Trigger warnning : dub-con
(การมีเพศสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายไม่มีสติครบถ้วน โดยตามบริบทของโอเมก้าเวิร์สของเรื่องนี้จะเกิดจากการตกอยู่ภายใต้การควบคุมฟีโรโมน)
ก็จะดื้อ 7
ฮีท
แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ้าม่านผืนบางมาตกกระทบกับเสี้ยวหน้าคม ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆ ปรือลืมขึ้น
หนัก...
อัลฟ่าหนุ่มขมวดคิ้วเบาๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่กดทับบริเวณอก จะว่าผีอำก็รู้สึกแปลกๆ เขาไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีสักเท่าไหร่
... และผีก็คงไม่มีกลิ่นหอมแป้งขนาดนี้
ภาสยกมือขึ้นขยี้ตาเล็กน้อยก่อนจะมองก้อนแมวดื้อที่มานอนเกยตัวเขาไปครึ่งซีก ใบหน้าดื้อนั้นบี้ลงกับอกเขาพร้อมกับกรนออกมาเบาๆ หมอนข้างที่เจ้าตัวหยิบมาคั่นกลางกระเด็นไปอยู่ปลายเตียง แขนเล็กเกาะที่เอวเขาแน่นส่วนขาก็วางพาดลำตัวเขาอย่างไม่มีการเกรงใจ
อัลฟ่าหนุ่มนอนนิ่งๆ อยู่สักพักถึงค่อยสติเข้าร่าง เขาขยับตัวเล็กน้อยเปลี่ยนท่าเล็กน้อย ทันใดนั้นแมวน้อยก็ส่งเสียงครางในลำคอด้วยความขัดใจ คิ้วบนหน้าขมวดมุ่น มือที่เกาะอยู่ก็เปลี่ยนเป็นจิกให้เขาอยู่นิ่งๆ
เอาแต่ใจจัง
... ขนาดนอนยังดื้อได้
ติ๊ดๆ
เสียงอินเตอร์คอมข้างหัวเตียงเขาดังขึ้น ภาสค่อยๆ ยกมือขึ้นไปแตะปุ่มรับสาย ใครกันที่แวะมาหาในเวลานี้
“สวัสดีค่ะ คุณภาส แม่เองนะคะ”
“...”
จริงสินะ...
ใครล่ะที่จะแวะมาหาในเวลานี้...
“อ่า ครับ เข้ามาได้เลยครับ” เขาเอื้อมมือไปกดปุ่มปลดล็อคประตูห้องก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อเจ้าแมวเริ่มส่งเสียงขัดใจอีกรอบที่เขาเสียงดัง
“สะดวกใช่ไหมคะเนี่ย”
“...”
“เห้ย สะดวกดิ จะไม่สะดวกได้ไงก็นัดกันแล้ว เข้าๆ ไปเถอะแม่” เสียงอัลฟ่าแฝดพี่แทรกเข้ามาในสาย
“เอ่อ ตอนนี้-”
ติ๊ด
ตัดสายไปแล้ว
ภาสยกมือซ้ายขึ้นนวดขมับ รู้สึกได้ถึงความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้าได้อย่างทันที เสียงคุยมาจากด้านล่างไม่กี่นาทีเขาก็ได้ยินเสียงคนขึ้นบันไดมา อัลฟ่าหนุ่มทิ้งหัวลงกับหมอน หลับตารอ เพราะอีกไม่นานเดี๋ยวประตูห้องเขาจะต้องถูกเปิดมาพร้อมกับเสียงโวยวายอย่างแน่นอน
ปั้ง!!!
“คณิต!!”
“ตะนิดอยู่ไหน!!!”
เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงโวยวายลั่น ภาสขยับหัวไปทางประตูห้องก็พบว่าแขกทั้งสองเบิกตากว้างอึ้งกับภาพที่เห็นไปแล้วเรียบร้อย และแน่นอนว่าเสียงดังขนาดนี้เจ้าแมวขี้เซาบนอกเขาก็ไม่แม้แต่จะตื่น ใบหน้าดื้อนั่นบี้ลงกับอกเขามากกว่าเดิมด้วยความรำคาญเสียงดัง
“บอกไว้ก่อนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะครับ” ภาสเอ่ยดักไว้ก่อนที่สถานการณ์จะวุ่นวายไปมากกว่านี้
“ตะ ตะ ตะนิด”
“เขาปีนมานอนทับผม”
“ตายจริง ลืมบอกไปเลยค่ะ ว่าตะนิดน่ะติดหมอนข้าง ปกติจะนอนกอดปลาฉลาม” ภาสเข้าใจทันทีว่ามันคือคุณนุ่มเบอร์ห้า ปลากัดตัวสีเทาที่ตอนนี้น่าจะนอนตายอยู่บนพื้นห้องเพราะโดนเจ้าของเตะตกเตียง
“ตะนิด ตื่นได้แล้ว”
“อือ คณิต อย่ายุ่งงงง”
“ตื่นได้แล้วไอ้น้องเวร จะบ่ายแล้ว!!!” คณิตตีเหม่งใสไปดังป้าปเน้นๆ ตะนิดร้องโอ๊ยลั่นก่อนจะซุกเข้าหาที่พึ่งกลิ่นลาเวนเดอร์
“อย่ายุ่งได้ไหมคณิต ตะนิดจะนอน”
“ตะนิด ถ้าไม่ตื่นกูจะโกรธแล้วนะ”
“เดี๋ยวง้อ”
“กูร้องไห้ด้วย”
“เออๆ ตื่นก็ได้” เจ้าแมวยันตัวเองขึ้นนั่งพลางยกแขนขึ้นขยี้ตา ตอนนั้นเองอัลฟ่าหนุ่มถึงได้รีบลุกขึ้นนั่งตามพร้อมกับบีบนวดแขนขวาตัวเองที่ชาจนแทบไม่รู้สึกอะไร
“แหม ตะนิดดูมีความสุขกว่าที่แม่คิดนะเนี่ย นอนหลับสบายใจเชียว” คนเป็นแม่เอ่ยพร้อมกับหัวเราะเบาๆ เป็นคณิตที่ขมวดคิ้ว
“ตะนิด มึง... ไหนนัดกันว่าให้ขังตัวเองไว้ในห้องไง”
“ไม่ทำแล้ว ยกเลิก ห้องใหญ่เกิน กลัวผี” ตะนิดเอ่ยเสียงงัวเงีย
“เวรเอ๊ยยยย รู้งี้ตอนอยู่ในท้องเวลาแม่กินปลากูบีบสายอาหารตัวเองให้มันไปเลี้ยงมึงเยอะๆ ดีกว่า มึงจะได้ไม่บื้อขนาดนี้ เวร เวร เวรเอ๊ย” คณิตสบถพร้อมกับยกมือขึ้นขยี้หัวตัวเองให้กับความบื้อของแฝดน้องตัวเอง จะด่าก็ด่าได้ไม่เต็มที่เพราะหน้าเหมือนกันจนบางครั้งรู้สึกเหมือนกำลังด่าตัวเองผ่านกระจก
“อย่าบ่นเยอะได้ไหมคณิต”
“มึงตื่นให้เต็มตาเดี๋ยวนี้นะ”
“อยากกินปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้ใส่เม็ดแมงลัก”
“ไอ้เวรตะนิด”
“คณิตไปซื้อให้หน่อยดิ”
ป้าป!!!
สุดจะทน ในที่สุดคณิตก็ฟาดป้าปเข้าให้ที่กลุ่มผมฟูสีน้ำตาลจนหัวตะนิดหงายไปนอนราบ ตะนิดกระพริบตาปริบๆ ตากลมเบิกกว้างมองเพดานก่อนที่จะเพิ่งนึกออกว่า
ที่นี่ไม่ใช่ห้องเขา!!!!!
“เห้ยยยยยยยยยยยยย” แมวน้อยรีบผุดตัวขึ้นนั่ง “เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” นึกอะไรไม่ออกเลยร้องเห้ยออกมาอีกรอบให้ทุกคนรู้ว่าตกใจจริงๆ
“ไม่ต้องมาเห้ยเลย ลุก!!” คณิตดึงแขนแฝดน้องก่อนจะดึงตะนิดขึ้นพาดบ่า ดวงตาอัลฟ่าวัยรุ่นตวัดมองคนบนเตียงพร้อมกับข่มเขี้ยวในใจ
จะโกรธก็โกรธได้ไม่เต็มที่ ไอ้แฝดน้องตัวดีดันเป็นฝ่ายไปนอนกอดเขา
มันน่าหงุดหงิดจริงๆ !!!
“เห้ยยยยยยยยยยยยย”
“มึงเลิกเห้ยได้แล้ว เครื่องค้างหรอ ไปล้างหน้าแปรงฟัน”
“เห้ยยยยยยยยยยยยย”
“เห้ย พ่อมึงสิตะนิด”
“พ่อกูก็พ่อมึงนะคณิต”
“กูด่าแค่โซนพ่อมึงไม่รวมพ่อกู”
“เห้ยงง!!! อย่าพูดอะไรงงๆ ตอนเช้าดิ๊ ตามไม่ทัน แต่ปล่อยได้แล้ววว เจ็บพุงงง ไหล่คณิตแข็งงงง” คณิตกระชับแฝดน้องบนบ่าก่อนจะแบกพาออกจากห้องไป อัลฟ่าหนุ่มผู้ถูกทิ้งให้แขนชาอยู่บนเตียงมองความวุ่นวายที่หายไปอย่างรวดเร็วนั้นก่อนจะหันมาสบตากับคนเป็นแม่ที่ยืนยิ้มอยู่
“ดูเหมือนจะไปได้ดีกว่าดีคิดนะคะ”
“...” ภาสไม่ได้ตอบอะไรไปเพียงแต่ยกมือขึ้นเกาหัวเก้อๆ
พอเห็นว่าคนบนเตียงสภาพดูสภาพเหมือนต้องการความเป็นส่วนตัว คุณนิตยาจึงเอ่ยขอตัวออกไปดูลูกชายเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกมา
ภาสเหม่อมองไปยังประตูที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ด้วยความที่เขาอยู่คนเดียว ปกติแล้วห้องของเขามักจะไม่ค่อยมีเสียงอะไรมากนอกเสียจากเสียงทีวีหรือเสียงเพลงที่เปิดไว้แก้เหงา พอมีเสียงดังโวยวายแบบนี้ก็ดูเหมือนห้องจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย
... ถึงจะเหม็นอัลฟ่าอื่นนิดหน่อยก็เถอะ
ภาสส่ายหัวเรียกสติกลับมาเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟัน พอทำธุระส่วนตัวส่วนตัวเสร็จ แค่เปิดประตูออกมาจากห้องนอน เสียงโวยวายจากชั้นล่างก็ดังขึ้นมา
“คณิต อย่างกไซรัปได้ป่ะ ราดมาอีก แพนเค้กต้องราดชุ่มๆ เดะ”
“แค่นั้นเบาหวานก็แดกแล้ว”
“ราด-อีก!!!”
“รำคาญว่ะ เสียงดัง”
“คณิต!!!!”
“หยุดตีกันเดี๋ยวนี้นะทั้งคู่เลยลูก เสียงดัง”
“แม่!! คณิตบีบไซรัปใส่หน้านิด!!!”
“ก็หน้ามึงเหมือนแพนเค้ก”
“เข็มอัปษร?”
“หึ กลม”
“คณิต กูจะโกรธแล้ว”
“มึงตบมุกโง่ดี กูชอบ แพนเค้กเขาชื่อจริงเขมนิจไม่ใช่เข็มอัปษร กูเวทนาว่ะ”
“คณิตว่ากูหน้ากลมหรอ!!!”
อืม ดูมีชีวิตชีวาก็จริง
แต่ก็หนวกหูเหมือนกัน
ภาสค่อยๆ เดินลงไปชั้นล่าง ก่อนจะพบว่าครอบครัวแมวกำลังกินอาหารเช้าในนเวลาเกือบจะบ่ายสองอยู่ คนเป็นแม่ยืนยิ้มพลางตักแพนเค้กใส่จานให้เขา แฝดพี่จ้องเขาตาเขม็ง ส่วนเจ้าแมวดื้อกำลังจ้วงแพนเค้กเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ จนแก้มพองเป็นก้อน
“คุณภาส ทานแพนเค้กไหมคะ”
“อ่า ก็ดีครับ” เขาพยักหน้าขอบคุณไปเล็กน้อยก่อนจะเลี่ยงตัวไปชงกาแฟ ภาสยกแก้วขึ้นสูดกลิ่นหอมกาแฟก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อมีกลิ่นบางอย่างผสมมา
กลิ่นแป้ง?
เขาตวัดตามองไปที่โอเมก้าคนเดียวในห้อง ซึ่งตอนนี้กำลังเอ็นจอยอีตติ้งแก้มกลมขยับไปขยับมาดูมีความสุขกับการได้กิน ปกติแล้วตะนิดจะปล่อยกลิ่นแป้งเด็กผสมกลิ่นพีชมาจางๆ อยู่แล้ว แต่วันนี้ดูเหมือนจะกลิ่นจะแรงขึ้น
เขายกกาแฟขึ้นจิบก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆ คนตัวเล็ก มองจากภายนอกแล้วก็ดูไม่มีอาการอะไรชัดเจน
... สงสัยเขาจะคิดมากไปเอง
“มองไรลุง”
“ตะนิด อย่าให้พูดซ้ำ”
“...”
