หักเหลี่ยมรักซาตาน
บทที่ 10
“คุณทินภพ!”
“อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวแมงปอตื่น”
น้ำเสียงของทินภพนุ่มนวลเกินไป เกินไปแล้วจริงๆ และดังเพียงแค่กระซิบอยู่ข้างหูก่อนที่เขาจะขบเม้มใบหูของปักบุญเบาๆ มือใหญ่วางแนบอยู่บนลำตัวกันไม่ให้ปักบุญผลักไสหรือว่าดิ้นรนหนี ท่ามกลางความมืดสลัวภายในห้องที่มีเพียงโคมไฟรูปตุ๊กตาบนหัวเตียงของแมงปอเท่านั้นที่ให้แสงสว่าง
“แต่ว่า...”
“ฉันจูบนายไม่ดีพองั้นหรือ ให้ฉันแก้ตัวใหม่นะ”
ใบหน้าคมเข้มก้มต่ำอีกครั้งในความมืด ทินภพจูบอย่างนุ่มนวลจนปักบุญไม่อาจปฏิเสธได้ แว่นตาของเขาถูกทินภพดึงออกแล้ววางไว้ข้างๆ ต้นขาแข็งแรงวางพาดทาบทับไปกับต้นขาทั้งสองของปักบุญ ทินภพจูบนานเพียงพอที่จะทำให้ลมหายใจของปักบุญร้อนผ่าวเขาจึงค่อยไล่จูบไปตามลำคอ
อา...
อ่อนหวานเกินไปแล้ว
“คุณทิน อย่า เราไม่ควรทำแบบนี้”
ได้ยินเสียงตนเองเพียงแค่กระซิบไม่ต่างกันแถมยังสั่นพร่าอย่างน่าอาย อยากโกรธที่ใจนั้นต้องการผลักไสแต่การกระทำกลับตรงข้ามเมื่อวงแขนข้างหนึ่งคล้องอยู่ตรงท้ายทอยส่วนอีกข้างบีบอยู่บนบ่ากว้างของทินภพ เสื้อยืดโปโลที่สวมใส่อยู่ถูกเลิกสูงมาอยู่เหนือไหล่เปิดทางให้ทินภพซุกหน้าอยู่บริเวณหน้าอก ปักบุญกัดฟันกลั้นเสียงเมื่อเขาตวัดลิ้นลงมาบนตุ่มไตสีอ่อน
“อื้อ”
“ยอมฉันนะ”
ทินภพพูดเสียงออดอ้อนกับเขาเป็นเมื่อไหร่กัน แต่เมื่อเขาเอ่ยออกมาแล้วมันช่างบาดใจไปกับเสน่ห์ที่เขาใส่ลงมาด้วย ปักบุญเกลียดตัวเองที่รู้ว่านี่คือกับดักแต่เขากับกระโจนลงไปเอง ใจไม่ต้องการทว่าร่างกายกลับตอบสนองด้วยการยกสะโพกให้ทินภพดึงกางเกงออกจากขา และเปิดทางให้กล้ามเนื้อแน่นของบุรุษเพศเข้ากดเบียด ทินภพไม่รอช้าที่จะดันเอวเข้ามาด้วยความกระหายในสัมผัส
“อึก คุณทิน เบาๆ เดี๋ยวแมงปอตื่น”
ผวาเข้ากอดก่ายพร้อมกับกัดฟันเตือนเสียงเบาเพราะกลัวทินภพจะลืมตัวว่าตอนนี้ทั้งคู่กอดรัดกันอยู่บนพื้นห้องลูกสาวของเขาที่หลับสนิทอยู่บนเตียง ทินภพชะงักพลางเหลือบตามองแมงปอ
“ถ้าอย่างนั้นคงต้องให้นายจัดการแล้ว”
เอวของปักบุญถูกรวบยกขึ้นมา ทินภพชันกายขึ้นนั่งพิงหลังอยู่กับเตียงของแมงปอและให้ปักบุญนั่งคร่อมทับอยู่บนเอวของเขา สีหน้าของปักบุญดูตกใจเมื่ออยู่ในท่านี้ แม้จะมืดก็มองเห็นชัดว่าเขากระดากอายสุดขีด
“คุณทิน!”
“ไม่ต้องอายน่า เราได้กันมาครั้งนี้ครั้งที่สามแล้ว แต่ครั้งนี้ฉันให้นายคุมเกม”
มือใหญ่ช้อนใต้บั้นท้ายบีบเบาๆเชิงแนะนำให้ปักบุญขยับเขยื้อนเสียที เขากดต้นขาของปักบุญลงมาจนกระทั่งท่อนลำของเขาสอดลึกจนปักบุญนั่งทับลงมาได้แนบสนิท
“ฮึก ฮึก คุณทิน ผมเสียว”
มันลึกเกินไปแล้ว มันเข้าไปจนหมด สอดสัมผัสอยู่ภายในจนคับแน่น กล้ามเนื้อของปักบุญเต้นระริกต้อนรับการสอดประสาน เขาคลายความอึดอัดด้วยการขยับสะโพกไปมา แต่ไม่นึกว่านั่นยิ่งเพิ่มพูนความเสียวซ่านให้กับทั้งคู่จนทินภพยังเผลอกัดฟัน
“ดี ดีมากปักบุญ ทำแบบนี้อีกสิ”
หมุนเอวเป็นวงกลม ยกกายขึ้นให้มันหลุดคลายออก ทินภพวางมือทั้งสองไว้ที่เอวของปักบุญแล้วกดลงมาจนมันผลุบกลับเข้าไปใหม่ ปักบุญถึงกับกระตุกไปกับบทเรียนนี้ ทินภพสอนให้เขาทำช้าๆจนปักบุญจับจังหวะได้ทินภพจึงได้ปล่อยให้เขากระทำและเลื่อนมือไปคลึงเค้นยอดอกของเขา
“อื้อ”
เผลอปล่อยเสียงครางจนแมงปอที่หลับอยู่ขยับเบาๆ ปักบุญรีบปิดปากตนเองด้วยการแนบหน้าไปกับริมฝีปากของทินภพ มีหรือที่คนเจ้าเล่ห์จะปล่อยโอกาสให้ผ่านไป เขาวางมือใหญ่แนบไปกับท้ายทอยของปักบุญและบังคับให้รับจูบของเขา ลิ้นร้อนตวัดหาความหวานที่เขาติดใจพลางกระตุ้นให้ปักบุญขยับท่อนล่างต่อด้วยการสวนเอวเข้าไป
ปักบุญเตลิดไปหมดแล้วกับสิ่งที่ทินภพสอนเขา ตอนนี้ปักบุญลืมไปหมดทุกอย่าง ลืมว่าเขากับทินภพบาดหมางอะไรกันมาบ้าง ลืมความเจ็บช้ำที่อีกฝ่ายก่อให้ มีแต่ความต้องการตามกลไกธรรมชาติที่ต้องการปลดปล่อย เขาโยกกายขึ้นลงเข้าจังหวะกับทินภพเน้นความลึกแน่นชัดเจน ร่างทั้งสองกอดก่ายแนบสนิทชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อเกาะพราว เสียงลมหายใจกระเส่าพ่นออกมาเมื่อริมฝีปากแยกห่างเพื่อแลกลิ้น
“คุณทิน มะ ไม่ไหว ผมไม่ไหว”
สั่นไปทั้งตัวเมื่อรู้ว่าร่างกายถึงขีดสุด ปักบุญใช้ฟันกัดลงไปที่บ่ากว้างแทบจมเขี้ยวขณะโยกเอวพร้อมกับใช้มือรูดรั้งท่อนเนื้อของตนเองไปด้วย ทินภพช่วยเหลือด้วยการผลักให้ปักบุญหงายหลังลงไปกับพื้นแล้วสาวเอวเข้าใส่ในจังหวะสุดท้าย ปักบุญเกร็งค้างกลั้นหายใจเมื่อเขาถูกกระชากขึ้นสวรรค์
“โอ ปักบุญ นายกำลังจะฆ่าฉัน”
ทินภพสาวเอวใส่ไม่ยั้ง เขาไม่อยากพลาดโอกาสนี้ กล้ามเนื้อหนั่นแน่นกระแทกค้างลึกอีกสองสามครั้งเขาจึงดึงเอวออกมาใช้มือบีบรูดก่อนจะพ่นพิษลงไปบนแผงอกเปลือยเปล่าเบื้องล่างเป็นทาง เมื่อตามปักบุญไปติดๆแล้ว ร่างสูงจึงค่อยโน้มกายลงไปนอนเคียงข้างพลางกอดเอวปักบุญไว้
ปักบุญนอนหอบ ตอนนั้นเองที่สติสัมปชัญญะเริ่มกลับคืนมา เขาคว้าแว่นสายตามาใส่เพื่อความคมชัดคล้ายจะเตือนใจตนเองไม่ให้เมามัวไปกับเพศรสที่ทินภพมอบให้
“คิดอะไรอยู่ปักบุญ”
ทินภพเอ่ยถามเมื่อเห็นคนในอ้อมกอดได้แต่มองเพดานครุ่นคิด เขานอนตะแคงใช้มือยันศีรษะเพื่อจะได้มองปักบุญได้อย่างชัดเจน
“คุณน่ะสิคิดอะไรอยู่”
ปักบุญกลับเป็นฝ่ายถามโดยไม่มองหน้า ในตอนนี้มีแต่ความสับสนเต็มไปหมด
“คุณไม่ชอบหน้าผม คุณเกลียดครอบครัวของผม คุณแกล้งผมมาตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งตอนนี้ แต่คุณก็ยังมายุ่งกับผมบังคับให้ผมทำตามที่คุณสั่ง ผมจะไปให้ห่างคุณก็รั้งไว้ ผมควรเป็นฝ่ายถามคุณว่าคิดอะไรอยู่”
ทินภพนิ่งงัน คำถามของปักบุญราวกับมีดแทงตรงเข้าสู่หัวใจ ใช่สิ เขาเกลียดคนจากไร่ชมจันทร์ แต่เขาอยากเห็นหน้าปักบุญ เขาไม่ชอบที่ปักบุญชอบเชิดหน้าใส่เขา แต่เขาก็ชอบมองยามปักบุญเตลิดไปกับความรัญจวนที่เขามอบให้ ทินภพควรถามตัวเองว่าเป็นอะไรกันแน่
“ก็ไม่รู้สินะ” ทินภพยักไหล่ “แล้วนายไม่ดีใจเหรอถ้าหากเป็นอย่างที่นายว่า ปู่เล็กของนายที่ตายไปแล้วอาจจะดีใจก็ได้ที่มีนายเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างพวกเรา นายควรจะภาคภูมิใจนะที่ฉันติดใจในเซ็กส์ของนายจนอาจจะกลบความเกลียดชังที่ฉันมีอยู่”
ปักบุญอยากจะส่งเสียงตะโกนระบายความเจ็บแปลบออกมาหากไม่กลัวแมงปอจะตื่น เขามีค่าแค่เพียงใช้เซ็กส์แลกกับสิ่งเหล่านี้อย่างนั้นหรือ ขอบตาร้อนผ่าวไปหมดยามมองทินภพอย่างตัดพ้อ
“ผมไม่ใช่เครื่องมือบำบัดความใคร่ ระบายความอยากของคนเลวอย่างคุณ ผมจะกลับบ้าน”
“จะกลับได้ยังไงดึกขนาดนี้ แล้วก็เลิกคิดมากน่า สารภาพตรงๆว่าฉันชอบมีเซ็กส์กับนาย ตอนนี้ฉันก็ดีกับนายมากแล้ว อีกหน่อยฉันอาจจะชอบนายจริงๆก็ได้ แต่ว่าตอนนี้ฉันง่วงแล้ว เรานอนเฝ้าแมงปอด้วยกันที่นี่แหละ พอถึงเช้ามืดฉันจะไปส่งนายอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านแล้วพาไปส่งที่โรงเรียน เพราะฉะนั้นนอนได้แล้ว”
ทินภพดึงตุ๊กตาตัวหนึ่งที่อยู่บนเตียงของแมงปอมาให้ปักบุญหนุนต่างหมอน เขาใช้แขนวางพาดอยู่บนลำตัว ใช้ขาเกาะเกี่ยวท่อนล่างปักบุญไว้จนไม่อาจหลีกหนีไปได้ ดวงตาคมปิดลงแล้วหลับไปอย่างง่ายดาย ทิ้งให้ปักบุญว้าวุ่นใจเพียงลำพัง ปักบุญหันไปมองหน้าทินภพพลางถอนหายใจ
“คนปากเสียอย่างคุณ ทำไมถึงมีแต่ผู้หญิงมาชอบนะ เขาทนคุณได้ยังไง”
ปักบุญส่ายหน้าก่อนจะหลับตาลง ก่อนคล้อยหลับเขาได้แต่เตือนตัวเองว่าอย่าได้หลงกลทินภพอีก เขาจะต้องไม่ใช่หนึ่งในคนที่หลงไปกับเสน่ห์ของผู้ชายใจร้ายอย่างทินภพเด็ดขาด
มีต่ออีกนิด...