วุ่นนัก รุมรักสถาปนิกหนุ่ม -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: วุ่นนัก รุมรักสถาปนิกหนุ่ม -  (อ่าน 371665 ครั้ง)

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
5555+ถ้าเป็นแฟนกันเมื่อไหร่คงน่วมไปทั้งตัว ไม่เคยเจอกันแบบปกติเล้ย เจ็บตัวตลอด

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ ลูกหมีน้ำแดง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
 :o12:อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย  ค้างอย่างแรง

มิสเตอร์เพอร์เฟคแมนแน่ๆ  เจ็บตัวทุกครั้งที่เจอกัน

 :pig4:: คนเขียน 

รอตอนต่อไปนะ

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
โทษทีที่ทำให้อารมณ์ค้าง ปกติไม่ใช่นิสัยที่ทำให้ใครอารมณ์ค้างครับ (ผมเพียงแค่หิวข้าวเลยโพสได้ยังไม่หมด)

ต่อครับ
บทที่ 8 (ทำไมเดาถูกกันอ่ะ)

7

“คุณตีลูกกอล์ฟใส่ผม” ผู้ชายคนนั้นหันหน้ามา ใบหน้าเหยเก ท่าทางคงเจ็บน่าดู
...เขานั่นเอง...ซวยซ้ำซ้อนจริงๆ เลยเรา...แทนตะลึง
“คุณอีกแล้ว” เสียงเขาอุทานอย่างคาดไม่ถึง ขมวดคิ้ว ทำหน้าดุ
แทนตกใจไม่น้อย ยิ้มแหยๆ รีบขอโทษเสียงอ่อย
“ขอโทษครับ ผมพลาดไปหน่อย”
“ไม่หน่อยล่ะครับ เต็มกางหลังผมเลยทีเดียว แม่นเหมือนจับวาง” เสียงเขาฉุนน่าดู
“คือว่าผมตั้งใจแล้วนะ ไม่รู้มันไปได้ยังไง”
“คุณอย่าหลับตาสิ เวลาตี กะให้มันแม่นๆ”
...เขารู้ได้ยังไงว่าเราหลับตา...นักกอล์ฟมือใหม่ฉงน
“แม่นเหมือนที่มันลอยมากระแทกกลางหลังผมนี่ไง” เสียงคนตัวโตประชดยังไม่ยอมหยุด
แทนเริ่มฉุนเหมือนกัน...ก็คงเพิ่งจะหัด จะให้เก่งเลยได้ยังไง...
อยากจะเถียง แต่ไม่กล้า เพราะรู้ว่าตัวเองผิดและเขาก็หน้าดุเหลือเกิน หน้ำซ้ำยังเป็นโจทย์เก่าเสียอีก...
...อายจริงๆ...ปรกติไม่เคยอายอะไร...นึกๆ ไปว่าคนนี้คือคนเดียวกับที่เคยถอดเสื้อผ้าของตนมาก่อน...คราวนี้ อายมากๆ...
“ผมว่าคุณเปลี่ยนที่กับผมดีกว่า คุณมาอยู่ข้างหน้า ผมอยู่ข้างหลังคุณ” เขาพูดเสียงปรกติ แต่แทนอดคิดไม่ได้ว่า ‘ทะลึ่ง’
แตชายหนุ่มก็ยอมเปลี่ยน โชคดีเมื่อเปลี่ยนที่แล้วช่องไดรฟ์กอล์ฟข้างหน้าเขาไม่มีใคร ว่างสี่ห้าช่อง ถัดไปไกลๆ มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังตีอยู่ ท่าทางไม่ค่อยจะคล่องแคล่วเหมือนกัน
...เอาล่ะ...มั่นใจหน่อย ไหนๆ ก็มุ่งมันจะตีกอล์ฟแล้ว ต้องทำให้ได้...
แทนย่อตัวลง เหมือนนั่งเก้าอี้ เพียงแต่ไม่มีเก้าอี้จริงๆ แอ่นก้นนิดๆ ตามที่สงครามแนะนำ
เพื่อนตัวดีเคยแนะนำไว้ว่า...'แอ่นเหมือน ‘ตอนนั้น’ เลยเข้าใจไม๊ แต่ว่าไม่ต้องขยับไปขยับมา อยู่นิ่งๆ เฉยๆ เหมือน ‘รอโดน’ อย่างเดียว'
แทนยิ้ม นึกถึงสิ่งที่สงครามสอนแล้วอดขันไม่ได้ แต่เขาก็ยังไม่กล้าตีเพราะยังตื่นเต้นอยู่ ชายหนุ่มขยับไปขยับมาให้เข้าที่ เลิกสนใจสิ่งที่สงครามสอนเพราะบางทีเขาก็สงสัยว่าสิ่งที่เพื่อนรักสอนนั้นอะไรจริง อะไรเล่น
นักกอล์ฟหน้าใหม่ไม่รู้ว่าการขยับยุกยิกนั้นทำให้ตัวเองกลายเป็นเป้าสายตาของผู้ชายคนที่เปลี่ยนไปอยู่ช่องข้างหลังที่เริ่มใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพราะบั้นท้ายของชายหนุ่มตัวร้ายนั้นโดดเด่นอยู่ไม่ไกล ยิ่งชายหนุ่มสวมกางเกงวอร์มผ้ายืดสีเทาแทนที่จะเป็นชุดกอล์ฟเหมือนคนอื่นๆ ยิ่งทำให้อะไรๆ ดูเด่นชัดขึ้น
เขายอมรับว่าชายหนุ่มคนนี้รูปร่างหน้าตาดี มีเสน่ห์ ดูคล่องแคล่ว ร่าเริง มีชีวิตชีวา แต่ก็ดูท่าทางเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน...เหมือนม้าป่าพยศ...
เขาอดแนะนำไม่ได้
“ยก...” เขาชะงัก ไม่กล้าพูดคำนั้น กลัวจะโดนอีกฝ่ายทำหน้าดุเข้าใส่ จึงเปลี่ยนเป็น “ยกตัวขึ้นอีกหน่อยสิครับ ไม่ต้องย่อลงและแอ่นมากขนาดนั้น”
นักกอล์ฟฝึกหัดนิ่ง ยืดตัวขึ้นและหันมามอง
“ท่าตีคุณไม่ค่อยถูก ยกไม้ขึ้นไม่ต้องขอแขน ตัวไม่แอ่นขนาดนั้น ตีกอล์ฟนะครับ ไม่ใช่ตีกบ”
...บ้า...มาหาว่าเขาตีกบ...ผู้ชายหน้าตาดุๆ คนนี้ประชดเขามาหลายครั้งแล้ว...
“ขอบคุณครับที่ช่วยแนะนำ คุณกลัวผมตีลูกไซร้โค้งลอยกลับไปข้างหลังใช่ไหมล่ะ”
“ผมแค่อยากจะช่วย”
...มายืนชิดข้างหลังช่วยจัดท่าทางเลยไม่ดีกว่าหรือ...แทนคิดในใจ อดจินตนาการไม่ได้ว่ามีผู้ชายตัวโตคนนี้มายืนอยู่ข้างหลัง...วงแขนกว้างๆ หน้าอกหนาๆ โอบเขาไว้ เนื้อแนบเนื้อ แล้วจับมือเขายกขึ้นจัดท่าทางให้ตั้งท่าตีกอล์ฟให้ถูกต้อง...
เขายอมรับว่าผู้ชายคนนี้มีแรงดึงดูดใจมากจริงๆ อะไรบางอย่างทำให้เขารู้สึกขัดเขินชายหนุ่มคนนี้...คนหน้าเคร่ง...แต่นัยน์ตาวิบวับไม่หยอก...

แทนยังเก้ๆ กังๆ พยายามทำตามที่โปรกอล์ฟจำเป็นบอก เขาตีถูกบ้างไม่ถูกบ้าง บางลูกลอยไปได้ไกลมากกว่าเดิม บางลูกตกอยู่บนพื้นหญ้าข้างหน้า หันไปมองสงครามก็กำลังนั่งหลับอย่างมีความสุข มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะข้างๆ กำลังลังมองเจ้าชายนิทราอย่างเพลิดเพลิน
...สงสัยสงครามจะได้แฟนใหม่อีกแล้ว...
หนุ่มลูกครึ่งรูปหล่อ หุ่นสูงเพรียว ไปไหนก็มีแต่คนมอง ผิวสงครามออกเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ ยิ่งทำให้หน้าตาคมเข้มยิ่งขึ้น ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจวาสนาตัวเองที่เกิดมาตาตี่ ผิวขาววอก อาบแดดเท่าไหร่ก็ไม่เข้มสมชื่อเสียที
แทนถอนหายใจแล้วก้มลงตีกอล์ฟต่อ คราวนี้ลูกลอยไปไกลมากว่าเดิม หากแต่เฉียงไปทางซ้ายนิดๆ
ชายหนุ่มไม่รู้ว่าโปรกอล์ฟตัวโตที่อยู่ช่องข้างหลังเขาวันนี้ตีได้ไม่ดีเช่นเคย บางลูกเฉไปด้านข้าง บางลูกลอยไปไม่ถึงกลางสนามด้วยซ้ำ
บางอย่างรบกวนสมาธิของเขา ทำให้เขาหายใจอึดอัด...ชายหนุ่มตรงหน้า...เห็นเพียงด้านหลัง...ส่วนที่ดึงดูดสายตาของเขาทำให้สมาธิของเขาแกว่ง ควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้
เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมง ตลอดระยะเวลาชายหนุ่มที่เพิ่งหัดตีกอล์ฟหันมาถามเขาบ้างเป็นครั้งคราว เมื่อเขาแนะนำ อีกฝ่ายพยักหน้าเข้าใจ บางครั้งยิ้มกว้างตาหยี หากบางครั้งขมวดคิ้วเหมือนไม่เข้าใจแล้วเอียงหัวไปมาเหมือนเด็ก
“ถ้าคุณอยากฝึก ผมมาไดร์ฟกอล์ฟที่นี่ทุกเย็นวันพฤหัสหนึ่งทุ่มกับเช้าวันอาทิตย์”
แทนได้ยินเสียงเข้มๆ ลอยมาจากข้างหลัง เขาหันไปมองเจ้าของเสียงก็เห็นว่าชายหนุ่มกำลังยกถุงกอล์ฟขึ้นแบก สบตาเขาแวบหนึ่ง แล้วเดินออกไป
...เออนี่...เป็นวิธีอำลาของเขาหรืออย่างไร...แปลกคน...
แทนยืนนิ่ง หย่อนขาซ้ายเล็กน้อย ปลายเท้าเคาะพื้นช้าๆ ซึ่งเป็นท่าประจำของเขาเวลายืนใช้ความคิด
...เย็นวันพฤหัสบดีหรือ...เย็นพฤหัสบดีมีคลาสปั่นจักรยาน เขาเบื่อๆ คนสอนพอดี...เปิดเพลงไม่ได้เรื่อง ตะโกนเร่งให้ปั่นอยู่ได้...โอเค วัน ทู ทรี...วันทูทรี...เอ้า เย้...พูดอยู่แค่ไม่กี่ประโยค นับไม่เคยจะถึงเลขสิบเสียที...เขาเองยังปั่นได้เร็วกว่า...
...เอ่าวะ อาทิตย์หนึ่งมีเจ็ดวัน จันทร์เป็นโยคะกับพิลาเต้ พุธตีสวอช ศุกร์เต้นลาตินแล้วต่อด้วยแอโรบิค เสาร์บาสเก็ตบอล แบ่งมาให้กอล์ฟสองวันก็ได้ มีโปรกอล์ฟแนะนำฟรี...ดุไปหน่อย แต่น่าจะพอทนได้...

พฤหัสบดี 4 กุมภาพันธ์ - 09.30 น.

เช้าวันทำงานวันนี้ของแทนสดใสเป็นพิเศษ ชายหนุ่มนั่งยิ้ม ตามองวอลล์เปเปอร์จอคอมพิวเตอร์ของตัวเองที่เป็นรูปภาพทะเลสวย หาดสายขาว ท้องฟ้าสีคราม มีเรือลำน้อยจอดสงบนิ่งอยู่ริมหาด
เช้าวันนี้บุริณทร์ยื่นแฟ้มงานสปาที่กระบี่ให้เขา บอกว่าให้เริ่มทำงานได้เลย หากงานของภูวนัยเสร็จก็ให้ทำ The Sea of Life Spa ได้เต็มเวลาได้ทันที พร้อมสัญญาว่าจะไม่ให้ทำงานอื่น
“พี่บุสัญญานะ อย่าทำให้แทนผิดหวังนะ”
“พี่พูดคำไหนคำนั้น”
“กลัวใจพี่จังเล้ย” ชายหนุ่มกรอกตา “กลัวอกหัก”
“แทนเคยอกหักเพราะพี่เหรอ” บุริณทร์ยิ้ม ทำตาวิบวับ
“เอ คิดๆ ไปก็อยากอกหักเพราะพี่เหมือนกัน แต่ชาตินี้ไม่รู้ว่าจะมีประสบการณ์นี้เหรือเปล่า” แทนหัวเราะแล้วลุกขึ้นเตรียมออกไปทำงาน
“ถ้าเป็นแฟนกัน พี่จะไม่ให้แทนอกหัก จะรักจนตายถวายชีวิต”
“ก่อนถวายชีวิต เอาหุ้นบริษัทมาก่อนครึ่งนึง เป็นค่ามัดจำ” ชายหนุ่มทิ้งท้าย แล้วก้าวเดินออกจากห้องของเจ้านายที่ชอบจีบลูกน้อง
บางครั้งเขาก็นึกว่าน่าจะถึงเวลาที่จะลองพิจารณาบุริณทร์จริงจัง แต่บางครั้งก็รู้สึกลังเล บางทีอาจจะเป็นเพราะสนิทและพูดเล่นกันมานานเกินไปจนรู้สึกชิน...อะไรต่างๆ เลยกลายเป็นเรื่องประจำวันที่ดูเหมือนไม่สลักสำคัญเท่าใดนัก

บ่ายวันนี้แทนมีนัดกับภูวนัย ชายหนุ่มตื๊อเลขานุการของภูวนัยจนเธอยอมแทรกคิวนัดของเขาให้พบท่านประธานได้ตอนบ่ายสี่โมง
สถาปนิกหนุ่มเตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อม จดรายการคำถามที่ต้องถาม และเตรียมคำตอบเรื่องต่างๆ ที่ภูวนัยอาจจะถามเช่นกัน เขาวางแผนว่าจะใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงให้คุ้ม บ่ายห้าโมงเย็นจะตรงไปสนามกอล์ฟ  ซ้อมซักสองชั่วโมง ราวทุ่มสี่สิบห้านาทีก็ทานข้าวเย็นกับอินทิรา หญิงสาวบอกว่าจะขอให้เขาช่วยพาว่าที่สามีไป ‘ชุบตัว’ ขจัดความเชยออกไปเสียบ้าง อย่างน้อยก็ขอให้ดูหล่อเท่ช่วงงานวิวาห์
หลังอาหารเที่ยงเขาโทรศัพท์ถามสงครามเพื่อนรัก ช่วงนี้สงครามแทบไม่ได้เข้าสำนักงานเพราะกำลังเร่งงานอยู่ ไม่มีสงครามแล้วรู้สึกเหงาปาก เพื่อนคนอื่นๆ ในสำนักแม้สนิทกันแต่ก็ไม่มีใครซี้ปึ๊กเหมือนสงคราม
“ไปไม่ได้หรอกแทน งานยังไม่เสร็จเลย นี่กำลังยืนรอคุณผู้ชายสายเสมอมาตรวจไซท์งานอยู่ เมื่อไหร่จะโผล่หน้าหล่อๆ มาก็ไม่รู้” น้ำเสียงหงุดหงิด สงครามกำลังอยู่ที่สถานที่ก่อสร้าง Flex Fitness Center ที่ชานเมือง
“ตามไปก็แล้วกัน คืนนี้ไปเต้นลาตินกันอีกไม๊ อินทิราไม่ไป ว่าที่สามีจะมารับไปงานวันเกิดน้องสาว”
“ไม่แน่ใจนะ ครั้งที่แล้วคุยกับคุณชายธณินทร์สองชั่วโมงจนปากจะฉีกถึงใบหู คราวนี้ไม่รู้จะทำลายสถิติเดิมหรือเปล่า พ่อคุณละเอียดจริงๆ อิฐบล๊อควางเกินมาหนึ่งตัวยังมองเห็น สงสัยตอนแอบมาตรวจงานท่านยืนนับไว้แล้ว” สงครามบ่นยืดยาว เข้าของโครงการ Flex Fitness Center เป็นคนละเอียดมาก เขาอยากได้ลูกค้าแบบนี้ ลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เขากำลังทำ คุณภูวนัยเจ้าของคอนโดอภิมหากว้างขวางของเขาไม่เคยสนใจมาดูบ้านพักตากอากาศของตัวเองเลย
...กลัวอย่างเดียวว่าเมื่อทำเสร็จแล้วคุณท่านจะบอกว่าไม่ตรงกับใจ ให้รื้อทำใหม่...ถึงตอนนั้นก็ตัวใครตัวมันก็แล้วกัน...ให้บุริณทร์ทำเองเถอะ...
แทนหวังลึกๆ ว่าวันนี้อาจจะเจอโปรกอล์ฟคนนั้นที่สนามไดร์ฟกอล์ฟ แต่เขาไม่อยากอยู่สองต่อสอง รู้สึกแปลกๆ พิกล หากมีสงครามอยู่ด้วยก็พอให้รู้สึกไม่ขัดเขิน ครั้งที่แล้วพอตีกอล์ฟเสร็จ เขาเดินไปปลุกเพื่อนกลับบ้าน เล่าเรื่องอุบัติเหตุตีลูกอัดกลางหลังของโจทย์เก่าให้ฟัง สงครามหัวเราะจนแทบตกเก้าอี้ หากบ่นว่าทำไมไม่ปลุกเขาให้ลุกขึ้นมาดู อยากเห็นหน้าผู้ชายคนนั้น
แทนนึกถึงตอนที่บ่นสงคราม “ก็ยูเอาแต่นอนไม่สนใจโลกมนุษย์ รู้ไม๊ผู้ชายคนหนึ่งนั่งมองยูเป็นนานสองนาน”
เพื่อนรูปหล่อของแทนยักคิ้ว หยิบกระดาษแผ่นเล็กๆ ชูขึ้นตรงหน้า “ได้เบอร์เรียบร้อย เห็นไม๊ ไม่ต้องอ่อย ก็มีคนเขียนเบอร์โทรวางทิ้งไว้ให้”
“เออๆ หล่อเลือกได้ น่าอิจฉาจริงๆ”
แทนอดคิดไม่ได้ว่าหากสงครามพบกันผู้ชายคนนั้นที่เขาเล่าให้ฟัง เพื่อนของเขาจะทำอย่างไร ทุกครั้งที่สงครามถาม เขาจะยักไหล่และบอกเพื่อนว่า “ก็หน้าตาโอเค” ทั้งที่จริงแล้วผู้ชายคนนั้นรูปหล่อและมีพลังดึงดูดใจมาก จนบางครั้งเขารู้สึกหวั่นไหวบอกไม่ถูก

พฤหัสบดี 4 กุมภาพันธ์ - 15.46 น.

แทนหักพวงมาลัยรถเก๋งคันเก่งปาดหน้ารถฮอนด้าซีอาร์วีที่กำลังขับอยู่เลนส์ขวาสุดของถนน พร้อมบ่นในใจ
...เงอะงะ เชื่องช้าเป็นเต่า ยังมาวิ่งขวางคนอื่นอยู่ช่องวิ่งทางขวา...
ชายหนุ่มกำลังรีบไปให้ทันนัด...นัดสำคัญแห่งปี...นัดที่เขาตื้อเลขานุการของภูวนัยแทบแย่กว่าจะลงเอยเรื่องวันและเวลาได้
แต่เสียงโทรศัพท์พลันดังขึ้น สถาปนิกหนุ่มรีบคว้าขึ้นมากดรับสาย ทันทีที่ได้ยินเสียงคนในสายเริ่มถามคำถามเสียงอ่อยๆ ว่าขณะนี้เขาอยู่ที่ไหน กำลังขับรถอยู่หรือไม่ ชายหนุ่มก็รู้ว่าประโยคต่อมาคืออะไร...เลขานุการของภูวนัยขอโทษขอโพยใหญ่ว่าวันนี้นัดกับภูวนัยต้องเลื่อนเป็นวันอื่นเพราะเจ้านายมีธุระฉุกเฉิน หญิงสาวพยายามจะอธิบายเหตุผลแต่แทนตัดบทบอกว่าไม่เป็นไร
"มีอะไรผมส่งเมล์ให้คุณก็แล้วกัน คุณเชอรี่ก็ถามเจ้านายคุณแล้วก็ตอบกลับผมมา เอาเป็นว่าถ้ามีเรื่องคอขาดบาดตายผมถึงจะไปหาดีกว่าไม๊ครับ"
หญิงสาวขอบคุณชายหนุ่มที่เข้าใจสถานการณ์ เลขานุการของภูวนัยเป็นคนที่อดทนมากจนเขายังนับถือ...อดนึกไม่ได้ว่าหากภูวนัยไม่มีเลขานุการคอยทำอะไรต่ออะไรให้ เขาคงจะมีชีวิตรอดแต่ละวันได้อย่างไร
แทนฉุนทั้งที่ทำใจไว้แล้ว ชายหนุ่มชะลอรถ มือเคาะพวงมาลัยเบาๆ พยายามตัดสินว่าจะทำอะไรต่อไปดี มีเวลาว่างแล้ว จะกลับไปทำงานที่ออฟฟิศต่อก็ไม่ไหว
...ชอบปิ้งดีกว่า แล้วค่อยไปไดร์ฟกอล์ฟ....ชายหนุ่มตัดสินใจ แล้วหักพวงมาลัยเลี้ยวรถตรงไปยังห้างสรรพสินค้า ลืมเรื่องอารมณ์เสียไปชั่วครู่ ทุกครั้งที่ได้ซื้อของและเล่นกีฬา แทนก็ไม่สนใจอะไรแล้วในโลกนี้...

พฤหัสบดี 4 กุมภาพันธ์ - 17.29 น.

สนามไดร์ฟกอล์ฟมีคนเยอะมาก ช่องไดร์ฟกอล์ฟถูกจับจองเกือบหมด แทนยืนมองหาโปรกอล์ฟหน้าดุคนนั้น แต่ไม่เห็น อีกใจหนึ่งก็คิดว่าเขาอาจจะยังไม่มาเพราะเพิ่งเป็นเวลาเลิกงาน
ชายหนุ่มวางถุงกอล์ฟลงช้าๆ ตรงช่องว่างที่สาวสวยคนหนึ่งเพิ่งซ้อมเสร็จ ชายกลางคนสองคนขนาบข้างเขา ท่าทางมืออาชีพทั้งคู่ แทนรู้สึกประหม่า กลัวว่าลูกกอล์ฟจะลอยไปถูกหัวใครเข้า
วินาทีนี้ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่มาซ้อมตีเวลา 'ชั่วโมงเร่งด่วน' ถ้ารู้ว่าจะมีคนเยอะขนาดนี้ มาวันอาทิตย์ตอนเช้าดีกว่า...สนามโล่ง
แทนยืนตั้งท่าอยู่เป็นนานสองนาน ก่อนจะตัดสินใจหวดไม้ โชคดีลูกลอยไปหล่นปุ๊กอยู่ตรงหน้าไม่ไกล
...นึกว่าจะแฉลบไปถูกหัวเหม่งลุงหนวดเฟิ้มข้างๆ นี้ซะแล้ว...เฮ้อ...ทำไมรู้สึกประหม่าอย่างนี้...
ชายหนุ่มพยายามตั้งใจ รวบรวมสมาธิ นึกถึงคำสอนของโปรกอล์ฟ ทั้งที่เคยได้ยินในวีดีโอ และทั้งที่เคยได้ยินจากคนหน้าดุคนนั้น วันนี้เขาพัฒนาขึ้นอีกเล็กน้อย ตีลูกไปไกลเกือบถึงเส้นห้าสิบหลา แม้ไม่ไกลถึงกลางสนาม แต่ขอให้พ้นจากจุดวางลูกไปไกลเกินมือเอื้อมถึงเขาก็พอใจแล้ว
เวลาผ่านไป แทนเริ่มรู้สึกเบื่อ อุตส่าห์ตรงดิ่งมาสนามหลังออกจากห้างสรรพสินค้า กลับไม่เจอคุณโปรกอล์ฟที่บอกว่าจะมาช่วยสอนให้
ชายหนุ่มขยับตั้งท่าอยู่นานกว่าจะหวดไม้ตีได้แต่ละลูก ผ่านไปเกือบชั่วโมงลูกกอล์ฟถาดแรกเพิ่งจะถูกตีจนหมด แทนตั้งใจว่าตีลูกถาดที่สองหมดก็จะกลับ นึกฉุนผู้ชายคนนั้นที่ไม่ยอมโผล่หน้ามาเสียที
ขณะที่กำลังคิดคำนึง มีเสียงทุ้มๆ ดังขึ้นใกล้ๆ หู กลิ่นน้ำหอมผู้ชายโชยมาแตะจมูก
"ตีดีขึ้นนะครับ"
"โอ๊ยโหย" แทนสะดุ้งตกใจ เผลออุทานออกมา คำอุทานที่ติดปากจนบุริณทร์กับสงครามเอาไปล้อกันสนุกสนาน
ชายหนุ่มหันหน้าไปยังต้นเสียง เห็นโปรกอล์ฟกิตติมศักดิ์ยืนอยู่ใกล้ๆ ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่แววตาขันๆ
...ผู้ชายคนนี้นัยย์ตายิ้มได้จริงๆ...เขาทำได้ยังไง หน้าเรียบนิ่งแต่ลูกตาสีดำสนิทกลับเต้นระริก...
"คุณนั่นเอง มาเงียบๆ โตะใจโหมะเลย" แทนแกล้งพูดตลก กลบเกลื่อนความรู้สึกเขิน "ผมนึกว่าคุณจะไม่มา"
"พอดีมีปัญหาใหญ่เรื่องงานครับ" เขาพับแขนเสื้อขึ้น ปลดกระดุมคอเสื้อเม็ดบนสุด เผยให้เห็นผิวกายค่อนข้างขาว เขายังอยู่ในชุดทำงาน เพียงแต่เปลี่ยนเป็นรองเท้าตีกอล์ฟ
"กลัวว่าคุณจะรอนาน เลยรีบมา ไม่ทันได้แต่งองค์ทรงเครื่อง" เขาพูดเหมือนอ่านใจแทนได้ ขณะที่พูดตาก็มองชายหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า แทนอยู่ในชุดนักกอล์ฟครบเครื่องเหมือนนักกอล์ฟมืออาชีพกำลังจะออกรอบ
"ผมมาตั้งนาน เลยมีเวลาแต่งตัวซะเนี๊ยบ"
แทนรู้สึกประหม่าที่ถูกสายตาคมกริบจ้องมองเหมือนสำรวจรูปร่าง ใจนึกถึงตอนที่เขาถอดเสื้อผ้าของตัวเองคืนนั้นที่เมาไม่ได้สติ...
...สายตาเขาวิบวับนัก ขัดกับใบหน้าเคร่งขรึม นัยน์ตาแบบนี้เหมือนกำลังถอดเสื้อผ้าเขาอยู่ก็ไม่ปาน...
"นั่นสิ แต่งตัวเนี๊ยบขนาดนี้ รับรองว่าฝึกซักหน่อยคุณก็ไปออกรอบได้แล้ว"
...เขาประชดหรือเปล่านะ...พูดเหมือนประชด แต่น้ำเสียงราบเรียบเช่นนั้น เดาไม่ได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่...บ้าจริง เกลียดมากๆ ที่เวลาอ่านใครไม่ออก...
"จริงหรือครับ แล้วเมื่อไหร่จะออกรอบได้ ตื่นเต้นจัง" แทนยิ้มกว้าง นัยย์ตาเป็นประกาย ท่าทางตื่นเต้น เหมือนเด็กกำลังจะได้ของเล่น ไม่รู้ว่าการกระทำของตนทำให้ผู้ชายหน้าเคร่งคนนั้น เบือนหน้าไปด้านข้างแอบอมยิ้ม
"ก็ถ้าคุณตีไปจนถึงเส้น 200 หลาได้ซักสิบกว่าลูกติดต่อกัน แล้วทั้งถาดไม่มีลูกไหนลอยไปถูกหัวใคร เมื่อนั้นก็พร้อมออกรอบ"
แทนเบ้ปาก "สงสัยคงอีกเป็นปี"
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ก็เห็นคุณตีดีขึ้น"
"ถ้าได้คนสอนดี รับรองอีกไม่นานผมได้เป็นโปรกอล์ฟ"
"ถ้านักเรียนเก่ง ตั้งใจเรียน ก็ไม่นานครับ" เขาพูดเสียงเรียบ แล้วอมยิ้มเล็กน้อย
...แทนแปลกใจ...ผู้ชายคนนี้ยิ้มก็เป็น เห็นตีหน้าเคร่งมาตลอด เวลายิ้มดูหล่อขึ้นกว่าเดิม...
7777777777777777777777777777777777777777777


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-02-2009 16:00:51 โดย katawoot »

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ชอบโปรกอล์ฟแล้วววว :impress2:

ออฟไลน์ Mint

  • นิสัย!!
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +881/-17
ความสัมพันธ์คืบหน้ากันจริงๆ

 :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย อยากให้ถึงตอนนี้ที่รู้ว่าใครเป็นใครจริงๆ อิอิ

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
ได้ขยับฐานะ เป็น ครู กับนักเรียนแหละ  :-[


 :z2: :z2: :z2:

baros

  • บุคคลทั่วไป
 :z1:ได้แฟนแน่ไอ้แทนเอ๋ย

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาอ่าน อิอิอิอิ

 เอาหล่ะ ชัดสนุกแระ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






katawoot

  • บุคคลทั่วไป
มาโพสบทที่ 8 ก่อนกลับบ้านครับ
ถ้าเบื่อก็บอกนะครับ

8

แทนตั้งใจฟังโปรกอล์ฟหน้าขรึมสอน ชายหนุ่มเรียนรู้ได้เร็วจนเขาชม หลังจากนั้นเขาปล่อยให้แทนฝึกตีคนเดียว ชายหนุ่มรู้สึกดีขึ้นเมื่อเห็นว่าตัวเองตีลูกกอล์ฟออกไปไกลถึงร้อยหลา ทำให้เริ่มมีกำลังใจ
แทนตั้งสมาธิ สูดลมหายใจลึกๆ พยายามนึกถึงคำสอนทุกดอย่างแล้วหวดไม้กอล์ฟสุดแรง ลูกกอล์ฟลอยไปเลยจุด 200 หลา ไกลที่สุดที่เคยดีได้ ชายหนุ่มดีใจจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เผลอกระโดดตัวลอย แต่ครั้นนึกได้ว่ามีคนหน้าขรึมยืนอยู่ใกล้ๆ จึงหันไปมอง
...ชายหนุ่มตัวโตยืนมองอยู่แล้ว เลิกคิ้วเหมือนตกใจนิดๆ ไม่นึกว่าจะเห็นชายหนุ่มแสดงอาการดีใจขนาดนี้
"ตีให้ได้แบบนี้ซักสิบลูกติดๆ กัน ผมจะพาไปออกรอบ"
"จริงหรือครับ สัญญานะ" แทนยิ้มสดใส
เขาพยักหน้าขำๆ แล้วก้มหน้าลงเตรียมตีกอล์ฟต่อ แทนลองอีกครั้ง แต่คราวนี้พลาด ลองอีกครั้งก็ยังเหมือนเดิม ชายหนุ่มเริ่มฉุน จึงฟาดแรงๆ อีกที ลูกลอยไปหล่นอยู่ไม่ไกล แทนเริ่มหงุดหงิด กลัวจะไม่ได้ไปออกรอบ เขาพยายามทำอย่างเมื่อสักครู่ที่ตีลูกได้ไกล แต่ก็ไม่เป็นผล
"ใจเย็นๆ และมีสมาธิ เล่นตีแบบนี้ ไม่ไม้กอล์ฟหัก แขนคุณก็เจ็บเสียก่อน"
"ผมก็ตีเหมือนเมื่อกี้ ทำไมลูกไม่ยอมไป" แทนหน้ามุ่ย
"กอล์ฟตีสิบครั้งก็ไม่เหมือนกันสิบครั้ง เพราะฉะนั้น สมาธิต้องดี ใจร้อนไม่ได้"
"ผมไม่ได้ใจร้อน"
"ครับ เห็นแล้วว่าไม่ได้ใจร้อน" โปรกอล์ฟใจเย็นพูดเสียงเรียบแล้วก้มหน้าเตรียมตีลูก
คนไม่ได้ใจร้อนหรี่ตามอง คิดในใจว่า...เขาประชดอีกแล้ว ผู้ชายคนนี้ประชดได้หน้าเรียบๆ ไม่แสดงอารมณ์...
ชายหนุ่มหันกลับมาตั้งสมาธิเพื่อตีลูกกอล์ฟตรงหน้า บางลูกตีได้ดี บางลูกไม่ได้เรื่อง แทนอ่อนใจ การตีแต่ละครั้งไม่เหมือนกันเลยสักครั้ง
ชายหนุ่มไม่รู่ว่าคนที่สอนคนอื่นให้มีสมาธิกลับไม่มีสมาธิเสียเองเพราะมัวแต่มองด้านหลังของเขาจนตีลูกไปไกลได้ไม่ถึงครึ่งสนาม
แทนหมดแรง ฝึกไดร์ฟกอล์ฟดูเหมือนไม่ได้ใช้แรงเท่าใดนัก แต่เขารู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน ชายหนุ่มเดินไปทรุดตัวลงบนเก้าอี้ มองโปรกอล์ฟจำเป็นตีลูก พยายามสังเกตลักษณะการตีของเขา
ผู้ชายหน้าเข้มเงยหน้าขึ้นมามองแทน เลิกคิ้วเหมือนจะถามว่า 'ทำไมหยุดเสียแล้ว'
"ผมเหนื่อยแล้ว เลิกดีกว่า วันนี้ตีได้ตั้งสามถาด เหมือนเต้นแอโรบิคสามชั่วโมง"
ผู้ชายตัวโตอมยิ้มแล้วก้มหน้าลงตีลูกต่อ ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงรู้สึกประหม่าเมื่อมีชายหนุ่มที่ร่าเริงสดใสนั่งจ้องเขาตาแป๋วเช่นนี้ เขาตีพลาด ลูกลอยไปหล่นไม่ไกล เสียงหัวเราะเบาๆ ลอยมา ชายหนุ่มหน้าขรึมเงยหน้าขึ้นมอง อีกฝ่ายรีบหุบยิ้ม แล้วหันหน้าเฉไฉไปมองซ้ายมองขวา
"ไหนคุณบอกว่าต้องมีสมาธิไง ผมเห็นคุณตีพลาดหลายครั้งแล้ว" แทนเอ่ยขึ้นมาในที่สุด
"เหรอครับ" เขาตอบเสียงเรียบแล้วหวดลูก พลาดอีกครั้ง...ลูกลอยเฉียงออกไปด้านข้าง
แทนยิ้ม ภูมิใจตัวเองที่ทำให้คนสมาธิสูงเสียสมาธิ
...นึกว่าจะแน่...เห็นหน้าตาอย่างนี้ เขินก็เป็น...ชายหนุ่มนึกในใจ
ไม่นาน เขาก็เก็บไม้กอล์ฟ สิ้นสุดการตี
"อ้าว เลิกแล้วหรือครับ ผมกำลังมองเพลิน ดูตัวอย่างโปร จะได้จำเอาไว้ฝึกคราวหน้า" แทนอดยั่วไม่ได้ รู้ว่าเขาตีพลาดเพราะเสียสมาธิที่มีคนจ้องเขม็ง
เขาคงรู้ว่าแทนแกล้งล้อ จึงทำหน้าตึง
"คราวต่อไปหวังว่าคุณคงตีได้ดีขึ้น"
"แน่น๊อน แทนซะอย่าง" ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง
"ดึกแล้ว เห็นจะต้องกลับเสียที" เขาพูดลอยๆ
"ยังไม่เห็นดึกเลย พึ่งจะสามทุ่ม" แทนลุกขึ้นยืน เดินเข้ามาใกล้ "แล้ววันอาทิตย์นี้คุณจะมาอีกหรือเปล่าครับ ผมจะโชว์ฝีมือว่าพัฒนาไปแค่ไหน"
"แสดงว่าระหว่างนี้จะแอบไปซ้อม?" เขาเลิกคิ้วข้างเดียว
"เปล่า จะนั่งดูดีวีดีสอนตีกอล์ฟ อย่างน้อยมันก็ต้องดีขึ้นบ้างแหล่ะน่า"
"แสดงว่าผมสอนไม่ดีถึงต้องไปดูดีวีดี"
แว่บหนึ่งแทนคิดว่าเขางอน...ผู้ชายหน้าขรึม งอนก็เป็นด้วย...
"เปล่า คุณนี่สอนกอล์ฟชั้นหนึ่ง แต่คุณสอนผมทุกวันไม่ได้นี่ ผมก็เรียนทางอื่นเสริมบ้างสิ รับรองว่าไม่ทำให้ครูผิดหวัง" แทนยิ้มกว้าง นัยน์ตาเป็นประกาย ไม่รู้ตัวว่าทำให้ผู้ชายตรงหน้ารู้สึกแปลกๆ ความสดใสของเขาทำให้คนหน้าเคร่งรู้สึกสดชื่น แต่ทว่าไม่แสดงออกมา
"ดีครับ ขอให้จริงอย่างที่พูด อย่ามัวแต่ไปเที่ยวดึกจนลืมฝึกกอลฟ์ก็แล้วกัน"
"คุณประชดหรือ" แทนตาโต คาดไม่ถึงเขาจะประชดหน้าตาย
"เปล่า" หน้าขรึมมีประกายขบขัน
...บ้าจริง...ดวงตาของผู้ชายคนนี้ยิ้มได้ ทั้งๆ ที่ทำหน้าเข้ม...
"คอยดูแล้วกัน ภายในหนึ่งเดือนนับจากวันนี้ ผมออกรอบได้แน่ และภายในหนึ่งปี จะตีโฮลอินวันให้ดู" แทนมุ่งมั่น
อีกฝ่ายพยักหน้า ทำท่าทางเชื่ออย่างจริงจัง "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น"
"ช่ายแล้ว" แทนเอียงหน้า
พลันเสียงโทรศัพท์ของคนที่ชอบให้กำลังใจคนอื่นดังขึ้น แทนอมยิ้มกับเสียงเรียกเข้าที่เป็นเสียงโทรศัพท์ธรรมดาๆ
...เชยแหลก...ไม่เห็นเป็นเสียงดนตรีเหมือนคนอื่น...เดี๋ยวนี้ใครก็มีริงโทนเป็นเพลงเอ็มพีสามกันหมดแล้ว...ชายหนุ่มผู้ทันสมัยนึกในใจ
ผู้ชายมาดนิ่งรีบควักโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู พยักหน้าตอบรับสั้นๆ แล้วบอกว่าจะรีบไป
แทนไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งยังไม่อยากไปซักนิด...
"ผมต้องไปแล้วครับ คุณก็รีบกลับบ้าน อย่าออกไปเมาที่ไหนนะ" เขาอมยิ้ม แล้วแบกถุงกอล์ฟ กำลังจะขยับเท้าเดิน
"อย่ามาหาว่าผมขี้เมานะ แหม ครั้งเดียวเท่านั้นเอง ตอกย้ำอยู่ได้" แทนแกล้งทำหน้าบึ้ง
"แค่เป็นห่วง กลัวจะไปอาเจียนรดใครเข้า" เขาลังเลอยู่ชั่วเสี้ยววินาที อยากต่อล้อต่อเถียงต่อ ชักรู้สึกสนุกที่ได้ยั่วให้ชายหนุ่มตาตี่ตรงหน้าแสดงอาการฉุนเฉียว หรี่ตาที่เรียวเล็กอยู่แล้วให้เล็กมากขึ้นกว่าเดิม แต่เขาจำเป็นต้องรีบไป จึงยักคิ้วให้แทน ก่อนจะก้มหัวให้เป็นการอำลา แล้วเดินลับไป
แทนมองเขาจนลับตา ผู้ชายคนนี้ตัวใหญ่ ขายาว และเดินเร็วมากๆ ดูเป็นคนมีความมั่นใจเป็นที่สุด แต่เขาเห็นว่าเมื่อครู่ที่ถูกจ้อง กลับดูประหม่าเล็กน้อย
...เขินหรือ...ทำไมคนเราเขินเวลาโดนโครบางคนมอง ทั้งที่บางครั้งเวลาโดนอีกคนจ้องกลับไม่เห็นจะเขิน...ไม่เข้าใจจริงๆ......แทนฉงน
ชายหนุ่มรู้สึกแปลกๆ ผู้ชายที่พบโดยบังเอิญ และจนป่านนี้ก็ยังไม่รู้จักชื่อ ทำให้เขารู้สึกอยากจะให้ถึงวันอาทิตย์เร็วๆ อยากจะลองดูสิว่าจะทำให้ผู้ชายคนนี้ยิ้มกว้างจนเห็นฟันได้หรือไม่ หรือทำให้เขาแสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้ามากกว่านี้ได้หรือเปล่า
...เขาชื่ออะไรน๊า...อยากรู้จัง...แต่คิดๆ ไป ไม่รู้จักชื่อก็ดีเหมือนกัน ตื่นเต้นดี...
ชายหนุ่มช่างสงสัยเดินฮัมเพลงไปที่รถของตัวเอง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาสงครามเพื่อนรักเพื่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเย็นวันนี้ให้ฟัง
...วันนี้เป็นวันที่มีสีสันแตกต่างออกไปจากเดิม...ไม่น่าเบื่อ...นึกว่าจะเซ็งตั้งแต่ตอนที่ภูวนัยบอกเลิกนัด กลับมีอะไรให้ได้ชื่นอกชื่นใจ...
***********

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป

^
^
^

จิ้มๆๆๆ

จึกๆๆๆ

แล้ว

 :กอด1:

อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-02-2009 17:21:24 โดย YO DEA »

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
เริ่มหวั่นไหวกันแล้ว  :-[

เมื่อไรจะได้รู้ชื่อ มิสเตอร์เฟอร์เฟคแมนซะที

 :L2: :L2: :L2:

+1  ให้คนแต่ง  ขยันอัพ จริง ๆ

ออฟไลน์ ลูกหมีน้ำแดง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
ไม่เบื่อหรอกค่ะ ขยันๆแบบนี้ชอบบบบบบ o13

 :m3:


ออฟไลน์ bellebee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-3
ขอฟันธงค่ะ!!(โอ้ยย)  โปรกอร์ฟ เป็นคุณภูวนัยชัวร์ๆๆๆ  หวังว่าคงใช่นะคะ อิ อิ ^^  ท่าทางหนุ่มแทนจะอาการ(ทางใจ)หนักกับหนุ่มขรึมลึกลับนี้มากกกกก  ชอบคร่า น่ารักสุดๆ  :m31:

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นๆๆ น่ารักดี

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
แอบชอบเค้าแล้วล่ะสิ 555

ออฟไลน์ in_blu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
ไม่เบื่อคร่ะ

ออกจะชอบ โพสบ่อยๆ ได้อ่านบ่อยๆ ไม่ต้องรอนาน อิอิ


ท่าทางหนุ่มแทนของเราจะหลงรักบุรุษไร้ชื่อแล้ว คริคริ

ออฟไลน์ Mint

  • นิสัย!!
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +881/-17
 :impress2: :impress2:

ชอบจริงๆหนุ่มขรึมๆเท่ห์ๆเนี่ย


katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ และขอบคุณที่กด +1 ให้คนละจึกๆ นะครับ ระบมไปหมดแล้ว

บทที่ 9

เสาร์ 6 กุมภาพันธ์ - 01.41 น.

แทนเดินโผเผออกมานอกผับที่เปิดเพลงดังสนั่น ชายหนุ่มยกมือขึ้นดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาสีทองเรือนหรูที่อุตส่าห์เก็บเงินเกือบสามเดือนซื้อมาจากฮ่องกงตอนไปเที่ยวปีใหม่กับสงคราม แทนเบ้ปาก ถึงเวลากลับบ้านแล้ว สงครามยังอยู่ข้างใน และท่าทางคงไม่กลับบ้านง่ายๆ เพราะมีคนเข้ามาจีบ
สายๆ วันเสาร์เขาต้องเข้าบริษัทไปเอาแฟ้มงานที่ลืมไว้ หลังจากนั้นตอนบ่ายต้องเดินทางไปปราณบุรีเพื่อตรวจงาน วิศวกรนัดให้เขาไปเจอกันตอนบ่ายสามโมงเพื่อคุยกันเรื่องเปลี่ยนแปลงวัสดุ
...นึกไปก็ฉุน...จนป่านนี้ คุณภูวนัยยังเปลี่ยนแปลงอีก...ชายหนุ่มนึกหน้าชายวัยกลางคน ท่าทางเรื่องมาก เจ้าบงการเหมือนประธานบริษัทหลายบริษัทที่เขาเคยเห็น
แทนสูดอากาศภายนอกผับอยู่ชั่วครู่แล้วหันหลัง ตั้งใจว่าจะกลับเข้าไปบอกสงครามว่าเขาต้องกลับบ้านแล้ว ตอนนี้เขาเริ่มมึน ทั้งๆ ที่ดื่มเหล้าไปไม่กี่แก้ว จะดื่มมากกว่านั้นก็กลัวเมา ทุกครั้งที่ยกแก้วขึ้นดื่ม ใบหน้าดุๆ ของใครคนหนึ่งก็ลอยเด่นอยู่ พร้อมกับคำสั่งห้ามเมาจนไม่ได้สติ
แทนอดฉุนไม่ได้ มาเที่ยวผับ ใบหน้าของโปรกอล์ฟฟังตามมาหลอกหลอน...
ผับนี้เสียงเพลงดังแสบแก้วหูเหลือเกิน แต่ก่อนเคยรู้สึกคึกคับเวลาได้ยินเสียงเพลงดังๆ แต่คราวนี้รู้เหมือนแก้วหูจะแตก บางทีเขาอาจเกิดอาการ 'แพ้' ความอึกทึกครึกโครมของผับแล้วก็ได้
ชายหนุ่มชะงัก ผู้ชายตัวโตเดินสวนทางออกมาเกือบจะชนกัน แทนเงยหน้าขึ้น พบว่าเป็นคนหนึ่งที่เขารู้จัก...กฤษณะ...
"คุณแทน...ไม่นึกว่าจะเจอ"
"แปลกใจมากเหรอครับ"
"ดีใจต่างหาก" กฤษณะยิ้ม นัยย์ตาพราวระยับ "ผมจะกลับแล้ว คุณแทนจะเข้าไปต่อเหรอครับ"
"เปล่า ผมก็จะกลับเหมือนกัน แต่จะเข้าไปบอกเพื่อน"
"เอารถมาหรือเปล่าครับ" กฤษณะถาม กลั้นหายใจ...ขออย่าให้แทนเอารถมาเลย...
ชายหนุ่มส่ายหน้า กฤษณะจึงเสนอตัว "ผมไปส่งนะครับ"
"เอ่อ ไม่อยากรบกวนคุณกฤษณะครับ ผมกลับแท๊กซี่ก้ได้ ทุกทีก็นั่งแท๊กซี่กลับบ้าน"
"เถอะครับ ผมไปส่ง ไม่รบกวนหรอก ผมจะยืนรอตรงนี้ล่ะ...นะครับ"
ท่าทางกฤษณะไม่ยอม แทนจึงพยักหน้า แล้วรีบผลุบเข้าไปในผับ
แสงไฟวูบวาบในผับทำให้มองไม่เห็นอะไรชัดเจน ยิ่งดึกคนยิ่งเต้นกันอย่างสนุกสนาน บางคนปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ ชูแก้วเหล้า โยกย้ายส่ายเอวเข้ากับจังหวะดนตรี สงครามเคยชวนเขาขึ้นไปเต้นบนเวที ไม่ก็บนเก้าอี้ แทนปฏิเสธทุกครั้ง ให้เหตุผลว่าไม่อยากดูเหมือนเป็นเจดีย์อยู่กลางผับ
สถาปนิกหนุ่มพยายามสอดส่ายสายตาหาเพื่อนสนิทจนอ่อนใจ ชายหนุ่มหน้าตาดีท่าทางห้าวๆ คนหนึ่งจับตามองเขาอยู่ ส่งยิ้มมาให้ แต่แทนทำเมิน
...บ้าจริง...ยืนอยู่กับแฟนสาวยังมีหน้ามาส่งสายตาเจ้าชู้ให้ผู้ชายคนอื่น...แบบนี้ก็มีด้วย...
แทนแหวกว่ายหนุ่มสาวที่กำลังขยับตัวตามจังหวะเพลงเพื่อเดินลึกเข้าไปยังมุมด้านในของผับที่คาดว่าสงครามจะแอบไปจู๋จี๋กับหนุ่มหน้าใหม่ ชายหนุ่มคนนั้นเดินตามเขาและยื่นหน้าเข้ามาใกล้...ยิ้มหวานให้
แทนกรอกตา โคลงศรีษะ ทำเป็นไม่สนใจ แต่เขายังตามมา เหมือนตั้งใจจะจีบเต็มที่
แทนเริ่มเดินหนี เปลี่ยนจุดหมายจากการตามหาสงครามมาเป็นเดินหนีผู้ชายคนนั้นที่ตอนนี้ทิ้งแฟนสาวพยายามตามเขามา
ชายหนุ่มเปลี่ยนใจ แหวกผู้คนกลับออกไปยังประตูทางออก เพราะคิดว่าคงใช้เวลาอีกนานกว่าจะหาสงครามเจอ ซ้ำยังทีคนตาม ตั้งใจว่าเมื่อหากันไม่เจอก็จะใช้วิธีส่งข้อความบอกทางโทรศัพท์ สงครามออกมาจากผับ ควักโทรศัพท์มาดูก็จะเห็นว่าเขากลับไปแล้ว...เวลาได้ผู้ชายหล่อๆ สงครามมักจะทิ้งเพื่อนเสมอ...
แทนโผล่หน้าออกมาจากประตูผับ สูดหายใจเข้าไปเต็มปอด รู้สึกโล่ง...แต่ผู้ชายห้าวๆ คนนั้นตามมาติดๆ
"จะหนีผมไปไหน" เสียงห้าวดังขึ้นใกล้ๆ
"ตามมาทำไม" แทนหันไปพูดเสียงเข้ม
"ถ้าไม่ชอบจะตามมาเหรอ ผมชอบคุณ"
"พูดกันง่ายๆ ยังงี้เลยเหรอ"
"ครับผม ชอบก็บอก...ไม่ดีเหรอ" ชายหนุ่มทำหน้ากวน เลิกคิ้ว
เห็นหน้าชัดๆ ท่าทางยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ อายุไม่น่าจะเกินยี่สิบปี...ยังเด็กอยู่แท้ๆ
"กลับไปหาแฟนดีกว่าไป มีแฟนเป็นผู้หญิงยังซิ่งมาตามจีบผู้ชาย"
"ผมกำลังจะเลิกกับเขาแล้ว ผมชอบพี่มากเลยนะ แอบมองตั้งนานแล้ว"
แทนหันไปมองหากฤษณะ เขายืนตัวตรง มือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงมองเขาอยู่ แทนจึงตัดบทสนทนากับหนุ่มเจ้าชู้คนนั้น
"ขอเบอร์หน่อยสิครับ" หนุ่มหน้าอ่อนถาม
"ซอรี่ แปลว่าเสียใจ แฟนมารอรับแล้ว อีกอย่างพี่ไม่นิยมเด็กน้อย" แทนยักไหล่ หันขวับ รีบเดินตรงลิ่วไปหากฤษณะ ทิ้งให้ชายหนุ่มรุ่นต้องมองตาละห้อย

กฤษณะรู้สึกหน้าตึง เขาเห็นวาแทนโผล่หน้าออกมาจากประตูผับแล้วมีชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งตามมาติดๆ และทั้งสองคุยกันสั้นๆ ครู่หนึ่งแล้วแทนก็รีบเดินตรงมาที่เขา เหมือนกำลังหนีผู้ชายคนนั้น เขาไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองกำมือแน่น กล้ามเนื้อเขม็งเกลียว เหมือนรู้สึกหึง...
"มีอะไรหรือเปล่าครับคุณแทน" กฤษณะถามแล้วปรายตาหันไปมองชายหนุ่มนักตื้อที่ยืนมองอยู่ ตาสบตา...ไม่เป็นมิตร
"เปล่าครับ ใครก็ไม่รู้ จู่ๆ ก็เข้ามาทัก" แทนยักไหล่ แล้วเดินตรงไปยังลานจอดรถ
"เสน่ห์แรง"
แทนชะงัก หันหน้ากลับไปยังต้นเสียง
"อะไรนะ"
"เปล่า" กฤษณะยักไหล่ มือยังล้วงกระเป๋ากางเกง เดินตามชายหนุ่มช้าๆ
"เมื่อกี้คุณพูดว่าเสน่ห์แรง"
"อ้าว ก็ได้ยิน มาถามผมอีกทำไม" กฤษณะหน้ายิ้มๆ นัยน์ตาวิบวับ
"ช่วยไม่ได้" แทนหันหลังกลับ เดินต่อไปยังลานจอดรถ
"แล้วที่คุณกฤษณะจะไปส่งนี่ รถจอดอยู่ไหนเหรอครับ" ชายหนุ่มหันกลับมาถาม กฤษณะเดินช้ามาก เหมือนเดินเล่น
"แต่ก่อนไปส่ง เราแวะหาอะไรดื่มกันก่อนนะ" กฤษณะเร่งฝีเท้าให้ทันชายหนุ่ม
"ดื่มไปจนท้องป่องแล้ว ตั้งหลายแก้ว คุณยังอยากดื่มอะไรอีก"
"ดื่มอะไรร้อนๆ กันซักหน่อย"
"สตาร์บั๊คปิดหมดแล้ว" แทนพยายามหาทางออก
"ใครว่าจะดื่มสตาร์บั๊ค คนอื่นเขาก็ขายกาแฟกัน มาเถอะ รถผมจอดอยู่ทางนี้ คุณจะเดินไปไหน" กฤษณะเอียงคอ ชี้หัวไปอีกทางหนึ่ง
กฤษณะหัวเราะที่เห็นว่าอีกฝ่ายไปได้น้ำขุ่นๆ
...สตาร์บั๊ค...จะตีสองแล้วนี่นะ...คุณแทนครับ...หาทางออกที่ดีกว่านี้หน่อยสิ...
"ก็คุณไม่เดินนำผมไปซะที" แทนประท้วง เดินเข้ามาใกล้กฤษณะแล้วเอ่ยขึ้นว่า "จะดีเหรอ ดึกแล้วนะครับ อีกอย่าง คุณกฤษณะไปส่งผมแล้วต้องเสียเวลาย้อนกลับ กว่าจะถึงบ้านตัวเองก็ดึก"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ไหนๆ คืนนี้ก็ออกมาเที่ยวแล้ว นอนดึกซักวันไม่เป็นไร"
"เป็นผู้บริหารระดับสูง เที่ยวดึกๆ เดี๋ยวก็เสียงานเสียการ"
แทนเดินตามกฤษณะตรงไปยังรถ เบนซ์รุ่นล่าสุดสีดำคันใหญ่จอดอยู่ใกล้ๆ เสาไฟฟ้าตรงลาดจอดรถกลางแจ้ง พนักงานลานจอดรถวิ่งเข้ามาอำนวยความสะดวก กฤษณะหยิบธนบัตรหนึ่งใบส่งให้ ชายหนุ่มโค้งคำนับแล้วรีบวิ่งไปด้านหลังเพื่อเตรียมตัวโบกรถ
“ขึ้นรถเถอะครับ ผมรับรองความปลอดภัย”
“ผมว่ารับรองความปลอดภัยตัวเองเถอะ” แทนพึมพำเบาๆ ไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน...ตอนนี้เขามั่นใจลัวว่ากฤษณะกำลังเริ่มจีบเขา
ผู้บริหารหนุ่มออกรถช้าๆ กลิ่นหอมในรถผสมกับกับกลิ่นบุหรี่จางๆ ที่ติดเสื้อผ้าของชายหนุ่มทั้งสอง แทนไม่สูบบุหรี่และไม่ค่อยชอบกลิ่นบุหรี่เท่าใดนัก แต่การมาเที่ยวผับก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะได้กลิ่นบุหรี่ติดตัวกลับไปเป็นของแถม
“เปิดกระจกหน่อยได้ไม๊ครับ เหม็นบุหรี่”
กฤษณะเลิกคิ้ว “มาเที่ยวผับ แต่เหม็นบุหรี่”
“ฮื่อ ทำไงได้ ผมมันประเภทเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง”
“ผมก็ไม่สูบบุหรี่เหมือนกัน แสดงว่าคุณแทนชอบคนไม่สูบบุหรี่ใช่ไม๊ครับ” กฤษณะพูดยิ้มๆ
แทนหันไปมองใบหน้ายิ้มๆ นั้นที่กำลังมองตรงไปข้างหน้า เขายอมรับว่ากฤษณะเป็นคนมีเสน่ห์ หน้าตาคมเข้มหล่อเหลานั้นสะดุดตาทุกคน บุคลิกท่าทางนิ่งๆ มีแรงดึงดูดใจอย่างร้ายกาจ ถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นลูกค้า บางทีเขาอาจจะ...
“มองผมทำไม” กฤษณะรู้สึกตัวว่าถูกลอบมอง
“เปล่าครับ มองไม่ได้หรือไง กลัวสึกหรอหรือครับ”
กฤษณะหัวเราะ หันหน้ามาทำตาวิบวับ “มองได้ ผมไม่หวงตัวขนาดนั้นหรอกครับ” ...ไม่อยากให้มองเพียงอย่างเดียว อยากให้จับต้องด้วย...กฤษณะเติมประโยคในใจ
“แล้วนี่จะได้ดื่มอะไรร้อนๆ หรือยังครับ จะไปถึงไหน” แทนเฉไฉ เริ่มรู้สึกตัวว่ากฤษณะทำตาเจ้าชู้
“ใจร้อนจัง อีกไม่นานครับ ข้างหน้านี่เอง ใกล้จะถึงแล้ว”

กฤษณะเลี้ยวรถจอดหน้าร้านกาแฟเล็กๆ ริมทางที่เปิดไฟสว่างไสว ร้านสีขาวตกแต่งน่ารัก บุกระจกรอบร้าน ด้านหน้าเป็นระเบียงกว้าง มีซุ้มไม้เลื้อยดูสวยงาม โต๊ะสีขาวประมาณห้าตัวมีลูกค้านั่งอยู่สองคู่ ตามจำนวนรถสองคันที่จอดอยู่หน้าร้าน
“กาแฟอร่อยครับ ผมมาดื่มบ่อยๆ”
“เวลาท่องราตรี” แทนเติมประโยค
กฤษณะไม่ตอบ เอาแต่ยิ้มๆ เดินนำเข้าไปในร้าน เมื่อหยุดยืนหน้าเคาท์เตอร์ พนักงานสาวต้อนรับเสียงใส กฤษณะหันมาทางชายหนุ่มที่เดิมตามเข้ามาติดๆ แล้วเลิกคิ้วถามคำถาม
แวบหนึ่ง แทนนึกถึงใบหน้าเคร่งขรึมของใครคนหนึ่งที่ชอบเลิกคิ้วถามคำถามโดยไม่เอ่ยปาก มีอะไรบางอย่างในตัวของชายหนุ่มสองคนนนี้ที่เหมือนกัน...บุคลิกนิ่งๆ เหมือนกัน หากต่างกันตรงที่คนหนึ่งดูร่าเริง สบายๆ มากกว่า ส่วนอีกคนชอบทำหน้าขรึม ไม่แสดงอารมณ์
แทนสั่งโกโก้ร้อน ส่วนกฤษณะสั่งแบล๊คคอฟฟี่ แล้วทั้งสองหนุ่มก็เดินออกมานั่งที่โต๊ะสีขาวเล็กๆ หน้าร้าน สายลมเย็นๆ พัดเอื่อย อากาศเย็นสบาย หน้าหนาวในกรุงเทพฯ ไม่เคยหนาวเลย แต่อาทิตย์นี้แปลกที่ความหนามปกคลุมเมืองกรุงมาได้กว่าสี่วันแล้ว
“หนาวไม๊ครับ” กฤษณะถามเหมือนอ่านใจแทนได้
ชายหนุ่มส่ายหน้า ขัดกับท่าทางห่อไหล่ของตัวเอง กฤษณะส่ายหน้าขำๆ ในใจอยากจะลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ แล้วโอบไหล่ชายหนุ่มเอาไว้ให้หายหนาว
“หนาวก็บอกมาเถอะ ปากคุณสั่นแล้ว”
ปากเรียวแดงระเรื่อเป็นธรรมชาติของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าทำให้กฤษณะรู้สึกหวั่นไหว แปลกใจตัวเองที่มีความสุขกับการได้เห็นหน้าใสๆ สถาปนิกหนุ่ม
“สั่นสู้” ชายหนุ่มตอบแล้วหัวเราะเบาๆ
บทสนทนาถูกขัดจังหวะเมื่อเจ้าของร้านกาแฟนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ ทั้งสองกล่าวขอบคุณเบาๆ แทนยกโกโก้ร้อนขึ้มมาดมกลิ่น ใช้มือทั้งสองข้างกุมรอบถ้วยเครื่องดื่มร้อนๆ ก่อนจะจิบช้าๆ
“อืมม...อุ่นดีจัง”
“ไหนว่าไม่หนาว” กฤษณะมองบุคลิกที่เป็นธรรมชาตินั้นด้วยแววตาขบขัน
“ไม่หนาว เย็นต่างหาก”
“มันต่างกันตรงไหนนี่”
“ต่างกันสิครับ หนาวก็หนาว เย็นก็เย็น หนาวกับเย็นนี่ มันมีความเข้มข้นและผลกระทบต่างกัน”
กฤษณะเลิกคิ้ว ไม่ค่อยจะเข้าใจเหตุผลของชายหนุ่มเท่าใดนัก
...เลิกคิ้วถามคำถาม...เหมือนผู้ชายคนนั้น...
“คุณเคยจนคำพูดไหมนี่” กฤษณะถามขำๆ
“ไม่เคย” แทนตอบหน้าตาเฉย
“ท่าจะจริง”
ทั้งสองใช้เวลากว่าสิบนาทีนั่งคุยกันพร้อมจิบเครื่องดื่มช้าๆ แทนอดบ่นเรื่องคอนโดปราณบุรีของภูวนัยไม่ได้
“คุณภูวนัยท่านเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างนี้เหรอครับ”
“เปล่านี่ครับ ปรกติเคยเห็นพูดคำไหนคำนั้น”
“คุณกฤษณะได้คุยกับท่านบ้างเรื่องคอนโดบ้างหรือเปล่า ผมนัดกับท่านวันพฤหัส ท่านเกิดติดธุระกระทันหัน เลยไม่ได้พบ กลัวว่าท่านจะไม่ปลื้มคอนโดที่ทำๆ ไป เกิดมีปัญชาให้รื้อทำอีกรอบ คงแย่”
กฤษณะอดขันใบหน้าของสถาปนิกหนุ่มไม่ได้ ไหนจะคำพูดที่จงใจเรียกภูวนัยว่าท่าน และคำศัพท์ “บัญชา”
ที่จริงก็พอจะเข้ากับลักษณะของภูวนัยที่ชอบบัญชาจนติดเป็นนิสัย น้องชายของภูวนัยบ่นให้เขาฟังบ่อยๆ ว่า “คุณพ่อนัมเบอร์ทูบัญชาให้ผมทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ กระดิกตัวแทบไม่ได้”
กฤษณะอดดีใจลึกๆ ไม่ได้ว่าแทนยังไม่มีโอกาสได้พบภูวนัย...เขากลัวว่าความสดใสร่าเริงเป็นธรรมชาติของชายหนุ่มตรงหน้าจะไปจุดประกายบางอย่างให้ภูวนัยมาหลงเสน่ห์สถาปนิกของตัวเอง เขาไม่อยากมีเพื่อนรักเป็นคู่แข่ง...
...คู่แข่งหรือ...นี่จะจีบแทนแล้วหรือ...เขาเริ่มชอบแทนแล้วหรืออย่างไร...กฤษณะถามตัวเอง
“ผมจะคุยกับท่านให้ คุณแทนไม่ต้องเป็นห่วง”
“จริงนะครับ ยังไงเรียนรายงานท่านด้วยว่า ถ้าเกิดเปลี่ยนแปลงอะไรอีก ผมจะเลิกทำ ให้ท่านไปแสวงหาสถาปนิกคนอื่น” แทนแกล้งทำหน้าบึ้ง
“เอาจริงเหรอ” กฤษณะหัวเราะเบาๆ นึกภาพภูวนัยแก้ไขเปลี่ยนแปลง แล้วแทนก็โวยวายลาออกจากการเป็นสถาปนิก...
เขารู้สึกแปลกๆ ในใจ...ใจหนึ่งไม่อยากให้ภูวนัยเปลี่ยนแปลง เพราะไม่อยากให้แทนหงุดหงิด อีกใจหนึ่งอยากให้ภูวนัยแผงฤทธิ์ ทำทีไม่ชอบใจผลงานแล้วสั่งรื้อทำใหม่จนแทนโกรธ เลิกทำงานให้ จะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับภูวนัย ถึงตอนนั้นเขาจะขอจ้างสถาปนิกหนุ่มมาทำงานบ้านพักตากอากาศให้เขา...
ถึงตอนนั้น เขาจะตามไปดูแลตรวจงานบ่อยๆ จะได้ใกล้ชิดกะบสถาปนิกหนุ่มผู้น่ารัก
ความคิดแวบหนึ่งโผล่ขึ้นมาในหัว...ความคิดเจ้าเล่ห์ของเพื่อนผู้ไม่อยากให้คนที่เขาชอบไปพบกับเพื่อน...
...ภูวนัยหน้าตาหล่อเหลาไม่ใช่ย่อย บุคลิกลักษณะมีเสน่ห์ดึงดูดใจ หากเขากลัวว่าใครจะมาหันเหความสนใจของแทนไปจากเขา ก็มีภูวนัยนี่ล่ะที่น่ากลัวที่สุด...

9999999999999999999


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






baros

  • บุคคลทั่วไป
 :haun4:รักเข้าตาแล้วโว้ย

ออฟไลน์ SweetSerenade

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
แอบลุ้นให้คุณโปรกอล์ฟ ไทยแลนด์เพอร์เฟค

กับคุณภูวนัยเป็นคนเดียวกัน

 :impress2:


ปอลอ +1ให้คนขยันลงนิยาย

ออฟไลน์ ลูกหมีน้ำแดง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
+1 คนขยัน

เอาแล้วสิ คู่แข่งมาแล้ว มิสเตอร์เพอร์เฟค :serius2:





ป.ล  คดีรัก ขายที่ไหนค่ะ อยากได้จังเลย บอกหน่อยค่ะ

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
อร๊ายยยยยยยยยยยย
มีหวงนะค๊า

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
เพื่อนรักหักเหลื่ยมโหด หรือเปล่าเนี่ย

three

  • บุคคลทั่วไป
รออยู่นะครับผม

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยเพื่อนรักจะหักเหลี่ยมโหดกันรึเปล่า  :laugh:


katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 10

เสาร์ 6 กุมภาพันธ์ - 19.30 น.

แทนละมือซ้ายจากพวงมาลัย ควานหาขนมขบเคี้ยวบนเบาะข้างๆ ตามองตรงไปยังถนนข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ชายหนุ่มใช้ความเร็วในการขับรถไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแม้ถนนค่อนข้างโล่ง อีกไม่ถึงสิบกิโลเมตรก็จะเข้าเขตจังหวัดนครปฐม
เขาคุยกับวิศวกรของคอนโดที่ปราณบุรีอย่างละเอียดเกี่ยวกับห้องชั้นเพนท์เฮาส์หรูหราของภูวนัย งานคืบหน้าไปมากจนเขาพอใจ ชายหนุ่มวางแผนไว้ว่า หากเร่งทำงานได้ตามตารางที่วางแผนเอาไว้ ไม่เกินอาทิตย์แรกของเดือนมีนาคม ห้องชุดของภูวนัยก็เสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้น เขาจะเดินทางไปกระบี่ ลุยงานออกแบบสปาให้เต็มที่ ถึงหน้าร้อนพอดี ทะเลกำลังสวย เขาจะใช้เวลาว่างจากการทำงานมีความสุขอยู่บนหาดทรายสวยงามของท้องทะเลที่เขาไฝ่ฝันอยากจะไปสัมผัสมานาน
ขนมหมดแล้ว สถาปนิกหนุ่มผู้รักหาดทราย สายลม และแสงแดดเริ่มรู้สึกง่วง เมื่อคืนกว่าจะนอนก็ปาเข้าไปตีสองครึ่ง กฤษณะไปส่งเขาถึงที่บ้าน เขายังจำสีหน้าแปลกใจของผู้บริหารหนุ่มได้ กฤษระเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อเขาบอกให้จอดรถหน้าบ้านไม้สีขาวที่แฝงตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้สูงใหญ่ รั้วบ้านเป็นไม้ระแนงเก่าๆ สีทึม มีซุ้มไม้เลื้อยเป็นประตูทางเข้า บ้านสวนเมืองนนท์ของเขาห่างไกลจนกฤษณะถามแล้วถามอีกว่าใกล้จะถึงหรือยัง
“โชคร้ายของคุณกฤษณะแล้วนะครับ ช่วยไม่ได้ อยากยืนยันมาส่งผมเอง”
“ผมว่าโชคดีต่างหาก” กฤษณะยังทำหน้ายิ้มๆ ไม่มีท่าทีกังวล เพียงแต่แปลกใจ ไม่นึกว่าสถาปนิกท่าทางสมัยใหม่อย่างแทนจะพักอยู่บ้านสวนไกลจากกรุงเทพฯ
แทนบอกว่าเขาจะกลับบ้านเมืองนนท์ตอนสุดสัปดาห์ ชอบบรรยากาศธรรมชาติสดชื่น ช่วงวันทำงานเขาพักอยู่ที่คอนโดกลางเมือง
“ตื่นเต้นที่ได้มีเซอร์ไพรซ์กลางดึกแบบนี้” กฤษณะทำตาระยิบระยับ ทำท่าเหมือนจะอยากเข้าไปส่งแทนในบ้าน แต่คงเห็นว่าดึกมากแล้ว จึงไม่ได้รั้งชายหนุ่มเอาไว้
แทนยิ้ม นึกถึงใบหน้ากฤษณะตอนที่กล่าวราตรีสวัสดิ์เขาในคืนนั้น นัยน์ตาของกฤษณะพราวระยับ บอกว่า วันหลังขอมาชื่นชมธรรมชาติที่บ้านสวนของแทนบ้าง เขาก็ชอบธรรมชาติเหมือนกัน เขาชอบอะไรที่เป็นธรรมชาติ ชอบคนที่เป็นธรรมชาติ...

แทนเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมัน เข้าห้องน้ำ ล้างหน้าตาด้วยน้ำเย็นจัด แวะร้านสะดวกซื้อ คว้าขนมสองถามถุงและเครื่องดื่มเย็นๆ แล้วเดิมกลับมาที่รถ พร้อมเดิมทางต่อ
คนพร้อม...แต่รถไม่พร้อม...ชายหนุ่มสตาร์ทรถ...เครื่องยนต์ไม่ทำงาน...
“อะไรว่ะ เมื่อกี้ก็ดีๆ อยู่เลย อย่ามาพยศกันตอนนี้นะไอ้เต่าน้อย”
แทนบ่น ขมวดคิ้ว กลัวว่ารถจะเสียกลางทาง...พรุ่งนี้เช้าวันอาทิตย์ ต้องไปฝึกไดร์ฟกอล์ฟ...ที่สำคัญเขาไม่อยากเสียเวลาอยู่แถวนี้...
ชายหนุ่มบิดกุญแจรถหลายครั้ง แต่ฮอนด้าซีวิคคันเก่าไม่ยอมมีปฏิกิริยาตอบสนอง แทนหันซ้ายหันขวาเผื่อจะเห็นใครสักคนที่พอจะขอความช่วยเหลือได้
มีรถจอดอยู่เพียงสองคัน หญิงสาวคนหนึ่งกำลังจะขยับรถโตโยต้าคันจิ๋วใหม่เอี่ยมป้ายแดงออกจากช่องจอด ท่าทางเพิ่งจะเริ่มหัดขับรถ อีกคันคนขับไม่อยู่ที่รถ พนักงานเติมน้ำมันสองคนนั่งเซ็งๆ อยู่ข้างตู้เติมน้ำมัน แทนรู้สึกเสียดายที่แวะเข้ามาในปั๊มเล็กๆ แทนที่จะเป็นปั๊มใหญ่คนพลุกพล่าน
แทนเปิดฝากระโปรงรถ ยืนท้าวสะเอวมองอย่างสิ้นหวัง
“จะยืนมองทำไมว่ะ ไม่รู้เรื่องอะไรซักอย่าง” ชายหนุ่มบ่นกับตัวเอง เขาไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์แม้แต่นิด
แทนเดินยังพนักงานเติมน้ำมันสองคน แต่เมื่อเข้าใกล้ก็เริ่มรู้สึกว่าคงไม่ได้เรื่องเท่าใดนัก สองคนยังดูเด็กมาก ท่าทางไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์
จริงดังคาด เด็กหนุ่มทั้งสองคนทำหน้าเลิกลั่ก มองซ้ายมองขวาอย่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
“อู่แถวๆ นี้มีไม๊น้อง”
“ไม่มีหรอกหรอกน้า ไปอีกไกลโน่นแหน่ะ” หนุ่มร่างผอมชี้มือ
...เจ้าเด็กบ้า...มีตาหามีแวว...หน้าตาเขายังเด็กอยู่ ไม่ถึงกับจะเป็นน้าได้ที่ไหน...น่าตบกระบาลนัก...แทนฉุน
“ไกลขนาดไหน ถึงกิโลได้ไม๊”
สองหนุ่มอึกอัก หันมามองหน้ากัน ไม่รู้จะตอบอย่างไร
“ก็ไกล...โน่น เลยโรงงานรองเท้าไปอีกไม่ไกล”
...ตกลงไกลหรือไม่ไกลว่ะ...แทนเริ่มหงุดหงิด
คุยอยู่เป็นนาน แทนเห็นท่าทางจะได้ข้อมูลอะไรมากไปกว่านี้จึงเดินกลับมาที่รถ พยายามคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี จะโทรศัพท์หาสงคราม เพื่อนคู่หูคงช่วยอะไรไม่ได้ รายนั้นเติมน้ำมันเป็นอย่างเดียว เขาเองยังเก่งกว่าตั้งเยอะ รู้จักเติมน้ำหม้อน้ำด้วย
แทนคิดว่าในเวลานี้เพื่อนรักคงกำลังนอนเอาแรงเพื่อตื่นขึ้นมาห้าทุ่มเพื่อไปเที่ยวกลางคืน...
“พสิณท์สุดยอดเลยว่ะแทน ให้เก้าเต็มสิบ เยี่ยมสุดในรอบปี” สงครามส่งเสียงตามสายเมื่อเขาคุยกันตอนบ่ายขณะที่กำลังตรวจงานอยู่ที่ปราณบุรี
“นี่เพิ่งเดือนกุมภา...ไอว่าเยี่ยมสุดในรอบเดือนน่าจะพังดูเหมาะกว่านะสง”
“โน โน โน ลืมอีกสิบเอ็ดเดือนไปได้เลย พสิณท์เยี่ยมสุดในรอบปีจริงๆ ให้ดิ้นตาย เดี๋ยวยูถึงกรุงเทพฯ ไอจะพาไปโชว์ตัว”
แทนส่ายหน้า สงครามเปลี่ยนผู้ชายบ่อยแทบจะอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ไม่เคยคิดจริงจังกับใคร เพื่อนรักของเขาบอกว่า ขอแค่รู้จักก็พอ ถ้าจะให้รักอกจะแตกตาย...

ความคิดของชายหนุ่มสะดุดเมื่อได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถวิ่งเข้ามาจอดข้างๆ แทนหันขวับไปทันทีเผื่อจะขอความช่วยเหลือได้
“ว้า...รถหรู เศรษฐีแหงๆ คงจะช่วยได้หรอก” ชายหนุ่มบ่น แลนด์ครูซเซอร์ LX 470 สีดำสนิท ติดฟิมล์สีเข้ม ทะเบียนเลขตองแปด
...กระบะซักคันน่าจะดีกว่า...อย่างน้อยขอความช่วยเหลือได้...
แต่ความคิดของสถาปนิกผู้ดูเหมือนจะโชคร้ายหยุดลงเมื่อเจ้าของรถเปิดประตูลงมา...
“คุณนั่นเอง”แทนอุทานเบาๆ
เจ้าจองรถคันใหญ่แปลกใจไม่แพ้กันที่เห็น ‘คนใจไม่ร้อน’ ยืนทำหน้ามุ่ยอยู่ไม่ไกล เขาหันไปมองข้างๆ เห็นรถเก๋งฮอนด้าซีวิคคนกลางเก่ากลางใหม่มีรอบประทับรอบคันจอดสงบนิ่ง ฝากระโปรงรถเปิดค้างทิ้งไว้
“รถเสียหรือครับ”
แทนพยักหน้า “นิ่งสนิท ไม่ยอมหายใจเลยครับ” แทนหันหน้าไปมองเต่าน้อยคู่ทุกข์คู่ยาก
“เดี๋ยวผมช่วยดู” ช่างจำเป็นเดินตรงไปที่รถ
“คุณดูรถเป็นหรือครับ” แทนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“ผมไม่ได้ตีกอล์ฟเป็นอย่างเดียว” เขาเสียงเรียบ
...ประชดหรือเปล่านะ...ชายหนุ่มนึกในใจ
...เอาเถอะ...มีพระเอกมาช่วยแล้ว อย่าเซ้าซี้เขานักเลย เดี๋ยวเขาไม่ชวย จะซวยเสียเปล่าๆ...
โปรกอล์ฟมี่กลายมาเป็นช่างซ่อมรถ เดินอ้อมเปิดประตูฝั่งคนขับ ยกมือขึ้นกดตรงพวงมาลัยอยู่สองสามครั้ง แล้วเงยหน้าขึ้นถามชายหนุ่มที่ยืนอยู่ใกล้
“เติมน้ำมันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่”
“นี่คุณ น้ำมันผมไม่หมดนะ ไม่ได้บื้อขนาดนั้น” แทนหน้ามุ่ย
“ผมล้อเล่น แบตเตอรี่เสียครับ”
สถาปนิกหนุ่มถอนหายใจ...เผลอสะบัดหน้าเล็กน้อย ไม่รู้สึกตัวว่าทำให้อีกฝ่ายอมยิ้มที่แกล้งได้...
...ล้อเล่นก็เป็น...ล้อเล่นทั้งๆ ที่หน้าเรียบนิ่งอย่างนี้นี่นะ...แปลกคน...ใครเขาล้อเล่นกันหน้าขรึมแบบนี้
ใจนึกถึงผู้ชายอีกคนที่ล้อเขาหน้าตายิ้มๆ แววตาพราวระยับ
...กฤษณะกับผู้ชายคนนี้...สองคนที่แตกต่าง...หากมีอะไรบางอย่างที่คล้ายกันมาก อะไรบางอย่างที่แทนนึกไม่ออก...
“กดๆ แค่นี้ก็รู้เลยหรือครับ”
“ผมบอกแล้วไง ไม่ได้ตีกอล์ฟเป็นอย่างเดียว” เขาเดินกลับไปที่รถของตัวเอง
แทนยืนนิ่ง หย่อนขาซ้ายเล็กน้อย เคาะเท้าเบาๆ --- ท่าประจำของเขาเวลาใช้ความคิด
...เอ๊ะ...เขากำลังว่าเราไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรือเปล่านี่...ตีกอล์ฟไม่ได้เรื่อง...แถมไม่รู้อะไรเรื่องรถอีกด้วย...
แทนฉุนกึก...คนหน้าเคร่งหลอกว่าเขา...พูดได้หน้านิ่งๆ...
แทนหันกลับไปมองคนหน้านิ่ง เขาขึ้นรถ ปิดประตู ขยับรถถอยออกไป
...เอ๊ะ...จะหนีกันไปหน้าตาเฉยอย่างนี้เลยหรือ...
แทนโกรธจนหน้าแดง ไม่นึกว่าเขาจะขับรถหนีไปอย่างนี้...แค่พูดไม่เข้าหูนิดเดียว...
ชายหนุ่มยกมือค้ำสะเอวอย่างไม่พอใจ พ่นลมหายใจออกมาดังๆ หันหลังกลับไปมองผนังของร้านสะดวกซื้ออย่างสะกดอารมณ์ รู้สึกผิดหวังจนอยากจะชกหน้านิ่งๆ นั้นให้แสดงอารมณ์อะไรออกมาทางสีหน้าเหมือนคนอื่นเสียบ้าง
...ทำยังไงดี...คนที่คิดว่าจะช่วยเขาได้กลับงอนขับรถหนีไปซะแล้ว...ช่างเถอะ ไม่อยากช่วยก็ไม่ต้องช่วย ไม่เห็นจะง้อ ถ้าแย่นักเขาก็จะโทรเรียกรถมาลากไอ้เต่าน้อยเข้ากรุงเทพฯ แล้ววันจันทร์จะไปดาวน์รถคันใหม่เสียเลย...
หันกลับมา แทนก็ตกใจ นึกโทษตัวเองที่เผลอดคิดอะไรอกุศล ชายหนุ่มตัวโตคนนั้นกำลังยืนก้มหน้าอยู่หน้ารถของเขา หนีบสายสีดำแดงเข้ากับขั้วแบตเตอรี่ รถของเขาจอดอยู่ใกล้ๆ เกือบจะติดกัน
แทนเดินเข้าไปใกล้ ชายหนุ่มหน้าดุหันมาสั่งเบาๆ ใบหน้ายังเรียบนิ่ง ปราศจากอารมณ์
“สตาร์ทรถครับ”
แทนยิ้มแหยๆ แล้วเดินไปติดเครื่องรถ เครื่องยนต์ติดขึ้นมาทันที ชายหนุ่มเดินกลับมาที่ช่างจำเป็น พร้อมกล่าวขอบคุณเบาๆ ไม่สบตา
“ไม่เป็นไรครับ...นี่คุณคงคิดว่าผมขับรถหนีไป”
...เขาอ่านใจออก!...
“ใครจะไปรู้ล่ะ อยู่ดีๆ คุณก็เดินกลับไปขึ้นรถ แล้วถอยรถออกไป” แทนเสียงอ่อย “ก็นึกว่าคุณโกรธ”
“ผมไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล และก็ไม่ได้โกรธง่ายขนาดนั้น” เขาเอื้อมมือไปถอดสายพ่วงแบตเตอรี่ แทนหรี่ตา ขมวดคิ้ว อดนึกไม่ได้ว่าฝ่ายนั้นประชดอีกแล้ว
...ร้ายจริงๆ หน้านิ่งๆ แบนนี้ ปากคอไม่เบา...เอาเถอะ ยอมเขาไปก่อน อย่างน้อยเขาก็เป็นอัสวิน ขี่ ‘ม้าดำทะมึนตัวใหญ่’ มาช่วยได้ทันท่วงที
“ขับไปช้าๆ นะครับ ผมจะตามหลังคุณไป เผื่อมีปัญหาอะไร แต่ผมว่าน่าจะแวะอู่ เปลี่ยนแบตลูกใหม่ดีกว่า นี่ยังไม่ดึกมาก น่าจะมีร้านเปิดอยู่”
“รบกวนคุณ ผมว่าขับรวดเดียวไม่แวะพักที่ไหนจนถึงบ้านก็ได้นะ”
“ทำตามที่ผมบอกดีกว่า” เขาพูดเสียงเรียบแล้วเดินกลับไปที่รถทันที ทิ้งให้ขายหนุ่มเม้มปากเพราะโดน ‘สั่ง’
...เอ หรือเขาหลอกว่าเราว่า ‘หัวรั้น’...
แทนอดนึกไม่ได้...เจอกันไม่ถึงสิบห้านาที โดนผู้ชายคนนี้ว่าไปหลายครั้ง...

ออกจากปั๊มน้ำมันไม่นาน พระเอกขี่ม้าดำคันใหญ่กระพริบใฟสูงถี่ๆ พร้อมบีบแตรรถซ้ำๆ แทนเปิดไฟเลี้ยวซ้ายชะลอรถจอดข้างทาง อัสวินคนนั้นลงจากรถเดินมาที่เขา ชายหนุ่มลดกระจกลงกำลังจะอ้าปากถามว่ามีเรื่องอะไร
“ทำไมไม่แวะ ดื้อจริงๆ”
แทนงง...อยู่ดีๆ ก็โดนดุ
“แวะอะไร แวะทำไม ที่ไหนเหรอ”
ผู้ชายตัวโตยืนหน้านิ่งเรียบ แต่ถอนหายใจเบาๆ
“เปลี่ยนแบตเตอรี่ไงครับ ผมกระพริบไปเตอนคุณตั้งหลายครั้ง นึกว่าจะรู้ตัว นี่เลยมาแล้ว ถอยรถกลับไปช้าๆ นะ”
เขาไม่ฟังคำตอบเช่นเคย หันหลังกลับ เดินไปที่รถแล้วเคลื่อนตัวถอยหลัง
“ใครจะไปพูดกับไฟรู้เรื่อง” แทนบ่นพึมพำเบาๆ อดเสียดายไม่ได้ว่าน่าจะพูดให้เขาได้ยิน เพื่อจะทำให้เขาโกรธ แสดงอารมณ์ทางสีหน้าให้แตกต่างไปจากเดิมเสียบ้าง แต่ใจหนึ่งก็ดีใจที่ไม่ได้พูด เพราะยังกลัวว่าเขาอาจจะโกรธจริง แล้วทิ้งไว้ข้างทาง
...เขาอ่านใจผู้ชายคนนี้ไม่ออกจริงๆ...แทนรู้สึกฉุนตัวเองเป็นที่สุด

คนหน้าดุนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ขณะที่ทั้งสองกำลังรอให้ช่างเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ แทนลอบมองถึงได้ตระหนักว่าผู้ชายคนนี้หน้าตาคมเข้มมาก เครื่องหน้าไม่มีที่ติราวแกะสลัก คิ้วดกหน้าเข้ม ตาคมกริบราวพญาเหยี่ยว จมูกโด่งเป็นสัน ปากอิ่มเต็มอย่างผู้ชาย โหนกแก้มสูง ผิ้วคร้ามไม่ขาวซีดเหมือนเขา
พลันคนที่ถูกมองหันขวับมามองสถาปนิกหนุ่ม แทนจึงรีบหันหน้าหนี ทำไม่รู้ไม่ชี้ จึงไม่เห็นว่าคนที่ถูกค่อนขอดว่าชอบทำหน้าเคร่งนั้นมีรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าที่จับได้ว่าชายหนุ่มเจ้าของรถกำลังแอบมองเขา
“ผมว่าคุณล่วงหน้าไปก่อนก็ได้นะครับ ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งรอกับผมก็ได้ นี่เปลี่ยนแบตเสร็จแล้วก็ขับปร๋อเข้ากรุงเทพได้แล้ว” แทนพูดเบาๆ ยังไม่กล้าหันกลับไปมอง
“ไม่เป็นไรครับ ถ้าห่วงว่าผมจะเสียเวลานัก ผมจะคิดโอที”เขาอมยิ้ม นัยน์ตาขันๆ
“ไม่มีเงินจ่าย จะเก็บเงินไปซื้อรถใหม่”
ชายหนุ่มหน้าขรึมยิ้มกว้าง ส่ายหน้าลุกขึ้นยืน หันไปมองแสงไฟข้างทางเพื่อซ่อนหน้าที่กำลังยิ้มพราว...อะไรบางอย่างทำให้เขารู้สึกสดชื่น ใบหน้ารั้นๆ ของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ใกล้ๆ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ บางครั้งดูร่าเริงสดใส บางครั้งดูดื้อเหมือนเด็ก บางครั้งนิ่งเรียบเหมือนผู้ใหญ่ แต่หากพูดไม่เข้าหู ก็จะทำท่าฟึดฟัดเหมือนเด็กโดนขัดใจ
...คนๆ เดียว มีหลายสีสัน...มีชีวิตชีวา...ไม่เหมือนใครๆ ที่เขาเคยพบ...
“ว่าแต่ว่าคุณมาทำอะไรดึกดื่นแถวนี้” เขาถาม ยังไม่หันหน้ากลับ
แทนหันหน้าไปมองแผ่นหลังของผู้ชายร่างสูง
“ผมไปตรวจงานที่ปราณบุรี”
“งานอะไรครับ” เขาเสียงเรียบ
“บ้านเศรษฐีริมทะเลครับ”แทนนึกฉุน...ชวนคุย แต่กลับหันหลังให้...แปลกคน...
“ผมก็ไปตรวจงานที่ปราณบุรีเหมือนกัน”
การสนทนาหยุดชะงักเมื่อช่างเดินตรงเข้ามาหาแทนเพื่อบอกว่างานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มยื่นเงินให้พร้อมกล่าวขอบคุณ
“ขับรถดีๆ นะครับ ผมจะขับตามเป็นเพื่อนคุณเรื่อยๆ”
“ขอบคุณครับ แต่ว่าคุณไม่รีบ...” แทนเห็นรถคันใหญ่ของเขาแล้วรู้สึกเกรงใจ รถขนาดนี้จะให้ขับช้าๆ ตามเขาก็ยังไงๆ อยู่
“ผมไม่รีบหรอก คุณเองก็อย่าขับเร็วนัก อันตราย” ผู้ชายหน้าดุสั่ง แล้วเดินไปที่รถ
แทนมองตาม...ผู้ชายคนนี้ชอบสั่งจริงๆ...สงสัยแฟนคงกลัวหงอ...
ชายหนุ่มอดนึกถึงสาวสวยคนนั้นที่เจอที่ร้านอาหารไม่ได้...ท่าทางหึงหวงผู้ชายหน้าขรึมคนนี้น่าดู...เดี๋ยวก็แย่งมาเป็นแฟนซะเลย...แทนคิดเล่นๆ ครั้นพอนึกได้ว่า เขาขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว ตัวเองยังยืนยิ้มอยู่ แทนจึงรีบเดินไปที่รถ ไอ้เต่าน้อยอยู่คู่กับเขาตั้งแต่เรียนจบกลับมาทำงานเมืองไทย แม้จะพักหลังๆ จะเกเรไปบ้าง แต่ส่วนมากก็ขับดีมาตลอด ความคิดที่จะเปลี่ยนรถคันใหม่ไม่เคยเกิดขึ้นเลย แต่จากคืนนี้ทำให้เขามีความคิดว่าอาจจะถึงเวลาแล้ว วันนี้โชคดีที่มีคนมาช่วย หากในอนาคตก็ไม่แน่ว่ารถคู่ใจจะถอดใจเมื่อไหร่
แทนขับรถความเร็วคงที่ไม่เกิน 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจนเข้าเขตกรุงเทพฯ จึงลดความเร็วลง ชายหนุ่มรู้สึกอุ่นใจไม่ถูกที่รู้ว่ามีคนคอยขับรถเป็นเพื่อนอยู่ไม่ห่าง เหมือนมีคนคอยดูแล รู้ว่าหากเกิดอะไรขึ้น คนหน้าเคร่งคนนั้นก็จะเป็นกลายร่างเป็นอัสวินกระโดดเข้ามาช่วย
เมื่อลงทางด่วน โปรกอล์ฟหน้าขรึมกระพริบไฟถี่ๆ เหมือนจะพยายามสื่อสารอะไรสักอย่าง
...อะไรอีกล่ะ...จะให้คุยกับไฟอีกแล้วหรือ...แทนฉงน
ชายหนุ่มชะลอรถ อัสวินแห่งรัตติกาลคนนั้นตีรถขึ้นมาคู่รถคันเล็กของเขา ลดกระจกฝั่งที่นั่งข้างคนขับลง โบกมือให้เป็นสัญญาณอำลา แทนส่งยิ้มกว้างให้ หวังลึกๆ ว่าจะเห็นเขายิ้มกว้างตอบ...แต่ก็เป็นไปตามคาด เขาเพียงอมยิ้มเล็กน้อย ก้มหัวให้ช้าๆ ก่อนจะเร่งความเร็วผ่านเขาไป
แทนอมยิ้ม เอื้อมมือไปเปิดเพลง พลางนึกอยู่ในใจว่า...เริ่มต้นของปีนี้แปลกไปจากทุกปี ผู้ชายสองคนก้าวเข้ามาในชีวิตพร้อมๆ กัน...ผู้ชายสองคนที่ช่างแตกต่างกันเหลือเหลือ แต่มีสิ่งหนึ่งร่วมกัน นั่นคือเสน่ห์ดึงดูดใจ...เขาเริ่มจะชอบสองคนนี้เข้าแล้วสิ
แทนตกใจกับความคิดนี้...สองคนเลยหรือ?...
************

ออฟไลน์ Mint

  • นิสัย!!
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +881/-17
^
^
 :z13:
ก่อนอ่าน

แล้วเมื่อไหร่จะรู้กันหล่ะเนี่ยยยยยยยยยยยยยยย

 :serius2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-02-2009 15:49:20 โดย Mint »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด