อินเทิร์นจอมจุ้นฯ (Intern VS General Surgeon) ฟิล์มเต็ม #4 ลบไม่ได้ช่วยให้ลืม (จบ) 13/10/63
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อินเทิร์นจอมจุ้นฯ (Intern VS General Surgeon) ฟิล์มเต็ม #4 ลบไม่ได้ช่วยให้ลืม (จบ) 13/10/63  (อ่าน 47551 ครั้ง)

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ไหนว่ามาซิคุณพี่หมอกี้คะ???? มันอะไรยังไงถึงได้กวนใจหมอนิวไม่เลิก คึคึ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ a-mee-ra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตอน 35 เปิดโปง


ร่างบางในชุดเสื้อเชิ๊ตสีขาวพับแขนขึ้นลวกๆ กับกางเกงแสลคสีครีมนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้มุมหนึ่งของร้านอาหารของตนเอง วันนี้เขาตั้งใจปิดร้าน ไม่รับลูกค้า เพื่อเคลียร์ปัญหาที่ติดค้างในใจ

เขารอ…รอใครบางคนที่ทำให้เขา 'สับสน'

นี่ก็ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววของ…คนคนนั้น เขาเริ่มร้อนรนในใจ หรือแผนของเขาจะแตกกันนะ แต่ไม่นานก็ปรากฏร่างคุ้นตาของชายที่นัดหมาย นั้นทำให้เขายิ้มออกมาเบาๆ …สุดท้ายก็มาจนได้

"คุณอิสรอนานไหมครับ"

"ไม่นานเท่าไหร่ครับ"

"พอดีผมติดเคสเลยออกมาช้า นี่ก็เร่งเคลียร์ที่สุดแล้วครับ"

"ครับ ไม่เป็นไรเลย"

"คุณอิสนัดผมมาทานข้าว มีธุระอะไรรึเปล่าครับ"

"จะว่ามีก็มี จะว่าไม่มีก็…ไม่ได้"

"งั้นมีอะไรเหรอครับ"

"ใจเย็นๆ ครับ เราทานไปคุยกันไปดีกว่าเนอะ"

"ได้ครับ"

นิ้วเรียวสวยขยับเรียกพนักงานเสิร์ฟให้นำเมนูอาหารเข้ามาให้ ไม่นานเมนูหลากหลายก็เข้ามาอยู่ในมือคนทั้งสอง

"สั่งได้เลยนะครับ มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง" ริมฝีปากสวยเอ่ยขึ้น พร้อมกับยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก

"ว้าว เป็นเกียรติมากเลยนะครับที่เจ้าของร้านเลี้ยงข้าว" ชายหนุ่มยิ้มตอบเขินๆ

"ผมสิครับต้องรู้สึกได้รับเกียรติ เพราะเวลาของคุณมีค่ากว่าผมเยอะ แค่คุณสละเวลามานั่งทานข้าวกับผม ผมก็รู้สึกดีมากแล้ว"

"คุณอิสอย่าพูดแบบนั้นสิครับ ผมเขินแย่เลย"

"จริงๆ นะครับ เหมือนผมขโมยเวลาที่คุณควรจะอยู่กับแฟน หรือเวลาที่คุณผ่าตัดคนไข้มาเลย"

"ไม่หรอกครับ ผมจัดสรรเวลาให้คุณอิสได้เสมอ…ถ้าเพียงแค่ คุณอิสเอ่ยขอมา"



.



.



.



.



.



"จริงเหรอครับ…คุณหมอต๊ะ?"

"จริงที่สุดครับ"

"ทำไมล่ะ"



ติ๊ง…ติ๊ง…ติ๊ง



เสียงไลน์เด้งเข้ามาในมือถือของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นหมอ เจ้าของโทรศัพท์ชำเลืองมองข้อความ มีแววประหลาดใจฉายออกมาครู่เดียว แล้วก็เปลี่ยนเป็นปกติอย่างรวดเร็ว



"มีอะไรรึเปล่าครับ"

"อ่อ เปล่าครับ"

"แต่ผมว่า…น่าจะมีนะครับ ใครไลน์เข้ามาเหรอครับ"

อิสรามองตาคนตรงข้ามนิ่ง ราวกับจะอ่านให้ลึกเข้าไปถึงภายใน นั่นทำให้อีกฝ่ายหลบสายตา… มีพิรุธ





- หมอกี้ -

ผมเดินออกมาจากห้องครัวร้านอาหารของคุณอิส ในมือมีโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่เพิ่งกดส่งไลน์เข้าไปเมื่อกี้ มีข้อความว่า



Issara : ทำไมถึงเป็นผมครับ?

            คุณชอบผมเหรอ

            คุณหมอต๊ะ!




ใช่ครับ ผม แนน และคุณอิสวางแผนตลบหลังคนที่ปลอมเป็นผมคุยไลน์กับคุณอิส เป็นผมเองที่คุยกับไลน์ 'Kie' ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมานี้ ทำให้จับพิรุธได้หลายอย่าง จนแน่ใจประมาณ 80% ว่าเป็น 'พี่ต๊ะ'

พี่ต๊ะมีโทรศัพท์สองเครื่อง

พี่ต๊ะเป็นคนที่เข้าออกโรงพยาบาลของคุณอิสได้ตลอด เพราะรับ part-time จึงรู้ความเคลื่อนไหวของคุณอิส

พี่ต๊ะเป็นหมอศัลย์ ทำงานโรงพยาบาลของรัฐที่เดียวกันกับผม จึงรู้ความเคลื่อนไหวของผมด้วยเช่นกัน

ช่วงนี้พี่ต๊ะมีปัญหากับแฟน เพราะผมได้ยินพี่ต๊ะไปแอบคุยโทรศัพท์ แล้วมีปากเสียงบ่อยๆ

วันนี้ผมเริ่มแน่ใจ เพราะตอนเที่ยงที่ผ่านมาผมไลน์เข้าไปหา 'Kie' ถามว่ากินข้าวกับอะไร ซึ่งวันนี้มีผู้แทนยานำข้าวมาเลี้ยงบรรดาหมอศัลย์ ซึ่งผมเห็นพี่ต๊ะถ่ายรูปอาหารที่ได้รับจากผู้แทนยาแล้วส่งกลับมาที่ไลน์ 'Issara' เป็นอาหารเดียวกันกับที่ผมได้รับและมุมเดียวกับที่พี่ต๊ะถ่ายรูปเมื่อกี้เลย ทำให้ผมค่อนข้างมั่นใจ จึงบอกให้คุณอิสนัดพี่ต๊ะไปเจอเลย จะได้คุยกันให้เคลียร์

และตอนนี้ผมก็มั่นใจเกิน 100% เสียอีกครับว่าพี่ต๊ะ คือ 'Kie'

แต่ที่ไม่รู้คือ ทำไปเพื่ออะไร?!



"สวัสดีครับพี่ต๊ะ ไม่ใช่สิ คุณ Kie"

ใบหน้าพี่ต๊ะฉายแววตกใจ เมื่อเห็นผมเดินออกมาจากห้องครัวด้านหลังร้าน แล้วผมก็เดินไปประจันหน้ากับพี่ต๊ะที่ตอนนี้ยืนขึ้นเต็มความสูง สายตาเราอยู่ในระดับเดียวกัน มีพลังงานบางอย่างที่พร้อมจะระเบิดออกทุกเมื่อ

"พี่ทำแบบนี้ทำไม" ผมเอ่ยถามเสียงแข็ง

"ไม่มีเหตุผล" พี่ต๊ะตอบด้วยน้ำเสียงกวนประสาท

"พี่ทำแบบนี้ ผมเดือดร้อนนะ ผมมีปัญหากับนิวเพราะคุณอิสหลายครั้งแล้ว เพราะพี่ทำให้คุณอิสเข้าใจผิดว่าเป็นผมที่คุยกับเค้า!"

"แล้วไงวะ"

"พี่มีแฟนแล้วนะเว้ย พี่ไม่ควรทำแบบนี้!"

"กูจะทำแบบไหนก็เรื่องของกู!"

"ก็ถ้าสิ่งที่พี่ทำมันไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ผมก็โอเค แต่นี่พี่ทำผมเดือดร้อน!"

"กูขอโทษละกัน"

"ขอโทษแล้วมันหายไหมล่ะ?!"

หมัดหนักๆ ของผมฟาดไปที่ปากคนตรงหน้า ผมอดทนต่อไปไม่ได้แล้วครับ ทำผิดสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น แล้วยังลอยหน้าลอยตาพูดขอโทษแบบขอไปที

เมื่อผมเปิดเกม พี่ต๊ะก็ซัดผมกลับมาเหมือนกัน มุมปากผมถูกฟาดมาเต็มๆ คุณอิสที่นั่งอยู่รีบวิ่งเข้ามาห้าม

"หยุดๆ หยุดเดี๋ยวนี้!"

แต่นาทีนี้ไม่มีใครฟังคนห้ามหรอกครับ เลือดบ้ามันมาแล้ว เงื้อมหมัดฟาดแหลกไม่รู้โดนจุดไหนบ้าง ผมก็โดนหนัก รู้สึกมึนๆ และมองภาพไม่ค่อยชัด เพราะโดนซัดเข้าที่เบ้าตา

หมาบ้าสองตัวตะลุมบอนกันซักพัก ก็ล้มไปอยู่คนละฟาก คุณอิสเดินมาตรงกลางระหว่างผมกับไอ้หน้าตัวเมียนั่น พร้อมกับพูดเสียงดัง

"หยุด! หยุดทั้งสองคน!"

แล้วพนักงานในร้านก็เข้ามาจับผม กับไอ้บ้านั่นให้อยู่คนละมุม ถ้าไม่มีคนจับไว้ ผมพร้อมจะฟัดมันอีกรอบ!

"นี่ร้านอาหาร ไม่ใช่สนามมวย" แล้วคุณอิสก็เดินไปหาไอ้บ้านั่น แล้วพูดด้วยว่า

"ถ้าคุณชอบผม ก็แค่เดินเข้ามาคุยดีๆ อย่าใช้วิธีนี้ ผมไม่ใช่เด็กๆ ที่คุณจะมาทำแบบนี้ด้วย แต่ตอนนี้…แค่หน้าคุณ ผมก็ไม่อยากเห็น เพราะงั้น…โอกาสที่คุณพึงได้ มันก็จบลงด้วยเหมือนกัน ลาก่อน คุณต๊ะ"

จบประโยคของคุณอิส ไอ้บ้านั่นก็สะบัดพนักงานที่มารั้งตัวมันออก มองหน้าเจ้าของสถานที่ และเลยมองมาทางผมด้วยแวบนึง ก่อนจะเดินออกจากร้านไปอย่างเงียบๆ



ผมเริ่มรู้สึกปวดหนึบๆ บริเวณมุมปาก เบ้าตา และตามบริเวณร่างกายหลายส่วน ทำให้ขาสองข้างเริ่มหมดแรงยืน ผมจึงทรุดตัวลงกับพื้น ทำให้ทุกคนในร้านตกใจมาก

"นิดหน่อย ไปเอากล่องปฐมพยาบาลมา เดี๋ยวผมจะทำแผลเบื้องต้นให้หมอกี้ก่อน"

"ค่ะ คุณอิส"

ทันทีที่รับคำ พนักงานร้านของคุณอิสก็รีบกระวีกระวาดไปหากล่องปฐมพยาบาลมาให้นาย ส่วนผมนั้นถูกนำตัวมาวางไว้โซฟามุมหนึ่งของร้าน จากนั้นคุณอิสก็ตามมาดูแผลที่หน้าผม

"มีเลือดออกที่มุมปากนะครับหมอกี้ เดี๋ยวทำแผลให้นะ"

จากนั้นมือเรียวก็ใช้สำลีชุบน้ำเกลือ แล้วเช็ดลงไปที่แผลสดบริเวณมุมปาก เพื่อทำความสะอาดแผล จากนั้นก็ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ แล้วเช็ดบริเวณรอบๆ แผล อันนี้แสบครับ ถึงจะไม่โดนแผล แต่ก็แสบใช้ได้อยู่

"เบาๆ ครับ อื้ออ"

"แสบเหรอครับ ผมมือหนักไปเหรอ"

"ไม่ๆๆ คุณอิสมือไม่หนักหรอก แต่คงเพราะแอลกอฮอล์เผลอไปโดนแผล มันเลยแสบ"

"หมอกี้อย่าเพิ่งพูดนะครับ ยิ่งพูดแผลจะยิ่งฉีกนะ …ใครก็ได้ โทรเรียกรถโรง'บาลเรามาที" ประโยคหลัง คุณอิสสั่งลูกน้อง เพราะคงเห็นแผลแล้วว่าอาจต้องเย็บ

"แผลกว้างเหรอครับ ถึงกับต้องเข้าไปเย็บที่โรง'บาล"

"ไม่หรอกครับ ผมแค่…เป็นห่วงน่ะ" ประโยคหลังนี้คุณอิสพูดโดยไม่มองหน้าผม ทำเอาผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันที

"ขอโทษนะครับคุณอิส"

"หมอกี้จะขอโทษผมทำไม คุณไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย"

"ขอโทษที่ผมคงตอบรับความรู้สึกดีๆ ของคุณอิสไม่ได้"

"ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจดีแล้ว …หมอนิวน่ะ เหมาะสมกับหมอกี้แล้ว ทั้งน่ารักสดใส อยู่ด้วยแล้วน่าจะมีความสุข ต่างจากผมที่อยู่ด้วยแล้วคงน่าเบื่อ"

"อย่าพูดแบบนั้นสิครับ คุณอิสแค่ยังไม่เจอคู่ของตัวเอง เดี๋ยวก็เจอนะครับ ผมจะคอยเชียร์"

"ขอบคุณครับ …หมอนิวนี่โชคดีจังเลยนะครับที่ได้หมอกี้ไปเป็นแฟน"

"ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมก็แค่ผู้ชายธรรมดาคนนึง แต่นิวเค้า hot นะครับ มีคนจีบเค้าเยอะตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว ผมต่างหากที่โชคดีที่นิวเลือกผม ยอมเปิดใจให้ผม เพราะงั้นผมจะไม่ทำให้เค้าเสียใจเด็ดขาด"

"น่าอิจฉาทั้งคู่เลยครับ"

ในระหว่างที่เราคุยกันไป มือคุณอิสก็ทำแผลให้ผมไปเรื่อยนะครับ สายตาผมเหลือบไปมองนาฬิกาข้อมือ ก็พบว่าเป็นเวลาเกือบจะ 5 โมงครึ่งแล้ว ป่านนี้แล้ว นิวคงไม่มาแล้วแหละ คงกำลังงอนผมหนักเลยล่ะ นี่ต้องไปง้อยังไง ผมยังคิดไม่ออกเลย ตอนแรกจะพาไปกินข้าวเที่ยง ก็ไปไม่ได้ เพราะรู้แล้วว่าเป้าหมายเป็นใคร จึงต้องรีบประชุมลับกับคุณอิสและแนน จริงๆ เย็นนี้ต้องมีแนนมาด้วย แต่ก่อนออกมา เคสแนน arrest จึงต้องอยู่ดูก่อน ผมเลยต้องมาลุยกับคุณอิสสองคน

"ที่หน้าเรียบร้อยแล้วครับหมอกี้ ขอดูตามตัวหน่อยสิครับว่ามีบาดแผลที่อื่นไหม"

ผมยื่นแขน ยกขาให้คุณอิสดู ก็พบรอยฟกช้ำบ้างเป็นบางจุด พอเห็นสภาพตัวเองแล้วก็นึกเสียใจ ไม่น่าเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกก่อนเลย เพราะจริงๆ แล้วเราก็โตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ไม่ควรใช้กำลังแบบนี้ พรุ่งนี้ก็ยังต้องเจอกันที่ทำงาน ยังต้องร่วมงานกันอยู่ จริงๆ น่าจะคุยได้ ขอโทษขอโพยกันแล้วก็จบ แต่สุดท้ายมันออกมาในรูปแบบนี้ ก็ต้องยอมรับกรรมกันไป

เมื่อใดที่เอาอารมณ์มาแทนที่เหตุผล เมื่อนั้นจะพบกับความฉิบหาย

ตอนบวช หลวงพ่อเคยสอนผมไว้ ผมว่าผมเริ่มเข้าใจมันอย่างถ่องแท้แล้ว ก่อนหน้านี้ก็แค่เข้าใจ แต่พออยู่ในเกมเอง เข้าใจอย่างลึกซึ้งเลยละครับ เข้าใจแม้กระทั่งว่า… สิ่งเดียวที่จะดับอารมณ์ในตอนนั้นได้ คือ สติ ซึ่งผมก็คิดว่าผมมี 'สติ' ตลอดเวลาอยู่นะ แต่เอาเข้าจริงๆ เวลาเข้าตาจน เราก็ลืมใช้ 'สติ' กลับใช้ 'อารมณ์' เป็นที่ตั้งอยู่ดี

ตอนนี้เริ่มเย็นแล้วไงครับ เริ่มคิดได้ เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขเหตุการณ์นี้ได้ เพราะงั้นก็ต้องยอมรับผลของการกระทำนะครับ

คุณอิสทายาแก้ฟกช้ำให้ผมเรียบร้อยแล้ว ก็เก็บยาและอุปกรณ์ทำแผลเข้ากล่อง ลุกขึ้นกำลังจะเอากล่องยาไปเก็บ เท้าก็ดันไปเกี่ยวกับโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ เพราะตอนตะลุมบอนกันนั้น โต๊ะเก้าอี้ระเนระนาดพอสมควร

พอเท้าคุณอิสเกี่ยวปุ๊บ ร่างบางๆ ของคุณอิสก็ล้มลงมาทับผม…



โดยที่ปากของเราประกบกัน!!



และเป็นวินาทีเดียวกันกับ ประตูร้านอาหารของคุณอิสถูกเปิดออก คนที่ก้าวเท้าเข้ามา คือ นิว!!



คนดีของผมมองภาพตรงหน้านิ่งประมาณสองวิ จากนั้นก็หมุนตัวกลับ เปิดประตูแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว…



"นะ..นิว!"




TBC.



Talk : เอาแล้ววววววว มาเจอช๊อตเด็ด โอ้ยๆๆๆๆ แล้วน้องหมอนิวจะทำยังไงเนี่ย พี่กี้จะง้อยังไง ภาพมันฟ้อง งือออ ไรท์แต่งไปก็อินไปเด้อ รอลุ้นตอนต่อไปจ้าา

ละคือไรท์แอบชอบคุณอิส อยากหาแฟนให้น่ะ ดูลุ๊กนิ่งๆ พูดจาไพเราะ ดูนางพญาดี หาคู่ให้คุณอิสดีกว่าเนอะ เห็นด้วยกับไรท์ป่าวคะ อิอิ

ตอนนี้มาไม่เยอะ แต่เคลียร์นะ มีรี๊ดเดาถูกด้วย เก่งมากกกกกค่า (ปรบมือรัวๆ) ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน กดหัวใจ กดโดเนท และคอมเม้นท์ให้มากๆนะคะ ตอนนี้ก็ขอกำลังใจเช่นเคยค่ะ (เลิฟมากมายค่าาา)

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
โอ๊ยยยยยยจังหวะหมามาก งานเข้าคุณพี่หมอกี้ต่อ เตลิดไปไกลแล้ว ถ้าไม่รีบเคลียร์มียาวอ่ะ 5555 พี่หมอต๊ะ ปสด.มากจ๊ะ  :z6:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เอ่อมม ดราม่าปัญญาอ่อนไปนะ บางที

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9

ออฟไลน์ a-mee-ra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตอน 36 สิ่งที่ไม่คาดฝัน


- หมอนิว -



ภาพที่ผมเห็นอยู่เบื้องหน้า คือ คนสองคนกำลังจูบกัน!!

ผมทนมองได้ไม่เกินสองวิ จากนั้นขาของผมก็ก้าวยาวๆ ออกจากร้านทันที นี่เหรอ! สิ่งที่พี่กี้เรียกผมมาเคลียร์! เรียกให้ผมมารับรู้ความจริง! นี่สินะคือความจริง!

คุณอิส…คือ ความจริง!

ส่วนผม…คือ ความหลอกลวง!

พอกันที!!

ผมขับรถออกมาจากสถานที่แห่งนั้นด้วยจิตใจที่เจ็บช้ำ แตกสลาย น้ำตามากมายไหลออกมา… ผมรู้สึกชาไปทั้งตัว แต่ในขณะเดียวกันมือที่กำพวงมาลัยก็สั่นระริก จนแทบจะควบคุมรถไม่ได้ ในหัวผมมีคำถามมากมาย

ทำกับผมแบบนี้ทำไม?

เพื่ออะไร?

ผมบกพร่องตรงไหนทำไมถึงมีคนอื่น?

ทำไมไม่รู้จักพอ?

เห็นผมเป็นคนโง่มากใช่ไหม?!

ผมอยากจะถามนัก แต่ผมก็ใจไม่แข็งพอที่จะอยู่ถามคำถามเหล่านี้กับพี่กี้ ผมกลัว…กลัวที่จะแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็น ไม่อยากให้ 'คนนั้น' เห็นความอ่อนแอของตัวเอง ถึงแม้ในใจจะเจ็บมากเพียงใดก็ตาม

ผมเจ็บ เจ็บจนไม่รู้ว่าพาตัวเองกลับมาถึงหอพักแพทย์ได้อย่างไร ผมกดลิฟท์ไปยังชั้นห้องพักของพี่กี้ เปิดประตูบานที่คุ้นเคยเข้าไป เก็บเสื้อผ้า สิ่งของของตัวเองยัดใส่กระเป๋าเป้ที่หยิบติดมือมาจากรถ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรต้องทำยังไงต่อไป นาทีนี้ขออยู่ให้ห่างจากผู้ชายคนนี้ก่อน เพราะอีกหน่อยพี่กี้ก็คงตามมาง้อผมเหมือนทุกครั้ง และทุกครั้งก็จบลงที่…ผมเข้าใจผิด



แต่คนเรามันคงไม่เข้าใจผิดครั้งแล้วครั้งเล่า กับเรื่องเดิมๆ …ใช่ไหมครับ



เพื่อป้องกันความใจอ่อนของตัวเอง ผมขอห่างจากพี่กี้ไปตั้งหลักก่อนละกัน ไม่ได้ห่างไปไหนหรอกครับ แค่จะกลับไปอยู่ห้องตัวเอง

ระหว่างที่ผมเดินเก็บของอยู่นั้น ชุดผ่าตัดสีเขียวของพี่กี้ที่เพิ่งส่งซักเสร็จ ก็หลุดจากไม้แขวน ทั้งที่ผมไม่ได้เฉียดเข้าไปใกล้เลย และไม่มีลมพัดเข้ามาด้วย นั่นทำให้ผมชะงักเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร แค่เดินไปเก็บขึ้นมาแขวนไว้ตามเดิม

จากนั้น ผมก็เดินไปสำรวจห้องน้ำ ไปหยิบของใช้ส่วนตัวมายัดลงกระเป๋าเป้ แล้วก็ยืนซึมซับบรรยากาศเดิมๆ บรรยากาศเก่าๆ ของเราสองคนไว้ในใจ

ต่อจากนี้…ผมคงไม่ได้เข้ามาห้องนี้อีกแล้ว ทุกอย่างจะถูกเก็บไว้เป็นเพียงความทรงจำที่สวยงาม ครั้งหนึ่งผมเคยมีความสุขมากแค่ไหน เคยยิ้มเคยหัวเราะ เคยมีคนเอาใจใส่ เคยมีคนคอยห่วงใย แต่ต่อจากวันนี้…ทุกอย่างจะไม่มีอีกแล้ว

มันจะกลายเป็น…ความทรงจำที่สวยงาม

คิดมาถึงตรงนี้ น้ำในตาผมก็ไหลพรั่งพรูออกมาอีก ราวกับทำนบเขื่อนแตก มีเสียงสะอึกสะอื้นราวกับจะขาดใจ

"ฮืออ…นิวรักพี่นะ…ฮืออ…ลาก่อน…"

จบประโยค ผมค่อยๆ ก้าวเท้าอย่างมั่นคงตรงไปยังประตูหอพัก บอกกับตัวเองว่า…ถ้าก้าวออกไปแล้ว อย่าได้ก้าวกลับเข้ามาอีกนะ ต้องใจแข็งนะ ถ้าเค้ามาง้อ ก็ต้อง…ใจแข็งเข้าไว้

ทันทีที่มือสัมผัสกับลูกบิดเย็นยะเยือกนั้น ก็มีเสียงโทรศัพท์เรียกเข้ามาที่มือถือของผม ผมจึงยั้งมือไว้ แล้วเปลี่ยนเป็นหยิบมือถือขึ้นมากดรับ ซึ่งเป็นเบอร์จากพี่มินนี่…







- หมอกี้ -

วินาทีที่นิวเปิดประตูเข้ามาในร้านคุณอิส แล้วเห็นคุณอิสนอนทับผม โดยที่ปากเราประกบกัน ผมเห็น…นัยน์ตาคู่นั้นมีแววตกใจ และตามมาด้วยความเจ็บปวด ดวงตารีเล็กสั่นระริกรีบเบือนหน้าหนีจากภาพตรงหน้า แล้ววิ่งออกจากร้านไป

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเบื้องหลังใบหน้านั้น…น้ำในตาคงไหลเปื้อนสองแก้มออกมาราวกับเขื่อนทะลัก น้องคงเจ็บปวดกับภาพตรงหน้ามากๆ …ผมไม่ยอมให้น้องเจ็บไปมากกว่านี้แล้ว

นาทีนี้…ผมต้องตามไปอธิบายทุกอย่างให้น้องเข้าใจ

ผมปล่อยไว้ไม่ได้อีกแล้ว ผมกลัวที่จะเสียน้องไป…ถ้าเสียน้องไป ผมคงทำใจไม่ได้

ผมจึงรีบวิ่งออกจากร้านคุณอิส แล้วขับรถตามน้องออกไปด้วยสภาพร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยมากนัก แขนขายังทำงานได้เต็มประสิทธิภาพดี แต่สายตานี่สิ จากการที่ถูกชกเข้าเบ้าตาทำให้มีอาการปวดหนึบๆ จนบางครั้งหนังตาแทบจะปิดลงมา แต่ผมก็ยังฝืน เพราะผมต้องการไปอธิบายให้น้องเข้าใจ

ผมไม่พร้อมที่จะเสียน้องไปจริงๆ …

มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ แต่ในใจลึกๆ นั้นบอกผมว่า…หากผมไม่ตามไปตอนนี้ ผมจะเสียน้องไปแน่นอน นั่นทำให้ผมตัดสินใจขับรถออกมา ทั้งที่คุณอิสก็เรียกผมไว้ และเสนอตัวว่าเดี๋ยวจะขับรถไปให้ แต่ผมไม่ฟัง และผมไม่อยากให้นิวเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ ผมจึงขับรถออกมาเองโดยลำพัง

ตอนนี้ผมรู้สึกปวดหัวมากๆ แถมหนังตาก็กำลังจะปิดลงมา แต่ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงโรงพยาบาลมากแล้ว ผมจึงไม่สามารถหยุดรถได้ เพราะคิดว่า…อีกแค่นิดเดียว อีกนิดเดียวเท่านั้น …นิวอยู่ใกล้ผมแค่เอื้อม…อดทนนะกี้ ต้องอดทน!

นั่นคือสิ่งที่ผมบอกตัวเองในใจ…

หลังจากนั้นผมก็รู้สึกได้รับแรงกระแทกอย่างจัง! หนังตาก็ค่อยๆ ปิดลง พร้อมกับภาพในหัวที่ตัดไปเป็นภาพของนิวกำลังจะเดินจากผมไป…ผมเห็นแค่ด้านหลังของน้อง ผมร้องเรียกน้องหลายต่อหลายครั้ง แต่ร่างนั้นก็ไม่ยอมหันมามองผมสักนิด เอาแต่เดินไปข้างหน้าโดยไม่แม้แต่จะหยุดเพื่อให้ผมก้าวตามทัน หรือไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามองผมเลย…







- หมอนิว -

ทันทีที่มือสัมผัสกับลูกบิดเย็นยะเยือกนั้น ก็มีเสียงโทรศัพท์เรียกเข้ามาที่มือถือของผม ผมจึงยั้งมือไว้ แล้วเปลี่ยนเป็นหยิบมือถือขึ้นมากดรับ ซึ่งเป็นเบอร์จากพี่มินนี่

"ฮัลโหล…" ผมกดรับสายด้วยเสียงเบาหวิว พยายามไม่ให้อีกฝ่ายจับได้ว่ากำลังร้องไห้อยู่

"น้องหมอนิวคะ… ค่อยๆ ฟังพี่นะคะ แล้วก็ทำใจดีๆ ไว้ด้วยค่ะ"

"คะ ครับ มีอะไรเหรอครับ" ผมเริ่มมีสตินิดนึง

"คือว่า…หมอกี้ประสบอุบัติเหตุ เมื่อกี้กู้ภัยเพิ่งโทรมาแจ้งค่ะ"

"…!! …"

"หมอนิว! ยังฟังอยู่ไหมคะ?! "

"คะ ครับ …ที่ไหน อะไรยังไงครับ!?! " วินาทีนี้สติผมมาเต็มแล้วครับ

"สะพานใกล้ๆ โรง'บาล นี่แหละค่ะ กู้ภัยเพิ่งนำตัวออกมาจากรถได้ กำลังจะนำตัวส่งโรง'บาลเรานี่แหละค่ะ อีกหน่อยคงมาถึง ER"

"เดี๋ยวผมลงไปตอนนี้เลย! "

ผมทิ้งเป้ที่เพิ่งเก็บเสร็จไว้แทบเท้า ไม่สนใจใยดีมันซักนิด จากนั้นก็รีบเปิดประตูออกจากห้อง พาตัวเองไปยังห้อง ER ให้ไวที่สุดเท่าที่ขาของผมจะวิ่งไปได้…





ผมรีบวิ่งมายังห้อง ER ก็พบพี่แนนยืนอยู่ก่อนแล้ว คนที่อยู่เวรตอนนั้น คือ ไอ้ตะวัน ผมวิ่งไปดูไอ้ตะวันปั๊มหัวใจพี่กี้ เพราะตอนนี้พี่กี้เสียเลือดมาก จากการสอบถามพี่พยาบาล ได้ความว่ามีกระดูกหักที่แขนและขา ได้ยินแค่นั้น หัวใจผมก็แทบหยุดเต้นตามไปด้วย

ถ้าผมไม่รีบวิ่งออกมาจากร้านคุณอิส พี่กี้ก็คงไม่รีบตามผมออกมา เหตุการณ์แบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น!

ทุกอย่างเกิดขึ้น…เพราะผมคนเดียว ผมเป็นต้นเหตุให้พี่กี้ต้องเจอกับสถานการณ์อันเลวร้ายนี้

ถ้าพี่กี้ต้องจากไปจริงๆ นั่นก็เป็นเพราะผม ไม่ใช่ใครอื่นเลย…

นาทีนั้น ผมไม่สามารถทำหน้าที่แพทย์ได้เลย ผมไม่สามารถทนดูเลือดที่ไหลออกมาจากร่างกายพี่กี้ได้ น้ำตาที่หยุดไหลไปแล้ว อยู่ดีๆ ก็ไหลออกมาอีกรอบโดยไม่อายใครแม้แต่น้อย พี่แนนเป็นคนเข้ามากอดปลอบใจผม

"ไม่เป็นไรนะนิว กี้เป็นคนดี เป็นคนเข้มแข็ง กี้ไม่ไปจากเราง่ายๆ หรอก"

"ฮืออ พี่แนน นิวกลัว ฮืออ"

"ไม่เป็นไร เชื่อพี่นะนิว กี้จะต้องไม่เป็นอะไร"

"ฮึก นิวกลัว..นิวกลัวเสียพี่กี้ไป ฮืออ"

"กี้จะต้องไม่เป็นอะไร นิวต้องเข้มแข็งนะ นิวต้องเข้มแข็งเพื่อเป็นกำลังใจให้กี้ได้สู้ต่อนะ"

"อือ นิวจะพยายาม ฮึก"

"หยุดร้องก่อนนะคนเก่ง…นิวมีเบอร์ที่บ้านกี้ใช่ไหม โทรแจ้งแม่กับป๊ากี้ก่อนนะตอนนี้"

"อือ"

ประโยคของพี่แนนทำให้ผมเริ่มได้สติว่าผมต้องโทรแจ้งที่บ้านพี่กี้ เพราะตอนนี้ยังไม่น่าจะมีคนรู้ ผมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่สองสามครั้งเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง และให้หยุดร้องไห้ พอเริ่มรู้สึกดีขึ้นแล้ว ผมก็หยิบมือถือออกมาโทรหากรีน ไม่นานกรีนก็รับสาย

"ว่าไงนิว"

"กรีน…กรีนทำใจดีๆ ไว้นะ" เสียงผมเศร้า และเบามาก

"อะไรของแกเนี่ย"

"พี่กี้…เกิดอุบัติเหตุ ตอนนี้อยู่ห้องฉุกเฉินโรง'บาล…กำลังปั๊มหัวใจ"

"ห๊ะ!! "

"แกตั้งสติดีๆ นะ ค่อยๆ บอกป๊ากับแม่"

"แล้วอาการเป็นไงบ้างแก!? "

"50/50 น่ะ ถ้าปั๊มกลับมาได้ก็รอด มีกระดูกหักด้วย แต่แกก็อย่าเพิ่งตกใจไปนะ…ยังไงพี่กี้ก็ต้องรอด" ประโยคหลังที่ผมบอกกรีน ก็เหมือนกับสร้างความมั่นใจให้ตัวเองไปด้วย

"โอเคแก เดี๋ยวฉันจะค่อยๆ บอกป๊ากับแม่ แล้วเดี๋ยวฉันจะรีบเข้าไปที่โรง'บาล"

"โอเค แกขับรถดีๆ นะ"

แล้วสายก็ถูกวางไป พร้อมกับที่พี่แนนเดินเข้ามาสะกิดบอกผมว่า ตะวันปั๊มหัวใจเอาพี่กี้กลับคืนมาได้แล้ว! นั่นทำให้ผมยิ้มออกมาจนได้!!

นาทีนั้นโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น เป็นสายจากอาจารย์อาร์นั่นเอง

"นิว อยู่ไหน"

"อยู่ ER"

"อยู่กับกี้ใช่ไหม"

"ครับ"

"รู้ใช่ไหมว่ากี้กระดูกหัก"

"ครับ"

"พี่ต้องผ่าตัดให้กี้น่ะ นิวมาช่วยพี่ได้ไหม…ไหวไหม? "

"…ครับ ไหว"

"งั้นตอนนี้มาเตรียมตัวเลยนะ"

"ครับ"

แล้วสายก็ถูกวางไป ส่วนผมนั้น…ยังยืนนิ่ง กำมือถือแน่น จนพี่แนนมาสะกิดอีกรอบ

"มีอะไรรึเปล่านิว"

"ผมต้องไปช่วยอาจารย์อาร์ผ่าตัดให้พี่กี้น่ะ"

"ไหวเหรอแก?! ให้น้องคนอื่นไปแทนไหม?! "

"ไม่! นิวจะเข้าไปช่วยอาจารย์อาร์เอง! "

"แน่ใจนะ?! "

"อืม นิวเป็นคนที่ทำให้พี่กี้เกิดอุบัติเหตุ นิวก็ต้องเป็นคนช่วยให้พี่กี้กลับคืนมา"

"นิวอย่าโทษตัวเองเลย มันไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้หรอก"

"อืม เพราะงั้นนิวต้องไปแก้ไขให้มันดีขึ้น …นิวไปเตรียมตัวแล้วนะพี่ นิวฝากทางนี้ด้วยนะ"

"ไม่ต้องห่วงทางนี้ นิวไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเถอะ พี่เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ "

ผมรับคำพี่แนน แล้วรีบตรงไปยังแผนกศัลยกรรม othopedic เพื่อเตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัด







สิ่งที่ท้าทายในอาชีพหมออีกอย่างหนึ่ง คือ หากเราต้องทำการรักษาคนใกล้ตัว เราต้องใช้กำลังใจมากกว่าเดิมหลายเท่า เพราะเราจะกดดันตัวเอง อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในตอนปฏิบัติงานได้ เพราะงั้นสิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้คือ ต้องทำใจร่มๆ พยายามประคองสติตัวเองให้ปกติที่สุด

ผมเปลี่ยนชุดจากเสื้อกาวน์เป็นชุดสีเขียวของห้องผ่าตัด นั่งรอเขาเข็นพี่กี้เข้ามา ผ่านไปแล้วกว่าสิบนาทีก็ยังไม่เห็น คงกำลังส่งตัวไปเอ๊กซเรย์อยู่ ผมจึงมีเวลานั่งทำใจต่ออีกซักพัก ระหว่างนั้นอาจารย์ต๊ะเดินเข้ามาในห้องพักแพทย์ที่ผมนั่งอยู่

"นิว พี่ขอโทษนะ"

ผมหันไปมองอาจารย์ต๊ะแบบงงๆ ขอโทษผมทำไม?

"ก่อนกี้เกิดอุบัติเหตุ พี่กับกี้มีเรื่องกันนิดหน่อย"

"ห๊ะ?! " ผมงงหนักมากครับ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!

"เราชกต่อยกัน กี้ก็น่าจะเจ็บหนักอยู่" ผมมองหน้าอาจารย์ต๊ะ ท่าจะจริงครับ เพราะที่หน้าผากกับมุมปากของอาจารย์ต๊ะมีผ้าก๊อซแปะอยู่

"ทำไมอ่ะ"

"หมอคะ หมอกี้มาแล้วค่ะ ทีมก็พร้อมแล้ว เชิญคุณหมอนะคะ"

การสนทนาของเราต้องหยุดชะงักลงเท่านั้นก่อน เพราะพี่พยาบาลมาตามเราให้เข้าห้องผ่าตัดแล้ว อาจารย์ต๊ะจึงได้แต่บอกผมว่า

"เดี๋ยวผ่าตัดเสร็จ พี่เล่าให้ฟังละกัน…ถึงก่อนหน้านี้พวกพี่จะมีเรื่องกัน แต่พี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กี้ต้องเกิดอุบัติเหตุ ยังไงพี่ก็จะช่วยให้เต็มที่นะ"

ผมยิ้มรับคำพูดของอาจารย์ต๊ะอย่างเนือยๆ ผมไม่มีแรงแม้แต่จะยกมุมปากขึ้นยิ้มครับ ทุกอย่างมันหนักไปหมด ทั้งร่างกายและสภาพจิตใจในตอนนี้









พอมาถึงห้องผ่าตัดก็เจออาจารย์อาร์และทีมรออยู่ก่อนแล้ว ผมมองไปที่เตียงเห็นร่างพี่กี้ที่ดวงตาปิดสนิท มีบาดแผลตามร่างกาย และบนใบหน้า นั่นทำให้ก้อนสะอื้นวิ่งขึ้นมาจุกอยู่ที่คอ ผมต้องอดทนและอดกลั้นไว้ไม่ให้น้ำตาไหลออกมา

เมื่อเช้า…คนคนนี้ ยังยิ้มและหัวเราะให้ผมอยู่เลย

ผมไม่ชิน…ผมรับไม่ได้ที่เห็นพี่กี้นอนอยู่บนเตียงผ่าตัด ปกติต้องเป็นพี่กี้ที่ยืนผ่าตัดให้คนไข้สิ

ผมเดินเข้าไปใกล้ร่างที่นอนนิ่งสนิท เอื้อมไปจับมือใหญ่ที่เจ้าตัวชอบใช้มาลูบหัวผม มือนั้นเย็นเฉียบ…ราวกับไร้ลมหายใจ จังหวะนั้นผมอดกลั้นน้ำตาไม่ไหวอีกแล้วครับ น้ำตาผมไหลออกมาอีกรอบ พร้อมกับสะอื้นหนักๆ จนพี่พยาบาลต้องเข้ามากอดปลอบผมไว้

"โอ๋ๆๆ ไม่เป็นไรนะคะหมอนิว เดี๋ยวหมอกี้ก็ฟื้นแล้ว"

"ฮึก ผม..ฮืออ"

"ไม่ต้องพูดอะไรนะคะ คุณหมอไหวไหม ถ้าไม่ไหวก็ออกไปรอข้างนอกก็ได้ค่ะ ทางนี้มีคุณหมอต๊ะมาช่วยอีกแรงแล้ว ก็น่าจะเอาอยู่แล้วล่ะค่ะ"

"นิวรอข้างนอกก็ได้ ตอนแรกไม่คิดว่าต๊ะจะมาช่วย พี่เลยเรียกนิวมา" อาจารย์อาร์สำทับมาอีกเสียง

"ฮึก ไม่เป็นไร..นิวอยากช่วย..ฮึก..พี่กี้"

"งั้นนิวต้องใจเย็นๆ นะ ถ้าไม่ไหวต้องรีบบอกทีมนะ"

ผมพยักหน้ารับ แล้วกลับออกไปห้องพักแพทย์เพื่อเรียกสติให้ตัวเองอีกครั้ง ผ่านไปประมาณ 10 นาที ผมก็คิดว่าผมดีขึ้นแล้ว จึงเดินกลับเข้าไปห้องผ่าตัด

ภาพที่เห็น คือ พี่กี้นอนหงายกางแขนออก มีผ้าคลุมทั้งตัว ยกเว้นแขนขวาและขาข้างขวาที่หัก มีพี่พยาบาลกำลังทำความสะอาดแผลด้วยผ้าก๊อซที่จุ่ม chlohexidine จากการสอบถามพบว่า ก่อนหน้านี้ได้ block แขนและขาที่หักของพี่กี้ไปแล้ว

เมื่อทำความสะอาดแผลเสร็จ อาจารย์อาร์ก็พูดขึ้น

"พี่จะลงมีดแล้วนะนิว"

"ครับ"

แล้วอาจารย์อาร์ก็ค่อยๆ กรีดลงไปที่ชั้นกล้ามเนื้อแขนของพี่กี้ พยายามหลบไม่ให้โดนเส้นเลือดและเส้นประสาท จากนั้นก็เป็นหน้าที่ผมที่ต้องไปดึง retractors เพื่อเปิดปากแผล และให้อาจารย์หาตำแหน่งกระดูกที่หักให้เจอ ใช้เวลาไม่นานก็พบว่าเป็น Right ulna ที่หัก จากนั้นอาจารย์อาร์ก็ค่อยๆ จัดเรียงกระดูก แล้วก็ทำความสะอาดบริเวณที่หัก เนื่องจากมีชิ้นเนื้อและเศษกระดูกอยู่บริเวณนั้น

ขั้นตอนต่อมาคือ ต้องยึดกระดูกให้ติดกันด้วยแผ่นโลหะและสกรู (Internal fixation*) จากนั้นอาจารย์ต๊ะก็เข้ามาช่วยเย็บปิดชั้นเนื้อเยื่อและชั้นใต้ผิวหนัง ท้ายสุดคือต้องเย็บผิวหนังให้ชนกันเพื่อปิดแผล

ระหว่างที่อาจารย์ต๊ะเย็บผิวหนังที่แขนนั้น อาจารย์อาร์ก็เริ่มการลงมีดที่ขาขวาบริเวณ femur (กระดูกโคนขา) ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไปอย่างเงียบๆ พร้อมกับที่ผมก็เริ่มมีสติมากยิ่งขึ้น ผมได้แต่ภาวนาให้การผ่าตัดครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี…







ผ่านไปเกือบสองชั่วโมง การผ่าตัดก็เสร็จสิ้นลง พร้อมกับที่ทุกคนถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะการผ่าตัดครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ก่อนจะออกจากห้องผ่าตัด อาจารย์อาร์เรียกผมให้หยุดคุยกันก่อน ซึ่งตอนนั้นมีแค่ผมและอาจารย์อาร์ที่ยืนอยู่

"นิวรู้ใช่ไหมว่าโอกาสที่กระดูกจะปิดเองได้มีมากกว่า 90% และอีก 10% กระดูกอาจจะบิดเบี้ยว ทำให้ขยับมือได้ไม่สุด"

"ครับ"

"ถ้ากี้อยู่ใน 10% อาจมีผลต่อการผ่าตัดของกี้นะ"

"หมายความว่า? "

"กี้อาจจะมีปัญหาในการผ่าตัดคนไข้ แต่ก็ไม่ถึงกับผ่าตัดไม่ได้หรอก"

"……"

"ยังไงซะก็ต้องงดผ่าตัดอย่างน้อย 2-3 เดือน นิวก็ดูแลกี้ดีๆ ละกัน กายภาพบ่อยๆ จะได้หายไวๆ "

"ครับ ขอบคุณครับ นิวจะทำให้ดีที่สุด"

คำพูดอาจารย์อาร์ทำให้ผมคิดหนัก เพราะสำหรับหมอศัลยกรรมนั้น แขน ข้อมือ และมือ คือสิ่งที่มีค่าที่สุด! แต่ตอนนี้แขนของพี่กี้มีปัญหาแล้ว โดยที่มีผมเป็นต้นเหตุ นั่นยิ่งทำให้ผมเสียใจมากกว่าเดิม





ถ้าเปลี่ยนเป็นแขนผมแทน…คงจะดีกว่านี้





TBC.



*Internal fixation คือ การผ่าตัดใส่โลหะเพื่อยึดตรึงกระดูก ทําได้ทั้งแบบผ่าตัดเปิดให้เห็นรอยแยกของกระดูก หรือใช้วิธีสอดใส่โลหะจากผิวหนังเข้าไปยึดตรึงกระดูก เพื่อให้รอยหักอยู่นิ่งในแนวปกติ ช่วยให้ใช้งานส่วนบาดเจ็บได้เร็วขึ้น โดยไม่เสี่ยงต่อการเคลื่อนของชิ้นที่หักและไม่เจ็บปวดทรมาน ระยะเวลารักษาตัวในโรงพยาบาลน้อยลง และสามารถกลับไปประกอบอาชีพได้เร็วขึ้น

ที่มา http://digital_collect.lib.buu.ac.th/dcms/files/51929821/chapter2.pdf



Talk : สงสารน้อง ฮือออ แต่งไปก็จะร้องไห้ตามน้องละเด้อ ฮือออ แถมเล่นใหญ่พี่กี้อีกต่างหาก 5555

สำหรับตอนนี้ เราทำการบ้านหนักค่ะ consult หมอ otho ให้อธิบายการผ่าตัดเพื่อให้เราเห็นภาพตาม แล้วเราถึงจะเขียนออกมาได้ ต้องขอบคุณหมอท่านนี้มากๆ (Special thanks) และเรายังไปหาอ่านเพิ่มเติมนะคะ (ตอนเรียนจริงจังขนาดนี้ไหม 555) กลัวเขียนแล้วแป๊ก แต่ถ้ามันแป๊กก็ข้ามๆ ไปนะคะ ให้เข้าใจว่ามันคือนิยาย 5555

สำหรับตอนนี้ก็ฝากด้วยเช่นเคยค่ะ กดหัวใจ โดเนท add shelf และคอมเม้นท์เป็นกำลังใจไรท์บ้างนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่าา (รักมากมาย)




ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
จะพิสูจน์รักไปถึงไหนน  :hao5: หายเร็วๆนะหมอกี้ หมอนิวใจจะขาดแล้ว

ออฟไลน์ นางฟ้าน้อย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ a-mee-ra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตอน 37 หรือฉันคิดไปเอง


- หมอนิว -

ผมเดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยวแม้ว่าผลการผ่าตัดจะออกมาดี ที่หน้าห้องผ่าตัดนั้นมีป๊ากับแม่ กรีน พี่ชายคนโตของพี่กี้ พี่แนน และคุณอิสยืนรออยู่ก่อนแล้ว โดยที่อาจารย์อาร์กำลังคุยรายละเอียดการผ่าตัดกับครอบครัวพี่กี้

พี่แนนเดินมาหาผมทันทีที่เห็นหน้าผม

"เป็นไงบ้างนิว"

"การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี…"

"อันนั้นพี่รู้แล้ว …พี่หมายถึงนิวน่ะ โอเคไหม"

"โอเค…"

ผมตอบพี่แนนเสียงเบาหวิว มองไปทาง 'คุณอิส' แล้วก็ต้องเบือนหน้าหนี เพราะไม่อยากเห็นหน้าแม้แต่น้อย

"นิวขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อนนะพี่"

"อย่าเพิ่งไป ไปสวัสดีป๊ากับแม่ก่อน" พี่แนนรั้งผมไว้ แล้วก็เข้ามากระซิบผมเบาๆ ที่ข้างหู "พี่รู้เรื่องทั้งหมดแล้วว่านิวไปเจออะไรมา คุณอิสเล่าให้พี่ฟังแล้ว เดี๋ยวคุณอิสเค้าอยากคุยกับนิว แต่ตอนนี้ไปสวัสดีป๊ากับแม่ก่อน"

ผมพยักหน้ารับคำพี่แนน ตอนนี้ผมเริ่มเบลอแล้วครับ ใครจูงให้ทำอะไรก็ทำ เพราะตั้งแต่เช้ามานี้มีหลายเรื่องเหลือเกินที่ผมเจอ

ผมเดินเข้าไปสมทบอาจารย์อาร์ แล้วยกมือขึ้นไหว้ป๊ากับแม่

"สวัสดีครับป๊ากับแม่"

แม่ลูบหลังผมเบาๆ แล้วโผเข้ามากอดผม รับรู้ได้ถึงน้ำตาชื้นที่หยดลงบริเวณหลังผม ผมก็กอดตอบแม่ด้วย

"ขอบใจลูกนิวมากนะ ที่เข้าไปช่วยผ่าตัดให้พี่เค้า"

"นิวไม่ได้ช่วยอะไรมากหรอกครับ อาจารย์อาร์กับอาจารย์ต๊ะช่วยไว้ทั้งนั้น"

"ไม่รู้ล่ะ แม่ขอบใจทุกคนเลย"

"ครับ แม่สบายใจได้นะครับ เดี๋ยวพี่กี้คงดีขึ้นตามลำดับ"

พอกอดกันได้ซักพัก เราก็คลายอ้อมกอดออกจากกัน ผมเช็ดน้ำตาจากแก้มผู้สูงวัยด้วยสองมือ แม่ยิ้มเขินๆ นั่นทำให้ผมยิ้มตาม แม้ว่าจะเป็นยิ้มเนือยๆ ก็ตาม อย่างน้อยก็ทำให้บรรยากาศตึงเครียดลดลงมานิดหน่อย

"น้องเก่งมากครับ ต่อไปต้องเป็นหมอที่ดีแน่นอน" อาจารย์อาร์กล่าวชมผมต่อหน้าผู้อาวุโส ผมยิ้มรับคำเนือยๆ ไม่มีแรงแม้แต่จะขอบคุณที่อาจารย์กล่าวชื่นชมผม

"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ" อาจารย์อาร์ขอตัวออกไป หลังจากที่คุยรายละเอียดกับป๊าและแม่แล้ว

"แล้วนิวกินอะไรบ้างรึยัง" เป็นแม่อีกแล้วครับที่เอ่ยถามผมขึ้น

"ยังเลยครับ แต่ผมไม่อยากกินอะไรเลย"

"ไม่ได้นะ ลูกต้องกินอะไรบ้าง นี่ก็จะสามทุ่มแล้ว เดี๋ยวก็ล้มไปอีกคนหรอก"

"ป่ะ ไปหาที่กินข้าวกัน" กรีนชวนผมโดยที่ชูปิ่นโตในมือให้ดู "แม่ทำไว้เป็นอาหารเย็น พอรู้ข่าวพี่กี้ เลยให้เราห่อมาด้วยเนี่ย กลัวแกจะวุ่นจนไม่ได้กินอะไร"

ผมหันไปยิ้มแหยๆ ให้แม่ ทำไมแม่น่ารักกับผมจัง ผมจึงชวนป๊ากับแม่ทานด้วย แต่ท่านบอกว่าเรียบร้อยตั้งแต่ตอนนั้งรอหน้าห้องผ่าตัดแล้ว ผมจึงตอบตกลงกับกรีน ก็พอดีพี่พยาบาลเดินมาบอกว่า มีห้องพักผู้ป่วยพิเศษว่างอยู่นะ เข้าไปอยู่ก่อนคนไข้ก็ได้ ทุกคนจึงยกโขยงกันไปที่ห้องพิเศษ แต่ผมขอตัวไปเปลี่ยนชุดผ่าตัดสีเขียวออกก่อน แล้วจะตามไป

ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินกลับเข้าไปห้องพักแพทย์ คุณอิสก็เข้ามารั้งแขนผมไว้ ผมสะบัดออกโดยอัตโนมัติ

"ผมมีเรื่องจะคุยด้วย…"

"พูดมาตอนนี้เลยสิ" น้ำเสียงผมเริ่มไม่ดีแล้วครับ

"…ผมกับหมอกี้ เราไม่เคยมีอะไรกัน"

ผมหัวเราะเยาะให้กับประโยคที่เพิ่งได้ยิน เอาไปหลอกเด็กเถอะ ผมไม่โง่อีกแล้ว

"ผมไม่ได้โง่นะที่จะดูไม่ออกว่าพวกคุณแอบกินกันอยู่"

"หมอนิวกำลังเข้าใจผิด เชื่อผมนะ"

"คุณเป็นใคร ผมถึงต้องเชื่อคุณ"

"ผมยอมรับว่าผมชอบหมอกี้ แต่หมอกี้ไม่ได้ชอบผม …หัวใจหมอกี้มีให้คุณคนเดียว"

"แล้วยังไง คุณจะพูดอะไรกันแน่"

"…ผมขอโทษเรื่องถุงยางอนามัย เป็นผมเองแหละที่แอบเอาไปใส่ไว้กระเป๋าหมอกี้ ผมทั้ง..ยั่ว ทั้งให้ท่าเค้า แต่เค้าก็ไม่สนใจผมเลย …ส่วนเรื่องเมื่อตอนเย็น มันเป็นอุบัติเหตุที่ขาผมไปเกี่ยวโต๊ะทำให้ผมล้มทับหมอกี้ แล้วบังเอิญ…ปากเราชนกัน"

"คุณดูซีรี่ส์มากไปรึเปล่า จังหวะอะไรมันจะเหมาะเจาะขนาดนั้น" ผมยิ้มเยาะและหัวเราะให้กับเรื่องตลกร้ายที่ไม่คิดว่าจะได้ยินในชีวิตจริง

"ถ้าคุณไม่เชื่อ เดี๋ยวผมย้อนกล้องวงจรปิดที่ร้านให้ดูก็ได้ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ผมต้องเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่แรกให้คุณฟังว่าทำไมวันนี้หมอกี้ถึงได้ไปหาผมที่ร้าน"

หลังจากนั้นเรื่องราวต่างๆ ระหว่างไลน์ 'Kie' และ 'Issara' กับบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างอาจารย์ต๊ะก็ถูกถ่ายทอดให้ผมฟัง มันดูไม่น่าเชื่อ แต่ผมต้องจำนนต่อหลักฐานทุกอย่างที่คุณอิสโชว์ให้ผมดู ทั้งข้อความทางไลน์ และกล้องวงจรปิดตอนที่เกิดเรื่อง เป็นข้อดีของเทคโนโลยีสมัยนี้ที่สามารถบันทึกไว้ได้ทั้งภาพและเสียงโดยที่ย้อนดูผ่าน application ทางมือถือได้เลย

และประโยคคำพูดที่ผมได้ยินชัดเจนและจำได้ดีเลย คือ



'ผมต่างหากที่โชคดีที่นิวเลือกผม ยอมเปิดใจให้ผม เพราะงั้นผมจะไม่ทำให้เค้าเสียใจเด็ดขาด'



เป็นประโยคที่ทำให้น้ำตาผมรื้นขึ้นมา …คำพูดและการกระทำที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้ยินหรือได้เห็นจากพี่กี้ ตอนนี้หัวใจผมมันเต้นรัวแรงขึ้นมาแล้ว…เต็มตื้น…อิ่มเอม…ดีใจ…ใจมันพองฟู…ตัวก็จะลอยแล้ว ผมไม่รู้จะหาคำจำกัดความไหนมาอธิบายความรู้สึกของผมตอนนี้เลยครับ

"ยิ้มได้แล้วใช่ไหมครับ" คุณอิสแอบแซวผม

"นิดนึงครับ"

"ต่อไปน้ีก็วางใจผมได้แล้วนะครับ ผมกับหมอกี้ไม่มีทางเป็นไปได้"

"ขอบคุณคุณอิสมากเลยนะครับที่อุตส่าห์มาบอกผม ทั้งที่จริงๆ ไม่ต้องมาบอกก็ได้"

"ไม่ได้หรอกครับ ผมไม่อยากให้คุณเข้าใจผิด"

"ครับ ขอบคุณมากจริงๆ "

ระหว่างที่ผมคุยกับคุณอิส ก็เห็นอาจารย์ต๊ะ ดูท่าทางแล้วเหมือนมีเรื่องอยากคุยกับผม ผมจึงขอปลีกตัวจากคุณอิส สังเกตเห็นสายตาที่คุณอิสมองอาจารย์ต๊ะนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา อาจารย์ต๊ะก็ดูเครียดๆ ผมจึงดึงตัวอาจารย์ต๊ะเข้าไปคุยที่ห้องพักแพทย์

"อาจารย์มีเรื่องอะไรอยากบอกผมรึเปล่าครับ"

"คุณอิสคงเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้นิวฟังแล้วใช่ไหม"

"ครับ"

"พี่ขอโทษที่สวมรอยเป็นกี้ ตอนแรกพี่แค่โดนเพื่อนท้าเฉยๆ ว่ากล้าจีบคุณอิสไหม แต่พี่มีแฟนอยู่แล้วไง กลัวว่าถ้าใช้ไลน์ตัวเอง แฟนพี่จะรู้ แล้วก็คิดแค่ว่าทำเล่นๆ ขำๆ ไม่ซีเรียสอะไร แต่พอเอาเข้าจริง ดันติดคุยไลน์กับคุณอิสซะงั้น จนตอนนี้…พี่ไม่เหลือใครแล้ว แฟนพี่ เค้าก็ทิ้งพี่ไปแล้ว"

"อืม ผมแค่รับฟังไว้นะครับ ไว้พี่กี้ฟื้น อาจารย์ค่อยไปบอกขอโทษพี่กี้เองนะ"

"พี่รู้ว่าพี่ต้องไปขอโทษกี้เอง แต่พี่รู้สึกผิด พี่เลยมาขอโทษนิวก่อน"

"เอาเป็นว่า…ในส่วนของผม ผมให้อภัยนะครับ"

"ขอบใจมากนิว"

ผมยิ้มให้อาจารย์ต๊ะ แล้วก็ขอตัวไปเปลี่ยนชุด วันนี้ผมเหนื่อยมาก อยากพักแล้ว ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว แค่อยากเปลี่ยนชุดแล้วไปนั่งรอพี่กี้ฟื้นก็เท่านั้น อย่างอื่นผมไม่อยากคิดและไม่อยากฟังแล้ว

แค่ได้รู้ว่า…พี่กี้ยังรักและซื่อสัตย์กับผมเหมือนเดิม ผมก็มีความสุขมากแล้ว

อยากบอกพี่กี้มากว่า…นิวขอโทษ นิวจะไม่หันหลังให้พี่อีกแล้ว มีอะไรนิวจะถามพี่ก่อน นิวจะไม่คิดเองเออเองอีกแล้ว…

ครั้งนี้คือบทเรียน…ที่เกือบพรากหนึ่งชีวิตที่แสนมีค่าจากผมไป คิดไม่ออกเลย หากผมต้องเสียพี่กี้ไปจริงๆ ผมจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร



ผมเดินกลับมาห้องพิเศษอีกครั้ง พบว่าเจ้าหน้าที่เข็นเตียงพี่กี้มาแล้ว แต่คนบนเตียงก็ยังไม่ฟื้น ดวงตายังคงปิดสนิท ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปเที่ยวไหนกันนะ

"นิว มากินข้าวได้แล้ว" กรีนเรียกผมให้ไปกินข้าว ผมจึงเดินไปนั่งลงข้างกรีน

"นิว พี่จะพาป๊ากับแม่กลับก่อนนะ พรุ่งนี้ถึงจะมาเยี่ยมใหม่" พี่ไกร พี่ชายพี่กี้เอ่ยขึ้น

"ครับ มีอะไรเดี๋ยวผมจะรีบโทรบอกนะครับ"

"เดี๋ยวกรีนอยู่เป็นเพื่อนนิวเอง ป๊า แม่ พี่ไกร ไม่ต้องห่วงนะ" กรีนเสนอตัวอยู่เป็นเพื่อนผม

"งั้นก็ดี แม่จะได้หายห่วง"

"เดี๋ยวกรีนไปเอาของที่รถก่อนนะนิว อยู่คนเดียวไปก่อนนะ"

กรีนบอกผม แล้วลงไปเอาของพร้อมป๊า แม่ และพี่ไกร ทำให้ผมมีเวลาอยู่กับพี่กี้ตามลำพัง ผมเดินเข้าไปนั่งข้างเตียงพี่กี้ มองใบหน้าที่มักจะยิ้มให้ผมเสมอ แต่บัดนี้ดวงตาปิดสนิท ริมฝีปากเผยอออกน้อยๆ มีเพียงลมหายใจเข้าออกเท่านั้นที่ทำให้รู้สึกว่าเจ้าตัวยังมีชีวิต 

ผมกุมมือใหญ่แล้วบีบเบาๆ เพื่อส่งกำลังใจ หวังเหลือเกินว่า…พี่กี้จะรับรู้ว่าผมอยู่ข้างๆ ผมไม่ได้ไปไหน ผมพร้อมที่จะเดินไปกับพี่ ถึงพี่จะผ่าตัดไม่ได้ หรือสมรรถภาพการทำงานพี่จะลดลง แต่สำหรับผมแล้ว…พี่มีค่าเสมอ พี่ไม่ได้ด้อยค่าลงเลยแม้แต่น้อย

เพราะผมรักที่ตัวตนของพี่…

"รีบตื่นมาคุยกับนิวนะครับ นิวมีหลายเรื่องอยากบอกพี่เลย…"

"……"

"นิวคิดถึงพี่จังเลย ทั้งที่เมื่อเช้าเราเพิ่งคุยกันเนอะ แต่ทำไมนิวรู้สึกว่ามันน๊านนานเลยที่เราไม่ได้คุยกัน…"

"……"

"ตื่นมาหอมแก้ม แล้วลูบหัวนิวซักทีสิ… ถ้าพี่ไม่ตื่นขึ้นมา นิวจะขโมยหอมแก้มพี่แล้วนะ"

"……"

"คิดว่านิวไม่กล้าทำเหรอ นิวทำจริงๆ นะ …นับ 1 - 3 ถ้าไม่ตื่นจะหอมจริงๆ แล้วนะ"

"……"

"หนึ่ง…สอง…สองครึ่ง…สองจุดแปด…สองจุดเก้า…สา"

"อือ…"

"พะ พี่กี้! พี่ตื่นแล้วเหรอ?!"

"อือ ขอ…น้ำ"

"เอาน้ำเหรอ แปปๆๆ เดี๋ยวนิวรินให้"

ว่าแล้วผมก็รีบเทน้ำเปล่าใส่แก้ว พร้อมเสียบหลอดดูด จากนั้นก็นำไปเสิร์ฟพี่กี้ถึงที่เตียง โดยที่ผมต้องปรับระดับเบาะให้พี่กี้อยู่ในท่าที่สบาย

"ค่อยๆ ดื่ม เดี๋ยวนิวถือแก้วให้"

พี่กี้พยายามขยับแขนด้านขวา แต่ความปวดร้าวก็แล่นเข้าสู่ความรู้สึกอย่างจัง

"อ๊าา! ทำไมพี่เจ็บแขนด้านนี้"

ผมเอื้อมไปกุมมือใหญ่อีกรอบ พร้อมกับจ้องเข้าไปในดวงตาสองข้างของพี่กี้ แล้วค่อยๆ เอ่ยกับคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"พี่ประสบอุบัติเหตุ แขนขวาและขาขวาของพี่หัก ตอนนี้พี่นอนอยู่โรงพยาบาลของเรา"

พี่กี้ดูตกใจกับประโยคบอกเล่าของผม ผมจึงบีบมือใหญ่แรงขึ้น เพื่อส่งผ่านกำลังใจให้

"แต่ไม่เป็นไรนะ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี"

"แล้ว…นิวมาอยู่นี่ได้ไง?" เหมือนพี่กี้ยังงงๆ กับสถานการณ์ตรงหน้า

"พี่อยู่ไหน นิวก็อยู่นั้นแหละ… ไม่เอา พี่อย่าเพิ่งพูด อย่าเพิ่งถามอะไรเลย เอาเป็นว่านิวจะอยู่ข้างพี่ตรงนี้แหละ ตอนนี้กินน้ำก่อนนะครับ"

พี่กี้ค่อยๆ ดูดน้ำ แล้วมองมายังผมด้วยสายตาที่เหมือนอยากพูดอะไรบางอย่าง พอเอาหลอดออกจากปาก พี่กี้ก็เอ่ยขึ้นมา

"ขอบคุณมากนะนิว…ที่ยังอยู่ข้างกัน"

ผมไม่ได้ตอบอะไร แค่ยิ้มให้แล้วก้มลงไปหอมแก้มคนบนเตียงหนึ่งที…โทษฐานที่ตื่นช้า!



TBC.



Talk : พี่กี้ตื่นแล้ว เย้~~

เรื่องนี้ก็ดำเนินมาใกล้จบแล้วนะคะ เราจะรวมเล่มและมีตอนพิเศษที่ไม่ลงที่ไหนๆ เลยนะคะ เผื่อท่านใดสนใจ ขอแจ้งข่าวไว้ก่อนค่ะ เผื่อจะได้เก็บตังค์รอ (จะมีคนอุดหนุนไหม T^T) จริงๆ เราตั้งใจจะรวมเล่มเก็บเองคนเดียว แต่ถ้าพิมพ์แค่ 1 เล่ม มันแพงค่ะ เลยหาคนช่วยหาร แหะๆ มาช่วยเค้าหารหน่อยน๊าาา ><~~ แล้วก็จะทำ E-book ด้วยนะคะ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในช่วงปั่นตอนพิเศษค่ะ เขียนตอนพิเศษเสร็จเมื่อไหร่ จะมาแจ้งรายละเอียดทั้งหมดนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านงานเขียนของนัก(ฝึก)เขียนโนเนมคนนี้ ตอนนี้ก็ฝากด้วยเช่นเคยค่ะ ขอกำลังใจเป็นหัวใจ โดเนท คอมเม้นท์หน่อยนะค๊าาา เลิฟทุกคนค่าา ^___^


ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
หวังว่าพี่กี้จะดีขึ้นเร็ว ๆ :L2:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Wtftt

  • โอกาสก็เหมือนไอติมถ้าไม่กินมันก็ละลาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0

ออฟไลน์ a-mee-ra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตอน 38 บทสรุป


- หมอกี้ -

ผมเดินตามนิวไปเรื่อยๆ น้องเลี้ยวซ้ายผมก็เลี้ยวด้วย เลี้ยวขวาหรือทางคดเคี้ยวขนาดไหน ผมก็เดินตามนิวไปตลอด แต่แปลก…ไม่ว่าผมจะเพิ่มความเร็วของฝีเท้าขนาดไหน ผมก็เดินตามน้องไม่ทันซักที

และไม่ว่าจะร้องเรียกจนคอแทบแตก น้องก็ไม่ยอมหันมา หลายครั้งที่ผมถามตัวเองว่าหรือเราจะหยุดตามน้องดีนะ แต่ส่วนลึกในใจก็บอกว่าต้องไปต่อ ห้ามหยุดเดิน



"พี่กี้…พี่กี้…"

ผมหันซ้ายแลขวา เสียงเรียกชื่อผมมาจากไหนกันนะ ผมหาต้นเสียงไม่เจอ แต่ผมมั่นใจว่านั่นคือเสียงนิวอย่างแน่นอน!

"สองจุดห้า…สองจุดแปด…"

เสียงนิวดังมาอีกแล้วครับ คราวนี้รู้สึกเหมือนก้องอยู่ในหัว ผมจึงหยุดเดินแล้วหลับตาลงช้าๆ ใช้สองมืออุดหูทั้งสองข้าง เสียงน้องยิ่งชัดเจนมากขึ้น

"สองจุดเก้า…"

ผมลืมตาตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่มองเห็นคือเพดานสีขาวที่คุ้นเคย มองมายังด้านข้างก็เห็นใบหน้าคนที่อยู่ในความฝัน…นิวนั่นเอง!

ผมพยายามจะยกมือขึ้นไปสัมผัสหน้าน้อง แต่แปลก…ทำไมผมขยับไม่ได้ มันหนักไปทั้งแขน แถมยังรู้สึกเจ็บร้าวราวกับกระดูกข้างในแตกออกเป็นเสี่ยงๆ นั่นทำให้ผมสงสัยในตัวเองยิ่งนัก เตรียมขยับปากจะถามความเป็นไปกับนิว ก็ไร้เสียงออกมาจากริมฝีปาก แต่ผมก็ไม่ละความพยายาม ท้ายสุดแล้ว ผมก็เค้นเสียงพูดออกมาได้เพียง

"อือ ขอ…น้ำ"

แล้วนิวก็กระวีกระวาดหาน้ำมาให้ผมดื่ม พอได้น้ำเปล่าบริสุทธิ์ คอที่แห้งผากของผมก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น จึงพยายามขยับแขนขวาอีกครั้ง

"อ๊าา! ทำไมพี่เจ็บแขนด้านนี้"

นิวตกใจที่ได้ยินผมร้องขึ้น แต่ก็เปลี่ยนสีหน้าแทบจะในทันที น้องส่งสายตามาหาผมด้วยความอ่อนโยนและเป็นห่วง ซึ่งผมรับรู้ได้ มือเล็กเกาะกุมมือผมไว้ แล้วจ้องเข้ามาในดวงตาผม ราวกับจะสื่อสิ่งที่อยู่ในใจให้ผมรับรู้

"พี่ประสบอุบัติเหตุ แขนขวาและขาขวาของพี่หัก ตอนนี้พี่นอนอยู่โรงพยาบาลของเรา"

ผม…เกิดอุบัติเหตุ!? ผมส่งสายตามองไปที่แขนขวาและขาขวาของตัวเอง ก็พบผ้าก๊อซพันรอบไว้ทั้งสองตำแหน่ง ผมพยายามจะขยับอีกครั้ง แต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม

"แต่ไม่เป็นไรนะ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี"

ระหว่างที่นิวบอกกล่าวเรื่องราว ในหัวผมก็คิดไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พยายามเรียงลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ตอนที่ผมไปร้านคุณอิส จนมีเรื่องชกต่อยกับพี่ต๊ะ และภาพสุดท้ายที่ทำให้ผมแทบครองสติไม่อยู่ คือ นิวหันหลังแล้วเดินจากผมไป จากนั้นผมก็ขับรถตามนิวไป ผมปวดหัวและปวดตามากๆ ท้ายสุดเปลือกตาผมก็ปิด จากนั้นสติผมก็ดับวูบลง

ผมหันมองรอบห้องอีกครั้ง แล้วมาหยุดอยู่ที่หน้านิว

"แล้ว…นิวมาอยู่นี่ได้ไง? "

"พี่อยู่ไหน นิวก็อยู่นั้นแหละ… ไม่เอา พี่อย่าเพิ่งพูด อย่าเพิ่งถามอะไรเลย เอาเป็นว่านิวจะอยู่ข้างพี่ตรงนี้แหละ ตอนนี้กินน้ำก่อนนะครับ"

นิวหายโกรธผมแล้วเหรอ? เป็นสิ่งที่ผมอยากเอ่ยถามคนตรงหน้าออกไปมาก แต่น้องก็ดันสั่งห้ามผมไว้ ผมทำได้แค่บอกขอบคุณ แทนทุกอย่างจากหัวใจ

"ขอบคุณมากนะนิว…ที่ยังอยู่ข้างกัน"

น้องไม่ตอบอะไรผมครับ แต่ดันก้มลงมาหอมแก้มผมซะงั้น กำลังอ้าปากจะถามสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจ แต่ประตูห้องพักก็เปิดออก…กรีนนั่นเอง

"เฮีย! ตื่นแล้วเหรอ?!" ร่างบางๆ ของน้องสาวผมรีบวางของแล้วตรงดิ่งมาทางผม ดูตื่นเต้นมาก ออกจะเกินไปหน่อย

"อือ"

"เป็นไงบ้าง เจ็บตรงไหนไหม" แล้วกรีนก็จับๆ ไปตามตัวผม อยากบอกน้องตัวเองมากว่า จะเจ็บก็ตอนมันจับตัวผมนี่แหละ แต่สภาพผมไม่อำนาย นอนนิ่งๆ ไปดีกว่า

"ฟื้นเร็วกว่าพี่หมออาร์บอกอีกนะเนี่ย เดี๋ยวกรีนโทรบอกป๊ากับแม่ก่อนนะ" ผมพยักหน้ารับคำ

จากนั้นผมก็ไม่ได้สนใจใครอีกครับ แม้จะเป็นนิวหรือกรีนก็ตาม เพราะผมเพิ่งมีสติคิดได้ว่าขาขวาที่หักนั้น ช่วงแรกก็คงต้องนั่งรถเข็น แล้วค่อยใช้ไม้ค้ำยัน นั่นทำให้ผมเคลื่อนไหวลำบาก แต่อะไรก็ไม่เลวร้ายเท่าแขนหักหรอกครับ เพราะผมจะไม่สามารถผ่าตัดได้เลย อย่างน้อยๆ ก็ 2-3 เดือน หรืออาจจะนานกว่านั้น

พอคิดไปถึงชะตากรรมที่ผมต้องแบกรับ ผมก็รู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก

ผม…รักการผ่าตัด

ผม…รักการเป็นแพทย์ศัลยกรรม

ผม…คงทนไม่ได้ หากผมต้องสูญเสียความสามารถในการผ่าตัดนี้ไป






- หมอนิว -

เข้าสู่วันที่สามที่พี่กี้นอนโรงพยาบาล ผมมาเฝ้าตลอดครับ ยกเว้นในวันที่มีเวรก็ต้องเป็นกรีน ตอนนี้กรีนกลับบ้านไปเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ส่วนผมก็เพิ่งราวด์วอร์ดเสร็จ จึงรีบมาดูพี่กี้ทันที

ตั้งแต่ฟื้นมา พี่กี้กลายเป็นคนพูดน้อย ถามคำตอบคำ หน้าตาไม่ค่อยสดชื่นมากนัก นั่นทำให้ผมเป็นห่วง ก็เลยแอบ consult จิตแพทย์ ได้ความว่า เป็นภาวะหลังเกิดเรื่องสะเทือนใจครั้งใหญ่ ต้องรอดูว่า ถ้ามีอาการแบบนี้ติดต่อกันนานกว่า 2 อาทิตย์ ค่อยมาประเมินกันอีกครั้งว่าควรรักษายังไง

"พี่กี้กินส้มไหม เดี๋ยวนิวปลอกให้" ผมเอ่ยถามคนที่เอาแต่นอนมองหน้าต่างห้องพัก

"ไม่เป็นไร"

"กินหน่อยน๊าา" ผมต้องใช้ลูกอ้อนครับ ซึ่งมักจะได้ผล ถ้าพี่กี้เริ้มดื้อ

"งั้นก็ปลอกมา"

แล้วผมก็รีบปลอกส้มให้ แกะเป็นกลีบเรียงไว้ในจานอย่างสวยงาม ไม่ให้มีเส้นใยติดเลยล่ะ สงสัยไหมครับ ทำไมผมทำเป็น แม่พี่กี้สอนผมทั้งนั้น ตั้งแต่มาเฝ้าพี่กี้ ก็มีวิชาความรู้แม่ศรีเรือนมาสอนผมตลอด แต่ผมเรียนแล้วมันออกจะเป็นผีบ้านผีเรือนซะมากกว่า

"อ้าปาก เดี๋ยวนิวป้อน" ผมบอกคนบนเตียงให้อ้าปาก ซึ่งคนทำตามก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

"อร่อยไหมครับ" ผมเอ่ยถามพี่กี้ด้วยน้ำเสียงห่วงใย

"อืม"

ผมยิ้มให้คำตอบรับที่แสนจะสั้น แล้วก็ป้อนไปเรื่อยๆ จนเหลือกลีบสุดท้าย ผมนึกอยากให้พี่กี้อารมณ์ดีกว่านี้ ผมจึงหยิบส้มชิ้นนั้นเข้าปากตัวเอง แล้วโน้มใบหน้าเข้าหาพี่กี้ ประคองใบหน้าอีกฝ่ายไว้ พี่กี้มองผมด้วยสายตาแปลกๆ แต่ผมก็ไม่สนใจ ผมประกบปากตัวเองเข้าหาเรียวปากที่คุ้นเคย ดูดดุนตามขอบปาก เพื่อให้อีกฝ่ายเปิดรับสัมผัสที่ผมจะป้อนให้ พี่กี้ก็ไม่ขัดขืน ทำตามความประสงค์ของผม แต่ผมก็รับรู้ได้ว่าพี่กี้ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมมากนัก จึงเป็นผมที่แอบหงอยเอง

ผมเดินไปล้างและเก็บจานเงียบๆ เหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้ผมเสียเซลฟ์นิดหน่อย แต่ผมก็ไม่คิดจะหยุดดูแลพี่กี้หรอกนะครับ

"มานี่สิ นิว" พี่กี้เรียกผมให้ไปหา ผมจึงเดินไปหา

"ขึ้นมานอนข้างๆ พี่บนเตียงนี่" พี่กี้ใช้มือซ้ายตบเบาะข้างๆ ตัวเอง ซึ่งมีพื้นที่น้อยนิด แต่ผมก็มั่นใจว่าสามารถขึ้นไปนอนได้

ผมปีนขึ้นไปนอนข้างๆ พี่กี้ เรานอนหันหน้าเข้าหากัน สายตาอยู่ในระดับเดียวกัน ไม่มีใครพูดอะไร เอาแต่จ้องตากันนิ่ง

"พี่ไม่เหมือนเดิมนะนิว…" เป็นพี่กี้ที่เอ่ยทำลายความเงียบ

"แล้ว…"



"นิวรับได้เหรอ…นิวอาจจะมีแฟนเป็นคนพิการนะ"



พี่กี้พูดด้วยน้ำเสียงของคนสิ้นหวัง แต่ก็เป็นคำถามที่วัดใจผมพอดู



"ถึงร่างกายพี่จะพิการ…แต่นิวมั่นใจว่า จิตใจพี่ไม่พิการแน่นอน"



ผมตอบโดยที่จ้องดวงตาพี่กี้นิ่งเลย เพื่อยืนยันว่าผมหมายความตามนั้นจริงๆ



"มันไม่ง่ายนะนิว ถ้าต้องมาใช้ชีวิตกับคนพิการ"

"พี่ก็พูดเว่อร์ไป แค่นี้เองมันจะพิการได้ไง พี่ก็รู้อยู่แล้ว" ขอว่าให้คนป่วยหน่อยเถอะ แค่กระดูกขากับแขนหัก 2 ท่อนเอง แถมเป็นกระดูกชิ้นที่กลับคืนมาปกติได้ด้วย จะมาพิกงพิการอะไรกัน

"ไม่หลงกลหน่อยเหรอ"

"นั่น! แกล้งนิวเหรอ" ฮึ่มมม ขนาดป่วยก็ยังแกล้งผมได้อีก ผมว่าไม่ต้อง consult จิตแพทย์แล้วล่ะ พี่กี้คนเดิมกลับมาแล้ว

"ไม่ได้แกล้ง พี่อยากรู้จริงๆ ว่าถ้าพี่พิการ นิวจะยังอยู่ข้างพี่ไหม" ในขณะที่พูดไป แขนข้างซ้ายของพี่กี้ที่เป็นปกติก็เริ่มโอบผมไว้หลวมๆ แล้ว

"อยู่ดิ…ทำไมถึงคิดว่านิวจะไม่อยู่ข้างๆ พี่ล่ะ" ขอถามกลับบ้างเถอะ ชอบแกล้งผมดีนัก

"อนาคตนิวยังอีกไกลนะ จะเอาอนาคตมาทิ้งไว้กับคนไม่สมประกอบทำไมล่ะ หืม?" พี่กี้ใช้มือด้านที่เป็นปกติลูบแก้มผมเบาๆ

"…อนาคตของนิว คือ พี่ไง …เราจะเดินไปด้วยกัน นิวจะไม่ทิ้งพี่ไปไหน เพราะ…นิวรักพี่"

"พี่ก็รักนิวครับ"

คำรักของพี่กี้ในนาทีนี้ มันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก มันมีชีวิตชีวา มันมีพลัง… ผมเชื่อเสมอว่า ตราบใดที่เรายังจับมือกัน ปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ เราก็จะฝ่าฟันมันไปให้ได้

พี่กี้รั้งผมเข้าไปหา จุมพิตบางเบาที่หน้าผาก มือใหญ่กอดผมไว้หลวมๆ ผมก็กอดตอบอย่างไม่ลังเล…เราจะมีกันและกันแบบนี้ตลอดไป



.



ประตูห้องพักผู้ป่วยถูกเคาะจากด้านนอก ผมที่กำลังจะพยุงพี่กี้ไปเข้าห้องน้ำก็ต้องผละตัวออกมาเพื่อไปเปิดประตู

…คุณอิสนั่นเอง…

จริงสิ ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น ผมกับพี่กี้ยังไม่มีใครเอ่ยถึงประเด็นเกี่ยวกับคุณอิสเลย ผมก็ไม่แน่ใจว่าที่เราไม่พูดถึงกันนั้น เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องต้องห้าม หรือแค่ไม่อยากเอ่ยถึงให้เสียบรรยากาศกันแน่ และผมไม่ได้เล่าให้พี่กี้ฟังด้วยว่าผมรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ดังนั้น พอคุณอิสปรากฎตัว พี่กี้จึงมีท่าทีตกใจอยู่ไม่น้อย และแปลกใจมากขึ้น เมื่อเห็นผมกับคุณอิสคุยกันดีๆ ออกจะเป็นการหยอกล้อเสียด้วยซ้ำ

"หมอนิว เหนื่อยไหมครับ ได้ยินว่าเฝ้าหมอกี้ตลอดเลย"

"เหนื่อยมากครับ คนป่วยขี้แกล้ง ฮ่าๆ"

"งั้นพักก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวผมดูให้" คุณอิสต่อปากต่อคำผมด้วยรอยยิ้มขำๆ

"ไม่เป็นไรครับ หวง ฮ่าๆ" ผมก็ตอบโต้ไม่ยอมลดละนะครับ ทำให้พี่กี้มองผมทีมองคุณอิสที คงงงว่าระหว่างผมกับคุณอิสมันเกิดอะไรขึ้น

"หมอกี้ไม่ต้องงงนะครับ เราสงบศึกกันแล้ว เราตกลงกันว่า…วันคู่หมอกี้เป็นของผม ส่วนวันคี่หมอกี้เป็นของหมอนิว"

"ห๊ะ!?!"

ตลกมากครับ ตอนนี้หน้าพี่กี้เหวอไปแล้ว ส่วนผมสองคนนี้หัวเราะกันหนักมาก

"เชื่อจริงเหรอครับ ว่าหมอนิวจะยอม" คุณอิสเดินเข้าไปคุยกับพี่กี้ที่ข้างเตียง

"ก็กำลังงงๆ อยู่นี่แหละครับ สรุปแล้วไปญาติดีกันตอนไหน"

"หลังหมอกี้เกิดอุบัติเหตุ …ผมเล่าทุกอย่างให้น้องหมอนิวฟังหมดแล้วครับ เพราะงั้นเราเลยเข้าใจกันแล้ว"

"รวมถึงเรื่อง…พี่ต๊ะ?"

"ใช่ ทุกเรื่องเลยครับ"

"ถึงว่าล่ะ หลังจากที่ฟื้น นิวไม่ถามอะไรพี่ซักคำเลย …ร้ายนะเรา รู้แล้วก็ไม่ยอมบอกพี่" ประโยคหลัง พี่กี้หันมาส่งสายตางอนๆ มาทางผม

"ก็พี่ไม่ถามนิวเอง… มาครับ ไหนว่าอยากเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวนิวพยุงไป" แล้วผมก็ค่อยๆ พยุงพี่กี้ลงจากเตียง มีคุณอิสช่วยอยู่อีกข้าง

พอเข้าไปถึงห้องน้ำ คุณอิสก็ออกมารอด้านนอก เป็นผมเองที่จัดการธุระในห้องน้ำให้พี่กี้ ผมทำจนชินแล้วล่ะครับ เพราะตั้งแต่วันแรกที่พี่กี้ฟื้นจนมาถึงวันนี้ ทุกคนก็มอบหน้าที่นี้ให้ผมไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะเช็ดตัว เปลี่ยนชุด พาเข้าห้องน้ำ เป็นผมทั้งนั้น ถ้าวันไหนผมติดเวร พี่กี้จะไม่ยอมให้ใครทำหน้าที่นี้แทนเลย รอผมคนเดียวเลยครับ ถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ก็แค่มีคนพยุงไปส่งหน้าห้องน้ำพอ นอกนั้นเจ้าตัวจัดการเอง

บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจคนป่วย ทั้งที่ไม่มีผมก็จัดการธุระตัวเองได้นะ แต่พอมีผมเท่านั้นล่ะ อะไรๆ ก็ทำไม่ค่อยได้ อยากจะหมั่นไส้ แต่หมั่นไส้ไม่ลงครับ

พอออกมาจากห้องน้ำ ก็พบกับแขกอีกหนึ่งคนที่เพิ่งปรากฎตัว…อาจารย์ต๊ะนั่นเอง…ตั้งแต่พี่กี้ฟื้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่อาจารย์ต๊ะมาเยี่ยม

ผมรับรู้ได้ว่ามีพลังงานบางอย่างระหว่างคนด้านนอกทั้งสอง…ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก

"อาจารย์ต๊ะ มานานยังครับ" เป็นผมเองที่เอ่ยทักขึ้น เพราะคนอื่นๆ ดูไม่ค่อยจะต้อนรับมากนัก

"เพิ่งมาครับ พี่ซื้ออาหารเที่ยงมาเยี่ยมด้วย น่าจะยังไม่มีคนทานใช่ไหมครับ" ประโยคหลัง เหมือนถามคนอื่นๆ แต่ทุกคนก็เงียบ ไม่มีคนตอบ จึงเป็นผมอีกแล้วที่ต้องตอบ

"เพิ่ง 11 โมงเอง ยังไม่มีใคนทานหรอกครับ …คุณอิสก็ยังไม่ทานใช่ไหมครับ" ผมหันไปถามคุณอิส เมื่อเราพยุงพี่กี้ไปถึงเตียง

"ยัง แต่ผมคงต้องขอตัวนะครับ ตอนเที่ยงมีนัดทานข้าวกับผู้บริหารท่านอื่น"

"งั้นก่อนคุณอิสไป พาผมไปซื้อของให้พี่กี้หน่อยสิครับ …แค่ด้านล่างเองครับ"

ผมเอ่ยชวนคุณอิสออกมาจากห้อง เพราะต้องการให้พี่กี้กับอาจารย์ต๊ะปรับความเข้าใจกัน อย่างน้อยอาจารย์ต๊ะก็แสดงความจริงใจด้วยการเข้าไปช่วยผ่าตัดพี่กี้มาแล้ว และพี่กี้ก็ไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นอะไร ทั้งสองน่าจะปรับความเข้าใจกันได้

จากนั้นผมก็ลากคุณอิสมานั่งดื่มกาแฟที่ร้านของโรง'บาลด้านล่างครับ เราก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย เหมือนที่ผ่านมาไม่เคยมีประเด็นอะไรกันมาก่อน พอดีเจอพี่แนน ก็เลยลากพี่แนนมาเม้าท์มอยกันด้วยอีกคน…สนุกสนานกันทีเดียว

ถ้ามีใครที่ไม่รู้จักเราสามคน คงเข้าใจว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆ เลยล่ะ…





- หมอกี้ -

ผมมองดูคนที่เพิ่งเดินเข้ามาแล้วยืนทำตัวเก้ๆ กังๆ ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะนั่งหรือยืนดี เพราะตอนนี้เหลือแค่ผมกับเขาสองคน สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น

"นั่งก่อนสิพี่"

"อืม"

สิ้นคำตอบรับ พี่ต๊ะก็นั่งลงตรงโซฟารับแขกที่อยู่ข้างเตียงผู้ป่วย มีโต๊ะรับแขกวางกั้นระหว่างผมกับเขา

"พี่มาหาผมทำไม" ผมถามตรงประเด็นทันที ไม่ต้องไว้หน้ากันแล้ว

"พี่มา…ขอโทษ"

"……"

"กูขอโทษนะเว้ยที่ปลอมไลน์เป็นมึง กูมันเหี้ยเอง มีแฟนแล้วยังไม่รู้จักพอ …แถมชอบเค้า ก็ยังไม่กล้าบอกว่าเป็นตัวเอง ยังใช้ชื่อมึงอีก…แล้วก็ขอโทษที่วันนั้นมือหนักไปหน่อย เล่นซะจนมึงขับรถไม่ได้ จนเกิดอุบัติเหตุใหญ่ขนาดนี้…กูขอโทษมึงจริงๆ นะเว้ย ไม่คิดว่าจะเดือดร้อนกันขนาดนี้"

"ช่างเถอะ มันผ่านไปแล้ว"

"ถึงจะผ่านไปแล้ว กูก็ยังไม่สบายใจเท่าไหร่"

"พี่ก็เข้าไปผ่าตัดให้ผมแล้วไง เข้าไปช่วยชีวิตผมแล้วหนิ เจ๊ากันแล้ว อย่าคิดมากเลยพี่" ตั้งแต่วันที่ฟื้นมา ทุกคนก็พูดกรอกหูผมว่าใครเข้าไปช่วยผมในห้องผ่าตัดวันนั้นบ้าง ตอนนี้ผมแทบจะไล่ชื่อเจ้าหน้าที่ได้ทุกคนแล้วครับ

"วันนั้นกูแม่ง…โคตรรู้สึกผิดเลยว่ะ ถ้ากูไม่เข้าไปช่วยมึง กูคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต"

"ขนาดนั้นเลยเหรอพี่"

"เออสิวะ"

"เอาเป็นว่าผมไม่ถือโทษโกรธอะไรพี่แล้วกัน ต่างฝ่ายก็ได้รับผลกรรมแล้ว ได้ข่าวว่าพี่เพิ่งเลิกกับแฟนด้วยหนิ"

"อืม ก็สมควรแล้วล่ะ เค้าจับได้ว่ากูคุยกับคุณอิสนี่แหละ เค้าเลยขอเลิกกับกูเลย"

"ก็ดีแล้ว ปล่อยเด็กให้มันไปมีอนาคตที่ดีเถอะพี่"

"อยู่กับกูไม่มีอนาคตหรือไงวะ"

"อนาคตน่ะมี แต่ไม่รู้จะถูกเขี่ยทิ้งเมื่อไหร่"

"ยังไงกูก็ให้เค้าที่หนึ่งป่ะ กังวลอะไรวะ"

"ความรักนะพี่ ไม่มีใครอยากเป็นที่หนึ่ง หรือที่สองหรอก อยากเป็นแค่…หนึ่งเดียว"

"กูยังเข้าไม่ถึงความรู้สึกนั้นว่ะ"

"พี่ก็ลองดูอีกซักครั้งสิ…ตอนนี้พี่ก็ว่างแล้ว คุณอิสก็ว่างอยู่ ไหนๆ พี่ก็หงายไพ่ในมือแล้ว ไปต่อสิ จะรออะไร"

"มึงพูดจาดีมีเหตุผลว่ะ…"

เราพูดกันมาถึงตรงนี้ ประตูหน้าห้องก็ถูกเคาะ แล้วก็ถูกเปิดออกจากข้างนอก คนที่ก้าวเท้าเข้ามาก็คือ นิว ผมจึงอดถามหาอีกคนไม่ได้

"อ้าว แล้วคุณอิสล่ะนิว"

"กลับแล้ว …พวกพี่คุยกันเรียบร้อยยังเนี่ย"

พวกผมพยักหน้ากันหงึกๆ แล้วผมก็บุ้ยใบ้ปากให้พี่ต๊ะรีบตามไปสิ ตามไปตอนนี้ก็น่าจะทันอยู่ แล้วพี่ต๊ะก็ขอตัวออกจากห้องไป ทำเอานิวถึงกับงง เพราะเมื่อกี้เพิ่งชวนกินข้าว แต่อยู่ดีๆ ก็รีบกระวีกระวาดออกไปจากห้องซะงั้น

ผมชักจะมีเรื่องให้สนุกอีกแล้วสิครับ หึหึ



TBC.



Talk : แต่ละฝ่ายเข้าอกเข้าใจกันแล้ว เมื่อทุกคนแฮปปี้ ไรท์ก็แฮปปี้ค่าาา อิอิ วันพุธมาต่อตอนจบให้นะคะ ส่วนตอนพิเศษ #เภฟิล์มหมอเต็ม ต่อให้อีกทีวันเสาร์นะคะ ส่วนเรื่องรวมเล่มกำลังอยู่ในช่วงหา inspire เขียนตอนพิเศษ #หมอกี้น้องนิว ฝากทุกคนรอติดตามด้วยนะค๊าาา ><~~~

ตอนนี้ฝากด้วยเช่นเคยค่ะ ขอกำลังใจเป็นหัวใจ โดเนท หรือคอมเม้นท์น่ารักๆหน่อยนะค๊าา ขอบคุณค่าา


ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
เออเคลียร์ๆกันไปสักทีเถ๊อะ เรื่องร้ายๆกำลังจะผ่านไป ว่าแต่เรื่องสนุกอารายอีกละจ๊ะ อุ๊ต๊ะๆ 555 :katai2-1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
พี่กี้หายเป็นปกติเร็ว ๆ นะครับ สงสารน้องนิว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด