บทที่ 13
(น้ำ)
สวัสดีค่ะ น้ำเอง
ตอนนี้น้ำอยู่กับเพื่อนๆ ที่อยากตามมาดูพี่ชายของเรา แบบว่าโม้ไปเยอะค่ะ แต่พอพี่ทั้งสองเดินเข้ามาใกล้ปุ๊บ ฝ่ายน้ำกลับโดนเซอร์ไพรส์ซะเอง
พี่ชายของน้ำแต่งหน้า!
กำลังจะอ้าปากถาม พี่พาร์ก็ยกนิ้วแตะริมฝีปากให้เงียบไว้
โอเคค่ะ…ขอน้ำตั้งสติแปบ
“จ้องหน้าพี่ทำไม?”
รีบส่ายหัวขวับๆ ให้พี่ที ก็น้ำไม่นึกว่าแค่ประทินโฉมด้วยเครื่องสำอาง พี่ชายแท้ๆ จะน่ารักขึ้นขนาดนี้ ใจเริ่มเอนเอียงอยากให้พี่พาร์เป็นฝ่ายรุกขึ้นมาเลย แต่นิสัยพี่ทีแมนกว่าอ่ะ ตัดสินใจลำบากจัง
“สวัสดีอีกครั้งครับน้องๆ” พี่พาร์เอ่ยทักทาย
“ไม่ใช่พึ่งเจอหน้า..?”
มีกระซิบถามกันด้วย แต่พี่จ๋า น้ำได้ยินนะ แบบว่าฝึกมานาน
“คุยทางโทรศัพท์ตอนอยู่โรงพยาบาล”
พี่ทีเตะขาพี่พาร์เฉยเลย สีหน้าพี่จ๋าแลดูหงุดหงิด
“ไม่ทักน้องๆ ล่ะ”
หลังโดนเตือน พี่ทีรีบคลายสีหน้า คลี่ยิ้มสว่างไสวส่งผลให้รอบด้านสดใสโดยพลัน...
“สวัสดีสาวน้อยทั้งหลาย”
...พี่จ๋า เพื่อนน้ำติดสตันกันหมดแล้ว ก็นะ คนหนึ่งดันหล่อมาก อีกคนก็ยิ้มได้สุดยอด คนเคยชินอย่างน้ำกับเบอร์ดี้เลยต้องช่วยสะกิดปลุกเพื่อนๆ จนได้สติทุกคน แล้วค่อยพูดแนะนำ
“หกคนนี้เพื่อนพวกเราที่โรงเรียนค่ะ ส่วนทางนี้พี่ชายพวกฉันเอง” ขยับมือไปทางพี่ๆ ทีละคน “คนนี้พี่ที คนนี้พี่พาร์”
“สะ สวัสดีค่ะ”
เพื่อนๆ เสียงตะกุกตะกักมาก แต่พี่ทั้งสองพากันยิ้มรับไม่ถือสา
ตอนนี้สายตาน้ำโฟกัสแต่พี่ชาย มองพี่พาร์สะกิดพี่ทีให้ดูโต๊ะว่างข้างๆ ที่พึ่งมีคนลุกไป พากันเดินไปยกช่วยโต๊ะมาต่อกับโต๊ะพวกเรา พี่ทีเรียกพนักงานให้ช่วยเก็บโต๊ะ ก่อนวกกลับมาช่วยพี่พาร์ยกเก้าอี้
“จะกินอะไรไหม?” พี่พาร์ถาม
พี่ทีพึ่งหย่อนก้นนั่งถึงกับชะงักเลยค่ะ
“หิว?”
“นิดหน่อย กลางวันกินข้าวไปนิดเดียว กลัวจุกตอนลงสนาม”
สนามอะไรหว่า…
“งั้นซื้อแค่ชุดบ็อกเซ็ตมาแบ่งกัน ยังไงตอนเย็นต้องพาน้องๆ ไปกินข้าวอยู่ดี”
อยากอ้าปากแย้งจัง ที่กินอยู่ตอนนี้ก็ทำพวกน้ำอิ่มถึงพรุ่งนี้แล้ว
แต่มันติดตรงที่พี่ทั้งสองคนจะซื้อมา
แบ่งกัน (เสียงเอคโค่ในหัว)
โอ๊ย จินตนาการพุ่งกระฉูด
พี่พาร์พยักหน้า เดินผละไปซื้อของกิน ส่วนพี่ทีกวาดสายตามองทางนี้ ดันเผลอหลบตาซะงั้น
เอ่อ น้ำไม่ได้ตั้งใจนะ แบบว่ายังไม่ชินกับใบหน้าพี่จ๋าตอนนี้อ่ะ
พอมองคนอื่นๆ พบว่าหลบตากันเป็นแถว สีหน้าแต่ละคนดูเขินๆ แม้แต่สาวห้าวคนเดียวของกลุ่มยังแก้มแดงๆ ถึงเราไม่ปริปากพูด แต่ในไลน์กลุ่มข้อความกระหน่ำมาก
ฮันนี่ใครว่าหวาน: พี่ทีเนี่ย พี่ชายแน่นะ ไม่ใช่พี่สาว
Nam: พี่ชายของแท้ ผู้หญิงที่ไหนจะสูงเท่าพี่ฉัน
ถึงเป็นนกก็นกตัวผู้: พวกแกควรอายนะ พี่เขาน่ารักกว่าพวกแกอีก
ดูๆ ไปมีส่วนคล้ายน้ำไม่น้อย อนาคตเพื่อนเราคงน่ารักแบบนี้…ฉันจีบแกตอนนี้ทันปะ
Nam: 555 เสียใจยะ ถ้าฉันจะมองคนเพศเดียวกัน ตัวเลือกแรกคงเป็นเบอร์
Birdie: สติกเกอร์หมีถอนหายใจ
Birdie: อย่าเลยจิ๊บ ขืนเอาน้ำเดินทางสายนี้ มันคงผันตัวไปเป็นคู่แข่งแกแทน เสียดายความน่ารักที่มันมีติดตัวหน่อย
ถึงเป็นนกก็นกตัวผู้: จะบอกว่ามันแมนกว่าฉัน
Birdie: ตอนแรกไม่คิด แต่พึ่งเห็นชัดตอนได้อยู่โรงเรียนหญิงล้วนนี่แหละ
Nam: (ยืดอก) พี่ชายฝึกมาดี…แต่เบอร์ไม่ไหวนะ พี่พาร์โอ๋มากไปหน่อย คุณหนูมาก
Birdie: สติกเกอร์มองค้อน
Birdie: ไม่ได้พูดถึงเรื่องใช้แรงซะหน่อย
เตี้ยแล้วไง: พอๆ ไปทะเลาะกันเองรอบนอก มาว่าด้วยเรื่องพี่ชายของพวกแกกันต่อ
ฮันนี่ใครว่าหวาน: เห็นด้วย
Nam: ว่ามา
พิมพ์ไปก็สงสัยไป เพื่อนจะถามอะไร
เตี้ยแล้วไง: พี่เขาคบกันจริงๆ หรือเป็นแค่เรื่องจิ้น…?
ตรงประเด็นมาก งั้นเอาคำตอบแนวเดียวกันไปเลย
Nam: ตอนนี้อย่างหลัง แต่ต่อไปมันต้องเป็นแบบแรก!
สติกเกอร์ถูกใจมารัวๆ
ถึงเป็นนกก็นกตัวผู้: หยุดๆ พวกแกอย่าพึ่งมโนมาก สงสารพี่เขาหน่อย
โดนสาวห้าวเบรก ก็ได้ส่งสติกเกอร์ถอนหายใจกับโอเคไปให้
เพื่อนๆ ก็รัวสติกเกอร์กันมา เป็นอันตกลงว่าจะไม่ออกนอกหน้าให้มากนัก
ฟ้าใส: เดี๋ยวนะ น้ำกับเบอร์เข้าวงการวาย เพราะพี่ชาย?’
Nam: ช่าย
Birdie: สติกเกอร์ช่าย
ฟ้าใส: ตั้งแต่เมื่อไหร่
Nam: ประถมมั้ง
มีเบอร์ดี้ช่วยขยายความเพิ่ม
Birdie: เราคุยเรื่องพี่ชายกันบ่อยๆ จิ้นว่าถ้าพี่ชายสองคนอยู่ด้วยกันจะเป็นยังไง รูปแบบไหน
แต่มาเจอหนทางสว่างจริงๆ ก็ตอนได้เจอพวกแก
Nam: ช่ายๆ ตอนเห็นหน้าปกมังงะยาโอยที่พวกแกถือนะ แทบพุ่งเข้าใส่ แบบว่ามันใช่
สาวสายมังงะวาย: แต่ฉันไม่เห็นพวกแกสองคนสนใจ 3D คู่อื่นเท่าไหร่นี่
Nam: ไม่รู้ดิ มันไม่ฟินเท่าพวกพี่ชายอ่ะ แต่เห็นก็แอบมองนะ 555
สาวสายมังงะวาย: งั้นระหว่างมังงะเรื่องที่ชอบมากกับเรื่องพี่ชาย แบบไหนฟินกว่า
Nam: ตอบยาก บางทีพี่ๆ ก็ทำให้ขัดใจอ่ะ แต่ในมังงะไม่
Birdie: ถ้าตามจุดประสงค์หลัก พวกเราอ่านมังงะ ดูอนิเมะ ลามไปถึงอ่านนิยายวาย เพื่อพวกพี่
เพราะงั้นเราฟิน 2D เหมือนพวกแกก็จริง แต่บางทีก็น้อยกว่าตอนฟินเรื่องพี่อ่ะ
Nam: สติกเกอร์ชูนิ้วโป้ง
Nam: อย่างที่เบอร์บอก
สาวสายมังงะวาย: ไม่เข้าใจวะ
Nam: เอาน่า สังเกตดูเดี๋ยวก็เข้าใจ เนอะเบอร์
Birdie: สติกเกอร์พยักหน้า
พวกเราหยุดสนทนาผ่านไลน์แค่นั้น เงยหน้าปุ๊บเห็นพี่พาร์กำลังหย่อนก้นนั่งพอดี สายตาแลงุนงงระหว่างมองพี่ทีนั่งขมวดคิ้วฝั่งตรงข้าม แล้วกวาดมองมาทางนี้ น้ำทำได้แค่ส่งยิ้มแห้งๆ ไปให้ ก่อนก้มหน้าจิ้มเนื้อไก่ทอดเข้าปาก
…คงไม่เป็นไรมั้ง แค่น้องๆ หลบตา ไม่ชวนคุยเท่านั้นเอง
“เป็นไร? คิ้วจะชนกันอยู่แล้ว”
ได้ยินเสียงพี่ทีถอนหายใจ
ค่อยๆ ชำเลืองมองทีละนิด เห็นพี่ทีกำลังจ้องอะไรบางอย่างบนโต๊ะ เลยมองตาม เจอถ้วยซอสจิ๋วสองใบตรงหน้า โธ่ ทำไมไม่กดใส่จานมาล่ะพี่พาร์ จะได้แบ่งกันจิ้ม เผื่อมีโมเมนต์หลังมือกระทบกัน หัวชนกัน…ไม่ก็ก้มหน้าเข้ามาใกล้กัน
“ซอสพริกผสมซอสมะเขือเทศ?”
พี่อ่ะ พูดขึ้นมาตอนนี้ทำไม ภาพในความคิดกระจายเลย
“ไม่ชอบ?”
“เปล่า” พี่ทีหยิบเฟรนซ์ฟรายจิ้มซอสเข้าปาก “แค่แปลกใจ ไม่คิดว่าทำเหมือนกัน…อ้อ ลืมไป ลุงแทนเป็นคนสอนนี่หว่า จะกินเหมือนกันคงไม่แปลก”
“เคยมากินกับพ่อ…เมื่อไหร่?”
“ตอนยังเด็ก”
พี่พาร์นิ่งไปสักพัก ก็พยักเพยิบใส่ของบนโต๊ะ “จะเอาอะไร?”
“ไก่”
หลังพี่ทีตอบ พี่พาร์ก็คว้าเบอร์เกอร์แกะเข้าปาก แล้วดูนั่น บ็อกเซ็ตชุดเดียวแบ่งได้เท่าเทียมสุดๆ คนหนึ่งได้เบอร์เกอร์ คนหนึ่งได้น่องไก่ชิ้นใหญ่ น่องไก่เล็กสองชิ้นก็แบ่งคนละอัน เฟรนช์ฟรายแบ่งกันกิน
แม้แต่น้ำยังดูด
ร่วมหลอดเลยอ่ะ!!
มือถือสั่น ก้มมองปุ๊บเจอข้อความโดนใจปั๊บ
ฉันคือสาววาย: อ้ายย! จูบทางอ้อมชัดๆ
สติกเกอร์เห็นด้วยเต็มไปหมด กดข้อความส่งตามไปติดๆ
Nam: เห็นปะ บอกแล้วว่าพี่ชายเนี่ยแหละ ฟิน..!
เตี้ยแล้วไง: ยะ แม่คนหวงพี่ ถึงว่าหวงจังเลย
ถึงเป็นนกก็นกตัวผู้: แบบนี้เรียกว่าหวงพี่ชายไว้ให้พี่ชายเพื่อน ฮิ้ว…
Birdie: 555 ไม่เถียง
Nam: มันคือความจริง
กลับมานั่งสังเกตการณ์พี่ๆ อีกครั้ง เอ…ก็รู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างพวกพี่แปลกไปนิดหน่อย ไม่รอช้ารีบพิมพ์ถามยืนยันผ่านไลน์ทันที
Nam: บรรยากาศรอบตัวพวกพี่เปลี่ยนไป รู้สึกเหมือนกันไหมเบอร์
Birdie: อือ กำลังแปลกใจอยู่
สาวสายมังงะวาย: ยังไงวะ?
เหลือบมองอีกหน หาคำมาบรรยายความรู้สึกตอนนี้ แล้วพิมพ์บอกเพื่อนๆ
Nam: มันละมุนละไมยังไงไม่รู้
เตี้ยแล้วไง: อย่าให้ฉันต้องแปลไทยเป็นไทย
ฟ้าใส: ยัยน้ำหมายถึงอ่อนโยนล่ะมั้ง
Nam: ไม่เชิง บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่แบบ…เอาเป็นว่าดีกว่าเมื่อเช้าแล้วกัน
ฉันคือสาววาย: แล้วตอนนี้ต่างจากเมื่อเช้ายังไง จุดประเด็นแล้วช่วยเคลียร์ให้หายข้องใจด้วย
Nam: เมื่อเช้ามันหยาบกระด้างกว่านี้อ่ะ
ฮันนี่ใครว่าหวาน: ไม่ต่างจากเดิมเลยยัยน้ำ
Birdie: น้ำอธิบายไม่ถูกหรอก เอาเป็นว่า…
Birdie: พวกพี่ๆ ดูสนิทสนมมากกว่าเมื่อเช้าแล้วกัน ตอนนี้เลิกถามแล้วมองพี่ๆ ต่อเถอะ
ขอบคุณที่ช่วยนะเพื่อนเลิฟ
ของกินตรงหน้าดูหมดความหมายทันที ได้เขี่ยเล่นไปมาระหว่างส่องพี่ๆ ฝ่ายพี่ชายกินเร็วมาก แปบเดียวก็กวาดลงท้องซะเรียบ
“ไปเติมน้ำนะ”
“เออ”
พี่ทีลุกจากโต๊ะ ได้โอกาสที่รอคอยมานาน น้ำรีบโผล่ถามสิ จะรออะไร
“พี่พาร์ ทำไมพี่ทีแต่งหน้าล่ะ?”
“กิจกรรมคณะ”
พูดแล้วยิ้มขำคืออะไรคะ?
“ทำไมถึงห้ามไม่ให้น้ำทักล่ะ”
“พี่แค่อยากแกล้ง…เสียดายทีเอากระดิ่งออกแล้ว ไม่งั้นเวลาเดินจะมีเสียงดังกรุ๊งกริ๊งด้วย”
“กระดิ่ง? ไม่เข้าใจค่ะ ขอคำอธิบายเพิ่ม”
“ก็…ทีโดนจับเปลี่ยนเสื้อผ้าน่ะ เหมือนโดนจับแต่งคอสเพลย์นั่นแหละ”
คอสเพลย์...ภาพหูแมวติดกระดิ่ง ไม่ก็ปลอกคอกระดิ่งลอยวูบเข้ามาในหัว ตามด้วยภาพพี่ทีใส่ของพวกนั้น ร้องเมี้ยวทั้งแบบหน้าเซ็ง และแบบหน้ายิ้ม โอ๊ย…จะแบบไหนๆ ก็อยากเห็นอ่ะ!
“มีรูปไหม? น้ำอยากเห็น”
“เบอร์ด้วย” ท่าทางรายนี้จะคิดเหมือนกันแน่ๆ
“ตอนนี้ไม่มีหรอก”
ฟังแล้วก็หงอยสิ
“แต่คิดว่าเดี๋ยวก็มีคนแชร์ลงเน็ต ถ้าเจอ พี่จะเซฟเก็บไว้ให้ดู”
ความร่าเริงฟื้นคืนชีพ “สัญญาแล้วนะ!”
“รูปอะไร?”
โอ๊ะ คนถูกกล่าวถึงกลับมาแล้ว…แล้วนั่งลงข้างพี่พาร์เฉย
บะ แบบว่าก็เข้าใจนะ พี่ทีคงขี้เกียจแทรกตัวระหว่างโต๊ะไปนั่งฝั่งตรงข้าม เพราะพึ่งมีกลุ่มใหญ่ลากโต๊ะมาจับกลุ่มใกล้ๆ แต่น้ำน่ะจิ้นไปนู้นแล้ว
โฮก เหมือนแฟนนั่งคู่กันมากๆ ไม่พอ…มียื่นแก้วน้ำ ส่งต่อมือถึงมือ ปลายนิ้วสัมผัสกัน ตาสบตา
“รูปกิจกรรมวันนี้ พวกน้องอยากเห็น”
แต่ไหงประโยคพูดถึงไม่โรแมนติกเลย น้ำเซ็ง
“มีคนถ่ายรูปเก็บไว้?”
“น่าจะมีมั้ง”
ดูพี่จ๋าทำหน้าเข้า สีหน้าบอกชัดเลยว่า ขอให้ไม่มี ฮ่าๆๆ มันต้องเป็นภาพที่พี่ทีคิดว่าน่าอายแหงๆ น้ำอยากเห็นชะมัด!
ก้มมองมือถือบนตักที่กำลังสั่น เพื่อนส่งข้อความมาในไลน์
ฉันคือสาววาย: แกๆ
เตี้ยแล้วไง: ทักคนไหนระบุตัวตนด้วย
ฉันคือสาววาย: น้ำกับเบอร์
Birdie: สติกเกอร์หมีขาวเอียงคอสงสัย
Nam: อาราย
ฉันคือสาววาย: ขอถามคำถามพี่ชายพวกแกได้ปะ?
Nam: ลองดูดิ
บอกปัดไป เพราะอยากสังเกตการณ์ต่อจะแย่
“หนูมีคำถามค่ะ”
สะดุ้งเลย ไม่นึกว่าเพื่อนกล้าทำจริง แต่พอสังเกตอาการเพื่อนดีๆ ภายนอกท่าทางขึงขังจริงจัง แต่แววตาดูสั่นไหวเหมือนกลัวโดนโกรธ
“ทำหน้าเหมือนกลัวโดนพี่กัดเลย ถามได้ครับ”
โธ่…พี่ที พูดแบบนี้เพื่อนน้ำก็ไม่เกรงใจสิ
“งั้นขอถามพี่ทีค่ะ ทำไมถึงคบกับพี่พาร์คะ?”
โอ้ ลูกตรง ทำพี่ทีชะงักเลยค่ะ
พี่จ๋า อย่าองค์ลงนะ เพื่อนน้ำแค่ถามแบบรวมๆ จะหมายถึงเพื่อนก็ได้ แบบแฟนก็ดี
…แล้วเอนตัวไปกระซิบอะไรกับพี่พาร์คะ
น้ำก็จ้องตาไม่กระพริบสิ เพราะ ช...ชิดมาก ไม่อยากบอก ขยับเข้าไปอีกนิด หอมแก้มเลยดีกว่าค่ะ
“คำถามเมื่อกี้…” พี่ทีพูดยิ้มๆ หลังผละออกห่างพี่พาร์ “ไม่รู้สิครับ รู้ตัวอีกทีก็สนิทกันไปแล้ว”
ขอน้ำอ้าปากค้างสักนิด อะไรดลใจให้พี่จ๋าตอบแบบนี้หนอ ฟังแล้วเคลิ้ม...ชะงักกึก หลังเห็นแววตาพี่ชายวิบวับแปลกๆ เหมือนกำลังสนุกที่ได้แกล้ง เอ่อ พี่คงไม่...
“ขอถามพี่พาร์ค่ะ คิดว่าวันนี้พี่ทีน่ารักไหม?”
คำถามแสนโดนใจจนทิ้งเรื่องตงิดใจเมื่อครู่ เพื่อมาลุ้นคำตอบ
“อืม”
มาคำเดียว แต่โดนใจกว่า! อ๊ายยย
“ขอถามพี่ทั้งสองคนค่ะ ชอบอะไรในตัวอีกฝ่ายคะ?”
พี่พาร์ตอบก่อน “ไม่เหมือนชาวบ้าน”
พี่พาร์จ๋า ทีหลังดูหน้าพี่ทีก่อนตอบนะ นิ่วหน้าไม่ชอบใจแล้วนั่น
“พี่ทีล่ะ”
ครุ่นคิดพักใหญ่ พวกน้ำกำมีดกำส้อม ลุ้นตัวโก่ง ขอคำตอบฟินๆ นะพี่ชาย
“ไม่รู้สิ แต่อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจดี”
ได้แต่กรีดร้องถูกอกถูกใจในหัว โอ๊ย อยากทุบโต๊ะ
“กรี๊ดดด” แว่วเสียงกรีดร้องเบาๆ เลยชำเลืองดู
…พี่จ๋า ทำน้ำกับเบอร์ดี้ฟินไม่พอ ทำเพื่อนน้ำที่อ่านแต่มังงะ ดูอนิเมะ ไม่เคยสนใจผู้ชายของจริง ฟินตามไปด้วยแล้ว แม้แต่หญิงห้าวคนเดียวของกลุ่มยังหลุบตาลง แก้มแดงเลยนั่น
สาวสายมังงะวาย: ฉันขอสมัครเป็นแฟนคลับพี่ชายพวกแกด้วยคน!
ฉันคือสาววาย: ฉันสมัครด้วย!
ฮันนี่ใครว่าหวาน: ด้วยคน
ตามด้วยสติกเกอร์อ้อนวอนมาอีกสอง
Nam: เข้าใจที่บอกแล้ว?
เตี้ยแล้วไง: จะรับไม่รับ ตอบมาแค่คำเดียว!
โอ๊ะ เหมือนโดนขู่
Nam: รับอยู่แล้ว
ฟ้าใส: พี่ๆ เอียงหัวกระซิบอะไรกันอีกแล้ว
รีบเงยหน้าดูทันที เห็นพี่ทีกระซิบบางอย่าง พี่พาร์ยิ้มขำยกใหญ่
โอ๊ย น้ำอยากรู้~ คุยอะไรกันอยู่คะ
“ขอถามบ้างค่ะ เวลาพวกพี่อยู่ด้วยกัน มักทำอะไรคะ?”
“ช่วยกันเลี้ยงน้องสิครับ”
พี่อ่ะ! ตอบแบบที่โรแมนติกกว่านี้หน่อยสิ
สายตาเพื่อนๆ ตวัดมองมาเลย
“พี่ล้อเล่น” หันขวับมองคนพูดทันที พี่ทีกำลังคลี่ยิ้มพราวเสน่ห์แอบมีเลศนัย
“ความจริงแล้ว มัน-เป็น-ความลับ”
ตอบมาแบบนี้ฆ่ากันชัดๆ เลยเถอะ!
ระหว่างตายอย่างสงบ แว่วเสียงเพื่อนสักคนพึมพำขึ้นมา
“ใครมีทิชชู่ ขอหน่อย เลือดกำเดาจะไหล”
-------------
ปิดท้ายก่อนจากลาด้วยพี่ทั้งสองแชร์ค่าไอศกรีมเจ้าอร่อยมาเลี้ยงน้องๆ ได้มาคนละถ้วยเล็ก ถ้าใหญ่กว่านี้คงกินไม่ไหว อิ่มมาก แถมพาเดินไปส่งถึงทางเชื่อมรถไฟฟ้า
“เย็นมากแล้ว อย่าเถลไถลล่ะ”
พี่พาร์พูดจบ พี่ทีก็เสริม
“กลับถึงบ้านแล้ว ไลน์บอกน้องสาวพี่ด้วยนะ”
แอบโดนเพื่อนๆ มองเขม็งด้วยสายตาอิจฉาตาร้อน…ยืดอกรับสิ (ภูมิใจมาก)
คงจะจากด้วยดี ถ้าสาวห้าวตัวใหญ่ของกลุ่มไม่สะดุดเชือกผูกรองเท้า มันก็บ้าใส่ชุดพละมา ที่จริงใส่เกือบทุกวัน จนโดนครูเขม่นแล้วเขม่นอีก มันคงไม่มีอะไรถ้าเพื่อนไม่ไปพุ่งชนพี่ที
ไม่มีใครตั้งตัวทันสักราย แม้แต่พี่ทีที่กำลังเสียหลักหงายท้อง…
“โอ๊ะ”
“ว้าว…”
นาทีนี้อยากขอบคุณเพื่อนมาก นึกแล้วก็หยิบมือถือออกมากดแชะเก็บภาพประวัติศาสตร์ พี่พาร์โอบรอบเอวพี่ทีไว้ในวงแขนแนบแน่น
“เอ่อ กูไม่ได้ตั้งใจนะ”
คนสะดุดล้มแล้วเผลอไปกระแทกโดนพี่ทีเข้าสู่อ้อมกอดพี่พาร์พูดอ้อมแอ้ม พวกเรารีบตบบ่าเพื่อนตัวโตทันที
“ทำได้ดีมาก!”
“ฮะ?”
“ไม่ต้องทำหน้าสงสัย รีบก้มผูกเชือกรองเท้าเหอะ”
ทั้งทีพึ่งอารมณ์ดีสุดขีดจากอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ก็ต้องมาอารมณ์เสีย เพราะไอ้บ้าตรงหน้าที่เข้ามาขายขนมจีบพี่จ๋าช่วงที่พวกเราไปเข้าห้องน้ำ
แล้วพี่พาร์หายไปไหน ถึงปล่อยพี่ทียืนคนเดียวเนี่ย!
“เอาไงน้ำ?”
“ไม่เห็นต้องถาม”
รีบจ้ำเท้าเข้าไปแทรกอย่างไว ส่งสัญญาณให้เบอร์ดึงพี่ทีที่กำลังหงุดหงิดออกห่างไปก่อน
“เดี๋ยวสิครับ!”
รีบขยับมาดักคนแปลกหน้าอีกรอบ อย่าหวังจะได้ตามพี่จ๋าง่ายๆ
“ขอโทษนะคะ พี่คนเมื่อกี้มีแฟนแล้ว” ว่าแล้วก็เปิดภาพโอบกันเมื่อกี้ให้ดู พร้อมสำทับ “ถ้าไม่หล่อเท่านี้หรือมากกว่านี้ พี่ชายหนูไม่แลหรอกค่ะ อีกอย่างแฟนพี่ชายหึงโหดนะคะ ถ้าไม่อยากตาย อย่ามายุ่งดีกว่าค่ะ”
พูดจบก็ปล่อยปลากระโห้ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นแหละ หึ
“เดี๋ยวก่อนน้อง…”
ไอ้บ้านั่นกล้ามาจับไหล่!
“หน้าตาดีกับโหดแล้วไง แฟนไม่ได้อยู่แถวนี้ซะหน่อยนี่น้องสาว”
กวนประสาทมาก! แต่ก็ยิ้มหวานส่งให้ “แฟนไม่อยู่ น้องสาวอยู่ค่ะ”
“แล้วไง?” มันกล้ามาจับข้อมือแล้วบีบข่มขู่ “ตัวเล็กแค่นี้มีปัญญาทำอะไรพี่ได้”
น้ำถือว่าเป็นการคุกคามล่ะนะ…
ผัวะ!
แตะอัดกระแทกกลางหว่างขาไปหนึ่งที พอมันงอตัวกุมเป้าปุ๊บ ก็หมุนตัวเตะข้อพับให้ล้มไปนั่งแหมะกับพื้น ข้อดีเวลาเพศหญิงลงมือ คือไม่มีใครกล้ามายุ่งค่ะ ต่อให้อยู่กลางสายตาประชาชีก็เถอะ ความจริงอยากอัดมากกว่านี้ แต่คำสอนของอาจารย์มันฝังหัว เลยจำต้องถอย
“ถ้าอยากเป็นกระสอบทรายก็แวะมาให้เห็นหน้าอีกนะคะ”
ยิ้มหวานส่งท้าย แล้วเดินจากมาแบบนางพญา เห็นพี่ทีขมวดคิ้วหน้าทะมึนอยู่ไม่ไกล มีเบอร์ดี้คล้องแขนจับล็อกตัวแน่น ก็รีบเดินเข้าหา
“มันทำอะไรน้ำ!”
หูย…สายตาพี่ทีอย่างโหด
“เอาไว้ครั้งหน้า ถ้าเขาเสนอหน้ามาให้เห็นอีก พี่ทีค่อยกระทืบเผื่อน้ำแล้วกัน”
ดูจากสีหน้าพี่จ๋ายามมองไอ้หน้าเขียวหน้าซีดบนพื้นเขม็ง พี่ชายคงกำลังจดจำหน้าตาอีกฝ่ายเข้าสมอง เจอกันครั้งหน้าโดนหมายหัวชัวร์ หุๆๆ หวังว่าจะไม่โผล่หน้ามาให้พี่จ๋ากระทืบเล่นนะ
“พอเลยทั้งสองคน ไปจากตรงนี้ก่อนค่ะพี่ที”
เบอร์ดี้ลากแขนพี่จ๋าให้ออกเดิน พี่คงจำหน้าอีกฝ่ายได้แล้ว เลยยอมก้าวขาตามแรงดึง เจอพี่พาร์ขึ้นบันไดเลื่อนมาถึงพอดี ในมือมีถุงสีเขียวใบเล็กจากร้านวัตสัน
“พี่พาร์!” เบอร์ดี้ร้องเรียกพี่ชายอย่างดีใจ แต่น้ำแยกเขี้ยวให้
“พี่พาร์ทิ้งพี่ทีไว้คนเดียวได้ไง!”
“…เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
“นิดหน่อยค่ะ แต่จัดการเรียบร้อยแล้ว เรารีบกลับกันเถอะ” เบอร์ดี้รีบบอกรัวๆ “เดี๋ยวน้องอันรอนาน”
แอบขำสีหน้าเบอร์ พยายามกลบเกลื่อนมาก แต่ไม่เนียนเลยเพื่อน
“เดินนำก่อนเลยน้องๆ เดี๋ยวพี่เดินคู่กับทีเอง”
เบอร์ดี้ไม่ปล่อยพี่ทั้งสองคุยกันแน่ เพราะกลัวความลับแตก จัดการคล้องแขนดึงพี่พาร์จ้ำเท้าเดินนำหน้า ปล่อยพี่ชายทั้งสองมีสีหน้าสงสัย
“เบอร์ดี้เป็นอะไร?”
“รายนั้นปิดบังพี่พาร์เรื่องไปเรียนศิลปะป้องกันตัวกับพวกเรามา”
“ปิดทำไมล่ะ” พี่ทีทำหน้าไม่เข้าใจ
“ก็…พวกเราไม่เคยซนต่อหน้าพี่พาร์เลยอ่ะ”
พี่ทีย่นคิ้วแล้ว ฮ่าๆๆ
จะว่าพวกน้ำสองมาตรฐานก็ได้ กับพี่ทีซนจนได้แผลมายังไง พี่ทีก็ช่วยทำแผลไปพลางฟังพวกเราเล่าวีรกรรม ฟังจบก็ช่วยแนะนำบ้าง พูดดุบ้าง แต่กับพี่พาร์ ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ถ้าเห็นเราดูแลตัวเองได้ในระดับไม่น่าเป็นห่วงแล้ว คงปล่อยมือให้เดินเองแน่ๆ เพราะงั้นอยู่เป็นเด็กดีเรียบร้อยน่ารัก ให้พี่พาร์คอยดูแลและตามใจดีกว่าเยอะ
“เรื่องที่พวกเราโดนส่งไปเรียนศิลปะป้องกันตัวถือเป็นความลับกับพี่พาร์นะ”
“ทำไมบอกไม่ได้?”
“พี่พาร์ไม่ชอบความรุนแรงค่ะ”
แถไปแล้วเรียบร้อย พี่ทีดูท่าจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง น้ำปล่อยพี่ทีครุ่นคิดไป พูดซ้ำไม่ได้หรอก เดี๋ยวโดนสงสัย ก็ได้แต่หวังว่าพี่ทีจะไม่เผลอทำตัวโหดต่อหน้าพี่พาร์เข้า ไม่งั้นความแตกแหงๆ ได้ยินเบอร์เล่าว่าช่วงไปเรียนต่างประเทศ พี่พาร์ก็ใช่ย่อย ทั้งไปเรียนชกมวยด้วยเหตุผลคิดถึงบ้าน ชื่นชอบความเร็วจนได้ลงสนามเถื่อน มีเรื่องชกต่อยจนเคยเข้าเฝือกมาแล้ว
…แย่แล้ว น้ำเจอพี่พาร์โหมดสุภาพบังตา ไม่เคยเห็นโหมดโหดสักครั้งเลยนึกภาพไม่ออก แบบนี้พี่พาร์ก็มีโอกาสพลิกมารุกพี่ทีได้น่ะสิ!
“พี่ทีห้ามยอมแพ้นะ”
“ฮะ? พูดเรื่องอะไร?”
“พี่แมนใช่ไหม”
“แน่นอน”
“งั้นต้องแมนกว่านี้นะ ต้องเป็นชายเหนือชายให้ได้”
ทำไมพี่จ๋าทำหน้าเอือมระอาล่ะ
“น้ำจริงจังนะ!”
อ้าว เดินหนีอีกแล้ว เป็นอย่างนี้ทุกที! น้ำเซ็ง!
-------------
เสียงไลน์ดังขึ้นพร้อมๆ กัน พวกเราที่นั่งอยู่เบาะหลังหันมองหน้ากัน ก่อนดึงมือถือออกมาเปิดดู เพื่อนๆ ที่แยกกันไปเมื่อครู่ ส่งภาพมาในไลน์กลุ่มที่พึ่งเปลี่ยนชื่อหมาดๆ ชื่อ BxB ย่อมาจาก Brother ทั้งสองตัวค่ะ แค่เห็นรูปน้ำก็อยากกรี๊ดแล้ว ช็อตเด็ดพี่ทีกับพี่พาร์กอดกันเมื่อกี้ มุมอย่างสวย แต่รูปต่อมาอยากกรี๊ดหนักกว่า
ภาพคู่ของพี่พาร์กับพี่ที! ไม่รู้ไปกอดคอให้ถ่ายรูปตั้งแต่เมื่อไหร่
Nam: เอามาจากไหน
ฉันคือสาววาย: ขอถ่ายรูปมาสิ เมื่อกี้แบบเต็มตัว มีแบบครึ่งตัวด้วย
แล้วก็ส่งรูปมา เห็นแล้วถึงกับตายอย่างสงบ รู้แก่ใจว่าเพราะมุมกล้อง
แต่มันเหมือนพี่ทีขโมยหอมแก้มพี่พาร์เลยอ่ะ เห็นแล้วมันฟิน!
Birdie: เก็บไว้ได้ แต่ห้ามเอาไปเผยแพร่ที่ไหนเด็ดขาด
ข้อความของเบอร์ดึงสติกลับมา รีบพิมพ์สำทับลงไปทันที
Nam: ถ้ารู้ว่าหลุดนะ หึๆๆ
ฉันคือสาววาย: รู้แล้วยะ ไอ้คนหวงพี่ทั้งคู่
ฮันนี่ใครว่าหวาน: แกๆ ฉันมีอะไรจะเสนอ…
ตากวาดอ่านข้อความจากเพื่อนจนจบ อุทานอย่างคาดไม่ถึง รีบพิมพ์ตอบกลับอย่างเร็ว
Nam: ไอเดียดีมาก ขอยืมไปใช้นะ
ฮันนี่ใครว่าหวาน: เอาเลย แล้วแอบถ่ายวีดีโอมาให้ดูด้วยนะ
ฉันคือสาววาย: รอดูด้วยคน
สาวสายมังงะวาย: ฉันด้วยๆ
Nam: แน่นอน
พี่ทั้งสองจ๋า…รอถึงบ้านก่อนเถอะ!
############