Personal Driver : คนขับ(รัก)ส่วนบุคคล | นิยาย Y ตอนที่ 40 P.12 @11/11/20
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Personal Driver : คนขับ(รัก)ส่วนบุคคล | นิยาย Y ตอนที่ 40 P.12 @11/11/20  (อ่าน 43435 ครั้ง)

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
สารภาพกันแล้ว

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อุ๊ยยยยยยย พูดออกมาตรงๆเลย น่ารักอ่ะ เห็นความพยายามๆ :3123: :3123:

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ใจละลายเลยงานนี้

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
กำแพงใจลุงเอกพังแล้วจ้าาาา  :laugh:

จะซึังก็ซึ้งไม่สุดมัวแต่น้งขำลุง ฟิลตัดมู๊ดที่คิดโต้ตอบในใจ จะพูดก็ไม่กล้ากลัวโดนด่า ถถถถ ลุงเอกกกกกก

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
Personal Driver - คนขับ(รัก)ส่วนบุคคล


ตอนที่ 15 เกิดมาไม่เคยนอนซม ก็ต้องเคย

             ผมได้แต่นอนนิ่งๆ ไม่ขัดขืนอะไรอีก ปล่อยให้คนร่างใหญ่ก่ายกอดอยู่นานเนิ่น ลมหายใจอุ่นร้อนปะทะที่ลำคอไปมาจนเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คนข้างๆนอนหลับไปอีกครั้ง ผมดูเวลาก็พบว่ามันผ่านมาแค่สองชั่วโมงเองจากที่พาร่างสูงนี้เข้านอน นี่หมายความว่าเขายังไม่สร่างเมา คำพูดที่เปล่งออกมาคือความจริงใจล้วนๆงั้นเหรอ

             คนที่พูดกรอกหูผมหลับไปนานแล้ว แต่ผมกลับนอนไม่หลับ ความรู้สึกสับสนตีวนไปมาจนต้องลืมตามองเพดานในความมืด ถ้าเป็นคุณจะทำยังไง ในเมื่อเราเกิดมาภูมิใจกับการเป็นผู้ชายที่ดี ดูแลครอบครัว ทำตัวอยู่ในกรอบที่ควรจะเป็น และที่สำคัญไม่เคยมีจิตใจพิศวาสเพศเดียวกันเลยสักครั้ง

...แต่ดันถูกผู้ชายหน้าตาหล่อระดับนี้มาสารภาพรัก

ใช่ ผมสับสน

คิดไม่ตก

นับแกะตัวที่ล้านแล้วก็ยังนอนไม่หลับ

นั่งคิดหัวแทบระเบิดก็ยังไม่ได้คำตอบ

ถามว่า...ผมรังเกียจเขาไหม ... คำตอบคือ ก็ไม่

ถามว่า...ผมชอบเขาหรือเปล่า ... คำตอบคือ ก็ไม่

ผมไม่เคยคิดกับเขาในแง่นั้นมาก่อน มาสะกิดใจก็ตอนที่น้องชายผมพูด และมาได้ยินที่เขาพูดคืนนี้อีกรอบ

แต่ผมใจสั่น... รู้สึกดีที่ได้ยิน รู้สึกขอบคุณที่เขากล้าบอก

...รสจูบหอมหวานก็ผุดขึ้นมาในหัว

...อ้อมกอดอุ่นตอนนี้ก็เป็นกำลังเสริมให้หวั่นไหว

แม่งเอ๊ย... ทำไมโจทย์มันยากขนาดนี้วะ



             กลายเป็นว่าผมนอนตาค้างทั้งคืน แสงแดดยามสายสาดส่องเข้ามาในห้องเนื่องจากไม่ได้ปิดผ้าม่านไว้ เจ้านายหนุ่มนอนเปลี่ยนท่าหลายสิบรอบ สุดท้ายก็มากอดร่างผมไว้แบบเดิม ในเมื่อห้ามไม่ได้ ก็ปล่อยให้กอดไปแหละครับ ตอนนี้ผมปวดหัวหนักมาก และเหนื่อยจนแทบลุกไม่ไหวอีกต่างหาก กลืนน้ำลายแล้วขมคอสุดๆ ... แถมยังเจ็บคอแปลกๆ

“นายเป็นไข้” เสียงเข้มนั้นช่างแตกต่างจากตอนเมายิ่งนัก

“วันนี้ก็นอนพักที่นี่ละกัน เดี๋ยวโทรไปบอกที่บ้านให้” หึ ทำขรึม ทำมาเป็นไม่สนใจ รู้มั้ยเนี่ยว่าป่วยเพราะใคร

“ทำไมปล่อยตัวให้ป่วยได้เนี่ย” พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดอีก ถ้าไม่สนใจก็ไม่ต้องมาเช็ดตัวให้สิโว้ย

“โอ๊ย” ผมร้องเบาๆเพราะความมือหนักของคนที่เช็ดตัวให้ ท่าทางไม่เคยดูแลคนป่วยมาก่อน

“สมน้ำหน้า เจ็บซะบ้างก็ดี ป่วยแบบนี้ทำไมไม่โทรหาคนที่ชอบมาดูแลล่ะ” เอ๊า...ประชดอี๊ก นี่ลืมเรื่องที่พูดเมื่อคืนไปหมดแล้วใช่มั้ยเนี่ย

“คุณต่อไม่ต้องทำก็ได้นะครับ ผมไหว”

“ก็ไม่ได้อยากทำหรอก แต่กลัวมีคนเสียใจถ้านายมาป่วยตายแถวนี้” โอยยยย เด็กน้อเด็ก

“คุณต่ออออออออออออ” ผมพ้อสิ หมดแรงด้วย “เมื่อคืนผมก็เล่าแล้วไง”

“ตอนไหน” อ้าว ลืมจริงไปอี๊ก

“ช่างมันเถอะครับ” ผมเหนื่อยมากจริงๆ รู้สึกหนาวไปหมด

ก๊อกๆ

“คุณต่อคะ ป้าเอายากับข้าวต้มมาให้ค่ะ” ป้าสายหยุดเดินเข้ามาในห้องอย่างคุ้นเคย มองผมด้วยแววตาสงสาร คงเห็นสภาพนอนซมเป็นผักแบบนี้แน่

“ขอบคุณครับป้า เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง ป้าไปพักเถอะ”

“ค่ะ มีอะไรเรียกป้านะคะ” ป้าสายหยุดเดินออกไปหลังวางของ ตอนนี้ในห้องก็เหลือแค่ความเงียบของคนสองคน

“กินข้าว เดี๋ยวกินยา” เสียงเข้มสั่ง ผมขืนตัวเองลุก ไม่ไหวบอกไหว เกิดมาไม่เคยป่วยมาก่อน พอป่วยทีก็หนักเลย เพราะบลูฮาวาย คำพูดน้องชายตัวดี คำสารภาพรักของคนหน้าบูดที่นั่งเฝ้าตอนนี้ และการนอนไม่หลับทั้งคืน

ทรุดสิครับ...

“อยู่เฉยๆ พิงหมอนตรงนี้” เจ้านายหนุ่มสั่งเสียงดุตอนเอาหมอนมาหนุ่มท้ายทอยผมไว้ มือใหญ่จับจานรองชามข้าวต้มก่อนตักเป็นคำ

“ฟู่ๆ” เห้ย มีเป่าด้วย

“อะกินซะ จะได้กินยา” ผมอ้าปากงับช้อนข้าวต้ม ไม่รู้รสชาติของมันเลยสักนิด แถมยังกลืนยากกลืนเย็นอีก เจ็บคอไปหมด

“พอแล้วครับ” ตอนนี้คิดแค่อยากจะนอนเท่านั้น

“ใครให้พอ แค่คำเดียวจะไปอยู่ท้องอะไร” ไม่ชอบเสียงแบบนี้เลย ให้ตายสิ

             ไม่เคยป่วยขนาดนี้เลย มีแต่หัวร้างข้างแตก แต่จะมีไข้นอนซมตัวสั่นน่ะไม่มีมาก่อน ทำไมมันหนาวได้ขนาดนี้ ปวดหัวตุบๆเหมือนมีค้อนมาทุบอยู่ตลอดเวลา รู้สึกเพลียไม่สบายใจไปหมด ครั่นเนื้อครั่นตัวจนระบม คิดถึงแม่ใจจะขาด ... คนป่วยนี่อ่อนไหวได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ เพิ่งเคยเป็นกับเค้าครั้งแรกนี่แหละ

“ผมอิ่มแล้ว” ตาจะปิดแล้วด้วย รู้สึกเปลือกตาหนักหลายกิโลกรัม อยากกอดแม่ คิดถึงแม่...

“อีกคำนะ เดี๋ยวกินยา”

“ไม่” ผมปัดเสียงแข็ง รู้สึกแปลกไปหมด อยากกลับบ้าน คิดถึงบ้าน

“ตามใจ นั่นก็ไม่เอานี่ก็ไม่เอา ใช่สิ ใครมันจะไปสู้คนที่นายชอบได้ล่ะ”

“โว้ย” ผมโวยวาย “ก็บอกไปแล้วไงว่าไม่มีใคร จะอะไรนักหนา” เส้นความอดทนขาดผึงแล้วครับ ทั้งป่วย ทั้งอ่อนแออ่อนไหวคิดถึงแม่

“จะให้เชื่องั้นเหรอ”

“ไม่เชื่อก็ตามใจสิ ไม่ได้ขอให้เชื่อ” ผมหลับตา อยากจะลุกแล้วเดินออกไปแต่ก็ฝืนสังขารไม่ได้

“ก๊อกๆ คุยอะไรกันเสียงดังไปถึงหน้าบ้าน”

“อ้าวไอ้ตง มาได้ไง” นั่นสิ มาได้ไง ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นคนบ้านใหญ่มาที่นี่เลยยกเว้นป้าสายหยุด

“ก็ป้าหยุดบอกว่าพี่เอกไม่สบาย ผมเลยมาเยี่ยม”

“อื้อ ขอบคุณครับ” แล้วมือใหญ่หนาเย็นเฉียบก็มาแตะที่หน้าผาก

“โห ตัวร้อนมากเลยนะครับ กินยารึยัง พี่ต่อหลบ” ตงฉินผลักพี่ชายให้พ้นทางแล้วนั่งแทนที่ ไม่สนใจพี่ชายที่ถลึงตาใส่แม้แต่น้อย

“ดีนะที่ที่บ้านมีแผ่นเจลแปะลดไข้ ขืนให้พี่ต่อดูแลคงได้ชักตาตั้งเพราะพิษไข้แน่”

“ชิ” เสียงเหมือนเจ้านายผมเลยครับ

“พี่ต่อป้อนข้าวป้อนยารึยัง”

“อืม”

“ผมโทรบอกไอ้โทแล้วนะครับ มันบอกว่ารักษาตัวให้หายก่อนเข้าบ้านนะ” อ้าว ไอ้น้องเวร ไม่คิดจะมาดูแลกันเลย

“เสร็จแล้วใช่มั้ย เสร็จแล้วก็กลับไปได้ละ” โห จิตใจทำด้วยอะไรวะเนี่ย ไล่ได้แม้กระทั่งน้องชายตัวเอง

“ไรวะพี่ ผมตั้งใจมาเฝ้าไข้พี่เอกเลยนะ”

“ไม่ต้อง คนของกู กูดูแลได้” หะ...เมื่อกี้เจ้านายหนุ่มพูดว่าอะไรนะ

“จริงเร้อ” น้ำเสียงของผู้น้องเหมือนจะล้อเลียน อยากเห็นจังว่าตอนนี้ทำสีหน้าแบบไหน

“คนของพี่แล้วทำไมไม่ดูแลดีๆ ปล่อยให้ป่วยได้ไง”

“เสือก” นั่นไง เต็มๆ

“โหไรวะพี่...นึกว่าจะมาเห็นภาพพี่เฝ้าไข้ แต่ดันมาเห็นชวนคนป่วยทะเลาะ รู้งี้ไม่ให้ไอ้โทเป่าหูพี่เอกซะก็ดี” นั่นไง...กูจับได้ละว่าใครจ้างน้องกูมา

“เป่าหูอะไรวะ”

“อ้าว พี่จำไม่ได้เหรอ” ตงฉินถามแบบสงสัยจริงๆ “เมื่อคืนก็แอบได้ยินพี่เคลียร์กันแล้วนะ” เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว...เมื่อคืนแอบมาที่บ้านนี้ด้วยเหรอวะ ดึกขนาดนั้นเนี่ยนะ ... คนบ้านมีชอบทำให้แปลกใจได้ตลอด

“จำไม่ได้ เมา”

“โว้ย เมาแล้วภาพตัดทุกทีพี่ใครวะ” ตงฉินพูดด้วยน้ำเสียงเยาะหยันมากกว่าจะเบื่อหน่าย “ก็เมื่อคืนไอ้โทมันเชียร์พี่ต่อกับพี่ชายมัน”

“...”

“มันรู้แหละว่าพี่ชอบพี่เอก แต่พี่เอกน่ะไม่รู้ตัวแน่ๆ ไอ้โทมันชอบพี่นะ และเชียร์พี่ให้จีบพี่เอก” เสียงคุณตงฉินคุยกับเจ้านายทำผมนอนไม่หลับเลยครับ

“อ่า...” อึ้งสินะ

“แล้วเมื่อกี้ได้ยินพี่ประชดพี่เอกลั่นบ้านเลย ผมเลยอดพูดไม่ได้ สงสารคนไข้” ตงฉินได้ที

“ถ้าพี่ไม่ดูแลพี่เอกดีๆ ผมขอนะ...สเป้กผมเลย” อ้าว สลัดละ!

“ไม่มีทาง” เจ้านายหนุ่มตอบกลับเสียงแข็ง “พี่เอกเป็นของกู ไม่ว่าหน้าไหนก็แย่งไปไม่ได้”

“เหอะ ไม่ต้องแย่งหรอก ถ้าพี่ยังทำตัวแบบนี้คิดว่าพี่เอกจะเอาเหรอ ฮ่าๆๆๆ”

“กลับไปได้แล้ว” รีบไล่เลยนะ สงสัยคำพูดน้องชายจะแทงใจดำ

   เสียงขลุกขลักลากถูของผู้ชายร่างใหญ่สองคนดังลั่นก่อนความเงียบจะมาแทนที่ ไอ้เราก็ได้แต่นอนนิ่งๆครับ สองพี่น้องคงคิดว่าผมหลับไปแล้วจึงสนทนากันตรงนี้เลย แต่ขอโทษเถอะ...ได้ยินทุกคำครับ แค่ไม่มีแรงต่อต้าน

แล้วเตียงก็ยวบ...มือใหญ่ลูบไรผมตรงหน้าผากที่มีแผ่นเจลเย็นจับใจแปะอยู่

“ขอโทษนะครับ” น้ำเสียงอ่อนโยนเชียวนะ “ผมงี่เง่าไปเอง พี่เอกอย่าโกรธผมนะ”

“ขอโอกาสให้ผมได้ดูแลพี่นะครับพี่เอก” ผมไม่ตอบครับ ยังไงก็จะขอนอนแกล้งตายไปก่อน ไม่อยากรับเรื่องอะไรมาให้คิดมากอีกแล้วตอนนี้

สวบ... ไม่ใช่แค่นั่งแล้ว ตอนนี้เจ้านายหนุ่มกำลังแทรกตัวมาในผ้าห่ม ช้อนร่างคนป่วยที่นอนนิ่งให้อยู่ในอ้อมอก เอ่อ...กูไม่ใช่หญิงสาวร่างบางนะเว้ย อีกสี่เซ็นต์ก็จะร้อยแปดสิบนะ ...

อุ่น...

แขนล่ำยังคงกอดผมเอาไว้

ความง่วงรุกรานอย่างหนัก

อาการคิดถึงบ้านก็ดีขึ้น จนเจือจางลงไป

แล้วผมก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย....


ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: ว้ายยยยย พี่เอกป่วยแล้วน่ารักจังเลย เหมือนอายุอ่อนลงหลายสิบปี5555

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
สงสารคุณต่อที่ภาพตัดจำอะไรไม่ได้ แต่พี่เอกก็ไม่รอดหรอก :laugh:

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ลุงงงงงงงง เอก

จะรอดไหม.................

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ตงฉิน  เอาไปพันไลค์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ดี ตงฉินกระตุ้น

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
คุณต่อน่าจะเป็นไบโพล่านะ สงสารคนป่วย

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ทำดีมากตงฉิน มาเอารางวัลน้องสามีดีเด่นไปเลยจ้า

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สนุกค่ะ ติดตามต่อไป :mew2:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
อ่อนแอ ตัวเล็ก ตัวน้อย

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
Personal Driver : คนขับ(รัก)ส่วนบุคคล

ตอนที่ 16 คนป่วยไม่ได้อยากกินข้าวต้มเสมอไป

             พนักงานออฟฟิศมีอยู่หลายประเภท การที่มาเป็นคนขับรถส่วนตัวของรองประธานบริษัทก็พลอยทำให้พนักงานไม่กล้าจะใช้งานหรือโขกสับเหมือนตอนที่ขับรถแท็กซี่ ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่านะ แต่คนส่วนใหญ่ของที่นี่นอกจากจะเกรงใจคุณต่อแล้ว ยังปฏิบัติตัวกับผมดีมากด้วย...มันเลยทำให้ผมน้ำหนักขึ้นพรวดๆ



คนแรก...น้องมะนาว พนักงานการตลาด ผิวขาวจั๊วะ นมแน่น แต่แต่งตัวมิดชิด ใส่แว่นเป็นสาวเนิร์ด แต่เอาขนมมาให้ประจำ

“พี่เอกขา นาวเอาเค้กช็อกโกแลตเจ้าอร่อยมาฝาก พี่เอกลองชิมนะคะ”

“พี่เอกขา วันนี้นาวซื้อกาแฟมาให้ค่า เห็นพี่เอกตาปรือๆ”

“พี่เอกขา....”

ฯลฯ



คนที่สอง...บังดำ หัวหน้าฝ่ายผลิตแต่ตอนนี้ย้ายมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนผลิต หนุ่มอิสลามแต่แต่งหน้าหนาเตอะ เป็นชายร่างยักษ์แต่จิตใจเป็นหญิงสาวร่างบาง รายนี้มาจีบผมโต้งๆเลย

“พี่เอกขา พี่เอกสนใจรับของดำไปทำพันธุ์มั้ยคะ” นั่นไง โดนอ่อยแบบนี้ประจำ ผมได้แต่ยิ้มแหย

“แล้วทำงานถึงไหนละ” วงแตกสิครับ เมื่อคุณต่อพงษ์เดินมาตอนไหนก็ไม่รู้

สุดท้าย...บังดำก็โดนย้ายไปคุมเครื่องจักรในโรงงานไม่กลับมานั่งในออฟฟิศอีกเลย



คนที่สาม...พี่บัวคำ เป็นรองผู้จัดการฝ่ายบัญชี ทำงานขึ้นตรงกับคุณพันธุพี่เขยคุณต่อพงษ์ คนนี้น่าจะแอบชอบเจ้านายหนุ่มผมอย่างแรง เพราะแต่ละอย่างนั้นจะฝากผ่านผม

“น้องเอก พี่ซื้อเอแคลร์เจ้าอร่อยมา เห็นคุณต่อชอบ ฝากน้องเอกเอาไปให้แกทีนะ อ้อ แล้วกล่องนี้ของน้องเอก” ลาภปาก

“น้องเอก พี่ฝากเอาเอกสารนี้ให้คุณต่อเซ็นด้วยนะ บอกแกว่าเดี๋ยวพี่ไปเอาเย็นนี้ น้องเอกรอพี่ด้วยจะได้ติดรถไป” วันนั้นเจ้านายหนุ่มมีงานข้างนอก แต่ให้ผมมาเอาเอกสารไปให้เซ็นอนุมัติแล้วกลับบ้านเลย

พอผมโทรหาว่าพี่บัวคำจะไปรับเอกสารเอง...คุณต่อพงษ์นั่งแท็กซี่เข้าออฟฟิศในตอนเย็นแทน

“ลุงเอก เดี๋ยวนี้อ้วนขึ้นนะ” เสียงเจ้านายหนุ่มเองครับ อยู่ๆก็ทักมาตอนที่ผมถอดเสื้อรดน้ำต้นไม้

“ฮ่าๆ วัยนี้แล้วครับคุณต่อ กินก็อ้วน ไม่กินก็อ้วน” ผมมองพุงตัวเอง มันก็ไม่ได้ย้วยนะ แค่กล้ามมันหายไปนิดหน่อยเอง

“ก็เห็นกินขนมนมเนยที่สาวๆขนมาฝากไม่ขาด” ชิบ ... แอบไปเห็นตอนไหนวะ ตอนกินก็นั่งในห้องครัวออฟฟิศ มองจากห้องทำงานเจ้านายไม่มีทางเห็นอย่างแน่นอน

“แหะๆ ก็เขาซื้อมาฝาก ไม่กินก็เกรงใจอะครับ”

“งั้นตั้งแต่พรุ่งนี้ไปฟิตเนสกับผมนะ”

“ห๊ะ” ผมหันขวับ พุงที่เคยแน่นมันย้วยอย่างตกใจเช่นกัน...นับตั้งแต่วันนั้น ผมก็โดนลากไปออกกำลังกายตอนเช้ากับเจ้านายหนุ่ม มีเทรนเนอร์ส่วนตัวให้เสร็จสรรพ ช่วงสองสามวันแรกร่างกายแทบแหลก ขับรถแทบไม่ไหวแต่ก็ต้องทน

...เรื่องนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่มาทำงานที่นี่เป็นเดือนที่สอง... หุ่นผมก็คืนสภาพแล้วเพราะเข้าคอร์สหนัก โดนคุมอาหาร จากน้ำหนัก 80 กิโลแบบอ้วนกลม กลายเป็นหนัก 79 กิโลแบบกล้ามแน่น ... ตัวผมคงกลับไปผอมไม่ได้แล้วครับ แต่การสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาแทนก็ทำให้ดูดีกว่าเดิมเยอะจนที่ออฟฟิศพากันทัก

“โห พี่เอกไปทำอะไรมา หล่อจนนาวจำแทบไม่ได้เลยค่ะ” น้องนาวทักตอนที่เจอผมในงานเลี้ยงที่พัทยา

“ต๊าย พี่เอก ทำไมหล่อล่ำได้ใจดำขนาดนี้” บังดำก็แอบย่องมาเป็นระยะ แม้แต่พี่บัวคำก็หันมาจีบผมแทนซะงั้น



กลับมาในปัจจุบัน...หลังจากงานวันเกิดคุณตงฉิน

“วันนี้ผมไม่ออกไปไหนนะ” เจ้านายหนุ่มที่กอดผมไว้ตั้งแต่ตอนสายยังไม่ปล่อยให้เป็นอิสระ กอดแนบแน่นขนาดนี้ไม่กลัวติดไข้เลยรึไง

“แล้วคุณต่อไม่ไปฟิตเนสเหรอครับ”

“ไม่ไปแล้ว พี่เอกป่วยอยู่ ผมอยู่บ้านดูแลพี่เอกดีกว่า” มาไม้ไหน เมื่อเช้ายังประชดประชันอยู่เลย

“พี่เอกหิวมั้ย เดี๋ยวผมไปหาอะไรมาให้กิน”

“ไม่ค่อยหิวครับ” ผมตอบตามตรง แม้ไข้จะลดแล้ว แต่อาการปวดหัวยังไม่บรรเทา

“แต่ยังไงก็กินหน่อยนะ จะได้กินยา จะได้หายไวๆไง” ทำไมน้ำเสียงดูเว้าวอนได้ขนาดนี้เนี่ย โดนลูกตุ้มเหล็กชนหัวมาเหรอครับ

....อ่อ คุณตงฉิน....ผมนึกได้

“อยากกินอะไรมั้ย”

“ส้มตำ ลาบ น้ำตก”

“หายป่วยแล้วจะพาไปกินนะ” หะ เจ้านายไม่ชอบอาหารแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ

“แต่ตอนนี้กินอาหารอ่อนๆไปก่อนดีกว่า” ร่างสูงผละออกไปก่อนกลับเข้ามาด้วยชามข้าวต้ม(อีกแล้ว)ในมือ ทำไมคนป่วยจะต้องกินแค่ข้าวต้มๆๆๆๆๆๆด้วยนะ ในเมื่อมันไม่อร่อย “กินหน่อยนะ”

“อื้อ เหม็นอะครับ” กลิ่นกุ้งในชามข้าวต้มชวนให้เวียนหัว เจ้านายหนุ่มเอาช้อนไปดมฟุดฟิด

“ก็ไม่เหม็นนะ”

“แต่ผมเหม็นนี่ครับ”

“....อืม งั้นเดี๋ยวผมไปเปลี่ยนให้ใหม่”

“ไม่เอาข้าวต้มได้ไหมอะครับ” โอกาสนี้แหละ ขอหน่อย ไหนๆก็ป่วยแล้ว เจ้านายหนุ่มก็เลิกบ่นแล้ว

“อ้อนแบบนี้จะเอาอะไร” ไม่ได้อ้อนโว้ย แค่ขอร้องนิดหน่อย

“อยากกินไส้กรอกทอดหน้าออฟฟิศ” ปกติซื้อจากรถเข็นที่ขายข้างทางหน้าบริษัทตอนเลิกงาน ไม้ละ 10 บาท จิ้มน้ำจิ้มสูตรเด็ดพาเพลิน

“วันนี้วันอาทิตย์ ไม่มีใครมาขายหรอก”

“อยากกิน” ผมก็แค่ลองใจเฉยๆ จริงๆกินอย่างอื่นแทนก็ได้

“งั้นกินไส้กรอกผมมั้ย อร่อยกว่าเจ้านั้นอีกนะ” ทำไมต้องทำหน้าตากวนๆใส่ด้วยฟระ...งื้ออออออออออออออ

“คุณต่อ!” ผมนี่แทบสำลัก ทำไมอยู่ดีๆกลายเป็นเจ้านายเวอร์ชั่นหื่นไปซะได้

“ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่น ตกลงจะกินไส้กรอกใช่มั้ย”

“อึ๊” ผมส่ายหัว กลัวได้กินของเจ้านาย “เขาไม่มาขายไม่กินก็ได้ครับ เปลี่ยนเป็นส้มตำไก่ย่างแทนได้ไหมครับ”

“เอาจริงดิ”

ผมพยักหน้าแทนคำตอบ....

   อีกไม่ถึงชั่วโมง ป้าหยุดก็หิ้วส้มตำ ไก่ย่าง ไส้ย่าง หมูน้ำตก ลาบอีสานมาครบครันเต็มไม้เต็มมือไปหมด ผมจ้วงทุกอย่างบนที่นอนนี่แหละ คุณต่อทำหน้ามุ่ยตอนที่กลิ่นปลาร้าโชยแตะจมูก แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังไม่ปิดแอร์ที่ทำงานหนักมาทั้งคืนด้วย

“อิ่มจัง” ผมตบพุง นี่สิที่อยากได้

“กินขนาดนี้ได้ คงหายแล้วมั้ง” ป้าสายหยุดมาลำเลียงจานชามออกไปจากห้อง ผมล่ะนึกแปลกใจนะว่าทำไมป้าถึงไม่เคยเอ่ยปากถามว่าทำไมผมถึงได้มานอนที่ห้องคุณต่อ

“ผมก็อยากหายแล้ว นอนเฉยๆมันน่าเบื่อ”

“งั้นนอนแล้วทำเหมือนตอนไปพัทยามั้ย” ดูแววตาสิ หื่นแบบปิดไม่มิดจริงๆ

“ไม่!” ผมตอบเสียงแข็ง ยังไงก็ไม่ยอมพลาดท่าอีกหรอก

“จริงเหรอ”

“หยุดนะครับคุณต่อ ผมสู้นะ” แต่ตัวกำลังเขยิบหนี โถ...แน่มากพ่อคุณ

“พี่สู้แรงผมไม่ไหวหรอก หึหึหึ” อื้อออออ คนอะไรวะบทจะหื่นก็น่ากลัวชิบหาย

“ฮ่าๆๆๆๆ” เจ้านายหนุ่มหัวเราะเมื่อผมขยับตัวจนติดผนังหมดทางหนี แถมสองมือยกปิดหน้าหลับตาปี๋อีกต่างหาก

“เอามือลงเถอะ ผมไม่ทำอะไรพี่หรอก”

“จริงนะ”

“จริง” แล้วจะแกล้งให้กลัวทำไมเนี่ย

“พักผ่อนนะครับ ยังไม่หายดีเลย” น้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นห่วงทำให้ผมสงบ

“ครับ” ผมนอนลงบนเตียงนุ่น

จุ๊บ

...เดี๋ยว ใครอนุญาตให้มาหอมแก้ม?

“พี่เอกน่ารักอะ อยากแกล้งทุกวันเลย”

“...”

“ฝันดีนะครับ ผมออกไปข้างนอกก่อนจะได้ไม่กวนพี่”

...ไม่กวน หรือทนกลิ่นปลาร้าไม่ได้กันแน่ครับเจ้านาย

หึหึหึ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
สงสารน้องต่อ

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ลุงอย่าเพิ่งวางใจ คุณน้องต่อแค่รอลุงหายเท่านั้นแหล่ะ!  :laugh:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
พี่เอกเล่นตัวอ่ะ ยอมคุณต่อไปเถอะ มาขนาดนี้แล้ว :oo1: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไส้กรอกของคุณต่อ........อุอุ

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
พี่เอกกกก กินแล้วนอนระวังเป็นกรดไหลย้อน

คือพี่บัวคำนี่ก็มาจีบตั้งแต่เเรกแล้วนะ แต่พี่เอกไม่รู้ตัว :laugh:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

คุณต่อคงเหม็นกลิ่นปลาร้าชัวร์  555

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
ลุงอย่าเพิ่งวางใจ คุณน้องต่อแค่รอลุงหายเท่านั้นแหล่ะ!  :laugh:


คนน้องมันร้าย....

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:pig4: :pig4: :pig4:

คุณต่อคงเหม็นกลิ่นปลาร้าชัวร์  555

หรืออาจจะเหม็นไส้กรอก....อุ๊ปส์  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
พี่เอกกกก กินแล้วนอนระวังเป็นกรดไหลย้อน

คือพี่บัวคำนี่ก็มาจีบตั้งแต่เเรกแล้วนะ แต่พี่เอกไม่รู้ตัว :laugh:


ผู้ชายเรื่องนี้เสน่ห์แรงทุกคน >___<

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ลุงน่ารัด (ก) มากขึ้นทุกวัน

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
Personal Driver : คนขับ(รัก)ส่วนบุคคล


ตอนที่ 17 ต่อพงษ์...มาเล่า

             ลุงแหวงนะลุงแหวง เอาอีกแล้ว อาทิตย์ก่อนก็เอารถไปเหยียบตะปู ครั้งโน้นก็ทำที่ปัดน้ำฝนเสีย คราวนี้ก็ลืมเช็ครถก่อนเอาออกมาอีก รถคันนี้มันก็ตั้งแต่สมัยผมเรียนม.ปลายแล้วมั้ง แกยังกล้าเอามาขับอีก... ผมน่ะอยากรู้มากว่าประเทศไทยทำมุมตั้งฉากกับดวงอาทิตย์รึไงถึงได้ร้อนขนาดนี้ ชุดสูทที่ใส่มาก็เปียกโชกไปหมดแล้ว ถ้าไม่ติดว่าต้องไปหาลูกค้าจะแก้ผ้าละ

“ผมว่าคงอีกสักพักเลยล่ะครับคุณต่อกว่ารถลากจะมา” น้ำเสียงแผ่วเบาของคนขับรถรุ่นพ่อทำลายความเงียบ ผมยืนกลางแดดใกล้กับรถที่จอดข้างทางตรงส่วนไหนก็ไม่รู้ของถนนพระราม 2 อย่างอารมณ์ไม่ดี

“กี่รอบแล้วเนี่ยลุงแหวงที่ไม่ชอบเช็กสภาพรถก่อนเอามาขับ” ผมดุ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่พัน พี่เขยผมฝากลุงแกให้มาทำงานด้วยผมคงไล่ออกไปเหมือนคนอื่นๆแล้ว

“ผมขอโทษครับคุณต่อ ผมลืม” ผมได้แต่ถอนหายใจ หยิบมือถือมากดเรียกแกรป...จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครรับงาน นี่กรุงเทพนะโว้ย ไม่ได้ชายทุ่งขนาดนั้น รถราที่วิ่งขวักไขว่เหมือนจะมุ่งหน้าลงใต้กันหมด มันใกล้ช่วงเทศกาลหยุดยาวด้วยแหละ ...

เรียกแท็กซี่เอาก็ได้วะ...ผมหยิบข้าวของมาริมถนน ชะเง้อมองหารถแท็กซี่สักคัน สภาพยังไงก็ช่าง ขอให้รับผมไปซะที ร้อนจนเหนียวเหนอะไปทั้งตัวแล้ว

“ไปสุขุมวิทครับ” ผมบอกคนขับที่หันหน้ามาพอดี ใจผมเต้นแรงจนนึกว่าตัวเองจะหัวใจวาย ใบหน้าที่คุ้นเคยที่ตามหามานานนั่งอยู่ข้างหลังพวงมาลัย ใช่เลยครับ คนนี้แหละ คนที่เคยช่วยผมไว้ อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ ... แถมยังขับรถแท็กซี่อยู่เหมือนเดิมด้วย...

ขับรถ...

อืม... สมองผมประมวลผลด้วยความรวดเร็ว

“ลุงแหวง พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานให้ผมแล้วนะ ไปหาพี่พันเลย”

“หะ คุณต่อ...”

ปัง!

             ผมไม่สนใจแล้ว รีบปิดประตูและบอกให้พี่เขาออกตัวให้ไวก่อนที่ผมจะใจอ่อนกับลุงแหวง ไม่นานพี่พันก็โทรมาบ่น แต่สุดท้ายก็รับลุงแกกลับไปทำงานที่บริษัทเช่นเคย

“พี่ขับแท็กซี่มานานรึยังครับ” กลายเป็นตัวเองที่ชวนคุย

“ผมเหรอ เกือบสิบปีแล้วล่ะครับ” น้ำเสียงพี่เค้า ชื่ออะไรนะ...ผมอ่านที่ป้ายฝั่งผู้โดยสาย เอกภพ ใบบุญ ... โอเคชื่อเอกภพ เสียงพี่เค้าเซ็กซี่ชิบหาย ผมตีเนียนชวนคุยไปเรื่อยแหละครับ

“ผมถามหน่อยสิครับ”

“ครับ ถามได้เลย”

“พี่ขับแท็กซี่แบบนี้ รายได้ดีมั้ย”

“โอ๊ยคุณ สมัยนี้แท็กซี่เยอะจะตาย ไหนจะมีแกรปมาแย่งลูกค้าอีก ขับรถงกๆไปวันๆให้คุ้มค่าแก๊สยังลำบากเลย” คนขับรถตอบอย่างอัดอั้น

“แต่พี่ก็ยังขับมาเป็นสิบปีเลยนะครับ”

“อย่างที่บอกแหละครับ คนเรียนมาน้อย ไปทำอะไรก็ไม่รอด ไหนจะภาระโน่นนี่นั่นอีก”

“อ๋อ ต้องดูแลลูกเมียด้วยใช่มั้ยครับ”

“ฮ่าๆ เปล่าเลยคู๊ณ ลำพังตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย จะกล้าพาใครมาลำบาก ผมหมายถึงภาระเลี้ยงดูแม่ ส่งน้องเรียนก็แทบไม่พอใช้แล้วครับ” ฮ่าๆๆ นี่แหละคำตอบที่รอคอย...พี่เอกภพยังโสดด้วย

“แล้ว พี่สนใจเปลี่ยนงานปะ”

“หืม”

“ผมหมายถึง สนใจมาเป็นคนขับรถประจำตัวให้ผมมั้ย” อย่างน้อยผมก็ไม่ได้รีบร้อน คนที่เคยช่วยผมไว้คงไม่ใช่คนเลวมาจากไหนหรอก....อย่างน้อยผมก็มีสายสืบ



ก่อนหน้านี้...

             ผมเบื่อการนั่งประชุมที่สุด แต่ด้วยหน้าที่การงานไม่ทำก็ต้องทำ แต่ก่อนเป็นดาราอยู่ดีๆ พ่อผมก็ป่วยไม่มีคนดูแลกิจการ พี่สาวคนโตก็โดนถือว่าเป็นคนนอกทั้งๆที่ยังอยู่ในบ้านกับท่าน แถมยังเลี้ยงหลานฝาแฝดทั้งสองคนที่เกิดมาจากน้องชายของผมอีกด้วย ภาระเลยตกมาที่ผม... นั่นคือประชุมงาน แต่วันนี้มันน่าเบื่อด้วยเดิมสามเท่า... กวาดสายตามองผู้คนที่นั่งในห้องประชุมอย่างเบื่อหน่าย ในงานประชุมผู้ปกครองของนักศึกษาใหม่

“พี่ต่อ นี่เพื่อผม ไอ้โท ไอ้หนึ่ง ไอ้คิ้ว ไอ้สัด ขวัญ” ตงฉิน น้องชายผมที่อยู่ในชุดนักศึกษาใหม่เอี่ยมแนะนำเพื่อนในกลุ่มที่น่าจะเพิ่งเจอกันตอนที่เข้ามาอยู่หอใน

“ฉัตรครับเพื่อน ไม่ใช่สัด”

“สวัสดีครับพี่ต่อ” ผมยกมือไหว้กลับ นี่แก่จนต้องมารับไหว้น้องๆแล้วเหรอวะ

“เออ ไอ้หนึ่ง ไอ้โท แม่มึงล่ะ” ผมมองใบหน้าคุ้นเคยของคนชื่อโทอย่างติดใจ

“แม่กูไม่มา พี่ชายกูมา ทำไมเหรอ”

“เปล่า เห็นมีแต่มึงสองตัวนี่แหละที่ไม่พากูไปแนะนำให้ผู้ปกครอง คนอื่นลากไปจนครบแล้ว”

“พี่กูรีบมั้ง มาส่งแล้วคงไปทำงานเลย”

“เช็ด ขยันว่ะ พี่มึงทำงานอะไรวะ” ตอนนี้พวกเราเดินกลับกันแล้วครับ วันนี้ผมต้องพาน้องชายกลับบ้านก่อน

“ลุงสมชาย เดี๋ยววนรถมารับที่เดิมนะ” ผมโทรไปสั่งก่อนจะยืนรอ ... ลุงสมชายเป็นคนขับรถก่อนหน้าลุงแหวงครับ

“อ้าว ไอ้โท พี่เอกมา” ผมมองรถแท็กซี่สีชมพูซีดแล่นใกล้เข้ามา

“นึกว่าขับกลับแล้วซะอีก” น้องโทพูดและหันมาไหว้ลาผม

“อ้อ พี่เอก นี่เพื่อนผม และพี่ชายมัน” ผมยกมือไหว้ แต่เหมือนคนขับจะติดสายจนไม่ได้มองมาอย่างถ้วนถี่...

แต่ผมจำใบหน้านั้นได้...

 

“ผมหมายถึง สนใจมาเป็นคนขับรถประจำตัวให้ผมมั้ย”

“ห๊ะ” คนขับงงกว่าเดิมสิครับ ผมเห็นใบหน้าที่ดูตกใจจนโอเวอร์นั้นอย่างนึกขำ

“ถ้าพี่สนใจ นี่นามบัตรผม หน้าที่ก็แค่ขับรถพาผมไปนั่นมานี่ เวลาไม่มีอะไรก็กลับบ้านไปดูแลแม่พี่ได้”

“คุณล้อผมเล่นรึเปล่าครับเนี่ย ฮ่าๆ”

“เปล่าครับ รับนามบัตรผมไปนะ ผมเพิ่งไล่คนขับรถออกเมื่อกี้นี้เอง” เพื่อพี่เลยนะ

“อ่า”

“ไม่ต้องห่วงนะ ผมให้เงินเดือนสามหมื่น ถ้าวันไหนดึกก็ค้างที่บ้านผมได้ ผมไม่รีบ ให้พี่คิดดู ถ้าพี่ตกลง พรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้าไปรับผมตามที่อยู่นี้” ผมรีบคาดคั้น เพราะไม่อยากให้คลาดกันอีก อย่างน้อยข้อมูลจากไอ้ตงฉินน้องชายผมที่ถามกับน้องโทก็ไม่ได้กุมาหรอก

             ผมเดินเข้าออฟฟิศของลูกค้าอย่างเร่งรีบ ยังดีที่รถไม่ติดหนักมาก แต่ก็เฉียดฉิว เมื่อจ่ายเงินค่าแท็กซี่แล้วก็พุ่งตัวทันที จนมาอยู่ในลิฟต์นี่แหละที่ผมต้องเจ็บใจจนต้องสบถออกมา “แม่งเอ๊ย ลืมขอเบอร์”

             ผมนอนไม่หลับแทบทั้งคืน เพราะรอสายที่อยากให้โทร แต่ก็เงียบสนิท หรือว่าจะต้องคลาดกันอีกแล้ววะเนี่ย พี่เอกภพนั่นคงไม่อยากมาทำงานกับผมเป็นแน่ โธ่โว้ย ชวนคุยตั้งเยอะ ยื่นข้อเสนอดีๆไปแล้ว นึกว่าจะรีบตอบรับ ถ้าพี่เขาไม่อยากมาทำงานกับเรา จะทำยังไงดีล่ะ... หรือต้องปลงว่าไม่มีวาสนาต่อกัน

...ทำไมไม่ขอเบอร์พี่เอกภพมาวะ... ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดใจ

             แล้วผมก็ตาค้างจนถึงตีห้า... อีก 2 ชั่วโมงจะเป็นเวลาที่นัดกับพี่เอกภพไว้ ถ้าเขาไม่มา ก็ต้องทำใจแล้วล่ะว่าเราคงจะไม่ได้เจอกันอีก จะให้ผมนั่งรถยนต์ไปดักรอพี่เขาแถวพระราม 2 อีกก็คงไม่ไหว แค่นี้หน้าที่การงานก็รัดตัวจนไม่มีเวลาไปไหนแล้ว เมื่อสมองมันทำงานไม่หยุดหย่อน แถมร่างกายไม่เหนื่อยล้า ผมเลยลุกขึ้นเปลี่ยนชุดนอนเป็นชุดวิ่งและพาตัวเองไปที่สวนสาธารณะหน้าบ้าน

             ผมเริ่มต้นด้วยการวอร์มอัพร่างกายก่อน แสงแดดยามเช้าเริ่มสาดส่อง แต่อากาศยามนี้ยังไม่ร้อน สวนสาธารณะหน้าหมู่บ้านนั้นไม่ได้มีขนาดใหญ่ ประมาณสามไร่เศษ เล็กมาเมื่อเทียบกับสัดส่วนของผู้อาศัยและเม็ดเงินที่จ่ายไป ผมวิ่งเหยาะๆสองรอบก่อนวิ่งเต็มกำลังอีกสามรอบ มองเห็นรถแท็กซี่คันหนึ่งแล่นเข้ามาในหมู่บ้าน...ใครกันเข้ามาที่นี่เช้าขนาดนี้

             เสียงเพลงในหูฟังบลูทูธดังกระหึ่ม แต่ฝีเท้าผมเริ่มอ่อนยวบลง มองดูนาฬิกาบนข้อมือก็เกือบถึงเวลานัดกับพี่เอกภพแล้วเลยตัดสินใจวอร์มดาวน์และเดินเข้าไปบ้าน... แล้วสายตาผมก็เห็นใครก็ไม่รู้นั่งจุมปุ๊ก(นั่งกอดเข่าหลังพิงรั้วบ้านผม)สภาพน่าสงสารเชียว เหมือนคนไร้บ้านที่หลงเข้ามาแล้วหาทางออกไม่ได้อย่างนั้นแหละ พอเดินเข้าไปใกล้ ผมก็พบว่านั่นคือ...พี่เอกภพ

             เอาไงดีล่ะทีนี้ ... จะให้สัปหงกตรงนี้ต่อก็ไม่เข้าท่า จะแกล้งโทรปลุกก็ไม่มีเบอร์...เอาวะ สะกิดเอาก็ได้ มาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย ถึงได้มานอนหลับตรงนี้ได้ แล้วทำไมไม่โทรมาล่ะ เบอร์โทรก็ให้ไปแล้ว ผมคิดสะระตะ พลางสะกิดตัวคนที่หลับตาอยู่จนสะดุ้งตื่น ตาปรือลืมขึ้นมาแล้วทักผม

“ท่าน มาตั้งแต่ตอนไหนครับ” หือ เรียกท่านเลยเหรอ แถมตอนถามยังเช็ดน้ำลายตัวเองป้อยๆ

“เพิ่งมานี่แหละ นายมานานแล้วเหรอ”

“ไม่นานครับ” จริงเหรอ...ถ้าจำไม่ผิด เช้านี้มีรถแท็กซี่เข้ามาแค่คันเดียวเมื่อเกือบชั่วโมงที่แล้วนะ

“ไม่นานแต่มานอนหน้าบ้านผมได้เนี่ยนะ” ผมเลิกคิ้วเพื่อข่มเพราะกำลังห้ามตัวเองไม่ให้แสดงอาการดีใจออกนอกหน้า พอเขายืนขึ้นผมก็ชวนเข้าบ้าน “เข้ามาก่อนสิ”

“ท่านจะออกกี่โมงครับ” ผมหยุดหน้าประตู ใช้กุญแจไขเข้าไป

“ผมชื่อต่อพงษ์ เรียกผมว่าต่อก็ได้” อย่าเรียกท่านเลย มันดูห่างเหิน

“ครับ คุณต่อ”

“ว่าแต่ นายชื่ออะไรนะ”

“ผมเหรอ เอกภพครับ เรียกเอกก็ได้”

“โอเคนายเอก เข้ามานั่งรอที่โซฟาก่อน ผมไปอาบน้ำแล้วก็จัดการมื้อเช้าแล้วค่อยไป”

“ดะ ได้ครับ”



จบตอน....

 



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2020 15:22:10 โดย จากต้นจนอวสาน »

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
น้องต่อ เอ็นดรู ลุงโด้ย

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
คู่แล้วไม่แคล้วกัน อยู่ๆลุงเอกก็มาตกถึงที่  :hao7:

/มีคำที่พิมพ์ตกนะคะ ท่าน ตก น.หนู กลายเป็น ท่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด