พิมพ์หน้านี้ - ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: krappom ที่ 06-10-2012 14:40:14

หัวข้อ: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 06-10-2012 14:40:14
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 1 [6-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 06-10-2012 14:43:58
สวัสดีค่ะ
เอาเรื่องใหม่(ที่นี่แต่เก่าที่อื่น)มาลงอีกแล้ว ฮ่าๆ
ลองติดตามกันดูนะคะ

เรื่องนี้ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่องแล้วค่ะ

---------------

ตอนที่ 1

ณ ห้องผู้บริหารของโรงแรม Flora hotel

“อะไรนะครับคุณพ่อ จะให้ผมเปลี่ยนเลขาเหรอครับ” เสียงห้าวทุ้มดังขึ้นทันทีที่ฟังผู้เป็นบิดาพูดจบ

“ใจเย็นๆสิกัณฑ์ พ่อให้แกเปลี่ยนเลขานะไม่ใช่ให้ไปฆ่าเลขา ทำไมจะต้องทำเสียงดังอย่างนั้น” คุณศิวะ ประธานบริหารเอ่ยปรามผู้เป็นลูก

“จะ ให้ผมใจเย็นได้ไงครับ วตีไม่ดีตรงไหน ทำไมจะต้องหาคนมาทำหน้าที่แทนด้วย” ชายหนุ่มเอ่ยถึงหญิงสาวที่ตอนนี้เป็นทั้งเลขาและแฟนคนปัจจุบัน

“ไอ้ หน้าที่เลขาของยัยวตีมันก็ดีอยู่หรอกนะ ถ้าไม่ติดว่าหล่อนจะคิดเกินเลยหน้าที่ แกเองก็ให้ท้ายถึงกับถือหางให้ตลอดเวลาอย่างนี้ เสียการปกครองกันหมด พนักงานคนอื่นๆเขาร้องเรียนฉันมานานแล้ว แต่ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะนึกว่าแกจะเบื่อเร็วเหมือนคนอื่นๆ” ชายชราบ่นเสียยืดยาว ให้กับบุตรชายคนโตผู้มีหน้าที่สืบทอดกิจการต่อไป

“คนนี้ผมจริงจังนะครับพ่อ ผมรักวตี แล้ววตีเองก็รักผม เรารักกันคุณพ่อเข้าใจมั้ยครับ”

“ฉัน ว่ายัยวตีเนี่ย รักเงินของแกมากกว่ามั้ง ถ้าเกิดแกไม่มีอะไรสักอย่างเป็นผู้ชายธรรมดา เขาคงไม่รักแกหรอก นี่แกดูไม่ออกจริงๆเหรอ” ผู้เป็นบิดากล่าวอย่างอ่อนใจ

“แต่คุณพ่…”

“เอา หละฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะเปลี่ยนเลขาให้แกเอง ไม่ว่าแกเห็นด้วยหรือไม่เพราะฉันเป็นเจ้าของกิจการ และเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้แก ถ้าแกไม่พอใจก็ลาออกไปซะ” ศิวะยื่นคำขาด

ชาย สูงวัยรู้ดีว่าลูกชายคนนี้เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่สุด ความผิดก็คงเป็นที่เขาเองที่เลี้ยงลูกแบบตามใจมากไป แต่ถึงเวลาที่เขาจะต้องดัดนิสัยรักสนุก ของลูกชายเสียที ทางฝ่ายกัณฑ์เองเมื่อเจอพ่อยื่นคำขาดแบบนี้ ก็ไม่กล้าหืออีกเพราะรู้ดีว่าศิวะนั้นพูดำไหนต้องเป็นคำนั้น

“แล้วพ่อจะเอาใครมาแทนปุ๊บปั๊บอย่างนี้”ชายหนุ่มเอ่ยเสียงอ่อย

“เรื่องนั้นแกไม่ต้องห่วง พ่อทาบทามลูกชายของเพื่อนสนิทพ่อเอาไว้แล้ว แกเคยเจอแล้วไง ตอนเด็กๆ แกยังชอบไปเล่นกับน้องเค๊าออกบ่อยไป”

“ใคร อ่ะ ผมจำไม่ได้หรอกพ่อ เรื่องเมื่อสมัยไหนแล้ว” จะเคยหรือไม่เคยรู้จักก็ช่างเถอะ รู้แต่ตอนนี้ไม่อยากรู้จักแล้ว หนอยแหนะจะมาทำหน้าที่เลขาแทนแฟนเขาฝันไปเถอะ
“ก็ตาก้านไง เนี่ยเพิ่งเรียนจบมาจากเมืองนอกใหม่ๆ เค้ากำลังอยากหาประสบการณ์พอดีเลย”

อ๋อ ที่แท้ก็นายก้านใบ ที่หน้าตาและรูปร่างเหมือนผู้หญิงนะเอง ว่าพลางนึกถึงตอนเด็กๆ ที่เขามักจะตามพ่อไปบ้านของอาวิสุทธิ์เพื่อนพ่อ เพื่อไปแกล้งน้องก้านให้ร้องไห้บ่อยๆ จนผู้เป็นพ่อเอือมระอา ตอนนั้นไม่รู้ว่าทำไมชอบแกล้งให้น้องร้องไห้ รู้แต่ว่าน้ำตาของนายก้านทำให้เขามีความสุข แต่รู้สึกว่าหลังๆเขาไม่ค่อยได้ไปบ้านหลังนั้นเท่าไหร่ เพราะอยู่มาวันหนึ่งนายกิ่งใบพี่ชายก้านรู้ว่าเขาแกล้งน้องชายตัวเอง ก็ต่อยเขาซะปากแตก แถมยังตามอาวิสุทธิ์มาบ้าน เพื่อจะแกล้งเจ้าการ์ น้องชายหน้าสวยของเขาคืน เพื่อเป็นการแก้แค้น จนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เขาเลิกแกล้งน้องก้าน และก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย จนนี่ก็ปาเข้าไปสิบกว่าปีแล้วสินะ ฮึ ฮึ มาก็ดีจะได้เห็นหน้าเด็กที่เหมือนผู้หญิง แถมยังขี้แยเหมือนผู้หญิงอีกต่างหาก คราวนี้หละเขาจะแกล้งให้หนัก กลัวแต่นายก้านจะรีบลาออกไปแทบไม่ทัน แล้วเขาจะได้พิสูจน์ให้พ่อเห็นว่า ถ้าเขาไม่เต็มใจทำงานด้วย สุดท้ายก็ทำงานร่วมกันไม่ได้อยู่ดี แล้วในที่สุดเขาก็จะได้กลับมาทำงาน กับคนที่เขารักเหมือนเดิมแต่ชายหนุ่มลืมคิดไปว่า คนเราเมื่อเวลาเปลี่ยน ประสบการณ์ต่างๆมันจะทำให้คนบางคนเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิม

“……. กัณฑ์ กัณฑ์ คิดอะไรอยู่พ่อเรียกตั้งนาน” ชายสูงวัยเอ่ยขึ้นขัดจังหวะความคิด

“ก็คิดอะไร เพลินๆ นะพ่อ ว่าแต่พ่อเลขาคนดีของพ่อ จะมาเมื่อไหร่” ชายหนุ่มประชดบิดาเล็กๆ

“พรุ่งนี้เช้า พ่อจะให้ฝ่ายบุคคลพามาแก อ้อสำหรับยายวตี พ่อย้ายไปอยู่ฝ่ายบริการแกไม่ต้องห่วง”

“พ่อค รับ ผมจะยอมรับข้อเสนอของพ่อก็ได้ แต่มีข้อแม้นะครับ ถ้านายก้านเขาไม่อยากทำงานกับผม แล้วลาออกเองก็ช่วยไม่ได้นะครับ และถ้าถึงวันนั้น ผมจะให้วตีมาทำงานเหมือนเดิม ผมจะพิสูจน์ให้พ่อรู้ว่าคนนี้ผมเอาจริง” ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจเต็มที่

“ได้เลย แต่ฉันมั่นใจว่าจะไม่มีวันนั้น ฉันมั่นใจในตัวของก้าน แกเองนั่นแหละที่จะต้องงอนง้อเขาให้ทำงานกับแกต่อไป” ศิวะเอ่ยตอบด้วยความมั่นใจเช่นกัน

“แล้วเรามาดูกันครับพ่อ” ชายหนุ่มเอ่ยกับตัวเองเมื่อบิดาลับหลังไปแล้ว

“กัณฑ์ ขา วตีไม่ยอมนะคะ คุณพ่อคุณทำอย่างนี้ไม่รักษาน้ำใจของวตีเลย” ร่างบางในชุดรัดรูปสีแดงออดอ้อน ออเซาะเต็มที่ พร้อมทั้งบีบน้ำตาไปด้วย

“โถ โถ คนดีแต่คุณพ่อก็ไม่ได้ไล่วตีออกซะหน่อย” ชายหนุ่มนั้นนึกสงสารหญิงสาวตรงหน้ายิ่งนัก ยิ่งคิดยิ่งแค้นเลขาคนใหม่ที่ดันอยากมาหาประสบการณ์ตอนนี้พอดี

“ไม่ไล่ก็เหมือนไล่ละคะ ให้ไปทำฝ่ายบริการ งานหนักจะตาย วตีทำไม่ได้หรอกนะคะ”

“น่า วตี อดทนหน่อย ผมสัญญาว่าจะทำให้หมอนั่นออกโดยเร็วที่สุด”

“จริงๆ นะคะ กัณฑ์ อย่าหลอกวตีนะคะ วตีรักกัณฑ์นะ”



“ผม ก็รักคุณวตี” กล่าวจบชายหนุ่มก็ก้มลงประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากของหญิงสาว ที่ถูกแต่งเติมด้วยลิปสติกชั้นดีราคาแพง ซึ่งร่างสูงตรงหน้าซื้อให้

อมา วตีหรือวตีนั้นเป็นเลขาของกัณฑ์ เธอเป็นผู้หญิงที่สวย และฉลาดในการเอาอกเอาใจผู้ชาย หล่อนรู้ว่าเมื่อไหร่ควรทำอย่างไร และกัณฑ์ก็เป็นเป้าหมายของเธอตั้งแต่แรกเห็น เนื่องจากความรวย และรูปร่างหน้าตาที่ถือได้ว่าสมบูรณ์แบบ ร่างกายกำยำอย่างคนที่ออกกำลังกายอยู่เสมอ คิ้วเข้มได้รูป จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากบางได้รูป อย่างที่ผู้หญิงต้องการ ถึงแม้ว่าบางครั้งกัณฑ์เองจะเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ แต่ก็เธอทนได้ หวังเพียงครอบครองผู้ชายคนนี้ เจ้าของโรงแรมในเครือ Flora ทั้งหมดในอนาคต ผู้หญิงทั้งหลายต้องอิจฉาเธอเป็นแถว ดังนั้นเธอจึงต้องทำทุกทางเพื่อดึงให้กัณฑ์ทั้งรักและหลงจนโงหัวไม่ขึ้นที เดียว

“อ่ะ อ๊ะ พอก่อนค่ะกัณฑ์ อย่าพึ่งรีบร้อนซิคะ วตีไม่ได้หนีไปไหนเสียหน่อย” ว่าพลางดันใบหน้าคมออกจากซอกคอ และหยุดมือที่เริ่มจะป่ายแปะไปทั่ว อย่างมีจริต

“ทำไมละ วตี พรุ่งนี้เราจะไม่เจอกันแล้วนะ ผมคงคิดถึงคุณแย่เลย” ชายหนุ่มบ่นพึมพำพอได้ยินกันสองคน

“ก็ขึ้นไปบนห้องก่อนซิค่ะ ทำตรงนี้อายพนักงานนะ”

“ไม่เห็นต้องอายเลย ทำอย่างกับไม่เคยมีคนเห็น” ชายหนุ่มกล่าวกระเซ้า

“แหม กัณฑ์คะ ไปที่ห้องเถอะค่ะ แล้ววตีจะตามใจทุกอย่างเลยนะ” หญิงสาวกระซิบที่ข้างหูพลางลูบไล้ร่างกายอีกฝ่ายเพื่อออดอ้อนไปด้วย โดยที่ชายหนุ่มหารู้ไม่ว่าที่หล่อนชวนขึ้นห้องนั้น ก็เพื่อที่จะหลบเลี่ยงหนุ่มใหญ่อีกคนที่หล่อนคั่วอยู่ซึ่งกำลังเดินตรงมายัง บริเวณของ Lobby โรงแรมที่ทั้งสองนั่งอยู่พอดี

“ก็ได้ อดเปรี้ยวไว้กินหวานก็ได้ ไปกันเถอะ”

“ไปค่ะ ขอห้องสวีทนะคะที่รัก” ว่าพลางส่งมือเรียวมาให้ชายหนุ่มพยุงขึ้นห้องไปหาความสุขกันอย่างทุกที

……………………………………………………………………………………

ณ บ้านพิศาลมนตรีที่แวดล้อมไปด้วยการตกแต่งแบบบาหลี มีสระน้ำที่ปลูกดอกบัวเต็มอยู่ด้านหลังของตัวบ้าน และมีเสียงน้ำตกที่จำลองไว้อยู่ใกล้ให้ได้ยินอยู่เป็นระยะ ซึ่งเป็นความชอบส่วนตัวของคุณหญิงอมรา ภรรยาของเจ้าของบ้านผู้ล่วงลับ เครื่องประดับตกแต่งทั้งภายในและนอกบ้าน บ่งบอกให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้อย่างไม่ยากว่าบ้านหลังนี้มีฐานะทีเดียว เนื่องจากการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกสินค้ารายใหญ่ของ ประเทศ นำมาซึ่งรายได้มหาศาลในแต่ละปี และผู้บริหารรายเดียวก็คือนายกิ่งใบบุตรคนโตของบ้านโดยมีคุณวิสุทธิทำ หน้าที่เป็นที่ปรึกษา

“ก้าน อยู่ไหนลูก”เสียงผู้เป็นพ่อเรียกหาลูกชายคนรองที่พึ่งเรียนจบและกลับบ้านได้ไม่นานนักอย่างเอ็นดู

“อยู่นี่ครับพ่อ” เสียงใสๆดังแว่วมาจากทางสนามหญ้าหน้าบ้าน

“คุณพ่อมีอะไรหรือเปล่าครับ” ร่างบางของชายหนุ่มวัย 22 ปี ผละจากหนังสือที่อ่านค้างอยู่เดินเข้ามาเกาะแขนบิดาอย่างเอาใจ

“ก็จะมาเตือนเรื่องวันพรุ่งนี้นะแหละ เตรียมตัวหรือยัง”

“เตรียมเอกสารพร้อมแล้วครับ”

“พ่อไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น”

“แล้วคุณพ่อหมายถึงเรื่องอะไรครับ” คิ้วเรียวขมวดมุ่น เมื่อคำตอบที่ตัวเองตอบบิดาไม่ตรงกับที่คนตรงหน้าอยากรู้

“จะ เรื่องอะไร ก็เรื่องเจ้ากัณฑ์นะแหละ เราไม่กลัวพี่เค๊าแล้วเหรอไง” ชายสูงวัยถามด้วยความเป็นห่วง ด้วยความเป็นจริงแล้วผู้เป็นพ่อ ไม่ค่อยอยากให้ลูกชายคนรองไปยุ่งกับกัณฑ์เท่าใดนัก เนื่องจากทราบดีถึงกิติศัพท์ความเอาแต่ใจของเจ้าตัว ที่ทุกอย่างต้องได้ดังใจ และประกอบกับเรื่องวัยเด็กของลูก ที่โดนลูกชายเพื่อนทั้งล้อ ทั้งแกล้งสารพัด เลยพาลกลัวไปว่าอาจจะสะกิดใจลูกเข้า เดี๋ยวจะไม่สบายใจเปล่าๆ แต่ด้วยความที่ไม่กล้าขัดใจเพื่อน กอปรกับเจ้าตัวไม่มีท่าทีคัดค้านใดๆ จึงได้แต่เลยตามเลย หวังแค่เพียงว่านายกัณฑ์คงจะโตพอที่จะไม่แกล้งน้องเหมือนตอนเด็กๆ นี่เขาห่วงมากไปหรือเปล่านะ

“ก็เรื่องพี่กัณฑ์ไง ลูกไม่เจอพี่เขาตั้งนาน แน่ใจเหรอว่าอยากทำงานนี้นะ”

“อ๋อ นึกว่าเรื่องอะไร คุณพ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ก้านโตแล้วนะ ไม่เป็นไรหรอกครับ” ร่างบางกล่าวปลอบใจบิดาไม่ให้กังวลจนเกินไปนัก ที่รับงานนี้ก็เพื่อจะหาประสบการณ์ เพราะเขายังไม่อยากทำงานในบริษัทของบิดา เนื่องจากคงไม่มีใครกล้าตำหนิเขาถ้าเขาทำผิด ดังนั้นเมื่อมีโอกาสเขาก็อยากจะใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมา ตามประสาคนจบใหม่กำลังมีไฟทำงาน ส่วนเรื่องๆอื่นเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงลืมไปหมดแล้ว หากจะยังพอมีคนจำได้ก็คงมีเพียงแค่เขาเท่านั้น

“งั้น พ่อก็ตามใจนะ ถ้ามีอะไรก็บอกพ่อ บริษัทเราก็มีตำแหน่งเยอะแยะ ถ้าลูกจะกลับมา”

“ครับคุณพ่อ” ร่างบางรับคำด้วยรอยยิ้มกระจ่างบนดวงหน้าหวานนั้น
...

โรงแรม Flora hotel สำนักงานใหญ่ วันนี้พนักงานมาทำงานเหมือนเช่นทุกวัน แต่ละคนก็จะมีโต๊ะทำงานเป็นของตนเอง แล้วแต่ว่ารับผิดชอบหน้าที่อะไร ส่วนที่ทำงานของผู้จัดการฝ่ายต่างๆ ก็อยู่ในห้องที่เป็นส่วนตัวโดยมีเลขาของแต่ละคนนั่งอยู่น่าห้อง สำหรับห้องที่ใหญ่ที่สุดและโอ่อ่าหรูหรามากที่สุดเห็นจะไม่พ้นห้องของท่าน รองประธาน ที่มีโต๊ะของเลขาอยู่ด้านใน

“คุณกัณฑ์ครับ คุณก้านใบเลขาคนใหม่ของคุณมาพร้อมแล้วครับ” เสียงที่ดังผ่านโทรศัพท์ภายในเข้ามาทำให้ชายหนุ่มต้องละมือจากงานที่กำลังทำ อยู่

‘หึ มาแล้วเหรอพ่อตัวดี’

“เข้ามาได้” เสียงเข้มดังผ่านออกไปสู่โทรศัพท์ปลายสายที่อยู่อีกห้องหนึ่ง

“เอ่อ คุณสาธิตครับผมมีเรื่องหนึ่งอยากถามก่อนจะเข้าไปพบท่านนะครับ” เสียงใสเอ่ยถามผู้จัดการฝ่ายบุคคล ที่เตรียมพาเขาเข้าไปพบกับชายหนุ่มที่จะเป็นเจ้านายของเขาในไม่ช้านี้

“มีอะไรหรือครับคุณก้าน”

“คือว่าพี่.. เอ่อคุณกัณฑ์หนะครับ ท่านเป็นคนยังไงบ้างครับ”

“อ้อ ถ้าเรื่องงานละก็ท่านเป็นคนจริงจังพอควร แต่ติดที่ท่านเอ่อ…. ” ชายหนุ่มอีกคนหยุดไว้แค่นั้นเนื่องจากไม่กล้านินทาเจ้านาย

“คุณสาธิตครับบอกผมเถอะครับ ผมจะได้ปรับตัวถูก นะครับ”

“ก็ ได้ครับ คือท่านออกจะโมโหร้าย แล้วก็เอาแต่ใจตัวเองไปซะหน่อย คุณก็ตามใจท่านหน่อยละกันนะครับ อ้อ แล้วก็ถ้าไม่จำเป็น จำไว้ว่าอย่ามีเรื่องกับคุณ วตีนะครับ เธอเป็นคนรักของคุณกัณฑ์ ใครก็ห้ามแตะครับ”

“คุณวตีเหรอ” เด็กหนุ่มทวนคำเบาๆ นิสัยอย่างอื่นของกัณฑ์ ร่างบางก็พอทราบมาบ้างแล้ว แต่ทำไมใจมันกระตุกนะก็แค่รู้ว่าเขามีตัวจริงแล้ว ร่างบางพยายามทำใจให้สงบ แต่ไม่ทันทำได้นานก็มีเสียงเรียกจากโทรศัพท์อีกครั้ง

“นี่มัวทำอะไร กันอยู่ ฉันบอกให้เข้ามาตั้งนานแล้ว หูแตกเหรอไง” เสียงบุคคลที่สามดังมาตามสายโทรศัพท์ ฟังน้ำเสียงออกจะหงุดหงิดไม่น้อยเลย

“ไปกันเถอะครับคุณก้าน คุณกัณฑ์เวลาโมโหแล้วน่ากลัวที่สุดเลยละครับ”

“ครับ”

ก๊อก ก๊อก “ขอนุญาติครับ” ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเอ่ยขออนุญาตว่าที่เจ้าของโรงแรมในอนาคต

“เข้ามา” เสียงทุ้มเอ่ยขออนุญาตจากภายใน

“ท่านรองครับ นี่คุณก้านใบ พิศาลมนตรี เลขาคนใหม่ของท่านครับ” สาธิตแนะนำคนที่ยืนข้างๆตัวเองอย่างนอบน้อม

“สวัสดีครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยทักทายเจ้านายในอนาคต พร้อมทั้งจ้องอีกฝ่ายไม่วางตา

“หวัด ดี ” ร่างสูงเองก็จ้องอีกฝ่ายกลับเช่นกัน ความรู้สึกบางประการได้ถูกปลุกขึ้นอย่างช้าๆ ร่างตรงหน้าเขาคือน้องก้าน เด็กที่เขาชอบแกล้งในอดีต ดูๆไปแล้วก็ไม่ค่อยเปลี่ยนจากเดิมสักเท่าไหร่ รูปร่างบอบบาง ส่วนสูงน่าจะไม่เกิน 170 cm ผมสีน้ำตาลอ่อนท่าจะนุ่ม หน้าตาจิ้มลิ้ม ปาก คอ คิ้ว คาง ช่างเข้ากันได้อย่างลงตัว และดวงตากลมโตที่ช้อนมองเขานั้นดูสุกสกาวอย่างประหลาด ริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูอ่อนนั้นชวนมองไม่รู้เบื่อ และที่สำคัญให้ตายเถอะทำไมนึกอยากจะแกล้งให้หมอนี่ร้องไห้ในแบบทะลึ่งๆขึ้น มานะ บ้าชะมัด เด็กนี่เป็นผู้ชายนะ นี่เขาคิดอะไรเนี่ย

“…….ธาน ท่านประธานครับ” เสียงผู้จัดการฝ่ายบุคคลเรียกดึงสติให้กลับมา

“อะ…. อะไร”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ”

“เชิญ” ร่างสูงเอ่ยอนุญาต

“เอาหละเรามาเริ่มงานกัน เธอเรียนจบอะไรมา”

“การบัญชีครับ”

“แล้วจะ ทำได้เหรองานเลขานะ มันจุกจิกและก็หนักพอดู” ชายหนุ่มนึกสบประมาทร่างบอบบางข้างหน้า ตัวแค่เนี๊ยะจะตามเขาไปทำงานนอกสถานที่ได้แน่เหรอ

“ผมมั่นใจว่าทำ ได้ครับ แล้วก็มีคนสอนงานมาบ้างแล้ว เราจะเริ่มงานได้หรือยังครับ” เด็กหนุ่มตอบกลับแบบเรียบๆ ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่า ร่างสูงตรงหน้าต้องนึกดูแคลนเขาอยู่แน่ๆ

“ถ้าเธอว่างั้นก็ตามใจ นี่เป็นเอกสารที่จะต้องใช้ในการประชุม ตรวจดูความถูกต้องให้เรียบร้อย จะเริ่มประชุมในสิบนาทีนี้” ชายหนุ่มหยิบเอกสารปึ้งใหญ่มาวางให้บนโต๊ะทำงานของอีกฝ่ายที่อยู่ไม่ไกลจาก โต๊ะเขานัก

“อ้อ แล้วนี่โต๊ะทำงานของเธอ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอต้องทำงานในห้องนี้” ชายหนุ่มทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง ปล่อยอีกฝ่ายไว้กับกองเอกสารที่ยังไม่ได้จัดเรียง

ก้านใบมองกอง เอกสารการประชุม ก่อนจะถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ “เฮ้อ จะรอดมั๊ยเนี่ยเรา อีกสิบนาทีเท่านั้นเอง แต่มาขนาดนี้แล้วจะถอยไม่ได้ละนะ” แล้วก้มหน้าก้มตาทำงานไปอย่างเงียบๆ
………………………………………………………………………………………..
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 1 [6-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 06-10-2012 14:56:32
แอร๊ยยย
น่าอ่านมากกกก
รอนะคะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 1 [6-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: ΩPRESTOΩ ที่ 06-10-2012 16:28:49
จะแกล้งได้สักกี่น้ำเชียวคุณพี่กัณฑ์
แรกพบประสบพักตร์ ก็ตะลึงอึ้งซะปานนั้น
น้องก้านสู้ๆ :z7:

บวกและเป็ดขอบคุณคะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 1 [6-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 06-10-2012 17:08:16
แค่ตอนแรก ก็ใจละลายแล้ว :-[
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 1 [6-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 06-10-2012 17:39:56


เอาล่ะ เริ่มยกที่ 1 นายก้านใบสู้ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 1 [6-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: bigbeeboom ที่ 06-10-2012 17:42:46
เนื้อเรื่องสนุก น่าติดตามมากจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 1 [6-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: kslave ที่ 06-10-2012 17:56:54
สนุกและน่าติดตามมากค่ะ
อยากรู้ว่ากัณฑ์จะแกล้งอะไรก้านใบบ้าง
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 2 [update 13-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 13-10-2012 18:09:06
ตอนที่ 2


วันนี้เป็นวันที่สองที่ก้านใบมาทำงานแต่แทนที่จะได้ไปทำงานในที่ประจำกลับต้องมาจมอยู่ในห้องเก็บเอกสารสำคัญของโรงแรม

“คุณ ก้านครับอันนั้นไม่ต้องยกหรอกครับ เดี๋ยวผมยกให้” พนักงานคนหนึ่งของโรงแรมเอ่ยทักขึ้น หลังจากเห็นเลขาท่านรองยกลังเอกสารขึ้นลงชั้นเก็บอยู่หลายรอบแล้ว

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมยกไหว แต่ก็ขอบคุณมากนะครับ” กล่าวปฏิเสธเสียงนุ่ม

“โห แต่คุณก้านปีนขึ้นปีนลงอยู่หลายรอบแล้วนะครับ ดูซิมือแดงหมดแล้ว ยังไม่เจอเอกสารที่ว่าเหรอครับ”

“ยังครับ แต่ว่าคงจะหาไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอมั้งหาเกือบหมดทุกชั้นแล้ว”

“แต่ว่าคุณก้านยังไม่ได้พักเลยนะครับตั้งแต่เช้า ข้าวเที่ยงก็ไม่ได้ทาน แล้วนี่ก็เลิกงานแล้วนะครับ”

“พอ ดีมันเป็นเอกสารที่ท่านรองบอกว่าสำคัญมากครับ อาจจะตกหล่นอยู่ในห้องนี้ ผมก็เลยต้องหาให้เจอ” ก้านใบบอกเพื่อนร่วมงานที่อุตสาห์มีน้ำใจ ก็เพราะเอกสารที่ว่า ทำให้เขาต้องมานั่งอ่านเอกสารทุกแผ่นที่เก็บอยู่ในห้องนี้ทั้งวัน ไหนจะต้องยกลังหนักๆทั้งชั้นบนและล่างของชั้นวาง เล่นเอาเหนื่อยทีเดียว ไม่รู้ว่าเอกสารนั่นอยู่ในนี้จริงๆหรือเปล่า คิดแล้วก็แค้นคนสั่ง ทั้งๆที่พิมพ์แล้วเซนต์ใหม่อีกครั้งก็ได้แท้ๆ แต่เจ้าตัวบอกว่าขี้เกียจเซนต์ใหม่ เลยทำให้เขาต้องมาวุ่นหาอยู่นี่ ส่วนตัวเองก็ออกไปข้างนอกตั้งแต่บ่ายแล้วบอกว่าจะกลับมาเอาเอกสารก่อน หกโมงเย็น ช่างเป็นคนที่เอาแต่ใจไม่เปลี่ยนจริงๆ

“ไง เจอมั๊ย” เสียงห้าวถามจากทางประตูห้อง

“ยังไม่เจอครับ” บอกโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง

“พอ ดีนึกออกแล้วหละ คงอยู่ในลิ้นชักโต๊ะของชั้นเอง” พูดยิ้มๆเมื่อเห็นสภาพของก้านใบ สองมือเล็กนั่นทั้งแดงและพองจากการเสียดสีกับลังเอกสาร บนใบหน้าขาวก็มีเหงื่อใสๆผุดเต็มดวงหน้า แสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวเหนื่อยมากเพียงใด

“อะไรกันคุณ ตั้งนานเพิ่งจะนึกออกเหรอ” บ้าจริงทำให้เขาเหนื่อยอยู่ตั้งนาน

“เอาหละกลับได้แล้ว ชั้นจะไปส่ง” กัณฑ์ตัดบทไม่อยากพูดอะไรอีก

“ไม่ต้องครับ ผมกลับแท็กซี่เองได้”

“แต่ชั้นบอกว่าจะไปส่ง นี่เป็นคำสั่ง ออกมาได้แล้วมันเสียเวลา” เสียงเริ่มแข็ง

“ครับ” รับคำอย่างเสียไม่ได้

“......................”

“.......................”

“.......................”

“ยังอยู่บ้านเดิมใช่มั๊ย” บทสนทนาแรกตั้งแต่อยู่บนรถ

“ครับ”
“.......................”

“.......................”


“อืม ยังหัวค่ำอยู่เลยแวะไปกินข้าวก่อนดีกว่า” ร่างสูงพูดขึ้นมาทำลายความเงียบ

“ผมไม่หิวครับ”

“ชั้นไม่ได้ถามเธอตอนนี้ชั้นหิวแล้ว” ทำเหมือนคนที่นั่งมาด้วยไม่มีความหมาย นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ

“.....................” ก้านใบไม่รู้จะทักท้วงอะไรกับคนเอาแต่ใจนี้ดี ได้แต่ยอมตามเคย

ภาย ในร้านอาหารที่ตอนนี้เริ่มมีผู้คนหนาตา เนื่องจากเป็นเวลาอาหารค่ำของใครหลายคนรวมทั้งชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของโรงแรม Flora กำลังนั่งกินอาหารอย่างอารมณ์ดี แตกต่างจากเพื่อนร่วมโต๊ะโดยสิ้นเชิง

“ไม่กินแน่เหรอ อร่อยนา” เป็นคำชวนแบบยียวนครั้งที่เท่าไหร่ก้านใบก็จำไม่ได้ รู้แต่ว่าทุกคำที่ตักขึ้นมาเป็นต้องเอามาล่อเขาก่อนส่งเข้าปากตัวเองตลอด

“ไม่ตรับ คุณรีบทานเถอะจะได้รีบกลับ” ปฏิเสธเหมือนทุกครั้ง เด็กหนุ่มอยากกลับบ้านเต็มแก่

“จะ รีบกลับไปไหน มีใครคอยอยู่หรือไง” พูดประชดเมื่อเห็นว่าตั้งแต่เข้ามาในร้านร่างบางก็ไม่แสดงอารมณ์ใดๆให้เห็น เลย เขานึกว่าก้านใบจะหงุดหงิดที่เขาไม่ยอมพาไปส่งบ้านเสียทีซะอีก แต่ไม่เป็นไรเขามีแผนสำรองอยู่แล้ว

“ผมแค่.........”

“กัณฑ์ ขา แหมบังเอิญจังเจอคุณพอดี” เสียงของอมาวตีนั่นเองที่ขัดบทสนทนาของชายทั้งคู่ แล้วหญิงสาวก็ปรี่เข้ามาทักทันที หน้าตาไม่ได้ดูตกใจว่าพึ่งจะมาเจอกันเลย

“อ้าว วตี ผมกำลังจะไปรับคุณไปเที่ยวอยู่พอดี” จูบทักทายกันแบบไม่เกรงใจสายตาคนในร้านสักนิด

“งั้นก็ดีเลยค่ะกัณฑ์ วตีเองก็กำลังเหงาพอดี เราไปกันเลยนะคะ” ออเซาะเต็มที่

“อืม งั้นนายกลับเองก็แล้วกันนะ ชั้นไม่มีเวลาไปส่งแล้วหละ”

“..............”

“มองชั้นอย่างนั้นทำไม หรือนายมีปัญหาอะไร” กัณฑ์เอ่ยถามร่างเล็กที่ไม่พูดอะไรสักคำมีเพียงสายตาที่มองมาเท่านั้น

“ไม่มีครับ ผมขอตัว”

“เชิญ แล้วพรุ่งนี้อย่ามาสายละ” สั่งกำชับก่อนที่ก้านใบจะลุกออกไป

“ครับ”

“หึ กัณฑ์ขา สะใจจังเลยค่ะ จ๋อยกลับไปเลยคุณเห็นมั๊ยค่ะ” สมน้ำหน้าอยากมาแย่งหน้าที่ของชั้น ให้มันรู้ซะบ้างใครมาก่อนมาหลัง

“......................” ไม่มีคำตอบชายหนุ่มที่กำลังสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง เมื่อกี้มันอะไรกัน เขาทำถูกแล้วนี่ แล้วทำไมใจมันแก่วงพิกลเมื่อเห็นสายตาตัดพ้อที่หมอนั่นที่มองมานะ

หลัง จากวันนั้นก้านใบก็มาทำงานตามปกติทำเหมือนไม่มีอะไร ส่วนชายหนุ่มก็ยังคงใช้งานเขาหนักเหมือนเคย แต่ไม่หนักมากเหมือนวันแรกๆ จนนี่ก็เกือบ

หนึ่งอาทิตย์เต็มๆแล้ว ซึ่งแต่ละวันที่ผ่านไปทำให้เด็กหนุ่มได้รู้จักกัณฑ์มากขึ้น เขารู้ว่าเวลาชายหนุ่มทำงานนั้นก็ดูจริงจังน่าเกรงขามมีความเป็นผู้นำสูง แต่พออยู่นอกเวลางานก็จะดูสบายๆ ถึงแม้บางครั้งจะเอาแต่ใจไปบ้าง แต่ทุกคนในบริษัทก็ให้ความเคารพยำเกรง เวลาที่อยู่กับเขานั้น ก็ยังเหมือนเดิมคือมีงานยุ่งมาให้เขาช่วยจัดช่วยทำตลอดเวลา ทั้งที่งานบางงานมันไม่ใช่หน้าที่ของเลขาเลยด้วยซ้ำ ส่วนหน้าที่ที่ต้องทำเป็นประจำทุกวันนั้นคือ เตรียมเอกสารหามรุ่งหามค่ำ นัดลูกค้า ชงกาแฟ ซึ่งความถี่ในการชงนั้นแทบนับไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะเอาไปกินหรือเอาไปอาบกันแน่ งานที่ชายหนุ่มมอบหมายให้ในแต่ละวันมีมากเสียจนบางวันไม่มีแม้แต่เวลาทาน ข้าว ทั้งมื้อเที่ยงและเย็นทำให้เวลาเพียงแค่ อาทิตย์เศษๆ เด็กหนุ่มตัวเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด

สาเหตุที่ถูกใช้งานหนักนั้น เด็กหนุ่มพอจะทราบเลาๆจากบิดาของชายหนุ่มมาบ้างแล้ว เลยต้องยอมๆทำไปไม่บ่น ส่วนหนึ่งนั้นเพื่อช่วยกันวตีออกไปจากชีวิตของชายหนุ่มตามคำขอร้องของคุณลุง ศิวะ อีกส่วนหนึ่งก็คือเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเองก็จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆเหมือนตอนเด็กๆ อีกแล้ว และวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ยุ่งอยู่กับงานเอกสารตั้งแต่เช้าจนยันบ่าย แล้วยังต้องมายืนเตรียมนู่นเตรียมนี่ในการประชุมให้วุ่นวายไปหมด ร่างบางรู้ว่าชายหนุ่มแกล้งใช้เขาไม่ให้ได้นั่งพักเลย จนชักรู้สึกมึนๆเสียแล้ว

“เอาหละทุกคน วันนี้พอแค่นี้ก่อน อย่าลืมนำเอาข้อตกลงในการประชุมวันนี้ไปแจ้งลูกน้องในฝ่ายของตัวเองให้ทราบ ด้วย การทำงานจะได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ”

“ครับ, ค่ะ ท่านรอง ”

“..น คุณก้านครับ”

“ครับ? ”

“เลิก ประชุมแล้วนะครับ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ดูหน้าซีดๆนะ” เสียงของวาทินนั่นเองที่ดึงเขากลับมา ชายคนนี้เป็นผู้จัดการฝ่ายอาหารของโรงแรมเป็นคนดีทีเดียว และคอยช่วยเหลือเขามาตลอด

“ไม่เป็นไรครับ ผมเพลียนิดหน่อย ” เด็กหนุ่มตอบพลางทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ข้างๆเพราะเริ่มรู้สึกว่าโลกมันเอียงๆชอบกล

ทั้งสองคนไม่รู้หรอกว่าบทสนทนาเมื่อกี้ หาได้หลุดพ้นจากสายตาของท่านรองประธานไม่

“นี่ คุณวาทินเลิกประชุมไปตั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองอีก อยากออกไปแตะฝุ่นหรือไง” กัณฑ์ประชดเข้าให้

“แต่คุณก้านดูท่าว่าจะไม่ค่อยสบายนะครับ”

“ก็ช่างเขาสิ คุณเป็นอะไรกับเขาหรือไงถ้างานแค่นี้ทำไม่ไหวก็ลาออกไปซะไม่มีใครว่านี่” พาดพิงไปถึงบุคคลที่สามที่นั่งพักอยู่

“แต่.....” วาทินพยายามทักท้วง

“ไม่มีแต่ ออกไปได้แล้ว” กัณฑ์ออกคำสั่งเสียงเรียบๆพร้อมด้วยสายตาเย็นเฉียบ

“ผมไปก่อนนะครับ ถ้ามีอะ…”

“นี่ ผมบอกให้ออกไปได้แล้วไง พิรี้พิไรอยู่นั่น” เสียงห้าวดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้แทบจะเป็นตวาด จนคนฟังอึ้งไปตามๆกัน แล้วนายวาทินก็รีบออกไปก่อนจะมีการขึ้นเสียงอีกเป็นครั้งที่สาม เพราะขืนยังอยู่คาดว่าเจ้านายอาจจะไม่พูดอย่างเดียวอาจจะลากเขาออกมานอกห้อง เลยก็เป็นได้

“ไง จะตายแล้วเหรอ ออเซาะกันเหลือเกินนะ ทำยังกับเป็นผัวเมียกัน ทุเรศลูกตา”

“นี่ คุณ น้อยๆหน่อยนะ คุณวาทินเขาแค่เป็นห่วงผม ตามประสาเพื่อนร่วมงานเท่านั้น คุณนั่นแหละเป็นบ้าอะไร มาพาลคนอื่น” ร่างเล็กตวาดขึ้นบ้างอย่างโมโหที่ชายหนุ่มเอาแต่พูดจากระแทกแดกดันเขา แม้ในยามที่เขากำลังอ่อนแอ ก็ยังไม่เว้น

“..........” นั่นสินะวันนี้ ไม่สิหลายวันมานี้เขาเป็นอะไรไป กะแค่เห็นก้านใบคุยกับวาทิน เขาก็โมโหหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งเห็นอาการห่วงใยกันออกนอกหน้าอย่างวันนี้ เขายิ่งคุมอารมณ์หงุดหงิดของตัวเองแทบไม่ได้ จนต้องมาลงกับคนที่นั่งหน้าซีดอยู่นี่ แต่ช่างเถอะเขาไม่คิดจะหาเหตุผลอยู่แล้ว

“ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว” เสียงเล็กๆนั่นเองที่ดังขัดความคิดของเขา

“เดี๊… ” ไม่ทันขาดคำร่างบางก็ทรุดฮวบต่อหน้าต่อตาเขา ชายหนุ่มเองก็กำลังตกใจ แต่ทว่าร่างกายไวกว่าความคิด ก่อนที่ก้านใบจะล้มลงไปกระแทกพื้น อ้อมแขนแกร่งก็สามารถกอดกระหวัดรัดร่างนุ่มนิ่มนั้นเข้ามาอยู่ในวงแขนได้ อย่างรวดเร็ว

“ก้าน ก้าน” ชายหนุ่มเรียกซ้ำๆแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าคนที่สลบไปนั้นจะฟื้นขึ้นมา

“นี่นายตัวเล็ก แล้วยังนุ่มมือขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” ชายหนุ่มได้แต่พึมพำเบาๆพร้อมกับหาวิธีที่จะทำให้ร่างตรงหน้าฟื้นไปด้วย

--------------------

หลัง จากที่ก้านใบหมดสติไป ชายหนุ่มก็พาเด็กหนุ่มขึ้นมาบนชั้นบนสุดของโรงแรมซึ่งเป็นที่พักของเขา และไว้หาความสุขกับคู่ควงบ้างเป็นครั้งคราว ชายหนุ่มจัดแจงปลดกระดุมเสื้อออกสองสามเม็ด และคลายเข็มขัดที่รัดเอวเล็กนั่นออกเพื่อให้เด็กหนุ่มไม่อึดอัด เพียงไม่กี่นาทีชายหนุ่มก็จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย แล้วก็ไม่มีอะไรจะทำเพราะหมอบอกว่าร่างบางต้องการการพักผ่อนมากๆเท่านั้นเอง ชายหนุ่มจึงได้แต่นั่งพิศใบหน้าหวานยามหลับใหล เปลือกตาบางๆที่ปิดสนิท ปากอวบอิ่มสีส้มอ่อนเผยอเล็กน้อย มันเหมือนกลีบดอกไม้ที่กำลังเชิญชวนเขาให้ลิ้มลองความหอมหวานและอ่อนนุ่ม ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงไปใกล้อย่างเผลอไผล เพื่อที่จะสัมผัสกลีบปากบางนั้น ยิ่งใกล้เขายิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนๆออกมาจากร่างเล็กข้างหน้าทำให้ลืมหมดแล้ว ความชั่งใจ

“อืม” เสียงครางเบาๆที่ลอดออกมาทำให้กัณฑ์ชะงัก เด็กหนุ่มเริ่มจะรู้สึกตัวแล้ว

“ฟู่ เกือบไปแล้วสิเรา” ชายหนุ่มรำพึงเสียงเบา พร้อมกับตบแก้มนุ่มๆไปมาเบาๆเพื่อปลุกให้ตื่นมากยิ่งขึ้น

“ก้าน ก้าน เฮ้ ตื่นได้แล้ว จะนอนไปถึงไหน ”

ช่วง เวลาที่เด็กหนุ่มขยับตัวทำให้เสื้อที่ถูกปลดกระดุมไว้แยกออกจากกัน เผยให้เห็นผิวขาวอมชมพูนวลเนียน และที่สำคัญยังเห็นจุดสีชมพูเล็กๆที่มองเห็นผ่านเสื้อกล้ามสีขาวตัวบางที่ เจ้าตัวใส่ซ้อนไว้ข้างใน มันทำให้เขาคอแห้งขึ้นมาทันที ‘ให้ตายเถอะมันน่าลูบไล้เล่นชะมัด’

“ที่นี่ที่ไหน” ถามอีกฝ่ายพร้อมทั้งกระชับเสื้อให้มิดชิดขึ้น เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบสายตาคมจ้องร่างกายของเขาอยู่ก่อนแล้ว

“จะ ปิดไปทำไมห๊ะ ทำยังกับนางเอกหนังไทย หวงเนื้อหวงตัวไปได้ ผู้ชายหรือเปล่า อ้อแล้วที่ดูนะก็แค่อยากจะพิสูจน์ให้แน่ใจว่าเป็นผู้ชายจริงๆแน่เหรอ ทำไมหนักไม่เอาเบาไม่สู้อย่างนี้ กะแค่ประชุมยังเป็นลม แล้วอย่างนี้จะไปปกป้องผู้หญิงที่ไหนได้” ชายหนุ่มเอาเสียงดังเข้าข่มความรู้สึกแปลกๆของตัวเอง

“ได้ไม่ได้มันเรื่องของผม แล้วผมก็เป็นผู้ชายเต็มตัว รู้ไว้ซะด้วย” ก้านใบตอบกลับอย่างโมโห มาดูถูกเขาอย่างนี้ได้ยังไง

“ให้มันจริง ” ชายหนุ่มยังประชดไม่เลิก

“แล้วคุณจะบอกผมได้หรือยังว่าที่นี่ที่ไหน” ยังอยากรู้ที่อยู่ของตัวเองแม้ว่าจะไม่อยากพูดกับชายหนุ่มแล้วก็ตาม

“ห้อง พักของชั้นเอง เธอควรดีใจนะที่ชั้นอุตส่าห์สงเคราะห์เธอ ให้ขึ้นมาพักบนนี้ เอ้าโก้โก้ร้อนเดี๋ยวจะหิวตายไปซะก่อน” ว่าพลางยื่นโก้โก้ร้อนที่เขาสั่งให้พนักงานเอาขึ้นมาไว้ให้ก่อนหน้านี้ไม่ นาน

“ขอบคุณ” ก้านใบว่าอย่างนั้นก่อนจะดื่มโก้โก้ร้อนจนหมดแก้ว เพื่อบรรเทาความหิว เด็กหนุ่มไม่อยากต่อล้อต่อเถียงอะไรอีกแล้ว ตอนนี้เขาเหนื่อยเหลือเกิน


“ผมอยากกลับบ้าน” เด็กหนุ่มพูดกับคนที่ยืนมองเขาดื่มโกโก้ด้วยสายตาที่บอกความหมายบางอย่าง

“ก็เอาสิเดี๋ยวชั้นจะให้รถโรงแรมไปส่ง” ชายหนุ่มทอดเสียงอ่อนลงเล็กน้อย

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมโทรบอกพี่กิ่งให้มารับ”

“เจ้ากิ่งที่เคยชกชั้นปากแตกหนะนะ” กัณฑ์ถามร่างตรงหน้าเมื่อนึกถึงตอนสมัยเด็กๆขึ้นมา

“ผมออกจะแปลกใจนะครับที่คุณยังจำอดีตได้ ผมนึกว่าคุณลืมไปหมดแล้วเสียอีก” ร่างบางว่าประชดเข้าให้บ้าง

“ก็ ไม่มีอะไรน่าจำนี่ มันก็แค่อดีตจะจำไปทำไมนักหนา เรื่องปัจจุบันสิสนุกกว่าเยอะ” ชายหนุ่มเองก็ไม่ยอมลดละประชดกลับบ้าง ทั้งที่ความจริงเขาจำเรื่องในวัยเด็กได้อย่างชัดเจน แถมยังชัดขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่เจอคนตรงหน้านี่

เจ็บแสบไปถึงไหนกับคำ ทำร้ายจิตใจ ชายหนุ่มไม่เคยจำว่าเคยได้เอาหัวใจของใครไปในอดีต และไม่เคยคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่เขาสิที่ทนให้ชายหนุ่มใช้งานหนักๆโดยไม่บ่น แค่หวังว่าชายหนุ่มจะจำความผูกพันในวัยเด็กได้บ้างยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจ

“ผมขอตัวละครับ” ร่างบางพยายามเอ่ยเสียงเรียบเพื่อปิดซ่อนความรู้สึกน้อยใจของตัวเอง

“จะไปยังไง โทรศัพท์ก็ยังไม่ได้โทร”

“ผมกลับแท็กซี่ได้”

ก้าน ใบรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีลุกขึ้นวิ่งออกไป ความเสียใจปนกับความน้อยใจจนทำให้เขาไม่อยากอยู่ใกล้ๆกัณฑ์อีก ด้วยกลัวว่าตนเองจะแสดงความอ่อนแอให้ชายหนุ่มเห็น

“ก้าน ก้าน” ชายหนุ่มได้แต่ตะโกนตามหลังร่างเล็กที่วิ่งหายไปในลิฟต์

“โธ่โว้ย” ชายหนุ่มได้แต่ตะโกนให้หายหงุดหงิดทำไมเขาต้องแคร์เจ้าเด็กนั่นด้วยนะ เขาหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้

--------------------
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 2 [update 13-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 13-10-2012 18:24:51
แอร๊ยยย สนุกจัง


มาขอตามด้วยคนค่ะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 2 [update 13-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: ΩPRESTOΩ ที่ 13-10-2012 18:40:59
อยากจะประทุษร้ายอิพี่กัณฑ์จริงๆให้ดิ้นตาย
 :z6:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 2 [update 13-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 13-10-2012 18:57:24
มาอัพบอกๆนะ เราชอบ^^ o13
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 2 [update 13-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 13-10-2012 19:05:00
อีพี่กัณฑ์มันน่านักนะ
อย่างนี้ต้องให้น้องแก้แค้นซะให้เข็ด

รอตามอ่านต่อค่าาาา
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 2 [update 13-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-10-2012 21:41:45
โอ๊ยยย เจ็บแปลบจริงๆ สงสารน้องก้าน โอ๋ๆ :กอด1:
พี่กัณฑ์ใจร้ายนักนะ แกล้งน้องขนาดนี้ได้ไง  :angry2:
เดี๋ยวน้องเมินขึ้นมาจะรู้สึก :a14:
รออ่านตอนต่อไปค่ะ สนุกจัง o13
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 2 [update 13-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 24-10-2012 22:49:35
ตอนที่ 3

“ก้านเป็นอะไรไป ตั้งแต่กลับมาจากที่ทำงาน พี่ก็เห็นเราเหม่อตลอดมีปัญหาอะไรที่ทำงานหรือเปล่า” ชายหนุ่มร่างสูงผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายของก้านใบเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ด้วยตัวเองคัดค้านเรื่องการทำงานกับกัณฑ์ตั้งแต่แรก แต่น้องชายยืนยันว่าจะต้องทำงานนี้ให้ได้ ก็เลยได้แต่เป็นกังวลอยู่ห่างๆ

“เปล่าครับพี่กิ่งผมแค่คิดอะไรเพลินๆนิดหน่อย” ตอบเลี่ยงๆเพื่อไม่ให้พี่ชายเป็นห่วง

“แน่นะ ไม่ใช่ว่าโดนไอ้กัณฑ์แกล้งอะไรมาหรอกนะ”

“เปล่า จริงๆครับพี่ ไปทานเข้ากันเถอะครับป่านนี้ทุกคนคงรอแย่” เด็กหนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะเกรงว่าพี่ชายจะจับพิรุธได้เสียก่อน ถ้าพี่เขารู้ว่าไปทำงานหนักขนาดนั้น แถมยังโดนพูดจาประชดประชันตลอดพี่เขาต้องไม่อยู่เฉยแน่

ก่อนที่ร่างบางจะเดินออกไปก็ได้ยินเสียงพี่ชายเรียกไว้ “เดี๋ยวก้านพี่มีเรื่องจะถามนายอีกเรื่อง เอ่อคือ……..” ชายหนุ่มอึกอัก

“มีอะไรเหรอครับพี่” เด็กหนุ่มถามย้ำด้วยความสงสัยเพราะไม่เคยเห็นพี่ชายอึกอักอย่างนี้มาก่อน

“คือ พี่อยากรู้เรื่องคุณการ์หนะ นายพอจะรู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้างมั๊ย”

“อ๋อ ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง อย่าบอกนะว่าพี่ยังสนใจเขาอยู่”

“เปล่า ก็แค่ถามถึง” ‘ก็แหมหมอนั่นนะเวลาร้องไห้นะน่ารักสุดๆเลย’ นึกถึงอดีตที่เขาคอยตามตอแยการ์เพื่อเป็นการแก้แค้นตัวพี่ชาย เพราะรู้ว่ากัณฑ์เองก็ทั้งรักทั้งหวงน้องไม่น้อยไปกว่าเขา จนกระทั่งเจ้าเด็กนั่นทนไม่ไหวหนีไปเรียนต่อเมืองนอก แล้วเขาก็ไม่ได้ข่าวคราวอีกเลย

“ผมก็ทราบมาคร่าวๆหนะเท่านั้นครับ ว่าตอนนี้เรียนจบทันตแพทย์แล้วมาเปิดคลินิกทำฟันอยู่ในกรุงเทพนี่แหละ” เด็กหนุ่มตอบตามที่เขาได้ยินมาจากพนักงานคนอื่นๆในบริษัท

“กลับมาแล้วเหรอ” พึมพำด้วยความยินดี และยังไม่ทันที่สองพี่น้องจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ ก็มีเสียงวิ่งของเด็กตัวเล็กๆตรงเข้ามา

“คุณ พ่อคร้าบ คุณอาก้านคร้าบ คุณปู่ให้มาตามไปทานข้าวได้แล้วครับ” เสียงใสๆของเด็กชายต้นกล้าตะโกนเรียกพ่อและอาไปทานข้าวพร้อมกัน เนื่องจากนั่งรอ พ่อมาตามคุณอาตั้งนาน จนเด็กชายหิวจนแสบท้อง ก็ยังไม่มีวี่แววว่าคุณพ่อจะพาคุณอาลงไปทานข้าวเสียที

“ไปกันเถอะครับพี่ ตาต้นมาตามแล้วสงสัยจะหิว”

“นั่นสิ ว่าไงตัวเล็ก พ่ออุ้มไปทานข้าวดีมั๊ยจะได้ไม่หิวมาก” หันไปสนทนากับลูกชายตัวน้อย ที่พึ่งวิ่งมาถึง

“ดีครับคุณพ่อ”

เด็กชายต้นกล้าชูมือขึ้นโอบรอบคอพ่อ เพื่อให้สะดวกแก่การอุ้มมากยิ่งขึ้น

“อึ๊บ โอ้โหหนักขึ้นนะเนี่ย อีกหน่อยอาก้านก็ช่วยพ่ออุ้มเราไม่ได้แล้ว”

คนที่ถูกพาดพิงทำตาโต ก่อนจะรีบแก้ตัวยกใหญ่

“เดี๋ยว เถอะพี่กิ่งดูถูก ผมอุ้มหลานไหวหรอก มาต้นอาอุ้มเอง” เด็กหนุ่มยื่นมือออกไปหวังจะให้หลานชายตัวน้อยที่กำพร้าแม่ตั้งแต่เด็กคนนี้ มาอยู่ในอ้อมกอดของตัวเองบ้าง

“ไม่ให้ แน่จริงก็มาแย่งไปเลย จริงไหมต้น” ประโยคหลังร่างสูงหันมาถามลูกชายที่กลายเป็นลูกลิงเกาะหลังพ่อแน่น

“อาก้านมาจับผมให้ได้สิครับ”

“ได้เลย เจ้าตัวเล็ก”

ร่างเล็กของคุณอาวิ่งตามหลานชายที่เกาะคอพี่ชายเขาอยู่อย่างหยอกล้อระหว่างทางไปห้องอาหาร

“หวาคุณพ่อครับ คุณอาจะตามมาทันแล้วครับ เร็วครับ ฮะ ฮะ” เจ้าตัวเล็กกอดคอพ่อแน่น

“จับดีๆนะลูก พ่อจะวิ่งเร็วขึ้นแล้วนะ”

“ฮะ ฮะ ฮะ พ่อครับเร็วๆครับ อาก้านจะทันแล้ว” เจ้าตัวเล็กหัวเราะอย่างอารมณ์ดีอยู่บนหลังพ่อ เด็กน้อยสูญเสียมารดาตั้งแต่ยังไม่อย่านมจากอุบัติเหตุ ทำให้ทุกคนในบ้านให้ความรักความอบอุ่นกับเขาอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะพ่อที่เลี้ยงเขาด้วยตัวเองมาตลอด ชงนม อาบน้ำ เช็ดตัว พาไปหาหมอเวลาไม่สบาย จนนี่ก็ปาเข้าไปปีที่ 4 แล้ว โดยมีก้านใบช่วยบ้างเวลากลับมาเยี่ยมบ้านที่เมืองไทย
...

ที่ โต๊ะอาหารของบ้านพิศาลมนตรีจะขาดก็แต่ปลายใบบุตรสาวคนเล็กของบ้าน ที่ตอนนี้กำลังศึกษาต่ออยู่ที่ต่างประเทศ ทำให้ไม่สามารถมารับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันครบทุกคนอย่างแท้จริงได้

“เอาหละเริ่มกินได้ วันนี้โชคดีที่ตาก้านได้กลับบ้านเร็วถึงได้กินพร้อมกันเหมือนทุกทีได้นะนี่” ประมุขของบ้านเอ่ยขึ้น ส่วนเจ้าตัวนั้นได้แต่ยิ้มน้อยๆ พูดไม่ได้ว่าถ้าวันนี้ไม่ได้ทะเลาะกับท่านรองประธานจนต้องหนีกลับมาก่อนก็คง ยังไม่ได้เลิกงานเหมือนเคย

“คุณพ่อครับ วันเสาร์นี้ผมจะพาลูกไปดูหนังนะครับ พอดีเพื่อนบอกว่ามีหนังการ์ตูนสนุกๆจะเข้าวันเสาร์นี้” กิ่งใบเอ่ยบอกบิดาถึงโปรแกรมพาเจ้าตัวเล็กไปเที่ยวในวันหยุดนี้ ท้ายประโยคยังหันไปถามน้องชายที่นั่งทานข้าวอยู่ “ไปด้วยกันนะก้าน” เนื่องจากเห็นว่าตั้งแต่กลับมาเจ้าตัวยังไม่ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาที่ไหนเลย

“ครับพี่”

“เย้ ดีจังจะได้ไปเที่ยวกับอาก้านแล้ว” เด็กชายร้องบอกพร้อมทั้งชูสองมือชูขึ้นเป็นการแสงความดีใจไปด้วย

“ถ้า อย่างนั้นต้นก็ต้องกินข้าวเยอะๆนะลูกจะได้มีแรงไปเที่ยววันเสาร์นี้” ชายสูงวัยบอกหลานชายตัวน้อยที่เขาเองทั้งรักทั้งหลงเช่นเดียวกับทั้งพ่อและ อาของเจ้าหนู

“ฮะ” เจ้าตัวรับคำพร้อมทั้งอ้าปากกว้างกว่าปกติที่จะรับอาหารจากช้อนที่ผู้เป็น พ่อตักข้าวจะป้อนให้ ภาพนั้นเรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัวได้ไม่น้อย ทำให้ผู้เป็นอาสบายใจจากเรื่องที่ทะเลาะกับกัณฑ์ได้บ้างและพร้อมที่จะกลับไป ทำงานอีกครั้ง
……………………………………………………………………………………….

เช้าวันศุกร์เป็นวันทำงานวันสุดท้ายของสัปดาห์ พนักงานของโรงแรมก็มาทำงานตามปกติรวมทั้งก้านใบและวาทิน

“สวัสดีครับคุณก้าน” วาทินเอ่ยทักชายหนุ่มร่างบางที่พึ่งจะจอดรถในบริเวณที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้พนักงานเสร็จ

“สวัสดีครับ มาแต่เช้าจังนะครับ”

“คุณก้านเองก็มาแต่เช้าเหมือนกันนะครับ สบายดีแล้วเหรอครับ ผมนึกว่าวันนี้คุณจะลาหยุดเสียอีก”

“ผมแข็งแรงดีแล้วครับต้องขอบคุณมากที่เป็นห่วง ผมขอตัวนะครับจะรีบไปเตรียมเอกสารการประชุม”

“ประชุมอีกแล้วเหรอครับ ทำไมผมไม่ได้รับจดหมายแจ้งเลย”

“อ๋อ เดี๋ยวจะพิมพ์จดหมายเชิญไปให้ครับ อีกสามวันข้างหน้านี้เอง แต่ผมอยากทำให้เรียบร้อยก่อน จะได้ไม่ชนงานอื่นที่ท่านจะอาจมอบหมายกะทันหันนะครับ” เด็กหนุ่มว่าประชดบุคคลที่สาม

“อ้อ เหรอครับ เอ่อ คุณก้านครับ คือผมอยากชวนคุณไปดูหนังวันเสาร์นี้นะครับ” วาทินตัดสินใจชวนเลขาท่านรองไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาวันเสาร์นี้ ต้องยอมรับว่าเขาสนใจร่างตรงหน้าเป็นพิเศษ ถึงเขาจะไม่เคยชอบเพศเดียวกันมาก่อน แต่ก็ต้องยอมรับว่าคนตรงหน้าสามารถเปลี่ยนรสนิยมเขาได้เลยทีเดียว จากความน่ารักสดใส ที่เจ้าตัวแสดงออกอย่างไม่มีการเสแสร้ง และรูปร่างหน้าตาที่ถือได้ว่าสวยมากกว่าหล่อ ทำให้เขาคิดจะจีบขึ้นมา

“พอดีผมก็มีนัดดูหนังกับครอบครัววันเสาร์นี้ไว้แล้ว เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกันครับ”

“เอ่อ คุณก้านมีครอบครัวแล้วเหรอครับ เอ่อ ผมหมายถึงภรรยา” วาทินถามด้วยความตกใจ

“ไม่ ใช่หรอกครับ ผมจะไปกับพี่ชายกับหลานด้วยอีกคนนะครับ หน้าผมฟ้องว่ามีครอบครัวแบบนั้นแล้วเหรอครับ” เด็กหนุ่มตอบพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆทำให้หน้าหวานนั้นมีเสน่ห์ขึ้นอีกโข

“เฮ้อ ค่อยโล่งอกหน่อย” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองเบาๆ

“ว่าไงนะครับ”

“ไม่มีอะไรครับ ว่าแต่จะรังเกียจมั๊ยครับถ้าผมจะไปด้วย”

“ยินดีครับ ถ้าคุณวาทินไม่อึดอัดก็เชิญ หนังเรื่อง xxx ที่ yyy เวลา 13.00 น. ครับ”

“ขอบคุณครับ ขอผมเลี้ยงคุณกับครอบครัวนะครับ เดี๋ยวผมให้เลขาจองตั๋วให้”

“ไม่เป็นไรครับผมออกเอง เพิ่มคุณแค่คนเดียวอย่าเกรงใจเลยครับ” เด็กหนุ่มรีบปฏิเสธ

“คุณ ก้านนั่นแหละครับอย่าเกรงใจไปเลย ผมอยากมีโอกาสเลี้ยงคุณบ้าง นะครับ” ชายหนุ่มวิงวอนจนก้านใบอ่อนใจ เขาไม่อยากจะคิดเลยว่านายวาทินคนนี้ชักจะแคร์เขาเกินไปเสียแล้ว แต่เขาอาจจะมองผิดไปก็ได้

“ตามใจครับ เด็กหนุ่มยอมแพ้ในที่สุด”

“ขอบ คุณครับคุณก้านเราขึ้นตึกกันเถอะครับเดี๋ยวจะสาย” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างอารมณ์ดี เขาจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดก้านใบแล้ว ถึงจะมีครอบครัวมาด้วยก็ไม่สำคัญ ก็ดีเขาจะได้ถือโอกาสฝากเนื้อฝากตัวซะเลย

สอง หนุ่มเดินไปขึ้นลิฟต์ไปแล้วโดยหารู้ไม่ว่าบทสนทนาเมื่อครู่นี้ได้มีชายอีกคน ที่พึ่งมาถึงเหมือนกันได้ยินทุกคำ แถมตอนนี้ชายคนนั้นกำลังหงุดหงิดปนโมโหสุดๆ โดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องหงุดหงิดขนาดนั้น รู้แต่ว่าเขายอมไม่ได้
……………………………………………………………………………………….

“ก้าน ไปตามเลขาของวาทินมาพบผมหน่อย แล้วก็ชงกาแฟมาให้ด้วย” ชายหนุ่มสั่งร่างเล็กที่นั่งเงียบไม่คุยกับเขามาตั้งแต่เช้าสงสัยจะยังไม่ หายโกรธ ‘หึ ทีกะเขาไม่พูดไม่จา ถ้าไม่ได้ยินเสียงคุยกับนายวาทินนั่นเขาก็นึกว่าเป็นใบ้ไปแล้ว หงุดหงิดเว้ย’ ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อทำให้ร่างตรงหน้ารับรู้การมีตัวตนของเขาให้ได้

“ครับ” รับคำเรียบๆเหมือนทุกครั้ง

“อ้อ เดี๋ยวก่อนเอกสารที่เธอเอามาวางไว้ มันมีตัวที่ฉันอ่านไม่ออกช่วยบอกหน่อยซิว่ามันอ่านว่าอะไร” ว่าอย่างนั้นแล้วนิ้วเรียวก็ชี้ไปบนเอกสารที่ก้านใบพึ่งยื่นไปให้เมื่อไม่ นานมานี้

“ไหนครับ” เด็กหนุ่มถามพลางเดินมาที่โต๊ะทำงานของชายหนุ่มแล้วมองตามมือคนชี้ก็ไม่เห็นมีคำอ่านยากตรงไหน

กัณฑ์สั่นหน้าอย่างขัดใจ ก่อนที่จะเอ่ยเรียกก้านใบให้เข้ามาหา

“ไปยืนอยู่ตรงนั้นแล้วมันจะเห็นได้ไง มาตรงนี้” ชายหนุ่มกวักมือเรียกร่างบางให้อ้อมมายืนข้างๆเขา

“ไหนครับ” เด็กหนุ่มมายืนในตำแหน่งที่ชายหนุ่มบอก ก็ยังไม่เห็นอยู่ดีทำให้ต้องก้มหน้าลงไปหาใกล้ๆ

“ไหนคระ…. อ๊ะ” ร่างบางหันหน้ามาจะถามร่างสูงอีกที ก็พอดีกับชายหนุ่มหันมาฝังจมูกบนแก้มเขาแบบเต็มๆ ร่างบางแก้มแดงเรื่อขึ้นมาทันที

“หือ หน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรือไง” ชายหนุ่มแกล้งตีหน้าซื่อเมื่อเห็นแววตาเด็กหนุ่มคล้ายมีคำถาม

“เอ่อ ไม่มีอะไรครับ” ช่างเถอะเมื่อกี้คงเป็นเรื่องบังเอิญเด็กหนุ่มคิด

“เอาหละไปเรียกเลขาของนายวาทินมาพบฉันได้แล้ว ฉันอ่านออกแล้ว ชายหนุ่มออกคำสั่ง”

“ครับ” ร่างบางรับคำงงๆ แล้วจึงเดินออกไป แต่ก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้ออกจากห้องก็ได้ยินเสียงพึมพำจากบุคคลที่อยู่ เบื้องหลัง “หอมดีนะแถมยังนุ่มอีกต่างหาก”

เสียงเปรยนั้นทำให้คนที่กำลังจะออกไปหันกลับมาถามคนที่นั่งอยู่ในห้องอีกครั้ง

“เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ”

“เปล่าก็แค่บอกว่าดอกไม้ในแจกันนี่หอมดี” ว่าพลางส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้

“คุณ….บ้าที่สุด เมื่อกี้คุณจงใจนี่”

“จงใจอะไร เมื่อกี้ฉันทำอะไรไหนลองขยายความสิ เอ้าว่าไง” ชายหนุ่มถามอีก เมื่อเห็นร่างบางยังอึกอักอยู่

เด็กหนุ่มไม่กล้าถามออกไปว่าเมื่อกี้คุณแอบหอมแก้มผมเหรอ ถ้าถามไปอาจโดนหัวเราะเยาะแถมอาจจะพ่วงด้วยคำดูแคลนให้เจ็บใจเล่นอีกก็ได้

“ไปตามเลขานายวาทินมาให้ฉันได้แล้ว” กัณฑ์ตัดบททำให้เด็กหนุ่มพูดไม่ออก

“หนอ ยหลอกกันนี่นา คนบ้า” ก้านใบบ่นกับตัวเองพร้อมยกมือเล็กนั่นถูแก้มตัวเองแรงๆเพื่อลบรอย ก่อนเดินปั่นปึงออกไป กิริยานั่นเรียกรอยยิ้มจากร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวโตได้อีกนานที เดียว
……………………………………………………………………………………….
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 3 [update 24-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 24-10-2012 22:53:00
น่าสนๆ ก้านใบท่าจะแสบ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 3 [update 24-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 24-10-2012 23:01:47
อีตากัณฑ์บ้าบอจริงๆ
เริ่มชอบเค้าแล้วอะดิ  ทำแบบนี้
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 3 [update 24-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 24-10-2012 23:05:27
น่ารักดีนะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 3 [update 24-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 25-10-2012 00:26:32
 :impress2:

ชอบๆ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 3 [update 24-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 25-10-2012 00:49:11
สองคู่ชู้ชื่น :impress2:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 3 [update 24-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 03-11-2012 16:22:25
ตอนที่ 4

วันนี้เป็นช่วงบ่ายของวันเสาร์ทำให้ในห้างสรรพสินค้าในย่าน ใจกลางเมืองเช่นนี้คึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากผู้คนส่วนมากหยุดทำงานและออกมาจับจ่ายซื้อของและพักผ่อน หรือแม้แต่นัดพบปะสังสรรค์กันในร้านอาหารชื่อดังที่มีอยู่ทั่วไปตามห้างสรรพ สินค้า และในวันนี้ครอบครัวพิศาลมนตรีนัดกันออกมา เพื่อพาเจ้าตัวเล็กของครอบครัวมาดูหนังการ์ตูนเรื่องใหม่ ที่พึ่งเข้าฉายในวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งต้องยกความดีให้เลขาของวาทินที่จองตั๋วล่วงหน้าไว้ให้ เพราะวันนี้มีผู้ปกครองพาบุตรหลานและเหล่าวัยรุ่นมาดูหนังเรื่องนี้มาก จนตั๋วถูกจองเต็มทุกที่นั่ง

“คุณพ่อครับ” เด็กชายต้นกล้ากระคุกมือผู้เป็นบิดา เพื่อชี้ให้ดูขนมที่ตัวเองอยากจะกิน และกิ่งใบก็เข้าใจในทันทีว่าลูกชายตัวน้อยอยากกินป๊อบคอร์นที่กำลังส่งกลิ่น หอมอยู่ทั่วบริเวณในขณะนี้ “อยากทานขนมเหรอลูก เดี๋ยวนะ” บอกลูกให้รอก่อนที่จะหันไปถามน้องชาย

“ก้าน พี่จะพาหลานไปซื้อขนมนะ เรานัดเพื่อนไว้ตรงไหน”

“แถวหน้าโรงหนังนี่แหละครับพี่เดี๋ยวคงมา พี่ไปซื้อขนมเถอะครับผมจะไปซื้อน้ำให้เอง”

“ก็ดี เอาน้ำเปล่าให้หลานด้วยนะ อย่าซื้อน้ำหวานละเดี๋ยวฟันผุ”

“ครับ ครับ ทราบแล้วครับ” เด็กหนุ่มรับคำพี่ชายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เพราะรู้ดีว่าพี่ชายใส่ใจเรื่องสุขภาพของหลานชายตัวเล็กของเขามากขนาดไหน

“ไป ต้น พ่อพาไปซื้อหนม” ว่าพลางอุ้มลูกชายตัวน้อยขึ้นแนบอกไม่ยอมปล่อยให้เดินเองเนื่องจากวันนี้คน เยอะ เขากลัวจะพลัดหลงกับลูกหรืออาจเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นดังนั้นอุ้มไว้น่าจะ ปลอดภัยที่สุด

ในขณะที่ก้านใบกำลังต่อแถวซื้อน้ำอยู่นั้นก็มีเสียงเอ่ยทักดังขึ้นจากเบื้องหลัง

“มาดูหนังเหมือนกันรึ”

“คุณกัณฑ์” เรียกชื่ออีกฝ่ายเบาๆ

“ทำไม ตกใจมากเหรอที่เจอชั้น” เอ่ยถามเมื่ออีกฝ่ายดูท่าทางตกใจเสียเหลือเกินที่เจอเขา “ว่าแต่บังเอิญจังนะไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่ บอกมาตามตรงดีกว่าว่าแอบตามชั้นใช่มั๊ย ชั้นไม่ว่าอะไรหรอก” กัณฑ์แหย่อีกฝ่ายเล่น

“บ้า ใครเขาตามคุณมา ผมมากับครอบครัวต่างหาก”

“อ๋อเหรอ” ตอบยียวนกวนโมโห

และก่อนที่จะมีสงครามฝีปากกันไปมากกว่านี้ ก็ปรากฏร่างบอบบางของหญิงสาวเดินเข้าขัดจังหวะพอดี

“กัณฑ์ขาอยู่นี่เอง วตีหาคุณซะทั่วเลย”

“อ้าว วตี เสร็จแล้วเหรอผมกำลังรอซื้อน้ำให้คุณอยู่พอดี” หันไปพูดกับแฟนสาวอย่างเอาอกเอาใจ

“แหมขอบคุณค่ะ คุณน่ารักที่สุดเลย” ว่าแล้วก็เขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มสากของอีกฝ่ายอย่างไม่อายผู้คนเพื่อเป็นการขอบคุณ

“เอ่อ ผมขอตัวก่อนนะครับ” เสียงก้านใบดังขัดขึ้นเนื่องจากเห็นว่าร่างสูงไม่ได้มีธุระอะไรจะคุยกับเขา แถมยังทำเหมือนไม่เห็นว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นอีกคน

“เดี๋ยวซิ ฉันยังไม่ได้แนะนำให้รู้จักคุณวตีเลย” กัณฑ์รีบเรียกร่างบางไว้เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มกำลังจะเดินจากไป

“วตีครับนี่ก้านใบเลขาของผม”

“ส่วนนี่คือคุณวตี คนรักของฉัน นายเคยเจอแล้วนี่”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ร่างบางเอ่ยคำทักทายหญิงสาวไปตามมารยาท

“เช่นกันค่ะ” ยิ้มให้อีกฝ่ายน้อยๆพร้อมทั้งกอดเอวกัณฑ์ไว้ด้วยแขนทั้งสองข้าง

อมา วตีแสดงทีท่าเป็นเจ้าเจ้าของกัณฑ์เต็มที่ โดยที่หญิงสาวเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของร่าง สูงต่อหน้าเด็กหนุ่มร่างเล็กคนนี้ด้วย อาจเป็นเพราะตั้งแต่ที่ก้านใบเข้ามาทำหน้าที่เลขาแทนเหล่อน ชายหนุ่มก็มีท่าทีเปลี่ยนไป แถมยังชอบพูดถึงเลขาคนใหม่ให้ฟังบ่อยๆก็เป็นได้ ยิ่งมาเห็นก้านใบอย่างนี้ยิ่งประมาทไม่ได้ ก็ร่างเล็กที่สวมเสื้อเชิ้ตพอดีตัวกับกางเกงยีนส์ตัวใหญ่ ทำให้ดูมีเสน่ห์ไม่น้อย แถมหน้าตาผิวพรรณที่ผุดผาดนั้น ทำให้เจ้าหล่อนแอบนึกอิจฉาถึงความดึงดูดตามธรรมชาติของร่างเล็กอยู่ในใจ

“คุณก้านครับ ขอโทษครับ ผมมาสายไปหน่อย” เสียงของวาทินนั่นเองที่เป็นระฆังช่วยเด็กหนุ่มให้พ้นจากสภาวะอึดอัดอีกครั้ง

“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณวาทิน อีกตั้งยี่สิบนาทีกว่าหนังจะฉาย” เด็กหนุ่มหันไปให้ความสนใจกับผู้ที่พึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมาถึง

“อ้าวท่านรอง มาดูหนังเหมือนกันหรือครับ” วาทินทักทายท่านรองประธานบริษัทที่ยืนทำหน้าหงิกทันทีที่เห็นเขา

“ใช่ ขอตัวนะ” กัณฑ์เอ่ยเรียบๆแล้วเดินจากไปด้วยท่าทางหงุดหงิด หลังจากที่เห็นนายวาทิน แอบจับแขนเล็กของเลขาของเขาเพื่อแสดงความขอโทษ
……………………………………………………………………………………….

เสียง ประกาศเรียกผู้ชมที่มีตั๋วดูหนังการ์ตูนเรื่อง xxx รอบเวลา 13.00 น. ดังขึ้นทำให้กลุ่มคนมากมายที่มีที่นั่งในโรงภาพยนตร์แห่งนี้เริ่มเดินทยอย กันเข้ามา เพื่อนั่งประจำที่โดยมีแสงไฟสลัวที่โรงหนังเปิดไว้เป็นแหล่งแสงสว่าง

“เจอกันอีกแล้วนะ” เสียงห้าวทักเมื่อก้านใบหย่อนตัวลงนั่งเก้าอี้ที่ว่างอยู่

“จะ ไม่บังเอิญไปหน่อยหรือครับ ที่อุตส่าห์ได้ดูหนังเรื่องเดียวกัน รอบเดียวกันแถม ที่นั่งยังติดกันแบบนี้” เด็กหนุ่มประชดเข้าให้บ้างเมื่อมองเห็นคนที่นั่งข้างๆเขาถนัด

“นั่นสินะ จะว่าไปเลขาของนายวาทินนี่ก็ดีนะฉันไหว้วานให้จองตั๋วหนังให้สองใบดันได้ที่ข้างๆเธอพอดี”

“หึ บังเอิญจังนะครับ” เด็กหนุ่มเหน็บเข้าให้

จริงๆ แล้วก้านใบอยากนั่งใกล้กับหลานตัวน้อย แล้วให้วาทินมานั่งตรงนี้มากกว่า แต่พอดีเก้าอี้ตัวหน้ามีคนตัวสูงมานั่งอยู่ ทำให้บังเขาจนดูไม่ถนัด แม้ว่าที่นั่งจะเป็นสโลปก็ตาม เขาจึงต้องเปลี่ยนที่กับวาทิน เพราะชายหนุ่มสูงกว่าเขา ทำให้สามารถมองเห็นจอได้ไม่ลำบาก นี่ถ้าเขารู้ว่าข้างๆของที่นั่งตรงนี้เป็นที่ของกัณฑ์ละก็เขาจะไม่ย้ายมา เด็ดขาด

และในขณะที่โรงหนังเริ่มหรี่ไฟให้มืดลงอีก ตัวอย่างภาพยนตร์ต่างๆที่จะเข้ามาฉายในโปรแกรมหน้าเริ่มทยอยโลดแล่นออกมาสู่ สายตาผู้ชม เสียงของท่านรองประธานบริหารของโรงแรม Flora ก็ดังขึ้นเบาๆ

“ฉันขอเอาที่ท้าวแขนขึ้นนะ” กัณฑ์โน้มใบหน้ามากระซิบขออนุญาตกึ่งบังคับ

“คุณก็ไปเอาด้านแฟนคุณขึ้นสิ”

“ไม่ถนัด” ว่าพลางยกที่ท้าวแขนขึ้น แล้วยังขยับตัวเข้ามาชิดคนข้างๆมากขึ้นอีก

“ ฮึ ” ก้านใบได้แต่ทำเสียงฮึดฮัดเบาๆไม่กล้าโวยวายเนื่องจากเกรงใจคนอื่นๆที่กำลังดูหนังตัวอย่างอย่างตั้งใจ
....................

…………………..

....................

…………………..

หนัง การ์ตูนกำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ บางฉากบางตอนก็เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้อย่างดี เด็กชายต้นกล้าดูจะสนุกและตั้งใจดูการ์ตูนเรื่องโปรดมากเป็นพิเศษ แต่เพราะการ์ตูนเป็นซาวด์แทรกต์ ดังนั้นตาโตๆเจ้าหนูจึงต้องมองภาพไป ส่วนหูเล็กๆก็ต้องคอยฟังคำแปลที่คุณพ่อต้องช่วยอธิบายบางประโยคไปด้วย

ทาง ฝั่งก้านใบที่รับหน้าที่ถือถุงป๊อบคอร์นให้หลานก็กำลังกินข้าวโพดคั่วในมือ ด้วยความเพลิดเพลิน และยังอุตสาห์มีใจยื่นให้ชายหนุ่มที่นั่งชิดอยู่ข้างๆบ้าง ส่วนนายวาทินที่ชวนเด็กหนุ่มมาดูหนังนั้นหลับปุ๋ยไปแล้ว และในขณะที่ดูหนังกันเพลินๆอยู่นั้น

“อ๊ะ” ก้านใบอุทานเบาๆเมื่อรู้สึกว่านิ้วมือของเขาโดนอีกฝ่ายกัดและดูดไม่แรงนัก

“โอ๊ะ ขอโทษ นึกว่าป๊อบคอร์น” กัณฑ์ว่าอย่างนั้นแล้วจึงปล่อยมือเล็กๆลงเมื่อเจ้าของดึงกลับ

“บ้า มันจะเป็นป๊อบคอร์นไปได้ยังไง นิ้วคนนะ” เด็กหนุ่มเอ็ดเบาๆ

“เอา น่า อย่าเรื่องมากได้มั๊ย ขอโทษแล้วไง ไม่ได้นึกพิศวาสนิ้วเธอขึ้นมาหรอกนะแต่มันมืด” ชายหนุ่มพยายามเถียงข้างๆคูๆทำให้อีกคนเงียบลงและหันไปดูหนังต่อเหมือนไม่ สนใจเขาอีก แต่ถ้าโรงหนังสว่างกว่านี้อีกละก็จะได้เห็นแก้มขาวๆนั่นแดงเถือกทีเดียว ส่วนคู่กรณีก็แสร้งทำเป็นดูหนังต่อแต่ใจเอาแต่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อกี้

เมื่อครู่นี้เขายอมรับว่าตั้งใจทำเพราะเขาแทบไม่ดูหนังเลย หางตาคอยแต่จ้องปฏิกิริยาของคนที่นั่งข้างๆโดยไม่ได้สนใจอมาวตีซึ่งกำลัง หลับอยู่ เขาเห็นเด็กหนุ่มหยิบป๊อบคอร์นเข้าปากตรั้งแล้วครั้งเล่า และบางครั้งก็ดูดนิ้วเล็กๆของตัวเองเหมือนป๊อบคอร์นนั่นอร่อยนักหนามันทำให้ เขาอยากลองบ้าง ความคิดชั่ววูบก็ทำให้เขาดึงมือเล็กๆที่วางค้างอยู่ในกล่องป๊อบคอร์นมาดูด เล่นบ้าง โดยอาศัยจังหวะที่เจ้าตัวเผลอ แล้วก็อร่อยจริงๆเสียด้วย และแน่นอนว่าการมาดูหนังการ์ตูนวันนี้ของเขาไม่ใช่ความบังเอิญ เขาจงใจตามมา แต่ตามมาทำไม และเพื่ออะไรนั้น เขาหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้


ดู หนังกันไปได้ราวสองชั่วโมงไฟในโรงก็เริมสว่างมากขึ้น บ่งบอกให้ผู้ชมทราบว่าหนังฉายจบแล้ว และคนในโรงเริ่มทยอยกันเดินออกนอกทางประตูทางออกที่มีไฟสีแดงบอกตำแหน่งไว้
“วตี เดี๋ยวผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” กัณฑ์กล่าวกับหญิงสาว หลังจากเขาแอบได้ยินว่าครอบครัวที่นั่งอยู่ข้างๆ กำลังจะพาสมาชิกคนเล็กไปเข้าห้องน้ำ แถมยังโชคดีที่วาทินขอตัวกลับก่อนเพราะมีธุระเสียด้วย

“ด่ะ วตีก็ว่าจะไปเติมหน้าซะหน่อยเดี๋ยวเสร็จจากนี่แล้วเราไปฟังเพลงต่อกันนะคะ” หญิงสาวทำเสียงอ้อน

“สงสัยจะไม่ได้วตี ผมบังเอิญมีธุระต้องไปจัดการให้คุณพ่อตอนเย็นนี้พอดี”

“ว้า น่าเสียดายจังงั้นเอาไว้วันหลังก็ได้ค่ะ”

“OK เดี๋ยวผมมานะ”

“วันนี้คุณไม่ว่าง แต่คนอื่นอาจจะว่าง คงไม่ว่ากันนะคะ เผอิญฉันมันคนขี้เหงา”หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินจากไปแล้ว
……………………………………………………..

ภายในห้องน้ำชายของโรงภาพยนตร์ มีผู้ชายหลายช่วงอายุเข้ามาใช้บริการรวมทั้งครอบครัวพิศาลมนตรีด้วย

“มานี่ตัวเล็กพ่อพาไปฉี่ในห้องด้านในนะ” กิ่งใบดึงแขนลูกชายไว้ทันทีเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยทำท่าเหมือนจะปีนโถปัสสาวะ

“ทำไมผมยืนฉี่เหมือนคุณอากับคุณพ่อข้างนอกไม่ได้ละครับ” เจ้าตัวเล็กถามด้วยความสงสัย

“โถฉี่มันสูงลูก ต้นยังสูงไม่ถึงหรอกเอาไว้โตก่อนนะ แล้วค่อยยืนฉี่ข้างนอกนะครับ”

“แล้วคุณพ่ออุ้มผมฉี่ไม่ได้เหรอ” เจ้าตัวเล็กยังคงซักต่อไป

“ไม่ได้หรอกลูกเดี๋ยวมันจะเลอะนะ พ่อไม่ได้เอากางเกงมาให้ลูกเปลี่ยนนะครับ
มา ลูก อั้นฉี่นานๆไม่ดีนะเดี๋ยวปวดท้อง” บอกลูกอย่างตัดบทพร้อมทั้งอุ้มลูกน้อยขึ้นพาเดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้คุณอายืนปลดทุกอยู่ด้านนอกคนเดียว

“ว่าไงเจอกันอีกแล้ว พาหลานมาเข้าห้องน้ำเหรอ” เสียงที่ลอยมาทางด้านหลังทำเอาร่างบางสะดุ้งนิดๆ ‘จะเจอกันไปถึงไหนเนี่ย’ คิดอย่างหงุดหงิด

“ครับ” พร้อมกับรูดซิบกางเกงขึ้นเหมือนเดิม


“อ้าวไม่ฉี่แล้วเหรอ” ร่างสูงรีบพูดเมื่อเห็นกิริยาดังกล่าว

“เห็นจะไม่ละครับ มีคนคอยตามดูเหมือนโรคจิตแบบนี้ ผมฉี่ไม่ออก”

“หึ หึ โทษทีนะเผอิญอยากจะเข้าห้องน้ำเหมือนกัน ห้องน้ำนี่เธอเข้าได้คนเดียวหรือไง แล้วก็นะ ชั้นไม่ได้อยากจะดูของเด็ก ตัวเธอก็ไม่ได้โตขึ้นเท่าไหร่ ชั้นว่าตรงนั้นก็ยังไม่พัฒนาไปมากหรอก เคยเห็นมายังไงตอนนี้ก็คงไม่ต่างกัน” ดูถูกสุดๆ

“คุณ…..” ก้านใบพูดไม่ออกและไม่อยากจะเถียงเรื่องขนาดกับร่างสูง แต่เขาเป็นผู้ชายมาสบประมาทเรื่องนี้มันเกินไปแล้ว

ในขณะที่ก้านใบพยายามนึกคำพูดมาโต้ตอบอีกฝ่ายก็พอดีกับกิ่งใบพาเด็กชายต้นกล้าก้าวออกมาจากห้องด้านใน

“กัณฑ์ ใช่กัณฑ์หรือเปล่า”

“..................” มองคนที่พึ่งออกมาทักอย่างใช้ความคิดก่อนจะอุทานออกมา

“กิ่ง นายจริงๆด้วย ไม่เจอกันนาน เป็นไงบ้าง”

“ก็ดี นี่ลูกชายฉัน ต้นกล้าสวัสดีคุณอากัณฑ์ก่อนลูก” แนะนำบุตรชายให้รู้จัก

“ซาหวัดดีครับ” เจ้าตัวเล็กกล่าวสวัสดีชายหนุ่มอย่างว่าง่าย

“หวัดดีครับ” กัณฑ์มองเด็กที่กำลังพนมมือไหว้เขาอย่างมีมารยาท พร้อมกับยิ้มให้เล็กน้อย

“เป็นไง ก้านช่วยงานได้เยอะมั๊ย แล้วแกล้งอะไรน้องชั้นหรือเปล่า” กิ่งใบดักคอคู่อริเมื่อตอนเด็ก

ยังไม่ทันที่กัณฑ์จะตอบว่าอะไร เสียงของบุคคลที่กำลังถูกพาดพิงก็ดังแทรกขึ้นมา

“พี่ กิ่งกลับกันเถอะผมอยากกลับบ้านแล้ว” ร่างเล็กเร่งพี่ชายเนื่องจากไม่อยากให้กิ่งใบรู้เรื่องที่ทำงาน เขายังไม่อยากโดนพี่ชายบังคับให้ลาออก

“เดี๋ยว เอ่อพี่มีเรื่องจะคุยกับกัณฑ์นิดหนึ่ง” นายพาหลานไปรอข้างนอกก่อน แล้วส่งลูกชายให้น้องอุ้มเอาไว้

“เจอกันที่ทำงานนะก้าน” ชายหนุ่มกล่าวลากับคนที่อุ้มเด็กเดินผ่านเขาไปโดยไม่ล่ำลา

“ครับ” เด็กหนุ่มรับคำเรียบๆ

“ชั้นมีเรื่องหนึ่งอยากถามนาย” กิ่งใบพูดขึ้นหลังจากที่พวกเขาอยู่กันตามลำพังแล้ว

“ว่ามาเลย”

“น้องชายนายทำงานอยู่ที่ไหนเหรอ” กิ่งใบตัดสินใจถามออกไป

“ถาม ทำไม นายจะไปแกล้งเขาหรือไง บอกไว้ก่อนนะเฟ้ยว่าห้าม เรื่องตอนเด็กๆนะผ่านไปแล้ว ฉันไม่ติดใจและฉันก็เชื่อว่านายไม่ติดใจเหมือนกัน ไม่งั้นนายคงไม่ยอมให้ก้านมาทำงานกับชั้น แต่นายห้ามติดใจกับน้องชั้น” กัณฑ์ดักคออีกฝ่ายเช่นกัน

“เปล่า เปล่า ฉันแค่ เอ่อ แค่อยากรู้หนะ คือ ตามประสาคนเคยรู้จักเฉยๆน่า” ชายหนุ่มรีบออกตัว “ได้ข่าวว่าเป็นหมอฟันเลยคิดว่าจะพาต้นไปทำฟันเสียหน่อย” คิดข้อแก้ตัวได้อย่างกะทันหัน

“แน่นะ” กัณฑ์ถามอย่างไม่ค่อยเชื่อใจ

“แน่สิ”

“นี่นามบัตรของเจ้าการ์” หยิบนามบัตรของน้องชายออกมาจากกระเป๋าเงินส่งให้คนที่ทำตาเป็นประกายก่อนจะรับไปอย่างยินดี

“ขอบใจนายมาก แล้วเจอกัน”

“อือ บาย” ‘หึ เจ้ากิ่งมีแผนอะไรไม่รู้หละถ้าแกล้งน้องเขาละก็โดนดีแน่’ กัณฑ์คิดอกุศลไว้ก่อนตามประสาคนที่ชอบเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำเพื่อไปพบอมาวตีที่รออยู่ด้านนอก
…………………………………………………….........................................................
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 4 [update 3-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 03-11-2012 20:03:25
สลับคู่พี่น้องกันสินะ หุหุ
ติดตามกันต่อไป
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 4 [update 3-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: biwtiz ที่ 03-11-2012 22:00:47
น่าติดตามคะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 4 [update 3-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 03-11-2012 23:13:40
พระเอกซึน  แอบตามเขามาแล้วยังปากแข็งอีก
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 4 [update 3-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 04-11-2012 00:27:11
มันจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีชะนีติดสอยห้อยตามมาด้วย
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 4 [update 3-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 04-11-2012 02:35:52
 :impress2:

กัดนิ้ว เบาๆ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 4 [update 3-10-55]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 26-11-2012 17:54:07
ตอนที่ 5

บ้านกัณฑราชตอนนี้ เป็นเวลาอาหารเย็น ที่วันนี้มีสมาชิกของบ้านมาทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างไม่ได้เป็นมาเสีย นาน เนื่องจากบุตรชายคนโตพอเลิกงานก็ไม่เคยกลับบ้านจนกว่าจะเช้าหรือไม่ก็ไม่ กลับเลย อาศัยไปค้างที่ห้องชั้นบนสุดของโรงแรมแทน แต่วันนี้สงสัยหิมะจะตกในเมืองไทยที่บุตรชายคนโตกลับเข้าบ้านตั้งแต่บ่าย ทั้งที่เป็นวันเสาร์

“ไงเจ้ากัณฑ์ กลับบ้านเร็วนะวันนี้”

“แหมคุณพ่อ ผมก็อยากพักผ่อนเงียบๆที่บ้านเหมือนกันนะครับ” กัณฑ์เดินมานั่งประจำที่เพื่อทานข้าวพร้อมครอบครัว

“จะไปรู้หรือ ทุกทีเห็นแต่ขลุกอยู่กับยัยวตีนั่น” คุณศิวะประชดบุตรชาย

“………..” ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมาจากร่างสูงที่กำลังนั่งใช้ความคิดอยู่

“นี่ฉันถามแกตรงๆ แกจะเอายัยวตีเป็นเมียแน่เหรอ” ประมุขของบ้านถามด้วยความอยากรู้และเป็นห่วงในพฤติกรรมรักสนุกของลูกชาย

“นั่น สิ แม่ว่าไม่ดีมั้ง ดูท่าจะทำอะไรไม่เป็นสักอย่างเลยนะ หรือว่าไงการ์” คุณหญิงมารศรีเอ่ยขึ้นบ้างเนื่องจากหล่อนเป็นแม่ที่หวงลูกชายไม่แพ้ใคร และได้ยินกิติศัพท์ถึงความไม่เอาไหนของอมาวตีอยู่บ่อยครั้ง และท้ายประโยคยังหันไปขอความเห็นบุตรชายคนเล็กที่นั่งทานเข้าเงียบๆอยู่อีก ฝั่งหนึ่ง

“ผมไม่รู้สิครับ ปล่อยให้พี่กัณฑ์ ตัดสินใจเองเถอะครับคุณแม่”

“ตอนนี้ผมกำลังให้นักสืบติดตามดูพฤติกรรมของวตีอยู่ครับ” กัณฑ์เอ่ยแทรกขึ้นมาเพื่อบอกความคืบหน้าของเขากับอมาวตี

“นั่นไงฉันว่าแล้ว ว่าแกคบกับหล่อนได้ไม่นานหรอกเดี๋ยวก็เบื่อ” คุณศิวะตบขาตัวเองด้วยความชอบใจที่คำทำนายของตัวเองถูกเผง

“ผม ไม่ได้เบื่อนะครับ แค่หมู่นี้ผมสงสัยว่าวตีทำตัวแปลกๆ ผมเองก็เริ่มระแคะระคายมาบ้างแล้ว เพียงแต่ผมยังไม่มีคนใหม่ก็เลยยังไม่ทันทำอะไรให้มันเด็ดขาดลูกพ่อไม่โง่ให้ ใครมาสวมเขาได้ง่ายๆนะครับ” ตอบบิดาแบบเหมือนไม่แคร์อมาวตีเลยสักนิดทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่นานยังบอกว่า รักอมาวตีนักหนา


ในความคิดของกัณฑ์นั้นชายหนุ่มเห็นว่า ถึงเขาจะเคยคิดว่าเขารักอมาวตี แต่วันนี้เขาพึ่งเข้าใจว่ามันเป็นแค่ความผูกพันทางกายเท่านั้น ในเมื่ออมาวตีไม่ซื่อสัตย์กับเขา ถือว่าเหยียบย่ำศักดิ์ศรีเขาอย่างแรงซึ่งยอมไม่ได้ ดังนั้นเขาจะต้องทำอะไรให้มันเด็ดขาดไปเสียที อมาวตีจะได้รู้ว่าเขาไม่ใช่หมูในอวยที่จะโดนหลอกได้ง่ายๆ ถึงแม้จุดจบของความสัมพันธ์กับหญิงสาวมากมายที่ผ่านมาจะเหมือนกันแทบทุก ครั้งคือเขาเบื่อและก็เลิกรากันไป แต่เขาเชื่อว่าวันที่เขาพบคนที่เขารักจริงๆ เขาคงหยุดที่คนนั้นแน่นอน

“พูด อย่างนี้แสดงว่าพี่มีคนใหม่แล้วเหรอ ถึงเริ่มหาวิธีสลัดพี่วตีเขาหนะ” สมาชิกคนสุดท้องเอ่ยถามผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งเป็นคำถามที่บุพการีทั้งสองก็อยากรู้เช่นกัน

“ก็ไม่เชิง” ชายหนุ่มตอบพลางนึกไปถึงหน้าของเด็กหนุ่มหน้าหวานที่เป็นเลขาคนใหม่ของเขาได้ไม่นาน

“เอา หละจะคบใครก็ดูดีๆละกัน แกโตแล้วหวังว่าจะไม่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง แล้วเป็นไงตาก้าน น้องปรับตัวได้หรือยัง มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า” ผู้เป็นบิดายังเป็นห่วงลูกชายของเพื่อนสนิทที่เขาเป็นคนจัดการให้มาเป็นเลขา ของลูกชายตนเองเมื่อไม่นานมานี้

“ก็ดีครับพ่อ ยังไม่มีปากไม่มีเสียงเหมือนเดิม”

ชาย หนุ่มแขวะไปยังคนที่กำลังพาดพิงถึง เมื่อนึกถึงว่าเด็กหนุ่มคุยกับเขาเฉพาะเรื่องงานนั้น แต่ทีกับนายวาทินหรือคนอื่นๆก้านใบก็พูดคุยด้วยได้อย่างร่าเริง โดยที่เจ้าตัวลืมนึกไปว่าตัวเขาเองนั่นแหละที่นั่งปั้นหน้าไม่ยอมพูดจาดีๆ ด้วย แถมยังแกล้งร่างบางทุกครั้งที่มีโอกาส เป็นใครก็ไม่อยากยุ่งด้วยอยู่แล้ว

“ถ้างั้นก็ดี วันพุธนี้แกจะต้องไปดูงานการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะต้อนรับการประชุม xxx ที่โรงแรมของเราได้รับเกียรติให้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง พาน้องเขาไปด้วย” ศิวะกำชับงานสำคัญของโรงแรมให้บุตรชายคนโตทราบ

??????

“ครับพ่อ ผมได้รับรายงานแล้ว พ่อไม่ต้องห่วง”

“ดีแล้ว พ่อไว้ใจแก อย่าทำให้พ่อผิดหวังละอย่าลืมว่านี่เป็นงานสำคัญ”

“ครับ”
………………………………………………........................................................................

ปี๊น ปี๊น….. เสียงบีบแตรที่ดังอยู่หน้าบ้านพิศาลมนตรีในช่วงบ่ายของวันพุธดังขึ้น เพื่อบอกให้คนในบ้านรู้ว่าบัดนี้มีแขกมารอที่หน้าประตูใหญ่ของบ้าน

นาย ไหวคนสวนวิ่งมาเปิดประตูเลื่อนบานใหญ่ เพื่อให้คนที่พึ่งบีบแตรเมื่อสักครู่ขับรถเบนซ์สปอร์ตเปิดประทุนสีดำสนิท เข้ามาจอดในบริเวณบ้าน

“เชิญเลยตรับ”

“คุณก้านหละ” เสียงเข้มๆถามชายวัยกลางคนที่พึ่งมาเปิดประตูให้

“คุณก้านเก็บของอยู่ครับ เชิญคุณเข้าไปรอข้างในก่อนครับ”

กัณฑ์เดินเข้าไปยังตัวบ้านที่ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบและสวยงามเพื่อรอพบกับเลขาของเขา

“อากัณฑ์” เสียงใสๆของเจ้าตัวเล็กมาพร้อมกับร่างป้อมๆที่วิ่งเข้ามาหา

“ว่าไงต้น” ว่าพลางรับร่างเล็กๆเข้ามาในวงแขน

“อาก้านบอกว่าจะต้องไปต่างจังหวัดสองสามวันกับอากัณฑ์เหรอคับ”

“อือใช่ เราอยากไปเที่ยวด้วยหรือเปล่าไปกับอาก็ได้นะ”

“จิงๆ เหรอคับ ต้นไปด้วยได้จิงๆเหรอ”
“ได้ซี แต่ต้นต้องขออนุญาตคุณพ่อก่อนนะ”

ขณะที่เด็กชายต้นกล้ากำลังมีความหวังว่าจะได้ไปเที่ยวกับคุณอานั้น บุคคลที่พึ่งจะเดินลงบันไดมาก็เอ่ยขึ้นเสียก่อน

“เห็นทีจะไปไม่ได้นะต้น คุณพ่อบอกว่าพรุ่งนี้จะพาไปตรวจฟันไม่ใช่เหรอ”

ร่างบางที่กำลังเดินลงบันไดในชุดลำลองสบายๆพร้อมทั้งกระเป๋าเดินทางใบเล็กเอ่ยทำลายความหวังของหลานชายตัวน้อย

กัณฑ์ ยืนมองคนที่พึ่งเดินลงมาถึงตาไม่กระพริบ เนื่องจากคนตรงหน้าปล่อยผมให้ล้อมกรอบหน้าเล็กๆไว้ไม่ได้ใช้เจลจัดแต่งทรงผม เพื่อให้ดูภูมิฐานเหมือนอย่างทุกที ทำให้หน้าสวยนั้นหวานขึ้นอีกโข แถมเสื้อผ้าที่ใส่ยังทำให้ร่างเล็กดูสดใสสมวัยมากกว่าชุดทำงาน จนทำให้เขาใจเต้นผิดจังหวะอีกแล้ว

“จิงด้วยคับอาก้าน ว้า ผมอยากไปเที่ยวด้วยนี่นา” เด็กชายบนอุบ แก้มยุ้ยๆนั้นป่องออกมาอย่างเสียดาย

“เอา ไว้อาพาไปทีหลังนะครับ คราวนี้อาไปทำงาน เดี๋ยวก็กลับแล้ว” ก้านใบตอบหลานชายตัวน้อยไม่อยากให้งอแงจนเขาต้องใจอ่อน เขาไม่อยากพาหลานไปลำบาก เพราะตอนนี้เขาต้องไปทำงานคงหาเวลาให้เจ้าตัวเล็กยาก

“งั้น วันหลังถ้าต้นอยากไป อาจะเป็นไกด์ให้เลย” คนที่ยืนฟังอาหลานคุยกันอยู่เอ่ยอาสาอย่างจริงใจ เพราะรู้สึกถูกชะตากับเด็กชายต้นกล้าอย่างมาก ซึ่งค่อนข้างผิดวิสัยเขาพอสมควรโดยปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบเด็กสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะต้นกล้ามีหน้าตาที่ละม้ายคล้ายคลึงกับผู้เป็นอาที่เขาแอบติด ใจอยู่ก็เป็นได้
“จิงๆนะคับ เจ้าตัวเล็กร้องอย่างดีใจ”

“งั้น อาไปทำงานก่อนนะเดี๋ยวจะมืด” หอมแก้มนิ่มๆของหลานชายทั้งซ้ายขวาอย่างมันเขี้ยว

“อย่าลืมทำตัวดีๆกับคุณหมอฟันนะครับ” ร่างบางไม่วายกำชับหลานชายตัวน้อย ก่อนจะเดินตามร่างสูงไปที่รถซึ่งจอดไว้หน้าตัวบ้าน

“ค๊าบ” เด็กชายรับคำผู้เป็นอาอย่างว่าง่าย เนื่องจากคุณพ่อได้เล่าให้ฟังคร่าวๆถึงอาหมอฟันคนใหม่ของเขาแล้ว ทำให้อยากเจอเร็วๆ แถมคุณพ่อยังเตรียมแผนเวลาเจออาหมอฟันไว้ให้ด้วย แต่เขาไม่บอกอาก้านหรอกเอาไว้อาก้านกลับมาเดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟังดีกว่า อิ อิ
…………………………………………………..................................................................

ณ คลีนิทันตกรรมแห่งหนึ่งในย่านลาดพร้าว

“สวัสดีครับ ผมพาลูกมาทำฟันครับ” ชายหนุ่มบอกพนักงานต้อนรับที่นั่งอยู่ตรงหน้าเคาเตอร์

“ไม่ทราบว่ามีหมอประจำหรือเปล่าคะ”

“ไม่มีครับแต่มีคนแนะนำให้มาทำกับคุณหมอการัน”
หมอ การันที่ชายหนุ่มพูดถึงก็คือ การัน กัณฑราช หรือการ์ ซึ่งทำงานเป็นทัคแพทย์ที่สถานทันตกรรมแห่งนี้ ด้วยความที่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของครอบครัวจึงได้ขออนุญาตบุพการีมา เปิดคลินิกทำฟันเล็กๆของตัวเอง แต่ด้วยความที่เป็นคนมีความสามารถอัธยาสัยดีและไม่ถือตัวทำให้คนไข้ติดเร็ว เพียงเปิดคลินิกไม่นานก็มีคนไข้มาทำฟันมากมายตั้งแต่เด็กตัวเล็กยันผู้สูง อายุและมีหมอประจำคลินิกถึง 5 คน

“อ๋อ ได้ค่ะ เดี๋ยวเชิญนั่งรอสักครู่นะคะ คุณหมอพึ่งมาถึงกำลังเตรียมตัวอยู่ค่ะ”

“ครับ” เดินไปนั่งรอที่เก้าอี้แล้วเอาลุกนั่งตักรอเรียกชื่อเหมือนคนไข้คนอื่นๆ

ผ่าน ไป 10 นาที เจ้าตัวเล็กเริ่มงอแงอยากกลับบ้าน เนื่องจากอยากกลับไปเล่นหุ่นยนต์ตัวใหม่ที่พ่อพึ่งจะซื้อให้เต็มแก่ นั่งเฉยๆนานๆอย่างนี้ไม่ใช่วิสัยของเด็กชายต้นกล้าเลยสักนิด ร่างเล็กๆของเจ้าหนูเริ่มไต่ขึ้นมาตามตัวพ่อ แล้วใช้สองแขนเล็กเกี่ยวคอพ่อทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงไปบนแผ่นอกของบิดาที่ นั่งรออย่างอดทน เพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจ

“ว่าไงครับลูก เบื่อเหรอครับ เดี๋ยวก็ได้ตรวจแล้วนะ อดทนอีกนิด ถ้าต้นทำไม่ดื้อพ่อจะมาไปกินไอติมนะ” เอาของหวานเข้าล่อเพราะเด็กชายต้นกล้าชอบกินไอศกรีมเป็นที่สุด

“ไม่ เอา ผมจะกลับบ้าน พูดอยู่กับอกพ่อ เอาหัวเล็กๆถูไปตามตัวพ่อไปด้วย” เป็นภาพที่เรียกรอยยิ้มจากบรรดาคนไข้ที่มานั่งรอได้เป็นอย่างดี

“เด็ก ชายต้นกล้าค่ะ เชิญห้องหมายเลขสองนะคะ” เสียงพนักงานสาวทำให้ร่างสูงอมยิ้มขึ้นมาทีเดียว อีกไม่นานเขาจะได้เจอน้องการ์แล้ว อุ้มร่างเล็กที่กำลังโยเยขึ้นแนบตัว พาเดินเข้าห้องหมายเลขสองทันที
หลังจากที่เดินเข้าห้องไปเขาก็เห็น พยาบาลหนึ่งคนที่กำลังเตรียมน้ำบวนปากอยู่ และถัดไปอีกไม่ไกลก็เจอเข้ากับแผ่นหลังบางๆของ หมอฟันที่เขาคาดว่าน่าจะเป็นการันกำลังยืนหันหลังอ่านแฟ้มคนไข้อยู่

“เชิญน้องนั่งบนเก้าอี้เลยค่ะ” เสียงพยาบาลสาวแนะนำ

“ไม่เอา ผมกลัว พ่อครับผมกลัว” เด็กชายเริ่มงอแงอีกครั้งเมื่อเห็นเครื่องมือทำฟันมากมาย

“ไม่..”

“ไม่ ต้องกลัวนะครับ” เสียงใสที่ลอดผ่านหน้ากากผ้าที่ผิดปากและจมูกนั่นเอง ที่เอ่ยปลอบใจเจ้าตัวเล็กพร้อมกันกับเขา พร้อมกับหันมาให้เห็นตากลมโต คิ้วเรียวสวยที่โผล่พ้นหน้ากากผ้าขึ้นมา

แต่เพียงเห็นแค่นั้นกิ่งใบ ก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่า หมอฟันคนนี้คือน้องการ์ของเขา คนที่เขาไม่เคยลืมเลยมาตลอด และจากแววตาที่จ้องมองกลับมาทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายก็จำเขาได้เช่นกัน

“การ์” ชายหนุ่มอุทานเบาๆด้วยความยินดี หากแต่อีกฝ่ายทำเหมือนไม่สนใจเขา หันไปพูดคุยกับเจ้าตัวเล็กแทน

“ว่าไงครับ มาตรวจฟันเหรอ ไหนอ้าปากสิครับ เดี๋ยวหมอดูให้นะ” ทอดเสียงและแววตาอ่อนโยน รู้สึกถูกชะตากับเด็กตรงหน้ามากเป็นพิเศษ

เด็กชายต้นกล้าหันไปกอดพ่อแน่น ไม่ยอมทำตามคำพูดของอาหมอฟันง่ายๆ

“ต้นครับ อ้าปากให้อาหมอดูหน่อยลูก” กล่อมลูกพลางแกะมือเล็กป้อมที่อยู่รอบคอเขาไปด้วย
“ถ้า ผมอ้าปาก” อาหมอก็ต้องเอาผ้าปิดหน้าออกด้วย เด็กชายหมายถึงให้ถอดผ้าคลุมปากและจมูกออกเพราะมันทำให้เขากลัว โดยไม่รู้ว่าผู้เป็นพ่อนึกขอบคุณอยู่ในใจที่จะได้เห็นหน้าคุณหมอชัดๆเสียที

“ก็ได้ครับ”

กา รันต่อยๆปลดสายที่รัดผ้าปิดจมูกซึ่งมัดไว้อยู่ทางด้านหลังศรีสะช้าๆ เผยให้เห็นจมูกโด่ง ปากเรียวสวยเป็นรูปกระจับซับสีชมพูอ่อน และนวลแก้มขาวพร้อมทั้งลักยิ้มอันใหญ่ที่ประดับอยู่บนแก้มซ้าย ยิ่งเวลาพูดจะเผยให้เห็นเหล็กจัดฟันสีเงินเป็นกำแพงล้อมรอบฟันขาวทำให้คนตรง หน้ามีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด

“ว่าไง ไม่กลัวหมอแล้วนะ” ยังคงให้ความสนใจต้นกล้าอยู่ ทำเป็นมองไม่เห็นผู้เป็นพ่อของเด็กชายต้นกล้าที่บัดนี้อึ้งไปแล้ว

“อ้า” ในที่สุดเด็กชายก็อ้าปากกว้าง ยอมให้อาหมอตรวจโดยดี

.................

.................

..................

“เสร็จแล้วครับ” การันบอกผู้เป็นพ่อของเจ้าหนู เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเอาแต่จ้องเขา จนกระทั่งตรวจฟันเสร็จก็ไม่มีทีท่าว่าจะเลิกมอง
“เป เอ่อ เป็นยังไงบ้าง” เอ่ยคำพูดติดขัดขึ้นมาทันที เมื่อเห็นร่างบางมองตรงมาที่เขาโดยไม่หลบเหมือนเมื่อตอนแรกที่เจอกัน ซึ่งกิ่งใบค่อนข้างแปลกใจที่อีกฝ่ายดูไม่ค่อยแปลกใจที่เขาพาลูกมาหา เหมือนกับรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

“การขึ้นของฟันน้ำนมก็ปกติดีครับ ไม่มีฟันผุ”

“เอ่อ พี่หมายถึงการ์เป็นยังไงบ้าง อย่าบอกนะว่าจำพี่ไม่ได้” ร่างสูงดักคอ

“ก็ เรื่อยๆครับ แน่นอนว่าผมจำพี่ได้ครับ พี่กิ่ง” เน้นคำหลังเป็นพิเศษ ทำไมเขาจะจำคนที่แกล้งเขาให้ทั้งอาย ทั้งเจ็บเมื่อตอนเด็กๆไม่ได้ เขาพอรู้จากพี่ชายมาบ้างแล้ว ว่ากิ่งใบจะพาลูกชายมาทำฟันกับเขา เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเร็วปานนี้ แถมร่างสูงก็เปลี่ยนไปมากดูอ่อนโยนผิดกับเวลาที่เคยอยู่กับเขาลิบลับ แถมยังหน้าตาหล่อเหลาดูแข็งแรงบึกบึนจนเขาอายเมื่อนึกเทียบกับร่างกายตนเอง ไม่ว่าเมื่อไหร่เขายังมีรูปร่างที่เสียเปรียบคนตรงหน้าอยู่นั่นเอง

ยัง จำได้ว่าเมื่อตอนเด็กพี่กิ่งเคยโยนรังมดแดงใส่เขา ตอนนั้นมดกัดเขาทั้งตัวเจ็บมาก พอเขาร้องให้แล้วบอกว่าแสบช่วยเอามดออกจากตัวเขาให้ที ชายหนุ่มก็จับเขาแก้ผ้าโยนลงน้ำ บอกว่าเป็นการล้างพิษ ตอนนั้นเขาเกือบจมน้ำตาย แต่ก็อีกแหละชายคนนี้อีกเช่นเดียวกันที่กระโดดลงไปช่วยชีวิตเขาขึ้นมา ตอนนั้นเขาทั้งกลัวทั้งโกรธพี่กิ่งอย่างกับอะไร หลังๆมาก็คอยหลบหน้าทุกครั้งที่พี่กิ่งมาที่บ้าน และไม่ตามพี่ชายไปบ้านอาวิสุทธิ์เหมือนเคย และในที่สุดก็หนีไปเรียนเมืองนอก เมื่อเห็นว่าพี่กิ่งไม่เคยละความพยายามที่จะตามหาเขา และดูเหมือนว่าจะได้ผลชายหนุ่มไม่ติดต่อเขาอีกเลย แต่ดูวันนี้สิชายคนที่เขาหนีมาตลอดกลับมายืนอยู่ตรงหน้านี้เอง

“แล้ววันนี้เลิกงานกี่โมง” กิ่งใบถามอย่างเขินๆ

“ตอบไม่ได้ครับ แล้วแต่คนไข้ ถ้ามีน้อยก็เลิกไว ถ้ามากหน่อยก็เลิกช้าครับ
แต่ตอนนี้พี่ออกไปก่อนดีกว่า คนไข้คนอื่นรออยู่” พูดตัดบทเมื่อเห็นว่าร่างสูงไม่ขยับเสียที

กิ่งใบสะกิดลูกชายให้ดำเนินการตามแผนที่วางไว้ทันทีเมื่อเห็นว่าถึงเวลาแล้ว

“อาหมอคับ” เสียงเล็กๆเรียกการันให้หันมาสนใจตนอีกครั้ง

“ว่าไงครับคนเก่ง” ลูบเส้นผมนุ่มๆของเด็กชายไปด้วย

“คือว่า ผมขอเบอร์มือถืออาหมอหน่อยได้มั๊ยคับ”

“เอาไปทำไมตรับ” ร่างบางถามเด็กชายสงสัยว่าจะเอาเบอร์มือถือเขาไปทำไม อายุแค่นี้ไม่น่าจะใช้มือถือเป็น

“ก็เอาไว้เวลาปวดฟัน จะได้โทรมาปรึกษาได้ไงครับ” ท่องตามที่พ่อสอนให้พูดเป๊ะ

“อ้อ” เริ่มรู้อะไรบางอย่าง มุขตื้นๆทำไมเขาจะไม่รู้ ถ้ากับคนอื่นเขาก็จะบอกว่าขอโทษด้วยครับผมไม่มีโทรศัพท์มือถือไปเสียเลย แต่ว่าเขาไม่กล้าบอกเด็กชายต้นกล้าแบบนั้น ทำไงดีเกรงใจเด็กที่ไร้เดียงสาคนนี้ ในที่สุดก็ตกหลุมนายพรานเจ้าเล่ห์เข้าจนได้

จำใจหยิบกระดาษกับ ปากกามาจดเบอร์มือถือตัวเอง แต่น่าแปลกที่เขาเขียนเบอร์โทรเขาจริงๆให้ ทั้งๆที่จะมั่วเบอร์ให้ไปก็ได้แท้ๆ เพราะถึงยังไงเจ้าหนูก็ไม่ได้เป็นคนโทรหาเขาเองอยู่แล้ว หรือถ้าปวดฟันจริงๆก็มาหาเขาที่คลินิกก็ได้

“ขอบคุณคร๊าบ” เอ่ยเสียงใสรับกระดาษที่อาหมอส่งให้แล้วยื่นให้พ่อทันที เพราะต้องการอวดว่า ‘เห็นมั๊ยต้นขอเบอร์อาหมอให้พ่อได้ด้วยหละ’ การกระทำนั้นทำให้การันมองผู้เป็นพ่อของเจ้าหนูด้วยสายตารู้ทัน ทำให้กิ่งใบได้แต่ยิ้มแหะ แหะ ในการกับกระทำของลูกชาย

“พี่ไปก่อนนะ แล้วจะโทรหา เอ้ย ไม่ใช่ คือถ้าต้นปวดฟันแล้วจะโทรหานะ”

รีบอุ้มลูกชายออกจากห้องตรวจไปด้วยความเขิน ทิ้งให้หมอหนุ่มนั่งครุ่นคิดอะไรคนเดียวอีกสักพักก่อนจะมีคนไข้รายต่อไปเข้ามา
............................................................................ .......................................
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 5 [update 29-11-55]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 26-11-2012 18:13:48
แผนสูงนักนะคุณพี่ ฮ่าๆ
รออ่านต่อค่าา
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 5 [update 26-11-55]
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 25-12-2012 04:24:56
สนุกมากเลย
รอตัวเธอมาต่อ เค้าติดตาม นอนรอ นั่งรอ ตะแคงรออยู่ :z2:

พยายามเข้านะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้ o13
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 5 [update 26-11-55]
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 05-01-2013 15:48:09
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ
เหนหายเงียบไปเลย ><"
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 5 [update 26-11-55]
เริ่มหัวข้อโดย: KhunToOk ที่ 05-01-2013 18:34:10
 o18   รอตอนต่อไปจ้าาา
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 6 [update 5-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 05-01-2013 21:01:47
ตอนที่ 6

การเตรียมงานต้อนรับการประชุม xxx เป็นไปด้วยดี ทุกฝ่ายทำงานกันอย่างแข็งขันจนกระทั่งเกือบวันสุดท้ายที่เหลือเพียงเช็คความ เรียบร้อยเท่านั้น

“ทำไม ผมต้องย้ายไปนอนห้องเดียวกับคุณด้วยหละครับ” ถามคนที่ยืนอยู่หน้าประตูห้อง หลังจากได้รับโทรศัพท์แจ้งให้เปลี่ยนห้องจากพนักงานโรงแรม ว่าเขาต้องย้ายห้องนอนไปนอนร่วมห้องกับเจ้านายที่ตั้งป้อมเกลียดเขาตั้งแต่ การทำงานวันแรก

“ก็ห้องมันมีไม่พอ หน้านี้ hi–season นะ แล้วก็มีแขกวีไอพีมาพักพอดี เธอก็ต้องเสียสละห้องให้ลูกค้าสิ”

“งั้นผมไปนอนที่รีสอร์ทก็ได้ครับ”

“นี่ จะเรื่องมากไปทำไมห๊ะ รีสอร์ทมันอยู่ไกลโรงแรม กว่าจะมาถึงก็ไม่ต้องทำงานกันพอดี แล้วที่ห้องชั้นหนะก็มีห้องนอน 2 ห้องแยกกันอยู่แล้ว ไม่ได้นอนเตียงเดียวกันซะหน่อย ทำกลัวไปได้มีอะไรให้ดูนักหนา” ชายหนุ่มบ่นเบาๆ

“ก็ได้ครับ” ‘ช่วยไม่ได้แฮะ’ จนใจที่จะเถียงกัณฑ์ก็พูดถูก อีกอย่างเขาก็เป็นผู้ชายทำไมต้องกลัว? ที่สำคัญเขากลัวอะไร?

“เธอเอาของขึ้นไปเก็บก่อน เดี๋ยวชั้นไปสั่งงานพักหนึ่งเดี๋ยวไปกินข้าวเย็นกัน”

“ครับ”
...................................................................... ……………………………………………..

ปิ่ง ป่อง ปิ่งป่อง เสียงออดที่ดังอยู่หน้าห้องทำให้เด็กหนุ่มฉงน ‘กัณฑ์ก็มีคีย์การ์ดนี่นา’ เขาส่องตาแมวบนประตูแล้วค่อยโล่งใจที่เห็นคนที่ยืนอยู่หน้าห้อง

“สวัสดีครับคุณวาทิน” เด็กหนุ่มถามร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าประคูตามมารยาท

“สวัสดี ครับคุณก้าน ผมมาชวนคุณก้านไปว่ายน้ำยืดเส้นยืดสายนะครับ ทำงานติดกันมาหลายวันคงจะเหนื่อย” คนถามในชุดเสื้อเชิ้ต กางเกงขาสั้นมีผ้าขนหนูคล้องคอ เหมือนคนเตรียมไปออกกำลังกายชักชวนก้านใบออกไปว่ายน้ำ

“คงไม่ได้ หรอกครับ ผมรอคุณกัณฑ์ทานข้าวเย็น เกรงว่าจะขึ้นมาไม่ทันหนะครับ” ดูเวลาไปด้วย จริงๆนี่ก็เลยเวลานัดแล้ว แต่เด็กหนุ่มยังคงรอต่อไป

“คง ไม่ต้องรอแล้วครับคุณก้าน ผมว่าป่านนี้ท่านรองคงไปทานข้าวกับคุณดาวคู่ขาที่อยู่ที่นี่แล้วหละครับ” ใส่ไฟนายจ้างตัวเองเพื่อหวังทำคะแนน

“ทำไมคุณวาทินทราบละครับ” เด็กหนุ่มฝืนถามทั้งๆที่รู้สึกน้อยใจขึ้นมาทันที นี่กัณฑ์หลอกให้เขารอทานข้าว แต่ตัวเองไปเริงร่ากับสาวๆคู่ควงหรอกหรือ แต่วันที่ผ่านมาชายหนุ่มไม่เคยผิดนัดเขาเลยสักครั้ง เด็กหนุ่มครุ่นคิด

“แหม ท่านรองมาที่นี่ทีไรก็ต้องไปผ่อนคลายกับคุณดาวทุกทีอยู่แล้วหละครับ ใครๆก็รู้ ผมว่าคุณก้านไปว่ายน้ำกับผมดีกว่าแล้วผมจะพาไปทานอาหารอร่อยๆตอนเย็นนะครับ”

“เอ่อ.... ผม.....” เด็กหนุ่มยังอึกอัก ส่วนลึกในใจก็อยากรอชายหนุ่ม ด้วยหวังว่าอีกฝ่ายจะรักษาสัญญา แต่เมื่อนึกถึงว่านี่ก็ผ่านไปสองชั่วโมงกว่าแล้ว ก็ยังไม่เห็นวี่แววของชายหนุ่มเลย และไม่มีการติดต่อกลับมาด้วยมันทำให้เขาเชื่อคำพูดของวาทินเกือบร้อย เปอร์เซ็นต์ อีกอย่างรออยู่ในห้องอย่างเดียวเขาก็เบื่อ นึกอยากยืดเส้นยืดสายตามที่ชายหนุ่มบอกบ้าง

“งั้นคุณรอผมแป๊บหนึ่งนะครับ ผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บเดียว.”

“ครับ” วาทินคำนวณหาโอกาสให้ตัวเองอยู่ในใจ เขายอมรับว่าหลงรักเด็กหนุ่มหน้าหวานเลขาท่านรองอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ดังนั้นเมื่อมีโอกาสเขาต้องรีบทำให้ร่างบางเป็นของเขาโดยไวให้ได้
…………………………………………………… ……………………………….

ที่ สระว่ายน้ำของโรงแรม บัดนี้คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ บ้างก็ใส่ชุดว่ายน้ำสีสันละลานตา บางคนหุ่นดีก็ใส่บีกินี่ตัวจิ๋วเดินไปเดินมาทำให้ชายหนุ่มแถวนั้นน้ำลายหก เล่น แต่จุดสนใจของคนในบริเวณสระว่ายน้ำกลับเป็นเด็กหนุ่มร่างบางในชุดกางเกงว่าย น้ำตัวเล็กที่แหวกว่ายอยู่ในสระ ขาเรียวเล็กขาวเนียนตีน้ำไปมาอย่างสนุกสนาน โดยไม่ได้สังเกตเห็นสายตาของคนรอบข้างที่แอบมองร่างกายของเขาจนตาแทบจะถลน ออกมาทีเดียว ไม่เว้นแม้แต่นายวาทินที่แทบระงับอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ร่างนั้นช่างบอบบาง และกระตุ้นอารมณ์เขายิ่งนักไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่หุ่นของผู้ชาย และในขณะที่เขาแอบมองร่างบางดำผุดดำว่ายอย่างสนุกสนานอยู่นั้นก็ได้ยินเสียง เหี้ยมๆดังขึ้นไม่ไกลจากเขานัก

“ก้านขึ้นมาจากน้ำเดี๋ยวนี้นะ” กัณฑ์นั่นเองที่เป็นเจ้าของเสียงห้วนเมื่อครู่ หน้าคม ถมึงทึงมองมาที่เขากับก้านใบราวกับจะฉีกเลือดฉีกเนื้อ ทำให้เขาคอแห้งขึ้นมาทันที เมื่อหันไปมองเด็กหนุ่มก็เห็นสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน

“ทำไมผมต้องขึ้นด้วย ผมไม่ขึ้น”

เด็ก หนุ่มตอบกลับทำท่าจะว่ายห่างออกไป และไม่ทันได้มีใครตั้งตัวร่างสูงก็กระโจนลงน้ำมาคว้าเอาเอวร่างเล็กขึ้นพาด บ่าแล้วพาขึ้นจากน้ำ โดยไม่ลืมหยิบผ้าเช็ดตัวที่วางอยู่บนเก้าอี้มาคลุมร่างเล็กๆนั่นอย่างโมโห ทิ้งให้นายวาทินอึ้งอยู่กับที่ทำอะไรไม่ถูกท่ามกลางสายตาของคนนับสิบที่มอง มาที่เขาเป็นจุดเดียว

“เฮ้อ อดอีกแล้ว” มองตาละห้อยไปตามทิศที่ก้านใบถูกฉุดขึ้นไป
…………………………………………………….. …………………………………..

“ปล่อย ปล่อยนะ คนบ้า บอกว่าให้ปล่อย ไม่ได้ยินหรือไง” ร่างเล็กๆทั้งทุบทั้งดิ้นอยู่บ่นบ่าแข็งๆของร่างสูงที่แบกเขาเดินจ้ำ อ้าวกลับมาที่ห้อง

“หยุดดิ้นซะที แล้วก็เลิกทุบได้แล้วเดี๋ยวก็ตีให้มั่งหรอก”

“ก็ปล่อยซิ คุณมีสิทธ์อะไรมาทำกับผมอย่างนี้” ว่าพลางทุบอีกฝ่ายอย่างไม่กลัวคำขู่นั่นสักนิด

เพี๊ยะ… เสียงฝ่ามือหนาๆกระแทกเข้ากับสะโพกมนอย่างแรง ทำให้อีกฝ่ายน้ำตาคลอเพราะความเจ็บขึ้นมาทันที

“เป็นไงเงียบได้แล้วเหรอ ไม่โวยวายต่อละ หุบปากทำไมห๊า” ชายหนุ่มตวาดเมื่อรับรู้ถึงอาการนิ่งเงียบของคนที่อยู่บนบ่าข้างหนึ่งของเขา

..........................

..........................

“คุณเป็นบ้าอะไรขึ้นมา” เด็กหนุ่มแหวใส่อีกฝ่ายเมื่อกลับถึงห้องแล้ว และชายหนุ่มก็โยนเขาขึ้นไปบนเตียงโดยไม่พูดอะไรซักคำ

“ทำไมไม่รอฉันกินข้าวเย็น แล้วไปเล่นน้ำในชุดกางเกงในตัวเดียวนี่อยากมีผัวนักหรือไง”

“คุณจะบ้าเหรอ นี่เป็นกางเกงว่ายน้ำ แล้วผมก็เป็นผู้ชายทำไมจะต้องทำอะไรทุเรศๆ อย่างที่คุณว่าด้วย คุณดูถูกผมมากไปแล้วนะ”

“ดู ถูกเหรอ เธอเห็นสายตาของผู้ชายวิปริตที่มันมองเธอบ้างมั๊ย ตามันแถบจะถลนออกมาอยู่แล้ว อ๋อนี่คงกะอ่อยเหยื่อตั้งแต่แรกอยู่แล้วละสิ” อารมณ์โกรธเท่านั้นผลักดันให้เขาพูดคำทำร้ายจิตใจอย่างนี้

ฉาด เสียงฝ่ามือเล็กกระทบบนแก้มสาก เสียงของมันบ่งบอกว่าเจ้าตัวไม่ได้ออมแรงสักนิด

“คุณดูถูกผม” ร่างเล็กต่อว่าด้วยน้ำเสียงสั่นๆทั้งอายทั้งโกรธ ที่โดนชายหนุ่มปรามาสเช่นนี้

“ไม่ คิดว่ารุนแรงไปหน่อยเหรอฉันแค่พูดตามสิ่งที่เห็น แต่เธอตบฉันในแบบที่ใครไม่กล้าทำมาก่อนเลยนะ” ชายหนุ่มกล่าวเหี้ยมๆเขาชักโมโหขึ้นมาอีกแล้วที่อีกฝ่ายกล้าตบเขา

“แค่ นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ จำไว้นะว่าผมมาทำงานเป็นเลขาไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ใคร และชีวิตเป็นของผม ผมพอใจจะทำอะไรก็ได้” เด็กหนุ่มตะเบ็งเสียงอย่างโกรธจัด

“ฉันจะจำเอาไว้ก็ได้แต่ก่อนอื่นฉันจะทำให้เธอรู้ว่าเธอคิดผิดที่ตบฉันเมื่อกี้”

กัณฑ์ไม่พูดเปล่า ผลักร่างเล็กลงไปนอนบนเตียง แล้วใช้ร่างกายสูงใหญ่ของตนเองทาบทับเด็กหนุ่มทั้งตัว

“ปล่อยนะ” ร่างเล็กตะโกนอย่างตกใจ

อื้อ ร่างบางส่งเสียงประท้วงเมื่อริมฝีปากเล็กๆของเขาโดนริมฝีปากบางของอีกฝ่าย รุกรานไม่หยุด กัณฑ์บดจูบลงมาอย่างหนักหน่วงทั้งกัดทั้งดูดเม้มริมฝีปากเล็กๆนั่นอย่างลืม ตัวไปกับความนุ่มหยุ่นและหอมหวาน ลิ้นร้อนๆฉกกัดลิ้นนุ่มราวกับของหวานชั้นเลิศ

“อย่า...” เสียงเล็กๆครางอย่างสิ้นหวังเมื่ออีกฝ่ายปล่อยริมฝีปากเขาให้เป็นอิสระ แต่ใบหน้าและริมฝีปากนั้นยังไม่ได้ถอนออกไป เพียงแต่เปลี่ยนเป้าหมายไปทั่วใบหน้าเล็ก ใบหูบาง ริมฝีปากของร่างสูงขบเม้มตามลำคอเนียน มือหยาบลูบโลมผิวเนื้ออย่างเผลอไผล อีกข้างก็รวบข้อมือเล็กๆไว้ไม่ให้ต่อต้านเขาได้ เนิ่นนานในความรู้สึกของก้านใบที่ตอนนี้หมดแรงต่อต้านไปแล้ว น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลออกจากตากลมโตเป็นทางเมื่อไม่เห็นทางรอด หวังเพียงว่าน้ำตาจะทำให้ชายหนุ่มสงสารและมีสติกลับคืนมา แต่เด็กหนุ่มยังไม่รู้ ร่างข้างหน้าที่กำลังรุกรานเขานั้น ไล้เลียน้ำตาของเขาราวกับผีเสื้อดูดน้ำหวาน ผ้าเช็ดตัวที่ชายหนุ่มคลุมตัวเขาไว้ ถูกปลดออกอย่างช้าๆ จมูกและลิ้นร้อนๆสำรวจเนื้อตัวของเขาทุกตารางนิ้ว ไม่เว้นแม้เม็ดเล็กๆสีชมพูที่ประดับอยู่บนอกขาวทั้งสองข้าง ชายหนุ่มทั้งขยำ และดูดเม้มอย่างหิวกระหายราวกับสัตว์ป่าจนร่างๆเล็กๆนั้นเจ็บไปหมด

“อย่า… พี่กัณฑ์…พี่กัณฑ์.. ปล่อยก้านไป….ก้านกลัว….พี่กัณฑ์ได้โปรด ปล่อยก้าน ฮือ.. ฮือ....” เด็กหนุ่มวอนขอกระท่อนกระแท่นและร้องไห้อย่างไม่อายเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าไม่ มีแววว่าจะหยุดได้เลย

และเสียงวิงวอนจากปากเล็กๆนั่นก็เริ่มได้ผล เมื่อชายหนุ่มหยุดการกระทำทั้งหมด แล้วค่อยๆดึงผ้าห่มมาคลุมตัวให้ร่างเล็ก กัณฑ์ใจหายเมื่อเงยมองหน้าก้านใบชัดๆ บัดนี้ขอบตากลมทั้งสองข้างบวมช้ำ บ่งบอกว่าเวลาไม่กี่นาทีนี้เด็กหนุ่มร้องไห้มากแค่ไหน ริมฝีปากเล็กที่แดงจนห้อเลือด ที่ผิวอ่อนๆบริเวณขอบๆริมฝีปาก มีรอยฟันเขาเต็มไปหมด ตามลำคอและแผ่นอกปรากฏรอยแดงเป็นจ้ำๆ เด็กหนุ่มคงเจ็บไม่น้อยเลย นี่ถ้าก้านใบไม่เรียกชื่อเขาเหมือนตอนที่เคยเรียกเขาตอนยังเป็นเด็กๆ เขาคงขาดสติไปแล้ว

“ฉันขอโทษ ชายหนุ่มกระซิบที่ข้างหูเล็ก ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

กัณฑ์ จูบหน้าผากเล็กเบาๆก่อนลุกขึ้นยืนระงับอารมณ์ ส่วนก้านใบนั้นได้แค่มองตามอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ ชายหนุ่มเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันรู้แต่ว่าครั้งนี้เขาหงุดหงิดกับภาพ ที่เห็นที่สระน้ำเป็นอย่างมาก สายตาของเสือหิวที่เขาเห็นแทบทำให้เขาสติหลุด นี่ถ้าเขาไม่ได้บังเอิญได้ยินพนักงานโรงแรมชักชวนกันไปดูเด็กหนุ่มคนหนึ่งใน ชุดว่ายน้ำละก็ ป่านนี้ร่างตรงหน้าขาคงไม่เอ๊ะใจยังคงทำงานต่อไปแน่ๆ ส่วนก้านใบคงโดนโลมไล้ทางสายตาไปไม่รู้เท่าไหร่แล้วซึ่งเขายอมไม่ได้

“ไป ล้างหน้าล้างตาซะแล้วแต่งตัวให้เรียบร้อย เดี๋ยวลงไปกินข้าวพร้อมกัน ฉันจะรอข้างนอก” ชายหนุ่มออกคำสั่งแกล้งมองไม่เห็นสายตาที่เต็มไปด้วยคำตัดพ้อนั้น

“อ้อ แล้วทีหน้าทีหลังห้ามไปว่ายน้ำในสระรวมอีก ถ้าอยากจะว่ายไปว่ายในสระส่วนตัวของฉันและที่สำคัญต้องไปกับฉันเท่านั้น” ออกคำสั่งอย่างเอาแต่ใจอีกครั้ง “อ๊ะ อ๊ะ อย่าถามแล้วก็ห้ามเถียง นี่เป็นคำสั่ง ถ้าฝ่าฝืน รับรองว่าต่อให้เธออ้อนวอนยังไงฉันก็จะไม่หยุด” ชายหนุ่มดักคออีกฝ่ายเมื่อเห็นทีท่าที่จะคัดค้านคำพูดของเขา

“คน บ้า” เด็กหนุ่มร้องขึ้นเมื่อประตูปิดลง ชายหนุ่มออกไปแล้ว เมื่อกี้กัณฑ์จูบเขา จูบแรกของเขาด้วย ทำไม ทำไม ทำไม มีแต่คำว่าทำไมอยู่เต็มหัวเขาไปหมด แต่ไม่มีเวลามาคิดต่อแล้วเขาต้องรีบออกไปแล้ว เดี๋ยวชายหนุ่มโมโหขึ้นมาแล้วจะลำบาก เด็กหนุ่มคิดซึ่งเป็นข้อสรุปเดียวที่หาได้ในวันนี้ ตอนนี้เขาไม่อยากคิดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ไม่คิดแท้กระทั่งว่าทำไมเขาถึงไม่โกรธที่ชายหนุ่มเอาแต่ใจเช่นนี้ ทั้งๆเมื่อก่อนถ้าใครมีท่าทีที่จะล่วงเกินเขา เขาแทบจะไม่คุยด้วยเลยด้วยซ้ำไป

“เธอนี่ก็กินเยอะเหมือนกันนะ แต่ทำไมไม่เห็นอ้วนเลย” ชายหนุ่มเอ่ยกับก้านใบหลังจากที่พากันกินอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรมจนอิ่ม แปล้ทั้งคู่

“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ” เด็กหนุ่มตอบแบบแกนๆเพราะรู้สึกว่าวันนี้ชายหนุ่มดูอารมณ์แปรปรวนเหลือเกิน ถ้าจะตอบว่าก็วันนี้ผมรอคุณกินข้าวจนท้องกิ่วก็เลยหิวมากกินได้เยอะก็ไม่รู้ ว่าคุณเจ้านายจะผีเข้าหรือเปล่าสู้ตอบแบบนี้ดีกว่า

“พรุ่งนี้เจอกันตอนแปดโมงเช้านะ เดี๋ยวออกไปพร้อมกัน” ชายหนุ่มสั่งเมื่อมาถึงห้องพักของตัวเองก่อนที่จะแยกเข้าห้องนอนของตัวเองไป

ฝั่งก้านใบเมื่อเข้าห้องได้ก็ล้มตัวนอนบนเตียงนุ่ม พลางคิดเรื่องต่างๆไปด้วย

“เฮ้อ เหนื่อยจัง”

หลัง จากที่ชายหนุ่มล่วงเกินเขานั้น ท่าทีของกัณฑ์ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูจะเอาใจเขามากขึ้นแล้วที่สำคัญยังแอบมองเขาด้วยสายตาแปลกๆอีกด้วย ‘หึ มีแผนอะไรหรือเปล่าเนี่ย’ เด็กหนุ่มยังระแวงอีกฝ่าย เพราะไม่คิดว่าคนอย่างกัณฑ์จะเปลี่ยนท่าทีกับคนที่เกลียดได้ง่ายๆ แต่ช่างเถอะวันนี้เหนื่อยมากแล้วพรุ่งนี้ค่อยคิด อาบน้ำดีกว่า

ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูที่ดังอยู่ข้างหน้าห้อง ทำให้เด็กหนุ่มต้องละมือจากการเช็ดผมหลังจากที่แช่น้ำอุ่นจนสบายตัวและสระผม เรียบร้อยแล้วแล้ว

“ครับ” เปิดประตูเล็กน้อย เห็นร่างสูงในชุดนอนกำลังถือหมอนกับผ้าห่มยืนอยู่หน้าห้อง

“แอร์ ห้องฉันเสีย เลยว่าจะมาขอนอนด้วยหวังว่าคงจะมีน้ำใจ” ชายหนุ่มกล่าวจบก็เดินผ่านร่างบางที่กำลังจะปฏิเสธไปนอนบนเตียงนุ่มอย่าง สบายใจ

“เอ่อ งั้นผมไปนอนห้องคุณก็ได้ครับ ผมไม่ร้อน” ว่าแล้วก็เดินไปหยิบหมอนกับผ้าห่มของตัวเองจะไปนอนอีกห้องหนึ่ง

“นี่” ชายหนุ่มเรียกพร้อมกับคว้าข้อมือเล็กไว้ “รังเกียจกันขนาดนั้นเลยหรือไง” ถามด้วยสีหน้าโมโหที่ไม่ได้ดั่งใจ

“เปล่าครับ ผมแค่ไม่ชินกับการนอนร่วมห้องกับคนอื่น” เด็กหนุ่มว่าอย่างนั้นแล้วพยายามดึงข้อมือของตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุมไปด้วย

“งั้น ก็ชินซะ” ดึงร่างเล็กให้ลงมานอนบนเตียงด้วยกันจนได้ “อย่าเรื่องมากวันพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า นอนซะที” ชายหนุ่มออกคำสั่งเอาแต่ใจเป็นครั้งที่ร้อย แถมยังใช้แขนหนักๆนั่นทาบตัวก้านใบไว้ไม่ให้ดิ้นหนีไปไหนอีกด้วย “อ้อแล้วก็อย่าคิดจะลักหลับฉันเพราะฉันรู้สึกตัวไวถ้าอยากก็บอกดีๆ บางทีฉันอาจจะใจดีก็ได้นะ” แล้วก็เงียบเสียงไปปล่อยให้อีกฝ่ายโมโหกับคำทิ้งท้ายและรอยยิ้มกวนๆนั่น อย่างทำอะไรไม่ได้ ฮึดฮัดอยู่พักใหญ่แล้วก็หลับตามอีกฝ่ายไปอย่างง่ายดาย ด้วยความเพลียโดยไม่เห็นรอยยิ้มอย่างสมใจจากร่างสูงที่นอนข้างๆ
……………………………………………………

แสงแดดอ่อนๆของเช้าวันใหม่ส่องผ่านผ้าม่านสีขาวลอดเข้ามายังห้องนอนที่มีร่างสองร่างนอนเคียงกันอยู่

“อืม เช้าแล้วเหรอเนี่ย” ร่างสูงของกัณฑ์ขยับตัวก่อน เหลียวมองคนข้างๆที่นอนหันหลังหลับสนิทอยู่ กลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างในอ้อมกอดทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะดอมดมกลิ่นหอมจางๆนั้น อย่างลืมตัว

ชายหนุ่มฝังจมูกโด่งลงไปตามหลังคอ ไต่ไปเรื่อยๆตามซอกคอ มือข้างหนึ่งดึงคอเสื้อให้ตกลงไปที่ไหล่บาง เพื่อจะสูดดมกลิ่นกายหอมกรุ่นให้มากขึ้น ทำให้คนที่เคยนอนนิ่งนั้นตัวแข็งขึ้นมาจนคนที่กำลังรุกรานอยู่รู้สึก จึงพลิกให้คนที่พึ่งรู้สึกตัวหันมาเผชิญหน้ากับเขา

“คุณกะ...”

ร่าง สูงใช้นิ้วเรียวปิดปากร่างที่กำลังจะประท้วงไว้ แล้วใช้สายตาคมจ้องมองใบหน้าหวาน พลางก้มลงช้าๆ และเหมือนมีมนต์สะกดอยู่ในสายตานั้น ก้านใบปิดเปลือกตาลงช้าๆ ริมฝีปากบางเผยอเล็กน้อยรับการรุกรานจากชายหนุ่มอย่างเต็มใจเป็นครั้งแรก จูบอ่อนโยนที่สุดที่กัณฑ์มอบให้ทำให้เขาลืมเรื่องขัดข้องหมองใจที่มีต่อชาย หนุ่มไปชั่วคราว ลิ้นอุ่นๆเกี่ยวพันกันอย่างนุ่มนวลแลกความหวานของปลายลิ้นจนกระทั่ง

กริ้ง กริ้ง เสียงโทรศัพท์นั่นเองที่ดังขัดจังหวะคนทั้งคู่ กัณฑ์ผละออกอย่างอ้อยอิ่ง มองโทรศัพท์เจ้ากรรมอย่างโมโห ส่วนก้านใบรีบลุกขึ้นจากเตียงเข้าไปยืนหน้าแดงในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว

เมื่อกี้ เขาเป็นอะไร ทำไมยอมให้อีกฝ่ายจูบโดยไม่ขัดขืนเลย แล้วทำไมกัณฑ์ถึงได้เปลี่ยนท่าทีได้มากขนาดนั้น ความอ่อนโยนที่เขาไม่เคยสัมผัส ความอบอุ่นที่เขาแสวงหาจากอีกฝ่าย เมื่อกี้เขาคิดว่าได้มาแล้ว แต่ยังไงก็ไม่เข้าใจ หรือว่าจะเป็นธรรมชาติของผู้ชายในตอนเช้าที่จะหวั่นไหวมากกว่าปกติ หรือว่าอีกฝ่ายเริ่มเห็นใจเขาขึ้นมาบ้างแล้ว ‘โอ๊ย ยิ่งคิดยิ่งสับสน’ เปิดน้ำเย็นๆราดตัวเพื่อดับความฟุ้งซ่านของตัวเอง

ทางฝ่ายกัณฑ์นั้นรับโทรศัพท์อย่างโมโห

“ฮัลโล”

“กัณฑ์ขา วตีนะคะคุณอยู่ไหนค่ะ วตีคิดถึงคุณนะ ทำไมหายไปเลยค่ะ”

“ผมอยู่โรงแรมที่ต่างจังหวัดมาทำงาน แค่นี้ก่อนนะผมรีบไปทำงาน”

“เดี๋ยว ซิค่ะ พึ่งได้คุยเอง คุณไม่เคยหายไปนานอย่างนี้เลยนะคะ หรือคุณมีคนอื่น วตีไม่ยอมนะคะ” หญิงสาวพูดเป็นชุดราวกับกลัวว่าจะมีคนมาแย่งพูด

“เอาหละ เดี๋ยวผมกลับไปกรุงเทพฯ แล้วจะไปหานะผมก็กำลังมีเรื่องจะคุยกับคุณเหมือนกัน”

“จริงเหรอค่ะ แหม......”

ตู๊ดดดดดดดดดดดดดดด........ กัณฑ์ตัดสายไปแล้วทำให้อมาวตีแทบคลั่ง หล่อนเริ่มมีลางสังหรณ์ว่าชายหนุ่มกำลังเปลี่ยนไป ใครกันนะที่ทำให้ชายหนุ่มเอาใจออกห่างเขามากขนาดนี้ คิดอย่างเคียดแค้น
...

ขออภัยที่ลงช้าค่ะ
จริงๆ เนื้อเรื่องจบแล้ว กะจะลงสักวันเว้นวัน แต่ด้วยความมึนงงเลยลืม แอร๊ยยยยยย
 :z10:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 6 [update 5-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 05-01-2013 21:20:38
จิ้มทะลุพี่แป๋มมม
เอามาลงทุกวันเลยหลังจากนี้ 555
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 6 [update 5-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 05-01-2013 21:31:06
ลงทุกวันเลยได้ไหม แฮ่ :impress2:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 6 [update 5-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 05-01-2013 22:17:26
ต้องมาลงทุกวันแล้วล่ะค่ะ เพราะคนอ่านลืมจนต้องกลับไปอ่านใหม่อีกรอบ :o8:
รอตอนต่อไปค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 6 [update 5-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 05-01-2013 22:46:39
เริ่มหลงน้องก้านแล้วใช่ไหมละพี่กัณฑ์ คิคิ
แล้วยายวตีจะโทรมาทำไมตอนที่เค้ากำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มเนี้ย ><"
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 6 [update 5-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 05-01-2013 22:53:19
ก้านอย่าพึ่งเสียตัวไวนะลูก
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 6 [update 5-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 06-01-2013 00:10:22
 :L2: ชอบเรื่องนี้มากครับ...ขอบคุณครับที่เอามาลงให้ได้อ่าน
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 6 [update 5-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: sbeam14 ที่ 06-01-2013 00:26:09
เห้ย!!!!!  :a5:อย่าลงวันเว้นวันดิ๊!!!!! :z3:

เนื้อเรื่องจบแล้ว ก็ลงวันเดียวรวดไม่ได้หรอ :monkeysad:
 ลงไปสัก3/4ของเรื่องก็ได้

เห็นนิยายเรื่องนี้กำลังจะตีพิมพ์แล้วปิดรอบจองวันที่10นี้แล้ว :angry2:
คนอ่านอย่างเราจะได้ตัดสืนใจถูกว่าควรไปจองไปโอน ไปสอยมาไหม~~~ :impress2:

เนื้อเรื้องกำลังสนุก อ่านถึงตอนที่6ก็ลังเลแล้วน่ะ
มาต่อให้เยอะๆตามที่แอดมินที่สำนักพิมพ์เค้าว่าไว้ก่อน
ก่อนเราจะไปจิ้มจอง



ป.ล. ที่จะตีพิมพ์ไปนี้มีตอนพิเศษด้วยเปล่าเอ่ย :z2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 6 [update 5-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 06-01-2013 00:48:22
ยัยวดีไม่น่าโทรมาขัดเลย  :fire:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 6 [update 5-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 06-01-2013 23:47:20
ตอนที่ 7

หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป หลังจากกลับมาจากต่างจังหวัด พนักงานของโรงแรม Flora ทุกคนกลับมาทำงานตามปกติไม่เว้นแม้แต่ท่านรองประธานบริษัทที่หลังจากกลับมา ก็ต้องไปดูงานที่ต่างประเทศทันที โดยไม่มีเลขาติดตามไปด้วยเนื่องจากที่ที่ไปนั้นค่อนข้างทุระกันดารและลำบาก ไม่น้อย ไปคนเดียวจึงสะดวกที่สุด ทำให้ก้านใบต้องคอยรับโทรศัพท์ตามตัวจากบรรดาคู่ควงทั้งหลาย และแน่นอนว่ารวมถึงอมาวตีด้วย

“นี่ว่าไงยะ ติดต่อคุณกัณฑ์ได้หรือยัง เป็นเลขาประสาอะไรเจ้านายไปต่างประเทศแต่กลับไม่รู้จักขอเบอร์ติดต่อไว้ เผื่อมีเรื่องด่วนจะทำไง” เสียงแว๊ดๆของวตีทำให้คนที่กำลังเก็บเอกสารอยู่ละสายตาขึ้นมามอง

“ยังไม่ได้ครับ ผมว่าคุณวตีรอให้ท่านติดต่อมาเองดีกว่าครับ อีกไม่กี่วันคุณกัณฑ์ก็กลับมาแล้ว”

เด็ก หนุ่มบอกอมาวตี และก็บอกตัวเองเช่นกันเกือบสองอาทิตย์แล้วที่ชายหนุ่มไปต่างประเทศ และไม่เคยติดต่อมาเลยสักครั้ง มันทำให้เขาใจหายอย่างบอกไม่ถูก นี่เขาคงแปลกๆไปแล้วแค่ไม่ได้เห็นหน้าก็เหงาถึงเพียงนี้

“ก็ได้ แต่ถ้ากัณฑ์ติดต่อมารีบบอกฉันเลยนะ” ทิ้งท้ายไว้ก่อนจากไป พักนี้
อมา วตีเริ่มกังวลว่า ชายหนุ่มทำตัวออกห่างเขาผิดปกติ ไม่โทรหาทั้งที่บอกว่าจะโทรมา และยังไม่มาหาอีกด้วย มันแปลกๆหรือว่ากัณฑ์จะรู้แล้วว่าเขามีคนอื่น ‘ไม่นะ ไม่ยอมเด็ดขาด ก็กัณฑ์นะสมบูรณ์สุดๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือฐานะ จะไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปอย่างเด็ดขาด’

“ครับ” ก้านใบรับคำเบาๆและทบทวนความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อชายหนุ่มไปด้วย
..............................................................

ยาม ราตรีของกรุงเทพยังคงมีแสงไฟส่องสว่างอยู่ทั่วไป เพราะยามค่ำคืนเช่นนี้คนที่เหนื่อยล้าจากการทำงานอันคร่ำเคร่งได้ออกมาผ่อน คลายกันตามบาร์หรือผับต่างๆรวมทั้งวาทินด้วย

“น้อง เอา on the rock” ชายหนุ่มสั่งบาร์เทนเดอร์ที่ยืนผสมเครื่องดื่มอยู่บริเวณเคาท์เตอร์

พัก นี้เขาหงุดหงิดและไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อคนที่เขาแอบชอบและจีบทำคะแนนมาตลอดไม่มีวี่แววว่าจะสนใจเขาเลยสักนิด เหมือนก้านใบมีคนที่ชอบแล้ว มันทำให้เขาท้อและหมดเริ่มหมดกำลังใจ

“อ้าว คุณวาทิน มาดื่มเหมือนกันเหรอค่ะ” อมาวตีเข้ามาทักทายอดีตเพื่อนร่วมงาน หล่อนมาเที่ยวที่นี่เป็นประจำแต่ไม่เคยพบวาทินเลย ออกจะแปลกใจเล็กน้อยที่เจอชายหนุ่มที่นี่

“คุณวา.....ตี” วาทินทักอีกฝ่ายเสียงอ้อแอ้

“คุณเมาแล้วนะคะเนี่ย มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าค่ะ บอกฉันได้นะ” อมาวตีลูบไล้ใบหน้าของวาทินอย่างยั่วยวน

“คุณวตีครับ ถ้า...คนที่....คุณร๊าก...ไม่สนใจคุณเลย....คุณจะทำยังงาย?”

“เอ๋ ใครกันค่ะที่ไม่สนใจคนอย่างคุณ”

“ก็ เลขาใหม่.....ของแฟนคุณงาย... ผม...ตามจีบ เอาอกเอาใจสารพัด เขาไม่เคยเห็นผมเป็นคนพิเศษเลย แถมท่านรอง.....ยังชอบมาขวางบ่อยๆด้วย....เวลาผมจะทำคะแนน ชิ” พูดด้วยความเมา แต่คำพูดนั้นทำเอาอมาวตีหูผึ่งทันที ไม่ใช่เพราะรู้ว่าวาทินชอบเด็กผู้ชายหรอก แต่เป็นเพราะมีกัณฑ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยต่างหาก

“กัณฑ์เขาเกี่ยวอะไรด้วยละคะ”

“ก็.... คุณกัณฑ์ทามเหมือน...หวงคุณก้าน....เหลือเกิน คุณก้านนะ..ทามอะไรก็ไม่ได้ ต้องอยู่ในสายตา...ท่านรองตลอดเลย หรือว่าคุณกัณฑ์ก็ชอบคุณก้านเหมือนกันนะ?” วาทินฉุกใจคิดแทบจะสร่างเมาทันที

“งั้น ทำไมคุณไม่ฉวยโอกาสรวบรัดเขาตอนที่กัณฑ์เขาไม่อยู่เลยละ”

อมา วตีเสนอแผนร้าย เพราะหล่อนเองก็เริ่มรู้สึกว่ากัณฑ์แคร์เด็กนั่นมากกว่าหล่อนอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะมีอะไรลึกซึ้ง เพราะกัณฑ์ไม่เคยมีวี่แววว่าจะชอบผู้ชายมาก่อนถึงจะสวยขนาดไหนก็เถอะ แต่กับเด็กนี่ไม่ใช่ชายหนุ่มให้ความสนใจก้านใบเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงควรยืมมือวาทินช่วยกำจัดก้านใบไปให้พ้นทางก่อนดีกว่า

“คุณหมายความว่ายังไง” วาทินย้อนถามอมาวตีที่ยืนทำหน้าครุ่นคิด

“ก็หมายความว่า คุณต้องทำให้เขาไปของคุณเร็วๆไงละ ไม่แน่นะถ้ามีความสัมพันธ์ทางกายกันแล้วเขาอาจจะชอบคุณขึ้นมาก็ได้”

“คุณคิดอย่างนั้นเหรอ” วาทินถามคนที่ยืนจิบเหล้าอยู่ข้างๆ

“ แน่นอน...” อมาวตีตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆเพื่อให้ความมั่นใจ
.....................................................................

ภายในห้องทำงานของท่านรองประธานของโรงแรม Flora

“ยังไม่กลับอีกเหรอครับคุณก้าน” คนอื่นเขากลับกันหมดแล้วนะ เสียงของวาทินนั่นเองที่ทำให้เขาต้องชะงักจากการเก็บข้าวของเพื่อกลับบ้าน

“กำลังจะกลับแล้วครับ”

“พอดีเลย ผมก็กำลังจะกลับเหมือนกัน ยังไงกลับด้วยกันไหมครับ”

“ไม่รบกวนคุณวาทินหรอกครับ วันนี้ผมขับรถมาเอง”

“งั้นก็เจอกันวันจันทร์นะครับ” ทำเหมือนจะเดินออกไป

“ครับ แล้วเจอกัน” เด็กหนุ่มตอบพลางยิ้มน้อยๆให้ ก่อนจะหันหลังไปเก็บของต่อ รู้สึกดีใจที่วาทินไม่เซ้าซี้เหมือนทุกครั้ง เพราะตั้งแต่ที่กัณฑ์ไปต่างประเทศ วาทินก็ตื้อเขามากกว่าปกติ ชวนไปกินข้าวดูหนังตลอดจนเขาอึดอัด โดยที่ร่างบางไม่เอ๊ะใจเลยสักนิดว่าทะเลที่ไม่มีคลื่นลมมักจะตามมาด้วยพายุ ร้ายเสมอ และในขณะนั้นเอง

ตุ๊บ

ก้านใบรู้สึกเจ็บที่ท้ายทอยอย่างแรงเหมือนโดนของแข็งฟาดที่ต้นคอ แล้วก็หมดสติไป

“หึ ขอโทษนะคุณก้าน ในเมื่อผมใช้วิธีนุ่มนวลแล้วไม่ได้ผล ก็คงเหลือแต่วิธีนี้หละ”

วาทิน รอโอกาสนี้มานาน แต่ก้านใบก็ไม่เคยอยู่คนเดียวเลยนับตั้งแต่กัณฑ์ไปต่างประเทศ วันนี้ร่างบางอยู่ทำงานค่ำกว่าปกติและคนอื่นก็ทยอยกลับกันหมดแล้วดังนั้นจึง เป็นเวลาที่เหมาะที่จะลงมือเสียที ชายหนุ่มกวาดเอกสารต่างๆที่วางอยู่บนโต๊ะของก้านใบทิ้งลงพื้นจนหมด แล้วช้อนร่างที่นอนสลบอยู่ขึ้นมาวางบนโต๊ะ ก่อนจะค่อยๆปลดเสื้อผ้าของร่างเล็กช้าๆ แต่ยังไม่ทันถอดกระดุมหมดทุกเม็ดก้านใบก็เริ่มรู้สึกตัว

“อือ.... อย่า...” ร้องบอกเสียงอ่อน พลางปัดป้องพัลวัน ทั้งๆที่ยังฟื้นสติได้ไม่เต็มที่ เมื่อเห็นแววตาหื่นกระหายและการกระทำที่ส่อแววไม่ดีของวาทิน

“อยู่ เฉยๆน่า รับรองคุณจะมีความสุข” เริ่มกระชากเสื้อผ้าของก้านใบออก เมื่อเห็นอาการปัดป้องจากคนตัวเล็ก เขาไม่อยากเสียเวลาแม้เพียงนิด

“ไม่เอา อย่า ช่วยด้วย” ร้องห้ามไปด้วย ตะโกนให้คนช่วยไปด้วย ทั้งผลักทั้งถีบวาทินเพื่อเอาตัวรอด

“ร้องไปก็ไม่มีใครมาช่วยคุณหรอก คนอื่นเขากลับบ้านกันหมดแล้ว” บอกชิดใบหน้าเล็กพยายามจะสูดดมผิวกายหอมกรุ่น

ก้านใบพยายามเบี่ยงตัวหนีปากและจมูกของคนที่กำลังคร่อมเขาอยู่ด้วยความขยะแขยง

“ปล่อยนะ” ร่างบางพยายามดิ้นหนีท่าทีคุกคามนั้น

และ ในขณะที่ร่างบางกำลังต่อสู้เพื่อป้องกันตนเองอย่างสิ้นหวังนั้น ร่างของคนที่นอนทาบทับเขาอยู่ก็ลอยหวือออกไปตามแรงกระชาก พร้อมด้วยกำปั้นหนักๆของชายอีกคนที่พึ่งเข้ามา ประเคนเข้าที่หน้าของวาทินอย่างจังจบสลบคาที่

“คุณกัณฑ์” เรียกอีกฝ่ายด้วยความดีใจ และกำลังจะกล่าวคำขอบคุณก็พอดีกับ

“ไปให้ท่ามันแบบไหนเข้าละ มันถึงอดไม่ได้ ไม่เลือกสถานที่แบบนี้” เสียงห้าวตวาดขึ้นอย่างโมโห

สาย ตาถมึงทึงที่จ้องมองมา พร้อมด้วยคำดูแคลนทำให้ร่างบางที่พึ่งขวัญเสียอึ้ง และฉุนขาดทันที ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชายหนุ่มก็คิดในแง่ลบกับเขาเสมอ ตั้งแต่เด็กไม่เคยเปลี่ยนก้านใบคิดอย่างน้อยใจ

เพี๊ยะ ฝ่ามือเล็กตบลงบนแก้มชายหนุ่มจนหน้าหัน พร้อมดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำใสอย่างโกรธจัด

“นี่เหรอคำขอบคุณ” ชายหนุ่มจับข้อมือเล็กนั่นไว้แล้วบีบแน่นจนร่างบางต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

“ทำไม ผมต้องขอบคุณ คุณคิดว่าผมให้ท่าเขาไม่ใช่เหรอ คุณคิดว่าเรากำลังจะหาความสุขกันไม่ใช่เหรอ งั้นคุณก็กำลังเข้ามาขัดจังหวะพวกผมนะ”

ก้านใบตะโกนกลับอย่างโกรธจัด เขาไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มจะมีความคิดแบบนี้อยู่ในหัว

“อ้อ งั้นต้องขอโทษที่มารบกวนสินะ แต่ถ้าเธอไม่ว่าอะไรฉันก็ยินดีที่จะสนองให้เอง” พูดเสียงเหี้ยม

กัณฑ์ ดึงร่างเกือบเปลือยขึ้นมาพาดบนบ่า แล้วเดินตรงไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องพักส่วนตัวของตนที่อยู่ชั้นบนสุด ของโรงแรม โดยมีร่างเล็กที่ดิ้นสุดแรงติดอยู่บนบ่าแข็งๆข้างหนึ่งของเขา

ใน ระหว่างทางไปห้องพักนั้นชายหนุ่มยอมรับกับตัวว่าเขากำลังโมโหมากเมื่อเห็น ภาพเมื่อไม่กี่นาทีนี้ เขาพึ่งกลับมาจากต่างประเทศ กะว่าจะแวะเข้ามารับก้านใบไปทานอาหาร เพราะคิดว่าน่าจะยังไม่กลับบ้าน แต่พอถึงห้องทำงานก็เห็นวาทินกำลำคร่อมอยู่บนตัวก้านใบเขาก็สติหลุดทันที เขารู้ดีว่าเด็กหนุ่มขัดขืนสุดแรง และรู้ด้วยว่าร่างบางไม่เต็มใจ แต่ก็ยั้งคำพูดของตัวเองไม่ได้ เขาปากร้ายมาแต่ไหนแต่ไร หลายครั้งที่ไม่ได้หมายความอย่างที่พูด เรื่องเมื่อกี้ก็เช่นเดียวกัน แต่แทนที่เด็กหนุ่มจะก้มหน้าก้มตารับฟังไปเงียบๆ กลับโต้ตอบเขากลับ ด้วยถ้อยคำที่เขาไม่อยากได้ยินเป็นที่สุดทำให้เขาอยากสั่งสอนให้อีกฝ่ายได้ รู้ว่า ไม่มีใครมาทำเป็นปากดีกับเขาได้ มีแค่เขาเท่านั้นที่อยากจะพูดอะไรก็ได้ คนอื่นต้องฟังเท่านั้น!!!!!!!!

“โอ๊ย เจ็บนะ”

ร่าง บางอุทานด้วยความเจ็บทันทีที่อีกฝ่ายโยนเขาลงบนเตียงกว้างอย่างไม่ออมแรง โดยที่คนโยนนั้นยืนปลดกระดุมเสื้อตัวเองอย่างใจเย็น “จะ จะทำอะไร
หนะ” ก้านใบถามเมื่อเห็นกิริยาของอีกฝ่าย นี่เขาหนีเสือปะจระเข้หรือ

“ถาม มาโง่ๆ อยากอยู่ไม่ใช่เหรอไง ชั้นจะสนองให้เอง ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่ชั้นมาขัดความสุขของเธอไง อันที่จริงฉันก็ไม่เคยกอดผู้ชายมาก่อน แต่มันคงไม่ยากถ้าเธอให้ความร่วมมือ”

“บ้า คุณจะบ้าไปแล้วเหรอไง”

เด็กหนุ่มกลัวตัวสั่นขยับตัว หนีทุกครั้งที่อีกฝ่ายทำเหมือนะก้าวมาหา แต่ในที่สุดเขาก็ไปไหนไม่ได้อีก เมื่อกัณฑ์ใช้ร่างกายที่สูงใหญ่กว่าดันตัวเขาให้นอนราบลงบนเตียงกว้าง

“อย่านะ...” ดิ้นหนีอ้อมกอดนั่นอย่างแรงแต่ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มสะเทือนแม้แต่น้อย

กัณฑ์ ฉีกเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นของเด็กหนุ่มให้ขาดออกจากกันมากขึ้นอีก ข้อมือเล็กทั้งสองข้างถูกยึดโดยอุ้งมือใหญ่เพียงข้างเดียว ชายหนุ่มระดมจูบร่างที่ดิ้นไปมาไม่หยุด ไม่ว่าก้านใบจะเบี่ยงหน้าไปทางไหน ก็ต้องไม่พ้นปากและจมูกของร่างสูงที่คร่อมทับเหนือร่างเขาไปได้

“อย่า.......” เสียงค้านเบาๆหลุดรอดจากริมฝีปากบาง เมื่อร่างสูงเปลี่ยนเป้าหมายจากริมฝีปากนุ่มหยุ่นไปที่ลำคอเนียนและแผ่นอก เรียบที่สะท้อนขึ้นลงตามแรงหายใจ ไม่ช้าเด็กหนุ่มก็เปล่าเปลือยเผยให้เห็นผิวบางขาวที่แดงช้ำจากรอยมือ และรอยฟัน ที่กัณฑ์ทั้งกัดและบีบจับอย่างไม่ออมแรง โดยเฉพาะที่บริเวณยอดอกเล็กทั้งสองข้างที่ร่างสูงให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ จนเนื้ออ่อนๆบริเวณนั้นแดงช้ำไปหมด

สำหรับก้านใบสิ่งที่ชายหนุ่ม กำลังทำ ไม่ได้ก่อให้เกิดอารมณ์หวามแม้เพียงนิด มีแต่ความหยาบคาย และรุนแรง ชายหนุ่มกำลังกระทำกับเขาราวกับเป็นของเล่น ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่กัณฑ์ใช้กำลังบังคับเขา มันทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บใจตัวเองเหลือเกินที่หลงคิดไปว่า อีกฝ่ายคงเริ่มมีความรู้สึกดีๆให้บ้างแล้ว แต่เปล่าเลยก้านใบคิดอย่างเจ็บปวด ส่วนร่างกายก็พยายามดิ้นรนเพื่อให้พ้นเงื้อมือมารไปด้วย เด็กหนุ่มยกขาเล็กๆที่ยังเป็นอิสระทั้งสองขึ้นมา ทั้งถีบทั้งแตะเท่าที่ร่างกายจะอำนวย แต่มันไม่ทำให้คนที่กำลังรุกรานเขาอยู่ผละออกได้เลย กลับยิ่งเพิ่มแรงจูบแรงกัดมากขึ้นเรื่อยๆจนก้านใบเริ่มหมดแรงต่อสู้

“ร้องสิ เงียบทำไม”

กัณฑ์ เงยหน้าจากหน้าท้องเรียบเนียนขึ้นมาตะคอกใส่ร่างที่นอนนิ่งอย่างดุดัน เมื่อไม่ได้ยินร้องห้ามและเสียงเสียงครางด้วยความเจ็บปวดอีกต่อไป มีเพียงการขัดขืนที่อ่อนลงเรื่อยๆเท่านั้น และสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเขาก็คือร่างที่ปิดเปลือกตาทั้งสองข้างลงพร้อมทั้ง กัดริมฝีปากตัวเองจนห้อเลือด เนื่องจากเจ้าตัวกำลังคิดว่ายิ่งร้องก็จะยิ่งเจ็บตัวจึงนิ่งเสียหวังว่าอีก ฝ่ายคงจะเลิกตอแยไปเอง แต่หารู้ไม่ว่ามันกลับยิ่งเร่งความอยากเอาชนะของชายหนุ่มให้มากยิ่งขึ้น

มือ หนาจับร่างเปลือยให้พลิกนอนคว่ำหน้าลงกับพื้นเตียง พร้อมทั้งปลดเข็มขัดหนังของตัวเองมาพันธนาการข้อมือเล็กนั่นไว้กับเสาหัว เตียง ชายหนุ่มเลื่อนตัวขึ้นไปทาบทับบนต้นขาเล็ก ล็อกขาเรียวยาวไว้ภายใต้ต้นขาแกร่ง พร้อมทั้งถอดเสื้อผ้าตัวเองออกอย่างลวกๆ กัณฑ์มองสะโพกขาวกลมมนที่อยู่ตรงหน้าอย่างหื่นกระหาย มือสากฟอนเฟ้นก้อนเนื้อนุ่มๆนั่นอย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ กลีบสะโพกขาวถูกแยกออกจนเผยให้เห็นช่องทางเล็กๆสีชมพูที่ยังปิดแน่น ชายหนุ่มก้มลงไปดูดกัดเนื้อนิ่มนั่นอย่างอดไม่ไหวกับความขาวนวล ฝังรอยฟันคมไว้บนก้อนเนื้อนุ่มทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียมและเพิ่มแรงบีบลงไป อีกเมื่อยังไม่ได้ยินเสียงร้องที่เขาอยากได้ยิน มีเพียงการพยายามจะขยับตัวหนีของก้านใบที่แสดงถึงการมีชีวิตอยู่เท่านั้น

เมื่อ ไม่ว่าจะทำอย่างไรเด็กหนุ่มก็ไม่ร้องออกมา ชายหนุ่มจึงแยกก้อนเนื้อเนียนแน่นตามรอยผ่าให้กว้างมากขึ้นอีก เพื่อที่จะดันตัวเองเข้าไปยังที่อ่อนนุ่มและอบอุ่นถึงแม้ว่าเจ้าของจะไม่มี ทีท่ายินยอมเลยก็ตาม ปลายลิ้นสากนำทางไปก่อน เขาลากลิ้นไล้เลียช่องทางสีชมพูอย่างลุ่มหลง และใช้นิ้วแข็งๆลองสอดเข้าไปในช่องทางที่เปียกชุ่มอย่างไม่ถนอม ทำให้ก้านใบสะดุ้งขึ้นมาทันที
“โอ๊ะ หยุดนะ เอาออกไปนะ” ร่างบางร้องด้วยความเจ็บ

“ไง เจ็บแล้วเหรอ ทนหน่อยน่า” ขบกัดใบหูขาวอย่างหยาบคาย “ต่อไปเจ็บกว่านี้” บอกชิดริมหูบางก่อนที่ดึงนิ้วตัวเองออกแล้วแทนที่ด้วยร่างกายของตนเองอย่าง รวดเร็วและจาบจ้วง ด้วยขนาดที่ต่างกันมากทำให้ก้านใบต้องร้องออกมาอีกด้วยความเจ็บปวด

“โอ้ย....” คนข้างล่างเกร็งตัวทันทีที่รับรู้ถึงการสอดแทรกอย่างแรง มันเจ็บมากจนเด็กหนุ่มกลั้นเสียงร้องไว้ไม่ได้อีกต่อไป

“ไง จะยอมขอโทษที่พูดไม่ดีกับชั้นไม๊ บางทีชั้นอาจจะอ่อนโยนให้เธอบ้างก็ได้นะ” พลางแทรกตัวเข้ามาให้ลึกมากขึ้น แต่มันเต็มไปด้วยความลำบาก เพราะไม่มีการช่วยเหลือ หรือหล่อลื่นอะไรทั้งนั้น กอปรกับการไม่ยอมของร่างเล็กทำให้เขาเองก็เจ็บไม่น้อยทีเดียว

กัณฑ์ พยามยามดันต้นขาของร่างบางให้อยู่ในท่าคุกเข่า เพื่อที่สะโพกกลมมนจะได้ยกขึ้นมาเปิดทางให้เขามากขึ้นอีก เพราะตอนนี้เขาดันตัวเองเข้าไปได้แค่นิดเดียวเท่านั้น แต่ก้านใบก็ยังไม่ยอมให้ร่วมมืออยู่ดี

เพี๊ยะ เสียงฝ่ามือหนาฟาดลงบนสะโพกนิ่มเพื่อหยุดอาการดิ้นรนอย่างไม่ยอมแพ้ของร่าง เล็ก มันทำให้สะโพกขาวเป็นรอยมือเพิ่มขึ้นมาอีก ร่างสูงไม่มีทางเลือกจึงต้องเอาหมอนใบโตมาหนุนไว้ใต้หน้าท้องของร่างที่นอน คว่ำอยู่ ทำให้ในที่สุดก้านใบก็ต้องเปิดทางให้ชายหนุ่มล่วงล้ำเข้ามาได้จนสุดความ ยาวอย่างเจ็บปวด จากนั้นร่างสูงก็เริ่มเคลื่อนไหวโดยใช้สองมือหนารวบเอวคอดไว้มั่นเพื่อเป็น หลักยึด

“ไม ไม่มีวันนั้น” เด็กหนุ่มกล่าวอย่างทิฐิ

“หึ ก็ดี ปากเก่งให้ตลอดแล้วกัน” ชายหนุ่มเร่งความเร็วและเพิ่มความแรงในการสอดแทรกบนตัวของก้านใบมากขึ้น พร้อมกับจับหน้าเล็กๆที่คว่ำอยู่กับหมอนขึ้นมาจูบเพื่อระบายอารมณ์ ลิ้นหนาลอดเข้ามาเกี่ยวรัดลิ้นเล็กที่พยายามถดหนีอย่างอยากเอาชนะ ริมฝีปากแดงช้ำถูกชายหนุ่มดูดและกัดทั้งบนล่างอย่างไม่ออมแรม

“อ๊ะ....”

กัณฑ์ บีบแก้มนุ่มด้วยมือเพียงข้างเดียวเอาไว้เมื่อรู้สึกว่าก้านใบพยายามจะกัด ลิ้นเขา ทำให้เด็กหนุ่มต้องยอมปล่อยให้ลิ้นหนาเข้ามาเก็บเกี่ยวความหวานละมุนจากโพรง ปากเขาอย่างจำยอมอีกครั้ง

ในที่สุดก้านใบก็หมดทางสู้เนื่องจากไม่ ว่าจะทำอย่างไรกัณฑ์ก็ดูเหมือนจะรู้เกมส์ทุกอย่างทำให้เขาหนีไม่พ้น สุดแต่ชายหนุ่มจะทำอย่างไรกับร่างกายของเขา ความเจ็บปวดที่ได้รับเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะความเร็วและแรงในการเลื่อนไหวของชายหนุ่มไม่ได้ลดลงเลย มีแต่เพิ่มขึ้นจนเขาแทบขาดใจและไม่นานก็เกินกว่าที่ร่างกายจะรับไหวอีกต่อไป สติที่ใกล้จะดับวูบลงของก้านใบได้ตอกย้ำให้เด็กหนุ่มรู้ว่าไม่ว่าเมื่อไหร่ พี่กัณฑ์ก็ใจร้ายกับเขาเสมอ ไม่เคยเปลี่ยน........

“อา .....ซี๊ดดดดดด.....” ชายหนุ่มครางอย่างเป็นสุข ปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดเข้าไปภายในร่างกายของคนที่ตนบุกรุกอยู่ มันมากมายเสียจนล้นออกมาตามหว่างขาปนกับออกมากับเลือดสดๆ ที่เกิดจากการฉีกขาดของผิวเนื้ออ่อนๆบริเวณนั้น และมันก็ทำให้กัณฑ์มีสติกลับมาทันที

“ก้าน.... ก้าน” ชายหนุ่มถอนตัวออกแล้วพลิกร่างขาวโพลนที่นอนนิ่งให้หงายขึ้นมา พบว่าร่างนั้นสลบไปแล้ว มันทำให้เขาตกใจมากรู้แล้วว่าทำเกินไป เพราะอารมณ์ชั่ววูบแท้ๆ นึกสงสารร่างเล็กจับใจ


“ก้านชั้นขอโทษ” พร้อมกับจูบริมฝีปากซีดเซียวนั้นเบาๆ รีบกดโทรศัพท์ เรียกหมอประจำโรงแรมขึ้นมาทันที เพราะกลัวว่าร่างตรงหน้าจะได้รับอันตรายร้ายแรงจากการกระทำอันป่าเถื่อนของ เขา

ไม่กี่นาทีหมอก็ขึ้นมาซึ่งพอดีกับที่กัณฑ์เก็บห้องและแต่ตัวให้ร่างเล็กลวกๆเสร็จ จากนั้นก็ลงมือตรวจเด็กหนุ่มทันที

“เขาจะเป็นอะไรมากหรือเปล่าหมอ” ชายหนุ่มถามหมอที่มาดูอาการอย่างร้อนรน

“ไม่ เป็นไรมากหรอกครับคงตกใจมากจนสลบไป พยายามให้ทานยาแก้อักเสบให้ครบโดส และถ้าเป็นไปได้ก็ทาครีมแก้บวมบริเวณรอบแผลด้วย เพื่อเสริมฤทธิ์กัน ที่สำคัญห้ามมี sex จนกว่าอาการจะดีขึ้นก็จะทำให้หายเร็วขึ้นอีกครับ นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรน่าห่วง”

“งั้นก็ไม่มีอะไรแล้วละ”

“ถ้าคุณกัณฑ์ไม่มีอะไรแล้ว ผมคงต้องขอตัวกลับก่อน”


“อืม ไปเถอะ ขอบใจมากแล้วอย่าลืมว่าเรื่องนี้เป็นความลับ” กำชับก่อนที่หมอจะออกไป

“ครับ”

‘ถึง ท่านรองไม่บอกเขาก็รู้ว่าควรรูดซิบปากให้เงียบที่สุดอยู่แล้ว แต่ออกจะแปลกใจ ที่คนอย่างกัณฑ์ถึงกับต้องข่มขืนเด็กผู้ชาย แต่ช่างเหอะเขาเป็นแค่ลูกจ้างจะไปยุ่งกับเรื่องของเจ้านายมากไปก็ไม่ดี’

“เฮ้อ ค่อยเบาใจหน่อยที่ก้านไม่เป็นอะไรมาก”

ร่าง สูงถอนหายใจอย่างโล่งอก ถ้าร่างเล็กเป็นอะไรไป เขาคงไม่ให้อภัยตัวเองแน่ มาถึงตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขารักก้านใบอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ความรักที่เคยมีมามันเทียบกับครั้งนี้ไม่ได้เลย แต่ตอนนี้เขามีเรื่องหนักอกที่ต้องคิด เขาจะต้องทำอย่างไรให้ร่างบางอภัยกับการกระทำที่โหดร้ายของเขา และต้องทำยังไงให้อีกฝ่ายรักเขาเหมือนที่เขารัก เขาต้องทำยังไง ชายหนุ่มคิดอย่างปวดหัว แต่ไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใด เขาก็ต้องยอมเพื่อแลกกับสิ่งสำคัญนี้

ถ้ากัณฑ์รู้ว่าการทำให้ร่างบางรักนั้นชายหนุ่มแทบไม่ต้องทำอะไรเลย เขาคงโมโหตัวเองที่มัวแต่คิดหาหนทางจนปวดหัวไปหมดแน่ๆ

ชาย หนุ่มมองร่างเล็กที่นอนอยู่บนที่นอนแล้วก็ถอนใจอีกครั้ง ก่อนที่จะใช้มือใหญ่ลูบไล้แก้มเนียนอย่างอ่อนโยน มืออีกข้างก็ยกมือคนที่นอนนิ่งอยู่ขึ้นมาจูบเบาๆ เขาอยากจะสื่อคำขอโทษผ่านไปกับจุมพิตนี้เหลือเกิน

“เธอเป็นของชั้น แล้ว ก้าน จากนี้ไปชั้นจะไม่ปล่อยเธอไปไหนอีก ชั้นสัญญา” พึมพำกับร่างบางที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น ก่อนจะออกไปจัดการกับนายวาทินที่นอนกองอยู่ข้างนอก
.......................................................................

มาแว้วค้าบบบบบบบบบ รีบลงๆ จะได้จบเร็วๆ 555

เห้ย!!!!!  :a5:อย่าลงวันเว้นวันดิ๊!!!!! :z3:

เนื้อเรื่องจบแล้ว ก็ลงวันเดียวรวดไม่ได้หรอ :monkeysad:
 ลงไปสัก3/4ของเรื่องก็ได้

เห็นนิยายเรื่องนี้กำลังจะตีพิมพ์แล้วปิดรอบจองวันที่10นี้แล้ว :angry2:
คนอ่านอย่างเราจะได้ตัดสืนใจถูกว่าควรไปจองไปโอน ไปสอยมาไหม~~~ :impress2:

เนื้อเรื้องกำลังสนุก อ่านถึงตอนที่6ก็ลังเลแล้วน่ะ
มาต่อให้เยอะๆตามที่แอดมินที่สำนักพิมพ์เค้าว่าไว้ก่อน
ก่อนเราจะไปจิ้มจอง

ป.ล. ที่จะตีพิมพ์ไปนี้มีตอนพิเศษด้วยเปล่าเอ่ย :z2: :กอด1:

แอร๊ยยยยยย เรื่องนี้เพิ่งเปิดโอนเงินเองนะจ้า จะปิดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ค้าบ
ส่วนตอนพิเศษนั้นมีแน่นอนจ้า
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 7 [update 6-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 07-01-2013 01:25:49
สงสารน้องก้าน
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 7 [update 6-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 07-01-2013 01:38:56
ตอนที่6พูดอยู่แหมบๆว่าอย่าพึ๊งงงงอย่าพึ่งเสียตัว

มาตอนที่7ดั๊นเสียตัวซะงั้น 55555
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 7 [update 6-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 07-01-2013 21:28:00
อ้าวน้องก้านเรา
เสร็จอีพี่กัณฑ์ไปซะละ
น้องตื่นมาต้องโกรธมากแน่ๆ
เตรียมตัวง้อไว้ดีๆเลยนะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 7 [update 6-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 07-01-2013 22:47:27
อิพี่กัณฑ์ทำน้องเจ็บนะยะ ไร้ความอ่อนโยนจริงๆ น้องก้านโกรธสิบชาติก็ไม่หายง่ายๆหรอกเนี่ย  :m16:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 7 [update 6-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 07-01-2013 23:37:24
ตอนที่ 8

ผ่านไปสองชั่วโมงแล้วที่ก้านใบสลบไปตอนนี้ห้องทั้งห้องมีเพียงไฟสีส้มหัวเตียงที่ให้ความสว่าง

ร่างบางขยับตัวเบาๆ เมื่อพลิกตัวแล้วรู้สึกเจ็บแปล๊บบริเวณสะโพกและปวดระบมตามเนื้อตัวไปหมดจนแทบขยับไม่ไหว

“อืม......” เด็กหนุ่มลืมตาขึ้นมาช้าๆ ‘เกิดอะไรขึ้นนะ’ ค่อยๆลำดับความทรงจำ และเมื่อภาพต่างๆก่อนที่เขาจะสลบไปเข้ามาในหัว ร่างเล็กก็ตัวชาทันที ตามมาด้วยคำถามมากมายที่ติดอยู่ในใจ ขอบตาที่แดงช้ำเริ่มจะมีความชื้นขึ้นมาอีกแล้ว กัณฑ์ข่มขืนเขาอย่างโหดร้ายที่สุด คนใจร้ายที่ทำกับเขาเหมือนของเล่น แกล้งเขา ทำร้ายหัวใจเขาด้วยคำพูดเชือดเฉือน แต่เขาก็ยังอภัยให้ทุกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้ เขาเจ็บทั้งตัวและหัวใจ ไม่อยากเจ็บมากไปกว่านี้อีกแล้ว

เด็ก หนุ่มพยายามหาเสื้อและกางเกงของตนเอง แต่สิ่งที่เขาพบคือ เศษผ้ามากมายที่กองที่มุมห้อง สภาพเหมือนโดนเก็บลวกๆ และคราบสีชมพูจางๆที่เปรอะบนที่นอนสีขาว เหลียวมองดูเขาตอนนี้มีเพียงเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่คลุมร่างกายอยู่ ซึ่งเขาจำได้ว่าเสื้อตัวนี้เป็นของกัณฑ์ที่ใส่เมื่อวานนี้

‘จริงสิ โทรศัพท์ละ มันอาจจะตกอยู่ข้างนอก น่าจะใช้มันโทรหาพี่กิ่งให้มารับที่โรงแรม ส่วนเสื้อผ้าก็สั่งให้แม่บ้านโรงแรมเอามาให้เปลี่ยน ’ตอนนี้ก้านใบคิดว่า กัณฑ์คงจะไม่กลับเข้ามาอีกแล้ว เพราะตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาเขายังไม่เห็นวี่แววของชายหนุ่มเลยก้านใบคิดอย่าง เจ็บปวดอีกครั้ง

แต่เด็กหนุ่มคิดผิด

แกร๊ก ประตูเปิดออกพร้อมด้วยร่างสูงของกัณฑ์เดินถือถาดอาหารเข้ามา และทันทีที่เห็นร่างบางกำลังพยายามลุกขึ้นจากเตียง ชายหนุ่มรีบวางถาดอาหารทิ้งไว้แล้วเข้านั่งซ้อนหลังบางกอดคนตัวเล็กไว้ทันที

“ขอโทษนะ เจ็บมากมั๊ย” กอดเด็กหนุ่มแน่นขึ้นอีกเพราะก้านใบกำลังใช้แรงทั้งหมดที่มีดิ้นออกจากอ้อมกอดเขา

“......” ไม่มีคำตอบจากคนที่ยังดิ้นรนอยู่มีเพียงน้ำตาเม็ดโตจากสองตาที่บวมช้ำที่กำลังหยดลงมาอย่างไม่ขาดสาย

“ก้าน ชั้นขอโทษ” กัณฑ์ยังคงขอโทษร่างเล็กพร้อมทั้งกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นและหอมหูบางไปด้วย

“คุณคิดว่าคำขอโทษของคุณ มันจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นงั้นเหรอ” เสียงเล็กแหบเครือลอดออกมาจากริมฝีปากสวยที่แห้งผาก

“แล้วต้องทำยังไงเธอถึงจะหายโกรธ และยกโทษให้ชั้น” ถามอยู่กับซอกคอหอมกรุ่น

ดู เอาเถอะแม้แต่ตอนที่กำลังขอโทษชายหนุ่มก็ยังล่วงเกินเขาไม่หยุด ถ้ากัณฑ์แสดงความขอโทษจากใจจริงมากกว่านี้ บางทีเขาอาจจะมองร่างสูงในแง่ดีขึ้นมาบ้างก็ได้ ก้านใบคิดอย่างเจ็บปวด

“ปล่อยผมไป แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก ผมขอแค่นี้”

“ไม่ เธอเป็นเมียชั้นแล้ว” ร่างสูงตอบกลับมาทันควัน

“ถ้า คุณคิดว่าการใช้กำลังบังคับผม จะทำให้ผมยอมเป็นของคุณละก็คุณคิดผิด แล้วอีกอย่างผมก็เป็นผู้ชายเรื่องแค่นี้ผมถือว่าทำทาน” ร่างเล็กกล่าวด้วยหัวใจที่เจ็บปวดเมื่อนึกถึงการกระทำของชายหนุ่มเมื่อสอง ชั่วโมงที่แล้ว

“ทำทาน ?” ชายหนุ่มทวนคำเสียงสูง ชักเริ่มโกรธที่ก้านใบยังดื้อดึง

“ใช่ แล้วก็ปล่อยผมเสียที ผมจะกลับบ้าน” พยายามแกะแขนแข็งๆออกจากเอวของตัวเอง

“ไม่ ให้ไปไหนทั้งนั้น” พูดอย่างเอาแต่ใจและกดร่างเล็กให้นอนลง “นอนพักซะ พรุ่งนี้เราค่อยมาคุยกัน” ยื่นยาแก้อักเสบให้หนึ่งเม็ด “แล้วก็กินยาซะจะได้หายเร็วๆ” หน้าเริ่มเหี้ยมเมื่อไม่ได้ดั่งใจ ‘จะอะไรกันนักหนาก็ขอโทษไปแล้ว คนอย่างเขาใช่ว่าจะขอโทษใครง่ายๆเสียหน่อย’

ก้าน ใบจ้องหน้าชายหนุ่มเขม็ง ก่อนจะยื่นมือไปรับยามาอย่างเสียไม่ได้ ในเมื่อการขัดขืนใช้ไม่ได้ผลเพราะเขาเสียเปรียบในเรื่องพละกำลัง ก็ควรหาวิธีอื่นไม่ใช่หรือ

“ผมอยากได้ผ้าห่มอีกสักผืน” ร่างบางก้มหน้าลงเพื่อซ่อนสีหน้าตัวเอง

และคำพูดนั้นทำให้ร่างสูงยิ้มออกมาทันที สำหรับชานหนุ่มนี่ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่เห็นร่างเล็กมีทีท่ายินยอมทำตามคำพูดของเขาบ้าง

“ได้ เดี๋ยวชั้นสั่งแม่บ้านเอามาให้”

“ไม่เอา ผมอยากให้คุณไปเอามาให้เอง แค่นี้ทำได้มั๊ย” ก้านใบยื่นคำขาด

“ก็ได้ แล้วจะรีบกลับมานะ”

กัณฑ์ จูบที่ขมับก้านใบเบาๆก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากห้อง ชายหนุ่มนึกว่าร่างเล็กคงอยากพิสูจน์ความจริงใจ เรื่องแค่นี้ถือว่าจิ๊บจ้อยมาก ให้เขาทำมากกว่านี้ก็ยอมทั้งนั้น ขอเพียงมีร่างเล็กเคียงข้างจากนี้ไป โดยที่ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าเมื่อเขากลับมา คนที่เขารักที่สุดจะจากเขาไปแล้ว ก้านใบเพียงแต่ต้องการให้ชายหนุ่มออกไปเพื่อเขาจะโทรหาพี่ชายให้มารับเท่า นั้น
..............................................................................

ณ lobby ของโรงแรม กิ่งใบมารับน้องชายทันทีหลังจากที่ได้รับโทรศัพท์ ชายหนุ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติหลายอย่างบนตัวก้านใบ จึงอดเป็นห่วงไม่ได้

“เกิดอะไรขึ้น จะบอกพี่ได้หรือยัง” ถามคำถามเดิมอีกครั้งตั้งแต่เห็นสภาพของร่างเล็กแต่ไม่เคยได้รับคำตอบ

“.....................” คนที่นั่งนิ่งอยู่หลบหน้าพี่ชายไม่ยอมตอบคำถาม

“ฝีมือไอ้กัณฑ์ใช่มั๊ย” กิ่งใบถามย้ำอีกครั้งอย่างเริ่มหงุดหงิด

“เปล่า เปล่าครับ” ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตาพี่ชาย

“ให้พี่มารับที่โรงแรมมัน ถ้าไม่ใช่มันแล้วใคร”


“ผมไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นครับพี่” น้ำตาเริ่มคลอเสียงเริ่มสั่นอย่างห้ามไม่ได้

“ไม่ เป็นไรได้ยังไง ดูตามเนื้อตัวซิ รอยจูบทั้งนั้น แถมนั่งไม่ลงอย่างนี้ พี่ไม่ได้โง่นะ บอกพี่มาเดี๋ยวนี้ ไอ้กัณฑ์ใช่มั๊ย” ถามอย่างโมโหอีกครั้งที่น้องชายยังปากแข็ง

“..........................”

“พูดไม่ออกใช่มั๊ย พี่เตือนเราแล้วไงว่าอย่าไปทำงานกับมัน แล้วเป็นไงถูกมัน….”

“พอเถอะครับพี่ ผมไม่อยากฟังแล้ว”

ก้าน ใบพูดทะลุขึ้นมาก่อนที่พี่ชายจะตอกย้ำไปมากกว่านี้ เขารู้ว่าพี่กิ่งหวังดี และรู้ว่าตัวเองผิดเองที่ไม่ฟังพี่ชายที่รักเขามากกว่าใคร ตอนนั้นเขาคิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอที่จะพิสูจน์อะไรบางอย่าง แล้วในที่สุดคำตอบที่ได้รับคือเขารักกัณฑ์ รักทั้งที่ชายหนุ่มทำร้ายจิตใจสารพัด

“ตอนนี้มันอยู่ไหน” กิ่งใบถามถึงตัวต้นเหตุเสียงเบา แต่ในใจเดือดปุดๆ

“พี่กิ่งจะทำอะไรครับ” ร่างบางถามอย่างตกใจ เพราะนานแล้วที่พี่ชายไม่ได้โกรธอย่างนี้

“...................”

“พี่กิ่งอย่าทำอะไรเขานะครับ ก้านผิดเอง” เขย่าแขนพี่ชายที่ทำเหมือนตั้งใจขับรถอยู่



“ทำไมต้องปกป้องมันด้วยก้าน มันทำอะไรเราตั้งขนาดนี้” หันมาถามน้องชายที่เขย่าแขนเขาอยู่ พลวงเร่งความเร็วขึ้นอีกเพื่อระบายอารมณ์

“รัก มันใช่มั๊ย” ถามทิ้งท้าย แล้วร่างสูงก็ต้องหลับตาลงอย่างเจ็บปวด เมื่อเห็นน้องชายพยักหน้าเบาๆแทนคำตอบ เขาเคยสงสัยมาตลอดว่าทำไมน้องเขาไม่ยอมมีแฟนสักที ทั้งหญิงชายมากมายที่เข้ามาจีบ แต่ก้านใบไม่เคยเปิดใจให้ใครเลย เหมือนน้องเขามีคนที่อยู่ในใจแล้ว และแล้วในวันนี้เขาก็ได้รู้แล้วว่าคนทีก้านใบทั้งรักและรอมาตลอดเป็นใคร แต่เป็นคนที่ชายหนุ่มคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้

“พี่กิ่งอย่าทำอะไรเขานะครับ” ร่างบางบอกพี่ชายเมื่อไม่เห็นว่ากิ่งใบจะพูดอะไรอีก “นะครับ” เด็กหนุ่มอ้อนวอนเมื่อพี่ชายไม่ยอมรับปาก

ก้าน ใบกอดแขนพี่ชายข้างหนึ่งพร้อมกับวางศรีสะเล็กลงบนต้นแขนเหมือนตอนเด็กๆที่ ชอบอ้อนพี่กิ่งด้วยวิธีนี้เมื่ออยากให้กิ่งใบตามใจเสมอ “นะครับพี่”

‘พี่ ไม่ทำอะไรมันก็ได้ แต่พี่จะทำให้มันได้รู้ว่าความเจ็บปวดของพี่ที่โดนคนอื่นมาทำร้ายน้อง โดยที่ช่วยอะไรไม่ได้นั้นเป็นยังไง’ กิ่งใบคิดโดยที่ไม่ได้บอกให้น้องชายรู้ อย่างน้อยกัณฑ์ต้องรู้ว่าการทำร้ายของรักของคนอื่นมันเป็นยังไง เขาไม่ใช่คนที่ยอมใครอยู่แล้ว ยิ่งมาทำกับน้องของเขาจะต้องได้รับการตอบแทนที่สาสม แม้ว่าสิ่งที่เขาจะทำเป็นการทำร้ายหัวใจตัวเองเช่นกัน

ร่างสูงขับรถ พาก้านใบไปส่งที่บ้าน และอยู่รอจนเด็กหนุ่มหลับสนิทแล้วจึงขับรถออกจากบ้านอีกครั้ง ซึ่งปลายทางที่เขาจะไปนั้นไม่มีใครรู้นอกจากเจ้าตัว
............................................................................

ออด ออด ออด

เสียงกดกริ่งหน้าประตัวรั้วของบ้านกัณฑราชดังระรัว และเพียงไม่นานสาวใช้ก็วิ่งออกมาเปิดประตูท่ามกลางฝนที่ตกหนัก

“คุณการันอยู่ไม๊”

“พึ่งจะกลับมาเมื่อกี้นี้เองค่ะ เชิญเข้าไปข้างในก่อนค่ะ”

“ไม่ต้อง ไปบอกคุณการ์ว่าพี่กิ่งมาหา”

“ค่ะ”

หญิงสาวหายไปไม่นานก็ปรากฏร่างชายหนุ่มร่างบางในชุดนอนสีฟ้าถือร่มกันฝนออกเดินมา

“แววบอกว่าคุณมาหาผม” เด็กหนุ่มเอ่ยถามคนที่ยืนตากฝนอยู่นอกรั้ว แต่ทั้งๆที่ฝนตกหนักแต่เขากลับได้กลิ่นเหล้าชัดเจน

“ใช่” ร่างสูงตอบเสียงเครียด ตาแดงก่ำอย่างน่ากลัว

“มี อะ อ๊ะ..” ยังไม่ทันที่การันจะพูดจบร่างสูงก็คว้าเอวบางเข้ามาในรถที่เปิดรออยู่ แล้วขับออกไปทันที ทิ้งไว้แต่ร่มกันฝนของบุตรชายคนรองของเจ้าของบ้านที่ถูกทิ้งเอาไว้ให้ดูต่าง หน้า

“จอด จอดรถเดี๋ยวนี้นะ พี่กิ่งจะพาการ์ไหน บอกให้จอด” ร่างบางตะโกนเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อร่างสูงยังคงขับรถไม่พูดไม่จาแถมยังกดเซนทรัลลอกไว้กันเขาหนีอีกต่าง หาก

“พี่กิ่ง... พี่ทำให้ผมกลัวนะ บอกให้จอดไง จะพาไปไหน ไม่ไปนะ” การันพยามยามเปิดประตูอย่างสิ้นหวัง นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!!!!!

“.............................”

“พี่กิ่งบอกให้จอดรถไง” พร้อมทั้งทุบต้นแขนแข็งแรงของคนข้างๆไปด้วย

“.....................” ยังคงไม่มีเสียงตอบจากคนที่ขับรถอยู่นอกจากการเร่งความเร็วขึ้นเท่านั้น

‘ต้องทำอะไรสักอย่าง’ การันคิดและแล้วร่างบางจึงก้มลงไปกัดต้นแขนอีกฝ่ายจมเขี้ยว

“โอ๊ย....” เสียงของคนที่เอาแต่นั่งเงียบนั่นเองที่ร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อโดนกัดจม เขี้ยว แถมยังโดนเหล็กจัดฟันกรีดจนเลือดซึมอีกด้วย ทำให้ชายหนุ่มต้องชะลอรถในที่สุด

“หยุดนะการ์ พี่บอกให้หยุด” กิ่งใบจอดรถริมทางเพื่อปลดฟันคมๆกับแผงเหล็กจัดฟันออกไปจากต้นแขน

และ การันไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอดไป เด็กหนุ่มพยายามกระโจนมาฝั่งคนขับเพื่อปลดเซนทรัลล็อก แต่เพียงเสี้ยววินาทีที่เขาพาดตัวมา ก็โดนหมัดหนักๆต่อยเข้าที่ท้องจนจุกและหมดสติในที่สุด

“พี่ไม่อยากทำอย่างนี้เลย”

กิ่ง ใบพึมพำกับตัวเองด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะปรับเบาะให้เอนลงและรัดร่างเล็กไว้ด้วยซีทเบลท์ แล้วจึงขับรถหายไปกับความมืดยามราตรีท่ามกลางฝนที่ตกหนัก
.....................................................................
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 8 [update 7-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 08-01-2013 00:04:22
โหดร้าย............. รับพระเอกและพระรองไม่ได้ทั้งคู่ เฮ้ออออ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 8 [update 7-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Narcissus ที่ 08-01-2013 00:20:23
เพิ่งได้ลองเข้ามาอ่าน
โอ๊ย ปวดใจ อ่านแล้วเศร้าเสียใจแทนก้าน T_T
พระเอกก็ร้ายกาจนัก ทำร้ายก้านได้ลงคอ
อยากให้พระเอกได้รับบทเรียนที่แสนสาหัสบ้าง
ไม่ใช่นึกอยากจะใช้กำลังบังคับใครก็ได้ ตอนนี้ก้านคงเสียใจมาก

มาลงทุกวันเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 8 [update 7-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Singleman ที่ 08-01-2013 01:13:57
แล้วไง แก้แค้นกันไป แก้แค้นกันมา เฮ้อออออออ

อีดวก วดี ระวังตัวไว้เถอะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 8 [update 7-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 08-01-2013 02:39:37
แง่ม เอาแล้วงัย แบบนี้มันจะเป็นงัยต่ออะเนี้ย
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 8 [update 7-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Aleleni ที่ 08-01-2013 12:29:38
อ่านตั้งแต่ตอนต้นจนถึงตอนปัจุบัน
ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกก

แต่ตอนนี้พี่กิ่งอย่าเพิ่งทำอะไรหมอการ์นะคะ TT-TT อย่าทำอะไรรุนแรงเลย
จริงๆแล้ว พี่กิ่งชอบหมอการ์นี่หน่า อย่าเอาความแค้นมาใส่เลยนะคะ ฮึกๆ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 8 [update 7-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 08-01-2013 12:47:42
แก้แค้นกันไปมา เฮ้อ...เริ่มสงสารน้องการ์แล้วสิเนี่ย ต้องมารับผลกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 8 [update 7-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 08-01-2013 13:58:03
อะไรอะ การ์เกี่ยวไรด้วยห๊า
ไอ้พี่กิ่งบ้า ไปยำไอ้คุณกัณฑ์แทนดิ๊
อย่ามาลงที่น้อง

เรื่องกำลังเข้มข้นเลย
รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 8 [update 7-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 08-01-2013 15:20:16
โอ้ แก้แค้นกันไปมาแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะจบล่ะค้าาา
ฮืออออออ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 8 [update 7-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 08-01-2013 16:13:52
ได้แต่สงสารก้านและการ์ค่ะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 8 [update 7-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: GoodNice ที่ 08-01-2013 19:19:13
 :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 8 [update 7-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 08-01-2013 21:38:23
 :เฮ้อ: :m16:
ไม่เอาอ่ะ ทำไมทำอย่างนี้
คนเจ็บปวดก็จะเพิ่มขึ้น

อย่าทำเลยนะ ขอร้อง :o12 :o12:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 8 [update 7-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 08-01-2013 23:55:40
อ้าว ทำไมทำแบบนี้หล่ะ สุดท้ายแล้ว คนซวย คือ การ์ กับ ก้าน เฮ้อ
รักแล้วทำไมทำแบบนี้นะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 9 [update 9-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 09-01-2013 08:54:22
ตอนที่ 9

“นายมาทำไม”

“มาหาก้าน” สบตาคนตรงหน้าอย่างแน่วแน่

“นายคิดว่านายทำขนาดนั้นกับก้านแล้วเขาจะยอมยกโทษให้เหรอ”

“.............................”

“ทำไมต้องขืนใจน้องฉัน” กิ่งใบถามอย่างสะกดอารมณ์เต็มที่

“เพราะรัก”

“รักเหรอ คนรักกันจำเป็นต้องใช้กำลังด้วยเหรอ” เสียงกิ่งใบแทบเป็นตะโกนเมื่อรู้เหตุผลของกัณฑ์

“ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนั้นอีก” กัณฑ์เลี่ยงไม่ตอบคำถามเพราะเขาไม่รู้จะอธิบายอย่างไรในสิ่งที่เขาทำ

“นั่นไม่ใช่สิ่งที่นายต้องบอกฉัน”

“แล้วนายจะยอมให้ฉันเข้าไปบอกก้านข้างในมั๊ยละ”

“ไม่ ใช่ตอนนี้” เสียงเริ่มอ่อนลง อย่างน้อยกัณฑ์ก็ได้แสดงความจริงใจออกมาบ้างแล้ว เขารู้นิสัยกัณฑ์ดีว่ารักศักดิ์ศรีที่สุด การที่หมอนั่นมาตามง้อน้องชายของเขาทั้งที่ได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้ว อาจเป็นเพราะชายหนุ่มรักน้องของเขาจริงๆก็เป็นได้ จากนี้ไปก็เป็นเรื่องของสองคนนั่นแล้วพี่ชายอย่างเขาคงได้แต่มองอยู่ห่างๆ

“ขอบ ใจนายมากกิ่ง” ชายหนุ่มขอบคุณอย่างจริงใจ “แต่ฉันอยากรู้ว่าทำไมนายถึงไม่กีดกันฉัน ทั้งๆที่ชั้น เอ่อ ….. ทำกับก้านอย่างไม่น่าให้อภัย” เสียงตอนท้ายแทบติดอยู่ในลำคอ

“ไม่ ใช่เรื่องที่ต้องบอกนาย สิ่งที่นายต้องทำคือพิสูจน์ตัวเอง ชั้นจะไม่ช่วยอะไรทั้งนั้น นายจะทำให้ก้านยกโทษให้ได้มั๊ยขึ้นอยู่กับนาย”

กิ่ง ใบไม่บอกเหตุผลที่เขายอมอ่อนให้อีกฝ่ายได้รู้ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นแน่ถ้าเขาไม่รู้จากน้องเขาเองว่าก้านใบนั้นก็รัก ชายหนุ่มเช่นกัน เขาไม่อยากตัดสินใจแทนน้อง เพียงแต่เขาต้องทำให้กัณฑ์รู้ว่าถ้าชายหนุ่มจะทำอะไรต้องมีขอบเขตเพราะเขาจะ จับตาดูอยู่เสมอ

“เอาหละนายกลับไปได้แล้ว ข้อตกลงคือนายห้ามมาหาก้านที่บ้านหลังนี้นับจากนี้ไปหนึ่งอาทิตย์”

“ทำไม?” กัณฑ์ถามทันที

“ก็เพราะตอนนี้ก้านยังไม่สบายมาก ชั้นไม่อยากให้มีอะไรให้ก้านสะเทือนใจระหว่างที่เขายังไม่แข็งแรง”

“งั้นฝากยาให้เขาด้วย” กัณฑ์ยื่นยาที่เขานำมาด้วยให้พี่ชายของคนที่เขารัก

“ก็ได้” กิ่งใบรับยาที่ชายหนุ่มยื่นมาให้แล้วเดินเข้าไปในตัวบ้านโดยไม่สนใจกัณฑ์อีก

ส่วน คนที่ถูกทิ้งไว้ได้แต่มองตามทิศที่สาวใช้เคยบอกว่าเป็นห้องของคุณก้านอย่าง เป็นห่วง ก่อนจะขับรถออกไป อย่างน้อยเขาก็ไม่หมดหวังเสียทีเดียว จากนี้เขาต้องพิสูจน์ตัวเองและที่สำคัญคือถึงเวลาที่เขาต้องเคลียร์กับอมา วตีเสียที
.........................................................................

ณ บ้านกัณฑราชตอนนี้บ้านทั้งหลังเงียบสนิท แต่บุตรชายคนโตของเจ้าของบ้านพึ่งจะกลับเข้ามา

“พี่กัณฑ์” ชายหนุ่มร่างบางเอ่ยทักพี่ชายทันทีที่ก้าวเข้ามาในตัวบ้าน

“อ้าวการ์ยังไม่นอนอีกเหรอ”

“พี่กัณฑ์ การ์มีเรื่องคุยด้วย” เขายังติดใจเรื่องเมื่อตอนเย็น คิดว่าพี่ชายน่าจะรู้เรื่อง

“มี อะไรท่าจะสำคัญมากนะอุตสาห์รอพี่จนป่านนี้” ชายหนุ่มเริ่มสงสัยในเรื่องที่น้องชายจะคุยเป็นกำลัง เนื่องมาจากการันนั้นเป็นเด็กอนามัยมากถ้าวันไหนไม่ได้ไปเข้าเวรก็จะเข้านอน ตั้งแต่สี่ทุ่มทุกวัน วันนี้อยู่รอเขาจนดึกแสดงว่ามีเรื่องสำคัญมากจริงๆ

“พี่ทำอะไรคุณก้านหรือเปล่า” คำถามนั้นทำให้ร่างสูงหยุดกึก

“ทำไมถามพี่อย่างนั้น มีใครมาบอกอะไรเราเหรอไง”

“แค่ตอบผมว่าพี่ทำอะไรคุณก้านหรือเปล่า” เดินมาดักทางที่กัณฑ์กำลังจะเดินเลี่ยงไป

“พี่ขืนใจเขา” ร่างสูงยอมรับออกมาตรงๆ

“ห๋า พี่กัณฑ์ พี่บ้าไปแล้ว คดีอาญานะครับ” การันอุทานอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“มิน่าละ” ร่างบางพึมพำเบาๆ

“มิน่าอะไร บอกพี่มานะ ทำไมอยู่ดีๆถามขึ้นมา” พี่ชายคาดคั้นบ้าง คราวนี้คนที่ไม่อยากตอบกลายเป็นการันเสียเอง

“..............................”

“ว่าไงการ์ บอกพี่มา” กัณฑ์เริ่มคิดอะไรได้ลางๆ

“คือว่าวันนี้พี่กิ่งมาที่บ้าน” ในที่สุดก็ยอมบอกพี่ชาย เพราะตั้งแต่จำความได้เขาไม่เคยโกหกอะไรพี่กัณฑ์เลย

“แล้ว เขาทำอะไรเราหรือเปล่า?” พูดเสียงเรียบแต่ในใจโมโหสุดๆ เข้าใจความโกรธของกิ่งใบในทันที ดีนะที่เขาโดนแค่ต่อยถึงหมัดจะหนักแต่ก็นับว่ายังดี
เพราะถ้าเป็นเขาเป็นกิ่งใบเรื่องคงไม่จบแค่นี้แน่

“พี่กิ่งไม่ได้ทำอะไร”

“แน่นะ” ถามย้ำอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อ

“ถ้า เขาทำผมจะได้มานั่งรอพี่อย่างนี้เหรอ” เลี่ยงไม่บอกรายละเอียดพี่ชาย นาทีนี้เขารู้สึกนับถือน้ำใจของร่างสูงขึ้นมาทันที ถึงชายหนุ่มจะไม่ชี้แจงเหตุผลอะไรให้เขาฟังในสิ่งที่ทำเมื่อตอนเย็น แต่เขาคิดว่าเขาเข้าใจชายหนุ่มดีแล้ว จะว่าไปพี่กิ่งก็เปลี่ยนไปมากจริงๆ ใจเย็นแล้วก็มีเหตุผลขึ้นมาก

“ทำไมพี่ต้องขืนใจคุณก้านด้วย ในเมื่อพี่วตีก็อยู่ทั้งคน ที่สำคัญผมไม่เคยรู้เลยว่าพี่มีรสนิยมอย่างนั้น”

“ไม่รู้สิ คงอยากจะเป็นเจ้าของเขามั้ง แล้วตอนนั้นพี่ก็หึงจนหน้ามืดไปหมด”

“พี่รักคุณก้านเหรอ”

“อืม รักมาก มากที่สุดตั้งแต่เคยรักใคร” ตอบอย่างแน่วแน่

“ไม่ใช่แค่อยากจะแกล้งเขาหรอกนะ” เด็กหนุ่มแกล้งถามพี่ชาย

“ไม่ใช่อย่างแน่นอน พี่มั่นใจ” ตอบน้องชายด้วยความมั่นใจเต็มที่ “นี่ช่วยพี่หาทางง้อก้านหน่อยสิ เขาคงโกรธพี่มาก”

“แน่นอน เป็นผมผมก็โกรธ” การันตอบตามที่คิดจริงๆ

“โห ไม่ให้กำลังใจกันเลย” บ่นเบาๆ “น่า ช่วยพี่หน่อยนะ”

“งั้น เอางี้ผมจะไปช่วยคิดพลางๆ แต่ถ้าคุณก้านใจตรงกันกับพี่เขาคงอยากให้พี่คิดเองมากกว่า”

“โธ่ พี่ก็คิดหาทางไว้ตั้งเยอะแล้ว แต่ว่าบางครั้งพี่อาจต้องพึ่งเรา เพราะว่าท่าทางนายกิ่งจะติดใจการ์พอดู” พูดตามที่รู้สึก

“พี่ กัณฑ์ พูดอะไร ไม่คุยด้วยละพรุ่งนี้ผมต้องไปทำงานแต่เช้า” การันทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินขึ้นห้องนอนของตัวเองไป ปล่อยให้พี่ชายนั่งกังวลใจเงียบๆ ถึงปมต่างๆที่เขาได้ผูกไว้

...............................................................................

มา ในห้องของตัวเอง หยิบมือถือขึ้นมาเปิดอ่านข้อความที่เขาได้รับทุกวันตั้งแต่ที่ให้เบอร์โทร ส่วนตัวกับต้นกล้าไป เบอร์ที่ส่งเป็นเบอร์เดิมทุกวัน ข้อความเลี่ยนๆที่ขัดกับบุคลิกคนส่ง อย่างเช่นข้อความของเมื่อวานนี้

The word… “colo(u)r”.
There is no “U” in USA.
But there is “U” in England.
Wish u know that I am English
people coz I never forget “U”. (¬-_ ~)!

ใน ข้อความบ่งบอกว่าคนส่งไม่เคยลืมเขาเลย แต่กิ่งใบไม่รู้หรอกว่าเขาต่างหากที่ไม่เคยลืมเลือนอีกฝ่าย งานวันแต่งงานของชายหนุ่ม เขามาร่วมงานด้วยทั้งๆที่ไม่ได้รับเชิญ ทั้งๆที่เขาเคยหนีมาตลอด แต่วันนั้นเขาผิดคำพูดตัวเอง เนื่องจากเพื่อนสนิทของเขาเป็นเพื่อนกับจ้าวสาว ทำให้เขาเองพอรู้ข่าวคราวของชายหนุ่มมาบ้าง วันนั้นเขาไปทำไมเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่ในวันงานพี่กิ่งของคุณก้านดูยุ่งมาก มากเสียจนมองผ่านคนที่ส่งข้อความมาบอกว่าไม่เคยลืม.......

การันมองข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะกดปิดไป และล้มตัวลงนอนอย่างสับสนกับหัวใจตัวเอง

ตอน นี้กิ่งใบเข้ามาพัวพันกับเขาอีกครั้ง ใจหนึ่งอยากผลักใสเหมือนอย่างเคย แต่อีกใจหนึ่งก็กลับอยากยอมรับ ยิ่งเกิดเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นทำให้เขาอยากเข้าข้างตัวเองว่า เขามีความสำคัญกับชายหนุ่มไม่ใช่แค่เครื่องมือแก้แค้นอีกต่อไป นี่เขาจะทำอย่างไรดี การันคิดจนปวดหัวไปหมด ถอนฟันยังไม่ยากอย่างนี้เลย

ติ๊ดดดดดดดด เสียงเตือนของโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น ร่างบางหยิบขึ้นมาเปิดอ่านข้อความที่พึ่งถูกส่งเข้ามา

ขอโทษอีกครั้งสำหรับทุกอย่างที่พี่ทำในวันนี้นะครับ
ขอโทษที่ทำให้การ์กลัว พี่ขอยอมรับผิดทุกอย่าง
หวังว่าจะยกโทษให้พี่นะครับ คนดี
นอนหลับผันดีครับ
พี่กิ่ง

กา รันอ่านข้อความด้วยความรู้สึกหลากหลาย นี่เขาจะทำอย่างไรดี ใจเขาชักเริ่มหวั่นไหวเสียแล้วสิ แล้วล้มตัวลงนอนอ่านข้อความบนมือถือด้วยความรู้สึกสับสนอีกครั้ง
...........................................................................

เช้าตรู่ของวันพฤหัสบดี ก้านใบยังคงนอนหลับอยู่บนเตียงของตัวเอง จนกระทั่งรับรู้ถึงแรงกดไม่มากนักบนตัวเขา

“อาก้านครับ ตื่นได้แล้วครับ” เด็กชายต้นกล้าใช้ร่างป้อมๆของตัวเองปลุกคุณอาที่นอนป่วยมาหลายวัน

“อืม ต้น ยังไปไปโรงเรียนอีกเหรอ” เด็กหนุ่มกอดหลายชายเอาไว้ไม่ให้ทับเขาไปมากกว่านี้

“กำลัง จะไปแล้วคับ แต่แวะมาหาอาก้านก่อน” เด็กชายมุดผ้าห่มอุ่นของคุณอาเล่นไปด้วย “มีดอกไม้มาส่งให้อาก้านทุกวันเลย จากใครเหรอคับ” ต้นกล้าถามด้วยความอยากรู้ เพราะห้องของอาก้านเต็มไปด้วยดอกไม้สีขาวมากมายที่เขาไม่รู้ว่าดอกอะไร และใครเป็นคนส่งมาให้คุณอาของเขา

“อากัณฑ์ส่งมาครับ” ร่างบางลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นว่าหลานชายกำลังจะลงนอนกับเขา ก้านใบไม่อยากให้เจ้าตัวเล็กไปเรียนสาย เพราะบ่อยครั้งที่ต้นกล้าเข้ามาปลุกเขาแต่ก็เผลอหลับไป ทำให้ไปโรงเรียนสายดังนั้นจึงต้องกันไว้ก่อน

“แล้วทำไมอากัณฑ์ถึงไม่เอามาให้อาก้านเองละคับ” เด็กชายจ้องคุณอาตาแป๋ว

“..........................................”

‘อา ก็อยากรู้เหมือนกัน’ ก้านใบก็ได้แต่เฝ้าถามตัวเองเช่นกัน ช่วงเวลาสามวันที่เขานอนพักอยู่กับบ้าน เด็กหนุ่มได้รับดอกไม้วันละสองช่อทุกวันเช้าเย็นและการ์ดใบเล็กที่แสดงความ ขอโทษ โทรศัพท์ที่มีมิสคอลจากชายหนุ่มเป็นร้อยๆครั้งในวันแรก จนทำให้เขาปิดเครื่องไปในที่สุดและยังไม่เปิดจนกระทั่งวันนี้ ยาที่ชายหนุ่มฝากมาให้ก็พร่องลงทุกวัน ครีมแก้บวมที่ทาทีไรอดนึกถึงคนทำไม่ได้

“พ่อไม่ให้อากัณฑ์มาเองแหละ เอ้า ลุกได้แล้วเดี๋ยวไปโรงเรียนสาย” กิ่งใบตอบคำถามลูกชายแทน พร้อมกับตบก้นเล็กๆที่อยู่ใต้ผ้าห่มเบาๆไปด้วย “ให้มาสวัสดีอาก้านก่อนไปเรียนแค่นี้ทำไมนานจังครับ” หอมแก้มลูกเบาๆเมื่อต้นกล้ามุดหน้าออกมาจากผ้าห่มอุ่น

“ทำไมคุณพ่อต้องห้ามไม่ให้อากัณฑ์มาหาอาก้านด้วยละคับ” เด็กชายสงสัย เพราะอากัณฑ์ก็เคยมาหาอาก้านที่บ้านแล้วนี่นา

“ไม่ใช่เรื่องของเด็กนะ ลุกได้แล้วครับ ไปรอพ่อที่รถก่อนเดี๋ยวพ่อตามไปนะ”

“คับ” เด็กขายรับคำอย่างว่าง่ายก่อนจะวิ่งออกไปปล่อยให้พ่ออยู่กับอาตามลำพัง

“พี่ไม่ให้เขามาหาเราเองแหละ แล้วก็พี่ทำเรื่องลาออกให้แล้ว ทางนู้นก็ไม่ได้ว่าอะไรด้วย เดี๋ยวพอเราหายดีก็มาทำงานกับพี่ละกัน”

กิ่ง ใบบอกน้องชายที่มีสีหน้าดีขึ้นบ้างแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะอาการไข้ทุเลาลงแล้วหรือเพราะได้ยินว่าสาเหตุที่กัณฑ์ไม่มาหา ที่บ้านเพราะเขาห้ามไว้กันแน่

“เขาเคยมาหาผมด้วยเหรอครับ” ก้านใบถามพี่ชายพลางล้มตัวลงนอนหันหลังให้ไปด้วย

“ก็ตั้งแต่วันที่เรามานั่นแหละ แต่พี่เห็นว่าเราไม่สบายไม่อยากให้ใครรบกวน”

“เหรอ ครับ” ร่างบางปิดตาลงอีกครั้ง ตอนนี้อาการเจ็บบริเวณสะโพกหายไปแล้ว เหลือแต่เพียงร่องรอยจางๆซึ่งค่อยๆเลือนไปช้าๆ หวังว่าความเจ็บปวดในใจคงจะจางหายไปพร้อมกับร่องรอยเหล่านั้น


“ถ้ารักกันจริง พี่ก็ไม่ว่าหรอกนะ” กิ่งใบลูบหัวน้องชายเบาๆ

“............................” ‘เขาไม่เคยรักผมตรับพี่’ ร่างบางได้แต่คิดใจและหลับตาลงเพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้พี่ชายเห็น

“พี่ไปส่งตาต้นเถอะครับเดี๋ยวสาย ผมไม่เป็นไรแล้ว” พยายามพูดให้กิ่งใบให้สบายใจ

“อืม งั้นไปละ ถ้ามีอะไรก็โทรหาพี่นะ หรือไม่ก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างก็ได้ดีกว่าอุดอู้อยู่แค่ในห้อง” กิ่งใบไม่เซ้าซี้น้องต่อเพราะคิดว่าก้านเองคงยังไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ตอน นี้ก็เป็นได้

“ครับพี่”
......................................................................

ณ บ้านพิศาลมนตรี เวลาประมาณ 21.00 น เป็นควรเป็นเวลาเข้านอนของเจ้าตัวเล็กของบ้านแต่เจ้าหนูยังนอนตาแป๋วอยู่บน เตียงนุ่มพร้อมกับผู้เป็นพ่อที่พึ่งกลับมาจากที่ทำงาน

“พ่อคับ ต้นอยากฟังนิทานเรื่องมาดากัสการ์”

ผู้เป็นพ่อทำหน้าประหลาดใจนิดหนึ่งก่อนโยกศรีสะเล็กเบาๆ

“ทำไมอยากฟังเรื่องนี้ละ ต้นไปได้ยินมาจากไหน เรื่องนี้ทำเป็นหนังการ์ตูนนะ”

“เพื่อนๆที่โรงเรียนคุยกันว่าหนุกมากเลยคับพ่อ”

“แล้วต้นอยากไปดูไหมละ เดี๋ยวพ่อซื้อวีซีดีมาให้ดู”

“ไม่เอาต้นจะฟังวันนี้” หน้าเริ่มแบะ ปากเล็กๆเริ่มยื่นออกมา เนื่องจากเลยเวลานอนแล้วอะไรก็ขัดใจไปเสียหมด

“เอ งั้นให้อาหมอเล่าให้ฟังดีมั๊ย พ่อไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง” คิดแผนเจ้าเล่ห์อีกรอบ อันที่จริงเขาก็ไม่คิดว่าการันจะดูหนังเรื่องนี้หรอก เพียงแต่เขาอยากได้ยินเสียงอีกฝ่ายก็เท่านั้น นับตั้งแต่วันนั้นเขาก็ยังไม่มีหน้าไปเจอการันอีกเลย เขาอยากรู้ว่าการันยกโทษให้หรือยัง ครั้นจะโทรไปเองก็เขิน เอาอย่างนี้แหละ

“ก็ได้คับ” ยิ้มให้พ่ออย่างชอบใจที่จะได้ฟังนิทานไม่ว่าใครเล่าก็คงเหมือนกัน

กิ่ง ใบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก พร้อมทั้งกด speaker ที่เครื่องด้วย แล้วยื่นหูฟังให้บุตรชายรับไว้ และไม่ลืมที่จะสอนให้พูดตามที่ตัวเองต้องการ รอไม่นานเจ้าของเบอร์ก็รับสายด้วยน้ำเสียงแปลกใจ

“ครับ”

“อาหมอเหรอคับ นี่ต้นพูดนะคับ” ทักทายเสียงใสไร้วี่แววของการง่วงนอน

“ว่าไงครับคนเก่ง ดึกแล้วยังไม่นอนอีกเหรอครับ หรือว่าปวดฟัน?”

“ป่าวคับ ต้นอยากฟังนิทานเรื่อง มาดากัสการ์ คุณพ่อเลยให้ต้นโทรมาหาอาหมอให้อาหมอช่วยเล่าให้ฟังคับ”

“เอ๋ ปลายสายทำเสียงฉงน แล้วทำไมคุณพ่อไม่เล่าเองละครับ”

“คุณพ่อยังไม่กลับจากที่ทำงานคับ” เด็กชายต้นกล้าหันไปยิ้มให้พ่อจนตาหยีที่สามารถพูดตามคำบอกได้อย่างไม่ติดขัด

ร่างสูงเองก็ยิ้มตอบให้บุตรชายที่สามารถทำผิดศีลข้อมุสาได้ตั้งแต่ยังเด็กอย่างภูมิใจ ‘เชื้อไม่ทิ้งแถว หึ หึ’

“งั้น เดี๋ยวอาเล่าให้ฟังก็ได้ครับ” ตอบอย่างสงสาร เด็กวัยขนาดนี้กำลังต้องการความรักความอบอุ่น นึกเคืองผู้เป็นพ่อของเด็กชายต้นกล้าที่ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว หารู้ไม่ว่าคนที่เขากำลังนึกถึงนอนกอดลูกชายฟังเสียงเขาเล่านินานอย่างมี ความสุข

“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.................................................................................
.....................................................................................
........................................................................................ และแล้วเจ้าม้าลายกับเพื่อนก็ล่องเรือออกจากเกาะมาดากัสการ์เพื่อกลับไปยัง สวนสัตว์ทีที่พวกมันจากมาอีกครั้ง”

----------------------

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 9 [update 9-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Aleleni ที่ 09-01-2013 09:57:10
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มาต่อแล้วววววววว
ดีจังที่พี่กิ่งไม่ได้ทำอะไรการันรุนแรง ><

รอลุ้นเรื่องคุณกัณฑ์ กับ น้องก้านใบ
รีบๆเข้าใจกันสักทีเนอะ

ปล. หลงรักน้องต้นกล้า เพราะว่าแพ้ใจเด็กตัวเล็กๆทุกที ~ ยิ่งเรื่องไหนมีเด็กน้อยยิ่งติดค่ะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 9 [update 9-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 09-01-2013 10:28:24
ฮ่าๆ
ดีใจที่พี่กิ่งไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 9 [update 9-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 09-01-2013 11:58:30
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 9 [update 9-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 09-01-2013 19:33:58
หุหุ จะง้องัยต่อน๊า
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 9 [update 9-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 09-01-2013 20:02:40
มีลูกเป็นเทวดาน้อยๆ นี่ก็ดีเหมือนกันนะครับ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 9 [update 9-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 10-01-2013 00:34:55
เรื่องนี้น่ารักดีค่ะ ถึงแม้จะแอบละครเล็กน้อยบางตอนแต่โดยรวมก็ลื่นไหลใช้ได้ อยากอ่านทั้งสองคู่เลย
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 9 [update 9-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 10-01-2013 04:52:04
รอดูว่าคู่ไหนจะลงเอยก่อนกันค่ะ. o13
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 10 [update 10-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 10-01-2013 10:38:39
ตอนที่ 10

เสียงใสหยุดลงเมื่อเล่าจบ ในขณะที่เอารถเข้าจอดในบริเวณบ้านพอดี เขาเล่าเรื่องนี้ตั้งแต่ออกจากคลินิกจนถึงบ้าน

“ต้นครับ”

“...........” ไม่มีเสียงตอบกลับมา สงสัยหลับแล้วมั้ง ร่างบางคิด

“นอนหลับฝันดีนะครับ” กำลังจะกดวางสายก็ได้ยินเสียงห้าวทักขึ้นเสียก่อน

“ขอบ ใจมากนะ นิทานเรื่องนี้สนุกมาก ตาต้นคงจะนอนหลับฝันดี” กิ่งใบหยิบหูโทรศัพท์ออกมาจากบุตรชายที่หลับไปแล้วตั้งแต่นิทานยังไม่จบ เหลือแต่เขาที่นอนฟังไปด้วยคิดถึงหน้าคนเล่าไปด้วย

“นี่....... จริงๆแล้วพี่อยู่ฟังตลอดใช่มั๊ย” ถามกลับอย่างโมโห หยุดเดินเข้าห้องชั่วขณะ

“เปล่าสักหน่อย พอดีพึ่งกลับมาถึงต่างหาก” โกหกหน้าตาย

“งั้นพี่ก็เป็นพ่อที่ใช้ไม่ได้ ทำไมปล่อยให้ลูกเข้านอนคนเดียวอย่างนี้”

“ก็งานพี่เยอะนี่”

“งานเยอะแค่ไหน พี่ก็ต้องมีเวลาให้ลูกสิ ตาต้นยังเด็กนะเขาควรได้รับความรักความอบอุ่นจากทั้งพ่อและแม่ให้มากๆ”

‘หึ เข้าล็อก’ ร่างสูงอมยิ้มกับคำสั่งสอนนั้น

“น่าสงสารตาต้นนะมีพ่อแค่คนเดียวคงไม่ค่อยอบอุ่นเท่าไหร่ ถ้ายังไงการ์มาเป็นแม่ให้ต้นมั๊ย ต้นจะได้เป็นเด็กไม่มีปัญหาตอนโต”

“บ้า พี่พูดอะไร” คู่สายคงจะโกรธจัดถึงได้ย้อนเสียงสูงขนาดนั้นกิ่งใบคิดขำๆกับน้ำเสียงที่ได้ยิน

“ก็ เป็นแม่ของต้น ก็.......เมียพี่ไง การ์สนใจมั๊ย ตำแหน่งนี้เปิดรับเฉพาะหมอฟันที่ชื่อการันคนเดียวเท่านั้นด้วยนะ” พูดทะเล้นเขานึกอยากเห็นหน้าร่างบางจริงๆ

“บ้า” ตูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

กา รันกดสายทิ้งอย่างโมโห คนอุตส่าห์เป็นห่วงด้วยความจริงใจ แต่ชายหนุ่มเอาแต่พูดเล่นอยู่ได้ กดปิดมือถือแล้วเดินเข้าห้องไปด้วยใบหน้าแดงเถือกไม่รู้ว่าโกรธหรืออาย มากกว่ากัน

ส่วนกิ่งใบได้แต่ยิ้มให้กับโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายทิ้งไป แล้ว อย่างอารมณ์ดีที่กวนโมโหของร่างบางได้ อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าการันไม่ได้ติดใจอะไร อีกไม่นานเขาต้องทำให้อีกฝ่ายใจอ่อนยอมเป็นแม่ให้ต้นกล้าให้ได้ คงจะหาคนที่เป็นห่วงลูกชายเขาได้มากขนาดนี้ไม่มีอีกแล้ว ร่างสูงเดินไปปิดไฟหัวเตียงของบุตรชาย พร้อมกับจูบราตรีสวัสดิ์เบาๆบนหน้าผากเล็ก แล้วเดินเข้าห้องตัวเองไปอย่างครึ้มอกครึ้มใจที่อีกแผนสำเร็จไปได้ด้วยดี
.....................................................................

ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง

“ก้าน มานานแล้วเหรอ” อุ๋มเพื่อนร่วมรุ่นตรงเข้ามาทักร่างบางที่ยืนคอยสมาชิกคนอื่นๆที่นัดมาเจอกันวันนี้

“พึ่งมาถึงเหมือนกัน แล้วมาคนเดียวเหรอนึกว่าอุ๋มจะมากับหนึ่งเสียอีก” เด็กหนุ่มถามถึงแฟนของหญิงสาวที่พึงมาถึงตามมารยาท

“หนึ่งเอารถไปจอดนะ กลัวว่าก้านจะรอนานเราก็เลยลงมาก่อนเนี่ย”

“แล้ว เพื่อนคนอื่นละ” ก้านใบถามถึงอีกสี่ห้าชีวิตที่บอกว่าจะไปรอที่ร้านอาหารก่อน โดยให้เขามาพร้อมเพื่อนสาว เนื่องจากเขาไปเรียนเมืองนอกนานเลยไม่รู้จักสถานที่ที่เพื่อนๆนัด จึงต้องพึ่งหญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มให้นำทางไป

“ไปรอที่ร้านแล้วหละ” ก้านยังตัวเล็กเหมือนเดิมนะ อุ๋มแซวคนที่หล่อนเคยแอบชอบมาก่อน

“อุ๋มก็ยังสวยเหมือนเดิม” ก้านใบพูดตามที่คิดจริงๆ

“แหม ก้านละก็ ถ้าเราสวยจริงทำไมตอนนั้นก้านไม่ยอมคบกับเราละ” หญิงสาวพูดถึงเรื่องอดีต ที่เขาเคยทำกล้าไปขอคบกับก้านใบแต่ได้รับการปฏิเสธอย่างนุ่มนวล จึงทำให้เขาและก้านใบยังคบกันมาได้จนป่านนี้

“ไปกันเถอะอุ๋มเพื่อนๆรอแย่แล้ว” ก้านใบเลี่ยงการตอบคำถามเพื่อนสาวโดยชวนไปยังจุดนัดพบที่เพื่อนคนอื่นๆรอกันอยู่

“อืม ทางนี้จ๊ะ” หญิงสาวก็ไม่คาดคั้นก้านใบอีกเพราะรู้นิสัยของเพื่อนดีว่าถ้าลองจะไม่พูดแล้วความลับก็จะยังเป็นความลับตลอดไป
.......................................................................

“ไงก้าน กลับมาเมืองไทยไม่โทรหาเพื่อนบ้างเลยนะมึง” อนันต์เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มถามก้านใบที่ยังไม่ค่อยพูดคุยเหมือนเดิม

“ก็ มาหาแล้วนี่ไง” ร่างบางตอบเพื่อน พลางยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบไปด้วย โชคดีที่เพื่อนเขาโทรมาชวนไปสังสรรค์พอดี ไม่อย่างนั้นเขาคงได้แต่นอนฟุ้งซ่านอยู่แต่ในบ้านทั้งวันเป็นแน่

“แล้วไปอยู่ที่โน่น มีแหม่มมาจีบบ้างป่าววะ” พงศ์เพื่อนอีกคนเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง

“ก็มีบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นหนุ่มฝรั่งมากกว่าหว่ะ แม่งตาถั่วชอบคิดว่ากูเป็นผู้หญิงอยู่เรื่อย ”

“มึง จะไปโทษพวกตัวผู้พวกนั้นอย่างเดียวก็ไม่ถูกนะโว้ย มึงส่องกระจกดูหน้ามึงซิ หน้าหวานกว่ายัยอุ๋มอีก กูจะไม่แปลกใจเลยถ้ามึงจะหายไปนานแล้วกลับมาบอกพวกกูว่า มึงมีผัวแทนที่จะมีเมีย 5555” พงศ์ยังล้อเพื่อนต่อไป

“ไอ้เชี้ย พงศ์” ร่างเล็กด่าเพื่อนที่มาทำนายอนาคตเขา และเพื่อนทั้งกลุ่มก็หัวเราะกับคำด่าที่นานๆที ก้านใบจะเอ่ยคำหยาบออกมาได้อย่างสนุกสนาน การสนทนาดำเนินต่อไปตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน โดยหารู้ไม่ว่ามีสายตาของใครคนหนึ่งแอบดูอยู่ตลอด
...

“หาย แล้วเหรอไงถึงได้ออกมาเที่ยวเล่นข้างนอกหนะ” เสียงห้าวที่ลอยมาทางด้านหลังทำให้มือขาวที่กำลังเปิดประตูรถชะงักและหันมา มองทางด้านต้นเสียง

“คุณกัณฑ์” เด็กหนุ่มเอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้าเบาๆ

“ก็ดีที่ยังจำได้” กัณฑ์เอ่ยเสียงเรียบผิดกับหน้าตายังกับกินรังแตนมาเป็นสิบรัง

เขา จ้างคนคอยดูก้านใบที่บ้านพิสาลมนตรีมาหลายวันแล้ว โดยสั่งไว้ว่าถ้าบุตรชายคนรองชองบ้านออกจากบ้านเมื่อไหร่ให้รีบโทรรายงานเขา ทันที ทั้งทั้งที่คิดว่าวันนี้ตงจะได้ปรับความเข้าใจกันเสียที แต่ท่าทางคงไม่มีโอกาสอย่างนั้น เพราะเขาเห็นก้านใบพูดคุยหัวเราะอย่างมีความสุขท่ามกลางหญิงชายมากมายที่ราย ล้อม ผิดกับเขาอย่างสิ้นเชิงที่เครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด แต่คนที่เขาคิดถึงกลับไม่ได้เป็นอย่างเขาสักนิด มันทำให้เขาโมโหว่ามีแต่เขาเพียงคนเดียวที่คิดถึงร่างตรงหน้านี้จับใจ

“ถ้าคุณไม่มีธุระอะไรละก็ผมต้องขอตัว” เปิดประตูรถทำท่าจะขับรถออกไป

“เดี๋ยว เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ชายหนุ่มดึงแขนอีกฝ่ายไว้อย่างแรง แล้วแย่งกุญแจจากมือเล็กไปถือไว้เอง ก่อนจะจัดการล็อกรถก้านใบไว้ แล้วลากเจ้าของที่ยืนมองอย่างตกใจไปยังรถอีกคันหนึ่งที่จอดอยู่ไม่ไกล

“ปล่อยผมนะ จะพาไปไหน” ก้านใบขืนตัวไว้สุดแรงแต่ก็ไม่สามารขัดขืนได้มากนัก ในที่สุดก็ถูกพามายังรถของอีกฝ่ายจนได้

“อย่า คิดหนีนะ ไม่งั้นชั้นปล้ำเธอตรงนี้จริงๆด้วย” คนพูดพูดด้วยท่าทางน่ากลัวจนก้านใบจำต้องยอมนั่งนิ่งๆในรถแต่โดยดี ปล่อยให้อีกฝ่ายพาเขาออกไปยังที่ชายหนุ่มต้องการ รู้อย่างนี้ให้อนันต์เดินมาส่งที่รถเสียก็ดีร่างบางคิดอย่างปลงๆ
...

บรรยากาศชายทะเลยามค่ำคืน มีลมพัดเอื่อยๆปะทะร่างสองร่างที่ยืนบนทรายนุ่มริมทะเล

“คุณพามาที่นี่ทำไม” ก้านใบกล่าวคำถามแรกตั้งแต่นั่งในรถกันมาจนถึงตอนนี้ถึงที่หมายแล้ว ชายหนุ่มก็ยังไม่พูดคุยกับเขาสักคำ

“พามาปรับความเข้าใจ” ในที่สุดกัณฑ์ก็ใจเย็นลงและก็พร้อมที่จะคุยสิ่งที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก

“ผมไม่มีอะไรต้องพูดกับคุณ”

“แต่ชั้นมี” ร่างสูงดึงมือเล็กที่กอดอยู่กับอกอยู่มากุมไว้ ทำให้เจ้าของมือนั้นมองมาอย่างไม่เข้าใจ

“ขอโทษในทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ยกโทษให้ชั้นได้มั๊ย”

กัณฑ์ ดึงก้านใบที่ยืนฟังนิ่งเข้ามากอด

“..............................”

“ก้าน ยกโทษให้ชั้นเถอะนะ สัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนั้นอีก” ชายหนุ่มยังคงง้องอนต่อไปเมื่อไม่เห็นปฏิกิริยาของร่างที่อยู่ในอ้อมกอด

“ผม ยกโทษให้ก็ได้ ปล่อยได้แล้วผมจะกลับบ้าน” ร่างบางขืนตัวออกจากอ้อมกอดนั้น เขายอมยกโทษให้ก็ได้จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีกจะได้จบๆกันไปเสียที
“ยกโทษให้แล้วก็มองชั้นสิ คุยกับชั้น อย่าทำเหมือนไม่มีชั้นยืนอยู่ตรงนี้ได้ไหม” ชายหนุ่มอ้อนวอน

“ผม ไม่มีอะไรจะคุย ในเมื่อคุณต้องการให้ผมยกโทษให้คุณ ผมก็ยกโทษให้แล้วไง ต่อไปนี้เราไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว” เสียงเริ่มสั่นอย่างห้ามไม่ได้

ก้านใบดิ้นจนหลุดจากอ้อมแขนแกร่งที่พันธนาการเขาไว้เมื่อครู่ แล้วออกวิ่งสุดแรงแต่ยังไปไม่ถึงไหนก็ต้องชะงัก

“พี่รักก้านนะ” กัณฑ์ตะโกนบอกความในใจที่เขาพึ่งรู้ไม่นาน

“โกหก คุณแค่ต้องการอยากเอาชนะผม” ก้านใบพูดทั้งน้ำตา โดยที่ยังไม่ยอมหันกลับมาเผชิญหน้า

“ก้าน พี่รักก้านจริงๆนะ” ชายหนุ่มโอบเอวเล็กจากทางด้านหลัง พร้อมทั้งก้มลงหอมผมนิ่มอย่างโหยหา

“คำ ว่ารักของคุณมันมีความหมายสักแค่ไหน คุณบอกรักใครก็ได้ง่ายๆ คุณวตีคุณก็เคยบอกรักเขาต่อหน้าผม มาวันนี้คุณก็บอกว่ารักผมทั้งๆที่คุณทำร้ายผมสารพัด” ความอึดอัดในใจมากมายพรั่งพรูออกมาไม่หยุด
“พี่เลิกกับวตีแล้ว ตอนนี้พี่มีก้านคนเดียว”

ก้านใบปาดน้ำตาไปมาอย่างกลั้นความรู้สึก เมื่อฟังคำต่างๆที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมา

“ที่ ผ่านมาพี่ยอมรับว่าพี่พูดคำว่ารักง่าย แต่พี่ไม่เคยหึงหวงอยากเป็นเจ้าของใครได้มากเท่านี้มาก่อนในชีวิต แค่ก้านพูดคุยหรือหัวเราะกับคนอื่นพี่ก็ทนไม่ได้แล้ว คราวนี้พี่พูดคำว่ารักจากหัวใจจริงๆ และที่สำคัญพี่ไม่เคยบอกคนรักคนก่อนว่าพวกเขาจะเป็นคนสุดท้ายของพี่ แต่กับก้านพี่แน่ใจว่าก้านจะเป็นคนสุดท้ายของพี่แน่นอน” จูบซับน้ำตาข้างแก้มเนียนเบาๆเมื่อพูดจบ

ร่างบางได้แต่ยืนนิ่งฟังคำ ที่เขาอยากได้ยินมาตลอด แต่เขาจะเชื่อชายหนุ่มได้จริงหรือ ก้านใบถามตัวเองอย่างสับสน แต่ในวันนี้เขาอยากเชื่อชายหนุ่มอีกสักครั้งหวังว่าการตัดสินใจครั้งนี้คงจะ ไม่ย้อนกลับมาทำร้ายเขาอีก

“คุณต้องพิสูจน์ตัวเองให้ผมเห็นว่าคุณรักผมจริงไม่ใช่แค่อยากเอาชนะผมเท่านั้น” ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ตัดสินใจได้

“ถ้าพี่ทำได้รางวัลคืออะไร” คลายอ้อมกอดออกช้าๆ แล้วหมุนให้ก้านใบหันมาเผชิญหน้ากับเขา

“ทุกอย่างที่พี่ต้องการ” จ้องตาร่างสูงไม่หลบเป็นการบ่งบอกว่า ถ้าชายหนุ่มทำได้เขาก็พร้อมที่จะรักชายหนุ่มอีกครั้ง

“ขอกำลังใจก่อนได้มั๊ย” ชายหนุ่มต่อรอง

ก้านใบยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มชายหนุ่มเร็วๆหนึ่งที แล้วเดินกลับไปที่รถและพูดโดยที่ไม่ได้หันกลับมามองหน้าคู่สนทนาว่า

“หวังว่าแค่นี้คงพอนะครับ ถ้าพี่กัณฑ์ทำให้ผมเห็นได้ว่าพี่รักผมจริง วันนั้นทั้งตัวและหัวใจของผมก็จะเป็นของพี่อย่างแน่นอน”

กัณฑ์ ยืนฟังคำนั้นด้วยรอยยิ้มบางๆ ถือว่าเขาโชคดีแล้วที่ก้านใบยอมยกโทษให้ เด็กหนุ่มเองก็อาจมีใจให้เขาบ้างกระมังคิดอย่างมีความสุข ก่อนจะเดินไปประจำที่คนขับพาร่างที่นั่งข้างๆไปส่งที่บ้านด้วยรอยยิ้มที่ไม่ มีมาตั้งหลายวัน
...

หนึ่ง เดือนแล้วตั้งแต่วันที่กัณฑ์สารภาพรักกับก้านใบ เด็กหนุ่มกลับมาทำงานบริหารช่วยพี่ชายที่บริษัทของครอบครัว โดยมีกัณฑ์เป็นแขกประจำของบริษัททุกเย็น และวันนี้ก็เช่นเดียวกัน

“วันนี้มาเร็วจังครับ” ก้านใบทักคนที่นั่งจิบกาแฟรอเขาอยู่ในห้องทำงาน

“ก็คิดถึงเลยอยากมากหาเร็วๆ”

“เลี่ยน” ร่างบางบอกเขินๆ

เดือน หนึ่งเต็มๆที่กัณฑ์พยายามพิสูจน์ความจริงใจ ไม่ว่าจะเป็นการเคลียร์กับผู้หญิงทุกคน ความห่วงใยที่มีให้อย่างสม่ำเสมอ การให้คำปรึกษาเรื่องงานอย่างจริงจังและมีประโยชน์ที่ถ่ายทอดให้เขาอย่างไม่ หวงวิชา และแม้กระทั่งการไม่ล่วงเกินเขาแม้แต่น้อยทั้งๆที่มีโอกาส ชายหนุ่มเป็นสุภาพบุรุษมาตลอดจนเขาชักใจอ่อน

“วันนี้ผมต้องไปรับตาต้นที่โรงเรียนนะครับ” พี่กิ่งติดธุระสำคัญไปรับเองไม่ได้

“งั้นพี่ขับรถให้” ชายหนุ่มอาสา

“ขอบคุณครับ” ก้านใบยิ้มให้ชายหนุ่มก่อนที่จะเก็บของเดินนำออกไปที่จอดรถเพื่อไปรับหลานชายตัวน้อยพร้อมร่างสูง
...

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 10 [update 10-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 10-01-2013 10:44:06
อ่าา ดีจังเข้าใจกันแล้วว :o8:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 10 [update 10-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 10-01-2013 12:46:54
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ดีกันแล้ว  ดีใจจังเลย 
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 10 [update 10-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: prince_elloit ที่ 10-01-2013 12:59:16
“เปล่าสักหน่อย พอดีพึ่งกลับมาถึงต่างหาก” โกหกหน้าตาย
ตรงนี้สะกดผิดนะคะเป็น "เปล่าสักหน่อย พอดีเพิ่งกลับมาถึงต่างหาก"
เนื้อเรื่องน่ารักค่ะ ^^ ชอบแนวนี้อยู่แล้ว (เราเป็นมาโซอ่ะนะ กร๊ากกกกกก ชอบอะไรที่ช้ำๆ)
แต่แอบติดใจว่า ทำไมคู่ ก้านxกัณฑ์ ดีกันง่ายจังเลย  :เฮ้อ: อยากให้ ก้านโกรธกว่านี้อีกหน่อย เล่นตัวอีกเยอะๆ
555 แบบให้กัณฑ์ มันรู้ว่า กว่าจะได้มาครอบครองมันไม่ใช่ง่ายๆนะ อะไรทำนองนี้
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 10 [update 10-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 10-01-2013 14:32:46
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:เค้าดีกันแล้ว :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 10 [update 10-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 10-01-2013 14:46:30
ยัยวดีมันยอมจบจริงๆรึเนี่ย กลัวนางคัมแบคเหลือเกิน
แต่คืนดีกันแล้วก็ดีใจด้วยนะ รอพี่กันต์พิสูธตัวเองไปเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 10 [update 10-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 10-01-2013 15:51:18
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 10 [update 10-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-01-2013 17:00:58
หวานเชียว  :o8:
หัวใจเป็นของพี่กัณฑ์แล้วมั้ง เหลือแต่ตัวนี่แหละ :haun4:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 10 [update 10-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 10-01-2013 18:22:16
เค้าดีกันแล้ววว อิอิ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 10 [update 10-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 10-01-2013 20:10:37
 :mc4: :mc4:
เย้ ยิปปี้ ยี๋ฮ่าาา  :mc3: :mc2: :m4:

ดีใจในที่สุดก็ดีกันแล้ว
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 10 [update 10-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 10-01-2013 21:02:28
จะมีดราม่าอีกหรือเปล่าครับเนี่ย
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 10 [update 10-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 11-01-2013 07:47:05
ดีกันแล้วอะ ดีจัง เหลืออีกคู่อะดิ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 10 [update 10-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 11-01-2013 08:04:52
อย่างน้อยพี่กัณฑ์ก็ทำตัวดีขึ้นอะเนอะ

การ์ก็ใจอ่อนกับพี่กิ่งเร็วๆน้าาา
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 10 [update 10-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 11-01-2013 14:35:36
รอคอยตอนต่อไป กลัวใจวตี เหอะๆๆ

ชอบหมอการ์ กรี๊ด!!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12 [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 12-01-2013 22:07:48
วันนี้ใจดี ฉลองวันเด็กควบวันเกิดคนโพสต์ ลงให้ 2 ตอนถ้วน  :laugh:

ตอนที่ 11

ณ สวนเด็กเล่นในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

“อาก้านคับ ต้นอยากเล่นอันนั้น” เด็กชายชี้ไปที่ยานอวกาศจำลองเล็กที่มีไว้ให้เด็กเล่น

“เอาซิครับ” อุ้มหลานชายวางบนเครื่องเล่นแล้วหยอดเหรียญเพื่อให้เครื่องเล่นทำงาน

“นึกถึงตอนเด็กนะครับ ผมไม่เคยได้เล่นอะไรแบบนี้เลย” ร่างบางหันไปพูดกับคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล

“นั่นสิ ตอนนั้นได้แค่เล่นม้าหมุน กระดานลื่น อะไรพื้นๆทั้งนั้น” ชายหนุ่มนึกถึงตอนเด็กๆไปด้วย

“จำ ได้ว่าตอนนั้นเล่นซ่อนหากันกับเด็กผู้หญิง พี่กัณฑ์บอกว่าจะพาไปหาที่ซ่อนดีๆ สุดท้ายผมก็โดนเจอคนแรกทุกที เพราะพี่แอบเอาแมลงสาบใส่กระเป๋ากางเกงผมไว้”

“แหม ก็ตอนนั้นยังเด็กนี่นา แล้วก็ก้านหนะเวลาร้องไห้ น่ารักที่สุดเลย” ตอบอย่างไม่สำนึกผิด

“หึ” เด็กหนุ่มทำเสียงในลำคอก่อนจะเลิกคิดเรื่องอดีต เมื่อเห็นว่ายานอวกาศที่หลานเล่นอยู่หยุดหมุนแล้ว

“ไปหาอะไรทานเถอะครับ” ก้านใบอุ้มหลานชายเดินนำร่างสูงไปที่ร้านอาหารประจำที่เขาและชายหนุ่มมาทานกันบ่อยๆ


“ต้น อยากทานอะไรครับ” กัณฑ์ถามเด็กชายซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา ตอนนี้กำลังแกะกล่องของเล่นชิ้นใหม่ ที่เขาพึ่งซื้อให้ตอนเดินมาที่ร้านอาหาร

“อยากกินข้าวไข่เจียวคับ” บอกโดยไม่ยอมละสายตาจากของเล่น มือเล็กๆนั่นง่วนอยู่กับการแกะกล่องของขวัญ

“มาอาแกะให้” ก้านใบอาสาเมื่อเห็นว่าหลานชายตัวน้อยแกะเองไม่ได้สักที

“ไม่ต้องก้าน ให้ต้นได้เรียนรู้ ถ้าก้านทำให้ตลอด ต่อไปต้นก็ทำอะไรเองไม่เป็น” พูดเบาๆกับคนที่หวังดีกำลังจะช่วยหลานแกะกล่องของเล่น

ร่าง บางชะงักในคำแนะนำนั้น จริงด้วยซินะ เหมือนเขาตอนเด็กๆเลย พี่กิ่งทำให้ทุกอย่าง มารู้ว่าเขาทำอะไรไม่เป็นเลยตอนเข้าค่ายพักแรมของโรงเรียนเล่นเอาลำบากพอดู จะว่าไปกัณฑ์ก็มีความรู้เกี่ยวกับเด็กมากทีเดียว เด็กหนุ่มแอบชมคนที่กำลังสั่งอาหารอยู่ในใจ ตั้งแต่เปิดใจลองคบกันกัณฑ์ก็แสดงความประทับใจให้เห็นมาตลอดจนกำแพงในใจเขา ลดลงไปกว่าครึ่ง คงในเร็ววันนี้เขาคงต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับชายหนุ่มเสียที

บรรยากาศ ในร้านครื้นเครงด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของเจ้าตัวเล็กและมุขฮาๆของกัณฑ์ทำให้ สามคนที่นั่งกินข้าวกันอยู่ถูกจับตาเป็นพิเศษโดยเฉพาะจากหญิงสาวคนหนึ่งที่ นั่งอยู่โต๊ะไม่ไกลนัก

อมาวตีบังเอิญมาทานข้าวร้านนี้พอดี ตั้งแต่กัณฑ์บอกเลิกกับหล่อน ชีวิตที่เคยสุขสบายก็กลับตาลปัดไปหมด หล่อนเคยมาง้อขอโอกาสกับกัณฑ์หลายครั้ง แต่ชายหนุ่มปฏิเสธเสียงแข็งมาตลอด โดยให้เหตุผลเพียงว่าเขาเจอคนที่เขารักจริงๆแล้ว และในวันนี้อมาวตีก็รู้แล้วว่าคนที่ชายหนุ่มพูดถึงคือใคร ความอิจฉาริษยาบวกความเคียดแค้นทำให้อมาวตีกำลังจะขาดสติ ทันทีที่โต๊ะนั้นเรียกเก็บเงิน อมาวตีก็ทำเช่นเดียวกัน และค่อยๆขับรถตามชายหนุ่มไปเงียบๆเพื่อทำอะไรบางอย่าง
...

“พี่ กลับก่อนนะครับ” กัณฑ์เอ่ยหลังจากมาส่งทั้งอาและหลานเรียบร้อยแล้ว โดยที่ต้นกล้านั้นเข้าไปสวัสดีคุณปู่คุณย่าก่อนผู้เป็นอา ซึ่งบัดนี้มายืนรอส่งคนที่อาสาเป็นสารถีให้เขาตั้งแต่บ่ายที่หน้าประตูรั้ว

“ขับรถดีๆนะครับ” เด็กหนุ่มยิ้มให้ก่อนจะหันกลับเข้าไปยังตัวบ้านแต่ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเสียก่อน

“เดี๋ยว” ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นอมาวตีนั่นเองที่เอ่ยคำนี้ ในมือของหล่อนถือปืนพกขนาดกะทัดรัดแต่อานุภาพร้ายแรงอยู่ด้วย

“คุณวตี.. วตี...” เด็กหนุ่มอุทานพร้อมกับกัณฑ์ที่เกือบจะขึ้นรถกลับไปแล้ว

“ทำไมค่ะกัณฑ์ ทำไมต้องเป็นไอ้เด็กนี่ด้วย” อมาวตีถามอย่างคนเสียสติ

“วตีผมว่าเราค่อยๆพูดค่อยๆจากันก็ได้นะ วางปืนลงก่อนเถอะ” ชายหนุ่มค่อยๆเกลี้ยกล่อม

“ไม่ค่ะ วตีแค่อยากรู้ว่าคุณรักเด็กนี่ใช่มั๊ย” ยืนเอาปลายปืนจ้องไปทางเด็กหนุ่มที่ยืนงงอย่างทำอะไรไม่ถูก

“วตี นี่เป็นเรื่องของเราสองคนนะ ก้านเขาไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย” พยายามเบี่ยงเบนความสนใจ

“ทำไมจะไม่เกี่ยวก็มันแย่งคุณไปจากวตี” อมาวตีเริ่มเสียงดัง

“วตี เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ผมก็พบคนที่ผมรักแล้ว เราควรจากกันด้วยดีนะ” ส่งสัญญาณให้ก้านใบพยายามหาที่หลบ

“ไม่ค่ะ ในเมื่อวตีไม่ได้ มันก็ต้องไม่ได้ด้วย”

และ ไม่ทันที่ใครจะคาดคิดอมาวตีเหนี่ยวไกปืนไปที่ก้านใบทันที แต่ยังช้ากว่ากัณฑ์ที่พุ่งเข้าไปขวางวิถีกระสุนไม่ให้ไปโดนคนที่เขารักได้ อย่างหวุดหวิด และคนที่โดนแรงกระสุนเต็มๆก็คือชายหนุ่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“พี่กัณฑ์ กัณฑ์ค่ะ”

สอง เสียงที่ตะโกนเรียกชื่อคนที่ทรุดลงไปต่อหน้าต่อตา เลือดสดๆทะลักออกมาจากบาดแผลทำให้ก้านใบตัวชาไปหมดรีบวิ่งมาประคองชายหนุ่ม ไว้มือก็กดที่บาแผลไปด้วย ส่วนอมาวตีรีบขึ้นรถจะขับหนีไปด้วยความตกใจเพราะเสียงปืนที่ดังลั่นทำให้ เป็นที่สนใจ แล้วอีกไม่ช้าคนก็จะแห่กันมาหล่อนจึงต้องรีบหนีไปเสียก่อน แต่เหมือนกรรมตามทันอารามรีบร้อนทำให้อมาวตีสตารท์รถไม่ติดเสียที สายตรวจที่อยู่แถวนั้นจึงมาทันจับตัวอมาวตีที่กำลังบ้าคลั่งไว้ได้ทันท่วงที

ส่วนทางฝั่งก้านใบนั้นได้แต่เรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างขวัญเสีย

“พี่กัณฑ์ พี่กัณฑ์อย่าเป็นอะไรนะ”

“คุณครับ เดี๋ยวพาคนเจ็บส่งโรงพยาบาลดีกว่าครับ” ตำรวจนั่นเองที่เตือนสติเขา

ก้าน ใบค่อยๆประคองชายหนุ่มขึ้นรถ โดยให้นายไหวที่วิ่งออกมาพร้อมคนในครอบครัวของเขาขับรถให้ เพราะเขาตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว เด็กหนุ่มกุมมือใหญ่ไว้ตลอดเวลา แนบแก้มที่เปื้อนน้ำตาลงไปสัมผัสกับหน้าผากกว้าง

“ไม่เอาก้าน อย่าร้องไห้” กัณฑ์บอกเสียงกระท่อนกระแท่น พยายามเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่หยดเป็นสายอย่างยากลำบากลำบาก เขารู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน

“เพราะผม ฮึก ฮือ ... เพราะผมคนเดียว ถ้าวันนี้พี่ไม่ต้องมาส่งผมเรื่องมันคงไม่เกิด ถ้าพี่ไม่เอาตัวบังผม พี่ก็ไม่ต้องเจ็บแบบนี้ ฮึก...” ก้านใบพยายามกลั้นสะอื้น

“อย่าโทษตัวเองเลย ถ้าจะมีคนผิดก็คือพี่คนเดียวเท่านั้น ก้านเป็นอะไรหรือเปล่า” ยังมีแก่ใจเป็นห่วงคนที่กอดเขาอยู่

“ไม่ ฮึก.. ผมไม่เป็นไร พี่กัณฑ์อย่าทิ้งก้านไปนะ ฮึก... อย่าให้ก้านต้องอยู่โดยไม่มีพี่อีกเลย ฮือ...” พูดกับร่างที่เริ่มหายใจแผ่วลงเรื่อยๆ

“ก้านรักพี่นะ รักมากที่สุด พี่กัณฑ์ได้ยินมั๊ย ฮือ ฮือ พี่กัณฑ์” เด็กหนุ่มเรียกอีกฝ่ายอย่างแรงอีกครั้ง เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ค่อยๆหมดไปพร้อมสติของชายหนุ่มหลังจากที่ได้ยินคำที่ อยากได้ยินจากก้านใบมาตลอด “พี่กัณฑ์ อย่าทำแบบนี้กับก้านนะ พี่กัณฑ์” ก้านใบตะโกนเรียกชายหนุ่มด้วยหัวใจที่แหลกสลาย

“ลุงไหวครับช่วยขับเร็วๆหน่อยเถอะครับ” เร่งคนขับรถทำไมโรงพยาบาลถึงไกลเหลือเกิน

“นี่ เร็วที่สุดแล้วครับคุณหนู” ชายวัยกลางคนที่ทำหน้าที่ขับรถได้ยินบทสนทนานั้นตลอด เขาเองสงสารก้านใบเหลือเกิน คุณก้านไม่เคยเสียใจกับอะไรขนาดนี้มาก่อน คุณพระคุณเจ้าช่วยคุ้มครองคนรักของคุณหนูของเขาด้วยเถิด

สามชั่วโมง เศษแล้วนับตั้งแต่กัณฑ์ถึงมือหมอ ตอนนี้คณะแพทย์ได้ทำการช่วยชีวิตชายหนุ่มอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากกระสุนทะลุปอดจึงทำให้ชายหนุ่มเป็นตายเท่ากัน และจากการเสียเลือดไปมากทางโรงพยาบาลจึงต้องขอรับบริจาคเลือดจากคนในครอบ ครัวที่มีเลือดกรุ๊ปเดียวกัน ซึ่งคนที่ทำหน้าที่นี้คือ การัน

“เป็น ไงบ้าง” คนที่ถามคนที่นอนให้เลือดอยู่ไม่ใช่บุพการีแต่อย่างใด เพราะคุณหญิงมารศรีนั้นเป็นลมลมพับไปตั้งแต่ทราบข่าว ทำให้คุณศิวะสามีจึงต้องไปดูแลภรรยา

“ผมไม่เป็นไรครับพี่กิ่ง น้ำใสๆคลอเต็มหน่วยตาที่แดงช้ำ แต่พี่กัณฑ์....” หยุดไว้แค่นั้นเพราะไม่อยากจะคิดอะไรอีกต่อไป

“กัณฑ์ก็ต้องไม่เป็นไร” ร่างสูงบีบมือร่างบางข้างที่ไม่ได้ให้เลือดเบาๆเพื่อเป็นการให้กำลังใจ

“คุณ ก้านละครับ” ถามถึงคนรักของพี่ชาย เขาเองยังเสียใจมากขนาดนี้ทั้งๆที่ด้วยการศึกษาและอาชีพทำให้เห็นคนเจ็บคน ตายมาเยอะ แล้วก้านใบเล่าจะเจ็บปวดสักแค่ไหน

“นั่งไม่พูดไม่จา เอาแต่ร้องไห้อยู่หน้าห้องฉุกเฉิน” ตอบอย่างเป็นกังวล ก้านใบนั้นแทบไม่พูดอะไรเลยเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว เสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดก็ไม่มีกะจิตกะใจจะเปลี่ยนด้วยซ้ำ เขาเป็นห่วงน้องเหลือเกิน ถ้ากัณฑ์เป็นอะไรไปน้องเขาจะอยู่ได้ยังไง

“ผมต้องทำยังไงดี” การันพึมพำกับคัวเอง

“สิ่งที่การ์ทำได้ การ์ก็ทำหมดแล้ว อย่าห่วงเลย”

“ขอบคุณครับ” ค่อยๆปิดเปลือกตากลั้นหยดน้ำตาไม่ให้เอ่อออกมาอีก

มือใหญ่ลูบศรีสะเล็กเบาๆ อย่างน้อยกิ่งใบก็อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่ายังมีเขาอีกคนที่เป็นห่วงเสมอ

กา รันซึมซับความอบอุ่นนั้นเงียบๆ ‘เหมือนเหลือเกิน ช่างเหมือนกำลังใจที่พี่กัณฑ์มักจะส่งให้เวลาเขาท้อแท้เหลือเกิน ฝ่ามือนี้ ความอบอุ่น และการปลอบโยน’ คิดอย่างเจ็บปวด ได้แต่ภาวนาว่าขออย่าให้กัณฑ์เป็นอะไรเลย พี่ชายที่แสนดีของเขา
...

เวลา ดูเหมือนจะนานชั่วกัลป์ในการรอคอยของก้านใบ เด็กหนุ่มได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาเงียบๆ จนกระทั่งหมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินเพื่อแจ้งข่าว ทำให้คนที่เคยนั่งนิ่งลุกขึ้นตรงมาที่หมออย่างร้อนรน

“พี่กัณฑ์ไม่เป็นไรใช่มั๊ยครับหมอ” ถามด้วยน้ำตานองหน้าและอาการหายใจไม่ทั่วท้อง

ขณะ นี้ทางเราได้เอากระสุนออกมาแล้ว แต่ว่าเคราะห์ร้ายที่กระสุนถูกจุดสำคัญ ทำให้คนไข้เสียเลือดไปมากเกินไป และอวัยวะภายในทำงานได้ไม่ปกติ ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นโคม่าและยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอด หมอว่าทางที่ดีควรรีบไปดูใจคนไข้ก่อนดีกว่าครับ โอกาสรอด มีไม่ถึง 10% ทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไปทิ้งไว้แต่ร่างซึ่งทรุดลงกับพื้นจนคน อื่นต้องรีบเข้ามาประคอง

“ทำใจดีๆไว้ก้าน กัณฑ์ไม่มีวันทิ้งนายไปทั้งอย่างนี้หรอก” กิ่งใบปลอบใจน้องชาย

“.................................”

“ก้าน มองพี่ กัณฑ์ต้องไม่เป็นไร” กิ่งใบจับใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดของก้านใบให้เงยขึ้นมา

“.............................”

“เรา เข้าไปดูกัณฑ์กันเถอะ” ร่างสูงพาก้านใบกับการันที่หน้าซีดไม่แพ้กันเข้าไปในห้องที่ทางโรงพยาบาล เพิ่งย้ายกัณฑ์เข้าไปมันคือห้อง ICU

สภาพภายในห้องเต็มไปด้วย อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย และคนที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงก็คือ กัณฑ์ สายต่างๆและท่อมากมายที่ติดอยู่บนตัวร่างสูงทำให้ก้านใบต้องสะอื้นออกมาอีก ครั้ง

“ฮึก...พี่กัณฑ์...”

ก้านใบเดินตรงไปเกาะราวอะลูมิเนียมเล็กๆที่กั้นเตียงอยู่ และเริ่มพูดกับคนที่นอนไม่ได้สติ

“พี่ กัณฑ์ ผมไม่ได้เข้ามาเพื่อจะลาพี่นะครับ ผมมาเพื่อที่จะบอกว่าผมรอพี่อยู่ ไม่ว่ายังไงพี่ก็ต้องกลับมา กลับมากินกาแฟที่ผมชงให้พี่ทุกเช้า กลับมากอดผมเหมือนที่พี่เคยกอด กลับมาแกล้งผมเหมือนที่พี่เคยทำเสมอ และก็กลับมาพาผมไปด้วยทุกที่ที่พี่ไป............. ผมจะรอนะครับ”

ร่าง บางยิ้มเศร้าๆให้กับคำพูดของตัวเอง นี่เขากำลังหลอกตัวเองเขารู้ดี กัณฑ์ไม่มีทางได้ยินคำอ้อนวอนของเขา แต่เขาอยากให้ชายหนุ่มรู้เหลือเกินว่าความเจ็บปวดที่ชายหนุ่มกำลังจะทิ้งไว้ ทำให้เขาแทบไม่อยากหายใจอีกต่อไปแล้ว

ทางฝั่งการันนั้นยืนฟังคำพูด ของก้านใบด้วยความสะเทือนใจ แต่เขาเองก็อยากบอกกัณฑ์ว่าเขาจะรอให้พี่ชายกลับมาเสมอเช่นเดียวกัน แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เขาเสียใจเกินกว่าจะพูดอะไรได้ในตอนนี้

และ เมื่อเห็นว่าน้องชายพูดจบแล้วกิ่งใบจึงเดินมาโอบไหล่น้องเบาๆ แล้วจูงมือการันออกมาจากห้องนั้น ทิ้งให้คนที่นอนอยู่บนเตียงนอนอยู่อย่างสงบต่อไป
...............................................................................
หนึ่ง อาทิตย์ผ่านไปโดยที่ไร้วี่แววการฟื้นตัวของกัณฑ์ ทำให้ในตอนนี้ทางคณะแพทย์ได้เริ่มพูดถึงการถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว เพื่อที่จะให้คนไข้ได้จากไปด้วยความสงบ และทุกคนเริ่มเห็นด้วยกับเรื่องนี้ยกเว้นก้านใบที่แทบจะไม่มีสิทธิ์หรือ เสียงใดเลยที่จะให้ยื้อชีวิตของทายาทตระกูลกัณฑราชเอาไว้

“คุณลุง คุณป้าครับ อย่าถอดเครื่องช่วยหายใจของพี่กัณฑ์เลยนะครับ เดี๋ยวพี่กัณฑ์ก็ฟื้นแล้ว”

เด็ก หนุ่มวิงวอนอย่างสิ้นหวัง เมื่อวันนี้สองสามีภรรยาตั้งใจว่าจะปล่อยให้บุตรชายคนโตจากไปด้วยความสงบ เสียที เนื่องจากไม่อยากเห็นความทรมานของลูกชายอีกแล้ว

“ป้ากับลุง ก็ไม่อยากทำอย่างนี้นะลูก แต่แค่นี้กัณฑ์ก็ทรมานมากพอแล้ว ให้พี่เขาไปอย่างสงบเถอะนะ” คุณหญิงมารศรีเอ่ยด้วยตาบวมช้ำ และความเจ็บปวดอย่างเหลือแสน

“พี่การ์ครับ อย่าให้หมอถอดเครื่องช่วยหายใจพี่กัณฑ์นะครับ” ก้านใบหันไปอ้อนวอนสมาชิกอีกคนของตระกูลกัณฑราช

“พี่ ก็ไม่เห็นด้วยนะก้าน แต่ทางการแพทย์แล้วพี่กัณฑ์อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจเท่านั้น พี่เองก็สงสารพี่กัณฑ์ที่ต้องมาทรมานกับเครื่องพวกนี้” บอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ไม่ใช่ว่าพี่ไม่เสียใจ พี่เสียใจที่สุดและไม่น้อยไปกว่าก้านเลยแต่ยังไงเราก็ต้องให้พี่กัณฑ์ไปสบาย เถอะนะ” จับมือเล็กที่เกาะแขนเขาไว้อย่างปลอบโยนทั้งตัวเองและก้านใบ

เมื่อ ไม่ว่าจะอ้อนวอนอย่างไรก็ดูไม่ได้ผล ดังนั้นก้านใบจึงต้องเคารพการตัดสินใจของครอบครัวชายหนุ่มแต่โดยดี แต่ขอเข้าไปบอกลาคนที่เขารักที่สุดก่อนที่จะมีการทำการใดๆตามลำพัง
...........................................................................
ภาย ในห้อง ICU ของโรงพยาบาล ร่างร่างเดิมยังคงนอนนิ่งอยู่ การหายใจเป็นไปด้วยความสม่ำเสมอจากเครื่องปั๊มอากาศ ที่มอนิเตอร์บอกอัตราการเต้นของหัวใจคงที่ แต่อีกไม่กี่นาทีสิ่งเหล่านี้จะหายไปตลอดกาล

ร่างบางเดินตรงมาที่ เตียงช้าๆ มองร่างกายที่เคยกำยำบัดนี้ซีดเซียว หน้าตาที่เคยหล่อเหลาสะอาดเกลี้ยงเกลา มีไรเคราสากๆขึ้นทั่วใบหน้าคม บ่งบอกว่าเจ้าของไม่ได้ลุกขึ้นมาจัดการตัวเองนานแล้ว

ก้านใบโน้มตัวลงไปจูบเบาๆตามแนวสันกรามอีกฝ่าย พร้อมทั้งกระซิบถ้อยคำที่เขาอยากพูดไปด้วย

“พี่ กัณฑ์ครับ อีกไม่กี่นาที........ฮึก.......เขาก็จะพาพี่ไปจากผมแล้วนะครับ....พี่กัณฑ์ ฟื้นสิครับ พี่เคยบอกว่าพี่จะทำทุกอย่างที่ผมต้องการ... ฮึก .... ตอนนี้ผมต้องการให้พี่ฟื้นขึ้นมาคุยกับผม... เรายังมีหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำเลยนะครับ.......พี่กัณฑ์....ฟื้นขึ้นมาบอก ผมสิครับว่าพี่รักผม........พี่เคยบอกว่าจะไม่ปล่อยผมไปไง พี่กัณฑ์...ถ้าพี่ฟื้น ผมสัญญาว่าจะไม่หนีพี่อีก จะยอมตามใจทุกอย่าง แต่ได้โปรดกลับมาหาผมเถอะครับ.... ฮึก....... อย่าใจร้ายกับผมอีกเลย........ฮือ.......”
เด็กหนุ่มบีบมือหนาเบาๆเพื่อ ซึมซับความอบอุ่นนี้บางทีครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้าย ก้านใบยกมือข้างนั้นขึ้นมาแนบแก้มของตนเองและปล่อยให้น้ำตาหยดลงบนฝ่ามือหนา เงียบๆ และในทันใดนั้นคำวิงวอนก็ดูเหมือนจะสัมฤทธิ์ผลเพราะเด็กหนุ่มรับรู้ถึงการ เคลื่อนไหวเบาๆบริเวณนิ้วมือที่แนบแก้มเขาอยู่ ร่างสูงกำลังใช้ความพยายามอย่างหนักในการบังคับให้ร่างกายตนเองเคลื่อนไหว เขาอยากโอบกอดก้านใบเหลือเกิน อยากขอบคุณที่ให้กำลังใจในการต่อสู้ ถ้าไม่มีร่างเล็กเขาคงยอมแพ้ไปนานแล้ว

ก้านใบยิ้มทั้งน้ำตา ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแล้ว เด็กหนุ่มค่อยๆวางมือกัณฑ์ลงช้าๆและรีบเรียกหมอเข้ามาดูอาการของร่างสูง ซึ่งยังความยินดีปรีดาไปยังครอบครัวกัณฑราชอย่างเหลือล้นทันที่ที่ทราบ ข่าวดีนั้น
........................................................................
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 12-01-2013 22:09:30
ตอนที่ 12

ภายในโรงพยาบาลเอกชน ชื่อดังใจกลางกรุงที่ขึ้นชื่อว่ามีเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดในประเทศ บัดนี้ได้มีโอกาสให้บริการกับทายาทตระกูลดัง ซึ่งตอนนี้อาการบาดเจ็บดีขึ้นตามลำดับ

“ขออนุญาตครับ” ก้านใบเปิดประตูห้องวีไอพีของกัณฑ์อย่างเบามือ ทำให้นางพยาบาลสองคนที่กำลังจะเช็ดตัวให้ชายหนุ่มต้องวางมือลงและหันไป ทักทายแขกประจำของกัณฑ์

“วันนี้มาบ่ายเลยนะคะ คุณก้าน เห็นทุกทีมาแต่เช้า” พยาบาลสาวเก็บกะละมังน้ำอุ่นกับผ้าเช็ดตัวเอาไว้ก่อน

เด็กหนุ่มเพียงแต่ยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะเดินตรงมาที่เตียงของร่างสูง

“ผมขอเช็ดตัวให้คนป่วยเองได้มั๊ยครับ” บอกเขินๆ เขาอยากทำอะไรให้ชายหนุ่มบ้าง

พยาบาลสาวยิ้มให้กันเล็กน้อยแล้วยื่นอุปกรณ์ให้เด็กหนุ่มเป็นเชิงบอกว่าไม่มีปัญหา

“พยายามหลีกเลี่ยงบริเวณบาดแผล นอกนั้นก็เช็ดได้ตามปกติค่ะ” แล้วเดินออกจากห้องไปทิ้งให้ชายหนุ่มสองคนอยู่กันตามลำพัง

“พี่กัณฑ์เป็นยังไงบ้าง” แสร้งทำไม่เห็นสายตาเชื่อมที่มองมา ตั้งแต่ที่กัณฑ์ฟื้นขึ้นมาไม่มีวันไหนเลยที่ชายหนุ่มจะไม่มองเขาแบบนี้

“ก็คิดถึงก้านเหมือนเดิม” ดึงมือเล็กที่ถือผ้าเช็ดตัวอยู่ขึ้นมาจูบเบาๆ

“บ้า ตอบไม่ตรงคำถาม” พยายามชักมือกลับเพราะกลัวคนอื่นจะเข้ามาเห็น

“โธ่ ก้าน ขอพี่จับมือหน่อยไม่ได้เหรอ ตอนพี่สลบเรายังแอบจูบพี่เลย” พูดล้อคนที่ยืนหน้าแดงอยู่อย่างอารมณ์ดี เคราะห์ร้ายผ่านพ้นไปเสียที

ในที่สุดร่างบางก็ยอมให้อีกฝ่ายกอบกุมมือแต่โดยดี ก่อนจะหยิบผ้าชุบน้ำด้วยมือข้างที่ว่าง และใช้ผ้านั้นเช็ดเบาๆที่ใบหน้าคม

“อ๊ะ......” กัณฑ์โน้มใบหน้าสวยที่เจ้าตัวกำลังง่วนกับการเช็ดตัวลงมาหอมแก้มเสียเต็มรัก

“สดชื่น” กระเซ้าเบาๆ

“อยู่เฉยๆเลย ถ้ายังยุกยิกอย่างนี้จะไม่เช็ดให้อีกแล้วด้วย” บอกเขินๆ

“ครับ ครับ” ยอมนิ่งแต่โดยดี ปล่อยให้ร่างบางทำความสะอาดร่างกายให้อย่างมีความสุข เสร็จแล้วเหรอ ถามขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายเก็บผ้าเช็ดตัว

“ครับ?” ย้อนงงๆก็เช็ดให้หมดแล้วนี่นา ทำหน้าสงสัย

“นี่ นี่ ตรงนี้ยังไม่ได้เช็ด” ชี้ไปตรงกลางลำตัวของตัวเอง ร่างบางทำตาโตทันทีกำลังจะเอ่ยค้านกัณฑ์ก็พูดสวนขึ้นมาพอดี

“แต่ ไม่เป็นไรถ้าก้านเหนื่อยแล้ว ไว้พี่ให้พยาบาลมาเช็ดให้ก็ได้” อมยิ้มรอดูปฏิกิริยา เขาคงไม่แหย่อีกฝ่ายแบบนี้แน่ถ้าเขายังไม่เคยได้ยินว่าร่างเล็กก็มีใจให้เขา เช่นกัน

“......................”

“เรียกพยาบาลให้หน่อยสิ” ยังคงพยายามยั่วอารมณ์คนที่ยืนนิ่งอยู่

“.....................” ยังคงไม่มีปฏิกิริยาจากก้านใบ

“อืม งั้นพี่เรียกเองก็ได้” ทำท่าจะเอื้อมมือไปกดออดตรงหัวเตียง

“กะ ก็ได้ เช็ดให้ก็ได้” รีบบอกทันที

“แต่พี่กลัวว่าก้านจะเหนื่อย เดี๋ยวให้เป็นหน้าที่พยาบาลแล้วกันนะ”

“ไม่เหนื่อยหรอกครับ ผมเช็ดให้เอง” รีบหยิบผ้าชุบน้ำออกมาอีกครั้ง

“หึงเหรอ” เสียงห้าวเอ่ยขึ้น ทำให้คนที่กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่เงยหน้าที่แดงจัดขึ้นมาทันที

“บ้า ใครหึงกัน” ย้อนอีกฝ่ายเสียงสูง

“ปากไม่ตรงกับใจเลยน้า ใครกันที่บอกว่ารักพี่นักหนา แถมจะยอมทำทุกอย่างถ้าพี่ฟื้นขึ้นมา” กระเซ้าทบทวนความจำให้ร่างเล็ก

“รู้ แล้วก็ห้ามพูดด้วย” บอกเขินๆเลิกปากแข็ง เพราะไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร การซื่อสัตว์ต่อความรู้สึกของตัวเองจึงน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

“หึ น่ารักจริงคนดีของพี่ หยิกแก้มป่องนั้นเบาๆอย่างมันเขี้ยว” ‘ฮ้า มีความสุขจริง’

มือ เล็กที่ถือผ้าหมาดๆนั่นค่อยๆล้วงเข้าไปในกางเกงผู้ป่วยตัวหลวมอย่างกล้าๆ กลัวๆ จนร่างสูงอดไม่ไหว จับมือเล็กนั่นมาวางแปะไว้ตรงตำแหน่งที่เขาต้องการทำให้ร่างบางสะดุ้งเฮือก ขึ้นมาทันที

“พี่กัณฑ์” เรียกอีกฝ่ายเบาอย่างตกใจในปฏิกิริยาของสิ่งที่เขาพึ่งสัมผัส มันเริ่มแข็งและขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ

ร่างสูงได้แต่ยิ้มพลางเลิกคิ้วขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ “เช็ดเร็ว” เสียงเริ่มเข้ม

มือ ขาวๆนั้นใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดขึ้นลงตามความยาวอย่างทุลักทุเล แต่การกระทำนั้นกลับยิ่งทำให้แก่นกายของชายหนุ่มขยายจนเต็มมือของเขา ผ้าหมาดดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่แกะกะระหว่างร่างสูงกับก้านใบ และไม่นานร่างบางก็เหมือนจะรู้หน้าที่ เด็กหนุ่มวางผ้าเช็ดตัวไว้แล้วใช้ฝ่ามือนุ่มกอบกุมร่างกายที่ร้อนจัดของชาย หนุ่มไว้ก่อนจะขยับขึ้นลงช้าๆ และค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้นตามแรงหายใจของคนที่กำลังถูกกระตุ้น ส่วนกัณฑ์นั้นก็ไม่อยู่เฉยชายหนุ่มดึงใบหน้าเล็กนั่นเข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม ลิ้นหนาลอดเข้ามาเกี่ยวพันลิ้นนุ่มอย่างเร่าร้อน มือสากข้างที่ไม่ได้ใส่น้ำเกลือก็ลูบไล้อกเล็กผ่านเนื้อผ้าไปมา และจนเกือบที่ชายหนุ่มกำลังจะบรรลุความต้องการภายในอุ้งมือนิ่มนั้น

ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูนั่นเองที่ดังขัดอารมณ์ทำให้ก้านใบต้องรีบชักมือกลับและดึงผ้าห่มมาคลุมตัวชายหนุ่มไว้

“หวัดดีครับพี่กัณฑ์ เป็นไงบ้าง ผมมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า” การันเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของกัณฑ์และแก้มที่แดงจัดของก้านใบ

“ก็ดี จะดีกว่านี้ถ้าเข้ามาช้าอีกนิดดดดดดดดหนึ่ง” บอกอย่างโมโห

กา รันยิ้มจนแก้มบุ๋ม เริ่มรู้อะไรลางๆ “งั้นผมไม่ขัดจังหวะแล้ว” กำลังจะหันหลังกลับไป ประตูห้องของกัณฑ์ก็เปิดขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เด็กชายตัวเล็กๆวิ่งนำหน้าผู้ชายร่างสูงอีกคนเข้ามา

“อา กัณฑ์ค๊าบ” เด็กชายวิ่งเข้ามาเกาะขาก้านใบแล้วเรียกคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไปด้วย และเสียงนั้นทำให้หน้าที่เคยบึ้งยิ้มออกมาทันที

“ว่าไงต้น”

“คุณพ่อบอกว่าอากัณฑ์ไม่สบายเหรอคับ”

“ครับ แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วหละ อีกไม่กี่วันอาก็กลับบ้านได้แล้ว”

เด็กชายผละจากขาคุณอาก้านเข้าไปหาอาหมอการันที่ยืนอยู่ไม่ไกล

“อาการ์ครับ ต้นอยากกินไอติม” ประจบอาหมอที่อุ้มเขาขึ้นมาในวงแขน

“หือ?” มองไปทางผู้เป็นพ่อก็เห็นยิ้มแฉ่งอยู่ใกล้ๆก้านใบ

ทางฝ่ายกิ่งใบนั้น ก็รู้หน้าที่ดีจึงหาทางแยกตัวออกมา

“งั้นเดี๋ยวพี่พาต้นไปกินไอติมก่อนนะ” บอกน้องชายเบาๆแล้วหันไปคว้าแขนคนที่อุ้มลุกเขาไว้และเดินนำออกไป

“อ้อ ดีใจด้วยนะที่หายดีแล้ว ไม่งั้นคนที่ต้องเข้าโรงพยาบาลคนต่อไปคงเป็นตาก้านเป็นแน่” ไม่วายที่จะหันมาแหย่น้องก่อนจะเดินออกจากห้องไปในที่สุด

“ขอบใจ” ร่างสูงบอกพี่ชายคนรักจากใจจริง

“จะเอาไงต่อดี” กัณฑ์หันมาถามคนรัก

“ก็นอนไปเลย นี่โรงพยาบาลนะ”

“แหมทีเมื่อกี้พี่บอกให้เช็ดอย่างเดียวก้านทำเกินหน้าที่ตั้งเยอะ” ก้านใบทำตาโตอีกครั้งก่อนจะทุบเบาๆที่ลำตัวชายหนุ่ม

“โอ๊ย.........”

“เอ่อ พี่กัณฑ์เจ็บมากหรือเปล่า ขอโทษนะครับ ก้านไม่ระวังเอง” ร่างเล็กขอโทษร่างสูงเป็นการใหญ่เมื่อเห็นท่าทางโอดครวญของคนรัก

“อุ๊บ....ฮ่า..ฮ่า..พี่ล้อเล่น ไม่จริงสักหน่อย” หัวเราะให้กับหน้าที่ซีดเผือดของก้านใบ

“พี่กัณฑ์ ไม่พูดด้วยแล้ว” ทำท่าจะเดินออกไปอย่างมีโมโหขึ้นบ้าง ชายหนุ่มเอาความห่วงใยของเขามาล้อเล่นได้ยังไง

“โอ๋อย่างอนเลยนะ พี่ดีใจที่ก้านเป็นห่วง บอกพี่อีกทีได้ไหมว่าก้านรู้สึกยังไงกับพี่”

“ ......................”

“ก้าน” ร่างสูงเอื้อมมือไปดึงมือเล็กให้เดินเข้ามาหา

“ผม เอ่อ คือว่า...........”

“คือว่าอะไร” บีบมือนิ่มเบาๆ

“ก้านรักพี่กัณฑ์” ในที่สุดคำพุดเบาหวิวก็ดังลอดออกมาจากริมฝีปากสวย พร้อมทั้งการก้มหน้างุดไม่ยอมเงย

‘น่ารักจริงๆ’ ร่างสูงคิด

“พี่ก็รักก้านคนดีของพี่ รักมากที่สุดในชีวิตเลย และพี่จะรักก้านคนเดียวตลอดไป จนวันที่พี่ตายปะ...”

ริมฝีปากที่กำลังพูดคำหวานถูกปิดด้วยริมฝีปากบางของก้านใบก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบ

“ห้ามพูดว่าตายอีกนะครับ เราจะอยู่ด้วยกันไปอีกนานจนพี่เบื่อก้านเลย” ร่างสูงยิ้มบางๆ ให้กับคำนั้น

“พี่ไม่มีวันเบื่อก้านหรอก ก้านก็รู้”

“พี่กัณฑ์ครับก่อนที่เราจะคบกัน ก้านมีเรื่องอยากขอพี่”

“เอาสิ พี่ก็มีเรื่องที่ต้องขอก้าน ไม่สิ เป็นเรื่องที่ก้านต้องทำต่างหากอยู่เหมือนกัน”

ก้านใบส่ายหน้าน้อยๆให้กับประโยคนั้นก็เรื่องที่เขาจะขอก็คือเรื่องที่ชายหนุ่มกำลังทำนั่นแหละ

“พี่ต้องเลิกเอาแต่ใจตัวเอง เลิกบังคับก้าน และที่สำคัญถ้ามีอะไรสงสัยในตัวก้านก็คุยกับก้านดีๆห้ามโมโหร้ายด้วย”

ชายหนุ่มอมยิ้ม นี่เขากลายเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองไปแล้วเหรอเนี่ย ไม่เห็นรู้เลยแต่ก็เอาเถอะ “พี่จะพยายามก็แล้วกัน”

“ถึงตาพี่ขอมั่งแล้วนะ”

ก้านใบทำหน้าเฝื่อนๆ กลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ พี่กัณฑ์จะขออะไรหนอ

“เวลา ก้านจะไปไหนต้องขออนุญาตพี่ทุกครั้ง ให้พี่ได้รู้ว่าเราจะไปไหนกับใคร แล้วเสื้อผ้าที่จะใส่พี่จะเป็นคนซื้อให้เอง ห้ามคุยกับผู้ชายคนอื่นนานเกิน 5 นาที ห้ามยิ้มหวานให้คนอื่นนอกจากพี่ ห้ามมีความลับเด็ดขาด และที่สำคัญก้านต้องมีเวลาให้พี่อาทิตย์ละเจ็ดวัน พี่ขอแค่นี้แหละ”

“แค่ นี้? ก้านใบอุทานเสียงสูง โห พี่กัณฑ์ทำไมไม่ห้ามผมคุยกับใครเลยละ” ทำหน้างอกับข้อตกลงของคนรัก นี่เขายังจะทำอะไรเองได้บ้างเนี่ย

“ได้ก็ดี ชายหนุ่มแหย่ นะก้าน เป็นแฟนกันแล้วก็ตามใจพี่หน่อยนะ รับรองพี่จะทำให้ก้านมีความสุข”

“จะพยายามก็แล้วกันครับ” ตอบแบบไม่เต็มใจ

“อืม ดี ดี พอพี่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เราไปเที่ยวกันนะ ไปแต่งงานกัน ไม่ต้องมีพิธีอะไร แค่มีเราสองคนก็พอ” อยู่ดีๆก็พูดขึ้นมา ไร้ความโรแมนติกโดยสิ้นเชิง

ก้านใบยิ้มด้วยความยินดี กอดคอร่างสูงไว้แล้วกระซิบที่ข้างหูเบาๆว่า

“ขอแต่งงานได้ไม่โรแมนติกเลย” จูบแก้มอีกฝ่ายแผ่วๆ “งั้นผมต้องขออนุญาตตอบตกลงหรือเปล่าครับ คนเอาแต่ใจ” บีบจมูกโด่งเบาๆไปด้วย

“พี่อนุญาตด้วยความยินดี” กอดร่างเล็กเข้ามาแนบตัวอย่างหวงแหนและร่างบางก็ตอบรับอ้อมกอดนั้นแต่โดยดี

ความ สุขแท้จริงที่กัณฑ์ไม่เคยสัมผัสตอนนี้ชายหนุ่มได้มาแล้ว ร่างบางในอ้อมกอดเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา คนที่เขาเคยแกล้งให้ร้องไห้ทุกครั้งในอดีต ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าเขาแกล้งก้านใบทำไม ถึงตอนนี้เขารู้แล้ว เพราะรักนี่เอง ตอนเด็กหนะเป็นธรรมดาที่จะแกล้งคนที่ตัวเองชอบ เขาเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

ต้น รักที่ทั้งเขาและก้านใบช่วยกันปลูกมาวันนี้กำลังเติบโตแข็งแรง เนื่องจากได้ปุ๋ยดี ซึ่งก็คือความรักของเขาทั้งสองคน และรดน้ำอย่างสม่ำเสมอด้วยความเข้าใจ เท่านี้ต้นรักที่เขาเคยทิ้งไปในอดีต ทิ้งให้ก้านใบดูแลเพียงลำพังอย่างเดียวดาย นับจากนี้เขาทั้งสองคนจะช่วยกันดูแลจนกลายเป็นต้นรักที่สูงใหญ่ให้ร่มเงาแก่ เขาทั้งคู่ตลอดไปตราบนานเท่านาน
.........................................................................

The End

 :pig4:

ลป.เดี๋ยวมีต่อตอนพิเศษและภาคสองด้วยน้า
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 12-01-2013 22:30:22
โฮ่
จบแล้วเย่
ขอบคุณคนแต่งรวมไปถึงคนโพสต์ด้วยน้าาาา ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 12-01-2013 22:35:04
สนุกมากๆอ่ะ

เล่าเอาซึ้งเลย ลุ้นต้องนานตอนจะถอดเครื่องช่วยหายใจ

ในที่สุดก็ผ่านมาได้นะ โล่งสมหวัวกันแล้ว เย้

หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-01-2013 22:58:22
ผ่านเรื่องร้ายๆมาได้ ก็ถึงเวลาสมหวังกันแล้ว  :o8:
มีตอนพิเศษไหม้อ อยากอ่านอีกจัง แต่กอนอื่นต้องขอบคุณคนเขียนและคนโพสต์มากนะคะ
สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดของคนโพสต์ด้วยค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง สมหวังในทุกสิ่งนะคะ :HBD1:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 12-01-2013 22:59:05
สนุกจังเลยค่ะ มีตอนพิเศษหรือเปล่าเอ่ย

ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องดีๆมาให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 12-01-2013 23:49:46
ใจหายหมดเลย นึกว่าพระเอกไปซะแล้ว  :bye2: ตัวอิจแาติดคุกตามขนบเป๊ะ แต่ก็สนุกดีนะคะ อยากอ่านอีกคู่ค่ะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 13-01-2013 00:30:51
มาอ่านครั้งแรกค่ะะะ จบรวดเดียวเลย ไม่ได้ทำรายงานกันเลยทีเดียว ฮ่าๆ

ขอตอนพิเศษค่ะะะะะะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 13-01-2013 08:12:28
โอ้ รอลุ้นต่อภาคสอง
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 13-01-2013 10:04:45
ชอบเรื่องนี้มากค่า ขอบคุณที่นำมาโพสให้อ่านอีกนะคะ

ปล. Happy birthday ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมสัมปันนี ที่ 13-01-2013 10:19:19
ขอบคุณคับสำหรับนิยายดีๆ ขอตอนพิเศษหน่อยน้าาาาาา :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: biwtiz ที่ 13-01-2013 11:33:15
จบแล้ว ขอบคุณนะคะนักเขียนสำหรับเรื่องดีๆ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 13-01-2013 17:45:52
เย้ๆๆๆๆๆ รักกันๆๆๆ

อยากอ่านตอนพิเศษๆๆ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: shockoBB ที่ 13-01-2013 18:07:39
ขอบคุณมากค่าาา
แอบหวังตอนพิเศษ อิอิ
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 14-01-2013 09:57:16
 :bye2: :bye2: :bye2: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 14-01-2013 12:51:39
นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว   :try2:



รอคู่พี่กิ่งกับการ์นะครับ   o13
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 11-12(จบ) [update 12-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: sinyou ที่ 14-01-2013 21:24:00
อ่านรวดเดียวจบ สนุกค่า รอตอนพิเศษ กับ ภาค2  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนพิเศษ [update 16-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 16-01-2013 11:31:01
Their Wedding and Honey Moon
.....................................................................

บ้าน พักริมทะเลบนเกาะส่วนตัวของครอบครัวกัณฑราช ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายหาดที่ซึ่งหาดทรายยังคงเป็นสีขาว เนื่องจากมีเพียงสมาชิกในครอบครัวเท่านั้นที่ได้เชยชมความงามของเกาะแห่งนี้ ทำให้สภาพแวดล้อมของเกาะยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม บัดนี้บ้านเพียงหลังเดียวบนเกาะได้เปิดไฟทั้งหลังบ่งบอกให้ทราบว่าขณะนี้ได้ มีสมาชิกของกัณฑราชมาพักผ่อนไม่คนใดก็คนหนึ่ง

เป็นเวลาหนึ่งเดือน แล้วนับตั้งแต่เกิดเรื่องร้ายขึ้น ตอนนี้ร่างกายกัณฑ์ฟื้นตัวเต็มที่ และก็เป็นวันที่เขาพาคนรักมาพักผ่อนที่บ้านริมทะเลบนเกาะส่วนตัวของครอบครัว เขาเพียงลำพัง

“พี่กัณฑ์ซื้ออะไรมาตั้งเยอะแยะ” ร่างบางมองดูถุงอาหารมากมายที่อีกฝ่ายถือลงจากเรือ

“ก็ พวกอาหารที่เราจะกินในวันต่อไปไงจ๊ะทูนหัว” จุ๊บแกมเนียนหนึ่งที ก่อนจะเดินนำถุงเสบียงมากมายไปแช่ในตู้เย็นขนาดใหญ่ที่สามารถจุของสดได้หลาย วัน

เมื่อเดินเข้ามาในตัวบ้าน ก้านใบจึงสามารถพิจารนาตัวบ้านได้อย่างถ้วนถี่ บ้านหลังนี้ถือได้ว่าเพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่สามารถใช้งานได้ทุกพื้นที่ ห้องนอนสามห้องที่กระจายอยู่อย่างลงตัว และที่ที่เขายืนอยู่เป็นห้องโถงกว้างซึ่งเป็นที่สังสรรค์ของสมาชิกในบ้าน เคาเตอร์ที่อยู่มุมซ้ายของห้องมีเครื่องดื่มหลากหลายชนิดวางเรียงรายอยู่ รวมทั้งตัวบ้านที่หันหน้าเข้าหาทะเล หาดทรายขาวสะอ้านที่ทอดยาวจากชานบ้านลงไป ยิ่งยามค่ำคืนเช่นนี้ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งอย่างชัดเจน

“ผมนอนห้องไหน” เด็กหนุ่มถามร่างสูงที่ง่วนอยู่กับการค้นอะไรบางอย่างในกองของกิน

คำถามนั้นทำให้อีกฝ่ายชะงักแล้วหันมาทำหน้าสงสัย

“ก็ นอนห้องเดียวกันสิครับ จะหนีพี่ไปนอนคนเดียวทำไม เราเป็นแฟนกันแล้วนะ” ทบทวนความจำให้ก้านใบ เมื่อไม่นานมานี้ยังพูดกับเขาอยู่เลยว่าต่อไปนี้เราจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว แต่ไหงมาเที่ยวด้วยกันกลับจะนอนแยกห้องกัน เขาหูฟาดหรือเปล่า

“เอ่อ คือผมยังไม่พร้อม” เด็กหนุ่มสารภาพออกมาในที่สุด ด้วยรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับการมาเที่ยวเพียงลำพังเช่นนี้

“อันนั้นพี่รู้ เลยเตรียมของมาเพียบ มานี่มา” เรียกก้านใบให้มาที่โต๊ะอาหารที่เขาวางกล่องอาหารหลายอย่างลงไป

“อะไรครับ” เด็กหนุ่มมองกล่องโฟมที่ปิดทับด้วยพลาสติกใส ข้างในบรรจุก้อนเล็กนิ่มๆสีขาววางซ้อนกันอยู่หลายก้อน

“เขาเรียกว่าหอยนางรม” กัณฑ์เฉลย

“พี่จะกินแต่หอยนางรมเหรอ ไม่มีกับข้าวอย่างอื่นหรือไง ผมอยากกินอย่างอื่นมากกว่า” ค้นถุงกับข้าวในถุงอย่างไม่เอ๊ะใจสักนิด

“มี แต่ยังไม่ให้กินตอนนี้ ค่ำนี้อาหารของเราคือหอยนางรมกับเบียร์เย็นๆเท่านั้น”

ชาย หนุ่มแกะพลาสติกออก หยิบหอยตัวใหญ่มาหนึ่งตัว ส่งเข้าปากร่างบางแล้วฝานมะนาวชิ้นเล็กบีบใส่ปากก้านใบที่กำลังทำหน้าเบ้ เพราะไม่เคยกินของสดๆมาก่อน

“แล้วนี่นะต้องตามด้วยยอดกระถิน” ส่งยอดกระถินให้อีกฝ่ายอีกครั้งแต่คราวนี้ก้านใบส่ายหน้าเป็นเชิงว่าพอแล้ว

“ไม่ได้นะ ห้ามพอด้วย” ชายหนุ่มกล่าวเมื่อเห็นคนรักเดินเลี่ยงออกไปดื่มน้ำ

“ไม่เห็นอร่อยเลย” เด็กหนุ่มว่า

“พี่ก็ไม่ได้กินเอาอร่อย กินเอากำลัง” กัณฑ์พูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะส่งหอยนางรมเข้าปากตัวเองบ้าง

“กำลังอะไรครับ”

“ก็หอยนางรมนี่เป็นยาโด๊ปอย่างดีเลยนะ คืนนี้เราจะได้มีแรงไง” ชายหนุ่มบอกหน้าตาย

“บ้า ผมไม่กินหรอก” ว่าอย่างนั้นแล้วเข้าห้องไป ปล่อยให้กัณฑ์นั่งโด๊ปหอยนางรมอย่างไม่กลัวคลอเรสเตอรอลจุกอกตายไว้ลำพัง

“ก็ตามใจ ร่างสูงตะโกนไล่หลัง ก็ดีคืนนี้ก้านจะได้ไม่มีแรงขัดขืนพี่”


“ไม่ เอา ห้ามทำอะไรที่ผมไม่ยอมด้วย” ก้านใบเดินกลับทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น ทำตาโตห้ามอีกฝ่ายที่ดูเอาจริงเหลือเกิน จะว่าไปมาคราวนี้เขาก็เตรียมใจมาบ้างแล้ว แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเตรียมพร้อมมากกว่าเขาไม่รู้กี่เท่า ก็เลยรู้สึกกลัว พูดตามตรงก็คือยังฝังใจกับ sex ครั้งแรกกับชายหนุ่มอยู่นั่นเอง

“จิจ๊ะ” ร่างสูงทำปากขัดใจ ก้านผลัดพี่มาจะเป็นเดือนแล้วนะเนี่ย พี่ก็มีความอดทนจำกัดนะ เดินมาดึงร่างเล็กเข้าแนบอก

“ก็ผมกลัวนี่นา” กอดเอวร่างสูงไว้อย่างเอาใจ หวังให้อีกฝ่ายยืดเวลาให้เขาอีกหน่อย

“ไม่ ต้องกลัวสัญญาว่าจะไม่ทำรุนแรง แล้วถ้าก้านบอกว่าไม่ พี่ก็จะหยุดทันทีตกลงไหม พี่เคยไม่รักษาสัญญาหรือเปล่า” กอดตอบปลอบใจ “ก้านอยากกินอะไรหละพี่เวฟให้” เปลี่ยนหัวข้อสนทนาให้อีกฝ่ายสบายใจ

“ไม่ หิวแล้วครับ เลี่ยนหอยนางรม” ก้านใบใจชื้นขึ้นบ้าง เขาเข้าใจชายหนุ่มดีว่าต้องการเขา ดังนั้นเขาก็จะพยายามเพื่อตอบแทนความรักที่อีกฝ่ายมีให้

“งั้นก้านก็ไปพักผ่อนเถอะ พี่จัดของเสร็จแล้วจะตามไป”

“ครับ” เดินเข้าห้องไปในที่สุด

...

ที่นอนข้างๆตัวยุบฮวบลงตามน้ำหนักของคนที่พึ่งนอนลงมา ทำให้ร่างที่นอนตะแคงซึ่งหลับสนิทอยู่ก่อนรู้สึกตัวทันที

“พี่กัณฑ์”

“หืม พี่ทำเราตื่นเหรอ ขอโทษที” หอมแก้มเนียนเบาๆ แล้วกอดร่างเล็กไว้

ส่วนก้านใบนั้นใจเต้นแรงจนคนกอดอยู่ทางด้านหลังรู้สึก

“พี่ ไม่ทำอะไรหรอก นอนเถอะ พรุ่งนี้จะได้มีแรงไปเที่ยวกัน” กระชับอ้อมแขนแน่นเข้าเพื่อให้ความอบอุ่น เนื่องจากอากาศยามค่ำคืนริมทะเลในช่วงหน้าหนาวแบบนี้อุณหภูมิค่อนข้างจะเย็น เป็นพิเศษ

“แต่พี่กัณฑ์ยังไม่....เอ่อ......”

“เอาเป็นว่าพี่ทนได้ ok มั๊ย นอนเถอะนะ” จูบหลังคอระหงหอมกรุ่นเบาๆอีกครั้ง

“ขอบ คุณครับ” ก้านใบพึมพำกับอกชายหนุ่ม แล้วพลิกตัวกลับมาใช้สองแขนเล็กๆ กอดเอวชายหนุ่มไว้อย่างมีความสุข ไม่ช้าร่างเล็กก็หลับไปอีกครั้ง ทิ้งให้คนที่กินอาหารเสริมพลังนอนค้างอยู่อย่างทำอะไรไม่ได้

..............................

.............................

.............................

.............................

ขณะ นี้เวลา 01.22 น. แล้วคนที่กินหอยนางรมเข้าไปเป็นอาหารเย็นก็ยังคงนอนไม่หลับ ยิ่งคนที่นอนเกยอยู่บนตัวเขากำลังนอนหลับด้วยท่าทางน่ารักแบบนี้เขายิ่งข่ม ตาไม่ลง และในที่สุดชายหนุ่มก็ทนไม่ไหว

“อย่าว่าพี่ทะลึ่งเลยนะ ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ” กระซิบข้างหูนิ่มเบาๆ ก่อนจะใช้มือหยาบลูบไล้สะโพกนิ่มผ่านเสื้อนอนตัวโคร่งที่เขาจัดแจงไปหามาให ก้านใบใส่ด้วยตัวเองไปมา ส่วนอีกข้างก็กุมอวัยวะร้อนๆที่หว่างขาตัวเองไปด้วย เขาต้องควบคุมอารมณ์แทบตายไม่ให้เผลอขยำก้อนเนื้อนุ่มใต้ฝ่ามือนั้น ด้วยกลัวว่าคนรักจะตื่น

และขยับมือไปมาไม่นานชายหนุ่มก็ทนไม่ไหว รีบลุกออกไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยในห้องน้ำ เพราะไม่อยากรบกวนคนที่นอนหลับสนิทอยู่ และเมื่อระบายความต้องการบางส่วนออกไปแล้ว ชายหนุ่มก็กลับมานอนบนเตียงด้วยความทรมานอย่างเดิม แต่คราวนี้แตกต่างตรงที่ในที่สุดเขาก็ข่มตาให้หลับได้ตลอดคืนเสียที แม้จะฝันว่าได้ทำอย่างนู้นอย่างนี้กับคนที่ที่นอนกอดอยู่หลายรอบก็ตาม
...............................................................................

เช้า วันใหม่คืบคลานเข้ามาพร้อมกับเสียงคลื่นที่กระทบหาดทรายขาวสะอาดเบาๆ แต่ก็ดังพอที่จะทำให้ร่างเล็กที่ซุกตัวอยู่ภายใต้อ้อมแขนอุ่นเปิดเปลือกตา ขึ้นมาอย่างงัวเงีย

ก้านใบค่อยๆลุกจากเตียง เพื่อจะไปเตรียมอาหารเช้า แต่ไม่ทันก้าวลงจากเตียงอ้อมแขนอุ่นที่คลายออกเมื่อกี้ก็รัดเขาเข้าไปใหม่

“จะรีบลุกไปไหน” เสียงห้าวถามอยู่กับตักนุ่ม

“ไปชงกาแฟแล้วก็เตรียมอาหารเช้าครับ” ตอบยิ้มๆเมื่อเห็นอาการออดอ้อนของคนตัวโต

“ยังไม่อยากลุก” ขยับศรีสะทุยให้เกยอยู่บนตักคนตัวเล็กกว่ามากกว่าเดิม เพื่อกันไม่ให้ร่างเล็กลุกไปไหนได้

“พี่กัณฑ์ก็นอนต่อสิ เดี๋ยวก้านไปเตรียมอาหารเอง” พยามยามแกะมือหนาที่ป้วนเปี้ยนบริเวณเอวไปด้วย

“ไม่เอาอยู่ด้วยกันก่อน” เริ่มทำตัวเหมือนเด็กชาดความอบอุ่น

ก้านใบส่ายหน้าให้กับความเอาแต่ใจนั้น ก่อนจะก้มลงมาจูบแก้มสากเบาๆ

“ก้านหิวแล้วครับ พี่กัณฑ์ปล่อยเถอะนะ วันนี้พี่สัญญาว่าจะพาผมไปดำน้ำด้วยนะ” พยายามหาเหตุให้ชายหนุ่มปล่อยเสียที

“ก็ได้ แต่ขอ morning kiss ก่อน” สบตากลมอย่างมีความหมาย

จุ๊บ ร่างบางสัมผัสเบาๆบนริมฝีปากอีกฝ่ายๆเร็วๆหนึ่งที ก่อนจะรีบลุกออกไปอย่างเขินอาย ทิ้งให้ชายหนุ่มนอนยิ้มอยู่คนเดียว
................................................................................

ภาย ในห้องครัวขนาดกะทัดรัด แต่เพียบพร้อมด้วยเครื่องอำนวยความสะดวก มีร่างๆหนึ่งในชุดเสื้อนอนตัวยาวตัวเดียว กำลังก้มๆเงยๆหาของบางอย่างอยู่

ช่วง ขาเรียวยาวขาวสะอ้าน โผล่พ้นชายเสื้อลงมาทำให้คนที่พึ่งเดินออกมาต้องมนต์จนต้องยืนนิ่งมองภาพ นั้นด้วยหัวใจระทึก ลุ้นว่าร่างบางจะก้มลงอีกเมื่อไหร่

“อ๊ะ พี่กัณฑ์” ก้านใบอุทานเมื่อโดนขโมยหอมแก้มจากด้านหลัง มือหนารวบเอวคอดไว้แนบตัว ทำให้สะโพกกลมสัมผัสอยู่กับหน้าขาชายหนุ่ม จนก้านใบต้องก้มหน้างุดกับความเปลี่ยนแปลงที่สัมผัสสะโพกเขาอยู่

“หอมจัง” ชายหนุ่มพึมพำเสียงพร่าอยู่กับหูบาง

ร่าง เล็กพยายามฝืนตัวออกจากอ้อมแขนราวคีมเหล็กนั่น แต่ยิ่งดิ้นกัณฑ์ก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น จมูกและปากของชายหนุ่มหยอกเย้าอยู่กับลำคอขาวเนียนหอมกรุ่น

และไม่ นานก้านใบก็เลิกดิ้นเมื่อชายหนุ่มลากมือสากของตัวเองไปทั่วร่างกายเขา เสื้อเชิ้ตเนื้อบางที่ใส่อยู่ให้ความวาบหวาม เมื่อมันสัมผัสร่างกายเด็กหนุ่มอย่างแนบชิด สะโพกมนถูกมือหยาบฟอนเฟ้นอย่างหนักหน่วง ร่างบางใช้สองมือยันเคาเตอร์ไว้เพื่อพยุงตัวรับการรุกราน

“อ๊ะ .........อา...........” ก้านใบครางอย่างอดไม่ไหวเมื่อร่างสูงคุกเข่าลงใช้ริมฝีปากขบเม้มแก้มก้นนิ่ม ผ่านเนื้อผ้าอย่างหลงใหล มือใหญ่ลอดผ่านชายเสื้อเข้าไปรูดชั้นในตัวเล็กลงมาช้าๆ โดยที่ไม่ลืมไล้ลิ้นลงมาตามขาเรียวยาวอย่างหยอกเย้า


ในที่สุด ชั้นในตัวเล็กก็หลุดลงมากองที่ข้อเท้าเล็ก กัณฑ์ค่อยๆเลิกชายเสื้อขึ้นไปเผยให้เห็นสะโพกสวยที่ตึงแน่นตามวัยลอย เด่นอยู่ตรงหน้า

ชายหนุ่มตีเบาๆบนก้อนเนื้อขาวนั้น พร้อมทั้งใช้ริมฝีปากงับเนื้อนิ่มไม่แรงนักแต่ก็ทำให้เจ้าของร่างหลับตาปี๋ด้วยความเสียวซ่าน

“อืม พี่กัณฑ์” เด็กหนุ่มครางเสียงแผ่วเมื่อชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและเอื้อมมือสาก มาสัมผัสกลางหว่างของเขาอย่างเร่าร้อน มืออีกข้างก็จับใบหน้าชื้นเหงื่อให้หันมารับจูบดูดดื่มจากชายหนุ่ม ก้านใบนั้นหายใจแทบไม่ทันเมื่อชายหนุ่มเร่งมือเร็วขึ้นอีกกอปรกับริมฝีปาก เล็กที่ถูกดูดดุนอยู่จนแทบไม่มีโอกาสให้เขาหอบหายใจ และในที่สุดความต้องการก็มาถึงจุดที่ทนไม่ไหวอีกต่อไป

“อ๊ะ อา” เสียงหวานลอดออกมาจากริมฝีปากอิ่มเมื่อความต้องการเดินทางมาถึงขีดสุด เด็กหนุ่มปลดปล่อยความต้องการออกมามากมายจนเละไปตามหว่างขาและมือใหญ่

ก้าน ใบทรุดตัวลงอย่างหมดแรง รีบอ้าปากหายใจทันทีที่ริมฝีปากบางเป็นอิสระ ชายหนุ่มรับร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน จูบขมับหอมเบาๆ และเอื้อมมือไปปลดชั้นในตัวเล็กที่ติดอยู่กับข้อเท้าก้านใบมาเช็ดคราบต่างๆ จนสะอาด ก่อนจะอุ้มร่างที่นอนหมดแรงขึ้นในวงแขนแล้วพาเดินเข้าห้องนอนไป

“พักซะ พี่จะไปเตรียมอาหารเช้าเอง” ร่างสูงพูดกับคนที่ยังหอบหายใจอยู่

“แต่พี่กัณฑ์” ก้านใบคว้าข้อมือแกร่งไว้

“พี่ ไม่เป็นไรแค่ก้านมีความสุข พี่ก็มีความสุข” ยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนและเดินออกจากห้องไป ทิ้งไว้เพียงความปลาบปลื้มใจของร่างบางที่นอนหลับตาอย่างเหนื่อยอ่อน
...

ในตอนบ่ายของวันหลังจากก้านใบตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และทั้งคู่กำลังเตรียมตัวจะไปเที่ยวกัน

“หยู๊ดดดด หยุดเดี๋ยวนี้เลย” เสียงห้าวที่ดังมาจากทางด้านหลังของเรือทำให้ร่างบางชะงัก

“เอ๋?”

“จะทำอะไร” ร่างสูงถามคนที่ยืนทำหน้างงอยู่ไม่ไกล

“ก็ เตรียมตัวลงไปดำน้ำไงครับ” ตอบอย่างงๆ ก็พวกเขาอุตสาห์ล่องเรือออกมายังอีกเกาะหนึ่งตั้งแต่สาย ก็เพื่อจะลงไปดำน้ำดูปะการังนี่นา พอเขากำลังจะถอดเสื้อยืดออก แล้วพี่กัณฑ์บอกให้หยุดทำไม?

“เอาเสื้อลงมาเลย” มือหนาดึงเสื้อยืดตัวโคร่งที่ตัวเองเลือกให้ร่างบางกับมือลงมาที่เดิม เมื่อเห็นคนรักกำลังจะถกเสื้อขึ้นเพื่อที่จะถอดมันออกให้พ้นตัว

“ทำไมละครับ” ถามอย่างสงสัย หรือว่ากัณฑ์จะเปลี่ยนโปรแกรม

“ใส่ไว้อย่างนี้แหละ” บอกหน้าตาเฉย

“อะไรหนะพี่กัณฑ์ เรากำลังจะไปดำน้ำกันนะครับ ถ้าใส่เสื้อยืดกับกางเกงแบบนี้ก็ไม่คล่องตัวสิ”

“พี่ไม่ให้เราถอด ไม่เห็นเหรอผู้ชายอยู่เต็มเรือ” ทำท่ามองไปรอบๆเรือส่วนตัวของตัวเองที่มีเพียงคนขับเรือและพวกเขาเท่านั้น

“พี่ กัณฑ์!!!!” ก้านใบอุทธรณ์ เนื่องจากเขาไม่ให้ว่าจะมีอะไรน่าเสียหายตรงไหน กัณฑ์เองก็เหลือเพียงกางเกงว่ายน้ำตัวเดียวเท่านั้น และที่ว่าผู้ชายเต็มเรือนี่หมายความว่ายังไง ถ้าบอกว่าผู้หญิงเต็มเรือค่อยน่าคิดหน่อย

“ไม่ต้องทำเสียงอย่างนั้น เลย พี่ขอข้อตกลงไว้แล้ว” ร่างสูงทวงสัญญาและใส่แว่นกันน้ำให้ร่างเล็กไปด้วย วันนี้พวกเขาดำน้ำไม่ลึกจึงไม่ต้องใส่ชุดดำน้ำและถังออกซิเจน

ก้านใบได้แต่มองหน้าคม อย่างพูดอะไรไม่ออก อะไรจะขนาดนั้น แต่ก็ยอมทำตามที่ชายหนุ่มบอกแต่โดยดี ทำไงได้ก็รักไปแล้ว
..............................................................................

โลก ใต้น้ำดูจะเป็นที่ตื่นตาตื่นใจกับก้านใบเป็นอย่างมาก ปะการังหลากสีที่ขึ้นอยู่ตามโขดหิน ปลาสีสันสดสวยน้อยใหญ่ที่แหวกว่ายท่ามกลางทะเลอันอุดมสมบูรณ์ดึงดูดให้ร่าง บางว่ายเข้าไปดูอย่างสนใจ

บางครั้งแนวปะการังที่สวยงามก็ทำเอาเด็ก หนุ่มเผลอมองอยู่นาน นานจนเกินไป ทำให้คนที่ดำน้ำมาด้วยกันอดเป็นห่วงไม่ได้ จึงต้องจูบปากอิ่มถ่ายเทอากาศไปให้บ้าง เพราะกลัวว่าก้านใบจะว่ายขึ้นไปสูดหายใจบนผิวน้ำไม่ทัน เขาเป็นคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นความจุของปอดก็มากกว่าคนรักอยู่แล้ว

ก้านใบนำชายหนุ่มไปยัง ที่ๆที่ตัวเองสนใจที่แล้วที่เล่าอย่างมีความสุข ทำให้ร่างสูงที่อยู่ข้างๆพลอยมีความสุขกับรอยยิ้มสดใสนั่นไปด้วย

ผ่านไปราวชั่วโมง กัณฑ์ก็ทำสัญลักษณ์ด้วยมือ เป็นการบ่งบอกว่าพอแล้ว ทำให้ก้านใบต้องขึ้นจากน้ำด้วยความเสียดาย

“ฮ้า” ร่างบางอ้าปากกว้างสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ทันทีที่โผล่ขึ้นเหนือน้ำ

“เป็นไง” อีกคนที่โผล่ขึ้นมาทีหลังถามขึ้น

“สวย มากครับ” เสยผมเปียกที่แนบหน้าออกเพื่อจะได้มองเห็นได้ชัดขึ้น และยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อกัณฑ์ก็ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ก่อนจะรั้งต้นคอเล็กเข้า มา และบดจูบดื่มด่ำเนิ่นนานจนก้านใบอึดอัด

จุ๊บ ร่างสูงจูบกลีบปากตูมเบาๆอีกครั้งก่อนจะผละออกอย่างเสียดาย

“ทำไมเซ็กซี่อย่างนี้นะ” บอกชิดหูบาง

“ตรง ไหนครับ” ก้านใบตามขำๆกับคำพูดของชายหนุ่ม ในความรู้สึกของเขาก็ยังไม่เคยเห็นว่ามีอวัยวะส่วนใดของร่างกายตัวเองที่ให้ ความรู้สึกอย่างนั้นเลย

“ก็ตรงนี้” สัมผัสอกเล็กที่เห็นลางๆจากเสื้อที่เปียกน้ำ “ตรงนี้” ลูบสะโพกมนผ่านกางเกงขาสั้นแนบตัวไปมา

“หึ” ก้านใบทำเสียงในคอ ก่อนจะว่ายผละออกไปที่เรื่อซึ่งจอดอยู่ไม่ไกล โดยมีร่างสูงว่ายตามหลังมาติดๆ

“ก้าน อย่าว่ายเร็วนักเดี๋ยวเป็นตะคริว” ยังส่งเสียงตามหลังมาอย่างเป็นห่วง

“คร๊าบบบ” ชะลอความเร็วลงจนร่างสูงว่ายแซงหน้าไปในที่สุด เพื่อที่จะคอยรับร่างเล็กให้ขึ้นมาบนเรืออย่างไม่ลำบาก และยังไม่ลืมที่จะตะโกนบอกคนขับเรือให้หันไปทางอื่นก่อนที่คนรักจะขึ้นจาก น้ำ ทำให้ก้านใบต้องส่ายหน้าไปมาอย่างปลงๆ

และแล้วการดำน้ำดุปะการังของวันนี้ก็จบลงด้วยความสุขของทั้งสองฝ่าย
ท่ามกลางหาดทรายขาวยามค่ำคืน เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังเป็นระยะ ประกอบกับดวงดาวมากมายบนท้องฟ้าทำให้ค่ำคืนนี้เป็นคืนที่โรแมนติกมากสำหรับ ร่างสองร่างที่นั่งชิดกันอยู่ริมหาด

“พี่กัณฑ์รู้มั้ยว่า ก่อนจะมาเจอพี่เวลาผมอยู่คนเดียว ผมมักจะนึกถึงใครคนหนึ่งเสมอ” ก้านใบเริ่มบทสนทนาขึ้นมาก่อน

คำพูดนั้นทำให้ร่างสูงสนใจขึ้นมาทันที “คิดถึงใคร ถามเสียงห้วน”

“ก็คิดถึงเด็กคนหนึ่งที่มักจะตามผมไปทุกที่ แถมยังแกล้งผมทุกครั้งที่มีโอกาส จนผมชินไปเลย”

“หืม” มองหน้าหวานเงียบๆรอฟังต่อไป

“แล้วอยู่ ดีๆวันหนึ่งเขาก็หายไป ไม่มาหา ไม่มาเล่นด้วย โดยที่ไม่เคยบอกผมเลยว่าเขาหายไปไหน และทำไมไม่มาอีก” เสียงเริ่มสั่นเมื่อนึกถึงอดีตที่ฝังใจมาตลอด

“พี่กัณฑ์รู้มั๊ยว่า ผมนั่งคอยเค๊าทุกวัน จะแกล้งก็ได้ขอแค่มาหาผมเถอะ ผมคิดอยู่อย่างนั้นเป็นปี” เช็ดน้ำตาที่หางตาเบาๆ

“แล้วทำไมก้านถึงไม่ไปหาเขาเองหละ” ร่างสูงถามขึ้นบ้าง จูบซับน้ำตาบนแก้มเนียนให้ไปด้วย

“ผม เคยไปครั้งหนึ่ง แต่เห็นเขาอยู่กับเพื่อนกลุ่มใหญ่ ขี่จักรยานเล่นเป็นกลุ่มอย่างสนุกสนาน ก็เลยคิดว่า เค๊าคงเบื่อเล่นกับเราแล้ว จากนั้นผมก็ไม่ไปหาเค๊าอีกเลย” เงยหน้าขึ้นมาสบตากับร่างสูง

“แล้วก้านรู้ไม๊ว่าทำๆไมเด็กคนนั้นไม่ไปหาก้านอีก” เว้นระยะให้อีกฝ่ายได้คิดตาม

ก้านใบส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงบอกว่าไม่รู้ แล้วจ้องอีกฝ่ายนิ่งรอฟังคำตอบ

“ไม่ ใช่เพราะเบื่อหรอกนะ แต่เพราะกรรมตามทันมั้ง น้องของเด็กคนนั้นถูกพี่ของก้านแกล้งจนร้องไห้ไปหลายวัน เด็กคนนั้นก็เลยตัดสินใจไม่ไปตอแยกับก้านอีก”

“จริงเหรอครับ” หน้าหวานเอียงคอถามอย่างสนใจ

“จริง สิ ก้านรู้มั๊ยว่าเวลาก้านร้องไห้น่ารักที่สุดเลย” บอกยิ้มๆ “ตอนนั้นพี่เสียดายแทบแย่ เกือบจะไปหาตั้งหลายครั้งแต่ติดว่าสัญญากับกิ่งไว้แล้วว่าจะไม่ไปหาก้านอีก”

ร่างบางยิ้มอย่างมีความสุขที่ไม่ได้มีแต่เขาฝ่ายเดียวที่คิดถึง ซบหน้าลงกับอกแกร่ง

“ก้าน พี่รักก้านนะ” ชายหนุ่มบอกความในใจอีกครั้งก่อนจะใช้ร่างกายสูงใหญ่ของตัวเองทาบทับก้านใบให้นอนราบลงกับผืนทราย

“ก้านก็รักพี่กัณฑ์ครับ” ยิ้มหวานที่สุดเท่าที่เคยยิ้มมา

ร่าง สูงค่อยๆโน้มตัวลงไปสัมผัสหน้าผากมน ค่อยไต่มาตามพวงแก้มเนียน แล้วหยุดที่ริมฝีปากบาง ปลายลิ้นอุ่นลากไล้บริเวณริมฝีปากตูม เชิญชวนให้กลีบปากบางเปิดออกรับการรุกราน และไม่นานชายหนุ่มก็ได้สัมผัสกับลิ้นเล็กๆที่โต้ตอบเขาอย่างเต็มใจ หวาน หวานเหลือเกิน

มือหนาเลื้อยไปมาตามร่างกายของก้านใบผ่านเนื้อผ้าบาง ก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมออกทีละเม็ด แต่ก็ยังไม่ละริมฝีปากจากร่างเล็ก จนกระทั่งเสื้อถูกปลดออกไป ชายหนุ่มจึงได้ลากลิ้นสากลงมาตามซอกคอเนียน ขบย้ำอยู่สองสามทีก่อนจะย้ายริมฝีปากลงมาจนกระทั่งถึงยอดอกเล็กที่กระเพื่อม ขึ้นลงตามแรงหายใจ ร่างสูงครอบครองเม็ดสีชมพูเข้มอย่างอ่อนโยน ดูดดึงเล่นอย่างหยอกล้อ แต่ก็ทำให้เด็กหนุ่มต้องบิดตัวไปมาด้วยความเสียวซ่าน มือเล็กดันแผ่นอกหนาไว้แผ่วๆ

กัณฑ์ถอดเสื้อของตัวเองออกมาปูบนหาดทราย แล้วยกตัวก้านใบขึ้นมาวางไว้บนเสื้อนั้นเพื่อจะดำเนินการขั้นต่อไป

“จะ จะทำตรงนี้เหรอครับ” ร่างบางถามด้วยใบหน้าแดงก่ำ

“พี่คงรอให้ไปถึงห้องไม่ไหว” พูดเสียงพร่า

“แต่เดี๋ยวใครผ่านมาเห็น” บอกอย่างเป็นกังวล จะให้มามีอะไรกันบนชายหาดเนี่ยนะ เขาไม่ได้หน้าหนาขนาดนั้น

“น่า ตื่นเต้นดีออก ที่สำคัญ นี่มันเกาะส่วนตัวนะครับ ทั้งเกาะเนี่ยมีเราแค่สองคนเท่านั้น” พูดจบก็โน้มตัวลงมาฟอนเฟ้นก้านใบอีกครั้ง คราวนี้ชายหนุ่มไม่ยอมเสียเวลาแม้เพียงนิด กางเกงขาสั้นที่ร่างบางใส่อยู่ถูกถอดออกอย่างง่ายดายเหลือเพียงชั้นในชิ้น เล็กติดตัว

หน้าคมก้มลงมาหยอกล้อบริเวณกลางลำตัวของก้านใบผ่านเนื้อ ผ้า จูบเบาๆตามซอกขาขาว แล้วเลยลงไปตามขาเนียนทั้งสองข้างจนถึงหลังเท้าอูมสะอาด

ก้านใบนั้น แทบทนไม่ไหวกับการเล้าโลมนั้น แค่นี้เขาก็เกือบจะถึงจุดอยู่แล้ว ซึ่งกัณฑ์เองก็รู้ดีถึงความต้องการของคนรัก ร่างสูงจึงดึงกางเกงชั้นในของร่างเล็กออกให้พ้นตัว เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าสะท้อนแสงจันทร์ยามค่ำคืน ส่งให้ร่างนั้นงดงามราวกับรูปสลัก

“สวย สวยเหลือเกิน” พึมพำกับซอกคอหอมกรุ่ม พลางถอดกางเกงตัวเองไปด้วย ในที่สุด สองร่างบนชายหาดก็มีสภาพไม่ต่างกัน

ชาย หนุ่มจับข้อเท้าเล็กทั้งสองข้างให้แยกออกกันและแทนที่ด้วยตัวเองเข้าไปใน ช่องว่างนั้น ตอนนี้กลายเป็นว่าสองขาขาวของก้านใบได้โอบรอบร่างกำยำของกัณฑ์เอาไว้

ร่าง สูงดึงต้นขาขาวขึ้นมาวางบนต้นขาแข็งแรงของตัวเอง เพื่อให้สะดวกต่อการรุกราน กัณฑ์ค่อยๆจับท่อนลำแข็งและร้อนผ่าวของตัวเองเข้าไปเคาะเบาๆและถูไถไปมา บริเวณช่องทางสีชมพูของคนที่นอนอยู่ เพื่อสร้างความคุ้นเคย และเมื่อเห็นว่าก้านใบพร้อมแล้วจึงกดตัวเองเข้าไปอย่างระมัดระวัง แต่ก็ทำให้ร่างบางเกร็งตัวทันที

“ชู่ว์ ไม่ต้องกลัวคนดี ให้พี่เอาออกมั๊ย” ถามกับหูบางที่ตอนนี้แดงเถือกจากการเกร็งเมื่อครู่

“ไม่เป็นไรครับ” พยายามฝืนบอกแม้จะทั้งจุกทั้งเจ็บขนาดไหน

มือ หนาเอื้อมมาสัมผัสด้านหน้าของเด็กหนุ่มเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ และดูเหมือนจะได้ผลเมื่อก้านใบลดอาการเกร็งลงไป จนเขาสามารถเข้าดันตัวเองเข้าไปได้จนสุดทาง

ชายหนุ่มช้อนเอวเล็ก ขึ้นมาให้เกยอยู่บนตัวเขา เลยกลายเป็นว่าตอนนี้เขานั่งเหยียดขาอยู่โดยมีร่างบางของก้านใบทับอยู่ด้าน บนแก่นกายของเขา ชายหนุ่มรู้ดีว่าท่านี้จะช่วยลดความเจ็บปวดของก้านใบ แถมเขายังสามารถแนบสนิทกับร่างบางได้มากที่สุดอีกด้วย

“พี่กัณฑ์” เด็กหนุ่มเรียกอีกฝ่ายเบาๆเมื่อตระหนักได้ถึงท่าทางที่น่าอายของตัวเอง

“พี่จะขยับละนะ ก้านแค่ยันตัวเองไว้บนเข่าทั้งสองข้างเท่านั้น พี่จะขยับขึ้นไปเอง” ชายหนุ่มกระซิบคำน่าอายอีกครั้ง

กัณฑ์เริ่มขยับเคลื่อนไหวร่างกายของตัวเองช้าๆ มือหนาบีบนวดก้อนเนื้อนุ่มทั้งสองข้าง เพื่อไม่ให้ร่างบางเครียดและเกร็งเกินไป

เสียงเนื้อกระทบกันดังรัวและเร็วขึ้นตามแรงอารมณ์ ร่างบางกอดคออีกฝ่ายแน่น ลับตาปี๋เมื่อรู้สึกว่าเริ่มทนไม่ได้

“อ๊ะ... อ๊ะ ...” หลุดเสียงออกมาอย่างทนไม่ไหว “พี่กัณฑ์..อือ...โอย...ก้านจะไม่ไหวแล้ว..อ๊ะ”

“พร้อมกันนะ” ชายหนุ่มเองก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน ความคับแน่น อบอุ่น และกลิ่นกายหอมหวนตามธรรมชาติกระตุ้นอารมณ์เขาเกินรั้ง และในที่สุด

“อา...อืม...” สองร่างก็ปลดปล่อยความรู้สึกออกมาพร้อมกันในที่สุด

ก้านใบทรุดตัวลงอย่างเหนื่อยอ่อน ส่วนกัณฑ์นั้นค่อยๆประคองร่างเล็กให้ลงมานอนพักโดยที่ยังไม่ถอนตัวออก

ร่าง สูงเอื้อมมือไปหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง มันเป็นแหวนทองคำขาวที่สลักคำว่า K&G for Eternity ที่บัดนี้ได้เข้ามาอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของเขาได้อย่างพอดี

“แต่งงานกับพี่นะ พี่สัญญาว่าจะรักและดูแลก้านตลอดไป” จูบปากเล็กเบาๆ

ก้านใบมองแหวนที่อยู่บนนิ้วของตัวเองอย่างตื้นตัน ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขารู้สึกอิ่มเอมใจได้เท่าครั้งนี้

“ครับ” ยันตัวขึ้นมาจูบแก้มสากเบาๆ เป็นการบอกตกลงที่จะใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกัน ไม่ต้องมีพิธีอะไร มีแค่เขาสองคนที่สัญญาว่าจะรักมั่นซึ่งกันและกันตลอดไปเพียงเท่านั้นก็เกิน พอ

ค่ำคืนโรแมนติกใต้แสงดาว บนหาดทรายสีขาวสะอาด ดำเนินต่อไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า ความรัก ความเข้าใจก็ดำเนินไปเฉกเช่นเดียวกับน้ำทะเลที่เข้ามากระทบแผ่นดินเสมอ จากนี้ชีวิตของเขาทั้งสองคนยังต้องเจอเรื่องอีกมากที่ต้องร่วมกันฝ่าฝัน แต่ไม่ว่าเรื่องจะร้ายแรงแค่ไหน ขอเพียงแค่สองคนเข้าใจกัน เท่านี้อุปสรรคที่รออยู่ก็จะต้องผ่านพ้นไปได้อย่างแน่นอน

....................................................................................

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนพิเศษ [update 16-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: aft22423 ที่ 16-01-2013 11:54:54
มาแล้วๆ พี่กัณฑ์กะน้องก้าน อิอิ สวดยอดกันจริงๆน้า~!
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนพิเศษ [update 16-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 16-01-2013 11:55:17
หวานเจี๊ยบเลยยยยยยยย
อิอิ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนพิเศษ [update 16-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Li_TKR ที่ 16-01-2013 12:13:53
หวายเอาโล่จริงๆอ่ะ



ปล. :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนพิเศษ [update 16-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 16-01-2013 12:15:51
ทะเลหวาน อิอิ
นิยายก็จบไปแล้ว แต่ชีวิตจริงยังต้องสู้ต่อไป

อ้อ...รอภาคสองนะครับ พี่กิ่งกับน้องการ์ ^^
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนพิเศษ [update 16-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 16-01-2013 13:12:20
ไม่ต้องกินข้าวกินปลาละ

อิ่มรัก คริคริ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนพิเศษ [update 16-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-01-2013 13:22:45
ตายแล้วๆ นึกไม่ถึงว่าพี่กัณฑ์จะโรแมนติกขนาดนี้ :o8:
รักกันนานๆนะจ๊ะ ว่าแต่พรีฮันนีมูนหวานเจี๊ยบขนาดนี้ ของจริงคงไม่ต้องหลับต้องนอน ไม่ต้องกินข้าวแล้วล่ะ :haun4:
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนพิเศษ [update 16-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 16-01-2013 13:48:39
 :กอด1:

รออีพี่กิ่ง
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนพิเศษ [update 16-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 16-01-2013 17:39:14
อิ่ม....หวานมากค่ะ น้องก้าน อิๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนพิเศษ [update 16-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Aomampapeln ที่ 16-01-2013 22:36:39
ภาค 1 จบล่ะรออ่านภาค 2 อยู่นะก๊าบ
>ตอนพิเศษเลือดสาดเลยอะ<
มาอัพไวๆนะก๊าบ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนพิเศษ [update 16-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 16-01-2013 23:04:41
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนพิเศษ [update 16-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 17-01-2013 19:33:25
ในที่สุดก้อสมใจพี่กัณฑ์แล้ว
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนพิเศษ [update 16-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 18-01-2013 19:24:49
ทะเลหวานกันเลยทีเดียว

ไม่ไหวนะ พี่กัณฑ์หื่นอะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 1 [update 19-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 19-01-2013 12:50:05
ภาค 2  ตอนที่ 1

 ณ บ้านพิศาลมนตรี เวลาประมาณ 21 .00 เวลาเริ่มต้นช่วงกลางคืนของใครหลายคน แต่เป็นเวลาเข้านอนของเด็กบางคนและรวมไปถึงเด็กชายต้นกล้าด้วย บัดนี้บนเตียงนอนนุ่มสบายมีร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นพ่อมาส่งเจ้าหนูเข้านอนดังเช่นปกติ

“ต้นคิดถึงแม่ไม๊ลูก” กิ่งใบถามบุตรชายด้วยคำถามที่ทำให้เขาหวนนึกถึงภรรยาที่จากไปเมื่อหลายปีก่อน

“คับ คนอื่นเค๊ามีแม่ไปรับทุกวันเลย แต่ไม่เป็นไรคับต้นมีคุณพ่อกับอาก้านไปรับอยู่แล้ว แต่พอมีวันแม่ทีไรต้นก็ต้องไปกราบครูปานวาดแทนคุณแม่” พูดจบเด็กชายก้มหน้าซบลงกับอกพ่อ

“แล้วต้นอยากมีแม่ใหม่มั๊ย” ลูบศรีษะทุยเบาๆ

“ไม่เอา ไม่อยากมี” เด็กชายเงยหน้าขึ้นมาทันที

“อ้าว ทำไมหละครับ”

“ก็ถ้ามีแม่ใหม่ คุณพ่อก็จะแบ่งความรักไปให้คนอื่นไม่รักต้นเหมือนเดิม” ร่างป้อมๆปีนขึ้นมานอนบนอกบิดา แล้วใช้สองแขนเล็กนั่นเกาะเสื้อนอนของพ่อแน่น ด้วยอยากจะแสดงความเป็นเจ้าของร่างที่กำลังให้ความอบอุ่นอยู่

กิ่งใบขยี้หัวบุตรชายเบาๆ กับความช่างคิดและท่าทีออดอ้อนนั้น

“แล้วให้อาหมอการ์มาเป็นพ่ออีกคนได้มั๊ย”

“ดีคับ อาหมอใจดีมากกกกกกกกกกกก”

“มากขนาดไหน” ร่างสูงถามบุตรชายเพราะเจ้าหนูลากเสียงได้ใจมาก

“เท่าท้องฟ้าเลย” เด็กชายทำท่าวาดมือประกอบไปด้วย

“ขนาดนั้นเชียว” ผู้เป็นพ่อหยอกเย้า

“วันนี้ยังไม่ได้ยินเสียงอาหมอเลยเน๊าะ” ชายหนุ่มพึมพำเบาๆ

“วันนี้อาการ์เอาขนมไปให้ต้นที่โรงเรียนด้วย ครูปานวาดยังขอเบอร์อาการ์ไว้เลย บอกว่าคราวหน้าจะพาเพื่อนๆไปตรวจฟัน”

ผู้เป็นพ่อหูผึ่งทันที อะไรเนี่ยมีคู่แข่งเป็นอาจารย์ของลูกซะแล้ว ‘ไม่ได้ต้องทำอะไรสักอย่าง’ ชายหนุ่มคิดก่อนจะขยับผ้าห่มของบุตรชายให้เข้าที่ แล้วเริ่มหยิบนิทานเรื่องใหม่มาอ่านให้บุตรชายฟัง ในใจก็ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เจ้าหนูพูดเมื่อกี้ไปด้วย

……………………………………………......................

เช้าวันใหม่คืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆทำให้คนที่นอนมุดตัวอยู่ในผ้าห่มอุ่นต้องตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย เพราะเสียงโทรศัพท์ข้างๆตัวปลุก

“ฮัลโล” การันกรอกเสียงงัวเงียไปตามสาย โดยไม่ได้ดูชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอก่อน โทรมาเช้าขนาดนี้คงจะมีเรื่องด่วนละมัง คิดอย่างเบลอๆ

“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณหมอ”

“พี่กิ่ง?”

“จำเสียงพี่ได้ด้วย” น้ำเสียงขี้เล่นหยอกเย้ามาตามสาย

“มีอะไรหรือเปล่าครับ หรือว่าต้นไม่สบาย” การันไม่ต่อล้อต่อเถียง เนื่องจากความเคยชินของการเป็นหมอก็คือ ถ้ามีโทรศัพท์เข้าตอนเช้ามากๆ หรือไม่ก็ดึกสงัดแล้ว มักจะเป็นเรื่องด่วนที่ต้องโดนเรียกตัวไปโรงพยาบาลเสมอ ไม่เว้นแม้แต่หมอฟันอย่างเขา เพราะบ่อยครั้งต้องทำงานร่วมกับศัลยแพทย์ในกรณีที่ผู้ป่วยบาดเจ็บบริเวณขากรรไกร ซึ่งต้องอาศัยผู้ชำนาญทางด้านนี้ซึ่งก็คือทันตแพทย์อย่างเขา ดังนั้นเมื่อกิ่งใบโทรมาแต่เช้าขึงนึกว่าเป็นเรื่องด่วนตามปกติ

“แหม ใจคอจะไม่ถามถึงพ่อต้นหน่อยเหรอ ถ้าไม่มีเรื่องต้นแล้วพี่โทรหาไม่ได้เหรอ” ถามอย่างน้อยใจ (?)

“แล้วพี่มีอะไรหละครับถึงได้โทรมาแต่เช้า” การันเริ่มหมดห่วงต้นกล้าแล้ว เนื่องจากถ้าผู้เป็นพ่ออารมณ์ดีขนาดนี้แสดงว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่

“ก็คิดถึง อยากได้ยินเสียงก่อนไปทำงาน” ร่างสูงตอบแบบเรื่อยๆ ยังอารมณ์ดีอยู่

“งั้นก็แค่นี้นะครับ” การันกดวางสายทันที ด้วยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี วันนี้กิ่งใบมาแปลก ปกติจะแค่ส่งข้อความผ่านมือถือให้เขาก่อนนอนทุกคืนจนเขาติด และถ้าวันไหนไม่มี sms จากชายหนุ่มก็จะนอนมองโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น จนอีกฝ่ายส่งมาแล้วนั้นแหละถึงจะหลับลงได้ แค่นี้เขาก็คิดว่าตัวเองชักจะแปลกๆไปแล้ว แล้วมาวันนี้ชายหนุ่มโทรมาตั้งแต่เช้าโดยบอกแค่ว่าอยากได้ยินเสียงก่อนไปทำงาน ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก ร่างบางสลัดผ้าห่มออกจากตัวก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวแล้วออกไปทำงานตามปกติ แต่ในใจนั้นเต็มไปด้วยความไม่ปกติเสียแล้ว 
ทางฝ่ายกิ่งใบหลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว ก็หยิบรูปหญิงสาวคนหนึ่งที่วางอยู่บนหัวเตียงขึ้นมาดูแล้วพึมพำกับรูป
“ผมเจอคนที่หามานานแล้วละ ไม่ต้องห่วงนะ สัญญาว่าจะดูแลลูกอย่างดี” พูดจบก็วางรูปภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วลงที่เดิม ก่อนจะเดินออกไปปลุกบุตรชายให้ไปโรงเรียนตามปกติ ถึงวันนี้จะเป็นวันแรกของสัปดาห์ ซึ่งปกติแล้วงานจะยุ่งมากแค่ไหน แต่แค่ได้ยินเสียงของคนที่รัก เขาก็มีกำลังใจทำงานขึ้นมากทีเดียว

................................................................................. ……………………

ณ คลินิกทันตกรรมแห่งหนึ่งซึ่งคลาคล่ำไปด้วยคนไข้ที่มารอตรวจฟัน ถ้าดูจากจำนวนของตนที่มาใช้บริการแล้วแทบจะไม่รู้เลยว่านี่คือคลินิกทันตกรรมเอกชน ไม่ใช่สถานทันตกรรรมของรัฐบาล สาเหตุที่ทำให้คลินิกแห่งนี้มีคนมาใช้บริการมากมายนั้นเห็นจะมาจากเจ้าของที่ชื่อ ทพ. การัน กัณฑราช ถึงแม้ว่าอายุจะยังน้อย แต่ฝีมือในการทำฟันนั้นใครเคยมาใช้บริการจะรู้ว่าหมอการ์มือเบาขนาดไหน แถมการพูดจายังไพเราะอีกต่างหาก และท่ามกลางคนไข้ที่มาใช้บริการอย่างมากมายได้มีผู้ปกครองของคนไข้พิเศษของหมอการันมารอทำฟันด้วยเช่นกัน

“สวัสดีค่ะ” เสียงพยาบาลสาวทักทายร่างสูงของนาย กิ่งใบ พิศาลมนตรี

“ครับ ผมมาตรวจสุขภาพฟันครับ”

“มีหมอประจำหรือเปล่าค่ะ” หญิงสาวถามตามปกติ

“หมอการันครับ”
“เอ่อ วันนี้หมอการ์ต้องไปเข้าเวรเช้าที่โรงพยาบาล xxx ค่ะ คุณหมอจะเข้ามาช่วงบ่าย ไม่ทราบว่าเป็นหมอท่านอื่นได้มั๊ยค่ะ”
“คุณหมอไม่ได้ทำงานที่คลินิกที่เดียวหรอกเหรอครับ” กิ่งใบถามด้วยความสงสัย เพราะดูจากจำนวนคนไข้และฐานะทางบ้านแล้ว การันไม่น่าที่จะต้องทำงานหนักอย่างนั้นเลยนี่นา

“คุณหมอจะไปเข้าเวรเช้าที่โรงพยาบาล xxx ทุก จันทร์ พุธ ศุกร์ค่ะ” หญิงสาวไขข้อข้องใจให้ชายหนุ่มที่ยืนขมวดคิ้วอย่างกำลังใช้ความคิด

“อ้อ งั้นผมมาวันหลังก็แล้วกันครับ”

“ได้ค่ะ”

กิ่งใบพาร่างกายสูงใหญ่ของตัวเองออกมาจากคลินิกด้วยความรู้สึกเจ็บใจนิดๆที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการันเลย นั่นสินะ ขนาดแค่ทำงานที่ไหนบ้างเขาก็ยังไม่รู้ แล้วเรื่องส่วนตัวอื่นๆ หละ เช่น ชอบหรือไม่ชอบอะไร และที่สำคัญการันมีเจ้าของหัวใจแล้วหรือยัง เวลาที่ต้องห่างกันไปนานนั้น ร่างบางต้องเจอกับอะไรบ้าง แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังแต่งงานมีลูก แล้วการันหละ ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว กลัวว่าหัวใจของหมอฟันหนุ่มจะมีคนอื่นที่ไม่ใช่เขาจับจองไปเสียแล้ว

..........................................................................................
เสียงออดหน้าบ้านกัณฑราชดังขึ้น เช้าตรู่ของวันอาทิตย์ คนกดไม่ใช่ใครอื่น นอกจากคนคุ้นเคยของครอบครัวนี้ แต่ไม่ใช่กับสาวใช้ที่มาเปิดประตู

“มาพบใครหรือค่ะ”

“คุณการ์ตื่นหรือยัง”

“คุณการ์ออกไปวิ่งเมื่อกี้นี้เองค่ะ”

“เหรอ งั้น ฝากเอารถเข้าไปจอดให้ทีนะ” ร่างสูงยื่นกุญแจให้สาวใช้ คิดว่าทำเนียนให้ขับรถของบ้านนี้เอารถเข้าไปจอดให้ทำทีเหมือนนัดการันไว้ดีกว่า

“ฉันจะไปวิ่งละ พอดีมาไม่ทันคุณการ์ บอกให้รอก่อน รอก่อน” ท้ายประโยคก็แกล้งทำเนียนอีกครั้ง อันที่จริงวันนี้เขาตั้งใจจะมาชวนคนตัวเล็กไปออกกำลังกายด้วยกัน เพราะเขารู้ดีว่าการันนั้นรักสุขภาพ ดังนั้นเช้าๆอย่างนี้เด็กหนุ่มต้องตื่นมาออกกำลังกายเป็นแน่ แต่ผิดหวังนิดๆที่นึกว่าคุณหมอจะตื่นขึ้นมาว่ายน้ำเสียอีกอุตส่าห์เตรียมทิชชูมาตั้งเยอะ คิดอย่างครึ้มอกครึมใจ แล้วออกวิ่งไปตามทางที่คาดว่าอีกฝ่ายน่าจะไปทันที

“ยิ้มอะไรนะนังแวว” นายสอนคนขับรถของบ้านเอ่ยทักหญิงสาวที่ยืนยิ้มอยู่คนเดียว

“ก็จะอะไรหละลุง ฉันเห็นคนหล่อตั้งแต่เช้าเลย” หญิงสาวพูดด้วยอารมณ์เคลิ้มฝัน

“ว่ะ นังนี่เอากุญแจรถคุณเขามา ข้าจะขับไปจอดในบ้าน”

“เอ้า” หญิงสาวยื่นกุญแจรถเบนซ์คันใหญ่ให้ชายสูงวัย ก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้านเพื่อจะเมาท์เรื่องคุณคนหล่อที่มาหาคุณการ์ตั้งแต่เช้าให้เพื่อนวัยเดียวกันฟัง ตามประสาสาวใช้ทั่วไป ที่เรื่องของเจ้านายเป็นเรื่องที่นำมาพูดได้ไม่รู้จักจบสิ้น

.....................................................................

ภายในสวนสาธารณะของหมู่บ้านมีร่างเล็กของทันตแพทย์หนุ่มกำลังวิ่งเยาะๆ ไปตามทางเท้าในตอนเช้าของวันอาทิตย์อาจจะดูธรรมดาในสายตาคนอื่น แต่ดูน่าหลงใหลเหลือเกินเมื่อคนเห็นคือร่างสูงของพ่อหม้ายหนุ่มที่วิ่งตามหลังมาไม่ห่าง

“เหนื่อยมั๊ยครับ” คนที่เมื่อครู่ยังวิ่งเหยาะๆเปลี่ยนเป็นเพิ่มความเร็วของการวิ่งของตัวเองมาจนทันคนที่วิ่งอยู่ก่อน

“พี่กิ่ง” การันถอดหูฟังไอพอดออกเพื่อที่จะสนทนากับอีกฝ่าย

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น” ร่างสูงแซวคนที่มีเหงื่อเต็มหน้าที่มองเขาอย่างประหลาดใจเห็นแล้วให้ความรู้สึกเซ็กซี่เกินทน “พี่จะมาออกกำลังกายบ้างไม่ได้หรือไง”

“ไม่คิดว่าที่นี่มันออกจะไกลบ้านพี่ไปหน่อยเหรอครับ” ถามอย่างประชดในขณะที่ยังวิ่งต่อไปเรื่อยๆ

“ก็ถึงแม้ระยะทางจะไกล แต่ให้หัวใจอยู่ใกล้กันก็พอ” กิ่งใบตอบแบบไม่กลัวมดแถวนั้นเซ็ง

และคำตอบนั้นก็ทำให้การันวิ่งสะดุดทันที

“พี่กิ่ง!!!!!!!!!!!!”

“ครับผม” รับคำอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะถือวิสาสะจับข้อมือเล็กให้เดินมานั่งที่ม้านั่งในสวนสาธารณะด้วยกัน เมื่อพึ่งตระหนักได้ว่าอุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามาที่นี่ทำไม

“พี่มีเรื่องอยากถาม” ร่างสูงถามขึ้นเมื่อทั้งคู่นั่งอยู่บนม้านั่งเรียบร้อยแล้ว

“อะไรครับ” การันถามอีกฝ่าย ส่วนมือเล็กก็พยายามแกะมือหนาออกไปจากข้อมือตัวเอง เนื่องจากอายคนรอบข้างที่เริ่มมองพวกเขาอย่างสนใจ ผิดกับร่างใหญ่ที่เพิ่มแรงจับให้กระชับขึ้นอีกอย่างอยากแกล้ง

“พี่กิ่ง การ์เจ็บนะ” ในที่สุดเมื่อไม่ว่าจะทำอย่างไรก็แกะมือตัวเองออกไม่ได้ การันจึงลองพูดประโยคสุดฮิตเมื่อตอนเด็กเพื่อให้กิ่งใบรามือ และแล้วก็ได้ผลอีกครั้ง เมื่อร่างสูงยอมปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระและยอมพูดในสิ่งที่ตั้งใจไว้แต่แรก

“เล่าเรื่องของการ์ให้พี่ฟังหน่อย” กิ่งใบจ้องหน้าหวานอย่างจริงจัง

“ทำไมอยู่ดีๆพี่ถึงอยากรู้ขึ้นมาละ”

“ก็ไม่ทำไม แค่รู้สึกว่าพี่ไม่รู้เรื่องหลังจากนั้นของการ์เลยก็เท่านั้น” หลังจากนั้นของชายหนุ่มก็คือหลังจากที่การันตกต้นไม้ และเขาก็ไม่เคยทราบข่าวคราวของฝ่ายนั้นเลยนั่นเอง

“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ” ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อก็พอดีกับอีกฝ่ายสวนขึ้นมา

“การ์มีแฟนหรือยัง” ชายหนุ่มถามตรงจุดที่ต้องการอย่างไม่อ้อมค้อม ทำให้การันมองอีกฝ่ายตาโต แถมเม้มปากแน่นจนแก้มที่มีลักยิ้มบุ๋มลึกลงไปอีก สร้างเสน่ห์ให้เจ้าตัวไม่น้อย

“ผมคิดว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องส่วนตัวนะครับ”

“แต่พี่อยากรู้ และพี่ก็มั่นใจว่าการ์รู้ว่าทำไมพี่ถึงถามแบบนี้”

ร่างบางลังเลว่าจะตอบดีหรือเปล่าโดยการผันหน้ามองไปทางอื่นชั่วอึดใจ ก่อนหันมาจะตอบเสียงเบาอย่างตัดสินใจได้

“ไม่มีครับ” และต่อท้ายให้ในใจอีกว่า ‘ผมไม่ใช่พี่กิ่งนะที่แอบไปแต่งงานโดยไม่พยายามที่จะบอกผมสักนิด’ คิดแล้วหน้าเล็กๆ นั่นก็เชิดขึ้นมาอย่างแสนงอนโดยไม่รู้ตัว ทำให้คนที่มองอยู่ตลอดนั้นอดอมยิ้มในความน่ารักนั่นไม่ได้

“ถ้าไม่มี พี่ก็มีสิทธิ์ใช่มั๊ย”

“สิทธิ์อะไรครับ” ร่างบางเฉไฉ ด้วยรู้ดีว่าคนพูดหมายถึงอะไร แต่ก็เขินจนกว่าจะพูดตอบรับหรือปฏิเสธ

“ก็สิทธ์ที่จะเป็นเจ้าของหัวใจดวงนี้ไง” มือหนาแตะเบาๆ ที่อกด้านซ้ายของการันที่ซึ่งหัวใจดวงเล็กกำลังเต้นรัวจนเจ้าของกลัวว่ามันจะทะลุออกมาประจานตัวเองให้อีกฝ่ายเห็น

ชายหนุ่มมองหน้าคู่สนทนาที่บัดนี้แดงเถือกไปถึงหู และนวลแก้มที่เคยนวลเนียนซึ่งบัดนี้แดงจัดไม่แพ้กัน เห็นแล้วให้อดใจไม่ไหว

“พี่กิ่ง” การันท้วงพร้อมทั้งจับมือหนาไว้ เมื่ออีกฝ่ายทำท่าเหมือนจะโน้มตัวมาหาเขา

“อ๊ะ ขอโทษ” ร่างสูงรู้สึกตัว เมื่อได้ยินเสียงเรียกและแรงต้านที่มือ “เอาหละ พี่ถือว่าการ์อนุญาตแล้วนะ ต่อไปก็ขอฝากตัวด้วยหละ” กิ่งใบยักคิ้วเจ้าเล่ห์ให้การันหนึ่งทีก่อนจะฉุดมือเล็กให้ยืนขึ้นมาและวิ่งนำออกไปด้วยหัวใจที่ปลอดโปร่ง ในที่สุดก็ถึงเวลาเอาจริงแล้ว 

“ไปวิ่งต่อกันเถอะ เช้าๆอย่างนี้ให้เหงื่อออกสักหน่อย ก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าดีนะ” ร่างสูงที่วิ่งนำหน้าหาเรื่องชวนคุย

“ก็ตอนเช้าเนี่ยเมตาบอลิซึมของร่างกายกำลังทำงานอย่างสูงสุด ดังนั้นถ้าเราออกกำลังกาย.............ฯลฯ” และอีกสารพัดเกร็ดความรู้เกี่ยวกับสุขภาพที่ร่างเล็กถ่ายทอดให้อีกฝ่ายฟัง แม้ว่าจะมีเทคนิคอลเทอมอยู่บ้าง แต่คนที่วิ่งคู่อยู่ด้วยนั้นก็ไม่ลำบากที่จะที่จะทำความเข้าใจอะไร เพราะคนอธิบายสามารถอธิบายให้เขาฟังได้ด้วยคำง่ายๆ ทำให้ต้องคิดว่า ถ้าจีบการันสำเร็จทั้งเขาและลูกชายคงต้องกลายเป็นเด็กอนามัยตามไปด้วยแน่ๆ แต่ก็เต็มใจละนะ ร่างสูงคิดอย่างอารมณ์ดี ที่การมาครั้งนี้ไม่เสียเที่ยวแถมยังได้รับกำลังใจไปอีกมากโขทีเดียว

............................................................................................
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 1 [update 19-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 19-01-2013 12:57:41
เอาแล้วไง
มาถึงคู่นี้บ้างแล้ว อิอิ
น่ารักไม่แพ้กันเลยยย
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 1 [update 19-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 19-01-2013 13:09:29
จะดราม่ามากมั๊ยเนี้ย
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 1 [update 19-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Li_TKR ที่ 19-01-2013 13:31:20
การ์นี่สมกับเป็นหมอจริงๆเลยแฮะ OoO



 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 1 [update 19-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Aomampapeln ที่ 19-01-2013 15:10:11
ถึงคู่พี่กิ่งล่ะมีคู่ลูกของพี่กิ่งอะป่าวอะรอต่อไป^,^
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 1 [update 19-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Singleman ที่ 19-01-2013 19:48:25
พี่กิ่งสู้ๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 1 [update 19-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-01-2013 20:45:14
หวังว่าคงไม่ได้กินมาม่าชามใหญ่นะครับ ^^
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 1 [update 19-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 19-01-2013 21:34:20
อ่า คู่นี้มีลูกให้พร้อมด้วย!!
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 1 [update 19-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 19-01-2013 22:38:30
คู่รองมาแล้ว อิอิ ติดตามค่ะะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 1 [update 19-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 19-01-2013 23:19:27
คู่นั้นก็หวานนนนนนนนนน ซะ

คู่นี้ก็กำลังจีบกันอยู่ ฟินนนนนนนนนนนน :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 2 [update 21-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 21-01-2013 11:01:34
ภาค 2 ตอนที่ 2

ณ โรงพยาบาลรัฐบาลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยและเป็นโรงพยาบาลที่มีผู้มาใช้บริการมากที่สุด เนื่องจากที่นี่เป็นโรงเรียนแพทย์ด้วย ดังนั้นประชาจึงให้ความไว้วางใจ ประกอบกับค่าบริการที่ถูกแสนถูกทำให้โรงพยาบาลแห่งนี้มีผู้คนแวะเวียนมาใช้บริการไม่ขาด แต่ก็มีบางคนที่มาที่แห่งนี้ด้วยจุดประสงค์อย่างอื่น

“ไม่ทราบว่าแผนกทันตกรรมไปทางไหนครับ” ร่างสูงที่อยู่ในรถยนต์คันหรูไขกระจกลงมาถามสถานที่ที่เขาต้องการไปกับ ร.ป.ภ. ของโรงพยาบาล

“ตรงไปแล้วเลี้ยวขวาเลยครับ ตึกที่เขียนว่าคณะทันตแพทย์”

“ขอบคุณครับ” ว่าพลางขับรถไปยังทิศที่ ร.ป.ภ.หนุ่มบอกทันที

“คุณพ่อมาที่นี่ทำไมเหรอคับ” เด็กชายที่นั่งอยู่บนเบาะข้างๆถามอย่างสงสัยที่วันนี้ พ่อไม่รีบพากลับไปส่งบ้านเหมือนทุกวัน

“มาหาอาการ์” ผู้เป็นพ่อตอบอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะปลดสายเข็มขัดนิรภัยที่คาดอยู่ทั้งบนตัวเองและลูกชายออกเมื่อมาถึงที่หมาย ถึงเวลาที่ต้องบุกแล้วร่างสูงหมายมาด

“เย้ จะได้เจออาหมออีกแล้ว” ร่างป้อมๆ เปิดประตูรถออกไปรอยืนรอผู้เป็นพ่อข้างนอก เพราะกิ่งใบกำลังง่วนอยู่กับช่อดอกไม้ที่อยู่ทางเบาะหลัง

“นั่นสิ พ่อตั้งใจจะมาชวนอาหมอไปกินข้าว แต่ไม่รู้ว่าอาหมอจะอยากไปหรือเปล่า ต้นช่วยพ่อได้มั๊ย” ถามลูกชายอย่างขอความช่วยเหลือ

“ช่วยยังไงคับ” ต้นกล้าถามอย่างกระตือรือร้น

“ก็...................” ร่างสูงบอกแผนการให้ลูกชายฟังขณะที่เดินเข้าไปข้างใน

..........................................................

“เด็กชายต้นกล้า พิศาลมนตรีค่ะ” เสียงพยาบาลสาวหน้าห้องตรวจที่สองพ่อลูกนั่งรออยู่ดังขึ้นเพื่อเรียกคนไข้คนต่อไป

“ค๊าบ” เด็กชายรีบขานชื่นแล้วหอบดอกไม้ช่อใหญ่จากมือบิดาเข้าไปในห้องท่ามกลาวสายตาเอ็นดูของเหล่านางพยาบาลและคนไข้ที่นั่งรออยู่ด้านนอก

“เอาดอกไม้มาให้ใครเหรอจ๊ะ พยาบาลสาวที่ขานชื่อเขาเมื่อกี้ถามขึ้น หลังจากที่เดินนำเด็กชายต้นกล้าไปที่ห้องตรวจ “อ้อ แล้วผู้ปกครองไปไหนเสียละคะ”

“เอามาให้อาหมอคับ คุณพ่อรออยู่ข้างนอก พ่อบอกว่าต้นโตแล้วต้องหัดทำอะไรคนเดียว” บอกพี่พยาบาลคนสวยอย่างภูมิใจ

“เหรอจ๊ะ เก่งจังเลยนะตัวแค่เนี๊ยะ เอาหละถึงแล้ว” หญิงสาวเปิดประตูให้ร่างเล็กเดินเข้ามาด้านในห้องที่อาหมอของเจ้าหนูทำงานอยู่

“ต้น!!!!!!!!!!!! ต้นจริงๆ มาได้ไงเนี่ย?” การันนั่นเองที่เอ่ยทักด้วยความประหลาดใจ เพราะเขาพึ่งได้อ่านแฟ้มคนไข้เมื่อกี้ และก็สะดุดที่นามสกุลของคนไข้ และก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ

“คุณพ่อให้เอามาให้คับ” ยื่นช่อดอกไม้ช่อใหญ่ให้คนที่เหมือนชะเง้อหาใครอีกคนอยู่

“ขอบใจครับ แล้ว เอ่อ พ่อเราไม่มาเหรอ” ร่างเล็กในเครื่องแบบทันตแพทย์มองดอกไม้ที่ถูกจัดช่ออย่างประณีต แอบเคืองที่ร่างสูงปล่อยให้เด็กตัวเล็กๆเดินเข้าห้องตรวจคนเดียว

“คุณพ่อรอข้างนอกคับ”

“อ้อ” รับรู้สั้นๆ “เอ้ามานั่งนี่เดี๋ยวอาตรวจฟันให้” อุ้มเด็กชายมานั่งที่เก้าอี้ตรวจ

“อาหมอคับเย็นนี้ไปกินข้าวกันนะคับ” เสียงใสเอ่ยชวนอาหมอตามคำบอกของพ่อ

“ทำไมละครับ” การันถามอย่างแปลกใจ

“พ่อกิ่งบอกว่าเย็นนี้ถ้าอาหมอไม่ไปกินด้วยกัน คุณพ่อก็จะกินข้าวไม่ได้แล้วยังจะนอนไม่หลับด้วยนะคับ” บอกซื่อๆ ตามคำสอนของพ่อ แถมยังใช้ตากลมโตมองการันด้วยสายตาอ้อนวอน

“เลี่ยน” หันหน้าไปพึมพำกับช่อดอกไม้เบาๆ ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“นะคับ” ต้นกล้าทำหน้าออดอ้อนตามประสาเด็ก ซึ่งได้ผลเมื่ออาหมอหันกลับมาทำท่าคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบตกลง ทำให้ต้นกล้าใช้สองมือป้อมๆนั้นโน้มใบหน้าขาวของการันลงมาหอมแก้มซะฟอดใหญ่บ่งบอกความดีใจอย่างที่สุด

‘หึ เหมือนพ่อไม่ผิด’ การันส่ายหน้าก่อนจะบีบจมูกเล็กอย่างมันเขี้ยว

“มา เดี๋ยวอาตรวจฟันให้ก่อนเดี๋ยวค่อยทานข้าวนะครับ หิวมากหรือเปล่า” คนที่ง่วนอยู่กับการปรับระดับเบาะคนไข้ให้พอดีถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

“ไม่มากคับ ต้นกับพ่อรออาหมอได้เสมอ” นี่ก็พูดตามพ่อสอนแต่ก็ทำให้การันหน้าแดงเถือกทันทีอีกครั้ง

“หึ แก่แดดนักนะเรา” โยกศรีษะเล็กแก้เขิน ก่อนจะลงมือตรวจอย่างจริงจัง ตามประสาหมอฟันที่ดี

.................................................................................. ……………………..

“อ้ามมมมมมมม” เด็กชายต้นกล้าอ้าปากว้างรับอาหารจากช้อนอาหมอที่นั่งป้อนข้าวให้อยู่อย่างว่าง่าย โดยอยู่ภายใต้สายตาของร่างสูงอีกคนที่มีศักดิ์เป็นพ่อของเจ้าหนูมองดูอยู่ไม่ห่าง

“อร่อยมั๊ยต้น” กิ่งใบตักไข่เจียวของโปรดของเจ้าหนูให้ลูกชายบ้าง

“หย่อยคับ” ปากจิ้มลิ้มเคี้ยวตุ้ยๆ จนแก้มยุ้ยป่องออกมา วันนี้อาหารค่ำอร่อยจริงๆ ถึงจะมีเสียงถกเถียงกันบ้างของพ่อและอาหมอประปรายก็ตาม แต่ทุกคนล้วนเอาใจเขาทั้งนั้นโดยเฉพาะอาหมอ เพราะตั้งแต่เริ่มกินกันมา เด็กชายยังไม่ได้ตักอาหารเองเลย

“แล้วการ์ละครับอร่อยมั๊ย” ร่างสูงเอ่ยถามคนที่นั่งเช็ดปากให้ต้นกล้าอยู่ “พี่เห็นการ์ไม่ค่อยกินเลยนะ ป้อนแต่ตาต้น”

“ก็ดีครับ แต่ผมไม่ค่อยหิว ก็เลยทานได้น้อย”

“เหรอ งั้นการ์อยากกินอะไรละเดี๋ยวพี่สั่งเพิ่มให้”

“ไม่หละครับ ผมทานของว่างไปตอนบ่าย ยังอิ่มอยู่เลย” หันไปตักแกงจืดส่งเข้าปากต้นกล้าอีกครั้ง

“แต่ต้นอยากกินไอติมต่อคับ” เด็กชายมองพ่ออย่างขอร้อง แถมกระตุกเสื้ออาหมอหาแนวร่วมไปด้วย

“งั้นต้นก็ต้องกินข้าวให้หมดจานนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพ่อพาไป”

“เย้ จิงๆนะคับ” ร้องบอกอย่างดีใจ “ตักคำใหญ่ๆเลยนะคับอาการ์” ต้นกล้าร้องบอกการันที่กำลังจะส่งคำต่อไปเข้าปากเขา

การันส่ายหน้าเบาๆ ให้กับคำพูดนั้น “เดี๋ยวก็ติดคอหรอกต้น” บอกอย่างเอ็นดู

กิ่งใบมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม ‘เฮ้อ นี่สินะความสุข’ ร่างสูงบอกตัวเองในใจ

...........................................................................................

ณ ร้านไอศกรีมอิตาลีดั้งเดิม ที่มีคนเข้ามากินเต็มร้านเลยทำให้วันนี้ที่นั่งเต็ม เหลือเพียงโต๊ะเล็กๆที่นั่งได้เพียงสองคนเทานั้น

“ต้นมานั่งตักอาก็ได้” การันเสนอเมื่อเห็นว่าต้นกล้ากำลังจะนั่งบนตักผู้เป็นพ่อที่ตัวใหญ่คับเก้าอี้ ถ้าต้นกล้าไปนั่งตักกิ่งใบอีกคนคงอึดอัดน่าดู

“ได้เหรอคับ” เด็กชายมองการันอย่างมีความหวัง แก้มยุ้ยแดงเรื่อเพราะความร้อน เพราะต้องยืนต่อแถวรออยู่ข้างนอกตั้งนาน

“ได้ซิครับ มานี่มา” ยื่นมือไปรับร่างเล็กที่ไถลลงมาจากตักพ่ออย่างเต็มอกเต็มใจ

“ขอบใจนะ” ร่างสูงบอกการันอย่างซาบซึ้ง

“ไม่เป็นไรครับ” ยิ้มให้บางๆ และเริ่มสั่งไอศกรีมให้ทุกคน รอไม่นานไอศกรีมหลากสีประดับด้วยท็อปปิ้งตามใจคนสั่งก็มาถึง

“อร่อยมั๊ยลูก” ร่างสูงถามบุตรชายที่ตักไอกรีมเข้าปากไม่หยุด

“อร่อยคับ ขออีกได้มั๊ยคับพ่อ” ทำหน้าอ้อนบิดาอีกครั้ง

“พอแล้วลูก วันนี้ต้นกินของหวานเยอะแล้วนะ” ผู้เป็นบิดาปรามบุตรชายด้วยความเป็นห่วง และคำปรามนั้นก็ทำให้เจ้าหนูทำแก้มป่อง เป็นเชิงบอกว่าไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

“กินของอาก็ได้” การันตักไอศกรีมตนเองเข้าปากเด็กชายที่นั่งนิ่งอยู่บนตัก

“ขอบคุณคร๊าบ” หันไปยักคิ้วให้พ่อหนึ่งทีด้วยความดีใจ

“พอแล้วการ์ ต้นกินของหวานเยอะมากแล้ว ตอนนั่งรถมาก็กินชอกโกแลตไปหลายแท่งแล้ว” กิ่งใบปรามการันบ้างเพราะวันนี้ลูกชายเขากินขนมหวานเยอะแล้วจริงๆ และนั่นก็ทำให้คนที่กำลังจะป้อนไอศกรีมให้เจ้าหนูต้องหยุดการกระทำทันที

“เหรอครับ” การันบอกอย่างรู้สึกผิด

“อาการ์คับ อ้ามมมมมมมมมม” เด็กชายตักไอศกรีมสีขาวยื่นให้การันบ้าง เมื่อรู้ว่ายังซะวันนี้ก็คงกินไอศกรีมได้แค่นี้ทำให้หมอฟันหนุ่มก็อ้าปากแต่โดยดี แต่ยังไม่ถึงริมฝีปากสวย

แผละ ไอศกรีมสีขาวหกลงบนเสื้อเชิ้ตสีครีมบริเวณยอดอกของการันพอดี

“โอ๊ะ” ร่างบางอุทานเบาๆ ไม่ใช่เพราะความเย็นจากไอศกรีมแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะ ปากเล็กๆของเด็กชายต้นกล้าก้มลงดูดไอศกรีมที่ติดอยู่บนเสื้อเชิ้ตเขาดังจ๊วบนั่นต่างหาก ที่ทำให้เขาต้องร้องด้วยความตกใจ แถมเจ้าหนูยังใช้ลิ้นเล็กๆนั่นเลียรอยนั้นซ้ำอีกรอบ เพราะกลัวว่าจะทำความสะอาดให้ได้ไม่หมด

“ทำอะไรหนะต้น” ผู้เป็นพ่อถามเด็กชายอย่างอิจฉา

“ก็ต้นทำไอศกรีมหกใส่อาหมอ ต้นก็เช็ดให้อาหมอไงคับ” เด็กชายตอบซื่อๆ

“แล้วทำไมไม่ใช้ผ้าเช็ดปากละลูก มาพี่ช่วยเช็ด” ประโยคหลังบอกการันที่ยังงงๆอยู่ แถมยังทำท่าหยิบผ้าเช็ดปากขึ้นมาจะไปซับรอยเปื้อนบนอกเสื้อของร่างบางให้ด้วยความหวังดี? อย่างบริสุทธิ์ใจ? อีกด้วย

“ไม ไม่ต้องครับ” รีบปัดมือหนาออก

“ก็ต้นเสียดายไอติมนี่นา” เด็กชายก้มหน้า เมื่อรู้สึกว่าการกระทำของตัวเองเมื่อครู่จะทำให้คุณพ่อและคุณอาตกใจกันใหญ่ ทั้งๆที่เขาก็แค่เสียดายไอติมแท้ๆ

“ไม่เป็นไรหรอกต้น” การันจับศรีษะเล็กให้มาซบกับอกเป็นเชิงปลอบใจ

“พ่อก็ไม่ได้ว่าลูกนะ ทานต่อเถอะค่ำแล้ว เดี๋ยวคุณปู่คุณย่าจะเป็นห่วง” รีบเปลี่ยนเรื่องเพราะสงสารบุตรชายที่ยังก้มหน้างุดอยู่กับอกการัน

“คับ” ก้มหน้าก้มตากินต่อไปด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นมาก ที่พ่อไม่ว่าอะไรมากกว่านี้ แถมเจ้าตัวเล็กยังมีแก่ใจป้อนให้การันบ้างเป็นครั้งคราวแต่ใช้ความระมัดระวังมากขึ้น

ทางฝั่งกิ่งใบนั้นสบตากับการันพอดิบพอดี ทำให้ร่างบางต้องหลบตาเพราะความเขิน แต่ก็ต้องหันกลับมาเผชิญหน้าอีกครั้ง เมื่อรู้สึกว่าสายตาคมจ้องจะมองแต่ยอดอกเขาที่แนบกับเสื้อเนื่องจากไอศกรีมเมื่อกี้อย่างไม่วางตา

“อะแฮ่ม” การันแกล้งกระแอมเอาๆ แล้วใช้มือเล็กดึงเสื้อตัวเองไปด้วย

“อ๊ะ ขอโทษที มองเพลินไปหน่อย” ร่างสูงขอโทษเบาๆ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากินไอศกรีมของตัวเองต่อไปเงียบๆ โดยมีการันที่หน้าแดงเถือกเหลือบมองอยู่เป็นระยะ

แล้วในที่สุด อาหารมื้อนี้ก็เสร็จสิ้นลงเสียที กิ่งใบนั้นขับรถไปส่งการันที่บ้านก่อน แล้วจึงพาบุตรชายที่หลับสนิทกลับบ้านไปด้วยรอยยิ้มตลอดทาง

วันนี้เขามีความสุขมากที่เห็นลูกชายตัวน้อยเข้ากับการันได้เป็นอย่างดี ถึงแม้เขาจะรู้ว่าการที่พ่อแทนที่จะหาแม่ใหม่ให้ กลับหาพ่ออีกคนให้แทน เป็นเรื่องที่เด็กๆ ไม่น่าจะเข้าใจ แต่ว่าความรักที่เขามีให้ลูกและความรักที่การันมีให้เจ้าหนูของเขา คงทำให้ปัญหาที่จะตามมาเมื่อต้นกล้าโตขึ้นผ่านไปได้ด้วยดีในสักวัน

...............................................................................
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 2 [update 21-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 21-01-2013 11:14:18
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 2 [update 21-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 21-01-2013 11:24:17
พี่กิ่งนี้ก็ค่อยหื่นแตกออกมาน้อยๆนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 2 [update 21-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 21-01-2013 11:31:10
โดนลูกชายตัดหน้าไปแล้ว :m20: :laugh: o18
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 2 [update 21-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 21-01-2013 18:55:34
เช็ดไอติมๆๆ อิ อิ อิ อิจฉาลูกมากไหมล่ะพ่อกิ่งใบ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 2 [update 21-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 21-01-2013 19:26:11
ฮ่าๆ
พอกิ่งอิจฉาน้องต้นล่ะซี่
อยากเป็นคนไปใช้ปากเช็ดแทนน
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 2 [update 21-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 21-01-2013 19:30:03
น่ารักทั้งสองคู่เลย
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 25-01-2013 17:11:10
ภาค 2 ตอนที่ 3

บ่ายวันหนึ่งขณะที่ทุกคนกำลังทำงานตามหน้าที่ของตนเองอยู่ ก้านใบได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวร้ายของเด็กชายต้นกล้า

ตู๊ด ตู๊ด เสียงโทรศัพท์ของก้านใบดังขึ้นหลังจากที่คนรักมารับไปทานของว่างที่บริษัทได้ไม่นาน

“ครับพี่กิ่ง” ร่างบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับด้วยความแปลกใจ เขาพึ่งจะแยกกับพี่กิ่งไม่นานนี้เองนี่นา

................................

“อะไรนะครับ แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ” ร่างบางเกือบทำโทรศัพท์หลุดมือเมื่อได้ยินข่าวร้ายจากพี่ชาย

................................

“ที่ไหนครับ”

................................

“ครับ พี่ทำใจดีๆไว้นะครับ เดี๋ยวผมจะไปเดี๋ยวนี้แล้วครับ” ก้านใบวางสายโทรศัพท์ด้วยมือที่สั่นจนเห็นได้ชัด

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ” คนที่นั่งขับรถอยู่ข้างๆหันมาถามด้วยท่าทางเป็นกังวลเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ตกใจ และท่าทีที่ผิดปกติไปของคนรัก

“โรงเรียนของต้นโทรมาบอกว่า ต้นได้รับอุบัติเหตุ โดนกระดานลื่นล้มทับ ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล xxx” คนพูดพูดด้วยสีหน้าวิตกและตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

“ก้าน ....ก้าน...... เฮ้!!!!!!” ชายหนุ่มพยายามเอ่ยเรียกคนที่พยายามจะเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า แต่ทำไม่ได้สักทีเพราะมือไม้สั่นไปหมด “ทำใจดีๆไว้ตอนนี้เธอต้องมีสตินะ หลานอาจไม่เป็นไรมากก็ได้”

“ผมกลัว” เด็กหนุ่มพูด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ตาต้นยังเด็กอยู่เลย”

“ไม่เอาน่า อย่าคิดอะไรเองล่วงหน้าสิ”

กัณฑ์พยายามปลอบใจอีกฝ่ายให้สงบลง ทั้งๆที่ตัวเขาเองก็ตกใจไม่แพ้กัน ขนาดเขายังห่วงต้นกล้ามากนาดนี้แล้วอาแท้ๆของเจ้าหนูจะขนาดไหน แต่ก้านใบจะต้องมีสติให้มาก ถ้าทุกคนตกใจกันหมดอย่างนี้ก็คงไม่ดีแน่ คิดแล้วก็กดโทรศัพท์ไปบอกน้องชายด้วยอีกคนเพราะท่าทางการันก็รักและหลงต้นกล้าไม่แพ้ใคร เนื่องจากถ้าต้องไปซื้อของด้วยกันทีไร ของที่จะซื้อไม่พ้นของเล่นของเด็กชายต้นกล้านั่นเอง

................................................................................................

“พี่กิ่ง” ก้านใบเรียกชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งที่ยืนกระวนกระวายอยู่หน้าห้องฉุกเฉินทันทีที่มาถึงโรงพยาบาล “ตาต้นเป็นไงบ้าง”

“พี่ยังไม่รู้เลย” พูดด้วยท่าทางที่เครียดจัด

“มันเกิดอะไรขึ้นกัน ทำไมถึงเกิดอุบัติเหตุได้”

“เห็นอาจารย์บอกว่า ต้นจะปีนไปเก็บลูกนกที่ตกลงมาบนกระดานลื่น แต่พลาดยังไงไม่รู้เลยโดนกระดานลื่นล้มทับ”

“โถ” ก้านใบฟังคำที่พี่ชายพูดด้วยความสงสารหลานชายตัวน้อย

“แล้วนี่พี่บอกพ่อกับแม่หรือยังครับ” จับมือพี่ชายไว้เป็นการปลอบใจ

“ยัง รอให้รู้อาการของต้นก่อน พี่ไม่อยากให้พ่อแม่เป็นห่วง” บอกน้องชายเรียบๆ เนื่องจากบุพการีทั้งสองรักหลานชายตัวน้อยมาก และท่านยังมีโรคประจำตัวอยู่ด้วย ชายหนุ่มจึงยังไม่บอกเรื่องอุบัติเหตุให้ทราบ

“ก้านรอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปโทรศัพท์สั่งงานที่คางไว้ก่อน พี่ออกมาเลยยังไม่ได้ปิดประชุมเลย” ต้องโทรบอกให้เขาเลื่อนไปก่อน โทรตรงนี้ไม่ได้ด้วย

“ครับพี่” ก้านใบรับคำแล้วเดินมานั่งข้างๆ คนรักที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว กัณฑ์จับมือเล็กมากุมไว้

“ตาต้นคงไม่เป็นไรมากหรอกถึงมือหมอแล้วอย่าห่วงเลย”

“ผมก็หวังเช่นนั้นครับ”

ร่างสูงเดินกลับมาเห็นน้องชายซบอยู่กับไหล่ของกัณฑ์รู้สึกเบาใจขึ้นมาหน่อย ที่มีคนดูแลน้องแทนเขาแล้ว

ขณะที่กิ่งใบเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉินนั้น ก็มีร่างๆ หนึ่งในชุดเครื่องแบบทันตแพทย์เดินแกมวิ่งตรงมาที่เขา

“พี่กิ่ง ตาต้นเป็นไงบ้าง” ถามคำถามเดียวกับน้องชายเขาซึ่งเป็นคำถามที่เขาเองก็อยากรู้เช่นกัน

“พี่ก็ไม่รู้เข้าไปในห้องฉุกเฉินนานแล้ว ยังไม่มีใครออกมาบอกอะไรพี่เลย แล้วการ์มาได้ไง” มองมือเล็กที่เกาะแขนเขาไว้อย่างแปลกใจ

“ก็พี่กัณฑ์โทรไปบอก ก็เลยรีบมา” ร่างบางบอกความจริงเพียงครึ่งเดียว ความจริงที่เหลือคือ ทันทีที่เขาได้รับโทรศัพท์เขาก็หยุดตรวจคนไข้ทันที ยกให้หมอคนอื่นรักษาแทนไปก่อน ด้วยเป็นห่วงเจ้าหนูและพ่อของเจ้าหนูมากทำให้เสื้อขาวเครื่องแบบที่ใส่อยู่ก็ไม่ได้ถอดออกทั้งที่ควรจะเปลี่ยนชุดก่อนแท้ๆ “พี่กิ่งทำใจดีๆก่อนนะครับตาต้นต้องไม่เป็นอะไร” บีบมือหนาให้กำลังใจไปด้วย

กิ่งใบฝืนยิ้มให้กับคำปลอบใจนั้นบาง ๆ เหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่สีหน้าดูกังวล จนคนที่จับมืออยู่สงสารเป็นกำลัง

“ญาติของเด็กชายต้นกล้าคนไหนค่ะ” พยาบาลสาวออกมาเรียกหาผู้ปกครองของคนไข้เพื่อแจ้งรายละเอียด

“ผมครับ ผมเป็นพ่อ” กิ่งใบรีบเข้าไปซักถามอาการลุกชายทันที

“เด็กปลอดภัยนะค่ะ เย็บแผลที่ศรีษะห้าเข็ม นอกนั้นก็ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่คงต้องนอนโรงพยาบาลสัก 2 – 3 วันก่อนเพื่อดูอาการค่ะ”

ขอบคุณมากครับ บอกพยาบาลสาวก่อนจะหันมาสวมกอดการันที่ยืนฟังอาการอยู่ข้างๆ ด้วยความดีใจที่ลูกปลอดภัย และโดยที่ร่างบางไม่ทันตั้งตัวก็โดนขโมยหอมแก้มไปหนึ่งฟอดเต็มๆ จากคนที่พึ่งผละเข้าไปในห้องฉุกเฉินไปเมื่อกี้

“เฮ้ย!!!!! เมื่อกี้อะไรหนะ” กัณฑ์ปรี่เข้ามาถามทันที

“พยาบาลเขาออกมาบอกว่าต้นกล้าไม่เป็นไรแล้ว” หลบตาพี่ชาย ดีนะที่กัณฑ์กับก้านอยู่อีกฝั่งหนึ่งจึงเห็นไม่ถนัด

“จริงเหรอครับ” คนที่ถามคืออาของเจ้าหนูที่เดินมาสมทบ เนื่องจากตอนที่พยาบาลออกมาเมื่อกี้เขาไปเข้าห้องน้ำพอดีจึงพลาดอะไรหลายอย่าง

“ครับ ตอนนี้พี่กิ่งอยู่ข้างใน” บอกทางที่กิ่งใบเดินไปเมื่อกี้กับคนรัก

“งั้นผมเข้าไปดูหลานก่อนะครับ” ว่าแล้วก็เดินจากไปอย่างรีบร้อน

และหลังจากที่ก้านใบเดินจากไปแล้ว

“ที่พี่ถามคือเมื่อกี้กิ่งทำอะไรเรา” กัณฑ์คาดคั้นน้องชาย “ถ้าพี่ตาไม่ฝาดพี่ว่าพี่เห็นเขาหอมแก้มเรานะ”

“เปล่าครับพี่กิ่งแค่ดึงผมเข้าไปกอดเฉยๆ ก็ เอ่อ คือพี่กิ่งคงจะดีใจมากนะครับแล้วผมยืนอยู่ตรงนี้พอดีก็เลย..........”

ไม่รู้จะแก้ตัวว่าอย่างไร เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อกี้ชายหนุ่มจงใจหรือแค่อารามดีใจเท่านั้น จึงเดินหนีพี่ชายไปยังทิศที่ก้านใบพึ่งไปเมื่อกี้ ไม่อยากโดนพี่ชายคาดคั้นเพราะเขาโกหกไม่เก่งเอาซะเลยถ้ากัณฑ์รู้คงต้องคุยกันยาวแน่ร่างบางคิด

ส่วนกัณฑ์ก็ได้แต่สงสัย “หรือว่าเราจะตาฝาด” บ่นกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะเดินตามไปด้วยความโล่งใจที่ต้นกล้าไม่เป็นอะไรมาก

.............................................................................................

ภายในห้องพักผู้ป่วยของเด็กชายต้นกล้า มีพยาบาลและหมอกำลังตรวจเช็คอาการขั้นสุดท้าย

“เด็กไม่เป็นไรมากนะครับ ไม่ต้องกังวลไป แขนที่หักจะกลับมาเป็นปกติได้อย่างแน่นอน เพราะเด็กจะสร้างกระดูกทดแทนได้ไวกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้ว” หมอหนุ่มเจ้าของไข้บอกร่างสูงใหญ่ของกิ่งใบที่เฝ้ามองลูกไม่ห่าง

“ครับ ขอบคุณมากครับหมอ แล้วต้นต้องอยู่โรงพยาบาลอีกนานแค่ไหนครับ”

“จริงๆแล้วอีกสองถึงสามวันก็กลับจากบ้านได้” แต่หมออยากแนะนำว่าให้แกอยู่โรงพยาบาลสักหนึ่งอาทิตย์ ดูอาการก่อนก็จะดีมาก ถ้าผู้ปกครองไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย

กิ่งใบครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้คำตอบ

“ก็ดีครับ ให้ต้นอยู่นี่สักอาทิตย์ก็ได้”

“ดีครับ งั้นหมอต้องขอตัวก่อน” หมอหนุ่มทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินจากไป ซึ่งพอดีกับร่างบางของการันเปิดประตูเข้ามาพอดี

“อ้าว การ์” หมอหนุ่มที่กำลังจะเดินออกไปเมื่อครู่เอ่ยทักการันพึ่งเข้ามาพร้อมกับร่างสูงของพี่ชาย

“อมร ?” เรียกอีกฝ่ายกลับเช่นกัน เพราะคลับคล้ายคลับคลาว่า คนคนนี้อาจเคยเป็นเพื่อนที่โรงเรียนแพทย์ที่เขาจบการศึกษามา

“การันใช่มั๊ย” อมรทักทายคนที่กำลังทบทวนความทรงจำอยู่

“มอน?” เสียงใสเอ่ยทัก พึ่งจะนึกออก

“นายเป็นญาติกับคนป่วยเหรอ” อมรถามร่างบางอย่างสงสัยว่า เพื่อนเขามีความสัมพันธ์ยังไงกับคนไข้ของเขา

“ก็ไม่เชิง พอดีเป็นลูกของคนรู้จักหนะ” บอกสถานะของพ่อเด็กแบบเลี่ยงๆ ด้วยตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่า เขากับกิ่งใบอยู่ในสถานะไหนกัน แต่คำตอบนั้นทำให้คนที่กำลังเฝ้ามองบุตรชายอยู่บนเตียงหันกลับมามองเขาทันทีด้วยสายตาที่แปลความหมายไม่ได้

“เอ่อ ตาต้นเป็นไงบ้าง” การันถามอาการของเจ้าหนูอย่างเป็นห่วงถึงจะรู้ว่าปลอดภัยแล้วแต่ก็อดห่วงไม่ได้

“ก็แขนหัก แต่แกยังเด็กอยู่กระดูกจะซ่อมแซมตัวเองได้ในไม่ช้านี้แหละ ว่าแต่เราไปหาอะไรกินกันไหม อีกนานกว่าเด็กจะฟื้นจากยาสลบไม่เจอตั้งนานมีเรื่องจะคุยด้วยเยอะแยะเลย” หมอหนุ่มชวนคนที่เหลือบตาไปมองพ่อของเด็กที่ตอนนี้ทำเหมือนเขาไม่ได้อยู่ในห้องนี้ด้วยแล้วด้วยความรู้สึกน้อยใจ

“อืม ไปสิ” ตัดสินใจตอบออกไป เมื่อเห็นว่ากิ่งใบไม่หันมามองเขาเลย พูดคุยแต่กับกัณฑ์และน้องชายตัวเองเท่านั้น

“พี่กัณฑ์ครับ การ์ไปกินข้าวกับเพื่อนก่อนนะ แล้วเดี๋ยวโทรหา” บอกพี่ชายก่อนที่จะเดินตามเพื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้พ่อหม้ายหนุ่มได้แต่ปวดใจกับคำว่าคนรู้จักอยู่อย่างนั้น

“......... พี่กิ่งครับ เป็นอะไรครับเหม่อเชียว” ก้านใบทักพี่ชายที่นั่งไม่พูดไม่จาหลังจากการันออกไป

“ไม่เป็นไร ก้านกลับก่อนเถอะ พี่จะอยู่เฝ้าตาต้นเอง” เปลี่ยนเรื่องคุย เพราะตอนนี้สิ่งที่เขาควรคิดไม่ใช่เรื่องอื่นนอกจากความปลอดภัยของบุตรชายที่เขารักปานดวงใจ

“งั้นเดี๋ยวผมมาเปลี่ยนพี่พรุ่งนี้นะครับ”

“ไม่ต้องหรอกแค่เอาของใช้ที่จำเป็นของพี่มาก็พอ ส่วนเรื่องงานที่บริษัทก็ยกให้เราจัดการไปเลย พี่ขอลาพักจนกว่าต้นจะดีขึ้น แล้วก็บอกพ่อกับแม่ให้ด้วยว่าต้นไม่เป็นไรแล้ว”

“ครับ พี่ไม่ต้องห่วงนะ”

“อืม ฝากก้านด้วยนะกัณฑ์” เอ่ยบอกร่างสูงของอีกคนที่กำลังทำหน้าครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

“ไม่ต้องห่วงหรอก นายเองก็พักผ่อนบ้างละกัน อย่าลืมว่าตาต้นปลอดภัยแล้ว” ทิ้งท้ายก่อนจะเดินนำก้านใบออกไป

คนในห้องมองบุตรชายด้วยความรู้สึกสงสารที่ เด็กตัวเล็กๆแค่นี้ต้องผ่านการผ่าตัดที่เจ็บปวด ซึ่งผู้ใหญ่บางคนยังทนไม่ได้ และคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้อยู่นานจนกระทั่งความคิดก็หยุดลงเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนเปิดประตู

“เอ่อ พี่กัณฑ์กลับไปแล้วเหรอครับ” การันเอ่ยถามคนที่เมื่อเห็นเขาเข้ามาก็ทำเมินใส่อย่างกับเขาไม่มีตัวตน


“อืม กลับได้สักพักแล้วหละ” สายตาจ้องอยู่ที่ใบหน้าวีดเซียวของบุตรชาย

.................................................

................................................

...............................................

“ตาต้นยังไม่ฟื้นเหรอครับ” ร่างบางหาเรื่องชวนคุย

“หมอฉีดยานอนหลับให้” ตอบง่ายๆสั้นๆ ตอนนี้เขารู้สึกไม่อยากคุยอะไรกับคนตรงหน้าทั้งนั้น

“........................................” การันไม่รู้จะพูดอะไรอีกดี ปกติเขาก็ไม่ใช่คนช่างคุยอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอกิ่งใบในแบบนี้เขายิ่งพูดไม่ออก

...........................................

..........................................

ในที่สุดสงครามแห่งความเงียบก็สิ้นสุดลง โดยที่ฝ่ายที่ทนไม่ได้ก่อนคือการัน

“เอ่อ ผมขอโทษนะครับที่แนะนำพี่กิ่งไปว่าเป็นคนรู้จัก” การันเอ่ยเสียงแผ่ว แต่ก็ทำให้คนที่นั่งหน้าตึงอยู่อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง แต่ยังทำฟอร์ม

“ก็พี่เป็นแค่คนรู้จักของการ์จริงๆ นี่” ประชดลองใจอีกฝ่าย แล้วก็ได้ผลเมื่อการันรีบระล่ำระลักปฏิเสธ

“ไม่ใช่นะครับ คือพี่กิ่งเป็น เอ่อ” นั่นสิเป็นอะไรนะ แต่ว่าที่แน่ๆที่ไหนสักที่ในใจเขาบอกว่ากิ่งใบไม่ใช่แค่คนรู้จักธรรมดาๆคนหนึ่ง

“เป็นอะไร” อีกฝ่ายถามใจเย็น

ทำให้การันต้องคิดอยู่นานก่อนจะ ถามอีกฝ่ายกลับว่า

“แล้วถ้ามีคนถามพี่กิ่งว่าการ์เป็นอะไรกับพี่กิ่ง พี่กิ่งจะตอบว่าไงครับ” การันย้อนถามบ้าง

“ก็เป็นคนพิเศษนะสิ” อีกฝ่ายตอบโดยไม่ต้องคิด และคำตอบนั้นก็ทำให้การันหน้าแดงเถือกทีเดียว

“พี่ยังไม่คาดคั้นเอาคำตอบ ตอนนี้ก็ได้ เอาไว้การ์รู้ใจตัวเองเมื่อไหร่ ค่อยบอกพี่แล้วกัน” กิ่งใบเลิกคาดคั้น เพราะคิดไปคิดมาเขาก็ไม่น่าจะอารมณ์เสียกับแค่คำที่อีกฝ่ายใช้แนะนำเขาเสียหน่อย อาจเป็นเพราะวันนี้เขาผ่านเรื่องร้ายๆ มาก็ได้ ทำให้อารมณ์ไม่มั่นคงนัก

การันไม่ตอบอะไรนอกจากยิ้มน้อยๆ แล้วเดินมามองต้นกล้าที่บัดนี้แขนข้างซ้ายถูกพันด้วยผ้าสีขาวเกือบทั้งแขน

“ตาต้นคงเจ็บมาก” เอ่ยกับพ่อเด็กชายเบาๆ

“คงจะช่วยได้เยอะเลย ถ้าจะมีคนมาเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนทุกคืนจนกว่าจะหาย” มองหน้าอีกฝ่ายอย่างขอความช่วยเหลือ

“แล้วทำไมพี่ไม่เล่าเองละครับ”

“พี่เล่าจนหมดไส้หมดพุงแล้ว การ์เล่าบ้างสิ ตาต้นนะติดใจนิทานของการ์น่าดูเลยนะ” ชักชวนอีกฝ่ายอย่างมีฉันเชิง

การันยิ้มน้อยๆ ก่อนจะบอกว่า “การ์จะพยายามครับ”

คำตอบนั้นทำให้ร่างสูงยิ้มออกมาอย่างยินดี ก่อนจะเตือนให้อีกฝ่ายรีบกลับบ้านเพราะวันนี้เขาไม่สามารถไปส่งได้เหมือนเคย
………………………………………………………………

หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 25-01-2013 17:12:46
ภาค 2 ตอนที่ 4

“สวัสดีครับ ผมมาทำฟันกับหมอการ์ครับ โทรนัดไว้แล้ว” ร่างสูงของกิ่งใบบอกพยาบาลหน้าเคาท์เตอร์เพื่อเข้ารับการตรวจสุขภาพฟันในเช้าวันหนึ่ง

“เชิญห้องหมายเลข 2 เลยค่ะ” หญิงสาวชี้มือไปยังทิศของห้องตรวจประจำของทันตแพทย์การัน

“สวัสดีครับคุณหมอ” ร่างสูงทักทายหมอหนุ่มที่อยู่ในชุดเสื้อกาวน์สีขาวปักอกเสื่อด้านซ้ายว่า ‘ทพ. การัน กัณฑราช’

“พี่กิ่ง” ร่างบางขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะหันไปอ่านแฟ้มคนไข้ เพื่อดูจุดประสงค์ของการรักษา เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาตรวจฟันกับเขาเลย เพราะผ่านมาตั้งนานชายหนุ่มก็ไม่เคยมีวี่แววว่าจะมาทำฟัน มีแต่ส่งลูกชายกับลูกน้องมาเท่านั้น

“พี่มาตรวจฟันเฉยๆ” ร่างสูงตอบเสียเอง เมื่อเห็นว่าการันให้ความสนใจกับชาร์ตในมือเหลือเกิน

“อ้อ งั้นก็นอนลงเลยครับ”

“นอนตรงไหน” ร่างสูงแกล้งถามเหมือนไม่รู้ว่าเก้าอี้ที่ปรับระดับไว้เพียงตัวเดียวในห้องตรวจนี้มีไว้ให้คนไข้นอนอ้าปากเพื่อรับการตรวจรักษา

หมอหนุ่มทำตาโตใส่ ก่อนจะชี้มือเล็กๆไปที่เก้าอี้สำหรับตรวจเป็นเชิงบอกว่าตรงนี้

 “อ้อ นึกว่าต้องเข้าไปนอนในใจหมอการ์ซะแล้ว” กิ่งใบพึมพำเบาๆ แต่นั่นก็ทำให้คนหูดีอย่างการันได้ยิน แล้วตาโตนั้นก็เขวี้ยงค้อนอันเบ่อเร่อมาให้เขาแทบหลบไม่ทัน เห็นแล้วก็น่ารักดี นี่ถ้าไม่ติดว่ามีหน้ากากอนามัยปิดหน้าครึ่งล่างไว้ละก็จะเห็นนวลแก้มสีชมพูเรื่อๆอีกหนึ่งอย่างแน่นอน

“อ้าปากครับ” หมอฟันหนุ่มสั่งหลังจากที่ขยับเก้าอี้ทั้งของตัวเองและร่างสูงเรียบร้อยแล้ว และคนตัวโตก็ทำตามอย่างว่าง่าย

การันใช้เครื่องมือที่พยาบาลเตรียมไว้ให้ค่อยๆเช็คดูสภาพฟันของอีกฝ่ายแต่ละซี่อย่างใจเย็น ซี่ไหนที่เจ้าตัวสงสัยว่ามีปัญหาก็จะเปลี่ยนเครื่องมือแล้วเช็ดกับร่างสูงว่ามีความรู้สึกเป็นอย่างไรกับฟันซี่นั้นๆ ทำเรื่อยๆอย่างนั้นจนครบ 32 ซี่ แล้วจึงหยุดเพื่อจะสรุปอาการ โดยหารู้ไม่ว่าในขณะที่เขากำลังตรวจฟันอย่างตั้งอกตั้งใจนั้น คนไข้ของเขาเอาแต่จ้องเขาอย่างไม่วางตาเลยทีเดียว

“ฟันแข็งแรงดีครับ แต่ที่เคลือบฟันมีคราบบุหรี่จางๆอยู่”

“แล้วผมต้องทำยังไงละครับ คุณหมอ” ท้ายคำแกล้งเน้นเสียงเย้าอีกฝ่าย ‘เหมือนเล่นหมอกับคนไข้เลยแหะ’ ร่างสูงคิด

ทางฝ่ายทันตแพทย์หนุ่มเมื่อเจอคำพูดแบบนั้นทำเอาอึ้งไปพักใหญ่ ปกติก็ชินอยู่หรอกนะกับที่มีคนเรียกว่าคุณหมอเนี่ย แต่ออกจากปากอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงแบบนั้นแล้วมันเขินๆยังไงไม่รู้ แถมยังจะคำแทนตัวที่ใช้ผิดไปนั้นอีก

“ว่าไงครับ ผมต้องทำยังไง” ส่งสายตาเชื่อมมาให้คุณหมอคู่กรณีที่นั่งก้มหน้างุดอยู่ และในที่สุดก็เอ่ยออกมาว่า

“พี่มีสองทางเลือกครับ ถ้าอยากจะให้ฟันขาวขึ้น อย่างแรก ฟอกฟัน อย่างที่สอง เลิกบุหรี่”

“แหม ถ้าผมเลิกบุหรี่ก็เหงาปากแย่ซิครับ” คนไข้หนุ่มแกล้งอุทธรณ์ ทำให้ตัวเองดูน่าสงสาร

“พี่ก็เคี้ยวหมากฝรั่งซิ สูบบุหรี่มันไม่ดีต่อสุขภาพ รู้มั๊ย” ท้ายประโยคก็เอ็ดคนตัวโตนิดๆ

“คุณหมอห่วงผมเหรอครับ” ยังเย้าไม่เลิก

“........................................”

“เอางี้ ผมจะพยายามเลิกก็ได้ แต่ถ้าผมเหงาปาก คุณหมอต้องช่วยผมนะครับ” กิ่งใบพูดต่อเสียเอง เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบคำถาม

“ช่วยยังไง” การันกำลังคิดถึงเรื่องการออกไปหาซื้อหมากฝรั่งรสนิโคตินก็พอดีกับอีกฝ่ายพูดสวนขึ้นมา

“ก็อย่างนี้ไง” พูดจบก็ค่อยๆรั้งหน้ากากอนามัยของคนในเครื่องแบบสีขาวลง มือหนายึดท้ายทอยสวยไว้มั่น แล้วโน้มตัวลงไปช้าๆ อาศัยช่วงเวลาที่การันกำลังงง ทาบริมฝีปากเจือกลิ่นบุหรี่นิดๆลงไปบดเบียดกับริมฝีปากบางเบาๆ เพื่อทักทายกลีบปากอิ่ม และเมื่อไม่มีอาการขัดขืน ร่างสูงก็ยิ่งได้ใจส่งปลายลิ้นหนาเข้าไปแตะกำแพงเหล็กจัดฟันของอีกฝ่ายที่ยังปิดแน่นอยู่ ไล้เลียไปมาชั่วขณะเจ้าของจึงยอมยอมอ้าปากรับปลายลิ้นของเขาในที่สุด กิ่งใบชิมปลายลิ้นหวานที่สงบนิ่งไปมาซ้ำๆอย่างติดใจ ดูท่าหมอหนุ่มจะตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเสียแล้ว

จุ๊บ คนตัวโตถอนริมฝีปากออก และจูบเบาๆที่มุมปากเล็กเป็นการสั่งลา และนั่นก็ทำให้การันรู้สึกตัวทันที หน้าขาวมีเลือดสูบฉีดจนแดงกล่ำ ดวงหน้าเล็กก้มลงมองพื้นไม่กล้าสบสายตาร้อนแรงคู่นั้น ส่วนในใจก็เฝ้าแต่ครุ่นคิดว่าเมื่อกี้เขาถูกจูบ ที่สำคัญทำไมเขายอมให้อีกฝ่ายจูบ แถมอ้าปากให้คนเจ้าเล่ห์ส่งลิ้นเข้ามาอีกต่างหาก นี่เขาทำเรื่องน่าอายไปได้อย่างไร

“หวานมากครับหมอ ถ้ารู้ว่าหวานขนาดนี้ผมจะไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องรอนานขนาดนี้เลย” กระซิบข้างหูเล็กที่แดงเถือกจากการกระทำเมื่อครู่

 “อะ ออกไปได้แล้ว ตรวจฟันเสร็จแล้ว” การันบอกโดยไม่ยอมสบตา

“อย่าลืมนะครับ ถ้าผมเหงาปากเมื่อไหร่ คุณหมอต้องช่วยผมอีกนะครับ” พูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องตรวจไปด้วยความสุข

ทางฝ่ายการันนั้น เมื่อกิ่งใบออกจากห้องตรวจไปแล้ว เขาถึงกับฟุบหน้าลงบนโต๊ะ เพื่อดับความอายของตัวเอง มือเล็กๆลูบริมฝีปากไปมาอย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีกว่านั้น ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะทำใจให้ทำงานต่อไปได้ แต่ถึงยังไงรอยจูบที่อ่อนหวานก็ยังคงอวลอยู่ในปลายลิ้นตลอดเวลา แม้อยากจะลืมก็ลืมไม่ลง อานุภาพของจูบช่างร้ายแรงจริงหนอ
..............................................................................................

ตกเย็นของวันนั้นการันออกมาทานข้าวกับเพื่อนซี้ที่ร้านแห่งหนึ่ง

“การ์ การ์ เฮ้ นายเหม่ออะไรหนะ” น้ำข้าวเพื่อนสมัยเรียนมัธยมถามขึ้นเมื่อเพื่อนตัวเองที่เอาแต่เหม่อ

“ว่าไงนะ” การันที่พึ่งได้สติเอ่ยขึ้น

“เราถามว่าเป็นอะไร”

“ก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยนะ”

“นั่นแน้ คิดอะไรบอกมานะ ทำไมต้องหน้าแดงด้วย”

“ไม่มีอะไรจริงๆ” การันแสร้งหยิบแก้วน้ำขึ้นจิบเพื่อหลบตาเพื่อน แต่การกระทำนี้ยิ่งเป็นการบ่งบอกให้ภัสกรรู้ว่าเพื่อนตนต้องมีอะไรบางอย่าง

“เราไม่เชื่อ” อีกฝ่ายบอกตามที่คิด “บอกหน่อยนะรับรองว่ารู้แล้วไม่บอกต่อ น่า นะ เราอยากรู้”

“.......................................”

“น่า นะ” ทำสายตาอยากรู้อยากเห็น

“ก็ คือ เอ่อ เมื่อเช้าเราโดนพี่กิ่งจูบ” พูดแล้วก็ต้องรับเอามือปิดหน้า เหมือนเด็กที่ทำผิดแล้วไม่อยากโดนซัก

“ฮ้า นายคืบหน้าไปขนาดนั้นแล้วเหรอ ว้าว เจ๋งเป็นบ้าเลย” คนพูดยิ้มจนตาหยีอย่างแสดงว่าการันนั้นมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นจริง

“แล้ว นอกจากนั้นหละ” เพื่อนซี้ยังซักไซร้ต่อ ก็เรื่องของเพื่อนก็เหมือนเรื่องของตัวเองนี่นา

“ก็โทรมาตอนเช้ากับก่อนนอนทุกวัน แล้วก็ส่งพนักงานที่บริษัทให้มาทำฟันกับเราวันละคน บอกว่าเป็นสวัสดิการของบริษัท”
“โห เจ๋งจริงๆ พี่กิ่งเนี่ย ดูแล้วไม่น่าทำตัวโรแมนติกได้ขนาดนี้ได้เลยนะ” คนพูดทำหน้าครุ่นคิด

“ทำยังกับรู้จักเขาดี” การันแซวเพื่อนบ้าง

“อ้าว ว่าไม่รู้จักได้ไง ชื่อนี้ได้ยินมาเป็นสิบปีแล้ว ใครน้าที่ชอบมาเล่าเรื่องเขาให้เราฟัง”
 “พอเลย ว่าแต่หนึ่งเป็นไงบ้าง” การันรีบเปลี่ยนเรื่องคุยโดยการเอ่ยถามแฟนของเพื่อนบ้าง

“ซื้อบื้อไม่มีใครเกิน” น้ำข้าวหรือนายภัสกรตอบยิ้มๆ “นี่นายอยากรู้ความรู้สึกของพี่กิ่งไหมละ เรามีวิธีเด็ดๆ รับรองคิดอะไรอยู่เป็นต้องรีบพูดออกมาหมดเลย เราลองมาแล้ว ขนาดเจ้าทึ่มหนึ่งยังรู้ตัวเลย คิดดูว่าได้ผลขนาดไหน” หน้าใสกล่าวตาเป็นประกาย เมื่อนึกถึงสารพัดแผนการที่ตนงัดออกมาใช้เพื่อให้คนรักยอมบอกความรู้สึก

“ไม่เอาหรอก สงสารหนึ่งจะตาย นายก็แกล้งเขาได้ทุกวัน แล้วที่สำคัญเราไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนาย พี่กิ่งก็พูดอะไรเลี่ยนๆให้ฟังออกบ่อยไป” บุคคลที่สามนามว่า ‘หนึ่งหรือนายเอกมล’ ที่ทั้งสองกล่าวถึงก็คือแฟนหนุ่มของภัสกร ที่กว่าน้ำข้าวจะทำให้อีกฝ่ายบอกรักได้ก็แทบถอดใจ

“แผนเวริค์นะจะบอกให้” ยังเสนอไม่เลิก “นี่จะทำให้ดู” ว่าแล้วก็กดโทรศัพท์ไปหาคนรักทันที รออยู่ชั่วอึดใจปลายสายก็รับโทรศัพท์

“หนึ่งมารับชั้นหน่อยสิ พอดีรถเสีย” ออกคำสั่งกับคนรักทันที

“............................................”

“ห๋า มาตอนนี้ไม่ได้เหรอ มีอะไรสำคัญกว่าชั้นอีกหรือไง” คิ้วเรียวเริ่มขมวดมุ่นเมื่อไม่ได้ดั่งใจ

“..........................................”

“ก็ได้ ถ้านายไม่มา ชั้นจะอาศัยรถหนุ่มๆแถวนี้ไป แต่ว่าเขาจะพาชั้นไปไหนไม่รู้ด้วยนะ เอาหละให้เวลา 30 นาที ชั้นอยู่ที่ร้าน XXX”

ภัสกรกดวางสายก่อนจะขยิบตาให้เพื่อนรักที่นั่งทำหน้างงว่า ทำไมเพื่อนเขาถึงได้กล้าอำอีกฝ่ายขนาดนั้น

“ข้าว เราว่ามันไม่ดีนา หนึ่งติดงานอยู่ไม่ใช่เหรอ”

คนถูกถามส่ายหน้าไปมา ก่อนจะบอกว่า “งานก็มีอยู่หรอก แต่ไม่สำคัญขนาดนั้นเสียหน่อย เพราะถ้าเขามีงานด่วนจริง เจ้าทึ่มหนึ่งจะปิดโทรศัพท์หนีเรา โทรยังไงก็ไม่ติดหรอก” ภัสกรบอกนิสัยของคนรักให้เพื่อนฟังอย่างอารมณ์ดี

“แล้วเราก็ไม่ได้โกหกเสียหน่อย ถ้าเขาไม่มา เราก็ให้การ์ไปส่งไง” ส่งยิ้มขอความช่วยเหลือมาให้

“รถนายหละ” การันย้อนถาม

“เข้าศูนย์ครับผม” ก่อนมาเจอเพื่อนนี้เองที่เขาเอารถเข้าไปเช็คสภาพตามกำหนด ทำให้ต้องนั่งแท็กซี่มาแทน “มาเข้าเรื่องพี่กิ่งต่อดีกว่า” ภัสกรเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะนึกขึ้นได้ว่ายังคุยเรื่องนี้ไม่จบ

“ไม่มีอะไรจะคุยแล้ว” การันเฉไฉ

“มีสิ นายคิดว่าจะทำยังไงต่อไป” น้ำข้าวดักคอเพื่อน

“ก็ ไม่รู้สิ บอกตรงๆว่า ลึกๆแล้วเรากลัว”

“กลัวอะไร” คนที่กำลังจิบน้ำอยู่ถามทันที

“ก็พี่เขาเคยแต่งงานแล้วก็มีลูก ถ้าลูกเขารู้ว่าพ่อหาพ่อใหม่ให้ แทนที่จะมีแม่ใหม่อย่างคนอื่นเขา เด็กจะคิดยังไง” การันยอมเปิดเผยสิ่งที่ยังค้างคาในใจในที่สุด

“โธ่เอ้ย เรื่องจิบจ้อย ตอนนี้แกยังเด็กพูดยังไงก็ไม่รู้เรื่องหรอก นายกับพี่กิ่งค่อยๆ อธิบายไปเดี๋ยวแกก็เข้าใจเองนะแหละ ความรักนะต้องมีเองถึงจะรู้” มือเล็กบางแตะไหล่เพื่อนเบาๆอย่างให้กำลังใจ “ถามใจนายเถอะว่าคิดยังไงกับเขา”

“ขอบใจนะ” การันขอบใจในการให้กำลังใจนั้น แต่มาคิดดูอีกทีเขาคิดมากเกินไปหรือเปล่า เพราะตอนนี้เขากับพ่อของเด็กชายต้นกล้ายังไม่ได้คบกันเลย

“ไม่เป็นไร มีอะไรให้เราช่วยก็บอก” เพื่อนซี้ขยิบตาเจ้าเล่ห์ให้อีกหนึ่งรอบ การันยิ้มให้กับความเอื้อเฟื้อของเพื่อน แต่เขาคงรับไว้ ไม่ได้ เพราะแผนเพื่อนแต่ละแผนเปลืองตัวทั้งนั้น ยังสงสัยว่าถ้าเขาเป็นผู้หญิงและทำตามที่อีกฝ่ายบอกป่านนี้เขาคงท้องไปแล้ว และในขณะที่การันคิดอะไรเพลินๆนั้นก็ได้ยินเสียงเพื่อนรักเรียกใครบางคนอยู่ แถมยังกวักมือไหวๆอีกต่างหาก ทำให้เขาต้องมองตามและก็เป็นอย่างที่คิด คนที่วิ่งกระหืดกระหอบมาไม่ใช่ใครอื่น นายเอกกมลคนซื่อของน้ำข้าวนั่นเอง

“ฉิวเฉียด” ภัสกรบอกคนที่มีเหงื่อเต็มหน้า เพราะความรีบร้อน พลางดูนาฬิกาเรือนสวยที่อีกฝ่ายซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดไปด้วย

คนที่พึ่งมาถึงก้มจูบขมับอีกฝ่ายเป็นการทักทาย ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้มานั่ง แล้วหยิบแก้วเครื่องดื่มของคนรักขึ้นมาดื่มอึกใหญ่อย่างกระหาย

“หวัดดีการ์ ไม่เจอตั้งนาน ยังไม่ถอดเหล็กอีกเหรอ” เอกมลทักเพื่อนสนิทของคนรัก รวมไปถึงเหล็กจัดฟันที่เจ้าตัวใส่มาหลายปี หลังจากทุเลาความกระหายไปบ้างแล้ว

“ก็เกือบแล้วหละ อีกไม่กี่เดือน” การันยิ้มให้คนตัวโตที่หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อตามใบหน้าและลำคออย่างสงสาร เพื่อนเขานี่แสบจริงทำให้คนรักหัวปั่นทุกที

“ร้อนมากเหรอหนึ่ง” น้ำข้าวถามคนรัก

“อือ รถติดมาเลยแถมไม่มีที่จอดรถด้วย เนี่ยต้องไปจอดอีกถนนหนึ่งแล้วเดินมา”

“น่าสงสารจัง” ภัสกรแกล้งทำเสียงอ่อน เหมือนจะสงสารอีกฝ่ายจริงๆ แต่นี่คือการเอาคืนที่เอกกมลแอบไปปาร์ตี้สละโสดแล้วไม่ชวนเขาเมื่อคืนก่อน

“กลับไปจะนวดให้นะ ตรงไหนเมื่อยมากจะบริการเป็นพิเศษ” ทำตาเป็นประกายจนบุคคลที่สามเขินแทน

“พวกนายคุยอะไรกันอยู่เนี่ย” การันรีบดักคอ ก่อนบทสนทนาจะล่อแหลมขึ้นเรื่อยๆ

“เอ๊า พวกชั้นคุยกัน นายจะอายทำไม” น้ำข้าวแซวเพื่อนที่ผิวแก้มเริ่มซับสีเลือด

“พอแล้ว พอแล้ว ชั้นกลับบ้านก่อนหละคุณพ่อคุณแม่รอแย่แล้ว”

“รีบกลับไปรอโทรศัพท์ใครหรือเปล่า” เพื่อนรักยังไม่วายเอ่ยแซว

“นายก็อย่ามัวแต่มาแซวฉันอยู่เลย รีบกลับไปทำงานเถอะ ชั้นยังไม่เคยเห็นนายทำงานเลย บริษัทอยู่ได้ไง” การันตั้งข้อสงสัย เพราะตั้งแต่ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงานตามหน้าที่ของตัว เขายังไม่เคยเห็นเพื่อนรักทำงานเลย แต่ลึกๆแล้วเขารู้ดีว่าที่บริษัทของหมอนี่เจริญก้าวหน้ามาตลอด เพราะความความอัจฉริยะของเจ้าตัว ภัสกรเรียนเก่งและทันคนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร กอปรกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดี ทำให้ร่างบางไม่ต้องพยายามอะไรก็มักจะมีคนมาเสนอความช่วยเหลือให้เสมอ

“Ok. เจอกันวันหลังนะ แล้วถ้ามีอะไรคืบหน้าก็บอกเราด้วยนะ”

“อืม ไปหละ ไปนะหนึ่ง” ท้ายประโยคหันไปลาคนที่นั่งส่งยิ้มแสดงความเห็นใจมาให้

“บาย บาย” สองเสียงตอบพร้อมกัน

และเมื่อลับหลังเพื่อนรักแล้ว การันก็คิดถึงเรื่องที่เพื่อนเตือนมาว่า ให้ถามใจตัวเอง ‘นั่นสินะ เขาคิดยังไงนั่นหละที่สำคัญ’

.........................................................................

เวลาประมาณ 22.00 น การันที่พึ่งเข้านอนไม่นานต้องตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเตือนจากมือถือว่ามีข้อความใหม่ ร่างบางยิ้มมุมปากน้อยๆก่อนจะเปิดไฟหัวเตียงอ่านข้อความบนมือถือ โดยทราบดีว่าเจ้าของข้อความคือใคร
+++++++++++++++++++++
Someone love one
Someone love two
But I love one
The one is you
.+++++++++++++++++++++
<Good night and see me in your dream>

พี่กิ่ง

การันอ่านข้อความไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ‘คนบ้า ทำตัวเป็นวัยรุ่นไปได้’ มือเล็กกดปิดเครื่องมือสื่อสารเสีย เพราะถึงเวลานอนแล้ว มิน่าหละเขาถึงยังนอนไม่หลับเสียที แถมยังไม่ปิดมือถือก็เพราะรอข้อความเลี่ยนๆอยู่นี่เอง หมอหนุ่มนอนมองเพดานด้วยใบหน้าที่แดงเรื่อๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะปิดไฟนอน ไม่รู้ว่าคืนนี้เขาจะเจอใครในฝันหรือเปล่า

..............................................................................

เช้าวันที่ 2 ของการนอนโรงพยาบาลของเด็กชายต้นกล้า ค่อนข้างอึกทึกเพราะมีญาติของเด็กชายมาเยี่ยมแต่เช้าตรู่

“เป็นไงครับคนเก่ง หิวมั๊ย อาเอาไอศกรีมของโปรดมาฝากด้วยนะ” ก้านใบถามหลานชายตัวน้อยที่นอนลืมตากลมโตมองเขาอยู่อย่างงุนงง และดูเหมือนว่าเด็กชายจะยังจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ค่อยได้

“ต้นแขนหัก เพราะไปช่วยลูกนกไง จำได้ไม๊ครับ” ร่างบางลูบศรีสะทุยเบาๆ

“แล้วนกละครับ” เจ้าหนูที่นอนแขนหักอยู่บนเตียงยังมีแก่ใจถามถึงนกตัวต้นเหตุ

“ครูปานวาดเขาเอาขึ้นไปคืนให้แม่มันที่รังแล้วละครับ”

“ดีจัง” เด็กชายว่าอย่างนั้นแล้วก็ขยับตัวไปมา แต่ทำได้ไม่มากเพราะความเจ็บและเฝือกสีขาวที่ดามแขนตัวเองอยู่

“คุณพ่อละครับ” เด็กชายถามหาพ่อ เพระตั้งแต่ตื่นขึ้นมาก็ยังไม่เจอหน้าผู้เป็นบิดาเลย

“คุณพ่อไปคุยกับคุณหมอครับ เดี๋ยวก็มา” ก้านใบปลอบหลานชาย

“อาก้านครับต้นปวดฉี่” มือเล็กอูมข้างที่ไม่ดามเฝือกกุมเป้ากางเกงผู้ป่วยที่ตนสวมอยู่ไปด้วย เพื่อยืนยันกับคุณอาว่าอยากไปเข้าห้องน้ำจริงๆ

“เดี๋ยวอาพาไปครับ” ผู้มีศักดิ์เป็นอาแท้ๆ ของเจ้าหนูค่อยๆ พยุงหลายชายขึ้นมาเพื่อจะพาเข้าห้องน้ำ แต่ยังไม่ถึงไหนประตูห้องพิเศษก็เปิดขึ้นพร้อมกับร่างสูงของกิ่งใบผู้เป็นพี่ชายเดินเข้ามาเสียก่อน

“กำลังจะพาตาต้นเข้าห้องน้ำพอดีครับพี่กิ่ง” ร่างบางรายงานพี่ชาย

“เดี๋ยวพี่จัดการเอง ก้านไปทำงานเถอะวันนี้มีประชุมสำคัญตอนเช้าด้วย เดี๋ยวไม่ทัน” ผู้เป็นพี่เอ่ยเตือนก่อนจะอุ้มบุตรชายจากทางด้านหลังเพื่อระวังไม่ให้โดนแขนที่เข้าเฝือกอยู่ของลูกชายตัวน้อยเดินเข้าห้องน้ำไป

“งั้นผมไปนะครับพี่” ก้านใบบอกพี่ชายที่กำลังจัดแจงให้ต้นกล้าให้ฉี่ได้ถนัด

“อือ ขับรถระวังหละ” บอกเสร็จก็ย่อตัวลงด้านหลังเจ้าหนูแล้วใช้มือใหญ่ของตัวเองประคองต้นกล้าน้อยขึ้นมาเพื่อช่วยบังคับทิศทางให้ ในใจก็อดปลื้มกับขนาดของเจ้าน้องชายของลูกที่ได้รับจากเขาไปเต็มๆไม่ได้

“ฉี่เลยลูก” บอกเบาๆ ข้างๆ หูเล็ก

ไม่นานนักต้นกล้าก็ทำธุระเสร็จด้วยความช่วยเหลือของบิดา กิ่งใบล้างมือที่อ่างล้างหน้าก่อนจะอุ้มลูกออกมาจากห้องน้ำ แล้วก็พบว่ามีอาของเจ้าหนูอีกคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“อาการ์” ต้นกล้านั่นเองที่ร้องเรียกผู้มาใหม่ด้วยความยินดี
“อรุณสวัสดิ์ครับคนเก่ง เจ็บมากมั๊ย” การันเอ่ยทักเจ้าตัวเล็กพร้อมกับกระเช้าของเยี่ยมอันใหญ่ ที่มีสารพัดของบำรุงอยู่ในนั้น

“เจ็บคับ เจ็บตรงนี้” นิ้วเล็กๆ ชี้ที่เฝือกของตัวเอง

“ให้อาหมอช่วยมั๊ย” คนถามไม่ใช่อาหมอของเจ้าหนู แต่เป็นผู้เป็นพ่อที่นั่งยิ้มไม่หุบเมื่อเห็นการันมาแต่เช้า

“ช่วยยังไงครับ” ต้นกล้าถามพ่อตาแป๋ว

“ก็ให้อาหมอจุ๊บเฝือกให้ไง แล้วให้พ่อจุ๊บซ้ำรับรองหายสนิท” ร่างสูงเริ่มใช้ลูกชายในการทำคะแนนอีกครั้ง

“จริงเหรอคับอาหมอ” ต้นกล้าหันไปขอความเห็นจากการัน ที่ทำหน้าปั้นยากอยู่

“เอ่อ.......” สบตาร่างสูงอย่างฝากไว้ก่อน เพราะรู้ดีว่าการเจ็บปวดทางร่างกายนั้น ส่วนหนึ่งมาจากจิตใจ ถ้าเขาปฏิเสธเจ้าหนูไป เด็กชายต้องรู้สึกฝังใจและจะยิ่งเจ็บมากขึ้นแน่นอน

“เอ อาหมอไม่แน่ใจนะ ไหนลองดูสิ” ร่างบางของการันก้าวมาที่เตียงคนไข้ที่ต้นกล้านอนอยู่ แล้วก้มลงสัมผัสเฝือกขาวด้วยริมฝีปากเบาๆ และทันทีที่เขาถอนริมฝีปากออก กิ่งใบก็ก้มตัวลงสัมผัสบริเวณที่อีกฝ่ายพึ่งผละออกทันที

“ความเจ็บปวดจงหายไป เพี้ยง”

“หายเจ็บแล้วคับพ่อ” ต้นกล้าตะโกนบอกพ่ออย่างดีใจ และมองการันด้วยความรู้สึกยินดี

ทางฝ่ายการันนั้นรู้ดีว่าที่ต้นกล้าหายเจ็บไม่ใช่เพราะมนต์ของพ่อหรือการจุ๊บเฝือกอะไรทั้งนั้น แต่เป็นเพราะความปีติยินดีที่เจ้าหนูมีต่างหากที่ทำให้อะดรีนาครีนหลั่งออกมาช่วยลดความเจ็บปวด แต่ถึงกระนั้นก็ยังอดดีใจด้วยไม่ได้

“เหรอคับ งั้นอาหมอไปทำงานก่อนนะ” เดินมาจูบกลุ่มผมนิ่มของหลานชายตัวน้อยเบาๆ

และอีกครั้งที่กิ่งใบก้มตัวลงไปสัมผัสบริเวณเดียวกันกับหมอหนุ่ม ทำให้การันตระหนักได้ว่าตัวเองจูบกับอีกฝ่ายทางอ้อม และรู้ด้วยว่าฝ่ายนั้นจงใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“อาหมอมาหาต้นใหม่นะคับ ต้นจะรอ” เด็กชายอ้อนการันอีกครั้ง

หมอหนุ่มยิ้มให้น้อยๆก่อนจะเดินออกไปโดยมีผู้เป็นพ่อของเด็กชายต้นกล้าเดินออกมาส่ง

“ขอบใจมากนะการ์”

“ไม่เป็นไรครับ พี่ก็ต้องรักษาสุขภาพนะครับ ล้มป่วยไปอีกคนจะแย่” บอกด้วยใบหน้าที่ซ่อนความรู้สึกบางอย่าง

กิ่งใบไม่ตอบได้แต่ยิ้มบางๆให้ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องพักบุตรชายไป เมื่อเห็นว่าการันเดินออกนอกตึกไปแล้วด้วยหัวใจเปี่ยมสุข ตั้งแต่การันกลับเข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้งชายหนุ่มก็มีความสุขขึ้นมาก ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะคิดเหมือนกันกับเขาหรือเปล่า แต่ก็อดคาดหวังไม่ได้ ถ้าเขาไม่มีใจให้บ้าง คงไม่ขยันหน้าแดงทุกครั้งที่ถูกจีบหรอกมั้ง
……………………………………………………..
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 25-01-2013 17:15:49
ภาค 2 ตอนที่ 5

บ่ายวันที่สามที่ต้นกล้านอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล ที่ห้องของเจ้าหนูเต็มไปด้วยกระเช้าของฝากมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอดีตกิ๊กเก่าของกิ่งใบ ถึงแม้เจ้าตัวจะเลิกเจ้าชู้มานานแล้วตั้งแต่ได้พบกับการัน แต่ทว่าก็ยังคงความมีเสน่ห์เอาไว้ได้อย่างเหลือล้น

“กิ่งขา คุณใจร้ายจัง หลานวิเข้าโรงพยาบาลทั้งคนไม่บอกกล่าวกันบ้างเลยนะคะ แถมหมู่นี้ก็ไม่ยอมมาหาซะด้วย” หญิงสาวในชุดเสื้อรัดรูปฉอเลาะคนที่นั่งหน้าเฉยอยู่

“พอดีผมยุ่งๆนะ ก็เลยลืมไป ขอโทษที”

“ยกโทษให้ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณสัญญาว่าจะไปทานข้าวเย็นกับวิ”

ชายหนุ่มยิ้มบางๆ กับการไม่รู้กาลเทศะของเจ้าหล่อน

“ลูกผมไม่สบาย เห็นทีผมคงห่างแกไม่ได้” พลางมองร่างเล็กที่หลับสนิทอยู่บนเตียงสี่เหลี่ยมสีขาว

“แหม คุณก็หาข้ออ้างอยู่เรื่อยเลย” หญิงสาวแกล้งทำเป็นงอน ซึ่งอาจจะดูน่ารักสำหรับเขาเมื่อก่อน แต่ในตอนนี้เขาเจอคนน่ารักที่ไม่ว่าทำอะไรเขาก็รักอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงเฉยๆ กับอาการแบบนี้ของหญิงสาว ออกจะรำคาญด้วยซ้ำ

“กิ่งค่ะ กิ่งงงงงงงงงง” เจ้าหล่อนเรียกเสียงดังขึ้น เมื่อเจ้าของชื่อเอาแต่อมยิ้มที่ดูก็รู้ว่าไม่ได้มีไว้ให้หล่อน แถมอาการใจลอยนั่นก็ทำให้หงุดหงิดอย่างประหลาด

“คุณคิดอะไรอยู่ค่ะ วิเรียกตั้งนานก็ไม่ได้ยิน”

“ก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย” ชายหนุ่มตอบเรียบๆและก็ต้องประหลาดใจเมื่อร่างอวบอัดในเสื้อผ้ารัดรูปขยับเข้ามานั่งใกล้เขาจนชิด หรือถ้าจะให้ถูกก็คือเจ้าหล่อนขึ้นมานั่งบนตักเขามากกว่า

“คุณจะทำอะไรวิ ที่นี่โรงพยาบาลนะ แล้วอีกอย่างผมก็บอกคุณแล้วว่าผมเจอคนที่ใช่สำหรับผมแล้วไง” กิ่งใบปรามเสียงดุมือก็คอยดึงแขนอีกฝ่ายออกจากตัวไปด้วย

“แหม คืนนี้เราออกไปข้างนอกกันนะคะ วิคิดถึง............คุณเหลือเกิน คุณวิเศษที่สุดเลย” วิภาดากระซิบถ้อยคำน่าอายออกมาข้างใบหูของคนที่เริ่มหงุดหงิด ที่อีกฝ่ายไม่คำนึงถึงเวลาและสถานที่เลยสักนิด จริงอยู่ว่าทั้งเขาและหล่อนมีความสัมพันธ์ทางกายกัน แต่ก็เป็นการสนองตอบความต้องการตามธรรมชาติเท่านั้น

“วิ ผมบอกว่า....”

“เอ่อ ขอโทษครับ” เสียงขอโทษมาพร้อมกับเสียงเปิดประตูที่เจ้าของสียงไม่ได้เคาะก่อน เนื่องจากเจ้าตัวถือของเต็มมือจึงอาศัยเอาตัวดันประตูออกแล้วกะว่าจะขอโทษที่เสียมารยาททีหลัง ไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพฉากรักเข้าพอดี

“การ์” กิ่งใบขานชื่ออีกฝ่ายเบาๆ ในใจเริ่มร้อนรนกลัวว่าคนที่พึ่งเข้ามาจะเข้าใจผิด

“คือ ผมเอาของเยี่ยมมาให้ตาต้นครับ วางไว้ตรงนี้นะครับ” พูดจบก็เอาของมากมายเต็มมือไปวางไว้ที่โต๊ะข้างๆเตียงคนป่วย ก่อนจะขอตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ยังความหงุดหงิดให้กับคนที่นั่งอึ้งทำอะไรไม่ถูกอยู่พักใหญ่

“วิ ผมจะบอกคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะว่า เราจะไม่เกี่ยวข้องกันแบบนั้นอีก”

“แต่...” หญิงสาวกำลังจะเอ่ยคัดค้าน แต่ชายหนุ่มก็แทรกขึ้นมาก่อน

“ไม่มีแต่คุณกลับไปได้แล้ว” ชายหนุ่มออกคำสั่งเสียงเด็ดขาด ก่อนที่จะไปตามพยาบาลมาอยู่เป็นเพื่อนลูก แล้ววิ่งตามการันไปทันที

ชายหนุ่มวิ่งตามทางเดินมาได้สักพักก็เห็นร่างเล็กคุ้นตา ยืนอยู่ตรงหน้าลิฟท์ แต่ก่อนที่เขาจะเข้าถึงตัวอีกฝ่าย ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดเสื้อกาวน์สีขาวเข้าไปทักร่างเล็กตัดหน้าเขาเสียแล้ว ทั้งคู่คุยกันด้วยท่าทียิ้มแย้มก่อนที่คนตัวโตกว่าจะโอบไหล่บางของการันแล้วพาหายเข้าไปในลิฟท์ และไวเท่าความคิดขายาวๆของกิ่งใบพาตัวเองแทรกตัวเข้ามาในลิฟท์ตัวนั้นได้ทันท่วงที ยังความประหลาดใจมาให้คนที่ยืนอยู่ก่อนแล้วเล็กน้อย

“สวัสดีครับคุณหมอ” กิ่งใบพูดทักทายนายแพทย์อมร แพทย์ที่เป็นเจ้าของไข้ของบุตรชาย

“ครับ ผมว่าจะไปเยี่ยมต้นกล้า พอดีเจอเพื่อนก็เลยว่าจะไปหาอะไรเย็นๆ ทานกันก่อน คุณจะไปด้วยหรือเปล่าครับ”

“แน่นอนครับ กิ่งใบยิ้มน้อยๆให้อีกคนที่ยืนนิ่งเงียบอยู่ในลิฟท์ตัวเดียวกัน

“ผมว่ากาแฟที่ร้านฉันล่างของโรงพยาบาลก็ใช้ได้ทีเดียวนะครับ” กิ่งใบเสนอ แล้วก็ต้องหงุดหงิดอีกครั้งที่ อมรไม่ตอบคำถามเขาแต่กลับใช้หลังมืออังหน้าผากเจ้าของหัวใจเขาอย่างถือวิสาสะ

“เป็นไรหรือเปล่าการ์ หน้าซีดเชียว”

“ไม่เป็นไร การันเบี่ยงศีรษะออกอย่างสุภาพเมื่อแอบมองเห็นสายตาของบุคคลที่สาม

“เราแค่เพลียๆ” ตอบเพื่อนให้หายกังวล อันที่จริงเขาแค่ปั่นป่วนในใจเล็กน้อยเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ การันบอกตัวเอง

“สงสัยหมอการ์จะไม่อยากไปดื่มกาแฟแล้วมั้งครับ” กิ่งใบประชด เขาเริ่มหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆที่อีกฝ่ายทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน แถมท่าทีที่สนิทสนมนั่นอีก เห็นแล้วให้เดือดในใจปุดๆ

“มอน เราขอตัวดีกว่าวันนี้ เราต้องรีบกลับไปคลินิก” การันหันไปบอกเพื่อน เมื่อเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นเรื่อยๆ จากสายตาที่ร่างสูงใหญ่มองมา และท่าทีของอมรที่เกาะแกะเขาเกินเหตุ

“งั้นเราไปส่งนะ” อมรรีบเสนอตัวทันที “ต่อไปเราจะได้ไปหาการ์ถูกไง” พร้อมกับจับมือเล็กขึ้นมากุมไว้อย่างขอร้องโดยไม และการกระทำนั่นเองทำให้กิ่งใบตัดสินใจได้ในที่สุด

“พอดีหมอการ์จะกลับกับผมครับ เชิญคุณหมอไปตรวจลูกชายผมด้วย ไม่งั้นผมจะเขียนจดหมายร้องเรียนว่าคุณหมอเห็นคนอื่นสำคัญกว่าคนไข้” กิ่งใบทิ้งท้ายก่อนจะดึงมือเล็กออกมาจากลิฟต์เมื่อถึงฉันล่างบริเวณลานจอดรถของโรงพยาบาล

“พี่กิ่ง ปล่อยนะ” การันพยายามรั้งตัวเองไว้ไม่ไห้ปลิวไปตามแรงดึงมหาศาล

“ถ้าปล่อยแล้วจะให้มันไปส่งใช่มั๊ย” กิ่งใบหันมาถามเสียงเย็น

“การ์จะให้ใครไปส่งที่ไหน ก็ไม่ใช่เรื่องของพี่” การันตะโกนเสียงดังเมื่ออารมณ์น้อยใจตีรวนขึ้นมาจนเจ็บไปทั้งอก เมื่อนึกถึงภาพในห้องของต้นกล้าเมื่อครู่ใหญ่ๆ ที่ผ่านมา

“ไม่เกี่ยวงั้นเหรอ งั้นใครกันที่หึงพี่จนจะร้องไห้แบบนี้” การันพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยนขึ้น เมื่อเห็นตาวาวๆ และปลายจมูกโด่งมีสีแดงเรื่อ มือใหญ่ถูกเจ้าของยกขึ้นมาลูบไล้แก้มเนียนเบาๆ อย่างปลอบประโลม

“ใครร้อง อย่ามาตู่” การันพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น ไม่ว่าเมื่อไหร่คนคนนี้ก็มีอิทธิพลกับเขาเสมอ

“ใครกันน้า ชายหนุ่มหยอกเย้าอย่างอารมณ์ดี” เมื่อคลายความหงุดหงิดไปบ้างแล้ว

การันพยายามดึงมือออกสุดแรงเพราะต้องการที่จะไปให้พ้นๆ จากคนเจ้าเล่ห์คนนี้ แต่ด้วยความที่ไม่ทันระวังขาเจ้ากรรมดันไปสะดุดกับอะไรบางอย่างที่พื้นจนเขาเสียหลักล้มลงไปปะทะกระโปรงรถอย่างจัง ทำให้คนที่ดึงมือเขาไว้อยู่ต้องล้มตามลงมา กลายเป็นว่าตอนนี้เขาเอนตัวอยู่บนกระโปรงรถโดยมีกิ่งใบคร่อมทับอยู่เหนือร่าง ดิ้นไปไหนไม่ได้


ชายหนุ่มยิ้มในหน้า เมื่อเคลื่อนใบหน้าคมคร้ามของตัวเองเข้าไปสัมผัสซอกคอหอมกรุ่นเบาๆ ก่อนจะใช้ปลายจมูกสุดกลิ่นหอมจางๆ จากร่างข้างใต้ฟอดใหญ่

“พี่กิ่ง” การันท้วงเบาๆ มองซ้ายมองขวาไปมาอย่างกังวลกลัวว่าจะมีคนผ่านมาเห็น ถึงที่นี่จะเป็นลานจอดรถของลูกค้าวีไอพี ไม่มีคนพลุกพล่านแต่ก็อดที่จะกลัวว่าจะมีคนมาเห็นไม่ได้

“ไม่มีใครหรอก” เมื่อสูดกลิ่นหอมจนพอใจแล้วจึงฉุดมือมือเล็กขึ้นมาเพื่อที่จะพูดคุยกัน

“เมื่อกี้ที่การ์เห็นในห้องไม่มีอะไรจริงๆ นะ”

“เหรอครับ ถ้าผมไม่เข้าไปขัดจังหวะ คงมีอะไรไปถึงไหนแล้วมั้ง” พูดประชดอย่างงอนๆ เมื่อนึกขึ้นมาได้อีก

“หึงเหรอ” กิ่งใบพูดยิ้มๆ

“บ้าใครหึงกัน อย่ามา.....อื้อ...” เสียงแก้ตัวขาดหายไปเมื่อถูกริมฝีปากบางบดจูบลงมาอย่างมันเขี้ยวกับท่าทีแสนงอนนั้น

“หึงก็บอกว่าหึงสิ รักก็บอกว่ารัก มันพูดยากตรงไหน” กิ่งใบพูดคลอเคลียอยู่กับหูบาง

การันยันอกหนาออกให้พ้นจากตัว เพราะยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งแพ้ ร่างสูงมีวิธีที่ทำให้เขาอ่อนลงเสมอ

“ว่าไง รักหรือเปล่า” กิ่งใบทวงคำตอบ

“คนที่อยู่ในห้องเมื่อกี้ใคร” การันไม่ตอบคำถาม แต่ถามถึงอีกคนหนึ่งที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเดินหนีมา ทำให้กิ่งใบต้องอมยิ้มน้อยๆ

“วิภาวี กิ๊กเก่า” ชายหนุ่มเปิดเผย เขาไม่มีอะไรต้องปิดบังอยู่แล้ว

“กิ๊กเก่า? ทำไมปัจจุบันถึงยังนั่งบนตักพี่ได้” การันยังซักต่อด้วยสายตาคาดคั้น จนกิ่งใบต้องอมยิ้มอีกครั้งเมื่อนึกถึงคำพูดของน้องชายตัวเองได้ว่า กัณฑ์นั้นขี้หึงขนาดไหน และท่าทีที่น้องชายหมอนั่นทำอยู่นี้คงจะเป็นกรรมพันธุ์ละมัง เพราะการันเองก็ใช่ย่อยเลย

“พี่ไม่คิดอะไรกับเขาแล้ว แต่ถ้าเขายังคิดอะไรกับพี่อยู่ พี่ก็ช่วยไม่ได้” ชายหนุ่มอธิบายอย่างใจเย็น

การันค่อนข้างพอใจกับคำตอบนั้นพอสมควร ร่างบางจึงได้หยุดดิ้นหนีอ้อมกอดอีกฝ่ายในที่สุด

“หายโกรธพี่แล้วเหรอ” หอมแก้มเนียนเบาๆ อีกครั้ง

การันไม่ตอบได้แต่พยักหน้าเบาๆ

“แล้วรักพี่ไหม เราจะเป็นแฟนกันได้หรือยัง” กิ่งใบถามอย่างอารมณ์ดี

ร่างบางในอ้อมกอดคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาคนตัวโต

“ถ้าพี่สัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีก”

สัญญาด้วยเกียติของลูกผู้ชายเลย ชนจมูกโด่งของตัวเองเข้ากับปลายจมูกของการันเบาๆ “พี่รักการ์นะ รักมาตั้งนานแล้วด้วย”

“การ์ก็รักพี่กิ่งครับ รักมานานแล้วเหมือนกัน” การันยอมเปิดเผยความรู้สึกในที่สุด ทั้งสองกอดกันอยู่ชั่วครู่ก่อนพากันเดินไปหาร่างเล็กๆที่นอนรอความรักความอบอุ่นจากเขาทั้งคู่อยู่บนเตียงนอนสีขาว ณ โรงพยาบาลแห่งนี้ เด็กชาย ต้นกล้า พิศาลมนตรี


****************************จบบริบูรณ์*********************************.
 :pig4:

จบแล้วค่า
เรื่องนี้มีรวมเล่มแล้วด้วยนะคะ
กำลังเปิดให้จองอยู่
ติดตามได้ที่่่นี่เลยค่า >>จิ้ม<< (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36417.0)
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 25-01-2013 18:53:24
ยินดี แฮปปี้เอนดิ้ง แต่จบรวดเร็วไปมั๊ยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: zerea ที่ 25-01-2013 18:58:56
ชอบกิ่งกับการ์

น่ารักดี  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 25-01-2013 19:09:52
น่ารักอ่ะ ในที่สุดการ์ก็บอกรักกิ่งแล้ว ดีใจด้วยนะกิ่ง
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 25-01-2013 19:18:42
จบไปอีกหนึ่งคู่แล้ว
อิอิ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: sinyou ที่ 25-01-2013 19:22:17
อ๊ากกกกกกกก คู่นี้น่ารัก อยากให้มีตอนพิเศษของน้องต้นบ้าง ว่าแต่น้องต้นจะรุกหรือรับดีล่ะ  :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 26-01-2013 10:14:52
น่ารักๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-01-2013 10:40:39
คู่นี้ปากแข็งกันจริง
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 26-01-2013 21:59:54
ภาคสอง จบรวดเร็วจัง

 :m23:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 03-02-2013 16:02:01
น้องต้นน่ารักจัง   :o8:          :o8:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 08-02-2013 01:54:39
การ์ยอมง่ายไปอะ น่าเอาคืนนายกิ่งให้หนักๆๆกว่านี้อะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 02-03-2013 13:05:58
สนุกมาก ๆ ค่ะ
ขอบคุณนะคะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: AB^Ton^ ที่ 02-03-2013 20:25:30
น่ารัก คู่เลย อิจฉาจัง
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 03-03-2013 10:47:17
สนุกมากมายค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 04-03-2013 13:31:14
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุก ๆ นะฮ๊าฟฟฟ
กัณฑ์ขี้หึงน่าดูเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 05-03-2013 00:06:08
สนุกจังอ่ะน่ารักมากกกต้นกล้าน้อยๆ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 05-03-2013 11:37:26
น่ารักทั้งคู่ของกิ่งกับคู่ก้านเลยค่ะ..
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: pochu52 ที่ 05-03-2013 20:50:14
น่ารักทั้งสองคู่เลยค่ะ แต่ตอนแรกโค-ตะ-ระ-ไม่ชอบคุณกัณฑ์เลยล่ะ แกล้งน้องก้านตลอด
แต่น้องต้นกล้านี้ละที่สุดแล้ว กามเทพตัวน้อยชัดๆ เลย ทำให้พ่อกิ่งได้ลงเอยกับน้าการ์ ^^
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: ปุยหมาม่วง ที่ 06-03-2013 09:52:19
คอมเม้นนะค้า

คำซ้ำเยอะไปหน่อย เช่น รางบาง ร่างเล็ก มือเล็ก คำพวกนี้เยอะมาก การเรียกนางเอกถ้าคิดคำบรรยายไม่ออกใช้เป็นเรียกชื่อบ้างก็ดีนะคะ เซฟดีด้วยค่ะ ไม่ต้องกลัวใช้เยอะแล้วจะดูซ้ำเกล่อด้วย เรียกบ่อยแค่ไหนก็ได้ ส่วนร่างเล็กร่างบาง พยายามใข้ให้น้อยลง หาคำอื่น(หรือชื่อไปเลย)มาใช้สลับกัน เอาชัวร์ๆก็เรียกชื่อไปเลยแล้วมีร่างบางบ้างนิดหน่อยก็ไม่เลวนะคะ

บางตอนมันง่ายไปหน่อย เช่นตอนที่ก้านใจอ่อนกับกัณฑ์แล้วยกโทษให้

ชื่อแอบจำยาก เราต้องค่อยๆนึกทุกทีเลยว่าใครเป็นใคร ใครเป็นพี่ใครน้องใคร เพราะชื่อก.ไก่เหมือนกันหมด ขนาดจะคอมเม้นยังต้องใช้เวลานึกชื่อเลยค่ะ 555

แต่โดยรวมสนุกมากค่ะ เราชอบเรื่องแนวนี้อยู่แล้ว ที่สำคัญเลยคือคนเขียนเขียนไดอะล็อคเก่ง น่ารักทุกตอนเลย

จริงๆเราชอบคู่หลักมากกว่า คือกัณฑ์กับก้าน แต่อดชอบไดอะล็อคของการ์กับกิ่งมากกว่า คุยกันน่ารัก อ่านแล้วยิ้มตาเยิ้มเลย

ชอบจัง

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 26-03-2013 04:30:08
น่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 24-04-2013 17:21:17
หวานหยดจริงๆเรื่องนี้ นุ่มเบาสบายใจ (ตอนข่ม..กันยังไม่ดาร์คเลย คิดดู) และมาไวไปไวดีมาก //อยากอ่านคู่เด็กต้นกล้าจังเลย   :m18:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: niji-fa ที่ 26-01-2014 19:16:23
สนุกมากค่ะ ><
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 29-01-2014 17:27:46
น่ารักมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 29-01-2014 18:40:06
 :pig4: ขอบคุณสำหรับเรื่องคะ
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: GMT101 ที่ 24-06-2017 18:31:29
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Rateesiri ที่ 10-12-2018 22:43:51
ตามมาอ่านจากรีวิว ไม่ผิดหวังเลย
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 28-12-2018 08:11:17
ไปเจอรีวิวเลยตามมา สนุกมากเลยค่าาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 31-12-2018 23:35:17
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 01-09-2021 20:51:52
 :-[
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ตอนที่ 9 [update 9-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 28-05-2022 06:45:24
“ไม่ ใช่ตอนนี้” 
“ขอบ ใจนายมากกิ่ง”
“ไม่ ใช่เรื่องที่ต้องบอกนาย
กิ่ง ใบไม่บอกเหตุผล.....ได้รู้ เรื่อง..ก็รัก ชายหนุ่ม..เขาจะ จับตา

เห็นวรรคแบบนี้เยอะเลย อยากรู้ว่าวรรคเพื่ออะไร???
หัวข้อ: Re: ต้นรัก by Hydra ภาค2 ตอน 3-4-5(จบ) [update 25-1-2556]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 23-06-2022 23:42:23
 :pig4: :pig4: