บ่วงคล้องรัก (คุณโปรด-แสนดี) ตอนที่ 8"ชีวิตใหม่ใหม่" 15/11/2563
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บ่วงคล้องรัก (คุณโปรด-แสนดี) ตอนที่ 8"ชีวิตใหม่ใหม่" 15/11/2563  (อ่าน 11078 ครั้ง)

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
" ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

___________________________________________________________________________________________




แสนดีเป็นเด็กวัดที่เหมือนพระอาทิตย์ดวงน้อยคอยสาดแสงแห่งชีวิตชีวาไปทั่วทั้งวัดป่า


"ถ้าแสนดีเป็นพระอาทิตย์ งั้นคุณโปรดจะเป็นดอกทานตะวันดีมั้ยครับ ทานตะวันที่มองหาแต่แสนดีคนเดียว"


ความผูกพันก็เหมือนบ่วงที่คล้องหัวใจรักสองดวงเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะต่างเชื้อชาติ ต่างฐานะ ต่างวัย  รักจะเชื่อมเราสองเข้าด้วยกัน...เป็นดัง"บ่วงคล้องรัก"



คำเตือน ห้ามิให้ผู้ใดดัดแปลง หรือลอกเลียน นิยายเรื่องนี้เป็นมอบเป็นลิขสิทธิ์ของ สนพ. Hermit Books แต่เพียงผู้เดียวนะคะ

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-11-2020 18:21:48 โดย thanatcha »

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
Re: บ่วงคล้องรัก (คุณโปรด-แสนดี)
«ตอบ #1 เมื่อ31-05-2019 14:39:42 »





"ต้นกำเนิดของแสนดี"



            เสียงไก่ขันรับกับเสียงย่ำกลองและระฆังยามรุ่งสางดังเหง่งหง่างท่ามกลางความมืดที่อีกไม่ช้าแสงสว่างแรกของวันก็จะค่อยๆสาดแสง ตามกุฏิเริ่มเคลื่อนไหวบ้างก็เปิดประตูออกมาในสภาพครองจีวรเรียบร้อยแล้ว บางรูปก็นั่งสูบบุหรี่รอเวลาที่จะออกไปบิณฑบาตรในยามเช้า เช่นเดียวกับหลวงตาแช่ม ปีนี้ภิกษุชราอายุ 72 ปีแล้ว หากแต่ยังคงแข็งแรงเดินออกไปบิณฑบาตรกับพระหนุ่มๆไหว หลวงตาแช่มร้องเรียกลูกศิษย์วัดที่หลายคนแสนเกียจคร้านยังไม่ยอมตื่น บางคนเก็บที่นอนหมอนมุ้งเดินกระเซอะกระเซิงเมาขี้ตามาล้างหน้าแปรงฟันเพื่อเตรียมออกไปพร้อมพระหลายรูป ไม่นานพอแสงตะวันขึ้นจนเห็นเงาเหล่าภิกษุที่ครองจีวรต่างก็เดินหน้าเพื่อออกไปทำกิจของสงฆ์ วันนี้หลวงตาแช่มมีเพียงไอ้วันเด็กชายวัยเก้าขวบเดินตาม พระใหม่เกิดป่วยจนต้องพาไปโรงพยาบาลเมื่อคืน อากาศยามเช้าสดชื่นจนหลวงตาอดไม่ได้ที่จะสูดอากาศเข้าเสียเต็มปอด พื้นหญ้าลื่นหากเดินไม่ระวังอาจจะล้ม หลวงตาเดินย่ำด้วยเท้าเปล่าแวะเข้าบ้านนู้นออกบ้านนี้ตามเสียงร้องเรียกนิมนต์ไปตลอดทาง ไอ้วันคอยเก็บกับข้าวเข้าถุงย้ามที่สะพายไว้ ตามบ้านนอกนี้ไม่ได้พลุกพล่านนัก วัดที่หลวงตาจำวัดอยู่ก็เป็นเพียงวัดป่าเล็กๆที่เงียบสงบ หลังจากเดินรับบาตรจนเกือบ 7 โมงครึ่งก็สิ้นสุดเขตที่หลวงตาแช่มใช้เดินประจำ ท่านวนรอบเป็นวงกลมเพื่อกลับวัด ไอ้วันเดินขาแทบลากอีกไม่ไกลก็จะถึงวัดหากแต่มีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้หลวงตาต้องชะงักฝีเท้าลง

 

ภาพเบื้องหน้าคือห่อผ้าที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายใบใหญ่สำหรับเดินทาง แวบแรกหลวงตาแช่มคิดว่าคงมีใครเอาลูกหมามาปล่อยใกล้เขตวัดอีกแล้ว

 

หากแต่เสียงร้องที่ดังออกมาจากกระเป๋านั้นทำให้หลวงตารู้ทันทีว่านั่นคือเสียงร้องของทารก

 

           "หลวงตา...ในกระเป๋ามีเด็ก”ไอ้วันที่วิ่งแนบไปดูก่อนด้วยความอยากรู้ร้องบอกอย่างตื่นเต้น หลวงตาย่อตัวลง วางบาตรไว้ข้างตัว ทารกผิวขาวบัดนี้ร้องไห้จ้าตามร่างกายมีมดและยุงกัดจนเป็นจุดแดงทั่วตัว หลวงตาแช่มช้อนมืออุ้มเจ้าทารกน้อยขึ้นมาอย่างเบามือ ปัดมดคันไฟตัวเล็กที่กัดผิวเนื้ออ่อนออกให้ด้วยความปราณี เปิดผ้าดูว่าเด็กคนนี้เป้นเด็กหญิงหรือเด็กชาย ผ้าอ้อมที่ห่อช่วงล่างเปียกชุ่มไปด้วยปัสสาวะแถมส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งเพราะเจ้าตัวน้อยอึผสมปนเปกันไปหมดจนไอ้วันเบ้หน้า

 

            “หลวงตา ไอ้เด็กนี่เหม็นมาก”มันกรีดกรายใช้นิ้วบีบปีกจมูกตัวเองอย่างรังเกียจ หากแต่หลวงตาชรากลับไม่ได้สนใจนัก ลูบเรือนผมสีบลอนด์นุ่มหนาของไอ้ตัวเล็ก กล่าวทักทายกับมันราวกับว่าทารกน้อยนั้นจะพูดรู้เรื่อง

 

            “เป็นใครกันล่ะไอ้หนูเอ้ย ทำไมแม่เขาเอามาทิ้งไว้อย่างนี้”

 

            “ลูกฝรั่งหรือเปล่า หัวเหลืองเชียวครับหลวงตา”ไอ้วันยื่นหน้ามาดู ด้วยรูปลักษณ์เนื้อตัวขาวอมชมพูที่บัดนี้แดงก่ำ ริมฝีปากบางที่แหกปากร้องจนตัวสั่น เรือนผมสีบลอนด์ที่ฟ้องอยู่บนหัวก็บอกได้ว่าเจ้าเด็กนี่น่าจะเป็นลูกครึ่ง แล้วตามบ้านนอกอย่างนี้หลวงตาไม่เคยเห็นว่าจะมีเมียฝรั่งซักคน  เจ้าเด็กนี่อาจจะเป็นลูกของผู้หญิงที่เคยทิ้งบ้านเข้าไปทำงานที่ในเมืองใหญ่ อาจจะเป็นงานที่ไม่สะอาดนักพ่อของเด็กอาจจะเป็นใครก็ไม่รู้ที่แม่เด็กพลั้งเผลอลืมป้องกันจนเกิดมารหัวขนที่ตนไม่ต้องการ

 

หลวงตาไม่ได้อยากสืบว่าเด็กทารกในอ้อมแขนจะเป็นลูกใคร ในเมื่อแม่เขาทิ้งหมาแมวจรพระยังเมตตาให้ข้าวให้น้ำเลี้ยงดู นี่เด็กทั้งคนทำไมเขาจะเลี้ยงไม่ได้

 

            “ไอ้วัน สะพายบาตรข้ามา ข้าจะอุ้มเจ้าคนนี้กลับวัด”

 

เช้าวันนั้นในวันที่น้ำค้างลงจนเต็มผืนนา หลวงตาแช่มได้ต่อชีวิตให้กับทารกน้อยคนหนึ่ง

 

เมื่อถึงวัดบรรดาพระต่างมาให้ความสนใจเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องไห้จ้า บ้างก็มาสอบถามว่าไปเก็บมาจากที่ไหน หลวงตาไม่ได้สนใจตอบนัก ตอนนี้เด็กคนนี้ต้องการนมและการทำความสะอาด

 

            “ไอ้วันไปตามสะอาดมาบอกว่าให้เอาน้ำข้าวติดมือมาซักถ้วยข้าจะป้อนไอ้หนูมัน”หลวงตาวางทารกน้อยไว้บนอาสนะจากนั้นก็หิ้วกระติกน้ำร้อนที่เสียบไว้กินกาแฟออกมาเทน้ำร้อนใส่กะละมังที่เอาไว้ซักจีวรแล้วตักน้ำเย็นในโอ่งใส่ลงไปผสม สิ่งแรกที่หลวงตาแช่มทำคือล้างคราบสกปรกของอุจาระและปัสสาวะเจ้าตัวน้อยออกจนเกลี้ยง พอร่างกายโดนน้ำจากที่ร้องอยู่แล้วเจ้าตัวเล็กยิ่งร้องดังเข้าไปใหญ่ เสียงกรีดร้องราวกับโมโหที่หลวงตาเอามันโดนน้ำดังลั่นไปยั้นท้ายวัด ยายสะอาดแม่ครัวที่มาช่วยงานในวัดเดินอุ้ยอ้ายมาพร้อมกับชามที่ใส่น้ำข้าว

 

            “อะไรกันเจ้าคะหลวงตา ลูกเต้าเหล่าใครไปเอามาจากไหน”หล่อนร้องถามแข่งกับเสียงร้อง

 

            “อย่าเพิ่งถามเลยโยมมาช่วยหลวงตาก่อน ฤทธิ์มันเยอะเหลือเกิน”หลวงตาเอาทารกน้อยวางลงตามเดิมแล้วถอยออกไปห่างสะอาด หญิงร่างท้วมร้องโอ๋เจ้าตัวน้องพลางจัดการอาบน้ำให้อย่างคล่องแคล่วเพราะแกมีหลานหลายคน

 

            “น่าสงสาร มดกัดแดงไปหมด สงสัยจะดอดเอามาทิ้งตั้งแต่เมื่อคืน สายสะดือยังไม่แห้งดีเลยน่าจะเพิ่งคลอดได้ไม่กี่วัน”แกว่าตอนที่เอาแป้งทาให้ ไม่รู้จะด้วยบุญหรือบาป อย่างน้อยคนเป็นแม่ก็ทิ้งเสื้อผ้าเด็กอ่อน ผ้าอ้อมกับผ้าอ้อมสำเร็จรูปไว้ให้ สะอาดใช้ช้อนชาตักน้ำข้าวป้อนเจ้าตัวน้อยที่ตอนแรกบ้วนทิ้งจนต้องคอยใช้ปลายช้อนปาดกลับ เมื่อเริ่มรู้รสและความหิวคงเข้าเล่นงานในที่สุดเจ้าตัวเล็กก็ยอมกินแม้จะต้องป้อนกันอย่างทุลักทุเลก็ตามที หลวงตาผลุบหายเข้าไปในกุฏิก่อนจะออกมาพร้อมกับเงินจำนวนหนึ่ง

 

            “เป็นธุระให้ที ไปซื้อของใช้เด็กกับนมผงมาให้หน่อย”

 

            “หลวงตาจะเลี้ยงไว้เองเหรอเจ้าคะ ทำไมไม่ประกาศหาแม่ล่ะ”

 

            “ถ้าแม่เขาเอาจะมาอยู่ตรงนี้เหรอ ป่านนี้แม่เด็กอาจจะออกนอกหมู่บ้านไปแล้ว ถือว่าเลี้ยงไว้เอาบุญแม่สะอาดเป็นธุระให้อาตมาได้มั้ย?”

 

            “ได้เจ้าค่ะ ว่าแต่หลวงตาจะให้ชื่อว่าอะไรเจ้าคะได้ตั้งให้หรือยัง”หล่อนปล่อยมือที่ตบหลังจ้อยร่อยนั้นออก เจ้าตัวเล็กเริ่มเบะปากเตรียมจะร้องไห้อีกหนเมื่อความอบอุ่นหายไป

 

            “ชื่อเล่นชื่อไอ้แสนดีก็แล้วกัน ไม่ซนไม่ดื้อดีมั้ย?”เจ้าตัวน้อยบิดตัวไปมายกหมัดขึ้นมาดูด จากที่ทำท่าจะร้องก็เงียบไปเสียอย่างนั้น นอนให้หลวงตาเอาแซมบั๊คทาให้นิ่งไม่ร้องแงงอหนวกหูเหมือนเมื่อครู่อีก

 

            “สงสัยจะชอบชื่อนี้มั้งเจ้าคะหลวงตา แสนดีก็ดีเหมือนกันเรียกง่ายดี”

 

นับจากนั้นเด็กชายแสนดีหรือชื่อจริงที่หลวงตาตั้งให้ว่าเด็กชายรวีกานต์ก็กลายเป็นสมาชิกคนใหม่ของวัดป่าแห่งนี้เป็นต้นมาโดยในใบแจ้งเกิดมียายสะอาดและนายมาโนชคนขับรถของวันเป็นพ่อและแม่

 

ชีวิตของแสนดีจึงได้เริ่มตั้งแต่นั้นมา







................................................



ของเก่ายังไม่จบก็ยังด้านหน้าเปิดเรื่องใหม่ คิกค้ากกกกกกกกกกก



พยายามให้ฟีลกู้ดมาดูกันว่าจะทำได้จริงมั้ย


ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
Re: บ่วงคล้องรัก (คุณโปรด-แสนดี)
«ตอบ #2 เมื่อ31-05-2019 15:28:33 »


บ่วงคล้องรัก ตอนที่ 1


เรื่องราวของเด็กชายแสนดี



 เสียงไก่ขันแข่งกับเสียงย่ำกลองจากวัดป่า ยามเช้าอากาศเย็น ลมพัดมาจากชายเขาโฉบเอากลิ่นฝนผสมกลิ่นดินและกลิ่นหญ้ามาให้ได้รู้สึกชุ่มฉ่ำ บรรดาเด็กวัดต่างออกมายืนรออย่างเกียจคร้าน

 

อากาศดีแบบนี้ไม่ว่าใครก็อยากขดกายอยู่ใต้ผ้าห่ม บรรดาหมาจรและหมาที่เคยมีบ้านแต่ถูกนำมาปล่อยวัดกระดิกหางจนเอวแทบหลุดเมื่อเห็นหลวงตาแช่มออกมาจากกุฎิ  หลวงตาอุ้มเจ้าเด็กตัวขาวจ้ำม่ำหน้าตาน่าเอ็นดูที่ยังคงหลับพริ้มดูดนิ้วโป้งตัวเองอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวออกมาด้วย แสนดีในวัย 1 ขวบ เติบโตมาจากการช่วยกันเลี้ยงดูของหลวงตาแช่มและบ้านยายสะอาดแม่ครัวที่อยู่ท้ายวัด วันไหนหลวงตามีกิจนิมนต์ยายสะอาดก็จะอุ้มเอาแสนดีไปเลี้ยงให้ที่บ้านพอเช้าหลวงตากลับจากบิณฑบาตรก็จะอุ้มมาคืนให้ หลวงตาชราเฝ้าป้อนข้าวป้อนนมเด็กน้อยลูกครึ่งที่มีดวงตาสีฟ้าใสอย่างรักใคร่ ท่านไม่มีลูกไม่มีหลานแสนดีจึงเป็นหลานคนแรกที่หลวงตาได้เลี้ยงดู เด็กน้อยเลี้ยงง่ายไม่งอแง จะมีร้องไห้โยเยก็ต่อเมื่อตื่นขึ้นมาหาหลวงตาไม่เจอ แสนดีโชคดีที่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่มากราบหลวงตาเมื่อเห็นว่าหลวงตาเก็บเด็กน้อยมาเลี้ยงก็ซื้อเสื้อผ้ามาฝาก แต่ส่วนมากหลวงตาจะให้เงินยายสะอาดไปซื้อเสื้อผ้าเด็กตามตลาดนัด แสนดีตอนนี้คลานและเดินได้ก็เริ่มซนจนหลวงตาต้องใช้จีรรเก่าผูกข้อเท้าเล็กให้ยาวได้ไม่ถึงบันไดกุฎิ แสนดีน้อยคลานและเล่นไปรอบๆเสาส่งเสียงอ้อแอ้ บ้างก็ร้องให้หลวงตาอุ้ม เป็นความรักความผูกพันที่คนสองวัยต่างสายเลือดมีให้แก่กัน บรรดาเด็กวัดที่ยังไม่เป็นหนุ่มมีบ้างที่มานั่งเล่นหรือช่วยเลี้ยง แม้จะมีเจตนาแอบแฝงมาเล่นเพราะจะได้ขอแบ่งขนมจากแสนดีกินหลวงตาแช่มหก็ไม่ได้ว่าอะไร

 

            “ยิ่งโตยิ่งน่าเอ็นดูนะคะหลวงตา”ครูบัวที่มาถวายนมผงให้แสนดีเอ่ยชม หล่อนไม่มีลูกเมื่อแรกเห็นแสนดีที่นั่งเล่นใกล้ๆหลวงตาแช่มตอนงานออกพรรษาหล่อนก็นึกเอ็นดูเจ้าเด็กลูกครึ่งไร้พ่อแม่

 

            “ลูกฝรั่งก็น่าเอ็นดูแบบนี้แหละโยม”หลวงตายกน้ำชาขึ้นฉันสายตาร่วงโรยตามวัยมองก้อนกลมๆขาวๆที่กำลังยัดขนมชิ้นใหญ่เข้าปากอย่างเอ็นดู

 

            “ถ้าเกิดมีใครมาขอรับไปเลี้ยงหลวงพ่อจะยกให้มั้ยคะ?”หล่อนอลงเอ่ยปากถาม หลวงพ่อทอดสายตามองแสนดี

 

            “ถ้าหากอาตมาเจอคนที่รักและเอ็นดูสามารถดูแลมันได้จนกว่ามันจะยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเองอาตมาก็จะให้เขาไป แสนดีมันยังต้องโตอีกมากอาตมาดูแลมันจนถึงวันที่มันจะเข้มแข็งไม่ไหวหรอก”

 

 

            “แล้วถ้าดิฉันจะขอแสนดีไปเลี้ยงล่ะคะ หลวงพ่อจะให้มั้ย?”ครูบัวออกปากถามอย่างมีความหวัง หลวงพ่อส่งยิ้มด้วยความเมตตาให้

 

            “รออีกซัก 3-4 ปีเถอะครู ถึงวันนั้นถ้าครูยังไม่มีลูกหลวงตาจะยกให้”

 

 

3 ปีผ่านไป

 

เสียงเครื่องไฟที่ดังจากวัดดังลั่นไปทั้งคุ้งน้ำและแนวเขา ธงสามเหลี่ยมหลากสีแขวนห้อยตามเสาและกิ่งไม้สูง บรรดาญาติโยมอุบาสกและอุบาสิกาต่างยิ้มแย้มหน้าระรื่นถือขันมาเตรียมฟังพระและตักบาตรเนื่องในวันมหาสงกรานต์ บรรดาเด็กๆที่ตื่นเต้นต่างถือปืนฉีดน้ำหลากสีทำท่าจะฉีดใส่ก่อนดีว่าพวกผู้ใหญ่พากันปรามแล้วพาขึ้นไปบนศาลาการเปรียญเสียก่อน  บนนั้นมีภาพที่น่าเอ็นดูเมื่อบรรดาพระภิกษุและสามเณรต่างสวดมนต์เป็นจังหวะและทำนองนุ่มนวลดุจเสียงเพลง ข้างๆอาสนะของหลวงตาจวบปรากฏเจ้าลูกครึ่งร่างป้อมกำลังนั่งฟังสวดราวกับรู้เรื่องเสียเต็มประตาหากแต่สายตาปรือปรอยใกล้เข้าเฝ้าพระอินทร์เข้าไปทุกที บ่อยครั้งหลวงตาแช่มต้องดันหลังของแสนดีให้นั่งตัวตรงเด็กน้อยวัยสี่ขวบถึงได้ยืดตัวขึ้นนั่งพนมมือหลังตรงแหนวพลางแหกปากสวดตามพระได้ทุกบทเรียกรอยยิ้มจากผู้พบเห็นได้ไม่ยาก

 

            “แสนดีมันเก่ง จำบทสวดได้ทุกบทเลย”

 

            “แหงสิก็อยู่กับหลวงตาตลอดท่านก็ต้องสอนบ้างแหละ”

 

            “อยากรู้จริงๆว่าใครเป็นแม่แม้ๆของมัน”

 

            หัวเหลืองขนาดนี้คงไม่แคล้วลูกกะหรี่นั่นแหละ พอท้องมีลูกก็รับแขกทำงานทำเงินไม่ได้ก็เอามาทิ้งไว้ให้พระเลี้ยงเหมือนทิ้งหมาทิ้งแมว”

 

            “แกก็ว่าไป ถ้ามันไม่ใช่ลูกกะหรี่ขึ้นมานี่ไม่เท่ากับเราใส่ร้ายเด็กเหรอ”ป้าอีกคนท้วงเมื่อคู่สนทนาคาดเดาไปเองโดยไม่มีเหตุผลรองรับคำพูดลอยๆนั้น

 

            “ร้อยทั้งร้อย ลูกกะหรี่แน่ๆ” หล่อนพูดออกมาอย่างมั่นใจโดยไม่สนใจว่าจะมีใครได้ยิน เด็กหลายคนก้นั่งเล่นอยู่แถวนั้นต่างจดจำประทับไว้ในสมองว่าไอ้แสนดีเป็นลูกของกะหรี่ที่แม่อุ้มมาทิ้งไว้ในพงหญ้าใกล้วัด

 

 

            “เอา เข็นให้มันดีๆ เดินให้มันตรงๆทางสิแสนดี” หลวงตาแช่มมองแสนดีที่เข็นรถเข็นคันเล็กๆเดินตามด้วยช่วงขาสั้นๆมาอย่างขยันขันแข็ง เท้าป้อมๆของเด็กชายวัยห้าขวบเดินตามหลวงตาอย่างไม่ลดละ แสนดีเข็นรถที่พ่อมาโนชต่อให้ตามหลวงตามาบิณฑบาตรทุกเช้า

 

หลวงตาแช่มก้าวเท้าตามดินแข็งๆด้วยจังหวะที่เชื่องช้าลง ท่านไม่สามารถเดินเร็วเหมือนเมื่อก่อนได้อีกแล้ว ด้วยวัยที่ชราภาพเกือบ 80 ปี

 

ในขณะที่แสนดีค่อยๆเติบโต ท่านเองก็ค่อยๆร่วงโรย เดี๋ยวนี้หลวงตาไม่สามรอุ้มเจ้าหนูรวีกานต์ได้อีกต่อไปแล้ว

 

เป็นภาพที่คุ้นตาของคนแถวนี้ไปเสียแล้วที่จะเห็นภิกษุชราอุ้มบาตรสีดำกับเจ้าเด็กฝรั่งที่มีเรือนผมสีบลอนด์ยาวหยักศกมุ่นมวยผมด้วยหนังยางรัดแกงแบบลวกๆเดินเตาะแตะเข็นรถเข็นตามหลวงตาไปตลอดทาง กับข้าวที่เป็นถุงๆถูกหย่อนใส่รถเข็นของแสนดีที่แก้มขาวอมชมพูขึ้นสีเรื่อด้วยออกแรงเข็นและเดินมาเป็นระยะทางไกล แสนดีไม่คยบ่นว่าปวดเมื่อเนื้อตัวหรือแขนขา มีบ้างที่ระหว่างทางเจอะเจออะไรน่าสนใจก็แวะยืนดูแป๊บหนึ่งซึ่งหลวงตาแช่มก็ไม่เคยขัด ยืนรอจนแสนดีหมดความสนใจจึงออกเดินทางกันต่อ บางครั้งยามเห็นดอกไม้ดอกหญ้าเล็กๆสีสวยข้างทางก็นั่งยองๆเก็บขึ้นมาดมเสียที

 

            “ตา ดอกไม้อ๋อม”เจ้าเด็กฝรั่งมันส่งยิ้มโชว์ฟันซี่เล็กๆชมดอกไม้ดอกหญ้าว่าหอมทั้งๆที่บางดอกก็ไม่มีกลิ่น

 

            “เออ หอมก็หอม”หลวงตาหัวเราะเบาๆยามเห็นเจ้าเด็กมันดมแล้วดมอีกจนดอกกระดุมทองแทบจะผลุบเข้าไปในรูจมูก

 

            “ชื่นชมเสร็จแล้วก็ไปกันได้ยัง เดี๋ยวสายจะหิวนะ”หลวงตากวักมือเรียกแสนดีน้อยให้เลิกเล่นกับดอกไม้ดอกหญ้าเสียที เจ้าเด็กเอาดอกไม้ทัดหูเลียนแบบยายสะอาดแล้วเดินกลับมาเข็นรถ เดินตามหลวงตามาเหมือนเดิม ยามผ่านร้านค้าแม่ค้าใจดีก็เปิดนมกล่องเทใส่ขวดนมใบเล็กที่ห้อยคอให้เสียกล่องหนึ่งไว้ให้แสนดีกินแก้หิวระหว่างทาง ชีวิตสองตาหลานดำเนินกันมาตามวิถีเป็นภาพคุ้นตานตามาตั้งแต่แสนดีอายุสี่ขวบจนตอนนี้ห้าขวบแล้ว

 

หลวงตาแช่มคิดว่าปีหน้าแสนดีเข้าเรียนอนุบาลก็คงจะไม่ให้ตามมาแล้ว ตัวหลวงตาเองเดี๋ยวนี้ก็เหนื่อยง่ายอาจจะต้องงดบิณฑบาตรในอีกไม่ช้าไม่นาน

 

สองตาหลานดำเนินชีวิตกันไปจนกระทั่งแสนดีอายุ 7 ขวบ เด็กลูกครึ่งในชุดนักเรียน ป.1 หวีผมเรียบแปล้ปะแป้งหน้าขาว ผมสีบลอนด์ถูกถักเป็นเปียอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

 

แสนดีกลายเป็นเด็กพิเศษกว่าใครเด็กน้อยหน้าตาผิดแปลกจากเพื่อนๆในห้อง

 

แสนดีผิวขาวอมชมพูละเอียดเนียนกว่าเพื่อนในห้อง

 

ดวงตาสีฟ้าของแสนดียามมีความสุกก็สุกสกาวสดใสหากแต่ยามมีความทุกข์ในร้องไห้ก็โศกจนน่าสงสาร

 

เพื่อนผู้ชายในห้องของแสนดีตัดผมทรงนักเรียนเกรียนไปครึ่งค่อนหัวกันทุกคนยกเว้นแสนดีที่มีเรือนผมยาวปลายม้วนเป็นลอน ใช่ว่าหลวงตาไม่เคยตัด ตอนแสนดีได้ขวบหลวงตาเคยโกนหัวให้แสนดีจนเหม่งหากแต่นับจากนั้นจากเด็กเลี้ยงง่ายกลับร้องไห้โยเยและป่วยกระเสาะกระแสะจนน่าสงสาร เมื่อแรกหลวงตาไม่ได้คิดว่าแสนดีตัดผมไม่ได้ พอผมเริ่มยาวหลวงตาก็ตัดให้อีกคราวนี้ให้มาโนชพาไปตัดที่ร้าน และก็ลงเอยเช่นเดิม แสนดีป่วยแล้วป่วยอีกจนต้องเข้าโรงพยาบาลหลังจากนั้นหลวงตาจึงไม่แตะต้องผมยาวสลวยของเจ้าเด็กฝรั่งนี่อีก หลวงตาไปขออนุญาตครูใหญ่ให้แสนดีไว้ผมยาวด้วยเหตุผลที่บอก แม้จะดูเหลือเชื่อแต่เพราะหลวงตาแช่มเป็นที่เคารพของชาวบ้านแสนดีจึงได้อภิสิทธิ์ในข้อนี้แต่ต้องมัดหรือถักเปียให้เรียบร้อย

 

แสนดีเป็นเด็กหัวไว คุณครูสอนอะไรก็เข้าใจ แถมยังเป็นคนโปรดของคุณครูบัวที่เคยคิดจะขอแสนดีมาเป็นลูกบุญธรรมหากแต่สามปีให้หลังคุณครูบัวก็ตั้งท้องลูกของตัวเอง แต่ถึงกระนั้นแม้จะมีลูกเป็นของตัวเองแล้วครูบัวก็ยังเอ็นดูแสนดีมากกว่าใคร มักหยิบยื่นขนมเล็กๆน้อยๆให้ในตอนกลางวันจนเด็กหลายคนอิจฉา

 

แสนดีใช้ชีวิตที่สงบสุขมาตลอด

 

โลกของแสนดีสวยงาม มีแต่กลิ่นของคุณงามความดีโอบล้อมจนกระทั่งพักกลางวันในฤดูร้อนที่เปลวแดดร้อนระอุ แสนดีต่อแถวซื้อขนมที่สหกรณ์จนกระทั่งได้ขนมที่ต้องการ เด็กน้อยเดินกินขนมมุ่งหน้าไปสนามเด็กเล่นที่อยู่ตรงริมรั้วหากแต่เบสกับเพื่อนร่วมห้องที่ตัวใหญ่กว่าแสนดีอรก 2-3 คนจงใจเดินมาชนจนเจ้าเด็กตัวขาวกระเด็นล้มก้นจ้ำเบ้ากับพื้นดินแข็งๆ เด็กคนนั้นกับเพื่อนส่งเสียงหัวเราะเมื่อขนมของแสนดีหล่นจนถูกคนที่เดินมาข้างหลังเหยียบ

 

            “ทำไม เสียดายเหรอ จะเสียดายทำไมเด็กกำพร้าอย่างมึงมีขนมจากก้นบาตรหลวงตากินทุกวันยังไม่พออีกเหรอ”เจ้าเด็กตัวดำเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่เลียนแบบตัวร้ายจากในละครมาเต็มพิกัดก่อนจะหันไปพยักเพยิดกับพวก

 

            “เฮ้ยพวกมึงรู้ป่าว ย่ากูบอกว่าไอ้แสนดีมันไม่มีพ่อไม่มีแม่ แม่มันเอามันมาทิ้งไว้หน้าวัด แม่มันเป็นกะหรี่ ไอ้แสนดีเป็นลูกกะหรี่โว้ย”มันว่าจบก็หัวเราะเสียงดัง แสนดีมองเพื่อนๆที่ล้อคำว่าลูกกะหรี่ดังลั่นด้วยดวงใจที่สับสน

 

ตั้งแต่เกิดมาแสนดีก็รู้ค่าว่าตัวเองมีแม่ชื่อแม่สะอาดมีพ่อชื่อพ่อมาโนชและมีตาชื่อหลวงตาแช่ม

 

แสนดีไม่ได้มีแม่ชื่อกะหรี่ แสนดีไม่ชอบที่เพื่อนๆมาทำหน้าทำตาแลบลิ้นปลิ้นตาล้อเขาแบบนี้ เด็กน้อยเม้มปากพยายามกลั้นน้ำตา

 

ถึงแสนดีจะไม่รู้ว่ากะหรี่คืออะไรแต่แสนดีก็รู้ว่าเพื่อนๆไม่ชอบตน ความน้อยอกน้อยใจตีรื้นออกมาเป็นหยาดน้ำตาหยดใสก่อนจะเปลี่ยนเป็นความคับแค้นใจ แสนดีผุดลุกขึ้นยืน ตัวมันเองรึก็เล็กกว่าเขาด้วยตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ลิ้มรสนมแม่จึงทำให้แกรนกว่าเด็กวัยเดียวกัน

 

แสนดีไม่เคยฆ่าสัตว์เพราะหลวงตาสอนเสมอว่าการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือแม้แต่ไปทำให้พวกเขาเจ็บเป็นบาป

 

แสนดีไม่เคยพูดคำหยาบเพราะหลวงตาพร่ำสอนอยู่เสมอให้พูดจาดีๆ

 

แต่วันนั้นแสนดีวัยเจ็ดขวบลืมคำสั่งสอนของหลวงตาเสียสิ้น หมัดเล็กๆถูกเหวี่ยงเข้าข้างแก้มคร้ามแดดของเบสพร้อมริมฝีปากสีชมพูสวยที่พ่นคำหยาบครั้งแรกในชีวิต

 

            “มึงสิลูกกะหรี่ ไอ้เหี้ย!!”





            แสนดีในวัยเจ็ดขวบเพิ่งจะรู้สึกถึงการกลัวไม่เป็นที่รักก็ในวันนี้ หลวงตาจวบมาที่โรงเรียนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แสนดีนั่งอยู่ในห้องของครูใหญ่ถัดไปคือเบสและเพื่อนๆที่ตะลุมบอนกับแสนดีจนมีสภาพยับเยินมีแผลถลอกกันคนละเล็กละน้อย เจ้าตัวน้อยลูกครึ่งนั้นดูจะหนักสุด ผมที่หลวงตาอุตส่าห์นั่งถักเปียให้แต่เช้ากระเซิงแถมมีเศษขนมเศษใบไม้ติดเป็นหย่อม

 

หลวงตาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ครูบัวเข้ามาไหว้หลวงตาแล้วเชิญไปนั่งที่เก้าอี้

 

            “วันนี้แสนดีทะเลาะวิวาทกับเพื่อนเจ้าค่ะหลวงตา”เหตุการณ์ถูกเล่าจากปากของครูบัว เจ้าลูกครึ่งน้อยนั่งก้มหน้างุด หลวงตาเหลือบตามองเป็นปากสีชมพูงอนราวปากเป็ดเมื่อเบสชิงฟ้องว่าแสนดีพุ่งต่อยมันก่อน

 

ก็เบสด่าเราก่อนนี่นา

เด็กน้อยแอบเถียงในใจ หลังจากฟังความที่เรียกว่าข้างเดียวเพราะแสนดีเอาแต่นั่งเงียบไม่พูดแก้ตัวอะไรออกมาเลย หลวงตาพยักหน้ารับรู้มองเจ้าตัวดีที่นั่งก้มหน้านิ่ง

 

            “อาตมาจะอบรมแสนดีให้มากกว่านี้ แสนดี”ท้ายประโยคหลวงตาหันไปเรียกเจ้าตัวน้อย แสนดีสะดุ้งด้วยกำลังนั่งเหม่อ

 

            “จ๋า”

 

            “ขอโทษเพื่อนเสีย”

 

            “แต่ตาจ๋า”แสนดีร้องท้วงทันทีหากว่าเด็กน้อยก็หน้าสลดลงเมื่อหลวงตามองมานิ่งๆ

 

            “ขอโทษ..”แสนดีเอ่ยขอโทษเบสและเพื่อนอีก 3 คนอย่างไม่เต็มใจนัก ในใจของเด็กน้อยเจ็บปวด

 

แสนดีรู้แค่ว่าตัวเองนั้นไม่ได้ทำอะไรผิดเลยซักนิดแล้วทำไมแสนดีต้องขอโทษคนพวกนั้น

 

ทั้งๆที่ถูกหาเรื่องก่อนแท้ๆ เสียทั้งขนม เสียทั้งน้ำ แล้วยังต้องมาเจ็บตัว ตอนนี้ก็ต้องมาเสียความรู้สึก สุดท้ายคือเสียใจ หลวงตาพาแสนดีกลับมาที่วัด ยายสะอาดที่กวาดลานวัดอยู่อุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นสภาพมอมแมมของแสนดี

 

            “ว้ายตายแล้ว แสนดี ไปฟัดกับหมาที่ไหนมา”ยายสะอาดโยนไม้กวาดทิ้งพุ่งหาเจ้าแสนดีน้อยจับพลิกหน้าพลิกหลังปัดตามเนื้อตัวมอมแมมให้อย่างเป็นห่วง

 

            “หมาหมู่น่ะ”เป็นหลวงตาจวบที่ตอบให้

 

            “พามันไปอาบน้ำอาบท่าเสียเถอะ หัวหูสกปรกดูไม่ได้”หลวงตาบอกแค่นั้นก็ขึ้นกุฏิไป

 

            “หลวงตาโกรธหนู”เจ้าตัวน้อยร้องบอก ดวงตาสีฟ้าใสแจ๋วเคลือบด้วยน้ำตาก่อนจะบะและร้องไห้ในที่สุด

 

            “อ่าว เป่าปี่เสียแล้วเอ็ง ไม่ต้องร้อง เดี๋ยวแม่อาบน้ำให้ แล้วแสนเล่ามาว่าไปตีกับชาวบ้านเขาทำไม”

 

            “พวกนั้นด่าแม่ของแสน...หมายถึงแม่แท้ๆ”แสนดีสูดปากยามที่ยายสะอาดแกะหัวที่พันกันเป็นสังกะตังออกให้

 

            “อูย  เบาๆสิแม่ หนูเจ็บ”

 

            “แล้วเขาว่าอะไรล่ะเอ็งถึงได้โมโหโกรธาซะขนาดไปชกต่อยกับเขา ตัวก็เท่าเมี่ยง”

 

            “พวกนั้นด่าว่าหนูเป็นลูกกะหรี่”ยายสะอาดชะงักมือที่ขัดตามเนื้อตัวขาวอมชมพูของแสนดี ใจของหญิงวัยกลางคนนั้นหวิวอย่างบอกไม่ถูก แสนดีก็อายุเพียงเท่านี้แต่กลับต้องทนอยู่ท่ามกลางคำพูดร้ายโดยไม่ตั้งใจของชาวบ้าน

 

            แล้วเอ็งรู้เรอะว่ามันแปลว่าอะไร”

 

            “หนูไม่รู้หรอกจ้าแม่ แต่มันต้องไม่ดีมากๆแน่ๆ แม่ใครๆก็รัก”

 

            “รักทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้าน่ะเหรอ เขาเอาเอ็งมาทิ้งไว้นะ”

 

            “ไม่รู้สิ หนูรู้แค่หนูต้องรักแม่ถึงแม่จะทิ้งหนู หลวงตาบอกว่าแม่อาจจะมีความจำเป็นแม่อาจจะลำบากจนไม่มีปัญญาเลี้ยงหนูแม่ถึงได้เอาหนูมาวางให้หลวงตาเห็น”แสนดีตอบประสาซื่อ แสนดีไม่รู้หรอกว่าความรักคืออะไรแต่แสนดีรู้แค่ว่าแสนดีจะไม่โกรธไม่เกลียดแม่เหมือนที่หลวงตาคอยสอนอยู่เสมอ

 

            “จะดีจะชั่วเขาก็ใช้ชีวิตเอ็ง หากเขาอยากให้เอ็งตายคงทำแท้งไปแต่แรกแล้ว”

 

            “คิดได้อย่างนั้นก็ดี ยังไงเขาก็แม่ คนกตัญญูน่ะไปอยู่ที่ไหนใครๆก็รัก เอาเถอะเดี๋ยวแม่จะสระผมให้เอ็งเสร็จแล้วก็รีบไปหาหลวงตาป่านนี้คงรอแล้ว”ยายสะอาดจับแสนดีปะแป้งจนขาวพร้อยไปทั้งตัวแถมโปะลงบนหน้าจนแป้งจับกันเป็นก้อนพอแห้งก็ร่อนเป็นแผ่น แสนดีไม่ได้สนใจนักพอยายสะอาดหวีผมให้เสร็จสวมเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นเสร็จก็เดินตัวกลมขึ้นไปบนกุฎิ หลวงตาจวบนั่งอยู่หน้าโต๊ะหมู่บูชาหันมามองมันเล็กน้อย

 

            “เสร็จแล้วเหรอ”

 

            “เสร็จแล้วจ้า”

 

            “มาเอายาไปทาตรงแผลซะมันจะได้ไม่ช้ำไปมากกว่านี้”หลวงตาโยนตลับยาทาแก้ฟกช้ำให้แสนดี เด็กน้อยคลานมาเก็บก่อนจะเดินไปหยิบกระจกที่อยู่ในเก๊ะข้างที่นอนของหลวงตา

 

            “เจ็บมั้ยล่ะ”

 

            “เจ็บจ้า”

 

            “ไปต่อยเขาทำไม”

 

            “ก็หนูโกรธนี่นา”

 

            “แล้วโกรธมันดีหรือเปล่า?”

 

            “ไม่ดีจ้า”

 

            “รู้ว่ามันไม่ดีแล้วทำไมไม่รู้จักระงับโทสะ”หลวงตาถามอย่างเอ็นดู เด็กน้อยวัยเจ็ดขวบกรอกตาไปมาอย่างพยายามหาคำตอบ

 

            “หนูแค่คิดว่าอยากทำให้เขาเจ็บแต่หนูไม่รู้จะด่าอะไรเขาแล้วตอนนั้นหนูโกรธมากรู้ตัวอีกทีก็โดนพวกนั้นรุมแล้ว”

 

            “คราวหลังให้นับหนึ่งถึงสิบ ถ้ายังไม่หายโกรธให้นับไปเรื่อยๆถ้ายังไม่หายอีกก็ออกจากตรงนั้นเสีย เราจะเอาตัวเองไปอยู่ในความโกรธเกลียดทำไม”

 

            “แต่เขาด่าแม่”

 

            “ก็ช่างเขา ใครพูดร้ายคำพูดไม่ดีก็อยู่กับเขามันอาจจะติดอยู่ในใจของเราแต่วันหนึ่งมันจะเจือจางลง หัดไว้ ข่มความโกรธอย่าเอาโมหะเป็นที่ตั้ง ให้อภัยเขาเสีย ใครจะพูดอะไรก็ตามถ้าเราไม่เก็บมาใส่ใจเราก็ไม่หนัก วันนี้ทำเรื่องขาดสติจนถึงขั้นเจ็บเนื้อเจ็บตัวก็มานั่งสมาธิซักชั่วโมงเถอะ”หลวงตาจวบตบลงบนพื้นข้างตัว แสนดีคลานเข้ามานั่งใกล้แล้วนั่งสมาธิตามที่หลวงตาสั่ง เพราะยังเล็กนักการต้องนั่งสมาธินานๆจึงทำให้เมื่อยแสนดีแอบหรี่ตามองหลวงตาแต่ก็ไม่กล้าขยับมากนัก

 

เข็ดแล้วจ้า ต่อไปจะไม่ไปต่อยตีกับใครโดยไม่จำเป็นอีกแล้ว

 

อูย  เหน็บกินขาแสนดีชาจนคันยิบๆไปทั้งขาแล้วจ้าหลวงตาจ๋า



...............................



ฝากแสนดีน้อยไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ



#บ่วงคล้องรัก

#แสนดีของคุณโปรด

 




ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
Re: บ่วงคล้องรัก (คุณโปรด-แสนดี)
«ตอบ #3 เมื่อ31-05-2019 15:30:18 »

บ่วงคล้องรัก ตอนที่ 2

คุณทรงโปรด


แสนดีไม่ชอบเวลาที่ต้องมากินข้าวรวมกับเด็กวัดคนอื่นๆ ส่วนมากก็เป็นลูกชาวบ้านหลังวัดที่พ่อแม่ส่งให้มาช่วยงานวัดแลกข้าวแลกน้ำ เด็กบางคนดื้อเกินกว่าพ่อแม่จะเลี้ยงเองได้ก็หวังส่งมาให้หลวงตาและพระรูปอื่นๆช่วยอบรมสั่งสอน หลายคนต่อหน้าพระก็ทำตัวเป็นเด็กดีสงบเสงี่ยมเรียบร้อยแต่ลับหลังแล้วบางคนก็แกล้งแสนดี เมื่อก่อนแสนดีไม่เดือดร้อนอะไรเพราะตอนยังเล็กหลวงตาแช่มเป็นคนป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับแสนดีด้วยตัวเอง แม้ในยามที่เริ่มหยิบจับช้อนตักข้าวกินเองได้แสนดีก็ได้กินข้าวร่วมวงกับลูกๆหลายๆของแม่สะอาดแต่ตอนนี้แสนดีเจ็ดขวบหลวงตาบอกว่าแสนดีโตพอที่จะไปทำความรู้จักกับคนอื่นๆได้แล้ว



แสนดีต้องมาร่วมวงกินข้าวเช้าก่อนไปโรงเรียนกับพวกเด็กวัด ด้วยเพราะเป็นชนบทกับข้าวส่วนมากก็จะเดิมๆหากวันไหนมีกับข้าวดีๆรสชาติไม่เผ็ดเด็กๆกินได้วันนั้นจะเหมือนมีสงครามขนาดย่อม



วันนี้ก็เช่นกัน



“ไข่พะโล้นี่แบ่งให้แสนดีมันฟองหนึ่งนะ พวกเอ็งกินผัดผักกินแกงได้ก็กินไป”ยายสะอาดวางชามไข่พะโล้ที่มีอยู่ 4 ฟองลงในกลางวงข้าวของเด็กๆที่แต่งตัวพร้อมจะไปเรียน ยายสะอาดวางชามไข่ให้เด็กๆแล้วแกก็เดินไปล้างบาตรพระที่วางกองอยู่ด้านหลัง พอพ้นสายตายายสะอาดแล้วไอ้แมนเด็กวัดวัย 17 ปีเป็นพี่ใหญ่สุดของทั้งหมดก็ตักไข่พะโล้ตัดหน้าแสนดีไปใส่ในจานข้าวของตัวเองทันที แสนดีช้อนสายตามองหน้าแมนแต่ก็ต้องหลุบตาหนี เด็กน้อยไม่กล้าที่จะมีปัญหากับแมนหรอกเพราะเล็กกว่ามาก แสนดีเคยโดนแมนเอาด้ามไม้กวาดตีหัวมาแล้วเมื่ออาทิตย์ก่อนเพียงเพราะแสนดีไม่ยอมกวาดลานวัดแทนแมน เด็กน้อยเลือกที่จะเลี่ยงการปะทะกับคนที่มีกำลังและแรงเยอะกว่า แสนดีตั้งใจจะตักไข่ฟองอื่นในชามหากแต่เด็กวัดอีก 3 คนก็มาแย่งตักไปจนหมดไม่เว้นแม้แต่เต้าหู้และหมูสามชั้นเหลือไว้เพียงน้ำพะโล้ติดก้นถ้วย แสนดีวัย 7 ขวบ ทำได้เพียงกินข้าวกับน้ำไข่พะโล้ที่เหลือในขณะพี่เด็กวัดคนอื่นๆนั่งหัวเราะเยาะสนุกสนานคนที่ได้ไข่ไปก็กินเย้ยให้เจ็บใจเลน



“ถ้ามึงไปฟ้องหลวงตาหรือยายสะอาดมึงเจอดีแน่”แมนก้มหน้ามากระซิบขู่ แสนดีหลุบตาหนี แมนเบะปากใส่อย่างหมั่นไว้ เขาเกลียดตาสีฟ้าๆนี่ชะมัด ยิ่งไอ้ผิวขาวอมชมพูแบบลูกครึ่งนี่ยิ่งน่าหมั่นไส้ ในขณะที่เด็กวัดคนอื่นตัวดำผิวคล้ำกร้านแดดแต่ไอ้เด็กนี่กลับโดดเด่นกว่าใคร ยามญาติโยมมาหาหลวงตาก็มักมีขนมติดไม้ติดมือมาให้ไอ้ลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่นี่เสมอ แสนดีสร้างความเกลียดชังให้กับเด็กวัดคนอื่นๆอย่างไม่รู้ตัว ความเกลียดชังที่มาจากความอิจฉาล้วนๆ



“อ้าว อิ่มแล้วเหรอแสนดี”ยายสะอาดร้องทักยามเจ้าตัวน้อยเดินเอาจานเปล่ามาล้างข้างๆ



“อิ่มแล้วจ้าแม่”



“อร่อยมั้ย”ยายสะอาดถามเด็กที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกด้วยความใส่ใจ



“อ...อร่อยจ้าแม่”แสนดีจำเป็นต้องปดเพราะถ้าบอกตามความจริงยายสะอาดต้องไปเล่นงานพวกของแมนแล้วแมนก็จะมาเช็คบิลกับแสนดีอีกหน



“อร่อยก็ดี เดี๋ยวเข้าไปหยิบขนมในตะกร้านะแม่เก็บไว้ให้ เอาจานมานี่เถอะเดี๋ยวล้างเองไปแต่งเนื้อแต่งตัวไปโรงเรียนเถอะ”

 



วันเวลาผ่านไปจากเดือนเป็นปีแสนดีก็ยังคงถูกเด็กวันที่โตกว่ากลั่นแกล้งอยู่เสมอ ถ้าหลวงตาแช่มเห็นพวกแมนก็จะถูกทำโทษ แต่เพราะอยากให้แสนดีเข้ากับเด็กวัดคนอื่นๆได้แสนดีจึงถูกสั่งให้ไปนอนรวมไม่ได้มานอนในกุฏิกับหลวงตาแล้ว



“ไอ้แมน เอ็งเป็นพี่ใหญ่สุดแก่กว่าไอ้แสนดีมันเป็นสิบปีแทนที่จะดูแลน้องกลับรวมหัวกันแกล้งมัน อย่าให้รู้ว่าแกล้งคนเด็กกว่าอีกนะไม่งั้นหลวงตาจะไม่เลี้ยงมึงแล้ว”ตั้งแต่แมนอาศัยอยู่ที่วัดมาครั้งนี้นับเป็นคำขู่ของหลวงตาที่น่ากลัวที่สุด แมนรู้ดีว่าตัวเองโตพอจะออกไปอยู่ด้วยตัวเองได้เพราะปีนี้แมนก็อายุ 18 ปีแล้ว แต่แมนก็ไม่อยากกลับบ้าน พ่อกับแม่ของแมนเป็นพวกขี้เหล้าและติดการพนันสิ่งที่แมนได้พบเจอมาตลอดตั้งแต่เกิดก็คือพอเสียพนันกลับมาก็หาเรื่องทะเลาะทุบตีกับ เมย์พี่สาววัย 15 ปีของแมนในตอนนั้นทนกับสภาพความเป็นอยู่ของที่บ้านไม่ได้จึงหอบเสื้อผ้าหนีตามผู้ชายไปทิ้งแมนในวัย 8 ขวบไว้ให้เผชิญชะตากรรม แมนในตอนนั้นบอกกับแม่ว่าตัวเองอยากจะมาอยู่วัดอยากบวช แม้พ่อกับแม่จะไม่อยากให้มาแต่ในที่สุดแมนก็มากราบหลวงตาขออาศัยข้าวก้นบาตรพระกิน หลวงตาแช่มส่งเสียให้แมนเรียนเหมือนกับที่ส่งเสียแสนดีในตอนนี้ แมนรู้สึกแค่ว่าความสำคัญที่หลวงตาเคยให้กับตนนั้นถูกไอ้เด็กตัวแดงที่โดนมดกัดจนเป็นรอยทั้งตัวดึงไปจนหมด จากที่หลวงตาเคยถามไถ่ให้ความสำคัญมันก็กลายเป็นว่าหลวงตาให้ความรักและความเอ็นดูแสนดีมากกว่าที่แมนเคยได้รับ แมนรู้ว่าแมนสามารถออกไปอยู่เพียงคนเดียวได้แล้วแต่ปัจจัยหลายๆอย่างไม่เอื้ออำนวย ทุกวันนี้แมนได้เรียนหนังสือก็เพราะหลวงตาส่งเสีย ถ้าหากไปอยู่เองแมนก็ไม่มีทุนสำหรับใช้ดำเนินชีวิตทั้งค่ากินค่าอยู่



แสนดีหอบหมอนใบเล็กของตัวเองเดินตามยายสะอาดมาที่เรือนนอนของเด็กวัด ในตอนเช้าที่วัดมีเด็กวัดเยอะนับสิบคนก็จริงแต่มีที่อยู่ประจำที่วัดเพียง 3 คน คือแมน แสนดี และเด็กตัวผอมอายุมากกว่าแสนดี 4-5 ปีชื่อไอ้จ่อย จ่อยก็เป็นเด็กกำพร้าเหมือนแสนดีแต่จ่อยเป็นใบ้ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีใครคุยกับจ่อยนัก ทั้งสามคนนอนเรียงกันในมุ้งหลังไม่ใหญ่นักมีพัดลมคลายความร้อน 1 ตัว ที่แมนจงใจจะดึงตัวหมุนล็อกให้พัดจ่อแค่ตัวเอง แสนดีน้อยร้อนจนเหงื่อโทรมเรือนผมยาวหยักศกชุ่มไปด้วยเหงื่อแต่ก็ทำอะไรไม่ได้แมนนอนตรงกลางโดยที่จ่อยทนความร้อนไม่ไหวออกไปนอนรับลมนอกชาน แสนดีทำได้เพียงเอาผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำแล้วมาห่มตัว จนหลับไปในที่สุด แมนมองร่างขาวๆข้างตัวที่หลับสนิทในยามดึกแล้วได้แต่ยิ้มอย่างสะใจ



แสนดียังคงใช้ชีวิตในแต่ละวันแบบเรื่อยๆซ้ำซากเดิมๆ แมนก็ยังคงหาเรื่องแกล้งแสนดีได้ไม่เว้นแต่ละวัน ส่วนจ่อยก็มีโลกส่วนตัวของตัวเอง มีบ้างที่มานั่งดูแสนดีทำการบ้านถ้าข้อไหนผิดจ่อยก็ช่วยแก้ให้แม้จะพูดจาสื่อสารกันไม่ได้แต่ก็ใช้ภาษากายสื่อสารกัน พอแสนดีเริ่มอ่านหนังสือคล่องก็ใช้วิธีเขียนคุยกันแทน บางครั้งก็แอบนินทาแมนแล้วหัวเราะคิกคักกันสองคนจนแมนเหล่มองอย่างสงสัยก็หลายครั้ง แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือช่วงนี้หลวงตาอาพาธบ่อย หลายครั้งมาโนชพ่อบุญธรรมต้องขับรถพาหลวงตาเข้าเมืองไปหาหมอ หลวงตามียาที่ต้องฉันหลังอาหารกลับมาหอบใหญ่ จากที่เคยไปบิณฑบาตไหวตอนนี้ก็กลายเป็นว่าไปไม่ไหวแล้วเพราะบางวันตัวของหลวงตาก็บวมมาก ที่เห็นได้ชัดคือหลังเท้าของหลวงตาบวมจนใส่รองเท้าไม่ได้



“หลวงตาเป็นโรคไต”ยายสะอาดบอกกับแสนดีที่ตอนนี้อายุได้ 11 ขวบแล้ว เด็กตัวเล็กในวันนั้นบัดนี้สูงขึ้นแต่ก็ยังเล็กกว่าเด็กวัยเดียวกันอยู่ดี แม้จะเป็นลูกครึ่งแต่เหมือนจะเอามาแค่ตาสีฟ้าผมสีบลอนด์และผิวขาวเท่านั้น



“โรคไตคืออะไรเหรอแม่”



“ก็กินเค็มมากๆหรือรสจัดมากๆไตก็เสื่อมไง หลวงตาเป็นระดับ 3 หรือ 4 นี่แหละ มันมี 5 ระดับ เห็นหมอเขาว่ายังงั้นนะ ระดับสุดท้ายก็คือต้องฟอกไต”



“หลวงตาจะหายมั้ยจ๊ะแม่”แสนดีเอ่ยถามด้วยความกังวลใจ แสนดีในตอนนี้โตพอจะรู้จากการเกิดแก่เจ็บตาย ความเศร้าเสียใจจากการสูญเสียด้วยเพราะอยู่วัดมาตั้งแต่เกิดตั้งแต่หลวงตาอุ้มมา ผ่านงานศพนับร้อยนับพันงานที่มาตั้งสวด แสนดีเห็นทั้งความโศกเศร้าจากญาติพี่น้อง แต่แสนดีไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งหากแสนดีไม่มีหลวงตาแล้วแสนดีจะต้องรู้สึกยังไง แสนดีหลงลืมไปด้วยอ่อนเยาว์ว่าวันหนึ่งหลวงตาก็ต้องจากไป ยายสะอาดหยุดมือที่กำลังล้างจานชามให้กับงานศพที่มาจ้าง หันมามองแสนดีด้วยสายตาสงสารเจ้าเด็กที่ได้ชื่อว่าเป็นลูก



“ไม่รู้...”ยายสะอาดถอนหายใจก่อนจะหันไปตั้งใจล้างถ้วยชามเต็มกะลังมังอีกครั้ง



“ตอนนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหมอ เอ็งก็คอยดูแลหลวงตาเป็นมือเป็นเท้าให้หลวงตา ท่านใช้ให้ทำอะไรก็อย่าอิดออดรู้มั้ย หลวงตาเป็นห่วงเอ็งมากกลัวว่าวันหนึ่งถ้าท่านไม่อยู่เอ็งจะเอาตัวไม่รอดดูแลตัวเองไม่ได้”



“หนูกลัวหลวงตาตาย”น้ำตาเม็ดโตแกล้งหล่นจากดวงตาของแสนดีลงในกะละมังล้างน้ำเปล่าที่ตัวเองช่วยยายสะอาดล้างอยู่ แสนดีไม่เคยคิดว่าความตายน่ากลัวขนาดนี้มาก่อนจนกระทั่งมันมาจ่อรออยู่กับคนที่ตัวเองรักและเคารพ



เพราะในโลกของแสนดีมันก็มีแค่หลวงตาที่รักมัน ไม่ว่าจะไปเล่นซน ล้มลุกคลุกคลานกลับมายังไงก็มีหลวงตาคอยทำแผลไปบ่นไปให้กับมันเสมอ ยามไปโรงเรียนก็มานั่งถักเปียให้



ถ้าโลกนี้ไม่มีหลวงตาใครจะทำแผลให้แสนดี



ถ้าโลกนี้ไม่มีหลวงตาใครจะถักเปียให้แสนดี



ถ้าโลกนี้ไม่มีหลวงตาใครจะปกป้องแสนดี



แสนดีไม่รู้เลย...ไม่รู้จริงๆ

 



 

 

อาการหลวงตาแช่มทรงๆทรุดๆ แสนดีคอยวิ่งเข้าวิ่งออกรับใช้หลวงตาไม่ได้ห่าง หากเป็นไปได้แสนดีก็ไม่อยากห่างหลวงตาไปไหน วันไหนอาการดีไม่มีไข้หลวงตาก็ยังลงไปทำวัตรเช้า-เย็นเหมือนเช่นปกติ แต่หากวันไหนอาการแย่ลงหลวงตาก็นอนพักอยู่ในกุฏิ แสนดีไม่อยากไปโรงเรียนเลยถ้าหลวงตาป่วยหนัก หากแต่หลวงตาแช่มก็ไม่ยอมให้แสนดีหยุดเรียนเลยซักครั้ง



“หยุดแล้วหลวงตาจะดีขึ้นเหรอ ไปโรงเรียนยังได้ความรู้”หลวงตาแช่มยังคงตื่นขึ้นมาในตอนเช้านั่งมองพระรูปอื่นออกบิณฑบาตโดยที่แสนดีในตอนนี้เปลี่ยนจากเดินตามหลวงตาไปเดินตามพระรูปอื่นแล้ว ก่อนจะออกในตอนเช้าแสนดีจะวิ่งปร๋อมาหาหลวงตา ก้มกราบพูดคุยพอถึงเวลาก็หิ้วปิ่นโตวิ่งตามพระลูกวัดไปโดยไม่ลืมหันมาบ๊ายบายแล้วยิ้มกว้างจนตาหยีให้หลวงตาทุกครั้ง



แสนดีคือความสดใสเดียวที่หลวงตาอยากให้คงอยู่อย่างนี้ตลอดไป หากจะเปรียบว่าแสนดีเหมือนอะไรหลวงตาก็เปรียบแสนดีเหมือนแสงอรุณรุ่ง สดใสและอบอุ่น หลวงตาแช่มเองใช่ว่าไม่รู้ว่าแสนดีนั้นถูกแมนกลั่นแกล้งรังแก แต่หลวงตาแช่มอยากให้แสนดีดูแลตัวเองได้ หากวันใดสิ้นบุญหลวงตาไปแสนดีจะได้ยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง หลวงตาแช่มอาจจะเป็นเกราะคุ้มภัยให้กับแสนดีได้แค่ในยามนี้ ท่านเองก็รู้ดีว่าชีวิตของตัวเองบัดนี้เหมือนเทียนที่ถูกจุดมานานจนตอนนี้ขี้ผึ้งละลายและไส้เทียนใกล้มอดเต็มที



หากสิ้นบุญหลวงตาไปแล้วแสนดีก็จะไม่เหลือหลักให้เป็นที่พึ่งอีก หลวงตาแช่มนึกเสียใจที่ตอนนั้นไม่ยกแสนดีให้ครูบัว อย่างน้อยยามหลวงตามรณภาพแสนดียังมีบ้านให้อยู่มีผู้ปกครองดูแล ตอนนี้ครูบัวมีลูกเป็นของตัวเอง 2 คนแล้ว แสนดีในวัย 11 ขวบไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป หลวงตาไม่อยากให้แสนดีจมปลักอยู่กับวัด แสนดีเป็นเด็กดีและเด็กฉลาดถ้ามีใครสนับสนุนเด็กคนนี้น่าจะไปได้ไกลกว่าการเป็นเด็กวัดที่เหมือนแกะดำ แสนดีอาภัพมามากเกินพอแล้วกับชีวิตคนๆหนึ่งที่ไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใครอีกทั้งยังจะถูกทอดทิ้ง ครั้นจะให้เป็นลูกยายสะอาดกับตามาโนชไปตลอดก็คงไม่ได้ หลวงตาสอนแต่เรื่องคุณธรรมแต่ไม่เคยสอนให้แสนดีได้ใช้ชีวิตแบบคนนอกวัดเลย



แสนดียังคงดำเนินชีวิตไปตามปกติ มีเวลาว่างก็จะอยู่กับหลวงตาแทบจะตลอดจนกระทั่งบ่ายของวันเสาร์ วัดป่าที่เคยเงียบเหงาก็ได้รับอาคันตุกะแปลกหน้า คนกลุ่มหนึ่งเดินทางมาด้วยรถยนต์คันหรูที่แสนดีเคยเห็นแต่ในทีวี หมาวัดส่งเสียงเห่าให้ขรม เด็กวาดที่ถูกสั่งให้มากวาดลานวัดหยุดมองอย่างตื่นตาไม่เว้นแม้แต่แมนที่โตเป็นหนุ่มแล้วก็ตามที



“รถใครวะแม่งโคตรสวยเลย”ไอ้เบียร์ลูกสมุนอันดับหนึ่งของแมนร้องออกมาอย่างตื่นเต้น เพราะวัดป่าที่ตั้งอยู่ไกลจากตัวเมืองมากรถหรูที่สุดที่เคยเห็นก็แค่วีโก้ของครูใหญ่การได้เห็นรถยนต์แพงๆสวยๆมาจอดที่หน้ากุฏิหลวงตาแช่มตั้งสองคันนั้นจึงเป็นเรื่องเหลือเชื่อเสียเหลือเกิน



“ว้ายตายแล้ว หนูจ๋าใครก็ได้ไล่หมาให้ฉันหน่อย” สตรีดูมีอายุแต่งตัวด้วยชุดที่เป็นผ้าสีเดียวกันทั้งชุดร้องบอกกับเด็กวัด แสนดีทิ้งไม้กวาดแล้วเรียกไอ้ด่างหมาดื้อที่ชอบเห่าไล่ญาติโยมประจำ เด็กน้อยทำเสียงจุ๊ๆแล้วกอดคอหมาตัวใหญ่ไว้



“ตายจริงน้องโปรด มาดูนี่สิ มีลูกครึ่งด้วยหน้าตาน่าเอ็นดู”ผู้หญิงคนนั้นหันกลับเข้าไปร้องบอกกับคนขับรถ แสนดีได้ยินเสียงเปิดประตูรถฝั่งตรงข้าม จากนั้นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งก้าวลงมาจากรถ ใบหน้าที่มีเค้าของสตรีวัยกลางคนเลิกคิ้วอย่างฉงนที่เห็นเด็กน้อยลูกครึ่งตัวผอมหน้าตาน่าเอ็นดูกอดหมาตัวใหญ่ที่ดูสกปรกอย่างไม่นึกรังเกียจ



ทรงโปรดเดินมาพยุงผู้เป็นมารดาให้ลงจากรถในขณะที่คุณปราณีเองก็อดชมแสนดีอีกครั้งไม่ได้



“หน้าตาผิวพรรณดีจังเลยค่ะ”แสนดียกมือไหว้ทุกคนที่ลงมาจากรถแม้จะไม่รู้จักว่าเป็นใครก็ตาม รถยนต์คันที่ขับมาจอดข้างหลังมีผู้ชายอีกสองคนที่หน้าตาคล้ายๆผู้ชายที่ชื่อทรงโปรด และทั้งหมดสูง สูงมาก สูงแบบที่แสนดีต้องแหงนคอมอง



“หนูจ๊ะ เจ้าอาวาสกับหลวงตาแช่มอยู่มั้ยจ๊ะ”แสนดีละสายตาจากหนุ่มหล่อทั้งสามคนกลับมามองคุณปราณีอีกครั้ง สตรีท่านนี้ยิ้มหวานดูเป็นคนใจเย็นและใจดี แสนดียิ้มตอบก่อนจะชี้ไปที่กุฏิของเจ้าอาวาส



“หลวงพ่อยู่ที่กุฏิครับส่วนหลวงตาแช่มสวดมนต์อยู่เดี๋ยวหนูไปเรียกให้ครับ”แสนดีตอบกลับอย่างฉะฉาน



“งั้นฉันรบกวนไปเรียนหลวงตาแช่มว่าคุณปราณีมาหาจะไปรอที่กุฏิเจ้าอาวาส มาขอฤกษ์บวชคุณทรงโปรดนะคะ”แสนดีชอบน้ำเสียงหวานหูและการพูดเนิบนิ่มของคุณปราณี เด็กน้อยยิ้มรับก่อนจะลูกขึ้นเพื่อไปหาหลวงตาแช่ม แต่ก็ไม่ลืมที่จะลากไอ้ด่างตามไปล่ามที่บันไดกุฏิด้วย เจ้าหมาดื้อส่งเสียงร้องอย่างไม่ชอบใจนัก แสนดีคลานเข้าไปหาหลวงตาแช่มที่นั่งสวดมนต์อยู่หน้าหิ้งพระ



“หลวงตาจ๋า มีคนมาหาจ้า เขาบอกว่าเขาชื่อปราณีจะให้หลวงตาดูฤกษ์บวชให้คนที่ชื่อคุณทรงโปรดจ้า”หลวงตาแช่มลืมตาขึ้นเมื่อไห้ยินชื่อของผู้มาเยือน



“โยมปราณีกับลูกๆมาเรอะ”หันไปถามเพื่อทวนความมั่นใจอีกครั้ง แสนดีน้อยตอบรับเสียงใส



“พยุงตาไปที”หลวงตาแช่มวัย 83 ปี เกาะขอบโต๊ะลุกขึ้นเพื่อเดินไปกุฏิเจ้าอาวาสโดยมีแสนดีคอยพยุงไปอย่างช้าๆ ไอ้ด่างที่ถูกผูกพอเห็นคนก็กระโจนส่งเสียงร้องอ้อนทันทีจนหลวงตาแช่มอดหัวเราะใส่ไม่ได้



“โดนเขาล่ามเรอะ อยู่อย่างนี้ไปก่อนเดี๋ยวไปกวนโยมเขา” ทรงโปรดที่นั่งพับเพียบอยู่ด้านหลังแม่และพี่ชายที่เคยบวชเรียนที่นี่มาก่อนแล้วหันไปมองร่างของคนสองวัยที่ประคับประคองกันมาก็รีบลุกลงไปไหว้หลวงตาแช่มแล้วช่วยประคอง



“โตเป็นหนุ่มตาจำแทบไม่ได้แหนะคุณทรงโปรด”หลวงตาแช่มเอ่ยทักชายหนุ่ม



“ตอนเด็กๆว่าหน้าตาดีแล้วโตมายิ่งหล่อเข้าไปใหญ่”



“หลวงตาชมแบบนี้ผมก็เขินแย่สิครับ”ทรงโปรดตอบกลับด้วยน้ำเสียงเจือเสียงหัวเราะ



“แล้วนี่เรียนจบแล้วเรอะถึงมาหาฤกษ์บวช”หลวงตาแช่มก้าวขึ้นบันไดอย่างช้าๆ จนขึ้นมาบนกุฏิเจ้าอาวาส เมื่อนั่งเรียบร้อยทั้งคุณปราณี คุณเปรมลูกชายคนโตที่มีภรรยาและลูกอีกสองคนรวมทั้งคุณป่านลูกชายคนกลางก็ก้มลงกราบหลวงตาแช่มอย่างคุ้นเคย



“ไม่ได้เจอกันนานหลวงน้าเป็นอย่างไรบ้างคะเห็นหลวงพ่อว่าไม่ค่อยสบาย”คุณปราณีเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง



“โรคคนแก่จะให้แข็งแรงแบบตอนหนุ่มๆก็ไม่ได้หรอกโยม แล้วนั่นโยมเปรมลูกเต้าโตขนาดนี้แล้วเหรอ”หลวงตาหันไปทักคุณเปรมบุตรชายคนโตของคุณปราณี



“โตแล้วครับ ตั้งชื่อตามที่หลวงตาบอกทั้งสองคน”ทั้งหมดพูดคุยกันอีกซักพักโดยที่แสนดีที่คอยเดินดูอยู่ไม่ไกลได้ยินแว่วๆว่าบ้านของคุณปราณีทั้งสามีที่เสียชีวิตไปแล้วรวมทั้งลูกชายคนโตและคนกลางล้วนแต่เคยบวชเรียนที่วัดนี้ทั้งสิ้นเมื่อสึกออกไปแล้วยังส่งเงินมาถวายไม่ได้ขาด รถยนต์ของวัดที่ใช้ขับพาพระไปทำกิจนิมนต์ก็เป็นคุณปราณีที่ถวายมาให้ หลวงตาแช่มเอาวันเดือนปีเกิดของทรงโปรดมาดูก่อนจะบอกฤกษ์บวชให้กับทรงโปรดได้รับทราบ



“ถ้าไม่ติดขัดอะไรวันที่ 15 เดือนหน้าฤกษ์ดีที่สุด ถ้าไม่ทันต้องรอปีหน้าเลย”คุณปราณีหันไปถามความเห็นของทรงโปรดซึ่งชายหนุ่มก็ตอบตกลงเพราะเขาตั้งใจจะบวชให้ผู้เป็นพ่อและแม่อยู่แล้ว หลังบวชเสร็จจะเข้ารับตำแหน่งที่บริษัทอย่างเต็มตัวดังนั้นจึงอยากทำให้มันจบๆไปเสียทีเดียวจะได้ไม่ห่วงหน้าพะวงหลังอะไรอีก



“ถ้าอย่างนั้นก่อนบวชซัก 5 วัน หรือ 7 วันโยมสะดวกจะมาอยู่ที่วัด ถือศีล 8 มาเตรียมตัวให้รู้ว่าเป็นพระต้องปฏิบัติตนอย่างไรมาท่องบนขานนาคก่อนบวชมั้ยล่ะ”คราวนี้ท่านเจ้าอาวาสเป็นฝ่ายถาม



“ได้ครับ ผมไม่ขัดข้องอะไร”



“แล้วโยมปราณีล่ะ เตรียมงานบวชทันมั้ย?”



“ทางอิฉันคุยกันแล้วค่ะ ทรงโปรดอยากให้เป็นงานเล็กๆระหว่างคนในครอบครัวไม่ได้จัดเอิกเกริก ก็แค่เดินวนแล้วเข้าโบสถ์เลยไม่เอาแตรวงอะไรทั้งสิ้น แขกก็มีแค่ญาติพี่น้องเลี้ยงกับข้าวง่ายๆแค่นั้นพอค่ะ”



“อย่างนั้นก็ดีไม่ยุ่งยากวุ่นวายดี”



“หลวงน้าคะ แล้วเด็กลูกครึ่งนั่นลูกเต้าเหล่าใครคะทำไมพ่อแม่ปล่อยมาอยู่ที่วัด หน้าตาน่ารักผิวพรรณก็ดี”



“แม่เขาเอามาวางฝากให้เลี้ยงที่หน้าวัด”หลวงตาแช่มบอกเรียบๆโดยเลี่ยงคำว่าแม่เอาแสนดีมาทิ้ง



“น่าสงสารจังค่ะ เด็กชื่ออะไรคะ อายุเท่าไหร่ทำไมตัวเล็กจัง”



“ชื่อแสนดีปีนี้จะ 12 แล้ว ตัวมันเล็กตอนเด็กๆกินแต่นมกระป๋อง”หลวงตาเล่าเรื่องแสนดีอย่างคร่าวๆเรียกสายตาเห็นอกเห้นใจให้กับเด็กที่นั่งดีดลูกแก้วเล่นที่ลานหน้ากุฏิคนเดียวทั้งหมดอยู่คุยกับหลวงตาแช่มและเจ้าอาวาสอีกราวๆเกือบครึ่งชั่วโมงก็ลากลับเพราะต้องขับรถกลับกรุงเทพอีกหลายชั่วโมง



ทรงโปรดเดินมาหาเด็กผมทองก่อนจะหยิบกระเป๋าเงินออกมา



“แสนดี”น้ำเสียงนุ่มทุ้มเจือแววใจดีเอ่ยเรียก แสนดีเงยหน้าจากลูกแก้วที่เจียดเงินซื้อมาเล่นคนเดียวมองคุณผู้ชายที่แสนดีมองว่าหล่อด้วยดวงตาใสแจ๋ว



“เก็บไว้กินขนม ฉันให้”ทรงโปรดยื่นธนบัตรใบละ 500 บาท ให้กับแสนดี เด็กชายมีท่าทางลังเลจนทรงโปรดต้องย่อตัวลงนั่งระดับเดียวกันแล้วฉวยมือเล็กที่ดูนุ่มนิ่มขึ้นมาแล้วยัดเงินนั้นใส่มือเด็กชาย



“ฉันไปก่อนนะ เดือนหน้าเจอกัน”ทรงโปรดไม่ได้อยู่รอคำขอบคุณของเด็กตาสีฟ้านั่น เขาลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปที่รถ ฝุ่นคละคลุ้งจางหายไปพร้อมท้ายรถที่แล่นลิบไปทางทุ่งนากว้างแสนดีน้อยก้มมองแบงค์สีม่วงในมือด้วยหัวใจฟูฟ่อง ส่งยิ้มให้กับมันนึกถึงผู้ชายใจดีคนนั้น




คนที่ชื่อคุณทรงโปรด...



...........................................

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-05-2019 19:04:00 โดย thanatcha »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: บ่วงคล้องรัก (คุณโปรด-แสนดี)
«ตอบ #4 เมื่อ31-05-2019 21:07:11 »

ตามจ้า​ สนุกค่ะชอบๆ

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: บ่วงคล้องรัก (คุณโปรด-แสนดี)
«ตอบ #5 เมื่อ01-06-2019 05:32:12 »

แค่น้องแสนดีอยู่เฉยๆ ยังไม่ได้พูดกันสักคำ คุณโปรดก็เปย์แล้วนะคะ
 :pig4:

ออฟไลน์ lovenine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: บ่วงคล้องรัก (คุณโปรด-แสนดี)
«ตอบ #6 เมื่อ01-06-2019 08:13:10 »

โห  ชอบๆ สงสาร แสนดี คนดีๆ ต้องได้พบสิ่งดีๆแน่นอน มาต่อไวๆ น๊า ติดตามๆ จ้า ล่ะก็ ขอบคุณ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: บ่วงคล้องรัก (คุณโปรด-แสนดี)
«ตอบ #7 เมื่อ01-06-2019 08:18:53 »

โอ้โหหหหห ต้องเรียกเสี่ยทรงโปรดหรือเปล่าคะ เจอหน้าครั้งแรกก็เปย์เลย 555555555

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
Re: บ่วงคล้องรัก (คุณโปรด-แสนดี)
«ตอบ #8 เมื่อ01-06-2019 11:33:26 »

 :pig2: :pig2: :pig4:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: บ่วงคล้องรัก (คุณโปรด-แสนดี)
«ตอบ #9 เมื่อ16-11-2019 21:50:39 »

 :pig4:
 :3123:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บ่วงคล้องรัก (คุณโปรด-แสนดี)
« ตอบ #9 เมื่อ: 16-11-2019 21:50:39 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
Re: บ่วงคล้องรัก (คุณโปรด-แสนดี)
«ตอบ #10 เมื่อ25-11-2019 19:39:57 »



บ่วงคล้องรัก ตอนที่ 3

"ผูกมิตร"

 

                บรรยากาศยามเช้าของวัดป่ายังคงเงียบสงบ แสงตะวันสีทองนวลค่อยๆสาดส่องจากแนวเขาจนสว่างอย่างเชื่องช้า ควันไฟลอยเอื่อยจากโรงครัวที่ยายสะอาดเตรียมอาหารเพื่อถวายพระและเลี้ยงเด็กวัดนับสิบคน บรรดาเด็กวัดที่กลับจากช่วยพระเดินบิณฑบาต และกินข้าวเช้าเสร็จในช่วงสายเริ่มหยิบจับไม้กวาดและอุปกรณ์ทำความสะอาดกวาดลานวัดและบนกุฎิ แสนดีเข้าไปดูหลวงตาจัดการเรื่องข้าวปลาอาหารและยาที่หลวงตาต้องฉันเสร็จแล้วก็ออกมาช่วยพี่ๆทำงานอย่างไม่เกียจคร้าน วันนี้เป็นวันเสาร์แสนดีไม่ต้องไปโรงเรียน เพราะเมื่อคืนมีลมกรรโชกแรงวันนี้งานของเด็กวัดจึงมีเยอะกว่าปกติ กิ่งไม้ที่ก้านเปราะหักโค่นลงมาขวางถนน ใบไม้หลุดร่วงจนหนา ฝนที่ตกลงมาทำให้งานยากกว่าเดิมอีกเท่าตัว แสนดีกวาดกิ่งไม้ใบไม้ไปสุมกันไว้เป็นกองๆ ยิ่งแดดแรงแก้มของแสนดีก็ค่อยๆแกงเรื่อขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อไหลจนชุ่มไรผมสีบลอนด์ทองนั้นจนเปียกลู่ เปียที่มัดไว้หลวมๆดูไม่เป็นทรงเสื้อตัวหลวมโพลกไหลตกไหล่ยามที่แสนดีขยับตัวตลอดเวลาแต่เด็กน้อยก็ไม่ได้สนใจกับมันนัก หากแต่กับใครบางคนไม่ใช่ แมนนั่งมองแสนดีกวาดใบไม้เงียบๆ จ่อยเพื่อนที่เป็นใบ้ของแสนดีเห็นแมนนั่งกระดิกเท้าสบายอยู่คนเดียวก็ทนไม่ไหว



ไม่ยุติธรรมสำกรับเด็กวัย 12 ปี คนอื่นทำงานกันหมดยกเว้นแมนที่ทำตัวเป็นพี่ใหญ่นั่งสบายโดยไม่ทำอะไรเลยทั้งๆที่เป็นเด็กวัดเหมือนกันแท้ๆ จ่อยคว้าเอาไม้กวาดที่วางพิงต้นไม้ใหญ่ไปยืนให้แมน น้ำเสียงอื้ออ้าในลำคอของเด็กใบ้บ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจที่ถูกกินแรง แมนมองเด็กวัดรุ่นน้องที่ทำตัวปีนเกลียวใส่ตนเองก่อนจะถุยไม้จิ้มฟันที่คาบไว้ในปากใส่หน้าจ่อยแล้วลุกขึ้นยืนจากนั้นโดยไม่ทันตั้งตัวร่างจ้อยร่อยของจ่อยก็กระเด็นลงไปกองกับพื้น จ่อยถอยกรูดเมื่อแมนย่างสามขุมเข้ามาหาก่อนจะก้มลงไปกระชากเอาไม้กวาดในมือจ่อยขึ้นมา



                “มึงคิดว่ามึงเป็นใครถึงมาสั่งให้กูทำนู่นทำนี่ห๊ะไอ้จ่อย”แมนตะคอกใส่จ่อยแล้วง้างเท้าเตะลงไปตรงสีข้างของเด็กชายจ่อยพวกเด็กวัดตรงพากันถอยกรูดไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยยกเว้นเพียงแสนดีที่วิ่งเข้ามาผลักแมนออกแล้วย่อกายลงไปประคองจ่อยที่นอนงอตัวด้วยความจุก



                “ทำจ่อยทำไม”เจ้าตัวเล็กแต่ใจสู้หันมามองหน้าแมนอย่างเอาเรื่อง แมนเห็นสายตาสู้คนของแสนดีแล้วให้นึกหมั่นไส้ จากที่ไม่ชอบขี้หน้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่



                “ทำไม กูจะทำอะไรกับมันก็ได้ ก็มันเสือกมากวนตีนกูเอง”



                “แต่จ่อยเด็กกว่า เป็นผู้ใหญ่ทำไมรังแกเด็ก”แสนดีตะคอกใส่หน้าแมนอย่างไม่ยอมเช่นกัน ในใจของเด็กน้อยรู้สึกขุ่นข้อง



                “ในวัดนี้กูใหญ่ที่สุดก็จะตีใครก็ได้รวมทั้งมึงด้วย”แมนไม่พูดเปล่าหากแต่เงื้อมือที่จับด้ามไม้กวาดขึ้นสุดแขนหมายจะฟาดลงไปบนผิวขาวๆของแสนดีให้หายหมั่นไส้หากแต่มันไม่มีโอกาสได้ทำอย่างใจคิดเมื่อมีแรงดึงยึดด้ามไม้กวาดนั้นจากด้านหลัง



                “เฮ้ยใครวะ!!”แมนหันหลังกลับไปมองคนที่มาขวางเขาจากทางดานหลังก็พบกับผู้ชายสูงขาวคนที่เคยเจอเมื่อเกือบเดือนก่อน ทรงโปรดยื้อยึดมือของแมนที่พยายามจะกระชากออกด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง



                “ทำเด็กตัวเล็กๆไม่ละอายใจเหรอ?”



                “แล้วมึงมาเลือกอะไรด้วย”แมนจ้องตาตอบอย่างไม่กลัวเกรง ทรงโปรดถอนหายใจชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะปรายตามองไปที่แสนดีกับจ่อยก่อนจะเบนสายตากลับมาจ้องหน้าแมนอีกครั้ง



                “คนดีๆเขาไม่ทำกัน”



                “แล้วกูบอกมึงเหรอว่ากูเป็นคนดี”แมนตอบกลับอย่างไม่ไว้หน้าพลางกระชากมือออกอีกครั้งแต่ทรงโปรดทำเพียงยิ้มที่มุมปากน้อยๆพลางมองไปที่แสนดีอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นเจ้าตัวน้อยยิ้มจนตาหยีแถมตบมือแปะๆอย่างชอบอกชอบใจ เขาหันกลับมาให้ความสนใจกับแมนที่เริ่มจะดิ้นหลุดจากการเกาะกุมทรงโปรดใช้ความเร็วด้วยการดัดแขนแมนไขว้หลังจนได้ยินเสียงข้อต่อลั่นพร้อมกับเสียงร้องโวยวายด้วยความเจ็บร้าวของแมน



                “ไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ว่าเธอไม่ใช่คนดี ไปซะอย่าคิดสู้ถ้าฉันเอาเรื่องนี้ไปบอกหลวงตาหรือหลวงพ่อเจ้าอาวาสเธอคิดว่าใครกันแน่ที่จะเดือดร้อน”ทรงโปรดผลักแมนจนหน้าทิ่มแล้วจึงเดินไปหาแสนดี แมนได้แต่ฮึดฮัดไม่กล้าทำอะไรทรงโประเพราะมีพระลูกวัดรูปอื่นเดินมาทางนี้พอดีมันจึงได้แต่ลุกขึ้นแล้วเดินหนีไป ทรงโปรดละความสนใจจากแมนหันไปหาเด็กที่ยืนอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มยื่นมือไปตรงหน้าเด็กน้อยจนแสนดีต้องช้อนตาขึ้นมองอย่างไม่แน่ใจว่าตัวเองควรจะวางมือสกปรกของตัวเองลงบนฝ่ามือแสนสะอาดนั้นดีมั้ย



                “พาคุณโปรดไปหาหลวงตาหน่อยได้มั้ยครับ?”ทรงโปรดขยับมือเป็นการย้ำเจตนารมณ์ของตนเองแสนดีเห็นดังนั้นจะปฏิเสธก็เกรงใจเด็กน้อยตัวขาวจึงแอบเช็ดมือของตัวเองกับกางเกงที่ไม่ได้สะอาดไปกว่ามือเลยซักนิด ทรงโปรดกลั้นขำกับท่าทางนั้นก่อนเจ้าตัวเล็กนั่นจะวางมือลงบนมือของทรงโปรด ชายหนุ่มอดที่จะหลุบตามองไม่ได้ อายุแค่นี้แต่มือเล็กๆนั้นกลับหยาบกร้าน



ในความคิดของชายหนุ่มนึกสงสัยว่าเด็กตัวแค่นี้ต้องทำงานอะไรบ้างที่ทำให้มือด้านได้ขนาดนี้  ต้องใช้ชีวิตผ่านความยากลำบากอะไรมามากมายซักเพียงไหน หากแสนดีเป็นลูกเป็นหลานของเขา เขาจะไม่ปล่อยให้เด็กที่ยอมเอาตัวเองปกป้องเพื่อน เด็กที่มารยาทน้ำใสใจคอดีแบบนี้ต้องลำบากเลยซักนิด



อดคิดไม่ได้ว่าต้องเป็นพ่อแม่แบบไหนกันนะถึงเอาลูกน่ารักๆแบบเด็กนี่มาทิ้งได้ลงคอ ทรงโปรดหลุดจากภวังค์เมื่อมือเล็กๆนั้นกระตุกเขาเบาๆ รู้ตัวก็มายืนอยู่หน้ากุฏิของหลวงตาแช่มซะแล้ว คุณปราณีและพี่ชายทั้งสองคนของทรงโปรดอยู่บนนั้นแล้วต่างก็หันมามองคนทั้งสองเมื่อไอ้ด่างส่งเสียงเห่าทรงโปรดที่เป็นคนแปลกหน้าไม่หยุดจนแสนดีต้องส่งเสียงดุแล้วเข้าไปลากไอ้หมาตัวโตให้พ้นทาง ทรงโปรดก้มศีรษะให้แสนดีน้อยๆแทนคำขอบคุณแล้วจึงเดินขึ้นไปด้านบน แสนดีเห็นดังนั้นจึงแยกไปอีกทางไม่อยากไปนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อฟังผู้ใหญ่คุยกัน



ทรงโปรดคลานเข้าไปหาหลวงตาแช่มที่ครั้งนี้ดูชราภาพมากกว่าครั้งที่แล้วไม่มากโขท่านนั่งหลังงอและร่างกายบวมอย่างเห็นได้ชัด



                “มาแล้วเรอะ เห็นคุณโยมปราณีบอกว่าไปเดินเล่น”หลวงตาแช่มเอ่ยทักชายหนุ่มที่ก้มลงกราบท่านด้วยน้ำเสียงใจดี



                “พอดีขับรถมาไกลครับหลวงตาเลยไปเดินเล่นยืดเส้นยืดสายซักหน่อย”ทรงโปรดขยับมานั่งใกล้ผู้เป็นมารดา อดจะหันไปมองใบไม้ที่ไหวลู่ตามแรงลมอ่อนๆที่พัดพาเอากลิ่นของต้นข้าวในทุ่งนามาให้ได้กลิ่นไม่ได้



ทรงโปรดชอบบรรยากาศแบบนี้ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของเขาอยู่ในกรุงเทพพบเจอแต่ความวุ่นวายจนน่าเบื่อหน่าย ชายหนุ่มจะผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้เดินทางไปเที่ยวตามต่างจังหวัดหรือต่างประเทศที่มีบรรยากาศเงียบสงบไม่พลุกพล่าน



เมื่อก่อนนี้ตอนเขายังเรียนไม่จบทรงโปรดเคยมีอิสระมากกว่านี้ กิจการในครอบครัวพี่ชายทั้งสองคนช่วยผู้เป็นมารดาสานต่อได้อย่างขยันขันแข็ง ช่วงปิดเทอมทรงโปรดเคยแม้แต่กระทั่งแบกดเป้ใบเดียวแล้วหนีขึ้นไปใช้ชีวิตเป็นครูอาสาบนดอย



                “เตรียมตัวมาพร้อมแล้วหรือยัง”หลวงตาแช่มดึงทรงโปรดให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ชายหนุ่มยิ้มและพยักหน้ารับ



                “พร้อมแล้วครับหลวงตา ผมเคลียร์งานหมดแล้ว”



                “แล้วนี่เตรียมงานไปถึงไหนแล้วล่ะโยมปราณี”



                “ก็ไม่มีอะไรมากเจ้าค่ะ เชิญแค่ญาติพี่น้องกับเพื่อนที่สนิทเท่านั้น น้องโปรดเธออยากจัดงานเล็กๆภายในครอบครัวเท่านั้น”คุณปราณีตอบหลวงตาด้วยน้ำเสียงนอบน้อมโดยที่ลูกชายทั้งสามคนได้แต่แอบมองหน้ากันแล้วก็ยิ้มด้วยเคยผ่านประสบการณ์บวชลูกชายสองคนมาแล้ว หลวงตาแช่มเองก็ส่งเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอแต่ก็ไม่ได้เอ่ยขัดอะไร



                “หลังจากนี้ก็เปลี่ยนมานุ่งขาว เช้าลุกขึ้นมาหัดทำวัตรสวดมนตร์ ตามพระรูปอื่นๆออกไปบิณฑบาต คำขานนาคท่องให้ขึ้นใจ สำรวจกายวาจาใจให้ดี เดี๋ยวให้แสนดีพาไปพักที่กุฏิว่าง ขาดเหลืออะไรก็เรียกใช้มันได้ แสนดีมันคล่อง น่าจะคุยกันรู้เรื่อง”



                “ครับหลวงตา”ทรงโปรดรับคำอย่างว่าง่าย ทั้งหมดอยู่คุยกันอีกซักพักจึงได้ลาหลวงตาเพื่อกลับกรุงเทพ คุณปราณีหันมาดึงมือลูกชายคนเล็กในดวงตาฉายชัดถึงความห่วงใยซึ่งชายหนุ่มก็สัมผัสความรู้สึกนั้นของผู้เป็นแม่ได้



                “แม่ครับ ไม่ต้องห่วงผม”ทรงโปรดดึงร่างของผู้เป็นมารดามากอดไว้ถ่ายทอดความอบอุ่นให้ผู้เป็นแม่ลูบหลังหล่อนเบาๆราวกับผู้ใหญ่ที่ปลอบโยนเด็ก



                “แม่เป็นห่วง”



                “รู้ครับ แต่ผมโตแล้ว อีกอย่างใช่ว่าจะไม่เคยลำบากตอนเรียนที่เมืองนอกผมก็ทำอะไรต่อมิอะไรเองตั้งหลายอย่าง แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ”กระชับอ้อมกอดให้ผู้เป็นแม่อุ่นใจก่อนจะผละออก ประจบเอาใจด้วยการหอมแก้มมารดาดังฟอดใหญ่จนคุณปราณีหัวเราะออกมาได้



                “ดูแลตัวเองดีๆนะลูกนะ”คุณปราณีลูบศีรษะลูกชายทิ้งท้ายแล้วจึงยืดกายเขย่งเท้าจูบแก้มลูกชายอีกที ทรงโปรดรับประเป๋าเสื้อผ้าที่พี่ชายคนโตยื่นให้ด้วยสีหน้าขำๆในขณะที่พี่ชายคนรองเปิดประตูรถให้ผู้เป็นมารดาเข้าไปนั่งรอ



                “เล่นใหญ่อย่างนี้ทุกคน ตอนฉันบวชแม่ก็แบบนี้เลย”เปรมมนัสบอกกับน้องชายด้วยน้ำเสียงขบขับปนเอ็นดูผู้เป็นแม่



                “เอาน่า แม่ก็ห่วงแบบนี้ตลอด ฝากดูท่านด้วยนะพี่”



                “เออ แกไม่ต้องบอกพวกฉันก็ดูแลแม่อยู่แล้ว แกเองก็เถอะดูแลตัวเองดีๆ หมั่นท่องบทสวดบทขนาดนาคให้ดีอีกอาทิตย์เจอกัน”เปรมมนัสโบกมือลาน้องชายแล้วจึงเดินเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ คุณปราณีมิวายจะเลื่อนกระจกลงมาโบกมือให้ลูกคนเล็กทิ้งท้าย ทรงโปรดยืนมองรถยนต์เคลื่อนออกไปช้าๆเมื่อหันมาก็เห็นเจ้าเด็กผมบลอนด์ตาสีฟ้าจ้องมองตาแป๋ว ถ้าตาไม่ฝาดเขาเห็นเด็กแสนดีอมยิ้มใส่เขาน้อยๆอีกต่างหาก



                “ขำอะไรครับ?”แกล้งทำเสียงเย็นใส่เด็ก แสนดีที่พอรู้ว่าตัวเองทำเรื่องเสียมารยาทรีบเอามือปิดปากตัวเองสีหน้าเลิ่กลั่กดวงตากลมเบิกโตกว่าเดิม



                “หนูเปล่าขำนะจ๊ะ หนูแค่รู้สึกว่าคุณนายน่ารักดี”



                “คุณนาย?”คราวนี้ทรงโปรดเป็นฝ่ายเลิกคิ้วกับสรรพนามที่แสนดีใช้ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อนึกได้ว่าแสนดีหมายถึงใคร



                “เรียกซะอย่างกับอยู่ในนิยายเลย คราวหลังเรียกคุณย่าก็ได้ แม่ฉันใจดี ว่าแต่เราชื่ออะไรนะ”ทรงโปรดแสร้งทำหน้าคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อไม่ทันที่แสนดีจะได้แนะนำตัวเองเลยซักนิด



                “อ่อ แสนดีใช่มั้ย ฉันชื่อทรงโปรดนะ เรียกพี่โปรดก็ได้ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”ทรงโปรดยื่นมือไปข้างหน้าแต่ทว่าชายหนุ่มก็ต้องหดมือกลับเก้อๆเมื่อแสนดียกมือขึ้นพนมือไหว้อย่างนอบน้อม



                “สวัสดีครับคุณโปรด หนูจำชื่อคุณได้ เดี๋ยวหนูพาไปห้องนะครับ”เจ้าเด็กน้อยไม่พูดพร่ำทำเพลงฉวยเอากระเป๋าในมือมาถือจนตัวโยกเพราะความหนักแล้วจึงพาเดินลิ่วๆโดยมีไอ้ด่างคอยกระโจนล้อมหน้าล้อมหลังให้ได้ส่งเสียงเอ็ดไปตลอดทางจนทรงโปรดนึกขำ



ดูท่าว่าการมาเตรียมตัวที่วัดคงจะไม่น่าเบื่ออย่างที่คิดเสียแล้วกระมัง







             (((ต่อด้านล่าง))
.................................................



หายไปนาน ลืมกันหรือยังคะ



ขอโทษที่ไม่ได้มาอัพเลย อย่างที่ทราบว่าเราเอาอาเข้าโรงพยาบาลตลอดสองเดือนคือกันยา-ตุลา เราเข้าๆออกๆโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น หลานก็ผลัดกันป่วย จนเดือนที่แล้วอาเราตายจัดการอะไรต่อมิอะไรเสร็จกลายเป็นว่าเราเหนื่อยและไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลยทำให้เปิดเวิร์ดทิ้งไว้เป็นเดือน พิมพ์ได้ทีละนิดละหน่อย



ขอกำลังใจให้เราด้วยคอมเม้นท์กันคนละเม้นท์ได้มั้ยคะ



สัญญาว่าจะกลับมาอัพสม่ำเสมอ

 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2019 08:11:04 โดย thanatcha »

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ยังไม่ลืมยังรออ่านเรื่องค่ะน้องแสนดีน่ารัก :pig4:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
น้องแสนดีตอนปกป้องจ่อยเท่จังเลยน้า พอคุณโปรดมาก็กลายเป็นเด็กน้อยน่ารักน่าเอ็นดูไปเลย

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ  :L1:
 :pig4:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
 :3123:
น้องแสนดีน่ารัก

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
น้องน่ารัก  :katai2-1:

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2


บ่วงคล้องรัก ตอนที่ 3 100%

"ผูกมิตร"

   ทรงโปรดนั่งมองแสนดีน้อยหอบเอาที่นอนหมอนมุ้งมาพร้อมกับจ่อยขึ้นมาบนกุฎิอย่างทุลักทุเล ใบหน้าขาวอมชมพูลายพร้อยเพราะเจ้าตัวปะแป้งมาจนแทบจะไม่เห็นผิวเนื้อแท้ไม่ต่างจากเจ้าจ่อยที่เดินตัวเปลือยใส่เพียงกางเกงนักเรียนเก่าๆที่โดนลดฐานะมาเป็นกางเกงนอนแทน เมื่อจัดที่หลับที่นอนให้ว่าที่พระใหม่เสร็จจ่อยกับแสนดีก็ผลุบหายไปทิ้งให้ทรงโปรดนั่งท่องบทสวดมนตร์อยู่เพียงลำพัง บรรยากาศตอนเย็นไม่ร้อนเหมือนเมื่อช่วงบ่าย ลมเย็นๆพัดมาให้รู้สึกตึงผิว มารดาของเขาโทรมาบอกว่าถึงกรุงเทพแล้วเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน แล้วก็ถามด้วยความห่วงใยว่าทรงโปรดจะอยู่ได้มั้ย ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่ทว่าเจือความหนักแน่นลงไปในน้ำเสียงว่าเขาอยู่และสามารถดูแลตัวเองได้



เขารู้ดีว่าผู้เป็นแม่รักและห่วงเขามาก แต่เขาโตเกินกว่าจะให้แม่มาคอยห่วงใยดูแลแล้ว ชายหนุ่มมองแม่ไก่แจ้ที่มีลูกเล็กๆเป็นฝูงกำลังใช้เท้าคุ้ยเขี่ยอาหารให้ลูกน้อยที่เอาแต่ส่งเสียงร้องไห้เจี๊ยวจ๊าวแล้วก็หลุดยิ้มออกมา



ไม่ว่าคนหรือสัตว์สัญชาติญาณความเป็นแม่สูงทั้งนั้น



แม่ยอมรักและอยากดูแลปกป้องลูกแม้ว่าลูกจะโตซักเพียงไหนก็ตาม



แต่เด็กแสนดีนั่นล่ะ ทั้งๆที่หน้าตาก็น่ารักน่าเอ็นดูทำไมคนเป็นแม่ถึงทิ้งได้ลง ทรงโปรดรู้ดีว่าเขาไม่ควรไปสงสัยชีวิตของใคร แต่เขาไม่ค่อยจะเคยเห็นว่าเด็กลูกครึ่งจะถูกเอามาทิ้งวัด



จริงๆไม่ว่าเด็กสัญชาติไหนก็ไม่ควรถูกทิ้งเหมือนหมูเหมือนหมาทั้งนั้น



ทรงโปรดนั่งอ่านบทสวดมนตร์รวมทั้งคำขานนาคจนเกือบสามทุ่มก็ได้ยินเสียงฝีเท้ามาหยุดที่ใต้ถุนตมด้วยเสียงล้างเท้าในอ่างตรงตีนบันไดไม่นานก็ปรากฏร่างขาวอมชมพูเรือนผมสีบลอนด์โผล่เข้ามายิ้มให้เขาจนตาหยี บนไหล่เล็กๆนั่นสะพายย่ามใบเก่าๆมาด้วยหนึ่งใบ ดูจากสภาพแล้วน่าจะผ่านการใช้งานมาแรมปี



                “หลวงตาให้แสนดีมานอนเป็นเพื่อนคุณโปรดจ้า” เจ้าเด็กบอกกับทรงโปรดถึงการปรากฏตัวในเวลานี้ ทรงโปรดอดที่จะขมวดคิ้วกับคำเรียกขานของแสนดีไม่ได้ ทั้งๆที่บอกไปแล้วเชียวว่าให้เรียกเขาว่าพี่แต่แสนดีก็ทำเหมือนไม่ได้ยินเสียอย่างนั้น



                “แสนดีเรียกฉันว่าพี่ก็ได้นะ”ทรงโปรดยังไม่ละความพยายามที่จะให้คนเด็กกว่าเรียกตัวเองว่าพี่หากแต่เจ้าเด็กตาน้ำข้าวกลับถามคำถามที่ไปคนละทางกับที่เขาพูด



                “คุณโปรดหิวมั้ยครับ ถ้าหิวแสนดีไปเอาข้าวที่แม่มาให้กินได้นะ หลวงตาบอกว่าคุณโปรดยังไม่ต้องงดอาหารหลังเที่ยงก็ได้”



                “ไม่หิวหรอก อยากกินกาแฟมากกว่า”เจ้าแสนดีเลิกคิ้วราวกับแปลกใจ



“กินกาแฟตอนนี้เหรอครับ เดี๋ยวก็นอนไม่หลับหรอก”



“ฉันเคยตัวซะแล้ว กินตั้งแต่สมัยเรียน”



“แล้วแบบนี้คุณโปรดนอนกี่ทุ่มกี่ยามกันครับ แสนดีพอซักสามสี่ทุ่มก็ง่วงแล้ว”เจ้าคนเด็กว่าพลางหาวโชว์เขาเสียทีหนึ่ง ทรงโปรดให้นึกเอ็นดูเจ้าเด็กผมบลอนด์นี้นัก ไม่ว่าจะคำพูดคำจา หน้าตา หรือท่าทางก็น่ามองไปเสียหมด



“ปกติอยู่กรุงเทพฉันนอนดึกน่ะ ต้องเอางานกลับมาทำที่บ้านแต่ตื่นนอน 6 โมงเช้าเป็นเรื่องปกติ”



“แต่อยู่ที่นี่คุณโปรดต้องตื่นตีสี่ครึ่งนะ จะตื่นไหวมั้ยครับ”เจ้าแสนดีน้อยถามเขาด้วยดวงตาใสแจ๋ว



“ไหวสิ ทำไมจะไม่ไหวล่ะ”



“กาแฟค่อยเอาพรุ่งนี้ได้มั้ยเดียวหนูไปดูที่โรงครัวให้ ปกติเวลามีงานศพญาติโยมจะเอากาแฟซองมาเลี้ยงแขกพอเหลือก็ยกให้วัดเอาไว้ให้พระฉัน เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูไปเอามาให้”แสนดีขันอาสาอย่างกระตือรือร้น ทรงโปรดถึงกับโบกมือห้ามเป็นพัลวัน



“ไม่ต้องๆ ของเขาถวายพระ ฉันเอามากินได้ตกนรกตาย ถ้าจะเข้าไปซื้อของในเมืองต้องไปยังไงแสนดีพอจะรู้มั้ย?”



“ปกติถ้าแม่จะเข้าเมืองไปซื้อของเข้าครัวพ่อจะขับรถพาไปห้างครับ ไม่ก็ต้องไปขึ้นรถตอนเช้าที่หน้าร้านค้ายายเล็กหน้าวัด”



                “งั้นพรุ่งนี้เราเข้าเมืองกัน”ทรงโปรดบอกกับเด็กตรงหน้าด้วยสีหน้ายิ้มๆ แสนดีทำตาโตราวกับเด็กได้ของเล่นที่ถูกใจแต่เพียงครู่เดียวเจ้าเด็กลูกครึ่งก็ทำปากงุ้ยอย่างตัดใจ



                “แสนดีต้องอยู่ดูแลหลวงตา”เด็กน้อยตอบเสียงเบา



ไอ้อยากเข้าเมืองก็อยากอยู่หรอกแต่แสนดีไม่อยากทิ้งหลวงตาไปไหนไกลเลย ช่วงนี้สุขภาพของหลวงตาแย่ลงทุกวัน บางวันตัวบวมเท้าบวมมากนวดยังไงก็ไม่หายปวด



                “ไปแป๊บเดียวแหละได้ของครบก็กลับ นะ แสนดีไปกับคุณโปรดได้มั้ยครับ คุณโปรดไปเองไม่ถูกหรอก”ทรงโปรดทำน้ำเสียงน่าสงสารแสร้งตีหน้เศร้านิดหนึ่งให้เด็กมันดู แสนดีมองแล้วให้เกิดความสงสารคิดทบทวนชั่งใจอีกครู่จึงยอมพยักหน้าตกลง



                “งั้นไปแป๊บเดียวนะครับ”



                “ครับ ไปแค่แป๊บเดียว”



ทรงโปรดนอนมองเจ้าเด็กลูกครึ่งที่ไม่ค่อยจะตื่นเต้นกับการจะได้เข้าไปเที่ยวห้างในเมืองเท่าไหร่ ก็แสนดีน่ะวิ่งแจ้นกลับห้องนอนเดิมที่นอนรวมกับจ่อยและแมนหายไปพร้อมไอ้ด่างหมาคู่ใจพักใหญ่แล้วก็กลับมาด้วยเสื้อผ้าชุดที่ดีที่สุดในความคิดของแสนดีเป็นเสื้อยืดลายยอดมนุษย์สีแสบๆ กางเกงขาสั้นที่สีเดิมน่าจะขาวกว่านี้แต่ตอนนี้ออกสีน้ำตาลอ่อนๆ และเช่นเดียวกับจ่อย แสนดีใช้รองเท้านักเรียนสีกากีเป็นรองเท้าใส่เที่ยว เมื่อกลับมาก็จัดแจงวางเสื้อผ้าของตัวเองไว้ปลายเท้า จากนั้นก็นั่งหันหน้าเข้าหาหมอนพนมมือสวดมนตร์อยู่พักใหญ่กราบหมอนแล้วล้มตัวลงนอนไม่ถึงสิบนาทีก็หลับปุ๋ยไปเสียดื้อๆทิ้งให้ทรงโปรดนั่งมองเด็กที่บอกว่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนเขาไปเสียครึ่งค่อนคืน

 

                ทรงโปรดกำลังรู้สึกทรมาน ถนนดินลูกรังนั้นมีหินที่แหลมกระจัดกระจายเต็มท้องถนน หากตรงไหนเป็นทางเดินดินก็ค่อยยังชั่วหน่อย ชายหนุ่มออกตามพระมาบิณฑบาตตั้งแต่แสงตะวันโผล่พ้นขอบป้า อากาศตอนกลางคืนเย็น น้ำค้างจึงเกาะพราวตามยอดหญ้า ชาวบ้านพาวัวควายออกมากินหญ้า บ้างก็เริ่มตระเตรียมอุปกรณ์สำหรับใช้ประกอบอาชีพของตน ส่วนมากที่รอตักบาตรพระก็เป็นเหล่าแม่บ้านผู้หญิง มีผู้ชายปะปนบ้างเป็นส่วนน้อย ถ้าไม่ใช่เด็กก็เป็นคนแก่ไปเลย ทรงโประกัดฟันกลั้นความเจ็บปวดโดยมีดวงตาสีฟ้าอมเขียวคอยมองอย่างห่วงใยอยู่ด้านหลัง



คุณทรงโปรดดื้อนัก ทั้งๆที่แสนดีและพระรูปอื่นบอกแล้วแท้ๆว่าให้ใส่รองเท้าออกมาก็ได้ แต่ชายหนุ่มก็ยืนกรานว่าตนจะถอดรองเท้าเดินเหมือนพระเพื่อเป็นการหัดไว้จะได้ชิน แต่พียงแค่เลี้ยวออกจากประตูวัดเจอถนนลูกรังทรงโปรดก็ทำหน้าเบี้ยวจนหมดหล่อเสียแล้ว



                “ไหวมั้ยครับคุณโปรด”เจ้าตัวน้อยอดไม่ได้ที่จะเดินไปกระซิบถาม ทรงโปรดก้มลงมายิ้มให้เด็กที่แสดงความห่วงใยเขาอย่างชัดเจน



                “ไหว...แต่เจ็บเอาเรื่อง”ชายหนุ่มตอบอย่างไม่อ้อมค้อม พยายามโหย่งเท้าหนีความแหลมของก้อนหินสีแดงส้ม แต่พอถึงบ้านคนก็ทำเป็นเดินนิ่งอย่างสงบ ใช้เวลาเดินเกือบสองชั่วโมงถึงได้กลับวัด บ้านคนไม่ได้มากหากว่าแต่ละหลังปลูกห่างกันค่อนข้างมากจึงใช้เวลาเดิน บางบ้านเป็นญาติของพระก็หยุดคุยกันบ้างตามประสา ถามถึงงานบุญที่ทางวัดต้องการความช่วยเหลือ



เมื่อกลับมาถึงวัดทรงโปรดก็เห็นแสนดีวิ่งไปเกาะราวบันไดเอ่ยถามอะไรซักอย่างกับหลวงตาแช่มที่จ่อยคอยหยิบจับข้าวของให้ตั้งแต่เช้า ซักพักเจ้าตัวเล็กก็วิ่งปรู้ดหายไปทางโรงครัว เด็กวัดคนอื่นๆที่เริ่มทยอยกลับมาวัดพร้อมพระที่ไปเส้นอื่นเริ่มทยอยกันเอาข้าวของเข้าไปไว้ในโรงครัว กับข้าวนับสิบอย่างถูกถ่ายเทใส่จานชามอย่างคล่องแคล่วโดยที่ยายสะอาดคอยจัดเป็นสำรับๆไว้สำหรับให้พระฉัน ส่วนที่เหลือก็เอาไว้ให้เด็กวัดกินโดนไม่ลืมกันบางส่วนเอาไว้ให้พระฉันตอนเพล เป็นครั้งแรกที่ทรงโปรดได้นั่งกินข้าวร่วมกับพวกเด็กวัด แมนจ้องหน้าทรงโปรดอย่างไม่ชอบใจ เด็กคนอื่นๆที่เคยมูมมามพอมีทรงโปรดมาร่วมวงก็สงบเสงี่ยมขึ้นเพราะรู้ว่าคนนี้กำลังจะมาบวชเป็นพระและรู้จักกับท่านเจ้าอาวาสรวมทั้งหลวงตาแช่มเป็นการส่วนตัว อีกทั้งท่าทีสงบเงียบของทรงโปรดค่อนข้างน่าเกรงขาม พวกเด็กลิงเด็กค่างจึงสงบเพื่อดูท่าที ยายสะอาดคอยเหลือบตามองเป็นระยะๆเมื่อเห็นว่าเด็กๆไม่ได้ออกฤทธิ์ออกเดชอะไรกับว่าที่พระใหม่ก็หิ้วกับข้าวออกไปให้เด็กที่มาขอข้าววัดทุกวัน



                “พวกมึงเป็นอะไรกัน ทำไมไม่รีบๆกินให้มันเสร็จๆ อ่าวมึงไอ้ต้น ตักๆเข้าไปสิจะไปเกรงใจใครทำไมพวกมึงอยู่มาก่อน”



                “แต่...”เด็กที่ชื่อต้นมีท่าทางลังเลที่จะทำตามที่แมนสั่ง เด็กชายโตกว่าแสนดีเหลือบมองหน้าทรงโปรด แสนดีเองก็อดที่จะเหลือบมองไม่ได้ ทรงโปรดในยามนี้สีหน้าเรียบตึงไม่มีวี่แววคุณโปรดใจดีที่บอกจะพาเขาเข้าเมืองแบบเมื่อคืนเลยซักนิด



ยามยิ้มคุณโปรดดูใจดีมาก แต่ในยามนี้ทรงโปรดกลับดูดุ ดุโดยไม่ต้องแสดงความรู้สึกอะไรผ่านสีหน้าเลยซักนิด แมนเห็นท่าทางของต้นก็ฮึดฮัด เด็กหนุ่มใช้ช้อนของตัวเองจะตักกับข้าวในชามแต่ทรงโปรดก็จับแขนของแมนรั้งไว้ แมนเงยหน้าขึ้นมองทรงโปรดทันที



                “จะจับกูทำไม ปล่อยกูจะกินข้าว”



                “ช้อนกลาง”ทรงโปรดตอบกลับเรียบๆไม่ได้ปล่อยมือแมนที่พยายามจะตักกับข้าวในชามเมื่อเห็นว่าแมนไม่ยอมก็ออกแรงบีบแขนเด็กหนุ่มให้แรงขึ้นจนแมนรู้สึกเจ็บ



                “ทำไมต้องใช้ ปกติพวกกูก็แดกกันแบบนี้ไม่เห็นมีใครดัดจริตใช้ช้อนกลางเลยซักคน”แมนเอ่ยเถียงอย่างไม่ยอม เด็กหนุ่มรู้สึกว่าทรงโปรดกำลังจะเข้ามาทำให้อำนาจของตนเองลดลง



                “มันไม่เกี่ยวกับดัดจริตหรือไม่ดัดจริตมันเกี่ยวกับสุขอนามัยที่ทุกคนพึงมี พวกเธอรู้มั้ยโรคติดต่อที่มาจากน้ำลายบางโรคจะทำให้พวกเธอตายได้ถ้านายแมนป่วยเป็นโรคนั้นๆพวกเธอที่กินกับข้าวร่วมกันก็ติดไปด้วยเพราะโรคพวกนี้ติดต่อกันทางน้ำลาย”



                “กูไม่ได้ป่วย”แมนเถียงขึ้นมาทันที



                “ใครจะไปรู้ นายอาจจะป่วยโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะ หน้าซีดๆนะเราลองไปตรวจเลือดดูบ้างก็ดีนะ ใครอยากจะกินร่วมกับนายแมนก็กินไปเถอะ ฉันคนหนึ่งล่ะที่ไม่กล้า ไปแสนดี ไปแต่งตัว ฉันจะพาเข้าเมืองไปหาอะไรอร่อยๆกินกันที่ห้างเถอะ”แสนดีทำหน้าเหลอหลาเมื่อทรงโปรดเปลี่ยนจากจับแขนแมนเป็นดึงตัวแสนดีให้ลุกตาม



                “ไปแต่งตัวรอนะครับเดี๋ยวคุณโปรดจะไปยืมรถจากพ่อของแสนดี”ทรงโปรดบอกเด็กตัวขาวที่ยังมีสีหน้าตื่นๆ



                “แต่มันยังเช้าอยู่เลยนะคุณโปรดห้างยังไม่เปิดหรอก”แสนดีร้องท้วงเพราะนี่เพิ่งจะแปดโมงกว่ากว่าห้างจะเปิดก็ 10 โมงนั่นแหละ



                “แค่ให้ไปเตรียมตัวไว้ก่อนน่ะซัก 9 โมงครึ่งเราค่อยไป แสนดีไปแต่งตัวรอเถอะแล้วจะไปอยู่เป็นเพื่อนหลวงตาก่อนก็ไป เดี๋ยวยืมรถเสร็จฉันจะกลับมาท่องบทขานนาคต่อแล้วเราค่อยไปกัน แสนดีหิวข้าวหรือเปล่า ขอโทษนะที่ทำให้ต้องออกมาก่อน ยังไม่ทันได้กินข้าวเลย”



                “ไม่หิวหรอกแต่ถ้าหิวเดี๋ยวหนูไปกินข้าวที่บ้านแม่ได้”



                “อย่างนั้นก็ดี แต่ถ้าไม่หิวเดี๋ยวคุณโปรดพาไปกินข้าวในห้าง แสนดีอยากกินอะไรคิดไว้เลยนะเดี๋ยวคุณโปรดเลี้ยงเอง”



                “แสนดีไม่รู้หรอกครับว่าที่ห้างมีอะไรกิน



                “เดี๋ยวไปถึงค่อยเลือกก็ได้ ในห้างมีของกินเยอะแยะเลย อยากกินอะไรคุณโปรดจะซื้อให้”ทรงโปรดบอกอย่างใจดี เจ้าแสนดีน้อยยิ้มจนตาเป็นสระอิ



                “คุณโปรดไม่ต้องเลี้ยงแสนดีหรอกครับ แสนดีมีตังค์”เจ้าคนเด็กแสร้งตบกระเป๋าอย่างอวดๆ



                “หืม?” มีเงินด้วยเหรอครับ?”



                “มีสิ ก็ตอนนั้นคุณโปรดให้แสนดีมาตั้งห้าร้อยแสนดียังไม่ได้ใช้เลยแสนดีเอาไปฝากหลวงตาไว้ เดี๋ยวไปเบิกออกมาก็ได้”แสนดีบอกอย่างอวดๆว่าตนเองนั้นก็มีเงินของตัวเอง ทรงโปรดส่ายหน้าพลางโยกหัวของเด็กน้อยเบาๆด้วยความเอ็นดู



                “ไม่ต้องเบิกมาหรอกครับ ไปกับคุณโปรด คุณโปรดจะปล่อยให้เด็กออกเงินเองได้ยังไง ไปเถอะเดี๋ยว 9 โมงครึ่งคุณโปรดไปเรียก”ชายหนุ่มปล่อยมือจากเรือนผมนุ่มของแสนดีเจ้าเด็กตัวขาวจึงได้แยกไปกุฏิหลวงตาแช่ม พอเก้าโมงครึ่งทรงโปรดก็ขึ้นไปขออนุญาตหลวงตาแช่มพาแสนดีไปในเมือง หลวงตาแช่มพยักหน้าอนุญาตเจ้าเด็กลูกครึ่งจึงได้ขึ้นไปนั่งหน้าแป็นบนรถกระบะของทางวัดที่ทรงโปรดไปยืมมาจากมาโนช รถกระบะสภาพบุโรทั่งวิ่งปุเลงไปบนถนนลูกรังจนเกิดฝุ่นสีแดงสนิมคละคลุ้งก่อนจะตัดขึ้นถนนใหญ่ลาดยางในที่สุดแสนดีดูตื่นเต้นเพราะไม่บ่อยนักที่จะได้เข้าไปเที่ยวในเมืองยิ่งห้างสรรพสินค้าแสนดีไม่เคยได้ไปเที่ยวเลยซักครั้งที่เคยได้ไปก็เป็นเพียงซุปเปอร์มาเกตหรือร้านสะดวกซื้อเจ้าเด็กตัวขาวจึงเก็บความตื่นเต้นไว้ไม่มิด ดวงตาสีสวยเป็นประกายยามที่รถเข้ามาจอดในลานจอดรถ ทรงโปรดเดินนำเด็กน้อยเข้ามาในห้าง แสนดีทำไหล่ห่อเมื่อความเย็นจากเครื่องปรับอากาศเข้ามากระทบผิวจนขนลุก ทรงโปรดพาแสนดีเดินดูร้านอาหารคอยสอบถามว่าแสนดีอยากกินอะไรแต่เจ้าคนเด็กก็เอาแต่ส่ายหน้าไม่ยอมเลือกร้านไหนซักทีจนอดจะแปลกใจไม่ได้



                “ทำไมไม่เลือกล่ะแสนดีไม่หิวเหรอ”



                “หิวครับ แต่...”แสนดีเหลือบตามองพนักงานร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดร้านหนึ่งที่ยืมมองมาที่ทั้งคู่สีหน้ายิ้มๆจนเจ้าตัวต้องทำเสียงกระซิบกระซาบ



                “ราคาแพงมากเลยครับ ไก่ทอดตลาดนัดที่วัดเพิ่งจะชิ้นละ 20-30 เอง แต่ที่นี่ราคาเป็นร้อยเลย เปลืองเงินคุณโปรดเราออกไปหาก๋วยเตี๋ยวข้างนอกกินก็ได้ครับ”เป็นอีกครั้งที่ความใสซื่อของแสนดีทำเอาทรงโปรดหัวเราะจนเต็มเสียง



เขาไม่ได้หัวเราะเพราะความด้อยโอกาสที่แม้แต่ของที่เด็กในเมืองหรือเด็กในกรุงเทพส่วนมากเห็นเป็นแค่ของกินเล่นที่ราคาธรรมดาแต่แสนดีกลับมองว่ามันเป็นของราคาแพงที่หากว่าตนเองเลือกจะกลายเป็นการรบกวนเขา



ทรงโปรดเคยเจอแต่เด็กที่รบเร้าอยากจะกินนั่นกินนี่ไม่เว้นแม้แต่หลานๆ ของเขาเองแต่นั่นเป็นเพราะว่าครอบครัวของเขามั่งมีจนคิดว่าอาหารพวกนี้ราคาถูกสามารถซื้อให้ลูกหลานกินเมื่อไหร่ก็ได้



มองดวงตาระยิบระยับคู่สวยก็รู้ว่าแสนดีให้ความสนใจกับร้านไก่ทอดชื่อดัง ทรงโปรดไม่รู้หรอกว่าแสนดีอยากกินเองหรือเป็นเพราะเคยเห็นโฆษณาในทีวีหรือเพราะเพื่อนในห้องเคยเอามาพูดโอ้อวดแต่ชายหนุ่มก็ดันหลังเล็กๆนั่นให้เข้าไปในร้านจนได้




หากแสนดีเป็นเด็กที่ขาดโอกาส เขาจะมอบโอกาสนั้นให้เด็กคนนี้เอง แม้จะเป็นเพียงโอกาสที่แสนเล็กน้อยบนโลกใบใหญ่ก็ตามที




.............................................


ขออนุญาตขึ้น คห.ใหม่เพราะลองเอาต่ออันเก่าแล้วมันเกินค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและรอเรื่องนี้นะคะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
คุณโปรด ดูละมุนมาก~

ออฟไลน์ ป้าหมีโคตรขี้เกียจ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
รู้สึกเหมือนได้เล่นเกมตามหา Easter egg ยังไงไม่รู้ ทั้งๆที่จริงๆแล้วคุณว่านอาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ไม่รู้ล่ะ แต่งานคุณว่านที่ผ่านๆมา (เท่าที่เราเคยอ่าน) จะเกี่ยวกับอาหารหรือเรื่องทำครัวแทรกจนเรานึกเล่นๆว่าเรื่องนี้จะมีอะไรที่เกี่ยวกับของกิน อาหารบ้างนะ นี่มีตั้งแต่ป้าสะอาดเป็นแม่ครัวของวัด ไหนจะแทรกเรื่องการใช้ช้อนกลางตอนกินอาหารร่วมกับคนอื่นในตอนนี้อีก แง ทับใจมาก สนุกด้วยที่ได้ตามหา easter egg  :katai2-1:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2

ตอนที่ 4 ((50%))





                   แสนดีมองทรงโปรดที่เลือกเสื้อผ้าด้วยสายตาอยากจะห้ามแต่ห้ามไม่ได้



จริงๆห้ามไปแล้วแต่คุณทรงโปรดไม่ฟังเด็กน้อยเลย หลังจากกินไก่ทอดพร้อมกับสั่งไปฝากเด็กวัดคนอื่นๆแล้วทรงโปรดก็พาแสนดีแวะซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่อีก 2-3 ชุด เป็นเสื้อผ้าที่ดูดีจนแสนดียังนึกไม่ออกเลยซักนิดว่าตัวเองจะใส่มันเนื่องในโอกาสอะไรเพราะปกติก็ใส่แค่ชุดนักเรียนกับเสื้อกางเกงที่หลวงตาซื้อให้บ้างครูบัวเองของที่มีคนบริจาคมาให้บ้างก็ใส่วนๆซ้ำๆกัน ส่วนชุดที่คุณทรงโปรดซื้อให้ทั้งหรูและแพงขืนแสนดีใส่ไปกวาดลานวัดไอ้ด่างคงไล่เห่าไล่กัดซะล่ะมั้ง คุณทรงโปรดยังไม่ลืมที่จะซื้อไปฝากจ่อยอีกหนึ่งชุดและเลือกเสื้อยีนส์ตัวใหญ่อีกหนึ่งตัว พอจ่ายเงินเสร็จก็พาแสนดีเข้ามาในซุปเปอร์มาเกตชายหนุ่มเข็นรถโดยมีแสนดีเดินตามแล้วหยิบสินค้าชิ้นนู้นชิ้นนี้เข้ารถเข็นมาเรื่อยๆเริ่มตั้งแต่กาแฟยี่ห้อที่แสนดีไม่เคยเห็น ปกติก็คุ้นตาเฉพาะกาแฟที่เห็นทั่วไปในโฆษณาทีวีแต่ที่ทรงโปรดหยิบนั้นทั้งแพงและแปลกใหม่ ทรงโปรดซื้อโอวัลตินถุงใหญ่อีก 2-3 ถุง ครีมเทียม นมข้นหวาน น้ำตาลก้อนใส่ไปอีกหลายกล่อง พอเห็นเจ้าเด็กตาฟ้ามองอย่างสงสัยก็หันมาบอกราวรู้ใจ



                “โอวัลตินซื้อไว้ให้พวกเด็กๆชงกิน ส่วนกาแฟซื้อไปถวายพระในวัด”



                “น้ำตาลทรายที่ครัวก็มีนะครับ”แสนดีมองกล่องน้ำตาลก้อนแล้วบอกด้วยความหวังดี



                “แต่น้ำตาลก้อนมันสะดวกไม่ต้องตักให้หก จะใส่กี่ก้อนก็หยิบใส่แก้วได้เลยสะดวกกว่า”ทรงโปรดให้เหตุผลที่ทำให้แสนดีจำเป็นต้องเงียบอย่างขี้เกียจจะเถียง

น้ำตาลอะไรมันก็ใช้ได้เหมือนกันแหละ



ทรงโปรดเข็นรถเข็นที่ยิ่งเข็นนานของในรถเข็นก็ยิ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ใช้เวลาในห้างสรรพสินค้าจนถึงบ่ายสองก็พากันกลับมาที่วัด ทรงโปรดเรียกเด็กๆให้มาช่วยกันขนของบางส่วนถูกนำไปไว้ในโรงครัว ยายสะอาดยิ้มจนหน้าบานเมื่อเห็นข้าวของเครื่องใช้เครื่องปรุงดีๆ บางอย่างก็ไม่เคยใช้ไม่เคยเห็นยี่ห้อนั้นเลยด้วยซ้ำแถมทรงโปรดยังใจดีซื้อไก่ทอดมาให้ยายสะอาดกล่องใหญ่พวกชากาแฟรวมทั้งขนมขบเคี้ยวสำหรับถวายพระทรงโปรดแยกไว้ให้อีกส่วนหนึ่ง ผลไม้นอกราคาแพงถูกแบ่งแล้วแช่ตู้เย็นไว้สำหรับถวายพระกับแบ่งกันกินสำหรับลูกวัด หลังจากเด็กๆช่วยกันยกของเสร็จเรียบร้อยแล้วแสนดีก็ให้พวกเด็กวัดมายกถุงที่บรรจุไก่ทอดที่ทรงโปรดซื้อมาฝาก เด็กที่คุ้นชินกับโครงไก่เสียบไม้ย่างสีแดงจัดหน้าวัดแสดงอาการตื่นเต้นกันอย่างเห็นได้ชัด เพราะเป็นที่ห่างไกลตัวเมืองหลายสิบกิโลเมตร และด้วยฐานะที่ยากจนไม่มีใครเคยกินไก่ทอดเจ้าดังนี้



                “ขอบคุณคุณโปรดก่อน”แสนดีบอกกับเด็กวัดที่พากันกรูมาเตรียมจะหยิบไก่ในกล่องเด็กๆส่งเสียงขอบคุณครับกันให้ลั่นไปหมด เวลาไม่ดื้อไม่ซนเวลาเชื่อฟังทรงโปรดก็รู้สึกว่าเด็กพวกนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ทรงโปรดกวาดตามองหาแมนแต่ก็ไม่เห็น



                “แสนดี”เอ่ยเรียกเจ้าเด็กผมบลอนด์ที่กำลังใช้ภาษามือง่ายๆคุยกับจ่อย



                “ครับ?”



                “เก็บไว้ให้แมนซักสองชิ้น”แสนดีเบะปากใส่ทันที



                “เก็บให้มันทำไมอ่ะ มันนิสัยไม่ดีคุณโปรดก็รู้”



                “แบ่งเถอะ ผูกมิตรกันไว้เขาจะได้เลิกหาเรื่องกัน”



                “เชื่อเถอะมันไม่สำนึกบุญคุณของคุณโปรดหรอก”ปากบ่นแต่ก็ยอมหยิบไก่ทอดเก็บไว้ให้แมนสองชิ้นตามที่ทรงโปรดบอก ทรงโปรดหิ้วข้าวของที่ซื้อมาขึ้นกุฏิของตัวเองโดยมีแสนดีเดินตามมาหลังจากเอาไก่ทอดไปให้แมนด้วยสีหน้าบูดบึ้ง



                “หนูบอกแล้วว่าไม่ต้องให้มันก็ไม่เชื่อ”เจ้าตาฟ้าบ่นอุบทิ้งตัวนั่งลงบนชานเรือน



                “เขาทำอะไรกลับมาอีกล่ะ? ไหนบอกคุณโปรดซิ”



                “ก็ไอ้แมนมันเอาถุงไก่เขวี้ยงหัวหนูมาเนี่ย”แสนดีค้อนลมค้อนแล้งแล้วตวัดตามาค้อนทรงโปรดเสียทีหนึ่ง



น่ารักดีแฮะ ขนาดโกรธยังน่ารัก ทรงโปรดโคลงหัวเจ้าเด็กที่กำลังฟึดฟัดเล่นเบาๆ



                “คุณโปรดขอโทษได้มั้ยครับ”เสียงทุ้มเอ่ยปากขอโทษคนเด็กกว่าที่ทำให้แสนดีต้องโดนแมนรังแก



                “คุณโปรดจะมาขอโทษแสนดีทำไมครับ แสนดีไม่ได้โกรธคุณโปรดซักหน่อย ไอ้แมนนู่นที่ต้องขอโทษแสนดี”



                “เอาเถอะๆ เอาเป็นว่าคุณโปรดขอโทษแสนดีแทนแมนแล้วกันนะครับ เดี๋ยวของกองนี้แสนดีเอาไปถวายหลวงตาแช่มนะ คุณโปรดนะท่องบทขานนาคซักพัก เย็นๆจะไปช่วยกวาดลานวัด”แสนดีรับคำแล้วลุกขึ้นหิ้วถุงที่ทรงโปรดแยกไว้สำหรับหลวงตาแช่มวิ่งปร๋อตรงไปที่กุฏิของหลวงตาโดยมีไอ้ด่างหมาวัดวิ่งล้อมหน้าล้อมหลังตามไปติดๆ ทรงโปรดหยิบเอาหยังสือบบทสวดมนต์ออกมานั่งท่องอย่างตั้งใจ



แสนดีหิ้วถุงของพะรุงพะรังพลางเอ็ดไอ้ด่างที่กระโจนใส่ตลอดทางจนกระทั่งถึงกุฏิของหลวงตาแช่ม หลวงตาจำวัดอยู่ในนั้นมีเพียงพัดลมตั้งโต๊ะที่เปิดเบาๆไล่อากาศร้อน



                “กลับมาแล้วเรอะแสนดี”



                “กลับมาแล้วจ้าหลวงตา”แสนดีคลานเข่าเข้าไปหาหลวงตาแล้ววางถุงของที่ทรงโปรดซื้อแยกให้หลวงตาโดยเฉพาะ



                “อันนี้คุณโปรดซื้อมาถวายหลวงตาจ้า คุณโปรดแยกไว้ต่างหากบอกว่าหลวงตาฉันแบบพระรูปอื่นไม่ได้ อันนี้องุ่นกับชมพู่หลวงตาต้องฉันอาหารที่เหมาะกับโรคนะจ๊ะ คุณโปรดซื้อปลากับไข่แล้วก็อกไก่ไปไว้ที่ครัวเอาไว้ทำให้หลวงตาฉันโดยเฉพาะ”



                “ซื้อมาทำไมให้ยุ่งยากสิ้นเปลือง แล้วเราล่ะได้อะไรมาบ้าง”หลวงตาพยุงกายขึ้นนั่งโดยมีแสนดีช่วยประคอง เด็กน้อยรีบนั่งบีบเฟ้นแข้งขาให้หลวงตาอย่างเคยชิน ปากเล็กก็เจื้อยแจ้วบอกเล่าเรื่องราวที่ได้ไปทำกับคุณโปรดมาวันนี้ เล่าแม้กระทั่งถูกแมนเขวี้ยงถุงไก่ทอดใส่หัว หลวงตาหัวเราะหึหึอย่างเห็นเป็นเรื่องขำจนเจ้าเด็กหัวทองทำปากคว่ำใส่ไปเสียทีหนึ่ง



                “เขาใจดีมากใช่มั้ยแสนดี”



                “ใจดีจ้า พูดก็เพราะ แต่เวลาดุก็ดูดุ๊ดุนะจ๊ะ แต่ถ้าไม่ทำตัวเกเรคุณโปรดก็คงไม่ดุ”



                “แบบนั้นก็ดีแล้ว แล้วแสนดีชอบอยู่กับคุณเขามั้ยล่ะ”



                “ชอบจ้า คุณโปรดเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้ฟังเพลินดี วันนี้ยังซื้อเสื้อผ้าให้หูตั้งหลายชุด แกว่าเอาไว้ใส่ไปเที่ยว หนูก็ว่าหนูอยู่แต่วัดกับโรงเรียนจะให้แต่งตัวดีๆไปไหน แกก็ว่างั้นแต่งชุดที่แกซื้อให้วันงานก็แล้วกัน”



                “ก็ดีแล้ว จะได้มีเสื้อผ้าใหม่ๆใส่บ้าง เอาล่ะตาหายเมื่อยแล้ว เอ็งไปพักเถอะ ตาจะนอนอีกซักงีบแล้วค่อยทำวัตรเย็น”หลวงตาแช่มเอนกายลงนอนอีกครั้ง แสนดีกราบลาหลวงตาหับประตูห้องให้แล้วก็วิ่งปร๋อไปเล่นกับจ่อย

 

วันเวลาในการมาฝึกสวดมนต์และเตรียมบวชของทรงโปรดผ่านพ้นไปจนกระทั่งถึงกำหนด ก่อนวันงานหนึ่งวันโต๊ะเก้าอี้ถูกนำมาจัดวางจนแน่นสนามหญ้าหน้าโบสถ์ คุณเปรมและคุณป่านในชุดลำลองก็ช่วยคนงานยกของไม่ได้หยุด ยายสะอาดถูกจ้างให้เป็นแม่ครัวใหญ่โดยที่มีภรรยาของคุณเปรมและแฟนสาวของคุณป่านคอยหยิบจับเป็นลูกมือ ลูกๆของคุณเปรมคือน้องธีร์กับธัญญ่านั่งเล่นอยู่ในศาลาวัด ญาติๆของทรงโปรดรวมทั้งพนักงานบริษัทนั่งเตรียมของที่จะใช้แห่นาคเข้าโบสถ์อยู่ไม่ไกล คุณปราณีเป็นประธานอยู่กลางวงหยิบจับข้าวของอย่างคล่องแคล่วโดยมีแสนดีคอยวิ่งช่วยตรงนู้นทีตรงนี้ที



รุ่งเช้าพิธีการต่างๆผ่านไปด้วยดีพอมาถึงช่วงที่ปลงผมคุณปราณีถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ พี่ชายทั้งสองและญาติรวมทั้งเพื่อนฝูงที่ตามมาสมทบในตอนเช้ามืดผลัดกันขลิบผมให้นาคทีละนิดละหน่อยบ้างพูดจาหยอกล้ออย่างสนิทสนม บ้างน้ำหูน้ำตาไหลด้วยความปลื้มใจ ส่วนเด็กวัดอิ่มแปล้ทั้งคาวทั้งหวานแถมยังมีไอศกรีมอร่อยๆมาเลี้ยงให้ได้ตักกินกันไม่อั้น มองจากจำนวนแขกเหรื่อแล้วแสนดีก็ไม่เห็นจะเข้าใจคำว่างานเล็กๆในครอบครัวของคุณปราณีเลยซักนิด เพราะแขกที่เดินไปเดินมาขวักไขว่นี้กะจากสายตาก็ประมาณ 200 คนเห็นจะได้



พิธีแห่นาคเข้าโบสถ์ของคุณโปรดทำให้แสนดีงงเข้าไปอีกเพราะปกติงานแห่นาคนั้นเป็นงานที่เด็กๆรอคอย มันมีทั้งความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ แตรวงจะประโคมแต่เพลงสนุกๆ นางรำจะยักย้ายส่ายสะโพกออกลีลาแข่งกัน บางคนก็ดื่มเครื่องดื่มมึนเมาบ้างก็ส่งเสียงกรีดร้องสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ร่วมขบวน



แต่งานของทรงโปรดกลับไม่มีบรรยากาศเหล่านั้นเลย คุณทรงโปรดไม่ได้ขี่คอคออื่นวนรอบโบสถ์หากแต่เดินเท้าเปล่าด้วยตัวเองด้วยท่าทีสงบ บรรดาญาติที่ถือเครื่องอัฐบริขารก็สงบเช่นเดียวกันหากแต่ทุกคนกลับมีสีหน้าอิ่มเอมใจ คุณปราณีจ้างช่างภาพฝีมือดีมาจากกรุงเทพเขามีลูกน้องอีก 2-3 คนคอยเก็บภาพและวีดีโอและมีโดรนบินเก็บภาพมุมสูงอีกด้วย



เมื่อถึงเวลาที่จะโปรยทาน เหรียญที่ถูกพับใส่ในริบบิ้นเป็นรูปดอกไม้ก็ถูกโปรยให้ญาติๆ บรรดาเด็กวัดต่างสนุกสนานกับการเก็บเหรียญมาก มันเหมือนฝนห่าใหญ่ที่โปรยลงมาไม่หยุด แสนดีก็เป็นหนึ่งในนั้น เจ้าเด็กลูกครึ่งที่มีรูปร่างหน้าตาโดดเด่นกว่าใครคอยไล่เก็บเหรียญที่กระเด็นตกห่างจากคนอื่น ด้วยเพราะตัวเล็กอีกทั้งเคยโดนเหยียบจนนิ้วเคล็ดไปหลายวันจากงานก่อน ทรงโปรดยื่นดอกไม้ดอกใหญ่ที่สุดในกระจาดให้เพื่อนพลางบุ้ยปากไปที่แสนดี



                “ฝากหน่อย”ทรงโปรดบอกกับเพื่อนก่อนจะเข้าไปทำพิธีในโบสถ์ นานนับชั่วโมงในที่สุดนาคก็เป็นพระใหม่เต็มตัว เมื่อออกไปแต่งตัวครองจีวรกลับเข้ามาในโบสถ์เสียงประโคมกลองรับพระใหม่ดังขึ้นคุณปราณีก็ยิ้มทั้งน้ำตา ด้วยว่าพระใหม่ยามครองจีวรนั้นผิวกายเปล่งปลั่งขับรับกับสีจีรวรที่ครอง ท่าทางสำรวมที่มองมาหาโยมแม่นั้นติดตรึงในหัวใจจนเกินจะเอ่ย



“งามเหลือเกินค่ะพระ”คุณปราณีก้มลงกราบชายผ้าเหลืองของลูกชายด้วยหัวใจเปี่ยมปิติ


.....................................

สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วววววววว  สุขสันต์วันปีใหม่ล่วงหน้านะคะ

#บ่วงคล้องรัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-01-2020 01:40:49 โดย thanatcha »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2

 ((ต่อ))


 หลังจากทำพิธีในโบสถ์เสร็จแล้วทั้งพระเก่าและพระใหม่ก็ลงศาลาไปฉันเพลด้วยอาหารที่บรรดาพนักงานในบริษัทอีกทั้งญาติๆเพื่อนฝูงของคุณปราณีช่วยกันทำ บางอย่างก็สั่งมาจากร้านอาหาร พระโปรดกับประเคนภัตราหารที่ครอบครัวถวายด้วยท่าทางสงบนิ่ง ไม่หลุกหลิกวอกแวก แต่ระหว่างที่ฉันก็มองหาแสนดีเมื่อไม่เห็นเจ้าตัวน้อยก็เข้าใจได้ว่าแสนดีน่าจะไปกุฏิหลวงตาแช่มเพื่อจัดการอาหารและยาให้กับหลวงตา เมื่อพระฉันเพลเสร็จแล้วล่ำลาพระใหม่เรียบร้อยบรรดาพนักงานและญาติที่ไม่สนิทก็ลากลับ อาหารที่เหลือจากถวายพระคุณปราณีให้ชาวบ้านตักใส่ถุงกลับไปกินที่บ้านกันให้หมด ชาวบ้านที่ฐานะยากจนมาช่วยงานเพราะยายสะอาดไปบอกไว้ต่างขอบคุณแล้วเอาถุงตักกับข้าวไปคนละหลายถุงใหญ่ๆ




“กินหมดเหรอจ๊ะ?”คุณปราณีเอ่ยถามยายแก่ๆคนหนึ่งที่ตักกับข้าวไป 4-5 ถุงโตๆด้วยสีหน้ามีรอยยิ้ม



“กินไม่หมดก็แช่ตู้เย็นหรือไม่ก็อุ่นกินได้หลายมื้อค่ะคุณนาย”ยายตอบด้วยสีหน้าอายๆที่เจ้าของงานถาม กลัวว่าจะโดนตำหนิ แต่คุณปราณีกลับหันไปบอกกับคนรับใช้ที่ตามมาด้วยว่าให้หยิบผลไม้ในลังน้ำแข็งที่แช่ไว้มาแจกชาวบ้านด้วย



“ถ้ากินหมดก็เอาไปเยอะๆเลยจ้า เอาไปฝากบ้านข้างๆด้วยก็ได้ ขอบคุณที่มาช่วยงานพระโปรดนะคะ ยังไงก็ฝากท่านด้วยนะคะ”ไม่พูดเปล่าคุณปราณียังยกมือไหว้ขอบคุณแล้วจึงหยิบธนบัตรใบละ 500 แจกทุกคนที่มาช่วยงาน หลังจากนั้นก็เป็นที่พูดกันปากต่อปากไปหลายวันว่าแม่ของพระใหม่ที่มาบวชใจดีมาก



“โยมแม่ กลับไปพักผ่อนเถอะครับ ทางนี้ไม่มีอะไรแล้ว เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”หลังจากที่ข้าวของเครื่องใช้ถูกเช็คจำนวนเก็บคืนวัดจนเรียบร้อย บริเวณวัดถูกช่วยกันทำความสะอาดโดยเด็กวัดที่พากันทำอย่างขะมักเขม้นเพราะอยากได้เงิน พระทรงโปรดก็บอกให้ผู้เป็นแม่กลับไปพักผ่อน คุณปราณีที่ถึงแม้จะมีท่าทางอิดโรยแต่ใบหน้าฉาบด้วยรอยยิ้มสองลูกชายคนเล็กด้วยหัวใจที่อิ่มเอิบ



“ถ้าพ่อมาเห็นพ่อคงปลื้มใจนะคะ”



“ผมเชื่อว่าพ่อจะรับรู้ครับแม่”คุณเปรมจับมือผู้เป็นแม่บีบเบาๆ



“บุญกุศลครั้งนี้อาตมายกให้โยมพ่อโยมแม่ทั้งหมดนะครับ”



“ชื่นใจเหลือเกินค่ะ เดี๋ยวแม่กลับก่อนนะคะพรุ่งนี้จะมาตักบาตรแต่เช้า สายๆก็จะกลับกรุงเทพแล้ว พระต้องดูแลตัวเองดีๆนะคะ มีอะไรก็โทรไปหาแม่กับพี่ๆได้ตลอดนะคะ”



“กลับดีๆนะครับ พระคงไปส่งไม่ได้”พระทรงโปรดยิ้มให้กับผู้เป็นแม่ คุณปราณี คุณเปรมคุณป่านรวมทั้งพี่สะใภ้และหลานๆกราบลาพระแล้วพากันกลับไปที่โรงแรมที่เช่าไว้ในตัวเมือง ส่วนพระโปรดก็ทำกิจแบบพระรูปอื่นๆ ตกเย็นก็ไปช่วยเด็กวัดกวาดลานวัดพอถึงเวลาก็เข้าไปทำวัตรเย็นในโบสถ์ เสร็จแล้วจึงกลับเข้ากุฏิของตัวเอง แสนดีนั่งหน้าขาวเป็นดวงเป็นด่างจากแป้งเย็นที่แปะๆลงบนแก้มตัวเอง บางจุดโปะหนาพอแป้งแข็งตัวก็ลอกเป็นแผ่นแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจเศษแป้งที่ร่วงกราวจากแก้มเปล่งๆของตัวเอง มือก็เขียนการบ้านยิกๆ



“มาเร่งทำเอาตอนนี้จะเสร็จกี่ทุ่มแสนดี”อดถามคนเด็กที่ดองการบ้านไม่ทำให้เสร็จตั้งแต่วันศุกร์เอาแต่วิ่งไปวิ่งมาช่วยงานบวชของเขา แสนดีหันมายิ้มแหยให้ยิ่งทำให้แป้งที่แก้มร่วงกราวจนพระทรงโปรดต้องหันไปเสียอีกทางกลั้นขำจนตัวสั่น สูดหายใจลึกๆแล้วจึงหันกลับมาหาแสนดีอีกรอบ



“คุณโปรด เอ้ย หลวงพี่สอนการบ้านข้อนี้ทีได้มั้ยครับ แสนดีไม่เข้าใจโจทย์”แสนดีขยับตัวดุ๊กๆเข้ามาหาพระทรงโปรด พระหนุ่มหยิบเอาหนังสือคณิตศาสตร์ของแสนดีไปดูก่อนจะค่อยๆสอนอย่างใจเย็น นานนับชั่วโมงในที่สุดการบ้านเลขที่แสนดีว่ายากนักยากหนาก็เสร็จ แสนดีปิดสมุดและหนังสือลงแล้วก้มลงกราบสามหนก่อนจะเก็บลงกระเป๋านักเรียนเป็นภาพที่ทำให้พระทรงโปรดยิ้มอย่างเอ็นดูเจ้าเด็กลูกครึ่งที่กลายมาเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิ



รุ่งเช้าเมื่อได้ยินเสียงไก่ขันรวมทั้งเสียงย่ำกลองพระทรงโปรดก็ตื่นแล้วเก็บที่หลับที่นอนก่อนจะครองจีวร ไปนั่งสมาธิในโบสถ์ตอนตีสี่พอตีห้าก็ทำวัตรเช้าเมื่อแสงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าพระทรงโปรดก็ออกเดินบิณฑบาตตามพระองค์อื่นไปโดยมีพระที่ชราภาพที่สุดเดินนำหน้า เช้านี้แสนดีน้องทำหน้าที่หิ้วปิ่นโตเดินตามพระทั้งสามรูปไปอย่างเงียบๆเช่นเคย คุณปราณีมารอใส่บาตรที่หน้าวัดรวมทั้งลูกๆและหลานๆตามที่บอกไว้ พระทรงโปรดยังคงครองตัวสงบนิ่งเช่นเดิม เมื่อเสร็จแล้วก็เดินตามพระองค์อื่นไป ระหว่างทางมีชาวบ้านออกมาตักบาตรเช่นทุกวัน บางคนก็เอ่ยทักทายพระใหม่บ้างก็ชมว่าพระให้หล่อ บาตรเริ่มหนักขึ้นทุกที บางบ้านก็ใส่ข้าวที่เพิ่งจะหุงเสร็จเล่นเอาร้อนจี๋แต่ก็อดทนเดินตามมาเรื่อยๆ




“หลวงพี่ หมุนบาตรสิ หมุนไปทางนู้นทีทางนี้ทีจะได้ไม่ร้อน”แสนดีเดินมากระซิบใกล้ๆ เมื่อลองทำตามก็พอทุเลาความร้อนไปได้ พระทั้งสามรูปเดินบิณบาตรจรบ้านหลังสุดท้ายก็จึงได้พากันเดินกลับวัด หลายครั้งที่แสนดีหายไปจากขบวนเมื่อหันไปมองอีกทีก็เห็นผมสีบลอนด์อยู่ในทุ่งดอกไม้ข้างทางบ้าง นั่งนองๆเอามือขาวๆแหย่ไปที่ใบไมยราพบ้างพอมันหุบก็หัวเราะคิกคักคนเดียว ไอ้ด่างที่ตามมาก็เอาแต่ยืนกระดิกหางล้อมหน้าล้อมหลังเจ้านายตัวขาวของมันไม่ได้ห่าง พอเห็นว่าพระเริ่มเดินทิ้งช่วงไปไกลก็รีบแบกปิ่นโตวิ่งตามมาเสียทีหนึ่งจนถึงวัด



น่าเอ็นดู...แสนดีในยามนี้ก็เหมือนเด็กผู้ชายซนๆคนหนึ่งที่ยังชื่นชมและเรียนรู้โลกรอบตัว แม้ว่าจะเป็นโลกแคบๆแต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข

 

แสนดีมีความสุขกับเรื่องง่ายๆเช่นแค่ไอ้ด่างกระดิกหางจนก้นส่ายไปส่ายมาเจ้าตัวเล็กนั่นก็หัวเราะจนตาหยี หรือแค่ลมเย็นๆพัดโชยจนเรือนผมสีบลอนด์ไหวลู่ไปตามแรงลมเจ้าตัวก็พร้อมที่จะอ้าแขนหลับตาสูดอากาศบริสุทธิ์นั้นเข้าปอด ความสุขของแสนดีนั้นเรียบง่ายและไม่มีมูลค่า ต่างกับทรงโปรดที่เมื่อก่อนทำทุกอย่างให้บริษัทมีกำไร เวลาของทรงโปรดเป็นของมีค่าทุกนาทีสามารถทำเงินหรือสามารถทำให้บริษัทล้มละลายได้ในพริบตาถ้าเขาตัดสินใจผิดพลาด จริงอยู่ที่ในตอนแรกทรงโปรดอาจจะรู้สึกไม่คุ้นกับการที่ต้องอยู่นิ่งๆ ไม่ต้องคอยตรวจยอดการผลิตไม่ต้องเข้าไปดูงานในโรงงานแต่ตอนนี้เขาสงบขึ้นเยอะและปล่อยใจให้ไหลไปกับเวลา ดื่มด่ำกับความสงบร่มเย็นและทำความคุ้นชินกับธรรมชาติและชาวบ้าน

 

วันแล้ววันเล่า จนผ่านไปเดือนกว่า ความสนิทสนมของเขากับแสนดีก็เพิ่มขึ้น ตอนนี้แสนดีไม่เกร็งเวลาที่ต้องคุยกับเขาแล้ว ทุกเย็นหลังจากกลับจากโรงเรียนเด็กชายตัวขาวจะมากราบสวัสดีเขา แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างว่องไวไปปรนนิบัติหลวงตาแช่มเป็นกิจวัตรประจำวัน

 

แสนดีรักและเทิดทูนหลวงตาแช่มมาก ชีวิตเด็กคนนี้ไม่มีเป้าหมายอะไร ไม่รู้อดีตของตัวเองและไม่ได้มองไปข้างหน้าถึงอนาคต

 

“โตขึ้นอยากเป็นอะไรเหรอแสนดี?”พระโปรดเคยถามเจ้าเด็กที่นั่งขยุกขยิกให้เขาถักผมเปียให้ แสนดีส่ายหัวจนเปียที่ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ยุ่งอีกรอบ

 

“หนูไม่รู้หรอก หนูแค่อยากอยู่ดูแลหลวงตาต่อไปเรื่อยๆแค่นั้นเอง”

 

“จะเป็นเด็กวัดไปจนตายไม่ได้หรอกนะ อีกหน่อยโตขึ้นก็ต้องออกไปหางานทำเลี้ยงตัวเองรู้มั้ยไม่มีใครอยู่เกาะวัดกินไปจนตายหรอก”

 

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะทีไอ้แมนโตเป้นควายแล้วยังอยู่ที่วัดขอเงินหลวงตาไปเรียนอยู่เลย”เจ้าคนเด็กหันกลับมาเถียงฉอดๆ

 

“แล้วแสนดีคิดว่าดีมั้ยล่ะสิ่งที่แมนทำ แสนดีชอบใจมั้ยที่แมนเข้าไปรบกวนขอเงินหลวงตาทุกวันทั้งๆที่หลวงตาก็จ่ายให้เป็นอาทิตย์ๆไปน่ะ”

 

“ไม่ชอบครับ”เจ้าตัวส่ายหัวจนผมที่พระโปรดจับมาเปียอีกรอบหลุดมือ พระหนุ่มถอนหายใจเฮือกแต่ก็ยังพยายามจะเปียผมให้เจ้าเด็กต่อไปอย่างใจเย็น เป็นหน้าที่ใหม่ที่เขารับช่วงต่อจากหลวงตาแช่ม

 

“ในเมื่อไม่ชอบแล้วแสนดียังจะไปเจริญรอยตามเขาไม่เท่ากับกลืนน้ำลายตัวเองเหรอ”พระทรงโปรดย้อนถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ แสนดีนิ่งไปบ่งบอกว่าเจ้าตัวเล็กนี่กลังคิดหนัก

 

“งั้นเดี่ยวหนูบวชก็ได้ พอบวชแล้วจะอยู่วัดนานเท่าไหร่ก็ได้ หนูจะได้อยู่ดูแลหลวงตาแช่มต่อไปเรื่อยๆ”เจ้าแสนดีโพล่งขึ้นมาจนพระทรงโปรดอยากจะเอาหวีเขกหัวให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ก็ระงับความหมั่นเขี้ยวไว้

 

แสนดียังเด็ก ยังไม่เข้าใจความหมายของเขา คงต้องค่อยๆบอกค่อยๆสอนกันไป อีกหน่อยก็คงเข้าใจสิ่งที่เขาถามเอง เหมือนที่เขาก็เริ่มเข้าใจหลักของการถักเปียนั่นแหละ

 


.............................

ตอนแรกตั้งใจจะปั่นเรื่องนี้คู่กับแสนคำนึง ปรากฏว่าชื่อตัวละครสลับกัน เลยต้องค่อยๆเขียนทีละเรื่องค่ะ555555555

#บ่วงคล้องรัก

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
เพิ้งได้มาอ่าน​ชอบมากกกก
รีบมาต่ออีกน้าา

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ Ritawongishere

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกมากๆเลยค่ะ อยากให้มาต่อเร็วๆ รออยู่นะคะ

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ้ยยยย มันเขี้ยวน้องแสน อยากดึงหางเปีย

ออฟไลน์ ป้าหมีโคตรขี้เกียจ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
จะหวีดแรงก็เกรงใจพระ อีกนานมั๊ยคะกว่าจะสึก แต่น้อนน่ารัก อยากจะจับมาฟัดจริงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด