ตอนที่ 9“นายมาทำไม”
“มาหาก้าน” สบตาคนตรงหน้าอย่างแน่วแน่
“นายคิดว่านายทำขนาดนั้นกับก้านแล้วเขาจะยอมยกโทษให้เหรอ”
“.............................”
“ทำไมต้องขืนใจน้องฉัน” กิ่งใบถามอย่างสะกดอารมณ์เต็มที่
“เพราะรัก”
“รักเหรอ คนรักกันจำเป็นต้องใช้กำลังด้วยเหรอ” เสียงกิ่งใบแทบเป็นตะโกนเมื่อรู้เหตุผลของกัณฑ์
“ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนั้นอีก” กัณฑ์เลี่ยงไม่ตอบคำถามเพราะเขาไม่รู้จะอธิบายอย่างไรในสิ่งที่เขาทำ
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่นายต้องบอกฉัน”
“แล้วนายจะยอมให้ฉันเข้าไปบอกก้านข้างในมั๊ยละ”
“ไม่ ใช่ตอนนี้” เสียงเริ่มอ่อนลง อย่างน้อยกัณฑ์ก็ได้แสดงความจริงใจออกมาบ้างแล้ว เขารู้นิสัยกัณฑ์ดีว่ารักศักดิ์ศรีที่สุด การที่หมอนั่นมาตามง้อน้องชายของเขาทั้งที่ได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้ว อาจเป็นเพราะชายหนุ่มรักน้องของเขาจริงๆก็เป็นได้ จากนี้ไปก็เป็นเรื่องของสองคนนั่นแล้วพี่ชายอย่างเขาคงได้แต่มองอยู่ห่างๆ
“ขอบ ใจนายมากกิ่ง” ชายหนุ่มขอบคุณอย่างจริงใจ “แต่ฉันอยากรู้ว่าทำไมนายถึงไม่กีดกันฉัน ทั้งๆที่ชั้น เอ่อ ….. ทำกับก้านอย่างไม่น่าให้อภัย” เสียงตอนท้ายแทบติดอยู่ในลำคอ
“ไม่ ใช่เรื่องที่ต้องบอกนาย สิ่งที่นายต้องทำคือพิสูจน์ตัวเอง ชั้นจะไม่ช่วยอะไรทั้งนั้น นายจะทำให้ก้านยกโทษให้ได้มั๊ยขึ้นอยู่กับนาย”
กิ่ง ใบไม่บอกเหตุผลที่เขายอมอ่อนให้อีกฝ่ายได้รู้ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นแน่ถ้าเขาไม่รู้จากน้องเขาเองว่าก้านใบนั้นก็รัก ชายหนุ่มเช่นกัน เขาไม่อยากตัดสินใจแทนน้อง เพียงแต่เขาต้องทำให้กัณฑ์รู้ว่าถ้าชายหนุ่มจะทำอะไรต้องมีขอบเขตเพราะเขาจะ จับตาดูอยู่เสมอ
“เอาหละนายกลับไปได้แล้ว ข้อตกลงคือนายห้ามมาหาก้านที่บ้านหลังนี้นับจากนี้ไปหนึ่งอาทิตย์”
“ทำไม?” กัณฑ์ถามทันที
“ก็เพราะตอนนี้ก้านยังไม่สบายมาก ชั้นไม่อยากให้มีอะไรให้ก้านสะเทือนใจระหว่างที่เขายังไม่แข็งแรง”
“งั้นฝากยาให้เขาด้วย” กัณฑ์ยื่นยาที่เขานำมาด้วยให้พี่ชายของคนที่เขารัก
“ก็ได้” กิ่งใบรับยาที่ชายหนุ่มยื่นมาให้แล้วเดินเข้าไปในตัวบ้านโดยไม่สนใจกัณฑ์อีก
ส่วน คนที่ถูกทิ้งไว้ได้แต่มองตามทิศที่สาวใช้เคยบอกว่าเป็นห้องของคุณก้านอย่าง เป็นห่วง ก่อนจะขับรถออกไป อย่างน้อยเขาก็ไม่หมดหวังเสียทีเดียว จากนี้เขาต้องพิสูจน์ตัวเองและที่สำคัญคือถึงเวลาที่เขาต้องเคลียร์กับอมา วตีเสียที
.........................................................................
ณ บ้านกัณฑราชตอนนี้บ้านทั้งหลังเงียบสนิท แต่บุตรชายคนโตของเจ้าของบ้านพึ่งจะกลับเข้ามา
“พี่กัณฑ์” ชายหนุ่มร่างบางเอ่ยทักพี่ชายทันทีที่ก้าวเข้ามาในตัวบ้าน
“อ้าวการ์ยังไม่นอนอีกเหรอ”
“พี่กัณฑ์ การ์มีเรื่องคุยด้วย” เขายังติดใจเรื่องเมื่อตอนเย็น คิดว่าพี่ชายน่าจะรู้เรื่อง
“มี อะไรท่าจะสำคัญมากนะอุตสาห์รอพี่จนป่านนี้” ชายหนุ่มเริ่มสงสัยในเรื่องที่น้องชายจะคุยเป็นกำลัง เนื่องมาจากการันนั้นเป็นเด็กอนามัยมากถ้าวันไหนไม่ได้ไปเข้าเวรก็จะเข้านอน ตั้งแต่สี่ทุ่มทุกวัน วันนี้อยู่รอเขาจนดึกแสดงว่ามีเรื่องสำคัญมากจริงๆ
“พี่ทำอะไรคุณก้านหรือเปล่า” คำถามนั้นทำให้ร่างสูงหยุดกึก
“ทำไมถามพี่อย่างนั้น มีใครมาบอกอะไรเราเหรอไง”
“แค่ตอบผมว่าพี่ทำอะไรคุณก้านหรือเปล่า” เดินมาดักทางที่กัณฑ์กำลังจะเดินเลี่ยงไป
“พี่ขืนใจเขา” ร่างสูงยอมรับออกมาตรงๆ
“ห๋า พี่กัณฑ์ พี่บ้าไปแล้ว คดีอาญานะครับ” การันอุทานอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“มิน่าละ” ร่างบางพึมพำเบาๆ
“มิน่าอะไร บอกพี่มานะ ทำไมอยู่ดีๆถามขึ้นมา” พี่ชายคาดคั้นบ้าง คราวนี้คนที่ไม่อยากตอบกลายเป็นการันเสียเอง
“..............................”
“ว่าไงการ์ บอกพี่มา” กัณฑ์เริ่มคิดอะไรได้ลางๆ
“คือว่าวันนี้พี่กิ่งมาที่บ้าน” ในที่สุดก็ยอมบอกพี่ชาย เพราะตั้งแต่จำความได้เขาไม่เคยโกหกอะไรพี่กัณฑ์เลย
“แล้ว เขาทำอะไรเราหรือเปล่า?” พูดเสียงเรียบแต่ในใจโมโหสุดๆ เข้าใจความโกรธของกิ่งใบในทันที ดีนะที่เขาโดนแค่ต่อยถึงหมัดจะหนักแต่ก็นับว่ายังดี
เพราะถ้าเป็นเขาเป็นกิ่งใบเรื่องคงไม่จบแค่นี้แน่
“พี่กิ่งไม่ได้ทำอะไร”
“แน่นะ” ถามย้ำอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
“ถ้า เขาทำผมจะได้มานั่งรอพี่อย่างนี้เหรอ” เลี่ยงไม่บอกรายละเอียดพี่ชาย นาทีนี้เขารู้สึกนับถือน้ำใจของร่างสูงขึ้นมาทันที ถึงชายหนุ่มจะไม่ชี้แจงเหตุผลอะไรให้เขาฟังในสิ่งที่ทำเมื่อตอนเย็น แต่เขาคิดว่าเขาเข้าใจชายหนุ่มดีแล้ว จะว่าไปพี่กิ่งก็เปลี่ยนไปมากจริงๆ ใจเย็นแล้วก็มีเหตุผลขึ้นมาก
“ทำไมพี่ต้องขืนใจคุณก้านด้วย ในเมื่อพี่วตีก็อยู่ทั้งคน ที่สำคัญผมไม่เคยรู้เลยว่าพี่มีรสนิยมอย่างนั้น”
“ไม่รู้สิ คงอยากจะเป็นเจ้าของเขามั้ง แล้วตอนนั้นพี่ก็หึงจนหน้ามืดไปหมด”
“พี่รักคุณก้านเหรอ”
“อืม รักมาก มากที่สุดตั้งแต่เคยรักใคร” ตอบอย่างแน่วแน่
“ไม่ใช่แค่อยากจะแกล้งเขาหรอกนะ” เด็กหนุ่มแกล้งถามพี่ชาย
“ไม่ใช่อย่างแน่นอน พี่มั่นใจ” ตอบน้องชายด้วยความมั่นใจเต็มที่ “นี่ช่วยพี่หาทางง้อก้านหน่อยสิ เขาคงโกรธพี่มาก”
“แน่นอน เป็นผมผมก็โกรธ” การันตอบตามที่คิดจริงๆ
“โห ไม่ให้กำลังใจกันเลย” บ่นเบาๆ “น่า ช่วยพี่หน่อยนะ”
“งั้น เอางี้ผมจะไปช่วยคิดพลางๆ แต่ถ้าคุณก้านใจตรงกันกับพี่เขาคงอยากให้พี่คิดเองมากกว่า”
“โธ่ พี่ก็คิดหาทางไว้ตั้งเยอะแล้ว แต่ว่าบางครั้งพี่อาจต้องพึ่งเรา เพราะว่าท่าทางนายกิ่งจะติดใจการ์พอดู” พูดตามที่รู้สึก
“พี่ กัณฑ์ พูดอะไร ไม่คุยด้วยละพรุ่งนี้ผมต้องไปทำงานแต่เช้า” การันทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินขึ้นห้องนอนของตัวเองไป ปล่อยให้พี่ชายนั่งกังวลใจเงียบๆ ถึงปมต่างๆที่เขาได้ผูกไว้
...............................................................................
มา ในห้องของตัวเอง หยิบมือถือขึ้นมาเปิดอ่านข้อความที่เขาได้รับทุกวันตั้งแต่ที่ให้เบอร์โทร ส่วนตัวกับต้นกล้าไป เบอร์ที่ส่งเป็นเบอร์เดิมทุกวัน ข้อความเลี่ยนๆที่ขัดกับบุคลิกคนส่ง อย่างเช่นข้อความของเมื่อวานนี้
The word… “colo(u)r”.
There is no “U” in USA.
But there is “U” in England.
Wish u know that I am English
people coz I never forget “U”. (¬-_ ~)!
ใน ข้อความบ่งบอกว่าคนส่งไม่เคยลืมเขาเลย แต่กิ่งใบไม่รู้หรอกว่าเขาต่างหากที่ไม่เคยลืมเลือนอีกฝ่าย งานวันแต่งงานของชายหนุ่ม เขามาร่วมงานด้วยทั้งๆที่ไม่ได้รับเชิญ ทั้งๆที่เขาเคยหนีมาตลอด แต่วันนั้นเขาผิดคำพูดตัวเอง เนื่องจากเพื่อนสนิทของเขาเป็นเพื่อนกับจ้าวสาว ทำให้เขาเองพอรู้ข่าวคราวของชายหนุ่มมาบ้าง วันนั้นเขาไปทำไมเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่ในวันงานพี่กิ่งของคุณก้านดูยุ่งมาก มากเสียจนมองผ่านคนที่ส่งข้อความมาบอกว่าไม่เคยลืม.......
การันมองข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะกดปิดไป และล้มตัวลงนอนอย่างสับสนกับหัวใจตัวเอง
ตอน นี้กิ่งใบเข้ามาพัวพันกับเขาอีกครั้ง ใจหนึ่งอยากผลักใสเหมือนอย่างเคย แต่อีกใจหนึ่งก็กลับอยากยอมรับ ยิ่งเกิดเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นทำให้เขาอยากเข้าข้างตัวเองว่า เขามีความสำคัญกับชายหนุ่มไม่ใช่แค่เครื่องมือแก้แค้นอีกต่อไป นี่เขาจะทำอย่างไรดี การันคิดจนปวดหัวไปหมด ถอนฟันยังไม่ยากอย่างนี้เลย
ติ๊ดดดดดดดด เสียงเตือนของโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น ร่างบางหยิบขึ้นมาเปิดอ่านข้อความที่พึ่งถูกส่งเข้ามา
ขอโทษอีกครั้งสำหรับทุกอย่างที่พี่ทำในวันนี้นะครับ
ขอโทษที่ทำให้การ์กลัว พี่ขอยอมรับผิดทุกอย่าง
หวังว่าจะยกโทษให้พี่นะครับ คนดี
นอนหลับผันดีครับ
พี่กิ่ง
กา รันอ่านข้อความด้วยความรู้สึกหลากหลาย นี่เขาจะทำอย่างไรดี ใจเขาชักเริ่มหวั่นไหวเสียแล้วสิ แล้วล้มตัวลงนอนอ่านข้อความบนมือถือด้วยความรู้สึกสับสนอีกครั้ง
...........................................................................
เช้าตรู่ของวันพฤหัสบดี ก้านใบยังคงนอนหลับอยู่บนเตียงของตัวเอง จนกระทั่งรับรู้ถึงแรงกดไม่มากนักบนตัวเขา
“อาก้านครับ ตื่นได้แล้วครับ” เด็กชายต้นกล้าใช้ร่างป้อมๆของตัวเองปลุกคุณอาที่นอนป่วยมาหลายวัน
“อืม ต้น ยังไปไปโรงเรียนอีกเหรอ” เด็กหนุ่มกอดหลายชายเอาไว้ไม่ให้ทับเขาไปมากกว่านี้
“กำลัง จะไปแล้วคับ แต่แวะมาหาอาก้านก่อน” เด็กชายมุดผ้าห่มอุ่นของคุณอาเล่นไปด้วย “มีดอกไม้มาส่งให้อาก้านทุกวันเลย จากใครเหรอคับ” ต้นกล้าถามด้วยความอยากรู้ เพราะห้องของอาก้านเต็มไปด้วยดอกไม้สีขาวมากมายที่เขาไม่รู้ว่าดอกอะไร และใครเป็นคนส่งมาให้คุณอาของเขา
“อากัณฑ์ส่งมาครับ” ร่างบางลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นว่าหลานชายกำลังจะลงนอนกับเขา ก้านใบไม่อยากให้เจ้าตัวเล็กไปเรียนสาย เพราะบ่อยครั้งที่ต้นกล้าเข้ามาปลุกเขาแต่ก็เผลอหลับไป ทำให้ไปโรงเรียนสายดังนั้นจึงต้องกันไว้ก่อน
“แล้วทำไมอากัณฑ์ถึงไม่เอามาให้อาก้านเองละคับ” เด็กชายจ้องคุณอาตาแป๋ว
“..........................................”
‘อา ก็อยากรู้เหมือนกัน’ ก้านใบก็ได้แต่เฝ้าถามตัวเองเช่นกัน ช่วงเวลาสามวันที่เขานอนพักอยู่กับบ้าน เด็กหนุ่มได้รับดอกไม้วันละสองช่อทุกวันเช้าเย็นและการ์ดใบเล็กที่แสดงความ ขอโทษ โทรศัพท์ที่มีมิสคอลจากชายหนุ่มเป็นร้อยๆครั้งในวันแรก จนทำให้เขาปิดเครื่องไปในที่สุดและยังไม่เปิดจนกระทั่งวันนี้ ยาที่ชายหนุ่มฝากมาให้ก็พร่องลงทุกวัน ครีมแก้บวมที่ทาทีไรอดนึกถึงคนทำไม่ได้
“พ่อไม่ให้อากัณฑ์มาเองแหละ เอ้า ลุกได้แล้วเดี๋ยวไปโรงเรียนสาย” กิ่งใบตอบคำถามลูกชายแทน พร้อมกับตบก้นเล็กๆที่อยู่ใต้ผ้าห่มเบาๆไปด้วย “ให้มาสวัสดีอาก้านก่อนไปเรียนแค่นี้ทำไมนานจังครับ” หอมแก้มลูกเบาๆเมื่อต้นกล้ามุดหน้าออกมาจากผ้าห่มอุ่น
“ทำไมคุณพ่อต้องห้ามไม่ให้อากัณฑ์มาหาอาก้านด้วยละคับ” เด็กชายสงสัย เพราะอากัณฑ์ก็เคยมาหาอาก้านที่บ้านแล้วนี่นา
“ไม่ใช่เรื่องของเด็กนะ ลุกได้แล้วครับ ไปรอพ่อที่รถก่อนเดี๋ยวพ่อตามไปนะ”
“คับ” เด็กขายรับคำอย่างว่าง่ายก่อนจะวิ่งออกไปปล่อยให้พ่ออยู่กับอาตามลำพัง
“พี่ไม่ให้เขามาหาเราเองแหละ แล้วก็พี่ทำเรื่องลาออกให้แล้ว ทางนู้นก็ไม่ได้ว่าอะไรด้วย เดี๋ยวพอเราหายดีก็มาทำงานกับพี่ละกัน”
กิ่ง ใบบอกน้องชายที่มีสีหน้าดีขึ้นบ้างแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะอาการไข้ทุเลาลงแล้วหรือเพราะได้ยินว่าสาเหตุที่กัณฑ์ไม่มาหา ที่บ้านเพราะเขาห้ามไว้กันแน่
“เขาเคยมาหาผมด้วยเหรอครับ” ก้านใบถามพี่ชายพลางล้มตัวลงนอนหันหลังให้ไปด้วย
“ก็ตั้งแต่วันที่เรามานั่นแหละ แต่พี่เห็นว่าเราไม่สบายไม่อยากให้ใครรบกวน”
“เหรอ ครับ” ร่างบางปิดตาลงอีกครั้ง ตอนนี้อาการเจ็บบริเวณสะโพกหายไปแล้ว เหลือแต่เพียงร่องรอยจางๆซึ่งค่อยๆเลือนไปช้าๆ หวังว่าความเจ็บปวดในใจคงจะจางหายไปพร้อมกับร่องรอยเหล่านั้น
“ถ้ารักกันจริง พี่ก็ไม่ว่าหรอกนะ” กิ่งใบลูบหัวน้องชายเบาๆ
“............................” ‘เขาไม่เคยรักผมตรับพี่’ ร่างบางได้แต่คิดใจและหลับตาลงเพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้พี่ชายเห็น
“พี่ไปส่งตาต้นเถอะครับเดี๋ยวสาย ผมไม่เป็นไรแล้ว” พยายามพูดให้กิ่งใบให้สบายใจ
“อืม งั้นไปละ ถ้ามีอะไรก็โทรหาพี่นะ หรือไม่ก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างก็ได้ดีกว่าอุดอู้อยู่แค่ในห้อง” กิ่งใบไม่เซ้าซี้น้องต่อเพราะคิดว่าก้านเองคงยังไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ตอน นี้ก็เป็นได้
“ครับพี่”
......................................................................
ณ บ้านพิศาลมนตรี เวลาประมาณ 21.00 น เป็นควรเป็นเวลาเข้านอนของเจ้าตัวเล็กของบ้านแต่เจ้าหนูยังนอนตาแป๋วอยู่บน เตียงนุ่มพร้อมกับผู้เป็นพ่อที่พึ่งกลับมาจากที่ทำงาน
“พ่อคับ ต้นอยากฟังนิทานเรื่องมาดากัสการ์”
ผู้เป็นพ่อทำหน้าประหลาดใจนิดหนึ่งก่อนโยกศรีสะเล็กเบาๆ
“ทำไมอยากฟังเรื่องนี้ละ ต้นไปได้ยินมาจากไหน เรื่องนี้ทำเป็นหนังการ์ตูนนะ”
“เพื่อนๆที่โรงเรียนคุยกันว่าหนุกมากเลยคับพ่อ”
“แล้วต้นอยากไปดูไหมละ เดี๋ยวพ่อซื้อวีซีดีมาให้ดู”
“ไม่เอาต้นจะฟังวันนี้” หน้าเริ่มแบะ ปากเล็กๆเริ่มยื่นออกมา เนื่องจากเลยเวลานอนแล้วอะไรก็ขัดใจไปเสียหมด
“เอ งั้นให้อาหมอเล่าให้ฟังดีมั๊ย พ่อไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง” คิดแผนเจ้าเล่ห์อีกรอบ อันที่จริงเขาก็ไม่คิดว่าการันจะดูหนังเรื่องนี้หรอก เพียงแต่เขาอยากได้ยินเสียงอีกฝ่ายก็เท่านั้น นับตั้งแต่วันนั้นเขาก็ยังไม่มีหน้าไปเจอการันอีกเลย เขาอยากรู้ว่าการันยกโทษให้หรือยัง ครั้นจะโทรไปเองก็เขิน เอาอย่างนี้แหละ
“ก็ได้คับ” ยิ้มให้พ่ออย่างชอบใจที่จะได้ฟังนิทานไม่ว่าใครเล่าก็คงเหมือนกัน
กิ่ง ใบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก พร้อมทั้งกด speaker ที่เครื่องด้วย แล้วยื่นหูฟังให้บุตรชายรับไว้ และไม่ลืมที่จะสอนให้พูดตามที่ตัวเองต้องการ รอไม่นานเจ้าของเบอร์ก็รับสายด้วยน้ำเสียงแปลกใจ
“ครับ”
“อาหมอเหรอคับ นี่ต้นพูดนะคับ” ทักทายเสียงใสไร้วี่แววของการง่วงนอน
“ว่าไงครับคนเก่ง ดึกแล้วยังไม่นอนอีกเหรอครับ หรือว่าปวดฟัน?”
“ป่าวคับ ต้นอยากฟังนิทานเรื่อง มาดากัสการ์ คุณพ่อเลยให้ต้นโทรมาหาอาหมอให้อาหมอช่วยเล่าให้ฟังคับ”
“เอ๋ ปลายสายทำเสียงฉงน แล้วทำไมคุณพ่อไม่เล่าเองละครับ”
“คุณพ่อยังไม่กลับจากที่ทำงานคับ” เด็กชายต้นกล้าหันไปยิ้มให้พ่อจนตาหยีที่สามารถพูดตามคำบอกได้อย่างไม่ติดขัด
ร่างสูงเองก็ยิ้มตอบให้บุตรชายที่สามารถทำผิดศีลข้อมุสาได้ตั้งแต่ยังเด็กอย่างภูมิใจ ‘เชื้อไม่ทิ้งแถว หึ หึ’
“งั้น เดี๋ยวอาเล่าให้ฟังก็ได้ครับ” ตอบอย่างสงสาร เด็กวัยขนาดนี้กำลังต้องการความรักความอบอุ่น นึกเคืองผู้เป็นพ่อของเด็กชายต้นกล้าที่ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว หารู้ไม่ว่าคนที่เขากำลังนึกถึงนอนกอดลูกชายฟังเสียงเขาเล่านินานอย่างมี ความสุข
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.................................................................................
.....................................................................................
........................................................................................ และแล้วเจ้าม้าลายกับเพื่อนก็ล่องเรือออกจากเกาะมาดากัสการ์เพื่อกลับไปยัง สวนสัตว์ทีที่พวกมันจากมาอีกครั้ง”
----------------------