สวัสดีครับผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ สุดสัปดาห์ไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ตครับ เช้านี้เลยมาโพสตอนที่ 3 ให้อ่านกัน
(เรื่องตำรวจหนุ่มปิดคดีรักภาคสอง ขอลาหยุดพักการศึกษาซักนิดนะครับ ส่วนภาคหนึ่งวันนี้โรงพิมพ์จะส่งพรูฟให้ตรวจ แล้วถ้าผมไม่ฟุบหลับคากองหนังสือเย็นนี้ก็คงสั่งให้โรงพิมพ์เขาพริ้นท์เล่มออกมาได้เลยซึ่งคืนวันศุกร์ก็คงเสร็จ พร้อมจำหน่าย เดี๋ยวอีกวันสองวันจะมาแจ้งรายละเอียดการสั่งซื้อครับ---ถ้าจะมีใครยอมซื้อ ถ้าไม่มีใครซื้อก็จะไปวิ่งไล่แจกแถวๆ สวนจตุจักรเช้าวันเสาร์)
ขอให้มีความสุขกันทุกคนนะครับ (ใครอยากกินซาลาเปาก็แวะไปเซเว่นอีเลฟเว่นนะ เพราะซาลาเปาใส้ของรักของหวงของคฑาวุธไม่มีขาย)
บทที่ 3
เสาร์ 15 มกราคม – 09.50 น.
แทนหยีตา ขมวดคิ้ว แสงสว่างที่สาดเข้ามาในห้องจ้าเหลือเกินจนต้องยกมือบังเอาไว้ ชายหนุ่มบิดตัว มองซ้ายมองขวา
...ที่ไหนกันนี่...
หมอนนุ่มๆ ผ้าหุ่มสีน้ำตาลอ่อน เตียงใหญ่ ห้องกว้าง เพดานสูง หน้าต่างบานใหญ่กรอบสีขาวสะอาด
แทนรู้สึกตัวว่าไม่ใช่ห้องนอนของตัวเอง ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มหลุดลุ่ยลงมา แผ่นอกเปลือยเปล่า ทั้งตัวนุ่งเพียงกางเกงชั้นในสีขาวตัวเดียว
...ใคร...ใครถอดเสื้อผ้า...
แทนพยายามนึกทบทวนเหตุการณ์เมื่อคืน แต่จำได้เพียงแต่ว่าเดินโซโซไปเกาะต้นไม้ริมถนน แล้วก็อาเจียนใส่ผู้ชายคนหนึ่ง หลังจากนั้น ความทรงจำก็หายไป
ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นจากเตียง ในหัวยังปวดตุบๆ คอแห้งอยากดื่มน้ำ ตามองหาเสื้อผ้า เห็นกางเกงขายาวผ้ายืดตัวหนึ่งกับเสื้อกล้ามสีขาววางพาดอยู่บนพนักเก้าอี้ จึงเดินไปคว้ามาสวม ตัวใหญ่ไปนิด แต่ก็พอใส่ได้
แทนยืนมองตัวเองหน้ากระจก หัวยุ่ง หน้ายับยู่ยี่ ตาแดงก่ำ สวมเสื้อกล้ามตัวโคร่ง กางเกงผ้ายืดสีเทา เหมือนเด็กใส่เสื้อผ้าผู้ใหญ่
เขาค่อยๆ โผล่หน้าออกมาจากห้องนอน สอดส่ายสายตาดูสถานที่แปลกตาที่ไม่คุ้นเคย ในใจคิดสงสัยว่า...บ้านใครกัน ทำไมกว้างอย่างนี้...
“ตื่นแล้วเหรอครับคุณแทน” เสียงทุ้มลึกดังขึ้นมาจากฟากหนึ่งของห้องโถงกว้าง
ชายหนุ่มหันขวับไปยังต้นเสียงก็พบว่าผู้ชายตัวสูงใหญ่เดินถือแก้วน้ำเข้ามา เขาสวมเสื้อยืดสีขาวบางๆ กางเกงผ้าฝ้ายสีกรมท่า หน้าอกกว้าง ต้นแขนแข็งแรง ล่ำสัน
...เขานั่นเอง...คนควบคุมความประพฤติลูกค้าที่กำลังจะเข้าห้องน้ำ...
“คุณเอ่อ...ผม...เอ่อ...” แทนอ้ำอึ้ง สมองสั่งการช้า คิดไม่ออกว่าจะพูดอะไรดี
“เมื่อคืนคุณเมามาก ผมส่งคุณขึ้นแท็กซี่กลับบ้านไม่ได้เพราะคุณบอกที่อยู่ไม่ได้ แล้วคุณก็น๊อคไปเสียงก่อน เลยต้องพามานอนที่นี่” เขาพูดเนิบนาบ เดินเข้ามาใกล้ ยื่นแก้วน้ำให้
“ขอบคุณครับ แย่จัง ผมรบกวนคุณ ทำให้ลำบาก”
“ไม่เป็นไร ผมเข้าใจคนเมา” เขาพูดเสียงเรียบ เดินไปเปิดประตูระเบียงให้ลมโกรกเข้ามา
...คอนโด ชั้นสูงเอาการ เพราะมองออกไปเห็นแต่ท้องฟ้าสีคราม...
“เสื้อผ้าคุณยังไม่แห้ง เมื่อคืนเปียกไปทั้งตัว ผมเพิ่งเอาเข้าเครื่องซักผ้า กำลังปั่นหมาดอยู่”
“ขอบคุณครับ...ผมขอโทษที่สร้างความลำบากให้” แทนยิ้มแหยๆ
“ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มคนนั้นยังทำหน้านิ่ง เหมือนผู้ใหญ่พูดกับเด็ก แทนอดเติมประโยคในใจไม่ได้...ไม่เป็นไร...ผมเข้าใจคนเมา...
...ผู้ชายคนนี้ ดูเหมือนจะใจดี...แต่ก็ดูเหมือนจะดุในเวลาเดียวกัน...ใบหน้าไม่ค่อยแสดงอารมณ์...เหมือนรูปปั้น...คนแบบนี้ เคยยิ้มหรือเปล่านะ...
แทนหันมองหานาฬิกา
“นี่กี่โมงแล้วครับ” เขาเริ่มนึกได้ เช้าวันนี้ต้องไปดูคอนโดคุณภูวนัยที่ปราณบุรี เพื่อนของเขา...ท่านรองประธาน...คุณกฤษณะจะพาไป...
...ตายละหว่า นัดไว้กี่โมง...ชายหนุ่มยังรู้สึกมึนๆ นึกไม่ค่อยออก
“จะสิบโมงแล้ว ถ้าหิวข้าวผมมีอาหารแช่แข็ง อุ่นไมโครเวฟเดี๋ยวเดียวก็ได้ทาน” เขาขยับเดินเหมือนจะไปที่ห้องครัว
“โอยแย่แล้ว สิบโมง! ผมมีนัดลูกค้า กระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ผมอยู่ไหนครับ” แทนอุทาน ตาโต ดีดตัวผึงขึ้นมาจากโซฟา หันหน้าเลิ่กลั่ก
“บนโต๊ะข้างหัวเตียง” ใบหน้าผู้ชายคนนั้นยังนิ่งเรียบ ไม่ตื่นเต้นไปกับแขกแปลกหน้า
แทนรีบวิ่งเข้าไปห้องนอน คว้ากระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์วิ่งกลับออกมาข้างนอก
“ขอบคุณนะครับ แต่ผมต้องรีบไปแล้ว” แทนผลุนผลัน รีบวิ่งไปที่ประตู
“นั่นประตูห้องนอนผม”
ชายหนุ่มชะงัก หันมาถามเจ้าของห้องชุด “แล้วประตูทางออกอยู่ไหนครับ”
เจ้าของบ้านชี้มือไปอีกฟากหนึ่งของห้อง
...คอนโดผู้ชายคนนี้กว้างจริงๆ อยู่กันกี่คนนี่...
“ขอบคุณนะครับ ผมจะไม่ลืมบุญคุณเลย แต่ว่าตอนนี้ผมต้องรีบติดเทอร์โบ ขอยืมเสื้อกล้ามกะกางเกงคุณไปก่อนนะครับ"
“แล้วเสื้อผ้าคุณหล่ะ”
“เสื้อผ้าผมคุณทิ้งไปเลยก็ได้ครับ แต่ผมขอยืมรองเท้าแตะก่อนนะ”
“จะไปทั้งยังงี้หรือ” ผู้ชายหน้าเคร่งถาม เดินตามมาที่ประตู แทนกำลังเลือกรองเท้าแตะหาดูคู่ที่ท่าทางจะแพงน้อยที่สุด
แทนเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเจ้าของบ้านหน้าแหยๆ พยักหน้า เปิดประตู แล้วมองหาลิฟท์ โชคดีที่ลิฟท์อยู่ตรงหน้าประตูห้องชุดเขาพอดี
ชายหนุ่มโบกมือลาเจ้าของห้องที่ยืนหน้านิ่งมองอยู่ที่ประตู กดลิฟท์ปิด
...แทนเอ๋ยแทน...ซวยจริงๆ...
แทนรีบเข้ากดเบอร์โทรศัพท์หาอินทิราขอเบอร์โทรคุณกฤษณะ
“คุณกฤษณะครับ ผมแทนครับ จำได้ไหมครับ สถาปนิกที่...อ๋อ จำได้หรือครับ ผมต้องขอโทษที่โทรมารบกวน คือว่า...” ประตูลิฟท์เปิดออก...ลิฟท์ตึกนี้วิ่งเร็วจริงๆ...ชายหนุ่มรีบก้าวเดินออกมา ตรงไปยังประตูทางออกอาคาร “คือว่าผมอยากจะขออนุญาตคุณกฤษณะว่า...” แทนหยุดพักหายใจ
“พูดช้าๆ ก็ได้ครับคุณแทน” น้ำเสียงกฤษณะอารมณ์ดี ดูเหมือนจะหัวเราะเบาๆ “พักให้หายเหนื่อยก่อนค่อยพูด”
“คือว่าผมมีปัญหาอยากจะขอไปสายซักเอ่อ...” ชายหนุ่มพยายามนึกว่าเขานัดกับกฤษณะกี่โมง
“ไม่เป็นไรครับ เจอกันสิบเอ็ดโมงครึ่งก็ได้...หรือจะให้ผมไปรับ”
“ขอบคุณครับ งั้นผมจะไปให้ถึงหน้าบริษัทคุณก่อนสิบเอ็ดโมงครึ่ง”
...สิบเอ็ดโมงครึ่งหรือ...ยังทัน...ว่าแต่ว่าที่นี่ที่ไหน ไกลบ้านเขาหรือเปล่า...
แทนเดินออกมาจากคอนโดที่หรูหรามาก...น่าจะเป็นกลางเมืองที่ใดที่หนึ่งของกรุงเทพฯ หันไปมองรอบๆ ดูคุ้นตา โชคดีที่คอนโดอยู่ติดถนนใหญ่ คนเดินผ่านไปมามองดูเขาแปลกๆ
โชคเข้าข้างอีกครั้งเพราะมีแท็กซี่ว่างผ่านมาพอดี
“พี่ครับ ไปสาธรซอย 93 ด่วนติดเทอร์โบเหาะไปเลยนะพี่” ชายหนุ่มรีบผลุบเข้าไปในแท็กซี่ แล้วคนขับหน้าเข้มก็กระชากรถพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วทันใจ
“พี่ครับ ที่นี่ที่ไหน...”
“สาธร 23 ครับ” คนขับแท๊กซี่ยิ้ม “เมื่อคืนเมาหนักละสิ”
“ก็พอควรครับ”
...โชคดีอีกแล้ว ไม่ไกลจากอพาร์ทเมนท์เขาเท่าไรนัก ทำเวลาได้ทันถึงหน้าบริษัทของคุณกฤษณะที่อยู่พระราม 4 ภายในสิบเอ็ดโมงครึ่ง...
เสาร์ 15 มกราคม – 14.45 น.
คอนโดหรูหราริมหาดปราณบุรีเป็นตึกสูงเพียงห้าชั้น จำนวนห้าตึก ทอดตัวยาวเรียงกันไปตามแนวของหาดทราย การก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว คงเหลือเพียงการปรับภูมิทัศน์ ซึ่งคนงานกำลังเร่งรีบทำงานอย่างขะมักเขม้น กะประมาณจากสายตา คงเสร็จได้ภายในสองอาทิตย์
ภายนอกของคอนโดออกแบบได้สวยงามมากจนแทนอดชื่นชมไม่ได้
ห้องชุดของภูวนัยอยู่ชั้นบนสุด กินพื้นที่ทั้งชั้น มีลิฟท์ของตัวเองแยกจากลิพท์กลาง
“กว้างมากเลยครับ” แทนเดินนำกฤษณะเข้ามาในห้อง สายตาสำรวจพื้นที่ มือเริ่มคลี่แบบแปลน
“คุณภูวนัยชอบที่กว้างๆ ครับ บ้านในกรุงเทพฯ ก็กว้าง คอนโดก็กว้าง ออฟฟิสก็กว้าง” กฤษณะยืนล้วงกระเป๋า ท่าทางสบายๆ
...ขอให้ใจเปิดกว้างด้วยเถอะ ถ้าคุณภูวนัยท่าทางสบายๆ อารมณ์ดีเหมือนเพื่อนของเขาก็คงจะดี... สถาปนิกหนุ่มคิดในใจ
แทนยอมรับว่ากฤษณะเป็นคนมีเสน่ห์ ตลอดทางจากกรุงเทพฯ จนถึงปราณบุรี กฤษณะคุยกับเขาได้ไม่เบื่อ แต่ชายหนุ่มก็อดคิดไม่ได้ว่า เพราะกฤษณะดูท่าทางเป็นคนเจ้าชู้ เขาจึงมีเสน่ห์ดึงดูดใจเป็นพิเศษ ผู้ชายเจ้าชู้มักจะมีเสน่ห์เอาไว้ ‘ล่อหลอก’ คนให้ตายใจ...ชีวิตของแทนเจอแต่คนแบบนี้...หลายคนที่เข้ามาจีบเขามักจะเป็นคนเจ้าชู้...ไม่รู้ตัวเขาไปดึงดูดใจคนเจ้าชู้ได้อย่างไรกัน...
“แล้วคุณกฤษณะไม่ได้ซื้อไว้ซักห้องหรือครับ” แทนชวนคุย
“ไม่หรอกครับ ผมมาขออาศัยเพื่อนนอนดีกว่า” ชายหนุ่มยิ้มกว้าง “ที่จริงผมมีบ้านพักตากอากาศที่หัวหิน นี่ก็กะจะแวะดู ขออนุญาตคุณแทนแวะซักครู่นะครับ”
แทนยิ้ม พยักหน้า แล้วก้มลงใส่ใจงานตรงหน้าต่อ
...แวะดู หรือแวะพักกันแน่...คนเจ้าชู้มักมีเล่ห์เหลี่ยมจัด...พี่บุริณทร์ก็อีกคน...พาเขาไปชะอำบอกว่าไปดูพระจันทร์เต็มดวง...ท้ายที่สุดก็พาเขาไปคอนโดพี่ชาย แล้วไม่ยอมขับรถพาเขากลับกรุงเทพฯ...สุดท้ายเป็นไง...ก็จบลงบนเตียงนอน...แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าจะรับผิดชอบ...เขาไม่ใช่หญิงสาวไร้เดียงสาซักหน่อย ที่พอเสียตัวให้ใครแล้วจะต้องกลายเป็นของชายคนนั้นตลอดไป
...จะว่าไปตอนนั้นเขาก็ชอบบุริณทร์อยู่พอสมควร แต่กิตติศัพท์เรื่องความเจ้าชู้ทำให้เขาไม่อยากเสี่ยง...
“บ้านคุณกฤษณะใหญ่ขนาดนี้ไหมครับ ห้องชุดคุณภูวนัยนี่กว้างจริงๆ ข้างล่างก็เห็นมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่มากๆ กระโดดจากระเบียงลงสระได้เลย สระว่ายน้ำชั้นบนนี่ต้องการจริงๆ หรือครับ แค่ 15 เมตร ว่ายสองสามครั้งก็หัวชนขอบสระแล้ว ได้หัวโนกันพอดี”
กฤษณะหัวเราะ นึกภาพตามคำพูดของสถาปนิกหนุ่ม เห็นภาพภูวนัยกระโดดจากระเบียงชั้นห้าลงสระข้างล่าง ทั้งภาพผู้ชายตัวโตว่ายน้ำในสระส่วนตัวไปชนขอบสระจนหัวโน
“เขาต้องการความเป็นส่วนตัวครับ คุณภูวนัยเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ส่วนบ้านผมไม่ใหญ่ขนาดนี้ แต่สนามหญ้าหน้าบ้านกว้าง ติดทะเลแบบที่เดินไม่ถึงสิบก้าวก็ลงน้ำได้เลย”
“จริงหรือครับ” แทนตาโต
“จริงครับ เดี๋ยวคุณก็ได้เห็น ผมก็อยากตกแต่งใหม่เหมือนกัน คุณแทนจะรับงานไหมครับ”
“ผมเอ่อ คงต้องขอให้คุณกฤษณะคุยกับคุณบุริณทร์เจ้าของบริษัทครับ เขาเป็นคนแจกงานให้สถาปนิก แต่ถ้าอยากให้ผมรับงาน ก็เจาะจงชื่อผมก็ได้ แต่ว่าถ้ารีเควสชื่อแบบนี้ ต้องมีค่าเซอร์วิสชาร์จ 10 เปอร์เซ็นต์” แทนหัวเราะเสียงใส
“ผมเพิ่มให้อีกห้าเปอร์เซ็นต์ก็ได้ แถมพาไปเที่ยวมัลดีฟส์”
...มัลดีฟส์หรือ ขอให้จริงเถอะ จะไม่ปฏิเสธซักคำ...
แทนหันหน้าไปมองคนพูดก็เห็นประกายตาวิบวับคู่นั้น ชายหนุ่มจึงรีบหลบตา มองไปรอบๆ ห้องชุด
“แต่ว่าเสร็จงานนี้ ผมต้องลงกระบี่ไปทำงานออกแบบสปา”
“รอได้ครับ...ผมรอได้” กฤษณะยิ้ม แล้วปล่อยให้แทนทำงาน เขาเดินออกไปที่ระเบียง ชื่นชมกับอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก แทนเดินสำรวจทุกพื้นที่ของห้องชุด ถ่ายรูปอย่างละเอียดทุกซอกมุม แล้วกลับมานั่งที่เก้าอี้ข้างโต๊ะไม้อัดที่ช่างทำขึ้นมาตั้งไว้กลางห้อง ชายหนุ่มใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำงานอย่างรวดเร็วแม้จะรู้สึกปวดหัวหนึบๆ จากฤทธิ์แอลกอฮอลล์เมื่อคืน แต่สมองก็แล่น
สถาปนิกหนุ่มมัวแต่ก้มหน้าขีดเขียนบนสมุดบันทึก จนไม่รู้ว่าชายหนุ่มอีกคนยืนมองเขาอยู่ไม่วางตา...
แทนใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็เก็บข้อมูลเสร็จ จดบันทึกสิ่งที่ต้องการ พร้อมกับไอเดียที่ผุดขึ้นมาในเวลานั้น รายละเอียดคงต้องรอไว้คราวหน้า เพราะต้องเดินทางไปกลับกรุงเทพฯ-ปราณบุรีบ่อยครั้ง
ชายหนุ่มเก็บของใส่กระเป๋าแล้วกล่าวว่า “ผมจะรีบเร่งให้เร็วที่สุดครับ ฝากคุณกฤษณะเรียนท่านประธานว่าไม่ต้องห่วง ผมทำสุดฝีมือ”
...จะได้เสร็จๆ เสียที...เสียเวลาไปกระบี่จะแย่...แทนนึกต่อในใจ
กฤษณะพาสถาปนิกหนุ่มตี๋เข้มดูรอบๆ บริเวณโครงการ ด้านหน้าติดกับหาดทรายสวยเพียงมีถนนกั้น แทนเห็นทะเลแล้วอยากถอดเสื้อวิ่งลงไประเริงเล่นให้สนุก
...กระบี่...รอก่อนเถอะ...อีกไม่นานหรอก...
"คุณแทนท่าทางชอบทะเลมาก" กฤษณะเปรย
"คุณกฤษณะรู้ได้ยังไงครับ" แทนยอมรับในสายตาอันเฉียบคมของผู้บริหารหนุ่ม
"ดูไม่ยากครับ มองตาคุณก็รู้ นัยน์ตาคุณเป็นประกายเวลามองทะเล แล้วก็ท่าทางดูกระฉับกระเฉงขึ้นเวลาเดินบนหาดทราย เหมือนอยากจะกระโจนลงทะเลตอนนี้เสียให้ได้"
กฤษณะเข้ามายืนใกล้ๆ แทนรู้สึกถึงพลังของผู้ชายคนนี้ที่แผ่กระจายออกมา เขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ทเม็ดบนสุด เผยให้เห็นร่องอกกว้าง อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแกร่ง กลิ่นครีมโกนหนวดจางๆ หอมนุ่มๆ 'กลิ่นเดียวกับผู้ชายเจ้าชู้ทั่วไปใช้'
แทนยิ้มกว้าง "คุณกฤษณะนี่อ่านใจคนออก ท่าทางเคยเป็นหมอดูมาก่อน"
"อ่านเฉพาะบางคนเท่านั้นครับ" เขาทำตาวิบวับอีกแล้ว "อยากเล่นไหมล่ะครับ ผมมีกางเกงขาสั้นอยู่หลังรถให้ยืม"
"คงไม่ล่ะครับ กลัวไม่ได้กลับบ้าน ถ้าปล่อยผมลงทะเล คุณกฤษณะดึงผมขึ้นมายากนะ ขอบอก"
"ผมก็ลงไปเล่นด้วยไง" กฤษณะยิ้มกว้าง นัยน์ตาพราว
"คุณกฤษณะชอบทะเลเหมือนกันเหรอครับ"
ชายหนุ่มพยักหน้า "คุณแทนเรียกผมกฤษณ์สั้นๆ ดีกว่านะครับ เรียกผมเสียเต็มยศ รู้สึกเขินๆ พิกล"
"งั้นก็เรียกผมสั้นๆ เหมือนกันก็ได้" แทนพูดเล่นแล้วหัวเราะจนตาหยี
กฤษณะรู้สึกสดชื่นกับบรรยากาศริมทะเล ชายหนุ่มที่อยู่ใกล้นี้เล่าก็สดใสร่าเริงจนทำให้เขารู้สึกเพลิดเพลินจนไม่อยากกลับกรุงเทพฯ
เขาอดคิดไม่ได้ว่า หากได้พักค้างคืนที่นี่สักคืน มีเวลาอยู่ด้วยกันมากอีกสักหน่อย แทนจะทำให้เขามีความสุขได้มากขนาดไหน
ชายหนุ่มตาเรียวเล็ก ยิ้มกว้างเห็นฟันขาวสะอาด รอยบุ๋มเล็กๆ ของลักยิ้มบนแก้มซ้ายยิ่งเสริมให้ชายหนุ่มดูน่ารักมากขึ้น เสียงหัวเราะสดใสเป็นธรรมชาติ ทำให้กฤษณะรู้สึกมีชีวิตชีวา ได้หัวเราะตามไปด้วย
เสาร์ 15 มกราคม – 16.30 น.
แทนตื่นเต้นเมื่อเห็นชายหาดหน้าบ้านพักตากอากาศของกฤษณะที่หัวหิน บ้านไม้ชั้นเดียวเพดานสูงมาก ทาสีขาวทั้งหลัง ห้องโถงด้านหน้าติดกระจกบานใหญ่โปร่งตา หน้าบ้านเป็นระเบียงกว้างมีเปลเขวนไว้ให้นอนพักผ่อน สนามหญ้าสีเขียวกว้างขวางกินพื้นที่เกินครึ่งของพื้นที่ทั้งหมด สวนสวยด้านขวาของสนามหน้าบ้านตกแต่งอย่างสวยงาม สุดขอบสนามหญ้ามีม้านั่งไม้สีขาวสองตัวตั้งหันหน้าออกทะเล เดินไปไม่กี่ก้าวก็เป็นหาดทรายที่ทอดตัวยาวสงบนิ่ง เกลียวคลื่นเล็กๆ สาดซัดหาดทรายค่อยๆ ราวกับว่าทะเลกำลังผ่อนคลายตัวเองยามบ่าย
กฤษณะชวนแทนเล่นน้ำอีกครั้ง แต่สถาปนิกหนุ่มฝืนใจไม่ยอมเล่น
"เกรงใจลูกค้าครับ ไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง ถ้าเจ้านายผมรู้เข้า ถูกดุตายเลย"
"ก็อย่าบอกสิครับ ถ้าคุณแทนปิดปากผมด้วยการเลี้ยงข้าวซักมื้อ รับรองผมรูดซิบปากสนิท" กฤษณะยิ้ม
"ไม่เอาดีกว่า ผมไม่ชอบให้ใครมากำความลับของผม โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่" แทนยิ้มกว้าง
"จะว่าไป ผมก็ไม่ใช่ลูกค้านะครับ"
"ไม่ใช่ก็เหมือนใช่ คุณกฤษณ์เล่นทำแทนคุณภูวนัยยังงี้ก็เรียกว่าเป็นลูกค้าได้สิครับ...ว่าแต่ว่าเมื่อไหร่คุณภูวนัยจะว่างให้ผมพบได้ก็ไม่รู้ นี่ไม่ใช่ไม่ไว้ใจคุณนะครับ แต่ว่ายังไงผมก็อยากได้คุยกับเจ้าของห้องจริงๆ บ้าง"
"คุณภูวนัยเขายุ่งมากครับ ฝากเรื่องไว้ที่ผมแล้วก็ไปทำงานอื่น พอดีที่บริษัทกำลังมีเรื่องยุ่งๆ หลายอย่าง"
ตอนนี้ กฤษณะชักไม่อยากให้แทนติดต่อกับภูวนัย ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากจะรับเป็นเจ้าของห้องเสียเลย...
****************