- ชลนที - [ตอนพิเศษ3] P.22 (09/06/2017) #จบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - ชลนที - [ตอนพิเศษ3] P.22 (09/06/2017) #จบแล้ว  (อ่าน 175472 ครั้ง)

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
Re: - ชลนที - [บทที่20] P.5 (09/10/2016)
«ตอบ #150 เมื่อ09-10-2016 09:10:15 »

พาร์แอบหวงเลยอารมณ์เสียด้วยป้ะ แอบเครียดเรื่องจัจีบทีงี้

ทีแต่งคอสเพล์ รอๆๆ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: - ชลนที - [บทที่20] P.5 (09/10/2016)
«ตอบ #151 เมื่อ09-10-2016 09:36:20 »

อยากเห็นตอนแต่งเสร็จแล้วง่าาา

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: - ชลนที - [บทที่20] P.5 (09/10/2016)
«ตอบ #152 เมื่อ09-10-2016 09:40:00 »

เครื่องสำอางค์ << ไม่มี ค์ นะคะ

อยากเห็นทีแล้วอ้าาาา ตัดจบได้อย่างน่าแค้นใจ  :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
Re: - ชลนที - [บทที่20] P.5 (09/10/2016)
«ตอบ #153 เมื่อ09-10-2016 12:31:41 »

หึหึหึ รสนิยมเกียวกัน....ทั้งสองบ้าน

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: - ชลนที - [บทที่20] P.5 (09/10/2016)
«ตอบ #154 เมื่อ09-10-2016 13:28:19 »

พาร์ สนใจที ชอบที เต็มร้อยแล้ว
พาร์ อยากดูที ที่กำลังแต่งคอสเพลย์มาก
ขนาดไม่ค่อยจะยอมจากที ขึ้นไปเก็บของข้างบนเลย
สรุป ที ต้องเล่นบทคู่รักพาร์ ตามคำแนะนำของพี่ดิน
โดยที่พาร์ ไม่เฉลียวใจเลยว่าคนที่มาชอบทึ ก็คือตัวพาร์เอง
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: - ชลนที - [บทที่20] P.5 (09/10/2016)
«ตอบ #155 เมื่อ09-10-2016 15:34:17 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
Re: - ชลนที - [บทที่20] P.5 (09/10/2016)
«ตอบ #156 เมื่อ09-10-2016 17:01:31 »

รอทีแต่งตัวเสร็จ

พาร์ เห็นทีมีแต่งแบบนี้  งานนี้มีหลงกับหลงทียิ่งกว่าเดิม  คึคึ

 :hao3:    :hao3:   :hao7:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: - ชลนที - [บทที่20] P.5 (09/10/2016)
«ตอบ #157 เมื่อ09-10-2016 19:50:10 »

งานนี้พาร์คงถอนตัวไม่ขึ้นแล้วล่ะ 5555555
อยากเห็นทีตอนแต่เสร็จแล้วจัง

ออฟไลน์ Ujeen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: - ชลนที - [บทที่20] P.5 (09/10/2016)
«ตอบ #158 เมื่อ09-10-2016 21:53:54 »

แอบสงสารที 55555 แต่ก็อยากรู้ว่าตอนแต่งเสร็จจะเป็นยังไง ต้องน่ารักแน่ๆ
พาร์นี่สับสนกับความรู้สึกตัวเองได้อึนมาก  ขอให้รู้ตัวเร็วๆ นะ
รอตอนต่อไปค่ะ  o13

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: - ชลนที - [บทที่20] P.5 (09/10/2016)
«ตอบ #159 เมื่อ09-10-2016 22:56:51 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: - ชลนที - [บทที่20] P.5 (09/10/2016)
« ตอบ #159 เมื่อ: 09-10-2016 22:56:51 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: - ชลนที - [บทที่20] P.5 (09/10/2016)
«ตอบ #160 เมื่อ09-10-2016 23:11:55 »

น่ารักแน่ๆ 555555

ออฟไลน์ bigbeeboom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: - ชลนที - [บทที่20] P.5 (09/10/2016)
«ตอบ #161 เมื่อ09-10-2016 23:39:59 »

มาตามอ่านรวดเดียวจ้ะ สนุกมากๆๆ รอพาร์มาเห็น ดูดิ้อดใจไหวมั้ย

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: - ชลนที - [บทที่20] P.5 (09/10/2016)
«ตอบ #162 เมื่อ10-10-2016 00:46:43 »

ก็เพราะทีแต่งแล้วน่ารัก คุณแม่ถึงชอบจับทีแต่งตัวไง ลองถ้าทีร่างสูงใหญ่ ผิวเข้มหน้าดุ คุณแม่ก็คงไม่อยากแต่งหรอกนะ 555

ออฟไลน์ KatzeP

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-1
Re: - ชลนที - [บทที่21] P.6 (12/10/2016)
«ตอบ #163 เมื่อ12-10-2016 17:50:55 »

บทที่21

จบรายการแต่งหน้า ก็เป็นรายการแต่งตัวที่น่าปวดหัว

“แม่ไม่ใจร้ายบังคับลูกหรอก เลยมีสามทางให้ทีเลือก”

แค่เกริ่น ผมก็ไม่อยากฟังแล้ว แต่คุณนายแบมือออก ปล่อยน้ำ (ผู้เสนอตัวเป็นลูกมือ) หยิบของในถุงส่งถึงมือทีละชิ้น “เลกกิ้ง ถุงน่อง…” แม่พูดต่ออย่างลื่นไหล ไม่ชายตาแลสิ่งของ

ผมหรี่ตาลง คู่นี้เตี้ยมกันมาแน่ๆ

“หรือลูกอยากโกนขนหน้าแข้ง แม่ไม่ขัด แถมสนับสนุนด้วย”

ผมผงะกับตัวเลือกสุดท้าย รีบตอบแบบไม่ต้องคิด “เลกกิ้งครับ!”

“แหม น่าเสียดายจัง แต่ว่าเป็นหมาป่าทั้งทีต้องมีโชว์นิดๆ หน่อยๆ ดังนั้นแม่ขอเสนอนี่จ๊ะ”

ผมอ้าปากเหวอเมื่อได้เห็นเลกกิ้งในมือแม่ ช่วงต้นขาด้านหน้าโดนกรีดเป็นริ้วๆ แถมรอยกรีดทั้งสองขายังไม่เท่ากันอีก คือมันก็สวยดีหรอก แต่พอคิดว่าต้องมาอยู่บนขาตัวเองแทนที่จะได้เห็นจากสาวๆ ผมก็เผลอกลืนน้ำลายลงคอ

“สีดำช่วยอำพลางให้ขาลูกดูเล็กลง แถมหน้าขาทีไม่ค่อยมีขนอยู่แล้ว แม่ว่าแบบนี้เหมาะกับลูกที่สุด แต่ถ้าไม่ชอบ แม่แนะนำใส่ถุงน่องสีเนื้อกับขาสั้นแทนก็ได้นะลูก”

ผมแทบผงะกับขาสั้นของแม่ คือมันจะสั้นไปไหน!

“ถ้าลูกไม่ชอบถุงน่อง จะโกนขนหน้าแข้งออก แม่ยิ่งยินดีเข้าไปใหญ่”

“เป็นเลกกิ้งดีแล้วครับ!”

“โอเค ต่อไปเรื่องท่อนบน…”

ผมลุ้นระทึกยามแม่คลี่เสื้อตัวแรกให้ดู เป็นเสื้อกล้ามชายสายเดี่ยวสีดำครับ ค่อนข้างรัดรูป เห็นแล้วผมพ่นลมโล่งอกออกจากปากทันที อย่างน้อยแม่ก็ยังปรานีผมบ้าง   

“ไปใส่ในห้องน้ำเลยจ๊ะ?”

ผมทำตามอย่างว่าง่าย แต่พอเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา กลับต้องผงะ เพราะแม่เล่นกางเสื้อคลุมผ้าถักสีขาว คอกว้าง แขนเสื้อก็กกว้างยาวเลยข้อศอกนิดหน่อย ชายเสื้อเป็นพู่ๆ ห้อยลงมา

เอ่อ แบบนี้เรียกว่านำเสนอถึงหน้าห้องน้ำ…ก็คงไม่ผิด   

“แม่ครับ…คือ…” ผมชี้ไปที่เสื้อในมือแม่แบบหวั่นๆ

“แม่ชอบตัวนี้ที่สุดเลยลูก ดังนั้นลูกต้องใส่!”

ว่าแล้ว!

ผมจำใจรับเสื้อคลุมมาสวมทางหัว เรียบร้อยก็ปล่อยแม่จัดการจัดทรงผม หูหาง เสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง แถมยังจับเสื้อคลุมให้เปิดไหล่ผมโชว์แค่ด้านเดียวอีก

“อืม…แม่ว่าเปลี่ยนวิกดีกว่า ทรงนี้ไม่ค่อยเข้ายังไงไม่รู้…รอตรงนี้นะลูก เดี๋ยวแม่เอามาให้ลอง”

“เดี๋ยวครับ!”

ไม่ทันแล้ว ไม่ถึงสองนาที แม่เล่นยกมาทั้งกล่อง ผมรีบระบุความต้องการก่อนเลย

“ไม่เอายาวมาก มัดได้ยิ่งดี!”

แม่กระพริบตา “งั้นเอายาวประมาณอก ผมหน้าม้า สไลด์ข้างนิดหน่อย เป็นลอนอ่อนๆ นี่ก็แล้วกัน…ย่อเลยลูก เร็วๆ อย่าอิดออด”

ผมพ่นลมหายใจ ย่อตัวให้แม่วางวิกที่ว่าใส่ คราวนี้เป็นสีน้ำตาลอ่อน ก่อนโดนลากเข้าห้องน้ำไปอยู่หน้ากระจก แบ่งเส้นผมเป็นสองส่วนจับตวัดมาข้างหน้าส่วนละฝั่ง แค่เริ่มต้นก็รู้เลยว่าแม่กะจับมัดสองข้าง

“อยากได้มัดสูงหรือต่ำดี?”

ผมนึกภาพตามแล้วเบ้ปากทันที “เอ่อ ทีว่าไม่ต้องมัดดีกว่า”

“แม่ตามใจลูกเลย ก้มมาให้แม่ติดหูก่อน”

แม่จัดเส้นผมให้เข้าที่เข้าทางอีกรอบ เรียบร้อยก็โดนดึงตัวไปโชว์ให้คนในครอบครัวที่นั่งรออยู่ตรงโซฟาเห็น ยัยน้ำเสียงเสียงร้องชอบใจทันที

“ว้าว! พี่น่ารัก แอบเซ็กซี่นิดๆ ด้วยอ่ะ”

“ใช่ไหมล่ะ” แม่พูดยิ้มๆ “แบบนี้เขาเรียกว่าอ่อนหวานปนเซ็กซี่จ๊ะ”

พ่อหัวเราะใหญ่ “เยี่ยมเลย!”

น้องอันมองคนนู้นคนนี้ ก่อนพูดบ้าง “น่ารัก”

เชื่อผมเถอะ เจ้าตัวเล็กแค่พูดตามพี่สาว

“ส่วนรองเท้า ใช้บู้ทนะลูก แม่วางไว้ให้อยู่หน้าบ้านแล้ว”

“อย่าบอกนะว่าส้นสูง!”

“ส้นเรียบจ๊ะ แม่ไม่อยากให้ลูกไปเดินสะดุดล้มที่ไหนอีก อ้อ ยาวประมาณหน้าแข้งแบบที่ลูกชอบด้วย”

ผมขมวดคิ้ว รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล แถมแม่ยังแปลกๆ คือยังไงดีแบบว่า กึ่งบังคับกึ่งตามใจ ทั้งที่ทุกทีผมต้องตามใจแม่ตลอด   

“ตามพาร์ลงมาเร็ว แม่จะได้จับแต่งตัวต่อ”

ฮะ? พาร์ก็โดน?

“น้ำไลน์บอกเบอร์แล้วค่ะ น่าจะกำลังลงมา”

“ที พ่อขอถ่ายรูปหน่อย”

ยังไม่ทันตอบ เจ้าตัวเล็กก็โผมากอดขา พ่อเลยรัวชัตเตอร์ใหญ่

“สองหมาป่ามองกล้องหน่อยเร็ว ยิ้มหวานๆ ด้วย”

ร่างกายผมทำตามอัตโนมัติ พอตั้งสติได้พ่อก็กดถ่ายรูปไปแล้ว

…ความเคยชินนี่น่ากลัวจริงๆ

“ทีมองกล้อง คลี่ยิ้มด้วย นั่นแหละ”

แชะ

“อ้ายยย! พี่ทีน่ารัก!!”

ผมที่ยังคลี่ยิ้มค้าง หันมองตามเสียงร้องเบอร์ดี้ เจอสองพี่น้องตระกูลกอล์ฟกำลังเดินลงบันไดมาพอดี

อ่ะ เฮ้ย!

โครม!

เสียงหนักๆ กระแทกพื้นไม้ดังสนั่น น่าจะเรียกทุกคนในบ้านหันมองเป็นตาเดียว เจ้าของเสียงโครมครามเมื่อครู่กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนตรงที่พักเท้ากลางบันได

“เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะพาร์?”

แม่ร้องถามด้วยความเป็นห่วงคนตกบันได คนเจ็บได้น้องสาวช่วยประคองตัวลุกขึ้นยืน

“ผมไม่เป็นอะไร เอ่อ แค่…”

สายตาพวกผมประสานกันแค่ครู่เดียว พาร์ก็หลบสายตาหนีกันดื้อๆ

“พี่เขาแค่เหยียบบันไดพลาด เลยลื่นไถลลงมาค่ะ”

เบอร์ดี้ต่อให้ด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ แว่วเสียงยัยน้ำหัวเราะคิกคักเหมือนกัน

“ไม่เป็นไรแน่นะ?” แม่ถามย้ำ

พาร์พยักหน้ายืนยัน

“ถ้าไม่เป็นไรก็ลงมาถ่ายรูปกันเร็ว” พ่อเอ่ยชวน

“เดี๋ยวค่ะ จับพาร์แต่งตัวก่อน”

…โชคดีนะเพื่อน แล้วจะรอดูว่าจะออกมาสวยแบบไหน

เวลาผ่านไปสิบห้านาที

แม่ลำเอียง!!

ผมทำหน้าบูดใส่คนพึ่งแต่งตัวเสร็จ

บนตัวพาร์ตอนนี้สวมเสื้อแขนกุดสีดำกับกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ โดนจับใส่วิกผมสีดำตัดสั้นทรงอย่างเท่ ใส่หางหมาป่ากับหูหมาป่าสีดำ แต่งหน้านิดหน่อยให้ขึ้นกล้อง ออกมาดูดีมากในแบบที่สาวๆ เห็นเป็นต้องร้องกรี๊ด ไม่ต้องมองหาตัวอย่างที่ไหนไกล นู้น สองสาวขอถ่ายรูปพี่พาร์ลงมือถือรัวๆ อยู่นั่นไง

ผมก็ลูกชายนะ ทำไมไม่จับผมแต่งตัวเท่ๆ แบบนั้นบ้าง!

“หมาป่าดำถือกำเนิด พาร์นี่หล่อจริงๆ แต่น้าว่าโล่งไปหน่อย จับใส่เครื่องประดับสักหน่อยก็ดีนะแม่”

“อ้อ แม่เตรียมให้แล้ว วางอยู่บนโต๊ะกระจก สองสาวเอาไปใส่ให้พี่เขาหน่อย”

น้องทั้งสองตอบรับ ยัยน้ำเดินมาใส่ให้ผมถึงที่ เบอร์ดี้เอาไปใส่ให้พาร์

แม้แต่เครื่องประดับยังต่าง!

“พี่เก็บอาการหน่อย แบบว่าแววตาพี่อิจฉาตาร้อนมาก”

ผมไม่เถียง เพราะมันคือความจริง!

“เอาล่ะ กลุ่มหมาป่าออกเดินทางไปก่อนเลย ส่วนลูกแมวน้อยรอไปพร้อมพวกพ่อ”

“ไป? ไปไหนครับ?” ผมรีบถามด้วยความมึน

“บ้านของการันต์”

มันเป็นชื่อร้านอาหารสไตล์ครอบครัวครับ แค่ได้ยินผมก็นึกถึงเพื่อนสนิทลุงนิกทันที ผมกำลังจะอ้าปากถาม แต่เหลือบไปเห็นปฏิทินแขวนเข้าก่อน

วันนี้มันสิ้นเดือนนี่หว่า บ้านของการันต์มีจัดกิจกรรมครับ ให้ลูกค้าแต่งคอสเพลย์ไปเซอร์ไพส์ลูกค้าคนอื่นได้ (จำกัดเดือนละครอบครัว) จะถูกเรียกว่า ‘ลูกค้าพิเศษ’ ของรางวัลคือได้กินฟรี ใครสนใจทางร้านจะให้ลงชื่อกับเบอร์โทรสำหรับติดต่อไว้ในกล่อง แล้วจะจับฉลากในวันที่หนึ่งของทุกเดือน เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัว และอีกกิจกรรมหนึ่งจะมีหมอมาตรวจสุขภาพฟรีด้วยครับ ซึ่งทั้งสองกิจกรรมไม่มีใครรู้ว่าจะเริ่มตอนไหน จะได้เจอไหมอยู่ที่ดวงล้วนๆ ครับ

“พวกพ่อไปสมัครกิจกรรมตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“พ่อเปล่า”

“แม่ก็เปล่า”

“อ้าว แล้ว…”

“พี่รันต์โทรมาขอความช่วยเหลือเมื่อเย็นเองลูก บอกว่าครอบครัวที่นัดแต่งคอสเพลย์วันนี้โทรมายกเลิกตอนเที่ยง จะโทรติดต่อลูกค้าคนอื่นก็ไม่แน่ใจว่าจะมีใครเตรียมตัวทัน เลยโทรมาหาพ่อ เพราะนึกได้ว่าทีชอบแต่งคอสฯ บ่อยๆ”

ผมแยกเขี้ยวใส่พ่อทันที “ใครชอบแต่งคอสฯ กัน!”

“โอเค” พ่อรีบชูสองมืออย่างยอมแพ้ “พ่อใช้คำผิดเอง สรุปคือบ้านเราอุปกรณ์พร้อม น่าจะช่วยได้ พอดีแม่กำลังจับน้องอันแต่งตัวอยู่ พ่อเลยตอบตกลงไป”

ผมพ่นลมหายใจ “ผมไม่ได้ว่าเรื่องช่วยลุงรันต์นะครับ แต่ทำไมไม่บอกกันก่อนเล่า! จู่ๆ ก็จับแต่งตัว นึกว่าแค่ถ่ายรูปเล่นซะอีก”

“ก็ว่าจะถ่ายเล่นนะ แต่จะเอาไปถ่ายที่บ้านของการันต์ อีกอย่างสิทธิ์ลูกค้าพิเศษไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ ต้องใช้ให้คุ้ม”

ผมเบ้ปาก “ปกติก็ได้ลดราคาอยู่แล้วนี่ครับ”

“แต่คราวนี้ฟรีทุกรายการ แม้แต่เมนูพิเศษ อีกอย่างพ่อว่าจะให้กระจายเป็นสามกลุ่ม กลุ่มหมาป่าไปโซนสนามหญ้า กลุ่มแมวเหมียวอยู่โซนห้องนั่งเล่น ส่วนพวกพ่อจะอยู่โซนระเบียงเอง”

ผมขมวดคิ้วรู้สึกเอะใจเล็กๆ “อย่าบอกนะว่าพวกพ่อก็จะแต่งคอสฯ ด้วย?”

พ่อยิ้ม “พี่รันต์บอกว่าเห็นแต่เด็กๆ แต่งคอสฯ ไม่ตรงกับจุดประสงค์ที่อยากให้ทั้งครอบครัวคอสเพลย์ เลยอยากให้พวกพ่อไปสร้างกระแสหน่อย”

“แล้วโซนดาดฟ้า?”

“อ้อ นั่นก็ของพ่อ ไว้ดึกๆ จะแวะขึ้นไปสร้างสีสัน งานนี้ร้านไม่ปิด เราไม่กลับ เพราะงั้นกลุ่มหมาป่าไปเป็นทัพหน้าให้พวกพ่อหน่อย”

ผมยกมือเบรกพ่อ “ผมขอจับน้องอันเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ไปที่นั่นน้องต้องไปเล่นเครื่องเล่นสนามแน่ ชุดที่ใส่อยู่ตอนนี้ไม่เหมาะครับ”

“เอ่อ แต่น้องต้องติดหูกับหางนะลูก แม่เลยว่าจะงด”

ผมส่ายหน้าไม่เห็นด้วยทันที ได้แต่จ้องคนอื่นเล่น น่าสงสารแย่

“ถ้าแม่จะให้น้องใส่ชุดนี้ไปโชว์คนอื่นก็ได้ แต่ทีขอเอาชุดพละไปเปลี่ยนให้น้องที่นู้นนะครับ”

พ่อยกมือห้ามไม่ให้แม่พูด “ตามใจลูกเลย งานนี้พ่อยกให้ทีกับพาร์ดูแลน้องอัน”

“อ้าว พวกน้ำล่ะ?”

“พวกลูกโตพอแก้ไขสถานการณ์เองได้แล้ว แต่ถ้ามีปัญหาขึ้นมาจริงๆ บอกพี่พนักงาน หรือวิ่งมาหาพ่อแม่หรือไปหาพี่ๆ ก็ได้ ยังไงก็อยู่ใกล้กัน อีกอย่างพวกพ่อหรือพี่ๆ ก็คอยสังเกตอยู่เรื่อยๆ ไม่ต้องกลัว…มีใครจะถามอะไรพ่ออีกไหม?”

พวกผมเงียบ

“ถ้าไม่มีก็แยกย้าย ใครจะเตรียมเอาอะไรไปก็หยิบกันเลย พวกพ่อขอแวบไปแต่งตัวก่อนล่ะ กลุ่มหมาป่าพร้อมแล้วก็ออกกันไปเลย”

“ครับ”

ผมรับคำ ทิ้งเจ้าตัวเล็กไว้ข้างล่าง ดึงพาร์ไปชั้นบนด้วยกัน

“เอากูขึ้นมาด้วยทำไม”

“เดี๋ยวกูไปเตรียมของให้น้องอัน ส่วนมึงเข้าไปเอากุญแจรถ กระเป๋าเงิน กับมือถือให้กูหน่อย อยู่ในเป้ทั้งหมดนั่นแหละ แล้วมึงจะเอาอะไรไปก็พกออกมาเลย”

แยกกันทำงาน เสร็จเร็วดีครับ

ผมเปิดประตูห้องน้องอันทิ้งไว้ ไม่ได้เปิดไฟ ให้แสงจากทางเดินสาดเข้ามาในห้องแทน เดินหลบหลีกกองของเล่นกับพวกหนังสืออย่างเคยชิน สงสัยต้องบังคับเจ้าตัวเล็กเก็บของในห้องอีกแล้ว บางชิ้นถ้าโดนเหยียบคงพัง ผมก็ก้มเก็บให้ก่อน

พาร์หยิบของเร็วกว่า แปบเดียวก็แวะมาหาผม พร้อมกับเจอสิ่งขีดขวางบนพื้น

“ไม่ต้องเก็บ เดี๋ยวน้องอันเคยตัว มึงมานั่งนี่ ช่วยพับชุดพละดีกว่า”

ผมโยนชุดพละน้องลงเตียง ปล่อยพาร์พับไปครับ ผมจำได้ว่าน้องมีเป้ผ้าอยู่ ค้นหาสักพักก็เจอ โยนไปทางเตียงให้พาร์เอาไปใส่ ผมปิดตู้เสื้อผ้า เดินเข้าไปหา

“ของกูใส่ไว้ในเป้น้อง…เฮ้ย!”

ผมเหยียบโดนอะไรบางอย่าง ขาไถลพรืดไปด้านหลัง ตัวพุ่งไปข้างหน้า วิดได้เอาหน้าฟาดขอบเตียงน้อง ดีที่พาร์กระชากตัวผมให้ล้มที่เตียงทันเวลา

โคมไฟหัวเตียงกระพริบครั้งหนึ่ง ก่อนจะปล่อยแสงสีส้มกระจายไปทั่วห้อง

“เป็นอะไรหรือเปล่า?”

“เกือบ” ผมพลิกตัวนอนหงาย เสยผมยาวยุ่งๆ ออกจากหน้า “ขอบใจ”

“มึงเหยียบรถน้อง”

พาร์ชูของเล่นที่เกือบทำผมหน้าแหก มันเป็นรถของเล่นแบบที่ให้เด็กใช้มือจับไถเอาครับ

“วางหัวเตียงเลย” ผมชี้สถานที่สถิตของในมือพาร์ มีพรรคพวกจอดรออยู่หลายคัน

พาร์ยันมือข้างหัวผม โน้มตัวข้ามผ่าน เอาของไปวางคืนที่เรียบร้อย ก่อนก้มมองผมที่อยู่ด้านล่างตัวมัน แล้วก็มองค้างอยู่อย่างนั้น นานจนผมขมวดคิ้วสงสัย

“พาร์?”

พาร์หลุดจากภวังค์ แต่แทนที่จะลุกออกไป กลับไล่สายตากวาดมองสำรวจผมช้าๆ แววตาค่อยๆ แปรเปลี่ยน ดูกระหายหิวแปลกๆ

มันกำลังทำอะไร? สวมบทหมาป่า…อืม เหมือน ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนเป็นเหยื่อที่โดนหมาป่าตัวร้ายตะครุบได้เลยล่ะ ด้วยความอยากรู้ว่าเพื่อนจะเล่นอะไร ผมเลยนอนดูนิ่งๆ

พาร์หายใจแรงขึ้น ค่อยๆ โน้มหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนผมเป็นฝ่ายหันหน้าหลบซะเอง สู้ไม่ไหวครับ อย่างกับจะโดนจูบ แต่ทำไมมันไม่หยุด ใกล้จนต้นคอผมสัมผัสถึงลมหายใจร้อนรินรด

มากไปแล้วมั้ง!

วูบหนึ่งผมเผลอคิดเลยว่ามันโดนวิญญาณหมาป่าเข้าสิงหรือเปล่า ถึงคิดจะขย้ำต้นคอเหยื่อ…   

“เฮ้ย!”

ที่ตกใจไม่ใช่อะไร แต่พอมันขยับแนบชิดมากเข้า ต้นขาผมเหมือนสัมผัสถึงบางอย่างที่ทำให้ผมตาสว่างทันใด

นี่ผมกำลังโดนคุกคามทางเพศนี่หว่า!

“พาร์ หยุดๆ…”

ผมรีบดันอกพาร์ออกห่าง อีกมือจัดการปิดปากดันหน้ามันออกด้วย แม่งเอ้ย โดนปลุกสัญชาตญาณหมาป่าตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย! นี่ถ้าผมรู้สึกตัวช้ากว่านี้อีกนิดจะเกิดอะไรขึ้น ไม่อยากนึกเลยครับ

ผมสะดุ้งโหยง มันเลียฝ่ามือผมอ่ะ

“พาร์! ไอ้พาร์โว้ย! มึงตั้งสติหน่อย อย่าให้รูปลักษณ์ผู้หญิงหลอกมึงสิ!”

เตือนสติไปแล้ว ถ้าไม่ได้ผลอีก มันได้เจ็บตัวแน่!

ผมจ้องคนด้านบนนิ่ง ในใจเริ่มนับถอยหลัง แต่เหมือนคำพูดเตือนสติของผมจะสื่อไปถึง พาร์ดูจะได้สติกลับมา แถมยังทำหน้าตกใจ รีบผละอย่างไวไม่พอ ยังลุกพรวดเดินดุ่มๆ ไปไหนไม่รู้ ผมดันตัวขึ้นนั่งก็พบว่าพาร์กระแทกประตูห้องน้ำปิดไปแล้ว

เฮ้อ…

ผมลูบหน้าปลอบขวัญตัวเอง สงสัยหลังจากนี้ผมคงประมาทไม่ได้อีกแล้ว

หลังพาร์หายเข้าไปในห้องน้ำสิบกว่านาที คนในบ้านก็แห่กันขึ้นมาเมียงมองอยู่หน้าประตูห้องน้องอัน

“…ทำอะไรกัน?”

“เอ่อ พาร์ล่ะลูก?”

ผมชี้ห้องน้ำโดยไม่ละสายตาจากพ่อแม่…เสือดำกับเสือดาวครับ

ฝ่ายพ่อ เสื้อคอเต่าสีดำ (ขอเดาว่ามันต้องบาง ไม่งั้นพ่อคงไม่ใส่หรอก) ถลกแขนเสื้อยาวขึ้นมาถึงศอกเพิ่มความเท่ กางเกงยีนส์สีดำ ผมยุ่งๆ เหมือนผ่านการขยี้มาหมาดๆ อื้อหือ…ดูเด็กกว่าเดิมโข

ส่วนแม่ เสื้อตัวในเอวลอยนิดๆ สีดำ ใส่สูทลายเสือดาวทับ  กางเกงขาสั้นได้ใจสีดำ แถมบู้ทเลยเข่าลายเสือดาวอีก หูย สวยครับ…พ่อยอมให้แม่แต่งแบบนี้ได้ไงเนี่ย

“แอ่ม เอ่อ ที จะทำอะไร ปิดประตูไว้หน่อยก็ดีนะลูก”

“ฮะ?”

“คือเสียงมันลงไปถึงชั้นล่างเลยลูก เสียดายแม่ฟังไม่ถนัด เลยรู้แค่ลูกกำลังร้องห้ามพาร์เสียงหลงเท่านั้นเอง”

ผมอ้าปากเหวอ แค่มองตาพ่อแม่ เลยไปถึงสองสาวก็รู้แล้วว่าโดนเข้าใจผิดไปไกลโข ไม่ทันได้แก้ต่าง ประตูห้องน้ำที่ปิดตายมานานก็เปิดออก พาร์ชะงักกึกหยุดอยู่กับที่

“พาร์ออกมาแล้ว งั้นพวกพ่อลงไปก่อนนะ เดี๋ยวพ่อเอาอันไปด้วย เจอกันที่ร้านอาหารนะลูก”

ปึง

ปิดประตูแถมให้ด้วยครับ แต่เชื่อผมไหม ยังแนบหูแอบฟังกันอยู่ด้านนอกแหงๆ

“มีอะไรไปคุยกันที่รถ”

ผมบอกแค่นั้น หยิบเป้น้อง เดินไปเปิดประตู ตามคาดครับ กองกันอยู่หน้าห้องครบองค์ประชุม

“แหะๆ ไปกันจริงๆ แล้วเนอะพ่อ”

“ไปกันเถอะลูกๆ”

“อันจะไปกับพี่”

“เดี๋ยวค่อยไปเจอพี่ที่ร้านอาหาร ตอนนี้ไปกับแม่ก่อน”

ผมกำลังจะก้าวตามหลังทั้งคณะลงไปข้างล่าง แต่กลับโดนดึงแขนไม่ให้ลง เรายืนมองหน้ากันเงียบๆ จนได้ยินเสียงประตูข้างล่างเปิดปิด

“กูขอโทษ”

พูดแล้วยกมือปิดหน้านี่คืออะไร

“กูก็ไม่คิดว่าการที่ได้เห็นคนที่ชอบนอนแผ่ไร้การระวังตัวอยู่ข้างใต้มันจะ…”

พาร์พูดอึกๆ อักๆ ก่อนจะเงียบไปดื้อๆ 

ผมมองแก้มแดงๆ ที่ลอดนิ้วมือให้เห็น หูตั้งๆ พวงหางที่สะบัดไปมาเร็วๆ

…น่ารักแฮะ

สะดุ้งเฮือกกับความคิดเมื่อครู่ เดี๋ยวๆๆ มันมาได้ยังไง! ผมขมวดคิ้ว ครุ่นคิดหาคำตอบอย่างจริงจัง

ต่างคนต่างเงียบนานแค่ไหนไม่รู้ ผมรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงพาร์อีกครั้ง

“กูขอโทษ”

ผมกระพริบตามองคนพูดที่ตอนนี้ลดมือลงไปแล้ว ทำหน้าเสียใส่กันอีกต่างหาก แถมหางยังตก…อารมณ์เปลี่ยนไวจนผมตามไม่ทัน

“เอ่อ…กูไม่โกรธมึงหรอก”

“จริงเหรอ?”

ผมมองหางที่เริ่มแกว่งไปมา

“อือ”

หางกลับมาสะบัดแรงๆ อีกรอบ แถมสีหน้าเจ้าของหางยังแช่มชื่น ส่งยิ้มให้อีกต่างหาก

…ให้ตายเถอะ

เป็นผมที่ยกมือปิดหน้าบ้าง ตอนแรกก็นึกว่าคิดไปเอง แต่มาตอนนี้ยิ่งกว่าแน่ใจ พาร์มีบรรยากาศเหมือนหมาตัวแรกในชีวิตของผมมาก มิน่าอยู่ด้วยแล้วถึงได้ผ่อนคลายสบายใจสุดๆ ยิ่งมีออฟชั่นหูกับหางเพิ่มเข้ามา

ขอสารภาพตามตรง ผมแพ้ทางครับ...อย่างแรงด้วย

“เป็นอะไร?”

“เปล่า” ผมรีบลดมือลง รีบปั้นหน้าปกติใส่ “ป่านนี้ออกไปกันหมดแล้วมั้ง เราก็รีบไปกันเถอะ”

ผมดึงมือข้อมือตัวเองออก รีบหมุนตัวเดินนำลงบันได ปล่อยพาร์ตามหลังมา

ก็หวังว่ามันจะไม่ทันสังเกตเห็นจุดอ่อนของผมเข้า

-------------

เนื่องจากต้องทำเวลา ผมเลยให้พาร์ขับ (เพราะมันขับเร็วกว่าผม) คอยบอกทางเรื่อยๆ จนเรามาถึงเวลาไล่เลี่ยกับพ่อ 

บ้านของการันต์ มีสองชั้นครับ ชั้นแรกเป็นลานจอดรถทั้งหมด ร้านอาหารจริงๆ อยู่ชั้นสอง ขึ้นไปจะเจอห้องเมนหลัก หรือที่เรียกว่า โซนนั่งเล่นบ้าง ห้องนั่งเล่นบ้าง ทั้งที่ความเป็นจริงควรเรียกว่าโซนห้องอาหารมากกว่า ภายในตกแต่งโทนอบอุ่นและสบายๆ เหมือนนั่งกินข้าวในบ้าน ที่สำคัญเป็นห้องเดียวที่มีแอร์

โซนที่เหลือเป็นแบบโอเพ่นแอร์ (open air) หมดครับ ทางฝั่งซ้ายมีประตูกระจกเลื่อนเปิดออกไปเป็นระเบียงไม้ มีโต๊ะไม้แค่หกตัว ส่วนฝั่งขวาของห้องเมนหลักมีประตูกระจกเช่นกัน เชื่อมโซนสนามหญ้าเทียมเขียวขจี ไม่มีโต๊ะบริการสักตัวเดียว และเหนือห้องเมนหลักคือโซนดาดฟ้าครับ เป็นโซนที่มีโต๊ะบริการเยอะที่สุด

 จอดรถเสร็จ กลุ่มหมาป่า เสือ แมวก็รวมตัวกัน ดูความเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นไปพร้อมกัน พอพวกผมเข้าไปในร้านปุ๊บ สุดยอดเป็นจุดเด่นครับ คนหันมองกันให้พรึบ

“ครอบครัวผมขอนั่งแยกโซนตามที่แจ้งไว้ครับ”

“ทางร้านทราบแล้วครับ โซนระเบียงที่โต๊ะมีป้ายจองตั้งไว้ สามารถเข้าไปได้เลยครับ พนักงานในโซนจะดูแลให้เองครับ โซนห้องนั่งเล่นก็เช่นกัน โต๊ะอยู่ทางนั้นครับ ส่วนโซนสนามหญ้าช่วยมาทางนี้ก่อนนะครับ”

“ไม่เห็นมีโต๊ะเลยกินข้าวยังไง”

พาร์กระซิบถาม หลังมองผ่านกระจกออกไปโซนที่ว่า

“นั่งกินกับพื้น”

“ฮะ?”

“คอนเซปของโซนสนามหญ้าคือปิกนิก”

“ปิกนิกเนี่ยนะ?”

พนักงานพาพวกผมออกมาโซนสนามหญ้าพอดี ผมเลยพยักเพยิบให้พาร์ดูเหล่าคนปูเสื่อนั่งคุยหรือทานอาหารอย่างผ่อนคลาย ส่วนด้านซ้ายมือมีเครื่องเล่นสนามชุดใหญ่วางอยู่ครับ น้องอันมองตาเป็นประกายเชียว

“ทางเราปูเสื่อปิกนิกจองที่ให้แล้วครับ ตามผมมาเลยครับ”

อันที่จริงทางร้านจะมีรูปเสื่อให้เลือกลายได้ ขนาดของเสื่อก็ขึ้นกับครอบครัวลูกค้าที่มาใช้บริการโซนนี้ แล้วถ้าใครนั่งพื้นไม่ได้ ทางร้านมีเก้าอี้สนามแบบพับได้คอยบริการครับ…สงสัยเห็นเป็นพวกผมมั้งครับ ลุงรันต์เลยสั่งพนักงานให้ปูเสื่อรอเลย แต่พอมาเห็นเสื่อลายการ์ตูนเรื่องโปรดของน้อง ผมก็เข้าใจ

ลุงรันต์เอาใจน้องอันสุดๆ     

“เมนูวางอยู่บนเสื่อครับ อีกสักพักจะมีพนักงานมาจดรายการอาหาร ขาดเหลืออะไร หรือต้องการเรียกพนักงานยกมือค้างไว้นะครับ จะมีพนักงานที่ดูแลโซนนี้แวะมาหา”

“ครับ”

เจ้าตัวเล็กกระตุกชายเสื้อผม จิ้มที่หลังมือ “ปั๊มของอันล่ะ?”

“เดี๋ยวครับพี่” ผมเรียกพี่พนักงานที่กำลังจะเดินจากไป “ต้องปั๊มหลังมือเด็กก่อนหรือเปล่าครับ”

พนักงานเดินกลับมา “อ้อ ไม่ต้องครับ เพราะไม่จำกัดเวลาเล่น แต่ถ้าอยากได้ก็ปั๊มให้ได้ครับ”

เจ้าตัวเล็กคว่ำหลังมืออย่างรู้งาน เลยได้ตัวปั๊มหลากสีมา น้องยิ้มดีใจใหญ่ เพราะทุกทีได้แค่สีเดียว (เพื่อแบ่งแยกเวลาเล่นของเด็กๆ ไม่ให้จำนวนเด็กที่ใช้เครื่องเล่นสนามเยอะเกินไป ถ้าเป็นเด็กจากโซนอื่นเล่นได้แค่ชั่วโมงเดียว เด็กจากโซนสนามเล่นได้สองชั่วโมงครับ)

พวกผมถอดรองเท้าไว้ด้านนอก ค่อยไปนั่งบนเสื่อ หยิบเมนูอาหารออกมากาง ถึงตอนนี้ท้องฟ้ามืดแล้ว แต่โซนสนามหญ้าสว่างมากครับ เหมือนตอนกลางวันเลยล่ะ

“อันอยากเล่น”

น้องอันกระตุกแขนเสื้อผม ชี้นิ้วไปทางเครื่องเล่นสนามที่วางกินพื้นที่หนึ่งในสาม   

“กินข้าวก่อน แล้วต้องเก็บหูหาง เปลี่ยนเป็นชุดพละด้วย ไม่งั้นพี่ไม่ให้ไปเล่น”

หงอยเลยครับ

ผมกางเมนูไว้ตรงกลาง ใครบังแสงก็เบี่ยงตัวหลบ ในฐานะที่เคยมาหลายครั้ง ผมเลยอธิบายให้คนมาครั้งแรกอย่างพาร์ฟัง

“โซนนี้ขายอาหารเป็นเซต ดูจากเมนูแล้วเลือกเซต A เซต B เป็นต้น เซตหนึ่งมีตั้งแต่ของกินเล่น อาหารจานหลัก ยันของหวานหรือผลไม้ แบ่งเป็นสามแบบให้เลือก ได้แก่

อาหารแบบฝรั่ง จะมาในรูปแบบตะกร้าหวายทรงสี่เหลี่ยมแบบที่เห็นใช้กันในต่างประเทศบ่อยๆ

อาหารแบบญี่ปุ่น จะมาในรูปแบบกล่องข้าวน่ารักๆ เด็กๆ ชอบมาก

อาหารแบบไทย จะมาในรูปแบบปิ่นโตสีพาสเทลสวย ต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าจะได้ชั้นปิ่นโตสีอะไรมาบ้าง เพราะมีกิจกรรม ถ้าได้สีครบตามที่กำหนดไว้ เช่น สองสี สามสี สี่สี จะได้ของรางวัลเล็กใหญ่ตามแต่โชค”

ผมเว้นจังหวะ แล้วถาม

“ใครอยากกินอาหารแบบไหน?”

“อะไรอร่อย” พาร์ถาม

“ก็แล้วแต่คนชอบ”

“อันขอแบบที่กินง่ายๆ หมดเร็วๆ” ส่วนคนนี้จุดประสงค์ชัดมาก

“งั้นเอาอาหารญี่ปุ่นแล้วกัน”

ผมพลิกไปหน้าอาหารญี่ปุ่น “อยากได้เซตแบบไหนก็จิ้มเอา”

“ไม่มีแบบเลือกเซตเองเหรอ”

“มี แต่ราคาแพงกว่า ถ้าจะทำอย่างนั้น เลือกเซต แล้วสั่งของที่อยากกินเพิ่มยังถูกกว่าอีก”

“…แต่วันนี้เรากินฟรีนี่”

“เออใช่”

ผมรีบพลิกไปหน้าอาหารรายการเดี่ยวๆ ทันที “อยากกินอาหารแบบไหนสั่งมาได้เลย”

ระหว่างให้พาร์กับน้องอันเลือกรายการอาหาร ผมขอเพิ่มเติมรายละเอียดของโซนสนามหญ้าสักหน่อยนะครับ   

ขอบนอกสุดทั้งสามด้านของโซนหญ้าติดรั้วลูกกรงสูงเกือบสองเมตร ขึงด้วยเชือกลวดเหล็กแสตนเลสไขว้กันเป็นตาข่าย ป้องกันเด็กๆ ผลัดตกจากชั้นสอง พื้นที่หนึ่งในสามปูด้วยบล็อกยางสีเขียวเข้ม (สีเดียวกับพื้นหญ้า) ที่เหลือเกือบสองในสามปูด้วยหญ้าเทียมสีเขียวเข้มทั้งหมด (นุ่มเท้าดีครับ) ด้านบนเป็นหลังคาโค้ง (ป้องกันแดดฝน เวลาฝนตกจะมีกันสาดแนวดิ่งปิดรั้วทั้งสามด้านด้วย) ยิ่งตอนกลางคืนลมแถวนี้ดีมาก

ส่วนเครื่องเล่นสนามชุดใหญ่ มีทั้งให้ปีนป่าย ลอดอุโมงค์แบบต่างๆ สไลเดอร์ทั้งแบบวนแบบตรง บันไดขึ้นลง สะพานข้อต่อ สะพานแขวน คือเห็นแล้วอย่างกับฐานทัพของเด็กๆ (น้องอันถึงชอบมาก)

“อันเอาอันนี้”

เจ้าตัวเล็กตัดสินใจได้แล้ว เหลือพาร์ ส่วนผมมีเมนูประจำอยู่แล้ว หลังพาร์ตัดสินใจได้ พวกผมก็รอพนักงานมาเยือน แต่ดูเหมือนทางร้านจะวุ่นๆ ผมมาเข้าใจก็ตอนเห็นพนักงานมาตะโกนบอกว่า หมอมาถึงแล้ว

กลายเป็นว่ากิจกรรมสิ้นเดือนนี้ ทั้งหมอทั้งคอสเพลย์เลือกมาตอนกลางคืนทั้งคู่

“หมอ?” พาร์ทวนคำงงๆ

“หมอตรวจสุขภาพทั่วไปนี่แหละ จะมาทุกสิ้นเดือน ส่วนใหญ่เป็นหมอเด็ก ก็คงเลือกมาโซนสนามหญ้าล่ะมั้ง”

ดังที่ผมคาดเดา พนักงานถือเสื่อพับในรูปกระเป๋า พร้อมโต๊ะญี่ปุ่นพับได้เดินนำเข้ามา แน่นอนว่าพวกผมเด่นสะดุดตาแบบนี้ย่อมตกเป็นเป้าสายตาของหมอก่อนใครเพื่อน แต่หมอก็ตกเป็นเป้าสายตาพวกผมเหมือนกัน

ต่างคนต่างมองกันนิ่ง

ผมขมวดคิ้ว อีกฝ่ายขมวดคิ้ว แม้แต่พาร์ยังขมวดคิ้ว ส่วนน้องอันหนีมาหลบหลังผมแล้ว

คนมาใหม่ ไม่ใช่ใครอื่น นายแพทย์พีรพัฒน์ครับ

“คุณพนักงาน ผมไม่เอาเสื่อแล้ว ผมเจอญาติตัวเองน่ะ ขอไปนั่งกับพวกเขานะครับ”

แว่วเสียงพี่พีทบอกพนักงาน ผมไม่เถียงหรอก ถึงไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือดก็เหมือนเป็นญาติกันจริงๆ นั่นแหละ

“เอ๊ะ จะดีเหรอครับ เดี๋ยวลูกค้าคนอื่นจะแวะมาหาคุณหมอเรื่อยๆ จะไปรบกวนญาติคุณหมอหรือเปล่า”

“ไม่เป็นไรครับ ญาติผมมากันแค่สาม…เอ่อ ไม่สิ อยู่โซนหญ้าแค่สามคนครับ”

พี่พีทไม่รอพนักงานพูดอะไรอีก หิ้วกระเป๋าประจำตัว เดินตรงดิ่งมาหาพวกผม ยกมือทักทายเรียบง่าย พร้อมรอยยิ้มแฉ่ง

“ไง พี่ขอนั่งด้วยคนนะ อยู่คนเดียวมันเหงาน่ะ”

############
ถ้าตอนไหนสั้น เราคงมาลงให้ถี่กว่าปกตินะคะ 555

ขอแจ้งข่าวนิดนึง สำหรับผู้ที่จองชลนทีไว้
หนังสือมาถึงสำนักพิมพ์แล้วนะ
ทางสนพ. กำลังทยอยจัดส่งตามลำดับการโอนอยู่ค่ะ

และคืนนี้สองทุ่มที่เพจสำนักพิมพ์มีเปิดให้จองชลนทีรอบหลุดพรีฯ ด้วยนะ
มี 10 ชุดค่ะ ใครสนใจไปแย่งชิงได้ที่เพจสนพ.ตามลิงค์ด้านล่างได้เลยค่ะ
https://www.facebook.com/pobrakwithus/

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: - ชลนที - [บทที่21] P.6 (12/10/2016)
«ตอบ #164 เมื่อ12-10-2016 18:35:08 »

เห้ยยยยยย

ทีแต่งขึ้นอ่ะ แต่แหม่ คุณแม่คุณพ่อเห็นลูกจะโดนงาบแล้วไม่ช่วยเลยนะคะ ><

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: - ชลนที - [บทที่21] P.6 (12/10/2016)
«ตอบ #165 เมื่อ12-10-2016 18:40:48 »

 :pig4:

ออฟไลน์ ShadeoftheMoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: - ชลนที - [บทที่21] P.6 (12/10/2016)
«ตอบ #166 เมื่อ12-10-2016 18:41:56 »

คราวนี้ศึกชิงนายเริ่มขึ้นแล้ว พาร์  vs หมอพี งานนี้ใครจะได้หัวใจทีไป มโนไปนั่น 555

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: - ชลนที - [บทที่21] P.6 (12/10/2016)
«ตอบ #167 เมื่อ12-10-2016 19:46:23 »

มีเรื่องให้หึงอีกล้าวววว

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: - ชลนที - [บทที่21] P.6 (12/10/2016)
«ตอบ #168 เมื่อ12-10-2016 20:19:19 »

พาร์ เก็บอาการหื่นไม่ได้เลย :ling1: :ling1: :ling1:
อือออ......ก็เห็นคนที่ชอบอยู่ข้างล่าง อะจ๊ากกกก
บ้านนี้นิยมคอสเพลย์ทั้งบ้าน ไม่เว้นแขกที่มาอยู่ด้วย
ที แพ้ทางหมา พาร์ แพ้ทางคนรักแต่งหญิง
แล้วถ้าเป็นหญิงแท้ พาร์จะรู้สึกดีด้วยหรือเปล่า? :katai1: :katai1: :katai1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     

ออฟไลน์ Ujeen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: - ชลนที - [บทที่21] P.6 (12/10/2016)
«ตอบ #169 เมื่อ12-10-2016 20:30:23 »

อร้ายยยยยยยย เกือบแล้ว เกือบได้จุ๊บกันแล้วววว :-[
พาร์นี่ก็...ขึ้นไวดีนะ หุๆ :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: - ชลนที - [บทที่21] P.6 (12/10/2016)
« ตอบ #169 เมื่อ: 12-10-2016 20:30:23 »





ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: - ชลนที - [บทที่21] P.6 (12/10/2016)
«ตอบ #170 เมื่อ12-10-2016 20:33:42 »

พาร์นายหื่นนะ 555

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
Re: - ชลนที - [บทที่21] P.6 (12/10/2016)
«ตอบ #171 เมื่อ12-10-2016 21:36:07 »

สนุกกกกกกกก ป่วงดี

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: - ชลนที - [บทที่21] P.6 (12/10/2016)
«ตอบ #172 เมื่อ12-10-2016 22:51:06 »

พี่พีทมาแล้ว พาร์จะโดนแกล้งซะละม้างงงง 55

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: - ชลนที - [บทที่21] P.6 (12/10/2016)
«ตอบ #173 เมื่อ13-10-2016 22:21:19 »

 :pig4:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: - ชลนที - [บทที่21] P.6 (12/10/2016)
«ตอบ #174 เมื่อ14-10-2016 00:18:28 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Praykanok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: - ชลนที - [บทที่21] P.6 (12/10/2016)
«ตอบ #175 เมื่อ18-10-2016 00:18:02 »

อ่านทันแล้วววว
น่าร้ากกกกกกกกก เชียร์ๆๆๆ พาร์สู้ๆๆ
ทีเริ่มหวั่นไหวพาร์(ในร่างหมา)แล้ววว

ออฟไลน์ KatzeP

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-1
Re: - ชลนที - [บทที่22] P.6 (22/10/2016)
«ตอบ #176 เมื่อ22-10-2016 13:53:43 »

บทที่ 22

สุดท้ายพี่พีทก็ไม่ได้มานั่งร่วมเสื่อ เพราะผืนเล็กเกินไป พี่พนักงานเลยให้พวกผมลุก ก่อนเลื่อนเสื่อออก เพื่อให้วางเสื่อของพี่พีทไว้ข้างๆ พวกผมได้

พวกผมมอง พนักงานสองสามคนหิ้วของจัดแจงเตรียมพื้นที่ให้คุณหมอ บริการเต็มที่ทั้งโต๊ะญี่ปุ่นคลุมด้วยผ้าสีขาวสะอาดตา ทั้งน้ำดื่ม สมุดรายงานแบบฉีก ปากกา แม้แต่หมอนรองนั่งก็มีครับ เสร็จแล้วก็เดินจากไป พี่พีทไม่ทันนั่งก็มีพ่อแม่จูงบุตรหลานตรงมาหาแล้ว

“ที พี่ฝากสั่งอาหารให้ด้วย”

“อือ”

ผมขานรับ เปิดเมนูผ่านๆ แล้วเลือกเป็นเซตอาหารให้ถึงสอง เพราะดูท่าเซตเดียวคงเอาท้องพี่แกไม่อยู่ สักพักพนักงานก็มาจดออเดอร์ สั่งอาหารเรียบร้อย พนักงานทำหน้าแปลกใจ ก็นะเล่นสั่งตั้งสองเซต ผมเลยกระซิบบอกว่าเป็นของหมอถึงทำหน้าบางอ้อ เอ่ยถามต่อ

“รับน้ำเป็นอะไรดีครับ?”

“ชาเขียวเย็นครับ เอาแบบสองลิตร แล้วก็เพิ่มน้ำส้มเย็นของเด็กอีกหนึ่งครับ”

“น้ำส้มเป็นแก้วเก็บความความเย็นนะครับ”

ผมพยักหน้า

“รับเป็นแก้วเล็ก กลาง หรือใหญ่ดีครับ?”

ถ้าจำไม่ผิด แก้วเล็กขนาด 16 ออนซ์ กลาง 22 ออนซ์ ใหญ่นี่ 32 ออนซ์ล่ะมั้ง…เกือบลิตรเลยนะนั่น ผมชั่งใจว่าเอากลางหรือใหญ่ดี แต่พอเหลือบมองน้อง ไปเล่นกลับมาคงเหนื่อย

“แก้วใหญ่ครับ”

“ขอทวนรายการอาหารครับ…” พี่พนักงานพูดทวนทั้งหมด ก่อนจบท้าย “รบกวนรออาหารสักครู่นะครับ”

ตรงจุดที่ผมนั่งหันหน้าไปทางพี่พีทพอดี ผมเลยผงะหลังเห็นแถวสั้นๆ เมื่อครู่กลายเป็นแถวยาวเหยียด

…นายแพทย์พีรพัฒน์ฮอตจริงๆ

หลังนั่งรับลมคุยเล่นเกือบสี่สิบนาที พนักงานก็นำอาหารมาเสิร์ฟ

“ขอโทษที่ให้รอนานครับ”

พนักงานกล่าว ระหว่างย่อตัววางห่อผ้าทรงสี่เหลี่ยมทั้งห้าตรงริมเสื่อ ก่อนปลดตะกร้าบุด้วยผ้าลายสวยๆ คล้องแขนมาวางไว้อีกหนึ่ง แล้วผละจากไป

ผมขำกลิ้งตั้งแต่เห็นแววตางงสุดขีดของพาร์แล้ว ดูท่ารายนี้จะไม่รู้จักห่อข้าวสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนน้องอันจัดการคว้าของตัวเองมาแกะผ้าออกแล้วครับ (ของเด็กลายผ้าเป็นรูปตัวการ์ตูน) พาร์เลยได้เห็นกล่องข้าวที่อยู่ด้านใน

“อันขอส้อม” เจ้าตัวเล็กนั่งฝั่งตรงข้ามแบมือขออุปกรณ์กินอาหาร

ผมรีบเอื้อมมือไปยกตะกร้ามาวางใกล้ๆ

ด้านในมีข้าวของหลายอย่างจัดเรียงเป็นระเบียบ มีทั้งกระติกน้ำสุญญากาศทรงกระบอกขนาดสองลิตร แก้วเก็บความเย็น (เปิดช่องเสียบหลอดให้ดูดได้เลย) แก้วพลาสติกสามใบ ซองน้ำจิ้มแบบฉีกบรรจุรวมในซองใสใบใหญ่ ซองหลอด ซองช้อนตะเกียบเท่าจำนวนคน ส่วนของเด็กจะเป็นซองช้อนส้อม (ถ้าตอนสั่งอาหาร ใครไม่ถนัดตะเกียบขอเปลี่ยนเป็นส้อมแทนได้ครับ) ซองทิชชู่ทั้งแบบแห้งและเปียก ถุงสำหรับใส่ขยะ ขวดน้ำเปล่าขนาด 330 ml สองขวด (ถ้าผมจำไม่ผิด เจ้านี่เป็นของแถม แต่ผมจำเงื่อนไขไม่ได้)

ผมหยิบซองช้อนส้อมแกะให้น้องอัน ก่อนกระจายให้คนอื่น ยกเว้นพี่พีทที่ยังติดคนไข้ตัวน้อย เลยสอดผ่านปมผ้าวางบนฝากล่องข้าวแทน เป็นเซตจะใส่กล่องข้าวใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสสูงถึงสามชั้น ปกติเซตหนึ่งกินได้สองถึงสามคน (แต่สำหรับพี่พีทสองเซตถึงจะเรียกว่าอิ่ม)

ผมเหลือบเห็นคนด้านซ้ายมือนั่งเฉย ไม่สนกล่องข้าวสักที เลยถาม

“ไม่กินอ่ะ”

มันไม่หิวหรือไง มื้อเย็นก็ไม่มีอะไรตกท้อง นี่เรียกว่ามื้อดึกได้แล้ว อ้อ ไม่ต้องห่วงน้องๆ ถ้าไม่มีใครบ่นหิว แสดงว่าแม่ต้องหาอะไรให้กินรองท้องไปแล้ว

พาร์ไม่ตอบผมทันที แต่พิจารณาซองช้อนตะเกียบสักพัก ก็ชูเล็กน้อยให้ผมดู

“…เก็บกลับบ้านได้ไหม”

ผมหัวเราะทันที เข้าใจพาร์อยู่หรอก แต่ก็ตลก คือช้อน ส้อม และตะเกียบ ทำจากไม้ไผ่ครับ เป็นแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง สอดอยู่ในซองกระดาษครึ่งเดียวสกรีนตราร้านอาหาร แล้วหุ้มพลาสติกคลุมกันฝุ่นอีกที

…ก็เหมาะกับการเก็บไปดูเป็นที่ระลึกดีครับ หึๆ     

ผมเอนตัวไปกระซิบใกล้ๆ กันน้องอันได้ยินคำหยาบ

“เก็บได้ แต่มึงจะใช้อะไรกิน”

พาร์พ่นลมหายใจ หยิบมือถือมาถ่ายรูปเก็บไว้แทน ถ่ายทุกอย่าง ตั้งแต่ห่อผ้ายันตัวอาหารในกล่อง ปล่อยพาร์ไปครับ ผมขอกินข้าวก่อนดีกว่า หิวจนแสบไส้

แชะ

ผมชะงักมือที่กำลังคีบอาหารเข้าปาก หันมองทางพาร์ก็เห็นกำลังยุ่งกับการถ่ายข้าวกล่อง ไม่ได้หันมือถือมาทางนี้อย่างที่คิด แต่ก็ไม่แน่ใจ ผมเอาอาหารใส่ปาก เคี้ยวไปจ้องหน้าพาร์ไปเพื่อดูพิรุธ สักพักก็ถอนสายตากลับมา

คิดไปเองมั้ง

หลังกินสองสามคำ ผมรู้สึกถึงสายตาจับจ้องมา เลยเงยหน้าดู เห็นน้องอันก้มหน้าก้มตากินเงียบๆ คงไม่ใช่ เลยมองข้ามผ่านหัวน้องไปเจอคุณหมอกำลังมองมาทางนี้พอดี ผงะเลยครับ เคยเห็นน้องหมาหิวโซมองขออาหารไหม แววตาพี่พีทเป็นแบบนั้นเปี๊ยบ!

ผมเคยพูดถึงจุดอ่อนตัวเองไปครั้งหนึ่งแล้ว ขอสรุปอีกทีนะครับ ผมแพ้ทางคนที่เหมือนน้องหมา กรณีพาร์แค่บรรยากาศเหมือนหมาที่ผมสนิทสนมด้วย แต่กับพี่พีทมีนิสัยเหมือนหมามาตั้งแต่เด็กๆ

เอา-ข้าว-มา-ให้-หน่อย

ส่งสารมาแล้วครับ ผมส่ายหน้า ขยับปากไร้เสียงบ้าง

ทำ-งาน-ไป-ก่อน

หงอยไปเลย

“เอ่อ คุณหมอ ลูกชายดิฉันเป็นอะไรเหรอคะ?”

หงอยจนแม่ของเด็กเข้าใจผิด พี่พีทคงลืมตัวเหมือนกัน ถึงได้รีบฉีกยิ้มน้อยๆ กลับมารักษาภาพพจน์หมอเต็มที่ ปล่อยพี่แกแก้ตัวไปครับ รายนี้ลื่นเป็นปลาไหล

ผมมองห่อผ้ากล่องข้าวที่เหลืออยู่ถึงสอง…ขืนเอาไปให้ มีหวังโดนใช้ให้ป้อนข้าวต่อแหงๆ

“ที”

ผมละสายตา หันมองคนเรียก ไม่ทันได้เอ่ยปากถาม พาร์ก็คีบอะไรบางอย่างยัดเข้าปากผมแล้ว

“อร่อยไหม?”

ยังไม่ทันเคี้ยวเลยเถอะ!

ผมค่อยๆ เคี้ยวอย่างระวัง กรุบๆ กรอบๆ แต่จืดไปหน่อย ผมเดาไม่ออกว่าคืออะไร เลยเหลือบมองกล่องข้าวพาร์ น่าจะเป็นฟองเต้าหูห่อผักสามอย่างทอด แต่ผมชอบสาหร่ายพันฟองเต้าหูทอดมากกว่า จะมีรสเค็มเกลือนิดๆ 

ผมกลืนอาหารลงคอ มองแววตาคาดหวัง ก็ได้แต่พยักหน้าตอบ

“ก็ดี”

“ดี งั้นมาแบ่งกัน”

“ฮะ?” ผมอุทานงงๆ

“ไหนๆ ก็สั่งไม่เหมือนกันแล้ว…”

พาร์เอียงหน้าเข้ามาใกล้ เอ่ยเสียงแผ่วแล้วผละออก “กูอยากลองชิมหลายๆ แบบ”

ผมนิ่งไปเลย เหมือนมันไม่ได้หมายถึงอาหารตรงนี้ แต่…ไม่ๆ คงไม่ใช่หรอก ผมคงคิดมากไปเองตามประสาคนเกือบโดนคุกคามทางเพศมา

“ไม่ได้เหรอ?”

ผมเผยปากขึ้น หมาป่าตัวโตหน้านิ่ง แต่แววตาออดอ้อนอย่างแรง ผมตกปากรับคำดุจโดนสะกดจิต ตั้งสติได้เพราะน้ำเสียงเข้มกึ่งบังคับ

“งั้นหันมานี่เลย”

ไม่พูดเปล่า มันยังดึงกล่องข้าวในมือผมไปวางบนเสื่อ จับตัวผมให้ขยับหันไปหาทั้งตัว

“พาร์” ผมขมวดคิ้ว หลังต้องนั่งประจันหน้าด้วย “มันพิลึก…”

“นี่ของมึง”

พาร์ยัดกล่องข้าวใส่มือผมต่อ ส่วนมันน่ะเหรอคีบอาหารผมบ้าง อาหารตัวเองบ้าง เข้าปากหน้าตายมากไม่พอ ยังมีหน้ามาถามได้กวนประสาทมากจนผมคิ้วกระตุก

“ไม่กิน?”

ไอ้ความน่ารักที่เห็นก่อนหน้านี้ คือผมตาฝาดไปเองใช่ไหม!

ผมพ่นลมหายใจระบายความหงุดหงิด จับตะเกียบคืบอาหารเข้าปากบ้าง กินได้สักพักเจ้าตัวเล็กก็ประกาศเสียงดังจนพวกผมสะดุ้ง

“อันอิ่มแล้ว!”

แต่ผมบังคับให้น้องนั่งต่ออีกสิบนาที

“อันกินหมดเกลี้ยงแล้วนะ” น้องงอแงใส่

“แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนชุด”

“อันเปลี่ยนเอง!” เจ้าตัวเล็กลุกยืน มือคว้าเป้

“งั้นระหว่างได้เล่นแค่ชั่วโมงเดียว กับเล่นไม่จำกัด แต่นั่งรอก่อนสิบนาที อันจะเลือกอะไรครับ?”

หมาป่าน้อยหางตก กลับมานั่งแปะกับเสื่อตามเดิม “…อันเลือกอย่างหลัง”

ผมพยักหน้า “แต่เมื่อกี้มีคนดื้อ พี่ลงโทษเพิ่มอีกห้านาที รวมเป็นนั่งรอสิบห้านาทีนะ”

“พี่อ่ะ!”

สองคำนี้เจ้าตัวเล็กจำมาจากยัยน้ำแหงๆ

“พูดอย่างนี้จะให้พี่เพิ่มอีกห้านาที?”

เจ้าตัวเล็กรีบยกมือปิดปากตัวเอง ส่ายหน้าปฏิเสธใหญ่

“นั่งเงียบๆ อีกสิบห้านาที แล้วพี่จะให้เปลี่ยนชุด”

“อันขอเปลี่ยนก่อนแล้วนั่งรอไม่ได้เหรอ”

ผมยิ้มให้กับความฉลาดของน้อง “ก็ได้ ถ้าใครบางคนสัญญาว่าจะนั่งรอจนครบเวลาที่กำหนดจริงๆ”

“น้องอันสัญญา”

“ถ้าพี่ไม่อนุญาต ห้ามลุกจากเสื่อ ตกลงไหม”

“อันตกลง”

“งั้นเปลี่ยนได้”

เจ้าตัวเล็กยิ้มแป้น รีบรูดซิบหยิบชุดพละของตัวเองออกมา แล้วค่อยๆ มองผมที่ยังนั่งกินข้าวเฉย ไม่สนใจจะช่วยน้องแต่งตัวเหมือนทุกที

“พี่ไม่ช่วยอันเหรอ?”

“เมื่อกี้ใครบางคนปากเก่งบอกจะเปลี่ยนชุดเองนี่”

น้องอันทิ้งเป้ทิ้งชุดพละ พุ่งตรงเข้าใส่กระแทกแผ่นหลังเต็มๆ จนเจ็บแปลบ แขนเล็กกอดรอบเอว ซุกหน้ากับแผ่นหลังผมนิ่งไปเลย…ดีครับ น้องจะได้อยู่นิ่งๆ สักครึ่งชั่วโมง รออาหารในท้องย่อยสักนิด ค่อยปล่อยตัวไปเล่น

พาร์มองผมที ชะโงกมองน้องอันที แล้วขยับปากถามแบบไร้เสียง

เป็น-ไร

ผมขยับปากตอบกลับ

กลัว-พี่ชาย-ไม่-สนใจ

พาร์เลิกคิ้วสูง ก่อนยกยิ้มขำแบบไร้เสียงใหญ่ แววตาเต็มไปด้วยความเอ็นดู   

…อารมณ์เปลี่ยนอีกแล้ว 

ผมขมวดคิ้ว ช่วงนี้พาร์อารมณ์เปลี่ยนบ่อยจริงๆ ครับ บางครั้งก็กะทันหันจนผมตามไม่ทัน แต่คิดมากไปก็ปวดหัวเปล่าๆ ปล่อยไปดีกว่าครับ ผมนั่งกินอาหารจนหมด เหลือบมองเวลา จะครึ่งชั่วโมงแล้ว ถึงเวลาปลอบเจ้าตัวเล็ก ผมขยับตัว น้องอันจับผมแน่นขึ้น ขืนจับแขนหรือลุกเดินหนีตอนนี้ ตัวเล็กมีปล่อยโฮแน่ครับ

“อัน มานั่งตักพี่สิ”

ทำตามแบบไม่ต้องสั่งซ้ำ เจ้าตัวเล็กไม่ได้ร้องไห้ แต่ถ้ามีอะไรไปกระทบอีกนิดก็ไม่แน่

“มีอะไรจะพูดกับพี่ไหม?” ผมถามเสียงนิ่งหน้านิ่ง

น้องเบะปาก น้ำตาเริ่มคลอ “อัน…ขอโทษ”

“งั้นฟังพี่บ้าง พี่ให้เรานั่งรอ เพราะหลังกินอิ่มๆ ไม่ควรไปวิ่งเล่น เดี๋ยวจะปวดท้องเล่นไม่สนุก แถมบางทีของกินในท้องอาจเดินขบวนออกมาทางปากอันแทน แล้วถ้าไปแหวะแถวเครื่องเล่น อันกับเพื่อนคนอื่นต้องอดเล่นจนกว่าพี่พนักงานจะทำความสะอาดเสร็จ ต้องรอนานยิ่งกว่าที่พี่บอกให้อันรออีก…เข้าใจที่พี่พูดไหม”

เจ้าตัวเล็กพยักหน้า ซบหัวที่อก กอดผมแน่น ก็ลูบหลังปลอบขวัญน้องไปครับ ดูท่าจะใจเสียหนัก

แชะ

ผมหันมองต้นเสียง นึกว่าพาร์เป็นคนถ่าย แต่เป็นพี่พนักงานครับ พี่เขาโค้งตัวให้เป็นการขอโทษที่ถ่ายรูปกะทันหัน แต่ผมส่ายหน้าสื่อว่าไม่เป็นไร เพราะลูกค้าพิเศษต้องยินยอมให้พนักงานถ่ายรูปเก็บไว้ เนื่องจากพรุ่งนี้ทางร้านจำเป็นต้องเอารูปลงเพจของร้าน เพื่อยืนยันเรื่องกิจกรรม และเป็นการโฆษณาร้านไปในตัว

“เอ่อ พี่ครับ” ผมเรียกพี่พนักงานที่กำลังเดินผ่าน คงไปถ่ายรูปพี่พีทต่อ

“ครับ?”

“หลังถ่ายรูปหมอพีทแล้ว ช่วยปล่อยตัวหมอพักทานข้าวหน่อยนะครับ เพราะดูเหมือนคุณหมอจะหิวมาก”

พี่พนักงานทำหน้าตกใจ “ขอบคุณที่เอ่ยเตือนครับ”

ผมกำลังจะบอกพี่เขาว่าข้าวพี่พีทอยู่ตรงนี้ พี่พนักงานก็จ้ำเท้าเดินผ่านไปแล้ว ดูท่าจะรีบไปถ่ายรูป

พอหันหน้ากลับมาผมก็สะดุ้ง พาร์กำลังหงุดหงิดอะไรสักอย่าง จ้องผมเขม็งไม่พอ ยังส่งเสียงขึ้นจมูกเบือนหน้าหนีกันอีก

อะไรวะ?

-------------

ระหว่างผมช่วยน้องอันถอดหูหาง ก็ได้ยินเสียงพนักงานประกาศให้คุณหมอหยุดพักทานข้าวครึ่งชั่งโมง พักใหญ่ผมก็รู้สึกเหมือนมีใครมาข้างหลัง ไม่ทันหันไปมองก็โดนหอมแก้มไปฟอดหนึ่ง

“ดีจังที่ทีอยู่แถวนี้ ไม่งั้นกว่าพี่จะได้กินข้าว คงช่วงหลังร้านปิด”

“อ้าว ไม่มีพักเบรกเหรอ?”

“มี แต่ได้กินแค่น้ำกับของว่างนิดหน่อย เพราะถ้าสั่งอาหารต้องรอครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ หมดพักเบรกพอดี”

“สั่งก่อนก็ได้นี่”

“เคยแล้ว แต่เขานึกว่าของคนอื่น เอาไปเสิร์ฟลูกค้าประจำ แต่ถึงบางครั้งได้มาก็กินไม่จุใจซะเลย พาลหิวมากกว่าเดิมอีก พี่เลยทนรอกินทีเดียวหลังร้านปิดน่ะ แล้วไหนข้าวพี่?”

ผมชี้นิ้ว พี่พีทตาโต

“สองเซต!” ถลาเข้าไปหาเลยครับ แถมยังคลี่ยิ้มส่งให้ผม ทั้งที่สองมือแกะผ้าห่อปิ่นโตไม่หยุด ไม่มีก้มมองสักนิด ชำนาญจนน่าทึ่ง “ไม่มีใครรู้ใจพี่เท่าเราแล้วจริงๆ”

ผมเบ้ปาก มันแปลกตรงไหน ในเมื่อโตมาด้วยกัน…แต่ไอ้รังสีทะมึนที่แผ่มาจากอีกด้านนี่คืออะไร ผมพึ่งหันไปมอง ก็เห็นพาร์ลุกพรวด เดินไปใส่รองเท้า

“ไปไหน?”

“ห้องน้ำ”   

พูดห้วนๆ จบหมาป่าดำก็ผละจากไปเลย แว่วเสียงพี่พีทหัวเราะขบขัน แต่ผมไม่ได้สนใจ เพราะน้องอันจับบ่าผมใส่กางเกงพละขาสั้นอยู่ แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแทนที่จะวิ่งออกไปเลยอย่างทุกที กลับอยู่รายงานตัวกับผมก่อน

“อันไปเล่นแล้วนะ”

“อือ”

น้องยืนลังเล ก่อนถาม “ไม่โกรธอันแล้ว?”

“ไม่โกรธ”

เจ้าตัวเล็กค่อยยิ้มออก ขยับมาจุ๊บแก้มผมทีหนึ่ง แล้วผละจากไปอย่างร่าเริง ผมเลิกคิ้ว นานๆ น้องคนเล็กจะหอมแก้มขอบคุณผมสักที

ต้นตำรับหอมแก้มขอบคุณของบ้านผมมาจากคุณปู่ครับ ลุงนิก พ่อ เลยมาถึงรุ่นผมทั้งหมดเลยติดนิสัยหอมแก้มขอบคุณกันหมด ส่วนพี่พีทมาบ้านย่าผมบ่อยเลยซึมซับมา แต่เราโดนย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามไปทำกับคนนอกเด็ดขาด เพราะพวกเขาไม่เข้าใจเหมือนคนในบ้าน แล้วพาลจะเกิดเรื่องเข้าใจผิดเหมือนสมัยลุงนิก

“คนเมื่อกี้ชื่ออะไร?”

ผมขยับตัวนั่งหันหน้าเข้าหาพี่พีท “พาร์”

“น่ารักดี”

ผมขมวดคิ้ว “พี่สนใจ?” 

พี่พีทหัวเราะ “น่ารักของพี่ยังแปลได้อีกความหมายหนึ่ง”

ในหัวผมมีคำตอบทันที น่าแกล้ง ขอไว้อาลัยให้มันล่วงหน้า แต่ไหนๆ ก็มีหมออยู่ตรงหน้า ถึงเป็นหมอเด็ก แต่ก็โตมากับวงการแพทย์ น่าจะรู้อะไรดีๆ เยอะ ขอปรึกษาเลยแล้วกัน

“ผมว่าช่วงนี้พาร์อารมณ์ไม่มั่นคง ขึ้นๆ ลงๆ เหมือนผู้หญิงมีประจำเดือน พี่ว่าผมควรพามันไปหาหมอแผนกไหนดี?”

พี่พีทสำลักข้าวปั้น ผมรีบเทชาเขียวเย็นใส่แก้วให้แทบไม่ทัน พี่แกคว้าไปดื่มอึกๆๆ ก่อนวางแก้วเปล่าลง ขมวดคิ้วมองมา

“แน่ใจนะว่าเราเคยมีแฟนมาหลายคน”

“แน่สิ!”

“งั้นพี่ถามหน่อย คบนานสุดเท่าไหร่?”

“…สามอาทิตย์”

“อ้อ พี่ขอเดาเราคงไม่รู้จักอาการหึงหวง”

“รู้จัก”

“แล้วมันเป็นยังไง?”

“ก็...ไม่ชอบให้แฟนคุยกับเพศตรงข้าม”

“แล้วไงอีก”

“ตามเกาะแกะน่ารำคาญ ต้องรายงานตัวตลอดเวลา…ไม่ใช่เหรอ?”

พี่พีทถอนหายใจใส่เลย

“โอเค ทีไม่รู้จักก็ได้” ผมยกมือยอมแพ้

“เพราะเรายังไม่เคยรักใครจริงจัง แล้วคนที่คบเราก็ไม่ได้รู้สึกมากพอที่จะหึงหวงเรา”

ผมคิดตามแล้วพยักหน้า “คงงั้น แล้วพี่พูดถึงเรื่องนี้ทำไม?”

“พ่อหมาป่าดำไม่ได้ป่วย ไม่ต้องพาไปหาหมอ พาร์แค่กำลังมีความรัก”

ผมติดสตันไปสามวิ “เอ่อ…พี่แน่ใจนะว่ามันกำลังมีความรัก”

“แน่สิ แล้วลองคิดถึงพฤติกรรมที่ผ่านมาดูสิ ช่วงไหนที่ฝ่ายนั้นอารมณ์แปรปรวน”

“เอ๊ะ…พี่อย่าบอกนะไอ้ที่หงุดหงิดอารมณ์เสียกะทันหัน เพราะหึงน่ะ”

“เออ!”

ผมทำหน้าเหวอ “หึงทีอ่ะนะ?”

“ไม่ใช่เราแล้วจะใคร”

พี่พีทคลี่ยิ้มกริ่ม “แฟนอนาคตของเจ้านั่นคงลำบากไม่น้อย เพราะนอกจากขี้หึงแล้ว ยังขี้หวงไม่เบา พี่ขอทำนายว่าถ้าโดนจับตัวได้แล้ว พ่อหมาป่าดำไม่มีทางปล่อยหลุดมือไปไหนแน่ๆ แถมยังไล่ฆ่าเห็บหมัดที่ตามเกาะแกะตายเรียบ”

ผมทำหน้าเหยเก “ขนาดนั้นเลย”

“ใช่แล้ว เราจะสะอาดหมดจด ขนสวยเงางาม ไร้แมลงร้ายก่อกวนเลยล่ะ”

พี่พีทพูดติดตลก หลังผมนึกภาพตาม ก็เห็นอีกภาพซ้อนเข้ามา หมาป่าขนสวยโดนหมาป่าดำมาเบียดกระแซะคลอเคลียอย่างสบายอกสบายใจ จนต้องยกนิ้วเอ่ยชมคนตรงหน้า

“พี่เปรียบเทียบเก่ง ทีเห็นภาพชัดแจ๋วเลยล่ะ”

คนข้าวเต็มปากยืดอกรับคำชม ผมเทชาเขียวให้พี่พีทเพิ่ม เทให้ตัวเองด้วย ระหว่างนั่งจิบชาเขียวเย็นๆ ก็นึกถึงอาการเมื่อกี้ของคนที่บอกไปห้องน้ำ แล้วเหลือบมองพี่พีท

อย่าบอกนะว่ามันเห็นพี่พีทเป็นคู่แข่ง?

ผมส่ายหน้าทันที คิดเข้าไปได้ยังไง

“ว่าแต่เราล่ะ สนใจพ่อหมาป่านั่นหรือเปล่า?”

ผมคลึงแก้วในมือเล่น ชั่งใจอยู่นานว่าจะแย้มบอกดีหรือเปล่า รายนี้แค่พูดไปสั้นๆ ก็เข้าใจผมแล้ว คิดไปคิดมาก็เลือกประโยคอ้อมโลกสุด แต่สื่อความหมายชัดที่สุด   

“เขาเหมือนเดซี่”

“เหมือนพี่เคยได้ยินเราพูดแบบนี้มาก่อน เมื่อไหร่นะ?”

อย่าพึ่งนึกออกเลย แต่ฟ้าไม่เมตตา ไม่สิ สมองพี่พีทไม่เมตตาต่างหาก

“อ้อ เด็กคนที่ทำขนมฝากแม่มาให้เราบ่อยๆ”

ผมจิบน้ำเงียบๆ พี่แกคลี่ยิ้มน่าหมั่นไส้

“คนเดียวกันล่ะสิ”

“แล้วแต่พี่จะคิด”

“ตอบแบบนี้คนเดียวกันชัวร์…แล้วคนสำคัญเมื่อตอนนั้น ยังสำคัญในตอนนี้อยู่หรือเปล่า”

“สำคัญสิ เพื่อนกันนี่”

“เพื่อนสินะ” น้ำเสียงล้อเลียนชะมัด

“แปลกตรงไหนล่ะ”

“ไม่แปลก” พี่พีทพูดเสียงสูง “แต่ถ้าเขารู้ว่าเราเก็บข้อ…อุ๊บ”

“กินไปเงียบๆ แล้วก็เหยียบเรื่องนั้นให้มิดด้วย!”

พี่พีทไม่เดือดร้อน เคี้ยวไส้กรอกหน้าตาเฉย แถมส่งแววตาล้อเลียนให้อีกต่างหาก

ผมพ่นลมหายใจ วางตะเกียบลงทีเดิม เพราะแบบนี้ไงถึงไม่อยากพูดให้ฟัง

ผมโดนพี่แกสะกิด พยักเพยิบหน้าให้มองไปด้านหลัง เลยเอี้ยวตัวมองด้วยความสงสัย เจอผู้ถูกกล่าวถึงกำลังมองตรงมาด้วยสีหน้านิ่ง ยากเดาอารมณ์ แต่ที่ผมโล่งใจมากสุดคือระยะห่างมันมากพอ พาร์ไม่ได้ยินพวกผมคุยกันแน่ๆ

“ดูไว้” ผมสะดุ้งเมื่อโดนกระซิบข้างหู “นั่นคืออาการหึงหวง แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่มีสิทธิ์ เลยต้องอดทน”

ผมรับฟังเงียบๆ ก่อนรู้สึกโดนพี่แกลูบหัวอย่างเอ็นดู

“พี่เข้าใจว่าเราจะทำอะไร แต่ก็แอบสงสารพ่อหมาป่าตรงนั้น เพราะงั้นอย่าแกล้งเขาให้มากนักล่ะ จิ้งจอกน้อยของพี่”

“อย่างพี่มีสิทธิ์มาพูดเตือนด้วย?”

แว่วเสียงหัวเราะเบาๆ “ก็ไม่มี แต่พี่ไม่อยากให้ใครบางคนเสียใจ เพราะงั้นอย่ามัวชักช้าล่ะ”

หลังพี่พีทผละออก ผมก็หันไปสบตาพี่แก

“ผมชอบช้าๆ ชัวร์ๆ และมั่นใจกับทางที่เลือกมากกว่า ยิ่งกับเส้นทางนี้พี่ก็รู้ว่ามันไม่ง่าย”

แววตาพี่พีทสั่นไหว ก่อนจะกลับมาเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“…พูดถึงเรื่องนี้พี่ยังกลัวอยู่เลย”

“ผมก็กลัว แล้วถ้าหลานคนโตอย่างผมคบผู้ชาย คุณย่าพิโรธได้โผล่ให้เห็นอีกรอบแน่นอน”

พูดไปแล้วก็แอบเสียวสันหลังวาบ ภาพในความทรงจำยังชัดเจน เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกเหมือนบ้านที่ปลอดภัยมาตลอดกำลังจะถล่ม ได้แต่ซุกเดซี่หลบอยู่มุมห้องด้วยความกลัวจนตัวสั่นระริก ขนาดพี่พีทโตกว่าตั้งหลายปี ดันมาติดร่างแหวันระเบิดลง ก็ยังมาเบียดกอดผมแน่นเลย 

พี่พีททำหน้าเหยเก “เอ่อ สิทธิ์ของทีอยู่ที่ใครมากกว่ากัน? น้าอรรถ หรือว่า…”

“ลุกนิก” ผมตอบแบบไม่ต้องคิด “พ่อเซ็นต์ยกทีให้ลุงนิกตั้งแต่ทีเกิดแล้ว ชื่อผู้ปกครองแท้จริงเลยเป็นชื่อลุงนิก ถึงลุงไม่อยู่ในประเทศ พวกเอกสารต่างๆ ของทางโรงเรียนก็ให้พ่อเซ็นต์แทนได้ เพราะนามสกุลเดียวกัน”

“ฟังดูน่าเสียใจ แต่ไม่ยักเห็นเราเสียใจ”

“ทำไมต้องเสียใจ? พ่อไม่ได้ไม่ต้องการที ลุงนิกก็ไม่เคยให้ทีเรียกพ่อ พ่อแม่ก็คือพ่อแม่ ผู้ปกครองก็คือผู้ปกครอง จะยุ่งยากก็แค่เรื่องกฎหมายเท่านั้นแหละ”

พี่พีทยิ้มแห้ง “งั้นพ่อหมาป่าที่กำลังเดินมาจะขบหัวพี่ได้เจอปัญหาใหญ่แล้ว”

ผมพยักหน้า “ทีเองก็ต้องเสี่ยงหลายเรื่อง ถ้าไม่มั่นใจล่ะก็ ทีไม่ยอมเลือกทางนี้แน่”

“แม้คนนั้นจะเป็นคนที่ชอบ?”

“ชอบเรอะ” นึกแล้วก็ยิ้มขำ “จะใช่หรือเปล่ายังไม่แน่ด้วยซ้ำ เพราะถ้าใช่จริงๆ ผมจะเปลี่ยนความคิดหลังจากเกิดเรื่องคุณย่าองค์ลงทำไม แล้วก็…คงคบผู้หญิงไม่ได้หรอกนะพี่”

“ลุงนิกของนายยังคบผู้หญิงก่อนผู้ชายได้เลย”

ผมยักไหล่ “ไม่รู้สิ เรื่องแบบนี้ให้เวลาพิสูจน์ไปเถอะ”

“งั้นพี่ขอถามอีกข้อ” พี่พีทลดเสียงลง “ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น ทีจะให้โอกาสแบบนี้ไหม?”

ผมลดเสียงตาม ให้พี่พีทได้ยินคนเดียว

“ไม่มีทาง”

พี่พีทส่งสัญญาณว่าหมาป่าดำเข้าใกล้เกินกว่าจะคุยเรื่องเดิมกันได้ เลยเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเรื่องอื่นไม่ถึงสามประโยคก็ต้องชะงัก เมื่อคนพึ่งเดินมาถึง ดึงแขนผมให้ลุกขึ้นยืนกะทันหัน สีหน้าเคร่งเครียดมาก

“อะไร?”

“ไปกับกูหน่อย”

############
ขอโทษด้วยนะคะที่หายไปโดยไม่ได้มาบอก แต่คิดว่าน่าจะเข้าใจกันเนอะว่าเราหายไปเพราะอะไร
ป.ล.พรุ่งนี้เราจะมาลงชดเชยให้อีกตอนนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2016 16:27:00 โดย katzep »

ออฟไลน์ Praykanok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: - ชลนที - [บทที่22] P.6 (22/10/2016)
«ตอบ #177 เมื่อ22-10-2016 14:36:06 »

สู้ๆนะคะ ^^

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: - ชลนที - [บทที่22] P.6 (22/10/2016)
«ตอบ #178 เมื่อ22-10-2016 16:21:18 »

พาร์หึงแรงอ่ะ 555

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: - ชลนที - [บทที่22] P.6 (22/10/2016)
«ตอบ #179 เมื่อ22-10-2016 16:25:54 »

พี่พีทขี้แกล้งอะ  :hao3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด