ตอนที่ 40 ทะเลาะ
ผมตื่นขึ้นมาตามความเคยชิน แล้วก็พบว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ห้องของตัวเองแล้ว แต่เมื่อคืนผมจำได้ว่าผมนอนที่ห้องไอ่แนนนี่หว่า หรือว่าผมละเมอเดินมา....แต่ไม่น่าจะใช่นะ (ละเมอข้ามห้องเลยเรอะ เว่อร์ไปๆ -*- )
มองไปรอบๆตัว........ว่างเปล่า.....
ไอ่แจ๊คไปไหน......?
ประตูห้องน้ำที่แง้มอยู่ทำให้รู้ว่าไม่มีใครอยู่ในนั้น ไม่มีเสียงน้ำไหล ทุกสิ่งเงียบสนิท....
ผมเอื้อมมือไปคว้านาฬิกาที่หัวเตียงมาดู เจ็ดโมงเช้า..... คงต้องรีบเตรียมตัวซะหน่อยสำหรับการทำงานวันนี้
ผมลุกขึ้นจากเตียง เสียงกระดูกลั่นแถวๆขา แสดงว่าผมนอนผิดท่าแหงๆ ปวดๆชาๆพิกล ผมลากสังขารตัวเองเดินไปที่ประตู ใจคิดว่าจะลองไปดูที่ห้องครัว เดาว่าไอ่แจ๊คคงอยู่ที่นั่นแหล่ะ และถ้าผมไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไปนัก ผมว่ามันคงไปเอาข้าวเช้าให้ผม....
*แกร๊ก~
หากแต่ภาพที่เห็นมันกลับทำให้ผม........กินข้าวเช้าไม่ลงแทน....
เบลล์.....เบลล์กับไอ่แจ๊ค ยืนคุยกันอยู่ตรงทางเดิน และก็ดูคุยสนุกมากๆซะด้วยสิ.....
ผมขยี้ตาดูภาพๆนั้นอีกครั้ง แน่นอนว่าภาพนั้นยังคงเดิม ไม่ใช่เพราะผมมึนไปเองถึงได้เห็น.....
จี๊ด.......
แปล๊บๆ......แปลกๆ.......
โอเค....ใจเย็น....สงบใจไว้........หึงเบลล์เนี่ยนะ......ไม่เข้าท่าเลย แล้วจะไปหึงทำไม???
ผมค่อยๆหลบฉากตัวเอง ถอยตัวเข้าไปในห้องตามเดิมตรงประตูห้องที่ผมเองเปิดค้างเอาไว้ แง้มประตูปิดให้เสียงเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วยืนพิงประตู.......
พยายามโคตรๆที่จะใจสงบ........แต่ยอมรับว่าทำไม่ได้ ภาพมันฉายซ้ำๆไปมาในหัว แถมประโยคที่เบลล์พูดกับผมเป็นทำนองว่าเธอสนใจแจ๊คนั่นอีกล่ะ.......
หรือเบลล์จะชอบแจ๊คจริงๆ?
แต่.....แต่ว่าที่ไอ่แจ๊คมันทะเลาะกับผม.....ไม่ใช่ว่ามันรู้สึกแย่หรอกเหรอ......ที่ผมไปพูดกับเบลล์แบบสนิทสนม.... ผม.....ตกลงผมคิดไปเองเหรอว่ามันหึงผม........
โอเค......ยานแม่เรียกยานลูก กลับสู่มาตุภูมิ กลับมาสู่โลกความเป็นจริงซะที.....
คิดไปเองทั้งนั้นนี่นะ.........แล้วจะไปโวยมันได้ยังไง......
ที่ไอ่แจ๊คไม่อยากคุยกับผม.......อาจจะเป็นเพราะนึกจะเปลี่ยนใจแล้ว.....รึเปล่านะ?.....
ภาพของสองคนนั้นมันทำให้ผมต้องคิด.......เค้าก็เหมาะสมกันดีจริงๆ.....
ผมรู้ผมควรเชื่อใจไอ่แจ๊ค.....ผมไม่ควรระแวง เค้าอาจจะแค่คุยกันเฉยๆก็ได้....
แต่ถ้าเป็นคุณ....คุณจะคิดยังไง......
พอไปพูดด้วย กลับไม่ยอมพูดด้วย......ท่าทีมึนตึง หมางเมิน...กลายเป็นเราที่ไป ‘เซ้าซี้’….
แต่พอคุยกับเบลล์......กลับ.......ยิ้มแย้ม สนุกสนาน.......
แล้วผมควรจะคิดยังไง...........
...
“พวกมึงยังไม่คุยกันดีๆอีกเหรอวะ เหี้ยเอ๊ย~” ไอ่แนนแทบจะลากคอผมไปกระทืบ...หลังจากเห็นท่าทีไอ่เชนทร์เมื่อเช้า....
ผมเปิดประตูเข้าไป หลังจากที่ไปเอาข้าวเช้ามาให้มัน ก็เห็นมันนั่งนิ่งบนเตียง เหม่อๆเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก ผมเดินไปเรียกมัน ก็ตอบรับแบบแกนๆ สายตาที่เคยมองผมอย่างเขินอายนั่นก็เปลี่ยนไป เหมือนคนไม่มีแววตา.....
ผมส่งกาแฟแบบที่มันชอบดื่มให้ มันก็รับไปดื่ม แต่ก็จิบแค่นิดเดียวเท่านั้น ขนมปังที่เตรียมไว้ให้ก็แทบจะไม่แตะซักนิด ท่าทีไร้วิญญาณแบบนี้มันทำให้ผมเป็นห่วงแทบเป็นบ้า พอตั้งท่าจะคุยด้วย ไอ่แนนก็มาเคาะประตูห้องเรียกให้รีบไปทำงาน เพราะเดี๋ยวจะสาย.....
กลับกลายเป็นว่า จนถึงตอนนี้ ผมกับมันก็ยังไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราว....
“มึงไปทำอะไรมันวะ.....มันถึงเป็นแบบนี้ กูนึกว่าพวกมึงคุยกันแล้วนะ” ไอ่แนนพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน เวลานี้เป็นเวลาพักของผมกับไอ่แนนครับ กะมันจะเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา บางวันก็จะได้พักตรงกันบ้าง
“กูไม่ได้ทำอะไรเลยนะ.......” ผมนั่งกุมหัวด้วยความเครียด พยายามเรียงเหตุการณ์ให้ได้ว่ามีอะไรผิดปกติรึเปล่า แต่จนแล้วจนรอดผมก็คิดไม่ออกอยู่ดี
“ให้กูไปคุยกับมันมั้ย?” ไอ่แนนถามด้วยสีหน้าเครียดจัด มันเองก็คงเป็นห่วงเชนทร์มากเหมือนกัน...
“เออ.....ก็....อาจจะดี.....” ผมตอบรับไปแค่นั้น ก็มีคนมาตามไปเปลี่ยนกะต่อ ไอ่แนนเดินมาตบไหล่ผมเบาๆ ก่อนจะแยกกันไปทำงานซุ้มใครซุ้มมัน ผมเดินไปจนถึงซุ้มตัวเอง สายตาก็สอดส่ายหาคนๆเดิม ก็ยังพบว่ามันยังคงยืนเหม่อลอยเหมือนเดิม.....
แต่แล้วผมก็ต้องตกใจ....ยิ่งกว่าเดิม....
ใบหน้าเหม่อลอยนั้น......มีน้ำตา.....
เหมือนจู่ๆมันก็หยดลงมาซะอย่างนั้น ไม่มีการสะอื้นไห้ ไม่มีสีหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด....ใบหน้านิ่งเฉย แต่มีน้ำใสๆซึมออกมาเป็นสาย.....ดวงตากลมโตนั้นกระพริบถี่ๆเหมือนขับไล่ให้มันหมดไป ใบหน้าก้มลงเหมือนระงับความรู้สึก มือเล็กๆเอื้อมไปหยิบกระดาษเช็ดหน้าขึ้นมาซับเบาๆที่หางตาแล้วขยำกระดาษทิ้งลงถังขยะข้างตัว....
ทุกการกระทำ ทุกความรู้สึกปรากฏชัดในสายตาของผม.....
ผมอยากจะตรงเข้าไปกอด ตรงเข้าไปถาม แต่ผมก็ทำไม่ได้.......ผมได้แต่ยืนมองอยู่อย่างนั้น จนเพื่อนร่วมงานของเชนทร์มาเปลี่ยนกะ ใบหน้าเหม่อลอยนั้นพยักหน้าเบาๆแล้วล่าถอยออกไปจากซุ้ม.......ผมมองไปรอบตัวก็ไม่พบกับคนที่พอจะเปลี่ยนเวรกับผมได้ซักคน ทั้งๆที่ใจของผมน่ะวิ่งไปตามไอ่เชนทร์แล้วล่ะ....
และก็เหมือนสวรรค์แกล้ง.....ที่วันนี้ทั้งวัน.......ผมไม่ได้พักตรงกับมันเลย....ซักครั้ง......
“ไอ่แจ๊ค.....ปะ” ไอ่แนนตรงเข้ามาหาผม หลังจากที่มันฝากฝังให้น้องเมกลับไปเป็นเพื่อนไอ่เชนทร์ก่อนแล้ว ผมทิ้งตัวลงนั่งที่ม้านั่งข้างทาง ไอ่แนนก็นั่งตาม เวลารอบตัวตอนนี้เริ่มที่จะมืดลงเรื่อยๆ อากาศเย็นจนต้องกระชับเสื้อกันหนาวกับตัว....
“ต้นหน้าร้อน.....แต่กลางคืนแม่งก็เย็นอยู่ดี....” ไอ่แนนพูดขึ้น ผมส่งเสียงตอบรับในลำคอเบาๆ จนถึงตอนนี้ผมกับเชนทร์ก็ยังไม่ได้คุยกันแม้แต่คำเดียว....
“กูไปคุยกับมันมา.....” ไอ่แนนพูดขึ้นนิ่งๆ ผมหันขวับไปทันทีแล้วจ้องหน้ามันทำนองว่าให้มันพูดต่อ
“กูรู้สึกเหมือนเจอเดจาวู.....” ไอ่แนนว่าแล้วจุดบุหรี่ขึ้นสูบ ควันสีขาวลอยละล่องไปในอากาศ
“มึงหมายถึง....”
“มันพูดเหมือนมึง.....เป๊ะ......ฮึๆ.....” ไอ่แนนพูดขำๆแล้วส่งบุหรี่ให้ผมตัวหนึ่ง ผมรับมาแล้วจุดต่อที่บุหรี่ของมัน ในหัวก็ประมวลสิ่งที่เพิ่งได้ยินมา.......มันพูดเหมือนผม....งั้นเหรอ????
“มันคิดเหมือนมึงเลยนะ.....กลัวว่าอีกฝ่ายจะมีใครที่เหมาะสมกว่าตัวเอง.....” ผมกำลังจะอ้าปากถาม แต่ไอ่แนนพูดแทรกขึ้นมาก่อน แต่ประโยคที่มันพูดมาอีกยิ่งทำให้ผมคิดหนัก......ผมไปมีใครตอนไหนกัน????
“ถึงมันจะไม่บอก แต่กูพอจะเดาได้ ว่ามันคงคิดว่ามึงกับอีหมวยนั่นน่ะ.....ชอบกัน.....”
“หะ.....หมวยไหนวะ???”
“เมื่อเช้ากูเห็นมึงคุยกับอีเบลล์นั่นตรงทางเดิน ตอนกูออกมาต้มกาแฟ…” ไอ่แนนว่าแล้วขยี้บุหรี่ลงกับที่ดับบุหรี่ มันหันมาถามผมอีก
“แน่ใจนะว่าไอ่เชนทร์ไม่เห็นฉากที่มึงกำลังป้อหญิง?” ไอ่แนนถามหน้าโหดๆอีก
“ป้อห่าไรล่ะ.....แค่คุย หรือตกลงมันเห็นจริงๆวะ......” ผมหันไปถามไอ่แนนเสียงเครียด มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้.......ก็ขนาดไอ่แนนยังเห็น มันจะออกมาเห็นคงไม่แปลกอะไรหรอก
“ก็คงงั้น ไม่งั้นมันจะจิตหลุดขนาดนี้ได้ไง.....” เล่นเอาเครียด......
“แล้วคุยไรกันวะ? มึงกับอีหมวยนั่นน่ะ...”
“กูไม่มีเหตุผลที่ต้องโกหกมึง......เบลล์มาบอกว่าชอบกู......แต่กูไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้วอย่างที่มึงรู้ เขาเลยชวนคุยต่อ ประมาณว่างั้นเป็นเพื่อนกันคงได้ใช่มั้ย....แล้วมึงว่ากูควรจะตอบว่าไงล่ะ ตามมารยาทนะ.....กูไม่อยากเสียมารยาทกับผู้หญิงนี่หว่า” ผมพูดจบไอ่แนนหน้าเครียดหนักเลยครับ เห็นมันพึมพัมๆว่ามิน่าล่ะ อะไรแบบนั้น
“แต่กูไม่ได้คิดอะไรนะ….”
“เรื่องนั้นกูรู้.....แต่ถ้าเป็นมึง มึงจะคิดยังไง......ก่อนหน้านั้นไอ่เชนทร์คุยกับมึง มึงก็ไม่คุยเพราะเรื่องเครียดบ้าๆของมึง มันเครียดจนหลับ พอตื่นมาเห็นมึงคุยกับผู้หญิง.....กูถามหน่อยเถอะ ว่าถ้าเป็นมึงเอง ถ้ามันกลับกัน....มึงจะรู้สึกยังไง......”
“..................” เครียดครับ....
“กูว่าพวกมึงต้องพูดกันให้รู้เรื่องนะ......มึงจะมารอให้กูพูดทางนั้นที ทางนี้ทีก็ไม่ไหวนะมึง.....ใช่ว่ากูไม่อยากจะช่วยพวกมึงนะ กูเป็นคนบอกเองด้วยซ้ำว่ามีอะไรกูยินดีช่วย.....แต่กูว่าพวกมึงควรคุยกัน แล้วปรับความเข้าใจกันซะ....ต่างคนต่างคิดอะไรอยู่ ไม่พูดก็ไม่รู้หรอกมึง.....”
“.......เออ ถูกของมึง....”
“แต่มึงเชื่อกูเหอะ... พวกมึงใจตรงกันนะเว้ย......ทุกเรื่อง.....ก็ขนาดเรื่องที่เครียดยังเรื่องเดียวกันเลย แถมคู่กรณียังคนเดียวกันอีก.....อีเบลล์นั่นน่ะ...ฮึๆ....” ผมหันไปยิ้มให้มัน ทำนองว่าขอบใจกับคำปรึกษาของมัน... ผมกับไอ่แนนก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปตามเส้นทางเดิมกลับบ้าน จนมาถึงที่หมายแล้วก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับห้อง ผมเปิดประตูเข้าไปโดยหวังว่าไอ่เชนทร์จะอยู่ในนั้นแต่มันก็ไม่อยู่.....คงจะอยู่ที่ห้องครัว คิดได้ดังนั้นผมก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปหาทันที
แต่ผมก็ยังไม่เจอคนที่อยากเจออยู่ดี......
ผมมองซ้ายมองขวาหา แต่ก็ไม่พบ ทั้งหมวยทั้งตี๋เดินกันให้ว่อนเต็มห้องครัวเพื่อปรุงอาหารเย็นของตนเอง หากแต่กลิ่นหอมๆของอาหารมันไม่ชวนอยากซักนิด ผมเดินออกจากห้องครัวแล้วตรงไปที่ห้องไอ่แนน มันคงอยู่ที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่แล้วล่ะ....
“อ้าว....ไออึง อันเอิ้งไออะ....” ไอ่แนนพูดทั้งๆที่เส้นสปาเก๊ตตี้เต็มปาก ผมขมวดคิ้วกับภาษาต่างดาวของมัน ไม่ทันว่าอะไร น้องเมก็โฉบออกมาจากหลังไอ่แนน ในมือก็ถือชามสปาเก๊ตตี้อยู่บอกผม
“แล้วพี่แจ๊คจะรู้เรื่องมั้ยคะนั่น.....พี่เชนทร์เพิ่งเดินกลับห้องเมื่อกี๊อะค่ะ พอดีเมชวนพี่เขามากินข้าวเย็น…แต่ก็กินไปนิดเดียวเองอะค่ะ ท่าทางเหมือนซึมๆ เพิ่งขอตัวเดินกลับห้องไปเมื่อกี๊เอง....”
“เมื่อกี๊พี่อยู่ข้างนอกน่ะ ไม่เห็นเลย”
“สวนกันรึเปล่าคะ.....พี่เชนทร์ออกไปได้แปปนึงอะค่ะ...”
“อ่อ...สงสัยตอนพี่ไปตามมันในครัว ขอบใจนะน้องเม พี่ไปล่ะ” ผมรีบวิ่งกลับไปที่ห้องตัวเอง พอเปิดประตูไปก็พบกับภาพๆเดิม เหมือนเมื่อเช้า คือมันนั่งที่ปลายเตียงตัวเอง เหม่อลอยเหมือนเดิม...
ผมปิดประตูลงกลอน แล้วเดินไปใกล้ๆมัน มันเองก็หันมามองหน้าผมแล้วยิ้มบางๆให้ ยิ้มมันดูโคตรจะว่างเปล่าจริงๆ......เหมือนวิญญาณหลุดลอยไปไกลแล้ว....
“เชนทร์...”
“มึง....ยอมพูดกับกูแล้วเหรอ....?” มันพูดแล้วยิ้มนิดๆ แต่ผมก็ทันสังเกตนะ......ดวงตากลมโตนั้นรื้นไปด้วยน้ำตา.....
ความรู้สึกผิดแล่นขึ้นจับใจผม.......
“กูก็ไม่ได้โกรธมึงอยู่แล้ว......” ผมพูดได้เท่านั้น ก็รู้สึกเหมือนไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แต่ไหนแต่ไรผมก็เป็นคนที่พูดไม่เก่งอยู่แล้ว มันเองก็เงียบไปเหมือนกัน......
และแล้วผมก็ตัดสินใจบางอย่าง......
“อะ….” ผมตรงเข้าไปประกบจูบทันที ในเมื่อตอนนี้มันยังกระอักกระอ่วนที่จะพูด จะคุย ผมก็ขอใช้วิธีของผมแล้วกัน......
“แจ๊ค....เดี๋ยว....อะ” แขนสองข้างของมันตรงเข้ามายันไหล่ผมไว้ ผมเลื่อนมือตัวเองไปเลื่อนมันมาที่ต้นคอของผมแทน ผมยังคงบรรจงจูบมันซ้ำๆแบบนั้น ด้วยความหวังว่าความรักที่ผมมีมันจะส่งผ่านไปถึงมันบ้าง....ซักนิดก็ยังดี.....
“อือ....อะ.....” ผมผละออกจากริมฝีปากนั่น ไซร้ต่ำลงมาเรื่อยๆจนถึงต้นคอ ฝ่ามือทั้งสองข้างของผมประคองกอดร่างบางๆนั่นไว้เหมือนอย่างเคย แต่แล้วผมก็ต้องตกใจ...
“อย่า....ทำแบบนี้.....ไม่...ฮึก....ไม่รักกันแล้วก็อย่าทำ....แบบนี้....เลย......” เสียงสะอื้นฮักดังก้องกังวานในหัวผม......น้ำตาไหลรินเป็นสาย ร่างกายอีกฝ่ายสั่นสะท้านตามลมหายใจเข้าออก ผมตะลึงไปกับสีหน้าเศร้าโศกที่เต็มไปด้วยน้ำตานั่น....จนผละออกมา อีกฝ่ายยันตัวเองจนลุกขึ้นมาได้ แล้วนั่งชันเข่าร้องไห้อยู่อย่างนั้น
“ใครบอกว่าไม่รัก......อย่าคิดแบบ....”
*** เพี๊ยะ!!! ฝ่ามืออรหันต์ตบฉาดเข้ามาเต็มๆใบหน้าผมจนหน้าหัน อีกฝ่ายทั้งร้องไห้ ทั้งสะอื้น มือที่ตบไปแล้วง้างเข้ามาอีก ผมยังคงตกตะลึง แต่ยังดีที่ประสาทสัมผัสผมมันก็ไวพอควร จึงคว้ามืออีกฝ่ายไว้ทัน (โดนตบ กิ๊วๆ)
“เอะอะก็ทำ เอะอะก็ทำ!!! รู้บ้างมั้ยว่าคิดยังไง!!!” มันตะโกนออกมาแล้วปัดแขนผมมั่วเลยครับ
“เดี๋ยว....ฟังก่อน.....ฟังก่อน...นะ”
“ไม่ฟังแล้ว.....ไม่ฟัง!!!!”
“แจ๊ครักเชนทร์คนเดียวนะ!!!!”
จบตอนที่ 40 ทะเลาะ
****************************
ก็มีเอนซีนะ....นิดนึง กร๊ากกกกกกก
จริงๆจะลงให้มันตอนเดียวกัน...ไม่ทัน มีคนบีบคอจะใช้คอมต่อ
เอาไปเท่านี้ก่อนละกัน เดี๋ยวมาต่อให้ใหม่
ขอขอบคุณที่ยังติดตาม