#ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11  (อ่าน 88369 ครั้ง)

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
ก็จะดื้อ 13
รัท



เช้าแสนสดใสของตะนิดมักจะเริ่มต้นด้วยแสงแดดส่องกับกลิ่นลาเวนเดอร์จางๆ  แต่วันนี้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบเดือนที่เขาตื่นขึ้นด้วยอาการจี๊ดหัวอย่างรุนแรง

อะไร...
ใครบังอาจมาเจาะถนนบนหัวเขา ทำไมถึงปวดขนาดนี้

ตะนิดขยี้ตาไปมาก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพื่อที่จะเห็นใบหน้าคล้ายตัวเองนั่งกอดอกจ้องอยู่ในระยะประชิดเตียง

“เชี่ยยยยยยย!!! อะไรของมึงเนี่ยคณิต ตกใจหมด!!!” ตะนิดโวยวายลั่นพร้อมกับเหวี่ยงคุณนุ่มเบอร์ห้าใส่แฝดพี่ที่บังอาจมาโผล่ให้ตกใจตั้งแต่เช้า
“กูไหมตะนิด กูไหม”
“กูอะไร”
“กูไหมที่ต้องอยากปาคุณอ้วนเบอร์ห้านี่ใส่มึง”
“คุณนุ่มไม่ใช่คุณอ้วน!!!”
“มึงดูสภาพตัวเองก่อนไอ้เวร!!”

สภาพ?
ตะนิดตวัดสายตากลับมาพิจารณาตัวเอง ก็ไม่มีอะไรนี่นา แค่ใส่เสื้อยืดตัวเดียวนอนเองมันแปลกตรงไหนก-

เอ๊ะ...
เสื้อยืดตัวเดียว? 

“เสื้อมึงเหรอคณิต?”
“...”
“เห้ย กูไม่ได้ใส่เกงในด้วย” เปิดโปงผ้าห่มแล้วตะนิดก็เกือบตกใจ เจอมังกรยักษ์เข้าให้
“...”
“เอ๊ะ มึงกัดต้นขากูด้วยเหรอ ฟ้องแม่นะ!”
“โอ๊ย กูอยากจะเป็นลม” คณิตซบหน้าลงกับเตียงด้วยความไม่ไหวในความเอ๋อของแฝดตัวเอง ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาสัญญาว่าจะไม่แย่งสารอาหารจากแม่เลย เผื่อแฝดน้องมันจะเด๋อน้อยกว่านี้ลงบ้าง สักสิบเปอร์เซ็นต์ก็ยังดี

“เสื้อฉันเอง” ภาสที่ยืนพิงกรอบประตูจิบกาแฟมองความวุ่นวายพูดขึ้น แน่นอนว่าแมวดื้อก็หันขวับไปทันที 
“เสื้อพี่ภาส? แล้วทำไมนิดใส่เสื้อพี่ภาส?”
“เพราะเราเมาอ้วกเละเทะที่ปาร์ตี้เมื่อวาน” ภาสจ้องตะนิดผ่านกรอบแว่นด้วยสายตาติดดุอยู่เล็กน้อย แต่นั่นก็ทำเอาเจ้าแมวขี้กลัวหางพองขึ้นมาทันที
“ขะ ขอโทษครับ”
“มึงเมาแล้วอ้วกใส่พี่เขา”

ห๊ะ!!!!!
ถึงตอนนี้แมวดื้อก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจริงๆ แล้ว ตากลมจ้องอัลฟ่าหน้าดุอย่างไม่อยากจะเชื่อ โอมายก็อด อย่างน้อยก็อ้วกใส่คณิตไม่ได้เหรอ ทำไมหวยต้องไปลงกับคนที่ดุขนาดนั้นด้วยล่ะ

“ขอ ขอโทษครับ”
“อืม”
“ละ แล้วกางเกงใน”
“ฉันใส่ให้แล้วแต่เธอพยายามจะถอดโชว์ไฝอยู่หลายรอบ ฉันเลยเก็บคืนกระเป๋า”

โชว์ไฝ!!!!
บ้าไปแล้วเรอะ นั่นไฝนะไม่ใช่กายกรรมจะโชว์ทำไม!!!
หรือนี่คือผลพวงของการที่เราไม่มีสกิลอะไรให้อวดมาก จิตใต้สำนึกเลยพยายามจะอวดอะไรบางอย่างที่มีตอนเมา แต่โชว์ไฝเนี่ยนะ!! อย่างน้อยโชว์พับลิ้นก็ยังดี!!! ว่าไฝจุดไหนนะ เขามีไฝสองที่คือที่ฝ่าเท้ากับที่ก้น แต่คงที่ฝ่าเท้าแหละ ใครจะบ้าไปเปิดก้นโชว์คนอื่น

แต่เอ๊ะ...
ถอดโชว์ไฝ?

“ตะนิด” เสียงขรึมดังเรียกมาจากฝั่งเตียง ตะนิดค่อยๆ หันหัวช้าๆ ไปทางแฝดพี่พร้อมกับหัวเราะแห้งๆ ไอ้หยาาาาาาา เสียงคณิตต่ำมาเลย
“คณิต กูรักมึงน้า” บอกรักไว้ก่อนแล้วความผิดเราจะลดลงมาครึ่งหนึ่ง แม่สอนไว้ ซึ่งก็เหมือนจะได้ผลเพราะคณิตถอนหายใจแบบเหนื่อยใจแบบนี้แสดงว่าหายโกรธแล้ว ตะนิดอมยิ้มดีใจ แต่ยังไม่ทันจะดีใจได้สุด คนที่ยืนมองเงียบๆ ก็ปาระเบิดลูกใหญ่ลงมา

“ว่าแต่แฝดกันแถมมีไฝอยู่ที่เดียวกันถึงจะคนละข้างนี่ก็แปลกดีนะ”

เจี๊ยก...
ไฝแฝดอยู่ที่ก้น!
ตะนิดตาแทบกลิ้งไปด้านหลังเมื่อภาสบอกบางอย่างที่มันควรจะเป็นความลับระหว่างครอบครัวเขาออกมา ซึ่งแน่นอนว่าคณิตถลึงตาจนถลน ส่วนเขาก็พยายามกลั้นใจอยู่ เผื่อสลบจะได้รอดพ้นจากการโดนคณิตบ่น

“เอ่อ... คณิต กูรักมึงน้าาา ตะนิดรักคณิตสุดๆ รักมากๆ  รักมากเท่าโลกชุบแป้งสามชั้นชุบเกร็ดขนมปังสามชั้นไข่อีกห้าชั้นแล้วเอาไปทอดเลย”
“มึง ไอ้อ้วน...”
“กูเมาน้าคณิต ลดโทษครึ่งหนึ่งได้ไหม นะๆ คนไทยด้วยกัน” คณิตทำหน้าโมโหสุดๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นถอนหายใจยาว แฝดพี่ยกมือขึ้นดีดเหม่งแฝดน้องไปหนึ่งทีก่อนจะลุกขึ้นยืน
“ช่างเถอะ แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วกัน กูไปรอด้านนอก”
“คณิต เดี๋ยว...” พอแฝดพี่ไม่โกรธเท่าที่คิดก็พานให้แมวดื้อไม่สบายใจ ดวงตากลมมองแผ่นหลังของแฝดพี่ที่ค่อยๆ เดินห่างไปน้ำตารื้น แมวดื้อรีบดึงขาออกจากผ้าห่มวิ่งไปกอดหมับเข้าที่เอวคนเป็นพี่ “คณิต ขอโทษแล้ว ขอโทษนะ ให้ตีก็ได้ ไม่โกรธกันแบบนี้”
“เออ”
“มึงเออใส่กูได้ไง โกรธขนาดนั้นเลยเหรอ ขอโทษแล้วไง แม่สอนว่าถ้าขอโทษแล้วต้องหายโกรธดิวะคณิต”
“ก็เออหายโกรธแล้วไง”
“ทำไมมึงหายง่าย มึงโกรธมากเลยเหรอ”
“เออ โกรธฉิบหาย ไอ้อาการไม่ระวังตัวของมึงเนี่ยสอนเท่าไหร่ก็ไม่จำ โกรธโคตรๆ แต่ก็...” คณิตถอนหายใจพร้อมกับเงยหน้าสบตากับอัลฟ่าเลือดแท้ที่ยืนกอดอกอยู่ตรงหน้า เขาเพิ่งจะรู้จากปากอีกฝ่ายว่าตะนิดฮีทแล้วและอีกฝ่ายก็อดทนไม่ได้ทำอะไร แถมยังคอยดูแลน้องเขาตอนฮีทมาอย่างดี 

ก็พอที่จะวางไว้ได้นิดหน่อย
แต่ก็แค่นิดหน่อยแหละนะ ไม่มีใครบนโลกที่จะรักตะนิดได้เท่าเขาหรอก

“แต่ก็?”
“มีคนคอยดุเพิ่มก็วางใจหน่อย กูไม่บ่นก็มีคนอื่นช่วยบ่น” 
“...”
“ฝากด้วยแล้วกัน... ครับ” คณิตใช้ลิ้นดุนแก้มเล็กน้อยก่อนจะผละเดินออกมาจากตัวห้องนอน ตะนิดมองตามหลังแฝดพร้อมกับขมวดคิ้ว

ฝากอะไร? จะพูดว่าฝากไว้ก่อนรึเปล่า?
กำลังจะวิ่งตามออกไปแต่ก็โดนแขนแกร่งที่รอจังหวะอยู่ดึงไว้เสียก่อน ภาสเหลือบมองขาขาวที่โผล่พ้นชายเสื้อนอนเขาพร้อมกับเงยขึ้นมองใบหน้าดื้อที่มองกลับมาอย่างสงสัยว่าเขารั้งไว้ทำไม

“มีคนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นเยอะ” ภาสเอ่ยตอบพร้อมกับดึงแขนแมวดื้อกลับเข้าไปในห้อง เขาวางแก้วกาแฟไว้ที่โต๊ะหัวเตียงก่อนจะหันกลับมามองแมวดื้อ
“พะ พี่ภาส”
“ติดไว้ก่อนนะ ไว้ถ้าคิดออกว่าทำโทษเธอยังไงแล้วฉันจะกลับมาคิดบัญชี”

เจี๊ยกกกกกกกกกกกกกก
แมวดื้อถึงกับหน้าซีดหางจุกตูด ภาสผละออกจากร่างเล็กเดินไปปิดผ้าม่านกันคนมองเข้ามาเห็นแมวดื้ออาบน้ำก่อนจะเดินกลับมาหยิบแก้วกาแฟ

“พี่ภาส คือนิด...”
“แต่งตัวให้เรียบร้อย เดี๋ยวจะออกไปกินร้านอาหารริมหาดกัน ฉันเตรียมน้ำส้มไว้ให้ที่โต๊ะดื่มแก้แฮงค์ก็ได้” 
“...”
“อ้อ แล้วไม่ต้องพยายามโชว์ไฝแล้วนะ”
“อ๊ะ”
“เมื่อวานฉันเห็นชัดพอแล้ว”

พูดจบภาสก็เดินออกจากห้องไป ปล่อยให้แมวดื้อแก้มแดงจนแทบระเบิดอยู่คนเดียว

กว่าตะนิดจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เกือบบ่ายโมง แน่นอนว่าพอออกมาเจอหน้าเดอะแก็งทุกคนตะนิดก็ทำหน้าไม่ถูกได้แต่วิ่งไปหลบหลังภาสหลบหนีสายตาแซวจากทุกสารทิศ

 ... และเป็นพิเศษมาจากทางอาเธอร์

“น้องแมวคะ ม้าอะไรบินได้”
“...”
“อ้าว ไม่เล่นเลย”
“...” แมวดื้อที่พอจะจำความได้เล็กน้อยก่อนภาพจะตัดที่ตกน้ำกระตุกชายเสื้ออัลฟ่าคู่แห่งโชคชะตายิกๆ ให้รีบพาออกจากห้อง ส่วนแก้มขาวแต้มสีแดงไปยันหูด้วยความอาย
“ม้าอะไรวะเต้อ” ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามเต้อถามขึ้นพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ที่โดนตะนิดมองค้อนมา
“ม้ารู้ววว หนูเป็นไอร่อนแมวววววว ตู้มมมม บุ๋งๆๆๆ”
“พี่เต้อ!!! พี่ชาย!!! ผมโกรธพี่แล้ว!!!”
“อ้าว ไม่โกรธกันสิคะ”
“เห้ย โกรธแบบนี้ จาวิสจะแนะนำให้ปล่อยแสงใส่พวกพี่เปล่า” วินเซนต์ที่นั่งอยู่ไม่ไกลทำท่าตกใจกลัวพร้อมกับซุกหนีที่ไหล่ลี่
“ปล่อยพลังอุลตร้าแมววว” ลี่ทำท่าแขนบวกกันปล่อยพลัง
“เกาะหลังเก่งนี่ หรือจะสไปเดอร์แมว” คณิตเอ่ยพร้อมกับกระตุกยิ้ม
“พี่ภาสๆ นิดหิวแล้ว” ตะนิดมุดหน้าเข้ากับแผ่นหลังใหญ่ซ่อนใบหน้าเขินอายของตัวเองไว้ ภาสหัวเราะในลำคอกับภาพตรงหน้าก่อนจะเบี่ยงตัวเดินนำขบวนออกจากห้องพัก

วันนี้เขาเดินทางด้วยรถตู้อัลพาร์ดสีขาวที่เช่ามาจากทางโรงแรมโดยมีคนขับรถขับมาให้พร้อม แมวดื้อไม่พูดอะไรสักคำตั้งแต่ออกมาจากโรงแรม เจ้าตัวนั่งแก้มตุ่ยงอนเดอะแก็งทุกคนที่เอ่ยแซว พอทุกคนเห็นว่าแมวดื้อเขินก็ยิ่งแซว สุดท้ายเจ้าแมวดื้อก็กระตุกชายเสื้อเขายิกๆ ให้ช่วยปราม แน่นอนว่าเขาทำเพียงส่งเสียงกระแอมเบาๆ แค่นั้นรถก็ตกอยู่ในความสงบให้เสียที

ร้านอาหารที่เขายกขบวนมากันวันนี้เป็นร้านที่ได้รับการแนะนำมาจากบาร์เทนเดอร์เมื่อวานก่อนที่ไอร่อนแมวจะก่อเรื่องจนต้องแยกย้ายกันกับห้อง โดยเป็นร้านอาหารริมชายหาดที่มีการตกแต่งและบรรยากาศเข้ากับทะเลได้อย่างดี ทำให้แมวดื้อที่งอนแก้มเป็นก้อนเปลี่ยนเป็นฉีกยิ้มกว้างลากแฝดพี่ไปถ่ายรูปอย่างรวดเร็ว

ด้วยความที่หิวกันมาทั้งหมดทำให้เผลอสั่งอาหารกันเพลินมาเต็มโต๊ะ ตะนิดวันนี้เจริญอาหารน้อยกว่าวันอื่นอาจจะเพราะยังแอบแฮงค์อยู่เล็กน้อย กินไปได้นิดหน่อยเจ้าตัวก็อิ่มขอไปเดินเล่นที่หาดทราย คณิตที่ยังกินข้าวไม่เสร็จทำให้ภาสต้องเป็นฝ่ายลุกตามแมวดื้อออกมาแทน 

แผ่นหลังเล็กใต้เสื้อยืดสีขาวพอถูกลมพัดก็แนบเนื้อจนเห็นเอวคอด ภาสมองภาพตรงก่อนจะแอบลอบยิ้มเบาๆ

แมวกับทะเล
ก็เข้ากันได้ดีเหมือนกัน

“ทากันแดดมาหรือเปล่า?” ตะนิดสะดุ้งเล็กน้อยที่มีเสียงถามขึ้น
“ไม่ได้ทามาครับ”
“แดดแรง ใส่เสื้อคลุมไว้หน่อย” ภาสถอดเสื้อเชิ้ตที่ใส่ทับเสื้อกล้ามตัวเองออกมายื่นให้ตะนิด ซึ่งแมวดื้อก็รับไปใส่ตามคำสั่ง
“พี่ภาส...”
“หืม?”
“พี่วินกับพี่ลี่เป็นคู่แห่งโชคชะตากันด้วยแหละ”
“ใช่”
“แล้วพี่วินกับพี่ลี่รู้จักกันได้ยังไงอ่ะ”
“เห็นว่าเคยเจอกันตอนเด็กๆ นะ แล้วก็เกิดเรื่องอะไรกันนิดหน่อยแล้วก็วนมาเจอกันอีกทีตอนลี่อยู่มหาลัย”
“แล้วพี่วินรักพี่ลี่ตอนไหนอ่ะ” 
“มันรักของมันมาตั้งแต่เด็กแล้วนะวินเซนต์น่ะ”

ภาสมองไปที่ทะเลพลางคิดถึงเรื่องที่เพื่อนสนิทเคยเล่าให้ฟังไว้เกี่ยวกับคู่แห่งโชคชะตาอย่างลี่ พอจะจำได้รางๆ ว่าก่อนที่จะมาคบกันนั้นไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด แถมลี่สมัยมหาลัยเองก็แสบใช่เล่น กว่าจะมาคบกันอย่างปัจจุบันก็ผ่านจะไรกันมาไม่ใช่น้อย
            
“นิดไม่เข้าใจเท่าไหร่นะพี่ แต่คู่แห่งโชคชะตามันไม่เกินไปหน่อยเหรอ มันเหมือนเป็นอะไรที่บังคับให้คนสองคนต้องมารักกันกันเลย” แมวดื้อใช้เท้าเขี่ยทรายไปมา ภาสหยุดมองภาพนั้นก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ
“รักมันบังคับกันได้ที่ไหน คู่แห่งโชคชะตาที่ไปด้วยกันไม่ได้ก็มี โชคชะตาน่ะเป็นสิ่งที่เรากำหนดต่างหาก ไม่ใช่คนอื่นหรอก อะไรที่มันไม่ใช่มันก็คือไม่ใช่”
“แล้วตกลงมันเป็นความรักที่เกิดขึ้นเพราะความรู้สึกหรือเพราะความเป็นคู่โชคชะตาเหรอพี่ภาส มันแยกยังไง นิดไม่เข้าใจ”
“นั่นสินะ ฉันก็สงสัยเหมือนกัน”
“...”
“แต่มันคงประมาณถ้าไม่ใช่เพราะคู่แห่งโชคชะตายังจะอยากอยู่กับคนนี้ไหมล่ะมั้ง”
“เหรอ...” ตะนิดนั่งยองๆ กับพื้นทรายพร้อมกับใช้นิ้วเขี่ยวาดรูปปลาฉลาม
“...”
“แล้วพี่ภาสล่ะ”
“...”
“พี่ภาสว่ายังไง”
“ว่ายังไงคืออะไร?” ภาสย้อนถามกลับ
“พี่ภาสคิดแบบไหนล่ะ ฝืนไหมตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาจะ... สองอาทิตย์” แมวดื้อก้มหน้าเขี่ยพื้นไปเรื่อย ส่วนภาสก็ได้แต่นิ่งกับคำถามที่ถูกถามมา
“ฝืนน้อยกว่าที่คิด”
“...”
“ตอนแรกคิดว่าจะฝืนมากกว่านี้”
“เหมือนกันเลย”
“...” ภาสมองกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกลมทะเลพัดจนฟูเผยให้เห็นปลอกคอสีเข้มบนลำคอขาวนั่นด้วยสายตาแห่งความสงสัย

แมวดื้อกำลังคิดอะไรอยู่กันนะ?
 
“พี่ภาส”
“หืม?”
“เพิ่งผ่านมาแค่จะสองอาทิตย์เอง”
“อืม”
“ทำไมมันถึงรู้สึกขนาดนี้นะ”

ภาสมองไปที่น้ำทะเลใสสีฟ้าตรงหน้าพร้อมกับปล่อยให้ลมทะเลพัดปอยผมตัวเอง

นั่นสินะ...
แค่สองอาทิตย์แท้ๆ ทำไมถึงรู้สึกผูกพันขนาดนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน...

“แล้วมันควรจะใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะเหมาะดีล่ะ” ภาสเอ่ยถามกลับ แต่ตะนิดก็ไม่มีคำตอบให้หรอกเพราะเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แมวดื้อเริ่มวาดคุณนุ่มเบอร์หนึ่งนั่งลงบนคุณนุ่มเบอร์ห้าก่อนจะนึกภาพอะไรบางอย่างที่ค่อนข้างจะน่าอายแว่บขึ้นมาในหัว
“พี่ภาสๆ”
“หืม?”
“...”
“...”
“ทำไมตอนนิดฮีทพี่ภาสถึง... ไม่ทำอะไรเหรอ” 

ดวงตากลมละออกจากการวาดภาพบนทรายหันมาเงยถามคนตัวสูง ภาสจ้องใบหน้าดื้อนั่นกลับก่อนจะกระตุกยิ้มบาง

“ถ้ามันจะไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความรัก”
“...”
“มันก็ควรเกิดขึ้นด้วยความเต็มใจทั้งสองฝ่าย”
“...”
“ฉันก็จัดการกับสัญชาตญาณตัวเองอยู่เหมือนกัน เธอควรให้ความร่วมมือกับฉันด้วย”

 คราวนี้ภาสเอ่ยเสียงดุขึ้นมานิดหน่อย ภาพก้นขาวๆ แต้มไฝสีดำเม็ดเล็กยังติดอยู่ในความทรงจำแม้จะเห็นแค่เพียงเสี้ยววิ หลังจากที่จู่ๆ แมวดื้อที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็เดินห่อผ้าเช็ดตัวมาเปิดก้นให้ดู เขาที่นั่งสมาธิอยู่ศีลแทบแตก ดีแค่ไหนที่เขาเบนหน้าหนีทัน แมวดื้อขี้ยั่ว

“พี่ภาสๆ”
“หืม” ภาสเริ่มแอบคิดแล้วเหมือนกันว่าเจ้าแมวดูจะชอบชื่อเขาเป็นพิเศษ พอเริ่มเรียกได้ก็เรียกไม่หยุด ทั้งๆ ที่ตอนเพิ่งรู้จักกันยังคิดเรียกเสี่ยโรคจิตอยู่เลย
“อยากว่ายน้ำ”
“เอาสิ”
“คณิตเตรียมชุดว่ายน้ำมาให้ อย่างกับชุดนักดำน้ำ ตลกมาก”

สมแล้วกับตำแหน่งบราค่อนดีเด่น เซฟดีทุกทาง ภาสแอบหัวเราะในใจเล็กน้อย ป่านนี้แฝดพี่คงจ้องมาทางนี้ตาถลนแล้วแหละมั้ง

“ไว้กลับที่พักก็ไปว่าย ฉันไปด้วย”
“อื้อ” แมวดื้อลุกขึ้นยืน มือเล็กเอื้อมปัดตูดตัวเองให้ทรายออกสองสามทีก็เดินนำกลับไปทางร้านอาหาร ส่วนภาสก็เดินตามไปติดๆ

พวกเขาใช้เวลารับประทานอาหารกับถ่ายรูปต่ออีกพักใหญ่ๆ จะตัดสินใจพากันกลับที่พัก โดยตะนิดเป็นฝ่ายเริ่มนัดทุกคนให้มาเจอที่สระตอนห้าโมงเย็น ช่วงเวลาที่แดดกำลังจะหาย ไม่ร้อนมากไม่เย็นมากเหมาะสำหรับการว่ายน้ำเล่นที่สระขนาดมหึมาของโรงแรม

เมื่อถึงเวลานัดตะนิดก็มาในชุดว่ายน้ำปิดตั้งแต่คอยันเข่าที่แฝดพี่เป็นคนเตรียมมาให้จากบ้าน ส่วนทุกคนที่เหลือก็ใส่เพียงกางเกงขาสั้นสำหรับว่ายน้ำ แน่นอนว่าแมวดื้อแอบพองแก้มไม่พอใจที่ไม่ได้อวดวันแพคนุ่มนิ่มแต่สุดท้ายความอยากเล่นน้ำก็มาก่อน

“น้องแมวคะ”
“ว่าไงพี่เต้อ”
“รู้ไหมว่าน้องแมวเกือบไม่ได้มาเล่นสระนี้แล้วนะ” ตะนิดงอคิ้วงง
“ทำไมอ่ะ”
“เมื่อวานมีแมวเกือบอ้วกใส่สระ ดูจากสภาพอ้วกแล้ว สระน่าจะได้ปิดยาวเลย”

ป้าป!!!

หมัดแมวฟาดให้เต็มแรงใส่บ่ากว้างของอัลฟ่าหัวหน้างาน แน่นอนว่าอาเธอร์ขำออกมาลั่นส่วนตะนิดได้แต่เจ็บมือกระโดดหนีลงสระ ภาสส่ายหัวกับภาพตรงหน้าก่อนจะกระโดดน้ำตามลงไป

ชุดว่ายน้ำรัดรูปปิดตั้งแต่คอยันเข่านั่นมันก็ดูปิดบังผิวขาวๆ ได้ดีแต่ทว่าก็ไปเน้นทรวดทรงแทน เขาไม่ได้อยากหวงอะไรไร้สาระ แต่ถ้าให้เอาความคิดตามตรงก็หวงอยู่เหมือนกัน

ตะนิดกระโดดขึ้นไปนั่งบนห่วงยางนกฟลามิงโก้ก่อนจะสั่งให้คณิตช่วยผลักไปมา ซึ่งคณิตก็ตัดสินใจพลิกนกจนแฝดน้องกลิ้งตกน้ำ พอโผล่หัวมาได้ตะนิดก็ไล่ฟาดแฝดพี่กลับทันที ทุกอย่างตกอยู่ในความสงบอยู่พักใหญ่จนกระทั่งภาสรู้สึกเหมือนได้กลิ่นหอมบางอย่างลอยแตะจมูก

กลิ่นโอเมก้า?

“ตะนิด มานี่” ภาสเอ่ยเสียงดุก่อนจะจับแขนตะนิดดึงเข้ามากอด
“เห้ย! พี่ภาส” 
“ไม่ใช่กลิ่นเธอ...” ภาสเงยหน้าขึ้นสบตากับวินเซนต์ที่เพิ่งกระโดดขึ้นจากสระไปหาลี่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างสระ แต่อีกฝ่ายก็หันมาสบตาเขาแล้วส่ายหัว

ทันใดนั้นกลิ่นฮีทของโอเมก้าก็ฟุ้งกระจายรุนแรงมาจากอีกฟากของสระ

“มีโอเมก้าฮีท!!!”

ความวุ่นวายเกิดขึ้นพร้อมกับเสียงโวยวายของผู้คนโดยรอบ ไลฟ์การ์ดที่เป็นเบต้ารีบกระโดดลงมาในน้ำส่วนภาสก็รีบโอบเอวตะนิดขึ้นจากน้ำทันที

ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว ตะนิดมองภาพอาเธอร์ที่คว้าคอชายกับคณิตไว้พร้อมกับลากเข้าตัวอาคาร พี่วินที่จับพี่ลี่พาดบ่าเดินไปอีกทาง ส่วนตัวเขาเองก็โดนพี่ภาสโอบเอวไว้แน่น ลมหายใจของอัลฟ่าข้างกายหอบถี่กระชั้นกว่าที่เคยเป็น

“พะ พี่ภาส คณิต...”
“เงียบก่อน” ภาสรั้งคนตัวเล็กเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับตวัดตาข่มทุกสายตาที่จ้องมาที่โอเมก้าของเขา พอเงยหน้าเห็นสายตาหื่นกระหายที่มองมาตะนิดก็ตกใจจนตัวสั่น กลิ่นอายอัลฟ่าที่เริ่มรัทและกำลังรัทโชยมาจากหลายทิศทางจนโอเมก้าน้อยตื่นกลัว แขนเล็กยกขึ้นกอดแขนของภาสไว้แน่นทันที
“พี่ภาส”
“ไม่ต้องกลัว”

ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ภาสเองก็ข่มสัญชาตญาณตัวเองไว้ด้วยความยากลำบาก เขาเป็นอัลฟ่าเลือดแท้ที่มีความอดทนต่อฟีโรโมนโอเมก้าได้ดีกว่าอัลฟ่าปกติ ไม่แปลกที่อาเธอร์ที่เป็นอัลฟ่าเลือดแท้จะเป็นคนรั้งคอคณิตกับชายที่เป็นอัลฟ่าปกติที่มีความอดทนน้อยกว่าเพื่อเป็นการเตือนสติ พอถึงชั้นที่พักภาสก็ดึงแขนตะนิดเข้าห้องอย่างรวดเร็ว   

“ฉันจะขังตัวเองไว้ในห้อง เธอโทรให้เขาเอายาระงับรัทอัลฟ่ามาให้” ภาสชี้ไปที่โทรศัพท์สำหรับโทรภายในของโรงแรม
“พี่ พี่ภาส”
“จนกว่ายาจะมาไม่ต้องเข้ามา เข้าใจนะ”
“แต่...”
“อย่าดื้อ”
“พี่ภาส...”


ภาสทิ้งไว้แค่นั้นก่อนจะหันตัวเองเข้าห้องนอนพร้อมกับกดล็อคประตู ตะนิดที่ยืนอยู่กลางห้องนั่งเล่นได้แต่สับสนทำตัวไม่ถูก มือเล็กสั่นไปหมดจนต้องบีบมือตัวเองแก้ตกใจ เขาหายใจเข้าเรียกสติก่อนจะหยิบโทรศัพท์ภายในขึ้นกดเบอร์ตามที่ระบุไว้บนเครื่อง

‘ยาระงับหมดชั่วคราวค่ะ แต่ทางโรงแรมกำลังเร่งหามาเติมอยู่ เดี๋ยวทางโรงแรมจะรีบนำไปให้ภายในครึ่งชั่วโมงนะคะ ต้องขออภัยด้วยค่ะ’

หมดชั่วคราว...
ตากลมตวัดมองไปที่ประตูห้องพร้อมกับเม้มปาก

ช่วงเวลาที่เขาฮีทมันมักจะเป็นช่วงเวลาที่ทรมานที่สุด เหมือนร่างกายไม่ใช่ของตัวเอง ควบคุมอะไรแทบไม่ได้ เขาทำหลายสิ่งที่น่าอายโดยไม่รู้ตัว แล้วเขาคิดว่าอัลฟ่าเองก็คงไม่ต่างกัน ขาเล็กเดินไปมาเป็นวงกลม ดวงตาใสมองไปรอบห้องด้วยความรู้สึกโหวงเหวงในใจ ตะนิดค่อยๆ เดินไปที่ประตูห้องนอนก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตู

“พี่ภาส.. ยาระงับ”

แกร๊ก
เสียงปลดล็อคประตูห้องนอนดังขึ้นพร้อมกับการแง้มประตูเพียงเล็กน้อย ตะนิดได้ยินเสียงหอบหายใจดังขึ้นหลังบานประตู

“ยา...”
“ยาหมดชั่วคราวอีกครึ่งชั่วโมง... พี่ภาสอย่าปิดนะ!” พอตะนิดพูดจบประตูก็ถูกดันจนเกือบปิดแต่ตะนิดก็ออกแรงดันต้านไว้
“ตะนิด ไม่ดื้อกับฉัน” เสียงเข้มดังขึ้นด้วยการกัดฟันพูด
“นิดไม่ดื้อ”
“ตะนิด” เสียงทุ้มเอ่ยดุอีกรอบพร้อมกับแรกผลักประตูแต่ตะนิดก็เอื้อมแขนเข้าไปตรงช่องว่าง ฟากภาสดันประตูก็เท่ากับจะหนีบแขนเล็กไปด้วย
“พี่ภาส...”
“ตะนิด... ฉันรัทอยู่ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะดื้อได้ รอจนกว่ายาจะมาแล้วเราค่อยคุยกัน” ภาสเอ่ยเสียงแหบ เขาพยายามควบคุมลมหายใจตัวเอง เบื้องล่างที่เกิดอาการตามสัญชาตญาณก็รู้สึกคับแน่นจนปวด
“ถ้าไม่ใช่เพราะรัก”
“...”
“ก็ต้องยินยอมทั้งสองฝ่าย!!!”
“...”
“เค ยินยอม!!!”

 

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2


 เสียงเล็กตะโกนลั่นพร้อมกับผลักประตูจนสุดแรง ภาสกะพริบตาปริบๆ มองแมวดื้อที่ยืนตัวเปียกจ้องหน้าเขา แขนเล็กกำเสื้อตัวเองแน่นจนขึ้นข้อขาว

“ตะนิด ออกไป”
“ไม่ออก นิดยินยอมแล้ว”
“ฉันไม่ยินยอม”


ภาสทิ้งตัวนั่งลงกับเตียงพร้อมกับยกมือขึ้นเสยผม ปกติแล้วเขามักจะพกยาระงับติดตัวไว้เสมอ แต่ครั้งนี้เขาดันลืมหยิบใส่กระเป๋ามาด้วย รื้อกระเป๋าจนของเกลื่อนเต็มห้องแล้วก็ยังหาไม่เจอ

คงต้องรออีกสักพักกว่าที่อาการจะสงบ

แมวดื้อ
ดื้อผิดเวลา

แมวดื้อที่มายืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้าคงไม่รู้ อัลฟ่าเวลารัทจะรุนแรงมากเกินกว่าที่โอเมก้าไม่ได้ฮีทจะรับได้ โดยเฉพาะกับโอเมก้าตัวเล็กและอ่อนแออย่างตะนิดไม่มีทางที่จะรับแรงอัลฟ่าเลือดแท้อย่างเขาไหว นอกเหนือจากการยินยอมแล้ว เขาไม่อยากเป็นฝ่ายทำให้อีกคนบาดเจ็บและมีภาพจำที่ไม่ดีกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

“พี่ภาส...”
“ตะนิด ครั้งนี้ไม่ได้จริงๆ อัลฟ่าเลือดแท้เวลารัทจะรัทรุนแรง คราวนี้ดื้อไม่ได้ ฟังฉันหน่อย” ภาสกำหมัดแน่นจนรู้สึกปวดกล้ามเนื้อ
“ฮึก แล้ว แล้ว นิดทำอะไรได้มั่งไหม พี่ภาสทำไงดี นิดไม่ชอบเลย”
“...”
“นิดไม่อยากถูกทิ้งไว้ด้านนอก อยู่ไม่ได้ นิดกลัว แต่อยู่กับพี่ภาสตอนนี้ก็กลัว แต่ แต่ ด้านนอกกลัวกว่า” แมวดื้อเบะปากน้ำตากลิ้งลงแนบแก้มนิ่ม คนตัวเล็กสารภาพความจริงทั้งหมดออกมาพร้อมกับเม้มปากแน่น ด้วยความที่เพิ่งผ่านดงอัลฟ่ารัทมา โอเมก้าน้อยได้แต่ใจหวั่นไม่อยากอยู่คนเดียว ภาสหลับตาพร้อมกับสูดลมหายใจเข้า
“ตะนิด หยิบเนคไทด์ตรงพื้นนั่นมา”
“คะ ครับ” ตะนิดเดินไปหยิบเทคไทด์สีแดงบนพื้นขึ้นมาตามคำสั่ง
“มัดข้อมือฉันไว้” ภาสไขว้มือตัวเองไว้ที่หลังพร้อมกับลุกขึ้นหันหลังให้ตะนิด แมวดื้อถึงจะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ทำตามที่คนตัวสูงสั่ง “แน่นกว่านี้ตะนิด ไม่ต้องกลัวฉันเจ็บ”
“ครับ” ตะนิดมัดเนคไทด์กับข้อมือหนาให้แน่นพอตามคำสั่งพร้อมกับยกมือขึ้นปาดน้ำตาไปมา ภาสลองขยับข้อมือตัวเองก็ค้นพบว่าตะนิดมัดไว้ค่อนข้างแน่นถึงค่อยไถลตัวนั่งลงกับเตียง
“มานั่งนี่” ภาสใช้สายตาสบไปที่หว่างขาตัวเอง ตะนิดกะพริบตาชั่งใจอยู่เล็กน้อยก็ตัดสินใจเดินเข้าไปนั่งพิงอกอุ่น
“อ๊ะ!” แมวดื้อจะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงกัดที่ขบลงมาบนปลอกคอพร้อมกับเสียงขู่คำรามในลำคอของอีกฝ่าย ความแข็งขืนที่ดันก้นอยู่ทำให้ตะนิดรู้สึกทำตัวไม่ถูก แมวดื้อได้แต่นั่งนิ่งๆ ให้อีกฝ่ายกัดปลอกคออยู่สักพักเสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้น
“ตะนิด”
“คะ ครับ”
“จูบได้ไหม?”
“...” ตะนิดเม้มปากแน่นก่อนจะหันหน้าไปข้างๆ พร้อมกับพยักหน้าเบาๆ

แค่นั้นริมฝีปากเล็กก็ถูกบดขยี้อย่างรวดเร็ว เกลียวลิ้นที่สอดประสานฉกจ้วงลมหายใจของแมวดื้อจนต้องร้องประท้วง ภาสผละออกมาเพียงชั่วครู่ก็ประกบกลับเข้าไปใหม่

แม้ใจจะอยากให้เลยเถิดไปมากกว่านี้แค่ไหน แต่แรงรั้งที่ไหล่จากการรัดข้อมือก็จะทำให้รู้ว่าต้องเบรกตัวเองไว้ 
 
“กลัวไหม” ภาสเอ่ยถามซึ่งแมวดื้อก็ขยับหัวขึ้นลงก่อนจะส่ายหัวไปมา
“กลัว... แต่ก็ไม่กลัว”
“เธอตอบแบบนี้เวลาสอบหรือเปล่า เป็นฉันจะปรับเธอตก”
“นิดกลัวนิดหน่อย”
“อืม...”
“พี่ภาส พี่ภาสจะกัดปลอกคอขาดไหม...” ตะนิดเอ่ยเสียงแผ่ว
“นั่นสิ...” พูดจบภาสก็ฝังคมเขี้ยวลงบนปลอกคอนุ่มอีกรอบ

สมกับราคาเกือบแสนมันถึงมีความยืดหยุ่นสูงกลับมาคงสภาพทุกครั้งหลังกัดแต่นั่นก็เหมือนเป็นการกระตุ้นสัญชาตญาณเขาให้กดเขี้ยวลงไปใหม่ซ้ำๆ บางทีก็เผลอออกแรงสะบัดเล็กน้อยจนเสียงขู่แง่งเล็ดรอดออกมา

ตะนิดจากที่นั่งกลัวรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการไล่กัดปลอกคอแล้วก็ไล้จมูกดมไปมาตามผิวหนังเหมือนลูกหมา แถมยังไม่ได้แสดงท่าทีพยายามแกะเนคไทด์ที่รัดอยู่ตรงข้อมือออกอีกด้วย

มีอย่างเดียวที่ทำให้ตะนิดรู้สึกทำตัวไม่ถูกคือความอุ่นร้อนและแข็งขืนบริเวณที่เขานั่งทับ เหมือนอีกฝ่ายเองก็รู้ตัวถึงได้พยายามถอยส่วนนั้นหนีแต่พอสะโพกเขาเผลอไปเสียดสีโดนอีกฝ่ายก็คำรามเสียงสั่นพร้อมกับออกแรงกัดปลอกคอมากขึ้น   

“อึก...” ตะนิดสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายแล่บลิ้นเลียบริเวณไหล่พร้อมกับงับเขี้ยวลงมาเบาๆ

กิ๊งก่อง

“ยาระงับได้แล้วนะคะ”  เสียงกริ่งดังขึ้นเรียกความสนใจจากทั้งคู่ ภาสหอบหายใจถี่พลางเหลือบตามองไปทางประตู ตะนิดผุดลุกขึ้นยืนก่อนจะออกตัววิ่งไปทันที

พอหลังเล็กพ้นประตูห้องนอนไปภาสก็ขู่คำรามออกมาเสียงดัง เส้นเลือดตรงขมับชื้นเหงื่อดันตัวออกมาเป็นรูปตามแรงกัดของฟันคม แขนแกร่งที่ถูกมัดไว้ฝืนออกแรงจนเจ็บ ดวงตาคมฉายแววกระหายอย่างชัดเจนจากสัญชาตญาณสัตว์ป่าที่พยายามกดไว้

อยากตีตราเป็นเจ้าของให้จมเขี้ยว
อยากสัมผัส อยากทำให้กลิ่นแป้งผสมพีชอ่อนๆ นั่นฟุ้งกระจายจนแทบบ้า
 
“พี่ภาสๆ ฉีดยาๆ” ตะนิดวิ่งกลับเข้ามาพร้อมกับหลอดยา ภาสไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ก้มหน้าลงกับพื้นปิดบังไม่ให้อีกฝ่ายเห็นแววตากระหายของเขา แมวดื้อที่ไม่ได้สังเกตเห็นเดินมาจิ้มเข็มเข้ากับแขนเปลือยพร้อมกับแสดงสีหน้าเจ็บแทนไปด้วย จนกระทั่งยาหมดหลอดตะนิดก็ดึงหลอดยาออกไปทิ้งขยะ

แมวดื้อเดินกลับมาประคองใบหน้าดุขึ้นพร้อมกับยีแก้มคนแก่กว่าไปมา ดวงตาดุใต้กรอบแว่นจ้องนิ่งไปที่ใบหน้าน่ารักตรงหน้าพร้อมกับพยายามควบคุมลมหายใจให้กลับมาปกติ ภาสอ้าปากงับนิ้วโป้งริมฝีปากตัวเองเบาๆ ทำเอาแมวดื้อสะดุ้งเล็กน้อย ตะนิดใช้นิ้วโป้งเขี่ยแยกเขี้ยวอัลฟ่าดุในอุ้งมือก่อนจะอมยิ้มออกมา

“พี่ภาสเหมือนหมาเลย”
“...” ภาสงับนิ้วโป้งเล็กอีกรอบเป็นการดุ แต่ที่เปรียบเทียบมานั่น เขาก็ไม่เถียงหรอก
“พอไม่ใส่แว่นแล้วพี่ภาสหน้าเด็กลงสิบปีเลย” มือเล็กดึงแว่นกรอบเหลี่ยมบนหน้าคนแก่กว่าออก ซึ่งทำให้ภาพตรงหน้าของภาสเบลอไปทันที
“...”
“เนี่ย ลดสิบปีเหลืออายุหกสิบแล้ว”
“ตะนิด” เสียงเข้มเอ่ยดุ มุกอายุนี่เขาจริงจังเสมอ ตะนิดขำคิกคักก่อนจะใส่แว่นกลับคืนให้ มือเล็กนวดขมับคนตรง
“พี่ภาสท่องตามนิด”
“...”
“อะระหังสัมมา”
“ฉันนับถือคริสต์”
“อ้าว งั้นไม่รู้แล้ว หายใจเข้าหายใจออกดั่งดอกไม้บานไปแล้วกัน” ตะนิดนวดหน้าคนแก่กว่าตรงหน้าไปมา นวดไปนวดมาชักเพลินมือดีเหมือนกัน เวลาแบบนี้คนตรงหน้าเหมือนลูกหมาตัวเล็กๆ นั่งให้นวดหน้าเลย ทั้งๆ ที่ปกติจะดูดุเหมือนหมาดมระเบิดแท้ๆ ตะนิดได้แต่คิดพร้อมกับอมยิ้มเล็กๆ

ภาสเงยหน้ามองใบหน้าดื้อพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้น แรงรั้งที่ไหล่เสียดขึ้นเบาๆ เมื่อเขาขยับแขน  ตะนิดเอียงคอมองคนตรงหน้าที่มองจ้องมาด้วยสายตาแปลกๆ

“ตะนิด”
“ครับ”
“จูบได้ไหม”
“พี่ภาสยังไม่หายรัทอีกเหรอ?”


เดิมทีอัลฟ่าเลือดแท้มีความสามารถในการอดทนต่อฟีโรโมนสูงอยู่แล้ว พอได้รับยาอาการก็จะทุเลาไว อาการรัทที่ว่านะหายไปเกือบหมดแล้ว ถึงจะยังมีปวดตึงอยู่บ้างเล็กน้อย

“หายไปบ้างแล้ว”
“อ้าว”
“แค่อยากจูบ”
“...”
“จูบได้ไหม”

ตะนิดเม้มปากแน่น แก้มโมจิแต้มสีแดงจางๆ ดวงตาเล็กถลึงมองเขาด้วยความตกใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นเลิ่กลั่กมองผ้าม่าน มองหัวเตียงอะไรไปเรื่อยเปื่อย สักพักก็กลับมาจ้องตาเขาตอบ

“เอาไปแค่นี้พอ” แมวดื้อกดจุ๊บเบาๆ ที่ปลายจมูกเขาก่อนจะผละออกไปช่วยคลายเนคไทด์ที่รัดข้อมือเขาอยู่ด้านหลังออกให้ พอมือเขาเป็นอิสระ แมวดื้อก็ทำการแผ่นแนบหนีออกไปห้องนั่งเล่นทันที

ภาสส่ายหัวให้กับความดื้อของเจ้าแมวแสบแต่ก็ยิ้มตามหลังออกมาเบาๆ ให้กับความรู้สึกอุ่นวาบในใจ

สงสัยเขาคงจะเป็นทาสแมวอย่างที่วินเซนต์แซวจริงๆ แล้วหละนะ...
 

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
ทาสแมวเริ่มยอมรับแล้วววว

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
น่าร้าก

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1
เจ้าแมวดื้อ
จะน่ารักเกินไปแล้ว
เห็นใจพี่ภาสด้วย
 :กอด1:

ออฟไลน์ casson

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
งุ้ย น่ารัก ค่อยๆรักกันนะพี่ภาสตะนิด

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
โอ้ยยยย  น่ารักกกกจนใจพัง  :hao5:
พี่ภาสรัท แต่ยอมอดทน ห่วงและใส่ใจความรู้สึกเจ้าตัวน้อย รักแมวดื้อเเล้วอ่ะ ดูออก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-06-2020 16:13:32 โดย Ac118 »

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
น้องตะนิดน่ารักมากๆเลยค่ะ อ่านไปตะโกนคำว่าน้องงงงไปด้วยตลอด
กับพี่ชายฝาแฝดก็เป็นห่วงเป็นใยกันดี ครอบครัวน่ารักมากๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
ก็จะดื้อ 14


เช้าวันที่สองของภูเก็ตเริ่มต้นด้วยแสงแดดอุ่นที่ลอดผ่านผ้าม่านผืนบางปลุกร่างสองร่างที่นอนเกยกันอยู่บนเตียงใหญ่ให้ตื่นขึ้น

ภาสหยีตาเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงแดดที่ส่องแรง สัมผัสหนักบนอกนั่นไม่จำเป็นต้องสวมแว่นก็รู้ได้อยู่แล้วว่ากลิ่นแป้งเด็กแบบนี้จะเป็นใคร มือแกร่งกวาดคว้าแว่นที่วางไว้ที่โต๊ะข้างเตียงขึ้นมาสวมก่อนจะกะพริบตาถี่

เมื่อวานหลับไปตอนไหนกันนะ?

พอขยับตัวเล็กน้อยภาสก็ต้องขมวดคิ้วแน่นเมื่อรู้สึกปวดแปล็บบริเวณไหล่และต้นแขน แต่พอลองนึกย้อนกลับไป สงสัยจะเป็นเพราะเนคไทด์ทำพิษ แต่ก็เอาเถอะ ถ้าเนคไทด์นั่นไม่แน่นพอ เขาอาจจะเผลอทำเจ้าแมวดื้อบนอกนี่ร้องไห้จ้าไปแล้วก็ได้

ยินยอมงั้นเหรอ?
หึ... ดื้อจริงๆ

ภาสชั้นตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อที่จะแอบมองคนบนอกชัดๆ ตะนิดยังคงติดนิสัยกอดคุณนุ่มเบอร์ห้าแน่นแต่มืออีกข้างกลับตวัดกอดเอวเขาไว้ ใบหน้าดื้อบี้ลงกับหน้าท้องเปลือยเขาจนแก้มโมจินุ่มกองเป็นก้อน ปากเล็กเคลือบไปด้วยน้ำลายพร้อมกับมีน้ำลายจำนวนหนึ่งไหลออกมาเปื้อนแผ่นหน้าท้องเขา ส่วนปลอกคอที่ควรจะขาดหลังจากที่เขาใส่แรงกัดไปเต็มที่ยังคงสภาพอยู่ดีแม้จะมีรอยเหมือนโดนแทะขาดไปบ้างก็ตาม

คุ้มราคาจนน่าหงุดหงิด
เขาล่ะอยากกัดมันให้ขาดจริงๆ

“แมวดื้อ”
“อื้อ”
“เวลานอนนี่ก็รู้ไม่พิษมีภัยแท้ๆ” ภาสหัวเราะในลำคอพร้อมกับยกนิ้วขึ้นเขี่ยแก้มนิ่มนั่นเบาๆ ตะนิดขมวดคิ้วครางอืออาขัดใจ
“อื้อ...”
“ตะนิด”
“หงึ คณิตขออีกห้านาที”
“ตะนิด”
“คณิต ชู่ๆ” 

ปลุกทีไรเป็นต้องพูดประโยคนี้เสมอ แต่คราวนี้พอคนตัวเล็กพูดถึงแฝดพี่ ภาสก็แอบชะงักเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากลุ่มเพื่อนที่เหลือเมื่อวานเป็นยังไงกันบ้าง วินเซนต์ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่เพราะทำพันธะแล้วจึงไม่มีปฏิกิริยากับกลิ่นฟีโรโมนคนอื่นนอกเหนือจากคู่ตัวเอง

แต่ที่น่าเป็นห่วงคือสามคนนั่นต่างหาก
หวังว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นหรอกนะ...

“อื้อ...” เสียงครางดึงสติภาสให้กลับมา แมวดื้อหยีตาเล็กน้อยก่อนจะเบียดจมูกกับพุงเขา
“ตื่นได้แล้ว”
“อือ พี่ภาส อือ อะไรโดนมือ”
“...” แมวดื้อกะพริบตาถี่ตอนก้มลงมองไปใต้ผ้าห่มก่อนจะเงยหน้าขึ้นย่นจมูกใส่เขา
“ลามก”
“เขาเรียกว่าปฏิกิริยาทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นตอนเช้าสำหรับผู้ชาย” ภาสเกาหลังคอเก้อๆ ช่วยไม่ได้นี่นะ ผู้ชายสุขภาพดีอย่างเขามันก็ไม่แปลกหรอกที่อะไรๆ จะตื่นรับอรุณไปด้วย

ตะนิดบ่นงุบงิบก่อนจะลุกขึ้นกระโดดลงจากเตียง แมวดื้อที่สวมเสื้อนอนของเขาตัวเดียวแอบเห็นขาบอกเซอร์โผล่แล่บออกมาเล็กน้อยเดินไปโซนห้องน้ำเพื่อแปรงฟัน เห็นแบบนั้นเขาก็ลุกขึ้นเดินตามไปแปรงข้างๆ

พอมองผ่านกระจกแล้วก็จะเห็นความต่างของส่วนสูงได้อย่างชัดเจน ตะนิดที่แปรงฟันฟองเต็มปากได้แต่ขมวดคิ้วขัดใจ เท้าเล็กพยายามเขย่งขึ้นเล็กน้อย อย่างน้อยก็หัวพ้นไหล่หน่อยก็ยังดี

แน่นอนว่าความพยายามน่ารักนั่นตกอยู่ในสายตาของภาสอย่างชัดเจน เขาหัวเราะในลำคอเล็กน้อยก่อนจะย่อตัวลง ให้ระดับหัวของเขาพอดีกับเจ้าแมวดื้อ

พอย่อตัวให้ตะนิดก็หันหน้าดื้อมาเตรียมจะโวยวาย ส่วนภาสก็เองก็หันไปเตรียมจะหยอกล้อ ตอนนั้นเองที่สายตาของทั้งคู่สบกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ตะนิดกะพริบตาปริบๆ ส่วนภาสก็ชะงักเล็กน้อย เกิดเป็นวินาทีประหลาดที่ทำให้จังหวะหัวใจของทั้งคู่เต้นเร็วขึ้น

พรวด!!!

ภาสสะดุ้งเฮือกแว่นแทบล่วงหลังจากเจ้าแมวดื้อพ่นฟองออกมาเต็มหน้าเขา ส่วนตะนิดก็ได้แต่เหวอรีบบ้วนปากก่อนจะรีบดึงแว่นคนตัวสูงออกมาล้างให้ ภาสที่ภาพเบลอรีบก้มลงล้างหน้ากับบ้วนปากตาม พอได้แว่นกลับมาใส่เขาก็สบตากับแมวดื้อที่ยืนล่กอยู่ตรงหน้า

พอได้สบตากันอีกรอบ
คราวนี้เขาและตะนิดต่างก็อมยิ้มพร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“พี่ภาสที่หูมีฟองยาสีฟันติดอยู่อ่ะ”
“เราน่ะพ่นฟองใส่หน้าพี่”
“ก็ตกใจป่ะ อยู่ดีๆ พี่ภาสจะหันหน้ามาทำไม” ตะนิดโวยวายหน้าแดง
“แล้วทำไมพี่จะหันหน้าไม่ได้”
“ก็ ก็ วู้ว ไม่คุยกับพี่ภาสแล้ว” แมวดื้อพองแก้มก่อนจะกระแทกเท้าเดินออกไปห้องนั่งเล่น ภาสยกคิ้วงงแต่ก็เดินออกจากโซนห้องน้ำไปแต่งตัว วันนี้เขาจะต้องเดินทางกลับกรุงเทพแล้วเพราะพรุ่งนี้มีนัดคุยงานกับลูกค้าต่ออีก ส่วนเจ้าแมวก็ได้เวลาที่จะต้องกลับไปเตรียมตัวทำงานด้วยเหมือนกัน

ภาสเก็บของเข้าใส่กระเป๋า ตอนนั้นเองที่เขาเหลือบไปเห็นปลาฉลามหน้าโง่ตอนกลิ้งอยู่บนเตียง ปากของมันฉีกยิ้มเหมือนจะเยาะเย้ยเลยอดที่จะหยิบมันขึ้นก่อนจะเขวี้ยงใส่ประตูระเบียงไปเต็มแรง

คิดว่ากลับถิ่นทะเลแล้วจะรอดงั้นสิ?

ได้รังแกตุ๊กตาสมใจเขาก็กลับมาเก็บของตัวเองใส่กระเป๋าต่อ กว่าเขาและตะนิดจะเก็บของกินอาหารเช้าเสร็จก็ได้เวลาเชคเอาท์พอดี เขาลากกระเป๋าเดินทางของตัวเองและของตะนิดออกมาเจอกับกลุ่มเพื่อนที่ล็อบบี้ แน่นอนว่าแมวดื้อพอเห็นแฝดพี่ตัวเองก็กระโดดเข้าไปกอดทันที

“เชี่ย ตะนิดไอ้สัด เจ็บ” คณิตชะงักตัวพร้อมกับส่งสีหน้าเจ็บออกมาชัดเจน ตะนิดขมวดคิ้วงง แค่กระโดดใส่ทำไมถึงเจ็บ?
“ตะนิดครับ วันนี้เสื้อน่ารักจัง” ยังไม่ทันจะได้ถามออกไปตะนิดก็ถูกชายจับรักแร้หิ้วออกมาจากตัวแฝดพี่ก่อนจะถูกจับไปวางไว้ข้างภาสที่ขมวดคิ้วมองอยู่
“เสื้อยืดสีดำล้วนเนี่ยนะ”
“อ้อ มันน่ารักเพราะติดน่ารักแน่เลย”
“อะไรของพี่ชายอ่ะ ขนลุก เอ้ย ว่าแต่ปากพี่ชายเป็นอะไรอ่ะ” ตะนิดกะพริบตาปริบๆ มองหน้าพี่ชายที่มีรอยช้ำปากเหมือนเป็นเลือดแห้งๆ แถมยังมีรอยช่วนแถวข้างขมับอีกต่างหาก
“ฮ่ะๆ โดนหมากัดมานิดหน่อยน่ะครับ”
“เอ้ย หมาอะไรมันโหดจัง” ตะนิดยู่หน้าก่อนจะกลับไปหาแฝดพี่ “คณิตตตต”
“ตะนิดมึงห้ามโดดใส่ กูเจ็บ... ขา”
“มึงเจ็บขาได้ไง”
“กูตกบันได”
“บันไดที่ไหน”
“ที่บ้านมั้ง อย่าถามเยอะ”
... มี
... พิ
...รุธ
แมวดื้อรู้สึกได้ถึงวิญญาณฮัตโตริ เฮ๊ย์จิ และขุโด้ ชินอิจิ(สำเนียงเหน่อ) ที่เข้าสิงร่าง เขารู้สึกได้ถึงความแปลกๆ มันมีอะไรแปลกๆ ดวงตากลมหรี่ลงแบบคนจับผิด ซึ่งดูยังไงภาสว่าแมวดื้อตรงหน้าก็ดูเหมือนแมวที่กำลังสงสัยว่าอาหารเม็ดเป็นรสปลาทูหรือแซมอน

“แล้วนี่มึงใส่เสื้อใคร”
ภาสที่ลอบมองแฝดหมาแมวตรงอยู่เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนตัวเองทันที ซึ่งชายก็ทำแค่ยิ้มเบาๆ เป็นคำตอบ
“ถามเยอะ ชาติที่แล้วตายระหว่างทำแบบสอบถามเหรอ” 
“มึงมีพิรุธ โกหกขอให้หัวนมบอด”
“แช่งอะไรของมึง” คณิตจิ้มหน้าผากแฝดน้องตัวเองไปหนึ่งที
“พอดีเมื่อวานคณิตตกบันไดแถวหน้าห้องพักเสื้อขาดน่ะครับ พี่เลยให้ยืมเสื้อพี่” ชายที่ยืนเงียบมานานเอ่ยปากบอก จริงๆ ก็ยังดูน่าสงสัยแต่พอเป็นพี่ชายพูดก็เลยคิดว่าน่าจะจริง แมวดื้อเลยเลิกสนใจแต่ยังคงวอแวดมแฝดพี่ตัวเองฟุดฟิดด้วยความไม่ชินกลิ่น
“ว่าแต่มึง...” คณิตขมวดคิ้วพร้อมกับจับแฝดน้องตัวเองพลิกไปพลิกมา ซึ่งแมวดื้อก็ยอมให้จับพลิกแบบงงๆ
“อะไรอ่ะ”
“ลุงนั่นมัน... ทำอะไรมึงหรือเปล่า”
“ทำ? อ๋อ ไม่ได้ทำ” พอได้ยินคำตอบคณิตก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก สิ่งเดียวที่เขากังวลมากกว่าสภาพตัวเองคือเขาเป็นห่วงน้องชายตัวเองสุดหัวใจ ตัวแฝดน้องเขาก็เล็กแค่นี้ ถ้าโดนอัลฟ่าเลือดแท้รัทใส่นอกฮีทก็คงจะได้เลือดเยอะอยู่ แต่พอเห็นไอ้หน้าดื้อวิ่งปร๋อขนาดนี้ก็เหมือนคลายความกังวลตลอดทั้งคืนที่เขากังวลมา

และถ้ามันเกิดขึ้นโดยการไม่ยินยอมของน้องเขา
... เขาไม่เอาไอ้ลุงนี่ไว้แน่

“อ้าว แมวน้อยยย~” เสียงเรียกชื่อสดใสดังขึ้นเรียกสติตะนิดให้หันไปหาต้นเสียง อาเธอร์โบกมือพร้อมกับส่งยิ้มตาปิดมาให้ แต่สิ่งที่ดึงสายตาตะนิดกลับเป็นคนข้างๆ มากกว่า
“อ้าว พี่ชินจัง!!!”
“พี่ชื่อชินเฉยๆ”
“พี่ชินเฉยๆ!!!”
“...”
“ชินจังโดนแมวน้อยกวนตีนซะแล้วว” อาเธอร์ขำเอิ๊กอ๊ากพร้อมกับวางคางลงบนไหล่เพื่อนสนิทเบต้าอย่างออดอ้อน
“พี่ชินจังมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“บินด่วนมาเมื่อคืนครับ สวัสดีครับคุณชาย คุณภาส” ชินตอบเสียงนิ่ง ดวงตาจริงจังใต้กรอบแว่นจ้องไปที่อัลฟ่าข้างตัวตะนิดอย่างภาสและชายก่อนจะโค้งหัวให้เล็กน้อยเป็นการทักทาย
“บินด่วนมาทำไมอ่ะ”
“หมาโทรมาร้องไห้ว่ากำลังจะตายครับ”
“ฮะ?” หมาไหน? ทำไมหมาตาย? หมาที่กัดพี่ชายหรือเปล่า?
“ใจร้ายจัง แต่จะตายจริงๆ นะ ถามน้องแมวก็ได้ เมื่อวานพี่เกือบตายจริงๆ ใช่มะ” หมายักษ์อย่างอาเธอร์เบะปากพร้อมกับถูคางตัวเองกับไหล่บางตรงหน้า ซึ่งชินยกมือขึ้นผลักหัวออกด้วยความรำคาญ

ตะนิดมองภาพตรงหน้าด้วยความงงเล็กน้อย เป็นเพื่อนที่สนิทที่มีความแตกต่างกันดีแฮะ พี่ชายก็ดูเป็นหมาตัวใหญ่ขี้เล่นส่วนพี่ชินก็ดูจริงจังไปทุกอย่างแต่ก็ดูเข้ากันได้ดีแบบงงๆ

ว่าแต่จะตายยังไง งง

“ไม่นี่ พี่เต้อจะตายยังไง ไม่เห็นเหมือนคนจะตายเลย”
“น้องแมวพูดแบบนี้พี่อาจจะตายตอนนี้ก็ได้ค่ะ” อาเธอร์หัวเราะพร้อมกับยกมือขึ้นจับมือชินที่กำลังจะตวัดตบหัวเขาอย่างรู้ทัน ชินถอนหายใจยาวเหยียดด้วยความเหนื่อยใจ

เอ๊ะ...
ดูมีพิรุธอีกคู่แล้ว

“ตะนิด เอาคุณนุ่มเบอร์ห้าไปถือเอง” ภาสเอ่ยสั่งให้เจ้าแมวดื้อเลิกสนใจคนอื่นเมื่อเห็นว่าเจ้าแมวดูเริ่มสวมบทบาทนักสืบ ตะนิดเอียงคอสงสัยแต่ก็ยอมวิ่งกลับมาถือสัมภาระตัวเอง
“พี่ภาสๆ”
“หืม?”
“นิดคิดไปเองไหมว่าวันนี้ทุกคนแปลกๆ” ตะนิดมองพี่ชายที่เอาแต่มองคณิตไม่วางตาส่วนพี่เต้อก็อ้อนพี่ชินจังไม่ยอมเลิก คืนที่ผ่านมาไม่เห็นเป็นงี้เลย
“นั่นสิ” ภาสตอบพลางโอบเอวเล็กให้มายืนข้างๆ

แมวดื้อน่ะมัวแต่สงสัยคู่อื่นจนไม่ได้สังเกตเลยว่าไม่ใช่แค่คู่อื่นที่แปลกไปหรอก วันนี้เขาเองก็เปลี่ยนคำแทนตัวเองด้วยเหมือนกัน แต่ดูเหมือนเจ้าแมวจะไม่แม้แต่จะผิดสังเกต

อุตส่าห์แทนตัวว่าพี่มาตั้งแต่เช้า
ไม่รู้สึกแปลกหูหน่อยเลยหรือไงกันนะ...


“อือ เอ้อ พี่ภาสแล้วพี่ลี่อ่ะ”
“วินเซนต์บอกว่าให้กลับไปก่อนเลย มันอยู่ต่ออีกคืนหนึ่ง” คนตอบคำถามตะนิดเป็นชายที่ถือมือถือคุยกับวินเซนต์ ตะนิดขมวดคิ้วอีกรอบ
“อ้าวววววว ทำไมอ่ะ มีพิรุธป่าววววว” นักสืบน้อยทำจมูกฟุดฟิดด้วยความสงสัยแต่ก็โดนอัลฟ่าหน้าดุบีบจมูกด้วยความมันเขี้ยว
“ไปดูตรงโซนของฝากกับคณิตก่อนไหม?”
“เอ้ย ดีเลย คณิตไปดูของฝากให้แม่กัน” ตะนิดดึงแขนแฝดพี่เตรียมจะลากให้วิ่งไปด้วยกัน แต่คณิตก็ชะงักพร้อมกับความรู้สึกเจ็บแปล็บอย่างรุนแรงจนต้องร้องออกมา
“โอ๊ย มึงอย่าดึงแขนไอ้อ้วน กูบอกอยู่ว่าเจ็บขา”
“แต่มึงจับก้นตัวเอง”
“กูเจ็บขากับก้น”
“ทำไมเจ็บก้นด้วยอ่ะ”
“ตะนิด ถามอีกข้อกูจะอารมณ์เสียแล้วนะ”
“โอ๋ๆ เดินช้าๆ โอบกูไว้คณิต”

สองแฝดพี่น้องเดินทุลักทุเลไปทางร้านของฝากท่ามกลางสายตาจากทุกคนที่มองก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเพียงแต่ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา อาเธอร์ส่งยิ้มแซวเล็กน้อยไปทางชายซึ่งชายเองก็ทำแค่ยกมือขึ้นเกาท้ายทอยเก้อๆ ภาสมองภาพตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมา

ถ้าแมวดื้อเข้าใจ
สงสัยได้โวยวายบ้านแตกแน่นอน

.
.
.


หลังจากทริปพักผ่อนแสนวุ่นวายที่ทะเล ตะนิดก็ต้องกลับมาพบกับโลกแห่งความจริงกับการตื่นเช้าไปทำงาน ช่วงชีวิตการทำงานในช่วงแรกของตะนิดผ่านไปไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่นัก เขาเพิ่งจะมารู้ว่างานที่อาจารย์สั่งสมัยเรียนความวุ่นวายเยอะไม่ได้เท่าครึ่งของงานที่ลูกค้าบรีฟ

ช่วงแรกๆ เขาปรับตัวไม่ได้ มีออกนอกบรีฟเล็กน้อยเพื่อใส่ความคิดเห็นเขาไปในงาน สรุปลูกค้าสั่งแก้ยับจนเขาสะอื้นในใจ แต่พี่ๆ ร่วมแผนกก็เดินมาตบบ่าแล้วบอกให้ทำใจ แบบนี้แหละ เดี๋ยวก็ชิน

ไม่เห็นจะชินเลย!!!!

อ้ออีกอย่างที่เขาไม่ชินก็คือ

พี่ชาย...

พี่ชายที่ทั้งไม่ใช่พี่ชายและที่เป็นพี่ชายจริงๆ ของเขา ถึงจะพอรู้มาจากพี่ภาสว่าพี่ชายเป็นอะไรสักอย่างกับริษัทที่ทำงานอยู่ แต่จู่ๆ พี่แกก็โผล่มาอย่างบ่อยเพื่อเดินมาทักทายเขาพร้อมกับเดินหายไปทางแผนกคณิต พี่เต้อก็บ่นอยู่บ่อยๆ ว่าพี่ชายใช้อำนาจในทางที่ผิด แต่ผิดยังไงเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

ตัดภาพมาเวลาเลิกงานที่ผมรอคอย ตะนิดได้แต่ตัวแห้งเหี่ยวเป็นถั่วงอกไร้เรี่ยวแรงหลังจากเผชิญการทำงานมาทั้งวัน ทั้งนั่งโม่ทำงานหน้าคอม ทั้งถูกพี่ที่ทำงานหนีบไปเรียนรู้การคุยงานกับลูกค้านอกสถานที่ พอกลับออฟฟิสมาก็มีตีกับการแก้บรีฟงานลูกค้าที่เหมือนต้องแก้กลับไปบรีฟแรกหลังจากที่บรีฟมาห้ารอบ

... เหี่ยวแห้ง

นั่งจ๋องดูดนมสดไข่มุกบราวน์ชูการ์อยู่หน้าบริษัทไม่นาน รถคันหรูก็ขับเทียบเข้ามาจอดตรงเวลาที่นัดไว้ ตะนิดลุกขึ้นยืนตบตูดตัวปั้ปๆ ก่อนจะเปิดประตูน้วยเข้าไปนั่งในรถ

“เหนื่อยจังพี่ภาส” แมวน้อยส่งเสียงอ้อแอ้ ใบหน้าดื้อถูไปมากับเบาะรถ
“ใส่เบลท์ดีๆ”
“อื้อออ” ถึงจะส่งเสียงขัดใจแต่ก็ยอมดึงสายคาดนิรภัยตามคำสั่ง

ภาสลอบมองแมวดื้อของเขาที่ตอนนี้หมดสภาพนอนเบะปาก ตั้งแต่ตะนิดเริ่มทำงานเขาก็ไม่ได้ไปวุ่นวายอะไรนอกเหนือจากการไปรับไปส่ง ช่วงอาทิตย์แรกๆ เจ้าแมวก็ดูคึกคักดีแต่พอผ่านไปได้สักพักก็เริ่มจะเฉาลงเรื่อยๆ จนในที่สุดพอใกล้จะครบเดือนแห่งการทำงานแมวดื้อก็เข้าสู่สภาพเหี่ยวแห้ง

“อยากไปแวะกินอะไรก่อนไหม”
“ไม่เอาแล้ววว อยากกลับบ้านนน” แมวดื้อย่นจมูก เหนื่อยจนแม้แต่นมสดบราวน์ชูการ์ก็บูทอารมณ์กลับมาไม่ได้ แต่ถ้าได้จิบเบียร์เย็นๆ คงดีขึ้น คิดอย่างนั้นแล้วเจ้าแมวดื้อก็เริ่มวางแผนในใจ

เดี๋ยวพอกลับบ้านตบตูดกล่อมพี่ภาสนอนแล้วค่อยลงมาซื้อเบียร์ที่เซเว่นขึ้นไปกินบนห้องดีกว่าาา

แมวดื้อส่งยิ้มเล็กๆ กับแผนการสุดแยบยล ส่วนภาสที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้แต่ขยับจมูกฟุดฟิดเบาๆ เมื่อรู้สึกได้ว่าวันนี้กลิ่นแป้งผสมพีชของแมวดื้อดูเหมือนจะฉุนกว่าปกติตามที่อาเธอร์ส่งข้อความมาบอก

... ใกล้ฮีทอีกรอบแล้วสินะ

แน่นอนว่าเจ้าตัวไม่แม้แต่จะรู้เรื่อง ในหัวเล็กตอนนี้มีแต่เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์สีเหลืองฟองนุ่ม เปรี้ยวปากจนอยากจะดื่มมันตอนนี้แต่ก็ต้องอดใจไว้

พอถึงห้องสิ่งแรกที่ตะนิดทำคือการกินอาหารเย็นที่อัลฟ่าหน้าดุเป็นคนสั่งมาไว้เหมือนปกติทุกวัน วันนี้เป็นข้าวผัดปู ยำหอยนางรมแล้วก็กุ้งอบวุ้นเส้น พอกินเสร็จตะนิดก็อาบน้ำแต่งตัวออกมามองเจ้าของห้องที่นั่งไถไอแพดทำงานอยู่ที่ห้องนั่งเล่น

“พี่ภาสๆ”
“หืม?”
“นอนไหมมม”
“...”

อะไร?
ภาสขมวดคิ้วงงกับประโยคเชิญชวนตรงหน้า ปกติถ้าแมวดื้อง่วงก็จะกระโดดขึ้นเตียงนอนน้ำลายยืดนำไปก่อนเองไม่เห็นจะมาชวนนอนแบบนี้

“พี่ภาสๆ แก่แล้วต้องนอนไวๆ นะ ดีต่อสุขภาพ” นอกเหนือจากคะแนนนักสืบจะน้อยแล้ว คะแนนการแสดงก็คงติดลบ พิรุธออกเยอะจนภาสต้องวางไอแพดลง
“คิดจะทำอะไรอีก”
“เห้ย เปล่าเลย ไม่ได้จะทำอะไรรร” ดวงตาดุใต้กรอบแว่นหรี่ลงเหมือนรู้ทัน แค่นั้นแมวดื้อก็ขนลุก ต่อมกลัวความผิดเต้นดังตุ้บๆ
“ตะนิด”
“...”
“วางแผนจะทำอะไรก็บอกมาเถอะ”
“เปล่านะ ใครแผน ขุนแผนหรือเปล่า แต่นิดไม่มีแผนนะ”
“ตะนิด” ถ้าเป็นปกติเขาคงปล่อยเลยตามเลยให้เจ้าแมวดื้อทำแผนให้สำเร็จ แต่ในเมื่ออยู่ในช่วงใกล้ฮีทเขาเลยไม่กล้าเสี่ยง ยิ่งเวลาดื้อชอบทำอะไรเหนือความคาดคิดด้วยเลยยิ่งน่าเป็นห่วง

“อยากกินเบียร์อ่า”
“...”
“พี่ภาสก็รู้ใช่ม้าา เวลาเหนื่อยๆ มันก็อยากกินอะไรแบบนี้” แมวดื้อยู่หน้ายู่ตายกนิ้วชี้ขึ้นจิ้มกัน
“ก็แค่นี้ ทำไมต้องวางแผนให้พี่หลับก่อน”
“ก็ ก็” แมวดื้อถึมพำในลำคอ ภาสส่ายหัวกับความดื้อนั่นก่อนจะลุกหยิบกระเป๋าตังค์เดินนำไปทางประตู ตะนิดพอเห็นว่าอีกฝ่ายอนุญาตแล้วก็กระโดดดึ๋งเดินตามไปด้วยความร่าเริง

และในที่สุดแมวดื้อก็ได้จิบเบียร์เย็นๆ สมใจในวันแสนเหนื่อย ดวงตากลมมองวิวยามค่ำคืนของกรุงเทพพร้อมกับอมยิ้มออกมาเบาๆ ส่วนภาสที่จิบวิสกี้อยู่เก้าอี้ข้างๆ ก็ลอบมองใบหน้าดื้อนั่นด้วยความรู้สึกหลากหลาย กลิ่นแป้งเด็กผสมกลิ่นพีชนั่นลอยมาแตะจมูกเพิ่มความรู้สึกกังวลให้เพิ่มมากขึ้น

“ตะนิด”
“ครับ”
“เราน่ะ ใกล้จะฮีทแล้วนะ” พูดเสร็จภาสก็ยกแก้ววิสกี้ขึ้นจิบ ส่วนตะนิดก็ชะงักแก้วเบียร์ในมือ ปากบางเม้มเข้าหากันก่อนจะขดขาขึ้นชั้นวางแก้มตัวเองไว้บนเข่า
“พี่ภาส...”
“หืม”
“นิดไม่ชอบเป็นโอเมก้าเลย”
“...”
“ทำไมต้องมีการแบ่งแบบนี้ด้วย ไม่แฟร์เลยเนาะ”
“นั่นสินะ”
“พี่ภาสเคยไม่ชอบเป็นอัลฟ่าไหม” พอได้รับคำถามภาสก็เงยหน้ามองวิวตรงหน้าก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“เคยสิ”
“ยังไงอ่ะ”
“อืม ก็คงเป็นเหมือนกันมั้งที่เวลารัทจะควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ นั่นมันน่าหงุดหงิดนะ” ภาสพูดพลางจิบวิสกี้เข้าปาก ตะนิดพยักหน้าหงึกๆ เข้าใจ “แล้วก็น่าหงุดหงิดเหมือนกันเวลาที่เราทำอะไรบางอย่างสำเร็จแต่ทุกคนก็ตัดสินว่าเพราะเราเป็นอัลฟ่าถึงได้ทำมันสำเร็จได้”
“...”
“ทั้งที่จริงๆ เราพยายามทำให้มันสำเร็จแทบตาย ทุ่มเทไปแทบทั้งหมดที่ตัวเองมี แต่บางคนก็ตัดสินมันง่ายๆ แบบนั้น” เสียงดุไม่ได้ใช้น้ำเสียงหงุดหงิดอะไรออกมา แต่ตะนิดก็สัมผัสได้ถึงความไม่พอใจมาจากประโยคนั้น
“ถ้าโลกเรายังกดขี่โอเมก้าเหมือนสมัยก่อนนิดว่านิดคงโคตรซวยเลย” ถึงปัจจุบันการกดขี่โอเมก้า จะกลายเป็นเรื่องล้าหลังไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มอัลฟ่าหรือเบต้าที่ยังคงเหยียดโอเมก้าเป็นชนชั้นที่ต่ำกว่าตัวเองอยู่บ้าง

หลังจากบทสนทนานั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ตะนิดปล่อยให้ลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่านจนผมปลิว ส่วนภาสเองก็หลับตาวางความเครียดเรื่องงานทั้งหมดลง

“พี่ภาส...”
“หืม”
“ถ้านิดไม่ใช่คู่แห่งโชคชะตาของพี่ภาส”
“...”
“ตอนนี้พี่ภาสจะยังอยากอยู่กับนิดไหม”

พอได้ยินคำถามจากปากเล็ก ภาสก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับเอียงคอกลับไปสบตากับดวงตากลม แม้ไฟระเบียงจะสว่างไม่เท่ากับไฟในห้องแต่เขาก็เห็นใบหน้าดื้อนั่นได้อย่างชัดเจน

“พี่ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าเราไม่ใช่คู่แห่งโชคชะตามันจะเป็นยังไง”
“...”
“แต่ถ้าพูดถึงตอนนี้ เวลานี้”
“อื้อ”
“พี่สบายใจ ...ที่ที่นั่งข้างๆ เป็นเรา”
“...”
“...แล้วพี่ก็ไม่ได้นึกถึงคู่แช่งโชคชะตาด้วยซ้ำจนกระทั่งเราพูดขึ้นมา”

รสชาติวิสกี้วันนี้ดูเหมือนจะหวานแล้วก็นุ่มกว่าปกติ ทั้งๆ ที่ก็เป็นวิสกี้แบรนด์เดิม เทเพียวๆ ลงบนน้ำแข็งเหมือนที่ดื่มมาตลอด ตะนิดงับปากลงกับแก้วเบียร์ก่อนจะพ่นลมในปากออกมาจนเบียร์ขึ้นเสียงบุ๋งๆ แก้มขาวแต้มสีแดงจางๆ พร้อมกับรู้สึกเห่อร้อนไปทั่วใบหน้า

“พะ พี่ภาส”
“หืม?”
“ฮีทที่จะถึงนิดว่านิดยังไม่พร้อม” แมวดื้อก้มหน้าชิดเข่าโผล่ไว้แต่หูแดงๆ
“...อืม”
“แต่ก่อนจะถึงฮีทต่อไป”
“...”
“เรามาจีบกันก่อนไหม”

ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นงงๆ การโดนจับคู่ด้วยโชคชะตา การมาอยู่ด้วยกันด้วยความไม่สมัครใจในทีแรก ตะนิดแค่รู้สึกว่าบางอย่างมันยังไม่เข้าที่ แม้ระยะเวลาที่เพิ่งอยู่ด้วยกันจะไม้ได้เยอะ แต่แค่นั้นเขาก็พอจะรู้คำตอบลึกๆ ในใจของตัวเอง

จะคู่แห่งโชคชะตาหรือไม่ก็ตาม
แต่เป็นคนนี้ มันก็ดีแล้ว

ภาสที่ได้ยินประโยคนั้นหัวเราะออกมาเบาๆ แมวดื้อมักจะพูดประโยคอะไรที่ไม่คาดคิดอยู่เสมอตั้งแต่โชว์ไฝที่ก้นจนกระทั่งประโยคเมื่อครู่

แต่ไม่ว่าจะประโยคไหน
ก็พานทำเอาใจเขาเต้นผิดจังหวะอยู่เสมอ

“เอาสิ”
“...แต่นิดไม่เคยจีบใครเลยนะ เคยแต่โดนจีบ” สิ้นประโยค ภาสที่เพิ่งหลุดหัวเราะก็เปลี่ยนอารมณ์เป็นขมวดคิ้วแน่นทันที ความรู้สึกหงุดหงิดตีขึ้นจนต้องเคี้ยวน้ำแข็งกร้วมๆ ระบายอารมณ์
“...”
“พี่ภาสๆ”
“หืม”
“โอ๊ยๆๆ เจ็บแขน รู้ไหมแขนนิดเป็นอะไรรรร” แมวดื้อยกแขนขึ้นชูกลางอากาศ ซึ่งภาสก็ขมวดคิ้วมองแขนเล็กอย่างไม่เข้าใจ
“ตะคริว?”
“...”
“...”
“ขะ แขนเป็นฟอออออออ”
“ฟอ?”
“แขนเป็นฟออออ”
“What for?”
“ฮือ พี่ภาสแก่จริงๆ” แมวดื้อหันกลับไปกระดกเบียร์ขึ้นดื่มอึ้กๆ หนีความน่าอายที่เกิดขึ้น ภาสที่โดนเล่นเรื่องอายุก็ได้แต่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ จู่ๆ ก็เล่นใหญ่เจ็บแขน เขาตกใจหมดคิดว่าเป็นตะคริว

ตะนิดยู่ยี่หน้าแต่สุดท้ายก็อมยิ้มออกมาเบาๆ เสียงหัวใจเต้นดังก้องจนต้องยกมือขึ้นตบๆ ที่อกให้มันเต้นช้าลงหน่อย ดวงตากลมตวัดมองอัลฟ่าหน้าดุที่นั่งหลับตาปล่อยให้ลมพัดผมกระจายอยู่ข้างๆ ก่อนจะหันกลับมามุดหน้าหนีลงเข่าตัวเอง

เขาเองก็สบายใจเหมือนกัน

ที่ที่ข้างๆ เขาตอนนี้
... เป็นคุณนุ่มเบอร์ศูนย์



 



ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
รอวันพี่ภาสตบะแตก..พี่ชายแซงหน้าไปแล้ว..วววววว     :hao6:

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ชาย x คณิต เหรอ 5555

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
คู่พี่มาแรงมากกก ตะนิดชิงจีบก่อนเลยหรอลูก

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
กลายเป็นว่าคู่พี่ก้าวหน้าไปไกลแล้ว ฮ่าๆ

น้องนิดจีบพี่ภาสเองเลย ร้ายๆๆ
รอลุ้นฮีทควาวหน้าของน้องนิดนะ หุหุ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
กรี๊ดดดด ชายคณิต เรือแฝดพี่แล่นแล้ววว

โอ้ยย แขนเป็นฟออออ พี่ภาสไม่ทันมุก ตะริดรู้ก หอมมมหัว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-06-2020 16:10:27 โดย Ac118 »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ต้องแซ่บแน่ๆ  :o8:  :L1:

ออฟไลน์ อิ๊อ๊ะชะเอิงเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ไม่เบาเรยนะคะพี่ชาย :hao3: :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คุณนุ่มเบอร์ศูนย์โอ้ยยัยหนูน่ารักมากๆน่ารักที่สุด :-[  :pig4: :L1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อุตส่าห์เล่นใหญ่ขอเป็นแฟน แต่ลุงไม่เข้าใจ ตะนิดเอ้ย

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
ก็จะดื้อ 15


 

 

 

ถึงแม้ว่าจะมีประโยคชวนจีบหลุดออกมา

แต่นี่ก็ครบหนึ่งอาทิตย์ที่ภาสโดนแมวดื้อหลบหน้าแล้ว

 

หรือวัยรุ่นสมัยนี้จีบกันแบบนี้ก็ไม่รู้

 

อัลฟ่าเลือดแท้ได้แต่นั่งจ้องแก้วกาแฟบนโต๊ะทำงานนิ่งๆ หลังจากที่เขาและเจ้าแมวปรับความเข้าใจกันตรงระเบียงก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์เต็ม

 

และมันเป็นหนึ่งอาทิตย์เขาหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก หลังจากที่เจ้าแมวดื้อหอบผ้าหอบผ่อนหอบฉลามหน้าโง่กลับไปนอนห้องตัวเองพร้อมกับพยายามหลบหน้าหลบตาทุกครั้งที่มีโอกาสโดยอ้างว่าตัวเองอยู่ในช่วงใกล้ฮีทเลยไม่อยากเจอหน้าเขา

 

ปกติกินอาหารเช้าพร้อมกันเจ้าแมวก็ชิงตื่นมากินก่อน พอเขาเปลี่ยนมาตื่นเช้าขึ้นกว่าเดิมเจ้าตัวก็แอบเอาซีเรียลไปซ่อนในห้องนอนไม่ยอมออกมากินพร้อมกัน ปกติเขามักจะพาไปส่งที่ที่ทำงานแต่อาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าแมวก็ ก็ชิงหนีไปกับแฝดพี่กลับมาที่ห้องอีกทีก็สภาพเหนื่อยกับงานไม่มีแรงจะคุย

 

ขนาดล่อด้วยกุ้งเผาก็ยังไม่ติดกับ

 

เขาไม่เข้าใจระบบความคิดของแมวดื้อนักหรอกแต่การที่ห้องนอนไม่มีกลิ่นแป้งผสมกลิ่นพีชนั่นติดกันหลายวันก็ทำเอาเขาหงุดหงิดงุ่นงานมาตลอด

 

... อยากได้กลิ่น

... อยากเห็นหน้าดื้อๆ

... อยากอยู่ใกล้ๆ

 

“คุณภาสครับ” เสียงเลขาหน้าห้องทำงานดังขึ้นดึงความสนใจ ภาสตวัดตาคมใต้กรอบแว่นขึ้นมองแทนคำถามว่ามีอะไร ซึ่งนั่นทำเอาเลขาหนุ่มขนลุกขนพองไปหมด ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเจ้านายเขาที่ปกติก็ดุอยู่แล้วดันดุขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าจนพนักงานทุกฝ่ายเกร็งกันไปหมด

“...”

“เอ่อ คุณชายติดต่อมาครับ”

“ว่าอะไร”

“คุณชายบอกให้ไปรับแมวครับ”

“...” ภาสขมวดคิ้วมุ่น

 

ตะนิด?

 

“คุณชายบอกว่าให้ฉีดยากันรัทมาก่อนด้วยครับ”

 

ได้ยินแค่นั้นภาสก็ผุดตัวขึ้นยืนพร้อมกับหยิบกุญแจรถออกตัววิ่งทันที ปกติจากออฟฟิศของเขาไปออฟฟิศของแมวดื้อใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที แต่วันนี้เขากับทำเวลามาถึงได้ภายในสิบนาที

 

พอจอดเทียบเขาก็เห็นเบต้าที่ชื่อชินยืนนิ่งให้แมวดื้อเกาะอยู่ส่วนข้างๆ มีอัลฟ่าเลือดแท้หน้ากวนตีนยืนโบกมือส่งยิ้มแฉ่ง เขาเอื้อมมือไปเปิดเก๊ะหน้ารถหยิบหลอดยาที่พกไว้ออกมาปักที่ต้นขาก่อนจะรีบเปิดประตูลงจากรถ

 

“ตะนิด...”

“พะ พี่ภาส” ตะนิดที่เงยหน้าขึ้นจากแขนชิน พอได้กลิ่นที่คุ้นเคยก็ถลาตัววิ่งเข้าไปซุกอกกว้างทันที กลิ่นแป้งผสมกลิ่นพีชอ่อนๆ ที่ลอยมาแตะจมูกทำให้ภาสต้องขมวดคิ้วหนักอีกรอบ

 

ถึงจะยังไม่ถึงขั้นฟุ้งระดับฮีท

แต่ก็ถือว่าเป็นการฟุ้งที่มากกว่าปกติ

 

“สวัสดีครับคุณภาส” อาเธอร์ส่งยิ้มไมตรีก่อนจะถูกตัดไมตรีอย่างแรงด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ของภาส

“พอดีเต้อบอกว่ากลิ่นน้องค่อนข้างฟุ้งกว่าปกติ ผมเลยคิดว่าน้องควรพักก่อนดีกว่า อ้อ สามารถใช้โควตาหยุดช่วงฮีทได้มากสุดหนึ่งอาทิตย์ตามกฏหมายนะครับ ถ้าเกินกว่านั้นยังไงรบกวนแจ้งทางบริษัทด้วย” ชินยื่นกระเป๋าตะนิดให้ซึ่งภาสก็กำลังจะยกมือรับมาถือ แต่จู่ๆ แมวดื้อที่ซุกอกเขาเริ่มทิ้งน้ำหนักมามากขึ้นจนเหมือนภาพในอดีตย้อนกลับเข้ามา

 

ซุกอกแบบนี้ ทิ้งตัวแบบนี้

หลับ?

 

“รบกวนเอากระเป๋าไปไว้ในรถให้ที...”

“เห้ยๆ น้องแมว” เต้อรีบยกมือขึ้นดันหัวที่หงายลงมาของตะนิดไว้ทันที ส่วนภาสก็รีบกระชับเอวบางไว้แน่นไม่ให้ร่างบางไหลลงไปกองกับพื้น ภาสตวัดตาเป็นเชิงบอกให้อาเธอร์ปล่อยมือออกก่อนจะตวัดร่างแมวดื้อขึ้นอุ้ม

“อาทิตย์นี้ตะนิดดูเพลียๆ นะครับคุณภาส”

“...”

“เห็นน้องแมวบ่นว่านอนไม่หลับมาตลอดทั้งวีค ไอ้จะมานอนที่ที่ทำงานก็ทำไม่ได้เลยซัดกาแฟสลับกระทิงแดง แต่ไม่ต้องห่วงครับพ้ม เพราะ ผมได้ทำการเทชาน้ำผึ้งผสมมะนาวแทนแทนกระทิงแดงแล้ว” เต้อตบอกตัวเองป้าปๆ ด้วยความภูมิใจ ถึงเขาจะไม่สามารถตามใจขนาดให้น้องแมวหลับในที่ทำงานแต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยให้น้องแมวทำร้ายร่างกายตัวเองทางอ้อมด้วยการกินคาเฟอีนเยอะเกินแน่นอน

 

แหง...

ดูจากทริปทะเลแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับน้องแมว คนหัวหลุดคนแรกมันก็เขาชัดๆ นี่หว่า

 

“...” ภาสขมวดคิ้วพร้อมกับยัดร่างแมวดื้อเข้าไปในรถ ตอนนั้นเองที่ตะนิดรีบตวัดเล็บจิกไหล่หนาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยจนชินต้องมาช่วยแกะนิ้วน้องออกไป พอผละตัวออกมาได้ ภาสก็เดินกลับไปหลังรถหยิบเสื้อกันหนาวของตัวเองมาโยนคลุมร่างเล็กไว้ ซึ่งแมวดื้อก็ทำจมูกฟุดฟิดก่อนจะซุกหน้าเข้าหาเสื้อเหมือนหาของรักของตัวเองเจอ

“อ้อ”

“...”

“คุณชายฝากบอกว่า...” ชินหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะออกเสียงอ่านข้อความ “ถ้าเป็นไปได้เลิกให้คณิตต้องไปรับส่งน้องสักที ขอเวลาเป็นส่วนตัวให้ชาวบ้านบ้าง... ครับ” ชินเอ่ยหน้าตาย เขาไม่อยากจะบอกหรอกว่าจริงๆ เจ้าของข้อความแอบยัดคำหยาบมาสองสามคำ แต่ด้วยความเหมาะสมเขาจะไม่อ่านออกเสียงมันออกมาให้แล้วกัน

 

ภาสพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินอ้อมรถมาตรงคนขับพร้อมกับขับออกจากบริเวรออฟฟิศของตะนิด แมวดื้อในตอนนี้ขดตัวดมเสื้อเขาหลับปุ๋ยกรนคร่อก

 

นอนไม่หลับงั้นเหรอ...

ไม่ต่างกันเลยสินะ

 

พอได้กลิ่นหอมแป้งผสมกลิ่นพีชลอยฟุ้งอยู่ในรถ ความหงุดหงิดที่สะสมมาตลอดหลายวันก็จางหายไปทันที

 

พอขับรถมาถึงคอนโดเขาก็จัดการห่อเจ้าแมวดื้อขึ้นห้อง แน่นอนว่าเขาจัดการอุ้มแมวดื้อกลับมานอนไว้ห้องตัวเอง พอหย่อนลงบนเตียงใบหน้าดื้อก็จัดการเบียดตัวเองลงกับฟูกจนแก้มยกเป็นก้อนๆ จมูกเล็กทิ่มบี้ไปกับเตียง

 

ภาสเองที่ก็ประสบปัญหานอนไม่เต็มอิ่มมาหลายวันเห็นภาพตรงหน้าแล้วก็รู้สึกง่วงขึ้นมาตาม เขาคลายกระดุมออกสองเม็ด ถอดแว่นวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียงก่อนจะค่อยๆ สอดตัวเองเข้าไปใต้ผ้านวมผืนเดียวกับแมวขี้เซา

 

พอได้ทิ้งตัวนอนลงข้างๆ ดวงตาดุที่ไร้กรอบแว่นก็ปราดมองแผ่นหลังบางตรงหน้าก่อนจะค่อยๆ กระเถิบไปใกล้จนจมูกของตัวเองปะทะเข้ากับเสื้อเชิ้ตขาวบางของร่างบาง กลิ่นแป้งหอมลอยแตะจมูกจนภาสอดสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แทบจะเกือบสุดปอดเสียไม่ได้

 

เตียงที่ไม่มีกลิ่นแป้งมันเหงาเกินไป

 

คิดถึง...

แค่อาทิตย์เดียวก็คิดถึงแล้ว...

 

พอได้ดมเสื้อเชิ้ตบางภาสก็ไล้จมูกขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงลำคอขาวที่มีปลอกคอพาดทับอยู่ เขาอ้าปากฝังคมเขี้ยวลงไปบนปลอกคอเบาๆ ก่อนจะเพิ่มแรงกัดมากขึ้นเมื่อความทนทานของปลอกคอนั้นดีเกินจนหงุดหงิด แต่พอร่างเล็กเริ่มส่งเสียงขัดใจเขาก็ผละออกเปลี่ยนไร้จมูกไปตามผิวขาวนุ่ม 

 

ป้าป!!!!

 

เสียงฟาดเน้นๆ ดังขึ้นพร้อมกับแรงตบจากมือเล็ก ภาสได้แต่กะพริบตาถี่กับแรงตบที่มาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว นี่ถ้าเขาใส่แว่นอยู่แว่นได้มีขาหลุดไปแล้ว

 

“อื้อ รำคาญ...” แมวดื้อบ่นพึมพำพร้อมกับตวัดมือตีแปะๆ ไปทั่วอะไรก็ตามที่มาวุ่นวายแถวคอ ขาเล็ดตวัดถีบไปมาอย่างขัดใจ ภาสเห็นอย่างนั้นเลยผละตัวมาลูบหน้าลูบตาตัวเองเรียกสติ กลิ่นของอีกฝ่ายนั้นดึงดูดจนเขาเกือบจะสติหลุดไปไกล

 

ถึงจะไม่ได้ซุกตัวเข้าไปแต่ภาสก็ยังคงตวัดมือโอบเอวบางไว้เบาๆ

หวังว่าตื่นมาจะไม่โวยวายหรอกนะ...

 

.

.

.

 

 

ตะนิดที่หลับเต็มอิ่มปรือตาขึ้นเล็กน้อย ดวงตากลมจ้องประตูคุ้นตาตรงหน้า ใช้เวลาโหลดเกือบสิบวิถึงจะเข้าใจว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แม้จะห่างจากห้องนี้ไปหนึ่งอาทิตย์แต่เขาก็อยู่ในนี้นานจนจำได้ดี

ตะนิดเตรียมจะลุกหนีกลับห้องตัวเองแต่สัมผัสอุ่นน้องที่บริเวณท้องก็รั้งไว้จนต้องก้มลงมอง ปลายเสื้อเชิ้ตทำงานของเขาหลุดลุ่ยออกมาจากกางเกงและมันก็พองขึ้นตามรูปมือที่ใหญ่ที่สอดเข้าไปจับหน้าท้องเขาไว้

ดวงตากลมเบิกตากว้างที่มือใหญ่นั่นถือวิสาสะล้วงเข้าไปใต้ร่มผ้า แต่พอจ้องนานๆ เข้าก็ดันรู้สึกดีขึ้นมาแทน

 

ชอบที่ได้อยู่ในอ้อมกอด

ชอบที่แขนแกร่งสัมผัส

 

กลิ่นลาเวนเดอร์โชยเข้าจมูกมาจนตะนิดรู้สึกปลอดภัย แมวดื้อถลกเสื้อตัวเองขึ้นก่อนจะทาบมือตัวเองลงบนมือใหญ่หยาบกร้าน ปกติแล้วเขาเป็นคนหวงท้อง ไม่ชอบให้ใครมาแตะหรือยุ่มย่าม แต่ตอนนี้กลับรู้สึกอุ่นวาบแปลกๆ

 

ภาสที่สะดุ้งตื่นขึ้นเพราะรู้สึกได้ถึงการขยับตัวของคนในอ้อมแขนลืมตามองลำคอขาวนิ่งๆ ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก แต่เหมือนแมวดื้อกำลังขยับมือลูบมือเขาที่หน้าท้องตัวเองเล่นไม่โวยวายลั่นบ้านตามที่คาดไว้ ถึงจะตกใจแต่ก็เพลินดี ภาสปล่อยให้แมวดื้อลูบมือตัวเองเล่นอยู่พักใหญ่แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจทักออกไป

 

“ตื่นแล้วเหรอ โอ๊ะ...” มือเล็กที่ทาบอยู่เปลี่ยนเป็นตวัดตีป้าปทันทีแก้เขิน ตะนิดผุดลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าดื้อเบ้มองอัลฟ่าเลือดแท้ด้วยความไม่พอใจ

“ลวนลามเหรอ”

“ตอนแรกก็ใช่ แต่ตอนหลังพี่เหมือนโดนลวนลามกลับ”

“นิดแค่ลูบมือ แต่พี่ภาสลูบท้อง”

“...”

“...”

“...”

“ทะ ทำไมไม่เถียงล่ะ” แมวดื้อแก้มแต้มสีแดงโวยวายลั่นกว่าเดิมแก้เขิน

“ไม่รู้จะเถียงอะไร พี่ลูบท้องเราจริงๆ เหมือนสมองสั่งให้ลูบน่ะ”

 

ภาสลุกขึ้นนั่งพร้อมกับหยิบแว่นมาสวม เขามองใบหน้าดื้อที่เลิ่กลั่กไปมาตามฉบับคนเขินแล้วทำตัวไม่ถูก ปากเล็กขยับอ้าเหมือนจะโวยวายแต่สุดท้ายก็ถอยทัพฮึดฮัดเตรียมหนีกลับห้องภาสจึงรีบเอ่ยขัด

 

“ตะนิด”

“...”

“มีอะไรอยากจะคุยกันไหม” ตะนิดชะงักตัวกึ้ก ตากลมจ้องตาดุของอีกฝ่ายด้วยความตกใจเหมือนคนถูกจับได้ว่าทำอะไรผิดก่อนจะรีบหลุบตามองเท้าตัวเอง

“อะ เอ่อ ไม่ ไม่มีนี่”

“หลบหน้าพี่ทำไม”

“นิดไม่ได้หลบรึเปล่า พี่ภาสคิดมากไปเอง”

“ตะนิดเงยหน้า”

 

ไม่อยากนี่!!!

ตะนิดได้แต่ตะโกนก้องในใจ

 

“พี่ พี่ภาส”

“นี่คือจีบของเราเหรอ หลบหน้าเนี่ย”

“....”

“ถ้างั้นก็ไม่ต้องจีบ”

“...!!!”

“ยกเลิกมันไปเลยแล้วกัน”

 

ภาสยกมือเกาหัวเบาๆ เขาไม่ได้อยากเร่งรัดอะไร ตะนิดเป็นคนทำอะไรเดาใจยาก เพียงแต่เขาอยากให้หยุดการหลบหน้านี้ลงสักที นอกเหนือจากมันทำให้เขาหงุดหงิดแล้วมันก็ยังส่งผลกระทบกับการทำงานด้วย

 

แต่อีกฝ่ายกลับเข้าใจไปอีกแบบ...

 

ตะนิดเงยหน้าขึ้นทันทีที่อัลฟ่าหนุ่มพูดประโยคนั้นจบ ดวงตากลมจ้องมองด้วยความตกใจ ใบหน้าของแมวดื้อดูตกใจมากเสียจนภาสชะงักตัว

 

“พี่ภาสหมายความว่าไง”

“เอ่อ...”​ เป็นภาสเองที่ไม่รู้จะตอบอะไร เขาไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรผิดออกไปหรือเปล่า แมวดื้อตรงหน้าถึงได้ทำสีหน้าตกใจแบบนั้นออกมา

“ยกเลิกคืออะไร”

“ตะนิด”

“พี่ภาสไม่อยากอยู่กับนิดแล้วเหรอ พี่ภาสรู้ตัวแล้วเหรอว่าไม่อยากอยู่ แค่หนึ่งอาทิตย์เองนะ ก็นิดทำตัวไม่ถูก นิดไม่เคยจีบใคร นิดแค่สับสนนี่ นิดไม่ได้หลบหน้าเขาเรียกว่าหนีไปสร้างทัพ แต่แค่นี้พี่ภาสก็พอแล้วเหรอ” แมวดื้อโวยวายลั่นห้อง ดวงตากลมเริ่มคลอด้วยน้ำตา ขณะที่ภาสกะพริบตางง

 

อะไรคือหนีไปสร้างทัพ? ทัพลูกแมวแบบนั้นเหรอ?

แล้วทำไมจู่ๆ ทำไมแมวดื้อถึงโกรธขนาดนี้กัน ไม่รู้ว่าเพราะเขาสื่อสารผิดหรือเพราะอาการฮอร์โมนสวิงในช่วงใกล้ฮีทของอีกฝ่าย

 

“ไปกันใหญ่แล้ว”

“พี่ภาสอะไรอ่ะ ไม่ได้เลยนะ”

“...”

“ไม่ได้เลยนะ ไม่ชอบเลยนะ แบบนี้อ่ะ” แมวดื้อกัดปากตัวเองแน่นเพื่อกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้

“ตะนิดใจเย็นๆ ก่อน พี่ไม่รู้ว่าเราเข้าใจไปในความหมายไหน แต่ยกเลิกที่ว่าพี่หมายถึงว่าจีบของเราหมายถึงการหลบหน้าก็ให้ยกเลิ- ไม่ หมายถึงให้พักไว้ก่อน” ภาสรีบเปลี่ยนคำเมื่อเหมือนว่าคำว่ายกเลิกจะทำให้แมวดื้อเบะปากหนักกว่าเดิม

“...” 

“หลบหน้า หนีไปนอนอีกห้อง ไม่กินข้าวพร้อมกัน ทั้งหมดนั่นน่ะ พักไว้ก่อนได้ไหม”

“อื้อ... พักไว้ก่อน”แมวดื้อนิ่งไปสักพักก่อนจะพยักหน้าเบาๆ เขาเองก็อยากกลับมานอนห้องนี้แล้ว พอกลับไปนอนห้องตัวเองแล้วมันเหงาจนนอนไม่ได้ ข้าวก็ไม่อร่อยเหมือนเดิม

ภาสไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เขาลุกขึ้นเดินไปจับหัวฟูนั่นโยกไปมา ดวงตาดุใต้กรอบแว่นจ้องมองไปที่ใบหน้าดื้อที่เงยขึ้นมองหน้าเขากลับ

 

อยากจะบอกว่าคิดถึงออกไป

แต่ก็ไม่รู้ว่าถึงเวลาที่พูดได้หรือยัง

 

กึ้ก

 

“อื้อ” ตะนิดสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟวิ่งจี๊ดแถวหลังคอ แขนเล็กยกขึ้นจับปลอกคอตัวเองทันทีตามสัญชาตญาณ

ภาสมองร่างตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทันใดนั่นกลิ่นแป้งผสมพีชอ่อนๆ ก็เริ่มฟุ้งแรงจนเขาผงะตัว

 

 

ตะนิดฮีท!!!

 

“ฮึ่ก... พี่ พี่ภาส”

“เวรเอ๊ย” ดีแค่ไหนที่เขาฉีดยามาก่อนแล้วหนึ่งเข็มตามคำแนะนำของชาย แมวดื้อตัวสั่นระริกขาเล็กถอยหนีเตรียมจะวิ่งกลับเข้าห้องตัวเองแต่ก็ถูกมือใหญ่คว้าไว้ก่อน

 

“พี่ภาสนิดฮีท นิดฮีท ปล่อย”

“ตะนิด เราบอกพี่ว่าฮีทนี้ยังไม่พร้อม”

“ฮึก”

“แต่ถ้าเราจะเป็นคู่กันในอนาคต”

“อึก”

“เวลาฮีท เราก็ต้องฮีทกับแค่พี่”

 

ไม่ใช่ตุ๊กตาฉลามนั่น

เขาจะไม่ยอมแพ้ให้ตุ๊กตาปลาฉลามอีกต่อไป

 

ตะนิดขยับตัวไปมาเหมือนไม่เข้าใจที่เขาสื่อ เขาเลยจัดการอุ้มแมวดื้อขึ้นโยนลงบนเตียง พอใบหน้าดื้อได้กลิ่นลาเวนเดอร์ก็เสียดสีตัวเองกับเตียงทันที

ภาสอาศัยช่วงที่แมวดื้อเผลอเดินออกไปหยิบตุ๊กตาฉลามที่ห้องฝั่งตรงข้ามก่อนจะหิ้วมันกลับมาที่ห้องตัวเอง เขาเดินไปที่วอล์คอินคลอเซทเพื่อหยิบสูทตัวเก่งตัวเองออกมาห่อตัวปลาฉลามไว้พร้อมกับเดินออกมายื่นปลาฉลามห่อสูทให้แมวดื้อ ซึ่งตะนิดก็รับไปกอดทันที

 

ใช่ เขาไม่ยอมแพ้

แต่ก็ยังชนะเต็มรูปแบบไม่ได้ เดี๋ยวจะเลยเถิดไปกันใหญ่

 

เท่าที่เขารู้มาจากลี่ โอเมก้าช่วงฮีทจะต้องการถูกเติมเต็มเป็นเวลาประมาณสองถึงสามวันและมากสุดคือหนึ่งอาทิตย์ โดยระยะสั้นยาวขึ้นอยู่กับว่าทานยาหากไม่ได้รับการเติมเต็มอย่างถูกวิธีก็จะต้องใช้ฮีทยาระงับฮีทเหมือนที่เขาใช้ในครั้งแรกที่ตะนิดฮีทในห้อง

... แต่ทว่า

การใช้ยาระงับบ่อยๆ นั้นจะส่งผลเสียระยะยาวอย่างมากกับสุขภาพของโอเมก้าเนื่องจากเป็นการใช้ยาเข้าไประงับฮอร์โมนแบบฉับพลัน

 

ฮีทรอบนี้ดูท่าจะลำบากและยาวนานกว่ารอบที่แล้ว

เพราะเขาตั้งใจจะไม่ใช่ยากับตะนิด

 

ภาสลอบถอนหายใจยาวก่อนจะตวัดตามองร่างของแมวดื้อบนเตียง ดวงตากลมปรือขึ้นพร้อมกับยื่นมือมาดึงชายเสื้อเขาไว้

 

“พี่ภาส...”

“...”

“กอดนิดน้า”

 

ภาสกุมมือเล็กไว้ก่อนจะอุ้มร่างผอมขึ้นนั่งบนตักตัวเอง แมวดื้อพอได้ท่าที่ถนัดก็เริ่มขยับสะโพกขย่มตามสัญชาตญาณ

 

“ตะนิด รู้ไหมว่ามันมีวิธีอื่นนอกจากขย่ม”

“หื้อ พี่ภาส”​ แมวดื้อส่งเสียงขัดใจเมื่อโดนจับให้นั่งพิงอกแกร่ง ตากลมมองแขนใหญ่ที่สอดเข้าไปใต้กางเกงสแลคของตัวเอง

“ถอดกางเกงเราก่อน”

“อื้อ” ขาเล็กยกขึ้นชูกางอากาศเปิดทางให้อัลฟ่าหนุ่มรูดกางเกงออกให้ ภาสมองภาพตรงหน้าด้วยความเหนื่อยใจ

 

เรื่องยั่วไม่รู้ตัวนี่เขาให้ตะนิดเป็นอันดับหนึ่งเลย

 

พอเหลือแต่เสื้อเชิ้ตสีขาวบางกับกางเกงใน แมวดื้อก็เริ่มขยับตัวเสียดสีตัวเองหน้าตักเขา ซึ่งภาสก็รีบหยุดไว้

 

“พิงอกพี่ไว้นะ”

“อื้อ”

“ชันขาขึ้นหน่อย”

“อื้อ”

 

... ว่าง่ายไปหมด

ภาสสอดมือเข้าไปใต้กางเกงชั้นในตัวบาง เท่านั้นแมวดื้อก็ครางฮือ เบียดหลังลงกับอกเขาเต็มแรง ความเปียกชื้นของกลไกร่างกายโอเมก้าสร้างความแปลกใจให้กับอัลฟ่าหนุ่มเล็กน้อยก่อนที่ภาสจะพยายามดึงสติตัวเองให้กลับมาไม่ให้ไปสนใจส่วนอื่นที่ยังไม่ถึงเวลา 

 

“เราเคยแตะตรงนี้ไหม”

“ฮึก คะ เคยลอง อ๊ะ”

“แล้วทำไมยังปล่อยกับปลาฉลามอยู่” ภาสขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

“แตะ แตะแล้ว มันน่าอาย ไม่ดี คุณนุ่มดีกว่า” เสียงเล็กตอบในลำคอ หน้าดื้อเบนหัวไปจูบสันคางคมที่พาดไว้แถวไหล่เพื่อออดอ้อน พอภาสเริ่มขยับมือแมวดื้อก็จิกปลายเท้าเชิดหน้าครางลั่น ภาพตรงหน้าส่งผลให้ภาสกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ซึ่งเขาก็จำเป็นต้องเปลี่ยนจุดรวมสายตาไปที่ผนังห้องแทน 

 

“พี่ภาส ฮึก มองนิด”

 

... แต่คนบนตัวก็ไม่เคยให้ความร่วมมือเหมือนเดิม

แมวดื้อจับหน้าเขาให้หันกลับมาพร้อมกับแล่บลิ้นเลียกรอบหน้า

 

“ดื้อ...”

“ฮึก มะ ไม่ดื้อ อ๊ะ” ตะนิดย่นคอเมื่อมือหยาบอีกข้างที่วางไว้บนหน้าท้องขยับขึ้นมาแถวหน้าอก ความรู้สึกแปลกใหม่ถาโถมจนเสียงเล็กครางไม่เป็นภาษา

“เราน่ะดื้อ”

“พี่ภาส พี่ภาส”

“แมวดื้อของพี่”

 

ภาสกดจมูกหอมขมับชื้นเหงื่อไปเต็มแรงด้วยความรู้สึกอุ่นวาบในอก เขาจะอดทนจนกว่าจะถึงฮีทต่อไปตามที่แมวดื้อขอไว้และเมื่อถึงตอนนั้น

 

 

เขาจะไม่ปล่อยให้แมวดื้อไปดื้อกับใครอีก

แม้แต่ตุ๊กตาฉลามก็ตาม

 

“ฮึก พี่ภาส เอาอีก”

“...”

“พี่ภาสจูบหน่อย”

“...”

“พี่ภาส นิดอยากขย่มแล้ว ไม่ถูแล้ว”

 

 

ส่วนตอนนี้...

 

จะว่าไปแล้วกำแพงที่ห้องก็สวยดีเหมือนกันนะเนี่ย

 

---

 

TALK

ผีในห้องงงมาก



ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
นับถือใจพี่ภาส..เข้มแข็งเหมือนกำแพง...งงงงงงงง    :laugh:

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
พี่ภาสอีกหน่อยจะตบะแตกแล้วมั้ย

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
พึ่งเห็นว่าลงในนี้ด้วย  ต่อไปตะมาอ่านในนี้นะคะ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
แงงง ตลกตอนท้าย

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
พี่ภาสหรือพระอิฐพระปูน 555 ใจแข็งดังหินผาของจริง

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
โธ่ ได้แต่มองกำแพง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด