[H.E.A.R.T.] A.Avert หัวใจซ่อนรัก
Intro# Niza เงินไม่มีทางซื้อผมได้ (ถ้าไม่มากพอ!)
“สวัสดี นายชื่อซ่ารึเปล่า?” เสียงอันทุ้มต่ำของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นอยู่เหนือศีรษะของผม
ด้วยความที่ผมนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ต้นไม้โดยใส่เฮดโฟน เลยเห็นเพียงแค่รองเท้าหนังของเขาที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งถ้ามองไม่ผิดน่าจะเป็นยี่ห้อหรูอย่าง CLARKS เพราะงั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องมีอันจะกินอย่างแน่นอน
“โทษนะ นายได้ยินที่เราพูดมั้ย?” ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าถามผมขึ้นอีกครั้งเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับ แน่นอนล่ะว่าผมได้ยินเพราะไม่ได้เปิดเพลงดังขนาดนั้น แต่ผมกำลังประเมินราคารองเท้าที่เขากำลังใส่อยู่ต่างหาก ราคาน่าจะสัก 5000 เห็นจะได้ ส่วนของผม 150 บาทขาดตัวเพราะไปต่อมาจากตลาดนัดมือสอง
“เอ่อ...ขอโทษที่ต้องเสียมารยาทนะ แต่เรามีเรื่องด่วนที่ต้องคุยกับนายจริงๆ” ผู้ชายคนนั้นพูดจบก็คุกเข่าลงข้างหนึ่งจนใบหน้าอยู่ไม่ห่างจากผม ก่อนที่เขาจะยื่นมือทั้งสองข้างออกมาเลื่อนเฮดโฟนที่ผมใส่อยู่ลงไป การกระทำนั้นทำเอาผมถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ จนถึงกับหลุดคำสบถออกมา
“เชี่ย!”
“โทษที เราเรียกนายหลายรอบแล้วแต่นายไม่ได้ยิน” ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าพูดอย่างสำนึกผิด จากนั้นก็ส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจที่ถ้าสาวๆ แถวนี้มาเห็นคงใจละลาย...
แต่ไม่ใช่สำหรับผม!
“พูดมึงกูเป็นปะ? ได้ยินอะไรเพราะๆ แล้วมันแสลงหู” ผมทำหน้าเหม็นเบื่อ แต่ที่เบื่อไม่ใช่เพราะสรรพนามที่ได้ยินหรอก แต่เป็นเพราะหนังหน้าของไอ้หมอนี่ที่กำลังยิ้มสลอนให้ผมต่างหาก!
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของผมชื่อพฤกษ์ ไอ้หมอนี่มันเป็นคนดังโคตรๆ ของมหา’ลัย เพราะนอกจากจะหล่อแล้วยังฉลาด บ้านก็รวย นิสัยก็ดี เรียกได้ว่าไอ้หมอนี่ไม่มีที่ติจนสาวๆ ทุกคนยกย่องมันให้เป็นสมบัติของมหา’ลัย
ถุ้ย! น่าหมั่นไส้ชะมัด!
แล้วสาบานเลยนะว่าคนที่หมั่นไส้มันไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว ผู้ชายเกือบครึ่งมหา’ลัยก็หมั่นไส้มันเหมือนกันกับผมนั่นแหละ!
“ถ้ามึงอยากให้กูพูดแบบนี้ก็ได้นะ ปกติกูก็พูดกับเพื่อนแบบนี้อยู่แล้ว ดีเหมือนกันจะได้สนิทกับมึงเร็วๆ” ไอ้พฤกษ์พูดอย่างเป็นกันเอง ดูท่าไอ้แว่นนี่มันจะเข้าใจผมผิดไปนะ
“ใครอยากสนิทกับมึงไม่ทราบ” เท่านั้นแหละรอยยิ้มของไอ้พฤกษ์ก็ชะงักไปทันที สีหน้าของมันตอนนี้ดูเจื่อนเล็กน้อย
“เอ่อ...”
“แล้วกูก็ชื่อนิษา ส่วนซ่าเอาไว้เรียกเฉพาะเพื่อนสนิท เข้าใจ๋?” ผมมองหน้าไอ้พฤกษ์อย่างกวนตีน ก็ผมไม่ชอบมันอะมีไรปะ มันที่เห็นอย่างนั้นเลยถอนหายใจออกมา แล้วเปลี่ยนสีหน้าจากเป็นมิตรกลายเป็นเรียบเฉย
“โอเค กูเข้าใจแล้ว ต่อไปกูจะเรียกมึงว่านิษา”
เอาตามตรงเลยนะ ผมโคตรจะไม่ชอบไอ้ชื่อนี้ที่แม่ตั้งให้เลย ฟังยังไงมันก็ชื่อผู้หญิงชัดๆ แล้วพวกเพื่อนของผมก็คิดแบบนี้เหมือนกัน มันเลยจัดการเปลี่ยนชื่อเรียกของผมจากนิษาเป็นซ่าซะเลย
ส่วนเรื่องที่ผมไม่ให้ไอ้พฤกษ์เรียกว่าซ่าก็ไม่ใช่อะไร ผมก็แค่หาเรื่องกวนตีนมันไปอย่างนั้นเอง เพราะมันกับผมคงไม่ได้เกี่ยวข้องกันจนมันต้องเรียกชื่อผมบ่อยๆ หรอก
“แล้วนี่มึงมาหากูมีธุระอะไร”
“กูมีเรื่องต้องการให้มึงช่วย”
“หืม? คนอย่างมึงน่ะนะมีเรื่องที่ต้องให้กูช่วย?” ผมทำหน้าแปลกใจ ก็จะไม่ให้เป็นแบบนั้นได้ยังไง ไอ้เทพบุตรสมบัติของมหา’ลัยมีเรื่องให้คนกากๆ จนๆ อย่างผมช่วยเชียวนะ
“กูรู้มาว่ามึงสนิทกับอาจารย์ปรัชญา กูเลยอยากให้มึงช่วยพากูไปหาอาจารย์หน่อย คือกูอยากถามข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อวิจัย แต่อาจารย์ก็บอกไม่สะดวกตลอด” ไม่แปลกหรอกก็อาจารย์แกไม่ได้สอนไอ้พฤกษ์โดยตรง แถมช่วงนี้อาจารย์แกก็กำลังเร่งทำผลงานเพื่อเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ เพราะงั้นอาจารย์แกไม่มีเวลาว่างไปคุยกับใครหรอก
อ้อ ส่วนผมเป็นข้อยกเว้นนะ เพราะผมน่ะเป็นผู้ช่วยของอาจารย์แก แต่ในอีกความหมายหนึ่งก็คือเบ๊ดีๆ นี่แหละ เพราะผมรับทำงานทุกอย่างทั่วราชอาณาจักร ไม่ว่าจะเป็นงานหิน งานยาก งานหนัก งานเบา ไม่ว่างานอะไรผมรับทำทั้งนั้น ซึ่งก็ทำตั้งแต่สากกะเบือยันเรือดำน้ำเลยล่ะถ้ามีคนจ้าง!
“เรื่องที่มึงอยากให้กูช่วยกูก็พอจะช่วยได้อยู่ล่ะนะ แต่...” ตอนแรกที่ผมพูดสายตาของไอ้พฤกษ์มันก็มีประกายความหวังอยู่หรอก แต่พอได้ยินคำว่า ‘แต่’ จากผมสายตาของมันก็ลอบมองบนทันที
“มึงจะเอาเท่าไหร่” โอ้! เข้าใจอะไรง่ายแบบนี้ค่อยคุยกันได้หน่อย
“จริงๆ กูก็ไม่เอาอะไรมากหรอก แค่มึงเลี้ยงกาแฟกับข้าวกูสักมื้อ แล้วก็จ่ายค่าเหนื่อยกูสักสอง...”
“ตอนนี้ทั้งตัวกูมีแค่พันห้า แต่ถ้ามึงอยากได้ด่วนๆ ก็เอาเลขบัญชีมาเดี๋ยวกูจะโอนเงินสองพันเข้าบัญชีให้” ไอ้พฤกษ์พูดขัดขึ้นก่อนที่ผมจะพูดจบประโยค จากนั้นก็ล้วงเอาแบงค์สีเทากับสีม่วงออกมาจากกระเป๋าเสื้อ คำพูดกับการกระทำนั้นทำเอาผมถึงกับทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองมันตาปริบๆ อย่างเดียวเท่านั้น
“ส่วนกาแฟกับข้าวมึงอยากกินอะไรก็บอกมา สตาร์บัคส์ ชาบู ฟูจิ บาร์บีคิว ซิสเลอร์ หรืออะไรก็ได้ตามใจมึง” ไอ้พฤกษ์พูดต่ออย่างป๋า
โอ้โห! สายเปย์ที่แท้ทรู! ชาติก่อนมึงกู้ชาติมาหรอวะถึงได้เกิดมาเงินถุงเงินถังขนาดนี้!
เอาจริงๆ เลยนะ ที่ผมพูดเมื่อกี้คือกะจะให้มันเลี้ยงแค่กาแฟโบราณกับร้านอาหารข้างทางเท่านั้น ส่วนเงินผมก็ไม่ได้คิดจะเอาถึงหลักพัน ผมตั้งใจจะบอกมันว่าสองร้อย หรือต่อลงเหลือร้อยห้าสิบผมก็โอเค!
“เอ่อ...” ตอนนี้สมองของผมเออเร่อเอ๋อแดกไปเรียบร้อย เลยได้แต่อ้ำอึ้งไม่สามารถเรียบเรียงคำพูดที่อยู่ในหัวออกไปได้
“ว่ายังไงนิษา ถ้าหากมึงยังไม่โอเคกับข้อเสนอ งั้นกูเพิ่ม...”
“เดี๋ยวววววว หยุดก่อนเลยมึง หยุดดดดดดด” คราวนี้ผมเป็นคนพูดขัดไอ้พฤกษ์บ้าง เพราะผมรู้สึกขนลุกทุกทีเวลาที่มีใครเรียกว่านิษา นอกจากนี้ขืนมันเพิ่มเงินให้ผมมากขึ้นไปอีก เดี๋ยวยมบาลในนรกได้ลงบัญชีหนังหมาว่าผมกรรโชกทรัพย์ไอ้พฤกษ์กันพอดี ส่วนหลังจากนี้ผมจะค่อยปอกลอกมันทีละนิดละหน่อยแทน หึหึ
“มึงไม่ต้องเพิ่มเงินให้กูก็ได้ แหม...เพื่อนกันแท้ๆ ขาดแค่นิดหน่อยกูไม่ซีเรียสหรอกน่า” ผมโบกมือไปมาอย่างไม่ถือสา แถมยังยิ้มร่าแล้วพุ่งตัวเข้าไปกอดคอของไอ้พฤกษ์อีกต่างหาก
การกระทำที่เปลี่ยนจากหลังเท้าเป็นหน้ามือแบบนี้ทำเอาไอ้พฤกษ์ถึงกับทำหน้าแปลกใจ แถมยังเอียงหน้ามาหาผมแล้วเลิกคิ้วขึ้นอีกต่างหาก
“เพื่อนหรอ?” ไม่แปลกหรอกที่มันถามผมแบบนี้ ก็เมื่อกี้ผมพูดซะเสียงดังเลยว่าไม่อยากสนิทกับมัน พูดแล้วอยากตบปากตัวเองตามอายุจริงๆ ให้ตาย!
“กูกับมึงอายุเท่ากัน ถ้าไม่เรียกว่าเพื่อนจะให้เรียกว่าอะไรล่ะจริงปะ?” ผมเปลี่ยนสีไวยิ่งกว่ากิ้งก่า ชีวิตนี้จะยอมกลืนน้ำลายตัวเองสักครั้งก็ได้วะ มีเพื่อนเป็นตัวเงินตัวทอง...เอ๊ย! บ่อเงินบ่อทองแบบนี้ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหาย มีแต่ได้กับได้ชัดๆ
“มึงว่าไงกูก็ว่างั้น” ไอ้พฤกษ์ตอบผมด้วยใบหน้านิ่งๆ ไม่ได้แสดงความเป็นมิตรเหมือนกับที่เข้ามาหาผมในตอนแรก แต่เรื่องนั้นใครแคร์ ผมสนใจแค่เงินของมันเท่านั้นแหละ!
ว่าแล้วผมก็ยื่นมือออกไปหยิบแบงค์สีเทากับสีม่วงที่ไอ้พฤกษ์ถืออยู่ในมือมาเข้ากระเป๋าเสื้อของตัวเองซะเลย
“ถ้างั้นก็เป็นอันว่า กูกับมึงเป็นเพื่อนกันตั้งแต่วันนี้แล้วนะ ไม่สิ...เพื่อนซี้เลยล่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะเพื่อน” ผมยิ้มกว้างจนตาหยี ขอพูดเอาไว้ตรงนี้ให้รู้ทั่วกันเลยว่า คนอย่างไอ้ซ่าไม่มีทางซื้อด้วยเงินได้...ถ้าไม่มากพอ!
2bc
ฮัลโหลวววว สวัสดีค่าาาาาา บทนำของเรื่อง Avert หัวใจซ่อนรักก็ได้จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วน้า หลังจากสายหวานเลี่ยนอย่างพี่ภูกับหนูตะวัน และสายหื่นอย่างพี่ธารกับหนุ่มหมอกจบไป คราวนี้ก็ถึงสายเกรียนอย่างคู่พฤกษ์ซ่าบ้างนะคะ ฮูเร่!
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะถูกใจทุกคนกันมั้ย เพราะก่อนจะแอบเอารูปซ่ามาให้ชมกันที่แฟนเพจไม่มีใครคิดว่าพฤกษ์จะมาสายนี้กันเลย ส่วนใหญ่คิดว่าสายละมุน 55555 แต่ก็หวังว่าทุกคนคงจะชื่นชอบกันน้า เรื่องนี้ก็จะเฮฮา บ้าบอ ตามสไตล์เคะเกรียน พล็อตก็จะเบาลงมาจากเรื่องพี่ธารพอสมควร ก็นะ...เรื่องนั้นได้ลุ้นกันแทบทุกตอนเลยนี่นา แต่จะว่าไปเรื่องนี้ก็ลุ้นเหมือนกันนะ ลุ้นว่าสองคนนี้จะชอบกันได้ยังไง 55555
ยังไงก็ฝากเอ็นดูคู่พฤกษ์ซ่ากันด้วยนะคะ ถ้าหากชื่นชอบก็คอมเมนท์เป็นกำลังใจให้เราด้วยน้า แล้วเจอกันในอีก 2-3 วันจ้า รักทุกคนนะคะ บ๊ายบายยยยย
ปล.ขอบคุณ คุณ areenart1984 มากๆเลยนะคะที่แจ้งเรื่องนิยายถูกย้ายมาห้องนิยายจบแล้ว ตอนนี้เราส่ง PM ไปหาคุณ oaw_eang ให้ย้ายกลับคืนแล้วค่ะ แต่คิดว่าสักพักเลยมั้งคะกว่าจะได้ย้าย ยังไงก็แวะมาดูที่ห้องนี้บ่อยๆนะคะ ทุกคนด้วยน้า กอดดดด
(15 ธ.ค. 60)