
ตอนพิเศษ แมน-ทิน จุดจบ
มันถามได้ดีเลยล่ะ..... ผมเป็นบ้าอะไรของผม?
ใช่.......ผมก็อยากรู้เหมือนกัน.....
ผม.....ชอบมัน.......
ใช่.......ผมชอบมันมาตั้งนานแล้ว......
ไอ่แมน.....มันเป็นเพื่อน.....เพื่อนที่คบกันมานาน....เพื่อนที่ผมเห็นหน้ามันแทบทุกวัน......
ครึ่งหนึ่ง....มันก็เป็นความเห็นแก่ตัวโง่ๆของผม.....
ผมไม่มีวันยอมให้ใครหน้าไหนได้ไอ่แมนไป....นอกจากเชนทร์....
แต่ก็นั่นแหล่ะ......คงเพราะผมรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่ายังไงแมนมันก็ไม่มีทางสมหวัง....
ทุกวันนี้ผมทำอะไรอยู่?........พยายามกักตัวไอ่แมนไว้ด้วยความหวังลมๆแล้งๆของมัน ว่าเชนทร์จะเป็นของมันซักวันหนึ่ง....
ผมรู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้....
ต่อให้เชนทร์ไม่มีใคร ไอ่แมนก็เป็นเพียง ‘เพื่อน’ ของเชนทร์เท่านั้น....เรื่องนี้ผมแน่ใจ...
ผมเห็นแก่ตัว....ผมยอมรับ......
ไอ่แมนมันคงไม่มีวันจะสมหวังกับรักของมัน.....
แต่ผมเอง.....ก็มองไม่เห็นทาง.....ที่รักของผมจะสมหวัง......เช่นกัน..........
…………………………………………………………..
ผมเคยคิดมาตลอดว่าเพื่อนของผมเป็นคนยังไง ผมคิดว่าเข้าใจมันมาตลอด....
จนกระทั่งรู้สึกกับตัวเองอย่างจริงจังเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วว่าไอ่แมนมันเป็นมากกว่า ‘เพื่อน’….
เพียงเท่านั้น สิ่งที่ผมคิดว่าเข้าใจมัน ทุกอย่างก็กระจัดกระจาย แค่การที่ผมเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อคนๆหนึ่งไป ทำไมมันถึงเปลี่ยนความเข้าใจของผมซะหมดก็ไม่รู้....
ท่าทางกระฟัดกระเฟียดของไอ่แมนที่มีให้เห็นแทบจะตลอดเวลาที่ผมออกไปหาที่ระบายอารมณ์อยากข้างนอก มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าหรือมันจะ ‘หึง’ ผม?
“กูจะเป็นอะไร....กูก็เป็น ‘เพื่อน’ มึงไงไอ่ห่า อากาศแม่งก็ร้อน กูเลยหงุดหงิด มึงไม่ต้องเป็นห่วงกูหรอก”น้ำเสียงที่ฟังดูหงุดหงิด....มันยิ่งพาให้ใจผมคิดว่ามันอาจจะหึงผม......ไม่ใช่แค่อิจฉาที่ผมมีประสบการณ์มากกว่ามัน....
แต่สุดท้ายผมก็ไม่รู้อยู่ดี......ว่าตกลงความรู้สึกของไอ่แมนตอนนี้มันเป็นยังไง...
ผมไม่อยากเดา...
สุดท้ายมันก็จบลงเหมือนทุกครั้งที่ผมเถียงกับมัน ไม่ใครก็คนหนึ่งเดินหนีกันไป ทำให้เรื่องยิ่งค้างคา....
…………………………………………………..
ผมออกไประบายอารมณ์กับผู้หญิง....อารมณ์ที่ผมอดทน อดกลั้น ร่างกายมันอยาก แต่ใจผมไม่อยากซักนิด.....
พอหมดธุระ ผมก็อยากจะรีบๆกลับ ในใจมันก็พะวงถึงคนที่อยู่ที่ห้อง จะยังไงผมก็ยังห่วงมันอยู่ดี....หญิงสาวยืนยันที่จะมาส่งผมที่หน้าประตู หลังจากจุมพิต เสียงหวานของสาวเจ้าก็เอ่ยอยู่แถวริมหู ซึ่งมันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอยากเอาซะเลย....
ผมคิดว่าผมพูดกับเธอรู้เรื่องแล้วว่ามันเป็นแค่การเล่นสนุกกัน...
ผมไม่อยากทำร้ายผู้หญิง...
“พอเถอะครับปลา แฟนทินอยู่ในห้อง” ผมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชา เธอเองก็ดูจะตกใจเล็กน้อย ก่อนจะล่าถอยไปในที่สุด....
อย่างน้อยนี่ก็เป็นข้อดีของหล่อนล่ะ.....ที่รู้ว่าตัวเองอยู่ ณ จุดใดในความสัมพันธ์....
ตัวผมเองยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าผมอยู่ตรงไหน....
ผมปิดประตูลงกลอน แล้วเดินเงียบๆไปตามทางเดิน เข้าห้องครัวไปหาน้ำดื่มแก้กระหาย... รสจูบจากผู้หญิงมักจะทำให้ผมคอแห้ง....คงจะเป็นเพราะลิบสติคนั่นล่ะมั้ง...
มีเสียงฝีเท้าตรงทางเดินที่ผมเพิ่งเดินผ่านมา สายตาผมไล่ไปโดยอัตโนมัติ แต่แล้วสิ่งที่เห็นทำให้ผมเลือดขึ้นหน้าทันที....
“มึงจะไปไหน....?” ผมคว้าเอาเป้ที่ไอ่แมนสะพายมาแล้วโยนลงพื้นทันที สติเหมือนจะขาดผึงเมื่อรู้ถึงจุดมุ่งหมายของอีกฝ่าย...
อีกฝ่ายยังคงดื้อรั้น ขืนแรงที่ผมบีบข้อมือมันไว้ พอไม่ได้ผลก็ตะคอก ผมไม่สนใจ ขืนแรงลากอีกฝ่ายที่ดูจะหมดแรงเอาดื้อๆไปตามทางเดิน ด้วยสติที่แตกกระจาย และด้วยอะไรซักอย่างดลใจให้ผมลากมันไปที่.....ห้องนอน....
ไม่ใช่ว่าผมไม่ฟังเรื่องที่มันกำลังตะโกนว่าผมอย่างสาดเสียเทเสียตอนนี้ แต่สมองผมมันจับได้แต่คำที่ว่ามันจะไปจากผม......
ฝันไปเถอะ....ว่ากูจะปล่อยให้มึงไป....ผมกระชากแขนมัน มันขืนแรงผม ผมแรงไป มันแรงกลับ แต่คงจะเพราะโทสะ.....สติสัมปชัญญะทุกอย่างมันกระจายหายไปหมด ผมเผลอพูดสิ่งที่มันคั่งค้างในใจ สิ่งที่ผมได้แค่แอบคิดว่ามันอาจจะหึงผม พอพูดไปไอ่แมนก็ดูจะโกรธจัดที่ผมไปพูดจี้ใจดำมัน อีกฝ่ายพยายามขืนแรงจะออกหมัดใส่หน้าผมให้ได้ มือผมที่บีบข้อมือมันอยู่สั่นระรัวอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสีหน้าและแววตาของไอ่แมนตอนนี้มันทำให้ผมหมั่นไส้.....
ผมเอี้ยวตัวไปกระซิบแผ่วๆที่ใบหูของมัน ก่อนจะผละออกมา สีหน้าของไอ่แมนแปรเปลี่ยนเป็นความตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะพยายามดันตัวผมออก....
“อย่าทำอะไรที่มันเปล่าประโยชน์ดีกว่าน่า....” ผมพูดนิ่งๆใส่มัน เหมือนอีกฝ่ายจะเริ่มรู้ถึงอันตรายที่กำลังจะมาใกล้ ใบหน้าเอี้ยวหลบไปด้านข้าง แรงที่ข้อมือยังคงส่งมาอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ฝันไปเถอะว่าผมจะปล่อย....
อย่างที่บอก....ผมยอมมันมามากแล้ว....
ผมคว้าข้อมือทั้งสองข้างของมันแล้วบีบไว้ด้วยมือข้างเดียวของผม อีกมือคว้าชายผ้าพันคอเด็กแนวของเจ้าตัวนั่นแหล่ะมามัดที่ข้อมือของมันซะแน่น ก่อนจะตามไปประกบจูบร้อนๆซักทีให้หายหมั่นไส้....
ฝ่ามือข้างที่ว่างผมก็จัดการดึงชายเสื้อแจ๊คเกตติดกระดุมด้านหน้าของมันจนขาด แล้วสอดมือเข้าไปใต้เสื้อยืดบางๆนั่นอย่างเผลอไผล สัมผัสที่ผมส่งไปให้อีกฝ่าย ส่งผลให้อาการต่อต้านลดลงอย่างเห็นได้ชัด แบบนี้ก็เข้าทางผมสิ....
รสจูบที่ผมกำลังกำซาบอยู่ตอนนี้ มันหวาน.......ไม่สิ เรียกว่าโคตรหวานเลยคงดีกว่า.....
แตกต่างจากจูบที่ผมเพิ่งทำกับผู้หญิงมาอย่างสิ้นเชิง....
ผมผละริมฝีปากออก แล้วจ้องหน้ามันตรงๆ อีกฝ่ายที่หลับตาแน่นจนมีน้ำซึมแถวๆหางตาก็ลืมตามองผมเช่นกัน ตัวมันสั่นน้อยๆจนผมรู้สึกได้ ก็แหงล่ะ....ผมคงดูน่ากลัวมากสำหรับมันในตอนนี้....
ไม่เคยซักครั้งที่ผมจะทำร้ายมัน.....
แต่ครั้งนี้.......ผมคงปล่อยไว้ไม่ได้แล้วล่ะ....
“ไม่ขัดขืนแล้วรึไง?” ผมถามมันเบาๆ ซึ่งก็เหมือนจะเรียกสติของมันกลับมาได้หน่อยหนึ่ง มันเอามือของตัวเองที่โดนมัดอยู่ทุบที่ไหล่ของผม ผมมองตามแล้วหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะประกบจูบอีกรอบ..... มือที่ว่างก็คว้าข้อมืออีกฝ่ายไว้ไม่ให้มันขัดขืนผมอีก
มืออีกข้างของผมเลื่อนลงต่ำ......จัดการกับซิบกางเกงแล้วรูดรั้งลงไปจนกองที่พื้น.....
อีกฝ่ายสะดุ้งตกใจ อ้าปากจะด่าผมอีกรอบ ผมกดแนบลำตัวเข้าหา ปล่อยมือที่กำข้อมือมันเลื่อนไปปิดปากบางที่กำลังด่าผมฉับๆนั่นให้สนิท เสียงอู้อี้ของมันเล็ดรอดฝ่ามือผมออกมา ผมทำเป็นไม่สนใจ มือสอดไล้เข้าไปหาจุดหมายที่กลางลำตัว....
มันคงทำให้ไอ่แมนเงียบไปได้บ้างล่ะ.....
ผมรูดรั้งแผ่วเบา จนเพิ่มความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ มือที่ตอนแรกปิดปากมันไว้ ก็ขยับมา บีบเฟ้นที่แผ่นอกมันแทน ใบหน้าที่ปกติจะยิ้ม และหัวเราะกับผมตลอด ตอนนี้มันเปลี่ยนไป...
เลือดลมที่สูบฉีดบนพวงแก้มสองข้าง ไรผมชื้นเหงื่อจนเหนียวเหนอะหนะ เพราะตั้งแต่เข้ามาในห้องนอน ผมยังไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ แต่มันยิ่งเร้าอุณหภูมิที่แผ่ออกมาจากภายในกายอย่างชัดเจน
ผมประกบจูบแรงๆอีกครั้ง และอีกครั้ง แทบทุกครั้งที่มีโอกาส พอมันหายใจหอบเข้าก็ผละออกมาไล้เลียริมฝีปากภายนอกจนแดงช้ำ ช่วงตัวที่มีกล้ามเนื้อเล็กน้อยแต่สมส่วนของมันปรากฏชัดกระจ่างตา หลังจากที่ผมป้อนสัมผัสให้มันจนเคลิ้มพอที่จะกำจัดสิ่งกีดขวางทั้งหมดออกไป...
สิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ที่ร่างตรงหน้าผมนี้ มีเพียงแต่ผ้าพันคอ.....ที่ผมมัดไว้ที่ข้อมือทั้งสองของมัน...
แสงไฟที่สว่างในห้อง.....มันทำให้ผมเห็นภาพที่ผมเคยเห็นในฝันบ่อยๆ......
เพียงแต่นี่มันเป็นของจริง.....
เสียงหอบเครือที่ดังอยู่ตรงหน้า น้ำตาไหลซึม ใบหน้าของมันที่ยังคงเต็มไปด้วยคำถาม สิ่งเหล่านั้นไม่ได้เรียกสติผมกลับมา......
มันทำให้ผมลืมสิ่งที่เรียกว่า ‘ผิดชอบชั่วดี’.......
ผมคว้าตัวมันให้แผ่ลงที่เตียงแล้วตามไปคร่อมตัวมันไว้ ผมก้มลงไปทำสิ่งที่ค้างคา จนอีกฝ่ายปลดปล่อยมาจนหมด แล้วแบ่งหยาดหยดเหล่านั้นออกมาหล่อลื่นที่ช่องทางด้านหลัง แค่นิ้วเดียวที่สอดแทรกเข้าไป ทำให้ตัวของอีกฝ่ายสั่นสะท้าน แรงต่อต้านที่หายไปนานดูจะกลับมาเพราะความเจ็บปวด
“ทิน....ทิน อย่า.....กู.....กูขอ......แฮ่ก.......ขอร้อง.....ฮื้อออออ~” ข้อมือที่ถูกเสียดสีด้วยผ้าแดงขึ้นจนเห็นได้ชัด ผมก้มลงไปประกบจูบที่ริมฝีปากมันอีกครั้ง มือก็แก้ปมผ้าออก ทันทีที่มือทั้งสองข้างหลุดออกมา มันก็เหวี่ยงกำปั้นมาทันที แต่ก็แน่นอนว่าเรี่ยวแรงมันหดหายไปเยอะ จนผมคว้าไว้ได้อย่างสบายๆ...
“อย่าขัดขืนดีกว่า....กูไม่อยากทำมึงเจ็บ....” ผมพูดใส่หน้ามันด้วยเสียงเย็นชา ก่อนจะขึงแขนมันไว้ แล้วก้มลงไปไซร้ซอกคอแล้วทิ้งรอยไว้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
“แค่...แค่นี้กูก็เจ็บ.....เจ็บพอแล้ว.....ทิน กูขอ......อึ้ก.....อะ” เสียงร้องขาดๆหายๆ ผมเลื่อนกายเข้าหา สอดแทรกตัวผมเข้าไปในช่องทางคับแคบของมัน ไม่แม้แต่จะฟังคำที่มันกำลังละล่ำละลักบอกผม เหมือนผมจะได้ยินไกลๆเป็นทำนองว่าถ้าทำแล้วผมจะเสียใจ......อะไรทำนองนั้น....
แต่ผมไม่สนใจอีกแล้ว.....
