ตอนนี้อาจงี่เง่าเล็กน้อยนะงับ =_=" แต่ต่อจากนี้ไปได้มันส์และ...
กลางเรื่องจะสนุกมาก ขอบอก >.<
ปล.ตอนนี้เรทแรงนะครับ...ถ้าไม่ชอบก็เว้นๆไปเถอะครับตอนนี้ -.- (ขอโทษน๊า T-T)
บทที่ 13
กลางดึก…เสียงเคาะประตูห้องดังลั่น ชนินทร์สะดุ้งตื่น
สักพัก เหมือนคนทุบรู้ จึงกระแทกประตูเข้ามา
ร่างสูงใหญ่ยืนโอนเอนอยู่ใต้หลอดไฟ ใบหน้าแดงก่ำ สีหน้าเคร่งเครียด สภาพโทรมจนดูไม่ได้
ชนินทร์งุนงง
“คุณ!...”
กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้ง ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ คุกเข่าลง กระชากต้นแขนบางทั้งสองไปแนบตัว
เสียงโซ่ตรวนกระทบกัน
ชนินทร์ที่หวาดกลัวจนตัวสั่นน้ำตาพานจะไหล แต่ทว่า…เมฆินกลับค่อยๆยกข้อแขนสีขาวที่บัดนี้เปลี่ยนเป็นสีแดง มีรอยถลอกจากการถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กคมๆขึ้นมาพิจารณา
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว…สีหน้าของเขา แสดงถึงความเจ็บปวดที่บรรยายออกมาไม่ได้
ชนินทร์ถูกปลดโซ่ออก และอุ้มไปยังห้องใหญ่ วางลงบนเตียง…ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็ว งุนงง
เมฆินถอดเสื้อ เผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่นเรียงตัวสวยสง่างาม ร่างแกร่งค่อยๆโถมกายทับลงมา ชนินทร์ขยับหนี
“อย่า…”
เมฆินไม่ฟัง เขาโจนเข้าจุมพิตอีกฝ่าย ร้อนแรง ประดุจเพลิงจากโลกันต์!
ด้วยความมึนเมา การกระทำจึงไม่รุนแรงมากนัก
ท่ามกลางแสงจันทร์จากข้างนอก…แววตาที่เมฆินมองมา…ชนินทร์เห็นแล้วรู้สึกกลวงโบ๋ในหน้าอก
…แววตาที่ตัดพ้อ แววตาที่เสมือนอยากบอกอะไรบางอย่าง
เมฆินเจ็บปวดที่ไม่สามารถอธิบายความรู้ของเขาออกมาเป็นคำพูดต่างๆได้
ปลดตะขอกางเกง…เผยให้เห็นถึงแก่นกายใหญ่โตที่ตั้งผงาด ความเป็นชายอวบหนาแสดงถึงอารมณ์ของเมฆิน…หากถามชนินทร์คงไม่รู้สึกเขินอายเท่าตอนนี้…ตอนที่เมฆินยืนอยู่ตรงหน้า จ้องมองมาด้วยสายตาเร่าร้อน แก่นกายที่ทำให้เสียวซ่านใจทุกครั้งพุ่งชี้ชูชันมาตรงหน้า ทั้งที่เห็นมาบ่อยครั้ง…
“จับมันซิ…”
เมฆินสั่ง ชนินทร์ทำตามโดยไร้ข้อกังขา
มือเล็กสั่น…มิใช่หวาดกลัว แต่กลับตื่นเต้น…
ชนินทร์ไม่เคยลืม ว่าเขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่ไหน!
ร่างใหญ่โน้มตัวเหนือร่างบาง จับท่อนลำอวบหนาจรดที่ปากทางส่วนอ่อนไหว ดันเข้าไปลึก จนสุด…สร้างเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่แก่ร่างข้างใต้
เมื่อดื่มด่ำกับความร้อนระอุและคับแน่นในรังเพลิงแล้ว…ทุกครั้งที่ถอนกายออกมาจนสุดแล้วขโยกลึกลงไปมิดด้ามใหม่…เมฆินรู้สึกเหมือนจะตายให้ได้ เนื่องด้วยความคับแน่นที่ดูดดึงเขาไว้ กล้ามเนื้อที่สั่นเร่าเร่งตอดจนไม่นานเมฆินก็ถึงจุดหมาย
อีกครั้งที่เมฆินไม่คลายความเกร็งเขม็ง…ชายหนุ่มเป็นชายสุขภาพดี แข็งแรงมาก ตัวหนาใหญ่ของเขานอนราบแล้วมีร่างเล็กเคลื่อนกายตามการชักนำของเขา อยู่บนหน้าขากำยำ และถ่ายทอดความเร่าร้อนอีกรูปแบบหนึ่งให้แก่เมฆิน
มือใหญ่โน้มต้นคองามระหงลงมาตรงแผงอก ป้อนยอดอกสีคล้ำเข้มของตนเข้าปากอุ่น…ชนินทร์หลับตาด้วยความเขินอาย ไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย
เมฆินเร่งจังหวะที่หน้าขาเคลื่อนไหวเร็วขึ้น ชนินทร์แทบจะรู้สึกได้ว่าแก่นกายของเมฆินที่ฝังลึกแน่นอยู่ในตัวขยายใหญ่ขึ้นแทบจะระเบิดยามใกล้ถึงจุดสุดยอด…ในที่สุดความอุ่นร้อนมากมายก็ไหลล้นทะลักออกมาอีกจนเลอะกายทั้งคู่ เมฆินยังคงแช่ลำกายตนเองไว้ท่านั้น
คนนอนราบเงอะงะทำอะไรไม่ถูก เหมือนโดนค้อนทุบจนเห็นดาววิบวับบินว่อนเต็มท้องฟ้า
ยังคงขยับกายต่ออีกสักครู่ ทว่ายิ่งสร้างความเสียวซ่านให้พันเท่าทวีคูณ
จนเกิดเป็นเพลิงกามารมณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เช้าแล้ว…สาย…เที่ยง…บ่าย อากาศภายในห้องร้อนระอุขึ้นมา
เหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อคืน ยิ่งทำให้ชนินทร์งุนงง
จนแม้กระทั่งถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่รู้สาเหตุที่เมฆินบุกเข้ามาหาเขา
มอบบทรักหวานปานน้ำผึ้ง และในขณะเดียวกันก็อันตรายยิ่งกว่ายาพิษ!
เวลาผ่านไปเท่าไรแล้วนะ?...ชนินทร์ไม่รู้ ไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตา
เขามีไข้อ่อนๆ…คงเป็นเพราะกิจกรรมอันยาวนาน ที่ร้อนแรงปนด้วยความเร้าอารมณ์อันแสนหวาน…
เมฆินส่งเสียงครางกระฮึมหนักๆ…เป็นเสียงที่ทำให้ชนินทร์รู้สึกอ่อนยวบไปทั้งตัว
ร่างทั้งสองประสาน แผ่นหลังเล็กถูกทาบด้วยร่างแกร่ง เมฆินตักตวงความรู้สึกต่างๆอย่างสนุกสนาน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า…
จนในที่สุดชนินทร์หมดแรงล้มนอนลง เมฆินยังคงเล้าโลมต่อ กระนั้นชนินทร์ก็รู้สึกเหมือนมีชีวิตกลับขึ้นมาทุกครั้ง
เขาเลวมากมั้ย?...ที่ยอมปล่อยตัวไปกับความรู้สึกดิบเถื่อนเยี่ยงนั้น…
อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเหงื่อไคลและอื่นๆ…ยิ่งทำให้บรรยากาศรอบๆอบอวลไปด้วยกลิ่นแห่งความดิบเถื่อน คละคลุ้ง…และความหลงไหลปรารถนา
ชนินทร์เป็นเครื่องรองรับความใคร่ของเมฆิน ที่ไม่มีวันหยุดหรือรู้จักพอ มอบความรวดเร้าทางใจให้จนจบวัน
เมฆินคงเปรียบเป็นดั่งช้างตกมัน ที่ไม่มีวันหยุดจนกว่ามันจะพอใจ!