ตอนที่ 24 คุณหมอสุดหล่อ
พี่ตาลเล่าว่า...สมัยก่อนเนี่ย...พี่ต้าเคยเป็นแฟนกับพี่เขมตอนที่พี่เขมเนี่ยมาเป็นนักบินที่บริษัทนี่ใหม่ ๆ ซึ่งก็เป็นเหมือนคู่รักท่ัว ๆ ไปเนี่ยแหละ...แต่ก็เพราะอะไรก็ไม่รู้ พี่เขมก็เปลี่ยนไปชอบผู้ชาย...แล้วบอกว่า พี่ต้าเนี่ยไม่ใช่อีกต่อไป เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมานานเกือบจะ 10 ปีแล้วมั้งเนี่ย... ช่วงแรก ๆ เป็นข่าวดังมาก บีก็รู้ใช่ไม๊ว่า 10 ปีที่แล้วเนี่ย การเป็นเกย์ มันไม่ได้เป็นที่ยอมรับในสังคมเราขนาดนี้...แต่ไอ้อ้วนเนี่ยก็ผ่านมาได้แล้วที่สำคัญไปกว่านั้นอีก...ไอ้อ้วนกับไอ้ต้าเนี่ยก็เคลียกันแล้ว แล้วก็เป็นพี่น้องกันอย่างที่เห็น...ถึงขั้นไปเที่ยวกินเหล้าด้วยกันได้เหมือนเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเลยแหละ... แต่ ! ไอ้ต้ามักจะทำตัวแปลก ๆ เสมอเมื่อเจอกับแฟนใหม่ของไอ้อ้วนมัน...เรื่องนี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้น...ยังไงซะ ก็ปล่อย ๆ มันไปเถอะนะ...จริง ๆ แล้วไอ้ต้าเนี่ยไม่มีอะไรเลย..แต่มันแค่อาจจะรู้สึกว่า ไอ้แฟนใหม่ของไอ้อ้วนเนี่ยจะมาหลอกไอ้อ้วนตลอดก็ไม่รู้...แต่ก็อย่างว่าแหละ..คนมาหลอกไอ้อ้วนก็เยอะ..แล้วที่สำคัญ แม่งมันสายทุ่ม สายเปย์ ไอ้อ้วนไม่เคยรักใครแล้ว กั๊กเลยนะ...เป็นไงหละไปเที่ยว ญี่ปุ่นกับมันมา...ฟินไม๊หละ
บี : ผมออกค่ากินทั้งหมดครับพี่...ผมไม่ให้พี่เขมออกแล้วครับ ผมเกรงใจ
พี่ตาล : แล้วมันยอมเหรอ...พี่ตาลทำหน้าตกใจมาก
บี : ก็ต้องยอมแหละครับ...เพราะผมเอากระเป๋าตังพี่เขมไปซ่อน 555555
พี่ตาล : เมิงนี่มันก็ร้ายไม่เบานะ
บี : ผมก็ไม่อยากให้พี่เขมออกทุกอย่างหรอกครับ...ผมไม่ชอบดูเหมือนมาเกาะพี่เขมกิน
พี่ตาล : เฮ้ยไม่ดิ...ไม่มีใครคิดหรอก..มันรวยจะตาย มันเต็มใจเลี้ยงอยู่แล้ว
บี : ถึงใคร ๆ จะไม่คิดแต่ผมก็คิดครับพี่ตาล...อย่างน้อย ๆก็ให้ผมได้ช่วยออกบ้างก็ดี
พี่ตาล : เป็นเจ๊หละไม่ได้...แม่งให้มันออกให้หมด
แล้วผมกับพี่ตาลก็หัวเราะกันครับ...พอกลับไปที่ห้องพี่เขม...ผมก็เห็นทุกคนร้องเพลงกันครับ เอาเครื่องดนตรีชิ้นเล็ก ๆออกมานั่งร้องเพลงเล่นกัน...มันเป็นภาพที่อบอุ่นมากเลยครับ...แฟนผมนั่งตีไอ้ กาฮอง พอผมเปิดประตูเข้าไป พี่เขมก็เดินมาลากผมให้ไปนั่งข้าง ๆ พี่แกทันที...ผมนั่งลงกับพื้นข้าง ๆ กาฮองครับ...แล้วพี่เขมก็เอาเท้าสอดไว้ คล้องกับขาผม
พี่เขม : ห้ามไปไหนละนะ...ไอ้เก่งจ้องตาเป็นมันเลย...(พี่เขมกระซิบ...แต่เหมือนทุกคนจะได้ยิน)
พี่เก่งปล่อยขำก๊ากออกมา
พี่ต้าลุกออกไปจากวง...อีกแล้ว...ทำไมต้องเป็นตัวทำให้บรรยากาศเสียด้วยฟระ...กรูก็เริ่มจะอดทนไม่ไหวละนะ....นางชะนีเฒ่า...เด่วเสกหนังควายเข้าท้องแม่งเลย
ผมสะกิดพี่เขมแล้วบอกว่า .. “พี่เขม ก่อนกระซิบ...เคลียหูก่อนไม่พี่* แม่งกระซิบยังไงเนี่ยคนทั้งห้องได้ยินหมด”
ทุกคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน...แล้วก็เป็นพี่เก่งที่ทำท่า หัวใจส่งมาให้ผม
พี่เขมเอาขนมขว้างใส่พี่เก่ง...แล้วก็ทำหน้ายักใส่
พี่เก่ง : เมิง ไอ้อ้วน...ไปดูให้หน่อยดิ๊...ว่าแม่งเป็นอะไร..กรูไม่ไหวจะเคลียละ
พี่เขม : เออ...เด๋วกรูออกไปเคลียให้
พี่เขมลุกออกไปคุยกับพี่ต้าที่ระเบียง...ผมไม่ได้ยินอะไรเลย ถึงแม้ว่าจะพยายามแอบฟังเท่าไหรก็ตาม...แต่ไอ้คนที่กวนผมเนี่ยครับ...มันไม่ยอมจะหยุดเลยครับ...
พี่เก่งไง จะใครเล่า ... “ไอ้หนูน้อย...มา ๆ พี่สอนเล่น อากูเลเล่ เอาไม๊”
บี : พี่เขมสอนผมเล่น กาฮองแล้วครับ...พอคับ...สมองผมน้อย
พี่เก่ง : หว้า...อดแต๊ะอั๋งเลย
พี่พริ้งเอาถั่วขว้างใส่พี่เก่งอีกรอบ....
พี่ตาล : มึงหยุดเลยไอ้จิ๊กกุ่งทอด...เด๋วกรูถีบให้
พี่เก่ง : เออ...กรูเลิกเล่นก็ได้...ไอ้หนูน้อยมันกลัวกรูไปแล้วเนี่ย...
พี่พริ้ง : ก็ควรมะ...
พี่เก่ง : ก็น้องมันน่ารัก...กรูก็เลยอยากแกล้งมันหน่อย...ว่าแต่...เล่นเป็นแล้ว..ร้องเพลงอะไรได้
บี : โหยพี่...ผมฝึกมาดีนะคร๊าบบบ...ได้ทั้งหมด 1 เพลงถ้วน เคาะแทบตาย มือแทบหัก
พี่เก่ง : อ่า ๆๆ ไหน ๆ โชว์มาสิ๊...ไอ้อ้วนคุยนักหนาว่า มีไอเดียเพลงดี
ผมก็เริ่มก่อนเลยครับ...
“The club isn't the best place to find a lover
So the bar is where I go (mmmm)
Me and my friends at the table doing shots
Drinking fast and then we talk slow (mmmm)
And you come over and start up a conversation with just me
And trust me I'll give it a chance now (mmmm)
Take my hand, stop, put Van The Man on the jukebox
And then we start to dance
And now I'm singing like…..
แล้วพี่เขมก็โผล่มาร้องท่อนต่อไปอย่างดัง....มันเป็นท่อนที่เมื่อก่อนพี่เขมดำน้ำแต่ตอนนี้ มาอย่างโปรแล้วครับ...แล้วก็จุงมือมากับพี่ต้า...พี่ต้าเริ่มมีสีหน้าที่ดีขึ้นแล้วทั้ง 3 คน ก็นั่งลงบนโซฟาตัวน้อย ที่นั่งได้แค่ 2 คน มี พี่เก่งที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว พี่เขม กับพี่ต้า เดินลงมานั่งทับพี่เก่ง ทำตัวโซฟาตัวนั้นแทบจะระเบิดออกมาทันที... 3 คนนี่ก็ตีกันไปเรื่อย ๆ ผมเลยหยุดเล่นแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำครับ...เพราะทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องของ 3 คนนี้...ผมยืนฉี่ได้ซักแป๊ปก็ได้ยินเสียงคนร้องออกมาอย่างดังครับ...ผมรีบทำธุระให้เสร็จแล้วรีบออกไปดูครับ
เป็นพี่เขมที่นอนอยู่กับพื้นแล้วเอามือจับที่หลัง...
ผมตกใจมากไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมพุ่งตัวไปยังตัวพี่เขมเพื่อจับตัวพี่เขมก่อน
หน้าพี่เขมหลับตาปี๋แล้วไม่มองอะไรทั้งนั้นแล้วเอาแต่พูดว่า เจ็บ...ทุกคนช๊อคทำอะไรไม่ถูก พี่ต้า พี่ตาล พี่พริ้ง กรีดร้องโวยวาย ...ผมสั่งพี่เก่ง...เหมือนผีเข้าสิงครับ
เพราะผมเป็นคนที่กินเหล้าและเบียร์น้อยที่สุดครับ
บี : พี่เก่งกุญแจรถ...ช่วยผมแบกพี่เขมไปที่รถเร็วเข้า
พี่เก่ง : .....(ยังคงยืนอึ้งไม่ตอบสนอง).....
บี : พี่เขมบอกบี...เจ็บตรงไหนบ้างครับ...หายใจช้า ๆ พอจะลุกขึ้นไหวไม๊
บี : พี่เก่ง (ผมตะโกนสุดเสียง)....กุญแจรถ!!!! แล้วมาช่วยผมแบกเร็ว!
พี่เก่งได้สติกลับมา แล้วรีบจับพี่เขม พยุงลุกขึ้น แต่ด้วยความเมาของพี่เก่งทำให้พี่เขมเริ่มจะเซ...แล้วเหมือนว่ากำลังจะล้ม
ผมล็อคตัวพี่เขมไว้แน่น แล้วเอาตัวผมสอดด้านล่างพี่เขมเพื่อจะแบกพี่เขมขึ้นหลัง
พี่เขมร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด.. “บีคับ...พี่เจ็บไม่ไหว ๆ”
ผมค่อย ๆจับพี่เขมให้ยืนโดยทิ้งน้ำหนักมาที่ผมคนเดียว....ไปท่านี้ไหวไม๊พี่เขม
หรือให้เรียกรถพยาบาล...ท่านี้พอไหว
แล้วผมก็ยกพี่เขมขึ้นหลังผมอย่างช้า ๆ ไม่ใช่ว่าไม่หนักนะครับ...ถึงผมจะตัวสูงกว่าพี่เขมแต่ตัวผมก็บางกว่าพี่เขมมากครับ
อาจจะเพราะด้วยความตกใจผมจึงแบกพี่เขมขึ้นหลังคนเดียวได้เลยแล้วเราก็พากันไปที่รถครับ...ผมให้พี่เขมนอนอยู่เบาะหลังแล้วพี่เก่งนั่งอยู่เบาะหน้า
ผมสั่งใส่พี่ผู้หญิงทุกคน เก็บห้องให้เรียบร้อยแล้วค่อยออกตามมาที่โรงพยาบาล...ผมเลือกที่จะไปโรงพยาบาล ที่ผมเคยไปครับ...พอถึงโรงพยาบาล ผมรีบพาพี่เขมเข้าหาหมอห้องฉุกเฉินก่อนเลยครับ...ตอนนี้พี่เขมได้แค่พูดว่าเจ็บอย่างเดียว..ผมอธิบายให้กับหมอฟังเล็กน้อยแล้วหมอก็จับพี่เขมไปเอ็กเรย์ทันทีครับ
ผมนั่งรอได้ซักพักผมเลยเดินไปหาหมอกายภาพที่ผมมาพบบ่อย ๆ แต่หมอพักทานข้าวอยู่ครับ...ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกปวดหลังของตัวเองตุบ ๆ อาจจะเพราะแบกพี่เขมลงมาจากคอนโดโดยไม่ได้ระวังตัว...ผมเดินกลับไปหาพี่เขมแล้วก็เห็นพี่เขมนอนคว่ำอยู่ครับ...มีหมอท่านนึงกำลังทำการตรวจเช็ค...พี่เขมเรียกร้องหาผม อยากให้ผมเข้าไปด้วยครับ...พยาบาลจึงมาเชิญผมเข้าไปในห้องตรวจด้วย
หมอถอดหน้ากากออกมาครับ...เป็นหมอที่ขาวและหล่อมากกกกกกกกกกกกกกกก คิ้วเข้มมีหนวดเครานิด ๆ นี่ถ้าเค้าไม่ได้ใส่ชุดกราวและมีที่ฟังหัวใจอยู่บนคอนี่ผมไม่เชื่อโดยเด็ดขาดเลยครับว่าเป็นหมอ...ผมจะนึกว่าเป็นนายแบบ เลยทีเดียว
ผมพยายามบอกเหตุการณ์ให้หมอฟังอย่างละเอียด พี่เขมได้แต่นอนหันหน้าออกไปอีกทางนึงแล้วโอดครวญด้วยความเจ็บปวด...ผมได้ยินเหมือนเสียงสูดน้ำมูกของพี่เขม...ตอนนี้พี่เขมอาจจะร้องไห้อยู่ครับ
คุณหมอบอกว่าต้องรอดูผลของเอ็กเรย์ก่อนเดี๋ยวตอนนี้จะให้ยาแก้ปวดไปก่อนเป็นแบบฉีดครับ...พี่เขมกลัวเข็มมากกกก พี่เขมส่ายหัวดิ๊ก ๆว่าไม่เอายาฉีดครับ
คุณหมอก็ใจดีไปหายาพ่น ทำให้อาการปวดน้อยลงไปได้ก่อน แล้วคุณหมอก็สังเกตหน้าของผมแล้วก็ถามผมว่าผมเป็นอะไรรึป่าว..ผมก็ตอบไปว่าปวดหลังครับ อาจจะเพราะแบกพี่เขมมา
หมอก็บอกให้ผมถอดเสื้อออกแล้วเดี๋ยวคุณหมอจะดูให้ เพราะตอนนี้ยังไงก็ต้องรอผลของพี่เขมก่อน แล้วตอนนี้ไม่ได้มีเคสอะไรที่จะต้องไปทำ หมอเลยจะตรวจให้...หมอก็บ่นไปว่า “คนช่วยเนี่ยก็ต้องระวังตัวนะ...จะช่วยคนอื่นก็ต้องดูว่าตัวเราเองอะไหวรึป่าว แล้วถ้าช่วยแล้วตัวเองยิ่งเจ็บและเป็นหนักกว่าเดิมนั้น...ไม่สมควรรึป่าวที่จะช่วย”
ตอนนี้พี่เขมน่าจะเริ่มเจ็บน้อยลงแล้วครับหลังจากยาพ่นไป พี่เขมหันหน้ามาดูผมที่กำลังโดนหมอตรวจอยู่
ผมถอดเสื้อแล้วนั่งอยู่ที่โต๊ะกับหมอแล้ว...พี่เขมมองมาที่ผมด้วยสายตาเศร้า...ผมส่งซิกยกนิ้วให้พี่เขมว่าผมไม่เป็นอะไรหรอก
หมอบอกว่า น่าจะไม่เป็นอะไรมากมาย อาจจะเพราะแบกน้ำหนักที่มากเกินอาจจะทำให้กล้ามเนื้อ ได้รับบาดเจ็บบ้าง เด๋วหมอจะส่งไปให้หมอแผนกกายภาพตรวจดูอีกที...แล้วผลของพี่เขมก็มาถึง...หมอทำท่าพินิจพิจารณาอย่างหนักแล้วก็บอกว่าต้องส่งไปให้หมอกระดูกดูอีกทีจะดีกว่า...หลังจากนั้นพี่เขมจึงถูกส่งตัวไปให้กับหมอกระดูก และผมต้องไปพบกับหมอกายภาพ ซึ่งผมยังคงยืนยันว่าจะไปพร้อมกับพี่เขมอยู่...ผมจับมือพี่เขมเอาไว้แน่น...แล้วผมก็เข้าไปพบแพทย์กับพี่เขมเพื่อฟังผลของแผนเอ็กเรย์
หมอกระดูกบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก น่าจะเป็นอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหลังมากกว่า ผมจึงเบาใจไปได้มากแต่หมอบอกว่าควรรับยาแก้ปวดแล้วร่วมกับการทำกายภาพเพื่อจะได้คลายกล้ามเนื้อที่หลัง
ผมพาพี่เขมออกมาจากแผนกกระดูกแล้วพาไปยังแผนกกายภาพ...แล้วผมก็เจอคุณหมอรูปหล่ออีกครั้ง...คุณหมอหยุดคุยกับผม แล้วบุรุษพยาบาลก็เข็นพี่เขมเพื่อไปแผนกกายภาพก่อน...คุณหมอถามถึงความปวดของผมแล้วบอกให้ผมไปพบคุณหมอได้ถ้าต้องการ....ผมเห็นพี่เขมมองมาด้านหลังแล้วมองหาผม ผมจึงรีบบอกลาแล้วเดินตามพี่เขมไป...แล้วผมก็ขอพบกับคุณหมอที่ผมมารักษาประจำเกี่ยวกับการกายภาพ คุณหมอคนนี้เป็นคุณหมอผู้หญิง ใจดีมากกกกก และใจเย็นมากครับ...และผมก็ยังเจอกับคุณพยาบาลที่เป็นคนฉีดยาให้ผมประจำอีกด้วย...ผมจึงไปหลอกล่อพี่เขมให้ทำการฉีดยาเพื่อลดความเจ็บปวดที่หลังลง
บี : พี่เขม...บีมาที่นี่บ่อย...นี่คุณพยาบาลที่ฉีดยาให้ผมประจำเลย มือเบาที่สุดในโลก เพราะผมก็กลัวเข็มเหมือนกันกับพี่เขมครับ...กลัวแบบขึ้นสมองเลย..ไม่สามารถมองได้เวลามีเข็มเจาะลงไป...เห็นแล้วจะเป็นลม
พี่เขมขำออกมานิดหน่อยแล้วก็ยอมแพ้ต่อความตื้อของผม...
บี : พี่เขม...เอางี้ บีไปอ่านเจอมาว่า...ถ้ากลัวเจ็บให้ไอก่อนจะฉีดมันจะลดความเจ็บได้ บีเคยลองแล้วได้ผลเว้ย...ไม่เชื่อถามคุณพยาบาลดูเลย
คุณพยาบาล : จริงค่ะคุณคนไข้...น้องบีเนี่ย..จะขอไอก่อนทุกครั้งเลย..
บี : อ่า ๆ ผมให้พี่กัดผมด้วย...อยากกัดตรงไหนจะได้ไม่เจ็บ
พี่เขมหันมายิ้มให้ผมแล้วก็ดึงผมเข้าไปใกล้ ๆ แล้วก็งับที่มือผมเบา ๆ ...พยักหน้าบอกพยาบาลว่าพร้อมแล้ว....
คุณพยาบาล : พี่น้องนี้รักกันดีจังนะคะ...คุณพี่อดทนหน่อยนะคะ
พี่เขมทำหน้าไม่พอใจแล้วก็โดนพยาบาลฉีดยาจนได้
บี : เห็นไม๊พี่เขม...ไม่เจ็บเลย
พี่เขมพยักหน้าแล้วก็ทำหน้างอน ๆ ใส่ผม...ซักพักคุณหมอผู้หญิงก็เข้ามาครับ
คุณหมอหญิง : อ่าวน้องบี...เป็นไงหละวันนี้...ปวดตรงไหนอีก...
บี : ผมปวดหลังนิดหน่อยครับคุณหมอแต่คนนี้สิครับ...(ผมชี้ไปที่พี่เขม)...โดนกระแทกมาไปหาหมอกระดูกมาแล้วครับหมอเลยส่งมาที่นี่ต่อ
คุณหมอหญิง : เด๋วหมอขอดูผลแป๊ปนะ บีไปรอข้างนอกก็ได้
พี่เขม ส่ายหน้าแล้วเกาะแขนเสื้อผมไว้แน่น
บี : คุณหมอครับ...ผมขออยู่ด้วยได้ไม๊ครับ
คุณหมอหญิง : อ่าวเป็นญาติกันเหรอ
พี่เขม : ป่าวครับ...เป็นแฟนผมครับ...(ทีอย่างนี้หละพูดได้เลย)
คุณหมอหญิงกับพยาบาล ขำ ออกมาแล้วก็มองหน้าผม
คุณหมอหญิง : อ่า ๆ ๆยังไงก็ได้
คุณหมอสอบถามอาการพี่เขมอย่างละเอียดอีกทีและทำการให้ทำกายภาพโดยการประคบร้อน, ultra sound และ เลเซอร์ก่อน
ส่วนของผมคุณหมอก็ให้ไปแช่มือในพาราฟินเพราะเจ็บข้อมือ(โรคเก่า)ก่อนแล้วทำ ultra sound ครับ
ก่อนเราจะออกจากห้องตรวจ....คุณพยาบาลเปิดประตูออกมาแล้วก็พบกับคุณหมอรูปหล่อ
คุณหมอหญิง : อ่าว...ว่าไง หมอคิต...มีอะไรเหรอ
หมอคิต : ป่าวครับพี่พร...ผมจะมาถามอาการของคุณ ทน อ่ะครับ
หมอพร : ไปเรียกเค้าว่าคุณ ทน ได้ไง เค้าชื่อ คุณ ธะ นะ หรือน้องบี มะกี้ดูเคสนี้ไว้เหรอ พี่เห็นชื่อแว๊ป ๆ
หมอคิต : เปล่าครับ...พอดีผมตรวจให้พี่ชายเค้าครับ
หมอพร : แฟนเค้าจ๊ะ...ไม่ใช่พี่ชาย
ผมหน้าแดงขึ้นมาทันที...หมอคิตหน้าเจื่อลงไปเลย...
หมอคิต : แล้วคุณบี โอเคแล้วใช่ไม๊ครับ
หมอพร : โอเคแล้วแหละ...พี่ดูแลให้แล้ว...น้องบีมาบ่อย เราสนิทกัน พี่ฝากซื้อน้ำหอมประจำแหละ...น้องเค้าเป็นสจ๊วต
หมอคิต : งั้นผมไม่กวนละครับ...
แล้วหมอคิตเดินหายไปอย่างรวดเร็ว...ทิ้งระเบิดไว้ให้ผม กับไอ้พี่เขมท่ีนั่งทำหน้ามุ่ยอยู่ ไม่รู้ว่าเจ็บหรือว่างอนกันแน่
พอตอนต้องไปกายภาพ...เสียงพี่เขมก็ดังขึ้น เนื่องจากพี่เขมเรียกชื่อผม
พี่เขม : บีคับ....อยู่แถวนี้รึป่าว
บี : คับพี่เขม..
ตอนนี้พี่เขมนอนประคบร้อนอยู่ครับ..แล้วไม่นักเทคนิคการแพทย์อยู่ด้วย
ผมเดินเข้าให้ไปหาพี่เขมเพราะตอนนี้ผมแช่ข้อมือในพาราฟินอยู่....
พี่เขม : นี่เรามาที่นี่บ่อยเหรอ..?
บี : ใช่ครับพี่...ผมปวดหลัง ปวดข้อมือ ปวดคอ ก็มาหาที่นี่ตลอดจนสนิทจะครบทุกคนในแผนกนี้แล้วครับ
พี่เขม : แล้วไอ้หมอหน้าขาวนั่นหละ...รู้จักเหรอ
บี : หมอหน้าขาวอะไรพี่...หมอคิตอะนะ
พี่เขม : เออนั่นแหละ...รู้จักมะ
บี : ไม่รู้จักคับ...เค้าน่าจะอยู่แผนก ER นะ เพิ่งเคยเจอครั้งแรก
พี่เขม : วันหลังไม่ต้องมากายภาพที่นี้อีกนะ
บี : เฮ้ยพี่เขม...ไมอ่ะ
พี่เขม : พี่ไม่อยากให้เจอไอ้หมอหน้าขาวนั่น
บี : หึงเหรอ?
พี่เขม : ก็เออดิ...มีอย่างที่ไหน...พี่เป็นคนไข้มันแท้ ๆ แต่ตาเนี่ยไม่มองพี่เลย มองแต่คนที่มาด้วย...ชิ
บี : ….พี่ก็ประกาศไปแล้วไงว่าเป็นแฟนผมอ่ะ...
พี่เขม : ไม่พอ...
บี : นี่..พี่เขม...จะมากไประนะ...ผมมานั่งปวดหลังอยู่นี่ก็เพราะแบกใครมา ตัวไม่ใช่จะเล็กๆ
พี่เขมทำหน้ามุ่ย.....
บี : แล้วไปเล่นอะไรกันมาถึงได้เจ็บขนาดนี้
พี่เขม : ก็พวกมันอ่ะดิ..แม่งเล่นกระโดดทับพี่...ตัวไม่ใช่เล็ก ๆ
บี : เออ...โต ๆ กันละเนอะ...ไม่ใช่เด็ก ๆ เล่นอะไรกันอ่ะ
พี่เขม : บีคับ....อย่าไปถือสาไอ้ต้ามันเลยนะ...
บี : อ่าวพี่ก็รู้ด้วยเหรอ
พี่เขม : รู้ดิ...พี่รู้จักมันดี
บี : ก็แน่สิคนเคยเป็นแฟนกัน
พี่เขม : อ่าวรู้ด้วยเหรอ...
บี : อืม...
พี่เขม : เออออ....มันก็เป็นอย่างงี้แหละ...เด๋วมันก็หาย มันไม่มีอะไรหรอก พี่จัดการไปละ
แล้วโทรศัพท์พี่เขมก็ดังขึ้น....
พี่เขม : เฮ้ย..แม่โทรมาหวะ...บีรับให้หน่อยดิ
บี : อ่าวทำไมอ่ะพี่...แม่โทรมาอาจจะรู้แล้วเป็นห่วงก็ได้
พี่เขม : ไม่เอาอ่ะ...บอกว่าอยู่โรงพยาบาลทีไร...แห่กันมาหมดบ้านทุกที
บี : แล้วผมจะทำอะไรได้หละพี่
พี่เขม : อ่ากดรับแล้ว..คุยเร็ว....(แล้วพี่เขมก็โยนโทรศัพท์มาให้ผมซะงั้น)
คุณแม่พี่เขม : เขมเป็นไงบ้างลูก...ลูกตาลโทรบอกแม่แล้วนะ เด๋วแม่กำลังจะไปหา
บี : คุณแม่ครับ...นี่บีเองนะครับ....คุณแม่ไม่ต้องตกใจนะครับ พี่เขมไม่เป็นไรแล้วครับผม แค่น่าจะนั่งผิดท่าแล้วโดนเพื่อนทับนิดหน่อยอ่ะครับ...
คุณแม่พี่เขม : ลูกบีก๋าลูก...อ้ายเขมเป๋นจะใดพ่องลูก แม่เป๋นห่วงมันขนาดลูก มันเจ็บตางใดฮั่น(ลูกบีเหรอลูก...พี่เขมเป็นยังไงบ้าง แม่เป็นห่วงมากเลย มันเจ็บตรงไหน)
บี : คุณแม่คับ...พี่เขม บ่เป๋นหยังนักละคับแม่...มอกปวดหลังบะดาย หมอฉีดยาคลายกล้ามเนื้อฮื้อแล้ว หมอยับตรวจเอ็กเรย์แล้ว ไปหาหมอกระดูกมาแล้วครับ และตอนนี้มาหาหมอกายภาพ บีฮู้จักกับหมอกายภาพตี้นี่คับ...บ่ต้องห่วงเน้อครับ(คุณแม่ครับ พี่เขมไม่ได้เป็นอะไรมากครับ แค่ปวดหลังเฉย ๆ หมอฉีดยาคลายกล้ามเนื้อให้แล้ว หมอจับตรวจเอ็กเรย์แล้ว ไปหาหมอกระดูกมาแล้วครับตอนนี้หาหมอกายภาพ ที่บีรู้จักที่นี้ครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ)
คุณพ่อพี่เขม : บีเหรอลูก...ไอ้เขมเป็นยังไงบ้าง
ผมกรอกตา..ต้องอธิบายใหม่ทั้งหมด เปิด speaker ก็ไม่บอกจะได้ไม่ต้องใช้ภาษาเหนือในการสนทนา
คุณแม่พี่เขม : โห๋...คุณตะกี้ลูกบี ก้าหาบอกละลอ
คุณพ่อพี่เขม : ก็ภาษาเหนือผมไม่ค่อยแข็งแรงอ่ะ
ผมบอกอย่างละเอียดอีกครับ พร้อมทั้งเดินออกมาจากห้องที่พี่เขมนอนประคบร้อนอยู่เพราะตอนนี้ คุณนักเทคนิคการแพทย์คงจะมาทำ ultra sound ให้กับพี่เขมแล้ว
ผมเดินออกมาเรื่อย ๆ แล้วก็คุยกับคุณแม่พี่เขมเป็นภาษาเหนือออกมา แล้วผมก็มาหยุดอยู่ตรงทางเดินหน้าแผนก...มีคนยืนยิ้มให้ผมอยู่
คุณหมอคิตนั่นเองครับ...คุณหมอนั่งลงข้าง ๆผมแล้ว เหมือนจะรอคุยอะไรกับผมซักอย่าง
หลังจากผมวางโทรศัพท์เพื่อเกลี้ยกล่อมให้คุณพ่อคุณแม่พี่เขมไม่ต้องมาโรงพยาบาลได้สำเร็จ..
หมอคิต : มาที่นี่บ่อยเหรอครับคุณบี
บี : ครับคุณหมอ...เรียกผม บี เฉย ๆก็ได้ครับ
หมอคิต : ตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้างครับ ปวดอยู่ไม๊
บี : ปวดอยู่ครับตอนนี้แช่พาราฟินอย่างเดียวอยู่เลยครับ...รอทำ ultrasound
หมอคิต : แล้วจะมาที่นี่อีกวันไหนครับ
บี : อ่าวพี่ตาล พี่พริ้ง พี่เก่ง พี่ต้า ทางนี้ครับ
โชคดีมากเลยครับ...พี่ ๆ มาช่วยไว้ทันเวลาพอดีเลย ผมทำไมรู้สึกเหมือนกำลังจะโดนหมอหล่อจีบ
เสียงพี่ต้าพูดขึ้นมา
พี่ต้า : อ่าวหมอคิต...สวัสดีค่ะ
หมอคิต : อ่าวคุณต้า...หวัดดี..ไม่เจอตั้งนาน
ห่านจิก...ทำไมโลกมันแคปอย่างนี้ นี่คนทั้งเรื่องนี้จะรู้จักกันหมดเลยเหรอ มีแต่กรูสินะที่ไม่รู้จักใครเลย...อย่าให้ไปประเทศเชียงใหม่นะเมิง กรูจะแนะนำตั้งแต่ยามหน้าหมู่บ้านจนถึง เจ้าอาวาสวัดเลย...แต่ตอนนี้ทำไมกรูไม่รู้จักใครเลยฟระ
พี่ต้า : หมอคิตได้ดูแล คนไข้ชื่อเขมไม๊
หมอคิต : อ่อ ได้ดูสิก็คุณต้าโทรมาบอกแล้วไง
พี่ต้า : แล้วอาการเป็นไงบ้างคะ
หมอคิต : ดีแล้วแหละ..ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ที่จะเป็นห่วงก็คนที่แบกมาเนี่ยแหละ
พี่ต้า : ขอบคุณน้องบีมากเลยนะ ที่เป็นสติให้พวกเรา
บี : ครับผม ไม่เป็นไรครับ...(ผมทำหน้างง ๆ ทำไมเจ๊แกคุยกับผมแล้ว)
พี่ตาล : แล้วพ่อแม่ไอ้อ้วนมายังงะ
บี : อ่อ...ผมบอกว่าไม่ต้องมาแล้วครับ
พี่ตาล : เฮ้ยแล้วใครคุยด้วย คุณหมอเหรอ
หมอคิต : เปล่าเลยครับ..คุณบีเป็นคนคุยด้วยครับ...ผมมาแอบนั่งฟังอยู่
บี : ผมบอกพ่อแม่พี่เขมไปละครับว่าอาการเป็นยังไง...แล้วเด๋วก็กลับบ้านได้แล้ว
หมอคิต : คุณบีเนี่ย...จดจำทุกอย่างได้เก่งมาเลยนะครับ บอกทุกอย่างครบถ้วนหมดเลย แล้วมีสติ และพูดให้คนไม่ต้องเป็นห่วงได้อีกด้วย เก่งมากเลยครับ
บี : ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ
หมอคิต : ถ้าไม่บอกว่าเป็นสจ๊วจเนี่ย...ผมนึกว่าเป็นหมอเหมือนกันแล้วนะเนี่ย
บี : คุณหมอก็...ก็ผมทำงานบริการคนบนเครื่องนี่ครับ..ผมก็ต้องทำได้เป็นธรรมดา
หมอคิต : เนี่ย...ถ้าผมเจอเคสยาก ๆ ที่ต้องมาอธิบายให้คนไข้ฟัง หรือให้คุณพ่อคุณแม่ของคนไข้ฟัง ผมจะรบกวนให้คุณบีไปช่วยบ้างนะครับ ผมเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่งอ่ะครับ
พี่เก่ง : บี..ไอ้หนูน้อย..มานี่มาแล้วทำไมเอามือใส่ถุงผ้างั้นหละ
ผมเดินไปหาพี่เก่งแล้วพี่เก่งก็เอาแขนคล้องคอผมไว้ แล้วก็ใช้อีกมือจับแขนผมขึ้นมาดู
หมอคิต : ผมไปก่อนดีกว่านะครับ...หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะครับคุณบี
ผมยกมือไหว้คุณหมอคิตพร้อมกับทุกคน...แล้วหมอคิตก็ส่งสายตามองมาทางผมคนเดียว
พี่เก่ง : นี่ขนาดอยู่ในอ้อมแขนกรูนะ..ไอ้หมอหน้าขาวนั่นยังมองไม่หยุดเลย ไอ้อ้วนเมิงมีคู่แข่งที่น่ากลัวแล้วหละ
บี : อะไรพี่เก่ง...แล้วมาคล้องคอผมไว้เนี่ย...
พี่เก่ง : กรูหวงแทนเพื่อนกรูเว้ย
พี่ต้า : บีเป็นไงบ้าง...เจ็บตรงไหนไม๊
บี : ผมโอเคครับพี่ต้า...เด๋วพี่เขมก็คงจะออกมาน่าจะไม่เกิน 30 นาทีครับ...งั้นผมขอไปทำultrasound ก่อนนะครับ
พี่ตาล : อ่าว...นึกว่าทำเสร็จแล้วซะอีก
บี : ก็คุยกับพ่อแม่พี่เขมอยู่อ่ะพี่
พี่ตาล : เออ ๆ รีบไป ๆ
ผ่านไปเกือบ 1 ชม.
ผมเดินออกมาจากห้อง...พี่เขมเดินมารับผมหน้าห้องเลยครับ
บี : อ่าวพี่เขม...หายแล้วเหรอพี่
พี่เขม : อืม...ไม่ค่อยปวดแล้วอ่ะ ตอนแรกปวดไปถึงสมองเลย
บี : ผมบอกแล้วว่าให้ฉีดยาเชื่อหมอตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องทนนานละ
พี่เขมเดินมากอดผมอย่างจัง...แล้วก็กระซิบ
พี่เขม : ขอบคุณนะ...เอาแรงมาจากไหนมากมายแบกพี่มาตั้งไกลได้
บี : ก็พี่เจ็บหนิ...ผมก็ทนเห็นพี่เจ็บไม่ได้หนิ...(ผมเอาหน้าซุกลงที่คอพี่เขมที่ประจำ)
พี่เขม : ขอบคุณครับ
บี : ป่ะพี่ต้องไปหาพ่อแม่ก่อนนะ...เด๋วเค้ารอนาน
พี่เขม : อ่าวต้องไปด้วยเหรอ...
บี : ก็ผมบอกว่าพี่ไม่เป็นอะไรมาก...เด๋วออกจากโรงพยาบาลแล้วจะพาไปให้พ่อแม่ดูก่อนไง...พ่อแม่ถึงไม่มา
พี่เขม : งั้นแยกกันตรงนี้เลยละกันเนอะ..(พี่เขมหันมาบอกเพื่อน ๆ ทุกคน)
ทุกคนพยักหน้าแล้วแยกย้ายกันกลับ
เรานั่งแท็กซี่ไปบ้านพ่อแม่ของพี่เขม...เพราะตอนแรกผมขับรถพี่เก่งมา
พอถึงบ้านพี่เขม...คุณพ่อคุณแม่ออกมาต้อนรับที่หน้าประตูบ้านเลยครับ
คุณแม่พี่เขม : เป๋นจะใดพ่องลูก....บี ลูกเขม(เป็นอย่างไรบ้างลูกบีลูกเขม)
คุณพ่อพี่เขม : เป็นยังไงหละ...ไปซ่าท่ีไหนมา
บี : สวัสดีครับ คุณพ่อคุณแม่ ผมโอเคครับ แต่พี่เขมอาจจะเจ็บ ๆอยู่หน่อย
พี่เขม : นี่เด๋วก่อนนะ...ไม่ห่วงลูกเลยใช่มะ...มาถึงถามบีก่อนเลย
คุณแม่พี่เขม : ก็ลูกตาลบอกว่าลูกบีแบกลูกเขมคนเดียวเลยนะ
คุณพ่อพี่เขม : เอาแรงมาจากไหนมากมายอ่ะลูก...แบกมันได้ไงตัวตั้งใหญ่
บี : ไม่รู้เหมือนกันครับคุณพ่อ...คงจะตกใจเหมือนแบกตู้เย็นได้เลย
คุณพ่อกับคุณแม่ก็หัวเราะออกมา แต่พี่เขมทำหน้าบึ้งใส่ผม
เราคุยกันกับพ่อแม่พี่เขมซักพักแล้วก็ขอให้พ่อพี่เขมไปส่งที่คอนโดครับ...เพราะผมต้องบินเช้าในอีกวันนึง..แต่ผมไปบินแค่ 2 แลน เช้าแล้วก็กลับมาครับ...
แล้วตอนเช้าก่อนไปบินผมก็เปิดโทรศัพท์เช็คเฟสบุ๊กดูว่ามีอะไรบ้าง
ผมก็เห็นมีคนแอดเฟรนมาใส่เฟสบุ๊กผมนั่นก็คือ พี่เก่ง พี่ต้า
และ คุณหมอคิต
To be continued…
ป.ล. ขอขอบคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกคนนะครับ reply ของทุกคนทำให้ผมยิ้มตลอดเลย เมื่อได้อ่าน สาระภาพเลยว่า วัน ๆ เข้ามาอ่านคอมเม้นวันละหลาย ๆ รอบ 55555 โดยเฉพาะคุณ warin fahsai insomniac zetnezz dekzapp นะครับ ขอบคุณมาก ๆ เลยครับที่คอยตามอ่าน