My First Boyfriend Part 3:By Katesnk
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My First Boyfriend Part 3:By Katesnk  (อ่าน 173617 ครั้ง)

va_yu

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่46 1/3/09
«ตอบ #390 เมื่อ01-03-2009 23:16:51 »

 งานจะเข้าเรียวไหมหล่ะเนี่ย ใครไปหาหว่า..

meeyai

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่46 1/3/09
«ตอบ #391 เมื่อ02-03-2009 00:34:53 »

พึ่งหายป่วย ขอมาจิ้มเฮียซะนิดก่อนนอน  :z13: :z13: :z13:

b_hihi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่46 1/3/09
«ตอบ #392 เมื่อ02-03-2009 12:23:55 »

งานเข้าแล้วครับพี่น้อง

va_yu

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่46 1/3/09
«ตอบ #393 เมื่อ03-03-2009 17:23:29 »

แวะมานั่งรอค่ะ  :L2:

meeyai

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่46 1/3/09
«ตอบ #394 เมื่อ03-03-2009 23:22:47 »

แอบรออีกคน  o13 o13

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่46 1/3/09
«ตอบ #395 เมื่อ05-03-2009 14:31:46 »

อย่า ไห้ คนอ่านรอนาน น่ะคร้าบบบบ


ทรมานคนอื่น น่ะ มัน บาป น่ะ

              พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า


   "ความบังเอิญมักจะเกิดขึ้นในชีวิตคนเสมอ"

     

jaideejung007

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่46 1/3/09
«ตอบ #396 เมื่อ06-03-2009 12:05:53 »

สนุกมากเลยครับ

แบบยาวๆ มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณมากๆครับ

อืม ถามนิดนึงนะครับ

เป็นเรื่องจริง หรือเรื่องที่แต่งขึ้นครับ

โพทส์บอกหน่อยได้ไหมครับ

ทาง พีเอ็มก้อได้ครับ

ขอบคุณล่วงหน้านะครับผม

ltahset

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่46 1/3/09
«ตอบ #397 เมื่อ06-03-2009 12:56:03 »

 :z2:


รอตอนต่อไป

^^

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ sasa

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1008
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่46 1/3/09
«ตอบ #398 เมื่อ06-03-2009 14:20:52 »

มามะ มามะ มาไวไว
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่ะ

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่47 6/3/09
«ตอบ #399 เมื่อ06-03-2009 16:05:16 »

บทที่ 47

เห็นหัวหน้าพูดแบบนี้ ผมก็เลยไม่กล้ากลับก่อน อยู่ช่วยเขาจนเลือกได้ของที่พอใจ เขาทำท่าว่าจะชวนผมทานข้าวต่อ แต่ผมบอกว่ามีนัดที่สำคัญรออยู่แล้ว ต้องรีบไป หัวหน้าผมเลยไม่ว่าอะไร กล่าวคำขอบอกขอบใจผมยกใหญ่ จากนั้นก็แยกกัน ผมรีบขับรถกลับบ้านทันที

ตอนอยู่ในรถผมพยายามโทรหาเดียร์ แต่โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาปิดเครื่องหรือแบตหมดกันแน่ ผมเลยฝากข้อความไว้ว่า อย่าฟังคำใครโดยไม่ถามผมก่อน และตอนนี้ผมกำลังจะกลับบ้านไปหาเขาแล้ว
วันนี้รถติดมากเป็นพิเศษ

กว่าจะเคลื่อนตัวออกไปแต่ละทีก็แสนยาก เมื่อก่อนผมเคยนั่งรถไฟฟ้าจากบ้านไปทำงาน โดยจอดรถไว้ที่บ้าน เพราะเบื่อกับการจราจร แต่ช่วงหลังๆตั้งแต่เดียร์เริ่มเข้ามาพัวพันชีวิตของผม ผมก็ไม่ได้ไปกลับด้วยรถขนส่งมวลชนอีกเลย แต่ขับรถไปกลับเอง ด้วยกลัวว่าจะถูกใครมาจับตัวผมไปอีก

จากนั้นมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ผมก็ใช้รถมาตลอด สำหรับวันนี้ ผมกลับคิดว่าน่าจะจอดรถทิ้งไว้ แล้วนั่งรถไฟฟ้ากลับบ้านมากกว่า ใจของผมตอนนี้อยู่ที่โน่นแล้ว ผมอยากเป็นฝ่ายไปถึงก่อนสุดที่รักของผม อยากเป็นฝ่ายนั่งรอเขา มากกว่าจะให้เขารอผมเหมือนเช่นทุกวัน

สองทุ่มครึ่งแล้ว ผมยังไม่ถึงบ้านเลย การจราจรคับคั่งโดยเฉพาะบริเวณหน้าห้าง วันนี้เป็นวันทำงานวันสุดท้ายของสัปดาห์ พรุ่งนี้เป็นวันแห่งความรัก เป็นเทศกาลที่คนให้ความสำคัญถึงขนาดมีการมาจับจ่ายหาซื้อของขวัญที่จะไปมอบให้กับคนรัก

ทางห้างก็เอาใจจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมเพื่อดึงดูดขาช๊อปให้มาที่ห้างของตน จนทำให้รถราติดขัดยาวเป็นกิโล จากห้างที่ผมไปเป็นเพื่อนเจ้านายกับบ้านของผม ก็ห่างกันหลายกิโลอยู่ ถ้ารถไม่ติดเลย ก็จะถึงบ้านภายในครึ่งชั่วโมง แต่รถแน่นเต็มถนนแบบนี้ ตามรูปการณ์ น่าจะกลับถึงบ้าน ประมาณ สี่ทุ่มเป็นอย่างต่ำ

ลองกดโทรศัพท์อีกครั้ง ก็ได้ผลตอบรับเหมือนเดิม คือติดต่อไม่ได้ มือถือก็ปิด ผมรู้สึกหงุดหงิดในหัวใจ ไม่รู้ว่าเดียร์กลับไปถึงบ้านหรือยัง แล้วเดียร์ได้คุยอะไรกับใครบางคนมากมายแค่ไหน ขณะที่ผมกำลังพยายามจะโทรติดต่อไปยังเดียร์ เสียงเรียกซ้อนก็ดังขึ้น ผมกดรับ คุณแคทนั่นเอง เธอร้องห่มร้องไห้สะอึกสะอื้นมาตามสาย

“เรียวเหรอคะ ....ขอโทษทีที่โทรมากวน แต่แคท แคทไม่ไหวแล้ว แคท...เกลียดเขา เกลียดมากๆ ทำไมเขาไม่เลิกยุ่งกับแคทสักที”

“ใจเย็นๆครับคุณแคท มีอะไรไม่สบายใจหรือครับ”

“ก็พี่สมชายนะสิคะ เขาราวีแคทไม่ยอมเลิกเลย เขาตามแคทกลับบ้าน สงสัยแอบไปซุ่มดักรอแคทที่ทำงาน แล้วก็ขับรถตามมาตลอด พอแคทถึงบ้านเขาก็ตามลงมาค่ะ......”
เธอหยุดเล่า สักพัก ผมได้ยินเสียงเอะอะเอ็ดตะโรในสาย และเสียงแหลมเล็กของเธอกรีดร้องโต้ตอบกลับไป เหมือนคนกำลังทะเลาะกัน

ผมเริ่มใจคอไม่ดี กังวลใจเรื่องเดียร์ แถมห่วงเพื่อนสาวของผมอีก พี่สมชายไปยุ่มย่ามอะไรบ้านเธอ ทำไมสองคนต้องทะเลาะกันด้วย เขาจะทำอะไรเธอหรือเปล่านะ

“โทษทีค่ะเรียว พี่สมชาย เขาพยายามจะเข้ามาในห้องแคทให้ได้ ค่ะ ท่าทางพูดไม่รู้เรื่องเลย แกตามแคทเข้าบ้าน ไล่ยังไงก็ไม่ยอมไป บอกแต่ว่าเขาเปลี่ยนใจแล้ว จะเลิกกับเมียตัวเองมาอยู่กับแคท พูดแล้วพูดอีก

แคทบอกว่าแคทต้องการเลิกกับเขา ก็ไม่เชื่อ แคทบอกว่าแคทมีคุณแล้ว ก็ไม่เชื่อค่ะ หาว่าเราโกหกกัน แล้วนี่ ก็พยายามจะปล้ำแคทอีก แคทเลยหนีเข้าห้องมา

แต่เขายังไม่หยุดค่ะ โวยวายอยู่หน้าห้อง แคทอยู่คนเดียวเสียด้วยสิ พ่อกับแม่ก็ไปต่างประเทศ คนใช้ก็ลากลับบ้านไป แคทจะทำไงดีคะ ....เรียว.........”

คุณแคทระล่ำระลักพูด ท่าทางเธอหวาดกลัวมาก น้ำเสียงร้อนรนของเธอ ผมฟังแล้วรู้สึกกังวลใจแทน จังหวะที่เธอเงียบหายไป ผมได้ยินเสียงด่าทอไกลๆดังมาให้ได้ยิน ผสานกับเสียงกรีดร้องของคุณแคทที่ตะโกนไล่พี่สมชายให้ออกไป

“เรียว แคทจะทำไงดีคะ จะแจ้งความตำรวจก็ไม่กล้า กลัวเขาย้อนมาทำร้ายแคทอีก และกลัวเสียชื่อ เสียหน้าพ่อแม่ด้วย แต่เขาเหมือนคนบ้าเลย คุ้มคลั่งมาก เอาแต่ตะโกนขู่แคท บอกว่าอย่าหวังว่าจะเลิกกันได้ง่ายๆเลย ทำไมเขาเป็นอย่างนี้คะ นี่เขาก็กำลังจะพังประตูเข้ามาแล้วค่ะ บอกว่าถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องก็ตายกันทั้งคู่ไปเลย ......ว้ายยยยยยยย.........”

“คุณแคทเกิดอะไรขึ้นครับ......”

เสียงกรีดร้องอย่างตกใจทำให้ผมวิตกจริตขึ้นมา เกิดอะไรร้ายแรงกับเธอหรือเปล่านะ แล้วที่เธอบอกว่าพี่สมชายขู่เธอไว้แบบนั้น เขาจะทำจริงน่ะหรือ คนที่เคยรักกันมาก่อน เมื่อถึงเวลาที่ความรักไม่สมหวังถึงขนาดจะลงมือฆ่าแกงกันนี่มันไร้สติเกินไปหรือเปล่า ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้ชายที่ดูสุขุมอ่อนโยนรักครอบครัว จะปล่อยให้ความลุ่มหลงเข้าครอบงำถึงเพียงนี้

เมื่อไม่อาจจะละความกังวลใจลงได้ ผมจึงเปลี่ยนเส้นทางการขับรถมุ่งหน้าไปยังทางที่จะไปบ้านพักของคุณแคททันที ผมเคยไปส่งเธอที่บ้านมาครั้งหนึ่ง จึงยังพอจำทางได้บ้าง ความห่วงใยเกรงว่าเพื่อนร่วมงานของผมจะเป็นอันตราย ทำให้ผมลืมคิดไปถึงเรื่องของเดียร์ ใจอยากจะไปช่วยพาเธอออกมาจากบ้านหลังนั้น พาออกมาให้พ้นจากพี่สมชายที่กำลังคุ้มคลั่ง

ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง ผมจึงถึงบ้านของเธอ จากสภาพที่เห็นทำให้ผมพอจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ประตูรั้วหน้าบ้านเธอเปิดค้างไว้ มีรถของเธออยู่ด้านใน และรถของพี่สมชายจอดต่อท้ายขวางประตูโดยโผล่หัวเข้ามาในบ้านครึ่งหนึ่ง และท้ายยื่นออกไปหน้าบ้านอีกครึ่งคัน

ประตูบ้านไม่ได้ล็อคตอนที่ผมเปิดเข้าไป เห็นข้าวของเกลื่อนกระจัดกระจายเหมือนคนที่ต่อสู้กัน รองเท้าส้นสูง ตกอยู่บนพื้นข้างหนึ่ง อีกข้างส้นหัก คาอยู่ที่บันได เหมือนเธอวิ่งหนีอะไรสักอย่าง และที่ชั้นบนผมได้ยินเสียงคนกำลังต่อสู้กันอยู่ ผมวิ่งพรวดขึ้นบันไดไปในทันที
ที่ห้องหนึ่ง คาดว่าน่าจะเป็นห้องคุณแคท ประตูถูกถีบจนพัง หลุดเข้าไปข้างในทั้งบาน ในห้องนั้น คุณแคทกับพี่สมชายกำลังกอดปล้ำกันล้มลุกคลุกคลานอยู่ เสื้อผ้าของเธอฉีกขาดหลุดลุ่ยจนเผยให้เห็นหน้าอกอวบขาวที่ทำศัลยกรรมไว้จนดูตูมเต่งสวยงาม

ตามเนื้อตามตัวมีรอยฟกช้ำ ริมฝีปากห้อเลือด เธอกำลังดิ้นรนเตะถีบพี่สมชายอยู่ ถึงแม้ว่าคุณแคทจะอยู่ในเรือนร่างของผู้หญิง แต่เดิมเธอเป็นผู้ชาย ร่างกายจึงยังพอมีพละกำลังที่จะต่อกรได้บ้าง แต่ก็เหนื่อยล้าเต็มที

จังหวะหนึ่งคุณแคทก็เพลี่ยงพล้ำ ถูกพี่สมชายจับกดลงพื้น แล้วกระชากชั้นในตัวจิ๋วออกจากร่างของเธอ และเขาก็ใช้เข่าแยกขาเธอออก

ขณะที่เพื่อนบ้านผมเมามันอยู่กับการล่วงเกินคนรักเก่าอยู่นั้น ผมก็เข้าถึงตัว แล้วกระชากพี่สมชายออกจากคุณแคททันที ความที่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้เขาปลิวไปตามแรงมือของผม

คุณแคทรีบพลิกตัวขึ้นยืน วิ่งเข้ามาแอบที่หลังผม เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่สมชายหายตะลึง เขาคำรามอย่างโกรธจัด เมื่อเห็นคนที่ขัดขวางเขาคือใคร

“มายุ่งเกี่ยวเรื่องนี้ทำไม บอกแล้วไม่ใช่เหรอ นี่มันเป็นเรื่องของผัวเมียกัน คุณไม่มีสิทธิ์อะไรมายุ่ง ถอยไปเดี๋ยวนี้นะเรียว ผมไม่อยากทำให้คุณเดือดร้อน”

“เมียพี่อยู่ที่บ้าน แคทไม่ได้เป็นเมียพี่ ไม่เคยเป็นมาตั้งแต่แรกแล้ว แคทเป็นแค่นางบำเรอ คนที่สนองตัณหาให้พี่มาตลอด ตอนนี้เราเลิกกันแล้ว ได้ยินไหมคะ ปล่อยแคทซะที อย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีกเลย”

คุณแคทโต้ตอบออกไปด้วยความกราดเกรี้ยว ผมเห็นน้ำตาของเธอที่ไหลไม่หยุดแล้วรู้สึกสงสารจับใจ เธอคงคับแค้นจากการกระทำของอดีตคนรักเก่าที่ทำท่าว่าจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ ทำไมพี่สมชายต้องกลายเป็นคนแบบนี้ด้วย พ่อบ้านผู้รักครอบครัว ไปไหนเสียแล้ว

“พี่สมชายครับ คงได้ยินแล้ว ว่าคุณแคทพูดว่าอะไร กลับไปบ้านเถอะครับ เพื่อเห็นแก่เมียและลูกของพี่ เขาเฝ้ารอคอยพี่กลับบ้านด้วยความหวังนะครับ”

ผมพยายามยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ด้วยการพูดเพื่อให้พี่สมชายได้คิด แต่ทว่า เขาคงกำลังหน้ามืดตามัวเสียแล้ว

“ไม่ต้องมาสั่งสอนผม ไปดูแลคนรักของตัวเองเถอะ นายเดียร์นั่นน่ะ อย่ามายุ่งกับเมียคนอื่น ระวังให้ดี เดี๋ยวจะเสียคนของตัวเองไป”

คำพูดของเขาทำให้ผมสะอึก จริงสิ ผมมัวแต่ยุ่งกับเรื่องของชาวบ้าน ในขณะที่เรื่องของตัวเองยังสางไม่เสร็จ แต่ผมจะปล่อยให้เพื่อนร่วมงานที่น่ารักของผมคนนี้เผชิญชะตากรรมแต่เพียงลำพังได้อย่างไร อย่างน้อยเธอก็ดีกับผม เคยช่วยเหลือไม่ให้นายทรงพลเอาเรื่องกับสุดที่รักของผม และผมก็ทนไม่ได้ที่เธอจะเจ็บปวด

สำหรับเรื่องของเดียร์ผมเองก็หวั่นใจอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ผมจะกลับไปหาหนุ่มน้อยที่คอยอยู่ที่บ้าน ผมจะเล่าให้เขาฟังทุกอย่างโดยไม่ปิดบัง

และผมเชื่อว่าความบริสุทธิ์ใจของผม จะชนะทุกสิ่ง เดียร์คงไม่ว่าอะไร หากได้ฟังเหตุผลของผม ก็เราสัญญากันแล้วนี่นา ว่าจะเชื่อใจกัน ผมมั่นใจว่ายังไงเดียร์ก็ต้องฟังผม และให้อภัยกับความล่าช้าที่ผมมาไม่ตรงตามนัด
“ที่ผมพูดกับพี่สมชายนั้น มันมาจากความรักและหวังดีในฐานะเพื่อนบ้านกัน ผมรู้ว่าพี่สมชายยังคงรักคุณแคทอยู่ แต่มันไม่มีวันเป็นไปได้ พี่เองก็รู้ดี พี่มีพี่วิภาและลูกอยู่แล้ว พี่จะมีคุณแคทได้อย่างไรกัน

ทำแบบนี้ไม่มีใครเลยที่มีความสุข พี่จำเป็นต้องเลือกคนใดคนหนึ่ง


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่47 6/3/09
« ตอบ #399 เมื่อ: 06-03-2009 16:05:16 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่47 6/3/09
«ตอบ #400 เมื่อ06-03-2009 16:05:57 »

แต่ในเมื่อพี่ไม่เลือก คุณแคทก็เป็นฝ่ายเลือกเองไงครับ เธอยอมจบกับพี่ แล้วทำไมพี่ไม่เคารพความคิดของเธอล่ะครับ กลับไปหาเมียและลูกดีกว่า ปล่อยคุณแคทไปตามทางของเธอเถอะครับพี่”

โต้ตอบไปอย่างใจเย็น โดยเอาเหตุและผลขึ้นมาอ้าง หากพี่สมชายมีสติเพียงพอ เขาก็น่าจะเข้าใจ แต่ดูเหมือนความพยายามของผมจะไร้ผล

พี่สมชายนอกจากไม่ยอมฟังในสิ่งที่ผมพูด เขากลับมีท่าทีโมโหโกรธาเพิ่มขึ้น

“ผมไม่ฟังอะไรทั้งนั้น บอกแล้วว่านี่เป็นเรื่องของผมกับคุณแคทสองคน คนอื่นไม่เกี่ยว ปล่อยตัวคุณแคทมาให้ผมเดี๋ยวนี้ เราสองคนยังมีเรื่องที่ต้องตกลงกัน เชิญคุณกลับไปบ้านได้แล้ว”

เขาย่างสามขุมเข้ามาหา คุณแคทเกาะแขนผมไว้แน่น ท่าทางหวาดกลัว ผมยืนประจัญหน้ากับพี่สมชายที่เดินเข้ามาใกล้ เอาตัวบังคุณแคทไว้

“พูดไม่เชื่อ อยากทำตัวเป็นฮีโร่หรือไง ได้เลย อยากจะมีปัญหากับเพื่อนบ้านนักใช่ไหม จัดให้เดี๋ยวนี้เลย”

พี่สมชายง้างกำปั้นขึ้นแล้วทุบเปรี้ยงมาที่ใบหน้าผม แต่ผมหลบได้ทัน และคว้าข้อมือของพี่สมชายเอาไว้ กะจะบิดไปข้างหลัง แต่เขาเกร็งข้อทำให้บิดไม่ไป

ร่างกายเขาดูหนา บึกบึนแข็งแรงกว่าผม ถ้าแลกหมัดกัน ผมคงสู้ไม่ได้ คนทำงานประจำที่แทบจะไม่เคยออกกำลังกายอย่างผม จะไปต่อกรคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างเขาได้ไง

เพียงเขากระตุกแขนกลับ ผมก็เกือบเซแล้ว เขาง้างมือจะทุบซ้ำ แต่ผมรีบหมุนตัวกลับ พาร่างเปลือยของคุณแคทวิ่งออกจากห้องไป ไม่อยากปะทะเมื่อเห็นว่าตัวเองไม่มีทางเอาชนะเขา

เราสองคนวิ่งลงมาข้างล่าง โดยที่พี่สมชายตามมาติดๆ ท่าทางเขาดูเหมือนคนบ้าคลั่ง จนผมเองยังนึกกลัว คุณแคทวิ่งถลาเข้าไปในห้องครัว เสียงตู้ลิ้นชักดังโครมคราม ส่วนผมยืนอยู่กลางห้องรับแขก คอยกันพี่สมชายเอาไว้ ไม่ให้ตามเธอไป

“พอได้แล้วนะครับพี่สมชาย พวกเราไม่อยากต่อสู้กับพี่ ผมเองก็ยังเคารพรักพี่อยู่ ที่ทำลงไปนี้เพราะหวังดีนะครับ ผมอยากให้ทุกคนอยู่กันอย่างมีความสุข”

พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบอีกครั้งเพื่อให้หายโมโห แต่พี่สมชายดูเหมือนจะไม่พอใจในสิ่งที่ผมพูด เขายิ้มแสยะและขึ้นเสียงดังเอากับผม
“ดีแล้วที่ไม่อยากจะสู้ เพราะผมสามารถจับคุณหักเป็นสองท่อนได้ง่ายๆ ยิ่งโมโหแบบนี้ยิ่งมือหนัก แล้วอย่ามาสู่รู้ว่าความสุขของผมคืออะไร คุณไม่มีทางรู้หรอก ผมกับเขารักกันมาตั้งแต่ตอนอยู่มหาวิทยาลัย

ต่อให้ผมมีเมียแล้วผมก็ยังรักเขา ผมรักลูก แต่ผมก็ยังอยากได้เขา ผมพูดกับคุณว่าผมจะทิ้งเขา เอาเข้าจริงผมก็ทิ้งเขาไม่ได้

เขาเป็นเมียผมอีกคน ผมไม่อยากให้ใครมาแย่งเขาไป ได้ยินไหม ผมจะเอาเมียผมคืน คุณไม่เกี่ยว ถอยไป กลับไปบ้านซะ แล้วผมจะไม่เอาเรื่องเอาราวอะไรกับคุณ แต่หากยังไม่เชื่อ เราจะได้เห็นดีกัน ผมจะไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่ ใครก็ตามที่มันบังอาจพรากแคทไปจากผม ต้องได้ตายกันไปข้าง”

น้ำเสียงนั้นดูคุคาม ใบหน้าดุดันน่ากลัว พี่สมชายคนเดิมหายไปแล้ว เหลือใครก็ไม่รู้ที่ผมไม่รู้จัก ไม่น่าเชื่อว่าเราเป็นเพื่อนบ้านกันมานานหลายปีแล้ววันนี้ผมเพิ่งเห็นตัวจริง แต่อย่างไรก็ตาม ผมคงไม่หนี ผมคงสู้เป็นเพื่อนคุณแคท ไหนๆก็ช่วยมาถึงขึ้นนี้แล้ว

“พี่นั่นแหละที่จะต้องเป็นฝ่ายไป...เราจบกันแล้ว ...แคทไม่อยากเห็นหน้าพี่อีก”

คุณแคทเดินมาจากครัวด้านใน และหยิบมีดปลายแหลมมาด้วย พี่สมชายชะงักกึก ส่วนผมตกใจที่คุณแคทเล่นแรงขนาดนั้น นี่จะตกลงกันด้วยสันติวิธีไม่ได้เชียวหรือ ต้องให้เลือดตกยางออกกันเลยหรือไง ถึงจะหยุดยั้งความบ้าคลั่งกันได้

“กล้าเอามีดมาขู่ผัวตัวเองเลยเหรอแคท เธอกล้าเหรอ กล้าแทงผัวคนนี้เหรอ คนที่เธอเคยบอกว่ารักนักรักหนา อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วย ทำไมล่ะแคท ทำไมเรากลับมาอยู่ด้วยกันอีกไม่ได้ ในเมื่อเธอเองก็ยังรักพี่อยู่”

น้ำเสียงของพี่สมชายมีแววตัดพ้อ ท่าทางเขาเจ็บปวดใจที่เห็นคนรักถือมีดไม้มาขู่เขาแบบนี้ ผมหันไปมองคุณแคท ก็เห็นเธอยืนกำมีดปลายแหลมชี้ไปหาพี่สมชาย เนื้อตัวสั่นระริก น้ำตาคลอตา

“ถ้าพี่ไม่เลิกยุ่งกับแคท บางทีนี่อาจจะเป็นหนทางสุดท้ายที่จะหยุดพี่ได้ แคทขอร้องพี่แล้วให้ออกไปจากชีวิตแคทเสียที แคทไม่อยากทำบาป พรากผัวมาจากเมีย พรากพ่อมาจากลูกอีกแล้ว”

“ไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้ พี่ตัดสินใจแล้วว่าพี่จะเลือกแคท เราจะแต่งงานกัน แล้วไปอยู่นอกด้วยกันนะ ต่อไปนี้ใครก็มาขวางเราสองคนไม่ได้แล้ว”

พี่สมชายเดินเข้ามาหา คุณแคทถอยหลังกรูด แต่มือยังคงกำมีดปลายแหลมแน่น

“ม่ายยยยยยยยยย”

เธอกรีดร้องเสียงดัง ราวกับคนเสียสติ

“พอแล้ว หยุดได้แล้ว แคทไม่เอาแล้ว แคทจะเลิกกับพี่ กลับไปซะ ไปเดี๋ยวนี้ อย่าให้แคทลงมือทำร้ายพี่นะ ....”

“พี่สมชาย พอเถอะครับ กลับบ้านเถอะ อย่ายุ่งกับคุณแคทอีกเลย”

ผมขอร้องเขาด้วยอีกคน แต่พี่สมชายปฏิเสธพร้อมกับก้าวเดินเร็วๆมาหาคุณแคท ผมเห็นท่าไม่ดี เลยเดินเข้ามาจะเข้าไปกัน แต่ช้าไปกว่าพี่สมชายเพียงแค่นิดเดียว

เขาถึงตัวคุณแคทแล้วและจับมือเธอบิดเพื่อให้ปล่อยมีด แต่คุณแคทกำมีดไว้แน่นมาก และปาดซ้ายปาดขวาไปมาเฉียดเนื้อตัวของพี่สมชาย ผมกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นเลย

พยายามเข้าแทรกกลางระหว่างสองคนนั้น ดันสองคนออกห่างจากกัน และพยายามจะดึงมีดออกจากมือคุณแคท พัลวันนัวเนียกันอยู่สามคน และแล้วผมก็ได้รู้ว่า เป็นการตัดสินใจผิดที่ผมยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

คมมีดขาววับจากมือของคุณแคทวาบขึ้นจากปรายหางตา และแล้วก็สัมผัสเข้ากับผิวเนื้อ มีดตกจากมือของคุณแคททันที เธอกรีดร้องสุดเสียงอย่างตกใจ พี่สมชายยืนตะลึงหน้าซีดเผือด ผมเบิกตาโพลง จ้องมองเลือดที่ทะลักออกจากมือตัวเอง

รอยแผลยาวประมาณ ห้าเซ็นต์ อยู่ระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือของผม มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที เมื่อกี้ตอนที่แย่งมีดกัน คุณแคทกวัดแกว่งมีดในมือไปมา แล้วผมพยายามจะแย่งเลยโดนคมของมีดบาดเป็นแผลเข้า

แผลไกลหัวใจมาก ไม่ทำให้ผมถึงตาย แต่ก็ทำให้พี่สมชายหยุดยั้งความบ้าคลั่งของตัวเองได้ เขาหันหลังกลับแล้ววิ่งออกไปจากบ้านทันที จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงสตาร์ทรถออกไป

คุณแคททรุดนั่งกับพื้น คร่ำครวญหวนไห้อย่างคนเสียสติ เธอพร่ำพูดขอโทษผม ท่าทางเธอขวัญเสียมาก ผมเป็นฝ่ายที่ได้สติก่อน รีบขออุปกรณ์ทำแผลจากคุณแคทเพื่อห้ามเลือดให้กับตัวเอง

เธอปาดน้ำตา แล้ววิ่งขึ้นไปบนห้อง หายไปสักพักก็กลับลงมาพร้อมกับสำลี ยาแดง ผ้าก๊อต และพลาสเตอร์ เธอมีแค่นั้นจริงๆ ผมเอาสำลีมาเช็ดเลือดที่บาดแผล แต่มันก็ยังไหลซึมออกมาไม่หยุด คงจะบาดเข้าไปลึก

ผมเอาผ้าก๊อตพันแผลไว้เบื้องต้น เพื่อไม่ให้เลือดมันออกมาก คุณแคทเห็นอาการของผม ก็เลยเป็นห่วง บอกว่าหน้าปากซอยบ้านเธอมีคลีนิค ให้ไปทำแผลก่อน ผมเลยตกลง เพราะไม่อยากกลับบ้านไปแบบนี้เหมือนกัน กลัวเดียร์จะเป็นห่วง

คุณแคทวิ่งขึ้นไปบนบ้านอีกครั้ง หยิบเสื้อยืดตัวโคร่งมาปกปิดร่างเปลือยของตัวเอง โดยไร้ซึ่งอาภรณ์ตัวใน แต่ความรีบทำให้ไม่มีเวลามาคิดเรื่องนี้ พอปิดบ้านเสร็จ เธอก็ขึ้นมานั่งที่รถของผม อาสาขับให้ จากนั้นก็พาไปที่คลีนิคเพื่อให้หมอเย็บแผลให้ผม

ที่คลีนิคตอนเราเดินออกมาหลังจากหมอทำแผลให้เรียบร้อยแล้ว คนไข้และญาติที่นั่งรอต่างมองเราสองคนเป็นตาเดียว เพราะผมเองอยู่ในสภาพยุ่งเหยิง ทั้งหัวหู และเสื้อผ้า ในขณะที่คุณแคทอยู่ในชุดเสื้อยืดยาวแค่คลุมสะโพก แต่มองดูก็รู้ว่าไม่ได้ใส่อะไรไว้ข้างในเลย

แถมหุ่นของคุณแคทก็ทำมาอย่างเพอร์เฟค อวบอัดเร้าใจอีกด้วย คนเลยมองเราสองคนอย่างสงสัย บ้างก็ซุบซิบกันต่อหน้าต่อตา พอผมมองไปก็เห็นใบหน้าคุ้นตาลอยอยู่ท่ามกลางคนพวกนั้นจนต้องหันไปมองซ้ำอีกที

ผู้ชายที่ท่าทางกระตุ้งกระติ้งคนหนึ่ง นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนไข้เพื่อรอเรียกตรวจ กำลังมองมองที่ผมกับคุณแคทอย่างสอดรู้สอดเห็นเต็มที่ เขาคือคนเดียวกับที่นินทาผมในห้องน้ำ และในร้านอาหารญี่ปุ่นนั่นเอง


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่47 6/3/09
«ตอบ #401 เมื่อ06-03-2009 16:06:43 »

พอเขาเห็นผมมอง เขาก็ยิ้มให้อย่างกล้าๆกลัวๆ ผมเมินหนี ไม่อยากให้ความใส่ใจ แต่นึกในใจว่า วันจันทร์ผมต้องเผชิญกับมรสุมข่าวลืออีกแล้ว คราวนี้จะลือเรื่องผมกับคุณแคทยังไงอีกหนอ ทำไมทุกอย่างมันจึงบังเอิญ และซวยซับซวยซ้อนจริงๆ

หรือนี่เป็นบัญชาจากสวรรค์ที่ต้องการให้ผมพิสูจน์ความสามารถในการที่จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้อย่างเข้มแข็ง นี่ผมต้องเผชิญกับอุปสรรคแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่กันนะ ผมจึงจะสมหวังในชีวิต

“เจ็บไหมคะ เรียว.......แคทขอโทษนะคะ แคทไม่ได้ตั้งใจ ที่จะทำร้ายคุณ”

“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นอุบัติเหตน่ะ อย่าโทษตัวเองเลย”
ผมปลอบโยนคุณแคท รู้ดีว่าเธอเสียใจมากแค่ไหนกับเรื่องที่เกิดขึ้น วันนี้เธอเผชิญกับเรื่องร้ายๆมามากพอแล้ว ผมไม่อยากให้เธอเสียใจกับเรื่องนี้อีก

“แคทไม่น่าโทรไปหาคุณเลย ทำให้คุณลำบากอีกแล้ว ต้องมาหาแคทอีก แถมซ้ำยังมาเจ็บตัวเพราะแคท ไม่น่าเลยจริงๆ”

เธอขอโทษขอโพยผม ท่าทางสำนึกผิด ผมเลยบอกกับเธอไปว่าอย่าคิดมาก นี่คือสิ่งที่เพื่อนจะช่วยเพื่อนได้ เธอกล่าวขอบคุณผม และชื่นชมว่าผมเป็นคนดี เธอรู้สึกอิจฉาเดียร์ที่ได้ผมเป็นคนรัก เธออยากจะมีอย่างนี้บ้าง ผมเลยบอกกับเธอว่า สักวันหนึ่งเธอคงได้เจอกับรักแท้ของตัวเอง

“แล้วนี่ เรียวมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ แคทลืมถามไปเสียสนิทเลยมัวแต่ตะลึงอยู่”

“ไม่มีครับ เพียงแต่ วันนี้ผมนัดว่าจะไปเจอกันกับเดียร์ที่บ้าน เราจะช่วยกันจัดงานวันวาเลนไทน์ฉลองกันค่ะ”

ผมบอกไปตามตรง คุณแคทอุทานด้วยความตกใจ แล้วขอโทษผมอีก ที่ทำให้เสียเวลา

“แคทนี่แย่จริงๆเลย ลืมนึกไปได้ไงนะ ว่าพรุ่งนี้เป็นวันวาเลนไทน์ คุณอาจจะต้องการเวลาที่จะอยู่กับแฟนของคุณ พูดไปพูดมา แคทก็เหมือนคนเห็นแก่ตัวเลย คิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง เดือดร้อนทีไร ก็ให้คุณช่วยทุกที แล้วนี่ นัดกันไว้ตอนกี่โมงคะ”

“ตอนแรกนัดไว้ หกโมงครับ ตอนหลังก็เลื่อนมาเป็นสองทุ่ม”

“จริงเหรอคะ ว้ายยยยย นี่มัน เกือบจะห้าทุ่มแล้วค่ะ สงสัยเดียร์รอคุณแย่เลย โทรไปบอกเขาหรือยังคะ”

“ยังเลยครับ ติดต่อไปไม่ได้เลย มือถือปิด หรือแบตหมดไม่รู้”

“สงสัยแบตหมดแล้วมั๊งคะ แล้วเรียวอยู่เฉยๆได้ไงเนี่ย ทำไมไม่รีบไปหาคนรักของคุณล่ะคะ ไม่ต้องห่วงแคทเลย ไปเถอะ ป่านนี้เขาอาจจะรอคุณอยู่ที่บ้าน แล้วกำลังงอนอยู่ก็ได้”

คุณแคทจอดรถของผมตรงข้างทาง ทำท่าจะก้าวลงไป แล้วให้ผมขึ้นมานั่งแทน ผมร้องห้ามถามว่าเธอจะไปไหน เธอบอกจะนั่งแท็กซี่กลับบ้าน แต่ผมไม่ให้เธอไป เพราะดูจากการแต่งตัวของเธอแล้ว คงไม่ได้กลับถึงบ้านแน่

“งั้นเอางี้ แค่ไปด้วยกันกับคุณเลยนะคะ ดีไหม จะได้ช่วยกันอธิบายให้เดียร์ฟัง ถ้าหากเขาไม่พอใจที่คุณกลับบ้านช้า บางทีพอฟังเหตุผลแล้วเขาอาจจะเข้าใจคุณก็ได้ ว่าคุณไม่ได้เถลไถลไปไหน แต่คุณไปทำความดีช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน”

เธออาสาจะช่วยผม

“จะดีหรือครับคุณแคท อย่าลำบากดีกว่า ผมไปส่งคุณที่บ้าน แล้วก็กลับเลยดีกว่า ไม่นานหรอก คุณจะได้พักผ่อน”

“ไม่ได้ค่ะ เรียว เห็นแบบนี้แล้ว แคทไม่สบายใจเลย ดูหน้าคุณก็รู้ว่าคุณเองก็กังวลใจไม่น้อย เพราะมันผิดเวลาไปมาก ติดต่อกันก็ไม่ได้ มันง่ายต่อการที่จะถูกเข้าใจผิดจริงๆ”
คุณแคทยังยืนยันในเจตนาเดิมที่จะไปช่วยผม

“นะคะเรียว ให้แคทช่วยคุณบ้างเถอะ คุณช่วยเหลือแคทมามากจนตัวเองเดือดร้อน แคทเป็นเพื่อน ก็ไม่อาจจะนิ่งดูดายได้ นี่ถ้าคุณต้องเลิกกับเดียร์ แคทจะไม่ให้อภัยตัวเองจริงๆนะคะ ให้แคทไปเป็นเพื่อนเถอะ เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง”

เห็นท่าทางจริงใจต่อการช่วยเหลือผมแบบนั้น ก็เลยทำให้ปฏิเสธไม่ลง ในที่สุดผมก็ยินยอมให้เธอไปที่บ้านผมด้วย โดยที่เธออาสาเป็นคนขับรถให้

ในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เราสองคนก็มาถึงบ้าน ทันทีที่เราก้าวลงจากรถ ก็ได้ยินเสียงเอะอะเอ็ดตะโรลั่นอยู่ด้านใน เสียงของคนทะเลาะกัน ผู้ชายกับผู้หญิง และแล้ว ประตูก็เปิดผางออก พี่วิภา เดินหน้าบึ้งตึงออกมาจากบ้านของผม ตรงมาที่เราสองคนทันที

“กลับมาแล้วหรือคะ แล้วคุณสองคนไปไหนกันมาล่ะ”

แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้ม ทักทายเหมือนปกติของเพื่อนบ้านเวลาเจอหน้ากัน แต่น้ำเสียงค่อนข้างห้วน สายตาของเธอกวาดทั่วตัวเราสองคนอย่างพินิจพิจารณา ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ตรงคุณแคทลียา ซึ่งอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวหลวม ไม่ใส่อะไรเลยข้างใน

“ครับ เกิดอะไรขึ้นข้างในบ้านหรือครับ”

ผมถามอย่างสงสัย มันเกิดอะไรขั้นในบ้านของผม ทำไมพี่วิภาถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วใครที่อยู่ข้างใน เดียร์หรือเปล่า เสียงทะเลาะกันนั่นเป็นเสียงใครอีกคน หรือว่าเดียร์ทะเลาะกับพี่วิภา

ยังไม่ทันที่เพื่อนบ้านจะตอบผม ร่างๆหนึ่งก็ถลันออกมา ท่าทางโงนเงนเหมือนคนที่ดื่มเหล้าเข้าไปอย่างมากมาย ทันทีที่เขาเห็นผมกับคุณแคท เขาก็พุ่งเข้าหาทันที คุณแคทหลบเข้าด้านหลังผมอัตโนมัติ เมื่อเห็นว่าพี่สมชายกำลังเดินตรงมาหาเราสองคนอย่างมุ่งร้าย

“มาแล้วเหรอ ป่านนี้เพิ่งจะมา คงจะปรนเปรอสวาทกันเต็มคราบเลยสิท่า”

ต่อหน้าต่อตาพี่วิภาแท้ๆ พี่สมชายยังทำท่าหึงหวงคุณแคทไม่ลืมหูลืมตา แถมซ้ำ ต่อว่าต่อขานด้วยถ้อยคำดูหมิ่นผมกับคุณแคทอีก ผมพยายามจะข่มใจ ไม่โกรธตอบ ไม่อยากให้กระทบกระเทือนความรู้สึกของพี่วิภา เธออาจจะยังไม่รู้ว่าพี่สมชายกำลังหึงหวงคุณแคทอยู่ อยากให้เธอคิดว่าสามีเธอแค่เมา และพูดจาไม่รู้เรื่องเท่านั้น

“พูดอะไรอย่างนั้นครับพี่สมชาย รู้สึกว่าพี่จะเมาแล้วนะครับ ไปนอนเถอะนะ”

“ยังไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าจะพูดกันรู้เรื่อง”

“พี่สมชาย กลับบ้านเถอะค่ะ เมาแล้วอย่ามาก่อเรื่องเลย”

ผมหันไปมองหน้าพี่วิภา ก็เห็นเธอทำหน้าไม่พอใจ ท่าทางโกรธจัด เธอตรงเข้ามาดึงแขนสามีของเธอ จะพาให้กลับบ้าน แต่เขาสบัดแขนออก ท่าทางดื้อดึง

“เธออย่ามายุ่งเลยวิภา กินเหล้าแค่นี้ฉันไม่เมาหรอก แล้วไอ้คนที่ก่อเรื่องไม่ใช่ฉัน แต่เป็นสองคนนี้ต่างหาก และฉันจะปล่อยคนแบบนี้ไว้ไม่ได้”

พี่สมชายพูดด้วยเสียงเหี้ยมเกรียม พลางเดินเข้ามาอย่างจะเอาเรื่อง
“แล้วสองคนนี้เขาไปทำอะไรให้พี่ พี่ถึงได้โกรธพวกเขานักหนา หรือว่า พี่ชอบแฟนของคุณเรียว พี่แอบชอบเขา พี่จะแย่งเขามาใช่ไหม”

พี่วิภาคว้าแขนพี่สมชายและถามด้วยเสียงอันดัง

“ใครบอกเธอว่าเขาเป็นแฟนกัน สองคนนี่หลอกและตบตาพวกเราต่างหาก ที่จริงแล้ว ยัยนี่มีผัวแล้ว และฉันต่างหากที่เป็นผัวแม่นี่”

สิ้นคำของพี่สมชาย เราสามคนต่างก็อึ้ง ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าคำพูดนี้จะหลุดออกมาจากปากเขา ผมรู้สึกผิดหวังในตัวพี่สมชาย พร้อมกับเสียใจที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดูสิ

เราอุตส่าห์วางแผนตบตาเพื่อให้ครอบครัวเขากลับมามีความสุขดังเดิม ช่วยเหลือคนอื่น จนผมกับเดียร์ใกล้จะบ้านแตกกันแล้ว แต่พี่สมชายกลับมาเปิดโปงความลับของตัวเองซะงั้น แล้วสิ่งที่ผมสู้ทำมาล่ะ มันไม่เสียเปล่าไปหรอกหรือ

“ไม่จริงนะคะ พี่วิภา แคทไม่ได้เป็นอะไรกันกับพี่สมชาย เขามาแล้ว และจะหาเรื่องพวกเรา พี่ต้องอย่าไปเชื่อนะคะ แคทมีเรียวแล้ว แคทไม่ได้ชอบสามีพี่นะคะ”

คุณแคทปฏิเสธปากคอสั่น ผมรู้ว่าเธอกำลังกลัว ทั้งพี่สมชาย และพี่วิภาที่บัดนี้ดวงตาวาวโรจน์ดุจนังเสือร้าย ที่กำลังมองเห็นคุณแคทเป็นแพะตัวน้อยๆที่เธอพร้อมจะตะปบให้แหลกเหลวด้วยกรงเล็บเพชรฆาต และฉีกเนื้อกินเป็นภักษาหาร

“ตอแหล อย่ามาเล่นละครเลย เธอเป็นเมียของฉันมาตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัยแล้ว ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ เธอรักใครไม่ได้หรอกแคท นอกจากฉันคนเดียว”

พี่สมชายพูดเหมือนคนที่บ้าคลั่ง ผมเห็นพี่วิภาตัวสั่นระริก มือกำหมัดแน่น เธอมองหน้าคนโน้นที คนนี้ทีด้วยดวงตาที่ขุ่นเคือง จากนั้นก็หันไปแหวใส่สามีตัวเอง

“นี่มันอะไรกันคะ พี่สมชาย บอกให้มันกระจ่างหน่อยได้ไหม แล้วไอ้ที่พี่ประกาศอยู่นี่ว่าคุณแคทเป็นเมียพี่อีกคนมันจริงหรือเปล่า เขาคบกับคุณเรียวไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมาเป็นเมียของพี่อีกคนได้ อย่าบอกนะ ว่าพี่กับคุณแคท ทรยศ ภา กับ คุณเรียว สวมเขาให้เราสองคนมาตลอดโดยที่เราไม่เคยรู้เรื่องกันเลย”

“พี่วิภาครับ อย่าไปเชื่อพี่สมชาย เขาเมาแล้วครับ เลยพูดอะไรเลื่อนลอย ไม่มีมูลความจริง ผมกับคุณแคทเป็นแฟนกันจริงๆครับ เรากำลังจะแต่งงานกันครับ”

จำเป็นต้องโกหกอีกแล้ว ผมไม่อยากทำเลย แต่เห็นพี่วิภาทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ผมก็ทนไม่ไหว ทำไมพี่สมชายถึงกลายเป็นคนแบบนี้นะ ทำไมช่างกล้าพูดอะไรไม่รักษาน้ำใจเมียของตัวเองเลย นี่มันฤทธิ์เหล้าพาไป หรือความหึงหวงมันบังตา จึงทำให้พูดออกมาแบบนี้ รู้หรือเปล่าว่าความเสียหายมันจะเกิดขึ้นตามมา จากการไม่รู้จักกาละเทศะของตัวเอง

“ใช่ค่ะ พี่วิภา เราจะแต่งงานกันจริงๆ เชื่อเราเถอะค่ะ”

“สมคบกับโกหกดีนักนะ ทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร บอกแล้วไงว่าอย่าตกเป็นเครื่องมือของผู้หญิงคนนี้ เขากำลังหลอกใช้คุณ ให้กำจัดผมออกไปจากชีวิตเขา แล้วดูสิ สิ่งที่เขาทำมันกระทบถึงใครต่อใครหลายคน รวมถึงตัวคุณด้วยนะเรียว ขอทีเถอะ อย่ายุ่งเรื่องนี้เลย”

พี่สมชายขอร้องผม พี่วิภามองเราสองคนสลับไปมา อย่างสงสัย ไม่รู้จะเชื่อใครดี แต่มีแนวโน้มว่าเธอจะเชื่อในสิ่งที่พี่สมชายพูดมากกว่า ผู้หญิงเวลาที่กำลังหึงหวง มักจะฟังสิ่งที่ตรงกับความเชื่อของตัวเอง

เธอรับรู้ว่าพี่สมชายมีผู้หญิงที่ชอบอีกคน และเธอก็เคยบอกกับผมเมื่อไม่กี่วันมานี้ว่าเคยสงสัยในตัวคุณแคทเหมือนกัน เพราะเห็นอาการผิดปกติในตัวสามีสุดที่รัก เวลาเผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมงานของผม

หากแต่เพราะเราสองคนบอกว่าเป็นแฟนกัน เธอจึงล้มล้างความคิดนั้นออกไปจากสมองของตัวเอง ทว่าเมื่อมาได้ยินคำพูดจากปากคนใกล้ตัวอีกครั้ง จึงเหมือนถ้อยคำผูกมัดให้เธอปักใจเชื่อว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพี่สมชายกับคุณแคทเป็นเรื่องจริง

“นั่นสิ อย่าโกหกกันเลย บอกให้พี่รู้ความจริงเถอะ โกหกไปยังไงก็ไม่มีประโยชน์ ยังไงพี่ก็ต้องพยายามสืบให้รู้อยู่ดี คุณสองคนรวมหัวกันหลอกพี่ใช่ไหม ทำอย่างนี้ทำไม ที่จริงแล้ว คุณเรียวกับคุณแคทไม่ได้เป็นแฟนกัน แค่ตบตาพี่เท่านั้น ใช่ไหมคะ”

คำถามของเธอ ทำเอาเราสองคนนิ่งอึ้ง ไม่รู้ว่าจะยืนยันคำพูดเดิม หรือจะเลิกโกหกดี คุณแคทมีท่าทีเครียดๆ ไม่กล้าแม้จะมองสบตาพี่วิภา ผมคิดว่าเธอกำลังสำนึกผิดในการกระทำของตัวเองที่ครั้งหนึ่งเคยวางแผนที่จะแย่งสามีคนอื่น และบัดนี้ ภรรยาของเขา กำลังต้องการคำตอบจากเธอ ว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นจริงไหม

“ตอบมาสิคะ ตอบให้พี่ได้รับรู้หน่อย ในฐานะลูกผู้หญิงด้วยกัน อย่าปล่อยให้พี่โง่งมอยู่คนเดียวเลยค่ะ บอกความจริงมาเถอะพี่รับได้ทั้งนั้น คุณแคทเป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งของพี่สมชายจริงตามที่เขาพูดใช่ไหมคะ”

หนนี้เธอตั้งคำถามเอากับคุณแคทอย่างคาดคั้น คุณแคทยืนนิ่ง น้ำตาหยดหนึ่งร่วมผลอยออกจากตา เธอทรุดตัวลงนั่งกับพื้น และยกมือไหว้พี่วิภา พลางกล่าวขอโทษ


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่47 6/3/09
«ตอบ #402 เมื่อ06-03-2009 16:07:24 »

“ทุกอย่างเป็นเรื่องจริงค่ะ พี่วิภา แคทเคยเป็นเมียพี่สมชายมาก่อน ก่อนที่เขาจะมาแต่งงานกับพี่ เรารักกันมาตั้งนานแล้ว แคทขอโทษนะคะ แคทมันไม่ดีเองที่ยังเอาตัวมาพัวพันเรื่องนี้ ทั้งๆที่รู้ว่าพี่เขามีเมียแล้ว แต่ก็ยังตัดใจไม่ได้ แต่ตอนนี้แคทเลิกแล้ว แคทไม่อยากยุ่งกับพี่เขาอีกต่อไป”
พอคุณแคทสารภาพทุกอย่างออกมา พี่วิภาซึ่งบอกว่ารับได้ ก็กรีดร้องโหยหวน จนดังก้องไปในยามวิกาล เธอ ตรงเข้าทุบตีพี่สมชายเป็นพัลวันอย่างคั่งแค้น ปากก็ด่าทอสามีของเธอด้วยถ้อยคำหยาบคายนานา เพื่อนบ้านของผมก็ได้แต่ปัดป้อง ยังไม่กล้าลงมือรุนแรง

แต่เมื่อเห็นอาการคลั่งของเมียตัวเองที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เขาก็ผลักเธอกระเด็นไป พี่วิภาผวาเข้ามาจะทำร้ายพี่สมชายอีก แต่พี่สมชายจับตัวของเธอไว้ แล้วบิดแขนที่กำลังทุบตีไพล่หลัง ทำให้พี่วิภาเตะถีบลำบาก เมื่อทำอะไรไม่ได้ เธอจึงร้องโวยวายเหมือนคนวิกลจริต

พี่สมชายจึงเขย่าตัวเธอแรงๆจนหัวสั่นหัวคลอน จากนั้นก็ตะคอกเธอด้วยเสียงอันดัง เขาบอกให้เธอมีสติ อย่าคลุ้มคลั่งให้มาก เพราะนี่เป็นเรื่องจริงที่เธอควรจะทำใจยอมรับมันให้ได้ และเขาปรารถนาให้เธอได้รู้ความจริงเสียที เพื่อที่เขาจะได้พาคุณแคทมาแสดงตัวอย่างเปิดเผย และครองรักกันอย่างมีความสุขแบบสามคนผัวเมีย

คำพูดที่เห็นแก่ตัวของพี่สมชาย ทำให้ทุกคนเกิดอาการต่อต้าน ไม่มีใครยอมรับกับสิ่งที่พี่สมชายกำลังจะทำ ผมอดรนทนไม่ไหว จึงไล่ให้พี่สมชายออกจากบ้านผม บอกว่าผมไม่ต้องการคุยกับคนที่กำลังเมาและไร้สติ สิ่งที่พี่สมชายพูดออกมา มันไม่ใช่คำพูดของลูกผู้ชาย เขากำลังทำร้ายคนที่เป็นเมียและแม่ของลูกตัวเองอยู่ อย่าให้ตัณหาน่ามืดมาทำให้ครอบครัวล่มสลายเลย

ชะรอยคำพูดของผมคงจะบาดเข้าไปในอารมณ์ความรู้สึกของเพื่อนบ้านหนุ่ม ผู้แปรสภาพเป็นคนเมาสติแตก เขาร้องตะโกนด่าผม ว่าคิดจะแย่งเมียเขาทั้งๆที่ผมก็เป็นเมียของผู้ชายคนอื่นอยู่ หาว่าผมเองก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ของที่มีเจ้าของแล้ว ยังจะมาแย่งกันอย่างหน้าด้านๆ หากจะกินเศษเดนของชาวบ้านก็ไปหาจากที่อื่น อย่าได้มายุ่งของๆเขา

เสียงร้องกรี๊ดดังจากคุณแคททันที่พี่สมชาย พูดจบประโยค เธอโต้ตอบพี่สมชายอย่างเผ็ดร้อน ว่าเธอไม่อยากร่วมสังฆกรรมกับพี่สมชายอีกแล้ว ขอให้เลิกรากันไปเสียที เธอคิดผิดตั้งแต่ต้นที่หวนมาหาเขา แต่ตอนนี้เธอต้องการไป ไม่อยากจะทำให้ครอบครัวของพี่สมชายแตกร้าว

แต่พี่สมชายไม่ยอมบอกว่า ถ้าทุกคนต่างตกลงกันได้ ก็จะไม่มีใครที่เป็นฝ่ายไป ข้างฝ่ายพี่วิภา พอได้ยินคำนั้น เธอก็ร้องโวยวายไม่ยอมรับสิ่งที่สามีตัวเองพูดเอาประโยชน์ใส่ตัวเองข้างเดียว เธอบอกว่าเธอจะพาลูกหนีไป ถ้าพี่สมชายจะอยู่กับคุณแคทเธอก็จะย้ายไปอยู่กับพ่อแม่ และหย่าขาดกันไปไม่ต้องติดต่อกันอีก

ทั้งสามคนต่างทุ่มเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมฟังใคร โดยที่มีการลากผมเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ในฐานะที่รู้เห็นแต่ไม่ยอมบอกกล่าว ทั้งร่วมมือกันหลอกลวงทำให้เหตุการณ์บานปลายแย่ยิ่งขึ้น เสียงทะเลาะเบาะแว้งกันเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ

อารมณ์ของทุกคนคุกรุ่นไปด้วยความโกรธ แค้น ชิงชัง ในที่สุดคนที่ทนไม่ไหว คนแรกก็คือพี่สมชาย เขาปราดเข้าไปตบหน้าพี่วิภาที่ไม่ยอมให้เขารับคุณแคทเข้ามาเป็นเมียอีกคน เธอฮึดสู้ตบกลับ และข่วนหน้าสามีของตัวเอง แต่พี่สมชายซึ่งบ้าไปแล้วโต้ตอบด้วยการต่อยเข้าที่หน้าท้องจนเมียตัวเองลงไปกองกับพื้น

ทนไม่ไหวแล้ว ผมบอกตัวเองในใจ นี่มันไม่ใช่ลูกผู้ชายแล้ว ทำร้ายจิตใจเมียตัวเองยังไม่พอ แถมซ้ำยังทำร้ายร่างกายกันอีกด้วย ผมจะไม่ยอมปล่อยให้ใครมาทำร้ายผู้หญิงในบ้านของผมเด็ดขาด ผมปราดเข้าไปดึงแขนของพี่สมชายกระชากออก อารมณ์ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่หรือผู้พิทักษ์ ผมเป็นแค่พลเมืองดีที่ทนไม่ได้ที่จะเห็นคนถูกทำร้ายต่างหาก

ผลของการเป็นผลเมืองดีของผม คือถูกต่อยจนคว่ำลงกับพื้น คนเมาที่กำลังโมโหนี่แรงดีชะมัด ผมถูกต่อยจนจุกไปหมด และพี่สมชายกำลังตามมากระทืบซ้ำ ผมได้ยินเสียงวีดว้ายอยู่เบื้องหลัง เ ห็นคุณแคทกระโดดขึ้นหลังพี่สมชาย ทุบตีหลังไหล่ ในขณะที่พี่วิภาซึ่งลุกขึ้นยืนได้แล้ว วิ่งไปกระชากผมคุณแคทเพื่อให้ปล่อยสามีสุดที่รักของเธอ กรรมจริงๆ ทุกคนเพิ่งช่วยเธอให้รอดพ้นจากการตบตีของสามี แต่เธอกลับรักเขามากกว่าตัวเอง และทำร้ายคนที่ช่วยเหลืออีก
ผมพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็ถูกพี่สมชายเตะเปรี้ยงเข้าที่กลางลำตัวจนทรุดลงไปใหม่ และก่อนที่เขาจะทันยกเท้ากระทืบตัวผม ร่างของพี่สมชายก็ถูกจับเหวี่ยงจนเซถลา จากปรายหางตาของผมมองเห็นร่างสูงใหญ่ของเดียร์ซึ่งโผล่มาจากไหนไม่รู้มายืนบังผมเอาไว้ เขาตวาดด้วยเสียงอันดัง

“ไปให้พ้น กลับบ้านกันไปให้หมดเดี๋ยวนี้ แล้วเลิกยุ่งกับเมียผมได้แล้ว”

“เมียเหรอ”

ผมทวนคำเบาๆ หูแว่วได้ยินคำอุทานจากปากพี่วิภาเช่นเดียวกัน

“ใช่ เรียวเป็นเมียผม ได้ยินแล้วใช่ไหม ถ้างั้นก็ไปได้แล้ว จะไปไม่ไป หรือจะให้ผมลงมือ”

“ปกป้องเมียที่ทรยศของตัวเองเหรอ ทั้งๆที่เขาไม่เคยเห็นค่าตัวเองเลย วันสำคัญแท้ๆยังไปกกผู้หญิงของคนอื่นอีก แล้วยังจะหน้าโง่งมงายหลงเชื่ออยู่ได้ ช่างไม่รู้อะไรเสียบ้างว่าตัวเองน่ะมันก็แค่ควายให้เขาสนตะพายเล่นเท่านั้นแหละ”

พี่สมชายทำหน้ายิ้มเยาะ เขาต่อปากต่อคำกับเดียร์อย่างไม่เกรง และทำท่าว่าจะพูดขึ้นมาอีก แต่เดียร์ชกเปรี้ยงเข้าที่ใบหน้าของพี่สมชายอย่างรวดเร็ว โดนครึ่งปากครึ่งจมูกพอดี ปากพี่สมชายแตก เลือดกำเดาไหลโกรก

“ต๊ายยยย นี่ทำกับเพื่อนบ้านอย่างนี้ได้ไง นิสัยไม่ดี อันธพาล ฉันจะแจ้งตำรวจ”

พี่วิภาร้องกรี๊ด และวิ่งไปหาสามีตัวเอง ลืมความบาดหมางที่ทะเลาะเบาะแว้งกันเมื่อครู่ คุณแคทที่ลงจากหลังพี่สมชายแล้ว เดินเลี่ยงมาทางผม ท่าทางตกใจอยู่ไม่น้อย

“พี่วิภาครับ จะดีเหรอที่จะแจ้งตำรวจน่ะ พี่อยู่ในเขตพื้นที่บ้านใครหรือครับ แล้วแจ้งข้อหาอะไรไม่ทราบ โดยต่อยเพราะบุกรุกบ้านคนอื่นหรือ แล้วพี่สมชายก็เมาอาละวาด ทำร้ายเมียของผมก่อนนะครับ จะแจ้งความเพื่อให้ผมฟ้องกลับหรือไง

ผมว่าพี่วิภากลับบ้านไปดีกว่านะครับ ไปสงบสติอารมณ์ดีๆ คิดให้รอบคอบว่าคนที่พี่กำลังปกป้องอยู่คือคนที่ทำร้ายคนที่ช่วยเหลือพี่ให้รอดจากการถูกทุบตีนะครับ เราบ้านใกล้เรือนเคียงกัน อย่ามีเรื่องกันดีกว่า ผมชอบพี่ รักลูกพี่ แล้วพี่ก็เอ็นดูผม เรื่องวันนี้ อย่าติดใจเอาความกันเลยครับ”

เด็กหนุ่มพูดกับเพื่อนบ้านทั้งคู่ด้วยน้ำเสียงที่เยียบเย็น ผมไม่เคยเห็นเดียร์เป็นแบบนี้มาก่อน เหมือนว่าเขาเป็นน้ำแข็ง ทว่าซ่อนลาวาที่พร้อมจะหลอมละลายทุกสิ่งไว้ภายใน รู้สึกว่ามันน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก

เพื่อนบ้านพ่อลูกอ่อนทำท่าฮึดฮัดไม่พอใจ แต่พอเห็นเดียร์ยืนจ้องหน้าถมึงทึง เขาก็สะบัดหน้าและเดินตามภรรยาที่ทั้งลากทั้งจูงเขาออกไป มีเสียงบ่นด่าเดียร์กับผมให้ได้ยิน

“แล้วคุณแคทล่ะครับ จะอยู่ทำไมไม่ทราบ หรืออยากจะสอดรู้สอดเห็นเรื่องของสามีภรรยาเขา และทำให้เราแตกแยกกันอีก”

โอ๊ย อะไรกันเนี่ย เดียร์ไปพาลกับคุณแคททำไมกัน เธอไม่ได้ทำอะไรให้เขาสักหน่อย

“เอ้อ คือว่าฉัน .....”
ยังไม่ทันที่คุณแคทจะพูดจบ เดียร์ก็สวนขึ้น

“ผมไม่ต้องการคำอธิบายในตอนนี้ครับ กลับไปซะเถอะ ตรงนี้เป็นเรื่องที่ผมกับเรียวจะเคลียร์กันเอง เราผัวกันเมียกันคุยกันได้ มือที่สามอย่ายุ่งดีกว่าครับ”

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่47 6/3/09
«ตอบ #403 เมื่อ06-03-2009 16:08:03 »


น้ำเสียงห้วนๆดุดันของเดียร์ทำให้คุณแคทไม่กล้าแม้แต่จะปริปาก เธอหันมามองผม เห็นอากัปกิริยาพยักเพยิดให้เธอกลับบ้านไป ก็รู้แล้วว่าตัวเองจะต้องปฏิบีติตัวอย่างไร เธอส่งยิ้มอย่างเป็นกำลังใจมาให้ผม จากนั้นก็หันหลังเดินออกจากบ้านไป

“คราวนี้ก็เหลือเราสองคนแล้วสินะ ผัวกับเมีย มาเคลียร์ปัญหาคาใจกัน”

เดียร์หันมาทางผม ทำหน้าบึ้งตึง และพูดจาด้วยเสียงดุดัน เขาดึงผมให้ลุกขึ้น แต่เนื่องจากผมถูกต่อยจนจุกไปหมด ยืนไม่ไหว เขาจึงแบกผมขึ้นพาดไหล่ของเขา

“เดียร์เรียกฉันว่าเมียต่อหน้าคนอื่นทำไม พูดแบบนั้นใครๆเขาก็รู้หมดนะ”


ผมต่อว่าเขา ที่จริงไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เขาเจ็บปวดกับคำพูดผม แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงพูดออกไปแบบนั้น

“ยังห่วงหน้า ห่วงศักดิ์ศรีของตัวเองไม่เลิกเลยนะครับ จะถามไถ่กันสักคำไม่มีเลย ว่าผมมานานหรือยัง รอนานไหม สงสัยจะเป็นอย่างที่ทุกคนว่าจริงๆว่าคุณไม่เคยห่วงผมเลย”

คำพูดของเขาฟังดูพิกล เหมือนประชดประชัน กึ่งๆน้อยใจ

“เดียร์ทำไมพูดแปลกๆแบบนี้ เป็นอะไรหรือเปล่า”

ผมถามด้วยความห่วงใย เดียร์แค่นหัวเราะ แล้วพูดเสียดสีตัวเองให้ผมฟัง

“จะให้ผมเป็นอะไรล่ะ เป็นควายโง่ให้สนตะพายแบบบที่พี่สมชายว่าดีไหม”

“อารมณ์ไม่ดีอีกแล้วใช่ไหม ถ้างั้นเราอย่าเพิ่งพูดอะไรกันดีกว่า ปล่อยฉันลงเถอะ พรุ่งนี้หายโกรธ แล้วค่อยมาพูดกันจะดีกว่านะ”

“จะหนีผมอีกหรือครับ พอมีปัญหาก็เลี่ยงที่จะไม่พูด ไม่คุยกัน แต่ต้องทำอย่างนั้น ไม่ต้องหนีผมไปไหนหรอก ยังไงวันนี้เราก็ต้องพูดกันให้รู้เรื่องไปเลย คาใจแบบนี้ผมไม่ชอบ”

“คุยเรื่องอะไรกันล่ะ ถ้าเป็นเรื่องวันนี้ที่ฉันมาสาย ฉันก็ขอโทษนะเดียร์ ฉันไม่ได้ตั้งใจ เผอิญว่าฉันมีงานด่วนเข้ามา แล้วก็ต้องไปกับเจ้านายเพื่อเลือกซื้อของขวัญวันวาเลนไทน์ให้เมียหัวหน้า แล้วฉันก็โทรบอกนายแล้ว”
ผมอธิบายสาเหตุของความล่าช้าให้เขารู้

“แล้วก็มาจบลงบนเตียงที่บ้านของคุณแคทใช่ไหมครับ”

“ทำไมพูดแบบนี้ ฉันไม่ได้ชอบคุณแคทแบบนั้นน่ะ”

“ใครจะรู้ล่ะ เรียวเคยลองกับผู้ชายมาแล้ว อาจจะติดใจอยากลองอีกก็ได้ คราวนี้เปลี่ยนเป็นกระเทยดูบ้าง เปลี่ยนรสเปลี่ยนชาติ ลองก่อนแต่งไง จะแต่งกันอีกไม่นานไม่ใช่เหรอ ไม่แปลกนี่ถ้าจะไปหาประสบการณ์กัน”

คำพูดของเดียร์ทิ่มแทงหัวใจผมนัก เคยถูกคนอื่นนินทาว่าร้ายในลักษณะแบบนี้ ผมรู้สึกเจ็บปวดมาก ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินจากปากสุดที่รักของตัวเอง ทำไมต้องว่ากันแบบนี้ด้วย นี่เขาหึงจนไม่ไว้เนื้อเชื่อใจผมเลยหรือไง ทำไมไม่มีเหตุผลเอาเสียบ้างเลย

“พูดแบบนี้กับฉันอีกแล้วนะ ฉันไม่ชอบได้ยินไหม ถ้าจะพูดแบบนี้ก็ไม่ต้องพูดกันอีก”

“ได้โอกาสทันทีใช่ไหม หามานานแล้วนี่ ข้ออ้างที่จะทิ้งผม มีเรื่องกันทีไร ก็คอยแต่จะโทษว่าผมทำผิด ใช่สิ ผมมันไม่เคยมีดีเลยสักอย่าง เรียวถึงไม่ต้องการผม”

“ฉันเคยไปพูดแบบนั้นที่ไหน ไม่เคยโทษว่าเป็นความผิดนายสักหน่อย อย่ามาหาเรื่องกันนะ ถ้าจะทำแบบนั้น ก็ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้”

ผมพยายามจะดิ้นลงจากไหล่ของเขา แต่เดียร์ใช้สองแขนรัดร่างผมไว้แน่น เขาก้าวอย่างรวดเร็ว ขึ้นบันได้ไปชั้นสอง หมุนลูกบิดประตูออก แล้วเปิดประตูเข้าไป จากนั้นก็หันมาลงกลอนด้วยมือเดียวทั้งๆที่มีตัวผมพาดอยู่บนไหล่ของเขา เมื่อล็อคประตูเรียบร้อย เขาก็เดินมาที่เตียง แล้วทุ่มผมลงไปบนที่นอนนุ่มนั่น

ผมตะกายหนี แต่เดียร์โถมตัวลงมาหา เขาจับแขนผมไว้สองข้าง และล้วงมือเข้าไปในกางเกงของตัวเอง แล้วหยิบขดเชือกไนล่อนก้อนเล็กๆออกมา เขาจับมันพันไว้รอบข้อมือของผม และมัดเป็นปมก่อนที่จะนำปลายอีกข้างไปผูกอยู่ตรงหัวเตียง จนแน่นหนา ผมพยายามจะดิ้นหนี แต่ก็ไม่หลุดไปจากเชือกที่พันธนาการผมไว้

“นายจะทำอะไรน่ะเดียร์”

ร้องถามออกไปอย่างตกใจ เมื่อเห็นเดียร์เดินไปหยิบผ้าเทปเหนียวมาถือไว้ในมือ และก้าวขึ้นเตียงคร่อมร่างผมไว้

“เคลียร์ปัญหาคาใจกัน”

“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย มีอะไรก็พูดออกมาสิ ทำแบบนี้ไม่ชอบเลยนะ”

“ไม่แปลกหรอก คุณไม่เคยชอบอะไรที่เป็นตัวผมมาตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้ผมทำดีหรือทำชั่วกับคุณ ก็คงไม่เปลี่ยนแปลงความรู้สึกของคุณได้”

“พูดอะไรฉันไม่เข้าใจ อย่ามาหาเรื่องกันดีกว่า”

พูดว่าเขาออกไปด้วยความขึ้งโกรธ ตอนแรกผมคิดว่าเดียร์จะอำผมเล่นเหมือนที่เคยทำ แต่ดูจากใบหน้าโกรธขึ้ง กับน้ำเสียงห้วนๆของเขาก็พอจะเดาได้ว่ามีเรื่องบางอย่างที่เดียร์ไม่พอใจผม และนี่คือวิธีการแก้แค้นของเขา

“งั้นหรือครับ ผมน่ะเหรอ เป็นฝ่ายหาเรื่อง ผมจะทำอย่างนั้นทำไม ในเมื่อ ผมรักและหลงคุณจะตาย มีแต่เรียวเท่านั้นที่ทำอะไรไม่ตรงไปตรงมา ปากอย่างใจอย่าง ตอนรับโทรศัพท์ก็พูดจาดีกับผม ว่าเราจะกลับมาช่วยกันจัดบ้าน มีอะไรจะคุยด้วย ผมก็หลงดีใจปลาบปลื้มว่ามันต้องเป็นเรื่องดี ที่แท้คุณก็ส่งนายหน้าไปเจรจา เพราะคุณมันคนขี้ขลาดไม่กล้าเผชิญหน้า สู้ความจริงไม่ได้ เลยต้องใช้คนอื่นไปพูดคำบอกเลิกกับผม”

.........................................................................


“จะหนีผมอีกหรือครับ พอมีปัญหาก็เลี่ยงที่จะไม่พูด ไม่คุยกัน แต่ต้องทำอย่างนั้น ไม่ต้องหนีผมไปไหนหรอก ยังไงวันนี้เราก็ต้องพูดกันให้รู้เรื่องไปเลย คาใจแบบนี้ผมไม่ชอบ”

“คุยเรื่องอะไรกันล่ะ ถ้าเป็นเรื่องวันนี้ที่ฉันมาสาย ฉันก็ขอโทษนะเดียร์ ฉันไม่ได้ตั้งใจ เผอิญว่าฉันมีงานด่วนเข้ามา แล้วก็ต้องไปกับเจ้านายเพื่อเลือกซื้อของขวัญวันวาเลนไทน์ให้เมียหัวหน้า แล้วฉันก็โทรบอกนายแล้ว”
ผมอธิบายสาเหตุของความล่าช้าให้เขารู้


“แล้วก็มาจบลงบนเตียงที่บ้านของคุณแคทใช่ไหมครับ”

“ทำไมพูดแบบนี้ ฉันไม่ได้ชอบคุณแคทแบบนั้นน่ะ”

“ใครจะรู้ล่ะ เรียวเคยลองกับผู้ชายมาแล้ว อาจจะติดใจอยากลองอีกก็ได้ คราวนี้เปลี่ยนเป็นกระเทยดูบ้าง เปลี่ยนรสเปลี่ยนชาติ ลองก่อนแต่งไง จะแต่งกันอีกไม่นานไม่ใช่เหรอ ไม่แปลกนี่ถ้าจะไปหาประสบการณ์กัน”


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่47 6/3/09
«ตอบ #404 เมื่อ06-03-2009 16:08:45 »

คำพูดของเดียร์ทิ่มแทงหัวใจผมนัก เคยถูกคนอื่นนินทาว่าร้ายในลักษณะแบบนี้ ผมรู้สึกเจ็บปวดมาก ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินจากปากสุดที่รักของตัวเอง ทำไมต้องว่ากันแบบนี้ด้วย นี่เขาหึงจนไม่ไว้เนื้อเชื่อใจผมเลยหรือไง ทำไมไม่มีเหตุผลเอาเสียบ้างเลย

“พูดแบบนี้กับฉันอีกแล้วนะ ฉันไม่ชอบได้ยินไหม ถ้าจะพูดแบบนี้ก็ไม่ต้องพูดกันอีก”

“ได้โอกาสทันทีใช่ไหม หามานานแล้วนี่ ข้ออ้างที่จะทิ้งผม มีเรื่องกันทีไร ก็คอยแต่จะโทษว่าผมทำผิด ใช่สิ ผมมันไม่เคยมีดีเลยสักอย่าง เรียวถึงไม่ต้องการผม”

“ฉันเคยไปพูดแบบนั้นที่ไหน ไม่เคยโทษว่าเป็นความผิดนายสักหน่อย อย่ามาหาเรื่องกันนะ ถ้าจะทำแบบนั้น ก็ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้”

ผมพยายามจะดิ้นลงจากไหล่ของเขา แต่เดียร์ใช้สองแขนรัดร่างผมไว้แน่น เขาก้าวอย่างรวดเร็ว ขึ้นบันได้ไปชั้นสอง หมุนลูกบิดประตูออก แล้วเปิดประตูเข้าไป จากนั้นก็หันมาลงกลอนด้วยมือเดียวทั้งๆที่มีตัวผมพาดอยู่บนไหล่ของเขา เมื่อล็อคประตูเรียบร้อย เขาก็เดินมาที่เตียง แล้วทุ่มผมลงไปบนที่นอนนุ่มนั่น
ผมตะกายหนี แต่เดียร์โถมตัวลงมาหา เขาจับแขนผมไว้สองข้าง และล้วงมือเข้าไปในกางเกงของตัวเอง แล้วหยิบขดเชือกไนล่อนก้อนเล็กๆออกมา เขาจับมันพันไว้รอบข้อมือของผม และมัดเป็นปมก่อนที่จะนำปลายอีกข้างไปผูกอยู่ตรงหัวเตียง จนแน่นหนา ผมพยายามจะดิ้นหนี แต่ก็ไม่หลุดไปจากเชือกที่พันธนาการผมไว้

“นายจะทำอะไรน่ะเดียร์”

ร้องถามออกไปอย่างตกใจ เมื่อเห็นเดียร์เดินไปหยิบผ้าเทปเหนียวมาถือไว้ในมือ และก้าวขึ้นเตียงคร่อมร่างผมไว้

“เคลียร์ปัญหาคาใจกัน”

“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย มีอะไรก็พูดออกมาสิ ทำแบบนี้ไม่ชอบเลยนะ”

“ไม่แปลกหรอก คุณไม่เคยชอบอะไรที่เป็นตัวผมมาตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้ผมทำดีหรือทำชั่วกับคุณ ก็คงไม่เปลี่ยนแปลงความรู้สึกของคุณได้”

“พูดอะไรฉันไม่เข้าใจ อย่ามาหาเรื่องกันดีกว่า”
พูดว่าเขาออกไปด้วยความขึ้งโกรธ ตอนแรกผมคิดว่าเดียร์จะอำผมเล่นเหมือนที่เคยทำ แต่ดูจากใบหน้าบึ้งตึง กับน้ำเสียงห้วนๆของเขาก็พอจะเดาได้ว่ามีเรื่องบางอย่างที่เดียร์ไม่พอใจผม และนี่คือวิธีการแก้แค้นของเขา

“งั้นหรือครับ ผมน่ะเหรอ เป็นฝ่ายหาเรื่อง ผมจะทำอย่างนั้นทำไม ในเมื่อ ผมรักและหลงคุณจะตาย มีแต่เรียวเท่านั้นที่ทำอะไรไม่ตรงไปตรงมา ปากอย่างใจอย่าง ตอนรับโทรศัพท์ก็พูดจาดีกับผม ว่าเราจะกลับมาช่วยกันจัดบ้าน มีอะไรจะคุยด้วย ผมก็หลงดีใจปลาบปลื้มว่ามันต้องเป็นเรื่องดี ที่แท้คุณก็ส่งนายหน้าไปเจรจา เพราะคุณมันคนขี้ขลาดไม่กล้าเผชิญหน้า สู้ความจริงไม่ได้ เลยต้องใช้คนอื่นไปพูดคำบอกเลิกกับผม”

น้ำเสียงที่พูดเครือนิดๆเหมือนกับว่าคนพูดกำลังสะกดกลั้นอารมณ์เจ็บปวดรวดร้าวภายใน

“มันเรื่องอะไรกัน ฉันไม่เห็นรู้เรื่อง”

เดียร์ยิ้มกริ่ม ก้มหน้ามาจนชิด และสบตาผม แววตาของเขาแข็งกร้าว

“ไม่เอาล่ะ อย่าทำให้ผมหลงเชื่ออีกเลย หน้าหวานๆแบบนี้พูดจาโกหกเก่งชะมัด ทำเป็นใสซื่อไม่รู้เรื่องราว แต่มันไม่มีความจริงใจแม้แต่นิดเดียว ต่อจากนี้ไปผมไม่เชื่อคุณอีกต่อไปแล้ว”

“เดียร์ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ ฉันว่าเราสองคนจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วนะ เอาล่ะ ถ้านายอยากเคลียร์ก็ปล่อยฉันก่อนนะ แล้วบอกฉันทีว่านายไปได้ยินได้ฟังอะไรมา บางทีมันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องก็ได้”

ผมพยายามพูดจากับเดียร์ดีๆ เพื่อลดความแรงของอารมณ์ แต่เด็กหนุ่มส่ายหน้าปฏิเสธ ดวงตาที่มองมายังผม ฉายแววปวดร้าว

“ผมบอกแล้วไง ว่าผมไม่เชื่อเรียวอีกแล้ว คุณใจร้าย ใจร้ายมากจริงๆ”

“ใจร้ายอะไร บอกมาสิเดียร์”

เริ่มไม่เข้าใจแล้ว ว่าทำไมเดียร์ถึงว่าผมแบบนี้ ผมไปทำอะไรให้เขากัน แค่มาสายแค่นี้ ทำไมเขาถึงได้โกรธมากมายนักหนา ผมจะเล่าให้ฟัง ไม่ปิดแล้วทำไมยังไม่ฟังอีก หรือว่าหึงหวงที่ผมมากับคุณแคท แต่ผมก็บอกไปแล้วนี่นาว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับเธอทำไมไม่ฟังกันบ้าง

“ไหนลองบอกฉันมาสิ ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมนายถึงได้ต่อว่าฉันมากมาย แถมซ้ำยังมาจับฉันมัดไว้แบบนี้ ความผิดของฉันมันรุนแรงมากนักเหรอ เราคุยกันดีๆไม่ได้เลยใช่ไหม แล้วที่บอกว่าฉันจะบอกเลิกกับนายน่ะ ใครคนไหนพูดกัน ฉันไม่ได้คิดที่จะทำอย่างนั้นเลยนะ”

“อย่ามาพูดเพื่อเอาตัวให้รอดเลยดีกว่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมอาจจะเชื่อ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว”

น้ำเสียงของเดียร์ฟังดูขมขื่น ผมไม่เคยเห็นเขาทำกริยาอาการแบบนี้มาก่อน ถึงแม้เขาจะเคยน้อยใจผมหลายครั้ง แต่เขาก็มักจะมีรอยยิ้มให้เสมอ แต่นี่มีแต่ความเครียดบนใบหน้าเขา



“เปล่านะเดียร์ ฉันแค่อยากจะอธิบายเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้นายฟัง ถ้านายโกรธฉันเรื่องวันนี้น่ะ ฉันก็ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมาสายจริงๆ อย่างที่บอกนั่นแหละ พอเลิกงานแล้วฉันกำลังจะกลับบ้าน แต่ก็มีงานพิจารณาเคสเข้ามา แล้วหลังจากนั้นเจ้านายก็ขอให้ฉันไปเป้นเพื่อนซื้อของขวัญให้เมียเขา เสร็จประมาณสองทุ่ม กำลังจะกลับบ้านคุณแคทก็โทรมาหาบอกว่ากำลังมีเรื่องเดือดร้อน ฉันก็เลยไปช่วยเธอ”

ผมเล่าให้เขาฟังถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความล่าช้าขึ้น เขาจะได้สบายใจหายโกรธผม แต่สีหน้าของเดียร์ยังคงเย็นชาเฉยเมย

“เรื่องเดือดร้อนของคุณแคทคือเรื่องอารมณ์เหงายามค่ำคืน เลยเรียกคุณไปช่วยปลดเปลื้องหรือเปล่าครับ”

คำพูดเยาะหยัน ทำเอาผมเกือบจะหมดอารมณ์เล่า ทว่าผมพยายามข่มใจไม่โมโหเขา เพราะรู้ดีว่าเด็กหนุ่มกำลังโกรธผมที่มาช้า ปล่อยให้เขาเผชิญหน้าอยู่กับพี่วิภากับพี่สมชายตามลำพัง แถมยังกลับมากับคุณแคทในสภาพที่ชวนให้คิดไปไกล เลยเข้าใจผิดไปใหญ่ ผมเลยตัดสินใจเล่าเรื่องเกี่ยวกับพี่สมชายให้ฟัง แล้วก็พูดถึงเรื่องอุบัติเหตุด้วย เมื่อเขาทำหน้าไม่เชื่อ ผมก็เลยชูมือให้เขาเห็นผ้ากีอตที่พันแผลของผมไว้ เผื่อว่าบางทีเขาอาจจะเห็นไม่ชัด

แววตาของเดียร์เปลี่ยนเป็นสงสารเห็นใจ แต่แล้วก็เปลี่ยนกลับเป็นดุดันเหมือนเดิม ใบหน้าที่เฉยชาของเขาทำให้ผมเดาความคิดของเขาไม่ออก ไม่รู้ว่าเขาเชื่อที่ผมพูดบ้างไหม หรือว่าโกรธจนไม่คิดจะฟังอะไร

“เรียวอยากหาเรื่องเดือดร้อนเอง เรื่องของผัวเมีย ไปยุ่งกับเขาทำไม”

“พูดอย่างนั้นได้ไง เขาเป็นเพื่อนฉันนะ พอเขาเดือดร้อนถูกคนรักเก่ารังควาญฉันก็เลยยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ”

“ช่วยเหลือยังไงครับ รับสมอ้างว่าเป็นแฟนกันใช่ไหม คิดได้ไงกันครับ เรากับพี่สมชายเป็นเพื่อนบ้านกัน คุณทำแบบนี้ ก็เท่ากับทำให้เราผิดใจกับเพื่อนบ้าน มองหน้ากันไม่ติด”

เขากล่าวตำหนิผมที่ไปวุ่นวายกับเรื่องคนอื่น ผมรีบอธิบายให้เขาฟังถึงเหตุผล


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่47 6/3/09
«ตอบ #405 เมื่อ06-03-2009 16:09:21 »

“ใช่ที่นายพูดมันก็ถูก แต่ฉันก็ทนไม่ได้ ที่จะเห็นครอบครัวของคนที่เรารู้จักต้องแตกร้าว ฉันจึงยื่นมือเข้าไปเกี่ยวข้องไง พี่สมชายมีเมียอยู่แล้วนะ เขามายุ่งกับคุณแคททำไมล่ะ ฉันก็เลยช่วยคุณแคทในการตบตาเขาว่าเป็นแฟนกัน ที่จริงฉันไม่ได้จะแต่งงานกับคุณแคท แต่พวกเขาเผอิญไปเจอฉันกับคุณแคท ที่ร้านขายเพชรพลอยพอดี พี่วิภาทักทักเอาแบบนั้น ฉันกับคุณแคทก็เลยผสมโรงกันไปด้วย พี่วิภาจะได้สบายใจเลิกหึงหวงคุณแคทซะที”

คิ้วเข้มของเดียร์ขมวดมุ่น เขาทำท่าสงสัยในสิ่งที่ผมพูด

“ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าคุณจะต้องไปช่วยคุณแคททำไม ในเมื่อเรื่องทุกอย่างเป็นเรื่องของคุณแคทกับพี่สมชาย ทำไมไม่ให้เขาสองคนแก้ปัญหากันเอาเอง เรียวไม่ได้รู้เรื่องราวของเขาสองคน ไม่เข้าใจสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้น ช่วยก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ซ้ำยิ่งทำให้เสียหายหนักขึ้นไปอีก”

“เขาดีกับฉัน แล้วเขาก็ดีกับนายด้วย เขาช่วยไม่ให้นายถูกตาเฒ่าทรงพลเอาเรื่อง ตอนที่นายไปทำร้ายเขา ตอนนั้นตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ตั้งใจจะแจ้งความจับนายเข้าคุก คุณแคทต้องไปช่วยพูดให้ แลกกับการที่ฉันต้องช่วยแสดงตัวเป็นแฟนเขาเป็นการตอบแทนยังไงล่ะ”

ในที่สุดผมก็พูดออกไปแล้ว ความลับที่ปกปิดเดียร์ เด็กหนุ่มทำสีหน้าปวดร้าว เขายิ้มเหยียดๆ ตาที่มองผมแดงก่ำ

“งั้นหรือครับ ช่วยไม่ให้ติดคุก เลยยอมเป็นแฟนกับคุณแคทเพื่อช่วยผม น่าสรรเสริญจริงๆสำหรับสิ่งที่คุณทำให้ แล้วทำไมเรื่องแบบนี้จึงไม่คิดจะบอกกันเลย ต้องให้ผมรู้เป็นคนสุดท้ายทุกทีใช่ไหม แทนที่เราจะช่วยกันคิดแก้ไข ว่าจะทำยังไงดีเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่คุณก็เก็บไปคิดคนเดียว ตัดสินใจคนเดียว แต่ก็นั่นแหละ โทษคุณก็คงไม่ได้ เพราะในสายตาคุณแล้ว ผมก็คงไม่ใช่คนสำคัญที่คุณจะต้องมาใส่ใจความรู้สึกมากมาย ผมจะคิดยังไง คุณไม่เคยสนด้วยซ้ำ ที่ผ่านมา ผมพยายามจะคิดในแง่ดีว่า สักวันหนึ่งคุณคงจะไว้ใจผม เราจะไม่มีความลับต่อกัน มีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้น เราจะช่วยกันฝ่าฟัน แต่คุณก็ได้พิสูจน์ให้ผมเห็นแล้ว ว่าผมคิดผิด คุณไม่แม้แต่จะบอกความจริงกับผมด้วยซ้ำ แม้แต่เรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องของผม แล้วคุณต้องมาทนเป็นแฟนกับคนอื่น เพราะช่วยไม่ให้ผมต้องติดคุก”

เสียงของเขาสั่นเครือเหมือนคนพยายามสะกดกั้นอารมณ์ความรู้สึกภายใน คล้ายคนที่กำลังจะร้องไห้ แต่บังคับน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาประจานความอ่อนแอของตัวเอง

“เดียร์..ฉันขอโทษ ที่ฉันไม่ได้บอกนาย ฉันเพียงแต่ไม่อยากให้นายคิดมาก คิดว่าเมื่อจัดการเรื่องนี้จบ ก็จะลืมมันไปเสีย นายก็ไม่ต้องรับรู้เรื่องร้อนหู มันทำให้ไม่สบายใจไปเปล่าๆ”

“งั้นหรือครับ แล้วมันแก้ได้ไหม เกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตแล้วเห็นหรือยัง รู้ไหมวันนี้พี่สมชายมาโวยวายกับผม ตอนที่นั่งรอคุณ เขาบอกว่าคุณแย่งแฟนเขาไปกก เขาหาว่าคุณหน้าด้านไร้ยางอาย มีผัวอยู่แล้ว ยังจะมาแย่งเมียเขาไปอีก ผมไม่เคยเห็นพี่สมชายคลุ้มคลั่งอย่างนี้มาก่อน นั่งฟังแกไป ก็นึกถึงตัวเองไปว่า หากเรารักใครมากๆแล้วถูกทรยศหักหลัง เราจะบ้าแบบนี้ไหม แค่พี่สมชายก็เกินพอ ผมยังต้องมาเผชิญหน้ากับพี่วิภาอีก ตอนแรกมาตามแฟน ตอนหลังก็พูดถึงคุณ หาว่าคุณพาคุณแคทมาทำให้พี่สมชายเปลี่ยนไป สองคนนั่นเข้ามาทะเลาะกันโดยที่ผมต้องนั่งฟัง นั่งใกล้เกลี่ย แต่พวกนั้นก็ทะเลาะกันไม่เลิก จนกระทั่งคุณกลับมา แล้วเกิดเรื่องขึ้น เห็นหรือยังครับ การเอาตัวเข้าไปสอดในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง มันวุ่นวายแค่ไหน แล้วการโกหกพกลม ไม่ยอมพูดความจริง มันช่วยอะไรได้ไหม ช่วยให้สองผัวเมียกลับมาคืนดีกันได้หรือเปล่า”

ท้ายประโยคเดียร์ตะคอกผมอย่างกลั้นไม่อยู่

“ฉันเสียใจนะเดียร์ ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”

“มันไม่สายไปหรือครับที่มานึกเสียใจเอาตอนนี้ ในเมื่อเรื่องทุกอย่างมันเลวร้ายลงไปยิ่งกว่าเดิม ถ้าคุณบอกผมตั้งแต่แรก รู้ไหมว่าผมจะจัดการอย่างไร”

เดียร์ถามผมเสียงเข้ม ผมส่ายหน้าที่


“ผมจะเ ดินไปคุยกับนายทรงพลอย่างลูกผู้ชาย บอกกับเขาไปว่า เขาจะจับผมก็ได้ ต่อให้มีอิทธิพลมากมายขนาดไหนผมก็ไม่กลัว ผมมันตัวคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน จะติดคุกเดือนกี่ปีก็ได้ คงไม่มีใครเสียใจเพื่อผม แต่เขาล่ะกล้าที่จะแลกชื่อเสียงของตัวเองไหม ธุรกิจที่เขาสั่งสมมาจะต้องพังทะลาย เมื่อใครต่อใครรู้ว่าเจ้าของร้านเพชรชื่อดังมีเบื้องหลังโสมมอย่างไร ตัวเขาเองมีพ่อแม่ มีญาติพี่น้อง มีหน้ามีตาในวงสังคม จะยอมให้ตัวเองและวงค์ตระกูลต้องแปดเปื้อนมัวหมองด้วยเรื่องแบบนี้หรือ...”

“...”

“ถ้าเขายอมที่จะให้มันเกิดแบบนั้น ผมก็ยินดีที่จะแลก แล้วอีกอย่างผมมีเพื่อนเป็นนักมวยเยอะ กระเทยแรงๆก็แยะพวกนั้นพร้อมที่จะช่วยเหลือผม ขอให้บอกมาเท่านั้น รับรองชื่อเสียงของนายทรงพลมัวหมอง ไม่เหลือที่ให้ยืนในสังคมแน่ ไม่ใช่ผมร้ายกาจ แต่เมื่อเขาขู่มา ผมก็ขู่กลับ คนแบบนี้จะกลัวทำไม ผมว่าการแก้ปัญหาแบบนี้ของผม ก็ทำให้เขาไม่กล้ายุ่งแล้ว โดยที่เรียวไม่ต้องเข้ามาพัวพันเรื่องนี้ด้วย แต่เรียวเลือกที่จะเชื่อคุณแคท ไม่ไว้ใจผม มันถึงเป็นแบบนี้ไง”

เด็กหนุ่มพูดมาก็ถูก ผมผิดเองที่ไม่บอกเดียร์ตั้งแต่แรก ทั้งๆที่แนวทางการแก้ปัญหาของเดียร์ก็ดูเข้าท่าดีเหมือนกัน แต่อย่างที่เดียร์ต่อว่าผมนั่นแหละ ผมเชื่อคุณแคทว่าจะช่วยทำให้เดียร์ของผมรอดปลอดภัยจากคุก และนายทรงพลจะเลิกราวีเราสองคน แต่ความช่วยเหลือของคุณแคทมีข้อแลกเปลี่ยนที่ก่อให้เกิดปัญหามากมายตามมา ยุ่งยากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก



anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่47 6/3/09
«ตอบ #406 เมื่อ06-03-2009 16:10:02 »

“นอกจากเรื่องที่พี่สมชายเป็นแฟนเก่าของคุณแคท และเรื่องที่คุณรวมหัวกันโกหกพี่สมชายและพี่วิภาให้หลงเชื่อว่าคุณสองคนเป็นแฟนกัน มันยังมีอะไรอีกไหมที่คุณยังปิดบังผมอีก”

เขาคาดคั้นถาม แต่ผมนึกไม่ออกว่ามีเรื่องอะไรอีก จึงได้แต่ส่ายหน้า เดียร์แค่นยิ้ม มีร่องรอยความร้าวรานใจแสดงให้เห็นในแววตา ดูเหมือนมันจะบอกให้รู้ว่าผมไม่ได้พูดความจริงกับเขา

“โกหกอีกแล้ว จะโกหกไปถึงไหน ผมรู้ความจริงหมดแล้ว”

“ความจริงอะไร”

“เรื่องที่คุณต้องการจะเลิกกับผม โดยดึงคุณแคทเข้ามาเกี่ยวข้องไงครับ”

“ไม่จริงนะ ฉันไม่เคยคิดอย่างนั้น”

“มีคนเล่าให้ฟังว่า คุณได้รับการแนะนำให้ลองคบกับคุณแคทดู หากคุณต้องการที่จะเลิกยุ่งกับผม และดูเหมือนคุณก็คล้อยตามคำพูดนี้ด้วย”

ใครบอกให้เดียร์ฟังแบบนั้น ผมไม่เคยเห็นด้วยกับเรื่องนี้เลย เพราะผมไม่ได้ชอบคุณแคทมาตั้งแต่แรกแล้ว ตอนที่เจ้าสันต์ยุนั้น ผมยังปฏิเสธไปด้วยซ้ำ เอ หรือว่าเจ้าสันต์นั่นเองที่เป็นคนไปหาเดียร์ แล้วพูดให้เขาฟัง แต่ว่ามันจะทำอย่างนั้นเพื่ออะไร ในเมื่อมันเองเชียร์ผมกับเด็กนี่สุดลิ่ม
ใครบอกให้เดียร์ฟังแบบนั้น ผมไม่เคยเห็นด้วยกับเรื่องนี้เลย เพราะผมไม่ได้ชอบคุณแคทมาตั้งแต่แรกแล้ว ตอนที่เจ้าสันต์ยุนั้น ผมยังปฏิเสธไปด้วยซ้ำ เอ หรือว่าเจ้าสันต์นั่นเองที่เป็นคนไปหาเดียร์ แล้วพูดให้เขาฟัง แต่ว่ามันจะทำอย่างนั้นเพื่ออะไร ในเมื่อมันเองเชียร์ผมกับเด็กนี่สุดลิ่ม

“นายเข้าใจผิดแล้ว ฉันจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร”

ผมปฏิเสธสิ่งที่เดียร์กล่าวหา เดียร์ยิ้มให้ผมอย่างเหี้ยมเกรียม

“ก็เพื่อรักษาสถานภาพทางสังคมของคุณไง คุณได้รับการเลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงานดีขึ้น เงินเดือนสูงมากกว่าเดิม บทบาทความรับผิดชอบมากมาย ดูแลลูกน้องในฝ่ายเยอะแยะ ได้รับการยกย่องเชิดหน้าชูตา ถ้าหากคุณมาอยู่กับผม คุณก็ต้องทิ้งทุกอย่าง เพราะสังคมที่คุณอยู่ยอมรับไม่ได้เรื่องที่คุณจะมีคนรักเป็นผู้ชาย คุณก็เลยคิดหนัก และหาทางจะเลิกกับผมใช่ไหม”

คำพูดของเดียร์จี้ใจดำผมมาก นี่เขารู้มาจากปากคนอื่น หรือว่าเดาเอาเองกันแน่ แต่สิ่งที่เขาพูดก็ทำให้ผมอึ้งพูดไม่ออก เพราะมันเป็นความจริงที่ผมลังเลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่47 6/3/09
«ตอบ #407 เมื่อ06-03-2009 16:10:22 »


“แสดงว่าที่ผมพูดมามันจริงใช่ไหมครับ ผมยังรู้มาอีกว่าคุณได้รับการยื่นคำขาดจากหัวหน้าของคุณให้เลิกยุ่งกับผม เพราะเขาเพิ่งโปรโมทคุณ เขาอยากให้คุณดูดี เหมาะสมกับตำแหน่ง ไม่อยากให้คุณแปดเปื้อนมัวหมองด้วยเรื่องคาวๆ ไม่อยากให้บริษัทเสียชื่อที่มีผู้บริหารฝักใฝ่ในการเป็นเกย์ เขาเอาตำแหน่งมาล่อ ซึ่งทำให้คุณคิดมากพอดูเลยใช่ไหมครับ”

ใช่ สิ่งที่เดียร์พูดมานั้นถูกต้อง แต่เขาไปได้ข้อมูลนั้นมากจากไหน มีเพียงคนเดียวที่ผมเล่าให้ฟัง คนนั้นก็คือสันต์ แต่เขาไม่ใช่คนที่น่าจะทรยศผมด้วยการเอาเรื่องเหล่านี้ให้เดียร์ฟังนี่นา

“ฉันจะไม่โกหกนายหรอกเดียร์ ฉันลังเลใจอย่างนั้นจริงๆ แต่นายจะให้ฉันทำอย่างไรกัน ฉันไม่ได้อยากเป็นเกย์ ไม่ได้อยากมีชีวิตแบบนี้ ฉันอยู่ของฉันดีๆ นายก็เข้ามาในชีวิตของฉัน มาทำให้เรื่องวุ่นวายมันเกิดขึ้น แล้วฉันก็เผลอตัวเผลอใจให้กับนายเรื่อยๆ

ฉันตั้งใจจะปิดเรื่องนี้ไม่ให้คนอื่นรู้ แล้วก็คบกับนายไปแบบนี้ แต่เรื่องมันก็แดงขึ้นมา จนคนรู้เรื่องนี้ไปเกือบทั้งบริษัท มีคนวิพากษ์วิจารณ์ จนมันเข้าไปถึงหูเจ้านายด้วย เพราะเราสองคนไม่ระมัดระวังตัวกันไง นายจำได้ไหม ที่เราไปเที่ยวปีใหม่ด้วยกัน แล้วเราจูบกันมีคนเห็นแล้วถ่ายรูปส่งไปให้หัวหน้าฉันดู เขาถึงได้รู้เรื่องนี้ แล้วมายื่นคำขาดกับฉันไง”

ความจริงอีกเรื่องหนึ่งที่ผมเปิดเผยให้เขารู้ เดียร์ทำหน้าประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่แล้วเขาก็ยิ้มเยาะผมอีกครั้ง

“นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่คุณปิดบังผม จนเสียเรื่องใช่ไหมครับ ทำไมไม่บอกผม เราสองคนจะได้ช่วยกันระมัดระวัง ถ้าคุณเพียงแต่บอกผมว่าเราจะคบกันไปแบบนี้ ไม่อยากให้ใครรับรู้ ผมก็จะไม่ทำอะไรรุ่มร่ามให้คนอื่นเห็น ถึงแม้ว่าผมจะอยากควงคุณอย่างเปิดเผย อยากให้โลกรับรู้ว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน แต่ผมก็ไม่อยากทำให้คุณมีปัญหา ไม่อยากทำลายหน้าที่การงานของคุณ แต่คุณก็เลือกที่จะไม่บอกผม แล้วก็จัดการเอง มันเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการไม่ไว้ใจกันไงครับ”

สิ่งที่เดียร์พูดออกมา ทิ่มแทงหัวใจให้ผมเจ็บแปลบอีกครั้ง ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยจริงๆ ที่ผมไม่อยากบอกให้เขารู้ เพราะไม่อยากให้เขาไม่สบายใจต่างหาก มันเป็นเรื่องของผมกับที่ทำงาน ซึ่งผมต้องการแก้ปัญหาเอง ไม่อยากดึงเขามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่คิดว่าเขาจะคิดมากแบบนี้

“ผมลองประมวลดูเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น และเริ่มมาคิดได้ว่าคุณปกปิดความจริงผมหลายอย่าง ไม่ใช่แค่สองเรื่องนี้ แต่ยังมีเรื่องอื่นๆด้วย รวมถึงเรื่องของนายทรงพล

ผมสงสัยมานานแล้ว ว่าคุณไปที่คอนโดของเขาทำไม ถูกหลอกหรือเต็มใจไปให้เขาล่อลวง จนเกือบจะเสียตัว ผมว่ามันต้องเกี่ยวพันกับข่าวลือ และคุณแคทลียาอะไรนั่นใช่ไหม

ตอนนั้นคุณไม่ได้บอกผม ผมเองก็ไม่กล้าถาม กลัวว่าจะเป็นการละลาบละล้วง แต่ทุกอย่างมันชวนให้สงสัยเหลือเกิน คุณไม่ชอบนายทรงพล แล้วไปหาเขาทำไม ถ้าเขาหลอกให้คุณไปหาได้ เขาก็ต้องมีอะไรบางอย่างมาล่อลวงใช่หรือเปล่า แล้วพอผมไปช่วยคุณ นายทรงพลเลยจะเอาเรื่อง คุณแคทลียา เลยเสียบเข้ามาในช่วงนี้ใช่ไหมครับ”

เด็กหนุ่มโน้มตัวลงมา แล้วใช้สองมือยันที่นอนไว้ จ้องตาผมเขม็ง ท่าทางเขาเหมือนจะไม่ยอมให้ผมบ่ายเบี่ยงไม่ตอบอีกต่อไป ผมมองหน้าเขาและตัดสินใจเล่าทุกอย่างตั้งแต่เหตุการณ์วันปีใหม่ที่ถูกลอบถ่ายภาพ จนกระทั่งถูกนายทรงพลหลอกไป

และเลยเถิดจนต้องร่วมมือกับคุณแคท ตลอดเวลาที่ผมเล่าให้เดียร์ฟัง เขาได้แต่ทำหน้าเครียดๆ เมื่อผมเล่าจบ เขาก็นั่งลงตามเดิม โดยแทรกอยู่ตรงหว่างขาของผม ทำให้ขาสองข้างต้องเกยอยู่บนขาของเขา ในขณะที่มือยังถูกมัดอยู่

“ฉันเล่าให้นายฟังทุกอย่างแล้วนะเดียร์ ปล่อยฉันเถอะนะ ...อย่าทำกับฉันแบบนี้”

คำขอร้องของผมไม่ได้รับการตอบรับจากเดียร์ เขานั่งมองผมนิ่ง เม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาคู่หวานแดงก่ำ คิ้วขมวดมุ่น หน้าที่ไม่มีรอยยิ้มเลยของเดียร์ทำให้ผมกลัว

“ทุกอย่างมันเกิดขึ้น โดยที่ผมไม่เคยรู้เรื่องเลยแม้แต่นิดเดียว คุณปรึกษาคนอื่นได้ เล่าให้คนอื่นฟังหมดทุกคนยกเว้นผมแค่คนเดียว ทุกครั้งที่ช่วยเหลือคุณในแต่ละเรื่อง

ผมก็ได้แต่ตั้งคำถามให้กับตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมนายทรงพลต้องมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณแคทเป็นใคร สำคัญกับคุณมากแค่ไหน ทำไมถึงสนิทสนมกันจัง

ทำไมเขาต้องมาบ้านเรา ทำไมคนอื่นๆถึงพูดว่าคุณเป็นแฟนกับเขา เวลาเราจะไปเที่ยวกัน ทำไมเพื่อนคุณถึงพร้อมใจกันจะไปด้วย ทำไมคุณถึงไล่ให้ผมออกไปจากบ้านเวลาเพื่อนคุณมา

พี่สมชายมาเกี่ยวอะไรด้วย ทำไมพี่สันต์จึงพูดเหมือนว่ารู้เรื่องดี แล้วทำไมนายศักดิ์ชายถึงต้องมาขอร้องอะไรผมแทนคุณด้วย ทำไมคุณถึงไม่มาพูดด้วยตัวเอง”

ชื่อของศักดิ์ชายทำให้ผมตาลุก เป็นเจ้าหมอนี่จริงๆหรือที่ใส่ไฟผมให้เดียร์ฟัง

“ศักดิ์ชายมาเล่าอะไรให้นายฟังบ้างหรือเดียร์...”

ความอยากรู้ทำให้ผมถามออกไป เด็กหนุ่มจ้องมองหน้าผม แล้วเล่าช้าๆ แววตาที่จ้องมองมาเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองใจ

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
เอามาลงให้ 2 ตอนเลย
 :really2:อยากรู้มั้ยเป็นไงต่อ
มาให้ :จุ๊บๆ: ก่อนแล้วจะมาต่อให้
ล่อเล่นนะ อิอิ :oni1:

ออฟไลน์ sasa

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1008
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่47-48 6/3/09
«ตอบ #409 เมื่อ06-03-2009 18:05:14 »

โอ๊ย!!! ให้ทำอะไรก็ยอมอ่ะตอนนี้
ค้างเหลือเกิน ต่อด่วน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่47-48 6/3/09
« ตอบ #409 เมื่อ: 06-03-2009 18:05:14 »





ออฟไลน์ thanagorn

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ขอร้องละค๊าบ :m15:ด่วนจี๋เลยน้า

รอไม่ไหวแล้ว  :m15:ได้โปรดเถอะพระพุทธเจ้า :call: :call: :call:

ได้โปรดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :z3: :z3: :z3: :z3:


 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

b_hihi

  • บุคคลทั่วไป
เริ่เลย คับผม

เค้นอารมณ์ สุดๆๆ

ต่อเร็วๆนะ

ltahset

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2:

ค้างงงงงงงง

^^

nanalonely

  • บุคคลทั่วไป
:sad4:

มันค้างงงงงงงง


ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3
^
^
^
จิ้มก้นแนน
เห็นด้วยอ่ะ ค้างมากมาย

 o22

zheeiiz*

  • บุคคลทั่วไป

ตามอ่านอยู่ 2 วันเต็ม ถึงตอนล่าสุดแล้ว TT~~

ค้างมากมายเลยอ่า เศร้าด้วยไม่อยากให้ทะเลาะกันนานเลย
รีบมาต่อนะคะ ค้างมากมายย 

 :L2:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
ใจร้าย อย่าง แรงงงง


มา ต่อ ไห้ จบตอน เร็วๆๆๆๆๆๆๆ เรยยย


คุน ทาม แบบนี้ ได้ งัย ห่ะ


กรี้ด ด ด ด ด ด :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:

jaideejung007

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อนะครับผม จะรออ่านนะครับ

va_yu

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
แค่ ได้ คิด ถึง ก็ เป็น สุข ใจ


มา ต่อ ไวไวไว น่ะ คราฟฟฟ


รอ อ่าน ทุก วัน เรยยย :z13: :z13: :z13:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด