☆☆ฤกษ์มงคล☆☆ ●••••••••》ตอนที่28…เล่นบอลนะครับ! 19/12/63
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☆☆ฤกษ์มงคล☆☆ ●••••••••》ตอนที่28…เล่นบอลนะครับ! 19/12/63  (อ่าน 22354 ครั้ง)

ออฟไลน์ 11:11

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*****************************************




สวัสดีพี่น้องชาวเล้าเป็ดทุกท่านค่ะ

    สิบเอ็ดอยู่กับเล้าเป็ดมาเนิ่นนานตั้งแต่วัยเรียนยันทำงานเลย เหงา เศร้า อกหัก หรือเบื่อก็จะเข้ามาเล้าเป็ดแห่งนี้ ที่ที่มอบความสุข ความฟิน และความนอยด์(นิยายเศร้า) ให้กับสิบเอ็ด รัก...ค่ะ

     'ฤกษ์มงคล' เป็นเรื่องแรกที่ได้เขียน และแอบหวังว่าจะช่วยสร้างความสุขเล็กๆให้กับนักอ่าน คำวิจารณ์ สิบเอ็ดยินดีรับฟังและนำไปแก้ไขค่ะ

     ขอบคุณทุกคนที่กดเข้ามาอ่าน เมื่อกดเข้ามาอ่านแล้วบางท่านอาจชอบหรือบางท่านไม่ชอบ สิบเอ็ดก็ขอขอบคุณนะคะที่เปิดใจกับ 'เจ้าฤกษ์' ของเรา

     และสุดท้ายนี้สิบเอ็ดพึ่งได้รู้ซึ้งถึงการคอมเม้นท์ค่ะ แค่เพียงเห็นหนึ่งคอมเม้นท์ก็ทำให้นักเขียนคนนี้ถึงกับใจเต้นรัว❤❤ ไม่เว่อร์เลยนะคะ ตื่นเต้นมาก ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีคนมาเม้นท์ให้ สิ่งนี้เป็นกำลังใจอย่างดีเลยค่ะที่ทำให้อยากจะเขียนต่อ ส่วนนักอ่านแบบเงียบที่ไม่ได้คอมเม้นท์อะไรยังไงสิบเอ็ดก็ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่าน เพราะอย่างน้อยยอดวิวนักอ่านที่ขึ้นทำให้สิบเอ็ดดีใจค่ะ มีคนแวะมาหา เจ้าฤกษ์จะได้ไม่เหงาเน๊อะ❤❤

จะพยายามมาต่อเรื่อยๆนะคะ


11:11
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2020 20:44:13 โดย 11:11 »

ออฟไลน์ 11:11

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
Re: ฤกษ์มงคล
«ตอบ #1 เมื่อ22-12-2019 16:13:04 »

1… คนแปลกหน้า









กริ๊งงงงงงงงงง~~



กริ๊งงงงงงงงงง~~




"อืมมม...เสียงนี้อีกแล้ว" ก้อนกลมๆที่อยู่บนเตียงบ่นพึมพำ



กริ๊งงงงงงงงงง~~



ปัง!!


     ประตูห้องนอนถูกเปิดอย่างแรงด้วยความเคยชิน โดยร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดออกกำลังกาย กางเกงวอร์มขายาวสีเทาเข้มกับเสื้อสีดำเนื้อผ้าระบายอากาศแขนกุด ขายาวแข็งแรงก้าวเข้ามาในห้องด้วยความเคยชิน คิ้วเข้มบนใบหน้าหล่อคมขมวดเข้าหากัน พลางส่ายหน้า บ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์กับภาพตรงหน้า


     แขนยาวเพียบพร้อมไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนแข็งแรงที่ออกกำลังเป็นประจำ เอื้อมมือจับผ้าห่มและกระชากออกอย่างออมแรง!? ถึงอย่างนั้นร่างบนที่นอนก็ปลิวตกลงมาข้างเตียงขนาด3.5ฟุต พร้อมผ้าห่มอยู่ดี


"โอ้ยยยย ไอ้เทียน!! กวนอะไรแต่เช้า" ผมหันไปตวาดน้องชายอย่างหงุดหงิด หลายทีแล้วนะโว้ย ที่ต้องลงมากองกับพื้นอย่างนี้เนี่ย!!


" วันนี้วันอังคารที่xx ถ้าไม่ไปมหาลัยก็ลงมาทำงานข้างล่าง วันนี้พี่ใบบุญไม่มาท้องเสีย"


     ผมนั่งฟังเสียงเย็นๆไร้อารมณ์แต่การกระทำไม่เย็นตามอย่างงัวเงีย เอามือถ่างตาขึ้นเพื่อเปิดรับโฟกัสว่าน้องมันยืนบ่นอยู่ตรงไหน เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ตีสาม กว่าจะทำงานเสร็จ เพราะดันมีงานสั่งทำไซส์ใหญ่พิเศษกว่ามาตรฐาน


     หันไปมองนาฬิกาบนโต๊ะข้างๆยังแปดโมงเช้าอยู่เลย ร้านเปิดเก้าโมงนี่หว่า ไอ้น้องชายหน้าโหดปกติต้องเลยเก้าโมงดิถึงขึ้นมาว้ากได้ แต่เอ๊ะ! วันอังคารที่xx....!!?


"เชี้ยยยยย!! วันนี้เปิดเทอมมมมมม"
















"ไม่!!"
 
     ผมแทบสะดุ้งกับคำว่า'ไม่'ของน้องชายหน้าโหด ที่โดนผมบังคับให้แว้นบิ๊กไบค์ทรงคลาสสิคลูกรักของน้องที่มันบอกว่าได้มาจากเงินถูกหวยมาส่ง หน้าตาก็โคตรจะหล่อแต่ไร้อารมณ์ฉิบหาย จะเบื่อโลกไปไหน


"มันไกลนะเว้ยจากหน้ามหาลัยไปคณะพี่อ่ะ น้าาาา ไปส่งหน่อย" นี่กูพี่มึงนะ


"ไม่!! ลงจากรถได้ล่ะ มีงานมีการรออยู่บ้าน" เทียนหันมาว้ากใส่ผมที่นั่งมึนอยู่ด้านหลัง


"ไหนๆก็มาส่งแล้วก็ขับไปอีกนิดดิวะเทียน คณะพี่อยู่ตึกสุดท้ายของม. เลยนะ ติดกำแพงหลังสุดเลยนะเว้ย!"


"...."


"สาวมหาลัยสวยนะ หุ่นงี้อย่างแจ่ม สนมะๆ พี่อนุญาตให้มีแฟนได้นะ แต่ต้องป้องกัน ตอนนี้เรายังเด็กอยู่แล้วก็อย่..."


"ฤกษ์รีบลง"


"เรียกพี่ดิวะ นี่กูพี่มึงนะ เรียกชื่อเฉยๆได้ไง บอกกี่ครั้งแล....เทียน!!! ไม่เอา ไม่ลง ไอ้เที๊ยนนน"


     ไอ้น้องหน้าโหดไม่พูดเปล่า มันก้าวลงจากรถแล้วกระชากผมแทบหัวทิ่ม ออกมาจากเบาะรถมันอย่างง่ายดายพร้อมกับยัดถุงผ้าเล็กๆใส่มือผม หลงเหลือแค่เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ ที่เบาบางลงตามระยะทางที่ขับห่างออกไป


     รวดเร็วฉับไวรีบเหมือนควายหาย โรงเรียนก็เปิดตั้งอาทิตย์หน้า ไม่รู้จะรีบอะไรนักหนา ทีบอกให้มาส่งหน่อยเรียกแล้วเรียกอีก ไม่อยากมาส่งก็แทนที่จะให้ขับมาเอง ก็บอกว่าขับได้ๆไม่รู้จะห้ามอะไรนักหนา แค่สอบใบขับขี่สามครั้งไม่ผ่าน ครั้งที่สี่อาจจะผ่านก็ได้


     ไอ้น้องเวร!! ผมบ่นหงุงหงิงๆ ด่าลม ด่าฟ้า ด่าต้นไม้ไปเรื่อย ยกถุงผ้ามาเปิดออกดู มีกล่องแซนวิซกับนมกล่องใหญ่อีกหนึ่ง เห็นแบบนั้นผมถึงกับยิ้ม ไอ้น้องชายนี่!! จะด่าก็ด่าไม่ลง เห้อออ


     ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแปดโมงสี่สิบ... มีเรียนตอนเก้าโมง เปิดเทอมวันแรกก็สบายๆ นั่นแหละ แต่ที่รีบตาลีตาเหลือกมาขนาดนี้ก็ดันมีนัดประชุมรุ่นพี่ เกี่ยวกับน้องๆ ปีหนึ่งหน้าใหม่แกะกล่องนี่ล่ะ ไอ้ผมจะไม่อะไรเลยถ้าไอ้เพื่อนซี้มันไม่เป็นประธานรุ่นและสายรหัสผมไม่ใช่พี่ว้าก และผมคนนี้ไม่โดนบังคับให้มาช่วยงาน นัดประชุมแปดโมง นี่ก็เลยมาครึ่งชั่วโมงกว่าล่ะไหนๆ ก็สาย ผมเลยหยิบแซนวิซขึ้นมากินซะเลย เดินไป กินไป รถรางผ่านไม่ขึ้นแม่งล่ะ ชิลล์ๆ ไอ้เทียนทำอร่อยเหมือนเดิมไส้งี้ทะลัก



"ฤกษ์!! "


"เชี้ยยยยย" ผมสะดุ้งโหยง กล่องแซนวิซเกือบหลุดมือ เมื่อไอ้ดาวคณะศิลปกรรรมโผล่พรวดออกมาข้างทาง


"ด่าคนสวยเป็นหมันนะมึง"


"ตรรกะไรของมึงลำไย ด่าแล้วเป็นหมัน ใครให้มึงโผล่พรวดออกมาจากพุ่มไม้ ที่อื่นมีตั้งเยอะตั้งแยะไม่อยู่ ไปทำอะไรในนั้นวะ?"


"เหรียญสิบกูหล่นกลิ้งเข้าไปในนั้นอ่ะดิ เอ๊ะๆๆ นั่นแซนวิซแฟนกูใช่ไหม? เอามานี่ๆ" ที่ลำไยรู้ว่าทำไมเป็นแซนวิซทำเอง เพราะกล่องที่ใส่แซนวิซเป็นกล่องที่ผมใช้ประจำ


"ของกูเหอะ แล้วน้องกูไปเป็นแฟนมึงตอนไหนอย่ามามโน น้องกูเสียหายนะเว้ย ลำไยยยยย  ไอ้สวยวอดวาย แซนวิซกู!!" สุดท้ายแซนวิซของผมก็ย้ายสำมโนครัวไปอยู่ในมือและในปากไอ้ลำไยดาวคณะหน้าสวยแต่นิสัยหยาบเรียบร้อย


"ผัวกูทำอร่อยเหมือนเดิม"


"น้องกูพึ่ง ม.6เอง ปล่อยเด็กมันไปเจอสิ่งที่ดีกว่านี้เหอะ"


"กูนี่แหละสิ่งดีๆ ขอแค่น้องมึงบอกมาว่าต้องการสิ่งใดกูเปย์ไม่อั้น อยากได้รถกูให้ขนม อยากได้บ้านกูจะเลี้ยงหนัง อยากได้ทองกูเลี้ยงชาบู แต่ถ้าอยากได้ผู้หญิงมาเอากูเถอะ" หมด...หมดกันเศษแซนวิซกระเด็นใส่หน้ากูหมดแล้วเนี่ย!!


"เอ๊ะ! นั่น! เฮ้ย!! หมอเทวดา"


"ไหนหมา หมาไร" ผมที่กำลังเอื้อมไปแย่งแซนวิซอย่างตั้งอกตั้งใจพลันสะดุ้งกับเสียงแตกตื่นของคนข้างๆ


"หมอต่างหากเว้ย หมอราล์ฟ มึ๊งงงง นี่มันเทวดาเดินดินชัดๆ" ผมหันไปมองตามนิ้วของลำไยนิสัยหยาบที่ชี้ไปทางตึกคณะเเพทย์ แต่เห็นแค่หลังไวๆ ก็เลยไม่รู้ว่าไอ้เทวดาเดินดินมันหน้าตาเป็นยังไง


"ใครวะ หมอราฟ ย่อมาจากยีราฟงี้เหรอวะ"


"ราล์ฟ! ร.เรือ สระอา. ล.ลิงการันต์ ฟ.ฟันย่ะ!! เป็นลูกครึ่งไทยอิตาลี หน้านี่ฝรั่งจ๋ามากแต่มองดีๆบางครั้งก็คมเข้มเหมือนคนไทยบ่าวใต้เลยมึ๊ง ได้ข่าววงในว่าเป็นลูกหลานผู้มีอิทธิพล ตระ 'กูลสิงห์เวคิน'อ่ะ ตระกูลนี้เป็นแหล่งขุมทรัพย์พวกนักการเมืองเลยนา พรรคใหญ่ๆก็มีเงินของตระกูลนี้ล่ะหนุนหลังอยู่ ถ้าข่าวที่กูได้ยินมาไม่มั่วรู้สึกว่าตระกูลฝั่งพ่อที่เป็นคนอิตาลีจะทำเกี่ยวกับอาวุธสงคราม บ้านงี้โคตรรวย ระดับพี่เขาอ่ะ อย่าว่าอย่างงั้นอย่างนี้เลยมึง ไปเรียนมหาลัยที่เป็นอันดับต้นๆของโลกไม่ดีกว่าเหรอ"


"ไม่รู้เว้ย เขาอยากอยู่อยากเรียนตรงไหนมันก็เรื่องของเขาไหมวะ แล้วไอ้ที่หน้าฝรั่งจ๋าแต่คมเข้มเหมือนหนุ่มใต้บ้านเรานี่มันเป็นยังไงวะลำไย คำพูดเเลดูย้อนแย้งนะมึงเนี่ย"


"เอ้า นี่กูพูดจริงนะฤกษ์ มึงควรจะสนใจอะไรรอบข้างมั้งนะ ไม่ใช่วันๆทำแต่เรื่อ..."



"ไอ้เหี้ยฤกษ์!!" เหี้ยเต็มปากเต็มคำเลยนะครับพี่รหัสผมเนี่ย


"กูนัดมึงมากี่โมง แล้วนี่มึงมากี่โมง ที่บ้านมึงไม่มีนาฬิการึไงห๊ะ!! เปิดเทอมวันแรกมึงก็สายซะแล้วนะ มอง!! มองหน้าทำหอกไรอย่าเอาลูกตากลมๆ ซื่อๆ ของมึงมามองหน้ากูตอนกำลังด่า มองตีนกูนี่ ยัง!! ยังอีก เดี๋ยวกูโบกหัวทิ่ม!!"


"โถ่ว พี่...."


"ไม่มีแก้ตัวสายก็คือสาย ก้มหน้าลงห้ามเงยหน้าตอนกูด่า!! เป็นรุ่นพี่แล้วแทนที่จะมาคอยดูแลน้อง มึงนี่นะ! แล้วนี่แต่งตัวเชี่ยไรมึงเนี่ย สะพายย่ามวัดกูยังให้อภัยแต่แตะช้างดาวเนี่ยนะ แตะช้างดาวนี่ยนะ!!! ไอ้ฤกษ์มงคล!! ในมหาลัยเอกชนชื่อดังของประเทศเนี่ยนะ!!!" มองตีนอย่างเดียวครับตอนนี้


"พะ...พี่อิฐใจเย็นๆนะพี่พักหายใจก่อน" ลำไยพูดตะกุกตะกักด้วยความกลัว แหงล่ะ นี่พี่อิฐนะเว้ยพี่ว้ากหน้าโหด(สำหรับผม) สันดานเถื่อน


"อ้าวไอ้ฤกษ์ไม่เห็นหน้าเป็นเดือน ปิดเทอมเป็นไงบ้าง ไอ้เทียนสบายดีป่ะ" พี่ม่านฟ้าเพื่อนซี้พี่อิฐเอ่ยทักขึ้นมาจากด้านหลังพี่อิฐ ทำให้ผมรู้ว่าตัวเองได้เดินมาถึงคณะแล้ว


"พี่ต้องถามผมดิว่าสบายดีป่ะ ไปถามหาไอ้เทียนทำไมน้อยใจว่ะ" ผมก็ไม่รู้ว่าน้องผมไปสนิทกับพวกพี่ๆเขาได้ไง รู้อีกทีก็เห็นมีบงมีเบอร์กันเเล้ว


"ดูจากสภาพมึงก็สภาพดีหนิ หน้าซื่อๆ เฉิ่มๆ หลุดโลกเหมือนเดิม แล้วมึงจะไปด่าอะไรมันนักว้าอิฐ มันจำวันเปิดเทอมได้ก็ดีแค่ไหนแล้วเนี่ย ด่ามันมาปีกว่าแล้วไม่เบื่อบ้างไง นี่มันไอ้ฤกษ์นะ มึงจะเอาอะไรกับคนอย่างมันวะ" ผมพยักหน้าหงึกหงักๆ อย่างเห็นด้วย แต่ฟังแล้วทะแม่งๆ เหมือนพี่ม่านมันหลอกด่าไงไม่รู้ แต่คงไม่หรอกมั้ง ก็ลืมจริงนั่นล่ะวันเปิดเทอมแต่น้องผมจำได้ไง



"เอ้อ! ผมมีของมาฝากด้วย" ผมล้วงลงไปในย่ามสีส้มเหลืองของตัวเอง เขย่าเล็กน้อยเพื่อที่ของข้างล่างจะได้ขึ้นมาข้างบน อ๊ะ เจอแล้ว ผมหยิบหลอดเล็กๆที่ข้างในบรรจุผ้าสีเหลืองอมน้ำตาลออกมาสามหลอด ที่เหลืออีกสามสี่อันเอาไว้ให้ เพื่อนๆที่ยังไม่โผล่หัวมา


" อะไรเนี่ย" ลำไยนิสัยหยาบถามเสียงตื่น

"ชายจีวรหลวงพ่อxx วัดxx กว่าจะไปเอามาได้เกือบโดนเหยียบแบนแล้วนะ คนเป็นพันอ่ะไปรอเอาสิ่งนี้อ่ะ ท่านมรณภาพเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว พอดีหลวงลุงเป็นลูกศิษย์ท่านเลยได้ไปงาน รับไปสิ" ผมยื่นให้พี่ม่านฟ้า พี่อิฐ และลำไย ที่ยืนมองผมเงียบกริบ


"เอาพกติดตัวไว้นะ ใส่ไว้ในกระเป๋าตังค์ก็ได้ ป้องกันสิ่งชั่วร้ายที่มองไม่เห็น เป็นศิริมงคลแก่ผู้ครอบครอง เอาไว้ขอพร ขอความช่วยเหลือยามตกทุกข์ได้ยาก แต่สิ่งที่ขอจะได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับบุญของเราที่มีด้วย"


"...." พี่ม่านฟ้า/พี่อิฐ อดีตเด็กนักเรียนนานาชาติมองสิ่งในมือด้วยสีหน้างงๆ เหมือนเห็นไก่มีนม(?)แต่ก็เก็บเข้ากระเป๋าเสื้อ


"...." ลำไยสาวแฟชั่นหัวไฮเทค มองสิ่งในมือด้วยแววตาเหมือนเห็นทองคำพร้อมกับยกมือสาธุ บ่นงึมงำๆ



"เอ้อ แล้วเรื่องประชุมว่าไงอ่ะ แล้วมีอะไรให้ผมช่วยไหมอ่ะพี่อิฐ" ผมเอ่ยถาม พลางก็ก้มดูดนมกล่องไปด้วย อร่อยดีรสกาแฟซะด้วย


     พี่อิฐยกมือขยี้หัวตัวเองแรงๆ แล้วถอนหายใจใหญ่อีกเฮือก ก่อนจะเอาวงแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามคว้าคอผมไปหนีบไว้ใต้รักแร้ เอามืออีกข้างขยี้ผมผมแรงๆ เหมือนพี่มันหลอกเช็ดมือ


"มีแน่ๆล่ะ ตอนเย็นมาหาที่ห้องกิจกรรมของคณะด้วย"


     พี่อิฐชี้หน้าผมพร้อมกับทำหน้าโหด แถมด้วยการเอามือใหญ่บีบแก้มผมสองข้างจนปากจู๋ ก่อนจะโดนพี่ม่านลากคอไปเพราะมีธุระ บ่งบอกให้เห็นว่าพี่มันมาดักรอด่าผมโดยเฉพาะภูมิใจเลยครับผม พี่รหัสผมก็งี้แหละปากร้ายใจดี ขี้ใจอ่อน


     หลายท่านอาจสงสัยว่ากำลังอ่านอะไรอยู่เนี่ย นั่นน่ะสิมาสนใจชีวิตธรรมดาอะไรของผมกัน ไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิด แต่ผมก็ขออนุญาตแนะนำตัวครับเผื่อมีบางท่านสนใจในชีวิตธรรมดาๆของผม

   ผมชื่อ ฤกษ์ (อ่านว่า-เริก) ชื่อเต็ม ฤกษ์มงคลครับ บ้างก็เรียกไอ้ฤกษ์ ไอ้สัสฤกษ์ ไอ้ห่าฤกษ์ ไอ้เชี่ยฤกษ์ หรือไอ้หมอผีฤกษ์ อันนี้แล้วแต่สถานการณ์ครับ ผมยินดีหันทุกชื่อ ตอนนี้พึ่งอยู่ปีสองไม่รู้ว่าสอบผ่านมาได้ไงก็ยังงงๆอยู่เหมือนกัน ไม่เก่งคณิต วิทย์ เคมี สังคม โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ มีดีแค่วาดรูปได้ นอกนั้นกากทุกอย่าง ที่จริงมหาลัยเอกชนแพงๆแบบนี้ไม่อยู่ในสายตาผมเลยครับ แต่มหาลัยรัฐผมสอบไม่ติด ก็เลยต้องมาเรียนเอกชนที่สมัครและสอบนิดๆหน่อยๆก็ได้เข้ามาเรียนแบบงงๆโดยกู้เรียนกับทางรัฐเอา

   ผมมีน้องชายชื่อ เทียน ชื่อเต็ม เทียนพรรษา มีดีทุกอย่างที่ผมไม่มี ยกเว้นความโหด ผมอยู่กับน้องสองคนบ้านอยู่ข้างวัด ที่บ้านผมเปิดร้านขายโลงศพและพวกดอกไม้พวงหรีด แต่ก่อนเคยเป็นกิจการของลุงแต่ลุงของผมท่านปล่อยให้พวกผมดูแลกิจการกันเอง โดยท่านบอกว่าจะบวชเข้าพรรษา จนตอนนี้ห้าปีผ่านไปก็ยังไม่ถึงวันออกพรรษาสักที สงสัยปฏิทินของลุงจะเจ๊งนะครับ


      ตอนนี้ท่านก็ได้เป็นเจ้าอาวาสแล้ว ผมกับน้องก็เลยเป็นเจ้าของร้านเองกันแบบงงๆ พ่อกับแม่ผมยังไม่ตายนะครับ แต่มาทิ้งผมกับน้องไว้หน้าบ้านลุงตั้งแต่ผมอยู่ป.5หรือ ป.6นี่ล่ะครับ ท่านสองคนต่างมีครอบครัวใหม่กันแล้ว ก็ไม่รู้ว่าท่านทั้งสองไปอยู่แถวขั้วโลกเหนือกันหรือไง เกือบสิบปีมานี้ผมเห็นหน้าพวกท่านไม่เกินห้าครั้ง ส่วนเจ้าน้องชายไม่ออกมาพบหน้าเลยตอนที่พ่อหรือแม่มาหาที่ร้าน ก็มีบ้างที่ท่านส่งเงินมาให้ใช้ แต่สงสัยเห็นผมกับน้องอิ่มทิพย์กันมั้งครับ ปีหนึ่งส่งมาสองสามครั้ง แต่พวกผมก็อยู่กันได้ครับลุงเลี้ยงอิ่มหนำสำราญดีเลยล่ะ กินข้าววัดทุกวัน กิจการโลงศพก็ได้กำไรดี คนตายทุกวันผมก็ดีใจครับ แต่ขอดีใจแบบเงียบๆนะ เกรงว่าลูกค้าจะก้านคอเอา








5 โมงเย็น




เอี๊ยด~ เอี๊ยด~



   "ฤกษ์ มึงรับผิดชอบงานป้ายเฟรชชี่นะ แล้วถ้าทำเสร็จก็ทำป้ายงานกีฬาต่อเลย ส่วนคนช่วยก็ไอ้ลำไยกับไอ้ปัดนั่นแหละ!!"





     เพราะไอ้ประโยคข้างบนจากเพื่อนซี้ที่คบกันมาตั้งแต่มัธยม ณ ตอนนี้เป็นประธานรุ่นไปแล้วเรียบร้อย มันมีนามว่ามังกร หรือไอ้กร ไอ้ห่ากร ไอ้ตี๋แดนมังกรเชื้อสายจีน ลูกลุงก๋วยเปิดร้านขายส่งเหล้าเบียร์


     ไอ้ตี๋นี่ล่ะทำให้ผมต้องยืมจักรยานคันหรูแถมด้วยน้องสนิมจากคุณลุง รปภ.ป้อมหลังมหาลัย มาปั่นไปซื้ออุปกรณ์หลายๆ อย่างที่ต้องใช้ทำป้ายให้เสร็จในอีกเจ็ดวัน เพราะป้ายอันเก่าที่ใช้มานานหลายต่อหลายรุ่นปลวกดันกินเกือบทุกอัน น้องปลวกก็ช่างเลือกปีกินกันดีเหลือเกิน


     ร้านอุปกรณ์มันอยู่ไหนละเนี่ย ผมเคยมาซื้อของครั้งหนึ่งตอนปีหนึ่ง หลังจากนั้นก็ไม่เคยมาอีกเลย ส่วนมากจะฝากเพื่อนซื้อ จำได้แค่ว่าอยู่หลังมอ แต่มีซอยซอกแซกเป็นสิบซอย ผมก็จำไม่ได้ว่าซอยไหน


     โทรถามลำไยก็ไม่ว่าง กำลังประชุมเรื่องดาวเดือนคณะ พึ่งจะเปิดเทอมหลายท่านอาจสงสัยว่าทำไมมันวุ่นวายจริง ก็เพราะว่าอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าปีสองครึ่งหนึ่งก็ต้องไปเข้าค่าย

     เป็นค่ายของมหาลัยทุกปี และโครงการนี้ได้ทำสืบทอดกันมาถึงรุ่นที่สี่แล้ว ปกติไม่เคยขอคนเยอะขนาดนี้ และคณะผมก็ไม่ค่อยจะไปมีส่วนร่วมอะไรกับกิจกรรมกับเขาเท่าไหร่ วันๆ ก็ได้แต่นั่งๆ นอนๆ อยู่แถวคณะตัวเองนั่นแหละ ประโยชน์ไม่สร้าง วีรกรรมไม่ก่อ กินเหล้า สูบบุหรี่ อินดี้ไปเรื่อย


      เห็นไอ้กรมันบอกว่าเป็นโครงการค่ายสร้างวัด เป็นโครงการใหญ่ของมหาลัย อยู่แถวภาคใต้เป็นวัดเล็กๆเสื่อมโทรมไร้การดูแล จึงได้ทุบทิ้งแล้วสร้างขึ้นใหม่ และต้องการคนวาดรูปผนังโบสถ์ ไปแค่สิบห้าวันก็เลยต้องการนักวาดเยอะ ให้เสร็จทันกำหนดการ เพราะเราจะเป็นรุ่นสุดท้าย มันก็เลยตีกับกิจกรรมรับน้องนั่นแหละครับ เลยวุ่นๆ เพราะพอเสร็จค่าย กลับมาก็เป็นงานบอลมหาลัย


     ปีสาม ปีสี่ พวกพี่เขาไม่ยุ่งกับงานกิจกรรมแล้วครับเพราะถือว่าเขาทำตรงนั้นมาแล้ว รุ่นผมต้องบริหารกันเองใครมีปัญหาตรงไหนก็ไปปรึกษาได้ แล้วพวกผมก็ต้องมาปั่นงานกันตอนเส้นยาแดง


     ไอ้มังกรก็โทรไม่ติด สั่งงานผมเสร็จก็หายหัว ผมปั่นจักรยานเข้าซอยนู้น ออกซอยนี้ ไปเรื่อยรู้แค่ว่าชื่อร้าน 'ฟ้าใส' ถามคนข้างทางที่ผ่านไปมา บางคนก็ชี้ซ้าย บางคนก็ชี้ขวากันไปเรื่อย แต่ผมก็ยังไม่เจอร้าน



     เจอร้านไอติมก็แวะกินสักหน่อย ร้านนี้เด็ดอย่าบอกใคร หอมกะทิ หวานไม่เยอะแต่มันมาก ถั่วโรยหน้าก็ใส่ให้จนพูนถ้วย เจอวิวสวยๆก็แวะถ่ายรูปสักแปบ เพราะเอากล้องลูกรักติดมาด้วย เจอรุ่นพี่ที่รู้จักนั่งกินยาดองอยู่ร้านริมถนนก็แวะทักทายตามประสา ได้ซดนารีรำพึงฟรีอีกสี่ห้าเป๊ก เจอขนมครกก็แวะซื้อไปฝากลุง รปภ. สักถุงสองถุง ผมสะบัดหัวนิดหน่อยเพราะนารีรำพึงเริ่มแผลงฤทธิ์ซะแล้ว


เอ๊ะ!!


     ภาพเบื้องหน้าผมทำให้ต้องชะลอรถที่กำลังปั่น รถซุปเปอร์คาร์คันหรูสีดำเลื่อม จอดกระพริบไฟฉุกเฉิน มีผู้ชายร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวกางเกงสแล็คสีดำ เห็นไกลๆก็รู้ว่าโคตรแพง ยืนก้มๆเงยๆดูล้อรถตัวเองอยู่ ร่างกายเป็นไปโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นคนกำลังต้องการความช่วยเหลือ(?)


"รถเป็นอะไรอ่ะพี่ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ" เรียกพี่ไว้ก่อนเพื่อให้เกียรติ ผมจอดน้องสนิมใกล้ร่างสูงที่ก้มๆเงยๆอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมก่อนจะตอบเรียบๆ


"ยางแบน" เขาใส่ผ้าปิดจมูกทำให้ผมมองเห็นหน้าเขาไม่ชัด


     ซอยตรงนี้ก็มืดมากไฟข้างทางก็แทบไม่มี และนั่นทำให้ผมเอะใจ ยกนาฬิกาขึ้นมาดู สามทุ่มครึ่ง!! หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดู เชี่ย! แบตหมด!! ผมมาซื้อของตั้งแต่ห้าโมงเย็น จนตอนนี้สามทุ่มกว่า ของก็ไม่ได้สักชิ้น งานก็ยังไม่เดิน ได้แต่ของกินไปฝากลุง รปภ. ภาพสวยๆอีกร้อยกว่ารูปที่อยู่ในกล้อง ขนมนมเนยที่อยู่ในท้อง และนารีรำพึงที่เกือบหมดแบน...เอิ้ก~ กูหนอกู


     เรื่องของเอาไว้ก่อน เอาเรื่องข้างหน้าก่อน สมองผมมีนิดเดียวคิดได้ทีละเรื่องครับ ผมลงจากน้องสนิมแล้วเดินสำรวจดูยางหลังฝั่งคนขับที่แบนติดดิน ทว่าเมื่อก้มดูแล้วเงยหน้าขึ้นก็ทำให้เสียหลักเซ จากฤทธิ์นารีรำพึง


     ก่อนที่หน้าจะได้ลงไปวัดขนาดความหนาถนน รอบเอวผมก็รับรู้ถึงความอุ่นจากวงแขนที่โอบกอดจากด้านหลัง ก่อนจะโดนพลิกตัวให้หันกลับมาเผชิญหน้ากับเจ้าของวงแขน


"เมา?" เสียงทุ้มปนแหบเหมือนเจ้าของเสียงไม่สบายแต่ฟังแล้ว...เซ็กซี่ชะมัด เอ่ยถามพลางเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาคมเฉี่ยวในเงามืดจ้องมองลงมาจนรู้สึกประหม่า เห็นดวงตาไม่ถนัดเพราะแสงน้อย แต่ก็รับรู้จากความรู้สึกว่าโดนจ้อง


"ปะ....เปล่า" ผมตอบเสียงเบาเหมือนคนทำความผิดแล้วโดยจับได้ กินยาดอง ขับจักรยานไม่ผิดกฎหมายนา


     ตัวผมแข็งทื่ออัตโนมัติ เมื่อคนตรงหน้าก้มตัวลงจนได้กลิ่นหอมเย็น เป็นกลิ่นที่จมูกผมไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน เหมือนเป็นกลิ่นที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะ และผมก็ชอบ...เขาทำท่าเหมือนจะดมตัวผมเพื่อหาหลักฐาน แต่จะไปได้กลิ่นได้ไงเล่า ก็ในเมื่อใส่ผ้าปิดจมูกอยู่


     เฮ้ยๆ ใกล้ไปแล้วจมูกจะชนกันแล้ว...ผมดิ้นขลุกขลักๆออกจากวงแขนอย่างตกใจ คนตรงหน้าก็ยอมปล่อยแต่โดยดี ผมเซเล็กน้อยถอยไปยืนเกาะท้ายรถหรูพร้อมตั้งสติ


"ไหว?"


"ไหวดิชิลล์ๆ เมื่อกี้เงยหน้าเร็วไป ไม่ได้เมาสักหน่อย พี่มียางสำรองรึเปล่า"

     ผมถามร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ที่กดมือถือยุกยิกๆ อย่างทุลักทุเลก็เลยเห็นว่ามือข้างขวาของเขามีผ้าพันแผลอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม พลางพยักหน้าให้หนึ่งที ไอ้ท่าทางบุคลิกเย็นๆนี่มันคุ้นๆ แฮะ แต่ผมไม่ถือสา เพราะที่บ้านก็มีอยู่ตัวหนึ่ง(?)


"ท้ายรถ"


"พี่มีอุปกรณ์เปลี่ยนยางติดรถมาเปล่า"


"มี" เออ สั้นๆได้ใจความ


"เปิดท้ายเลยพี่ผมเปลี่ยนให้"


"ไม่ต้องหรอก"


"เหอะน่าาา ผมทำได้เคยเปลี่ยนอยู่บ่อยๆ(รถที่ร้านแบนบ่อย) พี่เองก็มือเจ็บทำไม่ไหวหรอก เดี๋ยวผมช่วย จอดนานไม่ดีนะพี่ ดึกแล้วซอยก็เปลี่ยว"

     เขามองสบตาผมแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินไปเปิดท้ายรถ ผมมองตามหลังเขาตาไม่กระพริบ เพราะพึ่งสังเกตว่าเขาไว้ผมยาว...เส้นผมสีดำสนิทถูกเกล้าไว้หลวมๆทำให้มีลูกผมอยู่ตรงท้ายทอย เห็นต้นคอขาวรำไรๆทำให้ดู...


     เซ็กซี่... เฮ้ยๆๆ หยุดเลยๆ ไอ้ฤกษ์นี่ผู้ชายนะเว้ย และนี่เป็นจุดอ่อนของผมครับ บอกไว้เลย ถ้านิยามกันไว้ว่าผู้ชายชอบแอบมองผู้หญิงหน้าอกใหญ่ๆล่ะก็ ผมอารมณ์ประมาณนั้นเลย แต่แค่เปลี่ยนจากหน้าอกเป็นลูกผมรำไรๆระต้นคอ....



เพราะมัวแต่มอง...เลยทำให้เดินชนประตูรถที่เปิดค้างไว้ ถ้าปกติเดินชนก็คงไม่เป็นอะไร แต่เมื่อมีนารีรำพึงสิงอยู่ในร่าง ผลกระทบก็คูณห้าเข้าไปสิครับท่าน เพราะความรู้สึกนั้นเหมือนโดนประตูผลักจนหัวเกือบทิ่ม


"ทำดีๆ" มือแกร่งคว้าต้นแขนผมไว้ได้ทันอีกครั้งก่อนที่หัวจะโหม่งพื้น แต่รู้สึกว่าเสียงก็จะเพิ่มเลเวลความดุขึ้นอีกหลายระดับ สงสัยเคืองที่ชนประตูรถ


"ครับๆ" ผมพยักหน้ารับคำ





"เรียบร้อย!!" ผมเก็บอุปกรณ์ใส่ท้ายรถให้พี่เขาเรียบร้อย ก่อนจะตะโกนออกมาดังๆด้วยความภูมิใจ วันนี้ทำความดีไปอีกหนึ่งอย่าง


"เสื้อเปื้อน" เสียงทุ้มปนแหบที่แฝงความเซ็กซี่เอ่ยขึ้น พลางนิ้วมือยาวก็เอื้อมมาลูบเสื้อตรงอกด้านขวาที่เปื้อนรอยดำของยางรถเป็นทางยาว เขาลูบแค่แปบเดียว แต่ผมนั้นถึงกับสะดุ้ง เมื่อนิ้วมือของเขาปัดผ่านโดนหัวนมผมจนขนลุกเกลียว


"ไม่เป็นไรพี่ ซักได้" ผมขยับตัวเดินไปหารถจักรยานของตัวเอง ขึ้นประจำตำแหน่งน้องสนิมเหมือนเดิม


"เท่าไหร่?" เขาถาม พลางควักแบงค์พันออกจากกระเป๋าตังค์หรูมาสองใบ


"น้ำใจไม่มีราคานะพี่ เขาวัดกันที่ตรงนี้"

     ผมตบลงไปตรงหน้าอกตัวเองเบาๆ มือแกร่งที่กำลังยื่นแบงค์พันชะงักค้างอยู่ตรงหน้า


"กลับบ้านดีๆนะค้าบบ"

     ผมโบกมือบ๊ายบาย ก่อนจะหันไปแชะภาพดวงไฟตรงเสาไฟฟ้าฝั่งตรงข้าม ถ้ามองดีๆ ข้างๆดวงไฟดวงกลมเล็ก เป็นพระจันทร์เต็มดวง ความเป็นจริงนั้นระยะทางห่างไกลแต่พอมองตรงนี้ มุมนี้ ใกล้กันจนแทบไม่มีระยะห่าง....



แชะ~




     วันนี้ถ่ายภาพมาเป็นร้อยภาพ แต่ภาพนี้ ภาพสุดท้ายของวัน สวยกว่ารูปที่ถ่ายก่อนหน้านี้เป็นไหนๆ

































« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2020 18:52:56 โดย 11:11 »

ออฟไลน์ 11:11

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
Re: ฤกษ์มงคล
«ตอบ #2 เมื่อ22-12-2019 16:37:22 »

2… ลูกบอลลี้ลับ






" ฤกษ์ "


"อาราย" ผมตอบรับสลึมสลือ ขณะที่ตัวเองนอนเลื้อยอยู่บนโซฟา เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยได้นอน ทั้งงานนอก งานใน งานราษฎร์ งานหลวง มีไม่ขาดสาย เมื่อเช้าก็ตื่นไปช่วยเด็กๆในวัดถือของบิณฑบาตรแต่เช้า ได้ข้าวก้นบาตรมาฝากพี่บุญกับพี่เพชร คนงานที่ร้านผม


"วันนี้ไม่อยู่ ดูร้านดีๆ"


"วันนี้วันเสาร์ โรงเรียนปิดไม่ใช่เหรอ ไปไหนอ่ะ" ผมลืมตาขึ้นมาถามน้อง ที่เดินหยิบนู้นหยิบนี่ใส่กระเป๋าเป้มองตามน้องตาปริบๆ


"ธุระ"


"แล้วธุระอะไรอ่ะ"


"ธุระ" มาแนวงี้ง้างปากก็คงไม่พูด


"อยากรู้"


"ธุระ"


" กลับกี่โมงอ่ะ" ถามอย่างอื่นก็ได้วะ


"เย็นๆ" สั้นดีแท้ ต้องเล่นยี่สิบคำถามป่าววะ


"โทรไปต้องรับโทรศัพท์ด้วยนะ"


"อืม"


"ห้ามเกเร ห้ามทำอะไรที่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนและคนรอบข้างเสียใจ"


"ครับ"


"ห้ามทำร้ายใครก่อนและอย่าให้ตัวเองโดนทำร้าย ห้ามยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย ห้ามกลับบ้านค่ำ"


"ครับ"


"ซื้อขนมมาฝากพี่ด้วย เอาป๊อบคอร์นรสเค็มกับชีสนะขอถังใหญ่ๆ"


"....."


"เทียน"


"....."


"เทียน"


"...."


"เทียน"


"....."


"เที๊ยนนนนน"




บรื้น~~~





"ฮ่าๆๆ "


"ขำอะไรพี่บุญ ไม่เคยเห็นคนหล่อหรือไง" ผมหันไปว้ากใส่พี่บุญที่นั่งจัดพวงหรีดอยู่ใกล้ๆ ไอ้น้องตัวดีแว้นรถไปซะแล้ว


"เอาที่เอ็งสบายใจเลยไอ้ฤกษ์ พี่ล่ะเห็นใจไอ้เทียนมันจริงๆ"


"เห็นใจไรพี่ เทียนมันเป็นอะไร" ผมลุกจากโซฟาไปนั่งยองๆอยู่ใกล้พี่บุญ ที่นั่งทำพวงหรีดอยู่ตรงพื้น


"หนักใจที่มีพี่บ้าๆบอๆแบบเอ็งไง" พี่บุญไม่พูดเปล่ายังเอื้อมมือมาบีบแก้มผมจนปากจู๋ วุ้ย!! ทำไมมีแต่คนชอบบีบแก้มผม


"โอ้ย เจ็บนะโว้ยยย ไอ้พี่บุญ บ้าบอที่ไหน ผมเนี่ยปกติสุดล่ะ พวกรอบๆตัวผมนี่ล่ะ ที่บ้าบออ่ะ"


"เอาที่เอ็งสบายใจเลยฤกษ์" พี่เพชรเดินออกมาจากหลังร้าน แถมด้วยการผลักหัวผมหน้าแทบทิ่ม รุนแรงตลอดนี่เจ้าของร้านนะเว้ย



ปริ๊นนนนนนนน~



     สามชีวิตที่นั่งอยู่ในร้านสะดุ้งโหยง เมื่อมีเสียงแตรรถยนต์บีบสนั่นหวั่นไหวอยู่หน้าร้าน ไม่ต้องคิดให้รกสมองก็พอจะรู้ว่ามันคือใคร นอกจากจะมีเพื่อน นิสัยหยาบ นิสัยชอบสั่ง และก็ยังมีอีกคน นิสัยถ่อย!!


"หวัดดีพี่" ไอ้ร่างสูงหุ่นนักกีฬาทรงผมสกินเฮดลุคแบดบอย ยกมือไหว้พี่ๆในร้าน ก่อนจะหันมายักคิ้วให้ผมที่นั่งอยู่ข้างพี่บุญ


"เอากี่โลง ตายกี่ศพ"


"ศพมึงน่ะสิ ไอ้ห่าฤกษ์" อวยพรกูตลอด


"สี่วันมานี่หายหัวไปไหนมา กูกับลำไยนั่งทำป้ายกันจนหลังขดหลังแข็ง ขนาดมีน้องปีหนึ่งมาช่วยยังไม่เสร็จ" บ่นครับบ่น ตั้งแต่เปิดเทอมมาไม่เห็นหัวมันเลย


"น้องปีหนึ่งไม่ใช่น้อยๆที่มาช่วย ป้ายยินดีต้อนรับเฟรชชี่เนี่ย!! กูว่าสองวันก็เสร็จแล้วมั้ง แค่สองป้ายเนี่ย" ไอ้ลูกปัดหรือไอ้เชี่ยปัด มันยืนเท้าเอวจ้องเขม็งมาที่ผม ไหงผมถูกบ่นซะได้ล่ะ


"ก็...ก็..." คิดไม่ทันครับ


"อะไร!" โว๊ะ!! เสียงดังทำไม


"วันแรกเล่นผีถ้วยแก้วอ่ะละทีนี้สนุกไง ตะ...ติดลม"


"...." ไอ้ปัดพยักหน้ารับ หันหลังไปเปิดตู้เย็นหยิบข้าวโพดต้มในตู้มาแทะกิน แล้วเดินกลับไปนั่งโซฟา พลางหันมาจ้องกดดันให้ผมพูดต่อ เอ้อ ก็ได้ว่ะ!!


"ว้นที่สองมีน้องคนหนึ่ง บ้านมันเลี้ยงปลาขาย แล้วน้องอีกคนอยากกิน กูเลยพาไปตกปลาแล้วทำปลาเผากินกัน อร่อยอย่างนี้เลยมึง" ผมยกนิ้วโป้งทำท่าประกอบจนโดนถลึงตาใส่ เลยลดอารมณ์ขี้โม้ลง มีพี่เพชรกับพี่บุญส่ายหน้าเอือมระอาอยู่ข้างๆ


"สรุปพึ่งเริ่มทำ"


     ผมพยักหน้าหงึกหงักๆ เลยโดนเม็ดข้าวโพดปาใส่หัวสองเม็ดติด


"ทำให้เสร็จอย่าให้เลยวัน"


"เอ้า! แล้วมึงไม่ช่วยทำไง๊" ประท้วงครับประท้วง


"ช่วยห่าไรเยอะแยะ งานอื่นรออยู่ตั้งเยอะจะเฮโลกันไปทำห่าไรงานเดียว" เพื่อนผมเป็นคนอ่อนโยนครับ!!


"แล้วมึงเสนอหน้ามาทำไรบ้านกูเนี่ยปัด" ผมถามพลางเดินไปเตะขามันลงจากโต๊ะหน้าโซฟา มึงจะชิลล์ไปไหม


"วันนี้ว่างป่ะ"


"ไม่ว่าง!!"








"อ้าว น้องฤกษ์มาด้วยเหรอเราน่ะ ขาวผ่องมาแต่ไกลนึกว่าหลอดไฟนีออน"


"ฤกษ์ไม่มา มาแต่น้องเวียร์ ศุกลวัฒน์ครับโผ๊มมมม" ผมตะโกนตอบพี่กิตปีสี่ ที่นั่งอยู่ข้างสนามฟุตบอล


"น้องเวียน ศาลาวัด รึเปล่ามึง!! ฮ่าๆๆ"

     ไอ้มังกรที่โดดตบมือเหยงๆอยู่ข้างพี่กิตแทรกขึ้น มันกำลังวอร์มร่างกายอยู่กลับ แต่ผมมองว่าเหมือนค่างเหมือนลิงกำลังโดนเห็บกัด


"ไอ้สัส!!" สั้นๆง่ายๆได้ใจความ


     ตอนนี้ผมอยู่ที่สนามฟุตบอล!! โดนลูกปัดคนถ่อยมันลากมาจนได้นั่นล่ะ ถึงจะบอกว่าไม่ว่างงานกองท่วมหัว ที่มีทั้งพวงหรีดสั่งทำพิเศษ และโลงศพสั่งทำที่ต้องเป็นสีชมพูลายคิตตี้ ไอ้ปัดคนถ่อยก็โนสน โนแคร์ เร่งผมทำยิกๆ พอได้เวลานัดตอนเย็น น้องเทียนสุดเลิฟก็กลับมาพอดี มันก็เลยฝากฝังงานผมไว้กลับน้องให้ทำต่อ และลากผมออกมา...แค่หมูกระทะนะครับ!! ใครชนะได้กินหมูกระทะ เพราะทีมแพ้ต้องเลี้ยง!! มันถึงกับต้องลากผมออกมาทั้งที่ใส่แค่เสื้อตาห่านสีขาวกับกางเกงโสร่งขาสั้นเหนือเข่าสีแดง รองเท้าช้างดาว!!


     ผมเดินเนือยๆ ไปนั่งข้างพี่กิต แต่ก็ไม่พ้นสะดุดขาตัวเองหัวทิ่ม ดีนะที่ล้มไปทางไอ้พี่กิต มันเลยเป็นเบาะรองอีกทีไม่เจ็บเท่าไหร่ แต่โดนพี่มันด่ามาอีกหลายบทกลอน เพราะเข่าผมดันกระแทกเข้าท้องพี่มันจนจุก



"ไอ้ปัด!! กูให้ไปหาคนเล่นบอลมานะโว้ย ไม่ได้ให้ไปหาหมอผีมา" พี่ตังค์ลุงรหัสผมที่เดินมาจากไหนไม่รู้เอ่ยขึ้น


"เอามันมาออกกำลังหน่อยพี่ กลัวจะเป็นง่อยไปซะก่อน"


"เออกูว่าก็ใกล้แล้วล่ะ ขนาดเดินดีๆหัวยังทิ่ม ไอ้ฤกษ์เอ๊ย" พี่กิตเขาว่ามาอย่างงั้น


"แล้วนี่มึงจะใส่ชุดนี้เตะบอล?"


     ผมพยักหน้าหงึกหงักๆ ตอบไอ้ตี๋กร ทุกคนเป็นอันว่าเข้าใจ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมใส่ชุดแบบนี้และเล่นบอลเท้าเปล่า ผมชอบอ่ะมันสบายดี


"วันนี้ไม่ได้ว่ะ แข่งกับทีมอื่นโดนเหยียบตีนขึ้นมากูว่ากระดูกแตก ไปเปลี่ยนรองเท้า กางเกงก็เปลี่ยนด้วยวิ่งไปวิ่งมา โสร่งหลุดกลางสนามเดี๋ยวลูกตากูมีมลทิน"


      ไอ้พี่ตังค์สั่ง ส่วนผมจะทำไรได้ นอกจากเดินเนือยๆไปเปลี่ยนตามคำสั่ง เสื้อผ้ารองเท้าผมทิ้งไว้ในรถไอ้ปัดเป็นชาติแล้ว ไม่ค่อยได้เล่นบอลเท่าไหร่ เตะเสร็จก็ยัดๆไว้ในรถมัน มันด่าผมจนขี้เกียจด่าเพราะไม่ซักแล้วเอาไปยัดในรถมัน จนมันต้องให้แม่บ้านที่บ้านมันเอาไปซัก เพื่อนผมเป็นคนน่าร๊ากกก





"แข่งกับใครอ่ะ" ผมถามปากก็เคี้ยวขนมตุ้ยๆที่พี่ตังค์อดีตพี่ว้ากถือมาเต็มสองมือ พี่มันหันมามองผมก่อนจะเอามือมาบีบแก้ม


"โอ๊ยยย เจ็บนะเว้ยทำไมมีแต่คนบีบแก้มผมเนี่ย!! ถ้าผมกินข้าวไม่อร่อยน้ำหนักลดจะทำไง เดี๋ยวน้องผมเป็นห่วงนะ"


"แดกข้าวมื้อละสามจานแบบมึงนี่ยังกล้าพูดนะ ไอ้ฤกษ์" ไอ้ปัดมันใส่ร้าย


"ก็เอ็งมันน่าเอ็นดู" พี่กิตว่า


"เฮ้ยๆ พวกไอ้หมอแข่งมาแล้ว"



     พี่โต้งเพื่อนพี่กิตตะโกนมาจากฝั่งตรงข้าม พวกรอบๆตัวผมเลยลุกขึ้นเดินไปหากลุ่มมาใหม่ ที่มีประมาณเจ็ดถึงแปดชีวิตมีแต่ผมที่ยังนั่งอยู่



"อ้าวเฮ้ย!! หมอราล์ฟก็มาว่ะ"


"หายหน้าหายตาไปนานเลยนะมึง เรียนหนักสิท่า"


     พวกพี่ปีสามปีสี่ส่งเสียงกันเจี๊ยวจ๊าว เหมือนพึ่งพบญาติที่พึ่งกลับมาจากสนามรบ ผมใช้ความอดทนอย่างสูงที่จะไม่ขยับตัว...



     ผมในตอนนี้นอนราบอยู่กับพื้นสนามหญ้า กำลังถือกล้องถ่าย...หนอน เจ้าตัวเล็กๆดุกดิกๆกำลังกระดึ๊บๆมาที่ยอดหญ้า และเมื่อน้องคลานมาถึงปลายยอด ผมจะได้ภาพที่ธรรมชาติสุดๆ



"วันนี้ต้องชนะนะเว้ยหมอแข่ง"


"แน่นอนสิวะ!!"


"ทีมพวกมันต้องจ่ายค่าสนามและค่าแดกพวกเราอยู่แล้ว"


"อ้าวขาดคนหนึ่ง ทีมยังไม่ครบเหรอวะ"


"ครบดิ....อ้าวเฮ้ย!! มันไปไหนเนี่ย"



     อีกนิดๆ นั่นแหละๆ



แชะ~



     ขออีกภาพเมื่อกี้มือสั่น อย่าพึ่งร่วงนะเว้ยเกาะไว้ๆ



"ไอ้ฤกษ์!!!"



     ผมสะดุ้ง ลุกพรวดด้วยความตกใจในเสียงตะโกนลั่นของพี่กิต จนไม่ทันระวัง เซเดินถอยหลังไปชนกับของแข็งๆด้านหลัง เสียหลักล้มกลิ้งลงไปอีกครั้ง ผมหลับตาปี๋กอดกล้องไว้แน่นแต่....ไม่เจ็บแฮะ  ถึงที่รองหลังจะแข็งไปหน่อยก็เถอะ

     ผมค่อยๆลืมตา พอปรับโฟกัสได้ สบเข้ากับดวงตาเฉี่ยวคบกริบนัยน์ตาสีเทาหม่นคู่สวย แววตาที่จ้องมองมาสะกดผมแทบลืมหายใจ จมูกโด่งปลายพุ่งทรงฝรั่ง แค่ใบหน้าก็บ่งบอกให้รับรู้ว่าไม่ใช่คนเอเชีย แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะคิ้วเข้มและผมที่สีดำสนิทที่เกล้าไว้อย่างลวกๆ เขาผมยาว... ผิวที่ควรจะขาวเผือกอย่างที่ควรจะเป็นกลับกลายเป็นสีน้ำผึ้ง...หล่อ...น่ามองกว่าหนอนตัวนั้น ที่ผมตั้งใจนอนดูอยู่นานสองนานซะอีก หล่อราวกับเทวดาเดินดิน(!!)


     สติผมกลับมาอีกครั้ง เมื่อรู้สึกถึงการกอดรัด ผมนอนอยู่ใต้ร่างของคนตรงหน้า มีแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสอดรองใต้แผ่นหลังช่วงบน และช่วงเอวของผม มีเพียงกล้องถ่ายรูปเท่านั้นที่คั่นกลางอยู่ตรงปลายคางของผมกับคนตรงหน้า



     ด้วยความตกใจ เมื่อรับรู้ว่าวงแขนของคนตรงหน้าเริ่มกระชับตีวงล้อมเข้ามามากกว่าเดิม ทำให้มือผมเผลอกดไปโดนปุ่มชัตเตอร์ แสงเฟลชส่องวาบไปที่ใบหน้าของคนตรงหน้า และนั่นทำให้ผมใช้จังหวะนั้นดิ้นออกจากวงแขนของเขาได้


     กลิ่นหอม...เฉพาะตัวจากตัวของเขายังติดอยู่ที่ปลายจมูก หอมเย็นสดชื่นแฝงความเซ็กซี่เย้ายวน และค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลเจือจาง...เมื่อถอยห่างอยากดอมดมอีกครั้ง แต่ต้องเข้าใกล้ ดูลึกลับเหมือนกับดัก

     กลิ่นนี้เหมือนจมูกเคยได้สัมผัสมาก่อน แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคย...ที่ไหน



"เฮ้ยๆ พวกเอ็งสองคนนั่นทำไรกัน เห็นนะเว้ย"


"ไม่อนุญาตนะโว้ย นั่นหลานรหัสกูนะ ของดีของแปลกของหวงคณะห้ามล่อ...และลวง!!"


"สนามบอลนะเว้ย!! เผื่อยังไม่รู้"


"หมอเทวดากับหมอผี!!"


"อันนี้ได้!!"


"ฮ่าๆๆๆ"



     เสียงเอะอะ โวยวาย ของพวกที่อยู่ในสนามตะโกนแข่งกันจนฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ก็คงจะกวนบาทาไม่ใช่น้อย ดึงสติผมกลับมาอีกครั้ง ผมที่พึ่งสังเกตเห็นว่ามีพวกวิศวะและแพทย์ด้วย ไม่รู้ว่าสนิทกันตอนไหนเพราะทุกครั้งที่ผมมาจะมีแค่คณะผมและเกษตรบ้าง ผมหันไปชูนิ้วกลางให้ ก่อนจะหันมาหาคนตรงหน้า


     เมื่อเขายืนขึ้นเต็มความสูง ทำให้ผมที่ภูมิใจในความสูงที่ได้มาตรฐานชายไทย ถึงกับต้องนอยด์ เพราะผมสูงแค่ปลายคางเขาเอง เขาอยู่ในเสื้อยืดคอกลมสีดำกางเกงบอลสีน้ำเงิน และรองเท้ากีฬาสีดำเหลือบทอง...รองเท้าในฝันของโผ๊ม ราคาห้าหลัก โหวววววว


"ขะ...ขอโทษ" โผล่มาตอนไหนก็ไม่รู้ตกใจหมด นึกว่าแถวนี้เหลือแค่ผมคนเดียว


     เขายืนนิ่งขมวดคิ้ว ก่อนจะหันหลังเดินลงไปในสนาม เอ๊ะ!! หรือไม่เข้าใจ ผมวิ่งตามหลังเขาไปติดๆ ใช้นิ้วสะกิดที่แผ่นหลังเขา...เขาหยุดและหันมามอง



"ซอลี่...รี่..เอ๊ยๆเอาใหม่ๆ"


"...."


"ซอรี่" ผมออกเสียงเบาหวิวเพราะกลัวออกเสียงผิด ผมกากนะครับ ภาษาอังกฤษเนี่ย


     เขาพยักหน้ารับก่อนจะเดินต่อ เหมือนแว่วเสียงหัวเราะ หึๆ มาตามลม คงจะเป็นเสียงพวกพี่ๆที่อยู่ในสนาม






ตุบ!!



     ผมนอนนับดาวอยู่กลางสนาม เป็นผลมาจากที่กระโดดแย่งโหม่งบอล แต่โดนศอกทีมตรงข้ามที่กระโดดแย่งโหม่งบอลพร้อมผม กระแทกเข้าที่ปลายคาง ส่งผลให้นอนเป็นศพอยู่กลางสนาม ยกมือแตะปากเลือดไม่ไหลแต่กลับรับรู้ได้ถึงความเจ็บตรงข้อเท้าที่เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กูล้มท่าไหนว่ะเนี่ย โดนเสยคางแต่เจ็บข้อเท้า




"มึง เป็นไรมั้ยเมื่อกี้กูไม่ทันเห็น โทษนะเว้ย" พี่ซุงปีสี่คณะเกษตรขอโทษขอโพย ก่อนจะประคองผมลุกขึ้นนั่ง จะว่าไปมีแต่พี่ๆปีสี่ปีสามทั้งนั้นเลยนี่หว่า มีพวกผมปีสองแค่ไม่กี่คนเอง


"ไม่เป็นไรพี่ เมื่อกี้ผมก็ไม่ทันระวัง แต่เจ็บข้อเท้าอ่ะ" ผมชี้ที่ข้อเท้าซ้าย


"อ้าวเหรอ กูดูดิ"


"เป็นไงมั้งไอ้หมอผี" ไอ้พี่กิตเอ่ยถาม เงยหน้ามองอีกทีผมก็ตกอยู่ใจกลางวงล้อมของเพื่อนในทีมซะแล้ว


"ไม่เป็นไรอ่ะ เจ็บข้อเท้านิดหน่อย หิวด้วย ร้อนด้วย เหนื่อยด้วย อยากกินป็อบคอร์นอยากกินหมูทะ อยากชนะอ่ะ"


"วิ่งยังไม่ถึงยี่สิบนาทีบอกเหนื่อย เดี๋ยวกูยันโครม จะทำมาหาแดกไรได้"


     ผมเงยหน้ายิ้มยิงฟันให้พี่กิต พร้อมกับกระพือเสื้อห่านคู่สีขาวที่เปียกเหงื่อจนแนบเนื้อให้ลมเข้าแก้ร้อน พร้อมกับมีพี่ซุงนวดข้อเท้าให้อย่างเบามือ ไม่หายร้อนเลยถอดดีกว่า


"เฮ้ยๆๆมึงจะทำไร" พี่ตังค์ร้องเสียงหลง


"ถอดเสื้ออ่ะร้อน"


"ไม่ได้!!" พี่ตังค์ พี่กิต มังกร นัดกันประสานเสียง หรือเปล่าวะ!? ผมหันไปมองคนนี้ที คนนู้นทีอย่างงงๆ เห็นพี่ๆหลายคนทำตาโต พี่ซุงก็เป็นกับเขาด้วย มีบางคนก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์ที่พี่ตังค์ตะโกนห้ามผม


"อะไรของพวกพี่เนี่ย" ผมเกาหัวอย่างงุงนงง หลังจากนั้นก็ถูกมังกรแบกมานั่งข้างสนาม เพราะคงเล่นต่อไม่ไหว สิบห้านาทีแรกผมก็เดี้ยงเป็นที่เรียบร้อย เก่งจริงเลยกูเนี่ย!!


"ไหนให้พี่ดูสิ" พี่หมอแข่งที่ผมพึ่งรู้จัก นั่งลงดูข้อเท้าให้ผม มือเรียวแกร่งนวดคลึงข้อเท้าให้อย่างเบามือ พวกพี่ๆในทีมก็แยกย้ายกันไปประจำตำแหน่งเตรียมเล่นต่อ


"ไม่เป็นไรพี่ ไม่เจ็บแล้ว" ผมปดออกไป ที่จริงก็ยังเจ็บอยู่แต่จะให้ใครก็ไม่รู้ รู้จักกันยังไม่ถึงสามชั่วโมงมานั่งนวดข้อเท้าให้ก็ยังไงอยู่ อย่างน้อยพี่ซุงก็ยังเคยคุ้นหน้าคุ้นตาคุยเล่นกันบ่อย ผมชักเท้าหนีแต่พี่หมอแข่งก็จับไว้ได้ทัน ก่อนจะนวดให้อีกครั้ง นวดไปนวดมาทำไมรู้สึกเหมือนเป็นลูบล่ะ พี่เขาลูบขาผมขึ้นสูงเรื่อยๆจนถึงปลีน่อง


"เอ่อ...พี่" ผมเอ่ยท้วง


"ตรงนี่เจ็บไห..."


"เฮ้ยพี่!!"


ตุ้บ!!


     อยู่ดีๆก็มีลูกบอลปริศนาพุ่งตรงมาด้วยความแรง เร็ว มายังพวกผม เหมือนหัวพี่หมอจะเป็นเป้าหมายที่พุ่งชน ทั้งที่ผมเตรียมไว้อาลัยในใจเรียบร้อยแล้ว แต่กลับต้องเก้อ เพราะพี่หมอใช้มือรับลูกบอลอย่างง่ายดาย ท่าทางรวดเร็วจนน่าตกใจ เฮ้ย!! ถ้าพี่จะรับได้ขนาดนี้ไปเป็นโกลทีมชาติเถอะ


"หึๆ" พี่หมอหัวเราะอย่างชอบใจ


"เอ่อ....พี่เจ็บตรงไหนมั้ย" ผมถามพี่หมอที่กำลังเป็นประสาท เพราะแกหัวเราะอย่างชอบใจที่เกือบโดนลูกบอลอัดหัว ลูกบอลเมื่อกี้แรงจริงๆนะครับ เหมือนคนเตะตั้งใจเตะอัดเลย แต่ไม่รู้ว่าใครเตะนี่สิ


"พี่ไปก่อนนะ เมื่อกี้แค่ทดสอบอะไรนิดหน่อย"


"ฮะ!?"


"หึๆ"








"เฮ้ยๆ ระวังไอ้หมอเทวดา"




ตุ้บ!!



กร๊อบๆแกร๊บๆ



ตุ้บ!!




"เฮ้ยๆๆ ระวัง!!"



ตุ้บ!!



กร๊อบแกร๊บๆ




     ผมนั่งขัดตะหมาดกินขนมทอดกรอบอยู่ข้างสนาม ทีมฝั่งตรงข้ามคือพวกวิศวะกับเกษตร พวกเขาดูหัวเสียเป็นอย่างมาก เมื่อหล่อเทวดายิงประตูเหมือนโกรธโกลมา เอ้อพวกพี่หมออยู่ทีมผมนะครับ ครึ่งชั่วโมงมานี่ทีมผมยิงไปแล้วห้าประตูครับ!!! 5-0 เป็นเลขที่โคตรโอเวอร์ หนึ่งลูกเป็นของหมอแข่ง สี่ลูกที่เหลือหมอหล่อเทวดาฟาดเรียบ ยิงประตูเหมือนเก็บกด ไม่พูดไม่จากับใครมีพยักหน้าบ้างยิ้มมุมปากบ้าง สงสัยพูดไทยไม่ได้เพราะในสนามพูดกันแต่รุ่นพ่อขุน



     ผมนั่งมองหล่อเทวดาที่พวกรุ่นพี่ตะโกนกันปาวๆ ลั่นสนามว่าหมอราล์ฟ ชื่อคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหนนะ!? เขาดูโดดเด่นจนไม่สามารถละสายตาได้ ท่าทางคล่องแคล่วหลบหลีกจนไม่มีใครตามทัน เขาเก่งจนอดแปลกใจไม่ได้ว่าสโมสรดังๆพลาดคนเก่งๆอย่างนี้ไปได้ไง


     หมดเวลาแข่งขัน.... ทีมผมได้ 7-0 และหกลูกเป็นของเขา... หมอราล์ฟ เขาวิ่งมาที่ข้างสนามตรงที่ผมนั่งอยู่ หยิบขวดน้ำดื่มที่ผมหอบมาไว้ข้างๆเพื่อเตรียมให้พวกในทีม ยกขึ้นดื่มและเทราดรดหน้า ลูกผมเปียกลู่ระต้นคอหยดน้ำเกาะพราวเต็มใบหน้า...เซ็กซี่




ตึกตัก~



ตึกตัก~




     ก้อนข้างในอกข้างซ้ายของผมเต้นแรงจนผิดปกติ สายตาคมนัยน์ตาสีเทาหม่นหันมาสบ เมื่อรู้ว่าถูกมอง...ร่างกายผมผิดปกติเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้ไม่รู้ว่าควรเอามือเอาลูกตาไว้ตรงไหน



     ได้สติ...รีบลุกขึ้นเดินหนี ทุบอกตัวเองค่อนข้างแรงเพื่อหวังให้หัวใจทำงานปกติ...หมูกระทะวันนี้คงไปกินไม่ได้แล้ว เพราะรู้สึกว่าร่างกายผิดปกติ เหมือนจะไม่สบายหน้ามันร้อนแปลกๆ




















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2020 21:00:11 โดย 11:11 »

ออฟไลน์ 11:11

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
Re: ฤกษ์มงคล 22/12/2019
«ตอบ #3 เมื่อ22-12-2019 16:47:57 »

3… เสียงลี้ลับ






     ณ โต๊ะหินอ่อนหลังตึกคณะในมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ




“เฮ้ย!! ตกลงมึงยังไง”


“กูไม่อยากไปไหมล่ะ” ไอ้ปัดบ่าวใต้หน้าหล่อ คมเข้ม ดีกรีนักกีฬาฟุตบอล ตำแหน่งเดือนคณะและมหาลัย สมบัติของคณะ(มั้ง?) มีดีเรื่องกีฬาและการเรียน แต่นิสัยโคตรถ่อยและกวนตีน ผมตอบมันอย่างหน่ายๆ พร้อมกับนั่งเตรียมอุปกรณ์สำหรับค่ำวันนี้ไปด้วย ตื้อกูจริงๆเลยพวกมึงเนี่ย


“ไม่ได้นาา ปีสองแล้วนะเว้ย มึงไม่เคยให้ความร่วมมือกับกิจกรรมคณะสักอย่างเลยนะ ประธานรุ่นจะแดกหัวมึงอยู่แล้วนะอีฤกษ์!!”


     ไอ้นก หนุ่มไม่น้อยแต่หน้ามน ยื่นหน้าขาวๆปากแดงๆหมือนผีจูออนเข้ามาใกล้ๆ พร้อมมองด้วยสายตาจิกกัดบ่งบอกว่า…กูไม่ยอมนะโว้ยยย (เอ้อกูเดาเก่ง) ไอ้นี่ก็พึ่งจะว่างโผล่มา ก่อนหน้านี่ยุ่งๆเรื่องเชียร์ มาแล้วดันเสือกเอาปัญหามาอีก


     ไอ้ประธานรุ่นหน้าตี๋มันก็แดกหัวกูทุกวันอยู่แล้ว ถึงผมไม่เข้ากิจกรรมมันก็จิกหัวใช้ผมเบื้องหลังกิจกรรมตลอดอ่ะ ใช้ให้ไปซื้อของ ใช้ให้ไปช่วยถือของ อ้อนวอนงอแงให้ผมนั่งเฝ้ามันตอนทำงานอยู่มหาลัยดึกๆดื่นๆ เพราะมันตาขาว ผมแช่งให้มันโดนขับไล่ออกจากการเป็นประธานรุ่นตั้งแต่ปีหนึ่งล่ะ ลำบากเพื่อนฝูง แต่ก็ยังดวงแข็งเสร่อมาเป็นปีสองอีกจนได้


“มึงถอยออกไปหน่อยนก ไปตกบ่อน้ำหอมมาหรือไงกูเวียนหัวฉิบหาย! เอาแขนออกจากโต๊ะด้วย เดี๋ยวของกูเสื่อม” กลิ่นไหนก็ไม่ถูกจมูกเท่ากลิ่น.... เฮ้ยๆ เลิกคิดๆ


“เบิร์ดโว้ย!! อีฤกษ์เดี๋ยวกูตบปากเเตก”

     ไอ้นกแทบจะถีบผมตกเก้าอี้เมื่อเอ่ยชื่อมันที่ติดตัวมาแต่เด็ก ไอ้ผมนี่ก็ไม่เข้าใจ อยู่มัธยมชื่อนก พอเข้ามหาลัยชื่อเบิร์ด มึงจะตั้งใหม่ให้ยุ่งยากทำไม


      กลุ่มผมนี่ก็แปลกนะครับ? ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือยังไง จบจากโรงเรียนมัธยมเดียวกันไม่พอดันเสือกมาเรียนคณะเดียวกันอีก มีผม มังกร ไอ้นก รู้จักกันตอนมัธยมต้น พอมัธยมปลายก็มาพบเจ้ากรรมนายเวรอีกสองคน ไอ้ลูกปัดกับลำไยนั่นแหละคับ ผมถึงขนาดหนีไปสอบมหาลัยรัฐแต่ก็ต้องมาซบเอกชนอยู่ดี ปัดโถ่ววว


"เอาจริงๆนะ ชื่อนกก็ดีอยู่แล้วป่ะ กูไม่เห็นว่าจะไม่เพราะตรงไหน" ชื่อไอ้หำเล็กว่าไปอย่าง


"ก็เบิร์ดมันดูอาเซียนอ่ะฤกษ์ นกก็น่ารักไงแต่กูชอบแบบอาเซียน" ทำไมต้องมีท่าประกอบ?


"ตรรกะไรของมึงเนี่ย!! แล้วแต่องศาซัลซิลของมึงเถอะ"


"อาเซียน!! โว้ยยย อีฤกษ์!! แต่ช่างหัวกลวงๆของมึงเถอะ กูไม่หวังว่ามึงจะรู้จักอาเซียนหรอก แค่เบอร์โทรของตัวเองจำให้ได้ก่อนเถอะ แล้วสรุปจะไปไหม?" ทำไมต้องเสียงเข้ม


“ฮูขี้กูหนิ!!” ทำไมผมต้องไปด้วยล่ะ อยู่มหาลัยก็ช่วยงานได้ ผมเป็นห่วงน้อง (แฮร่~ ผมตอแหล) ก็ไม่อยากไปอ่ะครับ คนอื่นๆมีตั้งเยอะไมไม่ไปชวนอ่ะ


“บักปอบเอ้ย!!”


“พอ!! ฤกษ์มึงก็ช่วยคณะหน่อยสิวะไปแค่สิบห้าวันเองนะ(เองพ่อง!!)งานใหญ่นะมึง งานบุญน่ะ ถึงมึงจะไม่เอาถ่านทำห่าไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง เล่นบอลเมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็กาก แต่มึงวาดรูปสวยไง เนี่ย ข้อดีมึงพรสวรรค์เพียงหนึ่งเดียวของมึงเนี่ยฤกษ์” ไอ่ห่าเหมือนจะชมอ่ะไอ้ปัด ไอ้ตี๋มันจ้างมึงมากี่กลม


“มึ๊งงงง (เสียงจะสูงไปไหน) ไม่ได้ไปแค่คณะศิลป์เราอย่างเดียวนา หมอ วิศวะ ถาปัตย์ นิเทศ ก็ไปนะมิ๊งงงง” ท่าทางแรดๆเพ้อๆอย่างงั้นคือไรวะ


“คนอื่นก็ทำได้ป่ะ” ผมไม่ยอมคล้อยตาม ไม่อยากไปโว้ย ไม่ชอบคนเยอะ ทำบุญ ทำใกล้ๆบ้านก็ได้ไหม


“เขาต้องการคนเยอะไง อยากจะจบโครงการรุ่นเรา เขาขอคนคณะปีเราเยอะกว่าปีที่ผ่านมาเพื่อไปวาดผนังโบสถ์ พวกที่เหลือก็ต้องเตรียมงานรับน้องกับงานบอล พวกรุ่นพี่เขาก็เคยไปกันมาแล้วเหลือรุ่นเราเนี่ยที่ต้องไป และเอาคนไปเยอะกว่าทุกปี คณะแพทย์ก็ไปตรวจสุขภาพคนในชุมชน นิเทศก็ไปสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้น ถ่ายภาพกิจกรรมและทำเป็นวิดีโอลงเว็บมหาลัย ” ไอ้ปัดพูดเป็นการเป็นงาน หน้าหล่อๆจริงจังจนต้องใจอ่อน เหม็นขี้หน้าไอ้เดือนเฮ้อ….


     หลายท่านอาจจะงงว่าพวกมึงพูดห่าเหวอะไรกันวะ? ก็เรื่องค่ายนั่นแหละครับ!! ผมไม่ได้ลงชื่อไปค่าย ไอ้พวกนี้พอรู้ก็มานั่งกดดันผมอยู่เนี่ย ที่ไม่อยากไปเพราะมันไกล นั่งรถน่าจะเป็นวันๆเลยล่ะ แล้วก็เป็นห่วงร้านด้วยถึงไม่น่าจะมีไรให้ห่วงก็เถอะ เพราะน้องผมไว้ใจได้มากกว่าผมอีก(?)


     ส่วนมากจะเน้นให้ปีสองไป ยกเว้นแพทย์ที่ต้องเป็นรุ่นปีสี่ปีห้าและก็พี่หมอที่จบออกไป แล้วจับฉลากใช้ทุนได้ทำในโรงบาลมหาลัยไป เพราะต้องใช้ประสบการณ์(มั้ง?) ไอ้ผมเนี่ยมันคนชอบแวบตรงไหนมีกิจกรรมตรงนั้นไม่มีกูครับ!


     หลายๆ คนอาจสงสัยไม่เข้ากิจกรรมรุ่นพี่ไม่ว่าเหรอ ก็ว่าครับ แต่ไม่ได้เคร่งอะไรมากมาย คณะผมมันอินดี้ครับ บางวันก็ว่า บางวันก็ช่างแม่ง? พี่รหัสผมก็ดีเหี้ยๆ ถึงมันจะเป็นพี่ว้าก แต่ก็แล้วแต่อารมณ์ บางวันก็เคร่ง บางวันก็ไม่เคร่งอะไร แต่ถ้านัดแล้วสายโดนเหมือนวันเปิดเทอมครับโผ๊ม!! 'มึงอยากทำอะไรก็เรื่องของมึงเถอะเพราะปีหนึ่งกูก็ไม่เข้ากิจกรรมเหมือนกัน' พี่อิฐเขาพูดมาอย่างนั้นอ่ะ


     เพราะอย่างนี้คณะผมก็เลยเป็นคณะที่มีสไตล์(?) แข่งอะไรก็แพ้ กีฬาก็อย่าหวังห่าไรเลย หาคนลงแข่งให้ครบรายการก็หืดขึ้นคอเเล้ว(มีปีนี้แหละที่ฟุตบอลชนะในรอบสี่ปีเพราะไอ้ปัดมันยิงประตูไปได้สามลูก ชนะวิทย์กีฬาไปสาม-หนึ่ง) เพื่อที่จะได้โผล่หน้าไปให้คณะอื่นเห็นให้รู้ว่า เอ้อ! มหาลัยนี้ยังมีคณะศิลปกรรมอยู่นะเว้ยถึงตึกจะอยู่หลังสุดท้าย ท้ายสุดมหาลัย ถึงข้างหน้าคณะจะมีต้นไม้ขึ้นหนาทึบ บังตึกจนแทบไม่เห็นหลังคาก็เถอะ


"เออๆ วันไหนล่ะ" ผมรับปากไปอย่างจำยอม


"อาทิตย์หน้า!! หึ!! ทีกูนี่อ้อนวอนแทบตายไม่ไป ทีอีปัดพูดนิดพูดหน่อยเสือกตกลง แหมๆๆ กูอยากจะแหมไปให้ถึงถ้ำกระบอก"


     ผมถลึงตาใส่ไอ้นก นิสัยสะดิ้ง!! ผมรู้ว่ามันก็พูดไปงั้นแหละ เพราะมันกับผมรู้ดีว่าถ้าไอ้เดือนพ่วงด้วยนักกีฬาประจำคณะและมหาลัยพิโรธขึ้นมา เพราะดันไปขัดใจพี่แกผมนี่แหละที่อาจถูกเตะไปถึงถ้ำกระบอก


"คืนมะรืนว่าไงไปกับกูป่ะ?" ผมถามรอบที่ห้าแล้วนะวันนี้


     ไอ้เบิร์ดเพื่อนนิสัยสะดิ้ง!! หันไปมองหน้าไอ้ปัดเพื่อนนิสัยถ่อย!! อย่างหน่ายๆทำท่าเอือมระอาผมแบบเว่อร์วังสิ้นดี


"แค่นี้ไม่ได้เหรอวะ จะให้กูไปคนเดียวเหรอ มีเงินกูก็เลี้ยงหนมป่ะวะ กูไม่สำคัญสำหรับพวกมึงสินะ" น้ำตาคลอได้รวดเร็วเหมือนเตรียมมา


"เออๆไปกันหมดนี่แหละ ไอ้ลำไยกับไอ้มังกรก็ไป อย่ามาดราม่า!!"







เวลา...23.15 น.




     ณ หน้าตึกคณะแพทย์



"ฤกษ์ มึงจะยืนทำเหี้ยอะไรตรงนี้ ไม่เดินเข้าไปวะ ยุงกัดจนกูคันไปหมดแล้วเนี่ย"

     ลำไยสาวหน้าคมดาวคณะ ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มถามอย่างหมดความอดทน ผมก็ออกจะงงๆหน่อยว่ากลุ่มผมทำไมมีดาวมีเดือนคณะมารวมกันได้ แต่ก่อนแต่ไรก็เป็นมนุษย์เพื่อนปกตินี่หว่า


"เดี๋ยว รอฤกษ์ดีๆ ก่อนดิว้า" ผมตอบมือก็ค้นลงไปในย่ามคู่ใจหยิบธูปขึ้นมาเตรียมพร้อม

"ฤกษ์ดีมึงน่ะเวลาไหน ลีลาฉิบหาย!!"



บรู๊ว~~~~~~~~



     ไอ้มังกรตี๋อินเตอร์ถาม พร้อมกับสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงหมาหอนดังประกอบประโยคคำถาม ไอ้นก เอ้ย!! ไอ้เบิร์ดกับลำไยสบถออกมาพร้อมกันโดยไม่ต้องนัด แถมยังกอดกันกลมแทบจะสิงกันได้อยู่แล้ว


"เวลาอะไรเวลาดีของมึงอ่ะ" ไอ้ปัดที่ยืนกินไส้กรอกอีสานข้างๆ ถามย้ำ


"23.23น. "


"ทำไมวะ?" ไอ้มังกรถาม


"กูชอบ"


"Kเหอะ!!" แหมะแจกกันมาเต็มหน้ากูเลยนะ


" ถ้าไม่เข้าดี๋ยวนี้พวกกูกลับแล้วนะ ยืนกันมาแม่งจะครึ่งชั่วโมงอยู่แล้วไอ้ห่า ยุงกัดแขนลายหมดเเล้ว แขนเนียนๆของกู กว่าจะเนียนได้ขนาดนี้หมดครีมไปหลายกระปุกนะเว้ย" ไอ้นกเริ่มโวย


บรู๊ว์~~~~~



"เออๆ"

     น้องหอนประกอบอีกรอบกูก็ไม่รอแล้ว ที่แรงยิ่งนัก!! พวกผมเดินเกาะกลุ่มกันอ้อมมาทางหลังตึกคณะแพทย์ที่มีคนเล่าขานกันมานักต่อนักว่าแม่งดีจริง!?


"ทำไมต้องที่นี่วะที่เก่าก็ได้ไม่ใช่เหรอวะ" ลำไยเอ่ยถามเสียงเบาแขนข้างซ้ายเกาะไอ้เบิร์ดข้างขวาเกาะมังกร ไอ้ปัดไม่ให้เกาะเพราะแดกไส้กรอกอยู่ ที่เก่าที่ว่าก็หลังคณะผมนี่ล่ะ


" เขาว่ากันมาเว้ย เนี่ยเจ๋งสุด"


"ใครฟันธง" ไอ้ปัดสอด


"เขาว่ามาอะ เขาเล่ากันมา"


"หูมึงเบาไปไหมหลักฐานอะไรก็ไม่มี แค่ฟังคนอื่นเล่าต่อๆกันมาก็เชื่อจนโงหััวไม่ขึ้น เอาไข่กูไปถ่วงป่ะกูให้ยืม"


"ไอ้ปัด ไอ้เหี้ย!! สันดานจริงมึง แขวนคอมึงเถอะ ฟู่~ๆ ยุบหนอๆ ยุบหนอๆ จิตแจ่มใสๆ ยิ้มแย้มๆ" อารมณ์ดีเข้าไว้เดี๋ยวเสียเคล็ด


"เป็นเอามากนะมึงอ่ะ" ไอ้ปัดไม่ว่าเปล่าผลักหัวผมแทบหน้าทิ่ม ไอ้สัส!! มือแมร่งมีแต่กลิ่นไส้กรอก


"ถ้ากูได้งวดนี้นะ จะได้เปลี่ยนหลังคาหน้าร้านสักที ฝนตกทีไรเหมือนร้านกูไม่มีหลังคาอ่ะแถมยังเหลือเลี้ยงชาบูพวกมึงอีกได้สบาย"


"กูรอแดกชาบูมาตั้งแต่ปีหนึ่งล่ะ"




     ผมทำสมาธิยืนนิ่งอยู่หน้าตรงไม้ใหญ่ห้าคนโอบ(ต้นอะไรผมก็ลืมถามมา)มีผ้าสามสี เจ็ดสี และพวงมาลัยเต็มไปหมด มีลำไยกับลูกปัดยืนส่องไฟให้อยู่ข้างๆ ผมหยิบป๋องแป้งเด็กขนาดพกพาออกมาจากย่าม เริ่มพิธีจุดธูปบอกกล่าวขออนุญาต


"ห้ามวิ่งนะเว้ย" ผมหันไปบอกเพื่อนๆที่รู้กันดีอยู่แล้ว ก่อนจะเดินมาที่ต้นไม้ใหญ่ ยกมือไหว้ขอขมาอีกครั้ง


"ขอสามตัวตรงนะท่าน"

      เทแป้งลงบนฝ่ามือลูบวนไปอย่างตั้งอกตั้งใจ พร้อมกับท่องคถาขอสมานางไม้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในต้นไม้ที่ลูกได้มารบกวน



บรู๊วววววว~~~



"เฮ้ยๆ นั่น!?"


"อะไรๆ มึงเห็นเลขไร" ผมถามไอ้ตี๋แดนมังกรที่ยืนข้างๆอย่างตื่นเต้น


"เลขไม่เห็น เห็นแต่หิ่งห้อย" มังกรชี้ไปบนพุ่มไม้บนหัวที่มีแสงวิบวับๆให้ได้เห็นเป็นหย่อมๆ


"ไอ้ตี๋!! มันใช่เวลามาชมธรรมชาติไหมวะ" ลำไยบ่นอย่างหงุดหงิด


"แต่ที่นี่มีหิ่งห้อยได้ไงวะ กรุงเทพมีหิ่งห้อยได้เหรอวะ" ไอ้ปัดเริ่มพาวิเคราะห์ธรรมชาติ


"ทำไมจะมีไม่ได้วะ ถ้ามีแมวน้ำอยู่บนต้นไม้มึงค่อยสงสัย" โถ่วว บักเบิร์ดมึงก็ช่างสรรหามาเทียบ




บรู๊ววววววว~





สวบๆ



     พวกผมมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เมื่อปรากฎเสียงปริศนาบนพุ่มไม้เหนือศรีษะ



สวบๆ




"มะ....มึง"




ตุ้บ!!!




"อ้าก!!!/กรี๊ด!!/ว้าย!!/เหี้ย!!/ว้าก!!"















     ผมไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ไหน วิ่งมาไกลเท่าไหร่....รู้แค่เพียงอยู่ท่ามกลางความมืดกับไฟฉายหนึ่งกระบอก ต่างคนก็ต่างบอกกันว่าอย่าวิ่ง แต่เมื่อมีบางสิ่งที่ก็ไม่รู้ว่าคืออะไร ร่วงลงมาจากพุ่มไม้ข้างบน กลุ่มผมก็แตกฮือกันคนละทิศละทาง ภาพสุดท้ายที่เห็นคือลำไยที่กระโดดขี่หลังลูกปัด


     ผมมองสำรวจไปรอบๆ ตรงนี้น่าจะเป็นโรงจอดรถคณะ แพทย์ ก้มมองดูนาฬิกาข้อมือ 00.25น. โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอามาทิ้งไว้ในรถไอ้ปัด ปัดโถ่ว~ ทำไงวะเนี่ยจะรู้ไหมว่าพวกมันเตลิดไปถึงไหนกัน





"อ๊ะ~ อ๊า~ อ๊ะ!!"




หืม...



     เสียงอะไรนี่มันเสียงผู้หญิง คล้ายๆเหมือนกำลังเจ็บปวด หรือว่า...





"รุนแรงจังนะคะ อ๊ะๆๆ"




แย่แล้ว!

     หรือจะเป็นนางไม้ที่ตามมา ผมยกมือพนมไหว้พร้อมกับสวดมนต์ขอขมาบอกกล่าวในใจ




ฟรึ่บๆ




     เสียงเหมือนรถโยก ดังอยู่ใกล้ๆทางด้านขวามือ แรงขึ้นเรื่อยๆคล้ายท้าทาย เหมือนมนต์ที่สวดไปไม่ได้ผล ผมเริ่มท่องบทคาถาไล่ผีอีกบท พร้อมกับล้วงลงไปในย่ามหยิบขวดน้ำพลาสติกที่เจาะฝาไว้เป็นรูสามรู ถูกบรรจุด้วยน้ำมนต์ของหลวงลุงเตรียมพร้อม เอาล่ะถ้าครั้งนี้ไม่ได้ผลยังตามรังควานผมคงต้องสวดคาถาชั้นสูงแล้ว




พรึ่บ!!





"กรี๊ดดดดดดดดดดดด"



     ผมฉายไฟไปทางด้านขวามือพร้อมกับบีบขวดน้ำในมืออย่างแรงให้น้ำมนต์พุ่งออกไปยังเป้าหมายข้างหน้า




"เหี้ยยยยยยย!!!"





     ขวดน้ำมนต์ผมแทบหลุดมือเมื่อภาพตรงหน้าประจักษ์แก่สายตา... รถซุปเปอร์คาร์คันหรูสีดำด้าน จอดนิ่งอยู่ข้างเสาปูนขนาดสามคนโอบ...  ผมถึงกับต้องสบถดังลั่นเมื่อเห็นภาพหญิงสาวหุ่นเซ็กซี่ในชุดนักศึกษา สภาพหลุดลุ่ย เธอนอนหงายอยู่หน้ากระโปรงรถหรู เสื้อนักศึกษาไร้การติดกระดุม แหวกกว้างจนเห็นหน้าท้องแบนราบและอกทรงโตที่อยู่ในบราสีดำ กระโปรงทรงเอถูกถกขึ้นจนเห็นสะโพกขาวขาเรียวยาวทั้งสองข้างเกี่ยวเอวผู้ชายร่างสูงใหญ่ให้อยู่ในระหว่างขาของหล่อน ขาข้างหนึ่งมีชั้นในสีดำติดอยู่ตรงข้อเท้า


     ชายคนนั้นอยู่ในท่วงท่าที่มือทั้งสองข้างค้ำยันหน้ากระโปรงรถหรู เขากำลังคร่อมร่างผู้หญิง เขาเงยหน้าขึ้นหันมามองแต่ก็เห็นหน้าไม่ชัด....  ผะ..ผมไม่เห็นหน้าผู้หญิงเพราะเสาบังเห็นแค่ช่วงอกลงมาและเป็นภาพที่เห็นแล้วถึงกับหน้าร้อน นี่มันเรท30+แล้ว ในมหาลัยนะโว้ย


     ผมยืนนิ่งอย่างทำอะไรไม่ถูก ตั้งสติได้อีกที เขาสองคนก็ผละออกจากกันแล้ว นึกได้ก็ก้มหัวขอโทษขอโพยก่อนจะหันหลังรีบเดินออกมา เดินมาได้ไม่ถึงสิบก้าวร่างก็ถูกกระชากไปชนกับของแข็งอย่างแรง ทำให้น้ำมนต์ผมกระฉ่อนออกมาเต็มไปหมด โอ๊ย!! วันอะไรวะเนี่ยหวยก็ไม่ได้น้ำมนต์ก็หกจะหมดขวดแล้ว กว่ากูจะเอาน้ำมนต์มาได้กูขัดห้องน้ำวัดอยู่เป็นอาทิตย์เลยนะโว้ย กว่าหลวงพ่อท่านจะให้มาได้



"เจ็บนะโว้ยย น้ำมนต์กูกว่าจะทำพิธีได้แต่ละครั้งมันนะ...นา.... เฮ้ย!! พี่!"

     ผมหันไปโวยวายเมื่อโดนกระชากแขน ก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วไง หน้าก็แทบไม่เห็นจะอะไรอีกเนี่ย หันไปอย่างหงุดหงิดแต่ก็ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อคนตรงหน้ามันคือ...หมอ....หมอเทวดา เหี้ย!! นอกจากจะหล่อเทวดาแล้วมึงยังเอาไม่ธรรมดาอีก เย้ยฟ้าท้าดินไปไหม



"....."


"ผะ...ผมขอโทษ เมื่อกี้ผมไม่เห็นอะไรเลยนะ" ยังไงเขาก็หน้าจะรู้จักลุงรหัสผม เพราะพึ่งเล่นบอลด้วยกันมา เป็นมิตรกันมันดีนะเออ


"...."

      เขาไม่ตอบอะไร ตาสีเทาหม่นเอาแต่จ้องและก็จ้องมือก็ไม่ยอมปล่อยออกจากแขนผม จนต้องเบนสายตาหนีตาคมคู่นั้น สายตาสะดุดเข้ากับเสื้อนักศึกษาที่ยังติดกระดุมไม่เรียบร้อย แหวกลึกจนเห็นแผงอกแกร่ง เสื้อสีขาวเปียกเป็นหย่อมๆ จากฝีมือการสาดน้ำมนต์ขั้นเทพของผม(!?) อยู่ดีๆใจผมก็เต้นผิดจังหวะแทบทะลุอก ตาเจ้ากรรมแอบเหล่ลงต่ำ เห็นเป้ากางเกงหมอเทวดารูดซิบเรียบร้อยดีไม่มีสิ่งแปลกปลอมโผล่มาทักทายก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก โอ๊ยยย แล้วผมจะไปมองหาอะไรเนี่ย


     เสียงหัวเราะดังอยู่ข้างหู เมื่อเขาเห็นผมถอนหายใจ เขาต้องรู้แน่ล่ะว่าผมมองอะไร ก็เขาจ้องผมอยู่นี่ แล้วหน้าจะก้มอะไรนักหนา แทบจะดมหน้าผากผมอยู่แล้ว ผมบิดแขนตัวเองออกจากมือเขาอย่างสุภาพ เขาก็ยอมปล่อยแต่โดยดี ก้าวถอยหลังรักษาระยะห่างสักหน่อยให้หัวใจได้ทำงานอย่างปกติ กลัวว่ามันจะเกิดภาวะล้มเหลวเฉียบพลันไปซะก่อน ขนาดเล่นผีถ้วยแก้วผมยังไม่ตื่นเต้นขนาดนี้เลย เจอไอ้พี่หมอเทวดาทีไรร่างกายผมระบบรวนไปหมด จะว่าพี่มันหล่อเกินมาตรฐานมนุษย์จนเขินก็ไม่น่าใช่ไอ้ปัดก็หล่อ ไอ้มังกรก็หล่อ พี่อิฐนี่โคตรหล่อ ผมยังเฉยๆ เป็นเรื่องลี้ลับจริงๆ


"เอิ่ม..ผมกลับก่อนนะพี่ เฮ้ย!!"

     ผมยกมือบ๊ายบายพี่เขา อยู่นานอึดอัดโว้ยยย ไม่พูดห่าไรสักอย่างมองอยู่ได้ พูดฝรั่งไม่ได้สักกระติ๊ด ลามันภาษาไทยเนี่ยล่ะ


     แต่พูดยังไม่ทันจบดีก็โดนหมอเทวดาลากตัวปลิวมายัดอยู่ในรถซุปเปอร์คาร์คันหรูหันไปมองรอบๆไม่เห็นสาวหุ่นเอ็กซ์คนนั้นแล้วแฮะ ไม่รู้หายไปไหน จะเปิดประตูรถลงก็เปิดไม่ออก รถไรวะเปิดยังไงล่ะเนี่ย


"พี่จะพาผมไปไหน" ผมถามหมอเทวดาเสียงห้วนที่กำลังขับรถออกจากโรงรถ เขาแค่หันมามองแต่ไม่ตอบ เฮ้ออออ เขาคงรู้เรื่องหรอกว่าผมพูดอะไรฟังภาษาไทยไม่ออกนี่นา


"ยู โก แวร์?"


"...." ฟังไม่ออกเหรอวะ แล้วอันไหนต้องไว้หน้าไว้หลังละเนี่ย


"เอิ่ม...ยู แวร์ โก? คือแบบว่า ไอ จะ โก โฮม สลีป นอนอ่ะ โฮม ไอ อ่ะ"


"...."



     ปัดโถ่วโว้ย เฮ้อ อย่างน้อยเขาก็เป็นเพื่อนพี่อิฐ(?)มั้งน่าจะไว้ใจได้ ผมเลยกลับมานั่งเงียบๆตัวเกร็งในความเงียบไป แอบเหล่มองพี่หมอเป็นระยะ หล่อโว้ย อิจฉาชะมัดหาที่ติไม่ได้เลย ยิ่งเขาเกล้าผมลวกๆเซอร์ๆทั้งหล่อ เท่ และเซ็กซี่ มันจะมากไปแล้วที่มารวมอยู่กับคนๆเดียวเนี่ย สักพักก็เริ่มคุ้นเส้นทาง นี่มันทางไปบ้านผมนี่หว่า ผมเริ่มเบาใจและเริ่มเข้าใจว่าเขาคงมาส่ง ใจดีอยู่แฮะ ผมเริ่มผ่อนคลายเมื่อรู้ว่าเขาจะมาส่ง อย่างน้อยก็น่าจะพูดไรบ้างดิว้า 'โกโฮม' ผมก็รู้เรื่องอยู่นะเว้ย


"หอมอ่ะชอบกลิ่นนี้" ผมสูดหายใจเต็มปอดกลิ่นในรถเขาเป็นกลิ่นน้ำหอมจากตัวเขาที่ผมได้กลิ่นตอนนั้นในสนามบอล


"...." เขาหันมามองแวบนึงก่อนจะขับรถต่อ ผมยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตรพร้อมกับพูดไปเรื่อยเปื่อยเพื่อทำลายความเงียบกับอาการประหม่า และการเต้นแปลกๆของหัวใจ ยังไงเขาก็ไม่เข้าใจอยู่แล้วหลอกด่าก็คงไม่รู้ ฮ่าๆๆ อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่นาที่ผมพูดไปเรื่อยเปื่อย


"ดูท่าทางพี่ก็มีตังค์อ่ะ ทำไมไม่ไปเปิดโรงแรมดีๆอ่ะ มาทำไรกลางแจ้งแบบนี้ไม่ดีเลยนะ ถ้ามีกล้องวงจรปิดจะทำไงอ่ะ พี่งานเข้าเลยนะ อยากเป็นซุปตาร์คลิปโป๊เหรอ" ผมหันไปพูดกับพี่เขาอย่างจริงจัง เขาหันมามองแวบนึงแล้วก็ขับรถต่อ


" โอ๊ยยยย หงุดหงิดโว้ยบอกให้ระวังกล้องวงจรปิดพูดว่าไงเนี่ย จะเปิดกูเกิ้ลก็ไม่ได้เอามือถือมา" ผมยีหัวอย่างหงุดหงิดตัวเองที่กากภาษาอังกฤษ เหมือนจะได้ยินเสียงหัวเราะแว่วๆแต่พอหันไปมองก็พบแค่หน้านิ่งๆ


"เออนั่นแหละ อย่าทำอีกนะผู้หญิงเขาก็มีพ่อมีแม่ อย่าชิงสุกก่อนห่ามดิ ทำงี้ผู้หญิงเขาเสียหายนะ เอ้อ แต่สมัยนี้ก็คงไม่ถือกันแล้วมั้ง พี่ก็ฝรั่ง พวกฝรั่งนี่ก็คงไม่ถือ แต่มันก็ไม่ควรอยู่ดีอ่ะ เรียนหมอต้องทำตัวให้น่านับถือดิว้า อีกเรื่อง นี่สำคัญมาก ในรถมีแม่ย่านางนะพี่อย่าไปทำอะไรบนกระโปรงรถอย่างนั้น มันไม่ดีท่านจะไม่คุ้มครองยามคับขันนะ พี่ต้องขอขมาท่านด้วยนะ"


     เขาขมวดคิ้วหันมามองผมแวบนึง คงจะไม่เข้าใจละสิ ช่างเถอะเดี๋ยวทำให้ ผมหยิบสร้อยพระในย่ามขึ้นมา หันไปมองเขาเชิงขออนุญาตทำมือทำไม้ประกอบว่าจะแขวนตรงกระจกส่องหลังในรถให้ เขานิ่งไปสักพักก่อนจะพยักหน้ารับ ผมจึงแขวนพระให้เขายกมือไหว้ท่วมหัวบอกกล่าวในใจ อันเชิญท่านมาปกป้องคุ้มภัยทำเสร็จก็หันไปยิ้มแฉ่งให้เขา



     สักพักรถก็มาจอดอยู่หน้าร้านผม เขาเอื้อมมือมาเปิดประตูรถให้ เพราะผมเปิดไม่เป็นหน้าพี่หมอเทวดาใกล้แก้มผมจนแทบสะดุ้ง ใกล้จนระบบร่างกายผมรวนอีกแล้ว ผมลนลานรีบก้าวลงจากรถก่อนจะทุบหน้าอกตัวเองให้หัวใจเป็นปกติ เดินอ้อมไปยืนอยู่หน้ารถกวักมือเรียกเขาให้ลงมา เขาลงมาอย่างว่าง่าย ผมจุดธูปที่เอามาจากในย่ามยื่นให้เขาแต่เขาไม่รับ ผมจึงเอามาทำเอง


"ขอขมาแม่ย่านาง แต่พี่ไม่ต้องทำก็ได้ดูท่าคงไม่ใช่พุทธ เดี๋ยวผมทำให้" ผมยกมือไหว้เอาธูปปักกล่าวขอขมาในใจ


"เรียบร้อย อย่าทำแบบนี้อีกนะพี่ ขอบคุณครับที่มาส่ง กลับบ้านดีๆล่ะ พระคุ้มครอง" ผมพูดพล่ามเหมือนเขาฟังรู้เรื่องก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณและเดินเข้าบ้าน เฮ้อออ ง่วงชะมัด...










     ร่างสูงใหญ่ยืนรอจนกระทั่งประตูร้านปิด เขานั่งลงบนหน้ากระโปรงรถ ดวงตาสีเทาหม่นลุ่มลึกจนยากหยั่งถึง จ้องมองธูปที่ปักอยู่หน้ารถด้วยสีหน้านิ่งๆ ใบหน้าไร้อารมณ์ที่ยากจะคาดเดาว่าเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่ได้ฉายยาว่าเทวดาเดินดินนั้นกำลังคิดอะไรอยู่


     เมื่อกลุ่มควันธูปดับลงร่างสูงใหญ่ก็ก้าวขึ้นรถพร้อมกับขับออกไป มุมปากที่คาบบุหรี่กระตุกยิ้ม เมื่อนึกถึงคนที่เขาไปส่งบ้านเมื่อสักครู่ มีคนแปลกหน้าไปส่งบ้านถูกหลังโดยไม่ถามทางสักคำแต่กลับไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจของเจ้าเด็กคนนั้น...




















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2020 21:34:39 โดย 11:11 »

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
Re: ฤกษ์มงคล ตอนที่3
«ตอบ #4 เมื่อ22-12-2019 17:49:54 »

น่าติดตาม น่ารักกก น้องฤกษ์สายชิลล์เกิ้นนดูก็รู้ว่าเป็นภาระของทุกคน5555
น้องชายมาดโหดแต่หล่อ เอ็นดูวว


ออฟไลน์ JanTi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ฤกษ์มงคล ตอนที่3
«ตอบ #5 เมื่อ22-12-2019 21:18:24 »

เอ๊ะๆ ยังไง :mew3:

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: ฤกษ์มงคล ตอนที่3
«ตอบ #6 เมื่อ23-12-2019 11:00:25 »

เอ๊ะๆ ยังไง เตะบอลอัดชาวบ้านนี่ดอกแรก
ดอกชัดๆ คือส่งตรงถึงหน้าบ้านน้องเค้าได้งัยยยยย
พี่หมอเทวดาสุดหล่อ แอบชอบเด็กผีสะพายย่ามแล้วอ่ะดิ
แอทแทคความเอ๋อแต่น่ารักของน้องฤกษ์
กดบวกรัวๆ
 :mew3:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: ฤกษ์มงคล ตอนที่3
«ตอบ #7 เมื่อ23-12-2019 17:24:53 »

 :pig4:
 :3123:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: ฤกษ์มงคล ตอนที่3
«ตอบ #8 เมื่อ23-12-2019 19:06:45 »

น้องฤกษ์น่าเอ็นดู~ ตอนน้องบ่นพี้เขานี่อยากจะบีบแก้มมาก มันเขี้ยวสุดๆ พูดจ้อไปเรื่อยไม่ได้เอะใจเลยว่าพี่เขารู้จักบ้านตัวเองได้ยังไง ถ้าเทียนรู้โดนดุยาวแน่ๆ ฮา

 :pig4:

ออฟไลน์ snoopyme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ฤกษ์มงคล ตอนที่3
«ตอบ #9 เมื่อ23-12-2019 23:02:36 »

สนุกมากจ้า ฮามาก ฤกษ์น่าเอ็นดูมาก ติดตามจ้า :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ฤกษ์มงคล ตอนที่3
« ตอบ #9 เมื่อ: 23-12-2019 23:02:36 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: ฤกษ์มงคล ตอนที่3
«ตอบ #10 เมื่อ24-12-2019 02:25:32 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ blanchard

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 376
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-3
หมอผีตั๊ลล้าก….  :m3:


ส่วนหมอเทวดาก็….   :haun4:



คู่นี้คือดจีย์อร้า!!    :กอด1:

ออฟไลน์ lovenine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ชอบบบบบบบ เอาอีกกกกกกกกกก มาด่วนเลยยยยยย

ออฟไลน์ 11:11

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1

4...ล้อหมุน










นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต~~~





"หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งครับ อิสสะน๊อมสะแน๊มเทเร ..."


"ไอ้ฤกษ์!! กวนตีน!!  ดัดเสียงผู้หญิงแต่พูดครับ แล้วไอ้สกิลภาษาอังกฤษกากๆ สำเนียงต่างดาวของมึงก็ยังจะกล้าพูดให้กูฟังเน๊อะ ไปหลอกเด็กอนุบาลมันยังไม่เชื่อกันเลยเหอะ!!"


     ผมรีบเอามือถืออกห่างหูเพราะเสียงตะคอกเมื่อกี้เล่นเอาขี้หูแทบสะเทือน


     ผมกำลังนั่งจัดพวงหรีดดอกไม้เทียม ที่ใช้แบงค์ห้าสิบและแบงค์ร้อยทำเพราะสั่งทำพิเศษ มือถือหน้าจอแตกก็ดังลั่น มองเห็นเบอร์แทบสะดุ้ง จะตัดสายทิ้งก็กลัวจะโดนลำแข้งพิฆาตเตะตูดขี้หักใน


"เก๊าะ~ล้อเล่นเอง พี่อิฐอารมณ์บูดไรว้าาา"


"กูนัดให้มาเช็คของสี่โมงครึ่ง นี่มันจะห้าโมงแล้วนะโว้ย ทำไมยังไม่โผล่หัวมา" ผมหยุดมือทำงานตรงหน้าเกาหัวแกรกๆ นัดไรวะ


"เช็คของไรอ่ะ? เฮ้ย!! พี่อิฐตายห่าแล้ว!"


"ตายห่าพ่องดิ!! มึงช่วยเอาชื่อกูกับคำสบถเว้นระยะห่างด้วย กูว่าแล้ว ไอ้น้องรหัสเส็งเคร็ง!!"


"ผมจะรีบบบบบ"


"รถออกหกโมงเย็นมึงมาให้ทันไม่งั้นกูนี่ล่ะจะจับมึงยัดลงโลงแล้วถ่วงทิ้งทะเล!! ตู๊ดๆๆ"


     สิ้นสุดเสียงพี่รหัสสุดเถื่อน ผมรีบตาเหลือกวิ่งขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เกือบสดุดบันไดแต่เจ้ากรรมนายเวรผมท่านยังใจดี ส่งไอ้เทียนน้องรักมาดึงคอเสื้อไว้ทัน


     วันนี้วันจันทร์เป็นวันออกค่าย แต่ผมดันลืมสนิทเลยเพราะ เสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมามัวแต่ยุ่งๆกับโลงศพสั่งทำสามโลง ฉุดแขนไอ้เทียนเข้าห้องพร้อมอ้อนวอนมันจัดกระเป๋าให้ โดนมันเอาเป๋าเป้ฟาดสามทีเป็นค่าแรง!? หลังจากนั้นผมก็วิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำเพราะทั้งวันยังไม่ได้อาบน้ำเลย เฮ้อ ชีวิตผมทำไมมีแต่ความเร่งรีบเลยวุ๊ย!?




นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต~~~



     

     เสียงมือถือผมดังขึ้นขณะกำลังออกจากบ้านเพื่อเดินไปขึ้นพี่วินหน้าปากซอย บรรยากาศอึมครึมคล้ายฝนกำลังจะตก จะให้น้องไปส่งมันก็ไปส่งของที่งานลูกค้า


"โหล..."


"ไอ้น้องรหัสเส็งเคร็ง!! ไม่ต้องมาเองยังไงมึงก็ไม่ทันตอนเย็นรถติด ดูจากความสามารถมึงแล้วคงขึ้นรถไฟฟ้าไม่เป็น(เอ้า รู้ดีอีก)มึงออกมายืนรอรถที่หน้าปากซอยตรงป้ายรถเมล์เดี๋ยวมีคนไปรับอีกสิบนาที มันรู้จักทางลัด! ตู๊ดๆๆ"


"โหลๆๆพี่อิฐๆ"


     มาเร็วเคลมเร็วเลยวุ๊ย ไม่ทันได้รู้เหนือรู้ใต้ใครมารับก็ไม่รู้ แทนที่จะบอกกันหน่อย ผมเดินเนือยๆไปหน้าปากซอย ถึงปุ๊บฝนเจ้ากรรมดันตก ไม่แรงมากแค่ปรอยๆ วิ่งไปหลบฝนที่ป้ายรถเมล์เพราะเห็นแวบๆว่ามีหลังคา มีร้านกาแฟอยู่ถัดไปใกล้ๆ เห็นคนไปยืนเบียดหลบฝนหน้าร้านกันเต็ม ป้ายรถเมล์ก็หลบได้ทำไมไม่มากันอ่ะ ยืนเบียดกันทำไมหนอ


     ยืนได้สักพักก็รู้สึกถึงสายตาของผู้คนที่ขับรถผ่านไปมา เห็นผมแล้วก็พากันกลั้นขำ อะไรวะ? กางเกงก็รูดซิปแล้วนี่หว่า เสื้อก็ไม่ได้ใส่กลับด้าน ขำไรกัน เมื่อไหร่คนรับจะมาหนาวชะมัด!




ปริ๊นๆ



     หันซ้าย หันขวา สำรวจตัวเองได้สักพัก รถยนต์คันหรูสีดำก็จอดเทียบ กระจกรถติดฟิล์มสีดำทึบเลื่อนลงด้านข้างคนขับ ปรากฎใบหน้าหล่อเหลาแต่มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ หมอแข่งขัน... พี่เขากวักมือเรียกผมปนหัวหัวเราะ


     พวกพี่หมอเทวดานี่เองที่มารับ ผมวิ่งเหยาะๆไปที่รถเปิดประตูหลังก้าวขึ้นไป มีใครอีกคนนั่งอยู่เบาะหลัง พอเห็นหน้าชัดๆก็ต้องร้องอ๋อทันที พี่แสงปีสี่วิศวะ เคยเห็นไปเตะบอลกับพวกพี่อิฐพี่ตังค์อยู่ พี่สายรหัสผมพวกนี้เขากว้างขวางครับ ผมก็เลยพอคุ้นๆหน้ากับเขาบ้าง เห็นใกล้ๆหล่อชะมัดเลย ผมยกมือไหว้พี่เขาและพี่ๆที่นั่งอยู่เบาะหน้า


"น้องฤกษ์ทำไมไปยืนตรงนั้นฝนมันตกนะ" พี่หมอแข่งถามพลางกลั้นขำ อะไรวะก็ยืนรอพวกพี่ไง ผมหันไปมองคนนู้นทีคนนี้ทีอย่างงงๆ กูทำไรผิดวะ หันไปมองพี่แสง พี่เขาก็มองผมยิ้มๆ มองไปที่คนขับก็นิ่งเหมือนก้อนหิน อย่างไรเขาก็ฟังไม่รู้เรื่องอยู่เเล้วจะนิ่งก็ไม่แปลก


     จังหวะการเต้นของหัวใจกระตุกเมื่อสายตาคมเฉี่ยวสบเข้ากับผมทางกระจกมองหลังที่เผลอแอบมองอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างกายสะดุ้งเหมือนทำความผิดแล้วโดนจับได้(แต่ผมเปล่าทำอะไรผิดนะเว้ย) รีบสะบัดหัวเรียกสติเบือนหน้าหนีกลับไปสนหมอแข่ง แค่โดนมองก็แทบลืมจังหวะการหายใจ ตายๆ เป็นคนที่ไม่น่าอยู่ใกล้เลยเว้ย กลัวตัวเองจะช็อคตาย!?


"ก็ฝนตกอ่ะ ก็ต้องไปยืนหลบฝนดิพี่ ผมไม่ใช่สีทนได้นะจะได้ทนแดดทนฝน" ผมตอบพี่เเข่งไป พร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณพี่แสงที่ยื่นผ้าเช็ดตัวมาให้เช็ดเนื้อตัว


"ไม่แปลกใจหรือไงฝนตกปรอยๆแค่นี้ทำไมเปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำ"


"......" ผมเกาหัวแกรกๆอย่างไม่เข้าใจ รู้สึกถึงแรงสะกิดที่หัวไหล่ หันไปมอง เห็นพี่แสงกำลังกลั้นขำพร้อมกับนิ้วชี้ที่ชี้ให้หันกลับไปดูป้ายรถเมล์ที่พึ่งจากมา ยังเห็นอยู่ในระยะยี่สิบเมตรเพราะพวกผมติดไฟแดง


     ผมหันกลับไปดูก็มองเห็นป้ายรถเมล์เล็กๆปกติ มีหลังคาสี่เหลี่ยมผืนผ้ายื่นออกมา...


"เฮ้ย!!"


"ฮ่าๆ"


"หลังคา!! หลังคาหายไปไหน!!? ใครมันขโมยหลังคาป้ายรถเมล์หน้าปากซอยบ้านผม!!" ผมโวยวายเสียงตื่น


"ฮ่าๆๆๆๆ~ "


     เสียงหัวเราะดังลั่นรถแม้แต่คนขับที่หน้านิ่งก็ยังแอบเห็นกระตุกยิ้ม ใช่ครับ!! ป้ายรถเมล์ที่ผมยืนหลบฝนมันมีหลังคาแต่มีแค่โครงหลังคา แผ่นหลังคาไม่มี โล่งจนเห็นท้องฟ้าเลยล่ะ!!!


     อ้ากกกกกก ปล่อยไก่กี่ตัววะเนี่ย ใครมันมาเลาะเอาหลังคาไป ถึงว่าทำไมรู้สึกเสื้อผ้ามันเปียกเยอะกว่าที่ควรจะเป็น ผมจะไม่รู้สึกอะไรเลยนะถ้าพวกพี่มันไม่หัวเราะกันลั่นรถกันอย่างนี้  เอาผ้าเช็ดตัวคลุมหัวแกล้งหลับแม่งเลย อายโว้ยยย







     พอมาถึงผมก็ยกมือไหว้พวกพี่ๆเขา แล้ววิ่งจู๊ดออกมาหาคณะตัวเองเพื่อเช็คชื่อ ไอ้พี่หมอแข่งแม่งล้อผมตลอดทางเลย เกลียดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของพี่มันจริงๆ และประเด็นหลักเลยคือ ผมหลบหน้าหมอเทวดาครับ อยู่ห่างๆได้ยิ่งดี ผมไม่ชอบตัวเองที่ระบบรวนเมื่ออยู่ใกล้ๆเขา...



"หวัดดีพี่"


     ยกมือไหว้พี่อิฐพี่ว้ากปัจจุบัน พี่ตังค์อดีตพี่ว้าก ที่กำลังยืนหน้าโหด('สำหรับผม' แต่หน้าหล่อ 'สำหรับคนอื่น') พวกพี่เขากำลังช่วยกันชี้นิ้วสั่งลำเลียงของขึ้นรถกระบะ 90% เป็นปีสอง 10% เป็นพี่ๆปีสามปีสี่ที่มาช่วยเพราะยังไงก็ยังไม่ไว้ใจปีสอง สังเกตง่ายๆใครที่ยืนชี้นิ้วสั่งนู้นนี่ก็พวกพี่ๆเขานั่นแหละครับ


     พอพวกพี่เขาหันมาเห็นผม ก็จัดการถวายลำแข้งมาเตะตูดผมคนละทีสองที หลังจากนั้นก็เทศนาอีกเล็กน้อยก่อนจะใช้ผมไปยกถังสีมาใส่รถ


"อร๊ายยย อีฤกษ์! มึงมากับพวกพี่เขาได้ไง"


"มึ๊งงงง ทำบุญด้วยอะไรตากูร้อนไปหมดแล้ว อร๊าย! แค่เห็นหน้ากูก็อยากเปลื้องผ้าแล้ว"


     ผมสะดุ้งโหยงเมื่อไอ้คู่หูเพื่อนซี้ นิสัยหยาบและสะดิ้งโผล่พรวดออกมาทางด้านหลัง แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็เห็นจะเป็นเสื้อที่ใส่มานั่นแหละ ลำไยมาด้วยเสื้อสีแดงสดสัญลักษณ์ทีมปีศาจแดง ไอ้นกมาด้วยแดงสดเหมือนกันแต่สัญลักษณ์หงษ์แดง ไอ้ปัดนิสัยถ่อยเดินตามมาติดๆมันมาด้วยเสื้อดำเขียวสัญลักษณ์บางกอกกล๊าส ไอ้ตี๋นิสัยชอบสั่งก็ตามมาติดๆด้วยสีกรมสัญลักษณ์บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่วนผมสีน้ำเงินสัญลักษณ์การท่าเรือ!!


"ฮ่าๆ ไอ้เหี้ย!! อย่างกับนัดกันมา" ไอ้ตี๋มังกือร้องลั่น


"เนี่ย เขาถึงเรียกซี้ปึก" ไอ้ปัดว่า


"ซี้ปึกมันต้องทีมเดียวกันเว้ย" ไอ้นกว่า


"กูเปลี่ยนทันไหมเนี่ย พวกมึงแยกย้ายเลย ไม่ต้องมารวมกลุ่มมันเด่น อย่างกับมาเเข่งกีฬา แล้วหัวมึงเป็นไงบ้างวะ"


"สบายมากว่ะ สาสมกับที่ลืมพวกแม่งมัน" ไอ้ปัดพูดเหมือนรู้สึกผิด แต่หัวเราะเหมือนสะใจ


"กูว่าน่าจะโดนอีกสักสิบเข็ม"



พลั๊วะ!!



"โอ๊ย!! ไอ้เหี้ยกร!!!"



     ผมหันไปถามไอ้หล่อเดือนคณะที่หัวแตกเย็บไปสามเข็มแล้วก็โดนไอ้ตี๋ตบหัวเข้าให้  ข้อหาพูดไม่เข้าหู เหตุเนื่องมาจากในคืนวันนั้น.... ไอ้ปัดมันวิ่งหน้าตั้งโดยมีลำไยร้องกรี๊ดๆขี่หลังมันอยู่ สลัดยังไงก็ไม่หลุดเกาะแน่นเป็นเห็บหมา ทางก็มืดไอ้คนมีไฟฉายก็ไม่ส่องทางให้ เอาแต่ร้องกรี๊ดๆ มันก็เลยวิ่งชนเสา แตกหนึ่งเรียบร้อย หลังจากนั้นไอ้ลำไยพอเห็นเพื่อนแตก(?)มันก็ตั้งสติได้ ขับรถพาไอ้ปัดไปทำแผลโรงบาลแล้วก็พากันแยกย้ายกลับบ้านนอน


     เรื่องก็เกือบจบลงด้วยดี!? ถ้ามันสองตัวไม่ลืมเพื่อนไว้ที่มหาลัย ไอ้ตี๋กับไอ้นกต้องนั่งหลับสัปหงกอยู่กับลุงยามที่ป้อมยามจนเกือบเช้า เหตุเนื่องมาจากถูกเพื่อนทิ้ง ไม่มีแท็กซี่ผ่านสักคันมือถือแบตหมดทั้งสองเครื่องเรียกแกร็บก็ไม่ได้ ลุงยามก็ใช้รุ่นขาวดำ โถ่ววว ผม ลำไย ลูกปัด ก็พึ่งมานึกได้ว่าลืมเพื่อนหลังจากมาถึงมหาลัยตอนเช้า โดนไอ้นกไอ้ตี๋มังกรโกรธกันยกใหญ่ ต้องได้เลี้ยงข้าวพวกมันเป็นอาทิตย์ พวกมันก็ถามผมเหมือนกันว่ากลับยังไง ผมก็เลยบอกว่าเจอรุ่นพี่ระหว่างทางเขาเลยไปส่ง พวกมันเลยไม่ติดใจอะไร แต่เว้นชื่อคนมาส่งกับเหตุการณ์ 30+ ไว้ กลัวเล่าแล้วมันจะถามไม่จบไม่สิ้น เชื่อผมเถอะ! ถ้าพวกมันรู้มันต้องถามยันสีเล็บขบของสาวอกตูมคนนั้นแน่


     ส่วนเสียงปริศนาที่ทำให้พวกผมวิ่งหนีปานหมาโดนน้ำร้อนสาดนั้น….แมวครับ!! ไอ้มังกรตอนมันวิ่งมันหันกลับมามองด้านหลังด้วยความอยากรู้ ตามประสาประธานรุ่นคนรอบคอบ(?) สายตาปะทะเข้ากับป้าตู่ แมวขนขาววัยทอง ดาวเด่นประจำคณะพวกผม(แอบตามมาได้ไงก็ไม่รู้) ป้าตู่ก็ยืนมองพวกเรางงๆ ว่าพวกมึงเป็นห่าไรกัน


    ไอ้ตี๋กรมันเห็นอย่างนั้นก็เลยจะหยุดวิ่งแต่เพราะเห็นพวกผมใส่เกียร์หมากันมันก็เลยวิ่งต่อ นี่แหละหนา อุปทานหมู่ ฮ่วย~


"ยังแยกไม่ได้ เมื่อกี้พวกกูเห็นนะว่ามึงมากับใคร มาได้ไง? มายังไง? ไปสนิทกับพวกหมอเทวดาตอนไหน? "


"โว๊ะ!! อะไรของพวกมึงเนี่ย ไม่ได้สนิท พี่อิฐเขาให้มารับเห็นเป็นทางผ่านพวกพี่เขามั้ง"


     ผมว่าอย่างหน่ายๆ เดินเลี่ยงพวกมันไปทำงาน พวกไอ้มังไอ้ปัดเลี่ยงไปยกถังสีแล้ว พวกมันแค่มาทักทาย แต่ไอ้สองตัวหลังเนี่ยเกาะผมอย่างกับปลิง


"อีฤกษ์!!/ฤกษ์!!" พวกมันทำหน้างอเมื่อไม่ได้ดั่งใจ นี่กูเพื่อนนะไม่ใช่ผัว!!








ตื๊ดๆๆ~~




    เสียงเพลงตื๊ดๆ ดังสนั่นหวั่นไหวภายในรถบัสคันหลังสุด รถเริ่มทยอยออกจามหาลัยมุ่งสู่ภาคใต้คงจะถึงตอนใกล้รุ่งพอดี รถบัสสองคันข้างหน้าก็ใช่จะน้อยหน้าดังสนั่นอย่างไม่ยอมกัน รู้สึกจะเป็นวิศวะ


    นิเทศกับสถาปัตย์ สองคณะหลังน่าจะนั่งคันเดียวกันเพราะคนไปไม่เยอะ ส่วนรถคันที่เงียบกริบนั้นไม่บอกก็พอจะเดาได้เพราะพวกอาจารย์ก็นั่งไปกับทีมแพทย์ คงไม่เสี่ยงมานั่งกับพวกลิงพวกค่างให้ได้อดหลับอดนอน ได้แต่กำชับให้ปีสูงๆที่ประจำอยู่ตามรถต่างๆคอยดูแลควบคุมน้องๆ


     ค่ายนี้เราสานต่อจากปีที่แล้ว ปีที่แล้วเขาสร้างไว้แต่ยังไม่เสร็จดีเพราะเวลาจำกัด ปีผมเลยไปสานต่อ ได้ยินมาว่าค่ายนี้ทางมหาลัยผมทุ่มทุนสุดๆทำมาเรื่อยๆหลายปีแล้ว ทางเราได้ทุบทิ้งเพราะความเก่า เริ่มสร้างมาเรื่อยๆด้วยฝีมือนักศึกษามหาลัยนี้ จากรุ่นสู่รุ่น พวกผมเป็นรุ่นที่สี่ที่ไปสานต่อและก็คงจะเสร็จสมบูรณ์รุ่นผม เพราะเหลืออะไรไม่มาก แค่ไปเก็บรายละเอียด ดังนั้นเราจึงมีคณะแพทย์และนิเทศไปด้วย เพราะปกติจะมีแต่วิศวะสถาปัตย์และฝ่ายศิลป์ วัดที่เราสร้างนี้ทุ่มทุนสร้างมาหลายรุ่น พี่ตังค์บอกว่า เป็นวัดเล็กๆไม่ใหญ่มีพระจำวัดอยู่สี่รูป ถูกสร้างอย่างงดงามจนเริ่มเป็นที่สนใจของคนในจังหวัด และท่านอธิการบดีของมหาลัยเราเป็นลูกศิษย์วัดนี้ และนี่เป็นเหตุผลหลักที่ทางมหาลัยเราทุ่มเทมาเป็นระยะเวลานาน เพราะระดับท่านจะจ้างบริษัทก่อสร้างเอกชนมาสร้างกี่บริษัทก็ได้ แต่ท่านกลับเลือกผู้สร้างจากผลผลิตของมหาลัยท่าน....





     พวกผมนั่งเบาะหลังสุดนั่งเรียงกันอย่างกับเป็นทีมฟุตบอล ความต้องการเบาะหลังนี้ก็เป็นความต้องการของไอ้หล่อเดือนคณะเพื่อนผมนี่ล่ะ มันบอกว่าขามันยาวนั่งเบาะคู่มันปวดขา เพียงมันหอบหน้าหล่อๆไปขอรุ่นพี่ผู้หญิงว่าจะนั่งเบาะหลัง เขาก็แทบจะคุกเข่าอันเชิญให้นั่ง


     ทีพวกไอ้คัตโตะร้องแว้ดๆจะนั่งเบาะหลังดันไล่ไปนั่งหน้า ไอ้คัตโตะมันส่งสายตามองกลุ่มผมเคืองๆ ผมได้แต่ขอโทษขอโพยมันอยู่ในใจที่ความหล่อของไอ้ปัดเป็นเหตุให้ความยุติธรรมของพวกพี่ๆเขาสั่นคลอน แต่พอเหล้าต้มไอ้มังกรเข้าปากเท่านั้นแหละ คัตโตะกับมังกรก็กอดคอกันดิ้นแด่วๆอยู่ข้างหน้าโน้น

     

     พวกพี่ปีสูงๆและสายรหัสผมนั่งเบาะถัดไป ผมไม่เห็นว่าใครเป็นใครเพราะบรรยากาศเริ่มมืด มีเพียงแค่แสงไฟวับๆแวบๆ ผมนั่งนิ่งทำสมาธิยกมือท่วมหัวท่องคาถาและบอกกล่าวให้พวกเราทุกคนเดินทางกันปลอดภัยและให้การไปค่ายครั้งนี้ราบรื่น พวกเพื่อนก็ไม่มีใครกวนเพราะรู้กันดีอยู่แล้ว



"ครึกครื้นๆๆ "



"วู้ๆๆ"



"คณะศิลป์เด้งหน่อย!! เอ้าๆรัวๆ ความง่วงคืออะไรไม่รู้จัก!! แต่ถ้านอนและนาบคณะนี้ระดับโปร ถึงเรื่องเรียนเรื่องกีฬาจะไม่เด่น แต่เราเก่งเรื่องความซกมก เหล้ายาปลาปลิ้งคืออะไรเราใสๆ แต่ยกไหแล้วน็อคกลางอากาศคณะนี้ถนัด วู้ๆๆ" อะไรของไอ้พี่โต้งแม่งวะ?


"ลองๆ อันนี้กูต้มเอง สูตรนี้น้องรหัสกูช่วยคิด"


      มังกรแบกไหเดินแจกจ่ายตั้งแต่หัวรถมายังท้ายรถมึงแบกมาได้ไงวะเนี่ย ถึงบนรถจะไม่มีอาจารย์มาคอยคุมก็เถอะเพราะฝากรุ่นพี่ดูแล แต่คณะผมอย่าได้หวังอะไรจากรุ่นพี่ นู้น ดิ้นแด่วๆเป็นปลากระดี่โดนกระทืบอยู่กลางรถนู้นมือซ้ายเหล้าต้มมือขวาช้างกระทืบโลง โดยเฉพาะพี่โต้งมือหนึ่งถือไมค์ อีกมือถือไห เด้งหน้าเด้งหลังอยู่ด้านนู้น ปีสี่แล้วนะ ดูทำตัว


"อ้าวมึงรู้น้องรหัสแล้วเหรอ ไวจังวะ" ผมถาม แต่เพื่อนรอบข้างส่ายหน้าเอือมๆ ซะงั้น อะไรอ่ะกูถามไม่ได้หรือไง


"เออดิ คำใบ้กูง่ายยิ่งกว่าถอดกางเกงในออกมาดมอีก 'ตีวงสะเทิ้นน้ำอลังกว่ามิสทิฟฟานี่' "


"ใครว่ะ?" ผมถามงงๆ แม่ง ยากกว่าถอดกางเกงในอีกเหอะ


"น้องกุ๊กไก่ไง ที่ไว้ผมทรงแอฟโฟร่อ่ะ หล่อโคตร เห็นกลุ่มอีฟรุ้งฟริ้งมันบ่นว่าเสียดายจะจับลงประกวดเดือนสักหน่อย แต่น้องไม่ยอมตัดผมเลยต้องไปหาคนอื่น" ไอ้ลำไยจอมรู้ดี


"กุ๊กไก่ นี่ชื่อผู้ชายเหรอวะ"


"เออ น้องรหัสกูผู้ชาย ชื่อกุ๊กไก่ มึงเถอะไอ้ฤกษ์เขารู้น้องรหัสกันหมดล่ะมึงอ่ะหาเจอยัง คำใบ้อะไรนะที่เคยบอกไว้อ่ะ"


"ยังอ่ะ คิดไม่ออกว่ะ 'เปล่งประกายแม้ไกลตาเพียงยิ้มมาชะนีบ่างค่างอ่อนระทวย' คิดคำใบ้ได้เหี้ยมาก คนห่าไรจะยิ้มแล้วค่างระทวย"


"โว๊ะ!! แค่นี้มึงไม่รู้ ตบหัวอีกสักทีดีไหมฮึ!! ก็น้อง...อื้อๆๆ"


"น้องไรลำไย!! ไอ้นก!! มึงจะปิดปากมันทำไม"


"อร๊าย!! อีฤกษ์กูบอกให้เรียกเบิร์ด! ไม่! กูไม่ให้มันบอกกูหมันไส้มึงได้ของดีคณะไปอีก"


"ลำไย มึงก็รู้เหรอ"


"เชอะ!! น้องเขาควรเป็นของกู" สะบัดหน้าใส่กูอีก


"เอ้า!! กูผิดไรเนี่ย ช่างแม่งเหอะ! ไม่อยากรู้ก็ได้ เดี๋ยวน้องมันก็มาหาเองนั่นแหละ" พวกลูกทีมฟุตบอลผมส่ายหน้าเอือมๆ(ผมจะเป็นกัปตันอ่ะ) แต่บางทีที่พวกมันส่ายหน้าอาจจะตามจังหวะเพลงก็ได้ ปีที่แล้วพี่อิฐมันยังมาหาผมเองเลย ผ่านไปเดือนกว่าแล้วผมยังหาพี่รหัสตัวเองไม่เจอเลยอ่ะ ได้คำใบ้โคตรยากเหอะ 'มีนามแข็งแกร่งดั่งหินผา พ่วงด้วยหน้าที่ตำแหน่งอันทรงเกียรติ...จำต้องลอยเด่นกลมโตยามค่ำคืน '



     ผมยิ้มกริ่มเอื้อมมือเอาแก้วกระดาษจากไอ้ตี๋ขึ้นมาจิบ อืม....อร่อยฉิบหาย!! ยกอีกอึกรวดเดียวหมด หวานนุ่มคอชะมัดเลย


     ไอ้ลำไยกับไอ้นกเห็นผมว่าอร่อยเลยวางมือจากกระป๋องเสือมาขอไอ้ตี๋คนละแก้ว กูว่าคืนนี้พวกมึงคลานเป็นหมาแน่แดกเบียร์และมาต่อเหล้าต้ม!!








บัวลอย!!~~เจ้าเพื่อนยากกกกกก~~


ทามายจากข้าเร็วเกินปายยยยย~






     เสียงโหวกแหวกโวยวาย เสียงร้องเพลงลั่นสนั่นรถ ผมดิ้นดุ๊กๆ ดิ๊กๆ อยู่หลังรถไม่รู้ว่ากินอะไรไปบ้าง รู้แค่ว่าใครยื่นอะไรมาก็เอาเข้าปากหมด


     รถจอด ได้ยินเสียงคนตะโกนแวะปั้ม เข้าห้องน้ำ เติมน้ำมัน เสียงเพลงเบาลงเป็นเปิดคลอ อยากเข้าห้องน้ำ ไปไม่ไหว ลำบากไอ้ปัดกับมังกรแบกไป ทั้งที่มันสองคนก็สภาพทุเรศเหมือนกัน




ตุ้บ



"เฮ้ย!!/โอ๊ย!!"


     รู้สึกว่าเดินชนบางอย่าง จนพวกผมล้มกลิ้งไปกองกับพื้น พอหลังมันแตะพื้นก็ลุกไม่ไหวดิค้าบบบ กูปวดเยี่ยวววว



"ไอ้ปัด!! เมาอย่างหมาเลยเว้ย ลุกๆเลยพวกมึงเดี๋ยวอาจารย์เห็น" เสียงพี่กิตหรือเปล่าวะ?


"น้องเจ็บตรงไหนไหม เดินกันดีๆสิ" หมอแข่งเปล่าวะ?


"โอย เยี่ยวววว ส้วมกูอยู่หนายยย ส้วมจ๋าๆ"


     ผมนอนครางโอดโอยอยู่กับพื้น ม่านสายตาพร่าเบลอ เจ็บจู๋ไปหมดแล้ว รู้สึกเหมือนร่างโดนยกขึ้นเหนือพื้น โดนลากไปไหน? ฝืนลืมตาดู อ่อ ส้วมจ๋า


 "เข้าไป" เสียงเย็นๆออกคำสั่ง


 "หนาย โถเยี่ยวอยู่หนาย ทามมายมีแต่ชักโครก"


"ชักโครกก็เยี่ยวได้" ไมเสียงดุจังวะโมโหหิวป่ะ รู้สึกว่ากางเกงบอลกำลังจะถูกดึงลง


 "ม่ายๆ ทำเอง ขอบใจๆ" ทำได้ๆไม่เมาสักหน่อย


"ฤกษ์! ไหวไหมมากูช่ว...ปัง!!"


   ครายยย มันปิดประตูใส่หน้ากูวะ กะเอาให้หลุดเลยช่ายม้าย มาส่งถึงส้วมยังปิดประตูให้อีก ขอบจายๆ เอิ้ก~





     ผมถูกไอ้ฟรุ้งฟริ้งหิ้วขึ้นรถมานอนแอ้งแม้งอยู่เบาะหลัง ได้ถุงพลาสติกมากอดไว้เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา ยกนาฬิกาข้อมือดู เที่ยงคืนกว่า


     ได้ยินเสียงโหวกเหวกในรถ เสียงกรี๊ดดังสนั่น จะตั้งใจฟังว่ากรี๊ดอะไรกัน เสียงเพลงก็เปิดดังขึ้นอีกครั้งกลบเสียงไปหมด แล้วล้อก็หมุนอีกครั้ง....




"กรี๊ดดดดดดด พี่หมอๆๆ หมอเทวดา!!"




ครายโดนเตารีดดาดว่ะ




"กรี๊ดดดดดดด หมอแข่ง!! พี่แสง!!"





เออๆ ปิดไฟหน่อยแสงแม่งแยงตา





"ไงไอ้ตังค์ ไอ้กิต สภาพทุเรศว่ะ มีที่ให้นั่งไหมวะ"





"ข้างหลังเลยๆ แถวๆที่ไอ้ม่านกับไอ้อิฐสลบอยู่น่ะว่าง"




เออๆเปิดม่านไว้จะได้เห็นวิวววววว













« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2020 22:00:40 โดย 11:11 »

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: ฤกษ์มงคล +++++》ตอนที่4...ล้อหมุน
«ตอบ #14 เมื่อ25-12-2019 01:23:04 »

น้องฤกษ์!ถูกผู้ชายลากเข้าห้องน้ำลากขึ้นรถขนาดนี้แล้วยังไม่รู้สึกตัวอีก :mew5:

 :pig4:

ออฟไลน์ blanchard

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 376
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-3
Re: ฤกษ์มงคล +++++》ตอนที่4...ล้อหมุน
«ตอบ #15 เมื่อ25-12-2019 06:53:03 »

นุ้งฤกษ์… หนูลูกกกกก…

ทำไมเมา น่าดูเอ็น  เอ้ย  น่าเอ็นดูจังซั่นเล่า!?     :haun5:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ฤกษ์มงคล +++++》ตอนที่4...ล้อหมุน
«ตอบ #16 เมื่อ25-12-2019 07:45:51 »

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: ฤกษ์มงคล +++++》ตอนที่4...ล้อหมุน
«ตอบ #17 เมื่อ27-12-2019 02:50:10 »

 :laugh:

ออฟไลน์ 11:11

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
Re: ฤกษ์มงคล +++++》ตอนที่4...ล้อหมุน
«ตอบ #18 เมื่อ28-12-2019 16:41:25 »

5… ในวันที่ป่วย








     ~~คิดว่าไม่เกินโควต้า ที่ขาดเรียนได้ ต้องการจะใช้โควต้า ให้มันคุ้มค่า

กลางภาคคะแนนสูงมาก(top sec)

B+นอนมา ปลายภาคเลยเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง


กลางภาคได้คะแนนท็อป ปลายภาคหมดสิทธิ์สอบ~~




     สะดุ้งตื่นเพราะเสียงเพลงโปรด ก้มดูนาฬิกาน็อคกลางอากาศไปประมาณสิบนาที ไอ้ลำไยกับไอ้นกสลบไปเป็นที่เรียบร้อย ลำไยนอนขดตัวหนุนตักไอ้นก เออดูแลกันดี ไอ้ปัดหายไปไหนไม่รู้  จะหยิบเอากล้องมาถ่ายไอ้นกกับไอ้ลำไยไว้ก็กลัวจะทำกล้องพังก่อนได้ภาพ ขนาดยืนยังเซจะยกกล้องไม่น่ารอด




     เหลือไอ้ตี๋นั่งดูดเหล้าต้มอยู่ข้างๆ ประธานรุ่นห่าไรเนี่ย!! มันเห็นผมลุกนั่งก็ส่งมาให้ทั้งไห เออ มึงขนมาเท่าไหร่วะ แดกกันเหมือนเทลงส้วม



        ผมรับมาอย่างไม่ขัดศรัทธา ดูดไปได้ไม่กี่อึก เสียงแหกปากร้องเพลงก็ดังลั่นขึ้นเรื่อยๆเพลงโปรดพวกมันล่ะครับ รวมถึงผมด้วย ไอ้คัตโตะเดินเซๆมาจากข้างหน้า กอดคอผมลากไปกลางรถให้ไปโยกกับมัน พึ่งจะสร่างจากเมื่อครู่ผมก็ซดอีกหลายยก เมาซ้ำซ้อนนะตัวกู



     ~~แต่งตัวเรียบร้อยมั่นใจ ในวันที่สอบ เดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ ไปถึงห้องสอบ


เลือกโต๊ะหลังเพื่อนคนเดิม รหัสติดมัน

คนคุมสอบมาไล่ คนคุมสอบมาไล่


กลางภาคได้คะแนนท็อป

ปลายภาคหมดสิทธิ์สอบ~~





     ผมกอดคอให้คัตโตะตะโกนแหกปากร้องลั่น แขนซ้ายหนีบถุงพลาสติกพร้อมไหเหล้า แขนขวากอดคอเพื่อนโยก ผมดูดสองอึกแบ่งไอ้คัตโตะดูดอีกอึก เพลงเป็นจังหวะโยกครับ ฟังแล้วอยากโยกไหล่ โยกเอว โยกตูด โยกไข่  โยกขา โยกหัว เนื้อเพลงโคตรกินจายยยย!



     ~~Top sec Top sec Top sec top sec

Get A Get A But now I got da F


กลางภาคได้คะแนนท็อป ปลายภาคหมดสิทธิ์สอบ~~



     ~~เสียใจๆๆ เสียใจๆๆ เดินกลับไปขึ้นมอเตอร์ไซค์คู่ใจคันเดิม แอนๆๆๆ


ควันดำจากท่อไอเสีย เครื่องยนต์คงพังเหมือนฉันที่อ่อนเพลีย

วันนี้หมดสิทธิ์สอบ ขึ้นรถมอไซค์กลับไป นอนหอออออ~~~






Cr. หมดสิทธิ์สอบ :: ชาบลูส์








"นอนห๊ออออออออออ"


"โว้ยยย อีฤกษ์! ตะโกนไรนักหนาน้ำลายเต็มหัวกูหมดแล้ว แยกค่ะ! แยก! ไอ้คัตโตะมึงกลับที่เลย ส่วนมึงไปนอนหอมึงเลย ไอ้ฤกษ์เดินไปข้างหลังเลยค่ะ!!"


"ครายยยย เอ้า! ไอ้ฟลุ้ค!! ทามมายว้าๆๆ เปนหญิงต้องมีโนมนา เปนหญิงดีๆทามมายกลายเปนชาย เมิงสวยนาาาา"


"ไอ้ฤกษ์กูบอกให้เรียกฟรุ้งฟริ้ง!! กูเป็นกระเทยค่ะ!! ผู้ชายที่อยากเป็นผู้หญิง!! ไม่ใช่ผู้หญิงแล้วเป็นชาย สติค่ะ!! เมาแล้วสมองกลวงมากค่ะเพื่อน!! ถือว่ามึงมีบุญนะที่ยังชมว่ากูสวยเดี๋ยวกูเดินไปส่ง!! เพราะมึงเลยนะอิดกทง ลำบากพี่ราล์ฟผัวในมโนของกูต้องยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำธุระพี่เขาก็ไม่ใช่ ผัวกูจิตใจดีก็งี้แหละเห็นสภาพมึงแล้วคงสงสาร กูถึงต้องรีบกุลีกุจอไปลากมึงมาขึ้นรถ กลัวมึงจะทำผัวกูมีมลทิน พอขึ้นรถมากูยังต้องหิ้วมึงไปนอนอีกเหรอวะ "


"คราย  ครายหิ้วครายย ไม่หิ้ววว เดินตัวเปล่า" ได้ยินแว่วๆนะเว้ย แต่ลิ้นกูตอนนี้ใช้การม่ายด้ายยย เถียงไม่ทัน


"แล้วช้างดาวมึงน่ะจะเหน็บรักแร้อีกนานไหม หวงขนาดนี้ไม่แขวนคอไปเลยล่ะ หน้าตาผิวพรรณก็ดีทำไมทำตัวทุเรศจังว่ะ ลำไยมากค่ะเพื่อน!!"





ตื๊ดๆๆ



     ทันใดนั้นเพลงโยกก็เปลี่ยนเป็นตื๊ดอีกครั้ง ไอ้คนที่พยุงแขนบอกจะไปส่งเมื่อกี้มันทิ้งผมไว้กลางทางเรียบร้อยเพราะรีบไปดิ้นกับเพื่อนที่อยู่ข้างหน้า เออ กูไปเองก็ได้ ผมเดินเซๆกอดไหสุดที่รักกลับที่นั่ง เพื่อนที่กลับมาฟื้นคืนชีพก็ออกฤทธิ์ดิ้นอีกครั้ง โดนเบียดจนแทบหน้าทิ่ม ไม่ไหวแล้วมึนหัวอยากนอนตามันพร่าไปหมด




พรึ่บ!!



     รู้สึกเหมือนร่างถูกกระชาก ร่างกายมีเบาะนุ่มรองรับ แผ่นหลังพิงกับของแข็งพยายามลืมตามองเห็นเป็นกระจกหน้าต่างรถ อุ่นใจที่ไม่ใช่พื้นทางเดิน หยิบไหขึ้นมาจะดูดต่อ แต่กลับถูกดึงหลุดออกจากมืออย่างง่ายดาย หงุดหงิดอยากกินต่อ


"จะกิน"


"พอ นอนได้แล้ว" เสียงทุ้มกระซิบข้างหูแฝงไปด้วยอำนาจ ลืมตามองเห็นเพียงใบหน้าคนเบลอๆ มันพร่ามัว เห็นไม่ชัดแม้กระทั้งแววตา แต่กลิ่นที่ลอยมากระทบจมูกนั้นฝังใจ ชอบ...


"หอม..ดม...ดมหน่อย" เหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่นถ้าเป็นฝันก็อยากจะดม ชอบ... ยกแขนขึ้นรั้งบางสิ่งตรงหน้า  เคลื่อนเข้ามาใกล้ตามแรงดึง ฝังจมูกลงตรงเนื้อแน่นตรงหน้า เหมือนกอดหมอนหอมๆที่พึ่งซักใหม่แล้วกดจมูกฝังสูดกลิ่นอยู่อย่างนั้น รู้สึกว่าแสงไฟรอบตัวดับลง เหลือเพียงเสียงเพลงที่ยังดังสนั่นพร้อมความมืด เลื่อนจมูกขึ้นไปสัมผัสผิวเนื้ออ่อนนุ่มที่โผล่พ้นเนื้อผ้า หอม...คลอเคลียตรงนั้นอยู่นาน เลื่อนขึ้นไปอีกเจอผิวสากเหมือนไรหนวด ไม่ชอบ จะผละออก แต่กลับถูกรั้งไว้ด้วยวงแขน...ของเขาที่อยู่ในฝัน


     เงยหน้าขึ้นไม่ทันได้เพ่งมองชัดๆ ปากก็ถูกบางสิ่งปิดทับ ตกใจ หันหน้าหนี แต่ท้ายทอยถูกมือใหญ่จับล็อค ร้องประท้วง ดันเป็นโอกาสให้ลิ้นชื้นแทรกเข้ามา จูบ!! แยกไม่ออกระหว่างฝันกับเรื่องจริง ถ้าฝันไปก็ดีจะได้ซ้อมไว้ เผื่อมีแฟนจะได้จูบเป็น


     ลิ้นอุ่นๆสอดแทรกเข้ามาอย่างจาบจ้วง รู้สึกถึงแรงอารมณ์ที่ไม่ปกติ เหมือนไม่พอใจ รั้งให้ขาดอากาศเกือบตาย จึงยอมปล่อยให้กอบโกยอากาศอีกครั้ง ก่อนจะประกบลงมาอีก ทำได้เพียงร้องประท้วงอยู่ในลำคอ สองมือทุบอกคนตรงหน้าจนมือรู้สึกเจ็บ ร่างกายเริ่มอ่อนระทวยจากรสจูบที่เชี่ยวชาญจนยากต้านทาน จาบจ้วง รุนแรง แต่รู้สึกดี...รับรู้สัมผัสจากมือใหญ่ค่อยๆลูบเข้ามาบนผิวเนื้อภายใต้เนื้อผ้า ฝ่ามือร้อนลูบผ่านแผ่นหลังจนขนลุกเกลียว ลากผ่านมาที่หน้าท้องจนใจกระตุก เลื่อนขึ้นจนถึงตุ่มไตหน้าอก มือใหญ่ออกเเรงนวดเฟ้นอย่างย่ามใจ นิ้วร้อนผ่าวคีบคลึงตุ่มไตจนร่างสะท้าน ผมส่งเสียงครางอื้ออึงผ่านในลำคออย่างห้ามไม่อยู่ เขาไม่ยอมปล่อยปากให้เป็นอิสระเลย อ่อนระทวยปวกเปียกอย่างหมดแรงแม้แต่แขนก็ยกไม่ขึ้นร่างกายร้อนรุ่มเหมือนใกล้ระเบิด



     สมองเริ่มเบลอสติเริ่มไร้การรับรู้ เขาผละออก ได้ยินเสียงสูดลมหายใจลึกๆเหมือนสะกดอารมณ์ นิ้วเรียวยาวเกลี่ยคราบน้ำใสให้ที่มุมปากอย่างแผ่วเบา ถูกจัดท่าท่างให้นั่งสบายมากขึ้น ศรีษะซบอยู่กับไหล่แกร่ง พยายามจะลืมตามองคนตรงหน้า ไม่เห็น มืดไปหมด แต่กลิ่นนี้...ฝังใจ


"ร้อน ถอดเสื้อ" เผลอพูดออกไปกำลังจะถอดเสื้อออก มือถูกมือใหญ่จับออก ผ้าห่มผืนบางถูกคลุมบนร่าง รู้สึกถึงความเย็นของแอร์มากขึ้นกว่าเก่า เสียงเพลงหายไปแล้วความมืดยังคงอยู่....




"พี่ไม่อนุญาต"













"ห้าววววววววว"


     ผมนั่งหาววอดๆอยู่ในห้องเรียน ป.4/4 แข่งกับเสียงฝนที่ตกอยู่ข้างนอก พวกเรามาถึงตอนใกล้รุ่ง ขนของ เช็คชื่อ เลือกห้องเสร็จฝนก็เทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา อาจารย์คง เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ให้พวกเราพักผ่อนกันยาวจนถึงเที่ยง มีพี่แสงวิศวะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลและควบคุมพวกนักศึกษา


     พวกผมได้ห้อง ป.4/4 เป็นที่นอนเป็นห้องเรียนเล็กๆ นอนได้ไม่เกินสิบห้าคน อยู่ใกล้ๆกับวัดที่เราจะสร้าง เดินไม่ถึงห้านาทีก็ถึง หลังจากอาบน้ำทำธุระอะไรเสร็จ ผมก็นอนแอ้งแม้งด้วยอาการเมาค้างอย่างหนัก เพราะกินอะไรผสมมั่วไปหมด มีเพื่อนๆนอนครางกันระงมอยู่ด้วยข้างๆจากอาการปวดหัว ผมดูจะแย่กว่าใครเพื่อนนอกจากจะเมาค้างแล้วก็ดูเหมือนจะเป็นไข้ เพราะอากาศที่แปรปรวน โดนฝนตั้งแต่เย็นเมื่อวานและเมื่อช่วงเช้าดันโดนฝนตอนขนของอีก


"ฤกษ์ลุก กูจะพาไปหาหมอสภาพแม่ง เเย่สัส!! " ไอ้ปัดยืนเอาตีนเขี่ยที่สีข้างผมไปมาเหมือนผมเป็นรองเท้าเปื้อนขี้ไก่


"ไม่เอาๆเดี๋ยวกินยาก็หาย"


"มึงแดกยาแล้ว ยังไม่ดีขึ้นเลย ลุก!!"


"ไม่เอา ไม่ไป" ผมไม่ได้กลัวหมอนะครับ แต่ผมไม่อยากเจอหมอบางคน!! เจอแล้วจะทำหน้ายังไง? อยู่ดีๆก็ฝัน...ฝันว่าได้จูบกับเขา หมอเทวดา...  อย่างเร่าร้อน เอ๊ะ! หรือเปล่าวะ? ถึงจะไม่เห็นหน้าแต่กลิ่นอ่ะ ใช่แน่ๆ เอ๊ะ! หรือไม่ใช่? โอ้ยยย ไม่รู้แล้ว จำไม่ได้ เออ จำได้นิดหน่อยก็ได้(ย้อนแย้งฉิบ!!)


     โชคดีแค่ไหนที่ไม่ได้ฝันเปียก โดนปลุกให้ตื่นก็ตอนถึงที่หมายแล้ว พบตัวเองอยู่ในสภาพนอนยาวเหยียดบนเบาะคู่เพียงลำพังเท้าข้างหนึ่งพาดหน้าต่างรถ มีผ้าห่มผืนบางพาดอยู่กลางลำตัว ไม่เจอเขา ฝัน....


     โล่งอก(!?) แต่เปล่าเลยแค่เกือบ เมื่อได้ยินเพื่อนๆมันพูดกันว่าเมื่อคืนกลุ่มหมอเทวดามานั่งด้วย เมื่อได้ยินถึงกับเข่าอ่อนหรือจะเป็นความจริงวะ? ทำไมพวกพี่เขาถึงมาอยู่บนรถ ถึงผมจะรู้ว่ารู้จักกับพวกพี่ตังค์ก็เถอะสภาพแวดล้อมบนรถไม่เหมาะกับพวกเขาสักนิด หรือผมเมาจนไปจูบเขา ไม่รู้แล้วโว้ย! จำไม่ได้


     โอ๊ยยย!! ไม่เจอโว้ย ผมไม่รู้ว่าจริงหรือฝันแต่จะทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจริงหรือฝันผมก็ยังไม่อยากเจอหน้า


"เอ๊ะ!! มึงนี่! แค่ไปหาหมอที่เต็นท์แพทย์จะเป็นไร ดื้อมากเดี๋ยวกูถีบนะ!!" ไอ้นกที่นั่งทาครีมหน้ากลิ่นหอมฟุ้งขึ้นเสียงใส่


"ฤกษ์!! ไปดิพี่หมอเรียกแล้วกูไปบอกว่ามึงป่วย เขาให้ไปหา"


"เหี้ย!!" เสียงสบถดังลั่นทั้งห้อง เมื่ออยู่ๆก็มีผู้หญิงโผล่พรวดดข้ามาในห้องผู้ชาย และพวกที่อยู่ในห้องก็พึ่งอาบน้ำเสร็จกำลังแต่งตัวจึงอยู่ในสภาพล่อแหลม


"ตามสบายเลยพวกมึงกูไม่ถือ" ไอ้ลำไยยิ้มหน้าระรื่นตาวาว ทรุดตัวลงนั่งข้างๆผม จนพวกมันต่างรีบแต่งตัว


"นี่มันห้องผู้ชายนะเว้ยลำไย เข้ามาได้ไงเป็นสาวเป็นนาง แล้วดูสายตามองพวกกูอย่างนี้กูเสียหายหมด" ไอ้คัตโตะประท้วง


"เสียหายตรงไหนกูรับผิดชอบเอง เดี๋ยวกูสร้างเป็นฮาเร็มเลยดีกว่า มีพวกมึง แล้วกิ๊กกูอีกสิบ"


"ไม่เอาโว้ย!! เห็นธาตุแท้มึงแล้วกูสงสารตัวเอง"








"เรียบร้อยครับ นอนพักสักหน่อยพรุ่งนี้ก็ดีขึ้น แล้วอย่าไปซนที่ไหนก่อนได้รับอนุญาตอีกนะครับ นี่โชคดีนะที่แขนขาไม่หักแค่หัวโนน่ะ ยังไงวันนี้พวกเราคงยังไม่เริ่มงานเพราะฝนน่าจะตกทั้งวัน นอนในเต็นท์นี้แหละตอนเที่ยงค่อยลุกไปกินข้าว"


     ผมนอนฟังเสียงสั่งสอนนุ่มหูของอาจารย์หมอกรณ์หน้าเด็ก แต่อายุไม่เด็กอย่างสำนึกผิดไปเรื่อยๆ หลังจากโดนฉีดยาไปสองเข็ม พยักหน้า หงึกหงักๆ ด้วยท่าทางสำนึกผิดแต่ร่างกายกระสับกระส่ายลุกลี้ลุกลน เหมือนพวกกินน้ำท่อมแล้วจะโดนสุ่มตรวจฉี่



     "ไงฝากพวกเราดูน้องด้วยล่ะ อาจารย์จะออกไปดูความเรียบร้อยข้างนอก"



     อ้ากกกกกก ผมได้แต่เลิ่กลั่กอยู่บนเตียงอย่างทำอะไรไม่ได้ เมื่ออาจารย์หมอเดินออกจากเต็นท์ไปแล้ว ร่างกายของผมตอนนี้นั้นเคล็ดขัดยอกไปหมด เหตุเนื่องมาจากเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้นั้น…..



     ผมไม่ยอมมาหาหมอ รู้สึกว่าตัวเองเวียนหัวแต่ก็ยังพอไหว ก็เลยไปช่วยขนอุปกรณ์ขึ้นนั่งร้านในโบสถ์เพื่อเตรียมงาน ถึงฝนจะตก งานนอกไม่เดินแต่งานในพวกผมสบายมาก แต่ก็นั่นแหละครับ


     ไอ้ฉิบหาย...ผมตกนั่งร้านครับ!! ไม่ได้มาจากเพราะพิษไข้แต่อย่างใด กูลื่น!! ถึงจะไม่สูงมากเพราะปีนไปได้แค่ครึ่งทางแต่เมื่อร่วงแล้วก็ลุกไม่ขึ้นอ่ะครับ บวกทั้งพิษไข้ เมาค้าง และตกนั่งร้านกูเดี้ยงครับ ลำบากเพื่อนฝูงต้องหิ้วมาเต็นท์หมออยู่ดี พวกมันแสดงความห่วงใยด้วยการรุมด่าอยู่สิบนาที ข้อหาที่เป็นภาระปกติอยู่ดีๆ ดันหาเรื่องเป็นภาระแบบพิเศษ(!?) และก็ทิ้งผมไว้เมื่ออาจารย์หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก ผมอยากจะร่ำไห้อย่างเท่ๆแบบ คีอานู รีฟส์  จริงๆนะครับ


     ซ้ายก็พวกหมอทันตะ ขวาก็พวกหมอราล์ฟ พวกพี่ๆกำลังจัดเตรียมอุปกรณ์ให้เข้าที่เข้าทาง มีเตียงสนามอยู่ห้าเตียงและหนึ่งในนั้นผมจองไว้เรียบร้อย


"ไงเราเจอกันแต่ล่ะทีเจ็บตัวตลอด"


     พี่หมอแข่งขันเดินยิ้มเจ้าเล่ห์มาหาผม (เป็นหมอต้องยิ้มอ่อนโยนดิว้า) ยื่นมือมาแตะหน้าผากแตะซอกคอเหมือนวัดไข้ ผมก็ได้แต่นอนมองตาปริบๆ กูเกร็ง หล่อว่ะอิจฉา


"เดี๋ยวถ้าไม่ดีขึ้นต้องเช็ดตัวนะ"


"ครับพี่" พยักหน้าตอบรับ พลางแอบเหล่ใครบางคนทางขวามือที่อาจเป็นคนเดียวกับในฝันเมื่อคืน หมอเทวดานั่งไขว่ห้างหลังพิงเก้าอี้ ตาคมกำลังจดจ้องอยู่กับเอกสารหนาๆตรงหน้า หล่อ ดูดี เท่ และมีรังศีน่าเกรงขามอยู่รอบตัว


พรึ่บ!



     เหมือนหมอเทวดารู้ตัวว่าโดนมองเขาเงยหน้าขึ้น สบตากับผมพอดี ผมสะดุ้งเหมือนโดนของร้อน ระบบร่างกายรวน ใจเต้น ทำอะไรไม่ถูก เขาลุกขึ้น เหมือนจะก้าวมาหา ตกใจ ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง ไม่รู้ต้องทำยังไง สวดมนต์อะไรดีมีคาถาไล่เทวดาหรือเปล่าวะ?



"เดี๋ยวดูเอง"


เฮ้ย!!


"อืม ดูให้ดีๆล่ะ หึๆ"


เฮ้ยๆๆๆๆ ? เมื่อกี้เสียง…




พรึ่บ!!




     ผ้าห่มผมถูกดึงออกเผยให้เห็นดวงตาคมเฉียบสีเทาหม่นบนใบหน้าหล่อเหลาเกินบรรยายที่กำลังจ้องมองมาที่ผม หมอราล์ฟทรุดนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง  ผมมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใคร หมอแข่งและพวกพี่ๆหมอไปไหน?


"กินข้าวก่อน"


"เฮ้ยๆๆ พี่!!"


     อ้ากกกก กูควรตกใจอันไหนก่อน ภาษาไทยชัดแจ๋วเลย ไอ้สัส!! ทำไมต้องมานั่งตรงนี้!!  ทำไมต้องอยู่กันสองคน ทำม้ายยยยย


"พะ...พี่พูดไทยได้!!" ปากคอสั่นเป็นสันนิบาตเลยกู


"....."


" มะ... ไมไม่บอกแต่แรกล่ะวะ"  ก่อนหน้านี้พูดอะไรไปมั้งวะ? จำได้ที่ไหนกันเล่า!! (ตอบเองนักเลงพอ)


"ไม่เคยบอกว่าพูดไม่ได้" แค่สบตาคมผมก็เริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง มือไม้มันเกะกะไปหมด หัวใจมันกระตุกแปลกๆ


"ตอนนั้นพี่ไม่เห็นบอกผมอ่ะ ปล่อยให้เข้าใจผิดอยู่ได้"


"ก็เราไม่ได้ถาม"


"พี่แม่งเจ๋งอ่ะ พูดไทยชัดแจ๋วเลย อยู่ไทยนานแล้วเหรอ" ชมไว้ๆไอ้ฤกษ์ก่อนที่จะโดนฆ่าหมกเต็นท์


"ก็พอสมควร" สมควรนี่แค่ไหนว่ะ ถามซ้ำอีกทีดีป่ะ



"แล้ว…."



"กินข้าว" ยังไม่ทันจะได้เผือกต่อ….หมอราล์ฟก็ขัดขึ้น ชี้ไปที่ชามโจ๊กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียงผมตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ หอมว่ะ


     หมอเทวดากลับไปนั่งไขว่ห้างก้มลงอ่านชีทในมือต่อข้างๆเตียงผม คล้ายบอกกรายๆว่า หยุดพูดแล้วแดกซะ กูจะอ่านชีท  แล้วทำไมไม่ไปนั่งที่อื่นละว้าาา ผมเกร็ง ผมไม่ชิน ผมไม่เคยอยู่ใกล้หมอหล่อเทวดา หล่อ ไฮโซ มาดขรึม และมีสาระ!!




"หมดแล้วก็วางจะเลียเลยไหม?"


     ผมถือช้อนค้างเมื่อมีเสียงทักจากคนที่นั่งข้างๆ เห็นด้วยเหรอวะว่าทำอะไร เห็นเอาแต่ก้มหน้าอ่านชีทที่มีแต่ภาษาน่าปวดกบาล


     ผมเงยหน้าจากชามโจ๊กขึ้นมายิ้มแห้งส่งไปให้ อร่อยอ่ะถึงจะเป็นโจ๊กซองก็เถอะแถมมีไข่ยางมะตูมใส่มาให้ตั้งสองฟอง ถ้าทฤษฎีที่ว่าใครไม่สบายแล้วจะไม่อยากอาหาร คงใช้กับผมไม่ได้อ่ะครับ


  "อยากกินอีกอ่ะพี่" เอาจริงก็ไม่อิ่มอ่ะ


"ตื่นมาค่อยกินพึ่งฉีดยาไปเดี๋ยวก็ง่วง อันนี้รองท้องไปก่อน กินอาหารหนักแล้วนอนมันไม่ดี" อื้อหือ พึ่งได้ฟังประโยคยาวเป็นบุญหูครั้งแรก


"อย่าพึ่งนอน นั่งก่อนสักสิบห้านาที"


     อื้อหือๆ สั่งเป็นน้องผมเลย!? ผมที่กำลังไถลตัวลงนอนถึงกับหยุดชะงัก จำใจลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเตียง….



สภาวะเดดแอร์!! อย่างบ่ต้องสงสัย



     เงียบขนาดที่ว่าได้ยินแต่เสียงพี่หมอมันพลิกหน้ากระดาษ ผมได้แต่ขยับยุกยิกๆ อยู่บนเตียงไม่มีไรทำอ่ะนั่งตั้งสิบห้านาที กูเครียด



"แล้ว….แล้วเมื่อคืนพวกพี่มาขึ้นรถคณะผมเหรอ" สุดท้ายผมก็ทำลายความเงียบนั้นลง เพราะความเผือกข้างในมันร่ำร้องงงง


"อืม" หมอเทวดาตอบพลางลุกขึ้นยืน เดินไปเอาหมอนอีกสองใบที่วางไว้มุมห้อง มาวางทับหมอนที่เตียงผมแล้วจับตัวผมเอนลง ตอนนี้ผมอยู่ในท่าทางกึ่งนั่งกึ่งนอน...


"เหรอ...แล้ว…แล้วเป็นไงมั่งอ่ะพี่" ผมถามตาปรือ ความง่วงจากฤทธิ์ยาและความท้องตึงเริ่มย่างกราย



"ก็ดี เพลงแปลกหูดี" หมอเทวดาตอบด้วยสีหน้านิ่งๆ ยื่นปรอทวัดไข้ให้ผมคาบไว้ มือเรียวแกร่งเอื้อมมาสัมผัสลงที่หน้าผาก ซอกคอและเลื่อนมาที่แก้มผมคล้ายวัดไข้...สัมผัสแผ่วเบาแต่หัวใจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง แปลก แปลกมากจริงๆ


"แค่นั้นเหรอพี่" ตาจะปิดแล้วอ่ะแต่ก็ฝืน เบลอไปหมดแล้ว


"แล้วต้องแค่ไหน" ทำไม่รู้สึกเหมือนแก้มโดนบีบ



"พี่... คือ...ผม...ขะ...ขอโทษนะ ที่พูดอะไรๆก่อนหน้าน่ะ" ขอโทษไว้ก่อน ผมก็จำไม่ได้ว่าตอนเจอพี่เขาพูดไรไปบ้าง แม่งเล่นไม่หือไม่อือสักคำ เป็นใครใครก็คิดป่ะวะ หน้าก็ไม่ได้ไทยอะไรขนาดนั้น และเหตุผลสำคัญ ขอโทษที่ฝันลวนลามพี่เมื่อคืน สรุปผมก็ฝันอ่ะแหละนะ เพราะดูจากท่าทางพี่หมอราล์ฟก็เห็นไม่มีท่าทีผิดปกติอะไร(?)  สงสัยหน้าตาดีเกินจนเก็บไปฝัน? แต่ก็น่าจะฝันถึงผู้หญิงป่ะวะ? หืม….สมการนี้ยาก ช่างแม่ง!!


     ผมไม่รู้ว่าหลังจากขอโทษแล้วพี่หมอว่ายังไง เพราะภาพสุดท้ายที่เห็นคือข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์หน้าจอแตกของผมที่วางอยู่ข้างเตียง ก่อนหน้านี้ผมได้ส่งไปหาน้องว่าถึงค่ายแล้ว เจ้าเทียนส่งข้อความตอบกลับมาเพียงสั้นๆ ว่า 'อย่าสร้างปัญหา'





     








   


































« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2020 22:23:13 โดย 11:11 »

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
โถ่น้องฤกษ์ ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย :hao3:

 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ snoopyme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไม่รู้จะเม้นไร แต่ชอบมว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :hao7:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เอ็นดูวววว

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
หมอตกหลุมน้องได้ไงเนี่ย คลายความลับมาซะดีๆ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
น้อนนนนนเอ็นดู ลูกชายป้า พี่หมออ่อนโยนกะน้องหน่อยเน้อ คนเขียนคะ อยากให้ใส่วันที่อัพด้วยอ่ะ เวลาอัพหลายตอน จะเริ่มงง ๆ เน้อ ไม่ใช่คนเขียนนะ คนอ่านนี่แหละ แก่แล้วเลอะเลือน 555

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รออยู่นะ~ :hao5:

ออฟไลน์ chompoo1997

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เขินน อ่านล่ะเขินมากเวลาเค้าคุยกัน55555 ชอบมากรอติดตามน้าา :กอด1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
 :z13: รออยู่น้าาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด