[เรื่องสั้น] Cosplayer ชุดสาวน้อยเวทมนตร์ P.14 จบ[3/08]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] Cosplayer ชุดสาวน้อยเวทมนตร์ P.14 จบ[3/08]  (อ่าน 97721 ครั้ง)

ออฟไลน์ Zurruz

  • สาววายพันธุ์ยัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่1 P.6
«ตอบ #180 เมื่อ28-11-2018 13:00:35 »

มั่นใจแล้วว่าเด็ก มธ 55555555 สนุกมากค่ะๆ สู้ๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่1 P.6
«ตอบ #181 เมื่อ28-11-2018 19:57:09 »

หมาโง่จะแอ๊บได้นานแค่ไหนคะ 555555555555

ออฟไลน์ jaibang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่1 P.6
«ตอบ #182 เมื่อ28-11-2018 22:12:28 »

โอ๊ย สะดุดมากตอนเพื่อนชวนขึ้นก้ำ รู้เลยนะคะว่าเรียนแถวไหน55555555

ออฟไลน์ mew.kani

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่1 P.6
«ตอบ #183 เมื่อ28-11-2018 23:58:33 »

ใจเต้นแรงขนาดนี้ ชอบเค้าแล้วใช่มั้ยคะ น้องจิน  :-[

ออฟไลน์ Wanna yui

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่1 P.6
«ตอบ #184 เมื่อ29-11-2018 21:43:00 »

จินเป็นคนซึนๆ55

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่1 P.6
«ตอบ #185 เมื่อ30-11-2018 00:19:36 »

ดีใจที่เป็นเรื่องยาวแล้ว :L2: นี่ยังประทับใจตอนจินน๊อตหลุดเรื่องโรคจิตที่ผลักเคย์ตกบันไดมาก ชอบ ๆๆ

ออฟไลน์ taku_kimu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่1 P.6
«ตอบ #186 เมื่อ30-11-2018 08:01:11 »

สนุกจ้า

ดีจัง จะเป็นเรื่องยาวแล้ว  :katai2-1: รออ่านเรื่อยๆ นะคับ  :mew1:

ออฟไลน์ HappyYaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่1 P.6
«ตอบ #187 เมื่อ30-11-2018 10:16:10 »

ดีใจที่เป็นเรื่องยาวแล้ววววว

ออฟไลน์ Wwavez

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่1 P.6
«ตอบ #188 เมื่อ30-11-2018 12:45:02 »

อยากรู้มากว่าเจ้าหมาโง่เค้าคิดยังกับจินตอนนี้ ดีใจที่เป็นเรื่องยาวแล้วว :katai2-1:

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่1 P.6
«ตอบ #189 เมื่อ30-11-2018 14:22:50 »

คอยเลยยยยยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่1 P.6
« ตอบ #189 เมื่อ: 30-11-2018 14:22:50 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lostinthelight

  • 엑소엘
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่1 P.6
«ตอบ #190 เมื่อ18-12-2018 01:11:04 »

ชอบมากกกกกกกๆๆๆ :hao5:

ออฟไลน์ MeiHT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่1 P.6
«ตอบ #191 เมื่อ26-12-2018 00:19:39 »

บทที่ 2 : โป๊ะแตก

   เสียงก๊อกแก๊กในห้องทำให้ผมงัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมา เพ่งมองฝ่าความมืดเพื่อพบร่างสูงใหญ่กำลังสวมรองเท้าวิ่งอยู่แถวๆหน้าห้อง

   “ไปวิ่งเหรอ” เสียงผมแหบพร่าเหมือนคนคอแห้งระดับสุดท้าย และอาจจะเพราะเสียงของผมมันแย่มากจนรูมเมทของผมต้องละมือจากการผูกเชือกรองเท้ามาหยิบแก้วน้ำไปใส่น้ำให้ผมดื่ม

   “อือ อยากเอาอะไรมั้ย” เขาถาม

   ผมรับแก้วน้ำใบโปรดมาจากมือเขา ยื่นหน้าออกมาจากปราการผ้าห่มเพื่อดื่มน้ำ ลำคอแห้งผากในที่สุดก็ได้เจอโอเอซิส ผมกลืนน้ำอย่างกระหายจนหมด

   กล่าวขอบคุณเบาๆยามยื่นแก้วกลับไป ขดมือและใบหน้ากลับเข้ามาในผ้าห่ม ม้วนตัวจนเหมือนดักแด้ รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแปลกๆ เหตุผลน่าจะมาจากอากาศช่วงสองสามวันที่ผ่านมาค่อนข้างแปรปรวน เดี๋ยวก็ฝนตกเดี๋ยวก็แดดจ้า ทำเอาปรับตัวไม่ทัน และคนกระหม่อมบางอย่างผมก็ป่วยไปตามระเบียบ

   “…ไม่” ผมนิ่งคิดครู่หนึ่งก่อนจะส่ายศีรษะทั้งๆที่ยังคงซ่อนใบหน้าตัวเองไว้ใต้ผ้าห่ม

   ท่ามกลางความมืดนี่ผมมองไม่เห็นสีหน้าของเขา จึงไม่แน่ใจว่าเคย์กำลังรู้สึกอย่างไรยามนั่งอยู่บนเตียงตัวเองและจ้องมองผม แต่สังเกตได้จากท่าทางว่าเขาก็ละล้าละลังจะเข้ามาเช็คผมพอสมควร อาจจะเพราะครั้งที่แล้วผมตวาดเขาเสียงดังหลังจากเขาเข้ามาใกล้ๆจนทำให้ฝังใจพอสมควร

   “ไปเถอะ” ผมบอกเขา ขดตัวซ่อนในผ้าห่มจนกลายเป็นก้อนกลมๆ ไม่กี่อึดใจหลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงปิดประตูเบาๆ

   แค่ก

   เผลอไอออกมาทีหนึ่งอย่างอดไม่อยู่หลังจากอีกฝ่ายออกจากห้องไปแล้ว ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนกลั้นไว้ทำไม กับแค่เป็นหวัดแท้ๆ ทั้งคันคอทั้งปวดตัวเพราะพิษไข้ ทรมานอย่างบอกไม่ถูก แต่บอกตรงๆว่าคนป่วยง่ายอย่างผมค่อนข้างชินแล้ว และเพราะอาศัยอยู่ตัวคนเดียวมาสักพักจึงค่อนข้างมั่นใจว่ารับมือตัวเองไหว

   ผมพยายามข่มตาหลับทั้งๆที่ร่างกายบอกตัวเองว่าหลับพอแล้ว

    หลับสิ หลับสิ หลับสิ

   ผมพยายามหลอกร่างกายตัวเอง แต่พลิกตัวก็แล้ว นับลูกแกะก็แล้ว ร่างกายไม่รักดีนี่ก็ไม่ยอมหลับสักที

   โทรศัพท์ที่ถูกเสียบปลั๊กชาร์ตไว้ข้างเตียงถูกถอดออกมา ผมยีตาเพราะแสงสว่างจากหน้าจอที่เพิ่งถูกปลดล็อกเมื่อครู่

   เสิร์ชหาลิสต์เพลงสำหรับRelax

   กดเล่นเพลงแรกและหลับตาลง ภาวนาให้ตอนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ไอ้อาการปวดตัวนี่จะหายไปเป็นปลิดทิ้งเสียที



   คำภาวนาผมไม่เป็นผล เพราะตอนตื่นมาผมก็ยังคงมึนงงกับฤทธิ์ไข้เหมือนเดิม ดีก็ตรงรู้สึกสบายตัวมาก เหมือนตัวจะเบาขึ้นนิดหนึ่ง

         ผมพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนที่วัตถุเปียกชื้นสีขาวจะตกลงจากหน้าผากแหมะลงบนตัก

   ผ้าชุบน้ำ?

   หันมองไปทางด้านซ้ายมือซึ่งเป็นที่ตั้งของเตียงรูมเมทก็พบกับโต๊ะญี่ปุ่นไม่คุ้นตากางตั้งอยู่บนเตียง มีแก้วน้ำ เหยือกกับข้าวเหนียวหมูปิ้งอยู่บนนั่นพร้อมกับแผ่นกระดาษสีขาวเขียนด้วยลายมือหวัดๆ

   ยังเช้าอยู่เลยหาข้าวต้มให้ไม่ได้ ฝืนกินลงไปหน่อย หลังเรียนเสร็จแล้วจะซื้อข้าวต้มปลามา อย่าลืมกินน้ำเยอะๆแล้วก็พักผ่อน มีอะไรโทรมาที่เบอร์ 086-463-xxxx

   หมอนี่…

   ผมยกน้ำขึ้นดื่มทั้งๆที่มีรอยยิ้มกว้างแต่งแต้มอยู่บนริมฝีปาก

   บ้าเอ๊ย เหมือนผมจะป่วยเพิ่มเลย

   หัวใจแม่งเต้นแรงจนได้ยินเสียงตึกตักข้างหู

   มันต้องเพราะอาการป่วยแน่ๆ ต้องใช่แน่ๆ

   ไม่มีทางเป็นความรักไปได้หรอก


   ผมมองคนตัวใหญ่ที่กำลังเทข้าวต้มปลาใส่ถ้วยกระเบื้องแบบงงๆ ปกติแล้วเขาจะไม่ใช่คนแต่งตัวมากมายถ้ามีเรียนตอนเช้า แต่วันนี้เขาเสยผมขึ้น ทำให้เห็นกรอบหน้าคมๆกับตาเฉียวๆ ยิ่งเสริมลุคแบดบอยหนักเข้าไปใหญ่ และเพราะมหาลัยนี้ค่อนข้างจะมีอิสระด้านการแต่งตัวพอสมควร ส่วนใหญ่เราจึงมักจะเห็นนักศึกษาในชุดสบายๆ แต่หมอนี่กลับแต่งตัวแฟชั่นด้วยกางเกงยีนส์สีเข้มกับเสื้อฮู้ดตัวใหญ่ที่เข้ากับหุ่นเขาได้พอดี

   คันปากยิบๆอยากจะถามเหลือเกินว่าจะแต่งตัวอะไรขนาดนี้พ่อคุณ หว่านเสน่ห์ยังไม่พอใช่มั้ย แต่ก็เกรงว่าระดับความสนิทยังไม่มากพอจะแซว

   ไหนๆถ้าจะขนาดนี้แล้วไม่เจาะหูสักข้างด้วยเลยล่ะ ใส่ตุ้มหูแบดๆสาวๆกรี๊ดตรึม

   โน….เปล่า ผมไม่ได้หงุดหงิดหรืออะไรนะ แค่คันปากเฉยๆ

   แต่ก็หน้าตาดีจริงๆนั่นแหละ ชนิดที่ว่าผมซึ่งเล่นทวิตเตอร์และฟอลคนในมหาลัยตัวเองหลายคนก็มักจะได้เห็นรูปแอบถ่ายของเขาผ่านหน้าทล.ไปไม่มากก็น้อย

   อนาคตเดือนคณะแหง

   หรือช่วงนี้จะแต่งตัวเรียกคะแนนนิยม

   เหอะ อย่างที่คิด ถึงนิสัยดีแต่ก็เป็นพวกหลงตัวเอง

   ผมมองกระจกซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะ มันสะท้อนใบหน้าหวานๆของผม ดวงตากลมโต ขนตายาว ปากนิดจมูกหน่อยกับผิวขาวละเอียด

   ทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่ตกทอดมาจากแม่ หน้าตาของผมเหมือนมารดาผู้ให้กำเนิดอย่างกับแกะ

   จะว่าไป ตอนเด็กๆแม่ชอบจับผมใส่กระโปรงเอาไปหลอกเพื่อนๆว่าผมเป็นเด็กผู้หญิงบ่อยๆ ท่านชอบเอามาเล่าเป็นเรื่องขำๆทุกครั้งที่เรามีบทสนทนาเรื่องในอดีต รูปตอนที่ผมยังเด็กชนิดยังจำความไม่ได้และใส่กระโปรงสีชมพูยังคงอยู่ในอัลบั้มเล่มโปรดของแม่อยู่เลย

   “ได้แล้ว” ข้าวต้มปลาหอมฉุยถูกวางไว้ตรงหน้า เคย์ส่งยิ้มประหม่า มือใหญ่ซึ่งมีเส้นเลือดนูนขึ้นมาตามผิวหนังเล็กน้อยส่งผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำมาให้

   “เผื่อเหนียวตัว” เขาบอก

   ผมตักข้าวต้มมาเป่า เหลือบตามองผ้าชุบน้ำผืนเดิมก่อนจะเอ่ยถามเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญ

   “ตอนเช้ามึงเช็ดตัวให้กูเหรอ”

   คนตัวโตที่กำลังนั่งยองๆอยู่หน้าตู้เย็นซึ่งกำลังยกน้ำดื่มถึงกับสำลัก

   “เออ…เปล่า ไม่ๆ ใช่…ใช่แหละ เป็นคนเช็ดตัวให้เอง” เขาช้อนตาขึ้นมองซึ่งทำให้ผมนึกถึงลูกหมาตัวโตๆที่กำลังพยายามอ้อนเจ้าของ “โกรธหรือเปล่า”

   สาย…สายตาลูกหมา

   เจิดจ้าโคตรๆ

   “ไม่…” ผมหันใบหน้าหลบไปด้านข้างและหวังว่าอีกฝั่งคงจะไม่สังเกตเห็นความร้อนซึ่งพุ่งสูบฉีดบนใบหน้าของผม “ขอบคุณ”

   “ดีแล้ว งั้นนอนพักอีกสักหน่อยก็แล้วกัน”

   “นอนไม่ไหวแล้วเนี่ย” ผมบ่นอุบอิบ “นอนเยอะจนปวดตัวไปหมดแล้ว”

   “อ้าว เป็นงั้นไป” เขาหัวเราะ “งั้นเปิดไฟเลยแล้วกันนะ”

   “อือ” ผมเพิ่งสังเกตว่าห้องถูกปิดไฟไว้อยู่ งั้นหลังจากที่เขากลับเข้าห้องมา เขาไม่เปิดไฟแล้วก็เดินในห้องมืดๆเพราะไม่อยากให้แสงไฟรบกวนผมเหรอ

   บ้า….บ้าไปแล้ว

   ผมไม่ชินกับการมีคนอยู่ด้วย และใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาสักพักจนชินกับการจัดการอะไรบางอย่างด้วยตัวเอง รวมถึงการหอบสังขารพังๆไปซื้อข้าวและยาทุกครั้งที่ป่วย

   ผมคิดว่าชีวิตแบบนั้นมันก็โอเคกับผมแล้ว

   ผมสามารถอยู่ตัวคนเดียว สนุกกับการเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียว แม้จะเหงาหน่อยๆตอนที่เห็นห้องโล่งๆแต่ผมก็คิดว่าชีวิตแบบนี้เหมาะกับตัวเองเหลือเกิน

   แต่วันนี้ดันมีใครคนหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าการที่ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นคนอยู่ข้างๆมันเป็นความรู้สึกที่ดีกว่าตอนที่ตื่นขึ้นมาในห้องโล่งๆกว่าเยอะ

   บ้าชะมัด

   ไอ้คนตัวโตที่ยืนหน้ายิ้มอยู่ตรงนั้นเลิกหว่านเสน่ห์ใส่ผมเสียทีเถอะ

   ก่อนที่ผมจะเสพติดความรู้สึกดีแบบนี้จนถอนตัวไม่ได้


   “ได้รับเลือกเป็นเดือนคณะ?”

   “อือ” เขายิ้มเขินๆ “หลังจากนี้พี่เขาบอกว่าอาจจะต้องซ้อมโน้นนี่เพื่อขึ้นแสดงประกวดดาวเดือน อาจจะดึกบ้าง ถ้ากลับมาไม่ทันก็จะนอนหอเพื่อนนะ”

   “อ้อ” ผมพยายามประมวลผลในหัวแต่สมองเหมือนจะแล่นช้าผิดปกติ

   อ่า…ผมว่าถึงตรงนี้ผมควรจะต้องดีใจไม่ใช่เหรอที่ในที่สุดหมอนี่ก็จะออกจากห้อง ผมก็จะได้อัพเดทงานอดิเรกส่วนตัวที่
โดนขัดขวางมานานเสียที

   ใช่แล้ว ผมควรดีใจสิ

   แต่ทำไมหัวใจมันเหี่ยวๆจังวะ

   “ดีแล้ว” ผมตอบได้แค่นั้น

   “จินจะมาวันดาวเดือนมั้ย”

   “ต้องไปอยู่แล้ว เพื่อนกูเป็นดาวเหมือนกัน”

   “อ้อ…” คนตัวโตก้มลงมองพื้นห้องเหมือนจะหามดที่เดินอยู่ “แล้ว…จะมาเชียร์กูด้วยได้มั้ย”

   ผมมองเคย์ที่เกาแก้มตัวเอง ใบหน้าคมยังคงก้มหาเศษฝุ่นบนพื้นไม่เลิก แต่ผมก็เห็นใบหูแดงๆนั้นอยู่ดี

   โอ๊ย บ้าเอ๊ย ทำไงดี

   ผมโคตรอยากเอาหมอนข้างมาฟาดๆเตียงเลย

   หัวใจที่เหี่ยวๆเมื่อกี้มันเหมือนจะกลับมาฟูๆนิดหนึ่ง

   ผมอ้ำอึ้งอยู่นาน จนแล้วจนรอดก็พูดออกมาได้ประโยคหนึ่ง

   “…ไหนๆก็จะไปเชียร์เพื่อนอยู่แล้ว ก็จะไปดูโชว์ของมึงด้วยแล้วกัน”


   อยากตาย

   หัวใจเต้นเหมือนตัวละครในมังงะโชโจ ไม่ไหว ไร้เหตุผลสุดๆ

   ผมไม่เคยคิดถึงตอนตกหลุมรักใคร เอาจริงๆคือยังคิดไม่ออกเลยว่าชีวิตนี้จะตกหลุมรักใครได้ ผู้หญิงน่ะหรือ อ่า เอาเป็นว่า
ผู้หญิงที่ผมชอบรองจากแม่คือตัวเองตอนแต่งเป็นหญิง ส่วนผู้ชาย…ผมไม่เคยจินตนาการว่าตัวเองจะตกหลุมรักกับคนตัวใหญ่ผิว
หยาบกร้านพูดจาโผงผางแถมชอบจับกลุ่มนินทาคนอื่นไปเรื่อย

   หืม คุณคิดว่าผู้หญิงขี้เม้าท์เหรอ

   หึ จะบอกเลยว่าผู้ชายนี่เป็นขั้นกว่าของความขี้เม้าท์ โอเค สำหรับผู้ชายมันจะไม่เรียกว่าการนินทา เขาจะเรียกว่าการแลกเปลี่ยนข้อมูล

   แต่ขอโทษเถอะนะ มันก็เรื่องเดียวกันนั่นแหละ ไอ้ทุเรศเอ๊ย

   แถมการนินทาของผู้ชายนี่บอกได้เลยว่าถ้ามาฟังต้องถึงขั้นหน้าสั่นกันแน่ๆ

   แต่ก็นั่นแหละ หลังจากตอนนั้นผมนอนแทบไม่หลับ ใต้ตาดำคล้ำถึงขั้นที่เคย์ทักว่าเกิดอะไรขึ้น ผมได้แต่บอกปัดๆไปว่าเพราะนอนพอจากตอนกลางวันเลยนอนไม่หลับ

   ข่าวดีก็คือหวัดของผมหายเป็นปลิดทิ้ง ส่วนข่าวร้ายน่ะหรือ

   ตรงหน้าผมนี่ไง

   ชายหนุ่มรูปร่างคุ้นตา ตัวใหญ่ๆกับไหล่กว้างทำให้เขาดูสมาร์ตสุดๆ ใบหน้าคมเข้มนั่นแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มจนทำให้น่า
เข้าหา

   หืม สุดยอด

   คนที่เมื่อวานพูดเรื่องให้ไปเชียร์ด้วยหน้าตาเขินๆ วันนี้คุยกับผู้หญิงได้หน้าตาเฉยเลยว่ะ

   โห คนเดียวไม่พอนะ คุยทีเดียวสองคนเลยเหรอ

   โอเค แล้วมหาลัยก็ตั้งกว้าง ทำไมกูต้องมาเจออะไรแบบนี้พอดี

   ผมเคาะเท้ากับพื้นเป็นจังหวะ ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงได้หัวร้อนกับรอยยิ้มเจ้าชู้ที่รูมเมทตัวเองส่งให้สาวๆพวกนั้นนัก แถมยิ่งเวลาที่พวกเขาหัวเราะด้วยกันยิ่งทำให้ผมจิ๊ปากหนักเข้าไปใหญ่

   อ่า จิน! ไอ้โง่เอ๊ย กูไม่น่าจะใจเต้นให้คนพรรค์นี้เลย

   ผมหันหลังเดินกระแทกเท้าออกจากบริเวณใต้ตึกทันที แน่นอนว่าผมจะต้องกลับไปซุกหัวกับหมอนที่ห้อง เป่าลมเย็นๆให้หัวโง่ๆนี่มันเย็นลงสักหน่อย
   


   หลังจากวันนั้น

   สามวันแล้วนะ!

   เอาหมอนข้างฟาดเตียงคนข้างๆดังปั่กปั่ก

   หายไปเหมือนตายไปแล้ว เหมือนไม่เคยมีรูมเมทมาก่อน

   ผมโยนหมอนข้างในมือทิ้ง ปัดผมเผ้าที่รุงรังเพราะการอาละวาดเมื่อกี้

   ดี! ดี! และดีมาก! แค่นี้ผมก็จะสามารถทำงานอดิเรกได้แบบไม่ต้องสนใจคนคนนั้นอีกต่อไปแล้ว

   ผมก้าวลงจากเตียงอย่างเกรี้ยวกราด เดินไปหยิบกล่องที่ซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้า ผมขมวดคิ้วนิดหนึ่งเมื่อเห็นว่าเสื้อผ้าในกล่อง
เหมือนจะจัดเรียงไม่เหมือนเดิม

   ผมจำได้ว่าผมพับเสื้อใส่ไปก่อนแล้วค่อยพับกระโปรงลงไปนี่ แต่ตอนนี้ในกล่องเป็นเสื้ออยู่ข้างบน

   แต่ช่างเถอะ ผมอาจจะจำผิดเองก็ได้

   ผมหยิบชุดคอสชุดใหม่ที่ส่งมาที่คอนโดก่อนจะเข้าหอเพียงแค่วันเดียว รู้สึกตื่นเต้นกับกระโปรงฟู่ฟ่องน่ารักๆกับลูกไม้
ละเอียดสีดำ

   ชุดนี้มันน่ารัก! น่ารักมากๆจริงๆ!

   ตัวละครที่ผมจะคอสครั้งนี้มาจากเกมชื่อดังจากเมืองจีนที่ผมเล่นมาเกือบ5เดือนแล้ว ดีไซน์ชุดของตัวละครสุดยอดสุดๆ รายละเอียดเยอะจนค่าสั่งตัดแพงมาก ผมแทบหลั่งน้ำตาให้กับชุดกี่เพ้าสีดำที่ผสมกับชุดแนวโลลิต้ากับพัดทำมือซึ่งเผลอๆจะแพงกว่าชุดนี้เสียอีก

   การคอสเพลย์น่ะ ไม่ใช่แค่รู้ว่าตัวละครใส่ชุดอะไรแล้วก็ได้หรอก คนที่คอสต้องรู้จักตัวละคร ต้องทำความเข้าใจนิสัยใจคอของตัวละครตัวนั้น ไม่ใช่แค่เพราะว่าดังเลยหยิบมาคอส แต่ต้องคอสเพราะชอบจริงๆต่างหากล่ะ

   หยิบวิกผมสีดำยาวมาสวม ปกติแล้ววิกผมต้องตั้งอยู่กับหัวจำลอง แต่เพราะผมแอบมันไว้ในกล่องเลยทำให้ผมแอบพันกันนิดหนึ่ง ผมจึงต้องจัดการสางอย่างเบามือเสียก่อน

        เมื่อเสร็จแล้วผมก็คลี่พัดในมือและโพสท่าไปเรื่อยๆหน้ากระจก

        หลังจากถ่ายรูปปกติไปนิดหน่อย ก็ถึงเวลาถ่ายรูปแบบจริงจังเสียที ผมทิ้งตัวลงบนเตียง บิดเอวเผยเรียวขา มือที่ถือพัดยกขึ้นมาปิดซีกหน้าล่าง ส่วนมืออีกข้างเกี่ยวกระโปรงตัวเองขึ้นมาเล็กน้อย

         ภาพที่สะท้อนในกล้องคือคนหน้าหวานซึ่งทอดตัวอยู่บนเตียง เอวอรชรจนเป็นรูปตัวS เรียวขายาวขาว ทั้งหมดนั่นชวนให้คิดว่านี่คือผู้หญิง แต่หน้าอกกลับแบนราบจนชวนให้สับสน คนคนนั้นดึงกระโปรงตัวเองขึ้นมาจนเกือบเห็นสิ่งที่เผยความจริง แต่ไม่ว่าจะเพ่งอย่างไรกลับมองไม่เห็นจนชวนให้หงุดหงิด

          ผมยกยิ้มมุมปากตามคาแรคเตอร์ของตัวละครก่อนที่กล้องซึ่งตั้งไว้ปลายเตียงจะถ่ายภาพไว้

          โอเค ภาพเพอร์เฟ็คมาก

           แต่อยากให้ผ้าปูเตียงเป็นสีดำชะมัด อ่า ผ้าซาตินลื่นๆสีดำน่าจะเหมาะสุดๆ

           ผมนั่งเหม่อคิดอะไรเพลินๆ ทำให้ไม่ได้ยินเสียงไขกุญแจประตู

            กว่าจะรู้ตัวอีกที ประตูก็ถูกเปิดออกโดยรูมเมทที่หายไปนานสามวันของผม

------------------------------------------------------
นั่งพรูฟคำผิดนานมาก และผิดหลายจุดจริงๆ ฮา
ลองใช้เทคนิคที่หลายๆคนแนะนำมาเรื่อง นะ น่ะ ละ ล่ะ วะ ว่ะ
ต้องใช้ผสมๆกันไป เพราะพอผันแล้วเราจะผันแบบ น-อะ-น่ะ แบบนี้ 5555555555555555555555555555555
ถึงเวลาต้องปัดฝุ่นสกิลการใช้ภาษาไทยแล้ว ฮือ เราอยู่กับภาษาอังกฤษมากเกินไปปป
จริงๆมีคนเดามหาลัยถูกแล้ว เราอยู่อีกแคมปัสค่ะ แต่ชอบแคมปัสรังสิตมาก อยากไปอยู่สุดๆ แง แคมปัสเมืองเราแร้นแค้น ไม่ชอบ55555
enjoy reading ka

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่2 P.7 UP[26/12/61]
«ตอบ #192 เมื่อ26-12-2018 01:03:42 »

หวีดดดดดดด รูมเมทคนซึนจะรู้แล้วววววว

เอ๊ะ รึรู้ไปแล้ว :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่2 P.7 UP[26/12/61]
«ตอบ #193 เมื่อ26-12-2018 21:54:47 »

กรี๊ดดดด เห็นว่าอัพก็เข้ามาดูเลยยย โป๊ะแตกแล้ววว

ออฟไลน์ mickeyz.min

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่2 P.7 UP[26/12/61]
«ตอบ #194 เมื่อ27-12-2018 08:21:36 »

ห้องแห่งความลับ

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่2 P.7 UP[26/12/61]
«ตอบ #195 เมื่อ27-12-2018 15:34:00 »

ก่อนจะได้กัน เอ้ย มีความสัมพันธ์ทางกายแบบเจ้านาย กับทาส นี่เราว่าจินดูน้องงงงงงงงงงงอะ
ไม่รว้ายๆเท่าปัจจุบันนี้ คือนางพญามาก 555555555555555555555
นี่ว่า้คย์รู้... เผลอๆเป็นคนรีด พับเก็บให้ด้วย แค่รอวันน้องจินเผลอ  :laugh:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่2 P.7 UP[26/12/61]
«ตอบ #196 เมื่อ27-12-2018 22:00:16 »

 :hao3 :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ Wwavez

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่2 P.7 UP[26/12/61]
«ตอบ #197 เมื่อ27-12-2018 23:37:10 »

รูมเมทคนดีเค้าจะรู้แล้วว จะใช่ตอนที่หน้ามืดปลำ้น้องป่าว  :hao7:

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่2 P.7 UP[26/12/61]
«ตอบ #198 เมื่อ28-12-2018 21:19:59 »

แงงง อยากจับทั้งสองคนมาขย้ำๆๆๆ มีความน้องทุกคนเลยอ่ะ
รอตอนต่อไปๆๆๆ มาต่อเร็วๆน้า

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่2 P.7 UP[26/12/61]
«ตอบ #199 เมื่อ29-12-2018 00:51:03 »

ว๊ายยย ชอบค่ะ  :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่2 P.7 UP[26/12/61]
« ตอบ #199 เมื่อ: 29-12-2018 00:51:03 »





ออฟไลน์ MeiHT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : ตอนที่2 P.7 UP[26/12/61]
«ตอบ #200 เมื่อ29-12-2018 02:35:02 »

เคย์ part

มีบางอย่างกำลังรบกวนการนอนของผม

ผมสะลึมสะลือลืมตาตื่นขึ้น ในหัวเดือดปุดๆไม่เบา ผมพยายามเอื้อมมือไปปัดบางสิ่งที่อยู่บนตัวผมออก แต่กลับพบว่าตัวเองไม่สามารถขยับมือตัวเองได้

ผมตื่นเต็มตา เหลือบมองไปยังแขนของตัวเองก็พบว่าถูกพันไว้ด้วยริบบิ้นสีแดงอย่างแน่นหนา แถมยังผูกเป็นรูปโบว์อย่างสวยงามอีกต่างหาก เหลือบมองขึ้นไปด้านบนก็เห็นมิสเซิลโทวอันใหญ่แขวนอยู่ตรงหัวเตียง

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ทันใดนั้นหางตาก็เห็นอะไรสีแดงแวบๆ ผมหันไปมองก่อนจะพบกับจินในชุดแซนตี้ยืนอยู่ตรงหน้า คนตัวเล็กอยู่ในชุดเกาะอกสีแดงที่เกาะอะไรไม่ค่อยจะอยู่สักเท่าไร แน่ละ…เพราะไม่มีหน้าอกนี่นา

และเพราะอย่างนั้นชุดแซนตี้ของเขาเลยเผยอออกมาจนเห็นยอดอกสีชมพู ผมได้แต่กลืนน้ำลายเอื๊อกเมื่อเห็นขนเฟอร์สีขาวถูไถไปมากับเม็ดทับทิม ส่วนกระโปรงของเขากลับสั้นกว่าชุดแซนตี้ธรรมดาๆทั่วไป สีแดงของกระโปรงตัดกับถุงน่องสีดำแบบเต็มตัว

“จิน เออ ปล่อยก่อนได้มั้ย” ผมขยับมืออย่างอึดอัด

“ไม่ได้หรอก” อีกฝ่ายถอนหายใจพลางมองกระดาษในมือ “รายชื่อเด็กดื้อที่ต้องลงโทษมีเยอะเกินไป ต้องรีบจัดการให้เสร็จไวๆ”

“หา?”

Role playเหรอ อะไรกันแน่ ทำไมอยู่ดีๆแฟนผมทำตัวแปลกๆละ

“เออ ขอโทษนะ แต่นี่มันเรื่องอะไรกัน”

จินขยับยิ้ม คนตัวเล็กเคลื่อนกายเข้ามานั่งทับตัวผม ก้นกลมนั่งถูไถบดเบียดกับตักผมจนส่วนที่ซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงนูนพองขึ้นมา

ปลายนิ้วเรียวขยับไล่กรอบหน้าผม เขาใช้ปลายนิ้วขูดเบาๆที่คางผมเหมือนหยอกล้อก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงขี้เล่น

“ลืมแนะนำตัวไปเลย เราคือแซนตี้ มีหน้าที่ลงโทษเด็กดื้อ”

What-the-fuck

“ก็นะ” เขายักไหล่ “แซนต้ามีหน้าที่ให้ของขวัญเด็กดีใช่มั้ยล่ะ เพราะฉะนั้นแซนตี้เลยต้องทำหน้าที่ลงโทษเด็กดื้อไง ดูรายชื่อสิ”
เขาโบกกระดาษไปมาตรงหน้าผม มีรายชื่อแปลกตาเรียงพรืดอยู่บนหน้ากระดาษ เห็นได้ชัดว่ามีหลายภาษาจนผมตาลาย

“เดี๋ยวเราต้องไปจัดการอีกหลายที่เลย เพราะงั้นรีบๆเสร็จธุระกันเถอะ” เขาขยับรอยยิ้มยั่วที่ดูยังไงก็เหมือนแฟนผมทุกประการ ก่อนที่ช่วงล่างผมจะร้อนระอุมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายบดก้นเป็นจังหวะอย่างชำนาญ แม้จะมีเสื้อผ้ากลางกั้นแต่ราวกับว่าทุกอย่างจะหลอมละลายเพราะความร้อนของร่างเราทั้งสอง

“เลียสิ” เขากดหัวของผมเข้าหาอกขาวเนียนของเขา

แม่เจ้าโว้ย

ขอเถอะ ผมเมาความขาวจนตาลายแล้ว

ผมเลียยอดอกเขาอย่างกระหาย ทั้งดูดดึงทั้งขบกัดจนอีกฝ่ายส่งเสียงครางหวาน ทั้งร่างของเขาสั่นระริกเหมือนลูกนกจนผมอดแกล้งไม่ได้

“อือ อย่าดูดแรงขนาดนั้นสิ มันเจ็บนะ” เขาประท้วง แต่ในน้ำเสียงกลับเจือความพอใจ

เมื่อเม็ดทับทิมข้างหนึ่งฉุ่มช่ำ ผมก็ย้ายไปชิมอีกข้าง คนตัวเล็กหยัดกายเข้าหาผมทั้งยังขยุ้มหัวผมไว้อีกต่างหาก

เสียงดูดฉ่ำแชะดังผสานไปกับเสียงครวญครางของจิน

ผมละออกมาดูผลงานตัวเอง ทับทิมเม็ดงามแวววาวสะท้อนแสงของไฟ ทั้งยังโดนแรงกระทำจนเด้งเด่นออกมา ผมเย้าเขา

“พรุ่งนี้อย่าใส่เสื้อบางนะ ไม่อย่างนั้นเห็นอะไรๆดันเนื้อผ้าออกมาแน่ๆ”

“พรุ่งนี้เราก็หายไปแล้ว จะห่วงทำไมกัน” จินพูดทั้งๆที่ยังหอบไปด้วย “ฝีมือของเด็กดื้ออย่างนายน่าจะดีกว่าพวกที่อยู่ในลิสต์ เรา
มาเล่นกันนานๆเถอะ”

หืม ว่าไงนะ

เหมือนได้ยินไม่ชัด

เหมือนว่าผมจะทำหน้าตื่นตะลึงจนเขาอดหัวเราะออกมาไม่ได้

“ก็เรามีหน้าที่ลงโทษไง เราก็จะทำแบบนี้…กับ-เด็ก-ใน-ลิสต์-ทุก-คน”

อ่า ไม่ไหวแล้วนะ ยังมีหน้ามาพูดอย่างนี้แล้วยิ้มอีก

ผมที่ขยับข้อมือจนริบบิ้นนั้นเริ่มหลุดก็กระชากมันออกมาอย่างรุนแรงจนร่างเล็กที่นั่งบนตัวผมถึงกับผงะ แต่ก่อนที่เขาจะขยับผมก็
ล็อคตัวเขาไว้แน่นแล้ว มือใหญ่ๆของผมจับตัวเขาพลิกให้นอนคว่ำบนเตียงก่อนจะเอาแขนเขาไขว้หลังแล้วเอาริบบิ้นแดงมัดไว้

“เดี๋ยว!” จินเตะอย่างสะเปะสะปะพร้อมกับดันตัวหนี แต่ผมดึงขาเขาพรืดเดียวร่างเขาก็มาอยู่ใต้ร่างผมแล้วเรียบร้อย

“ปากนี่นะ พูดอะไรไม่น่ารักเลย” ผมก้มลงกัดริมฝีปากได้รูปนั่นเบาๆ แต่กลับเรียกเสียงประท้วงว่าเจ็บจากคนใต้ร่างได้เป็นอย่างดี

“จะโกรธอะไรเราน่ะ เราก็ทำหน้าที่เราไง” เขายังคงเรียกร้องขอความเป็นธรรม แต่จะไม่ได้จากผมแน่ เพราะผมกำลังเลิกกระโป
รงสั้นๆตัวนั้นเพื่อสำเร็จโทษเขาไง

 ผมลากเขามาพาดบนตัก ก้นกลมๆภายใต้ถุงน่องสีดำลอยเด่นอยู่บนตักของผม

แควก!

ฉีกถุงน่องอย่างไม่ลังเล ก่อนจะพาดไปอย่างแรงจนก้นกลมๆนั้นขึ้นสีแดงเป็นปื้น จินสะดุ้งโหยงเมื่อมีเสียงเพี๊ยะ ร่างเล็กๆห่อไหล่ ตัวสั่นระริก

ผมจิ๊ปาก

“จิน มึงสอบตกเรื่องความสัมพันธ์สุดๆ ใครใช้ให้พูดเรื่องคนอื่นตอนกำลังจะมีอะไรกันหะ” ผมโกรธสุดๆ จะเป็นrole playหรือตอนนี้มันจะเป็นความฝัน อะไรก็ช่าง ปากเล็กๆที่กำลังเจื้อยแจ้วเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวกับผมนี่มันน่าโมโหจริงๆ
ไหนจะท่าทางที่เหมือนจะบอกว่าเป็นใครก็ได้อีก

มันต้องเป็นผมเท่านั้น

แค่คิดว่าตัวเขาจะต้องเป็นของใคร คิดว่าเขาจะใช้เทคนิคนี้กับคนอื่น ผมก็หลุดการควบคุมสุดๆ

ผมเป็นหมาที่เชื่องกับเจ้าของก็จริง แต่ถ้าใครมายุ่มย่าม ผมจะกัดมันให้ตาย

เพี๊ยะ!

ตีเสร็จก็ใช้มือขย้ำก้นเขาจนขึ้นเป็นรอยแดง ผมเอื้อมมือไปหยิบเจลหล่อลื่นที่ซ่อนไว้ตรงหมอน(ใช่แล้ว ผมซ่อนทุกอย่างไว้ใต้
หมอนเพื่อความต่อเนื่อง)ออกมา

“เอ้า คราวนี้ตอบมาสิว่าใครกันแน่เป็นเด็กดื้อ” ผมเทเจลหล่อลื่นลงบนมือ ก่อนจะใช้นิ้วแทรกเนื้อนุ่มๆนั่นเข้าไปเพื่อละเลงความชุ่มฉ่ำ กดปลายนิ้วกับช่องทางซ้ำๆจนเริ่มคลายตัว หลังจากนั้นผมจึงแทรกนิ้วเข้าไปหมุนคว้านภายในตัวเขา

“อะ…อา” จินครางอืออาเมื่อผมกดลงบนจุดที่ผมรู้จักดี ขาเขาบิดไปมาอย่างทรมานเมื่อผมแกล้งภายในตัวเขาอย่างหรรษา

เพี๊ยะ!

“ไม่พูดล่ะ ตกลงใครเป็นเด็กดื้อ”

ผมใช้อีกมือตีก้นเขาทั้งๆที่นิ้วยังคาอยู่ในช่องทาง แรงสั่นสะเทือนที่มาพร้อมๆกับการกลั่นแกล้งตรงจุดนั่นทำให้อีกฝ่ายแทบหลั่ง
รดตัวเอง

“เรา…เราเอง” เขาพูดทั้งๆที่น้ำเสียงสั่น

เห็นเขายอมจำนน ในส่วนลึกของผมก็รู้สึกพอใจ แม้ความโกรธจะหายแล้วแต่ก็ยังอยากแกล้งคนตัวเล็กอยู่ดี

ใครใช้ให้เขาน่ารักขนาดนี้กันล่ะ

“ดีมาก งั้นจะให้รางวัลเด็กดีเองนะ” ผมขยับตัวขึ้นไปทาบทับเขา แก่นกายของผมปริ่มด้วยความปรารถนาเต็มที่แล้ว หลังจาก
ชโลมด้วยเจลผมจึงค่อยๆกดมันเข้าไปในร่างเขา

“…เคย์ ….มันจุก” เสียงประท้วงจากคนข้างล่างทำเอาผมหน้ามืด แต่ก็กัดฟันค่อยๆทำช้าลงเพราะไม่อยากให้เขาเจ็บ

จวบจนกระทั่งร่างกายของเราผสานกัน ผมจึงผ่อนลมหายใจร้อนๆออกมา

“เจ็บมั้ย” ผมถาม

เขาส่ายหน้าเป็นคำตอบ

“ขยับนะ”

คราวนี้พยักหน้าอย่างขัดเขิน เพราะนอนคว่ำเขาจึงพยายามซ่อนใบหน้าไว้ แต่ผมก็ยังบังคับให้เขาเอียงคอออกมาอยู่ดี

“เดี๋ยวก็ขาดอากาศหรอก” ผมยิ้มขำเมื่อเห็นเขาฝังหน้าตัวเองลงกับเตียงอีกครั้ง

ก้มลงจูบใบหูแดงๆนั่นแล้วค่อยๆขยับร่างกาย แรงกระแทกกระทั้นจากตัวผมทำเอาคนตัวเล็กหัวสั่นหัวคลอน

เสียงเนื้อกระทบเนื้อกับเสียงหายใจหนักๆของผมดังลั่นทั่วห้อง ภายในตัวเขาบีบตัวรัดผมทุกครั้งที่ผมกระแทกเข้าไปถูกจุด

ผมถอนตัวออกมา วางแก่นกายสีสดของตัวเองไว้บนก้นของเขาและยกมันตีเนื้อหนั่นแน่นเบาๆ ก่อนจะกดมันเข้าไปในร่างอีกฝ่าย
อีกครั้ง แน่นอนว่าภาพโปรดของผมคือยามที่วางเทียบแท่งเนื้อกับก้นขาวๆนั่นแล้วจินตนาการว่าตัวผมสามารถเข้าไปได้ลึกขนาดไหน

จินมักจะบอกเสมอว่าไซส์ร่างกายเรามันต่างกันเกินไป ผมค่อนข้างเห็นด้วยนะ ร่างกายเล็กๆของเขาทำให้ผมอยากจะทะนุถนอม
แต่ในขณะเดียวกันมันทำให้ผมตื่นเต้นยามเห็นตัวเองตอนตื่นตัวเทียบกับก้นของเขาน่ะ

Size difference จงเจริญ!

“เคย์…เจ็บ” เขาประท้วง ผมจึงก้มหน้าลงไปสำรวจด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะถึงบางอ้อเมื่อคิดได้ว่าหน้าอกเปล่าเปลือยนั่นน่าจะถูไถกับเตียงยามผมกระแทกเข้าไปในตัวเขา ยามปกติความหยาบของเนื้อผ้าที่ถูกับตื่งเนื้อน่าจะทำให้เสียวกระสัน แต่เมื่อบวกกับที่ผมดูดมันจนบวมอยู่แล้ว เขาจะเจ็บก็ไม่แปลก

ผมเปลี่ยนท่ามาเป็นนั่งพิงหัวเตียง คลายริบบิ้นที่ผูกแขนจินออกแล้วช่วยประคองเอวอีกฝ่ายยามเขาค่อยๆกดตัวลงบนแกนกลางของผมอีกครั้ง

“ค่อยๆ….นั่นล่ะเด็กดี ไม่เจ็บหรอก”

“ไม่เจ็บ…ไม่เจ็บกะผีสิ ลองมีอะไรใหญ่ๆมาเสียบคาก้นบ้างมั้ยจะได้รู้ว่าเจ็บหรือไม่เจ็บ” จินจิกเล็บลงบนบ่าผมอย่างแรงจนเรียกเลือด แต่ผมกลับยิ้มขำเพราะเขาน่ารักเอามากๆ

“แต่ก็ชอบใช่มั้ยล่ะ”

เขายื่นหน้ามากัดคางผม

“หุบปากไปซะ”

นั่นไง จินคนเดิมกลับมาแล้ว

ผมปล่อยให้เขาขยับตามใจชอบ คนตัวเล็กทั้งบดสะโพกเป็นวงกลม ทั้งโยกจนตัวผมไปถึงฝั่งฝัน เขาเองก็ปลดปล่อยจนชุ่มแฉะภายใต้ถุงน่อง ผมประคองใบหน้าเล็กๆของเขาไว้ในฝ่ามือก่อนจะก้มลงจูบ

จูบซ้ำๆ อีกครั้งและอีกครั้ง

ใต้ช่อมิสเทิลโท

“เขาบอกว่าจูบใต้มิสเทิลโทแล้วความรักจะเป็นนิรันดร์”

จินหน้าแดงเหมือนจะกลั่นออกมาเป็นหยดได้ ผมรู้หรอกน่าว่าเขาอยากจะจูบใต้ช่อมิสเทิลโทถึงได้เอามาแขวนไว้บนหัวเตียง แต่
ผมจะไม่แกล้งเขาหรอก แค่นี้คนขี้ซึนก็ใกล้ตัวแตกแล้ว

ผมจูบหน้าผากเขา เอ่ยคำอวยพรให้ความรักเรา

“มารักกันไปนานๆเลยนะ”



ผมเหม่อมองเพดาน งงงวยเพราะตัวเองพึ่งตื่น

อ้าว…ตกลงคือเป็นความฝันหรอกหรือ

ผมพลิกตัวขึ้นนั่ง ผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง คนตัวเล็กที่กินน้ำอยู่หน้าตู้เย็นทำหน้ายี้ใส่ให้ครั้งหนึ่ง

“ฝันอะไร เอาแต่อืออาๆอยู่ได้” เขาว่า

อ่า…ฝันจริงๆด้วยแหะ

ผมได้แต่เสียดายเพราะจินดูน่ารักมากๆ แต่อีกใจก็คิดว่านี่ตูกลายเป็นคนลามกจกเปรตขนาดฝันเป็นวรรคเป็นเวรขนาดนี้ได้เมื่อไร ช่วงฮอร์โมนพลุ่งพล่านเรอะ

แม่ครับ ขอโทษนะครับที่แม่มีลูกเป็นภัยสังคม…

ผมขยับตัวลุกขึ้น ชวนแฟนตัวเองไปทานข้าวใต้หอ ระหว่างที่กำลังล็อคห้องอยู่จินก็ส่งเสียงโอ๊ยขึ้นมา

“เป็นอะไรหรือเปล่า” ผมลนลานขยับตัวไปดูเขา เห็นจินกำลังจับหน้าอกตัวเองอยู่ก็ใจเสีย จึงโน้มตัวลงไปสังเกตเผื่อเขาได้รับ
บาดเจ็บ

ผมเบิกตากว้างมองยอดอกของคนตัวเล็กซึ่งดุนดันผ้ามากกว่าทุกที

ฝัน…หรือเปล่านะ

-------------------------------------------------------------------------------------------
ปีนี้ไม่ค่อยมีตอนพิเศษแนวๆแซนตี้ไรงี้เลย เหงา  :z3: :z3:
ไม่มีก็แต่งเอง!!! ผ่างงง

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : แซนตี้ P.7 UP[29/12/61]
«ตอบ #201 เมื่อ29-12-2018 17:14:45 »

ฝันที่เป็นจริงว่างั้น อิอิ   :mc3: :mc3: :mc3:

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : แซนตี้ P.7 UP[29/12/61]
«ตอบ #202 เมื่อ29-12-2018 21:10:50 »

5555 มันคงเป็นฝันที่สมจริงมากเลยนะ

ออฟไลน์ Cyclopbee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : แซนตี้ P.7 UP[29/12/61]
«ตอบ #203 เมื่อ29-12-2018 21:25:39 »

 :pig4:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : แซนตี้ P.7 UP[29/12/61]
«ตอบ #204 เมื่อ29-12-2018 21:51:31 »

สรุปฝันไม่ฝัน เอ๊ะๆๆๆๆ  :z3:
ต่อด้วยเทศกาลปีใหม่ไหมมมมมมม ฉลองบนเตียงข้ามปีงี้  :hao7: .... รอไรท์แต่งนะคะ  :laugh:

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : แซนตี้ P.7 UP[29/12/61]
«ตอบ #205 เมื่อ30-12-2018 00:33:52 »

เคย์ไม่ได้ฝัน!!!

เชื่อเรา  ซานตี้มีจริง!!!

แถมเจ็บนมได้ด้วย :-[


ออฟไลน์ Kx0806

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : แซนตี้ P.7 UP[29/12/61]
«ตอบ #206 เมื่อ30-12-2018 08:51:27 »

 :-[  ขอตอนฉลองปีใหม่ด้วนะคะ เคาต์ดาวน์กันสองคนบนเตียงงี้  แซ่บๆ :hao6:

ออฟไลน์ Wwavez

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : แซนตี้ P.7 UP[29/12/61]
«ตอบ #207 เมื่อ01-01-2019 05:20:05 »

ฝันไม่ฝันไม่รู้แต่ฟินมาก เด็กดื้อกับแซนตี้น่ารัก HNYนะจ้าาา :mew1:

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : แซนตี้ P.7 UP[29/12/61]
«ตอบ #208 เมื่อ05-01-2019 22:58:00 »

ไม่น่าจะใช่ฝันนะเคย์

รอตอนเคย์รู้ความจริงว่าจินคอสเพล์

ออฟไลน์ MeiHT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: [เรื่องสั้น] Cosplayer : chap3 UP P.7 [06/01/19]
«ตอบ #209 เมื่อ06-01-2019 17:23:09 »

        ผมมองคนตัวสูงที่กำลังยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าห้องตาค้าง รูมเมทไซส์นักบาสกำลังถือถุงพลาสติกที่มีโลโก้เซเว่นอยู่ในมือ น่าจะเป็นของกินเล่นสำหรับตอนกลางคืน เขาอยู่ในสภาพใส่ชุดไปรเวทสบายๆและสะพายกระเป๋าเป้อันใหญ่ที่คาดว่าน่าจะใส่ของเพื่อไปค้างห้องเพื่อน

   ผมกับเขามองตากัน เวลาเพียงวินาทีกลับเหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์

   ความคิดผมวิ่งวุ่นสับสนมึนงงไปหมด จะแก้ตัวอย่างไรดี หรือจะบอกว่าผมมีงานอดิเรกแต่งหญิง แต่ถ้าอย่างนั้นเขาอาจจะเอาไปบอกใครเข้าก็ได้

   ผมควรจะพูดอะไรสักอย่าง อะไรก็ได้

   แต่แล้วจู่ๆท่ามกลางความเงียบ เขาก็ปิดประตูเสียงดังปังเสียจนผมสะดุ้ง แล้วเคย์ก็ก้าวขายาวๆที่ทำให้ย่นระยะทางในห้องเข้ามาเหลือเพียงแค่สองก้าวจนเข้ามาจนถึงผมที่นอนอยู่บนเตียง

   “ในที่สุด…ผมก็เป็นคนที่ถูกรับเลือกใช่มั้ย” เขากุมมือผม ดวงตาจ้องมองมาอย่างเป็นประกาย

   เอ๊ะ….

   ผมสับสนอย่างหนักจนแม้แต่คำเดียวก็พูดไม่ออก แต่เคย์กลับรัวคำพูดที่ผมประมวลผลแทบไม่ทันออกมาเรื่อยๆ

   “คิดไว้แล้วเชียว เรื่องทะลุมิติเข้าไปในเกมมีอยู่จริงๆด้วย ผมได้รับเลือกเป็นคนคนนั้นแล้วใช่มั้ย ฟางจวิน คุณมารับตัวผมสินะ”

   หลังจบประโยคแปลกๆนั่นกับท่าทางตื่นเต้นระริกระรี้จนแทบเรียกได้ว่าถ้ามีหางคงกระดิกส่ายอย่างรวดเร็ว ผมก็สรุปได้คำเดียวว่า

   เจ้านี่มัน…โอตาคุชัดๆเลย

   “ดะ…เดี๋ยวก่อนสิ นี่มันไม่ใช่---” ไม่ทันพูดจนจบประโยค เงาของหมอนั่นก็โน้มลงมาทาบทับตัวผมไว้จนมิด กว่าจะรู้ตัวอีกที หลังของผมก็เอนนอนลงจนแนบสนิทกับเตียงนอนและผมก็เห็นใบหน้าของเคย์แทนที่จะเป็นเพดานสีขาวของห้องซะแล้ว

   เดี๋ยวนะๆ อยู่ดีๆโพสิชั่นของผมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง

   ผมยกมือขึ้นดันไหล่เขา แต่ยักษ์ปั่นหลันอย่างหมอนั่นกลับไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย

   “ฟังก่อนสิ มันไม่--” เมื่อผมจะอธิบาย เคย์ก็จะพูดขัดด้วยคำพูดที่เหมือนพูดเองเอ่อเองกับตัวเองไปเสียอย่างนั้น

   “ถ้าอย่างนั้นฟางจวินก็พาผมไปเลย อ่า หรือจะต้องทำอะไรก่อนคุณถึงจะพาผมข้ามมิติไปได้” เขาทำหน้าตาสงสัยใส่ผม เมินแรงน้อยนิดที่ดันหัวไหล่เขาไปโดยสิ้นเชิง “จริงสิ หรือจะต้องทำตามโดจินนั้นกัน”

   โดจิน! โดจินอะไรวะ

   อยู่ดีๆผมก็รู้สึกสังหรณ์ใจหนักกว่าเก่าจนต้องดิ้นรนออกจากเงื้อมมือของรูมเมทตัวเองที่บัดนี้พูดไม่รู้เรื่องไปด้วยซะแล้ว แต่จังหวะที่จะพลิกตัวหนีจากเขา เคย์กลับกดตัวผมจนแทบจมลงไปกับฟูก

   “เข้าใจแล้วฟางจวิน ผมจะช่วยคุณเอง คุณจะได้กลับโลกของคุณและพาผมไปด้วย”

   “เดี๋ยว! ไอ้บ้านี่! ฟังก่อ---” เสียงผมขาดหายเมื่อคนตรงหน้าบดจูบเข้ามาอย่างรุนแรง แต่แล้วระหว่างที่ผมยังสับสนกับการโดนจูบ สัมผัสร้อนๆแถวขาอ่อนก็เรียกให้ผมเสตาไปมองก่อนจะค้นพบว่าเป็นมือใหญ่ๆที่กำลังลูบไล้บริเวณนั้นก่อนที่เขาจะเลื่อนมือขึ้นสูงเข้าไปในกระโปรง

   แต่ทั้งๆที่กำลังโดนทำอย่างนี้แท้ๆ แต่ใจผมกลับเต้นแรงกระหน่ำเสียจนน่าอาย แถมหัวสมองยังโล่งไปด้วยความรู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

   ผมสะดุ้งเมื่อเขาสัมผัสเข้ากับส่วนอ่อนไหวของผม ในใจพลันตื่นตระหนกว่าแย่แล้ว! เขาจะต้องรู้แน่ๆว่าผมเป็นผู้ชาย

   ผมดิ้นรนจนกลายเป็นเหมือนการขัดขืน ถ้าอยู่ดีๆเคย์ผละถอยจากผมไปเพราะรู้ว่าผมมีไอ้นั่นเหมือนกับเขา เป็นแค่คนที่แต่งตัวเป็นผู้หญิง ผมจะรู้สึกอย่างไรกัน

   แต่กลับกัน รูมเมทของผมกลับจูบลงที่หน้าผากผมอย่างแผ่วเบา จากนั้นจึงผละไปและจ้องตากับผม ในสายตาเขามีทั้งความดื้อดึงและการแสดงอำนาจอยู่ในที

   “ผมชอบคุณ ได้โปรดให้ผมได้กอดคุณที”

   นั่นเป็นคำพูดที่ให้กับผมหรือให้กับฟางจวินกันแน่ ผมคิดถามตัวเองในใจ

   อาจจะเป็นเพราะฮอร์โมนวัยรุ่นที่พลุ่งพล่านหรืออาจจะเป็นความใจง่ายของผมที่แอบสนใจเขา ผมไม่แน่ใจว่าจะโทษอะไรดีแต่ผมก็ตัดสินใจจะปล่อยตัวไปกับความรู้สึกที่ไม่แน่ใจว่าตอนตื่นมาควรจะทำอย่างไรกับมัน

   การพยักหน้าของผมราวกับปลดปล่อยความรู้สึกอันรุนแรงแข็งกล้าของเขา การกระทำอันจาบจ้วงทำให้ภายในหัวของผมโล่งไปหมด มีเพียงความรู้สึกทางกายที่ท่วมท้นจนล้นทะลักออกมา

   ผมปรือตามองเคย์ที่กำลังหอบหายใจ ใบหน้าแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มกว้างกว่าทุกครั้ง ในหัวผมพลันเหมือนจะปะติดปะต่อเรื่องราวบางอย่างได้

   ถุงยางที่ถูกซุกไว้ที่ข้างเตียงเหมือนเตรียมไว้อยู่แล้ว เวลาที่พอดี กับ…กับอะไรอีกล่ะ

   คลับคล้ายคลับคลาว่าหากผมสามารถหาชิ้นส่วนที่หายไปได้ ผมจะนึกอะไรบางอย่างที่สำคัญออก แต่ผมก็ปล่อยให้ความคิดนั้นหลุดลอยหายไปพร้อมๆกับสติที่เหลืออยู่อย่างน้อยนิด


เคย์ part

   ใช่แล้ว…ชุดคอสเพลย์อันนั้น

   ผมเจอมันในบ่ายแก่ๆวันหนึ่งตอนที่ผมกำลังไล่ตามแมลงสาปตัวจิ๋วสีเหลืองทอง มันวิ่งเข้าไปหลบในตู้เสื้อผ้าของจิน ผมจึงต้องจำใจย้ายของออกจากตู้ของเขาให้หมดเพื่อไล่ฉีดยาฆ่าแมลงกำราบเจ้าแมลงโง่ตัวนั้นที่บังอาจเข้ามาในห้อง

   ระหว่างที่ย้ายของของเขาออกมา ผมก็อดใจเต้นไม่ได้ ถึงยังไงนั่นก็เสื้อผ้าของคนที่ผมแอบชอบนะ

   แต่แล้วระหว่างที่ผมหยิบกล่องที่อยู่ในสุดออกมา ผมก็เผลอทำมันตกลงมา ของที่อยู่ในกล่องกระจายบนพื้น ทำเอาผมลนลานต้องรีบเก็บมันอย่างรวดเร็ว

   ถ้าจินรู้ว่าผมแตะของของเขาเข้า เขาอาจจะโกรธผมก็ได้

   แต่สัมผัสจากเนื้อผ้าก็ทำให้ผมพูดไม่ออก ผมลองคลี่มันออกก่อนจะพบว่ามันเป็นกระโปรงโลลิต้าจีนแบบที่ผมเห็นตามงานคอสเพลย์ ผมมองชิ้นส่วนที่เหลือในกล่อง ขออนุญาตคนตัวเล็กในใจก่อนจะหยิบของเหล่านั้นออกมาดู

   นี่มัน…อุปกรณ์คอสเพลย์ทั้งนั้นไม่ใช่เรอะ

   ไม่พอ นี่มันเป็นของผู้หญิงด้วย

   ถ้าพิจารณาจากรูปร่างของจินแล้ว การที่จะแต่งตัวเป็นผู้หญิงนั่นไม่ใช่เรื่องยากเลย หลายครั้งที่ผมเผลอมองเขาหลังออกมาจากการอาบน้ำ ทำให้ผมได้พบว่าการที่เขาใส่ขาสั้นตอนนอนนี่มันดีจริงๆ

   ไม่ใช่! ผมหมายความว่าหุ่นเขาดีเหมือนสาวๆไม่มีผิด อาจจะไหล่กว้างกว่านิดหน่อย ตัวสูงกว่าเล็กน้อย แต่ก็นั่นแหละ…

   หัวใจผมเต้นรัวกับชุดที่คลี่ออกมาดู ผมจำได้ว่ามันเป็นชุดของตัวละครNPCตัวหนึ่งในเกมจีนที่ได้รับความนิยมอย่างมากและมีคนออกโดจินออกมาเต็มไปหมด

   จินเป็นนักคอสเพลย์…สายแทร็ปเหรอ

   ผมพับเก็บชุดของเขาอย่างเหม่อลอย นั่งนึกถึงคนตัวเล็กในชุดเหล่านี้แล้วใจเต้นพอๆกับความร้อนภายใต้กางเกงที่พุ่งขึ้นสูง ผมรีบจัดการทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อย ไม่ลืมที่จะฉีดไบก้อนไล่เจ้าแมลงร้ายที่อาจจะซุกอยู่ในมุมใดมุมหนึ่งในตู้ของรูมเมทตัวเล็กของผม แล้วจากนั้นจึงไปจัดการธุระที่คุณก็น่าจะรู้ว่าอะไรในห้องน้ำ

   ระหว่างที่จัดการมันไป ผมก็เอาแต่คิดภาพของเขาในชุดโลลิต้าจีนตัวนั้น

   ผมชอบเขา ตอนแรกผมคิดว่าผมสนใจเขาเพียงอย่างเดียว แต่หลังจากที่เราได้อยู่ในห้องเดียวกัน ผมก็เอาแต่สังเกตเขา จนรู้ตัวอีกทีก็เอาแต่มองตามจินไม่หยุด

   ผมพบจินครั้งแรกก่อนจะเปิดเทอม มหาลัยของเรามีงานFirst meetที่บังคับให้นักศึกษามาเข้าร่วม และผมได้จับกลุ่มอยู่
กลุ่มเดียวกันกับคนตัวเล็ก แน่นอนว่าเขาคงจำผมไม่ได้หรอก เห็นได้ชัดจากตอนที่ผมเปิดประตูเข้าหอ เขาแนะนำตัวกับผมใหม่อีกรอบโดยไม่แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำว่าน่าจะเคยเห็นหน้าผมตอนไหน

   ความรู้สึกแรกของผมที่มีต่อจินก็คือ หมอนี่ห้อยตุ๊กตาเรโกะจังไว้ที่กระเป๋าเป้ด้วย

   ผมกะจะชวนเขาคุย แต่ก็เขินจนเกินกว่าจะเปิดปากพูด จนกระทั่งเพื่อนผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ด้วยทักเรื่องเรโกะจังที่ห้อยกระเป๋าของคนตัวขาวนั่นแหละ

   “เฮ้ย โตแล้วยังห้อยตุ๊กตาอีกเหรอวะ ชอบการ์ตูนเหรอ หรือว่ามึงเป็นโอตาคุ ว่าไปนั่น ล้อเล่นนะๆ”

   น้ำเสียงนั่นแฝงไปด้วยการล้อเลียน ผมเหลือบตามองจินพลางคิดว่าคนตัวเล็กนั่นจะโต้ตอบอย่างไร ถ้าเป็นผมหรือคนปกติ
ก็คงจะหัวเราะแห้งๆกลบเกลื่อนไม่ก็ปฏิเสธไปแหงๆ แต่เขากลับไม่ทำอย่างนั้น คนตัวเล็กแสนดื้อรั้นของผมมองอีกฝ่ายด้วยหาง
ตา

   สายตาของจินเรียกได้ว่าเชือดเฉือนและแสดงความไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้นว่า

   “ไม่เกี่ยวกับมึงสักหน่อย อย่ามาเสือก”

   นั่นแหละคือความประทับใจครั้งแรกที่ทำให้ผมจำเขาได้
   


   จิน part

   เจ็บ…

   แม่งเอ๊ย ผมนึกว่าตอนตื่นมามันจะโรแมนติกมากกว่านี้

   ความหงุดหงิดที่แล่นพรวดขึ้นมาทำเอาผมต้องตะปบหน้าหล่อๆของคนที่นอนอยู่ข้างๆ

   ไอ้โอตาคุเอ๊ย ผมน่าจะรู้นะ หมายถึง ผมใช้ชีวิตกับโลกด้านนี้ด้วยซ้ำ แต่หมอนี่ดันปิดตัวตนด้วยใบหน้าหล่อๆ ทรงผมทันสมัยกับหุ่นนักบาส

   “โอ๊ย! จิน เจ็บ” ในที่สุดหลังจากผมฝังเล็บเข้าใบหน้าของเขา เคย์ก็ตื่นขึ้นมาสักที ชายหนุ่มตรงหน้าผมดูงุนงงสับสนอยู่ในที

   “ไอ้บ้าเอ๊ย! ไอ้โอตาคุ! แกเป็นหนึ่งในแฟนคลับโรคจิตอะไรพวกนั่นใช่มั้ย โอ๊ย!” หลังจากตะโกนและใช้แรงมากไป ความปวดร้าวจากเอวก็ไล่ลามขึ้นมาอีกรอบ ทำเอาผมต้องล้มตัวลงนอนพังพาบกับเตียง คนตัวใหญ่เห็นแบบนั้นก็กุลีกุจอเข้ามาช่วยนวดเอวผมยกใหญ่ โดยที่ไม่รู้เลยว่าผมเจ็บกว่าเดิมจนแทบน้ำตาไหลแล้ว

   “แฟนคลับอะไรเหรอ” เขาทำหน้าซื่อตาใส

   “อย่ามาทำหน้าซื่อหลอกกู” ผมขู่ฟ่อทั้งๆที่ยังนอนจับเอวอยู่ “รู้ได้ยังไงว่ากูเป็นJJ3K”

   “JJ3K?” คนตรงหน้ายังคงทำหน้าหมางงต่อไป ตาใสๆของเขาทำให้ผมโวยวายในลำคอดังอ๊ากกกก เมื่อรู้แล้วว่าจริงๆเขาคงไม่ได้เป็นแฟนคลับผมและไม่ได้รู้จักผมในทวิตเตอร์จริงๆ

   “โอเค มึงไม่ได้เป็นแฟนคลับโรคจิต มึงคิดว่ากูเป็นฟางจวินออกมาจากเกมจริงๆเหรอ”

   คราวนี้เคย์ยกมือขึ้นลูบต้นคอ ท่าทางเขินๆนั่นทำให้ผมอยากเป็นลมสลบไปตรงนี้เลย

   นี่หมอนี่ปล้ำผมเพราะคิดว่าผมเป็นตัวละครหลุดออกมาจากเกมจริงๆเหรอวะ!

    แม่ครับ วันนี้ลูกชายของแม่เสียเวอร์จิ้นเพราะโอตาคุหน้าโง่ที่อินกับเนื้อหาในโดจินมากเกินไป

   ผมคิดว่าผมจะเป็นลมจริงๆแล้ว

   “จิน! ไม่ต้องห่วงนะ ถึงกูจะเข้าใจผิด แต่กูจะรับผิดชอบมึงเอง” เคย์ที่กระตือรือร้นจนผมเห็นภาพหลอนของหูกับหางที่กระดิกอย่างบ้าคลั่งทำเอาผมต้องยกมือขึ้นทำท่าปางห้ามญาติ

   “เดี๋ยว รับผิดชอบเหี้ยไร กูไม่ใช่ผู้หญิง” ผมนวดขมับตัวเองอย่างเหนื่อยอ่อน พอเห็นแบบนั้น ชายหนุ่มที่นั่งเปลือยท่อนบนอยู่ข้างตัวผมก็รีบยกมือมานวดข้างหัวผมอย่างเบามือ

   นิ้วใหญ่ๆของเขาค่อยไล่ลูบวนตรงบริเวณข้างหัวผมอย่างช้าๆ การยั้งแรงมือและการแสดงออกที่เห็นชัดว่าเป็นการเอาใจนั้นทำเอาผมอดหน้าร้อนขึ้นมาไม่ได้

   แต่มันก็แค่แปบเดียวเท่านั้นแหละ!

   เพราะที่กูเป็นอยู่เนี่ยมันก็ความผิดมึงชัดๆไม่ใช่เหรอ เวรเอ๊ย!

   ผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายเตะเข้าที่ข้างลำตัวของคนตัวใหญ่ แต่ผมรู้ว่ามันเหมือนแรงเพียงน้อยนิดสำหรับยักษ์ปันหลั่นพรรค์นั้น ผิดกับผมที่ร้องโอดโอ๊ยทันทีเพราะปวดตัวจนทนไม่ไหวแล้ว

   “อย่าขยับตัวๆ เดี๋ยวเจ็บหรอก อยากตีกูเหรอ อ่ะ นี่ กูตีตัวเองแล้ว อย่าขยับตัวเลย” เจ้ารูมเมทหน้าโง่ลนลานยกมือขึ้นฟาดหน้าตัวเองดังเพี๊ยะๆ ท่าทางตื่นตกใจมากกว่าตัวผมทำเอาผมอดหัวเราะไม่ได้จริงๆ

   พอได้ยินเสียงหัวเราะผมก็เหมือนกับว่าบรรยากาศในห้องเริ่มผ่อนคลายขึ้น เคย์เผยรอยยิ้มจนใจออกมา เขาลูบหัวผมเบาๆ คล้ายพยายามกล่อมผมให้นอนหลับ

   “ไม่เป็นไร เราค่อยคุยเรื่องพวกนี้วันพรุ่งนี้ก็ได้ หลับก่อนเถอะ”

   ผมเปิดปากหาว ความง่วงงุนที่ฝืนไว้ตั้งแต่เมื่อครู่ฉายชัดบนใบหน้า
ผมค่อยๆหลับตาลง ไม่แน่ใจว่าอะไรจะรออยู่หากลืมตาเปิดในวันพรุ่งนี้ แต่แน่นอนว่าผมคงจะต้องเรียนรู้ใหม่หมดเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของรูมเมทตัวเองแน่นอน



=======================================================

นั่งแก้ตอนนี้อยู่นานมาก คือรู้ตัวว่าพล็อตมันไม่เรียลเลย แง แต่คิดอะไรมาก ก็ตอนแรกที่คิดไว้มันเป็นอย่างนี้จริงๆ ฮา ขอให้อ่านให้สนุกนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด