ปากดีนัก ต้องโดนจัดซะให้เข็ด
บทที่ 1
ท้องฟ้ายามอัสดงเป็นสีแดงเข้มจนเกือบจะดำเพราะความมืดมิดที่โรยตัวลงมากลืนกินแสงของดวงอาทิตย์ ท่ามกลางความแห้งแล้งของอากาศในฤดูหนาว ถึงแม้ว่าอากาศจะยังเรียกได้ว่าอบอุ่นจนเกือบร้อนก็ตาม สายตาคู่หนึ่งเหม่อมองไปกับคันดินที่ยกร่องขึ้นมา เหนือผิวดินเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่เจ้าของดวงตาเรียวคู่นั้นเป็นผู้ปลูกและดูแลมากับมือ ยิ่งบรรยากาศเช่นนี้หัวใจของเขาที่เพิ่งแตกสลายมาก็ยิ่งเจ็บช้ำ
ใช่ เขาเพิ่งถูกบอกเลิก จากผู้หญิงคนแรกที่เขาแอบชอบ ตั้งแต่ฮอร์โมนเพศชายทำงานเขายังไม่เคยสนใจใครสักคน ชีวิตพลีให้ดอกไม้ใบหญ้าเพื่อเพิ่มออกซิเจนต่อสู้กับภาวะเรือนกระจก ผู้หญิงที่เขานำดอกไม้ที่ปลูกเองกับมือไปมอบให้ทุกวี่วันเป็นปี จนกระทั่งรวบรวมความกล้าหาญขอผู้หญิงคนนั้นเป็นคนรักเมื่อสองเดือนก่อน ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยในชั้นปีที่สองเบ่งบานสุดขีด แต่แล้ววันนี้มันก็เหี่ยวแห้งราวกับลูกโป่งถูกเข็มแทง น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วกลับมาหลั่งรินอีกครั้งเมื่อคิดถึงคำตัดรอนจากสาวสวยอดีตดาวมหาวิทยาลัยเมื่อคราวรับน้องใหม่สมัยปีหนึ่ง
“ไม่ ออยจะทิ้งผมไปไม่ได้ ผมรักออยนะ เราคบกันมาตั้งสองเดือนแล้วออยก็รู้ว่าผมรักออยแค่ไหน”
เมื่อตอนบ่าย ผู้หญิงคนนั้นมาที่ใต้ถุนตึกคณะของเขาเพื่อบอกเลิก เหตุผลก็เพราะเจอคนที่ใช่กว่าเขา สายตาเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในคณะจ้องมองเป็นตาเดียวด้วยความเห็นใจ แต่เขาก็ไม่สนใจ ดวงตาเปียกชื้นจ้องมองคนใจร้ายอย่างตัดพ้อ
“ทิวยอมรับเถอะว่าเราไม่เหมาะสมกัน”
สีหน้าเบื่อหน่ายของออย หรือชื่อจริงว่าอลิษา สาวสวยคณะบัญชีกรีดลึกลงมาบนหัวใจดวงน้อยๆของเขา นายทิวไม้คณะเกษตร อลิษายืนกอดอกมองเขาอย่างเวทนา
“อันที่จริงออยก็แค่สงสารทิวหรอก แล้วช่วงสองเดือนที่ผ่านมาออยยังว่างไม่ได้คบกับใครเป็นพิเศษก็เลยคบกับทิวแก้ขัดเท่านั้นแหละ ใครๆก็รู้ว่าออยเคยเป็นดาวของมหาวิทยาลัย มันไม่ได้เหมาะสมกับทิวเลยสักนิด ทิวลองกลับไปมองกระจกที่หอก็แล้วกัน”
ดีนะที่อลิษาไม่ได้บอกให้เขาตักน้ำใส่กะลา เจ้าหล่อนยังทำหน้าเคลิบเคลิ้มเมื่อพูดประโยคถัดไป
“แล้วตอนนี้ออยก็พบกับคนที่ใช่สำหรับออยแล้วด้วย”
ออยพูดออกมาโดยไม่ได้สนใจเลยว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร ใช่สิ ไอ้ทิวไม้มันก็แค่เด็กเกษตรที่แสนจะธรรมดา รักต้นไม้รักท้องฟ้า รักปลา รักซากุระ เอ๊ย พอแล้ว เขาไม่ใช่คนเด่นคนดังของมหาวิทยาลัยอลิษาจึงไม่เห็นคุณค่าในตัวเขา
“ใคร บอกทิวมาทีว่าคนที่ออยบอกว่าใช่มันคือใคร ทิวจะไปต่อยหน้ามัน”
ทิวไม้คร่ำครวญราวกับจะขาดใจ อลิษาส่ายหน้าเมื่อเห็นสภาพของเขา
“คนอย่างทิวเนี่ยนะจะไปต่อยเขา ดูสารรูปตัวเองก่อนเถอะ เป็นเด็กเกษตรซะเปล่าแต่ตัวผอมแห้งแบบนี้ ออยยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทิวยกจอบยกเสียมขึ้น แล้วคนที่ใช่ของออยเนี่ยเขามีกล้ามมีซิกแพ็คเป็นมัดๆ แค่เป่าลมใส่ทิวเบาๆก็ปลิวแล้ว”
“ออยบอกทิวมาเดี๋ยวนี้ว่ามันเป็นใคร ที่บังอาจแย่งออยไปจากทิว”
เขาฝืนตะโกนออกไปทั้งที่แรงจะยืนยังแทบไม่มี แต่อลิษาไม่ได้รู้สึกสักนิดว่ากำลังทำให้หัวใจของเขาแหลกสลาย หญิงสาวยักไหล่พลางมองทิวไม้อย่างสมเพช
“ถ้าทิวอยากรู้มากออยก็จะสงเคราะห์บอกให้ พี่แบงค์คณะบริหารปีสี่ยังไงล่ะ ออยได้ยินชื่อเสียงของพี่แบงค์มาพักหนึ่งแล้วว่าทั้งหล่อทั้งรวยเรียนดีกีฬาเด่นเคยเป็นเดือนมหาวิทยาลัยมาก่อนด้วย เมื่อไม่กี่วันก่อนออยเพิ่งได้รู้จักกับพี่แบงค์ โอ้โห ออยเพิ่งรู้ว่าคำว่าเพอร์เฟ็คมันเป็นยังไง แล้วก็นะ...”
อลิษาก้าวเข้ามากระซิบที่ข้างหูของทิวไม้ น้ำเสียงสดใสระริกระรี้
“เมื่อคืนออยไปเที่ยวกับเพื่อน เจอกลุ่มของพี่แบงค์ เราแยกไปกันสองคนแล้วเราก็อย่างว่ากันด้วย โอ๊ย ทิว เขาเด็ดกว่าทุกคนที่เคยผ่านมาของออยเลยล่ะ ทิวจะสู้พี่แบงค์ไหวเหรอ สองเดือนมานี้มีแต่จับมือออย รำคาญน่ะมันเสียเวลา”
อลิษาหันมาเหยียดยิ้มใส่
“รู้แล้วก็ลองไปเทียบดูนะ ว่าระหว่างอดีตเดือนมหาลัยอย่างพี่แบงค์กับทิวน่ะ ใครเหมาะกับออยมากกว่ากัน บอกตรงๆนะ ออยไม่อยากไปนั่งขุดไส้เดือนเป็นเพื่อนทิวหรอก คนอะไรก็ไม่รู้ น่าเบื่อ วันๆหมกตัวอยู่แต่สวนดอกไม้ บ๊าบ้า ออยเอาเวลาไปคบกับพี่แบงค์ดีกว่า แค่นี้นะทิว ออยนัดเดทกับพี่แบงค์ไว้ บาย”
หญิงสาวที่เขาหลงรักยกมือโบกอำลาราวกับมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สอำลาตำแหน่ง ทิวไม้ทรุดฮวบลงไปคุกเข่ากับพื้นร้องไห้โฮ เพื่อนๆกลุ่มเดียวกันที่มองอยู่ห่างๆกรูกันเข้ามาปลอบใจเขากันยกใหญ่ จนเวลาผ่านไปเขาถึงได้มานั่งทำใจที่แปลงดอกไม้ที่เขารัก ทิวไม้เหม่อมองฟ้าพลางต่อว่าเสียงดังด้วยความเสียใจ
“ฟ้าจ๋าฟ้า ส่งไอ้ทิวมาเกิดแล้วใยต้องส่งไอ้เหี้ยพี่แบงค์อะไรนั่นมาเกิดก่อนด้วยล่ะ ฮือ เห็นไหม ถูกแย่งแฟนเลย”
ผลัวะ!!
เสียงคร่ำครวญของทิวไม้เงียบลงทันทีเมื่อมือใหญ่ของเพื่อนสนิทเขกลงกลางกระหม่อม เขาหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อนทั้งสองที่มีฉายาในคณะว่าบัฟฟาโล่กับสมเสร็จ ทิวไม้เรียกเพื่อนด้วยฉายาจนลืมไปแล้วว่าจริงๆพวกมันชื่ออะไร บัฟฟาโล่กับสมเสร็จก็เก๋ดีออก
“มึงตบหัวกูทำไมไอ้บัฟ”
“กูรำคาญเสียงมึงไง ถามโง่ๆ มานั่งทำเป็นพระเอกมิวสิควีดิโออยู่ได้” บัฟตอบไม่ไว้หน้า
“ไอ้เหี้ยทิวลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ เราต้องไม่ตายเพราะถูกสาวทิ้งโว้ย”
บัฟดึงเพื่อนตัวเตี้ยขึ้นจากพื้นดินพลางตบบ่าปลอบใจ สมเสร็จรีบพูดเสริมเพื่อให้กำลังใจ
“ไอ้พี่แบงค์คณะบริหารนี่กูได้ยินชื่อมันมานานแล้วเหมือนกัน ข่าวว่ามันดังตั้งแต่ปีหนึ่ง บ้านแม่งรวยไงขับรถมาเรียนแต่ละวันไม่ซ้ำคัน แล้วยังหล่อชิบหายวัวตายควายล้ม สาวๆทั้งมหาลัยอยากจะได้แดกมันทั้งนั้นแหละ แต่สายข่าวบอกว่ามันฟันแล้วทิ้งไม่จริงจังกับใครสักคน อีกสักพักแฟนเก่ามึงก็ต้องซมซานกลับมาเพราะถูกมันทิ้ง เชื่อกูดิ”
ควรจะดีใจไหมเนี่ยถ้าอลิษากลับมาอย่างซมซานอย่างที่ไอ้สมเสร็จพูด
“ตอนนั้นกูคงกระโดดโลดเต้นช่ะ ไอ้เหี้ยสมเสร็จ สัส พูดซะกูอยากเห็นหน้าชิบหาย หล่อ รวยเหี้ยๆของมึงเนี่ย”
“เฮ้อ เพื่อนกูอกหัก ทำไงดีว้า” ไอ้บัฟยิ้มมุมปาก “อกหักก็ต้องแดกเหล้า ดื่มๆเพื่อลืมเธอ พาไอ้ทิวมันไปหาที่แดกเหล้าดีกว่า เผื่อมึงจะลืมรักคุดๆของมึงไง”
พวกเพื่อนที่คณะวนเวียนกันหาที่เที่ยวซ่องสุมกันเป็นประจำอยู่แล้ว จะมีก็แต่ทิวไม้นี่แหละที่สิงอยู่ในเรือนเพาะชำหรือไม่ก็นอนอ่านการ์ตูนที่หอพัก เขามันเด็กอนามัยนอนหลังสามทุ่มไม่ได้ ไม่รู้จะดื่มเหล้ากันทำไม ขมคอจะตาย แต่ว่าวันนี้วันพิเศษเพราะเขาอกหัก ทิวไม้จะยอมดื่มแอลกอฮอลล์ให้มันล้างแผลในใจของเขา
“ได้ กูจะไปแดกเหล้ากับพวกมึง ขมแค่ไหนกูก็จะแดกให้หมด ไอ้ทิวจะเมาหนีช้ำ คืนนี้ไม่เมาไม่กลับหอโว้ย”
เขาประกาศศักดาต่อหน้าเพื่อนและแปลงดอกไม้ทั้งปวง
มีต่ออีกนิด...