เวลาตามนัดที่หมอตั้มได้นัดผมไว้ก็มาถึง ผมมาถึง รพ.ตั้งแต่ 10.30น.ก็ผมยังไม่ได้มีอะไรที่ต้องทำนี่ครับ ก็มีแต่เตรียมเอกสารหลายๆอย่างให้พร้อมเท่านั้นเอง ส่วนปวีณ ตอนนี้ก็กำลังเก็บผลเลือดและคราบอสุจิจากจากห้องพักไปยังแลปเพื่อตรวจสอบ Dna ว่าเป็นของใคร ของหมวดมนตรี หรือบุคคลอื่น แค่ตอนนี้ผมก็ทำได้เพียงแค่รอหมอตั้มลงเวรทำเท่านั้นล่ะ
“หมวดชัชคะ มาถึงเร็วจังเลยนะคะ” เสียงที่ผมคุ้นเคย หมอแพรว
“ครับ”
“หมวดเก่งจังเลยนะคะ ที่สามารถพาหมอตั้มไปไหนต่อไหนได้อย่างไม่มีปัญหา ไม่…โดน…ปฏิเสธ”
“ครับ” เธอกำลังจะทำอะไร เธอต้องการอะไรจากผม
“หรือว่า หมวดชัชคิดอะไรนอกเหนือจากงานกับหมอตั้ม
หรือเปล่าคะ เพราะเดี๋ยวนี้…เรื่องแบบนี้…มันกำลังอิน...เลยนะคะ”
“……….”ผมไม่อยากตอบโต้อะไร ไม่แม้กระทั่งอยากจะมองหน้า ผมเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่งก็จริง แต่ผมก็ไม่เคยให้ใครมาปรามาสผมได้มากถึงขนาดนี้
“คุณชัชก็ดูเพรียบพร้อมขนาดนี้ คงมีสาวๆมาขายขนมจีบเยอะเลยสินะค่ะ ยังไงก็หัดทานในสิ่งที่พวกเธอมาขายให้บ้างก็ดีนะคะ อย่าริไปทานอะไรที่มันผิดๆเลยค่ะ เดี๋ยวมันจะแสลงเอา”
“ครับ….ขอบคุณมากนะครับที่เป็นห่วง…ผมขอตัว” คำพูดเย็นชาของผมคงไม่สามารถทำร้ายเธอได้หรอกครับ การปลีกตัวออกมาจากสถานการณ์แบบนี้คงจะดีที่สุดแล้วสำหรับผม ผมไม่อยากได้ยินหรือรับรู้อะไรในสิ่งที่เธอคนนี้พยายามที่จะทำ ผมจังตัดสินใจเลยไปยังห้องทำงานของหมอตั้ม เพราะที่นั้นอาจเป็นที่เดียวที่ผมจะไม่ต้องพบเห็นเธอคนนั้นอีก
ก๊อกๆๆๆ
“เชิญครับ”เสียงตอบรับที่ดังมาจากภายใน ผมก็ไม่รอช้าที่จะเปิดเข้าไป
“มาถึงแล้วหรอ…งั้น…เชิญคุณนั่งก่อนนะ เดี๋ยวผมขอทำต่ออีกแปปนึง…ไม่นาน”ผมก็ไม่ได้พูดตอบอะไรก่อนที่จะไปนั่งตรงโซฟาที่อยู่ตรงข้ามกับโต๊ะทำงานของเขา แต่แล้วเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง แล้วก็ยังเป็นเธอคนเดิม หมอแพรว
“ตั้ม แพรวมีเรื่องอยากถามหน่อย คือตอนนี้แพรวอยากได้ยา Cephalosporin 500mg แบบฉีด แต่ตอนนี้ในคลังหมด ตั้มมีสำรองบ้างมั้ย”
“ตั้มจะมียาสำรองได้ยังไงล่ะแพรว แล้วอีกอย่างมันไม่น่าจะหมดนะ แพรวลองไปดูอีกที”
“ตั้มไปช่วยแพรวหาหน่อยสิ ก็แพรวหาไม่เจอจริงๆ”
“ตั้มยังติดงานอยู่เลย แล้วตอนนี้คุณชัชก็มารอตั้มแล้ว ตั้มอยากรีบเคลียงานให้เสร็จ
“แต่แพรวจำเป็นต้องใช้จริงๆนี่ นะตั้มนะ ช่วยแพรวหน่อย” เธอพยายามที่จะชักชวนหมอตั้มให้ไปกับเธอให้ได้
“ แพรว ตั้มว่าไปถามเจ้าหน้าที่คลังยาดีกว่า เขาคงรู้ดีกว่าตั้ม”เขาตอบโดยไม่เงยหน้าไปมองเธอเลย หลังจากที่เสียงหมอแพรวเงียบไป ผมก็คิดว่าเธอจะยอมถอยทัพแต่ปล่าวเลย เธอกลับยืนอยู่ตรงนั้น แบบนั้น โดยไม่พูดอะไร
“ผมว่าคุณไปช่วยคุณหมอแพรวหายาก่อนก็ได้นะครับ ผมรอได้”ผมพูดไปถือว่าตัดปัญหา แต่หมอตั้มกลับนั่งเฉย ก่อนที่จะยกหูโทรศัพท์เพื่อต่อสาย
“พี่วุธนะครับ ยา Cephalosporin 500 mg แบบฉีดน่ะครับ ที่คลังยังพอมีเหลืออยู่บ้างมั้ยครับ……ครับเดี๋ยวยังไงหมอแพรวจะเป็นคนไปรับยาด้วยตัวเอง ผมฝากพี่วุธด้วยนะครับ” หลังจากวางสายหมอตั้มก็ได้แต่มองหน้าหมอแพรวแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ก่อนที่จะผายมือเป็นสัญลักษณ์เพื่อบอกกับหมอแพรวเป็นนัยๆ
“ให้คนอื่นเขารอมันไม่ดีหรอกนะแพรว” การเย็นชาที่ผมพึ่งเคยเห็นจากหมอตั้ม ทำไม damage มันดูรุนแรงมากเหลือเกิน แต่ ณ เวลานั้น หมอแพรวก็ได้แค่ทำตาม ในแบบที่ดูไม่เต็มใจ
“ต้องขอโทษด้วยนะคุณชัช ที่ต้องมาเห็นอะไรแบบนี้” เขาบอกกับผมหลังจากหมอแพรวเดินออกไป ผมก็ได้แต่ยิ้มให้กับเขา หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้ไม่นานหมอตั้มก็ได้เคลียร์งานเอกสารที่วางกองอยู่บนโต๊ะจนเสร็จเรียบร้อย จากที่ผมเห็นเป็นหมอก็ลำบากใช่ย่อย ไหนจะต้องรักษา ดูแล แถมยังต้องตามติดอาการ ตวรวจวินิจฉัย แถมงานเอกสารที่ผมเห็นแล้วเหนื่อยแทนเลย
“แต่ว่าผมไม่มีเสื้อผ้ามาเลยน่ะคุณชัช แวะกลับไปเอาก่อนได้มั้ยอ่ะ”
“ผมมีมา 2 ชุด ใส่กับผมก่อนก็ได้”
“ไอ้ชุดนอกมันไม่เท่าไหร่ แล้วชั้นในล่ะคุณ…ผมจะไปใส่ของคุณได้ยังไงกัน” มันก็จริงของเขา
“งั้นเดี๋ยวผมแวะห้างข้างหน้านี่ก่อนก็ได้ คงไม่ได้ใช้เวลามาก”หมอตั้มก็ดูไม่ได้ติดขัดอะไร ผมกับหมอตั้มเดินออกไปด้านนอก ก็พบกับหมอแพรวที่ยืนอยู่ตรงหน้า ward มองมาที่ผมกับหมอตั้ม แต่ดูรายนี้ไม่ได้สนใตอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยิ่งสำหรับผมแล้ว ยิ่งแล้วใหญ่เลย
“ดา พรุ่งนี้ผมไม่ได้มาเข้าเวรนะ ยังไงฝากเคสคนไข้ด้วย เดี๋ยวหมอแทนจะมาดูแทนให้ คุณก็เอา Chart ที่ผมเตรียมเอาไว้ ใส่ข้อมูลต่อได้เลย ผมฝากด้วยนะ”คำพูดทิ้งท้ายก่อนที่เขาจะเดินออกไปโดยไม่ได้ร่ำลา คนที่ยืนอยู่ตรงข้างหน้าอีกคน
หลังจากที่เราทั้งคู่ออกเดินทาง ระยะทางจากโรงพยาบาลไปห้างสรรพสินค้าจริงๆก็ไม่ได้ไกลกันมากเท่าไหร่ แต่การจราจรกลับทำให้ระยะทางที่ใกล้ๆกลับไกลเหมือนเป็นร้อยกิโลฯได้เลย
“ขอโทษนะที่ทำให้เสียเวลาหลายรอบเลย” ทำไมต้องทำหน้าสำนึกผิดแบบนั้นด้วย ผมไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย
“ขอโทษทำไมคุณ เรื่องแค่นี้ แล้วผมก็ไม่ได้รีบขนาดนั้น”
“ก็กลัวทำให้คุณเสียงานไง”
“ไม่หรอก…มีคุณไปช่วยจะเสียงานได้ยังไง”
หลังจากฝ่ารถติดมาได้ การเดินซื้อเสื้อผ้าก็คงไม่ใช่อุปสรรคอะไร แต่ที่กำลังเป็นอุปสรรคในตอนนี้คือการวนหาที่จอดรถ ซึ่งมันยากยิ่งกว่าการสืบคดีซะอีก ผมใช้เวลาวนหาอยู่เกือบประมาณ 20 นาที กว่าจะได้ที่จอดรถ หรือว่าผมคิดผิดที่มาซื้อใหม่แทนที่จะกลับไปเอาที่คอนโด พลาดไปซะแล้ว แต่หมอตั้มก็ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่ามาก เลือกซื้อพร้อมจ่ายเงินภายในเวลาไม่เกิน 10 นาที Shop Ck ได้เงินหมอตั้มไปไม่ใช่น้อยเลย
“ทำไมกางเกงชั้นในของคุณมันหลายถุงจัง คุณซื้อเยอะขนาดนั้นเลยหรอ”
“ปล่าว กางเกงชั้นในน่ะถุงเดียว ที่เหลือ Jacket กับ Jeans”แล้วเขาก็ยื่นถุงๆนึงมาให้ผม
“อันนี้ของคุณ jacket สีขาว ผมว่ามันเหมาะกับคุณน่ะ ห้ามปฏิเสธล่ะ”
“ตัวเป็นหมื่นเลยนะคุณ”
“จำนวนเงินมันไม่สำคัญเท่ากับน้ำใจหรือความรู้สึกของคนให้หรอก เงินยังไงมันก็ยังหาใหม่ได้เรื่อยๆ จริงปล่าว?” พูดมาแบบนี้ก็ต้องน้อมรับอย่างปฏิเสธไม่ได้ ผมก็ไม่รู้จะเอาอะไรตอบแทนให้เขาได้บ้าง ในตอนนั้นขณะที่หมอตั้มเดินนำผมเพื่อกลับไปยังรถ ในหัวของผมมันก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า
มันก็มีของที่ผมอยากได้ใหม่เหมือนกัน
“คุณ…” ผมคว้ามือของเขา “ผมขอเวลาอีกสัก 20 นาทีได้หรือเปล่า” เขาก็พยักหน้าเป็นคำตอบให้กับผมแบบเดิมๆ ผมก็เลยเกินไปยัง shop นาฬิการ้านหนึ่ง ที่แม่ของผมชอบซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดทุกปี แต่คราวนี้ผมซื้อเอง เพราะว่านาฬิกาเรือนสุดท้ายที่แม่ผมซื้อให้มันก็ผ่านมา 2 ปีแล้ว แล้วอีกอย่างมันก็สมบุกสมบันมากับผมพอสมควร ถึงเวลาที่ผ่านจะต้องถูกปลดระวาง นอนพักให้สบายบ้างแล้ว
แล้วผมก็เลือกแบบที่ผมต้องการได้ ในระยะเวลาเพียงไม่นาน เป็นรุ่น connected modular 45 แล้วผมก็ตัดสินใจเลือกมาสองสีเพราะผมรู้สึกชอบทั้งรูปแบบและสีสัน
“ซื้อสองเรือนเลยหรอคุณ”
“ใช่ ผมชอบน่ะ บางรุ่นผมก็ซื้อเก็บไว้ไม่เคยใช้เลยก็มี ส่วนใหญ่คุณแม่จะซื่อให้ผมเวลาเห็นรุ่นไหนออกแล้วเป็นแบบที่ผมชอบ”
“แม่คุณคงจะรักคุณมาก”
“ไม่หรอก…ท่านไม่ได้รักผมขนาดนั้นหรอก….เราไปทำหน้าของเรากันต่อเถอะ สนุกกันมามากแล้ว”ผมจึงตัดการสนทนาออกไปดีกว่า เรื่องในครอบครัวมันพูดยากเกินกว่าคนอื่นจะเข้าใจ
หลังจากเดินทางออกจากห้างสรรพสินค้า จากในบันทึกการเดินทางชองหมวดมนตรี ปั้นหยา ชาเลต์ เป็นรีสอร์ทแห่งแรกที่ทั้งคู่เดินทางไป ตั้งอยู่ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ตลอดระยะเวลาการเดินทาง ผมสังเกตุว่าหมอตั้มกำลังนั่งอ่านรายละเอียดผลการชันสูตรของเหยื่อรายหนึ่ง
“มีอะไรหรือเปล่าคุณผมเห็นนั่งอ่านมาตั้งนานแล้ว”
“ก็… กำลังรวบรวมวิธีที่คนร้ายใช้ฆ่าเหยื่อน่ะสิ อยากรู้ว่า ถ้าฆาตกรเป็นผู้หญิง การกระทำทั้งหมดเหล่านี้ เธอคนนั้นจะสามารถทำได้คนเดียวหรือเปล่า หรือว่าต้องมีผู้สมรู้ร่วมคิด แต่จากที่ดูและจับสังเกตุข้อมูลในรายงาน ผมมีความรู้สึกว่า รายละเอียดในการฆาตกรรมน่ะมันดูเป็นขึ้นเป็นตอน แต่ทำไมไม่มีผลชันสูตรเกี่ยวกับยาหรือสารอะไรก็แล้วแต่ที่จะทำให้เหยื่อสลบหรือเรี่ยวแรงลดลง ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งสามารถฆ่าผู้ชายคนนึงได้โดยที่เธอไม่ต้องใช้ยาหรือเครื่องมืออะไรช่วยละก็ คงทำไม่ได้แน่ แค่ลักษณะทางกายภาพระหว่างผู้หญิงกับเหยื่อทั้งหมดมันก็ต่างกันแล้ว”
“แล้วถ้าเธอมีคนสมรู้ร่วมคิดอย่างที่คุณบอกล่ะ”
“ถ้ามี แปลว่าทั้งคู่ต้องได้ผลประโยชน์อะไรจากคนพวกนี้ แต่ดูแล้วพวกเขาไม่น่ามีอะไรดึงดูดได้เลย ถ้ามองเรื่องทรัพย์สินเงินทอง ก็เห็นจะมีเพียงแค่หมวดมนตรีคนเดียวล่ะมั้งที่ดูจะให้อะไรเธอได้มากที่สุด แต่ความรู้สึกผม ผมว่าเธอคนนี้ ลงมือทำเพียงคนเดียว และต้องใช้ยาอะไรสักอย่างแน่นอน ผมจะอธิบายให้ฟังว่าทำไมเธอถึงสามารถกระทำการเพียงคนเดียวได้ ยกตัวอย่างนะ ถ้าเธอมีความรู้ในการใช้ยาหรือศึกษามาดี เธอจะใช้ยาสลบแบบชนิดฉีดได้ เพราะว่า เป็นยาที่นิยมฉีดเข้าเส้นเลือดดำเพราะว่ามันออกฤทธิ์เร็วและควบคุมปริมาณการใช้ยาได้ง่าย
ตัวอย่างนะ อย่าง Barbiturate ก็จะมี Phenobarbital, Thiopental แถมยาในกลุ่มพวกนี้ยังสามารถแบ่งย่อยได้อีกตามระยะเวลาในการออกฤทธิ์ อย่าง Thiopental จะอยู่ในกลุ่ม Ultrashort acting barbiturate เพราะมันออกฤทธิ์เร็วและสั้นมาก ผู้ป่วยหรือบุคคลทั่วไปสามารถหมดสติได้ภายในเวลาเพียง 15 วินาทีเท่านั้น ยากลุ่มนี้เขาถึงนิยมใช้กันเยอะน่ะ
ส่วนอย่างที่ 2 จะเป็นกลุ่ม nonbarbiturate ก็จะมี ketamine, propofol, และกลุ่ม benzodiazepine เช่น diazepam, midazolam ตัวยาที่บอกพวกนี้ก็สามารถใช้ทำให้สลบได้เหมือนกันหรือจะใช้ในระหว่างผ่าตัดก็ได้ แต่ถ้าเธออยู่ดีๆหยิบเข็มไปฉีดให้กับเหยื่อเหล่านั้นโดยไม่มีต้นสายปลายเหตุผมว่ามันก็น่าจะยาก ใครจะให้ฉีดจริงมั้ย ยาอะไรก็ไม่รู้ มันก็เหลือแค่อีกอย่างเดียว คือให้ดมกาซ ยาดมสลบพวกนี้มันอยู่ในสภาพที่พร้อมจะสูดดมได้เลย ก็จะเป็น nitrous oxide เป็นที่นิยมใช้เลยล่ะ นอกจากมีฤทธิ์บรรเทาปวดได้ แถมยังหมดฤทธิ์เร็วอีก แต่ยาพวกนี้ถ้าใช้ผิดวิธี หรือใช้มากเกินไป หรือร่างกายของบุคคลเหล่านั้นยังไม่พร้อมรับยาพวกนี้ละก็ ชีวิตพวกเขาเสี่ยงแน่ๆ”
“ก็คนร้ายต้องการให้พวกเขาตายอยู่แล้ว คงไม่ต้องไปคำนึงว่าจะมากหรือน้อย แล้วอีกอย่างนะครับ ถ้าเป็นอย่างที่คุณว่าจริง ผมว่าคนร้ายคนนี้ อาจจะต้องเป็นแพทย์แบบพวกคุณ เพราะถ้าคนธรรมดาคนนึงต้องการที่จะฆ่าใครแล้วต้องมานั่งศึกษาถึงวิธีการใช้ยา หรือวิธีการใช้อาวุธ ผมว่ามันคงจะไม่ทันใจพวกเขาซักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นบุคคลในสายงานแบบคุณก็ไม่น่ายากที่จะทำอะไรพวกนี้ได้ แถมยาก็ไม่ต้องซื้อ สามารถเบิกได้จากคลังของโรงพยาบาลได้เลย”
“ใช่ แต่เราก็สามารถขอดูรายละเอียดการเบิกจ่ายยาจากโรงพยาบาลได้...แต่ แต่ถ้าคนร้าย ทยอยเบิกออกมาเรื่อยๆเพื่อไม่ให้มีความน่าสงสัยอยู่ในใบแจ้งเบิกละก็ อันนั้นก็คงตามสืบยาก เพราะในแต่ละวัน แต่ละโรงพยาบาลก็ต้องมีการใช้ยานี้แทบจะทุกวันอยู่แล้ว อาจจะยากในการตรวจสอบซักหน่อย”
“เอาเถอะคุณ ยังไงก็ขอบคุณสำหรับข้อมูลพวกนี้ มันทำให้ผมล้อมกรอบเข้ามาได้เยอะเหมือนกันว่าจะตามสืบจากอะไรได้บ้าง ไม่ใช่งมเข็มในหมาสมุทรแบบที่เคยทำกันมา” ถึงแม้ทุกอย่างมันจะเริ่มเข้าสู่ปมมากขึ้นแต่ก็ใช้ว่าทุกอย่างจะง่ายเหมือนอย่างที่คิด แต่ยังโชคดีอยู่อย่างนึง ที่ไม่มีเหยื่อรายใหม่สำหรับฆาตกรรายนี้เกิดขึ้นอีก อาจเพราะการกระจายข่าวของสื่อทั้งตาม ทีวี อินเทอร์เน็ต เลยทำให้คนร้ายอาจจะยังไม่สามารถกระทำได้ราบรื่นนัก แต่ก็วางใจไม่ได้ ผมไม่รู้เลยว่า ตอนนี้เราก้าวนำคนร้าย หรือคนร้ายก้าวนำพวกเราอยู่
ผมเดินทางมาถึงปั้นหยา ชาเล่ต์ในเวลา 14.52 น ใช้เวลาขับรถโดยประมาณ 2 ชม.31 น. ตามเวลาใน จีพีเอส ผมก็ไม่รอช้า ที่จะลงไปปฏิบัติภารกิจอย่างที่ได้ทำไปเมื่อวาน แต่การดำเนินเรื่องในคราวนี้ออกจะไวหน่อยเพราะผมได้โทรมาแจ้งกับทางรีสอร์ททั้งสองที่ พอมาถึงเลยมีการเตรียมพร้อมในข้อมูลที่ผมได้ขอเอาไว้ ผมก็เพียงแค่ยื่นหมายค้นไปให้ผู้จัดการดูเพื่อเป็นเครื่องยืนยันในการเข้าตรวจค้นอย่างถูกต้อง แต่ผลจากกล้องวงจรปิดนั้น ไม่ได้ให้ข้อมูลใดเพิ่มเติมจากสิ่งที่เรามีอยู่แล้วเท่าไหร่ เรายังคงเห็นเพียงแต่หน้าของหมวดมนตรีเหมือนเดิม การปลอมตัวปิดบังใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น และจากการสอบถามพนักงานที่ทำงานในวันนั้นก็ไม่มีใครที่พอจะจำรูปพรรณของเธอได้สักคน เราจึงขอไปเดินดูรอบๆบริเวณบ้านพักที่ทั้งคู่ได้เข้าพักในคืนนั้น ก่อนที่จะขอตัวกลับออกมา ก่อนที่เราจะเดินทางไปยังอีกหนึ่งรีสอร์ท ที่อยู่ห่างจากกันไม่มาก ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 15 นาที ก็มาถึงยัง วิลล่า ทัสคานี คันทรี รีสอร์ท เราดำเนินการไม่ต่างจากเดิม และผลที่ได้ก็ไม่ต่างจากที่เเรกสักเท่าไหร่ เพราะหลังจากทั้งคู่เข้า ก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ มีการเดินทางออกไปเที่ยว กลับเข้ามา เหมือนกับการมาท่องเที่ยวทั่วไป และเราก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่าทั้งสองคนไปเที่ยวที่ไหนกันมาบ้างในวันนั้นๆ เลยทำให้การทำงานในวันนี้ เสร็จเร็วกว่าที่คาดเอาไว้มาก และแทบไม่ได้อะไรจากการที่มาสืบค้นเลยแม้แต่นิดเดียว มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่ามันเป็นการวางแผนที่ผิดพลาดของผม“ไม่เป็นไรหรอก มาแล้วไม่ได้อะไร ดีกว่าไม่มาแล้วมีอะไรนะคุณ ยังไงเราก็ได้เห็นภาพในกล้องวงจรปิดแล้วว่าเขาทั้งสองคนมาที่นี่จริงๆ”เขาพยายามพูดให้ผมหายเครียด แต่ผมก็ไม่ได้เครียดอะไรมากขนาดนั้นแค่รู้สึกแย่กับผลที่ได้รับมากกว่าเท่านั้น
“ผมไม่เป็นไร...แล้ว...งานวันนี้ก็เสร็จแล้ว งั้นเดี๋ยวเรากลับกันเลยแล้วกัน”
“เดี๋ยวก่อนสิคุณ...ทำไมรีบกลับอย่างนั้นล่ะ ผมลางานมา
ทั้งที” เขารีบแย้งขึ้น และมันก็จริงอย่างที่เขาพูด
“แล้วคุณอยากไปไหนล่ะตอนนี้ในหัวผมมันว่างเปล่าไปหมด”
“คุณคิดว่าระหว่างเที่ยวต่อแล้วหาที่พักที่นี่ กับการไปเที่ยวทะเลที่ไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่ คุณอยากไปที่ไหน”
“คุณอยากไปที่ไหน…ผมก็ไปกับคุณนั้นล่ะ”
“งั้นผมขอเลือกไปทะเลนะ เอาแค่พัทยาแล้วกัน เดี๋ยวผมขอดู gps ก่อน………..ตอนนี้ 4โมงเย็น ระยะทางประมาณ 300 kmไปถึงที่นั้นก็ประมาณ 2 ทุ่ม งั้นไปที่นั้นน่ะ แล้วเราก็มาสลับที่กัน เดี๋ยวผมขับให้เอง”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมขับเอง แค่นี้สบายๆ”
“แต่คุณขับรถมาที่นี่ก็เหนื่อยแล้วนะ แถมยังต้องขับไปพัทยาเพราะความต้องการของผมอีก”
“แล้วคุณมีความสุขมั้ยล่ะที่จะได้ไป”
“มีสิคุณ ถึงจะแค่พัทยาก็เถอะ ก็ผมชอบทะเลนี่นา”
“ถ้ามีความสุข คุณก็นั่งอยู่ที่เดิมนั้นละ เพราะผมอยากเป็นคนที่ทำให้คุณมีความสุขเหมือนกัน” การอยู่กับเขาสองคนแล้วพูดอะไรแบบนี้ออกไป มันจะทำให้เขารู้สึกอะไรแย่ๆหรือเปล่านะ แต่แค่รอยยิ้มที่เขายิ้มออกมา ถึงแม้จะไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร มันก็ทำให้ผมมีความสุขเหมือนกัน