Special : Halloween
ผมหยิบการ์ดเชิญสีดำลายฟักทองกับผีโยนใส่คนที่นอนดูอนิเมอยู่บนเตียง
“งานฮัลโลวีนของคนคอสเพลย์ มึงได้รับเชิญด้วยน่ะ ที่ไปช่วยจัดคิววันนั้นน่ะ” ผมพูดถึงวันที่ตัวผมไปขายโฟโต้บุ๊ค งานฮัลโลวีนที่พวกสตาฟจัดขึ้นจริงๆถึงจะบอกว่าเป็นงานแต้งกิ้วปาร์ตี้ แต่จริงๆแล้วคือมีตติ้งขำขันกันนั่นแหละ
“…ต้องไปด้วยเหรอ” มันทำหน้ายู่ “กลัวอึดอัดอ่ะ กูไม่ได้รู้จักใครสักหน่อย”
“เพื่อนๆกูเขารบเร้าให้ชวนมึงมาด้วย” ผมมองเพดานก่อนจะบอกออกมาลอยๆ “แล้วกูก็จะแต่งตัวเข้าธีมฮัลโลวีนด้วยน่ะ”
“ไป! ไปด้วยคน!”
เสียงตอบตกลงดังทันควันมาตามคาดทำให้ผมถอนหายใจ หลับตาลง
นี่ผมคิดผิดหรือเปล่าที่ตอบตกลงเป็นแฟนกับคนอย่างนี้
เคย์ part
พวกเรามาถึงที่งานก่อนเวลาหนึ่งทุ่ม จินหายไปในห้องแต่งตัว ทิ้งผมอยู่กับกลุ่มคนที่ไม่รู้จัก ก่อนที่ใครสักคนที่ผมจำได้ว่าเห็นในงานคอสเพลย์จะเดินมาลากตัวผม
“เราขาดคนอยู่พอดี เออ คืองานเราจัดกิจกรรมด้วยน่ะ แฟนจินใช่มั้ย ฝากไปเฝ้าห้องโบสถ์ที” ข้อมูลไหลจากปากเธออย่างรวดเร็วจนผมงง
“เออ…อะไรน่ะครับ”
“อ่า โทษที คืองานเรามีรางวัลใหญ่สำหรับคนที่ตามหาลูกอมฟักทองกับคำใบ้แล้วเอามาตอบคำถามได้อ่ะ ที่เธอต้องทำคือเฝ้าห้องห้องหนึ่ง สวมบทบาทเป็นบาทหลวงและถ้าใครผ่านก็ให้คำใบ้กับเขาไป”
ผมตกใจ แหงล่ะ มางานอยู่ดีๆกะจะกินให้พุงกาง อยู่ดีๆก็มีคนมาลากไปทำโน้นทำนี่ทั้งๆที่ไม่รู้จักใครเลย จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงล่ะ
“เออ ผมคงทำไม่ได้หรอกครับ” ผมปฏิเสธ ขืนตัวจากการจับกุมของแม่คุณ ก่อนที่คุณเธอจะหมุนตัวกลับมาน้ำตาคลอเบ้า
“ช่วยฉันหน่อยเถอะน่ะ สตาฟมันไม่พอจริงๆ”
อึก…บ้าเอ๊ย ผมโคตรแพ้น้ำตาเลย
สุดท้ายผมก็พยักหน้าอย่างฝืนๆก่อนที่คุณเธอจะร่าเริงเหมือนไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมาก่อน และลากผมไปยังห้องที่ตกแต่งคล้ายโบถส์
ผมกวาดสายตามองรอบห้อง ตอนนี้ผมเปลี่ยนชุดเป็นชุดบาทหลวงเรียบร้อยแล้วครับ แถมยังโดนเสยผมขึ้น ใช้เจลแต่งผมจนผมแข็งไปหมด แต่ดีน่ะที่มันเป็นบาทหลวงแบบโมเดิร์น เป็นเสื้อเชิ้ตกางเกงแสลคสีดำ ซึ่งตัวเสื้อมีคอปกตั้งๆแบบบาทหลวงที่เห็นกันในหนัง และที่คอผมมีผ้าสีม่วงพาด
เหมือนในหนังสุดๆ
ผมมองภาพตัวเองในกระจกด้วยความตื่นเต้น อดเข้าใจความรู้สึกของจินไม่ได้ เวลาได้เห็นตัวเองแต่งตัวแปลกๆแล้วมันชวนให้ตื่นเต้นจริงๆแหะ
อ่า…พูดถึงจิน…อยากเห็นชุดที่แต่งมากเลย
ผมกัดฟันอย่างเจ็บปวด
อุตส่าห์ถ่อมาถึงที่นี่เพื่อจะมองแฟนในธีมฮัลโลวีนให้เต็มสองตาแท้ๆ อยากรู้ชะมัดว่าจะแต่งตัวแบบไหน จะเป็นแม่มดน้อยหรือมัมมี่ที่มีเพียงผ้าคาดตามตัวกันน่ะ อ่า…ถ้าเป็นอย่างนั้นผมหิ้วเขากลับบ้านแน่ แต่ถ้าเป็นชุดหมาป่าก็ไม่เลว ใช่แล้วๆ มีหางน้องหมานี่คงสุดยอดไปเลย หรือจะเป็นชุดแคทวูแมน อยากโดนจินใส่ส้นสูงแล้วเหยียบผมชะมัด
เจ้าภัยสังคมเอ๊ย
ผมเขกกะโหลกตัวเองครั้งนึง เอาตัวเองกลับมาอยู่ปัจจุบัน มีคนคอสเพลย์ชุดต่างๆเข้ามาเรื่อยๆ มาขอคำใบ้จากผม และเนื่องจากไกด์คู่มือที่คุณสตาฟให้มาบอกให้ผมให้คำใบ้ยากๆ ผมเลยบอกให้สวดอิติปิโสสิบจบแล้วผมค่อยเฉลย
แต่อดทึ่งกับความเล่นใหญ่ของสตาฟงานนี้ไม่ได้ แต่งห้องเสียเหมือนยังไม่พอ ยังมีตู้สารภาพบาปตั้งไว้อีกต่างหาก ช่างลงทุนเสียจริง
กางหนังสือคู่มือไกด์แก้เบื่อได้ไม่นาน ประตูห้องก็ถูกเปิดอีกครั้ง ผมยิ้มอ่อนโยน(ตามที่คู่มือคุณไกด์บอก)ก่อนจะกล่าวทักทาย(ด้วยประโยคเลี่ยนๆที่เขียนไว้ในคู่มืออีกเช่นกัน)
“เชิญเข้ามาเลยเหล่าลูกแกะหลงทาง”
ก่อนที่จะชะงักค้างเมื่อเห็นคนที่เข้ามาใหม่ คนตัวเล็กที่เดินเข้ามาในชุดเดวิลนั่น
แม่ครับ…ฝังศพผมได้เลยผมตายตาหลับแล้ว
จินในชุดเสื้อไหมพรมสีดำตัวดังที่ปิดเพียงด้านหน้าและเปิดเปลือยแผ่นหลังเปลือยเปล่าซึ่งมีปีกเดวิลสีดำที่ดูอย่างไรก็เหมือนของจริงมากๆงอกออกมาจากหลัง คนตัวเล็กใส่กางเกงหนังขาสั้นสีดำซึ่งมีหางเดวิลงอกออกมา ที่ศีรษะคาดที่คาดผมเขาเดวิลสีแดงไว้
ผมยกมือขึ้นกุมจมูกอัตโนมัติเพื่อเช็คว่ามีเลือดกำเดาไหลหรือเปล่า
“เอ้า เอาคำใบ้มาได้แล้ว” จินยกสามง่ามในมือเคาะหัวผม
ผมกลืนน้ำลายเอื๊อกมองความขาวที่เข้ามาประชิดตัว ก่อนจะเปล่งเสียงสั่นๆไป
“คุณพ่อบอกคำใบ้กับคนบาปไม่ได้หรอก ยกเว้นก็แต่จะสารภาพบาปเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
จินชักสีหน้าขึ้นมาแวบหนึ่งตามสไตล์คนขี้โมโห
“สารภาพ?...ให้สารภาพยังไงล่ะ”
ผมยกยิ้มมุมปาก สารพัดวิธีเล่นกับเดวิลตัวน้อยผุดขึ้นมาในหัวเป็นฉากๆ
จะแกล้งจนร้องไห้ไปเลย
“สารภาพบาปให้จริงใจกว่านี้อีกหน่อยสิ” ผมบอกคนที่ซุกหน้าอยู่กับเป้ากางเกงผม มือนุ่มๆนั้นชักรูดความเป็นชายของผมไปมาไม่สัมพันธ์กับตาเฉียวๆที่มองผมขวางๆนั้นเลย
“ไม่ดีคุณพ่อก็บอกคำใบ้ไม่ได้หรอกน่ะ”
จินค่อยๆเริ่มไล่เลีย เม้มแค่ส่วนหัวแล้วใช้ปลายลิ้นตวัดเลียเบาๆ ก่อนจะส่งทั้งท่อนเข้าไปในโพรงปาก ผมสูดปากด้วยความเสียวกระสัน ในปากของจินยังคงอ่อนนุ่มและร้อนจัดจนทำให้รู้สึกดีเหมือนเคย
คนตัวเล็กดูดจนแก้มตอบพอๆกับผมที่จับท้ายทอยเขาดันเข้ามาจนใบหน้าเขาชิดโคนขาผม จินตีขาผมใหญ่ก่อนที่เขาจะปล่อยแล้วไอค่อกแค่ก
“ลึกไปแล้ว!” เขาแหวเสียงสั่น
“โทษที” ผมยิ้มแหะๆให้ “เร็ว กำลังรู้สึกดีเลย อีกนิดอาจจะบอกคำใบ้ก็ได้น่ะ”
เขาคุกเข่า ค่อยๆอ้าปากรับตัวตนของผมเข้าไปอีกครั้ง โยกหัวเข้าออกพร้อมๆกับใช้ลิ้นตวัดเลียทั่วท่อน ผมไม่ปล่อยให้เขาเล่นกับผมนาน หลังจากทนไม่ได้ ผมก็จับใบหน้าเขาให้อยู่นิ่งๆ สวนสะโพกเข้าเอียงๆจนกระพุ้งแก้มเขาถูกดันด้วยส่วนนั้นของผมจนนูนออก ผมระวังไม่ให้ตรงนั้นของผมล้วงลึกเข้าคอเขา เมื่อจับจังหวะได้แล้วจึงสวนเข้าออกถี่ๆจนกระทั่งเกือบปลดปล่อย
แกร๊ก!
เสียงประตูด้านหน้าเปิดทำเอาผมรีบถอนตัวออก อุ้มจินขึ้นและตรงไปเปิดตู้สารภาพบาปฝั่งซ้ายมือ พาตัวเองและเขาเข้าไปอยู่ในนั้น โชคดีที่ประตูติดขัดเล็กน้อย คนเข้ามาใหม่จึงต้องเปิดอยู่สองสามรอบจึงจะเปิดได้ ถึงตอนที่เขาเปิดแล้วผมก็ยืนซ้อนหลังจินในตู้สารภาพบาปทันท่วงที
“อ้าว คนใบ้หายไปไหนหว่า” เสียงเดินเข้ามาในห้องดังขึ้นในขณะที่ตัวผมจับสะโพกจินอย่างร้อนรน ปลดกางเกงหนังของเขาไปกองไว้ที่ขา
“แยกขาหน่อย” ผมกระซิบ แต่คนตัวเล็กส่ายหน้า
“ตอนนี้ไม่ได้” เขากระซิบตอบ ผมจึงเตะขาเขาเบาๆให้ขาเขาแยกออก จินเอื้อมมือมาข้างหลังหยิกขาผมเป็นการประท้วงแต่ผมไม่สนใจ ตอนนี้ร่างกายร้อนไปหมดจนรอไม่ไหวแล้ว
ผมใช้นิ้วเบิกทางให้เขา คว้านข้างในตัวจินจนพบจุดประจำที่ทำให้คนตัวเล็กบิดเร่าด้วยความกระสัน ผมกดย้ำซ้ำๆ ตัวเขาค่อยๆโค้งแอ่นจนทำให้เห็นแผ่นหลังกับปีกชัดขึ้นกว่าเดิม
เมื่อคิดว่าได้ที่แล้วผมก็กระทุ้งเข้าไปในตัวเขาอย่างแรงจนจินเกือบกรีดร้อง ถ้าไม่เพราะว่าผมเอื้อมมือไปอุดปากเขาก่อน เราน่าจะได้อับอายกันไปแล้ว ข้างในตัวจินบีบรัดผมแรงกว่าเคยด้วยความตื่นเต้น เขากัดฝ่ามือผมเบาๆเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงเล็ดรอดออกไป
“อ้าว งี้ก็หาคำใบ้ไม่ได้ดิ” คนข้างนอกยังไม่ออกไปไหน แต่ผมจะไม่ทนจนกว่าเขาจะออกไปหรอก ตัวผมค่อยๆสวนสะโพกเข้าออก ท่อนลำซึ่งชุ่มด้วยสารคัดหลั่งจากร่างกายของพวกเราแทรกเข้าไปในก้นของคนตัวเล็กอย่างจาบจ้วง จินยันมือกับผนังตู้สารภาพบาป ร่างกายแอ่นโค้งกับสีหน้าบ่งบอกว่าตัวเขาเองก็ตื่นเต้นกับสถานการณ์นี้ไม่ต่างกัน
“เฮ้ย หรือว่าจะอยู่ในตู้นั้น”
ภายในจินรัดแน่นขึ้น เขาหันมาหาผมอย่างร้อนรน แต่ผมหยุดไม่ได้แล้ว ผมยังคงสาวเข้าออกอย่างหน้ามืดจนเกิดเสียงสวบสาบของการเสียดสีจากร่างกาย มือขย้ำบั้นท้ายกลมกลึงของอีกฝ่ายไม่หยุด
แอ๊ด!
โชคดีที่คนข้างนอกเปิดประตูฝั่งขวา ผมแช่ตัวค้างไว้ มืออุดปากจินให้เงียบ ก่อนที่คนข้างนอกจะปิดประตูลงและถอนใจกับการค้นหา จากนั้นผมได้ยินพวกเขาเปิดประตูและเดินออกไป
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
ทันทีที่เสียงประตูปิดแล้วผมก็ถอนตัวออกเกือบสุดแล้วกระแทกเข้าไปใหม่อย่างแรงจนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องทั่วตู้ ผมกระแทกตัวตนเข้าไปไม่หยุดพร้อมๆกับที่ชักรูดส่วนนั้นของจิน
“อ่า…อือ….ไม่ไหว จะเสร็จแล้ว” คนตัวเล็กกรีดร้องเมื่อปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมา ผมเองก็กระทุ้งเข้าไปในตัวเขาแรงๆอีกไม่กี่ครั้งก่อนจะปลดปล่อยออกมาตามกัน
เสร็จแล้วผมก็จับตัวเขาหันมา จูบซับน้ำตาก่อนจะบอกคำใบ้
“คำใบ้คือ…ลูกแกะ17ตัว เก่งมากปีศาจน้อยของผม”
“ฉันควรถามมั้ยว่านายหายไปไหน”
แม่คุณสตาฟที่ลากผมมาช่วยงานหรี่ตามองผมที่ประคองจินออกมาจากในห้อง
“เออ…ไม่ควรครับ” ผมหัวเราะแหะๆก่อนที่เธอจะส่ายหน้า
“เออ ช่างมันเถอะ เกมจบแล้ว คุณเรนทายได้คนแรก อย่าลืมกลับมานั่งสังสรรค์กันต่อล่ะ”
ผมพยักหน้าแล้วพาพวกเราไปจัดการให้เรียบร้อย ระหว่างที่กำลังเช็ดหน้าเช็ดตาให้คนตัวเล็กผมก็สะดุ้งเมื่อเห็นเขากัดฟันทำหน้าตาน่ากลัว
“เรนไปที่ห้องนั้นแล้วได้คำใบ้มาแล้วเหรอ”
“…ใครอ่ะ” ผมยิ้มเอาอกเอาใจเขาทั้งๆที่จำร่างอรชรนั้นได้แม่นทีเดียว เพราะเป็นคนเดียวกับที่จินสั่งให้เอาทวิตทุกอันมานั่งรีพอร์ตทวิตของคนคนนั้น สายแทรปซึ่งเป็นศัตรูกับแฟนผมมาตั้งแต่ช่วงคอสใหม่ๆ
“หมอนั่นทำอะไรนายหรือเปล่า” จินถามไม่หยุด ส่วนผมก็ได้แต่เหงื่อแตกพลั่กๆเพราะโดนอีกฝ่ายลวนลามจริงๆระหว่างที่อยู่ในห้องนั้น เขาเข้ามาประชิดตัวผมก่อนจะบีบเป้าผมจนผมตกใจวิ่งไปหลบในตู้สารภาพบาป แต่ฝ่ายนั้นก็ตามมาเปิดตู้(ซึ่งผมดันไว้ด้วยแรงทั้งหมดที่มี) ก่อนจะขู่ว่าถ้าไม่บอกคำใบ้จะไม่ยอมออกไป
น่ากลัว…คนคนนั้นตัวเท่าๆจินแต่โคตรน่ากลัวเลย
“ปะ…เราออกไปข้างนอกดีกว่าเนอะ” ผมฉีกยิ้มและก็หิ้วปีกคนที่โวยวายไม่หยุดออกมาในงาน
จินนั่งหน้ายู่มองร่างผอมสูงที่เดินขึ้นไปรับถ้วยรางวัล เรนฉีกยิ้มในขณะที่เดินเฉียดผม เขายกยิ้มใช้ปลายนิ้วลูบไล้แผ่นอกใต้เสื้อเชิ้ตของผม ผมขนลุกเกรียวจนสะดุ้งเฮือก ตัวแข็งทื่อ
เขาหันไปมองหน้าจินก่อนจะบอกว่า
“เป้าแฟนนายแน่นดีน่ะ”
คนตัวเล็กเบิกตากว้าง ก่อนจะหรี่ตาอย่างดุร้าย
“ไปห่างๆเขา ไม่มีปัญญาหาแฟนเองรึไง อ้อออ ลืมไป ผมลืมว่าไม่มีใครทนคนปากเสียแถมยังนิสัยห่วยแตกอย่างนายได้นี่นา” จินยิ้มเยาะ
“ถ้าผมปากเสีย นายมันก็ไอ้เตี้ยฟอลโลว์น้อยนั่นแหละ”
เปรี๊ยะ!
ผมเห็นไฟในตาทั้งสองคนตีกัน ก่อนที่เรนจะสะบัดหน้ากลับไปนั่งที่โต๊ะ
คนตัวเล็กกัดฟันกรอดๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้มาทิ้งตัวลงบนตักผม สองแขนเอื้อมมือกอดคอผมแสดงความเป็นเจ้าของ
ผมสะดุ้ง เหลือบมองรอบกายเล็กน้อย แต่ไม่มีใครสนใจเราสักคน เหมือนกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา
“กลับไปนายโดนแน่ ไอ้หมาโง่! เขาเข้ามาลวนลามทำไมไม่ถีบแม่งซะเลยล่ะ” จินยกนิ้วขึ้นจิ้มหน้าผากผมแรงๆ
ผมยกมือขึ้นลูบหน้าผากป้อยๆ ก้มลงจุ๊บปากเขาเบาๆแล้วยกแขนขึ้นกระชับเอวอีกฝ่าย
คืนนี้สงสัยผมจะต้องรีบกลับไปง้อคุณปีศาจตัวน้อยเสียแล้ว
ส่งท้าย
จิน part
ผมไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจจริงๆ
เจ้าหมาโง่ตัวโตนั้นมีอะไรดีนักหนาคนถึงได้เข้าไปคุยกับเขาเรื่อยๆ ก็แค่ออลแบล็ค เสื้อเชิ้ตสีดำกางเกงแสลค ไหล่กว้างเหยียดตรง แผ่นอกเรียบตึง แค่ตัวสูง แค่ดูสมาร์ทมากๆในชุดบาทหลวงนั้น แค่…
“หึงเหรอจ้ะกิ้วๆ” เสียงหยอกล้อจากเพื่อนดังข้างหูผม
“ใครหึง!” ผมหันกลับไปสวนทันควัน หยิบเอาแก้วน้ำพันช์จากมือเธอมาดื่ม
“ว้า แฟนเธอนี่หล่อสุดยอดไปเลย ยิ่งเสยผมยิ่งหล่อสุดยอดไปเลย หุ่นก็ดี น่าเอามาคอสจริงๆ”
“เงียบปากไปเลย” ผมพูดอย่างหงุดหงิดก่อนจะได้รับเสียงแซวจากคนรอบข้าง
“ขี้หึงน่ะจินเนี่ย”
“ก็แหงล่ะ น่าจะเป็นแฟนคนแรกและคนเดียวของเจ้าเตี้ยนี่ มีใครในโลกจะทนมันได้อีกเหรอ” เรน
อ่า…ไอ้ฟัคนี่ ไอ้ฟัคที่เหมือนโคลนของผมเป๊ะ รูปร่างหน้าตานิสัยและสเป็คคน เหมือนผมทุกอย่างจนหงุดหงิด แถมยังเป็นคนที่ตั้งแต่งานคอสก็เข้ามากระซิบบอกว่าสนใจเคย์ แถมบอกว่าจะแย่งไปอีก
ผมหันกลับไปชูนิ้วกลางในเรน(ซึ่งเป็นนามแฝงในวงการคอสของเขา)ก่อนจะสาวเท้ายาวๆเข้าไปหาคนที่กำลังยืนหัวเราะกับเพื่อนนักคอสของผม จับท้ายทอยอีกฝ่ายดึงลงมาประสานจูบ แลกเปลี่ยนรสน้ำพันช์ในปากของผม
ได้ยินเสียงโห่ร้องแซวจากคนรอบข้าง
ผมยกยิ้ม พอใจกับการแสดงความเป็นเจ้าของต่อหน้าคนเยอะๆแบบนี้ เกี่ยวคอเขาลงมาจูบอีกรอบ ช่างคุ้มค่ากับที่พยายามล่อลวงเขาเข้ามาในสังคมประหลาดๆของผมจริงๆ
---------------------------------------------------------------------------------------
คลบาปปปป พยายามปั่นตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่แรคเปิดเลยเล่นแรคก่อน 5555555555555555555
นี่ชอบสังคมเด็กคอสเพราะเท่าที่สัมผัสมาค่อนข้างเปิดกว้างน่าดู
แวบไปเล่นแรคต่อก่อนนะคะ อิส