ตอนที่ : 7 วันนี้ผมจะต้องปะแป้งท่านรองให้ได้ครับ นี่ก็จะได้เวลาที่ทีมท่านรองจะมาถึงฐานที่ผมประจำอยู่แล้ว ผมแอบไปดูรายชื่อที่ Sup มา มีพี่พลอยู่ทีมเดียวกับท่านรองด้วย เราอาจจะได้เห็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดก็ได้ แค่คิดก็สนุกแล้วครับ ฮ่าๆ
“Sup เราให้จับคู่พี่พลกับท่านรองได้มั้ยครับ”
“หืม ท่านรองเขาไม่มาเล่นอะไรแบบนี้หรอก”
“ทำไมล่ะครับ”
“ทุกๆที เขาก็ไม่เคยเล่นนะ ส่วนมากไปนั่งคุยอยู่กับผู้จัดการบ้าง หรือทำงานบ้าง”
โห Sup ปล่อยให้ทำอย่างนั้นได้ไงอ่ะ ไม่ยุติธรรมเลย
“Sup เดี๋ยวผมขอตัวแป๊บนะ”
“เออๆรีบๆมานะ เดี๋ยวอีกทีมจะเข้ามาแล้ว”
ผมจะไปตามล่าหาท่านรองครับ ต้องลากท่านรองมาเล่นเกมให้ได้
ผมแอบชะโงกหน้าเข้าไปในห้องสัมมนา อ้อ อยู่ที่นี่เองไม่เข้าไปร่วมกิจกรรม จะมาทำไม อยู่ทำงานที่บ้านก็ได้มั้งครับท่าน
“สวัสดีครับท่านรอง”
“ครับ มีอะไรรึเปล่า”
อุ๊ย คนหล่อพูดเพราะ ธรรมดาเสียงเหมือนจะกินหัวชาวบ้านเขา
ผมไปไม่เป็นเลย ไม่ชินอ่ะ
“เอ่อ คือ ผมจะมาเชิญไปเล่นเกม”
“ผมไม่ไปหรอก พวกคุณเล่นไปเหอะ”
“คนอื่นเขาก็เล่นกันหมดนี่ครับ”
“…”
“หรือว่าท่านรองกลัวแพ้ครับ”
ร้อยทั้งร้อยหากโดนท้า ต้องไม่ยอมกันทั้งนั้น
“…”
เอ๊ะ เงียบ หรือว่าวิธีนี้ไม่ได้ผล
“ผมว่าท่านรองอาจจะแพ้ คงสู่พี่พลไม่ได้”
“แล้วถ้าผมชนะ ผมจะได้อะไร”
ยังจะหวังผลตอบแทน ไอ้คนนิสัยไม่ดี
“แล้วท่านรองอยากได้อะไรอ่ะครับ”
“อืม…เลี้ยงข้าวผมมื้อนึง”
“…ก็ได้ครับท่านรอง”
แต่อย่าเลือกร้านแพงนะ ค่าขนมผมไม่เยอะ
แล้วทำไมผมต้องลงทุนขนาดนี้วะ รู้สึกแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้แข่งเลย
“คุณนำไปสิ”
แกเก็บโน๊ตบุ๊คและเอกสารใส่กระเป๋า
อืม ผมคิดถูกหรือคิดผิดวะเนี่ย
“เฮ้ย ไอ้น้องหมอก เอ็งไปลากท่านรองมาได้ไงเนี่ย”
Sup ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้น ผมอาจจะต้องแลกด้วยอิสรภาพของตัวเองเชียวนะ
“เอาน่า Sup ให้แกจับคู่กับพี่พลเลยครับ”
ผมกับ Sup แอบกระซิบกระซาบกันแล้ว Sup ก็ไปกระซิบกับพี่พลต่อ พี่พลแกเลยส่งยิ้มชั่วร้ายมาให้
“ทางนี้เลยครับท่านรอง เดี๋ยวผมผูกลูกโป่งให้”
ผมลงทุนก้มผูกลูกโป่งที่ข้อเท้าให้เลยนะ เพราะคนอื่นผมแจกให้ไปผูกกันเองนะครับ ผมแถมให้ที่เท้าของท่านรองเป็น 3 ลูกครับ รักมากเลยให้มาก อ่ะ ไม่ใช่แหละ ล้อเล่นหรอกครับ
“ทำไมผมได้มากกว่าคนอื่นลูกนึง?”
“ไม่เป็นครับท่านรอง อันนี้ผมแถมให้”
“…”
ผมส่งยิ้มหวานให้ ท่านรองก็ส่งยิ้มตอบนะ แต่เป็นยิ้มแบบเหี้ยมๆยังไงไม่รู้
“พี่พลพร้อมมั้ยครับ”
คู่นี้ผมใส่ใจเป็นพิเศษครับ อยากเห็นความพินาจ เอ้ย ไม่ใช่! ความสามัคคีต่างหากครับ
“พร้อมสิไอ้น้อง อยากขยี้มานานแล้ว แกเสร็จชั้นแน่ ไอ้เมฆ”
“ฝันไปเหอะไอ้พล”
เริ่มแล้วครับความแตกแยก และความที่ไม่อยากโดนทาแป้งหน้าขาว
หลังจากเสียงนกหวีดจาก Sup ดัง ผู้เล่นเกมก็เริ่มชุลมุน ด้วยความที่ไม่อยากแพ้ เพราะคนแพ้จะเปียกและโดนทาแป้งหน้าขาว ทำให้แต่ละคน แย่งกันทำให้ลูกโป่งของฝ่ายตรงข้ามแตกและป้องกันของตัวเองไม่ให้แตกด้วย ขำครับ ฮ่าๆสะใจ โดยเฉพาะคู่ของท่านรองและพี่พล อันนี้เด็ดสุด สุดท้ายท่านรองแพ้ครับ เป็นอย่างที่ผมหวังไว้จริงๆ คุ้มค่ากับที่ผมแอบสวดมนต์อยู่ในใจจริงๆ
“ฮ่าๆ ท่านรองแพ้นะครับงานนี้ ต้องโดนปะแป้ง”
ผมเตรียมหยิบกระป๋องแป้งแล้วอ่ะ ขอกระป๋องใหญ่เลยครับ
“…”
แกทำหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไรครับ
“ฮ่าๆ ชั้นล่ะอยากเห็นมานานแล้ว ไอ้เมฆสมน้ำหน้าแกว่ะ”
พี่พลดูเหมือนจะสะใจมากเลยนะครับ
“หุบปากไปเลยไอ้พล”
“ผมจะปะล่ะนะครับท่านรอง”
หน้าตาท่านรองไม่เปียกเลยอ่ะ ผมต้องเอาน้ำผสมซักหน่อย
“เฮ้ย แล้วคุณจะใส่น้ำเพิ่มทำไม มันก็ล้างยากสิ”
ก็ผมต้องการให้ล้างยากๆไงครับ
“เฮ่ย ถ้าล้างง่าย มันก็ไม่สนุกอ่ะดิ ไอ้น้องหมอกเอ็งนี่ช่างคิดจริงๆ”
ขอบคุณที่ชมครับ
“ใช่ครับ มันต้องล้างยากๆสิครับ มันถึงจะสนุก”
แล้วผมก็วิ่งไล่จับท่านรองปะแป้ง แกหนีครับ ผมนี่วิ่งไล่กันไปกันมา เหนื่อยครับ
“ท่านรอง อย่าวิ่งสิครับ”
ผมเหนื่อย หอบแฮ่กๆเลย
“…นี่คุณจะทำจริงๆเหรอ”
โห คนหล่อ หน้าหดครับ สงสารก็สงสาร แต่อยากสะใจมากกว่าครับ
“จริงสิครับ เดี๋ยวคนอื่นจะว่าได้นะ ท่านรองแพ้ก็ต้องโดนปะแป้ง”
มาเลย ผมแบมือรอเลย แล้วแกก็ยืนนิ่งๆให้ปะ
“…”
“ก้มลงมาหน่อยครับ”
ท่านรองสูงอ่ะ ผมปะไม่ค่อยถนัดเลย แต่แกก็ก้มลงมาให้ปะดีๆ น่ารักจริงๆ
“คอยดูเหอะ ระวังผมจะเอาคืน”
อุ่ย มีข่มขู่แต่ผมนี่ละเลงหน้าหล่อๆอย่างสะใจอ่ะครับ
“เสร็จแล้วครับ”
จริงๆผมก็ไม่ได้ปะให้เยอะอะไร แค่ปาดที่หน้าผากทีนึง แก้มสองข้างเยอะหน่อยแค่นั้นเอง แต่ดูรวมๆแล้ว ขำครับ
“…คุณทาเยอะไปรึเปล่า”
ท่านรองอยากจะลูบหน้าดูแต่ก็คงกลัวเลอะเทอะกว่าเดิม
“ไม่หรอกครับท่านรอง นิดหน่อยเอง”
ผมกลั่นหัวเราะจนหน้าดำหน้าเดง ขำฉิบหาย
“นี่คุณแอบขำเหรอ”
“เปล่าครับ ฮ่าๆๆๆ”
โอ้ยกลั้นไม่อยู่แล้ว หัวเราะออกมาดีกว่าครับ
“นี่คุณมานี่เลย”
แล้วแกก็กระชากมือลากผมไปที่ห้องน้ำครับ
“ท่านรองจะให้ผมไปไหน ผมต้องรอทีมต่อไปมาเล่นเกมต่อนะ”
“คุณก่อเรื่อง ก็ต้องมาช่วยผมล้างหน้า”
หน้าตัวเองก็ล้างเองสิครับ
ในห้องน้ำไม่มีคนเลย วังเวงสัด ผมจะโดนฆ่าหมกส้วมมั้ยครับ
“ช่วยผมล้างเร็วๆ”
แล้วท่านรองก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ากางเกง สีเทาครับ เพราะถ้าเป็นสีชมพูนี่ผมหัวเราะตายเลย
แกยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ผมถือ
“ก็ได้ๆ ครับ”
เดี๋ยวต้องไปช่วย Sup อีก ไม่อยากชักช้า ท่านรองค่อยๆล้างหน้าครับ ผมก็ยืนดูคนหล่อล้างหน้า แค่ล้างหน้าก็ยังดูเท่
แกล้างเสร็จก็หันมาหาผม
“ผมล้างสะอาดรึเปล่า”
“ครับๆ สะอาดแล้วครับท่านรอง มาผมเช็ดหน้าให้”
แล้วแกก็ก้มลงมา ความเตี้ยกว่าของผมนี่ก็เป็นอุปสรรคจริงๆ ผมก็รีบๆเช็ดหน้าให้แก
“ท่านรองจับมือผมทำไม ผมเช็ดไม่ได้อ่ะ”
ท่านรองจับมือผมที่กำลังเช็ดหน้าให้ท่านเขาอยู่ แล้วมองสบตาผม ตาคมจ้องมองผม ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ
“อ๊ะ”
ผมอุทาน มือขวาของท่านรองรวบเอวผมเข้าไประชิดตัวเขา
หน้าของท่านรองค่อยโน้มเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ
“ท…ท่านรอง จะทำอะ…”
ผมถามได้แค่นั้น เรียวปากของท่านรองบดบี้อยู่ที่ริมฝีปากผม ไม่ได้รุนแรง แต่เนิ่นนานจนผมเกือบลืมหายใจ
ท่านรองถอนเรียวปากออก แต่ยังจ้องมองผม สายตาท่านรองมองผมเหมือนกำลังสื่ออะไรบางอย่างให้ผม แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจ
“ผ…ผมต้องไปแล้ว”
แล้วผมก็ใส่เกียร์หมารีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำทันที ว้ายๆ ท่านรองจูบผม ผมควรจะทำยังไงดี
เจ้าปั๊กน้อยรีบวิ่งจู๊ดออกไปจากห้องน้ำทันที ผมเผลอจูบเด็กฝึกงานจอมเฮี้ยวในห้องน้ำ โรแมนติกฉิบหาย หมอกคงตกใจมาก จริงๆแล้วผมไม่ได้ตั้งใจหรือผมตั้งใจวะ จะบอกว่าบรรยากาศมันให้ก็คงไม่ใช่เพราะเราอยู่ในห้องส้วม เพียงแค่อยากรู้ว่าปากแดงๆนั่น ถ้าลองจูบแล้วมันให้ความรู้สึกยังไง ก็แค่นั้นเอง…
“ไอ้น้องหมอกทำไมหอบขนาดนั้น แล้วหน้าแดงๆ เป็นอะไรรึเปล่า”
“ป…เปล่าครับ Sup”
หลังจากที่ผมลืมหายใจไปห้าวิ ตอนนี้ผมรีบโกยอากาศเข้าเต็มปอด ตกใจอ่ะ อายด้วย ท่านรองจูบผม แต่ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจเลยนี่สิ อยากจะตีปากตัวเองฉิบหาย
“เอ้า พร้อมนะ ทีมต่อไปกำลังมาแล้ว”
“ครับๆ”
หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกลึกๆเว้ย ไอ้หมอก อย่าเพิ่งตายตอนนี้ แค่จูบไม่ทำให้ตายหรอก แต่ใจเต้นแรงโคตรๆ
แล้วผมก็ผ่านวิบากกรรมเสียจูบแรกไปโดยที่ไม่รู่อีโหน่อีเหน่ คิดแล้วก็แค้น เดี๋ยววันหลังผมต้องแก้แค้นจูบกลับท่านรองแม่งมั่ง
“ไอ้น้องมีนเก็บของเสร็จแล้วก็ไปกินข้าวกัน”
“ครับๆแป๊บครับ Sup”
ตอนนี้ผมเริ่มทำใจได้แล้ว คิดซะว่าโดนน้องไซ (บีเรียน) ยักษ์กัด เรื่องกินสำคัญกว่าเห็นๆ นี่ผมก็หิวใส้จะขาดอยู่แล้ว ช่วงบ่ายไม่มีกิจกรรมอะไรต่อ ปล่อยตามสบาย พรุ่งนี้เช้ามีล่องเรือชมเกาะ ตอนกลางวันก็กลับโรงงานครับ กิจกรรม 2 กรุ๊ปเหมือนเดิมเป๊ะ ผมซึ่งเป็น staff รู้สักเหมือนเกิดเดจาวูเลย
ตอนนี้เรากำลังกินอาหารกลางวันที่รีสอร์ทจัดไว้ให้ครับ เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารไทยเรานี่แหละ มีข้าวผัด อาหารปรเภทยำ ไก่ทอด ลาบ ส้มตำ อาหารทะเลผมนี่กระดี๊กระด๊ามากอ่ะ
“ไอ้น้องมีน เช็ดน้ำลายมึงหน่อย รักษาภาพจน์เอ็งบ้าง”
แหม Sup ก็คนมันหิวอ่ะ
“พวกเอ็งจะไปนั่งโต๊ะไหน ไปโต๊ะพี่มั้ย”
พี่พลถามพวกผม 3 คนที่ยังไม่ได้จองโต๊ะนั่ง
“ก็ดีครับ ผมยังไม่โต๊ะนั่งเลย”
ไอ้บาสผู้ที่ไม่ค่อยรู้จักใครนอกจากฝ่ายผลิตยิ้มหน้าบาน สงสัยไม่กล้าไปนั่งกับคนอื่น
“ดีค่ะ หนูก็ยังไม่มีโต๊ะนั่งเลย”
ส้มจี๊ดยิ้มหวานหยดย้อย ผมเผลอมองตามจนน้ำลายจะไหลอีกรอบแล้วครับ
“เหอะ!”
มึงเป็นอะไรไอ้บาส ก้างปลาโลมาติดคอเหรอ
“พี่พลถือจานนี้ให้หน่อย”
“ได้ครับๆ ได้เสมอสำหรับน้องมายด์ครับ”
สองคนนี่ก็จู๋จี๋กันจังเห็นแล้วอิจฉาริษยามากบอกเลย
เรา 3 คนเลยเดินตามพี่ๆเขาไป เป็นไปตามคาด โต๊ะพี่พลที่ว่ามีท่านรองประทับอยู่คนเดียว ไม่มีใครกล้านั่งด้วยเลยครับ สงสารเขานะครับไม่มีใครเอา ผมเลยนั่งแหมะข้างๆท่านรองซะเลย แอบเหลือบมองเขานิดหน่อย ผมยังเคืองไม่หาย จูบผมแล้วอ่ะ ต้องรับผิดชอบด้วย ท่านรองหันมาสบตาผมแต่ไม่ได้พูดอะไร
“สองคนกินได้แล้ว จ้องกันอยู่ได้ อย่ากัดกันล่ะ”
แหมๆ ไอ้พี่พล ผมไม่ใช่น้องหมานะครับจะได้กัดกัน ส่วนท่านรองล่ะก็ไม่แน่
“ตลกนะแก หลบหน่อยจะไปเข้าห้องน้ำ”
ท่านรองทำท่าจะลุกขึ้น ผมก็ต้องตามไปสิครับ เผื่อหาทางแก้แค้นได้
“ผมไปด้วย”
“…ก็ตามมาสิ”
“เฮ่ย ทั้งสองคนอย่าไปตีกันในห้องน้ำล่ะ เดี๋ยวชาวบ้านชาวช่องเขาจะตกใจเอา หึหึ”
“…”
เอิ่ม เห็นพวกผมเป็นอะไรกัน แต่หน้าพี่พลดูตอแหลๆนะครับเวลาพูด
“ท่านรองไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอครับ”
ขอโทษที่ทำหรือบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุผมยังพอให้อภัยได้นะ
“…จะให้ผมพูดอะไร ก็คุณเล่นวิ่งหน้าตั้งออกไปอย่างนั้น”
วิ่งหน้าตั้ง? ยังดีนะถ้าพูดว่าวิ่งหูตั้งหางตก ผมจะคิดว่าท่านรองด่าผมว่าเป็นหมาแน่ๆ
“…”
ผมผิดเหรอ เอาใหม่
“ผมหมายถึง…เอ่อ…คือท่านรองจ…”
ติดอ่างอีกกู จะถามว่าท่านรองจูบผมทำไมมันยากนักเหรอ
“ที่ผมจูบคุณผม…ไม่รู้สิ ก็แค่อยากจูบ แล้วผมก็จะไม่ขอโทษด้วย”
รู้อีกว่าผมจะถามอะไร แต่ดูคำตอบท่านเขาน่าตบมากครับขอบอก
“…”
ผมเริ่มจะโกรธแล้วนะ จะทำยังไงดีวะ จูบกลับแม่งเลยดีมั้ย น่าจะสะใจดี
“ผมให้คุณจูบคืนก็ได้”
แล้วท่านเขาก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ
ห๊ะ! ได้เหรอ แต่เดี๋ยวก่อน มันเหมือนผมเสียเปรียบยังไงไม่รู้อ่ะ
“บ้าเหรอ แบบนั้นผมก็เสียเปรียบแย่ดิ”
เออ ผมก็ยังมีความฉลาดอยู่บ้างหรอกนะ
“แล้วคุณจะเอายังไง”
โหย ไม่เอาไง ไปดีกว่า ท่านรองตอนนี้ทำหน้าตาได้ตอแหลเหมือนพี่พลเลย
“เฮ้ย ปล่อยผมนะ ท่านรองมาจับแขนผมไว้ทำไม๊”
หรือกูจะโดนจูบอีกรอบ มีรอบสองผมให้พ่อท่านรองมาขอผมกับกำหนันหมานเลยนะ
“คุยกันก่อนสิ”
“ไม่เอา ผมยังไม่ได้กินข้าวเลย”
ร้อมผมร้องจ๊อกๆแล้วเนี่ย
“งั้นไปกินข้าวกัน”
“ก…ก็ได้ครับ”
เปลี่ยนเรื่องเร็วจริง แล้วถามผมว่าปฏิเสธท่านเขาได้บ้างมั้ย ตอบได้เลยว่า…ไม่
ทั้งผมและท่ารองก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ เอ ผมลืมอะไรไปนะ เออใช่ ท่านรองยังไม่ได้เข้าส้วมเลย
“แล้วท่านรอง ไม่เข้าห้องน้ำเหรอครับ”
“…ตอนนี้หายแล้ว”
หายได้ด้วย ? ทำไงอ่ะ อยากรู้วิธีเผื่อรถติดนานเวลาปวดฉี่จะได้ทำมั่ง…ไม่ถามดีกว่า
ท่านรองกลับมาอยู่ในโหมดหน้าบูดคนเดิมอีกแล้ว เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ประจำเดือนไม่มาเหรอ
“แล้วเดี๋ยวจะไปไหนกันดี ช่วงบ่ายฟรีสไตล์”
พี่พลถามพวกเราที่นั่งกันอยู่ที่โต๊ะ
“ไปเที่ยวสะพานแขวนกันมั้ยคะ มายด์อยากไป”
“ได้สิครับน้องมายด์”
จ้า เอาเลยจ้า Sup พี่พลยิ้มหน้าบานกว่าจานดาวเทียมแล้ว
“อืม ไปสิ มายด์กล้องพี่อยู่ไหน”
หืม ท่านรองสนิทกับ Sup เหรอ ผมไม่ยักกะรู้ แต่ก็ไม่แน่เพราะท่านรองเป็นเพื่อนกับพี่พล
“อยู่ในรถพี่พลค่ะ”
Sup หันไปตอบท่านรอง บรรยากาศแปลกๆนะผมว่า แต่ผมก็ไม่ได้ถามอะไร ไม่อยากรู้เรื่องของท่านเขาหรอก ไม่อยากรู้เล้ยยย
“เราสามคนจะไปด้วยมั้ย”
Sup หันมาถามพวกผม
“ไปด้วยกันสิ”
ว้าวๆ ท่านรองชวน ฟ้าถล่ม แผ่นดินทลาย
“ครับ/ค่ะ”
รีบตอบรับไปสิครับรออะไร ขึนชักช้าท่านอาจจะของขึ้นได้
“ไปรถพี่แล้วกัน”
ก็คงต้องอย่างนั้นแหละครับ ก็มีรถพี่พลคนเดียว คนอื่นเอารถมาที่ไหนกันล่ะ
แล้วเรา 6 คนกันเดินทางไปยังสะพานแขวนที่ว่า สวยดีนะครับ สะพานยาวฉิบหาย ผมกล้าๆกลัวๆค่อยๆเดินเตาะแตะไปทีละก้าว เสียวตูดเลย ร่วงลงไปนี่กูตายแน่ ว่ายน้ำก็ไม่เป็น
“เป็นอะไรคุณ กลัวเหรอ”
เออสิครับท่านรอง เสียววาบๆ
“เปล๊า ผมไม่กลัวเล๊ย”
เสียงผมสั่นแล้วเนี่ย ไอ้บาสห่าก็เดินไปกับส้มจี๊ดโน่นแล้ว แต่เอ๊ะ ทำไปเดินไปด้วยกัน เออ ช่างมันก่อนเอาตัวเองให้รอดก่อน
“หึหึ”
ท่านรองยิ้มหัวเราะเยาะครับ น่าโบกจริงๆ หันไปมองคู่รักหวานชื่น อ้าวหายไปไหนแล้ววะ
“จับมือผมเร็วๆ”
ท่านรองแกยื่นมือมาให้ จะเชื่อท่านเขาดีมั้ย เข้าห้องน้ำล้างมือมารึยังก็ไม่รู้ แล้วถ้าท่านจูงผมไปปล่อยกลางสะพานทำไงอ่ะ
“…”
ผมยังไม่ตัดสินใจเชื่อ กลัวแกลากไปปล่อยกลางสะพานจริงๆ
“ผมไม่แกล้งหรอก เร็วๆสิ”
เชื่อก็ได้วะ อืม วิวดีฉิบหาย ลมเย็นมาก
“ยิ้มหน้าบานเลย ที่บ้านไม่ปล่อยให้ออกเที่ยวรึไง”
เอ๊ะ คำพูดแปลกๆ
“เปล่าครับ บ้านผมก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่หรอก แต่ผมไม่เคยมา”
“อืม…ยืนเฉยๆนะ มองไปข้างหน้า”
อะไรของท่านเขาล่ะทีนี้ จะให้ผมทำอะไร
“…ท่านรองให้ผมทำอะไรครับ”
“คุณก็ยืนเฉยๆสิ มันยากรึไง ผมจะถ่ายรูป”
แล้วก็ซูมกล้องตัวละล้านแปดมาทางผม ผมมั่วครับ ไม่รู้ราคากล้องหรอกแต่ดูดีมีสไตล์เหมือนคนถ่ายด็คิดว่าคงจะแพงมาก
“ครับๆ”
ทำเสียงดุอีก ยังไม่ได้ขออนุญาตผมถ่ายเลย
แล้วท่านรองก็กดชัตเตอร์ 2-3 แชะ แล้วก็ยื่นมือมาให้ผมจับต่อ
“ไปตรงกลางสะพานกัน”
“ท่านรองคงไม่พาผมไปปล่อยแล้วหนีกลับหรอกนะ”
“…เห็นผมเป็นคนยังไง”
ไม่รู้เหรอ หลอกจูบผมแล้วทิ้งมั้ง เออ จริงด้วยผมยังไม่ได้แก้แค้นเลย อยากจะหยิกให้เนื้อเขียวจริงๆ
“…เหอะ”
“เวลาคุณเบะปากนี่มันเหมือนเจ้าปั๊กจริงๆ”
“ผมจะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกันครับ”
“อืม ถ้าคุณคิดว่าดีก็คิดไปแล้วกัน”
อืม ผมจะได้ทำบ่อยๆ ยิ่งมีแต่คนว่าหน้าเหมือนหมาอยู่ เป็นซะให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
“ไปเร็วๆ”
หืม มือท่านเขาเปลี่ยนมาโอบที่เอวแทน จั๊กจี้เลย
“ด…เดี๋ยวผมเดินเอง”
แล้วผมก็ใช้นิ้วหนีบมือท่านรองออกให้พ้นเอว แอบหยิกไปทีนึง
“หยิกผมเหรอ”
“เปล๊า ผมไม่กล้าหรอกครับท่านรอง”
“หึหึ คุณนี่มันกวนประสาทจริงๆ”
แล้วผมก็ค่อยๆเดินไปตรงกลางสะพาน ท่านเขาก็บอกให้ผมยืนโพสท่านั้นท่านี้แล้วถ่ายรูปของท่านเขาไป แล้วก็ลากผมกลับมาที่ฝั่ง รอดตายแล้วผม
หลังจากนั้นพวกเราก็ไปเที่ยวสวนน้ำเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ยกเว้นแต่พี่พลกับท่านรองที่นอนเก๊กอยู่ริมสระ
“ท่านรองไม่เล่นน้ำเหรอ”
ผมเดินตัวเปียกมะล่อกมะแล่กเข้าไปชวนท่านเขาตามมารยาท
“พวกคุณเล่นไปเถอะ”
“เอ็งเล่นไปเลย พี่ไม่ไหวว่ะ ขอนอนรอดีกว่า”
“ครับๆ เชิญท่านทั้งสองตามสะบายครับ”
แล้วผมก็กระโดดน้ำตูม ตั้งใจให้น้ำมันกระเด็นไปถูกท่านรอง แต่ดันไปไม่ถึง เสียดายฉิบหาย
“กวนประสาทได้ตลอดสิน่าไอ้น้องหมอกเนี่ย”
“หึหึ”
“ยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมแล้ว ไอ้เมฆ”
“หุบปากไปเลยไอ้พล”
แล้วใครมันจะไม่ยิ้มล่ะ กวนตีนเก่ง น่ารักก็เก่ง…
จบตอนที่ 7