บทที่ 47
เห็นหัวหน้าพูดแบบนี้ ผมก็เลยไม่กล้ากลับก่อน อยู่ช่วยเขาจนเลือกได้ของที่พอใจ เขาทำท่าว่าจะชวนผมทานข้าวต่อ แต่ผมบอกว่ามีนัดที่สำคัญรออยู่แล้ว ต้องรีบไป หัวหน้าผมเลยไม่ว่าอะไร กล่าวคำขอบอกขอบใจผมยกใหญ่ จากนั้นก็แยกกัน ผมรีบขับรถกลับบ้านทันที
ตอนอยู่ในรถผมพยายามโทรหาเดียร์ แต่โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาปิดเครื่องหรือแบตหมดกันแน่ ผมเลยฝากข้อความไว้ว่า อย่าฟังคำใครโดยไม่ถามผมก่อน และตอนนี้ผมกำลังจะกลับบ้านไปหาเขาแล้ว
วันนี้รถติดมากเป็นพิเศษ
กว่าจะเคลื่อนตัวออกไปแต่ละทีก็แสนยาก เมื่อก่อนผมเคยนั่งรถไฟฟ้าจากบ้านไปทำงาน โดยจอดรถไว้ที่บ้าน เพราะเบื่อกับการจราจร แต่ช่วงหลังๆตั้งแต่เดียร์เริ่มเข้ามาพัวพันชีวิตของผม ผมก็ไม่ได้ไปกลับด้วยรถขนส่งมวลชนอีกเลย แต่ขับรถไปกลับเอง ด้วยกลัวว่าจะถูกใครมาจับตัวผมไปอีก
จากนั้นมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ผมก็ใช้รถมาตลอด สำหรับวันนี้ ผมกลับคิดว่าน่าจะจอดรถทิ้งไว้ แล้วนั่งรถไฟฟ้ากลับบ้านมากกว่า ใจของผมตอนนี้อยู่ที่โน่นแล้ว ผมอยากเป็นฝ่ายไปถึงก่อนสุดที่รักของผม อยากเป็นฝ่ายนั่งรอเขา มากกว่าจะให้เขารอผมเหมือนเช่นทุกวัน
สองทุ่มครึ่งแล้ว ผมยังไม่ถึงบ้านเลย การจราจรคับคั่งโดยเฉพาะบริเวณหน้าห้าง วันนี้เป็นวันทำงานวันสุดท้ายของสัปดาห์ พรุ่งนี้เป็นวันแห่งความรัก เป็นเทศกาลที่คนให้ความสำคัญถึงขนาดมีการมาจับจ่ายหาซื้อของขวัญที่จะไปมอบให้กับคนรัก
ทางห้างก็เอาใจจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมเพื่อดึงดูดขาช๊อปให้มาที่ห้างของตน จนทำให้รถราติดขัดยาวเป็นกิโล จากห้างที่ผมไปเป็นเพื่อนเจ้านายกับบ้านของผม ก็ห่างกันหลายกิโลอยู่ ถ้ารถไม่ติดเลย ก็จะถึงบ้านภายในครึ่งชั่วโมง แต่รถแน่นเต็มถนนแบบนี้ ตามรูปการณ์ น่าจะกลับถึงบ้าน ประมาณ สี่ทุ่มเป็นอย่างต่ำ
ลองกดโทรศัพท์อีกครั้ง ก็ได้ผลตอบรับเหมือนเดิม คือติดต่อไม่ได้ มือถือก็ปิด ผมรู้สึกหงุดหงิดในหัวใจ ไม่รู้ว่าเดียร์กลับไปถึงบ้านหรือยัง แล้วเดียร์ได้คุยอะไรกับใครบางคนมากมายแค่ไหน ขณะที่ผมกำลังพยายามจะโทรติดต่อไปยังเดียร์ เสียงเรียกซ้อนก็ดังขึ้น ผมกดรับ คุณแคทนั่นเอง เธอร้องห่มร้องไห้สะอึกสะอื้นมาตามสาย
“เรียวเหรอคะ ....ขอโทษทีที่โทรมากวน แต่แคท แคทไม่ไหวแล้ว แคท...เกลียดเขา เกลียดมากๆ ทำไมเขาไม่เลิกยุ่งกับแคทสักที”
“ใจเย็นๆครับคุณแคท มีอะไรไม่สบายใจหรือครับ”
“ก็พี่สมชายนะสิคะ เขาราวีแคทไม่ยอมเลิกเลย เขาตามแคทกลับบ้าน สงสัยแอบไปซุ่มดักรอแคทที่ทำงาน แล้วก็ขับรถตามมาตลอด พอแคทถึงบ้านเขาก็ตามลงมาค่ะ......”
เธอหยุดเล่า สักพัก ผมได้ยินเสียงเอะอะเอ็ดตะโรในสาย และเสียงแหลมเล็กของเธอกรีดร้องโต้ตอบกลับไป เหมือนคนกำลังทะเลาะกัน
ผมเริ่มใจคอไม่ดี กังวลใจเรื่องเดียร์ แถมห่วงเพื่อนสาวของผมอีก พี่สมชายไปยุ่มย่ามอะไรบ้านเธอ ทำไมสองคนต้องทะเลาะกันด้วย เขาจะทำอะไรเธอหรือเปล่านะ
“โทษทีค่ะเรียว พี่สมชาย เขาพยายามจะเข้ามาในห้องแคทให้ได้ ค่ะ ท่าทางพูดไม่รู้เรื่องเลย แกตามแคทเข้าบ้าน ไล่ยังไงก็ไม่ยอมไป บอกแต่ว่าเขาเปลี่ยนใจแล้ว จะเลิกกับเมียตัวเองมาอยู่กับแคท พูดแล้วพูดอีก
แคทบอกว่าแคทต้องการเลิกกับเขา ก็ไม่เชื่อ แคทบอกว่าแคทมีคุณแล้ว ก็ไม่เชื่อค่ะ หาว่าเราโกหกกัน แล้วนี่ ก็พยายามจะปล้ำแคทอีก แคทเลยหนีเข้าห้องมา
แต่เขายังไม่หยุดค่ะ โวยวายอยู่หน้าห้อง แคทอยู่คนเดียวเสียด้วยสิ พ่อกับแม่ก็ไปต่างประเทศ คนใช้ก็ลากลับบ้านไป แคทจะทำไงดีคะ ....เรียว.........”
คุณแคทระล่ำระลักพูด ท่าทางเธอหวาดกลัวมาก น้ำเสียงร้อนรนของเธอ ผมฟังแล้วรู้สึกกังวลใจแทน จังหวะที่เธอเงียบหายไป ผมได้ยินเสียงด่าทอไกลๆดังมาให้ได้ยิน ผสานกับเสียงกรีดร้องของคุณแคทที่ตะโกนไล่พี่สมชายให้ออกไป
“เรียว แคทจะทำไงดีคะ จะแจ้งความตำรวจก็ไม่กล้า กลัวเขาย้อนมาทำร้ายแคทอีก และกลัวเสียชื่อ เสียหน้าพ่อแม่ด้วย แต่เขาเหมือนคนบ้าเลย คุ้มคลั่งมาก เอาแต่ตะโกนขู่แคท บอกว่าอย่าหวังว่าจะเลิกกันได้ง่ายๆเลย ทำไมเขาเป็นอย่างนี้คะ นี่เขาก็กำลังจะพังประตูเข้ามาแล้วค่ะ บอกว่าถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องก็ตายกันทั้งคู่ไปเลย ......ว้ายยยยยยยย.........”
“คุณแคทเกิดอะไรขึ้นครับ......”
เสียงกรีดร้องอย่างตกใจทำให้ผมวิตกจริตขึ้นมา เกิดอะไรร้ายแรงกับเธอหรือเปล่านะ แล้วที่เธอบอกว่าพี่สมชายขู่เธอไว้แบบนั้น เขาจะทำจริงน่ะหรือ คนที่เคยรักกันมาก่อน เมื่อถึงเวลาที่ความรักไม่สมหวังถึงขนาดจะลงมือฆ่าแกงกันนี่มันไร้สติเกินไปหรือเปล่า ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้ชายที่ดูสุขุมอ่อนโยนรักครอบครัว จะปล่อยให้ความลุ่มหลงเข้าครอบงำถึงเพียงนี้
เมื่อไม่อาจจะละความกังวลใจลงได้ ผมจึงเปลี่ยนเส้นทางการขับรถมุ่งหน้าไปยังทางที่จะไปบ้านพักของคุณแคททันที ผมเคยไปส่งเธอที่บ้านมาครั้งหนึ่ง จึงยังพอจำทางได้บ้าง ความห่วงใยเกรงว่าเพื่อนร่วมงานของผมจะเป็นอันตราย ทำให้ผมลืมคิดไปถึงเรื่องของเดียร์ ใจอยากจะไปช่วยพาเธอออกมาจากบ้านหลังนั้น พาออกมาให้พ้นจากพี่สมชายที่กำลังคุ้มคลั่ง
ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง ผมจึงถึงบ้านของเธอ จากสภาพที่เห็นทำให้ผมพอจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ประตูรั้วหน้าบ้านเธอเปิดค้างไว้ มีรถของเธออยู่ด้านใน และรถของพี่สมชายจอดต่อท้ายขวางประตูโดยโผล่หัวเข้ามาในบ้านครึ่งหนึ่ง และท้ายยื่นออกไปหน้าบ้านอีกครึ่งคัน
ประตูบ้านไม่ได้ล็อคตอนที่ผมเปิดเข้าไป เห็นข้าวของเกลื่อนกระจัดกระจายเหมือนคนที่ต่อสู้กัน รองเท้าส้นสูง ตกอยู่บนพื้นข้างหนึ่ง อีกข้างส้นหัก คาอยู่ที่บันได เหมือนเธอวิ่งหนีอะไรสักอย่าง และที่ชั้นบนผมได้ยินเสียงคนกำลังต่อสู้กันอยู่ ผมวิ่งพรวดขึ้นบันไดไปในทันที
ที่ห้องหนึ่ง คาดว่าน่าจะเป็นห้องคุณแคท ประตูถูกถีบจนพัง หลุดเข้าไปข้างในทั้งบาน ในห้องนั้น คุณแคทกับพี่สมชายกำลังกอดปล้ำกันล้มลุกคลุกคลานอยู่ เสื้อผ้าของเธอฉีกขาดหลุดลุ่ยจนเผยให้เห็นหน้าอกอวบขาวที่ทำศัลยกรรมไว้จนดูตูมเต่งสวยงาม
ตามเนื้อตามตัวมีรอยฟกช้ำ ริมฝีปากห้อเลือด เธอกำลังดิ้นรนเตะถีบพี่สมชายอยู่ ถึงแม้ว่าคุณแคทจะอยู่ในเรือนร่างของผู้หญิง แต่เดิมเธอเป็นผู้ชาย ร่างกายจึงยังพอมีพละกำลังที่จะต่อกรได้บ้าง แต่ก็เหนื่อยล้าเต็มที
จังหวะหนึ่งคุณแคทก็เพลี่ยงพล้ำ ถูกพี่สมชายจับกดลงพื้น แล้วกระชากชั้นในตัวจิ๋วออกจากร่างของเธอ และเขาก็ใช้เข่าแยกขาเธอออก
ขณะที่เพื่อนบ้านผมเมามันอยู่กับการล่วงเกินคนรักเก่าอยู่นั้น ผมก็เข้าถึงตัว แล้วกระชากพี่สมชายออกจากคุณแคททันที ความที่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้เขาปลิวไปตามแรงมือของผม
คุณแคทรีบพลิกตัวขึ้นยืน วิ่งเข้ามาแอบที่หลังผม เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่สมชายหายตะลึง เขาคำรามอย่างโกรธจัด เมื่อเห็นคนที่ขัดขวางเขาคือใคร
“มายุ่งเกี่ยวเรื่องนี้ทำไม บอกแล้วไม่ใช่เหรอ นี่มันเป็นเรื่องของผัวเมียกัน คุณไม่มีสิทธิ์อะไรมายุ่ง ถอยไปเดี๋ยวนี้นะเรียว ผมไม่อยากทำให้คุณเดือดร้อน”
“เมียพี่อยู่ที่บ้าน แคทไม่ได้เป็นเมียพี่ ไม่เคยเป็นมาตั้งแต่แรกแล้ว แคทเป็นแค่นางบำเรอ คนที่สนองตัณหาให้พี่มาตลอด ตอนนี้เราเลิกกันแล้ว ได้ยินไหมคะ ปล่อยแคทซะที อย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีกเลย”
คุณแคทโต้ตอบออกไปด้วยความกราดเกรี้ยว ผมเห็นน้ำตาของเธอที่ไหลไม่หยุดแล้วรู้สึกสงสารจับใจ เธอคงคับแค้นจากการกระทำของอดีตคนรักเก่าที่ทำท่าว่าจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ ทำไมพี่สมชายต้องกลายเป็นคนแบบนี้ด้วย พ่อบ้านผู้รักครอบครัว ไปไหนเสียแล้ว
“พี่สมชายครับ คงได้ยินแล้ว ว่าคุณแคทพูดว่าอะไร กลับไปบ้านเถอะครับ เพื่อเห็นแก่เมียและลูกของพี่ เขาเฝ้ารอคอยพี่กลับบ้านด้วยความหวังนะครับ”
ผมพยายามยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ด้วยการพูดเพื่อให้พี่สมชายได้คิด แต่ทว่า เขาคงกำลังหน้ามืดตามัวเสียแล้ว
“ไม่ต้องมาสั่งสอนผม ไปดูแลคนรักของตัวเองเถอะ นายเดียร์นั่นน่ะ อย่ามายุ่งกับเมียคนอื่น ระวังให้ดี เดี๋ยวจะเสียคนของตัวเองไป”
คำพูดของเขาทำให้ผมสะอึก จริงสิ ผมมัวแต่ยุ่งกับเรื่องของชาวบ้าน ในขณะที่เรื่องของตัวเองยังสางไม่เสร็จ แต่ผมจะปล่อยให้เพื่อนร่วมงานที่น่ารักของผมคนนี้เผชิญชะตากรรมแต่เพียงลำพังได้อย่างไร อย่างน้อยเธอก็ดีกับผม เคยช่วยเหลือไม่ให้นายทรงพลเอาเรื่องกับสุดที่รักของผม และผมก็ทนไม่ได้ที่เธอจะเจ็บปวด
สำหรับเรื่องของเดียร์ผมเองก็หวั่นใจอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ผมจะกลับไปหาหนุ่มน้อยที่คอยอยู่ที่บ้าน ผมจะเล่าให้เขาฟังทุกอย่างโดยไม่ปิดบัง
และผมเชื่อว่าความบริสุทธิ์ใจของผม จะชนะทุกสิ่ง เดียร์คงไม่ว่าอะไร หากได้ฟังเหตุผลของผม ก็เราสัญญากันแล้วนี่นา ว่าจะเชื่อใจกัน ผมมั่นใจว่ายังไงเดียร์ก็ต้องฟังผม และให้อภัยกับความล่าช้าที่ผมมาไม่ตรงตามนัด
“ที่ผมพูดกับพี่สมชายนั้น มันมาจากความรักและหวังดีในฐานะเพื่อนบ้านกัน ผมรู้ว่าพี่สมชายยังคงรักคุณแคทอยู่ แต่มันไม่มีวันเป็นไปได้ พี่เองก็รู้ดี พี่มีพี่วิภาและลูกอยู่แล้ว พี่จะมีคุณแคทได้อย่างไรกัน
ทำแบบนี้ไม่มีใครเลยที่มีความสุข พี่จำเป็นต้องเลือกคนใดคนหนึ่ง