My First Boyfriend Part 3:By Katesnk
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My First Boyfriend Part 3:By Katesnk  (อ่าน 173520 ครั้ง)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่36 11/2/09
«ตอบ #270 เมื่อ12-02-2009 19:43:52 »

สู้ๆๆๆๆ น่ะคุน เรียวววว


อย่า เพิ่ง ยอม แพ้ น่ะ


ปัญหา ทุกอย่างมีทางออก เสมออ


ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #271 เมื่อ13-02-2009 00:15:42 »

 o22

+1 ตอบแทนค่ะ พี่สาวคนสวย

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #272 เมื่อ13-02-2009 12:48:38 »

บทที่ 37

“ใครกันนะ ที่ทำให้พี่สมชายเปลี่ยนไป อยากเจอหน้านัก ว่าจะสวยแค่ไหน แล้วทำไมถึงใจร้ายจัง ช่างกล้านะ ที่ทำลายครอบครัวคนอื่น”

นายเคยเจอแล้วล่ะเดียร์ ผมตอบในใจ คนที่นายว่าเป็นกระเทยยังไงล่ะ นายนี่เก่งจัง เจอกันไม่กี่ครั้งก็ดูออก ขนาดสันต์ยังดูไม่รู้เลย ถ้าเดียร์รู้เรื่องนี้ เขาจะว่ายังไงนะ เขายิ่งเคยหึงหวงผมกับคุณแคทเสียด้วยสิ นี่ถ้ารู้ว่าผมร่วมมือกับคุณแคทเพื่อแย่งพี่สมชายกลับคืน เขาจะนึกชิงชังผมไหมนะ แล้วถ้าผมอธิบายให้เขาฟังว่าผมทำเพื่อให้เขาพ้นเงื้อมมือของนายทรงพล เขาจะเชื่อผมรึเปล่า

“เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นกับเราสองคนใช่ไหมครับ รู้ไหม ผมอ่ะ ขี้หึงมากนะครับ ผมหวงเรียวเพราะว่าผมรักเรียวมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน ไม่อยากให้ใครมาพรากเอาคุณไปจากผม ผมยิ่งมีเวลาเหลือน้อยเข้าไปทุกทีที่จะทำให้คุณรักผม

ดังนั้นใครบังอาจมาแย่งคุณไปต้องได้เจอดีกันแน่ ตอนนี้คนที่พยายามจะเป็นมือที่สามตัวเบ้งๆ ก็มีอันเป็นไปแล้ว ป่านนี้คงนอนให้แซ่บหยอดน้ำข้าวต้มจนเห็นอกเห็นใจกัน ดีแล้วจะได้ไม่ยุ่งกับเรียวของผม และหวังว่าคงไม่มีคนต่อๆไปนะครับ”

เด็กหนุ่มพูดกับผมด้วยน้ำเสียงอ้อนๆแต่ทว่าดูจริงจัง เขาหมายความตามนั้นทุกคำพูด ผมทั้งปลาบปลื้มใจที่เด็กหนุ่มรักผมมากมาย แต่ก็กังวลใจต่อเหตุการณ์ต่างๆที่จะตามมา ตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าผมกับคุณแคทร่วมมือกัน และข้อตกลงในการร่วมมือนั้นคือต้องแสดงออกด้วยการเป็นคู่รัก เพื่อให้เป้าหมายของคุณแคทเข้าใจผิด ถ้าเขาเกิดมารู้แบบครึ่งๆกลางๆ แล้วดันเข้าใจว่าผมทรยศหักหลังเขา เดียร์จะพุ่งเป้ามาเล่นงานที่ผมกับคุณแคทสองคนหรือไม่หนอ ไม่อยากจะคิดเลย

“เรียวทำหน้าซีเรียสอีกแล้วนะครับ วันนี้คุณเองก็มีเรื่องไม่สบายใจกลับมา แถมซ้ำยังมีเรื่องพี่วิภาให้คิดอีก คุณก็เลยเครียดใช่ไหมครับ อย่าคิดมากเลยนะ เดี๋ยวทุกอย่างมันก็คลี่คลายไปเอง ตอนนี้เรียวไปอาบน้ำ ทานข้าว แล้วขึ้นไปพักผ่อนนะครับ ตื่นมาตอนเช้า จะได้สดใสขึ้น ดีไหม

พรุ่งนี้ วันเสาร์ ไม่ต้องไปทำงานด้วย ผมก็ไม่มีทั้งคอนเสิร์ต หรือซ้อมเต้นที่ไหน ร้านกาแฟก็มีคนมาขอแลกเป็นกะดึก กลางวันเลยว่าง เราไปเดินเที่ยวเล่น หรือหาอะไรทำสนุกๆคลายเครียดกันดีกว่าไหมครับ”

คนปลอบโยนผม เชิญชวนด้วยท่าทีกระตือรือร้น ผมเห็นใบหน้าอ่อนเยาว์นั้นรอคำตอบอย่างมีความหวัง ก็เลยพยักหน้า เป็นเชิงตกลง นานแล้วที่ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวกันสองต่อสอง หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เกาะเสม็ดครั้งนั้น บางทีการหนีจากความเป็นจริงไปอยู่ในสถานที่ที่มีเพียงเรา อาจจะทำให้ผมมีความสุข แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม เด็กหนุ่มโผเข้ากอดผมด้วยความดีใจ ท่าทางเขาเหมือนเด็กๆ ที่อ้อนวอนขอสิ่งที่ต้องการ แล้วผู้ใหญ่ก็ตอบรับ


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #273 เมื่อ13-02-2009 12:49:28 »

“ดีใจจัง เรียวน่ารักที่สุดเลย ผมอยากไปเที่ยวสวนสนุกครับ ไม่ได้ไปมาตั้งนานแล้ว เรียวไปกับผมนะ”

ดูเอาเถอะ สถานที่เที่ยวของเราสองคนคือสวนสนุกงั้นหรือ เด็กหนอเด็ก ช่างคิดมาได้ แต่เอาเถอะ ผมเองก็ไม่ได้ไปสวนสนุกนานโข ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย ผมก็เลิกทำตัวเป็นเด็กน้อย นานๆทีได้หวนกลับคืนไปใช้ชีวิตวัยเยาว์ก็คงจะดีเหมือนกัน

“ก็ได้ งั้นก็รีบทานข้าว แล้วก็รีบไปนอนกันได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้ไปแต่เช้า ตอนสายๆไม่อยากขับรถ มันร้อน แล้วก็ลดติดด้วย ต้องออกนอกเมืองอีก”

“คร้าบบบบบ ผม”

เราทานอาหารค่ำด้วยกันสองต่อสองอย่างมีความสุข จากนั้นก็ช่วยกันทำความสะอาดห้องครัว ก่อนจะแยกย้ายกันไปอาบน้ำ เดียร์อาบที่ห้องข้างล่าง ส่วนผมอาบน้ำที่ห้องข้างบน แต่เราอาบน้ำเสร็จพร้อมๆกัน วันนี้ไม่มีกิจกรรมพิเศษยามค่ำคืนเหมือนเคย เพราะผมบอกกับเดียร์ว่าผมเหนื่อย และอยากหลับจริงๆ

เขางอแงเล็กน้อย บอกว่า อุตส่าห์ได้อยู่บ้านตอนกลางคืนกับผม แต่ต้องมาอดกุ๊กกิ๊กกันอีก มันเป็นอะไรที่ทรมานเขาสิ้นดี แถมซ้ำตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล เราสองคนก็แทบจะไม่มีอะไรกันเลย เพราะเขาห่วงเรื่องสุขภาพของผม พอเริ่มหายดี ก็กลับแห้ว อดอีก

แต่ไม่เป็นไร วันหลังยังมี เอาไว้ให้ผมหายเหนื่อย เขาค่อยคิดดอกเบี้ยทบต้นทบดอกชดเชยที่ไม่ได้กุ๊กกิ๊กกันตั้งหลายวัน สำหรับคืนนี้ เขายอมแค่นอนกอดผมก็พอ

ฟังเขาพูดเข้าสิ ผมไม่ได้สัญญิงสัญญาอะไรด้วยเลย พูดเอง เออเองทั้งนั้น ผมก็เลยว่าเขาไปแบบที่ใจคิด แล้วบอกว่า ผมไม่ใช่ธนาคารที่จะมาฝากมาถอนอะไร แล้วคิดต้นคิดดอก

เขาหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ พลางกอดกระชับผมไว้ในอ้อมแขน บอกว่า ผมเป็นสถานที่รับฝากใจของเขายังไงล่ะ เขาเทใจให้ผมจนหมด ไม่มีเหลือแล้ว และก็คาดหวังว่าธนาคารแห่งนี้จะจ่ายดอกเบี้ยเป็นหัวใจให้กลับคืนมาบ้าง จะได้รู้สึกกระชุ่มกระชวย

คำพูดของเขาทำให้ผมหัวเราะ แล้วบอกว่า ไม่รับฝาก เรื่องมากนักก็ถอนออกไปสิ เขาก็เลยลงโทษด้วยการจูบผมจนแทบหายใจหายคอไม่ทัน

ดึกแล้ว เราสองคนตั้งใจว่าจะหลับ แต่ก็ไม่สามารถข่มตาลงได้ เพราะเสียงดังจากบ้านตรงข้ามรบกวนยามดึกที่แสนสงบเงียบ ของบ้านใกล้เรือนเคียงบริเวณนั้น ไฟบ้านข้างๆเปิดขึ้น เพื่อดูว่ามีเหตุร้ายอะไรที่บ้านพี่สมชายหรือเปล่า แล้วก็ดับไฟลง เมื่อรู้ว่าเป็นเรื่องของผัวเมียตีกัน

เสียงผู้หญิงร้องห่มร้องไห้เสียงดัง ผสานกับเสียงเด็กที่กรีดร้องเสียงลั่น สลับกับเสียงทะเลาะกันของหญิงชายคู่หนึ่ง ที่ไม่มีใครลดลาวาศอกให้กับใคร ผมฟังแล้วก็ให้รู้สึกทุกข์ใจยิ่งนัก ที่คู่สามีภรรยาที่น่ารักต้องมาทะเลาะกัน

ความอึดอัดใจที่มีส่วนร่วมในแผนการนี้ทำให้ผมรู้สึกเหน็บหนาวในใจจนต้องเบียดร่างเข้าหาเดียร์เพื่อให้เขาช่วยกอดผมให้อบอุ่น เด็กหนุ่มปลอบผมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนไม่ให้ผมคิดมาก เดี๋ยวสองผัวเมียนั้นคงจะดีกันเอง ยังไง ก็คงไม่ถึงขั้นแตกหักกันหรอก เพราะยังมีลูกน้อยเป็นโซ่ทองคล้องใจ

ผมเองก็อยากให้มันเป็นอย่างที่เดียร์พูด นึกภาวนาในใจให้เรื่องทุกอย่างลงเอยกันด้วยดี ขออย่าให้ทั้งคู่เลิกกันเลย


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #274 เมื่อ13-02-2009 12:50:02 »

คำอธิษฐานจิตของผมไม่ส่งผล ตอนเช้ามืดขณะที่ผมกับเดียร์กำลังหลับกันอยู่ พี่สมชายก็มากดออดที่บ้าน เพื่อเรียกให้ผมออกไปคุยด้วยเรื่องที่สำคัญมาก ผมออกไปนั่งคุยกับพี่สมชายหน้าบ้าน ส่วนเดียร์ซึ่งตื่นแล้วลงมาเตรียมอาหารที่จะเอาไปทานที่สวนสนุก

“วิภาหนีออกจากบ้านไปเมื่อตอนเช้ามืด ไปพร้อมกับลูกด้วย ผมปวดหัวไปหมดแล้วคุณเรียว ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับครอบครัวผมด้วยนะ”

พี่สมชายเปิดฉากพูดด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความวิตกกังวล

“ใจเย็นๆครับพี่ มีปัญหาอะไรกันหรือครับ ถึงทำให้พี่วิภาต้องหนีออกไปอย่างนั้น บางทีอาจจะเป็นการเข้าใจผิดกันก็ได้ พี่เขาอาจจะไปเยี่ยมครอบครัวของเขามั๊ง”

พยายามที่จะปลอบใจให้เพื่อนบ้านของผมมองในแง่ดี ถึงแม้ผมจะอดหวั่นใจไม่ได้ ว่าเรื่องที่พี่สมชายเล่า น่าจะร้ายแรงพอควร

“ไม่หรอกคุณเรียว ถ้าวิภาจะไปบ้านพ่อบ้านแม่ เขาต้องบอกผมให้รู้ทุกครั้ง ไม่ใช่หนีออกไปดื้อๆแบบนี้ เมื่อคืนเราทะเลาะกันหนัก เลยแยกห้องนอนกัน เขาไปนอนห้องลูก ส่วนผมนอนห้องที่เรานอนด้วยกัน พอตื่นมาตอนเช้า ก็ไม่เจอเขาแล้ว เสื้อผ้าก็ไม่ได้เอาไปด้วย ไปกับลูกแค่สองคนเท่านั้น โทรเข้ามือถือก็ไม่รับสาย โทรไปที่บ้านพ่อแม่เขาก็ไม่มีใครรู้เรื่อง นี่ผมกลุ้มจะตายแล้วนะคุณเรียว”

เพื่อนบ้านของผมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“เอ้อ ขอโทษนะครับ แล้วพี่สองคนทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไรละครับ มันร้ายแรงมากเลยเหรอ ถึงทำให้พี่เขาทนอยู่ไม่ได้”

“ก็......เอ้อ.....”

พี่สมชายอ้ำอึ้ง มองผมอย่างไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ในที่สุดคำพูดต่างๆก็พรั่งพรูออกมาจากปากพี่สมชายอย่างอัดอั้น เพื่อนบ้านของผมเล่าให้ฟังว่า พี่วิภาสงสัยว่าเขาจะนอกใจเธอ เพราะพี่สมชายมีพฤติกรรมแปลกๆ เช่นกลับบ้านไม่ตรงเวลา เลยพยายามจะสืบเรื่องนี้ โดยการโทรไปถามข้อมูลเขาในที่ทำงาน พอรู้ว่าเขาพูดไม่ตรงกับความเป็นจริง ก็เริ่มจับผิด หาเรื่องทะเลาะ ล่าสุดเมื่อคืนนี้

เขากลับบ้านมาดึก พี่วิภารออยู่ก่อนแล้ว ก็มาซักถามว่าเขาไปไหน พอเขาไม่ตอบก็โวยวายทุบตีเขา จนเกิดปากเสียงกันใหญ่โต แล้วก็หนีจากบ้านไป ผมเลยถามเขาว่า พี่สมชายนอกใจพี่วิภาจริงหรือเปล่า เขาก็อ้ำอึ้ง แต่แล้วก็ยอมรับออกมาตามตรง


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #275 เมื่อ13-02-2009 12:50:26 »

“ที่จริง จะเรียกว่าผมนอกใจวิภาก็ไม่ถูกนะ ผมรู้จักกับผู้หญิงคนนี้ ตั้งแต่ตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ผมเป็นรุ่นพี่ของเขา เรารักกันมาตั้งนานแล้ว แต่ถูกพ่อแม่กีดกัน จนกระทั่งเธอไปเรียนนอก ผมคิดว่าคงไม่มีหวังจะได้ใช้ชีวิตกับเธออีกแล้ว เลยแต่งงานกับคนที่พ่อแม่หาให้ซึ่งก็คือวิภานี่แหละ

แรกๆผมก็ไม่ได้รักเธอหรอก จนกระทั่งเรามีลูกด้วยกัน ผมก็เริ่มรักเธอ เห็นความดีที่เธอมีต่อผม ในขณะที่ชีวิตคู่ของเรากำลังไปได้สวย เธอคนนั้นก็กลับมา แล้วเราก็สานสัมพันธ์กันต่อ ผมพยายามห้ามใจตัวเอง ไม่อยากจะทำเรื่องที่ผิดศีลธรรม แต่คนรักเก่าของผมก็ไม่ยอมเลิกรา

ดูเหมือนว่าเธอจะทำใจไม่ได้ ที่จะเห็นผมเป็นของคนอื่น แล้วยิ่งเธอรู้ว่าผมไม่ได้รักภรรยาของผมมาตั้งแต่แรก เธอก็พยายามจะแยกเราออกจากกัน จนผมทนไม่ไหว ทะเลาะกับเธอ แล้วก็ตัดความสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง แต่แล้ว ก็ให้มีเหตุที่ต้องมาเจอกันอีก เธอยั่วให้ผมโกรธ ยั่วโมโหผม จนผมหึงหวง แล้วผมก็กลับไปมีอะไรกับเธออีก จนกระทั่งแฟนผมจับได้นี่แหละ ผมไม่น่าไปยุ่งกับเรื่องนี้เลยจริงๆ”

ท่าทางพี่สมชายจะรู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ หน้าเขาเศร้าหมอง ตาแดงก่ำ

“แล้วพี่สมชายจะตัดสินใจอย่างไรละครับ”

“ไม่รู้เหมือนกัน ผมมืดแปดด้าน ผมรักผู้หญิงคนหนึ่งมาก แต่ผมก็แต่งงานอยู่กินกับเธอไม่ได้ กับผู้หญิงคนหนึ่งผมก็ผูกพันธ์ เพราะเรามีลูกด้วยกัน แม้ผมจะไม่ได้รักเธอเท่ากับผู้หญิงคนแรก แต่ผมก็ทิ้งเธอไม่ได้ ทั้งสองคนอยากให้ผมเลือก แต่ผมไม่ต้องการจะเสียใครไปเลย”

นี่เป็นความคิดของคนที่เห็นแก่ตัวหรือเปล่านะ ทำไมเรื่องของเขากับผมจึงคล้ายกันจังเลย ต่างกันแค่ว่า ผมต้องเลือกระหว่างงาน กับ คนรัก และผมไม่ต้องการจะสูญเสียอะไรไปเลยสักอย่าง

“แต่มันเป็นไปไม่ได้ พี่จำเป็นต้องเลือกแล้วล่ะครับ ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าอยู่กับผู้หญิงคนไหน คือความสุขที่แท้จริงของพี่”

“ถ้าจะถาม ก็ต้องตอบว่าคนรักคนแรกของพี่ให้ความสุขได้มากกว่า เรารักกันมานาน รู้ใจเห็นอกเห็นใจกัน เติมเต็มกันได้ดีทุกเรื่องแม้แต่เรื่องเซ็กส์ วิภาไม่สามารถสนองให้พี่ได้ แต่เขามีความดีตรงที่เป็นแม่บ้านแม่เรือนคอยดูแลพี่อย่างดี แม้จะปากมากไปก็ตาม ที่สำคัญเขาสามารถมีลูกให้พี่ชื่นชมได้ ในขณะที่ผู้หญิงคนแรกทำไม่ได้”

“เพราะอะไรละครับ”

ถามไปอย่างนั้น แต่ใจก็กลัวคำตอบที่จะได้ยิน ถ้าคนรักเก่าของพี่สมชายคือคุณแคท ย่อมแน่นอนว่าเธอจะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ เพราะเธอเป็นผู้ชาย

“เพราะเธอไม่เหมือนคนอื่นๆนะสิ”

พี่สมชายเลี่ยงที่จะไม่พูดถึง ผมก็เลยไม่ถามต่อ

“ผมถามคุณเรียวข้อหนึ่งนะครับ อยากให้คุณตอบออกมาตรงๆ”

“ครับ ว่า มา”

“คุณเรียวรู้จักคุณแคทมานานแล้วหรือยัง สนิทกันแค่ไหน แล้วคุณรู้สึกชอบคุณแคทจริงๆหรือเปล่า...อย่าโกหกนะครับ”

“ก็...รู้จักกันมาสักระยะหนึ่งแล้วครับ สนิทพอสมควร แล้วผมก็ชอบคุณแคทด้วย เธอเป็นคนดี น่ารัก และเคยช่วยผมหลายครั้ง”

ลองพูดหยังเชิง เพื่อดูว่าพี่สมชายจะพูดอะไรต่อ ถามผมแบบนี้ คงมีเรื่องจะบอกผมแน่


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #276 เมื่อ13-02-2009 12:51:20 »

“งั้นเหรอ แล้วคุณดูออกหรือเปล่าว่าคุณแคทน่ะ ไม่ใช่ผู้หญิงจริงๆ”

“หือ”

ผมงง ไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่สมชายพูด แล้วผมก็ต้องรู้สึกเหมือนมีใครเอาก้อนหินมาทุบหัว เมื่อเพื่อนบ้านผมพูดประโยคต่อไป เล่นเอาผมต้องหันมามองพี่สมชายอีกครั้งอย่างแปลกใจ

“เธอเป็นผู้ชายนะครับ”

“รู้ได้ไงครับ”

“ทำไมจะไม่รู้ละครับ เพราะเธอน่ะ เป็นอดีตแฟนเก่าของผม เรารักกันมาก เธอไม่ได้เล่าให้คุณฟังหรอกหรือ”
เหมือนคนเอาก้อนหินมาทุบที่หัวผมจนมึน ผมเริ่มงงไปหมดแล้ว อะไรกันเนี่ย พี่สมชายรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคุณแคทมีเพศเดียวกับตนเอง แล้วก็คบกันมาตลอด แสดงว่าพี่สมชายก็เป็นเกย์แอบแมนแต่งงานเพื่อปิดบังไม่ให้ใครรู้

ถ้างั้นเขาก็ต้องคบกันตั้งแต่สมัยที่คุณแคทลียายังไม่ได้แปลงเพศนะสิ นี่มันบ้ากันไปใหญ่แล้ว ทำไมจึงมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นด้วย ทำไมคนที่อยู่รอบตัวผมมันจึงเป็นเกย์ เป็นกระเทยกันไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นนายสันต์ ศักดิ์ชาย คุณแคทเพื่อนร่วมงานสาวแสนสวย นายเดียร์ที่ผมรัก ไม่เว้นแม้แต่พี่สมชายเพื่อนบ้านพ่อลูกอ่อนที่มีความสุขกับครอบครัวอย่างล้นเหลือ

ทุกๆคนเป็นคนรักเพศเดียวกัน แล้วทำไมผมจะต้องไปเกี่ยวข้องกับคนพวกนี้เสียแทบทุกครั้ง หรือว่าโลกมันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจนเกินกว่าที่ผมจะตามได้ทัน ไม่งั้นก็เป็นไปได้ว่า ผมน่ะเป็นเกย์ตั้งแต่แรกแต่ผมไม่รู้ตัว สิ่งที่ได้รับรู้จากปากพี่สมชายทำให้ผมเริ่มที่จะไม่เข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง มึนงงจนเกิดอาการผะอืดผะอมจนอยากอ้วกออกมา

“ผมยอมรับกับคุณตรงๆเลยนะคุณเรียวว่าผมเป็นไบเซ็กช่วล ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ตามปกติ ผมไม่อยากจะพูดให้ใครรู้หรอก เพราะมันเป็นเรื่องที่น่าอาย และอาจจะถูกมองว่าวิปริตผิดปกติ แต่นี่ผมเห็นว่าคุณถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย ผมก็เลยจำเป็นต้องพูดออกมา ไม่อยากให้คุณถูกคุณแคทใช้เป็นเครื่องมือในการบีบบังคับผมโดยที่คุณเองไม่รู้เรื่องอะไรด้วย”

“ถูกใช้เป็นเครื่องมือ.......ทำไมคุณแคทต้องเลือกผมด้วยล่ะครับ”

นี่เป็นสิ่งที่ผมต้องหาคำตอบให้ได้ว่าทำไมต้องเป็นผม

“ผมไม่รู้ว่าเขารู้ได้ไง ว่าคุณกับผมรู้จักกัน เขาเข้าทางคุณอย่างมีแผน เพื่อยั่วให้ผมหึง ซึ่งมันก็ได้ผล ผมหึงจริงๆ ตอนแรกผมคิดว่าคุณไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้ชาย แล้วสวยๆอย่างคุณแคทอาจจะหลอกใครได้หลายคน แต่ผมก็รู้ว่าที่จริงคุณก็มีรสนิยมเดียวกันกับผมคือชอบผู้ชายด้วยกัน

ก็เลยยิ่งหึงหวงนักเข้าไปอีก ผมไม่มั่นใจว่าคุณรู้สึกกับคุณแคทแบบไหน พอคุณสองคนมาแนะนำว่าเป็นแฟนกัน ผมก็เลยโทรไปหาคุณแคท แล้วนัดออกมาเจรจากัน มันก็เหมือนมีคนเอาไม้ไปเขี่ยถ่านไฟเก่าให้มันปะทุขึ้น เรากลับมามีอะไรกันอีก แล้วครั้งนี้ดูท่ามันจะไม่เลิกราง่ายๆ”

“แล้วพี่จะให้ผมทำอย่างไรละครับ”


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #277 เมื่อ13-02-2009 12:52:28 »

ย้อนถามออกไปอย่างไม่เข้าใจจุดประสงค์ของพี่สมชายนัก

“ตอนนี้ผมจะไปตามเมียผมกลับมาก่อน ผมคงไม่ทิ้งลูกและเมียของผมแน่นอน แล้วผมก็จะไปคุยกับคุณแคทให้รู้เรื่อง บางทีถ้าต้องเลือก ผมอาจจะทิ้งเธอ เพราะเราอยู่ด้วยกันไม่ได้ ถึงอย่างไรสังคมก็คงไม่ยอมรับ อีกอย่างผมสงสารลูกและเมียของผมด้วย จะปล่อยให้ลูกของผมกำพร้าพ่อได้อย่างไร

ผมไม่อยากให้ลูกอับอายที่พ่อเลือกกระเทยแปลงเพศมาแต่งงานด้วยแทนแม่ของเขา แต่ถ้าผมทำแบบนี้ คุณแคทจะต้องโกรธ เพราะเธอลงทุนทำถึงเพียงนี้ คงไม่ยอมเลิกราง่ายๆ ผมเลยอยากอขอร้องให้คุณยุติการเกี่ยวข้องเรื่องนี้

อย่าให้คุณแคทมาหาคุณที่บ้านอีก อย่าไปไหนตามคำชวนของเธอ อย่าปล่อยโอกาสให้เธอใช้คุณเป็นเครื่องมือยั่วผม ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคุณสองคนไม่ได้รักกันจริงๆ แล้วคุณก็มีนายเดียร์ทั้งคน ถ้าคุณยังขืนช่วยคุณแคท ก็เหมือนมีส่วนทำให้ครอบครัวของผมบ้านแตกสาแหรกขาด”

สิ่งที่ออกจากปากของพี่สมชาย ทำให้ผมได้เห็นธาตุแท้ของผู้ชายเห็นแก่ตัว ผมรู้ว่าพี่สมชายลำบากใจในการที่จะชี้ชัดลงไปว่าคนไหนที่เขาต้องการใช้ชีวิตอยู่ด้วย แต่การจับปลาสองมือในเวลาเดียวกันอาจจะทำให้เขาไม่เหลือปลาสักตัวไว้กิน

พี่สมชายคงจะรู้เรื่องนี้ดี จึงพยายามจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง ผมว่าเขาคิดถูกแล้วที่จะไม่ทำร้ายเมียและลูก เพราะจะทำให้มีคนเสียใจถึงสองคน แต่ผมไม่ชอบใจตรงที่พี่สมชายพูดถึงเหตุผลในการที่จะทิ้งขว้างคุณแคท ทั้งๆที่เขาก็รู้ตั้งแต่แรกว่าเธอเป็นอะไร แต่เขาก็เลือกที่จะคบหาด้วย

พอถึงเวลาที่ปัญหามันเกิด เขากลับจะทิ้งเธอไม่ใยดี โดยอ้างว่าเธอไม่คู่ควรเป็นภรรยาเขา ทั้งๆที่เหตุผลที่ยกมา เป็นเรื่องที่เขายอมรับและเอาตัวไปพัวพันกับเธอจนเกิดเรื่อง ถ้าเขาให้เหตุผลในการเลิกราดีกว่านี้ ผมอาจจะยังรู้สึกเคารพเขาอยู่ แต่พอเขาพูดมาแบบนี้ทำให้ศรัทธาที่มีต่อเขาพังทะลาย

เรื่องที่เขาขอร้องผม เป็นสิ่งที่ผมคิดไว้แล้ว ผมตั้งใจจะพูดกับคุณแคทไปตามตรง ว่าผมไม่สบายใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของเธอ การได้เห็นน้ำตาของพี่วิภา และการได้ทราบข่าวว่าเธอหนีออกจากบ้านเพราะน้อยใจในตัวสามี ทำให้ผมรู้สึกเสียใจ และละอายต่อสิ่งที่ตัวเองทำลงไป

แม้ผมจะไม่ใช่ตัวต้นเหตุโดยตรง แต่การที่ช่วยคุณแคทจนพี่สมชายหึง แล้วย้อนกลับมาผูกพันกันใหม่ จนกระทั่งพี่วิภามารู้เข้า มันก็ทำให้ผมหลีกเลี่ยงที่จะรับผิดชอบด้วยไม่ได้

พี่สมชายกลับไปแล้วพร้อมกับคำรับปากของผมที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาบอกผมว่าจะไปตามหาแฟนของเขา บางทีเธออาจจะไม่ไปไหนไกล ผมเองก็อยากให้เป็นเช่นนั้นอยากให้เขากลับมาคืนดีกัน ผมจะได้บาปน้อยลง


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #278 เมื่อ13-02-2009 12:52:59 »

เดียร์เตรียมข้าวของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนที่ผมเดินกลับเข้าไปข้างใน เขาถามผมว่าเกิดอะไรขึ้น พี่สมชายมาหาด้วยเรื่องอะไร ผมเลยเล่าเรื่องที่พี่วิภาหนีออกจากบ้านให้ฟัง โดยงดเว้นไม่เล่าเรื่องในส่วนที่เกี่ยวกับคุณแคท เดียร์รับฟังเฉยๆโดยไม่พูดว่าอะไร

แต่ผมรู้ว่าเขาเองก็ไม่ชอบที่พี่สมชายทำแบบนี้เหมือนกัน เพราะเดียร์เองค่อนข้างสนิทกับพี่วิภามาก เวลาที่ผมไม่อยู่หรือกลับดึก เดียร์จะชอบไปเล่นกับพี่วิภาและลูกบ่อยๆ ซึ่งพี่วิภาก็ให้ความเอ็นดูกับเดียร์มาก ไม่เคยนินทาว่าร้ายเดียร์ หรือ เอาเรื่องที่เดียร์อยู่กับผมไปนินทา

ทั้งที่พี่วิภาเป็นคนช่างพูด ขี้สงสัย แต่เธอก็เชื่อเดียร์ ที่บอกกับใครต่อใครว่าเป็นน้องชาย เป็นญาติของผม สาเหตุที่สองคนนี้เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย เป็นเพราะเดียร์ทำอาหารเก่ง พี่วิภาชอบคุยกับเด็กหนุ่มเรื่องเคล็ดลับการทำอาหาร บางครั้งก็ให้ช่วยสอนสูตรแปลกๆ เพื่อที่จะได้ทำให้พี่สมชายทาน

และบ่อยครั้งที่สองคนจะมานั่งคุยกันแก้เหงา ระหว่างที่เดียร์รอผมกลับบ้าน และพี่วิภารอพี่สมชาย แถมซ้ำเดียร์ยังเคยช่วยพี่วิภาเลี้ยงลูกอีก พี่วิภาจึงรักเดียร์เหมือนเป็นน้องชายคนหนึ่งทีเดียว ดังนั้นพอเกิดเรื่องขึ้นเดียร์จึงเข้าข้างพี่วิภาเต็มที่

“พี่สมชายนี่ก็เหลือเกิน ยึกยึกอยู่ได้ จะเลือกอะไรก็ไม่เลือกไปสักอย่าง รักพี่เสียดายน้องอยู่นั่นแหละ เลยต้องทำให้คนหลายๆคนต้องเจ็บปวด ที่จริงน่ะ น่าจะคิดออกได้แล้วนะว่าสิ่งใดที่ทำให้ตัวเองมีความสุข

ยิ่งยื้อนานตัดสินใจไม่ได้ ก็จะยิ่งทำให้เรื่องมันเลวร้ายลงไป แล้วนี่ พี่วิภาก็ไม่อยู่แล้ว จะทำไงล่ะครับ ไปตามหรือเปล่า หรือจะทิ้งพี่วิภา แล้วไปหาผู้หญิงคนนั้น ฟังแล้วยิ่งไม่ชอบพี่สมชายครับ คนโลเลแบบนั้น คิดแต่ความสุขของตัวเองเป็นหลัก ไม่เห็นใจคนอื่นบ้างเลย”

เสียงของเดียร์เข้ามาในหูของผม และลอยวนอยู่ในโสตประสาทไม่ออกไปไหน เดียร์ทำให้ผมอึ้ง ถึงแม้เขาจะว่าพี่สมชาย แต่ผมรู้สึกเหมือนกับเดียร์ได้ว่าผมโดยที่เขาไม่รู้ตัว ผมเองก็ไม่ต่างจากพี่สมชายเท่าไหร่ โลเลตัดสินใจไม่ได้ เลือกไม่ถูกว่าจะยอมมีชีวิตที่สมบูรณ์เพรียบพร้อม โดยละทิ้งเดียร์ไว้ หรือจะยอมใช้ชีวิตอยู่กับเขาแล้วมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่

ก่อนที่เดียร์จะโมโหให้พี่สมชายไปมากกว่านั้น ผมเลยเล่าให้ฟังว่าพี่สมชายตัดสินใจไปตามพี่วิภาแล้ว และอาจจะเลิกรากับผู้หญิงคนใหม่ ผมไม่ได้บอกเหตุผลว่าเพราะอะไร เพราะไม่อยากจะต้องอธิบายยืดยาว ไหนๆก็ตั้งใจปิดแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องพูดให้เดียร์ฟัง

เด็กหนุ่มรู้สึกจะพอใจที่ได้ยินแบบนั้น ที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่อยากจะให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องเจ็บปวด หากพี่สมชายแน่ชัดว่าจะเลือกข้างไหน ย่อมมีบางคนที่ต้องเสียใจ แต่อย่างน้อยก็จะมีคนที่สมหวัง แต่ก็ยังดีกว่าที่จะปล่อยไว้แล้วทำให้คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ต้องทนทุกขเวทนา จากความไม่รับผิดชอบของผู้ชายแค่คนเดียว

“เราอย่าไปคิดวุ่นวายกับเรื่องของคนอื่นเลยนะครับ ยุ่งเรื่องของเราดีกว่านะ ผมเตรียมอาหารเสร็จแล้วครับ เหลือแต่รออาบน้ำแต่งตัว กินข้าว แล้วก็ไป เรียวจะอาบน้ำพร้อมกับผมหรือเราจะแยกกันอาบดีครับ”

คนพูดทำหน้ากรุ้มกริ่ม แน่นอนผมต้องเลือกอย่างหลังสิ เขาทำหน้างอ เพราะคิดว่าผมจะให้รางวัลที่เขาทำความดี แต่พอผมปฏิเสธเขาก็บ่นปากยื่นปากยาว หาว่าผมหายเหนื่อยแล้ว ยังไม่รักษาสัญญาอีก ใจร้าย ใจดำ สารพัดจะหาคำพูดมาต่อว่าผม แม้เขาจะพูดเล่นๆ แต่ผมก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ เลยยกเท้าถีบก้นเขาเบาๆ เด็กหนุ่มแสร้งทำเป็นโกรธ เขาคว้าผมไว้อย่างรวดเร็ว แล้วจับผมพลิกจากนั้นก็ฟาดที่ก้นของผมไม่แรงนัก แต่ก็เจ็บอยู่เหมือนกัน

“ทำโทษซะเลย ทีหลังอย่าใช้เท้าถีบสามีตัวเองแบบนี้นะครับ ไม่สุภาพรู้ไหม”


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #279 เมื่อ13-02-2009 12:53:35 »

แล้วเดียร์ก็ดันตัวผมไปจนชิดผนัง จากนั้นก็ปล้ำจูบผมเป็นพัลวัน ผมดิ้นหนี แต่เดียร์ก็เอามือมาตรึงแขนทั้งสองข้างของผมไว้เหนือหัว เมื่อไม่มีทางจะหลีกเลี่ยงแล้ว แถมซ้ำจุมพิตของเดียร์ก็ยังหวานเรียกเลือดให้ฉีดพล่านทั่วกายของผมอีกด้วย ผมเลยจูบโต้ตอบเขาด้วยอารมณ์ร้อนแรงพอๆกัน

“น่ารักจริงๆเมียรักของผม”

ทันทีที่เดียร์ถอนริมฝีปากออก เขาก็ทำตาเยิ้มใส่ผม แล้วหยอกล้อด้วยถ้อยคำที่ทำให้ผมอายหน้าแดงเข้าไปใหญ่ เมื่อก่อนเคยนึกโมโหที่เขาทำราวกับว่าผมเป็นผู้หญิง เป็นเมียของเขาจริงๆ แต่ตอนนี้เฉยๆแล้ว เพราะเด็กหนุ่มหลุดคำพูดอย่างนี้ออกมาบ่อยๆ ผมเพียงแต่นึกหมั่นไส้เขาเท่านั้นเอง เลยแหวออกไป แสร้งทำเป็นเคือง

“ใครเป็นเมียนายกัน ไอ้เด็กลามก ขี้ตู่ หน้าด้าน หน้ามึนที่สุด”

เดียร์หัวร่อเอิ๊กอ๊าก ชอบอกชอบใจใหญ่ที่ถูกด่า เขาเอามือสองข้างยันฝาผนังไว้ ผมเลยหนีไปไหนไม่ได้ หน้าคมเข้มหล่อเหลาโน้มมาใกล้ๆแล้วเขาก็กระซิบยั่วเย้าที่ข้างหูผม

“ด่าเก่งนัก ระวังจะถูกปล้ำจูบจนพูดไม่ออกนะ ต้องให้ผมแสดงสถานะของคุณให้เห็นสักกี่ครั้งกันล่ะ ตอนนี้เลยดีไหม......”