พอสอดแทรกเข้าไปได้ ผมก็คว้าตัวมันจากที่นอนอยู่ขึ้นมาประจันหน้ากับผม ดวงตาที่ปิดแน่น ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน มันช่างเย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก ผมจินตนาการถึงใบหน้าอย่างนี้มาเป็นร้อยเป็นพันครั้ง ผมจับเอวมันไว้แล้วขยับขึ้นลงตามจังหวะที่ต้องการ เรียวขาของอีกฝ่ายแยกออกกว้างโดยอัตโนมัติจากการเสียดสีที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งที่อีกฝ่ายปลดปล่อยออกมาอีกครั้งจนเต็มหน้าท้องของผม....
“เร็วจังนะ...” ผมกระซิบแผ่วเบาที่ใบหู แล้วเลียน้อยๆ อีกฝ่ายสะดุ้งเอี้ยวตัวหลบ แต่ถูกผมกดหัวไว้จึงหนีไปไหนไม่พ้น ผมนอนแผ่ลงหนุนหมอนที่กองอยู่ข้างๆแล้วจับเอวอีกฝ่ายไว้ให้กดลงที่จุดๆเดิม….
“ฮึก......อือออออ~” มืออีกข้างที่ว่างผมก็ขยับไปรูดรั้งส่วนกลางลำตัวของอีกฝ่ายให้มันตื่นขึ้นมาอีกรอบ อีกฝ่ายดิ้นกุกกักเหมือนจะให้ผมปล่อย แต่ก็แน่ล่ะ......
“หันหลังซิ....” ผมสั่งเสียงเรียบ อีกฝ่ายยังคงนิ่งเหมือนไม่รับฟัง นอกจากเสียงหอบน้อยๆที่ยังมีให้ได้ยินอยู่ ผมขยับมือรูดรั้งส่วนอ่อนไหวอีกครั้งและอีกครั้ง จนไหล่บางนั้นสั่นไหว...
“จะหันเอง หรือจะให้ใช้กำลัง...?” ผมเอ่ยถาม อีกฝ่ายก้มหัวลงน้อยๆ น้ำตาไหลลงสองข้างแก้ม ผมผละมือออกจากส่วนกลางลำตัว จับที่เอวบางไว้ทั้งสองข้างก่อนจะขยับลำตัวของอีกฝ่ายให้เปลี่ยนเป็นท่าหันหลังมาให้ผม พอขยับได้ที่ผมก็ชันตัวขึ้น แล้วโอบกอดลำตัวอีกฝ่ายไว้อย่างเต็มที่ เสียงครวญครางดูจะดังขึ้นเรื่อยๆ
“โอ๊ย...โอย....อะ....อื้อ.....อื้อออออออ~~~~” ผมที่ตอนนี้ยังคงคุมจังหวะไม่ให้ขาดตอน ก็หันไปทางด้านข้างของเตียงเหลือบไปเห็นบางสิ่ง ความคิดบางอย่างก็เกิดขึ้นในหัว....
ผมโอบรอบตัวอีกฝ่ายไว้ให้ขยับมาตามผม ร่างที่อยู่บนตักผมตอนนี้ดูจะหลงลมเซ็กซ์ที่ผมป้อนให้ไม่ขาดจนลืมที่จะต่อต้านไปแล้ว...
ผมขยับจนกลายเป็นนั่งอยู่ที่ปลายเตียง เท้าข้างหนึ่งของผมสะกิดให้บานไม้บานหนึ่งเปิดออกมาแล้วหันมาทางเตียง.....
มันคือบาน
‘กระจก’....
ทันทีที่ร่างที่อยู่บนตักผมเงยหน้าขึ้นมาเห็นสิ่งที่ผมเตรียมไว้ แรงต่อต้านก็กลับมาอีกระลอกจนผมต้องล๊อคเอวมันไว้ให้แน่น กระซิบที่หลังหูเบาของคนดื้อดึงเบาๆ...
“รู้สึกมากขึ้นมั้ย....?” ใบหน้าแดงจัดชื้นเหงื่อสะบัดไปอีกทาง แต่ผมก็ตามไปประกบจูบที่ใบหูนั่นอีกจนได้ มืออีกข้างของผมคว้าเรียวขาของอีกฝ่ายให้แผ่ออกจนเห็นทุกอย่างอย่างชัดเจน....
มัน ‘ดิบ’ ดีนะผมว่า......
อีกฝ่ายพยายามทุกวิถีทางที่จะออกจากการสอดแทรกของผม แต่ก็ไร้ประโยชน์....ถ้าวันนี้ผมไม่ได้ปลดปล่อยสิ่งที่ผมค้างคาอยู่ในใจตลอดเวลากับคนๆนี้ ผมคงคลั่งตาย....
“ทิน....พอ.......ฮือ....ฮึก....อะ.....โอ๊ย.....โอยยยย~” ผมเร่งเร้าจังหวะทั้งด้านหน้าที่ปรนเปรอให้มันอยู่ และแรงเร้าที่ผมกำลังทำกับมันอยู่ตอนนี้ จนกระทั่งจังหวะทุกอย่างจบลงที่การสอดแทรกอย่างรุนแรงในครั้งสุดท้าย...
“อะ....อา~~~”
“อื้อ!!!”
ผมรั้งใบหน้าของอีกฝ่ายมาให้รับจูบจากผมอีกครั้ง...... แล้วคว้าเอวอีกฝ่ายให้ล้มตัวลงนอนทั้งๆอย่างนั้น....เสียงแหลมสูงครวญครางในลำคอเบาๆเมื่อหัวถึงหมอน ผมลูบหัวอีกฝ่ายที่นอนอยู่ในอ้อมแขนผมเบาๆแล้วจูบซ้ำไปซ้ำมาอยู่แบบนั้น.....
เสียงหอบถี่ของอีกฝ่ายค่อยๆผ่อนลงจนเป็นจังหวะปกติ แต่ผมก็ยังคงบรรจงจูบอยู่ที่เส้นผมนั่นอย่างเคย....
“ทะ....ทิน มึง.....” มือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายเลื่อนมาดันอยู่ที่ไหล่ของผม ผมก้มลงไปมองใบหน้ามันชัดๆ
“หืมม์?”
“อะ...เอาออก.....กู.....เจ็บ....”
“อ่อ......อืม” ผมค่อยๆถอนตัวออกจากช่องทางแคบๆนั่น อีกฝ่ายตัวสั่นเล็กน้อย พอผมจัดการเรียบร้อยก็ต่างคนต่างนอนนิ่งกันอยู่แบบนั้น จนกระทั่งหลับไปในที่สุด....
……………………………………………………………………..
“อืม......” ผมงัวเงียตื่นมา ก็พบคนที่ผ่านค่ำคืนมาด้วยกันยังคงนอนอยู่ที่เดิม ผมก้มลงไปมองใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นใกล้ๆ ใกล้จนเห็นรอยจูบสีเข้มที่ก็คงจะเป็นฝีมือผมปรากฏชัดที่ลำคอและไหปลาร้าเต็มพรืดไปหมด ทันใดความรู้สึกผิดก็แล่นเข้ามา...
ผมรักมัน.....จุดนี้ผมยอมรับ.......
ผมทำผิด........จุดนี้ผมก็ยอมรับอีกนั่นแหล่ะ.....
ผมไม่แน่ใจว่าเมื่อคืนเขาเรียกว่าการ ‘ข่มขืน’ รึเปล่า....
หรือจะเรียกว่าขืนใจดีล่ะ....?
ผมผละออกมาแล้วนั่งกุมหัวกับปัญหาที่ผมเพิ่งจะก่อ.....
ถึงผมจะยินดีรับผิดชอบทั้งหมดก็เถอะ..... แล้วไอ่แมนมันจะยอมรับผมรึเปล่าล่ะ....?
“อื้อ.....” ผมหันไปทันที ร่างที่ผมกกกอดตลอดคืนค่อยๆงัวเงียตื่นขึ้นมา กลอกตาซ้ายขวาเหมือนยังมึนๆอยู่ ก่อนที่จะพยายามลุกขึ้นมา ผมตรงเข้าไปประคองจนมันลุกขึ้นได้ ตอนนี้มันนั่งเหยียดขาอยู่บนเตียงมองไปมาอย่างงงๆ จนเริ่มจะรู้สึกตัวว่าตัวเองไม่ได้ใส่อะไรเลย จึงคว้าผ้าห่มที่กองอยู่ที่เอวขึ้นมา มันมองไปรอบๆสภาพห้องที่เละเทะไปหมดจากการประลองกำลังกันเมื่อคืน ก่อนที่จะหยุดลงที่ใบหน้าของผม...
“เอ่อ......” ใบหน้าของมันแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะหันหน้าหนีแล้วพยายามลุกจากเตียง แต่ผมคว้าตัวไว้ได้ทัน
“เดี๋ยวก่อนสิ…” ผมคว้าตัวมันไว้จนลงมาที่พื้นเตียงอีกรอบ ผมเห็นมันนิ่วหน้า คงจะเพราะเจ็บจากเมื่อคืน...
“อะ...อะไร” มันเสหลบตาไปทางอื่น ไม่อยากจะเชื่อเลย ก็...ตอนนี้มัน....เขิน นี่นา....
“จะไม่ถามหน่อยเหรอ.....ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือทำทำไม....อะไรแบบนั้น” ผมอดไม่ได้ที่จะถาม ผมนึกว่าจะโดนมันอาละวาดเต็มที่ แต่ไหงมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะนี่...
“ถามทำไม.....กูจำได้หรอกน่า มึงปล่อยเหอะ....กูอยากอาบน้ำ...”
“ไม่ปล่อย.....งั้นขอถามก่อน เดี๋ยวจะให้ไปอาบ....” มันเงยหน้าขึ้นเหมือนเกรงๆ
“ไม่โกรธ?” ผมถามด้วยนัยน์ตาพราวระยับ ก็ตอนนี้มันทำหน้าน่ารักโคตรๆ....แก้มแดงๆ ตามแนวลำคอมีรอยจูบประปราย...คิ้วขมวดเชียว ฮึๆ...
“ไม่รู้เว้ย~ ปล่อยเหอะ....ปล่อยกูเห๊อะน้า~ ไอ่ทิ๊นนนนนนนน~~~” มันปัดมือมั่วไปหมดเลยครับตอนนี้ โอเค มันเขินแน่ๆ แล้วก็เขินมากซะด้วย....
“กูรักมึงนะ....” คำเดียวครับ......มันหยุด....นิ่ง......นิ่งไปเลยนะครับ ตาโตเป็นไข่ห่านเลยล่ะ...
“ห่า.......ฟันกูแล้วมาบอกรัก....ไอ่เชี่ยยยยยย~” มันโยนหมอนมุ้งกระจายเลยครับคราวนี้ เหมือนเรี่ยวแรงมันกลับมาหมดซะงั้น แอบเจ็บนะนี่
“เดี๋ยวๆ บอกก่อน รับรักรึเปล่า” ผมคว้าแขนมันทัน มันก็เอาหน้าซุกเข้าแขนอีกข้างของตัวเองทันที....ใบหูโผล่ออกมาน้อยๆเป็นสีแดงจัด ผมว่าผมพอจะรู้คำตอบนะ....
“รับห่าไร ประสาทนะมึง!!!” มันพูดลอดไรฟันครับ ตอนนี้ผมคว้าตัวมันขึ้นมาได้แล้ว
“ถามจริงๆนะ....ตอบกูเถอะ กูรักมึงมาตั้งนานนะ.....นานมากแล้ว.......” ผมเน้นเสียงตรงคำว่านาน......สำหรับผมมันนานมากนะครับ กับการแอบรักใครซักคนน่ะ พอจบท่อนนี้ ไอ่แมนหน้าแดงไปใหญ่เลยครับ....
“เมื่อไหร่?.....”
“ม.ปลาย.....แต่ที่กูไม่อยากบอกมึง เพราะมึงรักแต่เชนทร์.......” มันทำหน้าอึ้งมากมายครับ
“มึง......นาน.....นานขนาดนี้เลยเหรอ....”
“ใช่.....”
“.................”
“เพราะงั้นได้โปรดเถอะ.......กูขอโทษที่ใช้กำลังกับมึงเมื่อคืน กูโมโห.....ที่มึงจะหนีกูไป....”
“ก็มึงไปกับน้องปลา!!!” มันแหวขึ้นทันทีเลยครับ พอนึกได้ก็รีบเอามืออุดปากตัวเองไว้ซะงั้น สายไปแล้วมั้ยน้อง ท่าทางออกมากกกกกกก ว่า ‘หึง’….
“ถ้ามึงไม่ตอบ....กูจะเหมาเอาเองแล้วนะ ว่ามึงรักกู....”
“เชี่ยยยยยย”
“จริงๆกูว่ากูก็ไม่ได้มั่วหรอก......ไม่งั้นมึงจะหึงกูกับน้องปลาทำไม......ฮึๆ….”
“อะ ไอ่ทิน มึงนี่นะ.....แม่งงงง~” มันนั่งขัดสมาธิเอามือลูบหลังคอตัวเอง ท่าประจำมันเวลาคิดมากล่ะครับ
“ตกลงว่า.....?” ผมขยับตัวไปใกล้แล้วถามมันอีกรอบ...
“เออ!!!!!”
“เอออะไร.....เออกูหึง หรือเออกูรักมึง?” ผมยิ้มกวนตีนใส่มัน มันเองก็ชูนิ้วกลางใส่แล้วยิ้มยวนกลับซะงั้น
“เออกูหึง และเออกูรักมึง…พอใจมั้ยวะ? เชี่ยยยยยย ” มันว่าแล้วก็ลุกหนีผมเดินเข้าห้องน้ำซะงั้น ผมจะคว้าตัวมันจูบรับขวัญก็ไม่ทัน ว่าจะจูบรับขวัญคนรักซักหน่อย....
ฮึๆ....เอาเถอะ ยังมีเวลาอีกเยอะ.......
ผมรอมาได้ตั้งนาน....จะรอเพิ่มแค่นี้มันคงไม่เป็นไรหรอก.....
ที่แน่ๆ.....มึงโดนแน่ กูอัดอั้นมาหลายปี....
จะไม่แมนก็คราวนี้ล่ะมึง....
ผมนอนยิ้มกริ่มหัวเราะคนเดียวเหมือนคนบ้า.....
ฮึๆ................
มีความสุข.......ดีว่ะ......
จบตอนพิเศษ แมน-ทิน จุดจบ
************************
ใครบ่นว่าสั้นอีกมั้ยพี่น้อง...
แม่เจ้า 1 ตอน a4 10แผ่น เคยทำที่ไหน 5555+
ทีแรกก็ว่าจะแยกเป็น 2-3 ตอน เอ็นดูคนอ่าน กลัวท่านๆจะค้าง...
ลงๆไปเลยละกัน...
เดี๋ยวหลังส่งงานสรุปจะมาลงเรื่องต่อให้....
ถ้าใครอยากอ่านตอนพิเศษอะไรทิ้งเมนท์ไว้ได้เลยเน้อ จะจัดให้ (ฟิตจริงกรู ไม่ฟิตกะเรื่องเรียนมั่งวะ -*-)
เดี๋ยวมา + ให้นะ ขอขอบคุณทุกๆคอมเมนท์
