มาแล้ว ขอโทษที่มาช้านะคะ พอดีเรา Rewrite ชมนาดอยู่เลยไม่ได้มาอัพเลย ขอบคุณที่ยังติดตามกันนะคะ
Thichadad <3
[/b]
[/color]
ภุชงค์เล่นแสง ๑๔
หลังจากที่เจ้าหลวงพาฬฉุดกระชากเจ้าน้อยสลิลออกไปแล้ว ยี่สุ่น แลชงโคก็ประคองคนเป็นนายกลับที่ประทับ
"ไปไหนมาหรือเจ้าแสงแรก"พระภัสดาท่านประทับรออยู่แล้ว
"หารือกับเจ้าหลวงท่านแล้วแล้วหรือพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงแรกตรัสถาม
"แล้วแล้วเจ้า แต่ถึงมิแล้วก็ต้องแล้ว"ตรัสพร้อมรยสรวล
"..."เจ้าแสงเลิกขนง เอียงศออย่างฉงน
"วันนี้พี่เป็นเจ้าบ่าวหนา จักทิ้งเมียให้เหงาได้อย่างไรกัน"
"หม่อมฉันหาได้เหงาไม่พระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงหลบเนตรตรัสตอบพระภัสดา
"น้องมิเหงา แต่พี่เหงาหนา"ตรัส แลรวบกฤษฎีบางเข้าแนบพระวรกาย
"หึหึหึ"กดพระนาสิกที่ขมับขาว
.
.
.
หลังจากวันพิธีศาสน์ แลวันสถาปนาเจ้าแสงแรกเป็นชายาขององค์รัชทายาท สามวันถัดมาจึงถึงฤกษ์งามยามดีที่จักมีพิธีร่วมหอขององค์รัชทายาท แลพระชายาองค์ใหม่ เมื่อถึงฤกษ์องค์ภุชงค์จึงได้เข้าประทับรอเจ้าแสงแรกอยู่ในห้องหอ เพียงมินานขบวนเกี้ยวเจ้าแสงแรกก็มาเทียบที่หน้าตำหนัก
"ทูลองค์รัชทาาท พระชายาแสงแรกเสด็จแล้วเพคะ"ข้าหลวงหน้าบานพระทวารกราบทูล
"..."องค์ภุชงค์แย้มสรวล พระทัยเต้นตึกตัก ทอดพระเนตรบานพระทวารมิวางเนตร เมื่อบานทวารเปิดออกก็ปรากฎร่างบางของเมียรัก คืนนี้เจ้าแสงแรกสวมผ้าแถบผืนบางสีขาวปลอด แลผ้าโจงกระเบนสีมอครามขับฉวีขาวให้ผ่องน่าจับต้อง
"ถวายพระพรพระเจ้าค่ะ ฝ่าบาท"หมอบกราบพระภัสดาอ่อนช้อย
"ไหว้พระเถิดเจ้า"เข้าประคองเจ้าแสงให้ลุกขึ้น โอบร่างบางให้ประทับลงบนพระแท่นบรรทม
"..."เจ้าแสงแรกขัดเขิน พักตร์แดงระเรื่อ
"คืนนี้ เราจักทำกระไรกันดีเจ้า"องค์ภุชงค์ตรัสถาม
"ท ทำกระไรพระเจ้าค่ะ"
"พี่รู้ๆ เจ้ากำลังท้องลูกของเรา คืนนี้เราคงมิได้เข้าหอกันเช่นคนอื่น"องค์ภุชงค์ตรัส ฝ่าพระหัตถ์แนบปรางนุ่มเกลี่ยไล้แผ่วเบา กดจูบที่อังสะหอมกรุ่น กอดเจ้าแสงแรกแนบพระอุระ พักตร์งามซุกไซร้ซอกศอขาว แต้มโอษฐ์พรมจูบฉวีนุ่ม
"ฝ่าบาท"สงสารพระภัสดามิน้อย หากแต่ท้องเช่นนี้คงจักถวายงานรับใช้พระองค์มิได้
"จำเอาไว้หนาว่าเพลาที่เจ้าตั้งครรภ์นั้น จักเป็นเพลาที่เจ้ามิสามารถถวายงานรับใช้ภัสดาบนพระแท่นบรรทมได้ แลกว่าจักให้กำเนิดลูก แลกว่าจักอยู่ไฟแล้ว กินเวลานานเป็นปี ผู้ชายห่างหายเรื่องแบบนี้ได้มินานดอก หากมีไอ้อีคนใดมิรักตัวกลัวตายยั่วยวนเข้า มิยากเลยที่พระองค์จักโอนอ่อนตามมันผู้นั้น แต่หากมิโอนอ่อนตาม ก็ย่อมน่าสงสารที่จักต้องอดทนอดกลั้นเป็นปีเช่นนั้น"
"..."
"ดังนั้น เราจึงต้องเรียนรู้ที่จักปรนนิบัติผัว แม้นจักให้จนสุดทางมิได้ หากแต่ก็ต้องทำให้พระองค์อยู่ในกำมือเรา ไปไหนมิรอด"
"เจ้าแสง"องค์ภุชงค์รีบผละออกจากร่างหอมกรุ่น เมื่อหัตถ์เล็กของเจ้าแสงแรกวางลงบนกึ่งกลางความเป็นชายของพระองค์ผ่านพระภูษา
"แม้นจักให้พระองค์ร่วมรักด้วยมิได้ หากแต่ให้หม่อมฉันปรนนิบัติหนาพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงตรัส พลางเอนกายแนบพระอุระกว้าง พักตร์งามแนบซบพระอังสะกว้าง หัตถ์ก็ปลดแก้ผ้าโจงของพระภัสดา
"เจ้าแสงแรก"องค์ภุชงค์ขบพระทนต์แน่น ยามหัตถ์นุ่มโอบอุ้มส่วนร้อนผ่าวของพระองค์ เจ้าแสงนวดคลึงตามที่พระสัสสุได้สอนทุกกระเบียดนิ้ว
"ฝ่าบาท"จูบซับตามกรอบพักตร์ของพระภัสดา แทะเล็มด้วยชิวหาชื้น จนมาหยุดอยู่ที่พระโอษฐ์ขององค์ภุชงค์แนบโอษฐ์ตนเคล้าคลึง ฝ่าพระหัตถ์ประคองพักตร์งามของชายาตนบดพระโอษฐ์ป้อนจุมพิตร้อนให้ ดูดดึงกลีบโอษฐ์เจ้าแสงแรกจนช้ำระเรื่อ ชิวหาร้อนสอดเคล้าพลิกพริ้วราวมัจฉา
"พ พอก่อนพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงผละจุมพิตออก ตรัสพลางเบี่ยงพักตร์หนีโอษฐ์ร้อนที่ตามมา องค์ภุชงค์จึงได้แนบพระโอษฐ์ที่ลาดอังสาเล็กแทน สูดกลิ่นแก้วหอมหวาน พระหัตถ์ปลดผ้าแถบผืนบางออกให้พ้นเรือนร่างขาวของเมีย ลูบไล้ฉวีนุ่มอย่างหลงใหล
"เมียข้าไยจึงงามเช่นนี้หนา"ตรัสพึมพำ ทำเอาเจ้าแสงแรกพักตร์ม้านด้วยความเขินอาย หากแต่ก็ต้องข่มความอายไว้ในอุระตน ผลักพระภัสดาออกเบาๆ จนองค์ภุชงค์เลิกพระขนงอย่างสงสัย
"ให้หม่อมฉันปรนนิบัติพระองค์หนาพระเจ้าค่ะ"ตรัส แลลงไปนั่งคุกพระชงค์ตรงหน้าพระพักตร์ หัตถ์เล็กกำส่วนร้อนผ่าวที่แสนจักภาคภูมิพระทัยขององค์ภุชงค์ ลูบขึ้น แลลงแผ่วเบา ก่อนจักจรดโอษฐ์ลงที่ส่วนปลาย เนตรงามหลับลงพลางนึกถึงบทเรียนที่พระสัสสุเคยสอนสั่ง เคยทำกับกล้วยเช่นไร คืนนี้จึงจำมาใช้ปรนนิบัติพระภัสดาทุกกระบวนท่า
.
.
.
รุ่งอรุณมาเยือน แสงแห่งวันใหม่สาดส่องไปทั่วทั้งวังหลวง เจ้าแสงแรกลืมเนตรขึ้น เมื่อหลุดออกจากห้วงนิทรา ขยับกายเตรียมจักลุกจากพระแท่นบรรทม หากแต่ท่อนพระกรหนักที่พาดยู่ที่กฤษฎีบางทำให้เจ้าแสงแรกมิสามารถลุกได้ เมื่อเป็นดังนั้นภาพราตรีเร่าร้อนที่ผ่านมาก็ผุดเข้ามาในห้วงดำริ ปรางเนียนแดงระเรื่อ
"เจ้าแสง อ่า น้อง อ อืม"องค์ภุชงค์ครางเครืออย่างสุขสม พระหัตถ์ใหญ่เกร็งสางเกศานุ่มแผ่วเบา แม้แรงอารมณ์จักพุ่งทะยานขึ้นไปถึงยอดเขาแล้วก็ตาม
"ด ดี หรือ ม ไม่พระเจ้าค่ะ"ตรัสถามพลางช้อนเนตรมองพระพักตร์งามของพระภัสดาที่แดงก่ำ หยาดพระเสโทไหลตามกรอบพักตตร์หยดลงบนพระอุระ
"ดี ดีมากจ้า อื้ม"หลับเนตร เงยพักตร์คำรามสุรเสียงต่ำ
เจ้าแสงอับอายจนแทบอยากจักแทรกแผ่นดินหนี หากแต่เมื่อนึกถึงพระพักตร์ของพระภัสดาที่เจือความสุขสม โอษฐ์เล็กก็แย้มน้อยๆ อย่างพึงพระทัย เจ้าแสงแรกค่อยๆ จับพระกรของพระภัสดาออกจากกฤษฎีตน เรียวขาเล็กวาดลงวางบนพื้นก่อนจักลุกขึ้น หัตถ์เล็กประคองครรภ์ตนไปที่พระทวาร ผลักออกแผ่วเบา
"เจ้าน้อ เอ้ย พระชายา ตื่นบรรทมแล้วหรือพระเจ้าค่ะ"ยี่สุ่นที่ตื่นแต่เช้ามาเฝ้าบานพระทวารห้องหอของคนเป็นนายรีบถลาเข้ามาพร้อมชงโค
"เป็นเยี่ยงไรบ้างพระเจ้าค่ะ"ชงโคถามพลางประคองหัตถ์คนเป็นนาย
"มิเป็นไร ยี่สุ่นเตรียมอ่างสรงให้ข้าทีเถิด ส่วนชงโคไปห้องเครื่องเตรียมสำรับให้ข้า แลองค์ภุชงค์ทีหนา"เจ้าแสงแรกแย้มโอษฐ์สรวลให้คนสนิททั้งสอง ก่อนจักสั่งงาน
"พระเจ้าค่ะ"
"ใคร่อยากเสวยกระไรเป้นพิเศษหรือไม่พระเจ้าค่ะ"ชงโคทูลถามคนเป็นนนาย
"ข้าใคร่อยากได้มะดันสดกับเกลือ"เจ้าแสงแรกว่า มิใช่ว่าใคร่อยากเอง หากแต่เอามาถวายพระภัสดาต่างหาก องค์ภุชงค์แพ้ท้องแทนเจ้าแสงมาหลายวันแล้ว หากได้เสวยผลมะดันวันนี้คงจักช่วยให้มิใคร่อาเจียนมากนัก
"พระเจ้าค่ะ"
อ่อก อ้วก
ยังมิทันไรเสียงอาเจียนขององค์ภุชงค์ก็ดังออกมาจากห้องหอ
"ประเดี๋ยวข้าจักเข้าไปดูองค์ภุชงค์ก่อน"เจ้าแสงตรัส
"พระเจ้าค่ะ"
อ่อก อ้วก
องค์ภุชงค์ประทับอยู่บนพระแท่นบรรทม ในหัตถ์ถือบ้วนพระโอษฐ์รองใต้หนุ
"ฝ่าบาท เป็นเยี่ยงไรบ้างพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงประทับลงข้างพระภัสดา หัตถ์ข้างหนึ่งประคองครรภ์ตน อีกข้างลูบขนองกว้างไปมา
"อึก อ่อก"องค์ภุชงค์สำรอกจนพระศอเกร็ง สูดพระปัสสาสะเข้าลึกๆ
"บ้วนพระโอษฐ์ก่อนหนาพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงแรกรินพระสุธารสในคันโทให้พระภัสดาบ้วนพระโอษฐ์ องค์ภุชงค์บ้วนโอษฐ์แล้วแล้วก็เอนพระวรกายลงนอนหนุนตักเมีย ซุกพักตร์กับอุทรเจ้าแสง
"..."จับหัตถ์เจ้าแสงมากุมแนบพระอุระ
"เป็นเยี่ยงไรบ้างพรเจ้าค่ะ"หัตถ์ข้างที่มิได้ถูกพระภัสดากอด ยกสางพระเกศาดกหนาให้
"ลูกช่างใจร้ายนัก รังแกพ่อเช่นได้เยี่ยงไร"ตรัสทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมเนตร แม้จักตัดพ้อลูกน้อยในครรภ์เจ้าแสงแรก หากแต่พระโอษฐ์กลับแนบจูบที่ครรภ์เจ้าแสงแผ่วเบา
“อย่าว่าลูกเลยหนาพระเจ้าค่ะ ลูกคงมิตั้งใจดอก”เจ้าแสงตรัส แลแย้มรวลน้อยๆ
“มิทันไรรักลูกมากกว่าพี่แล้วหรือเจ้า”องค์ภุชงค์ลืมเนตรขึ้นสบกับนัยน์ตาหวานของเมียรัก
“ตรัสกระไรเช่นนั้นพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกตรัสอย่างเป็นกังวล
"แลจริงหรือไม่"องค์ภุชงค์ตรัสถาม
"หม่อมฉันรักลูก แลก็รักพระองค์พระเจ้าค่ะ หากจักให้เลือกว่ารักใครมากกว่ากัน หม่อมฉันคงเลือกมิได้ ฝ่าบาทดปรดอภัยให้หม่อมฉันด้วยพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงแรกขมวดขนงอย่างเปนกังวล
"ชู่ว เจ้าแสงแรก พี่พูดเล่นดอกเจ้า มิได้จริงจังกระไร อย่ากังวลไปเลยหนา"องค์ภุชงค์ลุกขึ้นจากตักของเมีย แลดึงร่างแน่งน้อยเข้ากอดปลอบ พระหัตถ์ลูบเกศานุ่มแผ่วเบา
"หม่อมฉันรักลูก แลก็รักพระองค์ด้วยหนาพระเจ้าค่ะ หาใช่มิรัก"เจ้าแสงแรกยกกรเรียวของตนกอดรอบพระกฤษฎีสอบของภัสดา
"พี่รู้แล้วๆ เจ้า"ตรัส แลกดจูบที่นลาฏเนียน
สองผัวเมียข้าวใหม่ปลามันนั่งกอดกันบนพระแท่นบรรทม พูดคุยเรื่องลูกในครรภ์ แลเรื่องจิปาถะ องค์ภุชงค์หยอกเย้าให้คนเป็นเมียสรวลสุรเสียงใสน่าเอ็นดู อยู่ได้ครู่หนึ่งยี่สุ่นก็เตรียมอ่างสรงแล้ว
“สรงน้ำก่อนหนาพระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวสรงแล้วแล้วสำรับคงแล้วพอดี”เจ้าแสงแรกทูลพระภัสดา
“จ้ะ เจ้าก็สรงพร้อมพี่เลยหนา”องค์ภุชงค์ท่านตรัส
“ห หากแต่”เจ้าแสงแรกพักตร์ม้าน จักให้ลงสรงกับพระภัสดาหนาหรือ
“ไปเถิด ประเดี๋ยวจักได้กินข้าวกัน ลูกหิวแย่แล้วกระมัง”มิยอมให้เจ้าแสงปฏิเสธ
“...”เมื่อพระภัสดาเอาแต่พระทัยเยี่ยงนี้ แลคนเป็นเมียจักมีปากมีเสียงอย่างไรได้
“ยี่สุ่นเจ้าออกไปก่อนเถิด”องค์ภุชงค์ตรัส
“พระเจ้าค่ะ”หมอบกราบ แลคลานออกไปแต่โดยดี
“เจ้าแสงไปเถิดเจ้า”องค์ภุชงค์ประคองร่างแน่งน้อยให้ลุกจากพระแท่นบรรทม
.
.
.
องค์ภุชงค์ประทับซ้อนหลังคนเป็นเมีย พระหัตถ์ข้างหนึ่งวักน้ำรดลงบนลาดอังสาเนียน อีกข้างลูบไล้ครรภ์แบนไปมา เจ้าแสงแรกประทับนิ่งให้พระภัสดาลูบคลำกายตน
“เจ้าแสง”องค์ภุชงค์ตรัสกระซิบที่หลังกรรณเล็ก
“พระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกขานรับสุรเสียงแผ่ว
“เรามาตั้งชื่อลูกกันดีหรือไม่”พระภัสดาตรัสถาม
“ชื่อลูกหรือพระเจ้าค่ะ หากแต่หม่อมฉันเพิ่งจักท้องได้มิถึงสองเดือนดีเลยหนาพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกผินพักตร์ไปตอบพระภัสดา
“มิเห็นจักเป็นกระไรเลยนี่เจ้า ตั้งไว้รอลูกก็ได้”องค์ภุชงค์ประคองอังสะบางของเจ้าแสงให้หันมาหาพระองค์
“แลพระองค์ดำริไว้หรือไม่พระเจ้าค่ะว่าใคร่อยากตั้งชื่อลูกว่ากระไร”เจ้าแสงตรัสถามพระภัสดา เนตรงามเป็นประกายน่าเอ็นดูเสียจนองค์ภุชงค์ท่านอดมิได้ที่จักโน้มพักตร์เข้าหอมปรางชื้นฟอดใหญ่
“หึหึหึ ให้ลูกชื่อว่า...”ตรัสค้างไว้
“...”
“เจ้ารพิดีหรือไม่ ดวงตะวันที่ให้แสงแรกของวัน”นามนี้พระองค์ได้มาจากชื่อแสงแรกของเมีย
“พระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกแย้มสรวลหวาน โปรดนามที่พระภัสดาตั้งให้ลูกมิน้อยเลย
“น้องตั้งให้ลูกอีกชื่อหนึ่งสิเจ้า ใคร่อยากตั้งชื่อลูกว่ากระไรหรือ”องค์ภุชงค์ตรัสถาม
“อืม”เจ้าแสงแรกเอียงศอคิดนามของลูก เปิดโอกาสให้องค์ภุชงค์ซุกพระพักตร์ดอมดมกลิ่นแก้วหอมจากซอกศอขาว
“...”พระภัสดาประทับโอษฐ์อุ่นจุมพิตที่ฉวีขาว
“เจ้ารวิพระเจ้าค่ะ จักได้คล้องกับเจ้ารพิ”เจ้าแสงแรกตรัส
“ดี เช่นนั้นก็ต้องมีคนที่สองให้พี่แล้วหนา”เมื่อพระภัสดาตรัสจบเจ้าแสงแรกจึงได้นึกขึ้นได้
“ฝ ฝ่าบาท”เจ้าแสงแรกยกมือดันพระโอษฐ์ที่แตะแต้มฉวีขาวของตนออกอย่างเขอะเขิน
“หึหึหึ”สรวลในพระศอ แลโน้มพักตร์ไปขบติ่งหูนิ่มของคนเป็นเมียเบาๆ หยอกเย้า
“อ๊ะ ฝ ฝ่าบาท รีบขึ้นจากน้ำเถิดพระเจ้าค่ะ ม หม่อมฉัน แลลูกหิวแล้วพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงยกหัตถ์ดันพระอุระของพระภัสดา แลเอียงพักตร์แดงระเรื่อของตนหลบ
“จ้ะๆ”ยอมปล่อยน้องน้อยแต่โดยดี องค์ภุชงค์ขึ้นจากอ่างสรง แลคว้าพระภูษามาพันพระกฤษฎีสอบขงพระองค์กันอุจาดตา ก่อนจักช้อนอุ้มร่างผอมบางของเจ้าแสงแรกขึ้นจากอ่างสรง วางเจ้าแสงลงแผ่วเบามิให้กระเทือนแม้แต่ปลายนชา เจ้าแสงแรกยกกรกอดตนแน่นระหว่างรอพระภัสดาคลี่พระภูษาคลุมพระวรกายให้
“หนาวหรือเจ้าแสง”พระภัสดาตรัสถามพลางใช้พระภูษาซับน้ำตามฉวีนุ่มให้คนเป็นเมีย
“พระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกตรัสตอบ
“...”ได้ยินดังนั้นจึงเร่งพระหัตถ์เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เมีย
“ฝ ฝ่าบาท”เจ้าแสงตรัสเรียกพระภัสดาที่ปรนนิบัติตนอยู่ ทั้งที่ตนควรจักเป็นฝ่ายปรนนิบัติพระองค์เสียมากกว่า
“หืม”
“ให้ยี่สุ่นเข้ามาทำให้หม่อมฉันเถิดพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกตรัส
“ให้พี่ทำให้ก็ได้ มิเป็นกระไรดอก”องค์ภุชงค์ตรัสพลางนุ่งผ้าแถบให้คนเป็นเมีย หากแต่พยายามอยู่ครู่ใหญ่แก้แล้วแก้อีกก็ยังดูมิงาม
“ฝ ฝ่าบาท”
“พี่ยอมแพ้ เรียกยี่สุ่นมานุ่งให้เถิด”องค์ภุชงค์ยอมละพระหัตถ์ออกจากผ้าแถบสีหวานของเจ้าแสง นุ่งมันก็นุ่งได้อยู่ หากแต่ดูมิงาม พันซ้ายก็บูด พันขวาก็เบี้ยว
“พระเจ้าค่ะ ยี่สุ่น”เจ้าแสงสรวลน้อยๆ แลตรัสเรียกคนสนิทของตน
“พระเจ้าค่ะ พระชายา”ยี่สุ่นขานรับ
“เข้ามาหาข้าหน่อยเจ้า”เจ้าแสงแรกตรัส
“พระเจ้าค่ะ”ขานรับ แลหมอบคลานเข้ามาในห้องบรรทม
“นุ่งผ้าให้ข้าทีหนา”
“พระเจ้าค่ะ”คลานเข้าไปนุ่งผ้าให้คนเป็นนาย เพียงครู่เดียวยี่สุ่นก็นุ่งผ้าให้เจ้าแสงแล้ว อีกทั้งยังดูประณีต แลงามกว่าที่องค์ภุชงค์นุ่งให้เมียโข
“ขอบใจหนา”เจ้าแสงแรกตรัส แลแย้มสรวลให้คนสนิท
“มิได้พระเจ้าค่ะ”
“ฝ่าบาท ให้หม่อมฉันแต่งองค์ให้หนาพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกตรัสบอก ยี่สุ่นเมื่อได้ยินคนเป็นนายตรัสก็หมอบคลานออกจากห้องบรรทม
“เอาสิเจ้า”องค์ภุชงค์ตรัส
“พระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกลงมือแต่งองค์ให้พระภัสดาอย่างตั้งพระทัย
.
.
.
เมื่อเจ้านายทั้งสองพระองค์สรงน้ำ แลแต่งองค์แล้วแล้วชงโค แลยี่สุ่นก็ยกสำรับพระกายาหารเช้าถวาย องค์ภุชงค์ทอดพระเนตรสำรับ แลเมื่อเห็นว่ามีมะดัน แลเกลือนป่นอยู่บนสำรับก็ยื่นพระหัตถ์ไปคว้าทันที หากแต่เจ้าแสงแรกกลับไวกว่า หัตถ์เล็กเอื้อมไปจับพระหัตถ์ของพระภัสดาไว้ แลดึงกลับมากุมไว้บนตักตน องค์ภุชงค์ทอดพระเนตรพักตร์งามของเมียอย่างฉงน
“เสวยข้าวก่อนหนาพระเจ้าค่ะ ค่อยเสวยมะดัน ประเดี๋ยวจักปวดพระอุทร”เจ้าแสงทูลพลางลูบพระหัตถ์ปลอบพระทัย
“...”องค์ภุชงค์เงียบนิ่งมอตรัสตอบ เพียงแค่เห็นผลมะดันพระเขฬะของพระองค์ก็สอแล้ว
“หนาพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกตรัสสุรเสียงออดอ้อน
“จ้ะ”ยอมพระทัยอ่อนให้เมีย
“เช่นนั้นหม่อมฉันป้อนหนาพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกตรัสเอาพระทัย
“จ้ะ”
เจ้าแสงแรกป้อนข้าวพระภัสดา สลับกับตักข้าวใส่ปากตน สองผัวเมียเสวยข้าวถ้วยเดียวกันจนหมด เจ้าแสงแรกจึงอนุญาตให้องค์ภุชงค์เสวยมะดันจิ้มเกลือได้
“เป็นอย่างไรพะรเจ้าค่ะ”เจ้าแสงตรัสถาม แลใช้ซับพระพักตร์ซับพระโอษฐ์ให้พระภัสดา
“ผลมะดันนี่ช่วยพี่ได้มากทีเดียว”องค์ภุชงค์ตรัส แลเคี้ยวเนื้อมะดันกรวมๆ จนเจ้าแสงแรกยกโอษฐ์แย้มสรรวลให้พระภัสดา
“แต่กระนั้นก็อย่าเสวยมากจนเกินไปหนาพระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวจักเสาะท้องเอาได้”เจ้าแสงตรัสอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“จ้ะ”
.
.
.
หลังจากผ่านพ้นคืนเข้าหอไปแล้ว พระชายาแสงแรก แลบ่าวคนสนิททั้งสองก็ย้ายข้าวของเข้าไปอยู่ในตำหนักขององค์รัชทายาทผู้เป็นพระภัสดา ทุกเช้าเจ้าแสงแรกจักตื่นขึ้นมาปรนนิบัติองค์ภุชงค์ด้วยตนเองทุกอย่าง
“วันนี้พี่จักรีบกลับมารับสำรับกลางวันกับน้องหาเจ้าแสง”องค์ภุชงค์ตรัสบอกเมียที่กำลังจัดปกฉลองพระองค์ของพระองค์ให้
“พระเจ้าค่ะ หม่อมฉัน แลลูกจักรอพระองค์หนาพระเจ้าค่ะ ฝ่าบาทใคร่อยากเสวยกระไรเป็นพิเศษหรือไม่พระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกตรัสตอบ
“พี่ใคร่อยากกินกระไรเปรี้ยวๆ น้องเลือกให้พี่ทีหนา”องค์ภุชงค์ท่านว่า
“พระเจ้าค่ะ เช่นนั้นหม่อมฉันจักลงห้องเครื่อง แลทำสำรับถวายพระองค์หนาพระเจ้าค่ะ”
“หากจักลงห้องเครื่องก็ดูแลตนเองดีๆ หนา ไปนั่งกำกับอย่างเดียวก็พอกระมัง ปล่อยให้บ่าวไพร่ทำจักดีกว่า”พระภัสดาท่านตรัสอย่างเป็นห่วง
“หม่อมฉันทำได้พระเจ้าค่ะ ใคร่อยากทำให้ฝ่าบาทเสวยด้วยตนเอง”เจ้าแสงแรกทูล
“เช่นนั้นก็ตามใจเถิดเจ้า”พระภัสดาแย้มสรวล แลดึงร่างแน่งน้อยเข้ามากอด
“เสด็จไปที่ท้องพระโรงได้แล้วพระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวจักสายเอาได้”เจ้าแสงแรกตรัสพลางดันพระภัสดาออกเบาๆ
“จ้ะ เช่นนั้นพี่ไปก่อนหนาคนดี”ตรัส แลหอมกลุ่มเกศานุ่ม
“พระเจ้าค่ะ”
“ไอ้ขันธ์ยกพานมะดันของข้ามาด้วย”องค์รัชทายาทรับสั่งองครักษ์คนสนิทของพระองค์ แลก้าวพระบาทออกจากตำหนักของตน
“พ่ะย่ะค่ะ”องครักษ์คนสนิทรับพระบัญชา แลยกพานทองที่เต็มไปด้วยผลมะดันสีเขียวดูแล้วก็น่าจักเปรี้ยวเสียจนเข็ดฟันตามคนเป็นนายไป
“ยี่สุ่น ชงโค”เจ้าแสงแรกตรัสเรียกคนสนิททั้งสอง เมื่อพระภัสดาท่านเสด็จไปจนลับสายตาแล้ว
“พระเจ้าค่ะพระชายา”
“ไปห้องเครื่องกันเถิด”
“พระเจ้าค่ะ”