เด็กหนุ่มทำเป็นครุ่นคิด แต่พอเห็นผมถลึงตาใส่ เขาก็ยิ้มกริ่มแล้วรีบบอกว่า ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวไม่ต้องออกจากบ้านไปเที่ยวกันพอดี แล้วเจ้าเด็กบ้าก็หัวเราะชอบใจเสียงดังลั่น ก่อนจะปล่อยตัวผมให้ขึ้นไปอาบน้ำ

หนึ่งชั่วโมงถัดมา ผมก็พร้อมแล้วสำหรับการออกไปเที่ยวกับเดียร์ ตอนที่เดินลงมาข้างล่าง ผมเห็นเดียร์ยืนมองผมมาจากบันได หน้าตาหงิก

ผมงงที่เขาเปลี่ยนแปลงอารมณ์กระทันหัน เพราะเมื่อสักครู่ยังหยอกล้อผมเล่นอยู่เลย หรือว่างอนที่ผมลงมาช้านะ แต่ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะผมใช้เวลาตามปกติ อีกอย่างตอนนี้ก็เพิ่งจะ 9 โมงเอง ก็ยังไม่สายมากนัก ยังพอขับรถไปได้สบายๆ

พอเดินลงมายังบันไดขึ้นสุดท้าย ผมก็รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เดียร์ไม่พอใจแล้ว คุณแคทลียา เจ้าสันต์ ศักดิ์ชาย และอรจิราอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาที่ห้องรับแขกของผม ไม่รู้เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจึงแห่กันมาหาผมที่บ้านอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยไม่บอกกล่าวอีกด้วย เจ้าสันต์นะเจ้าสันต์ โทรมาบอกกล่าวผมหน่อยก็ไม่ได้ จะได้ตั้งรับได้ทัน

ผมมองเดียร์ซึ่งจ้องหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว เขาคงไม่พอใจที่คนพวกนี้มาที่บ้าน เดียร์คงกลัวว่าผมจะยกเลิกการเที่ยวแล้วก็ไล่เขาหนีไปกระมัง เอาสิ อยากมาโดยไม่บอกกล่าว คงต้องการเห็นกันให้ชัดใช่ไหมว่าผมอยู่กันอย่างไร ในเมื่อจะจับผิด ผมก็ให้เห็นกันจะๆไปเลย ผมพยักหน้าให้เดียร์เดินตามมานั่งที่ห้องรับแขกด้วย เด็กหนุ่มเดินตามผมมาอย่างระแวง

“ลมอะไรหอบพวกแกมาหือสันต์ แหม โทรมาบอกหน่อยก็ไม่ได้นะโว้ย จะได้เตรียมการต้อนรับ”


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
« ตอบ #279 เมื่อ: 13-02-2009 12:53:35 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #280 เมื่อ13-02-2009 12:54:05 »


ผมเหน็บเจ้าเพื่อนรัก มันหน้าเจื่อนๆ มองผมอย่างต้องการให้ยกโทษให้มัน แต่ผมแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น นึกโกรธมันในใจ

“เราไม่ได้มาด้วยกัน หรือนัดกันมาหรอกค่ะ แคทมานี่เพราะมีเรื่องจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว ส่วนสันต์เขาก็มีเรื่องบางอย่างที่จะคุยกับคุณ เราบังเอิญมาเจอกันที่นี่ค่ะ”

คุณแคทลียาชิงอธิบาย สันต์พยักหน้าเป็นเชิงว่าเรื่องที่คุณแคทพูดถูกต้อง ผมหันมาทางศักดิ์ชาย และอรจิรา นึกในใจว่าแล้วสองคนนี้น่ะมาทำไม ศักดิ์ชายไม่ค่อยน่าแปลกใจเท่าไหร่ แต่อรจิราสิ เป็นเวลานานมากแล้วที่เธอไม่ได้เหยียบย่างมาบ้านผม

“ฉันลืมของไว้ที่บ้านนายน่ะ นึกขึ้นได้ ก็เลยมาเอา”

“อรมาเยี่ยมเจ้าหญิงค่ะ ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงมันค่ะ”

สองคนหลังนี่ เหตุผลฟังไม่ขึ้นเลย อยู่ๆจะมาคิดถึงผม หรือหมาถึงผมอะไรกระทันหัน จับผิดผมน่ะสิไม่ว่า สองตาของอรจิรายังไม่เหลือบแลเจ้าหญิงด้วยซ้ำ เจ้าสุนัขแม่ทิ้ง เลยไปหมอบอยู่แทบเท้าของเดียร์ซึ่งนั่งโซฟาตัวเดียวกับผม

อรจิราคงมาหาผมอย่างตั้งใจจะมาจับผิดมากกว่าอื่นใด เพราะเธอได้ลั่นวาจาไว้แล้ว ว่าจะกระชากหน้ากากของผม แล้วเธอคงจะพยายามทำตามคำพูดส่วนเจ้าศักดิ์ชายเคยบอกแล้วว่าเขาไม่เห็นด้วยเรื่องผมกับเดียร์ มันคงมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์บางอย่าง ผมมองคนทั้ง 4 อย่างหนักใจ นึกสงสารเดียร์ขึ้นมาทันที นี่ผมจะไล่คนพวกนี้ออกจากบ้านไปดีหรือเปล่า มันจะขัดกับมารยาทที่ดีไหม

“จะไม่แนะนำให้รู้จักหนุ่มน้อยคนนี้หน่อยเหรอคะ”

อรจิราปรายตามาทางเดียร์แล้วยิ้มเยาะ จนผมรู้สึกหน้าชา ผมมองเห็นเดียร์ปรายตามองอรจิราตอบ ใบหน้าเรียบเฉย

“หลายคนในที่นี้ก็รู้จักดีนี่ครับ แต่จะแนะจำอีกก็ได้ นี่คือเดียร์เพื่อนผม แล้วนี่คือ คุณสันต์ คุณศักดิ์ชาย คุณแคท และคนสุดท้ายคุณอรจิรา”

ผมแนะนำให้ทุกคนรู้จักกันอีกครั้ง

“เมื่อกี้เรียวบอกว่าเขาเป็นเพื่อน หรือเพื่อนชายคะ อรฟังไม่ถนัด”

นางร้ายในละครน้ำเน่าตัวจริงเสียงจริงมาแล้ว ผมคิดในใจด้วยความกลัดกลุ้ม พยายามมองหาภาพนางเอกใสซื่อที่เคยเป็นจุดขายในตัวของอรจิราที่ทำให้ผมหลงรัก แต่กลับไม่เห็นภาพนั้นอีกแล้ว มีแต่ภาพผู้หญิงใจร้ายที่คอยจ้องจะทำลายผมอยู่แทน

“คุณอยากจะได้ยินว่าอะไร ก็เติมคำลงในช่องว่างเอาเถอะนะอร เอาเป็นว่าผมปล่อยฟรีสไตล์แล้วกัน เพราะบางทีสิ่งที่ผมคิดกับสิ่งที่คุณคิดมันอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้”

ย้อนกลับไปบ้าง ที่จริงไม่อยากพูดแรงๆกับพวกผู้หญิง โดยเฉพาะกับคนที่เคยเป็นคนรักเก่า เพราะความทรงจำดีๆที่เคยมีให้กันนั้นมันยังคงอยู่ในใจผม แต่อรจิราก็ถามล่อเป้าชวนให้ด่าเหลือเกิน ทำไมชอบที่จะฉีกหน้าผมต่อหน้าคนอื่นนักหนา เห็นเป็นเรื่องสนุกหรืออย่างไร ทำแบบนี้คิดว่าคนอื่นเขาจะไม่โต้ตอบกลับบ้างหรือ


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #281 เมื่อ13-02-2009 12:54:55 »

“ผมกำลังจะออกไปข้างนอกอยู่พอดี พวกคุณคงมาไม่ถูกจังหวะแล้วละครับ เอาไว้กลับไปที่ทำงานแล้วค่อยคุยกันดีไหมครับ ผมยินดีให้พวกคุณเข้าพบทุกคนเลย”

พูดตัดบทให้รู้ว่าผมยังไม่พร้อมจะพูดคุยกับพวกเขาในเวลานี้ เดียร์มีสีหน้าแช่มชื่นขึ้น หลังจากนั่งเงียบหน้าจ๋อยๆมาได้พักใหญ่ แต่แล้วคุณแคทก็ดับความหวังในการที่ผมจะไปเที่ยวสองคนกับเดียร์ด้วยการขอติดตามผมไปด้วย ผมมองหน้าเธออย่างงงๆ เธอจะตามผมไปทำไม แล้วเธอรู้หรือว่าผมจะไปไหน เพราะอะไรถึงอยากจะตามผมนักหนา ผมไม่ได้พาพี่สมชายไปด้วยสักหน่อย เธอจะได้ตามไปยั่วให้หึง

“งั้นฉันไปด้วยคนสิวะ เรียว กำลังเซ็งๆอยู่พอดี ว่าแต่นายจะไปไหนล่ะ”

ตอนแรกที่เจ้าสันต์พูด ผมกำลังนึกโมโหมัน ที่อยู่ๆก็จะมาเป็นมารความสุขของผมกับเดียร์ซะงั้น แต่เมื่อมองสบตามันก็รู้ว่า เจ้าสันต์คงไม่ได้อยากไปจริงจัง เพียงแต่อยากช่วยผมเท่านั้น การที่เราคบกันมานาน เลยพอจะรู้ว่ามันคิดอย่างไร มันคงจะไปทำหน้าที่เป็นไม้กันหมากันคุณแคทไม่ให้เข้ามาวุ่นวายกับผมและเดียร์มากนัก เป็นการไถ่โทษที่มาโดยไม่บอกไม่กล่าวนั่นเอง

“เฮ้น่าสนุกดีนะคะ ศักดิ์ อรว่าพวกเราทำงานกันมาก็หนัก ได้ปลดปล่อยกันบ้างก็ดี เราไปด้วยกับพวกเขาดีกว่า ไปด้วยคนนะคะเรียว หวังว่าคงจะไม่ขัดข้องนะคะ”

ขัดข้องสิ แถมซ้ำไม่พอใจมากด้วย ผมตะโกนก้องในใจ นี่มันอะไรกันนักหนา อยู่ๆก็ขนกันมาที่บ้านผมโดยไม่ได้รับเชิญ พอไล่ทางอ้อมว่าจะออกไปข้างนอก ก็ยังจะยกโขยงกันไปอีก ใจคอจะไม่ให้ผมและเดียร์มีความสุขกันตามลำพังตามประสาคู่รักเลยหรือไง แบบนี้ถ้าด่าไปเจ็บๆ พวกเขาจะคิดได้กันไหมหนอ แล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนร่วมงานมันพังลงไปไหม

“จะดีหรือครับ ที่ๆผมไปมันอาจจะไม่สนุกก็ได้”

พยายามข่มใจ ไม่แสดงอารมณ์โกรธออกมา พูดอ้อมๆแบบนี้ จะเข้าใจกันไหมนะ ว่าผมไม่ได้ต้องการอยากให้ไปด้วย

“เรียวจะไปไหนหรือคะ”

คุณแคททำเสียงหวานใส่ผม อะไรกันก็ไม่รู้ คุณแคทเนี่ย อยู่ๆก็อยากติดผมเป็นตังเมขึ้นมา อย่าบอกนะว่าจะเอาผมเป็นตัวแทนของพี่สมชาย ผมไม่ชอบนะที่จะมาคิดแบบนั้นกับผม

“ไปทำบุญที่บ้านเด็กพิการซ้ำซ้อนที่ปากเกร็ดครับ ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไง มีแต่เรื่องไม่ดีเข้ามาในชีวิต เลยกะว่าจะไปทำบุญทำทานบ้างนะครับ เพื่อว่าอะไรๆในชีวิตจะได้ดีขึ้นครับ”

โกหกวันหนึ่ง คงบาปน้อยกว่าพูดคำหยาบ ด่าทอ หรือฆ่าคนกระมัง ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนอยากจะทำอย่างนั้นกับคนทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้า ความใจเย็นของผมเริ่มหดหาย และความร้ายในตัวของผมเริ่มแสดงออกมา นี่ผมมาถึงขีดจำกัดของความอดทนแล้วกระมัง

การที่มีคนเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิต คอยสอดแนม คอยติดตามว่าผมจะไปทำอะไร กับใครที่ไหน มันเป็นเรื่องที่ทำให้ผมไม่สบายใจปวดเศียรเวียนเกล้าอย่างที่สุด ได้โปรดเถิดทุกๆคน คืนชีวิตส่วนตัวให้ผมบ้างได้ไหม ทำไม กับอีแค่รักผู้ชายคนที่เขาดีกับผมมากๆ ทุกคนถึงตามติดผมคอยสอดส่องยังกับเป็นตัวประหลาด


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #282 เมื่อ13-02-2009 12:55:19 »


“เด็กพิการซ้ำซ้อนหรือคะ....”

อรจิราตาโต ทำหน้าเหยเก ผมเห็นเดียร์มองไปที่แฟนเก่าของผม จากนั้นก็ก้มหน้าลอบยิ้มด้วยความขำ เด็กหนุ่มคงรู้แล้วว่าการที่ผมเปลี่ยนแปลงกระทันหัน เพราะผมต้องการสลัดพวกนี้ให้หลุดจากการติดตาม แต่เนื่องจากเดียร์เป็นคนนอก เขาพูดอะไรได้ไม่มาก จึงได้แต่นั่งเฉย ปล่อยให้ผมลงมือจัดการกับเพื่อนๆตัวยุ่ง

“ครับ เด็กที่พิการมาตั้งแต่กำเนิด แขนขาอาจจะไม่มี แถมซ้ำ ยังพิการทางด้านสติปัญญาด้วยครับ พวกเขาน่าสงสารมากเลยครับ ผมกะจะไปบริจาคสิ่งของ และบริจาคเงินไว้เป็นทุนรอนให้ใช้ซื้ออาหารและของใช้ให้เด็กครับ อรอยากไปด้วยไหม”

“ดีเลยเรียว ฉันก้อยากทำบุญด้วยเหมือนกันว่ะ”

ในขณะที่อรจิราทำท่าเหมือนไม่อยากไป แต่ไอ้เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดดันกลับตอบรับด้วยอาการกระตือรือร้น ร้อยวันพันปีไม่เห็นศักดิ์ชายเคยทำบุญที่ไหน คราวนี้เสนอหน้าอยากไปด้วย จะให้ผมคิดยังไง นอกจากมันต้องการไปเพื่อดูให้แน่ใจกับตาตัวเองว่าผมกับเดียร์ผูกพันกันแค่ไหน

“โอเค อยากไปก็ไป แคทกับสันต์ไปด้วยกันใช่ไหมครับ”

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ชวนไปให้หมดเลย หวังว่าเดียร์คงไม่ว่านะ ผมคิดว่าเขาคงเข้าใจในตัวผม สถานการณ์มันเป็นอย่างนี้ ถ้าไปเที่ยวกันเหมือนเดิมคงลำบาก ติดไว้ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวผมจะมาชดใช้คืนให้เดียร์ในวันหลัง คราวนี้เพิ่มดอกเบี้ยให้ด้วย เป็นเที่ยวด้วยกันสองครั้งเลย แต่ขอให้ผ่านครั้งนี้ไปก่อนเถอะ

สองคนนั้นตกลงไปด้วยกันกับพวกเรา แก๊งค์ทำบุญโดยบังเอิญ จึงนัดแนะกันว่าจะขับรถตามกันไปที่ห้างสรรพสินค้า เพื่อเลือกซื้อของที่จะให้เด็กพิการ จำพวก อาหารและของใช้ประจำวัน ก่อนจะเดินทางไปยังบ้านเด็กพิการซ้ำซ้อนที่ปากเกร็ดเพื่อทำบุญกัน

พอแยกกันขึ้นรถ ผมก็กล่าวขอโทษเดียร์ที่ไม่ได้ไปเที่ยวกันตามที่ตกลงไว้ แถมอาหารที่เดียร์อุตส่าห์ปรุง เราก็ขนมาทำบุญจนหมด เด็กหนุ่มยิ้มให้ผมอย่างเข้าใจ บอกว่าผมทำดีที่สุดแล้ว เขาไม่ได้โกรธ และค่อนข้างเห็นใจผม แต่ที่เด็กหนุ่มสงสัยก็คือ ทำไมคนพวกนี้จึงมาวุ่นวายกับผมนัก

ผมก็ได้แต่อ้ำอึ้งพูดไม่ออก บอกไม่รู้เพียงแค่อย่างเดียว ผมไม่กล้าบอกเดียร์ไป ว่าคนเหล่านี้รู้เรื่องของเราสองคนหมดแล้ว และกำลังตามมาพิสูจน์ว่ามันจริงตามที่ลือหรือเปล่า ผมไม่อยากให้เดียร์หงุดหงิด หรือเกร็งเวลาอยู่กับคนพวกนี้ อยากให้เขาทำตัวตามธรรมชาติ ปล่อยให้ทุกอย่างมันดำเนินไปตามทางของมัน ไหนๆผมก็คิดว่าจะไม่ปิดใครอีกแล้ว ผมก็อยากจะดูเหมือนกันว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร รับได้ไหม กับเรื่องแบบนี้


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #283 เมื่อ13-02-2009 12:55:48 »

เด็กหนุ่มถามผมว่า จะให้เขาไปด้วยจริงๆหรือ การมีเขาไปปรากฏตัว จะทำให้ผมถูกจับตามอง ถูกจ้องจับผิดเอาหรือเปล่า เขาไม่อยากจะทำให้ผมต้องถูกนินทาว่าร้าย อาจจะกระทบกระเทือนต่อหน้าที่การงาน ทำให้ผมได้รับความเดือดร้อน ผมบอกให้เด็กหนุ่มเลิกกังวลใจ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ไม่วันใดวันหนึ่งพวกเขาก็จะต้องรู้ สู้ๆให้เห็นกันไปเลยดีกว่า

อีกอย่างเราไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียด แค่ไปทำบุญด้วยกันเท่านั้น ไม่ได้ไปทำอะไรบัดสีบัดเถลิงเสียหน่อย ใครจะว่ายังไงก็ช่าง เราบริสุทธิ์ใจ พวกเขาก็คงจะไม่สามารถทำอะไรเราได้ พอผมพูดจบ เดียร์ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สิ่งที่ผมบอกเขาคงสร้างความพึงพอใจให้เด็กหนุ่มได้ไม่น้อย มันเหมือนผมยอมรับเขากับคนอื่นกลายๆ ทำให้เด็กหนุ่มมีความสุขมาก

เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นขณะที่ผมกำลังขับรถอยู่ ผมหยิบsmall talk มาเสียบแล้วกดรับสาย เจ้าสันต์โทรมา มันระล่ำระลักขอโทษผม บอกว่ามันไม่ได้พาคนเหล่านี้มา มันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อันที่จริง เจ้าสันต์มันตั้งใจจะมาหาผม เพื่อคุยเรื่องของคุณแคท เพราะมันไปสืบมาจนรู้ว่าคุณแคทมาขอผมเป็นแฟนด้วยจุดประสงค์อะไร แต่ไม่อยากคุยกันทางโทรศัพท์ เลยอยากจะมาหาที่บ้าน

กำลังจะโทรมาหาผม ศักดิ์ชายก็โทรเข้ามา ชวนมันมาบ้านผมด้วยกัน อ้างว่าลืมของไว้ แล้วก็อยากมาเที่ยวเล่นบ้านผมบ้าง มันนึกรู้อยู่แล้วว่าศักดิ์ชายเจตนาไม่ดีเท่าไหร่ คงอยากมาให้เห็นกับตาเรื่องเดียร์ แต่แก้เก้อ ด้วยการชวนสันต์มาด้วย แต่มันไม่รู้จะห้ามอย่างไร เลยบอกว่าจะมาก็มา แล้วศักดิ์ชายก็คงจะไปชวนอรมาด้วยกระมัง เพราะช่วงหลังสองคนเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย ไปไหนด้วยกันออกบ่อย ไม่รู้ว่ามีแผนอะไรกันหรือเปล่า

ผมถามมันว่าแล้วไม่คิดจะโทรมาบอกให้ผมรู้บ้างหรือยังไง เล่นมาแบบไม่บอกกล่าว ถ้าหากผมไม่อยู่ในสภาพพร้อมที่จะให้เจอ จะไม่เสียหายกันไปใหญ่หรือ มันก็ขอโทษขอโพยบอกว่ามันลืม พอวางสายจากศักด์ชายปั๊บ คุณแคทก็โทรมาทันที แล้วอ้อนว่าอยากให้สันต์มาบ้านผมเป็นเพื่อนกัน มันไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร เพราะมันเองก็ต้องการมาที่นี่อยู่แล้ว เลยปล่อยเลยตามเลย

พอวางหูเสร็จ ก็รีบออกจากบ้าน กะว่าจะมาให้ทันก่อนพวกนั้น แต่รถก็มาติดอีก ทำให้มาถึงบ้านผมในเวลาไล่เลี่ยกัน เลยไม่มีเวลาจะอธิบาย แต่สันต์ก็รับปากว่าจะช่วยผมกับเดียร์กันคนอื่นออกไปไม่ให้มาวุ่นวายชขัดขวางความสุข

แต่ก่อนจะวางหู มันถามผมว่า ตั้งใจจะไปทำบุญจริงๆเหรอ ผมบอกเปล่า อยากไปสวนสนุก แต่ต้องเปลี่ยนโปรแกรมกระทันหัน มันก็หัวเราะแล้วบอกว่า เข้าใจแกล้งพวกนั้นดีจัง แถมยังบอกว่า เสร็จแล้วให้ไปที่เกาะเกร็ดต่อด้วยนะ ให้นั่งเรือ ตากแดดกันให้เข็ด ผมเห็นด้วยกับไอเดียนี้ทันที

เด็กหนุ่มถามผมด้วยความสงสัยทันทีที่ผมวางหู ว่ามีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า ผมไม่บอกความจริงกับเดียร์ แต่บอกกับเขาแค่ว่า สันต์โทรมาขอโทษที่ไม่บอกเท่านั้น เลยรบกวนเวลาเราสองคน จากนั้นผมก็บอกเดียร์ว่าจะไปเที่ยวเกาะเกร็ดกัน เพราะที่นั่นมีเครื่องปั้นดินเผาสวยๆ เดียร์อาจจะชอบ

แถมซ้ำยังมีขนมหวานอร่อยๆด้วย ไม่ได้ไปสวนสนุก แต่ไปชมบรรยากาศ บ้านริมคลองก็น่าจะดีเหมือนกัน เดียร์ยิ้มหวานให้ผม บอกว่า เขายินดีไปทุกๆที่ หากมีผมอยู่ด้วย เราสองคนสบตากัน และยิ้มให้กันอย่างมีความสุข


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #284 เมื่อ13-02-2009 12:56:11 »

พวกเราแวะซื้อของในห้างก่อนที่จะไปยังบ้านราชาวดี สถานสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและปัญญา ผมกับเดียร์ช่วยกันขนผ้าอ้อมสำเร็จรูป เสื้อผ้าเด็ก และข้าวสาร ใส่ในรถเข็น จำนวนมาก จากนั้น ก็ช่วยกันเลือกของเล่นให้กับเด็กๆ โดยเลือกของที่ไม่เป็นอันตรายเพื่อให้พวกเขาได้เล่นกัน

สันต์ และคนอื่นๆ ก็ไปเลือกของที่ตัวเองตั้งใจจะบริจาค เจ้าสันต์ซื้อนมกล่องไป 20 กว่าแพ็ค และพวกขนมคบเคี้ยวต่างๆ คุณแคทเลือกซื้อสมุดวาดเขียนและสีเทียนให้กับเด็กๆ เพื่อว่าพวกเขาจะได้หัดขีดหัดเขียนกัน ส่วนอรจิรากับศักดิ์ชาย เดินเลือกของไปมา แต่ไม่มีอันไหนถูกใจ เลยไม่ซื้อ แล้วบอกว่าขอบริจาคเป็นเงินแทน

ซื้อของเสร็จ ผมก็แวะกดเงิน ผมเบิกมาสองหมื่น ตั้งใจบริจาคเป็นทุนให้กับเด็กๆที่ด้อยโอกาส เดียร์กดของตัวเอง แล้วเอามาให้ผมห้าพัน บอกว่าเขาขอร่วมทำบุญด้วย ผมบอกว่าไม่ต้อง ใช้เงินของผมก็ได้ แต่เขาไม่ยอม บอกว่า ทำบุญทำกุศล ก็ควรจะใช้เงินในส่วนของตัวเอง ไม่เบียดบังคนอื่น

ผมก็ว่า อย่าคิดอะไรมาก แค่ใจเราศรัทธาก็พอ แต่เดียร์ก็บอกว่า เขาอยากใช้เงินของตัวเอง เขาไม่อยากรบกวนผม อีกอย่างเขาต้องทำตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี จะมาพึ่งพาเงินของคนรักได้อย่างไร ต่อไปในภายภาคหน้า เขาอยากจะเลี้ยงดูผมให้ได้รับความสะดวกสบายไม่ต้องทำงาน อยู่กับบ้านคอยรอเขากลับมาก็พอ

ถึงแม้เดียร์จะพูดให้ดูตลก แต่ก็แฝงไปด้วยความจริงใจ คำพูดของเขาทำให้ผมอึ้งพูดไม่ออก เด็กหนุ่มคิดไกลจนถึงขนาดสร้างครอบครัวกับผมเลยหรือนี่ แถมซ้ำ ยังจะแสดงบทบาทเป็นผู้นำครอบครัวที่ดี ไม่ต้องให้ผมลำบาก

ทั้งๆที่เมื่อเทียบกันแล้ว เงินเดือนหลักแสนของผมมากมายกว่าเงินเดือนที่เขาได้จากการทำงานหลายที่ หลายเท่าตัวนัก ผมไม่ได้ดูถูกเดียร์ที่เขาไม่เจียมตัว แต่ผมซาบซึ้งในตัวเดียร์อย่างบอกไม่ถูก ผมเคยได้ยินมาว่า เกย์บางคนชอบให้คนอื่นเลี้ยงดูตัวเองเพื่อให้สุขสบาย แต่ยอดชายนายเดียร์ไม่เคยทำตัวพึ่งพิงให้ผมรู้สึกแบบนั้น

ถึงเขาจะมีรายได้น้อย แต่เขาก็พยายามแย่งออกค่าใช้จ่ายทุกอย่าง กับข้าวทุกมื้อ ผมแทบไม่ต้องจ่ายเงินเลย ให้ก็ไม่ยอมรับ อ้างว่าแลกกับที่ผมให้เขาได้พักอาศัย เดียร์ไม่เคยเบียดเบียนเงินผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ไม่เกินเที่ยงขบวนของพวกเราก็ถึงสถานสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและปัญญา ผมเดินไปติดต่อเจ้าหน้าที่ แจ้งความประสงค์จะมาบริจาคเงินและสิ่งของ เจ้าหน้าที่ที่เป็นหญิงสูงอายุ ให้พวกเราเอาของมาวางรวมกันไว้ แล้วจดรายละเอียดว่าของมีอะไรบ้าง เดียร์รับอาสาจัดการให้ ในระหว่างทีรอผมก็หยิบโบร์ชัวร์ขึ้นมาอ่าน

ที่นี่จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2517 ที่ตำบลบางตลาด อำเภอ ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ในเนื้อที่ 10 ไร่เศษ และเปิดดำเนินการรับเด็กพิการเข้าอุปการะอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2519 เป็นต้นมา ทั้งนี้เพื่อรองรับเด็กพิการทางสมองและปัญญาซึ่งเข้ารับการสงเคราะห์ รวมอยู่ในสถานสงเคราะห์ต่าง ๆ ให้ได้รับการฟื้นฟูและพัฒนาที่เหมาะสมตามแนวทางสำหรับผู้พิการทางสมอง และปัญญา โดยเฉพาะ ปัจจุบันมีผู้รับบริการ ซึ่งเป็นผู้พิการทางสมองและปัญญา เพศชาย อายุเมื่อแรกรับเข้า สถานสงเคราะห์ ระหว่าง 7 – 18 ปี จำนวนมากกว่า 600 คน


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #285 เมื่อ13-02-2009 12:56:39 »

เด็กที่นี่จะแยกออกเป็น เด็กปัญญาอ่อน คือพวกที่มีระดับสติปัญญาและการเรียนรู้ต่ำกว่าบุคคลปกติตั้งแต่ระดับไม่รุนแรงมาก เด็กพิการทางสมอง เป็นพวกเด็กที่มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ เนื่องจากสมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวถูกทำลาย

เด็กที่มีอาการทางจิตประสาท หรือโรคบางอย่าง เช่น ลมชัก มีอาการก้าวร้าว ทำร้ายตนเอง ฯลฯ 00(กลุ่มนี้บางครั้งไม่มีภาวะปัญญาอ่อน) และสุดท้ายคือ เด็กพิการซ้ำซ้อน คือ จะมีอาการพิการร่างกายร่วมกับภาวะปัญญาอ่อน

เสียงเด็กร้องดังขึ้นเรียกความสนใจจากพวกเรา ผมหันไปดูเห็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง กำลังอุ้มเด็กหญิงวัยประมาณสักขวบหรือสองขวบ หน้าตาน่ารักน่าชัง แต่เธอพิการแขนสองข้างไม่มี เหลือขาข้างเดียว แต่อีกข้างหนึ่งลีบเล็ก และสั้นกว่าเป็นเหมือนแค่ก้อนเนื้อที่ยื่นออกมาจากร่างกายเท่านั้น เธอกำลังร้องไห้อย่างหงุดหงิด คงทำอะไรไม่ได้อย่างใจ

“น้องมุกเขาจะงอแงบ่อยๆค่ะ เขาพยายามจะช่วยเหลือตัวเอง หัดลุก แต่เขาทำไม่ค่อยจะได้ เพราะไม่มีแขนขาช่วยยัน ต้องกลิ้งตัวเอา เขาเลยหงุดหงิดบ่อยๆค่ะ แต่ตามปกติ เขาจะอารมณ์ดี ชอบฟังเพลงและกล่อมตัวเองให้นอน”

พี่เลี้ยงเด็กใจอารี อุ้มเด็กไว้ในวงแขน แล้ว อธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้น้องมุกร้องโยเยออกมา ผมเห็นเดียร์ยื่นมือออกไป ขออุ้มเด็กหญิงที่กำลังร้องไห้ พี่เลี้ยงคงเห็นแววอาทรในตาของเดียร์ เลยยื่นน้องมุกมาให้อุ้ม เด็กหนุ่มรับมากอดไว้อย่างไม่นึกรังเกียจพลางโยกตัวกล่อมไปมา สักพักน้องมุกก็เงียบ พอเดียร์ทำหน้าหลอกล้อ เด็กหญิงผู้พิการก็หัวเราะอย่างชอบใจ สงสัยน้องมุกจะหลงเสน่ห์เดียร์เข้าให้แล้ว

“ตายจริง เพื่อนคุณเก่งจังเลยนะคะ ทำให้น้องมุกหยุดร้องไห้ได้ สงสัยเข้าอกเข้าใจคนที่ไม่เป็นปกติเหมือนกัน”

เอาอีกแล้ว คำพูดที่ทำให้ความน่ารักของอรจิราลดหายไปกว่าครึ่ง ทำไมปากงามน่าจูบนั้น ถึงไม่พูดอะไรดีๆบ้าง หรือว่าหัวทุยสวยได้รูป จะไม่มีสมองอย่างที่เจ้าสันต์ชอบค่อนขอด ช่างกล้าพูดโดยไม่ไว้หน้าคนอื่นบ้างเลยนะ

หาว่าเดียร์เป็นคนไม่ปกติ เหมือนน้องๆที่พิการซ้ำซ้อนพวกนี้น่ะเหรอ คิดว่าคนเป็นเกย์คือคนพิการอย่างหนึ่งหรือไง ผมว่านะ คนที่บกพร่องด้านสติปัญญา น่าจะเป็นอรจิรามากกว่า ผมชักเริ่มทนไม่ไหว กับพฤติกรรมตามล้างตามผลาญของเธอเสียแล้ว

แค่ปล่อยข่าวให้ผมเสียหายในที่ทำงาน ผมยังไม่มีโอกาสได้ต่อว่าเอาเรื่องกับเธอเลย น่าจะคิดบ้างว่าผมใจดีกับเธอแค่ไหน เห็นแก่ว่าเราเคยรักกันมาก่อน ครั้งหนึ่งเธอเคยทำให้ชีวิตของผมมีความสุขจนถึงขนาดจะแต่งงานด้วย ถึงแม้จะช่วงสั้นๆก็ตาม แต่ผมก็ยังคงจดจำภาพที่งดงามนั้น และไม่เคยคิดจะทำร้ายเธอเลยแม้แต่น้อย แต่ทำไมเธอถึงจ้องจะเล่นงานผมนัก

ทั้งๆที่โมโหให้กับคำพูดของอรจิราแต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากทำเป็นไม่ใส่ใจคำพุดของคนรักเก่า ผมเดินไปหาเดียร์ และขออุ้มเด็กน้อยนั่นบ้าง แต่น้องมุกไม่ยอมมาหาผม ซุกตัวไว้ในอ้อมแขนแข็งแรงของเดียร์ จนผมแอบคิดในใจเล่นๆไม่ได้ว่าน้องมุกคงชอบความอบอุ่นที่เดียร์มอบให้ ขนาดผมเองยังรู้สึกดีทุกครั้งยามที่เขากอด นี่ถ้าน้องมุกโตเป็นสาวที่มีร่างกายครบถ้วนสมบูรณ์ ก็อย่าหวังเลยว่าผมจะยอมให้อยู่ในอ้อมแขนของเดียร์แบบนั้น


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #286 เมื่อ13-02-2009 12:57:29 »

หลังจากเจ้าหน้าที่เช็คของที่พวกเรานำมาบริจาค และออกใบรับเงินทำบุญของพวกเราเรียบร้อยแล้ว เธอได้ให้พี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่งพาพวกเราไปเยี่ยมชมสถานที่ เพื่อสัมผัสกับน้องๆผู้พิการ ช่วงที่เราไปถึงได้เวลาอาหารกลางวันพอดี มีผู้ใจบุญนำอาหารกลางวันมาเลี้ยงเด็กๆพิการด้วย ผมกับเดียร์เลยเอาอาหารที่พวกเราเตรียมไว้จะไปปิคนิคกันให้กับแม่ครัวเพื่อแจกจ่ายให้เด็กๆได้ทานกันด้วย

หนุ่มน้อยของผมนั่งมองเด็กๆทานข้าวด้วยดวงตาที่รื้นด้วยน้ำตา ผมไม่เคยรู้เลยว่าเดียร์จะมีความอ่อนโยนในหัวใจได้ถึงขนาดนี้ ดูเหมือนเขาจะรู้สึกสะเทือนใจที่ได้เห็นสภาพของเด็กที่ด้อยโอกาส แต่ละคนถ้าไม่พิการแขนขา ก็ดูท่าทางจะมีปัญหาด้านสมองแต่พวกเขาก็ร่าเริงตามวัยของเขา ทุกคนพยายามอย่างมากที่จะดิ้นรนมีชีวิตอยู่ให้รอดได้ในโลกที่แสนโหดร้าย

อาจจะเป็นเพราะการได้เห็นพวกเขา มันทำให้เดียร์คิดถึงตัวเองสมัยยังเยาว์ที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง แล้วต้องไปอยู่กับคนอื่น ซึ่งคนที่เลี้ยงดูเขาก็ไม่ได้ให้การดูแลอย่างรักใคร่ เขาอาจจะโชคดีที่มีแขนขาครบถ้วน แต่ทางด้านจิตใจแล้วเขาได้รับแต่ความโหดร้าย

ญาติแท้ๆกลับไม่ให้ความเมตตาปราณีกับเขา เลี้ยงดูเดียร์เยี่ยงคนใช้ ตบตีด่าทอเหมือนว่าเขาไม่ได้สืบสายเลือดมาจากคนเหล่านั้น ชีวิตที่ขมขื่นในวัยเด็ก ทำให้เดียร์แสวงหาความรักเพื่อช่วยเยียวยาบาดแผลในใจ และเมื่อมีโอกาสที่จะมอบความรักให้กับใคร เขาเลยพยายามที่จะแสดงความรู้สึกนั้นออกมาอย่างเต็มที่

เดียร์อาสาเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยป้อนข้าว ป้อนน้ำให้น้องๆเหล่านั้น พวกเราหลายคนขยับตามรวมถึงผมด้วย อรจิราทำหน้าย่น ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยชอบการดูแลเด็กๆเท่าไหร่ เวลาที่เด็กเหล่านั้นเอื้อมมือมาดึงเสื้อ หรือจับแขนเธอ แฟนเก่าของผมก็จะสบัดอย่างลืมตัว

แต่พอเห็นเจ้าหน้าที่ และคนอื่นๆมองอยู่ เธอก็จะแสร้งทำเป็นอ่อนหวานใส่เด็กๆ แต่ก็รีบปลีกตัวหนีออกไปยืนข้างนอกอย่างรวดเร็ว อ้างว่ารู้สึกไม่สบาย ต่างกับคุณแคทที่ดูจะเข้ากันได้ดีกับพวกเด็กๆ พอๆกับเดียร์และเจ้าสันต์




ผมมองเดียร์ที่ถูกมะรุมมะตุ้มจากพวกเด็กๆ แล้วอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ เด็กๆดูจะชอบหน้าตาหล่อๆของเขา จึงยื่นมือมาจับมาลูบใบหน้า บางคนก็กอดคอเขา บางคนก็ดึงเสื้อ ดึงกางเกงเดียร์จะให้มานั่งด้วย ซึ่งเดียร์ก็ตามใจเด็กเหล่านั้นโดยไม่เดียดฉันท์

แม้ว่าแต่ละคนจะน้ำลายฟูมปาก หรือกินเลอะเทอะ ขี้หูขี้ตาเกรอะกรัง หรือโยเยก้าวร้าวแค่ไหน พ่อหนุ่มน้อยก็ไม่เลือกปฏิบัติ เขาดีกับเด็กๆเท่าเทียมกัน ไม่รู้ว่าเด็กที่มีความอ่อนด้อยทางปัญญาจะสามารถแยกแยะความงามกับความขี้เหร่ออกจากกันได้หรือเปล่า แต่สิ่งหนึ่งที่เด็กรับรู้ได้ว่าเดียร์มีอย่างเปี่ยมล้นคือความเมตตาอารี

“เฮ้ย นายเดียร์ของนายนี่มันมีเสน่ห์กับคนรอบข้างเสียจริง ขนาดเด็กพิการยังรับรู้เลยว่าเด็กนั่นจิตใจดีแค่ไหน แต่นายซึ่งสติปัญญาดีกว่า ทำไมถึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นความดีของเด็กนั่นวะ”

เจ้าสันต์มาอยู่ข้างผมเมื่อไหร่ไม่รู้ มันพูดกระซิบหยอกจากนั้นก็ชิ่งหนีไปเพราะกลัวถูกด่า ผมโต้ตอบมันในใจว่าทำไมผมจะไม่เห็น ผมรู้ดีว่าเด็กหนุ่มน่ารักเพียงใด และผมก็ตระหนักถึงคุณค่าในตัวของเขา ผมรักเดียร์มาก แต่ผมยังไม่มั่นใจพอที่จะแสดงออกให้ใครต่อใครรู้ต่างหาก

พวกเราใช้เวลาอยู่ที่สถานสงเคราะห์นั้นถึงบ่ายโมง จากนั้นก็ลาเจ้าหน้าที่กลับ สันต์เริ่มแผนกลั่นแกล้งพวกที่ตามผมมา ด้วยการชวนไปเที่ยวเกาะเกร็ด ซึ่งต้องลงเรือข้ามแม่น้ำไป คุณแคทเป็นคนแรกที่ยกมือขอตามไปด้วย ตามด้วยศักดิ์ชาย

ส่วนอรจิราซึ่งแต่แรกทำท่าอิดออด แต่พอถูกศักดิ์ชายคะยั้นคะยอ เธอก็เลยตกลงตามไปด้วย ผมกับสันต์มองหน้ากันและลอบยิ้ม อยากรู้เหมือนกันว่าจะตามไปได้แค่ไหน โชคดีที่เดียร์เองก็ทำตัวดี ไม่รุ่มร่ามให้ใครเขาจับผิด เด็กหนุ่มพูดน้อยมากๆ เขาจะตอบต่อเมื่อมีคนถามเท่านั้น เดินห่างกัน ส่วนใหญ่ จะเดินคุยกับสันต์มากกว่า

ผมเดาเอาว่าเดียร์คงรู้ว่ามีคนจ้องจับผิด เพราะบ่อยครั้งทีเดียวที่ผมเห็นศักดิ์ชายกับอรจิราคอยจับตามองเราสองคน แล้วเดียร์หันไปเห็นพอดี ไม่ต้องเอ่ยมาเป็นคำพูดเราสองคนก็รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร

การล่องเรือชมวิถีชีวิตชุมชนมอญเกาะเกร็ดของพวกเราได้เริ่มต้นขึ้นที่ท่าน้ำวัดปรมัยยิกาวาส โดยพวกเราขับรถไปจอดไว้ที่วัดสนามเหนือ แล้วขึ้นเรือข้ามฝากไปยังวัด โดยเราจะลงเรือต่อไปเพื่อเที่ยวชมบรรยากาศบ้านเรือนตามริมน้ำรอบๆเกาะ ซึ่งนอกจากจะมีบ้านเรือนชาวมอญให้เห็นแล้ว ยังมีสวนผลไม้ และแปลงปลูกผักปลอดสารพิษด้วย

เรือแวะเข้าไปจอดที่คลองขนมหวาน หรือที่เรียกอีกชื่อว่าคลองบางบัวทอง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิธีการทำขนมไทย สามารถที่จะชิมฟรี หากถูกใจก็เลือกซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับไปได้

พ่อครัวเอกของผมไปยืนดูเขาทำขนมหวานด้วยท่าทางสนอกสนใจ เดียร์ชอบทำอาหารมาก เขาคงพยายามจดจำวิธีทำเอาไว้ใช้บ้าง ผมนึกถึงน้องๆที่ฝ่าย ไหนๆก็มาเที่ยวที่นี่แล้ว ก็เลยซื้อขนมไทยๆไปฝากพวกเขาบ้าง ทุกคนทำงานช่วยผมอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย น่าที่ผมจะตอบแทนความมีน้ำใจของเขาบ้าง ไปๆมาๆ ผมหมดเงินไปกับการซื้อขนมหวานอร่อยๆไปเกือบสองพันบาท ทั้งซื้อเก็บไว้กินเอง และฝากชาวบ้านเขา


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #287 เมื่อ13-02-2009 12:57:51 »

จ้าสันต์เห็นผมซื้อขนมมากมาย ก็แกล้งแซวว่าผมจะเปิดร้านขายขนมหรือไง ผมหัวเราะแล้วบอกว่าจะซื้อไว้เป็นของฝากชาวบ้านเขา แล้วย้อนถามมันว่าไม่ซื้ออะไรให้ใครบ้างเลยหรือ มันบอกว่าของหวานกับมันไม่ค่อยถูกโรคกัน เอาไว้ไปถึงชุมชนเครื่องปั้นดินเผา ค่อยซื้อของกระจุ๊ก กระจิ๊กแต่งบ้านให้ดีกว่า แต่เลือกให้เฉพาะคนที่สมควรได้เท่านั้น ผมเลยด่ามันว่าไอ้งก เงินเดือนก็มากมาย ยังจะมาขี้ตืดกับเด็กในฝ่ายอีก มันก็หัวเราะบอกว่า เงินมันมีเอาไว้สำหรับใช้ส่วนตัวเท่านั้น เรื่องอื่นมันไม่สน

คุณแคทกับอรจิราได้ขนมกันมาคนละ 3-4 ถุง พอเห็นผมถือถุงใส่ขนมมากมาย อรจิราก็ทำตาโต แซวผมว่าช๊อปปิ้งเก่งยิ่งกว่าผู้หญิงอีก ผมได้แต่ยิ้มไม่พูดว่าอะไร เบื่อจะต้องมานั่งอธิบายในสิ่งที่ตัวเองทำ ใครอยากจะเข้าใจว่าอย่างไรก็เชิญ

เรือจอดให้เราพักซื้อขนมนานพอสมควร ผมเลยเดินไปนั่งพักตรงท่าน้ำ รอให้เขาเรียกขึ้นเรือ ตรงที่ผมนั่งอยู่สามารถมองเห็นเดียร์ได้ด้วย คุณแคทสบโอกาสที่เห็นผมอยู่คนเดียว จึงเดินเข้ามานั่งใกล้ๆผม เนื่องจากเวลามีน้อย เธอไม่พูดพล่ามทำเพลง โพล่งเข้าเนื้อเรื่องเลย

เธอขอคำปรึกษากับผมว่า จะทำอย่างไรดี เรื่องแฟนของเธอ ตอนแรกคิดว่าน่าจะไปได้สวย เพราะว่าเขาหึงหวง และกลับมาหาเธอ ทว่ามีความสุขได้แค่ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว เขาก็ทำท่าจะตีจาก เพราะเมียของเขารู้เรื่อง

คุณแคทไม่ได้เอ่ยชื่อของคนที่เกี่ยวข้องด้วย ถึงผมคันปากอยากจะพูดออกไป แต่ในเมื่อเธอไม่ยอมรับออกมา ผมก็จะไปกล่าวหาเธอไม่ได้ จึงได้แต่ให้คำแนะนำกลางๆไปว่า ความรักของเธอมีอุปสรรคตรงที่ฝ่ายชายแต่งงานและมีลูกแล้ว ความผูกพันธ์ที่มีอยู่ย่อมมากกว่า

ดูท่าเธอจะไม่ค่อยพอใจกับคำแนะนำของผมนัก ทำท่าจะคุยต่อ แต่ถูกเรียกให้ขึ้นเรือเสียก่อน ผมเลยไม่ต้องฟังคำพร่ำพรรณาของเธอ ตอนนี้ผมไม่ค่อยอยากจะช่วยเธอสักเท่าไหร่ เพราะไม่อยากไปทำร้ายครอบครัวของคนอื่น

เดียร์เห็นผมถือของมากมาย เลยกุลีกุจอมาช่วยเหลือ จังหวะหนึ่งที่มือของเราแตะกันโดยบังเอิญ ความอบอุ่นจากมือของเดียร์แผ่นซ่านเข้ามาสู่มือของผม แม้จะเพียงแค่สัมผัสผิวเผินเท่านั้น ผมเงยหน้าขึ้นมองเดียร์ ตาของเราประสานกัน

ผมยิ้มให้เด็กหนุ่ม ซึ่งเขาก็ยิ้มให้ผมอย่างอ่อนหวาน พอผมละสายตาจากเดียร์หันไปทางเพื่อนๆในกลุ่ม ก็เห็นทุกคนจ้องมองผมกับเดียร์อยู่ก่อนแล้ว แววตาของแต่ละคน ครุ่นคิดกับภาพที่เห็นแตกต่างกันออกไปจนผมรู้สึกได้

“แหม เมื่อกี้นี้ เป็นช๊อตที่หวานน่าดูเลยนะคะ เหมือนกับเป็นคู่รักกันเลย”

แฟนเก่าของผมพูดพลางยิ้มเยาะ ศักดิ์ชายหน้าแดงก่ำ เม้มริมฝีปากแน่น มองผมด้วยแววตาโกรธเคือง คุณแคททำหน้าเฉยๆ มีแค่รอยยิ้มบางๆระบายบนใบหน้าเท่านั้น ส่วนเจ้าสันต์เพียงแค่ยักไหล่ แต่แล้วปากคันๆของมันก็อดรนทนไม่ได้ ต้องพูดแหย่อรจิราขึ้นมา

“อิจฉาหรือครับ คุณอร หาคนมาทำหวานด้วยแบบนี้ไม่ได้หรือไง ได้ข่าวว่าช่วงนี้โสดสนิทไม่ใช่เหรอ แฟนไม่มาหรือแฟนไม่มีอ่ะ”

อรจิราค้อนขวับ ที่เจ้าสันต์พูดจี้ใจดำ ใครๆเขาก็พูดกันไปทั่ว ว่าอรจิรากับคุณอนันต์เลิกกันแล้ว ตอนนี้คุณอนันต์ไปเมืองนอก อีกหลายเดือนกว่าจะกลับ มันเลยทำให้ข่าวนี้น่าเชื่อถือขึ้น


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #288 เมื่อ13-02-2009 12:58:22 »


“ไม่ได้อิจฉาหรอกค่ะ แค่สังเกตเห็นว่า คุณเรียวกับเพื่อนดูจะสนิทสนมรู้ใจกันเป็นพิเศษ เกินกว่าจะเป็นเพื่อนกันอีกค่ะ ท่าทางจะรักกันดี ที่พูดนี่ชื่นชมนะคะคุณสันต์ อรไม่ได้ว่าอะไรนะ”

เจ้าสันต์แค่นยิ้ม มันเดินมาหาผม แล้วแทรกกลางระหว่างผมกับเดียร์จากนั้นมันก็โอบไหล่ผม ตอนแรกผมก็งงว่ามันมากอดผมทำบ้าอะไร ร้อนก็ร้อน อายคนด้วย แต่พอมันพูดผมจึงถึงบางอ้อ เข้าใจทันทีว่ามันต้องการช่วยผมนั่นเอง

“ครับผมรู้ อรก็แค่สงสัย แต่อรก็ไม่เคยถามไง เหมือนเมื่อก่อนที่ผมสนิทกับเรียว ไปไหนด้วยกัน กอดกันแบบนี้ อรก็ยังเอาไปคิดได้ว่าเราเป็นแฟนกันไง ใช่ไหมเรียว”

อรจิราหน้าแดงก่ำ เมื่อได้ยินเจ้าสันต์ขุดคุ้ยความหลังขึ้นมาพูด

“มันเหมือนกันที่ไหนกันละคะ คุณสันต์ ตอนนั้นมันอาจจะไม่ใช่ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันอาจจะเปลี่ยนแปลงแล้วก็ได้ ใครจะรู้จริงไหมคะเรียว”

ท้ายประโยคหันมาย้อนถามผม สีหน้าและแววตาท้าทาย ผมผงกหัวให้อรจิรา รู้สึกเซ็งๆที่คนรักเก่าหาเรื่องลากผมเข้าไปเกี่ยวด้วยจนได้

“ครับ คงงั้นมั๊ง บางที เราอาจจะเริ่มคิดได้ ว่าใครกันที่ทำให้เรามีความสุข ดีกับเราเสมอต้นเสมอปลาย ไม่เคยทิ้งเราในยามยาก และไม่จ้องทำลายเราด้วยน่ะครับ อรล่ะ เคยมีใครที่อรอยากจะดีกับเขาแบบนี้บ้างหรือเปล่า คนที่เราพร้อมจะทิ้งทุกอย่างเพื่อเขา แม้แต่การเปลี่ยนแปลงนิสัยที่ไม่ดีของตัวเอง ลองหาดูสักคนนะครับ มันช่วยทำให้ชีวิตเราดูมีค่ากว่าเดิมนะ”

อรจิราหน้าซีด แล้วก็แดงก่ำ ตามองผมอย่างเคียดแค้น ผมเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองสบตา กลัวจะใจอ่อน อันที่จริงเมื่อพูดเหน็บอรจิราออกไปแล้ว ก็ใช่ว่าผมรู้สึกดี ผมไม่ชอบมีเรื่องกับใคร หรือพูดจาทำให้คนอื่นเสียใจ แต่เมื่อกี้มันอดรนทนไม่ไหวจริงๆ เลยจำเป็นต้องโต้ตอบอรจิราบ้าง เธอจะได้หยุดพฤติกรรมที่ไม่ดีเสียที

“เฮ้ย เมื่อกี้หูฉันฝาดไปหรือเปล่าล่ะ คนที่ใจเย็นเป็นน้ำแข็งขั้วโลกอย่างนาย กลับร้อนเป็นไฟราวภูเขาที่มีลาวาเดือดอยู่ข้างใต้ นายโต้ตอบยายอร เจ๋งไปเลยว่า สงสัยคราวนี้หน้าคงชา กลบความหน้าด้านของตัวเองไปเลย”

สันต์ซึ่งนั่งเลือกที่จะนั่งอยู่ข้างๆผม หลังจากที่เราขึ้นเรือเรียบร้อยกล่าวชม ท่าทางสะใจที่ผมเล่นงานอรจิราได้ ตามปกติ มันชอบด่าว่าผมเป็นไอ้ซื่อบื้อ ปล่อยให้แฟนเก่าเล่นงานอยู่ได้ข้างเดียว โดยที่ตัวเองทำตัวเป็นพ่อพระไม่เอาเรื่อง มันยุอย่างไรก็ไม่ขึ้น

ผมไม่เคยโต้ตอบอรจิราเลยสักครั้ง ผมบอกมันว่าไม่อยากทำร้ายผู้หญิงซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นแฟนเรา มันก็ค่อนขอดหาว่าผมมัวแต่ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษอยู่ได้ ผู้หญิงบางคนก็แย่เกินกว่าที่จะได้รับการเทคแคร์ดีๆจากพวกผู้ชาย เพราะพวกเธอทำตัวร้ายกาจเลยทำให้ผู้ชายเข็ดขยาด กลายเป็นเกย์กันไปหมด


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #289 เมื่อ13-02-2009 12:58:48 »

ผมไม่ตอบมัน ไม่หลงเชื่อไปกับคำยุยง ถึงอย่างไรผมก็ไม่อยากทำให้อรจิราเจ็บมากนัก ผมยังคงคิดว่าผู้ชายควรจะหนักแน่น และให้เกียรติผู้หญิงบ้าง เมื่อผมไม่พูดอะไร ต่างคนก็ต่างนิ่งเงียบ และให้ความสนใจไปกับทิวทัศน์ บ้านมอญขวาง ซึ่งเป็นบ้านที่ปลูกขวางแนวแม่น้ำเรียงรายกันอยู่ค่อนข้างหนาแน่นเต็มไปหมด

พอเรือจอดเทียบท่าที่วัดปรมัยยิกาวาส พวกเราก็พากันขึ้นจากเรือเพื่อเดินเท้าไปชมหมู่บ้านช่างปั้น ซึ่งมีชื่อเรียกว่าบ้านกวานอาม่าน จะเป็นชุมชนที่ยึดอาชีพ ปั้นเครื่องปั้นดินเผาเพื่อเลี้ยงชีพ ซึ่งที่นี่จะเป็นการปั้นแบบมอญโบราณ มีพวกกระถาง แจกัน และภาชนะดินเผารูปทรงแกะสลักสวยงาม

มีตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ เดียร์เลือกซื้อพวกโมบายรูปทรงแปลกๆ ที่จะเอามาห้อยให้ลมมันพัด เขาเคยบอกว่าเสียงของมันดังกรุ๋งกริ๋งน่าฟังดี นอกจากนี้เดียร์ยังควักเงินตัวเองซื้อพวกรูปปั้นดินเผารูปทรงแปลกๆไว้ตั้งหลายชิ้น

แดดค่อนข้างร้อนมาก เพราะเป็นเวลาบ่ายแล้ว พวกผู้ชายอย่างเราไม่ค่อยกลัวแดด เดินได้อย่างสบาย ในขณะที่อรจิรากับคุณแคทต้องคอยวิ่งไปหลบแดดใต้ชายคาเป็นระยะ เจ้าสันต์ถูกอกถูกใจพวกแจกัน และอ่างน้ำเป็นพิเศษ มันกำลังอยากได้ของแต่งบ้านอยู่พอดี แต่เนื่องจากว่าการขนย้ายลงเรือจะทำได้ลำบาก เพราะมาคนเดียว มันจึงซื้อไปเฉพาะกระถางสวยๆเท่านั้น ช่างปั้นที่นี่ฝีมือดีทีเดียว

เราเดินเยี่ยมชมไปเรื่อยๆ ไม่นานก็รู้สึกหิวกัน เพราะตั้งแต่เช้า ยังไม่มีใครได้ทานอาหาร จึงพากันสอดส่ายสายตาหาร้านอาหารที่พวกเราจะนั่งพักรับประทานข้าวมื้อกลางวันกัน เนื่องจากเกาะเกร็ด จะเป็นชุมชนที่อยู่กลางแม่น้ำ จึงมีร้านค้าส่วนหนึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำ

เราเลือกได้ร้านที่เหมาะ น่านั่ง ลมเย็นพัดสบาย มีอาหารให้เลือกซื้อหลายอย่าง ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารพื้นเมือง ผมเดินไปดูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง เดียร์ซึ่งหายไปคุยกับแม่ค้าพ่อขาย เดินเข้ามาหา และชี้ชวนให้ผมลองกินอาหารที่ทำจากหน่อกะลา เขาบอกว่าเป็นอาหารแนะนำขึ้นชื่อ เมื่อมาถึงแล้วต้องหากินให้ได้

หน่อกะลาเป็นพืชชนิดหนึ่ง คล้ายๆกับต้นข่า เขาว่ากันว่ามีสรรพคุณเหมือนเป็นยาที่ช่วยขับลมและแก้ร้อนในได้ มีอาหารที่ทำจากหน่อกะลามากมาย เดียร์กับผมเลือกซื้อ หน่อกะลายำ ห่อหมกหน่อกะลา น้ำพริกเผาทอดมันหน่อกะลา และต้มข่าไก่หน่อกะลามากิน

เจ้าสันต์ขอร่วมวงด้วย เพราะมันขี้เกียจเลือก คุณแคทก็เอาตามอย่างบ้าง อรจิราซึ่งกินยาก และไม่ค่อยเข้าพวกกับใคร เลือกกินข้าวแช่ เพื่อคลายร้อน ส่วนศักดิ์ชายทานก๋วยเตี๋ยวเรือ กับขนมจีนน้ำยา

เด็กหนุ่มซื้อกาแฟเย็นมาให้ผมทานด้วย ซึ่งบรรจุอยู่ในภาชนะดินเผามีหูหิ้ว สามารถนำกลับบ้านได้ นอกจากนี้เขายังซื้ออาหารว่างพวกไก่โสร่ง ถุงทองมาให้ผมทานอีก การเอาใจใส่ที่เดียร์มีต่อผม อยู่ในสายตาของศักดิ์ชายและอรจิราที่จ้องมองมา

เพื่อนเก่าของผมคงทนไม่ได้ที่เห็นเด็กหนุ่มดูแลผมอย่างดี เลยแซวขึ้นมาว่า ผมคงทานข้าวได้มากกว่าคนอื่นๆ เพราะมีคนเอาใจไม่ห่าง เจ้าสันต์หัวเราะก๊าก ตอกหน้าศักดิ์ชายชนิดที่ผมก็อายแทน มันย้อนถามไปว่า ศักดิ์ชายต้องการเปลี่ยนคนที่จะเอาใจผมหรือเปล่า มันอยากจะมาทำหน้าที่นี้แทนเดียร์ใช่ไหม ศักดิ์ชายนิ่งเงียบ ทำหน้าบอกบุญไม่รับ คงโมโหที่สันต์รู้ทัน แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
« ตอบ #289 เมื่อ: 13-02-2009 12:58:48 »





anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #290 เมื่อ13-02-2009 12:59:31 »

ทานข้าวกันอิ่มแล้ว พวกเราก็เดินย่อยอาหารด้วยการเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ นายเดียร์ของผมดูจะให้ความสนอกสนใจเป็นพิเศษกับข้าวของที่ขายอยู่ตามร้านรวงสองข้างทาง บางร้านขายขนมที่เราเคยเห็นกันในสมัยก่อน แต่ปัจจุบันไม่ค่อยได้เห็นนักในกรุงเทพ มีของเล่นด้วย

เดียร์เดินไปหยุดอยู่ที่ร้านขนมโบราณย้อนยุค มีขนมจำพวกกิมจ๊อ เยลลี่กระดาษสี ลูกอมไข่รสส้ม และขนมฝรั่งกุฎีจีน ของพวกนี้ผมเคยกินสมัยยังเป็นเด็กๆ แล้วก็ไม่เคยเจออีกเลย พอเห็นอีกทีก็อดไม่ได้ที่จะหวนรำลึกถึงวันเก่าๆ

คุณแคทท่าทางสนอกสนใจไม่น้อย เธอเป็นพวกลูกคนรวย กินแต่ของนอกราคาแพง พอมาเจอขนมแปลกๆแบบนี้ก็อดถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกไม่ได้ พออรจิราเห็นคุณแคทเอากล้องขึ้นมาถ่าย เธอก็เอามือถือของเธอขึ้นมาบ้าง หากแต่โฟกัสคงไม่ได้อยู่ที่ขนม แต่เป็นผมกับเดียร์ที่กำลังเลือกของอยู่หน้าร้าน แต่เอาเถอะ อยากจะถ่ายก็ถ่ายไป ผมไม่ได้ทำอะไรผิด และผมก็ไม่คิดจะปิดบังอีกต่อไปแล้ว มันทรมานความรู้สึกของตนเอง

หลังจากเดินกันอย่างเพลิดเพลิน เข้าซอกนั้นซอยนี้เพื่อเยี่ยมชมบ้านของชาวมอญ เลือกหาซื้อของฝากจำพวกเครื่องปั้นดินเผาและงานไม้ พวกเราก็เดินไปที่ท่าเรือเตรียมตัวกลับ ผมซื้อของมากมายหอบกันพะรุงพะรังสองคนกับเดียร์ ไหนๆก็มาแล้ว ไม่อยากเสียเที่ยว

นี่ถ้าเอารถมาได้ ผมคงจะขนไปมากกว่านี้ แต่แค่นี้ก็ทำให้ถูกแซวจากเพื่อนๆในกลุ่มแล้ว โดยเฉพาะศักดิ์ชายที่ค่อนขอดผมว่า ดูเหมือนผมจะมีความสุขกับการเที่ยวครั้งนี้มากกว่าคนอื่นๆนะ ทั้งๆที่ร้อนๆก็ร้อนเหนื่อยก็เหนื่อย

ผมก็เลยย้อนมันไปว่า ผมตั้งใจจะมาเที่ยว ก็ต้องทำตัวให้สนุก พวกเจ้าศักดิ์ขอตามมาเอง ผมก็บอกแล้วว่า พวกมันอาจจะไม่ชอบก็ได้ แต่ในเมื่อขอตามมาแล้ว ก็อย่าบ่นให้มาก พอผมโต้ตอบศักดิ์ชายออกไปทีไร เจ้าสันต์ก็หัวเราะก๊ากด้วยความสะใจทุกที

เรือมารับพวกเราแล้ว ผมให้พวกสาวๆลงเรือไปก่อน ส่วนผมลงตามเดียร์ไปติดๆ เพราะเราสองคนถือของเยอะแยะ และเดียร์จะคอยช่วยผมรับของต่ออีกที เจ้าสันต์กับศักดิ์ชายลงเรือมาเป็นคู่สุดท้าย บรรยากาศตอนขากลับต่างกับตอนขามาตรงที่ แดดเริ่มอ่อนแสงลงเนื่องจากเป็นเวลาเย็นแล้ว บรรยากาศสองฝากฝั่งแม่น้ำให้ความสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ

เดียร์นั่งอยู่ข้างๆผมทางด้านฝั่งขวา โดยที่เจ้าสันต์นั่งฝั่งซ้ายมือเป็นตัวกันคนอื่นๆ ศักดิ์ชายนั่งต่อจากเจ้าสันต์ตามด้วยอรจิราและคุณแคท ผมกับเจ้าสันต์แอบยิ้มให้กันอย่างสะใจ ที่แกล้งพวกนี้ได้สำเร็จ พรุ่งนี้คงได้เมื่อยตัว ปวดขากันเป็นแถว อยากตามกันมาดีนัก ความอยากรู้อยากเห็นทำให้ตัวเองได้รับความเดือดร้อนโดยแท้

อรจิราดูจะหงุดหงิด กระสับกระส่ายมากกว่าคนอื่น เธอคงร้อนและเบื่อที่ต้องมาเดินหลายชั่วโมง แล้วไหนจะหอบถุงขนมหลายถุง ซึ่งหนุ่มสองคนก็ไม่ยอมมีน้ำใจช่วยถือ แฟนเก่าของผมแต่งตัวในสภาพที่ไม่พร้อมจะมาลุยด้วย เพราะเธอใส่เสื้อผ้าบางเบาแขนกุด กางเกงยีนส์ขาสามส่วนแล้วก็รองเท้าส้นสูงซึ่งเหมาะจะไปเดินห้างมากกว่าที่จะเดินอยู่ในชุมชนโบราณแห่งนี้

แถมซ้ำเธอกับคุณแคทยังถูกคนมองเนื่องจากสวยด้วยกันทั้งคู่ คุณแคทพึงพอใจที่คนอื่นมองเธออย่างชื่นชม แต่อรจิรากลับรู้สึกไม่พอใจ และแสดงอาการออกมาให้เห็น

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2009 13:05:38 โดย ไต๋ »

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #291 เมื่อ13-02-2009 13:00:08 »

เรือเทียบท่าแล้ว ผมกับเดียร์ขึ้นไปก่อน เพื่อที่จะเอาของไปวางไว้ข้างบน ก่อนที่จะมาช่วยฉุดสาวๆให้ขึ้นจากเรือ ในขณะที่อรจิรากำลังจะก้าวขึ้นมานั้น เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าเธอเดินจนขาอ่อนแรง หรือเพราะความไม่ระมัดระวังกันแน่

จังหวะที่จะก้าวจากเรือมาขึ้นบนสะพาน ตรงท่าน้ำ เรือกับท่ามีช่องว่างห่างกันพอสมควร คนขับเรือพยายามจะจอดเทียบให้ชิดกับท่ามากที่สุด แต่อรจิราซึ่งกำลังหัวเสียไม่ยอมรอ ก้าวเร็วไปหน่อยเหมือนจะกระโดดให้พ้น แต่ลืมไปว่าตัวเองใส่ส้นเข็มอยู่ จึงลื่นพรืด แล้วเสียหลักกลิ้งตกน้ำไป ท่ามกลางความตื่นตะลึงของผู้โดยสารที่อยู่ในเรือและอยู่บนฝั่ง

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่ใครจะคาดคิด ผมหันมาเห็นพอดี ด้วยความตกใจ และเป็นห่วงอรจิรา ซึ่งจมหายลงไปใต้ผืนน้ำที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะของคลี่นจากเรือลำอื่นๆที่วิ่งไปมา ผมฝากมือถือและกระเป๋าเงินให้เดียร์ซึ่งกำลังยืนงง และกระโจนลงไปในน้ำทันที

มีเสียงตูมตามหลังมา เดียร์นั่นเองที่ลงมากับผมด้วย ที่จริงผมรู้ว่าเขาไม่ได้มาช่วยอรจิรา แต่เขาห่วงผมมากกว่า เราสองคนมองหน้ากัน ไม่พูดอะไรมากมาย แค่มองตาก็รู้ว่าเราจะทำอะไรต่อไป ผมดำลงไปในน้ำ พยายามมองหาอรจิรา

แต่น้ำก็ขุ่นมากเหลือเกิน ว่ายน้ำก็ไม่คล่องตัวเท่าไหร่ เพราะผมลงมาทั้งเสื้อผ้าและรองเท้า ซึ่งก็ถ่วงพอสมควร ผมทะลึ่งพรวดขึ้นมาหายใจเหนือน้ำ ก็เห็นเดียร์ขึ้นมาก่อนแล้ว แต่ไม่มีอรจิราอยู่กับพวกเราคนใดคนหนึ่ง เราสองคนตัดสินใจดำลงไปใหม่ แล้วว่ายไปเลยฝั่งออกไปอีก เผื่อว่าน้ำจะพัดอรจิราไปไกล

ดำลงไปพักหนึ่ง แต่ผมก็ไม่เจออะไร พอโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ผมก็เห็นเด็กหนุ่มหาอดีตคนรักของผมเจอพอดี เดียร์เอามือล็อคคอของอรจิราลากเข้าฝั่ง โดยพยายามประคองหน้าให้เธอเงยหงายขึ้นพ้นน้ำเพื่อให้หายใจได้ มีคนมายืนอออยู่บนสะพาน เพื่อดูเหตุการณ์จำนวนมาก มีพวกเพื่อนร่วมงานของผมยืนอยู่ด้วย สันต์ก้มลงเอื้อมมาฉุดอรจิราซึ่งสลบไสลขึ้นไป จากน้ำ โดยมีศักดิ์ชายช่วยอีกแรง ส่วนเดียร์คอยดันอยู่ในน้ำ พอดึงอรจิราขึ้นไปได้แล้ว เดียร์กับผมก็จึงค่อยตามขึ้นไป

สันต์อุ้มอรจิรามาวางไว้บนที่นั่งตรงศาลาที่พัก เพื่อไม่ให้เกะกะทางขึ้นลง และช่วยกันปฐมพยาบาลอรจิราให้ฟื้นคืนสติ แต่ยังไม่มีทีท่าว่าเธอจะรู้สึกตัว พอผมเดินเข้ามาเจ้าสันต์ก็บอกว่าคงต้องผายปอด แต่ทั้งสันต์และศักดิ์ชายไม่มีใครยอมประกบปากช่วยเหลือเธอ

เจ้าสันต์นั้นรู้กันอยู่ว่ามันรังเกียจที่จะแตะต้องผู้หญิง ส่วนศักดิ์ชายผมไม่ทราบเหตุผล เดือดร้อนถึงผมซึ่งกระโดดลงไปช่วยอรจิราในน้ำ และยังต้องทำให้เธอฟื้นขึ้นมาอีก

อรจิราฟื้นขึ้นมาหลังจากที่ผมผายปอดให้กับเธอ ทันทีที่ลืมตาขึ้นมาเห็นผม เธอก็ทำตาโต และพอลำดับความได้ว่าเกิดอะไรขึ้น อรจิราก็ผวาลุกขึ้นแล้วกอดผมไว้แน่น ร่ำไห้สะอึกสะอื้นเหมือนคนขวัญเสีย ท่าทางจะตกใจมากกับเหตุการณ์เมื่อครู่

ผมเลยต้องกอดเธอเพื่อเป็นการปลอบโยนให้หยุดร้อง สายตาของผมเหลือบแลไปทางเดียร์ เห็นเขาจ้องมองผมและอรจิราอย่างเคืองๆ พอเห็นว่าผมมองเขาอยู่ หนุ่มน้อยของผมก็เมินหน้าหนีไปทางอื่น เขาคงไม่อยากเห็นผมกอดกับใครนอกจากเขา

แต่เด็กหนุ่มก็แสดงความหึงหวงออกมาไม่ได้ อีกอย่างนี่ไม่ใช่การกอดกันในเชิงชู้สาว ผมแค่ทำให้อรจิราหายจากอาการช๊อคที่เธอพลาดตกลงไปในน้ำเท่านั้น ถึงแม้เนื้อตัวเธอจะเปียกปอน แนบชิดอยู่กับตัวผม แต่ก็ไม่มีอิทธิพลพอที่จะสร้างความปั่นป่วนให้ผมแต่อย่างใด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2009 13:06:18 โดย ไต๋ »

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #292 เมื่อ13-02-2009 13:00:52 »

หลังจากปลอบโยนให้เธอหยุดร้องไห้ได้แล้ว เราก็ตกลงใจที่จะพากันกลับบ้าน เดิมทีอรจิรามากับศักดิ์ชาย แต่หลังจากเธอตกน้ำตัวเปียกปอน ศักดิ์ชายก็ทำท่าอิดออดขึ้นมา เป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่าศักดิ์ชายเป็นคนหวงรถของเขามาก ดูแลรักษาเป็นอย่างดี ถ้ามีอะไรมาขีดข่วนรถของเขา เพื่อนผมจะบ่นไม่ยอมหยุด พอเห็นมันทำหน้ายุ่งยากใจ ผมเลยอาสาที่จะขับรถไปส่งอรจิราที่บ้าน เนื่องจากผมรู้จักทางไปบ้านเธอเป็นอย่างดี

คุณแคทคืนมือถือและกระเป๋าสตางค์ที่เดียร์ฝากไว้ตอนกระโจนลงน้ำไปให้ ก่อนแยกจากกันเธอพูดให้ผมได้ยินกันสองคนว่า เดียร์น่ารักจริงๆ เขาห่วงผมมาก ทันทีที่ผมกระโจนลงไป เดียร์ก็ฝากของไว้แล้วกระโจนตามลงไปทันที จะหาใครที่จริงใจกับผมเท่าเขาไม่มีอีกแล้ว และขอให้ถนอมความรักนี้ไว้นานๆนะ

ผมรู้สึกแปลกใจที่คุณแคทพูดแบบนี้ แสดงว่าเธอเองก็รู้ว่าเดียร์กับผมคบกันอยู่ แต่เธอก็ยังมาใช้ผมเป็นเครื่องมือโดยเอาเรื่องเดียร์มาอ้างนี่นะ เธอคิดอะไรของเธอกันนะ

ตอนที่ผมไปส่งอรจิรา เดียร์นั่งรถไปกับผมด้วย เขานั่งข้างหลัง โดยให้อรจิรานั่งข้างหน้า แอร์ที่เย็นฉ่ำ ทำให้เธอหนาวสั่น ผมจึงเอาเสื้อสูทที่แขวนอยู่ในรถให้เธอห่มเพื่อให้คลายหนาวจากนั้นก็ปรับเบาะเอนลงให้เธอนั่งสบายๆ คนรักเก่าของผมกล่าวขอบคุณ จากนั้นก็นั่งเงียบๆ ไม่พูดคุยหรือแขวะผมเหมือนเคย ทำให้ผมไม่เสียสมาธิมากขณะขับรถไปส่งเธอ

พอถึงบ้านของอรจิรา ผมก็ประคองเธอเข้าไปข้างใน โดยที่เดียร์นั่งรออยู่ในรถ อรจิราขอให้ผมไปส่งเธอที่ห้องนอน ตอนแรกผมปฏิเสธ แต่พอเห็นหน้าซีดๆคล้ายจะเป็นลมของเธอ ก็รู้สึกสงสาร กลัวว่าหากผมก้าวออกจากบ้านไป แล้วเกิดเธอเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมา ใครจะอยู่ดูแลเธอ

ใหนๆก็ช่วยกันมาขนาดนี้แล้ว ก็ทำให้มันเสร็จจนเธอดูแลตัวเองได้ก่อนก็แล้วกัน เธอเองก็เคยเป็นแฟนผมมาก่อน ช่วงเวลาที่เคยดีด้วยกันมันก็ยังไม่จางหายไปไหน เลิกกันแล้ว ผมก็อยากให้เรายังคงเป็นเพื่อนกันอยู่ แม้ว่าเธอจะเห็นผมเป็นศัตรูก็ตาม

อรจิราพักอยู่คนเดียวในบ้านทาว์เฮ้าส์สองชั้น เดิมที เธอพักอยู่กับแม่ แต่ตอนหลังมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน แม่ของเธอก็เลยหนีกลับไปบ้านนอก จนป่านนี้ก็ยังไม่ยอมกลับมาอยู่ด้วย อรจิราเป็นฝ่ายไปเยี่ยมซึ่งก็นานๆครั้ง ถึงจะไป เธอมีแม่บ้านที่คอยดูแลทำความสะอาดให้ แต่จะเป็นแบบไปกลับ

เพราะอรจิราไม่ชอบความวุ่นวาย และไม่ชอบอยู่ร่วมกับคนใช้ กลัวจะถูกตีเสมอ เธอจึงใช้ชีวิตตัวคนเดียว อย่างน่าสงสาร ตอนที่เป็นแฟนกับคุณอนันต์ก็ได้ข่าวว่าย้ายข้าวของไปอยู่ด้วยกันกับเขา แต่ตอนนี้เธอกลับมาอยู่บ้านแสดงว่าข่าวลือที่ว่าเธอกับคุณอนันต์เลิกกันนั้นเป็นจริงอย่างไม่มีข้อสงสัย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2009 13:06:53 โดย ไต๋ »

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #293 เมื่อ13-02-2009 13:01:20 »


ผมประคองอรจิราซึ่งตัวสั่นระริกด้วยความหนาวเข้าไปในห้องนอนของเธอ ห้องนี้ผมเคยมานอนค้างสมัยที่เราเป็นแฟนกัน ทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก

อรจิราเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แพงๆประดับตกแต่งห้อง เครื่องเรือนเก่าๆสมัยที่เราเคยใช้อยู่ด้วยกันถูกขายเกลี้ยงหลังจากที่ผมแยกทางกับอรจิรา นัยว่าคนรักเก่าของผมไม่อยากเก็บความทรงจำระหว่างเราเอาไว้ ไม่อยากเห็นมันให้แสลงใจ เธอต้องการลืมผม ไม่อยากข้องเกี่ยวกันต่อไป

ผมตามใจเธอ โดยไม่ร้องขอส่วนแบ่งทั้งๆที่เฟอร์นิเจอร์บางอย่างผมเป็นคนซื้อ แต่ผมก็ให้เธอจนหมด ไม่เอาแม้แต่สตางค์แดงเดียว อย่างน้อยๆเธอควรจะได้อะไรบ้างเป็นการตอบแทน

ผ้าขนหนูสีขาวที่ผมเจอแขวนอยู่ในห้องน้ำ ถูกนำมาให้อรจิราเพื่อเช็ดเนื้อตัวและผมเผ้าให้แห้งสนิท ผมขอตัวกลับ เพื่อให้อรจิราได้เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวและนอนพักผ่อน ขณะที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้อง อรจิราก็โผเข้ากอดเอวผมไว้และซุกหน้าลงกับแผ่นหลังของผม กริยาอาการของอรจิราทำให้ผมตกใจ รีบแกะไม้แกะมือออก แต่เธอไม่ยอมปล่อยผมง่ายๆ

“อร ปล่อยผมก่อน ทำไมถึงทำแบบนี้”

“ไม่ปล่อยหรอกค่ะ เรียว อร อยากทำแบบนี้มานานแล้ว อร...อรคิดถึงคุณมากรู้ไหมคะ”

คำพูดของแฟนเก่าทำให้ผมถึงกับอึ้ง นี่จะมาไม้ไหนกันอีกล่ะ อรจิราทำแบบนี้กับผมทำไม มีแผนอะไรหรือเปล่า ผมรีบมองไปรอบห้อง มองหากล้องว่ามีการแอบซ่อนไว้ตรงไหนบ้าง เธอพูดว่าคิดถึงผม มันออกมาจากใจจริงๆ หรือต้องการกลั่นแกล้งแบล็คเมล์กันแน่

เป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อเธอเองก็มีแฟนอยู่แล้ว และแถมซ้ำเธอก็หาเรื่องผมอยู่ตลอดเวลา เจ้าสันต์บอกว่าเธอยังรักผมอยู่ ผมเองก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะถ้ารักแล้วทำไมถึงจ้องทำลายผมนัก เมื่อตอนกลางวันก็แขวะผมไปตั้งหลายครั้ง มาตอนนี้จะมาบอกว่าคิดถึงผม อะไรคือเรื่องจริง อะไรคือสิ่งลวงกันแน่

“อร คุณคงไม่ได้ตกน้ำจนเพี้ยนไปหรอกนะ ถ้ายังมีสติอยู่ล่ะก็ ปล่อยเอวผมนะ เราทำแบบนี้มันไม่ดีหรอก เดี๋ยวใครจะนินทาว่าร้ายเอาได้”

ผมพูดเตือนสติอรจิรา แต่นอกจากเธอจะไม่ฟังแล้ว ยังพยายามจะลากผมไปยังเตียงนอนให้ได้ ผมพยายามผลักเธอออกเบาๆ ไม่อยากใช้ความรุนแรง แต่ดูเหมือนยิ่งผลักอรจิราก็ยิ่งเบียดตัวเข้าแนบชิด จนเนื้อตัวนุ่มๆของเธอเสียดสีกับร่างกายของผม

“ช่างปะไร ใครจะว่าก็ว่าไปสิ อรเคยเป็นแฟนคุย เรามีอะไรด้วยกันมาก่อน เรียวเคยรักร่างกายนี้ เคยสัมผัส เคยแตะต้องอย่างทะนุถนอม ตอนนี้อรอยากให้คุณสัมผัส ร่างกายของอรอีกครั้ง อยากให้ความทรงจำดีๆในคืนวันเก่าๆของเรากลับคืนมา”

บ้ากันไปใหญ่แล้ว อรจิรา เธอพูดแบบนี้กับผมได้ไง ถ้าเป็นช่วงตอนที่เลิกรากันใหม่ๆ ผมอาจจะโดดเข้าใส่อรจิราด้วยความรู้สึกอยากจะคืนดีใจแทบขาด แต่เวลามันผ่านมาเนิ่นนานแล้ว

ผมผ่านช่วงแห่งความทุกข์ระทมในการไม่มีอรจิราอยู่เคียงใกล้ จนตอนนี้เริ่มจำไม่ค่อยจะได้แล้วว่าเศร้าเสียใจเพียงใด เธอเป็นคนเลือกเองที่จะทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างเรา เพื่อไปหาคนใหม่ที่รวยกว่า ตอนนี้ เธอและเขาแยกทางกัน

อรจิรากำลังจะกลับมาหา และเรียกร้องให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม มันไม่เป็นการอยุติธรรมกับผมไปหน่อยเหรอ ผมไม่ใช่ตัวสำรองของใครนะ จะมาจะไปก็ควรจะนึกถึงใจของผมบ้าง แล้วที่สำคัญตอนนี้ผมไม่เหลือใจให้ใครอีกแล้ว นอกจากนายเดียร์สุดที่รักของผม การนอกใจเขาเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง

“มันจบไปแล้วนะ อร เราไม่มีทางกลับมาเป็นคนรักกันเหมือนเดิมได้อีกแล้ว”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2009 13:07:23 โดย ไต๋ »

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #294 เมื่อ13-02-2009 13:01:50 »

“ไม่หรอกค่ะ เรียว มันเริ่มต้นใหม่ได้ ถ้าหากว่าเรียวยังรักอรอยู่”

น้ำเสียงเด็ดเดี่ยวของอรจิราบ่งบอกว่าเธอได้ตัดสินใจอย่างแน่แน่วแล้วที่จะสานสัมพันธ์กับผมต่อ

“เป็นไปไม่ได้หรอก คุณเองก็มีแฟนใหม่แล้ว คุณอนันต์จะว่าอย่างไร แค่คุณมาทำแบบนี้กับผม หากเขารู้เข้าคงจะเสียใจแย่”

ชื่อของคุณอนันต์ที่ผมกล่าวขึ้นมาหวังให้เธอหยุดพฤติกรรมการนอกใจคนรัก มีอิทธิพลพอที่จะทำให้อรจิราถึงกับชะงัก เธอเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนจะพูดด้วยเสียงสั่นเครืออย่างน่าสงสาร

“เราเลิกกันไปแล้วค่ะ มันมีอะไรบางอย่างที่ไปกันไม่ได้ ต้องขอโทษคุณด้วยนะคะเรียว ที่อรทิ้งคุณอย่างไม่เห็นค่า ตอนนี้น้อยรู้แล้วว่าคุณมีความหมายต่ออรมากมายเพียงไร

ที่อรด่าคุณ แขวะคุณ หรือพูดร้ายต่อคุณ อรทำไปเพราะอรหึงหวง อรยังคงรักคุณอยู่ และไม่อยากเสียคุณให้ใครไป อรจึงทำทุกอย่างเพื่อแยกคุณออกมาจากคนพวกนั้น อรเกือบจะสิ้นหวังแล้วคิดว่าคุณคงไม่หวนกลับมาหาอรแน่ เพราะอรทำกับคุณไว้มาก

แต่วันนี้ ตอนที่คุณกระโดดน้ำลงไปช่วยอร มันทำให้อรรู้ว่าคุณยังรักและห่วงอรมากแค่ไหน ในเมื่อใจเราตรงกัน ก็ไม่น่าจะมีอุปสรรคอะไรในการที่จะคบกันอีกครั้ง ขอเพียงคุณให้โอกาสอร เราก็จะเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน”

แม้จะสงสารเพียงไร แต่ผมก็ไม่ใจอ่อน เจ็บแล้วก็ต้องจำ ถ้าไม่เพราะอรจิราที่ทำกับผมอย่างเจ็บปวด ผมก็คงไม่ต้องเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากต่อการตัดสินใจเหมือนที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ผมเลือกแล้วที่จะเดินไปตามเส้นทางใหม่ โดยมีเดียร์เดินเคียงข้างผมไปตลอด เรื่องระหว่างผมกับอรจิราจบลงไปแล้ว อย่าหวังเสียให้ยากว่ามันจะรื้อฟื้นขึ้นมาได้อีก

“พูดจาไปกันใหญ่แล้วอร ไม่เอาดีกว่า ผมกลับบ้านก่อนแล้วกัน คุณอาจจะยังช็อคอยู่ เลยพูดอะไรไม่รู้เรื่องออกมา เอาเป็นว่าผมไม่ถือสาอรก็แล้วกัน”

ผมแกะมืออรจิราออก แล้วก็หันหลังเดินหนี มีเสียงแคว่กดังมาให้ได้ยิน เหมือนบางสิ่งบางอย่างถูกฉีกทึ้งทำลาย เมื่อผมหันกลับไปมองใหม่ ก็เห็นอรจิรายืนเปลือยอยู่กลางห้อง ในมือถือเศษผ้าขาดรุ่งริ่งซึ่งครั้งหนึ่งมันเคยเป็นเสื้อผ้าที่ห่อหุ้มร่างกายของเธอเมื่อตอนกลางวันนี้

สภาพของอรจิราที่ผมเห็น ทำให้ผมหวนนึกไปถึงละครน้ำเน่าที่คนติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง ฉากที่คุ้นตาในละครส่วนมาก คือฉากที่นางร้ายพยายามยั่วยวนพระเอก เมื่อไม่เล่นด้วยก็ฉีกเสื้อผ้าตัวเอง ร้องโวยวายว่าพระเอปล้ำ หวังว่าอรจิราจะไม่จำมุขดาษดื่นมาใช้กับผม เพราะนี่คือชีวิตจริง ไม่ใช่ละคร

ผมไม่ใช่คนโง่ ที่จะยอมรับผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ เพียงเพราะจำนนต่อหลักฐานเท็จที่ตัวละครร้ายๆสร้างขึ้นมา มันไม่สมเหตุสมผลที่คนเราจะโง่ได้ขนาดนั้น แม้ไม่มีใครรู้เห็นเป็นพยาน นอกจากคนเพียงแค่สองคน แต่การพิสูจน์เจตนาว่าล่วงเกินจริงหรือไม่ มันน่าจะทำได้ง่ายไม่เหลือบ่ากวาแรง เราไม่ต้องรับผิดชอบ และไม่ต้องเข้าคุกอีกด้วย

ก่อนที่ผมจะคิดเลยเถิด โดยใช้มุขจากนิยายมาจินตนาการฟุ้งซ่านไปไกล ผมตัดสินใจหันหลังเดินออกจากห้องทันทีโดยไม่รั้งรอ อรจิราวิ่งตามผมมาติดๆทั้งๆที่ร่างกายไม่มีผ้าผ่อนปกปิดสักชิ้น เธอทุบตีหลังไล่ผม ท่าทางคลั่งแค้นที่ผมไม่ทำในสิ่งที่เธอต้องการ ผมผลักไสเธอพัลวัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2009 13:07:54 โดย ไต๋ »

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #295 เมื่อ13-02-2009 13:02:18 »

สภาพของอรจิราที่ผมเห็น ทำให้ผมหวนนึกไปถึงละครน้ำเน่าที่คนติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง ฉากที่คุ้นตาในละครส่วนมาก คือฉากที่นางร้ายพยายามยั่วยวนพระเอก เมื่อไม่เล่นด้วยก็ฉีกเสื้อผ้าตัวเอง ร้องโวยวายว่าพระเอกปล้ำ หวังว่าอรจิราจะไม่จำมุขดาษดื่นมาใช้กับผม

เพราะนี่คือชีวิตจริง ไม่ใช่ละคร ผมไม่ใช่คนโง่ ที่จะยอมรับผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ เพียงเพราะจำนนต่อหลักฐานเท็จที่ตัวละครร้ายๆสร้างขึ้นมา มันไม่สมเหตุสมผลที่คนเราจะโง่ได้ขนาดนั้น แม้ไม่มีใครรู้เห็นเป็นพยาน นอกจากคนเพียงแค่สองคน แต่การพิสูจน์เจตนาว่าล่วงเกินจริงหรือไม่ มันน่าจะทำได้ง่ายไม่เหลือบ่ากว่าแรง เราไม่ต้องรับผิดชอบ และไม่ต้องเข้าคุกอีกด้วย

ก่อนที่ผมจะคิดเลยเถิด โดยใช้มุขจากนิยายมาจินตนาการฟุ้งซ่านไปไกล ผมตัดสินใจหันหลังเดินออกจากห้องทันทีโดยไม่รั้งรอ อรจิราวิ่งตามผมมาติดๆทั้งๆที่ร่างกายไม่มีผ้าผ่อนปกปิดสักชิ้น เธอทุบตีหลังไล่ผม ท่าทางคลั่งแค้นที่ผมไม่ทำในสิ่งที่เธอต้องการ ผมผลักไสเธอพัลวัน

“ทำอะไรน่ะ อร อย่าเล่นบ้าๆแบบนี้นะ กลับไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย และไปนอนซะ อย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะเหนี่ยวรั้งผมไว้ให้อยู่กับคุณได้

คุณถ่มน้ำลายแล้ว จะกลืนกับเข้าคออีกทำไม จะมาบอกรักผมทำไมตอนนี้ มันสายเกินไปแล้ว ผมไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิมอีกต่อไป แต่ผมยังคงรู้สึกดีกับคุณ เรายังเป็นเพื่อนกันได้ การทำแบบนี้จะทำให้เรามองหน้ากันไม่ติด และเป็นเพื่อนกันไม่ได้อีกต่อไป อรอยากให้มันเป็นแบบนั้นหรือ”

ผมพูดเสียงเข้มใส่เธอ พลางเดินหนีเร็วๆลงบันได แล้วก็ต้องชะงักหยุดนิ่งอยู่ตรงขั้นบันได ที่ข้างล่างตรงห้องรับแขกเดียร์ยืนรีๆรอๆผมอยู่ตรงนั้น เขาคงเห็นว่าเราสองคนหายเข้ามานานมาก เลยเดินเข้ามาดู แต่ไม่กล้าละลาบละล้วงขึ้นไปถึงบนห้อง

เด็กหนุ่มทำตาโตเมื่อเห็นร่างเปลือยของอรจิรา เขามองผมกับแฟนเก่าสลับกันไปมา ใบหน้าแสดงความงุนงงสงสัยปนกับความโกรธขึ้ง เด็กหนุ่มสะบัดหน้าหนี แล้วเดินออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว ผมจะเรียกเขาก็ไม่ทัน อรจิราเดินลงมาถึงตัวผมพอดี แล้วกอดผมทางด้านหน้า เบียดหน้าอกนุ่มกับเรือนกายหอมกรุ่นแนบชิดกับร่างกายของผม พลางซบศีรษะไว้ตรงแผ่นอก

“กลับขึ้นไปใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลยนะอร คุณจะแก้ผ้าโทงๆให้คนเห็นแบบนี้หรือไง ไม่อายเขาบ้างเลยหรือ”

ต่อว่าอย่างเหลืออด เดียร์มาเห็นเข้าจนได้ นี่ไม่รู้จะจินตนาการไปถึงไหนๆแล้ว อรจิราก็เป็นอะไรไม่รู้ เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่ถือตัวรักศักดิ์ศรี ทำไมวันนี้ถึงเปลี่ยนเป็นคนไร้ยางอายไปได้ จริงอยู่ ร่างกายนี้ผมเคยเห็นมากอด เคยกอดจูบลูบคลำด้วยความรักใคร่ แต่เวลานี้ร่างเปลือยของอรจิราไม่มีความหมายกับผมเสียแล้ว

“ไม่ค่ะ เรียว อรไม่อาย ทำไมล่ะคะ เรียวเคยเห็นอรเปลือยมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วนี่ เราไม่มีอะไรต้องปิดบังกันแล้ว วันนี้อรพร้อมที่จะเป็นของเรียวอีก ด้วยความเต็มใจ เรียวไม่รักอรแล้วเหรอ ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือไง เรียวจะทิ้งอรไปหรือคะ”

อดีตคนรัก พยายามจะถอดเสื้อผมออก ต้องยื้อยุดกับเป็นพัลวัน ไม่ให้เธอได้ทำตามใจ ผมพยายามยุติการกระทำของเธอ แล้วรีบออกไปให้พ้นๆจากบ้านหลังนี้ ก่อนที่เดียร์จะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ผมไม่อยากให้หนุ่มน้อยของผมคิดว่า ผมกับแฟนเก่ากลับมาคืนดีกันอีก

“มันจบกันไปแล้วนะอร อย่ารื้อฟื้นอีกเลย ถึงอย่างไรผมก็รักคุณไม่ได้อีกแล้ว ”

“ทำไมหรือคะ คุณมีคนอื่นใช่ไหม แล้วคุณก็รักเขามากๆด้วย รักมากกว่าอรใช่ไหมคะ”

คนรักเก่าของผม ถามเสียงสั่นเครือ เธอเลื่อนแขนขึ้นมาโอบรัดรอบคอของผม พลางเงยแหงนหน้าขึ้นมาใกล้ ๆ ดวงตาวาววามเต็มไปด้วยหยดน้ำใสที่รื้นออกมา เห็นน้ำตาของเธอแล้วก็อดใจอ่อนไม่ได้ ทำไมพวกผู้หญิงชอบใช้น้ำตามาบีบบังคับคนอื่นด้วยนะ มันทำให้ผมไม่กล้าทำอะไรรุนแรงกับเธอเลย

“บอกให้อรรู้หน่อยได้ไหมว่าคู่แข่งของอรคือใคร ใช่นายเดียร์คนเมื่อกี้หรือเปล่า”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2009 13:08:28 โดย ไต๋ »

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #296 เมื่อ13-02-2009 13:08:52 »

“....”

“คุณรักเด็กคนนั้นใช่ไหมคะ บอกมาสิเรียว กล้าๆพูดหน่อยว่าเดี๋ยวนี้คุณหันเหไปรักผู้ชายด้วยกัน คุณไม่มีใจให้กับผู้หญิงอีกแล้ว ใช่ไหม”

เมื่อผมไม่ยอมพูด อรจิราก็ถามผมอย่างคาดคั้น ผมมองหน้าอรจิรา พลางดึงมือที่โอบรอบคอผมออก ไม่ต้องการจะตอบคำถามอะไรทั้งนั้น

“กลัวคำพูดมันจะผูกมัดตัวเองหรือไง ถึงบอกออกมาไม่ได้ เป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า กล้าทำก็กล้ารับสิคะ อ๋อ หรือว่าตอนนี้เริ่มรู้ตัวเองแล้วว่าไม่ใช่ผู้ชายเต็มตัว แต่เป็นอะไรอย่างอื่นที่สังคมไม่ยอมรับเลยไม่กล้าพูด

ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ ตอนนี้เราอยู่กันแค่สองคน แล้วอรก็ไม่ได้ไฮเทคขนาดติดเครื่องดักฟัง หรือซ่อนกล้องเพื่อที่จะมาแบล็คเมล์ ที่อรถาม เพราะอรอยากรู้ ในฐานะที่เคยเป็นแฟน เคยเป็นเมียของคุณมาก่อน อรมีสิทธิรู้นี่คะ ว่าการที่เราต้องเลิกกัน เป็นเพราะอรแพ้ให้กับผู้ชายเพศเดียวกันกับคุณหรือเปล่า ตอบอรมาสิคะ”

อรจิรา กลับมาเหยียดหยามผมตามเดิม น้ำเสียงของเธอกราดเกรี้ยวยามจะเอาคำตอบจากผมผมมองอรจิราอย่างนึกไม่ถึง เธอแขวะผมหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งใหนที่เธอจะจงใจใส่ความร้ายกาจลงไปในคำพูดได้มากเท่านี้

เธอทำให้ผมรู้สึกขยะแขยง สมเพชเวทนาในตัวเธอยิ่งนัก นี่หรือผู้หญิงที่ผมเคยรัก คนที่เคยคิดจะแต่งงานด้วย เธอดีไม่เท่าแม้เพียงเสี้ยวหนึ่งของเดียร์เลย ใจผมคิดถึงสุดที่รักอีกแล้ว รีบๆออกไปจากที่นี่เสียทีดีกว่า ไปหาคนรักของผม

เขาคงรออยู่ด้วยความกระวนกระวาย อาจจะน้อยอกน้อยใจที่ผมไม่ยอมออกไปหาเขาเสียที ปล่อยให้ผู้หญิงเสียสติคนนี้อยู่ที่นี่คนเดียว ให้เธอคุ้มคลั่ง กรีดร้องตามอำเภอใจ ผมจะไม่รองรับอารมณ์ของเธออีกแล้ว

“จะไปไหนล่ะคะ เรียว ดูอรให้เต็มตาก่อนสิคะ ว่าความงามนุ่มนวลของผู้หญิงแบบนี้ หรือความแข็งแกร่งของผู้ชายกล้ามล่ำที่อยู่ข้างนอกนั่น คือสิ่งที่คุณปรารถนา....”

แฟนเก่าของผมคงบ้าไปแล้วจริงๆ เธอเห็นผมหันหลังเดินหนีจะออกจากบ้าน จึงวิ่งมาดักหน้า กางมือ กางไม้ กางกั้นผมไว้ไม่ให้ไปที่ประตู ผมหยุดชะงัก พลางเลื่อนสายตามองร่างเปลือยนั้นพลางครุ่นคิด แล้วค่อยเลื่อนขึ้นมาจ้องหน้าอรจิราเขม็ง ความรู้สึกในใจของผมบอกว่า ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไปแล้วจริงๆ

เมื่อก่อนนี้ผมเคยหลงไหลในเรือนร่างนุ่มนวลเต็มไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งของผู้หญิง คิดว่าช่างมหัศจรรย์จริงๆที่พระเจ้าสร้างได้สร้างมนุษย์เพศเมียขึ้นมาบนโลกใบนี้ หลงรูปอยู่ตั้งเป็นนาน จนกระทั่งวันเวลาผ่านไป ผมเลิกรากับผู้หญิงมากมาย แต่ละคนก็ฝากแผลใจให้คนละนิดคนละหน่อย

จนกระทั่งถึงอรจิราซึ่งเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายในชีวิตของผม เธอทำให้ผมเจ็บปวดจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน ผมเหมือนคนไร้หัวใจ ก่อนที่จะมาเจอกับเดียร์ หลังจากนั้น เด็กหนุ่มก็เติมเต็มความสุขให้ใจผมอีกครั้ง เหมือนน้ำฝนที่รินรดลงบนพื้นนาที่แห้งผาก ทำให้เมล็ดพันธ์แห่งความสุขงอกเงย ฟื้นคืนชีพได้ใหม่

ผมยอมรับอย่างไม่อาย ว่าผมมีความสุขเหลือเกินเมื่อได้อยู่กับเด็กหนุ่มคนนี้ ความดีของเขาทำให้กำแพงในใจของผมที่ปิดกั้นเขาไว้ค่อยๆพังทะลาย


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #297 เมื่อ13-02-2009 13:09:16 »

ถ้าคำถามของอรจิราได้ถูกถามก่อนหน้านี้สัก 4-5 เดือน ผมคงตอบได้อย่างไม่ลังเลว่าผมยังรักชอบพวกสาวๆอยู่ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสามารถชอบเพศอื่นที่นอกเหนือจากผู้หญิงได้ แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่า ผมไม่แคร์อีกแล้วว่าคนที่ผมชอบจะเป็นเพศใด

คนที่ผมรักสองคนให้ประสบการณ์กับผมแตกต่างกันออกไป อรจิราทำให้ผมได้รู้ว่า ความสวยงามบนใบหน้า กับจิตใจ บางทีมันก็ไปด้วยกันไม่ได้ ความรักของเธอผสมปนเปไปกับความแค้น เธอพร้อมจะหวานเมื่ออยู่ในห้วงแห่งความรัก และกลายร่างเป็นผีร้ายที่พร้อมจะทำลายคนที่ทำให้เธอผิดหวัง

ในขณะที่เดียร์สอนให้ผมได้รู้จักว่ารักแท้ที่มาพร้อมกับความเสียสละตนเป็นยังไง การที่ได้คบกับเดียร์ทำให้จิตใจผมเปลี่ยนแปลง เริ่มคิดว่าคนที่เราจะเลือกเป็นคู่ชีวิต อาจจะมีเพศเดียวกันกับเราก็ได้ จิตใจสวยงามกว่าร่างกายภายนอก เขาดีกับผมมากมายเหลือเกิน จนผมมองข้ามเพศที่เขาถือกำเนิดไปแล้ว แต่ที่ผมยังไม่บอกรักเขาไป เพราะผมยังลังเลใจกับสถานภาพทางสังคมเท่านั้นเอง

“อย่าทำอย่างนี้กับผมเลยอร ถึงอย่างไร มันก็ไม่สามารถที่จะดึงผมกลับมาหาคุณได้หรอก การที่คุณทำอย่างนี้มันยิ่งจะทำให้คุณค่าของคุณเสื่อมถอย

ผมยังอยากจะสานความสัมพันธ์กับคุณต่อนะอร แต่ในฐานะเพื่อน ไม่ใช่คนรัก จริงๆแล้วคุณก็มีส่วนดี น่าคบหา แต่ความริษยาในใจของคุณมันทำให้คุณน่ารักน้อยลงไปจากเดิม เชื่อผมเถอะ กลับขึ้นไปอาบน้ำอาบท่า พักผ่อนซะบ้าง คุณจะได้รู้สึกดีขึ้น ผมต้องรีบไปแล้ว”

พูดจบผมก็เดินเลี่ยงหนีไปจากตรงนั้น แต่อรจิราไม่ยอม เธอคว้ามือของผมไว้

“คำเดียวเท่านั้น บอกมา แล้วอรจะยอมปล่อยให้คุณไปจากที่นี่ ......คุณยัง....รักอรอยู่ไหม”

ผมมองหน้าอรจิรา พลางส่ายหน้าแทนคำตอบ อรจิรา ปล่อยมือจากผม แขนตกลงข้างตัวอย่างอ่อนแรง เธอก้มหน้านิ่ง สักพักก็เงยหน้าขึ้นมา ตาแดงก่ำ มีหยาดน้ำใสๆเอ่อคลอเบ้า เธอชี้มือสั่นระริกไปยังนอกบ้าน แล้วถามผมสียงเครือ

“แล้วเด็กที่อยู่ข้างนอกนั่นล่ะ บอกมาสิว่า คุณรักเขาหรือเปล่า ขอแค่รู้เท่านั้น ว่าใจคุณมีใคร แล้วอรจะปล่อยมือ เลิกยุ่งกับคุณทันที........”

“อื้ม....ผมรักเขา...รักมากด้วย”

ตัดสินใจบอกความรู้สึกที่แท้จริงออกไป เพื่อให้เธอตัดใจจากผมเสียที ทั้งคำพูดที่ออกจากปาก และการผงกหัวยอมรับ ก็คงจะเพียงพอแล้วสำหรับคำตอบที่อรจิราต้องการ

“แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายหรือคะ....”

เธอถามผมด้วยน้ำเสียงบ่งบอกถึงความร้าวรานใจ

“ใช่....แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ผมรักเขาที่หัวใจ รักที่ความดีที่มีอยู่ในตัว สิ่งที่เขามีมันทำให้ผมมองข้ามความเป็นเพศชายของเขา ผมไม่เคยรู้สึกรักใครเท่านี้มาก่อนเลย แม้แต่กับ กับอร”


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #298 เมื่อ13-02-2009 13:09:46 »


ในเมื่ออยากรู้ ผมก็บอกไปตามตรง เหมือนกับคำตอบที่ได้จะทำให้อรจิราหมดเรี่ยวแรง เธอทรุดฮวบลงกับพื้น และร่ำไห้เสียงดัง ผมมองภาพของแฟนเก่าที่ร้องไห้เหมือนเป็นเด็กเล็กๆด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก ทั้งสงสารเห็นใจและเวทนา

อรจิราตอนนี้ ไม่เหลือภาพหญิงสาวสวยผู้เย่อหยิ่งอีกต่อไป คงเหลือเพียงผู้หญิงหัวใจแตกสลายจากความรักที่ไม่สมหวัง เธอทุ่มกายร้องไห้เหมือนคนบ้า ผมตัดสินใจเดินเข้าไปหาคนรักเก่าของผม ช้อนร่างเธอขึ้นมาอุ้มไว้ในวงแขน จากนั้นก็พาขึ้นไปยังห้องนอน วางเธอลงบนเตียง และชักผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างเปลือยไว้

อรจิราน้ำตาไหลพรากไม่ยอมหยุด เธอไม่พูดอะไรกับผมสักคำ จนกระทั่งผมเดินไปถึงประตูห้องนอน เธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ว่าขอบคุณที่ช่วยชีวิตเธอให้รอดจากการจมน้ำตาย

ผมยิ้มให้ แล้วบอกว่า คนที่เธอควรจะขอบคุณคือเดียร์ต่างหาก เขาเป็นคนงมหาเธอขึ้นมาจากในน้ำ ผมได้ยินเสียงสะอื้นดังๆจากปาก ของอรจิราอีกครั้ง ผมรีรอว่าเธอจะพูดอะไรต่อ แต่เมื่อเห็นเธอเงียบ ผมจึงกล่าวคำว่า “ลาก่อน” กับเธอ ก่อนที่จะเดินลงไปข้างล่าง

เดียร์นั่งทำตาแดงๆอยู่ในรถของผม พอผมเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับ เดียร์ก็เอนตัวลงนอนตรงเบาะด้านหน้าที่ปรับไว้แล้วตอนที่ให้อรจิรานั่ง เบาะกำมะหยี่เปียกชื้น เพราะเราสามคนต่างเปียกปอนมาจากท่าน้ำ ทำให้ไม่น่าจะนั่งสบายนัก

ผมกำลังจะเอ่ยปากพูดคุยกับเดียร์ถามไถ่ว่าเขารอนานไหม แต่เดียร์ชิงหลับตาเสียก่อน คงงอนและน้อยใจผมที่หายไปนาน แถมยังเห็นผมเดินลงมาจากห้องชั้นบน โดยมีอรจิราเดินเปลือยตามมาติดๆ ในหัวของเดียร์คงจินตนาการเรื่องระหว่างผมกับคนรักเก่าวุ่นวายเต็มไปหมด เลยไม่ยอมพูดกับผม

ช่างเถอะ วันนี้ผมเองก็เหนื่อยไม่น้อย ใหนจะเหนื่อยกายที่ต้องเดินเกือบทั้งวัน และยังแบกของหนักๆด้วย แล้วไหนจะเหนื่อยใจอีก ทำให้ผมไม่อยากจะทะเลาะกับเดียร์ในรถ เกิดเขายังไม่หายโมโหผม เอาไว้ถึงบ้านก่อนแล้วค่อยคุยกันอีกที ถ้าโกรธก็คงต้องง้อละนะ ทำไงได้ล่ะ ผมรักเขา ไม่อยากให้ทำให้เขาเข้าใจผิดนี่นา

พอถึงบ้าน เดียร์ก็ช่วยผมขนของจากรถเข้าไปเก็บไว้ ระหว่างนั้น เรายังคงไม่ได้พูดอะไรกัน สงสัยเดียร์จะยังงอนไม่เลิก ผมคิดในใจ พยายามมองสบตาเขา แต่เดียร์หันหนีตลอด คนเจ้าเล่ห์ก็ขี้งอนเป็นเหมือนกัน ไหนบอกผมว่าจะไม่คิดมากยังไง ใครกันนะที่บอกว่าเข้าใจความรู้สึกของผม ที่แท้ก็ทำใจไม่ได้

หึงผมล่ะสิ เจ้าเด็กบ้า เดี๋ยวก็ปล่อยให้งอนไม่พูดด้วยจริงๆหรอก ดูสิว่าใครจะทนไม่ได้ก่อนกัน คิดได้อย่างนั้น ผมก็ทำเฉยไม่พูดกับเขาบ้าง เก็บของเสร็จก็ขึ้นไปห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายตัวเองที่เต็มไปด้วยเหงื่อ และน้ำจากแม่น้ำ

ตอนที่เดินลงมาข้างล่าง ผมเห็นเดียร์ซึ่งอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย กำลังนั่งซึมอยู่ที่เก้าอี้ในห้องรับแขกโดยที่เจ้าหญิงนอนหมอบอยู่แทบเท้า ผมเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาอีกตัวหนึ่ง ปรายตามองเดียร์ก็เห็นเขาหลุบตาลงมองมือของตัวเอง

ยังไม่ยอมที่จะมอง หรือพูดกับผมอีก ผมหมั่นไส้ เลยเรียกเจ้าหญิงให้มาหา เจ้าหญิงกระดิกหาง และร้องครางหงิงๆ ผมลูบหัวเจ้าหมากำพร้าแม่ด้วยความรัก และแกล้งพูดเสียงดังๆว่า

“หิวแล้วหรือเจ้าหญิง ยังไม่ได้กินอะไรเลยทั้งวันเลยสินะ ฉันโชคดีกว่าแก ตรงที่ได้กินข้าวกลางวันไปมื้อหนึ่ง แต่ตอนนี้มันเย็นมากแล้ว หิวมากด้วย แต่จะได้กินข้าวหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะฉันทำกินเองไม่เป็น แล้วคนที่เคยทำให้ก็งอนไม่พูดไม่จากับฉันด้วย สงสัยวันนี้คงอดกินแน่ๆ”


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #299 เมื่อ13-02-2009 13:10:12 »

จากหางตาที่ลอบมองเดียร์ ผมเห็นเด็กหนุ่มแอบยิ้ม และเขาคงจะกลั้นไม่อยู่จึงส่งเสียงหัวเราะให้ได้ยิน จากนั้นเดียร์ก็เงยหน้าขึ้น แล้วมองผมอย่างงอนๆ ทำปากยื่น ปากยาวต่อว่า

“คนใจร้าย ใจคอจะพูดอยู่กับหมาอย่างเดียวหรือไง ทีผมไม่ยอมคุยด้วย ...หิวข้าวแล้วทำไมไม่บอกผม บอกเจ้าหญิง แล้วจะได้กินยังไงล่ะ”

การโต้ตอบของเดียร์ทำให้ผมใจชื้นขึ้น อย่างน้อยๆก็รู้ว่าเขาแค่งอนผม แต่ไม่ได้โกรธมากมายอะไร พอผมลองแหย่เขาดูเขาก็หายโกรธแล้ว นี่คงงอนรอให้ผมพูด หรืออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกระมัง เดียร์ช่างน่ารักเสียเหลือเกิน

“ก็จะบอกได้ไง ทำหน้าหงิกหน้างอ ใครเขาจะกล้าคุย เดี๋ยวโมโหใส่ขึ้นมาจะว่าไง”

ผมแสร้งว่าเขา แอบหัวเราะในใจที่สามารถยั่วจนเขาพูดกับผมจนได้ เด็กหนุ่มลุกขึ้น แล้วเดินมารวบตัวผมไว้ในวงแขน แล้วหอมผมที่แก้มแรงๆหลายฟอด ผมอ่อนระทวยไปกับอ้อมกอดนั้น ยิ้มให้กับตัวเองอย่างมีความสุข

“ใครกันล่ะที่ทำให้โกรธ วันนี้ผมหึงคุณจนหูอื้อตาลายเลยนะ โกรธคนพวกนั้นด้วย แต่ก็พยายามจะระงับอารมณ์ ไม่แสดงออกมา ทำไมวันนี้ทุกคนจึงมาวุ่นวายกับเรานักละครับ ตั้งแต่ตอนเช้ามืดแล้ว พี่สมชายก็มารบกวนเวลานอน ดึงคุณไปปรึกษาเรื่องภรรยาตัวเองอยู่ได้ ทั้งที่ตัวเองนั่นแหละเป็นฝ่ายทำผิด พอเราจะไปเที่ยวกัน เพื่อนคุณก็ยกขโยงมาจากไหนไม่รู้จนเราต้องเปลี่ยนโปรแกรม แต่เรื่องนั้นผมไม่ซีเรียสหรอก เพราะถึงไม่ได้ไปเที่ยว แต่ได้ไปทำบุญก็มีความสุขไปอีกแบบ แต่คุณแคท กับ ยัยอรจิราอะไรนั่น ก็พยายามจะนัวเนียอยู่กับคุณ ดีนะที่พี่สันต์แกกันไว้ให้”

เดียร์บ่นอุบอิบอยู่ข้างหูของผม มือไม้ของเขาเริ่มซุกซนอีกแล้ว เจ้าหนุ่มนี่ ช่างอัจฉริยะจริงๆ ปากก็พูดเรื่องหนึ่ง แต่มือก็ทำอีกสิ่งหนึ่ง

“นึกว่าจะได้กลับบ้านมาอยู่กันสองต่อสอง ยัยอรจิราก็ดันเกิดเรื่อง ช่วยให้ขึ้นมาจากน้ำแล้ว ยังต้องพากลับบ้านอีก ต้องช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กันด้วยเหรอ ถึงได้ลงมาในสภาพแบบนั้นน่ะ ผมหึงนะ โกรธยัยนั่น แล้วก็เคืองคุณด้วย ที่ไม่ยอมรีบออกมา หายไปนานแบบนั้น ไปทำอะไรกันอยู่หรือครับ แอบไปมีอะไรกันหรือเปล่า”

เด็กหนุ่มซักถามผมอย่างอยากรู้ เขามองผมตาแป๋ว รอฟังคำตอบ ผมเลยเล่าให้ฟังว่า อรจิรากับผมเคยเป็นแฟนเก่ากันมาก่อน แต่เราเลิกกันแล้ว เธอไปมีคนรักใหม่เป็นคนที่ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกับผม ช่วงนี้เธอมีปัญหากับแฟน และเธอต้องการกลับมาหาผมอีก แต่ผมปฏิเสธไป เธอก็เลยโกรธ ร้องไห้

เดียร์ถามผมว่าแล้วทำไมต้องเปลือยกายด้วย ผมตอบเลี่ยงๆไปว่า เธอแค่เรียกร้องความสนใจจากผมเท่านั้น ผมไม่อยากบอกรายละเอียดไปมากกว่านี้ เพราะจะทำให้คนมองอรจิราไม่ได้ ถึงอย่างไรเธอก็เป็นผู้หญิงและเคยเป็นแฟนเก่า ผมจึงอยากให้เกียรติเธอ

“แล้วเรียวปฏิเสธไปด้วยเหตุผลอะไรครับ...บอกแบบนี้ใช่หรือเปล่า....”

เดียร์กระแอมไอ แล้วทำเป็นวางมาด จีบปากจีบคอทำเสียงสูง


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด