21
หลบไป .. คนเปย์ไหวจะเดิน
งานโอเพ่นเฮาส์มหาวิทยาลัยวันแรกเริ่มต้นแล้ว ....วันนี้ผมตื่นตั้งแต่เช้ามืด อาบน้ำแต่งตัวลงมาหารถคันหรูที่จอดรอรับหน้าคอนโดเมื่อวานกว่าจะเตรียมงาน เก็บรายละเอียดของซุ้มกิจกรรม ประชุมรอบสุดท้าย แยกย้ายกันกลับก็เกือบตีสอง เห็นว่าดึกมากแล้วเลยไลน์บอกนำทัพที่จะมารอรับว่าให้นอนไปก่อนไม่ต้องรอ เขาตอบกลับรับทราบอย่างไม่งอแง แต่ขอทำหน้าที่มารับผมในเช้าวันนี้แทน
อาการเบลอ เพราะนอนไปไม่ถึงสามชั่วโมงของผม แก้ได้ด้วยช็อกโกแลตร้อนที่เขาซื้อเตรียมไว้ให้กับเครื่องดื่มใบแปะก๊วยสกัดแบบขวด ช่วยเรียกความสดชื่นเตรียมพร้อมรับมือกับความเหนื่อยที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน ลากยาวไปจนถึงมืดของวันนี้ได้
ช่วงกลางวันนี้ ผมกับนำทัพต้องอยู่ประจำซุ้มหลักของกองกิจการมหาวิทยาลัย คอยแนะนำข้อมูลและแจกเอกสารประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับมหา’ลัย จึงต้องพากันออกมาแต่เช้า เพื่อไปรวมตัวกันที่ห้องสโมสรนักศึกษา แต่งหน้าทำผมให้หล่อทุกองศา คู่ควรกับตำแหน่งตัวแทนสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับคนที่เข้ามาเยี่ยมชมงาน
หลังห้าโมงเย็น ผมถึงจะแยกตัวออกไปยังซุ้มสาขา ประจำจุดกิจกรรมเกมส์หนุ่มน้อยตกน้ำที่มีพวกผมช่วยกันเตรียมงานจนเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว เหลือแค่เปิดซุ้มก็พาบรรดาหนุ่มหล่อหุ่นดีที่คัดเลือกมาแล้ว ออกมาอวดต่อสวยตาเรียกแขกที่มาร่วมงาน ร่วมบริจาคสมทบทุนออกค่ายอาสาที่เชียงราย
“ โอเค ถ้าเข้าใจเนื้องานแล้ว ก็ประจำจุดได้นะ ส่วนใครจะพักก็สลับกันไปนะคะ ”
พี่หลิน ประธานสโมสร ชี้แจงเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบและจุดภายในงานทั้งหมด หลังจากที่พวกผมแต่งตัวกันเสร็จในชุดนักศึกษากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ซุ้มกิจการนักศึกษา เป็นซุ้มขนาดใหญ่อยู่กลางงานมีจัดนิทรรศการขนาดเล็กเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัย กิจกรรมเพื่อสังคมและแผนที่จุดต่างๆ ภายในงาน หลังจากอธิการบดีกล่าวเปิดงานเรียบร้อยแล้วคนก็เริ่มทยอยเข้ามาในงานเพิ่มมากยิ่งขึ้นถึงแม้วันนี้จะอากาศร้อนมากขนาดไหนก็ตาม
“ พี่คะ พวกหนูขอถ่ายรูปคู่ด้วยได้ไหมคะ ”
“ ได้ครับ มาสิ ”
นักเรียนมอปลายกลุ่มใหม่ที่เดินเข้ามาขอถ่ายรูปผมกับนำทัพ ผมพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับก่อนจะเรียกน้องๆ เข้ามาถ่ายภาพ หลังจากนั้นก็มีอีกหลายกลุ่ม หลายคนที่แวะเวียนเข้ามาที่ซุ้ม ทั้งมาขอข้อมูล ขอเอกสาร และไม่ลืมที่จะถ่ายกับพวกผมไว้เป็นที่ระลึก เหมือนเป็นจุดไฮไลท์ของงานจนคนเริ่มล้นซุ้มกิจกรรม
“ อย่าลืมแวะซุ้มกิจกรรมอื่นๆ ภายในงานด้วยนะครับ ”
ผมยิ้มให้กลุ่มสุดท้ายที่เข้ามาขอถ่ายรูปด้วย ไม่ลืมที่จะทำหน้าที่แนะนำรายละเอียดกิจกรรมภายในงาน ส่วนเดือนมหา’ลัยที่ฮอตสุดในตอนนี้ยังโดนรุมถ่ายรูปไม่เลิก
เสน่ห์เหลือล้นจริงๆ เลยนะ แค่ยิ้มนิดเดียว ก็เรียกเสียงกรี๊ดให้กับคนรอบข้างได้แล้ว ...
ด้วยว่าเป็นงานของกองกิจการ ที่ต้องอาศัยภาพลักษณ์ผมกับนำทัพจึงไม่ทำอะไรที่ดูเกินเลยจนกระทบต่อชื่อเสียง เราเว้นระยะห่างกันพอควร ในพื้นที่การทำงานของกันและกัน ลอบยิ้มให้กันอย่างให้กำลังใจ เพราะต่างฝ่ายต่างเหนื่อยล้า มีบ้างที่ผู้ชายมาขอถ่ายรูปกับผมแล้วเขาจะมองตาขวาง แต่ผมไม่ได้คิดอะไร ด้วยเพราะมันคืองาน บ่อยเข้าที่ถูกผู้ชายเข้ามารุมขอถ่ายรูป เขาก็เดินเข้ามาร่วมถ่ายด้วย แล้วให้เหตุผลกับคนเหล่านั้นไปว่า
เดือนกับรอง ต้องถ่ายรูปคู่กับคนที่ร่วมงานด้วยกัน !!!
ซึ่งเป็นเหตุผลที่โคตรจะฟังไม่ขึ้น ....
“ หิวยังมึง ไปหาเดินหาอะไรกินกันไหม ”
เดินเข้ามานั่งเก้าอี้จุดนั่งพักภายในซ้อมข้างๆ คนที่นั่งหมดสภาพ ใช้พัดลมมือถือเป่าไล่ความร้อน รวมถึงเหงื่อที่ท่วมตัว ตั้งแต่เช้าจนเกือบจะสี่โมงเย็นผมกับนำทัพยังไม่ได้นั่ง ไม่ได้หยุดยิ้ม ถ่ายรูปคู่กับคนที่แวะมาที่ซุ้ม ตั้งใจว่าเที่ยงจะออกไปหาอะไรกิน แต่ก็ยังไปไม่ได้ใครจะกล้าทิ้งคนที่เข้าแถวรอถ่ายรูปกับพวกผมแบบนั้น จนล่วงเลยมาเกือบปิดซุ้มคนจึงบางตาลง
พวกผมไม่ใช่ดาราที่จะมีคนถือป้ายไฟไล่ตามกรี๊ด หรือสร้างเพจขึ้นมาเพื่อตามติดชีวิต เราเป็นแค่นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดา ที่มีตำแหน่งเดือน และรองเท่านั้น ด้วยหน้าตาที่โดดเด่น รวมถึงรอยยิ้มที่เป็นมิตร พลังโซเชี่ยลที่ถ่ายรูปพวกเราแล้วติด แฮชแท็กของงานต่างหาก นั่นแหละที่ทำให้คู่เรากลายเป็นแลนด์มาร์คที่ต้องมาตามเก็บภาพไปโดยปริยายและเกิดแฮชแท็กใหม่
# เดือนรอง
ขึ้นมาภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง…..
“ ไปสิ ”
ดึงมือคนตัวสูงที่นั่งอยู่ให้ลุกขึ้นตาม จนตัวผมเซไปเล็กน้อย นำทัพตัวหนักมาก เหงื่อที่ออกตามหน้าทำให้รู้สึกคันไม้คันมือ อยากจะเข้าไปเช็ดให้เหลือเกิน มองไปรอบตัวซ้ายขวา มั่นใจว่าไม่มีคน จึงรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าแล้วเช็ดให้ จนหน้าหล่อที่เคยมีเม็ดเหงื่อ กลับมาเกลี้ยงเกลาอีกครั้ง
หรือผมจะเป็นโรคจิต เห็นเหงื่อของเขาไม่ได้ !!
“ กูหวงมึงจัง พรุ่งนี้มึงไม่ต้องมาซุ้มแล้วนะ ”
“ อะไรวะ ”
แวะซื้อน้ำผลไม้สกัดเข้มข้น จากซุ้มเพื่อนคณะเกษตร กับลูกชิ้นปลาหมึกทอดจากเพื่อนคณะบริหาร รวมถึงขนมอีกสามสี่อย่างแล้วเดินมาหาที่นั่งพัก ภายในงานเต็มไปด้วยของกิน กิจกรรมต่างๆ เหมือนที่ผมเคยอ่านรีวิวปีก่อนที่จะเข้ามาเรียนที่นี่เลย
“ ผู้ชายมาถ่ายรูปกับมึงเยอะมาก เยอะจนกูหวงไม่อยากให้มาแล้วพรุ่งนี้”
“ มึงก็มีแต่ผู้หญิงรุมเหมือนกัน คนหล่อก็งี้ มีแต่คนอยากอยู่ใกล้ “
“ หวงกูหรอ “
“ เปล๊า กูจะหวงมึงทำไม “
เสียงห่านี่มันสูงเองจนมีพิรุท ไม่ใช่ว่าไม่หวง มีคนมาขอถ่ายรูปเขาด้วยกว่าผมอีก บางคนถ่ายแบบแนบชิดติดตัว ถึงแม้จะไม่มีการล่วงเกินใดๆ ใจผมมันก็มีบ้างที่หวิว ผมไม่ใช่คนตายด้านนะ ที่จะไม่หวงคนที่ตัวเองกำลังตามจีบอยู่
แต่แค่ไม่อยากแสดงออกอะไรมากก็เท่านั้น
“ เดี๋ยวกินเสร็จแยกกันเลยนะ กูจะไปซุ้มสาขา งานใกล้เริ่มแล้ว “
ยกมือขึ้นมานาฬิกา เกือบได้เวลาเตรียมเปิดซุ้มของสาขาแล้ว ผมรับหน้าที่เป็นคนเก็บเงิน ดูแลความเรียบร้อยของซุ้ม ส่วนที่เหลือไอ้พวกห่ามรับหน้าที่ไป โดยเฉพาะการหาคนขึ้นมานั่งเป็นเป้าให้ปา
“ ไปด้วยสิ “
“ มึงก็ต้องไปซุ้มสาขามึงมั้ย”
“ เออหวะ เดี๋ยวเสร็จแล้วรีบไปหานะ จะรับกลับห้อง ...”
“ อื้อ “
“ ห้องกู “
ผมเผลอตอบตกลงทั้งๆ ที่ยังฟังเขาพูดไม่จบ ทำไมถึงเป็นคนชอบพูดเว้นประโยคแบบนี้นะ ไม่ได้ตั้งใจจะไปนอนด้วยสักหน่อยคืนนี้ โคตรจะเกลียดสายตาเจ้าเล่ห์ราวกับหมาป่าที่ต้อนเหยื่อได้นั้นมาก
ครืด ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์ผมสั่น – ปลายสายเป็นเพื่อนสนิทที่โทรเข้ามา
ว่าไงไอ้แม็กซ์ยังไม่ถึงเวลาโทรตามทำส้นตีนไร
[ งานงอกแล้วมึง รีบมาที่ซุ้มสาขาเดี๋ยวนี้เลย ]
เสียงมันฟังดูตื่นเต้น รนรานเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก สงสัยคงเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อย่างนั้นคนที่แก้ปัญหาเก่งอย่างมันคงไม่โทรมาขอความช่วยเหลือจากผม
เกิดไรขึ้นวะมึง
[ ก็ไอ้บีม มันมาซุ้มไม่ได้ รถล้มตอนกำลังมามอ งานจะเริ่มแล้วเนี่ย ไม่มีคนขึ้นนั่งประจำที่แทนมันเลย ]
ไอ้บีมที่พูดถึงคือคนที่เตรียมไว้เป็นหนุ่มน้อยตกน้ำคืนนี้ ทีมงานเตรียมไว้ห้าคน หนึ่งในนั้นคือบีม
แล้วทำไงวะ หาคนอื่นไม่ทันแล้วหรอ มึงหรือไอ้ทีมไง
[ กูกับไอ้ทีมก็ขึ้นอยู่แล้วมั้ย มึงเมาแดดปะเนี่ย มึงต้องมาซุ้มเดี๋ยวนี้ คนรอเต็มหน้าซุ้มแล้วเนี่ยไม่รู้ว่ามาจากไหนกันเยอะแยะ ]
แล้วมึงจะเอาใครขึ้นแทน บอกมาเดี๋ยวกูรีบจัดการให้
[ ไม่ต้องหาแล้ว มึงต้องรีบมา มึงต้องมาเป็นหนุ่มน้อยตกน้ำแทนได้บีม]
ไอ้เชี่ย ให้กูไปเป็นหนุ่มน้อยตกน้ำเนี่ยนะ !!
*******************
และคนสุดท้ายหนุ่มน้อยน้ำหน้ามนคนชื่อโซล ..เสียงประกาศออกไมโครโฟน แนะนำเด็กหนุ่มทั้งห้าคนที่นั่งประจำที่ ตามจุดของตัวเอง ผมนั่งอึนๆ งงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาได้ซักพัก ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เกินกว่าจะตั้งตัวทัน ผมรีบมาถึงที่ซุ้มในทันทีที่วางสายของไอ้แม็กซ์ ไม่ลืมที่จะบอกนำทัพว่าผมมีงานด่วน แต่ไม่ได้บอกว่าต้องมาทำอะไรแบบนี้
ไม่อย่างนั้นมีหวัง .. งานพังแน่นอน เพราะคงไม่ยอม
ไอ้แม็กซ์ลากผมไปห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ในชุดกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดสีขาวแบบที่มันกำลังสวมใส่อยู่ จากนั้นรับฟังกติกาอยู่ชั่วครู่ ไม่ได้ตั้งใจเท่าไหร่เพราะรู้จนท่องได้แล้ว ในเมื่อผมเป็นคนเขียนโครงการส่งอาจารย์ด้วยตัวเอง แต่ใครจะคิดว่าจะต้องมาทำเองในสิ่งที่ตัวเองเป็นคนเขียนแบบนี้
หนุ่มน้อยตกน้ำเป็นกิจกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนาน ไม่ส่อไปในเชิงอนาจารเพราะไม่ได้ถอดเสื้อผ้า พวกผมมีลิมิตในการทำกิจกรรมให้อยู่ในกรอบความเหมาะสมที่พึงมี ด้านหน้าผมเป็นตระแกงเหล็กกั้นป้องกันลูกบอลที่จะปาพลาดมาโดนตัว ด้านข้างเป็นเป้าไว้สำหรับปาบอลใส่ ผมนั่งอยู่เหนือถังน้ำเย็นขนาดใหญ่ที่ใส่น้ำแข็งเอาไว้จนเต็มตกลงไปทีคงหนาวไปยันไข่
“ เราจะเล่นเป็นรอบนะคะ ต่อแถวเลือกหนุ่มน้อยที่อยากปาได้เลยค่ะ รอบละ 50 บาท โดยจะได้ลูกบอล 3 ลูกนะคะ ปาครบแล้วเชิญออกเพื่อต่อแถวเล่นรอบใหม่ค่ะ รายได้ทั้งหมด หลังหักค่าใช้จ่ายเราร่วมนำไปทำบุญกับค่ายอาสาค่ะ ”
เสียงเพื่อนสนิทผมที่ผ่านไมโครโฟน ฉะฉาน ผ่อนหนักผ่อนเบา คล้ายเอ็มซีมืออาชีพ กำลังอธิบายกติกาของเกมส์ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น คนทยอยต่อแถวในทันทีที่น้ำหวานพูดจบ ผมมองตั้งแต่ช่องแรกจนมาถึงช่องของตัวเองที่อยู่ในลำดับสุดท้าย
เชี่ย !! แถวโคตรยาว ไม่ไปต่อแถวอื่นกันบ้างเลยหรือไงวะ
“ ถ้าพร้อมแล้ว รอบแรกเริ่มได้เลยค่ะ ”
เสียงเพลงจังหวะมันส์ๆ ดังขึ้นสร้างความสนุกสนานให้ภายในซุ้มกิจกรรมมีสีสันมากยิ่งขึ้น ประกอบกับเสียงพูดไม่ขาดสายของพิธีกรจำเป็นของงานทำให้คนเริ่มเดินเข้ามาที่ซุ้มของพวกเรามากขึ้น
คนแรกเริ่มเข้ามาปาผมที่นั่งนิ่งเป็นเป้า แต่ไม่โดนทั้งสามลูก รอดตัวไป หันไปมองไอ้แม็กซ์ที่เพิ่งโผล่ขึ้นจากน้ำหัวเปียกเป็นลูกหมาก็อดหัวเราะไม่ได้ อีกไม่นานผมคงต้องตกอยู่ในสภาพนั้น
“ เย้ ! ตกแล้วเว้ย ”
ลูกบอลของคนถัดมาโดนตรงเป้า ทำเอาผมตกลงไปในน้ำไม่ทันตั้งตัว ปามาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ เผลอกลืนน้ำลงไปในท้องหลายอึกจนอิ่ม ความหนาวเย็นจากน้ำผสมน้ำแข็งแล่นขึ้นไปทั่วตัว เสื้อสีขาวเปียกบางจนเห็นความขาว และ กล้ามเนื้อน้อยๆ ที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายใน
ผมพยุงตัวเองขึ้นมา นั่งประจำจุดเดิม ก่อนจะถูกปาตกลงไปแบบนั้นซ้ำซ้ำ
นับไม่ทันว่าตัวเอง ขึ้นลงจากน้ำไปทั้งหมดกี่รอบ ตอนแรกก็นับไว้ แต่พอเกินสิบรอบก็เลิกนับ ปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตาแล้วกัน ตกจนหนาวสั่นไปทั้งตัวหมดแล้ว เสื้อผ้าที่ไอ้แม็กซ์ให้ใส่ก็บางมาก ยิ่งช่วงล่างยิ่งบางไปใหญ่ ดีที่ผมใส่บ๊อกเซอร์ ทับไว้อีกชั้นไม่งั้น กางเกงในสีขาวที่ใส่มาคงจะบังอะไรภายในนั้นไว้ไม่อยู่
“ น้องโซล วู้วววว ”
เสยผมที่เปียกน้ำขึ้นไปด้านหลัง ก่อนจะพบว่าพี่เก่งยืนอยู่หน้าถังของผมแล้ว เขายืนยิ้มสายตาสำรวจตัวผมไปทั่วจนรู้สึกได้ สายตานั้นมันน่ากลัว ดูหื่นอย่างบอกไม่ถูก จึงยกมือขึ้นกุมป้าของตัวเองไว้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้านำทัพมาอยู่ตรงนี้ ผมจะโดนดุขนาดไหน
แล้วพี่เก่ง ก็ปา ทั้งสามลูก ตรงเป้า ทำเอาผมตกน้ำไปตามระเบียบ
“ กูขอประมูล รอบที่เหลือทั้งหมดของหนุ่มน้อยช่องสุดท้าย ”
หนาวสัสๆ ปากสั่น มือเหี่ยวเพราะแช่น้ำนาน แล้วไอ้เวรที่ไหนจะมาประมูลอะไรอีกวะเนี่ย ผมตะเกียกตะกายตัวขึ้นจากน้ำมานั่งประจำที่ ปรับสายตา มองไปยังคนที่ยืนหน้านิ่งเจ้าของประโยคเมื่อครู่
แล้วก็พบว่า....
ชิบหายแล้ว!! ไอ้ทัพนี่หว่า
ขนลุกตั้งแต่หัวจรดปลายเท้ากับสายตาที่มองมานั้น นิ่งแบบไร้อารมณ์ แต่ก็พอจะเดาออกว่าไม่พอใจมากแค่ไหน ผมส่งยิ้มกว้างไปให้ อย่าหวังว่าจะได้ผล ใบหน้านั้นนิ่งหนักกว่าเดิม คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน รังสีอำมหิตแผ่ดำปกคลุมไปทั่ว ขนาดเพลงที่เปิดอยู่ยังสะดุดคิดดู
ชะตาผมคงถึงที่แล้วละ มุดกลับลงไปในน้ำทันมั้ยวะ
“ มึงจะประมูลอะไร คนเค้าต่อแถวเล่นอยู่”
พี่เก่งที่กำลังจะเดินออกจากแถว หันไปหารุ่นน้องที่ตัวสูงกว่า ใครปล่อยให้สองคนนี้มาเจอกันเนี่ย ผมหันไปหาไอ้แม็กซ์กับไอ้ทีมเพื่อขอความเชื่อเหลือ แต่พวกมันทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แกล้งหันกลับไปคุยกันไม่สนใจผมที่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือเลยสักนิด ห่าเอ๊ยเพราะพวกมึงมั้ยที่กูต้องมาทำอะไรแบบนี้
ผมรีบหันไปหาน้ำหวานที่อึ้งมองเหตุการณ์อยู่ พยายามเรียกให้เธอหันมา และแล้วโชคก็เข้าข้างผม น้ำหวานหันมาทำปากแล้วพูดขึ้น แข่งกับเสียงเพลงที่ดัง
“ อะไรมึง ”
เราสื่อสารกันทางรูปปาก อยู่ไกลกันเกินกว่าจะได้ยิน งงเหมือนกันว่าทำไมไม่เดินเข้ามา
“ บอกว่ารอบวันนี้ปิดแล้ว ”
เพื่อนผมพยักหน้า เพื่อให้รู้ว่าเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด ไม่เสียแรงที่เป็นคนสวยและฉลาด อยากจะวิ่งลงไปกอดให้กับไหวพริบที่ดีในการอ่านรูปปากนั้น
“ หนุ่มน้อยของเราฝากมาบอกว่า ใครอยากเหมารอบก็ให้ประมูลค่ะ ”
ห๊ะ !! ผมพูดแบบนั้นไปตอนไหนวะ พูดสั้นมาก แต่เอาไปแปลโคตรยาว น้ำหวานมึงเอาคำว่าฉลาดที่กูชมเมื่อกี้คืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ !!
หายนะมาเยือนกูแล้ว
“ งั้นเรามาเริ่มประมูลกันเลยค่ะ ”
คนที่สนใจเข้าประมูล ออกมายืนอยู่ด้านหน้ากันเกือบสิบคน รวมถึงนำทัพและ พี่เก่งด้วย คนจากซุ้มอื่นๆ เริ่มเดินมารวมตัวกันที่ซุ้มเรา ร่วมเชียร์ว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการประมูลครั้งนี้ เพราะผู้ชนะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
“ สองพัน”
เริ่มเปิดประมูลที่ใครซักคนจากฝั่งซ้าย
“ สามพัน ”
คราวนี้มาจากพี่เก่ง
“ ห้าพัน ”
ตามมาด้วยคนที่ยืนถัดจากพี่เก่ง
“ แปดพัน ”
พี่เก่งสู้ราคาสูงลิบ
“ แปดพันครั้งที่หนึ่ง ... ”
“ แปดพันครั้งที่สอง... ”
น้ำหวานเริ่มนับในราคาประมูลของพี่เก่ง คนอื่นให้ราคาประมูลกันหมดแล้ว ทำไมเขาถึงไม่พูดอะไรเลย หรือว่านำทัพจะไม่อยากประมูลรอบที่เหลือตามที่พูดไว้จริง ๆ
น้อยใจดีมั้ยวะ !!
“ สามหมื่น ”“ โหววววววววววววววววว “
เสียงของคนที่อยู่บริเวณนั้นพูดขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ไม่ใช่ใครแต่เป็นคนที่ผมเพิ่งบ่นน้อยใจเมื่อครู่ ที่ให้ราคาประมูลสูงแบบนั้น ผมยิ้มออกได้แล้ว
“ สามหมื่นครั้งที่หนี่ง ... สามหมื่นครั้งที่สอง ”
“ และสามหมื่นครั้งที่สาม . “
“ นำทัพชนะการประมูลเหมารอบของน้องโซลที่เหลือทั้งหมดค่ะ ยินดีด้วยค่ะ และขอบคุณที่ร่วมทำบุญเยอะขนาดนี้นะคะ “
คนชนะการประมูลไม่ได้สนใจในสิ่งที่น้ำหวานพูด เขาหันไปมองพี่เก่งด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะเบือนหน้ากลับมายังผม ร่างสูงนั้นเดินตรงมา สายตาที่ฉายแววดุขึ้นในทุกขณะที่ก้าว ไร้รอยยิ้มใดปรากฏบนใบหน้าคม นิ่งจนผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
นำทัพหยุดเดินตรงข้างบันไดถังน้ำที่ผมนั่ง ..
“ ลงมาเดี๋ยวนี้ ”
สายตาดุดันสำรวจไปทั่วทั้งร่างของผม เสื้อผ้าเปียกชื้นบางทั้งส่วนล่างส่วนบน คงทำให้เขารู้สึกไม่พอใจกับภาพนั้นมาก เสียงที่เอ่ยขึ้น ไม่ได้ดังทว่ามันนิ่งเยือกเย็นไม่เหมือนปกติ
“ เอ่อ...คือ...กู...คือ”
อยากจะดึงลิ้นไก่ออกมา แล้วเช็ดทำความสะอาด พูดติดๆ ขัดๆ เหมือนแผ่นซีดีมีรอยข่วนไปได้
“ ลง ”
ลงแล้วครับ .. ผมรีบหมุนตัวออกจากที่นั่ง ลุกขึ้นเตรียมก้าวลงบันไดโดยไม่ต้องให้เขาพูดซ้ำ ถึงแม้จะโกรธขนาดไหน แต่เขาก็ยังเป็นเขา นำทัพก้าวเข้ามาอยู่ข้างบันได จับมือให้ผมเดินลงอย่างระมัดระวัง จนสองเท้าของผมถึงพื้น
“ กลับบ้าน ”
“ คือกูอธิบายได้นะ...”
“ มีเรื่องต้องเคลียร์ ”
“ กูอธิบายได้ ....”
เสื้อคณะที่เขาสวมคลุมมาถูกถอดออก ใช้พันรอบเอวของผมเอาไว้ ไม่ให้เห็นกางเกงสีขาวบางที่เปียกน้ำ จนมองเห็นขาอ่อนที่ถูกรั้งขึ้นตอนตกน้ำครั้งสุดท้าย
“ มีเรื่องต้องเคลียร์กันอีกยาว”
” ฟัง....”
และผมก็ไม่ได้พูดประโยคใดต่อจากนั้น เมื่อร่างของผมถูกยกขึ้นยกพื้น ไปอยู่บนบ่าของนำทัพ เขาเดินออกไปจากตรงนั้นโดยไม่สนใจเสียงกรี๊ดของคนรอบข้าง แม้กระทั่งเสียงของน้ำหวานที่ประกาศตามมาว่าจะพาผมไปไหน
จะไปที่ไหนได้นอกจาก
ไปเคลียร์กันยาวววอย่างที่เขาพูด…
---------------
Talk : เอะอะแบกอย่างเดียวเลย // จะมายุ่งกับคนของนำทัพ เปย์สู้ไหวเปล่า ++ หึงแหละดูออก 555
: เดี๋ยวลองเอาน้ำราดตัวเองดูบ้าง เผื่อจะมีคนประมูล 5 บาท 10 บาทก็เอา
: ใครอยู่ทีมไหนกันบ้าง นำทัพหรือโซล คอมเมนท์บอกกันได้นะครับ // ช่วงนี้มาบ่อยหน่อย .. คิดถึงทุกคนนะครับ ^^