“ตะนิด”
“อื้อ รู้แล้วๆ ...พี่ภาส” พองแก้มไม่พอใจแล้วก็หันไปกินต่อ
“ตะนิด ไม้เบสบอลอยู่ไหนวะ ทำไมหาไม่เจอ” คณิตเดินขมวดคิ้วเข้ามาจับหัวฟูของแฝดน้อง
“น่าจะอยู่ด้านหลัง”
“หลังไหน”
“...หลังรถ” พูดจบตะนิดก็ได้รับสายตาพิฆาตจากแฝดพี่ทันที
ภาสหัวเราะในลำคอ เขาเป็นคนเปิดท้ายรถเอาของเองกับมือ เห็นอยู่แล้วแหละว่ามีไม้เบสบอลวางอยู่หลังรถแต่ใครมันจะไปแบกอาวุธของศัตรูขึ้นห้องกัน ปล่อยให้เจ้าแมวพกแค่อาวุธอย่างคุณนุ่มเบอร์หนึ่งกับเบอร์ห้านั่นก็มากพอแล้ว
“ตะนิด กูจะเริ่มด่ามึงว่ายังไงก่อนดี”
“ไอ้หล่อตะนิดไหม”
“โง่ ไอ้โง่”
“คณิต มึงก็พี่ไอ้โง่แหละวะ”
“กูเจ็บมากมั้ง มึงด่าตัวเองทำไม”
“เออว่ะ เอาใหม่ๆ มึงก็โง่เหมือนกูแหละ”
“โง่เกินต้าน กูไม่ไหวกับมึงแล้วนะ”
“กูไหว กามิกาเซ่ ปากดีขี้เหงาเอาแต่ใจ”
“มึงไม่เคยฟังก็ไม่ต้องฝืน มั่วว่ะ ขโมยแพนเค้กแดกแม่ง”
“คณิตใจหมา! แย่งของกิน! สันดานโจร!” ภาสมองแมวกับหมาตีกันตรงหน้าพร้อมกับรู้สึกแปลกตาพิลึก
เขามีน้องชายอีกสามคนแต่แทบไม่เคยทะเลาะกันในทรงนี้เลย อาจจะด้วยความเป็นอัลฟ่าทั้งบ้าน พวกเขาน่ะมักจะทะเลาะกันไปในทางกวนตีนกันไปกันมาจนชกต่อยกันจริงๆ ถึงจะเคลียร์กันเข้าใจ ไอ้มาทะเลาะงุ้งงิ้งๆ แบบนี้นี่แค่คิดก็ขนลุก
“เลิกทะเลาะกันได้แล้วลูก เป็นไงบ้างล่ะเราน่ะตะนิด โอเคไหม”
“โอเคไรอ่ะ”
“คืนแรกที่นี่” ภาสจิบกาแฟพลางเหลือบตามองคุณแม่เบต้าตรงข้ามโต๊ะ
“อือ เหงามั้ง” เสียงเล็กตอบอ้อมแอ้ม “อยู่ไม่ได้หรอกเนี่ยแม่ ตะนิดเหงา ไม่มีคณิตอยู่ไม่ได้”
“เด็กติดพี่” คนเป็นแม่ส่ายหัวระอา
“คณิตก็คิดถึงตะนิดนะแม่” เจ้าแมวรีบพูดขึ้น
“แม่ก็คิดถึงเรา บ้านเงียบเลยนะพอไม่มีเสียงแฝดทะเลาะกัน”
“...”
“ลองอยู่สักเดือนสองเดือนแล้วกันนะลูก ถ้าไม่โอเคจริงๆ แม่ก็เข้าใจ” คนเป็นแม่ลูบแก้มยุ้ยของลูกชายไปมา
“แต่...”
“ตายจริง ได้เวลาต้องพาคณิตไปซ้อมมวยแล้วนี่”
“เอ๊ะ” คณิตขมวดคิ้ว เขาจำได้ว่าวันอาทิตย์เขาไม่มีซ้อมนี่นา
“งั้นเราไปกันดีกว่า คณิตเก็บของให้เรียบร้อย ส่วนตะนิดล้างจานด้วยนะลูก”
“แม่ ผมไม่มีซ้อม- “
“แม่ว่ามีมันน่าจะมีนะ คณิตว่าไหม” คนเป็นแม่ยกยิ้มหวานแต่นั่นทำเอาขนแขนแฝดพี่อย่างคณิตลุกเกรียว เขาคัดค้านในใจแต่สุดท้ายก็ได้แต่ทำตามคำสั่งของคนเป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน
ภาสตามอะไรไม่ค่อยทันเท่าไหร่ บ้านของเจ้าแมวมีความเสียงดังในการวอแวอำลากันอยู่สักพักจู่ๆ ก็ขนตัวเองออกกันไปจากห้อง ทิ้งแต่แมวขี้เหงานั่งซึมอมน้ำส้ม แก้มใสนั่นล้นยืดกองอยู่บนโต๊ะ
ภาสยอมรับว่าเขาทำอะไรไม่ถูกเมื่อรู้ว่าอีกคนเหงา แต่เขาเองก็ไม่ใช่คนที่อยู่กับใครแล้วสนุกและยังไม่ใช่คนชอบคุยหรือเริ่มบทสนทนาก่อนด้วย ยังไม่ทันหาวิธีเจอเจ้าแมวก็ลุกขึ้นเดินเท้าลากพื้นขึ้นชั้นสองไป
อัลฟ่าหนุ่มลอบถอนหายใจ เขายกมือขึ้นนวดขมับก่อนจะหยิบมือถือขึ้นสั่งกดสั่งอาหาร เผื่อว่าเจ้าแมวน้อยจะหิวแล้วลงมาหาอะไรกิน สำหรับวันนี้ก็คงต้องแยกกันอยู่ไปก่อนจนกว่าเขาจะหาวิธีคลายเหงาของอีกฝ่ายให้เจอ
ชีวิตคืนที่สองก็ยังอยู่ในความปกติและเบนไปในทางจืดชืด เขากับตะนิดแยกกันใช้ชีวิต คุยกันแทบจะนับคำได้ ถึงจะมีช่วงที่กินข้าวเย็นด้วยกันแต่พอกินเสร็จเจ้าแมวก็วิ่งหนีเข้าห้องตัวเอง ไปขลุกอยู่กับกองตุ๊กตาที่พี่ชายเพิ่งแบกมาให้จากบ้าน พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยากคุยอะไร เขาก็มานั่งทำงานผ่านไอแพดอยู่ที่ห้องนั่งเล่นตามปกติ
เวลาผ่านไปโดยที่เขาไม่ได้แม้แต่จะเชคเวลา
จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องนอนและเสียงเท้าที่กำลังเดินลงมา ภาสเหลือบตามองนาฬิกาข้างฝาหนัง
สองทุ่ม
กินมื้อดึกงั้นสินะ
เขาละตาจากจอไอแพดขึ้นมองร่างเล็กที่ค่อยๆ เดินเตาะแตะมาทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆ เขากระตุกคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมา คิดว่าคงลงมาดูทีวีที่เขาเปิดทิ้งเอาไว้
... จากห่างคนละเบาะก็ค่อยๆ กระเถิบมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มานั่งไหล่ชิดกับตัวเขา ภาสยกคิ้วงงกับพฤติกรรมแปลกๆ นั่น
“ตะนิด”
“...”
“ตะนิด”
“อื้อ”
“เมื่อวานได้กินยาไหม”
“อืมไม่”
“อืมไม่?”
เขากะจะถามต่อว่าตกลงอืมหรือไม่ แต่ทันใดนั้นตะนิดก็พิงหัวมากับแขนเขาพร้อมกับถูหัวไปมาเหมือนลูกแมว ภาสมองภาพตรงหน้าก่อนจะวางไอแพดลงแล้วใช้มือจับหน้าดื้อออกมามอง ใบหน้ากลมดูสลึมสลือเล็กน้อย กลิ่นแป้งเริ่มแรงแต่ก็ไม่ถึงกับแรงขนาดที่ว่าเป็นกลิ่นในช่วงฮีททำให้เขารู้สึกได้ว่าเจ้าแมวตรงหน้ามีอะไรบางอย่างแปลกไป
“นี่...”
“...” ภาสขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อจะนิดชันเข่าขึ้นก่อนจะย้ายตัวมานั่งทับบนตักเขา
“เหงา”
“...”
“เหงานะเนี่ยน้า”
ป้อแป้...
