เรียนวุ่น ธุรกิจรัก บทที่ 60 (10/11/09) อวสาน --- มีตอนพิเศษมาต่อให้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรียนวุ่น ธุรกิจรัก บทที่ 60 (10/11/09) อวสาน --- มีตอนพิเศษมาต่อให้  (อ่าน 214100 ครั้ง)

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีค่ะ คุณ โน๊อา

วันนี้มาแบบเรียบๆง่ายๆละกันนะคะ

"When you have confidence, you can have a lot of fun. And when you have fun, you can do amazing things."

เวลาที่คุณมีความมั่นใจ คุณสามารถที่จะรู้สึกมีความสุขสนุกสนาน และเวลาที่คุณสนุก คุณสามารถที่จะทำอะไรที่มันอัศจรรย์ได้


เอม
 :bye2:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
^^
^^
วันนี้ได้จ่อก้นหนูเอม  :z2:

ยังไม่ได้อ่านเลย กลับไปอ่านก่อนนะครับ  :กอด1:

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีค่ะ

นี่เอมเองนะคะ จะเอายังไงดีล่ะ คือจะบอกว่าตั้งแต่เอมมาเขียนนิยายในเล้านี้ก็หลายวันเข้าไปแล้ว แต่ยังไม่ได้แนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการเลย เอาเป็นว่าเอมขอใช้โอกาสนี้แนะนำตัวเลยละกันนะคะ

คือความจริงที่เอมเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา เอมมีแรงบันดาลใจมาจากเวลาว่างที่เอมมีอยู่ในวันเรียนธรรมดาแล้วก็วันหยุดเสาร์อาทิตย์ค่ะ แล้วที่หลายคนถามว่าทำไมเอมถึงเก่งภาษาอังกฤษกับรู้เรื่องราวของมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศดีก็เป็นเพราะว่าเอมมาเรียนอยู่ที่อเมริกาค่ะ มหาวิทยาลัยไหนคงต้องขอตัวเก็บไว้เป็นความลับนะคะเพราะอยากได้ความเป็นส่วนตัว

จริงๆจะพูดว่าเรื่องนี้มันจะเป็นนิยายก็ไม่เชิงนะคะเพราะอะไรหลายๆอย่างที่เอมเล่ามาอย่างพวกสถานที่รวมไปถึงตัวละครบางตัวอย่างเช่น หวาน กับ ซู ก็เป็นเพื่อนของเอมเองค่ะ แต่เอมก็ได้ขอพวกเค้ามาลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนไอ้เหตุการณ์ความสัมพันธ์อะไรต่างๆระหว่างแบงค์กับอาร์มนั้น อันนี้เอมแต่งขึ้นมาเองค่ะ ไม่ได้มีเค้ามูลมาจากเรื่องจริงใดๆทั้งสิ้น

เอาเป็นว่าอยากให้ทุกๆคนช่วยติดตามเรื่องนี้กันต่อไปนะคะ ภาคแรกกับภาคสองอาจจะเป็นอะไรใสๆกุ๊กกิ๊กๆน่ารักหน่อยเพราะเอมอยากเล่าให้ทุกคนได้รับรู้ถึงรสชาติของการมาเรียนเมืองนอกรวมถึงความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษด้วยค่ะ เอมคิดว่ามันก็เป็นการดีนะคะที่เราจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆพร้อมกับการอ่านนิยายไปด้วย ประมาณว่าได้ทั้งความสนุกสนานและก็ความรู้ในเวลาเดียวกัน

ส่วนดราม่าข้นๆรับรองว่าภาคสามมีแน่ๆค่ะ อยู่เป็นกำลังใจกันต่อไปนะคะ

ขอบคุณค่ะ

เอม

OISHI

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งตามอ่านจบ ชอบเรื่องนี้จัง
น่ารักดี ชอบรูปแบบการดำเนินเรื่อง
อีกอย่างก้อภาษาอังกฤษได้ฝึกภาษาไปด้วย อิอิ

รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ
เป็นกำลังใจให้  :pig4:

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3998
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 28 – อารมณ์เสีย

มองไปทางด้านซ้ายก็มีแต่ตัวเลข……มองไปทางด้านขวาก็มีแต่ตาราง……มองหน้ามองหลังก็เต็มไปด้วยหนังสือที่กองพะเนินเทินทึกอย่างกับภูเขา…….ให้ตายเหอะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย…….วันนี้เป็นวันที่ผมเครียดที่สุดในรอบปีที่ได้เรียนหนังสือมาเพราะว่ามีงานกลับมาให้ทำเต็มไม่เต็มมือไปหมด….ไหนจะต้องเตรียมสอบต่อปริญญาโทแล้วก็ทำการบ้านที่ค้างจากเมื่อวานอีก……ให้ตายเหอะ ใครมันจะไปเขียนเรียงความ 6000 คำทันภายในสองอาทิตย์ล่ะ ไหนจะต้องมีนำเสนอรายงานวิชา Asian Studies แล้วก็มีสอบเก็บคะแนนของ Biomed อีก สงสัยว่าสุดสัปดาห์นี้ไม่ต้องออกไปไหนแหงๆ

ผมลุกขึ้นไปหยิบกระดาษขึ้นมาสองแผ่นเพื่อมันจดตารางการทำงานของตัวเองว่าจะแบ่งเวลายังไงมั่ง ผมคิดไปก็พูดพึมพำกับตัวเอง……พรุ่งนี้ส่งแบบฟอร์ม…..นัดสัมภาษณ์โปรเฟซเซอร์……พิมพ์รวมเล่ม………เช็กอินเฟิร์สดราฟ….แล้วก็………………..เฮ้อ เหนื่อย นี่ขนาดแค่คิดยังเหนื่อยขนาดนี้ ถ้าตอนลงมือจริงๆจะเหนื่อย
ขนาดไหน ไหนจะต้องมีไทยดินเนอร์กับพวกเพื่อนๆแล้วต้องไปซื้อนู่นซื้อนี่อีก……อยากลาตายสักวันนึง

“อาร์ม ไปกินข้าวกัน”

“แบงค์ไปเหอะ อาร์มยังไม่หิวอะ เดี๋ยวดึกๆอาร์มค่อยลงไปเอา”

“อะๆก็ได้ แล้วอาร์มจะเอาอะไรไหม”

“ไม่อะ” ผมปัดมือไล่มัน

พอไอ้แบงค์มันเดินออกไป ผมก็นั่งทำการบ้านต่อ……

……ติ๊ด ติ๊ด….เสียงโทรศัพท์มือถือของผมสั่นแล้วก็ดังขึ้น

“Hello?”

“เอ่อ อาร์มจ๊ะ นี่ส้มโอนะ ตกลงพรุ่งนี้ห้าโมงครึ่งเจอกันที่หอเรานะ”

“ได้ๆ” ผมตอบไปห้วน

“………เอ่อ……ไม่กวนละ เสียงยังงี้งานยุ่งแน่ๆเลย แล้วเจอกันนะ บายจ้ะ”

 “อื้มๆ แล้วเจอกันพรุ่งนี้ละกัน” ผมพูดจบแล้วเธอก็รีบวางสายไป

………โอ้ย อยากจะตาย ทำไมอะไรๆมันก็ยุ่งไปหมด ว่าแล้วผมก็ลุกขึ้นเดินวนไปวนมาสักสี่ห้ารอบเพื่อคลายเครียด…..แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาสักนิดเลย ใจของผมตอนนี้มันร้อนรนไปหมดแล้ว

............ไอ้แบงค์มันกลับขึ้นมา....

“อาร์ม….ไม่หิวหรอไง”

“อือ….ก็บอกแล้วว่าไม่หิว”

“แน่นะ”

“เอ๊ะ ก็แน่สิ ไม่หิวก็ไม่หิว” ผมเริ่มอารมณ์ไม่ดี

“อาร์มอย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิคร้าบ…………” มันพูดแล้วก็เข้ามากอดผมจากด้านหลัง…………………..…….แค่นั้นมันก็ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะกลับมานั่งทำงานต่อแล้วล่ะครับ

“อือๆ อาร์มขอโทษนะ พอดีงานมันยุ่งๆน่ะ” ผมเลยถือโอกาสอ้อนแล้วก็ลูบคางมันซะ

“ไม่เป็นไรๆ ทำงานไปเหอะ ไม่กวนละคร้าบ” มันพูดเสร็จก็เข้ามาจูบผมอีกที

…………………………………….ติ๊ด….. ติ๊ด…….โทรศัพท์ผมดังขึ้นแล้วก็หมุนไปรอบๆโต๊ะทำงาน…….

“ฮัลโหลพี่อาร์ม เป็นไงบ้างคะ”

“งานยุ่งโคตรๆเลยอะมุก……………….แล้วนี่เพิ่งถึงมหาวิทยาลัยหรอจ๊ะ”

“อืมค่ะ ตอนแรกว่าจะกวนอะไรพี่นิดหน่อย…..แต่เห็นพี่อาร์มยุ่งๆแล้ววันหลังดีกว่า”

“แล้วไอ้นิดหน่อย นี่อะไรล่ะ”

“ก็เพื่อนมุกที่นี่อะดิ….มันคิดจะไปต่อโทที่อเมริกาอะ มันเลยมีเรื่องอยากจะปรึกษาพี่อาร์มหน่อย”

“อ้าวหรอ แล้วเพื่อนคนไหนล่ะ พี่รู้จักปะ”

“ไอ้วินอะ พี่ไม่รู้จักมันหรอกมั้ง อาจจะแค่เคยเห็นผ่านๆ”

“ใครวะ…….. ชื่อไม่คุ้นเลย” ผมทำเสียงงงๆ

“เออ….เอาเหอะ……คือว่ามันอยากจะปรึกษาอะไรอย่างงี้ไง…ตกลงจะให้มุกทำยังไงอะ จะให้มุกเอาเบอร์หรือเมลของพี่อาร์มให้มันดีล่ะ”

“อืมมม…………งั้นเอาเมลของพี่ให้เพื่อนมุกไปก่อนละกันนะ…..เดี๋ยวพี่จะทำงานต่อแล้ว แค่นี้นะจ๊ะ ตั้งใจเรียนล่ะ”

“ค่า สวัสดีค่า”

……….คุยโทรศัพท์กับไอ้น้องสาวตัวดีจบแล้วผมก็นั่งทำงานต่อ แต่สักพักผมก็ต้องถูกขัดจังหวะเมื่อมีใครคนหนึ่งแอดเอ็มผมเข้ามา…..พอผมกดตอบรับเท่านั้นแหละ……….คำถามก็พรั่งพรูเข้ามาเต็ม

 “หวัดเดคับ นี่พี่อามหรอคับ” …..ผมรู้สึกงงๆนิดหน่อยว่าน้องเค้าไม่มีเรียนหรอ…….แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร

“ อื้ม ใช่แล้ว นี่น้องวินที่จะมาถามเรื่องเรียนที่อเมริกาใช่ไหม”

“ช่ายแล้วคับ ว่าแต่พี่อาร์มนี่เก่งจางเลยนะคับ สอบเข้าเยลได้”

“ก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ………..”

“ไม่เท่าไหร่ได้ยางงายอะพี่ สอบติดมหาลัยอันดับต้นๆของโลกอะ สุดยอด”

“ก็พอดีชอบทำกิจกรรมอะไรพวกนี้อะครับ”

“เหรอครับ……. ว่าแต่พี่อาร์มสอบ SAT ได้เท่าไหร่อะค้าบ”

“ก็ได้เลขกับ crit read รวมกันประมาณ 1400 นิดๆมั้งครับ จำไม่ค่อยได้แล้วเพราะมันตั้งนานแหน่ะ”

“โหย สูงจางเลยค้าบ……….. ว่าแต่พี่มีเทคนิคอะไรมั่งอะ”

“ก็ตั้งใจอ่านหนังสือให้มากๆแล้วก็ฝึกอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเยอะๆอะครับ แล้วเดี๋ยวมันก็จะเก่งเอง”

“อ่ะหรอคับ ว่าแต่เรียนที่เยลเป็นยางไงบ้างคับเนี่ย ดีไหม…….”

มาถึงตอนนี้ผมเริ่มที่จะอารมณ์ไม่ดีอีกรอบแล้วล่ะครับ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถามเรื่องอะไรเยอะแยะไปหมด แถมยังพิมพ์ภาษาไทยได้วิบัติมากๆ ขนาดเรียน
อยู่เมืองไทยแท้ๆ…..ผมไม่ชอบเลยเวลาที่คนอื่นเอาภาษาไทยไปใช้ในทางที่ผิดทั้งๆที่มันควรจะสะกดให้ถูก มันเหมือนกับเป็นการไม่ค่อยให้เกียรติภาษาเลย….ผมก็ยอมรับนะว่าบางทีเวลารีบพิมพ์งานก็อาจจะสะกดคำตกไปบ้าง แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดเพราะว่าอยากให้ภาษาไทย ซึ่งเป็นภาษาที่สวยงามมันอยู่กับเราไปนานๆ แต่สำหรับของน้องวินอะไรเนี่ย…..มันไม่ใช่แล้ว แต่ผมก็ต้องทนคุยกับน้องเขาต่อไปเพราะกลัวมันเป็นการเสียมารยาท……………….จนเกือบๆสี่ทุ่มครึ่ง……..

“เอ่อ น้องวินครับ เดี๋ยวพี่ต้องขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ”

“อ๋าๆ ได้ค้าบ ขอโทดนะคับที่มารบกวน” …….เพิ่งจะสำนึกหรอเนี่ย?

“ไม่เป็นไรครับ แล้วไว้คุยกันใหม่นะครับ”

“ค้าบๆ โชคดีนะค้าบ”

นับๆไปมาก็เป็นเวลาชั่วโมงกว่าๆที่ผมใช้เวลาในการคุยกับไอ้น้องวิน….ให้ตายเหอะ อย่างงี้งานเสร็จไม่ทันแน่ๆ

“อาร์ม….งานไปถึงไหนแล้ว” ไอ้แบงค์มันถามแล้วก็เดินเข้ามาหาผม

“ยังไม่ไปถึงไหนเลยอะแบงค์ เนี่ย เพื่อนของไอ้มุกมันมาถามคำถามกับการเรียนโทที่นี่ เลยต้องคุยกับน้องเค้าหน่อย”

“โห น่าสงสารจัง…..” มันว่าแล้วก็เดินเข้ามาหอมผมฟอดนึง

“นั่นสิ เนี่ย ยังเหลืองานอีกเต็มเลยอะ”

“ค่อยๆทำเดี๋ยวก็เสร็จเองแหละอาร์ม ใจเย็นๆ” มันยิ้มให้ผม

“ขอบคุณนะ แบงค์เหนื่อยก็ไปนอนเหอะ”

“ยังไม่เหนื่อยหรอก แบงค์ก็มีงานต้องสะสางเหมือนกัน นั่งทำงานเป็นเพื่อนกันไปนี่แหละ” มันดึงมือผมเข้าไปหอม…

…..แต่ยังไม่ทันที่เราสองคนจะเริ่มทำงานต่อ…………..

“Guys! Wan fell down the stairs!! Can you guys come and help me take her to the clinic? (พวกเรา แย่แล้ว!! ไอ้หวานมันตกบันไดอะ มาช่วยเราพยุงมันไปห้องพยาบาลหน่อยสิ)” ไอ้ซูวิ่งหอบแฮ่กๆเข้ามาในห้อง…..

…………..โอ๊ยไอ้หวานหว่าน……แกจะมาตกบันไดอะไรตอนนี้เนี่ย…………….เฮ้อ ผมกับไอ้สองคนนั่นก็รีบวิ่งไปดูที่บันไดทันที พอไปถึงก็เห็นไอ้หวานหว่านมันนั่งเอามือพาดที่ราวบันไดแล้วก็ทำหน้าเหยเก

“Wan, how the hell on earth did you manage to fall down? (หวาน เธอทำบ้าอะไรถึงได้ลื่นล้มเนี่ย)” ไอ้แบงค์ถาม หน้ามันดูแบบไม่อยากจะเชื่อ

“Well, I was just trying to jump five steps so I was clinging onto the handrail, but then my hand slipped so this is the
result (ก็ ตอนแรกเราอยากจะลองกระโดดบันไดห้าขั้นอะก็เลยเอามือไปจับไว้ที่ราวบันได แต่ทีนี้มือมันลื่น ก็เลยเป็นแบบที่เห็นนี่แหละ)” ไอ้หวานหว่านมันพูด
แล้วก็ทำหน้าเหมือนเด็กเก็บกดที่กำลังจะร้องไห้………ใจนึงก็สงสารมัน……แต่อีกใจก็อยากจะชี้หน้าแล้วก็หัวเราะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย……เล่นอะไรเป็นเด็กๆไปได้

“Okay, let’s take her to the clinic first before she dies (รีบพามันไปที่คลินิคก่อนที่มันจะตายเหอะ)” ผมพูดแล้วก็ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยๆ

“I won’t die that easily!!.............(ฉันไม่ตายง่ายหรอกๆ……….)” ไอ้หวานมันพูดแล้วก็ตามมาด้วยคำด่าอีกเป็นพรวนๆจนผมแทบจะฟังไม่ทัน……….จะตายไม่ตายแหล่แล้วยังไม่วายปากดีอีกไอ้นี่

พวกเราพามันไปที่คลินิกเสร็จก็ต้องนั่งรอมันทำแผลแล้วกว่ามันจะพยุงมันกลับมาก็ล่อเข้าไปเที่ยงคืนกว่าๆแล้ว……

งานการไม่ได้ทำกันแล้ว………ผมแทบจะเป็นบ้า………..มันช่างเป็นวันที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายเสียจริงๆ……


tbc

===========================================================================

สวัสดีค่ะ เอมค่ะ

ขอบคุณทุกคนนะคะสำหรับคอมเม้นท์แล้วก็กำลังใจมากมาย....พักนี้เอมอาจจะไม่ได้เข้ามาอัพบ่อยนะคะเพราะว่างานเยอะมาก แล้วที่เขียนไว้ในสต๊อกมันก็เกือบหมดแล้ว ยังไงก็แล้วแต่ จะพยายามมาลงทุกวันละกัน อย่างน้อยวันละตอนก็ดี

ส่วน วลีเด็ดๆ กับอังกฤษวันละคำสองคำ

"life is not measured by the breaths we take, but by the moments that take out breath away." o13

แปลเป็นไทยแบบไม่ตรงตัวได้อย่างงี้ค่ะ.........

"ชีวิตไม่ได้วัดด้วยจำนวนครั้งของการหายใจ แต่วัดด้วยจำนวนครั้งที่อะไรบางอย่างเอาลมหายใจของเราไป"

มันก็คือหมายความว่า คุณค่าของชีวิตมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความยาว แต่มันขึ้นอยู่กับความคุ้มค่าในการใช้ชีวิตของเรา....

อีกอันนึง

"In theory, there is no difference between theory and practice. But, in practice, there is."

"ตามภาคทฤษฎีแล้ว มันไม่มีความแตกต่างระหว่างภาคทฤษฎีกับภาคปฏิบัติ แต่ในภาคปฏิบัติ มันมี" :m12: :oni2:

enjoy your life na ka

เอม

 :bye2:



ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
หวัดดีค่าเอม เห้นตารางงานอาร์มแล้วแทบจะสลบแทนเป็นเราร้องไห้โฮไปแร้ว

เอมเรียนก็สู้ๆนะคะ  :3123:

mma419109

  • บุคคลทั่วไป
    บรรยากาศอบอุ่นดีจัง  มันจะตึงเครียดตอนเรียนจบหรือเปล่าเนี่ย

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
เพิ่งเป็นมาเหมือนกัน ยุ่งจนเผลอไปเหวี่ยงคนอื่นเนี่ย พอคิดได้ก็ทำไปแล้วอ่ะ ไม่น่าเลยตู  :sad4:

ออฟไลน์ tutu

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
 :m20: :m20: :m20:gเคยเป็น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
+1 ให้น้องเอมนะคะ พี่เคยเป็นเหมือนกันอารมณ์เสียเวลางานยุ่งแถมยังมีคนอื่นมาคอยรบกวนเวลา
แล้วเป็นเรื่องจริงเลยนะคะเวลาที่ไม่อยากให้ใครมารบกวนมักจะมีคนเข้ามารบกวน มาทีละหลายคน
ผลัดกันเข้ามา แต่เวลาที่ว่างกลับไม่มีใครเข้ามา มันน่า.....จริง ๆ เฮ้อ คนเรา ต้องปลงละมั้ง บอกน้องอาร์ม
ต้องปลงให้ได้ค่ะ จะคอยตอนต่อไปนะคะ  :กอด1: น้องเอมฝากไปถึงอาร์มกับแบงค์ด้วย

andyus1

  • บุคคลทั่วไป
หร่า จะเล่นกายะกำซะงั้น

ผลเลยเปนจะอี้ หง่อยยย  o22

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเลยนะ หนูเอม

เป็นกำลังใจให้นะครับ +1 ให้อีกด้วย ทางอเมรีกายังหนาวอยู่ไหมครับ

บ้านเรา ร้อนระเบิด  :z2:

zilveria

  • บุคคลทั่วไป
ชอบสำนวนอันหลังอะคับ

โดนเต็ม ๆ เหอ ๆ

133113

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้พี่เอมเด้อ
 :กอด1:

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 29 – จะไหวเหรอ

วันศุกร์ตอนเย็นมันควรจะเป็นเวลาที่ทุกคนออกไปเดินเล่นในศูนย์การค้าหรือว่าหาอาหารอร่อยๆกินอย่างมีความสุข แต่นี่ผมต้องมานั่งทำงานอยู่ในห้องนอนของตัวเอง หวัดก็ยังเป็นอยู่นิดหน่อยแถมยังมีเรื่องให้เข้ามากวนใจอยู่เรื่อยๆตลอดเวลา นี่ยังนับว่าเป็นบุญของผมที่วันรุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์ ยังพอมีเวลาให้สะสางงานมั่ง ไม่งั้นคงมีโอกาสเรียนไม่จบแหงๆ……. ขายหน้าคนอื่นเค้าแย่……. ผมนึกขึ้นได้ว่าอีกครึ่งชั่วโมงมันก็ได้เวลานัดไทยดินเนอร์ของบรรดาคนไทยทั้งหลายที่เยลแล้ว แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์ที่อยากจะไปร่วมสนุกกับเพื่อนๆเลยเพราะมันเหนื่อย อยากนอนมากกว่า

…………..

……

แกงเขียวหวาน……ไข่เจียวกุ้งสับ………..ผัดไทยทะเล………….หมูสะเต๊ะ………..ไข่พะโล้………ข้าวสวยร้อนๆ………...อาหารเหล่านี้ได้ถูกจัดไว้บนโต๊ะอย่างสวยงาม รอบๆข้างมีเพื่อนคนไทยของผมเดินคุยกันไปคุยกันมาอย่างสนุกสนาน ประมาณว่าไม่ได้เจอหน้ากันมาสักห้าปี…..

“อาร์ม กินเยอะๆนะ จะได้มีแรงทำงานต่อ เห็นบ่นว่างานยุ่งๆ” ส้มโอพูดขึ้น

“นั่นสิคะ พี่อาร์ม ใกล้จะจบแล้วก็งานเยอะอย่างงี้แหละค่ะ สู้ๆนะคะ” น้องเค้ก รุ่นน้องปีหนึ่งพูดขึ้น

“คร้าบๆ……หืม ใครทำแกงเขียนหวานเนี่ย อร่อยจัง” ผมถาม

“………..อ๋อ มัตทำเองแหละคร้าบ แต่มีไอ้ฟางมันช่วย” น้องมัตกับน้องฟางเป็นรุ่นน้องปีสาม

“อื้อๆ” ผมว่าแล้วก็ยกนิ้วโป้งชม…เยี่ยม….

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมผมถึงไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่…..อาจจะเป็นเพราะว่างานเยอะด้วย

……………..

“อ้าวว่าไงทุกคน โทษทีนะที่มาช้า” เสียงไอ้แบงค์ดังขึ้นมา

“มาๆแบงค์มากินข้าวกัน” ส้มโอพูดแล้วก็กวักมือเรียกมัน

“โห น่ากินทั้งนั้นเลยอะ……….”มันเอาลิ้นเลียริมฝีปาก ส่วนตาก็จ้องอาหารอย่างไม่ยอมลดละ……….

“ท่าน่ากินก็กินเยอะๆนะพี่แบงค์” น้องมัตพูดแล้วก็ยิ้มให้ไอ้แบงค์มัน

“อยู่แล้วครับน้อง………” และแล้วไอ้แบงค์มันก็จ้วงอาหารเข้าปากอย่างอร่อย

………….

“อาร์ม ทำไมดูไม่สดชื่นเลยอะ” แบงค์มันหันมาถามผม

“….ป่าวหรอก อาร์มเพิ่งตื่นอะ มันเลยรู้สึกเหนื่อยๆ” ผมพูดแล้วก็นั่งเขี่ยข้าวในจานเล่น

“อืมๆ เดี๋ยวกลับไปที่ห้องค่อยไปนอนต่อละกัน” มันพูดแล้วก็ยิ้มให้ผม…ประมาณว่าเข้าใจในความรู้สึกของผมเป็นอย่างดี

……………………………………………….

ผมกลับไปถึงห้องก็นอนหลับไปงีบนึงแล้วถึงตื่นมานั่งพิมพ์งานต่อ….แต่แล้วก็ต้องมีอะไรมาขัดขวางจนได้……

“เพ่อาม อยู่ปะคับ” น้องวินทักผมขึ้นมาในเอ็ม

“อยู่ครับ มีอะไรหรอ” ให้ตายเหอะ…….วันนี้ผมจะต้องมาเสียเวลาคุยกับน้องวินอีกเท่าไหร่เนี่ย

“ทามอารายอยู่อ่ะคับ”

“ก็กำลังนั่งพิมพ์งานอยู่อะครับ”

“รบกวนปะคับเนี่ย”

“ไม่หรอกครับ” ผมตอบไปตามมารยาท

“เอ่อคับ….. พี่อามอยู่ที่เยลมีแฟนปะคับเนี่ย”


“อ๋อ ไม่มีหรอกครับ” ขืนบอกว่ามีแฟนเป็นผู้ชายผมได้ซวยกันพอดี……ไอ้มุกรู้มันคงช็อก

“เหรอคับ”

“ครับ”

“แล้วพี่ชอบใครที่นั่นบ้างปะ”

“ก็ไม่มีนะครับ ถามทำไมหรอ” ผมเริ่มอารมณ์บูดอีกแล้ว……..ยังไม่สนิทกันเลยมาถามเรื่องส่วนตัวแบบนี้อีกแล้วเหรอเนี่ย

“ป่าว แค่สงสัยน่ะคับ”

“ครับๆ”

น้องวินมันก็ถามผมเรื่องไร้สาระต่อสักครู่แล้วผมก็ขอตัวมาพิมพ์งาน แต่ยังไม่ทันที่สมาธิผมจะกลับมาเต็มที่ ไอ้แบงค์มันก็เดินเข้ามาไซ้ที่คอผม…………………….

“ตะกี้คุยกับใครน่ะอาร์ม”

“ก็เพื่อนของไอ้มุกคนเดิมนั่นแหละ”

“อีกแล้วหรอ ทำไมคุยกันบ่อยจัง เมื่อคืนก็เพิ่งคุยกันไป…….” มันทำเสียงไม่พอใจ

“ก็น้องเค้าเข้ามาถามเรื่องมหาลัยเนี่ย…….” ผมเริ่มหงุดหงิดบ้าง

“แน่ใจว่าไม่ได้จีบกันอยู่…………ที่อาร์มงานยุ่งๆเนี่ย แบงค์ว่าอาร์มมันแต่หว่านเสน่ห์ให้คนอื่นมากกว่ามั้ง” มันแซวผมเสร็จแล้วก็ทำหน้ากวนตีนใส่…………

“………ไม่ตลกนะแบงค์ ทำไมถึงคิดว่าอาร์มเป็นคนอย่างงั้นอะ” ผมน้ำเสียงซีเรียสแล้วก็จ้องหน้ามันตาไม่กระพริบ

“………….โหยๆ แบงค์ล้อเล่นน่ะคร้าบ อย่าโกรธสิ” มันพูดแล้วก็เดินเข้ามาหอมผม

“……ทีหลังอย่าพูดแบบนี้อีก……….ไม่งั้นอาร์มทำจริงๆแน่”

“อื้มๆ แบงค์ขอโทษนะ” มันทำหน้าหงอยๆ

“ไม่เป็นไร แบงค์ไปทำงานต่อเหอะ……………..” พูดเสร็จผมก็หันกลับมาสนใจงานต่อ

ตอนนี้ก็เคลียร์งานของเก่าไปได้ส่วนนึงแล้ว ยังมีเหลืออีกบางส่วนที่มันต้องใช้เวลาในการออกไปสัมภาษณ์พวกอาจารย์แล้วก็ให้พวกเพื่อนๆช่วยตอบแบบสอบถามให้ซึ่งพอได้คำตอบกลับมาก็ต้องมาวิเคราะห์มันต่อ….ยุ่งยากพอสมควรเลยทีเดียว………ไอ้แบงค์ตอนนี้มันก็อ่านหนังสือสอบเตรียมเข้าโทของมัน….ส่วนของผมยังไปไม่ถึงไหนเลย….ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าเราสองคนยังงานยุ่งบ่อยๆจะมีเวลามาเติมเต็มความสุขให้กันบ่อยๆหรือเปล่า……เพราะวันลาจากมันก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ……………


tbc

=========================================================================

วลีเด็ด

"You can avoid reality, but you cannot avoid the consequences of avoiding reality."
คุณสามารถหลีกหนีความเป็นจริง แต่คุณไม่สามารถหลีกหนีผลกระทบของการหลีกหนีความเป็นจริง

เด็ดไหมคะ? อิอิ

reality = ความเป็นจริง
avoid = หลบหลีก บ่ายเบี่ยง
consequences = ผลกระทบที่ตามมาจากการทำอะไรบางอย่าง

เพราะฉะนั้น ก่อนจะทำอะไรคิดให้ดีก่อนนะคะ  :bye2:

เอมรักทุกคนค่ะ  o13


zilveria

  • บุคคลทั่วไป
เด็ดค้าบ

 o13

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
555 ดึกแล้วยังมาอ่านอีกหรือคะคุณ Zilveria

เดี๋ยวไปกินข้าวเที่ยงละ อิอิ
ขอบคุณที่อุตส่าห์มาให้กำลังใจกันดึกดื่นนะคะ  :bye2: o13

andyus1

  • บุคคลทั่วไป
หร่า มีมารมาผจญแระ

หุหุ ต้องรีบจัดการเว้ย

ชักช้า โดนหมาคาบไปแดรกน่า  :3123:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
งานจะเข้าละไม่ว่า

ชอบวลีส่งท้าย ขอบคุณมากครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
...
...
วลีเด็ด
"You can avoid reality, but you cannot avoid the consequences of avoiding reality."
คุณสามารถหลีกหนีความเป็นจริง แต่คุณไม่สามารถหลีกหนีผลกระทบของการหลีกหนีความเป็นจริง

เด็ดไหมคะ? อิอิ


เด็ดค่ะ เด็ดมาก โดนใจดี มันเป็นความจริง ที่เราต้องเผชิญ

เป็นกำลังใจให้น้องเอม เช่นเคยจ้ะ  :L2:

ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
น้องวินนี่แอบหลงเสน่ห์พี่อาร์มป่าวเนี่ย เข้าใจอารมณ์อาร์มเลย มาจีบตอนอารมณ์บ่จอยเพราะเครียดเรื่องงาน แบบว่าไม่ใช่เวลา 555555

คุณเอมก็ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยน้า

วลีเด็ดทุกตอนเลย บาดเลือดซิบๆ

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
แวะมารายงานตัวก่อนเข้านอนค่ะ นี่อเมริกาก็ 5 ทุ่มนิดๆละ อิอิ เดี๋ยวตอนต่อไปพรุ่งนี้ลงให้ค่ะ

ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะคะ อิอิ ดูแลตัวเองดีๆกันด้วยละค่ะ  :-[

เอม

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 30 – งานบอล

อาทิตย์นึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว……….ทุกๆอย่างเป็นไปอย่างเรียบง่าย งานที่เคยล้นมือก็ค่อยๆลดลงจนเหลือไม่มากนัก ตอนนี้ผมเลยมีเวลามานั่งทบทวนพวก GRE เพื่อเตรียมต่อปริญญาโท….ถึงแม้ว่าผมอาจจะออกมาฝึกงานก่อนหลังจากจบปริญญาตรีจากเยลแล้ว แต่สอบไว้มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร……..
 สิ่งๆหนึ่งที่ตอนนี้ทุกคนในเยลรอกันอย่างจดจ่อก็คืองานแข่งขันเตะบอลระหว่างมหาวิทยาลัยยักษ์ใหญ่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ไอวี่หลีก ของอเมริกา ซึ่งนั่นก็คือ เยล กับ พริ้นซ์ตั้นนั่นเอง……………………….. ไอวี่หลีกมันเป็นองค์กรที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาซึ่งรวมไปด้วยมหาวิทยาลัยแปดมหาวิทยาลัยในอเมริกาที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องคุณภาพการเรียนการสอนแล้วก็ทางด้านกีฬาอีกต่างหาก ซึ่งก็ประกอบไปด้วยมหาวิทยาลัยชื่อดังทั้งนั้น เช่น ฮาร์วาร์ด เยล คอร์แนล โคลัมเบีย พริ้นซ์ตั้น ยูเพน ดาทมัธ แล้วก็ บราวน์…….

งานที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้เป็นนัดระหว่างเยลกับปรินซ์ตั้นที่เป็นคู่แข่งหัวเรือหัวต่อกันมาตลอด……ปีนี้งานบอลได้ถูกจัดขึ้นโดยมีเยลเป็นเจ้าภาพแล้วก็ถูกจัดขึ้นที่สนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในตัวของมหาลัยเยลที่ชื่อว่าเยลโบว์ ดีไซน์ของมันเป็นเหมือนกับถ้วยกลมๆแต่ว่าข้างในมันก็เป็นลู่วิ่งแล้วก็เป็นสนามบอลเหมือนกับสเตเดี้ยมทั่วๆไป ขนาดของมันก็ใหญ่พอสมควร จุคนได้แปดหมื่นกว่าคน……….

เวลาที่มีงานบอล บรรยากาศในมหาวิทยาลัยมันจะคึกคักมากเพราะนักเรียนต้องมีออกมาซ้อมเต้นกับเดินขบวนอะไรต่างๆ….ไหนจะต้องทำป้ายเชียร์แล้วก็ชุดเครื่องแบบต่างๆ…เรียกว่าวุ่นวายกันพอสมควร ไอ้สองสาวกับไอ้แบงค์มันก็ไม่ยอมน้อยหน้า…หยิบเอาพวกสีต่างๆมาซ้อมเพ้นท์ตามใบหน้าอะไรของพวกมันก็ไม่รู้ ผมเห็นแล้วก็รู้สึกปวดหัวกับพวกมันจริงๆ จะว่าไปแล้วมันก็ทำให้ผมนึกถึงงานกีฬาสีที่บ้านเรานะครับ….แต่ที่นี่บรรยากาศมันก็จะแตกต่างไป ได้ความรู้สึกอีกแบบนึง…….ต่างยังไงผมก็พูดไม่ค่อยจะถูก

…………….

“Oh my god guys!! I’m really excited for tomorrow. I’m so sure we’re gonna own! (ให้ตายเหอะ ฉันตื่นเต้นจะแย่อยู่แล้วเนี่ย ยังไงพวกเราต้องชนะแน่ๆ)” ไอ้ซูมันวิ่งแจ้นเข้ามาในห้องผม

“Honey, what on earth are you not excited for? (ที่รักจ๊ะ มีอะไรบ้างในโลกนี้ที่ทำให้เธอไม่ตื่นเต้น)” ไอ้แบงค์พูดแซว

“Well, seeing your disgusting face! (ก็เห็นหนังหน้าแย่ๆของแกไงล่ะ)” ไอ้ซูพูดจบก็ทำท่าจะเดินเข้าไปตุ้บหลังไอ้แบงค์แต่ผมก็ยกมือห้ามเอาไว้ก่อน…..ไม่งั้นเป็นเรื่องยาว

……………………………

“Oh my god! I’m so excited! We’re so gonna win! (ให้ตายเหอะ พระเจ้าช่วย ฉันโคตรตื่นเต้นเลย พวกเราชนะแน่ๆ)” ไอ้หวานหว่านวิ่งเข้ามาในห้องแล้วก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดอีกคน…….ลอกแบบกันมาเป๊ะๆ……….ถึงว่าล่ะ สองคนนี้มันคบกันได้นาน

“Wan, do you realize the way you scream sounds like someone who accidentally became pregnant (หวาน เธอรู้ตัวปะว่าตอนเธอตะโกนเนี่ย มันเหมือนคนที่อยู่ดีๆก็ตั้งท้องขึ้นมาไม่มีผิดเลยอะ)” ไอ้แบงค์พูดแล้วก็ส่ายหน้า

“Whatever! (ไม่สน!)” ไอ้หวานหว่านพูดเสร็จก็เชิดหน้าแล้วก็เข้าไปกรี๊ดกร๊าดกับไอ้ซูต่อสองคน…..คุยกันเรื่องจุกจิกว่าพรุ่งนี้จะแต่งตัวกันยังไงบ้าง….ผมล่ะหน่ายกับพวกมัน…………. ไอ้สองสาวมันก็นั่งคุยที่ห้องของพวกเรากันจนดึกดื่นจนผมกับไอ้แบงค์เริ่มหูชา

“Excuse me madam, do you have a clue what time it is already? (ประทานโทษนะครับคุณนายทั้งสอง พอจะรู้บ้างไหมเนี่ยว่ามันกี่โมงแล้ว)” ไอ้แบงค์มันเริ่มบ่นๆแล้วครับ มันคงรำคาญ

“Almost midnight, why? (ก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้วอะ ถามทำไม)” ไอ้หวานหว่านตอบแล้วก็หันไปคุยกับซูต่อ

“And do you know what time we have to be ready by tomorrow? (แล้วรู้ไหมว่าพรุ่งนี้ต้องพร้อมตั้งแต่กี่โมง)” ไอ้แบงค์ถามต่อ มือมันก็ยืนท้าวสะเอว

“Well around 8?................ But who cares? We are planning not to sleep tonight! (ก็แปดโมงมั้ง แต่ไม่สนหรอก ยังไงคืนนี้ก็กะจะไม่นอนอยู่แล้ว)” ไอ้ซูเสนอหน้ามาตอบมั่ง…แถมยังตอบได้แบบหน้าด้านมากๆ

“……..Yea, but the two of us need to sleep, so go away!! (ใช่ ถูก แต่เราสองคนต้องการนอน ไปไกลๆเลย)” ไอ้แบงค์วีนพวกมันสองคน

“You guys need to sleep or wanna do…………..? (ต้องการนอนหรือว่าอยากทำ……….)” ไอ้หวานหว่านพูดหน้าตากวนตีนแล้วก็จูงมือไอ้ซูออกไป ก่อนไปก็ไม่วายโผล่หน้าเข้ามาในประตูแล้วก็แลบลิ้นปลิ้นตาให้พวกเราสองคน

……………………..

“อาร์ม.............แบงค์ว่าเราทำอย่างที่ไอ้หวานมันพูดดีมะ” มันพูดแล้วก็ยิ้มแบบเจ้าเล่ห์

“แบงค์ อย่ามาทะลึ่งแถวนี้ เดี๋ยวอาร์มซัดเลย”

“อะไรกันอาร์ม แบงค์หมายถึงการบ้านหรอก เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว” มันหัวเราะเยาะผม

ผมทนหมั่นไส้มันไม่ไหวก็เลยเดินเข้าไปกอดแล้วก็หยิกหน้าท้องมันทีนึง

“โอ๊ยๆๆ …..ปล่อยเถอนะคร้าบอาร์ม…… แบงค์ยอมแล้ว” มันพูดแล้วก็พยายามจะเอามือผมออก

“คราวหลังเนื้อช้ำแน่ๆ” ผมขู่มัน

“คร้าบๆ ปะ ไปนอนกันเหอะ” มันว่าแล้วก็เข้ามาจูบผม

“อื้มๆ พรุ่งนี้อย่าลืมตั้งนาฬิกาปลุกด้วยนะ ของอาร์มถ่านมันหมดแล้ว ยังไม่ได้เปลี่ยนเลย”

……………………………………………….

คนมากมายหลายหมื่นคนค่อยๆแห่กันเข้ามาที่สนามกีฬาเยลโบว์ ภายนอกสนามมีผู้คนมากมายกำลังทำการซื้อขายขนมนมเนยต่างๆ แล้วก็พวกอุปกรณ์ตกแต่งทั้งหลาย ผมยังจำเหตุการณ์เมื่อสองสามปีมาแล้วตอนที่มีงานบอลระหว่างเยลกับฮาร์วาร์ดได้ดี….มันเป็นอะไรบางอย่างที่ผมนึกถึงทีไรก็ต้องขำตลอดแล้วก็รู้สึกภูมิใจในตัวมหาวิทยาลัยของผมมาก

….. เรื่องมันก็มีอยู่ว่ามีนักศึกษาของทางมหาวิทยาลัยเยลเนี่ย ได้ทำการวางแผนไปเจาะข้อมูลการนั่งของนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมา แล้วทีนี้ทางเยลก็ได้ขอให้ความร่วมมือในฐานะที่เราเป็นเจ้าภาพว่าจะให้นักศึกษาของฮาร์วาร์ดถือการ์ดคนละใบซึ่งเป็นสีแดงกับสีขาวสลับกันไปกันมาเพื่อให้มันออกมาเป็นคำว่า “HARVARD” เพื่อที่เวลานักบอลมองมาจะได้มีกำลังใจ……แต่ที่ไหนได้ ทางเราได้สลับการ์ดออกมาเพื่อให้มันเป็นคำว่า “WE SUCK” จึงทำให้เกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตหลังจากการแข่งขันเสร็จ…..มีการด่าทอมาทางเน็ตอะไรอย่างงี้บ้างล่ะ….แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาชกต่อยอะไรกัน…..ซึ่งมันก็กลายเป็นเรื่องขำๆเมื่อกาลเวลาผ่านไป

…………………..

ก่อนที่จะทำการเริ่มการแข่งขันก็มีการเดินพาเหรดต่างๆ………เยลมีสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยเป็นหมาบูลด๊อกที่ชื่อว่า Handsome Dan ซึ่งทุกปีมันจะต้องมาเป็นตัวนำขบวนพาเหรดทุกครั้ง….หมาจริงๆตัวเป็นๆเนี่ยแหละครับ…..ซึ่งก็เรียกเสียงเฮฮาจากผู้ชมได้มากมายพอสมควรเพราะว่ามันน่ารักน่าชังมาก ส่วนทางพริ้นซ์ตั้นก็เอาคนแต่งตัวเป็นเสือโคร่งแล้วก็นำมาเป็นตัวนำขบวนพาเหรดของพวกเค้า………….
การแข่งขันในนัดนี้เป็นไปด้วยความสนุกสนานเพราะทั้งสองทีมสูสีกันมาก ไอ้สองสาวมันไม่ค่อยได้สนใจฟุตบอลเท่าไหร่หรอกเพราะว่ามันมัวแต่มองดูหนุ่มๆจากพริ้นซ์ตั้นตาเป็นวาว…..แต่ปากพวกมันก็ยังไม่วายกรี๊ดกร๊าดไปตามพวกเขา ส่วนไอ้แบงค์มันก็นั่งเชียร์อย่างใจจดใจจ่อแต่สุดท้ายแล้วมันก็ต้องมีอันอารมณ์เสียเมื่อเยลพ่ายให้กับพริ้นซ์ตั้นไป 1-2

……แต่มันก็เป็นปกติที่ส่วนใหญ่เยลจะแพ้การแข่งขันบอลกับเค้าตลอด……..เดี๋ยวไว้ค่อยรอเก็บคะแนนกับการแข่งขัน Ice Hockey ละกัน…..รับรองว่าเยลกินขาด


Tbc

======================================
การบ้านเพิ่งเสร็จ เลยมาโพสค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2009 14:19:38 โดย foozeballz »

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกว่าตอนๆนึงมันสั้นมากๆเลยนะเนี่ย

ขนาดพิมพ์ใน word เอมว่าเยอะแล้วนะ  :sad4:

สงสัยต้องพิมพ์เพิ่มซะแล้ว

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 31 –  Unknown chapter

“แบงค์ครับ ยังไม่นอนอีกหรอ นั่งหน้ามุ่ยมาตั้งแต่สองทุ่มแล้วนะ เป็นอะไรรึป่าว”

“ป่าวหรอกอาร์ม งานมันเยอะอะ ไหนจะสอบอยู่แล้วแถมพ่อเรายังมาไม่สบายอีกอะ เฮ้อ….” มันถอนหายใจแล้วก็มองออกไปนอกหน้าต่าง

“อ้าว จริงสิ แล้วพ่อแบงค์เป็นอะไรอะ” ผมเดินเข้าไปตบหลังมันเบาๆ

“ก็ตะกี้แม่โทรมาอะ เห็นเค้าบอกว่าความดันขึ้นสูงอะไรอย่างงี้ คงเครียดๆอะแหละ”

“อื้ม ไม่เป็นไรหรอก แบงค์อย่าคิดมากนะ เพราะเดี๋ยวอีกไม่กี่เดือนแบงค์ก็จะได้กลับไปอยู่กับพ่อกับแม่แล้วนิ”

“แต่มันก็เป็นเวลาสั้นๆอะ ไหนเราจะต้องไปเรียนโทอีก”

“เอาเหอะน่า อย่าคิดมากเลย ตอนนี้แบงค์ตั้งใจอ่านหนังสือแล้วก็ทำข้อข้อสอบให้มันดีๆก่อนจะได้ไหม” ผมเห็นมันคิดมากก็เลยเดินเข้าไปนวดหลังมันให้

“ขอบใจนะอาร์ม นี่ถ้าแบงค์ไม่ได้อาร์มมาช่วยเป็นกำลังใจให้แบงค์ก็คงจะยอมแพ้แล้วแหละ”

“ไม่ได้นะแบงค์ ยังไงแบงค์ก็ต้องสู้ต่อไป………..อาร์มสัญญาว่าอาร์มจะยืนอยู่เคียงข้างแบงค์เสมอ”

พูดเสร็จผมก็กอดมันจากด้านหลัง….พักนี้รู้สึกว่าไอ้แบงค์มันจะผอมๆไปเหมือนกันเพราะมันนอนดึกแถมกำลังกายก็ไม่ค่อยได้ออก

“แบงค์ อาร์มว่าหลังจากสอบเสร็จเราไปออกกำลังกายทุกวันกันเลยดีไหม เนี่ย แบงค์ผอมไปเยอะเลยนะ นอนก็ดึก…..เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาอีกหรอก”

“อื้มๆ พอสอบเสร็จก็จะสบายแล้วล่ะ” มันพูดแล้วก็หันไปทำงานต่อโดยไม่ได้สนใจอะไรผมอีก

ผมมานั่งๆนับดูมันก็เหลือเวลาอีกแค่สามเดือนกว่าๆก่อนที่พวกเราจะเรียนจบกัน ผมเลยไม่อยากให้ไอ้แบงค์มันเครียดมาก อยากจะทำให้มันมีความสุขมากที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนนึงในฐานะแฟนพอจะให้ได้……..

วันเวลาแห่งความสุขผ่านไปอย่างรวดเร็ว เราสองคนผลัดกันเติมเต็มความรู้สึกดีๆที่เรามีต่อกันอยู่ตลอดเวลา มันทำให้ชีวิตผมเบิกบาน อยากให้เวลาช่วงนี้มันผ่านไปช้าๆ………… ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากจะหยุดเวลาตรงนี้เอาไว้

…………ทำไมนะ….ทำไมผมถึงไม่ได้เจอมันเร็วกว่านี้….ทำไมผมใช้เวลาตั้งหลายเดือนกว่าที่จะยอมรับใจตัวเองว่าหลงชอบมันมาตั้งนานแล้ว…..ทำไมน่ะหรอ……
มันคงเป็นเพราะว่าเวลามันไม่เคยรอคอยใครสินะ………


วันที่ 14 กุมภาพันธ์………….

ผมตื่นเช้ามาก็เห็นเค้กรูปหัวใจสีชมพูอ่อนมาถูกวางอยู่ข้างหัวเตียงของผม……ข้างๆเค้กก้อนนั้นมีโน้ตใบเล็กๆวางอยู่

“ถึงอาร์ม
อาร์ม แบงค์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเวลาเพียงแค่เดือนกว่าๆที่เราคบกันมามันจะผ่านไปเร็วเท่านี้ แต่อาร์มเชื่อไหม?.......เวลาเพียงเท่านี้มันก็ทำให้แบงค์ได้รู้อะไรเกี่ยวกับความรักขึ้นเยอะเลยนะ ถึงแม้ว่าความรักระหว่างเราสองคนมันเป็นไปได้ยากก็ตาม……. แต่แบงค์ก็อยากที่จะทำให้อาร์มมีความสุขเท่าที่แบงค์จะทำได้
อาร์มครับ แบงค์รักอาร์มมากๆนะ แบงค์อาจจะไม่ใช่คนที่รวยล้นฟ้าหรือว่าหน้าตาหล่อเหลามากมาย แต่แบงค์ก็ภูมิใจนะ ที่อย่างน้อยแบงค์ก็เคยได้มายืนเคียงคู่กับอาร์มตรงจุดๆนี้

รักและห่วงใย
แบงค์”

ผมอ่านแล้วก็รู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้หวานซึ้งอะไรมากมาย แต่มันก็ทำให้ผมได้รับรู้ถึงความรักที่ไอ้แบงค์มันมีให้ผม……ผมอ่านแล้วก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ที่ตรงหัวเตียง……ถึงแม้ว่าผมจะอ่านเป็นสิบๆครั้ง แต่ผมก็ยังรู้สึกดีทุกครั้งที่ผมได้อ่านมัน
ไม่นานนัก ไอ้แบงค์มันก็เดินออกมาจากในห้องน้ำ

“อาร์ม สุขสันต์วันแห่งความรักนะ แบงค์รักอาร์มนะครับ”

ผมไม่พูดอะไรนอกจากเดินตรงไปกอดมัน………...............................แต่อยู่ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาจากตาของผม

“อาร์มร้องไห้ทำไมเนี่ย……...” มันทำหน้าตกใจ

“แบงค์ ขอบคุณนะสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่แบงค์ทำให้อาร์ม แต่ไม่เห็นต้องถึงขนาดกับไปซื้อเค้กอะไรมาเลย”

“อาร์ม มันไม่ใช่อะไรหนักหนาสาหัสเลย แบงค์ก็แค่อยากทำให้คนที่แบงค์รักมีความสุข”

“อื้มๆ”ผมได้แต่ยืนซุกอยู่ที่อกมัน

“ปะ รีบๆไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปเรียนกันเถอะ……..เย็นนี้อาร์มต้องไปกินข้าวกับแบงค์นะ” มันพูดแล้วก็ยิ้มให้

“อื้อๆ ตั้งใจเรียนนะ” ผมไปส่งมันที่ประตูห้องแล้วก็เดินเลยเข้าไปอาบน้ำ

……………….

…….6 โมงเย็น

“แบงค์ พาสต้าอร่อยมากๆเลยอะ”

“อร่อยก็กินเยอะๆละกัน เดี๋ยวมื้อนี้แบงค์ขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงแฟนตัวเองละกัน”

“ไม่เอาๆ เกรงใจ” ผมพูดไปก็เคี้ยวพาสต้าไปพลางๆ

“เกรงใจอะไรกัน นิดเดียวเอง พูดยังกะแบงค์จะซื้อเพชรให้อย่างงั้นแหละ”

“แหม……..ก็ยังเกรงใจอยู่ดีนั่นแหละ”

“ไปๆ อาร์มรีบๆกินเหอะ เดี๋ยวยังมีอีกที่หนึ่งทีแบงค์ยังอยากจะพาอาร์มไป”

ผมได้ยินมันพูดอย่างงี้ก็ไม่อยากเซ้าซี้อะไรมันมากเพราะว่าจะโดนเซอร์ไพรส์อะไรเดี๋ยวก็รู้เอง

…… ตอนนี้ผมกำลังมีความสุขกับอาหารมากมายหลายอย่างที่อัดแน่นบนโต๊ะและคนรักที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับผม บรรยากาศสบายๆบวกกับเพลงแจ๊ซเบาๆทำให้ผมรู้สึกว่าวันนี้มันเป็นวันที่พิเศษสุดๆ ตอนนี้ผมขอแค่ให้มีมันนั่งอยู่ข้างกายผมอย่างงี้ไปนานๆ…..ก็เพียงพอแล้ว
มื้อนั้นเป็นมื้อที่ผมรู้สึกอิ่มเอมไปทั้งตัวและหัวใจ……..นี่ใช่ไหมที่เค้าเรียกว่าความรัก…..รักแรกของผม….ถึงแม้มันอาจจะเป็นอะไรที่ไม่ถูกต้องในสายตาของคนทั่วไป…..แต่ผมก็ไม่เคยคิดเสียใจเลยสักครั้งที่ผมเป็นเช่นนี้…..ในทางกลับกัน มันทำให้ผมได้พบหาความสวยงามที่มันซ่อนอยู่ภายใน……..

………………….

…..

ไฟในสตูดิโอได้เปิดขึ้นหลังจากที่แบงค์เดินจูงมือผมเข้ามา

……

….

ภาพทุกๆอย่างมันไหลกลับเข้ามาในความทรงจำอีกครั้ง….

แต่แล้ว…..ผมก็ต้องตื่นจากห้วงความคิดต่างๆเมื่อใครบางคนเดินเข้ามาสะกิดผม…………………..

“พี่อาร์ม ไปกินข้าวได้แล้วนะ เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพราะตายพอดี……………….พรุ่งนี้ต้องออกไปสัมภาษณ์งานแต่เช้าไม่ใช่เหรอไง” ไอ้มุกพูดขึ้น

“ไอ้มุก แปปนึงดิวะ คนกำลังเหนื่อยๆเลยนะเว้ย”

“อะไรกัน กลับมาเมืองไทยทั้งทียังจะเหนื่อยอยู่อีกเหรอ เดี๋ยวปั๊ดเลย”

“เฮ้ย พี่แกนะ”

“เร็วๆ คนเค้ารอกันทั้งบ้านแล้ว ไอ้วินมันบ่นหิวแล้วเนี่ย” มันพูดเสร็จก็สะบัดตูดเดินออกไป

“เออๆ เดี๋ยวตามไป” ผมตะโกนไล่หลัง

อาหารมื้อเย็นมื้อที่สองหลังจากที่ผมกลับมาเมืองไทยอย่างถาวรก็ได้เริ่มขึ้น อากาศร้อนๆอับๆของเดือนพฤษภาคมทำให้ผมรู้สึกร้อนไปหมดทั้งกายทั้งใจ……………………

“เป็นยังไงบ้างครับพี่อาร์ม อาหารอร่อยไหมครับ”

“ก็ดีครับ คิดถึงอาหารไทยเหมือนกัน” ผมพูดแล้วก็ยิ้มเบาๆให้น้องวิน

“กินเยอะๆนะพี่อาร์ม วันนี้แม่ทำสุดฝีมือเลย” ไอ้มุกพูดขึ้นแล้วก็หันกลับไปเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ

“จ้าๆ แกงเขียวหวานเนื้ออร่อยมากเลยครับแม่”

“อื้ม กินเต็มที่เลยลูก ไหนๆพรุ่งนี้จะต้องไปสัมภาษณ์งานแล้ว ทำให้ดีนะลูก แม่เชื่อว่าลูกทำได้อยู่แล้ว” แม่ผมพูดแล้วก็ตักอาหารต่างๆนาๆมาใส่จานผมจนพูนจานไปหมด

“คร้าบ……..อาร์มไม่พลาดง่ายๆหรอกครับ” ผมพูดแล้วก็ตักอาหารเข้าปากต่อ

ตลอดเวลาที่ผมกินอาหาร คำพูดหลายๆคำมันก็แวบเข้ามาในสมองของผม

……..Congratulations……

……………………….We will miss you……

…….เรารักอาร์มนะ เราไม่เหลืออะไรอีกแล้ว……………………….

………………….

…..

“พี่อาร์มเครียดเรื่องที่จะไปสัมภาษณ์เหรอครับ” จู่ๆน้องวินก็ถามขึ้นมา

“อ๋อ ป่าวหรอกครับ แค่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ…….”

“ฮั่นแน่ คิดถึงเพื่อนๆใช่ไหมล่ะ……โถๆ พี่ชายสุดหล่อของเรา……..อย่าร้องไห้น้า” ไอ้มุกทำหน้าทะเล้น

“บ้าหรอ ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะเว้ย…..เอ่อ เดี๋ยวอิ่มแล้วผมขอตัวขึ้นไปอ่านเอกสารอะไรหน่อยนะครับ” ว่าแล้วผมก็เดินออกไปจากโต๊ะอาหารปล่อยให้คนที่เหลือนั่งคุย
กันไปเรื่อย…………

……………………………

หนังสือต่างๆตอนนี้ถูกวางกระจัดกระจายอยู่เต็มห้องนอนของผม……..ผมเหลือบตามองไปเห็นการ์ดใบหนึ่งที่หล่นลงมาจากแฟ้ม……….

ย่อหน้าสุดท้ายของมันเขียนว่า

“Love,

From Su and Wan

Ps. please do not forget to take us to Thailand again. Come to China anytime you would like. Cheers up Armmie! Things will be fine! Let the future leads the way as you say (ป.ล. อย่าลืมพาพวกเราไปเที่ยวเมืองไทยอีกล่ะ ถ้าจะมาที่จีนพวกเราก็ยินดีต้อนรับเสมอ สู้สู้
นะ ทุกๆอย่างจะดีขึ้น เหมือนที่อาร์มบอกว่าให้อนาคตเป็นตัวนำทางนั่นแหละ)”

……………..


 “ถึงบ้านเราแล้วสินะ” ผมรำพึงเบาๆออกมาก่อนที่จะหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำ


tbc

=================================================================

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
อิอิ มาจิ้มน้องเอม  :z13:

อากาศทางโน้นเป็นยังไงบ้าง (ที่นี่ร้อนมากมาย)

รักษาสุขภาพด้วนนะจ๊ะ  :กอด1:

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
จิ้มคืนค่ะ

อิอิ

ที่นี่มันร้อนๆหนาวๆแปลกๆอะค่ะ ประหลาดดี :-[ เดี๋ยวอีกไม่นานก็ร้อนตับแตกค่ะ

คุณพี่โน๊อาดูแลตัวเองด้วยนะคะ :man1:

ออฟไลน์ woradach

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-1
จิ้มคุงเอม  :z13:

มาต่อไวๆนะคร๊าบ อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะคับ อากาศแปรปรวนสุดๆเลย กรุงเทพร้อนมั่กๆ

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
จิ้มทะลุไปถึงน้องเอม รักษาสุขภาพด้วยนะคะ +1 ให้สำหรับความขยันทั้งแต่งเรื่องและโพสต์เรื่องให้
อ่านนะคะ  :L1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด