บทที่ 36 – งานเข้า………..
ตอนนี้ก็เป็นเวลาอาทิตย์กว่าๆแล้วที่ผมได้มาทำงานในบริษัทย่านใจกลางเมืองแห่งนี้ ทุกๆเช้าผมจะรีบออกจากบ้านตั้งแต่เจ็ดโมงเพื่อที่จะได้มากินอาหารเช้าที่โรงอาหารใต้บริษัท…..เพราะจะได้มีโอกาสปรึกษาเรื่องงานกับเพื่อนๆแล้วก็รุ่นพี่ที่บริษัท…..ซึ่งพวกเค้าก็ให้ความสนิทสนมเป็นอย่างดีทำให้ผมไม่รู้สึกเหนื่อยแม้แต่น้อย……
งานช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ผมต้องไปจัดการหรือจ้ำจี้จ้ำไชอะไรกับใครมากเพราะลูกค้ายังไม่เข้ามาเยอะเท่าไหร่….จะมีก็แต่ผมที่ต้องคอยมาเรียนรู้งานเพิ่มเติม เผื่อเวลากิ๊ฟหรือเจ๊ดาไม่อยู่ผมจะได้ช่วยดูงานแทนไปพลางๆ เพราะสองคนนั้นเค้าจะบินไปบินกลับระหว่างไทยกับฮ่องกงบ่อยเพราะสปอนเซอร์หลายใหญ่เป็นลูกค้าชาวฮ่องกง…….
บอกตามตรงเลยครับว่าผมค่อนข้างที่จะมีความสุขกับการที่ได้มาทำงานอย่างนี้เพราะมันทำให้ผมมีความอิสระและสามารถตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองได้มากขึ้น…..กลับไปที่บ้านก็ยังมีน้องสาวตัวดีคอยอยู่เป็นกำลังใจให้…แถมน้องวินก็ซื้อของมาฝากทุกวี่ทุกวัน….เรียกว่าเอาใจกันเป็นพิเศษ
เช้าวันนี้ผมก็มาถึงโรงอาหารเพื่อมากินข้าวเช้าเช่นเคยครับซึ่งผมได้นัดกับเจนี่ไว้ตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านแล้ว….
………………………
“อาร์ม กินไรกันดีอะ เจนี่ยังอิ่มซูชิที่ไปกินเมื่อคืนอยู่เลยเนี่ย” ใช่ครับ เมื่อคืนเราสองคนเลยไปดูหนังหลังเลิกงาน แล้วพอหนังจบก็เลยไปหาอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆกิน
กัน
“งั้นเอาเป็นซุปร้อนๆง่ายๆละกัน จะได้ไม่หนักท้องมาก ดีไหม” ผมยักคิ้วให้มัน
“ก็ดี แต่อาร์มช่วยเจนี่กินด้วยละกัน เพราะเจนี่กินไม่หมดอะ” มันยิ้มแหยๆใส่ผม
“อะๆ ก็ได้ งั้นเดี๋ยวอาร์มไปสั่งกระเพราะไก่ไข่ดาวละกัน อาร์มอยากให้เจนี่กินข้าวด้วย”
“จ้า…….ใจดีจริงๆ งั้นเดี๋ยวเจนี่ไปซื้อน้ำมาละกัน” มันว่าแล้วก็เดินไปที่ตู้ขายน้ำ
เจนี่เป็นเพื่อนที่ดีมากๆเลยครับ มันให้ความสนิทสนมและความเป็นกันเองมากๆ แต่เราสองคนก็ต่างรู้ดีว่าเราสองคนไม่ได้คิดอะไรเกินเลยจากคำว่า ‘เพื่อน’ เพราะเจนี่เองก็มีแฟนอยู่แล้วส่วนผมก็ยังไม่ได้เปิดใจให้ใครหลังจากที่ใครคนนึงทิ้งผมไป
……….พูดตามตรงเลยนะครับว่าเจนี่ก็เหมือนกับซูกับหวานหว่านที่คอยอยู่ให้กำลังใจผมในทุกเรื่อง….ซาบซึ้งจริงๆ
“วันนี้ค่อยยังชั่วหน่อย กิ๊ฟกับเจ๊ดาไม่อยู่ อู้ได้หน่อยนึง” เจนี่ทำตาเป็นประกายเหมือนกับตัวละครในหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นเลยครับ
“อะไร มาแค่อาทิตย์กว่าๆก็จะอู้แล้วเหรอ”ผมรีบดักคอ
“มันก็ต้องมีมั่งแหละย่ะ ทำมาเป็นพูดดี อาร์มไม่อู้มั่งให้รู้ไป”
“แหะๆ” ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆให้ครับเพราะว่าผมแอบตื่นเต้นมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ…..แมวไม่อยู่หนูมันก็ต้องร่าเริงเป็นธรรมดา
“............อาร์ม ช่วยกินซุปอีกหน่อยนะ เจนี่จะพุงกางแล้ว เดี๋ยวไม่สวย”
“โหย อาร์มก็อิ่มแล้วนะเนี่ย….ช่วยได้อีกหน่อยเดียวนะ”
“เย้ๆ” เธอพูดแล้วก็ปรบมือเสียงดังเหมือนเด็กสองขวบที่กำลังหิวขนม
“........เจนี่…ถามจริงเหอะ…..ตกลงจะเป็นนางเอกหรือจะเป็นคนบ้ากันแน่เนี่ย ต๊องจริง” มันเป็นคนอย่างงี้แหละครับ ชอบเล่นอะไรเป็นเด็กๆ
“อ้าว นางเอกมันก็ต้องมีหลายอารมณ์สิยะ”ดูเหตุผลของมันสิครับ……………ผมล่ะไม่อยากเถียงกับมัน
“เออๆ เรื่องของแก” ว่าแล้วผมก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวในจานที่เหลือให้หมด….เสียดายน่ะครับ
………………
............
….
“อะไรของแกวะ คนจะกินข้าว วู้…….สะกิดอยู่ได้” ไอ้เจนี่มันยื่นนิ้วมาสะกิดที่แขนผมอยู่สองสามรอบแล้ว
……………
“….แกดูสายตาพี่วุธที่เค้ามองแกสิ อย่างกะจะจกส้มตำกินแน่ะ” มันเบ้ปากไปทางเจ้าของสายตาที่มองมาที่ผมอยู่….
จริงด้วยครับ….ตานี่หวานเยิ้มเชียว
………..
จริงๆไอ้เจนี่มันก็พอจะรู้ว่าผมเป็นอะไรยังไงเพราะผมก็เคยเล่าเรื่องของผมกับแฟนเก่าให้มันฟังซึ่งมันก็ไม่ได้ทำท่าทีรังเกียจอะไรและมันก็สัญญาว่าจะไม่บอกใคร……ในบริษัทนี้ก็คงมีแต่มันเนี่ยแหละครับที่ผมเชื่อใจ…..ปกติผมจะไม่ค่อยคุยเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังนอกจากคนที่ผมสนิทด้วยแล้วเชื่อใจจริงๆ….ผมว่าผมดูคนออกเหมือนกันนะ
“เออ นั่นดิ มองไรนักหนาไม่รู้”
“….เค้าคงถูกใจแกแหละมั้ง ระวังตุ๊ดไว้ดีๆนะจ๊ะอาร์มสุดหล่อ”
“แกเงียบไปเลย………..เดี๋ยวเราทำเป็นไม่สนใจเค้าคงเลิกตามเองแหละ” ว่าแล้วผมก็ดื่มน้ำจนหมดขวด
…………แต่ผมคิดผิด
“อ้าว ว่าไงครับน้องเจนี่ น้องอาร์ม…..มาแต่เช้าเชียว” เจ้าของสายตาเดินมาทางเราสองคนเป็นที่เรียบร้อย
“อ้าว ดีค่ะ พี่วุธ พอดีเจนี่ต้องรีบออกมาจากบ้านเพราะว่าพวกขี้หลีแถวปากซอยมันเยอะอะค่ะ กลัวโดนพวกมันแซว” มันพูดแล้วก็ทำหน้าใสซื่อ…..ส่วนผมก็อดขำมันไม่ได้เพราะก็พอรู้อยู่ว่ามันหมายถึงอะไร
“เหรอครับ…….น้องอาร์มกินอิ่มไหมครับเนี่ย….นั่งกินเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ เดี๋ยวพี่เลี้ยง” พี่วุธตอบเจนี่เสร็จก็หันหน้ามาถามผม….แววตานี่เต็มไปด้วยความหวัง
“คงไม่ได้หรอกค่ะ เพราะเดี๋ยวเราสองคนต้องรีบไปเตรียมงานต่อแล้วละค่ะ มาเสียเวลาโอ้เอ้ก็จะดูไม่งามเท่าไหร่” เจนี่พูดจบแล้วก็ดึงมือผมลุกขึ้นไป ปล่อยให้พี่วุธนั่งหน้าเสียอยู่คนเดียวที่โต๊ะกินข้าว
……………………………..
……..ผมคิดผิดไหมครับเนี่ยที่พูดไว้ว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่น…..สงสัยว่ามันคงจะไม่เป็นอย่างงั้นแล้วล่ะครับ
ผมกับเจนี่ขึ้นมาถึงที่ห้องทำงานก็นั่งคุยกันไปพลางๆเพราะว่ายังไม่ถึงเวลาเข้างาน…..แต่ตอนนี้ผมเริ่มใจคอไม่ค่อยดีแล้วเรื่องพี่วุธเนี่ยแหละครับ ถึงแม้เค้าจะไม่ได้บอกกับผมว่าเค้าชอบผมเหมือนกับที่น้องวินบอกแต่ผมก็สามารถสัมผัสได้ถึงอะไรหลายๆอย่างจากสายตาคู่นั้น
“อาร์มนี่เสน่ห์แรงไม่เบาเลยนะ” เจนี่พูดยวนผมขึ้นมา
“………แรงอย่างงี้มันก็ไม่ดีอะ น่ากลัวจะตาย”
“เอาน่า เจนี่อยู่ตรงนี้ไม่มีใครกล้าทำอะไรอาร์มหรอก”
“โอ้โห แมนจังนะ”
“อ้าว แน่นอนสิยะ นางเอกก็ต้องช่วยเหลือคนอื่นอยู่แล้ว…..เจนี่รักเด็กค่ะ” มันพูดแล้วก็โบกมือบ้ายบายเหมือนพวกนางงาม….หมดกันครับเพื่อนผม….ไอ้มาดสาวทำงานยุคใหม่กับหน้าตาสวยๆเซ็กซี่ของมันไม่ได้เข้ากับท่าทางเด็กๆของมันตอนนี้เอาซะเลย
“เออๆ แกจะเป็นอะไรก็เป็นไป….เราไปนั่งทำงานต่อละนะ” ผมพูดจบมันก็เบ้ปากใส่ผมทีนึง
“ไปชงโอวัลตินกินซักแก้วดีกว่า…..” ผมรู้สึกง่วงๆนิดหน่อยเลยตัดสินใจลุกขึ้นไปชงโอวัลตินกินในห้องครัวซึ่งอยู่ติดกับห้องทำงานของผม….
……………………..
ผงโกโก้ที่กำลังละลายช้าๆในน้ำร้อนส่งกลิ่นหอมกรุ่นโชยเข้ามาเตะจมูกผม เมื่อมันผสมกับผงสีขาวของคอฟฟี่เมตก็ทำให้น้ำสีน้ำตาลเข้มค่อยๆจางเป็นสีน้ำตาล
อ่อนไปในทันใด…………
………………….
“โอ๊ย……………….” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งร้องขึ้น
“ข…ขอโทษครับ…… ผมเดินเพลินไปหน่อย” ผมรู้สึกใจหายวาบทันทีเมื่อผมเงยหน้าขึ้นมา………..โอวัลตินที่ผมเพิ่งชงเมื่อสักครู่นี้ได้กลายเป็นคราบสีน้ำตาลบนเสื้อสีครีมอ่อนๆของผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมเป็นที่เรียบร้อย….ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความโกรธแค้น
“นี่…..แกเดินยังไงของแกฮะ” เธอตะโกนด่าผม
“ขอโทษจริงๆครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ เดี๋ยวผมไปเอาทิชชูมาให้นะครับ”
“ไม่ต้อง!........แกอยู่เฉยๆ……ชั้นไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นจากคนโง่ๆอย่างแก…...” อึ้งเลยครับ นี่หรือปากคน
“……….เดี๋ยว……..นี่แกเป็นใครกันฮะ ทำไมชั้นถึงไม่เคยเห็นแกมาก่อน” เธอตวาดผมอีกรอบ
“ค…คือผมเป็นพนักงานใหม่ที่นี่อะครับ” ผมกลัวจนตัวสั่นไปหมดแล้วครับ
“ต๊าย….นี่แกเข้ามาในบริษัทนี้ได้ยังไงยะ………ดูสิ ขนาดโอวัลตินแค่แก้วเดียวแกยังดูแลไม่ได้…งานแกจะทำรอดเหรอยะ” ผมเริ่มโมโหแล้วครับ…ทำไมต้องมาด่ากันขนาดนี้ด้วยนะ ทำโอวัลตินหกใส่แค่นี้เอง
“………………..” พูดอะไรไม่ออกเลยครับ ตัวกับหน้ามันชาไปหมด
“แกรีบไสหัวไปไกลๆเลย ชั้นไม่อยากเห็นน้ำหน้าจืดๆของแกอีก ไป๊ ชิ่วๆ” ผมคนนะครับ ไม่ใช่หมา ไล่ดีๆก็ได้
……………
……………………..แต่ยังไม่ทันที่ผมจะรีบวิ่งออกไป
“เอ่อ เกิดอะไรขึ้นหรือคะ มีอะไรให้เจนี่ช่วยไหม” เจนี่วิ่งตะโกนมาจากห้องทำงานครับ
“แกไม่ต้องมายุ่ง มันไม่ใช่ธุระของแกนังชะนีหน้าด้าน….แล้วก็กรุณาพาไอ้หน้าโง่เพื่อนของแกกลับไปได้ละ” เธอชี้หน้าด่าเจนี่
“ค่ะๆ ขอโทษนะคะ” อ้าว………ทำไมยอมง่ายจังวะ…..ทีตะกี้ละทำปากกล้าไอ้เจนี่
………………….
…….แล้วเราสองคนก็ต้องรีบเผ่นกลับไปที่ห้องทำงาน ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นตะโกนด่าไล่หลังมา…..พูดตามตรงเลยว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอคนนิสัยอย่างงี้มาก่อน…ยกเว้นแต่พวกนางร้ายในละคร
“โห…ไรว้า ไหนบอกจะเป็นนางเอกช่วยเพื่อน ทำไมไม่เข้าไปตบเลยล่ะ ตะกี้เห็นปากดีจัง” ผมค้อนไอ้เจนี่
“จะบ้าหรอแก…ชั้นยังไม่อยากตกงานนะยะ……ยัยแพทนั่นน่ะลูกค้าคนสำคัญของบริษัทเลยนะ” เจนี่มันพูดแล้วก็ทำหน้าแบบไม่สบอารมณ์
“จริงดิ….แล้วแกรู้จักเค้าได้ยังไงวะ”
“ก็เค้าทำท่าจะมีจีบพี่วุธตั้งแต่วันก่อนแล้ว….แล้วเจ๊ดาก็เล่าให้ชั้นฟังน่ะ” มันยืนส่ายหัวท้าวสะเอว
“โห จริงดิ……งี้เราก็ซวยดิวะ”
“คงงั้นแหละ…….เฮ้อ แค่คิดก็เครียดแล้วอาร์ม”
“โธ่เว้ย!!…….นึกว่าจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข………..” ผมเริ่มปลงกับชีวิตแล้วครับ….เชื่อแล้วล่ะว่ามันไม่มีทางเดินไหนที่ไม่มีอุปสรรคขวางอยู่
…………………………..
…..
“อ้าว น้องอาร์มกับน้องเจนี่ทำไมทำหน้าหงอยๆอย่างงั้นล่ะครับ” พี่วุธที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องทำงานเข้ามาถามพวกเราสองคน
“ค….คือ……มันร้อนๆน่ะครับ” ผมตอบส่งๆ
“งั้นหรอครับ…….งั้นเอาผ้าเช็ดหน้าพี่ไปละกันนะครับ…แล้วเดี๋ยวพี่จะไปเร่งแอร์ให้” พี่วุธพูดแล้วก็ทำท่าจะเอามือควักผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อมาให้ผม…แต่ยังไม่
ทันที่พี่วุธจะได้ทำอะไร………..คุณแพทอะไรนั่นก็เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
“ตายแล้ว…..วุธจะทำอะไรคะนั่น!!!” ไม่ทราบว่าเธอจะตะโกนเสียงดังไปทำไม….ทำยังกะใครจะตาย
“อ๋อ พอดีน้องเค้าร้อนๆน่ะครับ เลยจะหยิบผ้าเช็ดหน้าให้เค้า” พี่วุธหันไปยิ้มให้ยัยคุณแพท
“ว้าย…ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวแพทหยิบทิชชูให้น้องเค้าเองค่ะ” เธอพูดเสร็จแล้วก็หยิบทิชชูจากในกระเป๋าของเธอมาให้ผม…..สายตาของเธอตอนนี้กำลังจิกกัดผมกับเจนี่เต็มที่…แต่พอเธอหันกลับไป เธอก็แกล้งตีหน้าใสซื่อต่อหน้าพี่วุธ
“เนี่ย น้องๆสองคนนี้น่ารักมากเลยนะคะ ตะกี้แพททำกาแฟหกก็อุตส่าห์มาช่วยเช็ดให้ ถ้าไม่ได้น้องสองคนนี้แพทแย่แน่เลยค่ะ” โอ้โห ตอแหลต่อหน้าผู้ชายได้เนียนมาก
“เหรอครับ….ขอบใจนะอาร์ม....ขอบใจนะเจนี่” พี่วุธหันมายิ้มแฉ่งให้พวกเราสองคน
“ว่าแต่คุณแพทมาทำอะไรแต่เช้าเหรอครับ”พี่วุธถามต่อ
“คือ พอดีว่า….คือ….คือ…….แพทจะเอารายละเอียดโปรเจ็คท์ใหม่มาให้คุณกิ๊ฟน่ะค่ะ แต่พอดีเธอไม่อยู่…ก็เลยไว้จะมาวันหลังน่ะค่ะ” มายั่วผู้ชายสิไม่ว่า
“อ๋อ ครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ เสียเวลาแย่เลย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” ตีหน้าเศร้าเก่งชะมัด….
“งั้นเดี๋ยวผมขับรถคุณแพทไปส่งที่บริษัทถือเป็นค่าไถ่โทษนะครับ”
“เอ่อ จะดีเหรอคะ” ทำเป็นวางมาด………แต่หน้าของเธอตอนนี้นี่เหมือนคนที่กำลังหิวผู้ชายเต็มที่เลยครับ…ผมมองออก
“ดีสิครับ เชิญทางนี้เลยครับ”
และแล้วพี่วุธกับยัยคุณแพทก็เดินออกไปจากห้องพร้อมกัน ก่อนจะเดินออกไปจากห้องยัยคุณแพทก็ไม่วายส่งสายตาดูหมิ่นเหยียดหยามมาทางพวกเราสองคน
…………………………………..
………….
“โห ร้ายโคตรๆเลยอะ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกค้าเราจะตบให้หน้าหันเลย” เจนี่พูดแล้วก็ทำท่าจะง้างมือตบอะไรสักอย่าง
“เออ….แม่งมารยายิ่งกว่านางร้ายในละครอีก” ผมส่ายหัว
“พี่วุธก็ใจดีเกินเหตุ เฮ้อ…………….นี่ถ้าเกิดพี่วุธเค้ามาชอบแกจริงๆนะ เป็นเรื่องแน่ๆอาร์มเอ๊ย” เจนี่พูดแล้วก็ถอนหายใจ
“นั่นดิ เซงว่ะ” ตอนนี้ผมรู้สึกเศร้ากับชะตากรรมของตัวเองมากๆเลยครับที่ต้องมาตกอยู่ในภาวะอย่างงี้
“เอาเหอะๆ อาร์มว่าเราสองคนไปทำงานต่อกันดีกว่า อย่าไปคิดอะไรมากเลย” ผมรีบพูดตัดบทแล้วก็เริ่มลงมือทำงานอย่างจริงจัง
………………………………………ตอนนี้พูดได้คำเดียวครับว่าผมงานเข้าแล้ว………
tbc
========================================================================
ฮั่นแน่...... คงจะงงกันใช่ไหมคะว่าเอมเข้ามาได้ยังไง จะบอกว่าเอมเคลียร์งานเสร็จแล้ว เพิ่งเสร็จตะกี้นี้เอง สักตอนตี 5 กว่าๆน่ะค่ะ แล้วพอดีวันนี้ไม่มีเรียนเพราะอยู่ในช่วงหยุดทบทวนสอบก็เลยมีเวลามานั่งเขียนค่ะ พูดตามตรงแบบหน้าด้านๆเลยนะคะว่าจริงๆแล้วเอมก็ไม่ต้องทวนอะไรมากหรอกค่ะ เพราะสอบมันก็ไม่ได้ยากอะไรมากมาย ถ้าเราตั้งใจฟังในห้องตอนศาสตารจารย์สอนมันก็โอเคแล้วค่ะ แต่ก็มีบ้างที่ต้องอ่านหนังสือเพิ่มเติม แต่ตอนนี้เอมว่าเอมยังสบายอยู่ค่ะ เกรดเทอมที่แล้วนีซิวเกียรตินิยมอันดับหนึ่งได้แบบสบายๆ

ตอนนี้เลยคงคิดว่าน่าจะเข้ามาได้ทุกวันแล้วค่ะ เพราะเมื่อคืนได้เพื่อนมาช่วยเคลียร์งานค่ะ มันเลยเสร็จไว

ขอบคุณสำหรับทุกแรงใจนะคะ

เอม