พิมพ์หน้านี้ - << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> Pre order 5 เม.ย.-5 มิ.ย.63]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Belove ที่ 23-11-2019 13:09:14

หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> Pre order 5 เม.ย.-5 มิ.ย.63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-11-2019 13:09:14





ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม





                            :5555: :5555: :5555: :5555: :5555: :5555: :5555: :5555: :5555: 




สารบัญ

บทที่ 1 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71195.msg4014400#msg4014400)
บทที่ 2 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71195.msg4015278#msg4015278)
บทที่ 3 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71195.msg4016246#msg4016246)
บทที่ 4 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71195.msg4016836#msg4016836)
บทที่ 5 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71195.msg4017470#msg4017470)
บทที่ 6 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71195.msg4017987#msg4017987)
บทที่ 7 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71195.msg4018486#msg4018486)
บทที่ 8 (http://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71195.msg4019313#msg4019313)
บทที่ 9 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71195.msg4020202#msg4020202)
บทที่ 10 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71195.msg4020782#msg4020782)
บทที่ 11 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71195.msg4021919#msg4021919)
บทที่ 12 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71195.msg4023358#msg4023358)
บทที่ 13 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71195.msg4025144#msg4025144)
บทที่ 14 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71195.msg4025607#msg4025607)
บทที่ 15 ตอนจบ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71195.msg4026029#msg4026029)








                            :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:




หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 1 [23/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-11-2019 13:14:00

                                               หักเหลี่ยมรักซาตาน

                                                     บทที่ 1



            ปักบุญหน้าซีดเมื่อหลักฐานแห่งความเลวร้ายในชีวิตปรากฏอยู่คาตาและคามือของเขา โดยที่นางพรรณีมารดานั่งน้ำตาซึมอยู่ข้างๆ มือเหี่ยวย่นเอื้อมมาวางแนบบนมือของบุตรชายคนเล็กเพื่อแบ่งเบาความทุกข์ที่มาเยือน


           “เพราะเหตุนี้นี่แหละที่แม่ต้องเรียกปักกลับบ้าน ปัญหาที่เกิดขึ้นมันใหญ่เกินกว่าที่แม่จะรับมือได้คนเดียวแล้วล่ะลูก”


            “ทำไมพี่ปองทำแบบนี้ ก็รู้ทั้งรู้ว่าที่ดินผืนนี้คือสมบัติที่พ่อเก็บไว้ให้ก่อนตาย”


            ไร่ชมจันทร์ คือสมบัติที่ปักบุญเอ่ยถึง เป็นที่ดินซึ่งตกทอดมาตั้งแต่รุ่นทวดที่รวบรวมกำลังทรัพย์ซื้อไว้และลงจอบดายหญ้าปลูกพืชไร่พืชสวนจนกลายเป็นสมบัติเลี้ยงชีพมาถึงรุ่นของเขา ก่อนที่บิดาจะเสียชีวิตจึงย้ำหนักหนาว่าให้ดูแลไร่แห่งนี้ไว้ให้ได้ แต่ตอนนี้แผ่นสัญญาจำนองที่ดินกลับอยู่ในมือของปักบุญด้วยฝีมือของพี่ชายแท้ๆที่แก่กว่าเขาสี่ปีนามว่าปองชัย


           “ปองมันติดเมีย” พรรณีเช็ดน้ำตาป้อยๆ “ปีที่แล้วมันไปได้ผู้หญิงมาจากในเมือง หลังจากนั้นมันก็ไม่ค่อยทำงานในไร่ เอาแต่เข้าเมืองไปกับเมีย ไปเที่ยวหัวราน้ำแถมยังติดการพนัน แม่ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง”


           “แล้วทำไมแม่ไม่บอกผม”


            ปักบุญตกใจ ขึ้นชื่อว่าการพนันย่อมไม่มีอะไรดีแน่ๆ พรรณีเริ่มสะอื้นขณะเล่าเรื่องให้ลูกชายคนเล็กฟัง


          “แม่เกรงใจปัก ปักเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยก็เหนื่อยแล้ว อีกอย่างแม่ไม่นึกว่าปองมันจะลุ่มหลงอบายมุขขนาดนี้ มารู้อีกทีก็มีเจ้าหนี้หลายคนมาทวง และมีจดหมายจากธนาคารว่าที่โฉนดแผ่นนี้กำลังจะถูกยึด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปองมันแอบเอาไปจำนองตอนไหน”


            “แล้วนี่พี่ปองอยู่ไหน”


             ปักบุญมองหาพี่ชายแต่มารดาส่ายหน้าถอนหายใจ


            “มันหายไปจากบ้านนานเป็นเดือนแล้ว ก็คงหนีเจ้าหนี้นั่นแหละ แม่ไม่รู้จะทำยังไงถึงต้องให้ปักกลับมานี่แหละ ปัก เราจะทำยังไงเพื่อรักษาที่ดินผืนนี้ไว้ วิญญาณพ่อรู้คงโกรธแน่ถ้ามันหลุดจำนอง”


            ปักบุญเองก็เครียดไม่น้อย เขาคร่ำเคร่งกับการทำงานในมหาวิทยาลัยจนไม่ได้รับรู้ปัญหาของทางบ้าน ซึ่งก็ถือว่าเป็นความบกพร่อง ไม่กี่วันก่อนมารดาโทรมาร่ำไห้บอกว่าเกิดเรื่องด่วนให้เขารีบกลับบ้าน โชคดีที่เป็นช่วงปิดเทอมของมหาวิทยาลัยแล้ว เขารีบจัดการคะแนนสอบของนักศึกษาให้เสร็จก่อนกลับมาบ้านเพื่อรับรู้ปัญหาที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น


            ครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของไร่เล็กๆ มีลูกจ้างในไร่อยู่จำนวนหนึ่งที่ทำงานกันมานานรุ่นสู่รุ่น พ่อกับแม่ส่งเสริมให้เขาเรียนหนังสือสูงๆเพราะว่าปักบุญผลการเรียนยอดเยี่ยม เขาเข้าไปเรียนในตัวเมืองจังหวัดและสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำในกรุงเทพได้ เมื่อเรียนจบก็ได้ทุนเรียนปริญญาโทไปพร้อมกับเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาไปด้วย ดังนั้นปักบุญจึงไม่ค่อยได้ช่วยงานที่ไร่เท่าไหร่นักเพราะทางนี้มีปองชัยดูแลอยู่แล้ว


            “มึงเรียนไปเหอะปัก ปล่อยให้กูทำไร่นี่ก็ได้” ปองชัยบอกกับเขาเช่นนั้น ตั้งแต่ปักบุญเพิ่งจะเข้าชั้นมัธยมต้น “กูมันเรียนไม่เก่งเหมือนมึง เรียนวิทยาลัยเกษตรแถวนี้ก็พอแล้ว เรียนๆเล่นๆเดี๋ยวก็จบ แล้วก็กลับมาทำไร่ ส่วนมึงก็ตั้งใจเรียนจะได้เป็นใหญ่เป็นโตสมใจพ่อแม่”


             ถึงแม้ว่าพี่ชายจะเกเรบ้างตามประสาชายหนุ่มวัยกำลังห้าว แต่ไม่นึกว่าในวัยใกล้สามสิบของปองชัยจะทำตัวเลวร้ายติดการพนันงอมแงมขนาดนี้ 


             “เราจะทำยังไงกันดีลูก”


             พรรณีมองเขาราวกับคือความหวัง มารดาเป็นช้างเท้าหลังมาโดยตลอด เมื่อสมัยบิดามีชีวิตอยู่แม่ก็พึ่งพิงสามี และเมื่อพ่อเสียชีวิตไม่กี่ปีที่ผ่านมา พรรณีก็ยกการบริหารจัดการไร่ให้ปองชัยโดยที่นางทำหน้าที่ควบคุมคนงานในไร่ให้ทำงานเท่านั้น ตอนนี้การพึ่งพิงจึงย้ายมาที่ปักบุญ


            “ผมจะไปคุยกับธนาคาร คงต้องปรึกษาเขาว่าควรทำยังไง”


             ชายหนุ่มวัยเพิ่งพ้นเบญจเพสได้แต่ถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม





มีต่ออีกนิด...





หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 1 [23/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-11-2019 13:17:56


อ่านต่อตรงนี้...





            วันรุ่งขึ้นปักบุญเดินทางเข้าตัวเมืองไปที่ธนาคารตั้งแต่เริ่มเปิด เมื่อแนะนำตัวเองว่าเป็นเจ้าของอีกคนของไร่ชมจันทร์แล้วจึงได้ปรึกษาปัญหานี้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ


            “มันมีทางเดียวคือต้องรีบหาเงินมาชำระนั่นแหละค่ะ เพราะกำหนดมันใกล้จะถึงเร็วๆนี้แล้ว หากจะให้แนะนำ คิดว่าคุณน่าจะแบ่งที่ส่วนหนึ่งขายแล้วนำเงินมาใช้หนี้ เพื่อเก็บไร่ส่วนใหญ่ที่เหลือไว้นะคะ ไร่ของคุณมีโฉนดแยกกันหลายใบ ไม่ลองดูส่วนที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อนำมาขายใช้หนี้ล่ะคะ”
คำแนะนำของพนักงานธนาคารทำให้ปักบุญคิดหนัก เขาไม่อยากเสียพื้นที่ไร่อันเป็นสมบัติตกทอดมาเลย ชายหนุ่มเดินใจลอยออกจากธนาคารจนกระทั่งเดินชนไหล่ของผู้อื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ


            “ขอโทษครับ ผมใจลอยไปหน่อย อ๊ะ!”


             ปักบุญเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเดินชนใครเข้า บุรุษหนุ่มร่างสูงผิวดำแดงหน้าตาคมเข้ม ไม่มีใครในจังหวัดที่ไม่รู้จักเขาคนนี้


            “ขอโทษครับคุณทินภพ”


            เจ้าของชื่อทินภพคนดังของจังหวัด เขาเป็นเจ้าของไร่เชิญตะวันรุ่นล่าสุด ปักบุญจำเป็นต้องรู้จักผู้ชายคนนี้เพราะไร่เชิญตะวันกับไร่ชมจันทร์มีอาณาเขตบางส่วนติดกัน ต่างกันตรงที่ไร่เชิญตะวันมีพื้นที่มากกว่าหลายเท่า


            “ปักบุญงั้นหรือ”


            เกลียดสายตายามถูกมองอย่างพิจารณาเช่นนี้เหลือเกิน ปักบุญเชิดหน้าเม้มปากแน่นเมื่อมองเห็นอาการเหยียดยิ้มของชายตรงหน้า แววดูแคลนส่งผ่านมาทางดวงตาจนขอบตาร้อนผ่าว


           ใช่ ทินภพเกลียดหน้าเขา อันที่จริงก็คงจะเกลียดทุกคนที่ไร่ชมจันทร์นั่นแหละ เหตุเนื่องมาจากเมื่อหลายสิบปีก่อนตั้งแต่พ่อของปักบุญยังเป็นเด็กด้วยซ้ำ อาของพ่อหรือนับญาติว่าเป็นปู่เล็กของปักบุญพาย่าของทินภพหนีไป พ่อเล่าให้ฟังว่าอันที่จริงปู่เล็กรักอยู่กับย่าของทินภพ แต่กลับถูกจับคลุมถุงชน ทั้งคู่อยู่กับความเจ็บช้ำมาเป็นสิบปีจนย่าของทินภพมีลูกชาย แต่ทั้งคู่ก็ยังคงรักกันอยู่ วันหนึ่งจึงหนีตามกันไป และเมื่อปู่ของทินภพตามไปคนรักที่ถูกพลัดพรากจึงฆ่าตัวตายตามกัน ทำให้ทั้งสองตระกูลไม่ถูกกันนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา


            “นึกไม่ถึงว่าจะเห็นนักเรียนดีเด่นที่นี่อีกครั้ง นึกว่าไปได้ดีที่เมืองหลวงแล้วจะไม่ชายตาแลบ้านเกิดเสียอีก”


            ปักบุญฉุนกึกขึ้นมาทันที น้ำเสียงยียวนของทินภพทำให้เขาขัดเคือง ผู้ชายตรงหน้าอายุเท่าปองชัย ทินภพเรียนในโรงเรียนประจำจังหวัดเช่นเดียวกับปักบุญ จำได้ว่าเขาเป็นหนุ่มฮอตในตอนนั้น มีแต่สาวๆล้อมรอบเต็มไปหมด ไม่น่าแปลกใจหรอก ก็ทินภพน่ะเรียนเก่ง เล่นกีฬาได้เกือบทุกชนิด เรียกได้ว่ามีแต่คนอยากเข้าใกล้ยกเว้นเด็กเรียนอย่างปักบุญ แถมครอบครัวยังไม่ถูกกันอีกต่างหาก


             “ผมไม่ใช่คนลืมตัวแบบนั้น คุณอย่ามาหาเรื่องจะดีกว่า ขอโทษที่เดินชนคุณก็แล้วกัน ผมไม่ได้ตั้งใจ”


            ก็รู้ว่าไม่ชอบหน้ากันแล้วจะเสวนากันทำไมปักบุญไม่เข้าใจ ชายหนุ่มสะบัดหน้าหนีก่อนจะเดินเลี่ยงกลับไปที่รถยนต์คันเก่าที่ไร่โดยมีสายตาคมมองตามหลัง จนขับรถลับสายตาไปแล้วทินภพจึงเดินไปยังโต๊ะที่ปักบุญนั่งก่อนหน้านี้


           “ขอโทษครับ ผมรู้จักกับผู้ชายที่เพิ่งลุกไปเมื่อครู่ เขามาทำไมเหรอ”


            พนักงานธนาคารยิ้มแย้มต้อนรับ ใครบ้างจะไม่รู้จักทินภพคนดังเจ้าของไร่เชิญตะวัน


           “สวัสดีค่ะคุณทินภพ นั่งก่อนสิคะ คุณปักบุญกำลังตัดสินใจจะขายที่น่ะค่ะ”


            ทินภพชะงัก เขาได้ข่าวมาเหมือนกันเรื่องปองชัยสร้างหนี้จนครอบครัวเดือดร้อนไปด้วย เขาอาจจะไม่สนใจเรื่องนี้จนกระทั่งได้พบกับปักบุญในวันนี้ เห็นหน้าตาเชิดหยิ่งนั่นแล้วก็ยิ่งหมั่นไส้ ปักบุญไม่ได้เปลี่ยนไปจากสมัยเป็นเด็กตัวกะเปี๊ยกเลย ทินภพนึกถึงอดีตที่เขาเรียนมัธยมปลายในขณะที่ปักบุญอยู่มัธยมต้นโรงเรียนเดียวกัน ทุกครั้งที่เดินสวนปักบุญมักจะหลบสายตาราวกับรังเกียจ ทั้งที่จริงควรเป็นเขาที่รังเกียจคนของไร่ชมจันทร์มากกว่า


            อยากรู้นักว่าหากถึงเวลาพ่ายแพ้ต้องยอมจำนนปักบุญจะยังเชิดหน้ายโสได้เช่นนี้หรือไม่


            ดวงตาคมกร้าวริมฝีปากเหยียดยิ้ม ทินภพหันไปกล่าวกับสาวพนักงานด้วยน้ำเสียงชวนเคลิบเคลิ้ม


            “โอ น่าสนใจมากครับ ถ้าหากคุณปักบุญตัดสินใจขายที่จริงๆ ช่วยติดต่อผมด้วยนะครับ ผมอยากจะช่วยเหลือเขา ไหนๆก็คนคุ้นเคยกัน”


            “ได้สิคะคุณทินภพ ดิฉันจะรีบติดต่อคุณค่ะ”



                                                   TBC


                 เรื่องใหม่สไตล์ไทยพิศาลจ้า หวังว่าจะหลงรักปักบุญกันนะคะ



                               :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:



หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 1 [23/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 23-11-2019 16:25:03
 :pig2:
 :katai2-1:
รออ่านต่อเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 1 [23/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 23-11-2019 20:30:23
มารอเลยจ้าาา ยินดีที่มาขึ้นเรื่องใหม่ให้ได้อ่านอีกครั้งนะ
 :L2: :กอด1: :L2: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 1 [23/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 24-11-2019 10:11:24
รอติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 1 [23/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 24-11-2019 17:25:47
 :pig4: :pig4: :pig4:

ชื่อเรื่อง บวกสไตล์ไทยพิศาล

นี่มันแนวตบจูบ ๆ สินะ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 1 [23/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 25-11-2019 01:52:07
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 1 [23/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 25-11-2019 12:45:54
คุณซาตานนามว่า ทินภพ
ปักบุญสู้ๆ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 2 [28/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 28-11-2019 11:30:54



                                                       หักเหลี่ยมรักซาตาน

                                                               บทที่ 2



            “พ่อจ๋ากลับมาแล้ว”


           ร่างป้อมวัยไม่เกินหกขวบถลาเข้ามาหาจนผู้เป็นบิดาต้องอุ้มไว้ก่อนจะหอมแก้มยุ้ยของเด็กหญิงหน้าตาน่าเอ็นดูดังฟอด


           “แมงปอ น้ำหนักเท่าไหร่แล้วลูก ทำไมแขนพ่อเกือบจะหักแล้วเนี่ย อีกหน่อยจะอุ้มไม่ไหวแล้วนะคะ”


            ทินภพหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าง้ำของเด็กหญิงแมงปอลูกสาวของเขา   


            “พ่อจ๋าอุ้มแมงปอไม่ไหว แต่ทำไมอุ้มสาวๆที่มาหาพ่อเข้าห้องไหวล่ะ โธ่ ไม่แน่จริงนี่คะ”


            “แมงปอ ใครสอนให้พูดแบบนี้”


            ทินภพทั้งเคืองทั้งขำ เขาวางลูกสาวลงบนพื้นก่อนจูงมือไปนั่งที่เก้าอี้โซฟาในห้องนั่งเล่น เด็กหญิงแมงปอยิ้มแก้มยุ้ยขณะตอบคำถามบิดา


           “คุณปู่ไงคะพ่อ ปู่บอกว่าคุณพ่ออุ้มสาวๆเข้าห้องหน้าตาไม่ซ้ำกันเลย”


            ผู้เป็นบิดาส่ายหน้าระอา พ่อของเขามักจะแซวเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ


            “ปู่ของแมงปอสอนอะไรหลานก็ไม่รู้”


            “ก็จริงไหมล่ะ”


            เสียงบุรุษวัยชราดังขัดคอก่อนจะปรากฏกายขึ้นและเดินเข้ามาร่วมวงสนทนา แมงปอโผเข้าหาพลางกอดคุณปู่ไว้แน่น บิดาของทินภพชื่อทูลอายุราวหกสิบปีแล้วแต่ยังแข็งแรงกระฉับกระเฉง


            “พ่อก็พูดเกินไป ผมไปอุ้มใครที่ไหนล่ะ ผู้หญิงพวกนั้นเดินตามผมเข้าห้องเองต่างหาก”


            ทูลหัวเราะอย่างรู้ทัน บุตรชายของเขาเจ้าชู้เนื้อหอมตั้งแต่วัยรุ่น แต่เคยจริงจังกับผู้หญิงแค่คนเดียวคือมารดาของแมงปอ ทินภพกับมารดาของแมงปอแต่งงานกันตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัยใหม่ๆ ทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่ทูลส่งทินภพไปเรียนด้านการเกษตรที่ต่างประเทศ และทินภพไปพบรักก่อนจะพากันกลับมาแต่งงานให้กำเนิดบุตรสาว แต่เมื่ออยู่กันไปไม่กี่ปีทินภพกับภรรยาก็รู้ว่าทัศนคติไม่ตรงกันจึงเลิกรากันด้วยดี


            ทินภพกับอดีตภรรยาไม่ได้เกลียดชังกัน ทั้งคู่ตกลงกันได้ว่าให้ทินภพเลี้ยงดูบุตรสาวเพราะมีเวลามากกว่า แม่ของแมงปอเป็นสาวรักการทำงานจึงไม่ค่อยมีเวลานัก แต่ก็มาหาแมงปอบ่อยๆ ทั้งคู่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแมงปอจึงไม่ใช่เด็กมีปัญหา
เมื่อเลิกกับภรรยาแล้วทินภพจึงกลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมอีกครั้ง ใครๆก็อยากมาเป็นคุณนายที่ไร่เชิญตะวันกันทั้งนั้น สาวๆทั้งหลายต่างก็ทอดสะพานให้ทินภพแต่เขาก็ยังไม่จริงจังกับใครจนบิดาเริ่มเป็นห่วง


           “แกก็มัวแต่สนุกกับสาวๆ เมื่อไหร่จะหาคนถูกใจสักคนวะทิน แมงปอจะได้มีเพื่อนด้วย”


            ทินภพมองเด็กน้อยที่นั่งตักปู่สาละวนเปิดการ์ตูนในโทรศัพท์มือถือดูแก้เหงา ดวงตาคมละมุนลงพลางยิ้มบางๆ


            “ผมยังไม่เจอคนที่ใช่นี่พ่อ ถ้าเจอเมื่อไหร่ผมก็หยุดเองนั่นแหละ อ้อ พ่อ วันนี้ผมเจอลูกชายไร่โน้นด้วย ปักบุญไงพ่อ ลูกคนเล็กน้องของปองชัย พ่อจำได้ไหม”


            นายทูลทบทวนความจำ คำว่าไร่โน้นของทินภพหมายถึงไร่ชมจันทร์อย่างไม่ต้องสงสัย


            “ปักบุญ ที่เรียนเก่งๆสอบอะไรก็ติด จนได้ทุนไปเรียนที่กรุงเทพแล้วเป็นอาจารย์ใช่ไหม”


           “นั่นแหละพ่อ ปักบุญคนนั้นแหละ ผมพบเขาที่หน้าธนาคาร เห็นว่ากำลังจะขายที่หาเงินใช้หนี้ที่ปองชัยมันก่อไว้”


            แม้นายทูลจะไม่ค่อยได้ออกไปจากไร่นัก แต่เรื่องต่างๆเขาก็ยังมีหูมีตาอยู่ ข่าวปองชัยหนีหายไปและทิ้งหนี้ไว้ให้ครอบครัวเขาก็รับรู้


            “น่าสงสารนะ เป็นเด็กดีแท้ๆ ทำงานเป็นครูบาอาจารย์แต่ต้องมาปวดหัวเพราะเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ก่อ”


            ทินภพเลิกคิ้ว เขามองบิดาอย่างไม่เห็นด้วย


            “น่าสงสาร? พ่อสงสัยคนครอบครัวนั้นได้ยังไง เขาทำให้พวกเราเจ็บช้ำเสียใจแค่ไหน พ่อยังสงสารลงอีกเหรอ”


            ทูลถอนหายใจ บุตรชายของเขาเป็นคนรักศักดิ์ศรี เรื่องเลวร้ายในอดีตยังคงฝังใจแม้จะผ่านมาหลายสิบปีแล้วก็ตาม


             “เรื่องมันผ่านไปนานแล้วตั้งแต่พ่อยังเด็ก ไม่มีใครยินดีกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่มันก็เป็นความจริงที่ต้องยอมรับ พ่อสูญเสียย่าของแก ทางโน้นเขาก็เสียลูกชายของเขา แกคิดว่าเขาไม่เสียใจอย่างนั้นหรือ เมื่อก่อนพ่อก็เคยคิดแค้นแบบแกนะทิน แต่พอแก่ตัวลงก็คิดอะไรได้เยอะ ถ้าเราไม่ปล่อยวางเสียบ้างก็ต้องอยู่กับความคับแค้นไปจนวันตาย อีกอย่าง ปักบุญเขาไม่ใช่คนก่อเรื่องแกจะไปโกรธเกลียดเขามันก็ไม่ถูก”


            ทินภพไม่ได้เถียงแต่เขาขอไม่เชื่อบิดาเรื่องนี้ ทูลจะให้อภัยเขาก็ไม่ได้ขัด แต่ทินภพไม่ต้องการให้อภัย ในเมื่อครอบครัวของเขาเคยอับอายขายหน้าเพราะคนของไร่ชมจันทร์ หากมีโอกาสที่จะทำให้อีกฝ่ายขายหน้าบ้างเขาจะไม่ละเว้น


            “ปักบุญต้องการแบ่งขายที่ดินเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ และไม่ให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของไร่ถูกยึด ผมจะซื้อที่จากเขา”


            หยุดพูดเรื่องความแค้นเพื่อจะดึงเข้าสู่จุดประสงค์ ทูลมองบุตรชายอย่างรู้ทัน ชายชรากล่าวเสียงเนิบราวกับกำลังเตือนสติทินภพ


            “มีแผนอะไรหรือเปล่า เรื่องซื้อที่พ่อไม่ว่า แต่ขอให้แกซื้อเพราะต้องการพื้นที่มาขยายไร่ ไม่ใช่ซื้อเพราะต้องการแกล้งเขาในเวลาที่เขาเดือดร้อน”


           “พ่อจะแกล้งใครหรือคะปู่” แมงปอเอ่ยถามอย่างไร้เดียงสา “แมงปอไม่ชอบเลยค่ะ เหมือนเพื่อนแมงปอที่ชอบแกล้งเปิดกระโปรงแมงปอ”


           ทูลยิ้มให้หลานสาวก่อนจะกล่าวตอบพร้อมกับส่งสารไปถึงบุตรชายด้วย


            “พ่อเขาไม่แกล้งใครหรอกแมงปอ ปู่สอนให้พ่อเป็นคนดีมาตลอดตั้งแต่ตัวเท่าแมงปอนี่แหละ ถ้าพ่อเขาไปแกล้งใครปู่จะตีให้ก้นลายเลย”


            เด็กหญิงตัวป้อมปีนลงจากตักผู้เป็นปู่ไปหาบิดาก่อนจะเอ่ยคำจนบิดาตอบคำถามไม่ถูก


           “พ่อจะไม่แกล้งใครใช่ไหมคะ เดี๋ยวถูกคุณปู่ตีนะคะ ก้นลายเลยนะพ่อ”


            ทินภพไม่ตอบ เขาอุ้มแมงปอขึ้นก่อนจะเดินหนีบิดาไปที่อื่น เขาเชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดามาโดยตลอด แต่บางเรื่องทินภพมีความคิดเป็นของตนเองเกินกว่าจะเชื่อที่ผู้ให้กำเนิดห้ามไว้


            อย่างน้อยก็ขอให้คนจากไร่ชมจันทร์ได้รับความอับอายบ้าง ก็แค่นั้นเองที่ทินภพต้องการ








             คำแนะนำจากธนาคารที่ให้แบ่งที่ขายนำเงินมาชำระหนี้สินที่ปักบุญนำมาบอกทำให้พรรณีน้ำตาไหล หล่อนคิดไปถึงสามีที่เสียชีวิตไปแล้ว รู้สึกผิดที่รักษามรดกที่สามีทิ้งไว้ให้ไม่ได้


           “โธ่เอ๋ย ทำไมต้องเป็นแบบนี้นะ ไอ้ปองนะไอ้ปอง ไอ้ลูกเนรคุณ”


            ปักบุญเข้าใจว่ามารดาเสียใจแค่ไหน แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาให้เสียใจก่อนที่ที่ดินจะถูกยึด เขาเอื้อมมือไปกุมมือเหี่ยวย่นของมารดาไว้


             “แม่ อย่าเพิ่งร้องไห้ เราต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ที่ธนาคารเขาแนะนำมาก็ถูกแล้ว เพื่อไม่ให้เสียที่ทั้งหมดจนเราไม่มีที่อยู่ ก็คงต้องแบ่งขายไปบ้าง ส่วนคนงานในไร่ ถ้าใครอยากไปทำงานที่อื่นก็ให้เขาไป เหลือไว้แต่คนที่ยังอยากอยู่กับเรา ใครไปเราก็ต้องมีสินน้ำใจให้เขาติดตัวไปบ้างที่อยู่กับเรามานาน”


            “ปักคิดจะทำอะไรก็ทำเถอะลูก แม่คิดอะไรไม่ออกแล้ว ตอนนี้แม่ก็เหลือแต่ปักนี่แหละ อย่าทำให้แม่ผิดหวังเหมือนไอ้ปองนะลูก”


              พรรณีเป็นช้างเท้าหลังมาโดยตลอด ตอนที่สามีเสียชีวิตหล่อนก็มีบุตรชายคนโตเป็นที่พึ่ง แต่บัดนี้เหลือเพียงปักบุญ บุตรชายคนเล็กที่พ่อแม่ภาคภูมิใจมาตั้งแต่เด็ก ปักบุญสร้างชื่อเสียงอันดีงามให้แก่วงศ์ตระกูลด้วยการศึกษาอันดับหนึ่งในรุ่นเดียวกันทั้งจังหวัด มีหรือที่พ่อแม่จะไม่มีหน้ามีตากับเสียงชื่นชม


             ปักบุญได้แต่พยักหน้า มาถึงตอนนี้เขาจำเป็นต้องคิดถึงความจำเป็นในชีวิต หากแก้ปัญหาเรื่องหนี้สินที่พี่ชายก่อไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นเขาควรทำเช่นไรต่อเมื่อไม่มีใครอยู่ดูแลไร่ ดีที่เพิ่งส่งผลงานวิทยานิพนธ์ที่แก้ไขครั้งสุดท้ายไปแล้ว คะแนนของนักศึกษาก็ส่งหมดแล้ว ปักบุญจึงตัดสินใจว่าเขาจะอยู่ช่วยมารดาที่ไร่ทั้งที่แทบไม่มีความรู้ด้านเกษตรกรรมเลยเพราะปักบุญเรียนทางสายที่ไม่เกี่ยวกับด้านเกษตร


           ช่วงเวลานั้นที่ปักบุญต้องติดต่อกับธนาคารเพื่อมอบฉันทะให้ขายที่ พนักงานบอกว่ามีคนสนใจพื้นที่ด้านบนของไร่ชมจันทร์ เมื่อมองจากโฉนดแล้วมันเป็นพื้นที่ติ่งเล็กๆที่เกินไปจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของไร่ และได้ราคาสูงพอจะหักลบกลบหนี้ได้ ปักบุญจึงตัดสินใจไม่ยากนัก แต่ในวันเซ็นขายให้ธนาคารปักบุญเองก็อดใจหายไม่ได้


           เขากลับไปยื่นเรื่องลาออกจากการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยและจัดการขนข้าวของจากกรุงเทพกลับมาที่บ้านเป็นการถาวร หรือจนกว่าจะหาวิธีที่ดีกว่านี้ กว่าจะเสร็จธุระก็เป็นสัปดาห์ และเมื่อกลับถึงบ้านปักบุญจึงพบปัญหาใหม่ที่ทำให้ต้องกุมขมับอีกครั้ง


           “น้ำในลำธารแห้งหมดเลย”


            คนงานที่ยังทำงานอยู่กับเขาบอกปัญหาใหญ่


             “ปกติมันมีน้ำไหลตลอดทั้งปี เราปันน้ำลงมาที่บ่อเก็บน้ำ แต่ตอนนี้ไม่มีน้ำมาเลย”


            “อ้าว แล้วปกติน้ำในลำธารมันมาจากไหนล่ะ”


             ปักบุญปวดหัว สมัยเด็กเขาอยู่แต่ในบ้าน ไม่เคยตามบิดามารดาไปทำงานในไร่ และกลายมาเป็นปัญหาตอนนี้เพราะเขาแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับไร่ของเขาเลย


              “มันเป็นลำธารที่ไหลมาจากบนเขา” พรรณีบอกลูกชาย “มันมีฝายน้ำล้นอยู่ตรงเชิงเขา เอ๊ะ เดี๋ยวนะ หรือว่า..แย่แล้ว ตรงนั้นมันเป็นพื้นที่ตรงที่ปักขายที่ไปนี่นา”


             ปักบุญใจหายวาบ ไม่รู้มาก่อนเรื่องฝายน้ำล้นในเขตไร่ ชายหนุ่มหน้าซีดรีบขับรถกระบะไปกับคนงานยังฝายน้ำดังกล่าว มองเห็นแต่ไกลว่ามีคนงานหลายคนกำลังทำการปิดฝาย เมื่อจอดรถได้ปักบุญก็แทบกระโดดลงไป


            “หยุด ทำอะไรกัน ปิดฝายทำไม รู้หรือเปล่าว่าไร่ของผมไม่มีน้ำใช้”


              บรรดาคนงานชะงักมือพลางทำหน้าเลิ่กลั่ก เสียงโวยวายของปักบุญเรียกความสนใจจากผู้ที่ยืนคุมงานอยู่ใต้ต้นไม้ไม่ไกลนัก ร่างสูงเดินออกมาเผชิญหน้า


             “หยุดทำไม ทำงานกันไปสิ แล้วนี่มาโวยวายอะไร”


             ปักบุญเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงแข็งแสนเย่อหยิ่งเป็นใคร เขาเม้มปากแน่น






มีต่ออีกนิด..




หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 2 [28/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 28-11-2019 11:40:02


อ่านต่อตรงนี้...




               “คุณทินภพ คุณมาทำอะไรที่นี่ พวกนี้คนของคุณใช่ไหม เขากำลังปิดฝายน้ำใช่หรือเปล่า บอกให้พวกเขาหยุดเดี๋ยวนี้”


            ทินภพจ้องมองใบหน้าที่กำลังชี้นิ้วสั่งเขาปาวๆ หน้าตาโกรธขึ้งของปักบุญทำให้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาเดินนำไปให้ห่างจากกลุ่มคนงานเพื่อจะพูดคุยกับปักบุญ ปักบุญเดินตามหลังด้วยความหัวเสียอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน


            “ทำไมต้องหยุด ฉันต้องถามนายต่างหากว่ามาทำอะไรที่นี่”


             “ก็ตรงนี้มันไร่ของผม”


             ปักบุญโต้กลับอย่างลืมตัว เมื่อไกลจากคนอื่นแล้วเขาไม่จำเป็นต้องรักษากิริยา ท่าทางยียวนของทินภพทำให้เขาหัวร้อน ยิ่งโมโหมากขึ้นไปอีกเมื่อทินภพเงยหน้าหัวเราะเบาๆพลางมองเขาด้วยความเวทนา


           “แน่ใจเหรอ ไม่ใช่ว่านายเพิ่งเซ็นขายไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหรอกหรือ”


             ปักบุญชะงักงัน คำพูดของทินภพดึงสติของเขากลับคืนและต้องนิ่งคิด เมื่อคิดถึงพื้นที่ของโฉนดที่ดินทั้งหมดแล้วปักบุญถึงกับเบิกตากว้าง


             “ไม่จริง ไม่นะ มันเป็นพื้นที่ตรงนี้งั้นหรือ”


            พึมพำอยู่ในลำคอเมื่อรู้ว่าตนเองทำอะไรลงไป เขาขายพื้นที่สำคัญของไร่ไปแล้ว ทินภพส่ายหน้าเบาๆพลางดึงกระดาษแผ่นหนึ่งที่พับเก็บอยู่ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตสีเข้มออกมาคลี่ออกแล้วกางให้ปักบุญยิ่งหน้าซีด กระดาษแผ่นนั้นคือสำเนาถ่ายเอกสารการซื้อขายที่นั่นเอง


            “อยากรู้ไหมว่าใครที่ช่วยสงเคราะห์ซื้อที่เพื่อให้นายเอาเงินไปใช้หนี้ ก็ฉันนี่ไงล่ะ เงินจำนวนไม่น้อยเพื่อให้นายกับแม่และคนงานที่เหลือยังมีที่ซุกหัวนอน นายควรขอบใจฉันนะ”


            “แกล้งกันใช่ไหม คุณแกล้งผม”


            ปักบุญยืนตัวสั่น เขากำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์ ทั้งโกรธทั้งเกลียดชายตรงหน้าที่ยืนยิ้มด้วยความเป็นต่อ


           “คุณแกล้งซื้อที่ของผม แกล้งปิดฝายน้ำเพื่อให้ไร่ของผมไม่มีน้ำใช้ คนเลว”


            ทินภพยิ้มรับคำบริภาษ เห็นท่าทางโกรธจนตัวสั่นของปักบุญแล้วแสนจะสะใจ


           “ฉันจะปิดฝายแล้วผิดตรงไหน ตอนนี้ฉันเป็นเจ้าของจะทำยังไงกับมันก็ได้ จำไว้”


           ชายหนุ่มจากไร่เชิญตะวันขยำกระดาษปาใส่หน้าปักบุญ เขายืนกัดฟันเมื่อคิดถึงความจริงว่าตนเองกำลังเป็นรองอีกฝ่าย


           “เปิดฝายส่งน้ำไปให้ไร่ของผม คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับเส้นทางน้ำสาธารณะ”


            “คิดจะมาขอความช่วยเหลือก็พูดจาให้มันหวานๆหน่อยสิ ไม่ใช่กระโชกโฮกฮากไม่มีมารยาทแบบนี้”


           ปักบุญกัดฟันกรอด เขามองทินภพที่ถือไพ่เหนือกว่าด้วยสายตาเกลียดชัง


           “คุณอยากได้อะไรตอบแทนก็บอกมา ผมจะหามาให้”


            ร่างสูงมองมายังเขาราวประเมินราคา ปักบุญอับอายจนหน้าร้อนเห่อ ทินภพเดินตรงเข้ามาใช้ปลายนิ้วเชยคางเขาขึ้น แล้วพูดในสิ่งที่ปักบุญคาดไม่ถึง


            “นายยังมีสิ่งมีค่าอะไรมาตอบแทนฉันอีกล่ะ เหลืออะไรบ้างนอกจากร่างกายของนาย เอางี้สิ นอนกับฉันแลกกับน้ำไปใช้ในไร่ คืนเดียวเท่านั้นแหละ”


           เพียะ!


           ปักบุญตบหน้าเขา ชายที่กล้าดูหมิ่นศักดิ์ศรี


           “เลว นายมันเลวที่สุด อ๊ะ!”


            ก่อนที่ปักบุญจะด่าทอมากกว่านี้ ทินภพกลับฉุดแขนดึงเขาเข้าไป แล้วบดจูบที่ปากของเขาอย่างไม่ปรานีสักนิด





                                                               TBC



                                                    ตบแรงๆ จะได้จูบถนัดๆ



                                                :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:






หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 2 [28/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 28-11-2019 14:43:31
 :pig4:
 :angry2:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 2 [28/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 28-11-2019 15:28:20
อุ๊ย!!!มีแววลูกจะดก
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 2 [28/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 28-11-2019 15:31:57
ดีๆ หนุกหนาน ..
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 2 [28/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 28-11-2019 16:40:26
หูยย... คนเขียนมาเล่าย้อยหลังเลยนะ ว่าทินภพคนมาดแมนแฮนซั่ม หญิงติดตรึม ไปชอบผู้ชายตอนไหน
 :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 2 [28/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 28-11-2019 23:42:53
 :katai2-1:



ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 2 [28/11/62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 29-11-2019 08:52:35
 :pig4: :pig4: :pig4:

น่ามสารนู๋ปัก
หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 3 [05/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 05-12-2019 00:02:06



                                                            หักเหลี่ยมรักซาตาน

                                                                   บทที่ 3



                ไม่รู้ว่าอะไรดลใจเหมือนกันทินภพถึงกล้าทำในสิ่งที่กำลังทำอยู่ อะไรที่ทำให้ทินภพถึงกับดึงปักบุญเข้าหาตัวและใช้มือเหนี่ยวท้ายทอยอีกฝ่ายไว้ก่อนจะปิดปากปักบุญด้วยปากของเขา อาจเป็นเพราะสีหน้าแสดงถึงความไม่พอใจ โกรธขึ้ง ถือตัวของปักบุญ ยิ่งเห็นก็ยิ่งหมั่นไส้และอยากจะกลั่นแกล้งให้คนจากไร่ชมจันทร์ได้บทเรียนเสียบ้าง


                ปักบุญดิ้นขลุกขลักพยายามผลักไส แต่มีหรือที่คนเอาแต่เรียนจะหาญสู้คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำจนมัดกล้ามขึ้นเป็นลอนได้ ยิ่งดิ้นก็ดูเหมือนจะยิ่งถูกดึงเข้าไปแนบชิด เอวของเขาถูกทินภพกอดรั้งเอาไว้จนกลายเป็นร่างกายแนบชิด ริมฝีปากที่ถูกบดขยี้อย่างไปปรานีปราศรัยร้อนเห่อไปหมด ปักบุญกลั้นหายใจจนอากาศแทบหมดจึงเผลอหายใจเฮือก ไม่นึกว่านั่นเท่ากับเปิดโอกาสให้ลิ้นร้อนของทินภพหลุดรอดเข้าสู่โพรงปากของเขาด้วยความชำนาญเยี่ยงเสือ


                 “อึก”


                 ปักบุญเบิกตากว้างเมื่อทินภพกวาดลิ้นของเขาไปครอบครองได้อย่างง่ายดาย กำปั้นของเขาเพียรทุบลงไปที่กลางแผ่นหลังกว้างและต้นแขนเพื่อตอบโต้ให้ทินภพปล่อยเขา แต่ปักบุญคิดผิดเพราะทินภพแข็งแกร่งราวกับยักษ์ และยิ่งปล่อยให้เวลาผ่านไปรสจูบรุนแรงกลับแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนหนักหน่วงจนปักบุญหมดแรงต่อสู้


                 “ฮึก ไอ้บ้า ไอ้สารเลว”


                  กว่าจะยอมคืนอิสระให้ใบหน้าของปักบุญก็แดงก่ำไปหมด ทินภพผลักเขาออกห่างราวกับรังเกียจทั้งที่เพิ่งดึงเขาไปจูบ ดวงตาคมคล้ายยิ้มเยาะให้ปักบุญเจ็บใจเล่น ชายหนุ่มยกท่อนแขนมาเช็ดกลีบปากตนเองแรงๆ เพื่อลบรอยจารึกแต่ก็แทบไม่ได้ผล


                “พูดดีๆหน่อยปักบุญ ฉันเป็นผู้มีพระคุณของนายนะ ไร่ของนายไม่ถูกยึดก็เพราะฉันช่วย”


                 ดวงตาของปักบุญร้อนผ่าวด้วยความอดสู ริมฝีปากสั่นระริกเพราะนัยน์ตาดูแคลน เขาเกลียดทินภพ เกลียดที่คนตรงหน้าใช้ความเหนือกว่ามาเป็นเครื่องมือหยามเกียรติ มือเรียวที่แทบไม่เคยทำงานหนักจึงเงื้อขึ้นสูงหวังจะทำร้ายให้ทินภพรู้สึกถึงความเจ็บปวดบ้าง


                 “ถ้าตบอีกก็จะจูบอีก”


                  ทินภพเอ่ยท้าทาย แปลกที่เขากลับชอบรสชาติของริมฝีปากที่เพิ่งล่วงเกินไป ใครจะนึกว่าจูบกับผู้ชายด้วยกันจะทำให้รู้สึกดีเช่นนี้ หรือเป็นเพราะผู้ชายที่เพิ่งจูบไปคือปักบุญ ชายที่เขาเคยเขม่นตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนถึงวินาทีนี้ และดูเหมือนโทสะของปักบุญจะยั่วขึ้น เพราะแค่พูดจบไม่กี่วินาทีฝ่ามือของปักบุญก็ลอยมากระทบซีกหน้าดังเพียะเป็นครั้งที่สอง


                แรงฝ่ามือนั้นไม่แรงพอจะทำให้ใบหน้าของทินภพหันเหไปด้วยซ้ำ แต่มันแรงพอที่จะกระตุ้นให้ภูเขาไฟปะทุขึ้นมาจนใกล้ระเบิด ทินภพออกแรงไม่มากแต่ก็สามารถผลักร่างที่บางกว่าให้เสียหลักหงายหลังลงไปนอนแผ่หราอยู่บนพื้น จากนั้นทินภพจึงโถมกายลงไปทาบทับ เขายึดขัอมือทั้งสองข้างของปักบุญขึ้นเหนือหัวตรึงไว้กับพื้นดิน ใบหน้าคมเข้มกดลงมาอย่างรวดเร็วเกินกว่าปักบุญจะหนีทัน


                  ปากปิดด้วยปาก บดขยี้ราวกับกลีบดอกไม้บอบช้ำ ปักบุญเจ็บจนน้ำตาซึมทั้งกายและใจที่ไร้ทางสู้ ร่างหนาใช้น้ำหนักทาบทับเบื้องบนจนไม่อาจดิ้นรน จำต้องปล่อยให้ทินภพล่วงเกินจนเขายอมผละปากออกเอง


                   ทินภพมองกรอบหน้านั้น ใบหน้าที่เขาคุ้นเคยตั้งแต่เด็กจนโต ยอมรับว่าดวงตาของปักบุญเรียวสวย ยิ่งมันเอ่อท้นด้วยหยาดน้ำยามโกรธขึ้งก็ยิ่งน่ามอง ทินภพเหยียดยิ้มพลางดึงนามบัตรแผ่นหนึ่งที่พกไว้ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตออกมา เขาเสียบมันลงไปที่กระเป๋าเสื้อของปักบุญ


                  “กลับไปก็ลองไตร่ตรอง ข้อเสนอที่ไม่ได้มีอะไรเสียหายนอกจากตัวนาย แลกกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่หวังพึ่งนาย โทรมาหาฉันได้ทุกเมื่อที่นายต้องการ”


                   พูดจบร่างสูงก็ลุกขึ้นยืน ปักบุญรีบตะกายขึ้นยืนตามก่อนจะกัดฟันจ้ำอ้าวเดินกลับไปที่รถกระบะของเขา คนงานที่พามารีบขับรถพากลับไปที่ไร่ ระหว่างนั้นปักบุญได้แต่นิ่งเงียบตลอดทางทินภพผู้ชายคนนี้แสนอันตราย ไม่ควรที่ใครก็ตามจะไปล้อเล่นหรือท้าทาย ปักบุญควรอยู่ห่างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


                   เขาได้แต่บอกตนเองเช่นนั้นแต่ความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น อีกไม่ถึงสัปดาห์น้ำในบ่อกักเก็บน้ำก็เริ่มแห้งขอดเพราะไม่มีน้ำส่งมาจากลำธาร ต้นไม้ในไร่เหี่ยวเฉารวมถึงน้ำบริโภคของทุกคนในไร่ ปักบุญสบตาตนเองที่สะท้อนจากกระจกในห้องส่วนตัว เขาเกลียดที่รู้ว่าจำต้องยอมพ่ายแพ้ให้แก่เจ้าของไร่เชิญตะวัน มือเรียวหยิบนามบัตรแผ่นเล็กขึ้นมา ปักบุญกดโทรศัพท์ตามหมายเลขที่ปรากฏบนแผ่นกระดาษ ไม่นานปลายทางก็รับสาย ปักบุญกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ


                   “ตกลงคุณชนะ จะเอายังไงก็ว่ามา”


                     นิ่งฟังอีกฝั่งพักหนึ่งปักบุญจึงกดวางสาย เขาหลับตาลงด้วยหัวใจที่แสนปวดร้าว





มีต่ออีกนิด...



หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 3 [05/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 05-12-2019 00:07:32


อ่านต่อตรงนี้...



                 วันรุ่งขึ้นปักบุญขับรถคันเก่าออกจากบ้านตั้งแต่ยามสายของวัน สีหน้าของเขาไม่ได้ดีขึ้นสักนิดแต่ก็ต้องฝืนยิ้มให้มารดา


                “ปัก จะไปไหนลูก”


                “ไปธุระจ้ะแม่ จะไปลองถามคนรู้จักว่าพอจะช่วยเหลืออะไรเราได้ไหม”


                 เกิดมาไม่เคยโกหกก็ต้องทำในตอนนี้ ปักบุญไม่อยากให้ใครรู้เรื่องข้อตกลงระหว่างเขากับทินภพ ชายหนุ่มขับรถเข้ามาในตัวจังหวัด ไปยังหมู่บ้านจัดสรรสร้างใหม่แห่งหนึ่งที่ยังมีผู้คนเข้าไปอาศัยอยู่บางตา เขาเลี้ยวรถเข้าไปในเขตรั้วของบ้านหลังหนึ่งที่มีรถอีกคันจอดรออยู่แล้ว ปักบุญเดินตัวสั่นเข้าไปในตัวบ้านชั้นเดียวแต่กว้างขวาง


                 ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มีรสนิยม แต่ปักบุญไม่มีเวลาชื่นชมเมื่อเห็นเจ้าของบ้านนั่งเพียงลำพังกับแท็ปเล็ตเครื่องหนึ่งอยู่บนโซฟารับแขก เขายืนนิ่งกำหมัดแน่นขณะสบตากับซาตานในร่างมนุษย์


                 “คุณต้องทำตามสัญญา ต้องปล่อยน้ำมาให้ไร่ของผม”


                 จมูกของปักบุญแสบขัด หัวตาร้อนผ่าวเมื่อทินภพมองมาราวกับกำลังประเมินคุณค่าของสินค้า ร่างสูงลุกขึ้นยืนอวดความผยองจนใกล้เพียงเอื้อมมือ


                “ฉันไม่เคยผิดคำพูดอยู่แล้ว”


                มือใหญ่เอื้อมแตะที่กระดุมเสื้อเม็ดแรก ทินภพปลดมันออกและตามมาด้วยเม็ดถัดไปจนกระทั่งหมด เขาถอดเสื้อออกจากร่างกายที่ยืนนิ่งเป็นหุ่นปั้น หากมีลมหายใจอุ่นร้อนเมื่อเขาเข้าไปใกล้เพื่อรูดซิปกางเกงลงและปล่อยให้มันลงไปกองกับพื้น ร่างกายขาวอวดสู่สายตาและมีเพียงกางเกงชั้นในเท่านั้นที่ยังเกะกะขวางทาง


                “ถอดกางเกงใน”


                 ทินภพสั่งเสียงเข้ม มองเห็นร่างขาวราวกับไม่เคยออกแดดตัวสั่นสะท้านหากแต่ฝืนให้นิ่ง ดวงตามองมาทางเขาด้วยความเจ็บแค้น ชิงชัง


                  เอาสิ โกรธเข้าไป เกลียดเข้าไป จะได้รู้สึกอับอายเมื่อศักดิ์ศรีถูกริดรอน


                 “เดี๋ยวนี้”


                  ปักบุญกลืนก้อนสะอื้น คิดถึงแม่ คิดถึงไร่และคนงานที่ฝากชีวิตไว้ มือเรียวดึงขอบกางเกงในลงจนถึงข้อเท้า ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอับอายที่ต้องยืนแก้ผ้าให้ทินภพมองไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าไปมา เขาได้แต่หลับตาลงหนีความรู้สึกเหล่านั้น จึงไม่ทันเห็นนัยน์ตาที่มองด้วยความพึงพอใจ


                   ปักบุญสูงราวร้อยเจ็ดสิบเซ็นติเมตร รูปร่างผอมเพรียว สีผิวขาวเนียนแทบไม่มีจุดด่างดำ ยอดอกสีเนื้ออ่อนอวดสายตาอยู่ตรงแผ่นอก ทินภพไล่สายตาลงมาจนถึงจุดกึ่งกลางขนาดพอดีตัวสีคล้ายกับยอดอกของเจ้าของ น่าแปลกที่ร่างกายของผู้ชายด้วยกันกำลังดึงดูดสายตาจนไม่อยากละไปไหน ทั้งที่เขาก็มีเพื่อนผู้ชายมากมายแต่ทินภพไม่เคยรู้สึกเช่นนี้ ปักบุญกำลังล่อลวงให้เขาเกิดความต้องการ


                  มือร้อนแตะต้องไปที่ยอดอกล่อสายตาจนเจ้าของมันสะดุ้งเฮือก ก่อนที่จะลูบไล้ไปทั่วแผ่นอกเบื้องหน้า ทินภพเลื่อนมือต่ำลงมากอบกุมจุดอ่อนไหวแล้วบีบเค้นคลึง เขาเริ่มมองเห็นปฏิกิริยาจากร่างที่ฝืนยืนนิ่ง ไหล่ของปักบุญไหวสะท้านยามเขาบีบมือนวดเฟ้น ริมฝีปากกัดจนห้อเลือด ทินภพแค่ผลักเบาๆปักบุญก็เสียหลักหงายหลังลงไปบนโซฟาตัวยาว ทินภพตามติดไปใช้เข่ายันต้นขาของปักบุญไม่ให้ลุกขึ้นมา


                มือสากร้อนยังตามมาลูบไล้สัมผัส ปลายนิ้วเคล้าคลึงไปกับปลายมนสีชมพูฉ่ำ อุ้งมือช้อนใต้พวงแฝดขยับกดบีบ ปักบุญเริ่มหายใจถี่เมื่อถูกกระตุ้นจากทินภพ


                “ฮึก ไม่”


                 ปักบุญโกรธที่ร่างกายของเขาตอบรับมือสาก ความอ่อนนุ่มเริ่มกลายเป็นแข็งขืน ลมหายใจของเขาร้อนจนรู้สึกได้ มือเรียวจิกไปกับแผ่นหนังของเก้าอี้โซฟาเมื่อทินภพรูดรั้งท่อนเนื้อของเขา พยายามกลั้นเสียงไม่ให้มันหลุดออกมาจากลำคอ แต่ก็ยากเต็มที


                 “อื้อ ฮัก ไม่นะ”


                 เพราะความด้อยประสบการณ์ และไม่เคยสนใจเรื่องกามารมณ์ เมื่อถูกกระตุ้นไม่กี่ครั้งร่างกายของปักบุญจึงปลดปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว เจ็บใจเหลือเกินเมื่อเห็นรอยยิ้มของทินภพราวกับเขาคือผู้ชนะ ทินภพใช้มือที่เปียกชื้นผลผลิตของปักบุญป้ายลงบนกลางหน้าอกเจ้าของมัน ก่อนที่ทินภพจะโน้มตัวลงมาใช้ปากงับลงที่ยอดอกสีอ่อนจนปักบุญสะดุ้ง


                  “ถอดเสื้อผ้าให้ฉัน”


                  ร่างสูงร้อยแปดสิบกว่ายืดกายขึ้นเมื่อกล่าวคำสั่งต่อไป ปักบุญจำต้องลุกขึ้นมาถอดเสื้อยืดที่ทินภพสวมใส่ตามด้วยกางเกงยีนส์ราคาแพง เหลือเพียงกางเกงในที่ห่อหุ้มความเป็นชายไว้ ปักบุญชะงักเมื่อทินภพปัดมือเขาออก รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาบนใบหน้าคมเข้ม


                   “ชิ้นนี้ใช้มือถอดไม่ได้ นายต้องใช้ปากของนายถอดกางเกงในของฉันออก”


                   ปักบุญอยากจะร้องไห้ เขาเกลียดทินภพ เกลียดซาตานตนนี้ที่ทำลายศักดิ์ศรีของปักบุญจนหมดสิ้น




                                                                  TBC


                                                         ไอ้พี่ทินมันแกล้งน้อง





                                                  :m13: :m13: :m13: :m13: :m13: :m13: :m13: :m13:






หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 3 [05/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-12-2019 01:52:50
อื้อหือ!!!! Nc น่าจะดุเดือด 555
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 3 [05/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 05-12-2019 08:18:00
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 3 [05/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 05-12-2019 08:52:09
ว๊ากกกก ทินภพ อย่ารุนแรงกับน้องปักมากนะ คนไม่เคยสงสารมาก
 :beat: :beat: :beat: :beat:
นี่แหนะ อีตาทินขี้แกล้ง
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 3 [05/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 05-12-2019 11:21:32
 :pig4: :pig4: :pig4:

งงอ่ะ   เขม่นกันตั้งแต่เด็กตอนไหน?

เห็นมีแต่...
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 3 [05/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 05-12-2019 13:07:17
 :pig4:
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 3 [05/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 05-12-2019 13:55:19
ทำไมต้องร้ายอ่ะ
หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 4 [08/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 08-12-2019 23:22:25



                                                           หักเหลี่ยมรักซาตาน

                                                                  บทที่ 4




             “อย่าลีลา ฉันสั่งอะไรก็ทำสิ”


              ร่างสูงยังออกคำสั่งด้วยสีหน้ายียวน ปักบุญไร้ทางออกจนต้องจำยอมย่อตัวนั่งคุกเข่าพลางใช้ฟันและริมฝีปากขบกัดที่ขอบกางเกงชั้นในเนื้อดีแล้วค่อยๆลากมันลงจนถึงต้นขาแกร่ง ท่อนเนื้อแข็งตึงเมื่อโผล่พ้นขอบกางเกงสะบัดกระแทกแก้มของเขาดังเผียะ ปักบุญถึงกับนั่งหน้าร้อนเห่อ


              “ยังไม่พอปักบุญ”


               เม้มปากด้วยความเจ็บใจ ก่อนจะขบกัดกางเกงชั้นในที่ต้นขาให้ร่นต่ำลงมาจนผ่านข้อเข่า ทินภพจึงค่อยสะบัดมันออกทิ้งอย่างไม่สนใจนัก บัดนี้ตัวเขาเองก็เหลือเพียงร่างกายที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งอย่างคนที่ชอบออกกำลังกาย สีผิวเข้มเพราะไอแดดยิ่งชวนมองในสายตาของผู้หญิงที่เขาเคยผ่านมา


               “เอาล่ะ ทีนี้นายก็ปลุกฉันให้ตื่นขึ้นมา ด้วยปากเล็กๆของนาย”


                ปักบุญผงะ เพราะความที่มุ่งมั่นแต่เรื่องการเรียนทำให้เขาไม่เคยผ่านเรื่องเช่นนี้กับใครมาก่อน เขามองว่าเป็นเรื่องน่ากระดากอายด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ปักบุญกลับต้องมากระทำเรื่องน่าอายกับคนที่ได้ชื่อว่าทายาทของตระกูลที่ชิงชังกันมาเป็นสิบๆปี


               “ไม่นะ ผมทำไม่ได้”


               “คิดถึงน้ำในไร่ของนายไว้ แล้วนายจะทำได้เองนั่นแหละ”


                คำสั่งของผู้ถือไพ่เหนือกว่า ช่างเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของปักบุญจนแทบจมดิน น้ำตาของความเจ็บใจเอ่อท้นออกมาแต่เขาพยายามสะกัดมันไว้ ปักบุญไม่อยากให้ทินภพรู้ว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหนถึงแม้จะตกเป็นเบี้ยล่างก็ตาม ชายหนุ่มจำต้องใช้นิ้วกำไปรอบโคนของความใหญ่โตนั่น สายตาจดๆจ้องๆก่อนที่จะเปิดปากแตะปลายลิ้นลงกับยอดมน ตามด้วยริมฝีปากที่ค่อยๆเม้มลงตาม


               หรือปักบุญจะลองกัดมันให้ขาดไปเลย?


               ลองต่อสู้เผื่อว่าจะรอดจากการกระทำอันแสนอัปยศนี้ ของมันคาอยู่ในปาก ก็แค่อ้าปากให้กว้างขึ้นแล้วใช้คมเขี้ยวกัดทีเดียวให้จมมิด แค่นี้ทินภพก็ต้องดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวด แล้วใช้ช่วงเวลานั้นคว้าเสื้อผ้าก่อนวิ่งหนีไปขึ้นรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน


              ทันใดนั้นมือสากๆก็บีบขากรรไกรของปักบุญบังคับให้อ้ากว้าง ปักบุญเงยหน้าสบตา เขาสะดุ้งเมื่อเห็นแววตารู้ทันจากคนหน้าดุที่ก้มมองเขาอยู่


             “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่านายคิดอะไรอยู่ รู้ไหม หน้าตานายน่ะแสดงความคิดออกมาชัดมาก อยู่ไกลไปร้อยเมตรยังเดาได้ว่าคิดอะไรอยู่ เพราะฉะนั้น อ้าปากกว้างๆแล้วกินมันเข้าไป”


               หมดหนทางปฏิเสธเพราะกรามที่ถูกบีบให้อ้ากว้าง และเป็นทินภพที่ดันเอวเข้าใส่ปากเขา ปักบุญสำลักเมื่อมันกระแทกที่ผนังลำคอจนน้ำลายไหลเลอะขอบปาก มือสากที่บีบบังคับอยู่ใต้คางดึงใบหน้าของเขาให้เลื่อนเข้าออกอยู่ตรงท่อนเนื้อที่ขยายคับในช่องปากมากขึ้นเรื่อยๆ


               อา...


              ความจริงทินภพก็ไม่คิดว่าความต้องการของเขาจะ “ขึ้น” ได้หากอีกฝ่ายเป็นผู้ชายด้วยกัน เมื่อครั้งไปเรียนต่างประเทศก็มีเพื่อนเพศเดียวกันมากมายที่เป็นเกย์และพร้อมที่จะพลีกายให้เขา ทั้งหลอกล่อและยั่วยวนกันตรงๆแต่ทินภพก็แค่หัวเราะแล้วเดินไปตบบ่าก่อนจะบอกว่าของเขาไม่ “ขึ้น” หากเป็นเพศเดียวกัน แต่ตอนนี้กับปักบุญมันช่างแตกต่าง


               ดูออกชัดเจนว่าปักบุญไม่เคยผ่านเรื่องโลกีย์เช่นนี้มาก่อน ทั้งสีหน้าและการกระทำเงอะๆงะๆ รวมถึงสายตาตัดพ้อชิงชังนั่นอีก ราวกับเขากำลังรังแกเด็กน้อยสักคนทั้งที่อีกฝ่ายก็เป็นถึงครูบาอาจารย์ในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ทั้งหมดที่เป็นปักบุญกำลังกวักมือเรียกให้ทินภพ “ตื่น” ไปกับความต้องการที่เกิดขึ้นมา


              “อึก”


              ปักบุญแทบอาเจียนเมื่อครั้งสุดท้ายที่ทินภพกระแทกมันใส่ปากแล้วค้างไว้ น้ำอุ่นคาวลื่นมันฉีดเข้าใส่กระพุ้งแก้มของเขาด้วย รสชาติฝาดคอกับการบังคับกลายๆด้วยการกดค้างไว้ในท่านั้นทำให้ปักบุญจำต้องกลืนมันลงคอ น้ำตาของเขาซึมที่หางตาเพราะความคับแค้น แต่กระนั้นดูเหมือนจะยังไม่เป็นที่พอใจเมื่อทินภพดึงเอวตนเองออกปล่อยให้ปักคุณไอออกมา แล้วร่างสูงก็ก้มลงรวบเอวของปักบุญยกขึ้นพาดบ่า พาเดินไปยังประตูบานหนึ่งไม่ไกลนัก เมื่อทินภพผลักบานประตูพาเขาเข้าไปด้านใน ปักบุญจึงรู้ว่านี่คือห้องนอน


              “อย่านะ”


               ทินภพเหวี่ยงปักบุญลงบนเตียงจนสปริงทำงานเด้งขึ้นลง เขาคิดจะหนีแต่ทินภพกลับกระโจนตามมาใช้เข่ากดลงที่ลิ้นปี่ของปักบุญจนดิ้นไม่หลุด แขนยาวคว้าซองเล็กซองหนึ่งจากหลายซองที่วางไม่เป็นระเบียบนักบนชั้นหัวเตียง ทินภพใช้ฟันขบแล้วฉีกฟอล์ยพลางดึงชิ้นส่วนภายในออกมา


                ถุงยาง!


                ปักบุญที่ถูกกดทับด้วยเข่าและท่อนขาเบิกตากว้าง เขาได้แต่มองทินภพสวมมันด้วยความชำนาญเข้ากับความแข็งขันที่อวดตัวชี้หน้าเจ้าของอยู่ พริบตาเดียวเปลือกห่อหุ้มเนียนใสบางเบาก็แนบไปกับเนื้อหนังจนแทบกลายเป็นเนื้อเดียว ก่อนที่ทินภพจะออกคำสั่งอันแสนเจ็บปวดสำหรับปักบุญ


               “อ้าขา”


                “ไม่!”


               “งั้นก็ไม่ได้น้ำเข้าไร่”


               ปักบุญตัวสั่นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขามาที่นี่เพื่ออะไร ใบหน้าของแม่ ใบหน้าคนงานเก่าแก่หลายคนที่ยังอดทนทำงานกับเขาลอยขึ้นมาเป็นความกดดัน ในที่สุดปักบุญก็ต้องยอมแพ้ เขาหยุดดิ้นทิ้งกายลงไปอย่างหมดแรง น้ำตาแห่งความอดสูไหลรินจากหางตาจนเปียกชื้นที่ไรผม ขณะที่จำยอมเปิดขาแยกทางออกจากกัน





มีต่ออีกนิด...



หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 4 [08/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 08-12-2019 23:27:04


อ่านต่อตรงนี้...



              ร่างสูงใหญ่ราวกับยักษ์แสนใจทรามขยับมาอยู่ระหว่างขา ทินภพผลักต้นขาของปักบุญให้กว้างออก น่าแปลกที่ยิ่งมองร่างกายที่ขาวราวกับไม่เคยต้องไอแดด ใบหน้าแดงก่ำเพราะกำลังกลั้นสะอื้นเขาก็ยิ่งต้องการ ตอนนี้ต่อให้ช้างมาฉุดก็หยุดทินภพไม่ได้ เขาก้มหน้ามองรอยจีบพับซึ่งมั่นใจว่าเป็นช่องทางเดียวของผู้ชายที่จะสร้างความสุขสม ทินภพจ่อท่อนเนื้อถูไถสร้างความคุ้นเคยไม่ทันอึดใจ เขาก็ดันมันเข้าไปทันที


              “อ๊ากก”


               ปักบุญร้องลั่น สีหน้าเจ็บปวดพร้อมกับผวาร่างขึ้นมา ช่องทางเบื้องล่างราวกับจะปริแตกเมื่อถูกความใหญ่โตแทรกกายเข้าไปในทันทีจนถึงช่วงกว้างสุด หากแต่เสียงของเขากลับถูกปิดไว้ด้วยจูบหนักหน่วงที่บดขยี้ลงมา น้ำหนักตัวมากกว่าโถมทับคล้ายกระสอบทรายล้อมกรอบปักบุญไว้ให้อยู่ใต้อำนาจ สองแขนของปักบุญถูกตรึงไว้เหนือหัว มือสากนั่นประสานทั้งห้านิ้วเข้ากับมือของเขา จูบหนักทะลวงเข้าไปตวัดลิ้นชื้นก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์เพิ่มความเร่าร้อนในทุกอณูของโพรงปาก คนด้อยประสบการณ์อย่างปักบุญถึงกับงงงันและลืมตัว ลืมกระทั่งความเจ็บปวดและการรับรู้ว่าท่อนเนื้อใหญ่กำลังขยับดันลึกเข้าสู่ด้านในมากขึ้นเรื่อยๆ


               ทินภพลอบผ่อนลมหายใจเมื่อเขาดันกายเข้าไปจนหมด ความรู้สึกไม่เหมือนยามกระทำเช่นนี้กับหญิงสาว ปากทางคับแน่นและฝืดในช่วงแรกเพราะไม่ใช่ช่องทางธรรมชาติสำหรับการนี้ แต่เพราะถุงยางราคาแพงลื่นพอที่จะช่วยให้เขาแทรกกายเข้าไปจนหมด ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ ในเมื่อเขาอยากจะครอบครองร่างกายของปักบุญให้เป็นของเขาอย่างเสร็จสิ้นสมบูรณ์


               “อื้อ”


                เมื่อริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระปักบุญจึงเพิ่งจะหาเสียงตนเองเจอ เขาส่งเสียงออกมาอย่างไม่ตั้งใจเมื่อทินภพขยับดึงเอวออกแล้วกระแทกกลับเข้ามาอีกครั้ง และยังเผลอเช่นนี้ซ้ำๆทุกครั้งที่ร่างสูงทำเช่นนี้ น่าแปลกที่เมื่อความเจ็บปวดเลือนหาย ความรู้สึกบางอย่างกลับก่อตัวขึ้นมาแทนที่ ร่างกายของปักบุญเริ่มร้อนวูบวาบ แรงกระแทกที่เร่งจังหวะทำให้เขาเสียวไปทั่วท้องน้อย ปักบุญไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังยกเอวขึ้นสูงรองรับแรงที่ทินภพเร่งเร้า


                ตอนนี้ทินภพไม่จำเป็นต้องยึดร่างเพรียวข้างใต้ไว้ด้วยกำลังอีกแล้ว ดวงตาที่เพิ่งมองเห็นว่าเรียวโตแดงก่ำบอกถึงแรงปรารถนาที่เขาจุดไฟสำเร็จ ปักบุญวางมือข้างหนึ่งกำแน่นที่บ่าของเขา เล็บจิกลงไปจนเกือบจม อีกข้างก็ส่งไปกำท่อนเนื้อพอดีมือของตนเองรูดรั้งไปมาโดยไม่รู้ตัว เขามองเห็นปักบุญดิ้นพล่านทินภพก็ยิ่งออกแรงมากขึ้น


                “อะ อ๊า ฮึก ไม่นะ มัน อื้อ...”


                เสียงกระเส่าเปล่งออกจากลำคำที่แหงนหน้ายกสูง ปักบุญหลับตาพริ้มเมื่อกล้ามเนื้อช่วงล่างหดเกร็งเต็มที่ มือที่รูดรั้งตนเองชะงักค้างเมื่ออยู่ๆน้ำอุ่นๆก็พุ่งออกมาจนเปียก เขาเกร็งไม่กี่วินาทีก็พลันผ่อนคลายกะทันหัน


                “เสียวฉิบ”


               ทินภพที่รั้งตนเองไว้เมื่อปักบุญถึงไคลแม็กซ์สบถออกมา เขารอจนปักบุญผ่อนคลายจึงผลักต้นขาของปักบุญยกสูง จากนั้นก็ยันกายขึ้นอีกนิดเพื่อจะส่งแรงลงไปให้ถนัดถนี่ เขากลั้นใจโยกเอวลงไปกับความคับแน่นที่บีบคั้นอยู่ ไม่นานเท่าไหร่เขาก็กระแทกลึกและค้างในท่วงท่านั้น ทินภพเป่าปากออกมาก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มสาแก่ใจ


                “เก่งนะ นายทำฉันแตกได้ทั้งที่นี่เป็นครั้งแรกของนายกับฉัน”


              เหมือนจะชมแต่ปักบุญฟังแล้วคล้ายทินภพเยาะเย้ยเขา บัดนี้ปักบุญพ่ายแพ้แล้วอย่างแท้จริงเมื่อรู้แก่ใจว่ามันคือเซ็กส์ที่ผ่านมาถึงจุดสุดยอด  ทินภพดึงเอวออกมาจากช่องทาง เขาถอดถุงยางออกพลางยกขึ้นโชว์ให้ปักบุญมองเห็นความเปียกชื้นที่บรรจุภายใน


               “ดูสิ ปักบุญ นายรีดน้ำออกจากฉันได้เยอะขนาดไหน”


               “ไอ้บ้า คนสารเลว”


               ปักบุญแค้นจนต้องคว้าหมอนใกล้มือปาใส่ทินภพที่ยังยิ้มอย่างอารมณ์ดี เขาไม่สนใจหมอนที่ปาใส่หน้าจากปักบุญที่ตะแคงกายพลิกหน้าซบลงกับที่นอน เดาว่าคงแอบซ่อนน้ำตาไว้ ทินภพมองร่างเปลือยที่ได้สัมผัสแล้วว่าแสนบริสุทธิ์ เขาคว้าโทรศัพท์มือถือมากดสายไปหาหัวหน้าคนงานที่ไร่


                “สมชัย ไปปล่อยน้ำที่ฝายให้ไหลตามปกติ น้ำในไร่เราพอใช้แล้ว ทำตามที่สั่งเถอะน่า”


               ทินภพทิ้งกายนอนหงายพลางผิวปากเบาๆ เขาดึงปักบุญให้พลิกกายกลับมาเขา มือสากเชยคางปักบุญให้หันมาสบตา รอยยิ้มของผู้มีชัยปรากฏบนใบหน้า


               “ฉันทำตามข้อตกลงแล้ว ไม่ต้องขอบใจนะปักบุญ นายอุตส่าห์เอาตัวเข้าแลกขนาดนี้ฉันจะผิดสัญญาได้ยังไง จริงไหม”


              “เกลียด”


               ปักบุญตะโกนใส่หน้า เขาผลักร่างสูงออกไปให้ห่าง ดวงตาบ่งบอกถึงความเจ็บช้ำ


               “ผมเกลียดคุณที่สุด ผมไปทำอะไรให้คุณ ถึงต้องทำร้ายกันขนาดนี้”


              รอยยิ้มของทินภพหายไปกลายเป็นดวงตาดุกร้าว เขาคว้าท่อนแขนของปักบุญมายึดไว้


              “เพราะปู่ของนายทำให้ครอบครัวของฉันอับอายขายขี้หน้าไปทั่วไงล่ะ นายไม่รู้หรอกว่าเสียงนินทามันดังแค่ไหน คนหน้าหนาอย่างไร่ชมจันทร์คงไม่รู้สึก แค่นี้ยังน้อยไปสำหรับนาย”


                ปักบุญสะบัดแขนออก เขาตบหน้าทินภพดังเผียะก่อนจะรีบหนีลงจากเตียงเปิดประตูไปด้านนอก คว้าเสื้อผ้ามาใส่ได้ลวกๆก็รีบวิ่งไปที่รถยนต์ของเขาแล้วสตาร์ทเครื่องขับหนีไปจากบ้านหลังนั้น จนกระทั่งไกลพอสมควรจึงได้หยุดรถข้างทางเพื่อจะซบหน้าลงกับพวงมาลัยแล้วร้องไห้ออกมา


                เกลียด เขาเกลียดทินภพ ไม่มีวันที่เขาจะยอมตกเป็นเบี้ยล่างให้กับคนใจร้ายคนนี้อีกแล้ว


                ปักบุญสัญญากับตัวเอง




                                                                TBC



                                               เกลียดกัน แค้นกันให้ตลอดเด้อพี่น้อง


                                            :m13: :m13: :m13: :m13: :m13: :m13: :m13: :m13: :m13:








หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 4 NC [08/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 09-12-2019 01:12:46
 :pig4: :pig4: :pig4:


เรื่องในอดีต  มันน่าอับอายขนาดนั้นเลยเหรอ?
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 4 NC [08/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-12-2019 01:40:30
เรื่องในอดีต มันต้องเป็น ทอล์กออฟเดอะทาวน์แน่ๆ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 4 NC [08/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 09-12-2019 10:07:57
ทั้งรักทั้งเกลียดแน่เลยปักบุญ ครั้งแรกของตัวเองบางทีมันก็ฝังใจน้าาา อิอิอิ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 4 NC [08/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 09-12-2019 14:31:49
เรื่องของอดีตอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 4 NC [08/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 10-12-2019 07:05:55
สนุกมากๆเลยค่ะชอบมากncคือร้อนแรงมาก :m25: :jul1: เรื่องในอดีตเนอะ :เฮ้อ: ปักบุญไม่ไปทำงานที่กรุงเทพหรอ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 4 NC [08/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 10-12-2019 10:29:24
ชอบแนวนี้ คลาสสิคดี
หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 5 [13/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 13-12-2019 22:11:05




                                                         หักเหลี่ยมรักซาตาน

                                                               บทที่ 5



               แรงจากฝ่ามือเรียวนั่นแรงน่าดู แต่ทินภพก็แค่ยกมือลูบใบหน้าตนเองที่อาจขึ้นเป็นรอย ปักบุญคงโกรธเขาจริงๆถึงได้ตบเสียแรงจนหน้าสั่น แปลกที่ทินภพกลับไม่ได้โมโหเท่าที่ใจคิด หากเป็นสถานการณ์ก่อนหน้านี้เขาอาจจะโกรธเจ้าของรอยมือจนหัวร้อน แต่ในวินาทีนี้ทินภพกลับอารมณ์ดีพอที่จะหัวเราะได้


               กลิ่นกายของปักบุญยังกรุ่นๆอยู่ตรงจมูก มันไม่ได้หอมยวนใจเหมือนสาวๆที่เขาควงไปไหนมาไหน แต่ก็ไม่ได้เหม็นเหงื่อเหมือนพวกผู้ชายอื่นที่เขาเคยรู้จัก เรียกได้ว่าเป็นกลิ่นกายเฉพาะของปักบุญก็ว่าได้ รสชาติของบทพิศวาสบนเตียงเป็นประสบการณ์ใหม่ ทินภพเองก็เพิ่งเคยลิ้มรสเพศเดียวกันก็ครั้งนี้ ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด มันก็ทำให้เขาสุขสมได้ ทินภพกังวลเพียงอย่างเดียวว่าเขาเป็นพวกชอบเพศเดียวกันหรือเปล่า หรือว่าเฉพาะแค่ปักบุญที่เขาต้องการเอาชนะ


                นึกถึงใบหน้าตัดพ้อนั่นแล้วใจก็อดสงสารไม่ได้ อันที่จริงปักบุญก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร มิหนำซ้ำต้องมารับผิดชอบในสิ่งที่พี่ชายตนเองทิ้งภาระไว้อีก


                “เฮ้ย ไอ้เหี้ยทินภพ มึงจะสงสารไม่ได้ นั่นมันคนของไร่ชมจันทร์”


                 เขาด่าตัวเองที่รู้สึกเช่นนั้น เขาไม่ควรเห็นใจน้ำตาของทายาทของตระกูลที่สร้างความอับอายให้ครอบครัวของเขา ทินภพเตือนตัวเองให้โกรธ เกลียด ชิงชัง เขาจะต้องทำให้คนพวกนั้นรู้สึกอัปยศอดสูจนถึงที่สุด


                 ความคิดของเขาสะดุดลงเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือ เมื่อคว้ามันขึ้นมาดูหน้าจอเขาก็รีบกดรับสาย


                “ว่าไงครับพ่อ”


               “อยู่ไหนทิน ในเมืองหรือเปล่า นี่แอบนัดสาวไปออกกำลังกายอีกแล้วใช่ไหม”


               ทินภพหัวเราะ พ่อรู้จักเขาดี แต่ที่ยังไม่ได้บอกไปคือวันนี้เขาชวนหนุ่มมาออกกำลังกายบนเตียงต่างหากเล่า


                “ลูกพ่อนี่นา เชื้อไม่ทิ้งแถวหรอกครับ ว่าแต่มีอะไรด่วนหรือเปล่า”


                “ไม่มีหรอก แต่บ่ายๆไปรับแมงปอที่โรงเรียนด้วย พ่อจะใช้เจ้าดำขับรถไปธุระสักหน่อยอาจจะกลับค่ำๆโน่นแหละ”


                 เด็กหญิงแมงปอเรียนอยู่โรงเรียนอนุบาลเอกชนชื่อดังในตัวเมือง โดยปกติแล้วจะมีคนขับรถมารับในตอนเลิกเรียน แต่ถ้าคนขับรถมีธุระต้องทำงานอื่นทินภพก็จะมารับลูกเอง


               “ได้ครับ รับทราบ เดี๋ยวผมไปรับแมงปอเอง พ่อก็อย่าหักโหมล่ะ ออกกำลังกายเบาๆหน่อย”


                “โว้ย ไอ้ลูกคนนี้”


                 นายทูลส่งเสียงโวยวายก่อนตามด้วยเสียงหัวเราะแล้วค่อยวางสาย ทินภพจึงทิ้งกายนอนต่ออย่างอารมณ์ดี ในจินตนาการกลับปัดสีหน้ายามเร่าร้อนของปักบุญออกไปไม่ได้เลย


                   “ปักบุญ แสบนักนะ”


                 เขาสบถเบาๆเมื่อเฝ้าแต่คิดถึงใบหน้าของคนที่เขาชิงชังมาตั้งแต่จำความได้








                  นั่งซึมอยู่ในรถขณะจอดอยู่ข้างถนนเนิ่นนานจนน้ำตาแห้งเหือด ปักบุญเจ็บใจที่เขาต้องสิ้นศักดิ์ศรีไปเพราะผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่ใช้ข้อได้เปรียบมาบังคับข่มเหง ปักบุญรู้ดีว่าทินภพเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น พ่อกับแม่เคยเล่าให้เขาฟังเรื่องในอดีต ที่อาของพ่อพาย่าของทินภพหนีไปและฆ่าตัวตายพร้อมกัน


                “คนพูดกันไปทั้งจังหวัด เรื่องมันดังมาก ตอนนั้นพ่อเองก็ยังเด็กอยู่เลย แต่ทางไร่เชิญตะวันเขาก็เกลียดเรานับตั้งแต่บัดนั้นทั้งที่เขตไร่ติดกัน เขาเอารั้วลวดหนามมากั้นแบ่งอาณาเขตเลยนะ ทางเราก็ไม่รู้จะทำยังไง บ้านเขาใหญ่กว่า ฐานะดีกว่า ไอ้เรามันไร่เล็กๆจะไปสู้ไปเถียงอะไรเขาได้”


                ปักบุญรู้เรื่องนี้ดีตั้งแต่เด็กๆ ตอนเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดที่มีทินภพเป็นรุ่นพี่ เขาได้แต่เดินตัวลีบหลีกหนี ไม่อยากเผชิญหน้ากับสายตาชิงชังคู่นั้น แต่บางทีทินภพก็ช่างแกล้งเตะลูกบอลมากระแทกปักบุญที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บ้าง หรืออย่างอื่นที่ปักบุญได้แต่นิ่งเงียบมองกลับด้วยความโมโห


              ใครจะนึกว่าวันนี้ทินภพจะแกล้งเขาได้อย่างเจ็บแสบที่สุดด้วยการช่วงชิงศักดิ์ศรีของเขา แม้ปักบุญจะไม่มีพรมจรรย์เหมือนอิสตรีแต่เขาก็มีศักดิ์ศรี ทินภพได้พรากมันไปแล้ว ปักบุญได้แต่กล้ำกลืนความเจ็บช้ำลงไป


                “เลิกคิดฟุ้งซ่านเถอะน่า เสียแค่ครั้งเดียวแลกกับน้ำในไร่ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ด้วย”


                เขาสะบัดหน้าขับไล่ความรู้สึกเหล่านั้น ชีวิตต้องดำเนินต่อไปไม่ใช่แค่วันนี้ หากจะรอแต่ผลผลิตในไร่ รายได้คงไม่เพียงพอ ปักบุญคงต้องหางานอื่นทำไปด้วยแต่เขาจะไปหางานที่ไหนที่ได้เร็วๆล่ะ


                “กานติมา เป็นเจ้าของโรงเรียนอนุบาลนี่นา”


                 ยิ้มด้วยความยินดี เพื่อนสนิทคนหนึ่งตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายเป็นทายาทของเจ้าของโรงเรียนอนุบาลชื่อดัง ปักบุญยังติดต่อกับเพื่อนอยู่เป็นระยะ ลาออกจากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแล้วลองมาสอนเด็กอนุบาลบ้างก็ไม่เลว


                 คิดได้ดังนั้นปักบุญจึงสำรวจตัวเองจากกระจกรถ เขาเช็ดคราบน้ำตาจัดผมให้เข้าทรง เหลือบเห็นรอยแดงที่คอผลงานของทินภพแล้วก็ต้องถอนหายใจก่อนใช้เสื้อเชิ้ตปิดบังมัน จากนั้นเขาจึงขับรถไปที่โรงเรียนของเพื่อน โชคดีที่กานติมาอยู่ที่โรงเรียนวันนี้


                “ปักบุญ ว้าย หล่อเหมือนเดิมนะแก”


                กานติมาส่งเสียงวี้ดว้ายด้วยความดีใจที่ได้พบเพื่อนเก่า หญิงสาวต้อนรับเพื่อนในห้องทำงานพลางพูดคุยถึงความเป็นอยู่


              “อ้าว ลาออกแล้วเหรอแก แล้วป.โทของแกล่ะ”


              กานติมาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจเพราะรู้ว่าเพื่อนยังเรียนพร้อมกับสอนหนังสือไปด้วย


               “เหลือสอบวิทยานิพนธ์อีกรอบเดียวก็จบแล้ว ที่ลาออกมานี่เพราะเกิดเรื่อง”


                ปักบุญเล่าเรื่องที่ปองชัยพี่ชายทำเหตุจนเขาต้องกลับมาที่นี่ กานติมาได้แต่มองอย่างเห็นใจ


                 “โธ่ ไม่น่าเลยแกเอ๊ย”


                “เรามาของานเธอน่ะกาน มีตำแหน่งครูให้เราทำบ้างไหม เราไม่อยากทำไร่อย่างเดียว”


                 “ไอ้มีมันก็มีนะปัก แต่แกจะสอนเด็กอนุบาลได้เหรอ มันไม่เหมือนสอนระดับมหาวิทยาลัยนะ เงินเดือนก็ไม่มากด้วย”


                  ปักบุญยิ้มด้วยความดีใจ


                “ได้สิ เราเข้ากับเด็กได้อยู่แล้ว”


                 “งั้นก็ดีเลย เริ่มงานพรุ่งนี้เลยนะ”


                 ปักบุญพยักหน้า เขาอยู่พูดคุยกับกานติมาเรื่องแนวทางการสอนและหลักสูตรของโรงเรียนจนถึงช่วงใกล้โรงเรียนเลิก ปักบุญจึงได้กล่าวลาเพื่อนและเดินออกมาตรงหน้าโรงเรียน ช่วงระยะเวลาที่ผู้ปกครองกำลังขับรถมารับบุตรหลานการจราจรหน้าโรงเรียนค่อนข้างจอแจ ทันใดนั้นปักบุญก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นเด็กหญิงตัวเล็กที่กำลังเดินไปทางร้านค้ากำลังจะถูกรถจักรยานยนต์ที่ขับแฉลบมาชน


              “ระวัง!”


              เขาปรี่เข้าไปอุ้มร่างป้อมได้ทันควัน รถมอเตอร์ไซค์เฉียดไปแค่นิดเดียวก็เกือบจะชนแล้ว เด็กหญิงร้องไห้จ้าด้วยความตกใจ


                “เด็กบ้า เดินระวังรถหน่อยสิวะ”


                คนขี่หันมาตวาด เด็กหญิงยิ่งร้องไห้สะอึกสะอื้น ปักบุญวางร่างป้อมลงกับพื้นพลางลูบผมอย่างอ่อนโยน


               “ไม่เป็นไรแล้วนะครับคนเก่ง หยุดร้องเถอะ น้ำตาเลอะหมดแล้ว”


                เสียงนุ่มของปักบุญทำให้เด็กหญิงคลายสะอื้นลงได้ ปักบุญยิ้มอย่างเอ็นดู


                “หนูจะมาซื้อขนมหรือคะ อยากกินอะไรเอ่ย”


               “หนูอยากได้อมยิ้มค่ะ”


                เสียงเล็กตอบโต้แม้จะยังมีเสียงสะอื้นปนมาแต่ก็เบาบางไปเยอะ ปักบุญจูงมือน้อยไปที่ร้านพลางช่วยเลือกขนมจนพอใจก่อนจะจูงมือกลับไปที่โต๊ะหินอ่อนใกล้รั้วโรงเรียน


              “อร่อยไหมคะ น้องอะไรนะ อายังไม่รู้จักชื่อเลย”


              “หนูชื่อแมงปอค่ะ อยู่อนุบาลสอง แล้วคุณอาใจดีชื่ออะไรคะ”


               เด็กหญิงแมงปอยิ้มจนหน้าพอง ถูกชะตากับคนที่มาช่วยไม่ให้เจ็บตัว คุณอาใจดียิ้มตอบพลางโยกหัวแมงปอเบาๆ


               “อาชื่อปักบุญ เรียกว่าอาปักก็ได้ แต่พรุ่งนี้อาจะมาเป็นคุณครูที่โรงเรียนนี้แล้ว ถ้าเจอกันแมงปอต้องเรียกว่าคุณครูแล้วนะ”


                 แมงปอตาโต เกาะแขนเพื่อนใหม่ไว้แน่น


                 “โห ดีจัง อาปักต้องเป็นคุณครูใจดีแน่ๆเลย”


                “แล้วนี่ แมงปอรอผู้ปกครองมารับใช่ไหมเอ่ย”


                 “ใช่แล้วค่ะ รอลุงดำมารับ อ้าว พ่อ”


                เด็กหญิงตัวป้อมเอ่ยทักข้ามไหล่ของปักบุญไปเมื่อเห็นบิดามารับ ก่อนวิ่งถลาไปหาให้ผู้เป็นพ่ออุ้มไว้


                 “พ่อจ๋า ตะกี้แมงปอเกือบถูกรถชน แต่มีคุณอาใจดีมาช่วยไว้”


                ทินภพตกใจ เขาสำรวจร่างกายลูกสาวเมื่อไม่เห็นร่องรอยบาดเจ็บจึงเบาใจ


                “ต่อไปแมงปอต้องระวังนะลูก แล้วไหนคุณอาใจดีที่ช่วยไว้ พ่อจะไปขอบคุณเขาสักหน่อยที่ช่วยลูกสาวพ่อ”


               “ทางนี้ค่ะพ่อจ๋า”


                ทินภพปล่อยแมงปอลงเดิน เด็กหญิงจูงมือบิดาให้ก้าวเร็วๆมาทางโต๊ะที่นั่งอยู่


                “นี่ไงคุณอาใจดี คุณอาปักขา นี่พ่อของแมงปอค่ะ”


                ปักบุญหันไปตามเสียงเรียก รอยยิ้มที่ค้างอยู่บนใบหน้าพลันเลือนหายเมื่อเห็นคนที่แมงปอจูงมืออยู่ หน้าขาวยิ่งซีดลงไปอีก ไม่ต่างจากทินภพที่ยืนอึ้งเมื่อรู้ว่าคนที่ช่วยแมงปอไว้คือคนที่เขาเพิ่งฝากรอยประทับไว้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี่เอง


                “คุณ...”


                 ปักบุญตะลึงงัน ทินภพมีลูกสาวแล้วแสดงว่ามีครอบครัวแล้ว แต่กลับมามีความสัมพันธ์กับเขา ช่างน่ารังเกียจเป็นที่สุดกับผู้ชายที่นอกใจภรรยาตนเอง


               “ปักบุญงั้นหรือ”


                โลกกลมเกินไป ใครจะนึกว่าคนที่ช่วยแมงปอไว้คือปักบุญ ท่าทางลูกสาวของเขาจะชอบปักบุญมากเสียด้วย ทินภพยกยิ้มที่มุมปาก


                “ยังไงก็ขอบใจนะที่ช่วยแมงปอ แต่ว่า...” เขาพูดโดยไม่ให้แมงปอได้ยิน “มันก็ลบล้างเรื่องทั้งหมดไม่ได้”


               ปักบุญโมโหจนหน้ามืด ประกอบกับที่เครียดสะสมมาหลายวัน อาหารก็ยังไม่ตกถึงท้องตั้งแต่เช้าแถมยังต้องมาเสียพลังงานไปกับการถูกทินภพข่มเหง แดดยามบ่ายคล้อยก็ยังแรงจนในที่สุดเขาก็ยืนไม่อยู่ ก่อนที่ร่างของปักบุญจะฟาดพื้นเขารู้สึกได้ว่ามีวงแขนมารับไว้ได้ทัน


               “พ่อ อาปักเป็นอะไร พ่อช่วยอาปักเร็วเข้า”


               นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ปักบุญได้ยินก่อนสติจะดับวูบลง






มีต่ออีกนิด....




หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 5 [13/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 13-12-2019 22:19:46


อ่านต่อตรงนี้....





               ลืมตาขื้นมาอีกครั้ง ปักบุญจึงกวาดสายตามองห้องเล็กๆสีขาว เขานอนอยู่บนเตียงที่มีสายน้ำเกลือแทงอยู่ที่แขน พยายามคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าตนเองมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้อย่างไร


               “พ่อ อาปักฟื้นแล้ว”


               เสียงดีใจของแมงปอเรียกสติกลับมาได้ นึกออกแล้วว่าเขายืนอยู่กับทินภพที่โรงเรียนอนุบาลแล้วปักบุญก็เป็นลมไป หรือว่าเป็นทินภพที่พาเขามาที่นี่


                “ทำไมไม่กินข้าว ปล่อยให้ท้องว่างแบบนี้จะเอาแรงที่ไหนมายืน”


               เสียงแข็งที่ลุกขึ้นมายืนข้างเตียงต่อว่า ไม่อยากจะรับรู้ว่ามันเจือด้วยร่องรอยห่วงใยอยู่บ้าง ขอบตาของปักบุญร้อนผ่าวด้วยความน้อยใจ ไม่เข้าใจตนเองว่าทำไมต้องรู้สึกเช่นนั้นด้วย


              “ไม่ต้องมายุ่ง กระเพาะของผม ตัวของผม คุณไม่เกี่ยว”


             “พ่อ อย่าดุอาปักสิคะ ดูสิ อาปักกลัวหมดแล้ว โอ๋ๆนะคะ อาปักอย่าร้อง พ่อไม่ดุแล้ว”


              แมงปอลูบหลังมือของเขา ปักบุญก็ยิ่งห้ามความรู้สึกไม่ได้ เขาพยายามเบนหน้าหนีไม่อยากให้ทินภพเห็นสีหน้าของเขา ทินภพได้แต่ถอนหายใจ


               “เอาล่ะๆ หมอบอกว่านายแค่อ่อนเพลีย ให้น้ำเกลือถุงเดียวไม่ต้องแอดมิท เดี๋ยวน้ำเกลือหมดฉันจะไปส่งนายที่บ้านเอง แล้วรถยนต์ของนายเดี๋ยวจะให้คนที่ออฟฟิศในเมืองขับรถไปให้ที่ไร่”


                “แต่ว่า...”


                “ใช่เวลาดื้อหรือเปล่า” ทินภพขัดเมื่อเห็นปักบุญไม่ยอม “ตอนนี้กินอาหารในถาดให้หมดจะได้มีแรง แมงปอ บังคับอาปักคนดีให้กินข้าวเดี๋ยวนี้เลย”


                แมงปอยิ้มแฉ่งพลางลากโต๊ะอาหารมาใกล้เตียง เด็กหญิงปีนขึ้นไปนั่งขอบเตียงก่อนจะหว่านล้อมให้ปักบุญยอมกินอาหาร


                 “อาปักขา กินข้าวนะคะ จะได้แข็งแรงโตเร็วๆเหมือนแมงปอไง”


               ได้กลิ่นอาหารท้องก็ร้องขึ้นมา ปักบุญจำต้องตั้งอาหารเข้าปากด้วยการคะยั้นคะยอของแมงปอในขณะที่ทินภพเลี่ยงไปนั่งมองห่างๆ ปักบุญรู้แต่ว่าสายตาคมจ้องมองไม่คลาดสายตา จนกระทั่งอาหารหมดและน้ำเกลือหมดทินภพกับแมงปอจึงพาเขาออกจากโรงพยาบาล


               “เงินค่ารักษา ผมจะใช้คืนคุณ”


               ปักบุญกล่าวเมื่อเข้าไปในรถยนต์ของทินภพ อีกฝ่ายได้แต่สะบัดหน้าหนีไปมองถนนและพาปักบุญกลับไร่ชมจันทร์ และทันทีที่รถจอดหน้าบ้าน พรรณีผู้เป็นมารดาถึงกับวิ่งออกมา


                “ปัก ลูก ทำไมกลับมาเสียค่ำเลยล่ะ แล้วรถยนต์ก็มีคนขับมาจอด ว้าย คุณทินภพ”


                พรรณีหน้าซีดเมื่อเห็นร่างสูงที่ลงมาจากรถ ใครๆก็ต้องรู้จักคนดังแห่งไร่เชิญตะวัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาเหยียบที่ไร่ชมจันทร์แห่งนี้ หน้าขรึมกวาดสายตามองบ้านไม้หลังไม่ใหญ่นักหากเทียบกับบ้านของเขา


               “แมงปอ สวัสดีอาปักคนดีของลูกได้แล้ว เราจะได้กลับบ้านกัน”


                เด็กหญิงแมงปอโผล่หน้ามาจากกระจกรถ ยิ้มแป้นให้ปักบุญ


                 “แมงปอกลับแล้วนะคะอาปัก พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียนค่ะ บ๊ายบาย”


                ทินภพไม่พูดอะไรอีก เขาเดินกลับขึ้นรถและขับออกไปราวกับรังเกียจที่ได้ยืนอยู่บนพื้นที่ของไร่ชมจันทร์ เมื่อลับสายตาแล้วพรรณีจึงเอ่ยถามบุตรชาย


                “ปัก ทำไมเขาถึงมาส่งลูกได้ล่ะ”


               “แม่อย่าเพิ่งถามปักเลย ปักเหนื่อยอยากนอน พรุ่งนี้ต้องไปเริ่มทำงานสอนเด็กด้วย”


                 เดินหนีเข้าห้องตัวเอง อาบน้ำล้างคราบเหงื่อคราบคาวที่ยังทิ้งความรู้สึกไว้บนร่าง ปักบุญล้างเท่าไหร่ความเจ็บช้ำก็ยังไม่จางหาย ในที่สุดเขาก็มานอนนิ่งอยู่บนเตียง ใจไม่อาจลืมเรื่องที่เกิดขึ้นได้เลย ราวกับทินภพยังลูบไล้ร่างของเขาอยู่ตลอดเวลา


                 “ไม่ เราจะต้องลืม ลืมมันให้หมด”


                ปักบุญใช้หมอนปิดหน้าตนเองเพื่อให้เขาเลิกคิดถึงใบหน้าคมและร่างกายสูงใหญ่ที่ครอบครองเขาเมื่อกลางวันนี้ ชายหนุ่มหลับลงไปอย่างทรมาน และกระนั้นทินภพก็ยังตามเขาไปแม้แต่ในฝันตลอดทั้งคืน




                                                            TBC



                                                     มันก็จะน้ำเน่าหน่อยๆอะนะ
                                                    ไม่รู้ว่าชอบกันหรือเปล่า หุหุ






                                           :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:







หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 5 [13/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 13-12-2019 22:33:10
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 5 [13/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-12-2019 23:21:26
ชอบๆๆ สนุกมาก มาต่อบ่อยๆนะ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 5 [13/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-12-2019 10:45:07
รอๆ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 5 [13/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 14-12-2019 11:52:51
ชอบๆ นะ นี่ทินสบายใจได้เลย ถ้าคิดถึงปักก็ใช้แมงปอเป็นข้ออ้างเข้าหา อิอิอิ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 5 [13/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 14-12-2019 11:54:39
ปัก ต้องรีบแก้แค้นคืน
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 5 [13/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 14-12-2019 12:39:50
ชอบมาก แนวนี้ เป็นเพราะนักเขียน เขียนได้อรรถรสด้วย
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 5 [13/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 14-12-2019 14:43:47
ทินภพ ดูน่าจะติดใจปัก
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 5 [13/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 15-12-2019 00:05:27
ชอบมากๆเลยค่ะ ขำที่ทินภพเรียกปักบุญว่าปักบุญคนดี ชอบน้องปอมากๆเลยพูดเก่งมากๆ  :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 5 [13/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 15-12-2019 00:47:37
นั่นไง เขามีกองหนุนเป็นลูกสาวตัวเองแล้วอ่ะค่ะคุณเจ้าของไร่คนดัง
หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 6 [17/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 17-12-2019 13:47:41



                                                         หักเหลี่ยมรักซาตาน

                                                                บทที่ 6



              “พ่อไปรู้จักกับอาปักตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”


              แมงปอถามบิดาขณะที่ทินภพขับรถกลับไร่หลังจากไปส่งปักบุญแล้ว เขาอึ้งไปครู่หนึ่งเพื่อหาคำตอบให้ลูกสาว แต่จะให้ตอบว่าอย่างไรเล่า รู้จักเพราะไปทำ “ภารกิจเปิดน้ำ” ก็คงจะไม่ใช่เรื่องดี แต่จะเล่าถึงสาเหตุความแค้นเคืองกันตอนนี้แมงปอก็คงไม่เข้าใจ


              “อาปักของแมงปอเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนพ่อตอนมัธยมน่ะ”


               ตอบอย่างขอไปทีพอให้ลูกสาวไม่ต้องถามต่อ เมื่อไปถึงบ้านนายทูลก็รออยู่แล้วด้วยความเป็นห่วงที่หลานสาวกลับบ้านผิดเวลา แมงปอวิ่งถลาเข้าไปหาปู่พลางส่งเสียงเจื้อยแจ้ว


               “คุณปู่ขา แมงปอกลับมาแล้วค่า”


               ทูลกอดหลานสาวตัวป้อมไว้พลางหอมแก้มดังฟอด


               “หายไปไหนกันมาทั้งพ่อทั้งลูก ไหนเล่าให้ปู่ฟังซิ”


               เด็กหญิงแมงปอยิ้มแฉ่งก่อนจะเล่าเรื่องว่าเดินไม่ระวังเกือบถูกรถชนและมีคุณอาใจดีช่วยไว้ แต่คุณอาเป็นลมทินภพกับแมงปอจึงพาไปโรงพยาบาล หลังจากนั้นจึงพาไปส่งที่บ้าน


              “คุณอาหล่อมาก ใจดี๊ดีด้วยค่ะ ชื่ออาปักบ้านก็อยู่ไม่ไกลจากเรา ทำไมแมงปอถึงไม่เคยเจออาปักก็ไม่รู้”


              ทูลเหลือบตามองบุตรชายด้วยความสงสัย ทินภพยักไหล่พลางกล่าวกับบิดา


              “ใช่แล้วพ่อ ปักบุญนั่นแหละ เห็นว่าไปสมัครเป็นครูที่โรงเรียนของแมงปอ”


               ผู้อาวุโสสุดพยักหน้า นึกเห็นใจลูกหลานของไร่ชมจันทร์อยู่เหมือนกัน


              “ก็คงหารายได้เพิ่มนั่นแหละ ดีนะ ไม่ใช่คนงอมืองอเท้ารอความหวัง”


           “ชื่นชมกันจังเลยทั้งปู่ทั้งหลาน” ทินภพอดหมั่นไส้ไม่ได้ “ไม่รู้ไปทำเสน่ห์ที่ไหนมา ใครต่อใครถึงได้เห็นใจกันไปหมด”


                พูดจบทินภพก็เดินหนีกระแทกเท้าเข้าห้องส่วนตัวทั้งที่หน้ายังงอหงิก เขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามานั่งที่โต๊ะทำงาน แต่ก็ไม่มีสมาธิแม้แต่น้อย


              “โว้ย เป็นอะไรวะ”


              ยกมือลูบหน้าพยายามขับไล่ความฟุ้งซ่านเมื่อทำงานต่อไปไม่ไหว เขาเดินมาทิ้งตัวลงไปบนเตียงใช้สองมือประสานใต้ท้ายทอย ดวงตาแม้จะจ้องมองเพดานแต่กลับมีภาพของปักบุญที่นอนหลับอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลปรากฏอยู่


              “ไปให้พ้นนะปักบุญ ฉันไม่เห็นใจง่ายๆหรอก”


               กว่าจะข่มตาให้หลับได้ก็ปาไปค่อนคืน เมื่อถึงเช้าวันรุ่งขึ้นทินภพตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก่อนที่พี่เลี้ยงของแมงปอจะจัดการกับลูกสาวเสียอีก


               “พ่อ แต่งตัวแบบนี้จะไปไหน”


                เพราะปกติบิดามักจะตื่นแต่เช้ามืดแล้วแต่งกายรัดกุมเข้าไปทำงานในไร่และกลับมาพักในช่วงสาย แต่วันนี้ทินภพกลับแต่งกายเหมือนไม่ได้เข้าไร่ ทินภพหันมายิ้มให้ลูกสาว


               “หลังจากวันนี้พ่อจะให้ลุงดำไปขับรถให้คุณปู่ แล้วพ่อจะไปรับไปส่งแมงปอที่โรงเรียนเอง ดีไหมลูก”







               ปักบุญตื่นเช้าอย่างไม่สดใสนัก อาการปวดร้าวระบมเกิดขึ้นตามมัดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะช่วงล่าง ยิ่งตอกย้ำให้เขาเจ็บใจถึงสาเหตุจากทินภพเมื่อวานนี้ แต่เขาก็ต้องฝืนเพื่อจะไปทำงานที่โรงเรียนของกานติมาในวันแรก


              “ตื่นแล้วหรือปัก ทำไมทำหน้างอแบบนั้น”


               พรรณีเอ่ยถามอย่างแปลกใจแต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้หาคำตอบ ได้แต่จัดการหาอาหารเช้ามาให้ลูก


              “อ้อ น้ำในลำธารเริ่มไหลมาแล้วนะ ปักทำยังไงถึงทำให้ไร่โน้นเขายอมปล่อยน้ำมาให้ เก่งจังเลยลูก”


               น้ำเสียงชื่นชมของมารดาทำให้ขอบตาร้อนผ่าวเมื่อมูลค่าของน้ำที่ไหลผ่านคือร่างกายของเขาที่ต้องยอมให้ทินภพข่มเหง


                “ช่างเถอะแม่ เขาปล่อยน้ำมาก็ดีแล้ว เป็นประสบการณ์สอนปักว่าทำอะไรต้องทำให้รอบคอบ จะได้ไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีก อ้อ แม่ ปักจะไปทำงานที่โรงเรียนอนุบาลของเพื่อนนะ จะได้เงินมาอีกทางหนึ่ง เพราะถ้าให้ปักทำไร่ก็ไม่ถนัดเท่าไหร่”


               “ดีแล้วลูก ถ้าสบายใจก็ทำเถอะ งานในไร่แม่พอจะช่วยกันกับคนงานได้”


              พรรณีเห็นดีเห็นงามด้วย ปักบุญจึงรีบกินอาหารเช้าให้อิ่มแล้วขับรถยนต์ไปที่โรงเรียน เมื่อจอดรถเรียบร้อยเขาก็รีบเดินไปหากานติมาที่ห้องทำงาน ไม่นึกว่าจะบังเอิญพบกับทินภพที่พาแมงปอมาส่งที่ห้อง ร่างสูงหน้าตาคมเข้มกำลังยืนสนทนากับคุณครูสาวประจำห้องที่แมงปอเรียนอยู่


              “ดีใจจังที่วันนี้คุณทินมาส่งแมงปอได้ ต่ายไม่ได้คุยกับคุณทินตั้งนานแน่ะค่ะ”


               แปลกที่ปักบุญขัดหูขัดตากับท่าทีของคุณครูสาวและน้ำเสียงที่ร่าเริงเกินเหตุยามกล่าวกับทินภพ เหมือนอีกฝ่ายเหลือบเห็นเขาเข้าพอดีทินภพจึงคลี่ยิ้มส่งให้คุณครูคนนั้น


                “ผมวุ่นๆกับที่ไร่น่ะครับครูต่าย แต่หลังจากนี้จะมารับส่งแมงปอทุกวัน ถ้ามีปัญหาอะไรเกี่ยวกับแมงปอบอกผมได้เลยนะครับ”


              “อาปัก”


              เสียงเด็กหญิงดังขัดคอบิดาก่อนจะวิ่งถลามาหา ปักบุญได้แต่ยิ้มรับเมื่อเห็นรอยยิ้มสดใส


             “สวัสดีจ้ะแมงปอ”


             “อาปักหายดีหรือยังคะ วันนี้ได้กินข้าวมาเยอะๆหรือเปล่า เดี๋ยวไม่สบายอีกนะคะ”


              สีหน้าเป็นห่วงด้วยความไร้เดียงสาทำให้ปักบุญยิ่งเอ็นดู เขาวางมือบนศีรษะของเด็กน้อยก่อนโยกเบาๆ


              “วันนี้อาปักสบายดีแล้วค่ะ ขอบใจแมงปอนะคะที่เป็นห่วง”


              “แล้วก็อย่าทำตัวเป็นภาระใครอีกล่ะ”


              ไม่ใช่เสียงของแมงปอแต่เป็นเสียงของผู้เป็นพ่อ ทินภพเดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ปักบุญก็ไม่ทันมอง รู้อีกทีตอนได้ยินเสียงค่อนแคะจนปักบุญหน้าร้อนเห่อ


             “ผมจะเป็นอะไร ก็ไม่เห็นใครต้องมายุ่ง”


             กัดฟันตอบโต้เสียงเบาเพราะไม่อยากให้เด็กเล็กอย่างแมงปอได้ยิน เมื่อทินภพได้ยินดังนั้นเขาก็ขยับปากราวกับจะพูดอะไรต่อแต่ไม่ทัน ปักบุญยอมเสียมารยาทเดินหนีไปทันที แมงปอทำหน้ามุ่ยใส่บิดาเมื่อเห็นปักบุญเดินหนี


             “พ่อจ๋าจะดุอาปักทำไมคะ อาปักงอนเลย”


             “เข้าข้างกันจริง รู้จักเขาแค่วันเดียว” ทินภพหมั่นไส้บุตรสาวเหลือกำลังที่เข้าข้างปักบุญ “ไว้พ่อจะง้ออาปักของแมงปอทีหลังก็แล้วกัน ตอนนี้ไปเรียนได้แล้ว ครูต่ายเรียกเข้าห้องแล้ว”


              เมื่อส่งบุตรสาวเข้าห้องที่มีคุณครูสาวยืนยิ้มหวานรออยู่ ทินภพจึงค่อยเดินกลับมาที่รถของเขา ชายหนุ่มมองไปทางรถยนต์ของปักบุญที่เขาจำได้ด้วยความประหลาดใจ ความรู้สึกที่อยากจะตอแยอีกฝ่าย อยากแหย่ให้หน้าขรึมๆนั่นแสดงท่าทีโมโหโกรธา เหล่านั้นมันคืออะไรกันแน่


              ทินภพตอบตัวเองว่ามันคือความชิงชังนั่นแหละไม่ใช่อย่างอื่น เขาแค่อยากทำให้ปักบุญอับอายก็เท่านั้นเอง ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้ ไม่มีทาง!








              เมื่อมาพบกับกานติมาในตอนเช้า หญิงสาวจึงพาเดินแนะนำสถานที่และรู้จักกับคุณครูท่านอื่นๆ จากนั้นจึงพาไปที่ห้องเรียนของเด็กอนุบาลหนึ่งที่ขาดคุณครูอยู่ โดยห้องหนึ่งจะมีคุณครูประจำชั้นสองคน คุณครูอีกท่านเป็นหญิงมีอายุแล้วท่าทางใจดี ปักบุญสบายใจกับงานใหม่ของเขา ชายหนุ่มสนุกสนานไปกับเด็กๆจนกระทั่งถึงเวลาเลิกเรียน ขณะรอส่งเด็กนักเรียนเขาก็หันไปสบตากับใครคนหนึ่ง ทั้งคู่ต่างระลึกความทรงจำก่อนจะยิ้มให้กันด้วยความดีใจ


               “ปักบุญ”


             “พี่กฤษ”


              กฤษณะเป็นพี่ชายของกานติมา ซึ่งก็เคยคุยกันบ่อยๆ จำได้ว่ากฤษณะทำงานบริหารโรงเรียนในเครืออีกแห่งหนึ่ง ไม่นึกว่าจะได้พบกันวันนี้


             “ดีใจที่ได้เจอปัก ได้ข่าวจากกานอยู่เหมือนกันว่าปักมาสมัครเป็นครูที่นี่ ยินดีต้อนรับนะ”


             พี่ชายของกานติมาใจดีสำหรับเขาเสมอ กฤษณะเอาใจใส่เพื่อนของน้องสาวทุกคนจนเป็นที่พร่ำเพ้อของเพื่อนๆผู้หญิงในกลุ่ม แม้แต่ผู้ชายเช่นเขากฤษณะก็ยังโอบอ้อมอารี ต่างจากใครบางคนราวฟ้ากับเหว


              “ผมก็ดีใจที่ได้มาทำงานที่โรงเรียนนี้ บรรยากาศดีมากครับ”


               คุยกันอยู่พักใหญ่จนกระทั่งได้ยินเสียงแจ๋วๆของแมงปอดังขึ้น


              “อาปัก เอ๊ย ครูอาปักขา”


               เด็กหญิงจำได้ว่าปักบุญเคยบอกให้เรียกว่าคุณครูเมื่อพบกันที่โรงเรียน แต่แมงปอก็ยังอยากเรียกอย่างที่คุ้นเคย ปักบุญเอ่ยปากร่ำลากฤษณะก่อนจะหันมาหาแมงปอ


               “ว่าไงคะแมงปอ เรียนสนุกไหม เสียดายที่อาปักไม่ได้สอนห้องของแมงปอ”


                “แมงปอก็อยากให้อาปักสอนแมงปอค่ะ ครูต่ายสอนภาษาอังกฤษ แมงปอยังจำไม่ได้”


                แก้มยุ้ยหน้ายู่ลงด้วยความเสียดายเช่นเดียวกัน จนคนที่เดินเข้ามาใหม่ส่งเสียงขัดอย่างอดปากไม่ได้


               “อาปักเค้าคงไม่มีเวลาสอนแมงปอหรอกมั้ง มาทำงานวันแรกก็เที่ยวคุยกับคนโน้นคนนี้หน้าระรื่น”


                ความจริงคือทินภพมาถึงและยืนมองปักบุญขณะคุยกับกฤษณะพักใหญ่แล้ว เมื่อเห็นความสนิทสนมของทั้งคู่ บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงอารมณ์เสียนัก ยิ่งปักบุญอมยิ้มพลางมองตามหลังกฤษณะที่เดินห่างไปเขาก็ยิ่งฉุนเฉียว


               “ธรรมดาครับ ใครที่ดีกับเรา เราก็ต้องดีตอบ ใช่ไหมครับแมงปอ”


                “แมงปอ กลับบ้าน!”


                 “อ้าว พ่อจ๋า แมงปอยังคุยกับอาปักอยู่”


                  เด็กหญิงทำหน้าเหรอหราจนทินภพต้องคว้าแขนป้อมไว้


                “ทำเป็นจะไม่เจอกันอีกไปได้ เดี๋ยวก็ต้องเจอหน้ากันทุกวัน กลับได้แล้ว”


                พูดจบก็คว้าลูกสาวอุ้มขึ้นแขนแล้วสะบัดหน้าหนีเดินจาก ปักบุญมองตามหลังด้วยความไม่เข้าใจกิริยาอาการของทินภพ


               “จะบ้าหรือเปล่า คนอะไรอยู่ๆก็หัวร้อนไม่มีสาเหตุ”


               ปักบุญถอนหายใจก่อนจะเดินไปยังรถยนต์ของเขาแล้วขับกลับไร่ชมจันทร์






มีต่ออีกนิด...




หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 6 [17/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 17-12-2019 13:56:36


อ่านต่อตรงนี้...



           หงุดหงิด!


           ทินภพหงุดหงิดตัวเองที่หงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล


            เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ ถึงแม้จะเป็นคนใจร้อน แต่ความจริงคือเขาค่อนข้างบริหารเสน่ห์ตนเองได้ดี แต่วันนี้เขากำลังเสียอาการตั้งแต่กลับมาจากโรงเรียนของแมงปอ ทินภพต้องพยายามไม่แสดงมันออกมาให้ลูกสาวได้เห็นขณะสอนแมงปอทำการบ้าน แต่อยู่ๆภาพความสนิทสนมของปักบุญกับชายคนอื่นก็ปรากฏขึ้นมาอีกแล้ว


             หวนคิดไปถึงรสชาติบนเตียงในวันนั้น ความสุขสมยังคล้ายอบอวลอยู่ กลิ่นกายและเนื้อหนังยังตอกย้ำให้เขารับรู้ เขาคือคนแรกของปักบุญ เขาคือคนแรกที่ได้ลิ้มลองร่างกายนี้ และทินภพไม่ต้องการให้ใครมาซ้ำรอยเขา อย่างน้อยก็ในช่วงระยะเวลาที่เขายังต้องการตักตวง


            “แมงปอทำอีกสองข้อนะ เดี๋ยวพ่อมา”


             ลุกจากที่นั่งเดินไปพอไม่ให้ลูกสาวได้ยินเสียง ทินภพดึงโทรศัพท์มือถือมากดโทรไปหาใครบางคน ครั้งแรกถูกตัดสายทิ้ง แต่ทินภพก็ยังอดทนพอที่จะโทรไปครั้งที่สองและสาม จนกระทั่งครั้งที่สี่อีกฝ่ายจึงยอมรับสาย


            “โทรมาทำไม”


             ปลายทางกระแทกกระทั้นตอบ น่าแปลกที่ทินภพยิ้มออกมาได้


              “ทำไม โทรมาไม่ได้เหรอ อย่าลืมว่านายเคยโทรมาหาฉันก่อน”


               ปักบุญไม่ได้วางสายแต่เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะกล่าวอีกครั้ง


              “เราไม่ควรติดต่อกันอีก คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแลกกับสิ่งที่ผมอยากได้ ทุกอย่างจบแล้ว”


              “นายยังติดหนี้ค่าโรงพยาบาลที่ฉันจ่ายให้”


              ทินภพอ้างข้อได้เปรียบอีกครั้ง ปักบุญกัดฟันด้วยความโมโห


               “ถ้าเงินเดือนเดือนแรกออก ผมจะรีบจ่ายให้คุณ”


               “ฉันต้องการเดี๋ยวนี้!”


               ถ้าปักบุญขว้างโทรศัพท์ทิ้งได้ก็คงทำแล้ว แต่เขาทำได้แค่เพียงกำมันไว้แน่นจนเหงื่อซึม


               “คุณมันบ้า!”


               “สองทุ่ม นายต้องมาหาฉันที่ฝายกั้นน้ำ”


              “ผมไม่ไป”


               “ไม่ไป? หรือว่านายอยากให้ฉันขับรถเข้าไปในไร่ชมจันทร์แล้วบอกแม่ของนาย ว่าคุณแม่ครับ ผมกับลูกชายคุณแม่เราได้เสียกันแล้ว ลูกชายคุณแม่เสียสละร่างกายมอบความสุขให้ผมเพื่อแลกกับน้ำในไร่”


              “คนเลว”


              ทินภพยิ้มกับตัวเองเมื่อได้ยินน้ำเสียงก่นด่าแต่ทว่าไม่มีทางเลือกของปักบุญ เขารู้ว่ามารดาคือจุดอ่อนและต้องใช้ให้เป็นประโยชน์


            “ฉันจะไปรอที่นั่น และถ้าสองทุ่มนายยังไม่มา คงรู้ดีนะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”


            พูดจบทินภพก็ตัดสายทิ้ง เขาผิวปากเดินกลับไปหาแมงปออย่างอารมณ์ดีขึ้น


             “ลูกสาวพ่อเก่งจัง ทำการบ้านเองได้ถูกหมดเลย”


              ดึงแมงปอมาหยอกล้ออยู่พักหนึ่งจึงส่งลูกสาวให้พี่เลี้ยงพาไปนอน หลังจากนั้นร่างสูงจึงยืนขึ้น


             “จะไปไหนไอ้ทิน”


              บิดาเดินออกมาจากห้องชมภาพยนต์ เขาหันไปยิ้มให้นายทูล


              “ไปตรวจไร่สักหน่อยน่ะพ่อ ว่าพวกเวรยามหละหลวมหรือเปล่า”


            ทูลพยักหน้ารับ และไม่ได้สนใจอีกเพราะบุตรชายก็ดูแลไร่อย่างนี้เป็นปกติ ทินภพเดินไปที่รถยนต์ของเขาพลางสตาร์ทขับไปอย่างรวดเร็วจนมาถึงจุดหมายในเวลาไม่นานนัก รอจนใกล้ถึงเวลานัดชายหนุ่มจึงเห็นแสงไฟของรถยนต์คันหนึ่งที่ขับมาจากทางไร่ชมจันทร์จนกระทั่งมันจอดลงใกล้กับรถของเขา หากแต่คนขับกลับไม่ยอมลงมาจากรถ ทินภพเลิกคิ้วมองเมื่อเห็นความท้าทาย เขาก้าวลงไปที่รถคันนั้นพลางเปิดประตูออก


            “ลงมา”


             ปักบุญยังดื้อแพ่ง มองเขาด้วยดวงตาวาวโรจน์ แต่ทินภพไม่สนใจ เขากระชากแขนของปักบุญให้ออกมาจากรถ


              “คุณจะเอายังไงอีก”


              เมื่ออยู่กันเพียงลำพังท่ามกลางความมืดมิด ปักบุญจึงไม่ต้องรักษาอากัปกิริยาอีกแล้ว เขาตะโกนลั่นใส่หน้าทินภพด้วยเสียงสั่นเครือ


              “ผมยอมคุณ ให้คุณทำลายไปแล้ว มันไม่สาแก่ใจอีกหรือ”


                ทินภพไม่ตอบ เขาดึงแขนปักบุญที่ยังดิ้นรนแล้วผลักเข้าไปภายในรถของเขา ชายหนุ่มปิดประตูใส่ดังปังก่อนจะก้าวมาที่นั่งคนขับและสตาร์ทรถขับพาปักบุญลึกเข้ามาในอาณาเขตของไร่เชิญตะวัน จนกระทั่งหยุดลงหน้ากระท่อมเล็กหลังหนึ่ง ทินภพจึงลงไปฉุดให้ปักบุญเดินตาม ครั้นร่างโปร่งดิ้นรนทินภพจึงโอบเอวปักบุญขึ้นบ่าก้าวเข้าไปในกระท่อมที่มีเพียงแคร่ตัวเล็กตัวหนึ่งเท่านั้น


               “อย่านะ ไม่!”


               ปักบุญไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร เมื่อทินภพวางเขาลงไปกับแคร่ ดวงตาคมมองตรงมาราวกับไฟที่กำลังคุโชน




                                                                 TBC


                                   โอ๊ยยย อีคุณทินมันจะปล้ำปักบุญอีกล้าววว ช่วยปักบุญด้วย





                                              :o :o :o :o :o :o :o :o







หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 6 [17/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 17-12-2019 15:11:39
โอ้ยอีตาทินทำอย่างนี้กับปักบุญได้ยังไง เห็นคนอื่นเป็นที่สนองอารมณ์
ความเป็นมนุษย์นะมีบ้างไหม เป็นโรคจิตหรือที่ชอบทำร้ายคนไม่มีทางสู้
ช่างโหดร้ายเหลือเกิน ...ว่าแต่กระท่อมไปทางไหน เราจะได้ไปแอบดูว่า
...ว้ายไม่พูดดีกว่า
 :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 6 [17/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 17-12-2019 19:32:42
 :pig4: :pig4: :pig4:

โตจนมีลูกแล้ว  ตรรกะยังป่วยอยู่อีก  ช่างน่าสงสารจริง ๆ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 6 [17/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-12-2019 21:37:05
 :เฮ้อ:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 6 [17/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-12-2019 22:10:09
โอ๊ยยย สงสารโดนอีกแล้วว
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 6 [17/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-12-2019 10:10:26
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 6 [17/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 18-12-2019 21:52:01
ทินภพคือแย่มากๆ ปักบุญก็มีหัวใจมีความรู้สึกนะ ทำไมทำแบบนี้ :m31: :3125: ปักบุญอย่าไปหลงรักคนเลวง่ายๆน้า :katai1:  :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 6 [17/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 19-12-2019 00:56:21
พระเอกเราคุ้มร้ายมากกว่าคุ้มดี
กว่าจะรักกันได้จริงปักบุญน่าจะช้ำไปทั้งตัวแล้ว
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 6 [17/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 19-12-2019 03:11:10
อุ๊ยตายแล้ว!!!!!
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 6 [17/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 19-12-2019 10:21:55
รอดูวันที่ไอ้คุณทินรักปักหัวปักหัวปำ    :m19:


ปักต้องอย่าใจอ่อนง่าย ๆ นะ ให้ไอ้ซาตานมันคลั่งจนบ้าไปเลย    :m26:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 6 [17/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 20-12-2019 17:50:49
ขยันปล้ำแท้ ..
หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 7 [21/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 21-12-2019 15:46:43



                                                           หักเหลี่ยมรักซาตาน

                                                                 บทที่ 7



              “คุณไม่ควรทำแบบนี้ มันผิดมากนะ คุณมีครอบครัวแล้วก็ควรคิดถึงใจลูกเมียของคุณด้วย ถ้าพวกเขารู้ว่าคุณทำผิดซ้ำซากจะเสียใจแค่ไหน”


                ปักบุญทำใจดีสู้เสือเตือนสติเผื่อว่าทินภพจะคิดถึงใจของแมงปอและภรรยาบ้าง แต่สิ่งที่เห็นคือทินภพหรี่ตามองก่อนแค่นยิ้มออกมา


                “เป็นห่วงว่าตัวเองจะทำผิดศีลห้างั้นหรือ ไม่เป็นไรหรอกปักบุญ ถ้าจะตกนรกเราก็จะตกไปพร้อมกันนี่แหละ”


                 คนที่ตกเป็นเบี้ยล่างสัญญากับตัวเองว่าคราวนี้เขาจะสู้สุดชีวิตปักบุญจึงดิ้นรนไม่ยอมแพ้  ข้อมือแกร่งคว้าแขนทั้งสองของปักบุญที่ยังปัดป้องไม่เลิกไว้ได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ทินภพขยับนั่งคร่อมทับต้นขาของเขาเพื่อหยุดการดิ้นรนขัดขืน ทั้งยังดึงเข็มขัดที่ปักบุญคาดไว้กับกางเกงออกมาแล้วมัดข้อมือทั้งสองผูกติดกัน


                “คนสารเลว จะทำอะไร”


                 ปักบุญตกใจเมื่อตกอยู่ใต้พันธนาการ แขนทั้งสองถูกผลักให้ยกไปแนบกับศีรษะ ปลายเข็มขัดอีกข้างถูกมัดโยงไว้กับขาแคร่ข้างหนึ่ง ตอนนี้เองที่ชายหนุ่มรู้ว่าเขาเสียเชิงทินภพโดยไร้ทางต่อสู้


               “หยุดดิ้นสักทีสิ จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้”


                ร่างสูงโน้มลงมาเค้นเสียงอยู่ข้างหูอย่างเป็นต่อ ทินภพบีบกรามของปักบุญให้เปิดกว้างเพื่อที่เขาจะบดขยี้ริมฝีปากลงไปอย่างไม่ปรานี กว่าจะยอมถอนจูบหนักหน่วงกลีบปากนั้นก็เห่อบวมไปหมด ทินภพยืดกายขึ้นเพื่อที่เขาจะปลดกระดุมเสื้อของปักบุญออกจนกระทั่งสาบเสื้อแยกจากกัน มองเห็นผิวเนียนในความมืด


                 “อย่านะ คุณกำลังจะข่มขืนผม”


                เพียงมองเห็นเนื้ออ่อนบางก็ไม่มีอะไรมาหยุดทินภพได้แล้ว เขาขยับกายลงต่ำพลางโน้มกายลงไปอีกครั้งเพื่อเชยชมร่างกายที่เพียรหลอกหลอนเขามาตั้งแต่เห็นครั้งแรก ทินภพขบเม้มไปตามเนื้อตัวโดยเฉพาะติ่งไตเม็ดเล็กบนเนินอก มือใหญ่คว้าหมับที่จุดอ่อนไหวใต้กางเกงแล้วบีบเค้นไปมา ทุกอย่างเกิดจากประสบการณ์ช่ำชองของเขาที่รู้ดีว่าควรกระตุ้นที่จุดไหน มั่นใจว่าปักบุญไร้ประสบการณ์โดยสิ้นเชิง อาจจะไม่เคยแม้แต่ช่วยตัวเองให้สุขสมด้วยซ้ำ


               “ฮือ คนบ้า ผมเกลียดคุณ”


                ปักบุญหมดแรงดิ้นรนในเวลาไม่นานนัก ทุกจุดที่ทินภพโจมตีล้วนแล้วแต่อ่อนไหวสำหรับเขา ชายหนุ่มโกรธตัวเองที่โง่เขลาในเรื่องนี้จนกลายเป็นจุดอ่อนไปได้ และเกลียดเช่นกันที่ร่างกายของเขาตอบรับต่อการกระทำของทินภพ มันตื่นตัวยามที่กางเกงถูกชิงถอดแล้วโยนทิ้งลงไปกับพื้น ปักบุญเบิกตากว้างเมื่อทินภพรูดซิปกางเกงของเขาเพื่อนำอาวุธที่จะทำร้ายปักบุญออกมา


               “มะ ไม่”


                ท่อนขาของปักบุญถูกดันให้แยกห่าง ทินภพใช้น้ำลายตนเองถ่มใส่เพื่อช่วยให้ความชุ่มชื้นในยามคับขัน เขาก้มมองปักบุญในความมืด บอกไม่ถูกว่าเหตุใดถึงต้องการคนคนนี้นัก ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมีอิทธิพลกับทินภพเท่าปักบุญ มันเต็มไปด้วยความกระหายในเรือนร่างและต้องการเอาชนะ ทินภพต้องการครอบครองปักบุญแต่เพียงผู้เดียว


               “อ๊ะ อ๊าก”


                ปักบุญแหงนหน้าร้องลั่นเมื่อทินภพดันเอวเข้าใส่ช่องทางของเขา แต่ไม่นานทินภพก็ปิดเสียงนั้นไว้ด้วยปากที่กดทับแนบแน่นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาบังคับให้ปักบุญเปิดทางสำหรับลิ้นร้อนที่ฉกลงไปราวกับอสรพิษร้าย มันตวัดฉวัดเฉวียนอยู่ในช่องปากจนปักบุญสติกระเจิดกระเจิง ในขณะเบื้องล่างทินภพก็ไม่ว่างเว้นที่จะดันเอวลึกเข้ามาเรื่อยๆ กว่าจะรู้ตัวปักบุญก็ถูกสอดใส่เข้ามาจนมิดเต็มความยาวของอาวุธ


                “เลิกดิ้น เลิกร้องไห้สักที ฉันจะทำให้เราสุขสมด้วยกันทั้งคู่ นายไม่ชอบเหรอ”


                ทินภพกระซิบด้วยเสียงที่บังคับให้มันสั่นน้อยที่สุด ยามนี้ร่างกายของเขาตื่นตัวเป็นอย่างมากเมื่อได้ล่วงล้ำเข้าไปสู่ปักบุญจนคับแน่น ปักบุญมองเขากลับด้วยสายตาตัดพ้อระคนเจ็บใจ นั่นยิ่งทำให้ทินภพอยากเอาชนะมากขึ้น


                 “ไม่ ไม่มีทางที่ผมจะเป็นอย่างที่คุณต้องการ ไม่มีทาง”


               หัวใจของปักบุญไหววูบเมื่อเห็นดวงตาคมที่อยู่ใกล้เพียงลมหายใจร้อนรินรดเบิกกว้างไปด้วยประกายแห่งความดึงดันเอาแต่ใจ ในวินาทีนี้ทินภพเผด็จการจนน่ากลัว ปักบุญพยายามแล้วที่จะต่อสู้ ข้อมือทั้งสองที่ถูกพันธนาการไว้เหนือหัวเจ็บแปลบเพราะเข็มขัดบาดเข้าเนื้อนุ่ม แต่กระนั้นก็ยังปราศจากอิสระ


                “อย่างนั้นหรือปักบุญ ถ้างั้นมาลองดูกันว่านายจะทำได้อย่างที่ท้าทายหรือเปล่า”


                คนเอาแต่ใจเปลี่ยนแผนการณ์กะทันหัน หากไม้แข็งไม่อาจเอาชนะได้ทินภพก็อยากจะลองใช้ไม้นวมในการจัดการกับคนใต้ล่าง เขาจูบปากเก่งที่กำลังเห่อบวมนั่นอีกครั้ง แต่ทว่าคราวนี้ทินภพใช้ความช่ำชองที่ใครๆ ต่างหลงใหลให้เป็นประโยชน์ จูบครั้งนี้แม้จะหนักหน่วงแต่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนหลอกล่อให้ปักบุญเดินเข้ามาติดกับ มือใหญ่สากลูบไล้ไปตามเนื้อตัวก่อนหยุดเค้นคลึงยอดอกพุ่งชูชัน ทุกอย่างกระทำไปพร้อมเอวที่เคลื่อนไหวช้าๆ ไม่เร่งร้อน ถึงอย่างไรปักบุญก็ตกเป็นของเขาอยู่แล้ว


                 “อื้อ อึก ฮัก อย่านะ”


                 ได้ผลดีกว่าที่คิด เนื้อตัวของปักบุญสั่นเทา ลมหายใจหอบกระเส่าร้อนผ่าวอย่างเห็นได้ชัด กล้ามเนื้อคล้ายจะปริแยกไปทุกส่วน เขาชันขาขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจรับไปกับแรงของทินภพที่เพิ่มขึ้นบนแคร่ไม้จนได้ยินเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดกลัวว่ามันจะพังทลาย


                 “นายกำลังจะฆ่าฉัน”


                  ทินภพสบถเสียงสั่นพร่า ช่องทางของปักบุญทั้งร้อนทั้งบีบคั้น คล้ายกำลังกวักมือเรียกร้องให้เขากระโจนลงไปในบ่อดำลึกที่ปักบุญขุดไว้ ทั้งที่รู้ว่าอาจถอนตัวไม่ขึ้นแต่ทินภพกลับห้ามใจไม่อยู่ ตอนนี้เขาพร้อมที่จะกระโดดลงไปไม่ว่าหลุมนั้นจะลึกแค่ไหนก็ตาม


                 “มองตาฉันสิ ปักบุญ ฉันชอบให้คู่นอนของฉันมองตอนไคลแม็กซ์”


                มือใหญ่ทั้งสองวางแนบแก้มบังคับให้กรอบหน้านั้นตั้งตรง เพื่อทินภพจะได้มองสบตาที่เต็มไปด้วยน้ำหล่อเลี้ยง มันปนเปทั้งน้ำตาและความฉ่ำหวานยามร่างกายใกล้กระโจนข้ามฝั่ง เขาชอบที่ได้เห็นปักบุญครางออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่


                “ฮือ มะ ไม่ไหว คุณทิน ได้โปรด”


                 ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บใจที่ไม่อาจทนกับความทรมานได้ ทินภพไม่ได้รุนแรงเลยในครั้งนี้ หากแต่ทุกคราวที่เขาเคลื่อนที่เข้าใส่มันสร้างความตื่นตัวที่ปักบุญไม่เคยพบพานมาก่อน ปักบุญได้ยินเสียงคำรามอย่างสาแก่ใจก่อนที่ทินภพจะขยับกายด้วยความเร็วและแรงขึ้น


                 “ดีมากปักบุญ ครางเสียงดังขึ้นไปอีก โยกเอวรับฉันอีก ดีมาก”


                 ปักบุญเงยหน้าส่งเสียงดังลั่นกระท่อมอย่างไม่นึกอายอีกแล้ว กล้ามเนื้อเกร็งไปทุกส่วนคล้ายถูกกระชากจนขาดวิ่นในวินาทีนั้น ทินภพเป่าปากรับความบีบคั้นก่อนจะเร่งเอวในระยะสุดท้าย เขาเกร็งกายค้างไปชั่วครู่พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ไปกับความสุขสมที่ได้รับ


                อา...เขาไม่เคยอิ่มเอมเท่านี้มาก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นเซ็กส์กับผู้หญิงคนไหนที่ผ่านมา เขาก้มหน้ามองปักบุญที่ยังหายใจหอบกระเส่า ทินภพคลี่ยิ้มโดยไม่รู้ตัวขณะปลดเข็มขัดจากข้อมือทั้งสอง เมื่อมือนั้นเป็นอิสระมันก็ลอยมาฟาดเผียะเข้าที่ใบหน้า ปักบุญผลักเขาทีเผลอจนส่วนประสานหลุดออกจากกันก่อนจะตะแคงหันหลังให้เขาด้วยความเจ็บใจ


                 “เอะอะอะไรก็ตบ เป็นนักวอลเล่ย์บอลทีมชาติเหรอ”


                 ทินภพอารมณ์ดีเกินกว่าจะถือสา เขาตะแคงกายอยู่ด้านหลังใช้มือยันศีรษะมองร่างสั่นเทา อดไม่ได้ที่จะวาดวงแขนพาดไปที่เอวของปักบุญ


                “อย่ามายุ่งกับผม ไอ้คนสารเลว”


                 ปักบุญใช้หลังมือป้ายน้ำตาสะกดความเจ็บใจไว้ เขายันกายนั่งติดกระดุมเสื้อพลางลุกจากแคร่เพื่อจะคว้ากางเกงมาใส่คืน แต่เมื่อเท้าถึงพื้นเขากลับร่วงลงไปกองกับพื้นเพราะท่อนขานั้นสั่นเทาเกินกว่าจะยืนไหว





มีต่ออีกนิด...



หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 7 [21/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 21-12-2019 15:52:11


อ่านต่อตรงนี้...



              “โธ่โว้ย”


              สบถออกมาจนจิตใจของทินภพอ่อนยวบ เขาลุกตามมารวบเอวคนตัวเล็กกว่าให้กลับไปนั่งบนแคร่ ทินภพหยิบกางเกงของปักบุญขึ้นมากางไว้กับปลายเท้าทั้งสอง


               “ใส่เสียสิ”


               ปักบุญสบตากับดวงตาคมนั้น บอกตนเองว่าเป็นอุปาทานที่เห็นมันอ่อนแสงลงไปไม่ได้คุโชนเหมือนก่อนหน้านี้ เขานิ่งงันไปพักหนึ่งจนทินภพต้องเอ่ยเตือน


               “ไม่อยากกลับบ้าน? หรืออยากจะนอนเล่นดูดาวกับฉันที่กระท่อมนี้ทั้งคืน”


               ปักบุญสะบัดหน้าหนี เขาดึงกางเกงมาสวมให้ตนเองเรียบร้อยร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนแล้วช้อนแขนอุ้มเขาขึ้นมา


                “ทำอะไรน่ะ”


                 หน้าเสียเพราะกลัวตก ปักบุญเผลอคล้องคอทินภพที่อุ้มเขาไว้ สีหน้าของคนอุ้มแสดงความรำคาญออกมา


                 “อย่าดื้อ ยืนยังไม่ไหวจะเดินไปที่รถยังไง แล้วหัดกินข้าวให้มันเยอะๆหน่อย ตัวผอมจนจะปลิวลมอยู่แล้ว”


                 พูดจบทินภพก็เดินไปที่รถกระบะของเขาที่จอดอยู่ด้านนอก ชายหนุ่มวางปักบุญลงไปอย่างนุ่มนวลก่อนที่เขาจะอ้อมไปยังฟากคนขับแล้วสตาร์ทรถขับพาปักบุญไปยังฝากน้ำที่รถของปักบุญจอดอยู่ ระหว่างทางมีแต่ความเงียบจนกระทั่งทินภพจอดรถ ปากที่เม้มแน่นมาตลอดทางจึงได้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา


                 “ต่อจากนี้ผมกับคุณไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว”


                 “มีสิ นายยัง...”


                  “หากคุณเอาเรื่องปู่ย่าตายายในอดีตมาอ้าง คุณรู้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้นตอนนั้น คุณเองก็ยังไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ”


                 ปักบุญเหยียดยิ้ม เขาเชิดหน้าหันไปสบตากับทินภพ


                 “ปู่ของคุณอาจจะบังคับฝืนใจย่าเหมือนที่คุณทำกับผม ย่าของคุณถึงได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่รู้ว่ามันไม่ดีแต่ก็ต้องทำ คนเราถ้าไม่ถึงที่สุดก็คงไม่ทำอะไรที่เป็นผลร้ายกับตัวเองหรอก ก่อนที่จะโทษว่าใครทำร้ายคนในครอบครัวคุณ คุณลองหันกลับไปมองว่าครอบครัวคุณทำร้ายคนอื่นก่อนหรือเปล่า”


                 คำพูดยืดยาวของปักบุญทำให้ทินภพนิ่งงัน และไม่อาจกล่าวอะไรได้เมื่อปักบุญเปิดประตูรถก้าวไปด้านล่างและปิดประตูตาม


                “ต่อจากนี้คุณจะมายุ่งกับผมอีกไม่ได้ ถือว่าผมชดใช้ให้คุณแทนปู่ของผมไปแล้ว”


                ปักบุญเดินตรงไปที่รถของเขาโดยไม่หันกลับมาอีก ทินภพได้แต่มองปักคุณขับรถจากไปจนแสงไฟลับตาเขาจึงค่อยขับรถกลับบ้าน ความรู้สึกของเขาสับสนไปหมดกับคำพูดตัดรอนของปักบุญ จนกระทั่งก้าวขึ้นบันไดเกือบถึงห้องนอน เขาก็ต้องฝืนยิ้มเมื่อเห็นร่างป้อมของแมงปอเดินงัวเงียอยู่


               “แมงปอ ตื่นมากลางดึกทำไมล่ะลูก”


                ดูนาฬิกาที่ข้อมือบอกเวลาอีกไม่กี่นาทีจะเที่ยงคืน เด็กหญิงเดินมาหาบิดาให้ร่างสูงอุ้มขึ้น


                 “แมงปอมาเข้าห้องน้ำค่ะ พ่อล่ะคะไปไหนมา”


                   รสชาติความอิ่มเอมยังอวลอยู่บนร่างกายเบาสบายหากแต่หัวใจหนักอึ้ง ทินภพได้แต่เก็บงำมันไว้ซอกหนึ่งของหัวใจ


                 “พ่อไปตรวจไร่มาค่ะ แมงปอไปนอนต่อดีกว่า”


                  อุ้มลูกสาวคนเดียวไปยังห้องนอนที่อยู่ติดกัน ทินภพวางแมงปอลงบนเตียงแล้วดึงผ้าห่มมาห่มให้ เขาลูบผมแมงปอเบาๆ


                “พ่อเหงาหรือคะ”


                 เด็กหญิงเงยหน้ามองบิดาพลางเอ่ยถาม ทินภพหัวเราะเบาๆ


                  “แก่แดดใหญ่แล้ว รู้ได้ไงว่าพ่อเหงา”


                   “แม่บอกค่ะ” เด็กหญิงกอดแขนบิดาไว้พลางยิ้มประจบ “วันนี้แม่โทรมา บอกว่ามีแฟนใหม่แล้วเป็นคนดีมาก แล้วแม่ก็บอกว่าพ่อเหงา ให้พ่อหาแฟนนิสัยดีๆ ได้แล้ว”


                 ทินภพหัวเราะเบาๆ เขาหอมแก้มแมงปอฟอดใหญ่


                  “แมงปออยากให้พ่อมีแฟนแบบไหน”


                  แมงปอนิ่งคิดก่อนจะกล่าวออกมาประสาเด็ก


                  “แมงปอไม่ชอบคนแต่งหน้า ชอบคนพูดเพราะๆ ใจดี สอนการบ้านให้แมงปอได้ อย่างครูอาปัก”


                 “ครูอาปักของแมงปอเขาไม่ชอบหน้าพ่อ จะยอมสอนการบ้านให้แมงปอหรือ”


                  “แล้วพ่อไปทำอะไรให้อาปักไม่ชอบล่ะคะ”


                   เด็กหญิงเอียงหน้าถามด้วยความสงสัย บิดาได้แต่อึ้งก่อนถอนหายใจออกมา


                  “ช่างเถอะ เรื่องของผู้ใหญ่แมงปออย่าเพิ่งรู้เลย นอนต่อเถอะนะจะได้ตื่นเช้าๆ พรุ่งนี้เราซื้อขนมไปฝากอาปักกันดีกว่า เผื่อเขาจะยอมสอนการบ้านให้แมงปอนะ”


                   แมงปอพยักหน้าก่อนหลับตาลง ทินภพอยู่กับลูกจนหลับไปอีกครั้งจึงได้เดินกลับห้องตนเอง เขายืนทอดสายตาอยู่ริมหน้าต่าง ไปยังทิศทางของไร่ชมจันทร์ ดวงตาตัดพ้อยังวนเวียนอยู่ในความคิดคำนึง


                   “ต่อจากนี้ผมกับคุณไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว”


                  ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดตัดรอนประโยคนี้จะบาดลึกอยู่ในจิตใจได้ ทินภพได้แต่ถามตนเองว่าเขาจะทนได้หรือไม่หากจะไม่ได้เห็นหน้าปักบุญอีก เขาไม่กล้าตอบคำถามของตัวเองไปตลอดทั้งคืน







                 ปักบุญมาทำงานแต่เช้าด้วยสีหน้าไม่แจ่มใสนักแต่ก็ต้องฝืนยิ้มให้เด็กๆที่ยกมือไหว้หน้าประตูโรงเรียน เขาแทบจะปั้นหน้ายิ้มไม่ได้เมื่อเห็นรถของทินภพตรงเข้ามาจอดหน้าประตูรั้ว ดีที่ร่างสูงยังคงนั่งอยู่บนรถขณะคุยกับบุตรสาวและปล่อยให้แมงปอเดินลงมาเพียงผู้เดียวพร้อมกับหอบถุงใส่ขนมและแก้วกาแฟมาด้วย


                “สวัสดีค่ะครูอาปัก”


                 “สวัสดีจ้ะแมงปอ แล้วนี่หอบอะไรมาเยอะแยะ”


                  เด็กหญิงยิ้มกว้างพลางยื่นทั้งหมดให้ปักบุญ


                  “พ่อซื้อมาฝากค่ะ กลัวครูอาปักเป็นลมไปอีกก็เลยซื้อขนมปังกับกาแฟมาให้”


                  ปักบุญเหลือบตามองคนที่ยังนั่งนิ่งอยู่ในรถ หัวใจกลับเต้นตึกตักไปวูบหนึ่งจนต้องเตือนให้มันเป็นปกติ เขาฝืนยิ้มให้เด็กหญิงพลางรับถุงขนมและแก้วกาแฟมาจากแมงปอ


                  “ขอบใจนะแมงปอ แต่ตอนนี้อากินข้าวเยอะแล้ว แมงปอไม่ต้องเป็นห่วงนะ รีบเข้าห้องเรียนเถอะ”


                  เด็กหญิงเดินจากไปเข้าห้องเรียน รอยยิ้มบนใบหน้าจึงค่อยหุบลง ปักบุญเชิดหน้าสูงขณะเดินไปที่ถังขยะไม่ไกลนักและทิ้งทั้งหมดลงถังโดยที่เขามั่นใจว่าการกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาของคนที่ยังนั่งนิ่งอยู่ในรถ


                 หัวใจเจ็บแปลบ ปักบุญแปลผลว่ามันคือความเจ็บแค้นเกลียดชัง เขาจะไม่ปล่อยให้ทินภพมาวุ่นวายกับเขาอีกต่อไป ปักบุญเดินกลับไปที่เดิมและพยายามสนใจแต่นักเรียนกับผู้ปกครองที่มาส่ง โดยไม่หันไปมองทินภพแม้แต่นิดเดียว




                                                                   TBC


                                                   อย่าใจอ่อนง่ายๆ เราต้องเล่นตัวนะปักบุญ





                                                              :m14: :m14: :m14: :m14: :m14: :m14: :m14:




หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 7 NC [21/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-12-2019 18:56:03
โอ๊ยย สงสารปักบุญ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 7 NC [21/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 21-12-2019 19:14:00
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 7 NC [21/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 21-12-2019 20:47:29
ปักบุญ​ตอนนี้ยังโกรธ​อยู่​ เลยตั้ง​ใจทำแบบสะใจ​ แต่ตอนอยู่กับตัว​เอง​ อย่าไปคิดถึงเขาละ​ ก็นะคนแรกของตัวเองนี่นา..
 :-[  :-[
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 7 NC [21/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 21-12-2019 21:16:09
 :pig4: :pig4: :pig4:


แหม่...นู๋ปัก   โดนไปสองรอบเอง  มีอาการเจ็บแปลบหัวใจแล้วเหรอ?
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 7 NC [21/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-12-2019 01:16:48
ทินภพเจองานหินแล้ว555
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 7 NC [21/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 22-12-2019 01:16:59
เสียดายขนมอ่ะ5555 ดีมากปักบุญเล่นตัวเยอะๆห้ามใจอ่อนง่ายๆ :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 7 NC [21/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-12-2019 11:43:09
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 7 NC [21/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 24-12-2019 16:52:12
สู้ๆ อย่ายอมแพ้
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 7 NC [21/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: swasdee ที่ 27-12-2019 06:49:25
 :mew2:
เป็นกำลังใจให้นะคะ
ชอบแนวนี้เลย
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 7 NC [21/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 27-12-2019 15:02:25
โดนเขาเมินใส่สะแล้ว สมควร
หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 8 [27/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 27-12-2019 19:35:56



                                                       หักเหลี่ยมรักซาตาน

                                                             บทที่ 8



                ปักบุญจำได้ว่าเขาทิ้งถุงขนมที่เด็กหญิงแมงปอหิ้วมาฝากลับหลังแมงปอเดินเข้าห้องเรียนอยู่หลายวัน จนกระทั่งในวันสุดท้ายของสัปดาห์ และวันนั้นเองที่พ่อของแมงปออดรนทนไม่ไหวถึงกับต้องเดินลงมาจากรถเพื่อมากอดอกยืนมองขณะปักบุญหย่อนถุงขนมลงในถังขยะ


                “ขนมมันมีความผิดอะไรถึงต้องโยนมันทิ้ง”


                น้ำเสียงยียวนข้องใจดังขึ้นเบื้องหลัง ปักบุญแอบสะดุ้งอยู่ในใจก่อนจะเชิดหน้าขึ้นแล้วค่อยหันไปเผชิญหน้าเจ้าของเสียง


                “เด็กเป็นห่วง อุตส่าห์คะยั้นคะยอให้ฉันแวะซื้อมาฝากคุณครูที่รักทุกวัน ถ้าแมงปอรู้ว่าคุณครูปฏิเสธความหวังดีด้วยการโยนทิ้งถังขยะเด็กมันจะเสียใจแค่ไหน แล้วถ้าเกิดกลายเป็นปมในใจไปตลอดชีวิตล่ะใครจะรับผิดชอบ”


                 อยากจะถอนหายใจกับคำพูดที่ฟังออกว่าทินภพกำลังประชดประชัน ปักบุญไม่เข้าใจว่าทำไมทินภพถึงยังตามมารังควาญเขาอีกทั้งที่อีกฝ่ายก็ได้ในสิ่งที่ต้องการไปหมดแล้ว


                 “ผู้ปกครองไงครับที่ต้องประคับประคองให้เด็กผ่านเรื่องพวกนี้ไปให้ได้ คุณจะมาพึ่งพาแต่ครูที่โรงเรียนได้ยังไง เป็นพ่อเป็นแม่คนก็ต้องดูแลลูกที่เกิดมา เว้นเสียแต่ว่าผู้ปกครองไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะดูแลบุตรหลานได้”


                แสบนักนะ!


                ทินภพจ้องมองใบหน้าเปื้อนยิ้มเย็นๆ ที่เชือดเฉือนเขาด้วยวาจา เห็นหน้าอ่อนๆ ใสๆ แต่ร้ายไม่ใช่เล่น ไม่เคยมีใครมายืนเถียงกลับเขาฉอดๆ แบบนี้ยกเว้นคนที่ชื่อปักบุญ บุคคลที่ทินภพมองด้วยความดูหมิ่นดูแคลนมาตลอด


                แต่ทำไมเขาต้องพาตัวเองมาให้ปักบุญต่อว่าด้วยทินภพก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ยิ่งมองปากอิ่มสีแดงตามธรรมชาติขยับเคลื่อนไหวยามกล่าวตอบโต้กลับกลายเป็นยิ่งเพลิดเพลินไปอีก เขาเผลอมองกลีบปากที่รู้แล้วว่ารสชาติหวานแค่ไหนจนกระทั่งปักบุญพูดจบสติจึงเพิ่งจะกลับเข้าตัว


                 “ช่างเถอะ ฉันไม่อยากจะเถียงเรื่องแมงปอกับนายนักหรอกปักบุญ เอาเป็นว่าฉันอยากให้นายรู้ไว้ แมงปอน่ะชอบนายมาก ทั้งที่ไม่เห็นจะมีอะไรน่าชอบสักนิด ถึงนายจะเกลียดฉันมากแต่ควรจะเข้าใจความรู้สึกของเด็กด้วย อย่าให้เสียชื่อว่าเป็นถึงครูบาอาจารย์แต่ไม่เข้าใจเด็กก็แล้วกัน”


                   ปักบุญอ้าปากค้างเมื่อฟังทินภพพูดจบ ร่างสูงเดินหันหลังหนีไปที่รถทันทีปล่อยให้ปักบุญมองตามหลังแล้วแอบเบ้ปากใส่


                 “คนอะไรปากจัดชะมัด”


                  แต่คำพูดที่ทินภพพูดมาก็เป็นเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ พักกลางวันขณะดูแลนักเรียนรับประทานอาหารปักบุญจึงเดินไปหาแมงปอ


                 “อาหารอร่อยไหมคะแมงปอ”


                 แก้มยุ้ยยิ้มน่ารักเมื่อปักบุญเดินไปหา แมงปอเป็นเด็กร่าเริงแจ่มใสผิดกับบิดาลิบลับ ปักบุญเดาว่าแม่ของแมงปอต้องเป็นสตรีอารมณ์ดี แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่อคิดถึงเรื่องนี้จะต้องเจ็บแปลบที่หน้าอกด้วย


                 “อร่อยค่ะครูอาปัก แมงปอกินได้ทุกอย่างบนโลกนี้”


                  ปักบุญยิ้มขำ เขาโยกศีรษะของเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู


                 “แล้วเรื่องเรียนภาษาอังกฤษที่เคยบอกอา ตอนนี้ทำได้หรือยังคะ”


                  แมงปอหน้ามุ่ย เด็กหญิงแอบกระซิบไม่ให้ครูประจำชั้นเห็น


                  “พอได้ค่ะครูอาปัก แต่ครูต่ายชอบให้การบ้านยากๆ อยากให้ครูอาปักสอนให้จัง”


                 “ได้สิคะ ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนถามอาก็ได้ รับรองจะสอนให้แมงปอได้คะแนนเต็มเลย”


                  ปักบุญหลิ่วตาให้แมงปอก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะอาหารของนักเรียนชั้นที่เขาดูแลอยู่ และลืมเรื่องที่คุยกับเด็กหญิงไปแล้วจนกระทั่งกลับบ้านอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำรายงานวิทยานิพนธ์ที่ยังเหลือค้างอยู่ จนกระทั่งสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาแผดเสียงดังขึ้น ปักบุญย่นหัวคิ้วเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรมาหา แถมยังเป็นการโทรแบบแสดงภาพอีกด้วย


                 “โทรมาทำไมอีก ผมบอกคุณแล้วไงว่า...”


                  “อาปัก แมงปอเองค่ะ”


                  ภาพเด็กหญิงแก้มยุ้ยปรากฏขึ้นจนเขาหยุดเสียงแทบไม่ทัน ปักบุญรีบเปลี่ยนหน้าบึ้งของเขาให้มีแต่รอยยิ้มทันที


                  “แมงปอ อานึกว่า เอ่อ ช่างเถอะ มีอะไรกับอาหรือเปล่าคะ”


                “ครูต่ายให้การบ้านยากอีกแล้วค่ะ พ่อบอกว่าพ่อสอนไม่เป็นก็เลยให้แมงปอโทรหาอาปักให้สอนการบ้านแมงปอ”


                เบื้องหลังเด็กหญิงไปไม่ไกลนักปักบุญมองเห็นพ่อของเด็กหญิงนั่นอ่านนิตยสารที่ถืออยู่ในมือ ปักบุญคลี่ยิ้มให้แมงปอและพยายามไม่สนใจทินภพ


                “ไหนเอ่ย เดี๋ยวอาสอนให้”


                ปักบุญคุยกับแมงปอพักหนึ่งก่อนเด็กหญิงก้มหน้าก้มตาไปทำการบ้านต่อ ตอนนั้นเองที่โทรศัพท์มือถือถูกทินภพถือไว้ในมือ ปักบุญส่ายหน้าใส่เขาคล้ายจะระอา


                “คุณควรจะสอนการบ้านแมงปอ” ปักบุญส่งเสียงเข้มใส่เขา “การบ้านมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้ปกครองได้รู้ความสามารถและพัฒนาการของเด็ก คุณไม่ควรเพิกเฉยและปล่อยให้ลูกของคุณมีปัญหา”


                 “ฉันสอนการบ้านเด็กไม่เป็น”


                 ทินภพตอบง่ายๆ แต่ปักบุญยิ่งโมโหจัด


                  “การบ้านเด็กอนุบาลเนี่ยนะทำไม่ได้ จำได้ว่าพอจบม.ปลายคุณก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ แล้วมาบอกว่าทำการบ้านเด็กอนุบาลไม่ได้ โธ่เอ๊ย คุณทินภพ”


                 จะว่าฉุนก็ฉุน ขำก็ขำเมื่อเห็นสีหน้าของปักบุญ เขาต้องรีบเก๊กหน้าดุกลบเกลื่อนรอยยิ้มที่อาจผุดขึ้นมาได้ทุกเมื่อ


                “ไม่ได้บอกว่าทำการบ้านเด็กอนุบาลไม่ได้ บอกว่าสอนเด็กไม่เป็นต่างหาก เฮอะ ใครจะไปมีจิตวิทยาหลอกล่อเด็กได้เหมือนคุณครูปักบุญล่ะ”


                 “พ่อคุยอะไรกับอาปักคะ”


                 แมงปอเงยหน้าขึ้นถาม ทินภพหันไปยิ้มให้ลูกสาว


                  “พ่อบอกอาปักของแมงปอว่าให้ช่วยสอนการบ้านให้ลูกของพ่อหน่อยเท่านั้นเอง ถึงเวลาเข้านอนของแมงปอแล้ว มาสวัสดีคุณอาแล้วไปเข้านอนเถอะ”


                 เด็กหญิงขยับมามองจอโทรศัพท์พลางยิ้มแป้น


                “อาปักสอนการบ้านง่ายจัง แมงปอทำได้หลายข้อแล้วค่ะ อาปักสอนแมงปออีกนะคะ”


                 “ได้สิคะ”


                  ปักบุญรับปาก เด็กหญิงเอ่ยคำลาก่อนวางสาย ปักบุญย่นจมูกใส่ราวกับโทรศัพท์ในมือคือทินภพ


                  “คนบ้า ชอบหาเรื่อง โทรหาคนอื่นค่ำๆมืดๆ เดี๋ยวเมียได้โมโหตายหรอก”


                   ปักบุญปิดแล็ปท็อป เขาไม่มีใจจะทำงานแล้วเมื่อหัวใจเต้นผิดจังหวะ เกลียดความรู้สึกปวดแปลบยามคิดถึงครอบครัวสุขสันต์พร้อมหน้าพ่อแม่ลูกของทินภพ


                   “ปักบุญ เลิกเพ้อเจ้อแล้วไปนอนได้แล้ว อย่ามัวแต่ไปคิดถึงคนที่ทำให้นายเจ็บทั้งกายและใจสิ”


                  ก้าวขึ้นเตียงพลางดึงผ้าห่มมาคลุมโปง ปักบุญพลิกกายไปมา ใจกระหวัดคิดถึงบทเรียนครั้งแรกและครั้งที่สองที่ทินภพบังคับ หากแต่รสชาติของการบังคับกลับทำให้เขาสุขสมอย่างปฏิเสธไม่ได้


                 “โอ๊ย อย่าไปคิดถึงคนแบบนั้น”


                  ใช้หมอนปิดหูตนเองแล้วหลับตาลงเพื่อหักห้ามความคิดเหล่านั้น ปักบุญต้องรีบสะกดตนเองด้วยข้อความซ้ำๆ


                  “ผมเกลียดคุณ ชาตินี้อย่าได้มาเจอมาข้องแวะกันอีกเลย”




มีต่ออีกนิด...



หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 8 [27/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 27-12-2019 19:43:25


อ่านต่อตรงนี้..




               ดูเหมือนคำขอของปักบุญจะไม่เป็นผล เพราะในช่วงสายของวันรุ่งขึ้นที่เป็นวันหยุดคนงานในไร่ชมจันทร์รวมถึงนางพรรณีแม่ของปักบุญก็ต้องแปลกใจอย่างหนักเมื่อเห็นรถของทินภพขับเข้ามาในเขตไร่และมาหยุดอยู่หน้าบ้านพักของสองแม่ลูก พรรณีได้แต่อกสั่นขวัญแขวนเมื่อเห็นทินภพก้าวลงจากรถ


                “ปัก ปักมานี่เร็วลูก นั่นคุณทินภพไร่เชิญตะวันไม่ใช่เหรอ เขามาบ้านเราทำไมอีกล่ะลูก”


                 ปักบุญวางมือจากงานวิทยานิพนธ์แล้วเดินออกมาสมทบกับมารดา คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อเห็นร่างสูงอุ้มแมงปอเดินตรงเข้ามายังตัวบ้านอย่างไม่ได้นึกเกรงใจสักนิด เมื่อก้าวเข้ามามองเห็นสองแม่ลูกทินภพจึงปล่อยแมงปอให้ยืนบนพื้น


                 “อาปักขาสวัสดีค่ะ คุณยายสวัสดีค่ะ”


                 คำทักทายจากเด็กน้อยพอช่วยคลายความกดดันของบรรยากาศลงได้บ้าง นางพรรณีเอ็นดูเด็กหญิงแมงปอตั้งแต่วันที่ทินภพเคยขับรถมาส่งบุตรชายเมื่อวันที่ไม่สบายแล้ว


               “สวัสดีจ้ะหนูแมงปอ เอ่อ...”


                พรรณีจะถามว่าพ่อกับลูกมาที่นี่กันทำไมก็กลัวจะเสียมารยาท นางหันไปหาปักบุญและให้ลูกชายเป็นคนเอ่ยถามแทน


                 “แมงปอมาหาอาปักหรือคะ”


                “ใช่ค่ะ แมงปออยากให้อาปักสอนแมงปอบวกเลข”


                  “แต่มันยากไปสำหรับแมงปอนะคะ”


                  ปักบุญตะหงิดๆ อยู่ในใจแต่ไม่ได้พูดออกมา สายตาเหลือบแลไปทางร่างสูงที่ยังไม่ได้เอ่ยอะไรแม้แต่คำเดียว


                 “แม่เคยสอนแมงปอบวกเลขค่ะ แมงปออยากให้อาปักสอนแมงปอด้วย นะคะ น้า...”


                  เจอลูกออดอ้อนเข้าไปใครบ้างจะไม่ใจอ่อน ปักบุญถอนหายใจเบาๆก่อนส่งยิ้มให้เด็กหญิง


                 “ก็ได้ค่ะ งั้นมานั่งทางนี้”


                  ปักบุญจูงมือแมงปอไปนั่งเก้าอี้รับแขกในขณะที่ทินภพไปยืนอยู่ตรงหน้าต่าง เขามองไร่ชมจันทร์ที่เขาเพิ่งเหยียบเข้ามาเป็นครั้งที่สองทั้งที่ชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะเข้ามา มองเห็นความร่วงโรยของพื้นที่เพาะปลูกหลายส่วนอย่างน่าเสียดาย


                 “ดื่มน้ำเสียหน่อยนะคะคุณ”


                  นางพรรณียกน้ำมาให้อย่างขลาดๆ นางเป็นแค่สะใภ้ที่แต่งเข้ามา สามีที่เสียชีวิตไปแล้วเคยเล่าเรื่องความขัดแย้งในอดีตให้ฟัง และยิ่งเคยได้ยินชื่อเสียงของทินภพก็ยิ่งเกรงใจมากขึ้นไปอีก


                ทินภพรับแก้วน้ำเย็นมาจิบเป็นพิธีก่อนจะหันไปสนใจพื้นที่กว้างด้านนอก เขาเอ่ยกับมารดาของปักบุญน้ำเสียงนิ่งเรียบเดาใจไม่ถูก


                “ทำไม่ไม่ดายหญ้าบ้างล่ะ...ครับ” ตอนแรกทินภพไม่ได้คิดจะมีหางเสียงที่นุ่มนวลนัก แต่เมื่อหางตามองเห็นปักบุญที่นั่งสอนแมงปออยู่ ปลายประโยคจึงนุ่มนวลขึ้นมาบ้าง “หญ้าขึ้นรกแบบนี้นอกจากจะแย่งอาหารต้นไม้แล้ว ยังอันตรายจากสัตว์มีพิษด้วย”


                  พรรณีหน้าสลดลง หล่อนกล่าวตอบเสียงเครือ


                  “คนทำงานไม่พอค่ะ ลาออกกันไปหลายคนจนเหลือแต่คนเก่าแก่ที่ยังอยู่ แค่ลำพังช่วยกันดูแลต้นไม้ก็แทบทำไม่ทันแล้วก็เลยยังไม่ได้ดายหญ้าดูแลส่วนอื่น นี่ถ้าราคาผลไม้ตกต่ำก็ยังไม่รู้จะเป็นยังไงเลย”


                 หากเป็นก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ทินภพอาจจะไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องเหล่านี้ แต่ปัจจุบันเขากลับนึกเห็นใจทั้งสองแม่ลูกที่ต้องเผชิญกับภาวะวิกฤติรวมถึงอดไม่ได้ที่คิดจะช่วยเหลือ เขาดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงและโทรไปหาผู้จัดการไร่ของเขา


               “สมชัย พาคนงานมาที่ไร่ชมจันทร์สักห้าหกคนนะ เอาเครื่องมือตัดหญ้ามาด้วย ไม่ได้มาถล่มเขาหรอกน่าให้มาช่วยทำงาน”


                 พรรณีเบิกตากว้างน้ำตาเอ่อคลอเมื่อได้ยิน รอไม่นานนักคนงานจากไร่เชิญตะวันก็มาถึง ตอนแรกปักบุญถึงกับวิ่งมามองด้วยความตกใจ


               “อะไรกัน คุณให้คนงานของคุณมาที่นี่ทำไม”


                “ไม่ได้มาจุดไฟเผาไร่หรอกน่า อย่าตื่นตูมนักสิคุณครู”


                 พูดจบร่างสูงก็เดินออกไปนอกบ้านและออกคำสั่งให้คนงานจากไร่เชิญตะวันไปช่วยดายหญ้าถางต้นไม้ท่ามกลางความตกตะลึงของคนที่รู้เรื่องความบาดหมางของทั้งสองไร่ ปักบุญได้แต่มองด้วยความงงงัน


                “นี่มันเกิดอะไรขึ้น”


                 ผู้เป็นแม่ยิ้มออกมาได้ สตรีวัยชราได้แต่มองทินภพด้วยความชื่นชม


                 “คุณทินภพเขาก็ไม่ได้ดุร้ายเหมือนที่ใครๆ เขาพูดกันนี่นะ”


                  “แม่!”


                 ปักบุญมองมารดาอย่างเหลือเชื่อที่ชื่นชมทินภพออกนอกหน้า


                  “หรือไม่จริง ถ้าเขาไม่ใช่คนดีมีน้ำใจจะส่งคนมาช่วยเราเหรอ ไม่คุยด้วยแล้วแม่ไปทำอาหารกลางวันเลี้ยงพวกคนงานกับหนูแมงปอดีกว่า”


                  ปักบุญไม่อยากจะเชื่อ เขาได้แต่ยืนงงกับการช่วยเหลือครั้งนี้ ไม่เข้าใจว่าทำไมทินภพถึงได้ยื่นมือเข้ามาข้องเกี่ยวกับไร่ของเขา


               “อย่าคิดว่าผมจะมองคุณในแง่ดีเหมือนแม่นะ ไม่มีทาง”


                ปักบุญกล่าวในใจขณะจ้องมองแผ่นหลังกว้างจากระยะไกล









                 ทินภพยืนคุมคนงานของเขาดายหญ้าปรับปรุงผิวดินอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลนัก นัยน์ตาของเขาเปลี่ยนไปเมื่อเห็นปักบุญเดินตรงเข้ามาพร้อมกับคนงานของเจ้าบ้านเพื่อนำอาหารกลางวันมาเลี้ยงคนงานของเขา สายตาไว้ตัวตวัดมองมาแวบหนึ่งก่อนร่างโปร่งจะเดินมาทางเขา


                 “แม่ทำอาหารมาเลี้ยงขอบคุณคนงานที่มาช่วย”


                 ทินภพยกคิ้วสูง สายตาที่มองปักบุญเป็นประกายจนคนถูกมองหน้าร้อนเห่อ


                 “แล้วคำขอบคุณของนายล่ะ จะไม่มีให้คนสั่งงานบ้างเลยหรือ”


                 ปักบุญเม้มริมฝีปาก ไม่อยากจะพูดดีกับทินภพเลยสักนิด


                  “ผมไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของคุณคืออะไรถึงทำแบบนี้ แต่ถึงยังไงก็ขอบคุณก็แล้วกัน”


                  “ขอบคุณได้ซาบซึ้งมาก”


                 ทินภพหัวเราะ ปักบุญกรุ่นโกรธขึ้นมาทันที


                 “ถ้าทำแล้วหวังผลก็อย่าทำเลย ผมไม่ได้ต้องการ...”


                  คำพูดไม่ทันออกมาเมื่อทินภพกระชากแขนของปักบุญจนร่างเซเข้าหาแผงอก ทินภพดันแผ่นหลังของปักบุญชนกับลำต้นของต้นไม้ใหญ่ในมุมหลบจากสายตาคนงานที่อยู่ไกลออกไป


                   “ไอ้โน่นก็ไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่ได้ เมื่อไหร่นายจะมองฉันในแง่ดีขึ้นมาบ้าง หือ ปักบุญ”


                  ปักบุญใจสั่นไปกับความใกล้ชิด ร่างสูงยืนกันไม่ให้เขาเลี่ยงหนีไปไหนได้และอยู่ใกล้จนทินภพสามารถใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเล่นบนแก้มของเขาได้


                 “ผมไม่เห็นความจำเป็น คุณเกลียดผมไม่ใช่เหรอ เราไม่จำเป็นต้องมองกันในแง่ดีหรอกจริงไหม นี่ ถอยออกไปให้ห่างตัวผมหน่อยได้ไหม ไม่เห็นต้องยืนชิดขนาดนี้เลย”


                  ทินภพมองแก้มแดง มองกลีบปากนุ่ม มองดวงตาเรียวดื้อรั้นที่อยู่หลังแว่นตากรอบใส มือนุ่มที่ไม่เคยทำงานหนักผลักไสอยู่ตรงอกพยายามดันร่างหนาของเขาให้ออกห่าง พลันความอดทนของเขาก็ทลายลง


                  ข้อมือถูกยื้อยุด ปักบุญได้แต่เบิกตากว้างเมื่อทินภพโน้มไปหน้าเข้ามาจนริมฝีปากต่างแนบสนิท หากแต่คราวนี้มันแตกต่างกว่าทุกครั้งเพราะไม่ใช่จูบดึงดันเอาแต่ใจ ปักบุญตกใจไปกับความฉ่ำหวานของมัน จูบที่กระชากสติของเขาจนขาดสะบั้นไร้เรี่ยวแรงขัดขืนและเผลอไผลให้ทินภพตักตวงไปได้เท่าที่เขาต้องการ





                                                            TBC



                                     โอ๊ย เอาลูกมาบังหน้า แล้วก็เอะอะอะไรก็กอดจูบเขานะ ฮึ่ยยย





                                                  :m26: :m26: :m26: :m26: :m26: :m26: :m26: :m26:





หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 8 [27/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 27-12-2019 20:04:33
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 7 NC [21/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 27-12-2019 20:12:14
โดนเขาเมินใส่สะแล้ว สมควร

เล่นงานเขาก่อน ชิชิ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 8 [27/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 27-12-2019 20:59:37
ปักบุญเอ้ย อยู่ใกล้เสือหิวก็ลำบากหน่อยนะ นี่ก็เข้าหาทางแม่ได้แล้ว
ไหนจะเอาลูกสาวมาเป็นตัวล่ออีก หนีไม่พ้นหรอก จะสงสาร อิจฉาดีนะ อิอิ
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 8 [27/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-12-2019 22:51:51
ตบจูบๆๆๆ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 8 [27/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 27-12-2019 23:59:43
แต๊ะอั๋งตลอดดด
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 8 [27/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: swasdee ที่ 28-12-2019 07:39:43
 :mew3:
ก็ชอบแบบนี้ชอบที่เป็นแบบนี้...
มันง่ายเกินไปมั้ยทินภพอ่ะ ปักบุญมีแม่อยู่นะ!!
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 8 [27/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 28-12-2019 12:13:04
กลางวันแสกๆเลยทีนี้ ที่ไร่เขาด้วย อุกอาจมากนะ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 8 [27/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 30-12-2019 17:17:29
คนบ้า คนบ้า คนผีทะเล ..
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 8 [27/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 30-12-2019 17:44:27
สงสารปักบุญ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 8 [27/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 31-12-2019 01:33:54
ร้ายมากค่ะแม่!
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 8 [27/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 31-12-2019 15:48:59
จูบตลอดเลยนะคะ ปากก็มีแต่บอกไม่ชอบเขา :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 8 [27/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: bnmshhhhhhh ที่ 02-01-2020 16:22:09
จูบเก่งจังน้าาาาาาาาชอบเึ้าแล้วล่ะสิ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 8 [27/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 02-01-2020 19:06:09
ปากแข็งนักเลยจูบซะเลย
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 8 [27/12/62]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 03-01-2020 05:06:48
คุณทิน เอะอะจูบ เอะอะฟัด คุณอาปักช้ำหมดแย้ววว
หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 9 [03/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 03-01-2020 19:58:30



                                                          หักเหลี่ยมรักซาตาน

                                                                 บทที่ 9




              เมื่อริมฝีปากได้รับอิสระคืนปักบุญจึงกลืนน้ำลายลงคอเหนียวหนับ ดวงตาของเขาลอยคว้างอยู่พักใหญ่กว่าจะเรียกสติที่หายไปกลับคืนมาได้ เมื่อพอจะตั้งตัวได้บ้างความร้อนวูบวาบก็พลันวิ่งวนไปทั่วใบหน้า เขาสบตากับทินภพด้วยความสับสน


                  ผู้ชายคนนี้เป็นบ้าไปแล้ว ก่อนหน้านี้ในวัยเด็กปักบุญมองเห็นแต่สายตาเหยียดหยามบ้างชิงชังบ้าง แต่วินาทีนี้ทินภพมองเขาด้วยสายตาที่ปักบุญไม่อาจคาดคะเนได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ รู้แต่ว่ามันทำให้ปักบุญขัดเขินไม่กล้าสู้หน้า


            “คุณไม่ควรทำแบบนี้...”


            “แบบไหน แบบนี้น่ะเหรอ”


             ปักบุญพูดยังไม่ทันจบทินภพก็สวนคำขึ้นมา แถมยังประกบปากลงมาเป็นคำรบสอง ลิ้นร้อนเกือบจะสอดเข้ามาได้แล้วหากไม่มีเสียงดังขัดจังหวะเสียก่อน


              “นาย นายครับ วู้ๆ”


               ปักบุญสะดุ้งเฮือก เขาผลักทินภพออกห่างก่อนจะยืนหายใจขัดหน้าร้อนเห่อ ส่วนทินภพถึงกับสบถเบาๆพลางสูดลมเข้าปอดเพื่อควบคุมอารมณ์ตนเองและก้าวออกมาให้ห่างจากปักบุญ เขาหันไปหาลูกน้องที่เดินตรงมาหา


              “มีอะไรสมชัย”


               “ไปกินข้าวกันครับนาย คุณป้าเจ้าของไร่ทำอาหารมาให้ฝีมือดีทีเดียว”


               ปักบุญฉวยโอกาสฝืนยิ้มส่งให้ลูกน้องของทินภพทันที


               “ตามสบายเลยนะครับ ถ้าไม่พอบอกได้เดี๋ยวทำเพิ่มให้”


                “โอ๊ย แค่นี้ก็เยอะจนกินไม่หมดแล้วครับ รสชาติอร่อยกว่าที่เขาทำขายกันตั้งเยอะ ต้องให้นายพามาให้กินบ่อยๆแล้วครับ”


               ปักบุญส่งยิ้มให้สมชัยก่อนจะรีบปลีกตัวหนีทันที เขาไม่อยากอยู่ใกล้ทินภพมากไปกว่านี้เพราะรู้สึกถึงความอันตราย ไม่ใช่อันตรายที่จะทำร้ายให้เขาบาดเจ็บ แต่มันอันตรายต่อความรู้สึกของตัวเขาเอง






               กลับมาถึงบ้านเขาเห็นแมงปอนั่งเล่นอยู่กับพรรณี แม่ของเขาท่าทางเอ็นดูเด็กหญิงอยู่มากคงเพราะมีแต่ลูกชายไม่มีลูกสาว


               “อาปัก คุณยายสอนแมงปอวาดการ์ตูนด้วยค่ะ”


              ยกกระดาษอวดหน้ายิ้มแป้น พรรณีหัวเราะชอบใจ


              “น่ารักจริงๆหนูแมงปอคนนี้ อาปักมาแล้วก็อยู่คุยกับอาปักนะ เดี๋ยวยายไปทำขนมมาให้กิน”


               พรรณีลูกจากไปปล่อยให้ปักบุญอยู่กับแมงปอเพียงลำพัง ด้วยความสงสัยในตัวบิดาของเด็กหญิงปักบุญจึงลองเอ่ยถามออกไป


             “แมงปอวาดรูปสวยจัง อยู่ที่บ้านคุณแม่สอนหรือคะ”


             แมงปอเงยหน้าขึ้นมาส่ายไปมา


             “เปล่าค่ะ แม่ไม่ได้สอน แม่ทำงานอยู่กรุงเทพ”


              ฟังแล้วสะดุดใจในคำตอบของเด็กไร้เดียงสา ปักบุญจึงลองถามต่อ


              “ทำไมแม่ไม่ได้อยู่ที่ไร่กับคุณพ่อล่ะแมงปอ”


                เด็กหญิงแมงปอเอียงศีรษะทำท่าคิด ก่อนจะตอบเสียงแจ๋วๆ


                 “แม่บอกว่าแม่เป็นเพื่อนกับพ่อดีกว่าค่ะ อยู่กันไปก็ทะเลาะกัน นานๆแม่จะมาเยี่ยมแมงปอ ตอนนี้แม่มีแฟนใหม่แล้วด้วย”


                “แล้วแมงปออยู่ที่บ้านกับใครบ้างคะ”


                “มีพ่อ คุณปู่ แล้วก็พี่แตงกวาค่ะ”


                 เด็กหญิงหมายถึงพี่เลี้ยงเด็กที่ทินภพจ้างมา เมื่อได้คำตอบแล้วปักบุญรู้สึกอยู่สองอย่าง อย่างแรกคือเห็นใจแมงปอที่พ่อกับแม่แยกทางกัน แต่ดีที่แมงปอไม่ได้มีท่าทางเป็นเด็กมีปัญหา ส่วนอีกหนึ่งความรู้สึกปักบุญไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงรู้สึกโล่งอกที่รู้ว่าทินภพเป็นพ่อม่าย


                บ้าน่าปักบุญ ทำไมถึงต้องคิดเช่นนี้ด้วยเล่า คนคนนี้จะโสดหรือจะมีเมียสักร้อยคนก็ไม่เกี่ยวกับเขาสักหน่อย เขากับทินภพไม่ได้เป็นอะไรกันเลย ประสบการณ์ที่ผ่านมาก็แค่อีกฝ่ายอยากเอาชนะเขา เหยียดหยามศักดิ์ศรีของเขาแค่นั้นเอง คิดมาถึงตรงนี้ก็อดเจ็บจี๊ดขึ้นมาไม่ได้ ใช่สินะ เขามันก็แค่คนจากตระกูลที่ทินภพชิงชังเท่านั้นเอง


               สะบัดหน้าขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปก่อนจะหันเหความสนใจมาหาแมงปอ ปักบุญเล่นกับเด็กหญิงจนกระทั่งช่วงบ่ายทินภพและคนงานของเขาจึงได้ขนเครื่องมือกลับมา


               “ขอบคุณมากนะคะคุณทินภพ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือจริงๆ”


               พรรณีกล่าวอย่างตื้นตัน ทินภพได้แต่คลี่ยิ้มบางๆเท่านั้นก่อนจะอุ้มแมงปอขึ้นมา


               “กลับกันได้แล้วเจ้าตัวแสบ นี่คงอยู่กวนคุณครูจนพอใจแล้วใช่ไหม”


               สายตาคมมองมายังคุณครูจนเจ้าตัวสะดุ้ง พรรณีรีบเอ่ยปากกับลูกชายคนเล็กทันที


              “ปัก ไปส่งคุณทินภพที่รถหน่อยลูก เขาอุตส่าห์พาคนงานมาช่วยเรา”


              แม้ไม่เต็มใจแต่ปักบุญจำเป็นต้องเดินตามหลังสองพ่อลูกมาจนถึงรถยนต์ของเขา เมื่อทินภพหันกลับมาปักบุญจึงเอ่ยปากเสียงอ้อมแอ้ม


               “ขอบคุณ”


               “เสียงเบาจัง ไม่เห็นเหมือนตอนด่าเลย”


               “นี่ คุณ”


                ปักบุญชักหมั่นไส้กับความยอกย้อนของผู้ชายตรงหน้า เหมือนทินภพกำลังกลั้นขำจนดวงตาคมเป็นประกาย


               “เอาล่ะๆ แมงปอลาอาปักเสียสิลูก”


                “อาปักขา แมงปอกลับบ้านก่อนนะคะ แล้วแมงปอจะพาอาปักไปเที่ยวเหมือนที่คุยกันนะคะ”


               เด็กหญิงยกมือไหว้อำลาก่อนผู้เป็นพ่อจะพาขึ้นรถ ปักบุญถอนหายใจโล่งอกเมื่อมองตามจนรถของทินภพลับตา


               “คนบ้า อย่ามาอีกนะ ผมไม่อยากเจอหน้าคุณแล้ว”


               บอกตามหลังไปเช่นนั้นพร้อมกับภาวนา เพราะปักบุญไม่อยากจะข้องแวะกับทินภพอีกแล้ว








                คำภาวนาของปักบุญไม่เป็นผลเพราะเมื่อยามสายของวันรุ่งขึ้นปักบุญได้ยินเสียงรถยนตของทินภพอีกครั้ง รวมถึงเสียงแจ๋วๆของแมงปอที่ดังมาก่อนตัวพร้อมทั้งพี่เลี้ยงเด็กชื่อแตงกวาติดตามมาด้วย


                “อาปักขา ไปเที่ยวน้ำตกกันค่ะ”


                เมื่อวานนี้คุยกับแมงปอเรื่องน้ำตกที่อยู่ถัดไปอีกอำเภอหนึ่ง เด็กหญิงยังไม่เคยไปเที่ยวเลยสักครั้ง แมงปอจึงไปบอกบิดาให้พาไป จึงเป็นที่มาของการมาไร่ชมจันทร์ในวันนี้


               “แต่อาไม่...”


                “แมงปออยากไปเที่ยวเพราะนายเล่าให้ฟังนะ”


                ทินภพกล่าวเป็นนัยเชิงบังคับปักบุญได้แต่ถอนหายใจ ใช่ว่าเขาอยากจะขัดใจแมงปอ แต่ที่ไม่อยากไปก็เพราะคนเป็นบิดาต่างหากเล่า


                “นะคะอาปัก แมงปออยากเห็นน้ำตก”


                เจอลูกอ้อนของแมงปอปักบุญก็ต้องใจอ่อนจนได้ เขาไปบอกพรรณีว่าจะออกไปกับทินภพและแมงปอ พรรณีรีบอนุญาตทันที


              “ไปเถอะปัก คุณทินภพช่วยเราจนหญ้าในไร่โล่งเตียนไปหมด เราเองก็ไม่มีปัญญาจะทำได้ขนาดนี้ เขาคงไม่มีพิษมีภัยอะไรหรอกน่า ไอ้เรื่องโกรธเรื่องเกลียดกันมาตั้งหลายสิบปีเขาก็อาจจะเลิกคิดแล้วก็ได้”


               มารดากลายเป็นฝ่ายทินภพไปเสียแล้ว แต่เพราะพรรณีไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างระหว่างเขากับทินภพ หากรู้พรรณีอาจจะไม่คิดแบบนี้ก็ได้ แต่ตอนนี้ปักบุญต้องนั่งคู่กับคนขับรถเดินทางไปยังน้ำตกที่เขาเป็นคนเล่าให้แมงปอฟัง


              แมงปอตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นน้ำตกเล็กๆแห่งนี้ เพราะเป็นน้ำตกที่เพิ่งเปิดตัวให้เที่ยวกันไม่นานนักท่องเที่ยวจึงบางตาไม่เหมือนน้ำตกชื่อดังแห่งอื่น ทินภพปล่อยให้แตงกวาพาแมงปอเดินเล่นเพราะเห็นว่าไม่มีโขดหินและน้ำไม่ลึกเท่าใดนัก เขามองหน้าปักบุญที่ทำหน้าเคร่งใส่เขา


              “ทำไมทำหน้าเหมือนท้องผูกเลยนะ ไอ้ที่ฉันเปิดทางให้เมื่อหลายวันก่อนนี้ไม่ทำให้นายถ่ายคล่องขึ้นเหรอ”


               “คุณทินภพ!”


              ปักบุญหันขวับมองเขานัยน์ตาเขียวปั้ด


              “เคยมีคนบอกไหมว่าคุณเป็นคนปากเสีย พูดจาไม่มีมารยาทและยังเหยียดคนเก่งด้วย”


               “ก็นายกำลังด่าฉันอยู่นี่ไง” ทินภพยกมือทำท่ายอมแพ้ “เอาล่ะ ไม่พูดแล้ว ขี้เกียจฟังคนด่า รีบเดินเข้าเถอะ เดี๋ยวไม่ทันแมงปอ”


               ถือโอกาสดึงข้อมือของปักบุญให้เดินไปตามลำน้ำพลางมองแมงปอที่อยู่กับแตงกวา ปักบุญพยายามบิดข้อมือให้หลุดก็ไม่สำเร็จ


            “คุณควรเอาใจใส่แมงปอให้มาก เพราะแมงปอไม่มีแม่ดูแล คุณเองก็งานเยอะจะปล่อยเด็กไว้กับพี่เลี้ยงคนเดียวไม่ได้”


              ทินภพชะงัก เขาหันไปหรี่ตามองอีกฝ่าย


              “รู้เรื่องฉันกับแม่ของแมงปอแล้วเหรอ สบายใจหรือยังที่ไม่ได้ตกนรกไปปีนต้นงิ้ว”


               “ทำไมผมต้องกลัว เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”


               เท้าของปักบุญหยุดแทบไม่ทันเมื่อทินภพหยุดเดินและดึงแขนเขาให้หยุดไปด้วย สีหน้ายียวนของทินภพหายไปเหลือเพียงความจริงจัง


               “ไม่ได้เป็นอะไรกันงั้นหรือ ถามหน่อยเถอะปักบุญ นายไม่รู้สึกอะไรที่เรานอนด้วยกันทั้งสองครั้งเลยหรือ ทั้งที่ฉันเป็นคนแรกของนาย นายก็ไม่รู้สึกอะไรจริงหรือ”


               “ไม่” ปักบุญเชิดหน้าทั้งที่หัวใจกำลังเต้นระรัว “มันก็แค่เซ็กส์ที่ผมไม่เต็มใจเพราะคนเห็นแก่ตัวฉวยโอกาสกับผม ผมจะไม่ยึดติดและมัวเสียใจหรอก ผมต้องให้โอกาสตัวเองและลืมคำเลวร้ายที่คุณทำกับผม”


               ทินภพกัดฟันกรอด เขาบีบข้อมือของปักบุญจนเจ้าตัวนิ่วหน้า


              “ให้โอกาสตัวเอง ให้กับใคร ไอ้หมอนั่นที่เป็นเจ้าของโรงเรียนที่เห็นส่งยิ้มให้กันไปมาใช่ไหม ตอบมาสิปักบุญ”


               ทินภพก็ไม่เข้าใจตัวเองในวินาทีนี้ ว่าทำไมต้องโมโหเมื่อเห็นท่าทีตัดรอนจากปักบุญ ยิ่งนึกไปถึงท่าท่างความสนิทสนมของปักบุญกับกฤษณะพี่ชายกานติมาแล้วเขาก็ยิ่งหงุดหงิด


               “เจ้าของโรงเรียน? เกี่ยวอะไรกับพี่กฤษด้วย มันเป็นเรื่องที่คุณทำเลวกับผมต่างหาก”


              บทสนทนาเถียงกันคงจะยาวกว่านี้ถ้าพวกเขาไม่ได้ยินเสียงร้องของแตงกวาที่ดังขึ้นเสียก่อน


              “ว้าย คุณทินช่วยด้วยค่ะ แมงปอตกน้ำ”


               ทินภพใจหายวาบ เขาฉุดแขนปักบุญไปยังจุดที่ได้ยินเสียงร้องของแตงกวา พี่เลี้ยงพยายามช่วยแมงปอที่เผลอเดินลื่นตกลงไปในน้ำและแตงกวาที่ตามลงไปช่วยแต่ก็ติดอยู่ที่กิ่งไม้ริมตลิ่ง ทินภพพุ่งตัวไปทันที ดีที่น้ำไม่ลึกนักสำหรับเขาแต่กระแสน้ำพุ่งแรงทำให้ยิ่งน่าเป็นห่วง


              “คุณทินภพระวังนะ”


               ปักบุญตกใจมาก เขามองภาพทินภพที่ลุยน้ำไปดึงแขนแตงกวาและคว้าร่างป้อมของแตงกวาขึ้นมา น้ำไม่ลึกสำหรับเขา แต่สำหรับเด็กเล็กถือว่าสูงมาก ทินภพถอนหายใจออกมาเมื่อเขาลุยน้ำกลับมาถึง


              “แมงปอเป็นยังไงบ้าง”


               เมื่อทินภพวางแมงปอลงปักบุญจึงรีบถามด้วยความเป็นห่วง เขาดึงเด็กหญิงที่กำลังร้องไห้จ้าเข้าสู่อ้อมกอดและปลอบใจกันไป แตงกวาหน้าเสียเมื่อเห็นสีหน้าเครียดของพี่เลี้ยง


                 “แตงกวาไม่ทันระวังจริงๆค่ะ พื้นริมตลิ่งมันลื่นมาก”


                 แตงกวาหน้าสลด ไม่นึกว่าลูกเจ้านายจะร่วงลงน้ำ


               “ไม่เป็นไรกันก็ดีแล้ว รีบกลับกันดีกว่าหมดสนุกแล้ว”


                 ปักบุญพยักหน้าเห็นด้วย เขาเป็นคนอุ้มแมงปอขึ้นรถเพราะเด็กหญิงไม่ยอมปล่อยเขา จนกระทั่งไปถึงไร่ชมจันทร์จึงได้ยอมปล่อย


                “กลับถึงบ้านคุณต้องให้แมงปออาบน้ำสระผมแล้วเช็ดตัวให้แห้ง รู้ใช่ไหม”


                ปักบุญรีบย้ำด้วยความเป็นห่วงทินภพพยักหน้ารับก่อนจะขับรถกลับไป ปักบุญเดินเข้าบ้านเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้มารดาฟัง


               “โธ่เอ๋ย หนูแมงปอของยาย ไม่เป็นอะไรก็ดี คราวหน้าต้องระวังกันให้มากกว่านี้นะ”


                 ปักบุญอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เวลาผ่านไปเขาอยากจะโทรศัพท์หาทินภพเพื่อถามอาการของแมงปอแต่ก็ไม่กล้าพอ จนกระทั่งย่ำค่ำเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ปักบุญรีบรับสายเมื่อเห็นเบอร์โทรเข้า


                “คุณทินภพ แมงปอเป็นไงบ้าง”






มีต่ออีกนิด...


หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 9 [03/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 03-01-2020 20:09:13


อ่านต่อตรงนี้...




                “แมงปอเป็นไข้” ได้ยินเสียงถอนใจตามมา “ไข้สูง ผมพาไปหาหมอได้ยามากิน แต่ไข้ก็ยังไม่ลด”


                 ปักบุญตกใจ เด็กกับอาการตัวร้อนไม่ใช่เรื่องดีนัก เขารีบถามกลับไปทันที


                “คุณเช็ดตัวให้แมงปอหรือยัง ป้อนน้ำด้วยนะ เด็กมีไข้ต้องให้กินน้ำ”


                 “ฉันทำที่นายพูดมาหมดนั่นแหละ แต่แมงปอก็ยังมีไข้ แถมยังเพ้อหานายตลอด นายมาที่ไร่เชิญตะวันได้ไหม แตงกวาเองก็มีไข้ฉันก็เลยให้นอนพัก พ่อก็ไม่อยู่ ไปเที่ยวกับชมรมผู้สูงอายุ เดี๋ยวฉันจะส่งรถไปรับนายมานะ”


                ทินภพวางสายไปแล้วโดยไม่เปิดโอกาสให้ปักบุญปฏิเสธ แต่เพราะความเป็นห่วงแมงปอด้วยทำงานเขาเองก็อยากไปดูอาการเด็กน้อย ปักบุญจึงไปบอกมารดาให้รู้


               “ไปเถอะ ดูแลเด็กหน่อย สงสารหนูแมงปอ”


                 รอพักหนึ่งคนขับรถของทินภพก็ขับรถมาจอดหน้าบ้านเพื่อรับปักบุญไปยังไร่เชิญตะวัน เมื่อไปถึงปักบุญยืนตะลึงเมื่อเห็นบ้านไม้หลังใหญ่ตั้งอยู่บนเนินกลางไร่ ด้านในตกแต่งโทนไม้ไม่ต่างจากตัวบ้าน เมื่อก้าวเข้ามาเขาจึงพบกับทินภพที่สีหน้ายังเคร่งเครียด


                 “แมงปอล่ะครับ”


                 รีบถามหาสาเหตุที่ต้องมาในยามวิกาลเช่นนี้ เขาเดินตามทินภพไปบนชั้นสองเข้าไปในห้องขนาดเล็กที่มีเตียงเด็กตั้งอยู่ แมงปอนอนหลับอยู่บนเตียงปักบุญรีบก้าวเข้าไปนั่งขอบเตียงพลางวางมืออังบนหน้าผากของแมงปอ


                 “ยังมีไข้อยู่จริงด้วย คุณทิน ไหนล่ะกะละมังใส่น้ำกับผ้าเช็ดตัว”


               ร่างสูงคว้ากะละมังเปล่าข้างเตียงไปใส่น้ำมาให้ใหม่ เขาเช็ดตัวแมงปอไม่แล้วรอบหนึ่งแต่ดูเหมือนไข้ลงไปแค่เล็กน้อยเท่านั้น เขายืนมองปักบุญเช็ดตัวให้แมงปอด้วยความรู้ที่มี ปักบุญเช็ดไปตามแขนขาโดยเช็ดย้อนรูขุมขนเข้าให้หัวใจ มองเห็นความอ่อนโยนของปักบุญแล้ว หัวใจของทินภพกลับเต้นแรงผิดปกติ


                ผู้หญิงที่เขาเคยผ่านมา ไม่เคยมีใครให้ความสนใจกับแมงปอเลยสักคน ทุกคนหวังเพียงความสุขสมที่เขาจะมอบให้หรือไม่ก็หวังของฝากที่เรียกร้องจากเขา ทินภพจึงไม่คิดจะเริ่มต้นใหม่กับใคร แต่เมื่อเห็นความเอาใจใส่ที่ปักบุญมีต่อแมงปอแล้ว หัวใจของทินภพกลับอ่อนยวบราวกับฟองน้ำ


                “อาปัก อาปักขา”


                “อามาแล้วแมงปอ นอนหลับพักผ่อนนะคะ ไข้จะได้ลงเร็วๆ”


                 ลูบผมแมงปอด้วยความสงสาร ปักบุญเช็ดตัวให้เด็กหญิงอยู่พักใหญ่ไข้จึงเริ่มลด แมงปอหลับสนิทอย่างสบายตัวมากขึ้น


                “ขอบใจนะ”


                 เป็นครั้งแรกที่ปักบุญได้ยินคำพูดที่ไม่ได้ยียวนประชดประชันจากปากของทินภพ เมื่อหันไปมองจึงได้สบตากับนัยน์ตาแปลกๆ ชวนให้ใจเต้น ปักบุญรีบโยนความรู้สึกหวามไหวนั่นทิ้งไป


                 “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเอ็นดูแมงปอ แค่นี้ก็น่าสงสารแล้ว แต่ตอนนี้ไข้เกือบจะลดลงมาเกือบหมด ผมคงต้องกลับบ้านแล้ว”


                 ปักบุญลุกขึ้น เขาเตรียมก้าวไปที่ประตูแต่แล้วเอวของเขากลับถูกทินภพเหนี่ยวรั้งไว้


                  “คุณทินภพ ปล่อยผมนะ”


                 จะตะโกนก็ไม่กล้าเพราะกลัวแมงปอจะตื่น สุดท้ายก็ต้องยืนตัวแข็งอยู่กับความใกล้ชิดนี้


                 “อย่าเพิ่งกลับสิ ถ้าแมงปอกลับมามีไข้ ฉันจะทำยังไง”


                 “ผมจะสอนวิธีเช็ดตัวให้”


                  เสียงของปักบุญสั่นพร่า หายใจแรงจนอกกระเพื่อมเมื่อใบหน้าของทินภพใกล้เข้ามาทุกที กางมือยันแผ่นอกล่ำไว้ ทั้งที่รู้ว่าไม่เป็นผล


                “สอนตอนนี้ใครจะเรียนทันล่ะ นายนั่นแหละที่ต้องอยู่ดูแลแมงปอ”


                 ทินภพกระซิบข้างหู มือหนึ่งโอบเอวปักบุญ มือหนึ่งเชยคางนุ่มให้แหงนขึ้น ดวงตาของทั้งคู่ประสานกันราวกับค้นคว้าอีกฝ่าย แถมยังดูสับสนกันทั้งคู่


                  “ฉันอยากจูบนาย อยากจริงๆ”


                   พูดจบทินภพก็จูบจริงๆ จูบอย่างที่จูบเมื่อวันวาน มันทั้งหวานทั้งเร่าร้อนไปในตัว จูบจนปักบุญเผลอลืมทุกสิ่ง ลืมกระทั่งไม่ได้สนใจว่าทินภพช้อนกายเขาก่อนวางลงกับพื้นห้องข้างเตียงของแมงปอที่หลับสนิทไปแล้วนั่นเอง




                                                                 TBC


                                            เดี๋ยววว อิพ่อ แกจะทำอะไรปักบุญอีก นี่มันห้องลูกนะ





                                                  :o9: :o9: :o9: :o9: :o9: :o9: :o9: :o9:




หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 9 [03/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 03-01-2020 21:12:10
ดุเด็ดเผ็ดร้อนมากกก
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 9 [03/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-01-2020 21:26:02
 :o8: :-[ :impress2: :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 9 [03/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 03-01-2020 21:29:27
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 9 [03/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 03-01-2020 21:34:16
 :z1:จะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ อย่างน้อยก็ออกจากห้องลูกไปก่อนไหม
เดี๋ยวลูกตื่น
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 9 [03/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 04-01-2020 16:09:35
ข้างเตียงลูก ..
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 9 [03/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 04-01-2020 22:22:57
คุณทิ้นนนน ตั้งใจจะมีน้องให้แมงปอใช่มั๊ย ปักบุญช้ำอีกแย้วววว
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 9 [03/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-01-2020 02:06:30
เริ่มมีหวั่นไหว
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 9 [03/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 05-01-2020 10:32:29
ทินภพคนขี้อ้าง เห็นเขาเอ็นดูลูกตัวเองเข้าหน่อยก็เอาใหญ่เลย
แมงปอรีบตื่นมาช่วยอาปักก่อนลูก
อาจะถูกกินแล้ววววว
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 9 [03/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 05-01-2020 19:55:55
เดี๋ยวลูกตื่นนะ :pighaun: :pig4: :L1:
หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 10 NC [08/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 08-01-2020 20:06:28



                                                      หักเหลี่ยมรักซาตาน

                                                            บทที่ 10



              “คุณทินภพ!”


             “อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวแมงปอตื่น”


           น้ำเสียงของทินภพนุ่มนวลเกินไป เกินไปแล้วจริงๆ และดังเพียงแค่กระซิบอยู่ข้างหูก่อนที่เขาจะขบเม้มใบหูของปักบุญเบาๆ มือใหญ่วางแนบอยู่บนลำตัวกันไม่ให้ปักบุญผลักไสหรือว่าดิ้นรนหนี ท่ามกลางความมืดสลัวภายในห้องที่มีเพียงโคมไฟรูปตุ๊กตาบนหัวเตียงของแมงปอเท่านั้นที่ให้แสงสว่าง


               “แต่ว่า...”


               “ฉันจูบนายไม่ดีพองั้นหรือ ให้ฉันแก้ตัวใหม่นะ”


              ใบหน้าคมเข้มก้มต่ำอีกครั้งในความมืด ทินภพจูบอย่างนุ่มนวลจนปักบุญไม่อาจปฏิเสธได้ แว่นตาของเขาถูกทินภพดึงออกแล้ววางไว้ข้างๆ ต้นขาแข็งแรงวางพาดทาบทับไปกับต้นขาทั้งสองของปักบุญ ทินภพจูบนานเพียงพอที่จะทำให้ลมหายใจของปักบุญร้อนผ่าวเขาจึงค่อยไล่จูบไปตามลำคอ


               อา...


               อ่อนหวานเกินไปแล้ว


               “คุณทิน อย่า เราไม่ควรทำแบบนี้”


                 ได้ยินเสียงตนเองเพียงแค่กระซิบไม่ต่างกันแถมยังสั่นพร่าอย่างน่าอาย อยากโกรธที่ใจนั้นต้องการผลักไสแต่การกระทำกลับตรงข้ามเมื่อวงแขนข้างหนึ่งคล้องอยู่ตรงท้ายทอยส่วนอีกข้างบีบอยู่บนบ่ากว้างของทินภพ เสื้อยืดโปโลที่สวมใส่อยู่ถูกเลิกสูงมาอยู่เหนือไหล่เปิดทางให้ทินภพซุกหน้าอยู่บริเวณหน้าอก ปักบุญกัดฟันกลั้นเสียงเมื่อเขาตวัดลิ้นลงมาบนตุ่มไตสีอ่อน


                “อื้อ”


                “ยอมฉันนะ”


                ทินภพพูดเสียงออดอ้อนกับเขาเป็นเมื่อไหร่กัน แต่เมื่อเขาเอ่ยออกมาแล้วมันช่างบาดใจไปกับเสน่ห์ที่เขาใส่ลงมาด้วย ปักบุญเกลียดตัวเองที่รู้ว่านี่คือกับดักแต่เขากับกระโจนลงไปเอง ใจไม่ต้องการทว่าร่างกายกลับตอบสนองด้วยการยกสะโพกให้ทินภพดึงกางเกงออกจากขา และเปิดทางให้กล้ามเนื้อแน่นของบุรุษเพศเข้ากดเบียด ทินภพไม่รอช้าที่จะดันเอวเข้ามาด้วยความกระหายในสัมผัส


               “อึก คุณทิน เบาๆ เดี๋ยวแมงปอตื่น”


                ผวาเข้ากอดก่ายพร้อมกับกัดฟันเตือนเสียงเบาเพราะกลัวทินภพจะลืมตัวว่าตอนนี้ทั้งคู่กอดรัดกันอยู่บนพื้นห้องลูกสาวของเขาที่หลับสนิทอยู่บนเตียง ทินภพชะงักพลางเหลือบตามองแมงปอ


                “ถ้าอย่างนั้นคงต้องให้นายจัดการแล้ว”


               เอวของปักบุญถูกรวบยกขึ้นมา ทินภพชันกายขึ้นนั่งพิงหลังอยู่กับเตียงของแมงปอและให้ปักบุญนั่งคร่อมทับอยู่บนเอวของเขา สีหน้าของปักบุญดูตกใจเมื่ออยู่ในท่านี้ แม้จะมืดก็มองเห็นชัดว่าเขากระดากอายสุดขีด


                “คุณทิน!”


                “ไม่ต้องอายน่า เราได้กันมาครั้งนี้ครั้งที่สามแล้ว แต่ครั้งนี้ฉันให้นายคุมเกม”


                มือใหญ่ช้อนใต้บั้นท้ายบีบเบาๆเชิงแนะนำให้ปักบุญขยับเขยื้อนเสียที เขากดต้นขาของปักบุญลงมาจนกระทั่งท่อนลำของเขาสอดลึกจนปักบุญนั่งทับลงมาได้แนบสนิท


               “ฮึก ฮึก คุณทิน ผมเสียว”


                มันลึกเกินไปแล้ว มันเข้าไปจนหมด สอดสัมผัสอยู่ภายในจนคับแน่น กล้ามเนื้อของปักบุญเต้นระริกต้อนรับการสอดประสาน เขาคลายความอึดอัดด้วยการขยับสะโพกไปมา แต่ไม่นึกว่านั่นยิ่งเพิ่มพูนความเสียวซ่านให้กับทั้งคู่จนทินภพยังเผลอกัดฟัน


              “ดี ดีมากปักบุญ ทำแบบนี้อีกสิ”


               หมุนเอวเป็นวงกลม ยกกายขึ้นให้มันหลุดคลายออก ทินภพวางมือทั้งสองไว้ที่เอวของปักบุญแล้วกดลงมาจนมันผลุบกลับเข้าไปใหม่ ปักบุญถึงกับกระตุกไปกับบทเรียนนี้ ทินภพสอนให้เขาทำช้าๆจนปักบุญจับจังหวะได้ทินภพจึงได้ปล่อยให้เขากระทำและเลื่อนมือไปคลึงเค้นยอดอกของเขา


               “อื้อ”


               เผลอปล่อยเสียงครางจนแมงปอที่หลับอยู่ขยับเบาๆ ปักบุญรีบปิดปากตนเองด้วยการแนบหน้าไปกับริมฝีปากของทินภพ มีหรือที่คนเจ้าเล่ห์จะปล่อยโอกาสให้ผ่านไป เขาวางมือใหญ่แนบไปกับท้ายทอยของปักบุญและบังคับให้รับจูบของเขา ลิ้นร้อนตวัดหาความหวานที่เขาติดใจพลางกระตุ้นให้ปักบุญขยับท่อนล่างต่อด้วยการสวนเอวเข้าไป


              ปักบุญเตลิดไปหมดแล้วกับสิ่งที่ทินภพสอนเขา ตอนนี้ปักบุญลืมไปหมดทุกอย่าง ลืมว่าเขากับทินภพบาดหมางอะไรกันมาบ้าง ลืมความเจ็บช้ำที่อีกฝ่ายก่อให้ มีแต่ความต้องการตามกลไกธรรมชาติที่ต้องการปลดปล่อย เขาโยกกายขึ้นลงเข้าจังหวะกับทินภพเน้นความลึกแน่นชัดเจน ร่างทั้งสองกอดก่ายแนบสนิทชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อเกาะพราว เสียงลมหายใจกระเส่าพ่นออกมาเมื่อริมฝีปากแยกห่างเพื่อแลกลิ้น


               “คุณทิน มะ ไม่ไหว ผมไม่ไหว”


               สั่นไปทั้งตัวเมื่อรู้ว่าร่างกายถึงขีดสุด ปักบุญใช้ฟันกัดลงไปที่บ่ากว้างแทบจมเขี้ยวขณะโยกเอวพร้อมกับใช้มือรูดรั้งท่อนเนื้อของตนเองไปด้วย ทินภพช่วยเหลือด้วยการผลักให้ปักบุญหงายหลังลงไปกับพื้นแล้วสาวเอวเข้าใส่ในจังหวะสุดท้าย ปักบุญเกร็งค้างกลั้นหายใจเมื่อเขาถูกกระชากขึ้นสวรรค์


                “โอ ปักบุญ นายกำลังจะฆ่าฉัน”


                 ทินภพสาวเอวใส่ไม่ยั้ง เขาไม่อยากพลาดโอกาสนี้ กล้ามเนื้อหนั่นแน่นกระแทกค้างลึกอีกสองสามครั้งเขาจึงดึงเอวออกมาใช้มือบีบรูดก่อนจะพ่นพิษลงไปบนแผงอกเปลือยเปล่าเบื้องล่างเป็นทาง เมื่อตามปักบุญไปติดๆแล้ว ร่างสูงจึงค่อยโน้มกายลงไปนอนเคียงข้างพลางกอดเอวปักบุญไว้


                  ปักบุญนอนหอบ ตอนนั้นเองที่สติสัมปชัญญะเริ่มกลับคืนมา เขาคว้าแว่นสายตามาใส่เพื่อความคมชัดคล้ายจะเตือนใจตนเองไม่ให้เมามัวไปกับเพศรสที่ทินภพมอบให้


                “คิดอะไรอยู่ปักบุญ”


                ทินภพเอ่ยถามเมื่อเห็นคนในอ้อมกอดได้แต่มองเพดานครุ่นคิด เขานอนตะแคงใช้มือยันศีรษะเพื่อจะได้มองปักบุญได้อย่างชัดเจน


                “คุณน่ะสิคิดอะไรอยู่”


                ปักบุญกลับเป็นฝ่ายถามโดยไม่มองหน้า ในตอนนี้มีแต่ความสับสนเต็มไปหมด


                 “คุณไม่ชอบหน้าผม คุณเกลียดครอบครัวของผม คุณแกล้งผมมาตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งตอนนี้ แต่คุณก็ยังมายุ่งกับผมบังคับให้ผมทำตามที่คุณสั่ง ผมจะไปให้ห่างคุณก็รั้งไว้ ผมควรเป็นฝ่ายถามคุณว่าคิดอะไรอยู่”


              ทินภพนิ่งงัน คำถามของปักบุญราวกับมีดแทงตรงเข้าสู่หัวใจ ใช่สิ เขาเกลียดคนจากไร่ชมจันทร์ แต่เขาอยากเห็นหน้าปักบุญ เขาไม่ชอบที่ปักบุญชอบเชิดหน้าใส่เขา แต่เขาก็ชอบมองยามปักบุญเตลิดไปกับความรัญจวนที่เขามอบให้ ทินภพควรถามตัวเองว่าเป็นอะไรกันแน่


                 “ก็ไม่รู้สินะ” ทินภพยักไหล่ “แล้วนายไม่ดีใจเหรอถ้าหากเป็นอย่างที่นายว่า ปู่เล็กของนายที่ตายไปแล้วอาจจะดีใจก็ได้ที่มีนายเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างพวกเรา นายควรจะภาคภูมิใจนะที่ฉันติดใจในเซ็กส์ของนายจนอาจจะกลบความเกลียดชังที่ฉันมีอยู่”


                ปักบุญอยากจะส่งเสียงตะโกนระบายความเจ็บแปลบออกมาหากไม่กลัวแมงปอจะตื่น เขามีค่าแค่เพียงใช้เซ็กส์แลกกับสิ่งเหล่านี้อย่างนั้นหรือ ขอบตาร้อนผ่าวไปหมดยามมองทินภพอย่างตัดพ้อ


                 “ผมไม่ใช่เครื่องมือบำบัดความใคร่ ระบายความอยากของคนเลวอย่างคุณ ผมจะกลับบ้าน”


                 “จะกลับได้ยังไงดึกขนาดนี้ แล้วก็เลิกคิดมากน่า สารภาพตรงๆว่าฉันชอบมีเซ็กส์กับนาย ตอนนี้ฉันก็ดีกับนายมากแล้ว อีกหน่อยฉันอาจจะชอบนายจริงๆก็ได้ แต่ว่าตอนนี้ฉันง่วงแล้ว เรานอนเฝ้าแมงปอด้วยกันที่นี่แหละ พอถึงเช้ามืดฉันจะไปส่งนายอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านแล้วพาไปส่งที่โรงเรียน  เพราะฉะนั้นนอนได้แล้ว”


                 ทินภพดึงตุ๊กตาตัวหนึ่งที่อยู่บนเตียงของแมงปอมาให้ปักบุญหนุนต่างหมอน เขาใช้แขนวางพาดอยู่บนลำตัว ใช้ขาเกาะเกี่ยวท่อนล่างปักบุญไว้จนไม่อาจหลีกหนีไปได้ ดวงตาคมปิดลงแล้วหลับไปอย่างง่ายดาย ทิ้งให้ปักบุญว้าวุ่นใจเพียงลำพัง ปักบุญหันไปมองหน้าทินภพพลางถอนหายใจ


                 “คนปากเสียอย่างคุณ ทำไมถึงมีแต่ผู้หญิงมาชอบนะ เขาทนคุณได้ยังไง”


                ปักบุญส่ายหน้าก่อนจะหลับตาลง ก่อนคล้อยหลับเขาได้แต่เตือนตัวเองว่าอย่าได้หลงกลทินภพอีก เขาจะต้องไม่ใช่หนึ่งในคนที่หลงไปกับเสน่ห์ของผู้ชายใจร้ายอย่างทินภพเด็ดขาด





มีต่ออีกนิด...



หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 10 NC [08/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 08-01-2020 20:14:26


อ่านต่อตรงนี้...



               เมื่อถึงยามเช้าตรู่ทินภพจึงค่อยปลุกปักบุญหลังจากที่เขาตื่นก่อนและจ้องมองปักบุญหลับอยู่พักใหญ่ ปักบุญรีบคว้าเสื้อผ้ามาใส่หลังจากนอนเปลือยอยู่ในอ้อมกอดของทินภพมาครึ่งคืน ทินภพขับรถไปส่งปักบุญที่ไร่และนั่งรอให้ปักบุญอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดทำงานด้วยสายตาสงสัยของพรรณีผู้เป็นมารดาแต่นางก็ต้อนรับทินภพเป็นอย่างดี ทินภพขับรถไปส่งปักบุญที่โรงเรียนอย่างที่เอ่ยปากไว้ทั้งที่ปักบุญพยายามห้ามและบอกว่าจะขับรถไปเอง


              “อย่าพูดมาก มาขึ้นรถ”


               เขาดึงแขนปักบุญพาไปขึ้นของเขาแล้วรีบขับไปโรงเรียนอนุบาล ปักบุญนั่งหน้าบึ้งมาตลอดทางจนถึงโรงเรียน มือเรียวกำลังจะเปิดประตูรถลงไปแต่ถูกทินภพรั้งไว้เสียก่อน


                “ตอนเย็นจะมารับ รออยู่ใกล้ๆประตูนะ”


                ทินภพหัวเราะเบาๆเมื่อปักบุญสะบัดแขนแล้วรีบลงจากรถ เขาเดินผิวปากอารมณ์ดีไปยังห้องที่แมงปอเรียนอยู่และบอกครูต่ายครูประจำชั้นว่าแมงปอขอลาเรียนเพราะเป็นไข้ก่อนจะขับรถกลับบ้าน เมื่อไปถึงเขาก็พบกับนายทูลผู้เป็นบิดานั่งเล่นกับแมงปอที่เพิ่งฟื้นไข้


                “คุณพ่อกลับมาถึงเมื่อไหร่ครับ”


                 “เพิ่งมาถึงนี่แหละ กำลังซักไซ้เจ้าตัวดีว่าทำไมไม่ไปโรงเรียน เพิ่งรู้ว่าซนจนตกน้ำเป็นไข้”


                  แมงปอยิ้มประจบ เด็กหญิงรู้ดีว่าคุณปู่ใจดีอยู่แล้ว


                 “น้ำตกสวยจนแมงปอตะลึงเลยค่ะคุณปู่ เผลอแป๊บเดียวตกน้ำเลย คุณพ่อกับอาปักตกใจกันใหญ่ที่แมงปอตกใจน้ำ กลับมาบ้านก็เป็นไข้อีก อาปักก็เลยต้องมาเฝ้าไข้ทั้งคืน”


                  นายทูลเอะใจ เขามองบุตรชายด้วยความสงสัย


                  “อาปักของแมงปอนี่ใคร พ่อคุ้นๆ”


                 “อาปักที่ไร่ชมจันทร์ไงคะคุณปู่” บิดายังไม่ทันตอบแมงปอก็ชิงตอบเสียงใส “อาปักเป็นครูอยู่โรงเรียนเดียวกับแมงปอ อาปักสอนการบ้านเข้าใจง้ายง่าย ใจดีมากๆเลย”


                 ทูลฟังคำตอบจากหลานสาวแล้ว เขาก็ยิ่งต้องมองบุตรชายอย่างคาดคั้น


                 “ปักบุญใช่ไหม นี่แกไปพาลูกเขามานอนค้างที่นี่เนี่ยนะ”


                 “แมงปอเพ้อถึงแต่อาปักนี่ครับ พ่อจะให้ผมทำยังไง”


                 ทินภพอ้างบุตรสาวหน้าตาเฉยพลางหลบตาด้วยการคนกาแฟที่สาวใช้นำมาเสิร์ฟ นายทูลยิ่งมองด้วยความสงสัย


                 “ก็แมงปอชอบอาปักนี่คะ อาปักใจดี หน้าตาก็หล่อ แมงปออยากให้พ่อกับอาปักเป็นแฟนกัน”


                 ทินภพที่กำลังยกกาแฟขึ้นดื่มถึงสำลัก ทูลอุ้มหลานสาวมานั่งบนตักพลางเอ่ยถามเด็กแก่แดด


                 “เดี๋ยวนะเจ้าหลานคนนี้ เข้าใจเหรอว่าเป็นแฟนคืออะไร”


                  เด็กหญิงยิ้มแป้นพยักหน้าหงึกหงัก


                 “แม่บอกว่าเป็นแฟนคือรักกัน อยากอยู่ใกล้ๆกันค่ะ แม่อยากให้พ่อมีแฟนดีๆ จะได้ดูแลแมงปอได้ อาปักเป็นแฟนดีๆให้พ่อได้นะ เพราะอาปักดูแลแมงปอได้”


                  ทูลหัวเราะเมื่อฟังหลานสาวพูดจบ เขาเหลือบตามองบุตรชายแวบหนึ่ง


                  “แต่อาปักเขาเป็นผู้ชายเหมือนพ่อเรานะ เขาจะเป็นแฟนกันได้ยังไง”


                  “ผู้ชายกับผู้ชายเป็นแฟนกันไม่ได้เหรอคะ ว้า แต่แมงปออยากให้พ่อกับอาปักเป็นแฟนกันนี่นา ปู่ให้พ่อกับอาปักเป็นแฟนกันนะ นะคะ”


                  “โอย เด็กสมัยนี้ปู่ชักจะตามไม่ทันแล้ว ไงไอ้ทิน ลูกสาวตัวแสบของแก แสบเหมือนแกไม่มีผิด”


                 ทินภพนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนยิ้มให้บุตรสาว


                  “ต้องลองไปถามอาปักของแมงปอว่าอยากเป็นแฟนพ่อหรือเปล่า ถ้าเขายอมเป็นแฟนพ่อ พ่อก็เป็นแฟนเขาได้”


                 “เย้ๆ อาปักต้องยอมเป็นแฟนพ่อแน่ๆค่ะ พ่อของแมงปอทั้งหล่อทั้งใจดี”


                  แมงปอดีใจในชณะที่ผู้ใหญ่ทั้งสองนั่งมองหน้ากัน ทูลมองบุตรชายอย่างต้องการคำตอบที่แท้จริง


                 “นี่พ่อตกข่าวอะไรไปหรือเปล่าไอ้ทิน มีเรื่องอะไรที่พ่อต้องรู้แต่ยังไม่รู้หรือเปล่า”


                  ทินภพถอนหายใจก่อนนั่งก้มหน้า บางทีอาจต้องยอมรับความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง


                “ก็อย่างที่พ่อเคยพูด ปักบุญไม่ผิดอะไรแถมยังน่าสงสาร เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งนานแล้วผมไม่ควรจะแบกมันไว้อีก”


                 “เรื่องนั้นก็ใช่ แล้วเกี่ยวอะไรกับที่แกไปรับปากลูก”


                 ลูกชายกลอกตาไปมาคล้ายกำลังคิดคำตอบก่อนจะยกมือเกาศีรษะแกรกๆ


                 “ก็ตามที่แมงปอพูดไงพ่อ จะคิดอะไรมากล่ะ หาคนดีๆมาดูแลแมงปอไง ไม่คุยกับพ่อละ ไปทำงานในไร่ดีกว่า”


                 พูดจบทินภพก็รีบเดินหนีทิ้งให้บิดานั่งงงอยู่กับหลานสาว


                 “แมงปอ อาปักคนนี้ดีมากเลยหรือ”


                “ดีมากค่ะ” หลานสาวยืนยัน “แมงปอไม่เอาผู้หญิงที่มาหาพ่อนะคะ แมงปอจะให้อาปักเป็นแฟนพ่อคนเดียว”


                 นายทูลนั่งกะพริบตาปริบๆ ปักบุญคงเป็นคนดีจริงๆถึงได้เอาชนะใจแมงปอได้ แถมยังทำให้ทินภพที่เคยดื้อหัวชนฝาเรื่องความแค้นของสองครอบครัวกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาเองถึงแม้จะชราแต่ก็สมัยใหม่พอจะเข้าใจเรื่องความรักของเพศเดียวกัน ถ้าหากทินภพจะชอบปักบุญจริงเขาก็คงไม่มีสิทธิ์จะห้ามลูก


                ได้แต่เสียดายเพราะหวังจะมีหลานคนใหม่มาให้อุ้มสักคน แต่ถ้าทินภพคิดจะลงเอยกับปักบุญจริงเขาก็คงไม่มีหลานอีกแล้ว


                “เฮ้อ คงได้มีแมงปอคนเดียวนี่แหละที่อยู่กับปู่ เนอะแมงปอ”







                 เลิกงานตอนเย็นปักบุญจึงเก็บของหิ้วกระเป๋าออกจากห้องเรียน เดินออกมาจนใกล้ถึงประตูรั้วเขาก็ต้องหยุดเดินเพราะได้ยินเสียงเรียก


                “ปัก เป็นไงบ้าง สอนเด็กสนุกไหม”


                 “อ้าวพี่กฤษ” ปักบุญยิ้มแย้มให้พี่ชายของเพื่อน ก่อนกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงแจ่มใส “สนุกดีพี่ เด็กๆน่ารัก มีดื้อบ้างแต่รับมือง่ายกว่าพวกนักศึกษาที่เคยสอนอีก”


                  กฤษณะฟังแล้วเขาจึงยิ้มตอบ


                 “ดีแล้ว พี่ดีใจนะที่ปักกลับมาทำงานที่บ้าน เสียดายที่พี่ไม่ได้ดูแลโรงเรียนสาขานี้เลยไม่ค่อยได้พบกับปัก ก็เลยไม่ค่อยได้คุยกัน วันนี้มาหากานพอดี เดี๋ยวเราไปกินมื้อเย็นกันดีไหม”


                 ปักบุญกำลังจะอ้าปากตอบแต่ก็ไม่ทันเมื่อมีเสียงห้าวดังขึ้นเบื้องหลัง


                “คงไม่ได้หรอกครับ”


                 หันขวับไปมองเจ้าของเสียง ร่างสูงเดินตรงเข้ามาส่งยิ้มมุมปากให้กฤษณะพลางถือวิสาสะดึงแขนปักบุญไว้


                 “ผมนัดกับปักบุญไว้แล้วว่าจะไปดินเนอร์กัน และตอนนี้ผมก็หิวมากด้วย ต้องขอโทษที่ขอตัวปักบุญไปก่อน ไปได้แล้วปักบุญ”


                 “คุณทิน เดี๋ยวสิ”


                 กฤษณะได้แต่ยืนงงมองตามหลังเมื่อปักบุญถูกร่างสูงที่จำได้ว่าเป็นเจ้าของไร่คนดังของจังหวัดลากแขนให้เดินตามไปอย่างรวดเร็ว




                                                                 TBC


                                            แถวบ้านเรียกหึงน่ะ แต่ไม่รู้อีตาทินภพจะเก็ทหรือเปล่า



                                                   :m14: :m14: :m14: :m14: :m14: :m14: :m14: :m14:







หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 10 NC [08/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 08-01-2020 21:02:29
และแล้วอีตาทิน ก็หลงปักบุญจริงจัง แถมมีรับปากลูกสาวด้วยว่าถ้าปักบุญยอมก็จะยอมเป็นแฟนด้วย
ว่าแต่หึงน้อยๆ หน่อยนะ ปักบุญเขาก็คุยกับคนทั่วไปธรรมดานะ โปรดเข้าใจ
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 10 NC [08/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-01-2020 22:21:35
โอ๊ยยย หวงเกิ๊นนน
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 10 NC [08/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-01-2020 23:21:54
ตายแล้วๆๆน้องแมงปอ เชียร์ขนาดนี้
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 10 NC [08/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 09-01-2020 07:02:26
ปากดีจริงๆคุณทินภพ ชอบเขาก็บอกดีๆ ปักบุญเล่นตัวกว่านีอย่าไปยอม :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 10 NC [08/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-01-2020 09:57:56
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 10 NC [08/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 09-01-2020 16:09:11
อ้าววว ทิ้น จะหวง นุ้งปัก ในฐานะ อาราย ต้องรีบชัดเจน แล้วนร้า
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 10 NC [08/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 09-01-2020 21:55:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 10 NC [08/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 09-01-2020 22:25:49
ติดตา ม
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 10 NC [08/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 12-01-2020 19:34:43
ลากแขนกันไปเลย ..
หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 11 [16/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 16-01-2020 21:23:16



                                                  หักเหลี่ยมรักซาตาน

                                                         บทที่ 11



             “จะบ้าหรือเปล่า ทำตัวเสียมารยาทมาก ผมกำลังคุยกับพี่กฤษอยู่นะคุณลากผมมาแบบนี้ได้ยังไง”


             ปักบุญต่อว่าหน้าบึ้งที่ถูกทินภพชิงตัวออกมาทั้งที่ยังสนทนากับกฤษณะอยู่ แถมยังผลักเขาขึ้นรถกระบะคันใหญ่แล้วขับออกจากหน้าโรงเรียนอย่างรวดเร็ว ทินภพเห็นหน้าบึ้งของปักบุญแล้วก็ยิ่งหัวเสีย เขาแค่นยิ้มใส่พลางประชดเสียงเข้ม


              “ใช่สิ เรามันคนไม่มีมารยาทเป็นแค่ชาวไร่ชาวสวนเลี้ยงหมูเลี้ยงไก่ไปวันๆ ไหนเลยจะไปสู้เจ้าของโรงเรียนผู้ดีเก่าประจำจังหวัดอย่างเขาได้”


               ฟังคำพูดจาประชดประชันจากคนขับรถแล้วปักบุญก็โกรธจนกลายเป็นขำ รู้อยู่แล้วว่าระดับของไร่เชิญตะวันนั้นไม่ใช่แค่ชาวไร่ชาวสวนเลี้ยงหมูเลี้ยงไก่อย่างที่เจ้าของไร่กล่าวมาแน่ เมื่อคลายความโมโหลงบ้างคิ้วที่ขมวดอยู่จึงคลายลงและเผยรอยยิ้มออกมา


              “แล้วมันเรื่องอะไรที่คุณต้องเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นด้วย ไม่มีมารยาทก็เกิดขึ้นเพราะคุณเอง ไม่ใช่เพราะคุณเทียบเขาไม่ได้”


               “ก็แล้วมันเรื่องอะไรที่นายถึงไปคุยกับหมอนั่น” ทินภพยังนั่งขับรถคอแข็งทั้งที่น้ำเสียงนุ่มลงมาก “แถมยังสีหน้าระรื่นใส่กันไม่เหมือนตอนทำหน้าบึ้งคุยกับฉันเลย”


                ปักบุญถอนหายใจ แต่ในใจลึกๆกลับพองฟูขึ้นมา ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันว่าเพราะอะไร


                “ผมกับพี่กฤษรู้จักกันมานานแล้ว ผมเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับกานติมาน้องสาวของเขา พี่กฤษเขาก็เอ็นดูผมกับเพื่อนๆเหมือนเป็นน้องนั่นแหละ”


                “เฮอะ เอ็นดูเหมือนเป็นน้อง”


                ทินภพอยากจะกระชากไหล่ของปักบุญแล้วมาเขย่าให้หายเคือง สีหน้าของนายกฤษณะอะไรนั่นเวลามองปักบุญมันไม่ใช่เอ็นดูแบบน้องอย่างที่เจ้าตัวเข้าใจ ทำไมเขาจะดูไม่ออก ทั้งโลกก็คงจะมีแต่ปักบุญผู้มองโลกสวยงามเท่านั้นแหละที่ดูไม่ออก


              “แล้วสรุปว่าคุณมาหาผมทำไมกัน”


               ปักบุญยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะมัวเถียงกับทินภพนี่แหละ


               “ฉันมาส่งนายเมื่อเช้าตอนเย็นก็ต้องมารับสิ ถ้าฉันไม่มารับนายจะกลับไร่ยังไง”


              “ก็ให้พี่กฤษไปส่ง โอ๊ย คุณจะเบรกรถกะทันหันแบบนี้ไม่ได้นะ”


               ตกใจเมื่อทินภพเหยียบเบรกจนศีรษะแทบคะมำไปโขกกระจกรถ พอหันไปจะต่อว่ากลับต้องหุบปากเมื่อเห็นสีหน้าของคนขับที่แทบจะแยกเขี้ยวใส่ถ้าทำได้


              “ไม่ต้องไปยุ่งกับมันได้ไหม ฉันมาส่งได้ก็มารับได้ หยุดพูดถึงหมอนั่นสักทีเถอะรำคาญเต็มทีแล้ว”


               แล้วทินภพก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก เขาปล่อยให้ปักบุญนั่งงงอยู่ว่าทำไมทินภพต้องเกรี้ยวกราดขนาดนี้ ได้แต่ปล่อยให้ขับรถไปในทางที่ไม่ใช่ทางกลับบ้านจนกระทั่งถึงร้านอาหารแห่งหนึ่งทินภพจึงจอดรถ


               “ลงไปหาอะไรกินก่อน ทำงานในไร่ทั้งวันหิวชะมัด”


              “แต่ว่า...”


               “ลงมาเถอะน่า ฉันเลี้ยงเอง”


               ท่าทางดื้อดึงให้ได้ดังใจทำให้ปักบุญต้องลงมาจากรถแล้วเดินตามหลังร่างสูงใหญ่ไปภายในร้านสไตล์คาวบอย ทินภพเลือกโต๊ะฝั่งที่ยังไม่มีคนมากนักในช่วงเย็นเช่นนี้ เขายื่นเมนูให้ปักบุญรับไปอ่าน


              “เลือกทีโบนสเต็กหรือริบอายสิ ร้านนี้รับเนื้อวัวมาจากไร่เชิญตะวัน รับรองเนื้อนุ่มมากๆ”


              “ในเมื่อคุณเลือกไว้แล้ว คุณจะถามผมทำไม”


               ปักบุญมองอย่างอ่อนใจพลางส่งเมนูคืนให้พนักงาน ทินภพเพิ่งจะยิ้มออกมาได้


               “รับรองว่าสิ่งที่ฉันเลือกต้องดีที่สุดอยู่แล้ว วางใจได้”


               ทินภพหันไปสั่งอาหารกับพนักงาน ระหว่างรออาหารเจ้าของร้านเดินมาทักทายกับทินภพอย่างสนิทสนม ปักบุญได้แต่เท้าคางมองด้วยความแปลกใจ


                เขากำลังสงสัยพฤติกรรมของทินภพช่วงนี้ คนที่เคยมองเขาด้วยสายตาเกลียดชังกลับอ่อนลงจนรู้สึกได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่นานนักทินภพยังใช้อำนาจและความได้เปรียบบังคับข่มเหง แต่บัดนี้อีกฝ่ายกลับมาดูแลเอาอกเอาใจจนผิดสังเกต ปักบุญสงสัยว่าทินภพกำลังใช้ลูกเล่นอะไรกับเขาอีกหรือเปล่า


              “สเต็กมาแล้ว ลองกินดูสิปักบุญ”


               น้ำเสียงที่ชักชวนให้กินอาหารตรงหน้าก็อ่อนโยนจนแทบจำไม่ได้แล้ว ว่าตอนที่ทินภพเคยใช้คำพูดดูหมิ่นเหยียดหยามนั้นเป็นเช่นไร แต่กระนั้นปักบุญก็ยังไม่ไว้วางใจ ทินภพเจ้าเล่ห์เหมือนหมาป่าที่คอยต้องฝูงลูกแกะไปกัดกิน จะให้ปักบุญเชื่อว่าเขาจริงใจก็คงจะต้องใช้เวลานานสักหน่อย


               “คุณทิน คุณทินขา ดีใจจังเลยที่ได้เจอกัน”


               เสียงหวานบาดแก้วหูดังขึ้นเบื้องหลังจนปักบุญสะดุ้งจากภวังค์ เจ้าของเสียงเป็นหญิงสาวแต่งตัวด้วยเดรสเข้ารูปแต่งหน้าจัด ทินภพเงยหน้ามองพลางคลี่ยิ้มบางๆตอบรับคำทักทาย


              “นึกว่าใคร ฝ้ายนั่นเอง”


              หญิงสาวคือหนึ่งในผู้หญิงที่เคยผ่านสังเวียนกับเขามาก่อน เนิ่นนานแล้วแต่ก็ยังจดจำได้ ฝ้ายเดินเข้ามาคล้องคอแล้วมองเขาด้วยสายตาเป็นประกาย เสน่ห์ของทินภพยังไม่จางลงไปสักนิด


              “ดีใจจังค่ะที่ได้พบคุณทิน เราไม่ได้คุยกันนานแล้วนะคะ ฝ้ายยังคิดถึงคุณทินมาตลอดเลยนะ แล้วฝ้ายก็ว่างสำหรับคุณเสมอค่ะ”


              ปักบุญเหลือบมองความสนิทสนมของทั้งคู่ อยู่ๆความขัดเคืองก็แล่นมาเป็นริ้วอย่างไม่มีสาเหตุ ยิ่งเห็นร่างอวบอิ่มแทบจะเกยอยู่บนตักทินภพเขาก็ยิ่งร้อนวูบวาบไปทั้งหน้า แต่ปักบุญทำอะไรไม่ได้นอกจากซ่อนหน้าบึ้งด้วยการก้มต่ำและทำทีเป็นสนใจกับเนื้อสเต็กตรงหน้าทั้งที่ตอนนี้ลิ้นเขาไม่รู้รสชาติเลยด้วยซ้ำ


              “แต่ตอนนี้ผมไม่ว่าง ผมมากับ...เพื่อน”


               คำว่าเพื่อนเรียกคำสนใจจากหญิงสาวได้บ้าง หล่อนเพิ่งจะหันไปมองชายหนุ่มอีกคนที่นั่งตรงข้ามทินภพ ในสายตาผู้หญิงแล้วปักบุญถือว่าเป็นผู้ชายหน้าตาจัดว่าหล่อ สะอาดสะอ้านคนหนึ่ง


              “เพื่อนคุณทินหล่อไม่แพ้คุณทินเลยค่ะ แต่คนละแบบกัน สวัสดีค่ะ ฝ้ายนะคะ”


               หญิงสาวนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวโดยไม่ต้องมีใครเชิญ จริตมายาพุ่งมาหาปักบุญโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว


               “สวัสดีครับ เอ่อ คุณฝ้าย ผมชื่อปักบุญ”


               ท่าทางแสนซื่อของปักบุญทำให้หญิงสาวเริ่มสนใจและเป็นฝ่ายชวนคุย ปักบุญเองก็ไม่ใช่คนคิดร้ายนักเมื่ออีกฝ่ายมีอัธยาศัยดีเขาก็ยิ้มแย้มกลับคืน นึกไม่ถึงว่าตนเองได้ถ่ายเทความหงุดหงิดไปให้ทินภพแทน เขามองการสนทนาระหว่างปักบุญกับอดีตผู้หญิงของเขาด้วยความขุ่นมัว


              หึง! จะบอกว่าเขาหึงก็ได้ เขาหึงที่เห็นปักบุญพูดจากับคนอื่นอย่างสนิทสนม ฝ้ายก็ดูจะชอบรอยยิ้มของปักบุญ ใครบ้างล่ะจะมองเมินได้เมื่อรอยยิ้มบาดหัวใจเสียขนาดนั้น


              ทินภพตกใจตนเองเมื่อเขารู้แล้วว่าความรู้สึกนี้คืออะไร เขาไม่เคยรู้สึกรุนแรงเช่นนี้มาก่อน เขาหวงปักบุญไม่อยากให้คนอื่นมาวอแว เขาหึงเมื่อรู้ว่ามีใครชอบปักบุญ ไม่รู้ว่าความรู้สึกเหล่านี้เริ่มต้นตอนไหน แต่บัดนี้มันเกิดขึ้นจนเขาไม่อาจปฏิเสธได้


              “อิ่มแล้วก็รีบกลับ”


              กลายเป็นทินภพที่พูดขัดบทสนทนาของฝ้ายกับปักบุญ เขายอมเป็นคนเสียมารยาทอีกครั้งด้วยการเรียกพนักงานมาเก็บเงิน ปักบุญได้แต่ยิ้มแห้งส่งให้ฝ้าย


               “ผมต้องกลับแล้วครับ”


               “เสียดายจังค่ะ ถ้ามีโอกาสพบกันอย่าลืมฝ้ายนะคะคุณปัก”


                “จะลากันอีกนานไหม ไปกันได้แล้ว”


                 จ่ายเงินโดยไม่รอเงินทอน ทินภพลุกขึ้นดึงแขนปักบุญจนแทบจะลอยออกไปที่รถกระบะด้านนอก เขาขับรถออกจากร้านมุ่งหน้ากลับไร่ทันที ปักบุญได้แต่มองเสี้ยวหน้าด้านข้างของทินภพด้วยความสนเท่


              “คุณเป็นอะไรอีก คุณฝ้ายเขาเป็นเพื่อนคุณไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมทำท่าตัดรอนแบบนั้น”


               ไม่ใช่เพื่อน เป็นแค่อดีตคู่นอน ทินภพคร้านจะอธิบายให้ปักบุญเข้าใจเพราะตอนนี้เขายังหงุดหงิดไม่หาย


               “เสน่ห์แรงจริงนะ ทั้งผู้ชายผู้หญิง คุยกับใครเขาก็ตกหลุมกันทุกคน”


                ปักบุญอ้าปากค้าง เขาหันกลับมาครุ่นคิดถึงอากัปกิริยาที่ทินภพแสดงออก จนถึงวินาทีนี้เขาก็ยังไม่กล้าฟันธงว่าทินภพคิดอะไรอยู่ จึงได้แต่นั่งเงียบจนกระทั่งทินภพจอดรถที่หน้าบ้านของเขา


                 เมื่อจอดรถแล้วทินภพก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นนายดำคนขับรถของบิดานั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ลูกน้องยิ้มแป้นเมื่อเห็นเจ้านาย


               “คุณทิน”


               “มาทำอะไรที่นี่”


               “มากับคุณท่านกับคุณหนูแมงปอครับ”


                คิ้วเข้มเลิกสูงด้วยความสงสัย เขาหันไปมองปักบุญเพื่อให้อีกฝ่ายเดินนำเข้าไปในบ้าน ได้ยินเสียงหัวเราะครื้นเครงดังแว่วออกมา


                “พ่อ แมงปอ มาทำอะไรที่นี่”


                มองเห็นบิดากับลูกสาวนั่งคุยอยู่กับพรรณีเจ้าของบ้าน แมงปอรีบลงจากตักคุณปู่วิ่งถลามาหาปักบุญ


                “อาปักกลับมาแล้ว พ่อพาอาปักไปไหนมานี่มันเลยเวลาเลิกเรียนตั้งนานแล้ว”


                ทินภพก้มหน้ามองลูกสาวที่กอดปักบุญแน่น ทั้งเคืองทั้งขำกับท่าทางแก่แดดของแมงปอ


                “พ่อหิวข้าวก็เลยพาอาปักไปหาอะไรกินก่อนกลับ เรากับคุณปู่นั่นแหละมาทำอะไรที่นี่”


                หันไปมองบิดาที่กำลังหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าบุตรชาย นายทูลกล่าวคลายความสงสัย


               “แมงปอร่ำร้องอยากจะมา บอกว่าอยากกินข้าวไข่เจียวหมูสับฝีมือคุณยายพรรณี แล้วก็อยากมารออาปักคนดีด้วย พ่อทนฟังเสียงไม่ไหวก็เลยพามาที่ไร่ชมจันทร์นี่แหละ ก็เลยได้อาศัยฝากท้องมื้อเย็นไปด้วย อร่อยสมกับราคาคุยของแมงปอจริงๆ ขอบใจนะแม่พรรณี”


               พรรณีได้ฟังคำชมแล้วยิ้มหน้าบาน ไม่นึกว่าเจ้าของไร่เชิญตะวันอย่างนายทูลจะมาที่นี่ด้วย นึกดีใจที่ความบาดหมางเนิ่นนานอาจจะจบลงได้


              “อุ้ย ไม่เป็นไรค่ะคุณ คุณทินช่วยดิฉันไว้ตั้งเยอะ ฉันเองก็เอ็นดูหนูแมงปอเหมือนลูกเหมือนหลาน ถ้าแมงปออยากกินข้าวไข่เจียวหมูสับอีกก็มาได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ”


                ทินภพได้แต่มองสัมพันธไมตรีเหล่านั้น แม้แต่นายทูลเองที่ควรจะเจ็บช้ำมากกว่าเขาเพราะต้องสูญเสียมารดาไปตั้งแต่ยังเล็กและเติบโตมากับบิดาที่จมอยู่กับความเคียดแค้นยังให้อภัยแล้ว เขาที่เป็นรุ่นหลานก็ควรจะปล่อยวางเรื่องในอดีตลงด้วย อาจจะรวมถึงปักบุญที่ต้องกลายมาเป็นเครื่องมือระบายความแค้นของเขา แต่ปักบุญเล่าจะคิดเช่นไรกับสิ่งที่ทินภพเคยทำลงไป


                “มารบกวนนานแล้ว กลับบ้านกันเถอะแมงปอ รีบนอนไข้จะได้หาย”


                ทูลลุกขึ้นกล่าวอำลาพลางจูงแขนหลานสาวให้เดินตาม ปักบุญรีบยกมือไหว้ ตอนนี้เองที่ทูลเพิ่งจะได้พิจารณาลูกคนสุดท้องของพรรณี ความอ่อนโยนของปักบุญทำให้เขาพอจะเข้าใจบุตรชายแล้วว่าคิดอะไรอยู่


               “รู้แล้วว่าทำไมแมงปอถึงได้ติดอาปักบุญนัก คนดีแบบนี้ใครๆก็รัก ใช่ไหมไอ้ทิน”


                พูดจบก็รีบจูงมือหลานสาวออกไปขึ้นรถที่นายดำสตาร์ทเครื่องรออยู่แล้ว ทิ้งให้บุตรชายยืนนิ่งอยู่ข้างปักบุญ


               “ฉันก็จะกลับแล้ว”


               “ก็ไปสิครับ”


              “ปัก เสียมารยาทจังลูก ไปส่งคุณทินที่รถหน่อย”


              เพราะมารดาส่งเสียงดุใส่หรอกนะเขาถึงได้ยอมเดินตามแผ่นหลังกว้างมานอกตัวบ้านอีกครั้ง ความมืดโรยตัวลงมาจนมองเห็นแสงดาวบนฟ้าได้อย่างชัดเจน แต่มันคงไม่สว่างไปกว่าความรู้สึกของทินภพที่เขาเริ่มมั่นใจแล้วว่าตนเองรู้สึกเช่นไร





มีต่ออีกนิด...




หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 11 [16/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 16-01-2020 21:32:45


อ่านต่อตรงนี้...



               “ที่ผ่านมาที่ฉันทำไม่ดีกับนาย นายยังโกรธเกลียดฉันอยู่หรือเปล่าปักบุญ”


                อยู่ๆก็พูดขึ้นโดยที่ยังไม่หันกลับไปเผชิญหน้า ปักบุญได้แต่นิ่งงันอยู่กับแผ่นหลังของทินภพ เขาเองก็ถามใจอยู่เหมือนกันว่ารู้สึกเช่นไรกันแน่


                “ความโกรธมันจางไปตามเวลานั่นแหละ ผ่านไปแล้วผมคงไม่เก็บมันไว้หรอก แต่ถามว่าลืมไหมก็ต้องตอบว่ายังไม่ลืม ใครจะลืมความเจ็บปวดที่ถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีได้ล่ะครับ”


                น้ำเสียงยังบ่งบอกถึงความน้อยใจที่เอ่อท้นมาอีกครั้ง คราวนี้ทินภพหันกลับมาสบตาอยู่ในความมืด ช่วงแรกนัยน์ตาคมยังคงสับสนอยู่บ้างก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาในที่สุด


                “ขอโทษ”


                 สองพยางค์สั้นๆ แต่ทำให้ปักบุญถึงกับเบิกตากว้างเมื่อได้ยิน ไม่ได้มีวี่แววประชดประชันใดๆ ทั้งสิ้น เสียงที่ได้ยินคือเสียงของผู้ชายคนหนึ่งที่ตัดสินใจกระทำในสิ่งที่ยากที่สุด คนทะนงตนเช่นทินภพย่อมไม่เคยเอ่ยคำนี้ต่อใครโดยง่าย


                “คุณทินภพ”


                “ฉันรู้ว่ายากจะให้อภัย ไม่อยากจะแก้ตัวหรอกแต่ตอนนั้นฉันก็หน้ามืดไปกับความแค้นจริง ตอนนี้รู้แล้วว่าทำให้นายเจ็บปวดแค่ไหน ไม่ต้องลืมความเลวของฉันก็ได้ แต่ลองให้ฉันได้แก้ตัวได้หรือเปล่า”


                 ปักบุญสบตากับดวงตาคมตรงหน้า ความจริงจังปรากฎให้เห็นเพื่อบอกว่าทินภพไม่ได้พูดเล่น ในตอนนี้มีเพียงหัวใจของปักบุญที่ยังสับสน เขามองลึกเข้าไปในดวงตาของทินภพอย่างค้นคว้าต้องการคำตอบ


                “ทำไมคุณถึงยอมขอโทษ บ่าของคุณมันมีไว้เพื่อแบกรับศักดิ์ศรีของคุณไม่ใช่หรือ ทำไมถึงยอมลดตัวลงมาพูดกับศัตรูของคุณแบบนี้ ทำไม!”


              ไหล่ที่สั่นไหวของปักบุญถูกกระชากเข้าหา ปากที่กำลังต่อว่าพลันถูกปิดด้วยจุมพิตที่ปักบุญพ่ายแพ้อยู่เสมอ จูบวันนี้นุ่มนวลกว่าทุกครั้งราวกับอีกฝ่ายใช้มันเพื่อขอลุแก่โทษ ทินภพกำลังอ้อนวอนด้วยลิ้นร้อนจนปักบุญเกือบขาดใจจึงค่อยผละออก


               “เพราะฉันชอบนาย”


                เงียบสนิทจนได้ยินเสียงร้องของแมลงกลางคืนที่เริ่มออกหากิน ปักบุญชะงักงันเมื่อได้ฟังประโยคที่หลุดจากปากของทินภพ หัวใจของเขาคล้ายฟูฟ่องขึ้นมาจนต้องพยายามกดมันไว้ ขอบตารื้นขึ้นมาทันใด


              “คุณจะมาไม้ไหนอีก จะหลอกอะไรผมอีกคุณทินภพ ผมรับไม่ไหวแล้วนะถ้าต้องเจ็บปวดเพราะคุณอีก”


               “หน้าตาฉันบอกเหรอว่าหลอกนาย” ทินภพกลอกตาไปมาเมื่อปักบุญยังไม่ยอมเชื่อเขา “นายคิดว่ากว่าฉันจะพูดเรื่องนี้ได้ฉันต้องผ่านอะไรมาบ้าง ทั้งเรื่องศักดิ์ศรีอย่างที่นายว่า ทั้งเรื่องที่ต้องยอมรับว่าฉันชอบผู้ชายด้วยกันอย่างนาย มันง่ายนักเหรอที่จะยอมรับ”


               “คุณทินภพ”


                ปักบุญพูดอะไรไม่ออกเพราะยังตั้งตัวไม่ทัน มันเร็วเกินไปกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับชายตรงหน้า เริ่มต้นจากความเกลียดชังจนไม่อยากนึกว่าจะมาถึงวันนี้ หัวใจของปักบุญแทบจะเต้นออกมานอกทรวงอก


              “ฉันรู้ว่ามันยากที่นายจะคิดหรือตัดสินใจอะไร แต่อยากให้นายลองใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ถ้าเมื่อไหร่ที่นายพอจะโยนเรื่องเลวๆ ของฉันทิ้งได้ นายค่อยคิดเรื่องนี้ก็ได้ ฉันคงต้องกลับบ้านแล้ว เดี๋ยวแมงปอกับพ่อจะสงสัยอีก”


               นิ้วสากเชยคางของปักบุญขึ้นเพื่อที่ทินภพจะก้มหน้าไปจูบที่ปากอิ่มอีกครั้ง และคราวนี้เมื่อผละปากออกเป็นครั้งแรกที่ทินภพยิ้มอย่างจริงใจที่สุด


                “ฉันกลับแล้วนะปักบุญ”


                ร่างสูงก้าวขึ้นรถและขับออกไปจากไร่ชมจันทร์ ทิ้งให้ปักบุญยืนนิ่งพร้อมกับความสับสนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เขาเดินใจลอยกลับเข้าบ้านที่พรรณียังรออยู่


                “ปัก เป็นอะไรลูก”


                “เอ่อ เปล่านี่แม่”


                ปักบุญยิ้มเจื่อนเมื่อเห็นมารดามองมาด้วยความสงสัย


               “พวกไร่เชิญตะวันเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะ อุตส่าห์มาถึงบ้านเรา”


                “เอ่อ ครับแม่”


                “ทำไมอยู่ๆถึงมาดีกับเราตอนนี้ปักรู้ไหม”


                “อ่า ไม่รู้สิแม่”


                “แล้วที่คุณทินภพเขาจูบเราตะกี้น่ะ เพราะอะไร”


                “ฮะ อะไรนะ แม่เห็นเหรอ”


                 ปักบุญสะดุ้งโหยง หน้าแดงก่ำเป็นมะเขือเทศสุก ทั้งกลัวทั้งอายมารดาที่มองเห็น พรรณีมองบุตรชายด้วยความเป็นห่วง


                “แม่ไม่ได้ตาบอด แล้วก็ไม่ได้โง่ขนาดดูไม่ออก ปักโตแล้วเป็นถึงครูบาอาจารย์แม่คงไม่มีอะไรจะสอนนอกจากความห่วงใยของแม่”


                 ปักบุญเดินเข้าไปกอดมารดา รับรู้ถึงความเป็นห่วงที่มารดามอบให้


                “แม่อย่าเพิ่งคิดมาก ปักกับคุณทินยังไม่ลงเอยง่ายๆหรอก เขายังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะ”


                 หอมแก้มมารดาก่อนขอตัวเข้าห้อง ปักบุญทิ้งกายลงไปบนเตียงพลาใช้มือลูบกลีบปากตนเอง


                 “โอ๊ย อย่าไปหลงคารมคนอย่างนั้นง่ายๆสิปักบุญ นายต้องหยิ่งเข้าไว้อย่าเพิ่งให้หมอนั่นได้ใจ”


                  ถึงจะบอกตนเองเช่นนั้นแต่ปักบุญกลับนอนหลับและฝันถึงทินภพตลอดทั้งคืน




                                                              TBC


                                            พอคนซึนเริ่มรู้ใจตัวเองแล้วก็น่ารักดีน้า



                                               :give2: :give2: :give2: :give2: :give2: :give2: :give2: :give2:







หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 11 [16/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 16-01-2020 22:32:53
หูยยย น่ารัก อิจฉาในความน่ารักของทั้งคู่
แหม.. มีฝันถึงอีกคนทั้งคืนด้วยนะ ปักบุญ
 :o8: :o8: :-[ :-[
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 11 [16/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 16-01-2020 22:32:57
โอเคเลย ยอมรับแล้ว
จากนี้คุณทินที่เคยผีเข้าผีออกก็จะหายไปแล้ว
ปักบุญต้องฮึบไว้ ใจแข็งนานๆ ท่องไว้เลยว่าเขาทำกับเราไว้เยอะ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 11 [16/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 17-01-2020 00:46:05
คุณทิ้น ชั้นเขิล
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 11 [16/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 17-01-2020 01:08:42
หวานกันขนาดนี้  ทำไร่อ้อยแน่ๆ5555
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 11 [16/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-01-2020 02:14:17
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 11 [16/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-01-2020 09:28:04
ปักอย่ายอมง่ายๆ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 11 [16/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 17-01-2020 12:02:20
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 11 [16/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 17-01-2020 12:13:48
คุณแม่ เห็นแล้ว ..
หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 12 [27/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 27-01-2020 23:06:02




                                            หักเหลี่ยมรักซาตาน

                                                   บทที่ 12



           “ทำไมผลไม้ที่ขายถึงได้ราคาต่ำมากล่ะแม่”


           ปักบุญตกใจเมื่อรู้รายได้จากการขายผลผลิตจากไร่ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เมื่อต้องเข้ามาดูแลบัญชีรายรับรายจ่ายปักบุญถึงกับปวดศีรษะ


            “ค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลงก็ตั้งแพง แล้วพอเก็บมาขายก็ถูกคนรับซื้อกดราคาอีก”


            “มันเป็นอย่างนี้มาหลายปีแล้ว รายได้มันไม่ได้เฟื่องฟูเหมือนสมัยก่อนหรอกปัก”


             พรรณีถอนหายใจ ถึงแม้จะมีที่ดินเป็นของตัวเอง แต่ไม่ได้ใหญ่โตถึงขั้นมีอำนาจเหนือกว่าพ่อค้าคนกลาง เคราะห์ซ้ำกรรมซัดหากผลไม้มีจำนวนมากจนล้นตลาดราคาก็ยิ่งต่ำลงไปอีก เกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศก็คงจะประสบปัญหาเหล่านี้


             เพราะเรื่องเหล่านี้ทำให้ปักบุญหน้าหมองในวันสุดสัปดาห์ ทินภพที่ขับรถมาพร้อมกับแมงปอจึงมองด้วยความสงสัย เมื่อปล่อยให้แมงปอเข้าครัวไปพร้อมพรรณีแล้วเขาจึงเอ่ยถาม


            “เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น”


            ปักบุญถอนหายใจ เขาเล่าปัญหาเหล่านี้ให้ทินภพฟัง เมื่อฟังปัญหาจบทินภพค่อยกล่าวขึ้น


             “นายต้องมองหาตลาดใหม่ๆ มัวแต่ขายให้พวกนี้มันก็กดราคาอยู่แล้ว ถ้าไม่รวมกลุ่มกันจนแข็งแรงก็สู้เขาไม่ไหวหรอก เพราะอย่างนั้นต้องขยายตลาดไปทางอื่นอย่างเช่นคัดเกรดส่งไปต่างประเทศ หรือว่าทำแพ็คเกจหีบห่อดีๆ ส่งขายออนไลน์ อีกอย่างอาจต้องแปรรูปทำอย่างอื่นที่มีมูลค่าสูงกว่า”


             คำแนะนำของทินภพทำให้ปักบุญนึกทึ่ง ไม่แปลกใจนักว่าทำไมไร่เชิญตะวันถึงไม่เคยพบกับปัญหาเหล่านี้ อาจเพราะความคิดก้าวหน้ามองการไกลของทินภพที่เข้ามารับช่วงต่อจากบิดา ทำให้กิจการยิ่งทำรายได้มากกว่าแต่ก่อนเสียอีก ความสามารถของทินภพจึงเป็นที่เลื่องลือในกลุ่มนักธุรกิจของจังหวัด


            “มองแบบนี้ เดี๋ยวฉันอดใจไม่ไหวจับจูบเสียหรอก”


             ขอถอนคำพูด!


            ทินภพเป็นหมาป่าเจ้าเล่ห์ที่คอยจ้องจะขย้ำเหยื่อถึงจะถูกต้อง


             นัยน์ตาแพรวพราวจ้องมองปักบุญจนคนถูกจ้องหน้าร้อนเห่อไปหมด ทินภพหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นปักบุญเขินจนแก้มแดงสุกปลั่ง


            “เดี๋ยวนายฝากฉันขายผลไม้ล็อตนี้ก็ได้ พรุ่งนี้จะให้คนงานมาขนไปที่ไร่แล้วคัดเกรดให้ น่าจะดีกว่ายอมขายกับพวกรับซื้อ หลังจากนี้ค่อยหาตลาดใหม่ก็แล้วกันฉันจะแนะนำให้เอง แต่ว่าตอนนี้ไปกับฉันก่อนนะ”


            “ไปไหนครับคุณทิน”


             “เถอะน่า”


             ทินภพฉุดแขนให้ปักบุญลุกขึ้นตาม เขาเดินตรงไปยังห้องครัวที่แมงปอกำลังสนุกกับการทำขนมที่คุณยายพรรณีช่วยสอน


             “ผมขอพาปักบุญไปธุระสักครู่นะครับ แมงปออยู่กับคุณยายไปก่อนนะ”


             “ได้ค่ะพ่อ แล้วอย่าพาอาปักไปเถลไถลที่ไหนไกลนะคะ”


             “แมงปอ!” ทินภพขำความแก่แดดของลูกสาว “เราน่ะเป็นลูกพ่อนะ สอนพ่อได้ด้วยเหรอ”


             “ได้สิพ่อ ปู่บอกว่าพ่อเป็นเด็กดื้อต้องคอยสั่งสอน”


             ทินภพโคลงศีรษะด้วยความระอา แมงปอเติบโตมากับผู้สูงอายุจึงจดจำแต่สิ่งที่นายทูลกล่าวไว้ พรรณียิ้มให้แมงปอด้วยความเอ็นดูเพราะความที่มีแต่บุตรชายทั้งสองคนจึงหลงความน่ารักของเด็กหญิง


          “ตามสบายเถอะค่ะคุณทินภพ ไม่ต้องเป็นห่วงหนูแมงปอหรอกค่ะ เดี๋ยวน้าจะดูแลให้เอง”


            เมื่อมารดาอนุญาตทินภพจึงหันไปสบตาให้ปักบุญเดินตามมาขึ้นรถของเขา ปักบุญหันไปเอ่ยถามเมื่อทินภพสตาร์ทรถแล้วขับออกจากหน้าบ้าน


            “คุณจะพาผมไปไหน”


            “เดี๋ยวก็รู้น่า”


            ทินภพก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก ในเมื่อไม่ยอมพูดปักบุญก็หมดปัญญาจะหาคำตอบ ได้แต่ปล่อยให้ทินภพขับรถตรงไปทางฝายน้ำล้นแล้วเลยเข้าไปในเขตไร่เชิญตะวัน ปักบุญขมวดคิ้วด้วยความคุ้นเคย


            “นี่มันทางไป....”


            ใช่ ปักบุญจำได้แล้ว ในคืนหนึ่งทินภพใช้ความได้เปรียบบังคับพาเขามาที่นี่ กระท่อมเก่าใกล้พังที่อยู่ในเขตไร่เชิญตะวันแล้วข่มเหงเขา ยิ่งชัดเจนเมื่อตอนนี้แสงตะวันส่องเต็มตา แต่กระท่อมในคืนนั้นกลับกลายมาเป็นกระท่อมหลังใหม่ไม่ได้ใกล้ผุพังอีกต่อไป


            “ลงมาสิปักบุญ”


            ทินภพจอดรถ เขาก้าวลงมาก่อนและรอให้ปักบุญเดินตามมา ปักบุญมองกระท่อมที่สร้างขึ้นใหม่ให้แข็งแรงขึ้น ใจหนึ่งก็ยังเจ็บแปลบอยู่บ้างเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา


            “บอกแล้วไงว่าขอโทษ”


             มือเรียวถูกทินภพฉวยโอกาสยึดไว้ในอุ้งมือแล้วพาเดินเข้าไปด้านใน แคร่ไม้ไผ่ดังเอี๊ยดอ๊าดกลายเป็นแคร่ไม้เนื้อแข็งทนทาน มีตะเกียงเจ้าพายุแขวนอยู่มุมหนึ่งคงเผื่อไว้หากต้องการแสงสว่างในยามราตรี ยังมีเฟอร์นิเจอร์ไม้อย่างโต๊ะเก้าอี้เล็กๆตั้งอยู่อีกด้วย


            “สวยหรือเปล่า” ทินภพเอ่ยถาม มือใหญ่กุมกระชับมือเรียวชื้นเหงื่อ “ฉันให้รื้อของเก่าทิ้งแล้วสร้างใหม่ เผื่อว่าบางทีนายอาจจะลืมความทรงจำเก่าๆแล้วมองแต่สิ่งใหม่เหมือนกระท่อมหลังนี้บ้าง”


             ขอบตาของปักบุญร้อนขึ้นมาอีกครั้ง ก้อนสะอื้นแล่นมาจุกอยู่ที่คอ ในตอนนี้ความขมและความหวานตีกันวุ่นวายจนเขาสับสนไปหมด


            “ฉันรู้ว่ามันลืมยาก มันคงจะฝังลึกอยู่ในใจของนาย แต่นายจะลองให้โอกาสฉันแก้ตัวได้หรือเปล่า ยังไม่ต้องมองแง่บวกก็ได้ ขอแค่เริ่มต้นจากศูนย์ไม่มองฉันในแง่ลบก็พอ”


              “คุณทิน”


           ลำคอตีบตันเมื่อรู้สึกได้ว่าคำพูดเหล่านั้นมาจากใจของผู้ชายตรงหน้า ไม่มีความหยิ่งยะโสเอาแต่ใจอีกต่อไปแล้ว มีเพียงทินภพที่สำนึกผิดและพร้อมจะทำทุกอย่างให้เขาจริงๆ หน้าคมก้มต่ำยิ้มขัดเขิน


             “ความจริงแล้วฉันอาจจะชอบนายตั้งแต่เด็กก็ได้นะ ตั้งแต่สมัยนายตัวกะเปี๊ยกชอบก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่ในโรงเรียน ฉันมักจะมองเห็นนายเป็นประจำทั้งที่ไม่ได้อยากมอง พอเห็นแล้วก็หยุดสายตาไม่ได้สักที แต่ทิฐิมันค้ำคออยู่ จะให้ฉันเดินไปหานายแล้วบอกว่าทำไมน่ารักจังก็ไม่ได้ใช่ไหม”


             “คุณก็เลยแกล้งผมด้วยการเตะลูกฟุตบอลใส่”


             “ถ้าไม่ทำแบบนั้นนายจะเงยหน้ามามองฉันเหรอ”


            ทินภพรวบเอวปักบุญเข้ามากอด เขาเชยคางให้ใบหน้านั้นเงยขึ้นเล็กน้อย มองเห็นน้ำใสที่คลออยู่ในหน่วยตาทินภพจึงจูบซับมันจนแห้งเหือด


            “ถ้าให้โอกาส ฉันจะไม่ทำให้นายเสียน้ำตาอีกแล้ว”


             ริมฝีปากที่เม้มเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นถูกทินภพบรรจงจูบ เขาค่อยๆซุกไซ้ให้กลีบปากนั้นเปิดทางรับลิ้นร้อน แค่ตวัดเบาๆปักบุญก็แทบสะดุ้งเมื่อทินภพหลอกล่อให้ต้องตอบรับ ร่างของปักบุญคล้ายลอยไปกับการโอบล้อม กว่าจะรู้สึกตัวก็คือตอนที่ทินภพเอนทับลงมาบนแคร่ไม้และกอดไว้จนไม่อาจดิ้นหนี


             เป็นครั้งแรกที่ปักบุญยอมรับกับตัวเองว่าเขาเต็มใจ ไม่มีความย้อนแย้งอยู่ในจิตใจอีกแล้ว ความคิดต่อต้านกับร่างกายที่ถูกกระตุ้นบัดนี้เหลือเพียงความวาบหวามยามมือสากลูบไล้และถอดเสื้อผ้าของเขาออกจนหมดก่อนจะแนบชิดร่างกำยำลงมาทาบทับ


           ทินภพยิ้มด้วยความยินดีเมื่อสบตากับดวงตาหวานที่เขาดึงแว่นตากรอบใสออกไปแล้ว ไม่มีความโกรธขึ้งแฝงอยู่อีกต่อไป เขาดีใจที่ปักบุญมอบโอกาสให้อีกครั้ง ทินภพจะไม่มีวันทำให้สิ่งเหล่านี้หลุดลอยไปเป็นอันขาด


            “เป็นแฟนกันนะ”


             เสียงทุ้มนุ่มกระซิบข้างหู ปักบุญเขินจนมองได้แค่ลำคอของเขา


             “ไม่เร็วไปหรือครับ”


             “เราได้กันจนถ้านายเป็นผู้หญิงก็ท้องไปแล้ว”


             “แล้วบรรดาผู้หญิงของคุณล่ะ อย่างฝ้าย...”


             “ฉันจะเลิกให้หมด ลบเบอร์โทรทิ้งด้วย นายจะเช็คโทรศัพท์ฉันก็ได้”


              “ขอเวลาอีกนิด...”


              “แต่เรายังมีความสุขกันระหว่างนั้นได้ใช่ไหม”


              ถามพลางซุกหน้าลงสูดดมกลิ่นกาย ปักบุญถึงกับผวาไปตามจมูกและปากที่ประทับไปทั่ว


             “คุณเอาแต่ได้”


             ประท้วงทั้งที่ลมหายใจเริ่มร้อนและเร็วไปกับไฟรักที่ทินภพจุดขึ้นมา มือซนลูบไล้บีบเค้นต้นขาอ่อนทั้งสองจนต้องชันขึ้นอัตโนมัติ ปักบุญเผลอส่งเสียงเมื่อถูกสอดประสานแนบแน่น


              “นายก็ได้เหมือนกัน ได้ฉันไปแล้วไงยังไม่พออีกเหรอ”


              “คุณนี่ปากจัดจริงๆ”


              ปักบุญเผลอหัวเราะ เขาคล้องแขนไปกับลำคอของทินภพและปล่อยให้ตนเองถูกจูงมือล่องลอย เสียงแคร่ไม้ลั่นเบาๆตามจังหวะที่ร่างสูงขับเคลื่อน


             “ฉันสัญญาว่าจะดีกับนาย เชื่อฉันนะปักบุญ”


              อาจจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี หวังว่าครั้งนี้เขาจะตัดสินใจถูก แต่ตอนนี้ปักบุญไม่คิดอะไรอีกแล้วเมื่อเขาลอยคว้างและมองเห็นแต่สวรรค์ที่ทินภพพาไป







             “พ่อ พาอาปักไปไหนมา กลับมาซะตอนบ่าย”


              เสียงแมงปอบ่นเมื่อผู้เป็นบิดาขับรถพาปักบุญกลับมาถึงบ้าน ทินภพยิ้มอย่างอารมณ์ดี


            “ถามอาปักเองสิว่าพ่อพาไปไหนมา”


             “อาปักคะ พ่อพาอาปักไปซนที่ไหนมาคะ”


             คำถามไร้เดียงสาเรียกเลือดร้อนมาเลี้ยงใบหน้าได้เป็นอย่างดี จนปักบุญต้องแอบหยิกแขนทินภพเบาๆเมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์


            “ยิ้มอะไรก็ไม่รู้ แมงปออย่าไปสนใจเลย พาอาไปดูซิว่าคุณยายสอนทำขนมไปถึงไหนแล้ว”


            ปักบุญจูงแขนแมงปอหนีเข้าครัว ทิ้งให้ทินภพมองตามด้วยหัวใจแช่มชื่น ในที่สุดเขาก็พบแล้วว่าใครที่เหมาะจะเคียงข้างเขาและดูแลแมงปอไปพร้อมกัน


             “คุณทินภพคะ น้าขอคุยด้วยสักครู่เถอะค่ะ”


             เสียงพรรณีดังขึ้นเรียกสติชายหนุ่มกลับมาได้ เขาเดินตามมารดาของปักบุญไปนั่งที่โต๊ะรับแขก


             “คุณน้ามีอะไรหรือเปล่าครับ”


             “คุณทินภพกับปักบุญ มีเรื่องอะไรที่ยังไม่ได้บอกน้าหรือเปล่าคะ”


              สีหน้าของพรรณียังมีแต่ความใจเย็นและพร้อมจะรับฟัง ทินภพอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนยิ้มบางๆออกมา


            “ผมจะขออนุญาตคุณน้าคบหาดูใจกับปักบุญครับ”


             คราวนี้เป็นพรรณีที่นิ่งไปบ้าง แต่เมื่อมองเห็นความจริงใจจากชายหนุ่มก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ในที่สุดสิ่งที่สงสัยก็เป็นเรื่องจริง


            “น้าจะไม่ถามคุณทินว่าเรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไงคุณทินกับปักบุญถึงได้ตกลงกันแบบนี้ แต่น้าขอถามด้วยความเป็นห่วงในฐานะแม่ของปักบุญ ว่าเรื่องความแค้นในอดีตกับการที่เป็นผู้ชายเหมือนกันจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใช่ไหมคะ”


             “มันเคยเป็นปัญหาในอดีต แต่จะไม่เป็นปัญหาในอนาคตครับ ผมสัญญากับคุณน้าว่าผมจะเริ่มต้นใหม่กับปักบุญโดยไม่ให้มีอะไรมาเป็นปัญหาระหว่างเรา”


            คำสัญญาหนักแน่นพอจะทำให้พรรณียิ้มออกมาได้ สายตาห่วงใยจึงมีคำขอบคุณมาแทนที่


            “น้าเชื่อคุณทิน ต่อจากนี้น้าฝากปักบุญไว้กับคุณทินด้วยนะคะ”


            เป็นครั้งแรกที่ทินภพยกมือไหว้พรรณีด้วยความเต็มใจ


             “ขอบคุณครับ ผมจะรักษาคำสัญญาที่มีกับคุณน้าให้ดีที่สุด”


             ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ทินภพจะไม่ปล่อยให้โอกาสครั้งสำคัญที่ได้รับมาหลุดลอยไปเป็นอันขาด เขาจะรักษามันไปให้ดีที่สุดเท่าชีวิตของเขา




มีต่ออีกนิด...




หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 12 [27/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 27-01-2020 23:16:43
ต่อกันตรงนี้...




           วันรุ่งขึ้นทินภพให้คนงานขับรถมาขนผลผลิตจากไร่ชมจันทร์ไปที่ไร่ของเขา ปักบุญตามไปเรียนรู้เรื่องการคัดเกรดด้วย ปักบุญตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นคลังเก็บผลผลิตของไร่เชิญตะวัน และรายได้ที่ได้รับจากการที่ทินภพช่วยจำหน่าย แม้จะไม่ได้ถือว่าสูงนักแต่ก็ดีว่าราคาที่ถูกกดโดยพ่อค้าคนกลาง


            ปักบุญขับรถกลับบ้านในช่วงบ่ายด้วยความยินดี เขามองเห็นลู่ทางใหม่ๆตามที่ทินภพแนะนำ แต่เมื่อจอดรถหน้าบ้านใจของเขาก็ตกไปถึงตาตุ่มเมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังจากในบ้าน


           “แม่!”


            รีบวิ่งเข้าไปทันที และภาพที่เห็นทำให้ปักบุญหน้าซีดเมื่อเห็นมารดานั่งร้องไห้อยู่กับพื้นท่ามกลางข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกรื้อค้นด้วยฝีมือบุคคลที่ปักบุญรู้จักเป็นอย่างดี


             “พี่ปอง ทำอะไรแม่”


             ปักบุญถลาเข้าไปประคองแม่ที่ยังสะอึกสะอื้น ปองชัยพี่ชายของเขากับผู้หญิงอีกคนที่ตั้งครรภ์ท้องโย้ยืนออกคำสั่งอยู่


            “พี่ปอง นี่ไงกระเป๋าแม่พี่ ลองเปิดดูซิมีเงินหรือเปล่า”


            “อย่านะ ไอ้ปองหยุดเดี๋ยวนี้”


              พรรณีกรีดร้องลั่นเมื่อเห็นบุตรชายคนโตทำตามคำสั่งเมีย นางผวาเข้าไปทำท่าจะยื้อแย่งแต่กลับถูกปองชัยผลักออกมา


             “แม่ เงินแค่นี้อย่าหวงหน่อยเลยน่า ไอ้ปักมันก็กลับมาหาแม่แล้วนี่ เดี๋ยวไอ้ลูกรักแม่มันก็ทำงานหาเงินให้แม่ได้อีกนั่นแหละ”


            “พี่ปอง แต่นี่มันเงินแม่นะ ไอ้ที่พี่ทำให้พวกเราเป็นหนี้ก็แย่พออยู่แล้ว”


            “หยุดเลยไอ้ปัก มึงจะไปรู้อะไร กูจะเอาไปต่อทุนไม่งั้นกูตายห่าแน่”


              “พี่ปองอย่ามัวพูดมาก เดี๋ยวไอ้พวกนั้นมันก็ตามมาหรอก”


              เสียงเมียสั่งปองชัยจึงยิ่งหัวเสีย


             “มึงก็อย่าดีแต่สั่งอีชบา ไปเปิดตามเก๊ะหาเร็วเข้า จำได้ว่าแม่มีทองอยู่หลายเส้น”


             “ไอ้ลูกเวร” พรรณีร้องไห้โฮ “ทองกูก็เอาไปขายใช้หนี้ที่มึงกับเมียก่อหนี้พนันไปหมดแล้วไง มึงยังจะเอาอะไรจากกูอีก”


             “พี่ปองพอเถอะ”


              ปักบุญก้าวเข้าไปห้าม แต่กลับถูกพี่ชายผลักจนล้มลง


             “อย่าเสือกไอ้ปัก เอ๊ะ นั่นเงินนี่หว่า”


              มองเห็นธนบัตรจากกระเป๋าเสื้อของปักบุญ ปองชัยจึงก้าวมาใกล้ ปักบุญได้แต่คลานถอยหลังหนี


             “ไม่ได้ เอาไปไม่ได้ นี่เงินลงทุนกับเงินค่าจ้าง พี่ปองอย่านะ”


             “ไอ้ปัก มึงเป็นน้องก็ให้พี่บ้างสิวะ กูอุตส่าห์เป็นเบ๊ให้มึงตอนเด็กเพราะเห็นมึงเรียนเก่ง โตมาก็สำนึกบุญคุณบ้าง”


             “ไม่ได้”


              ปักบุญยื้อแย่งเงินที่ปองชัยดึงไป พี่ชายใช้กำปั้นชกมาที่โหนกแก้มจนเขาล้มทั้งยืน


              “กรี๊ด ปักบุญ”


              พรรณีเข้าไปประคองลูกชายคนเล็กทั้งน้ำตา ปองชัยกระหยิ่มเมื่อเห็นเงินในมือ


              “อีชบา ไปโว้ย ได้เงินไปต่อทุนแล้ว ขอบใจนะไอ้น้องชายที่รัก ถ้าพี่ขาดมือพี่จะมารบกวนอีก”


             “พี่ปอง อย่ามัวแต่พล่าม ไปกันได้แล้ว รำคาญแม่พี่ฉิบหาย แก่ไม่อยู่ส่วนแก่”


              ลูกสะใภ้ท้องโย้ยกเท้าถีบแม่สามีให้หลีกทางก่อนที่หล่อนกับปองชัยจะรีบวิ่งหนีออกไปนอกบ้าน ปักบุญที่เพิ่งได้สติน้ำตาไหลไปพร้อมกับมารดา


            “ผีเปรตมาเกิดแท้ๆ กับแม่มันยังทำได้ลงคอ”


             ปักบุญได้แต่กอดปลอบแม่ เขาได้แต่นิ่งงันไปเมื่อเงินที่คิดจะนำมาเป็นทุนหายไปในพริบตาเพราะพี่ชายแท้ๆของตนเองที่กลายเป็นทาสการพนัน




                                                   TBC


                                              พี่ชายเฮงซวย ฮึ้ยยย


                              :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31:


หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 12 [27/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-01-2020 23:39:27
โหห พี่ชายเหี้ยๆมากๆ :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 12 [27/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 28-01-2020 00:32:43
 :pig4: :pig4: :pig4:

ครอบครัวก็น่าจะสั่งสอนดีนิ

ปองมันเลวเพราะใคร?  เพราะสันดานมันเอง หรือเพราะคบกับอีชบา?
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 12 [27/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 28-01-2020 01:37:37
พี่ชาย พี่สะใภ้ ทำเกินเหตุ ปักบุญ มีคุณทิน ทั่งคน
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 12 [27/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-01-2020 09:15:34
โอ๊ย ไม่ไหว ให้มันเข้ามาในบ้านได้ยังไง
ผีเปรตชัดๆ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 12 [27/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 28-01-2020 13:25:36
 :a5:
อะไรกันเนี่ย ทำร้ายน้องไม่เท่าไหร่ ทำร้ายแม่นี่บาปหนาเลยนะ
ปักบุญ อะไรๆ เริ่มจะดีขึ้น กลับมีสิ่งที่ทำให้ทุกข์อีก สงสารจัง
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 12 [27/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 28-01-2020 23:15:12
เลวมาก!
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 12 [27/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 28-01-2020 23:34:44
 :m16:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 12 [27/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 29-01-2020 07:12:46
แจ้งตำรวจจับมันซิแม่

ปล่อยให้มันเลวแบบนี้

ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน

น่ะยังเดือดร้อนแต่ครอบครัว

แต่คนเลวอ่ะมันสามารถไปสร้าง

ความเดือดให้คนอื่นได้

เป็นปัญหาสังคม

คนเลวต้องส่งมันเข้าคุก

อย่าปล่อยให้มันลอยนวล
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 12 [27/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-01-2020 13:38:35
ผัวเมียนรกแตก
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 12 [27/01/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 30-01-2020 15:07:18
เกินไปไหม ..
หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 13 [10/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 10-02-2020 21:56:22



                                                         หักเหลี่ยมรักซาตาน

                                                              บทที่ 13



               ทินภพขับรถมาหาปักบุญที่ไร่ชมจันทร์หลังจากไปส่งแมงปอที่โรงเรียนในตอนเช้าแล้วรู้ว่าปักบุญลาป่วย นึกแปลกใจอยู่ว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรเพราะเท่าที่พบกันเมื่อวานนี้ปักบุญก็ยังแข็งแรงร่าเริงแจ่มใสดี ถือวิสาสะเดินเข้าไปในบ้านอย่างคุ้นเคยก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นสองแม่ลูกนั่งหน้าเครียดกันอยู่ที่โต๊ะรับแขก


               “คุณน้าสวัสดีครับ ปักบุญเป็นอะไรทำไมถึงลาป่วย”


                หันไปถามชายหนุ่มที่ทินภพเรียกได้ว่าเป็นคนที่เขารัก ปักบุญก้มหน้าอ้ำอึ้งทำตัวให้น่าสงสัยขึ้นไปอีก


              “เอ่อ คุณทิน ผมไม่ได้เป็นอะไร”


              มีหรือที่ทินภพจะเชื่อ ปักบุญเป็นคนที่โกหกไม่เก่งเอาเสียเลย ยิ่งพรรณีก้มหน้าแอบเช็ดน้ำตาเขาก็ยิ่งสงสัย ทินภพจึงเดินไปหาสองแม่ลูก


              “เกิดอะไรขึ้น เอ๊ะ ทำไมโหนกแก้มช้ำแบบนี้ ปักบุญ! ตอบมาเดี๋ยวนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น”


              ทินภพเชยคางบังคับให้ปักบุญหันหน้ามาทางเขาเพื่อจะได้มองให้ชัดเจน เมื่อเห็นแล้วถึงกับขบกรามกรอดเพราะมันเป็นร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแน่นอน หันไปมองพรรณีหญิงสูงวัยก็ดูบอบช้ำเช่นกัน ต้องมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่แน่ๆ


              “เล่าให้ฉันฟังเถอะ อย่าเห็นฉันเป็นคนอื่นสิ”


              ปักบุญขอบตาร้อนผ่าว มือเรียวยกแตะรอยช้ำที่ใต้ตาก่อนจะยอมเล่าออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา


              “เมื่อวานนี้พี่ปองมาที่นี่ เขาทำร้ายแม่กับผมแล้วแย่งเงินไปหมดเลย เงินที่เพิ่งได้จากการขายของที่ไร่ของคุณนั่นแหละ เงินที่ผมจะแบ่งให้เป็นค่าจ้างคนงานกับเอาไปลงทุน ไม่เหลือเลย”


              นางพรรณีที่นั่งฟังบุตรชายอยู่ร้องไห้ไปด้วย หัวใจของคนเป็นแม่ยิ่งเสียใจหนักเมื่อลูกชายทำตัวเลวร้ายขนาดนี้


             “ปักอยู่คุยกับคุณทินไปก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่ไปดูคนงานทำงานก่อน”


              ปักบุญมองตามหลังไหล่คู้ของมารดา ดูก็รู้ว่าพรรณีเสียใจแค่ไหน สีหน้าสลดของปักบุญทำให้ทินภพถอนหายใจออกมาด้วยความสงสาร


              “โธ่เอ๊ย ปักบุญ”


               เมื่ออยู่กันเพียงลำพังแล้วเขาจึงดึงปักบุญเข้ามากอด ยิ่งเห็นใจในตัวชายหนุ่มที่ต้องมาเผชิญกับเรื่องที่ตนเองไม่ได้เป็นคนก่อ ซ้ำก่อนหน้าตัวเขาเองยังเป็นหนึ่งในผลพวงของเรื่องเหล่านี้ซ้ำเติมปักบุญอีกด้วย


               “ไม่เป็นไร เงินค่าจ้างคนงานเอาเงินฉันไปก่อนก็ได้”


                “แต่ว่าคุณทิน...”


               “อย่าดื้อสิ”


               ทินภพลูบผมนุ่มเบาๆกดศีรษะปักบุญให้จมอยู่กับแผงอกของเขา


               “ฉันรู้ว่านายไม่อยากได้เงินของฉัน แต่ว่าเหตุการณ์มันจำเป็น คนงานของนายก็ต้องการเงินค่าจ้างของเขาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นรับเงินของฉันไปจ่ายก่อน ส่วนเรื่องลงทุนในไร่ก็ยังไม่ต้อง เดี๋ยวให้สมชัยเบิกพวกเมล็ดพันธุ์กับปุ๋ยจากไร่เชิญตะวันมาให้จะได้ไม่ต้องซื้อ”


              “เยอะไปแล้วคุณทิน เดี๋ยวผมใช้หนี้คุณไม่หมด”


              “ไม่ต้องจ่ายหรอกแค่นี้เอง นายเป็นเมียฉันนะ”


               คนในอ้อมกอดเริ่มดิ้นรนขัดขืนเบาๆ ทินภพปล่อยให้ปักบุญผละออกจากอ้อมกอดมามองเขาหน้าคว่ำ


               “ใครเมียคุณ”


                “อ้าว ไอ้ที่ขึ้นสวรรค์ด้วยกันตั้งหลายรอบจะเรียกว่าอะไรถ้าไม่ใช่ผัวทำให้เมีย อารมณ์ดีขึ้นแล้วใช่ไหมล่ะ ไหน มาให้ดูหน้าชัดๆหน่อยซิ”


                ปักบุญยอมให้ทินภพมองรอยช้ำที่ถูกปองชัยชกหน้าเมื่อวานนี้ มันกลายเป็นสีม่วงปนเขียวช้ำปื้นใหญ่บนผิวหน้าขาว ยิ่งเห็นทินภพก็ยิ่งโกรธ ถ้าไม่ติดว่าปองชัยเป็นพี่ชายปักบุญเขาคงส่งลูกน้องไปตามล่าแล้วกระทืบแก้แค้นไปแล้ว


                “แล้วนี่จะทำยังไง พี่ชายนายต้องมาอีกแน่ถ้าเงินหมด ได้ข่าวว่าเขาไปเล่นบ่อนใหญ่ของคนมีอิทธิพลด้วย”


                ปักบุญอึ้ง เรื่องนี้เขากับแม่ก็เป็นกังวลมากที่พี่ชายกลายเป็นคนติดการพนัน มีภรรยาก็ยังนิสัยเดียวกันอีกด้วย นึกถึงลูกในท้องพี่สะใภ้เมื่อวานแล้วเขาก็ยิ่งหดหู่ ถ้าลูกต้องคลอดมาท่ามกลางพ่อแม่ที่อยู่ในวงการพนัน


              “ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ไม่มีอะไรให้เอาไปอีกแล้ว เงินเดือนครูก็ยังไม่ออก เหลือติดในกระเป๋าสตางค์ไม่กี่ร้อยเอง”


              ฝืนหัวเราะเสียงขื่นในโชคชะตาของตัวเอง ทินภพจึงช่วยตัดสินใจให้


              “ไปอยู่กับฉันไหม ฉันจะได้ดูแลนาย ไม่งั้นไอ้ปองมันกลับมาทำร้ายนายอีก”


             “แล้วแม่ล่ะครับ” ปักบุญนึกถึงมารดา “ถ้าพี่ปองกลับมาแล้วผมไม่อยู่ แม่จะทำยังไง”


               นั่นสินะ ยังมีพรรณีและคนงานในไร่อีกจำนวนหนึ่งแม้จะไม่มากที่ยังอาศัยอยู่ในไร่ จะให้ปักบุญเอาตัวรอดเพียงคนเดียวคงไม่เหมาะ ทินภพหาทางอื่นจะเหมาะกว่า


              “ฉันจะมาดูแลนายที่นี่ก็ยังไม่ได้ ช่วงนี้ที่ไร่กำลังมีงานยุ่งเหมือนกัน คงต้องส่งคนมาช่วยดูแลนายที่นี่ป้องกันไว้ก่อน แต่ว่านายต้องไปสถานีตำรวจ”


              “แจ้งความหรือครับ แล้วพี่ปองล่ะ”


               ใจก็ยังเป็นห่วงพี่ชายแม้จะทำตัวเลวทรามแค่ไหน ทินภพอ่อนใจกับความดีของปักบุญในเรื่องนี้


              “มันมาทำร้ายร่างกายชิงทรัพย์ในบ้านนะ ถ้ายังไม่อยากแจ้งความก็ไปลงเป็นบันทึกประจำวันไว้ก่อนเป็นหลักฐานเผื่อถ้าเกิดอะไรรุนแรงกว่านี้”


                ปักบุญพยักหน้ารับ เขายอมให้ทินภพพาไปที่สถานี้ตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันจึงค่อยกลับบ้าน


                “ฉันจะให้ลูกน้องมาช่วยดูแลที่บ้านสักสองสามคน ให้เฝ้าอยู่ข้างนอกนี่แหละ ส่วนนายถ้าไปทำงาน ช่วงนี้ฉันจะไปรับไปส่งนายพร้อมแมงปอก็แล้วกัน”


               ดวงตาหลังกรอบแว่นใสมองทินภพด้วยความตื้นตัน เมื่อต่างฝ่ายต่างเปิดใจซึ่งกันแล้วปักบุญจึงรู้ว่าทินภพมีน้ำใจกับเขามากในเวลาคับขัน ทินภพยิ้มบางๆพลางโยกศีรษะปักบุญ


               “อย่ามองแบบนี้ เดี๋ยวฉันอดใจไม่ไหวจะจับนายปล้ำต่อหน้าแม่ซะเลย”


                “คนบ้า หื่นที่สุด”


                ปักบุญหน้าแดงรีบขยับตัวหนี แต่ไม่ทันเมื่อทินภพคว้าร่างของเขาเข้ามากอด เขาจ้องมองปักบุญก่อนจะจูบเบาๆที่รอยช้ำแทนคำปลอบโยน


                 “เห็นนายเจ็บฉันก็รู้สึกเจ็บไปด้วย โอ๊ย ทำไมพูดอะไรน้ำเน่าแบบนี้ได้นะ”


                 ทินภพหัวเราะขำตัวเองปักบุญก็พลอยยิ้มตาม ความมีน้ำใจของทินภพทำให้หัวใจของปักบุญเปิดให้เขาเข้ามาแทบจะหมดอยู่แล้ว แต่ปักบุญยังไม่อยากบอกอีกฝ่าย รอให้โอกาสดีกว่านี้แล้วปักบุญจะบอกเขา บอกว่าปักบุญเองก็รักทินภพไม่น้อยไปกว่ากันเลย







                ปองชัยเดินกลับไปกลับมาอยู่ในห้องพักแคบๆโกโรโกโสโดยมีชบานั่งหน้าบึ้งอยู่กับพื้นห้องที่ไม่สะอาดนัก เขากำลังหงุดหงิดเมื่อเงินที่แย่งมาได้จากน้องชายหมดลงไปแล้วโดยที่ไม่ได้ทุนคืนมาเลย แถมเจ้าของบ่อนยังให้ลูกน้องมาขู่ทวงเงินที่เขายังเป็นหนี้ค้างอยู่อีกด้วย


                “พี่ปองจะเดินไปเดินมาทำไมเนี่ย ฉันเวียนหัวนะ โอ๊ย ไอ้ลูกเวรนี่ก็ดิ้นจริง”


                ท้องโย้จนมองเห็นได้ชัด ดีที่ชบารูปร่างแข็งแรงอยู่แล้วจึงยังเดินเหินได้คล่อง ปองชัยหันมาตวาดเมียด้วยความหงุดหงิด


               “เอ๊ะ อีนี่ ก็กูกำลังกลุ้มใจอยู่ เงินเหลือไม่ถึงร้อย ข้าวยังไม่มีจะซื้อแดกมึงจะให้กูทำยังไงวะ”


                “ก็ฉันบอกพี่แล้วว่าอย่าไปเล่นไฮโล เจ้ามือมันสั่งลูกเต๋าได้ ถ้าพี่ไปเล่นวงอื่นก็ได้เงินไปแล้ว”


                ชบาย้อนกลับ หล่อนเองก็เสียเงินที่แบ่งมาจากสามีไปหมดเหมือนกัน ครั้นให้ปองชัยกลับไปที่ไร่หวังจะไปหาเงินหรือข้าวของมาขายกลับพบแต่ชายฉกรรจ์หน้าเหี้ยมยืนเฝ้าหน้าทางเข้าไร่จนไม่กล้าเข้า พอปองชัยลองลักลอบเข้าไปทางอื่นแต่ก็ยังพบพวกนั้นเฝ้าอยู่หน้าบ้านอีกด้วย


               “แม่พี่ก็เหลือเกิน ไปหาคนมาเฝ้าบ้านได้ยังไงก็ไม่รู้ ไหนว่าไม่มีเงินไงแล้วเอาที่ไหนไปจ้างพวกนั้นมา”


               “กูก็ไม่รู้โว้ย เจ็บใจฉิบหายเป็นเจ้าของไร่แท้ๆแต่เข้าไร่ตัวเองไม่ได้”


               “ไร่พี่เหรอ ไหนว่ายังเป็นชื่อแม่ ไอ้คราวที่แล้วปลอมลายเซ็นแม่เอาที่ไปจำนองไม่ใช่หรือไง”


               “โอ๊ย อีชบา แล้วมึงจะมาย้อนให้กูเจ็บใจทำไมมาช่วยกันคิดสิวะว่าจะหาเงินจากไหนมาทำทุน”


               ชบากลอกตาไปมาก่อนจะนึกขึ้นได้


              “น้องชายพี่ไง เห็นคนงานในไร่บอกว่าไปเป็นครูที่โรงเรียนอนุบาลอะไรที่มันดังๆรวยๆนี่ ลองไปดักขอเงินสิ”


                ความคิดของชบาก็ฟังเข้าทีดีไม่น้อย ตอนบ่ายของวันปองชัยจึงไปยืนลับๆล่อๆอยู่หน้าประตูโรงเรียน เขาชะเง้อมองจนเห็นน้องชายนั่งอยู่กับเด็กหญิงคนหนึ่งไม่ไกลจากประตูโรงเรียนนัก ปองชัยจึงเดินให้มีพิรุธน้อยที่สุดไปหาปักบุญ


               “ไอ้ปัก”


              “พี่ปอง!”


               ปักบุญสะดุ้งหน้าซีดเมื่อเห็นพี่ชายยืนจ้องเขม็ง เด็กหญิงแมงปอที่นั่งอยู่ด้วยกันเองก็ตกใจจนผวาเข้ากอด


              “อาปัก ใครคะน่ากลัวจัง”


               “พี่มาที่นี่ทำไม”


               ปักบุญเค้นเสียงใส่ เขามองพี่ชายด้วยความเสียใจ ปองชัยแค่นยิ้ม


               “อย่ามองพี่เชื้อแบบนี้สิโว้ย กูน่ะพี่มึงนะอย่าลืม ยังไงก็สายเลือดเดียวกันตัดกันไม่ขาดใช่ไหม มึงมีเงินให้กูหน่อยไหมวะปัก เงินกูหมดแล้ว”


              ถ้าไม่ติดว่าต้องกอดปลอบแมงปออยู่ปักบุญคงลุกขึ้นทำอะไรสักอย่างกับพี่ชายคนเดียว แต่ตอนนี้ทำได้เพียงมองตอบปองชัยด้วยความคับแค้น


                 “เอาไปยังไม่พออีกเหรอ เอาที่ไปจำนองเงินนอกระบบจนผมต้องแบ่งที่ขาย ที่ดินที่ปู่ย่าตายายหาไว้ให้เรา ไหนจะเงินทองของแม่ เงินที่ผมจะเอาไว้เป็นค่าจ้างคนงานอีก พี่ปองทำลายทุกอย่างไปแล้ว นี่ยังจะกล้ามาขอเงินจากผมอีกเหรอ”


                 “ไอ้น้องห่านี่ ด่ากูเหรอ”


                ปองชัยเงื้อมือขึ้นเตรียมจะฟาดลงใส่ปักบุญ แมงปอหวีดร้องด้วยความหวาดกลัว แต่แล้วฝ่ามือของปองชัยกลับไม่ได้ฟาดลงมาแถมเขาเองนั่นแหละที่ถูกกระชากให้หันกลับและต้องรับกับกำปั้นเต็มๆที่ทินภพชกหน้า

              พลัก


              ทีเดียวรู้เรื่อง ปองชัยกลิ้งอยู่กับพื้นท่ามกลางสายตาตกใจของผู้ปกครองที่มารับเด็กนักเรียน ทินภพเตรียมจะเข้าไปซ้ำแล้วหากปักบุญไม่เข้ามาเกาะแขนเขาไว้ก่อน


                “คุณทินพอแล้ว อย่ามีเรื่องที่นี่เลย”


                 คำเตือนของปักบุญมีผล ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นโรงเรียนเด็กอนุบาลที่ไม่ควรมีเรื่อง ทินภพคว้าแมงปอที่ยังร้องไห้ไม่หยุดเข้ามากอดพลางชี้หน้าปองชัยที่เพิ่งได้สติ


               “มึงอย่ามายุ่งกับปักบุญและน้าพรรณีอีก ถ้ามากูไม่ไว้หน้ามึงแน่ไอ้ปอง ไอ้สารเลว”


               พูดจบเขาก็คว้ามือปักบุญให้รีบเดินหนีทิ้งให้ปองชัยมองตามด้วยความเคียดแค้นและสงสัย เขาข้องใจความสัมพันธ์ของปักบุญกับทินภพว่าทำไมถึงมีท่าทางสนิทสนมกันเกินเหตุ ทั้งที่ทินภพไม่เคยชายตาแลพวกเขาเลยแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้เจ้าของไร่เชิญตะวันถึงกับทำร้ายเขาเพื่อปกป้องปักบุญ






มีต่ออีกนิด...




หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 13 [10/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 10-02-2020 22:05:59


ต่อกันตรงนี้...



              ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้า เขารออยู่พักหนึ่งจนผู้ปกครองนักเรียนเริ่มบางตา จึงได้เดินไปหาคุณครูที่อยู่เวรเฝ้าหน้าประตูโรงเรียนแล้วฝืนยิ้มทักทาย


               “ขอโทษนะครับคุณครู ผมเป็นพี่ชายครูปักบุญ แต่มาหาน้องแล้วไม่เจอ ตะกี้เห็นแวบๆว่าขึ้นรถไปกับใครก็ไม่รู้”


                “ครูปักบุญหรือคะ” ครูต่ายครูประจำชั้นของเด็กหญิงแมงปอตวัดสายตาใส่ “จะรถใครล่ะถ้าไม่ใช่รถคุณทินภพเจ้าของไร่เชิญตะวัน”


                “เอ๊ะ ทำไมไปด้วยกันได้ล่ะครับ เขารู้กันทั้งจังหวัดว่าสองไร่นี้ไม่ถูกกัน”


               “นั่นสิคะ อยู่ๆก็ถูกกันขึ้นมาแล้วค่ะ คุณเป็นพี่ชายครูปักบุญทำไมไม่รู้ล่ะว่าสองคนนี้เขาสนิทสนมกันแค่ไหน นี่ถ้าเป็นผู้ชายกับผู้หญิงคนอื่นคงนึกว่าเป็นแฟนกันแล้วล่ะค่ะ”


                 ครูต่ายประชดประชัน หญิงสาวเองก็แอบสนใจทินภพมานานแต่ทินภพไม่เคยมองแม้หางตา ปองชัยแสร้งหัวเราะก่อนจะเดินหนีออกมาและกลับไปห้องพักพร้อมทั้งครุ่นคิดตลอดทาง แต่เมื่อเข้าไปถึงในห้องเขาก็ต้องตกใจเพราะด้านในไม่ได้มีแค่ชบา กลับมีลูกน้องของเสี่ยใหญ่เจ้าของบ่อนรอเขาอยู่หลายคนโดยมีชบานั่งหน้าซีดอยู่กับพื้น


              “เฮ้ย!”


               ปองชัยกำลังจะกลับหลังหันวิ่งหนีคอเสื้อของเขาก็ถูกกระชากแล้วเหวี่ยงลงกับพื้นห้อง ส้นเท้าหนักๆกระแทกลงมากลางลำตัวจนจุกไปหมด


              “มึงจะหนีไปไหนไอ้ปอง”


               ตัวหัวหน้าชื่อไอ้เสือ ตัวใหญ่หน้าโหด มือตีนก็โหดอย่างที่เขาเพิ่งโดนกระทืบตัวงอ ปองชัยรีบยกมือไหว้เอาตัวรอด


               “พี่เสือ ผมยอมแล้วพี่ อย่าทำผมเลย”


               “ไม่อยากให้กูกระทืบไส้แตกก็ใช้เงินที่ติดเสี่ยมาซะ อย่าลีลาไอ้เหี้ย”


                ปองชัยตาลีตาเหลือกลุกขึ้นนั่งไหว้ปะหลกๆ


               “พี่เสือ เงินหมดจริงๆ เหลือติดตัวอยู่ยี่สิบเสี่ยจะเอาไหมล่ะ อีชบา ทำไมมึงไม่เปิดกระเป๋าให้พี่เสือดูวะว่าเราเหลือแค่นี้จริงๆ”


               “ฉันเปิดให้ดูแล้วแต่พี่เสือจะเอาเงินให้ได้นี่พี่ปอง”


                ชบาเองก็กลัวตายเหมือนกัน หล่อนนั่งหน้าซีดท่ามกลางนักเลงมาพักใหญ่กว่าปองชัยจะกลับมา


                “มึงก็ไปหามาสิวะไอ้ปอง เมื่อก่อนหาเงินเก่งไม่ใช่เหรอ”


                “โธ่พี่เสือ ตอนนี้เงินมันหมดจริงๆ จะเข้าไร่ก็ไม่ได้ ไอ้เหี้ยทินภพส่งคนไปเฝ้าไร่จนเข้าไม่ได้ ผมยังเจ็บใจอยู่เนี่ย”


                ชื่อทินภพทำให้เสือขมวดคิ้วมอง เขาเจอลูกเล่นของผีพนันพวกนี้มาเยอะแล้ว


                 “ทินภพไหนของมึงอีก”


                 “ก็ทินภพเจ้าของไร่เชิญตะวันไง อยู่ๆมันก็มาสนิทกับน้องชายของผมแล้วคอยกันไม่ให้ผมไปขอเงิน นี่ก็เพิ่งโดนมันต่อยหน้ามา แม่ง มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆ ทั้งมันทั้งลูกสาวมันถึงมาติดไอ้ปักแจขนาดนั้น”


                ปองชัยระบายออกมาด้วยความเจ็บใจ แต่ทั้งหมดกลับทำให้เสือเกิดความคิดบางอย่างแวบขึ้นมา


               “ไอ้ทินภพอะไรนี่รวยมากนี่หว่า ไร่แม่งใหญ่สุดในแถบนี้ล่ะมั้ง มันมาติดน้องมึงก็ดีแล้วไง มึงก็หาทางหาเงินทางมันสิวะ”


                ปองชัยสะกิดใจ เขามองเห็นความเจ้าเล่ห์จากเสือ


                 “หมายความว่ายังไง พี่จะให้ผมเดินเข้าไปหามันแล้วขอเงินจากไอ้ทินภพเหรอ ฝันไปเหอะ มันเกลียดหน้าผมจะตายห่า”


               “ขอไม่ได้ก็ต้องหาทางอื่น อย่างเช่นเอาตัวน้องมึงกับลูกสาวมันมาแล้วให้มันเอาเงินมาให้”


               “นั่นมันเรียกค่าไถ่นะพี่เสือ!”


                “กลัวทำเหี้ยอะไรเรื่องแค่นี้ มึงควรกลัวเสี่ยสั่งเก็บทั้งผัวทั้งเมียเพราะหนีหนี้ดีกว่า ได้เงินจากมันมาใช้หนี้ แถมอาจได้ทุนไปต่อยอด เดี๋ยวพวกกูช่วยมึงเอง มีทั้งปืนมีทั้งคน มึงกลัวอะไรวะ”


                 ชบาคลานมาหาสามีพลางส่งเสียงกระซิบกระซาบ


                “ความคิดมันก็ดีนะพี่ปอง ฉันยังไม่อยากตายท้องกลมนะพี่”


                ปองชัยเหลือบตามองเสือ เขารู้ดีว่าที่เสือพูดเป็นเรื่องจริง มีลูกหนี้หลายรายที่ถูกสั่งเก็บและเขายังไม่อยากเป็นหนึ่งในนั้น เมื่อความหน้ามืดบดบังตาแล้ว ปองชัยยอมทำทุกอย่าง ก็แค่เรียกค่าไถ่ไม่ได้ทำให้ปักบุญถึงตายสักหน่อย และเพื่อความอยู่รอดปักบุญควรเสียสละช่วยพี่ชายคนนี้บ้าง เขาคิดก่อนจะหันไปตอบตกลงกับเสือ


               “ก็ได้พี่เสือ เอาก็เอาวะ เผื่อได้เงินสักก้อนไปลงทุนต่อ พี่จะให้ผมกับชบาทำยังไงก็ว่ามาเลย”





                                                                 TBC


                                                  ไอ้พี่ชายสารเลว มันคิดจะทำอะไรอีกเนี่ย



                                                         :sad5: :sad5: :sad5: :sad5: :sad5: :sad5: :sad5:










หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 13 [10/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 10-02-2020 22:27:58
อยากอ่านต่อแล้วววว
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 13 [10/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 10-02-2020 22:58:14
เป็นพี่ที่เลวมากเลย สงสารปักบุญกับแม่
 :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 13 [10/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 10-02-2020 23:01:43
 :pig4: :pig4: :pig4:

ทำไมไอ้ตัวพี่ชายพร้อมเมียมันเนี่ยช่างเ-ี้ยเหลือเกิน

ช่างสมกันราวผีเน่ากับโลงผุ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 13 [10/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-02-2020 23:45:09
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 13 [10/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 11-02-2020 01:02:02
สั้นๆเลยนะ เหี้ย!!!!!!!
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 13 [10/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-02-2020 09:17:00
เหนื่อยใจ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 13 [10/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 11-02-2020 12:14:43
ทำให้ เป็นเรื่อง เป็นราว
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 13 [10/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-02-2020 09:21:24
เลวมากไอ้ปอง!
หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 14 [14/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 14-02-2020 22:15:17




                                                          หักเหลี่ยมรักซาตาน

                                                               บทที่ 14



              หลายวันแล้วหลังจากปองชัยมาหาปักบุญที่โรงเรียนแล้วถูกทินภพจัดการกลับไป ทินภพก็ยังคงมารับมาส่งปักบุญพร้อมเด็กหญิงแมงปอเช่นทุกวัน วันนี้ก็เช่นกันที่ทินภพขับรถมาจอดหน้าโรงเรียนแล้วหันมาส่งยิ้มให้กับลูกสาวที่นั่งอยู่บนตักของปักบุญ


             “แมงปอ หลับตาก่อนลูก”


             “ทำไมต้องหลับตาคะพ่อ แมงปอไม่ได้ง่วงนอนนี่”


             เด็กหญิงเอียงคอมองบิดาด้วยความสงสัย ทินภพจุ๊ปากใส่ลูกสาวพลางทำเป็นเหลือบมองไปทางปักบุญ


             “พ่อจะหอมแก้มอาปัก เราน่ะยังเด็กอยู่ห้ามมอง”


              “คุณทินภพ”


               ปักบุญถลึงตาใส่ก่อนจะยกมือมาหยิกท้องแขนอีกฝ่ายในขณะที่แมงปอหัวเราะคิกคัก


              “พ่อจะหอมแก้มอาปักได้ยังไงคะ อาปักยอมเป็นแฟนพ่อแล้วเหรอ”


               “ก็ต้องยอมสิ พ่อทำตัวดีขนาดนี้ยังไงอาปักของแมงปอก็ต้องหลงรักพ่อบ้างล่ะ ใช่ไหมล่ะปักบุญ”


               ทินภพหัวเราะมุมปากเข้าข้างตัวเอง คนถูกถามนั่งหน้าร้อนเห่อไปหมด


              “นอกจากปากเสียแล้วยังหลงตัวเองอีก”


               ปักบุญพึมพำอยู่ในลำคอพลางเบนสายตาหนีดวงตาวาวคู่นั้น ทินภพรีบหันไปสำทับแมงปอทันที


                “หลับตาเร็วเข้าแมงปอ ฉากนี้ยังไม่เหมาะกับเด็กอนุบาล”


               “ก็ได้พ่อ ว้า แมงปออยากดูมั่งน่ะ”


               เด็กหญิงยกมือปิดตาตัวเองทินภพจึงได้เกี่ยวคอปักบุญเข้าหาตัวก่อนจะจูบที่ริมฝีปากสีแดงธรรมชาติ ปักบุญดิ้นรนเล็กน้อยแต่ในที่สุดเขาก็ยอมให้ทินภพจูบอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะยอมปล่อย


              “เปิดตาได้แล้วแมงปอ”


              “เปิดนานแล้วพ่อ”


              เพราะมัวแต่จ้องหน้าปักบุญทินภพจึงไม่ได้ก้มหน้ามองลูกสาว คำตอบแสนแก่นแก้วทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองก้มหน้าไปมองเด็กหญิงแทบไม่ทัน


               “แก่แดดจริงเรา”


               ปักบุญอดหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อเห็นหน้าตาของแมงปอที่ทำเหมือนตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทินภพถึงกับส่ายหน้าระอา


              “เย็นนี้ผมมารับเวลาเดิมนะ วันศุกร์แล้วไปหาร้านอาหารอร่อยๆกินกันดีกว่า”


              “ตกลงค่ะพ่อ”


              แมงปอยิ้มแป้นทินภพแกล้งทำหน้าดุใส่


             “ใครพูดกับเรา พ่อจะพาไปส่งบ้านให้อยู่กับคุณปู่แล้วพาอาปักไปกันสองคน”


             “พ่อจะย้อนกลับไปกลับมาทำไมให้เปลืองน้ำมันรถคะ ครูบอกว่าเราต้องช่วยกันประหยัดน้ำมัน พาแมงปอไปด้วยน่ะดีแล้ว”


            ฟังสองพ่อลูกเถียงกันแบบนี้คงไม่ได้ทำงานเป็นแน่ ปักบุญอุ้มแมงปอลงจากรถแล้วจึงพาไปส่งที่ห้องเรียน เขาทำงานสอนเด็กๆ จนถึงตอนเย็นที่โรงเรียนเลิกจึงมานั่งคอยทินภพที่โต๊ะใกล้รั้วโรงเรียนเช่นเดิม


              “ขอโทษครับคุณครูปักบุญ ผู้หญิงคนนี้เขามาขอพบครูครับ”


              รปภ.ของโรงเรียนเดินมาหาและบอกกับปักบุญ เขาเงยหน้ามองก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ


              “ชบา”


               เมียของปองชัยมาหาเขาทำไมกัน ปักบุญชะเง้อมองไม่เห็นพี่ชายจึงเอ่ยถาม


              “เธอมาที่นี่ทำไมชบา พี่ปองอยู่ไหน”


              สีหน้าของชบาแสดงความเจ็บปวด มือประคองครรภ์ที่เริ่มต่ำลงไว้


              “ฉันมาคนเดียว มาของร้องคุณ พี่ปองหนีเจ้าหนี้ไปแล้วทิ้งฉันไว้คนเดียว ตอนนี้ฉันปวดท้องมากคุณช่วยฉันด้วย”


              ปักบุญตกใจ จำได้ว่าพรรณีบอกว่าชบาน่าจะท้องได้ราวๆหกถึงเจ็ดเดือนเท่านั้น ยังไม่น่าถึงกำหนดคลอดลูก


               “เธอปวดท้องจริงเหรอ มันยังไม่ถึงเวลานี่นา”


              “โธ่คุณ” ชบาคร่ำครวญน้ำตาไหล “ฉันอดมื้อกินมื้อ ลูกในท้องนี่มันจะโตยังไง ปวดท้องตั้งแต่เมื่อเช้าแต่ฉันไม่มีเงินติดตัวสักบาท จะไปโรงพยาบาลก็ไม่กล้าไป คุณช่วยฉันเถอะนะพาฉันไปโรงพยาบาลหน่อย เด็กนี่มันก็หลานคุณแท้ๆ ใจคอจะไม่สงสารมันบ้างเหรอ”


              “อาปัก รอพ่อก่อนไหม เดี๋ยวพ่อก็มาแล้ว”


              แมงปอดึงมือปักบุญที่เหมือนจะลังเล ชบาส่งเสียงร้องดังขึ้นอีก


             “โอ๊ยคุณ รอไม่ไหวแล้ว ปวดถี่เหลือเกิน พาฉันไปโรงพยาบาลเถอะนะนึกเสียว่าทำบุญ”


              “แต่ผมไม่มีรถนี่”


              ปักบุญละล้าละลัง เขาไม่รู้ว่าชบาพูดจริงหรือเปล่า แต่หลานในท้องก็น่าเป็นห่วง


              “เรียกรถสองแถวก็ได้ ฉันกราบล่ะคุณปักตอนนี้ปวดถี่ขึ้นเรื่อยๆแล้ว”


              ชบาลงไปนั่งกับพื้นส่งเสียงครวญครางจนปักบุญต้องตัดสินใจ แมงปอดึงแขนเขาไว้แล้วค้านด้วยสายตา


              “แมงปอ อาปักจะพาเขาไปหาหมอนะ แมงปอรอพ่อที่นี่ได้ไหม”


             “ให้เด็กไปด้วยเถอะ” ชบารีบค้าน “ไอ้พวกที่ตามหาพี่ปองอยู่จะโผล่มาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พวกมันรู้แล้วว่าพี่ปองมาหาคุณที่นี่เมื่อหลายวันก่อน”


             คำขู่ของชบาทำให้ปักบุญจำต้องพาแมงปอและประคองชบาไปที่หน้าโรงเรียน เขาโบกมือเรียกรถสองแถวคันหนึ่งให้จอดก่อนจะขึ้นไปบนรถ แมงปอทำหน้าเหมือนจะร้องไห้


              “อาปัก รอพ่อไหม”


              “โอ๊ย ปวดท้องแย่แล้ว ไม่สงสารน้าบ้างเหรอ เด็กอะไรใจดำจริงๆ”


              ชบาส่งเสียงลั่นจนแมงปอต้องรีบขึ้นด้านหลังของรถตาม ปักบุญดึงเด็กหญิงมากอดปลอบ


             “ไม่เป็นไรนะแมงปอ โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกล ส่งน้าเขาแล้วรีบโทรบอกพ่อให้มารับทันทีเลย”


              รถสองแถวขับรถออกจากหน้าโรงเรียน ปักบุญเอะใจที่คนขับไม่ได้ขับไปทางโรงพยาบาล เขาส่งเสียงตะโกนไปยังคนขับรถด้านหน้า


               “นี่มันไม่ใช่ทางไปโรงพยาบาลนี่ ผิดทางแล้ว”


               คนขับชลอรถข้างทาง แต่ไม่ได้เพื่อกลับรถ เมื่อรถชลอกลับมีชายฉกรรจ์หลายคนกรูกันขึ้นรถท่าทางคุกคาม หนึ่งในนั้นมีปองชัยรวมอยู่ด้วย ปักบุญหน้าซีดเผือด เขาหันไปมองชบาก็เห็นว่าพี่สะใภ้ไม่ได้มีท่าทางปวดท้องเหมือนที่ผ่านมาแม้แต่น้อย แถมยังยิ้มเยาะที่หลอกเขาสำเร็จ แมงปอถึงกับร้องไห้จ้าจนปักบุญต้องรีบกอดไว้


              “นี่มันอะไรกัน พี่ปอง พี่จะทำอะไร”


              ปองชัยแสยะยิ้ม เขามองน้องชายเหมือนเป็นบ่อเงินบ่อทอง


               “กูสืบจนรู้ว่ามึงกับไอ้ทินภพน่ะเป็นผัวเมียกันแล้ว ใช่ไหมไอ้ปัก ไอ้คนผิดเพศ แต่เห็นว่าไอ้เหี้ยนั่นรักมึงมากหรอกนะ กูก็เลยจะหาค่าสินสอดจากมึงสักหน่อย พร้อมกับลูกติดผัวมึงด้วยนี่ไง”


            “จะบ้าเหรอพี่ปอง ทำไมพี่ชั่วอย่างนี้วะ”


             ปักบุญโมโหจนสบถหยาบ ปองชัยตบหน้าน้องชายดังเผียะ แมงปอยิ่งร้องไห้หนักขึ้นไปอีก


              “เงียบ อีเด็กเวรนี่จะร้องหาพ่อมึงเหรอ ไอ้ปัก มึงจะด่ากูยังไงก็ได้ แต่กูต้องได้เงินจากผัวมึงว่ะ”


             ปักบุญและแมงปอถูกมัดข้อมือจนดิ้นรนไม่ได้อีก รถสองแถวถูกดึงผ้าใบกันฝนลงมาบังสายตาจากภายนอก ปักบุญก่นด่าตัวเองที่ถูกหลอกให้มาติดกับ และยังพาแมงปอมาลำบากด้วย หัวใจมีแต่ความหวาดหวั่นเมื่อมองไม่เห็นสภาพนอกรถอีกและได้แต่หวังว่าจะไม่มีเรื่องเลวร้ายอะไรเกิดขึ้นหลังจากนี้







             ทินภพมาถึงโรงเรียนอนุบาลช้ากว่าปกติเพราะเขาขับรถไปชนท้ายรถยนต์คันหน้า ความจริงแล้วเรื่องจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้ารถยนต์คันดังกล่าวไม่ได้เบรกกะทันหันจนทินภพเบรกตามไม่ทัน ต้องเสียเวลาพักหนึ่งเพื่อหาข้อยุติจึงได้มาที่โรงเรียนได้ แต่เมื่อมาถึงกลับไม่พบปักบุญและแมงปอตรงที่นัดไว้


              “ไปไหนกันนะ”


              เดินไปหารปภ.ที่ประตูโรงเรียนแล้วถาม คำตอบทำให้ทินภพตกใจมาก


              “เอ๊ะ คุณครูปักบุญกับหนูแมงปอพาญาติที่ท้องแก่ไปโรงพยาบาลนี่ครับ ผมเห็นประคองกันขึ้นรถสองแถวไป คุณครูไม่ได้โทรหาคุณพ่อน้องแมงปอหรือครับ”


                 ทินภพตกใจมาก เขาโทรหาปักบุญจนสายตัดหลายครั้งอีกฝ่ายยังไม่รับสาย ความสังหรณ์ใจแล่นขึ้นมาจนเจ็บหน้าอกไปหมด เขารีบโทรหาลูกน้องของเขาให้เตรียมตัวทันที จากนั้นทินภพก็ขับรถตามหาทั่วเมืองแต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา


               “เหี้ยเอ๊ย”


               เป็นห่วงทั้งแมงปอและปักบุญ ทินภพใช้ความคิดก่อนจะโทรหาเพื่อนที่เป็นตำรวจ


               “เดชา กูเองทินภพ เออ มีเรื่องด่วนให้ช่วย”


               เล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนฟังคร่าวๆ ก่อนจะขับรถกลับไปที่ไร่ชมจันทร์ เมื่อไปถึงก็เห็นนายทูลบิดาของเขานั่งอยู่กับพรรณีอยู่แล้ว สีหน้าทั้งคู่ไม่ดีนักเพราะลูกน้องของเขาเล่าให้ประมุขของบ้านรับรู้แล้ว


              “หาเจอไหม”


              นายทูลเอ่ยถามสีหน้ากังวล ทินภพส่ายหน้าอย่างเจ็บใจ


              “ผมไปช้าเพราะมัวแต่จัดการเรื่องขับรถชนท้าย ก็น่าสงสัยอยู่ว่าทำไมมันเบรกรถกะทันหัน อาจจะพวกเดียวกันที่ต้องการให้ผมไปถึงโรงเรียนของแมงปอช้ากว่าปกติก็ได้”


               “โธ่เอ๊ย ปักบุญ แมงปอ”


                พรรณีทำท่าเหมือนจะเป็นลม คนงานผู้หญิงที่มาอยู่เป็นเพื่อนต้องคอยพัดวีให้ ทินภพสั่งให้ลูกน้องของเขาขับรถกระจายตามหากันทั้งเมือง พักใหญ่เดชา สารวัตรสืบสวนที่เป็นเพื่อนของทินภพกับนายตำรวจลูกน้องสองสามคนก็มาถึง


               “เจอไหมวะทิน”


               ทินภพส่ายหน้า  คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแสดงถึงความกังวลอย่างยิ่ง เดชาเพื่อนของเขาใช้วิทยุสั่งการให้ลูกน้องสายตรวจช่วยตามหาด้วยจนกระทั่งเวลาผ่านไปจนดวงอาทิตย์เริ่มใกล้ลับขอบฟ้าเสียงโทรศัพท์ของทินภพจึงดังขึ้น เขารีบรับสายเมื่อเห็นว่าปลายทางคือปักบุญ


               “ปักบุญ”


                “คุณทิน...”


                ปักบุญยังไม่ทันเอ่ยอะไรเขาก็เงียบเสียงไป ก่อนจะกลายเป็นเสียงของปองชัย


               “เป็นห่วงน้องชายผมเหรอ คุณทินภพแห่งไร่เชิญตะวัน”


              “มึงทำอะไรปักบุญกับลูกกู ไอ้เหี้ยปอง”


               ทินภพไม่คิดจะมีมารยาทแล้วกับคนแบบนี้ ได้ยินเสียงหัวเราะสะใจดังลอดออกมา


              “ทำไมคนของไร่เชิญตะวันถึงต้องมาใยดีกับบ้านผมกันน้า อ๋อ เพราะคนบ้านผมมันเสน่ห์แรง สมัยก่อนย่าคุณก็หนีตามปู่เล็กของผม สมัยนี้คุณยังมาหลงเสน่ห์น้องชายผมอีก ขนาดเป็นผู้ชายเหมือนกันนะเนี่ย”


               “จะเอายังไงก็ว่ามา”


               ทินภพพยายามใจเย็นอย่างที่เดชาส่งสัญญาณมาทั้งที่อกแทบระเบิด


              “อยากได้ไอ้ปักมันไปเป็นเมียก็ขอค่าสินสอดหน่อยสิ ไหนๆน้องชายจะมีผัวแถมได้ลูกเลี้ยงมาอีกคน ก็ต้องมีค่าเลี้ยงดูลูกด้วยนะ”


                “เท่าไหร่ มึงจะเอาเท่าไหร่”


                ปองชัยเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงเหี้ยม


                  “ห้าล้าน”


                “เย็นแบบนี้กูจะหาเงินก้อนใหญ่จากไหนทัน”


                “อย่ามาโยกโย้ไอ้ทินภพ หยิ่งนักไม่ใช่เหรอมึง ตอนนี้หยิ่งไม่ลงล่ะสิไอ้เหี้ย กูไม่สนใจว่ามึงจะไปหาเงินมาจากไหน แต่กูต้องได้เงินห้าล้านตอนเที่ยงคืนแลกกับลูกของมึงและไอ้ปัก ถ้าไม่ได้ ต่อให้แม่งเป็นน้องกูก็จำเป็นต้องจัดการ มึงไปหาเงินมาแล้วเที่ยงคืนมึงเอามาให้กูที่น้ำตก... อ้อ ถ้าแม่งถึงตำรวจคงรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น”


              ปองชัยวางสายไปแล้ว สถานที่อยู่ไกลจากนี้ไปพอสมควร ทินภพสบถก่อนจะหันมาเล่าให้ทุกคนฟังว่าปองชัยนั่นเองที่เป็นคนจับปักบุญและแมงปอไปเรียกค่าไถ่ พรรณีร้องไห้แทบขาดใจ


               “ฮือ ไอ้ลูกเลว ไม่นึกเลยว่าจะเลวขนาดนี้ เพราะผีพนันแท้ๆ”


               คนเป็นมารดาเสียใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อบุตรกลายเป็นคนทำผิดกฎหมาย แถมยังทำกับคนใกล้ชิดที่เป็นน้องชายแท้ๆอีกด้วย ทินภพหันไปสบตากับเดชา นายตำรวจที่มีประสบการณ์มากกว่า


                “ใจเย็นเพื่อน ค่อยๆวางแผน เดี๋ยวกูช่วยเอง เท่าที่ฟังจากคุณแม่เล่าแล้ว ไอ้พวกนี้มันน่าจะเป็นนักเลงในบ่อนที่นายปองชัยไปเล่นนี่แหละ”


               ทินภพพยายามที่จะไม่ฟุ้งซ่าน เขาต้องหาทางช่วยเหลือปักบุญและแมงปอให้ได้





มีต่ออีกนิด...




หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 14 [14/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 14-02-2020 22:25:54


อ่านต่อตรงนี้...





             ปักบุญกับแมงปอกอดกันแน่น อยู่ในบ้านร้างแห่งหนึ่งที่เคยใช้เป็นบ่อนเคลื่อนที่ ชบานั่งตะไบเล็บอยู่อีกฝั่งพลางมองปักบุญด้วยความรำคาญ


             “นี่ อย่ามามองฉันแบบนี้นะ ฉันแค่ทำตามคำสั่งให้ไปหลอกคุณมา ถ้าไม่ทำฉันก็โดนตบตาเล็ดน่ะสิ”


               หล่อนค้อนควักไปมา ปักบุญจึงนั่งก้มหน้านิ่งเมื่อพี่ชายเดินเข้ามาหา ส่วนพวกน่ากลัวสามสี่คนที่มาด้วยยืนคุมเชิงอยู่ด้านนอก ปักบุญตกใจเมื่อเห็นพวกนั้นมีปืนเหน็บเอวด้วย


              “พี่ปอง อย่าทำแบบนี้เลย กลายเป็นโจรเรียกค่าไถ่มันดีตรงไหน”


              พยายามหว่านล้อมแต่อีกฝ่ายเหมือนจะยิ่งโมโห


              “มึงไม่ต้องทำเป็นสอนกูไอ้ปัก กูไม่ใช่นักเรียนของมึง ใช่สิ กูมันไม่ใช่เด็กดีเหมือนมึงนี่ เรียนเก่งพ่อแม่รักโอ๋ ส่วนกูมันเด็กเลวในสายตาพ่อแม่”


              ปองชัยกล่าวความในใจที่รู้สึกมานาน พ่อกับแม่มักใจเอาอกเอาใจน้องชายเป็นพิเศษเพราะเรียนหนังสือเก่ง ส่วนเขาแค่หนีไปเที่ยวกลับมาก็โดนตีแล้ว


             “นึกว่ากูอยากเห็นหน้ามึงนักเหรอ ที่กูอยากได้น่ะ เงินของผัวมึงโว้ย ไม่รู้ไปทำอีท่าไหนถึงยอมเป็นเมียมัน น่าสมเพชฉิบหาย”


               ก็เพราะพี่ชายที่เอาที่ดินไปจำนองน่ะสิ เรื่องมันถึงได้เลยเถิดมาแบบนี้ ปักบุญนั่งนิ่งกอดแมงปอที่ร้องไห้จนหลับไปแล้วด้วยความสงสาร จนกระทั่งนาฬิกาบอกเวลาใกล้เที่ยงคืนปองชัยกับผู้ชายอีกคนจึงได้มากระชากเขากับแมงปอให้เดินไปที่รถและขับออกไปจากบ้านร้างอย่างรวดเร็ว


              “ไหนๆกูก็ไม่มีเงินแล้ว มึงก็ช่วยกูด้วยทรัพย์สินนะไอ้ปัก”


               ปองชัยรูดทรัพย์ทั้งนาฬิกาและเงินในกระเป๋าของปักบุญรวมทั้งโทรศัพท์ไปจนหมด รถขับมาถึงน้ำตกเล็กๆแห่งหนึ่งที่ทินภพพาเขากับแมงปอมาเที่ยวและแมงปอเคยตกน้ำที่นี่ ในเวลาดึกยิ่งเงียบสงัดน่ากลัว


             “ไอ้ปอง ใกล้ถึงเวลานัดแล้ว”


            “ได้พี่เสือ เตรียมตัวกันเถอะ”


              แมงปอกอดขาปักบุญไว้แน่น พยายามจะไม่ร้องไห้แต่ก็อดกลัวไม่ได้ ปักบุญเองก็ทั้งกลัวและกังวลเป็นห่วงทินภพ เขาไม่รู้ว่าพวกของปองชัยจะทำเลวร้ายได้ถึงขนาดไหน รอได้ไม่นานแสงไฟหน้ารถคันหนึ่งก็สว่างมาแต่ไกล เสือรีบกวาดสายตามองโดยรอบเมื่อไม่เห็นรถคันอื่นอีกจึงพยักหน้าให้ปองชัย


                ปองชัยคว้าคอเสื้อของปักบุญให้มายืนต่อหน้าเขา ในมือมีปืนกระบอกหนึ่งจ่อที่ขมับน้องชายเมื่อทินภพก้าวลงมาจากรถพร้อมกระเป๋าใบหนึ่ง สีหน้าของทินภพตอนนี้น่ากลัวมาก


               “คุณทิน”


                ปักบุญพึมพำเสียงแหบโหย แมงปอร้องไห้จ้าแต่ไปหาพ่อไม่ได้ ทินภพกัดฟันมองภาพนั้นด้วยความแค้นใจ เขาชูกระเป๋าในมือขึ้นมา


               “เงินห้าล้านในกระเป๋า”


               ปองชัยหัวเราะสะใจ เขาผลักปักบุญกับแมงปอให้ก้าวเดินไปข้างหน้าจนกระทั่งเผชิญหน้ากับทินภพ


               “ขอบคุณเจ้าของไร่เชิญตะวันมากที่มาสู่ขอไอ้ปัก เอามันคืนไปเสวยสุขกันให้พอ อ๊ะ แต่ห้ามออกรถจนกว่าพวกกูจะไปกันหมด”


          ปองชัยคว้าถุงเงินไปและผลักปักบุญกับแมงปอเข้าไปหาทินภพ เขารีบก้าวไปยังรถที่มีเสือกับลูกน้องและชบารออยู่แล้ว


               “ไปโว้ย ได้ทรัพย์แล้ว”


               รถของปองชัยรีบขับออกไปทันที ทินภพกอดปักบุญและแมงปอไว้แน่น


               “ปักบุญ แมงปอ”


               “คุณทิน”


                มัวแต่ดีใจไม่ได้ ทินภพรีบดึงแขนปักบุญกับแมงปอให้เข้าไปในรถ เมื่อประตูปิดสนิทแสงไฟของรถตำรวจก็เปิดขึ้นโดยรอบ ดักทางรถของปองชัยจนหาทางออกไม่ได้และต้องวนกลับมาที่เดิม





                                                                 TBC


                                    อย่าว่าปักบุญเลยน้า ปักบุญแค่เป็นคนดี เป็นห่วงหลาน ฮือออ



                                     :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:







หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 14 [14/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-02-2020 22:51:53
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 14 [14/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 14-02-2020 23:09:47
บางทีก็เป็นคนดีเกินไป
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 14 [14/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 15-02-2020 02:09:52
 :pig4: :pig4: :pig4:

เชื่อเข้าไปได้ยังไง  สันดานพี่ชายพี่สะใภ้เป็นไงน่าจะรู้ดีนะ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 14 [14/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 15-02-2020 06:44:53
มันสารเลวขนาดนี้


ถ้าแม่กีบน้องยังให้อภัย


ไม่ถือโทษเอาผิด


ก็สมควรโดนมันซ่อมให้ตาย


สงสารแมงปอโถ๋ลูก
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 14 [14/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-02-2020 08:11:06
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 14 [14/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 15-02-2020 10:46:52
โอ้ย... คนเลวยังไงก็เลวในสันดานเน๊อะ ไม่สนความเป็นพี่น้องพ่อแม่ แค่ให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วทำได้ทุกอย่าง
ขออย่างได้มีเรื่องเลวร้ายไปกว่านี้เลยนะ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 14 [14/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 15-02-2020 12:54:35
ถือว่าลืมพี่ชายไปแล้วกัน ..
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 14 [14/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 15-02-2020 23:28:50
เรื่องร้ายๆ ผ่านไปแล้ว
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 14 [14/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-02-2020 11:53:40
แกไม่รอดแน่ไอ้ปอง!
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 14 [14/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 17-02-2020 09:35:08
ตอนแรกก็เคืองปักอยู่ ว่าทำไมยอมตาทินง่าย ๆ

แต่พอมาเจอ ไอ้หมาจะเกิด ชิงหมาเกิดปอง กับ นังหมอศยาชบา แล้ว…


คุณทินคะ… ปกป้องปักให้ได้นะเคอะ    :dont2:
หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 15 ตอนจบ [18/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 18-02-2020 21:16:15



                                            หักเหลี่ยมรักซาตาน

                                                  บทที่ 15



              “ไอ้เหี้ยปอง ไหนมึงบอกว่าไว้ใจได้ว่าแม่งไม่ได้บอกตำรวจ ฉิบหาย พ่อมึงแห่มากันเต็ม”


              เสือสบถหยาบคายเมื่อขับรถมาแล้วไม่นานนักแสงไฟหน้ารถหลายคันสว่างขึ้นตามรายทางพร้อมกับเสียงไซเรนโหยหวน ลูกน้องของเสือที่เป็นคนขับรถถึงกับเบรกจนเขาและปองชัยกับลูกน้องอีกสองคนที่นั่งอยู่กระบะแทบจะหัวทิ่ม ส่วนชบาที่นั่งคู่กับคนขับถึงกับอกสั่นขวัญแขวน ปองชัยหน้าซีดเผือดหันไปมองรอบตัวด้วยความหวาดหวั่น


             “กูย้ำแล้วไอ้พี่เสือ มึงอย่าเพิ่งมาด่ากูตอนนี้ จะเอายังไงก็ช่วยกันคิดก่อน”


            “พี่เสือเอาไง” คนขับรถตะโกนถาม ทุกคนบนรถระส่ำระสายกันหมด “จะให้ขับไปทางไหน”


             “มึงขับไปทางเก่า ไปหาไอ้เหี้ยทินภพนั่น เผื่อจะเอามันเป็นตัวต่อรอง”


             เสือตะโกนสั่ง ลูกน้องรีบทำตามทันที รถกระบะกลางเก่ากลางใหม่เลี้ยวขวับกลับไปทางเดิมโดยมีรถตำรวจเร่งเครื่องตามมาประกบ เมื่อมาถึงที่เดิมจึงพบว่าทินภพผลักปักบุญและแมงปอให้เข้าไปในรถก่อนจะปิดประตูตาม


             “ปักบุญ ก้มต่ำไว้นะ”


              เป็นคำสั่งสุดท้ายก่อนที่ร่างสูงจะปิดประตูดังปัง แมงปอร้องไห้จ้าอยู่ในอ้อมกอดของปักบุญที่พยายามก้มต่ำหลบอยู่ด้านล่างของเบาะนั่ง เป็นห่วงทินภพก็เป็นห่วง เด็กหญิงแมงปอให้อ้อมกอดก็เป็นห่วงไม่แพ้กัน


              “ฮือ อาปัก แมงปอกลัว”


              “ใจเย็นๆนะแมงปอ”


               ปลอบโยนทั้งที่ใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว และเมื่อเสียงไซเรนกรีดร้องรอบด้านปักบุญอดใจไม่อยู่ต้องโผล่หน้าไปมองผ่านกระจก เขาตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นรถของเสือวนกลับมาที่เดิม พวกมันเหล่านั้นกระโดดมายืนจังก้าพร้อมด้วยอาวุธปืนที่พกมา ท่ามกลางแสงสว่างจากหน้ารถตำรวจ


              “พี่ปอง”


               พี่ชายของเขาก็ลงมาร่วมด้วย ทินภพวิ่งมาใช้ด้านข้างของรถเป็นที่กำบังพร้อมกับอาวุธปืนในมือ ปักบุญได้ยินเสียงคำสั่งของตำรวจให้วางปืนแต่ก็ไม่เป็นผล เสียงปืนนัดแรกดังขึ้นพร้อมกับหัวใจของปักบุญที่ร่วงไปอยู่ที่พื้น แมงปอกรีดร้องด้วยความกลัวจนเขาต้องกอดไว้แน่น


               ทินภพ คุณต้องไม่เป็นอะไร


               วินาทีแห่งความคับขันนั้นเองที่ปักบุญเพิ่งมั่นใจ ก่อนหน้านี้เขาอาจจะโกรธ เจ็บปวดจากการกระทำของทินภพ แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์หลายอย่างที่ทินภพทำเพื่อเขา บัดนี้ปักบุญรักทินภพเข้าเสียแล้ว เขารู้ใจตนเองระหว่างความตื่นเต้นและตกใจกลัว ปักบุญไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงปืนที่แผดดังกลบเสียงอื่น


             ใช้เวลาไม่นานแต่ราวกับแทบขาดใจกว่าเสียงปืนจะสงบลง ประตูรถข้างที่ปักบุญนั่งอยู่กับแมงปอถูกกระแทกดังพลักจนเขาสะดุ้ง


             “ทินภพ”


             ผวาจนหน้าซีดเผือดเมื่อประตูถูกเปิดออก ทินภพนั่นเองที่เป็นคนเปิดประตู


             “ไม่เป็นไรแล้วปักบุญ”


              ปักบุญน้ำตาไหล เขาอุ้มแมงปอออกจากรถก่อนจะจมเข้าสู่อ้อมกอดของทินภพ แมงปอโผเข้ากอดบิดาพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้น ตอนนั้นเองที่ปักบุญเพิ่งจะกล้ามองเหตุการณ์รอบตัว ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นภาพสะเทือนใจ


              “พี่ปอง!”


             พี่ชายคนเดียวนอนจมกองเลือดดวงตาเบิกโพลงเสียชีวิตเพราะกระสุนปืน รถกระบะพุ่งเข้าชนต้นไม้เพราะคนขับถูกยิงและบังคับรถไม่ได้ เสียงเอะอะโวยวายของตำรวจดังขึ้นเมื่อเปิดประตูรถออกมา


              “เฮ้ย ผู้หญิงยังไม่ตายโว้ย เรียกรถพยาบาลเร็ว เผื่อลูกในท้องมันรอด”


              น้ำตาของปักบุญไหลลงมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ชั่วดีอย่างไรปองชัยก็เป็นพี่ชายแท้ๆของเขา ทินภพเดินมาใกล้ก่อนกล่าวเสียงเบา


               “เสียใจด้วยนะปักบุญ ฉันพยายามแล้วแต่ปองชัยมันสู้ไม่ยอมตำรวจ”


              “ผมเข้าใจ อย่าโทษตัวเองเลย อ๊ะ เลือด!”


              เมื่อหันไปมองทินภพเต็มตาเพิ่งเห็นว่าไหล่ของทินภพได้รับบาดเจ็บ แมงปอมองบิดาด้วยความตกใจ


             “พ่อ เลือดสีแดงเต็มเลย พ่อเจ็บไหม”


             ปักบุญรีบรับแมงปอมาอุ้มเพราะเกรงทินภพจะเจ็บปวดไปมากกว่านี้ ชายหนุ่มฝืนยิ้มให้ลูกสาว


            “กระสุนถากไปเท่านั้นแหละ พ่อแข็งแรงจะตาย ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นปักบุญ ฉันยังไม่ตายหรอก อยู่กวนใจนายได้อีกนาน”


            “ยังจะพูดเล่นอีกครับ ผมเป็นห่วงนะรู้ไหม”


             ปักบุญเอ็ดเสียงเขียวแต่ทินภพกลับทำให้ทินภพยิ้มได้ ปักบุญลืมตัวพูดออกมาจากใจทำให้รู้ว่าเยื่อใยนั้นมีอยู่ บทสนทนาจบลงเพียงแค่นี้เพราะเดชาเดินมาหาและขอให้ปักบุญให้ปากคำ พักใหญ่รถโรงพยาบาลจึงมารับชบาที่นอนหายใจรวยรินไปโรงพยาบาล






              พรรณีนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ที่แผนกนิติเวชของโรงพยาบาลประจำจังหวัดโดยมีปักบุญนั่งกุมมืออยู่ใกล้ๆ แม่ของเขาเสียใจมากเมื่อต้องเสียลูกชายไป และเสียใจยิ่งกว่าเพราะสาเหตุที่ทำให้ลูกตายคือการพนัน


              “แม่เคยสอนแล้วว่าให้คิดดีทำดี แล้วทำไมไม่เชื่อแม่ โธ่เอ๊ย ไอ้ปอง”


              แม้จะเจ็บช้ำกับการกระทำของลูกที่เคยทำไม่ดีกับตน แต่ถึงอย่างไรปองชัยก็เป็นลูก คนเป็นแม่ย่อมเสียใจอยู่แล้วปักบุญเองก็ได้แต่ปลอบใจและทำใจกับเรื่องนี้ ปักบุญแทบคิดอะไรไม่ออกดีที่ได้ทินภพมาช่วยเป็นธุระเรื่องต่างๆให้หลังจากที่เขาทำแผลเรียบร้อยแล้ว เขามาช่วยดำเนินการเรื่องศพของปองชัย ช่วยเรื่องการผ่าตัดทำคลอดของชบา เมื่อหายจากความตื่นตกใจปักบุญจึงได้ยิ้มให้เขา


             “ขอบคุณนะครับคุณทิน ถ้าไม่ได้คุณเราสองแม่ลูกต้องแย่แน่ๆ”


              พรรณีก็กล่าวเช่นเดียวกันไม่รู้กี่รอบ ตอนนี้หญิงสูงวัยมั่นใจแล้วว่าทินภพรักบุตรชายคนเล็กมากจริงๆ ถึงได้ทำทุกอย่างให้ขนาดนี้


               “น้าเองก็ต้องขอบคุณนะคะ คุณทินเองก็ต้องพลอยบาดเจ็บไปด้วย”


              “ไม่เป็นไรหรอกครับ ไกลหัวใจครับคุณน้า เรื่องศพของปองชัยคงต้องรอให้ตำรวจอนุญาตให้นำกลับได้ก่อนถึงจะออกจากโรงพยาบาลได้ แล้วก็ตอนนี้หมอกำลังผ่าตัดให้ชบา คงต้องลุ้นว่าเด็กในท้องจะรอดหรือเปล่าเพราะเพิ่งเจ็ดเดือน และแม่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย”


              ปักบุญกับพรรณีเพิ่งนึกขึ้นได้เรื่องนี้ ทั้งหมดจึงไปรอฟังผลที่หน้าห้องผ่าตัด ไม่นานแพทย์ที่ทำการผ่าตัดจึงมาแจ้งผล


              “เราช่วยแม่ไว้ไม่ได้ เลือดออกมากเกินไปจนเกิดภาวะช็อกเสียชีวิต ส่วนเด็กยังมีชีวิตอยู่แต่น้ำหนักน้อยมาก จำเป็นต้องรักษาตัวในตู้อบและใช้เครื่องช่วยหายใจไปก่อน หมอไม่รับรองร้อยเปอร์เซ็นว่าเด็กจะปลอดภัย แต่ก็จะพยายามดูแลกันให้ดีที่สุด”


              ปักบุญได้แต่ทอดถอนใจด้วยความเวทนา ในตอนเช้าเมื่อกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งจึงได้พากันไปเยี่ยมทารกน้อยที่เกิดมาโดยไร้ผู้ปกครอง


             “น้องตัวเล็กจังเลยค่ะปู่”


              แมงปอที่วันนี้ต้องให้นายทูลเป็นคนดูแลมองทารกตัวจ้อยในตู้กระจกตาแป๋ว เด็กน้อยกำลังต่อสู้เพื่อมีชีวิตอยู่ด้วยเครื่องช่วยหายใจและน้ำเกลือ ลูกของปองชัยและชบาเป็นเด็กผู้ชาย ตำรวจที่ทำคดีนี้อยู่ขอให้ตรวจดีเอ็นเอของเด็กกับนางพรรณีไว้ด้วยว่าตรงกันหรือไม่ เพื่อใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการรับเป็นผู้ปกครอง


              “ผมคงต้องเลี้ยงลูกพี่ปองถ้าหากหลานปลอดภัยได้ออกจากโรงพยาบาล แต่ผมเลี้ยงเด็กอ่อนไม่เป็น”


               ปักบุญกล่าวกับทินภพเมื่อได้พูดคุยเพียงลำพัง ทินภพคลี่ยิ้มบางๆ


               “นี่กำลังอ้อนให้พ่อเลี้ยงเดี่ยวอย่างฉันไปช่วยเลี้ยงหลานหรือเปล่า”


               แก้มของปักบุญกลายเป็นสีชมพูจางๆ เขาเอียงคอมองทินภพพร้อมกับรอยยิ้มแรกของวัน


               “ได้ไหมล่ะครับ ถ้าไม่ได้ผมเลี้ยงคนเดียวก็ได้”


               “มีรางวัลให้ไหมล่ะ”


               “อยากได้อะไรล่ะครับ ตอนนี้มีแต่หนี้”


              “ขอแค่ตัวนาย กับคำบอกรักสักคำ อย่างอื่นไม่ต้องก็ได้”


              “โอ๊ย ความหื่นคงเส้นคงวาจริงๆ”


              ปักบุญหัวเราะออกมาได้แล้ว เขามองสบตาทินภพด้วยความซึ้งใจ


              “ขอบคุณนะครับที่ช่วยมาทั้งหมด ขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย ตอนที่ชบามาหาใจหนึ่งผมก็กลัวว่าเขาจะหลอกเหมือนกัน แต่ความเป็นห่วงหลานกับพี่ปองมันทำให้ผมทำอะไรไม่ถูกก็เลยตัดสินใจพาชบาไปโรงพยาบาลและมันก็พลาดจริงๆ แถมยังพาแมงปอไปเสี่ยงอันตรายด้วย”


             “นายน่ะเป็นคนดีเกินไป” ทินภพโอบบ่าปักบุญไว้ “ทำเพื่อคนอื่นจนไม่คิดถึงตัวเอง ตั้งแต่เรื่องยอมให้ฉันหลอกไปปล้ำแล้ว ไหนจะเรื่องนี้อีก ไม่ได้การละ ฉันจะต้องดูแลนายแบบคุมเข้มไม่ให้ไปใจดีกับใครอีก ว่าแต่นายจะให้รางวัลฉันวันไหนดี”


             ทินภพทวงรางวัลหน้าตาเฉย ปักบุญได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา


            “ช่วงนี้ยังยุ่งอยู่เลย ต้องจัดงานศพพี่ปองอีก ต้องให้ปากคำตำรวจด้วย คุณรอไปก่อนนะ เสร็จจากเรื่องทั้งหมดแล้วรับรองว่าไม่เบี้ยวแน่ๆ”


             “จริงนะ” ทินภพกระหยิ่มยิ้มย่อง “ฉันจะทวงรางวัลจากนายจนฟ้าเหลืองเลย คอยดู”








              พรรณีกับปักบุญจัดงานศพให้ปองชัยและชบาโดยตั้งสวดสามวันแล้วค่อยเผา ระหว่างงานนายทูลกับทินภพมาช่วยเป็นเจ้าภาพให้ทุกคืนจนเสียงล่ำลือดังไปทั่ว


               “สองไร่นี้เขาดีกันแล้วเหรอ ไหนว่าตายไม่เผาผีกันไง”


               “ก็เห็นมาเผากันอยู่นี่ สงสัยคืนดีกันแล้วมั้ง แถมคุณทินภพยังดูแลพ่อปักดี๊ดี”


               “นั่นสินะ แทบจะสิงเป็นเงาตามตัว มันแปลกๆแล้วนา”


               “แปลกยังไง เฮ้ย หรือว่ารักกันน่ะ เดี๋ยวนี้เห็นผู้ชายกับผู้ชายรักกันเยอะแยะไปหมด”


                “ฮะ จริงเหรอ คุณทินกับพ่อปักลูกแม่พรรณีน่ะนะเป็นแฟนกัน”


              เสียงซุบซิบดังมาให้ได้ยินจนทินภพต้องหันไปมองปรามจึงพอเงียบไปได้บ้าง แต่ลับหลังก็ยังเป็นที่พูดถึงจนทินภพต้องพูดกับนายทูลกับพรรณีอย่างตรงไปตรงมาหลังจากงานศพของปองชัยผ่านพ้นไปแล้ว


               “ผมขอแต่งงานกับปักบุญนะครับ”


               เมื่อได้ยินคำพูดชัดเจนของทินภพแล้วนายทูลจึงมองบุตรชายอย่างจริงจัง


             “มั่นใจแล้วเหรอไอ้ทิน”


              “มั่นใจแล้วพ่อ เสี่ยงตายมาขนาดนี้ ไม่มั่นใจก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว คุณน้าครับ อย่างที่ผมเคยบอกคุณน้า ผมรับปากว่าจะดูแลปักบุญให้ดีที่สุด คุณน้าพอจะมั่นใจยกปักบุญให้ผมไหมครับ”


              ระหว่างนั้นปักบุญได้แต่นั่งหน้าแดงโดยมีแมงปอนั่งอยู่บนตัก เด็กหญิงหันมายิ้มล้อเลียนพร้อมกับเอ่ยเสียงแจ๋ว


              “นั่นแน่ะ อาปักจะมาเป็นแฟนพ่อจริงด้วย”


               นายทูลมองเห็นความตั้งใจจริงของทินภพจึงกล่าวกับพรรณีอย่างอารมณ์ดี


              “ไหนๆลูกชายก็รักกันแล้ว ก็ให้เขาทำตามใจเถอะแม่พรรณี คนเรารักกันไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถือว่าฉันสู่ขอพ่อปักให้ลูกชายฉันก็แล้วกันนะ ส่วนสินสอดฉันจะยกที่ดินที่ไอ้ทินมันซื้อมาคืนให้ดีไหม ยังไงมันก็เป็นสมบัติของไร่ชมจันทร์ แล้วหนี้ที่ยังติดธนาคารอยู่ฉันจะช่วยจ่ายให้ แม่พรรณีจะได้ไม่ต้องมีภาระ”


              พรรณีน้ำตาปริ่มรีบยกมือไหว้นายทูล ลำพังแค่ทินภพมาคอยช่วยเหลือในไร่ก็ถือว่ามากแล้ว ทูลยังช่วยปลดหนี้ให้ด้วย


               “ขอบคุณนะคะคุณปู่ ฉันน่ะไม่ได้ว่าอะไรหรอกค่ะ คุณทินก็ดีกับฉันและปักมากถ้าทั้งคู่รักกันฉันก็ไม่ขัดขวางและยินดียกปักบุญให้คุณทินอยู่แล้วล่ะค่ะ”


              ทินภพดึงปักบุญให้มากราบพ่อของเขาและแม่ของปักบุญราวกับกลัวผู้ใหญ่จะเปลี่ยนใจ ก่อนจะอุ้มแมงปอมานั่งตักพลางกล่าวกับลูกสาวกลั้วเสียงหัวเราะ


              “พอใจหรือยังไอ้ตัวยุ่ง พ่อกับอาปักเป็นแฟนกันแล้วนะ”


               “ดีมากค่ะพ่อ ต่อไปนี้แมงปอจะจัดการผู้หญิงที่มาหาพ่อทุกคนเลย จะบอกว่าพ่อมีแฟนแล้วไม่ต้องมาหาพ่ออีก”


               เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกันกับความแก่นแก้วของแมงปอ เมื่อมรสุมชีวิตผ่านไปชีวิตก็มีแต่ความสวยงามเป็นรางวัล ทินภพกับปักบุญสบตากันพร้อมกับรอยยิ้มตอนรับชีวิตคู่ที่กำลังจะเริ่มต้น






มีต่ออีกนิด...



หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> บทที่ 15 ตอนจบ [18/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 18-02-2020 21:27:51


อ่านต่อตรงนี้...



             “เสียใจหรือเปล่าที่ไม่มีพิธีแต่งงาน”


            ทินภพรวบเอวปักบุญเข้ามากอดขณะที่ปักบุญยืนมองทิวทัศน์อยู่ตรงหน้าต่างห้องของทินภพ หลังจากกราบนายทูลกับนางพรรณีเพื่อให้ผู้ใหญ่รับรู้แล้ว ทินภพก็พาปักบุญมาอยู่กับเขาที่ไร่เชิญตะวัน วันนี้จึงเป็นวันแรกที่ปักบุญยืนมองความกว้างขวางของไร่เชิญตะวันจากหน้าต่างห้องของบ้านหลังใหญ่


              “ผมไม่ได้ยึดติดกับเรื่องพิธี แล้วก็ไม่ชอบอะไรที่เอิกเกริกด้วย”


              “เมียใครน้าน่ารักจัง”


               ร่างสูงซุกหน้าลงกับซอกคอจนปักบุญหัวเราะเบาๆ


               “เล่นอะไรก็ไม่รู้คุณทิน จั๊กจี้”


               “อย่ามาเนียนหัวเราะ นี่ไม่ได้ลืมรางวัลหรอกนะ”


               ทินภพดึงแขนปักบุญแล้วแกล้งเหวี่ยงให้เสียหลักลงไปนอนบนเตียงกว้าง เขาทิ้งกายตามลงไปทับจนปักบุญตกอยู่ใต้ล่าง ดวงตาแพรวพราวจ้องมองนิ่งนานจนปักบุญเขินจัด


               “จะมองแบบนี้อีกนานไหมไหมครับ”


               เพราะทินภพมองราวกับจะกลืนกินจนปักบุญเสียอาการ ทินภพเชยคางให้ปักบุญหนีการสบตาไปจากเขาไม่ได้อีก เสียงทุ้มบอกความในใจจนปักบุญแทบละลาย


           “ไม่นึกว่าจะมีวันนี้ วันที่ฉันหลงรักนายจนโงหัวไม่ขึ้น เสียเชิงจริงๆ นายมันเป็นเด็กแสบชัดๆ”


            “ผมอยู่ของผมเฉยๆ มีแต่คุณนั่นแหละมาวอแวผม”


             ปักบุญโต้เสียงอุบอิบในลำคอจนทินภพต้องหัวเราะออกมา


              “จริง ยอมรับก็ได้พอใจหรือยัง”


              ทินภพจูบปักบุญ เริ่มจากจูบทักทายก่อนจะเรียกร้องให้ปักบุญต้องจูบตอบ ทั้งสองช่วยกันถอดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายราวกับมันเกะกะมากมายจนกระทั่งเนื้อต่างแนบเนื้อสัมผัสความอบอุ่นในร่างกาย ปักบุญผวาหนักเมื่อทินภพปลุกเร้าเขาจนอุ่นร้อนไปหมด


              “คะ คุณทิน เข้ามาเถอะครับ”


              ส่งเสียงออดอ้อนอย่างไม่อายอีกแล้ว ทินภพยิ้มอย่างเป็นต่อ


              “บอกรักก่อนสิ”


             “คุณทิน! ขี้โกง”


              “เร็วเข้า รักหรือไม่รัก”


              ใบหน้าขาวเนียนกลายเป็นสีแดงไปทั้งหน้า ไม่รู้ว่าเพราะถูกจุดไฟปรารถนาหรือเพราะเขินที่ต้องเอ่ยความในใจกันแน่


             “ระ รัก”


             “อะไรนะ ไม่ได้ยิน”


             “รัก ผมรักคุณทิน พอใจหรือยังครับ จะทำหรือไม่ทำ ถ้าไม่ทำจะไปนอนกับแมงปอแล้วนะ”


              ทินภพหัวเราะลั่นเมื่อเห็นสีหน้าขัดเขินของปักบุญ เขาค่อยๆผลักดันความแข็งแกร่งเข้าสู่ร่างกายของปักบุญในช่วงแรกก่อนจะเร่งและผ่อนจังหวะสลับกัน ทินภพอยากจะให้ระหว่างทางไปสู่ความสุขสมนั้นสร้างความประทับใจให้ปักบุญมากที่สุด


              “อา คุณทินภพ”


              ปักบุญแทบจะสำลักความสุข ทินภพจูงมือเขาให้เผชิญกับความร้อนแรงจนร่างกายแทบระเบิดวนเวียนไปกับความวาบหวามราวกับระลอกคลื่นลูกแล้วลูกเล่า จนเขาหมดแรงนอนซบกับอกกว้างในยามดึกสงัด


               “คุณทำผมเกือบตาย”


               “ตายไปก็ได้ขึ้นสวรรค์แหละ ใช่ไหม”


               ทินภพกระซิบตอบพลางโอบกอดปักบุญ ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยฝีมือของเขาที่ฝากรักไว้ ปักบุญหมดแรงจนลืมตาไม่ขึ้นแล้ว


             “รักนะปักบุญ”


             เสียงนุ่มเอ่ยเบาๆก่อนที่คนในอ้อมกอดจะยิ้มรับและหลับสนิท ทินภพมองวงหน้านั้นแล้วจูบที่หน้าผาก


             ใครจะนึกว่าคนอย่างเขาต้องมายอมแพ้ให้ปักบุญ ทินภพพึมพำอยู่ในใจเมื่อเขาถอดเขี้ยวเล็บราบคาบเพราะผู้ชายที่ไม่ได้มีพิษสงอะไรเลยเช่นนี้ แต่ทั้งหมดก็เพราะความดีของปักบุญไม่ใช่หรือที่หักเหลี่ยมของเขาจนหมด


               ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทินภพสัญญากับตัวเองว่าเขาจะรักษาปักบุญให้อยู่กับเขาตลอดชีวิต ไม่มีทางที่ทินภพจะทำเพชรน้ำงามหลุดมือเด็ดขาด


              ทินภพหอมแก้มปักบุญอีกครั้งก่อนจะหลับตาลงไปพร้อมกับปักบุญ



                                               จบแล้วจ้า



                                     ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านเลยนะคะ

                      อ่านจบแล้ว อย่าลืมคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยน้า



                             :pig3: :pig3: :pig3: :pig3: :pig3: :pig3: :pig3: :pig3: :pig3: :pig3:




หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> ตอนจบ [18/02/63]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-02-2020 21:37:13
 :L2: :3123: :L1: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> ตอนจบ [18/02/63] ย้ายห้องได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 18-02-2020 23:09:43
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> ตอนจบ [18/02/63] ย้ายห้องได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 18-02-2020 23:35:13
ขอบคุณคร้าบ บ๊าย บาย หนูแมงปอ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> ตอนจบ [18/02/63] ย้ายห้องได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 18-02-2020 23:45:45
หวานเลี่ยนเพราะหมั่นไส้คุณทินค่ะ
คนอะไร ได้ตัวเขาแล้วยังได้ใจไปด้วย โลภมากจริงๆ
แต่ก็รักกันนานๆนะ

ขอบคุณคนเขียนมากนะคะ ตบจูบสนุกมาก
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> ตอนจบ [18/02/63] ย้ายห้องได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 19-02-2020 08:10:25
รอตอนพิเศษ



รอดูแมงปอเลี้ยน้อง
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> ตอนจบ [18/02/63] ย้ายห้องได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-02-2020 09:05:43
จบแล้ว สนุกมากๆจ้า~
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> ตอนจบ [18/02/63] ย้ายห้องได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 19-02-2020 13:28:03
ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ ไปเสียทีนะ
แมงปอ ก็จะได้มีเวลาเล่นกับน้อง และคอยป้องกันผู้หญิงที่เข้ามาหาพ่อ
เป็นภาระอันใหญ่หลวงเลยนะแมงปอ

ในเมื่อลูกสมหวัง ก็ให้คุณปู่คุณย่า ที่อยู่ลำพังมาอยู่ด้วยกันจะดีไม่น้อย อิอิอิ

และขอบคุณไรท์มากเลยจ้า ขอให้สุขภาพแข็งแรง และถูกเลขท้าย 2 ตัว นะจ๊ะ
   :3123::3123: :L2: :3123: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> ตอนจบ [18/02/63] ย้ายห้องได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 19-02-2020 19:05:44
จบแล้วสนุกมากๆเลยค่ะสนุกมากๆ :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> ตอนจบ [18/02/63] ย้ายห้องได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-02-2020 20:17:50
ต้นร้ายปลายดี   :mew1:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> ตอนจบ [18/02/63] ย้ายห้องได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 20-02-2020 14:05:44
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ อีก 1 เรื่อง ..
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> ตอนจบ [18/02/63] ย้ายห้องได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 20-02-2020 15:04:08
 o13


 :กอด1: :L1: :pig4: :pig4: :pig4: :L1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> ตอนจบ [18/02/63] ย้ายห้องได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 20-02-2020 15:59:49
น่ารักอ่าา :katai2-1:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> ตอนจบ [18/02/63] ย้ายห้องได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 25-02-2020 01:26:22
ตอนแรก เกลียดทินภพมากกกก สงสารน้องปักใจจะขาด
ตอนนี้ รักพี่ทินเหลือเกิน คนดีๆ ของน้องปัก
ยินดีและมีความสุขกับความสุขแบบฟิลๆ ที่นักเขียนจัดให้
ขอขอบคุณและส่งกำลังใจให้น้าาาาาาา
 :pig4: :pig4: :pig4:
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> Pre order 5 เม.ย.-5 มิ.ย.63]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 04-04-2020 23:09:57
Pre order
#หักเหลี่ยมรักซาตาน
ระยะเวลา: 5 เมษายน – 5 มิถุนายน 2563
จำนวนหน้า : 200-210 หน้าโดยประมาณ
บทพิเศษ : 4-5 บท ไม่มีลงในเว็บ
ราคาปก : 230 บาท
ราคาขายช่วงพรีออเดอร์ : 215 บาท
ค่าจัดส่ง : 35 บาท

จัดจำหน่ายที่ :  http://belove-belove.lnwshop.com (http://belove-belove.lnwshop.com)
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> Pre order 5 เม.ย.-5 มิ.ย.63]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 05-04-2020 01:02:15
อ่านได้ไม่กี่ตอน ขอเลิกอ่านก่อนค่ะ
เกลียดพระเอก รับพระเอกไม่ได้จริงๆ
คือพระเอกจิตป่วยมาก มีลูกมีเต้าแล้วแต่แบบป่วยค่ะ
ไว้ติดตามผลงานเรื่องอื่นๆของคุณ Belove แล้วกันนะคะ
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> Pre order 5 เม.ย.-5 มิ.ย.63]
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 05-04-2020 21:34:19
ขอบคุณ​เรื่องราว​ดี​ๆ​ค่ะ​ไม่เคย​ผิดหวัง​ :กอด1:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> Pre order 5 เม.ย.-5 มิ.ย.63]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 14-04-2020 12:42:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> Pre order 5 เม.ย.-5 มิ.ย.63]
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 28-09-2020 16:39:20
เฮ้ยยยสนุกดี เกลียดขี้หน้ากันแต่ชาติปางก่อน ปากร้าย รังแกกันมาตลอด มาวันนี้   :กอด1: คุณทินพ่อเลี่ยงเดี่ยวจอมหื่น  :oo1: 5555 แมงปอลูกสาวน่ารักมาก สนุกๆ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> Pre order 5 เม.ย.-5 มิ.ย.63]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 26-05-2023 06:25:50
สนุกมากครับ^^
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> Pre order 5 เม.ย.-5 มิ.ย.63]
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 27-05-2023 17:27:35
 :pig4:
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> Pre order 5 เม.ย.-5 มิ.ย.63]
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 16-03-2024 20:17:41
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)
หัวข้อ: Re: << หักเหลี่ยมรักซาตาน >> Pre order 5 เม.ย.-5 มิ.ย.63]
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 24-03-2024 21:16:54
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)