My First Boyfriend Part 3:By Katesnk
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My First Boyfriend Part 3:By Katesnk  (อ่าน 173801 ครั้ง)

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #300 เมื่อ13-02-2009 13:10:37 »

“อรจิราเอ๋ย มันสายไปเสียแล้วล่ะ มารักอะไรตอนนี้ วันที่จะเสียฉันไป ตอนนี้ฉันมีคนรักใหม่แล้ว เขานิสัยดี รูปหล่อ ทำกับข้าวเก่ง ทำงานบ้านได้สารพัด ร้องเพลงก็เพราะ แถมยังกุ๊กกิ๊กได้ไม่มีลิมิตจำนวนครั้งอีก อย่างเธอนะ กลับไปหา ผู้ชายรวยๆมาทำแฟนเถอะ อย่ามาแยกฉันกับคนรักออกจากกันเลย โฮะๆๆๆๆๆ........เรียวได้พูดไปแบบนี้ไหม”

คนถามทำหน้าทะเล้น จนผมทำขำทั้งหมั่นไส้

“บ้าเหรอ ใครจะไปพูดอย่างนั้นล่ะ.....”

“งั้นบอกว่าอะไรละครับ .....บอกมานะ ไม่งั้นไม่ต้องกินข้าว ผมจะกอดจูบลูบคลำคุณอยู่แบบนี้ไม่ยอมให้ไปไหนเลยจนกว่าจะพูดออกมา”

เขากระซิบเสียงขู่ ไม่พูดเปล่า จมูกโด่งๆของเดียร์ก็ซุกเข้ามาที่ซอกคอของผม คราวนี้ทั้งปากและจมูกซุกไซร้อยู่แถวบริเวณนั้นจนผมซ่านสยิว มือไม้ยุ่มย่ามอย่างกับเป็นหนวดปลามึก ข้างหนึ่งสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดของผม ลูบไล้บริเวณแผ่นอก

อีกข้างหนึ่งเล็ดลอดลงไปในกางเกง และกำลังคลึงเคล้นน้องชายของผมอยู่ ผมหายใจแทบไม่ทั่วท้อง ความรู้สึกวาบหวามโจมตีผมเป็นระลอก รู้สึกว่าเรียวน้อยที่นอนสงบนิ่งอยู่ถูกปลุกขึ้นมาจากความงัวเงีย และแสดงท่ากระปรี้กระเปร่าเต็มไม้เต็มมือของเขา แต่ผมยังไม่อยากมีอะไรกับเดียร์ตอนนี้ กลัวจะเป็นลมไปเสียก่อนด้วยความหิว จึงต้องขืนตัว และพยายามดิ้นหนีจากการรุกรานของคนข้างตัวให้ได้

“ฉันก็บอกไปอย่างนั้นแหละ บอกว่ามีแฟนแล้ว”

“บอกชื่อแฟนไปหรือเปล่า ว่าผู้โชคดีคนนั้น ชื่อเดียร์ หรือนายพันธกานต์ ยอดรัก”

เดียร์ถามผม มือยังไม่หยุดนิ่งยังคงซุกซนอยู่ในกางเกงของผม ผมไม่ตอบ เรื่องอะไรจะบอกให้เด็กนี่รู้ล่ะว่าผมยอมรับกับอรจิราไปแล้วว่าผมรักเดียร์ แต่ผมไม่ได้บอกชื่อจริงของเด็กหนุ่มไปเต็มยศแบบนี้หรอก ก็ดูทั้งชื่อและนามสกุลเขาสิ พันธกานต์ แปลว่าผูกพันธ์ ด้วยความรัก หรือผูกมัดผู้เป็นที่รัก ส่วนนามสกุลแทบไม่ต้องอธิบายเลย พระที่ตั้งชื่อให้กับเดียร์ ช่างตั้งได้สอดคล้องกับนามสกุลเสียจริง

“หืม ไม่ได้บอกออกไปหรอกหรือ ใจร้ายจังเลยนะคนเรา ต้องลงโทษกันหน่อยแล้วล่ะ”

มือของเด็กหนุ่มรูดซิปกางเกงของผมลง จากนั้นเขาก็พาน้องชายของผมออกมาชมโลกภายนอก เนื้อตัวของเรียวน้อยถูกนวดด้วยมืออุ่นๆของเดียร์จนแข็งเขม็งไปหมด ผมเอนกายพิงร่างของหนุ่มผู้เป็นที่รัก อารมณ์ปั่นป่วน หัวใจเต้นรัวแรงแทบจะหลุดออกมานอกอก เดียร์แนบหน้าของเขาเข้ากับใบหน้าของผมจมูกโด่งและริมฝีปากร้อนผ่าวของเดียร์เคล้าเคลียอยู่ข้างแก้ม

เด็กหนุ่มขยับร่างและให้ผมเอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ตรงหว่างขาของเขา สะโพกของผมสัมผัสเข้ากับความแข็งแกร่งตรงกลางลำตัวของเดียร์ และรับรู้ว่าเขากำลังต้องการผมมากแค่ไหน ผมรู้ว่าเขาเองอยากจะจับผมกดลงบนโซฟาตัวนั้น และรักกับผมให้สมกับที่เราไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันตั้งหลายวัน แต่เขาพยายามห้ามใจ เพราะยังต้องมีอะไรทำอีกมากมาย เขาคงหิวพอๆกับทีผมหิว แต่เขาแค่อยากลงมือสังสอนผมเบาะๆตามวิธีของเขาเท่านั้น


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #301 เมื่อ13-02-2009 13:11:03 »

“อรจิราเอ๋ย มันสายไปเสียแล้วล่ะ มารักอะไรตอนนี้ วันที่จะเสียฉันไป ตอนนี้ฉันมีคนรักใหม่แล้ว เขานิสัยดี รูปหล่อ ทำกับข้าวเก่ง ทำงานบ้านได้สารพัด ร้องเพลงก็เพราะ แถมยังกุ๊กกิ๊กได้ไม่มีลิมิตจำนวนครั้งอีก อย่างเธอนะ กลับไปหา ผู้ชายรวยๆมาทำแฟนเถอะ อย่ามาแยกฉันกับคนรักออกจากกันเลย โฮะๆๆๆๆๆ........เรียวได้พูดไปแบบนี้ไหม”

คนถามทำหน้าทะเล้น จนผมทำขำทั้งหมั่นไส้

“บ้าเหรอ ใครจะไปพูดอย่างนั้นล่ะ.....”

“งั้นบอกว่าอะไรละครับ .....บอกมานะ ไม่งั้นไม่ต้องกินข้าว ผมจะกอดจูบลูบคลำคุณอยู่แบบนี้ไม่ยอมให้ไปไหนเลยจนกว่าจะพูดออกมา”

เขากระซิบเสียงขู่ ไม่พูดเปล่า จมูกโด่งๆของเดียร์ก็ซุกเข้ามาที่ซอกคอของผม คราวนี้ทั้งปากและจมูกซุกไซร้อยู่แถวบริเวณนั้นจนผมซ่านสยิว มือไม้ยุ่มย่ามอย่างกับเป็นหนวดปลามึก ข้างหนึ่งสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดของผม ลูบไล้บริเวณแผ่นอก

อีกข้างหนึ่งเล็ดลอดลงไปในกางเกง และกำลังคลึงเคล้นน้องชายของผมอยู่ ผมหายใจแทบไม่ทั่วท้อง ความรู้สึกวาบหวามโจมตีผมเป็นระลอก รู้สึกว่าเรียวน้อยที่นอนสงบนิ่งอยู่ถูกปลุกขึ้นมาจากความงัวเงีย และแสดงท่ากระปรี้กระเปร่าเต็มไม้เต็มมือของเขา แต่ผมยังไม่อยากมีอะไรกับเดียร์ตอนนี้ กลัวจะเป็นลมไปเสียก่อนด้วยความหิว จึงต้องขืนตัว และพยายามดิ้นหนีจากการรุกรานของคนข้างตัวให้ได้

“ฉันก็บอกไปอย่างนั้นแหละ บอกว่ามีแฟนแล้ว”

“บอกชื่อแฟนไปหรือเปล่า ว่าผู้โชคดีคนนั้น ชื่อเดียร์ หรือนายพันธกานต์ ยอดรัก”

เดียร์ถามผม มือยังไม่หยุดนิ่งยังคงซุกซนอยู่ในกางเกงของผม ผมไม่ตอบ เรื่องอะไรจะบอกให้เด็กนี่รู้ล่ะว่าผมยอมรับกับอรจิราไปแล้วว่าผมรักเดียร์ แต่ผมไม่ได้บอกชื่อจริงของเด็กหนุ่มไปเต็มยศแบบนี้หรอก ก็ดูทั้งชื่อและนามสกุลเขาสิ พันธกานต์ แปลว่าผูกพันธ์ ด้วยความรัก หรือผูกมัดผู้เป็นที่รัก ส่วนนามสกุลแทบไม่ต้องอธิบายเลย พระที่ตั้งชื่อให้กับเดียร์ ช่างตั้งได้สอดคล้องกับนามสกุลเสียจริง

“หืม ไม่ได้บอกออกไปหรอกหรือ ใจร้ายจังเลยนะคนเรา ต้องลงโทษกันหน่อยแล้วล่ะ”

มือของเด็กหนุ่มรูดซิปกางเกงของผมลง จากนั้นเขาก็พาน้องชายของผมออกมาชมโลกภายนอก เนื้อตัวของเรียวน้อยถูกนวดด้วยมืออุ่นๆของเดียร์จนแข็งเขม็งไปหมด ผมเอนกายพิงร่างของหนุ่มผู้เป็นที่รัก อารมณ์ปั่นป่วน หัวใจเต้นรัวแรงแทบจะหลุดออกมานอกอก เดียร์แนบหน้าของเขาเข้ากับใบหน้าของผมจมูกโด่งและริมฝีปากร้อนผ่าวของเดียร์เคล้าเคลียอยู่ข้างแก้ม

เด็กหนุ่มขยับร่างและให้ผมเอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ตรงหว่างขาของเขา สะโพกของผมสัมผัสเข้ากับความแข็งแกร่งตรงกลางลำตัวของเดียร์ และรับรู้ว่าเขากำลังต้องการผมมากแค่ไหน ผมรู้ว่าเขาเองอยากจะจับผมกดลงบนโซฟาตัวนั้น และรักกับผมให้สมกับที่เราไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันตั้งหลายวัน แต่เขาพยายามห้ามใจ เพราะยังต้องมีอะไรทำอีกมากมาย เขาคงหิวพอๆกับทีผมหิว แต่เขาแค่อยากลงมือสังสอนผมเบาะๆตามวิธีของเขาเท่านั้น


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #302 เมื่อ13-02-2009 13:11:48 »

ภายในเวลาไม่นาน ผมก็ทะลักทะลายความสุขเลอะรดมือเขาอีกครั้ง เดียร์จัดการใช้ปากทำความสะอาดให้ผมเรียบร้อย จากนั้นก็กอดผมไว้แนบแน่น กระซิบหยอกเย้าข้างหูผม

“อดเปรี้ยวไว้กินหวานคืนนี้ดีกว่า ตอนนี้ผมไปทำกับข้าวให้เรียวกินก่อน จะได้มีแรงกุ๊กกิ๊กกับผม ราตรีนี้ยังอีกยาวนาน ไม่ต้องไปทำงานแล้ว เพราะเพื่อนโทรมาขอแลก แต่พรุ่งนี้ทำสองกะเลย เพราะฉะนั้น คืนนี้ต้องพิเศษหน่อยนะครับ”

คนพูดลุกเดินไปที่ห้องครัวแล้ว เสียงเปิดปิดตู้เย็น และตู้ใส่อุปกรณ์ทำครัวดังขึ้น ผมมองไปทางห้องครัว เห็นเดียร์กำลังรื้อของที่เก็บไว้ในตู้เย็นออกมาวางไว้บนโต๊ะ เขาผิวปากเป็นเพลงตามสมัยนิยม ท่าทางมีความสุข

ผมยิ้มให้กับตัวเอง ชอบจังบรรยากาศแบบนี้ มันให้ความรู้สึกเป็นครอบครัวที่อบอุ่น อยู่กันสองคนตามประสาผัวเมีย เอ๊ะ ผัว....แล้วก็เมียเหรอ ..........ไอ้เจ้าเด็กบ้านั่น ชอบพูดเสมอว่าตัวเองเป็นสามี แล้วเขาก็พยายามปกป้องผม ทำตัวเป็นหัวหน้าครอบครัว

ถ้างั้นผมก็อยู่ในสภาพของภรรยาน่ะสิ ไม่เอานะ.......ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วยล่ะ ผมเองก็ทำเป็นเหมือนกันนี่นา ที่ผ่านมาผมยอมเป็นของเขาด้วยความเสน่หา แล้วถ้าหากว่าผมร้องขอให้เขาเป็นของผมบ้างล่ะ เขาจะยอมไหมหนอ พอคิดมาถึงตรงนี้ ผมก็อดขนลุกไม่ได้ ไปๆมาๆ ผมทำท่าว่าจะติดใจความสัมพันธ์แบบนี้ซะแล้วสิ นี่ผมกลายเป็นคนผิดปกติไปแล้วหรืออย่างไร

อาหารมื้อค่ำ หวานล้ำอบอวลไปด้วยความรักของเราสองคน เดียร์ทำอาหารหลายอย่างให้ผมทาน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความหิวจนหน้ามืดตามัวหรือเปล่าที่ทำให้เด็กหนุ่มลงมือปรุงอาหารมากมายซะขนาดนั้น

ผมมองกับข้าว 4- 5 อย่างในจานใบโตอย่างท้อใจ จะกินข้าวไปได้ยังไงจนหมดเนี่ย เลยร้องอุทธรณ์กับเดียร์ตอนที่เขาบังคับให้ผมทานเยอะๆ เขาหัวเราะแล้วบอกว่า วันนี้ไม่ต้องกินอิ่มมากก็ได้ แค่ชิมทุกจานที่เขาทำให้ก็พอ คืนนี้อาจจะมีศึกหนัก เขาไม่อยากให้อาหารที่ผมกินเข้าไปจำนวนมาก ทำลายบรรยากาศการลงทุนของเขา

เดียร์บอกว่าผมติดหนี้เขาไว้หลายครั้ง ดังนั้น เขาจะถอนทุนให้หมดภายในคืนเดียว ผมทำคอย่น นึกสยองไปตามคำพูดของเด็กหนุ่ม แต่คนเจ้าเล่ห์กลับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ท่าทางหมายมั่นปั้นมือที่จะเอาคืนผมทั้งต้นทั้งดอก

“เรียวครับ วันนี้ผมรู้สึกดีมากๆเลยรู้ไหม ที่เรียวยอมพาผมไปเที่ยวกับเพี่อนคุณด้วย ถึงเพื่อนคุณแต่ละคนจะน่ารำคาญไปบ้าง โดยเฉพาะ ยัยอรจิรา กับอีตาศักดิ์ชาย แต่การที่คุณกล้าพาผมไปด้วย มันลบล้างความรู้สึกไม่ดีที่ผมมีต่อคนเหล่านั้น และทั้งกับคุณ มันเหมือนว่าคุณยอมรับพร้อมทั้งเปิดตัวผมกลายๆให้เพื่อนคุณได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของเราใช่ไหมครับ…..”

เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน เดียร์กอดผมไว้แนบแน่น แผ่นหลังของผมแนบชิดไปกับลำตัวด้านหน้าของเขา .......................................


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #303 เมื่อ13-02-2009 13:12:12 »

“เรียวครับ วันนี้ผมรู้สึกดีมากๆเลยรู้ไหม ที่เรียวยอมพาผมไปเที่ยวกับเพี่อนคุณด้วย ถึงเพื่อนคุณแต่ละคนจะน่ารำคาญไปบ้าง โดยเฉพาะ ยัยอรจิรา กับอีตาศักดิ์ชาย แต่การที่คุณกล้าพาผมไปด้วย มันลบล้างความรู้สึกไม่ดีที่ผมมีต่อคนเหล่านั้น และทั้งกับคุณ มันเหมือนว่าคุณยอมรับพร้อมทั้งเปิดตัวผมกลายๆให้เพื่อนคุณได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของเราใช่ไหมครับ…..”

เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน เดียร์กอดผมไว้แนบแน่น แผ่นหลังของผมแนบชิดไปกับลำตัวด้านหน้าของเขา

“ใครบอกว่าฉันเปิดตัวนาย.....แค่ไม่อยากให้เหงาอยู่คนเดียวในบ้านเท่านั้น”

“จะทำอย่างไรกับผู้ร้ายปากแข็งดีน้อ ....คำพูดกับใจไม่เคยตรงกันเลยนะครับ อย่างนี้ต้องทำโทษรู้ไหม”

ริมฝีปากของเดียร์ซุกซนอยู่แถวต้นคอผม เขาจูบและใช้ลิ้นวนจนผมขนลุกซู่ไปหมด

“เรียวรักผมแล้วใช่ไหมครับ.....ผมรู้นะ ถึงเรียวไม่พูด แต่ผมก็ดูออก”

“เอาอีกแล้ว เจ้าโรคขี้ตู่ คิดเองเออเอง เมื่อไรจะหายไปจากตัวนายสักทีนะ”

ยังคงปากแข็งตามเดิม รู้สึกอายเด็กหนุ่มที่จะยอมรับความจริง

“แล้วไอ้โรคดื้อ ปากอย่างใจอย่างนี่ล่ะ จะรักษาอย่างไรดี กันนี่ฮึ......เอางี้ผมขอเสนอตัวเป็นหมอดีกว่า แล้วรักษาคุณตามวิธีการของผมดีไหม”

คนพูดขันอาสาจะมาช่วยแก้อาการของผมด้วยท่าทางขึงขัง

“วิธีการไหนก็ใช้ไม่ได้ผลหรอก เพราะฉันไม่มีวันรักนาย”

ไม่รู้ว่าผมโกหกออกไปได้ไง ทั้งที่จริงผมควรจะสารภาพออกไปด้วยซ้ำว่าผมรักเขาแค่ไหน แต่แหม บอกรักผู้ชายด้วยกัน มันยากยิ่งกว่าอะไรดี ก่อนหน้านี้ ผมรังเกียจเขารวมถึงวิธีการที่เขาทำกับผม ปฏิเสธ และพยายามขัดขืนตัวเองตลอดมา

แต่ในที่สุดผมก็ฝืนธรรมชาติตัวเองไม่ไหว ผมตกเป็นของเขาด้วยเหตุสุดวิสัย แต่ในครั้งต่อๆมาผมยอมให้เขามีอะไรกับผมด้วยความเต็มใจ ความผูกพันธ์ทางกาย ผสานกับความรู้สึกดีที่เขามีให้กับผม ทำให้หลงรักเขาโดยไม่รู้ตัว ผมรู้สึกเขินที่จะให้เดียร์รู้ว่า ตอนนี้หัวใจของผมถูกเขาครอบครองจนหมดแล้ว

อีกเหตุผลหนึ่งที่ผมคิดว่าไม่ควรจะพูดออกไป เพราะผมไม่มั่นใจในอนาคตระหว่างสองเรา หากผมไม่ได้เลือกเขา ผมก็ไม่อยากให้เด็กหนุ่มเจ็บ เพราะถ้าเดียร์รู้ว่าผมรักเขา เขาก็ยิ่งพยายามอย่างมากที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผม ต้องต่อสู้เพื่อให้ได้ผมมา

ซึ่งคำตอบมันก็คือเราอยู่ร่วมกันไม่ได้ หากเขาไม่รู้ว่าผมรักเขา เด็กหนุ่มก็จะยอมแพ้ไปเอง เราจะได้จากกันไปโดยไม่มีอะไรติดค้างในใจ เพราะถึงยังไง สัญญาก็ได้สิ้นสุดลง แล้วเขาก็ได้พยายามทำมันเต็มที่แล้ว

“งั้นเรามาพิสูจน์กันดีกว่า ว่าวิธีการของผม จะทำให้เรียวบอกรักออกมาได้หรือเปล่า”

เดียร์พูดอย่างมีเลสนัย หน้าทะเล้นเวลายิ้มยั่ว ดูน่ามองนัก ผมไม่ยอมสบตาเขา เบือนหน้าหนี แต่เด็กหนุ่มไม่ยอมให้ผมปลีกตัวไปจากเขา ถึงแม้ว่าผมจะหนีหัวใจตัวเองได้ แต่ทางกายไม่อาจจะหลบเลี่ยงจากเขา โดยเฉพาะยามที่ใกล้ชิดกันถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้

เด็กหนุ่มกับมือซุกซนของเขายุ่มย่ามตามตัวผมจนในที่สุดก็ปล้ำถอดเสื้อผมออกจากตัวได้จนหมด เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ พลางก้าวขึ้นมาทาบทับ ใบหน้าหล่อเหลาบาดใจโน้มเข้ามาหา ริมผีปากอุ่นๆของเดียร์แตะที่ปากที่กำลังเผยออ้าของผม เขาแทรกลิ้นเข้าไป และจูบผม

จุมพิตที่ทำให้หัวใจเต้นระรัว ความร้อนรุ่มแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย แขนขาอ่อนเปลี้ย หมดสิ้นเรี่ยวแรง จนผมต้องยื่นแขนไปโอบรัดรอบตัวเดียร์ไว้ เพื่อเป็นหลักยึดเหนี่ยว


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #304 เมื่อ13-02-2009 13:12:39 »

เนื้อตัวของผมถูกลูบไล้ด้วยมือใหญ่ๆของเดียร์ เขาถอนจุมพิตออก แล้วเลื่อนลงมาเคล้าคลึงที่หน้าอกของผม ลิ้นของเด็กหนุ่มแลบเลียอยู่บนยอด ส่วนมืออีกข้างก็ค่อยๆขยับลงมาคลึงเคล้าหยอกล้ออยู่กับน้องชายของผม

ความปั่นป่วนรัญจวนใจของผมดำเนินมาจนใกล้จะถึงขีดสุด เมื่อเดียร์โอบอุ้มเรียวน้อยไว้ในปากของเขา เด็กหนุ่มตั้งอกตั้งใจมอบความสุขให้กับผม ตาหวานฉ่ำของเขาที่มองมาเปี่ยมล้นไปด้วยความรักภักดีอย่างเห็นได้ชัด หลังจากปลุกเร้าอารมณ์ของผมทำให้ลุกโชนขึ้น เด็กหนุ่มก็พร้อมที่จะพาผมไปสู่ดินแดนแห่งความหฤหรรษ์

เขาแยกขาของผมออก แล้วช้อนสะโพกขึ้น จากนั้นก็ฝังแก่นกายของเขาเข้ามาในร่างของผม แม้เราจะเคยมีอะไรกันหลายครั้ง แต่ผมก็ยังอดที่จะสะดุ้งเฮือกไม่ได้ เวลาที่เข้าผ่านเข้ามาข้างใน ร่างกายของเขาใหญ่โตสมกับมีเลือดต่างชาติครึ่งหนึ่ง แต่ด้วยชั้นเชิงลีลาของเด็กหนุ่มที่นับวันก็ยิ่งฝีมือจัดจ้านขึ้น ทำให้ผมค่อยๆรู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกสุขสันต์ยามที่เขาขยับตัวอยู่บนร่างของผม

ในขณะที่เดียร์เคลื่อนไหวร่างกายอย่างเนิบช้าอยู่นั้น หูของผมก็พลันแว่วได้ยินเสียงหนึ่งดังอยู่ข้างล่างทางด้านนอก เนื่องจากห้องนอนของผม อยู่ชั้นสองทางด้านหน้า สามารถที่จะมองผ่านกระจกออกไปยังบริเวณรั้วบ้าน และได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นได้ด้วย เสียงนั่นดังขึ้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน เรียกร้องความสนใจของผม จนอดที่จะเอ่ยปากออกมาไม่ได้

“ได้ยินเสียงอะไรหรือเปล่าหือเดียร์”

“หือ....ได้ยินสิ เสียงครวญครางของเรียวที่เรียกชื่อผม”

เดียร์กระซิบที่ข้างหูผมเสียงกระเส่า เขายังคงเคลื่อนไหวร่างกายไม่ยอมหยุด แม้ผมจะรู้สึกวาบหวามเพียงใด แต่เสียงที่ดังอย่างไม่หยุดนั้นก็รบกวนจิตใจผมไม่น้อย

“ไม่ใช่ ...เสียงเหมือนเสียงกริ่งหน้าบ้านถูกกดนะ...ลองฟังดูสิ”

เด็กหนุ่มหยุดการเคลื่อนไหวชั่วครู่ แล้วก็เงี่ยหูฟัง เมื่อเราสองคนหยุดกิจกรรมลง เสียงนั้นก็ชัดขึ้น สักพักเดียร์ก็ขยับสะโพกต่อ และซุกไซร้แถวซอกคอผม เป็นการบอกให้รู้เป็นนัยๆว่าให้เลิกสนใจกับสิ่งภายนอก เขาพยายามดึงตัวผมเข้ามาสู่โลกที่มีเราเพียงแค่สองคน ทว่า ผมติดใจเสียงกริ่งนั่นเสียแล้ว

“มันดังอยู่หน้าบ้านเรานะ ฉันว่า...ลงไปดูก่อนดีไหม”

“ไม่เอานะครับ คนดี ...อย่าเพิ่งเลย...เสียเวลาเปล่า .ผมว่าไม่ใช่หรอกครับ คงบ้านอื่นมากกว่า เดี๋ยวเจ้าของบ้านคงมาเปิดรับกันเองแหละ เราอย่าไปยุ่งเรื่องของชาวบ้านเลย มากุ๊กกิ๊กกันต่อดีกว่านะครับ ที่รักของผม”

ทว่ายังไม่มีเจ้าของบ้านคนใด มาแสดงตัวรับคนที่กดกริ่งนั้นเข้าไป เพราะเสียงนั้นยังดังระรัวไม่ยอมหยุด ผมชวนเดียร์ลงไปดูอีกครั้ง ได้ยินเดียร์ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด เขาไม่ยอมตอบ ไม่ยอมไป แต่ยังพยายามที่จะทำภาระกิจของตัวเองต่อ

เดียร์ก้มลงมาจูบผมอีกครั้ง มือไม้ก็ลูบไล้ไปทั่วในขณะที่สะโพกก็ขยับเป็นจังหวะต่อเนื่อง แต่ผมหมดอารมณ์เสียแล้ว ความสงสัยเข้ามาแทนที่ ผมคิดว่าเสียงนั้นไม่ได้ดังที่บ้านอื่น แต่ดังที่บ้านของผมเอง และแขกผู้มาเยี่ยมยามวิกาลกำลังมีเรื่องอะไรบางอย่างที่เดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือ ถึงได้กดกริ่งเรียกแบบไม่ยั้งอย่างนั้น

เหมือนจะรู้ว่าผมไม่มีกระจิตกระใจจะทำต่อแล้ว แต่เดียร์ก็ยังหวังว่าการเริ่มต้นเล้าโลมผมอีกครั้งจะช่วยสร้างความพิสวาสให้เกิดขึ้นกับผมใหม่ได้ เขาจึงพยายามอย่างยิ่งที่จะให้ผมละความสนใจจากตรงนั้นเพื่อดำเนินกิจกรรมแห่งความรักกับเขา


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #305 เมื่อ13-02-2009 13:13:18 »


เหมือนจะรู้ว่าผมไม่มีกระจิตกระใจจะทำต่อแล้ว แต่เดียร์ก็ยังหวังว่าการเริ่มต้นเล้าโลมผมอีกครั้งจะช่วยสร้างความพิสวาสให้เกิดขึ้นกับผมใหม่ได้ เขาจึงพยายามอย่างยิ่งที่จะให้ผมละความสนใจจากตรงนั้นเพื่อดำเนินกิจกรรมแห่งความรักกับเขา

“เดียร์พอเถอะ ....ฉันไม่อยากทำแล้วล่ะ....ฉันว่าจะลงไปดูข้างล่างดีกว่า.....”

“ไม่นะครับ อย่าเพิ่งทิ้งกันไปนะ...รอก่อนได้ไหมครับ...คนดี....ให้ความร่วมมือกับผมก่อน แล้วเดี๋ยวเราค่อยลงไปพร้อมกันนะครับ...”

เด็กหนุ่มพยายามอ้อนขอทำต่อ จากนั้นก็เริ่มต้นเล้าโลมผมใหม่อีกครั้ง แต่ผมไม่มีอารมณ์อีกแล้ว เริ่มที่จะรู้สึกรำคาญที่เขาเห็นแก่ความสุขส่วนตัว จนไม่คำนึงถึงคนอื่น คนข้างล่างอาจจะเป็นใครบางคนที่กำลังเดือดร้อนมา

ผมนึกไปถึงเด็กสาวๆที่อาจจะหนีการตามไล่ล่าจากพวกโจรข่มขืน หรือไม่ก็อาจจะถูกแย่งชิงทรัพย์สิน และมากดกริ่งขอความช่วยเหลือ หากแต่มันอยู่ในช่วงที่คนกำลังหลับนอน เลยอาจจะไม่ได้ยิน หรือไม่ก็อาจจะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้จึงไม่มีใครคิดจะมาช่วยเหลือ

แต่ผมตื่นอยู่ ผมสามารถลงไปให้ความช่วยเหลือได้ ก่อนจะเกิดเหตุร้ายขึ้น สำหรับการกุ๊กกิ๊กกันกับเดียร์ เรามีเวลาที่จะทำกันอีกมากมาย ที่จริงเดียร์น่าจะเข้าใจ ไม่น่าจะดื้อรั้นอย่างนี้

แต่ผมลืมไปข้อหนึ่งก็คือ คนเราอารมณ์กำลังเตลิดสุดๆ ก็คงอยากจะจัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้น เหมือนรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง อยู่ดีๆก็มีคนวิ่งตัดหน้า ต้องเบรกกระทันหัน ทำให้รถต้องเสียหลัก และเกิดการบาดเจ็บขึ้น ผมมัวแต่คิดถึงคนอื่น เลยลืมคิดถึงความรู้สึกของเดียร์ไป

ความหงุดหงิดทำให้ผมไม่คิดหน้าคิดหลังให้รอบคอบ เมื่อเดียร์มีทีท่าว่าไม่ยอมหยุดสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ ผมก็หงุดหงิด โมโห และงอเข่าขึ้น ผมเห็นเดียร์ส่ายหน้าปฏิเสธ เหมือนขอร้องให้ผมหยุดสิ่งที่ผมกำลังคิดจะทำ

แต่ช้าไปเสียแล้ว ผมใช้เท้ายันร่างของเดียร์ออกไปให้พ้นตัวอย่างแรง ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ เดียร์หลุดออกจากตัวผม แล้วกระเด็นตกจากเตียงกระแทกกับพื้นก้นจ้ำเบ้า

เสียงของเนื้อที่กระทบกับพื้นทำให้ผมรีบผวาลุกขึ้นนั่ง มองลงไปข้างล่าง ก็เห็นเดียร์เบิกตากว้างมองผมอย่างตกใจ และแปรเปลี่ยนเป็นน้อยใจผสมกับความโกรธขึ้ง คิ้วขมวดมุ่น ตาของเขาแดงก่ำ น้ำใสๆจำนวนหนึ่งเอ่อล้นขอบตา

เขาเม้มริมฝีปากแน่น ทรวงอกสะท้อนขึ้นลง ร่างกายชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ผมใจหายหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม รู้ตัวแล้วว่าทำผิดไปมหันต์ นึกขึ้นได้ว่าตัวเองก็เคยอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาสแบบนี้ ขณะที่โรมรันพันตูกับคู่ของตัวเอง หากถูกขัดจังหวะแม้เพียงเสียงโทรศัพท์ ผมก็เคยหงุดหงิดมาก่อน

แต่นี่ผมใช้กำลังเอากับเขาโดยที่เดียร์ไม่ทันตั้งตัว ก้นกระแทกกับพื้นแรงขนาดนั้นในขณะที่น้องชายของเขากำลังแข็งตัวอยู่ มันจะทำให้เขาบาดเจ็บหรือเปล่านะ ผมอยากจะร้องไห้เหลือเกิน ร่ำร้องในใจว่าผมขอโทษ จะโกรธผมก็ยอมแต่อย่าเป็นอะไรมากเลยนะ


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #306 เมื่อ13-02-2009 13:13:48 »

ผมเลื่อนตัวลงจากเตียงเดินมาหาเขา แล้วยื่นมือออกมา แต่เดียร์รีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ผมมองไปที่กลางลำตัวของเขาโดยอัตโนมัติ รีบสำรวจหาร่องรอยการบาดเจ็บ แต่ไม่พบอะไร

น้องชายของเขายังไม่ได้สงบลงทันที อาจจะบาดเจ็บอยู่ข้างในก็ได้ ผมกำลังจะเอ่ยปากขอโทษเขาแล้วถามว่าเป็นอะไรมากไหม แต่เดียร์ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ราวกับคนที่กำลังพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเอง

“รอผมนิดหนึ่งไม่ได้หรือครับเรียว....รอให้เสร็จก่อนไม่ได้ใช่ไหม ....คนข้างล่างเป็นใครก็ไม่รู้ แต่เรียวห่วงเขามากกว่าห่วงผม คุณใจดีกับคนอื่นๆ แต่ไม่เคยใส่ใจกับความรู้สึกของผมเลย”

น้ำเสียงตัดพ้อต่อว่าของเขาทำให้ผมคอตก ประโยคต่อไปของเขายิ่งทำให้ผมเจ็บปวด

“ไปเถอะครับเรียว ลงไปดูเขา ไปช่วยเหลือเขาให้พอใจ....ผมน่ะมันไม่มีความหมายอะไรกับเรียวเลยแม้แต่นิดเดียว.....”

“เดียร์...ฉัน...”

ยังไม่ทันที่จะหลุดคำว่าขอโทษ เดียร์ก็พูดแซงขึ้นมาอีก เหมือนว่าเขาจะรู้สึกอัดอั้นจนทนไม่ไหว

“ช่างเถอะครับเรียว.....ที่จริงจะโทษคุณก็ไม่ถูก....ผมผิดเองที่รักคุณ และควรที่จะทำใจตั้งแต่แรกว่า คุณไม่เคยรักผมเลย ดังนั้นคุณจะมาใส่ใจกับความรู้สึกของผมทำไม ผมมันก็แค่คนโง่ที่หวังว่าจะมีปาฎิหารย์เกิดขึ้น คิดว่ารักแท้ของผมจะช่วยเปลี่ยนแปลงใจคุณได้ แต่...มันไม่เคยเป็นจริงเลย คุณยังคงเกลียดผม และเห็นคนอื่นดีกว่าผมเสมอ”

มันไม่จริงเลย ทำไมผมจะไม่รักเดียร์ ผมรักเขามากด้วย และเห็นเขามีค่าสำหรับผม ถ้าไม่รักผมจะยอมเป็นของเขาได้ไง ที่ผ่านมาผมอาจจะเคยหนีเขา แต่หลังจากที่ผมรู้แน่แก่ใจตัวเองแล้วผมก็ยอมเขามาโดยตลอด

ปาฏิหารย์มีจริง สิ่งที่เขาเพียรทำความดีกับผม มันได้ผล ผมรักเขามากมายเหลือเกิน เมื่อกี้ผมผิดเอง ผมลืมไป ผมแค่มองต่างมุมเท่านั้น เห็นว่าเรายังมีเวลาให้แก่กันอีกมาก แต่คนข้างล่างอาจจะกำลังโดนทำร้ายอยู่ก็ได้

ผมแค่อยากช่วย แต่ผมไม่ได้เห็นว่าเขาสำคัญกว่าเดียร์เลย ผมไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะโกรธผมด้วยเรื่องแค่นี้ แต่เขาคงจะน้อยใจผมหลายครั้งจนเก็บสะสมไว้มากเข้ามากเข้า โดยเฉพาะวันนี้เขาก็เคืองเพื่อนๆผม แถมยังงอนที่ผมปล่อยให้เพื่อนตามไปขัดขวางความสุขของเรา พอเกิดมาเกิดเรื่องนี้ขึ้นตอนที่กำลังเข้าได้เข้าเข็ม แล้วผมก็เผลอตัวทำร้ายเขาด้วย เดียร์จึงน้อยใจสุดๆ

ผมอ้าปากจะขอโทษเดียร์ และถามว่าเป็นอะไรไหม แต่เดียร์สะบัดหน้าและเดินหนีเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้ผมยืนเคว้งคว้างอยู่ในห้องแต่เพียงลำพัง กับความกลัดกลุ้มที่เกิดจากการกลัวว่าเดียร์จะโกรธจนไม่พูดกับผม


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #307 เมื่อ13-02-2009 13:14:16 »


มันไม่จริงเลย ทำไมผมจะไม่รักเดียร์ ผมรักเขามากด้วย และเห็นเขามีค่าสำหรับผม ถ้าไม่รักผมจะยอมเป็นของเขาได้ไง ที่ผ่านมาผมอาจจะเคยหนีเขา แต่หลังจากที่ผมรู้แน่แก่ใจตัวเองแล้วผมก็ยอมเขามาโดยตลอด ปาฏิหารย์มีจริง

สิ่งที่เขาเพียรทำความดีกับผม มันได้ผล ผมรักเขามากมายเหลือเกิน เมื่อกี้ผมผิดเอง ผมลืมไป ผมแค่มองต่างมุมเท่านั้น เห็นว่าเรายังมีเวลาให้แก่กันอีกมาก แต่คนข้างล่างอาจจะกำลังโดนทำร้ายอยู่ก็ได้ ผมแค่อยากช่วย แต่ผมไม่ได้เห็นว่าเขาสำคัญกว่าเดียร์เลย

ผมไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะโกรธผมด้วยเรื่องแค่นี้ แต่เขาคงจะน้อยใจผมหลายครั้งจนเก็บสะสมไว้มากเข้ามากเข้า โดยเฉพาะวันนี้เขาก็เคืองเพื่อนๆผม แถมยังงอนที่ผมปล่อยให้เพื่อนตามไปขัดขวางความสุขของเรา พอเกิดมาเกิดเรื่องนี้ขึ้นตอนที่กำลังเข้าได้เข้าเข็ม แล้วผมก็เผลอตัวทำร้ายเขาด้วย เดียร์จึงน้อยใจสุดๆ

ผมอ้าปากจะอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เดียร์สะบัดหน้าและเดินหนีเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้ผมยืนเคว้งคว้างอยู่ในห้องแต่เพียงลำพัง กับความกลัดกลุ้มที่เกิดจากการกลัวว่าเดียร์จะโกรธจนไม่พูดกับผม

ทว่าผมไม่มีเวลาที่จะงอนง้อเดียร์ในตอนนี้ เพราะเสียงกดกริ่งระรัวข้างล่าง เร่งเร้าให้ผมลงไปหาต้นเหตุที่ทำให้เกิดเสียงดังนั่น

ผมคว้าเสื้อและกางเกงนอนมาสวม และใส่เสื้อคลุมทับอีกที จากนั้นผมก็ออกจากห้องเดินลงไปข้างล่าง ที่ประตูรั้วมีร่างหนึ่งยืนอยู่ เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้จึงได้เห็นว่าคนที่กดออดบ้านผมอยู่นั้นเป็นใคร ผมมองสารรูปคนที่อยู่ตรงหน้า ทั้งแปลกใจและโกรธขึ้ง

นี่เหรอต้นเหตุที่ทำให้ผมบาดหมางกับเดียร์ สาวเก่งนามแคทลียา ยืนโงนเงนแทบจะทรงตัวไม่ได้อยู่หน้าบ้านผม มือกดค้างที่กริ่งกำลังจะกดซ้ำ แต่ผมเรียกเธอไว้เสียก่อน

“ไปไงมาไงเนี้ยคุณแคท เมามาอีกแล้วใช่ไหม ทำไมไม่กลับบ้าน แล้วจะมาบ้านผมทำไมไม่โทรมาบอก ดุ่มๆมาแบบนี้ มันเสี่ยงมากนะ ถ้าผมนอนขี้เซา ไม่ได้ยินขึ้นมาจะทำไง”

ผมต่อว่าต่อขานเธอ แต่ก็เปิดประตูให้เธอเข้ามา

“คุณเรียวเหรอ ช่วยแคทด้วย แคทไม่รู้จะทำไงดี แคทกลุ้ม คิดอะไรไม่ออก แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ เลยมาหาคุณนี่แหละ”

“เข้ามาคุยกันในบ้านดีกว่า”

ผมพาเธอไปห้องรับแขก หาน้ำหาท่ามาให้กิน และเอาผ้าชุบน้ำเย็นๆ มาส่งให้เธอเพื่อเช็ดหน้าเช็ดตา จากนั้นก็นั่งรอเธอสักพัก พอเห็นว่าเธอพอจะพูดรู้เรื่องขึ้นบ้าง จึงได้เอ่ยปากถาม

“เกิดอะไรขึ้นหรือครับ ผมนึกว่าพอแยกกันแล้ว คุณจะกลับไปบ้าน ไม่นึกว่าคุณจะไปต่อ”

“ที่จริงแคทตั้งใจจะมาพูดคุยกับคุณด้วยเรื่องเดิมๆ ที่แคทอึดอึดใจอยู่ค่ะ แต่เมื่อตอนกลางวันนี้ โชคไม่ดีเลย เวลาน้อย แคทเข้าไม่ถึงตัวคุณ แต่แคทยังอึดอัดใจอยู่ ไม่มีที่ระบายแคทเลยไปเที่ยวต่อ แล้วก็มาหาคุณนี่แหละ”

เธอพูดด้วยท่าทีที่รู้สึกอัดอั้น ดูเหมือนว่าเธอจะเมานิดหน่อย ผมเลยให้เธอพักผ่อนก่อน เดี๋ยวค่อยมาคุยต่อ แต่คุณแคทไม่ยอม บอกว่าอุตส่าห์มาถึงบ้านผม แถมซ้ำมีเรื่องเดือดร้อนอยากมาปรึกษา รอต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เพราะใจเธอมันร้อนรุ่มเหลือเกิน ขอเวลาเธอแค่แป๊บเดียว ถ้าเธอสร่างเมาแล้ว จะเล่าให้ผมฟังแทบทุกอย่าง ผมเลยจำเป็นต้องนั่งรอคุณแคท ซึ่งนับนิ่งเงียบไปอีกราวครึ่งชั่วโมง


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #308 เมื่อ13-02-2009 13:15:02 »

เกิดอะไรขึ้นหรือครับ ผมนึกว่าพอแยกกันแล้ว คุณจะกลับไปบ้าน ไม่นึกว่าคุณจะไปต่อ”

“ที่จริงแคทตั้งใจจะมาพูดคุยกับคุณด้วยเรื่องเดิมๆ ที่แคทอึดอึดใจอยู่ค่ะ แต่เมื่อตอนกลางวันนี้ โชคไม่ดีเลย เวลาน้อย แคทเข้าไม่ถึงตัวคุณ แต่แคทยังอึดอัดใจอยู่ ไม่มีที่ระบายแคทเลยไปเที่ยวต่อ แล้วก็มาหาคุณนี่แหละ”

เธอพูดด้วยท่าทีที่รู้สึกอัดอั้น ดูเหมือนว่าเธอจะเมานิดหน่อย ผมเลยให้เธอพักผ่อนก่อน เดี๋ยวค่อยมาคุยต่อ แต่คุณแคทไม่ยอม บอกว่าอุตส่าห์มาถึงบ้านผม แถมซ้ำมีเรื่องเดือดร้อนอยากมาปรึกษา รอต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เพราะใจเธอมันร้อนรุ่มเหลือเกิน ขอเวลาเธอแค่แป๊บเดียว ถ้าเธอสร่างเมาแล้ว จะเล่าให้ผมฟังแทบทุกอย่าง ผมเลยจำเป็นต้องนั่งรอคุณแคท ซึ่งนับนิ่งเงียบไปอีกราวครึ่งชั่วโมง

“เขาบอกเลิกกับแคทอีกแล้วค่ะ เขาขอเลือกลูกกับเมียเขามากกว่าที่จะอยู่กับแคท ขนาดตื้อและอ้อนวอนเท่าไหร่ เขาก็ไม่ยอมฟัง เขาบอกว่าเขาไม่ได้รักเมียเท่าไร แค่รู้สึกผูกพัน แต่เขารักลูกมากกว่า เพราะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา และแคทเองก็มีลูกให้กับเขาไม่ได้ค่ะ”

คุณแคทพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น เธอเริ่มต้นที่จะร้องไห้อีกแล้ว ผมหยิบทิชชู่ส่งให้เธอซับน้ำตา จากนั้นก็พูดกับเธอออกไปตรงๆ

“ในเมื่อรู้ว่าไม่มีหวังแล้ว ทำไมไม่ตัดใจล่ะครับ สวยอย่างคุณแคท หาเอาใหม่ก็ได้”

“แล้วใครจะมายอมรับในตัวแคทล่ะคะ ในเมื่อแคทไม่เหมือนคนอื่นเค้า....”

“ทำไมหรือครับ....ผมไม่เข้าใจ ว่าจะไม่มีคนยอมรับในตัวคุณแคทได้ไง ในเมื่อคุณแคทสวย ฉลาด และทำงานเก่งออกขนาดนี้ ใครเห็นใครก็หลงรัก”

แม้จะคาดเดาว่าคำตอบคืออะไร แต่ผมก็อยากจะรู้ให้แน่ชัด เลยลองทำตัวเป็นนักสืบอย่างสันต์ดูบ้าง ด้วยการวางคำถามให้เธอตอบ อย่างน้อยๆ การได้ทราบที่ไปที่มา อาจจะทำให้ผมสามารถช่วยแก้ปัญหาให้คุณแคทได้ มันจะได้จบๆกันไปเสียที ปล่อยไว้คาราคาซัง มันก็จะยิ่งยุ่ง ไม่เพียงแต่คู่ของคุณแคทที่เลิกรากัน ผมกับเดียร์ก็จะบาดหมางแคลงใจกันไปด้วย

“ก็มีคุณไงคะที่ไม่เคยมองแคท ทั้งที่เราทำงานใกล้กัน คุณสันต์ และคนอื่นๆ เขาก็แค่ชื่นชมแคท แต่ไม่มีใครจีบสักคน มีเพียงเขาที่รักและยอมรับแคทได้ แคทจึงไม่อยากเสียเขาไปไงคะ”

มายกอ้างผมกับเจ้าสันต์ได้ไงกันเนี่ย เจ้าสันต์มันเป็นเกย์ มันไม่สนผู้หญิงหรือคนที่แปลงเพศแบบคุณแคทหรอก ส่วนผมมีใครบางคนอยู่ในหัวใจแล้ว และผมก็รักเขาจนไม่มีสายตาไปมองคนอื่นอีกแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าที่คุณแคทพูดจะเป็นความจริง สวยๆแบบนี้ทำไมไม่มีแฟน หรือว่าใครต่อใครเขามองออกนะ ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงแท้

“ผมว่าคุณแคทไม่ได้มองคนอื่นมากกว่านะครับ ลองดูสิ ในเมื่อคุณไม่สามารถที่จะมีความรักที่สมหวังกับคนที่เขามีลูกเมียแล้ว ทำไมไม่มองหาหนุ่มโสดนิสัยดีๆสักคนละครับ ผมว่าน่าจะหาเจอนะ”

คุณแคทแค่นยิ้ม ก่อนจะเสยผมที่ปรกระใบหน้า ท่าทางของเธอยังมึนๆอยู่ แต่กระนั้นก็พอจะพูดสื่อสารให้เข้าใจได้

“ถ้าเขารู้ความจริงว่าแคทเป็นกระเทย เขาก็คงจะหนีไปเหมือนกับคนอื่นๆที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต จะมีใครสักกี่คนล่ะคะที่จะอยากแต่งงานกับคนที่ไม่ใช่ผู้หญิงแท้....มีลูกให้เขาก็ไม่ได้ แต่งงานกันไปสังคมก็ไม่ยอมรับ...ไม่มีใครหรอกค่ะที่อยากจะมาร่วมหัวจมท้ายด้วย....”

ในที่สุดคุณแคทก็โพล่งออกมาอย่างยอมรับความเป็นจริง ผมฟังน้ำเสียงที่เศร้ารันทดของเธอแล้วอดคิดไปถึงตัวเองไม่ได้ ทำไมเหตุการณ์มันถึงได้คล้ายกันนะ เพียงแต่ว่าสลับกันนิดหน่อยตรงที่ ผมเป็นผู้ชายที่ลังเลใจที่จะใช้ชีวิตคู่กับคนที่เป็นเกย์ กลัวการไม่ยอมรับของสังคม ปรารถนาที่จะใช้ชีวิตครอบครัวที่มีทั้งพ่อแม่และลูก ไม่เคยคิดฝันว่าจะต้องมาอยู่กินกับผู้ชายด้วยกัน

การที่ได้ฟังความในใจของกระเทยอย่างคุณแคท ทำให้ผมได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของคนที่เป็นเพศที่สาม พวกเขามีความรักแบบเดียวกับชายหญิงทั่วไป แต่ความรักของคนเหล่านั้นไม่ค่อยจะสมหวัง เพราะไม่มีใครกล้าที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วย ต่างคนต่างก็กลัวการพิพากษาของสังคม กลัวถูกกีดกันไม่ยอมรับ เกรงว่าจะสูญเสียทุกอย่างในชีวิต ทำให้คนที่เป็นเกย์หรือกระเทยต้องพบกับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนไม่กล้าที่จะคิดที่จะสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวกับใครสักคน


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #309 เมื่อ13-02-2009 13:15:32 »

“อึ้งเลยละสิ เห็นไหมคะ ทุกคนที่รู้ความจริง มีอาการแบบคุณเรียวทุกคนเลย ผู้ชายส่วนใหญ่ รับไม่ได้หรอกค่ะ ที่จะมายุ่งเกี่ยวกับกระเทย ต่อให้เราพยายามจะเลียนแบบผู้หญิงให้เหมือนกว่า สวยและมีเสน่ห์ หรือทำตัวดีกว่าอย่างไร พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเลือกเราเป็นคู่ชีวิตหรอกค่ะ ถึงยังไงเพศที่เราถือกำเนิดมาก็รบกวนจิตใจของพวกเขาอยู่ดี....”

ใช่ สิ่งที่คุณแคทพูดมาถูกต้องเลย ผมเองก็มีข้อจำกัดเรื่องนี้เหมือนกัน ทำให้ไม่กล้าเปิดใจกับเดียร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งๆที่ผมรักเขามากจนขาดเขาไม่ได้แล้วตอนนี้

“ผมขอถามความจริงอะไรคุณแคทอย่างหนึ่งได้ไหมครับ....”

“อะไรหรือคะ ถามมาสิ ถ้าตอบได้แคทจะตอบ.....แต่ตอบแล้วมันช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้างไหมคะ....”

“ลองตอบก่อนแล้วกัน คือผมสงสัยมานานแล้ว เลยอยากจะถามคุณแคทว่า คุณแคทเป็นแฟนเก่าของพี่สมชายใช่ไหมครับ”

คำถามของผม เล่นเอาคุณแคทชะงัก เธอยกมือขึ้นลูบใบหน้า นิ่งอยู่ชั่วอึดใจหนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า แล้วสิ่งที่อัดอั้นตันใจก็ถูกระบายออกมา ราวกับทำนบกั้นน้ำที่พังทะลาย

“ใช่ค่ะ เราสองคนเคยเป็นแฟนกัน เรารักกันมาตั้งนานแล้วก่อนที่พี่สมชายจะแต่งงานเสียอีก แคทเคยเรียนโรงเรียนเดียวกันกับเขา แต่เขาเป็นรุ่นพี่หลายปีมาก ตอนแคทเข้า ม.1 พี่สมชายก็อยู่ ม.6 แล้ว แคทก็แอบรักพี่เขามาโดยตลอด แต่พี่สมชายไม่รู้ตัว

จนกระทั่งแคทเรียนจบ สอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็มาเจอเขาอีก ไม่น่าเชื่อเลย พี่สมชายแกเข้ามาเรียนก่อนเป็นรุ่นพี่ แต่แกบ้ากิจกรรมมาก แล้วมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ดรอปเรียน ออกไปแสวงหาตัวตนอะไรของเขาก็ไม่รู้ตั้งเกือบ 2 ปี พอกลับเข้ามาเรียนใหม่ เราก็มีโอกาสได้เจอกันอีก

ตอนแรกที่เขาจบออกไปก่อน แคทตัดใจแล้วนะคะว่าคงไม่มีหวัง แต่พอได้เห็นหน้าเขาที่มหาวิทยาลัย ความรู้สึกเดิมๆมันก็กลับมาอีก แล้วเขาก็ดีกับแคทมาก ดูแลเทคแคร์ตลอด ตอนนั้นแคทยังไม่ได้แปลงเพศ เป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่ง แต่เขาก็ยังมอบความรักให้กับแคท ในที่สุดเราก็มีอะไรกัน..........”

พอเล่ามาถึงตรงนี้ คุณแคทก็หลับตาลง แต่ใบหน้าฉาบไปด้วยรอยยิ้ม ผมเดาเอาว่า เธอคงกำลังหวนระลึกไปถึงความทรงจำที่มีความสุขระหว่างเธอกับพี่สมชาย ก่อนที่ทุกอย่างมันจะเปลี่ยนแปลง สักพักคุณแคทก็ลืมตาขึ้น

“เราวาดฝันถึงอนาคตร่วมกัน ว่าถ้าแคทเรียนจบแล้ว เราจะไปเมืองนอก ไปแต่งงานอยู่กินกัน ในประเทศที่เขาอนุญาตให้ผู้ชายแต่งงานกันได้ แต่แล้วความรักของเราก็ต้องพังทะลายลง เมื่อเรื่องรู้ไปถึงหูผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย

พ่อแม่ของพี่สมชาย เขามีผู้หญิงที่เลือกไว้ให้กับลูกชายตัวเองแล้ว ส่วนพ่อแม่ของแคทก็ไม่ชอบพี่สมชาย เพราะท่านอยากให้แคทเป็นในสิ่งที่ท่านต้องการ ตอนนั้นท่านยังรับไม่ได้ที่ลูกชายตัวเองมาชอบพอกับผู้ชายด้วยกัน ท่านทั้งสองบีบบังคับแคทมาก

พอเจอปัญหาและอุปสรรคต่างๆเข้า เราสองคนก็เลยต้องเลิกรากัน จากนั้นแคทก็ไปนอก ไปอยู่ที่นั่น แคทก็ยังคิดถึงพี่สมชายอยู่ คิดว่าถ้าได้มีโอกาสกลับมาเมืองไทยเมื่อไหร่ แคทจะมาหาพี่สมชาย มาอยู่กับเขาให้ได้ ใครว่าอย่างไรก็จะไม่ฟังแล้ว

พ่อแม่ก็มากดดันแคทอยู่เรื่อยๆ บังคับมากนัก แคทก็เลยประชดชีวิตด้วยการแปลงเพศเป็นผู้หญิงเสียเลย จะได้ครองคู่กับคนที่ตัวเองรักอย่างมีความสุข และพ่อแม่จะได้เลิกยุ่งกับแคทเสียที เพราะแคทตัดสินใจได้แล้วว่าแคทจะเป็นอะไร รู้ไหมคะ การผ่าตัดได้ผลเป็นที่น่าพอใจมาก คุ้มค่าเงินที่เสียไปกับการเจ็บตัวจากการผ่าตัดหลายครั้ง

แคททำทั้งตัวเลย ทั้งใบหน้า หน้าอก สะโพก และเสียงด้วย จนดูเหมือนผู้หญิงจริงๆ มีคนมาจีบมากมาย แต่พอเขารู้ว่าแคทเป็นผู้ชายมาก่อน เขาก็หนีหายไป แต่แคทก็ไม่ใส่ใจเพราะแคทมีคนที่รออยู่ทางนี้ .......”

เธอหยุดพูด ดวงตามองเหม่อไปอย่างไร้จุดหมาย สักพักสติเธอก็กลับคืน จึงเริ่มเล่าต่อ

“พ่อแม่รู้ว่าห้ามแคทไม่ได้แล้ว ก็เลยปล่อยเลยตามเลย พยายามทำใจยอมรับว่าลูกชายได้กลายเป็นลูกสาวไปแล้ว แคทก็พยายามเรียน อดทนมุ่งมั่น ไหนๆก็ทำให้พ่อแม่เสียใจแล้ว ก็น่าจะทำอะไรเพื่อเป็นการชดเชย

แคทกลับมาพร้อมด้วยใบปริญญาบัตร เป็นนักศึกษาปริญญาโท ชาวเอเชียที่ทำคะแนนได้ดีมาก พ่อแม่ปลื้มใจ แคทเองก็มีความสุขที่ทำให้พวกท่านสบายใจได้ เรียนจบแคทก็ทำงานอยู่ที่นั่นสักพัก คิดถึงบ้าน และคนบางคนที่อยู่ทางนี้ ก็เลยกลับมา

ลงจากเครื่องก็ได้ข่าวว่าพี่สมชายแต่งงานแล้วจากปากพ่อและแม่เลย สงสัยไปสืบมา ลูกจะได้ตัดใจ ตอนนั้นแคทก็เสียใจมากนะคะ ที่คนที่เรารักไม่รอเรา แต่ก็พยายามตัดใจว่าเขาไม่ใช่ของเรา จนกระทั่งเจอกันในงานเลี้ยงรุ่นของมหาวิทยาลัย เรามีโอกาสได้เจอกันอีกครั้ง

ตอนแรกพี่สมชายจำแคทไม่ได้ แต่พอแคทบอกเขาว่าแคทเป็นใคร เขาถึงกับอึ้งและบอกว่าแคทเปลี่ยนไปมาก สวยขึ้นจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนเดียวกับเด็กผู้ชายที่เขารู้จัก แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร เขาก็ยังคงรักแคทเสมอ ได้ฟังแล้วแคทถึงกับอ่อนระทวย ขาดความยับยั้งชั่งใจ จากนั้นเราก็ยุ่งเกี่ยวด้วยกันอีก แล้วสานสัมพันธ์กันเรื่อยมา แคทรู้ว่าพี่สมชายรักแคทมาก เขาพร่ำบอกอยู่ตลอดเวลาว่าไม่ได้รักเมียเขา แต่เนื่องจากมีลูกด้วยกัน ทำให้เขาต้องรับผิดชอบตัวเธอ.....”

คุณแคทแค่นยิ้มเมื่อเล่ามาถึงตรงนี้

“แล้วเมียเขาก็เกิดระแคะระคายขึ้นมา เพราะพี่สมชายกลับบ้านดึกดื่น เลยคอยจับผิดอยู่ตลอด ก็แน่ล่ะ เลิกงานแล้วเราก็มาขลุกด้วยกัน มีอะไรกันเพื่อชดเชยวันเวลาที่หายไป ความสุขที่แคทได้รับจากพี่สมชาย เป็นความสุขชั่วครู่ชั่วยาม

พอเมียเขายื่นคำขาด ให้เลิกกับผู้หญิงอีกคนไม่เช่นนั้นจะพาลูกหนี เขาก็เลยมาขอเลิกกับแคท แต่แคทไม่ยอม แคทอยากได้เขาคืนมา ผู้หญิงคนนั้นต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายหลีกทางให้ เพราะแคทมาก่อน เรารักกันมานานแล้ว....”

“คุณก็เลยหลอกใช้ผมใช้ไหม ผมกลายเป็นเครื่องมือของคุณแคทในการทวงความรักคืน เป็นความคิดที่แยบยลมากนะ เพราะผมอยู่บ้านตรงข้ามกับพี่สมชายพอดี ต่อหน้าต่อตาแบบนี้ พี่สมชายเลยทนไม่ได้”

ผมสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอพยักหน้ายอมรับ แววตาสำนึกผิด



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
« ตอบ #309 เมื่อ: 13-02-2009 13:15:32 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #310 เมื่อ13-02-2009 13:16:01 »

“แคทต้องขอโทษด้วยนะคะ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เกิดปัญหากับคุณ หรือกับแฟนของคุณ ที่จริงแคทเองก็มืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เลยนัดพี่สมชายออกมาเคลียร์ปัญหากัน ก็ทะเลาะกันนิดหน่อยค่ะ

วันที่คุณไปเจอแคทเมาที่สีลมนั่นแหละ แคททะเลาะกับเขาใหญ่โต เขาหาว่าแคทพูดไม่รู้เรื่อง เขาโกรธแคทเลยหนีกลับบ้านก่อน แคทเลยกินเหล้าจนเมา โชคดีที่เจอคุณมาช่วยเอาไว้ และพามาบ้าน

พอแคทตื่นมา แคทตกใจแทบช๊อคเลย ที่รู้ว่าพี่สมชายอยู่บ้านตรงข้ามกับคุณนี่เอง ความคิดที่จะเอาคืนพี่สมชายบ้าง แล่นเข้ามาในสมอง ยอมรับเลยค่ะ ว่าแคทเอาเรื่องที่คุณกำลังถูกคุณลุงเล่นงานมาเป็นข้อต่อรองให้คุณทำตามความต้องการของแคท แต่ตอนนั้น แคทไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ต้องขอโทษคุณเรียวด้วยนะคะ”

เธอทำหน้าตาน่าสงสารจนผมใจอ่อนโกรธไม่ลง พยายามนึกว่า ถ้าหากผมเป็นเธอ ผมจะทำแบบนี้บ้างไหม คำตอบคือไม่ เพราะผมไม่ใช้วิธีการนี้มาทำให้คนอื่นเดือดร้อนแน่ แล้วถ้าเป็นนายเดียร์สุดที่รักของผมล่ะ เขาจะแก้ปัญหาอย่างไร ถ้าผมไปรักคนอื่นที่ไม่ใช่เขา เด็กหนุ่มจะใช้วิธีการแย่งผมมา หรือว่าจะปล่อยผมไป

“ถ้าผมรู้ว่าคนรักเก่าของคุณเป็นพี่สมชาย ผมจะไม่ให้ความร่วมมือกับคุณเลย เพราะเท่ากับผมทำบาป พรากผัวพรากเมีย พรากลูกของเขา มันไม่ดีเลย ทำไมเราต้องทำอะไรที่ผิดศีลธรรมด้วยครับ ทั้งๆที่เราสามารถยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และตัดใจซะ

ถึงอย่างไร เราก็คงไปด้วยกันไม่ได้ ออกมาจากชีวิตของพี่สมชายเสียตั้งแต่ตอนนี้ แล้วเริ่มต้นคบกับคนใหม่ วิธีการนี้ก็จะทำให้ทุกคนมีความสุข เด็กก็ไม่กำพร้าพ่อ หรือบ้านแตกสาแหรกขาดอีกด้วย”

ผมว่ากล่าวตักเตือนเธอไปตามความรู้สึกที่แท้จริงของตนเอง ผมคิดไตร่ตรองดีแล้ว ว่าจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีก จะไม่เป็นเครื่องมือในการแยกผัวแยกเมียเขาอีกต่อไป คุณแคทซบหน้ากับฝ่ามือ ความอัดอั้นตันใจทำให้เธอร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เธอสะอื้นจนตัวโยน พลางพูดจาขอโทษขอโพยผม

“แคทผิดไปแล้วค่ะ ขอโทษจริงๆ แคทมันโง่เองที่ทำแบบนั้น ใช้คุณเป็นเครื่องมือ ทำให้คุณเดือดร้อน แถมซ้ำยังไม่ได้คิดใกลไปถึงลูกและเมียของเขาด้วย แต่แคทตัดใจจากเขาไม่ได้ แค่รักเขา ไม่อยากจะเสียเขาไป เลยวางแผนการณ์ที่มันผิดศีลธรรม....แคทจะทำอย่างไรดีคะเรียว ...”


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37 12/2/09
«ตอบ #311 เมื่อ13-02-2009 13:18:30 »

 :bye2: น่าจะไม่ว่างมาโพสหลายวัน
เลยลงไปซะเต็มที่ รักคนอ่านจังเลย :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2009 13:32:16 โดย ไต๋ »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
+1 ให้คุณแอนสุดขยัน  :z2: :z2:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
นู๋ เดียรื จะเปนงัย บ้าง เนี่ยยย

เปน ห่วงงง


เพราะ คุน แคท คนเดียว  เรยยยจึง เกิด เหตุ การ เเบบนี้ ขึ้น



ที หลัง จา ทาม อาราย ไห้ คิด ไห้ ดีดี ก่อนน่ะ

kakoku_kin

  • บุคคลทั่วไป
สุขสันต์วันแห่งความรักขอรับ

 :3123:

meeyai

  • บุคคลทั่วไป
สุขสันต์ หวานชื่น รื่นรมณ์ สมใจ ในวันแห่งความรักครับ จิ้มไว้ก่อนแล้วค่อยมาอ่านต่อให้ทันครับ  :z13:

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
ตั้งใจอ่านหน่อยจิ พี่หมีเอ้ยน้องหนีหย่าย  o18

ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3
:m1: "HAPPY  :L2: VALENTINE" จ้า:m3:

kakoku_kin

  • บุคคลทั่วไป
สุขสันต์วันแห่งความรัก อีกครั้ง แอบย่องมาเที่ยว ชอบปลาการ์ตูนจังขอรับ  :bye2:

nanalonely

  • บุคคลทั่วไป
ได้อ่านเต็มอิ่มเลย

รอตอนต่อไปนะคะพี่แอน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่37-40 12/2/09
« ตอบ #319 เมื่อ: 15-02-2009 01:24:49 »





ออฟไลน์ sasa

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1008
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
คนโพสอย่าหายไปนานนะ เขาคิดถึง  :กอด1:

เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้น สงสารเดียร์สุด  อดทน ทนอดจริงๆ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:


ถึงกำหนด   มาลงตอน ต่อไป ได้ แร้วววว


คนอ่าน คอย จน น้ำ ย้อยยย แล้วว ค้าบบบบบ



 :fire:

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
 :m15: อยากโพสใจจะขาดแต่ยังไม่สะดวก
เอาคอมมาลง ilife อยู่ พรุ้งนี้นะ พรุ้งนี้จริงๆ :3123:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :z13: :z13: คุณแอน

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่41 16/2/09
«ตอบ #324 เมื่อ16-02-2009 15:42:21 »

บทที่ 41

เธอตั้งคำถามเอากับผม น้ำตาคลอตา ผมมองหน้าเธอ แล้วเสนอความคิดเห็น แม้ว่าจะรู้ว่ามันทำได้ลำบาก แต่การตัดใจตอนนี้ย่อมดีกว่า เสียใจเพียงแค่คนเดียว ดีกว่าลากคนอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องจนเดือดร้อนไปกันหมด

คำแนะนำของผมคือให้คุณแคทตัดใจ ความรักระหว่างเขาสองคนไม่มีทางจะลงเอยกันได้ ถึงแม้ว่าเธอกับพี่สมชายจะรักกันมากแค่ไหน แต่พี่สมชายก็คงไม่ฝืนกระแสสังคม อีกอย่างเขารักลูกของเขามากด้วย เขาคงไม่อยากให้เด็กขาดพ่อ

แล้วผมก็ไม่อยากให้คุณแคทไปทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกกัน สงสารเด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เขาจะเติบโตมาอย่างมีปัญหา คุณแคทเองก็จะได้รับผลกระทบ ถึงจะสามารถแย่งชิงพี่สมชายมาได้ แต่เธอจะมีความสุขหรือ สังคมจะคิดยังไงกับเรื่องแบบนี้ พวกเขาจะประณามสิ่งที่เธอทำหรือเปล่า สู้ปล่อยมือจากเขา คืนชีวิตครอบครัวให้กับคนที่เธอรัก ให้เด็กได้มีพ่อและแม่สมบูรณ์ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

ตลอดเวลาที่ฟังผมพูด เธอได้แต่นั่งนิ่ง มีเพียงน้ำตาที่ไหลเอ่อล้นมาตามร่องแก้ม ทำท่าเหมือนเข้าใจในสิ่งที่ผมกำลังบอกกับเธอ คนอย่างคุณแคทไม่ใช่คนโง่ แล้วเธอก็ไม่ได้ใจไม้ใส้ระกำอะไรนักหนา เพียงแต่เธอยังทำใจยอมรับไม่ได้เท่านั้น

หลังจากให้ข้อคิดกับเธอไปแล้ว เราสองคนก็ต่างคนต่างนิ่ง เธอไม่พูด ไม่ถาม ผมก็ไม่ตอบ แล้วก็ไม่ได้ซักไซ้เอาความจริงต่อ พอเธอเลิกสะอึกสะอื้น ผมก็บอกให้เธอนอนพัก โดยไปเอาผ้าห่มกับหมอนในห้องของตัวเองมาจัดวางให้บนโซฟาที่ปรับเอนนอนได้ ที่ผมเพิ่งซื้อมาใหม่

ทีแรกว่าจะให้เธอขึ้นไปนอนที่ห้องผม แต่ติดตรงที่เดียร์อยู่ด้วย และเขายังไม่ออกมาจากห้องน้ำเลย ไม่รู้ว่าเข้าไปทำอะไรนานมาก ผมไม่กล้าเคาะเรียก เลยตัดสินใจให้เธอนอนข้างล่าง และโซฟาตัวนั้นก็นอนสบายคล้ายกับเตียงจริงๆ แต่นุ่มกว่าเพราะหุ้มด้วยกำมะหยิ่ คุณแคทคงนอนได้ไม่ลำบาก

กว่าที่คุณแคทจะนอนหลับได้ ก็ปาเข้าไปเกือบตีสองแล้ว ผมจึงกลับขึ้นห้อง พอเปิดประตูเข้าไปก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหนึ่งที่เห็นร่างของเด็กหนุ่มนอนตะแคงอยู่บนเตียง หันหน้าเข้าหาผนังด้านหนึ่ง ถึงแม้จะโกระจะงอนผม แต่เขาก็ไม่ได้หนีหายไปไหน แต่เขายังคงนอนเป็นเพื่อนผมอยู่ในห้องนี้

ผมเดินไปหยุดยืนข้างๆเตียง ตรงด้านที่เขาหันหน้ามา ผมมองดูก็เห็นเด็กหนุ่มที่นอนหลับตานิ่ง ลมหายใจสม่ำเสมอ สงสัยคงน้อยใจผมจนนอนหลับไปแล้ว ผมนั่งลงที่บนเตียงข้างๆเขา ยื่นมือออกไปจะสะกิดเรียกให้เขาตื่น เพื่อที่จะอธิบายเรื่องราวทั้งหมด

ทว่าผมเปลี่ยนใจเป็นเอามือลูบไล้เรือนผมหยิกสลวยสีน้ำตาลเข้มนั่นอย่างแผ่วเบา ผมไม่ต้องการรบกวนเวลานอนของเดียร์ด้วยการปลุกเขาขึ้นมาคุย ด้วยเกรงว่าเขาอาจจะยังโมโหอยู่ เดี๋ยวจะพาลทะเลาะกันผมอีก ผมตัดสินใจเดินกลับมาขึ้นเตียงจากอีกฝั่ง แล้วนอนลงไม่ห่างจากเขานัก พยายามข่มตา แต่ไม่ยอมหลับ ได้แต่พลิกตัวไปมาแล้วก็ถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้มเกี่ยวกับเรื่องเด็กหนุ่มคนที่นอนอยู่เคียงข้าง

“อย่าพลิกตัวไปมาสิครับ รบกวนสมาธิของคนอื่น จะนอนก็นอนไม่ได้”
ผมเดินไปหยุดยืนข้างๆเตียง ตรงด้านที่เขาหันหน้ามา ผมมองดูก็เห็นเด็กหนุ่มที่นอนหลับตานิ่ง ลมหายใจสม่ำเสมอ สงสัยคงน้อยใจผมจนนอนหลับไปแล้ว

ผมนั่งลงที่บนเตียงข้างๆเขา ยื่นมือออกไปจะสะกิดเรียกให้เขาตื่น เพื่อที่จะอธิบายเรื่องราวทั้งหมด ทว่าผมเปลี่ยนใจเป็นเอามือลูบไล้เรือนผมหยิกสลวยสีน้ำตาลเข้มนั่นอย่างแผ่วเบา ผมไม่ต้องการรบกวนเวลานอนของเดียร์ด้วยการปลุกเขาขึ้นมาคุย ด้วยเกรงว่าเขาอาจจะยังโมโหอยู่ เดี๋ยวจะพาลทะเลาะกันผมอีก

ผมตัดสินใจเดินกลับมาขึ้นเตียงจากอีกฝั่ง แล้วนอนลงไม่ห่างจากเขานัก พยายามข่มตา แต่ไม่ยอมหลับ ได้แต่พลิกตัวไปมาแล้วก็ถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้มเกี่ยวกับเรื่องเด็กหนุ่มคนที่นอนอยู่เคียงข้าง

“อย่าพลิกตัวไปมาสิครับ รบกวนสมาธิของคนอื่น จะนอนก็นอนไม่ได้”

เสียงของเดียร์ทำให้ผมสะดุ้ง นี่เขายังไม่นอนอีกหรือนี่ อารามดีใจทำให้ผมพลิกตัวอย่างรวดเร็ว จึงไปชนกับด้านหลังของเขา มือของผมปาดไปโดยแขนของเด็กหนุ่มเข้าเลยรีบชักมือออก

“ยังไม่นอนอีกหรือเดียร์.....”

ผมถามเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาดุจกระซิบ

“จะนอนเข้าไปได้ไง คนข้างๆกระสับกระส่าย แล้วถอนหายใจตลอดเวลาแบบนั้นน่ะ”

น้ำเสียงของเขาเหมือนยังโกรธอยู่ ผมเลยวางมือลงบนแขนของเขาแล้วดึงเบาๆเพื่อที่จะให้หันหน้ามาพูดกัน แต่เด็กหนุ่มขืนตัวไว้

“เดียร์ เอ้อ .....ฉันน่ะ.....”

“อยากจะกอดผมก็กอดสิ จะอยู่เฉยทำไมละครับ”

อะไรเนี่ย เสียงห้วนๆนั่น เขาล้อเล่นกับผม หรือเอาจริงกันแน่นะ ถ้าจะให้เลิกโกรธ ผมต้องยอมตามใจด้วยการกอดเขาหรือเปล่า ผมยังคงรู้สึกลังเลไม่แน่ใจกับสิ่งที่เขาพูด ในขณะที่ผมยังงงกับคำพูดของเดียร์อยู่

เด็กหนุ่มหันมาหาผม จนหน้าเราเกือบชิดกัน เขาดึงมือผมให้โอบไปรอบเอวเขาแล้วจ้องตาผมเขม็ง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ทำหน้าดุๆ จนผมหายใจไม่ทั่วท้อง สงสัยคงโกรธผมอยู่แน่ๆ

“เดียร์ฉันขอโทษนะเมื่อสักครู่นี้น่ะ ฉันหงุดหงิดไปหน่อยแต่ไม่ได้ตั้งใจทำให้นายเจ็บนะ”

“โหย นี่ไม่ได้ตั้งใจหรือครับ ถีบเข้ามาที่ยอดอก แรงจนกระทั่งผมตกเตียงลงไปก้นจ้ำเบ้าเลย ไม่คิดว่าจะกล้าทำตอนที่เรากำลังมีอะไรกันแบบนี้ มันอันตรายมากนะครับ”

เสียงของเขายังคงเข้ม หน้าตาบึ้งนิดๆ ผมเอื้อมมือไปลูบตรงหน้าอกของเขา แล้วถามด้วยความห่วงใย

“ฉันขอโทษจริงๆนะ ก็นายน่ะ พูดดีๆก็ไม่ยอมเลิกทำนี่นา ฉันก็เลยหาทางจะหยุดนายไง ไม่คิดว่าถีบออกไปแล้วมันจะแรงขนาดนั้น แล้วเจ็บมากหรือเปล่า ไปหาหมอกันไหม ช้ำในหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฉันขับรถไปส่งให้นะ”

เดียร์หน้างอไม่เลิก จับมือของผมไปวางไว้ที่ตรงตำแหน่งที่เป็นหัวใจของเขา

“ช้ำในน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ช้ำใจมากกว่าน่ะสิครับ....บาดแผลทางกายน่ะรักษาง่าย แต่บาดแผลทางใจมันรักษายาก”

ดูเขาพูดเข้าสิ ตัดพ้อต่อว่าแบบนี้แสดงว่ายังไม่หายงอน แล้วผมจะต้องทำอย่างไรกันล่ะเนี่ย เกิดมาก็ไม่เคยง้อผู้ชายมาก่อนเลย

“ยังงอนฉันอยู่เหรอ บอกแล้วไงว่าฉันขอโทษ จะให้ฉันทำยังไงล่ะ นายถึงจะหายโมโห”

“กอดผมก่อนสิ”

“เอ๊ะ....ยังไงกัน ....ทำแบบนี้แล้วจะหายโกรธฉันจริงๆเหรอ นายพูดจริง หรือว่า อำเพราะหื่นกันแน่เนี่ย”
ผมถามอย่างสงสัยเดียร์หน้าบึ้งหนักเข้าไปอีก เขาพลิกตัวตะแคงข้าง หันหน้าหนีผมไปดื้อๆจนผมไม่แน่ใจในอากัปกริยาของเขา



anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่41 16/2/09
«ตอบ #325 เมื่อ16-02-2009 15:43:11 »

สงสัยจะโกรธจริงๆนั่นแหละ แถมซ้ำผมยังไปพูดจาสงสัยเขาอีก ถ้าทางจะงอนไม่เลิกแล้วมั๊งคราวนี้ ผมเลยเอื้อมมือไปแตะที่สะโพกของเขาเบาๆ เดียร์หันขวับ แล้วดึงมือข้างนั้นของผมรั้งตัวให้เข้ามาหาเขา จากนั้นเขาก็จับผมกดลงบนที่นอนโดยที่มีตัวเขาก้าวขึ้นทาบทับ พูดเสียงเข้ม หน้าตาดุดัน

“น่ารำคาญคนแก่งุ่มง่ามเสียจริง กอดแค่นี้ก็คิดนั่นคิดนี่อยู่ได้ ไม่รู้จะคิดมากไปถึงไหน มามะจะแสดงตัวอย่างให้ดูว่า การขอโทษคนที่เราทำให้เขาเสียใจ มันต้องทำอย่างไร”

คนพูดฝังจมูกและปากลงที่ซอกคอของผม มือไม้สอดเข้าไปใต้เสื้อนอนของผมและลูบไล้ไปทั่ว ผมส่งเสียงอุทธรณ์อื้ออึง แต่ไม่ได้ปัดป้อง

“เอ๊ะ....อะไรนะ นี่มัน.....ช่ายเหรอ....”

มีเสียงหัวเราะออกมาจากปากของคนที่เมื่อครู่นี้ยังทำหน้าบึ้งตึงอยู่เลย เขาประกบปากที่กำลังอ้าค้างของผมด้วยริมฝีปากของเขา จุมพิตที่เดียร์ให้ผมเร่าร้อนเต็มไปด้วยความพิศวาส เขาบดขยี้ริมฝีปากของผมอย่างหนักหน่วงจนรู้สึกว่าปากตัวเองบวมเจ่อ ยามเขาถอนริมฝีปากออก

“ทำเจ้าเล่ห์กับฉันอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย....”

ผมถามอย่างดักคอ แอบรู้สึกดีนิดหนึ่งที่เขาไม่ได้โกรธแบบโมโหโกรธาใส่ผม ถ้าเขาทำอย่างนั้นจริง ผมคงตะบะแตก โต้ตอนจนแตกหัก เด็กหนุ่มกอดผมไว้แนบแน่น แล้วหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ เขาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ ก่อนจะตอบ

“ก็นิดหน่อยครับ จะได้หายกัน กับที่คุณทำกับผม ที่จริงต้องทำมากกว่านี้ เพราะคุณถีบผมแรงมาก จนจุกเลยอ่ะครับ”

“ขอโทษนะเดียร์ ฉันไม่ได้ตั้งใจ คือว่าฉัน.....”

กำลังจะเอ่ยปากอธิบายถึงเหตุผลที่ทำให้ผมรีบร้อนไม่รอเขา แต่เด็กหนุ่มก็ชิงพูดขึ้นก่อน

“อย่าโทษตัวเองเลยครับ ผมเข้าใจในสิ่งที่เรียวทำดี เมื่อกี้ผมน่ะหัวเสียมากไปหน่อย เพราะผมกำลังมีความสุขกับคุณอยู่ดี ก็มาถูกขัดจังหวะ ผมน่ะว่าเรียวว่าไม่แคร์ความรู้สึกของผม แต่เป็นผมเองต่างหากที่เห็นแค่ความสุขของตัวเอง ไม่เข้าใจความรู้สึกของเรียวเลยแม้แต่น้อย.....ผมควรจะเป็นฝ่ายขอโทษเรียวมากกว่าที่ว่าคุณไปแบบนั้น ขอโทษนะครับ...ที่รัก ยกโทษให้ผมด้วยนะ”

เจ็บแปลบที่หัวใจอีกแล้ว เดียร์นอกจากจะไม่โกรธผม เขายังขอร้องให้ผมยกโทษให้เขาด้วย นี่มันอะไรกันผมงงไปหมดแล้ว

“ยังไงกันน่ะ ....ไม่เข้าใจ...นี่นายไม่โกรธฉันเลยเหรอ”
“โกรธสิ โกรธมากด้วย......”

เขาบอกยิ้มๆ พอเห็นผมทำหน้างงๆ เขาก็เฉลย

“ตอนที่เรียวดื้อไม่ยอมรอให้ผมรักคุณจนเสร็จอ่ะ ผมก็น้อยใจนะ แถมมาถีบผมจนจุกด้วย ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ นึกโมโหว่าคนเป็นเมียทำไมทำแรงกับสามีตัวเองแบบนี้กันนะ

ผมเสียใจมากเลยที่คุณทำเหมือนกับผมไม่มีค่าไม่มีความหมาย เห็นคนอื่นสำคัญตลอด แต่กับผม เรียวไม่เคยมีที่ว่างในหัวใจให้เลย”

“ขอโทษ.....”

ผมพูดซ้ำอย่างเสียใจจริงๆ ฝ่ามือของผมลูบไล้บริเวณทรวงอกของเด็กหนุ่มไปมา เดียร์ดึงมือข้างนั้นของผมขึ้นมาจูบ แล้วจับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“ไม่เป็นไร ผมหายโกรธแล้วล่ะ พอเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเอง อาบน้ำอาบท่า ระหว่างนั้นผมก็คิดเรื่องของคุณนี่แหละ ในที่สุดผมก็เริ่มเข้าใจ เลิกงอนคุณอีกต่อไป ก็เรียวอ่ะ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเป็นกับผม

ถ้าไม่ใช่เพราะความใจดีของเรียวที่ยื่นมือไปช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อนอยู่ตลอดเวลา ผมก็จะไม่มีวันที่ได้รู้จักและรักเรียวเลย หากวันนั้นเรียวขับรถเลยผ่านไป ไม่ช่วยผมให้รอดพ้นเงื้อมือของพี่บอย ป่านนี้ผมคงเสร็จ เป็นเมียมันไปแล้ว และคงตกระกำลำบากมากกว่านี้

เรียวใจดีมากที่ช่วยเหลือผมหลายต่อหลายครั้ง โดยไม่คำนึงถึงอันตราย และไม่คำนึงถึงตัวเองด้วยซ้ำ ไม่เลือกช่วยเฉพาะบางคน แต่ช่วยเหลือไปทั่ว ทั้งที่เรียวไม่เคยรู้จักคนเหล่านั้นเลย

เพราะเรียวเป็นแบบนี้ผมถึงได้รักเรียวมากๆยังไงละครับ ในเมื่อผมเลือกแล้วที่จะรักเรียวและต้องการที่จะได้คุณเป็นคู่ชีวิตของผม ผมก็ต้องเข้าใจเรียวด้วยครับ เรียวอย่าโกรธผมนะ ที่ว่าคุณต่างๆนานา เรามาดีกันเถอะนะครับ”

น้ำเสียงอ้อนวอนกับดวงตาสำนึกผิดของเด็กหนุ่มทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรมาติดตรงแถวๆลำคอทำให้พูดไม่ออก ดูสิ เจ้าเด็กบ้า ผมทำให้เขาเสียใจแท้ๆ แต่เขาไม่ยักจะโกรธผม กลับหาเหตุผลมาสนับสนุนการกระทำของผมอีก

เขาช่างเป็นเด็กน่ารักเสียจริง แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมรักเขาได้อย่างไร ผมรู้สึกปลาบปลื้มระคนเสียใจ สุดที่รักของผมเป็นเด็กที่มีความคิดอ่านเป็นผู้ใหญ่ โกรธเหมือนเด็กๆได้แป๊บเดียว สักพักพออารมณ์เย็นลงสติเริ่มมี เขาก็จะสามารถมองทุกสิ่งได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน รู้สึกเสียใจที่ไม่เคยเข้าถึงความรู้สึกของเขาได้เท่ากับที่เขาเข้าใจผม ช่างเป็นคนรักที่แย่จริงๆ

เดียร์ถามย้ำอีกครั้งว่าผมจะยกโทษให้เขาได้ไหม ผมไม่ตอบแต่ซุกหน้าแนบอกกว้างนั้นแทนคำพูดทั้งมวล จะให้บอกออกมาได้ไงกัน เจ้าเด็กโง่เอ๊ย



anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่41 16/2/09
«ตอบ #326 เมื่อ16-02-2009 15:43:46 »

ผมน่ะอายเกินกว่าที่จะสารภาพกับเขาว่าผมเองก็วิตกกังวลไม่แพ้กัน ตอนที่เขาทำหน้างอนๆใส่ผม ด้วยกลัวว่าเขาจะโกรธและไม่พูดกับผมอีก แต่ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายขอคืนดีก่อน ผมก็ถือโอกาสนี้ดีกับเขาโดยไม่ต้องบอก จะได้ไม่เสียฟอร์ม อุตส่าห์เก๊กมาตลอด จะยอมรับว่ารักเขาแล้ว ได้ง่ายๆอย่างไรกัน
“รักเรียวที่สุดเลย ยอดรักของผม....”

เดียร์กระซิบที่ข้างหูเมื่อช่วงเวลาหฤหรรษ์ผ่านพ้นไป หลังจากเราสองคนอาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อย ผมกับเดียร์ก็นอนกอดก่ายกันบนเตียง เด็กหนุ่มรัดร่างผมไว้ในวงแขนแนบแน่น โดยมีศีรษะของผมซบลงอยู่ตรงไหล่ของเขา

“คุณแคทเขามาบ้านเราทำไมหรือครับ..”

อยู่ๆเด็กหนุ่มก็ถามถึงคุณแคทขึ้นมา ตอนนี้เขาเรียกบ้านของผมว่าบ้านของเราโดยไม่กระดากปาก และผมเองก็ไม่ได้นึกเคืองแต่อย่างใด ผมเล่าให้เดียร์ฟังคร่าวๆว่าคุณแคททะเลาะกับแฟน เธอกลุ้มใจที่คนรักแต่งงาน มีลูกแล้ว และขอตัดขาดจากเธอ

ผมไม่ได้ลงรายละเอียดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายคนนั้นคือเพื่อนบ้านของเราสองคน รวมถึงไม่ได้บอกด้วยว่าคุณแคทเป็นผู้ชายแปลงเพศมา ในประเด็นหลังนั้น ผมคิดว่าเดียร์น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว เพราะเขาเคยต่อว่าผมเมื่อคราวก่อน ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่ปักเชื่อคิดว่าเดียร์หึงจนใส่ร้ายคนไปทั่ว

“อื้มก็น่าสงสารอยู่เหมือนกัน แต่ทำไงได้ล่ะครับ เกิดมาไม่เหมือนคนอื่น ก็ต้องทำใจยอมรับว่าจะอาจจะเจอรักที่ไม่สมหวัง และพยายามเลิกเศร้าและหาคนใหม่ให้เร็วที่สุด”

“ แล้วถ้าเป็นนายล่ะ”

“ผมน่ะเหรอ......ก็...คงเศร้ามั๊ง แต่ว่าผมจะพยายามจนถึงที่สุดนะครับ ไม่ท้อถอยง่ายๆหรอกนะ แล้วผมก็คิดว่าผมคงไม่ต้องหาคนใหม่หรอก เพราะดูเหมือนว่าเรียวเองก็เริ่มรู้สึกดีกับผมแล้วใช่ไหมครับ บางทีผมอาจจะสมหวังก็ได้ หากว่าเรียวเมตตาผมบ้าง”

เด็กหนุ่มทำเสียงออดอ้อนเหมือนจะขอความเห็นใจ ผมได้แต่นิ่งเงียบ คิดไปตามคำพูดของเขา ตอนนี้ผมให้ใจเดียร์ไปแล้ว เหลือแต่การกล้ายอมรับต่อสังคมเท่านั้น ถ้าผมเลือกเขา ผมก็ต้องสละทุกสิ่ง

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไม่รีบร้อนนะ เอาไว้ให้เรียวแน่ใจตัวเองก่อนว่ารักผมจริงๆ ค่อยมาตอบผมก็ได้ ถึงตอนนั้นผมหวังว่าคำตอบของเรียวคือเราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปนะครับ”

เหมือนว่าเขาจะคิดว่าคำตอบต้องเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมลอบถอนหายใจ คิดไม่ตกเลยว่าถ้าผมปฏิเสธเดียร์จะเป็นอย่างไร จะเสียใจมากแค่ไหนก็ไม่รู้ แล้วผมล่ะ จะอยู่ได้หรือเปล่า ถ้าหากว่าต้องเสียเขาไป

“เรียวครับวันเสาร์ที่จะถึงนี้ เป็นวันวาเลนไทน์ ผมลางานล่วงหน้าไว้แล้ว เรามาฉลองกันนะครับ ผมได้เมนูมาใหม่ จะลองทำให้เรียวทาน แล้วผมจะทำเค้กทีรามิสึ ให้ทานด้วย เค้กคู่รักอ่ะครับ แต่ว่าถ้าเรียวไม่ชอบ จะให้ทำเค้กแบบอื่นๆก็ได้ ชอบทานอะไรเป็นพิเศษก็บอกผมได้นะครับ ผมทำให้สุดฝีมือเลย ฉลองกันที่บ้านเราเนี่ยแหละ กินเค้กเสร็จ เราก็กุ๊กกิ๊กกันต่อได้เลย ดีไหมครับ”
เด็กหนุ่มเชิญชวนผมเสียงอ้อน วาเลนไทน์แล้วเหรอ ผมไม่รู้เรื่องเลย มัวแต่ทำงานจนเพลินและยุ่งกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ จนลืมเวลาไปเลย นี่เดือนกุมภาพันธ์แล้วสินะ ถ้างั้นผมก็คบกับเดียร์มา 4 เดือนแล้วสิ

นี่ย่างเข้าเดือนที่ห้าแล้ว นับไปนับมาก็ไม่ถึงสองเดือนดี ที่สัญญาเป็นแฟนกันระหว่างผมกับเดียร์จะสิ้นสุดลง รู้สึกใจหายอย่างไรพิกล ระยะเวลาที่ผ่านมา เราสองคนเผชิญกับเหตุการณ์หลายอย่างร่วมกัน ทั้งร้ายและดี ผมยอมรับว่ามันเป็นสี่เดือนที่ผมมีความสุขมาก

ถึงแม้มันจะเริ่มต้นที่ไม่ค่อยสวยนักก็ตาม แต่มันกลับดำเนินไปด้วยความงดงาม ยังไม่ทันที่ผมจะได้ดื่มด่ำกับความรู้สึกดีๆที่ผมและเดียร์มีให้กันอย่างเต็มที่ เวลาของเราก็ดำเนินมาใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว

แม้จะยอมรับกับตัวเองว่าผมรักเดียร์มากแค่ไหน แต่สิ่งที่ผมยังตอบไม่ได้ก็คือ ผมจะรักกับเดียร์ตลอดไป หรือจะเลิกราเมื่อวันสิ้นสุดสัญญามาถึง แม้จะหลีกเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงมัน แต่ สุดท้ายผมก็ต้องตัดสินใจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ดี

“รู้ไหมเดียร์ นายน่ะเป็นเด็กลามก หี่นอยู่ตลอดเวลา ฉันไม่เคยเห็นใครเป็นแบบนายมาก่อนเลย ในหัวสมองคิดแต่เรื่องแบบนี้อย่างเดียวหรือไงนะ”

ผมต่อว่าเขายิ้มๆ นึกขำมากกว่ารำคาญ เดียร์หัวเราะกิ๊กกั๊ก แกล้งหอมผมแรงๆที่ข้างแก้ม

“ก็แหม ใครจะอดใจไหวนะ ที่จริงน่ะ ผมไม่ได้หื่น หรือลามกโรคจิตตลอดเวลาหรอก ทำอย่างอื่นก็เป็น ไม่ใช่ทำแบบนี้ได้อย่างเดียว เพียงแต่ว่าตอนนี้ผมไม่รู้เป็นอะไร ใจมันคอยแต่หึงเรียวตลอด เห็นคุยกับใครก็คิดเป็นตุเป็นตะ ว่าเขามาจีบเรียวหรือเปล่าน่ะครับ

พอหึงมากๆ ก็หวงคุณ กลัวว่าใครมันจะมาคว้าคุณไป กลัวว่าคุณจะเปลี่ยนใจไม่รักผม ก็เลยพยายามที่จะมีอะไรกับคุณเรื่อยๆ เผื่อว่าถ้าคุณชอบที่ผมทำ คุณจะได้รักผมบ้าง ....นี่ผมพูดความจริงเลยนะ ไม่อยากโกหกเรียวน่ะครับ ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ

อ้อ ....อีกอย่าง อยู่ใกล้ๆเรียวทีไร เหมือนมีแรงดึงดูด อดใจไม่ไหวสักที อยากกอดจูบ อยากสัมผัสเรียวตลอด เรียวอยากน่ารักทำไมล่ะ”



anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่41 16/2/09
«ตอบ #327 เมื่อ16-02-2009 15:44:20 »

เหตุผลของเจ้าเด็กบ้ากาม ทำให้ผมทั้งขำที่เขาช่างคิดมาได้เรื่องที่อยากจะมีอะไรกับผมตลอด นึกในใจว่า นอกจากเขาแล้วผมจะไปมีอะไรกับใครได้

ผมรักเขาคนเดียวเท่านั้น และการที่เสียตัวให้กับผู้ชายด้วยกัน คนเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้ว นอกจากนี้ผมยังรู้สึกวิตกที่เดียร์เริ่มที่จะหึงหวงผม ถ้ามันอยู่ในขอบเขต ไม่ตามราวีมาก มันก็ไม่น่ารำคาญอะไร แต่ถ้าถึงขั้นตามอาละวาด หรือทำร้ายร่างกายกัน แบบนี้เห็นที่จะไม่ไหว

ผมเองไม่ได้มีทีท่าว่าจะทำอะไรที่เป็นการหักหลังเขา ไม่เคยคบกับใครทั้งผู้ชายและผู้หญิง ยกเว้น แต่การคบกับคุณแคทเพื่อหลอกลวงพี่สมชายเท่านั้น ถ้าเขารักผมจริง เขาต้องไว้เนื้อเชื่อใจผม ว่าจะไม่มีวันทำตัวสำส่อนมั่วไม่เลือกแน่นอน

“เรียวยังไม่ได้ตอบผมเลยว่า เรียวจะฉลองวาเลนไทน์กับผมหรือเปล่า”

เดียร์คาดคั้นเอาคำตอบ ผมครุ่นคิดถึงตารางงานของตนเอง โดยปกติผมไม่ค่อยได้ทำงานในวันหยุดอยู่แล้ว ยกเว้นแต่ว่าถ้างานมันเยอะจริงๆเช่นช่วงปิดบัญชี ผมก็จะหอบงานกลับมาทำที่บ้าน มากกว่าจะไปนั่งทำในออฟฟิศ

แต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ งานยังไม่มากมายเท่าไหร่ ผมคิดว่าน่าจะอยู่ฉลองกับเดียร์ด้วยได้ ดีเหมือนกัน เพราะวันเวลาของเราเริ่มเหลือน้อยลงไปทุกที หากว่าผมตัดสินใจทิ้งเขา นี่ก็จะเป็นวันวาเลนไทน์แห่งความทรงจำของเราสองคน ซึ่งผมจะเก็บมันไว้ในใจ ยามที่คิดถึงเขา
“เรียวว่างใช่ไหมครับ....”

เดียร์ถามซ้ำอีก ดวงตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง ผมพยักหน้าให้เขาช้าๆ เดียร์ยิ้มแก้มแทบปริ ระดมจูบผมยกใหญ่จนหายใจหายคอแทบไม่ทัน ท่าทางมีความสุขมาก

เด็กหนุ่มกระชับอ้อมกอดให้แน่นเข้าจนร่างกายเปลือยเปล่าของเราเบียดเสียดแนบชิดกัน ผมสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากร่างของเดียร์ ความเย็นยะเยือกจากแอร์คอนดิชั่น และจากอากาศหนาวภายนอกก็ไม่อาจทำร้ายผมได้

ผมซุกหน้าหน้าลงที่ไหล่ของเด็กหนุ่ม ปิดเปลือกตาลง และหลับไปในที่สุด

ตอนที่ตื่นขึ้นมานั้น เด็กหนุ่มไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว เขาคงลงไปทำอาหารเช้าให้ผมอย่างที่เคยทำ ผมลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟันและอาบน้ำเพื่อความสดชื่น เมื่อสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยผมก็เดินลงไปข้างล่าง


เด็กหนุ่มอยู่ที่ครัวอย่างที่ผมคิด เขาถือกระทะมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งถือตะหลิว คุณแคทซึ่งอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิมนั่งอยู่ที่โต๊ะทานข้าว กำลังนั่งมองเดียร์ทำอาหารอย่างเพลิดเพลิน

ผมเดินตรงไปทักทายคนทั้งสอง คุณแคทหันมายิ้มให้ผม ใบหน้าของเธออิดโรย ดวงตาแดงก่ำเหมือนคนที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ผมเผ้ายุ่งเหยิง

ผมไล่ให้เธอไปอาบน้ำ โดยอนุญาตให้ใช้ห้องน้ำส่วนตัวของผมข้างบน ผมหาเสื้อเชิ้ตทำงานที่ผมไม่ค่อยได้ใส่แล้วให้เธอ พร้อมกับเอากางเกงนอนผ้ายืด ให้เธอสวมใส่ โดยวางไว้บนเตียงนอน จากนั้นก็เดินลงไปข้างล่าง

ที่รักของผมทำอาหารเสร็จแล้ว เขากำลังลำเลียงอาหารมาตั้งบนโต๊ะ มือเช้านี้เดียร์ทำข้าวต้ม ทานกับยำไข่เค็ม ปลาสลิดทอด และผัดผักให้ผมทาน เขาทำเผื่อคุณแคทด้วย ผมช่วยเขาจัดวางจานและช้อนส้อม ในเวลาไม่นานนัก ทุกอย่างก็จัดเรียบร้อย

เดียร์ขอบคุณผมที่ช่วยเขา ทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น ผมบอกเขาว่าคนที่ควรจะได้รับการขอบคุณคือตัวเขาต่างหาก ที่มีน้ำใจเสียสละเวลามาทำอาหารให้ผม ทั้งๆที่จะไม่ถือเอาเป็นธุระก็ได้ เดียร์ยิ้มให้ผม บอกว่าคิดอะไรมากมาย เขายินดีทำให้ผมอยู่แล้ว เจอหยอดคำหวานยามเช้าแบบนี้ ทำให้ผมยิ้มแก้มแทบปริอย่างมีความสุข
ที่รักของผมทำอาหารเสร็จแล้ว เขากำลังลำเลียงอาหารมาตั้งบนโต๊ะ มือเช้านี้เดียร์ทำข้าวต้ม ทานกับยำไข่เค็ม ปลาสลิดทอด และผัดผักให้ผมทาน

เขาทำเผื่อคุณแคทด้วย ผมช่วยเขาจัดวางจานและช้อนส้อม ในเวลาไม่นานนัก ทุกอย่างก็จัดเรียบร้อย เดียร์ขอบคุณผมที่ช่วยเขา ทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น ผมบอกเขาว่าคนที่ควรจะได้รับการขอบคุณคือตัวเขาต่างหาก ที่มีน้ำใจเสียสละเวลามาทำอาหารให้ผม ทั้งๆที่จะไม่ถือเอาเป็นธุระก็ได้

เดียร์ยิ้มให้ผม บอกว่าคิดอะไรมากมาย เขายินดีทำให้ผมอยู่แล้ว เจอหยอดคำหวานยามเช้าแบบนี้ ทำให้ผมยิ้มแก้มแทบปริอย่างมีความสุข

“แล้วเรียวจะตอบแทนผมยังไงดีน้า ........ผมทำดีแบบนี้”

มาอีกแล้ว มุขนี้ อ้อนขอความเห็นใจ เดี๋ยวก็คงมาหาเศษหาเลยจากผมแน่ รีบเดินหนีดีกว่า แต่ยังไม่ทันที่ผมจะก้าวออกไปจากห้องครัว เดียร์ซึ่งคอยจังหวะอยู่แล้วก็คว้าแขนผมดึงเข้ามาหาตัว จากนั้นก็ใช้สองมือประคองใบหน้าของผม และมอบจูบยามเช้าที่แสนหวานล้ำให้

มีเสียงกระแอมไอดังอยู่ด้านหลัง แต่เดียร์ยังไม่ยอมปล่อยผม เขากลับกอดแน่นเข้า และจูบผมต่อไปอีกระยะหนึ่ง จากนั้นจึงถอนริมฝีปากออก แต่ยังคงกอดผมอยู่

ดูเหมือนว่าเขาต้องการแสดงตนให้คุณแคทรู้ว่าเขาเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัวผม แม้จะรู้ว่าเดียร์ทำอย่างนั้นเพื่ออะไร แต่ผมก็ไม่ได้รำคาญหรือนึกรังเกียจในตัวเขา

ผมเพียงแค่แกะมือที่โอบกอดผมออก ทว่าแกะได้แค่มือเดียวเพราะเดียร์เอามืออีกข้างโอบไว้รอบเอวของผม และก้มลงจูบที่ไหล่ของผม คุณแคทมองเราสองคนด้วยดวงตาฉายแววล้อเลียน



anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่41 16/2/09
«ตอบ #328 เมื่อ16-02-2009 15:44:58 »

ผมรู้ว่าคุณแคทพอจะระแคะระคายเรื่องผมกับเดียร์มาบ้าง จากปากของคนในที่ทำงาน และจากนายทรงพลด้วย เธอจึงไม่ตกใจอะไร แถมซ้ำยังพูดเป็นนัยๆในผมฟังหลายครั้งว่าเธอรู้เรื่องนี้ดี ในเมื่อผมเธอรู้แล้ว แต่ไม่พูดอะไรออกมา แถมซ้ำไม่เคยนินทาผมในเรื่องนี้ จึงนับว่าเธอก็เป็นคนที่น่าจะวางใจได้ ผมก็เลยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปิดอีกต่อไป

ดูเหมือนเดียร์เองก็ดูจะพึงพอใจอยู่ไม่น้อยที่ผมไม่มีทีท่าผลักไสเขา เด็กหนุ่มเลยสามารถที่จะล่วงเกินผมต่อหน้าคุณแคทได้ตามอำเภอใจ เขาลูบไล้หลังไหล่และแอบเอาจมูกโด่งๆมาคลอเคลียแถวแก้มของผมอยู่ตลอดเวลา

เพื่อนสาวของผมก็คงจะรู้สัญญาณที่เดียร์พยายามบอกกล่าวกับเธอ เด็กหนุ่มคงบอกให้รู้ด้วยภาษากายว่า ผมเป็นของเขาห้ามคนอื่นมายุ่ง

เธอยิ้มให้กับพวกเราสองคน แล้วก้าวเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร ไม่พูดถึงสิ่งที่เห็น แต่กล่าวถึงอาหารที่อยู่ตรงหน้า เธอชมว่ากลิ่นหอมน่าทาน ท่าทางจะอร่อย และผมโชคดีมากที่มีคนทำอาหารให้กินแบบนี้ สิ่งที่คุณแคทพูดสามารถเรียกรอยยิ้มจากคนที่อยู่ข้างๆผมได้เป็นอย่างดี

เราสองคนก้าวเข้ามานั่งที่โต๊ะ ผมเชิญชวนให้เธอทานอาหารเช้าด้วยกัน และแกล้งบอกคุณแคทว่า ต้องทำใจหน่อยว่าอาจจะท้องเสียเอาได้ เดียร์คำรามอยู่ในลำคอ จนผมกับคุณแคทต้องหัวเราะออกมา

จบจากอาหารมื้อเช้าแล้ว เดียร์ขอตัวออกไปทำงาน วันนี้เขากลับดึก เพราะต้องทำงานแทนเพื่อนด้วย ควบทีเดียวสองกะเลย แต่เขาทำอาหารไว้เผื่อผมแล้ว เป็นไก่อบ ผมสามารถที่จะเอาไก่เข้าไมโครเวฟอุ่นกินได้เลย และเขายังทำน้ำสลัดไว้ให้ผมกินกับผักสดที่อยู่ในตู้เย็นอีกด้วย

คุณแคทรู้สึกจะชื่นชอบเดียร์เป็นพิเศษ เธอกล่าวชมเด็กหนุ่มไม่ขาดปาก ว่านอกจากจะหล่อ นิสัยดีแล้ว ยังเอาใจเก่งอีกด้วย เธออยากมีแฟนแบบนี้บ้าง

เมื่อก่อนนี้พี่สมชายก็เคยดีกับเธอแบบนี้ แต่เมื่อเทียบกันแล้ว เดียร์ดีกว่ามากมายนัก และรู้สึกเสียดายแทน หากผมจะปล่อยให้เด็กหนุ่มหลุดมือไป

ผมยิ้มไม่ตอบว่าอะไร รู้ว่าคุณแคทก็คล้ายๆกับเจ้าสันต์ที่เห็นความน่ารักของเดียร์แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเชียร์ผมกับเขา แต่ในเมื่อผมยังไม่แน่ใจว่าตัวเองจะตัดสินใจแบบไหน ผมก็เลยไม่อยากจะพูดอะไรให้มันมัดตัวเอง

เพื่อเปลี่ยนหัวข้อสนทนาออกจากตัว ผมจึงเอ่ยปากถามคุณแคทว่าจะเอายังไงกับเรื่องของพี่สมชายดี เธอบอกกับผมว่า เธอนอนคิดมาทั้งคืน และตัดสินใจแล้วว่าเธอจะไม่ยื้อเขาอีกต่อไป

เธอบอกว่าผมพูดถูก ในเมื่อเธอไม่มีความหวังที่จะได้พี่สมชายคืนมา เธอก็ควรจะลืมเขาเสีย ตัดเขาออกไปจากชีวิต ให้ความสัมพันธ์เหลือแค่เพียงพี่กับน้องร่วมมหาวิทยาลัยก็พอ อีกอย่างเธอรู้สึกแย่ถ้าจะต้องทำให้เด็กคนหนึ่งกลายเป็นกำพร้า

เธอไม่อยากให้เด็กคนนั้นมีปมด้อย ว่าพ่อของเขาถูกกระเทยแย่งไป สู้ปล่อยให้พี่สมชายมีความสุขกับครอบครัวของเขา และเธอไปหาคนใหม่ที่เขารักเธอจริง และยอมรับในสิ่งที่เธอเป็นดีกว่า

การตัดสินใจของคุณแคทนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ผมรู้สึกนิยมชมชอบเธอขึ้นมาอีกที่เธอเป็นคนที่ยอมรับอะไรง่ายๆ ไม่ดึงดัน ผมไม่อยากเกลียดชังเพื่อนร่วมงานดีๆอย่างเธอ เพียงเพราะเธอแย่งของรักของคนอื่น ผมรู้ว่าการตัดใจจากคนที่เคยรักเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะผมเองก็เคยเผชิญกับเหตุการณ์นี้มาก่อน แต่มันก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงหากจะลองพยายามดู
“แคทอาจจะต้องอาศัยเวลาสักหน่อยในการทำใจ มันไม่ง่ายเลยที่เราจะลืมคนที่เราเคยผูกพันธ์ด้วย เขาเป็นคนรักคนแรก และเป็นรักเดียวที่แคทเฝ้ารอ มันกลายเป็นรักไม่สมหวังเสียแล้ว

แคทคิดว่าเราสองคน ต่างคนก็ต่างเจ็บปวด พี่สมชายมีทางเดินของตัวเอง ส่วนแคทก็จะพยายามอยู่โดยไม่มีเขาให้ได้ ช่วงนี้ แคทอาจจะต้องขอรบกวนคุณหน่อยนะคะ เพราะแคทคาดว่าเมื่อบอกเลิกกันไปแล้ว พี่สมชายก็อาจจะยังทำใจไม่ได้ และอาจจะมายุ่งเกี่ยวกับแคทอีก แคทจึงอยากให้คุณช่วยแคทเป็นครั้งสุดท้าย ......”

เอาอีกแล้ว ทำไมต้องลากผมเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยล่ะ ในเมื่อเธอจะเลิกกับพี่สมชายแล้ว ข้อตกลงที่ว่าผมจะช่วยทำให้เขาหึง เพื่อดึงตัวเขากลับมา ก็น่าจะสิ้นสุดไป แล้วนี่เธอกำลังจะวางแผนอะไรอีก

“ให้ผมช่วยเป็นแฟนกับคุณแคทอีกหรือครับ”



anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย]My First Boyfriend Part 3:By Katesnk บทที่41 16/2/09
«ตอบ #329 เมื่อ16-02-2009 15:45:24 »

ผมถามอย่างที่สงสัย เธอพยักหน้า แล้วอธิบายว่า ถ้าพี่สมชายเห็นว่าเธอมีคนที่ชอบแล้ว เขาจะได้ตัดใจไม่ต้องยื้อกันอีกต่อไป

แต่ผมไม่เห็นด้วยกับเธอ เพราะว่า ผมกับพี่สมชายอยู่บ้านตรงข้ามกัน เขารู้เกี่ยวกับเรื่องผมกับเดียร์ดี การหลอกครั้งนี้คงไม่สำเร็จเหมือนเดิม แต่เธอก็บอกว่าเธอไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครอีกแล้ว และเธอก็ไม่ต้องการรบกวนของผมมากมายอะไร

เพียงแค่แสดงตัวว่าเป็นแฟนกันเวลาอยู่ต่อหน้าพี่สมชายก็พอ เรื่องระหว่างผมกับเดียร์ถึงแม้ว่าพี่สมชายจะรู้ แต่ผมเองก็ไม่ได้เปิดเผยอะไรไม่ใช่หรือ แล้วคนที่เป็นเกย์ก็เปลี่ยนใจได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว การที่ผมจะมีทั้งเดียร์ และมีทั้งคุณแคทด้วย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

จากที่ไม่อยากช่วยเธออยู่แล้ว พอเธอมาพูดทำนองว่าผมเป็นเกย์ มันทำให้ผมรับไม่ได้เข้าไปใหญ่ ทำไมผมต้องมายุ่งวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้ด้วยนะ นี่กลายเป็นว่า ช่วยเธอแล้ว ก็ยังต้องช่วยต่อไปอีก

ครั้งแรกช่วยเพราะแลกกับการที่เธอทำให้นายทรงพลไม่เอาเรื่องเดียร์ แต่ในเมื่อผมสำเร็จ พี่สมชายหึงหวงเธอแล้ว งานของผมก็น่าจะยุติลง แต่นี่ผมกลับต้องมาแสร้งทำเป็นแฟนเธอเพื่อให้พี่สมชายตัดใจอีกหรือนี่

“นะคะ ถ้าไม่เห็นแก่แคท ก็เห็นแก่ครอบครัวของพี่สมชายแล้วกัน นึกว่าเป็นการไถ่บาปที่เราสองคนร่วมมือกันพรากพ่อมาจากลูกนะคะ”

ใครกันที่ทำแบบนั้น ผมไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย เธอเป็นคนวางแผน ลากผมเข้ามายุ่งด้วย แล้วมาโทษกันเฉยเลย ถ้าผมรู้ว่าคนๆนั้น มีครอบครัวที่อบอุ่นอยู่แล้ว และแถมซ้ำเป็นเพื่อนบ้านของผมอีก

ผมคงไม่ยอมตกลงหรอก แต่จะว่าไป ผมก็ไม่แน่ใจตัวเองว่าเธอเคยบอกผมเรื่องนี้หรือเปล่า ถ้าเธอบอกแล้วแต่ผมจำไม่ได้ ก็เท่ากับว่าผมเองก็ร่วมมือเธอโดยดี ดังนั้นผมก็หลีกเลี่ยงความผิดไม่ได้

“ผมไม่รู้ว่าแผนนี้จะได้ผลหรือเปล่า แต่จะลองดูแล้วกัน ไม่รับรองเรื่องผลสำเร็จนะครับ บางทีพี่สมชายอาจจะจับได้ว่าเราหลอกแกก็ได้”

ในที่สุดผมก็รับปากว่าจะทำให้ ทั้งนี้เพราะผมเองก็รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย และต้องการที่จะล้มล้างความผิดของตัวเอง ให้พี่สมชายตัดใจจากคุณแคทแล้วไปอยู่กับครอบครัวของตัวเอง


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด