ก็จะดื้อ 12
... หนึ่งอาทิตย์ก่อนเริ่มงาน
สำหรับตะนิดนิสิตเพิ่งเรียนจบก็รู้สึกโหวงในใจเล็กน้อยที่กำลังจะเริ่มต้นชีวิตวัยทำงานอย่างรวดเร็ว เหมือนวันที่แหกขี้ตาตื่นวิ่งไปเรียนกับคณิตเพิ่งผ่านไปเมื่อวานเอง อดใจหายไม่ได้เลย แมวดื้อนอนเหยียดเท้าขึ้นฟ้าด้วยความรู้สึกเหงาๆ
จะอดไปเมาบ่อยๆ แล้วหรอเนี่ย
ควรไปเมาทิ้งท้ายหน่อยดีไหมนะ
แมวน้อยขี้เมาได้แต่คิดถึงรสชาติของโซจูรสสตอเบอร์รี่แล้วก็ได้แต่เปรี้ยวปาก ปกติเขานี่ขาประจำผับเฉพาะโอเมก้าร้านดังสาขาทองหล่อ ส่วนร้านปกติจะไปถ้าคณิตไปด้วยเท่านั้น เขาไม่อยากพัวพันกับความยุ่งยากถ้าเกิดมีอัลฟ่ามาอยู่ใกล้ๆ
“ตะนิด” เสียงเข้มดังขึ้นเรียกชื่อซึ่งตะนิดก็ผุดลุกขึ้นนั่งทันที เจ้าของห้องนอนหน้าดุเดินเข้ามาพร้อมกับกระดกน้ำขึ้นดื่ม
“ครับ”
“วันพุธนี้ฉันมีไปทำงานที่ภูเก็ต”
“...”
เยี่ยม! เข้าทาง!
ทองหล่อเลยดีกว่าแบบนี้!!! ไม่อ้วกไม่กลับ!!!
“ไปด้วยกันไหม”
แผนที่จะไปเมาทองหล่อเบรกเอี๊ยดในความคิดทันทีที่คนแก่กว่าถามออกมา ตะนิดกะพริบตาปริบๆ ใจหนึ่งก็อยากจะไปร้านเหล้าใจจะขาด แต่การไปเที่ยวทะเลพักผ่อนหย่อนใจก่อนมาลุยทำงานก็ถือเป็นความคิดที่ไม่เลว
“เอาคณิตไปด้วยได้ไหมอ่ะ”
“ได้” ภาสตอบอนุมัติไปแม้ในใจจะรู้สึกเหม็นอัลฟ่าขึ้นมาติดจมูก
“ไปก็ได้”
“ลี่ก็จะไปด้วย ไม่ต้องกลัวเหงาหรอก”
“พะ พี่ลี่เหรอ...” แค่ได้ยินชื่อตะนิดก็รู้สึกแก้มแดงขึ้นมาทันที ภาพที่ตัวไปเองบดๆ อยู่บนตัวพี่เขาคนนั้นฉายแว่บขึ้นมาในความ
หนะ หนะ ไหนจะ
จูบ!!!
จูบนั่น จูบ!!!
“ตะนิด”
“คะ ครับ” ตะนิดเงยหน้าขึ้นเมื่อถูกเรียก ซึ่งภาพตรงหน้าก็ปรากฏเป็นหน้าอัลฟ่าดุที่ดูจะหงุดหงิด แขนแกร่งยกขึ้นบีบแก้มเขาจนปากยู่ แมวดื้อได้แต่กะพริบตางง ไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้าจะสื่ออะไร แต่มาคีบแก้มกันแบบนี้มันเจ็บอยู่นะ!
“คิดอะไร”
“ฮะ! มะ ไม่ได้คิด!!!”
“ลี่มีคู่พันธะแล้วเผื่อไม่รู้”
“มีแล้วไง!!!” มันเกี่ยวอะไรกับเขากันล่ะ!!!
“คราวที่แล้วดีแค่ไหนวินเซนต์มันไม่ตีเธอเอา” พูดไปงั้น เขาไม่ปล่อยให้วินเซนต์ตีหรอก แต่คงต้องขู่ไว้หน่อย ดูหน้าเจ้าแมวดื้อเขินแก้มแดงแบบนี้แล้วรู้สึกหงุดหงิดใจเป็นบ้า ภาสได้แต่หัวฟัดหัวเหวี่ยงในความคิด
“คราวที่แล้วไม่นับสิ!! นิดไม่รู้ตัวหรอก!!!”
“มันจะไม่มีคราวหน้า”
“พี่ภาสรู้ได้ไง”
“เพราะฉันจะไม่ให้มันมี”
ภาสตวัดตาใต้กรอบแว่นดุแค่นั้นแมวดื้อก็รู้สึกขนหางพองไปหมด ตะนิดไม่ได้เถียงอะไรต่อแต่เลือกยกธงขาวตวัดผ้าห่มขึ้นพันตัวเป็นซูชิคนเท่ที่แอบกลัวโดนดุ ภาสถอนหายใจเบาๆ กับภาพตรงหน้า ดื้อเป็นที่หนึ่งจริงๆ เขาเดินอ้อมไปที่อีกด้านของเตียง ถอดแว่นลงก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง
ตั้งแต่แมวดื้อขนทัพคุณนุ่มทั้งหลายมาขอนอนด้วย เจ้าตัวก็ไม่เคยกลับไปนอนห้องตัวเองอีกเลย เขาเองก็ไม่ได้ออกปากถามอะไรออกไป จนในที่สุดการเข้านอนพร้อมกับแล้วก็การตื่นมาเจอแมวดื้อนอนน้ำลายเปียกหมอนย้อนไปยันขมับ แขนขาไปคนละทางก็กลายเป็นภาพชินตา
ถึงจะรู้สึกถูกบุกรุกโลกไปหน่อย
... แต่กลิ่นแป้งผสมกลิ่นพีชอ่อนๆ นี่ก็หอมดี
จะยอมให้บุกรุกก็ได้แหละนะ
.
.
.
และแล้ว ในที่สุดวันไปทะเลก็มาถึง
วันนี้คอนโดหรูใจกลางเมืองดูจะเต็มไปด้วยความวุ่นวายตามปกติตั้งแต่โดนบุกรุกด้วยแมวดื้อ เช้าวันนี้เริ่มจากการมาถึงของแฝดพี่ ซึ่บหอบหิ้วเสื้อผ้ากับข้าวของที่แฝดน้องลิสต์ไปว่าให้ขนมาให้ตั้งแต่วันก่อน ส่วนตัวแฝดน้อยเองก็ตื่นมางอแงแต่เช้าเพราะแป้งแพนเค้กหมด ดีที่พอได้กินซีเรียลเข้าไปถึงค่อยดูอารมณ์ดีขึ้น
วันนี้เขาจะเดินทางด้วยเครื่องบิน และเมื่อเจ้าแมวรู้ว่าจะได้ขึ้นเครื่องบินก็ดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะไม่เคยขึ้นเครื่องบินมาก่อน แต่พอเสิร์ชกระทู้ไปมาก็ดันไปเจอข่าวเครื่องบินตก จากที่ตื่นเต้นหางปัดไปมาก็กลายเป็นกลัวเครื่องบินตกไปนั่งขดอยู่บนโซฟา
“ตะนิด เตรียมตัวออกไปแล้ว”
“...” แมวดื้อเบะปากเล็กน้อยก่อนจะเดินไหล่ตกไปหยิบกระเป๋าพร้อมกับหยิบคุณนุ่มเบอร์ห้ามากอดไว้ที่อก
“เป็นไรวะ บอกแล้วไงว่าไม่ต้องกลัว”
“ไม่กลัวได้ไงคณิต ถ้าเครื่องบินตกกูตายนะ”
“กูก็ตายไหม”
“คณิต!!!” ตะนิดตวาดลั่นพร้อมกับยกคุณนุ่มเบอร์ห้าขึ้นฟาดแฝดพี่ “ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้!!!!”
“โอ๊ยๆ มึงเอาฉลามโง่ตีกูเหรอไอ้อ้วน!!!”
“อย่าเรียกคุณนุ่มเบอร์ห้าว่าฉลามโง่นะ!!!”
“เออ กูถอนคำพูด ไอ้ฉลามเฉยๆ แต่เจ้าของโง่”
“คณิต!!!”
“มึงจะกลัวอะไรเนี่ย มึงตายกูก็ตายไม่เข้าใจรึไง มันแปลว่าต่อให้ตายกูก็จะไม่ทิ้งมึง วันไหนมึงจะตายไม่ต้องกลัวเหงา นั่งรอกูแป๊ปเดี๋ยวเจอกูแน่ เข้าใจที่พูดไหม ถ้าไม่ก็เรื่องของมึง” แฝดพี่ขมวดคิ้วหน้ายุ่งก่อนจะแย่งสัมภาระแฝดน้องมาสะพายเอง ตะนิดที่พอจะเข้าใจที่แฝดพี่สื่ออมยิ้มออกมาน้อยๆ พร้อมกับวิ่งไปกอดแขนคณิต
“คณิตน่ารักว่ะ รักกูมากเลยดิ”
“มีน้องอยู่คนเดียว สู้กันมาตั้งแต่เป็นอสุจิ ไม่รักมึงจะให้กูไปรักหมามั้ง”
“คณิตแก้มแดงอ่อ”
“ยุ่งว่ะ”
“คณิตแก้มแดง!!! คณิตเขิน!!!”
“ยุ่งว่ะอ้วน ไปไกลๆ ตีนดิ๊”
... พี่น้องแสนจะรักกัน
ส่วนหมาหัวเน่าน่ะ เขาเองแหละ
ภาสได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกอยากจะถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย แทนที่จะได้ไปใช้เวลาด้วยกันที่ทะเล กลับกลายเป็นทริปพาแฝดหมาแมวไปเที่ยว
จากกรุงเทพไปภูเก็ตใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่า แต่ด้วยความผวาของแมวดื้อเลยดูนานกว่านั้น แน่นอนว่าจะติดพนมมือสวดมนต์ตั้งแต่เครื่องขึ้นยันเครื่องลงโดยที่มีแฝดพี่นั่งใส่หูฟังไม่ได้สนใจอะไรนั่งประกบอยู่
เมื่อเดินทางถึงที่พัก ภาสรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องมีปัญหาถึงได้ชิงจองที่พักแบบเตียงคู่ให้สองแฝด ส่วนตัวเองแยกมานอนอีกห้องป้องกันการเกิดศึกชิงแมว
... แต่ปรากฏว่าคนที่มีปัญหากลับกลายเป็นแมวดื้อ
“แยก...ห้องเหรอ” ใบหน้าดื้อหันมามองเขาด้วยสายตากึ่งอ้อนกึ่งตัดพ้อ
“แยกก็แยก มึงก็มานอนกับกูนี่” คณิตยกแขนขึ้นโอบคอแฝดน้องแต่ตะนิดกลับฝืนตัวไว้ แตกต่างจากปกติทำเอาคณิตขมวดคิ้วงง
“แต่...”
“อะไรวะตะนิด”
“พี่ภาส...” แมวดื้ออ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่มือเล็กข้างที่ไม่ได้อุ้มตุ๊กตาฉลามกลับยกขึ้นดึงชายเสื้ออัลฟ่าหน้าดุไว้แน่นแค่นั้นก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนให้กับคณิต
แฝดพี่พ่นลมหายใจแห่งความน้อยใจออกมาจนหมดปอด จริงๆ ตะนิดน่ะแอบมองลุงโรคจิตนั่นตั้งแต่ออกจากบ้านแล้ว แม้กระทั่งตอนที่กลัวเครื่องเทคออฟสายตาของน้องเขาก็จับจ้องอยู่แต่กับลุงอัลฟ่าไม่วางตาทั้งที่ปกติตะนิดน่ะติดเขาเสียยิ่งกว่าอะไร เวลากลัวอะไรก็จะวิ่งหาเขาก่อนเสมอ
เผลอแป๊ปเดียว
... เขาก็โดนดีดออกจากเซฟโซนของน้องชายตัวเองไปเรียบร้อย น่าน้อยใจเป็นบ้า
“ตะนิด มึงไปนอนกับลุงเขาแล้วกัน กูอยากนอนคนเดียว”
“...” ภาสยกคิ้วฉงนเล็กน้อยจากคำพูดแฝดพี่
“อือ” แมวดื้อขยับตัวดุ๊กดิ๊กออกจากอ้อมแขนแฝดพี่มายืนอยู่ข้างเขา หน้าดื้อมุดจมไปกับคุณนุ่มเบอร์ห้าเหลือไว้แต่ตากลมที่จ้องมาที่เขาเหมือนรอคำตอบ แน่นอนว่าภาสก็ทำเพียงส่งยิ้มเบาๆ ไปให้ก่อนจะหันกลับไปหยิบกุญแจห้อง
ห้องที่เขาจองไว้เป็นห้องสวีทวิวทะเล ด้วยความไม่ได้ตั้งใจว่าจะมีคนมาขอนอนด้วยเลยบุ๊คไปแบบเตียงใหญ่เตียงเดียว ซึ่งตอนนี้เจ้าแมวดื้อก็ได้ทำการเอาของไปวางไว้เต็มเตียง เขาเดินเอาสูทไปแขวนในตู้พร้อมกับปล่อยให้แมวเดินสำรวจห้อง
แมวดื้อมัวแต่ตื่นเต้นกับความใหญ่ของห้อง
ส่วนเขาน่ะได้แต่เครียดกับห้องอาบน้ำที่ไม่มีประตูกั้นตรงหน้า
ห้องอาบน้ำที่ไม่มีประตูกั้นระหว่างห้องนอนแทบจะเป็นปกติของห้องสวีทที่เขาพบเจออยู่บ่อยๆ เวลาต้องไปทำงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ดีที่ส่วนใหญ่เขามักจะเข้าพักคนเดียวจึงไม่มีปัญหาอะไร แต่วันนี้มีแมวขี้โวยวายมาด้วยดูท่าแล้วนี่คงจะเป็นปัญหาใหญ่ สงสัยเจ้าตัวคงคิดว่าประตูลากมาปิดได้ถึงยังไม่ได้โวยวายอะไรสินะ....
“ตะนิด”
“ครับ”
“เดี๋ยวลี่จะมา เธออยู่กับลี่ไปก่อนนะ ฉันจะไปคุยงาน” พอรู้ว่าอีกคนจะไม่อยู่ตะนิดก็รู้สึกโหวงขึ้นมาเล็กๆ
“พี่ภาส”
“หืม?”
“พี่ภาสกลิ้งๆ ไหม เตียงนิ่มนะ”
กลิ้งๆ?
ดวงตาดุใต้กรอบแว่นฉายความไม่เข้าใจออกมาชัดเจน แต่พอแมวดื้อจ้องไปที่เตียงเขาก็พอจะเข้าใจ ภาสพาดสูทกับเก้าอี้ก่อนจะทิ้งตัวนอนกับเตียง เขาขยับตัวไปมาเล็กน้อยไม่ถึงกับกลิ้ง แต่พอทำให้กลิ่นติดเตียงไปได้บ้าง แปลกที่แถมจะให้คนแปลกหน้ามาหา ตามสัญชาตญาณคงรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยสินะ
กิ๊ง!
เสียงออดดังขึ้นเรียกได้ตะนิดหันไปทางประตู พอเจ้าแมวออกตัววิ่งไปภาสก็ผุดตัวขึ้นนั่ง แขนแกร่งยกขึ้นขยับขาแว่นเบาๆ พร้อมกับรู้สึกร้อนเห่อที่หน้า
วัยขนาดนี้มานอนกลิ้งๆ ให้กลิ่นติดเตียงนี่มันน่าอายเป็นบ้า...
ถ้าเพื่อนคนอื่นมาเห็นเขาคงโดนล้อไปยาวๆ
กลิ่นอัลฟ่าโชยมาติดจมูกเรียกสติให้ภาสขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนเดินตามร่างเล็กไปหน้าประตู
“อ้าว นอนอยู่เหรอวะ?” วินเซนต์เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าภาสเดินออกมาด้วยสภาพหัวยุ่งๆ
“อืม”
“พี่ภาส สวัสดีครับ” ภาสพยักหน้ารับไหว้ลี่ ก่อนจะเอนตัวให้อีกฝ่ายเดินเข้าห้องมา ภาสสบตากับแมวดื้อที่แก้มแต้มสีแดงจางๆ จากการเจอหน้าลี่แล้วก็ได้แต่เอื้อมมือไปดีดเหม่งนั่น
“พี่ภาส เดี๋ยวคณิตจะมาหา”
“คณิตไม่ว่างมาหรอก”
“อ้าว ได้ไงอ่ะ” ภาสเลี่ยงที่จะไม่ตอบ
แต่เพราะวินเซนต์จะให้ลี่มาอยู่กับตะนิดเลยไม่อยากให้มีอัลฟ่ามาอยู่ร่วมห้อง เขาเลยต้องเรียกผู้ช่วยอย่างไอ้ชายให้เข้าไปวุ่นวายกับอัลฟ่าแฝดพี่แทนให้หน่อย
“อยู่กับลี่ไปก่อน ถ้าหิวก็สั่งอาหารมากินได้ แล้วถ้าจะออกจากห้องไปไหนก็ส่งข้อความมาบอกด้วยเพราะวันนี้คนมาประชุมเยอะ” ภาสเลี่ยงที่จะพูดว่าวันนี้อัลฟ่ามารวมตัวกันอยู่เยอะ แต่ถึงอย่างนั้นตะนิดก็พอจะเข้าใจ
“แล้วพี่ภาสจะกลับมาเมื่อไหร่”
“คงอีกสักสองสามชั่วโมง”
“...” แมวดื้อหน้าจ๋อยลงไปนิดหน่อย สองสามชั่วโมงมันก็นานอยู่นะ
“อย่าดื้อกับลี่นะ”
“จะดื้อ”
“หึ” ภาสกระตุกยิ้มพร้อมกับยกมือขึ้นโยกหัวฟูไปมา
“โห ยิ้มแล้วมึงหล่อเหมือนกันนะเนี่ยภาส” วินเซนต์กอดอกหัวเราะกับภาพตรงหน้า หมดกันภาพนักเลงเก่า เหลือไว้แต่ทาสแมวเกินเยียวยา ซึ่งแน่นอนว่าภาสก็รีบหุบยิ้มหันมาส่งสายตาดุกลับ
“อย่าเพิ่งออกไปเล่นน้ำนะ แดดยังแรงอยู่”
“เพราะแดดจริงเหรอครับคุณภาส ใช่เหรออ ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้-” วินเซนต์รีบถือโอกาสแซวแต่ภาสก็เอ่ยขัดไว้อย่างรู้ทัน
“อ้อ หรือถ้าจะเล่นก็พาลี่ออกไปด้วย”
“มึงไม่ต้องเสี้ยมเลยภาส ลี่ ไม่ออกไปเล่นน้ำนะถ้าพี่ไม่อยู่ด้วย” วินเซนต์ขมวดคิ้วเดินเข้าไปโอบเอวคู่พันธะของตัวเอง
“รู้แล้วน่า”
“แล้วแมวก็อย่าเล่นแบบคราวที่แล้วนะครับ คราวนี้พี่ตีนะ” คนโดนเรียกแมวสะดุ้งเฮือกก่อนจะรีบวิ่งไปมุดหลังภาส
“ก็ลองดู” ภาสสบตากับเพื่อนรักตัวเอง
“หมายถึงลองให้กูตี?”
“หมายถึงลองไปเล่นแบบคราวที่แล้วดู ไม่ต้องถึงมือคนอื่นหรอก...” ตะนิดขนลุกซู่พร้อมกับเถียงในใจดังลั่น
ไม่ได้เล่นสักหน่อย!!!
จะมาตีกันได้ยังไง!!!
ได้ขู่แมวจนหางพองสมใจ สองอัลฟ่าก็พากันออกไปจากห้องปล่อยไว้ให้สองแมวอยู่ด้วยกัน เป็นตะนิดเองที่รู้สึกขัดๆ เขินๆ ดวงตากลมจ้องลี่ด้วยความทำตัวไม่ถูก
“น้องตะนิด”
“คะ ครับ”
“ในเมนูมีกุ้งเผาด้วยนะ สั่งมากินไหม” พอมีชื่ออาหารตะนิดก็เดินเข้าไปใกล้ๆ ลี่เพื่อดูเมนู
“โห แต่โลเป็นพันเลยอ่ะ”
“พี่เลี้ยงเอง”
...หมายถึงพี่ภาสน่ะนะ
ลี่แอบเหลือบตามองปลอกคอบนลำคอขาวนั่นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ขนาดปลอกคอเกือบแสนยังซื้อมาง่ายๆ กุ้งเผาโลไม่กี่พันขนหน้าแข็งพี่ภาสก็คงไม่ร่วงหรอก
“พี่ลี่ๆ มีปูด้วย”
“สั่งแบบเขาแกะมาเลยได้ด้วย เอาไหม”
“เอาๆ ผมเอาแตงโมปั่นด้วย”
“ต้มยำกุ้งก็ดีนะ แต่ตะนิดกินเผ็ดได้รึเปล่า?”
“กินได้ครับ”
ลี่แบบลอบยิ้มเบาๆ เมื่อตอนนี้ตะนิดกระเถิบมานั่งติดเขาแล้ว หลังจากที่เว้นระยะห่างมาตั้งแต่เขาเดินเข้าห้อง เอาอาหารมาล่อสำเร็จจริงๆ เหมือนที่พี่ภาสบอกไว้ก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าลี่เองก็ไม่ได้หยิบเรื่องในอดีตขึ้นมาพูด เขาปล่อยให้ตะนิดชวนคุยนู่นนี่ไปเรื่อยจนอาหารมาก็กินอาหารไปดูหนังไปเพลินๆ
“พี่ลี่ๆ แล้วพี่ลี่กับพี่วินมาเจอกันได้ไงอ่ะ” ตะนิดที่เคี้ยวกุ้งแก้มตุ่ยเอ่ยถาม
“เจอกันครั้งแรกสมัยเด็กน่ะ แล้วก็มาเจอกันอีกทีตอนเรียนมหาลัยแล้ว”
“แล้วพี่ลี่รู้ตอนไหนอ่ะว่าพี่วินเป็นคู่แห่งโชคชะตา”
“ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วแหละ แต่มันมีเรื่องที่ทำให้ต้องห่างกันตอนนั้น” ลี่อมยิ้มเล็กๆ เมื่อนึกกลับไปถึงเรื่องสมัยก่อน
“เรื่องอะ-“ ตะนิดกำลังจะถามต่อแต่เสียงแตะคีย์การ์ดที่ประตูห้องก็ดังขึ้นขัดเสียก่อน
ติ๊ดๆ
“โอ้โห กลิ่นอาหารนำมาเลย” เป็นเสียงชายดังขึ้นเป็นเสียงแรก ตะนิดผุกลุกขึ้นยืนก่อนจะออกตัววิ่งไปที่ประตูเตรียมจะเอ่ยทักทายพี่ชายที่ไม่ได้เจอกันมานาน แต่ทว่าคนที่เดินตามพี่ชายมากลับทำให้ตากลมเบิกกว้างทันที
“พี่เต้อ!”
“ว่าไงน้องแมวววว”
“พี่มาทำไรที่นี่เนี่ย”
“ทำงานสิ เห็นแบบนี้พี่ก็ทำงานทำการอยู่นะคะ”
“ตะนิด เป็นไงบ้างครับ ไม่เจอกันนานเลย คิดถึงนะเนี่ย”
“พี่ชาย!”
“เห้ย ถอยออกมาเลยนะโว้ย!!” เสียงคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับแรงกระชากพี่ชายและพี่เต้อออกห่างจากประตู
“อ้าว คณิตตตตต”
“พวกมึงน่ะรนหาที่ตายกันจริงๆ นะ” วินเซนต์พูดขึ้นขัดเมื่อเจ้าของแมวน่ะยืนหน้ายักษ์อยู่หลังสุด
“หลบไป” ภาสเอ่ยเสียงดุซึ่งตัวป่วนทั้งหลายก็หลบให้แต่โดยดี
ภาสเดินเข้าห้องมาพร้อมกับใช้มือดันหลังให้แมวดื้อเดินมาพร้อมกัน พอเข้ามาในห้องเขาก็เห็นจำนวนอาหารล้นโต๊ะพร้อมกับลี่ที่นั่งแกะกุ้งอยู่
“พี่ภาส งานเสร็จแล้วเหรอ”
“สำหรับวันนี้เสร็จแล้ว...”
“แต่เดี๋ยวมีพูลปาร์ตี้ด้วยนะ สนใจไปไหมตะนิด” ชายเดินมาขยี้หัวฟูก่อนจะโดนเพื่อนหน้าดุตวัดตามองดุ
“พูลปาร์ตี้?”
“ใช่ ปาร์ตี้ริมสระแถมยังริมทะเลด้วย”
“มึงไม่ต้องไปเลยไอ้อ้วน” คณิตรีบดักทางด้วยความรู้ดีว่าแฝดน้องขี้เมาขนาดไหน แต่เห็นจากประกายในดวงตานั่นแล้วก็คิดว่าคงจะดักไม่ทันแล้ว
“หูววววว เหล้าฟรีเลยป่ะพี่ชาย”
“...” ถึงตอนนี้ภาสก็คิ้วข้างขวากระตุกยิกๆ เหมือนมีรางบอกเหตุอะไรสักอย่าง
“ฟรีสิ”
“เห้ยยยย ไปเลยป่ะพี่!!!”
“เพิ่งบ่ายสามเอง รีบเหรอน้องแมว” เต้อพูดพลางหัวเราะในลำคอ
“ว่าแต่พี่เต้อมาไงเนี่ย”
“อาเธอร์เป็นเพื่อนพี่เอง”
“เพื่อนพี่ชาย?”
“ใช่ครับ เพราะงั้นต่อให้แฝดพี่ตะนิดเตะมันกระเด็นก็ไม่ต้องกลัวตกงานหรอกนะครับ” พอพูดเหตุการณ์หน้าตึกตะนิดก็ยิ้มเจื่อน
ส่วนเจ้าของรอยเท้าที่ยืนอยู่ไม่ไกลไม่แม้แต่จะรู้สึกผิด นอกเหนือจะไม่รู้สึกผิดแล้วยังรำคาญอีก ตอนถึงที่พักกะจะออกมาชวนตะนิดไปเดินหาดก็ดันโดนทั้งชายและเต้อดักกวนประสาทตั้งแต่หน้าห้อง กว่าจะได้มาหาตะนิดก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง
“แต่เตะอีกรอบพี่สู้แล้วนะน้องพี่แมว” เต้อหันไปส่งยิ้มกวนประสาทใส่แฝดพี่ ซึ่งคณิตก็ได้แต่กอดอกเส้นเลือดกระตุก จริงๆ ก็อยากจะตีนกระตุกใส่อีกสักรอบเหมือนกัน
“พี่ภาสๆ” ภาสที่มองทุกอย่างอยู่ถูกกระตุกชายเสื้อเบาๆ เขาเลยหันไปหาเจ้าของเสียงอ้อน
“หืม?”
“ไปปาร์ตี้ได้ป่าววว”
“ได้สิ เดี๋ยวฉันไปด้วย”
ปกติแล้วภาสแทบไปค่อยโผล่ตัวไปปาร์ตี้สักเท่าไหร่ ด้วยความไม่ใช่คนชอบคุยกับไม่ชอบสถานที่เสียงดัง แต่หากแมวดื้อจะไปแล้ว เขาก็คงจะต้องตามไปดูเสียหน่อย พอตอบอนุญาตไปเจ้าแมวก็ส่งยิ้มมาให้ใจกระตุกเล่นก่อนจะกลับไปเล่นกับแฝดพี่ต่อ ปล่อยให้เขายืนกุมใจเสียอาการให้เพื่อนแซวทางสายตาอยู่คนเดียว
เขาแยกย้ายกันไปแต่งตัวก่อนจะนัดกันออกมาเจอที่ริมสระน้ำพร้อมกันในช่วงสองทุ่ม สระน้ำที่ดูน่ากระโดดเล่นเมื่อตอนกลางวัน ตอนนี้ถูกตกแต่งด้วยห่วงยางนกฟลามิงโก้และหงส์ขนาดใหญ่ ภายรอบที่ปกติจะมีเพียงเก้าอี้นั่งก็เสริมเติมด้วยโต๊ะคอกเทลขนาดกลางประดับด้วยไฟหลากสีสัน
“ไปดูเมนูค๊อกเทลกันพี่ลี่” ตะนิดชายเสื้อลี่ยิกๆ ซึ่งลี่ก็ส่งยิ้มพร้อมกับพาแมวดื้อไปที่เคาท์เตอร์บาร์ ส่วนทางเหล่าอัลฟ่าที่ยืนกันอยู่ที่โต๊ะก็ได้แต่มองตามไม่วางตา
“นี่ คุณ” คณิตเดินมายืนข้างอัลฟ่าหน้าดุคู่แห่งโชคชะตาของน้องตัวเองพร้อมกับจ้องไปที่แฝดน้องนิ่ง
“...”
“ตะนิดขี้เมามาก เวลาเมาโคตรแสบ เตรียมตัวรับมือไว้หน่อยแล้วกัน”
ยังจะแสบไปกว่านี้อีกเหรอ...
ภาสที่เพิ่งได้รับข้อมูลใหม่กะพริบตาปริบๆ สงสารตัวเองในอนาคตเผื่อไว้ตั้งแต่วินาทีนี้
“ปกติก็ชอบกินเหล้าอยู่แล้วเหรอ?”
“ออกกลางคืนบ่อยจนแม่บ่น กลับมาสภาพเหมือนหมาตลอด”
“คอแข็งงั้นสิ”
“หึ ให้มากสุดสองแก้ว”
“...”
ภาสมองแมวดื้อที่วิ่งดุ๊กๆ กลับมาพร้อมกับแก้วลองไอแลนด์ในมือ ดวงตากลมเบิกกว้างเป็นประกายเหมือนเวลาแมวเห็นปลาทู
“พี่ภาสสส ชนนนนน”
ชนอะไรล่ะ ยังไม่ทันได้สั่งอะไรเลย...
เขาขมวดคิ้วแล้วยกกำปั้นแทนแก้วน้ำขึ้นชนกับแก้วอีกฝ่าย
แมวดื้อก็ยิ้มพอใจก่อนจะหันกลับไปคุยเล่นกับลี่ต่อ พอแอลกอฮอลล์เข้าปากแล้วดูจะยิ้มเก่งกว่าปกติ แก้มขาวนั่นยกยิ้มอยู่ตลอดเวลาจนเขารู้สึกหงุดหงิด
ภาสตัดสินใจสั่งเบียร์สดมากินระหว่างรอดูแมวดื้อเมา เอาจริงๆ เขาไม่ได้อยากให้อีกฝ่ายเมานักหรอก แต่ไหนๆ ก็อาจจะต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน สังเกตพฤติกรรมไว้รับมือในอนาคตหน่อยก็คงจะดี
แม้ที่โต๊ะจะมีบทสนทนาเกิดขึ้นมากมายแต่เขาก็ไม่แม้แต่จะสนใจฟัง ดวงตาใต้กรอบแว่นของเขานั้นสนใจอยู่แค่โอเมก้าตัวน้อยที่นั่งห้อยขาอยู่ริมสระ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มยิ้มจนตาปิดกับส่งเสียงดังโวยวายมากขึ้นหลังจากกินคอกเทลแก้วที่สามเข้าไป
ว่าแต่ทำไมแก้วคราวนี้จุดไฟด้วย สั่งเมนูอะไรไปน่ะ?
แล้วดูดทีเดียวหมดด้วยเลยงั้นเหรอ...
“พี่ลี่ๆๆ”
“หืม?”
“รู้ป่าววว ม้าอะไรบินด้ายยยยย”
นั่นเมาแล้วนี่...
“อืม ไม่รู้เลย เฉลยหน่อย”
“ไม่เหลยๆๆ อ๊ะ! พี่เต้อๆๆ ม้าอะไรบินได้ๆๆๆ” เต้อที่กลับมาจากการไปเข้าห้องน้ำจำต้องแวะคุยเมื่อถูกแมวดื้อดึงขากางเกงไว้
“ม้าแลงปอป่ะน้องแมวว”
“ผิดดดด”
“แล้วม้าอะไรคะ”
“ม้ารู้เหมิงกันนนน ม้าบ้านพี่บินได้อ่อพี่เต้อออออ”
“แหนนน เห็นว่าน่ารักนะเนี่ย ไม่น่ารักพี่ตีเหม่งแตกแล้ว” เต้อยกมือขึ้นตีลมหลอกๆ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ เขาหันไปสะกิดบอกอัลฟ่าหน้าดุที่จ้องแมวดื้อเขม็งมาพักใหญ่ “คุณภาส น้องเมาแล้วนะ”
“อืม เห็นแล้ว” ภาสถอนหายใจมองแมวดื้อที่ตาเยิ้มหัวเราะเอิ๊กอ๊ากสักพักก็เอาหัวถูหัวไหล่ลี่ไปมาเหมือนแมวกำลังอ้อน ตะนิดลุกขึ้นยืนแบบโอนเอนจนลี่ต้องลุกขึ้นยืนเป็นเพื่อน
“คณิตโว้ยยยยยยยย”
“อะไร” คณิตที่นั่งดื่มอยู่ที่โต๊ะตะโกนตอบ
“มึงว่ากูเท่ป่ะ”
“ที่สุดในโลกเลยมึง”
“ใช่ป่าวววว กูเท่ใช่ป่าววววว”
“เออ อย่าตะโกนสัด กูอาย”
“กูเท่กว่าไอรอนแมนป่ะ”
“เท่กว่า”
“เพราะกูคือ!!!”
“...”
“ไอร่อนแมววววววววว” พูดจบไอร่อนแมวก็ชูแขนทำท่าบิน แต่ด้วยความที่ประสิทธิภาพในการทรงตัวต่ำ ไอร่อนแมวจึงขาสั่นเอนตัวไปมา เหมือนภาพสโลว์โมชั่นที่น่าหวาดเสียว ลี่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ส่วนภาสและคณิตออกตัววิ่งไปพร้อมกันแต่ก็ไม่ทัน
ซ่า!!!!
“ตะนิด!!!!!!” ภาสและคณิตกระโดดน้ำตามลงไปทันทีแต่เป็นภาสที่จับแมวดื้อพยุงขึ้นได้ก่อน ตะนิดตวัดมือรัดรอบคอแกร่งไว้ทันที ใบหน้าดื้อดูตกใจเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเผล่ที่เห็นว่าอัลฟ่าหน้าดุตอนนี้ไม่มีแว่นประดับอยู่แล้ว หน้ายังดุเหมือนเดิมเลยยยย
“ไอร่อนแมววววววว”
“เธอ... ไอ้ดื้อนี่”
“ไอ้ห่าตะนิดมึง!!!” เป็นแฝดพี่ที่ด่าจัดเต็มกว่า คณิตในสภาพหมาตกน้ำฟาดหัวน้องดังปั้กจนหัวโยก แมวดื้อที่ถูกอุ้มอยู่ใต้น้ำเอนหัวซบบ่าแกร่ง
“พี่ภาส...”
“ว่าไง”
“ตะนิดน่ะ”
“...”
“พี่ภาสๆ”
“ว่าไง”
“ตะนิดน่ะน้า...”
“...”
“อยากอ้วกจังครับ อึ่ก...”
“เชี่ยๆ ฉิบหายๆ เอามันขึ้นน้ำก่อนพี่” ภาสรีบว่ายไปตรงบันไดทันทีที่แมวดื้อบอกว่าจะขย้อนของเสียออกมา คณิตเป็นฝ่ายกระโดดขึ้นไปช่วยอุ้มตะนิดขึ้นก่อนที่ภาสจะปีนขึ้นจากน้ำตามไปอุ้มต่อ แมวดื้อที่เนื้อตัวเปียกมะล่อกมะแล่กถูกหิ้วไปแถวพุ่มไม้
“พี่ภาส พี่ภาสส”
“นั่งดีๆ ก่อนตะนิด” ภาสเอ่ยดุแมวดื้อที่ตวัดรัดคอเขาไม่ยอมผละออก
“ค่อก...”
“เห้ย ไอ้ภาสมึงระวังน้อง-“
“ค่อก แหวะะะะะะะะ”
ภาสสัมผัสได้ถึงของเหลวอุ่นๆ ที่ไหลลงหลังได้อย่างชัดเจน ดวงตาดุใต้แว่นหลับลงพร้อมกับถอนหายใจ แขนแกร่งยกขึ้นลูบแผ่นหลังคนในอ้อมกอดต่อเบาๆ ไหล่เล็กของสะนิดสั่นสะท้านพร้อมกับส่งเสียงขย้อนอยู่อีกสักพักถึงสงบลง
“โอ้โห คุณภาสครับ หลังเละเทะเลยแหละ” เต้อเอ่ยเสียงแผ่วกับภาพตรงหน้า น้องแมวเล่นเสียเขาแทบจะขย้อนตาม
“อืม” ไม่ต้องเห็นภาสก็พอจะนึกภาพออก
“แหม นึกถึงอดีตเลยเนาะลี่” วินเซนต์หันไปยักคิ้วใส่คนรัก ซึ่งลี่ก็ส่งสายตาดุกลับ
“พี่วิน ไม่ใช่เวลา”
“ล้อเล่นน่ะ เอ้า ภาสมึงถอดเสื้อมา กูขอผ้าเช็ดตัวมาแล้ว” ภาสกะจะผละตัวออกมาถอดเสื้อแต่แมวดื้อก็รัดคอไว้แน่นจนต้องถอดเสื้อเชิ้ตเปลี่ยนอย่างทุลักทุเล เขาไม่ได้รับผ้าเช็ดตัวจากวินเซน์มาคลุมตัวเองแต่ใช้ตวัดคลุมเจ้าแมวไว้
“ขอตัวก่อนแล้วกัน”
“เออ ตามสบายเลยมึง” เขากระชับสะโพกนิ่มในอุ้งมือให้มั่นก่อนจะอุ้มพาแมวขี้เมากลับห้อง ระหว่างทางเดินตะนิดก็พยายามดันหัวออกจากไหล่แต่เขาก็ใช้มือกดให้หน้าแนบไปกับไหล่ตามเดิมจนกระทั่งถึงห้อง เขาตัดสินใจเอาแมวดื้อไปวางไว้ในอ่างอาบน้ำ
“อย่าดื้อนะตะนิด นั่งนิ่งๆ ฉันจะไปปิดผ้าม่าน” ภาสใช้นิ้วชี้สั่งแมวดื้อที่นั่งตาปรืออยู่ในอ่างก่อนจะรีบผละตัวไปปิดผ้าม่านห้องนอนพร้อมกับคว้าเสื้อยืดตัวเองติดมือมาหนึ่งตัวให้แมวดื้อใส่แทนชุดนอน พอกลับมาก็เห็นว่าเจ้าแมวดื้อพยายามจะยกขาออกมาจากอ่างแต่ก็เมามากจนหน้าไถลปักพื้น
“อึ๊... เจ็บน้า”
“ตะนิดลุกขึ้นดีๆ”
“พี่ภาสๆ นิดอ่ะ”
“...”
“มีไฝที่ก้นด้วย”
พระเจ้า...
เขารีบพุ่งตัวไปจับแขนเล็กนั่นไว้ทันทีก่อนที่จะมีการถอดกางเกงกันเกิดขึ้น ภาสหายใจหอบเรียกสติตัวเองสองสามวิก็จับตะนิดกลับไปวางในอ่างเหมือนเดิมพร้อมกับเปิดน้ำอุ่นรองไว้ ตะนิดยู่หน้าเล็กน้อยเมื่อโชว์ไฝไม่สำเร็จ
“พี่ภาสๆ”
“หืม?”
“คณิตก็มีไฝที่ก้นนะ ของนิดก้นซ้าย คณิตก้นขวา”
“...”
“พี่ภาสๆ”
“เรียกชื่ออยู่ได้ ติดใจชื่อฉันหรือไง”
“ทำไมพี่ภาสถอดเสื้อ ให้นิดถอดเป็นเพื่อนไหมมม” แขนเล็กเตรียมจะรั้งเสื้อยืดขึ้นถอดแต่ภาสก็ดึงลงไว้ก่อน
“ไม่ต้องถอด อยู่นิ่งๆ เลย”
“อื้อ นิดเชื่อฟังน้า” ตะนิดส่งยิ้มเผล่ตาปิดเป็นสระอิพร้อมกับชูสามนิ้วลูกเสือขึ้นตะเบ๊ะ
“อาบน้ำไปทั้งเสื้ออยู่ครบนั่นแหละ” ภาสลากสบู่มาเทใส่มือเล็กพร้อมกับปีนขึ้นไปนั่งเอาเท้าจุ่มน้ำขังแมวดื้อไว้ตรงหว่างขา ตะนิดหยักหน้ารับทราบก่อนจะใช้มือลูบสบู่ไปทั่วตัวส่วนภาสก็เทแชมพูขึ้นขยำบนหัวทุยนั่นเบาๆ
“พี่ภาสๆ”
“หืม”
“พี่ภาสๆ”
“ว่าไง”
“พี่ภาสๆ”
“อะไรแมวดื้อ”
“นิดชอบกลิ่นพี่ภาสนะ”
“...”
“พี่ภาสเป็นคุณนุ่มเบอร์ศูนย์ของนิดเลย”
ภาสก้มมองลำคอขาวตรงหน้าก่อนจะตัดสินใจไถลตัวเองลงไปในอ่างทั้งกางเกงโดยนั่งซ้อนหลังคนเล็กไว้ ตะนิดเองพอเห็นอีกคนลงมาอาบน้ำด้วยก็เอนหัวซบอกเปลือยของอีกฝ่าย มือเปื้อนฟองสบู่ยกขึ้นเขี่ยคางคนแก่กว่าไปมา
“กินอะไรไปบ้างถึงได้เมาขนาดนี้”
“นิดรู้ๆๆ ลองไอแลนด์เป็นชามะนาวว มาร์ตินี่ขมอ่ะอันนี้ไม่ชอบ มะ มวยไทยอร่อยดี แต่อร่อยสุดแก้วสุดท้ายบีฟิฟตี้ทู อร่อยมากกกกกกก จุดไฟเท่ๆ ด้วย”
“...” ไม่แปลกใจเท่าไหร่ว่าทำไมเมาอ้วกขนาดนี้ แต่ค็อกเทลน่ะน่าจะชื่อไหมไทยไม่น่าใช่มวยไทยหรอก ภาสถอนหายใจก่อนจะมือขึ้นบีบแก้มนุ่มเบาๆ เป็นการลงโทษ
“อื้ออออ แต่นิดยังอยากกินอีกนะ”
“ยังจะกินอีกเหรอ อ้วกเละเทะขนาดนี้”
“อื้อ นิดอยากลอง
sex on the beach”
“...”
“อื้อ อะไรแข็งๆ ดันก้น...” คนตัวเล็กขมวดคิ้วพร้อมกับบิดสะโพกหนี ภาสยกมือขึ้นเสยหน้าม้าก่อนจะลุกขึ้นยืน
“รีบอาบน้ำได้แล้ว แมวดื้อ”
“ค้าบพ้มมมมม”
ภาสลุกขึ้นไปนั่งนิ่งๆ อยู่บนเคาท์เตอร์อ่างล้างมือพลางมองออกไปที่เตียง สุดท้ายแล้วคนที่มีปัญหากับการที่ห้องน้ำและห้องนอนไม่มีประตูกั้นดันเป็นเขาเสียเอง
เขาจะจดจำไว้ให้ดีๆ เลยว่าแมวดื้อเวลาเมา
จะกลายร่างเป็นแมวยั่ว
ให้ตายเถอะ
... ต้องนั่งสมาธิอีกแล้ว