับ...ถือโอกาสแวะไปหาป๊ากับแม่ของพี่เขมด้วยครับ (พ่อแม่ตัวเองไม่เคยจะกลับไปหา) ป๊ากำลังตั้งวงกับแม่อยู่เลยครับ...สรุปคืนนั้นเราก็นั่งจิบ ๆดูหนังกันครับ...ผมก็ไม่ได้กลับบ้าน เพราะป๊าบอกว่าดื่มแล้วอย่าขับรถมันอันตราย แล้วกลางคืน ถึงแม้จะเป็นที่บ้านป๊ากับแม่ พี่เขมก็ไม่วาย...จะลวนลามผม...แต่ครั้งนี้เราไม่สามารถส่งเสียงอะไรกันได้เลยครับ...ถ้าเปรียบก็เหมือนดูหนังโป๊แต่ปิดเสียง...มันจะไปได้รสชาติอะไรใช่ไม๊ครับ...

ผ่านไปอีก 2 อาทิตย์เราทั้งคู่ก็ใกล้จะสอบกันแล้วครับ...เรามีต่างคนต่างมีบิน ต่างคนต่างอ่านหนังสือมากขึ้น...ผมก็มีเวลาอยู่กับเพื่อนเยอะขึ้น พออ่านหนังสือเสร็จบางวันเราก็พากันไปปาตี้เล็ก ๆ น้อย ๆ คลายเครียด...ไอ้บางคนที่ไปไหว้พระ ขอพรอะไรไว้ก็ไปนั่งด้วยครับ...แต่กินน้ำเปล่า..เพราะว่า อ่านหนังสือเยอะ ​ๆ แล้วมันเครียดครับ...ขนาดในวงเหล้า เรายัง เล่นเกมส์ถามคำถามของการสอบเลยครับ...ทำให้ทุก ๆคน เหมือนจะเครียด น้อยลง รึเปล่าก็ไม่รู้

วันนี้ผมไม่ได้ออกไปอ่านหนังสือกับเพื่อนครับเพราะทุกคนที่ว่าอ่านหนังสือกันในเมือง ผมอยู่นอกเมือง ผมก็เลยไม่เข้าไปดีกว่า...ตอนแรกว่าจะเข้าไปแล้วไปนอนกับพี่เขมที่คอนโดแต่ก็กลัวว่าพี่เขมอาจจะไม่สะดวก อ่านหนังสืออยู่รึป่าว ผมก็เลยตัดสินใจไม่ไปหาครับ...ผมโทรไปหาพี่เขม

บี : พี่เขม...วันนี้ทำไรครับ

พี่เขม : อ่านหนังสือคับบี...ตอนนี้เริ่มเครียดละ อาทิตย์ก่อนยังชิว ๆ อยู่เลย

บี : ไมอ่ะพี่...ใครมากดดันเหรอ

พี่เขม : ก็จะใครหละ ไอ้ตาล กะ ไอ้พริ้งอ่ะดิ...มันก็สอบใช่ป่ะ แล้วไอ้สองตัวนี่อ่านหนังสืออย่างกะกินเข้าไป...แม่ง พี่ไปอ่านด้วยแล้วตกใจหมดเลย

บี : ก็เหมือน ๆ เพื่อนบีแหละพี่...ยิ่งอ่านกะพวกมันยิ่งเครียด โชว์พลัง กันใหญ่

พี่เขม : แล้วบีไม่ไปไหนเหรอวันนี้

บี : ไม่ไปครับ...เพื่อนอ่านกันในเมืองอ่ะ เลยขี้เกียจเข้าไป

พี่เขม : พี่ก็นอนอยู่บ้าน ตอนแรกว่าจะไปนอนคอนโด แต่ขี้เกียจแบกหนังสือไป

บี : ตอนแรกว่าจะไปนอนคอนโดพี่แล้ว ถ้าจะออกไปอ่านหนังสือกับเพื่อนอ่ะ ดีนะ พี่นอนบ้าน ไม่งั้นขับรถวนไปข่าาาา

พี่เขม : อยากมานอนรึป่าว ให้พี่ไปนอนคอนโดไม๊ พี่อยากนอนกอดแฟน

บี : โอย...อย่าเลยพี่...รอสอบเสร็จก่อนนะ จะไปให้กอดทุกวัน ตอนนี้เหลืออีกไม่กี่วันละ....

พี่เขม : แหม่ ๆ ไม่คิดถึงพี่บ้างเลยเหรอ

บี : แหม่ ๆ ล่าสุดใครละ...ที่ไม่แข็งอ่ะ...เครียดอ่ะดิ

พี่เขม : เออ...ดิ วันหลังห้ามพูดเรื่องสอบตอนเอากันนะ...หมดอารมณ์เลย ไปต่อไม่ถูกเลยเนี่ย...

บี : ขอโทษค๊าบบบบ

พี่เขม : แต่จะว่าไป...ตอนนี้ก็แข็งอยู่นะ

บี : บร๊ายยยยยย....คืนนี้ตัวใครตัวมันก่อนละกันนะคับ

พี่เขม : แหม่ ๆ ๆมาหลอกให้อยากเนอะ คนเรา

บี : ไปอ่านหนังสือต่อแล้วคับพี่เขม...สู้ ๆ นะคับ ผมรักพี่เขมนะครับ

พี่เขม : จ้าาาา....พี่ก็รักบีเหมือนกัน คิดถึงนะ

ว่าแล้วผมก็กลิ้ง ๆ อ่านหนังสือแล้วก็เผลอหลับไป....
.
.
.
.
ผมสะดุ้งตื่นด้วยเสียงโทรศัพท์....แสสส ใครโทรมาขัดจังหวะการนอนกรูฟระ...ผมคิดในใจ.....อ่าว ไอ้ปืนนี่หว่า...มันไม่คิดว่ากรูจะนอนอยู่เลยรึไง

ปืน : ไอ้บี มึงอยู่ไหน

บี : อยู่คอนโดดิฟระถามได้...แม่งมึงโทรมาซะดึกเลยไม่คิดว่ากรูจะนอนบ้างเลยรึไง

ปืน : ก็เห็นพี่เขม มากินเหล้าที่ทองหล่อ

บี : ก็ปกติป่าวฟระ พี่เขมคอนโดอยู่แถวนั้น

ปืน : ถ้าปกติกรูจะโทรหามึงไม๊ไอ้สัส

บี : มีไรอะ

ปืน : กรูเห็นพี่เขมมากะน้องเจ

บี : บ้า....จริงเหรอ มึงจำผิดป่าว...

ปืน : แล้วพี่เขมอยู่ไหนมึงรู้ไม๊

บี : เออหวะ...พี่เขมบอกนอนอยู่บ้าน

ปืน : มึงเอาไง...ให้กรูทำไง ตามดู หรือขัดขวางเลยดี

บี : มึงอยู่ร้านไหนเด๋วกรูไปหา

ปืน : เอางั้นเลยเหรอฟระ...

บี : ไหน ๆ กรูก็นอนไม่หลับละ ขอเวลากรูแป๊ป

ปืน : เออ เด่วกรูแชร์ โลเคชั่นไปให้

ผมวางโทรศัพท์แล้วหัวใจผมก็เต้นผิดจังหวะ...ผมทำการโทรหาพี่เขมแต่พี่เขมไม่ได้รับสาย....ผมรู้สึกกระวนกระวายใจมาก...ผมจึงทำเหมือนที่พี่เขมเคยทำคือ ล็อคอินไลน์โดยใช้คอมครับ แล้วผมก็เจอจริง ๆ ข้อความที่พี่เขมคุยกับน้องเจ ตอนนั้นผม 2 จิต 2 ใจว่าจะกดเข้าไปอ่านดีไม๊ แต่มาถึงจุดนี้แล้ว...ถ้ารู้ก็ต้องรู้ให้หมด
.
.
.
.
.
.
“You say I'm crazy
'Cause you don't think I've known what you've done
But when you call me baby
I know I'm not the only one”

I’m not the only one by Sam smith
.
.


To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 27 แบบทดสอบ P.3 ( 4-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 04-11-2017 23:05:28
ขอบคุณค่ะ  พี่เขมน่าจะเครียดมากกก
เลยแตกแถว 55555
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 27 แบบทดสอบ P.3 ( 4-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-11-2017 23:44:02
 :เฮ้อ:

เสียใจ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 27 แบบทดสอบ P.3 ( 4-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-11-2017 01:01:18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 27 แบบทดสอบ P.3 ( 4-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 05-11-2017 05:17:21
โอ๊ยพี่เขมดีแตก กล้ามากๆ ไม่รู้เหรอว่าคนอย่างบีถ้าเจอแบบนี้อาจจะตัดใจไปทันทีเลย
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 27 แบบทดสอบ P.3 ( 4-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 05-11-2017 09:46:29
ลุ้นเลยว่าพี่เขมจะดีแตกหรือเปล่าเนี่ย
ถ้าดีแตกระวังจะไม่ได้โอกาสแก้ตัว เหอๆ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 27 แบบทดสอบ P.3 ( 4-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 05-11-2017 10:00:57
ขอบคุณมาก ๆ นะครับสำหรับการติดตาม....คิดถึงมาก ๆ ผู้อ่านทุกคน และขอบคุณที่ไม่ทิ้งกันไปครับ

วันนี้จะมาต่อให้ตอนดึกหน่อยนะครับ

ป.ล. คิดถึงคอมเม้นของทุกคนเลยครับ ขอบคุณจริง ๆ kokoro, insomniac, Mild-dy, Billie, warin, zetnezz, Fahsaizzz and love:seungri
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 27 แบบทดสอบ P.3 ( 4-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 05-11-2017 13:41:17
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 28 หมอคิตทำคะแนน P.4 ( 5-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 05-11-2017 20:33:02
ตอนที่ 28 หมอคิตทำคะแนน

ผมอ่านข้อความไปน้ำตาผมมันก็ไหลไปครับ...ข้อความทั้งหมดนี้มันไม่ได้บอกหรอกครับว่าพี่เขมยังคงรักกับน้องเจอยู่รึป่าว...แต่มันบอกผมว่า เค้ายังคงติดต่อกันอยู่และข้อความล่าสุดก็คือ น้องเจ เลิกกับแฟนครับแล้วขอให้พี่เขมไปกินเหล้าเป็นเพื่อนหน่อย ซึ่งน่าจะเป็นเวลาหลังจากที่ผมคุยกับพี่เขมเสร็จแล้วผมก็หลับไป...ผมไม่รู้จะทำยังดีครับ...เพราะตอนนี้ พี่เขมก็น่าจะรู้แล้วครับว่าผมเข้าไปอ่านไลน์ของพี่เขมดู เพราะการ ล็อคอินทุกครั้งโดยใช้คอม ในตัว ไลน์ จะขึ้นว่ามีอีกเครื่องกำลังล็อคอินเข้าไป...แต่ก็ไม่มีการตอบกลับใด ๆ จากพี่เขมครับ ทั้ง ๆ ที่ผมโทรไปหาพี่เขมแล้ว และพี่เขมก็ไม่รับสาย

ผมขับรถไป...นับ 1 - 10,000 นับไปเรื่อย​ ๆ เพราะในใจผมก็ยังคิดเสมอว่า พี่เขมคงจะมีเหตุผลที่อธิบายผมได้ดีกว่านี้ พอผมขับรถไปถึงที่ร้าน ผมก็ไม่กล้าลงจากรถครับ...ผมไม่อยากเห็นเลยว่า ภาพมันจะเป็นยังไง ผมจึงโทรไปหาไอ้ปืนอีกครับ

บี : เมิงยังอยู่ร้านอยู่ป่าว

ปืน : ยังอยู่เมิงอยู่ไหนแล้วเนี่ย...มาเร็ว ๆ ดิฟระ เด๋วเค้าก็กลับก่อนพอดี

บี : กรูถึงละแต่กรูไม่อยากลงไปดูเลยหวะ...กรูกลัวกรูคุมตัวเองไม่ได้

ปืน : เฮ้ยมึง..ใจเย็น ๆ เมื่อกี้กรูเห็นพี่เขมมีเพื่อนมาด้วยเว้ย...แต่ตอนนี้กรูไม่เห็นเพื่อนเค้าแล้วนะ....ไม่รู้ไปไหน

บี : ผู้หญิงหรือผู้ชายวะ

ปืน : ผู้ชายหวะ...ตัวสูง ๆ ขาว ๆ ล่ำ ๆหน่อย

บี : หล่อ ๆ หน่อยมะ มีเครา ๆ นิด ๆ ใช่ป่ะ

ปืน : เอาใช่ ถ้าจะถามเรื่องความแซ่บกรูให้ 10-10-10 ไปเลยข่าาาา

บี : เออเพื่อนพี่เขมเองแหละ เมิงเค้าอยู่บนเวทีป่าว พี่เก่งมันเล่นคียร์บอดนะ

ปืน : สัส อยู่บนเวทีจริง ๆ ด้วย...แม่งยิ่งโคตรหล่ออ่ะ...กรูจีบได้มะ

บี : เค้าชอบผู้หญิงจ๊ะ...

ปืน : แสส เสียของหมด

บี : ให้เค้าผลิตประชากรโลกบ้างไม๊มึง...ให้เค้าปกติกันบ้างเหอะ

ปืน : แล้วมึงให้กรูไปรับที่รถมะ?

บี : ไม่เป็นไร กรูของทำใจแป๊ปนึง...เด๋วกรูลงไปหา

ปืน : เฮ้ยมึง....พี่เค้าพาน้องออกไปแล้วหวะ...ยังไงดี

บี : สัส เด๋วกรูตามเอง...ขอบใจมากนะมึง

ปืน : อย่าคิดมากนะมึง..ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คุยกัน




ผมขับรถตามรถพี่เขมไปจนถึง...คอนโดพี่เขมครับ...ผมจอดรออยู่หน้าทางเข้าของคอนโดเพราะเป็นที่จอดสำหรับคนที่ไม่มีบัตรครับ...ผมเดินออกไปนั่งแอบรอพี่เขม แล้วซักพัก พี่เขมก็เดินประครองน้องเจมาครับ...ผมเดินออกไปขวางทางหน้าประตูทางเข้าคอนโดครับ...ผมมองพี่เขมด้วยสายตาที่เย็นชาและผมก็ไม่พูดอะไร รอให้พี่เขมอธิบายทุกสิ่งที่ผมกำลังเห็น พี่เขมเริ่มต้นด้วยคำว่า

พี่เขม : บี มันไม่ใช่อย่างที่บีเข้าใจนะ

ผมพยักหน้าเป็นการตอบรับแล้วก็ยังคงไม่พูดอะไรออกไป

พี่เขม : น้องมันเมามากพี่เลยต้องพากลับมาคอนโด

บี : แล้วพี่คิดจะบอกผมบ้างไม๊

พี่เขมเงียบ...ไม่ตอบ

บี : พี่เคยคิดถึงใจผมบ้างไม๊

พี่เขม : ก็เพราะพี่คิดหนะสิ พี่ถึงยังไม่อยากบอก

บี : ผมรู้แล้วครับ...ว่าผมมาอยู่ผิดที่ผิดเวลาเอง

พี่เขม : มันไม่ใช่นะบี...ฟังพี่ก่อนนะ

บี : พี่กลับไปดูแลคนของพี่เถอะครับ...

ผมเดินจากมาพร้อมกับน้ำตา...ผมไม่ฟังอะไรต่อไปทั้งนั้น...ในเมื่อเค้าอยากจะดูแลกัน ผมก็คงเป็นแค่ส่วนเกิน...หรือผมอาจจะเป็นแค่คนแก้เหงาก็ได้...ทุกสิ่งทุกอย่างมันอาจจะไม่จริงก็ได้...ผมอาจจะคิดเข้าข้างไปเองว่าเค้ารักผมก็เป็นไปได้...ถ้าน้องเจเลิกกับแฟนแล้วจริง...แล้วพี่เขมจะไปคบกับน้องเค้า...ผมก็คงต้องปล่อยไป...ความรักสำหรับผม ขอแค่คนที่เรารักมีความสุขกับสิ่งที่ทำ...ผมเองก็ดีใจมากแล้วครับ มันอาจจะเป็นสิ่งที่สวรรค์บอกมาตั้งแต่แรก ๆ แล้วก็ได้ว่า...ตัวผมเองมันไม่มีอะไรคู่ควรกับพี่เขมเลย ไม่ว่าจะฐานะ การศึกษา หน้าตา ผมว่าพี่เค้าคงหาคนที่ดีกว่าผมได้แน่ ๆ

ผมขับรถออกจากคอนโดพี่เขมพร้อมน้ำตา...มันไหลไม่หยุด..มันเป็นน้ำตาที่ผมไม่ทันตั้งตัวหรือพร้อมที่จะรับมือเลยครับ...ในใจอีกด้านหนึ่งลึก ๆ ผมก็คิดว่าพี่เขมน่าจะตามมาอธิบายทุกอย่างให้ผมฟัง...อย่างน้อย ๆ เราก็เคยสัญญากันว่า เราจะไม่ทะเลาะกันข้ามคืน...มีอะไรเราต้องเคลียกันเสมอ...แต่จิตใจผมตอนนี้มันอ่อนแอและย่ำแย่มาก แล้วไอ้ปืนก็โทรมา

ปืน : เมิงไอ้บี เป็นไงบ้าง...ได้เรื่องไม๊

บี : มึงมันจบแล้วหว่ะ...พี่เค้าเลือกน้องเจ...(ผมตอบด้วยเสียงสะอึกสะอื้น)

ปืน : เฮ้ย...มึงคุยกันแล้วเหรอ...มึงอย่ายอมนะเว้ย

บี : ถ้าเค้าเลือกแล้ว...กรูก็เป็นคนที่ต้องไปหวะ

ปืน : มึง...ไม่โอเคอ่ะ...อย่างงี้ไม่ใช่ดิฟระ

บี : ……..

ปืน : มึงอยู่ไหน ให้กรูไปอยู่เป็นเพื่อนไม๊

บี : ไม่เป็นไรเมิง...กรูกะลังขับรถกลับคอนโดกรูแล้ว...กรูดูแลตัวเองได้

ปืน : ไม่ไหวรีบโทรหากรูเลยนะ...เด๋วกรูไปอยู่เป็นเพื่อน

บี : ขอบคุณมากนะเมิง

ผมพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้คงที่ ที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ครับ...ผมหวังว่าอย่างน้อย ๆ พี่เขมก็คงจะโทรมา แต่มันก็ไม่มีครับ...ผมจึงค่อนข้างแน่ใจแล้วว่า...ผมหมดหวังแล้ว

คืนนั้น...ผมนอนจมอยู่กับกองน้ำตา...ผมไม่อยากให้ใครมาเห็นผมในตอนนี้เลย..และผมก็เลือกอยู่กับตัวเองให้มากที่สุด เพราะอีกไม่ถึง 1 อาทิตย์ผมก็ต้องสอบเพอร์แล้ว
ผมหลับไปพร้อมกับทิชชู่กองใหญ่ที่อยู่รอบตัว...ผมตื่นมาอีกทีเพราะว่าฝันครับ ผมฝันว่าพี่เขมมาหาผม ผมจึงรีบลุกขึ้น ตอนนี้...หัวผมมันหนักไปหมด...ตาผมก็บวมมากแล้ววันนี้ผมก็มีบินครับ ผมมองดูนาฬิกา มันเพิ่งจะ ตี 5 กว่า ๆ เองครับ...ผมรีบทำการโทรลาป่วยเพื่อจะต้องการจัดการกับความรู้สึกตัวเองให้ได้เร็วที่สุดแล้วทำการเตรียมตัวเพื่อไปสอบ...ผมจับโทรศัพท์ของผมขึ้นมาดู...ในใจลึก ๆผมหวังว่าอย่างน้อย ๆ พี่เขมก็น่าจะโทร หรือ ส่งไลน์มา...แต่ก็ไม่มีวี่แววของการตอบกลับจากพี่เขมแม้แต่น้อยครับ...มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่า ตัวผมนั้น “โง่มาก” ที่ไปรักคนอย่างนั้น เพียงข้ามคืน ทำไมทุกสิ่งถึงได้หายไปในพริบตา...ความรักของเรามันฉาบฉวยขนาดนั้นเลยเหรอครับ พี่เค้าไม่แม้แต่จะมาอธิบาย หรือพี่เค้าคิดว่า อย่างนี้ก็ดีแล้ว...ให้มันเห็นไปเลย...จะได้ตัดใจได้เร็ว ๆ แต่จริง ๆ มันก็ดีเหมือนกันนะครับ...ถ้ามันชัดเจนขนาดนี้แล้ว สิ่งเดียวที่ผมต้องทำก็คือต้อง.... “หยุด”



เวลาคนเราอกหัก...ทำไมต้องเปิดเพลงเศร้าแล้วก็นั่งร้องไห้อยู่ท่ามกลางฝนคนเดียวด้วยครับ....แล้วสิ่งที่ฮิตไปไม่แพ้การตากฝนตอนอกหักแล้วก็คือ การเอาตัวเองที่ใส่เสื้อผ้าเข้าไปอาบน้ำใต้ฝักบัว...ในเมื่อตอนนี้ฝนไม่ตก แล้วไม่มีเมฆแม้แต่น้อย ผมจึงทำอย่างที่สอง...คุณเชื่อไหมครับ แค่ก้าวเท้าตัวเองเอามือไปเปิดฝักบัว แล้วเปิดเพลงเท่านั้นแหละ...พังพินาศครับ...ผมเล่าอาจจะดูตลก แต่ในความเป็นจริงแล้ว...มันเศร้าจนกว่าจะทนไหว...ผมว่าตัวผมเป็นคนที่เข้มแข็งมากนะครับ ในทุก ๆ เรื่อง ผมสามารถดูแลจัดการ ทุกสิ่งรอบตัวได้อย่างดีเลยทีเดียวและยังลามไปถึงเพื่อนพ้อง แฟน เพื่อนแฟน พ่อแม่เพื่อน พ่อแม่แฟน ผมสามารถดูแลได้หมด แต่ตอนนี้ ผมอ่อนแอเหลือเกิน เกินกว่าจะลุกขึ้นยืนซะด้วยซำ้ ผมปล่อยให้เพลงจากมือถือเล่นวนไปเรื่อย ๆ แล้วร้องไห้ออกมาจนกว่าจะไม่มีน้ำตา

‘Cause there’ll be no sunlight
If i lose you, baby
There’ll be no clear skies
If i lose you, baby
Just like the clouds
my eyes will do the same, if you walk away
Everyday it’ll rain, rain, ra-a-a-ain

It will rain, Bruno mars..


ไม่นานก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น....อย่างที่บอกแหละครับ...ผมก็ยังหวังลึก ๆว่าจะเป็นพี่เขม แต่กลับเป็นพี่เก่ง ผมก็เลยกดโทรศัพท์รับ



พี่เก่ง : เฮ้ยมึง...เป็นไงบ้าง

บี : ก็พังคับพี่...

พี่เก่ง : พังยังไงฟระ...

บี : พี่เขมเค้าไม่รักผมแล้วครับพี่....ฮืออออออ.....(ผมร้องไห้ฟูมฟายออกมา)

พี่เก่ง : ไอ้หนูน้อย...มึงใจเย็น ๆ ก่อนนะ มึงฟังกรูพูดดี ๆ นะ

บี : (ฮืออออออ.....ไม่มีทางจะหยุดง่าย ๆ )

พี่เก่ง : เหี้ย....เอาแต่ร้องไห้แล้วจะรู้เรื่องไม๊วันนี้

บี : คับพี่...ผมไม่ไหวจริง ๆ คับ...ตอนแรกรับโทรศัพท์พี่ก็นึกว่าจะคุมตัวเองได้

พี่เก่ง : ดูเอ็งจะรักมันมากสินะ

บี : ครับ...แต่ผมก็ต้องตัดใจ

พี่เก่ง : มึงลงมาข้างล่างก่อนได้ไม๊

บี : ไม่ได้ครับพี่...ผมไม่อยากออกไปไหนเลย

พี่เก่ง : แล้ววันนี้กรูจะคุยกับมึงรู้เรื่องไม๊เนี่ย

บี : ไว้วันหลังละกันนะคับพี่...ผมขอวางก่อนนะครับ

พี่เก่ง : เฮ้ย...เด๋วดิ ๆ

ผมกดวางสายแล้วออกจากห้องน้ำไปเช็ดตัวครับ...ตอนนี้ผมแค่อยากกินยาแก้ปวดหัวแล้วนอนเผื่อตื่นมา อะไร อะไรมันจะดีขึ้นบ้าง...ตอนนี้มันเหมือนโลกทั้งใบถล่มลงมาต่อหน้าผม...ผมไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว คงมีแต่ปาฏิหาร์เท่านั้นแหละครับที่จะทำให้พี่เขมยอมกลับมาหาผม...

ผมนอนหลับไปเพราะความปวดหัว...ตื่นมาผมก็เหมือนจะมีไข้ เนื่องจากเสือกไปโทรมตัวเองทำมิวสิกเปิดฝักบัว...ตอนนี้หิวมากครับแต่ก็ไม่มีแรงแม้แต่จะลุกเดินไปไหน ผมดูนาฬิกา นี่ก็ 7 โมงเช้าครับ...แล้วแม่ของผมก็โทรมาครับ แม่เป็นมนุษย์เพียงคนเดียวในโลก ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนหรือเวลาไหน แม่ของผมก็สามารถหยั่งรู้ได้หมดครับว่าผมต้องการกำลังใจตอนไหน เหมือนแม่จะมีเครื่องมืออะไรซักอย่างที่ทำให้รู้ว่าลูกตัวเองกำลังต้องการกำลังใจ

แม่ : ว่าจะใดลูกชาย...หายหน้าหายตาไปเลยเนอะ

บี : แม่...ลูกเหนื่อย

แม่ : เป็นอะหยังหละลูก...ไผ๋ยะอะหยังฮื้อลูก(เป็นอะไรลูก ใครทำอะไรให้ไม่สบายใจ)

บี : บะหมีคับแม่(ไม่มีครับแม่)...(ผมพยายามกลั้นเสียงสะอื้น เพื่อไม่ให้แม่รู้ว่าแค่ได้ยินเสียงแม่ ผมก็คิดถึงบ้านขึ้นมาทันที)

แม่ : แล้ววันนี้บะยะก๋านก๋าลูก(แล้ววันนี้ไม่ทำงานเหรอลูก)

บี : วันนี้ลูกเป๋นไข้

แม่ : แล้วมีไผอยู่ต๋ามหมูฮั้นก่อลูก...อ้ายเขมอยู่ก่อ ฮ้องมาดูแลกำลอ(มีใครอยู่แถว ๆ นั้นไม๊ พี่เขมอยู่รึป่าว เรียกมาดูแลได้ไม๊)

บี : อ้ายเขมบะอยู่คับ...เปิ้นยะก๋าน(พี่เขมไม่อยู่ครับ เค้าไปทำงาน)...(ผมโกหก แค่ผมต้องพูดหรือได้ยินชื่อพี่เขม หัวใจของผมมันก็แทบจะแตกสลายอีกครั้ง)

แม่ : ปิ๊กบ้านบ๋อลูก...ถ้าอิดขนาดนั้น...แม่เป๋นห่วงนาาา(กลับบ้านไม๊ลูก ถ้าเหนื่อยขนาดนั้น แม่เป็นห่วงน้าา)

บี : รอสอบเสร็จก่อนเน้อแม่ ลูกจะปิ๊กบ้านละ ลูกบะไหวละคับ(รอสอบเสร็จก่อนนะแม่ลูกจะกลับบ้าน ลูกไม่ไหวแล้ว)

แม่ : บีลูก...บีต้องเข้มแข็งนาลูก..แม่บ่อฮู้ว่าบีเป๋นอะหยัง แต่จะยะอะหยัง กึ๊ดถึงแม่ไว้นัก ๆ เน้อลูก แม่รักลูกที่สุด แม่กึ๊ดเติงหาลูกตลอดเน้อ ลูกรัก (บีลูกต้องเข้มแข็งนะลูก แม่ไม่รู้ว่าบีเป็นอะไร แต่จะทำอะไรให้คิดถึงแม่ไว้เยอะ ๆ แม่รักลูกที่สุด แม่คิดถึงลูกตลอดนะลูกรัก)

ถึงตอนนี้ผมก็หยุดไม่ได้แล้วครับ...ผมเอามือมาปิดปากไว้เพื่อให้..เสียงร้องไห้ของผมที่ปล่อยโฮออกมาไม่ให้แม่ได้ยิน...ถ้าแม่รู้ว่าผมพังขนาดนี้...แม่คงต้องตีตั๋วขึ้นมาหาผมในทันทีแน่นอน...(ผมพยายามสูดหายใจเพื่อจะให้เสียงเป็นปกติที่สุดแล้วตอบแม่ไป

บี : ลูกจะพยายามครับคุณแม่...ตะอี้ก่อนเน้อครับแม่

ผมกดวางสายในทันที...ผมว่าแม่คงรู้แหละครับว่าผมพังแค่ไหน...แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงอีกแล้ว...ร่างกายตอนนี้มันแทบจะขยับไม่ได้...ต่อมน้ำตาคงเป็นสิ่งเดียวยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง แล้วความพีคยิ่งไปกว่าแม่ตัวเองโทรมาก็เป็นแม่พี่เขมเนี่ยแหละครับที่โทรหาผม หลังจากผมวางโทรศัพท์ของแม่ได้ไม่นาน...ความสะอื้นเพิ่งจะจางหายไป ผมก็ต้องรับโทรศัพท์จากแม่พี่เขมอีก...มันจะมีอะไรยากไปกว่านี้อีกไม๊ครับชีวิตนี้

มีต่อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 27 แบบทดสอบ P.3 ( 4-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 05-11-2017 20:33:55
แม่พี่เขม : บีลูก...เขมอยู่กะบีก่อลูก....แม่โทรหาเขมบ่อติดเลยลูก(บีลูก เขมอยู่กับบีไม๊ลูก แม่โทรหาไม่ติดเลย)

บี : ไม่อยู่ครับคุณแม่...(ผมทำเสียงให้ปกติที่สุด)

แม่พี่เขม : แล้วบีโทรหาพี่เข้มได้ก่อลูก

บี : บะได้เหมือนกั๋นครับคุณแม่ (ไม่ได้เหมือนกันครับคุณแม่)...(ผมโกหก)

แม่พี่เขม : แล้วมันไปตางใดหนิ...ตะวามันก่อบอกว่าจะออกไปตางนอกกำเดียว(แล้วมันไปที่ไหนเนี่ย เมื่อวานมันบอกว่าจะออกไปข้าวนอกแป๊ปเดียว)

บี : อยู่คอนโดก่อคับคุณแม่

แม่พี่เขม : ถ้าจะแม่นละลูกเด่วแม่ฮื้อแม่บ้านไปผ่อก่อนเนอะ(น่าจะใช่แล้วลูกเด๋วแม่ให้แม่บ้านแวะเข้าไปดูก่อน)

บี : ครับคุณแม่...

ในใจผมก็คิดว่าคุณแม่จะวางแล้ว....แต่เสียงอีกคนก็ดังขึ้นมา

ป๊าพี่เขม : บีเป็นไงบ้างลูกเสียงดูไม่ค่อยดีเลย

บี : ไม่สบายนิดหน่อยครับ...

ป๊าพี่เขม : อ่าวแล้วไอ้เขมอยู่ไหนหละเนี่ยไม่ไปดูแลเลย กินข้าวกินปลารึยังลูก เด๋วพ่อรีบไปหาไอ้เขมบอกให้ไอ้เขมไปดูแลนะ

แม่พี่เขม : ลูกบี...บะสบายก๋าลูก...เป็นอะหยัง..ไปหาหมอรึยังลูก(ลูกบีไม่สบายเหรอลูกเป็นอะไรมากไม๊ ไปหาหมอรึยังลูก)

ผมพลาดละครับที่บอกป๊ากับแม่พี่เขมว่าไม่สบาย...เพราะคราวที่แล้วกว่าผมจะอธิบายทุกอย่างได้เนี่ย....ยาวนานมากเลยนะครับกว่าป๊ากับแม่จะตัดสินในไม่ไปหาพี่เขมที่โรงพยาบาลที่หลังโดนกระแทกคราวก่อน

แม่พี่เขม : ป๊าจำทางไปคอนโดลูกบีได้รึป่าว...พาแม่ไปหน่อยเร็ว พาลูกไปหาหมอเถอะนะ...คุณ    ไอ้เขมหนะช่างมันก่อนเถอะ

ป๊าพี่เขม : เออ...จำพอได้อยู่...ลูกบี...เด๋วป๊ากับแม่ไปหานะ พาไปหาหมอหน่อย

บี : ไม่เป็นไรครับ ป๊า ผมกินยาแล้วเด๋วคงหาย

แม่พี่เขม : ไม่ได้ลูก...แม่เป็นห่วง...แล้วลูกเขมก็ไม่อยู่ดูแล เด๋วแม่พาไปหาหมอนะอย่าดื้อ เด๋วหมอจับฉีดยาเลย

บี : ครับแม่ ครับป๊า

ผมรีบเช็ดน้ำตาแล้วล้างหน้า...ตอนนี้ต้องขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนละครับ ผมไม่รู้จะทำยังไงกับป๊าและแม่ของพี่เขมดี...ผมจะบอกดีไม๊ว่า พี่เขมเค้าเลือกคนอื่นไปแล้ว ผมคิดไม่ออกได้แต่นั่งรอชะตาชีวิตของตัวเองให้ผ่านไป ตอนนี้แค่คิดก็ไม่มีปัญญาแล้วครับ...ผ่านไปไม่นานแม่พี่เขมก็โทรมาครับ

แม่พี่เขม : แม่มาถึงละนะลูก อยู่ห้องอะไรตึกอะไรนะ...ยามเค้าถามอ่ะ

บี : ตึก D ครับ ห้อง xx/xx เด๋วผมลงมารอข้างล่างครับ

แม่พี่เขม : ลงมาไหวไม๊ลูก

บี : ไหวครับแม่

ผมไหว้แม่กับป๊า แล้วแม่ก็ตรงเข้ามากอดเช็คดูว่าตัวอุ่นหรือไม่...ผมกลั้นน้ำตาสุดชีวิตครับ เพราะตัวผมเอง นอกจากพ่อแม่ตัวเองแล้ว...ก็มีพ่อแม่พี่เขมนี่แหละครับ คอยดูแลผมตั้งแต่ผมเริ่มคบกับพี่เขม ผมรู้สึกผูกพันธ์เหมือนท่านเป็นญาติผู้ให้ของผมจริง ๆ ป๊าลงมาจากรถมาเดินประกบผมอีกข้าง เพื่อพาขึ้นรถไปโรงพยาบาล ก็เป็นโรงพยาบาลที่ผมไปประจำครับ..ไม่ได้ใกล้มากแต่เพราะเดินทางสะดวกและบริการดีครับ....แม่พาไปที่แผนกตรวจทั่วไป...แล้วก็แจ๊คพอตครับ...ไม่ใช่ว่าผมไม่คิดนะครับ...ว่าแม่งอาจจะต้องเจอหมอคิต แต่ในใจผมก็แอบคิดอีกอย่างว่า หมอคิตอยู่แผนกฉุกเฉินไม่น่าจะเจอง่าย ๆ แต่ ความซวยก็คือ ผมไม่ได้ตรวจกับหมอคิตครับแต่หมอคิตเดินผ่านตอนผมกำลังชั่งน้ำหนักวัดความดันพอดี ผมนี่รีบหลบหน้าเลยครับ...มันไม่พร้อมในทุก ๆ ด้าน...ที่ผมจะเจอหมอคิต

หมอคิต : อ้าวคุณบี...เป็นอะไรมาครับนี่ ไม่สบายเหรอ

บี :  (ผมยกมือไหว้หมอคิต).....นิดหน่อยครับ

หมอคิตยื่นมือมาแตะหน้าผากผม...แล้วถามพยาบาลว่ามีไข้รึเปล่า

พยาบาล : มีไข้ค่ะ..คุณหมอ แต่เด๋ว คุณคนไข้ จะตรวจกับหมอวิโรจน์ นะคะ

หมอคิต : อ่าโอเค...เด๋วหมอไปคุยเอง

บี : ผมไม่เป็นไรมากครับคุณหมอคิต ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก

หมอคิต : เด๋วผมจะไปตรวจให้นะ ผมขอไปคุยกับเพื่อนผมก่อน

บี : หมออยู่แผนก ฉุกเฉินไม่ใช่เหรอ

หมอคิต : วันนี้ผมรับเวรที่นี่อ่ะ...ไม่ต้องกังวัลนะ...ผมอยู่นี่แล้ว

พยาบาลมองหน้าหมอคิตแบบเหวอ ๆ แล้วผมก็มองหน้าหมอคิตแบบงง ๆ

หมอคิต : อ่าวนี่คุณพ่อคุณแม่ก็มาด้วยเหรอนี่ สวัสดีครับ คุณพ่อคุณแม่ ผมหมอคิต นะครับ เด๋วผมดูแลคุณบีให้เองนะครับ ไม่ต้องห่วงครับ

บี : นี่พ่อแม่พี่เขมครับผม

หมอคิตก้มตัวมากระซิบข้างผม... “หน้าแตกเลย” ...

หมอคิต : คุณพ่อคุณแม่ของ คุณเขมเหรอครับ

แม่พี่เขม : อ่าวรู้จักเขมด้วยเหรอคุณหมอ

หมอคิต : ก็คราวก่อนที่เจ็บหลังผมเป็นคนตรวจอาการเบื้องต้นให้ครับผม

ป๊าพี่เขม : งั้นก็ดีเลย ฝากลูกผมด้วยนะคุณหมอ

หมอคิต : ได้ครับผม

แล้วหมอคิตก็หายไปในห้องตรวจและซักพักคุณพยาบาลก็ออกมาเชิญผมเข้าไปตรวจที่ห้องตรวจ ผมบอกให้ป๊ากับแม่พี่เขม ไม่ต้องตามเข้ามาครับ เพราะกลัวว่าจะเป็นห่วงกันใหญ่ แล้วผมก็เข้าไปในห้องตรวจ

บี : หมอคิต ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้นะครับ ผมไม่น่าจะเป็นอะไรมากหรอกครับ

หมอคิต : อ่าวทำไมหละครับ...คนรู้จักกันก็ต้องดูแลกันไม่เห็นแปลกเลย

บี : ขอบคุณครับหมอ

หมอคิต : แล้ววันนี้คุณเขมไม่มาด้วยเหรอครับ

แค่ผมได้ยินชื่อพี่เขมตอนนี้ผมก็จะตายอยู่ละครับ...ทำให้อาการที่ผมกลั้นไว้ทั้งหมด มันเกือบจะถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง...ผมได้แต่ส่ายหน้าไม่ตอบคำถามของหมอคิต

หมอคิต : ไหนผมขอดูตาก่อนเลยนะครับ...มันบวมและแดงมากเลย ใส่คอนแท็กรึป่าวครับ...หรือแพ้อะไรมารึป่าวครับ

บี : เปล่าครับ

หมอคิต : นี่มันบวมแดงเหมือนคนร้องไห้เยอะ ๆ เลยนะครับ

ผมก้มหน้าไม่ตอบอะไรกับหมอคิต

หมอคิต : ไหนอ้าปากหน่อยครับ ผมดูคอหน่อย...คอก็แดงหน่อย ๆ นะครับ...มีน้ำมูกไม๊ครับ สีอะไรครับ

บี : มีครับ สีใส ๆ ครับ แต่ตอนเช้า ๆ ตื่นมามีข้น  ๆ สีเหลือง ๆ ครับ

หมอคิต : เป็นมานานกี่วันแล้วครับเนี่ย

บี : เพิ่งเป็นเมื่อคืนเลยครับ

หมอคิต : แล้วร้องไห้มาตั้งแต่เมื่อคืนเลยเหรอครับ

ผมตกใจเงยหน้าขึ้นมองหน้าหมอคิต

หมอคิต : ผมเดาเอาหนะครับ

ผมได้แต่พยักหน้า...เพราะผมไม่รู้จะโกหกหมอคิตไปทำไม...ในเมื่อเค้าเป็นหมอ ก็น่าจะรู้ครับว่า ผมไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่โทรมร่างกายตัวเองไปหน่อยเฉย ๆ

หมอคิต : อยากเล่าอะไรให้คิตฟังไม๊...ผมไม่อยากให้คุณบีรู้สึกว่าคุณบีไม่มีใครนะ อย่างน้อย ๆ ผมบอกแล้วไงครับว่า ให้ผมเป็นเพื่อนคุณบีได้ไม๊

บี : ขอบคุณครับหมอ...แต่ผมไม่พร้อมจะเล่าจริง ๆ ...(ตอนนี้น้ำตามาก็เริ่มจะเออล้นอยู่ที่ขอบตาแล้วครับ)

หมอคิต : ทะเลาะกันก็ต้องปรับความเข้าใจกันนะครับ...มาหาหมอมันไม่หายหรอก

บี : ครับหมอ...ผมคงไม่ต้องปรับความเข้าใจอะไรมากแล้วครับ เพราะเค้าไม่ได้รักผมแล้ว

ผมเผลอพูดออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ...แล้วน้ำตาของผมมันก็ตกลงมาที่ตัก...ผมรีบปาดน้ำตาแล้วหันหน้าออกไปอีกทีเพื่อไม่ให้หมอคิตเห็น

หมอคิต : คุณบีครับ...คุณอาจจะเป็นไข้หวัดใหญ่นะครับ เด๋ววันนี้ผมขอดูอาการของคุณก่อนอีก 1 วัน แล้วถ้าพรุ่งนี้ดีขึ้นก็กลับบ้านได้ครับ

ผมทำหน้างงทันที...มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย...อยู่ดี ๆ คุณหมอก็รวบรัดตัดตอน ให้ผมนอนโรงพยาบาลเลยซะอย่างนั้น แล้วก่อนที่ผมจะพูดอะไรออกไปได้คุณหมอก็ลุกขึ้นแล้วหยิบหน้ากาก มาใส่ให้กับผมแล้วก็กระซิบข้างหูผมว่า “ใส่หน้ากากปิดไว้พ่อกับแม่พี่เขมจะได้ไม่รู้”...ผมได้แต่พยักหน้าตอบรับ

แล้วผมก็เดินออกจากห้องมาครับ...หมอคิตเดินออกมาพร้อม ๆ กับผม แล้วไปบอกป๊ากับแม่พี่เขม ผมถูเข็นไปอีกทางนึง...เพื่อจะรอขึ้นห้องครับ...พอป๊ากับแม่พี่เขมคุยกับหมอเสร็จ...ก็ใส่หน้ากากที่หมอเอามาให้แล้วคุยกับผม

ป๊าพี่เขม : ไหนว่าไม่เป็นอะไรมาก...เนี่ย หมอบอกอาจจะเป็นไข้หวัดใหญ่เลยนะ

แม่พี่เขม : ดีนะเจอหมอคิตพอดี...หมอคิตใจดีมากเลยบอกว่าเด๋วช่วยดูแลให้เอง ให้ป๊ากับแม่กลับบ้านไปก่อนได้เลย

บี : ครับผม...ขอบคุณป๊ากับแม่มากเลยนะครับที่มาส่ง

ป๊าพี่เขม : ไว้พรุ่งนี้เช้า ๆ ป๊ามาเยี่ยมใหม่นะลูก

แม่พี่เขม : อยากกินอะไรไม๊ลูกเด๋วแม่ซื้อมาฝาก

บี : ไม่เป็นไรครับแม่...ผมทานอาหารโรงพยาบาลได้ครับ

ป๊าพี่เขม : ไปเถอะคุณ ลูกจะได้พักผ่อน

ผมก็ลาป๊ากับแม่พี่เขมแล้วคุณพยาบาลก็พาผมขึ้นไปที่ห้องคนไข้พิเศษครับ...ในห้องอย่างกับโรงแรมเลยครับ...มีเตียง คนป่วย ที่ดูดีมากกกก แล้วก็ทีวีจอแบนเครื่องใหญ่ ที่เอาไว้ดูแก้เซ็งได้เลยทีเดียว ตู้เย็นห้องน้ำก็ดูดีไปหมด...ผมไม่รู้สึกเหมือนอยู่โรงพยาบาลเลยครับ...ไม่นานพยาบาลก็มาหาผมพร้อมกับสายน้ำเกลือครับ...ผมเห็นแล้วผมก็ตกใจรีบขยับหนี...

บี : คุณพยาบาลครับ...ผมไม่เอาไอ้น้ำเกลือนี่ไม่ได้เหรอครับ

คุณพยาบาล : ไม่ได้หรอกค่ะ...คุณหมอสั่งไว้ว่าต้องให้ค่ะ

บี : คือผมไม่ได้เจ็บป่วยขนาดนั้นอ่ะครับ

คุณพยาบาล : ไม่เจ็บนะคะ...นิดเดียวเอง

ผมก็ยัง ง้องอนกับคุณพยาบาลไม่ยอมให้แขนผมเจาะให้ถุงน้ำเกลือ แล้วหมอคิตก็เข้ามาครับ...

หมอคิต : เจาะเถอะนะ...ดูยังไม่ได้กินอะไรมาเลยทั้งวันแล้วก็เสียน้ำน่าจะเยอะไปแล้ว ถ้าเยอะกว่านี้อาจจะช็อคได้นะ

บี : กินน้ำเอาได้ไม๊อ่ะคุณหมอ

หมอคิต : อย่าดื้อสิ...ถ้าดื้อผมจะเจาะใส่ให้เองเลยนะ..มือผมหนักกว่าพยาบาลอีกนะ

บี : ไม่เอาอ่ะ...ผมกลัวเข็มอ่ะหมอคิต

คุณพยาบาล : คุณคนไข้คะ...หนูจะเบามือให้สุด ๆ ไปเลยค่ะ

ผมพยักหน้าเป็นการตอบรับ...ไอ้หมอคิต..ทำท่ายิ้มกรุ่มกริ่ม ผมนี่อยากจะด่ามันซะเหลือเกิน เพราะไอ้หมอคิตเนี่ยแหละครับที่ทำให้ผมเป็นอย่างนี้...จริง ๆมันก็รู้ว่าผมเนี่ยไม่ได้เป็นอะไรมากแค่เป็นคนอกหักคนหนึ่งเฉย ๆ แล้วมาบอกว่าผมอาจจะเป็นไข้หวัดใหญ่ เลยต้องนอนที่นี่เลย...แต่ก็ดีเหมือนกันนะครับ...ผมหนะกลัวเหลือเกินเวลาอกหักตัวเองจะใช้อารมณ์เพียงชั่ววูบตัดสินชีวิตตัวเอง ตอนนี้มีคุณพยาบาล ผมน่าจะไม่เป็นไรแล้วหละครับ...พรุ่งนี้ก็ผมจะดีขึ้นอีกหน่อย..แล้วถ้าผมป่วยหลาย ๆ วัน แล้วมีใบรับรองแพทย์ บริษัทก็ไม่น่าจะว่าอะไรอีกด้วย...แล้วหมอคิตก็ให้พยาบาลออกไปข้างนอกครับ แล้วหมอก็ถอดหน้ากากออก

หมอคิต : รู้ใช่ไม๊ว่าไม่ได้เป็นหรอกไอ้ไข้หวัดใหญ่อ่ะ

บี : ครับ ขอบคุณหมอคิตมากนะครับ

หมอคิต : เรียกผมว่าคิตเฉย ๆ ก็ได้นะครับ...

บี : อ่าวไม่เป็นหมอแล้วเหรอ...(ผมกวนตีน คืนบ้าง)

หมอคิต : ไม่เป็นละครับ...ตอนนี้ออกเวรแล้ว

บี : อ่าวออกแล้วไม่กลับบ้านหละครับหมอ

หมอคิต : ก็บอกแล้วไงว่าให้เรียกว่าคิตเฉย ๆ

บี : ก็มันไม่ชินอ่ะ

หมอคิต : ไหนลองเรียกดิ๊

บี : คิต

หมอคิต : ครับบี

บี : กลับบ้านไปได้แล้วไป...จะอยู่ทำไมเนี่ย...ไม่เบื่อเหรอโรงพยาบาลอ่ะ

หมอคิต : ปกติก็เบื่อนะ...แต่วันนี้ไม่เบื่ออ่ะ

บี : หมอคิต....(ผมทำเสียงดุ)

หมอคิต : แหนะ ไม่เรียกอีกละ

บี : คิต...ครับ... (ผมยิ่งรู้สึกแปลก ๆ ไปอีก)...กลับบ้านไป

หมอคิต : อย่าเรียก..... คิตครับ ..... (หมอคิตทำหน้าเครียดทันที)

ผมหน้าซีดไปเลยทันที...ไม่เคยเห็นหมอคิตเป็นแบบนี้เลย

บี : อ่าๆ ๆ ๆเรียกอะไรก็ไม่ดี...เด่วเรียกไอ้คิตแม่งเลยหนิ

หมอคิต : อย่าเรียกว่าคิตครับอีก....เข้าใจไม๊

บี : ทำไมอ่ะหมอ...

หมอคิตสูดหายใจลึก ๆ แล้วบอก

หมอคิต : เพราะ ยะฮื้อผมใจ๋บะดี(เพราะทำให้ผมใจไม่ดี)

ผมปล่อยก๊ากออกมาทันทีเลยครับ...ปกติไอ้หมอคิตเนี่ย..มันเป็นคนหน้านิ่ง ๆ นะครับตามสไตล์หมอ ดุ ๆ หน่อย ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นก็คือหมอจะยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่แล้ว แต่พอไม่ได้คุยกับผมเนี่ย..หมอคิตเหมือนกับเป็นคนละคนเลยครับ...เหมือนพวกไบโพล่า คือ หน้าตาย ๆ เลยครับ และยิ่งหมอมาปล่อยมุขภาษาเหนืออีกผมนี่หยุดขำไม่ได้เลยทีเดียวครับ...

บี : หมอพูดเหนือเป็นด้วยเหรอ

หมอคิต : ก่อบอกว่าฮื้อฮ้องว่า คิต บะดาย ๆ เป๋นก่อ(ก็บอกว่าให้เรียกคิตเฉย ๆ เป็นไม๊)

บี : ขอโทษครับ (พร้อมยกมือไหว้อย่างจริงจัง)

หมอคิต : เฮ้ยไม่ต้องไหว้ดิ...เด๋วผมอายุสั้นพอดี

บี : คิตเป็นคนเหนือเหรอครับ

หมอคิต : แม่นแล้ว...

บี : แล้วรู้ได้ไงว่าผมเป็นคนเหนือ

หมอคิต : แหม่ ๆ ก็ดั้งหักซะขนาดนี้

บี : เด๋วนะดั้งหัก...นี่ยังไง

หมอคิต : ล้อเล่น ๆ .... ผมเคยแอบยืนฟังบีคุยโทรศัพท์ไง ตอนที่คุณเขมมาโรงพยาบาลอ่ะ บีจำไม่ได้หรอก

บี : อ๋อ...(ผมจำไม่ได้จริง ๆ ด้วย)

หมอคิต : ได้เห็นบียิ้มได้ มิชชั่นผมก็คอมพลีต ระ

บี : ขอบคุณมากครับ (ผมยกมือไหว้อีกครั้ง)

หมอคิตรีบรับไหว้ทันที....แล้วก็บ่นออกมา “นี่ไม่ต้องไหว้ผมอีกต่อไปแล้วนะ เด๋วผมอายุสั้น”

บี : อ่าว คนไทยทำไมไม่ไหว้หละ

หมอคิต : ก็ไหว้ได้...แต่ผมอายุน้อยกว่าคุณบีนะ...อย่าไหว้บ่อยไม่ดี

บี : อ่าว แล้วหมอคิตอายุเท่าไหรอ่ะ

หมอคิต : จ้างให้ก็ไม่บอก...เรียกคิตเฉย ๆ ได้เมื่อไหร เด๋วบอกให้ ตกลงมะ?

บี : ได้.....คิตตี้ จะเล่นกับใครไม่เล่นนะ

หมอคิต : เฮ้ย...คิตเฉย ๆ ดิ ไม่ใช่คิตตี้

บี : ถ้าไม่บอกก็จะเรียกคิตตี้เนี่ยแหละ...มีปัญหาป่ะ

หมอคิต : เด๋วจับฉีดยา...รัว ๆ เลย

บี : ไม่กลัวแล้วเว้ย....

หมอคิต : เข็มหมอใหญ่นะ....บอกก่อน

บี : เห่ย...คิดอะไรเนี่ย

หมอคิต : ป๊าววววว...บีคิดไปเองรึป่าว

เรานั่งคุยเรื่องสัพเพเหระกันจนมืดค่ำครับ...การคุยกับหมอคิตเป็นการคลายเครียดชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้...มันทำให้ผมคิดถึงความเจ็บปวดต่าง ๆ น้อยลงไป ได้ชั่วขณะหนึ่ง ผ่านไปจนค่ำ หมอคิตแม่งก็ยังไม่ยอมกลับบ้านครับ มันบอกว่าเด๋วกลับมาประมาณ 5  รอบแล้วครับ...ก็ยังไม่เห็นไปซักที...แล้วผมก็ไล่ต่อไปเรื่อย ๆ จนผมหมดความอดทน

บี : คิตตี้...กลับบ้านได้แล้วไป...ค่ำแล้วเนี่ย...ลูกเมียคิดถึงหมดละ

หมอคิต : ทำไมต้องไล่คิตกลับบ้านตลอดด้วย...ก็เห็น ๆอยู่ว่าไม่สำเร็จ

บี : คิตครับ...ผมขออยู่คนเดียวนะ ช่วงนี้ชีวิตมันแย่

หมอคิต : อ่า ๆ ถ้าเล่าให้คิตฟังเสร็จแล้วคิตกลับเลย

ผมจึงยอมเล่าทุกอย่างให้หมอคิตฟัง...ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วพี่เขมไม่ได้ติดต่อมาเลย...ผมก็เลยคิดว่า พี่เขมคงจะทิ้งผมไปจริง ๆแล้วหละครับ

บี : คิตครับ...ผมรู้นะว่าคิต คิดยังไงกับผม แต่ตอนนี้ผมไม่พร้อมที่จะมีใครจริง ๆ แล้วคิตก็เป็นคนดี...หน้าตาก็ดี...อีกทั้งยังเป็นหมอ บีเชื่อว่า คิตต้องได้เจอกันคนดี ๆแน่นอนครับ... ผมดีใจนะที่มีเพื่อนที่ดีอย่างคิต

หมอคิต : โห...ไปต่อไม่ถูกเลยอ่ะบี...ผมแค่ไม่อยากให้บีอยู่คนเดียวในช่วงเวลาแบบนี้ครับ...อยากให้รู้ว่า ถ้าบีคิดว่าบีไม่มีใครแล้ว บียังมีคิตเป็นเพื่อนบีนะครับ...งั้นผมกลับก่อนหละ

ผมดีใจมากที่ไล่ไอ้หมอคิตกลับไปได้ครับ...ผมจะได้มีเวลาจัดการกับความรู้สึกตัวเองออกไปบ้าง...เพราะการที่มีคนอื่นอยู่ด้วยเนี่ยมันแค่ปิดบังความรู้สึกจริง ๆ ที่ผมรู้สึกไว้เท่านั้น...ผมไม่ได้นั่งคิดวิเคราะห์แยกแยะเลยแม้แต่น้อย หลังจากหมอคิตออกจากห้องไป ผมก็หยิบเอามือถือของผมขึ้นมาครับ...ในใจก็ยังคงหวังอยู่ว่าพี่เขมจะติดต่อมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง...แต่ก็ไม่มีเลยครับ...มันยิ่งเจ็บเมื่อได้รู้ว่าไม่มีการติดต่อจากพี่เขม...อย่างน้อย ๆ พี่เขมก็ควรมาบอกเลิกผมตรง ๆ ซักหน่อยก็ยังดี ถ้ามันจะไม่มากไป ข้อความซักข้อความนึง มันก็ยังดีกว่าการหายไปเฉย  ๆ จากชีวิตของผม มันเลวร้ายมากครับ...จากคนที่ผมรักหมดหัวใจ...กลับกลายเป็นคนที่หายไปจากชีวิต ภายในชั่วข้ามคืน....แต่ผมก็ต้องยอมรับให้ได้ว่า...มันไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงไปได้อีกแล้ว...

   ผมทำการโพสเพลง 1 เพลง เพื่อระบาย ความในใจและความรู้สึกเหล่านี้ออกไป ไม่ได้หวังว่าพี่เขมจะเห็นหรอกนะครับ...แต่เพื่อเตือนสติตัวเองว่าตอนนี้ เราก้าวผ่านอะไรมาบ้างต่างหาก

หลับตาลืมเหตุผล...ให้โลกมีเราแค่สองคน
ถ้าเค้าไม่มีตัวตน...เราสองคนจะเป็นอย่างไร
ความสุขในวันนั้น...ยังหลงเหลืออยู่บ้างไหม
ความรู้สึกดี ๆ ...กับคน คนนี้ยังมีบ้างไหม

ถ้าเธอไม่รู้สึก ฉันพร้อมจะเดินจากไป
เธอไม่มีความสุขกับฉันก็คงไม่ใช่
ฉันเชื่อความรู้สึกนั้นสำคัญกว่าสิ่งใด
ไม่เป็นไรเลยฉันเข้าใจ...เข้าใจเทอทั้งนั้น

แต่ถ้าเธอยังรู้สึก...มาเริ่มกันใหม่อีกสักครั้ง
เพราะฉันมีความสุขเสมอแค่เธอยืนข้าง ๆ
ฉันจะให้ทุกสิ่ง เพื่อรักเราเป็นอย่างวันนั้น
แม้ซักเล็กน้อยโปรดบอกฉัน....ว่าเธอยังรู้สึก

ถ้าเธอไม่รู้สึก ; Stamp

มันเป็นเพลงที่ตรงกับความรู้สึกที่สุดของผมในตอนนี้แล้วครับ...ขอแค่พี่เขมเดินเข้ามาบอกผมว่า...กลับบ้านกันนะ...แค่นี้ผมก็จะยอมทำทุกอย่างแล้วครับ...แต่มันคงเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป...เพราะตอนนี้แค่เค้าจะติดต่อผมมา มันยังไม่เกิดขึ้นเลยครับ...ไม่รู้ว่าตอนนี้เค้าทำอะไรอยู่ที่ไหนแล้วเค้าจะคิดถึงผมบ้างไม๊ แล้วเค้าจะรู้ไม๊ว่ามีคน คนนึงกำลังทุรนทุราย...เหมือนกับคนใกล้จะหมดลมหายใจเพราะรักเค้า...

ผมนั่งหลับตาลงนิ่ง ๆ ข้างเตียงของโรงพยาบาล....ในห้องที่มืดสนิท...มันไม่มีแม้แต่น้ำตาที่จะไหลออกมาได้แล้วครับ...ผมคิดว่า มันคงจะหมดแล้ว...และ ผมควรตัดใจจากสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้แล้ว...เพราะชีวิตเราไม่ได้มีแค่เค้า...เรายังมีพ่อแม่ที่เราต้องดูแล มีอนาคตที่เราต้องสอบเพอร์...มีเพื่อน ๆ อีกมากมายที่เค้ารักเรา...และที่สำคัญ...มันเพิ่งจะผ่านมาได้ไม่กี่เดือนเองครับ....ถึงแม้ว่ามันจะเป็น ไม่กี่เดือน ท่ีผมมีความสุขทุกวันที่ผมอยู่กับเค้า...และก็ไม่มีวันไหนเลย ที่ผมจะรักเค้าน้อยลง แต่ตอนนี้ผมทำได้แค่เพียง...ปล่อย...ให้เค้าไปตามทางท่ีเค้าต้องการ ไม่ว่าผมจะอยู่หรือไม่อยู่ข้างเค้าก็ตาม...ถ้าเค้ามีความสุข...ผมก็ควรยินดีด้วยกับเค้าถึงจะถูก เมื่อผมคิดได้อย่างนี้แล้ว มันก็มีกำลังใจทำให้ผมลุกขึ้นมาได้...จากที่ไม่ได้อาบน้ำมาร่วมจะสองวัน ผมก็รู้สึกเหนียวตัวขึ้นมาทันที...ผมเดินไปหน้าห้องน้ำ เพื่อจะดูว่า ผมจะสามารถอาบน้ำได้รึเปล่า....ทันใดนั้น..ประตูห้องผมก็เปิดออก...

To be continued…


หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 28 หมอคิตทำคะแนน P.4 ( 5-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 05-11-2017 21:11:36
 :L2: :L1: :pig4:
เสียใจมากกว่าเมื่อวานอีก
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 28 หมอคิตทำคะแนน P.4 ( 5-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 05-11-2017 21:31:03
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 28 หมอคิตทำคะแนน P.4 ( 5-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 05-11-2017 21:59:19
เหลือเก่งอะ จะพูดอะไรหนอออ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 28 หมอคิตทำคะแนน P.4 ( 5-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 05-11-2017 22:17:00
เหอๆ  ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น  มันคือการเข้าใจผิดนะ
งือ  อย่าเพิ่งเลิกกันก่อนนะ  ปรับความเข้าใจกันก่อน
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 28 หมอคิตทำคะแนน P.4 ( 5-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 05-11-2017 23:27:16
คงไม่ได้เป็นอย่างที่บีคิดหรอก แต่พี่เขมหายหัวไปไหนตั้วหลายวันทำไมไม่รีบมาเคลียร์
แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าตัดจบตรงนี้ค้างเกิน 55
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 9 นับ 1-3 P.4 ( 6-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 06-11-2017 17:17:00
ตอนที่ 29 นับ 1-3

แสงสว่างจากด้านนอกทำให้ตาผมพล่ามัวไปหมดครับ...ผมหยีตาแล้วพยายามมองว่าเป็นใคร สิ่งที่ผมเห็นคือ เป็นผู้ชายตัวไม่สูงมากเดินเข้ามาครับ...ผมตกใจมา เพราะเวลานี้น่าจะเป็นเวลางดเยี่ยมแล้ว แล้วผมก็ปิดไฟในห้องสนิท ในใจผมก็ยังคิดถึงผู้ชายคนเดียวในตอนนี้ที่ทำให้ผมเศร้าถึงขนาดนี้ หรือเค้าได้รับฟังเพลงที่ผมโพสแล้ว...เค้าถึงรีบตรงมาหาผม...แล้วผมก็ได้รับสัมผัสจากแขนของเค้าที่เข้ามาอยู่รอบตัวผม...เค้ากอดผมครับ...แล้วด้วยความเคยชินและความคิดของผม ผมจึงกอดเค้าตอบแล้วเอาหน้าซุกไปที่คอของเค้า แต่...มันไม่ใช่กลิ่นของพี่เขมครับ...แล้วเอาหน้าซุกไปก็รู้สึกไม่พอดีอีกด้วย...ผมจึงรีบถอยออก...เพื่อมองให้ชัดว่าเป็นใคร...

บี : เหี้ย...(ผมตะโกนออกมาดังมาก)...หมอคิต

หมอคิต : ทำไมครับ...นึกว่าเป็นใครเหรอ

บี : ป่าวครับ....

หมอคิต : กอดอีกหน่อยดิครับ...ผมกำลังเคล้มเลย

บี : แล้วกลับมาทำไมเนี่ย

หมอคิต : ก็ผมกลับบ้านไปแล้วไง แล้วเด๋วพรุ่งนี้ก็ทำงาน ก็เลยมานอนที่นี่ซะเลย จะได้ดูแลบีด้วย

บี : เฮ้ย....ไม่ได้ดิ...ผมอยากอยู่คนเดียว

หมอคิต : เอาหน่า เด๋วก็เช้าแล้วครับ...ผมได้ทำอะไรบีหรอก  ถ้าบีไม่เต็มใจ

บี : เคยกินตีนคนไข้ไม๊หมอคิต...

หมอคิต : ดุจังวุ้ย

บี : เออ...ดุยิ่งกว่าหมาบ้าอีกนะ

หมอคิต : ถึงดุผมก็ไม่กลัว

บี : แล้วจะนอนให้ได้ว่างั้น

หมอคิต : นี่ไง ซื้อโจ๊กมาฝากด้วยนะ เห็นว่ากินข้าวโรงพยาบาล...คงจะไม่ถูกปาก

บี : ไม่หิวอ่ะ

หมอคิต : ไม่หิวก็กินซะหน่อยเถอะบี...

หมอคิตแกะโจ๊กใส่ถ้วยมาให้แล้วก็มานั่งจ้องให้ผมกิน...ผมก็จำใจกินครับ กินหมดแล้วหมอคิตก็ยกไปล้างให้แล้วหมอคิตก็ถามว่าทำไมไปยืนอยู่หน้าห้องแล้วไม่เปิดไป ทำอะไรเงียบ ๆ เนี่ย เห็นแล้วตกใจ...แต่เราไม่ได้พูดถึงการกอดกันเมื่อกี้อีกเลย...เหมือนปล่อยเลยตามเลยอ่ะครับ แล้วห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง...ผมรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยที่มีหมอคิตมาเฝ้าผมตอนนี้ ผมจึงชวนหมอคิตคุย

บี : นี่คิตตี้...ทำไมกลับมาหละ

หมอคิต : จะเรียกอย่างนี้จริง ๆใช่ป่ะ

บี : ก็ยังไม่บอกอายุไง

หมอคิต : ผมเห็นบีโพสเพลงเศร้าอ่ะ...ก็เลยกลัวว่าจะคิดมาก

บี : ผมไม่สิ้นคิดหรอกหน่า

หมอคิต : รู้หมือไร่....ว่าคนคิดฆ่าตัวตายช่วงอกหักมากที่สุด

บี : จริงดิ....แต่ผมไม่เคยคิดเรื่องพวกนั้นเลยนะ มันคงบาปมากอ่ะ

หมอคิต : ก็ดีแล้ว...ผมก็จะได้สบายใจ...ผมถามอะไรอย่างได้มะ

บี : อะไรหละ...ยืมเงินเหรอ

หมอคิต : จริง ๆนะ ตอบจริง ๆ

บี : ว่าไป...ตอบได้ก็ตอบ ตอบไม่ได้ก็ปล่อยเบลอ....

หมอคิต : ถ้าคุณเขมมาง้อ...บีจะกลับไปหาเค้าไม๊

ผมอึ้งไปเลยครับ...มันเป็นคำถามที่ผมเองก็ยังไม่กล้าที่จะถามตัวเองเลยครับ...ว่าถ้าทั้งหมดมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด หรือทั้งหมดมีคำอธิบายแล้ว...ผมจะยังกลับไปหาพี่เขมไม๊ เพราะตอนนี้ในหัวของผมนั้น...มันเหมือนถูกสะกดว่าตัวเอง อกหักไปแล้ว บอกว่าพี่เขมไม่ได้รักผมไปแล้ว และบอกว่า พี่เขมเค้าเลือกน้องเจไปแล้ว

บี : เอาจริง ๆนะ ที่เมื่อกี้ คิตกอดผม...ผมก็ยังนึกว่าพี่เขมกลับมาหาผมแล้วซะอีก

หมอคิต : ตอบตรงดีเนอะ...เจ็บดีอ่ะ

บี : เฮ้ย...อย่างอนดิ...ผมตอบตามที่ผมคิดนะ

หมอคิต : ดีแล้วหละ...อย่างงี้ไงผมถึงได้ชอบบี

บี : หมอคิต...เด๋วจะโดน

หมอคิต : แล้วถ้าเค้ามาขอคืนดีหละ...บีจะว่าไง

บี : ผมก็ไม่รู้เหมือนกันหวะ...ตอนนี้ผมมีเรื่องที่ต้องคิดมากกว่าเรื่องนี้แล้วอ่ะ

หมอคิต : เรื่องอะไรอ่ะ...เรื่องผมป่ะ

บี : ยัง...ยังไม่จบอีก... เรื่องหมอเนี่ย...ไม่เคยคิดเลย ตอนนี้คิดเรื่องที่จะต้องสอบในอีกไม่กี่วันนี้มากกว่า

หมอคิต : สอบอะไรอ่ะ เล่าให้ฟังหน่อยดิ

บี : สอบเพอร์เซอร์หนะ...รู้จักป่าว

หมอคิต : หัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน...ใช่ป่ะ

บี : มีความรู้นะเรา

หมอคิต : แน่นอนอยู่แล้ว

บี : ก็คิดแต่เรื่องนี้แหละว่าจะทำยังไงดี...เพราะตอนนี้ มาเสียสมาธิเรื่องพี่เขมอีก (ผมสะอึกนิดหน่อยที่เรียกชื่อพี่เขมออกมา)..

หมอคิต : บีก็ต้องตั้งใจ มองไปข้างหน้านะ อย่าหันหลังกลับ แม้จะยังรักเค้าอยู่ก็ตาม แต่อนาคตของตัวเองก็สำคัญกว่านะบี

บี : อืมก็จริง...แต่เค้าก็มีสอบเหมือนกันแหละ สอบกัปตันหนะ

หมอคิต : อย่างงี้ก็พังทั้งคู่อ่ะดิ

บี : เค้าคงไม่พังหรอก...เพราะเค้าคงมีคนดูแลอยู่ข้าง ๆ คนที่เค้าเลือกแล้ว

หมอคิต : แหม่...บีก็มีคิตดูแลนี่ไง

บี : ขอบคุณนะหมอคิต...ผมคงเป็นได้แค่เพื่อนจริง ๆ

หมอคิต : ก็ถ้าวันไหนมีโอกาส...ก็ลอง ๆ มองผมดูบ้างก็ได้นะ

บี : ไม่อ่ะ...ผอมไปหน่อย

หมอคิตทำท่าเบ่งกล้ามให้ดู... “ผอมตรงไหน...เค้าเรียกว่าลีนเว้ย” ...แล้วเราก็หัวเราะกันครับ....

หมอคิต : นี่บี...ไม่ง่วงเลยเหรอ จะเที่ยงคืนละนะ

บี : เออนั่นดิเนอะ...จะว่าไป ก็นอนน้อยมากเลยนะแต่ไม่ค่อยง่วงเลยอ่ะ

หมอคิต : เอายานอนหลับมะ...เด๋วผมจ่ายให้

บี : เหย...จะดีเหรอ

หมอคิต : งั้นเอาเมลาโทนินไม๊...มันช่วยให้หลับสบายนะ ไม่ใช่ยานอนหลับ

บี : แล้วจะหลับไม๊

หมอคิต : ผมกินตอนเครียด ๆ อ่ะ แบบเข้าเวรติดกันแล้วเคสมันเยอะ ผมก็กินตอนเวลาจะนอน มันทำให้หลับไปสนิทดีนะ...ไม่มีอันตรายด้วยลองหน่อยมะ

บี : แล้วต้องไปจ่ายยาไกลไม๊หมอ ผมเกรงใจ

หมอคิต : ถ้าเมนาโทนินผมมีติดอยู่ในกระเป๋าอยู่แล้ว ลองไม๊

บี : อืม ก็ดีนะ...เผื่อจะได้ลืม ๆ อะไรไปบ้าง

หมอคิต : ดีแล้ว...นอนพักซะบ้างนะ ผมนอนข้าง ๆ นี้แหละ เด๋วผมเข้างานเช้า ถ้าผมตื่นก่อนเด๋วหาข้าวมาให้กิน อาหารโรงพยาบาล แม่งไม่ไหว

บี : ไม่ต้องหรอก บีกินได้คับ

หมอคิต : อืม ๆ อ่ากินซะ... (หมอคิตเดินไปเอายาออกจากกระเป๋าแล้วหยิบน้ำมาให้กิน) ...จะว่าไป น้ำเกลือนี่ก็ใกล้หมดแล้วนะ...เด๋วเอาอีกขวดดีไม๊

บี : พอเหอะหมอ...ตัวบวมพอดี

หมอคิต : ก็ดีสิ...วันนี้กินน้ำนี่แก้วที่เท่าไหร

ผมยกนิ้ว 2 นิ้วเป็นการตอบ พร้อมกันพยายามกลืนยาลงไปด้วย

หมอคิต : งั้นเอาอีกขวดละกันเด๋วผมไปบอกพยาบาลให้ แล้วก็เด๋วพรุ่งน้ีหลังเที่ยงก็กลับบ้านได้แล้วแหละ...ผลแล็ปก็น่าจะออกหมดละ และก็ไม่น่าจะมีเชื้ออะไร

บี : ก็แน่หละ...หมอคิตไม่ได้เรื่องเลย วินิฉัยผิด ๆ ถูก ๆ

หมอคิต : ก็จะได้มีคนดูแลไง...ไม่ดีเหรอ

บี : ผมดูแลตัวเองได้หน่า...เรื่องแค่นี้สบาย

หมอคิต : ตอนนี้หนะใช่...ดูดีขึ้นเยอะ แต่ตอนที่มาดิ...อย่างกะ walking dead

บี : เออ ๆ ๆ ๆ จะนอนละ ขอไปแปรงฟันก่อน

หมอคิต : ให้คิตช่วยนะ

บี : ไม่ต้องหรอก...ไม่ได้พิการ...อย่าเวอร์ ๆ

หมอคิต : ทำไมคนไข้มันดื้อจังฟระ

ผมหันมาแยกเขี้ยวใส่หมอแล้วก็เดินเข้าให้น้ำไปแปรงฟัน ไม่นานพยาบาลก็มาเปลี่ยนถุงน้ำเกลือให้แล้วผมก็นอนหลับปุ๋ยไปในทันที

เช้าแล้ว...ผมตื่นจากความฝัน...ความฝันนั้นมันช่างดีเหลือเกินครับ...ผมฝันว่าพี่เขมมาคอยดูแลผมอยู่ข้างกาย เหมือนหนังเกาหลีไม่มีผิด...นั่งหลับข้างเตียงผมแล้วก็นอนฟุบแล้วจับมือผมไว้ตลอดเวลา แต่ความเป็นจริงนั้น...ช่างว่างเปล่าและเงียบเหงาเสียเหลือเกิน ผมมองไปที่คนที่นอนอยู่ที่เตียงข้าง ๆ หมอคิตนอนหลับน้ำลายยืดอยู่ ผมเห็นก็อดขำไม่ได้แล้วผมก็หยิบมือถือขึ้นมาดู ตอนนี้แปดโมงแล้วครับ
 
แปดโมงเช้าวันอังคาร...ถึงจะนานที่ผ่านมา
ตอนนั้นที่เธอร่ำลา... พูดว่าเธอจะไป
จ้องมองเข็มนาฬิกา...ช่วงเวลาครั้งสุดท้าย
วันนั้นเสียใจเท่าไหร่...ก็ยังคงไม่ลืม

ไม่อยากรู้วันเวลา.. เช้าขึ้นมาไม่อยากเจอ
เพิ่งรู้ว่าไม่มีเธอ.. รู้ว่าเธอจากไป
แปดโมงเช้าวันอังคาร ...ฉันไม่เคยจะเปลี่ยนไป
เจ็บช้ำในใจอย่างไร ก็ยังคงไม่ลืม

ผมเปิดเพลงนี้จากยูทูปเพิ่งเป็นเพลงปลุกระดมในตอนเช้า...ซึ่งตอนนี้คนที่นอนเตียงข้าง ๆ ผมเริ่มขยับตัวแล้วครับ...ผมอยากจะทำให้มันรำคาญแล้วรีบออกไปทำงานซะ แต่สิ่งที่มากไปกว่านั้น...คือมันลืมตาขึ้นมามองผมแล้วก็บอกว่า..

หมอคิต : ไม่เห็นร้องไห้เลยหนิ...งั้นเอาไปอีกเพลง...ความเจ็บปวด ปาล์มี่

ผมเลื่อนดูเพลงใกล้เคียงก็เจอแล้วผมก็กดเปิดทันที...ทดสอบความแข็งแกร่งของตัวเองครับ...ตอนนี้พลังงานความแข็งแกร่งของผมเริ่มจะกลับมาแล้วครับ...ผมเชื่อว่า ผมจะต้องผ่านไปให้ได้...จะต้องเตรียมตัวสอบให้ได้

“ใคร คนที่เคยรู้ใจ
รอยยิ้มที่เคยรู้จัก
กำลังจะหายลับไปทุกที

คำพูดที่ซึ้งใจ
ที่เคยว่ารักมากมาย
ไม่มีอีกแล้วนับจากนี้

แต่คนจะไปก็ต้องไป
รักเท่าไหร่แต่ฉันคงทำได้เท่านี้”

แล้วประตูห้องก็เปิดออก...ผมรีบกดมือถือให้หยุดเล่นเพลงแต่มือถือดันลื่นครับตกจากมือผมไปอยู่ตรงซอกเตียงแล้วก็ยังเล่นเพลงนั้นอยู่ หมอคิตเด้งตัวขึ้นจากเตียงข้าง ๆ ทันที แล้วก็มองดูนาฬิกา...

ป๊ากับแม่พี่เขมมาหาครับ...หมอคิตทำท่าตกใจมากแล้วก็ยืนตัวตรงทันที

ป๊าพี่เขม : อ่าวคุณหมอมานอนอะไรที่นี่หละ...เฝ้าคนไข้เหรอ

หมอคิต : อะไรทำนองนั้นแหละครับ

แม่พี่เขม : หมอต้องมาเฝ้าเลยเหรอคะ?

หมอคิต : พอดีผมมีเวรเช้าอะครับ...ผมขอตัวก่อนนะครับ...(แล้วหมอคิตก็คว้ากระเป๋าวิ่งออกไปจากห้องผมทันที)

ผมลุกขึ้นจากเตียงยกมือไหว้ป๊ากับแม่ แล้วก็พยายามควานหามือถือที่ยังเล่นเพลงนี้อยู่ เพื่อจะกดปิดมันให้ได้

แม่พี่เขม : แหม่ฟังเพลงอย่างกับคนอกหักเลยนะลูก

ผมรวบรวมความกล้าแล้วบอกแม่ไปตามตรงทำเอาแม่กับป๊าอึ้งไปเลยทีเดียว...ผมควานหามือถือเจอแล้วก็ปิดเพลง...แล้วแม่พี่เขมก็มานั่งข้าง ๆ ผมแล้วก็กอดผมไว้แน่น

ผมบอกกับแม่และป๊าไปว่า ผมไม่ได้เจอพี่เขมมา 3 วันแล้ว แล้วก็ไม่ได้รับการติดต่อจากเค้าอีกด้วย...ผมขอแม่กับป๊าว่าอย่างตำหนิพี่เขมเพราะ พี่เขมได้เลือกแล้วว่าคนที่พี่เขมรักจริง ๆ คือใคร และก็ขอให้ป๊ากับแม่ ยกโทษให้ผมด้วยเพราะผมไม่อยากจะบอกเรื่องราวทั้งหมดกับท่านในตอนแรก

แม่พี่เขม : บีลูก...ยะหยังบ่อบอกแม่ก่อนหละลูก...แม่จะได้จัดการไอ้เขมมัน(บีลูกทำไมไม่บอกให้แม่ก่อนหละลูก แม่จะได้จัดการไอ้เขมมัน)

ป๊าพี่เขม : บี...แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้างลูก...ป๊าเป็นห่วงนะ

บี : ตอนนี้ผมดีขึ้นมากแล้วครับแม่...ป๊า...น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้บ่าย ๆ นี้แหละครับ

ป๊าพี่เขม : ไอ้เขมมันชักจะเหลวไหลใหญ่ละนะ เด๋วป๊าคงต้องเคลียให้แล้วหละเรื่องนี้

บี : อย่าเลยครับป๊า...ผมรักพี่เขมครับ ถ้าพี่เขมไม่มีความสุข ที่จะอยู่กับผม ผมก็ต้องปล่อยพี่เขมไปครับ...(ตอนนี้น้ำตาผมมันเอ่อล้นมาอีกครั้งหลังจากที่แน่ใจกับตัวเองตั้งแต่แรกว่าจะโอเคแล้ว)

แม่พี่เขม : โอ๋ ๆ ๆลูกไม่ร้องนะ...แม่ก็นึกว่าไม่สบายจริง ๆ ที่ไหนได้ เป็นเรื่องนี้

บี : ผมดีขึ้นแล้วครับ...ยังไงก็ ผมขอขอบคุณป๊า กับ แม่มากนะครับ ที่ รักและเอ็นดูผมตลอดที่ผ่านมา...ผมคงอาจจะไม่ได้เจอป๊ากับแม่อีก ผมรักและเคารพป๊า กับแม่ เหมือนเป็นพ่อแม่ของผมจริง ๆ ที่อยู่ที่กรุงเทพนี้เลยนะครับ...(แล้วน้ำตาผมก็ไหลออกมาไม่หยุดครับ)

แม่พี่เขม : ไม่เอาสิลูกไม่ร้องนะ...แม่ก็ยังเป็นแม่ของลูกอยู่เสมอนะ ถึงลูกจะไม่ได้คบกับเขมแล้ว แม่ก็ยังอยากจะเจอลูกอยู่นะลูกบี

ป๊าเดินเข้ามากอดผมกับแม่ไว้ด้วยกัน... “ป๊าไม่เคยคิดเลยนะว่าบีเป็นคนอื่น ป๊าคิดมาตลอดว่าบีเป็นลูกของป๊าคนหนึ่งนะลูก”

มีต่อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 28 หมอคิตทำคะแนน P.4 ( 5-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 06-11-2017 17:18:47
คำพูดของป๊ายิ่งทำให้ผม หยุดร้องไห้ออกมาไม่ได้ มันยิ่งทำให้ผมสะอื้นหนักไปอีก ป๊าถอดแว่นออกมาแล้วเช็ดน้ำตาของป๊าเอง...มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น ผมทำให้แม่กับป๊า ของพี่เขมเสียน้ำตา...ผมช่างเป็นลูกที่ไม่ได้เรื่องเอาซะเลยจริง ๆ  ผมพยายามหยุดร้องไห้...หายใจลึก ๆ แล้วก็เช็ดน้ำตาให้กับแม่ของพี่เขม

บี : แม่ครับ...ต่อจากนี้ไป...รักษาตัวเองดี ๆ นะครับแม่...ป๊าครับ...ผมรักป๊ากับแม่มากนะครับ...

ผมหยุดเพื่อที่จะสูดลมหายใจอีกครั้งเพื่อจะได้บอกในสิ่งที่ผมต้องการให้จบ

บี : จากนี้ไปผมคงไม่สามารถไปที่บ้านป๊าได้อีก มันคงจะทำให้พี่เขมอึดอัดใจ ป๊ากับแม่.....

พยาบาลเคาะห้องแล้วเข้ามาตรวจอาการผมครับ....พยาบาลทำหน้าตาตกใจมากที่เห็นพวกเรา 3 คนนั่งกอดกันร้องไห้อยู่...แล้วพยาบาลก็หยิบแฟ้มดูแล้วดูอีก...คงจะตกใจกับการที่คนไข้เป็นหวัด แต่ 3 คน นั่งร้องไห้เหมือนผมเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
พอพยาบาลตรวจเสร็จ...ป๊ากับแม่ก็เข้ามาถามถึงอาการ

พยาบาล : คนไข้ ไม่ได้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่นะคะ เด๋วก่อนเที่ยงหรือหลังบ่ายก็คงจะกลับบ้านได้แล้วค่ะ...คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลใจนะคะ คุณคนไข้เป็นปกติดีค่ะ

ป๊ากับแม่พยักหน้าเป็นการตอบรับ...แล้วคุณพยาบาลก็เดินออกจากห้องไป ผมกับป๊าและแม่พากันหัวเราะขำพยาบาลที่เข้ามาขัดจังหวะ...แต่มันก็ดีครับ มันทำให้บรรยากาศต่าง ๆ เปลี่ยนไปหมด ป๊าเปลี่ยนเรื่องในการคุยทันที

ป๊าพี่เขม : เช้านี้อยากกินอะไร เด๋วป๊าสั่งมาให้กินเลย

แม่พี่เขม : หูฉลามน้ำแดง พระกระโดดกำแพง หรือว่าปลาเต๋าเต้ยราดพริกว่ามาเลย

บี : ผมอยากกิน...ก๋วยเตี๋ยวครับ

ป๊าพี่เขม : ขออะไรให้มันแพง ๆ หน่อยไม่ได้เหรอลูกเอ้ย

บี : ก็ผมชอบกินอ่ะป๊า...

แม่พี่เขม : ป๊าก็ไปซื้อมาให้ลูกหน่อยละกัน เด๋วแม่ดูแลบีอยู่ที่นี่ละกัน

ป๊าพี่เขม : แล้วให้ป๊าไปซื้อแถวไหนหละ

แม่พี่เขม : ก็เอาที่ไหนก็ได้ที่อร่อย ๆ อ่ะ

ป๊าพี่เขม : อ่าก็ได้ ๆ แต่ไม่อร่อยห้ามว่านะ

บี : แม่ครับป๊าครับ...ไม่ต้องก็ได้ครับ...บีกินอาหารโรงพยาบาลได้

แล้วห้องผมก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง...ครั้งนี้คนที่มาเนี่ย...เป็นคนที่ไม่คาดคิดสุด ๆ เลยครับ....หมอพร...มาจากไหน แล้วรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่...ต้องเป็นหมอคิตแน่  ๆ

หมอพร : อ่าวคุณพ่อคุณแม่สวัสดีค่ะ คุณบีหายดีแล้วนะคะ เด๋วก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ

บี : หมอพรสวัสดีครับ...นี่หมอพรครับ ป๊า แม่ หมอพร คือคนที่รักษากายภาพให้พี่เขมครับ...หมอพรครับ...นี่ป๊ากับแม่พี่เขมครับผม

หมอพร : อ่อ ๆ คุณพ่อคุณแม่แฟนน้องบีเหรอคะ

แหม่ หมอพร หมอคิต อัพเดทข้อมูลกันยังไงเนี่ย...บอกก็บอกไม่หมด พาเอาบรรยากาศในห้องเสียลงไปในพริบตา

หมอพร : เออ....หมอซื้อก๋วยเตี๋ยวเจ้าที่เราเคยไปกินด้วยกันมาฝาก

บี : โหย...รักเลยครับเจ๊...ผมกำลังอยากกินพอดีเลยครับ

ป๊ากับแม่พี่เขมก็ทำท่ายิ้มเจื่อน ๆ

บี : ป๊าคับแม่ครับ กลับก่อนก็ได้นะครับเด๋วบ่าย ๆผมก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วครับ เด๋วหมอคิตจะไปส่งที่คอนโดผมให้ครับไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ

ป๊าพี่เขม : ให้ป๊าไปส่งได้ไม๊ลูก

แม่พี่เขม : นะ ๆ แม่ก็อยากไปส่งลูก

หมอพร : ไม่เป็นไรค่ะ เด๋วคิตไปส่งเอง จะได้ไม่รบกวนคุณพ่อคุณแม่ด้วย

ป๊ากับแม่ทำหน้าตาเสียใจมากครับที่ผมปฏิเสธ...แต่ป๊ากับแม่ก็เดินมากอดผม แล้วก็พูดว่า... “ยังไงก็มากินข้าวกับแม่บ้างนะลูก...ถ้าแม่โทรหาก็ต้องรับนะรู้ไม๊ ถ้าไม่รับ แม่จะตามไปที่คอนโดเลยนะ”

ป๊า : บี...ป๊าก็ยังเป็นป๊าของลูกเสมอนะ แม่ก็ด้วย มีอะไรโทรหาได้ตลอดเลยนะลูก

แล้วป๊ากับแม่พี่เขมก็ออกจากห้องไปครับ ปล่อยให้ผมกับหมอพรอยู่ด้วยกัน หมอพรบอกว่าได้ข่าวจากหมอคิตตอนเช้า เพราะหมอคิตจะของให้ช่วยอยู่เวรให้หน่อยเพราะจะไปส่งผมที่คอนโด ผมก็เลยบอกหมอพรไปครับว่าไม่ต้องหรอก เด๋วผมกลับแท็กซี่ก็ได้ แต่หมอพรก็ไม่ยอมครับ...เพราะหมอคิตกำชับแล้วว่าจะต้องไปส่งผมที่คอนโดให้ได้ พอบ่ายโมง ผมก็ได้ออกจากโรงพยาบาลครับ...แล้วก็เป็นไปตามคาด หมอคิตขับรถไปส่งผมที่คอนโดครับ....
หมอคิต : นั่งสบายไม๊คับ...

บี : นั่งสบายดี คิตอย่ามาเวอร์...บีก็คนทั่วไปเนี่ยแหละ รถเครื่องก็เคยแว้นสมัยอยู่มหาลัย

หมอคิต : เรียนมช.ด้วยใช่ป่ะ

บี : ใช่...แล้วคิตอ่ะ

หมอคิต : คิตก็เรียนมช.แหละ

บี : อ่าวงี้ก็ต้องรู้จัก...ผมไล่ชื่อเพื่อนผมที่เป็นแพทย์ มช.ให้คิตฟัง แล้วคิตก็รู้จักทุกคนเลยครับ

บี : งี้เด๋วไปถามเพื่อนดีกว่าว่ารู้จักหมอคิตไม๊ จะได้รู้ว่ารุ่นอะไร

หมอคิต : เฮ้ย ขี้โกงหวะ

บี : อ่าวก็ไม่บอกก็ต้องหาวิธีเองมะ

หมอคิต : อ่าๆ ๆ บอกก็เดะ ผมเด็กกว่าบี 2 ปี

บี : เฮ้ย จิงดิ...ก็อาจจะเคยเจอหน้ากันมาก่อนอะดิ

หมอคิต : เคยดิทำไมจะไม่เคยหละ...แต่บีคงจำไม่ได้หรอก

บี : ทำไม...ไปทำหน้ามาเหรอ...คนเลยจำไม่ได้เนี่ย...มาไกลนะเรา

หมอคิต : เด๋วจะโดน...นี่ไม่ได้ทำอะไรเลย...หมอทำทั้งนั้น

บี : จ๊ะ...นี่เป็นหมอตลกคาเฟ่เหรอ

หมอคิต : ก็ประมาณนั้น

แล้วก็มาถึงคอนโดผมครับ...ผมเดินขึ้นห้องไปแล้วผมก็ปิดประตูล็อคห้องแล้วก็ทำการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบอย่างจริงจัง...สิ่งที่ผมกลัวที่สุดตอนนี้คือการที่พี่เขมจะเปิดประตูเข้ามาในห้องผม...ผมไม่รู้จริง ๆครับว่าตอนนี้ตัวเองพร้อมไม๊ ที่จะเคลียปัญหาทั้งหมด ถ้าพี่เขมจะมาจริง แต่อีกใจหนึ่งผมก็รู้แน่นอนว่าเค้าคงไม่มาหรอก เพราะถ้าเค้ามา คนของเค้าก็ต้องไม่โอเคแน่นอน...ผมเปิดเพลง ของ ปาล์มี่ไปด้วยตลอดการอ่านหนังสือ ผมไม่เคยคิดเลยนะครับว่าเพลงของเค้าเนี่ยจะมีเพลงอกหักเยอะขนาดนี้...แล้วผมก็คิดว่าตัวเองเนี่ย สตรองขึ้นมากกกกก น่าจะสามารถต่อสู้กับอะไรก็ได้แล้วตอนนี้ ยกเว้น....พี่เขม

หัวใจผมตอนนี้ มันก็คงจะเริ่มชินชาแล้วครับ...นี่ถ้านับจริง ๆ ก็จะ 3  วันเต็ม ๆ แล้วครับ ที่ผมไม่ได้รับการติดต่อจากพี่เขมเลย ผมนึกในใจว่า คนเรามันจะเปลี่ยนไปได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ อย่างน้อย ๆ ถ้าจะเลิกกันมันก็ควรมี ปฏิกิริยาอะไรให้ผมรับรู้ก่อน บ้างไม๊ หรือช่วงนี้เป็นช่วงที่เราทั้ง 2 คนใส่ใจกันและกันน้อยลง มันเลยทำให้เกิดช่องว่างระหว่างเรา และพอเค้าพบว่าคนที่เค้ารอคอย เป็นโสด เค้าจึงรีบฉวยโอกาสทันที มันอาจจะเป็นกรรมในชาติที่แล้วก็ได้ หรืออาจจะเพราะเราไม่ได้เกิดมาคู่กันจริง ๆ ก็เป็นได้ครับ ผมได้แต่คิดแบบนี้ปลอบใจตัวเอง...ถ้าไม่ติดว่าจะต้องสอบนะ...จะไปนั่งสมาธิที่วัดป่าซักแห่งแล้วหละ...ว่าแล้วผมก็ต้องอัพเดตเรื่องราวต่าง ๆ ให้เพื่อนสุดที่รักของผมฟังก่อนครับ...ผมกดโทรศัพท์หาเพื่อนเปรี้ยวทันที เปรี้ยวยังไม่รับครับ...สงสัยจะยุ่งอยู่หรือไปบิน แล้วผมก็เข้าไปเช็ค เฟสบุ๊ก แล้วก็ไลน์ของผมครับ ตอนนี้ เฟสของผมแทบแตกครับ...เพลงที่ผมโพสไปล่าสุด มีคนมาคอมเม้นมากมาย ทั้งให้กำลังใจ ทั้งแสดงความเสียใจ ทั้งถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็มีคอมเม้นป่วน ๆ จากพี่ ๆ แอร์กี่สมัยที่ผมจีบกันแรก ๆ กับพี่เขม คอมเม้นฮา ๆ จากเพื่อน ๆ พวกไอ้ปืนและเพื่อนในรุ่น และที่สำคัญที่สุดคือ แก้งของพี่เขมครับ...ทุกคนดูโวยวาย มากมาย เหมือนจะฉีกเนื้อกินเลือดพี่เขมเลยทีเดียว คอมเม้นที่ผมสะดุดตาที่สุดก็คงจะเป็นคอมเม้นจากพี่ต้าครับ... จากที่พี่ต้าไม่เคยคุยกับผม ตอนนี้ดูเป็นห่วงผมซะแล้ว ผมทำการบล๊อคช่องทางการติดต่อทุกอย่างของพี่เขมไว้ ไม่ว่าจะเป็น เฟสบุ๊ค ไอจี ไลน์ แล้วก็ลบเบอร์โทรศัพท์ทิ้งไปครับ

แล้วเปรี้ยวก็โทรกลับมาครับ...

เปรี้ยว : เมิงกรูเพิ่งแลน

บี : เมิง กรูมีเรื่องจะอัพเดตมากมาย

เปรี้ยว : โอย...เรื่องพี่เขมกรูเบื่อจะฟัง...ทำไม มึงท้องกับเค้าแล้วเหรอ

บี : กรูเลิกกับเค้า

เปรี้ยว : เหี้ยยยยย....มึงอยู่ไหน เด๋วกรูไปหา

บี : แต่กรูโอเคแล้วเมิง

เปรี้ยว : มึงจะโอเคได้ไงฟระ....

บี : มันผ่านมา 3 วันแล้วมึง

เปรี้ยว : สัสกรูไปค้างจีนมา มันเล่นเฟสไม่ได้ กรูก็ไม่ได้ติดต่อเมิงเลย

บี : อ่า ๆ รีบกลับมา พาเพื่อนไปกินข้าวหน่อย...เพื่อนเหนื่อย

เปรี้ยว : ได้ ๆ เด๋วกรูรีบกลับไป

   หลังจากนั้นผมก็ไปกินข้าวกับเปรี้ยวครับ...อัพเดตสาระทุขสุกดิบกันต่าง ๆ นา ๆ อีเปรี้ยวบอกว่าแทบจะไม่เชื่อเลยว่าคน คนนึงมันจะเปลี่ยนอะไรไปได้เร็วขนาดนี้...แต่ความรักทุกครั้งมันเกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอเว้ย...อย่างน้อย ๆ เมิงก็ได้รักพี่เค้าแล้วจริงไม๊...เราควรจะยินดีมากกว่าเสียใจที่ ในที่สุดแล้วเราทำทุกอย่างแล้ว เราไม่ได้ทำผิดอะไร แต่แค่ความรักมันเข้ากับเราไม่ได้ ก็เท่านั้นเอง... อีเปรี้ยวบอกอีกว่า ความรักที่ผมมีให้พี่เขม มันดีมาก มันจะไม่กลับมาทำร้ายตัวผมเอง เพราะเราหวังแค่ให้คนที่เรารักมีความสุข เราไม่ได้หวังที่จะครอบครองในตัวเค้า มันดีมากแล้วจริง ๆ

   มันเป็นความจริงครับ..ฟังดูมันอาจจะน้ำเน่ามาก แต่ถ้าให้ผมรั้งพี่เค้าไว้ ว่าให้อยู่กับผม ผมก็คงจะได้แต่ตัวพี่เค้าครับ...ถ้าใจพี่เค้าไม่อยู่แล้วเราทั้งคู่จะมีความสุขได้อย่างไร คิดได้อย่างนี้แล้ว....อีเปรี้ยวแทรกขึ้นมาทันที... “ถ้ามึงคิดได้อย่างนี้แล้วก็...ไปบวชชี ซะนะเมิง” ....55555555

   พอกลับมาจากกินข้าวผมก็เห็นรถที่คุ้นตาจอดอยู่ที่คอนโดผมครับ...ผมตกใจมากรีบหลบตัวลงทันที...อีเปรี้ยวหันมาถาม... “เมิงเห็นอะไรที่กรูไม่เห็นเหรอ”

บี : กรูเห็นรถพี่เขม

เปรี้ยว : ไหนฟระ รถอะไร รถเหมือนรึป่าว

บี : X6 จะมีใครเหมือนไม๊หละ

เปรี้ยว : เออหวะ...แล้วมึงจะทำไง

บี : กรูไม่รู้หวะ...เอาไงดีเมิง

เปรี้ยว : ถ้าพี่เค้ามาขอคืนดีมึงจะทำไง

บี : กรูไม่พร้อมกรูบอกเลย

เปรี้ยว : งั้นมึงก็บอกเค้าไปว่าห่างกันก่อน ขอสอบให้ผ่านไปก่อนแล้วค่อยคุยกัน

บี : หรือพี่เค้าจะมาเอากุญแจคอนโดเค้าฟระ เด๋วกรูขึ้นไปเอามาคืนเลยดีกว่า

เปรี้ยว : เออ...แม่ง! คนแบบนี้ก็มีเหรอฟระ

บี : อะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อหมดรัก

เปรี้ยว : ก็จริง!

   ผมเดินลงจากรถเปรี้ยวตรงไปที่รถที่ผมคุ้นตา พอผมเดินใกล้เข้าไปผมก็เห็นพี่เขมครับ...มันบีบหัวใจผมมากกเลยทีเดียว...มันทำให้ผมแทบจะวูบไปเลย แล้วพี่เขมก็ลงจากรถวิ่งตรงมาที่ผม พี่เขมวิ่งเข้ามาทำท่าจะโอบกอดผม ผมใช้มือขวา ยกห้ามเอาไว้ แล้วมองหน้าพี่เขมด้วยความเย็นชา...พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบที่สุด

บี : เด๋วผมไปเอากุญแจคอนโดมาให้ รอตรงนี้นะ

พี่เขม : บี มันไม่ใช่อย่างที่บีคิดนะ

บี : รอตรงนี้นะ!

พี่เขม : ให้พี่ได้อธิบายก่อนได้ไม๊

บี : รอตรงนี้!

   พี่เขมทำท่าหงุดหงิดมากแล้วเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น...ผมเดินถอยออกห่างจากพี่เขมตามลำดับ มือก็ยังคงยกห้ามไม่ให้พี่เขมเข้ามาใกล้ เพราะกำแพงที่ผมเริ่มก่อใหม่มันยังไม่แข็งแรงดีพอ...ผมไม่รู้ว่ามันจะทน ได้อีกนานแค่ไหน กับคำพูดต่าง ๆ กับพี่เขม...ใจผมนั้นก็อยากจะฟังเรื่องทุกอย่างให้มันจบ ๆ ไป แต่อีกใจก็บอกตัวเองว่า รอให้ผ่านการสอบไปก่อนได้ไม๊ เพราะตอนนี้ สิ่งที่เราควรจะโฟกัสที่สุดก็คือ อนาคตของตัวเอง ไม่ใช่ความรักที่ผมไม่รู้ว่าจะเชื่อได้อีกหรือไม่

พอพี่เขมหยุด ผมรีบเดินจากพี่เขมออกมาแล้วขึ้นลิฟท์ไปกับเปรี้ยว

เปรี้ยว : มึงเอาไง ให้กรูอยู่เป็นเพื่อนไม๊

บี : ไม่เป็นไรมึง กรูจะเอากุญแจไปคืนแล้วก็บอกให้กลับไปเลย ยังไม่ต้องคุยกัน

เปรี้ยว : พี่เค้าจะยอมเหรอฟระ

บี : ไม่ยอมก็ต้องยอมละ...เพราะตอนนี้กรูไม่ยอมใครแล้วทั้งนั้น

เปรี้ยว : มึงเด็ด...กรูนับถึงจริง ๆ ...ถ้าไม่ไหวบอกกรู...กรูอยู่ห้องรอ โอเคนะ

บี : ได้...เด๋วกรูบอก

   ผมเปิดประตูเข้าไปในห้อง หากุญแจคอนโดของพี่เขม หาเท่าไหรก็หาไม่เจอ ผมจำไม่ได้ว่าผมเอาไปไว้ตรงไหน ผมค้นทั้งกระเป๋าบิน ลิ้นชักทุกอัน ที่เก็บกุญแจ ก็ไม่เจอ ผ่านไปซักพัก มีเสียงเคาะห้องแล้วก็ไขกุญแจเข้ามา ผมตกใจมาก...ผมรีบวิ่งเอาตัวไปยันประตูเอาไว้....พี่เขมไขประตูห้องผมเข้ามา...ผมพยายามดันประตูแล้วบอกให้พี่เขมออกไป

พี่เขม : พี่ขอคุยกับบีหน่อยได้ไม๊...เรามาคุยกันดี ๆ นะบี

บี : มันไม่สายไปหน่อยเหรอพี่เขม...ผมรอพี่ 3 วัน 3 คืน แล้วตอนนี้พี่ยังต้องการอะไรจากผมอีก...

พี่เขม : พี่พยายามติดต่อบีแล้วแต่พี่โทรหาบีไม่ได้เลย

บี : แต่ผมไม่ได้รับการติดต่อจากพี่เลยนะ....จนผมเข้าโรงพยาบาล ผมก็รอพี่ทั้งวัน ผมก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา

พี่เขมไม่ตอบอะไร...

พี่เขม : เรามาคุยกันดี ๆ ได้ไม๊คับ..บี

บี : พี่เขม...ผมเคยขอพี่ว่ายังไงจำได้ไม๊

พี่เขม : เราจะไม่ทะเลาะกันข้ามคืน

บี : แล้วนี่ผ่านไปกี่วัน

พี่เขม : พี่ไม่รู้ต้องทำยังไง...พี่กลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้

บี : งั้นอนาคต...มันก็คงเปลี่ยนแปลงไม่ได้เช่นกัน

พี่เขม : บีจะเลิกกับพี่เพราะเรื่องแค่นี้เหรอ

บี : อย่าให้ผมต้องเป็นคนพูดเลยพี่เขม การกระทำของพี่ มันบอกชัดเจนอยู่แล้ว

พี่เขม : บีกำลังเข้าใจพี่ผิดนะ

บี : พี่เขม...ผมจะไม่เถียงกับพี่แล้วนะ...หยุด แล้วปล่อยผมไปเถอะ

   พี่เขม หยุดการดันประตู ประตูถูกปิดดังปัง....เสียงเงียบกริบไป ไม่มีการตอบจากพี่เขม ผมนั่งลงเอาหลังพิงประตูไว้ แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาครับ....กำแพงที่เพิ่งจะก่อเสร็จ ที่จะทำเป็นปราการเพิ่งป้องกันพี่เขม มันได้ถูกพังทลายลงหมดแล้วครับ ผมทำอะไรไม่ได้แล้วจริง ๆ ผมแพ้ แพ้หมดทุกสิ่ง...ถึงผมจะรักพี่เขมมากเท่าไหร...แต่การที่เราเห็นคนรักของเรา ไปดูแลคนอื่น แล้วตัวเราเองก็เหมือนคนอกหัก แต่คนที่ควรจะดูแลเรา กลับไม่อยู่...มันเป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้จริง ๆ ครับ แล้วผมก็ไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่า คืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง...พี่เขมอาจจะนอกกายและนอกใจผมไปแล้วก็ได้

พี่เขมเคาะประตูเบา ๆอีกคร้ัง

พี่เขม : บีครับ...พี่จะเล่าให้ฟังนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง

บี : ผมไม่อยากฟัง...ฮือ ๆ ๆ ๆ...(ผมไม่สามารถควบคุมเสียงตัวเองได้อีก)

พี่เขม : คืนนั้น.... ไอ้เหี้ย...มึงกล้ามาที่นี่เลยเหรอ

   ผมตกใจรีบเปิดประตูออกไปดู...แล้วคนที่ออกมาจากลิฟท์ก็คือ หมอคิต พร้อมกับถุงข้าว....ผมรีบออกไปห้ามทัพไว้ ไม่ให้ 2  คนมีเรื่องกัน

พี่เขม : เพราะมันใช่ไม๊....บีถึงได้ ไม่ยอมฟังอะไรจากพี่

ผมไม่ตอบ...ก้มหน้าแล้วเอามือยันทั้งสองให้ห่างออกจากกันไว้

บี : กลับไปให้หมดทั้งคู่...ไม่งั้นอย่าห่าวว่ากรูไม่เตือนมึงทั้งสองคนนะ...!!!

ผมตะโกนด้วยเสียงที่โกรธและอาฆาตมาก...ทั้งพี่เขมและหมอคิต หน้าเปลี่ยนสีเลยทันที แล้วหันมาจ้องหน้าผมทั้งคู่

บี : ถ้ามึงสองคนยังไม่ไป...ชีวิตนี้ มึงสองคนอย่าหวังว่าจะได้เจอกรูอีก

หมอคิต : บี...ผมแค่..

พี่เขม : บี...ให้พี่อธิ...

บี : กูจะนับ 1 ถึง 3

บี : 1

บี : 2


หมอคิต : โอเคผมยอม...ผมไปเด๋วนี้แหละ

พี่เขม : บีแต่ว่า...

ผมจ้องหน้าพี่เขมแบบเอาเป็นเอาตาย...หมอคิตทำท่ากวักมือเรียกพี่เขมให้ลงลิฟท์

พี่เขม : แล้วพี่จะกลับมา

ผมเดินไปที่พี่เขม แล้วกระชากเอากุญแจห้องผมมาจากมือพี่เขม....

บี : มึงไม่มีสิทธิ์ใช้มันอีกแล้ว!

   แล้วผมก็เดินเข้าห้องไป...ปิดประตูดังปัง!....เสียงเงียบไปหมดทั้งชั้นเลยครับ...ผมนั่งนิ่ง ๆ แล้วค่อย ๆ คิดว่าจะทำยังไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดี แล้วประตูห้องผมก็ถูกเคาะอีกครั้ง...ผมสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินไปเปิดประตูพร้อมจะหาเรื่องทุกคนที่มาอยู่หน้าประตูผม...แต่คน คน นั้นคือ อีเปรี้ยว ผมสวมกอดอีเปรี้ยวอย่างจัง ร้องไห้ อย่างกับคนเสียของรักไป

เปรี้ยว : อีสัส...ทำไมมึงโหดจังฟระ...กรูอยู่ด้านบน กรูยังได้ยินหมดเลย

บี : อีเหี้ย...ก็แม่งเสือกมาทำไมทั้ง 2  ตัวพร้อมกันหละ แค่คนเดียวกรูก็ปวดหัวจะระเบิดอยู่ละ...แล้วยังจะมาตีกันให้กรูเห็น...กรูเลยต้องเปิดโหมด โหดสัสรัสเซีย

เปรี้ยว : กรูไม่เคยเห็นโหมดนี้มึงเลย...ไม่ดิ กรูเคยเห็นตอนมึงมีเรื่องในผับ แต่ก็ไม่น่ากลัวขนาดนี้

บี : เออ...นานมากละที่ด้านมืดกรูไม่ออกมาชมโลกอ่ะ

เปรี้ยว : มึงเสียงดังไปทั้งคอนโด..เมิงโดนเม้าไม่หยุดปากแน่

บี : กรูจะยังอยู่ที่นี่ได้ป่าวฟระ

เปรี้ยว : มึงยังมีกรูไง...

บี : รักมึงนะเปรี้ยว



To be continued…

ป.ล. เรื่องนี้เกินครึ่งทางแล้วนะครับ ขอบคุณทุกคอมเม้นเลยนะครับ

ป.ล.2 บีร่างโหดน่ากลัวกว่าสิ่งไหน 55555
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 28 หมอคิตทำคะแนน P.4 ( 5-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-11-2017 18:05:21
 :L2: :L1: :pig4:

55 ตกใจความโหด
ชอบที่บีรักตัวเองเป็นมุมมองที่ควรเรียนรู้จริงๆ รักคนอื่นมากๆได้ แต่ก็ต้องรักตัวเองด้วย

ปล หัวเรื่องมันยังไม่เปลี่ยนเลยนะ ยังเป็นตอนที่28อยู่เลย เดี๋ยวเพื่อนๆนักอ่านคนอื่นไม่รู้ว่าอัปเดทแล้ว
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 28 หมอคิตทำคะแนน P.4 ( 5-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 07-11-2017 18:37:12
ตอนที่ 29 นับ 1-3

แสงสว่างจากด้านนอกทำให้ตาผมพล่ามัวไปหมดครับ...ผมหยีตาแล้วพยายามมองว่าเป็นใคร สิ่งที่ผมเห็นคือ เป็นผู้ชายตัวไม่สูงมากเดินเข้ามาครับ...ผมตกใจมา เพราะเวลานี้น่าจะเป็นเวลางดเยี่ยมแล้ว แล้วผมก็ปิดไฟในห้องสนิท ในใจผมก็ยังคิดถึงผู้ชายคนเดียวในตอนนี้ที่ทำให้ผมเศร้าถึงขนาดนี้ หรือเค้าได้รับฟังเพลงที่ผมโพสแล้ว...เค้าถึงรีบตรงมาหาผม...แล้วผมก็ได้รับสัมผัสจากแขนของเค้าที่เข้ามาอยู่รอบตัวผม...เค้ากอดผมครับ...แล้วด้วยความเคยชินและความคิดของผม ผมจึงกอดเค้าตอบแล้วเอาหน้าซุกไปที่คอของเค้า แต่...มันไม่ใช่กลิ่นของพี่เขมครับ...แล้วเอาหน้าซุกไปก็รู้สึกไม่พอดีอีกด้วย...ผมจึงรีบถอยออก...เพื่อมองให้ชัดว่าเป็นใคร...

บี : เหี้ย...(ผมตะโกนออกมาดังมาก)...หมอคิต

หมอคิต : ทำไมครับ...นึกว่าเป็นใครเหรอ

บี : ป่าวครับ....

หมอคิต : กอดอีกหน่อยดิครับ...ผมกำลังเคล้มเลย

บี : แล้วกลับมาทำไมเนี่ย

หมอคิต : ก็ผมกลับบ้านไปแล้วไง แล้วเด๋วพรุ่งนี้ก็ทำงาน ก็เลยมานอนที่นี่ซะเลย จะได้ดูแลบีด้วย

บี : เฮ้ย....ไม่ได้ดิ...ผมอยากอยู่คนเดียว

หมอคิต : เอาหน่า เด๋วก็เช้าแล้วครับ...ผมได้ทำอะไรบีหรอก  ถ้าบีไม่เต็มใจ

บี : เคยกินตีนคนไข้ไม๊หมอคิต...

หมอคิต : ดุจังวุ้ย

บี : เออ...ดุยิ่งกว่าหมาบ้าอีกนะ

หมอคิต : ถึงดุผมก็ไม่กลัว

บี : แล้วจะนอนให้ได้ว่างั้น

หมอคิต : นี่ไง ซื้อโจ๊กมาฝากด้วยนะ เห็นว่ากินข้าวโรงพยาบาล...คงจะไม่ถูกปาก

บี : ไม่หิวอ่ะ

หมอคิต : ไม่หิวก็กินซะหน่อยเถอะบี...

หมอคิตแกะโจ๊กใส่ถ้วยมาให้แล้วก็มานั่งจ้องให้ผมกิน...ผมก็จำใจกินครับ กินหมดแล้วหมอคิตก็ยกไปล้างให้แล้วหมอคิตก็ถามว่าทำไมไปยืนอยู่หน้าห้องแล้วไม่เปิดไป ทำอะไรเงียบ ๆ เนี่ย เห็นแล้วตกใจ...แต่เราไม่ได้พูดถึงการกอดกันเมื่อกี้อีกเลย...เหมือนปล่อยเลยตามเลยอ่ะครับ แล้วห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง...ผมรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยที่มีหมอคิตมาเฝ้าผมตอนนี้ ผมจึงชวนหมอคิตคุย

บี : นี่คิตตี้...ทำไมกลับมาหละ

หมอคิต : จะเรียกอย่างนี้จริง ๆใช่ป่ะ

บี : ก็ยังไม่บอกอายุไง

หมอคิต : ผมเห็นบีโพสเพลงเศร้าอ่ะ...ก็เลยกลัวว่าจะคิดมาก

บี : ผมไม่สิ้นคิดหรอกหน่า

หมอคิต : รู้หมือไร่....ว่าคนคิดฆ่าตัวตายช่วงอกหักมากที่สุด

บี : จริงดิ....แต่ผมไม่เคยคิดเรื่องพวกนั้นเลยนะ มันคงบาปมากอ่ะ

หมอคิต : ก็ดีแล้ว...ผมก็จะได้สบายใจ...ผมถามอะไรอย่างได้มะ

บี : อะไรหละ...ยืมเงินเหรอ

หมอคิต : จริง ๆนะ ตอบจริง ๆ

บี : ว่าไป...ตอบได้ก็ตอบ ตอบไม่ได้ก็ปล่อยเบลอ....

หมอคิต : ถ้าคุณเขมมาง้อ...บีจะกลับไปหาเค้าไม๊

ผมอึ้งไปเลยครับ...มันเป็นคำถามที่ผมเองก็ยังไม่กล้าที่จะถามตัวเองเลยครับ...ว่าถ้าทั้งหมดมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด หรือทั้งหมดมีคำอธิบายแล้ว...ผมจะยังกลับไปหาพี่เขมไม๊ เพราะตอนนี้ในหัวของผมนั้น...มันเหมือนถูกสะกดว่าตัวเอง อกหักไปแล้ว บอกว่าพี่เขมไม่ได้รักผมไปแล้ว และบอกว่า พี่เขมเค้าเลือกน้องเจไปแล้ว

บี : เอาจริง ๆนะ ที่เมื่อกี้ คิตกอดผม...ผมก็ยังนึกว่าพี่เขมกลับมาหาผมแล้วซะอีก

หมอคิต : ตอบตรงดีเนอะ...เจ็บดีอ่ะ

บี : เฮ้ย...อย่างอนดิ...ผมตอบตามที่ผมคิดนะ

หมอคิต : ดีแล้วหละ...อย่างงี้ไงผมถึงได้ชอบบี

บี : หมอคิต...เด๋วจะโดน

หมอคิต : แล้วถ้าเค้ามาขอคืนดีหละ...บีจะว่าไง

บี : ผมก็ไม่รู้เหมือนกันหวะ...ตอนนี้ผมมีเรื่องที่ต้องคิดมากกว่าเรื่องนี้แล้วอ่ะ

หมอคิต : เรื่องอะไรอ่ะ...เรื่องผมป่ะ

บี : ยัง...ยังไม่จบอีก... เรื่องหมอเนี่ย...ไม่เคยคิดเลย ตอนนี้คิดเรื่องที่จะต้องสอบในอีกไม่กี่วันนี้มากกว่า

หมอคิต : สอบอะไรอ่ะ เล่าให้ฟังหน่อยดิ

บี : สอบเพอร์เซอร์หนะ...รู้จักป่าว

หมอคิต : หัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน...ใช่ป่ะ

บี : มีความรู้นะเรา

หมอคิต : แน่นอนอยู่แล้ว

บี : ก็คิดแต่เรื่องนี้แหละว่าจะทำยังไงดี...เพราะตอนนี้ มาเสียสมาธิเรื่องพี่เขมอีก (ผมสะอึกนิดหน่อยที่เรียกชื่อพี่เขมออกมา)..

หมอคิต : บีก็ต้องตั้งใจ มองไปข้างหน้านะ อย่าหันหลังกลับ แม้จะยังรักเค้าอยู่ก็ตาม แต่อนาคตของตัวเองก็สำคัญกว่านะบี

บี : อืมก็จริง...แต่เค้าก็มีสอบเหมือนกันแหละ สอบกัปตันหนะ

หมอคิต : อย่างงี้ก็พังทั้งคู่อ่ะดิ

บี : เค้าคงไม่พังหรอก...เพราะเค้าคงมีคนดูแลอยู่ข้าง ๆ คนที่เค้าเลือกแล้ว

หมอคิต : แหม่...บีก็มีคิตดูแลนี่ไง

บี : ขอบคุณนะหมอคิต...ผมคงเป็นได้แค่เพื่อนจริง ๆ

หมอคิต : ก็ถ้าวันไหนมีโอกาส...ก็ลอง ๆ มองผมดูบ้างก็ได้นะ

บี : ไม่อ่ะ...ผอมไปหน่อย

หมอคิตทำท่าเบ่งกล้ามให้ดู... “ผอมตรงไหน...เค้าเรียกว่าลีนเว้ย” ...แล้วเราก็หัวเราะกันครับ....

หมอคิต : นี่บี...ไม่ง่วงเลยเหรอ จะเที่ยงคืนละนะ

บี : เออนั่นดิเนอะ...จะว่าไป ก็นอนน้อยมากเลยนะแต่ไม่ค่อยง่วงเลยอ่ะ

หมอคิต : เอายานอนหลับมะ...เด๋วผมจ่ายให้

บี : เหย...จะดีเหรอ

หมอคิต : งั้นเอาเมลาโทนินไม๊...มันช่วยให้หลับสบายนะ ไม่ใช่ยานอนหลับ

บี : แล้วจะหลับไม๊

หมอคิต : ผมกินตอนเครียด ๆ อ่ะ แบบเข้าเวรติดกันแล้วเคสมันเยอะ ผมก็กินตอนเวลาจะนอน มันทำให้หลับไปสนิทดีนะ...ไม่มีอันตรายด้วยลองหน่อยมะ

บี : แล้วต้องไปจ่ายยาไกลไม๊หมอ ผมเกรงใจ

หมอคิต : ถ้าเมนาโทนินผมมีติดอยู่ในกระเป๋าอยู่แล้ว ลองไม๊

บี : อืม ก็ดีนะ...เผื่อจะได้ลืม ๆ อะไรไปบ้าง

หมอคิต : ดีแล้ว...นอนพักซะบ้างนะ ผมนอนข้าง ๆ นี้แหละ เด๋วผมเข้างานเช้า ถ้าผมตื่นก่อนเด๋วหาข้าวมาให้กิน อาหารโรงพยาบาล แม่งไม่ไหว

บี : ไม่ต้องหรอก บีกินได้คับ

หมอคิต : อืม ๆ อ่ากินซะ... (หมอคิตเดินไปเอายาออกจากกระเป๋าแล้วหยิบน้ำมาให้กิน) ...จะว่าไป น้ำเกลือนี่ก็ใกล้หมดแล้วนะ...เด๋วเอาอีกขวดดีไม๊

บี : พอเหอะหมอ...ตัวบวมพอดี

หมอคิต : ก็ดีสิ...วันนี้กินน้ำนี่แก้วที่เท่าไหร

ผมยกนิ้ว 2 นิ้วเป็นการตอบ พร้อมกันพยายามกลืนยาลงไปด้วย

หมอคิต : งั้นเอาอีกขวดละกันเด๋วผมไปบอกพยาบาลให้ แล้วก็เด๋วพรุ่งน้ีหลังเที่ยงก็กลับบ้านได้แล้วแหละ...ผลแล็ปก็น่าจะออกหมดละ และก็ไม่น่าจะมีเชื้ออะไร

บี : ก็แน่หละ...หมอคิตไม่ได้เรื่องเลย วินิฉัยผิด ๆ ถูก ๆ

หมอคิต : ก็จะได้มีคนดูแลไง...ไม่ดีเหรอ

บี : ผมดูแลตัวเองได้หน่า...เรื่องแค่นี้สบาย

หมอคิต : ตอนนี้หนะใช่...ดูดีขึ้นเยอะ แต่ตอนที่มาดิ...อย่างกะ walking dead

บี : เออ ๆ ๆ ๆ จะนอนละ ขอไปแปรงฟันก่อน

หมอคิต : ให้คิตช่วยนะ

บี : ไม่ต้องหรอก...ไม่ได้พิการ...อย่าเวอร์ ๆ

หมอคิต : ทำไมคนไข้มันดื้อจังฟระ

ผมหันมาแยกเขี้ยวใส่หมอแล้วก็เดินเข้าให้น้ำไปแปรงฟัน ไม่นานพยาบาลก็มาเปลี่ยนถุงน้ำเกลือให้แล้วผมก็นอนหลับปุ๋ยไปในทันที

เช้าแล้ว...ผมตื่นจากความฝัน...ความฝันนั้นมันช่างดีเหลือเกินครับ...ผมฝันว่าพี่เขมมาคอยดูแลผมอยู่ข้างกาย เหมือนหนังเกาหลีไม่มีผิด...นั่งหลับข้างเตียงผมแล้วก็นอนฟุบแล้วจับมือผมไว้ตลอดเวลา แต่ความเป็นจริงนั้น...ช่างว่างเปล่าและเงียบเหงาเสียเหลือเกิน ผมมองไปที่คนที่นอนอยู่ที่เตียงข้าง ๆ หมอคิตนอนหลับน้ำลายยืดอยู่ ผมเห็นก็อดขำไม่ได้แล้วผมก็หยิบมือถือขึ้นมาดู ตอนนี้แปดโมงแล้วครับ
 
แปดโมงเช้าวันอังคาร...ถึงจะนานที่ผ่านมา
ตอนนั้นที่เธอร่ำลา... พูดว่าเธอจะไป
จ้องมองเข็มนาฬิกา...ช่วงเวลาครั้งสุดท้าย
วันนั้นเสียใจเท่าไหร่...ก็ยังคงไม่ลืม

ไม่อยากรู้วันเวลา.. เช้าขึ้นมาไม่อยากเจอ
เพิ่งรู้ว่าไม่มีเธอ.. รู้ว่าเธอจากไป
แปดโมงเช้าวันอังคาร ...ฉันไม่เคยจะเปลี่ยนไป
เจ็บช้ำในใจอย่างไร ก็ยังคงไม่ลืม

ผมเปิดเพลงนี้จากยูทูปเพิ่งเป็นเพลงปลุกระดมในตอนเช้า...ซึ่งตอนนี้คนที่นอนเตียงข้าง ๆ ผมเริ่มขยับตัวแล้วครับ...ผมอยากจะทำให้มันรำคาญแล้วรีบออกไปทำงานซะ แต่สิ่งที่มากไปกว่านั้น...คือมันลืมตาขึ้นมามองผมแล้วก็บอกว่า..

หมอคิต : ไม่เห็นร้องไห้เลยหนิ...งั้นเอาไปอีกเพลง...ความเจ็บปวด ปาล์มี่

ผมเลื่อนดูเพลงใกล้เคียงก็เจอแล้วผมก็กดเปิดทันที...ทดสอบความแข็งแกร่งของตัวเองครับ...ตอนนี้พลังงานความแข็งแกร่งของผมเริ่มจะกลับมาแล้วครับ...ผมเชื่อว่า ผมจะต้องผ่านไปให้ได้...จะต้องเตรียมตัวสอบให้ได้

“ใคร คนที่เคยรู้ใจ
รอยยิ้มที่เคยรู้จัก
กำลังจะหายลับไปทุกที

คำพูดที่ซึ้งใจ
ที่เคยว่ารักมากมาย
ไม่มีอีกแล้วนับจากนี้

แต่คนจะไปก็ต้องไป
รักเท่าไหร่แต่ฉันคงทำได้เท่านี้”

แล้วประตูห้องก็เปิดออก...ผมรีบกดมือถือให้หยุดเล่นเพลงแต่มือถือดันลื่นครับตกจากมือผมไปอยู่ตรงซอกเตียงแล้วก็ยังเล่นเพลงนั้นอยู่ หมอคิตเด้งตัวขึ้นจากเตียงข้าง ๆ ทันที แล้วก็มองดูนาฬิกา...

ป๊ากับแม่พี่เขมมาหาครับ...หมอคิตทำท่าตกใจมากแล้วก็ยืนตัวตรงทันที

ป๊าพี่เขม : อ่าวคุณหมอมานอนอะไรที่นี่หละ...เฝ้าคนไข้เหรอ

หมอคิต : อะไรทำนองนั้นแหละครับ

แม่พี่เขม : หมอต้องมาเฝ้าเลยเหรอคะ?

หมอคิต : พอดีผมมีเวรเช้าอะครับ...ผมขอตัวก่อนนะครับ...(แล้วหมอคิตก็คว้ากระเป๋าวิ่งออกไปจากห้องผมทันที)

ผมลุกขึ้นจากเตียงยกมือไหว้ป๊ากับแม่ แล้วก็พยายามควานหามือถือที่ยังเล่นเพลงนี้อยู่ เพื่อจะกดปิดมันให้ได้

แม่พี่เขม : แหม่ฟังเพลงอย่างกับคนอกหักเลยนะลูก

ผมรวบรวมความกล้าแล้วบอกแม่ไปตามตรงทำเอาแม่กับป๊าอึ้งไปเลยทีเดียว...ผมควานหามือถือเจอแล้วก็ปิดเพลง...แล้วแม่พี่เขมก็มานั่งข้าง ๆ ผมแล้วก็กอดผมไว้แน่น

ผมบอกกับแม่และป๊าไปว่า ผมไม่ได้เจอพี่เขมมา 3 วันแล้ว แล้วก็ไม่ได้รับการติดต่อจากเค้าอีกด้วย...ผมขอแม่กับป๊าว่าอย่างตำหนิพี่เขมเพราะ พี่เขมได้เลือกแล้วว่าคนที่พี่เขมรักจริง ๆ คือใคร และก็ขอให้ป๊ากับแม่ ยกโทษให้ผมด้วยเพราะผมไม่อยากจะบอกเรื่องราวทั้งหมดกับท่านในตอนแรก

แม่พี่เขม : บีลูก...ยะหยังบ่อบอกแม่ก่อนหละลูก...แม่จะได้จัดการไอ้เขมมัน(บีลูกทำไมไม่บอกให้แม่ก่อนหละลูก แม่จะได้จัดการไอ้เขมมัน)

ป๊าพี่เขม : บี...แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้างลูก...ป๊าเป็นห่วงนะ

บี : ตอนนี้ผมดีขึ้นมากแล้วครับแม่...ป๊า...น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้บ่าย ๆ นี้แหละครับ

ป๊าพี่เขม : ไอ้เขมมันชักจะเหลวไหลใหญ่ละนะ เด๋วป๊าคงต้องเคลียให้แล้วหละเรื่องนี้

บี : อย่าเลยครับป๊า...ผมรักพี่เขมครับ ถ้าพี่เขมไม่มีความสุข ที่จะอยู่กับผม ผมก็ต้องปล่อยพี่เขมไปครับ...(ตอนนี้น้ำตาผมมันเอ่อล้นมาอีกครั้งหลังจากที่แน่ใจกับตัวเองตั้งแต่แรกว่าจะโอเคแล้ว)

แม่พี่เขม : โอ๋ ๆ ๆลูกไม่ร้องนะ...แม่ก็นึกว่าไม่สบายจริง ๆ ที่ไหนได้ เป็นเรื่องนี้

บี : ผมดีขึ้นแล้วครับ...ยังไงก็ ผมขอขอบคุณป๊า กับ แม่มากนะครับ ที่ รักและเอ็นดูผมตลอดที่ผ่านมา...ผมคงอาจจะไม่ได้เจอป๊ากับแม่อีก ผมรักและเคารพป๊า กับแม่ เหมือนเป็นพ่อแม่ของผมจริง ๆ ที่อยู่ที่กรุงเทพนี้เลยนะครับ...(แล้วน้ำตาผมก็ไหลออกมาไม่หยุดครับ)

แม่พี่เขม : ไม่เอาสิลูกไม่ร้องนะ...แม่ก็ยังเป็นแม่ของลูกอยู่เสมอนะ ถึงลูกจะไม่ได้คบกับเขมแล้ว แม่ก็ยังอยากจะเจอลูกอยู่นะลูกบี

ป๊าเดินเข้ามากอดผมกับแม่ไว้ด้วยกัน... “ป๊าไม่เคยคิดเลยนะว่าบีเป็นคนอื่น ป๊าคิดมาตลอดว่าบีเป็นลูกของป๊าคนหนึ่งนะลูก”

คำพูดของป๊ายิ่งทำให้ผม หยุดร้องไห้ออกมาไม่ได้ มันยิ่งทำให้ผมสะอื้นหนักไปอีก ป๊าถอดแว่นออกมาแล้วเช็ดน้ำตาของป๊าเอง...มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น ผมทำให้แม่กับป๊า ของพี่เขมเสียน้ำตา...ผมช่างเป็นลูกที่ไม่ได้เรื่องเอาซะเลยจริง ๆ  ผมพยายามหยุดร้องไห้...หายใจลึก ๆ แล้วก็เช็ดน้ำตาให้กับแม่ของพี่เขม

มีต่อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 28 หมอคิตทำคะแนน P.4 ( 5-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 07-11-2017 18:38:08
บี : แม่ครับ...ต่อจากนี้ไป...รักษาตัวเองดี ๆ นะครับแม่...ป๊าครับ...ผมรักป๊ากับแม่มากนะครับ...

ผมหยุดเพื่อที่จะสูดลมหายใจอีกครั้งเพื่อจะได้บอกในสิ่งที่ผมต้องการให้จบ

บี : จากนี้ไปผมคงไม่สามารถไปที่บ้านป๊าได้อีก มันคงจะทำให้พี่เขมอึดอัดใจ ป๊ากับแม่.....

พยาบาลเคาะห้องแล้วเข้ามาตรวจอาการผมครับ....พยาบาลทำหน้าตาตกใจมากที่เห็นพวกเรา 3 คนนั่งกอดกันร้องไห้อยู่...แล้วพยาบาลก็หยิบแฟ้มดูแล้วดูอีก...คงจะตกใจกับการที่คนไข้เป็นหวัด แต่ 3 คน นั่งร้องไห้เหมือนผมเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
พอพยาบาลตรวจเสร็จ...ป๊ากับแม่ก็เข้ามาถามถึงอาการ

พยาบาล : คนไข้ ไม่ได้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่นะคะ เด๋วก่อนเที่ยงหรือหลังบ่ายก็คงจะกลับบ้านได้แล้วค่ะ...คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลใจนะคะ คุณคนไข้เป็นปกติดีค่ะ

ป๊ากับแม่พยักหน้าเป็นการตอบรับ...แล้วคุณพยาบาลก็เดินออกจากห้องไป ผมกับป๊าและแม่พากันหัวเราะขำพยาบาลที่เข้ามาขัดจังหวะ...แต่มันก็ดีครับ มันทำให้บรรยากาศต่าง ๆ เปลี่ยนไปหมด ป๊าเปลี่ยนเรื่องในการคุยทันที

ป๊าพี่เขม : เช้านี้อยากกินอะไร เด๋วป๊าสั่งมาให้กินเลย

แม่พี่เขม : หูฉลามน้ำแดง พระกระโดดกำแพง หรือว่าปลาเต๋าเต้ยราดพริกว่ามาเลย

บี : ผมอยากกิน...ก๋วยเตี๋ยวครับ

ป๊าพี่เขม : ขออะไรให้มันแพง ๆ หน่อยไม่ได้เหรอลูกเอ้ย

บี : ก็ผมชอบกินอ่ะป๊า...

แม่พี่เขม : ป๊าก็ไปซื้อมาให้ลูกหน่อยละกัน เด๋วแม่ดูแลบีอยู่ที่นี่ละกัน

ป๊าพี่เขม : แล้วให้ป๊าไปซื้อแถวไหนหละ

แม่พี่เขม : ก็เอาที่ไหนก็ได้ที่อร่อย ๆ อ่ะ

ป๊าพี่เขม : อ่าก็ได้ ๆ แต่ไม่อร่อยห้ามว่านะ

บี : แม่ครับป๊าครับ...ไม่ต้องก็ได้ครับ...บีกินอาหารโรงพยาบาลได้

แล้วห้องผมก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง...ครั้งนี้คนที่มาเนี่ย...เป็นคนที่ไม่คาดคิดสุด ๆ เลยครับ....หมอพร...มาจากไหน แล้วรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่...ต้องเป็นหมอคิตแน่  ๆ

หมอพร : อ่าวคุณพ่อคุณแม่สวัสดีค่ะ คุณบีหายดีแล้วนะคะ เด๋วก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ

บี : หมอพรสวัสดีครับ...นี่หมอพรครับ ป๊า แม่ หมอพร คือคนที่รักษากายภาพให้พี่เขมครับ...หมอพรครับ...นี่ป๊ากับแม่พี่เขมครับผม

หมอพร : อ่อ ๆ คุณพ่อคุณแม่แฟนน้องบีเหรอคะ

แหม่ หมอพร หมอคิต อัพเดทข้อมูลกันยังไงเนี่ย...บอกก็บอกไม่หมด พาเอาบรรยากาศในห้องเสียลงไปในพริบตา

หมอพร : เออ....หมอซื้อก๋วยเตี๋ยวเจ้าที่เราเคยไปกินด้วยกันมาฝาก

บี : โหย...รักเลยครับเจ๊...ผมกำลังอยากกินพอดีเลยครับ

ป๊ากับแม่พี่เขมก็ทำท่ายิ้มเจื่อน ๆ

บี : ป๊าคับแม่ครับ กลับก่อนก็ได้นะครับเด๋วบ่าย ๆผมก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วครับ เด๋วหมอคิตจะไปส่งที่คอนโดผมให้ครับไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ

ป๊าพี่เขม : ให้ป๊าไปส่งได้ไม๊ลูก

แม่พี่เขม : นะ ๆ แม่ก็อยากไปส่งลูก

หมอพร : ไม่เป็นไรค่ะ เด๋วคิตไปส่งเอง จะได้ไม่รบกวนคุณพ่อคุณแม่ด้วย

ป๊ากับแม่ทำหน้าตาเสียใจมากครับที่ผมปฏิเสธ...แต่ป๊ากับแม่ก็เดินมากอดผม แล้วก็พูดว่า... “ยังไงก็มากินข้าวกับแม่บ้างนะลูก...ถ้าแม่โทรหาก็ต้องรับนะรู้ไม๊ ถ้าไม่รับ แม่จะตามไปที่คอนโดเลยนะ”

ป๊า : บี...ป๊าก็ยังเป็นป๊าของลูกเสมอนะ แม่ก็ด้วย มีอะไรโทรหาได้ตลอดเลยนะลูก

แล้วป๊ากับแม่พี่เขมก็ออกจากห้องไปครับ ปล่อยให้ผมกับหมอพรอยู่ด้วยกัน หมอพรบอกว่าได้ข่าวจากหมอคิตตอนเช้า เพราะหมอคิตจะของให้ช่วยอยู่เวรให้หน่อยเพราะจะไปส่งผมที่คอนโด ผมก็เลยบอกหมอพรไปครับว่าไม่ต้องหรอก เด๋วผมกลับแท็กซี่ก็ได้ แต่หมอพรก็ไม่ยอมครับ...เพราะหมอคิตกำชับแล้วว่าจะต้องไปส่งผมที่คอนโดให้ได้ พอบ่ายโมง ผมก็ได้ออกจากโรงพยาบาลครับ...แล้วก็เป็นไปตามคาด หมอคิตขับรถไปส่งผมที่คอนโดครับ....
หมอคิต : นั่งสบายไม๊คับ...

บี : นั่งสบายดี คิตอย่ามาเวอร์...บีก็คนทั่วไปเนี่ยแหละ รถเครื่องก็เคยแว้นสมัยอยู่มหาลัย

หมอคิต : เรียนมช.ด้วยใช่ป่ะ

บี : ใช่...แล้วคิตอ่ะ

หมอคิต : คิตก็เรียนมช.แหละ

บี : อ่าวงี้ก็ต้องรู้จัก...ผมไล่ชื่อเพื่อนผมที่เป็นแพทย์ มช.ให้คิตฟัง แล้วคิตก็รู้จักทุกคนเลยครับ

บี : งี้เด๋วไปถามเพื่อนดีกว่าว่ารู้จักหมอคิตไม๊ จะได้รู้ว่ารุ่นอะไร

หมอคิต : เฮ้ย ขี้โกงหวะ

บี : อ่าวก็ไม่บอกก็ต้องหาวิธีเองมะ

หมอคิต : อ่าๆ ๆ บอกก็เดะ ผมเด็กกว่าบี 2 ปี

บี : เฮ้ย จิงดิ...ก็อาจจะเคยเจอหน้ากันมาก่อนอะดิ

หมอคิต : เคยดิทำไมจะไม่เคยหละ...แต่บีคงจำไม่ได้หรอก

บี : ทำไม...ไปทำหน้ามาเหรอ...คนเลยจำไม่ได้เนี่ย...มาไกลนะเรา

หมอคิต : เด๋วจะโดน...นี่ไม่ได้ทำอะไรเลย...หมอทำทั้งนั้น

บี : จ๊ะ...นี่เป็นหมอตลกคาเฟ่เหรอ

หมอคิต : ก็ประมาณนั้น

แล้วก็มาถึงคอนโดผมครับ...ผมเดินขึ้นห้องไปแล้วผมก็ปิดประตูล็อคห้องแล้วก็ทำการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบอย่างจริงจัง...สิ่งที่ผมกลัวที่สุดตอนนี้คือการที่พี่เขมจะเปิดประตูเข้ามาในห้องผม...ผมไม่รู้จริง ๆครับว่าตอนนี้ตัวเองพร้อมไม๊ ที่จะเคลียปัญหาทั้งหมด ถ้าพี่เขมจะมาจริง แต่อีกใจหนึ่งผมก็รู้แน่นอนว่าเค้าคงไม่มาหรอก เพราะถ้าเค้ามา คนของเค้าก็ต้องไม่โอเคแน่นอน...ผมเปิดเพลง ของ ปาล์มี่ไปด้วยตลอดการอ่านหนังสือ ผมไม่เคยคิดเลยนะครับว่าเพลงของเค้าเนี่ยจะมีเพลงอกหักเยอะขนาดนี้...แล้วผมก็คิดว่าตัวเองเนี่ย สตรองขึ้นมากกกกก น่าจะสามารถต่อสู้กับอะไรก็ได้แล้วตอนนี้ ยกเว้น....พี่เขม

หัวใจผมตอนนี้ มันก็คงจะเริ่มชินชาแล้วครับ...นี่ถ้านับจริง ๆ ก็จะ 3  วันเต็ม ๆ แล้วครับ ที่ผมไม่ได้รับการติดต่อจากพี่เขมเลย ผมนึกในใจว่า คนเรามันจะเปลี่ยนไปได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ อย่างน้อย ๆ ถ้าจะเลิกกันมันก็ควรมี ปฏิกิริยาอะไรให้ผมรับรู้ก่อน บ้างไม๊ หรือช่วงนี้เป็นช่วงที่เราทั้ง 2 คนใส่ใจกันและกันน้อยลง มันเลยทำให้เกิดช่องว่างระหว่างเรา และพอเค้าพบว่าคนที่เค้ารอคอย เป็นโสด เค้าจึงรีบฉวยโอกาสทันที มันอาจจะเป็นกรรมในชาติที่แล้วก็ได้ หรืออาจจะเพราะเราไม่ได้เกิดมาคู่กันจริง ๆ ก็เป็นได้ครับ ผมได้แต่คิดแบบนี้ปลอบใจตัวเอง...ถ้าไม่ติดว่าจะต้องสอบนะ...จะไปนั่งสมาธิที่วัดป่าซักแห่งแล้วหละ...ว่าแล้วผมก็ต้องอัพเดตเรื่องราวต่าง ๆ ให้เพื่อนสุดที่รักของผมฟังก่อนครับ...ผมกดโทรศัพท์หาเพื่อนเปรี้ยวทันที เปรี้ยวยังไม่รับครับ...สงสัยจะยุ่งอยู่หรือไปบิน แล้วผมก็เข้าไปเช็ค เฟสบุ๊ก แล้วก็ไลน์ของผมครับ ตอนนี้ เฟสของผมแทบแตกครับ...เพลงที่ผมโพสไปล่าสุด มีคนมาคอมเม้นมากมาย ทั้งให้กำลังใจ ทั้งแสดงความเสียใจ ทั้งถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็มีคอมเม้นป่วน ๆ จากพี่ ๆ แอร์กี่สมัยที่ผมจีบกันแรก ๆ กับพี่เขม คอมเม้นฮา ๆ จากเพื่อน ๆ พวกไอ้ปืนและเพื่อนในรุ่น และที่สำคัญที่สุดคือ แก้งของพี่เขมครับ...ทุกคนดูโวยวาย มากมาย เหมือนจะฉีกเนื้อกินเลือดพี่เขมเลยทีเดียว คอมเม้นที่ผมสะดุดตาที่สุดก็คงจะเป็นคอมเม้นจากพี่ต้าครับ... จากที่พี่ต้าไม่เคยคุยกับผม ตอนนี้ดูเป็นห่วงผมซะแล้ว ผมทำการบล๊อคช่องทางการติดต่อทุกอย่างของพี่เขมไว้ ไม่ว่าจะเป็น เฟสบุ๊ค ไอจี ไลน์ แล้วก็ลบเบอร์โทรศัพท์ทิ้งไปครับ

แล้วเปรี้ยวก็โทรกลับมาครับ...

เปรี้ยว : เมิงกรูเพิ่งแลน

บี : เมิง กรูมีเรื่องจะอัพเดตมากมาย

เปรี้ยว : โอย...เรื่องพี่เขมกรูเบื่อจะฟัง...ทำไม มึงท้องกับเค้าแล้วเหรอ

บี : กรูเลิกกับเค้า

เปรี้ยว : เหี้ยยยยย....มึงอยู่ไหน เด๋วกรูไปหา

บี : แต่กรูโอเคแล้วเมิง

เปรี้ยว : มึงจะโอเคได้ไงฟระ....

บี : มันผ่านมา 3 วันแล้วมึง

เปรี้ยว : สัสกรูไปค้างจีนมา มันเล่นเฟสไม่ได้ กรูก็ไม่ได้ติดต่อเมิงเลย

บี : อ่า ๆ รีบกลับมา พาเพื่อนไปกินข้าวหน่อย...เพื่อนเหนื่อย

เปรี้ยว : ได้ ๆ เด๋วกรูรีบกลับไป

   หลังจากนั้นผมก็ไปกินข้าวกับเปรี้ยวครับ...อัพเดตสาระทุขสุกดิบกันต่าง ๆ นา ๆ อีเปรี้ยวบอกว่าแทบจะไม่เชื่อเลยว่าคน คนนึงมันจะเปลี่ยนอะไรไปได้เร็วขนาดนี้...แต่ความรักทุกครั้งมันเกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอเว้ย...อย่างน้อย ๆ เมิงก็ได้รักพี่เค้าแล้วจริงไม๊...เราควรจะยินดีมากกว่าเสียใจที่ ในที่สุดแล้วเราทำทุกอย่างแล้ว เราไม่ได้ทำผิดอะไร แต่แค่ความรักมันเข้ากับเราไม่ได้ ก็เท่านั้นเอง... อีเปรี้ยวบอกอีกว่า ความรักที่ผมมีให้พี่เขม มันดีมาก มันจะไม่กลับมาทำร้ายตัวผมเอง เพราะเราหวังแค่ให้คนที่เรารักมีความสุข เราไม่ได้หวังที่จะครอบครองในตัวเค้า มันดีมากแล้วจริง ๆ

   มันเป็นความจริงครับ..ฟังดูมันอาจจะน้ำเน่ามาก แต่ถ้าให้ผมรั้งพี่เค้าไว้ ว่าให้อยู่กับผม ผมก็คงจะได้แต่ตัวพี่เค้าครับ...ถ้าใจพี่เค้าไม่อยู่แล้วเราทั้งคู่จะมีความสุขได้อย่างไร คิดได้อย่างนี้แล้ว....อีเปรี้ยวแทรกขึ้นมาทันที... “ถ้ามึงคิดได้อย่างนี้แล้วก็...ไปบวชชี ซะนะเมิง” ....55555555

   พอกลับมาจากกินข้าวผมก็เห็นรถที่คุ้นตาจอดอยู่ที่คอนโดผมครับ...ผมตกใจมากรีบหลบตัวลงทันที...อีเปรี้ยวหันมาถาม... “เมิงเห็นอะไรที่กรูไม่เห็นเหรอ”

บี : กรูเห็นรถพี่เขม

เปรี้ยว : ไหนฟระ รถอะไร รถเหมือนรึป่าว

บี : X6 จะมีใครเหมือนไม๊หละ

เปรี้ยว : เออหวะ...แล้วมึงจะทำไง

บี : กรูไม่รู้หวะ...เอาไงดีเมิง

เปรี้ยว : ถ้าพี่เค้ามาขอคืนดีมึงจะทำไง

บี : กรูไม่พร้อมกรูบอกเลย

เปรี้ยว : งั้นมึงก็บอกเค้าไปว่าห่างกันก่อน ขอสอบให้ผ่านไปก่อนแล้วค่อยคุยกัน

บี : หรือพี่เค้าจะมาเอากุญแจคอนโดเค้าฟระ เด๋วกรูขึ้นไปเอามาคืนเลยดีกว่า

เปรี้ยว : เออ...แม่ง! คนแบบนี้ก็มีเหรอฟระ

บี : อะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อหมดรัก

เปรี้ยว : ก็จริง!

   ผมเดินลงจากรถเปรี้ยวตรงไปที่รถที่ผมคุ้นตา พอผมเดินใกล้เข้าไปผมก็เห็นพี่เขมครับ...มันบีบหัวใจผมมากกเลยทีเดียว...มันทำให้ผมแทบจะวูบไปเลย แล้วพี่เขมก็ลงจากรถวิ่งตรงมาที่ผม พี่เขมวิ่งเข้ามาทำท่าจะโอบกอดผม ผมใช้มือขวา ยกห้ามเอาไว้ แล้วมองหน้าพี่เขมด้วยความเย็นชา...พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบที่สุด

บี : เด๋วผมไปเอากุญแจคอนโดมาให้ รอตรงนี้นะ

พี่เขม : บี มันไม่ใช่อย่างที่บีคิดนะ

บี : รอตรงนี้นะ!

พี่เขม : ให้พี่ได้อธิบายก่อนได้ไม๊

บี : รอตรงนี้!

   พี่เขมทำท่าหงุดหงิดมากแล้วเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น...ผมเดินถอยออกห่างจากพี่เขมตามลำดับ มือก็ยังคงยกห้ามไม่ให้พี่เขมเข้ามาใกล้ เพราะกำแพงที่ผมเริ่มก่อใหม่มันยังไม่แข็งแรงดีพอ...ผมไม่รู้ว่ามันจะทน ได้อีกนานแค่ไหน กับคำพูดต่าง ๆ กับพี่เขม...ใจผมนั้นก็อยากจะฟังเรื่องทุกอย่างให้มันจบ ๆ ไป แต่อีกใจก็บอกตัวเองว่า รอให้ผ่านการสอบไปก่อนได้ไม๊ เพราะตอนนี้ สิ่งที่เราควรจะโฟกัสที่สุดก็คือ อนาคตของตัวเอง ไม่ใช่ความรักที่ผมไม่รู้ว่าจะเชื่อได้อีกหรือไม่

พอพี่เขมหยุด ผมรีบเดินจากพี่เขมออกมาแล้วขึ้นลิฟท์ไปกับเปรี้ยว

เปรี้ยว : มึงเอาไง ให้กรูอยู่เป็นเพื่อนไม๊

บี : ไม่เป็นไรมึง กรูจะเอากุญแจไปคืนแล้วก็บอกให้กลับไปเลย ยังไม่ต้องคุยกัน

เปรี้ยว : พี่เค้าจะยอมเหรอฟระ

บี : ไม่ยอมก็ต้องยอมละ...เพราะตอนนี้กรูไม่ยอมใครแล้วทั้งนั้น

เปรี้ยว : มึงเด็ด...กรูนับถึงจริง ๆ ...ถ้าไม่ไหวบอกกรู...กรูอยู่ห้องรอ โอเคนะ

บี : ได้...เด๋วกรูบอก

   ผมเปิดประตูเข้าไปในห้อง หากุญแจคอนโดของพี่เขม หาเท่าไหรก็หาไม่เจอ ผมจำไม่ได้ว่าผมเอาไปไว้ตรงไหน ผมค้นทั้งกระเป๋าบิน ลิ้นชักทุกอัน ที่เก็บกุญแจ ก็ไม่เจอ ผ่านไปซักพัก มีเสียงเคาะห้องแล้วก็ไขกุญแจเข้ามา ผมตกใจมาก...ผมรีบวิ่งเอาตัวไปยันประตูเอาไว้....พี่เขมไขประตูห้องผมเข้ามา...ผมพยายามดันประตูแล้วบอกให้พี่เขมออกไป

พี่เขม : พี่ขอคุยกับบีหน่อยได้ไม๊...เรามาคุยกันดี ๆ นะบี

บี : มันไม่สายไปหน่อยเหรอพี่เขม...ผมรอพี่ 3 วัน 3 คืน แล้วตอนนี้พี่ยังต้องการอะไรจากผมอีก...

พี่เขม : พี่พยายามติดต่อบีแล้วแต่พี่โทรหาบีไม่ได้เลย

บี : แต่ผมไม่ได้รับการติดต่อจากพี่เลยนะ....จนผมเข้าโรงพยาบาล ผมก็รอพี่ทั้งวัน ผมก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา

พี่เขมไม่ตอบอะไร...

พี่เขม : เรามาคุยกันดี ๆ ได้ไม๊คับ..บี

บี : พี่เขม...ผมเคยขอพี่ว่ายังไงจำได้ไม๊

พี่เขม : เราจะไม่ทะเลาะกันข้ามคืน

บี : แล้วนี่ผ่านไปกี่วัน

พี่เขม : พี่ไม่รู้ต้องทำยังไง...พี่กลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้

บี : งั้นอนาคต...มันก็คงเปลี่ยนแปลงไม่ได้เช่นกัน

พี่เขม : บีจะเลิกกับพี่เพราะเรื่องแค่นี้เหรอ

บี : อย่าให้ผมต้องเป็นคนพูดเลยพี่เขม การกระทำของพี่ มันบอกชัดเจนอยู่แล้ว

พี่เขม : บีกำลังเข้าใจพี่ผิดนะ

บี : พี่เขม...ผมจะไม่เถียงกับพี่แล้วนะ...หยุด แล้วปล่อยผมไปเถอะ

   พี่เขม หยุดการดันประตู ประตูถูกปิดดังปัง....เสียงเงียบกริบไป ไม่มีการตอบจากพี่เขม ผมนั่งลงเอาหลังพิงประตูไว้ แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาครับ....กำแพงที่เพิ่งจะก่อเสร็จ ที่จะทำเป็นปราการเพิ่งป้องกันพี่เขม มันได้ถูกพังทลายลงหมดแล้วครับ ผมทำอะไรไม่ได้แล้วจริง ๆ ผมแพ้ แพ้หมดทุกสิ่ง...ถึงผมจะรักพี่เขมมากเท่าไหร...แต่การที่เราเห็นคนรักของเรา ไปดูแลคนอื่น แล้วตัวเราเองก็เหมือนคนอกหัก แต่คนที่ควรจะดูแลเรา กลับไม่อยู่...มันเป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้จริง ๆ ครับ แล้วผมก็ไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่า คืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง...พี่เขมอาจจะนอกกายและนอกใจผมไปแล้วก็ได้

พี่เขมเคาะประตูเบา ๆอีกคร้ัง

พี่เขม : บีครับ...พี่จะเล่าให้ฟังนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง

บี : ผมไม่อยากฟัง...ฮือ ๆ ๆ ๆ...(ผมไม่สามารถควบคุมเสียงตัวเองได้อีก)

พี่เขม : คืนนั้น.... ไอ้เหี้ย...มึงกล้ามาที่นี่เลยเหรอ

   ผมตกใจรีบเปิดประตูออกไปดู...แล้วคนที่ออกมาจากลิฟท์ก็คือ หมอคิต พร้อมกับถุงข้าว....ผมรีบออกไปห้ามทัพไว้ ไม่ให้ 2  คนมีเรื่องกัน

พี่เขม : เพราะมันใช่ไม๊....บีถึงได้ ไม่ยอมฟังอะไรจากพี่

ผมไม่ตอบ...ก้มหน้าแล้วเอามือยันทั้งสองให้ห่างออกจากกันไว้

บี : กลับไปให้หมดทั้งคู่...ไม่งั้นอย่าห่าวว่ากรูไม่เตือนมึงทั้งสองคนนะ...!!!

ผมตะโกนด้วยเสียงที่โกรธและอาฆาตมาก...ทั้งพี่เขมและหมอคิต หน้าเปลี่ยนสีเลยทันที แล้วหันมาจ้องหน้าผมทั้งคู่

บี : ถ้ามึงสองคนยังไม่ไป...ชีวิตนี้ มึงสองคนอย่าหวังว่าจะได้เจอกรูอีก

หมอคิต : บี...ผมแค่..

พี่เขม : บี...ให้พี่อธิ...

บี : กูจะนับ 1 ถึง 3

บี : 1

บี : 2


หมอคิต : โอเคผมยอม...ผมไปเด๋วนี้แหละ

พี่เขม : บีแต่ว่า...

ผมจ้องหน้าพี่เขมแบบเอาเป็นเอาตาย...หมอคิตทำท่ากวักมือเรียกพี่เขมให้ลงลิฟท์

พี่เขม : แล้วพี่จะกลับมา

ผมเดินไปที่พี่เขม แล้วกระชากเอากุญแจห้องผมมาจากมือพี่เขม....

บี : มึงไม่มีสิทธิ์ใช้มันอีกแล้ว!

   แล้วผมก็เดินเข้าห้องไป...ปิดประตูดังปัง!....เสียงเงียบไปหมดทั้งชั้นเลยครับ...ผมนั่งนิ่ง ๆ แล้วค่อย ๆ คิดว่าจะทำยังไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดี แล้วประตูห้องผมก็ถูกเคาะอีกครั้ง...ผมสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินไปเปิดประตูพร้อมจะหาเรื่องทุกคนที่มาอยู่หน้าประตูผม...แต่คน คน นั้นคือ อีเปรี้ยว ผมสวมกอดอีเปรี้ยวอย่างจัง ร้องไห้ อย่างกับคนเสียของรักไป

เปรี้ยว : อีสัส...ทำไมมึงโหดจังฟระ...กรูอยู่ด้านบน กรูยังได้ยินหมดเลย

บี : อีเหี้ย...ก็แม่งเสือกมาทำไมทั้ง 2  ตัวพร้อมกันหละ แค่คนเดียวกรูก็ปวดหัวจะระเบิดอยู่ละ...แล้วยังจะมาตีกันให้กรูเห็น...กรูเลยต้องเปิดโหมด โหดสัสรัสเซีย

เปรี้ยว : กรูไม่เคยเห็นโหมดนี้มึงเลย...ไม่ดิ กรูเคยเห็นตอนมึงมีเรื่องในผับ แต่ก็ไม่น่ากลัวขนาดนี้

บี : เออ...นานมากละที่ด้านมืดกรูไม่ออกมาชมโลกอ่ะ

เปรี้ยว : มึงเสียงดังไปทั้งคอนโด..เมิงโดนเม้าไม่หยุดปากแน่

บี : กรูจะยังอยู่ที่นี่ได้ป่าวฟระ

เปรี้ยว : มึงยังมีกรูไง...

บี : รักมึงนะเปรี้ยว



To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 29 นับ 1-3 P.4 ( 7-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Fahsaizzz ที่ 07-11-2017 19:10:37
อิพี่เขมหายไปไหนมาาาาาาาา หลุดไปนอกโลกมาหรอ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 29 นับ 1-3 P.4 ( 7-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 07-11-2017 20:17:30
 :pig4: :L1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 29 นับ 1-3 P.4 ( 7-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 07-11-2017 21:10:32
โหดสัสรัสเซียจริงๆ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 29 นับ 1-3 P.4 ( 7-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-11-2017 22:40:58
 :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 29 นับ 1-3 P.4 ( 7-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 07-11-2017 22:58:14
บีสายโหด 5555
ไงล่ะพี่เขม สมน้ำหน้า ต้องเจอแบบนี้

 รักมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่ถนอมรักที่ให้ ก็หมดโควต้าได้เหมือนกันนะ

ปล. โพสตอน29 ซ้ำกัน2รอบรึเปล่าคะ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 29 นับ 1-3 P.4 ( 7-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 08-11-2017 07:21:42
บีโหดจริง555 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 29 นับ 1-3 P.4 ( 7-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 08-11-2017 07:23:14
ตอนที่ 30 เรื่องที่เคยขอ

วันสอบต้นเดือนธันวาคม...ลมหนาวที่กรุงเทพไม่ค่อยจะได้สัมผัส ปีนี้มีลมหนาวจนทำให้คนหลาย ๆ คนต้องเอาเสื้อกันหนาวออกมาใส่...

หลังจากการสอบเสร็จ....ผมเดินออกจากห้องสอบด้วยหัวอันหนักตื้อ..วันนี้ผมเจอเพื่อนในรุ่นมากมาย เดอะแก้งค์จะพากันไปฉลอง ที่ร้านคาราโอเกะชื่อดังย่านสนามบิน พวกเราทุกคนปลดปล่อยออกมาเต็มที่ ทุกคนมุ่งตรงคำถามมาที่ผมว่า เกิดอะไรขึ้นกับ ความสัมพันธ์ ระหว่างผมกับพี่เขม... เรื่องน้ีกลายเป็นท๊อปปิกหลักในการสนทนา หลังจากทุกคนเลิกอ่านหนังสือ ทุกคนก็เริ่มกิจกรรมการเผือกเรื่องชาวบ้านที่ไม่ได้อัพเดตมาแรมเดือน

ผมบอกทุกคนไปว่าเราเลิกกันแล้ว...แล้วเพื่อน ๆ ก็ถามต่อว่าแล้วน้องเจ นี่ยังไง ผมก็ตอบกลับไปว่าไม่รู้ว่ายังไงกันแน่ แต่ดีที่ไม่มีใครรู้เรื่องความโหดบ้าคลั่งของผม จะมีก็แต่ คนในคอนโดของผมเท่านั้น

ปืน : เฮ้ย...ไอ้บี...พี่เขมโทรมาหวะ...ให้กรูทำไงดี

บี : มึงใครลงรูปไปยังว่าอยู่ที่ไหน

แก้งนางฟ้าของผมต่างตอบกันว่าลงกันไปตั้งแต่มาถึงแล้ว...งั้นผมก็ไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังอะไรใคร

บี : ปืน มึงก็รับเหอะ...เค้าอาจจะอยากคุยกับมึงก็ได้...โทรศัพท์กรูก็มี เค้ายังไม่เคยโทรหากรูเลย

ปืน : จริงเหรอฟระ...หรือมึงบล๊อคเบอร์พี่เค้า

บี : กรูยังทำไม่เป็นเลยค๊าบบบ......พี่น้อง

ปืน : เอองั้นกรูรับนะ

ปืนบอกให้ทุกคนเงียบแล้วฟัง...เพราะไอ้ปืนเปิดลำโพง...ทุกคนต่างเป็นใจ

ปืน : สวัสดีครับพี่เขม

พี่เขม : ปืนเหรอ...อยู่ที่ไหนกันอ่ะ บีอยู่ด้วยไม๊ พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับบีอ่ะ

ปืน : พี่เขมจะคุยอะไรกับเพื่อนผมอีกครับ...

พี่เขม : พี่ต้องเคลียกับบีอ่ะ ปืนช่วยพี่หน่อยได้ไม๊

ปืน : พี่เขมครับ...ผมเป็นเพื่อนบีนะพี่...ผมต้องรักเพื่อนดิ

พี่เขม : พี่ก็ยังรักบีอยู่นะ...พี่ขอไปหาได้ไม๊

ผมพยักหน้าเป็นการตอบรับไอ้ปืน

ปืน : ผมอยู่ร้านคาราโอเกะแถวสนามบินครับพี่

พี่เขม : เด๋วพี่ไป

——————————————-


 ปืน : ไอ้บี...มึงจะเอาไง

บี : เด๋วกรูไปคุยกับพี่เค้าเอง...ตอนนี้กรูสตรองมาแล้ว

แก้งนางฟ้า....#ทีมพี่บีข่าาาาาาาา

บี : ไอ้พวกบ้า....ไปร้องเพลงรอกรูได้เลย...เด๋วกรูมาแด๊นด้วย

ปืน : มึงแม่ง โคตรสตรองเลยอ่ะ

ผมยักคิ้วให้กับปืน....แล้วผมก็ยกแก้วเบียร์ดื่มอย่างไม่ยั้งคิด...ความเมาจะทำให้ผมกล้าทำทุกอย่างที่ผมอยากทำครับ... ผมจะได้บอกพี่เขมให้เต็มปากซะทีว่าเรา

“เลิกกันเถอะ”

ผมอยากจะบอกคำนี้ใส่หน้าพี่เขมแรง ๆ แล้วก็เดินสะบัดตูดออกมาเลย ให้มันรู้ซะบ้างว่าไอ้ที่มันหายไปไม่มาแยแสผมเลยเนี่ย...ผมทุรนทุรายขนาดไหน...ผมเหมือนคนตายทั้งเป็น...เหมือนซอมบี้เดินได้...แล้วทุกอย่างผมก็ผ่านมันมาได้ด้วยตัวผมเองทั้งหมด ผมอยากให้เค้ารู้ว่า ต่อไปนี้ เค้าไม่ได้มีความหมายกับผมอีกแล้ว

ผมเดินออกมาจากร้านมานั่งรอพี่เขมอยู่ในรถผม...ผมหยิบเอากุญแจคอนโดของพี่เขมออกมาแล้วเตรียมเอาไปคืนเค้า...ผมนั่งรอในรถเปิดเพลง ที่ผมเพิ่งใส่เข้าไปใหม่เป็นเพลงอกหักทั้งหมด...ผมฟังทุกวันจนชาชิน ผมอยากจะกราบและเรียกปาล์มี่ว่า “คุณแม่แห่งเพลงอกหัก” ผมไม่นึกมาก่อนเลยครับว่าเพลงของเค้าจะมีเพลงอกหักแล้วทำให้ผมร้องไห้ได้มากมายเพียงนี้ แต่เพลงเหล่านั้น ตอนนี้ทำอะไรผมไม่ได้อีกแล้วครับ...ผมนั่งร้องคลอไปเรื่อย ๆ แล้วผมก็เห็น รถที่ผมเคยคุ้นตาดี เลี้ยวผ่านผมเข้าไปครับ ผมสูดหายใจลึกแล้วเดินลงจากรถ...เมื่อรถถูกจอดเสร็จ ผมเห็นคนรูปร่างสันทัด เดินลงมาจากรถครับ...แต่นั่นดูไม่เหมือนพี่เขมเลย...ทำไมคน คนนี้สูบผอมไปขนาดนี้...หน้าตาดูซีดเซียวไร้กำลัง...ผมเผ้าดูรุงรังไม่ได้ทรง มันดูไม่เหมือนพี่เขมเลยแม้แต่น้อย...หรือว่าพี่เขมแม่ง...โดนเล่นของฟระ ผมคิดในใจ...แต่จะยังไงก็ตาม ผมต้องเคลียกับเค้าให้รู้เรื่องในวันที่และที่นี้ให้จบ เพราะผมไม่อยากมีความจำกับการเลิกกัน ในสถานที่ ที่ผมต้องไปทุกวัน...มันจะกลายเป็นความทรงจำไม่ดีให้แก่ทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าเลิกกันที่คอนโดผม หรือ คอนโดพี่เขม...ภาพเหล่านั้นคงจะติดตาเราทั้งสองคน...ทุกครั้งที่เราหรือเค้ากลับมาคอนโดตัวเอง...ผมไม่อยากได้ภาพนั้นฝั่งอยู่ในหัวผมครับ...ผมจึงคิดว่า ที่นี่น่าจะเป็นที่ ที่ดีที่สุด

ผมเดินเข้าไปหาพี่เขมที่รถ...ผมยกมือไหว้ทำความเคารพพี่เขมตามที่ลูกเรือควรทำ

บี : สวัสดีครับ พี่เขม

พี่เขม : บีคับ...บี....(นัยตาของพี่เขมเปี่ยมไปด้วยความเศร้า...น้ำตาของพี่เขมเหมือนกำลังจะไหลออกมา)

บี : พี่เขมครับ...นี่กุญแจคอนโดพี่ครับ...ผมขอคืนมันให้กับคนที่ควรจะได้ใช้ดีกว่า

พี่เขม : เด๋วสิบี...ฟังพี่ก่อนได้ไม๊

บี : ได้ครับ...วันนี้ผมจะฟังพี่...แต่พี่ต้องเอากุญแจของพี่กลับไปก่อน

พี่เขม : ถ้าฟังพี่จบแล้ว...พี่จะให้คืนกับเจ้าของ ของมันนะ

บี : เจ้าของ ของมันคงไม่ใช่ผมแล้วหละครับ

พี่เขม : บีครับ...เราไปหาที่นั่งคุยกันดี ๆ ได้ไม๊

บี : ตรงโน้นมีมุมเงียบ ๆ อยู่ครับ...(แล้วผมก็ออกเดินมาโดยไม่รอพี่เขม)

พี่เขมเดินตามมาอย่างช้า ๆ แล้วเราก็มาหยุดอยู่ตรงอีกมุมหนึ่งของร้าน...ผมถามพี่เขมว่าอยากกินอะไรไม๊...

บี : พี่เขม..ทานอะไรหน่อยไม๊ครับ

พี่เขม : บีสั่งเลยครับ...พี่ทานได้หมด

ผมจงใจสั่งแต่อาหารที่พี่เขมชอบ...แล้วก็สั่งเบียร์มาให้พี่เขมอีกด้วย

พี่เขม : พี่จะขอเริ่มเลยละกันนะ

บี : ก่อนจะเริ่มครับพี่...รออาหารมาก่อนเถอะ...เด๋วจะกินกันไม่ลง

พี่เขม : ก็จริงของบี...

บี : พี่เขมเป็นไงบ้าง...สอบเป็นไงบ้างครับ

พี่เขม : ก็ดีนะ...พี่ไม่ค่อยมีกระจิตกระใจอ่านหนังสือเลย

บี : แล้วสอบทำได้ไม๊พี่

พี่เขม : อืมก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้างแหละ

บี : แล้วผลออกเมื่อไหรหละ

พี่เขม : คงจะหลังปีใหม่แหละ

บี : นานเหมือนกันเนอะ

พี่เขม : ก็เค้าคงรอหลังจากเที่ยวปีใหม่เสร็จแหละ เผื่อใครไม่ได้จะได้ ไปเที่ยวปีใหม่ได้สนุกอยู่ ถ้ารู้ว่าไม่ได้ก่อนปีใหม่นี้ พังไปเลยนะ

บี : ก็จริงเนอะ....

พี่เขม : แล้วบีหละ...สอบเป็นไง...ทำได้ไม๊

บี : ก็ได้ทำครับ...ผมก็อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ตามประสาแหละครับ

พี่เขม : ยังไงก็สู้ ๆ ละกัน....แล้วประกาศผมเมื่อไหรหละ

บี : ก็น่าจะเดือนหน้าเหมือนพี่เขมแหละครับ...

แล้วอาหารก็ถูกนำมาวางไว้หน้าเราครบทุกอย่าง...ผมตักอาหารให้พี่เขมกินก่อน เพราะผมเห็นพี่เขมสูบผอมขนาดนี้ ผมรู้สึกเลยว่า มันอาจจะเพราะส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรื่องของผมก็เป็นได้

บี : อ่าพี่เขม...กินเยอะ ๆ ตอนนี้ผอมไปละนะ

พี่เขม : พี่ขาดคนดูแลอ่ะ...แฟนพี่ลาพักร้อน

บี : น้องเจอ่ะเหรอ...แล้วน้องเค้าไปไหนหละวันนี้ปล่อยให้มาเที่ยวได้

พี่เขม : แฟนพี่ก็ลาพักร้อนไปอ่านหนังสือสอบเพอร์หนะ

บี : น้องเจสอบได้แล้วเหรอ วันนี้ไม่เห็นนะ

พี่เขม : แฟนพี่กำลังตักกับข้าวให้พี่กินอยู่นี่ไง

บี : กินเข้าไปเยอะ ๆ ทำไมปล่อยให้ตัวเองผอมอย่างนี้เนี่ย...

พี่เขมยื่นมือมาจับมือผม....แล้วนัยตาของพี่เขมก็มีน้ำตาไหลท่วมออกมา...พี่คิดถึงบีมาก...กลับมาหาพี่ได้ไม๊...พี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีบี

บี : กินก่อนแล้วค่อยพูด...ผมสั่งแต่ของที่พี่ชอบมาให้กินทั้งนั้นเลยนะ

พี่เขมพยักหน้าแล้วก็ปาดน้ำตา...ยิ้มตาหยีเห็นฟันครบทุก 32 ซี่ที่มี ผมก็นำ้ตาซึม ๆ ครับ...แต่ถ้าเทียบกับเวลาที่ผมเป็นบ้าไปนั้น...ตอนนั้นผมแย่กว่านี้มากครับ

ผมพูดคุยกันเรื่องอื่นเพื่อปรับบรรยากาศให้เป็นกันเองมากที่สุดก่อน เพราะผมไม่ได้คุยกับพี่เขมร่วม 2 อาทิตย์ได้แล้วครับ...ตอนนี้ผมยอมรับเลยว่าผม นิ่งมาก สตรองมาก ผมแทบจะไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว ที่มีพี่เขมอยู่ตรงหน้า...ผมมองพี่เขมเป็นเพียงคนที่เราเคยรู้จักกัน...คนที่ผมเคยรักหมดใจ แต่ตอนนี้ พี่เขมก็เป็นแค่คน คนนึงในชีวิตผมก็เท่านั้นเองครับ...ถามว่ายากไม๊....มันยากมากครับ...การที่จะหยุดรัก จากคนที่เคยรักหมดใจภายในระยะเวลาอันสั้นมาก...มันเป็นทั้งความรักและความหลงไหล อยู่ในเวลาเดียวกัน เป็นช่วงนี้หวานฉ่ำที่สุดในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้

พี่เขม : ให้พี่เล่าได้รึยัง

บี : พี่เขมครับ...ผมสาระภาพเลยนะตอนนี้ ...

พี่เขมเอามือมาปิดปากผม...แล้วพูดว่า

พี่เขม : พี่ขอเล่าก่อน...ก่อนที่บีจะบอกอะไรกับพี่...นะ

ผมพยักหน้าเป็นการตอบรับ

พี่เขมเล่าว่า...




วันที่ผมไปเจอพี่เขมที่คอนโดหนะ...น้องเจกำลังอกหักแล้วชวนให้พี่เขมออกไปกินเหล้าด้วย...พี่เขมก็จำใจไปแต่พี่เขมเลือกจะไปในร้านที่มีพี่เก่งและเพื่อน ๆ ในวงเล่นดนตรีอยู่ด้วยเพื่อจะได้อยู่ในสายตาของเพื่อนเผื่อมีอะไรที่ต้องช่วยกัน...แล้วน้องเจก็เมามากจนไม่ได้สติ...พี่เขมก็เลยต้องพากลับไปที่คอนโด แล้วพี่เขมก็ตามพี่เก่งมาด้วยแต่พี่เก่งติดเล่นดนตรียังออกมาไม่ได้ พี่เขมจึงพาน้องเจกลับคอนโดพี่เขมก่อน แล้วบีก็มาเจอพี่พอดี...หลังจากท่ีบีออกไป...พี่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับน้องเจ...จึงเอาน้องเจไปไว้ที่ห้องก่อน...แล้วรอให้ไอ้เก่งกลับมาเพื่อที่พี่จะไปหาบีได้...พี่ลงไปรับเก่งให้ข้ึนมาดูน้องเจแทนพี่แล้วพอพี่กลับมาน้องเจก็หายตัวไปแล้ว...พี่กับไอ้เก่งพากันตามหาตัวน้องเจเพราะกลัวว่าน้องเจจะคิดสั้น...แต่ก็หาไม่เจอจนยามบอกว่าเห็นคนเดินออกไปขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว...พี่ก็เดาเอาว่าเป็นน้องเจ พี่พยายามติดต่อน้องเจแต่น้องเจก็รับโทรศัพท์แล้วก็พูดไม่เป็นภาษา แล้วก้ได้ยินแท็กซี่บอกว่าจะไปที่คอนโดน้องเจ พี่กับไอ้เก่งก็เลยไปรอที่คอนโด แล้วก็พาน้องเจขึ้นห้องไป

หลังจากนั้นพี่ก็ตรงมาหาบีเลย...แล้วพี่ก็โทหาบีไม่ติดตั้งแต่วันนั้นมา ไลน์ก็ไม่ได้ เฟสบุ๊กก็ไม่ได้ อินสตรแกรมก็ไม่ได้...พี่ไม่รู้ว่าจะทำยังไง...พี่กับไอ้เก่งก็ได้แต่นั่งรอบีอยู่ที่ใต้คอนโด จนเช้า แบตพี่ก็หมด ไอ้เก่งก็เลยโทรหาบี แต่บีก็ไม่ลงมา ไม่นานพี่ก็เห็นป๊ากับแม่มาหาบี ตอนนั้นพี่สาระภาพเลยว่า พี่โกรธมาก...พี่คิดว่าบีเอาเรื่องนี้ไปฟ้องป๊ากับแม่ พี่จึงบอกให้ไอ้เก่งกลับ พี่สิงอยู่คอนโดไม่กล้ากลับบ้าน จนพี่กลับบ้านอีกทีจึงรู้ว่าบีนอนอยู่โรงพยาบาล...พี่ไปหาที่โรงพยาบาลเห็นหมอคิตมาเฝ้าไข้พี่ก็ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ทำให้พี่ไม่กล้าเข้าไปหาบี...จนมาถึงวันที่พี่ไปหาบีที่คอนโด...วันนั้นเป็นวันที่พี่กลัวมากจริง ๆ พี่กำลังคิดว่าพี่ต้องเสียบีไปจริงๆ  แล้วไอ้หมอคิตก็จะมาแย่งบีจากพี่ไป

พี่เขมนำ้ตาไหลไม่หยุดตลอดเวลาที่พี่เขมเล่าเรื่องราวทั้งหมดครับ...เสียงพี่เขมสั่นเพราะอาการร้องไห้แล้วก็พูดไปด้วย...หลังจากพี่เขมเล่าคร่าว ๆ จบ พี่เขมก็มองหน้าผมด้วยสายตาอ้อนวอน

บี : พี่เขมครับ...พี่เขมรู้ไม๊ว่าสิ่งที่ผมโกรธพี่มากที่สุดคืออะไร

พี่เขม : พี่ไม่ได้ไปอยู่กับบี....พี่ไม่ได้แสดงความกล้า...พี่ไม่ได้ทำในสิ่งที่พี่ควรทำ พี่.... พี่ไม่รู้จริง ๆ ว่าพี่ต้องทำยังไง

บี : สิ่งที่ผมเคยขอให้พี่สัญญา...ว่าเราจะไม่ทะเลาะกันข้ามคืน พี่จำได้ไม๊

พี่เขมมองหน้าผมแล้วก็น้ำตาไหลอออกมาไม่หยุด.... “พี่ขอโทษ” พี่ผิดไปแล้ว

พี่เขม : พี่กลับไปแก้ไขอะไรในอดีตไม่ได้แล้ว...

บี : งั้นอนาคต มันก็ต้องเป็นไปตามเหตุและผลของมันจริงไม๊ครับ

พี่เขม : พี่ขอโอกาสแก้ตัวอีกครั้ง...พี่จะปรับปรุงตัว...พี่จะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีกครับ

บี : ที่มันเจ็บที่สุด...คือพี่...(ผมสูดหายใจลึก เพื่อจะไม่ให้น้ำตาของผมมันไหลออกมา) ...ไม่ได้อยู่กับผม ในตอนที่ผมต้องการพี่ที่สุด....(แล้วน้ำตาผมมันก็ไหลออกมาทันทีที่สิ้นเสียง)

พี่เขมเข้ามากอดผมแต่ผมกันพี่เขมออก แล้วถอยตัวออกห่าง

บี : พี่ปล่อยผมให้ผมเหมือนตายทั้งเป็นอยู่ 3 วัน...ผมเหมือนคนที่ถูกทิ้งไม่มีใครต้องการอยู่ 3 วัน ผมนอนอยู่โรงพยาบาลทั้งวัน นอนรอพี่ทั้งวัน แต่ผมก็ไม่เห็นพี่เลย

พี่เขม : พี่ขอโทษ...พี่แค่ไม่อยากเข้าไปตอนที่หมอคิตอยู่

บี : พี่ก็รู้ว่า...ผมเคยบอกกับหมอคิตไปว่ายังไง...ผมชัดเจนกับความรักของผมมาก แต่พี่หละ...ชัดเจนกับผมรึป่าว

พี่เขม : พี่รักบี...รักบีคนเดียวจริง ๆ นะ

บี : คำว่ารักบางทีมันก็ไม่พอแล้วพี่เขม...ความซื่อสัตย์หละ...ผมอ่านไลน์ที่พี่คุยกับน้องเจแล้ว

พี่เขมเงียบ...ไม่ตอบผม

บี : ผม เคารพ ในความรักของผมที่มีให้กับพี่...ผมรักพี่แล้วผมก็ไม่เกี่ยวข้องกับคนอื่นอีกเลย...แล้วพี่ได้ทำอย่างนั้นไม๊

พี่เขมเอาแต่นั่งก้มหน้า...ไม่พูดอะไรออกมา

บี : พี่เขมครับ...เราห่างหันซักพักเถอะนะพี่...ถึงทุกอย่างพี่จะสามารถอธิบายได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง...แต่ผลของมันก็ยังเป็นเหมือนเดิมครับ...เพราะทั้งผมเองก็ไม่ได้ทำตามสัญญาที่เราเคยให้กันไว้

พี่เขม : พี่ห่างกันบีมานานแล้วนะบี...บีให้โอกาสพี่ได้แก้ตัวได้ไม๊ครับ

บี : พี่เขม...ผมพูดตรงๆ เลยนะพี่...ตลอดเวลาที่ผมเสียใจ ผมตัดใจจากพี่ไปแล้วครับ เพราะตัวผมคิดว่า...พี่เลือกน้องเจไปแล้ว

พี่เขม : แต่มันไม่ใช่หนิ...พี่ก็อธิบายไปแล้วไง

บี : แต่ความรู้สึกที่เสียไป...มันเรียกคืนมาไม่ได้ไงครับพี่ ผมว่านะ...พี่อาจจะไม่ได้รักผมเท่ากับที่รักน้องเจก็ได้

พี่เขม : พี่กลัวว่าน้องเจจะสิ้นคิด...ทำร้ายตัวเอง

บี : แล้วพี่เคยคิดถึงผมบ้างไม๊!....ว่าผมจะคิดสั้น...บ้าง! พี่เคยคิดถึงผมบ้างไม๊ว่า ผมต้องรอพี่อยู่คนเดียว โดยที่รู้สึกว่าโดนทิ้งไปแล้วมันเป็นยังไง...ผมต้องจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์กี่ที กี่ที ก็ไม่เห็นว่าพี่จะติดต่อมา

พี่เขม : ก็บีเองเป็นคนบล็อคเบอร์พี่ บล๊อคการติดต่อจากพี่ทุกทาง

บี : ผมบล๊อคเบอร์มือถือไม่เป็นครับ...และใช่ผมบล๊อคช่องทาง ต่าง ๆ เมื่อผ่านไปแล้ว 3 วัน

พี่เขม : ไม่อ่า...ตอนนี้พี่ยังโทรหาบีไม่ได้เลย ดูมือถือพี่สิ...พี่โทรหาบีทุกวัน จะเป็น พันสายอยู่แล้ว


มีต่อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 29 นับ 1-3 P.4 ( 7-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 08-11-2017 07:25:03
พี่เขมยกมือถือแล้วกดหน้าที่ใช้สำหรับโทรให้ผมดู...ผมเห็นในมือถือมีแต่ ชื่อผมแล้วก็โทรออก...วันละเกือบร้อยรอบ...แล้วพี่เขมก็กดโทรออกอีกครั้ง...แล้วก็เปิดลำโพง

“ขอโทษค่ะ ไม่มีเลขหมายที่คุณเรียก...กรุณาตรวจสอบเลขหมายอีกครั้ง”

โทรศัพท์ของพี่เขมมันพูดอย่างนั้นออกมาจริง ๆ ผมจึงวางโทรศัพท์ผมให้พี่เขมดูว่ามันไม่มีการตอบสนองใด ๆ แล้วผมก็กดเบอร์โทรหาพี่เขม แต่กลับกัน มันเกิดโทรติดขึ้นมาแล้วเป็นเลขเบอร์โทรศัพท์ของผมที่ขึ้นโชว์อยู่แต่ไม่ได้ขึ้นชื่อหรือรูปภาพใด ๆ

พี่เขม : อ่าวทำไมอย่างงี้หละ

ผมให้พี่เขมวางโทรศัพท์ลงแล้วกดดูหมายเลขโทรศัพท์ของผมในหน้าที่พี่เขมใช้โทรออกตลอด...หมายเลขโทรศัพท์มันหายไป 1 ตัวครับ...

บี : นี่ไงพี่เขม...เลขมันหายไป 1 ตัว

พี่เขม : แล้วมันหายไปได้ยังไงอ่ะ...พี่ไม่เคยแก้ไขอะไรเลยนะ...

บี : ผมก็ไม่รู้แล้วหละครับ...

พี่เขม : แล้วไลน์หละ...

บี : ใช่ครับ ผมบล๊อค ทุกอย่างแต่หลังจาก 3 วันที่ผมแน่ใจแล้วว่าพี่ไม่ติดต่อมา

พี่เขม : ไม่นะ พี่พยายามติดต่อไปทุกทาง...แต่ก็ไม่มีการตอบกลับ

บี : พี่เขม บล๊อคไลน์เป็นป่าวครับ

พี่เขม : ไม่เป็นนะ...

บี : งั้นลองกดดูว่าพี่บล๊อคใครไว้บ้าง

พี่เขม : กดตรงไหนหละ

ผมกดหน้าไลน์ขึ้นมาแล้วมือถือมันก็เด้งข้อความที่เข้ามา....

น้องเจ : พี่เขมอยู่ไหน...เจไปหาได้ป่าว

ผมเลื่อนมือถือมาให้พี่เขมอ่านข้อความที่ถูกส่งมา...แล้วผมก็มองหน้าพี่เขมด้วยสายตาที่เย็นชาเหมือนเดิน

พี่เขม : น้องเค้าไลน์หาพี่ทุกวัน...พี่ก็ไม่รู้จะทำยังไง...

บี : นั่นมันเรื่องของพี่ครับ...ผมไม่เกี่ยว

พี่เขม : บีครับ...จะต้องให้พี่ทำยังไง...บีถึงจะหายโกรธ

บี : ผมว่าเราพอแค่นี้เถอะนะพี่...ผมได้เห็นอะไรที่ผมอยากเห็นแล้ว

พี่เขม : บี...พี่ขอโอกาสได้ไม๊

บี : ผมเป็นพวกใจแข็งสุด ๆ ซะด้วยสิพี่...ไม่ครับ...

แล้วผมก็เดินออกมาจากพี่เขม...ผมเดินไปหากลุ่มเพื่อน ๆ ผมแล้วบอกเพื่อน ๆ ว่าผมขอตัวกลับก่อน สีหน้าผมเป็นสีหน้าที่นิ่งที่สุด....ไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ทุกคนปล่อยผมกลับบ้านแต่โดยดี...มีแต่คน คนนึงที่ยังไม่ลดละความพยายาม พี่เขมเดินมาขวางหน้าผมแล้วไม่ปล่อยให้ผมไป

พี่เขม : บีไม่รักพี่แล้วเหรอ?

บี : จากที่เห็น พี่น่าจะรู้ดีอยู่แล้วนะครับ...

พี่เขม : มันผิดมากเลยเหรอบี...บีถึงให้อภัยพี่ไม่ได้เลย ความรักที่เรามีให้กันมันไม่มีค่าแม้แต่น้อยเลยเหรอ...ไหนจะป๊ากับแม่พี่อีกหละ...เค้าก็คิดถึงบีนะ

บี : อย่าเอาป๊ากับแม่พี่มาอ้าง....(ผมกระซิบข้างหูพี่เขมด้วยเสียงแบบโมโนโทน)

พี่เขม : พี่ผิดไปแล้ว...พี่

ผมกอดพี่เขม....แล้วก็เอาหน้าซุกเข้าที่คอเหมือนที่ผมเคยทำในทุกครั้ง...แต่ครั้งนี้ตัวของพี่เขมเล็กลงมาก จนผมสัมผัสได้ถึงกระดูกพี่เขม...แล้วผมก็กระซิบข้างหู

บี : เพราะผมรักพี่มาก...ผมถึงปล่อยพี่ไป

พี่เขมยืนอึ้งอยู่ในอ้อมกอดของผม...

ผมเดินขึ้นรถแล้วยิ้มให้พี่เขมหนึ่งทีก่อนจะขับรถออกไป...ผมยังรักพี่เขมอยู่ครับ...ยังรักอยู่มาก...และยังรักเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน...ถึงแม้ผมจะตัดใจจากพี่เค้าเท่าไหร ในฝัน พี่เขมก็ยังคงอยู่ในนั้นเสมอและทำให้ผมมีความสุขทุกครั้งที่ผมได้ฝันถึงพี่เค้า แต่ผมก็ไม่สามารถทนกับความเจ็บปวดในแบบเดิมได้อีก...ถ้าเค้ายังไม่คิดจะเปลี่ยน ผมก็ไม่คิดจะสานต่อครับ...เพราะถ้าเค้ายังไม่มีความซื่อตรงและซื่อสัตย์กับผม...ต่อให้ผมโอกาสเค้าอีกกี่รอบ...มันก็จะทำให้ผมเจ็บเหมือนเดิม

.
.
.
.
.
หลังจากที่พี่เขมกับผมได้คุยปรับความเข้าใจกันมากขึ้น ไม่รู้จักกี่ครั้ง...ความสัมพันธ์ของเราก็เหมือนกับจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ครับ...ตั้งแต่ร้านคาราโอเกะครั้งนั้น...พี่เขมทำให้ผมเห็นหลายอย่างว่า...พี่เขมจะยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะรักษาผมเอาไว้ แล้วผมก็ยอมที่จะกลับมาคบกับพี่เขมอีกรอบครับ...ป๊ากับแม่ดีใจมากที่ผมได้ผมกลับมาคบกับพี่เขมอีกครั้งแต่เรื่องดี ๆ มักจะอยู่กับเราไม่นานครับ
.
.
.
.
.

.



ในเดือนมกราคม ผลประกาศของการสอบเพอร์เซอร์ออก

ผลออกมาว่าผมไม่ผ่านการสอบคัดเลือกครับ....หัวใจของผมมันแตกสลายทันที ทุกอย่างเหมือนกลับมาสู่จุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง...ผมเฝ้าถามตัวเองว่า ที่ผมอยากจะเป็นเพอร์เซอร์เนี่ย...ทั้งหมดเพราะว่าใคร...คำตอบลึก ๆ ในใจและผมก็ยังจำได้ไม่เคยลืมคือ ผมอยากจะเป็นเพื่อพี่เขมครับ...เพราะพี่เขมเค้ามีทั้งตำแหน่ง เงินทอง ฐานะทางสังคม คนนับหน้าถือตา แต่สำหรับผมแล้ว ผมไม่คู่ควรกับพี่เขมเลย...ผมจึงพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้เป็น...แต่ตอนนี้ ผมทำไม่ได้...สวรรค์คงจะบอกอะไรบางอย่างกับผมครับ...ว่าผมนั้นไม่คู่ควรกับพี่เขม แล้วผลของการสอบกัปตันก็ออกมาในวันเดียวกัน...

ผมตรงไปที่เค้าเตอร์ซื้อตั๋วแล้วผมก็ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับบ้านในทันที...ผมบินไฟล์ที่เร็วที่สุดเพื่อจะได้กลับไปถึงบ้านให้เร็วที่สุด ในตอนนี้ ที่ ๆ คิดถึงมากที่สุดก็คือ บ้านครับ...ความเศร้าโศก ความอ่อนแอ ความผิดหวัง ทุกอย่างมันรุมเร้าตัวผมไปหมด ผมไม่สามารถยืนอยู่ได้อีกด้วยตัวเอง...ไม่ว่าผมจะสตรองแค่ไหน...แต่วันนี้ผมหมดกำลังที่จะสู้ต่อไปแล้วครับ...ทางเดียวที่ผมจะทำได้คือ กลับบ้านไปนอนกอดแม่ร้องไห้

เมื่อผมเจอหน้าแม่...ผมร้องไห้ออกมาทันที...แม่รู้ทันทีว่าลูกชายของแม่นั้น...อยู่ในสภาวะที่ไม่ปกติอีกแล้ว...พอกลับถึงบ้านแม่ถึงได้ถามเรื่องทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมบอกไปว่าผมสอบไม่ได้เพอร์เซอร์....แม่หัวเราะออกมาแล้วบอกว่าจะเครียดไปทำไมหละลูก...ไม่ได้ครั้งนี้ครั้งหน้าก็สอบใหม่เท่านั้นเอง...ผมไม่สามารถบอกแม่ได้ว่า สิ่งที่ผมทำทั้งหมดเนี่ย...ผมทำเพื่อใคร...และตอนนี้ผมรู้ตัวดีว่าผมไม่คู่ควรกับเค้าอีกแล้ว...ไม่นานพี่เขมโทรหาผม...ผมรับโทรศัพท์แล้วเดินออกไปคุยกับพี่เขมนอกบ้านครับ

พี่เขม : บีคับ...อยู่ไหน...ไม่เป็นไรนะ...เอาใหม่ สอบใหม่นะไม่ต้องท้อ

บี : พี่เขมครับ...ผมสอบไม่ได้...ผมอยู่บ้านครับ...

พี่เขม : บ้านไหนอ่ะ...

บี : บ้านที่เชียงใหม่ครับ

พี่เขม : อ่าวกลับไปตั้งแต่เมื่อไหร...ไม่บอกพี่เลย

บี : กลับทันทีที่รู้ครับ...ผมอยากอยู่กับแม่

พี่เขม : อืมก็ดีแล้วกลับบ้านไปหาแม่บ้างนะ

บี : แล้วผลของพี่เขมเป็นไงบ้างครับ...

พี่เขม : พี่ก็.....ไม่ผ่านเหมือนกันหวะ....

บี : พี่เขม...(ผมร้องไห้ออกมาทันที....ผมรู้ทันทีว่าพี่เขมต้องการผมมากในตอนนี้แน่นอน)...

พี่เขม : เฮ้ย ไม่เป็นไร ไอ้ตัวแสบ...พี่โอเคมากเลย...แค่อยากกอดบีเฉย ๆ ขอพลังหน่อยดิ

บี : พี่เขม...มาหาบีที่เชียงใหม่ไม๊

พี่เขม : อืม...เด๋วดูก่อนนะ...พี่ขอกลับบ้านไปหาแม่ก่อนเหมือนกัน

บี : ได้ครับ...ขับรถดี ๆ ครับ..

ผมเดินกลับเข้ามาในบ้านร้องไห้หนักกว่าเดิม...คนที่ผมรักตอนนี้ต้องการกำลังใจอย่างมากจากผม...แล้วผมเองก็เช่นกัน...ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี....แล้วพ่อก็กลับมาจากที่ทำงาน เห็นผมนั่งร้องไห้อยู่ในบ้าน

พ่อ : ว่าไงไอ้ลูก...ชาย...(สิ้นเสียงพ่อ...ผมเงยหน้าขึ้นแล้วพ่อก็เห็นผมนั่งร้องไห้อยู่ สีหน้าพ่อตกใจรีบเข้ามากอดผมทันที)

พ่อ : เป็นอะไรลูก...เกิดอะไรขึ้น

บี : บีสอบเพอร์ไม่ได้อ่ะพ่อ

พ่อ : โหย...ก็นึกว่าอะไร...สอบไม่ได้ก็สอบใหม่ดิ..จะไปยากอะไร นึกว่าใครตาย ตกอกตกใจหมดเลย

บี : พ่อ....บีไม่อยากบินละอ่ะ....

พ่อ : อยากทำอะไรหละลูก....(แล้วแม่ก็เดินเข้ามาปลอบ)

แม่ : อยากทำอะไรหละลูก...กลับมาอยู่ใกล้ ๆ บ้านไม๊...แม่คิดถึงนะ

มันยิ่งทำให้ผมคิดถึงแม่กับพ่อมากขึ้นทวีคูณ...ผมเป็นสจ๊วตแท้ ๆ แต่ผมกลับบ้านปีละ 2 ครั้งเองครับ...ทั้งที่ตั๋วผมนั้นถูกมากกกก แต่ผมก็อ้างเสมอว่า ผมยุ่ง...ตอนนี้ผมรู้แล้วครับว่า...ที่ ๆ ผมอยากอยู่ อยู่ที่ไหน...แต่มันก็จะขัดกับคนรักของผมที่อยู่ กทม.
ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี...

พ่อ : อยากเรียนต่อไม๊ลูก....พ่ออยากให้เรียนต่อโทนะ...เรียนตอนที่พ่อยังส่งไหวเนี่ยแหละ....

แม่ : เออดีเหมือนกัน...เรียนแล้วก็จะได้หางานดี ๆ กว่าเดิมทำอีกเนอะ

บี : อยากเรียนครับ...แต่ไม่มีตังง่ะ

พ่อ : ก็พ่อบอกนี่ไงว่าพ่อจะส่งเอง

แม่ : อยากเรียนอะไรหละลูกเคยคิดไว้บ้างไม๊

บี : อยากเรียน ทางด้านการบินเนี่ยแหละครับ...ทำงานสายนี้มาแล้ว

พ่อ : แล้วในไทยมีที่ไหนดีๆ  บ้างหละลูก

บี : บีอยากเรียนออสเตเรียครับ...เค้าดังด้านนี้

แม่ : เออดีนะป้า ก็อยู่โน่น...จะได้มีคนดูแล

พ่อ : เออดีเลย...เด๋วพ่อลองโทรหาป้าดูก่อน

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากครับ...พ่อแม่ผมทำการประสานงานทุกอย่างเกี่ยวกับการเรียนของผมให้อย่างรวดเร็ว..เหมือนกับว่าได้วางแผนไว้นานแล้ว เพราะโทรไปคุยกับป้าแค่ 5 นาที ป้าก็ตอบตกลงทันที...ผมนั่งฟังอยู่แล้วยัง งง เลยครับ ไม่นานป้าก็ส่งอีเมลล์เรื่องของครอสเรียนกับที่เรียนมาให้ผมเลือกดู

บี : นี่วางแผนกันมาก่อนแล้วใช่ป่ะเนี่ย แม่ พ่อ

แม่ : ป๊าวววววว...แค่คิดไว้ก่อนแล้วเฉย ๆ

พ่อ : เออ...บอกๆลูกไปเหอะ

แม่ : ก็เดะ...แม่กับพ่อตั้งใจจะให้ลูกเป็นของขวัญวันเกิดปีหน้าหนะ...

พ่อ : แต่ตอนนี้มันเอามาให้ได้ก่อนก็ดีนะ...จะได้เตรียมตัวแต่เนิ่น  ๆ

บี : แล้วถามรึยังว่าอยากไปเรียนไม๊?

แม่ : อ่าวก็บอกอยู่มะกี้ไง...ไม่ใช่เหรอ

บี : มัดมือชกหวะ

ผมเอาข้อมูลทุกอย่างมานอนดูจนลืมเรื่องราวที่ผมสอบไม่ผ่านไปเลยครับ...โชคดีครับ...ในระหว่างที่ผมทำงานเป็นสจ๊วตอยู่นั้น ผมมีโอกาสได้ช่วยงานบริษัทบ่อย จนได้ไปสนิทกับฝ่าย HR ของบริษัท ผมจึงไลน์ไปถามพี่เค้าเรื่องเกี่ยวกับเรียนต่อว่าจะสามารถทำได้ไม๊...พี่HR ก็ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับตำแหน่งที่จะรับงานในอนาคตและเทรนของการรับคน...และก็ถ้ายังไม่อยากลาออกเลยก็ให้ทำเรื่องเป็น ลาแบบไม่จ่ายเงิน...แต่พี่HR ไม่สามารถการันตรีได้ว่าจะได้นานเท่าไหร...ผมคุยเรื่องนี้กับทั้งเพื่อนและป้าที่อยู่ออสเตเรีย...จนลืมเวลา แล้วพี่เขมก็โทรหาผมอีกครั้ง

พี่เขม : ไอ้ตัวแสบ...หายไปเลยนะ...ทำไมไม่ห่วงแฟนตัวเองบ้างเลย

บี : ผมนอนร้องไห้จนหลับไปเพิ่งตื่นมะกี้เองครับ(ผมโกหก)

พี่เขม : โอ๋ ๆ อย่าร้องน้าาาาา...เด๋วพี่ไปหาวันพรุ่งนี้

บี : จิงง่ะ...เย้ ๆ ๆพี่เขมมาให้กอดหน่อย

พี่เขม : อย่ามาอ่อย...ไอ้ตัวแสบหนีกลับบ้านยังไม่ได้จัดการเลยนะ

บี : อ่าว...ก็ผมนึกว่าพี่เขมได้อยู่แล้วหนิ...ผมเลยไม่อยากอยู่ให้พี่เป็นห่วง พี่จะได้ฉลองได้โดยไม่ต้องห่วงผมไง

พี่เขม : เอาอีกแล้วนะเรา...คิดถึงแต่คนอื่นตลอด...แล้วตัวเองหละ...เป็นไง

บี : ก็ดีขึ้นแล้วครับ...พ่อกลับมามะกี้...กอดกันกลมเลย พ่อแม่ลูก

พี่เขม : ดีแล้วหละ...พี่ขอโทษนะ...ที่พี่สอบไม่ได้..พี่จำได้ว่าพี่เคยสัญญาอะไรไว้ มันอาจจะช้าลงไปหน่อยนะ...บีรอพี่ได้ไม๊

บี : ผมก็อยู่ที่เดิมไม่ไปไหนซักหน่อยพี่เขม...พี่แหละตัวดี...จะปันใจไปให้ใครบ้างรึป่าวก็ไม่รู้

พี่เขม : เคยครับ..แต่ตอนนี้เลิกแล้ว...พี่จะรักและซื่อสัตย์กับบีคนเดียว

บี : ดีมาก...ถ้าไม่นะ...จะกัดให้หูขาดเลย

พี่เขม : มีแฟนหูขาดไม่อายคนอื่นเหรอ

บี : ไม่อายจะบอกว่ากัดเองด้วย....5555

พี่เขม : ไอ้โหดดดดดด

บี : แล้วพี่จะมากี่โมงอ่ะ

พี่เขม : ไปคำ่ ๆ แหละ เด๋วไอ้พวกไอ้เก่งมาด้วย...ถือโอกาสพักร้อนกันหมดเลย

บี : มาครบแก้งเลยป่าวพี่

พี่เขม : ก็ลาก ๆ กันมาอยู่ บอกมันว่าเพื่อนเศร้ามาก แฟนเพื่อนก็เช่นกัน ไอ้เก่งรู้ว่าบีไม่ได้นะ โวยวายใหญ่เลย...

บี : พี่เก่งนี่ก็ชอบโวยวายไม่หยุด...

พี่เขม : มันบอกว่าเด๋วมันจะดูแลเอง...พี่ไม่ต้องไป...ดูมันดิ

บี : เออ...ก็ดีนะ...ผมขอกัดแขนพี่เก่งทีนึง

พี่เขม : นี่ๆ  ๆให้มันน้อย ๆ หน่อย...คุยกับแฟนนะ

บี : ก็แฟนแขนเหี่ยวแล้วอ่ะ...บอกให้ไปเล่นก็ไม่ยอมไป

พี่เขม : ก็ติดแฟนอ่ะ...กลัวแฟนหนีไปอีก

ผมตกใจในคำพูดของพี่เขมมากครับ....ผมลืมไปเลยว่าผมกำลังจะไปเรียนต่อโดยที่ยังไม่ได้ปรึกษาอะไรกับพี่เขมเลย...ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในไม่ถึง 3 ชม. แล้วมันก็เป็นรูปเป็นร่างเหมือนกับเนรมิตเอาไว้โดยพ่อกับแม่ของผม...แถมยังมีป้าช่วยอีกแรง...ผมรีบตัดบทพี่เขมทันทีครับ...ผมไม่รู้ว่าควรจะบอกพี่เขมยังไงดี

บี : พี่เขม...แค่นี้ก่อนนะครับ...พ่อแม่เรียกละ

พี่เขม : อ่า ๆ โอเค...พี่รักบีนะ

บี : ผมก็รักพี่เขมครับ...มาหาไว ๆ นะ คิดถึงแล่ว

จากที่ผมกำลังหายเครียดเรื่องสอบแล้วเปลี่ยนมาสนใจในการไปเรียนต่อโท แล้วผมก็เปลี่ยนมาเครียดทันทีเรื่องของพี่เขมครับ...จากที่ผ่านมาผมกับพี่เขมตัวไม่เคยห่างกันเลยตั้งแต่ครั้งนั้นที่เลิกกันไป แล้วมาตอนนี้ผมจะต้องไปเรียนต่อ...ผมจะต้องห่างกับพี่เขม...แล้วผมต้องทำยังไง...มันมีไม่กี่ทางเลือกที่ผมคิดออก

เลือกที่จะเลิก...แล้วมันมีทางไหนไม๊ที่จะเจ็บน้อยที่สุด?

2. เลือกที่จะคบต่อไป...ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความรักของเรา ว่าระยะห่างกับเวลาทำอะไรไม่ได้....แต่นั้นก็มีเพียงแต่ละครน้ำเน่าเท่านั้นที่พระเอกจะตั้งมั่นในความรักของเขา...แล้วรอให้นางเอกกลับมา....แต่กรูเป็นนางเอก? เหรอ...ไม่ดิ ต้องเป็นนายเอก เหรอ? เค้าเรียกกันว่าอะไรฟระ....


ผมนั่งคิดเรื่องนี้อยู่นาน ในมือก็ถือครอสเรียนที่ปริ้นออกมามากมาย ที่ป้าส่งมาให้ แล้วพ่อกับแม่ก็เข้ามา....

พ่อ : เลือกได้รึยังไอ้ลูกชาย

แม่ : พ่อก็...ปล่อยให้ลูกตัดสินใจซักพักสิ

พ่อ : แหม่ ๆ อันแรกที่เราหยิบขึ้นมานั่นแหละ...อันนั้นมักจะเป็นอันที่ใช่ที่สุด

แม่ : เออ...ก็จริงนะ อย่างแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว...ส่วนใหญ่มักจะเป็นคำตอบที่จิตใต้สำนึกเราคิดไว้เสมอ

บี : ข้อหนึ่งเหรอครับพ่อแม่...

แม่ : ใช่...อย่างแรกเลยลูก...เลือกอันไหนหละ

บี : เลือกเลิกครับ

พ่อ : เลิกอะไรลูก

แม่ : เลิกอะไรลูก

บี : อ่อ...ไม่ใช่ ๆ ครับ...เลือกครอสแรกครับ ที่ swinebrune

พ่อ : ราคาประมาณเท่าไหรลูก

บี : ล้านนิด ๆ ครับพ่อ

แม่ : โห ๆ ๆเป็นล้านเลยเหรอเนี่ย...เรียนที่ไทยไม๊

พ่อ : แหม่...แม่ พ่อเรียนโทเมื่อเกือบ 10 ปีก่อนก็ประมาณนี้แหละ ไม่ได้หนีห่างกันมากหรอก

แม่ : เออ...ก็จริงเนอะ...

บี : พ่อจะไหวเหรอ ตั้งล้านนึงเลยนะ

พ่อ : ไม่ไหวก็ขายที่ไป...ก็น่าจะไหวแหละ....

บี : โหย...ขายที่เลยเหรอ...ไม่เรียนแล้วก็ได้นะพ่อ

แม่ : นี่อยากเรียนหรืออยากได้ที่ดินมากกว่าหละลูก

บี : อยากได้ทั้งสองอย่างง่ะ

พ่อ : ที่ดินอ่ะจะเอาไปทำไม...เก็บไว้ราคามันขึ้นก็จริง...แต่ถ้าแลกกับไปเรียน มันเป็นของติดตัวนะลูก...ใครก็เอาไปไม่ได้

แม่ : พ่อกับแม่...มีสมบัติไม่มากไม่มายนะลูก...พ่อแม่อยากจะให้ลูกได้ มากกว่านี้ และนี่ก็เป็นความฝันสูงสุดของพ่อเค้า...ว่าจะส่งลูกเรียนโท

บี : จริงง่ะ...

พ่อ : ก็จริงดิ....พ่ออยากให้ลูกมากกว่าทรัพย์สมบัติที่มี...อยากให้ลูกได้เรียนและมีประสบการณ์ เพื่อจะได้หางานดีๆ  ทำ

บี : งานตอนนี้ก็ดีนะพ่อ...ได้เงินก็ไม่ใช่น้อย ๆ นะ เผลอ ๆ ได้เยอะกว่าพ่อซะด้วย(ผมแซวพ่อ)

พ่อ : งานนี้หนะมันก็ดีลูก...แต่มันไม่ได้ดีในระยะยาว...ลองคิดดูนะ...ถ้าลูก 40 ลูกจะยังไปบินแบบเดิมได้ไหม? ร่างกายจะไหวรึเปล่า

แม่ : แม่ไม่เถียงนะว่าตอนนี้ลูกได้เงินเยอะ...แต่ถ้ามันแลกกับความเสี่ยง แม่อยากให้ลูกอยู่บนพื้นมากกว่านะลูก ทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับเครื่องบิน...แม่บอกเลยแม่ใจไม่ดีตลอดเลยนะ...แต่แม่ไม่กล้าโทรหาลูก กลัวลูกจะกังวล

บี : ครับพ่อ แม่...ลูกเลือกแล้ว...ว่าลูกจะไป แล้วจะกลับมาทำงานที่อยู่บนดินบ้างเนอะ

พ่อ : ดีแล้วหละ...มามีชีวิตแบบคนธรรมดาบ้าง...ติดปีกบิน พ่อกับแม่เมื่อยคอ

บี : ครับ...แล้วมันเริ่มเรียนเมื่อไหนนะเนี่ย

แม่ : นี่ไง ๆ ในเว็ปเขียนไว้ ว่า in-take เดือนหน้าแล้วเนี่ย

พ่อ : เออ..จริงด้วย...เดือนหน้าเร็วไปไม๊ลูก

บี : เร็วไปป่าวพ่อ..แม่

แม่ : ก็ไม่อยากบินแล้วไม่ใช่เหรอ...ก็ไปเลย...รีบ ๆ ทำเรื่อง

บี : แม่ว่า...ระหว่าง ลาออกเลย กับ ลาพักแบบไม่ได้เงิน อันไหนดีกว่า

แม่ : อืมมันก็คนละแบบอ่ะเนอะ...แต่แม่ว่า ออกเลยดีสุด

พ่อ : พ่อก็ว่าตามแม่อ่ะ

บี : ทำไมอ่ะพ่อแม่?...บีนึกว่ายังอยู่กับบริษัทก็น่าจะดีกว่าไม๊

พ่อ : แต่ลูกกลับมาในอีกสายงานนึงนะลูก...ยังไงก็ต้องสมัครใหม่อยู่ดี แล้วอีกอย่างอำนาจการต่อรองเราอาจจะสูงมากกว่าเดิมก็ได้ เพราะถ้าย้ายสายงาน มันจะค่อนข้างยุ่งยาก แล้วเงินมันจะคิดจากฐานเงินเดือนเก่าเรารึป่าว

แม่ : ออกเลย...เพราะกลับมาใหม่ต้องไฉไลกว่าเดิม

พ่อ : แค่นี้เองเหรอแม่....

บี : เออ...แค่นี้เองเหรอแม่...

แม่ : โอ้ย...อยากไปคิดมากดิ...กลับมาก็หางานใหม่ ไม่เห็จะยาก เก่งซะอย่าง

พ่อ : อ่าๆ ๆ ว่าไงว่าตามกัน

บี : ครับ ๆ เด๋วผมปรึกษา HR ก่อนนะ

ในใจผมตอนนี้มีคำตอบให้กับเกือบทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายในอีก 1 เดือนที่กำลังจะถึงนี้แล้วครับ...พ่อกับแม่ก็ออกจากห้องผมไป...พ่อกับแม่คงจะคิดว่าไอ้ลูกชายนี้คงกำลังตื่นเต้นที่จะได้ไปเรียนต่ออย่างเป็นแน่....แต่ในใจของผมนั้นกลับเต็มไปด้วยหลากหลายความรู้สึกเสียเหลือเกินครับ...ไม่ว่าจะเป็นดีใจที่จะได้เรียนต่อแล้วพ่อแม่ส่งให้เรียน 55555 ไม่ต้องออกตังเอง...ตื่นเต้นที่จะได้ไปเรียนเมืองนอกซะที...ฝันไว้นานแล้ว ....คิดหนัก กับเรื่องที่จะต้องลาออกกระทันหัน คิดเรื่องของพี่เขม...ว่าจะทำยังไงกับเขาดี

และไอ้เรื่องที่คิดมากที่สุดนี่ก็คงจะไม่พ้น...เรื่องของพี่เขมเนี่ยแหละครับ....อย่างที่แม่บอกว่าไอ้คำตอบที่ผุดขึ้นมาในใจมักจะเป็นคำตอบที่จิตใต้สำนึกเราคิดไว้อยู่แล้ว....ผมก็มานั่งทบทวนทุกอย่างว่า...ถ้าผมจะหาอะไรมาหักล้าง...ว่าไม่เลิกกับพี่เขมก่อนไปได้ไหม?....คำตอบก็มีแต่เสีย กับเสีย ครับ...จิตใจผมคงจะว้าวุ่นมาก...ถ้าพี่เขมเกิดนอกใจผมขึ้นมาทั้ง ๆ ที่ผมเรียนอยู่เมืองนอก...หรือถ้ากลับมาแล้วเค้าไม่เหมือนเดิมหละจะทำยังไง...หรือถ้าพี่เค้าไม่ให้ไปหละ...จะทำยังไง หรือถ้า...อีกมากมายในหัวผม....แต่ผมก็ขอตัวเองไว้อีก 1  อย่างคือ...ถ้าจะต้องเลิกกันจริง ๆขอให้เลิกกันด้วยดีเถอะ...ผมจึงพยายามหาวิธี ที่จะบอกสิ่งนี้กับพี่เขม ให้พี่เขมเข้าใจได้มากที่สุด...แล้วถ้าวันนึงผมกลับมาแล้วพี่เขมยังคงเป็นเหมือนเดิม...มันก็คงจะไม่ยากที่เราจะกลับมารักกันเหมือนเดิม...นั่นคือสิ่งที่ผมคิดครับ...



To be continued…


ป.ล. ขออภัยจริง ๆ ครับ ที่ลงตอนซ้ำ ไม่ได้ตรวจดูให้ดี พอดีมะวานป่วย เบลอ ๆ หน่อย ๆ ลงแล้วรีบนอน ขอบคุณมากนะครับที่บอก ขออภัยจริง ๆ ครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 30 เรื่องที่เคยขอ P.4 ( 8-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-11-2017 12:25:29
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

หนักใจ แล้วอีพี่ก็เจ้าชู้
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 31 ความลับ P.4 ( 8-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 08-11-2017 18:00:24
ตอนที่ 31 ความลับ

ผมเปิดเพลงฟังแล้วก็นอนครุ่นคิด....ไป ปากก็ร้องเพลงนี้ไปด้วยเรื่อย ๆ

“อยู่อย่างคนเหงา ๆ อยู่กับความเดียวดาย
แม้ใครจะมองว่าทุกข์ แต่ฉันกับสุขใจ
อยู่เพื่อคิดถึงเธอ ได้คิดถึงเพียงแต่เธอ
แค่เพียงเท่านี้ก็สุขใจ ต่อให้เหงาตาย ก็ยอม”

แม่ : บี...ลงมากินข้าวได้แล้วลูก...แม่ทำแต่ของที่บีชอบไว้ทั้งนั้นเลยนะ

บี : ค๊าบแม่....

ผมลงไปเจอกับอาหารเหนือชุดอลังการงานสร้าง....ผมสวาปามไม่หยุดเลยครับ...พอกินเสร็จ...พ่อก็พาออกมาเดิน ๆ รอบ ๆ หมู่บ้านครับ...เป็นกิจกรรมที่ผมกับพ่อชอบทำหลังจากกินข้าวเสร็จ...เรื่องของเรื่องคือ...หนีแม่ เด๋วแม่ใช้ล้างจานครับ 55555

พ่อ : เป็นไงบ้างหละ...หายเครียดเรื่องเพอร์เซอร์รึยังลูก

บี : ไม่มีเรื่องนั้นเหลือในหัวเลยพ่อ....เรื่องเรียน...มาแทนที่หมดเลย

พ่อ : แต่ดูลูกกังวลอะไรบางอย่างนะ

บี : ก็นิดหน่อยอ่ะ...มันกระทันหัน

พ่อ : เรื่องแฟนเหรอ...

ผมตกใจมาก...พ่อแม่ผมไม่เคยรู้เรื่องพี่เขมมากก่อนครับ...นี่อาจจะเป็นการเดาสุ่มที่แม่งตรงจุดที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

บี : ป๊าววววววว....(เสียงสูงไปไหน...คุมหน่อย ๆ ไอ้บี) ไม่มี๊...แฟนเฟินอะไร

พ่อ : อย่ามาปิดซะให้ยากเลย...ไอ้ลูกหมา

บี : ก็อืมครับ...(ผมยอมรับ อย่างไร้ทางสู้)

พ่อ : ไม่เคยเอามาให้พ่อแม่รู้จักเลยนะ

บี : โหย...ยังไม่จริงจังอะไรขนาดนั้นเลยพ่อ

พ่อ : แล้วจะทำยังไงหละ...

บี : ก็คงจะเลิกก่อนไปอ่ะ...

พ่อ : เห้ย...เอางั้นเลยเหรอ

บี : บีอยากรีบเรียนรีบจบ...ไม่อยากให้มีหวงอ่ะ

พ่อ : มันไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอลูก...คนเรารักกันมันไม่ได้ง่าย ๆ นะ

บี : แต่ไอ้ที่ยากกว่ารักกันนี่สิพ่อ...คือจะทำยังไงให้มันรักกันได้นาน ๆ ต่างหาก

พ่อ : ก็จริงเนอะ....

บี : ตอนพ่อไปเรียนต่ออะ...แม่งอแงไม๊

พ่อ : จะว่าไป...แม่ก็คือแม่อะนะ...แม่เป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใคร บีก็รู้ แม่ไม่ใช่คนอ่อนแอเลย...พ่อไปตั้ง 2 ปี แม่เลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด ช่วงที่พ่อไปเลยนะ ไม่มีบ่นซักคำ...บ่นคำเดียวคือ....ขอตังหน่อยเท่านั้นแหละ

บี : เออ...บีก็จำได้นะว่า ตอนนั้น ตอนพ่อไปอ่ะ...บีแอบไปร้องไห้ทุกวันเลย

พ่อ : ไอ้ลูกหมา...ไอ้ขี้แย...คิดถึงพ่อก็เป็นเหรอ

บี : พ่อถึงบีจะไม่ค่อยได้พูด...แต่บีก็รักพ่อนะ...พ่อก็คือพ่อ

พ่อ : มันเป็นเอามากเว้ยวันนี้...ทำไมดราม่าจัง

บี : ไม่รู้ดิ...คิดถึงบ้านมั้ง

พ่อ : เหนื่อยก็กลับมาพัก...ไม่มีที่ไหนสุขใจเท่ากับบ้านเราอีกแล้วแหละ

บี : ก็จริง... เด๋วถามหน่อย...ตอนนั้นไปแค่สิงคโปร์ไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ยอมกลับบ้านบ้างเลย

พ่อ : เฮ้ย...เรื่องมันผ่านไปนานแล้ว จำอะไรไม่ได้หรอก

บี : แหนะ...ทำตัวมีพิรุธนะเนี่ย...

พ่อเขกกะบาลผม 1 ที.... “อย่าพูดมากไอ้ลูกหมา...ไปเดินกลับบ้านได้แล้ว”

บี : ถ้าเป็นลูกหมา พ่อก็เป็นพ่อหมาแหละ...จริงมะ

พ่อ : ยอกย้อนนะ...เด๋วเขกอีกที

บี : แน่จริง...วิ่งให้ทันดิ...

ผมวิ่งหนีพ่อกลับบ้านไปก่อนเลยครับ...ไปอ้อนแม่ต่อ...แม่หลังจากทำกับข้าวให้กินแล้วก็ทำการจัดแจงปลอกผลไม้ไว้ให้ผมกับพ่อกิน หลังจากไปเดินเล่นรอบหมู่บ้านมา แม่ก็คือแม่ครับ...งานบ้านงานเรือนแม่เนี่ย...ไม่เคยจะขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย...แต่สมัยก่อนตอนที่แม่ยังทำงานประจำอยู่ มันก็มีบ้างครับ...ไม่สิ มีเยอะครับ...ที่แม่ให้ผมทำ...อย่างเช่น...ถูบ้าน...เป็นหน้าที่หลักของผมเลยครับ...เพราะผมแพ้ฝุ่น...และทุกครั้งที่แม่กวาดเสร็จ ผมก็จะต้องเป็นคนถูกต่อโดยทันที เรื่องล้างจานนี่ ผมก็เป็นคนล้างตลอดครับ...ไอ้ที่หนักสุดและโดนด่าบ่อยสุดคือ เรื่องขัดร้องเท้าครับ...ผมมีหน้าที่หลักอีกอย่างนึงเลยคือการขัดรองเท้าให้ทุกคน ทั้งพ่อแม่และตัวผมเอง ถ้าวันไหนไม่เงานะ...จะเจอพ่อด่าแต่เช้าเลยครับ...มันเลยเป็นเรื่องที่ผมต้องศึกษาเอามาก ๆ ว่าจะขัดรองเท้ายังไงให้เงางาม สมัยยังเป็นเด็กประถม ส่วนพ่อดูเหมือนจะไม่ได้ทำงานบ้านใช่ไม๊ครับ....ผิดครับ พ่อมีหน้าที่หลักคือการ รีดผ้า และล้างรถครับ...อะไรที่ร้อน ๆ พ่อทำหมดครับ...แม่บอกว่า...จะได้ผอม ๆ อ้วนเป็นตือโป้ยก่าย ไปรีดผ้าจะได้เผาผลาญ เยอะ ๆ

พอกลับมานอนตักแม่ให้แม่ป้อนผลไม้ให้กิน....ไม่นานพี่เขมก็โทรมาหาครับ...ตอนนี้ก็ประมาณ 2 ทุ่มกว่า ๆ แล้วครับ...กลับมาบ้านเนี่ยผมไม่ได้จับมือถือเลยครับ...ไม่ได้อ่านไลน์ ไม่เล่นเฟส...เลย...ก็มีแต่พี่เขมเนี่ยแหละครับที่โทรหาผม...ผมเดินออกไปนอกบ้านเพื่อคุยกับพี่เขม

บี : คับพี่เขม...(ผมกดรับสายเมื่อเดินออกมาพ้นตาจากพ่อแม่)

พี่เขม : หายไปไหนอ่ะ...ไม่อ่านไลน์เลย...พี่ขอกำลังใจหน่อย

บี : ก็อยู่บ้านอ่ะ...คุยกับพ่อกับแม่

พี่เขม : ไม่อยากคุยกับแฟนบ้างเลยเหรอ

บี : ก็พรุ่งนี้แฟนก็มาแล้วหนิ...

พี่เขม : ก็ใช่...แต่ก็ไม่คิดถึงกันหน่อยเลยเหรอ

บี : ให้บินไปหาคืนนี้เลยไม๊หละ...แล้วพรุ่งนี้มาด้วยกัน

พี่เขม : ได้จิงง่ะ...

บี : จะบ้าเหรอพี่...นี่มันก็ 2 ทุ่มกว่า ๆ แล้วนะ...

พี่เขม : ก็มีไฟล์ 3 ทุ่มนี่นา

บี : แหม่ๆ  บ้านผมไม่ได้อยู่ข้างรันเวย์นะพี่เขม

พี่เขม : อ่าๆ ๆ ก็เดะ...ก็คนมันต้องการกำลังใจอ่ะ

บี : แล้วพี่อยู่ไหนเนี่ย...

พี่เขม : เพิ่งกินข้าวกับป๊ากับแม่เสร็จ...กำลังขับรถกลับบ้าน

บี : ขับรถแล้วคุยได้ไงเนี่ย...

พี่เขม : ป๊าไม่ยอมให้ขับ...บอกว่าอารมณ์ไม่คงที่

บี : 555555 ช่วงนี้เป็นง่อยว่างั้น....

พี่เขม : ใช่...แฟนก็ไม่อยู่ดูแลเลย

บี : เด๋วพรุ่งน้ีจะปรนิบัติเป็นอย่างดีเลยจ๊ะ....ทูลหัวของบ่าว

พี่เขม : ไม่ต้องนอนเลยนะ...ยันเช้า

บี : นี่นั่งอยู่ในรถกับป๊ากับแม่ไม่ใช่เหรอ...พูดเรื่องนี้ได้ไง...ตบปาก ปฏิบัติ!

พี่เขม : ไปเที่ยวยันเช้าไง...คิดอะไรเนี่ย ทะลึ่งนะเรา

บี : หราาาาา....งั้นไม่ต้องเอา

พี่เขม : เฮ้ยไม่ได้ดิ...

บี : 555555 เห็นมะ....พี่ก็คิดไม่ใช่ผมคิดคนเดียว

พี่เขม : ถึงบ้านแล่ว ๆ ๆ ไม่คุยด้วยละ แฟนไม่น่ารัก...

บี : จ๊ะ....เข้าบ้านดีๆ  ฝากสวัสดีป๊ากับแม่ด้วยนะพี่

พี่เขม : ป๊า แม่...บีบอกหวัดดี

บี : เฮ้ย...พูดดีๆ  ดิ

พี่เขม : แค่นี้นะ...เบื่อจะฟัง....ลำไย


ผมกำลังจะหันหลังเดินกลับบ้านแล้วสิ่งที่ผมเจอนั้นก็คือ พ่อกับแม่ครับ...ผมหัวใจตกไปถึงตาตุ่ม...นี่พ่อกับแม่แอบมาฟังเราตั้งแต่เมื่อไหรแล้วได้ยินอะไรบ้าง...ตายห่าละ...กรูจะโดนเชือดไม๊เนี่ย

แม่ : คุยกับใครอ่ะลูก

พ่อ : แฟนมันแน่เลยแม่

บี : คุยกับพี่เขมครับ

แม่ : พี่เขมนักบินเหรอลูก...โอ้ย แม่คิดถึงจังเลย ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว

พ่อ : อ่อ...พี่นักบิน...แล้วคุยกันเรื่องอะไร พ่อได้ยินอะไรแปลก ๆ

บี : ได้ยินอะไรพ่อ...นี่มาแอบฟังลูกคุยโทรศัพท์เหรอ

พ่อ : ป๊าววววววววววววววววว

บี : พี่เขมจะมาพรุ่งนี้ครับ...นอนโรงแรมลูกเรือครับ อาจจะขอให้แม่ทำกับข้าวให้กินหน่อยได้ไม๊แม่

แม่ : ได้สิลูกรัก...มากันกี่คนหละลูก

บี : เออ...ลืมถามไปเลย...เด๋วไลน์ถามให้นะแม่

แม่ : ก็โทรหาพี่เค้าไปเลยสิ...จะได้รู้เรื่องเลย

บี : อ่า ๆ ก็ได้ ๆ

ผมต่อสายถึงพี่เขมทันที...ตามคำบัญชาของท่านแม่...

พี่เขม : ว่าไงแฟนนนนนนนนนนน...(เสียงดังรอดออกมาจากโทรศัพท์ผม)
(พ่อกับแม่หันมามองหน้ากันแล้วก็ทำหน้าตางง ๆ )

บี : พี่เขมนี่บีเองครับ....แม่ถามว่าพรุ่งนี้พี่กับเพื่อน ๆ จะมากี่คนครับ

พี่เขม : เปลี่ยนเสียงทันที...น่าจะ 4 คนก่อน มี พริ้ง ตาล เก่ง แล้วก็พี่

บี : โอเคครับ...พี่โด่ง กับ พี่มิ่งไม่มาเหรอครับ

พี่เขม : มันบอกไม่ว่างอ่ะ ถ้าว่างอีกวันอาจจะตามมา

บี : แล้วพี่เขมมากี่โมงครับ...

พี่เขม : พี่น่าจะไปได้น่าจะ 5 โมง แต่พริ้งกับตาล แล้วก็เก่งน่าจะไปได้ตั้งแต่เช้าเลยอ่ะ

บี : งั้นเด๋วผมบอกแม่ให้ครับ แล้วเจอกันครับพี่

พี่เขม : คิดถึงนะ...(ด้วยเสียงกระซิบ)

พ่อ : “เป็นแฟนกับพี่เขมเหรอ”...พ่อถามด้วยสีหน้าตายมากครับ...ผมไม่รู้ว่าพ่อถามเพราะเอาตลกหรือว่าถามเพราะรู้สึกสงสัย

บี : ยังไงนะพ่อ...

พ่อ : อ่าวก็ได้ยิน “แฟนนนนนน” รอดออกมาจากโทรศัพท์

แม่ : แหม่พ่อ...พี่เขมเค้าล้อเล่นกับลูกรึป่าว

บี : พ่อคิดอะไรอ่ะ...แปลก ๆ

พ่อ : เออ...พรุ่งนี้พ่อไม่อยู่นะ...

แม่ : อ่าวไปไหนหละพ่อ...ลูกกลับบ้านมาทั้งทีอยู่แป๊ปเดียว

พ่อ : มีประชุมอ่ะ...แล้วคงจะต้องไปกินเลี้ยงต่อ

แม่ : อ่า ๆ ๆตามนั้น

บี : นึกว่าจะอยู่ด้วย...

พ่อ : แหม่ ๆๆ  ไอ้ลูกหมา บีก็ไม่อยู่ไม่ใช่เหรอจ๊ะ...ไปกินข้าวกับเพื่อนไม่ใช่เหรอ

บี : เออลืมไป...555555


ีต่อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 30 เรื่องที่เคยขอ P.4 ( 8-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 08-11-2017 18:01:36
ต่อครับ

ตอนเดินกลับบ้าน...ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วครับว่าพ่อแม่รู้เรื่องพี่เขมรึเปล่า​​...แต่จากที่อ่าน ๆ พวกหนังสือมา...เค้าบอกว่า พ่อแม่มักจะรู้...แต่อยู่ที่ยอมรับได้รึเปล่าเท่านั้นแหละ... แต่ตอนนี้ผมไม่อยากให้พ่อกับแม่กังวลเรื่องผมเลยครับ...ถ้าเกิดแม่งรู้ขึ้นมา ผมอาจจะโดนล่ามโซ่ไม่ให้ออกไปไหน...อย่าหวังเลยว่าจะได้ไปเรียนต่อ...น่าจะได้ขัดรองเท้า ถูบ้านไปตลอดชีวิต
ผมกลับมาบ้าน...เปิดโทรศัพท์เช็คไลน์...ข้อความประมาณ 15xx กว่าข้อความถูกส่งมา แต่ที่น่าตกใจคือไม่ได้เป็นกรุ๊ปที่ข้อความส่งมาเยอะ แต่เป็นคนที่ส่งข้อความมาให้กำลังใจผมกันครับ....ผมแทบจะลืมไปแล้วว่า...ผมสอบเพอร์ไม่ได้...5555

สิ่งแรกที่ผมจะทำคือ...โทรหาอีเปรี้ยวครับ...ผมต้องเล่าเรื่องที่ผมจะไปเรียนต่อให้มันฟังก่อน...เด๋วมันจะแดกหัวผมเอา

เปรี้ยว : เมิง....ไม่เป็นไรนะ...กรูไม่กล้าโทรหาเมิงเลย...กลัวเมิงเฮริต

บี : เปรี้ยว...กรูกำลังจะไปเรียนต่อ

เปรี้ยว : เหี้ยยยยยยยยย....เมิงพูดจริง....อย่ามาหลอกกรู

บี : จริง...พ่อแม่ให้ไปเรียนต่อหวะ

เปรี้ยว : อีสัส...เมิงจะทำไง...มึงจะทิ้งกรูไปเหรอ

บี : เอาจริง ๆ กรูก็อยากไปนะ...

เปรี้ยว : แล้วเมิงไปเรียนต่อไหน...เรียนในไทยไม๊

บี : ออสหวะ

เปรี้ยว : เออดี...กรูมีบินไป...ไม่แคร์ละ...แต่เมิงต้องมาหากรูทุกครั้งที่กรูบินไป

บี : ได้ดิไม่ซี...

เปรี้ยว : ก็ดีกับมึงแล้ว...ว่าแต่ ทำไมอยากเรียนต่อฟระ

บี : กรูก็เริ่มเบื่อบินละนะ

เปรี้ยว : แล้วเรื่องพี่เขมหละ...เมิงจะทำไง

บี : เนี่ยแหละ...กรูจะมาปรึกษาเมิงเรื่องนี้แหละ เอาไงดีฟระมึงว่า

เปรี้ยว : มึงว่า...พี่เขมมั่นคงกับมึงไง

บี : กรูไม่แน่ใจ

เปรี้ยว : งั้นคำตอบก็

บี : ใช่...กรูว่ากรูจะเลิกกับพี่เค้าก่อนไป...แต่กรูจะเลิกยังไงให้มัน เจ็บน้อยที่สุดดีฟระ

เปรี้ยว : หาโจทย์ยากมาให้กรูเสมอเลยนะชีวิตมึงเนี่ย

บี : ก็เออดิ...เป็นเพื่อนกรูใครว่าง่าย

เปรี้ยว : ก็จริง...ปลาตะเพียนชิบหายเลย

ผมคุยกับเปรี้ยวอยู่นานครับ...คิดเรื่องการบอกเลิกกับพี่เขมให้มันเจ็บน้อยที่สุด แล้วผลสรุปก็คือ....ไม่ได้ห่าอะไรเลยจากอีเปรี้ยวครับ....มันเป็นคนดราม่า ที่ดูหนังเกาหลีและหนังฝรั่งเยอะเกินไป...แผนแต่ละอย่างที่คิดออกมานั้น ล้วนแล้วแต่ เล่นใหญ่มากกกก ไม่ว่าจะเป็น บอกว่าป่วยต้องไปรักษาตัวเมืองนอก แสร้งว่า...มีแฟนใหม่เป็นฝรั่งล่ำ...ไปจ้างนายแบบมาแล้วจะไปอยู่ออสตาม ผ. ใหม่ไป (แผนนี้กระหรี่มากกก) ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่จับได้ว่าคบกับพี่เขม เลยส่งไปอยู่นอก หรือจะเป็น เพราะพี่เขมดีเกินไป...เราจึงรักกันไม่ได้

.
.
.

วันรุ่งขึ้น...ผมตื่นแต่เช้าไปรับพี่พริ้ง พี่ตาลแล้วก็พี่เก่งครับ...พี่ตาลเดินเข้ามากอดผมเป็นคนแรกเลยครับ...แล้วก็ตามด้วยพี่พริ้ง...แต่ที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือพี่เก่งเนี่ยแหละครับ...ผมไม่ได้เจอพี่เก่งนานมากครับ...น่าจะตั้งแต่มีเรื่องกับพี่เขมคราวก่อน แล้วผมก็ไม่ได้คุยกับพี่เก่งเลยอีกด้วย พี่เก่งเข้ามาสวมกอดผมแล้วก็ยกตัวผมขึ้นไป

พี่เก่ง : ไอ้หนูน้อย...พี่ขอโทษนะที่พี่ไม่ได้ดูแลไอ้เขมมัน เรื่องนั้นพี่ก็อยู่ด้วยพี่เป็นพยานให้ไอ้เขมมันได้นะ...

บี : เหยพี่เก่ง....มันตั้งนานแล้วไม๊...

พี่เก่ง : ก็กรูรู้สึกผิดอ่า...แม่ไอ้เขมเล่าว่า มึงตัวผอมลง หน้าตาซีดเซียวเลยตอนนั้น

บี : มันก็อาการคนอกหักป่าวฟระพี่...ผมไม่ได้เป็นมะเร็งซะหน่อย

พี่ตาล : แล้วหายเครียดรึยังเรื่องเพอร์อะ

บี : หายแล้วครับพี่...สบายมาก...

พี่พริ้ง : บีนี่....สตรองกว่าที่พี่คิดไว้เยอะมากเลยนะ

พี่ตาล : เออจริง...พี่คิดว่าจะต้องทำหน้าเปื้อนน้ำตามารับพวกพี่ซะแล้ว

พี่เก่ง : มึงจำได้มะ...ที่ไอ้เขมเล่าตอนมันโดนบีไล่กลับบ้านพร้อมไอ้หมออ่ะ แม่งโคตรน่ากัวเลย....นี่มันจะไม่สตรองก็ให้มันรู้ไป

บี : นี่พี่นินทาเรื่องผมกันต่อหน้าผมเลยเหรอพี่ๆ คับ

พี่เก่ง : นั่นไง...มันแดกพวกเราให้ละ

บี : แหม่ ๆ ๆอรรถรสไม๊หละพี่

พี่ตาล : ไหนว่ามา...วันนี้พาเจ๊ไปกินอะไรบ้าง

พี่พริ้ง : พี่อยากกินอาหารเหนือสุด ๆ ไปเลย

พี่เก่ง : ขอกาแฟก่อนได้ไม๊...บนเครื่องแม่งกาแฟเปรี้ยวสัส...

บี : อยากไปร้านไหนหละพี่เก่ง ตอนนี้มัน 9 โมงอยู่อ่ะ...ก็คงมีร้านแบบว่า ที่ไม่ใช่ร้านสวย ๆ อ่ะ ร้านสวย ๆ คงยังไม่เปิดมั้ง

พี่เก่ง : ริด รด โต้...อะไรซักอย่างอ่ะ... ขอร้านนั้นเลย...พี่จำได้มันเปิดตั้งแต่เช้า

บี : เออ...กาแฟเค้าดีจริง....พ่อค้าไม่ค่อยแซ่บเท่าไหร

พี่เก่ง : พี่แซ่บคนเดียวก็พอน้อง วันนี้อ่ะ

บี : แหวะ....

พี่ตาล : เมิงเนี่ยนะแซ่บ

พี่พริ้ง : ว๊ายยยย...ร้านโปรดฉัน...ใครว่าไม่แซ่บ ฉันขอ

พี่ตาล : พูดไม่เกรงใจผัวเมิงเลยนะ...

พี่พริ้ง : ใคร..ผัว อะไร ไม่มี อยู่ประเทศเชียงใหม่ ฉันเป็นโสดจ๊ะ วีซ่ากรูผ่านแล้ว 3 วัน เพราะผัว ไปต่างประเทศ...คริ ๆ

พี่ตาล : ถึงว่า...ไอ้อ้วนชวนแป๊ปเดียวตอบรับแบบไม่คิดเลย

พี่เก่ง : มา ๆ งั้นก่อนที่ไอ้เขมจะมา....พี่จะเป็นแฟนให้ก่อนละกัน

บี : ถามไม๊ว่าอยากได้รึป่าว

พี่เก่ง : เฮ้ยไอ้หนูน้อย...ให้มันน้อย ๆ หน่อย...

พี่ตาลเดินมากระซิบข้างหูผม... “เล่นกับมันหน่อยนะ...มันเหมือนจะเลิกกับไอ้ต้า”

ผมทำหน้าตาตกใจ....แล้วก็พยักหน้ารับคำของพี่ตาล

บี : อ่า ๆ ๆ แค่ถึงพี่เขมมาแค่นั้นนะ...ถ้าพี่เขมมา...แฟนผม ผมก็อยากดูแล

พี่เก่ง : นี่พี่เป็นเพื่อนแฟนนะ...ก็ต้องดูแลไม่ต่างกัน

บี : เอาใหญ่  นะพี่...

พี่เก่ง : นะ ๆ ข้อร้องหละ...ยอมๆ  พี่ซักวันเหอะ

บี : อ่าๆ  ๆก็ได้  ๆ นี่ทริปนี้ต้องตามใจใครกันแน่เนี่ย...ผมไม่ใช่เหรอที่ต้องเศร้าอ่ะ

พี่เก่ง : แต่ละคนก็มีเรื่องเศร้าของตัวเองป่าวว้าาาา....

ผมมองหน้าพี่เก่ง...แล้วผมก็สังเกตเห็นว่า...ขอบตาพี่เก่งนั้นคล้ำมาก...คงจะนอนไม่หลับมาหลายคืน...แล้วสีหน้าก็ดูเศร้าลงไปถนัดตาเมื่อพี่เก่งพูดถึงคำว่าเศร้า ผมเปลี่ยนบรรยากาศทั้งหมดด้วยการ จับหัวพี่เก่งลงมาแล้วจุ๊บลงที่หน้าผาก

บี : ไม่เป็นไรนะพี่...ผมเติมพลังให้

พี่ตาล : ไม่ต้องไปตามใจมันมากก็ได้นะบี...ไอ้นี่มันขี้สำออย...เห็นตัวมันใหญ่ ๆ นะ ใจปลาซิวมากกกก

พี่พริ้ง : นี่ถ้าไอ้เขมมาเห็นนะ...ไอ้เก่ง...เลือดหัวมึงออกแน่

พี่เก่ง : กรูไม่สนใจละ...ไอ้หนูน้อยต้องเป็นของกรู จนถึงไอ้เขมมาเด๋วกรูคืนให้มัน...(ว่าแล้วพี่เก่งก็ รวบตัวผมไปกอดอีกที)

ผมเหมือนตุ๊กตาและที่วางแขนของไอ้พี่เก่งมันไปโดยปริยายครับ...ไม่ว่าจะไปไหนทำอะไร ไอ้พี่เก่งจะมาอยู่ข้างตัวผมตลอด แล้วเวลาเดินก็จะเอาแขนอันล่ำและหนักอึ้งมาพาดไว้ที่ไหล่ผมตลอดเวลา...ผมก็ปล่อยให้พี่เก่งพาดไปครับ...มันไม่ได้มีความรู้สึกเหมือนกับ แฟน แต่ผมมีความรู้สึกเหมือนกับพี่ชายซะมากกว่า...แต่เป็นพี่ที่ปัญญาอ่อนมากเลยนะครับ

พอมาถึงร้านกาแฟ...ผมบอกทุกคนว่าตอนเย็นแม่จะทำกับข้าวมาให้กิน พี่ ๆ ได้จองห้องแบบไหนไว้...ถ้าเป็นห้องใหญ่ก็ดีเลยจะได้มีพื้นที่กินข้าว...พี่ตาลรีบโทรหาโรงแรมในการอัพเกรดห้องให้เป็นห้องใหญ่ ที่มีสองห้องนอนแล้วมี 1 ห้องนั่งเล่น...คือโรงแรมนี้เป็นโรงแรมที่ลูกเรือพักเป็นประจำอยู่แล้วครับเมื่อมาค้างเชียงใหม่ แล้วโดยปกติเลย...นักบินจะได้ห้องใหญ่กว่าลูกเรือครับ...โดยถ้าผิดปกติก็จะได้ห้องนี้ ซึ่งใหญ่มาก...และมีควาหลอนมากเหมือนกันครับ...ผมเคยได้นอนห้องนี้คนเดียวอยู่ 2 ครั้ง....คือบอกได้เลยว่า...จะใหญ่ไปไหน...มีความวังเวง เพราะมี 2 ห้องนอน แล้วห้องนอนก็อยู่กันคนละฟากอีกด้วย...ทำให้เมื่อเข้าห้องไปปุ๊ป ผมต้องรีบเดินไปปิดประตูห้องอีกห้องนึงทันทีเพราะว่า....กลัวจะเห็นอะไรในห้องนั้น...55555 ถ้าจะคุยกับลูกเรือและนักบินเรื่องโรงแรมผีสิงนะครับ....ผมบอกได้คำเดียวเลยว่า.....น่ากลัวยิ่งกว่า ชมรมขนหัวลุก เลยทีเดียว...(ชื่อรายการบอกอายุมากเลยครับ)

พี่เก่งยังไม่เคยมาเชียงใหม่แล้วได้กินข้าวฝีมือแม่ผมครับ...พี่เก่งเลยดูเฉย ๆ แต่พี่ตาลกับพี่พริ้งนี่สิครับ...ตาเป็นประกรายขึ้นมาทันทีเลยครับ...ตอนเที่ยงผมก็พาพี่ๆ  ไปกินข้าวซอย แล้วก็มาต่อกันที่ร้านขนมในนิมมานครับ...วันนี้เราไม่ได้ไปไหนไกลเพราะต้องรอรับพี่เขมที่จะมาถึงตอนประมาณ 5 โมงเย็นครับ...พอช่วงบ่าย ๆ อากาศก็เริ่มร้อนหน่อย ๆ แล้ว พี่สาวทั้งหลายเลยขอตัวไปนอนงีบหน่อย เพราะน่าจะตื่นกันตั้งแต่เช้าครับ แต่ไอ้พี่เก่งนี่สิ...ตาสว่างโล่เลยครับ...เพราะมันเล่นกินกาแฟไป 5 แก้ว มันบอกว่าอยากลองให้หมดเพราะนาน ๆ ทีมาเชียงใหม่ ผมก็ไม่รู้จะพามันไปไหนดี

พี่เก่ง : ไอ้หนูน้อย...พี่อยากไปดอยสุเทพอ่ะ...ไกลมะ พาไปหน่อยดิ พี่ไม่เคยไปเลย

บี : พี่พูดจริง...พี่ไม่เคยไปดอยสุเทพ...ได้ไงอ่ะ...มาเชียงใหม่ก็ต้องได้ไปดิ

พี่เก่ง : กรูไม่ได้เป็นนักบินเหมือนพวกเพื่อนกรูนะโว้ย นี่มาครั้งที่ 2 เองมั้ง

บี : เฮ้ยพี่พูดจริง...ไม่เป็นไรเด๋วผมทำหน้าที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองเอง

พี่เก่ง : ดีมากไอ้หนู....มาให้พี่หอมที

ว่าแล้วไอ้พี่เก่งก็ดึงตัวผมไปหอมแก้มทั้ง 2 ข้างทำอย่างกะผมเป็นตุ๊กตา ผมทำหน้าเหยเกแต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร

พี่เก่ง : ให้มันเต็มใจหน่อยดิ...เด๋วก็คืนให้ไอ้อ้วนมันแล่ว

บี : นี่พี่เห็นผมเป็นตุ๊กตาเหรอ...ผมเป็นคนนะเว้ย

พี่เก่ง : ก็เอ็งมันน่ารัก น่าแกล้งอ่ะ...ยิ่งแก้มมึงเนี่ยนะ...น่ากัดมาก

บี : มันเป็นแก้มเสน่ห์รู้จักไม๊....ใครได้ลองแล้วติดใจทุกคน

พี่เก่ง : เอออ...จริงด้วย...พี่ชักจะติดใจแล้วดิ

บี : เห้ยพอ...แก้มช้ำหมด...แก้มผมนะ

พี่เก่ง : ตัดแบ่งขายมะ...ขอคนละข้างกับไอ้เขมได้ไม๊

บี : เอาตีนไปก่อนไม๊พี่....ออกไปจากห้องได้แล้ว.... ไปดอยสุเทพเร็ว

พี่เก่ง : ให้ตีนกรูก็เอา...ตอนนี้อะไรที่เป็นชิ้นส่วนมึงกรูเอาหมดแหละ

บี : อย่ามาโยเย...เรื่องมาก ไป...ออกจากห้องได้แล้ว...(ผมทำหน้าดุออกคำสั่งทันที)

ผมพาพี่เก่งไปดอยสุเทพแล้วก็แวะดูจุดชมวิวของเมืองแล้วก็พาไปนั่งที่น้ำตกแป๊ปนึง ตลอดทาง...พี่เก่งดูตื่นเต้นไปหมด...น่าจะไม่เคยขึ้นดอยครับ...คนเมืองกรุงก็อย่างนี้แหละ เห็นต้นไม้เยอะ ๆ หน่อย อากาศเย็น ๆ ซักนิดก็ติดใจเชียงใหม่กันหมดแหละครับ แต่พอดูลึก ๆ เข้าไป ผมก็ยังรู้สึกได้นะครับว่าพี่เก่งเนี่ย....มันกำลังเจ็บอยู่ข้างใน ผมไม่รู้หรอกนะครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น...แต่ความรู้สึกแบบนี้...ผมเพิ่งจะผ่านมันมาไม่นาน ผมก็เลยอยากจะให้พี่เก่งรู้สึกดีขึ้น....ผมขับรถมาจอด แล้วซื้ออะไรนิดหน่อยไปกินที่น้ำตกครับ

พี่เก่ง : เฮ้ยมีเบียร์ด้วย...พี่ขอกระป๋องนึงได้ป่ะ

บี : ผมไม่กินนะพี่...ขับรถ...เด๋วตกดอย

พี่เก่ง : กรูก็ไม่ให้มึงกิน...

บี : แหม่ๆ  ๆงั้นกินเผื่อผมหน่อย เอาไปสองกระป๋องเลย

พี่เก่งยิ้มแป้นเป็นการตอบรับ...เราเดินขึ้นไปซักเล็กน้อยก็มีที่ร่ม ๆ ให้นั่งกินดูวิวน้ำตกครับ...

พี่เก่ง : เฮ้ย...อยากเล่นน้ำเลยหวะ...น้ำแม่งเย็นสัส ๆ

บี : เอาลงไปแค่เท้าก็พอไม๊พี่ เด๋วรถแม่ผมเปื้อน

พี่เก่ง : เออ.. ๆ ก้ได้ แต่น้ำแม่งเย็นจริง ๆ หน้าหนาวเชียงใหม่นี่มันเย็นอย่างนี้ตลอดเลยเหรอฟระ

บี : อ่าว..ก็เย็นดิพี่ แล้วนี่อยู่บนดอยด้วยนะ...ยิ่งเย็นเข้าไปอีก

พี่เก่ง : พี่ไม่เคยมาตอนหน้าหนาวเลยอ่ะ...ชอบเลยอ่ะ...

บี : ชอบก็มาอีกดิพี่...ผมพาเที่ยวได้นะ...ครั้งหน้าเด๋วพาเที่ยวให้ทั่วเลย

พี่เก่ง : จริงนะ สัญญา...พร้อมกับยื่นนิ้วก้อยออกมา

ผมอึ้งไปซักแป๊ป...ผมลืมตัวไปเลยครับว่าผมกำลังจะไปเรียนต่อ แล้วการสัญญาของผมกับพี่เก่งเนี่ย...ผมอาจจะรักษามันไว้ไม่ได้...ผมเลยรีบเปลี่ยนเรื่อง

บี : เฮ้ย...ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ไม๊พี่...ขอแค่พี่มาแล้วผมอยู่เชียงใหม่นะ...ยังไงผมก็พาพี่เที่ยว...จะต้องสัญญาเป็นเด็กไปได้

พี่เก่ง : มึงจะไปไหน

บี : ไม่ได้ไปไหนพี่...ก็อยู่นี่ไง

พี่เก่ง : แล้วแค่สัญญาแค่นี้ ทำไมไม่รับวะ

บี : พี่เก่ง...อนาคตมันไม่แน่นอน...วันนึงผมอาจจะเลิกกับพี่เขมอีกก็ได้นะ

พี่เก่ง : ไอ้หนูน้อย...มึงรู้ไม๊ว่า ไอ้เขมมันรักมึงมากแค่ไหน

บี : ก็รู้นะพี่...แต่หลังจากตอนนั้นมา...ผมก็...

พี่เก่ง : กรูเข้าใจ...แต่มึงเคยรู้ไม๊ว่า ตอนนั้นไอ้เขมมันเป็นบ้าไปเลยนะ

บี : แล้วพี่รู้ไม๊ครับ...ว่าผมก็เป็นบ้าไม่แพ้กัน...พี่พูดเหมือนกับผมไม่มีหัวใจอย่างนั้นหนะ...(ผมทำหน้าบูดใส่พี่เก่ง...แอบน้อยใจเล็ก ๆ)

พี่เก่ง : ก็ไอ้เขมมันก็เพื่อนพี่ไง...แล้วพี่ก็อยู่กับมันตลอด

บี : ก็แน่สิ...ผมมันไม่ใช่เพื่อนพี่หนิ

พี่เก่ง : ไม่งอนนะ ๆ

ผมนั่งก้มหน้ากอดเข่าแล้วมุดหน้าลงไปไม่ให้พี่เก่งเห็น... พี่เก่งพยายามง้อเอานิ้วมาแหย่ จักจี้ผม แล้วไม่นานพี่เก่งก็ลุกขึ้นอุ้มผมเหมือนลูกบอล

พี่เก่ง : ถ้ามึงยังงอนกรู กรูจะจับมึงทุ่มลงไปในน้ำ

บี : เฮ้ยพี่เก่ง...ปล่อย  ๆ ๆยอมแล้ว ๆ ๆๆ

พี่เก่ง : แน่นะ.....

บี : ยอมครับ ยอม...

พี่เก่ง : ให้กรูกัดแก้มด้วย 1 ที

บี : ครับ ๆ ยอมๆ ๆ

พี่เก่ง : 2 ที

บี : ไอ้ห่า...ได้คืบจะเอาศอก

พีเก่งรีบปล่อยผมลง...แล้วคนแถวนั้นก็หันมามองเต็มไปหมด เพราะเสียงโวยวายผมดังขึ้นเรื่อย ๆ จนตะโกนว่าไอ้ห่ามะกี้สุดเสียง....พี่เก่งนั่งขำไม่หยุด ผมนี่หน้าแดงเลยครับ...อายก็อาย...ผมเลยเปิดเบียร์กินแก้เขิน...55555 ไอ้พี่เก่งรีบมาแย่งจากมือหลังจากที่ผมจิบไปได้นิดเดียว...ซักพักผมก็ถามพี่เก่งเรื่องของพี่ต้า...พี่เก่งดูหน้าเครียดขึ้นมาทันที...เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย...ผมบอกไปว่าถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะ ผมแค่อยากให้พี่ระบายมันออกมาบ้างเท่าน้ัน...เพราะตอนผมเป็น...ก็มีความรู้สึกที่ไม่ได้ต่างกัน

พี่เก่งหันหน้ามาแล้วกอดผมเข้าอย่างจัง....ผมได้ยินเสียงสะอื้นของพี่เก่งเบา ๆ แล้วก็มีนำ้ตาไหลลงมาที่ไหลผม ผมได้แต่กอดพี่เค้าแล้วก็ลูบหลับเบา ๆ

พี่เก่ง : มึงไอ้หนูน้อย รู้ไม๊...ไม่มีใครถามอะไรกรูเลย...กรูไม่รู้ว่าทุกคนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย...กรูก็เพื่อนพวกมันนะเว้ย...ทำไมทุกคนไม่ถามกรูเลยซักคำ

บี : ทุกคนก็อยากถามแหละพี่...แต่แค่...เอาเป็นว่าผมถามแทนทุกคนแล้วละกันนะ

พี่เก่งเล่าทุกอย่างให้ผมฟัง มันเป็นเรื่องที่เกินกว่าคนอย่างผมจะไปแก้ไขหรือให้คำปรึกษาอะไรได้ เพราะมันเป็นเรื่องระหว่างครอบครัวของทั้งสองฝ่ายซึ่ง มันทำให้คนที่รักกันสองคน ไปต่อไม่ได้ครับ...เค้าจึงต้องจำใจเลิกกัน...ผมก็เห็นใจทั้งสองฝ่ายนะครับ แต่ตอนนี้ที่ผมเห็นใจสุดก็คงเป็นพี่เก่งเนี่ยแหละครับ...ผมไม่เคยเห็นพี่เก่งในมาดที่กวน ๆ ชอบแกล้งชาวบ้าน แล้วก็ดูชิวกับทุกเรื่อง เครียดจนร้องไห้ออกมาเลยครับ ผมปลอบประโลมพี่เก่งอยู่นาน

พี่เก่ง : ขอโทษนะไอ้หนูน้อย...กรูไม่เคยไปช่วยอะไรมึงเลย...แต่มึงกลับกลายเป็นคนที่มาช่วยฟังกรูระบาย

บี : ก็ผมเป็นไอ้หนูน้อยของพี่ไง...

พี่เก่ง : กรูรู้แล้วหละว่าทำไม ไอ้เขมมันถึงรักมึงมากขนาดยอมไม่อ่านหนังสือเพื่อไปง้อมึงทุกวัน

บี : พี่ว่าไงนะ....

พี่เก่ง : ห่านจิก...กรูไม่ได้พูดอะไรออกไปนะ...อากาศวันนี้มันร้อนจัง

บี : พี่เก่ง...เล่ามา

พี่เก่ง : อ่าๆ ๆ เอาเป็นว่ากรูเล่าก็ได้...มันมีแต่จะทำให้มึงสองคนรักกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น...แต่ตอนแรกไอ้เขมห้ามให้กรูไปเล่าให้ใครฟังเลยนะ ตอนนี้มันคงไม่ว่าแล้วมั้ง

“ก็คือว่า...จำได้ไม๊ว่าช่วงหลังที่บีสอบเสร็จอ่ะ...ไอ้เขมมันยังสอบไม่เสร็จเลย...แต่มันก็ไปง้อทุกวัน...จำได้ใช่ป่ะ....ช่วงนั้นมันเลย...พลาด ๆ อะไรไปหลายอย่างแหละมั้ง มันเลยทำให้มันไม่ได้กัปตันในรอบนี้อ่ะ”

บี : เชี่ยละไง...

พี่เก่ง : พี่ถามมันว่า...ทำไมถึงต้องทำขนาดนี้ มันก็ตอบพี่ว่า ถ้ามันได้เป็นกัปตันแต่มันไม่มีมึงอยู่ข้าง ๆ มันก็ไม่มีความหมาย...มันสัญญากับมึงไว้ว่าหลังจากที่เป็นกัปตันแล้วจะขอให้ย้ายไปอยู่ด้วยกัน แต่ถ้ามันได้เป็นแล้ว มันไม่มีมึง....กัปตันก็ไม่มีความหมายสำหรับมัน

ผมนั่งอึ้งไปเลยครับ...ผมลืมไปเลยว่าช่วงนั้น พี่เขมมาง้องอนผมตลอด...แล้วไอ้ผมเนี่ย ก็ใจแข็งมากกกก...ไม่สนใจพี่เขมเลยซักนิดเดียว...ผมจำได้ดีว่าทุกครั้งที่ผมกลับคอนโด...ผมจะต้องเจอหน้าพี่เขม ก่อนผมขึ้นไปทุกครั้ง แรก ๆ ผมก็ไม่สน...แต่ซักพักผมก็ยอมคุยกับพี่เขม...แล้วพี่เขมก็ทำทุกอย่างเหมือนมาจีบผมใหม่อีกรอบเลยครับ...เพียงแต่คราวนี้ผมเล่นตัวเยอะไปหน่อยเท่านั้นเอง...จริง ๆ แล้วเห็นหน้าตั้งแต่วันแรกๆ ผมก็ยอมพี่เค้าแล้วหละ...แต่ร้องไห้ไปตั้ง 3 วัน ก็ต้องมีฟอร์มหน่อยว่ามะ? แต่ผมก็ไม่คิดว่าพี่เขมจะเอาอนาคตของพี่เค้ามาแลกกับผมเลย...ซึ่งยิ่งทำให้ผมรู้เลยครับว่าตัวผมเนี่ย...ไม่คู่ควรกับพี่เขมเลยแม้แต่น้อย...แล้วตอนนี้ยิ่งผมกำลังจะไปเรียนต่ออีก...ผมยิ่งเหมือนทรยศพี่เขมหนักเข้าไปอีก....ยังไม่รวมที่ผมจะบอกเลิกกับพี่เขมอีกนะครับ...ทำไมผมมันชั่วไร้ที่ติอย่างน้ีเนี่ย








To be continued…


ป.ล. ตอนนี้อากาศหนาวแล้ว ป่วยหน่อย ๆ เลยครับเจ็บคอ ถ้าอะไรผิดพลาดไปขออภัยด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 31 ความลับ P.4 ( 8-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-11-2017 18:46:05
ดูแลตัวเอง ขอให้หายไวไว :L2:

มาม่าชามนู้น ชามนี้ อืดไปยาวๆ


 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 31 ความลับ P.4 ( 8-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 08-11-2017 20:49:23
มาม่าอร่อยเชียว
มารอดูว่าตอนหน้าน้องบีจะออกสเต็บแบบไหนเพื่อขอไปเรียนต่อ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 31 ความลับ P.4 ( 8-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 08-11-2017 21:00:08
ดูแลตัวเอง ขอให้หายไวไว :L2:

มาม่าชามนู้น ชามนี้ อืดไปยาวๆ


 :L1: :pig4:

อะไรคือมาม่าอ่ะครับ...ผมไม่เข้าใจเลย
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 31 ความลับ P.4 ( 8-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 08-11-2017 21:09:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 31 ความลับ P.4 ( 8-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 08-11-2017 21:13:37
รักษาสุขภาพด้วยจ้า  หายไวๆนะ
พี่เขม  อะไรเนี่ย  เหอๆๆ  จะตัดสินใจยังไงเนี่ยบี
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 31 ความลับ P.4 ( 8-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-11-2017 21:18:05
ดูแลตัวเอง ขอให้หายไวไว :L2:

มาม่าชามนู้น ชามนี้ อืดไปยาวๆ


 :L1: :pig4:

อะไรคือมาม่าอ่ะครับ...ผมไม่เข้าใจเลย


เศร้าเรื่องอีพี่เขมนอกใจ  ต่อมาเรื่องสอบไม่ได้  ติดๆมาเรื่องต้องตัดสินใจไปเรียน  ปวดหัวและปวดใจยาวๆ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 31 ความลับ P.4 ( 8-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 09-11-2017 10:06:04
อื้อหือ เหมือนจะเข้าใจอะไรกันมากขึ้น
แต่บีก็จะไปเรียนต่ออีก
จะเอายังไงค่ะ คิดหนักอีกแน่
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 31 ความลับ P.4 ( 8-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Somporn ที่ 09-11-2017 10:30:02
น่ารัก สนุกมากครับ  :mew1:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 31 ความลับ P.4 ( 8-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 09-11-2017 21:43:36
ตอนที่ 32 ความแตก (NC20+)

ขณะที่ขับรถกลับจากน้ำตก...มันเป็นการขับรถที่เงียบมากครับ...ผมขับรถไปก็คิดเรื่องพี่เขมไปครับ...ผมไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรดี...กับการที่พี่เขมเอาอนาคตของพี่เขมมาแลกกับการง้อผมไว้...และการที่ผมจะทิ้งพี่เขมแล้วไปเรียนต่อ ผมรู้ดีความว่าการรอคอยมันเจ็บปวดแค่ไหน...นี่เป็นเหตุผลหลักเลยครับว่า ทำไมผมอยากจะบอกให้พี่เขมไม่ต้องรอผม ทั้ง ๆ ที่ผมก็ยังรักเค้าอยู่เต็มหัวใจ การรอคอยมันยากมาก และการที่จะขอให้ใครคนนึงรักษาสัญญาไว้ให้ดี โดยที่ตัวไม่ได้อยู่ใกล้กัน มันยิ่งยากไปอีกครับ...และที่สำคัญผมไม่อยากให้พี่เขม เจ็บปวดกับความรักที่ผมมีให้ ผมอยากให้พี่เขมมีความสุข ในการใช้ชีวิต...ถึงแม้จะไม่มีผมอยู่ด้วยแล้วก็ตาม

ไม่นานพี่เขมก็โทรเข้าหาผมครับ...มือถือผมวางอยู่ข้างตัวผม...ไอ้พี่เก่งคว้าเอามือถือผมไปกดรับทันที...

พี่เก่ง : สวัสดีครับ...โทรมาหาใครครับ...(พี่เก่งดัดเสียงหล่อ)

พี่เขม : ใครอ่ะ...ขอสายบีหน่อยครับ

พี่เก่ง : แฟนผมขับรถอยู่ครับ..คุณมีอะไรรึป่าวครับ

พี่เขม : ไอ้ห่า...มึงเอาบีมาพูดเร็ว

พี่เก่ง : ตอนนี้ น้องบีเป็นแฟนกรูแล้วเว้ย...มึงเป็นได้แค่ที่สอง

พี่เขม : ไอ้สัสนี่ปล่อยอยู่กะเมียกรูไม่ถึงครึ่งวัน...คาบเมียกรูไปแดกเหรอ เด๋วมึงตาย

พี่เก่ง : กรูจะจับไอ้หนูน้อย ไว้เป็นตัวประกัน

พี่เขม : บอกให้มารับกรูเร็ว ๆ เครื่องแลนแล้วเนี่ย

พี่เก่ง : อ่าวเหรอ ๆ  กรูไปเที่ยวกับแฟนเพลินไปหน่อยอ่ะ ลืมไปรับผัวเก่าเลย

พี่เขม : ยังไม่หยุดนะมึง...รีบมาเร็ว กรุคิดถึงแฟนกรูแล้ว

พี่เก่ง : โอ้ยยยย....ให้มันน้อย ๆ หน่อยก็ได้

บี : พี่เขม ทำไมถึงเร็วจังอ่ะ...

พี่เขม : ก็มาถึงสนามบินก่อนนิดหน่อยเลยได้มาเที่ยวบินก่อนหน้าเลย

พี่เก่ง : ตั๋วสแตนบายของพวกมึงนี่มันดีจริง ๆ เลยเนอะ....มาเครื่องบินหรือรถเมล์ฟระ คือตั๋วจะขึ้นเที่ยวไหนก็ได้งี้เหรอ

พี่เขม : Sleep with me…free stand by ticket เว้ย

พี่เก่ง : งั้นเด๋วกรูจะ sleep with ไอ้หนูน้อยละ...กรูจะได้ตั๋วฟรีบ้าง

พี่เขม : ไอ้สัส....ไม่ได้ นั่นของกรู...รีบมารับเร็ว

บี : ได้ครับพี่...รอแป๊ปนะ

ไม่เกิน 10 นาทีผมก็ขับรถถึงสนามบิน...ผมเดินลงมาจากรถมารับพี่เขม แล้วพี่เขมก็ได้ไปนั่งด้านหลัง..เพราะพี่เก่งไม่ยอมลงจากด้านหน้าให้พี่เขมนั่ง...555
พี่เขมเอามือมากอดผมไว้จากด้านหลังแล้วก็เอามืออีกมือคอยปัดมือพี่เก่งออกจากตัวไม่ให้ยุ่ง...

บี : เล่นกันเป็นเด็กแย่งของเล่นไปได้...ผมคนนะไม่ใช่ตุ๊กตาบาบี้

พี่เก่ง : แหม่ๆ  ๆสวยเชียวนะเมิง

พี่เขม : แฟนกรู...มึงห้ามแตะละ

พี่เก่ง : เออ...กรูคืนให้ก็ได้ จะว่าไป มีแฟนเป็นผู้ชายมันก็สบายใจดีเนอะ

พี่เขม : อะไรมึง...ไปทำอะไรกับแฟนกรูมา

พี่เก่ง : ไม่บอก...เป็นความลับของกรูกับไอ้หนูน้อย

พี่เขม : กรูจะไม่อ้อมค้อมนะ...มึงโอเคไม๊ไอ้เก่ง....เลิกกับต้าเหรอ

พี่เก่งทำหน้าเศร้าลงไปทันที...แล้วก็พยักหน้า

บี : แล้วทำไมพี่เขมไม่ปลอบเพื่อนบ้างเลย...

พี่เขม : พี่ก็ยังจะเอาตัวไม่รอดไม๊...แฟนพี่อีก แล้วเป็นไงบ้างหละบี...โอเครึยัง

บี : สบายมากพี่...มานอนกอดแม่แล้วหายละ

พี่เขม : ดีเนอะ...นอนกอดแฟนก็หายเหมือนกันนะ

บี : นอนกอดแฟน เด๋วนอนคืนนี้

พี่เก่ง : อ่าวห่านจิก...แล้วให้กรูไปนอนไหนฟระ

พี่เขม : โซฟาหน้าห้องไง

พี่เก่ง : ไม่...กรูจะนอนแทรกกลาง...ลองเอากันดูดิ...กรูจะอัดคลิปประจาน

พี่เขม : กรูไม่กลัวอัดคลิปหรอก...กรูกลัวเมิงเข้ามาร่วมวงแล้วติดใจ

พี่เก่ง : เออหวะ...ก็น่าลองอยู่ ช่วงนี้จิตใจยิ่งไม่ปกติ

พี่เขม : เฮ้ย ไอ้สัส ไม่ได้ดิ...นี่แฟนกรู

พี่เก่ง : แฟนมึงก็เหมือนแฟนกรูแหละ แบ่ง ๆ กันใช้

บี : ฮัลโล่....นั่งขับรถอยู่นี่..ถามบ้างว่าอยากได้ใครไม๊

เราขับรถกันมาถึงโรงแรมครับ...เข้าไปในห้องใหญ่...ตอนนี้ก็เกือบจะ 4 โมงเย็นเข้าไปแล้ว อากาศด้านนอกก็ยังคงร้อนอยู่หน่อย ๆ พี่เก่งคุยใหญ่ว่า ผมพาไปขึ้นดอยสุเทพมา แล้วก็ไปแวะน้ำตกด้วย...แต่พี่ๆ  ทั้งหลายไม่ได้มีความอิจฉาใด ๆ เนื่องจากพี่ทั้ง 3  คนก็คงเคยไปกันหมดแล้ว เรานั่งเม้ามอยกันซักพัก ผมก็ขอขับรถกลับบ้านไปเอาอาหารเย็นมาให้พวกพี่ ๆ ทานก่อน แม่น่าจะทำเสร็จแล้ว แต่พวกพี่ๆ  อยากจะไปเจอแม่ผมด้วย...ผมเลยโทรหาแม่

แม่ : ว่าไงลูกรัก...กับเข้าเส็ดหม๋ดละนาลูก...จะมาหาแม่กี้โมง(กับข้าวทำเสร็จหมดแล้วนะลูก)

บี : แม่...พี่ๆ  ไข้อยากไปตี้บ้านอ่ะ...ไปกิ๋นเข้าตี้บ้านเลยได้ก่อ(แม่ พี่ ๆ อยากไปที่บ้านไปกินข้าวที่บ้านเลยได้ไม๊)

แม่ : มาแล่...มาเลย...ต๋อนแรกแม่ว่าจะถามลูกละ ว่า ยะหยังบะฮื้ออ้าย ๆ เปิ้นมากินเข้าตี้บ้านเฮาเหียเลย(มาสิ มาเลย ตอนแรกแม่ว่าจะถามลูกอยู่แล้วว่าทำไมไม่ให้พี่ ๆ มากินข้าวที่บ้านเลย)

บี : แต้กาแม่...(จริงเหรอแม่)

แม่ : แล้วมากั๋นกี้คน(มากันกี่คน)

บี : 4 คนจ๊ะ

แม่ : จะถึงกี้โมงลูก

บี : น่าจะ 6 โมงงง

แม่ : ได้เลย....จะออกมาแล้วโทรหาแม่กำเน้อ...

บี : ค๊าบบบแม่

ผมหันหน้ามาเจอทุกคนกำลังแอบฟัง....สายตาทุกคนดูลุ้นมากเพราะผมพูดภาษาเหนือกับแม่...คงจะจับใจความยังไม่ได้

บี : ป่ะเด๋วไปกินข้าวที่บ้านแม่เลย

พี่เขม : เย้ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆไปหาแม่ยาย

บี : เน่ๆ ๆ ให้มันน้อย ๆ หน่อย แล้วพี่ ๆ คับ...แม่ไม่รู้นะว่าผมเป็น แล้วก็ไม่รู้นะว่าพี่เขมเป็นแฟนผม...เพราะฉะนั้น...ทำตัวให้น่ารัก ปกติที่สุดโอเคไม๊

พี่เก่ง : นี่แม่ไม่รู้จริงเหรอ...

บี : อืมคับ..

พี่ตาล : แล้วแม่เคยเจอไอ้อ้วนแล้วใช่ป่ะ

บี : คับเคยเจอละ...

พี่พริ้ง : งั้นเรามาจับคู่กันดีกว่า เด๋วชั้นคู่กับไอ้เก่ง แล้วแกไปคู่กับไอ้ตาล

บี : เออดีงาม...ลงตัว สวยงาม

พี่เขม : ไม่เอา...กรูไม่คู่กับใครทั้งนั้น...กรูจะเป็นโสด กรูไม่อยากโกหกแม่บี

บี : อ่า ๆ ตามใจ....อย่าเล่นอะไรพิเลน ๆละกัน...เด๋วเอาขวดฟาดหัว

ไม่นานเราก็ออกเดินทางไปกินข้าวที่บ้านแม่ครับ...ทุกคนดูตื่นเต้นกับอาหารเหนือฝีมือแม่มากครับ...ไอ้ที่เวอร์ที่สุดก็คือ...ไอ้พี่เก่งครับ...แม่งคนอะไรไม่เคยกินอาหารเหนือ...มันบอกว่าเคยกินแต่ไม่อร่อยก็เลยไม่ชอบ...แต่พอกินของแม่เท่านั้นแหละ แทบจะก้มกราบ

แล้วความซวยก็เกิดขึ้นครับ...ผมลืมไปว่า...ผมยังไม่ได้บอกใครว่าจะไปเรียนต่อ

แล้วแม่ก็ทำแผนโป๊ะแตกครับ...หลังจากทุกคนกินข้าวเสร็จ.....แม่ก็เอาเค้กออกมาครับ ผมก็งงว่าวันนี้วันเกิดใคร...แต่แม่บอกกับทุกคนว่า

แม่ : ทุกคนมาก็ดีเลย มาฉลองให้กับน้องบีหน่อยนะลูก เด๋วบีจะไปเรียนต่อแล้วลูก

ผมหน้าซีดทันที...ชิบหายละ...ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครเลยแล้วก็ลืมบอกแม่ว่าอย่างเพิ่งบอกใคร...แผนกลับล่มถล่มทลายในทันที...ผมยังไม่ทันตั้งตัวเลยครับ...สีหน้าที่เปลี่ยนไปเร็วที่สุดก็จะเป็นใครไปไม่ได้...พี่เขมครับ...

ทุกคนเงียบกริบ...แล้วหันมามองหน้าผม ผมทำตัวไม่ถูกเลยยิ้มแหย่ ๆ ออกไป

บี : อีกตั้งนาน แล้วก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรเลย แม่ก็...ใจเย็น ๆ

แม่ : อ่าว...มะคืนเลือกแล้วไงลูก หรือเปลี่ยนอีกแล้วเหรอ

บี : เออ.......

พี่ตาล : ไหนไปเรียนอะไรที่ไหนเนี่ย...จุฬาหรือธรรมศาสตร์ รึป่าว ถามพี่เขมเลย พี่เขมจบจุฬานะ...

แม่ : ไปเรียนต่ออสเตเรียหนะลูก

พัง ๆ ๆ  ๆ พังสถานเดียวครับ....ผมเลยรีบรวบรัดตัดความ...

บี : แม่...เด๋วลูกไปนอนกับพี่ๆ  ๆที่โรงแรมนะ...เด๋วคงไปฉลองกันต่อจะได้ไม่ต้องขับรถกลับบ้าน

แม่ : ไปสิลูก...พรุ่งนี้จะกลับกี่โมงโทรบอกแม่หน่อยละกัน

พี่พริ้ง : มาค่ะคุณแม่เด๋วหนูช่วยเก็บ

แม่ : ไม่เป็นไรเลยลูกเด๋วแม่มีคนมาช่วยเก็บอยู่แล้ว...ไปฉลองกันได้เลยลูก

พี่ตาล : ว๊ายยย...ไม่ได้ค่ะคุณแม่...หนูต้องช่วยเก็บค่ะ

แม่ : งั้นบีพาพี่เขมกับพี่เก่งไปเดินเล่นก่อนก็ได้ลูก อากาศเย็น ๆละ

บี : ครับแม่

พี่เก่ง : งั้นผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับกินเยอะ...ต้องเอาออก


ผมเดินออกมาจากบ้านกับพี่เขมสองคน....มันเงียบจนน่าอึดอัด ผมไม่รู้ว่าผมจะเริ่มตรงไหนดี...ผมถอนหายใจแล้วเรียกพี่เขม

บี : พี่เขม...คุยกับผมหน่อยดิ

พี่เขม : บี...จะบอกพี่เมื่อไหร

บี : ผมยังไม่แน่ใจเลย

พี่เขม : บีจะไม่ให้พี่เตรียมใจหน่อยเลยเหรอ

บี : ผม...ไม่อยากให้พี่รอผมนะ

พี่เขม : บีหมายความว่าไง

บี : ผมอยากให้พี่มีความสุข...ไม่ทนทุกข์กับการรอคอยผม

พี่เขม : บีหมายถึงจะเลิกกับพี่เหรอ

บี : ครับ....ผมอยากให้พี่ไปเจอสิ่งที่ดีกว่านี้

พี่เขม : บีเอาอะไรมาพูด

บี : ผมรู้นะว่า ในกลุ่มนักบิน...ผมโดนด่าว่ายังไงกันบ้าง

พี่เขม : บีจะไปสนใจอะไรกับคนเหล่านั้น

บี : สนดิพี่...แล้วพี่ก็เสียสละมาเพื่อผมมากเกินไปแล้ว

พี่เขม :ยังไง...พี่ไม่เข้าใจ

บี : ก็ที่พี่ไม่ได้กัปตันก็เพราะพี่มาตามง้อผมใช่ไม๊

พี่เขมไม่ตอบครับ....พี่แกเงียบไปเลย...แล้วเรื่องที่นักบินหลาย ๆ คนต่างว่าผม เกี่ยวกับเรื่องที่พี่เขมไม่ได้กัปตันเพราะพี่เขมมัวแต่มันตามง้อผมจนทำให้คะแนนพี่เขมออกมาไม่ดีและทำให้พี่หัวหน้านักบินหัวเสียมาก...เมื่อรู้เรื่องนี้

พี่นักบินหลายคนคิดว่าผมเป็นตัวถ่วงความเจริญของพี่เขม และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้พี่เขมไม่ได้เป็นกัปตันในการสอบครั้งนี้เพราะพี่เขมเพิ่งจะไปรับเครื่องบินให้กับบริษัท และมีประวัติดีมาตลอด และทุกคนก็สมน้ำหน้าผมที่ผมเองก็สอบไม่ผ่านเพอร์เซอร์ ข่าวพวกนี้หนาหูผมมากครับ...

พี่เขมสูดหายใจลึกแล้วพูดว่า... “มันไม่ได้เป็นเพราะบี...มันเป็นเพราะพี่เลือกเอง”

บี : นั่นแหละ...มันมากเกินไปพี่เขม พี่เอาอนาคตตัวเองมาแลกกับผม

พี่เขม : แต่พี่เต็มใจ...แล้วพี่ก็ไม่เคยเสียใจเลยด้วยนะ

บี : ผมมันไม่มีค่าขนาดนั้นหรอกพี่เขม...(น้ำตาผมไหลออกมา)

พี่เขม : แล้วบีจะไปเมื่อไหร่

บี : สิ้นเดือนหน้าครับ

พี่เขม : มันไวไปไม๊....ขอให้พี่ได้ทำใจก่อนได้ไม๊

บี : ผมเลือกแล้วครับพี่เขม...มันเป็นวิธีที่ดีที่สุด

พี่เขม : แล้วบีเคยถามพี่บ้างไม๊...ว่าพี่จะรู้สึกยังไง

บี : มันดีสำหรับเราทั้ง 2 ฝ่ายแล้วครับพี่

พี่เขม : นี่บีคิดเองทั้งนั้นอ่ะ...แล้วพี่จะอยู่ยังไงถ้าพี่ไม่มีบีแล้ว

บี : วันนึงครับพี่...วันนึงมันก็จะหายเอง

พี่เขม : นี่พี่เลือกอะไรได้ไม๊

บี : ขอโทษครับพี่เขม....ผมเลือกไว้แล้ว

เราเดินกลับบ้านกันพร้อมกับความเงียบที่ปกคลุม...แม่เดินออกมาส่งพวกเราแล้วก็ขับรถออกมาจากบ้านผมครับ...ผมขับตรงไปที่โรงแรมทันที...ในรถไม่มีเสียงใด ๆ เลยจนกระทั่ง

พี่ตาล : สรุปมึงสองคนคุยกันว่าไงเนี่ย...กรูอึดอัด

พี่เขม : เมิงถามบีดิ...กรูไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรเลย

พี่พริ้ง : บี...เกิดอะไรขึ้นอ่ะ ทำไมมันฉุกละหุกอย่างนี้

พี่เก่ง : มึงไม่คิดจะบอกกรูก่อนซะหน่อยเลยเหรอไอ้หนูน้อย...กรูอยู่กับมึงมาค่อนวันนะเว้ย....กรูเล่าห่าอะไรให้มึงตั้งเยอะ

พี่ตาล : ไอ้เก่งมึงใจเย็น

บี : เอาไว้เราถึงห้องแล้วเด๋วผมเล่าให้ฟังละกันครับ

พี่เขม : ทำไมหละ...เล่าตอนนี้มันจะแตกต่างไม๊

พี่พริ้ง : มึงอย่างกดดันน้องดิ

ผมมองกระจกหลัง...ผมเห็นพี่เขมยกมือมาปาดน้ำตา...แค่นี้หัวใจของผมก็สลายไปทันทีแล้วครับ...

บี : พี่ ๆก็รู้ใช่ไม๊ครับ...ว่าใคร ๆ ก็บอกว่าผมไม่คู่ควรกับพี่เขม

พี่เก่ง : ไอ้สัส...มึงเอาห่าอะไรมาพูดเนี่ย...ใครพูดอย่างนี้เด๋วกรูจะไปต่อยมากแม่ง

พี่ตาล : อืม...พี่ก็ได้ยินมา

พี่เก่ง : เชี่ย...เรื่องอะไรเนี่ย...มึงช่วยเล่าให้กรูเข้าใจหน่อย

พี่พริ้ง : คือว่า...นักบินบริษัทกรู บอกว่าไอ้บีเนี่ย ทำให้ไอ้เขมไม่ได้กัปตัน เพราะมัวแต่ไปทะเลาะกับไอ้เขมจนไอ้เขมทำคะแนนออกมาไม่ดี

พี่เก่ง : ไอ้สัส...แล้วเกี่ยวแม่งอะไรกันฟระ

พี่เขม : เออนั่นดิ...กรูเลือกของกรูแล้ว...แม่งเสือกเหี้ยอะไรกันฟระ

พี่ตาล : เฮ้ยมึงใจเย็น...

บี : แต่มันก็จริงอย่างที่พี่ ๆ นักบินเค้าว่าแหละครับ....

พี่พริ้ง : กรูหละลำไยแทนอิห่าพวกนี้จริง ๆ

พี่ตาล : อ่าๆ  ๆทุกคนใจเย็น ๆ นะ....เรามาแก้ทีละอย่างดีกว่านะ...บีไปเมื่อไหร

พี่เขม : สิ้นเดือนหน้า

พี่เก่ง, พี่พริ้ง : เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยย....

พี่ตาล : สัสโจทย์ยากไปอีก...นี่กรูอยู่ใน pressure test ของ master chef ไทยแลนด์รึป่าวเนี่ย....กดดันขนาดนี้

บี : ถึงแล้วครับพี่...เด๋วเราลงไปคุยกันที่ห้องดีไม๊


มีต่อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 31 ความลับ P.4 ( 8-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 09-11-2017 21:45:23
พี่เขมเปิดประตูรถเดินออกไปคนแรก แล้วก็ไม่ได้เดินไปในทางที่จะไปที่ห้อง...ผมรีบดับรถแล้ววิ่งออกตามไปอย่างทันที...ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าผมจะต้องทำยังไง เพื่อที่จะทำให้เค้าเข้าใจในเจตนาของผม...
เมื่อผมวิ่งตามพี่เขมทัน...ผมจับแขนพี่เขมเอาไว้แล้วพี่เขมก็สบัดผมออก แล้วผมก็ล้มลง....มันเหมือนภาพ เด จา วู เลยทีเดียวครับ แต่สถานการณ์ตอนนี้มันเปลี่ยนไปมากแล้ว พี่เขมรีบจับตัวผมแล้วพยุงผมลุกขึ้น

พี่เขม : พี่ขอโทษ ๆ ๆ ๆ เจ็บตรงไหนไม๊ เลือดออกรึป่าว

ผมชี้ไปที่แผลแล้วทำหน้าบูดใส่พี่เขม.... “เลือดออกเลยอ่ะ พี่เขม”

พี่เขม : พี่ขอโทษนะ...ป่ะ ๆ กลับห้องเด๋วพี่ทำแผลให้

บี : ไป 7-11 ก่อนก็ได้ครับ...ซื้อของทำแผลก่อน

พี่เขมพยุงผมขึ้นแล้วเราก็พากันเดินไปที่ 7-11 เพื่อไปซื้ออุปกรณ์ทำแผล...พอถึงร้านพี่เขมพุ่งไปที่ชั้นอุปกรณ์ทำแผลทันที...ผมพุ่งไปที่ตู้แช่เบียร์ทันที...ผมหยิบเบียร์ลีโอมา 4 กระป๋อง...แล้วก็รีบเดินไปคิดตัง...พี่เขมเดินมาด้านหลังพร้อมกับข้าวของมากมาย

บี : ซื้ออะไรเยอะแยะพี่...เอามาแค่แอลกอฮอล์กับไอ้สำลีก็พอไม๊

พี่เขม : ก็พี่ไม่เคยทำแผลให้ใครหนิ...อะไรเขียนว่าแผลสดพี่ก็ซื้อมาหมด

บี : นี่...แล้วอย่างนี้จะไปดูแลใครเค้าได้เนี่ย...มานี่...ผมเลือกเอง...

ผมส่งเบียร์ให้พี่เขมถือ แล้วพี่เขมก็ยกซดทันที ผมหยิบตระก้าแล้วเอาของที่พี่เขมหอบมาทั้งหมดใส่ลงตระก้า แล้วก็หยิบเอาที่จะใช้ออกวางที่จ่ายเงิน

บี : อ่ะ เอานี้ไปคืนที่เดิมให้หมด

พี่เขม : โหยจำไม่ได้หรอกว่าเอามาจากตรงไหน

พนักงาน 7-11 : เด๋วหนูเอาไปเก็บให้เองค่ะ

พี่เขม : ขอบคุณครับน้องคนสวย

บี : หน้าหม้อ...(ผมกระซิบ)

เราเดินกลับโรงแรมกันแล้วในมือก็ถือกระป๋องเบียร์กันคนละกระป๋อง

พี่เขม : พี่จะทำยังไงกับบีดีเนี่ย....

บี : ทำไมอ่ะ...ก็ทำแผลให้ไง

พี่เขม : บีรู้ไม๊....ว่าบีเป็นคนเดียวเลยนะ ที่ทำให้พี่ร้องไห้แล้วก็หัวเราะได้ในเวลาเดียวกัน....

บี : ทำไม...ผมทำให้พี่เป็นบ้าเหรอ

พี่เขม : ก็เออดิ...พี่ทั้งโกรธ ทั้งโมโห ทั้งน้อยใจ ทั้งคิดถึง โอ้ยยยทุกอย่างปน ๆกันไปหมด...พี่ไม่รู้จะต้องจัดการยังไง

บี : ก็แค่ทำตามผมบอกไง...ไม่เห็นจะยาก

พี่เขม : ทำอะไร...ทิ้งกันไปอ่ะนะ....เลิกกับบีอ่ะนะ

บี : ใช่...เราก็เป็นพี่น้องกันได้ไงพี่

พี่เขม : มันง่ายไม๊หละ

บี : มันไม่ง่ายหรอกพี่...ทั้งผมแล้วก็พี่ แต่มันดีที่สุดแล้ว....

พี่เขม : แล้วถ้าพี่ไม่เห็นด้วยหละ...แล้วถ้าพี่บอกว่าพี่รอได้หละ

บี : ผมไม่อยากให้พี่ทรมาน...ผมรู้ดีว่า    “การรอคอย...มันยากเกินจะทนไหว ได้โปรดบอกกับฉัน และบอกหน่อยได้ไม๊ ว่าพรุ่งนี้เค้ากับฉัน มันจะเป็นอย่างไร”

พี่เขม : มาเป็นเพลงเลยเว้ย....

บี : มันไม่มีใครรู้หรอกพี่...ว่าพรุ่งนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น...แล้วเวลา มันทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปได้หมด...วันนี้ผมกับพี่อาจจะรักกันมาก แต่ผ่านไปอีกซัก 1 ปี พี่อาจจะเจอคนที่ดีกว่าผม พร้อมกว่าผม...แล้วผมไม่อยากให้พี่เอาคำสัญญา มาปิดกั้นตัวพี่

พี่เขม : แล้วถ้าบีกลับมาแล้วพี่ยังไม่มีใครหละ....บีจะยังรักพี่เหมือนเดิมไม๊

บี : นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคตครับพี่เขม...

พี่เขม : งั้น...บีตัดสินใจแล้วใช่ไม๊ว่าเราจะหยุดไว้แค่นี้

บี : ครับพี่...ผมขอโทษ

พี่เขม : งั้นพี่ก็จะตัดสินใจของพี่...ว่าพี่ก็จะรออยู่ตรงนี้

ผมอึ้งไปเลยครับ...มันเหมือนเป็นคำตอบที่ลึก ๆ ผมอยากได้ยิน ลึก ๆ ผมไม่อยากเสียเค้าไปแม้แต่วินาทีเดียวครับ...แต่ผมก็ต้องทำ ที่ทำทุกสิ่ง ก็เพื่อจะให้ตัวผมเอง ดีพอ ที่จะคู่ควรกับเค้า...ถึงแม้เค้าจะไม่สนใจอะไรก็ตาม...แต่ความรักต่อไปมันจะไม่ใช่แค่เรื่องของคน 2 คนอีกต่อไปแล้วสิครับ...มันจะต้องเกี่ยวถึงพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนฝูง ต่าง ๆ นา ๆ ถ้าวันข้างหน้าผมดีพอแล้ว...ใครหน้าไหน...ผมก็ไม่สนใจครับ

บี : พี่เขม...อย่ารอเลยครับ...ผมอยากให้พี่มีความสุข มากกว่าที่จะรอผม

เราเดินกลับมาถึงโรงแรมแล้วครับ...เบียร์ 4 กระป๋องที่ซื้อมาถูกกินหมดระหว่างทางไปแล้ว...เราเดินมาถึงหน้าห้องที่โรงแรม พี่เขมก็เอ่ยขึ้นว่า


พี่เขม : งั้นความสุขของพี่ตอนนี้ก็คือได้อยู่กับบี... พี่ของทำความสุขของพี่จนกว่าบีจะไปได้ไม๊

แล้วพี่เขมก็สวมกอดผม...ผมเอาหน้าซุกไปที่คอพี่เขมไว้แล้วพยักหน้า...พี่เก่งก็เปิดห้องออกมาพอดี

พี่เก่ง : ไอ้ห่า...มายืนกอดกันกลมอยู่นี่นี่เอง...กรูหิวเบียร์แล้ว พากรูไปกินเร็ว

แล้วพี่เก่งก็กอดพวกเราทั้ง 2 คนไว้ด้วยกัน

พี่ตาล : วันนี้กรูไม่อยากออกไปที่ไหนเสียงดัง ๆ ละ...ซื้อเบียร์ละมาแดกที่ห้องไม๊

พี่พริ้ง : ดีเหมือนกันมึง...กรูอยากอยู่กันแค่พวกเราหวะตอนนี้

พี่เก่ง : เออดีเด๋วกรูไปซื้อให้เอง ไอ้หนูน้อย ไปกับพี่เร็ว

พี่เขม : ทำไมต้องเอาแฟนกรูไปด้วยเนี่ย...เด๋วแฟนกรูจะไปเรียนต่อแล้วนะ..ให้กรูอยู่ด้วยกันนาน ๆ หน่อยไม่ได้เหรอ

พี่เก่ง : 15 นาทีไม่เกิน

บี : งั้นโทรสั่งเบียร์สดจากโรงแรมไม๊หละพี่แพงหน่อยนะ

พี่เขม : กรูเลี้ยงเอง...ไอ้เก่งเข้ามา...จะแดกซักกี่เหยือก

เก่ง : กรูขอ 10

บี : เอาไปอาบเหรอพี่เก่ง...มันเปิดถึง 5 ทุ่ม ค่อย ๆ สั่งมาก็ได้พี่...ห้องอาหารอยู่ไม่ไกล...พนักกงานคงจะไม่เกลียดมาก

พี่ตาล : งั้นเอามา 5 ก่อน คนละเหยือกพอดี

พี่พริ้ง : อีตาล...เมิงจะฆ่ากรูเหรอ...กรูกินเหยือกนึงคนเดียวเด๋วกรูก็ตายก่อนหรอก

พี่เก่ง : มึงจะกลัวอะไร...เด๋วกรูกินให้

พี่พริ้ง : เออดี...ฟินละ จัดค่ะ...รออะไร

พี่เขมเข้ามาปฐมพยาบาลให้ผมก่อนที่เราจะเริ่มกินเบียร์กันครับ แผลผมก็มีไม่มากครับที่เข่า แล้วก็ที่มือ พี่เขมเล่าให้พี่ๆ  ทุกคนฟัง ทุกคนหัวเราะกันหมด แล้วการทำแผลของพี่เขมก็ออกมาเป็นที่ขำขันกับทุกคนมากครับ พี่แกทำอะไรไม่เป็นเลย คือเอาง่าย ๆ ผมทำเองยังจะดีซะกว่า เพราะทุกคนบอกทุกอย่างแล้วไอ้พี่เขมก็ไม่ยอมฟัง เอาพลาสเตอร์มาปิดแผลผมรัว ๆ แปะยังไม่ตรงเลยครับ พี่เขมแก้ตัวว่าแปะแบบมีศิลปะ ผมหละต้องยอมใจพี่แกจริง ๆ

เรานั่งกินเบียร์กันตามประสาพี่น้องจนเที่ยงคืนครับ...ตอนนี้พี่ตาลกับพี่พริ้งเมาแล้ว กลับเข้าห้องไปนอนแล้วครับ...ผม พี่เก่ง พี่เขมก็ยังคงนั่งกินต่อไป

พี่เก่ง : กรูจะไม่ขัดขวางเวลาของพวกมึงอีกละ กรูขออีกเหยือกเดียว...เด๋วกรูไปอาบน้ำนอนละ

พี่เขม : ดี...กรูอยากจู๋จี๋กับแฟนกรูบ้าง

พี่เก่ง : ไอ้สัส เกรงใจเพื่อนหน่อยค๊าบบบบ เพื่อนอกหักอยู่

บี : โอ๋พี่เก่ง....มานี่มา ผมจุ๊บให้พลัง

ผมจับหัวพี่เก่งมาจุ๊บที่หน้าผาก...พี่เขมทำท่าปิดตาไม่อยากเห็นแล้วไอ้พี่เก่งกอดผมไว้แน่นท่ีเอวของผม

พี่เก่ง : มึงไอ้หนูน้อย...มึงจะเป็นไอ้หนูน้อยที่กรูรักตลอดไป...กลับมาเมื่อไหรไม่ติดต่อกรูมึงตาย...รู้ไม๊

บี : โหยพี่....นี่รักกันจริงหรืออยากฆ่าผมกันแน่

พี่เก่ง : กรูรักมึง...กรูรักมึงมากกกกกก....

พี่เขม : ให้มันน้อย ๆ หน่อย ผัวมันนั่งอยู่นี่

พี่เก่ง : เออ...กรูไม่กินละไม่ต้องสั่ง...กรูไปอาบน้ำนอนละ...จะทำอะไรก็มิดชิดหน่อยนะ...เด๋วกรูอดใจไม่ไหวมาร่วมวง

พี่เขม : ไปได้แล้ว...กรูอยากอยู่กับเมียกรู....เมียจ๋า

ผมทำหน้าเบี้ยว...ผมไม่ชอบให้พี่เขมเรียกผมว่าเมียเลยครับ...มันดูผมมีความเป็นผู้ชายน้อยลงยังไม่ก็ไม่รู้

พี่เขม : โอ้ย...ขอโทษ ๆ ครับแฟน พี่หึงไปหน่อย

บี : ให้มันน้อย ๆ ๆหน่อย

พี่เขม : บี...พี่ถามอีกครั้งนะ...เราจะต้องเลิกกันโดยที่เรายังรักกันอยู่จริง ๆเหรอ

บี : ใช่ครับพี่...มันอาจจะยาก...แต่ก็ดีกว่าเราเลิกกันเพราะเราเกลียดกันนะพี่เขม

พี่เขม : แล้วจะมีทางไหนไม๊....ถ้าบีกลับมาแล้วจะกลับมาคบกับพี่อีก

บี : พี่เขมครับ...พี่ทำให้ผมตกหลุมรักพี่ทีนึงแล้ว พี่จะทำให้ผมรักพี่อีกทีนึง มันก็คงไม่ยากเกินไปมั้งพี่

พี่เขมอมยิ้มสีหน้ากรุ่มกริ่มอย่างบอกไม่ถูก....แล้วก็โถตัวเข้ามาจูบผมอย่างจัง....ผมแลกลิ้นกับพี่เค้าอย่างดูดดื่ม มันเป็นเหมือนรสจูบแรกที่เราได้แลกลูกอมกัน มันทั้งร้อนแรง และไม่เคยพอ...

แล้วไอ้พี่เก่งก็ออกมาขัดจังหวะ....

พี่เก่ง : เฮ้ย....ล้วงอะไรกันแหนะ

ผมดันพี่เขมออกอยากตกใจ...ผมลืมตัวไปครับว่าตอนนี้เราอยู่กลางห้องนั่งเล่น

พี่เขม : ไอ้สัส...อาบน้ำให้มันนาน ๆ หน่อยไม่ได้หรือไงฟระ

พี่เก่ง : กรูอยากดูหนังสด

พี่เขม : กรูไม่ไหวละโว้ย

พี่เขมจุงมือผมออกจากห้องแล้วเดินไปที่ฟร้อนโรงแรม....

พี่เขม : ขอเปิดห้องเพิ่ม 1 ห้องครับ..

พนักงาน : ตอนนี้ห้องเต็มหมดแล้วนะครับ

พี่เขม : โอยยยยยยยยยยยยย...

บี : พี่เขมกลับห้องเถอะ

พี่เขมเดินลากผมกลับมาที่ห้องแล้วเราก็จูบกันอยู่หน้าลิฟท์...แล้วอะไรมันดลใจผมก็ไม่รู้ครับ... ผมพาพี่เขมมาที่สระน้ำซึ่งตอนนี้มืดและปิดแล้ว...เราทั้งคู่แลกจูบกันอย่างดูดดื่มและหนักหน่วง...ในมุม ๆ หนึ่งข้างสระว่ายน้ำ...ที่นั่นมืดมากผมแทบจะมองอะไรไม่เห็นเลย ผมสัมผัสตัวพี่เขมแล้วลูบลงไปเรื่อย ๆ พี่เขมดันตัวของพี่เขมให้ชิดตัวผมมากขึ้นแล้วก็จับมือผมไปอยู่ที่น้องชายของพี่เขม...ตอนนี้มันพร้อมรบมากครับ มันแข็งแทบจะดันกางเกงพี่เขมให้ระเบิดออกมาอยู่แล้ว ผมทำการปลดเปลื้องมันออกมาอย่างรวดเร็ว ผมจับมันด้วยสองมือ...มันร้อนดั่งแท่งเหล็ก พี่เขมรีบกดหัวผมลงไปทันที...ผมใช้ปากของผมครอบมันที่ส่วนหัว...พี่เขมร้องออกมาเบา ๆด้วยความเสียว แล้วพี่เขมก็บอกผมว่า

พี่เขม : บีครับ...พี่ไม่ไหวแล้ว ช่วยพี่หน่อยนะ

บี : หลักสูตรเร่งรัดละกันนะพี่...

ผมใช้ปากครอบลงที่แท่งของพี่เขมให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ พี่เขมก็ทำการโยกตัวรับปากของผม...ไม่นานพี่เขมก็จับหัวผมแล้วก็ซอย อย่าเร่งรีบ....ผมจับเอวพี่เขมเพื่อบอกให้พี่เขมหยุดก่อนครับ...ผมหายใจไม่ทันเพราะน้องชายพี่เขมนั้นคับปากผมมาก ผมหลุดออกมาได้แล้วพี่เขมก็ดันตัวผมลงกับพื้น...พี่เขมปลดกางเกงผมออกไปอยู่ที่ปลายเท้าผมอย่างรวดเร็ว...แล้วพี่เขมก็บรรจงไซร้ที่น้องชายของผมอย่างหื่นกระหาย ตอนนี้ผมเสียวจนลืมไปหมดทุกอย่างครับว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหนกัน ผมใช้มือเอื้อมจับจับน้องชายพี่เขมแล้วชักอย่างบ้าคลั่ง...แล้วผมก็ขยับตัวเพื่อให้เราไปอยู่ในท่า 69 ตอนนี้ผมเสียวมากครับ...เพราะพี่เขมใช้ลิ้นอย่างชำนาญ ผมผลักพี่เขมออกเพื่อบอกให้พี่เขมหยุดก่อน เพราะผมกำลังจะถึงจุดปลายทาง พี่เขมไม่ยอมปล่อยผมแต่กลับยิ่งใช้มือช่วยเร็วยิ่งขึ้น...ผมจับข้อมือพี่เขมไว้แน่นแล้วบอกพี่เขมว่า

บี : พี่เขมครับ...ผมเสียวไม่ไหวแล้วนะพี่...จะแตกแล้วครับ

พี่เขม : เอาเลยที่รัก...หลักสูตรเร่งรัด ไวจังนะ

บี : ก็ผมเงี่ยนมาหลายวันแล้วหนิ...อูยยยพี่เขมครับ...ไม่ไหวแล้ว

พี่เขมเอาปากเข้ามาครอบไว้แล้วผมก็ปลดปล่อย น้ำรักออกมาอย่างเต็มที่ในปากของพี่เขม...ผมหายใจหอบ...ผมเลื่อนตัวเองลงไปที่น้องชายของพี่เขมแต่พี่เขมจับตัวผมไว้...

พี่เขม : พี่ขอเอาได้ไม๊

บี : เหยพี่...ไม่มีถุง

พี่เขม : พี่มีอยู่ 1 อัน ในกระเป๋าตัง

บี : นี่มันข้างสระน้ำนะพี่...

พี่เขม : งั้นไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าป่ะ...

ผมกับพี่เขมรีบแต่งตัวแล้วเดินจุงมือกันไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างสระน้ำอย่างไว...พอเราเข้าไปถึงห้องอาบน้ำ พี่เขมก็รีบจู่โจมผมทันที...พี่เขมจับผมหันหลังแล้วให้ผมก้มตัวลงเล็กน้อย...พี่เขมให้สัญญาณครับว่า...จะเร่ิมเกมส์รักของพี่แกแล้ว

พี่เขมเล่นแทงมาทีเดียวเกือบครึ่ง...ซึ่งตอนนี้ผมทั้งเจ็บและจุก ผมหันไปแล้วบอกให้พี่เขมหยุดแล้วแช่ไว้ก่อน...แต่มันก็เหมือนจะไม่เป็นผล...พี่เขมพยายามยัดมันเข้ามาลึกอีก ขาผมแทบจะยืนไม่ไหวเลยครับ ผมหันไปแล้วตีพี่เขมอย่างแรง...พี่เขมถอนออกแล้วค่อย ๆ เสียบเข้าไปใหม่...ตอนนี้ผมเริ่มปรับตัวได้แล้วครับ...พอพี่เขมเห็นว่าผมพอจะทนได้แล้ว...พี่เขมก็ติดเครื่อง ใส่ผมไม่ยั้ง...เสียงของกล้ามเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า...พี่เขมเอามือมาปิดปากผม...เพราะผมร้องเสียงดังมาก ตอนนี้ขาผมเริ่มจะอ่อนแรงแล้วครับ...ผมเลยค่อย ๆ คุกเข่าลงแล้วพี่เขมกับยังซอยผมไม่ยั้ง ไม่นานพี่เขมก็เข้ามากอดผม....แล้วก็กระซิบว่า

พี่เขม : พี่ไม่ไหวแล้วนะครับที่รัก....

บี : พี่เขม...แตกเลยครับ...ซอยแรง ๆ เลยครับ

พี่เขม : บีอยากกินน้ำพี่ไม๊

บี : ครับ ผมอยาก

พี่เขมซอยไม่นานก็ดึงออกมาแล้วก็จับผมหันหน้ามาแล้วปล่อยน้ำรักเต็มหน้าผม ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนเรากำลังถ่ายทำหนังเอวี ของญี่ปุ่นเลยทีเดียวครับ...น้ำรักของพี่เขมออกมาเยอะมากครับ...ท่วมหน้าผมแล้วไหลเป็นทางยาวลงไปถึงท้องผมเลยครับ...ตอนนี้ตัวผมเต็มไปด้วยน้ำของพี่เขม

พี่เขม : ฟินไม๊จ๊ะ...ที่รัก

ผมเอามือกวาดน้ำออกจากตาแล้วลืมตาออกมามองพี่เขมซึ่งนั่งยอง ๆ ลงข้างหน้าผมช่วยปาดน้ำออกจากตาผม

บี : น้ำเยอะไปไหนเนี่ย...ไม่ได้ปล่อยมากี่เดือนแล้วเนี่ย

พี่เขม : ก็ตั้งแต่เราทะเลาะกัน...พี่ก็ไม่มีอารมณ์เลยอ่ะ...

บี : เก็บไว้ซะนานเลยนะ

พี่เขม : ก็พี่คิดถึงแต่แฟนหนิ...แล้วบีหละ...หรือว่าไปปลดปล่อยกับคนอื่นแล้ว

บี : จะบ้าเหรอ...ไม่เห็นเหรอว่าแทงจะไม่เข้าอยู่ละ...

พี่เขม : 55555....เข้าใจเปรียบเนอะ

แล้วเราก็รีบล้างตัวแล้วใส่เสื้อผ้าเดินออกมาจากห้องแต่งตัวครับ....ผมกำลังจะเดินไปกดลิฟท์แต่พี่เขม ดึงแขนผมไว้ก่อน...

พี่เขม : พี่ยังไม่อยากกลับห้องเลยอ่ะ...

บี : พี่เขม...จะเอาอีกรอบไม่ไหวแล้วนะ...ขาผมสั่นไปหมดแล้วเนี่ย

พี่เขม : เราอยู่คนกันสองคนก่อนได้ไม๊...พี่อยากมีเวลากับบีนาน ๆ

บี : ไปไหนอ่ะพี่

พี่เขม : ไปนอนเตียงริมสระไม๊...(พี่เขมทำหน้าตาอ้อนวรแล้วก็จับมือผมไปจูบ)

ผมพยักหน้า...แล้วเราก็เดินจุงมือกันไปที่สระว่ายน้ำอีกครั้ง...ตอนนี้ความรู้สึกของผมก็คงเหมือนกับพี่เขมครับ...ผมอยากจะเก็บเวลาที่เราอยู่ด้วยกันทุกนาที...ทำทุกอย่างที่เราจะทำได้...เพราะอีกไม่นาน เราก็ต้องจากกันแล้ว

เรานอนบนเตียงข้างสระว่ายน้ำด้วยกันครับ...ผมนอนอยู่ในอ้อมกอดของพี่เขม...ผมเอามือล้วงเข้าไปด้านในของเสื้อพี่เขมแล้วก็ลากมือไปมา ผมทำอย่างนี้ทุกครั้งเวลาก่อนนอนครับ...พี่เขมชอบให้คนเกาท้องให้เวลานอน...(อันนี้แม่พี่เขมบอกมาครับ...พี่เขมโตเป็นควาย ทำตัวเหมือนลูกแมวน้อย)...

พี่เขม : บีครับ...ถ้าพี่จะขอให้ช่วงเวลาที่เหลือนี้...พี่ได้อยู่กับบีทุกวันจะได้ไม๊

บี : ไม่ไปบินเหรอพี่...จะเอาตังที่ไหนกินข้าว

พี่เขม : ถ้าเป็นไปได้...เราแลกมาบินด้วยกันทั้งเดือนเลยได้ไม๊

บี : ผมจะพยายามนะพี่เขม...

พี่เขม : ทำไมเวลาของเรามันเหลือน้อยขนาดนี้นะ?

บี : ผมขอโทษครับพี่เขม

พี่เขม : ถ้าพี่จะบอกไม่ให้บีไป...มันก็คงเห็นแก่ตัวเกินไปเนอะ

บี : เอาหน่าพี่...เหลือตั้งเดือนนึง อีกตั้งนาน

พี่เขมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วก็เลื่อนเปิดเพลงครับ...คนเป็นศิลปินเนี่ย..มันเป็นคนที่มีเสน่ห์เหลือเกินนะครับ...ไม่ว่าเวลาไหน ๆ พี่เขมก็มักจะสามารถหาเพลงมาอธิบายความรู้สึกในช่วงน้ัน ๆ อยู่ได้

I never wanted to stop because i don’t want to start all over, start all over
I was afraid of the dark, but now it’s all that i want, all that i want…

And when the daylight comes i’ll have to go
But tonight i’m gonna hold you so close
‘Cause in the daylight we’ll be on our own
But tonight i need to hold you so close…

Daylight Maroon 5

เมื่อผมได้ฟังเพลงนี้น้ำตาผมมันก็ไหลออกมาทันทีครับ....เนื้อเพลงมันน่าจะเป็นสิ่งที่ตรงกับใจพี่เขมมากที่สุดครับ...พี่เขมคงจะอยากจะสื่อถึงสิ่งที่พี่เขมพยายามจะบอกกับผม ผมไม่เคยรู้สึกถึงความเศร้าของเพลงนี้มาก่อนเลยครับ...ผมร้องเพลงนี้ได้ แต่ความรู้สึกที่อยู่ในเพลงและเนื้อหาบางตอนผมก็ไม่เข้าใจ พอมาถึงจุดนี้...ผมเข้าใจมันดีเลยครับ

ในตอนแรกผมไม่เคยเข้าใจเลยว่า i was afraid of the dark, but now it’s all that i want… มันมาเกี่ยวอะไรกับเพลงนี้ ผมถามพี่เขมออกไปว่าท่อนนี้มันหมายความว่ายังไง...พี่เขมอธิบายถึงเนื้อเพลงว่า...คือมันเป็นเวลาที่คนสองคนรู้ ว่าต้องจากกัน แต่ตอนนี้เป็นเหมือนคืนสุดท้าย แล้วตัวผู้ชายก็คงไม่อยากจะให้เช้า เพราะถ้าเช้าแล้วเราก็ต้องแยกกัน...แต่ไอ้ประโยคที่ว่า กลัวความมืด...แต่ตอนนี้มันกลับเป็นสิ่งที่เค้าอยากได้มากที่สุดก็เพราะ เค้าไม่อยากให้เช้า...

มีแฟนเก่งภาษาอังกฤษ...เล่นดนตรี อารมณ์สุนทรีย์...แล้วผมยังจะเสือกทิ้งไป...ถ้าใครเค้ารู้เข้า เค้าคงจะว่าผมสติไม่ดีแน่ ๆ







To be continued…


ป.ล. ใครเคยฟังเพลง daylight - maroon 5 ไม๊ครับ ตอนแรกผมไม่เคยนึกมาก่อนเลยนะคับว่ามันจะเศร้าขนาดนี้จนเอามาใส่ในเรื่องนี้ มันเศร้าจริง ๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 32 ความแตก NC20+ P.5 ( 9-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 09-11-2017 22:16:23
 :o12:
เศร้า
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 32 ความแตก NC20+ P.5 ( 9-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 09-11-2017 23:25:54
สงสารพี่เขมมากเลยอ่ะ  งือ 
จากการอ่านตอนก่อนๆ  หมันไส้พี่เขมมาก
พี่เขมรักน้องบีมากเลยนะ  ยอมไม่อ่านหนังสือเพื่อมาง้อน้องบี 
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 32 ความแตก NC20+ P.5 ( 9-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 10-11-2017 16:55:46
ตอนที่ 33 กอดจากหมอคิต

   หลังพวกเรากลับมาจากบ้านเกิดของผม...ตัวผมนั้นต้องทำอะไรอีกมากมาย เคลียเรื่องเอกสารทุกอย่างเพื่อสมัครวีซ่าและเตรียมหลักฐานอีกบานเลยครับ...ช่วงนี้พ่อกับแม่ผมบอกว่าถ้าทำอะไรไม่ทันก็ไม่ต้องไปบิน...ลาป่วยไปก่อน ถ้าเรียบร้อยทุกอย่างแล้วค่อยกลับไปบิน ตอนนี้เป็นช่วงกลางเดือนมกราคมแล้วครับ...ตัวพี่เขมเองก็ไม่ยอมไปไหนห่างจากผมเลย...เดือนนี้ทั้งเดือนพี่เขมแลกเอาไฟล์ค้างออกหมดเลยครับ เพื่ออย่างน้อยตอนเย็น ๆ พี่เขมจะได้มีเวลากับผม...มันช่างเป็นเวลาที่แสนจะมีค่าเหลือเกิน...
   คุณเคยรู้สึกไม๊ครับว่า...ความรักนั้นมีวันหมดอายุ และความรักของผมนั้น มันกำลังจะหมดอายุครับ...ไม่ใช่เพราะว่าไม่รักกันแล้ว แต่เพราะเป็นสิ่งที่ผมเลือกแล้วต่างหาก...มันช่างบีบหัวใจผมเสียเหลือเกิน...ทุกครั้งที่ผมได้เห็นหน้าพี่เขม...ผมดีใจเหมือนหมาได้เจอเจ้าของที่ไม่ได้เจอมานานหลายปี...และทุกครั้งก่อนที่เราจากกัน...ผมจะขอกอดพี่เขมไว้ให้นานอีกนิดนึง...เพื่อเก็บความทรงจำและกลิ่นไอของพี่เขมเอาไว้ให้นานอีกนิดนึง... ส่วนตัวพี่เขมก็งอแงไม่เปลี่ยนครับ...พี่เขมยังถามผมอยู่เกือบทุกวันว่า...มันไม่มีทางแก้ไขทุกอย่างที่ดีกว่านี้แล้วเหรอ... มันเจ็บปวดทุกครั้งที่วัน  ๆ นึงเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วผมรู้ว่า เวลาของผม...ที่จะสามารถอยู่กับพี่เขมลดลงไปทุกวัน...จากเดือนลดเหลือเป็นอาทิตย์ จากอาทิตย์ ลดเหลือเป็นวัน

   แล้ววันนี้ซึ่งเป็นวันที่ตารางบินของเราทั้ง 2 คนออกก็มาถึง...มันเป็นช่วงใกล้สิ้นเดือนมกราแล้วครับ...อากาศก็ยังคงหนาวเย็นในตอนเช้าอยู่นิดหน่อย ทุกครั้งที่ผมตื่นมาแล้วข้างตัวผมมีพี่เขมนอนอยู่ ผมจะเลื่อนตัวผมไปนอนในอ้อมกอดของพี่เขม พี่เขมจะขยับตัวมาเพื่อให้ผมนอนได้ถนัด...ตอนกลางวัน ตารางบินของเราก็ยังไม่ออกครับ...ผมจึงทำกับข้าวให้พี่เขมกินตามปกติ พี่เขมบอกว่า

พี่เขม : บีครับ...แม่พี่อยากเจอบีบ้างนะ...ป๊าก็เหมือนกัน

บี : พี่เขมบอกแม่กับป๊าไปยังครับว่าผมจะไปเรียนต่ออ่ะ

พี่เขม : ยังง่ะ....ให้บีเป็นคนบอกเองดีกว่า

บี : อ่าวงี้...ป๊ากับแม่ไม่ด่าเหรอ มาค้างกับผมแทบจะทุกวันเลยเนี่ย

พี่เขม : ก็บ่น ๆ อยู่นะ...ถึงได้จากจะเจอบ้างไง

บี : งั้นเด๋ววันนี้หลังจากตารางบินออกแล้วไปหาป๊ากับแม่กันนะพี่

พี่เขม : ไปนอนบ้านพี่ไม๊...

บี : ทำไมอ่ะ...คิดถึงบ้านแล้วเหรอ พี่กลับไปนอนบ้านก็ได้นะ

พี่เขม : ป่าวหรอก...พี่อยากให้บีไปนอนที่เตียงพี่บ้างอ่ะ...

บี : แล้วยังไง?

พี่เขม : ก็.....(พี่เขมก้มหน้าทำท่าอาย ๆ )....เตียงพี่จะได้มีกลิ่นของบีติดบ้างไง

บี : พี่เขมบ้า...เด๋วนี้เราดมฟีโรโมนกันแล้วเหรอ?

พี่เขม : นะนะนะนะนะ....ไปนอนบ้านพี่บ้าง ไปนอนคอนโดพี่บ้างเหอะ

บี : อ่า ๆ ๆวันนี้ไปนอนบ้านพี่ก็ได้ครับ...

พี่เขม : เย้ ๆ ๆ...หิวแล้วอ่ะทำไรให้พี่กินวันนี้

บี : เบื่อป่าว กินข้าวที่บีทำแทบจะทุกวันเลย...ออกไปหาอะไรกินข้างนอกไม๊

พี่เขม : ไม่อ่า...อยากกินทุกวัน...แม้จะเป็นแค่ข้าวไข่เจียว...พี่ก็ชอบ ถ้าบีทำให้

บี : ปากดีนะเรา...เด่วต้มมาม่าให้กินเลย

พี่เขม : ก็เอาดิ...แฟนพี่ทำอะไรให้กิน มันไม่เคยธรรมดาอยู่แล้ว

บี : ข้าวผัดอเมริกันละกันนะ...

พี่เขม : ได้...ขอไข่ดาวไม่สุกนะคับ

บี : ได้คับ...เด๋วผมไปทำแป๊ปนึง...พี่เขมดูดิ๊ว่าตารางออกยัง

   พี่เขมนั่งเล่นเกมในมือถือแล้วก็เปิดทีวีดูหนังรอผมทำกับข้าวเสร็จครับ...ไม่นานตารางผมก็ออกครับ...ผมรู้ได้เพราะในกรุ๊ปไลน์เด้งรัว ๆ ไม่หยุด ผมอ่านกรุ๊ปไลน์แล้วก็รีบตะโกนบอกพี่เขมให้ดูตารางบินของพวกเราครับ...เพราะผมกับพี่เขมอยากจะบินด้วยกันให้มากที่สุดก่อนผมจะไปเรียนต่อ

บี : พี่เขม...เพื่อนบอกตารางออกแล้ว...ดูให้หน่อยเร็ว

พี่เขม : .......

บี : พี่เขมได้ยินป่าวเนี่ย....

ผมเดินมาหาพี่เขมแล้วผมก็เห็นหน้าพี่เขมกำลังเครียด...

บี : พี่เป็นไรอ่า...เครียดไร

พี่เขม : บีครับ...บีมีบินแค่ 5 วันเอง แล้วก็ไม่ได้บินกับพี่เลย

บี : เฮ้ยบ้าหน่า...จะบินน้อยอย่างนั้นได้ไง ไม่ต้องมาหลอกเลย

พี่เขมยื่นมือถือให้ดูตารางของผม ผมบินแค่

วันที่ 2-4 บินไปค้าง

วันที่ 6 บินไปกลับ

วันที่ 7 บินไปกลับ

วันที่ 8 แสตนบาย

วันที่ 9-28 หยุดและลาพักร้อน

พี่เขม : แล้วบีต้องกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ก่อนรึป่าว

บี : ผมกะว่าจะกลับช่วงกลางเดือนอ่ะคับ

พี่เขม : วันที่ 14 พี่ขออยู่กับบีได้ไม๊

บี : ทำไมหละพี่...

พี่เขม : 14 กุมภา ไง

บี : อ๋อ ๆ ลืมสนิทเลย...วันวาเลนไทน์

พี่เขม : แหม่ ๆ นี่ยังไม่ได้ไปเรียนเลยนะ...ลืมพี่ไปแล้วเหรอ

บี : ป่าว ๆ ตอนนี้มันยุ่ง พี่ก็เห็น ผมเตรียมเอกสารมากมายเลย ไหนจะตรวจร่างกายอีกนะ...ยังไม่ได้ทำเลย

พี่เขม : อ่า ๆ ๆ ไม่ว่าก็ได้...แต่ พี่ขอไรอย่างดิ

บี : ว่ามาอยากได้ไรคับ

พี่เขม : ถ้าพี่มีค้าง ไปค้างเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ

บี : ถ้าผมหยุด เด๋วผมไปครับพี่ แต่ผมขอไปก่อนนะไม่ไปหรือกลับไฟล์เดียวกับพี่นะ เขินอ่ะ...โดนลูกเรือแซว

พี่เขม : ขอให้ไปก็พอ เคไม๊

บี : โอเค ตกลงครับ

   ตารางของนักบินกับลูกเรือมักจะออกไม่พร้อมกันครับ...บางทีลูกเรือก็ออกก่อนบ้าง บางทีนักบินก็ออกก่อนบ้างครับ...แล้วแต่ว่าช่วงไหนคนของฝ่ายไหนขาดก็จะออกช้าหน่อย

   ตกเย็นตารางพี่เขมก็ออกครับ พี่เขมโดนยัดไฟล์มาตรึมเลยครับ และส่วนใหญ่เป็นค้างหมดเลยเพราะว่า 2 เดือนแล้วครับที่พี่เขมบินน้อยเพราะไปสอบกัปตันมา เค้าเลยทำการคืนรายได้ให้แก่ประชาชนโดยการยัดไฟล์มาเพียบ

   ตอนนี้เราสองคนมากันที่บ้านป๊ากับแม่พี่เขมแล้วครับ เย็นนี้ผมไม่ต้องทำอาหารครับ เพราะแม่พี่เขมอยากทำอาหารฉลองลูกชายตัวดีทั้ง 2 คนอยู่กันพร้อมหน้าซักหน่อย แม่สั่งกุ้งและปูมาจากร้านประจำแล้วก็ทำกับข้าวเพิ่มอีก 2-3 อย่างครับ พวกเรากินกันไม่ยั้งเลยครับแล้วอากาศด้านนอกก็เป็นใจ เมื่อพระอาทิตย์ตกดินไป อากาศก็เริ่มกลับมาเย็นลงอีกครั้ง มันช่างเป็นบรรยากาศที่เหมาะแก่การจิบเบียร์ยามเย็นจริง ๆเลยครับ แล้ววันนี้ ป๊าบอกว่าจะเป็นวันที่อากาศเย็นที่สุดในเดือนนี้ พวกเราจึงทำการนั่งจิบเบียร์กันอยู่นอกบ้านครับ....

ป๊า : ลูกสองคน ตัวติดกันไปไม๊ช่วงนี้ ไม่ยอมมาหาป๊ากับแม่เลยนะ

แม่ : เขมก็ไม่ค่อยกลับบ้านเลยนะลูก...ไปอยู่กับน้องเค้านาน ๆ เด๋วน้องเค้าก็อึดอัด

พี่เขม : ไม่ได้หรอกป๊า...เวลาผมมีน้อย

บี : ป๊าครับ...แม่ครับ...ผมกำลังจะไปเรียนต่อครับ

ป๊า แม่ : ฮ๊ะ....อะไรนะ...แล้วไม่ทำงานแล้วเหรอ คือลาออกเลยเหรอ หรือยังไง

บี : ใช่ครับ...บีลาออกสิ้นเดือนหน้าครับ

ป๊า : อ่าวแล้วไปเรียนที่ไหนหละลูก...ทำไมต้องลาออกเลยหละ

บี : ไปเรียนออสเตเรียครับผม

แม่ : ทำไมเร็วขนาดนี้หละลูก...ไม่บอกให้ป๊ากับแม่ทำใจหน่อยหละ

พี่เขม : สมน้ำหนัก...ป๊ากับแม่ เล่นงานซะให้เข็ดเลย

บี : ผมขอโทษครับ ป๊า กับ แม่ คือทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากครับ พ่อกับแม่ของผมเตรียมไว้ให้หมดแล้วอ่ะครับ

แม่ : แล้วไปเรียนอะไรนานรึป่าวลูก

บี : ไปเรียนพวก airline business แหละครับ เรียนโทก็น่าจะ 2-3 ปีครับ

ป๊า : ถึงว่าหละ...ไอ้เขมไม่ยอมกลับบ้านเลยนะช่วงนี้

พี่เขม : เป็นป๊า...ป๊าจะกลับบ้านไม๊หละ

ป๊า : เออ...ป๊าก็คงไม่กลับ 555555

แม่ : ไม่ได้ละ...ต้องมาหาแม่อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งละลูก แม่คิดถึงแย่เลย

พี่เขม : แหม่ ๆ แม่ก็...บีเค้าก็ต้องกลับบ้านไปร่ำลาพ่อแม่เค้าบ้าง

แม่ : ก็ถ้าเวลาอยู่ที่นี่ไง...ต้องมาหาแม่บ่อย ๆ แล้ว

พี่เขม : นี่ถ้าผมไม่บอกให้มาหาป๊ากับแม่นะ....ไอ้บีมันก็คงยังไม่มาหรอก

บี : อ่าวพี่เขม...ทำไมวางยาผมงี้หละ

ป๊า : งั้นพรุ่งนี้มาใหม่เด๋วป๊าจัดงานปาตี้ให้ ชวนเพื่อน ๆ มาสิลูก

บี : อย่าเลยครับป๊า...ตอนนี้ผมยังไม่ได้บอกเพื่อน ๆ เลยครับ รอบอกวันพรุ่งนี้

แม่ : งั้นก็เอาแต่เพื่อนที่สนิทมาก่อนก็ได้ลูก...ออกไปกินนอกบ้านแล้วขับรถมันอันตราย แม่เป็นห่วงนะ

พี่เขม : ไอ้คนที่รู้ก็มีแต่เพื่อนเขมแหละครับ...พวกไอ้เก่ง ไอ้พริ้ง ไอ้ตาล

ป๊า : งั้นชวนพวกนั้นมาก่อนก็ได้...เนอะ จัดก่อนเล็ก ๆ

พี่เขม : เด๋วผมถามมันก่อนครับว่ามันว่างรึป่าว

บี : พรุ่งนี้ผมบินครับ...ไม่ว่าง  เอาเป็นศุกร์สิ้นเดือนดีไม๊ครับ...จะได้ไม่ต้องตื่นเช้าวันเสาร์

ป๊า : เออก็ดีนะคุณ...เป็นวันศุกร์สิ้นเดือนเถอะ...ผมจะได้ นั่งคุยด้วยนาน ๆ หน่อย

แม่ : ก็ดีจ๊ะ...งั้นเป็นศุกร์สิ้นเดือนนะ...เขมไปบอกเพื่อน ๆ ด้วยนะลูก ว่าแม่บอกต้องมาให้ได้...

พี่เขม : ได้ครับแม่...
.
.
.
.
.

   วันเวลาในช่วงนี้ผ่านไปเร็วเหลือเกินครับ...ไม่ทันไรผมก็จะต้องจัดข้าวของจากคอนโดผมส่งกลับเชียงใหม่แล้ว...ตอนนี้คอนโดผมกำลังตัดสินใจอยู่ครับว่าจะปล่อยเช่าหรือขายไปดี...พ่อกับแม่เห็นด้วยว่าให้ขายไปเลย เพราะพ่อกับแม่คงลงมาดูแลคอนโดให้ไม่ไหว ส่วนเพื่อน ๆ ผม แล้วก็พี่เขมก็บอกอีกอย่างว่า ปล่อยเช่าเถอะ เผื่อถ้าต้องกลับมาทำงานที่นี่หละ แล้วจะไปอยู่ที่ไหน ผมก็ไปปรึกษาพวกขายคอนโดและปล่อยเช่าเพราะตัวผมเองคงจะไม่ได้มาดูแลอีกนาน จริง ๆ ถ้าขายไปเลยก็ดีครับ...แต่ด้วยความที่คอนโดผมไม่ได้อยู่ในเมืองแต่อยู่ติดกับสนามบิน มันเลยไม่ได้เป็นที่ต้องการของตลาดซักเท่าไหร เจ้าหน้าที่เลยแนะนำให้ลงทั้ง 2  แบบ ถ้าปล่อยเช่าก็ได้ก่อนก็ปล่อย หรือถ้าขายได้ก็ขายเลย ซึ่งผมก็ตกลงกับเงื่อนไขต่าง ๆ นั้น

   หลังเดือนกุมภาเริ่มได้เพียงไม่กี่วัน...ผมก็บอกให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มผมได้รับรู้ว่าผมจะลาออกในอีกไม่นานและผมก็โพสข้อความอำลาในเฟสบุ๊คของตัวเอง...มีคนเข้ามาถามมากมายเหลือเกินว่าทำไมถึงลาออก...หรือว่าท้อใจเพราะว่าสอบไม่ได้เพอร์เซอร์ รวมไปถึงหัวหน้างานที่มาสอบถามด้วย...ผมก็ตอบไปตามความจริงครับว่า ผมและครอบครัวต้องการให้ผมไปเรียนต่อจริง ๆ ไม่ได้มีปัญหาในด้านอื่น ๆ เลย นอกซะจาก คนบางคนที่ไม่ได้ชอบผมอยู่แล้ว พี่นักบินและพี่ลูกเรือบางส่วนที่เค้าบอกว่าผมไม่คู่ควรกับพี่เขมนั่นแหละครับ ที่เอาไปเม้ากันจนสนุกปากว่า ผมทนไม่ได้ที่สอบไม่ผ่านจึงลาออก...แล้วจะก็คงจะเกาะพี่เขมกินต่อไป คนเรามันก็เป็นอย่างนี้แหละครับ การเม้ามอยปากต่อปาก ฤๅษีแปลงสาร ไปต่าง ๆ นานา ครั้นจะให้ทุกคนมาเข้าใจหรืออธิบายอะไรมากมายก็ไม่ใช่เรื่อง ปล่อยให้มันเป็นไปตามกรรมของมันเสียดีกว่าครับ
   ผมมีกำหนดว่าจะกลับไปประเทศเชียงใหม่ในวันที่ 9 - 13 และเพื่อกลับมาฉลองวันวาเลนไทน์กับพี่เขมในวันที่ 14 กุมภา ในช่วงอาทิตย์แรกของเดือนกุมภา ผมก็บินไม่หยุดเลยครับ...ได้ไปค้างในที่ต่างๆ ที่ผมเคยไปแล้วไม่รู้จักกี่ครั้ง แต่พอได้มาค้างแล้วรู้ว่า นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จะได้ค้างที่นี่...ผมก็ใจหายครับ มันทำให้ผมคิดถึง จุดต่าง ๆ ที่ผมเคยไป ไม่ว่าจะร้านอาหาร กิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยทำ ร้านเหล้าที่เคยไปนั่งชิว แล้วก็เพื่อน ๆ ลูกเรือที่เคยไปเที่ยวด้วยกันอีก ยิ่งทำให้ผมใจหายครับ...ผมค่อย ๆ เดินไปในสถานที่ต่าง  ๆ เพื่อไปเก็บเอาบรรยากาศ ในครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้มาที่นี่ ไม่นานนักพวกเพื่อน ๆ ผมก็เดินตามมาครับ เพราะว่าวันนี้ผมได้ไปค้างในประเทศครับ...ทำให้เพื่อน ๆ ในรุ่นคนที่ไม่มีบินและอยากจะมาเที่ยวด้วยเป็นครั้งสุดท้าย ออกตั๋วตามมาครับ...ถึงจะมากันได้ไม่กี่คน พวกเราก็มีความสุขกันมากครับ เราเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ทุกคนรวมตัวกันที่ห้องที่โรงแรมของผม แล้วกัปตันก็ยกห้องของกัปตันให้ผมครับ เนื่องจากโดยปกติ ห้องของกัปตันจะได้ห้องที่ใหญ่ที่สุดอยู่แล้ว แต่พี่กัปตันนี้เป็นกัปตันที่ผมสนิทด้วยครับ...พี่เค้าจึงยกให้เพื่อให้เรามีพื้นที่ปาตี้กันได้เพิ่มขึ้น

พอกลับมาจากการบินเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงอาทิตย์แรกนั้นผมแทบจะไม่ได้เจอพี่เขมเลยครับ...พี่เขมแกก็บินเยอะแลกไม่ออก ทำให้ในช่วงนี้เราห่างกันไปหน่อย ผมนอนคิดถึงพี่เขมทุกคืน ผมไม่ได้พยายามจะตัดใจจากพี่เขมหรอกนะครับ ผมยังรักพี่เขม รักอยู่มาก มันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของผมเลยก็ได้ครับ...ที่ผมมีพี่เขมอยู่ด้วย แต่ต่อไปถ้าพี่เขมจะเจอคนที่ดีกว่า ในเวลาที่ผมไปเรียน ผมก็ต้องปล่อยพี่เขมไปครับ... นั่นเป็นทางที่ดีที่สุดแล้วจริง ๆ เพื่อให้ผมตั้งใจเรียนแล้วไม่คิดมากเรื่องพี่เขมอีกต่อไป

   วันที่ 8 วันที่ผมเป็นแสตนบายครับ ทำให้ผมว่างจัดกระเป๋าเก็บข้าวของทุกอย่างในห้อง วันนี้ห้องของผมถูกเก็บแทบจะหมดแล้วครับ...เหลือเพียงกระเป๋าใบใหญ่ 1 ใบที่เป็นข้าวของส่วนตัวที่ผมจะเอาไปใช้ท่ีโน่น ส่วนข้าวของบางส่วนถูกส่งไปก่อนแล้วครับ ส่งไปที่ป้าของผมที่อยู่ออสเตเรีย ทำให้ผมไม่ลำบากมากเวลาจะเดินทางไปหาป้าครับ ผมนั่งลงมองดูห้องของผมที่สะอาดกว่าปกติมากเพราะข้าวของส่วนใหญ่ถูกส่งกลับบ้านไปหมดแล้ว เว้นก็แต่พวกเครื่องครัวทุกอย่างซึ่งผมจะเอาไว้ให้คนที่มาอยู่ต่อครับ...ไม่ว่าจะเป็นคนเช่าหรือเป็นคนซื้อก็ตาม ผมว่าจะยกให้พวกเขาหมดเลยครับ  ตอนนี้ผมมองไปในห้องที่โล่งมาก ๆ ทำเอาใจหายเหมือนกันครับ ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น ที่แทบจะไม่มีของกินอะไรเหลือแล้วนอกจากไข่ ตู้เสื้อผ้าที่ มีชุดเหลืออยู่แค่ 4-5 ชุด และห้องน้ำที่สะอาดเอี่ยม มีเหลือแค่แปรงฟัน 2 อัน กับสบู่และยาสระผม

   ชีวิตการเป็นลูกเรือของผมกำลังจะสิ้นสุดลงแล้วครับ แต่มันก็ดีอย่างนะครับ การเป็นลูกเรือเนี่ย ทำให้ผมสามารถจัดข้าวของเพื่อจะไปค้างที่ไหนหรือย้ายที่อยู่ได้ภายในไม่กี่นาที ลูกเรือแทบจะทุกคนจะมีกระเป๋ายังชีพของตัวเองครับ นั่นก็คือกระเป๋าที่มีแทบจะทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น สบู่แชมพูยาสีฟัน ยันไปถึงพวกเย็บปักถักร้อย แล้วก็ยาต่าง ๆ ที่พวกเราจะพกติดตัวไว้เป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนพวกเสื้อผ้าเราก็จะใส่แบบง่าย ๆ ครับ เพื่อให้ไปได้ทุกที่ เพียงผมมีกระเป๋าลูกเรือเวลาเดินทางไปไหน ผมก็ไม่กลัวว่าจะขาดอะไรอีกแล้วครับ

   ตอนนี้เป็เวลาบ่ายโมงนิด ๆ แล้วครับ พี่เขมก็ไปบินค้างที่ต่างประเทศซึ่งน่าจะกลับมาวันพรุ่งนี้คำ่ ๆ บ่ายนี้ผมเลยอยากจะไปลา หมอพรกับหมอคิตซักหน่อยครับ ผมขับรถออกจากบ้านแล้วก็โทรหาหมอพรทันที...เพื่อจะเช็คว่าหมอพร ทำงานหรือมีประชุมรึเปล่า แต่หมอพรไม่รับสาย ผมก็เลยจำใจที่จะต้องโทรหาหมอคิตครับ...ซึ่งหมอคิตก็ไม่รับสายเช่นกัน ผมก็เลยตัดสินใจขับไปทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะได้เจอรึเปล่า

พอถึงโรงพยาบาล ผมก็ตรงไปที่แผนกกายภาพก่อนเลยครับ เพื่อจะไปถามว่าหมอพรว่างรึเปล่า


มีต่อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 32 ความแตก NC20+ P.5 ( 9-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 10-11-2017 16:56:22
บี : วันนี้หมอพรมาทำงานรึเปล่าครับ

พยาบาลใหม่ : มาค่ะ...คุณคนไข้มีนัดไว้รึเปล่าคะ...ขอดูใบนัดด้วยค่ะ

บี : ไม่มีครับ...แล้วหมอพร มีคิวเยอะไม๊ครับ

พยาบาลใหม่ : ตอนนี้หมอพรประชุมอยู่ค่ะ...หมอพรเข้าถึง 5 โมงค่ะ คุณคนไข้มีประวัติที่นี่แล้วใช่ไม๊คะ?

บี : ครับ...แล้วหมอพรประชุมเสร็จกี่โมงครับ

พยาบาลใหม่ : ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ...วันนี้คุณคนไข้มีอาการเป็นอย่างไรบ้างคะ

ตอนนี้ผมไม่เจ็บป่วยเลยแม้แต่น้อย...ผมก็เลยแกล้งว่าปวดข้อมือเป็นแบบเดิมเพื่อจะได้นัดคิวกับหมอพรได้

บี : ปวดข้อมือครับ...

และระหว่างที่ผมคุยกับพยาบาลใหม่นั้น...หมอคิตก็โผล่มาจากด้านหลัง

พยาบาลใหม่ : คุณหมอสวัสดีค่ะ

บี : อ่าวหมอคิต...ทำไมโทรไปแล้วไม่รับ

หมอคิต : ก็มะกี้ติดคนไข้อยู่...ก็เลยเดาว่าบีน่าจะมาที่นี่

บี : แสนรู้จริงนะหมอคิต...

หมอคิต : บอกแล้วไงว่าให้เรียกว่าอะไร

พยาบาลใหม่ทำหน้าตาไม่ถูกเลยครับว่าจะพูดกับผมยังไงดีแล้วจะต้องลงคิวตรวจยังไง คุณพยาบาลได้แต่ยืนยิ้ม ๆ รอผมกับหมอคิตคุยกัน

บี : แล้วหมอพรไปไหนอ่ะโทรหาก็ไม่รับเหมือนกันเลย

หมอคิต : คงมีประชุมแหละ...น่าจะเสร็จบ่าย ๆ...แล้วบีเป็นไรอ่ะมาที่นี่ ปวดข้อมือเหมือนเดิมอีกเหรอ...ไหนให้ผมดูหน่อยซิ...(หมอคิตคว้าข้อมือผมไปสำรวจ)

บี : ไม่ได้เป็นอะไรเลย...วันนี้ว่าจะมาคุยด้วยเฉย ๆ

หมอคิต : วันนี้มาแปลกนะ... คนบ้าอะไร อยากจะมาโรงบาล

บี : เออ...ก็อยากจะมาบอกว่า...

หมอพร : อ้าว...อยู่กันพร้อมหน้าเลยนะ มาจีบกันเหรอเนี่ย

บี : อ้าว...หมอพร สวัสดีครับ

พยาบาลใหม่นั่งลงที่เค้าเตอร์เลิกสนใจพวกผมไปแล้วครับตอนนี้...55555

หมอพร : จะมาบอกใช่ป่ะว่าจะไปเรียนต่อแล้วอ่ะ

บี : เห้ย..หมอรู้ด้วยเหรอ

หมอพร : รู้ดิ...ไอ้คนนี่ยืนข้าง ๆ นี่ไง เต้นเช้าเย็นเลย...บอกให้พี่นัดบีกินข้าว

บี : 555555 แหม่ ๆ มีคนเอาไปฟ้องจริง ๆด้วย

หมอคิต : พี่พร...ไปบอกงั้นได้ไงหละ

หมอพร : แล้วนี่มาโรงบาลเพราะเรื่องนี้อย่างเดียวหรือว่าป่วยด้วย

บี : ครับ...จะมาชวนไปกินข้าวแหละครับ...แต่เหมือนจะยุ่ง ๆ กันอยู่ใช่ป่าวครับ...เด๋วผมรอแถวนี้ก็ได้ครับ...

หมอพร : หนูพยาบาลจ๊ะ...วันนี้หมอมีคนไข้นัดรึเปล่า

พยาบาลใหม่ : มี 1 คิวค่ะ คุณคนไข้คนนี้แหละค่ะ

หมอพร : อ่าปิดจ๊อบ...หมอไม่รับแล้วนะ หมอยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย ขอไปกินข้าวเที่ยงแล้วถ้ามีคนไข้มาก็ฝากให้หมอคนอื่นก่อนแล้วกันนะ ถ้ามีอะไรเร่งด่วนโทรมาละกัน

หมอคิต : เหยพี่พร...อย่างนี้ก็ได้เหรอ

หมอพร : ได้สิ...ฉันไปประชุมมา...

หมอคิต : แล้วผมหละ...ยังอยู่เวรถึง 5 โมงเลยอ่ะ

หมอพร : นั่นก็ช่วยไม่ได้ละหละ....ป่ะบี เราไปหาอะไรกินกันก่อนละกันนะ

หมอคิต : เห้ยพี่...ทิ้งผมอย่างงี้ได้ไงอ่ะ

พยาบาลใหม่ : เออ...คุณหมอคะ?...คุณคนไข้คะ? สรุปไม่ป่วยใช่ไม๊คะ หนูจะได้เอาเรื่องออกจากระบบ

หมอพร : หมอลืมไป...เอาออกเลย ๆ ไม่ป่วยละตอนนี้

บี : ครับผม...ขอโทษด้วยนะครับคุณพยาบาล

หมอคิต : ทิ้งผมไปได้ไงอ่ะ...อย่างงี้ไม่แฟร์เลย

หมอพร : แล้วให้ทำไง แล้ววันนี้พักไปรึยัง?

หมอคิต : เออ...ยังเลย เด๋วไปบอกว่าขอกลับเร็วดีกว่า ไม่พักละวันนี้

หมอพร : เด๋วก็โดนว่าเอาหรอก พี่ไปหาไรกินแถวนี้รอก็ได้นะ

หมอคิต : ไม่เอาอ่ะพี่...แค่ออกเร็วเค้าคงไม่ไล่ผมออกหรอก

หมอพร : ตามใจ...เคลียกันเองนะฉันไม่เกี่ยว

บี : เจ๊ครับ...รอหมอคิตก่อนก็ได้นะครับ... ลงไปหากาแฟทานก่อนไม๊ เด๋วผมเลี้ยงเอง

หมอพร : อ่า ๆ ก็ได้ ๆ ไม่ต้องมาเลี้ยงเจ๊หรอก...

บี : ป่าวครับ ผมมีโปร 1  แถม 1 ตาบัคอยู่ ไปกินกันป่ะเจ๊

หมอพร : ว๊าว ๆ ๆลาภปากฉัน แกอดละหมอคิต

บี : หมอคิตอยากกกินอะไร เด๋วผมสั่งมาเผื่อ

หมอคิต : เย้ ๆ ๆ ผมก็ได้กินเห็นมะ คุณบีใจดีจะตาย เจ๊แหละใจร้าย

บี : คุณพยาบาลกินไรดีครับ มันได้ 4 แก้ว เด๋วผมเอามาฝาก

พยาบาลใหม่ : ไม่เป้นไรค่ะ...หนูไม่กินกาแฟ

บี : งั้นชาเขียวไม๊ครับ...

พยาบาลใหม่ : ก็ได้ค่ะ...ขอบคุณค่ะ คุณคนไข้

หมอพร : นี่...คนนี้คนไข้วีไอพีนะจ๊ะ...เค้าชื่อคุณบี เป็นสจ๊วต ฝากซื้อเครื่องสำอางได้

บี : เด๋วผมก็ออกแล้วครับเจ๊...ไปเรียนต่อไง

หมอพร : เออลืมไป...ฝากไม่ทันละ 55555

ผมกับหมอพรลงไปนั่งจิบชารอหมอคิตที่ร้านกาแฟสีเขียว...หมอพรซักผมใหญ่เลยครับว่าทำไมไปเรียนต่อ...ทำงานก็โออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ผมก็เล่าไปครับ...แล้วก็เด๋วหมอคิตมา...ผมก็ต้องเล่าใหม่อีกที...55555 หมอพรเคยไปเรียนอยู่ที่ออสเตเรียด้วยครับ หมอพรคุยให้ฟังมากมายเกี่ยวกับเมืองต่าง ๆ ที่ ๆ ต้องไป แล้วก็ร้านอาหารที่ต้องไปกิน...แล้วถ้าหมอพรมีโอกาสหมอพรก็จะไปเยี่ยมผมที่ออสเตเรียครับ

ผ่านไป 2 ชม. เรานั่งเม้ามอยกันไปเรื่อย ๆ ครับ รอหมอคิตเลิกงาน แล้วประมาณ 4 โมงเศษ  ๆ หมอคิตก็ปรากฎตัวขึ้นครับ...ผมถามว่าวันนี้จะไปหาอะไรกินที่ไหนดี...หมอพรเสนอว่า หมอพรอยากกินปิ้งย่างเกาหลี...ซึ่งผมกับหมอคิตก็ไม่ขัดใจครับ เรานั่งรถหมอพรไปกันครับ...พอไปถึงร้าน หมอพรสั่งอย่างแรกคือ...โซจูครับ...ผมกับหมอคิตทำหน้างง ๆ แล้วมองหน้ากัน

หมอพร : อ่าวกินอาหารเกาหลีก็ต้องกินกับโซจูสิถึงจะเข้ากัน

หมอคิต : เหย...เจ๊แม่งเด็ดหวะ....

บี : นี่ ๆ ใครเคยกินโซจูบอมป่าว ผมถามหมอทั้ง 2 คน

หมอพร : มันคืออะไรอ่ะ

หมอคิตทำหน้างง ๆ แล้วก็ส่ายหัว

บี : มันคือเบียร์ครับ...แล้วก็เอาโซจูใส่แก้วช๊อตแล้วหยอนลงไปใส่แล้วเบียร์แล้วกินทีเดียวให้หมดเลย...ลองไม๊หมอ ใจสู้หรือป่าว

ผมไม่รู้หรอกครับว่าหมอพรกับหมอคิตเนี่ย คอแข็งหรือคออ่อนขนาดไหน แต่จากที่ประเมินเนี่ย...ตอนแรกผมคิดว่าหมอพรไม่ทานเหล้าเลยซะด้วยซ้ำ แต่พอเห็นเจ็แกสั่งโซจู ก็รู้เลยว่า...เจ๊แกต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

บี : หมอคิตสู้ป่าว

หมอคิต : เออ...ผมไม่เคยกินโซจูอ่ะ...มันรสชาติยังไงอ่ะ

หมอพร : เหมือนเหล้าขาวเลยแต่เบากว่ามาก

บี : เหย...เจ๊ตัวจริงหวะ

หมอพร : เจ๊เคยไปใช้ทุนอยู่บ้านนอก...เจ๊เคยชิม ๆ

บี : แล้วหมอคิตอ่ะ...ไม่เคยแบบนี้บ้างเลยเหรอ

หมอพร : โอ้ย...ไอ้นี่มันเด็กเนิดจะตาย...ถึงหน้ามันจะดูร้ายแต่ตัวจริง อ่อน มากกก

บี : เหย...ไม่น่าเชื่อเลย

หมอคิต : เจ๊อ่ะ...อย่าไปบอกเค้าดิ...ผมเสียฟอร์มหมด

บี : อ่างั้นลองดู...เด๋วผมกินให้ดูก่อน

หมอพร : กินเสร็จแล้วตัวใครตัวมันนะ...เจ๊แบกใครกลับไม่ไหวนะ

บี : เด๋วผมดูแลเอง...

หมอคิต : อยากดูแลผมเหรอ

หมอพรเราช้อนไปเคาะหัวไอ้หมอคิต... “นี่ให้มันน้อย ๆ หน่อย”

   ผมทำเป็นไม่ได้ยินครับแล้วก็จัดการทำโซจูบอมให้ดู 1 แก้ว มันก็คือเอาเบียร์มา 1 แก้วครับแล้วก็โซจูมา 1  ชอต แล้วก็เอาแก้วชอต หย่อนลงไปในแล้วเบียร์เลยครับ แล้วก็ยกกินให้หมดรวดเดียว....ผมซดได้ทีละครึ่งแก้วครับ...ไม่ไหว ในท้องยังไม่มีอาหารเลยแม้แต่นิดเดียวครับ...งานนี้เมาแน่ ๆ

   หมอคิตตบมือใหญ่ เหมือนผมแสดงกายกรรมให้หมอดู 55555 แล้วหมอพรก็กินตามมาติดๆ ครับ...ตอนนี้หน้าผมมันแดงและร้อนไปด้วยแรงของเบียร์และเหล้าที่กินเข้าไป ท้องผมนั้นร้อนวูบวาบขึ้นมาทันทีครับ...แล้วอาหารของพวกเราก็มาถึงครับ ผมบอกให้หมอคิตกินข้าวก่อนแล้วค่อยกินไอ้โซจูบอม เพราะดูแล้วหมอคิตน่าจะไม่รอดถ้ากินตอนนี้ จากที่หมอพร บอก หมอคิตคงจะเป็นพวกเด็กเนิดจริง ๆ ครับ

แล้วก็มาถึงเวลาที่หมอคิตต้องกิน...หมอคิตหลับตาปี๋เลยครับ...กินไปได้นิดเดียว แล้วก็บ่นออกมาว่าขม

บี : คิต? เคยกินเบียร์ไม๊เนี่ย...(ด้วยความกึ่ม ผมเลยเรียกแต่ชื่อ)

หมอคิต : คิตกินไม่เป็นอ่ะ....

บี : แล้วเคยกินเหล้าไม๊

หมอคิต : กินแต่สเมอน๊อฟอ่ะ...มันเป็นเหล้าป่ะ

บี : โอยยยยย....วั่ยตั่ยล้าวววววววว เกือบโดนมอมละไม๊หละ ไม่ต้องกินแล้ว

หมอพรหัวเราะใหญ่เลยครับ...

หมอพร : ว่าแล้วว่ามันต้องไม่เคยกินอะไรแบบนี้...มันหนะเป็นคุณหนูจะตาย

บี : อ่าวแล้วพี่ไม่เคยไปกินข้าวด้วยกันเลยเหรอ

หมอพร : ไม่เคยอ่ะ...ปกติกินแต่ข้าวเที่ยงด้วยกัน ไม่เคยพากันออกไปกินไรด้านนอก

หมอคิต : นี่บี...สังคมของหมออ่ะไม่ค่อยมีคนชวนออกไปไหนหรอก เพราะพวกหมอใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ก็จะไปรับจ๊อบอยู่เวร ตามโรงบาลอื่น ๆ ตอนเย็น หรือใครดีหน่อยก็ไปอยู่คลินิก ต่าง ๆ ไม่ค่อยมีหรอกที่จะ มาชวนกันไปกินข้าวตอนเย็น ๆ อ่ะ

หมอพร : จริงบี...สังคมหมออะนะ...จริง ๆ แคบมากเลยนะ ไม่ใช่ว่าเราหยิ่งนะ แต่เราต้องทำงานเยอะจริง ๆ ไหนจะใช้ทุน ไหนจะผ่อนบ้าน ใครบอกว่าเป็นหมอแล้วรวยเนี่ย ไม่จริงเลย...ต้องเป็นหมอแล้วทำงานเยอะ ๆ ถึงจะรวย แต่รวยไป เพื่อนฝูงก็มีน้อยเพราะเวลาทำงาน ก็อยู่แต่โรงบาล ไม่ได้ออกไปไหนเลย

หมอคิต : นี่ผมนะ...ถ้าไม่รู้จักกับบี...ก็ไม่มีใครชวนมากินข้าวตอนเย็นอย่างนี้หรอก

บี : อ่าวแล้วเพื่อนคนอื่น ๆ หละหมอ เพื่อนที่ไม่ใช่หมออ่ะ มีไม๊

หมอคิต : ก็มีนะ...แต่ก็นาน ๆ จะเจอกันทีอ่ะ ตอนเย็น ๆ บางทีรับเวรกลางคืนอีก ก็ไม่มีเวลาไปเจอใครแล้ว

หมอพร : เป็นหมอหนะเหนื่อยมากเลยนะบี...เจ๊ถึงได้มาอยู่สายกายภาพไง ไม่มีเคสฉุกเฉิน ค่อยสบายหน่อย

หมอคิต : เนี่ย...ผมอยู่ฉุกเฉิน...ไปไหนไม่ได้เลย เพราะว่าถ้าคนไข้เข้าก็ต้องพร้อมตลอด บางวันนี้บี...กินข้าวยังไม่ได้กินเลย เพราะเคสเข้าเยอะ

บี : โห...เป็นหมอนี่ลำบากเหมือนกันนะเนี่ย...ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยคับ

หมอพร : อ่า ๆ ชน ๆ ๆ ๆเลิกคุยเรื่องงาน เลิกคุยเรื่องเรียนต่อ

หมอคิต : ผมขอสั่งอะไรที่หวาน ๆ หน่อยได้ไม๊...ผมกินไม่ได้เลยไอ้เบียร์เนี่ย

บี : เฮ้ย...แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก...เฮ้ย มีเหล้าบ๊วยด้วย...คิตเคยกินมะ อร่อยลองดู ๆ

หมอคิต : มันขมป่าว...ขมผมไม่ไหวนะ

หมอพร : ไอ้อ่อนเอ้ย...ลองดู ๆเจ๊เริ่มจากเหล้าบ๊วย มันดีมากใส่โซดาหน่อยนะ ฟินนน

หมอคิต : ลองๆ ๆ

แล้วหมอคิตก็ติดใจครับ...กินไม่หยุดเลย เรากินข้าวนั่งเม้ามอย เล่นเกมส์กันไปเรื่อย ๆ จนถึง 2 ทุ่มกว่า ๆ

หมอพร : เจ๊ต้องกลับละนะเด๋วลูกด่า...

หมอคิต : ยังไม่อยากกลับเลยอ่ะ

บี : อย่างอแงหนะคิต...กลับเหอะค่ำแล้ว

หมอพร : อ่าๆ ๆ งั้นก็นั่งกินไปก่อนละกันนะเด๋วเจ๊กลับก่อน แล้วก็ขึ้นแท็กซี่กลับเองละกัน “อย่าลืมไปส่งหมอคิตด้วยนะดูท่าจะขับรถไม่ไหว”...หมอพรยื่นหน้ามากระซิบผม

บี : คับได้คับเจ๊...เด๋วซักแป๊ปผมกลับละครับ

หมอพร : ไม่ต้องจ่ายนะ...เจ๊จ่ายแล้ว เจ๊เลี้ยงเอง ไปดีมาดีนะ กลับมาแล้วอย่าลืมแวะมาหาเจ๊ด้วยหละ

บี : ได้ครับเจ๊ แล้วผมจะแวะไปหาครับ

หมอคิต : บี ขอกินอีกแก้วนึงนะ...แล้วเด่วกลับ...

บี : ได้ ๆ

   ตอนนี้ผมไม่เมาเลยครับ...ผมกับหมอพรกินเบียร์ไปคนละ 2 ขวดเองแต่ไอ้หมอคิตดิครับกินเหล้าบ๊วยไป 2 ขวดเล็ก ๆ เมาชิบหาย...เดินก็จะไม่ตรงอยู่แล้ว ผมจะทำยังไงกับมันดีเนี่ย หลังจากที่ผมหลอกให้มันกินน้ำเปล่าแทนเหล้าบ๊วยแล้ว ซักพักผมก็พาหมอคิตขึ้นแท็กซี่ครับ ไปที่คอนโดของหมอคิตครับ...ดีนะที่ผมได้ถามว่าคอนโดไอ้หมอคิตอยู่ไหนก่อนที่มันจะไม่ได้สติขนาดนี้ไป

หมอคิต : บี...ผมชอบคุณนะ...แล้วผมก็ยังจะชอบต่อไปเรื่อย ๆ

บี : ทำไมหมอไม่ไปชอบคนอื่นบ้าง

หมอคิต : ไม่รู้หวะ...ไม่เจอคนอื่นมั้ง

บี : เด๋วก็เจอ...คนดี ๆ มีเยอะแยะ คิตก็เป็นคนดี...เด๋วคนดี ๆ ก็เข้ามานะ

   เรามาถึงคอนโดหมอคิตครับ...แล้วผมก็แบกไอ้หมอคิตไปที่ห้องของมัน...คอนโดมันเป็นห้องที่ไม่กว้างมากครับ...และก็ไม่ค่อยสะอาดซักเท่าไหร 5555 อาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยได้อยู่ หรือกลับมาก็แค่มานอน...ตู้เย็นมีแค่นมกับน้ำเปล่าเท่านั้น ไม่มีอะไรเลย หมอคิตเริ่มได้สติขึ้นมานิดหน่อยแล้วครับ ผมเลยจะขอตัวกลับ แต่หมอคิตก็ไม่ยอมให้ผมกลับ แล้วก็บ่นว่าหิว จะว่าไปผมก็แทบจะไม่เห็นหมอคิตกินอะไรเลยครับ...หมอกินข้าวก็นิดหน่อยแล้วก็กินหมูอยู่ 2-3 ชิ้น แล้วก็นั่งฟังผมกับหมอพรเม้ามอยกัน...ผมบอกให้กินอะไรก็บอกว่าไม่กินอิ่มแล้ว แล้วตอนนี้ก็มาบ่นว่าหิว ผมนี่อยากจะเขกกะบาลไอ้หมอคิตนี้จังเลย ผมเดินไปเปิดตู้เย็นอีกครั้งแล้วก็ไม่เห็นว่ามีอะไรที่พอจะทำให้หมอกินได้เลยครับ...ครัวของห้องหมอคิตก็เป็นครัวเล็ก ๆ ครับ ไม่ได้มีอะไร เครื่องปรุงอะไรเลยนอกจาก ซอสแม็กกี้ กับน้ำจิ้มไก่แม่ประนอม ผมเห็นแล้วก็ถอดใจ ผมเห็นในช่องฟรีสก็มีแต่อาหารแช่แข็ง...ผมหละเหนื่อยใจกับหมอคิตซะเหลือเกิน...เป็นหมอแท้ ๆ ยังกินอาหารไม่มีประโชยน์อีก...แล้วจะไปรักษาใครได้เนี่ย...กินของไม่มีประโยชน์ขนาดนี้

บี : งั้นเด๋วรอแป๊ป...ไปหาอะไรให้กินหน้าคอนโดน่าจะมีร้านอาหารใช่มะ

หมอคิต : ไม่อร่อยอ่ะ...ผมถึงกินแต่อาหารแช่แข็งไง

บี : แล้ว 7-11 หละมีป่ะ

หมอคิต : มีแต่เบื่ออ่ะกินมาครบหมดทุกเมนูละ

บี : เด่วไปซื้อมาทำให้กินละกัน กินโจ๊กละกันนะง่าย ๆ จะได้ไม่แฮ้งมาก

หมอคิต : จริง ๆ กินข้าวในช่องฟรีสก็ได้นะ

บี : เออ...เด่วมา ไป 7-11 ก่อน อย่าเรื่องมาก

หมอคิต : เด๋วไปด้วย...

บี : ไม่ต้องเลย...เดินจะไม่ตรงอยู่ละ หอบกันไปมา เมื่อไหรจะได้กิน

หมอคิต : บี ทำไมต้องดีกับผมด้วยหละ...รู้ไม๊ว่าผมหวั่นไหว...(หมอคิตจับมือผมไว้)

บี : ผมทำตอบแทนหมอตอนที่ผมป่วยแล้วหมอไปดูแลไง

หมอคิต : แค่นั้นเลย?...ไม่มีใจให้หน่อยเลย

บี : คิตตี้ จะกินไม่กิน...

หมอคิต : ซักนิดก็ไม่มี

บี : ผมรู้สึกผิดอยู่เลย...ที่ผมตะหวาดใส่หมอในวันนั้น...ผมยังไม่ได้ขอโทษหมอเลย

หมอคิต : อ่อ ๆ วันนั้นนี่เอง...แม่งโคตรน่ากลัวเลย คนบ้าอะไรแปลงร่างเป็นฮัคได้

บี : เออนั่นแหละ...ขอโทษนะคิต...

หมอคิต : แล้วคืนดีกันแล้วใช่ไม๊

บี : ใช่ ๆ

หมอคิต : ดีแล้ว ๆ บีมีความสุขผมก็ดีใจด้วย

บี : อ่า ๆ งั้นรออยู่นี่แหละเด๋วไปซื้อโจ๊กมาต้มให้กิน

หมอคิต : คับ...เด๋วผมอาบน้ำรอละกัน มาถึงก็โทรมาเรียกหละ

ผมลงไปเดินดู 7-11 ที่ใกล้ ๆ คอนโดหมอคิตครับ...เป็น 7-11 เล็ก ๆ ซึ่งแทบจะไม่มีอะไรขายเลย...ผมเลยเปลี่ยนไปเดินดูอาหารแถว ๆ น่าคอนโดหมอคิต...ซึ่งก็เป็นเหมือนที่หมอบอกจริง ๆ ครับ ทุกอย่างดูไม่น่ากินเลย ผมเลยหน้าด้านไปขอซื้อแต่หมูสับที่ร้านต้มเลือดหมู ซื้อแต่เกาเหลาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวและขอซื้อกระเทียมเจียวแยกมาต่างหากเพราะเห็นเค้าเพิ่มทำเสร็จใหม่  ๆมันหอมมาก แล้วก็ไปซื้อปลาลวกจิ้มมาอีกหน่อย แล้วผมก็แวะ 7-11 อีกครั้งซื้อข้าวกับไข่ลวกที่ 7-11 แล้วก็เบียร์ให้ผมกินเอง

พอกลับมาถึงห้อง ผมก็เริ่มทำอาหารครับ ผมเอาข้าวไปต้มกับน้ำซุปของร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วก็เอาหมูสับกับปลาลงมาใส่ทีหลังแล้วก็ไข่ อาหารออกมาหน้าตาพอดีได้ครับผมจึงยกไปให้หมอคิตกิน...

หมอคิต : โหย ๆ ๆ 7-11 มีของเยอะขนาดนี้เลยเหรอ

บี : ป่าวอ่ะ...ผมไปซื้อข้องจากร้านอาหารหน้าคอนโดมาทำให้กิน

หมอคิต : แล้วนี่เมนูอะไรครับเชฟ

บี : ข้าวต้มปลาครับ ลองทานดู ไม่อร่อยก็โทษผมไม่ได้นะ เพราะผมแค่จับเอาทุกอย่างมารวม ๆ กัน

หมอคิต : แค่นี่ก็สวรรค์แล้วเนี่ย....กินละนะ

บี : เชิญ กรรมการตัดสินได้เลยครับ

หมอคิต : เย้ดดดดโด้.....

บี : เป็นไง อร่อยมะ

หมอคิต : ไม่....เลย ยังไม่ได้กิน มันร้อน

บี : ห่านจิก...เป่าก่อนดิ

หมอคิต : เห็นคุณเขมบอกว่าทำกับข้าวอร่อยวันนี้ได้มาลองละ จะอร่อยสมชื่อไม๊

บี : ไม่อร่อยก็โทษไม่ได้เว้ย...นี่แค่ต้มข้าวอย่างเดียวหมู ปลาก้ซื้อเค้ามา

หมอคิต : เหย...อร่อยหวะ...อร่อยมากอ่ะ ทำได้ไงเนี่ย

บี : เห็นมะ อะไรผ่านมือบี อร่อยหมดแหละ....

หมอคิต : เชี่ย...โคตรเทพอ่ะ เปิดร้านไม๊

บี : โอยจะไปเรียนต่อโว้ย ๆ ๆจะเปิดร้านทำไม

หมอคิต : ขอบคุณนะบี...ได้แค่นี้ผมก็พอใจละ

บี : หายมึนละใช่ป่ะ...เด๋วผมกลับหละ

หมอคิต : ไม่อยากให้กลับเลยอ่ะ...อยู่เป็นเพื่อนกินข้าวให้หมดก่อนได้ไม๊ ไม่อยากกินข้าวคนเดียวมันเหงา

บี : อ่าวก็กินอยู่ทุกวันไง...ยังไม่ชิน

หมอคิต : ก็มีคนทำให้กินด้วย คนอยู่คุยด้วยมันก็อร่อยขึ้น 100 เท่าเลยนะ

บี : เออ...อีกแป๊ปนึงก็ได้...

หมอคิต : แล้วคุณเขมไปไหนหละ วันนี้ถึงปล่อยให้มาหาผมได้เนี่ย

บี : ชิบหายละ ลืมไปเลย

ผมลืมเช็คดูโทรศัพท์เลยครับ...แล้วก็เป็นจริง พี่เขมไลน์มาถามตั้งแต่พี่แกแลนด์แล้ว แต่ผมก็ไม่ได้อ่านเลย...พี่เขมไลน์มาอยู่เรื่อย ๆ เริ่มจากบอกว่า
พี่เขม : แลนแล้ว 19:05
พี่เขม : Missed call 19:15
พี่เขม : ออกไปกินข้าวกับคนในไฟล์ 19:55
พี่เขม : Missed call 20:01
พี่เขม : กลับมาแล้ว 20:45
พี่เขม : Missed call 20:46
พี่เขม : หายไปไหน 21:00
พี่เขม : Missed call 21:05
พี่เขม : ทำอะไรอยู่ 21:14
พี่เขม : Missed call 21:17
พี่เขม : พี่จะโกรธแล้วนะหายไปนาน 21:32
พี่เขม : Missed call 21:33
พี่เขม : พี่โกรธแล้ว 21:39
พี่เขม : Missed call 21:29
พี่เขม : พี่งอนแล้ว 21:43
พี่เขม : Missed call 21:47
พี่เขม : มาง้อด้วย 21:50
พี่เขม : Missed call 21:52
พี่เขม : บีเป็นอะไรรึป่าว 21:55
พี่เขม : Missed call 21: 57
พี่เขม : ทำไมไม่ตอบไลน์พี่ 21:57
พี่เขม : Missed call 22:00
พี่เขม : พี่ทำอะไรผิด พี่ขอโทษ 22:01
พี่เขม : Missed call 22:20
พี่เขม : บีอย่าหายไปนานอย่างนี้ พี่ใจไม่ดี 22:22
พี่เขม : Missed call 22:25
พี่เขม : บีครับ พี่จะเป็นบ้าแล้ว 22:30
พี่เขม : Missed call 22:33
พี่เขม : บีพี่รักบีมากนะ อย่าเพิ่งทิ้งพี่ไป 22:43
พี่เขม : Missed call 22:45
พี่เขม : บี..พี่ยอมทุกอย่าง ตอบไลน์พี่หน่อย 22:51

ผมรีบกดโทรศัพท์หาพี่เขมทันที ไม่นานพี่เขมก็รับโทรศัพท์

พี่เขม : บีหายไปไหนมา รู้ไม๊ว่าพี่เป็นห่วง

บี : ขอโทษครับ...ผมไปกินข้าวกับหมอพรหมอคิตมาครับ

พี่เขมเงียบไปชั่วครู่....

บี : พี่เขมผมขอโทษผมไม่ได้บอกก่อน ผมลืมไปเลย มัวแต่เม้ามอย

พี่เขม : แล้วตอนนี้อยู่ไหน

บี : กำลังจะกลับบ้านครับ...

พี่เขม : แล้วหมอคิตหละ...

บี : ผมพาไปส่งแล้วครับ...หมอคิตเมา กินเหล้าไม่เป็น

พี่เขม : 5555555 จริงดิ...งั้นก็ กลับบ้านดี ๆ หละ ถึงบ้านแล้วโทรหาพี่ด้วย พี่ยังไม่นอนหรอก

บี : ครับ...เด๋วผมขอเรียกแท็กซี่ก่อนนะพี่

พี่เขม : อ่าวไปยังไงกันเนี่ย แล้วรถบีหละ

บี : จอดอยู่โรงบาลครับ...นั่งรถหมอพรมา หมอพรหนีกลับบ้านก่อนแล้วลูกตาม

พี่เขม : งั้นขึ้นแท็กซี่แล้วโทรหาพี่นะ

บี : ได้ครับ...ไม่งอนนะพี่เขม

พี่เขม : ก็ใกล้จะเป็นบ้าละ...รีบโทรมาอย่าให้อารมณ์เสีย

บี : ต้องดุขนาดนั้นเลย....

พี่เขม : อยู่ใกล้ ๆ นะจะกัดให้แก้มขาด...รีบเรียกแท็กซี่กลับบ้านเร็ว

บี : ค๊าบบบ....คิดถึงนะ

พี่เขม : เหมือนกัน...ไหนบอกรักพี่หน่อย

บี : เห้ย...ให้บอกตอนนี้เลยเหรอ

พี่เขม : ทำไมอ่ะอยู่กับใครเหรอ

บี : อยู่หน้าคอนหมอคิตไง...กะลังกลับ

พี่เขม : แล้วบอกรักพี่ไม่ได้เหรอ...มีพิรุธนะ

บี : ผมรักพี่เขมครับ

พี่เขม : ดีมาก...รีบไปเรียกแท็กซี่ได้แล้ว

บี : ครับ...

ผมหันหน้ามาเห็นหมอคิตกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่เลยครับ...มันน่าจะกำลังคิดหาวิธีแซวผมอยู่แน่ ๆ เลย

หมอคิต : รักพี่เขมครับ....หวานจังนะ

บี : เออดิ...เกือบตายละไม่ได้ไลน์บอกพี่เขมเลย ดีนะคิตเตือนก่อน

หมอคิต : ผมอยากได้แบบนี้บ้างจังเลย

บี : อยากได้อะไร...ไป ๆรีบกินให้หมด บีจะกลับละ

หมอคิต : กลับแล้วจริงเหรอ...แล้วพี่เขมไม่ว่าอะไรเหรอมาส่งผมเนี่ย

บี : ไม่ว่านะ หรืออาจจะโดนด่าทีหลังก็ได้ไม่รู้หวะ

หมอคิต : ไม่กล้าว่าหรอก

บี : ทำไมอ่ะ

หมอคิต : ผมคุยกับคุณเขมแล้วตั้งแต่ตอนที่บีทะเลาะกับคุณเขมอ่ะ

บี : คุยอะไรกัน...ทำไมบีไม่รู้เรื่องเลย

หมอคิต : เป็นเรื่องของสมาคมคนรักบีคุยกัน บีไม่เกี่ยว

บี : เออ...ไม่อยากรู้ละ...กลับละนะ

หมอคิต : เด๋วผมลงไปส่ง

บี : ไม่ต้องหรอก ส่างเมาแล้วเหรอ

หมอคิต : ยังมึนๆ แต่ก็โอเคแหละ

บี : เดินไปเองได้...ไม่ต้องห่วง

หมอคิต : บีผมขออะไรหน่อยดิ

บี : อะไรคิต

หมอคิต : ผมขอกอดบีซักทีได้ไม๊

บี :.......

หมอคิต : กอดแบบเพื่อนหนะ...จะไม่ได้เจออีกตั้งนาน

หมอคิตสวมกอดผมเข้าอย่างจังครับก่อนที่ผมจะตอบอะไรหมอคิตไป ตัวหมอคิตหอมมาก เพราะมันเพิ่งไปอาบน้ำมา แต่ตัวผมดิครับ...เหม็นมากกกก หมูย่างเกาหลีล้วน ๆ

หมอคิต : ขอบคุณนะ...ที่ทำให้ผมมีความสุขขนาดนี้

บี : ขอบคุณที่เคยดูและผมนะคิต...คิตเป็นเพื่อนที่ดีของบีเสมอนะ

หมอคิต : คับบี

แล้วผมก็เดินออกจากห้องไปผมไม่กล้ามองกลับหลังเลยครับ...หัวใจผม ผมยอมรับว่ามันหวั่นไหวมาก แต่ยังไง ผมก็ยังรักพี่เขมของผมคนเดียวอยู่ดี

ผมขึ้นแท็กซี่แล้วก็รีบโทรหาพี่เขม ผมเล่าให้พี่เขมฟังว่าวันที่ผมไปทำอะไรมาบ้างครับ ผมไม่ได้ปิดบังอะไรนอกจากการขึ้นห้องหมอคิต เพราะผมคิดว่าจะทำให้พี่เขมกังวลซะเปล่า ๆ  พี่เขมก็งอแงมากครับช่วงนี้เพราะเราแทบจะไม่ได้เจอกันเลยครับ แล้ววันพรุ่งนี้ผมก็กลับบ้านที่ประเทศเชียงใหม่อีกต่างหาก พี่เขมก็กลับมาส่งผมขึ้นเครื่องไม่ทันเพราะผมไปไฟล์เช้าสุดเลยครับ จึงทำให้เราต้องห่างกันอีกเกือบอาทิตย์

To be continued


ป.ล. วันนี้มาให้เร็วนิดนึงนะครับ จะออกไปจิบเบียร์ซะหน่อย เด๋วกลับมาเมาแล้วคนอ่านจะไม่เก้อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 33 กอดจากหมอคิต P.5 ( 10-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 10-11-2017 19:33:47
 :L2: :pig4:

กินเบียร์ให้อร่อยนะ ขอบคุณสำหรับตอนใหม่
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 33 กอดจากหมอคิต P.5 ( 10-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: PositiveLove ที่ 10-11-2017 20:45:50
อ่านตอนแรกเริ่มของเรื่องมาเรื่อยๆเราก็ชื่นชมในตัวบีมากนะ เหมือนนึกหรือทำอะไรจะนึกถึงคนอื่นคนที่รักมาก่อนตัวเองสมอ
คอยหวังดีกับเค้าจริงๆ แต่มาตอนหลังๆที่เริ่มดราม่าก็เริ่มรู้สึกว่าบีงี่เง่าจังวะ โอเคเรื่องพี่เขมก็มีส่วนผิดแหละ แต่แล้วไงลองดูที่ตัวเองทำก็ไม่ต่างกันอ่ะ ถ้ายังมีความรู้สึกหวั่นไหวกับหมอคิตได้ แล้วบีมีสิทธิ์ไปว่าพี่เขมได้เรอในเมื่อบีก็ทำ บีก็ไม่ได้จริงใจเปิดเผยหมดหรอก กับพี่เขมก็คงคิดเหมือนกันที่ไม่อยากทำให้กังวลเวลาไปกับคนอื่น แต่ด้วยจังหวะอะไรก็ตามที่ทำให้เรื่องมันเคลียร์กันไม่ได้ทันทีก็ทั้งตัวบีและเขมเองทั้งนั้นอ่ะ จนมาเรื่องบอกเลิกเพียงเพื่อจะไปเรียนต่อ ไอ้จุดนี้เรามองว่าบีต่างหากที่เห็นแก่ตัวก็เพียงแค่เพราะตัวเองจะได้ไม่รู้สึกผิดถ้าจะรักคนอื่นใหม่มากกว่ามั้ง ก็บีไม่ได้รักพี่เขมแล้วไง เนี้ยก็เพราะหมดรักแล้วจริงๆ ต้องบอกว่าถึงจะอ่านๆมาเห็นบีบอกว่ารักพี่เขมมากงั้นงี้ อยากให้เขาเจอคนดีกว่า คือ ว้อท? ยูไม่เชื่อใจไม่เชื่อมั่นในตัวผู้ชายคนนี้เลยเหรอ คนมันจะรักมันต้องผ่านอุปสรรคไปด้วยกันดิ นี้มันตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปป่าว คืออ่านแล้วเราก็รู้สึกว่าบีอ่ะหมดรักพี่เขมไปแล้วต่างหาก แล้วก็คงเริ่มหวั่นไหวกับคนอื่นๆแล้วมั้ง คนที่รักมากกว่านี้มันเจ็บจริงๆ สงสารพี่เขมเนอะ เออแล้วอีกอย่างไปเรียนต่อนี้เราก็งงนะ มันจะบินไปหาไปเทคแคร์กันไม่ได้เลยเหรอจำเป็นต้องเลิกกันเหรอ ถ้าเอาเหตุผลที่บีคิดๆก็รู้สึกตามนั้นว่าบีเห็นแก่ตัวจริงๆ สนใจคนอื่นมากกว่าคนที่รักตัวเอง ทั้งที่เป็นเรื่องสองคน คือถ้ามันจะพังก็เอาทำมันให้สุดๆถึงตอนนั้นแล้วก็ให้รู้ว่าพยายามกันมากจริงๆ แต่บีก็เลือก...เห้อ  ตอนนี้สงสารเขมอ่ะ อยากให้เขมเลิกรักไปเลยจริงๆแล้วอ่ะไม่ต้องไปรอคนเลือดเย็นหรอก ไปรักคนอื่นให้เขาได้อิจฉาในวันที่เขากลับมาเห็นให้เขาเห็นว่า จะเสียใจที่เป็นคนเลือกปล่อยมือกันไปเอง
ปล.ขอโทษนะคะเราอินมากเลย อ่านแล้วก็รู้สึกหงิดบีมากอ่ะ 55555555
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 33 กอดจากหมอคิต P.5 ( 10-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 10-11-2017 22:08:32
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 33 กอดจากหมอคิต P.5 ( 10-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-11-2017 09:56:53
 :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 33 กอดจากหมอคิต P.5 ( 10-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 11-11-2017 19:46:04
ตอนพิเศษ 33.3 ความรักของป๊า

Part พี่เขม

ตอนช่วงก่อนสอบและช่วงก่อนที่ผมจะต้องไปรับเครื่องที่ยุโรป ผมเครียดมากเลยครับ ผมกดดันตัวเองเนื่องจาก มันเป็นครั้งแรกที่ชั่วโมงบินของผมมากพอที่จะสามารถสอบกัปตันได้แล้วครับ...แล้วผมก็อยากจะใช้การได้เป็นกัปตันนี้ให้เป็นของขวัญกับไอ้ตัวแสบ...ผมอยากจะทำให้มันภูมิใจครับว่าตัวผมเนี่ยมีหลักประกัน สามารถพึ่งพาอาศัยได้จริง แล้วพร้อมที่จะใช้ชีวิตคู่กับไอ้ตัวแสบของผมอย่างจริงจังแล้วครับ

ป๊ากับแม่และลุงเคยขอผมในเรื่องของการไปเรียนบินครับ ผมจึงไปเรียนบิน แล้วกลับมาเป็นนักบินให้สมใจอยากของพวกท่าน แต่เรื่องนี้ผมบอกเลยครับว่า กำลังใจและความมุ่งมั่น มาจากไอ้ตัวแสบของผมคนเดียวเท่านั้นเลยครับ ไอ้ตัวแสบของผม ผมทั้งรักและอยากอยู่กับมันตลอดเวลา ถึงแม้เราจะเพิ่งคบกันได้ไม่นาน แต่ตัวผมก็รู้สึกได้เลยครับว่า มันเป็นคนที่ใช่และที่ยิ่งไปกว่านั้น มันเข้ากันได้ดีกับไม่เพียงเฉพาะเพื่อนของผม แต่เป็นครอบครัวของผมด้วย ผมจึงอยากมีมันอยู่ในชีวิตอย่างจริงจัง

ผมเริ่มอ่านหนังสืออย่างหนักก่อนการไปรับเครื่องเพราะถ้าไปรับเครื่องคงจะเจอพี่กัปตันมากมาย มีอะไรสงสัยไม่เข้าใจหรืออยากลองอะไรก็จะได้ลองเลยครับ 5555 เวลาไปรับเครื่องคือจะมีแต่พวกนักบินแล้วก็พี่ช่างครับที่ไป แล้วเราก็จะได้ทดสอบเครื่องบินแบบจริง ๆ ได้พูดคุยกับช่างจากบริษัทเจ้าของผู้ผลิตเลย ทำให้ผมตื่นเต้นไปอีก

ตอนช่วงที่ผมไปยุโรปผมก็ทำการเอาคอมไปด้วยครับ ผมทำการล๊อคอินไลน์ของไอ้ตัวแสบไว้กับคอมผม เพื่อจะได้แอบดูมีใครมาจีบรึเปล่า...ก็ผมหวงอ่ะครับ...ช่วงหลัง ๆ ยิ่งมีคนมาชอบมันเยอะ ๆ อยู่ ไม่ว่าจะเป็นไอ้หมอหน้าขาวนั่น คนนี้เลยครับศัตรูตัวฉกาจ ที่ผมกลัวหมอคิตก็เพราะ มันเป็นหมอเนี่ยแหละครับ คือดีกรีก็ไม่แพ้นักบินเลยแล้วมันก็หล่อซะด้วย แล้วยังไม่รวมพวกเด็กน้อย ๆ ในบริษัทนะครับ โอยผมหละปวดหัวจริง ๆ แต่ไอ้ตัวแสบของผมเนี่ย เอาจริง ๆ มันไม่สนใจใครเลยครับ นอกจากผม ผมดีใจมากที่มันซื่อสัตย์กับผมมาก แต่กลับเป็นตัวผมเองต่างหากที่ยังตัดน้องเจออกไปไม่ขาดจากชีวิต....เฮ้อ อาจจะระแวงเค้าเพราะตัวผมเองก็ทำเองยังไม่ได้เลยครับ

แล้วเรื่องก็มาเกิดขึ้นอย่างที่ผมคาดการเอาไว้ ไอ้หมอหน้าขาวนั่นมาจีบไอ้ตัวแสบของผมจริง ๆ ไม่เพียงแค่คุยไลน์นะครับแต่ไปกินข้าวด้วยกันเลยทีเดียว พอผมได้อ่านเท่านั้นแหละ หัวร้อนขึ้นมาทันทีเลยครับ โดยปกติผมเปิดโทรศัพย์เป็น flight mode แล้วใช้สัญญาณวายฟาย จากโรงแรมหรือที่ต่าง ๆ เอาครับ แต่พอผมได้อ่านข้อความพวกนั้นเท่านั้นแหละครับ มันทำให้ผมต้องโทรศัพท์ยิงตรงมา รีบเคลมหัวใจของผมคืนในทันที ด้วยความที่อ่านแล้ว แล้วก็เห็นว่าไอ้ตัวแสบบอกปฏิเสธไปอย่างเดียวเลยทำให้ผมรู้สึกว่าผมต้องทำอะไรมากไปกว่าแค่บอกให้ไอ้ตัวแสบรอผมครับ ผมจึงขอไอ้ตัวแสบเลยว่า ถ้าผมได้เป็นกัปตัน ขอให้มันย้ายเข้ามาอยู่กับผมครับ....ซึ่งผิดคาด ผมโดน ปฏิเสธ ......5555555

ไอ้ตัวแสบยังไงก็ยังคงเป็นไอ้ตัวแสบของผมวันยังค่ำครับ...ความคิดมันเหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้าซะที่ไหน...ถ้าเป็นแฟนคนทั่ว ๆ ไปเนี่ย คงจะดีใจ พร้อมยกกระเป๋าเข้าบ้านผมแล้ว แล้วก็รอให้ผมเลี้ยง...(นี่พวกหลอกแดกอ่ะนะครับ..เจอบ่อย) แต่ไอ้ตัวแสบกลับบอกว่าเร็วไป ทำให้ผมหัวหมุนไปเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าจะทำอะไรเพื่อให้มันเป็นความมั่งคง และมั่นใจ สำหรับความสัมพันธ์ของผมและแฟนของผม

หลังจากกลับจากรับเครื่องมา ไอ้ตัวแสบก็เข้าสู่โหมดตั้งใจอ่านหนังสือบ้างครับ มันก็ต้องสอบเพอร์เซอร์เหมือนกัน ทีนี้หละครับ ตอนช่วงแรก ๆ ผมเครียดแล้วก็ไม่ได้ไปหามันเลยใช่ไม๊ครับ ตอนนี้เหมือนโดนรับกรรม พอผมเริ่มจัดสรรเวลาเพื่อจะมีเวลาว่างไปหามันบ้างแล้วมันกับไม่ว่างเจอผมซะงั้น ผมเลยต้องไปนั่งตามร้านต่าง ๆ ที่มันไปติวกับเพื่อน หรือผมอ่านอยู่บ้านแล้วพอมันอ่านเสร็จ ผมถึงจะไปหามันได้ กรรมใครกรรมมันเนอะ

แล้วสิ่งที่ผมกลัวในหัวผมลึก ๆ มันก็เกิดขึ้นครับ

น้องเจ เลิกกับแฟนจริง ๆ แล้วน้องเจ ก็โทรหาผม ในวันที่ผมเพิ่งจะวางโทรศัพท์กับไอ้ตัวแสบ บอกว่าจะนอนแล้วไม่ออกไปไหน แต่ผมก็ต้องออกไปเพื่อไปอยู่เป็นเพื่อนกับน้องเจ ผมกลัวจริงๆ ครับว่าน้องจะเลิกกับแฟนแล้วทำร้ายตัวเอง น้องเจไม่ใช่คนที่เข้มแข็งมาก แต่กลับเป็นคนที่อ่อนไหวมาก แล้วก็ผมเดาอารมณ์ของน้องเจไม่ถูกเพราะน้องเจชอบทำอะไรประชดประชัน สิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือน้องจะฆ่าตัวตายครับ ผมถึงตัดสินใจออกไปอยู่กับน้องเจในวันนั้น ซึ่งผมไม่คิดเลยว่า มันจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ความซวยซ้ำซ้อนคือมีคนไปบอกไอ้ตัวแสบว่าเห็นผมกับน้องเจนั่งกินเหล้าอยู่ด้วยกัน แล้วไอ้ตัวแสบก็ปรากฎตัวที่หน้าคอนโดผมและภาพที่เห็นคือน้องเจเมาไม่ได้สติ ผมกำลังประครองน้องเจขึ้นไปที่คอนโดผม แล้วไอ้ตัวแสบก็หายไปเลยไม่รอผมอธิบายซักคำ ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากรอไอ้เก่งมาหาเพื่อมาเฝ้าน้องเจแล้วผมถึงจะออกไปเคลียกับไอ้ตัวแสบของผมได้ เมื่อไอ้เก่งมาถึงผมลงไปรับมันข้างล่างคอนโดแล้วพอขึ้นมา น้องเจก็ดันหายตัวไปอีก ผมนี่ไม่รู้จะทำยังไงเลยครับ

ในหัวผมคิดแค่ว่าถ้าน้องเจแม่งถ้าเกิดตายขึ้นมาในเวลานี้ ผมจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตของผมแน่เลย แต่พอตั้งสติแล้วสอบถามคนต่าง ๆ ก็ทราบได้ว่าน้องเจเรียกแท็กซี่กลับไปคอนโดแล้ว ผมก็ไปหาเพื่อให้แน่ใจว่าน้องจะไม่ทำร้ายตัวเอง หลังจากนั้นผมถึงไปหาไอ้ตัวแสบได้ แต่ความซวยอยู่ที่ว่า ทำยังไงไอ้ตัวแสบก็ไม่รับโทรศัพท์ผม หรืออาจจะเพราะมันบล๊อคมือถือผมไปแล้ว ไลน์ เฟส ไอจี ทั้งหมดทุกทางที่ผมจะติดต่อได้ ผมทำทุกอย่าง แล้วผมก็ขับรถไปรออยู่ท่ีคอนโดของไอ้ตัวแสบ แต่ก็เสือ...ก จะลืมเอากุญแจห้องมันมาด้วย ผมได้แต่นั่งรอในรถกับไอ้เก่ง...รออยู่จนเช้า แล้วไอ้เก่งก็นึกได้ว่ามันก็มีเบอร์ไอ้ตัวแสบเหมือนกัน....ไอ้เก่งเลยโทรไปหา แต่ก็ไม่เป็นผลครับ ไอ้ตัวแสบไม่ยอมคุยไม่ยอมลงมาหา...ผมเลยได้แต่นั่งรอต่อไปในรถจนสาย ๆ หน่อย ผมก็เห็นลุงกับป้าสองคนเดินผ่านหน้ารถเข้าไปที่ตึก อ่าวห่านจิก นั่นป๊ากับแม่กรูนี่หว่า ไอ้ตัวแสบถึงขั้นเอาเรื่องนี้ไปฟ้องป๊ากับแม่เลยเหรอ....ผมนี่หัวร้อนไปหมดครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ผมเลยบอกไอ้เก่ง กลับคอนโด ตอนนี้ผมจะต้องโดนทั้งแม่และป๊าด่า แล้วไหนจะต้องไปอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ไอ้ตัวแสบฟังอีก ผมแค่คิดว่า ทำไมเรื่องของเราสองคนทำไมไม่เคลียกันเอง จะเอาไปฟ้องป๊ากับแม่แล้วให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตทำไม แล้วนั่นก็ป๊ากับแม่ผม ถึงขั้นจะต้องมาหามันตอนเช้า ๆ เลย มันไม่มากไปหน่อยเหรอฟระ ไอ้เด็กเวรนี่มันไม่รู้จักอะไรควรอะไรไม่ควรเลยรึไง...เห็นว่าป๊ากับแม่ให้ความสำคัญมันหน่อย ก็ได้ใจ ใช้ป๊ากับแม่มาเป็นเครื่องมือ

ผมยอมรับว่าตอนนั้นหัวเสียมากครับ....ผมจึงของกลับไปนอนตั้งหลักที่คอนโดผมก่อน ไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะมาเฝ้าไอ้ตัวแสบ แล้วเรื่องก็ยังกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปอีก ผมเลยขอไปสงบสติอารมณ์ก่อนเพื่อจะได้กลับมาจัดการกับเรื่องยุ่ง ๆ นี้ด้วยเหตุและผล

ผมกลับไปนอนที่คอนโด...นอนก็ไม่ค่อยจะหลับหรอกครับ แล้วก็กลับบ้านมาตอนสาย  ๆ แล้วผมก็ขึ้นไปนอน ตอนกลับมาบ้านผมไม่เจอใครเลยครับ พอผมลงมาจากห้อง ผมเจอป๊ากับแม่ ผมนึกไว้ในหัวเลยครับว่าต้องโดนสวดยับแน่...ผมพยายามหายใจลึก ๆ เพื่อจะเริ่มอธิบายให้กับป๊าและแม่ แต่ก่อนผมจะอธิบายอะไรได้นั้น แม่ก็พูดขึ้นมาก่อนเลย

แม่ : เขมไปไหนมาลูก รู้รึยังลูกบีอยู่โรงพยาบาลอ่ะลูก

เขม : บีเป็นอะไรแม่ โรงพยาบาลไหน ผมจะไปหาเดี๋ยวนี้แหละ

แม่ : โรงพยาบาลเดิมแหละลูก รีบไปหาน้องหน่อยเร็ว น้องจะได้มีกำลังใจ

เขม : ครับเด๋วผมรีบไป

ป๊า : ทำไมไม่ดูแลน้องเลยเนี่ย...ป๊าว่าเขมต้องปรับปรุงตัวหน่อยละนะ

เขม : ขอโทษครับป๊า เขมจะรีบไปเด๋วนี้เลยครับ

ผมขับรถมาด้วยความเร่งรีบ แต่รถก็ดันมาติดอีกครับกว่าผมจะถึงโรงพยาบาลได้ก็ค่ำแล้ว พอผมไปถึงผมก็รีบโทรหาไอ้ตัวแสบ แล้วก็เป็นเหมือนเดิม มันไม่สัญญาณ แล้วก็บอกว่าให้โทรใหม่ ซึ่งผมยิ่งหัวเสียไปอีก ผมลงไปถามกับพยาบาลจึงได้เบอร์ห้องของไอ้ตัวแสบมา พอมาถึงก่อนผมจะเข้าห้องไปผมก็เห็น ไอ้หมอหน้าขาวเดินเข้าไปในห้องที่บีอยู่ครับ...ผมทำอะไรไม่ถูกเลย ผมได้แต่แอบมองจากด้านนอกห้องซึ่งผมก็เห็นไอ้หมอหน้าขาวนั่นดูแลบีอยู่ ผมจึงรอให้หมอนั่นกลับไปก่อนผมจึงจะเข้าไปหาบี เพราะผมคิดกว่าเราต้องคุยกันยาวครับ แล้วผมก็ไม่นึกว่าไอ้หมอนั่นจะอยู่นานขนาดนี้ ผมเริ่มจะทนไม่ไหว ถ้าบีอยากจะอยู่กับไอ้หมอนั่นก็เชิญไปเลยครับ และนี่อาจจะเป็นอีกเหตุผลนึงก็ได้ครับที่ไอ้ตัวแสบบล๊อคเบอร์ผมไปแล้ว ผมเจ็บใจมากเลยครับ รู้เลยครับว่าตอนนี้ทำอะไรไม่ได้เลย...แค่จะเข้าไปในห้องผมยังไม่กล้าเลย และยิ่งถ้าต้องเผชิญหน้ากับไอ้หมอหน้าขาวนั่น ผมคงจะสู้อะไรหมอนั่นไม่ได้จริง ๆ ผมจึงต้องยอมกลับ แล้วผมจะแอบมาใหม่หลังจากหมอนั่นกลับแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผลครับ ผมขับรถออกไปจากโรงพยาบาลแล้วก็กลับมาใหม่ หมอนั่นก็ยังอยู่ และผมก็ถามพยาบาลว่า ไอ้หมอนั่นจะเลิกเวรกี่โมง พยาบาลตอบกลับมาว่า หมอคิตจะมาเฝ้านอนเฝ้าไข้คนไข้คนนี้ ผมจึงกลับบ้านทันทีครับ โกรธมากครับ...ผมไม่รู้จะทำยังไง เมื่อถ้าเค้าจะอยู่ดูแลกัน จะไปเป็นก้างขวางคอเค้าทำไม...ผมเลยปล่อยเวลาให้ผ่านไป มันต้องมีซักเวลาสิที่ไอ้หมอนั่นมันจะไม่ได้อยู่กับบี ผมจึงจะกลับไปใหม่ในวันรุ่งขึ้นแทน

ตอนเช้าป๊ากับแม่บอกว่าจะไปเยี่ยมไอ้ตัวแสบของผม ซึ่งป๊ากับแม่ก็ชวนผมไปด้วยครับแต่ผมไม่ไป เพราะผมยังรู้สึกเคือง เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยู่ ป๊ากับแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรผมครับ เพราะอาจจะคิดว่าเมื่อคืนผมไปหาไอ้ตัวแสบมาแล้ว ผมไปจริงครับ ไปได้แค่เห็นสิ่งที่บาดตาบาดใจ แล้วผมก็ทนไม่ไหวกลับมาที่บ้านครับ

พอสายหน่อยป๊ากับแม่ก็กลับมาบ้านครับผมถามป๊ากับแม่ว่าไอ้ตัวแสบของผมเป็นยังไงบ้าง

เขม : ป๊า แม่ บีเป็นยังไงบ้างอ่ะ แล้วไอ้หมอนั่นยังอยู่ไม๊

ป๊าไม่ตอบอะไรผมเลยครับเดินหนีผมไปแล้วก็ขึ้นห้องไปเลย

แม่ : เขม มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างลูกสองคนลูก

เขม : แม่รู้เรื่องแล้วเหรอ

แม่ : บีเพิ่งบอกแม่วันนี้เองลูก ทำไมเขมไม่ไปเยี่ยมน้องบ้างเลยหละ

เขม : อ่าวผมนึกว่าแม่รู้ตั้งแต่วันที่ไปหามันที่คอนโดแล้วซะอีก

แม่ : อะไรลูก เขมเห็นแม่ไปหาบีที่คอนโดเหรอลูก แล้วทำไมไม่ดูแลน้องเลย

เขม : แล้วไอ้บีเอาอะไรไปฟ้องแม่อีกหละ

แม่ : นี่เขมโตแล้วนะ...อย่ามาทำตัวเป็นเด็ก พูดกันด้วยเหตุผลสิ น้องป่วยแล้วลูกไม่ไปดูแล เป็นแฟนกันประสาอะไรเนี่ย

ผมนิ่งไปเลยครับ...สิ่งที่ผมคิด กับสิ่งที่เกิดขึ้นทำไม ผมถึงคิดสวนทางกันไปหมด

แม่ : แล้วไม่ติดต่อบีมา 3  วันแล้ว มันหมายความว่าอะไร หรือว่าเขมจะเลิกกับบี

เขม : มะ...ไม่นะแม่...ผมยังรักมันอยู่ แต่ผมแค่....

แม่ : เขม...มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมบีถึงได้เหมือนคนอกหักอย่างนี้หละลูก แม่เห็นบีไม่สบายอย่างนี้ แม่พูดไม่ออกเลยลูก...(แล้วน้ำตาแม่ก็ไหลออกมา)

ผมทำอะไรไม่ถูกเลยครับ...ผมเป็นแฟนมันแท้ ๆ แต่ผมกลับคิดแค่ว่าทำไมมันไม่ยอมคุยกับผมดี ๆ แต่ผมลืมไปเลยว่าจากมุมที่มันมอง มันก็เหมือนผมทิ้งไปมัน ผมไม่ได้ติดต่อมันมา 3 วันแล้วเหรอเนี่ย...ทั้ง ๆ ที่ผมไปเฝ้ารอที่จะหาโอกาสคุยกับมันแต่มันไม่เคยได้เจอผมเลย มีแต่ผมที่คอยดูมันอยู่ตลอด หรือว่ามันจะคิดว่าผมเลือกน้องเจไปแล้วจริง ๆ ไม่ได้การละครับ ผมจะต้องไปเคลียเอาให้รู้เรื่องวันนี้เป็นตายยังไงก็ยอมละครับ...ผมจะต้องไม่ปล่อยให้ไอ้ตัวแสบคิดไปเอง ผมต้องไปอธิบายให้มันรู้

เขม : บียังอยู่โรงพยาบาลไม๊ครับแม่ ผมจะไปคุยด้วยเด๋วนี้เลยครับ ผมว่าเรื่องมันไปกันใหญ่แล้วตอนนี้ ผมผิดเอง...ผมคิดผิดไปเองทั้งหมด

แม่ : บีคงจะกำลังออกจากโรงบาลหนะลูก หมอคิตจะไปส่งน้องที่คอนโด

มีต่อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 33 กอดจากหมอคิต P.5 ( 10-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 11-11-2017 19:47:02
หัวใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีเลยครับ...นี่ผมปล่อยให้ไอ้หมอหน้าขาวมาชิงตัวแฟนผมไปครั้งแล้วครั้งเล่า หรือผมจะเสียบีไปให้กับหมอคนนี้แล้วจริง ๆ ครั้งนี้ผมจะยอมไม่ได้ละครับ ตายเป็นตาย อย่างน้อย ๆ ก็ต้องได้เห็นเลือดกันหน่อยหละ คิดจะแย่งแฟนกรูเหรอ...สัส ไม่ได้ตายดีแน่

แม่ดึงแขนผมไว้ แล้วบอกให้ผมเล่าความจริงทุกอย่างก่อนออกไปเพราะตอนนี้ป๊าโกรธมาก...แม่ไม่เห็นป๊าร้องไห้มานานมากแล้ว แต่ครั้งนี้แม่บอกว่า ป๊าเสียน้ำตาเพราะสงสารบีอย่างจับใจ แล้วแม่ก็บอกให้ผมไปเล่าเรื่องทุกอย่างกับป๊าก่อนไป ผมไม่เห็นป๊าโกรธผมมานานมากแล้วครับ...ครั้งนี้ผมขึ้นไปเจอหน้าป๊า ป๊าแทบจะไม่มองหน้าผมเลยแม้แต่นิดเดียวครับ

เขม : ป๊าครับ ป๊า ฟังเขมหน่อย

ป๊า : มีอะไรจะพูดก็รีบ ๆ พูดมา ป๊าบอกเลยนะว่า ป๊าไม่โอเคเลยที่เขมทำตัวแบบนี้

เขม : ป๊า...ผมเพิ่งจะรู้ครับว่าบี ไม่ได้.....

ป๊า : เขมเป็นแฟนประสาอะไรอ่ะ...เรื่องอย่างนี้ปล่อยให้เกิดขึ้นได้ยังไง ทำไมปล่อยให้น้องนอนอยู่โรงพยาบาลคนเดียว แล้วไม่ติดต่อไปเนี่ยมันหมายความว่ายังไง เมื่อคืนป๊าก็นึกว่าเขมไปหาบีมาแล้วนะเรื่องก็น่าจะจบ นี่ผ่านไปกี่วันแล้ว ปล่อยมาขนาดนี้ได้ยังไง....(ป๊าเปิดฉากด่าผมเละเลยครับ...ผมได้แต่นั่งฟังป๊ารอจนกว่าป๊าจะจบแล้วผมถึงจะเริ่มอธิบายได้)


เขม : ป๊า...เขมยังรักบี รักเหมือนเดิม มันน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน เด๋วเขมจะรีบไปเคลียนะครับ...ป๊าคับ...เขมก็อยู่ไม่ได้เหมือนกันถ้าไม่มีบี

ป๊า : ป๊าจะสอนอะไรให้นะเขม ป๊ากับแม่ เราไม่เคยทะเลาะกันข้ามคืนเลยนะ ต่อให้แม่จะโกรธแค่ไหน ป๊าก็จะไปง้อ จนกว่าแม่จะยอมคุยกับป๊า เราแค่รอให้เค้าเย็นลงแล้วก็ค่อย ๆ คุยกัน บีอ่ะ ป๊าว่าบีเป็นคนมีเหตุผลมากพอที่จะไม่มางี่เง่ากับเรื่องเล็กน้อยนะ แต่ตอนนี้ป๊าไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับลูกทั้งสองนะ มันถึงทำให้บีรู้สึกเหมือนคนอกหักอย่างงี้ แค่บีบอกป๊าว่าบีอาจจะไม่ได้มาเจอป๊ากับแม่แล้ว ใจป๊าก็เหมือนเสียลูกไปคนนึงเลยนะ เขมรู้ไม๊....(ตอนนี้ป๊าถอดแว่นออกมาเช็ดน้ำตาครับ...ผมเห็นแล้วผมก็อดร้องไห้ตามป๊าไม่ได้)

ผมทำไมคิดแต่ความรู้สึกของตัวเอง...ผมลืมคิดถึงความรู้สึกของไอ้ตัวแสบของผมไปเลยครับว่ามันจะคิดยังไงกับเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้น ผมได้แต่ก้มหน้าฟังป๊าสอนผม นี่อาจจะเป็นครั้งแรกเลยนะครับที่ป๊าผม สอนผมในเรื่องของความรัก

ป๊า : เขมรู้ไม๊ว่าทำไม...ป๊าถึงชอบบี ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ ป๊าเคยทะเลาะกับเขมเรื่องแฟนที่เป็นผู้ชายของลูกมาก่อน ป๊ายอมรับนะว่าป๊าเป็นคนสมัยเก่า เรื่องอย่างนี้มันยากที่จะทำให้ป๊าไม่เสียใจ แต่เรื่องที่ทำให้ป๊าเสียใจมากกว่าคือ แม่

แม่เดินมาบอกป๊าวันนึงว่า...แม่รู้สึกเหมือนครอบครัวไม่เป็นครอบครัวอีกต่อไป แม่คิดว่าแม่คงจะรับไม่ไหวถ้าเห็นป๊ากับเขมไม่คุยกันนานไปกว่านี้ มันเลยทำให้ป๊าเข้าใจว่า ป๊าต้องรักลูกอย่างที่ลูกเป็นไม่ใช่รักลูกอย่างที่ป๊าอยากให้เป็น

ป๊าผิดเองที่ป๊าเป็นหัวหน้าครอบครัวแต่ทำให้ครอบครัวมีความสุขไม่ได้ แล้วป๊าก็ต้องเปลี่ยนความคิดเมื่อป๊าได้มาเห็นบี...ตอนแรกป๊าก็แค่พยายามจะทำให้เขมเห็นว่าป๊ารับบีได้เท่านั้นแหละ...แต่พอป๊าลองคุยกับบีดู บีเป็นเด็กดีมากเลยนะลูก แล้วบีก็ทำให้ป๊าคิดถึงเขมตอนเด็ก ๆ เขมเป็นคนช่างพูด ป๊าได้เห็นแม่หัวเราะอีกครั้ง ป๊าได้เห็นเขมหัวเราะอีกครั้ง ป๊ารู้สึกว่าบีมาช่วยทำให้ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวมากขึ้น จากที่ป๊าเคยทำพังมา และป๊าก็เหมือนได้ลูกชายเพิ่มมาอีก 1 คน

ตอนนี้ผมร้องไห้สะอึกสะอื้นป๊าเข้ามากอดผมเอาไว้ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยครับว่าป๊าจะมาสาระภาพเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับผมแบบนี้ ผมเคยคิดโกรธและเกลียดป๊า ตอนที่ผมทะเลาะกับป๊า ผมก็มองแค่ด้านเดียวครับว่า ก็แค่ผมทำในสิ่งที่ผมเป็น ผมทำในสิ่งที่ผมมีความสุข แล้วมันจะผิดอะไร แต่การเวลามันก็ทำให้คนเราโตขึ้นครับ ไม่เพียงแต่ผมที่ได้เรียนรู้ ขนาดป๊า ก็ยังได้เรียนรู้เลยครับ เราสองคนกอดกันร้องไห้อยู่แป๊ปนึง

ป๊า : บีเป็นคนดีนะลูก...ทั้ง ๆ ที่ลูกไม่ได้ไปหาน้องเลย 3 วัน บีก็ยังบอกป๊าว่าอย่าว่าเขม เพราะเขมตัดสินใจแล้ว ซึ่งป๊าไม่รู้หรอกลูกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับลูกทั้งสองคน

เขม : ผมผิดเองครับป๊า ผมผิดเองที่คิดแค่ด้านเดียว มองแต่ว่าตัวเขมจะรู้สึกยังไง

ป๊า : เพราะฉะนั้นอย่าทำผิดซ้ำสองนะลูก...ไปอธิบายทุกอย่างให้น้องเค้าได้เข้าใจ

เขม : ครับป๊า...ผมจะไปคุยกับบีให้รู้เรื่องครับ

ป๊า : ป๊าเลี้ยงเขมมาป๊ารู้ดีว่าเขมเป็นยังไง...เพราะเขมเป็นลูกคนเดียวของป๊า เขมเลยอาจจะคิดถึงแต่ตัวเองก่อนจะคิดถึงคนอื่น แต่ต่อไปเขมต้องคิดถึงคนอื่นก่อนจะคิดถึงตัวเองนะลูก เพราะว่าเขมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกแล้ว เขมมีน้องที่ต้องดูแลนะลูก

เขม : ครับป๊า...ผมเข้าใจแล้วครับ

ป๊า : ดีมาก ลูกป๊าต้องอย่างนี้สิ...

ผมกอดป๊าเอาไว้แน่น แล้วก็รีบเดินออกมาจากห้องนอนของป๊า แม่รอผมอยู่ด้านล่างครับ พอผมเห็นหน้าแม่ ผมก็รีบปาดน้ำตาแล้ววิ่งไปกอดแม่ทันที

แม่ : คุยกับป๊ารู้เรื่องหมดแล้วใช่ไม๊ลูก

ผมพยักหน้าเป็นคำตอบให้กับแม่

แม่ : เขมลูก...รักษาน้องเค้าไว้ดี ๆ นะลูก

เขม : ครับแม่...ผมจะไม่ยอมเสียบีไปเด็ดขาด ผมจะทำทุกอย่าง ให้ได้บีกลับคืนมาครับ

แม่ : ลูกแม่ต้องอย่างนี้สิ...ไปง้อลูกบีได้แล้วลูก แล้วถ้าสำเร็จพาบีกลับมาหาแม่ด้วยนะ...แม่จะรอนะลูก

ผมทำได้เพียงพยักหน้าแล้วรีบเช็ดน้ำตาออกให้หมดครับ...ตอนนี้ผมเหมือนได้รับพลังความรักจากทั้งป๊าและแม่อย่างเต็มที่ ผมพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้บีนั้นเข้าใจแล้วเราก็จะกลับมารักกันอีกคร้ัง...ผมวาดฝันไว้ว่า ครอบครัวผมจะต้องมีป๊า แม่ ผม แล้วก็ บี ไอ้ตัวแสบของผมเนี่ยแหละครับ...ป๊ากับแม่รักมันขนาดนี้แล้ว ผมจะปล่อยมันไปง่าย ๆ ได้ยังไงจริงไม๊ครับ



To be continued…

ป.ล. ตอนนี้เป็นตอนที่ผมชอบที่สุดเลยครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.3 ความรักของป๊า P.5 ( 11-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 11-11-2017 20:10:27
ขอบคุณครับ คนแต่งขยันจัง ตามอ่านกันไปเรื่อยๆ
จริงๆ ก็รักกันมากแท้ๆ แต่เหมือนไม่ค่อยเข้าใจกันเลย หรือคบกันเร็วไป
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.3 ความรักของป๊า P.5 ( 11-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Fahsaizzz ที่ 11-11-2017 21:34:06
คนเราก็ต้องมีทะเลาะกันบ้าง คงไม่ราบรื่นไปตลอด
แต่เดี๋ยวบีไปตปท.แล้วพี่เขมคิดถึงตายเลย
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.3 ความรักของป๊า P.5 ( 11-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-11-2017 10:03:21
 :L2: :pig4:

สงสัยอยู่เชียวว่าพี่เขมไปงมอะไรอยู่
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.3 ความรักของป๊า P.5 ( 11-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 12-11-2017 18:14:05
ตอนพิเศษ 33.34 ลูกอมรสแอบเปิ้ล

Part ของพี่เขม

ผมรีบขับรถออกจากบ้านครับ ตอนนั้นก็เย็นแล้วครับ ผมตั้งใจไปหาบีไปคุยกับบีให้รู้เรื่องวันนี้เลย แล้วถ้าทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ผมจะพาไอ้ตัวแสบผมกลับไปนอนด้วยที่บ้านทำให้แม่กับป๊าชื่นใจซักหน่อย

พอผมไปถึงผมก็โทรหาบีแต่ผลก็เป็นเหมือนเดิมครับ...คือโทรไม่ติด ผมตัดสินใจขึ้นไปหาบีที่ห้องผมใช้กุญแจที่บีให้ไว้ แต่พอผมไปถึงที่ห้อง ห้องบีเต็มไปด้วยทิชชู่ครับ กองหนังสือมากมายสลับกับกองทิชชู่ ผมเห็นเสื้อผ้า 1 ชุดถูกตากอยู่ที่ระเบียง ผมเปิดตู้เย็นดู ของกินก็มีไม่มากครับ ผมลงไปนอนที่เตียงของบี ผมได้กลิ่นอ่อน ๆ ของมันครับ เป็นกลิ่นที่ผมไม่ได้สูดนานมากแล้วและเป็นกลิ่นที่ผมจะสูดก่อนนอนเสมอ แต่หลายวันที่ผ่านมานี้ ผมไม่ได้กลิ่นของมันเลยครับ...จึงทำให้ผมคิดถึงมันมากกกก ผมนั่งรอในห้องมันอยู่นานแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าบีจะมา ผมจึงลงไปรอที่รถดีกว่าครับ...การเข้ามาในห้องของบีตอนที่ทะเลาะกันนี่อาจจะดู ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร ผมสูดเอากลิ่นของไอ้ตัวแสบของผมให้เต็มปอดแล้วลงไปนั่งรอในรถครับ

ไม่นานผมก็เห็นไอ้ตัวแสบของผมเดินมาทางผมครับ...ผมตกใจมากเพราะว่ามันดูผอมไปถนัดตา จากที่เมื่อก่อนผมก็เลี้ยงมันดีอยู่นะครับ ตอนนี้มันดูสูบผอมไปเลย เพราะอย่างนี้แน่เลยครับ ป๊ากับแม่ถึงเป็นห่วงมัน ผมรีบลงจากรถ เดินตรงไปเพื่อจะเข้าไปกอดมันซักหน่อยแต่มันก็ยกมือห้ามผมไว้ ผมพูดไม่ออกเลยครับ บีพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่เรียบและเฉียบมาก ผมพยายามจะพูด และอธิบายเรื่องต่าง ๆ แต่บีก็พูดอยู่แค่ว่า ให้ผมรอตรงนี้ ผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตามคำสั่งครับ ไอ้ตัวแสบจะไปเอากุญแจห้องผมมาคืนให้กลับผมครับ...ซึ่งแน่นอนครับ ให้ตายผมก็ไม่ยอมรับจากมันแน่นอน มันหายขึ้นไปนานมาจนผมทนไม่ไหวและวิ่งตามขึ้นไปที่ห้องครับผมจึงไขประตูเข้าไปเลยเพื่อจะได้คุยกับไอ้ตัวแสบให้รู้เรื่อง แต่มันก็เร็วมากครับ มาดันประตูไว้ เห็นมันผอม ๆ อย่างนี้แรงมันเยอะเหมือนเดิมเลยครับ ผมพยายามจะพูดอธิบายทุกอย่างให้มันฟังแต่มันก็ไม่ยอมฟังครับ...เสียงที่ผมได้ยินคือเสียงของมันที่สั่นเครือ และเสียร้องไห้ของมันครับ มันทำให้หัวใจของผมสลายทันที ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่า ความเข้าใจผิดของเราทั้งสองมันจะทำร้ายความรู้สึกของไอ้ตัวแสบของผมขนาดนี้ คำพูดที่เจ็บที่สุดของมันก็คือ สัญญาที่ผมกับไอ้ตัวแสบเคยให้กันไว้ครับ ว่าจะไม่ทะเลาะกันข้ามคืน แต่นี่ผ่านมา 3 วัน ผมจำยอมเลยครับ ไม่รู้จะทำยังไงต่อ แล้วไอ้คนที่ไม่ควรมาก็โผล่มาครับ

หมอคิตเดินออกมาจากลิฟท์ทำให้ผมฟิวขาดในทันที...มันเป็นหนึ่งคนที่ขัดขวางผมไว้ไม่ให้ผมได้เข้าไปคุยกับบีในตอนที่ผมแอบไปเยี่ยมบี (ไอ้หมอไม่ได้ขัดขวางแต่ผมแค่คิดเองว่ามันขัดขวางครับ55555) ผมคิดว่าตอนนี้ผมต้องคิดบัญชีกับมันซักหน่อยแล้ว มันกล้ามาแย่งแฟนกรูถึงคอนโดเลยเหรอ...นี่ถ้าวันนี้ผมไม่มาอยู่เฝ้า ผมคงจะต้องเสียบีไปเป็นแน่...ผมต้องสั่งสอนมันให้รู้เรื่อง ว่าอย่ามากระตุกหนวดเสือเขม

แต่ก่อนที่ผมจะทำอะไรมันได้ ไอ้ตัวแสบของผมก็ออกมาห้ามทัพไว้ครับแล้วไอ้ตัวแสบก็แปลงร่างเป็นเดอะฮัค มันเปลี่ยนเป็นร่างโหด ตะหวาดผมกับไอ้หมอหน้าขาว จากที่พร้อมจะต่อยกันตัวผมหดเหลือ 2 นิ้วทันที แล้วไอ้หมอหน้าขาวนั่นก็ยอมกลับไปแต่โดยดีครับ แต่ผมเองก็ต้องตามไอ้หมอนั่นลงไปเพราะว่า เดอะฮัค ขู่ไว้ว่าจะหนีจากผมไปตลอดชีวิต...ผมได้แต่ยอมแพ้แล้วกลับไปตั้งหลักใหม่ครับ

แล้วผมก็ต้องลงลิฟท์ไปตัวเดียวกับไอ้หมอคิต

แล้วความแปลกมันก็มาอยู่ที่ ไอ้หมอคิตคุยกับผมครับ(ไว้ผมเล่าให้ฟังครับ)

หลังจากนั้นผมก็ต้องยอมกลับบ้านไปแต่โดยดี...ผมกลับบ้านไปแล้วคนแรกที่นั่งรอผมอยู่ที่ห้องรับแขกก็คือแม่ครับ...ไม่ยังไม่เข้านอน แต่ป๊าเตรียมตัวนอนไปแล้ว แม่ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผมได้แต่ส่ายหน้า ผมรู้เลยครับว่าแม่เสียใจแค่ไหน

แม่ : ไม่เป็นไรนะลูก...วันนี้ไม่สำเร็จ วันพรุ่งนี้ก็ยังมีหนิลูก

เขม : ถ้าเค้าไม่ยอมให้เขมเจอเลยหละแม่ เขมจะทำยังไง

แม่ : เขมคิดว่าลูกบีรักเขมไม๊ลูก

เขม : ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วครับ

แม่ : แม่บอกได้เลยนะว่าลูกบีรักเขมมากนะลูก รักมาจนสามารถปล่อยให้คนที่เรารักไปมีความสุขได้เนี่ย...มันรักโดยไม่หวังจะครอบครอง ลูกเข้าใจสิ่งนี้ไม๊

เขม : ยังไงอ่ะแม่...

แม่ : คือคนเราเวลารักใครซักคน...ก็มักจะอยากครอบครองเค้าใช่ไม๊ลูก

เขม : ใช่ครับ...คนรักกันก็ต้องอยากอยู่ด้วยกัน ไม่อยากให้ใครมาแทนที่เราได้สิ

แม่ : แต่รักที่มากกว่านั้นคือรักที่ไม่หวังการครอบครองไงลูก

เขม : คือปล่อยให้เค้าไปรักคนอื่นได้อย่างงี้เหรอ?

แม่ : ใช่ลูก...คือยินดีกับเค้าเมื่อเค้าหมดรักเราแล้ว

เขม : มันเป็นไปได้เหรอแม่...

แม่ : ถ้าลูกรักใครมาก ๆ คนนึง มันก็อาจจะเป็นไปได้นะลูก

เขม : แล้วแม่หละรักป๊าแบบไหน

แม่ : แม่เคยเป็นมาทุกแบบแล้วหละลูก ตอนสาว ๆ เราก็หวังอยากจะให้ป๊ารักแม่คนเดียว พอเริ่มมีลูก บางทีความรักมันก็จืดจางลงไป

เขม : แล้วแม่ทำยังไงหละ....

แม่ : ป๊ากับแม่ก็ต้องมาจูนกันใหม่ ว่าตอนนี้เรายังรักกันอยู่ไม๊ ยังอยากจะใช้ชีวิตปั้นปลายที่จะอยู่ด้วยกันไม๊

เขม : ถึงขนาดนั้นเลยเหรอแม่...เขมไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะ

แม่ : มันอาจจะเป็นช่วงที่เขมไปเรียนต่อ หรือ ช่วงที่เขมปิดเทอมแล้วไปอยู่กับลุงสุข

เขม : อ่อ ๆ อย่างนี้นี่เอง

แม่ : แต่พอแก่ไป รักมันก็ไม่ได้มีแค่เราสองคน รักมันมีลูก มันมีครอบครัว มันมีเพื่อนฝูง มันมีพ่อแม่ของอีกฝ่าย และก็ญาติ ๆ อีกมากมาย ความรักของคนสองคนมันก็เลยเป็นแค่ส่วนประกอบของครอบครัวเท่านั้นแหละลูก มันไม่ได้เป็นทุกสิ่งเสมอไป

เขม : แล้วบีเป็นอย่างไหนอ่ะแม่...มันบอกอะไรกับแม่บ้าง

แม่ : ลูกบีบอกแม่ว่า...เขมเลือกคนที่เขมรักแล้ว ถ้าเขมไม่มีความสุขที่จะอยู่กับลูกบี ลูกบีก็คงต้องปล่อยไป

เขม : ไอ้ตัวแสบมันบ้าขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

แม่ : แค่แม่ฟังแม่ก็รู้แล้วลูกว่า ลูกบี รักเขมมาก

ผมได้แต่ถอนหายใจ ผมไม่รู้เลยครับว่าผมจะต้องไปง้อมันยังไง...แค่หน้าตอนนี้มันยังไม่ให้ผมเจอเลยครับ...แล้วผมจะทำยังไงถึงจะอธิบายเรื่องต่าง ๆ นี้ได้หมด

แม่ : วันนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้ก็ต้องได้แหละลูก....มันไม่มีวันไหนสายเกินไปหรอกลูก ถ้าคนจะรักกันอ่ะ



ผมจึงตัดสินใจ ไปเฝ้าไอ้ตัวแสบที่คอนโดของมันทุกวันครับ แต่โอกาสของผมก็มีแค่ตอนช่วงเย็น ผมถึงจะมีโอกาสได้เห็นหน้าของไอ้ตัวแสบของผม ผมพยายามเข้าไปคุยกับมันทุกครั้ง แต่มันก็รีบเดินหนีผมไป...ผมกลับบ้านไปนอนร้องไห้เพราะคิดถึงไอ้ตัวแสบทุกคืน ผมเหมือนคนเสียสติ ผมโทรศัพท์หาไอ้ตัวแสบทุกวันทุกเวลาที่ผมนึกออก ผมบ้าถึงขั้นส่งของความเสียงต่าง ๆ ไปทุกวันประหนึ่งว่ามันอาจจะได้รับวันใดวันหนึ่ง แล้วผมก็ส่งข้อความต่าง ๆ เขียนอีเมลส่งไปที่อีเมล์ของบริษัททุกวัน เพราะผมรู้ดีว่ายังไงมันก็ต้องเปิดอ่านก่อนไปบินในทุกวัน จนผ่านไป 3 วันครับ

แม่ : ยังไม่สำเร็จอีกเหรอลูกเขม...

เขม : ผมผิดเยอะไงคุณแม่...เลยต้องตามง้อต่อไป

แม่ : กินข้าวก่อนไปไม๊ลูก แม่ทำอะไรเล็ก ๆน้อย ๆ ให้กิน

เขม : ไม่หละครับคุณแม่ เด๋วคลาดกับบีครับ

แม่ : สู้ ๆ นะลูกเอ้ย...

เขม : ขอบคุณครับแม่

ผมจำไม่ได้แล้วครับว่าผมกินข้าวมื้อล่าสุดเมื่อไหร่...อ่านหนังสือเตรียมสอบกัปตันล่าสุดเรื่องอะไร ตอนนี้ในหัวผมมีแต่ไอ้ตัวแสบคนเดียวเท่านั้น ถึงไอ้เก่งไอ้ตาลไอ้พริ้งจะเตือนผมเท่าไหร แต่ผมก็ยังยืนยันคำตอบเดียวครับว่า ผมจะต้องไปง้อไอ้ตัวแสบของผมกลับมาให้ได้ก่อน

วันนี้เป็นอีกวันนึงครับที่ผมมานั่งคอยที่เดิม แต่วันนี้ผมมีขนมที่ไอ้ตัวแสบชอบมาให้มันด้วยครับ มันคือช๊อคโกแลต royce ชาเชียวครับ ไอ้ตัวแสบคลั่งสิ่งนี้มาก ผมไปซื้อมาจากพารากอนเลยทีเดียว หวังว่าเอาของกินมาล่อแล้วจะเป็นผล

เขม : บีครับ คุยกับพี่ก่อนได้ไม๊

ผมเดินตามไอ้ตัวแสบเหมือนทุกครั้งหลังจากมันลงจากรถเพื่อจะไปที่คอนโด แล้วก็เหมือนเดิมครับ...ไอ้ตัวแสบทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุ มองผ่านผมไปแล้วก็เดินออกนำหน้าขึ้นตึกไป

เขม : วันนี้พี่มีช๊อคโกแลค royce มาฝากด้วยนะ มันมีอันใหม่เป็นชาเขียวอัลม่อนพี่เลยซื้อมาให้ลอง เห็นว่าบีชอบกินชาเชียวของมัน

ไอ้ตัวแสบเดินหน้าไม่หยุดครับกำลังจะถึงหน้าคอนโด

เขม : บีรับไว้หน่อยนะ...จะไม่คุยกับพี่ก็ได้ พี่แค่อยากเอามาให้เฉย ๆ (....ผมยอมทุกอย่างแล้วครับ แล้วผมก็จะยอมทำอย่างนี้ต่อไปจนกว่าไอ้ตัวแสบจะให้โอกาสผมได้อธิบายเรื่องราวต่าง ๆ )

แล้วก็ผิดคาดครับ...มันหันหน้ามาแล้วเดินสวนผมไม่ขึ้นคอนโดเดินเลี้ยวไปทางสระน้ำครับ ผมก็ยืนทำหน้างง แล้วก็เดินตามไปติด ๆ

เขม : รับไว้หน่อยนะเด๋วมันละลาย

ไอ้ตัวแสบยื่นมือมาแล้วผมก็วางมันบนมือของไอ้ตัวแสบครับ มันนั่งลงข้างสระน้ำแล้วก็เปิดกินในทันที...ไอ้ตัวแสบของผมยังไงมันก็เป็นเด็กตะกละวันยังค่ำครับ เรื่องของ กินเนี่ย มันไม่ยอมจะพลาดเลย รู้อย่างงี้เอาของกินมาล่อตั้งแต่วันแรกแล้วโอยยยยยยยไอ้ตัวแสบเอ้ย.....พี่ก็โง่ตั้งนาน

ผมกะว่าจะเริ่มคุยอธิบายให้มันฟังเลยทันทีที่มีโอกาสครับแต่ไอ้ตัวแสบก็พูดขึ้นมา

ไอ้ตัวแสบ : เอาไว้หลังผมสอบเสร็จคุยกันนะพี่เขม ตอนนี้ผมอยากสอบให้ผ่านไปก่อน

เขม : อืม...ได้ครับ...พี่จะรอนะ

ไอ้ตัวแสบ : แล้วช่วงนี้ก็ไม่ต้องมารอผมนะ กลับไปอ่านหนังสือบ้างเถอะ

เขม : ก็พี่อยากจะมาเห็นแค่หน้าก็ยังดี พี่คิดถึง

ไอ้ตัวแสบ : ..........

เขม : พี่ขอโทษนะ

ไอ้ตัวแสบจับเอาช็อคโกแลตที่มันกินอยู่มายัดปากผมครับ ผมหัวเราะออกมาทั้งน้ำตาเลยทีเดียวครับ...ในที่สุดมันก็ยอมคุยกับผมแล้ว แถมยังป้อนขนมให้ผมกินอีก ผมดีใจจนบอกไม่ถูกเลยครับ ผมยื่นมือไปจับมือมันแต่ไอ้ตัวแสบของผมลุกขึ้นยืนทันทีแล้วก็เดินจากผมไป....ผมพูดกับตัวเองว่า “ได้แค่นี้ก็ดีแค่ไหนแล้วไอ้เขมเอ้ย”

ไอ้ตัวแสบของผมแม่งเป็นคนใจแข็งชิบหายเลยครับ...ผมรู้เลยครับว่าถ้าผมนอกใจมันเข้าจริง ๆ นะ มันไม่มาเผาผีผมแน่นอน นี่ตอนนี้ผมยังไม่ได้นอกใจเลยนะครับ แต่มันก็เป็นเอาซะขนาดนี้ ผมเพิ่งเข้าใจความรู้สึกมันก็ตอนนี้แหละครับ ตอนที่ว่าคนอกหักมันเป็นอย่างไร...เพราะตอนนี้ผมก็ไม่รู้เลยครับว่าสถานะของเราท้ังสองคนเป็นอะไรกัน...แต่ที่รู้ ๆ คือ ผมต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้ได้ไอ้ตัวแสบของผมกลับคืนมาครับ

ผมรีบขับรถกลับบ้านไปรายงานผลให้กับป๊าและแม่ครับ ป๊ากับแม่ก็ดีใจใหญ่เลยครับที่ผมเริ่มกลับไปคุยกับไอ้ตัวแสบของผมได้สำเร็จ ถึงแม้จะเป็นก้าวเล็ก ๆ แต่ผมก็ ฟิน กับวันนี้มาก และเป็นวันแรกที่ผมกินข้าวได้เยอะกว่าปกตินิดหน่อยครับ ช่วงที่ผ่านมาผมกินไม่ได้นอนไม่หลับเลยทีเดียวครับ จนกระทั่งเวลาไปบิน พี่ ๆ นักบินและลูกเรือทักผมเป็นเสียงเดียวกันว่าช่วงนี้สูบผอมไป แต่ทุกคนก็คิดว่าผมอ่านหนังสือหนักคับ แต่ที่ไหนได้...ผมไปเครียดง้อไอ้ตัวแสบของผมต่างหาก

หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้เจอไอ้ตัวแสบของผมอีกเลยครับ...ผมไม่รู้เลยว่ามันอยู่ที่ไหนหายตัวไปไหน...ผมไม่เห็นทั้งรถ ไม่เจอทั้งคน ผ่านไป  1 อาทิตย์กว่า ๆ ที่ผมมารอมันทุกวัน แต่ผมก็ไม่เจอมันเลย ผมเริ่มจะถอดใจแล้วครับ...จนวันนั้นผมก็ไปรอมันที่คอนโดเหมือนทุกวัน ผมนั่งเล่นมือถือแล้วก็เจอรูปว่าไอ้ตัวแสบนั้นอยู่ที่ร้านคาราโอเกะไม่ไกลจากสนามบินจากเฟสบุ๊กเพื่อน ๆ มัน...ผมเลยโทรไปหาน้องปืน เพื่อจะได้ขอคุย กับบีครับ

แล้วผมก็ทำสำเร็จ ผมได้มีโอกาสคุยกับบีอีกครั้ง ผมเล่าเรื่องทุกอย่างให้มันฟัง แต่ผลลัพธ์ ก็ออกมาเป็นเหมือนเดิมครับ...ไอ้ตัวแสบของผมไม่ให้โอกาสผมอีกแล้ว ผมกลับบ้านไปบอกแม่ แล้วก็นอนร้องไห้

วันต่อมาผมได้ยินแม่กับป๊าคุยโทรศัพท์เสียงดังแต่เช้า ผมจึงไปแอบฟัง

แม่ : เป๋นจะใดพ่องลูกบี สอบเป๋นใดพ่อง อ้ายเขมเอามาเล่าฮื้อแม่ฟังแล้วนา ยะได้ก่อลูก(เป็นยังไงบ้างลูกบี สอบเป็นยังไงบ้าง พี่เขมเอามาเล่าให้แม่ฟังแล้วนะ ทำข้อสอบได้รึป่าว)

บี : ได้ครับแม่ ก็พอทำได้บ้างแหละครับ

ป๊า : แล้วได้คุยกับไอ้เขมเป็นไงบ้างลูก

บี : พี่เขมผอมไปเยอะเลยนะครับ...พี่เขมเป็นยังไงบ้างครับ ช่วงใกล้สอบผมไปอยู่บ้านเพื่อนมาครับ กลัวว่าพี่เขมจะมาหาผมทุกวันแล้วไม่ได้อ่านหนังสือ

แม่ : พี่เขมก่อไปหาลูกกุ๊วันน่ากะ แต่ปิ๊กมาก่อบะได้บอกแม่ว่าจะใด(พี่เขมก็ไปหาลูกทุกวันนั่นแหละ แต่กลับบ้านมาก็ไม่ได้บอกว่าอะไร)

บี : ผมขอโทษด้วยนะครับป๊ากับแม่ ผมใจร้ายไปไม๊กับพี่เขมอ่ะครับ

ป๊า : ป๊าจะไม่อยู่ข้างใครนะลูก ถ้าบีเห็นว่าคบกับเขมแล้วไปต่อไม่ได้ ป๊าก็จะไม่ว่าอะไรลูกเลย...แต่ถ้ายังรักกันอยู่ ป๊าอยากให้ลองปรับความเข้าใจกันดีไม๊

แม่ : แม่ก่อว่าอั้นหน๊ะลูก...คนเฮามันบ่ได้ฮักกั๋นง่าย ๆ เน้อ มันก่อต้องมีพ่อง ผิดหัวกั๋น แต่ถ้ามันปรับความเข้าใจ๋กั๋นได้ก่อเป๋นเรื่องตี้ดี(แม่ก็ว่างั้นแหละลูก...คนเราไม่ได้รักกันง่าย ๆ นะ มันก็ต้องมีทะเลาะกันบ้าง แต่ถ้ามันปรับความเข้าใจกันได้ก็เป็นเรื่องที่ดี)

บี : ผมก็ยังรักพี่เขมอยู่ครับแม่ ป๊า แต่ผมแค่.....ไม่แน่ใจความรักของพี่เขมครับ

ป๊า : ทำไมหละลูก บอกป๊าได้ไม๊

บี : คือพี่เขมเป็นคนปฏิเสธคนไม่เป็นอ่ะป๊า แล้วน้องเจก็ยังน่าจะติดต่อกับพี่เขมอยู่

แม่ : ต๋ายละ....นี่มันเกิดเรื่องมาขนาดนี้มันยังจะอู้กันอยู่ก๋า(ตายละ นี่มันเกิดเรื่องขนาดนี้มันยังจะพูดกันอีกเหรอ)

ป๊า : ไอ้เขมมันก็เป็นอย่างงี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

แม่ : เอาเป็นว่าเด๋วแม่จัดการให้นะลูกบี...

บี : แม่ครับ...อย่าเลยครับแม่...ถ้าพี่เขมเค้าไม่ทำเอง ไปบังคับเค้าทำ ผมว่ามันไม่มีประโยชน์หรอกครับ

ป๊า : เออ...บีก็พูดมีเหตุผลนะคุณ ถ้าไอ้เขมมันคิดเองไม่ได้ ต่อให้เราพูดเท่าไหร มันก็ไม่ทำหรอก คุณว่าไม๊

แม่ : อก อก อก เป๋นดีไข้หุย(อยากจะกรี๊ดออกมาดัง ๆ )

ผมรีบเดินออกมาหลังจากได้ยินสิ่งที่ไอ้ตัวแสบของผมต้องการแล้วครับ...ทำไมผมมันโง่อย่างนี้เนี่ย...แค่เรื่องแค่นี้ก็คิดไม่ออก ไอ้ตัวแสบของผมมันชัดเจนกับผมตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่ผมสิกลับไม่เคยที่จะชัดเจนกับมันซักที ตัวผมเองไม่ได้คิดอะไรกับน้องเจมานานมากแล้วครับ แต่ผมก็ลืมคิดไปว่า ไอ้ตัวแสบของผมเนี่ยมันจะรู้สึกยังไง ผมเลยรีบเดินขึ้นมาที่ห้องนอนเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วคิดว่าจะตรงดิ่งไปเคลียกับน้องเจให้รู้เรื่องไปเลย แต่ผมต้องการกำลังเสริมครับซึ่งผมรีบโทรหาเพื่อน ๆ แต่คนที่ว่างคือไอ้ตาลครับ พอผมเจอไอ้ตาล ผมเลยเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบให้ไอ้ตาลฟัง 1 รอบแล้วไอ้ตาลก็เห็นของผิดสังเกตุ

ไอ้ตาล : เขม...มึงสงสัยไม๊ว่าทำไมเบอร์มือถือของบีเลขหายไป

เขม : เออ...กรูงงมาเลยเว้ย

ไอ้ตาล : แล้วมึงไลน์หาน้องบีไม๊

เขม : กรูติดต่อทุกทาง แต่ไม่สามารถเลย เหมือนโดนบล๊อคหมด

ไอ้ตาล : แต่เมิงบอกว่าน้องบีบล๊อคมึงหลังจากผ่านไปแล้ว 3 วัน

เขม : ใช่ ๆ แต่กรูสาบานได้นะกรู ลองทุกอย่าง มึงก็รู้ ขนาดอีเมลบริษัท กรูยังส่งไปหาไอ้บีเลย...กรูพยายามทุกทางแล้วจริง ๆ

ไอ้ตาล : เอามือถือมึงออกมาดูดิ๊

เขม : ทำไมเหรอ...

ไอ้ตาล : กรูขอดูอะไรหน่อย...กรูอยากรู้ว่ามึงเองรึเปล่าที่เป็นคนบล๊อค

เขม : อิห่า...กรูจะทำไปเพื่ออะไร

ไอ้ตาล : กรูไม่ได้หมายความว่าเมิงเป็นคนทำ แต่คนอื่นเป็นคนทำต่างหาก

เขม : ยังไงนะ

ไอ้ตาล : นั่นไง...ไลน์เมิงบล๊อคน้องบีไว้อยู่

เขม : เฮี้ยยยยยยยยยยย!!!!! เป็นไปได้ไงฟระ

ไอ้ตาล : แล้วเฟส ไอจี นี่กรูไม่ต้องสืบเลย น่าโดนเหมือนกันแน่นอน

เขม : สัสใครจะกล้ามาทำฟระ โทรศัพท์กรูก็อยู่กะกรูตลอด

ไอ้ตาล : กรูว่ามีอยู่คนเดียวละตอนนี้

เขม : เมิงอย่าบอกนะว่า..... “น้องเจ”

ไอ้ตาล : กรูเดานะ....คนที่มีรหัสมือถือมึง คือ น้องบี แล้วน้องเจมีไม๊

เขม : มี .... แล้วมันจะเป็นตอนไหนได้ฟระ

ไอ้ตาล : เมิงเอามือถือไว้กับตัวเมิงตลอดเวลาไม๊หละ แล้วครั้งล่าสุดที่เมิงโทรออกหาบีแล้วโทรติดคือวันไหน เมิงลองเลื่อน ๆ ไปดูดิ๊

เขม : เชี่ย....เมิงจบหลักสูตร CIS miami bitch มารึเปล่าเนี่ย

ไอ้ตาล : เมิงจะให้กรูช่วยหรือเมิงจะหุบปาก

เขม : ไม่ต้องโหดกะเพื่อนก็ได้ไม๊อ่าาาา....กลัวแล้วค๊าบบบ

ไอ้ตาล : นี่ไง ไอ้เขมถ้าเมิงฉลาดซะหน่อยนะ แล้วย้อนไปดูว่าเบอร์นี้ถูกเปลี่ยน ตัวของ call history มันจะขึ้นเห็นมะ ๆ ที่เปลี่ยนเบอร์ไปเป็นวันนี้ แล้วก็ที่เปลี่ยนกลับมาเป็นวันนี้

เขม : เมิง....เทพไปไม๊ กรูจะดูอะไรขนาดนั้นฟระ

ไอ้ตาล : เมิงถึงได้โดนเค้าหลอกไงหละ ไม่ต้องสืบละ เมิง...ไปเคลียกับน้องเจเอาให้จบแล้วทำการตัดทุกอย่างเด๋วนี้

เขม : เห้ย...ขนาดนั้นเลยเหรอ แต่กรูก็สงสัยนะว่าวันที่กรูแบกกลับมาแม่งเมาไม่ได้สติแต่เสือกลงจากห้องกรูแล้วเรียกแท็กซี่กลับคอนโดเองได้

ไอ้ตาล : เออ...กรูไม่สนละ....มึงต้องเลือกละว่าจะเอาใคร น้องเจ หรือ น้องบี

เขม : กรูก็ต้องเลือกแฟนกรูดิฟระ

ไอ้ตาล : งั้นมึงต้องตัดออกทุกทาง ไม่งั้นไอ้บีไม่มีวันกลับมาหามึงแน่

เขม : ได้...กรูจะทำ ทุกอย่าง

ไอ้ตาลขับรถพาผมไปที่คอนโดน้องเจทันทีครับ...ผมนั่งคุยกับน้องเจแล้วก็ถามถึงเรื่องที่ผมสงสัย น้องเจก็ไม่ยอมรับหรอกครับว่าน้องเจทำอะไร แล้วผมก็ยื่นคำขาดกับน้องเจทันที ผมบอกว่าผมจะเสียบีไปไม่ได้จากชีวิตผม ถ้าผมต้องเลือก ผมจะเลือกคนที่ผมรักและตัดคนที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต ผมทำได้เพื่อไอ้ตัวแสบของผมครับ น้องเจดูตกใจมากกับคำพูดของผม...ซึ่งผมบอกน้องเจเลยครับว่า ผมเอาจริง อย่ามาเจอหรือติดต่อผมอีก ผมยื่นคำขาด อย่าให้เราต้องจากกันไม่ดีไปกว่านี้อีกเลย

น้องเจก็ทำท่าเหมือนจะไม่สนใจอะไรกับสิ่งที่ผมพูดนักครับ...เพราะหลัง ๆมานี่ผมก็ไม่ได้ตอบไลน์น้องเจเลยแม้แต่น้อย ผมเดินจากน้องเจมาแล้วก็บอกให้ไอ้ตาลบล๊อคทุกอย่างที่ผมจะสามารถติดต่อน้องเจได้ แล้วผมก็กลับไปบ้านตั้งหลักเพื่อ ไปหาไอ้ตัวแสบในตอนเย็นครับ ผมไปบอกมันว่า ผมเลิกแล้ว เลิกจริง ๆ หมดแล้ว ไม่ติดต่อแล้ว ลบทุกอย่าง บล๊อคทุกทาง ผมจะซื่อสัตย์กับความรักของผมที่มีต่อบีคนเดียวเท่านั้น

แล้วผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นไปตามคาดครับ...ไอ้ตัวแสบยอมคุยกับผมมากขึ้น

วันที่ 1  หลังจากที่ ไอ้ตัวแสบยอมคุยกับผม ผมเอาดอกไม้ไปง้อมันครับ ผมโดนด่ากลับมาเช็ดเลยครับ...มันด่าผมว่า ผมคิดว่ามันเป็นผู้หญิงเหรอ เอาดอกไม้มาง้อแล้วจะหาย ดอกไม้เอามาทำไม กินก็ไม่ได้ เสียดายเงิน....ไอ้ตัวแสบเป็นคนขี้งกครับ

วันที่ 2 ผมซื้อก๋วยเตี๋ยวเจ้าเด็ดไปฝากมัน มันรับไปแล้วก็ยอมนั่งคุยกับผมนานขึ้น

วันที่ 3 ผมแอบมาตอนเช้าตรู่เพื่อจะเอาโจ๊กมาให้มันกินก่อนไปบิน เพราะวันนี้ผมก็ยังมีสอบอยู่ครับ ตกเย็น ผมก็ไปซื้อปูผัดข้าวจากร้านอาหารชื่อดังไปฝากครับ ตามันเป็นประกรายเลยครับพอเห็น...รู้เลยครับว่าความตะกละของมันครอบงำทุกสิ่ง

วันที่ 4 ผมซื้อกระเป๋าตังยี่ห้อเดียวกับผมให้มันครับ และสิ่งที่ผมได้รับก็คือ คำด่าครับ 5555 มันบ่นยับว่าเปลือง มันไม่ยอมรับในตอนแรก แต่ผมง้อมันจนสุดท้าย มันก็ยอม

วันที่ 5 ผมเริ่มรู้แล้วครับว่า ไอ้ตัวแสบไม่ชอบให้ผมซื้อของให้ มันเป็นพวกชอบกินครับ หรือจะเรียกอีกอย่างว่าตะกละก็ไม่ผิด ผมขอมันว่าจะพาไปกินข้าว แล้วก็เป็นครั้งแรกครับที่มันยอมออกไปกินข้าวกับผม ผมพาไปร้านหรู ที่เราเคยทำแผนล่มว่าจะไปกินข้าวกัน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมา ไม่รอดเลยครับ ร้านแม่งแพงจริง แต่อาหาร ไม่ได้เรื่องเลย ผมหน้าเสียไปหน่อย  ๆ

วันที่ 6 ผมสั่งพิซซ่ามากินกับมันใต้คอนโดครับ...ผมขอขึ้นไปกินที่ห้องมันมันยังไม่ยอมเลยครับ มันบอกว่าถ้าจะไปกินบนห้อง เอาพิซซ่ากลับไปเหอะ หน้าแหกกลับบ้านครับ

วันที่ 7 ผมพามันไปร้านสเต็กที่เราเคยกิน วันที่เราได้จูบกันครั้งแรกครับ ผมจำได้ดีเลยว่าอาหารที่ผมรอจากร้านนี้คืออะไร.... มันคือ ลูกอมหลังกินข้าวเสร็จครับ

พอมาถึงในรถ ผมเปิดเพลงที่ผมกับมาเคยร้องด้วยกันอย่างมีความสุข shape of you แล้วผมก็ร้องเพลงเพื่อให้มันร้องต่อในท่อนถัดไป แล้วก็เป็นไปตามคาดครับ ไอ้ตัวแสบของผมยิ้มแล้วก็ร้องเพลงต่อไปไม่มีหยุด ผมนึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ มันช่างมีค่าเหลือเกิน แล้วผมก็ยื่นลูกอมออกมา 2 เม็ด

เขม : บีอยากกินรสอะไร

ไอ้ตัวแสบ : เอารสแอปเปิ้ล

ผมแกะรสแอปเปิ้ลแล้วก็โยนเข้าปากผม ไอ้ตัวแสบทำหน้างอนใส่ผมทันที

ไอ้ตัวแสบ : แล้วจะถามทำไมฟระ

เขม : จำได้ไม๊ว่าบีเคยป้อนลูกอมพี่ยังไง

ไอ้ตัวแสบหันหน้าหนีผมครับ มองออกไปนอกหน้าต่าง ผมทนไม่ไหวปลดเข็มขัดจากที่นั่งของตัวเองแล้วเข้าประชิดตัวไอ้ตัวแสบ

ไอ้ตัวแสบ : พี่เขมจะทำอะไร...หยุดเลยนะ นี่อยู่ในรถนะ

เขม : ป่าวซะหน่อย...(ผมทำหน้ากวน ๆ ใส่ไอ้ตัวแสบแล้วก็ยื่นหน้าไปใกล้มันเรื่อย ๆ)

ไอ้ตัวแสบ : ออกไปเลยพี่เขม....(มันพยายามดันผมออกจากตัวของมันครับ)

เขม : พี่ก็แค่จะป้อนลูกอมให้บ้างเท่าน้ันเอง

ไอ้ตัวแสบของผมหน้าแดงขึ้นมาทันทีเลยครับ...ผมรู้ว่ามันจำได้ดีว่ามันเคยป้อนลูกอมให้ผมยังไง

แล้วปาฏิหาร์ก็เกิดขึ้นครับ...ไอ้ตัวแสบหลับตาบี๋ ทำให้ผมได้โอกาสจุ๊บปากแล้วดันลูกอมของผมไปให้มันได้

แล้วพี่ยามคนเดิมก็เดินมาเคาะกระจก...เราสองคนทำท่านั่งตัวตรงพร้อมออกรถจากลาดจอดในทันที ผมขับรถมาเรื่อย ๆ แล้วผมก็แอบมองหน้าของไอ้ตัวแสบ

เขม : เหมือนเดิมแทบจะทุกอย่างเลยเนอะ

ไอ้ตัวแสบ : ไม่นะ......ผมไม่เหมือนเดิมแล้วพี่เขม

ตอนนี้หัวใจของผมห่อเหี่ยวลงทันใดครับ ผมรู้สึกเลยว่าหัวใจผมมันเต้นผิดจังหวะทันที ผมไม่รู้แล้วครับว่าผมจะต้องทำยังไงให้ไอ้ตัวแสบกลับมาหาได้ ที่ทำได้ผมก็ทำไปแทบจะหมดแล้ว ผมถอนหายใจออกมายาว ๆ แล้วก็พยายามควบคุมอารมณ์ของผมไม่ให้ร้องไห้ออกมาครับ ผมถามไอ้ตัวแสบของผมไปตรง ๆ

เขม : บีครับ...มันจะมีทางไหนไม๊ที่พอจะทำให้บี กลับมารักพี่ได้อีกครั้ง

ไอ้ตัวแสบ : ไม่มีครับพี่

เขม : ......เจ็บเนอะ.......

ไอ้ตัวแสบ : เพราะ.......ผมไม่เคยที่จะหยุดรักพี่ได้....แม้แต่วันเดียวครับพี่เขม

ผมรีบตีซ้ายจอดรถข้างทางในทันที...ไอ้ตัวแสบโวยวายใหญ่เลยครับว่าจะตายห่ากันทั้งคู่ทำแบบนี้ได้ไง

เขม : บีครับ...พี่ขอโทษนะสิ่งที่พี่ทำผิดไป เรากลับมารักกันเหมือนเดิมได้ไม๊

ไอ้ตัวแสบ : ไม่ได้ครับพี่เขม...เรากลับไปรักกันเหมือนเดิมไม่ได้...มีแต่ต้องดีกว่าเดิมครับ ผมถึงจะยอมรับได้

ผมดีใจยิ้มออกมาพร้อมทั้งน้ำตาเลยครับ...ผมปลดตัวเองออกจากเข็มขัดแล้วกระโจนเข้าไปกอดไอ้ตัวแสบอย่างจัง....ผมทั้งกอดทั้งหอมมันทั่วตัวเลยครับ...ในที่สุดผมก็ทำสำเร็จ...มันเป็นของขวัญที่มีค่ายิ่งกว่าสิ่งไหน กอดที่ผมคุ้นเคย กลิ่นที่ผมเสพติด ความอุ่นใจ ความไว้ใจ ความรัก ทุกอย่างมันกลับมาอยู่ที่เดิมของมันหมดแล้วครับตอนนี้ ผมไม่รู้ว่าผมจะบอกกับมันยังไงดี ว่าผมดีใจมากแค่ไหน

เขม : พี่ดีใจที่สุดเลยครับ บี

ไอ้ตัวแสบ : ผมขอโทษนะพี่เขม...ที่ทำให้พี่ต้องลำบาก ผมแค่กลับไปรักพี่ไม่ได้ถ้าพี่ไม่ตัดขาดจาก....

ผมจูบเข้าที่ปากไอ้ตัวแสบของผมก่อนที่มันจะพูดชื่อคนที่คุณก็รู้ว่าใครออกมา แล้วผมก็แย่งเอาลูกอมที่อยู่ในปากของไอ้ตัวแสบของผมมาได้สำเร็จ มันเป็นลูกอมรสแอบเปิ้ล ที่หอมหวานที่สุดเท่าที่ผมเคยกินมาเลยครับ


To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.34 ลูกอมรสแอปเปิ้ล P.5 ( 12-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 12-11-2017 18:17:09
ช่วงหลัง ๆ มานี่เขียนเพลินไปหน่อยนะครับ แต่ละตอนยาวมากเลยครับ แต่อีกไม่นานเรื่องนี้จะจบแล้วนะครับ ยังไงก็เอาใจช่วยความรักของพี่เขมกับบีหน่อยนะครับ

ขอบคุณทุกคนที่คอยอ่านและคอยเม้นนะครับ ทุกคอมเม้นผมบอกเลยว่า ผมอ่านทุกวัน วันละหลาย ๆ รอบขอบคุณจริง ๆ ครับ o18
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.34 ลูกอมรสแอปเปิ้ล P.5 ( 12-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 12-11-2017 19:08:12
เขมเอ้ยยยย CSI ตาลอยู่ใกล้ๆ ทำไมไม่ขอความช่วยเหลือ นั่นเป็นทั้งพยานและผู้สืบหลักฐานเลยนะ โอ้ยยยยยอยากจะกรีดร้องกับความง่าว  :m31:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.34 ลูกอมรสแอปเปิ้ล P.5 ( 12-11-2ต017)
เริ่มหัวข้อโดย: plearnly ที่ 13-11-2017 08:47:03
สนุกดีค่ะเาอ่านรวดเดียวเลย แต่แอบสงสารพี่เขมอะน้องบีจะไปเรียนต่อทำไมต้องเลิกกันด้วยนะ :sad4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.34 ลูกอมรสแอปเปิ้ล P.5 ( 12-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 13-11-2017 09:32:47
วันนี้อ่านรวดเดียวหลายตอนเลย
ได้รู้ที่มาที่ไปของความงี่เงาของพี่เขมซะที 555

ปรับความเข้าใจกันแล้วทีนี้ก็เหลือแต่รอผลลัพธ์จากความห่างของระยะทางและเวลา
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.34 ลูกอมรสแอปเปิ้ล P.5 ( 12-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 13-11-2017 16:56:46
น้องเจร้ายมาก
(แอบจดเทคนิคไปใช้ 55)
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.34 ลูกอมรสแอปเปิ้ล P.5 ( 12-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 13-11-2017 19:02:14
ตอนที่ 34 เซอร์ไพรส์

ผมกลับบ้านมาเพื่อเคลียข้าวของทุกอย่างและจัดข้าวของเก็บไว้ที่บ้านที่เชียงใหม่ทั้งหมดครับ...ผมไปทำงานอยู่กทม. อยู่นาน ข้าวของก็มีเพิ่มขึ้นตามอายุเลยครับ พ่อกับแม่ผมดีใจมากเลยครับที่ผมกลับมาอยู่กับแม่ก่อนไป แล้วแม่ก็รบเร้าให้อยู่ต่อเลยไม่ต้องกลับไปกทม. ผมอ้างเรื่องของคอนโดว่ายังทำเรื่องต่าง ๆ ไม่เสร็จเรียบร้อย แต่จริง ๆ แล้วผมอยากจะกลับไปหาพี่เขมต่างหากครับ 55555

พี่เขมช่วงนี้น่าสงสารมากเลยครับ...พี่แกบินติด ๆ กินไม่มีวันหยุดเลย แล้วก็ไปค้างในที่ ๆ ผมตามไปไม่ได้ซะด้วย ไปพวกประเทศที่ต้องการวีซ่าครับ ผมเลยไม่ได้ไปกับพี่เขม ผมจึงรีบกลับมาลาพ่อและแม่เผื่อว่าถ้าไม่มีอะไรมากแล้วผมอาจจะกลับไปหาพี่เขมก่อนวันที่ 14 ได้ครับ

ช่วงนี้เป็นช่วงสุดท้ายในการพบปะญาติผู้ใหญ่ครับ....ครอบครัวทางพ่อผม ผมคือคนแรกในตระกูลเลยก็ว่าได้ครับที่ได้ไปเรียนป.โท ต่างประเทศ มันเลยทำให้ทุกคนตื่นเต้นดีใจกับผมไปหมด...มาอวยพรเลี้ยงฉลองกันยกใหญ่...แทบจะเรียกว่าปิดหมู่บ้านเลี้ยงเลยก็ว่าได้(อันนี้เวอร์เกินไปครับ) ส่วนญาติทางฝ่ายแม่ ทุกคนดูชิวครับ...คือผมก็เป็นคนแรกในตระกูลที่ได้ไปเรียนเมืองนอกก็จริง แต่ญาติ ๆ ฝั่งแม่ของผม พี่ ๆ ทำงานค่อนข้างดีครับ เป็นหมอ เปิดบริษัทมีกิจการส่วนตัว เค้าเลยไม่ค่อยตื่นเต้นกับการไปเรียนเมืองนอกของผมเท่าไหร

ผ่านไป 2 วัน วันนี้อากาศดีเป็นพิเศษ ยามเช้า ๆ แถว ๆ บ้านผมยังมีความเย็นอยู่บ้างครับ แม่พาผมออกไปทำบุญตอนเช้าตรู่แล้ว ผมก็กลับมา ตอนแรกก็ว่าจะนอนต่อซักหน่อย แต่พอมานั่งอยู่หน้าบ้าน ลมมันเย็นดีผมก็เลยนั่งชิวอยู่หน้าบ้านครับ ข้างบ้านผมยังเป็นทุ่งนาอยู่เลยครับ ถึงตอนนี้มันจะไม่เขียวขจีเหมือนช่วงปลูกข้าวใหม่ ๆ แต่ผมก็ยังได้กลิ่นของดินและอากาศที่แสนจะสดชื่น ผมอยากจะให้พี่เขมมานั่งสูดอากาศอยู่ข้าง ๆ ด้วยกัน จิบชาตอนเช้า ๆ ครับ...แต่ความคิดพวกนี้ ต่อไปอนาคตของผมกับพี่เขมจะเป็นอย่างไร...ผมก็ไม่รู้ครับ มันเป็นความแน่นอนบนความไม่แน่นอนจริง ๆ เลยครับ แล้วแม่ก็เข้ามานั่งอยู่ข้าง ๆ ผม ผมแทบจะไม่รู้เลยว่าแม่มานั่งอยู่ข้าง ๆ ผมครับ ผมเลยปล่อยตัวปล่อยใจถอนหายใจกับเรื่องความรักของผมให้ระบายออกผ่านสายลมที่พัดปะทะตัวผม

แม่ : เครียดอะไรขนาดนั้นลูกชาย...

ผมตกใจแทบจะกรี๊ด...ออกมาทันที

บี : แม่มานั่งตั๊ดนี่ตั้งแต่มะใดหนิ...หยะลูกสะดุ้งสะเด็ดหมด(แม่มานั่งตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหรเนี่ย...ทำลูกตกอกตกใจหมด)
แม่ : มานั่งจ๊าดเมินละ....อะหยังปะล้ำปะเหลือลูก เครียดเรื่องอะหยัง(มานั่งตั้งนานแล้ว...อะไรมากมายลูก เครียดเรื่องอะไร)

บี : บ่อหลอกคุณแม่...ลูกกึ๊ดอะหยังไปเรื่อยตามเปื่อย(ไม่หรอกคุณแม่...ลูกคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแหละ)

แม่ : คำอะหยังของลูก...แม่บ่ฮู้เรื่อง(คำอะไรของลูก...แม่ไม่รู้เรื่อง)

บี : 5555 แม่ไม่วัยรุ่นเลยอ่ะ

แม่ : คิดถึงพี่เขมเหรอลูก

ผมตกใจมาก...ไม่รู้จะตอบแม่ยังไง

แม่ : แม่รู้นะว่าลูกกับพี่เขม....รักกัน

หัวใจผมตกไปถึงตาตุ่มทันทีครับ...ผมไม่รู้ว่าแม่รู้ได้ยังไง ผมไม่รู้เลยว่าผมจะรับมือกับสิ่งที่ผมเป็นแล้วผมไม่ได้บอกแม่ยังไง...ผมไม่รู้อะไรเลยครับ แล้วผมก็ไม่เคยเตรียมใจที่จะบอกเรื่องนี้กับครอบครัวผมเลย ในหัวผมตอนนี้มันว่างเปล่าไปหมด ผมได้แต่มองหน้าแม่ แล้วก็พยักหน้าเป็นคำตอบให้กับแม่

แม่ : แล้วลูกบอกพี่เขมไปว่ายังไงหละ

บี : ผมให้พี่เขมไม่ต้องรอครับแม่.....

แม่ : ทำไมลูกถึงตัดสินใจอย่างนั้นหละ

บี : ลูกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว...ลูกอยากจะเรียนให้จบให้ไว ยิ่งจบไว ก็ยิ่งกลับมาไว ลูกคิดแค่นี้อ่ะแม่

แม่ : แล้วลูกอยากให้เค้า ไม่ต้องรอลูก แต่ลูกจะรีบกลับมาหาเค้า มันดูขัดกันรึเปล่า

บี : เพราะลูกกลัวว่าถ้าเค้าทำไม่ได้ ลูกจะพังและอาจจะเรียนไม่จบ

แม่ : มันก็เป็นไปได้เนอะ...อะไรก็เกิดขึ้นได้ เมื่อเวลามันเปลี่ยนอ่ะเนอะ

บี : แล้วแม่รู้มานานรึยังเนี่ย...

แม่ : บีเป็นลูกแม่นะ ทำไมแม่จะไม่รู้

บี : แปลว่าแม่รู้มานานแล้วเหรอ

แม่ : หึ...เปล่าอ่ะ เพิ่งรู้เมื่อตอนเดือนกันยา

บี : ยังไงอ่ะ

แม่ : จำได้ไม๊ที่พี่เขมมานอนที่บ้านเรา...แม่เข้าไปแอบดูลูกตอนเช้า แล้วแม่ก็เห็นลูกกับพี่เขมนอนกอดกันอยู่

บี : แล้วแม่รู้เลยเหรอว่าพี่เขม...กับ ลูก

แม่ : รู้สิ...เพราะมันไม่ได้นอนกอดกันเหมือน คนเป็นเพื่อนกันกอด

บี : แล้วพ่อรู้ไม๊อ่ะแม่...

แม่ : โอ้ย...รายนั้นเซ้นแรงกว่าแม่อี๊ก

บี : แม่โกรธลูกไม๊

แม่ : จะไปโกรธทำไมหละ แม่ขอแค่ลูกแม่เป็นคนดี รักคนดี แม่ก็พอใจแล้วหละ

บี : แล้วพ่อหละแม่...

แม่ : รายนั้นก็ปล่อย ๆ เค้าไปเถอะ พ่อเค้าก็รู้นะ แต่ก็คงไม่พูดอะไรหรอก...แม่เดาเอานะ พ่อเคยพูดอะไรกับใครซะที่ไหน จริงมะ?

บี : เออก็จริง...

แม่ : แม่ไม่อยากให้ลูกกลัวว่าแม่จะรักลูกน้อยลง...แม่ว่าแม่เลี้ยงลูกมาเป็นคนยังไงแม่รู้ดี...บีเป็นคนแข็งแกร่งมากนะลูก แม่สอนบีเสมอว่าให้ดูแลตัวเองได้ พอตัวเราดูแลตัวเองได้ดีแล้ว จะไปดูแลคนอื่นให้ดี มันก็ไม่ใช่เรื่องยากจริงไม๊ลูก

บี : จริงคับแม่...

แม่ : ถ้าอยู่ที่บ้านเรามันไม่ได้ทำให้จิตใจสงบลง...ก็ไปทำตามที่ใจลูกต้องการเถอะนะ แม่รู้ว่าจิตใจลูกตอนนี้อยู่ที่ไหน...แม่ไม่เคยเห็นลูกนั่งเหม่อลอยแบบนี้มาก่อนเลย

บี : ลูกคิดถึงพี่เขมครับแม่...

แม่ : งั้นก็ไปหาพี่เค้าสิ... บี...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกจากบ้านไปไกล ๆ และก็นาน ๆ นะ จะบอกว่าแม่ชินแล้วที่เห็นลูกบินออกจากรังเพื่อไปสร้างอนาคตของตัว มันก็ไม่มีทางชินหรอก แต่พอแม่เห็นลูกไม่ได้ทำตามที่อยากจะทำ...นั่นมันทำให้แม่ไม่มีความสุขเลย

บี : แม่คับบ...รักแม่ที่สุดเลยครับ แม่ก็คือแม่

แม่ : ใช่...แม่ก็คือแม่...จะมีใครรักลูกกว่าแม่ก็ไม่มีแล้วหละโลกนี้

บี : จริงครับแม่....

แม่ : ปะ...ไปเก็บของเด๋วแม่ไปส่งสนามบิน แล้วถ้ามีเวลาก่อนไปเรียนต่อก็ แวะมาหาแม่หน่อยก็ดีนะลูก แม่จะบอกให้พ่ออยู่ด้วยพร้อมกัน

บี : ครับแม่...ขอบคุณครับแม่...ที่เข้าใจลูก

ผมไม่รอช้ารีบเก็บกระเป๋าแล้วทำการเช็คตารางบินของพี่เขมทันทีครับ...วันนี้พี่เขมไปค้างภูเก็ตพอดีเลยครับ...ผมรีบหาไฟล์ที่บินจาก เชียงใหม่บินตรงไปภูเก็ตทันที ตอนนี้มีรอบเที่ยงกว่า ๆ ครับ ผมยังมีเวลาอีก 3-4 ชั่วโมงก่อนที่จะต้องไปที่สนามบิน ผมรีบเข้าไปอ้อนแม่จนแม่รำคาญ แล้วแม่ก็ไล่ผมให้รีบออกจากบ้าน เพราะคุณนายแกมีเรียนโยคะตอนบ่ายโมงครับ....5555 ที่จริงแม่อาจจะเบื่อก็ได้นะครับที่ผมเอาแต่อยู่บ้านแล้วก็ไม่ทำอะไร วัน ๆ เอาแต่นั่งเฉย ๆ 55555

ผมโทรหาป๊ากับแม่พี่เขมครับ....ผมอยากจะถามซักหน่อยว่าป๊ากับแม่ว่างรึเปล่า ถ้าว่างผมอยากจะชวนไปหาพี่เขมพร้อมๆ กันไปเลยครับ ถือว่าเปลี่ยนบรรยกาศ

บี : สวัสดีครับแม่...วันนี้แม่ยะอะหยังคับ ต๋อนแลง ๆ ป๊ากับแม่ว่างก่อคับ(สวัสดีครับแม่ วันนี้แม่ทำอะไรตอนเย็น ๆ ครับ ป๊ากับแม่ว่างไม๊ครับ)

แม่พี่เขม : ว่างกะลูก...ลูกบีอยู่เจียงใหม่บ่อใจ้ก๋า(ว่างสิลูก ลูกบีอยู่เชียงใหม่ไม่ใช่เหรอ)

บี : แม่นแล้วครับ...แต่ผมกึ๊ดเติงหาอ้ายเขม เลยว่าจะไปภูเก็ตไปแอ่วหาอ้ายเขมครับ แม่กะป๊าแลง ๆ ไปแอ่วภูเก็ตกั๋นบ๋อคับ(ใช่แล้วครับ...แต่ผมคิดถึงพี่เขม ก็เลยว่าจะไปภูเก็ต เที่ยวหาพี่เขมครับ แม่กับป๊า เย็น ๆไปเที่ยวภูเก็ตกันไม๊ครับ)

แม่พี่เขม : ป๊าสีท่าจะบะใด้ละลูก...ป๊ายะก๋า แม่บ่อฮู้ว่าป๊าปิ้กบ้านกี้โมงอ่ะลูก(ป๊าเห็นท่าว่าจะไม่ได้ละลูก...ป๊าทำงาน แม่ไม่รู้ว่าป๊าจะกลับบ้านกี่โมง)

บี : เอ้อ...เสียดายขนาดคับแม่...บีว่าจะจวนไปแอ่ว เซอร์ไพรส์อ้ายเขมเหีย น่อย(เฮ้อ...เสียดายจังเลยครับแม่...บีว่าจะชวนไปเที่ยว เซอร์ได้พี่เขมซะหน่อย)

แม่พี่เขม : ก๋าลูก...อั้นเดวแม่ขอโทรหาป๊ากำ...แม่ไข้อยากกิ๋นปู๋ขนาดนะมะเด่วนี้(เหรอลูก....งั้นเด๋วแม่ขอโทรหาป๊าแป๊ป....แม่อยากกินปูมาก ๆ ตอนนี้)

บี : อั้นเดวผมโท 3 สายหาป๊าฮื้อบ๋อครับแม่(งั้นเด๋วผมโท 3 สายนะครับ)

แม่พี่เขม : มันยะจะใดหละลูก แม่ยะบะจ้าง(มันทำยังไงลูกแม่ทำไม่เป็น)

บี : เดวแม่ถือสายรอกำเน้อคับ(เด๋วแม่ถือสายรอแป๊ปนะครับ)

———————————————-

ป๊าพี่เขม : ว่าไงบี...มีอะไรเหรอลูก ป๊าไม่ได้อยู่กับแม่นะ ป๊าทำงาน

บี : สวัสดีครับป๊า...ป๊าถือสายรอแป๊ปนึงนะครับ จะประชุมสายครับ

ป๊าพี่เขม : ประชุมกับใครหละลูก

แม่พี่เขม : ป๊าเหรอ....แล้วลูกบีหละหายไปไหน

บี : อยู่ ๆ ครับ ป๊ากับแม่ ได้ยินชัดไม๊ครับ

ป๊ากับแม่พูดพร้อมกัน : จ้าาาาาาา

บี : ป๊าครับ เย็น ๆ ว่างไม๊ครับ ผมว่าจะชวนป๊าไปกินข้าวที่ภูเก็ตครับ

ป๊าพี่เขม : ร้านใหม่เหรอลูก ร้านอยู่แถวไหนชื่อภูเก็ต ป๊าไม่รู้จักเลย

แม่พี่เขม : ไม่ใช่คุณ...ลูกบีจะชวนไปเที่ยวภูเก็ตตอนเย็นนี้เลย ลูกเขมก็ไปค้างพอดี จะเซอร์ไพรส์ เขมมันหน่อย

ป๊าพี่เขม : อ๋อ ๆ ๆ แล้วไปไงอ่ะ ป๊ายังไม่ได้จองตั๋วเลย

บี : ป๊าเลิกงานกี่โมงครับวันนี้

ป๊าพี่เขม : นี่ป๊ากำลังกลับบ้านแล้วลูก ขับรถมาได้ครึ่งทางแล้ว

แม่พี่เขม  : อ่าวทำไมวันนี้กลับเร็วอ่ะคุณ

ป๊าพี่เขม : ตอนแรกมีนัดประชุมบ่าย แต่โดนเลื่อนไปแล้ว เลยกลับบ้านแม่มเลย

บี : งั้นไปภูเก็ตกันนะคับป๊า นะครับแม่ เด๋วผมจองตั๋วให้

ป๊าพี่เขม : ปกติไอ้เขมเป็นคนจองตั๋วให้อ่ะ บีทำได้ไม๊ลูก

บี : ทำได้ครับ...เด๋วป๊าไปรับแม่แล้ว ไปสนามบินเลยนะครับ ไฟล์บ่าย 3 ทันไม๊ครับป๊า

แม่พี่เขม : ว้ายยยย แม่จะไม่ทันลูก แม่ยังไม่ได้แต่งตัวเลย

ป๊าพี่เขม : นี่คุณ ตอนนี้กำลังจะ 11 โมง เครื่องออกบ่ายสาม จะทำอะไรมากมาย

แม่พี่เขม : ไม่ได้เด๋วฉันไม่สวย...ขึ้นเครื่องบิน

บี : แหม่ๆๆ แม่สวยอยู่แล้วจะกลัวอะไรคับ

ป๊าพี่เขม : อ่า ๆ ให้ท้ายกันเข้าไป

แม่พี่เขม : ฉันยังไม่ได้จัดกระเป๋าต่างหาก

ป๊าพี่เขม : อ่าวนี้จะไปนอนกันเหรอ ป๊านึกว่าไปกลับ

แม่พี่เขม : อ่าวยังไงหละ ไปกลับก็ได้นะแต่ดึกแน่เลยอ่ะ

ป๊าพี่เขม : โอยยยย คุณ เรายังไม่แก่นะ กลับดึกหน่อยไม่เป็นไรหรอก

แม่พี่เขม : อ่าๆ ๆ ก็ได้ ๆ ฉันเอาติดไปเผื่อระกัน

ป๊าพี่เขม : ยังไงก็ได้ เอาเป็นว่าเด๋วผมถึงบ้านแล้วบ่ายโมงก็ต้องออกบ้านแล้วนะคุณ

บี : น่ารักกันจังเลยครับ ป๊ากับแม่

แม่พี่เขม : ลืมไปเลยลูกบีก็คุยด้วย 5555

ป๊าพี่เขม : แม่ก็อย่างนี้แหละ...ช้าตลอด

แม่พี่เขม : แล้วลูกบีไปยังไงหละลูก

บี : เด๋วผมบินจากเชียงใหม่ไปเลยครับ เด๋วผมไปรอรับพี่สนามบินครับ ป๊ากับแม่มาถึงแล้วโทรหาผมนะครับ แล้วเราไปเซอร์ไพรส์พี่เขมพร้อมกัน

ป๊าพี่เขม : ดีเลยลูก ป๊าไม่ได้ลงไปเที่ยวใต้นานแล้ว

บี : พี่เขมเกิดเมื่อไหรเหรอคับ...

แม่พี่เขม : วันเกิดพี่เขมเดือน 5 ลูก ผ่านมาแล้ว

บี : เด๋วผมแฮปปี้เบิรด์เดย์ พี่เขมย้อนหลังซักหน่อย

ป๊าพี่เขม : พี่เขมชอบกินเค้กมะพร้าวนะลูก ถ้าหาได้

บี : ได้ครับป๊า ผมรู้จักร้านเค้กมะพร้าวอร่อยที่เชียงใหม่พอดีครับ



ผมรีบทำการจองทุกอย่างให้กับแม่และป๊า แล้วก็ออกไปซื้อเค้กเตรียมไว้เลยครับ ผมเก็บข้าวของไม่นานแล้วแม่ก็ออกมาส่งผมเลย ผมแวะซื้อของกินมากมายเอาไปฝากพี่นักบินและพี่ลูกเรือบนไฟล์ และก็แวะซื้อเค้กมะพร้าวสำหรับแฟนผม

ผมอยากจะจัดงานวันเกิดให้พี่เขมซักหน่อยครับ วันเกิดพี่แกก็ก่อนที่เราจะคบกันแล้วก็ปีนี้ ผมก็ไม่มีโอกาสที่จะได้ทำให้ ผมเลยอยากจะทำให้เพื่อตอบแทนพี่เขมซักหน่อย

การเป็นลูกเรือนี่มันดีอย่างนะครับ เราจะไปบินไฟล์ไหน กี่โมงก็ได้ เปลี่ยนตั๋วได้ตลอด จะไม่ได้ไปก็เพราะ ไฟล์เต็มเท่านั้นแหละครับ รวมไปถึงพ่อแม่ของเราด้วยนะครับ บางสายการบินยังให้เพื่อนสนิท หรือแฟนได้ด้วยอีก ดีงามไปอีก เพราะฉะนั้น ใครอยากบินถูกบินฟรี บินกี่ทีก็จ่ายนิดเดียว หาแฟนเป็นลูกเรือหรือนักบินด่วนเลยครับ คนโสดเพียบ...55555 ขายของไม่หยุด

พอผมบินมาถึงภูเก็ตผมก็ไปเช่ารถ แล้วก็ขับรถไปที่โรงแรมที่ลูกเรือพักครับ ผมสอบถามว่าห้องใหญ่จะสามารถอัพเกรดห้องพักของพี่เขมได้ไม๊ แล้วผมก็เจอเพื่อนผมที่ทำงานอยู่ที่โรงแรมนี้ครับ เพื่อนผมอัพเกรดให้ฟรี ๆ เลย ดีงามไปอีก ผมเลยบอกไปว่าผมจะมาเซอร์ไพรส์พี่เขม ซึ่งเพื่อนผมคนนี้ก็รู้จักพี่เขมด้วยครับ มันเลยช่วยผมวางแผนไปอีกชั้นนึง มันบอกว่าเด๋วจะให้แม่บ้านจัดห้องพักให้เอาให้เวอร์ไปเลย ผมก็เลยเอากระเป๋าผมฝากไว้ที่ฟร้อนแล้วฝากแช่เค้กเอาไว้ก่อน อีกไม่นานไฟล์พี่เขมก็จะลงแล้วครับ ผมจึงจะต้องออกไปจากโรงแรมก่อนกลัวพี่เขมเห็น

แต่แล้วไฟล์พี่เขมก็ดีเลย์ครับ...จากที่จะลง 3 โมงกว่า ๆ กลายเป็นลง 4 โมงครึ่ง แล้วป๊ากับแม่พี่เขมก็ลงเวลาใกล้ ๆ กันพอดี ผมเลยรีบไปรับป๊ากับแม่ก่อนเลยครับ กลัวแผนแตกเพราะป๊ากับแม่คงจะมาภูเก็ตไม่บ่อยและยิ่งตอนนี้สนามบินภูเก็ตซ่อมอยู่ด้วย ทางเดินจะค่อนข้าง วกวนประมาณนึงครับ ผมจึงรีบไปรับป๊ากับแม่ พอผมเจอป๊ากับแม่ ผมก็เห็นพี่เขมเดินออกมาจากทางรับกระเป๋าครับ ผมรีบพาแม่กับป๊าหลบทันที ป๊ากับแม่ก็เล่นด้วย รีบทำเป็นหลบ พวกเราเหมือนทำ มิชชั่น อิมพอสสิเบิล กันอยู่เลยครับ

ผมพาป๊ากับแม่มาที่รถ แล้วก็ตกลงกันว่าจะทำยังไงต่อไปดี แล้วเพื่อนผมที่เป็นพนักงานโรงแรมก็โทรมาครับ

มีต่อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.34 ลูกอมรสแอปเปิ้ล P.5 ( 12-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 13-11-2017 19:03:52
บี : เมิงว่าไง แผนเอาไงดี

โจ : กรูว่าจะให้กุญแจห้องผิดก่อนแล้วให้พี่เขมเดินลงมาเปลี่ยนใหม่ แล้วเมิงก็ไปหลบในห้อง พอพี่เขมมาเปิดห้องก็ค่อยเซอร์ไพรส์ เป็นไง ดีมะ

บี : เออ ๆ ๆดีเลย...รักเมิงเลยอ่ะ

โจ : กรูเอาเค้กไปไว้บนห้องให้ละนะ กระเป๋าเมิงด้วย

บี : ขอบคุณมา ตอนนี้กรูมารับป๊ากับแม่พี่เขมอยู่เด๋วกรู พาป๊ากับแม่พี่เขมไปด้วย

โจ : โหๆ ๆ ตอนแรกกรูนึกว่าเมิงมาคนเดียว...นี่มาเป็นครอบครัวเลยเหรอ

บี : เออ ๆ ชุดใหญ่ไฟกระพริบ

โจ : งั้นเด๋วกรูบอกให้แม่บ้านแต่งห้องให้หน่อยละกัน

บี : เฮ้ย...ขอบคุณมาก

ผมบอกแม่กับป๊าว่าเด๋วเราจะไปซ่อนตัวที่ห้องของพี่เขมพอพี่เขมมาถึงก็ค่อยออกมาเซอร์ไพรส์ แม่กับป๊าดูตื่นเต้นใหญ่เลยครับ ผมก็แอบเกรงใจนิด ๆ ว่าจะพาท่านมาลำบากรึเปล่า

แม่พี่เขม : ป๊า เราไม่ได้ทำอะไรอย่างนี้ให้เขมนานขนาดไหนแล้วเนี่ย ตื่นเต้นเนอะ

ป๊าพี่เขม : จริงแม่..ป๊าหัวใจเต้นตุบ ๆ เลย

บี : ผมยังตื่นเต้นเลยครับป๊า ขอโทษที่พาป๊ากับแม่มายากลำบากนะครับ

แม่พี่เขม : ลำบากอะไรลูกบี...แม่ตื่นเต้นสนุกดีออก

ป๊าพี่เขม : ใช่ ๆ นานแล้วที่เราไม่ได้แกล้งไอ้เขมมันอ่ะเนอะคุณ สมัยก่อนนะ ป๊ากับแม่แกล้งพี่เขมตลอดเลยเวลาวันเกิดมันอ่ะ

แม่พี่เขม : ใช่ ๆ จำได้ตอนเด็ก ๆ สมัยเขม 4 ขวบ ป๊าเอาของขวัญให้พี่เขมเป็นมัน 1 ลูก พี่เขมทำท่างงแล้วก็ดีใจใหญ่เลยลูก ป๊ากับแม่หัวเราะกันท้องแข็งเลย

ป๊าพี่เขม : เออใช่ ๆ ป๊าจำได้ ไอ้เขมถามว่าอันนี้อะไร ป๊าบอกว่า potato แล้วไอ้เขมก็ดีใจใหญ่เลย ตะโกน potato ทั้งวัน 55555

บี : ป๊ากับแม่แกล้งพี่เขมตั้งแต่เด็กเลยนะเนี่ย

ผมมาถึงโรงแรมเอารถจอดด้านหลังแล้วก็ทำการย่องไปพยายามขึ้นลิฟท์ให้เร็วที่สุดครับ แล้วเราก็ทำสำเร็จ พวกเรามาอยู่ในห้องพี่เขมแล้วครับ ห้องที่ได้เป็นห้อง 1 ห้องนอนครับ มีบริเวณห้องนั่งเล่นนิดหน่อย ไอ้โจ ทำการเตรียมทุกอย่างไว้ให้แล้ว ผมไปปักเทียนรอ แม่กับป๊าก็มาช่วยกันปัก ไม่นานไอ้โจก็โทรมาบอกว่าพี่เขมกำลังขึ้นไปที่ห้องแล้วครับ และไอ้โจบอกว่าพี่เขมหน้าบึ้งสุด ๆ โดนเปลี่ยนห้องไป 2 รอบเพื่อถ่วงเวลารอให้พวกเราขึ้นห้องมาเตรียมการ

เสียงเดินและเสียงลากระเป๋ามาหยุดอยู่หน้าห้องครับแล้วก็มีเสียงเสียบคีย์การ์ด ป๊ากับแม่รีบทำการปิดม่านแล้วก็ปิดไฟครับ แล้วพี่เขมก็เปิดประตูเข้าให้มา พวกเรา 3 คนเดินออกมาจากต้อนรับพี่เขมพร้อมกับเค้กที่มีเทียนจุดอยู่ครับ หน้าของพี่เขมตอนนี้ จากที่หน้าตาพร้อมจะเหวี่ยงได้ทุกคน กลายเป็นหน้าตกใจสุดขีดเมื่อเห็นผม ป๊าและก็แม่เมื่อพี่เขมเปิดประตูมา

พี่เขม : เห้ย....มากันได้ไงเนี่ย

ผมเห็นน้ำตาพี่เขมเริ่มเอ่อล้นออกมา....พี่เขมยิ้มไม่หุบเลยครับ

ป๊ากับแม่ : เซอร์ไพรส์!!!!

บี : สุขสันต์วันเกิดครับพี่เขม

พี่เขม : พี่ไม่ได้เกิดวันนี้

แม่พี่เขม : วันเกิดอยากจะจัดไงลูก

ป๊าพี่เขม : ใช่ ๆ วันเกิดปีนี้บียังไม่ได้อยู่ด้วย เลยจัดให้อีกรอบไงลูก

พี่เขม : โห...แล้วมากันยังไงเนี่ย...ใครพามา แล้วมาในห้องนี้ได้ไง ไอ้ตัวแสบใช่ไม๊

บี : แล้วจะเป็นใครหละคับ...เป่าเทียนก่อนเร็ว

พี่เขมหลับตาอธิฐานแล้วก็ทำการเป่าเทียน แล้วพี่เขมก็เห็น ยิ้มกว้างให้ผมเอามือมาขยี้หัวผม 1  ที

พี่เขม : ขอบคุณนะไอ้ตัวแสบ

แม่พี่เขม : ขอให้ลูกมีสุขภาพแข็งแรงนะ ไม่เจ็บไม่ไข้

ป๊าพี่เขม : ขอให้ลูกสมปรารถนา ในสิ่งที่หวังไว้นะลูก

บี : ผมขอให้พี่เขม...มีความสุขมาก ๆ ครับ

พี่เขม : แค่นี้พี่ก็สุขมากพอแล้วครับ ขอบคุณครับป๊า แม่ แล้วก็แฟนนนนนนนนนนน (พี่เขมลากเสียงยาวววพร้อมทั้งหยิกแก้มผม)

พี่เขม : เฮ้ย เค้กมะพร้าวด้วย....ป๊าซื้อมาเหรอ

ป๊าพี่เขม : โน ๆ โน่น เลยคนต้นคิด...(ป๊าทำท่าชี้มาทางผม)

แม่พี่เขม : ไปบินมาเป็นไงบ้างลูก เหนื่อยไม๊

พี่เขมเอาหัวไปซบแม่แล้วก็อ้อนแม่อย่างรุ่นแรง

พี่เขม : โอ้ยยยย เหนื่อยมากเลยแม่...เครื่องก็ดีเลย์ อากาศระหว่างทางก็ไม่ดี ร้อนก็ร้อน ไม่มีแรงแล้วเนี่ย

บี : หิวข้าวกันรึยังครับ บีจะได้พาไปกินข้าวเลย

พี่เขม : แล้วมากันยังไงหละจากสนามบินอ่ะ

แม่พี่เขม : ลูกบีเค้าจัดการทุกอย่างหมดเลยลูก

บี : ผมเช่ารถครับพี่เขม เด๋วพาไปกินข้าวนะ....รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าป่ะ

ป๊าพี่เขม : ดีเลย...กลางวันนี้ป๊ายังไม่ได้กินข้าวเลย ป๊ารีบมาจนลืม หิวแล้วตอนนี้

แม่พี่เขม : เอาที่พุงนั่นมาใช้ก่อนไป...จะได้ผอม ๆ

ผมกับพี่เขมหัวเราะพร้อมกันครับ ผมช่วยลากกระเป๋าพี่เขมเข้าให้ไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า พี่เขมเดินเข้าห้องไปแล้วก็ร้องเสียงดังออกมาก่อนที่ผมจะลากกระเป๋าเข้าให้ตามไป

พี่เขม : เย้ย!!!!! เตียงนี่อะไรเนี่ย

บี : อะไรพี่เขมโวยวายใหญ่

ผมเดินตามเสียงพี่เขมมา แล้วก็ต้องตกใจกับเตียงนอนของพี่เขม มันมีกลีบกุหลาบสีแดงโรยไว้เป็นรูปหัวใจ 2 ดวงใหญ่ ๆ กลางที่นอนเลยครับ ผมเข้าไปผมก็อดขำไม่ได้ ป๊ากับแม่เดินตามเข้ามา แล้วก็พากันหัวเราะใหญ่

ป๊าพี่เขม : นี่เหมือนเตียงส่งตัวเข้าห้องหอ สมัยเราแต่งงานเลยนะคุณ

แม่พี่เขม : แล้วทำไมเป็นแบบนี้หละลูก บีทำเซอร์ไพรส์พี่เขมอีกเหรอลูก

บี : ผมไม่ได้ทำครับ คงจะเป็นเพื่อนบอกแม่บ้านไว้ ว่าให้จัดห้องให้สวย

พี่เขม : พี่ไม่กล้านอนเลย

บี : งั้นรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปกินข้าวกันเถอะพี่เขม เด๋วรถติดนะ

ป๊าพี่เขม : ภูเก็ตรถก็ติดเหรอลูก

พี่เขม : ติดไม่น้อยกว่า กทม. ป๊า....แต่ถ้าออกเย็น ๆ กว่าจะกินเสร็จกลับมาคง 3-4 ทุ่มเลยอ่ะ

แม่พี่เขม : แล้วเราจะกลับกันทันไม๊ป๊า

พี่เขม : อ่าวนี่มากินข้าวเซอร์ไพรส์แล้วก็กลับเลยเหรอ นึกว่าจะค้างด้วยกันซะอีก

ป๊าพี่เขม : ป๊าไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย บีเพิ่งจะบอกป๊าเมื่อตอนก่อนเที่ยงนี้เองลูก

พี่เขม : งั้นก็นอนเหอะป๊า ไปกลับ ตอนกลางคืนกว่าจะถึงบ้านอีก อันตราย

แม่พี่เขม : ดีนะฉันเตรียมมาไว้หมดแล้ว

ป๊าพี่เขม : งั้นก็นอนสิ เตรียมมาแล้วพรุ่งป๊าลาป่วยก่อน 555555

แม่พี่เขม : รีบ ๆลูก เปลี่ยนเสื้อผ้าเลย จะได้ไปกินข้าว

ผมขับรถออกจาโรงแรมแล้วก็ให้พี่เขมนั่งข้าง ๆ ครับ ให้พี่เขมนอนซะหน่อยเพราะบินมาตั้งแต่เช้าแล้วเด๋วพรุ่งนี้ก็ออกเช้าอีก ผมพาไปกินร้านโปรดของผมครับ ไม่ได้ไกลมากจากสนามบิน ร้านนี้ลูกเรือชอบไปกินกันครับ หมี่แกงปูนางเด็ดมาก ผมนี่แทบจะเอาข้าวลงไปคลุกในถ้วยแกงเลยทีเดียว แล้วที่เด็ดไปอีกก็คือยำมังคุดครับ ผมไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน เคยกินที่นี่ที่แรกเลยครับ ผมทำการโทรไปสั่งอาหารให้ทางร้านเตรียมไว้ก่อนพอพวกเราไปถึงก็จะได้กินได้เลยครับ พอถึงร้าน ป๊ากับพี่เขมก็จัดการอาหารอย่างไม่พูดคุยกันเลยครับ ผมสั่งยำสาหร่ายที่เป็นเหมือนพวงองุ่นเล็ก ๆ มาให้กินเพิ่ม เค็ม ๆอร่อยดีครับ แม่พี่เขมชอบกินมาก

พอทานเสร็จเราก็ขับรถกลับทันทีครับ...ป๊ากับแม่ดูเหนื่อยมาก หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนครับ ขากลับทั้งป๊า แม่ และก็พี่เขมหลับปุ๋ยเลยครับ ผมเอื้อมมือผมไปจับมือพี่เขมไว้ขณะขับรถอยู่ มันนานแล้วเหมือนกันครับพี่ผมไม่ได้จับมือแฟนผมเลยเวลาที่ผมขับรถอยู่อาจจะเพราะเราแทบจะไม่ได้ไปไหนด้วยกันเลย ยิ่งมีเรื่องที่ผมจะไปเรียนต่อมาอีก บางทีมันก็อาจจะทำให้พี่เขมเริ่มถอดใจก็เป็นไปได้ครับ

พี่เขม : ขอบคุณนะบี...วันนี้พี่มีความสุขมากครับ

บี : อ่าวนึกว่าหลับอยู่

พี่เขม : รู้สึกตัวนิดหน่อย...(แล้วพี่เขมก็ย้ายหัวพี่เขมมาซบที่ไหล่ผม)

บี : สุขสันต์วันเกิดครับ....ที่รัก....(ผมแอบกระซิบกลัวป๊ากับแม่จะเลี่ยน)

พี่เขม : แล้วคิดยังไงเนี่ย...พากันมาได้หมดเลย

บี : ไม่ได้คิดอะไรเลยพี่....แค่คิดถึงเท่านั้นเลยจริง ๆ

พี่เขม : หวานกับเค้าก็เป็นเหรอ....ปกติเห็นแต่นิ่ง ๆ

บี : มันเหลือเวลาไม่มากแล้วมั้งพี่...ผมก็เลย...

พี่เขม : เราไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า....เนอะ.....

บี : ครับผม....

ผมขับรถไปถึงโรงแรมพี่เขมบอกว่าห้องที่ใหญ่นั้นให้ป๊ากับแม่นอนเถอะ ให้เค้าไปฮันนีมูนกันอีกรอบ ส่วนผมกับพี่เขมก็เปิดห้องใหม่ครับ ห้องแบบธรรมดาแบบที่ไม่ต้องมีกลีบกุหลาบมาโรย...เห็นแล้วขนลุกเลยครับ 55555

เราขึ้นมารวมตัวกันที่ห้องใหญ่ก่อนแล้วก็ทำการกินเค้กกันครับ...ดีนะครับที่ผมซื้อมาชิ้นเล็กนิดเดียว เรากินกันคนละ 2 คำก็หมดแล้ว ส่วนผมไม่กินครับ ผมยกส่วนของผมให้กับพี่เขม...เพราะพี่เขมดูจะชอบมากกกก ป๊าเดินมาเปิดตู้เย็นเหมือนกำลังจะหาอะไรกิน

พี่เขม : ป๊าหาอะไรอ่ะ

ป๊า : หาอะไรเย็น ๆ กินซักหน่อย

แม่ : หาเบียร์ใช่มะ ทำหน้าอย่างนี้

บี : เด๋วผมลงไปซื้อให้ครับป๊า

พี่เขม : เด๋วพี่ลงไปด้วย

แม่ : แม่อยากกินแบบใส่สไปร์ทได้ไม๊

บี : ได้เลยครับ พี่เขมอยู่นี่แหละ เด๋วผมลงไปซื้อให้

ป๊า : งั้นป๊าไปเป็นเพื่อน...

แม่ : เขมไปอาบน้ำซะลูกเด๋วพรุ่งนี้บินต่อหนิ เด๋วให้ป๊ากับลูกบีไปซื้อมาให้เถอะ

พี่เขม : ครับ...งั้นเด๋วอาบน้ำก่อน

ผมเดินลงไปด้านล่างกับป๊า ป๊าก็ถามผมขึ้นมาแปลก ๆ

ป๊า : ต้องไปเรียนนานไม๊ลูก

บี : เรียนโทก็น่าจะ 2-3 ปีอ่ะคับ

ป๊า : แล้วเขมโอเคไม๊ลูก

บี : อืม....

ป๊า : ป๊าเห็นเขมเครียด ๆ ช่วงนี้ ทะเลาะกันรึป่าวลูก หรือว่ายังไง

บี : เปล่าครับ...ไม่ได้ทะเลาะเลย

ป๊า : เรียนที่ไทยไม่ได้เหรอลูก

บี : ทำไมหละคับป๊า...

ป๊า : ก็จะได้อยู่ดูแลกันไง...จะได้ไม่ต้องไปไกลจากพ่อแม่ด้วย

บี : ผมอยากเรียนเมืองนอกอะครับ....ผมยังไม่เคยไปเรียนเมืองนอกเลย

ป๊า : ภาษาลูกก็ได้แล้วไง...จะไปเมืองนอกทำไมอีกหละ

บี : แหม่ป๊า ได้ภาษากับไปเรียนเมืองนอกมันไม่เหมือนกันซักกะหน่อย

ป๊า : ถ้าป๊าส่งให้เรียนอินเตอร์ในไทย สนไม๊ลูก

บี : ทำไมป๊าอยากให้ผมเรียนในไทยอ่ะ

ป๊า : เปล่าๆ  ๆ...ป๊าอยากจะให้อยู่ใกล้ ๆ กันไง

บี : ป๊าครับ...บีก็อยากจะเรียนต่างประเทศอ่าาาาา

ป๊า : ลูกนี่ก็เหมือนไอ้เขมตอนเด็ก ๆ จริง ๆ เลย

บี : ยังไงเหรอคับป๊า

ป๊า : ไอ้เขมมันไม่ฟังหรอกถ้ามันตัดสินใจอะไรแล้วอ่ะนะ

บี : 55555555 นั่นแหละครับป๊า เหมือนกันจริง ๆ

ป๊า : ยังไงก็กลับมาหาป๊ากับแม่บ้างนะ กลับมาดูแลไอ้เขมมันด้วย

บี : ครับป๊า....(ถ้าทุกอย่างมันยังเหมือนเดิมนะครับ....ผมพูดเบา ๆ)


To be continued…


ป.ล. ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนตาแฉะนะครับ....เรื่องนี้หลัง ๆ มายาวมากกก ตัดตอนไม่ได้เลย ขออภัยจริง ๆ ครับ

ป.ล. เหลืออีกนิดเดียวแล้วนะครับ เรื่องนี้ก็จะจบแล้ว สงสารพี่เขม มากกกกก ไหวไม๊???
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.34 ลูกอมรสแอปเปิ้ล P.5 ( 12-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 13-11-2017 20:15:54
พี่เขมไม่หนักแน่นเลยนะ  สมควรโดนทิ้งแล้ว
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.34 ลูกอมรสแอปเปิ้ล P.5 ( 12-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: PositiveLove ที่ 13-11-2017 21:19:40
ยังคิดว่าบีก็เห็นแก่ตัวอยู่ดี การรักกันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่บียอมยอมจะปล่อย ทิ้งอีกคนให้อยู่ในอดีต
ถ้าบีกลัวอนาคตนักแล้วมาเลือกคบกับเขมไมอ่ะ ถ้ากลัวแล้วจะมารักทำไมแต่แรกอ่า
บีก็แค่loserคนนึงที่ใช้คำพูดสวยหรูให้เหตุผลตัวเองดูดีก็แค่นั้นแหละเด้อ
เอาจริงถ้าเราเจอแบบนี้เราคงสตั้นอ่ะแบบที่ผ่านมาไม่มีความหมาย แล้วยูก็เลือกจะจากไปเพราะเพียงแค่ยูกลัวอนาคต
แบบนี้จะขอฟาดปากสักที แล้วมาทำให้รักทำไมว่ะ 55555555555
อย่างบีควรโสดขึ้นคานไปค่ะ ถ้ายังกลัวความรักกลัวอกหักกลัวพังก็อยู่บนคานเป็นเพื่อนเรา ทีนี้ก็ไม่ต้องสนอะไรล่ะ
แล้วก็เชียร์เขมเจอคนใหม่ค่ะ คนที่จะสู้ไปด้วยกันจริงๆมีไรก็คุยกันไป เอาให้บีอกแตกตายถ้ากลับมาอีก
แต่ก็ไม่แน่บีอาจจะหิ้วฝรั่งมาด้วยก็ได้ค่ะ 555 แฟร์ๆกันไป เอาจริงบีก็มีความตอแหลเช่นกัน ที่บอกมั่นคงๆ
แต่ก็ยอมรับในใจว่าหวั่นไหวกับหมอ บั่บนี้เรียกรักมั่นคงอยู่มั้ยบี คือจะบอกว่าบีก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขมอ่ะ
ก็บอกไปเลยว่าไม่รักกันแล้วยังง่ายกว่าเด้อ เนี้ยจบ เจ็บแต่จบเลยค่ะบี อิจฉาบีอีกอย่างครอบครัวแฟนรักบีมากอ่ะ
รักกว่าลูกตัวเองอีกมั้ง 555 ส่วนเรื่องเขมนี้บั่บเขมซื่อบื่อมากกกกกกกก แต่เขมก็เป็นงี้อ่ะโลวเทคจนได้เรื่องเลยพ่อคุณ
สุดท้าย ขอบคุณไรท์เตอร์นะงับ เป็นนิยายที่อ่านได้เรื่อยๆฟิลอ่านไดอารี่ใครสักคน แต่ไม่ชิลก็ช่วงหลังนี้ล่ะ 5555555
รอตอนจบนะคะเป็นไง แต่ขอแค่ให้พี่เขมมีความสุขค่ะมีคนดูแลคนซื่อๆบื่อๆที 5555555 ส่วนบีก็แล้วแต่เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.34 ลูกอมรสแอปเปิ้ล P.5 ( 12-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 16-11-2017 19:33:19
 :mew2:

ตอนมันซ้ำไหมนะ หรือเรางงเอง
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.34 ลูกอมรสแอปเปิ้ล P.5 ( 12-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 16-11-2017 20:01:30
ตอนที่ 35 ไอ้เด็กโข่ง NC20+

ผมกลับมานั่งจิบเบียร์กับครอบครัวพี่เขมจนถึง 3 ทุ่มกว่า ๆ ป๊ากับแม่ก็ขอตัวไปนอนก่อนละครับ...วันนี้แม่ไม่ดูละครละครับ...บอกว่าไม่ไหวแล้ว ทำไมเหนื่อยอย่างนี้ สงสัยจะเดินทางเยอะไปหน่อย ผมหละรู้สึกผิดจริง ๆ เลยครับที่พาพ่อกับแม่พี่เขมมาลำบากขนาดนี้

ผมเดินลงมาจากห้องป๊ากับแม่แล้วก็มานั่งอยู่ริมสระน้ำครับ มันเป็นคืนข้างแรมครับท้องฟ้าสว่างไสวเต็มไปด้วยดาวระยิบระยับ มันนานมาก ๆ แล้วครับที่ผมไม่ได้เงยหน้ามองฟ้าในตอนกลางคืนแล้วเห็นดาวเยอะขนาดนี้เลย ผมนอนข้าง ๆ พี่เขมแล้วก็พากันดูดาวไปครับ...พี่เขมนอนข้าง ๆ ผมไม่พูดจาอะไรเลยซักอย่าง ผมอยากจะรู้จังเลยครับว่าในหัวของพี่แกเนี่ย คิดอะไรอยู่

บี : พี่...คิดไรอยู่อ่ะ

พี่เขม : คิดถึงวันเก่า ๆ

บี : ทำเป็นคนแก่ไปได้....ทำไมไม่คิดถึงแฟนบ้าง

พี่เขม : พี่คิดถึงแฟนพี่ทุกเวลา ทุกลมหายใจ

บี : ผมก็คิดถึงแฟนตลอดเลยเหมือนกัน...เออพี่...ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง

พี่เขม : อะไรอ่ะ

ผมเล่าเรื่องว่าแม่ผมรู้เรื่องพี่เขมแล้ว...แล้วแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมนี่ทั้งตกใจโล่งใจ ทุกอย่างมันเหมือน ผมไม่มีความลับกับครอบครัวผมอีกต่อไปเลยครับ

พี่เขม : ก็ดีแล้ว ... แล้วแม่ว่าไงเกี่ยวกับพี่บ้างหละ

บี : แม่ไม่ได้พูดถึงพี่เขมนะ...แต่แม่แค่บอกว่า คิดถึงพี่ก็ให้ไปหาพี่ แค่นี้เลย

พี่เขม : แปลว่าพี่ผ่านใช่ป่ะ?

บี : ก็คงงั้นมั้ง....

พี่เขม : เย้ ๆ ๆ เด๋วให้ป๊ากับแม่ไปสู่ขอเลยละกันนะ

บี : ไอ้พี่เขมบ้า....

แล้วความเงียบก็เปลี่ยนมาปกคลุมอีกครั้งนึงครับ....ผมไม่รู้เลยว่าทำไมพี่เขมถึงดูเงียบจัง...ผมละสายตาจากฟ้าสีดำหันเปลี่ยนมามองหน้าคนที่นอนข้าง ๆ ผมแทนครับ ผมเห็นอะไรใส ๆ อยู่บนแก้มของพี่เขม  น้ำตาครับ  ผมไม่รู้เลยครับว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเอื้อมมือออกไปเช็ดน้ำตาที่อยู่บนแก้มพี่เขมออก...พี่เขมจับมือผมไว้แล้วก็จูบมันเบาๆ

พี่เขม : พี่ขอโทษนะ...พี่เก็บอาการไว้ไม่อยู่

บี : พี่เขมเป็นอะไร...ทำไมร้องไห้หละพี่ ผมอยู่ข้าง ๆพี่นะ

พี่เขม : พี่นึกถึงวันที่จะไม่มีบีแล้วพี่ก็อดเสียใจไม่ได้

บี : พี่เขม.....ผมอยู่นี่ไง...ผมคิดถึงพี่นะ ผมมาไกลจากยอดดอยเลยนะ ยังไม่หายคิดถึงอีกเหรอ....ไม่เอานะไม่ร้อง

พี่เขม : ขอบคุณนะ ที่ทำให้พี่มีความสุขมากขนาดนี้....

บี : ผมแค่อยากทำอะไรให้พี่บ้างก่อนผมไป

พี่เขม : บีครับ...บีไม่ต้องทำอะไรเลย...แค่ชีวิตพี่มีบีอยู่ทุกวัน มันก็ดีมากพออยู่แล้ว

บี : ผมขอโทษนะพี่เขม...ที่ผมจะต้องไปเรียนต่อ

พี่เขม : ไม่เป็นไรเลย...พี่ว่าพี่เข้าใจนะ มันเป็นอนาคตของบี

บี : ขอบคุณครับพี่เขมที่เข้าใจ

พี่เขม : แต่มันจะมีพี่อยู่ในนั้นด้วยไม่ได้เหรอ

บี : พี่เขม เราคุยเรื่องนี้กันแล้วนะพี่....

พี่เขม : คับ....พี่ก็แค่....มันเร็วไป...

แล้วน้ำตาพี่เขมก็ไหลออกมาไม่หยุด...ผมสงสารพี่เขมจับใจเลยครับ ผมเองไม่ใช่ว่าไม่รักพี่เขม ผมเองไม่ใช่ว่าไม่อยากมีพี่เขมอยู่ในชีวิต แต่วิธีนี้ ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราแล้ว

บี : เรามาทำเวลาที่เหลือให้มีค่าที่สุดดีกว่าไม๊พี่...อย่างที่พี่เคยบอกผมไว้ไง

พี่เขม : คับ...พี่ขอโทษ

พี่เขมเอี้ยวตัวมาแล้วยกหัวผมขึ้นเพื่อให้นอนอยู่บนแขนของพี่เขม ผมขยับเข้าไปนอนซบบนอกของพี่เขม พี่เขมเอามือลูบหัวผมไว้เบา ๆ

พี่เขม : วันนี้ดาวเต็มฟ้าสวยจังเนอะ...

บี : ครับที่รัก...หากคืนนี้มีดาว...เป็นล้านดวง แต่ใจฉันมีเธอ แค่เพียงเดียว

พี่เขม : สอดประสานสบตา เคียงข้างกัน อยากจะขอจูบดาวใต้เงาดวงจันทร์

เราร้องเพลงดาวของพาราด๊อกซ์ กันอย่างมั่ว ๆ ซั่ว ๆ มันเป็นเพลงบ้างไม่เป็นเพลงบ้างครับ เสียงสูงก็ขาด ๆ เกิน ๆ มันช่างเป็นค่ำคืนที่แสนจะมีค่าเหลือเกิน ไออุ่นจากร่างกายพี่เขมและกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ จากตัวพี่เขม ทำให้ผมไม่อยากจะลุกไปไหนไกลจากตัวพี่เขมเลยครับ...เรานอนดูดาวด้วยกันจนถึงเกือบ 4 ทุ่ม แล้วเราก็กลับเข้ามาในห้องนอนครับ...

พี่เขมขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วผมก็ไปอาบน้ำครับ...ตั้งแต่เช้าผมอาบน้ำไปทีเดียวอยู่เลยครับ...แล้วตอนนี้ 4 ทุ่มกว่า ๆ แล้วร่างกายผมคงจะเหม็นเน่าไปแล้วแน่  ๆ ถึงว่าพี่เขมไม่ค่อยจะอยากกอดผมซักเท่าไหรเลย....55555

ผมเข้าไปอาบน้ำได้ไม่นาน พี่เขมก็เปิดประตูห้องน้ำเข้ามาครับ ตอนนั้นผมกำลังสระผมอยู่ ผมตะโกนออกไป

บี : พี่เขมล้างหน้าแปรงฟันเหรอพี่ ผมเอายาสีฟันขาวมาให้พี่ด้วยนะ เห็นคราวที่แล้วบอกว่าหมดแล้วหาซื้อหลอดเล็กไม่ได้

พี่เขม : อืม....ขอบคุณครับ

บี : ถ้าง่วงก็ไม่ต้องรอผมก็ได้นะ นอนไปก่อนเลย...พรุ่งนี้บินเช้า

พี่เขม : คับบี....

แล้วก็มีมือมาขยี้หัวผมช่วยผมสระผม...ผมตกใจลืมตาแล้วแชมพูก็เข้าตาครับ...

บี : โอ้ย...แชมพูเข้าตาเลยพี่เขมอ่ะ

พี่เขม : ไหน ๆ มาดูหน่อย เอาน้ำล้างเร็ว ๆ

บี : แล้วพี่เขมเข้ามาทำไมเนี่ย เดี๋ยวก็เปียกหรอก

แล้วร่างอันใหญ่ก็เข้ามาประกบตัวผมไว้ครับ ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นและไอร้อนทันที

พี่เขม : พี่อยากอาบด้วยอีกรอบอ่ะ..(พี่เขมกอดผมจากด้านหลังแล้วกระซิบที่ข้างหูผม)

บี : อยากจะอาบหรืออยากจะทำอะไรกันแน่

พี่เขม : ป่าวหนิ...พี่แค่อยากจะอาบน้ำด้วยเฉย ๆ

บี : แน่นะ...งั้นอยู่นิ่ง ๆ เด๋วผมอาบให้

ผมปิดน้ำจากฝักบัวทันทีแล้วผมก็ค่อย ๆ ลูบไล้ตามตัวของพี่เขม ผมเริ่มถูตัวพี่เขมจากด้านหน้าแล้วก็โอบตัวพี่เขมไว้เพื่อให้ถูด้านหลังได้ ตอนนี้เนื้อกายของเราแนบชิดกันอยู่จนทำให้น้องชายของเราแนบสนิทกันเลย...ผมก้มลงไปกัดหูพี่เขมเบา ๆ แล้วก็บอกพี่เขมว่า....คืนนี้ผมขอได้ไม๊ พี่เขมพยักหน้าเป็นการตอบรับ ผมจับพี่เขมหันหลังมาแล้วก็เริ่มถูกหลังให้อีกทีและตอนนี้น้องชายของผมก็ได้ประจำการอยู่ในที่ ๆ พร้อมจะเข้าไปแล้วครับ...ผมจับเอวพี่เขมเอาไว้แล้วค่อย ๆ ดันมันเข้าไป พี่เขมกัดฟันแล้วร้องออกมา...

พี่เขม : อูยยยย...บีครับ...ช้า ๆ หน่อย...นาน ๆ ทำพี่ที เบา ๆ มือหน่อยดิ

ผมไม่ได้ฟังที่พี่เขมพูดเลยครับ ผมจับพี่เขมมากอดเอาไว้แนบชิดกว่าเดิมแล้วไซ้คอพี่เขมไป ....พี่เขมพยายามดันตัวออกจากผมแต่ก็ไม่สำเร็จครับ...ตอนนี้ผมเข้าไปได้หมดแล้ว พี่เขมหายใจถี่มาก ผมเอาค้างไว้เพื่อรอให้พี่เขมปรับสภาพเล็กน้อย แล้วพี่เขมก็เป็นคนเริ่มก่อนครับ พี่เขมเริ่มขยับตัวเอาให้มันเริ่มมีพื้นที่ในการเข้าออกได้ เป็นสัญญาณว่า ผมกำลังจะเริ่มเกมส์รักของผมได้แล้ว ผมจับบ่าพี่เขมเอาไว้แล้วเริ่มโยกอย่างช้า ๆ ครับ พี่เขมซีดปากออกมา... “อูยบีครับ...พี่เสียวจังเลยคับ” ผมทำการเน้นย้ำจุดนี้หลาย ๆ รอบเพื่อให้พี่เขมผ่อนคลายความเจ็บปวดลง แล้วผมก็เริ่มเร่งเครื่อง เสียงกระทบกันของเราดังสะนั่นไปทั่วห้องน้ำ ผมพาพี่เขมออกจากห้องน้ำแล้วจับพี่เขมขึ้นไปอยู่ตรงเค้าเตอร์อ่างล้างหน้า ตรงจุดนี้ผมเห็นเงาของตัวเองในกระจกจึงทำให้ความอยากมีมากขึ้นไปอีก  ผมเร่งเครื่องเต็มที่ เพื่อให้พี่เขมถึงจุดสุดยอดได้เร็ว...แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผลจนผมนั้นใกล้จะถึงจุดสุดยอดแล้ว..

บี : พี่เขมครับ...พี่เขมใกล้รึยังครับ...ผมจะไม่ไหวแล้วนะพี่

พี่เขม : บีเสร็จก่อนเลยครับ...เด๋วพี่ค่อยเอาอีกรอบก็ได้

บี : งั้นผมขอเสร็จก่อนนะครับ....โอยยยยพี่เขม...ไม่ไหวแล้วคับพี่...อ่าาาาาาา

ผมชักออกมาพ่นพิษใส่หน้าท้องพี่เขมเต็มที่ แล้วทันใดนั้นพี่เขมก็จับผมหันหลังทันที...ผมตกใจที่ท่าโดนเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน...พี่เขมยัดน้องชายของพี่เขมเข้ามาไม่ให้ผมได้ตั้งตัวเลยครับ...ผมจุกจนแทบจะยืนไม่ได้ ผมบอกพี่เขมไปว่าให้ค่อย ๆ แต่พี่เขมก็ดูเหมือนจะไม่ฟังเลย...ผมพยายามเอาตัวออกจากพี่เขมเพื่อลดความเจ็บปวดพอผมหลุดได้ พี่เขมจับผมอุ้มขึ้นแล้ววางบนเค้าเตอร์อ่างล้างหน้า ท่านี้ทำให้ผมเจ็บน้อยลงครับแล้วพี่เขมก็เข้ามาได้จนสุด....ถึงตอนนี้ผมสู้ตายแล้วครับ....ความเจ็บปวดเริ่มหายไป พี่เขมโยกผมอย่างไม่หยุดยั้ง ผมได้แต่ร้องเพราะความเสียว ร้องขอพี่เขมว่า.... “อย่าหยุด” .....ไม่นานนักผมก็เสร็จอีกรอบโดยที่ไม่ได้แต่น้องชายผมเลย ตอนนี้มันร้อนไปหมดทั้งตัวครับ...พี่เขมดูชอบใจมากที่ผมเสร็จแล้วรอบที่สอง พี่แกเลยเร่งเครื่องตามผมให้ทันแล้วไม่นานพี่เขมก็ร้องออกมา

พี่เขม : บีครับ...ไม่ไหวแล้วครับ...พี่ไม่ไหวแล้วจริง ๆ อูยยย พี่รักบีมากนะครับ

แล้วพี่เขมก็พ่นพิษเข้ามาในตัวผม....เราพากันล้างตัวแล้วก็พบว่าตอนนี้เวลาเที่ยงคืนกว่าไปแล้ว ผมก็ยังอาบน้ำไม่เสร็จ พี่เขมก็ยังไม่ได้แปรงฟัน 5555 แล้ววันพรุ่งนี้พี่เขมต้องตื่น 6 โมงเช้าเพื่อไปบิน พี่เขมจะไหวไม๊เนี่ย...ผมคิดในใจ

ผมนอนอยู่ในอ้อมแขนของพี่เขมทั้งคืนเลยครับ...พี่เขมเอามือมาลูบตัวผมอยู่ตลอดเวลา เหมือนเป็นการกล่อมผมให้นอน....ผมหลับไปในเวลาไม่ถึง 5 นาทีเมื่อหัวของผมอยู่บนอกของพี่เขม

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นตอน ตี 5 ผมลืมตาขึ้นไม่เห็นพี่เขมอยู่บนเตียงแล้วครับ ผมเดินไปหาพี่เขมที่ห้องน้ำก็ไม่มีคนอยู่ ออกไปดูที่ระเบียบก็ไม่มีคนอยู่ ผมจึงเดินออกไปนอกห้องเพื่อไปดูว่าพี่เขมอยู่ที่ไหน ผมเจอแม่พี่เขมกำลังเดินลงมาพอดีเลยครับ

บี : คุณแม่...เห็นพี่เขมไม๊ครับ...นาฬิกาปลุกแล้วพี่เขมไม่อยู่ในห้องคับ

แม่พี่เขม : พี่เขมอยู่ห้องแม่หนะ... แม่กำลังลงมาเอาของให้พี่เขมอ่ะลูก

บี : งั้นเด๋วผมช่วยนะครับคุณแม่

แม่พี่เขม : ไม่เป็นไรลูก ลูกบีไปนอนต่อเถอะนะ

บี : ผมช่วยดีกว่าครับ...มันหนัก เด๋วคุณแม่ปวดแขน

แม่พี่เขม : อย่าเลยลูก...เด๋วแม่ไปเองดีกว่า

บี : แม่ครับ...พี่เขมเป็นอะไรรึเปล่า

แม่พี่เขมถอนหายใจ.....แล้วก็พูดว่า “บีลูก...พี่เขมมานอนร้องไห้ที่ห้องแม่ทั้งคืนเลยลูก...แม่ถามอะไรก็ไม่พูด...”

บี : ผมขอไปคุยกับพี่เขมหน่อยได้ไม๊ครับแม่ นะคับ

แม่พี่เขม : ทะเลาะกันเหรอลูก....หรือว่าเกิดอะไรกันขึ้น

บี : เปล่านะครับคุณแม่ เด๋วผมขอเข้าไปคุยกับพี่เขมก่อนนะครับ

แม่พี่เขม : คุยกันดี ๆ นะลูก ป๊าก็ลงไปอยู่ด้านล่างละ ป๊าบอกว่าเห็นเขมอย่างงี้แล้วป๊าทำอะไรไม่ถูกเลย

บี : ขอบคุณครับแม่

ผมรีบเดินไปที่ห้องที่พี่เขมอยู่ ผมเปิดประตูเข้าไปผมเจอพี่เขมนั่งกอดเข่าหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง พี่เขมไม่ได้หันมาดูผมเลยครับ อาจจะยังเหม่อลอยอยู่ ผมเดินเข้าไปช้า ๆ นั่งลงด้านหลังแล้วกอดพี่เขมเอาไว้ พี่เขมรีบเอามือเช็ดน้ำตาออกให้หมดแล้วหันหน้าหนีผมไป

บี : พี่เขมครับ...เป็นอะไรอ่ะพี่...บอกผมได้ไม๊

พี่เขม : พี่ไม่เป็นไรครับบี...พี่แค่ยังทำใจไม่ได้เท่านั้นเอง

บี : พี่เขม...ไหนเราสัญญากันว่าจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดไง

พี่เขม : ถ้าพี่ทำไม่ได้หละบี....

บี : พี่เขมครับ...ผมเคยบอกพี่เขมไม๊ว่าทำไมผมถึงรักพี่

พี่เขม : นิ่งไปซักพัก

บี : เพราะพี่เขมเป็นพี่เขมไง...ผมรู้สึกผมเป็นตัวเองทุกครั้งที่อยู่กับพี่ ผมรักพี่ที่พี่เป็นพี่ ไม่ได้รักพี่เพราะอะไรอย่างอื่นภายนอกเลย ผมมีความสุขทุกครั้งที่ผมได้ทำให้พี่ยิ้มได้ และผมก็มีความสุขทุกครั้งที่เราได้ใช้ชีวิตร่วมกัน พี่เป็นคนที่ผมอยากอยู่ด้วยตลอดเวลา ไม่ว่าจะกินจะนอน ผมก็อยากมีพี่อยู่ข้าง ๆ แต่ตอนนี้ มันยังไม่ถึงเวลาครับพี่ ผมต้องออกไปทำตามฝันที่ผมต้องการไว้ก่อน แล้วถ้าวันนึงผมกลับมา หัวใจของผมก็จะยังเป็นของพี่เสมอ ถ้าพี่ยังต้องการผมอยู่

พี่เขมไม่ตอบอะไรผมครับ พี่เขมหันมากอดผมเอาไว้แน่น...

พี่เขม : พี่ขอโทษนะที่พี่งี่เง่าไปหน่อย...แต่มันทนไม่ได้ที่จะเห็นคนรักพี่จากไปไกล

บี : ผมยังไม่ได้ไปไหนซักหน่อย...ทำไมพี่ต้องไล่ให้ผมไปแล้วด้วยอ่ะ

พี่เขม : พี่จะไม่งี่เง่าอีกแล้วคับ...

ผมเอามือผมปาดน้ำตาให้กับพี่เขมแล้วจูบพี่เขมเบา ๆ แม่กับป๊าก็เปิดประตูห้องเข้ามาพอดี....พี่เขมกอดผมไว้แน่นไม่ยอมปล่อยผมไปไหนเลยครับ

ป๊าพี่เขม : เคลียกันรึยังลูก...มีอะไรก็ต้องคุยกันนะ อย่าหันหน้าหนีกัน

พี่เขม : ป๊า เขมผิดเอง...เขมยังไม่เข้มแข็งพอ

แม่พี่เขม : ทำอะไรก็อย่าให้แม่กับป๊าเป็นห่วงมากนะลูก

บี : ผมขอโทษครับ แม่กับป๊า ผมดูแลพี่เขมไม่ดีเองครับ

พี่เขม : ใช่...ไอ้บีดูแลเขมไม่ดีแม่...เขมเลยต้องมานั่งร้องไห้อยู่อย่างงี้ไง

บี : ได้ที...ขี่แพะไล่เนอะ....ไปอาบน้ำได้แล้ว เด๋วก็ลงไปไม่ทันรถรับหรอกพี่เขม

พี่เขม : ตายห่า...รีบแล้ว ๆ ๆป๊าแม่ เขมไปบินก่อนนะ ไม่ต้องเครียดนะ เขมโอเคแล้ว

มีต่อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนพิเศษ 33.34 ลูกอมรสแอปเปิ้ล P.5 ( 12-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 16-11-2017 20:02:52
แล้วผมกับพี่เขมก็รีบวิ่งลงไปที่ห้อง พี่เขมรีบอาบน้ำแต่งตัวไปบินครับ ผมจัดกระเป๋าให้พี่เขมแล้วก็ไม่ลืมที่จะหยิบหมวกนักบินพี่เขมมาเตรียมไว้ให้ด้วยครับ ผมแอบเห็นรูปในหมวกของพี่เขมครับ ในหมวกนั้นโดยปกติที่ผมเห็นจะเป็นรูปที่พี่เขมฝึกบินเดี่ยวครั้งแรกครับ เป็นรูปน่าจะเกือบ 10 ปีก่อนแล้ว แต่ตอนนี้รูปได้ถูกเปลี่ยนไปแล้ว มันเป็นรูปที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ในรูปประกอบไปด้วยป๊า แม่ พี่เขม แล้วก็ผม ใส่ชุดยูกาตะแล้วถ่ายรูปด้วยกัน ผมแอบดึงรูปนั้นออกมาแล้วเขียนกะว่าจะเขียนข้อความไว้ด้านหลังรูปซะหน่อย แต่ผมก็เห็นข้อความที่เขียนว่า “Family trip with my Boo” แค่ผมเห็นข้อความนี้ผมก็แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวแล้วครับ... ผมรีบจับรูปยัดใส่ที่เดิม แล้วเร่งพี่เขม

บี : พี่เขม อีก 15 นาทีแล้วนะพี่ ออกจากห้องน้ำได้แล้ว

พี่เขม : อย่าเร่งดิ...นี่ก็รีบที่สุดแล้วเนี่ย

พี่เขมวิ่งออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพลูกหมาตกน้ำมากครับ...น้ำเต็มตัวไปหมด ผมเลยเอาผ้าขนหนูมาเช็ดหัวให้พี่เขมก็เช็ดตัวไปเรื่อย ๆ พอเช็ดตัวเสร็จผมจับพี่เขมนั่งลงแล้วเป่าผมให้ พี่เขมก็บ่นออกมา

พี่เขม : บีครับ...จะไม่ทันก็ตอนนี้แหละ

บี : ก็ผมไม่แห้งเด๋วไม่สบายอ่ะ อ่า ๆ เสร็จแล้วขอทาครีมหน่อย

พี่เขม : ยังจะทาอีกกกกกกก

บี : ซื้อมาให้เนี่ยเคยใช้เองบ้างไม๊ ถ้าผมไม่ทาให้มันก็คงจะหมดอายุคากระเป๋าเลยใช่มะเนี่ย....โดนแดดก็แรงกว่าชาวบ้านแล้ว ทาหน่อยนะ คนซื้อจะได้ดีใจ

พี่เขม : ค๊าบบบบ...เสร็จยังเนี่ย

บี : อ่าแต่งตัวได้

พี่เขมรีบแต่งตัวอย่างเร็ว ดีนะครับที่นักบินไม่ต้องทำผม แค่ใส่ทุกอย่างให้ครบก็พอ หลังจากแต่งตัวเสร็จพี่แกก็ติดเกียร์หมาวิ่งลงไปทันทีเลยครับ เรื่องเวลาสำหรับอาชีพทำงานบนฟ้าอย่างผมกับพี่เขมเนี่ยถือเป็นสิ่งสำคัญมากเลยครับ การตรงต่อเวลาของพวกเราเนี่ยแทบจะนับกันเป็นนาทีเลยนะครับ บ่อยครั้งที่ลูกเรือและนักบินจะนัดกันเวลารถออก จะใช้คำว่า ล้อหมุนครับ คือถ้านัดกันจะนัดกันอย่างเช่นว่า เด๋วล้อหมุน 07:35 นะ นาที 35 ล้อหมุนใครไม่มา ไม่รอ เป็นต้นครับ มันเลยทำให้อาชีพของพวกเราเคร่งครัดเรื่องเวลาเป็นที่สุดครับ

พอพี่เขมออกจากห้องไปผมก็เก็บข้าวของทุกอย่างแล้วก็ไปหาป๊ากับแม่ที่ห้องครับ ป๊ายิ่งคำถามแรกเลยครับเมื่อเห็นหน้าผม

ป๊า : เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนเหรอลูก เล่าให้ป๊าฟังได้ไม๊

แม่ : นั่นสิลูก...ทะเลาะกันเหรอลูก

บี : ป่าวหรอกคับแม่ ป๊า พี่เขมงอแงนิดหน่อยอ่ะครับ ไม่อยากให้ผมไปเรียนต่อ

ป๊า : ไอ้เขมเนี่ยนะ...มันมานั่งร้องไห้เพราะบีไปเรียนต่อ

แม่ : ดูไม่ใช่เขมเลยนะป๊า

ป๊า : มันทำอย่างกับจะต้องเลิกกันงั้นแหละ

ผมไม่ได้ตอบอะไรป๊ากับแม่ไปครับ...ผมกลัวว่าเรื่องจะไปกันใหญ่ พี่เขมก็น่าจะยังไม่ได้บอกป๊ากับแม่ว่าผมจะเลิกกับพี่เขม ถ้าผมไปเรียนต่อ ป๊ากับแม่คงจะต้องเกลียดผมเป็นแน่ถ้ารู้ว่าผมไปหักอกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเค้า

ในช่วงเช้าผมพาป๊าและแม่ไปจิบกาแฟแล้วก็กินติ่มซำเป็นอาหารเช้าครับ แล้วเราก็พากันกลับกทม. ในตอนสาย ๆ พอถึงสนามบินป๊ากับแม่ก็ขับรถมาส่งผมที่คอนโดครับ แล้วป๊ากับแม่ก็กลับบ้านไป ผมกลับเข้ามาในคอนโดแล้วก็พบกับความว่างเปล่า ผมรู้สึกใจหายทุกครั้งที่กลับมาที่ห้องผมแล้วห้องโล่งจนผิดหูผิดตา ผมนั่งลงบนโซฟาแล้วก็มองสำรวจห้องผมไปรอบ ๆ ในหัวผมคิดแค่สองเรื่องครับตอนนี้ คือเรื่องพี่เขมและเรื่องของคอนโด ส่วนเรื่องอนาคตของการที่จะไปออสเตเรียในอีกไม่กี่สัปดาห์นั้น ผมปล่อยให้มันเป็นไปตามยถากรรมครับ ผมนึกขึ้นได้ว่าอีกไม่กี่วันก็จะวาเลนไทน์แล้ว ผมยังไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรให้กับพี่เขมเลยครับ ผมจึงจะออกไปห้างเพื่อหาซื้ออะไรให้กับพี่เขมในวันสำคัญนี้ซักหน่อย แต่ก่อนที่ผมจะออกห้องไปนั้นโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นครับ พี่เก่งโทรหาผม

พี่เก่ง : ไอ้หนูน้อย พี่เก่งนะ ทำไรอยู่เมิง

บี : สวัสดีครับพี่เก่ง ผมเพิ่งกลับมาจากภูเก็ตครับพี่

พี่เก่ง : วันที่ 14 นี้ไปเดทกับไอ้เขมที่ไหนป่าว ร้านที่พี่เล่นอยู่เค้ามีปาตี้ มาป่าว ๆ

บี : แหนะ...ขาดมือกลองสินะเลยอยากให้ผมพาพี่เขมไปด้วยอ่ะ

พี่เก่ง : ทำมาเป็นรู้ทัน....เออกรูยอมรับก็ได้

บี : แล้วทำไมรับงานวันวาเลนไทน์อ่ะพี่

พี่เก่ง : ก็กรูโสดนี่หว่า...

บี : แล้วเพื่อน ๆ พี่ไม่ว่ากันเหรอ ไอ้พี่เขมโวยวายแน่ถ้าต้องไปเล่นดนตรีวันนี้อ่ะ

พี่เก่ง : ก็นี่ไงกรูเลยต้องใช้แผนนี้

บี : แล้วคนอื่นหละพี่ยอมไปเหรอ

พี่เก่ง : กรูก็ให้มันพาแฟนมากินข้าวที่ร้านไง แล้วก็ให้มันเล่นเพลงให้แฟนมันฟัง โรแมนติกจะตายเห็นมะ...กรูช่วยคิดเซอร์ไพรส์แฟนให้พวกมัน

บี : เฮ้ยพี่...พี่ช่วยผมเซอร์ไพรส์พี่เขมหน่อยดิ

พี่เก่ง : อยากได้ยังไงไอ้หนูน้อย เด๋วพี่จัดให้

บี : ผมร้องเพลงคงจะพังมาก อ่ะพี่ ทำไรดีหละ

พี่เก่ง : แล้วเมิงทำไรได้บ้างหละ ฟ้อนชาวเหนือไม๊

บี : ไอ้พี่เก่งบ้า...จะฟ้อนได้ไงฟระ

พี่เก่ง : อ่าวก็เห็นอยู่เชียงใหม่ ก็ต้องฟ้อนได้ดิ

บี : เอาดี ๆ ดิพี่ ช่วยผมคิดหน่อย

พี่เก่ง : งั้นไปคุยกะไอ้มิ่ง ให้มันช่วยสอนร้องเพลงหรือคุมเสียงให้ไม๊หละ จะทันไม๊เนี่ย

บี : พี่เก่ง มันจะล่มป่าวฟระ...ให้ผมไปร้องเพลงเนี่ย

พี่เก่ง : แล้วคิดอะไรมากกว่านี้ออกไม๊หละ

บี : หึ...คิดไม่ออกเลยพี่

พี่เก่ง : มีเบอร์ไอ้มิ่งไม๊

บี : ไม่มีครับพี่ขอหน่อย ๆ

พี่เก่ง : เด๋วส่งให้ทางไลน์ละกัน แล้วก็รีบไปฝึกซะหละ แล้วรู้รึยังอยากได้เพลงอะไร

บี : ผมมีในใจอยู่แล้วครับพี่

พี่เก่ง : ไอ้หนูน้อย...เมิงนี่มันร้ายเหมือนกันนะเนี่ย

บี : แหม่...พี่เก่ง ทำให้พี่เขมทั้งที ผมก็อยากให้พี่เขมเซอร์ไพรส์หนิคับ

พี่เก่ง : เมิง 2 คนเนี่ย รักกันขนาดนี้ แล้วเมิงยังจะไปเรียนต่อไกล ๆ อีกเหรอฟระ

บี : ผมต้องทำครับพี่เก่ง

พี่เก่ง : เมิงนี่มัน...มีความคิดไม่เหมือนชาวบ้านเลยจริง ๆ นะ ไม่เคยจะมีใครเดาถูกเลย...ถึงว่าไอ้เขมมันถึงได้หลงเมิงนัก

บี : แหม่พี่...ไม่ใช่แค่พี่เขมนะ...พี่ก็หลงผมแล้วด้วยใช่ป่ะ....(ผมกวนตีนไอ้พี่เก่งบ้าง)

พี่เก่ง : ให้มันน้อย ๆ หน่อย กรูชอบผู้หญิงมีนมเว้ย...

บี : เออผมรู้หน่า....พี่เก่ง...ยังไงผมก็รักพี่เหมือนพี่จริง ๆของผมเลยนะ ถ้าพี่มีอะไรไม่สบายใจ คุยกับผมได้ทุกเรื่องเลยนะพี่

พี่เก่ง : อย่ามาอ่อยกรูซะให้ยาก...

บี : เฮ้ย..ผมพูดจริงจังเว้ย

พี่เก่ง : เออ....กรูรู้แล้วหน่า จะให้กรูคุยกะเมิงได้ไงอีกหละ เมิงจะไปเรียนต่อแล้ว

บี : ที่ออสเตเรียมีโทรศัพท์เหมือนที่ไทยนะพี่ รู้ยัง

พี่เก่ง : ไอ้สัสนี่....กรูรู้แล้ว กวนตีนนักนะเมิง เด๋วไม่ช่วยเลยหนิ

บี : ขอโทษค๊าบบบบบบบบบ

พอวางสายจากพี่เก่ง ผมก็รีบเปิดไลน์เพื่อเอาเบอร์โทรศัพท์โทรหาพี่มิ่งทันที ผมเนี่ยไม่ได้สนิทอะไรมากมายกับพี่มิ่งเลยครับ แค่เคยไปกินเหล้าเม้ามอยด้วยกัน 2-3 ครั้งแค่นั้นเอง ผมก็แอบเกรงใจอยู่หน่อย ๆ แต่ตอนนี้ ไม่ได้ละครับ ต้องทำให้ได้แล้วครับ  ผมโทรไปคุยกับพี่มิ่งเรื่องเพลงที่ผมอยากจะร้องให้พี่เขมในวาเลนไทน์ ซึ่งพี่มิ่งก็เห็นด้วยครับกับเรื่องเพลงนี้ พี่ ๆ ปรับโน๊ตต่าง ๆ ให้ผมได้ร้องเพลงง่ายขึ้น พูดง่าย ๆ ว่าน่าจะปรับลงอย่างน้อย ๆ 1 อ็อกเทฟครับ ผมไปฝึกที่ร้านที่พี่ ๆ เค้าชอบไปฝึกดนตรีกันครับ มีพี่มิ่งกับพี่เก่งมาช่วย เราไปฝึกกันตอนหลังจากที่พี่ ๆ เค้าเลิกงานครับ ผมกับพี่ ๆ เค้าฝึกจนค่ำแล้วผมก็ขอตัวกลับเพื่อไปอ้อนพี่เขมต่อ เด๋วจะว่าผมหายไป

พอฝึกเสร็จผมก็รีบโทรหาพี่เขมทันทีเลยครับ แล้วพี่แกก็ไม่รับโทรศัพท์ ผมเปิดดูในไลน์ก็ไม่มีการติดต่อใด ๆ จากพี่เขมครับ...มันเลยทำให้ผมเริ่มจะกังวลใจแล้วครับ พี่แกไปบินตั้งแต่เช้า น่าจะแลนมาบ่าย ๆ แล้วแต่ตอนนี้มัน 2 ทุ่มกว่า ๆ แล้วทำไมไม่มีการติดต่อจากพี่เขมเลย แล้วทันใดนั้นแม่พี่เขมก็โทรมาครับ

แม่พี่เขม : บีก๋าลูก...

บี : ครับแม่...สวัสดีครับ

แม่พี่เขม : อันนนนน.....อ้ายเขมบะสบายอ่ะลูก แม่ว่าจะปาอ้ายเขมไปโรงพยาบาลเหี่ยน้อย แม่เลยโทรมาบอกลูกบีก่อน(เออออ...พี่เขมไม่สบายอ่ะลูก...แม่ว่าจะพาพี่เขมไปโรงพยาบาลหน่อย...แม่เลยโทรมาบอกลูกบีก่อน)

บี : แล้วมะเด่วนี้อยู่ไหนกั๋นคับ(แล้วตอนนี้แม่อยู่ไหนกันครับ)

แม่พี่เขม : มีบ้านกั๋นเนี่ยกะ ป๊าออกไปตางนอกยังบ่ปิ๊กมาเลยลูก (อยู่บ้านเนี่ยแหละ ป๊าออกไปข้างนอกยังไม่กลับมาเลยลูก)

บี : อั้นฮื้อผมไปส่งอ้ายเขมบ๋อคับ ผมอยู่บะไกล๋จากบ้านแม่นักคับ (งั้นให้ผมไปส่งพี่เขมไม๊ครับ ผมอยู่ไม่ไกลจากบ้านแม่ครับ)

แม่พี่เขม : อั้นซั่มดีกะลูก...ค่ำละแม่ต๋าบะก่อยดีหันบะก่อยถี่ (ยิ่งดีสิลูก..ค่ำแล้วแม่ตาไม่ค่อยจะดี มองไม่ค่อยจะเห็นทาง)

บี : ได้คับแม่ เด่วผมฟั่งไปนะคับ (ได้ครับแม่ เดี๋ยวผมรีบไปครับ)

ผมรีบขับรถไปที่บ้านพี่เขมทันที...คงจะเพราะเมื่อคืนพี่แกดราม่าหนักไปหน่อยแล้วก็ไม่ค่อยได้นอนแล้วไปบินอีก เจออากาศร้อน ๆ เย็น ๆ แล้วเมื่อคืนก็ไปนอนดูดาวตากน้ำค้างอีก สงสัยพี่เขมคงจะเหนื่อยทั้งกายและเหนื่อยทั้งใจแหละครับ...ผมนี่สงสารแฟนผมจับใจ พอผมขับรถไปถึงบ้าน ผมก็พาพี่เขมขึ้นรถไปในทันที ตัวพี่เขมร้อนหน่อย ๆ ครับ น่าจะมีไข้ ผมถามแม่ว่าพี่เขมกินยาไปบ้างรึยัง แม่บอกว่ากินพาราไปแล้วแต่ก็นอนอย่างเดียวตั้งแต่กลับมาจากไปบิน

พอมาถึงโรงพยาบาล ก็พบหมอตามปกติครับ แต่วันนี้โชคดีไม่เจอหมอคิตแล้ว น่าจะออกเวรไปแล้วครับ หมอสอบถามอาการจากพี่เขมแล้วก็กำลังจะจ่ายยาครับ แต่พี่เขมขัดเอาไว้ก่อน

พี่เขม : หมอครับ ผมไม่อยากกินยาอ่ะครับ

หมอ : อ่าวไม่กินแล้วจะหายได้ไงหละคุณคนไข้

พี่เขม : ฉีดยาได้ไม๊ครับหมอผมอยากหายเร็ว ๆ

บี : เฮ้ย...พี่เขม เอาจริงดิ ไหนบอกกลัวเข็มไง

หมอ : ฉีดก็ได้นะครับ ถ้าฉีดวันพรุ่งนี้ก็วิ่งได้เลย

พี่เขม : งั้นผมขอฉีดยานะครับหมอ ผมกลัวไปฉลองวาเลนไทน์กับแฟนไม่ได้ (แล้วพี่เขมก็ยื่นมือมากุมมือผมไว้)

ผมนี่อายม้วนหน้าหนีหมอทันทีเลยครับ ไอ้คนป่วยที่จับมือผมเนี่ยทำหน้าตายใส่หมอมาก หมอทำหน้าตกใจนิดหน่อยแล้วก็ขำออกมา

หมอ : เออ...อีก 2 วันก็วาเลนไทน์แล้วหนิเนอะ

พี่เขม : นะครับหมอ...ผมขอฉีดเถอะ

หมอ : งั้นก็ตามใจครับ แต่ถ้าอีก 2 วันไม่ดีขึ้นต้องกลับมาให้หมอตรวจใหม่นะครับ

พี่เขม : ไม่มีปัญหาครับหมอ

แล้วหมอก็จัดแจงเรียกพยาบาลมาฉีดยาให้พี่เขมครับ

พยาบาล : เออ...ญาติคนไข้รอข้างนอกก็ได้นะคะ เด๋วจะฉีดยาให้กับคนไข้แล้วค่ะ

พี่เขม : แฟนผมครับคุณพยาบาล...ขอให้แฟนผมอยู่ด้วยได้ไม๊

พยาบาล : เด๋วฉีดที่ก้นนะคะ

พี่เขม : ไม่เป็นไรครับ...ผมขอแค่แฟนผมอยู่ใกล้ ๆ ก็พอ ผมกลัวเข็มอะครับ

บี : นะคับคุณพยาบาล...

พยาบาล : ค่ะ ๆ ก็ได้ค่ะ

พี่เขมนอนคว่ำลงแล้วก็ปลดกางเกงลงไปเพื่อจะให้พยาบาลฉีดได้ พี่เขมดึงมือผมไว้แล้วก็ส่งสายตาเหมือนจะขึ้นแท่นโดนเชือด

พี่เขม : พี่ขอกัดหน่อยนะ...

ผมพยักหน้าเป็นการตอบรับ พี่เขมกัดมือผมเบา ๆ เหมือนกับครั้งที่แล้วที่โดนฉีดยาตอนพี่เขมเจ็บหลัง แล้วพยาบาลก็ให้นอนพักในห้องนั้นก่อน 15 นาทีเพื่อดูอาการว่ามีอาการแพ้หรือผลข้างเคียงใด ๆ รึเปล่า ระหว่างที่เรารอนั้นพี่เขมก็ถามผมขึ้นมา

พี่เขม : บีครับไปไหนมา พี่แลนตั้งนานแล้วไม่เห็นโทรหาพี่เลย

บี : ไปทำธุระเรื่องคอนโดนิดหน่อยอ่ะพี่ แล้วก็กินข้าว

พี่เขม : หนิดูดิ...ถ้าไปเรียนต่อแล้วใครจะดูแลพี่ได้ดีอย่างนี้อีกเนี่ย

บี : แหม่ๆ ๆ อ้อนจังนะเรา

พี่เขม : ใครจะยอมให้พี่กัดตอนพี่ฉีดยาเนี่ย

บี : แล้วทำไมวันนี้ถึงยอมฉีดยาได้หละ

พี่เขม : ก็ถ้าฉีดยาแล้วจะได้หายเร็ว ๆ หาเรื่องซิกวันพรุ่งนี้ด้วยไง

บี : เหย....ทุ่มทุนขนาดนั้นเลย

พี่เขม : บีครับ วันวาเลนไทน์ อยากไปไหนรึป่าว

บี : ไปกินข้าวร้านที่พี่เล่นดนตรีประจำกันไม๊พี่ พี่เก่งชวนมา

พี่เขม : ไม่อยากอยู่ด้วยกัน 2 คนเหรอ

บี : แหม่ ๆ ๆพี่เขม เราก็อยู่ด้วยกันทุกวันไง มะวานผมก็ไปหาพี่ที่ภูเก็ตละนะ

พี่เขม : น่ารักอ่ะ...พี่ดีใจสุด ๆ ไปเลยนะรู้ไม๊ ป๊ากับแม่ถึงจะเหนื่อยแต่ป๊าก็บอกว่าสนุกดีนะ แม่ก็บอกว่าชอบ

บี : เออ...พาป๊ากับแม่ไปยากลำบากกลัวโดนด่าจริง ๆ เลยพี่

พี่เขม : ไม่หรอก...ป๊ากับแม่ชอบเที่ยวจะตาย

บี : งั้นไปร้านนั้นกันนะพี่

พี่เขม : ก็ได้ครับที่รัก...ว่าแต่...ไอ้เก่งต้องใช้พี่ไปเล่นดนตรีแน่เลย

บี : จะรอดเหรอ

พี่เขม : แต่พี่ป่วยอยู่นะ...เล่นดนตรีไม่ได้

บี : ไปเคลียกันเอง...เรื่องนี้ บี จะ ไม่ ยุ่ง

แล้วผมก็พาพี่เขมกลับบ้านครับ แม่กับป๊าดูโล่งใจมากเพราะพี่เขมกลับมาบ้านแล้ว กระปี้กระเป่ามาก...มีความดีดอยู่สูง เหมือนพี่แกจะได้นอนตอนบ่าย ๆ มาเยอะ กว่าเราจะกลับมาถึงบ้านก็ 4 ทุ่มกว่า ๆ แล้วครับ พี่เขมก็บ่นว่าหิวข้าว วันนี้ผมไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามานอนกับพี่เขมซะด้วยสิครับ ป๊ากับแม่ก็กำลังจะขึ้นไปนอนแล้ว พี่เขมก็เลยชวนผมให้ไปนอนที่คอนโดพี่เขมแทน ป๊ากับแม่ก็ไม่ว่าอะไรครับ ระหว่างทางผมก็ถาม

บี : พี่อยากกินอะไร

พี่เขม : อะไรก็ได้ที่บีทำ

บี : โหย มันดึกแล้วนะเนี่ย หาอะไรกินง่าย ๆ แถวคอนโดเอาไม๊พี่

พี่เขม : ไม่เอา...พี่อยากกินที่บีทำ

บี : ที่ห้องก็ไม่น่าจะมีอะไร แล้วไปซื้อตอนนี้ตลาดไหนจะมีของสดขายเนี่ย

พี่เขม : พี่ป่วยอยู่นะ แฟนก็ต้องตามใจดิ

บี : อ่าๆ ๆ ๆ แล้วไปหาของสดได้ที่ไหนเนี่ย

พี่เขม : ก่อนถึงทองหล่อมี foodland อ่ะ ที่นั่นได้มะ

บี : ก็ได้แต่ของแม่งแพงง่ะ

พี่เขม : นะนะนะนะ ตามใจพี่หน่อย

บี : อ่าๆ ๆ แล้วอยากกินไรหละคับ ผมจะได้ลงไปซื้อของถูก

พี่เขม : เห็นตอนเช้าพาป๊ากะแม่ไปกินติ่มซำเหรอ

บี : อย่าบอกนะว่าอยากกินบ้างอ่ะ

พี่เขม : บีทำเป็นไม๊อ่า...พี่อยากกิน

บี : ไปกินโชคดีติ่มซำแทนไม๊

พี่เขม : ไม่เอาาาาาาา...บีทำเป็นไม๊

บี : เอาหน้าเดียวละกันนะจะได้ซื้อของไม่เยอะ...เอาไรปู หรือกุ้ง

พี่เขม : ขอกินขนมจีบกุ้งแน่น ๆ เลยนะ ขอบคุณคับที่รัก

บี : อ่าๆๆ  รอหน่อยละกันมันไม่ได้ทำแป๊ปเดียวเสร็จนะ

พี่เขม : นานเท่าไหรพี่ก็จะรอ....ต่อให้หิวตายก็ยอม

บี : งั้นพี่รอในรถนี่แหละเด๋วผมลงไปซื้อของแป๊ปนึงเด๋วมา...อยากกินไรไม๊ตอนเช้าจะได้ซื้อทีเดียวเลย

พี่เขม : อะไรก็ได้แล้ว กินขนมจีบตอนเช้าอีกก็ได้นะ พี่ชอบกิน

บี : เออดี...จะได้ทำทีเดียวเด๋วตอนเช้าต้มโจ๊กให้กินอีกอย่างก็พอละเนอะ

พี่เขม : เย้ ๆ แฟนน่ารักที่สุดเลย

บี : อ้อนเป็นเด็กเลยนะ...ไอ้เด็กโข่ง

ผมลงไปซื้อข้าวของเตรียมให้พี่เขมครับ โหย ๆ ๆ ของแพงกว่าตลาดเยอะเลยครับ ผมนี่ลมแทบจับคือถ้าไปกินขนมจีบน่าจะเข่งละไม่เกิน 30 บาท แต่นี่แม่งมันต้องซื้อทุกอย่างทำใหม่หมดเลยเพราะผมก็ไม่รู้ว่าห้องพี่เขมมีไอ้ที่ผมต้องการด้วยรึป่าวผมเลยต้องซื้อทุกอย่างให้ครบ มันเลยยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วครับ ผมเลยซื้อมาชุดใหญ่เลย เด๋วพรุ่งนี้ทำให้ไปเผื่อคนอื่น ๆ ด้วยเลย เผื่อป๊าเผื่อแม่ เผื่อเพื่อน ๆ พี่เขม เด๋วใช้พี่เขมนั่งปั้นขนมจีบตอนเช้า ทำเป็นโรงงานนรกแม่งเลย
กว่าจะกลับมาถึงห้องปาเข้าไปก็เกือบ 5 ทุ่มแล้วครับ ผมก็ต้องมาทำไส้ขนมจีบทำน้ำจิ้มสูตรเด็ดของผมอีก ผมรีบทำที่สุดเท่าที่จะทำได้กว่าจะเสร็จก็ปาไปจะเที่ยงคืนกว่า ๆ แล้วครับ ส่วนพี่เขมทำอะไรรู้ไม๊ครับ....นางนั่งเล่นเกมมือถือ ตี ROV รอผมครับ ไม่หลับไม่นอน...เล่นเกมสบายใจเฉิบ ปล่อยให้ผมที่ตื่นเช้าพอ ๆ กับมันแล้วก็พาป๊ากับแม่กลับมากทม. ไปซ้อมร้องเพลงแล้วก็ต้องมาทำอาหารตามบัญชาของพี่แกไปอีก ตาผมก็จะปิดแล้วครับ พอทำเสร็จ ผมมีความภาคภูมิใจมาก เพราะผมเริ่มทำทุกอย่างจากวัตถุดิบเลยครับ ไม่มีอะไรซื้อมาแบบสำเร็จซักกะอย่างเดียว นอกซะจากแผ่นเกี๊ยวห่อขนมจีบ ที่เหลือผมทำเองหมดแม้แต่น้ำจิ้ม พอทำเสร็จผมยกไปให้พี่เขมกินด้วยสภาพผมที่พังมาก ๆ แต่หน้าตาของขนมจีบออกมาดีมาก ๆ ครับ ผมหั่นขนมจีบออกแบ่งครึ่งแล้วเป่าให้หายร้อน บรรจงป้อนไอ้เด็กโข่งที่กำลังตี ROV อย่างไม่สนใจแฟนมันเลย แต่พอมันเข้าปากไปเท่านั้นแหละครับ...ไอ้เด็กโข่งวางมือถือทันทีแล้วก็ส่งสายตาเป็นประกาย โอมายคอมบุ(การ์ตูนบอกอายุอีกแล้วครับ) ให้กับผมทันที พี่เขมกินไม่หยุด ชมไม่หยุดปาก ทั้งน้ำจิ้มที่มีพริกและขิงดองลอยอยู่ให้รสชาติที่แปลกไปกว่าน้ำจิ้มขนมจีบอื่น ๆ ครับ

พี่เขม : บี...พี่พูดจริง ๆ นะ ไม่ต้องไปเรียนละเหอะ airline business อ่ะ ทำอาหารขายเหอะ หรือไม่ก็ไปเรียนทำอาหารให้มันจริงจังไปเลย

บี : ไม่ได้หรอกพี่....มันไม่ใช่ความฝันผม

พี่เขม : แต่แม่งอร่อยมากอ่ะ...นี่ทำได้ไงเนี่ย

บี : ความฝันผมคือผมอยากทำให้แฟนกินเท่านั้นครับ ไม่เอาไปขายให้คนอื่นกิน

พี่เขม : หวานก็เป็นนะเนี่ยเรา....ช่วงนี้ดูรักพี่จังเนอะ

บี : ผมก็รักพี่ตลอดแหละ...แต่ช่วงนี้มีคนงอแงหนักไปหน่อยเลยต้องเอาใจมาก ๆ

พี่เขม : เบื่อพี่ไม๊...พี่งี่เง่าไปหน่อย พี่ขอโทษนะ

บี : ผมเต็มใจทำให้พี่ทุกอย่างนะพี่เขม....ไม่มีวันไหนที่ผมอยู่กับพี่แล้วผมไม่มีความสุข....

พี่เขม : อย่าพูดอย่างงี้ดิ...พี่จะร้องไห้อีกแล้วนะ

บี : โอ๋ๆ  ๆ ๆ ๆ ก็ผมอยากจะทำเวลาที่เรามีอยู่ให้มีค่าที่สุดไงครับพี่

พี่เขม : พี่ไม่ได้ทำอะไรให้บีเลยอ่ะ...

บี : แค่พี่อยู่กับผมตอนนี้ก็พอแล้วครับพี่

พี่เขม : จริงง่ะ....อยากให้พี่ตอบแทนเป็นอย่างอื่นแทนรึเปล่า..(พี่เขมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมแล้วก็เริ่มเอื้อมมือมาปลดกระดูมเสื้อผมเม็ดบนสุดออก)

บี : พี่เขมนี่หมอให้ยาผิดป่ะหนิ...ทำไมดีดจัง...(แล้วผมก็ปัดมือพี่เขมออก)

พี่เขม : ไม่รู้ดิ...แต่แบบว่า...เครื่องกำลังจะติดละนะ

บี : พอเลย ๆ ไม่สบาย เด๋วผมติดไปด้วย วันนี้นอนเอาหมอข้างมากั้นไว้เลย ผมเหนื่อยแล้วง่วงแล้วด้วย จะไปอาบน้ำนอนละ

พี่เขม : โหยยยยย...แค่นอนกอดก็ไม่ได้เหรอ

บี : ไม่ได้ ห้ามแตะตัวกัน...เด๋วเชื้อโรคซึมผ่านผิวหนังมาได้

พี่เขม : ทำไมเชื้อโรคสมัยนี้มันเก่งจังฟระ...ซึมผ่านผิวได้ด้วย

แล้วผมก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวนอนครับ...ถึงผมจะเอาหมอนข้างมากั้นไว้แต่คิดเหรอครับว่าพี่เขมจะยอมที่นอนแล้วตัวผมจะไม่ไปอยู่ในอ้อมแขนของพี่เขม ถ้าใครคิดว่าพี่เขมจะยอม แปลว่าคุณรู้จักไอ้พี่เขมน้อยไปครับ คืนนั้นผมก็ต้องยอมให้ไอ้พี่เขมนอนกอดผมไว้แล้วผมก็หลับไปทันทีที่หัวผมอยู่บนแขนพี่เขมครับ พี่เขมลูบหัวผมเบา ๆ แล้วผมรู้สึกตัวอีกทีก็คือเช้าวันต่อมาเลย


To be continued…


ป.ล. ลงตอนผิดครับ ผมผิดเอง ลืมเปลี่ยนตอนที่หัวเรื่อง เลยมาลงตาม ขออภัยทุกท่านจริง  ๆครับ

ป.ล. 2 ขอบพระคุณ คุณ Billie ท่ีเตือนนะครับ ผมทำผิดแล้ว 2 รอบ ด้วยความเร่งรีบและเบลอ ๆ  งง ๆ ของผมเองครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 35 ไอ้เด็กโข่ง NC20+ P.6 ( 16-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 16-11-2017 20:22:24
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 35 ไอ้เด็กโข่ง NC20+ P.6 ( 16-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 16-11-2017 20:50:40
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 35 ไอ้เด็กโข่ง NC20+ P.6 ( 16-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 17-11-2017 00:00:09
หูวววหิวเลยอะ ชอบกินหนมจีบ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 35 ไอ้เด็กโข่ง NC20+ P.6 ( 16-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: love boy ที่ 17-11-2017 12:05:53
ขอจบแบบมีความสุข ไม่เอามาม่านะ แงงง :mew4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 35 ไอ้เด็กโข่ง NC20+ P.6 ( 16-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 17-11-2017 19:46:51
ตอนที่ 36 A book of KEM

ตอนเช้าผมก็ตื่นก่อนพี่เขมครับ...ทำไมช่วงนี้ตัวผมนั้นมีความแม่บ้านสูงจังฟระ ผมตื่นมาทำการล้างถ้วยจานที่เมื่อคืนทำขนมจีบไว้ครับแล้วผมก็ตื่นมาต้มโจ๊กให้พี่เขมกิน และก็นึ่งขนมจีบเพิ่มไปอีกหน่อย แต่เช้านี้ผมทำน้ำผึ้งมะนาวไว้ให้พี่แกจิบหลังจากกินข้าวเสร็จด้วยเพราะดูเหมือนมะวานพี่เขมจะเริ่มเจ็บคอหน่อย ๆ ละครับ พอผมทำทุกอย่างใกล้เสร็จ พี่เขมก็ลอยออกมาจากห้อง ลอยมาตามกลิ่นโจ๊กเลยนั่นแหละครับ มาถึงก็มานั่งรอกินด้วยสายตาเป็นประกาย...ช่วงนี้พี่แกเหมือนจะอ่อนแอเป็นพิเศษ ผมว่าตอนนี้เป็นความสำออยล้วน ๆ แล้วหละครับ แต่ถ้าถามว่าผมรำคาญไม๊ ไม่เลยแม้แต่นิดเดียวครับ ยิ่งเห็นพี่เขมนอนน้ำตาไหลทั้ง ๆ ที่มีผมอยู่ข้าง ๆ ทำเอาหัวใจผมแทบสลายไปทันทีเลย ผมเลยตามใจพี่เขมเป็นพิเศษ แล้วพี่แกก็เหมือนจะรู้ดี ช่วงนี้ก็อ้อนผมจังง่ะ นี่ถ้าไม่ติดว่ายังพูดรู้เรื่องนี่ผมนึกว่าเป็นง่อยไปแล้วนะครับ...(ระบายอารมณ์ด่าแฟนตัวเองให้ชาวบ้านฟัง)

วันนี้เป็นวันที่ 13 กุมภาครับ ก่อนวาเลนไทน์ 1 วัน เราพูดคุยหยอกล้อกันไม่นานไอ้พี่เก่งจอมวางแผนก็โทรหาพี่เขมครับ พี่เขมรับโทรศัพท์ซักพักแล้วก็ออกไปคุยที่ระเบียบ ผมรู้ทันทีว่าไอ้พี่เก่งมันต้องเตรียมแผนอะไรไว้ให้พี่เขมทำซักอย่างแน่นอน ผมเริ่มสงสัยกลัวว่าจะโดนแผนซ้อนแผน ผมเลยกะว่าจะปลีกตัวออกจากพี่เขมก่อนครับวันนี้ ไปเตรียมแผนสำรองเอาไว้ เผื่อแม่งโดนพี่เก่งหักหลัง จะได้มีแผนสำรองเอาไว้กู้หน้า

พอพี่เขมคุยโทรศัพท์เสร็จผมก็ออกตัวล้อฟรีก่อนเลยครับว่าผมจะกลับไปเคลียเรื่องคอนโดหน่อย เด๋วเย็น ๆ จะมาหาพี่เขมใหม่ พี่เขมดูไม่เดือดร้อนเลยครับ ผมว่ามันต้องมีแผนอะไรซักอย่างกันแน่ ๆ ครับ ถ้าไม่งั้นพี่เขมต้องงอแงเป็นแน่ ตอนนี้เวลาประมาณ 9 โมงแล้วครับ ผมทำการเตรียมขนมจีบอันมากมายที่ผมตื่นเช้ามานั่งปั้นตั้งแต่ 7 โมงแล้วก็ทำการนึ่งจนหมดแบ่งใส่กล่องไว้ 4 กล่องครับ

บี : พี่เขม ผมนึ่งขนมจีบไว้ให้ 4 กล่องละนะ เอาไปฝากป๊ากับแม่ด้วย 2 กล่องแล้วอีก 2 กล่องพี่จะเก็บไว้กินเองหรือแบ่งเพื่อนก็แล้วแต่นะครับ ผมจะไปทำเรื่องคอนโดก่อนละนะ

พี่เขม : ได้เลยเด๋วพี่ออกไปพร้อมกับบีเลย เอาไปให้ป๊ากับแม่ก่อน จะได้ร้อน ๆ อยู่

บี : แล้วอีก 2 กล่องหละคับ

พี่เขม : เด๋วพี่เอาไปอวดไอ้พวกไอ้เก่งไอ้มิ่งไอ้โด่ง รับรองมีร้องอ่ะได้กินเข้าไป

บี : แน่นอนดิพี่...ขนมจีบทำด้วยใจนะ

พี่เขม : งั้นไม่ให้ละเด๋วพวกมันจะมาขอแบ่งใจไป

บี : อย่ามาเวอร์ ๆ งั้นเด๋วผมทำธุระเสร็จแล้วผมโทรหาพี่นะ ไม่งอนเนอะ

พี่เขม : ไม่เลย ๆ ไปทำนาน ๆ เลยก็ได้ เด๋วพี่อยู่กับพวกไอ้เก่งเนี่ยแหละ เสร็จเมื่อไหร ก็แวะมาหาพี่นะ

บี : แหม่ ๆ วันนี้มีเพื่อนแล้ว ถีบหัวส่งเนอะ ปกติจะเป็นจะตาย

พี่เขม : รีบไป ๆ ๆ อย่ามาลีลา

บี : ค๊าบบบ ก่อนไปขอกอดหน่อย

พี่เขม : พี่ขอจุ๊บหน่อย

บี : นี่หายป่วยแล้วใช่ไม๊เนี่ย...แต่ดูจากสภาพ น่าจะป่วยแต่ทางจิตอย่างเดียวแล้วนะ

พี่เขมเขกกะบาลผม 1 ที แล้วก็ทำหน้าดุใส่

พี่เขม : ทำไม...ป่วยทางจิตแล้วจะไม่รักรึไง

บี : โอ๋ ๆ ๆรักกัน ๆ แซวหน่อยเดียวทำโกรธไปได้

พี่เขม : ไปเลยรีบไปเลย

ผมเดินออกจากห้องไปหลังจากปล่อยพี่เขมออกจากอ้อมกอดครับ...ผมไปยืนรอหน้าลิฟท์ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงคนวิ่งมา พี่เขมวิ่งมาหาผมครับ ผมก็รีบสำรวจว่าผมลืมอะไรรึป่าว พอพี่เขมวิ่งมาถึงผม พี่เขมก็กอดผมอีก 1 ที

พี่เขม : พี่ขอกอดนานอีกนิดนะ อย่าไปนานหละ พี่คิดถึงแล้ว

บี : แหม่ ๆ ๆมะกี้ยังไล่อยู่เลย

พี่เขม : ก็มะกี้กะตอนนี้ไม่เหมือนกันนี่นา

บี : ผมว่าพี่เป็น ไบโพล่า ละนะพี่เขม

พี่เขม : พี่เป็นก็เพราะใครหละ ลิฟท์มาละ....ฟอดดดดด (พี่เขมหอมแก้มผมฟอดใหญ่สูดแก้มผมแทบจะหายเข้าไปในรูจมูกของพี่แก)


ผมขับรถกลับมาที่คอนโดครับ ทำการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซักหน่อยแล้วผมก็ไปติดต่อเรื่องขายคอนโดผมอีก แต่ว่าระยะนี้ไม่ค่อยมีคนคิดจะซื้อเลยครับ มีแต่คนคิดจะเช่าเท่านั้นเอง ผมก็เลยไปคุยเรื่องเงื่อนไขการเช่าต่าง ๆ มันเป็นเรื่องที่ผมไม่มีความรู้ใด ๆ เลยครับว่าการทำการเช่าคอนโดจะต้องทำอะไรบ้าง เอกสารก็มีมากมาย เพราะผมให้เช่าแบบที่คอนโดผมครบครันมาก แค่หิ้วกระเป๋าก็มาอยู่ได้เลย ทำให้ต้องมีค่าประกันเกี่ยวกับของใช้ต่าง ๆ อีก

พอบ่ายโมงกว่า ๆ ผมก็ไปเดินห้างครับ เผื่อว่าจะเจอของอะไรที่ผมอยากจะซื้อให้พี่เขม ผมเดินวนอยู่ 2 รอบก็คิดไม่ออกว่าอยากจะซื้ออะไรให้พี่เขมดี คือด้วยตัวพี่เขม เป็นนักบิน แล้วที่บ้านก็รวยอยู่แล้วมันเลยทำให้ข้าวของพี่เขมมีค่อนข้างจะครบหมดแล้วครับ ผมก็คิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรให้พี่แกดี ผมเดินมาเรื่อย ๆ จนหยุดอยู่ที่ร้าน B2S ครับผมก็เลยเดินเข้าไปดูซักหน่อยเผื่อว่าจะหาอะไร ๆ ดี ๆ ให้กับพี่แกได้ แล้วผมก็เจอครับ ผมเห็นสมุดไดอารี่เล่มนึง แค่ผมเห็นสมุดเล่มนี้ผมก็นึกถึงพี่เขมทันทีเลยครับ ไม่รู้ว่าทำไม มันเป็นสมุดธรรมดา ๆ อันนึงหน้าปกสีน้ำเงินกรมท่า แถมราคาย่อมเยาว์มากด้วยผมเลยทำการซื้อมาทันที แล้วผมก็คิดอะไรออก ว่าผมจะเอารูปต่าง ๆ ที่ผมเคยถ่ายไว้กับพี่เขม มาใส่ไว้ไดอารี่เล่มนี้ พอผมซื้อเสร็จผมก็ตรงไปร้านอัดรูปต่อเลยครับ คัดเลือกรูปต่าง ๆ มาใส่ไว้ในไดอารี่ของพี่เขม ผมกลับห้องไปทำสิ่งนี้ให้พี่เขมจนเย็น จนผมแทบจะลืมพี่เขมไปเลยครับ...ความแย่ของผมอีกอย่างนึงก็คือเวลาตั้งใจทำอะไรซักอย่างแล้ว ลืมเวลาไปหมดเลยครับ พ่อแม่ผมนี่ชินละครับ ว่าเวลามันตั้งใจทำอะไรซักอย่างในชีวิตนะครับ ผมเหมือนเปิดโหมดโลกส่วนตัวสูงแล้วละทิ้งทุกอย่างแล้วตั้งใจทำมันให้เสร็จทันที

ตอนนี้ 5 โมงเย็นแล้วครับ เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นมา แน่นอนครับว่าพี่เขมเป็นคนโทรหาผม

พี่เขม : ทำไรอยู่อะบี...ไม่สนใจพี่เลยนะวันนี้

บี : ขอโทษครับพี่เขม ผมกำลังอ่านเรื่องสัญญาเช่าห้องอยู่ครับ

พี่เขม : อ่าวไม่ขายแล้วเหรอบี...ก็ไหนบอกว่าจะขายไง

บี : ตอนนี้ไม่ค่อยมีคนซื้ออะครับ พี่เค้าเลยบอกว่าให้ปล่อยเช่าไปก่อนเลย

พี่เขม : ก็ดีจะได้ไม่เป็นภาระมาก

บี : ครับพี่...แล้วพี่เขมอยู่ไหนแล้วเนี่ย

พี่เขม : พี่ซ้อมดนตรีเสร็จแล่ว วันนี้ไอ้พวกนี้โดดงานมาซ้อมดนตรีกันช่วงบ่าย

บี : เหยๆ ๆ จริงจังแค่ไหน แค่ไหนเรียกจริงจัง

พี่เขม : ขนมจีบหมดในพริบตา...พี่ได้กินลูกเดียวเองง่ะ ไอ้พวกนี้กินทีเดียวหมดเลย แถมยังทะเลาะกันแย่งขนมจีบด้วยนะ

บี : อร่อยอ่าดิ๊...

พี่เขม : อร่อยมากคับที่รัก...ไอ้พวกนี้หลงเสน่ห์หมดแล้วเนี่ย ไอ้มิ่งฝากบอกว่าทำมาให้มันกินอีกด้วย

บี : แล้วตอนนี้พี่จะไปไหนต่อเนี่ย

พี่เขม : ตอนนี้ขับรถกลับบ้านอยู่ เด๋วนัดกับไอ้พวกนั่งแถวคอนโดพี่

บี : แล้วพี่เขมหายดียัง ไม่ป่วยละเนอะ

พี่เขม : หายดีแล้วครับแฟนนนนน....ตอนนี้วิ่งได้ละ ฟิตปั๋งเลย คืนนี้ไม่รอดแน่

บี : ใครบอกว่าจะไปหา

พี่เขม : งั้นเด๋วพี่ไปหา...ยังไงก็ไม่รอด   55555

บี : ไอ้พี่เขมบ้ากาม

พี่เขม : พี่บ้ากะแค่คนเดียวแหละ

บี : แล้วป๊ากับแม่ว่าไงบ้าง

พี่เขม : เอ้อ...ป๊ากับแม่ให้โทรหาด้วยนะ

บี : ทำไมเหรอพี่....มีอะไรรึเปล่า

พี่เขม : คงอยากจะชมให้ฟังมั้ง

บี : อ่า ๆ เด๋วผมโทรหาป๊ากะแม่ก่อนนะ

พี่เขม : เอางี้อยู่คอนโดนั่นแหละเด๋วพี่ไปรับ ไอ้เก่งเรียกร้องใหญ่ละเนี่ย พริ้งกะตาลกำลังตามมา

บี : ให้ไปนอนคอนโดพี่อีกแล้วเหรอ

พี่เขม : นะนะนะนะนะ....

บี : ผมไม่ได้นอนที่ห้องผมเลยเนี่ย

พี่เขม : ก็พี่อยากให้บีมานอนกับพี่เยอะ ๆ หนิ

บี : ครับได้ครับแฟนนนนน....พ่อทูลหัว

พี่เขม : เย้ ๆ เด๋วพี่อาบน้ำก่อนนะจะถึงบ้านละ

บี : อ่าเค ๆ ผมโทรหาป๊ากับแม่ก่อน

ผมรีบโทรหาแม่พี่เขมทันที...ปกติแม่พี่เขมจะโทรมาหาผมเป็นปกติอยู่แล้วนะครับ แต่ครั้งนี้ประหลาด ทำไมต้องรอให้ผมโทรหาด้วย

แม่พี่เขม : บีก๋าลูก...ขนมจีบต๋อนตะเจ้าลำขนาดเลยลูก (บีเหรอลูก...ขนมจีบต้อนเช้าอร่อยมาก ๆ เลยลูก)

บี : สวัสดีครับแม่ กินหมดเลยก่อคับ

ป๊าพี่เขม : ไม่เหลือแม๊แต่น้ำจิ้มเลยลูกเอ้ยยยย...

บี : แล้วมีอะหยังก่อคับแม่ฮื้อผมโทรหา (แล้วมีอะไรรึเปล่าครับ แม่ ให้ผมโทรหา)

แม่พี่เขม : บีลูก...อ้ายเขมเป๋นใดพ่อง (บีลูก...พี่เขมเป็นไงบ้าง)

บี : หายดีละครับตะกี้ก้าหาอู้กะอ้ายเขม อ้ายเขมกะลังจะถึงบ้านละครับ(หายดีแล้วครับ มะกี้เพิ่งพูดกับพี่เขม พี่เขมกำลังจะถึงบ้านแล้วครับ)

แม่พี่เขม : ก๋าลูก....ลูกบีแม่ถามลูกได้ก่อว่าเกิดอะหยังขึ้น อ้ายเขมนอนไห้ตี้ภูเก็ตอ่ะ(เหรอลูก...ลูกบี แม่ถามลูกได้รึเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้นที่พี่เขมนอนร้องไห้ที่ภูเก็ต)

บี : คุณแม่ครับ ผมจะไปเฮียนต่อผมก็เลยบอกอ้ายเขมว่า(คุณแม่ครับ ผมจะไปเรียนต่อผมเลยบอกพี่เขมว่า)

ป๊าพี่เขม : เด๋ว ๆ นะลูกก่อนจะเล่าอะไร ขอภาษากลางเนอะ ป๊าจะได้เข้าใจเหมือนกัน

บี : คับป๊า คือว่า ผมไม่อยากให้พี่เขมรอผมตอนที่ผมจะไปเรียนเมืองนอกอ่ะครับ

แม่พี่เขม : หมายความว่า.....

ป๊าพี่เขม : ลูกจะเลิกกับพี่เขมเหรอลูก

บี : ครับป๊า...ผมไม่อยากให้พี่เขมรอ ผมรู้ว่าการรอคอยมันยาก

แม่พี่เขม : ทำไมต้องเลิกกันด้วยหละลูก...แม่ไม่เข้าใจเลย

บี : แม่ครับ ป๊าครับ ผมไม่อยากให้พี่เขมลำบาก คำสัญญามันยาวนานเกินไป

ป๊าพี่เขม : ลูกไม่ไว้ใจเขมเหรอลูก

บี : ป่าวครับป๊า...ที่ผมไม่ไว้ใจคือเวลาต่างหากครับ เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน พี่เขมอาจจะได้เจอใครที่ดีกว่าผม พร้อมกว่าผม เหมาะสมมากกว่าผม

แม่พี่เขม : ทำไมคิดอย่างนั้นหละลูก

บี : แม่ครับ ป๊าครับ ที่พี่เขมไม่ได้กัปตันเรื่องทั้งหมดมันอาจจะเป็นเพราะผม

ป๊าพี่เขม : ป๊ากับแม่รู้ละลูก...เพราะเขมบอกเรื่องนี้กับป๊าและแม่แล้ว

บี : ยังไงผมก็รู้สึกผิดอยู่ดีครับป๊า ผมเหมือนเป็นตัวขัดขวางอนาคตพี่เขม

แม่พี่เขม : อย่างคิดอย่างนั้นสิลูก

ป๊าพี่เขม : ไอ้เขมมันมาอธิบายให้ป๊าฟังแล้ว มันบอกป๊าว่า ถ้ามันได้เป็นกัปตันแล้วไม่มีบีอยู่ข้าง ๆ มันก็ไม่อยากเป็น เพราะมันอยากจะเป็นเพราะบีนะลูก

บี : แล้วใคร ๆ ในบริษัทก็คิดว่าผมไม่เหมาะกับพี่เขมครับ

แม่พี่เขม : แล้วจะไปสนใจอะไรหละลูก

บี : ผมอยากจะทำตัวเองให้ดีพอเพื่อจะได้ไม่มีใครมาว่าได้ครับ พี่เขมมีหน้าตาในสังคม ผมก็อยากจะทำตัวเองให้มีค่าและเหมาะสมกับพี่เขม

ป๊าพี่เขม : อย่าบอกป๊านะว่าที่ไปเรียนเนี่ยก็เพราะไอ้เขม

บี : ใช่ครับ...ป๊า ผมอยากจะทำตัวเองให้ดีพอเพื่อพี่เขมครับ

แม่พี่เขม : ลูกเอ้ยลูกข้า...แม่เข้าใจลูกบีแล้วหละ....แม่ก็เคยเป็นอย่างนั้นตอนที่ป๊ามาจีบแม่

ป๊าพี่เขม : พูดจิงดิคุณ

แม่พี่เขม : จริงสิคุณ....สมัยก่อนคุณมีทุกอย่าง ฉันไม่มีซักอย่าง ใครๆ  ก็จะบอกว่าฉันมาเกาะคุณกิน...ฉันต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวฉันดีพอ เหมาะสมพอ

ป๊าพี่เขม : ผมไม่รู้มาก่อนเลยนะคุณ

บี : แม่เข้าใจผมแลว้ใช่ไม๊ครับ

แม่พี่เขม : แม่เข้าใจแล้วลูก...ลูกแม่ ลูกบี แม่จะเอาใจช่วยนะ

ป๊าพี่เขม : ป๊าไม่เข้าใจ...แล้วจะเลิกกันทำไมหละลูก

บี : ผมจะไม่อ้อมค้อมนะครับป๊า ถ้าพี่เขมเกิดนอกใจผมขึ้นมาในเวลาที่ผมเรียนต่อ ผมคงจะเรียนไม่จบแน่ ๆ ครับ แต่ถ้าผมปล่อยให้พี่เขมเป็นอิสระ

ป๊าพี่เขม : แต่ลูกจะทนได้เหรอลูกบี ให้เขมไปมีคนอื่นได้ก่อน

บี : ให้มันเป็นเรื่องของอนาคตครับป๊า ตอนนี้ผมกับพี่เขมอาจจะเจ็บหน่อย แต่เพื่อที่เรากลับมาแล้วถ้าทุกอย่างมันยังเหมือนเดิม ผมก็คงจะกลับมาแล้วยอมทำทุกอย่างให้พี่เขมรักผมได้อีกครั้ง

แม่พี่เขม : แม่เอ็นดูลูกขนาดเลยมะเด่วนี้....แม่บะเกยกึ๊ดเลยนาว่า แม่กะลูกจะยะสิ่งเดียวกั๋นเพื่อความฮักขนาดนี้ (แม่สงสารลูกมากเลยตอนนี้...แม่ไม่เคยคิดเลยนะว่าแม่กะลูกจะทำสิ่งเดียวกันเพื่อความรักขนาดดนี้)

ป๊าพี่เขม : แม่พูดว่าอะไรอ่ะป๊าไม่เข้าใจ

บี : ขอบคุณครับแม่ ขอบคุณครับป๊า ที่เข้าใจผม หลังจากผมไปแล้วผมอาจจะไม่ได้ดูแลพี่เขมอีก...ผมขอโทษด้วยนะครับป๊ากับแม่ที่ทำให้ต้องลำบากใจ

ป๊าพี่เขม : ถ้าลูกทำเพื่อไอ้เขมมัน ถ้ามันรู้มันคงจะดีใจ

แม่พี่เขม : จริงป๊า...แล้วลูกบีได้บอกเรื่องนี้กับพี่เขมรึยังลูก

บี : ผมไม่บอกเรื่องนี้กับพี่เขมหรอกครับ ผมอยากจะทำให้ตัวเองดีพอ เพื่อพี่เขมครับ

ป๊าพี่เขม : ลูกเอ้ย....ป๊าเอาใจช่วยละกันนะ ป๊าคงจะทำอะไรไม่ได้

บี : ผมขอป๊ากับแม่นะครับว่าอย่าไปบอกพี่เขม....ผมอยากให้พี่เขมมีความสุข ไม่ต้องทนทุกข์กับเวลาที่ต้องมารอผม

แม่พี่เขม : แม่เข้าใจดีลูก เอาเป็นว่าแม่เอาใจช่วยนะ

ป๊าพี่เขม : ป๊าก็ด้วยลูก ขอให้ลูกรักกันนาน ๆ


หลังจากนั้น ผมก็เก็บข้าวของแล้วทำการเตรียมตัวเพื่อไปนอนกับพี่เขมที่คอนโดครับ ผมรู้ดีครับว่าสิ่งที่ผมตัดสินใจทำนั้นมันทำให้พี่เขมและผมเจ็บไม่น้อยครับ ผมนั่งเหม่อลอยไปรอเวลาให้พี่เขมมารับที่คอนโดครับ พี่เขมเมื่อเจอหน้าผมก็โดดกอดคอผมทันทีครับ...แต่เป็นตัวผมเองที่ดูเศร้าไปในทันที ผมอยากจะเก็บเวลาทั้งหมดไว้ในความทรงจำของผมให้ได้มากที่สุด เพราะเวลาหลังจากกลับมานั้น ไม่มีใครรู้หรอกครับว่า อะไรมันจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ผมนั่งจับมือกับพี่เขมแล้วก็ไปเจอกับพี่ ๆ ที่ทองหล่อครับ วันนี้ในรถเงียบเป็นพิเศษ พี่เขมก็ไม่พูดคุยกับผมแล้วผมก็ไม่ได้พูดคุยกับพี่เขมเลยครับ เราทั้งสองคนนั่งฟังเพลงแล้วก็ขับรถไปเรื่อย ๆ แต่มันเป็นความเงียบที่ไม่มีความอึดอัดอยู่เลยครับ ก่อนถึงทองหล่อ ผมเอาหัวผมไปอิงบนไหล่ของพี่เขม พี่เขมเอ่ยขึ้น

พี่เขม : คิดถึงพี่อ่าดิ๊....เงียบขนาดนี้

บี : คับ...คิดถึงมาก

พี่เขม : พี่ก็อยู่ตรงนี้แล้วไง

บี : พี่เขมครับ...ผมขอโทษนะที่ต้องไปเรียนต่อ

พี่เขม : วันนี้มาแปลกจัง...เห็นเงียบตั้งแต่ขึ้นรถมาแล้ว

บี : ไม่รู้ดิพี่...ผมว่าผมกำลังจะเป็นไบโพล่าเหมือนพี่ละ

พี่เขม : เด๋ว ๆ ไบโพล่าไม่ใช่โรคติดต่ออย่ามโน

บี : เออนั่นดิ...หิวเบียร์แล้ว ๆ ๆ ๆขับเร็ว ๆ เลย

คืนนั้นพวกเราก็นั่งกินเบียร์กันอย่างปกติครับ ผมก็โดนทุกคนแกล้งตามปกติ แล้วตอนนี้คนที่แกล้งผมมากกว่าใคร ๆ ไม่ใช่พี่เก่งแล้วครับ แต่เป็นพี่มิ่งแทน ตั้งแต่ผมไปซ้อมร้องเพลงกับพี่มิ่งมานั้น พี่มิ่งก็ดูจะชอบแกล้งผมขึ้นมาพอ ๆ กับพี่เก่งเลยครับ พวกพี่สองคนนี่เอาเรื่องที่ผมจะเซอร์ไพรส์มาขู่ตลอดเวลาว่าจะบอกพี่เขม ผมเลยต้องทำตามพี่เค้าทุกอย่างในคืนนี้ หลังจากนั้นผมกับพี่เขมก็กลับไปนอนที่คอนโดพี่เขมครับ

วันรุ่งขึ้นพี่เขมตื่นก่อนผมเป็นวันแรกที่ผมงงมากเลยครับว่าพี่เขมตื่นก่อน พอผมลืมตาขึ้น ผมก็ไม่เห็นพี่เขมอยู่ในห้องนอนแล้วครับ ตอนนี้มัน 7 โมงกว่า ๆ โดยปกติเนี่ยพี่เขมตื่นแบบ 9 โมง แต่วันนี้มาแปลก ผมเดินไปล้างหน้าล้างตาแล้วออกจากห้องนอนครับ พี่เขมเข้าครัว คุณพระ!!!! ผมแทบจะไม่เชื่อสายตา พี่เขมทอดไข่เละ ๆ ให้ผมกิน 3 ฟองแล้วก็มีขนมปังปิ้งแล้วก็ชาร้อนครับ

พี่เขม : ตื่นแล้วเหรอบีคับ....พี่ทำอาหารเช้าให้กิน

บี : ผีอะไรเข้าสิงอ่ะพี่...ตื่นมาทำให้ผมกินได้

พี่เขม : ถึงพี่จะไม่เคยเข้าครัวทำอะไรให้ใครกิน แต่พี่ก็อยากทำให้แฟนพี่กินนะ พี่อยากจะดูแลบีบ้าง

บี : โหย ไข่ดาวตั้ง 3 ฟอง ฟอง ฟอง ฟอง....(ทำเป็นเสียงเอคโค่ๆๆๆ)

พี่เขม : ขอโทษนะพี่ทำมันเละไปหน่อย

บี : เหยกินได้...ไม่เป็นไรเลย ขอแค่ไม่มีเปลือกไข่ก็พอ

พี่เขม : กินดิ ๆ พี่ตั้งใจทำให้เลยนะฉลองวันวาเลนไทน์

บี : แค่พี่ทำให้ผม ผมก็ดีใจแล้วครับพี่เขม...แล้วของพี่หละ

พี่เขม : พี่กินแล้วอ่ะ บีกินเลย

บี : ไม่เอาดิมากินด้วยกันนะ

พี่เขม : เด๋วบีไม่อิ่ม

บี : ไม่เป็นไร ไม่อิ่มเด๋วบีทำให้กินใหม่เนอะ

พี่เขม : คือแบบว่า...

บี : มากินเร็ว ๆ อ่าผมป้อนก่อนเลย

พี่เขม : ทำไมต้องคิดถึงพี่ก่อนคิดถึงตัวเองด้วยบี

บี : ก็ผมเป็นแฟนพี่นะ...จะให้คิดถึงแค่ตัวผมได้ไงหละ

พี่เขม : ก็มันน่ารักอย่างงี้ไง....จะให้พี่ไปหาที่ไหนอีกเนี่ย....

บี : อ่าๆ  ๆกินเร็ว ๆ ไม่พอเด๋วผมทำให้ใหม่

พี่เขม : เออ....ไข่หมดแล่ว

บี : เหย...หมดได้ไง ผมเพิ่งซื้อมาให้เมื่อวันก่อนเอง

พี่เขม : แหะ ๆ ๆพี่ทอดไข่พังเองแหละ

บี : เอ๋า....มี 10 ฟองกินได้ 3 ฟองเองเหรอแล้วไปทำไงให้พังหละ

พี่เขม : ก็ตอนแรกจะทำไข่เจียวใช่ป่ะ ทำเสร็จ กลับไข่มา พัง แถมเค็มอีก ทิ้ง แม่ง...แล้วก็เปลี่ยนมาทำไข่ลวก ต้มไปแป๊ปนึงพี่ก็คิดว่าได้ละลองตอกออกมาดู สุกครึ่งเดียวไข่แดงนี่ยังเหมือนไม่โดนความร้อนเลย ก็เลยว่าจะเอามาเจียวต่อแต่ไข่ขาวมันสุกไปแล้วง่ะ ก็เลยเอาทิ้ง สุดท้ายก้เลยทำไข่ดาวเนี่ยแหละ ตอกไข่ลงกระทะปุ๊ป เปลือกก็ดันลงไปด้วย พี่แงะตั้งนานนะกว่าจะเอาเปลือกออกหมด ไข่มันถึงได้เละหน่อย ๆ

บี : โอ๋ๆ ๆ วันหลังให้ผมทำให้กินเนอะ จะได้ไม่เปลือง

พี่เขม : พี่ก็อยากจะดูแลบ้างหนิ หลัง ๆ มานี่พี่เหมือนจะไม่ได้ดูแลบีเลยอ่ะ

บี : ก็พี่บินเยอะหนิเมื่อก่อนพี่ไปทำความสะอาดห้องให้ผมออกจะบ่อย ผมรู้นะว่าพี่แอบเอาผ้าไปซักให้ผมหลายรอบเลย ของกินในตู้เย็นผมพี่ก็เติมไม่เคยขาด ยิ่งตอนสิ้นเดือนนะ ผมจำได้เลยว่าพี่แอบเอาตังมาใส่ให้ผมด้วย

พี่เขม : อ่าวรู้ด้วยเหรอ

บี : รู้ดิผมไม่เคยกดเงินเกินครั้งละ 900 เพราะผมไม่ชอบแบงค์พัน สงสารแม่ค้าเวลาทอนเงิน

พี่เขม : ตายห่า...งี้ก็รู้ทุกครั้งเลยอ่ะดิ

บี : รู้ดิพี่...แล้วผมก้เอาตังที่พี่ให้เนี่ยไปซื้อของเข้าห้องพี่แทนไง ห้องตัวเองไม่รู้จักซื้อเข้าให้ซื้อให้แต่ห้องผม....

พี่เขม : ก็ถ้าไม่มีบี พี่ก็ไม่ทำอะไรกินเองไง คนทำก็มีอยู่คนเดียว

บี : อ่าๆ ๆ  ไม่เถียงด้วยแล่ว พี่ ผมอยากไปทำบุญ ไปมะ

พี่เขม : วันวาเลนไทน์ ไปทำบุญ มีอะไรแปลกว่านี้อีกไม๊

บี : นะ ๆ ๆ ๆ นาน ๆ เข้าวัดที ผิดศีลมาเยอะแล่ว

พี่เขม : อ่าๆ ๆ ได้ๆ  ๆ ไปวัดไหนดีหละ

บี : ไปอยุธยาไม๊พี่....ผมไม่เคยไปเลย

พี่เขม : เหยพูดจริง...บ้านพี่ไปบ่อยมากเลยนะ

บี : งั้นพาไปหน่อย....

พี่เขม : ได้เลยคับแฟนนนนนน...ป่ะอาบน้ำด้วยกัน

บี : จะเสร็จกี่โมงเนี่ยอาบน้ำพร้อมกันเนี่ย

พี่เขม : หลักสูตรเร่งรัดแป๊ปเดียวเสร็จ

บี : อ่าจ๊ะๆ ๆ

พี่เขม : รีบกินป่ะ รีบไปเหอะเด๋วร้อน แล้วตอนเย็นต้องไปที่ร้านอีกนะ

บี : เออจริงด้วย...

ผมกับพี่เขมขับรถไปอยุธยาครับ ไม่น่าเชื่อเลยครับว่ามันไม่ได้ไกลจากกทม.ซักเท่าไหร ตอนแรกผมคิดว่าน่าจะเกือบ ๆ 2 ชม. แต่พี่เขมอาจจะเหาะมา มันเลยเป็นแค่ ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้นเอง แล้วพี่เขมก็พาผมไปทัวร์วัดรอบ ๆ ไปวัดพนัญเชิงไปถวายผ้าก่อนเลยครับ แล้วก็พาไปวัดใหญ่ชัยมงคล หลังจากนั้นก็พาผมไปกินกุ้งตัวใหญ่กว่าหัวผมอีกครับ...ผมนี่ฟินมากเลย หลังเที่ยงนิด ๆ พี่เขมก็พากันกลับมาที่คอนโดครับ เวลานี้ออกไปไหนไม่ได้แล้วครับ ร้อนและง่วงมาก อาจจะเป็นเพราะกินมาโคตรอิ่ม ผมกับพี่เขมก็เลยพากันมานอนที่คอนโด ตื่นเอาอีกทีบ่าย 3 นี่วันนี้เราแทบจะเรียกว่า sleeping beauty กันมากเลยนะครับ พอผมตื่นมาผมก็เดินไปที่กระเป๋าผมแล้วหยิบเอาของขวัญที่ผมเตรียมจะให้พี่เขมเอามาไว้เพื่อจะมอบให้พี่เขมครับ ถึงมันจะไม่ได้มีราคามากมายแต่ผมก็ตั้งใจทำให้พี่เขมครับ ผมมานั่งรอพี่เขมตื่นอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ไม่นานพี่เขมก็เดินออกมาจากห้องด้วยท่าทางงัวเงีย พี่เขมนั่งลงข้างตัวผมแล้วผมก็ยื่นของขวัญให้กับพี่เขม

บี : สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับพี่เขม

พี่เขม : อะไรอ่ะ ของขวัญให้พี่เหรอ

บี : ใช่คับ ขอบคุณนะครับพี่เขม ที่เป็นแฟนผม ถึงมันจะเป็นเวลาไม่นาน แต่ผมก็มีความสุขทุกครั้งที่ผมอยู่กับพี่

พี่เขม : ซึ้งอ่ะ...แกะดูได้เลยป่ะ

บี : แกะดิ ๆ อยากให้เห็น

พี่เขม : อยากรู้จัง บีจะซื้ออะไรให้พี่เนี่ย

พี่เขม : สมุดโน๊ต มีชื่อพี่อยู่ด้วย A book of KEM เฮ้ย ชื่อน่ารักดีอ่ะ

พี่เขมเปิดสมุดโน๊ตดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน และแน่นอนครับมีรูปที่พวกเราได้ถ่ายรูปร่วมกันในทุก ๆ ที่ ๆ ไป ตัวผมเนี่ยเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรูปครับ แต่พี่เขมเนี่ย...ชอบถ่ายสุด ๆ แต่พี่เขมเป็นคนชอบถ่ายรูปที่เค้าเรียกว่า แคนดิด อ่ะครับ พี่แกชอบถ่ายรูปที่เน้นเป็นส่วน ๆ รูปอาหาร รูปของผม รูปของวิว ก็จะออกมาแนว ๆ เลยครับ ผมก็ไม่ค่อยจะเข้าใจในมุมมองของพี่แกซักเท่าไหร แต่พอมันดูไปเรื่อย ๆ มันก็เพลินดีนะครับ
ผมเลือกมาแต่ภาพที่มีสีขาวดำครับ เพราะผมเป็นคนชอบภาพขาวดำมาก มันดู คลาสสิคดีครับ อาจจะดูอึน ๆ พี่เขมเปิดดูไปเรื่อย ๆ ผมนอนผมซบบนไหล่พี่เขมขณะที่พี่เขมเปิดไปผ่าน ๆ พี่แกไม่พูดอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวครับ จากที่ห้องมีแต่เสียงพวกเราคุยกัน แต่ตอนนี้ผมได้ยินแต่เสียงแอร์เท่านั้นแล้วครับ ไม่นานน้ำตาพี่เขมก็หยดลงที่สมุดครับ ผมตกใจรีบมองหน้าพี่เขมทันที

บี : พี่เขม...ร้องไห้ทำไมเนี่ย

พี่เขม : พี่ซึ้งง่ะ.....ทำไมต้องดีกับพี่ขนาดนี้ด้วย

บี : เห้ย....ทำไมช่วงนี้เซ้นสิทีฟจังฟระ โอ๋ ๆ ๆมา ๆ ไม่ร้องน้าาา

พี่เขม : ปกติพี่ก็ไม่ค่อยเป็นนะ...แต่ช่วงนี้เป็นเมนมั้ง

บี : เห้ย...เด๋วก็ท้องพอดีนับหน้าเจ็ดหลังเจ็ดด้วยนะ

พี่เขม : ไอ้บ้า....ไม่คิดจะแก้ให้เลยเหรอ

บี : แหม่ๆ ชอบไม๊พี่ ใช้มันด้วยนะ

พี่เขม : แน่นอนครับพี่จะเขียนมันทุกวัน เขียนมันคู่ไปกับ flight log เลยดีมะ

บี : ให้มันจริงเหอะ

พี่เขม : พี่ไม่มีอะไรให้เลยอ่ะ พี่บินตลอดเลยอ่ะ

บี : ไม่เป็นไรคับพี่ แค่น้อยใจเท่านั้นเอง

ผมนั่งกอดเข่ามุดหน้าลงไปเพื่อไม่ให้พี่เขมเห็นหน้าผม...ผมกำลังแกล้งงอนพี่เขมอยู่ครับ แหม่ ๆ ผมก็รู้หรอกน่าว่าพี่เขมช่วงนี้บินหนักอย่างกะอะไรดี ไม่เห็นเคยจะว่าเลยวันหยุดก็มาขลุกอยู่กับผมทั้งวัน แล้วจะเอาเวลาไหนมาหาซื้อของให้ผมหละ แล้วพี่เขมก็พยายามเขี่ย ๆ จิ้ม ๆ เอวผม จนผมขำออกมา

พี่เขม : แกล้งพี่เหรอ...เด๋วจะโดน

บี : แหม่ ๆ นิดหน่อยหน่า...ผมรู้อยู่แล้วน่าว่าพี่อ่ะ มีเวลาว่างก็มาอยู่แต่กับผม จะเอาเวลาไหนไปหาซื้ออะไรมาให้ผมหละ

พี่เขม : พี่ขอโทษนะ...

บี : เด๋วจะร้องไห้อีกไม๊เนี่ย...เด๋วนี่ขี้แยจังนะเรา

พี่เขม : ก็พี่รักของพี่มากไง พี่ก็เลย...

บี : ค๊าบบบบ เอาหน่าวันนี้วันวาเลนไทน์นะ จะร้องไห้ได้ไง

พี่เขม : ป่ะ ๆ ไปที่ร้านกันเหอะ มันบอกให้ไปเร็วหน่อย ตอนแรกพี่ว่าจะไปซักทุ่มนึงแต่ไอ้เก่งส่งไลน์มาบอกว่าให้ไปซัก 5 โมง

บี : ได้เลยพี่ ไปอาบน้ำก่อนป่ะ

พี่เขม : อาบด้วยกันดิ

บี : จะเอาอีกแล้วเหรอ ไม่เหนื่อยบ้างรึไง

พี่เขม : พี่กำลังเก็บแต้มอยู่

บี : ไอ้พี่เขมบ้า

เราออกจากคอนโดเวลา 5 โมงกว่า ๆ แล้วครับ เพราะว่าพี่แกมัวแต่แต่งหล่ออยู่ครับ วันนี้พี่เขมแต่งตัวหล่อเป็นพิเศษเลย ผมไม่เคยเห็นพี่แกแต่ตัวดีขนาดนี้มาก่อนเลยครับ นอกซะจากงานแต่งสมัยก่อนโน่น เอาเข้าจริง  ๆแฟนผมเนี่ย มันหล่อเอาการอยู่นะครับ ถึงพี่แกจะสามสิบห้าแล้วแต่ หุ่นพี่เขมยังแน่นทั้งตัว ไม่รู้ไปฟิตมาตอนไหน แล้วยิ่งมาใส่กางเกงขาเดฟแล้วใส่เสื้อเชิ้ต รอยยิ้มกว้าง แล้วก็ตาหยี ๆ ของพี่เขม มันยิ่งทำให้ผมหลงรักเขาหมดใจ แต่กลับมาดูที่ผมครับ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ขาด ๆ  แล้วก็.... จบละครับ แต่งตัวเมื่อเทียบกับพี่เขม ผมเป็นเด็กยกกระเป๋าเลยทันที พี่แกเล่นมาซะเต็ม เสื้อผ้าดี ๆ ส่วนใหญ่ของผมก็ส่งไปที่บ้านไม่ก็ที่ออสเตเรียหมดแล้วครับ ผมเหลือแต่เสื้อผ้าใส่แบบขำ ๆ พอลงจากรถ ผมยิ่งเป็นเหมือนเด็กรับใช้ในกลุ่มวงดนตรีเกาหลีเลยครับ แม่ง พี่ ๆ แต่งตัวจัดเต็มแถมมีสูทมาใส่อีก พี่เก่งเดินเอาสูทมาให้พี่เขม ผมตายอย่างเขียดเลยครับ ผมนี่อยากจะเดินไปกินส้มตำคอหมูย่างที่ปิ้งอยู่ข้างทางเลยทีเดียว ไม่กงไม่กินแม่งละดินเนอร์ ไม่นานพี่พริ้งกับพี่ตาลก็มาพร้อมกับแฟนครับ โหย....แต่ละคนแต่งตัวมาจัดเต็มกันหมด ปกติพี่พริ้งกับพี่ตาลก็ไม่ค่อยแต่งหน้าครับเวลาไปบิน เพราะพี่เค้าเป็นนักบิน แต่พอผมเจอหน้าวันนี้ พี่ ๆ แต่งมาเต็มมากครับ พร้อมกับชุดเดรสสวย ดูเป็นผู้หญิงหวาน ๆ เลยทีเดียว พอทุกคนรวมตัวแล้วก็แยกไปนั่งโต๊ะที่ถูกจัดไว้โต๊ะละ 2 ที่ครับ ซึ่งแน่นอนเป็นโต๊ะที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน อาหารเย็นถูกเสริฟในเวลา 6 โมงเย็นครับ อาหารเป็นอาหารที่อร่อยมากเลยครับ ถูกจัดจานสวย และขนมหวานเป็นเค้ก red vivet ที่เสริฟเพียงโต๊ะละ 1 ชิ้นให้กินด้วยกันครับ และตามด้วยแชมเปญ พี่เขมนั่งจับมือผมตลอดเวลาเลยครับ เราเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวของเราสองคน ไม่นานหลังจากทานของหวานเสร็จพี่เขมก็กระซิบบอกผมครับว่า

พี่เขม : บีครับ...ของขวัญวาเลนไทน์ที่พี่อยากจะให้บี มันกำลังจะเริ่มขึ้นต่างหากคับ

ผมทำหน้าเหวอไปเลย




To be continued…
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 36 A book of KEM P.6 ( 17-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 18-11-2017 22:00:34
ตอนที่ 37 แผนซ้อนแผน

ไม่ทันไรพี่เก่งก็ขึ้นไปบนเวทีครับ...พี่เก่งทำหน้าที่เป็นเหมือนดีเจบวกกะพิธีกรในวันนี้ บรรยากาศในร้านเป็นไปอย่างกันเองครับ เพราะด้วยความที่ตัวร้านไม่ได้ใหญ่มากและพวกเรามาก็ 6 คู่แล้วครับ เพราะฉะนั้น คนที่เหลืออื่น ๆ ก็เป็นพวกเพื่อน ๆ ของพี่ๆ ในวงกันเนี่ยแหละครับ คือพูดง่าย ๆ ว่าจัดปาตี้แต่ทุกคนมาเป็นคู่ ๆ กันครับ แล้วก็มีโต๊ะของเจ้าของร้านและภรรเมียของท่าน นั่งอยู่ในโซน วีไอพี แล้วก็พวก ๆ ของพี่เจ้าของร้าน ก็นั่งอยู่ในโซนนั้นกันหมดครับ ร้านนี้ก็เลยเหมือนเป็นไพรเวตปาตี้ไปเบาๆ
ไม่นานพี่เก่งก็ประกาศเรียกชื่อของพวกพี่ ๆ ในวงให้ขึ้นไปทำมาหากินครับ

พี่เก่ง : กระผมขอเรียนเชิญคุณนักร้องและนักดนตรีขึ้นมาทำมาหาแดกกันก่อนนะครับเด๋วจะไม่มีตั้งซื้อของฉลองวาเลนไทน์ให้แฟน ๆ กันครับ

เสียงโห่ร้องดังกันทั้งร้านเลยครับไม่นานพี่เขมก็ละมือที่จับมือผมไว้ออกแล้วกระซิบข้างหูผมว่า... “รอพี่หน่อยนะ....แล้วก็....ทิชชู่อยู่นี่...อย่าซึ้งน้ำตาไหลจนท่วมร้านหละ”

   ผมได้แต่มองหน้าพี่เขมแล้วปล่อยให้พี่เขมขึ้นเวทีไปครับ เพลงส่วนใหญ่ในวันนี้ก็เป็นเพลงที่คนในร้านเนี่ยแหละครับ ขอให้แฟนของเค้า เป็นเพลงรักที่ฟังสบายความหมายดี แล้วตอนนี้โต๊ะผมก็ว่าง พี่ๆ  แฟนของพี่มิ่งและพี่โด่งก็เลยมาชวนผมไปนั่งคุยด้วยครับ...
   ตอนนี้พี่ ๆ ทุกคนประจำตำแหน่งพร้อมขับร้อง เพลงรักให้พวกเราฟังแล้วครับ ดู ๆ ไปก็เหมือนวงบอยแบน หนุ่มเกาหลีเหมือนกันนะครับ เพราะทุกคนแต่งตัวกันเต็มหมดเลย พี่ ๆ ทุกคนแต่งตัวด้วยสูทสีดำ และเสื้อเชิ๊ตด้านในก็สีดำ แถมยังผูกไทด์กันอีก หล่อไปไหน ผมนี่นั่งมองจนเคลิ้มเลยครับ
   พี่เขมเนี่ย...หลังจากที่ผมชอบไปยุ่งเรื่องการแต่งตัวของพี่เขมมากขึ้น พี่แกก็แต่งตัวดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาเลยครับ อาจจะเพราะผมสอนมาดี... (แหะ ๆ เข้าข้างตัวเอง) หรืออาจจะเพราะเสื้อผ้าหลัง ๆ ที่ซื้อใส่เนี่ย...ผมจะเป็นคนไปซื้อแล้วเลือกให้พี่เค้าเอง มันก็เลยทำให้พี่เขมหล่อกว่าปกติ 15% แค่นี้ผมก็เคลิ้มจะแย่ละครับ
   ผ่านไป 1 ชม. กลุ่มของนักดนตรีก็กลับลงมาครับ ตอนนี้โต๊ะของพวกเราได้โดนรวมกันโดยปริยายไปแล้วครับ พี่ตาลกับพี่พริ้งก็ไปลากแฟนของพี่เค้าเข้ามาร่วมวงกันด้วย พอวงสนทนามันใหญ่ขึ้นเสียงก็ดังตามขึ้นเป็นลำดับครับ บวกกันการดื่มของพวกเราแล้วนั้น ยิ่งทำให้ เสียงดังจนน่ารำคาญ พี่เจ้าของร้านเลยเดินมาหากลุ่มพวกเรา

พี่เจ้าของร้าน : เก่ง...พี่ว่าพวกเราเสียงดังกันไปละนะ รบกวนคู่อื่นเค้าเด๋วเราย้ายไปนั่งโซนด้านในกับพี่ดีกว่า

พี่เก่ง : เฮ้ยพี่ผมขอโทษครับ...เด๋วผมบอกให้เพื่อน ๆ เบาเสียงลงก็ได้นะครับพี่ ไม่อยากไปเกรงใจ

พี่เจ้าของร้าน : ไปเถอะ ที่ตรงโน้นตั้งกว้างไม่มีใครมานั่งหรอก เด๋วตรงนี้จะได้ให้ลูกค้าคนอื่นมานั่งด้วย

พี่เก่ง : งั้นก็ได้ครับพี่ ขอบคุณพี่มากครับ

พวกเราย้ายไปนั่งอีกมุมนึงของร้านครับ มุมนี้วิวดีมากครับ คือจะเป็นอีกขั้นที่สูงขึ้น และอยู่ด้านข้างของเวที ทำให้ผมเห็นเวทีชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก เพราะตอนแรกเวทีมันออกจะสูงหน่อย ๆ แล้วโต๊ะกินข้าวก็อยู่ระดับตำ่กว่าเวทีทำให้ผมไม่เห็นพี่เขมเล่น กลองเลยครับ แต่ตอนนี้ถ้าพี่เขมกลับไปเล่นอีกที...ผมมองชัดเจนเลยคับ

พี่เขมเดินกลับมาเพราะกับกล่องสองใบครับ เป็นกล่องใบเล็ก ๆ แล้วพี่เขมก็ตั้งมันไว้บนโต๊ะตรงหน้าผม

บี : อะไรอ่ะพี่

พี่เขม : ของขวัญวาเลนไทน์ไง

บี : ทำไมมีสองกล่องหละ

พี่เขม : พี่ให้เลือก  1 กล่อง

บี : แล้วอีกกล่องให้ใครหละ

พี่เขม : อีกกล่องของพี่ไง

บี : งั้นผมเอากล่องนี้....(ผมหยิบกล่องที่อยู่ใกล้ตัวพี่เขม)

พี่เขม : ว่าแล้วต้องเอาอันนี้

บี : งั้นผมเอาอีกกล่องแทน...ผมเปลี่ยนใจละ

พี่เขม : ว่าแล้วต้องเปลี่ยนถ้าพูดแบบนี้

บี : งั้นผมไม่เปลี่ยนละ

พี่เขม : ว่าแล้วว่าต้องหยุด

บี : เออ....ยอมมมมมมมมมม

พี่เขม : แกะดิ...ชอบไม๊

ผมแกะกล่องที่ผมเลือกไว้อันแรก มันเป็นนาฬิกาครับ issey miyaki สายหนังสีดำ กรอบสีดำหน้าปัดสีขาว พี่เขมก็ทำการใส่นาฬิกาไว้ให้ผม แล้วพี่แกก็เปิดอีกกล่องออกมา มันเป็นนาฬิการุ่นเดียวกันแบบเดียวกันแต่กรอบคนละสีเท่านั้นครับ ของพี่เขมกรอบสีเงินครับ

บี : อ่าวไมบีได้กรอบดำหละ

พี่เขม : ก็บีเลือกเองหนิ

บี : แล้วถ้าบีอยากได้กรอบเงินหละ

พี่เขม : กรอบดำแหละดีแล้ว...คนขาวใส่กรอบดำ แล้วคนดำใส่กรอบขาว เข้าใจยัง?

บี : อ๋ออออ....ดำคนนึงขาวคนนึงดีเนอะ ผมเอาตัวหันหลังแล้วลงไปอิงพี่เขมไว้

พี่เขม : พี่ขอถ่ายรูปก่อน

แล้วพี่เขมก็ถ่ายรูปเราครับ แต่เป็นแค่ข้อมือและนาฬิกาที่ใส่ไว้เท่านั้น พี่แกเป็นคนชอบถ่ายรูปแนวนี้ครับ...คือถ่ายเป็นส่วน ๆ แล้วก็เก็บไว้ ไม่โพส แต่แปลกที่วันนี้ถ่ายเสร็จแล้วโพสทันที แล้วก็แท็กผมมาด้วยนะ ผมนี่งงไปหมด

พี่เขม : เน่ บี....ลงรูปเดียวกันสิ แล้วแท็กพี่ด้วย

บี : นี่บังคับกันให้ลงรูปแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

พี่เขม : ก็ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปแหละ...ต้องลงรูปด้วยกันทุกวันเข้าใจไม๊

บี : ทำไมอ่ะพี่...ปกติไม่เห็นเป็น

พี่เขม : พี่มีเวลาอยู่กับบีไม่มากแล้วไง...พี่เลยอยากเก็บไว้ในนี้

บี : เวอร์  ๆ ๆๆ ไปไม๊พี่เขม อ่า ๆ ๆลงก็ลง

พี่เขม : ดีมาก...น่ารักจังเลย ชอบไม๊?

บี : ชอบครับ....มันดู minimal

พี่เขม : ต้องใส่ทุกวันนะ ใส่คู่กับพี่

บี : คู่รักเกาหลีไปอีกกกกก

พี่เขม : แล้วรู้ไม๊ว่าทำไมต้อง issey

บี : ไม่รู้ครับพี่...มันทำไมเหรอ

พี่เขม : เพราะว่าถ้าถ่านหมดจะต้องมาเปลี่ยนที่ shop ที่ไทยเท่านั้น เพราะออสเตเรียไม่มี

บี : แหม่ ๆ ๆไปร้านนาฬิกาทั่วไปก็ได้เหอะ

พี่เขม : มันแงะไม่ได้โว้ยยยยย....ต้องกลับมาหาพี่เท่านั้นเข้าใจไม๊

บี : คับพี่เขม...ผมจะกลับมาหาพี่ครับ

พี่เขม : ดีมาก...(แล้วพี่เขมก็ขยี้หัวผม 1 ที)

ตอนนี้เป็นเวลากว่า 3 ทุ่มแล้วครับ ลูกค้าบางส่วนทะยอยกลับกันแล้วมีแต่พวกเราที่ยังคงนั่งเม้ามอยกันอยู่ แล้วอยู่ดีๆ  พี่เก่งก็ขึ้นไปบนเวทีอีกรอบ

พี่เก่ง : ขอรบกวนเวลาซักครู่นะครับ พอดีวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ เพื่อนผมคนนึงมันก็พาแฟนมันมาฉลองเหมือนทุกคนเนี่ยแหละครับ เพื่อนผมคนนี้ไม่เคยร้องเพลงให้ใครเลยในชีวิตมัน แต่วันนี้ แฟนของเพื่อนผมคนนี้ กำลังจะไปเรียนต่อในอีกไม่กี่วันครับ มันเลยจะขอมาร้องเพลงครั้งแรกในชีวิตของมัน เพื่อคน คนนั้นครับ

เสียงปรบมือก้องไปทั่วร้านเลยครับ ผมรู้ตัวอีกทีพี่เขมก็หายไปโผล่ที่บนเวทีข้าง ๆ พี่เก่งแล้วครับ ผมนั่งยิ้มแก้มปริ หุบไม่ได้เลยครับ เขินก็เขิน แม่งเอ้ย ไม่เคยมีใครทำอะไรแบบนี้ให้มาก่อนเลย แถมต่อหน้าประชาชีอีก ผมนี่ม้วนเลยครับ พี่ ๆ ในโต๊ะก็แซวกันใหญ่

พี่เขมพูดออกไมค์ : แหม่ คุณเพื่อนเก่งครับ แย่งซีนผมพูดหมดแล้ว ผมจะเอาอะไรไปซึ้งกับแฟนหละครับ

เออ...แฟนผม...เหมือนขึ้นไปเล่นตลกคาเฟ่ครับตอนนี้ พี่เขมนั่งลงบนเก้าอีกสูงของนักร้องแล้วพี่มิ่งก็นั่งประกบข้างครับ ยิ่งทำให้เหมือนวงนักร้องเกาหลีเข้าไปอีก

พี่เขม : เอาเป็นว่า ผมขอมอบเพลงนี้ ให้กับคนที่กุ่มหัวใจของผมไว้ ตลอดมา......................และตลอดไปครับ

เสียงหวีดร้องจากคนในร้านดังลั่น...พี่ ๆ ในโต๊ะต่างพากันกรี๊ดอย่างสุดเสียง ผมก็ตะโกนเชียร์แฟนยิ้มแก้มแทบจะแตก แค่นี้น้ำตาผมก็เริ่มจะไหลลงมาแล้วครับ ผมสังเกตได้เลยครับว่ามือพี่เขมสั่นมากตอนนี้ พี่เขมมองตรงมาที่ผมแล้วทำการยักคิ้วให้ ผมนี่ละลายตายไปเลยครับ

รู้ไหมว่าเราเจอกันครั้งแรกตอนไหน
ความทรงจำเกิดขึ้นเมื่อไหร่
เมื่อไหร่ที่ทำให้เราสองคนเริ่มหวั่นไหว
หรือจะเป็นในตอนที่คุณต้องนอนเสียใจ
หรือว่าตอนที่เราต้องไกล
มันทำผมได้รู้ว่าคิดถึงแต่คุณ

และในตอนนี้ ในเวลานี้
ล่วงเลยมานานเป็นปี
ให้ดวงดาวนั้นเป็นเหมือนพยานรัก

ขอสัญญาว่าจะรักเพียงคุณ
ว่าจะรักแค่คุณ ว่าจะรักแค่คุณ เท่านั้น
นานแสนนานก็จะรักเพียงคุณ
ก็จะรักแค่คุณ อยากจะมีแค่คุณคนเดียว

แค่คุณ - Musketeers

เสียงทุ้มของพี่เขมถูกขับร้องออกมาได้น่าฟังมากทีเดียวเลยครับ ถึงแม้จะไม่ได้เพราะขนาดนักร้องอย่างพี่มิ่ง แต่มันก็แฝงไปด้วยความอบอุ่น ความรัก และคำสัญญา ที่พี่เค้าต้องการจะสื่อให้ผมครับ
ผมบอกได้เลยครับว่าตอนนี้ ทิชชู่ในโต๊ะผมหมดแล้วครับ...ที่ผมพยายามพร่ำบอกพี่เขมไปว่าไม่ต้องรอผม...แต่ตอนนี้ พี่เขมเหมือนจะทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม มันยิ่งทำให้ผมหนักใจเข้าไปอีก หรือว่าตอนนี้การที่เรารู้ว่าเราเหลือเวลายิ่งน้อยไปเท่าไหร่ มันยิ่งทำให้เรารักกันมากขึ้นไปเท่านั้น เพลงนี้มันทำให้ผมทั้งดีใจที่พี่เขมบอกว่าจะรอผมและก็ทำให้ผมเสียใจ ที่พี่เขมคิดจะรอผมในเวลาเดียวกัน ผมสูดหายใจลึก ๆ หลังจากจบเพลง พี่ ๆ เห็นผมในสภาพนี้ต่างขำกันใหญ่ แล้วเจ้าตัวคนร้องเพลงก็ปรากฎกายอยู่ข้างผมครับ ความพีคมันอยู่ที่ มันเดินตรงลงมากจากเวทีแล้วก็วิ่งเข้ามาหาผมทันที...ทำให้คนทั้งร้านมองผมกับพี่เขมเป็นสายตาเดียวกัน แล้วพี่เขมก็ประกบปากพี่เขมลงบนปากผมต่อหน้าสาธารณะชน คนทั้งร้านผมเชื่อว่า ทั้ง อึ้ง ทึ่ง เสียว กันไปหมดแน่นอน เหมือนตอนนี้ผมได้ยินแค่เสียงหัวใจตัวเองที่เต้นแทบจะไม่เป็นจังหวะ และเสียงแอร์ที่ดังอยู่ ผ่านไปไม่ถึง 2 วินาที เสียงกรี๊ดร้องจากคนทั้งร้านก็ดังกระหึ่มเลยครับ ผมไม่รู้จะเอาหน้าไปแทรกไว้ที่ไหน พี่เขมปล่อยมือจากหน้าผม แล้วก็หันไปส่งยิ้มให้กับทุกคน....แหม่ๆ ๆ ผมนี่งงๆ ไปหมด แล้วเสียงช่วยชีวิตของผมก็พูดขึ้นมากครับ

พี่เก่ง : ว่าไงครับน้อง...เพื่อนพี่ทุ่มให้ขนาดนี้แล้ว มีอะไรมาสู้ไม๊

ผมโบกมือส่ายหัวยิก ๆ เป็นการบอกว่าไม่พร้อมที่จะร้องเพลงที่เตรียมเซอร์ไพรส์ให้กับพี่เขมตอนนี้อย่างแรง เพราะตอนนี้ เนื้อเพลงซักท่อนในหัวผมยังจำไม่ได้เลยครับ

ไม่นานเสียงและฝูงชนของในร้านก็สงบลงครับ ผมนี่โล่งใจมาก กว่าจะทำตัวเองให้กลับไปอยู่ในโหมดปกติได้

มีต่อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 36 A book of KEM P.6 ( 17-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 18-11-2017 22:01:25
พี่เขม : เป็นไงหละ ของขวัญวาเลนไทน์พี่

บี : ใจกล้าหน้าด้านได้อีกเนอะพี่เนี่ย

พี่เขม : อ่าวทำไมหละ...หรือไม่ชอบ

ผมพยักหน้าเป็นการตอบแล้วเอาตัวเข้าไปอิงที่อกพี่เขม

พี่เก่ง : ไอ้หนูน้อย...อ้อนให้มันน้อย ๆ หน่อย กรูโสดอยู่ค๊าบบบบบบ พวกเมิงสองคนเนี่ย เกิดมาเพื่อฆ่าคนโสดอย่างกรูจริง ๆ เลย

พี่มิ่ง : ไม่ได้แค่ฆ่าคนโสดนะ เมียกรูจะงอนแล้วเนี่ย ไม่ยอมทำอะไรแบบนี้ให้บ้าง

พี่เขม : ไอ้มิ่ง เมิงเป็นนักร้องนะ เมิงไม่ร้องเพลงให้เมียเมิงฟังแล้วเมิงทำห่าอะไรอยู่ฟระ กรูไม่เข้าใจ

พี่มิ่ง : ไอ้ห่าเขม...เมิงวางยากรูนะ รู้งี้แม่งไม่ช่วยคิดเพลงให้หรอก

บี : นี่พี่ไปซ้อมกันตอนไหนเนี่ย

พี่เขม : ก็วันที่บีไม่อยู่ไง

พี่มิ่ง : อ่าๆ  ๆเด๋วกรูไปร้องเพลงให้แฟนกรูก่อนนะ เด่วจะงอน

พี่เก่ง : มา ๆ เด๋วกรูไปช่วยเซ็ต

บี : งั้นผมขอไปเข้าห้องน้ำด้วยพี่

แล้วแผนของพวกเราก็เริ่มขึ้นครับ แผนชั่วหักหลังพี่เขม โดยที่พี่มิ่งนั้นจะทำทีขึ้นไปร้องเพลงก่อนแล้วผมก็เข้าไปร่วมด้วยทีหลัง คือจะให้ผมร้องเพลงคนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบแม่งก็คงจะไปไม่รอด พี่มิ่งเลยให้ไปฝึกเคาะไอ้กาฮองมา แล้วมาร้องช่วยพี่เค้า ไปเลยเพราะเสียงผมต่ำกว่าแล้วเดียวพี่เค้าจะช่วยร้องให้มันโอเคขึ้นเอง พี่มิ่งบอกว่าอย่างนั้น ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันออกมาเป็นยังไง พี่เก่งเตรียมสูทของไอ้พี่เขมเอาไว้ให้ผมใส่ทับเสื้อผ้าผมครับเพราะว่าจะขึ้นไปสภาพนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นเด็กเช็ดกลองไปหน่อย

แล้วพี่เก่งก็เริ่มเพลงให้ก่อนเลยครับตอนนี้ทั้งเวทียังไม่มีไฟ พี่เก่งทำการโซโล่คีย์บอร์ด ตอนนี้ผมบอกเลยครับว่าพี่เก่งแม่งโคตรหล่อโคตรเท่ห์อ่ะครับ แล้วไฟก็เริ่มจะสว่างที่พี่เก่งขึ้น  เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพี่เค้าเล่นแล้วตั้งใจขนาดนี้ ไม่มีมาดกวน ๆ เลยครับ คือพูดง่าย ๆ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ ที่ว่าโคตรหล่อเวลาเล่นเปียนโน...เจอพี่เก่งเค้าไปนะครับ มีร้องอ่ะครับ

พี่เก่งร้อง :

มีให้แค่เท่านี้ มีเพียงแค่เท่านี้
ไม่มีมากมายดังใครเขามี
มีให้เพียงนิดน้อย แต่ให้ไปเกินร้อย
ไม่มีเงินตรา มงกุฏชฎาแม่เนื้อกลอย

แล้วพี่เก่งก็ส่งเนื้อต่อให้พี่มิ่งเป็นคนร้องครับ พี่มิ่งอยู่อีกด้านของเวทีแล้วก็เล่นกีต้าร์ไฟฟ้า แล้วก็รับร้องท่อนต่อไป คือด้วยความที่พี่มิ่งแม่งเป็นนักร้องน้ำอยู่แล้ว เสียงพี่แกก็นุ่มซะจนชวนฝันหวาน

พี่มิ่งร้อง :
ไม่มีรถเก๋ง แอร์เย็นอย่างใครเขา
มีไมตี้เอ็กซ์ท่อดังและคันเก่า
พี่ไร้หน้าตาในสังคมไฮโซ
และจะเจอพี่ได้ ก็แค่วงไฮโล
.
.
.
.
.
ตอนนี้ผมแอบหลบอยู่ด้านหลังของกลองครับแล้วผมก็เคาะกาฮอง รอท่อนของผมที่จะขึ้น และก็แน่นอนคนเสียงดี ๆ อย่างผมท่อนที่จะได้ร้องก็ต้องไม่พ้น ท่อนแร็พแน่นอนครับ คืออย่าว่าผมเลยครับ คือผมเนี่ย พยายามแล้วเลือกเพลงแต่ละเพลง ตอนแรกก็อยากจะให้พี่เขมแม่งซึ้งน้ำตาไหลไปอยู่เหมือนกัน แต่ผมเดา ๆ แล้วครับว่ายังไงซะก็ต้องมีคนขึ้นไปร้องเพลงสาระภาพรักให้แฟนแน่ ๆ ในวันนี้แล้วก็จริงครับ ก็พี่เขมไงจะใครเล่า.... ผมก็เลยต้องหาลูกเล่นอย่างอื่น เพื่อกระชากความหวานซึ้งออกไปให้หมด 555555
ผมโผล่ออกมาจากด้านหลังเวทีแล้วก็ออกมาแร็พ...

เริ่มจากเราสอง มันเริ่มจากคนสองคน
มีกามเทพสองตน ละแผลงศรอยู่สองคม
ชะตาฟ้าลิขิตหรือจะสู้มานะ
อยู่กะฉันและร่วมฝันละให้ชนะความจน
อดทนอีกนิด รับพินิจไปติดจาน
น้องบี คนนี้ไม่ใช่ข้าราชการ
ถึง บี จะจน แต่ บี ก็ทนไม่เคยอาย
จะรักพี่เขมไป ไม่ทอดทิ้งจนวันตาย

อยู่กับฉันได้ไม๊ แก่เฒ่าเป็นตายายในบั้นปลายสุดท้ายของดวงชีวัน
อยู่เคียงคู่กับแบบนี้ ร่วงโรยเป็นธุลี กลับสู่ธรณีฝั่งร่างนี้ไปพร้อมกันนนนนน

ตอนที่ผมออกมาแร็พนี้พี่ ๆ ตาลกับพี่พริ้งพากันกรี๊ดสุดเสียงเลยครับ ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ากรี๊ดชอบหรือกรี๊ดไล่...คนในร้านก็เริ่มลุกขึ้นเต้นตั้งแต่ท่อนเร็ว ๆ ตอนกลาง ๆ เพลงแล้วครับ แต่พอท่อนที่ผมออกมาร้องเท่านั้นแหละ เสียงกระหึ่มเลย ไม่รู้ว่าผมไปทำลายบรรยากาศความหวานซึ้งโรแมนติกของคู่รักคู่อื่น ๆ รึเปล่า แต่เนี่ยแหละครับ เพลงที่เหมาะกันผมแล้วจะไม่ทำให้ผมขายหน้า... 55555

พอผมร้องเสร็จผมก็เดินไปหาพี่เขมที่ยืนอึ้ง ปรบมือให้ผมอยู่ ผมเดินเข้าไปกระซิบข้างหู

บี : ผมรักพี่เขมนะครับ  Happy V day ครับ

พี่เขมกอดผมไว้แน่น....แล้วก็ยกตัวผมขึ้นสูง

พี่เขม : ไอ้เก่ง ไอ้มิ่ง...เมิงพาแฟนกรูไปซ้อมมาตั้งแต่เมื่อไหร

พี่เก่ง : 55555 เค้าเรียกว่าแผนซ้อนแผนเว้ย

พี่มิ่ง : กรูไม่เกี่ยวนะ....

พี่เขม : แล้วทำไม...ให้แฟนกรูร้องเพลงนี้...แม่งออกมาอย่างเท่ห์เลย

พี่เก่ง : กรูไม่ได้เลือก โน่น ไอ้หนูน้อยเลือกเองเลย

บี : ผมเลือกเองครับพี่เขม....จะให้ผมร้องเพลงซึ้ง ๆ บอกพี่ คงจะล่ม

พี่เขม : ทำไมออกมาอย่างเท่ห์เลยอ่าาาาาาา เพลงพี่เลยดูรักใส ๆ หัวใจ 4 ดวงไปเลย

บี : แหม่ ๆ จะแข่งกับขาแร็พอย่างพี่คงจะช้าไป 10 ปีนะน้อง...(ผมทำท่าโยก ๆ กวน ๆ )

พี่ตาล : บี....เห้ย....หล่อเลยอ่ะ....คือแบบ...เปลี่ยนลุ๊คเลยอ่ะ

พี่พริ้ง : บี....พี่ขอจีบได้ป่ะ...คือแบบ เฮ้ย ไม่เคยคิดว่าน้องแม่งจะเท่ห์ขนาดนี้อ่ะ

พี่ตาล : พูดอะไรเกรงใจผัวด้วย...ผัวอยู่ด้านหลังอิพริ้ง

พี่มิ่ง : ตอนแรกที่มันมาบอกกรูว่าจะร้องเพลงนี้กรูก็งง...อะไรของแม่งฟระ

พี่เก่ง : เออจริง...คือมันบอกว่าคิดไว้แล้วว่าจะร้องเพลงอะไรให้ไอ้อ้วน กรูนึกแบบ เพลงหวาน ๆ ใส ๆ แน่นอน แต่พอแม่งบอกว่าจะร้องเพลงนี้แล้วจะร้องท่อนนี้นะ กรูอึ้งเลยค๊าบบบบบบบ

พี่มิ่ง : มันมีความคิดดีนะ มันออกแบบมาหมดเลยว่าให้ใครร้องอะไรตรงไหน

บี : แหม่ ๆ พี่ๆ  ก็ชมเกินไป

พี่เขม : วันหลังเด๋วกรูพาไปซ้อมด้วยบ่อย ๆ

พี่เก่ง : จะวันหลังห่าอะไรอีกหละ...มันจะไปอีก 2 อาทิตย์แล้วไม่ใช่เหรอ

พี่พริ้ง : อิห่าเก่ง แล้วเมิงจะย้ำเพื่อ???

หน้าของพี่เขมดูเศร้าไปเลยในทันตา ผมเดินไปจับมือพี่เขมไว้แล้วเอาขึ้นมาถูหัวผม

พี่เก่ง : ไอ้สัสเอ้ย...ไปอ้อนกันไกล ๆ กรูหน่อยก็ไม่ได้ กรูโสดเห็นใจกรูด้วย

พี่เขมพยักหน้ายิ้ม ๆ เป็นการตอบรับแทน ผมเข้าใจดีครับว่าเวลาที่เราสองคนจะมีอยู่ด้วยกันมันเหลือน้อยลงไปทุกวัน ผมยอมรับเลยว่า ใจหายเหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าเวลา 1 เดือนที่ตอนแรกเหมือนจะนานมากพอ แต่พอตอนนี้ มันเหมือนจะไม่พอเอาซะแล้ว

หลังจากงานพวกเราก็แยกย้ายกันครับ...ผมเดินจุงมือมากับพี่เขมที่รถ พี่เขมหยุดเดินก่อนถึงรถของพี่เขมนิดนึง

พี่เขม : บีครับ...พี่รู้นะว่า ถึงพี่จะพูดยังไง คำตอบก็ออกมาเป็นเหมือนเดิมอยู่ดี

บี : อะไรครับพี่...(ในใจผมคิดว่าพี่เขมต้องงอแงเรื่องเลิกกันตอนผมไปแน่ ๆ )

พี่เขม : ไม่ไปเรียนต่อได้ไม๊

บี : พี่เขม...ไม่ได้ดิ...พ่อแม่แหกอกแน่

พี่เขม : แล้วไปเรียนต่อแล้วกลับมาจะกลับมาอยู่ที่บริษัทเดิมไม๊อ่ะ

บี : แม่ว่าให้ลาออกเลยอ่ะพี่แล้วค่อยกลับมาสมัครใหม่

พี่เขม : อืม ๆ ๆเร็วเหมือนกันเนอะ...เหลืออีกไม่กี่วันแล้วเนี่ย

บี : พี่เขมครับ...(ผมจับมือพี่เขมไว้ทั้ง 2  ข้างแล้วก็จ้องหน้าพี่เขม)...

พี่เขม : พี่ก็แค่...ไม่อยากให้บีไปเลย

บี : ไม่เอาหน่า....วันวาเลนไทน์นะ ต้องบอกรักกันดิ ห้ามงอแง

พี่เขมพยักหน้าเป็นการตอบรับ....เราพากันขึ้นรถแล้วกลับไปนอนที่คอนโดพี่เขมครับ วันนี้เราแค่นอนกอดกันเฉย  ๆ แต่แปลกที่หัวใจของผมมันกระวนกระวายผิดปกติ ผมนอนแทบจะไม่หลับเลยครับ...ในหัวผมคิดวนไปวนมาเกี่ยวกับคำพูดของพี่เขม แต่ที่ผมไปเรียนต่อก็เพราะพี่เขมเพื่อให้ตัวผมดีพอ จะได้ไม่เป็นที่ครหาได้อีกว่าไม่คู่ควรกับพี่เค้า และก็ไปเรียนเพื่อจะได้ให้พ่อแม่ภูมิใจในตัวผม ผมเผลอถอนหายใจออกมาเบรา ๆ

พี่เขม : นอนไม่หลับเหรอ

บี : คับพี่....

พี่เขม : คิดมากเรื่องอะไรหละ

บี : รวม ๆ กันหลาย ๆ เรื่องอะครับ

พี่เขม : อยากเล่าอะไรให้พี่ฟังไม๊

บี : ไม่มีอะครับ....เป็นเรื่องเดิม ๆ คิดวนไปวนมาแหละ

พี่เขม : เล่าออกมาแล้วมันอาจจะดีขึ้นก็ได้นะ....

บี : ครับพี่...ผมก็คิดถึงเรื่องเรียน เรื่องพี่ เรื่องพ่อแม่แหละครับ ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป

พี่เขม : ทำไมบีไม่คิดถึงตัวเองก่อนบ้างหละ ว่าชอบไม๊ที่กำลังจะไปเรียนเนี่ย

บี : ก็โอนะพี่...ผมไม่ได้จบมาด้านนี้ก็จริง แต่ผมก็ทำงานมาด้านนี้แล้วอ่ะ ก็ต่อยอดดีกว่าไม๊...หรือพี่ว่าไง

พี่เขม : แล้วบีชอบมันไม๊หละ?

บี : ก็ชอบนะพี่ ท้าทายดี เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยเรียน แต่ทำงานด้านนี้มาแล้ว อาจจะเปิดโลกอีกด้านนึง

พี่เขม : งั้นก็ไม่มีอะไรต้องเครียดรื่องเรียนแล้ว...แล้วเรื่องพ่อแม่หละเครียดเรื่องไร

บี : ก็ผมห่างจากบ้านอีกแล้วอ่ะพี่...มันไม่เหมือน กทม. เชียงใหม่นะ ที่ห่างกัน 1 ชม. บินไปหาได้ตลอดเวลา แล้วพ่อกะแม่ก็แก่แล้วด้วย....ผมก็เป็นห่วงแหละ

พี่เขม : ไม่เป็นไรนะ...มีอะไรเด๋วพี่คอยดูแลให้

บี : แล้วพี่จะไปบ้านผม...ยังไง แล้วจะบอกพ่อแม่ผมยังไงหละ

พี่เขม : ก็บอกว่าเป็นพี่น้องไง...จริงไม๊?

บี : อืม ๆๆ

พี่เขม : แล้วเรื่องพี่หละ..เครียดเรื่องอะไร

ผมถอนหายใจยาวเลยครับ...ไอ้เรื่องพี่เขมเนี่ยไม่รู้จะอธิบายมันยังไง คือมันมีทั้งความไม่อยากจากไป และก็มีทั้งความอยากจะรีบ ๆ ไปแล้วรีบกลับมา ความอาลัยอาวร ความกลัวว่าพี่เขมจะไม่เหมือนเดิม ความที่เวลาเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน หรือแม้กระทั่ง ความไม่แน่นอนของชีวิต มันผสมปนเปกันไปหมดยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำได้

บี : ผมคิดถึงพี่เขมครับ....(ผมมันออกมาได้มาแค่คำสั้น ๆ แค่นี้)

พี่เขมหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ..... “แล้วคิดว่าพี่จะไม่คิดถึงบีเหรอ...ไอ้ตัวแสบของพี่”

เรานอนกอดกันไปซักพัก...ตอนนี้ในใจผมมันเริ่มสงบลงไปบ้างแล้วไม่นานผมก็หลับไปในอ้อมแขนของพี่เขม

เช้ามาแม่ผมโทรมาหาผมในตอนเช้าครับ....แม่ถามว่าจะได้กลับบ้านก่อนไปเรียนต่อรึเปล่า เพราะผมก็ยังไม่ได้ลาพ่ออย่างเป็นจริงจังเลย พอวางโทรศัพท์จากแม่ ผมก็ถามพี่เขมครับว่าผมอาจจะต้องกลับบ้านไปซัก 2-3 วันแล้วเด๋วจะกลับมาใหม่ พี่แกทำหน้ามุ่ยใส่ผมทันทีแต่ก็ยอมให้ผมกลับบ้านแต่โดยดีครับ ผมวางแผนว่าจะกลับบ้านศุกร์เช้าแล้วก็กลับมา กทม. อาทิตย์เช้าครับ จะได้อยู่กับพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกบ้าง ซึ่งวันศุกร์คือวันพรุ่งนี้ครับ พี่เขมมีบินในตอนบ่ายวันนี้และค้างกลับมาอีกทีวันเสาร์เย็น ๆ ครับ ผมก็เลยได้ทีหนีกลับบ้านไปเลย

.
.
.
.
.
เวลาช่างผ่านไปเร็วจริง ๆ ครับ หลังจากผมกลับบ้านมา 3 วันแล้วก็กลับมากทม. ผมก็โชคดีมีคนมาเช่าคอนโดผมพอดี ผมเลยลงไปทำเรื่องการเช่าคอนโดผมให้เสร็จครับแต่โชคร้ายที่ผมไม่ได้เจอกับคนที่จะมาเช่าห้องผมเลยครับ ผมเจอแต่คนที่เค้ามอบอำนาจมาให้ ผมก็เลยหยวน ๆ คือผมก็กลัวห้องผมจะเสียหายเพราะเฟอร์ส่วนใหญ่เป็นเฟอร์จาก อิเกียครับ มันก็เลยไม่ได้แข็งแรงทนทานขนาดนั้น ผมเลยอดแสกนกรรมของคนที่จะเช่าห้องผมต่อเลยครับ...แต่ผมก็ฝากเรื่องไว้กับเปรี้ยวครับ บอกให้มันช่วยสแกนกรรมให้หน่อยว่าคนเช่าเป็นใครดูแลห้องเป็นยังไงบ้าง

วันที่ 25 ผมก็มีเลี้ยงกับเพื่อน ๆ ที่เป็นลูกเรือรุ่นผมครับ พี่เขมเป็นคนจัดให้ พี่แกทุ่มทุนให้เลยครับ ปิดร้านอาหารเลี้ยงเลย แล้วพี่เขมก็ชวนพวกพี่ ๆ ของวงพี่แกมาเล่นดนตรีให้ด้วย ยิ่งทำให้เหมือนเป็นพวก ไพรเวตปาตี้พวกดาราจัดกันเลยครับ แล้วพวกเพื่อนๆ  ชะนีน้อยของผมก็อดใจไม่ได้ที่จะแทะโลมพี่เก่งครับ....แล้วด้วยความที่พี่เก่งตอนนี้โสดแล้วด้วย...ยิ่งทำให้พี่แกฮ๊อตหนักเข้าไปอีก แก้งสาวโสดเพื่อน ๆ ของผมมองพี่เก่งตาหยาดเย้มกันหมดเลยครับ เด็กขายดอกไม้ที่เดินมาขายในร้านนี่ยิ้มแป้นเลยครับ ดอกไม้โดนเหมาหมดแล้วเอาไปกราบไหว้บูชาพี่เก่ง ไม่เพียงแค่ดอกไม้นะครับ ป้าที่มาขายถั่วและผลไม้ยังขายหมดเลยครับ พวกแก้งสาวโสดเพื่อน ๆ ผมน่าจะเป็นพวกสายเปย์ครับ คือสวยและรวยมาก เลี้ยงผู้ชายได้ 55555

ไม่นานพี่เก่งก็รีบวิ่งมาตามผมให้ไปกันท่าให้ครับ เพราะพี่เก่งจากที่ตัวเองรู้สึกว่าฮอตมากแต่ตอนนี้ รู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาแล้วครับ 5555 เหมือนจะโดนชะนีรุม ผมไปกันเพื่อน ๆ ผมออกจากพี่เก่ง แล้วให้พี่เก่งมานั่งอยู่กลางวงของโต๊ะพี่เขมครับ เลยไม่มีใครกล้ามายุ่งอีก ปาตี้ผ่านไปได้ด้วยดีครับแล้วมันก็เหลืออีกแค่ 3 วันเท่านั้นที่ผมจะต้องจากไป




To be continued…


ป.ล. ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดเลยว่าไม๊ครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 37 แผนซ้อนแผน P.6 ( 18-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Fahsaizzz ที่ 18-11-2017 22:17:45
เป็นกำลังใจให้พี่เขมและน้องบีค่ะ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 37 แผนซ้อนแผน P.6 ( 18-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 19-11-2017 00:50:27
ใจหายเลย ยังไงต่อน้อออ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 37 แผนซ้อนแผน P.6 ( 18-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 20-11-2017 21:26:11
ตอนที่ 38 ตอนจบ

วันนี้เป็นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ครับ เป็นวันที่ผมจะต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ออสเตเรียครับ ผมได้จัดการเรื่องทุกสิ่งเรียบร้อยหมดแล้วและไฟล์ที่ผมจะเดินทางไปนั้นเวลาประมาณ 6 โมงเย็นครับ

ผมตื่นเช้าเพื่อจะทำการจัดกระเป๋าอีกครั้งแล้วเช็คเอกสารทั้งหมดว่าพร้อมแล้ว ผมโทรหาป้าผมที่อยู่ออสเตเรีย คอนเฟิมกับป้าผมว่าเวลาที่ผมจะถึงกี่โมงแล้วจะเจอกันตรงไหน

ส่วนตัวผมเคยไปอยู่ที่ออสเตเรียมาก่อนแล้วครับ แต่ไปทำงานไม่ได้ไปเรียน แต่ครั้งนี้จะต้องไปเรียนและเป็นการเรียนต่อโทซะด้วย จริงจังไปอีก ผมตื่นเต้นมากเพราะว่าหลังจากการเรียนป.ตรี ผมก็ไม่ได้แตะหนังสือ และเข้าห้องเรียนอีกเลย มันยิ่งทำให้ผมตื่นเต้นและยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นการไปเรียนต่างประเทศของผมคร้ังแรก ผมกลัวและกังวลเรื่องของเพื่อนมากครับว่าจะออกมาเป็นแนวไหน

ผมบอกกับทุก ๆ คนว่าไม่ต้องไปส่งผมที่สนามบินครับ รวมไปถึงพี่เขมและเพื่อนสนิททุกคนด้วย เพราะผมรู้ดีว่า ถ้าผมเจอใครเข้าซักคน บ่อน้ำตาของผมต้องแตกแน่ ๆ และที่ร้ายไปกว่านั้นคือ ผมก็ไม่บอกเรื่องเกี่ยวกับตั๋วผมให้ใครรู้เลยว่าผมจะเดินทางกี่โมงอะไรยังไง เพราะผมกลัวแม่งพวกเพื่อน  ๆ หรือพี่เขมจะไปดักรอแล้วเซอร์ไพรส์ผม

สาย ๆ หน่อยผมก็ออกจากคอนโดไปทำเรื่องธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดและทำการระงับเบอร์โทรศัพท์มือถือของผมครับ บอกไปว่าจะระงับตอน 2 ทุ่มของวันนี้ซึ่งพี่พนักงานคนสวยก็ทำให้อย่างเสร็จสรรพครับ ตกบ่ายผมก็ไปหาข้าวทานแล้วก็เอากุญแจไปฝากอีเปรี้ยวเอาไว้เพื่อให้คนที่จะเช่ามารับกุญแจห้องผมและคีย์การ์ดจากเปรี้ยวครับ

เปรี้ยว : เมิงจะไม่ไปหาพี่เขมก่อนซะหน่อยเหรอฟระ

บี : ไม่อ่า...กรูไม่อยากจะพังก่อนไป เมิงจำได้ไม๊สมัยก่อนที่กรูไปทำงานที่ออสอ่ะ เมิงเองก็ไปส่งกรู

เปรี้ยว : อิห่า จำได้ดิฟระ

บี : ตอนนั้นกรูจะได้เมิงไปยืนหลบอยู่หลังยักษ์ แล้วร้องไห้กอดกันกับอิอีฟ แล้วก็แอบกรู กรูก็หาตั้งนานว่าหายไปไหนกัน สรุปร้องไห้กันจ้าาาาา

เปรี้ยว : อิห่าก็กรูเศร้าอ่ะ ตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้เป็นลูกเรือกันเลยนะเว้ย แต่ตอนนี้กรูบินไปหาเมิงได้กรูไม่เศร้าแล้ว

บี : เออดีละ...มาหากรูด้วยหละ

เปรี้ยว : แล้วเมิงจะไม่ให้ที่อยู่เบอร์โทร หรือการติดต่ออะไรกับพี่เขมเลยจริงเหรอฟระ

บี : จริงดิเมิง... กรูต้องทำให้ได้ กรูต้องปล่อยพี่เขมไป

เปรี้ยว : มันดีที่สุดแล้วจริงเหรอวะวิธีนี้

บี : เมิง...ถ้าเป็นเมิง...เมิงอาจจะขอให้พี่เค้ารอเมิง แล้วถ้าพี่เค้ารอเมิงไม่ได้หละ มึงจะพังไม๊ แล้วมึงจะมองหน้าพี่เค้าต่อไปได้ไม๊ แล้วสุดท้ายเราก็คงต้องกลายเป็นคนที่เกลียดกัน หรือคนที่ไม่รู้จักกันไปอีกตลอดไป

เปรี้ยว : ถ้ามันเกิดขึ้นอย่างนั้นมันก็จริงนะ...แต่ถ้ามันไม่เกิดขึ้นหละเมิง

บี : ถ้าพี่เค้ารอกรูได้จริง...กรูกลับมากรูก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้พี่เค้ารักกรูอีกครั้งไง

เปรี้ยว : เสี่ยวเวอร์ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

บี : เมิงแต่ถ้าเค้าเจอคนที่ดีกว่า ดูแลเค้าได้ในยามที่เค้าต้องการ กรูก็อยากให้เค้าไปนะ เพราะว่ากรูก็ไม่รู้ว่ากรูจะกลับมาเมื่อไหร อาจจะปีหน้า หรือ 2 ปี หรือ 3 ปี แล้วเวลาที่กรูห่างเค้าไปหละ ใครจะดูแลเค้า เค้าควรมีโอกาสได้เจอคนที่ใช่ และในเวลาที่ใช่จริงไม๊

เปรี้ยว : เมิง...กรูว่า เมิงไม่ต้องไปเรียนละ...เมิงไปบวชไม๊

บี : อิห่า....ความรักของกรูมันก็เป็นอย่างนี้แหละ

เปรี้ยว : เพราะเมิงคิดถึงเค้าก่อนจะคิดถึงตัวเองเสมอหละสิ

บี : ก็จริง....กรูยอมที่จะเจ็บเองดีกว่าให้เค้ามาทนทรมานเพื่อกรูนะ

เปรี้ยว : จริง ๆ เมิงอ่ะก็เป็นอย่างนี้กับทุกคนนะ เมิงจะเป็นห่วงคนรอบ ๆ ตัวเมิงก่อนเสมอ...กรูถึงได้รักเมิงไง

บี : นี่...เสี่ยวกว่ากรูก็เมิงเนี่ยแหละ...

เปรี้ยว : งั้นกรูจะเป็นเพื่อนเมิงมาได้ตั้ง 10 กว่าปีเหรอ

ผมนั่งเล่นที่ห้องเปรี้ยวอีกซักพักแล้วผมก็จะทำการเรียกรถแท็กซี่ออกไปสนามบินแล้วครับ ผมชอบไปถึงสนามบินก่อนนาน ๆ เพราะสนามบินเป็นที่ ๆ  ผมหลงไหลครับ ผมเรียนจบมาทางด้านวิทยาศาสตร์ ผมลองไปทำงานให้มันตรงกับที่เรียนมาแล้วนะครับแต่ก็ไปไม่รอด ผมไม่ชอบการทำงานที่ไม่ได้เจอคนครับ ผมว่าทำงานกับคนมันสนุกดี บางคนอาจจะคิดว่าผมบ้าง ทำงานกับคนยุ่งจะตาย ยิ่งต้องทำงานบริการคน หลากหลายเชื้อชาติ ศาสนา ยิ่งทำให้เราเดาทางไม่ถูกว่าเราต้องทำอย่างไรให้เค้าพอใจ และเนี่ยแหละครับเป็นสิ่งที่ท้าทายผม

ผมเป็นคนไม่ชอบสิ่งที่จำเจครับ การทำงานเอกสาร คือทำผิดก็ลบแก้ใหม่ก็จบ มันมีแค่ถูกกับผิดครับ แต่ทำงานกับคน มันจะมี อารมณ์ การตอบสนอง ปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เราต้องคิดและวางแผนล่วงหน้าก่อนที่จะรับมือกับคน 1 คนครับ ผมเลยเบนเข็มมาทำงานด้านบริการ ซึ่งการเป็นลูกเรือก็เป็นด้านที่ผมชอบ และที่มากไปกว่านั้น สิ่งที่ผมชอบที่สุดก็คือ เครื่องบินและสนามบินครับ

สนามบินเป็นที่ที่ รวมรวมทั้งความสุขของการได้เจอ การได้เที่ยว การได้เปิดโลกสิ่งใหม่ ๆ เป็นที่แรกเวลาที่เราจะต้องบินไปในประเทศต่าง ๆ ที่เราจะต้องไปถึงและจะเห็นได้ว่าบ้านเมืองเค้าแตกต่างจากบ้านเมืองเราอย่างไร และก็ยังเป็นศูนย์รวมความเสียใจ การจากลาอีกด้วยเช่นกัน เราจะสามารถเห็นน้ำตาแห่งความยินดี และ น้ำตาแห่งการจากลาได้จากที่นี่ที่เดียวครับ มันทำให้ผมหลงรักสนามบินทุกครั้งที่ผมไป ผมชอบแอบมองคนที่ส่งจูบกันก่อนจะส่งคนรักของเขาให้ไปต่างประเทศ และการต้อนรับกลับมาด้วยการจูบ มันเป็นภาพที่บ่งบอกถึงความรักและความห่วงใย ที่ทุกคนทุกเพศ ทุกวัยจะแสดงต่อกัน

ผมเลยเลือกที่จะมาทำงานให้ใกล้กับเครื่องบินและสนามบินให้มากที่สุด เพราะความน่าหลงไหลของทั้งสถานที่และตัวของเครื่องบินเอง และตอนนี้ผมจะต้องจากงานอันเป็นที่รักเพื่อก้าวที่ใหญ่ขึ้นอีกต่อไปและเพื่อทำให้ตัวเอง ดีพอ ที่จะเหมาะสมและคู่ควรกับคนที่ผมรักในตอนนี้

ผมเดินทางไปถึงสนามบินประมาณ 3 โมงครับ โดยเฉลี่ยก็คือ 3 ชม. ก่อนเวลาบินจริง เพื่อทำการเช็คอินโหลดกระเป๋าและเลือกที่นั่งเป็นคนแรก ๆ ผมจะชอบนั่งบริเวณทางออกฉุกเฉินครับ เพราะผมเป็นลูกเรือ ถ้าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น ผมอาจจะช่วยในการเปิดประตูทางออกฉุกเฉิกได้ และที่สำคัญคือ มันจะมีพื้นที่ให้ยืดขาได้มากกว่าปกติครับ 5555

พอผมเช็คอินโหลดกระเป๋าเสร็จ ผมก็มานั่งอยู่หน้ายักษ์ตัวหนึ่งในสนามบินสุวรรณภูมิครับ ผมถ่ายรูปแล้วก็โพสลงในเฟส และไอจี ก่อนที่ผมจะผ่านตม. เข้าไปครับ ผมเปิดเฟสขึ้นมาแล้วก็มีข้อความจากเฟสเด้งขึ้น ผมกดดูมันคือข้อความจากพี่เขมครับ เป็นข้อความเสียง ผมกดโหลดแล้วส่งโทรศัพท์ผมเข้าเครื่องแสกนไป

พอผ่านเอ็กเรย์ ผมก็ได้กดฟังข้อความเสียงของพี่เขมครับ พี่เขมส่งเพลงมาให้ผม 1 เพลง เป็นเสียงของพี่เขมที่เล่นละร้องเพลงนี้ครับ ผมฟังได้นิดหน่อยผมก็เดินไปชนกับเสาก่อนลงบันไดเลื่อนครับ เจ็บมากผมเลยหยุดเล่นมือถือก่อนจะลงบันไดเลื่อนไป พอผ่านตม. เสร็จทุกอย่างผมก็คว้ามือถือขึ้นมาถ่ายรูปที่รูปปั้น เกษียณสมุทร ครับ ทุกครั้งที่ผมได้บินไปต่างประเทศ เราจะได้เจอรูปปั้นนี้ทุกครั้ง มันเป็นรูปปั้นที่สวยงามมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ผมหยุดและถ่ายรูปเจ้ารูปปั้นนี้ แล้วผมก็ลืมไปเลยครับว่าผมจะต้องฟังคลิปเสียงของพี่เขมที่ส่งมาให้ทางเฟส แล้วผมก็เปลี่ยนไปอัพรูปเพิ่ม...ผมเดินไปเรื่อย ๆ ดูของต่าง ๆ เสร็จก็ไปที่เล้าจ์ครับ ไปนั่งพักนิดหน่อยก่อนที่จะไปขึ้นเครื่อง ผมคว้ามือถือขึ้นมาแล้วก็โพสเพลง 1 เพลง แล้วแท็กชื่อพี่เขมครับ มันเป็นเพลงที่ผมอยากจะใช้แทนคำอำลาของผม ผมนั่งฟังเพลงนี้อยู่นานก่อนที่ผมจะกดโพสเพลงนี้ไป แล้วโทรศัพท์เจ้ากรรมก็ดันโดนตัดซะอย่างงั้น...ผมบอกให้เค้าปิดสัญญาณตอน สองทุ่ม แต่ตอนนี้เพิ่งจะ 4 โมงครึ่ง สัญญาญผมถูกตัดไปแล้ว ก่อนที่ผมจะโพสเพลงนั้นได้....

ผมเดินออกมาจากเล้าจ์แล้วใช้ตู้โทรศัพท์โทรหาพี่เขม

บี : พี่เขมครับ...นี่บีนะ

พี่เขม : อื้ม...อยู่ไหนแล้วครับ

บี : ผมอยู่ในสนามบินแล้ว

พี่เขม : อืม....เร็วจังงงงง

บี : พี่เขม....ผมขอโทษนะ ที่ผมไม่ให้พี่มาส่ง

พี่เขม : ครับบี...พี่เข้าใจ

บี : ถ้าพี่มาผมคงจะก้าวไม่ออกเลย....(ตอนนี้น้ำตาผมมันเอ่อล้นออกมาแล้วครับ)

พี่เขม : ครับ...ดีแล้วแหละ ถ้าพี่ไป พี่ก็คงจะกอดรั้งบีเอาไว้ไม่ให้บีไปเหมือนกัน

ผมขำออกมาเบา ๆ ผมรู้ได้เลยครับว่าเสียงพี่เขมตอนนี้พยายามทำให้นิ่งที่สุด

บี : พี่เขม...ผมมีเพลงนึงอยากจะให้พี่ก่อนผมไป แต่มือถือผมดันโดนตัดไปแล้วอ่ะ

พี่เขม : แล้วได้ฟังเพลงที่พี่ส่งไปให้รึยัง...

บี : เออ...ลืม...กดฟังละนะ มะกี้เดินชนเสา เลยหยุดเล่นก่อน

พี่เขม : มันก็เป็นซะอย่างเนี่ย....แล้วจะได้ฟังไม๊เนี่ย

บี : แต่พี่เป็นคนร้องเองหนิใช่ป่ะ...ร้องให้ผมฟังได้ไม๊

พี่เขม : เรื่องอะไร บีร้องเพลงที่บีอยากจะให้พี่ฟังมาก่อนดิ

บี : ได้เลย...แต่อาจจะไม่เป็นคำนะ

พี่เขม : ครับ พี่จะต้ังใจฟัง

บี :    อย่าให้ฉันรั้ง เธอไว้เลย
   จากตรงนี้ยังอีกไกล ยังมีฝันที่เธอต้องไขว่ ต้องคว้า
   อย่าจมอยู่กับฉันเลย จากตรงนี้ ไม่มีฉันมันคงดีกว่า
   และวันนี้ฉันเดินมาส่ง ด้วยน้ำตาฉันเดินมาส่ง
   ให้เธอเจอทางที่ดี ฉันจะคอยมองจากตรงนี้
(มาถึงครึ่งทางแรก ผมสามารถร้องเพลงได้เป็นคำพอที่จะฟังรู้เรื่อง แต่พอเริ่มขึ้นท่อนต่อไป พี่เขมก็ช่วยผมร้องเพลงนี้) 

   ที่เธอเห็นแค่ฝุ่นมันเข้าตา ฉันไม่ได้ร้องไห้
   อย่ามองกลับมา อย่าห่วงว่าฉันจะเสียใจ
   ที่ผ่านมาได้รักกัน เท่านั้นก็ดีแค่ไหน
   อย่ากังวลฉันไม่เป็นไร แค่ขอให้เธอไปได้ดีกับทางของเธอ

พอผมร้องเพลงจบ...ซึ่งแทบจำไม่เป็นคำเลย ผมวางหูทันทีที่ผมร้องจบ ผมนั่งลงข้าง ๆ ตู้โทรศัพท์นั้นเพื่อร้องไห้ออกมาให้พอ...ผมรู้ครับว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมรักพี่เค้ามากแค่ไหน แต่ผมก็ต้องปล่อยไป เพื่อให้เค้าไปเจอกับสิ่งที่ดีกว่า...นั่นคือทางของผมจริง ๆ ผมคิดได้แค่นี้....ผมถอนหายใจยาวแล้วลบคราบน้ำตาทั้งหมด ผมเดินผมหาประชาสัมพันธ์เพื่อขอรหัสอินเตอร์เน็ทของสนามบิน และผมก็จะได้โพสเพลงที่ผมอยากจะให้พี่เขมฟังแต่เป็นท่อนที่ผมไม่ได้ร้อง


“แค่ขอให้เธอไปได้ดีกับทางของเธอ ให้ได้เจอกับสิ่งที่เธอเคยฝัน
ฉันคนนี้มีไม่พอที่จะพาเธอไปตรงนั้น ฉันจะยอมปล่อยไป ไม่เป็นไรอย่าห่วงเลย”

@KEM

ผมโพสไปเพื่อให้พี่เขมได้รับรู้แล้วผมก็กดฟังเสียงของพี่เขมที่ส่งมาให้ผม

“ขอบคุณที่เธออยู่ ขอบคุณที่ไม่ห่าง
ไม่รู้ที่เป็นอย่างนี้ เพราะว่าในวันนั้น
ฉันขอเธอไว้หรือเปล่า
 
ขอบคุณที่เธอจูบ ขอบคุณที่เธอกอด
ไม่รู้ว่ารอยจูบนี้ ไม่รู้ว่าอ้อมกอดมี
เพราะฉันขอหรือเปล่า
 
ฉันขอเธอมากมายที่ผ่านมา จนได้รู้ว่าเรื่องนี้
 
ไม่ใช่เรื่องที่จะขอกันฉันเข้าใจ
ไม่ใช่เรื่องที่จะขอแล้วให้กันได้
ฉันคงไม่อาจรั้งเธอ
ถ้าสุดท้ายเธอต้องการจะไป
แค่ครั้งหนึ่งได้มีเธออย่างที่เคยมี
ก็มากเกินกว่าจะขออะไรมากกว่านี้
เพียงเรื่องเดียวที่จะขอเธอในวันนี้
คือทบทวนดูอีกทีก่อนจะไป”

ผมนั่งร้องไห้อยู่ข้างตู้โทรศัพท์และถังขยะ...ที่เต็มไปด้วยทิชชู่ของผม คนเดินผ่านไปมาคงจะเห็นผมแล้วงงว่า...ถ้าจะเศร้าขนาดนี้ จะไปทำไม? ผมนั่งสงบสติอารมณ์อยู่ตรงนั้นนานพอควรครับ จนตอนนี้ประตูเกทน่าจะเปิดแล้ว...ผมค่อย ๆ ๆเดินไปอย่างช้า ๆ คิดทบทวนในคำพูดที่ผมอยากจะบอกพี่เขมว่าได้บอกไปหมดรึยัง ก่อนที่อะไร อะไร มันอาจจะกลับมาแก้ไขต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ผมเดินมาถึงหน้าเกทของผมก็พบว่าเกทโดนย้ายครับ โดนย้ายไปอีกฝั่งนึงซึ่งทำให้ผมต้องเดินย้อนกลับไปไกลอยู่ และเวลาก็เริ่มจะเหลือน้อยลงทุกที ผมเริ่มออกวิ่งเพราะกลัวว่าจะตกเครื่องและผมก็วิ่งผ่านโทรศัพท์ตู้เดิม ผมลังเลใจอยู่ว่าจะโทรกลับไปหาพี่เขมอีกรอบดีหรือไม่ ผมออกวิ่งต่อไปเพื่อที่จะวิ่งไปให้ถึงเกทก่อนเวลาประตูปิด พอผมถึงที่ประตูพนักงานก็หยิบ บอร์ดดิ่งพาสของผมไปแล้วก็ทำการเช็ค ผมเห็นว่าเครื่องบินเพิ่งจะเข้าจอด ผมจึงถามคุณกราวน์ไปว่า

บี : พี่ครับ ผมรบกวนหน่อยครับ อีกนานไม๊ครับกว่าจะบอร์ด

พี่กราวน์ : ไม่นานหรอกค่ะ นั่งรอก่อนนะคะ

บี : พอดีผมอยากจะไปโทรศัพท์ บอกแฟนผมก่อนไปหน่อยครับ

พี่กราวน์ทำหน้างง ๆ แล้วก็ถามออกมา “โทรมือถือไม่ได้เหรอคะ”

บี : คือผมปิดสัญญาณไปแล้วอ่ะครับพี่....

พี่กราวน์ : คือถ้าออกไปแล้วกลับมาไม่ทัน พี่ก็ต้องออฟโหลดนะคะ

บี : ครับพี่...นี่ประตูเครื่องยังไม่เปิดเลยใช่ไม๊ครับ ผู้โดยสารยังไม่ลงจากเครื่องเลยใช่ไม๊ครับ ผมพอมีเวลาซัก 10 นาทีได้ไม๊ครับ

พี่กราวน์ทำหน้าสงสัยไอ้นี่รู้มากจัง.... “ค่ะ ๆ แค่ 10 นาทีนะคะ อย่ามาสายนะคะ”

บี : ครับพี่...ผมจะรีบวิ่งไปวิ่งกลับมาครับ

ผมรีบวิ่งออกไปทันที ผมคิดออกแล้วครับว่าผมไม่ได้บอกอะไรพี่เขมไป เป็นสิ่งที่สำคัญมากผมลืมไปได้ยังไงเนี่ย....ผมวิ่งมาแล้วก็คว้าโทรศัพท์แต่ไม่มีเหรียญ...ตายห่า จะทันไม๊เนี่ย 10 นาที วิ่งมาก็ 4 นาทีไปแล้ว ผมรีบมองหาตัวช่วยแถว ๆ นั้นผมเห็นแม่บ้านทำความสะอาด ผมพุ่งตรงไปทันทีเพื่อขอแลกเศษเหรียญ

บี : พี่ครับ พอมีเศษเหรียญให้ผมแลกไม๊ครับ ผมจะโทรศัพท์ครับ

พี่แม่บ้าน : มี ๆ ลูก ป้ามี 10 บาทพอไม๊ลูก

บี : พอครับ ๆ ผมของแลกหน่อยได้ไม๊ครับ ผมมี แบงค์ 100 ตายห่าน

พี่แม่บ้าน : ไม่เป็นไรลูก ป้าเพิ่งเก็บได้มาเองเอาให้คนที่ต้องการก็เหมือนคนทำบุญเนอะ

ผมน้ำตาแทบจะไหล...ยกมือไหว้ป้ารัว ๆ แล้วก็รีบวิ่งไปกดโทรศัพท์

บี : พี่เขม!!!! รีบซี่ ๆ ๆ ๆ ๆๆ ๆ  ๆ รับซี่ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

ครั้งแรกโทรไปไม่มีคนรับ ความหวังผมริบหรี่มากละครับตอนนี้ ผมยกมือไหว้ตู้โทรศัพท์แล้วภาวนาให้อะไรก็ตามที่สิงอยู่ช่วยดลบันดาลให้พี่เขมรับโทรศัพท์ทีเถอะ แล้วพี่เขมก็กดรับจริงๆ

พี่เขม : บีเหรอ....ทำไมวางหูใส่พี่อย่างนี้หละ พี่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย...พี่เขมใส่มาเป็นชุด

บี : พี่เขมหยุด...ฟังผมพูดให้จบก่อน ผมมีเวลาน้อยมาแล้ว

พี่เขม : .........

บี : พี่เขมครับ....ผม รัก พี่ เขม มาก นะ ครับ จะรักพี่อย่างนี้........... ตุ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆๆ

ห่านจิก โทรศัพท์ทำพิษ แดกเหรียญกรูแล้วก็สัญญาณก็โดนตัดไปครับ ผมไม่มีเวลาแล้วครับผมต้องออกวิ่งไปเพื่อที่จะต้องไปขึ้นเครื่องแล้ว แต่อย่างน้อย ๆ ผมก็ได้บอกในสิ่งที่ผมต้องการกับพี่เขมไปจนหมดแล้ว ต่อจากนี้ไป จะเกิดอะไรขึ้น ก็ให้มันเป็นเรื่องของอนาคตแล้วหละครับ


THE END….
ป.ล. จบตอนของบีแต่เพียงเท่านี้นะครับ ติดตามตอนของพี่เขมอีกนิดหน่อยนะครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 20-11-2017 22:43:06
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Fahsaizzz ที่ 20-11-2017 22:57:33
จบแล้วหรอคะ รอตอนพี่เขมค่ะ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 20-11-2017 23:27:13
5555 the end??????
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 20-11-2017 23:43:38
ค้าง!!!  :z3:

รอตอนพี่เขม  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 21-11-2017 01:07:01
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 21-11-2017 11:31:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 22-11-2017 08:39:57
ตอนพิเศษ 39.99 ความวิ้ง

Part ของพี่เขม

ในวันประกาศผลของไอ้ตัวแสบ ผมได้รับข่าวจากเพื่อนๆผมแทนเพราะตอนนั้นผมเพิ่งบินกลับมาตอนเช้าครับ ผมเลยต้องนอนก่อนผมตื่นมาเกือบบ่ายโมงคับ เพราะความหิวและไอ้ตาลก็เป็นคนไลน์มาบอกผมว่าผลของไอ้ตัวแสบออกแล้ว และให้ผมรีบติดต่อมันทันที แต่ไม่ทันที่ผมจะติดต่อไอ้ตัวแสบไอ้พริ้งก็โทรสายตรงมาหาผมทันทีครับ

พริ้ง : เมิง ทำใจดีๆไว้นะ 

เขม : เออ กรูรู้แล้ว 

พริ้ง : เมิงโอเคป่าว แล้วบีโอเคป่าว

เขม : กรูเพิ่งบินกลับมาตอนเช้า ยังไม่ได้เจอบีเลย 

พริ้ง : เออเรื่องผลของน้องบีแม่ง กรูก็สงสาร แล้วเมิงหละ โอเคไม๊ กรูตกใจมากเลยนะที่มึงไม่ได่อ่ะ

เขม : เด่วๆ กรูไม่ได้อะไร เมิงพูดอะไรเนี่ย

พริ้ง : อ่าว แปลว่าเมิงยังไม่รู้อ่ะดิ ผลกัปตันออกแล้วนะ 

เขม : เชี่ยยยยย.....คือยังไงนะ กรูไม่ได้เหรอ

พริ้ง : อืมๆ เพิ่งออกตะกี้เลย กรูขอโทษนะเมิง เมิงโอเคไม๊อ่ะ

เขม : สัส...กรูก็เผื่อใจไว้ประมาณนึงละหละ เพราะช่วงนั้นกรูทำอย่างอื่นอยู่

พริ้ง : เมิงน้องบีก็ไม่ผ่านนะ 

เขม : กรูสงสารบีหวะ แม่งเป็นเพราะกรูแน่เลย กรูรู้สึกผิดกะน้องหวะ

พริ้ง : เขม แต่เมิงก็ไม่ได้นะ เมิงไม่เสียใจเลยเหรอ

เขม : ถ้ากรูได้แต่กรูง้อไอ้บีกลับมาไม่ได้ กรูก็ไม่อยากเป็นหวะ เอาจริงๆ

พริ้ง : เออๆๆๆ ดูแลน้องด้วยละกัน กรูได้ยินเมิงพูดอย่างนี้กรูก็สบายใจละ

เขม : อืมๆ ขอบใจมากนะเมิง

พอผมลุกไปล้างหน้าเสร็จผมก็เช็คว่าไอ้ตัวแสบไลน์อะไรมาบ้างรึเปล่า ปรากฎว่าไม่มีการติดต่อใดๆจากไอ้ตัวแสบเลย ผมก็เริ่มจะใจคอไม่ดีละครับ ผมเลยรีบกดโทรศัพท์หาไอ้ตัวแสบทันทีแต่ก็ติดต่อไม่ได้ ผมยิ่งเริ่มกระวนกระวายใจ ตอนนี้ผมอยู่คอนโดผมครับ ผมเลยรีบขับรถไปหาไอ้ตัวแสบที่คอนโดของมันทันที

ผมถึงคอนโดมันแต่ก็ไม่เห็นรถมันครับ ผมยิ่งกลัวว่ามันจะคิดอะไรไม่ดี ผมรีบโทหาไอ้ตัวแสบอีกครั้งทันที เพราะหลังจากที่เราทะเลาะกันคราวก่อน ผมก็ไม่กล้าขอกุญแจห้องไอ้ตัวแสบมาเก็บไว้อีกเลยครับ แล้วคราวนี้ก็โทรติด ผมโล่งใจเป็นอย่างมาก พอไอ้ตัวแสบรับสาย ผมก็โล่งอกไปนิดนึงครับ พอถามไปเรื่อยๆ ก็รู้ได้ว่ามันได้หนีกลับไปเชียงใหม่เรียบร้อยแล้ว ผมก็เลยเฟลๆนิดหน่อย เพราะตอนนี้คนที่ผมอยากกอดและขอดูดพลังงานชีวิตซักหน่อย ได้อยู่ห่างจากผมเกือบ 1000 กิโลแล้วครับ 

พอผมคุยกับไอ้ตัวแสบเสร็จผมก็ขับรถกลับบ้านไปครับ ตอนนี้ไอ้ตัวแสบรู้แล้วว่าผมก็สอบไม่ได้เหมือนกับมัน ตอนนี้เราทั้งสองก็คงต้องไปนอนอ้อนแม่ก่อนแล้วหละครับ
 ผมกลับบ้านมา ผมก็พุ่งตรงไปกอดแม่ก่อนเลยครับ แม่นั่งเย็บปลอกหมอนอยู่ที่ห้องนั่งเลนหน้าทีวี

เขม : แม่.....( ผมพุ่งเข้าไปกอดแม่เอาไว้แน่น)

แม่ : เป็นอะไรลูก....

เขม : ผลสอบออกแล้วนะแม่ ลูกขอโทษ ลูกสอบไม่ได้

แม่ : ไม่เป็นไรเลยลูก ไม่ได้ครั้งนี้ครั้งหน้าก็เอาใหม่เนอะ

เขม : ครับแม่ แล้วก็ บีก็สอบไม่ผ่านเหมือนกันอ่ะ...เขมสงสารบีจังคับ

แม่ : ตายละๆๆๆ แล้วลูกบีอยู่ไหนเนี่ย ไปหาน้องเร็ว พาน้องมาอยู่ด้วยเร็ว แม่ไม่อยากให้ลูกบีเศร้าอยู่คนเดียว

เขม : มันหนีกลับบ้านไปที่เชียงใหม่แล่ว

แม่ : อืม ๆ ก็ดีละไปอยู่กะแม่เค้าบ้างเนอะ

เขม : มันเป็นเพราะเขมแน่เลยอ่ะแม่ ลูกรู้สึกผิดอ่ะ

แม่ : ไม่หรอกลูก แม่เชื่อว่าลูกบีต้องไม่โทษตัวเขมหรอก

เขม : จริงเหรอแม่ มันหนีกลับบ้านไปเลยนะไม่บอกผมซักคำ

แม่ : ลูกบีอาจจะอยากกลับไปหาแม่รึเปล่า

เขม : อืมๆ ไอ้บีก็บอกอย่างนั้น

ผมนอนตักแม่ อ้อนแม่ซักพักแล้วก็เดินขึ้นห้องไปครับ ตอนนี้ผมไม่ได้เสียใจเลยที่ผมสอบกัปตันไม่ได้ แต่ที่ผมเสียใจคือ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างก่อนการสอบของเราทั้งสองคนมากกว่า มันอาจจะเป็นเหตุผลหลัก ๆ เลยก็ได้ครับที่ทำให้บีเสียสมาธิไปก่อนการสอบแล้ว ผมก็กลับไม่ได้แก้ไขมันให้ทันเวลา มันถึงทำให้เราทั้งสองคนพัง ผมนอนอยู่ด้านบนแล้วก็โทษตัวเอง ตอนนี้ไลน์ผมเด้งแทบจะไม่หยุด มีหลาย ๆ คนครับ ส่งข้อความมาให้กำลังใจผม และก็มีบางข้อความ พูดถึงเรื่องบี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะดีเลยครับ มีพี่กัปตันหลายคนพูดเรื่องผมในกลุ่มของนักบินครับ ว่ามาเสียสมาธิไปกับการสอบนี้มาก เป็นเพราะแฟนผม ที่งี่เง่า แยกแยะเรื่องงานกับความรักและเรื่องส่วนตัวไม่ออก ได้อ่านเข้าผมก็รีบแก้ข่าวทันทีครับ ว่าบีเนี่ยไม่ได้ทำอะไรเลย ผมเลือกเองต่างหากที่จะไป ปรับความเข้าใจกับแฟนของผม แต่พี่กัปตันส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ฟังครับ เพราะเค้าไม่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้น และหลาย ๆ คนก็พากันบอกว่าผมเนี่ยไม่ต้องไปง้อแฟนผมแล้ว ทิ้ง ๆ ไปเถอะ หาคนใหม่ คนนี้ไม่คู่ควรกับผม ผมได้แต่นั่งกลุ้มใจครับ เพราะผมรู้ทันทีว่า หลาย ๆ คนที่ไม่เคยได้บินกับบีและไม่เคยได้รู้จักไอ้ตัวแสบของผม คงจะตัดสินไปแล้วว่า มันเป็นคนอย่างไร ซึ่ง มันส่งผลกระทบที่กว้างมากครับ เพราะนักบิน ตำแหน่งสูงกว่าลูกเรือเยอะครับ ยิ่งเป็นกัปตันด้วยแล้ว....เรื่องใหญ่เลยครับทีนี้ ผมก็ไม่รู้จะอธิบายให้กับทุกคนอย่างไร เพราะทั้งหมดเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของผม จะให้ผมไปเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ทุกคนฟังมันก็ดูไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเล่า

แล้วพี่กัปตันคนที่สนิทกับผมก็โทรสายตรงมาหาผมในทันทีที่กลุ่มไลน์นักบินเดือดเป็นไฟ เรื่องที่ผมสอบไม่ได้กัปตันครับ พี่กัปตันคนนี้รู้จักไอ้ตัวแสบของผมครับ เพราะเคยไปกินเหล้ารับน้องมัน ตอนที่พวกเราอ้างว่าเดินตกท่อครับ

พี่กัปตัน : ไอ้เขม...มันเกิดอะไรขึ้นวะ...ทำไมมึงไม่ได้

เขม : พี่ เรื่องมันยาวมากคับ เอาเป็นว่า บี ไม่ผิดเลยนะพี่ เชื่อผม

พี่กัปตัน : แล้วทำไมในกรุ๊ปแม่งรุมด่าน้องขนาดนั้นฟระ...กรูอ่านกรูยังงงเลย

เขม : คือผมทะเลาะกับบีนิดหน่อยอ่ะพี่ แล้วก็เป็นช่วงก่อนสอบพอดี เคลียกันยาวเลยตอนนั้น มันเลยทำให้ทั้งผมและบีพังคับ

พี่กัปตัน : พวกมึงก็เลือกเวลาทะเลาะกันได้ดีเนอะ

เขม : จริง ๆ แล้วผมผิดเองเลยคับพี่

พี่กัปตัน : อ่าว เมิงไปนอกใจน้องเค้าเหรอ นิสัยนี่แก้ไม่เคยหายนะเมิง

เขม : ไม่ใช่คับพี่...มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด แต่ก็มันคนอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยแหละครับ

พี่กัปตัน : แล้วทำไม ไม่รีบเคลีย ๆ ให้เสร็จฟระ ปล่อยมาได้ไงเนี่ย

เขม : นั่นแหละครับ ที่ผมผิดเอง ผมไม่รีบเคลีย ๆ ให้เสร็จ เลยเรื่องยาวเลย

พี่กัปตัน : แล้วตอนนี้ดีกันแล้วใช่ป่ะ

เขม : ใช่ครับพี่...ผมเลือกที่จะง้อน้องเค้าครับ ผมเลยไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ

พี่กัปตัน : แล้วไอ้เด็กเวรนี้ก็เสือก เรื่องมาก ใจแข็ง ง้อยากว่างั้น

เขม : ก็ประมาณนั้นแหละครับ...

พี่กัปตัน : ไอ้เขมเอ้ย...จริง ๆ มึงเนี่ยตัวเต็งเลยนะ ผลงานก็มี ความรู้มึงก็ไม่ได้ด้อย กรูหละเสียดายโอกาสมึงจริง ๆ เลย เป็นเพราะแฟนมึงคนเดียวเลย

เขม : เป็นเพราะผมมากกว่าครับพี่...ถ้าผมรีบเคลียกับน้องเค้าให้เร็ว มันก็คงไม่แย่กันหมดอย่างนี้

พี่กัปตัน : แล้วไอ้เด็กนั่นแย่ยังไง

เขม : น้องเค้าก็สอบไม่ได้เพอร์เหมือนกันครับ

พี่กัปตัน : สมน้ำหน้ามัน สมน้ำหน้ามึงทั้งคู่เลย เสือกทะเลาะกันผิดเวลา

เขม : พี่....น้องเค้าไม่ผิด ผมผิดเองพี่

พี่กัปตัน : เออ....กรูรู้แล้ว ไม่ต้องปกป้องมันหรอก แล้วทีนี้จะทำยังไง กรูว่า ไอ้บี ไม่รอดชัวร์ โดนเล่นเละแน่เวลาไปบิน แล้วสมัครรอบต่อไปจะผ่านได้ไงฟระ โดนหมายหัวแน่

เขม : ผมก็เครียดอยู่ครับพี่...ผมสงสารน้องเลย

พี่กัปตัน : เมิงก็ต้องรีบ ๆ เป็นกัปตันให้ได้นะ จะได้ปกป้องน้องได้ เรื่องพวกนี้ไม่น่าจะเม้ากันนาน แต่ช่วงนี้ ไอ้บีก็คงจะโดนเล่นงานหนักหน่อย

เขม : เด๋วผมคงจะแลกไปบินกับน้องเค้าเยอะ ๆ หน่อยครับ เผื่อจะได้ปกป้องได้บ้าง

พี่กัปตัน : เอออ....ดูแลกันดี ๆ ละกัน กรูว่าไอ้บีเนี่ย คงจะอยู่ยากละ

เขม : ครับ...เด๋วผมดูแลน้องเองครับ ขอบคุณพี่มากนะครับที่เป็นห่วง

พี่กัปตัน : เด๋วกรูจะไปช่วยห้ามทัพอีกแรง ถ้านักบินเค้ายังฟังกรูอยู่บ้างนะ

เขม : ขอบคุณมากครับพี่

หลังจากวางหูโทรศัพท์จากพี่กัปตัน ผมก็รู้ทันทีว่าข่าวเรื่องนี้มันคงจะแพร่กระจายเร็วยิ่งกว่าเชื้อโรคระบาดแน่นอน ไม่นานไอ้ตาลก็ยิ่งสายตรงมาหาผม ปรึกษากันเรื่องน้องบีเลยทันทีครับ ไอ้ตาลดูเครียดมาก เพราะในกลุ่มนักบิน ไอ้ตัวแสบโดนเละเลยครับ แล้วข่าวนี้ไม่นานก็น่าจะถึงหูไอ้ตัวแสบของผม ผมจึงปรึกษาไอ้ตาลว่าจะขึ้นไปหาไอ้ตัวแสบที่เชียงใหม่ ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูไอ้ตัวแสบเมื่อไหร ผมอยากจะอยู่ข้าง ๆ มันเพื่อบอกมันว่า ตัวผมไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นและตัวผมจะปกป้องมันเอง

ผมทำการประชุมสายกับไอ้ตาลแล้วก็ไอ้พริ้ง ปรึกษาเรื่องที่จะขึ้นไปเชียงใหม่ในวันรุ่งขึ้น แล้วผมก็ชวนไอ้เก่งไปด้วยครับ ทุกคนว่างหมดยกเว้นผมที่จะต้องไปธุระตอนเช้ากับป๊าครับ ผมเลยบอกให้พวกมันไปก่อนเลย เพราะผมอยากให้พวกมันไปดูแลบีก่อน ไอ้เก่งดีใจใหญ่เลยครับพี่จะมีเรื่องโด่ดงานไปเที่ยวเชียงใหม่ ไอ้นี่มันลูกคนกรุงครับ ไม่ค่อยจะได้ไปเที่ยวไหนหรอกนอกจากทะเล แล้วมันก็เป็นทนายครับ ทำงานหนักอย่างกะอะไรดี ผมเห็นมันต้องทำงานเช้าถึงเย็น ตอนเล่นดนตรี บางทีมันยังต้องพาลูกค้าไปคุยต่ออีก จะดึกดื่นแค่ไหน มันก็ต้องทำงานครับ แล้วเป็นงานด้านเอกสารทางกฎหมายอีก คือมันไม่ใช่แผ่นสองแผ่นครับ เป็นปึก ๆ ที่มันแบกไปไหนมาไหน แล้วหลังรถมันนะครับก็มีแต่เอกสารเต็มไปหมด ผมเคยบอกมันว่าเปลี่ยนจากขับรถเก่งไปขับรถบรรทุกเถอะ ถ้าเอกสารมันจะเยอะขนาดนี้
.
.
.
.
พอผมถึงเชียงใหม่ ผมก็รีบไปแย่งตัวไอ้ตัวแสบมาอยู่ข้างกายผมทันทีครับ เพราะไอ้เก่งเนี่ย แทบจะสิงไอ้ตัวแสบของผมอยู่ละ ปล่อยไว้ครึ่งวันกับแฟนกรู เมิงจะแทงข้างหลังเพื่อนแล้วครับ ไอ้เก่งตัวดีมันก็ไม่ยอมให้ผมนั่งข้างหน้ากับแฟนผมครับ มันผลักผมให้ไปนั่งด้านหลัง ผมเลยทำการกอดไอ้ตัวแสบจากด้านหลังแล้วก็คอยปัดมือไอ้เก่งออกจากตัวของไอ้ตัวแสบ ไอ้เก่งช่วงนี้มันเป็นเอามากครับ อาจจะเพราะมันเพิ่งเลิกกับต้ามาไม่นาน ผมก็สงสารมันนะ แต่ตอนนี้ ตัวผมเอง ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะปลอบใครได้เลย คนที่ผมสงสารจับใจก็คือไอ้ตัวแสบของผมเนี่ยแหละครับ เพราะตอนนี้อนาคตมันจะเป็นยังไงถ้าโดนนักบินเล่นงานมัน

เรากลับมาถึงที่โรงแรมแล้วเราก็ตัดสินใจว่าจะไปบ้านว่าที่แม่ยายผมครับ ไปรับประทานอาหารค่ำสไตล์ เจ้าชาวเหนือที่แท้ทรู ผมบอกได้คำเดียวเลยครับว่า ที่ไอ้ตัวแสบทำผมหลงมันหัวปักหัวปำเนี่ย 1 ในข้อที่ผมรักมันแล้วก็คิดที่จะจริงจังกับมันเลยเนี่ยคือ ฝีมือการทำอาหารของมันครับ ผมไม่เคยเบื่อเลยที่จะกินอาหารที่แฟนผมทำ แต่มากไปกว่านั้น ผมกลับเสพติดรสมือของมันซะด้วยซ้ำ จนบางทีผมไม่อยากออกไปกินข้าวนอกบ้านเลย คือบ้านผมก็มีแม่บ้านทำกับข้าว และแม่ก็ทำบ้างในบางครั้งอยู่แล้ว เพราะ ป๊าครับ น้อยครั้งมากที่ป๊าจะพาพวกผมออกไปกินข้าวนอกบ้านเพราะป๊า ไม่ชอบกินข้าวนอกบ้าน ป๊าบอกว่า อาหารที่บ้านเราทำออกมาถึงมันจะรสชาติไม่ได้อร่อยเท่ากับบางร้านแต่เราก็แน่ใจได้ว่า อาหารที่กินสะอาดและคุณค่าทางใจ ป๊าจะออกไปกินข้าวนอกบ้านเฉพาะวันสำคัญเท่านั้นและการไปเที่ยวเท่านั้นครับ ที่เหลือ จะกินข้าวที่บ้านตลอด หรือถ้าอยากกินจริง ๆ ก็จะให้คนอื่นไปซื้อมาแล้วกินที่บ้านครับ และนี่อาจจะเป็นอีก 1 เหตุผลที่ผมติดการกินข้าวไอ้ตัวแสบมาก มันเหมือนเป็นคนที่ดูแลเรื่องอาหารการกินของผมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหารมื้อไหน มันจะต้องหาผักที่ผมกินได้อย่างน้อย ๆ 1 อย่าง มาให้ผมกินด้วย เพราะผมไม่ชอบกินผักครับ แต่ที่ร่ายมาทั้งหมดอีกอย่างก็คือ แม่ของไอ้ตัวแสบครับ ทำอาหารได้เลิศรสกว่าไอ้ตัวแสบไปอีก 100 เลเวล ผมนี่อยากจะกราบแม่เลยครับทุกครั้งที่ผมได้กินอาหารฝีมือว่าที่แม่ยายของผม

ไอ้คนที่ตื่นเต้นที่สุดก็จะเป็นใครไปไม่ได้ครับ คือไอ้เก่ง ไอ้เพื่อนเวรนี่แหละครับ ทำกระแดะบอกว่ากินอาหารเหนือไม่ค่อยได้ เพราะเคยกินตอนเด็ก ๆ แล้วไม่อร่อย มันเลยไม่กินอาหารเหนือ มันกลัวว่าแม่ไอ้ตัวแสบจะด่ามันเอา มันจะแกล้งป่วยแล้วกินน้อย ๆ เพื่อให้แม่ไอ้ตัวแสบ ไม่เสียใจที่มันไม่กินอาหารเหนือ แต่ที่ไหนได้ ไอ้ห่านนี่แทบจะเอาข้าวลงไปคลุกกับแกงฮังเลของแม่ไอ้ตัวแสบแล้วกินครับ มันแทบจะเลียหม้อ แล้วที่สำคัญ มันแดกเยอะที่สุดเลยครับ แม่ยายของผมชอบมันใหญ่เลยครับ ด้วยลูกอ้อนของมัน แล้วก็การกินแบบตะกละตะกลาม แม่ยายผมยิ่งปลื้มมันเข้าไปให้ ไหนจะวิธีการอ้อนของมัน หน้าหล่อ ๆ ของมัน ทำเอาแม่ยายผมเทใจให้มันหมดเลยครับ ผมเลยยอมไม่ได้เด๋วแม่ยายผมยกไอ้ตัวแสบของผมให้มันไปจะทำยังไง มันยิ่งเล็ง ๆ และก็โสดอยู่

สุดท้ายก่อนกลับแม่ไอ้ตัวแสบก็ยกเค้กออกมา ผมตกใจมากนึกว่าวันเกิดไอ้ตัวแสบ แต่เอาจริง ๆ ตั้งแต่คบกับมันมาผมยังไม่รู้เลยครับว่าวันเกิดของมันเป็นวันที่เท่าไหรเดือนไหนแล้วจริง ๆ แล้วไอ้ตัวแสบอายุเท่าไหรกันแน่ ผมลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไร หัวใจผมตอนนั้นตกไปที่ตาตุ่มเลยครับ แล้วถ้าวันนี้เป็นวันเกิดของมันจริง ๆ ผมจะกลายเป็นแฟนที่แย่มากเลยนะครับ ของขวัญซักชิ้นก็ไม่ได้เตรียม แต่ที่แย่ไปกว่านั้นและทำให้หัวใจผมที่ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้วแตกสลายก็คือ แม่ไอ้ตัวแสบมาบอกว่าไอ้ตัวแสบจะไปเรียนต่อครับ

คุณเคยรู้จักความวิ้งไม๊ครับ ความวิ้ง ในหัวผม คือ การได้ยินมันวิ้ง ๆ หูผมมันวิ้ง ๆ คือได้ยินคำว่าไอ้ตัวแสบจะไปเรียนต่อ ผมแทบจะล้มทั้งยืน ผมอธิบายอาการแบบนี้ไม่ถูกแต่สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นกับผม และมันทำให้ผมเสียสติไปในทันที ไอ้ตัวแสบพาผมมาเดินรอบ ๆ หมู่บ้านของมัน ผมพูดอะไรไม่ออกเลยครับ ผมไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มตรงไหน ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร และผมไม่พร้อมเลยที่ไอ้ตัวแสบต้องจากผมไปในที่ที่ไกลแสนไกล แล้วสิ่งที่ยิ่งบีบหัวใจผมไปอีกก็คือ คำบอกเลิก ของไอ้ตัวแสบครับ แค่ผมได้ยินผมก็แทบหายใจไม่ออก เหมือนจะเป็น hyper สติที่มีอยู่น้อยนิดอยู่แล้วยิ่งทำให้ผมแทบจะวิญญาณออกจากร่างครับ ผมอยากจะหายไปจากตรงนี้ ผมอยากจะให้มันเป็นเพียงแค่ฝันไป

ไอ้ตัวแสบพาร่างอันไร้วิญญาณของผมกลับมาที่โรงแรมครับ ในรถเราพูดคุยกันนิดหน่อย พอรถจอดสนิทปุ๊ป ผมวิ่งลงจากรถทันที...ผมไม่รู้ครับว่าผมต้องไปไหน ผมแค่อยากไปให้ไกลจากไอ้คนที่ทำร้ายหัวใจของผมอย่างหนักในตอนนี้ ผมไม่รู้ว่าจะต้องจัดการมันยังไง และผมก็กลั้นน้ำตาไว้แทบจะไม่อยู่

ไม่นานไอ้ตัวแสบก็คว้าแขนผมไว้ได้ ผมสะบัดมันออกด้วยสัญชาตญาณครับ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นที่ผมเห็นก็เหมือนเป็นภาพสะโลโมชั่น ไอ้ตัวแสบจากที่วิ่งตามผมแล้วผมสะบัดมัน มันก็เสียหลักแล้วล้มลงต่อหน้าผม ตอนนี้ผมรู้อย่างเดียวในหัวคือ ชิบหายครับ ผมทำร้ายคนที่ผมรักที่สุดได้ยังไง ผมรีบประครองมันขึ้นมา ผมตกใจสุดขีดเมื่อเห็นเลือดไอ้ตัวแสบ ไอ้ตัวแสบทำหน้ามุ่ย ผมรีบบัดตัวให้มัน ตอนนี้สติผมแตกหนักกว่าเดิมอีกครับ ผมลนไปหมด ไม่รู้ว่าจะต้องจัดการอย่างไร ผมนึกออกอย่างเดียวคือ ต้องไปหากำลังเสริมครับ แต่ไอ้ตัวแสบกลับพาผมไป 7-11

และนี่เป็นครั้งแรกและเป็นบทเรียนแรกที่ผมได้เรียนรู้ในการดูแลคนอื่นครับ ผมเป็นลูกคนเดียวและป๊ากับแม่ผมก็ทำแทบจะทุกอย่างให้ผมมาโดยตลอด เลยทำให้การความสามารถในการดูแลคนอื่นของผมค่อนข้างน้อยครับ ผมยอมรับเลยว่าผมไม่เคยทำแผลให้ใครมาก่อน ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องซื้ออะไรที่จะทำการปฐมพยาบาลให้กับไอ้ตัวแสบ ผมคิดออกแค่พามันไปโรงพยาบาล หรือคลีนิก หรือเภสัช หรือใครก็ได้ทางการแพทย์ ไอ้ตัวแสบติผมต่อหน้าพนักงาน 7-11 ว่าเลือกซื้ออะไรมากมาย ทำให้ผมได้เรียนรู้เลยครับว่า นี่เป็นสิ่งจำเป็นมาก การปฐมพยาบาลเบื้องต้น คือถ้าคนที่ผมรักเกิดเป็นอะไรขึ้นมาสิ่งที่ผมทำได้อย่างน้อย ๆ คือสิ่งนี้ครับ และทั้ง ๆ ที่ไอ้ตัวแสบก็เป็นลูกคนเดียวเหมือนกัน แต่ไอ้ตัวแสบทำได้แทบจะทุกอย่างและดูแล ผมได้แทบจะทุกอย่าง ผมนี่รู้สึกว่าตัวเองยิ่งด้อยค่าลงไปทันที

และอีก 1 อย่างที่ผมต้องยอมรับกับไอ้ตัวแสบของผมเลยก็คือ มันเป็นคนเดียว และเป็นคนแรกเลยครับในชีวิตผม ที่ทำให้ผม ทั้งร้องไห้ และ หัวเราะได้ในเวลาเดียวกัน ผมยอมคุยกับมันดีๆ หลังจากที่เห็นเลือดของมันครับ ผมรู้แค่ว่า มันจะขอเลิกกับผมเพราะมันจะไปเรียนต่อ แม่งโคตรจะไม่มีเหตุผลเลย ผมนี่รับไม่ได้เลยจริง ๆ ไปเรียนก็เรียนไปดิ เกี่ยวอะไรกับความรักของเรา มันตอบกลับมาแค่ว่า มันไม่อยากให้ผมเสียเวลารอมัน ดูดิครับ แม่งเอาเหตุผลโคตรน้ำเน่ามาอ้าง ผมนี่ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งหัวเสีย มันเหมือนกับว่าความรักที่เรามีให้กันตอนนี้มันเป็นเรื่องเล็ก ๆ สำหรับมันมากเลย แต่ยังไงผมก็ยังจะยืนยันครับว่า สิ่งที่มันจะทำมันทำไม่ได้หรอก ยังไงผมก็จะรอมัน ให้มันรู้กันไปเลยว่าไอ้เขมเนี่ยแหละ มันมีความมุ่งมั่นและตั้งใจกับความรักครั้งนี้แค่ไหน ต่อให้ไอ้ตัวแสบจะพูดยังไงในใจผมก็มีคำตอบให้กับมันแค่อย่างเดียวคือ “ไม่” ครับ

มีต่อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 22-11-2017 08:40:45
เรากลับไปที่ห้อง ทำการปาตี้กันอย่างเงียบ ๆ บรรยกาศดูมีความซึมเศร้าหน่อย ๆ ครับ ทุกคนดูเสียใจที่ไอ้ตัวแสบของผมต้องไปเรียนต่อ โดยเฉพาะไอ้เก่ง ผมไม่รู้นะครับว่ามันไปสนิทมากมายกับไอ้เก่งตอนไหน แล้วไอ้เก่งเพื่อนรักของผมเนี่ย ไปถูกใจอะไรไอ้ตัวแสบของผมนักหนา เพราะอย่างที่ไอ้เก่งเคยบอกเลยคือ แฟนผมแต่ละคนเนี่ย ไอ้เก่งแทบจะไม่อยากมาคลุกคลีด้วยเลยครับ เนื่องจากมันไม่ให้ผ่าน เพราะเวลามันไปอ่อยว่าที่แฟนใหม่ผม ไอ้พวกนั้นก็จะคล้อยตามไอ้เก่งไปแทบจะทุกคนผมมีโอกาสได้คุยกับไอ้เก่งตอนไอ้เก่งชวนผมไปดูดบุหรี่ครับ...คือผมเนี่ยไม่ได้ดูด นะไอ้เก่งดูด แต่ไอ้เก่งเนี่ยจะดูด ก็ต่อเมื่อมีเรื่องเครียด ๆ ในชีวิต

เก่ง : ไอ้เขม...เมิงจะว่าไง เรื่องไอ้หนูน้อยเนี่ย

เขม : แม่ง...กรูไม่รู้เลยหวะ มึงรู้ไม๊ว่าไอ้ตัวแสบ มันบอกกรูว่าไง

เก่ง : ว่าไงฟระ....ยังจะมีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกเหรอ

เขม : มันบอกว่า มันไม่อยากให้กรูรอ

เก่ง : มันหมายความว่าไงฟระ....

เขม : ก็หมายความว่า ขอเลิกกับกรูไง

เก่ง : เชี่ยยยยยยย.....ไอ้หนูน้อย แม่งเอาห่าอะไรมาคิดฟระ

เขม : เอออ...ก็นั่นดิ....สัส....กรูถึงจะเป็นบ้าอยู่นี่ไง

เก่ง : แล้วมึงหายไปตั้งนานกรูก็นึกว่าคุยกันรู้เรื่องแล้ว

เขม : จะรู้เรื่องได้ไงหละ....กรูแม่งเสือกทำมันล้ม...แล้วสติที่มีน้อย ๆ ของกรูก็แทบจะไม่เหลือเลยค๊าบบบบ.....

เก่ง : แล้วมึงจะทำไง

เขม : ไอ้ห่า....มึง กรูยังไม่รู้เลยว่ากรูต้องรู้สึกยังไงตอนนี้

เก่ง : เมิง....อย่าปล่อยไอ้หนูน้อยไปนะเว้ย

เขม : ถ้ากรูทำได้กรูอยากจะมัดมันไว้ ขังแม่งไว้ที่คอนโดกรูเลยสัส

เก่ง : ความคิดดี...เด๋วกรูช่วยจับ

เขม : ไอ้ห่า....

เก่ง : มึง....กรูไม่รู้นะว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป...แต่ที่กรูรู้ ๆ คือ ความรักมันไม่ง่ายหวะ

เขม : เชี่ยยยยย.....ดราม่ากว่ากรู ก็เมิงเนี่ยแหละ

เก่ง : เออ....กรูก็แค่ อยากเห็นเพื่อนกรูมีความสุข กับคนที่เมิงเลือกและรัก

เขม : คือตอนนี้...มันไม่ใช่แค่กรูกับมันแล้วไง มันรวมไปถึง ป๊า แม่ แล้วก็ พ่อแม่มันอีก

เก่ง : นั่นแหละที่ยิ่งยาก...กรูว่ากรูกับต้าก็โอเคดีนะเว้ย แต่ดูตอนนี้ดิ ในเมื่อพ่อแม่เค้าไม่โอเคกับกรู...แล้วจะให้กรูทำไง จะให้กรูไปต่อยังไง

เขม : ไอ้เก่งเอ้ย...กรูกะเมิงนี่มันเป็นเพื่อนรักกันจริง ๆ

เก่ง : ยังไงฟระ

เขม : มึงเลิก....กรูก็อาจจะต้องเลิกตาม

เก่ง : มึงต้องสู้ดิเขม....กรูไปไม่รอดไม่ได้หมายถึงมึงจะต้องไปไม่รอดด้วยนะเว้ย

เขม : ตอนนี้กรูคงเลือกอะไรได้ไม่มาก

เก่ง : ทำไมฟระ

เขม : เมิงไม่รู้จักบีดีพอหละสิ....ถ้ามันตัดสินใจแล้วนะ....ใครก็เปลี่ยนไม่ได้

เก่ง : จริงเหรอฟระ....เห็นมันออกจะตามใจเมิง แล้วก็ดูหัวอ่อน ฟังที่เมิงพูดออก

เขม : นั่นมันเรื่องทั่วไป...ใช่เลย มันตามใจกรูมาก แต่ถ้าเป็นเรื่องอนาคตนะ มันซีเรียสมากเลยเว้ย

เก่ง : ยังไงฟระ...

เขม : กรูเคยเล่าให้เมิงฟังใช่ป่ะว่า ถ้ากรูได้กัปตันแล้วกรูจะซื้อบ้านอยู่กับบีแบบจริงจัง

เก่ง : เออใช่ ๆ กรูจำได้....กรูยังแซวเมิงอยู่เลยว่าเมิงจะได้แต่งงานคนแรกในกลุ่ม 555

เขม : เมิงรู้ไม๊ว่าบีตอบมาว่าไง

เก่ง : ว่า?

เขม : มันเร็วไปสำหรับกรูกะมัน

เก่ง : เชี่ยยยยยยย......แต่ ก็จริงที่มันว่านะเว้ย

เขม : เมิงคิดดิถ้ากรูมีแฟนแบบ ทั่ว ๆ ไปเลยนะ ถ้าบอกว่าจะซื้อบ้านแล้วให้มาอยู่ด้วยกัน มึงคิดดิว่า คนทั่ว ๆ ไปจะตอบว่าไง

เก่ง : ก็คงเล่นตัวนิดหน่อยแล้วก็อีกไม่เกินอาทิตย์คงจุงมือกันไปเลือกบ้านอ่ะ

เขม : เห็นมะ...ตอนแรกกรูก็คิดว่าอย่างนั้น แต่แม่ง หายไปเลยเว้ย ไม่มีพูดเรื่องนี้อีกเลย

เก่ง : แสสสสสสสส....ไอ้นี่มันไม่เหมือนใครจริง ๆ นะ

เขม : ขนาดตอนนี้กรูยังไม่กล้าที่จะขอกุญแจคอนโดของมันเลยนะ

เก่ง : มึง...รับมือยากระ

เขม : กรูก็คงทำได้เท่าที่กรูทำได้แหละ แต่กรูกลัวจริง ๆ นะ ว่าวันนึง กรูจะเสียมันไป

เก่ง : อย่าว่าแต่เมิงเลย...กรูยังไม่อยากให้มันไปเลย

เขม : ขนาดคนอย่างมึง....มึงยังรู้สึกเลย...แล้วกรูหละ กรูไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไงต่อไป

เก่ง : กรูบอกเลยนะว่า ไอ้หนูน้อยเนี่ย...แม่งเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วแม่งสบายใจสุด ๆ ไปเลย กรูบอกเลยนะกรูเครียดเรื่องไอ้ต้ามาเป็นเดือน กรูพูดตรง ๆ เมิงหรือไอ้ห่าตัวไหนก็ตามไม่เคยถามกรูเลยซักคำ ว่ากรูเป็นยังไงบ้าง แค่ไอ้หนูน้อยถามกรูคำเดียว กรูเล่าหมดเปลือกแล้วที่สำคัญ มันทำให้กรูไม่โกรธพวกเมิงเลยแม้แต่น้อย แต่เหมือนกับกรูได้เพื่อนใหม่ที่พร้อมจะฟังกรูทุกอย่างเพิ่มมาอีก 1 คน

เขม : เห็นมะ นี่กรูปล่อยไอ้ตัวแสบของกรูอยู่กะเมิงแค่ครึ่งวันนะ แล้วมึงเล่าอย่างนี้ กรูยังรู้สึกหึงเลย....แสสสสสสส

เก่ง : ไอ้สัส...เมียเมิงก็เหมือนเมียกรูแหละ....คิดมากหน่า

เขม : ไม่คุยกะเมิงละสัส ไม่ได้เฮี้ยไรไม่พอ...อารมณ์เสียอีกต่างหาก

หลังจากที่คุยกะไอ้เก่งแล้วผมก็พาไอ้ตัวแสบออกจากห้อง เราพากันไปทำเรื่องอย่างว่ากันในที่ ๆ ไม่สมควรอย่างยิ่งครับ แต่ตอนนั้นมันไม่ไหวจะเคลียจริง ๆ ครับ ผมอยากจะเปิดห้องใหม่ก็ดันเต็ม แล้วเราก็พากันไปจบที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างสระน้ำครับ หลังจากนั้นเราก็นอนอยู่ด้วยกันข้างสระน้ำ เพราะตอนนี้ผมไม่อยากที่เสียเวลาไปแม้แต่วินาทีเดียว ผมอยากจะใช้ทุกวินาทีนั้นอยู่กับไอ้ตัวแสบของผมให้ได้นานที่สุด
.
.

หลังจากกลับมาจากเชียงใหม่
.
.
พอผมรู้ว่าตารางบินเราออกครับ ผมกดดูตารางบินของไอ้ตัวแสบก่อนเลยแล้วผมก็ลมแทบจับ ไอ้ตัวแสบมีบินน้อยมากแล้วก็ไม่ได้บินกับผมเลย ผมโทรไปหาเพื่อนที่เป็นคนจัดตารางบินก่อนตารางออกแล้วแต่เพื่อนก็ช่วยไม่ได้ครับ การจะจับให้ใครบินกับใครเป็นเรื่องยากครับ แต่ถ้าจะขอให้หยุดพร้อม ๆ ก็ทำพอได้ครับ แต่ตอนนี้ใจผมแป้วมากเลย ไม่เพียงแต่ไม่ได้บินกับไอ้ตัวแสบนะครับ แต่ผมยังโดนยัดไฟล์มาเพียบเลยครับ ทำให้ผมกับแทบจะไม่ได้อยู่กทม. เลย ไปบิน ไปค้างตลอด ผมได้ขอไอ้ตัวแสบให้ไปค้างเป็นเพื่อนผมถ้ามันทำได้ แต่มันก็มีภาระกิจเรื่องการเรียนต่อของมันที่ต้องดูแล และทำให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนนี้ครับ ผมก็ได้แต่ภาวนาให้มันได้ไปค้างกับผมบ้าง

ในอาทิตย์แรกเราทั้งสองคนแทบจะไม่ได้เจอกันเลยครับ แล้วหลังจากผ่านไปไอ้ตัวแสบก็ยังต้องกลับบ้านไปอีก ผมนี่แทบจะเป็นบ้า คือคุยกันทุกวันก็จริงนะครับ แต่ก็อย่างว่าแหละครับ...เวลาการนับถอยหลังของพวกเรามันเหลือน้อยเต็มที่ ผมก็งอแงงสุด ๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่สิ่งที่ผมตกใจสุด ๆ ก็คือ ไอ้ตัวแสบมันทำเซอร์ไพรส์ให้กับผม มันพาป๊ากับแม่ผมมาหาผมในวันที่ผมค้างภูเก็ตครับ ผมตกใจมากในวันนี้ที่เจอมัน มันทำให้ผมร้องไห้แทบจะไม่หยุด แล้วมันยังเซอร์ไพรส์ผมไม่พอ ยังจัดงานวันเกิดย้อนหลังให้ผมอีก จริง ๆ ผมเกิดเดือนพฤษภาคมครับ แต่ตอนนี้มันเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักไปแล้ว แต่ไอ้ตัวแสบของผมก็ยังจะอยากจัดงานให้ผมย้อนหลัง ป๊าให้เหตุผลว่า เพราะงานปีนี้ไม่มีไอ้ตัวแสบอยู่ก็เลยจัดให้อีกรอบ

ผมเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกเลยครับ แฟนของผม รักผมและรักครอบครัวของผม แล้วยกโขยงพากันมาที่ภูเก็ต ป๊ากับแม่ก็ยอมเล่นกะไอ้ตัวแสบมันด้วยครับ ไอ้ตัวแสบของผมมันจัดเตรียมทุกอย่าง ทั้งแผน จองห้อง เช่ารถ แล้วยังขับรถพาผมไปกินข้าวตอนเย็นอีก ผมเหนื่อยมากจาบินเพราะวันนี้อากาศไม่ค่อยจะดีเลยครับ บินวน ๆ ไป ขับหลบเมฆเลื่อยเป็นงูเลยครับ แล้วที่สนามบินตอนจะลงฝนก็ดันตกอีก เกือบ go around ไปอีก ผมยื่นมือไปจับมือไอ้ตัวแสบไว้ตลอดทางเลยครับแล้วผมก็หลับไป ป๊ากับแม่ก็ไม่ว่าอะไรครับ

แต่จุดที่ผมต้องยอมรับเลยครับว่า ผมทนไม่ได้จริง ๆ ที่มันจะต้องจากผมไป คือเมื่อมันนอนหลับไปครับ โดยปกติไอ้ตัวแสบกับผมจะนอนกอดกันซักพักก่อนแล้วก็พอเริ่มหลับจริงจัง ตัวของไอ้ตัวแสบก็จะดีดออกจากตัวผมไปครับ เพราะมันเป็นคนนอนดิ้น นอนในอ้อมกอดผมได้ซักแป๊ป มันก็จะออกจากอ้อมกอดผมไปนอนดิ้น ๆ ของมันไป ผมตื่นมา กลางคืนบ่อยครั้งครับ แล้วก็ไปห่มผ้าให้มัน เพราะมันเป็นคนขี้หนาว และเมื่อไหรก็ตามที่มันถีบผ้าห่มออก ซักแป๊ปมันก็จะนอนขดเป็นกุ้งครับ พอผมรู้ตัวผมก็จะไปห่มผ้าให้กับมัน แต่เมื่อไหรก็ตามที่มันหนาวแล้วส่วนใดส่วนหนึ่งของมาไปโดนมันนะครับ มันจะรีบคว้าผมไว้ทันทีแล้วก็เกาะหนึบไม่หลุดง่าย ๆ เลยครับ เพราะตัวผมเป็นคนตัวร้อนครับตัวไอ้ตัวแสบเป็นคนตัวเย็น ผมจึงชอบไปนอนกอดมัน

คืนนั้นแค่นอนได้ไม่ถึง 5 นาทีไอ้ตัวแสบก็หลับปุ๋ยเลยครับ ไม่นานมันก็ดีดออกจากตัวผมไป ผมนั่งดูมันนอนอยู่ข้าง ๆ แล้วน้ำตาของผมมันก็ไหลออกมาครับ ผมแค่เริ่มคิดว่าถ้าวันพรุ่งนี้จะไม่มีมันนอนข้าง ๆ ผม ไม่มีใครคอยนอนกอด ไม่มีมือขาว ๆ ของไอ้ตัวแสบให้กุมเวลาขับรถ ผมก็เศร้าจนแทบจะทนไม่ได้ ผมกลัวไอ้ตัวแสบตื่น ผมเลยขึ้นไปหาป๊ากับแม่ครับ ผมบอกให้ป๊ากับแม่นอนไปก่อนเลยผมขอนอนตรงโซฟาที่ห้องนั่งเล่น แต่แม่ก็เข้ามากอดผมแล้วผมก็นอนที่ตักแม่ครับ

แม่ : เป็นอะไรอ่ะลูก ทะเลาะกับลูกบีเหรอลูก

เขม : เปล่าครับแม่...ผมแค่....

แม่ : ลูกเอ้ย....แม่รู้นะว่าลูกกำลังทำใจไม่ได้

ผมได้แต่นอนให้น้ำตามันไหลออกไป เผื่อว่าความเศร้าในใจผมมันจะถูกระบายออกไปบ้าง

เขม : แม่ครับ....ถ้าแม่เป็นเขมแม่จะทำยังไง

แม่ : แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันลูกเอ้ย....

เขม : แม่ครับ....เขมรักมันมาก เขมไม่อยากให้มันไปเลย

แม่ : แต่ละคนก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเองอ่ะนะลูก เราจะไปกะเกณฑ์ใครให้ทำอะไรตามที่ใจเราต้องการมันก็ไม่ได้หรอกลูก

เขม :........

ผมไม่กล้าถามอะไรกับแม่มากมายไปกว่านี้อีกครับ ยิ่งผมถามออกไปก็จะยิ่งทำให้แม่หนักใจมากขึ้น ผมจึงบอกให้แม่ไปนอนแล้วผมนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นคนเดียวครับ ผมปิดไฟแล้วทำท่าเหมือนจะนอนแต่ผมก็นอนไม่หลับ....ในวันนี้มันเป็นวันที่ผมมีความสุขมากเหลือเกิน ไอ้ตัวแสบของผมมันทำให้ผมและป๊ากับแม่มีความสุขอย่างมาก แต่พอผมมาคิดถึงเรื่องที่มันจะต้องไปเรียนต่อ มันก็ทำให้ผมเศร้ามากในเวลาเดียวกัน ผมนอนลืมตาอยู่ตรงนั้นจนเกือบเช้าแล้วป๊าก็ออกมาจากห้องครับ พอป๊าเห็นผมป๊าก็ทำอะไรไม่ถูก ป๊าเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรกับผม ไม่นานแม่ก็เดินมาหาผม

แม่ : ได้นอนบ้างไม๊ลูก

เขม : นอนไม่หลับเลยครับแม่

แม่ : แล้วต้องไปบินกี่โมงเนี่ยลูก

เขม : อีกไม่เกิน 15 นาที เขมก็ต้องเริ่มแต่งตัวแล้วครับ

แม่ : งั้นแม่ไปเอาเสื้อผ้าลูกมาให้นะ

เขม : ขอบคุณครับแม่.....

ผมนั่งน้ำตาไหลอยู่ที่เดิมมองออกไปนอกหน้าต่างซักพักผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้าให้มา ในใจผมก็คิดว่าเป็นแม่ แน่นอนอยู่แล้วครับ แต่กลับกัน ไอ้ตัวแสบเข้ามานั่งอยู่ข้าง ๆ ผม ผมรู้เลยครับว่า ผมไม่อยากให้ไอ้ตัวแสบเห็นผมในสภาพนี้เลย ทั้ง ๆ ที่มันทำเพื่อให้ผมมีความสุขทุกอย่าง แต่สิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้คือคิดถึงเรื่องที่เต็มไปด้วยความทุกข์ที่ยังมาไม่ถึง ผมรู้ทันทีครับว่าไอ้ตัวแสบต้องเสียใจมากแน่ ๆ ที่เห็นผมอยู่ในสภาพแบบนี้ แล้วไอ้ตัวแสบก็ยังคงเป็นไอ้ตัวแสบของผมคนเดิม มันสามารถสลัดความโศกเศร้าเสียใจของผมไปได้หมดเพียงคำพูดไม่กี่ประโยคของมัน ผมเหมือนโดนคลายมนต์สะกดทำให้ความโศกเศร้าถูกปัดออกไปอย่างสิ้นเชิง
.
.
.
.
ผมกลับมาบ้านตอนบ่าย ๆ พร้อมกับความปวดหัวและมีไข้ครับเนื่องจากเมื่อคืนไม่ได้นอนแล้วอากาศก็ร้อน ๆ หนาว ๆ แถมกับสภาพจิตใจที่ไม่ปกติเอาซะเลยครับ พอถึงบ้านผมจึงพุ่งตรงไปที่ห้องนอนของผมทันที ผมนอนหลับทันทีที่หัวของผมถึงหมอนเน่าครับ

ในฝัน....ผมไปสิ่งไอ้ตัวแสบที่สนามบิน ผมรู้สึกใจหายทันทีที่วันนี้จะไม่มีไอ้ตัวแสบอยู่ด้วยแล้ว มันเร็วไปครับ...ผมทำใจไม่ได้จริง ๆ ผมทั้งร้องไห้ ฟูมฟาย ทำทุกอย่างเพื่อให้ไอ้ตัวแสบยกเลิกการไปเรียน ผมทั้งคุกเข่าขอร้อง แต่ก็เหมือนจะไม่เป็นผล ไอ้ตัวแสบของผมทำหน้านิ่ง ไม่พูดคุยกับผมแล้วก็เดินจากผมไปอย่างไร้เยื่อใย ผมนั่งร้องไห้คนเดียวอยู่ที่สนามบิน แล้วภาพก็ตัดมาที่เครื่องบินครับ ผมเห็นเครื่องบินที่ทะยานออกไป แล้วก็มีไอ้ตัวแสบอยู่ในนั้น ผมภาวนาให้เครื่องบินที่มันบินไปมีปัญหาแล้วบินกลับมาที่เดิม แล้วเครื่องบินก็มีปัญหาจริง ๆ ครับ มีกลุ่มควันสีดำลอยออกมาจากเครื่องยนต์ด้านขวา ผมเห็นอย่างนั้นผมก็คิดผิดทันทีครับที่ภาวนาให้เครื่องไอ้ตัวแสบที่กำลัง take off ออกไปมีปัญหา เพราะหัวใจผมตอนนี้มันกำลังจะสลาย คุณรู้หรือไม่ครับว่า เครื่องบินช่วงที่น่ากลัวที่สุดคือช่วงไหน คำตอบก็คือ ช่วง take off และ landing นั่นแหละครับ

ช่วง take off เป็นช่วงที่เครื่องบินเร่งสุดเต็มพลังเพื่อจะทำให้วิ่งให้เร็วแล้วมีแรงยกมากพอที่จะยกเครื่องบินให้บินขึ้นได้ และด้วยความหนัก ไม่เฉพาะตัวของเครื่องบินแต่เป็นตัวของน้ำมันที่บรรทุกเป็นตัน ๆ พร้อมที่จะเกิดระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อถ้าเครื่องเกิดปัญหาอะไรขึ้นแล้วมีเพียงประกายไฟเล็ก ๆ เพราะฉะนั้นในช่วงนี้หลาย ๆ สายการบินจึงมีการเข้มงวดในเรื่องของการรัดเข็มขัด เปิดม่านหน้าต่าง หรือปิดอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อทำให้ผู้โดยสารทุกคนช่วยสอดส่องดูแลความเป็นไป ถ้าเกิดมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น จะได้แจ้งให้กับลูกเรือและนักบินให้ช่วยทำการแก้ปัญหาได้เร็วที่สุด และอีกอย่าง...รู้หมือไร่ครับว่า ผู้โดยสารมักจะเป็นคนเห็นว่าเครื่องยนต์มีประกายไฟ หรือไฟไหม้ เพราะนักบินไม่มีกระจกหลังหรือกระจกข้าง และที่นั่งของลูกเรือส่วนใหญ่จะอยู่ตามประตูมากกว่าจะอยู่ใกล้ ๆ เครื่องยนต์ครับ ทำให้การเปิดม่านหน้าต่างเวลา take off and landing นั้นสำคัญมาก

ในฝันผมวิ่งตามเครื่องบินไปเพื่อจะไปบอกกัปตันว่าให้นำเครื่องลงให้เร็วที่สุด และเครื่องก็ลงมาพร้อมกับไฟที่ไหม้อยู่ที่เครื่องยนต์ด้านขวา ผมวิ่งไปเพื่อพยายามจะหาไอ้ตัวแสบ แต่ไอ้ตัวแสบยืนอยู่ในเครื่องบินเพื่อช่วยคนอื่นในการออกจากเครื่องบินอยู่ ไอ้ตัวแสบดูไม่ได้ห่วงตัวของมันเลยครับ มันห่วงแต่คนรอบข้างของมัน ผมพยายามตะโกนเท่าไหร มันก็ไม่ได้ยิน แล้วเครื่องก็เกิดระเบิดขึ้น ผมสะดุ้งตื่นทันที

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความฝัน แต่เป็นฝันที่ผมกำลังจะเสียไอ้ตัวแสบไปแบบถาวร ผมพยายามลุกขึ้นนั่งแต่หัวของผมก็หนักอึ้ง ตอนนี้แม่บ้านได้เดินเข้ามาให้ห้องผมครับ ผมบอกพี่แม่บ้านให้ไปเรียกแม่ผมมาหน่อย ผมคิดว่าผมน่าจะต้องไปโรงพยาบาล มันเป็นสิ่งเดียวที่ผมคิดออกตอนนี้ครับ เพราะว่าผมกลัวว่าผมจะไม่สบายหนักและเสียเวลาที่มีค่า ที่จะไม่ได้อยู่กับไอ้ตัวแสบของผม

และแม่ก็ตามไอ้ตัวแสบมารับตัวของผมไปส่งที่โรงพยาบาลครับ ไอ้ตัวแสบดูแลผมตลอด หมอบอกว่าอาจจะเป็นไข้หวัด หมอจะจ่ายยาให้แต่ผมปฏิเสธ แต่เลือกที่จะฉีดยาเองเพราะอีกไม่กี่วัน ก็เป็นวาเลนไทน์แล้วครับ ผมไม่อยากป่วย ผมอยากใช้เวลาที่เหลืออยู่กับไอ้ตัวแสบให้มีค่า และความทรงจำที่ดีมากที่สุด วันต่อมาผมหายป่วยเป็นปลิดทิ้ง ผมนัดพวกเพื่อนในวงเพื่อซ้อมแล้วผมก็นัดแน่ให้ทุกคนแต่งตัวดีงามและก็ซ้อมเพลงที่ผมอยากจะเล่น และร้องให้กับไอ้ตัวแสบในวันนั้น ผมตัดสินใจที่จะร้องเพลงครับ ผมไม่เคยร้องเพลงให้ใครมาก่อน ไม่เคยขึ้นเวทีในฐานะนักร้อง ครั้งนี้ก็เหมือนผมจะตื่นเวทีเบา  ๆ ครับ แต่ทั้งหมดที่ผมทำไปมันก็เพื่ออยากจะให้ไอ้ตัวแสบของผมรับรู้ถึงความรู้สึกของผม อย่างน้อย ๆ ผมก็อยากจะบอกมันว่า ความรักที่ผมมีให้มันในตอนนี้ มันมีอยู่จริง และมันจะมีอยู่อย่างนี้ตลอดไป


มีต่อครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: cybershot ที่ 22-11-2017 08:41:36
ผมเคยยอมรับกับทุกคนแล้วนะครับว่าผมเนี่ยเป็นคนที่หื่นมากประมาณนึง มีอารมณ์แทบจะตลอดเวลาที่อยู่กะไอ้ตัวแสบของผมเลยก็ว่าได้ ผมแพ้ความขาวของมันแล้วก็ความขี้อ้อนคลอเคลียของมันอยู่ตลอด ๆ แต่วันนี้เป็นวันแห่งความรัก ผมกลับแค่อยากจะนอนกอดไอ้ตัวแสบไว้ให้นานที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้

คุณเคยรู้สึกอย่างนี้กับใครบ้างไม๊ครับ เราไม่ได้แค่ต้องการจะมีอะไรกับเค้า แต่เราต้องการแค่อยากจะให้เค้า อยู่กับเราอย่างนี้เรื่อยไป นานเท่าที่จะนานได้ ตั้งแต่เด็ก ๆ ผมก็เจอความรักมาหลายรู้แบบครับ แต่ผมเพิ่งจะมีเรียนรู้ความรักรูปแบบนี้ก็ครั้งนี้เองหละครับ ผมเป็นพ่อบุญทุ่มครับ มีอะไร รักใคร ยกให้หมด ขอแค่เค้ามีความสุข และส่วนใหญ่สิ่งที่ผมจะใช้แลกกับความสุขของคนที่ผมรักก็คือ ตัวเงินครับ บ่อยครั้งที่ผมใช้เงินซื้อความสุขให้กับคนที่ผมรัก ซึ่งตรงจุดนี้ผมก็รู้ดีครับว่า บางคนที่เข้ามาในชีวิตเราก็อาจจะหวังแค่เพียงสิ่งเหล่านี้ แต่อีกหลาย ๆ คนก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นครับ และไอ้ตัวแสบเป็นคนที่ตัวเงินซื้อไม่ได้เลยครับ ถ้าผมอยากจะทำอะไรให้มันมีความสุข ผมต้องลงมือทำเอง นั่นคือครั้งแรกที่ทำให้ผมได้รู้จักคำว่า ดูแลคนที่เรารักจริง ๆ ครับ พูดไปผมอาจจะดูแย่ เกิดมาตั้ง 30กว่าปีแล้วทำไมยังดูแลคนอื่นไม่ได้อีก ผมยอมรับครับว่าที่บ้านเลี้ยงผมมาแบบไข่ในหิน แล้วตอนนี้ไอ้ตัวแสบของผมก็สอนให้ผมรู้ว่า การที่จะมีความรักมันไม่ใช่แค่รัก แต่มันยังต้องห่วงใย ดูแล เอาใจใส่ มันมีหลายองค์ประกอบมากไปกว่าแค่ การ ได้เสียกัน
.
.
.
.
.
วันที่ 25 กุมภาพันธ์

ผมจัดปาตี้ให้กับเพื่อน ๆ ของไอ้ตัวแสบบ้างครับ คือไอ้ตัวแสบของผมเนี่ยเป็นคนเพื่อนเยอะมาก ๆ ครับ ลูกเรือรุ่นมันก็ปาไปเกือบจะ  20 คนแล้วครับ แล้วทุกคนมันก็สนิทหมด ผมเลยต้องปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ที่รสชาติโอเค แล้วก็เสียงดังได้เพื่อจะทำการฉลองให้กับไอ้ตัวแสบครับ เพื่อน ๆ ของไอ้ตัวแสบเนี่ยก็คือลูกเรือรุ่นมันแหละครับ ไอ้ตัวแสบบอกว่าไม่อยากชวนมาเยอะเด๋วผมเสียตังเยอะ ซึ่งอย่างที่บอกเรื่องของตัวเงินเนี่ยผมไม่เคยซีเรียสเลยนะครับ แต่ไอ้ตัวแสบดิครับ มันไม่ยอมเลยถ้าผมจะต้องเสียตังเยอะเกินกว่าความจำเป็น

ทุกคนต่างดูมีความสุขและความเศร้าปะปนกันไปครับ บ้างก็ยินดี ดีใจที่ไอ้ตัวแสบได้ไปเรียนต่อ ได้ทำในสิ่งที่มันควรจะทำ เพื่อต่อยอดให้กับอนาคตของมัน บ้างก็เสียใจแหละครับ เพื่อนลาออกแล้วไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจะได้กลับมาเจอกันอีก

ผมนั่งกินอยู่กับแก้งค์เพื่อน ๆ ผมครับแล้วก็มีน้องปืนคนที่ผมเคยชอบ มันเดินเข้ามาคุยกับผมครับ

ปืน : พี่เขม....ปืนขอโทษ

พี่เขม : เรื่องอะไรปืน....

ปืน : ปืนเป็นคนเจอพี่กินเหล้ากะน้องเจเองแหละ

พี่เขม : โหย....เรื่องนานมาแล้ว แล้วก็ไม่ใช่ความผิดของปืนหรอก

ปืน : ปืนเหมือนทำให้ทุกอย่างมันแย่ลง

พี่เขม : ไม่หรอกปืน...พี่ต่างหากที่ทำ

ปืน : พี่เขม....ไอ้บีจะไปเรียนต่อ พี่ทนได้หรอ?

พี่เขม : พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันหวะ....บอกตรง ๆ เลยนะว่าพี่ยังทำใจไม่ได้เลย

ปืน : ขนาดผมเป็นเพื่อนมันนะพี่...ผมยังใจหายเลย

พี่เขม : อืม...เนอะ ชีวิตคนเราก็งี้แหละ มีพบก็ต้องมีจาก

ปืน : พี่เขม....พี่ดูไม่เหมือนเมื่อก่อนเลยนะ

พี่เขม : ยังไง...?

ปืน : พี่เขมที่ผมเคยรู้จักตอนก่อนที่พี่จะคบกับไอ้บี....มันดู...แบบว่า

พี่เขม : เลวกว่านี้ใช่มะ

ปืน : เฮ้ยไม่ใช่พี่...ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น

พี่เขม : แล้วยังไงหละ

ปืน : มันดู ไม่จริงจังกับอะไรเท่าตอนนี้อ่ะ เมื่อก่อนพี่เหมือนลอยไปหาคนโน้นทีคนนั้นที แต่พอมาตอนนี้ พี่ดูเหมือนว่ารักไอ้บีมันเข้ามาก ๆ แล้วก็ดูคิดเยอะกว่าเมื่อก่อนอ่ะ

พี่เขม : ทำไมอ่ะ...ตะก่อนพี่ดูคิดน้อยเหรอ

ปืน : อืม....ดูเหมือนพี่ไม่ค่อยจะใส่ใจอะไรเท่าไหร่...ขนาดตอนนั้นที่พี่จีบผมนะ ผมยังรู้สึกเลยว่า...พี่แม่ง...มาเล่น ๆ ใครจะไปกล้าคบด้วยฟระ ไม่ชัดเจนขนาดนี้

พี่เขม : แล้วตอนนี้หละ...

ปืน : พี่ดูเป็นผู้ใหญ่มากอ่ะ...ดูพึ่งพิงได้ ดูเหมือนว่าจะดูแลคนอื่นได้จริง ๆ

พี่เขม : ก็เพราะเพื่อนปืนนั่นแหละ....มันทำให้พี่มองทุกอย่างเปลี่ยนไป

ปืน : ไอ้บีมันมีอธิพลกับพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ....

พี่เขม : ไอ้บี...มันคือ รักที่พี่ตามหามานาน พี่คิดว่านะ

ปืน : เชี่ยยยยยย....ขนลุก

พี่เขม : เป็นห่าอะไร ผีเดินผ่านเหรอ

ปืน : ไม่คิดว่าคำอย่างนี้จะออกมาจากปากพี่เขม เดอะ เพลย์ บอย

พี่เขม : ก็ว่าไป ตอนนี้ถอดเขี้ยวถอดเล็บแล้วค๊าบบบบบ

ปืน : โดนถอดหรือถอดเองหละ

พี่เขม : คิดว่าไงหละ....ใครจะกล้ามาถอดของพี่

ปืน : ก็จริง...ไอ้บีนี่มันเก่งเนอะ

พี่เขม : ไม่หรอก...บีก็แค่เป็นตัวของบี แล้วทำให้พี่เห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง

ปืน : ผมไประ...พี่เริ่มหวานซะหยดย้อยละ...ผมไปตามไอ้บีมาให้พี่ดีกว่า

พี่เขม : ไม่ต้องหรอก....ให้เค้าสนุกกับเพื่อนๆ  เถอะ....พี่ยังไงก็รอได้

ปืน : หวานไปอีกกกกกกก

ผมบอกไอ้เก่งว่าผมอยากร้องเพลงอีกครับ แต่ไอ้เก่งเนี่ย ไม่กล้าออกจากวงเหล้าเลยครับเพราะมันโดนแก้งค์ชะนีน้อยเพื่อน ๆ ของไอ้ตัวแสบรุมครับ แล้วไอ้พวกแอร์ชะนีน้อยนี่ก็สายเปย์นะจ๊ะ....ไอ้เก่งแทบจะวิ่งหนีกลับมาแทบไม่ทัน

ผมกับไอ้มิ่งไปเซ็ตเครื่องเสียงเพื่อจะร้องเพลงครับแล้วไอ้เก่งก็เอาเครื่อง DJ ของมันออกมาครับ เป็นเครื่องเล็ก ๆ ไม่ใหญ่มันตั้งชื่อให้ว่า น้องซาร่าครับ เป็นลูกสาวของเล่นใหม่ของมัน ไอ้เก่งนี่มีความสามารถในการทำด้านเกี่ยวกับดนตรีมากครับ แล้วผมกะไอ้มิ่งก็เริ่มร้องเพลง โดยที่เด็ก ๆ และไอ้ตัวแสบยังคงเม้ามอยเล่นกันอยู่ พอเสียงดนตรีเริ่มขึ้นเท่านั้นแหละครับ ทุกคนหยุดแล้วหันมามองผมเป็นสายตาเดียวกันหมดเลย
ผมเริ่มจากเพลง เพราะ ๆ ที่ทุกคนน่าจะร้องได้ จนไปถึงเพลงที่ผมอยากจะให้ไอ้ตัวแสบของผมมากที่สุดครับ

เขม : สำหรับเพลงสุดท้ายนี้ พี่ขอมอบให้กับแฟนของพี่ คนเดียวนะครับ

เสียงแอร์ชะนีน้อยและเพื่อนผมกรีดร้องกันใหญ่....ทุกคนแทบจะม้วนยิ้มตามเลยครับ ไอ้ตัวแสบของผมสิครับ มันทำหน้าเหวอแล้วก็ชี้ที่หน้าของมันเอง เพื่อนๆ  ต่างดันตัวของไอ้ตัวแสบมาไว้ด้านหน้าครับ แล้วมันก็เดินลงมานั่งข้าง ๆ ผม แล้วก็ ฟอดดดดดดดดดด
หอมแก้มผมเข้าให้ อาจจะเพราะด้วยความเมาของไอ้ตัวแสบ มันเลยกล้าทำ ปกติ ไอ้ตัวแสบนะครับ ถ้ามีคนมากกว่าผมกะมัน มันแทบจะไม่แต่ตัวผมเลย นอกซะจากมันเมาครับ 55555

พอไอ้ตัวแสบหอมแก้มผมกลางงานแล้วไอ้ผมเองเนี่ยแหละครับที่เขิน อาย ม้วนเลยครับ คือโดยปกติ ผมเนี่ยจะเป็นคนทำให้ไอ้ตัวแสบมันเขินและแกล้งมันอยู่ตลอด เอาง่าย ๆ ว่าหน้าผมด้านมากครับ แต่พอไอ้ตัวแสบมาทำผมคืน ผมแทบจะลืมโน้ตทุกตัว เนื้อเพลงทุกตอนไปเลยครับ ผมยิ้มออกมาแล้วหน้าผมก็แดงขึ้นเรื่อย ๆ นี่แทบจะเป็นครั้งแรก ๆ เลยมั่งครับที่ไอ้ตัวแสบมันทำให้หน้าผมร้อนผ่าว ๆ ขนาดนี้ ผมโอบตัวมันเข้ามาให้นั่งใกล้ผมมาขึ้น มาเอนหัวของมันมาซบที่ไหล่ของผม ตอนนี้ผมบอกได้เลยครับว่า สติผมกระเจิงหมดไอ้เก่งเริ่มที่คีบอร์ดและsound ของมัน แล้วไอ้มิ่งก็เริ่มร้องนำให้ก่อนครับ

มิ่งร้อง :

เธอคือทุกสิ่ง ในความจริงในความฝัน
คือทุกอย่างเหมือนใจต้องการ
เธอเป็นนิทาน ที่ฉันอ่าน ก่อนหลับตาและนอนฝัน

เก่งร้อง :

เธอคือหัวใจ ไม่ว่าใครไม่อาจเทียมเทียบเท่าเธอ
ช่างโชคดีที่เจอ ได้ตกหลุมรักเธอ
ได้มีเธอ เคียงข้างกัน

เขมร้อง :

คงจะมีเพียงเธอทำให้โลกนั้นหยุดหมุน เพียงเธอสบตาฉัน
คงจะมีเพียงเธอที่หยุดหัวใจของฉันไว้ตรงนี้ ตรงที่เธอ




แล้วไอ้ตัวแสบของผมก็แย่งไมค์ผมไปร้องหน้าตาเฉย

บีร้อง :
เธอเพียงคนเดียวและเพียงเธอที่ต้องการ
ฉันจะทำทุกๆ ทางด้วยวิญญาณและหัวใจ
นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด
ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียงคนเดียว

ทุกคนกรีดร้องกันหมดครับ....โห่ไอ้ตัวแสบของผมที่แย่งซีนของผมเลยทีเดียว แล้วไอ้ตัวแสบก็ยื่นมือมาจับไว้ที่มือผมครับ..มันรู้สึกถึงความอบอุ่น ถึงความรัก ที่เรามีให้ต่อกัน มันทำให้น้ำตาของผมมันเริ่มไหลลงมาทันทีครับ....ไอ้ตัวแสบเห็นแล้วก็ปล่อยมือผมมาปาดน้ำตาให้กับผมครับ ยิ่งทำให้ทุกคนโห่ร้องไม่หยุด

หลังจากงาน ผมก็ไปนอนที่คอนโดของไอ้ตัวแสบครับ...ผมบอกได้เลยว่าเข้าห้องมันมาเราไม่ทำอะไรครับนอกซะจาก “ถอดเสื้อผ้าให้กันครับ” ด้วยความที่ไอ้ตัวแสบมันเมาประมาณนึง เวลาไอ้ตัวแสบมันเมาเนี่ย ความหื่นของมันก็เข้าครอบงำทันที มันทั้งจูบผมอย่างรุนแรง ดูดคอผมแล้วก็ไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนตัวผมเป็นรอยเต็มไปหมดครับ พอพวกเราต่อสู้กันซักพัก ผมก็พร้อมรบแล้วครับ ครั้งนี้ผมเริ่มตั้งแต่ที่ประตู ไอ้ตัวแสบปลุกเขมน้อยของผมขึ้นมาด้วยปากของมันครับ แล้วผมก็พามานอนฟัดกันที่โซฟา ผมเริ่มที่จะจู่โจมไอ้ตัวแสบแล้วครับ ผมนำทางเข้าไปก่อนด้วยนิ้วเหมือนทุกครั้ง แต่ไอ้ตัวแสบเหมือนจะพร้อมมากเลยครับ ไอ้ตัวแสบคร่อมตัวผมไว้แล้วก็ค่อย ๆ นั่งทับลงไปอย่างช้า ๆ ตอนนี้เขมน้อยของผมเริ่มเข้าไปอยู่ในตัวของไอ้ตัวแสบลึกขึ้นเรื่อย ๆ แล้วครับ ไอ้ตัวแสบเริ่มร้องออกมา

ไอ้ตัวแสบ : พี่เขมครับ....โอยยยย....พี่เขมเสียวไม๊

เขม : บีครับ...ค่อย ๆ นะเด๋วเจ็บตัว

ไอ้ตัวแสบ : ไม่ทันแล้วหละพี่ ผมเจ็บตัวมาเยอะแล้ว

เขม : งั้นคืนนี้...เจ็บบ่อย ๆ ค่อย ๆ ชินละกันนะ

ไอ้ตัวแสบค่อย ๆ กดลงจนมิดแล้วก็นั่งซักแป๊ปเพื่อปรับท่านั่งครับ มันค่อย ๆ บดทำให้ผมเนี่ยเสียวอย่างมาก

ไอ้ตัวแสบ : พี่ชอบท่านี้ไม๊พี่....ดูพี่เสียวนะ

เขม : เสียวมากครับบี....โอยยยยย อย่าทำนานเด๋วแตกก่อนนะ

ไอ้ตัวแสบ : ก็ไหนบอกอยากจะได้หลายรอบไม่ใช่เหรอ
เขม : งั้นจัดเลยที่รัก....พี่เสียวมาก

ไอ้ตัวแสบโยกอย่างไม่หยุดยั้ง มันบรรจงจูบผมแล้วก็โยกไปด้วย ยิ่งทำให้ผมสติกระเจิง ผมทนไม่ไหวที่จะให้มันคุมเกมอยู่ฝ่ายเดียวครับ ผมจับตัวมันยกขึ้นเล็กน้อยแล้วกระทุ้งไปอย่างไม่คิดชีวิตเลยครับ ไอ้ตัวแสบร้องออกมาแทบจะไม่เป็นคำ

เขม : ที่รัก...พี่เสียว....ไม่ไหวแล้ว....โอยยยย

ไอ้ตัวแสบ : พี่เขมครับ...ผมรักพี่คับ....แตกเลยคับพี่ โอยย ผมก็เสียว

ผมก็ปลดปล่อยเต็มที่เลยครับ ไอ้ตัวแสบนั่งหอบอยู่บนตัวผม เราจับมือกันเดินไปล้างตัวในห้องน้ำ

ตอนนี้ผมเนี่ยเสร็จไปแล้วครับแต่ไอ้ตัวแสบของผมยังไม่ยอมเสร็จ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกเลยนะครับที่ผมเสร็จก่อนไอ้ตัวแสบ...ผมรู้สึกแปลก ๆ และขาดทุนยังไงก็ไม่รู้
ไอ้ตัวแสบเดินมากอดผมจากด้านหลังแล้วก็เอาคางมาเกยไว้ที่ไหลของผมเหมือนทุกครั้ง พี่เขม....พี่เป็นทุกอย่างของผมนะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนที่ผมจะรักพี่น้อยลง และผมก็จะรักพี่ต่อไป ไอ้ตัวแสบหลบสายตาผมที่ผมมองสะท้อนไปจากกระจก แล้วมันก็เอาหน้าของมันหลบไปที่หลังผม มันเริ่มร้องไห้ออกมาครับ เวลาช่วงนี้ช่างเป็นเวลาที่บีบหัวใจผมและไอ้ตัวแสบเสียเหลือเกินครับ ผมไม่รู้จะปลอบมันยังไง เพราะตัวผมก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาอยู่ได้เหมือนกัน ผมหันไปแล้วจับหน้าของมันขึ้นมาแล้วจูบลงบนปากที่อาบไปด้วยน้ำตาของมัน

ผมอยากจะทำเรื่องอย่าว่าต่อให้ไอ้ตัวแสบเสร็จและปลดปล่อยแต่มันก็เข็นไม่ขึ้นแล้วครับ ตอนนี้เราแค่นอนกอดกันเฉย ๆ แล้วมองที่เพดานครับ...มันทำให้ผมเห็นค่าของเวลามากขึ้นทุกวัน เพราะผมไม่อยากจะนอนหลับไปแล้วตื่นมาอีกทีก็เหลือเวลาอีก 2 วัน



To be continued..


ป.ล. เหลืออีก 1 ติ่งเล็ก ๆ นะครับแล้วก็จะจบแล้วครับ ขอบคุณที่ติดตามเสมอมานะครับ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 21-12-2017 06:32:35
สนุกมากรู้สึกแบบไม่อยากให้จบ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 25-12-2017 22:43:56
ไม่อยากให้จบเลย จะเอาอีกกกกก
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 29-12-2017 20:23:39
เรื่องสนุกดี บีกับเขมและเพื่อนๆก็น่ารัก (แอบปิ๊งเก่งด้วย 555) แถมได้รู้เรื่องในแวดวงนักบินกับสจ๊วตด้วย
ชอบมากค่ะ ^^
บวกๆค่ะ
หัวข้อ: Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 17-01-2018 00:51:51
จบแล้ว???
เหลือพาร์ทของพี่เขมสินะ
จะจบยังไงล่ะเนี่ย
จบแค่จะขึ้นเครื่องเหมือนบีไหม?
รอตอนต่อไปค่า