ความเดิมเมื่อตอนที่แล้ว
...แล้วบุริณทร์กับภูวนัยล่ะ เรามิต้องมีอะไรกับบุริณทร์และภูวนัยด้วยหรือ...
...บุริณทร์นะเคยมีอะไรกันแล้ว แม้นานมาแล้วตั้งแต่สมัยเรียน หากก็ถือว่าเขากับบุริณทร์เคยมีความสัมพันธ์ทางกายกัน
...แต่ความสัมพันธ์ทางใจสำคัญที่สุด...
...แล้วใจเราเป็นของใครล่ะ...
...กายและใจต้องสัมพันธ์กัน หากใจไม่รัก กายก็ไม่ควรจะรักด้วย...
ความของตอนที่โพสวันนี้
27
แทนล๊อคประตัวรั้วบ้านเดินแกว่งพวงกุญแจมาที่รถอย่างอารมณ์ดี ชายหนุ่มเผลอยกมือลูกแก้มและริมฝีปากของตัวเอง สรุปแล้ววันนี้เขาไม่ได้เสียตัวให้กฤษณะ แต่ก็โดนระดมจูบจนปากบวมเจ่อไปหมด
กฤษณะทานอาหารกลางวันกับเขาเสร็จก็กลับบาน แต่ก่อนกลับก็หอมแก้มเขาไปหลายที ชายหนุ่มบอกว่าตอนบ่ายมีนัดกับลูกค้ารายใหญชาวญี่ปุ่นที่ต้องบินกลับประเทศในช่วงหัวค่ำ เขาจึงต้องไปคุยเรื่องงานให้จบ กฤษณะบอกว่าไม่อยากกลับ อยากใช้เวลาวันอาทิตย์ทั้งวันอยู่กับเขาที่บ้านริมคลองเพราะรู้สึกมีความสุข
แทนเปิดล๊อครถของเขา แล้วดึงประตูเปิด แต่ประตูติดล๊อคอยู่ ชายหนุ่มถอนหายใจ รู้ทันทีว่าเซ็นทรัลล๊อคของรถมีปัญหาอีกแล้ว ทันใดโทรศัพท์ดังขึ้น แทนวางกระเป่ากีฬาลงบนหลังคารถเสียงดังโครม มือขวาล้วงกระเป๋ากางเกง ดึงโทรศัพท์ขึ้นมากดรับแล้วยกขึ้นแนบหูโดยไม่ทันมองหน้าจอว่าใครโทรมา เสียงในสายที่ได้ยินทำห้แทนนิ่งไปชั่วครู่
"ไงครับ ได้ยินเสียงผมถึงกับพูดไม่ออกเลยหรือ" ภูวนัยถามเสียงเข้ม "หรือว่าไม่ได้อยู่คนเดียว เลยไม่กล้าพูดเสียงดัง"
แทนตั้งหลักได้ จึงตอบกลับไปวา "พอดีน้ำติดครับ กำลังทานข้าวอยู่"
...บ้าจริง น้ำติดคอ งี่เง่าสิ้นดู พูดออกมาได้...
แทนกัดริมฝีปากตัวเอง
"ดื่มน้ำไม่ระวัง" เสียงภูวนัยเหมือนตำหนิ
...ยังไม่ทันไรก็โดนดูซะแล้ว ภูวนัยนี่ถนัดดุจังเลย หน้าดุแล้วยังทำเสียงดุอีก...
แทนนินทาคนเสียงดุในใจ มืออีกข้างยังพยายามมดึงประตูรถอยู่ทั้งๆ ที่รู้ว่าล๊อคประตูเสีย
"อร่อยไหมครับ ทานคนเดียวหรือทานกับใคร" เสียงในสายถาม
"ก็..." ชายหนุ่มชะงักชั่วครู่
...ทานกับใครแล้วจะอยากรู้ไปทำไม เพิ่งทานเสร็จได้ไม่ถึงชั่วโมง แล้วถ้าบอกว่าทานกับกฤษณะจะรู้สึก...
สถาปนิกหนุ่มนึกถึงใบหน้าของสงครามเพื่อนรักขึ้นมาทันใด
"ทานกับเพื่อน แต่อิ่มแล้วล่ะ เพิ่งดื่มน้ำ คุณภูวนัยมีธุระอะไรกับผมหรือครับ" แทนพยายามทำเสียงเรียบ
"ทานที่บ้านหรือร้านอาหารครับ สงสัยทานริมน้ำ ผมได้ยินเสียงลมพัด อากาศคงดีมากสิใช่ไหมครับ" ภูวนัยถามไม่ยอมหยุด
...อะไรกัน ภูวนัยจะมาสอบสวนเขาเรื่องการทานข้าว เกิดเพี้ยนอะไรขึ้นมา..
แทนเบ้ปาก นึกถึงใบหน้าเรียบขรึมของคนตัวโตที่ชอบทำหน้าดุเวลามองเขา มือที่กำลังดึงประตูรถเริ่มเปลียนเป็นทุบ เพราะชักอารมณ์เสียที่รถคู่ชีพเกิดจะมำทำพิษเมื่อถึงเวลากลับคอนโดกลางเมือง
"ทานที่ร้านอาหารครับ" สถาปนิกหนุ่มปด นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรดี
...ภูวนัยจะมาไม้ไหนกันละนี่...
"ร้านที่ไหนครับ ว่างๆ ผมจะได้ไปลองทานบ้าง ท่าทางคงอร่อย"
...เอ๊ะ...ยังไม่ยอดหยุดเรื่องทานข้าวอีก ร้านอะไรล่ะทีนี้ ยังไม่ทันนึกชื่อซะด้วยสิ...
...เอาชื่อร้าน บ้านริมคลอง ก็แล้วกัน ไหนๆ บ้านสวนเมืองนนท์ของเขาก็อยู่ริมคลอง
ปากไวทันความคิด แทบตอบไปว่า "ร้านบ้านริมคลองครับ แต่อาหารเผ็ดมาก คุณภูวนัยคงทานไม่ไหวหรอก เป็นร้านชาวบ้านๆ คงสู้อาหารหรูๆ ตามร้านอาหารในเมืองไม่ได้"
"ผมชอบร้านที่มีบรรยากาศดีๆ" ภูวนัยพูดเสียงเรียบ "โดยเฉพาะร้านที่อยู่ใกล้ๆ บ้านคุณ"
แทนขมวดคิ้ว
...ภูวนัยรู้ได้อย่างไรว่าอยู่ใกล้บ้านเขา แล้วถ้าให้บอกที่ตั้งร้าน เราจะทำยังไงดีนี่...
"คุณภูวนัย หิวข้าวมากหรือครับ พูดแต่เรื่องทานข้าวไม่ยอมหยุด" แทนตัดสินใจถาม รู้สึกอึดอัดกับเรื่องร้านอาหารริมคลองเต็มทน ด้วยไม่รู้ว่าภูวนัยจะเอายังไงกับเขากันแน่
...พักหลังๆไม่รู้เป็นอะไร เวลาโดนภูวนัยซัก เขามักจะตอบวนไปวนมา ไม่คล่องเหมือนเคย...
"เปล่า ทานแล้ว แต่ที่โทรมานี่..." ภูวนัยพูดเสียงเรียบเหมือนเคย ทิ้งช่วงเงียบชั่วครู่ ก่อนพูดต่อว่า "อยากจะถามคุณว่า ทำไมไม่ไปตีกอล์ฟ ผมรอคุณตลอดเช้า"
"ก็ผมไปทานข้าว" แทนรีบแก้ตัวทันที แต่พลันนึกได้ว่าพลาดไปถนัด
...โอ๊ะ ตายล่ะ ทานข้าวอะไรวะ เก้าโมงถึงเที่ยง...
สมองของแทนรีบทำงาน นึกถึงเหตุผลเหมาะๆ จะให้บอกว่าพยายามหลบหน้าภูวนัยเช่นนั้นหรือ
เช้าวันอาทิตย์นี้ เจาจงใจไม่ไปตีกอล์ฟ เพราะไม่กล้าสู้หน้าภูวนัย ตั้งแต่รถไฟสามขบวนชนกันเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว เขาเสียความมั่นใจไปเยอะ ประสาทเสียจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับสามหนุ่มที่จู่ๆ ก็เข้ามาในชีวิตเขาพร้อมกัน
...บุริณทร์อาจจะเข้ามานานกว่าหลายปีก็จริง แต่จู่ๆ บุริณทร์ก็ลุกขึ้นมาท่าทางจะเอาจริง...บ้าจริงพี่รินทร์...
"ทานข้าวนานนะครับ" ภูวนัยทำเสียงรู้ทัน "แต่ผมว่าไม่ใช่มั๊ง"
"ผมตื่นสาย ปวดหัว" แทนแก้ตัว จงใจแก้ตัว ฉุนภูวนัยที่พยายามต้อนเขาให้จนมุม
...ไม่มีวันเสียล่ะ คนอย่างแทน อย่าหวังว่าจะจับได้ไล่ทัน...
"ตื่นสาย เลยทานข้าวสาย หรือออกไปทานข้าวกลางวันเร็วกว่าเวลาปกติครับ" ภูวนัยกัดไม่ยอมปล่อย
...โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว ทำไมภูวนัยจงใจรีดเค้นความจริงจากเขานัก...
แทนกระทืบเท้า
ความของตอนต่อไป
อิ อิ ไม่กล้าอีกแล้วอ่ะ กลัวโดนเหน็บแนม