อัลฟ่าหนุ่มถอนหายใจยาวพร้อมเอื้อมมือไปที่โต๊ะข้างโซฟา เขาคุ้ยหาของก่อนจะหยิบเข็มยาระงับการรัทขึ้นมา ใช้มือเดียวในการถอดฝาออกก่อนจะปักเข็มฉีดยาเข้าบริเวณต้นขา
ดูท่าทางเจ้าแมวตรงหน้ากำลังจะ ‘ดื้อ’ ใส่เสียแล้ว
“รู้ตัวไหมเนี่ยว่ากำลังจะฮีท”
“ไม่ฮีท”
“ตะนิด” ภาสยกมือขึ้นเสยผมหน้าม้าขึ้นก่อนจะก้มลงพิจารณาก้อนแมวบนตัก ตะนิดซุกหน้าเข้ากับอกเขาพร้อมกับถูหน้าไปมา
“เหงา”
“พรุ่งนี้ฉันจะหาเกมอะไรเข้ามาให้เล่น ชอบเกมแบบไหนล่ะ” แมวน้อยเงยหน้าก่อนจะชันตัวขึ้นงับคางที่มีตอหนวด ภาสผงะเล็กน้อยกับการกระทำนั่น
“เล่น”
“ตะนิด ยาอยู่ไหน”
“เล่นด้วยกัน อยากเล่นด้วย”
“เราเก็บยาไว้ไหน”
“เล่นกับนิดหน่อยน้า” ปากเล็กจุ๊บลงบนแก้มสากของคนแก่กว่า ก่อนจะย้ายจุ๊บไปทั่วหน้าตั้งแต่คิ้วยันจมูกก่อนจะมาหยุดที่ริมฝีปาก ตะนิดกดจุ๊บลงไปย้ำๆ แต่ไม่ได้ทำอะไรไม่มากกว่านั้น มือเล็กนุ่มนิ่มยกขึ้นสางผมอัลฟ่าหนุ่มไปมา สะโพกเล็กขยับส่ายไปมาเบาๆ
ภาสถอนหายใจออกมายาวเหยียด โดนจุ๊บจนหน้าเปียกไปหมด แถมสะโพกเล็กที่ขยับอยู่นั่นก็อันตรายมากเสียด้วย
“ตะนิด เราคิดจะทำอะไร”
“เล่นก่อน ไม่ถามได้ไหม! ยุ่ง! เหงา!” เสียงดื้อนั่นขยับความหงุดหงิดขึ้นมาเหมือนคนโดนขัดใจ ปากเล็กอ้าขึ้นก่อนจะก้มลงงับคอคนตรงหน้าเข้าไปจมเขี้ยว
ภาสสะดุ้งเล็กน้อยกับแรงกัดที่มาโดยไม่ทันตั้งตัว ดีที่อีกฝ่ายเป็นโอเมก้า ต่อให้กัดจมเขี้ยวแค่ไหนก็ไม่สามารถสร้างพันธะได้เหมือนที่อัลฟ่ากัด
“อย่ากัดตะนิด ไม่ดื้อ”
“จะดื้อ” แมวน้อยเหยียดตัวขึ้นแต่ก็โอนเอนจนอัลฟ่าหนุ่มต้องยกมือขึ้นโอบแผ่นหลังบางนั่นไว้ไม่ให้หงายหลังตกโซฟาไป
“แมวดื้อ”
“อื้อ ดื้อครับ แต่นิดเดียว ดื้อนิดเดียว ดื้อเท่านี้” มือเล็กยกนิ้วโป้งกับนิ้วชี้เข้าหากันให้รู้ว่าดื้อนิดเดียว นิดเดียวจริงๆ นะ
“เราน่ะหรอดื้อแค่นี้” ภาสยกมือขึ้นขยายช่องว่างระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของคนตัวเล็กให้ห่างกว่าเดิม “เราน่ะดื้อมากเท่านี้ต่างหาก”
“คนใจร้าย”
“...”
“เหงานะเนี่ยน้า เหมือนแกล้งนิดเลย ใครก็ทิ้งนิด เพราะนิดเป็นโอเมก้าหรอ”
“... ตะนิด” อัลฟ่าหนุ่มยกมือขึ้นลูบหัวฟูเบาๆ ใบหน้าอ้อนของโอเมก้าน้อยอิงแอบแนบมือใหญ่ส่งสายตาออดอ้อน
“พี่ภาสก็ทิ้งนิด”
“ฉันไม่ได้ทิ้ง”
“ห้องกว้าง น่ากลัว ทำโทษกันหรอ เหงา... นะเนี่ยน้าา” ปากเล็กเบะเหมือนจะร้องไห้นั่นทำให้ใจคนตัวใหญ่อ่อนยวบ
แต่ทั้งๆ ที่เหมือนจะเปิดโหมดซึ้ง แต่สะโพกนุ่มนิ่มนั่นกลับบดเบียดเปลี่ยนมู้ดจากดราม่าเข้าอีโรติก ภาสเรียกสติตัวเองกลับมาทันที
“เก็บยาไว้ไหน ตอบหน่อยเร็วแมวดื้อ” ภาสตะล่อมถามพร้อมกับกดจมูกลงกับแก้มใสอย่างอดไม่ได้ เขาเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน ถึงจะฉีดยาระงับไปแล้วแต่ก็ต้องยอมรับว่าการโดนน้วยใส่แบบนี้มันก็อดทนยากเกินไป
นุ่มนิ่มไปทั้งตัว
ไอ้เสียงอ้อแอ้แถมอ้อนขนาดนี้นี่มันขี้โกงเกินไปแล้ว
“พี่ภาสสส”
“หืม”
“กอดนิดหน่อยค้าบบบ” เจ้าแมวดื้อทิ้งตัวลงกอดเขา ถึงจะงงแต่ภาสก็ยกมือขึ้นลูบหลังเล็กไปมา
ทันใดนั้น
กลิ่นแป้งเด็กผสมกลิ่นพีชก็แตกกระจายรุนแรงจนภาสเองต้องย่นจมูก กลิ่นฉุนรุนแรงขนาดนี้
ฮีทเสียแล้ว
ภาสถอนหายใจ ถึงแม้เขาจะฉีดยาระงับการรัทไว้แล้ว แต่กลิ่นจากคู่แห่งโชคชะตาก็แรงจนเขาเหงื่อซึมกรอบหน้า
ตอนนั้นเองที่จู่ๆ ร่างบนตักเขาก็เริ่มทำการขย่มตัวเอง ภาสผงะกะพริบตาปริบๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น ดวงตาคมใต้แว่นกรอบเหลี่ยมตวัดมองคนบนตักที่ผละออกไปก่อนจะตั้งหน้าตั้งตา
ขย่มตักเขา...
ขย่มโดยที่เสื้อผ้าครบทั้งตัวเองและตัวเขา
“ตะ ตะนิด”
“อื้อ” ใบหน้าเล็กเงยขึ้นโชว์ลำคอขาวที่มีปลอกคอหนังรัดอยู่ สะโพกเล็กขยับกระแทกบดตัวไปมาเหมือนคนไร้สติ
ภาสทำตัวไม่ถูกไปหมด เขาได้แต่กระพริบตาปริบๆ มองเจ้าแมวดื้อที่ขยับตัวบดเบียดร่างตัวเองขึ้นลงเป็นจังหวะ ใบหน้าดื้อที่ชอบพองแก้มขัดใจนั่นขึ้นสีแดงกลายเป็นก้อนโมจิแต้มสีชมพู ปากเล็กบีบเม้มเข้ากันจนบวมช้ำไปหมด
ไม่ใช่แล้ว...
มันเป็นการคลายฮีทแบบไหนกัน ทำไมเขาไม่เคยเจอโอเมก้าที่ไหนฮีทแล้วช่วยตัวเองด้วยวิธีนี้เลย
“ตะนิด เวลาฮีทปกติเธอทำยังไง”
“...”
“ตะนิด ตอบฉัน” ภาสใช้มือเกี่ยวแก้มเล็กให้ก้มลงมาสบตาเขา ดวงตากลมที่มักฉายแววดื้อตอนนี้ปรือลงด้วยแรงอารมณ์ เขี้ยวเล็กนั่นงับนิ้วโป้งเขาเบาๆ
“คะ คุณนุ่มเบอร์ห้า”
“...”
“ถูคุณนุ่ม อ๊ะ ฮึก”
ภาสได้แต่กุมขมับตัวเองกับคำตอบของร่างบนตัก เด็กตรงหน้าไร้ประสบการณ์ทุกอย่างโดยสิ้นเชิง ไม่แม้แต่จะเคยแตะต้องตัวเอง ทุกอย่างเป็นไปตามสัณชาตญาณ นั่นยิ่งทำให้เขาต้องห้ามตัวเองไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ตะนิด ไปบนห้องเถอะ ไปเอายากัน”
“พี่ภาส พี่ภาส ฮึก”
“แมวดื้อ ให้ความร่วมมือหน่อย” อัลฟ่าหนุ่มเอ่ยเสียงอ่อนใจ เขาเองก็ปวดตึงไปหมด ดีที่ใส่กางเกงนอนที่มีความยืดหยุ่นสูงไว้แต่ข้อเสียคือผ้าค่อนข้างบางจนมันสะเทือนไปหมดทุกส่วน
...เจ้าแมวดื้อก็ใส่ไม่ยั้งแรงเลย เจ็บไปหมดแล้ว
“อ๊ะ พี่ภาส”
“ไม่ครางได้ไหม” อัลฟ่าหนุ่มถอนหายใจยาวก่อนจะตัดสินใจระบายอารมณ์กับปลอกคอหนัง เขางับมันเล่นๆ คลายอารมณ์ที่ปวดตึง แม้จะเป็นปลอกคออย่างดี แต่ด้วยแรงอัลฟ่าแค่เพียงไม่นาทีก็ถูกกัดจนสภาพเกือบขาด เขาจึงต้องหยุดเปลี่ยนเป็นไปถูจมูกตัวเองตามผิวเนื้อหอมแป้ง
อยากกัด อยากทำรอย อยากเป็นเจ้าของ
... แต่ต้องอดทนไว้
ภาสมองปากสีแดงอิ่มนั่นอย่างช่างใจ สุดท้ายก็ห้ามตัวเองไม่อยู่ประทับจูบลงไป จูบที่เป็นจูบไม่ใช่แค่จุ๊บแบบที่ลูกแมวคุ้นเคย เกลียวลิ้นที่สอดประสานไปพร้อมกับลมหายใจหอบกระเส่า ด้วยความที่ไม่คุ้นเคยเจ้าแมวจึงเป็นฝ่ายผละหน้าออก
“หะ หายใจไม่ทัน”
“ต้องฝึกบ่อยๆ”
“อื้อ...”
ถูกแกล้งอีกแล้ว
แมวดื้อครางขัดใจในลำคอแต่สุดท้ายก็ระทวยได้แต่ปล่อยให้คนหน้าดุแกล้งขโมยลมหายใจต่อไปอีกหลายครั้ง
ลูกแมวน้อยขย่มตัวเองอยู่เพียงไม่กี่นาทีก็ตวัดแขนกอดคอรัดอัลฟ่าหนุ่มจนหน้าปักลงกับอกนิ่ม ร่างทั้งร่างเหยียดเกร็งจนไหล่สั่นระริกพร้อมกับส่งเสียงหวีดลั่น
ภาสที่หน้าชิดอยู่กับอกขาวกลิ้นแป้งเด็กได้แต่กะพริบตาปริบๆ งงอีกรอบ
แค่สัมผัสผ่านเนื้อผ้าก็รู้สึกได้ถึงขนาดนี้เลยหรอ...
สงครามจบลงอย่างรวดเร็วจนเขาตกใจ ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำแต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความเปียกแฉะของกางเกงร่างบนตัก แมวน้อยหอบแฮ่กๆ อยู่สักพักก็เริ่มขยับตัวขย่มอีกรอบ
“ตะนิด เดี๋ยว”
“อ๊ะ ฮึก คุณนุ่ม”
“ฉันไม่ใช่คุณนุ่ม” ภาสตวัดตาดุร่างเล็ก
“ฮึก...”
“เรียกชื่อฉัน ฉันคือใครตะนิด”
“ฮึก ไม่ดุนะ อย่าดุ พี่ภาสไม่ดุนิด”
“แมวดื้อ ตอบ” อัลฟ่าหนุ่มใช้มือจับสะโพกเล็กในหยุดขยับก่อนจะใช้มือจับแก้มโมจินั่นให้จ้องหน้าเขา
อยู่บนตักเขา
แม้แต่ชื่อตุ๊กตาก็ไม่อนุญาต
“พี่ภาส พี่ภาส ปล่อยนิด พี่ภาส ฮึก”
“อย่าเรียกชื่อคนอื่นอีก”
“พี่ภาส ไม่แกล้งนิดนะ ใจร้าย นิดไม่ดื้อแล้ว ไม่แกล้งนิด”
“เราน่ะดื้อ”
“พี่ภาสไม่แกล้งนิดนะ” เสียงเล็กโวยวายพร้อมกับพยายามเหยียดตัวงับคางอัลฟ่าหนุ่มด้วยความออดอ้อนตามสัณชาตญาณ อัลฟ่าหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ
อ้อนได้อ้อนดี
ทีเวลาไม่ฮีทขู่ฟ่อเป็นลูกแมว
“ไปห้องฉัน โซฟามันปวดหลัง” ภาสกระชับคนบนตักก่อนจะจับอุ้มลุกขึ้น แมวน้อยตวัดขารัดเขาพร้อมกับพยายามถูสะโพกไปมาไร้สติสัมปะชัญญะไปโดยสิ้นเชิง
“ไม่ฉีดยานะ นิดเจ็บ” หน้าดื้อถูไปมากับเนินไหล่อัลฟ่าหนุ่ม
ภาสอุ้มตะนิดบนชั้นสอง พอจะก้าวเข้าห้องของคนในอ้อมกอดเพื่อเอายาระงับฮีท แมวน้อยก็จิกไหล่เข้าให้เต็มแรง เขี้ยวเล็กงับต้นคอพร้อมกับส่งเสียงอืออา
“ตะนิด ไม่กัด” ภาสตีแผ่นหลังบางเบาๆ เป็นการดุ
“ไม่ฉีดยานะ”
“...”
“นะ” ตะนิดยกแก้มนิ่มขึ้นถูกับแก้มเขาไปมา ความนุ่มนิ่มที่ติดอยู่ที่ตอหนวดจางๆ นั่นทำเอาอัลฟ่าหนุ่มขยำก้นนิ่มไปด้วยความมันเขี้ยว
ภาสขบฟันกรอดพร้อมกับคำรามต่ำในลำคอ
สุดท้ายก็แพ้แรงอ้อนหมุนตัวพาแมวดื้อกลับเข้าห้องตัวเอง
ให้ตายเถอะ...
เขาจะบ้าตายจริงๆ แล้วนะ