▓ ▒ ░ ∞ ต้น-สน ∞ มิตรภาพของเพื่อนที่แสนรัก ❉ V2 ❉ ROMANTIC DRAMA ░ ▒ ▓
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▓ ▒ ░ ∞ ต้น-สน ∞ มิตรภาพของเพื่อนที่แสนรัก ❉ V2 ❉ ROMANTIC DRAMA ░ ▒ ▓  (อ่าน 136439 ครั้ง)

ออฟไลน์ z-Time

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สนจะจูบต้นมัยล่ะ  ทั้งที่ตัวเองบอกแค่เพื่อน

ทำให้ต้นตัดใจลำบากอีก  :เฮ้อ: 

icyblue

  • บุคคลทั่วไป
เซ็งกับสนจริง  สนนี่ชื่อจริง นายสับสนรึป่าวเนี่ย ??

พี่แทนมาจีบให้ไวเลยค่ะ  ตอนนี้ต้นต้องการกำลังใจ  :z2:

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
เซ็งกับสนจริง  สนนี่ชื่อจริง นายสับสนรึป่าวเนี่ย ??

พี่แทนมาจีบให้ไวเลยค่ะ  ตอนนี้ต้นต้องการกำลังใจ  :z2:
เห็นด้วย อยากให้สนรู้ใจตัวเองได้สักที ขอตอนต่อไปแบบจัดหนักๆให้นายสนเขากระอักเลย

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
ตอนนี้พี่ทดแทนกำลังเริ่มทำคะแนนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะครับ
แอบสงสารสนเหมือนกัน วันอื่นๆ ไม่เป็นไร แต่วันนี้ขอให้สนเขาเถอะ
เขารักและผูกพันของเขามานาน วันนี้อย่าแย่งสนเลยนะพี่ทดแทน


----------------------------------------------------------

ตอนที่ 25: ทดแทน แทนใจ แทนกาย



สนพาต้นมาที่รถที่จอดอยู่ เขาเปิดประตูรถให้ต้นเข้าไปนั่งข้างหน้าคู่กับเขา จากนั้นก็เดินอ้อมมาอีกด้าน เปิดประตูรถเข้าไปนั่งคู่กับต้น พอนั่งเรียบร้อยแล้วสนก็ดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาเสียบเข้าที่ล็อก

"สวยเหมือนกันนะ แพงหรือเปล่า" ต้นถามพลางหันไปมองรอบๆ เพื่อสำรวจรถที่สนเพิ่งซื้อมาใหม่

"ไม่แพงหรอก ก็เท่าที่คนอย่างเราจะมีปัญญาหาได้นั่นแหละ" สนตอบพลางยิ้ม พอเห็นต้นไม่ได้ใส่เข็มขัดนิรภัยสนก็เอื้อมมือไปหยิบสายเข็มขัดตรงที่นั่งของต้นให้ พอทำแบบนี้ก็ทำให้ใบหน้าของสนอยู่ใกล้กับต้นมากทีเดียว

ต้นเห็นสนเคลื่อนตัวมาใกล้ขนาดนี้ก็ตกใจ นี่สนกำลังจะทำอะไรนะ... หรือว่า...จะทำเหมือนวันนั้น ต้นรีบยกมือมาปิดปากไว้ทันที

"เป็นอะไรต้น" สนถามด้วยความสงสัย

ต้นส่ายหน้า มือยังปิดปากไว้อยู่และตัวแข็งทื่อ สนเหมือนจะรู้แล้วว่าต้นกลัวอะไร เขายิ้มและหัวเราะเบาๆ ชอบใจ

"คาดเข็มขัดด้วย" สนว่าพลางดึงเข็มขัดนิรภัยมาเสียบกับที่ล็อกให้แล้วก็เคลื่อนตัวออก ต้นก็เลยดูโล่งใจมากขึ้น แต่ก็ยังมีท่าทางระแวงอยู่ สนเห็นแล้วก็อดขำปนเอ็นดูไม่ได้ จะว่าไปแล้ว ตั้งแต่วันนั้นที่เขาจูบต้น เขาก็คิดถึงรสจูบนั้นแทบตลอดเวลา ไม่คิดว่ามันจะหอมหวานและตราตรึงใจขนาดนี้ เป็นจูบแรกที่แสนประทับใจจริงๆ

"กลัวขนาดนั้นเลยเหรอต้น"

ต้นรีบส่ายหน้า "เปล่านี่"

"เปล่าอะไร นายรู้แล้วเหรอว่าเราหมายถึงอะไร"

"ก็นึกว่านายจะ..." แล้วต้นก็ถอนหายใจพร้อมกับสีหน้าที่เริ่มเคร่งขรึมมากขึ้น "ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะสน ถ้านายไม่ได้คิดอะไรกับเรา ก็อย่าทำให้เราต้องทำใจลำบากกว่านี้เลย" ต้นตัดพ้อแกมตำหนิไปหน่อยๆ

"นายคิดว่าเราไม่ได้คิดอะไรกับนายเลยเหรอ" สนถามกลับ

สนกำลังจะบอกอะไรต้นหรือเปล่า ถามแบบนี้ก็มีแต่จะทำให้ต้นสับสนที่ต้องตีความไปต่างๆ นาๆ จะเอายังไงของนายกันแน่นะสน นายรู้ไหมว่าเราสับสนกับนายมากแค่ไหน

"นายมีแฟนแล้วนะสน" ต้นสำทับประเด็นสำคัญไป

สนทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่แล้วก็กลับเงียบตามเดิม เสียงโทรศัพท์สนดังขึ้นพอดี สนหยิบขึ้นมาดู พอรู้ว่าใครโทรมาสนก็ทำท่าลังเลพร้อมกับหันมามองต้นด้วยความเกรงใจ แต่สนก็รับโทรศัพท์นั้นในที่สุด

"พี่สนยังไม่กลับอีกเหรอคะ"

"ยังหรอกนา เดี๋ยวพี่พาต้นไปหาพ่อกับแม่ก่อน อีกสองสามชั่วโมงก็น่าจะเสร็จ" สนหันหน้าไปอีกทางและพยายามคุยเสียงเบาเหมือนกับไม่อยากให้ต้นได้ยิน

"แล้วจะกลับมาทันหรือเปล่าคะ นาว่ามันจะไม่ทันนะคะ นี่ก็จะสี่โมงเย็นอยู่แล้ว กว่าจะไปกว่าจะกลับ แล้วนี่พี่สนกับพี่ต้นอยู่ไหนกันคะ"

"อ๋อ...พอดีต้นมาธุระใกล้ๆ แถวบ้านนี่แหละ พี่เลยแวะมารับ แล้วก็เลยว่าจะพาไปหาพ่อกับแม่ด้วย"

"อืม...วันนี้เป็นวันแรกที่พี่สนได้รถมา นาอยากให้เราไปกินข้าวฉลองด้วยกันนะคะ" นาทำเสียงตัดพ้อเป็นเชิงกดดัน

"พี่จะพยายามรีบไปรีบกลับละกันนะนา" สนพยายามตัดบท ไม่รู้ว่าต้นจะได้ยินอะไรบ้างหรือเปล่า ต้นยิ่งเป็นคนขี้เกรงใจอยู่ด้วย เขาไม่อยากให้ต้นรู้เลย

สนคุยกับนาสักพักก็วางสาย เห็นต้นนั่งซึมสนก็ทำตัวไม่ถูก ทั้งเกรงใจและสงสารต้น บางทีก็คิดเหมือนกันว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นี้โหดร้ายกับต้นมากเกินไปไหม บางทีเขาก็นึกอยากจะหยุดมันเสียแต่ก็มีเหตุผลหลายอย่างที่เขาทำอย่างนั้นไม่ได้

"อดทนหน่อยนะต้น ถ้านายยังรักเราอยู่" สนพูดขึ้น ทำให้ต้นที่กำลังเหม่อหันมามองและสบตากัน

ต้นไม่รู้ว่าสนหมายถึงอะไร ที่ผ่านมาเขาก็อดทนอยู่แล้ว สนจะบอกให้เขาอดทนไปเพื่ออะไรกันล่ะ ก็ในเมื่อสนก็มีคนอื่นอยู่แล้ว ความอดทนของต้นก็คงเป็นเพียงการอดทนเพื่อให้เขาทำใจได้เท่านั้นเอง

"ส่งเราที่บ้านแล้วนายจะกลับก่อนก็ได้นะ" ต้นพูดโดยไม่มองหน้าสน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้นคงพอได้ยินการสนทนานั้น

"ไม่เป็นไรต้น...ยังไงเราก็จะกลับพร้อมกับนาย" สนยืนยัน เขาเอื้อมมือไปจับมือต้นไว้ แต่ไม่นานต้นก็ดึงมือออก

"สน...เราไม่อยากให้นายกับนามีปัญหากันเพราะเรา นาเขาเป็นแฟนนายนะ นายต้องไปดูแลเขา ไม่ต้องห่วงเราหรอก เรากลับเองได้"

ไม่รู้ว่าต้นจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าสีหน้าของเขาแสดงอาการเศร้าออกมามากแค่ไหน แต่มันก็ทำให้สนสะท้อนใจมากทีเดียว

"แต่นายเป็นเพื่อนเรานะต้น"

ต้นหันกลับมาสบตากับสน พยายามยิ้มเท่าที่เขาจะสามารถฝืนได้ "เรารู้...ก็เราเป็นแค่เพื่อนนายไง เพื่อน...ก็ต้องเข้าใจเพื่อนเวลาที่มีแฟน เราเข้าใจนะ นายไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องห่วง เรากลับเองได้จริงๆ"

"ต้น..." สนรู้สึกจุกในอก สิ่งที่ต้นย้อนมาทำให้เขาเจ็บแทบกระอักที่รู้ว่าต้นวางสถานะตัวเองไว้แค่เพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนที่ไม่สำคัญมากเท่ากับแฟน สนทำให้ต้นเข้าใจสถานะตัวเองแบบนั้นมาตลอดหรือเปล่า...

"เราตั้งใจไว้แล้วว่าเราจะพานายกลับบ้านด้วยรถของเรา นายรู้ไหมว่า...ถ้าไม่มีนาย...เราก็คงไม่ได้เรียนหนังสือสูงๆ แล้วก็คงไม่มีเงินมาซื้อรถแบบนี้หรอก" สนพยายามต่อรอง

"เอาไว้วันหลังก็ได้สน ถ้านายไม่รีบกลับไปหานา เราจะไม่ไปกับนายนะ เรากลับกับพี่แทนก็ได้" ต้นต้องลงทุนขู่ แน่นอนว่ามันต้องทำให้สนกระเทือนได้บ้างเพราะสนไม่อยากต้นไปกับผู้ชายคนนั้น เมื่อกี้สนยังเคืองอยู่เลยที่หมอนั่นกอดต้นโชว์เขา แถมยังทำหน้ากวนประสาทอีก

"ต้น...ถือว่าเราขอร้องละกัน ขอให้เราไปส่งนายเถอะ เราตัดสินใจแล้ว เราจะยกเลิกนัดเย็นนี้กับนา เราจะพาพ่อแม่ของพวกเราสองคนไปกินข้าวเย็นด้วยกัน ไปคันนี้แหละๆ เบียดๆ กันหน่อย ดีไหมต้น ไปกับเรานะ ไปด้วยกัน"

ต้นเงียบและครุ่นคิด นานแล้วเหมือนกันที่ต้นกับสนไม่ได้พาพ่อกับแม่ไปกินข้าวนอกบ้าน ถ้าไม่ติดว่าสนนัดกับแฟนไว้แล้วต้นก็คงไม่ขัดข้องหรอก

"นะต้น เราขอร้องนายแล้วนะ นายไม่เห็นใจเราเหรอ เราอยากตอบแทนทุกๆ คนที่ดีกับเรา คนที่ทำให้เรามีวันนี้ เราไม่อยากผลัดไปวันอื่น วันนี้แหละดีที่สุดแล้ว" สนรบเร้า

"นายไม่กลัวนาเขาโกรธเหรอ"

สนชะงักเล็กน้อย "เขาก็คงโกรธแหละ แต่ไม่เป็นไรหรอก เราคุยกันได้" สนยิ้มเพื่อจะยืนยันให้ต้นสบายใจว่าเขาจะไม่มีปัญหากับนาจริงๆ

นั่นสินะ...ต้นไม่น่าถามเลย ก็เขาเป็นแฟนกัน งอนกัน โกรธกันเป็นเรื่องธรรมดา ยังไงเขาก็คุยกันได้ ต้นยิ้มเศร้าๆ แล้วก็ก้มหน้าลงต่ำ ช่วงนี้ต้นรู้สึกว่าเขาควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้ไม่ค่อยดี พอมีอะไรมากระทบต้นก็เผลอแสดงอาการบ่อยๆ

ก๊อกๆ!!!

เสียงเคาะกระจกรถทำให้สองหนุ่มหลุดจากความสนใจในกันและกัน พอหันไปดูก็พบว่าเป็นทดแทนนั่นเอง

"อ้าวพี่แทน" ต้นอุทานด้วยความแปลกใจที่เห็นทดแทนมายืนยิ้มเผล่อยู่ข้างๆ รถ ต้นลดกระจกลงพลางส่งยิ้มให้

"นึกว่าจะไม่ทันซะละ ต้นลืมหมวกไว้" ทดแทนบอกพลางชูหมวกสีเทาๆ ที่ต้นลืมไว้ให้ดู

"อ๋อ...ขอบคุณครับพี่แทน วิ่งมาเหนื่อยแย่เลย" ต้นยื่นมือจะไปรับหมวกแต่ทดแทนกลับไม่ยอมให้

"เดี๋ยวพี่ใส่ให้"

พูดไม่พูดเปล่า ทดแทนสวมหมวกใบนั้นลงบนศีรษะให้ต้นท่ามกลางความตกตะลึงของสน

"ต้นใส่อะไรก็ดูน่ารักนะ"

คำชมของทดแทนทำให้ต้นยิ้มเขินนิดๆ สนสังเกตเห็นทุกอย่าง ดูท่าทางผู้ชายคนนี้จะไม่ได้คิดกับต้นแค่คนรู้จักกันธรรมดาเสียแล้ว หนอยแน่ บังอาจมาชมต้นว่าน่ารักต่อหน้าต่อตาเขาแบบนี้เลยเหรอ

"พี่ไปแล้วนะต้น ไปก่อนนะครับสน ขับรถดีๆ นะครับ ฝากดูแลต้นให้พี่ด้วย" ทดแทนหันไปแหย่สนเล่น เขาพอจะดูออกว่าสนออกอาการหึงหวงต้นอยู่พอสมควร แต่สนก็ทำหน้าเฉยๆ ไม่ได้สนใจสิ่งที่ทดแทนฝากไว้

"ขอบคุณครับพี่ หวัดดีครับ แล้วเจอกันนะครับ" ต้นโบกมือให้ทดแทนที่ค่อยๆ เดินแกมวิ่งออกไป ต้นกดเลื่อนกระจกรถขึ้น แต่ก็รู้สึกว่าบรรยากาศดูเงียบๆ ผิดปกติ พอหันไปทางสนก็เห็นเขาทำหน้าบึ้งๆ อยู่

"อยู่ในรถไม่ต้องใส่หมวกก็ได้" สนพูดคล้ายกับไม่ค่อยพอใจโดยไม่หันมามองต้น

ต้นถอดหมวกออกแล้วเอาใส่กระเป๋าเป้อย่างงงๆ สนขับรถออกไปแล้วก็เงียบไปตลอดทาง พอต้นถามว่าเป็นอะไรก็ตอบกลับมาว่า "เปล่า" คำเดียว กลับมาพูดคุยได้เหมือนเดิมอีกทีก็ตอนที่มาถึงบ้านต้นแล้ว แต่สนก็ไม่ได้ลืมหรอกนะว่าเขาเห็นอะไร แต่ยังไม่ใช่เวลาที่จะคุยเท่านั้นเอง

-----------------------------------------------

วันเกิดของต้นเวียนมาถึงอีกแล้ว ปีนี้พ่อกับแม่อยากให้ต้นจัดงานวันเกิดที่บ้านบ้างเพราะที่ผ่านๆ มาต้นมักจะจัดในกรุงเทพกับเพื่อนๆ ต้นก็เห็นดีด้วยกับพ่อแม่ ปีนี้ต้นชวนเฉพาะคนที่สนิทๆ จริงๆ เท่านั้นมาที่บ้าน แน่นอนว่าก็มีสนกับแฟน นิก ปั้นจั่น เอก รวมทั้งพี่ทดแทนด้วย คนหลังสุดนี้กลายเป็นมาคนสนิทของต้นได้อีกคนเพราะชอบทำงานอาสาสมัครเหมือนกัน ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็ไปช่วยงานกันหลายที่

ในวันจัดงาน ทดแทนมาช่วยเตรียมงานตั้งแต่เช้า เขาพาแม่ของต้นไปซื้อของที่ตลาดด้วย เล่นเอาคนแถวนั้นมองด้วยความสนใจกันใหญ่เพราะไม่เคยเห็นแม่ของต้นมาซื้อของด้วยรถยี่ห้อหรูหราแบบนี้มาก่อน

ช่วงบ่ายๆ นิก ปั้นจั่นแล้วก็เอกก็ตามมา ส่วนสนอาจจะมาถึงประมาณช่วงเย็นๆ เพราะนาต้องไปเยี่ยมพี่ชายที่ป่วยที่โรงพยาบาลก่อน ทำให้สนรู้สึกหงุดหงิดพอสมควรเพราะปกติเขาจะต้องมาช่วยต้นเตรียมงาน แต่คราวนี้เขากลับมาไม่ได้ ได้แต่โทรมาขอโทษขอโพยต้น

พอต้นแนะนำให้ทุกคนให้รู้จักกันหมดแล้ว นิกกับปั้นจั่นก็ดูจะสนใจทดแทนเป็นพิเศษ เพราะเท่าที่สังเกตดูเหมือนผู้ชายคนนี้มีอะไรบางอย่างกับต้น ที่ดูออกนั้นก็เป็นเพราะว่าได้ประสบการณ์มาจากการสังเกตต้นกับสนนั่นเอง จังหวะที่ทดแทนกับเอกไปจัดเก้าอี้และเครื่องเสียงตรงสนามหน้าบ้าน นิกกับปั้นจั่นก็แอบเข้าไปหาต้นที่กำลังรินน้ำอัดลมใส่แก้วจำนวนหนึ่งอยู่

"เอาไปให้ใครเหรอต้น" ปั้นจั่นถามพลางนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างๆ อยู่ นิกตามมานั่งด้วยข้างๆ

"พี่แทนกับเอกไง แล้วก็พวกมึงด้วย" ต้นเงยหน้าขึ้นมาบอก แล้วก็หันกลับไปตามเดิม

"เฮ้ยต้น...มึงกับพี่แทนรู้จักกันนานหรือยังวะ" นิกถามบ้าง เสียงที่เหมือนกระซิบกระซาบนั้นทำให้ต้นหันมามองด้วยความสงสัย ยิ่งเห็นประกายตาของเพื่อนสองคนนี้ก็ยิ่งดูน่าสงสัยมากขึ้น

"สามสี่เดือนได้แล้วมั้ง มีอะไรเหรอ" ต้นขมวดคิ้วพร้อมกับหยุดรินน้ำอัดลม

"มึงว่าพี่เขาจะเป็น..." ปั้นจั่นหันซ้ายหันขวา พอไม่เห็นใครอยู่แถวนี้ก็กระซิบกระซาบว่า "เป็นเกย์ไง"

ต้นทำสีหน้าตกใจแล้วก็ตำหนิเพื่อน "เฮ้ย อย่าพูดเป็นเล่นสิวะ"

"ไม่ได้พูดเล่นนะเว้ย มึงดูไม่ออกเหรอ แล้วถ้าให้เดานะ กูว่าพี่เขาต้องชอบมึงแน่ๆ เลย"

ต้นยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ "ไอ้ปั้นจั่น มึงพูดอะไรของมึงวะ"

"มึงสังเกตดีๆ ก็แล้วกันไอ้ต้น มึงนี่ดูคนเป็นหรือเปล่าวะ ไอ้สนมึงก็ดูไม่ออก พี่คนนี้มึงก็ดูไม่ออกอีก อย่างนี้จะหาแฟนกับเขาได้ไหมเนี่ย" ปั้นจั่นค่อนขอด ต้นเรียบจบมาเป็นปีแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมีแฟนกับเขาสักคน ก็แน่ล่ะ เพราะต้นรักสนจนไม่เหลือใจให้ใคร

"ชอบไม่ชอบไม่รู้ล่ะไอ้ต้น แต่มึงน่าจะใช้โอกาสนี้แก้แค้นไอ้สนมันซะ มึงจำได้ไหมที่พวกกูสองคนบอกให้มึงรีบหาแฟนมาเย้ยไอ้สนมัน ก็เอาพี่คนนี้เลย ดูท่าทางพี่เขาก็เป็นคนดีนะเว้ย น่าจะดูแลมึงได้เลยล่ะ" นิกยุบ้าง

"พอๆ เลยพวกมึง หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว กูไม่ใช่หุ่นยนต์นะเว้ยที่จะกดปุ่มให้ไปรักใครก็ได้" ต้นทำเสียงให้เพื่อนสองคนรู้ว่าเขาเริ่มจะไม่พอใจ

"เออๆ เรื่องของมึงละกัน แล้วนี่ไอ้สนมันหายหัวไปไหนวะเนี่ย จนป่านนี้ยังไม่มาอีก" ปั้นจั่นทำท่ามองหาคนที่เขาพูดถึง

"พานาไปเยี่ยมพี่ชายที่โรงพยาบาล คงมาเย็นๆ แหละ" ต้นบอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

------------------------------------------------

สนกับนามาถึงที่บ้านต้นก็เย็นมากแล้ว นามาถึงก็เข้าไปช่วยแม่ต้นกับแม่สนเรื่องกับข้าวกับปลาในครัว พ่อของต้นกับสนก็อยู่หลังครัวเช่นเดียวกัน คอยช่วยเรื่องปิ้งๆ ย่างๆ และหั่นเนื้อสัตว์ ที่หน้าบ้านจึงเหลือผู้ชายห้าคนที่ช่วยกันจัดสถานที่ นิกกับเอกช่วยกันจัดโต๊ะหน้าบ้าน ต้นก็วิ่งเข้าวิ่งออกคอยหาน้ำและขนาให้เพื่อนๆ แล้วก็ไปช่วยตรงนั้นตรงนี้บ้าง ปั้นจั่นกับทดแทนช่วยกันจัดเครื่องเสียงเพราะพ่อของต้นอยากให้มีคาราโอเกะด้วย ส่วนสนเพิ่งมาถึงก็ยืนหันรีหันขวางไม่รู้จะเข้าไปช่วยตรงไหนดี

ต้นเห็นสนยืนงงอยู่ก็เลยเอาน้ำมาให้ "กินน้ำก่อนสน"

สนรับน้ำแดงมาแล้วก็ยกขึ้นจิบสองสามครั้ง ต้นรู้ใจเขาเสมอว่าเขาชอบกินน้ำอะไร "ขอบใจมากต้น" สนยิ้มให้เพื่อน ต้นก็ยิ้มกว้างเช่นกัน สนวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ ต้นรูทันทีว่าสนจะทำอะไรเพราะเขามักจะทำแบบนี้เป็นประจำ

สนเดินไปกอดต้นแล้วก็ตบหลังเบาๆ "สุขสันต์วันเกิดนะเพื่อนรัก"

"ขอบใจมากสน"

ต่างคนต่างเงียบไปสักพัก แม้ว่าจะทำแบบนี้ทุกปี แต่ความรู้สึกก็ยังเหมือนเดิม ยังอบอุ่นเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ที่บ้านหลังนี้ ในหมู่บ้านนี้ ไม่ว่าจะมองไปตรงไหนก็อบอวลไปด้วยความทรงจำดีๆ ของต้นกับสน ยิ่งได้กลับมาอยู่ด้วยกันในที่ที่ความทรงจำในวัยเด็กได้เกิดขึ้น ต้นกับสนก็ยิ่งรู้สึกถึงความผูกพัน ไม่น่าเชื่อว่าเวลาจะผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว เขาสองคนก็ยังคงก็ยังคงรักษามิตรภาพเอาไว้ได้เป็นอย่างดี

"ถ้านายยังรักเราอยู่ ขอให้นายอดทนอีกนิดนะต้น" สนพูดจบแล้วก็ปล่อยต้นออกจากอ้อมแขน

สนพูดแบบนี้อีกแล้ว แต่ต้นก็ไม่รู้ว่าสนหมายถึงอะไร ทำไมต้องอดทน อดทนอะไร อดทนเพื่ออะไร แต่ต้นก็จับสังเกตได้ว่าสนมีอะไรบางอย่างที่ัต้นยังไม่รู้ ปกติถ้ามีอะไรสนก็จะบอกให้เขารู้ แต่แปลกที่คราวนี้สนกลับทำให้มันดูลึกลับ

"สัญญานะว่านายจะอดทน" ดูเหมือนสนจะต้องการคำตอบจากต้นเดี๋ยวนี้เลย

ต้นพยักหน้าตกลง แม้ว่าจะเป็นการตกลงที่เขาไม่ค่อยเข้าใจนักก็ตาม

"มีอะไรให้เราช่วยไหม" สนถามพลางหันไปมองรอบๆ ดูเหมือนว่างานต่างๆ มีคนทำไปจนเกือบจะหมดแล้ว

ยังไม่ทันที่ต้นจะตอบอะไร เสียงปั้นจั่นก็ดังมา "เฮ้ยไอ้สน ไปหาเทปกาวมาให้หน่อยดิ จะเอามาติดสายไฟหน่อย"

"เออๆ เดี๋ยวหาให้" สนตอบแล้วก็หันมายิ้มให้ต้น ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในบ้านเพื่อไปหาเทปกาวที่ปั้นจั่นขอ

พอหาเจอแล้วสนก็เดินออกมานอกบ้าน ตอนนี้ต้นไปช่วยนิกกับเอกจัดโต๊ะอยู่อีกด้านหนึ่งแล้ว ยังไม่ทันที่สนจะได้เอาเทปกาวไปส่งให้ สิ่งที่ปั้นจั่นคุยกับทดแทนก็ทำให้สนหยุดชะงัก

"ต้นเป็นคนดีมากๆ เลยนะครับพี่แทน ชอบช่วยเหลือคนอื่น สมัยเรียนนะครับ ต้นก็ช่วยติวพวกวิชาคำนวณให้ผมบ่อยๆ เพราะเขาเก่งด้านนั้น ผมจบมาได้ก็เพราะต้นนี่แหละครับ แต่เสียดายอย่างเดียว มันยังไม่มีแฟนนี่สิครับ พี่พอจะมีใครแนะนำไหมครับ"

"อืม...แล้วต้นเขาชอบคนแบบไหนล่ะครับ" ทดแทนถามพลางค้นหาแผ่นคาราโอเกะที่อยู่ในกล่องใส่ซีดีที่พ่อต้นเอามาส่งให้ช่วยหา

"แบบพี่...ต้นก็น่าจะชอบนะครับ" ปั้นจั่นพูดทีเล่นทีจริง

ทดแทนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ถ้าปั้นจั่นพูดมาแบบนี้ก็แสดงว่าต้นน่าจะเป็นแบบที่เขาสงสัย แต่ปั้นจั่นนี่ก็ช่างสังเกตนะ รู้ด้วยว่าเขาเป็นแบบไหน

"ถ้าพี่จะจีบต้น ผมเชียร์เต็มที่เลย" ปั้นจั่นยุต่อ เมื่อทดแทนไม่เถียงและไม่ปฏิเสธ เขาก็พอจะเดาได้ว่าทดแทนก็น่าจะเป็นอย่างที่เขากับนิกสงสัยนั่นแหละ

สนได้ยินแล้วก็ถึงกับใจหายวูบ เขาต้องทำเสียงกระแอมกระไอเพื่อให้สองคนนี้หยุดคุยกันเรื่องนี้เสียที

"เอ้า...เทปกาว" สนยื่นเทปกาวให้ด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก

ปั้นจั่นรับไปแล้วก็แอบยิ้ม "เฮ้ยสนมึงว่าดีไหมวะถ้าไอ้ต้นมันจะมีแฟน" ปั้นจั่นถามโดยไม่หันไปมองแต่ง่วนอยู่กับการใช้เทปกาวพันสายไฟบางส่วนที่เริ่มขาดและสายทองแดงโผล่ออกมาให้เห็น

"ไม่รู้เว้ย แต่ต้นเขาคงไม่อยากมีตอนนี้หรอก" สนตอบเสียงห้วนๆ

"เฮ้ย...มึงช่วยพี่เขาหาแผ่นคาราโอเกะหน่อยสิ ไม่รู้อยู่ในกล่องไหน มีตั้งหลายกล่อง" ปั้นจั่นเปลี่ยนเรื่อง เขาไม่ได้สนใจคำตอบของสนนักเพราะเขาก็ถามกวนประสาทสนไปอย่างนั้นเอง

สนจึงต้องจำใจนั่งลงแล้วช่วยทดแทนหาแผ่นคาราโอเกะเพราะตอนนี้เขายังไม่มีอะไรทำ สนไม่ค่อยกล้าหันไปสบตากับทดแทนนักเพราะเขารู้สึกอึดอัด เขาจึงหยิบกล่องใส่ซีดีมาช่วยเปิดหาแผ่นคาราโอเกะโดยไม่พูดไม่จา

"พี่แทนรู้จักต้นมานานหรือยังครับ" ปั้นจั่นหันมาชวนทดแทนคุยต่อ จริงๆ คำถามนี้เขารู้แล้วล่ะ แต่ถามเพราะอยากแกล้งสนมากกว่า

"อืม...สามสี่เดือนได้แล้วมั้งครับ"

"เหรอครับ...แล้วพี่แทนคิดว่าต้นเขาน่ารักแล้วก็นิสัยดีไหมครับ" ปั้นจั่นถามพลางเหลือบไปมองสน แม้จะทำท่าทางเหมือนไม่สนใจแต่เขาก็รู้ว่าสนคอยฟังการสนทนานี้อยู่

"อืม...พี่ว่าต้นเป็นน่ารักมากๆ ตอนไปทำฝายที่เชียงราย ต้นเขาก็ไม่หวงวิชาเลย มีอะไรก็บอกหมด ฝายที่ทำคราวนี้ก็เลยแข็งแรงเพราะว่าได้วิศวกรมือดีมาช่วยออกแบบให้ ชาวบ้านแถวนั้นชอบต้นกันใหญ่ เมื่อวานเพิ่งโทรไปคุยกับพี่ที่นั่นก็เห็นเขาถามหาต้นกันว่าเมื่อไหร่จะมาอีก ถ้าต้นไปอีกเขาจะแกงผักกาดจอให้กินทุกวันเลย" ทดแทนพูดพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

สนชักเริ่มจะหงุดหงิดในใจ ทำไมนายคนนี้ถึงได้รู้นะว่าต้นชอบกินแกงผักกาดจอ ทำไมต้นถึงต้องไปบอกเขาด้วยล่ะ

"ไอ้ต้นไปไหนก็มีแต่คนรักแหละครับ อ้อ...พี่รู้ไหมว่า...ผมนี่ชอบพี่จริงๆ เลยครับ คิดๆ แล้วก็ชักอยากจะให้ต้นมีแฟนแบบพี่นี่แหละครับ"

ทดแทนได้ยินแล้วก็ยิ้มและหัวเราะชอบใจ แต่อีกคนที่นั่งเงียบเริ่มจะเดือดขึ้นทุกทีๆ 'ไอ้ปั้นจั่น มึงเล่นเชียร์ออกนอกหน้านอกตาแบบนี้เลยเหรอวะ'

"เอพี่...ผมถามหน่อยครับ พี่คิดยังไงครับกับคนที่ไม่แสดงออกอย่างชัดเจนครับ ทำเหมือนว่าไม่รัก แต่พอเขาจะมีคนอื่นก็คอยหวงก้าง คอยกันท่าตลอด ไม่รู้จะเอายังไงกันแน่" ปั้นจั่นเปลี่ยนเรื่องคุยอีกครั้งหวังจะให้กระทบกระเทือนคนหน้าบึ้งที่เริ่มจะทนไม่ไหวขึ้นทุกทีๆ 'ทนได้ก็ให้มันรู้ไปไอ้สน'

ทดแทนหยุดคิด หันไปมองสนที่นั่งหาแผ่นซีดีอยู่เงียบๆ แล้วก็เกิดความสงสัยว่าปั้นจั่นกำลังพูดกระทบสนอยู่หรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้ปั้นจั่นไม่ได้คุยเรื่องนี้เลย เพิ่งมาคุยตอนที่สนมานี่แหละ "อืม...พี่ก็ไม่ชอบหรอกคนแบบนี้ พี่ว่าคนเราควรจะชัดเจนในเรื่องความรักนะ ไม่งั้นอีกฝ่ายก็แย่เลย ไม่รู้ว่าคิดอะไร ไม่รู้จะเอายังไง ไม่ดีหรอก ในหมู่เกย์เขาจะเรียกพวกนี้ว่าอีแอบ ขอโทษนะที่พูดไม่สภาพ แต่เขาเรียกอย่างนี้จริงๆ"

สนทนไม่ไหวแล้ว นี่ปั้นจั่นมันแอบหลอกให้เขามาถูกด่าหรือเปล่า สนวางกล่องซีดีลงแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไป เห็นต้นนั่งคุยกับเอกและนิกอยู่ที่โต๊ะที่จะใช้เป็นที่กินข้าวเย็นร่วมกันก็เลยเดินเข้าไปคุยด้วย ทดแทนกับปั้นจั่นได้แต่มองตามอย่างงงๆ แต่ปั้นจั่นคงไม่งงหรอกเพราะรู้ดีว่าสนเป็นอะไร นับว่าโชคดีที่ทดแทนเข้ามาในตอนนี้ สนจะได้รู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดที่เขาทำกับต้นบ้าง

--------------------------------------------------------

"Happy birthday to you, Happy birthday to you, Happy birthday, Happy birthday, Happy birthday to you"

สิ้นเสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิด ต้นก็เป่าเทียนบนเค้กวันเกิดจนค่อยๆ ดับไปจนหมด จากนั้นต้นก็ตัดเค้กแจกคนที่มาร่วมงาน มีทดแทนคอยเป็นลูกมืออยู่ข้างๆ ต้นตลอด ส่วนสนก็นั่งหน้าบึ้งจนนาต้องถาม

"พี่สนเป็นอะไรหรือเปล่าคะ"

"เปล่าหรอกนา" ตอบว่าเปล่าแต่สีหน้าก็ยังคงบึ้งตึงอยู่ แถมยังคอยมองต้นกับทดแทนตลอดเวลา พ่อกับแม่ของต้นและสนเองก็ดูจะแปลกใจเหมือนกันที่คราวนี้ต้นกับสนอยู่ห่างกัน ปกติถ้าเป็นงานวันเกิดของต้นหรือสน สองคนนี้จะตัวติดกันตลอด พฤติกรรมแปลกๆ ของต้นกับสนจึงถูกจับสังเกตโดยผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายด้วย

ต้นหันมามองสนกับแฟนแล้วก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ เห็นสนหน้าบึ้งแล้วต้นก็พอจะเดาได้ว่าสนคงรู้สึกแย่เหมือนกันที่ไม่ได้มาอยู่ใกล้ๆ เขาเหมือนงานวันเกิดที่ผ่านมาทุกปี ต้นหยิบจานเล็กๆ สองใบที่มีเค้กอยู่แล้วก็เดินเอาไปส่งให้สนกับแฟน คิดว่าคงจะทำให้สนอารมณ์ดีขึ้นมาได้บ้าง

ตอนที่สนยื่นมือมารับเค้ก ต้นก็ทำตัวไม่ถูกเพราะถูกสนมองด้วยสายตาตัดพ้อต่อว่า นี่ถ้าไม่เกรงใจพ่อกับแม่ของต้นสนคงจะกลับบ้านไปแล้ว มีหลายอย่างที่สนอยากจะพูดแต่ก็พูดไม่ได้เพราะนานั่งอยู่ข้างๆ

"ขอบคุณค่ะพี่ต้น" นาบอกหลังจากที่รับจานใบเล็กใส่เค้กมาจากต้น "พี่สน แบ่งของนาไปอีกซักครึ่งได้ไหมคะ นากินไม่หมดหรอก เดี๋ยวอ้วน" นาบอกพลางตักเค้กบางส่วนของตัวเองส่งให้สนไป ต้นเห็นแล้วก็รู้ตัวว่าเขาไม่ควรจะอยู่ตรงนี้เป็นก้างขวางคอสนกับแฟน

"ต้น..." สนร้องเรียก

ต้นหันมามองเพื่อน ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรก็มีเสียงอีกคนเรียกเขาเช่นกัน ทดแทนนั่นเอง

"ต้น...นี่ชิ้นสุดท้ายของต้นนะครับ" ทดแทนเดินเอาเค้กมาส่งให้ ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าใครอีกคนกำลังจับตามองอยู่อย่างไม่พอใจ

"ขอบคุณครับพี่แทน" ต้นรับมาแล้วก็ยิ้ม

"ไปนั่งตรงนั้นดีกว่าต้น จะได้คุยกัน" ทดแทนชี้ไปที่นิกกับปั้นจั่นนั่งอยู่ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสน

ต้นจำต้องไปตามที่ทดแทนบอก จริงๆ ก็มีเหตุผลหลายๆ อย่างที่ทำให้ต้นอยู่ใกล้กับสนมากไม่ได้ ไม่ใช่เพราะทดแทนที่เข้ามาใกล้ชิดเพียงอย่างเดียว แต่เพราะแฟนสนที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยต่างหากเล่า ต้นหันไปมองสนอย่างรู้สึกผิด ถึงต้นจะน้อยใจที่สนมีแฟนแล้ว แต่เขาก็รู้ว่าสนรู้สึกยังไงที่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ กับเขาในงานวันเกิดเหมือนทุกปี ต้นเองก็รู้สึกไม่ต่างกันหรอก สนกับเขาเคยทำแบบนี้ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ มันเป็นความผูกพันและคุ้นเคย เมื่อกี้พ่อกับแม่ของต้นก็ถามว่าทำไมสนดูห่างๆ ไป ต้นก็ได้แต่ตอบไปว่าสนมีแฟนแล้วก็ต้องคอยดูแล ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

ถึงวันนี้สนจะมีใคร แต่วันพิเศษเช่นนี้สนก็พร้อมที่จะให้เวลากับต้น แต่ทำไมคราวนี้เขาถึงไม่มีโอกาสเลย เป็นเพราะนายทดแทนคนเดียวแท้ๆ รู้ไหมว่าสนเจ็บปวดแค่ไหนที่เขาไม่ได้เป็นคนสำคัญของต้นในงานวันเกิดนี้ เขารักและผูกพันกับเพื่อนคนนี้มากแค่ไหนรู้ไหม ทำไมถึงได้มาแย่งที่เขาแบบนี้อย่างหน้าตาเฉย สนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว

TO BE CONTINUED...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2012 08:57:37 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อ่านจบปั๊บ
อยากตะโกนดังๆใส่หน้าสน

สมน้ำหน้า แล้วหัวเราะหึหึในลำคอเบาๆ

สะจายยยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ z-Time

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สนจะให้ต้นอดทนทำไมล่ะ  ทำให้ต้นงงซะงั้น

แล้วก็อีหรอบเดิม พอมีคนมาจีบต้นก็ไม่พอใจ มันน่า :z6:

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป
นั่นสิ สน เมื่อไหร่สนจะทนไม่ไหวซักที รอให้สนทนไม่ไหวจริงๆอยู่นะ
ขนาดว่าโดนปั้นจั่นกับพี่ทดแทนคุยกระทบว่าเป็นอีแอบแล้วนะเนี่ย

ที่สนบอกให้ต้นรอ รออะไร??  รอทำไม??

ทำให้นึกถึงเพลงนี้เลย "การรอคอย"(Paradox)  :m15: :m15: :m15:   งื้อ......สงสารต้น


"เธอปล่อยให้ฉันรอ.... เธอปล่อยให้ฉันคอย.... แต่เวลามันช่างเหลือน้อย แล้วเธอก็จากไป
 ให้ฉันรอ เธอปล่อยให้ฉันคอย ต่อให้นานก็ยังคงรัก รักเธอจนหมดใจไม่เหลือ......"


ขอบคุณค่ะ
บวก1บวกเป็ด
 :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
สำหรับสนไม่มีคำใดเหมาะกับสนมากไปกว่า "หมาหวงก้าง" อีกแล้ว

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
อีแอบ ขอบคุณมากพี่ทดแทน สนเหมาะแล้วแหละกับคำนี้ คนที่ไม่คิดจะเข้าใจความรู้สึกตัวเอง
คนที่คอยแต่จะหลบลี้ความรู้สึกตัวเอง และหลอกใจตัวเองไปวันๆคนแบบสนเป็นแบบนี้ดีแล้ว
พี่ทดแทนมาแทนสนเลย เราว่าพี่ตรงกับความรู้สึกตนดี ชอบก็รุก ไม่เหมือนอินายสน
อยากตะโกนให้ดังๆ เลยทุกอย่างที่เป็นแบบนี้เพราะตัวแกเอง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






llihc_mrr

  • บุคคลทั่วไป
ดีแล้ว ให้ทนไม่ไหวไปเลย
ไม่รู้ว่าสนมีเหตุผลอะไร แต่ทำแบบนี้สงสารต้น  :sad4:

ออฟไลน์ gambee

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ดีปล่อยให้ทนไม่ไหวจุกอกอยู่นั่นแล่ะชิสะจายยยยย :beat:
ตั้งแต่อ่านมาหลายเรื่องหมั่นไส้อีตาสนที่สุด
เอ่ออออคนเขียนจ๋าคนอ่านอินมากไปหน่อยไม่ว่ากันนะ

ออฟไลน์ SungMinKRu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 570
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-0
    • https://www.facebook.com/pages/SungMinKRu-Boys-Love/311662138876399


อ่านตอนนี้แล้วแอบสงสาร "สน"

ความคิดต่างสักหน่อย แต่เราว่า การที่จะรักใครสักคนจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม

แต่การรักเพศด้วยกันเนี่ย จะให้ผู้ชายแท้ๆอย่างสน ยอมรับใจตัวเองได้ 100% มันก็ดูจะแปลกไปหน่อย  :monkeysad:


ต้นอย่าท้อที่จะคอยนะ คู่กันแล้วไม่แคว้นกันหรอก ยังไงเราก็ต้องคู่สนอยู่แล้ว อย่าเพิ่งเครียด จุ๊บๆๆ


<ตอบแบบนางเอก >



โว๊ยยย อี * สน อย่าเยอะค่ะ หมั่นไส้ ให้รงให้รอ ต้นแก่ตายพอดี !!!

แหมมม อีคุณพระเอกเลือกได้ หมั่นไส้ ลองมาเป็นคนรอแบบต้นบ้างไหม๊ล่ะ ฟวยย !!!

รู้สึกว่าสนจะสับไปสับมา ไม่รู้ใจตัวเองสักที มีไว้ทำไมค่ะ สมองน่ะ -- ใจตัวเอง คิดยังไงก็ไม่รู้

ก็เข้าใจนะ ว่ามันลำบากที่จะว่ารักผู้ชายด้วยกัน แต่ชะนีนานี่เก็บๆไปได้ไหม ?

เรื่องเยอะ เกลียดชะนี  สนนี่มันเลือกได้ตลอด ต้นไม่ได้เกิดมาเผื่อเป็นตัวเลือกให้ใครหรอกนะ

อีคุณสน !!!


อุ้ยเขิน  :-[ :-[ :-[

<ตอบแบบคนหน้าตาดี  :oak:>



+ 1 รักสน

แต่อย่าเยอะ หมั่นไส้


 :laugh5: :laugh5: :laugh5: :laugh5:

ปล.ใช้คำสุภาพนิดหน่อย พอดีอารมณ์ ดี๊ดี  :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ Mekaming

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
คิดเหมือนคุณ Mc_ma เลยค่ะเพลงนี้ใช่เลย :monkeysad: :o12:

ออฟไลน์ tra_daday

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :sad4: :sad4: :sad4: :fire: :fire: สนุกมากกกกก ต้นไม่ต้องรอแล้วคบพี่แทนประชดมันเลย  :fire: :fire: :m31:เอาให้ไอ้สนอกแตกตายเลย เกลียดพวกโลเล ต้นออกจะแสนดี คบพี่แทนเลยแต่อย่างว่าเนอะนางเอกก็ต้องคู่กับพระเอก555 แล้วอีกอย่างคนที่มันรักไปแล้วให้เลิกรักคงยาก แต่ไงเราก็จะอยู่ข้างต้นน่ะสู้ๆๆๆ  เฮ้ย ชักจะเพ้อแระ 5555 ชอบมากเรื่องนี้สนุกมากครับ  :3123: :pig4:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
เพลงที่ต้นร้องในนี้เป็นเพลงที่ไม่มีอยู่จริงนะครับ ผมเขียนขึ้นมาเอง
จะลองดูว่ามันจะร้องเป็นเพลงได้ไหม ถ้าได้จะเอามาให้ฟังครับ


ตอนที่ 26: ลาก่อนความรัก    



ต้นถูกคะยั้นคะยอให้ร้องเพลงอยู่หลายรอบ ในที่สุดเขาก็ขัดเพื่อนๆ ไม่ได้ พอนึกชื่อเพลงที่อยากร้องได้แล้วต้นก็ขอให้เอกช่วยหาเพลงที่เขาต้องการให้ พอต้นหยิบไมค์มาเท่านั้น ทุกคนต่างก็มองมาที่ต้นและคอยลุ้นว่าต้นจะร้องเพลงอะไร มีเสียงแซวเป็นระยะให้ต้นเขินบ้าง พอต้นร้องประโยคแรกเท่านั้น ทุกคนก็ส่งเสียงฮือฮากันใหญ่

"จะรักใครก็รักไป...
เก็บหัวใจเธอไว้อย่างนั้น
ไม่เรียกร้องอะไร
ไม่เคยขอใจของเธอแค่เพียงเสี้ยว

แค่รักเธอเหมือนทุกวัน
แค่หัวใจที่ไม่ไปไหน
อาจจะช้ำบางที
เธอก็รู้ดีว่าฉันก็ทนได้

แต่ว่าเธอไม่ต้องถาม ได้ไหม
ปล่อยให้ฉันรักต่อไปอย่างนี้
อาจจะช้ำ เมื่อเห็นเธอ...กับเขา
เมื่อใจฉันเลือกเธอแล้ว
ก็ต้องยอมทุกอย่าง

จะรักใครก็ตามใจ
เก็บหัวใจเธอไว้กับเขา
แค่อย่าคิดรำคาญ ทำอย่างที่เคย
เพราะฉันแค่รักเธอ"

ถึงต้นจะไม่ใช่นักร้องมืออาชีพ ไม่ได้มีทักษะที่จำเป็นสำหรับการร้องเพลง แต่ทุกคนก็รู้สึกคล้ายๆ กันว่าต้นร้องเพลงนี้ได้เพราะกินใจเหลือเกิน ราวกับว่าเพลงนี้คือชีวิตจริงของต้น โดยเฉพาะสนที่ตั้งใจฟังทุกคำร้อง ซึมซับทุกความหมายที่ต้นสื่อสารออกมา สนรู้สึกเหมือนใจจะขาดรอนๆ เสียให้ได้ ถ้าหากตรงนี้ไม่มีใครอยู่สักคน เขาคงต้องบอกให้ต้นหยุดร้องเพลงนี้ เขาจะไม่ให้ต้นรู้สึกเหมือนเพลงนี้เลย ให้ตายเถอะ สนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว

ในช่วงที่เป็นเสียงดนตรี สนลุกขึ้นยืนเหมือนคนไม่รู้ตัว เขาเดินออกไปหาต้นท่ามกลางความสงสัยของคนอื่นๆ รวมทั้งต้นด้วย สนก็แค่อยากมายืนใกล้ๆ ต้น ขอให้ต้นรู้ว่าไม่ว่าต้นจะเจ็บแค่ไหน เขาจะคอยอยู่ข้างๆ เพื่อปลอบใจ เมื่อเขาคือคนที่ทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ เมื่อคนที่ต้องเจ็บกว่าใครคือต้น เขาก็จะขอรับผิดชอบหัวใจที่เจ็บช้ำของต้นเอง

"ไม่มีอะไร ต้นร้องต่อเถอะ เราแค่มาให้กำลังใจ" สนบอกเมื่อเห็นต้นสงสัย เขามายืนอยู่ข้างๆ ต้นแล้วก็โอบไหล่ต้นไว้ ในที่สุดสนก็ได้มายืนอยู่ในที่ที่เขาควรจะอยู่ในงานวันเกิดของต้นแล้ว ถึงเพลงที่ต้นร้องมันจะเศร้าแค่ไหน แต่สนก็ดีใจที่ได้มาอยู่ตรงนี้ ทำให้ต้นได้อุ่นใจ เขารู้ว่าไม่มีใครหรอกที่จะทำให้ต้นรู้สึกแบบนี้ได้ นอกจากเขาคนเดียวเท่านั้น

ต้นร้องเพลงส่วนที่เหลือจนจบเพลงพร้อมกับสนที่ยืนอยู่ข้างๆ ต้นรู้สึกอุ่นใจขึ้นมากทีเดียว เสียงเพลงที่แสนเศร้าก็เลยเปลี่ยนเป็นเศร้าน้อยลง แม้ความรักแบบนั้นอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่ขอแค่ให้มิตรภาพของความเป็นเพื่อนระหว่างต้นกับสนยังอยู่เหมือนเดิม เท่านี้ต้นกับสนก็พอใจแล้ว เพราะความเป็นเพื่อนคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างในวันนี้

เพลงจบลงแล้วท่ามกลางเสียงปรบมือของเพื่อนๆ และพ่อกับแม่ของทั้งสองคน พ่อกับแม่ของต้นและสนยิ้มด้วยความสุขใจทีเดียวที่เห็นต้นกับสนมายืนอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม นึกว่าจะไม่มีโอกาสได้เห็นในวันนี้เสียแล้ว แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าจะมีอะไรมากไปกว่านั้น

คนที่ดูจะอึ้งและทึ่งกับสิ่งที่เห็นก็คงเป็นทดแทนกับเอก ทดแทนอึ้งเพราะได้เห็นความรักความผูกพันของต้นกับสนที่เขารู้ได้ทันทีว่ามันมากมายมหาศาลแค่ไหน มันทำให้เขาต้องหนักใจพอดูถ้าหากคิดจะจีบต้น ส่วนเอกนั้นอึ้งไปเพราะเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของต้นกับสน เขายังเจอกับต้นอยู่บ้าง คุยกันทางโทรศัพท์บ้าง ได้รับรู้ข่าวคราวของต้นและสนอยู่เนืองๆ แต่พอมาเห็นกับตาวันนี้ เขาก็ชักไม่แน่ใจว่าสองคนนี้เป็นเพียงเพื่อนกันธรรมดา

"นั่งด้วยกันนะต้น" สนพูดกับต้นเบาๆ ขณะที่ต้นกำลังเดินกลับที่นั่งของตัวเอง

ต้นพยักหน้า ตอนนี้แฟนสนนั่งอยู่กับแม่และพ่อของสน คงไม่น่าเกลียดอะไรที่สนจะมานั่งกับเขาบ้าง ขอแค่วันพิเศษนี้เท่านั้นให้เขาทั้งสองคนได้อยู่ข้างๆ กัน ไม่งั้นแล้วงานวันเกิดคราวนี้ของต้นคงไม่สมบูรณ์เหมือนเช่นเคย

พ่อของต้นเหมือนจะรู้ทัน รีบไปหยิบเก้าอี้อีกตัวมาให้สนนั่งกับต้น

"ขอบคุณครับพ่อแอ๊ด" ถ้าเกิดพ่อสองคนมาอยู่ด้วยกันสนจะเรียกพ่อของต้นว่า 'พ่อแอ๊ด' เพื่อไม่ให้สับสน ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วก็จะเรียกพ่อเฉยๆ

ต้นกับสนนั่งลงด้วยกันด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความสุข คนอื่นๆ ที่เห็นแบบนี้แล้วก็คงไม่มีใครกล้ามาแทรกกลาง พ่อกับแม่ของทั้งคู่ต่างก็ยิ้มดีใจ ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไป ต้นกับสนก็เหมือนเด็กซนๆ ที่เคยวิ่งเล่นด้วยกัน การเฝ้าดูเด็กทั้งสองเติบโตและคอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันเป็นความสุขอย่างหนึ่งของคนเป็นพ่อแม่ ภาพที่ต้นกับสนอยู่ด้วยกันยังเป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูอยู่เสมอ

เอกออกไปร้องเพลงบ้าง เมื่อความสนใจไปอยู่ตรงนั้นสนก็หันมาคุยกับต้น "เดี๋ยวเราจะให้นายดูอะไร"

สนหยิบกระเป๋าสตางค์ของตัวเองออกมาแล้วก็เปิดให้ต้นดู "เราไม่เคยเปลี่ยนรูปเลยนะต้น" สนบอกอย่างภูมิใจ

ต้นมองดูรูปของเขาที่สนยังเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์อย่างมีความสุข "ของเราเปลี่ยนแล้ว"

สนขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินต้นพูดเช่นนั้น พอต้นหยิบกระเป๋ามาเปิดให้ดูบ้างสนจึงเข้าใจ ก็ยังเป็นรูปเขาเหมือนเดิม แต่ต้นเปลี่ยนเป็นรูปตอนเรียนมหาวิทยาลัย ส่วนรูปต้นที่เขาใส่ไว้ยังเป็นรูปตอนเรียนมัธยมปลายเหมือนเดิม

"ไม่เอารูปแฟนมาใส่ด้วยล่ะสน" แม่ของต้นที่นั่งอยู่ข้างๆ ทักขึ้น

สนหันไปยิ้มเจื่อนๆ กับแม่ต้น ใครๆ ที่มีแฟนเขาก็เอารูปแฟนมาใส่กระเป๋าทั้งนั้นแหละ มีแต่สนเท่านั้นที่ไม่ได้ทำแบบนั้น "พอดี...มันใส่ได้รูปเดียวครับ ก็เลยใส่รูปต้นดีกว่า เดี๋ยวต้นน้อยใจครับแม่"

"ต้นเขาไม่น้อยใจหรอก เขาเข้าใจ แต่ก็ตามใจเถอะจ้ะ แม่แค่กลัวหนูนาเขาจะน้อยใจเท่านั้นเอง" แม่บอกพลางยิ้ม

แต่ก็ทำให้สนต้องคิดหนักทีเดียว ตอนนี้นานั่งอยู่กับแม่ของเขาแต่ก็มองมาที่สนอยู่บ่อยๆ เหมือนกัน ตั้งแต่เป็นแฟนกับสนมา นาก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ดูแปลกๆ หลายครั้งที่สนทำให้นาต้องสงสัยในความสัมพันธ์ของเธอกับเขา นายังคงมีคำถามอยู่ในใจตลอดว่าสนรักเธอจริงแค่ไหนกัน ยิ่งเห็นสนมาอยู่กับต้นแบบนี้เธอก็ยิ่งหวั่นๆ ผู้ชายสมัยนี้ไม่ใช่ไว้ใจยากเพราะนอกใจกับหญิงอื่นเท่านั้น แต่ก็ต้องระวังว่าจะนอกใจกับผู้ชายด้วยกันด้วย

----------------------------------------------------------

"พี่สนคะ พอดีนาได้บัตรพักรีสอร์ทที่กาญจน์มาสำหรับสองคน เราหาเวลาไปเที่ยวกันบ้างดีไหมคะ ช่วงนี้นาเบื่อๆ น่ะค่ะ อยากไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง ไม่ได้ไปเที่ยวไหนมาเกือบปีแล้ว"

ดูเหมือนเสียงใสๆ หวานๆ ของนาจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก คนที่ถูกถามก็ยังคงนอนเหมือนคิดอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

"สนคะ ได้ยินที่นาถามไหมคะ" นาเขย่าแขนสนเบาๆ ทำให้สนรู้สึกตัวและหันมามอง ตอนนี้ร่างกายของทั้งคู่ต่างก็มีเพียงผ้าห่มผืนเดียวคลุมไว้เท่านั้น หลังจากกลับจากงานวันเกิดของต้น นาก็ขอมาพักที่คอนโดของสนเพราะบ้านของเธอค่อนข้างอยู่ไกล ส่วนต้นลาหยุดงานเพิ่มอีกหนึ่งวันจึงยังอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่อยู่ ต้นบอกเขาว่าอยากใส่บาตรแล้วก็ไปทำบุญที่วัดด้วย

"นาว่าไงนะครับ"

นาชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย แต่แล้วก็พยายามที่จะลืมๆ มันไปเพราะยังไม่อยากชวนทะเลาะ "พอดีนาได้บัตรพักรีสอร์ทที่กาญจน์น่ะค่ะ ห้องพักได้สองคน นาก็เลยว่าจะชวนพี่สนไปเที่ยวซักหน่อย ศุกร์เสาร์อาทิยต์นี้ดีไหมคะ พักได้สองคืนแน่ะ เราก็ไปกันเย็นๆ วันศุกร์ก็ได้"

จากสีหน้าที่พยายามยิ้มเมื่อสักครู่นี้ก็กลายเป็นเคร่งเครียดอีกครั้ง "นา...พี่ว่าเราค่อยไปสิ้นปีดีไหม ตอนนี้มันหน้าฝน พี่ว่ามันยังไม่ค่อยน่าเที่ยวเท่าไร"

"แต่มันใช้ได้ถึงแค่สิ้นเดือนนี้นะคะ" นาแย้ง

"แต่..." สนไม่รู้จะหาอะไรมาอ้างดี รู้แต่ว่าเขาไม่อยากไป ทั้งหมดทั้งปวงนี้เป็นเพราะสนไม่รู้จักระมัดระวังเอง ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่ต้องมีชีวิตแบบนี้ เขาไม่ชอบตัวเองในสภาพแบบนี้เลย

"ถ้าสนไม่อยากไป นาไปคนเดียวก็ได้ค่ะ" น้ำเสียงของนาดูจะเริ่มไม่สบอารมณ์มากขึ้น หลายครั้งหลายหนแล้วที่สนทำให้เธอต้องรู้สึกขัดใจอยู่บ่อยๆ แล้วนาก็ถอนหายใจ สะบัดหน้า พลิกตัวไปอีกทาง

สนเงียบและครุ่นคิดอยู่สักพักก็ตัดสินใจบอกไปว่า "ก็ได้นา...ไปวันหยุดนี้เลยละกัน"

"จริงนะคะ" นาหันกลับมายิ้มดีใจ สนพยักหน้าพลางยิ้มบางๆ เขาก็อยากจะยิ้มให้ได้มากกว่านี้ แต่ก็ทำได้เท่านี้แหละ สาเหตุสำคัญที่สนเครียดเป็นเพราะว่าสนเพิ่งนัดกับต้นไว้ว่าจะไปดูอุปกรณ์บางอย่างที่โรงงานแห่งหนึ่งวันเสาร์นี้ เขาคงจะต้องผิดนัดกับต้นอีกแล้ว

-----------------------------------------------

สรุปว่าคนที่พาต้นไปดูของที่โรงงานนั้นก็เป็นปั้นจั่น สนโทรไปกำชับปั้นจั่นว่าให้พาต้นไปให้ได้ ห้ามให้คนอื่นพาไปอย่างเด็ดขาด ถ้าสนรู้ว่าคนอื่นพาไป สนขู่เขาว่าจะเลิกคบเป็นเพื่อน นั่นแหละ...ปั้นจั่นจึงต้องมาแทนทั้งๆ ที่อยากจะให้อีกคนมาใจแทบขาด

หลังจากที่ดูของและซักถามข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ปั้นจั่นก็พาต้นกลับ แล้วก็แวะกินข้าวเที่ยงด้วยกันที่ร้านอาหารข้างถนนแห่งหนึ่ง เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงแถวนั้น

"เฮ้ยต้น...กูถามอะไรมึงอย่างได้ปะ กูสงสัยมานานแล้ว ไม่ได้ทะลึ่งนะเว้ย"

ต้นขมวดคิ้ว ปั้นจั่นสงสัยอะไรในตัวเขาที่มันทะลึ่งๆ ด้วยเหรอ ปกติต้นก็ไม่ค่อยคุยทะลึ่ง ไม่ได้มีบุคลิกไปทางนั้นนี่นา "อะไรวะ"

"มึงนอนกับไอ้สนบ่อยๆ เนี่ย เคย...จุดๆๆ กับมันไหม" ปั้นจั่นทำหน้าทะเล้นไปด้วย

"จุดๆๆ ของมึงคืออะไรวะ" ไม่ใช่ว่าต้นโง่ แต่ต้นไม่ทันคิดต่างหาก

"ก็...ทำกิจกรรมแบบนั้นไง เหมือนที่ผู้ชายผู้หญิงเค้าทำกัน"

"ไอ้บ้า เดี๋ยวเอาตะเกียบจิ้มตาเลย คิดอะไรของมึงวะ ไม่เคยโว้ย" ต้นว่าเพื่อนเสียงดังจนคนอื่นๆ หันมามอง

"จริงเหรอวะ ไม่มีแม้แต่นิดเดียวเลยเหรอวะ" ปั้นจั่นยังไม่อยากเชื่อ สนกับต้นมันก็ดูหุ่นดี เรียกได้ว่าสเป็กเกย์ด้วยกันทั้งคู่ นอนด้วยกันบ่อยๆ แบบนั้นมันจะไม่มีเผลอใจบ้างหรือไง

ต้นส่ายหน้า

"กอดล่ะ โอ๊ยไม่ๆๆๆ พวกมึงสองคนกอดกันบ่อยๆ หรือว่า...จูบล่ะ เคยไหม"

ต้นถึงกับสะดุ้งเลยทีเดียวที่ได้ยินคำนี้ "เอ่อ..." ต้นไม่รู้จะปฏิเสธยังไง เขาเป็นคนที่โกหกคนไม่ค่อยเก่งเสียด้วยสิ

"แสดงว่าเคยล่ะสิ" ปั้นจั่นยิ้มชอบใจ เขาจ้องหน้าต้นจนต้นเขิน

"บ่อยหรือเปล่าวะ"

ต้นส่ายหน้า

"แล้วกี่ครั้งล่ะ"

"มึงจะรู้ไปทำไมวะ" ต้นชักรู้สึกว่าปั้นจั่นชักจะล้ำเส้นมากเกินไป

"เออๆ อายก็ไม่ต้องบอก แต่กูจะบอกมึงให้นะเว้ย ไม่มีผู้ชายที่ไหนหรอกที่เป็นเพื่อนกันแล้วจูบกัน ไอ้สนน่ะมันรักมึงมากกว่าเพื่อน กูกล้าเอาหัวเป็นประกัน ล้านเปอร์เซ็นต์ แต่มันทำปากแข็งหรือไม่มันก็ต้องมีอะไรผิดปกติบางอย่างเท่านั้นแหละ มันถึงยังกั๊กๆ อยู่แบบนี้"

น้ำเสียงและสีหน้ามั่นใจขนาดนั้นของปั้นจั่นทำให้ต้นชักจะเอนเอียงไปตามนั้น "มึงมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอวะปั้นจั่น"

"เออสิวะ ผู้ชายที่ไหนมันจะจูบกันวะ" แล้วปั้นจั่นก็ยื่นข้อเสนอบางอย่างให้ต้น "ถ้ามึงอยากพิสูจน์ มึงก็ต้องลองทำตามแผนของกู"

"แผนอะไรวะ"

"ทำให้ไอ้สนมันคลั่งแล้วก็ยอมพูดความจริงออกมา" ปั้นจั่นให้แนวทาง

"ทำยังไง" ต้นก็ชักอยากรู้เหมือนกัน

"จริงๆ กูก็ว่ามึงทำไปเยอะแล้วนะ เวลามึงอยู่กับพี่แทนมึงรู้ไหมว่าไอ้สนมันแทบบ้า มองตามมึงตาละห้อยเลย แต่มึงจะต้องทำมากกว่านั้นไอ้ต้น"

"ทำไงวะ"

"ก็ลองเป็นแฟนกับพี่แทนจริงๆ ดูสิ"

ต้นถึงกับตาโตด้วยความตกใจ "ไม่เอาเว้ย เกิดพี่เขาชอบกูขึ้นมาจริงๆ ล่ะ"

"แล้วมึงจะทำไงวะต้น มันก็ต้องทำแบบนี้ถึงจะรู้ ไม่งั้นมึงก็ต้องคุยกับพี่เขาให้เขาเข้าใจแล้วให้เขาช่วยมึง"

"แล้วมึงคิดว่ากูจะกล้าไปพูดกับพี่เขาแบบนั้นเหรอ อย่าว่าแต่กูเลย มึงจะกล้าไหมล่ะ"

ปั้นจั่นส่ายหน้าไวๆ "เอางี้ละกัน มึงก็ทำแต่พอดีๆ ก็ได้ เอาแบบให้ไอ้สนมันคลั่งเล่นๆ อย่างเช่น ไปดูหนังกินข้าวด้วยกัน ไปงานอาสาสมัครด้วยกันบ่อยๆ ก็ได้ ไปต่างจังหวัดเลยยิ่งดี ไอ้สนมันจะได้หึง"

"เฮ้ยปั้นจั่น กูกลัวพี่เขาจะชอบกูจริงๆ ว่ะ แค่นี้กูก็รู้สึกว่าพี่เขาเหมือนจะจีบๆ กูอยู่ กูไม่อยากให้เขาต้องมาเสียใจว่ะ มีวิธีอื่นไหมวะ"

"ก็จริงของมึงว่ะ...เดี๋ยวกูขอไปคิดก่อนละกัน" ปั้นจั่นคล้อยตาม ก็จริงอย่างที่ต้นว่านั่นแหละ ทำแบบนี้คนอื่นที่ไม่รู้เรื่องก็จะพลอยเดือดร้อนและเจ็บไปด้วย

"เอ...ต้น หรือว่ามึงจะ...ลองคบกับพี่แทนจริงๆ จังๆ เลยดีไหม กูว่าพี่เขาก็ดูเป็นคนดีนะ มึงกับไอ้สนก็เป็นเพื่อนกันไปตามเดิม ไอ้สนมันก็มีแฟนแล้ว เดี๋ยวมันก็คงจะแต่งงาน คิดไปคิดมากูก็ไม่อยากจะไปพรากเขาจากกันว่ะ นี่ตอนนี้มันก็ไปเที่ยวกันสองต่อสอง ก็คงจะมีอะไรกันไปถึงไหนต่อไหนละ ถ้าเขาไม่รักกันก็คงไม่คบกันเป็นแฟน มึงลองคิดดูละกัน กูก็ชักงงๆ กับพวกมึงสองคนเหมือนกัน" ปั้นจั่นบอกแล้วก็คีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก

จริงๆ ต้นไม่อยากจะนึกถึงด้วยซ้ำว่าความสัมพันธ์กับนาของสนไปไกลถึงไหนแล้ว แต่ไปเที่ยวกันสองต่อสองแบบนี้ก็คงเป็นอย่างที่ปั้นจั่นบอกนั่นแหละ แล้วสนมีแผนที่จะแต่งงานกับนาหรือเปล่านะ แค่คิดต้นก็เจ็บไปทั้งใจแล้ว ถ้าสนแต่งงานกับนาไปจริงๆ ทุกอย่างก็คงจบที่ความเป็นเพื่อนกัน ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ  ต้นก็ควรจะมีทางเลือกให้กับชีวิตบ้าง หรือว่าเขาควรจะต้องทำอย่างที่ปั้นจั่นแนะนำเสียแล้ว

----------------------------------------------------------------------------

อีกไม่กี่เดือนต่อมาต้นก็ขึ้นมาเชียงรายกับทดแทนอีก คนที่ทุรนทุรายไม่อยากให้ต้นมาก็คือสน เพราะเขากลัวว่าต้นจะไม่ปลอดภัยถ้าหากไปกับทดแทนสองต่อสองแบบนี้ แต่พอหาเหตุผลมาห้ามไม่ได้สนก็เลยต้องยอมให้ต้นมา จริงๆ เขาก็ว่าจะตามมาด้วยแต่ก็ติดธุระกับนาก็เลยมาด้วยไม่ได้

การมาครั้งนี้ก็เป็นการมาช่วยทำฝายน้ำล้นเช่นเคย แต่เป็นคนละที่กัน ในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับงานอาสาสมัคร การมาด้วยกันครั้งนี้ของทดแทนก็มีวัตถุประสงค์อะไรบางอย่างที่เขาคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เขาควรจะเปิดเผยมันออกมา

หลังจากทำงานเสร็จวันแรก ทดแทนก็พาต้นเข้ามาหาอะไรกินด้วยกันในเมืองสองคน มาคราวนี้ทดแทนขอยืมรถเก๋งของเพื่อนที่รู้จักมาไว้ใช้ด้วย หลังจากเดินซื้อของตามตลาดสักพักก็มานั่งกินข้าวด้วยกันที่ร้านอาหารเหนือแห่งหนึ่งริมแม่น้ำกก ก็เป็นเพียงการกินข้าวคุยกันธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษกว่านั้น จนกระทั่งตอนกลับ พอเข้ามานั่งในรถด้วยกันแล้วทดแทนก็เริ่่มทันที

"ต้น..." ทดแทนเรียกเบาๆ แล้วก็เอื้อมมือไปจับมือต้นไว้ แม้ว่าต้นจะตกใจแต่ก็ไม่กล้าเสียมารยาทดึงมือออก

"ต้นจะว่าอะไรถ้าพี่จะบอกว่า...พี่ชอบต้น อยากจะขอเป็นแฟนกับต้น"

ต้นเคยเจอแต่มึนๆ งงๆ เบลอๆ แบบสน พอเจอจังๆ แบบนี้ต้นก็แทบจะไปไม่เป็นเลยทีเดียว

"เอ่อ..." ต้นหันไปมองทดแทนด้วยสีหน้าประหม่า แม้ว่าจะรู้จักกับทดแทนมาเกือบปีแล้ว เห็นความเป็นสุภาพบุรุษของเขา เห็นความดูแลเอาใจใส่ของเขา ถามว่าชอบไหมก็คงคงชอบ แต่ถ้าให้ถึงขั้นเป็นแฟนกัน...ต้นก็ต้องคิดหนัก

"พี่ไม่รู้ว่าต้นมีใครอยู่ในใจหรือเปล่านะ แต่พี่...อยากบอกให้ต้นรู้ว่าพี่คิดยังไงกับต้น ต้นยังไม่ต้องตัดสินใจตอนนี้ก็ได้ พี่รอได้" จะว่าไปก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่ทดแทนจะรู้ว่าต้นมีใครในใจหรือไม่ ก็เห็นชัดเจนเสียขนาดนั้น

"พี่อยากจะบอกต้นว่า...คนเราบางทีก็ต้องมีทางเลือกอื่นบ้าง ถ้าเรามีแค่ทางเลือกเดียวแล้วเกิดมันไม่ใช่ขึ้นมา ชีวิตเราจะแย่นะต้น พี่อยากให้ต้นหาทางเลือกอื่นไว้บ้าง โดยเฉพาะในเรื่องความรัก พี่รู้ว่าต้น...มีทางเลือกหลักของต้นอยู่แล้ว พี่ยินดีที่จะเป็นทางเลือกรอง ถ้าวันไหนที่ต้นรู้ว่า...ต้นไปทางเลือกหลักไม่ได้ พี่ก็อยากให้ต้นรู้ว่า...พี่จะเป็นอีกทางเลือกให้ต้น ต้นอยากมาต้นก็มาได้เสมอ"

ต้นค่อยๆ ยิ้มให้ทดแทน ที่ต้นชอบทดแทนก็เพราะความใจกว้างและมีน้ำใจของเขานี่แหละ โดยมากคนที่ชอบทำงานอาสาสมัครก็มักจะมีจิตใจดีแบบนี้ แต่ต้นขอเวลาตรวจสอบอะไรบางอย่างให้ต้นแน่ใจก่อนเท่านั้น ต้นแค่อยากจะรู้ว่าทางเลือกหลักของต้นยังพอมีทางเป็นไปได้ไหม ถ้าไม่ได้แล้ว ก็คงจะต้องถึงเวลาที่ต้นจะเปิดใจให้ทางเลือกอื่น การเปลี่ยนความชอบมาเป็นความรักก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก ไม่รู้สิ ต้นคิดว่ามันไม่น่าจะยาก ถ้าใจชอบขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะชอบอัธยาศัยใจคอหรือชอบอะไรก็แล้วแต่ มันก็น่าจะเป็นสะพานเชื่อมไปสู่ความรักได้

"ขอบคุณพี่มากนะครับ เอาเป็นว่า...ขอเวลาให้ผมอีกหน่อยละกัน ภายในเดือนสองเดือนนี้แหละครับ"

ทดแทนยิ้มดีใจ "พี่จะรอนะ...หวังว่า...ต้นคงไม่ทำให้พี่รอเก้อนะ" ทดแทนกุมมือต้นแน่นขึ้นแล้วก็พูดต่อว่า "รู้ไหมว่าต้น...คือคนในแบบที่พี่ตามหามานานแล้ว พี่รักใครมาก็หลายคน เจ็บไปก็เยอะ จนรู้สึกไม่อยากจะมีความรัก แต่พอได้เจอต้น ได้เจอคนที่คิดคล้ายกัน ชอบอะไรเหมือนๆ กัน คนที่แสนดี คนที่ช่างอดช่างทน คนที่น่าสงสาร" ถึงตรงนี้ทดแทนขำนิดๆ ต้นคงไม่รู้หรอกว่าเขาแอบสงสารต้นอยู่ "และอะไรอีกหลายๆ อย่างที่ต้นเป็นอยู่ ต้นทำให้พี่อยากจะลองรักอีกสักครั้ง พี่จะรอนะต้น" ทดแทนย้ำว่าเขาจะรออีกครั้ง

โอกาสที่เขาจะสมหวังก็ยังพอมีอยู่ เมื่อสนมีแฟนไปแล้ว ความหวังของต้นก็มีแต่ริบหรี่ลงไป ยกเว้นว่าต้นจะรักสนต่อไปโดยไม่สนใจว่าสนจะเป็นแบบไหน แต่ถึงอย่างนั้น ความรักเป็นเรื่องพูดยาก ไม่เข้าใครออกใคร บางครั้งก็อาจจะเกิดอะไรที่ไม่คาดฝันขึ้นได้

---------------------------------------------------------

พอกลับมาจากเชียงราย ต้นก็ได้รู้ข่าวบางอย่างที่คงทำให้ต้นตัดสินใจง่ายขึ้น เมื่อสนโทรมาหาหลังจากที่เขาเพิ่งกลับถึงบ้านได้ไม่ถึงชั่วโมงดี

"ต้น...ขอโทษนะที่เราไม่ได้มาบอกด้วยตัวเอง เรามีเรื่องสำคัญที่อยากจะบอกนาย...นายทำใจดีๆ ไว้นะ"

แค่ได้ยินที่สนเกริ่นนำ ต้นก็แทบจะไม่อยากฟังแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีอะไรให้เขาต้องประหลาดใจอีก แต่ต้นก็สังหรณ์ใจว่าคงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะดีกับต้นนัก

"มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอสน" ต้นถามด้วยน้ำเสียงกล้าๆ กลัวๆ

"ต้น...เรา...เดือนหน้า..." สนสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เพราะรู้ว่าสิ่งที่จะพูดต่อไปนี้คงทำให้ต้นเจ็บและเสียใจมากทีเดียว

"เราจะหมั้นกับนาเดือนหน้า" เพราะว่าต้องบอกเรื่องนี้ สนจึงไม่กล้ามาบอกต้นด้วยตัวเอง เขากลัวว่าเขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อเห็นต้นต้องเสียใจ

โทรศัพท์ต้นแทบจะหลุดร่วงลงจากมือ จะว่าไปแล้วต้นก็แทบจะล้มลงไปทั้งที่ยืนอยู่ด้วยซ้ำ เหมือนมีใครเอาค้อนมาทุบหัวเขาอย่างแรงจนมึนงงไปหมด เรื่องเจ็บคงไม่ต้องพูดถึง มันแล่นพล่านไปทั่วทั้งกายและใจของเขาแล้ว แต่ยังหรอก ต้นจะยังอ่อนแอตอนนี้ไม่ได้

"ยินดีด้วยนะสน" ต้นกัดฟันพูดออกไปอย่างยากเย็น เสียงเบาหวิวนั้นคงจะปิดบังได้ยากว่าคนพูดกำลังรู้สึกอะไรอยู่

"ต้น...เราขอโทษ" สนเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน เขาได้แต่กล้ำกลืนฝืนใจและปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างไม่มีทางเลือก เขานึกว่าเขาจะจัดการมันได้ แต่มันก็กลับจัดการได้ยากขึ้นทุกทีๆ เชือกที่เขาหามามัดตัวเองไว้นั้นไม่ได้แก้ง่ายอย่างที่เขาคิดในตอนแรกเสียแล้ว ยิ่งดิ้นมันก็ยิ่งแน่น

"ขอโทษทำไม มันเป็นสิทธิ์ของนายนะสน นายมีสิทธิ์ที่จะมีแฟน หมั้น แต่งงาน มีลูก มีครอบครัว ใครๆ เขาก็ทำแบบนี้ นายไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย จะขอโทษเราทำไม"

"แต่ว่า..."

"นายโทรมาก็ดีแล้ว เราก็มีเรื่องจะบอกนายอยู่เหมือนกัน" ต้นกำลังจะไม่ไหวแล้ว พอบอกเสร็จแล้วต้นก็คงจะปล่อยให้ความรู้สึกข้างในทั้งหมดได้ปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่

"อะไรเหรอต้น" สนถามด้วยความหวั่นใจ รู้สึกสังหรณ์ใจถึงเรื่องที่อาจจะไม่เป็นผลดีสำหรับเขาเช่นกัน

เอาล่ะ...ต้นตัดสินใจแล้ว ความรักที่ต้นหวงแหนมาตลอดสิบกว่าปีคงถึงคราวที่ต้นจะต้องทิ้งมันไปแล้วสินะ ต้นคงจะต้องทิ้งมันแล้วเพราะมันทำให้ต้นเจ็บมากเหลือเกิน ยามดีมันก็ทำให้ต้นมีความสุขมาก แต่ยามร้าย ต้นก็เจ็บสาหัสไม่แพ้กัน เมื่อคิดช่างใจดูแล้วว่าไม่เห็นความเป็นไปได้ ต้นก็คงต้องคิดใหม่หลังจากที่ลังเลมาหลายครั้ง เราคงไม่มีบุญวาสนาที่จะได้เป็นอะไรมากกว่านี้ ก็เป็นแค่เพื่อนกันแล้วกันนะสน...

"พอดีเรา...กับพี่ทดแทน...ตกลงจะเป็นแฟนกันแล้วนะ"

"อะไรนะต้น!!!" สนถามด้วยเสียงดังอย่างคนตกตะลึงสุดขีด

แต่ต้นไม่รับรู้อะไรแล้ว เขาวางโทรศัพท์ลงแล้วก็วิ่งเข้าไปในห้องนอน ร้องไห้แล้วร้องไห้อีก ความรักที่เขาแสนจะหวงแหนกำลังหลุดลอยออกไปแล้ว ต้นรักมันเหลือเกิน แต่มันก็โหดร้ายทารุณกับต้นอย่างไม่ปรานีปราศรัย ลาก่อนนะความรัก...

ความรักของเรากับนาย...

ต้นกับสน

TO BE CONTINUED
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2012 08:58:08 โดย sarawatta »

atblueann

  • บุคคลทั่วไป
เราว่าสนไม่เหมาะกับต้นหลอก เราว่าสนเห็นแก่ตัวเกินไป มากเกินจะได้ความรักของต้นมาครองน่ะ
ไม่ชอบนาเลยจริงๆเถอะ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
กว่าจะฉลาดรักตัวเองขึ้นมาได้ ล่วงเลยมาถึงตอน 26 กันเลยทีเดียว

คนนึงยอมเป็นของตาย คนนึงเห็นแก่ตัว ทิ้งความรักแบบนี้ไปก็ดี

เพราะอย่างไรคนเห็นแก่ตัวก็มีอีกคนข้าง ๆ กายอยู่แล้วจะดันทุรังความรู้สึกไปทำไม

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
แยกๆกันไปแบบนี้ก็ดี ตัดสินใจกันแบบนี้ก็เอาให้ขาดกันทั้งคู่

อย่าได้หันหลังกลับมาแล้วกัน เฮ้ออออออออออออ

ออฟไลน์ tra_daday

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอนะครับ ชอบมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
ดีใจที่สุดเลยที่บอร์ดไม่เป็นไรแล้ว ตกใจหมดเลยครับนึกว่าจะโดนดีไปแล้ว
เพิ่งรู้ว่าขาดไปแล้วมันเป็นอย่างนี้เอง


---------------------------------------------------

ตอนที่ 27: ที่รักของคนอื่น



ในนาทีนี้ สนไม่ต่างจากคนที่ทำอะไรไม่ได้มากกว่าการยอมรับสภาพ จิตใจเขามันคงดิ้นรนมามากจนวันนี้มันเหนื่อยล้าและกำลังจะหมดแรง เขาจึงได้แต่มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าโดยไม่พูดอะไร พยายามที่จะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่ายนักก็ตาม เขารู้ดีว่าเรื่องทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นนี้ เขาก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้มันเป็นไปแบบนั้น

แม้ว่ามันจะเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องเสียคนที่เขารักเหมือนแก้วตาดวงใจไปให้คนอื่น สนก็หมดแรงที่จะยื้อแย่งสิ่งนั้นคืนมา ต้นคงได้เจอคนที่ดีกว่าเขาแล้ว ผู้ชายคนนั้นดูแลต้นได้เป็นอย่างดี สนคงไม่ต้องห่วงกังวลอะไร สิ่งที่สนควรจะห่วงมากกว่าตอนนี้คือชีวิตของเขาเองต่างหาก เพราะเขากำลังติดกับและเริ่มจะหมดหนทางแก้

สนคอยชำเลืองมองดูเจ้าของแก้มใสๆ ที่กำลังนั่งกินข้าวเช้าพร้อมกับอีกคนที่คอยดูแลอยู่ข้างๆ ไม่ห่าง คนที่ถามว่าอยากได้อะไรก็ดูเหมือนจะยินดีทำให้ทุกอย่างทั้งที่ขอและไม่ได้ขอ แม้ว่าจะนั่งอยู่คนละโต๊ะกันแต่ก็อยู่ในระยะที่พอมองเห็นได้ว่าเขาทำอะไรกันบ้าง บางครั้งที่ต้นหันมาสบตา สนก็ได้แต่ยิ้มเศร้าๆ ตอบกลับไป เขาได้แต่ถามตัวเองในใจว่าต้นจะรู้ไหมว่าเขากำลังรู้สึกอะไรอยู่ จะรู้ไหมว่าสนเสียใจแค่ไหน

สนคิดถึงตอนเด็กๆ ที่ไม่ว่าต้นจะอยู่ที่ไหน เขาก็จะอยู่ใกล้ๆ เสมอเพื่อคอยดูแล เวลาทำการบ้านจำพวกงานประดิษฐ์ ต้นก็จะวิ่งมาหาแล้วขอให้เขาช่วยทำ ทุกครั้งต้นจะนั่งดูและคอยเป็นกำลังใจให้ เวลาต้นไม่สบาย สนก็จะหยุดเรียนไปด้วยแล้วก็คอยมาช่วยดูแลต้นที่บ้าน พ่อกับแม่ต้นก็ไว้ใจ ไม่เคยต้องห่วงต้นเลยถ้ามีสนคอยดูแล เขาจึงเป็นคนที่ครอบครัวต้นรักมากจนเหมือนลูกชายอีกคน เวลาอยู่โรงเรียนใครจะมาแกล้งหรือรังแกต้นให้เขารู้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด สนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้ดีไปทุกอย่าง แต่สนก็รู้ว่าเขารักต้นมากแค่ไหน เขายังจำคำสัญญานั้นที่เขาให้กับพ่อไว้ว่าจะดูแลต้นให้ดีที่สุดได้เสมอ

แต่วันนี้เขาคงไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นแล้ว ทดแทนดูจะทำสิ่งนั้นแทนเขาได้เป็นอย่างดี หรืออาจจะดีกว่าด้วยซ้ำเพราะทดแทนดูเป็นผู้ใหญ่และมีความสุขุมรอบคอบมากกว่า ดูอบอุ่นมากกว่า สนอดคิดไม่ได้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรกัน ในเมื่อเขาจะไม่ได้มีโอกาสดูแลต้นอย่างที่วาดหวังไว้แล้ว

แต่สนก็รู้ว่ามันไม่ง่ายหรอกที่ต้นจะรักคนอื่น เขารู้ว่าต้นคงต้องพยายามอย่างมากที่จะเปิดใจ ก่อนหน้านี้สนคอยหวงและกันท่าต้นมาตลอด แต่ด้วยปัญหาที่สนเริ่มแก้ไม่ตกและความหวังที่เริ่มริบหรี่ลงไป วันนี้สนจึงควรต้องหยุดและปล่อยต้นให้เป็นอิสระ ให้ต้นได้เจอคนที่ดีกว่าเขา เพราะอิสระของเขาเองก็เริ่มเหลือน้อยลงแล้ว ถึงจะรักแค่ไหนเขาก็ให้สิ่งนั้นกับต้นไม่ได้

ท่าทางที่เงียบและซึมเศร้าของสนทำให้นิกและปั้นจั่นซึ่งเป็นผู้ก่อการในครั้งนี้ดูจะผิดหวังไม่น้อย พวกเขาหวังจะได้เห็นอาการทุรนทุรายของสน อยากเห็นสนอกแตกตายแดดิ้นไปต่อหน้าต่อตาด้วยความหึงหวง แต่ทุกอย่างก็ผิดคาดไปหมด สนไม่แสดงอาการเหล่านั้นให้เห็น แถมยังมีท่าทางซึมเศร้าและเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด

"มันเป็นอะไรของมันวะ" นิกถามพลางคอยชำเลืองมองดูสนที่นั่งอยู่กับนาอยู่ไม่ไกลนัก ถัดไปจากนั้นอีกไม่กี่โต๊ะก็จะเห็นต้นกับทดแทนนั่งกินข้าวด้วยกันอยู่

"ไม่รู้ว่ะ แต่มันซึมไปเลย สงสัยมันคงเสียใจมั้งที่ต้นไปคบกับพี่ทดแทนแล้ว" ปั้นจั่นตอบด้วยน้ำเสียงธรรมดา แต่ข้างในใจก็เริ่มรู้สึกกังวลและเป็นห่วงสน ยิ่งเห็นสนกับแฟนนั่งเงียบ ไม่พูดไม่จากันทั้งที่เพิ่งหมั้นกันได้ไม่กี่วัน ปั้นจั่นก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นว่าสนคงจะมีปัญหาอะไรบางอย่าง

"อืม...ก็มันรักของมันขนาดนั้น มันก็คงเสียใจแหละ เฮ้ยปั้นจั่น...มึงว่าเราทำเกินไปหรือเปล่าวะ ไปบังคับให้มันมาเที่ยวด้วย แล้วให้มันมาเห็นต้นมีแฟนใหม่แบบนี้"

"ไม่หรอกมั้ง ยังไงมันก็ต้องรู้อยู่แล้ว ก่อนจะมามันก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ"

"ก็น่าจะรู้นะ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะ ไอ้สนมันทำตัวของมันเองนี่นา" นิกว่าพลางส่ายหัวไปด้วยเหมือนกับเสียดายแทนสน

"กูเคยคิดว่ามันสับสน...แต่กูว่ามันไม่ได้สับสนหรอกว่ะนิก กูว่ามันน่าจะรู้ใจตัวเองนานแล้วล่ะ มันก็แสดงออกชัดเจนว่ามันคิดอะไรกับต้น แต่ไม่รู้ว่ามันติดอะไรของมันมันถึงไม่ยอมบอกต้นเสียที กูรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นะเว้ย มึงดูมันกับแฟนดิ นั่งเงียบเป็นเป่าสาก ไม่รู้ว่ารักกันจริงหรือเปล่า"

"กูว่ามันก็น่าคิดนะ ผู้หญิงที่ชื่อนาเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ อยู่ดีๆ ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยก็โผล่มา มันจะเป็นไปได้ไหมวะที่ไอ้สนมันอาจจะพลาดไปมีอะไรกับเขา แล้วผู้หญิงก็เลยจับไม่ปล่อย จริงๆ กูก็สังเกตมานานแล้วล่ะว่าสนมันไม่ได้ดูรักผู้หญิงคนนี้เลย"

"ลองถามมันดูไหม" ปั้นจั่นเสนอ

"ก็ดีเหมือนกัน แต่ไอ้สนนี่มันปากแข็ง มันอาจจะไม่ยอมเล่าก็ได้"

"ลองดูก่อนสิวะ อย่าเพิ่งคิดไปเอง" ปั้นจั่นทำเสียงตำหนิเล็กน้อย

พอกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว ทุกคนก็มานั่งรอรถอยู่ที่ตรงล็อบบี้ของรีสอร์ท ไม่นานนักรถตู้ก็มาถึง ช่วงนั้นทดแทนคงไปเข้าห้องน้ำอยู่ ต้นจึงยืนรอและปล่อยให้คนอื่นๆ ไปขึ้นรถก่อน สนหันมามองและสบตากับต้น เขากับต้นกลายเป็นคนแปลกหน้ากันไปแล้วหรือไรจึงไม่พูดไม่จากันสักคำ เมื่อต่างคนต่างเงียบ สนจึงพานาเดินไปขึ้นรถ นี่คงเป็นกรรมตามสนองที่เขาเคยทำให้ต้นต้องเจ็บแล้ววันนี้เขาก็ต้องมาเจ็บเสียเอง 

ใช้เวลาไม่นานนัก รถตู้ที่พวกเขาเช่ามาก็พามาถึงจุดหมายแรกที่สวนสนประดิพัทธ์ พอมาถึงแล้วคนอื่นๆ ก็ไปเช่าจักรยานแล้วก็ปั่นชมชายหาดกัน มีแต่สนกับนาเท่านั้นที่ไม่ได้ไป แต่เดินแยกไปตรงชายหาดกันสองคน ต้นได้แต่มองตามอย่างเป็นห่วงเพราะเห็นสนมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ตั้งแต่เช้าต้นก็สังเกตว่าสนกับนาแทบไม่คุยกันเลย ตอนกินข้าวก็เห็นสนนั่งเงียบไม่พูดไม่จา

สาเหตุที่สนต้องแยกตัวออกมานั้นเพราะนาเริ่มแสดงอาการไม่พอใจและขู่ว่าจะกลับบ้านตอนอยู่บนรถ เขาจึงต้องแยกออกมาคุยกันต่างหากเพราะไม่อยากทะเลาะกันให้คนอื่นเห็น

"เป็นอะไรของพี่คะ ไม่พูดไม่จา นาทำอะไรให้ไม่พอใจขนาดนั้นเหรอคะ" นาเริ่มก่อนเมื่อเห็นว่าไกลจากสายตาของเพื่อนๆ สนพอสมควรแล้ว

"ไม่เกี่ยวกับนาหรอก" สนตอบโดยไม่หันมามองหน้า

"แล้วไงคะ ไม่เกี่ยวกับนา แต่นาเป็นแฟนพี่สนนะคะ ทำเฉยชาแบบนี้จะให้นารู้สึกยังไง อีกไม่นานเราก็จะแต่งงานกันแล้ว แต่ดูพี่สนสิคะ ทำหน้ายังกะคนเบื่อโลก มีปัญหาอะไรหนักอกหนักใจนักหนาเหรอคะ" นาเริ่มเสียงดัง

"แล้วนาจะให้พี่ทำหน้ายังไง พี่ทำให้ขนาดนี้แล้วยังไม่พอใจอีกเหรอ จะให้ต้องทำแค่ไหน นาก็รู้อยู่แล้วว่าความสัมพันธ์ของเรามันเป็นมายังไง" สนเริ่มเสียงดังบ้าง เขาเริ่มจะหมดความอดทนมากขึ้นทุกทีๆ

"รู้ค่ะ แล้วไงคะ จะไม่รับผิดชอบเหรอ มันเป็นความผิดของนาคนเดียวเหรอคะ เพราะพี่เองไม่ใช่เหรอที่ทำให้มันเกิดขึ้น ไม่ใช่ความต้องการของนาคนเดียวซะหน่อย  นาเป็นผู้หญิง นาเสียหายนะคะ หรือจะให้นาไปบอกพ่อกับแม่ของพี่สนว่าความสัมพันธ์ของเรามันเริ่มมาจากอะไร"

สนถอนหายใจอย่างหนักใจ นั่นคือเหตุผลเดียวที่ทำให้สนต้องยอมปิดปากเงียบและปล่อยให้เรื่องมันดำเนินมาจนถึงขั้นนี้ สนไม่อยากให้พ่อกับแม่รู้ความผิดพลาดที่เขาได้ทำขึ้น เขาไม่อยากให้พ่อกับแม่เสียใจและผิดหวังในตัวเขา และไม่อยากให้ต้นกับครอบครัวรู้เรื่องนี้ด้วยเหตุผลเดียวกัน เขารู้สึกละอายใจที่ทุกคนต่างก็หวังดีและทุ่มเทเพื่อให้เขาได้เรียนจบมีงานดีๆ ทำ แต่เรื่องแบบนี้มันก็เกิดขึ้น ถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นเสียก่อน เขากับต้นก็คงจะไม่เป็นแบบนี้

"นาจะกลับบ้านค่ะ ไม่ท่งไม่เที่ยวมันละ พี่สนอยากอยู่ก็ตามใจ" นากระแทกเสียงพลางสะบัดหน้าเดินหนีไป เธอเองก็เริ่มเบื่อหน่ายกับอาการเงียบและเฉยชาของสน

แต่สนก็ไม่ได้เดินตามไป เขารู้สึกเหนื่อยล้าจนไม่อยากทำอะไร สนนั่งชันเข่าลงข้างๆ ต้นสนต้นหนึ่งราวกับคนที่หมดอาลัยตายอยากในชีวิต เขาเหนื่อยกับชีวิตตอนนี้เหลือเกิน เหนื่อยที่จะดิ้นรนแก้ปัญหาที่ไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิดไว้ จึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับผลจากความผิดพลาดที่มันเกิดขึ้น ความผิดพลาดที่ทำให้เขาต้องสูญเสียคนที่เขารักให้คนอื่น ความผิดพลาดที่ทำให้เขาต้องจำทนฝืนใจรับผิดชอบ แต่ทั้งหมดนี้ มันก็เกิดขึ้นเพราะตัวเขาเอง เพราะความคิดฝ่ายต่ำเพียงชั่ววูบนั้นที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปได้มากถึงเพียงนี้

-----------------------------------------------------------------------

"ต้นว่าสนเขาดูเงียบๆ ไปไหมวันนี้" ทดแทนถามขึ้นขณะที่นั่งกินไอศครีมกับต้นอยู่ตรงริมทางเลียบชายหาดด้วยกัน ต้นเห็นไอศครีมโบราณผ่านมาพอดีก็เลยชวนทดแทนหยุดซื้อกิน

"ครับ" ต้นตอบสั้นๆ และพยายามยิ้มเพื่อไม่ให้ทดแทนรู้สึกไม่สบายใจ ไม่อยากให้รู้ว่าต้นรู้สึกหวั่นไหวมากแค่ไหน ต้นเป็นห่วงสนเสมอ เพราะเขาสองคนคอยดูแลกันมาเกือบทั้งชีวิต เห็นสนเป็นแบบนั้นแล้วก็คงเป็นไปไม่ได้ที่ต้นจะไม่รู้สึกอะไรเลย ที่สำคัญ ต้นก็ไม่ได้เป็นห่วงสนในฐานะเพื่อนเสียด้วยสิ

"สงสัยจะงอนกับแฟนหรือเปล่านะ" ทดแทนยังไม่วายสงสัย

"ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ" ต้นยิ้มเศร้าแล้วก็หันไปมองทะเลเพื่อซ่อนความรู้สึกบางอย่าง แต่ปิดอย่างไรก็คงไม่มิด ทดแทนไม่ใช่เด็กๆ แล้วเขาย่อมรู้ว่าต้นกำลังคิดอะไรอยู่

ทดแทนไม่ได้ถามอะไรต่อ ถึงตอนนี้ต้นจะตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้ว แต่ทดแทนก็รู้ว่าต้นคงไม่สามารถลืมสนได้ง่ายๆ เขาก็ต้องให้เวลาต้นและไม่อยากจะไปกดดันอะไรต้นมากเกินไป

กินไอศครีมหมดแล้วต้นกับทดแทนก็ขี่จักรยานย้อนกลับมาทางเดิมซึ่งเป็นจุดนัดพบก่อนที่จะไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน พอเอาจักรยานไปคืนแล้วก็มานั่งรอปั้นจั่น นิก สนกับนาตรงขอบกำแพงที่กั้นระหว่างถนนกับชายหาด ไม่นานนักนิกกับปั้นจั่นก็ตามมาติดๆ เหลือแต่สนกับนาเท่านั้น

"สนกับแฟนมันยังไม่กลับมาอีกเหรอ" ปั้นจั่นถามขึ้นพลางมองหาสองคนที่หายไปจากกลุ่ม

"เดี๋ยวเราไปตามเอง" ต้นอาสา แล้วก็รีบเดินออกไป ทดแทนไม่ได้ตามไปด้วยเพราะเขาคิดว่าต้นคงไม่อยากให้ตามไป แต่สีหน้าของเขาก็เริ่มแสดงความกังวลขึ้นมาบ้าง

ต้นเดินไปตามสนตรงที่เขาเห็นสนกับนาเดินลงมาด้วยกัน เดินหาอยู่สักพักก็เห็นสนนั่งอยู่คนเดียวใต้ต้นสนต้นหนึ่ง ต้นยืนนิ่งกับสิ่งที่เขาได้เห็นตรงหน้า ตั้งแต่วันนั้นต้นก็ไม่ได้คุยอะไรกับสนเลย ต้นเริ่มฉุกคิดสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของสนหรือเปล่าในช่วงที่ผ่านมา ต้นเอาแต่คอยหลบหน้าหลบตาสนและมัวแต่น้อยอกน้อยใจจนลืมที่จะถามไถ่ชีวิตความเป็นอยู่ของเพื่อน คิดไปแล้วต้นก็รู้สึกผิดเหมือนกัน สนเป็นอะไรนะ...ทำไมถึงได้ดูเศร้าแบบนั้นทั้งๆ ที่เพิ่งจะหมั้นกับแฟนมาหยกๆ อีกไม่นานก็จะแต่งงานกันแล้ว มีอะไรหรือเปล่าที่ต้นไม่รู้

ต้นเดินแกมวิ่งเข้าไปหาสน เขาร้องเรียกเมื่อคิดว่าอยู่ในระยะที่สนพอจะได้ยิน "สน...ไปกันเถอะ เขาจะไปกินข้าวกันแล้ว"

สนหันมามองตามเสียงเรียก ต้นเห็นสีหน้าของสนแล้วก็ยิ่งตกใจ เมื่อเห็นใกล้ๆ จึงได้เห็นสีหน้าของสนที่ดูเศร้าหมองกว่าที่ต้นเห็นห่างๆ มากมายนัก

"นาล่ะสน" ต้นถามพลางหันไปมองหา

"เขากลับไปแล้ว" สนบอกเสียงเบาแล้วก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนพร้อมกับปัดเศษทรายตามกางเกงออก

ในยามนี้สนต้องการกำลังใจจากใครสักคน คนที่จะให้สิ่งนั้นกับเขาได้ดีที่สุดก็คงเป็นคนที่เพิ่งมาถึงนี้เท่านั้น เขาอยากจะกอดต้นเหลือเกินแต่สนก็ทำไม่ได้เพราะเขารู้ว่าเขาไม่ควรทำแบบนั้นกับต้นอีก เขาไม่ควรจะให้อ้อมกอดหรือคำว่ารักจากเขาเป็นสิ่งที่กักขังต้นเอาไว้ เพราะเขาก็คงจะไม่มีความหวังใดๆ ให้ต้นอีกแล้ว สนทำได้เพียงทำท่ายกมือขึ้นแล้วก็ปล่อยลงข้างๆ ตัว

"กลับไปไหน" ต้นสงสัย

"เราทะเลาะกับเขานิดหน่อย เขาก็เลย...กลับบ้านไปแล้ว" สนบอกพลางหันหน้าไปทางอื่น เขาทำใจได้ยากเหลือเกินในเวลานี้ ไม่ใช่เพราะว่าเพิ่งทะเลาะกับแฟน แต่เป็นเพราะเขาไม่สามารถที่จะทำอะไรอย่างที่เขาอยากทำกับคนที่เขารักได้อีกแล้วต่างหาก ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้กันแค่นี้

"จริงเหรอ..." ใจจริงต้นก็อยากจะถามสนว่าทำไมไม่ตามนาไปแต่ก็ไม่กล้าถาม แม้ว่าก่อนหน้านี้ต้นจะเคยเสียใจมากแค่ไหนที่ได้รู้ว่าสนกำลังจะหมั้นกับนา แม้ว่าความรู้สึกเสียใจจะยังมีอยู่ แต่พอมาเห็นสนในตอนนี้แล้วต้นก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าตัวเองรู้สึกยังไง

สนดูเงียบและซึมเศร้าไปมาก มากจนต้นอดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าเป็นเมื่อก่อน ต้นเห็นสนซึมๆ เมื่อไหร่เขาก็จะต้องคอยให้กำลังใจ เห็นสีหน้าแบบนี้ต้นก็พอรู้ว่าสนกำลังต้องการกำลังใจ แต่ทำไมตอนนี้ต้นถึงได้แต่ยืนนิ่งและไม่ทำอะไรเลย ทั้งๆ ที่ใจก็อยากจะทำอย่างนั้น

"เราว่าเรากลับไปหาเพื่อนๆ กันก่อนดีไหม เขารออยู่"

สนหันมาพยักหน้า ต้นออกเดินนำไปก่อนแล้วสนก็ค่อยๆ เดินตามมา เดินมาได้สักพักสนก็พูดขึ้นมาว่า

"ต้น...เราดีใจด้วยนะ"

ต้นหยุดเดินแล้วหันมามองสน เขารู้ว่าสนหมายถึงอะไร ต้นก็คิดว่าเขาควรจะดีใจ แต่พอมาถึงตอนนี้ต้นก็ไม่รู้ว่าเขาดีใจหรือเปล่า

"ต่อไปนี้ เราก็คงไม่ต้องห่วงนาย พี่แทนเขาดูแลต้นดีนะ" สนรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ แต่ก็แข็งใจพูดต่อว่า "พี่เขาดูเป็นผู้ใหญ่ คงจะดูแลนายได้ดีมากกว่า..." สนหยุดเพราะรู้สึกเจ็บจนไม่อยากจะพูดส่วนที่เหลือ 

"มากกว่าเรา" สนพูดส่วนนั้นด้วยเสียงที่เบาหวิวราวกับคนจะขาดใจ

ต้นยืนนิ่งราวต้องคำสาป การที่เขามาคบกับพี่ทดแทนคงจะปิดโอกาสไม่ให้สนได้มาดูแลเอาใจใส่เขาเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่มันก็เป็นสิ่งที่สนทำมาตลอด เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดหายไปไม่ได้ ใครๆ ก็อาจจะคิดว่ามีแต่ต้นเท่านั้นที่คอยดูแลเป็นห่วงเป็นใยสน แต่ในอีกด้านหนึ่ง ต้นก็รู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาสนก็คอยดูแลเขาเป็นอย่างดี ก็อย่างที่สนเคยบอกไว้ "ชีวิตของเราก็ให้นายได้"

ในแต่ละวันที่ใช้ชีวิตด้วยกันมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นหลายอย่าง ทำไมต้นถึงลืมสิ่งเหล่านั้นไปเพียงเพราะเขาเสียใจที่สนมีแฟน ลืมคิดถึงสิ่งดีๆ หลายอย่างที่เขากับสนทำร่วมกันมา ลืมคิดถึงสิ่งดีๆ ที่สนเคยทำให้ ความเสียใจเพียงอย่างเดียวมีค่ามากกว่าความดีทั้งหมดที่ทำมาเลยหรือ

ต้นอยากจะร้องไห้ อยากจะบอกสนเหลือเกินว่า...ไม่มีใครดูแลเราได้ดีเท่านายอีกแล้ว ไม่มีอ้อมแขนของใครที่จะอบอุ่นเท่ากับอ้อมแขนของนาย ไม่มีเลยจริงๆ...

-------------------------------------------------------------

อาการซีมเศร้าของสนดูจะทำให้การมาเที่ยวครั้งนี้ขาดความสนุกไปมากทีเดียว เพราะไม่ว่าจะทำอะไรสนก็ดูเงียบๆ เบื่อๆ ทำให้คนอื่นๆ ก็พลอยหมดสนุกและเครียดไปด้วยจนต้องรีบหาที่กินข้าวเย็นแล้วก็กลับมาที่พัก

พอมาถึงรีสอร์ทแล้วนิกกับปั้นจั่นทนเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหวจึงไปเคาะประตูห้องสน เจ้าตัวก็ยังคงมีอาการเหมือนเมื่อตอนกลางวันอยู่ แถมยังทำหน้าไม่รับแขกเสียด้วย พอเข้าไปแล้วปั้นจั่นก็เริ่มก่อนทันที

"เฮ้ยสน มึงเป็นไรวะ...บอกพวกกูได้ไหม กูไม่เคยเห็นมึงเป็นแบบนี้เลยนะเว้ย"

สนเดินมานั่งบนเตียงนอนแล้วก็ตอบโดยไม่หันไปมองหน้าว่า "ก็สะใจพวกมึงแล้วไม่ใช่เหรอ"

"มึงพูดอะไรของมึงวะ" นิกถาม พลางเดินมายืนข้างๆ เตียงที่สนนั่งอยู่

"มึงคิดว่ากูไม่รู้หรือไงว่าพวกมึงทำอะไร อยากแกล้งกูไม่ใช่เหรอ อยากให้กูเจ็บไม่ใช่เหรอ อยากสมน้ำหน้ากูใช่ไหม เอาสิ...กูก็เป็นอย่างที่พวกมึงต้องการแล้วนี่" น้ำเสียงประชดประชันนั้นทำให้นิกกับปั้นจั่นต้องหันมามองหน้ากันว่าจะรับมือกับสนอย่างไรในตอนนี้

"มึงรักไอ้ต้นเหรอสน" ปั้นจั่นตัดสินใจถามตรงจุด

สนเงยหน้ามามองปั้นจั่น แววตาของเขาดูเจ็บปวดกับอะไรบางอย่างจนปั้นจั่นต้องตกใจ "ใช่...กูรักต้น แล้วกูก็เจ็บปวดมากด้วยที่เห็นต้นกับพี่แทนคบกันเป็นแฟนต่อหน้าต่อตา สมใจพวกมึงทุกอย่างเลย"

"เฮ้ย กูขอโทษจริงๆ ว่ะสน พวกกูก็ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายจิตใจมึงหรอกนะเว้ย เอาเป็นว่า...ต่อไปพวกกูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ขอโทษจริงๆ นะเว้ย" ปั้นจั่นบอกเสียงอ่อยและรู้สึกผิดพลางนั่งลงข้างๆ สนบนเตียง

"พวกกูรู้มานานแล้วล่ะว่ามึงรักต้น...แต่มึงก็ปากแข็งนี่หว่า พวกกูสงสารไอ้ต้น ก็เลยต้องหาวิธีที่จะทำให้มึงยอมเปิดปาก ยอมรับความจริงกับต้นไปตรงๆ ว่ามึงคิดกับมันแบบไหน แต่ทำไมมึงถึงไม่พูดวะไอ้สน พวกกูข้องใจจริงๆ นะเว้ย กูนึกว่ามึงจะบอกไอ้ต้นไปแล้วซะอีก ที่ไหนได้...นาก็ดันโผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย มึงคิดจะทำอะไรวะสน"

"กูก็อยากบอก...แต่ก็มีอะไรบางอย่างทำให้กูบอกไม่ได้" สนเริ่มน้ำตาซึม "พวกมึงอย่าไปบอกต้นนะเว้ยว่ากูคิดอะไรกับต้น"

"ทำไมวะสน ก็มึงชอบไอ้ต้นทำไมมึงถึงไม่อยากให้มันรู้ล่ะ" นิกสงสัย เขานั่งลงๆ ข้างสนอีกฟากหนึ่ง ทำให้สนถูกขนาบข้างด้วยทั้งปั้นจั่นและนิก

"กูทำอะไรบางอย่างไม่ดีว่ะ แล้วกูก็ไม่อยากให้คนที่เขารักกูต้องมารับรู้เรื่องบ้าๆ นี่" สนค่อยๆ เผยมาทีละน้อย

"เรื่องมึงกับนาใช่ไหม กูสงสัยมานานแล้วล่ะว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ มึงบอกพวกกูได้หรือเปล่าวะสน เผื่อพวกกูช่วยได้"

สนมองหน้าปั้นจั่นแล้วก็หันไปมองนิก เหมือนกับจะชั่งใจว่าเขาควรจะเปิดเผยเรื่องนี้ให้สองคนนี้รู้ดีหรือไม่ เขากลัวว่าสองคนนี้จะเอาไปเล่าให้ต้นฟัง เขาไม่อยากให้ต้นรู้ ไม่อยากให้ต้นผิดหวังในตัวเขา ต้นทุ่มเทให้เขามามาก สิ่งที่เขาทำมันช่างไม่สมกับที่ใครหลายๆ คนคอยรักและเป็นห่วงเสียเลย

"เอาเป็นว่า...กูจะเล่าให้พวกมึงฟังละกัน แต่พวกมึงต้องสัญญากับกูว่าจะไม่ไปบอกใครอีก โดยเฉพาะต้น ต้นจะรู้เรื่องนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด พวกมึงสัญญาได้ไหม"

เมื่อนิกกับปั้นจั่นสัญญา สนจึงยอมเปิดปากเล่าเรื่องที่มาของความสัมพันธ์ของเขากับนาให้ฟัง พอได้ฟังจบแล้วนิกกับปั้นจั่นจึงได้เข้าใจเรื่องทั้งหมดว่าเหตุใดสนจึงไม่ได้บอกรักต้น ทำไมอยู่ดีๆ นาก็โผล่มาให้ใครต่อใครแปลกใจกันใหญ่

"เขาก็ร้ายไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะเนี่ย ทีหลังมึงก็ต้องรู้จักระวังบ้างนะไอ้สน" ปั้นจั่นว่า

"แล้วมึงก็จะยอมแต่งงานกับเขาทั้งที่ไม่ได้รักเขาเหรอสน คิดดีๆ นะเว้ย" นิกเตือน เขาไม่เห็นว่าสนจำเป็นต้องรับผิดชอบเลย แต่ก็ติดว่านาฉลาดมากจนสร้างเงื่อนไขผูกมัดสนได้

"กูก็อยากทำอย่างนั้นใจแทบขาด กูติดแค่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละ กูเป็นห่วงความรู้สึกของพ่อกับแม่ ของต้น แล้วก็ของพ่อกับแม่ของต้นด้วย"

"เฮ้ย กูว่าไอ้ต้นมันน่าจะเข้าใจนะเว้ย มันไม่ใช่คนเข้าใจอะไรยากหรอก" แล้วปั้นจั่นก็เสนอและยืนยันทางออกให้สนว่า "มึงคุยกับต้นเถอะ เชื่อกู"

สนส่ายหน้า "อย่าเลย...กูไม่อยากผูกมัดต้นไว้ ไม่ใช่ว่ากูไม่รักต้นนะเว้ย แต่กู...ไม่อยากให้ความหวังกับต้น กูจะทำอย่างนั้นก็ต่อเมื่อกูแก้ปัญหานี้ได้แล้วเท่านั้น กูไม่อยากให้ต้นเสียใจเพราะกูอีก ตอนนี้ต้นอาจจะเสียใจที่กูไม่ได้บอกรัก แต่กูว่ามันก็ยังดีกว่าที่กูจะไปบอกรักต้น หลอกให้ต้นมีความหวัง แล้วสุดท้าย...กูก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้"

"เออๆ เอาเป็นว่าพวกกูเข้าใจมึงละกัน" ปั้นจั่นพูดพลางตบไหล่ให้กำลังใจสน "แล้วมึงจะทำไงต่อไปวะสน จะยอมแต่งงานกับเขาจริงๆ เหรอวะ"

สนถอนหายใจยาวอย่างหนักใจ "ถ้ามันไม่มีหนทางที่ดีกว่านี้ มันก็คงต้องเป็นอย่างนั้น" สนตอบอย่างปลงๆ เพราะตอนนี้เขาถูกผูกมัดแน่นจนต้องยอมจำนน

นิกกับปั้นจั่นได้แต่อึ้ง ไม่เคยคิดมาก่อนด้วยซ้ำว่าสนจะต้องมาเจอปัญหาแบบนี้

"อย่าเพิ่งท้อนะสน พวกกูจะหาทางช่วยมึงอีกทางหนึ่งละกัน" นิกตบไหล่ปลอบใจสนบ้าง พอมีคนเข้าใจบ้างแล้วก็ทำให้สนรู้สึกดีขึ้นมาได้มากทีเดียว

"ขอบใจนะเว้ย ถ้าพวกมึงช่วยกูได้ กูยินดีจะเป็นหนี้ชีวิตให้กับพวกมึง จะให้กูทำอะไรก็ได้"

สนหันไปยิ้มให้กับเพื่อนทั้งสองคน แม้ว่าความหวังจะเริ่มริบหรี่ลงไปเพราะเขาอาจจะต้องแต่งงาน และต้นเองก็อาจจะเปลี่ยนใจจากเขาไปรักกับพี่ทดแทน แต่สนก็จะขอดิ้นอีกสักเฮือกละกัน เผื่อว่าใครสักคนที่บนฟ้าจะช่วยให้เขาเจอทางออกบ้าง

-----------------------------------------------------

ต้นรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลยที่ต้องนอนพักห้องเดียวกับทดแทน แม้ว่าจะตกลงเป็นแฟนกันแล้วก็ตามแต่ต้นก็กลัวว่าเขาจะพลาดท่าเสียที เขายังไม่ได้รู้สึกรักทดแทนจนถึงกับจะยอมขนาดนั้นได้

ความกลัวของต้นดูเหมือนจะใกล้ความจริงมากขึ้นเมื่อทดแทนเดินมานั่งลงบนเตียงที่ต้นนอนอยู่ เขาทำสีหน้าสงสัยที่เห็นต้นห่มผ้าจนถึงคอก็เลยถาม

"ต้นไม่ร้อนเหรอครับ พี่ว่าแอร์ห้องนี้มันไม่ค่อยเย็นเท่าไรนะ พี่พยายามปรับแล้วมันก็ไม่ดีขึ้น"

"อ๋อ...พอดีผมเป็นคนขี้หนาวครับ" ต้นบอกพลางยิ้มกลบเกลื่อนความกลัว

"อืม...แต่พี่ว่ามันร้อนนะต้น" ทดแทนสอดมือเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วก็จับแขนต้น "เห็นไหมต้น แขนต้นชื้นเหงื่อแล้ว เอาผ้าห่มออกเถอะ"

ทดแทนใช้มือดึงผ้าห่มต้นลงมากองที่บริเวณเอว ต้นไม่กล้าขัดขืนมากนักเพราะเดี๋ยวทดแทนจะสงสัยได้ว่าต้นกลัวเรื่องนั้น บางทีทดแทนอาจจะยังไม่ได้คิดจะทำถึงขนาดนั้นก็ได้ ถ้าต้นสงสัยจนเกินเลยไปคงไม่เป็นผลดี

"ต้นมีเชื้อจีนหรือเปล่า ผิวขาวดีจัง" ทดแทนพูดพลางใช้มือลูบไล้ไปตามแขนของต้น

"เปล่าครับ ไทยแท้เลยครับพี่" ต้นตอบ อยากจะผลักมือของทดแทนออกไปแต่ก็ทำไม่ได้

"เหรอครับ..." ทดแทนยิ้มมีเลศนัยบางอย่าง ต้นเป็นคนน่ารัก ผิวขาว ปากแดง ขนาดตัวกำลังพอดี ดูน่าหลงใหลไปหมดจนทดแทนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว เขาอยากรู้จังเลยว่าถ้าต้นไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น ต้นจะดูน่ารักและน่าหลงใหลมากขึ้นอีกแค่ไหน

"ต้นรู้ตัวไหมว่าต้น...น่ารักมากแค่ไหน พี่รักต้นมากรู้ไหมครับ" ทดแทนเหมือนถูกมนตร์สะกด เขาก้มลงไปเท้าแขนสองข้างในลักษณะคร่อมตัวต้นไว้ ต้นใจเต้นไม่เป็นส่ำเพราะรู้ว่าเขากำลังถูกรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้นทุกทีๆ

ทดแทนค่อยๆ โน้มใบหน้าลงต่ำเพื่อที่จะจุมพิตกับริมฝีปากสีแดงเรื่อนั้นที่เขาแสนจะหลงใหลและอยากสัมผัสว่าจะหอมหวานสักปานใด

ต้นหลับตาปี๋ นี่เขาจะต้องทำอะไรแบบนี้กับทดแทนจริงๆ หรือ นึกแล้วก็โมโหนิกกับปั้นจั่นที่หาเรื่องให้เขาพักห้องเดียวกับทดแทน แต่ตอนนี้ต้นจะต้องรีบหาทางออกด่วนที่สุด ก่อนที่อะไรๆ มันจะไปไกลมากว่านี้ ไม่ได้หรอก ต้นยังทำแบบนี้กับทดแทนไม่ได้ ต้นรีบเลื่อนตัวลงต่ำลอดใต้วงแขนของทดแทนออกมาแล้วก็ลงมาจากเตียง แต่ทดแทนก็คว้าแขนต้นไว้ได้ก่อน

"ต้น...ทำไมล่ะต้น เราเป็นแฟนกันนะ" ทดแทนทำหน้าเว้าวอน มองต้นอย่างไม่เข้าใจ

"พี่แทน ปล่อยผมเถอะ ผมกลัว..." ต้นขอร้องพลางพยายามดึงมือออก

ทดแทนเห็นท่าทางแบบนั้นของต้นแล้วก็เลยต้องยอมปล่อยอย่างเสียดาย พอเป็นอิสระแล้วต้นก็วิ่งออกไปจากห้องทันที

"ต้นจะไปไหนครับ" ทดแทนร้องเรียกตาม แต่ต้นก็วิ่งออกไปโดยไม่ฟังเสียงเรียกของเขาเลย

ต้นมายืนที่หน้าห้องสนแล้วก็กดกริ่งเรียก ไม่นานนักสนก็มาเปิด พอเห็นว่าต้นมาหาสนก็ทำสีหน้าเหมือนยุ่งยากใจ ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้มาแต่สนทำตัวไม่ถูกต่างหาก ไม่รู้ว่าจะให้ต้นเป็นเพื่อน เป็นคนรักของคนอื่นหรือเป็นของเขาเอง

"มีอะไรหรือเปล่าต้น" สนถามอย่างเป็นห่วงเพราะต้นดูหน้าตาตื่นชอบกล แต่คนถามเองก็ยังดูไม่สดชื่นนัก

"คืนนี้เราขอนอนห้องนายได้หรือเปล่า"

สนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ต้นก็มีแฟนแล้วจะมานอนห้องเขาทำไมกัน

"จะดีเหรอต้น เดี๋ยวพี่แทนเขาจะ..."

ยังไม่ทันพูดจบ ต้นก็โผเข้าไปกอดสนเสียก่อน สนไม่รู้หรอกว่าต้นเป็นอะไร แต่นี่คือสิ่งที่เขากำลังถามหาและต้องการที่สุดแล้วในเวลานี้ สนกอดเพื่อนตอบ ลูบผมต้นอย่างแผ่วเบาด้วยความรักใคร่และเอ็นดู มันอาจจะไม่ดีนักที่เขากอดแฟนคนอื่นอยู่ แต่สนก็ห้ามใจไม่ไหวแล้วในตอนนี้ เขารักของเขามาก่อนใคร เขาหวงของเขา เขาผูกพันของเขา ไม่ว่าต้นจะวิ่งหนีหรือกลัวอะไรมา แต่เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของสนแล้วต้นจะปลอดภัย ไม่ว่าต้นจะกลับมาชั่วคราวหรือตลอดไป เวลานี้สนก็มีความสุขมากที่ได้กอดต้นไว้ในอ้อมแขน

ทดแทนได้แต่ยืนตะลึงกับสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้า ต้นไม่ยอมแม้แต่จะให้เขาสัมผัสนิดๆ หน่อยๆ แต่ตอนนี้กลับอยู่ในอ้อมกอดของสน แววตาของสนก็ดูรักและหวงแหนต้นเหลือเกิน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสองคนนี้รักกันมากแค่ไหน 'สงสัยพี่จะต้องผิดหวังกับความรักอีกแล้วใช่ไหมต้น' ทดแทนรำพึงรำพันกับตัวเองในใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2012 08:58:31 โดย sarawatta »

obab

  • บุคคลทั่วไป
❤คนเขียนนะ
 :m15:
ฮืืือออออ ! พี่แทนน...

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ก็สมน้ำหน้าแล้วนะสนทำตัวเอง

ต้นก็นะ  ก็ถ้ายังทำใจไม่ได้ ก็อย่าไปเอาใครมาเป็นตัวแทน เค้าจะเจ็บ แม้เค้าจะบอกว่ารอได้ ก็น่าจะให้เค้ารอในฐานะอื่นที่ไม่ใช่แฟน

โอ๋ๆๆๆพี่แทนมานี่มา

icyblue

  • บุคคลทั่วไป
สนไปพลาดยังงัยให้นาจับได้ล่ะ  หรือโดนถ่ายคลิป???

ส่วนพี่แทนทำไมใจร้อนจังอ่ะ  ทำน้องต้นต๊กกะจายเลยนั่น o22

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
รู้ว่าต้นอยากหลุดพ้นจากสภาพที่เจ็บซ้ำๆ แต่ไม่รู้ดิ ตราบใดที่ใจมันตัดไม่ขาด ต้นก็ไม่มีทางหลุดพ้น

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
พี่แทนอย่าไปยุ่งกะ 2 คนนั้นเลย

คนนึงปากแข็ง คนนึงก็อยู่ที่เดิมไม่ตัดใจสักทีเรื่องยุ่งยาก

หาคนรักใหม่ดีกว่าการมาคบกับคนที่ไม่เคยจะตัดใจจากคนก่อนสักที

ออฟไลน์ leelea

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เหนื่อยใจกับสน
เรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงก็เคยมีบทเรียนตอนมหาลัยแล้วไม่รู้จักเข็ดอีก

บอกว่าเหนื่อย ขอโทษเหอะ ที่ผ่านมาไม่เห็นจะทำอะไรให้ต้นได้ดีใจเลย มีแต่ทำให้ต้นเสียใจ
แม้แต่เสี้ยวของความพยายาม ไม่เคยเห็นเลยจากผู้ชายชื่อสน

บอกว่าแก้ปัญหา แล้วเวลาผ่านมาขนาดนี้ สุดท้ายก็ต้องหมั้น
ทำให้เห็นว่าแก้ปัญหาไม่เก่ง ไม่เหมาะจะเป็นผู้นะเลย
สุดท้ายก็ต้องให้ต้นแก้ปัญหาให้สินะ

ยิ่งรู้เหตุผล ยิ่งเกลียดสนค่ะ  :m31:

เพิ่ม : เพลงนี้คิดว่าเข้ากับต้นสนมาก
: คำยินดี Klear

ฉันมายินดีให้กับรักที่สดใส
ยินดีที่เธอได้พบเจอ
คนที่ดี คนที่ควรคู่รักของเธอ
คนที่เข้ากันมากกว่าฉัน

ฉันหวังจะยืนที่ตรงนั้นข้างๆ เธอ
ได้เดินร่วมทางกันเหมือนเดิม
แต่ก็รู้น่าเสียใจเมื่อมันสายเกิน
ไม่มีแล้วที่เคยรักกัน

ในวันนี้มีเพียงถ้อยคำส่งท้าย
ลาก่อนรักที่เคยงดงาม
ไม่โกรธเคืองเธอเลยมีแค่คำยินดี
และคำอวยพรจากฉันให้เธอ

ขอให้ความรักมีแต่ความสุขใจ
ไม่ว่าสิ่งไหนเข้ากันหมดทุกอย่าง
ขอให้ความรักเขาและเธอไม่มีจืดจาง
มีเขาเคียงข้างไม่มีความทุกข์ใด

ขอให้ความรักดีกว่าที่ฝัน
ไม่มีเปลี่ยนผันรักกันหมดหัวใจ
ขอให้เธอนั้นได้คู่เคียงกันตลอดไป
ถึงแม้ฉันยังไม่เปลี่ยนใจ
และรักได้เพียงแต่เธออยู่เหมือนเดิม

ซ่อนน้ำตาไว้ใต้รอยยิ้มที่ให้ไป
ไม่มีใครรู้ความเป็นจริง
ว่าฉันฝืนเก็บเรื่องความรู้สึกทุกสิ่ง
กดมันไว้จนใจปวดร้าว

ขอให้ความรักดียิ่งกว่าที่ฝัน
ขอให้คนนั้นดีกว่าฉันทุกอย่าง
ให้เขาคอยรัก คอยดูแล คอยอยู่เคียงข้าง
แบบที่ฉันเองไม่เคยทำให้เธอ

ขอให้คาดหวังแล้วไม่ต้องผิดพลั้ง
ไม่เหมือนความหลังที่เธอเคยพบเจอ
ขอให้คราวนี้ได้อย่างใจเธออยู่เสมอ
ถึงแม้ฉันยังมีแต่เธอ
และรักได้เพียงแต่เธออยู่เหมือนเดิม

ขอให้เธอนั้นได้คู่เคียงกันตลอดไป
ถึงแม้ฉันยังไม่เปลี่ยนใจ
และรักได้เพียงแต่เธออยู่เหมือนเดิม

http://www.youtube.com/watch?v=cEeUFE6tRmQ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-06-2012 16:10:37 โดย leelea »

llihc_mrr

  • บุคคลทั่วไป
ไปทำเขาท้องหรือเปล่านะ
แล้วเขาก็ให้เป็นพ่อสินะ
เป็นพ่อตัวจริงหรือเปล่านะ
ต้องตรวจ DNA สิ
เอ๊ะ แล้วถ้าเป็นพ่อตัวจริง จะทำยังไงดีนะ
 :really2:

แอบเบื่อพี่ทดแทน >//<

Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้ว สงสารสนมากที่สุด  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
มิน่า.... ทั้งๆที่ดูเหมือนอะไรๆก็น่าจะลงตัวแล้ว ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ มันมีเหตุผล มีที่มาจริงๆ

ตัวร้ายเต็มรูปแบบคือนานี่เอง :pigangry2: เฮ้อออ....ขอให้สนผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยดีด้วยเถอะ
นิกกับปั้นจั่นเค้าเจ้าความคิด ต้องช่วยสนได้แน่ๆ  :yeb: :yeb:
ไม่งั้นยิ่งนานวันก็ยิ่งมีแต่ทุกข์ไปทุกฝ่าย นาเองต่อให้ได้ครอบครองสน
แต่การอยู่กับคนที่ไม่ได้รักตัวเองไปตลอดชีวิตนี่ไม่น่าหาความสุขได้นะ จะทำไปทำไม

รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
บวกๆ ขอบคุณค่ะ
 :L2: :L2: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด