รักเอย : จริงหรือที่ว่าหวาน ? หรือทรมานใจคน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักเอย : จริงหรือที่ว่าหวาน ? หรือทรมานใจคน  (อ่าน 241913 ครั้ง)

tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #270 เมื่อ05-04-2009 17:14:14 »



^

^

^


เอาน่า  เดี่ยวรอ   "จขกท."    หายเมารัก  เขามาต่อเองแหละ


ว่าแต่ไม่มีเป๊บซี่มากินตอนปูเสื่อรอเหรอจ๊ะ . . . ที่ร๊ากกกกก


"ตอกคง"   อย่างเดียวมันติดคออ่ะ





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-04-2009 17:23:33 โดย ต้นสาย »

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #271 เมื่อ05-04-2009 17:33:37 »

เย้ย อยากให้เจ้าของกระทู้หายเมารักนะ

เพราะเดี๋ยว เรื่องมันจะเศร้าอ่ะ

เอิ๊กกกกกกกก

รออ่านครับผม

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #272 เมื่อ05-04-2009 17:59:45 »

วุ้ย กิต.เคี้ยวเมี่ยงรอก็ได้ค่ะ ไม่ติดคอ หุหุ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2009 22:54:07 โดย kit »

ออฟไลน์ kunkai

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #273 เมื่อ05-04-2009 20:50:42 »

มากระแซะ...กิต :z2:
ขอเมี่ยงอมหนึ่งค้าบ
ป๋มชอบอ่ะ
:-[

ออฟไลน์ «ƤȑǃǹĉΞḠ○ḺҒ™»

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #274 เมื่อ05-04-2009 21:19:54 »

รอ ๆ


ชอบ โอ้ต อ่ะคับ น่ารักดี  :impress2:

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #275 เมื่อ06-04-2009 03:13:23 »

• มากระแซะ...กิต
• ขอเมี่ยงอมหนึ่งค้าบ
• ป๋มชอบอ่ะ

ว้าย แกะใส่จานให้เลยค่ะ อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2009 22:54:55 โดย kit »

HuaTangMo

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #276 เมื่อ06-04-2009 10:27:08 »

ลูกอม ยาดม ยาหม่องมั้ยคร๊าบบบบบบ
เห็นเรื่องน่าจะยาว
เลยเข้ามาขายของก่อน
ฟริ้ววววว.......................

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #277 เมื่อ06-04-2009 17:21:37 »



เเวะ  เพื่อบอกว่า เครื่องเจ๊งครับ



ส่ง  เเก้อีกหลายวันเเน่เลยอ่ะครับ  ขออภัย ณ ที่นี้




แก้ไข



คือแป้นพิมพ์  ไอ้เอเซอร์มันห่วยแตกครับ  เน่าไปครึ่งแผง  เมื่อสามวันก่อนแวะไปที่ศูนย์  เขาบอกว่า  ต้องซ่อมราวสามวัน  เลยออกอาการหงุดหงิด  วันนี้พิมพ์แทบไม่ได้เลย  ก็ตัดสินใจไปอีกครั้ง  บอก จนท.  ว่า  ผมงานค้างมากครับ  เร่งได้ไหม

จนท. ศูนย์เอเซอร์  ที่ฟอร์จูนใจดีมาก  เช็คอะไหล่ดูให้  ปรากฎว่า  มีอะไหล่เข้ามาแล้ว . . .

ขอบคุณ  จนท.  คนสวยด้วยครับ

ชะนีนิสัยดี ๆ  ก็มีนะวุ้ย







. . . สิบห้านาทีผ่านไป . . .


รวมเบ็ดเสร็จ    พันเจ็ด  แม่งงงงงงงงงงงงง 

แต่ก็ใช้งานได้ตามปกติแร่ะครับ  จะรีบปั่นด่วนจี๋เลยครับพี่น้องงงงงงงงงงงงง



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2009 19:27:27 โดย ราชบุตร »

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #278 เมื่อ06-04-2009 18:00:53 »

เหยยยยย

อีกหลายวันเลยเรอะ

เศร้าจัง

ได้จิ้มด้วย



ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #279 เมื่อ06-04-2009 18:49:50 »

เจ้กิตครับ รับหมากซักคำปะครับ









ปล.ล้อเล่นนะคร๊าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] รักเอย
« ตอบ #279 เมื่อ: 06-04-2009 18:49:50 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #280 เมื่อ06-04-2009 20:37:47 »

http://media.imeem.com/m/of7bmqLpIJ


ขอความกรุณา  อย่าโพสต์รุปภาพอีกนะครับ . . .


. . .ช่วยกันประหยัดทรัพยากรเล้าครับผม

เสิร์ฟร้อน ๆ  จากเตาเลยตอนนี้ 



ตอนที่ ๑๒

   ผมทรุดตัวลงนั่งที่เตียงไม้ไผ่ขนาดหนึ่งคนนอนอย่างช้า ๆ  ลมทะเลค่อนข้างแรง เพราะเป็นคืนข้างขึ้น แสงจันทร์ขาวนวลลอดผ่านร่มไม้ทำให้เกิดเงาขึ้นเป็นรูปร่างต่าง ๆ  แกว่งไปมาตามแรงลม   คลื่นซัดสาด เข้ามาหาฝั่งค่อนข้างถี่ บรรยากาศยามดึกเงียบสงัดดีนัก   แต่ก็ยังมีเสียงเพลงแว่ว มาตามลมจากบาร์เบียร์ที่ยังเปิดให้บริการอยู่ทางด้ายปลายหาดที่อยู่ติดกัน
   

แสงจันทร์ที่ส่องกระทบกับยอดคลื่นมองดูสวยงามจับตายิ่งนัก  หากแต่มันไม่สามารถที่จะดับความเร่าร้อนที่มีอยู่ในใจของผมลงได้   ความรู้สึกสับสนแบ่งแยกออกเป็นหลายส่วน ทั้งผิดชอบชั่วดี   ผมปล่อยความคิดเรื่อยเปื่อยล่องลอยไปตามสายลมบางเบาของทะเลยามค่ำ  เสียงฝีเท้าที่ย่ำเข้ามาในพื้นทราย ปลุกผมให้ตื่นจากความคิดทั้งหมด คอยเงี่ยหูฟังอย่างใจจดใจจ่อ ว่าฝีเท้าที่หยุดอยู่ใกล้ ๆ เป็นใครกันแน่

   ผมเหลือบมองร่างที่หยุดยืนใกล้ ๆ . . .

   อาร์ม . . . สมองของผมบอก เมื่อเห็นใบหน้าราง ๆ ใต้แสงจันทรา  เขาหยุดเพียงชั่วครู่  ก่อนเดินมานั่งที่เตียงไม้ไผ่อีกหลัง

   “ตามสบายนะครับ”   ผมเอ่ยออกมาหลังจากที่เราทั้งสองนิ่งเงียบอยู่นาน

   . . . เงียบจนได้ยินเพียงเสียงลม  หวิวในหัวใจเท่านั้น

เงียบงัน . . .

จนได้ยินเพียงเสียงคลื่นกระทบหาดทรายที่นุ่มเท้า

   “ขอบคุณนะครับ”

   เสียงนั่น . . . เอื้ออาทรอยู่ในที
ผมเอนตัวลงตามเตียงไม้ไผ่  ปล่อยร่างกายสัมผัสสายลมที่ชยมาจากทะเล หอบกลิ่นสาปทรายหอมอ่อน ๆ   แตะจมูก  ปล่อยความรู้สึกถึงอีกคน  ผมไม่รู้ที่ผ่านมาพี่โน้ตอยู่มาได้เช่นไร  บนความเจ็บปวดที่หัวใจตัวเองเจอะเจอ   

   บางครั้งคนเราต้องยอมเจ็บเพื่อคนที่เรารัก . . .

   . . . หากแต่

   ความเจ็บนั้นมันจะทำให้เรามีความสุขไปด้วย . . .

   การเดินออกมาจากชีวิตของใครคนหนึ่ง  มิได้มาดหมายว่าอีกฝ่ายจะไม่รัก  หากมันยังแปลความหมายในการกระทำได้อีกหลายอย่าง  ผมอาจจะเจ็บปวดกับการลาจากที่ไร้ข่าวคราว  เมื่อวันก่อน  แต่วันนี้  เมื่อความจริงที่ว่า ผมมิได้ถูกทอดทิ้งเพียงเพราะอีกคนหมดรัก

   รอยยิ้มบาง ๆ  คนใบหน้าของผม  คือคำตอบที่ดีที่สุด

   อย่างนี้กระมังที่เขาเรียกกันว่า . . .

   . . . ความรัก

   ความรัก . . .  ที่ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ระหว่างคนต่างเพศ

   ความผูกพันที่เกิดขึ้นระหว่างพี่น้อง . .

   . . . กับ

   ความรักเยี่ยงหนุ่มพึงใจสาว . . .

   สองอย่างที่ทับซ้อนมาในเวลาเดียวกัน  มันทำให้เกิดความทรมานใจอย่างแสนสาหัสเลยทีเดียว ในช่วงเวลาที่ผ่านมา  กับการต้องคอยเก็บงำเอาความรู้สึกนั้นไว้แค่คนเพียงสองคน  สิ่งที่อยู่ลึก ๆ  ตรงสิ่งที่สำคัญที่สุดของร่างกาย

   รักหนอรัก . . .

   . . . ใยเล่นตลกกับชีวิตจังเลย

   รักทับซ้อน . . .

   น่าเขกกะบาลตัวเองนัก มันห้ามใจตัวเองไม่ได้อย่างนั้นหรือ ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดกับชีวิตของผมก็ไม่รู้

   “ผมชื่อโอห์มนะครับ  ถ้าผมจำไม่ผิด  ผมเคยเจอกับคุณมาสามครั้งเห็นจะได้”  ผมเอ่ยออกมาทำลายความเงียบที่มีเพียงเสียงคลื่นกระทบชายหาดเท่านั้น

   “ครับ”

   เสียงนั่นตอบกลับเพียงสั้น ๆ   

   บางที . . .

   . . . เขาอาจอยากอยู่ลำพัง 

   บางคนอาจอยากมีเวลาส่วนตัวสำหรับการได้ทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ  ที่ผ่านมาของตัวเอง  เช่นเดียวกันกับผม  ที่ได้ผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว  ผมได้แต่นอนนิ่ง ๆ   ทอดสายตาไปยังปลายขอบฟ้า มองจันทราอาบไล้ยอดคลื่น

   “ผมไม่แน่ใจว่าเราเคยเจอกันที่ไหน  แต่หากคุณไม่รังเกียจ  ผมอยากขอเลี้ยงเบียร์คุณสักขวด  ที่บาร์ตรงนู้น  ไม่ทราบว่าคุณจะตกลงไหมครับ”  เสียงนั่นดังออกมากลบความเงียบ ที่เหมือนจะปกคลุมอยู่นาน

   ผมยิ้มบาง ๆ  ท่ามกลางแสงจันทร์

   “ยินดีครับ  แต่ขวดต่อไป  ผมขอเลี้ยงคืนนะครับ”

   “ตกลงครับ  ผมชื่ออาร์ม”  อีกฝ่ายยื่นมือมาให้ผมสัมผัสเบา ๆ 

   “ครับ  เราชื่อเหมือนกันอีก  โอห์ม  กับ อาร์ม”  ผมปล่อยมือนั้นเมื่อเขย่าเบา ๆ  เป็นการทักทาย

   ผมลุกจากเตียงช้า ๆ  เดินย่ำเท้าไปบนหาดทรายละเอียดเบา ๆ  ที่ปลายหาดมีบาร์เล็ก ๆ    จังหวะเพลงแนวเรกเก้  ล่องลอยตามสายลมมาอย่างเบา ๆ 

   “ผมเคยเจออาร์มครั้งแรกที่ร้านสตาร์บัค  เซ็นทรัลลาดพร้าว  อาทิตย์ก่อนกระมัง”   ผมหันคุย เพื่อสร้างบรรยากาศของการพบเพื่อนใหม่

   “อ๋อครับ  พอดีวันนั้นมีเรื่องให้คิดนิดหน่อย  เลยไม่ทันได้สนใจกับรอบ ๆ  ตัว” 

   “ครับ  ผมก็นั่งอยู่กับหลานชาย  หาที่เรียนภาษาให้หลานนะครับ  เลยแวะลงมาหาอะไรดื่ม  นั่งโต๊ะติดกับคุณอาร์ม”

   “เรียกอาร์มเฉย ๆ  ดีกว่ามังครับ  อย่าถึงกับคุณอาร์มเลยครับ” 

   “เอาอย่างนั้นเหรอครับ”

“ครับ”

   “ตกลงครับ  ว่าแต่มาสมุยนี่มาเที่ยวเหรอครับ”   ผมคุยสัพเพเหระ  ขณะที่เท้าสองเท้ายังคงพาเราสองคนไปยังจุดหมายปลายทางที่สุดสายของหาด . . .

   “ปล่าวหรอกครับผม  คือผมพักร้อนนะครับ  เพื่อนเลยชวนมาเที่ยว”

   “เพื่อนโอ๋หรือครับ”  ผมหันไปมองหน้า

   “โอห์ม รู้จักเพื่อนผมหรือครับ”    อีกฝ่ายหันมามองหน้า  ท่าทางประหลาดใจไม่น้อย

   “ไม่หรอกครับ  ก็เสียงคุยกันดังขนาดนั้น  แถมตอนเจอครั้งที่สอง ที่เล้านจ์เมื่อตอนเย็น  ผมก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อซ้ำอีก  ก็เลยคิดว่าน่าจะจำไม่ผิดแน่ ๆ  ครับ”

   ผมหัวเราะเบา ๆ  เพราะคิดว่า  อีกฝ่ายไม่น่าจะจดจำอะไรเกี่ยวกับผมได้เลย . . .

   “เมื่อตอนเย็นนะจำได้ครับ  เพราะว่าเพิ่งผ่านมาเมื่อไม่นาน”

   “ปลาทองหรือครับอาร์ม  อะไรที่นาน ๆ  ไม่จดจำอย่างนั้นหรือ”

   “พูดซะเสียเลยนะโอห์ม  ว่าแต่จะดื่มอะไรดี”  อาร์มหันมาถาม  เมื่อพามาถึงบาร์เล็ก ๆ  ริมหาด

   ผู้คนในบาร์ไม่มาก  บาร์ดูจะเป็นบาร์ที่ไม่ใหญ่มากมาย  มีโต๊ะที่ทำง่าย ๆ  ตั้งเป็นแถวริมชายหาด  มีเสื่อปูเอาไว้  กับหมอนอิงสามเหลี่ยมแบบทางเหนือ   รอบ ๆ  บริเวณโต๊ะนั่ง  ขุดเป็นหลุมในหาดทราย  ตะเกียงน้ำมันก๊าด  อยู่ภายในโคมไฟที่ร้านทำเองทุก ๆ  วัน 

   “คนไทยหัวใจสิงห์ครับ”  ผมหันไปยิ้ม

   อาร์มหายไปที่เคาน์เตอร์บาร์  ก่อนอออกมาพร้อมกับเบียร์ไทยขวดเล็กสองขวด

   “นั่งริมหาดดีไหมโอห์ม”

   “ได้ครับได้” 

   ผมหันไปยิ้มอีกครั้ง  ก่อนเดินตามอาร์มไปที่โต๊ะที่ริมหาด  บนโต๊ะมีตะเกียงเล็ก ๆ  ที่ทำเองเช่นเดียวกัน  โดยเอาขวดเครื่องดื่มชูกำลังมาใส่น้ำมันก๊าด  มีไส้หลอด  ที่ทำจากด้ายดิบ  ส่องแสงสว่างท่ามกลางแสงจันทร์

   เสียงคลื่นกระทบหาดดังมากยิ่งขึ้น  พระจันทร์โผล่พ้นยอดมะพร้าว  ที่ปลิวเบา ๆ  ตามแรงลมพัดไหว  เสียงดนตรีเปลี่ยนจังหวะมาเป็นแนวคึกคักมากยิ่งขึ้น    ราตรีนี้เพิ่งเริ่มต้นสำหรับเมืองท่องเที่ยวชายทะเล  เพราะกว่าบาร์จะปิดก็เมื่อตะวันทอแสงริมของฟ้า

   “โอห์มมาคนเดียวเหรอครับ”

   “ครับผม  มาคนเดียวครับ  พอดีที่โรงแรมเป็นลูกค้า    พอดีระบบที่วางไว้มีปัญหานิดหน่อยนะครับ  ผมเลยลงมาแก้งาน”

   “ดีจัง  ทำงานด้วย  เดินทางด้วย  และทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อเงิน”

   ผมหันไปมองหน้าอาร์ม  ก่อนที่เราทั้งสองจะหัวเราะออกมาเบา ๆ 

   “นั่นสินะครับ  เดี๋ยวนี้เราต่างทำอะไรเพื่อเงินกันทั้งนั้น  บางทีเราอาจบ้างานเพื่อให้ได้เงินมาก ๆ  โดยที่เราลืมไปเลยว่า  ความสุขมันไม่ใช่อยู่ที่เงิน”

   “พูดซะอาร์มปลงเลยนะเนี่ย”

   “ผมพูดจริง ๆ  นะครับ  ไม่รู้อาร์มเคยฟังนิทานเรื่องนักธุรกิจร้อยล้านกับชาวประมงไหม”

   “ไม่เคยครับ . . .”  อาร์มยื่นคอขวดมาแตะที่คอขวดของผมเบา ๆ  ก่อนที่จะยกขวดขึ้นจิบเบา ๆ

   “. . . เล่าสิครับ”

   “ก็มีนักธุรกิจคนนึง  ยังหนุ่มอยู่เลย  เขาถีบตัวจากคนธรรมดา ๆ  คนหนึ่ง  จนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน  มีธุรกิจเอง    เขาทำงานหนักมานับสิบปี  ไม่เคยพักผ่อน  วันนึงเขาเหนื่อยมากในหน้าที่การงาน  เลยเลือกที่จะหยุดพักที่ริมทะเลแห่งนึงทางอันดามัน”

   “แล้วก็เจอสึนามิ”  อาร์มหันมาหัวเราะเบา ๆ

   “ไม่ใช่ครับ  อาร์มนี่นอกจากหน้าตาดียังตลกอีกนะครับ”

   “ไม่ได้ครับ   โอห์มอย่าพูดแบบนี้นะครับ  เพราะว่าคนหน้าตาดีจะไม่ตลก  ผมขอเป็นแค่คนหน้าตาดีได้ไหมครับ”

   “โอเค ๆ  คนหน้าตาดีจะฟังต่อมั้ยครับ”

   “ครับผม  เล่าต่อเลย”

   “จนสายอีกวัน  เขาออกเดินเล่นริมหาดทราย  เขาเจอชายชราชาวประมงคนนึงนอนเล่นอย่างสบายใจที่เปลยวนที่เขาผูกเองกับต้นสน  นักธุรกิจหนุ่มร้องทักว่า . . . ลุงไม่ออกเรือหาปลาหรือ”

   “. . . ลุงไปมาแล้วพ่อหนุ่ม”  ชายชราร้องบอก

   “อ้าว  แล้วลุงได้ปลาเยอะมั้ย”  เขาเดินมาใกล้ ๆ  ชายชรา

   “ก็เยอะอยู่  พ่อหนุ่มจะแบ่งไปกินบ้างมั้ย  ลุงได้มาเยอะวันนี้”  ลุงชรายิ้มจนตาหยี

   “ขอบคุณครับ  แล้วทำไมลุงไม่หาให้เยอะกว่านี้ละครับ”

   “แค่นี้ก็พอกินแล้วพ่อหนุ่ม  ลุงไม่รู้ว่าจะหาไปเยอะ ๆ  ทำไมกัน  นั่งคุยกับลุงก่อนดีไหมพ่อหนุ่ม”  ชายชราใจดีเชิญชวนให้เพื่อนใหม่ต่างวัยนั่งลงใกล้ ๆ

   “ถ้าได้ปลามาเยอะ ๆ  ลุงก็เอาไปขายที่ตลาดสิครับ  พอลุงเอาปลาไปขายลุงก็จะได้เงิน  ลุงมีเงิน  ลุงก็ได้เอาเงินมาซื้อเรือลำใหม่  ที่ใหญ่กว่าเดิม  แล้วลุงก็ออกหาปลาได้มากว่าเดิม  ลุงก็เอาไปลาไปขายเพื่อลุงจะได้เงินมากขึ้นอีก”  นักธุรกิจหนุ่ม  อธิบายขั้นตอนทางการตลาดที่คิดว่าชายชราจะเข้าใจได้ง่ายที่สุด  เขานั่งลงบนเปลยวนอีกหลังใกล้ ๆ  ชายชรา

   “แล้วลุงจะเอาเงินไปทำอะไรล่ะพ่อหนุ่ม”

   “เมื่อลุงมีเงินเยอะ  ลุงอาจเอาไปซื้อบ้านหลังใหญ่ ๆ  เพื่อว่าลุงจะได้มีบ้านหลังใหม่  แล้วจะได้ไม่ลำบากแบบทุกวันนี้ไงครับ  พอลุงมีเงินเยอะ ๆ  คราวนี้ลุงก็นอนสบาย ๆ  ไม่ต้องทำงานอีก”  นักธุรกิจหนุ่มยิ้มอย่างเป็นมิตร  กับแผนที่เขาคิดว่า  เมื่อเปลี่ยนสินค้าเป็นเงิน  เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ  จะมีเงินเยอะตาม

   “สบายเหมือนตอนนี้มั้ยล่ะพ่อหนุ่ม  เหมือนที่ลุงนอนอยู่ตอนนี้ใช่ไหม”   ชายชราหันมายิ้มอีกครั้ง  เมื่อฟังแผนขยายตลาดของนักธุรกิจหนุ่ม

   เงิน . . .

   สำคัญ  แต่มิได้แปลว่าคือทุกอย่างของชีวิต  การที่เราอยากมีเงินมาก  หาได้แปลว่าคนอื่น ๆ  อยากมีมากแบบที่เรามี  ความสุขต่างหากที่สำคัญที่สุด  ความสุขของการใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการต่างหากคือความสุขที่จริงแท้ที่สุดสำหรับตัวเรา

   “โอห์มเอานิทานเรื่องนี้มาจากไหนครับพี่”  อาร์มหันมาถามเมื่อผมเล่าจบ

   “จำไม่ได้เหมือนกันครับว่าเอามาจากไหน  จำได้ราง ๆ  ว่าเคยฟังเรื่องนี้ตอนที่โอห์มเรียนที่เยอรมัน   ซึ่งก็นานมากแล้วนะครับ”

   “ดีจัง  เรียนที่โน่น  แต่คงเหงาแย่  อยู่เมืองนอกเวลาเหงานี่ทรมานสุด ๆ  เลยเนาะ”  ปลายเสียงอีกฝ่ายสั่น ๆ

   “ใช่ครับ  เหงา  เหงามากทีเดียว  และเหงาสุดชีวิต  เมื่อหัวใจของเราบอกว่า  เราอยู่บนโลกนี้เพียงคนเดียว  ไม่มีใครรอบ ๆ  ตัวเราอีก”  ผมนึกถึงเวลาแรกที่ไปอยู่ที่นั่น  มันทรมานมากมายเหลือเกิน

   ความเหงา . ..

   . . . เกาะกินหัวใจเรื่อยมา

   โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่หิมะสีเทาค่อย ๆ  โปรยปรายลงมา  เมืองทั้งเมืองจมอยู่ภายใต้กองหิมะสีหม่น  เหมือนหัวใจที่หม่นหมอง  ยามนึกถึงใครอีกคนที่หายไปในชีวิต

   “ผมก็เหงาตอนไปอยู่เมืองนอกใหม่ ๆ”

   “แล้วตอนนี้โอห์มยังอยู่เมืองนอกอีกหรือครับ”   ผมหันไปถามทั้ง ๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้ว

   “ครับ  ผมเป็นสจ๊วต  ฐานบินอยู่โดฮาครับ”

   “ไม่คิดจะกลับเมืองไทยหรือครับ  เมืองนอกอย่างไรก็ไม่ใช่บ้านของเรา  ตอนที่โอห์มไปเมืองนอก  ตอนนั้นอายุสิบเจ็ดปีกว่า ๆ  ทั้ง ๆ  ที่ไม่อยากไป  แต่เพราะเหตุการณ์บางอย่างทำให้โอห์มต้องไป”

   “หนีรักหรือครับ”

   “ครับ”

   ผมหันไปมองหน้าอาร์ม

   “คนไปอยู่เมืองนอกมีสองจำพวก  อย่างแรก  แสวงหาความก้าวหน้าให้กับตัวเอง  อย่างที่สอง  คนที่หนีหัวใจตัวเอง  ต่างกันเพียงแต่ว่า  คนพวกแรกจะรู้สึกเหงาน้อยกว่า  เพราะเขามีเป้าหมายของเขา  แต่คนจำพวกหลังนี่สิ  อยู่กับความเจ็บปวด  ทรมาน  ทุรนทุรายทุก ๆ  ครั้งที่คิดถึงคนที่เมืองไทย”  ผมเหลือบตามอง  อาร์มแหงนหน้ามองฟ้า  คล้าย ๆ  จะข่มความรู้สึกของตัวเอง

   บาดแผล . . .

   . . . เจ็บปวดเสมอเมื่อโดนแตะ  แม้แค่เพียงปลายเล็บก็เหอะ

   “ผมก็หนีรัก”    เจ้าตัวบอก  หากแววตายังเหม่ออกไปนอกทะเล

   “ครับผม  อาร์มคงเหมือนกับโอห์ม  เพราะเราหนีรักทั้งสองคน  แต่คงไม่เหมือนกันทั้งหมดหรอก  อาร์มอาจจะโชคดีกว่าโอห์มก็ได้”

   “ผมนนี่นะ  โอห์มไม่รู้เรื่องของผม  หากโอห์มรู้  บางทีโอห์มอาจจะคิดว่าเรื่องมันเลวร้ายแบบ . . .”  เจ้าตัวหยุดเพียงชั่วครู่

   “. . . ขอโทษนะ  เรียกว่าเหี้ยสุด ๆ  ก็ได้”  อาร์มก้มหน้า  เอานิ้วเกลี่ยทรายเล่น

   “ขอโทษนะครับ   โอห์มแค่คิดถึงเรื่องโอห์มมากไปหน่อย  ไม่คิดว่ามันจะ . . .”

   “ไม่เป็นไรหรอก  อาร์มแค่สับสนกับชีวิต  ในเมื่อเขาออกไปแล้ว  เขาจะกลับเข้ามาในชีวิตของอาร์มอีกทำไม  อาร์มกำลังจะลืมอยู่แล้ว  อาร์มกำลังจะเดินได้อย่างมั่นคงอยู่แล้ว”

   “ถ้าอาร์มอยากเล่า  ผมยินดีรับฟัง”

   “อาร์มชอบผู้ชาย  คนที่อาร์มรักเป็นผู้ชาย  โอห์มยังอยากจะฟังอีกไหม”  อีกฝ่ายหันกลับมามองหน้าผม

   ทำไมผมจะไม่รู้  ในเมื่อที่ผมเห็น  ที่ผมได้ยิน  มันก็แปลความหมายในตัวอยู่แล้ว . . .

   “แล้วแต่คนเล่าครับ  เพราะที่โอห์มหนีรักก็เพราะผู้ชายเหมือนกัน . . .”  ผมหัวเราะเบา ๆ 

   “. . . เบียร์หมดแล้ว  อีกขวดนะครับ  ตามสัญญา”  ผมหันไปยิ้ม    ก่อนเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์

   “ขวดที่สอง  สำหรับมิตรภาพครับ”   ผมเอียงคอขวดไปหาอาร์มก่อนแตะเบา ๆ

   “คนที่อาร์มรัก    อาร์มอยู่กับเขามาเกือบครึ่งชีวิต   เกือบครึ่งชีวิตที่อาร์มไม่เคยทำเพื่ออาร์มเลย  อาร์มทำเพื่อเขาตลอด”  เสียงนั้นแฝงความเจ็บปวด

   “ของอาร์มเกือบครึ่ง  แต่ของโอห์มเกือบทั้งชีวิต  ตั้งแต่โอห์มจำความได้  โอห์มก็เห็นหน้าเขาแล้ว  ทุก ๆ  อย่างเขาทำเพื่อโอห์มตลอด  มีแต่โอห์มที่ไม่เคยมองถึงหัวใจของเขา  จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อน”   ผมยิ้ม  เมื่อนึกถึงหน้าไอ้ตัวแสบที่ก้าวเท้าลงมาจากรถไฟที่บางซื่อ

   “เราเกือบจะเหมือนกัน”

   “ใช่  ต่างกันตรงที่อีกคนให้  ส่วนอีกคนรับ”  ผมหันไปยิ้ม

   “อาร์มรักเขามาก  มากกว่าตัวเองเสียอีก  อาร์มเคยคิด  คน ๆ  นี้  คือคนที่อาร์มจะฝากชีวิตเอาไว้ได้  แต่มันไม่ใช่เลย  เพราะเมื่อถึงเวลา  เขาก็ทำอาร์มเจ็บปวดแทบตาย  จนอาร์มไม่อยากเห็นอะไรที่เคยไปด้วยกัน  ทุก ๆ  ที่  มันคอยตามมาหลอกหลอนตลอดเวลา  ทุก ๆ  อย่างคล้าย ๆ  ความฝัน  แต่มันคือความจริง  ความจริงที่ว่า  เขาไม่มีอาร์มอีกแล้วในหัวใจ”  คนเล่ากระพริบตาถี่ ๆ 

   “ครับ  ความจริงเจ็บปวดเสมอ”

   “ไม่หรอกโอห์ม  ความจริงอาจจะไม่เจ็บปวดเสมอไป  เขาสัญญากับอาร์ม    และในสัญญามันเหลืออีกแค่ปีเดียวเท่านั้น  แค่ปีเดียวเขาก็จะมีชีวิตตามที่เขาต้องการ  แต่มันไม่ใช่  เขาผิดสัญญา  ทุก ๆ  อย่างที่อาร์มทำเพื่อเขา  มันไม่มีความหมายเลย  เขาไม่เคยมองว่าอาร์มคิดอย่างไรเสียด้วยซ้ำ  ทุก ๆ  อย่างที่อาร์มทำไป  มีค่าแค่ศูนย์”

   “เขาอาจจะมีเหตุผล”

   “เหตุผลอะไรหรือโอห์ม เหตุผลที่เห็นผู้หญิงอื่นดีกว่าสิ่งที่เราทำ  ก็คงใช่  เพราะเรามันไม่ใช่ผู้หญิง  ผู้ชายน่ะ  เมื่อถึงเวลา  เขาก็กลับไปหาสิ่งที่เขาต้องการ  แต่อาร์มอยากรู้  แล้วอาร์มล่ะ  อาร์มจะอยู่ต่อไปอย่างไรมันไม่สำคัญเลยใช่ไหม”

   ผมได้แต่ยิ้มบาง ๆ

   หาก . . .

   . . . เรามองทุก ๆ  อย่างโดยความเป็นกลาง  ความรักมันก่อเกิดกับทุก ๆ  ชีวิต  และไม่มีรูปแบบใด ๆ  ตายตัว  บางคนเกิดมาเพื่อรัก  โดยที่ไม่เคยมองรอบ ๆ  ตัว  ว่าความเป็นจริง  แค่ความรักอย่างเดียวมันไม่สวามารถที่จะอยู่บนโลกนี้ได้  มันอยู่ที่องค์ประกอบอื่น ๆ อีกมากมาย

   “คนรักของอาร์ม  เป็นคนที่ไหนหรือครับ”

   “ปาย . . .”

   “ครับ  อาร์มคิดว่า  เขารักอาร์มไหม”

   “รักแบบพี่นะหรือ”

   “ผมไม่ทราบ  สมมตินะครับ  สมมติเล่น ๆ  คนที่อาร์มรัก  เป็นคนต่างจังหวัด  แล้วสังคมต่างจังหวัดนี่  รับสภาพการอยู่กินของผู้ชายสองคนได้มากน้อยขนาดไหน  อาร์มว่าที่นั่นเขารับสภาพชายรักชายได้ไหม”

   “ไม่หรอก  ต่างจังหวัดแบบนั้น  ชายรักชาย  คนพูดกันตายเลย”

   ผมยิ้ม  อย่างน้อยที่สุด  เรื่องราวแบบนี้มันแทบจะเหมือนกันทุก ๆ  ที่  เรื่องราวของเพศสำคัญเสมอ  และสังคมของคนไทย  คือสังคมที่อยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่  ช่วยเหลือเกื้อกูลต่อกัน  เรื่องราวแบบนี้มักต้องห้ามเสมอ

   . . . การเปิดกว้าง  มีแค่ตามเมืองใหญ่ ๆ เท่านั้น

   “นั่นดิ  อาร์มเคยคิดไหม   หากอาร์มกลับไปอยู่ที่บ้าน  แล้วคนที่บ้านพูดว่าอาร์มเป็นแบบนั้นแบบนี้  อาร์มจะอายไหม”

   “ก็อาจจะอาย”

   “ในทางกลับกัน  คนรักของอาร์มก็อาจจะอาย  แล้วครอบครัวของเขาอีกอาร์ม  พ่อ  แม่  ญาติพี่น้องที่เขามีอีก  เขาจะรับสภาพได้แค่ไหนที่ลูกชายของเขามีข่าวกับผู้ชาย  เขาอาจจะรักอาร์ม  แต่อาร์มต้องไม่ลืมว่า  ชีวิตของอาร์มไม่ได้มีแค่เขา  และชีวิตของเขาไม่ได้มีแค่อาร์ม  แต่ทั้งสองคนต่างก็ยังมีชีวิต  มีสังคมที่แตกต่างกันอีก  โอ้ย  แค่คิดเรื่องสังคม  คนที่เรารัก  ก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้วล่ะครับ  หรืออาร์มว่าไง”

   ผมหันไปมอง  เมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งฟังผมนิ่ง . . .

   “อย่าบอกนะว่า  โอห์มรู้จักคนที่อาร์มรัก  และรู้เรื่องของอาร์ม”  เจ้าตัวมองผม  คล้ายระแวง

   “ไม่เคยรู้จักกันครับ  ไม่เคยคุยกันด้วย  สาบานได้  โอห์มมองจากมุมของคนที่เป็นกลางที่สุดไงครับ”  ผมมองหน้าอาร์ม  อยากให้รู้สิ่งที่ผมบอก  เป็นอย่างที่ผมคุยเอาไว้

   “กลางแบบไหน”

   “แบบที่โอห์มสมมติไง  ผู้ชายบางคนอาจจะอายที่ตัวเองมีข่าวกับผู้ชายด้วยกัน    และความอายคงไม่มากเท่ากับว่า  ต้องแคร์ครอบครัวอีก  พ่อ  แม่  หากพ่อกับแม่  มองเรา  หรือรับฟังเรื่องของเราจากคำพูดของคนในสังคม  อาร์มว่า  คน ๆ  นั้นจะหาทางออกที่จะดับข่าวลือเรื่องนี้อย่างไรดี”   ผมยกขวดนั้นขึ้นดื่มเบา ๆ

   อยากให้ค่ำคืนนี้ทอดยาวออกไปอีก . . .

   . . . แสงจันทร์ยังคงสวยงาม  ไม่อยากจากบรรยากาศแบบนี้ไปนอนเลย

   “ทำไมอาร์มไม่เคยคิดแบบโอห์มว่ะ  จริงสินะ  การจะดับข่าวลือที่ดีที่สุดคือสร้างข่าวใหม่  และจะดีกว่าที่สุดคือข่าวใหม่ต้องเกิดจากวงที่มีข่าวลือ  โอ้ย  ไอ้อาร์ม  ทำไมโง่ขนาดนี้ว่ะ”   อาร์มเอามือตบหน้าผากตัวเองเบา ๆ

   “. . . ขอบใจนะโอห์ม  ขอบใจที่บอก”

   “ยังไม่บอกอะไรเลย  แค่คิดแบบคนกลาง”  ผมยิ้ม

   “นั่นแหละที่อาร์มต้องขอบใจ  ที่ผ่านมา  อาร์มติดในหัวใจที่ว่าทำไมเขาไม่รักอาร์ม  ทำไมเขาทำแบบนี้กับอาร์ม  อาร์มมองแต่ความอยากได้อยากมีของตัวเอง  โดยที่ลืมไปว่า  บางที  คนที่อาร์มรัก  เขาก็ยากมีความรัก  อยากมีความรู้สึกที่เขาคิดเองเหมือนกัน” 

   ผมมองเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนกว่าแสงจันทร์ที่ทอดลงมายังยอดคลื่น  รอยยิ้มนั้นเหมือนคนที่มีความสุข  ปลดปล่อยพันธนาการทั้งหมดในหัวใจของเขาเอง

   “ผมแค่สมมติครับ  อาร์มนะคิดเองได้  แต่เวลาที่ผ่านมา  อาร์มอาจจะรักเขามาก  คาดหวังเอาไว้มากจนอาร์มไม่มองถึงจุดอื่น ๆ เลย”

   “นั่นสิเนาะ  โอห์มว่ายังมีอะไรอีก”

   “โอห์มถามอาร์มนะ  สมมติว่า   คนที่อาร์มรักจำเป็นต้องเลือก  ระหว่าง  อาร์ม  กับ  ความสบายใจของแม่กับ  ข่าวที่มีกับอาร์ม  อาร์มคิดว่า  คนที่อาร์มรักจะเลือกใคร”  ผมหันไปมองหน้าอาร์ม

   อาร์มนิ่งเงียบไปพักใหญ่ . . .

   ผมรอคำตอบด้วยหัวใจระทึก  เพราะบางที  นี่อาจจะเป็นคำตอบของทั้งหมดแห่งความสงสัย  ที่ผมมี  และที่หลาย ๆ  คนก็มีเช่นเดียวกัน

   “เขาเลือกแม่แน่ ๆ”

   “อาร์มไม่เสียใจหรือที่เขาไม่เลือกอาร์ม”

   “ก็คงมีบ้างล่ะนะ  แต่อาร์มอาจจะเสียใจมากกว่าหากเขาเลือกอาร์มแล้วเขาจะทำร้ายความรู้สึกของคนเป็นแม่  อาร์มก็แค่คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขา  ส่วนแม่คือคนที่ให้ชีวิต  อาร์มควรจะดีใจเสียด้วยซ้ำถึงจะถูก  ที่เขาเลือกที่จะรักคนที่ดีที่สุดในชีวิต  และแคร์ความรู้สึกของแม่”

   “อาร์มยังมีโอกาส  อาร์มยังมีความรักรอบ ๆ  ตัวอาร์ม  อาร์มยังโชคดีที่มีคนที่อาร์มรักรายล้อม  แต่โอห์มสิ  สิบแปดปีที่คนที่โอห์มรักหายไป  โอห์มไม่เคยรู้  ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า  เขาหายไปไหน  ทำไมต้องหายไปจากชีวิตโอห์ม  ที่ผ่านมา  โอห์มจมอยู่กับความทรมานเพราะความอยากรู้ว่าทำไมเขาหายไป”  ผมนึกถึงห้วงเวลาที่ผ่านมา  ห้วงเวลาที่อ่อนแอของตัวเอง

   ไม่มีใครรู้อนาคต . . .

   . . . ไม่มีใครมีรูปแบบของความรัก

   “โอห์มอยู่ได้อย่างไร  ไม่เจอกันเลยหรือ”

   “ครับ  ไม่เคยเจอกันเลย  โอห์มเจอกันครั้งสุดท้ายราวสิบแปดปีกว่า  ตอนที่โอห์มไปส่งเขาที่สถานีรถไฟบางซื่อ  แล้วหลังจากนั้น  เขาหายไปจากโอห์ม  จนโอห์มตัดสินใจไปเยอรมัน    แล้วโอห์มเรียนจนจบที่นั่น  ทำงานอีกพักใหญ่  และกลับมาเมืองไทยนี่แหละ”

   “อาร์มไปแค่สองปี  แต่กลับมาบ่อยในปีหลัง  ยังทรมานเลย  คิดถึงเมืองไทย”

   “คิดถึงเมืองไทย  หรือคิดถึงหัวใจที่เมืองไทย”  ผมหันไปยิ้ม

   “อาจจะมีส่วน  แต่ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก  เพราะอาร์มคิดว่า  จะอยู่ที่ไหน  หากเจ็บปวดมันก็เจ็บปวด  การหนีไม่ได้ช่วยอะไร  อาร์มเลยไม่อยากหนีอีก”

   ใครเลยจะหนีหัวใจตัวเองพ้น . . .

   “จะกลับมาอยู่เมืองไทยแล้วใช่ไหม”

   “ตอนนี้  กว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้วล่ะ  ไม่อยากหนีอีกแล้ว”

   “ครับ  อาร์มโชคดีที่ได้เจอคนที่อาร์มรัก  ของโอห์ม  อาจเจอแค่เงาของเขาก็เท่านั้นเอง  แต่โอห์มก็มีความสุขนะ  ที่รู้ว่าเรายังเป็นสิ่งเดียวในหัวใจที่เขาไม่ลืม” 

   ผมนึกถึงเรื่องราวของพี่โน้ต . . .

   . . . คนที่ทำเพื่อผมมาตลอด  คนที่เฝ้ามองผมอยู่เงียบ ๆ  ในมุมที่ผมเองสัมผัสไม่ได้ด้วยกาย  และไม่เคยรู้  มาก่อนหน้านี้

   “ขอบคุณนะครับ  ขอบคุณโอห์มอีกครั้งที่วันนี้โอห์มเข้ามาคุยกับอาร์ม”

   “สงสัย  พระเจ้าคงสงสารคนหนีรักสองคน  เลยขีดมาให้เจอกัน”  ผมหัวเราะเบา ๆ 

   “งั้นอาร์มขอถามโอห์มนะครับ”  อีกฝ่ายเสียงสดใสกว่าตอนแรก

   “ครับผม  ถามได้”

   “ถ้าโอห์มได้เจอคนที่โอห์มรักอีก  โอห์มจะทำยังไง”

   สายลมพัดมาวูบใหญ่  หอบกลิ่นน้ำทะเลมาปะทะใบหน้า  ในเวลาที่อาร์มถามคำถามนี้กับผม คำถามที่ผมเองก็เคยแอบถามตัวเองมาเหมือนกัน  ผมหันกลับไปมองหน้าเพื่อนใหม่  ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

   “โอห์มคงกอดเขาไว้  ขอบคุณที่เขาทำเพื่อโอห์มมาตลอด  ตอนนี้โอห์มคิดได้เท่านี้จริง ๆ  นะอาร์ม  เพราะโอห์มไม่รู้ว่าโอห์มจะพูดอะไรอีก”

   “อยากเจอไหมโอห์ม”

   “อยากเจอ  แต่  ไม่ดีกว่า  หากยังไม่ถึงเวลา  โอห์มไม่อยากเร่ง  เพราะสักวันนึงโอห์มคงได้เจอเขา  สักวันนึงแน่ ๆ  อาร์ม   โอห์มมั่นใจ”  ผมยิ้ม

   ผมรู้ดี . . .

   . . . เมื่อวันนั้นมาถึง  จะเป็นวันที่ผมมีความสุขมากที่สุดในโลก  ผมรอมาสิบแปดปี  รอคนเพียงคนเดียว  แล้วเวลาต่อจากนี้ทำไมผมจะรอไม่ได้  ผมรอได้เสมอ  เพราะคนที่ผมรัก  คงไม่ปล่อยให้ผมรอจนหมดลมหายใจหรอก

   การรอคอยที่แสนทรมานในวันก่อน . . .

   . . . กลับกลายมาเป็นความสุขที่ผมได้รอในวันนี้
   
   



ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #281 เมื่อ06-04-2009 21:06:52 »

...อ่าน แล้วว ก็ทรมาน เหมือน โอห์ม..

เมื่อไหร่จะได้เจอกะพี่โน้ต เนี่ยคร้าบบบ

ใจจดใจจ่อ

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #282 เมื่อ06-04-2009 21:39:32 »

เรื่องอาร์ม เคลียร์ไป

เรื่องโอมละ จะเป็นไงต่อไปหว่า

เฮ้อ


dokjarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #283 เมื่อ06-04-2009 21:45:16 »

:กอด1: :L1: :กอด1:

อาร์มกับโอห์ม....สองคนตามหาหัวใจของตัวเองเหมือนกัน

มุมมองกับความรัก  มุมมองกับชีวิตที่ถูกถ่ายทอดผ่านปลายนิ้วคุณราชบุตร

อ่านแล้วรูสึกดีจัง....แต่มีบางทีแอบเหงาๆ เศร้าซึมไปกับตัวละครด้วยเหมือนกันนะครับ

ตอนนี้มะค่อยหวานเนอะ...ลดน้ำตาลบ้างใช่มั๊ย   กลัวคนอ่านเป็นเบาหวานละซี่

ขอบคุณครับ  สำหรับเรื่องดีๆแบบนี้เช่นเคย

 :pig4: :pig4:
 :z2:

mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #284 เมื่อ06-04-2009 21:47:42 »

เปิดใจกันให้เคลียร์ หุหุ
พระเจ้า (หน้าตาดีมั๊ย เอิ๊กซ์)กำหนดให้คนสองคนที่หนีรัก ได้ตาสว่างขึ้นมาแล้ว
  “ครับ  อาร์มโชคดีที่ได้เจอคนที่อาร์มรัก  ของโอห์ม  อาจเจอแค่เงาของเขาก็เท่านั้นเอง  แต่โอห์มก็มีความสุขนะ  ที่รู้ว่าเรายังเป็นสิ่งเดียวในหัวใจที่เขาไม่ลืม”  
>> ซึ้งอีกแล้ว เป็นความจริงที่คิดถึงเมื่อไหร่ก็เหมือนพี่โน๊ตตัวเป็นโผล่
มาให้จับต้องได้ทุกที มีความสุขใช่มั๊ยโอห์ม  

ชอบเรื่องเล่านักธุรกิจกับชาวประมง  ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
เพราะใช้ไม้บรรทัดคนละอันวัด บางคนยิ่งมีมากยิ่งไม่เคยพอเหอะๆๆ


ขอบคุณคะคุณราชบุตร  :L2:

C2U

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #285 เมื่อ06-04-2009 22:34:03 »

เย้  เรื่องอาร์ม เคลียร์ แล้ว   :m4: 
รอวัน อาร์ม อภัยให้โก   ดีกันๆ น๊า   :กอด1:


แล้วไมโอห์ม  ไม่ไปหาพี่โน๊ตอ่ะ    สงสารพี่โน๊ตนะ   :m17:

nanao

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #286 เมื่อ06-04-2009 22:50:56 »

โหย นึกว่าโอมห์จะไปหาพี่โน้ตสักอีก


ขอบคุณคุณราชบุตรมากคร้าบ ^^

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #287 เมื่อ07-04-2009 04:15:43 »

โอห์มมาช่วยให้อาร์มคิดอะไรขึ้นได้อีกเยอะเลยสินั่น
คำตอบสำหรับการตัดสินใจของโอห์มก้อชัดเจนขึ้นด้วย
รอวันพบกันเท่านั้นพี่โน้ตและน้องโอห์ม
บวก 1 เช่นเคยจ้า

nartch

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #288 เมื่อ07-04-2009 16:47:35 »

:m15:
อ่านแล้วซึ้งงงง น้ำตาจะไหลรอมร่อ...ทำความดีด้วยการช่วยความรักของผู้อื่นอีก
หวังว่าความดีนั้นจะช่วยให้โอห์มได้พบพี่โน๊ตซักที...คิดแล้วขนลุก  :กอด1:

ปล. อาร์ม กับ โอห์ม สับสน ๆๆๆๆ  :m20:

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #289 เมื่อ07-04-2009 16:54:30 »


๑. ผมเหลือบมองโต๊ะตรงกันข้าม  ผู้ชายน่าจะอ่อนกว่าผม . .   
   . . .แต่
   . . .  ผมว่าผมหน้าตาดีกว่าคนนั้นเยอะ 
เขามานั่งนิ่ง ๆ  เอาช้อนคนแก้วกาแฟในมือ 
แต่แปลก แววตาเขาเหม่อ  เหมือนคนที่ค้นหาอะไรสักอย่าง  หรือ  กำลังตัดสินใจอะไรในชีวิต
๒. “ไม่ใช่ครับ  อาร์มนี่นอกจากหน้าตาดียังตลกอีกนะครับ”

ต๊าย ยัยโอห์ม!.......คริคริ
ขอบคุณนะคะ คุณ ราชบุตร
วุ้ย กิต.หมายความว่า ยัยโอห์ม ชมโฉมตัวเอง(เธอสวยแล้ว แต่ชั้นสวยกว่าเธอ)หรอกค่ะ 5555555 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-04-2009 18:54:12 โดย kit »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] รักเอย
« ตอบ #289 เมื่อ: 07-04-2009 16:54:30 »





tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #290 เมื่อ07-04-2009 17:11:02 »



๑. ผมเหลือบมองโต๊ะตรงกันข้าม  ผู้ชายน่าจะอ่อนกว่าผม . .   
   . . .แต่
   . . .  ผมว่าผมหน้าตาดีกว่าคนนั้นเยอะ 


๒. “ไม่ใช่ครับ  อาร์มนี่นอกจากหน้าตาดียังตลกอีกนะครับ”




แปลว่า . . . โอห์มหน้าตาดีกว่าอาร์ม 

กร๊ากกกกก



ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #291 เมื่อ07-04-2009 18:15:58 »

 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:

Ploy-Tawan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #292 เมื่อ07-04-2009 18:24:40 »

บางครั้งผงเข้าตาตนเอง เราก็มองไม่เห็น ต้องให้คนอื่นช่วยดูและเขี่ยออก
ชีวิตมีสองมุมให้มอง
ถ้ามองแต่มุมของตนเอง เราจะไม่รู้เลยว่าอีกคนเขาคิดยังไง
 :L2:

tamtam

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #293 เมื่อ07-04-2009 22:04:58 »

 :L2: :pig4:

charus

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #294 เมื่อ08-04-2009 00:30:05 »

โอร์ม อาร์ม โอร์ม อาร์ม โอร์ม อาร์ม

อ่านจบตอนเซแบบเล็กน้อย
 :really2: :really2:

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #295 เมื่อ08-04-2009 13:52:46 »

.............................

เป็นไปตามกรรม  ที่ทำไว้

.............................

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #296 เมื่อ08-04-2009 20:26:13 »

“สงสัย  พระเจ้าคงสงสารคนไม่สมหวังในรักสองคน  เลยขีดมาให้เจอกัน” 

tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #297 เมื่อ09-04-2009 00:07:58 »




^

^

^


คนไม่สมหวังในรักสองคน . . .

อาร์ม  กับ โอห์ม

หรือ

ตะเอง กับ เค้า  อ่ะ  ที่ร๊ากกกกกกก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-04-2009 00:10:46 โดย ต้นสาย »

ออฟไลน์ light_tao

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-8
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #298 เมื่อ09-04-2009 07:30:33 »

^
^
^
^
^
^

 :m20:   :jul3:  :laugh:  :pigha2:


RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #299 เมื่อ09-04-2009 13:41:41 »





งานหลวง . . . มากมายก่ายกอง


งานราษฏร์ฯ . . . ก็เยอะอ่ะครับ


งานรัก . . .ทุกวี่วัน


เลยมะได้ปั่นต้นฉบับ  แอบอาย   :o8:     :-[   :impress2: 



ปล.  มีครึ่งตอนเอง  รออีกไม่เกิน  ยี่สิบสี่ชั่วโมง . . .(ขีดเส้นตายแบบ . . . ละไว้ในฐานที่เข้าใจ)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด